นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 18
ฤทธิ์เข้ามาด้านหน้าบริษัทบลูฟินิกซ์ กดโทรศัพท์หาณัฐชาแต่เป็นเสียงสัญญาณ ติดต่อเลขหมายไม่ได้ ฤทธิ์วางสายอย่างหนักใจ
ณัฐชาอยู่ในห้องพักที่คอนโด เธอเปิดประตูตู้เย็นมองหาของกิน แต่ไม่มีอะไรเหลือที่กินได้ นอกจากขวดน้ำว่างเปล่า เธอคว้าขวดน้ำแล้วปิดตู้เย็น ดื่มน้ำที่เหลืออยู่หน่อยจนหมด แล้วเขวี้ยงทิ้งถังขยะ ด้วยความหงุดหงิด ทันใดเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“เพิ่งจะมาง้อเหรอ เชอะ”
ณัฐชาไปเปิดประตูด้วยความรำคาญ แต่กลับกลายเป็นอัศวินยืนอยู่
“คุณวิน”
อัศวินยิ้ม ชูถุงอาหารในมือ
“ผมซื้อของกินมาฝากด้วยนะ คิดว่าคุณคงจะหิว”
ณัฐชาอึ้งๆที่อัศวินรู้ว่าเธอหิว
ณัฐชาหยิบพิซซ่าในถาดขึ้นมากินแบบประชดชีวิต อัศวินแซว
“ระวังติดคอนะครับ”
อัศวินเอาน้ำให้กิน
“ขอบคุณนะ ที่มีน้ำใจ”
“ท่าทางคุณทั้งเครียด ทั้งเหนื่อย ตกลงธิชาเป็นคนร้ายรึเปล่าครับ”
“ธิชาหมดสติ โทมัสเลยพาตัวกลับไปก่อน เราเลยยังไม่ได้อะไรคืบหน้า”
“คุณโทมัสเขารักและเป็นห่วงธิชามากจริงๆนะครับ”
ณัฐชาแปลกใจ
“ยังไง คุณเห็นอะไร”
“คุณโทมัสสั่งทุกคนในบริษัท ให้ถือว่าธิชาเป็นเจ้านายอีกคน คืนก่อนก็เฝ้าจนธิชาหลับตัวเองถึงจะไปนอน นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นน้องสาว ผมคงคิดว่าเป็นคนรักกัน”
ณัฐชายิ่งโมโหหึง
“น้องสาวที่ไหนล่ะ”
อัศวินมองหน้า
“ผู้กองหึงคุณโทมัสเหรอครับ”
“ฉันจะหึงทำไม ไร้สาระ ที่เหลือนี่จะกินมั้ย ไม่กินฉันกินนะ”
อัศวินขำๆ
“ตกลงโมโหหิว หรือโมโหหึงครับเนี่ย”
ณัฐชาหยิบพิซซ่าใส่ปากอัศวิน
“กินเข้าไปเลย ปากจะได้ไม่ว่าง”
ฤทธิ์เดินเข้ามาที่ล็อบบี้คอนโดของณัฐชาพร้อมถุงอาหารเต็มมือ ตรงไปกดลิฟท์...ณัฐชากำลังล้างจานชามที่ใช้แล้วอยู่ อัศวินตามเข้ามาช่วย
“มาครับผมช่วย”
“ได้ยังไง คุณอุตส่าห์ซื้อของมาให้ฉันกินแล้ว ไปนั่งเฉยๆเลยห้องฉัน ฉันจัดการเอง”
“น่า คนละไม้คนละมือจะได้เสร็จไวๆ”
อัศวินเอื้อมมือไปเปิดก๊อกน้ำให้แรงขึ้น แต่แล้วที่ข้อต่อของท่อกลับแตก น้ำพุ่งกระจายไปทั่ว
“เห็นมั้ย ฉันบอกแล้วให้อยู่เฉยๆ”
“ผมขอโทษครับ” อัศวินคุกเข่าแบบหนังจีน “ข้าน้อยสมควรตาย”
ณัฐชาขำ
“ไอ้บ้า ไม่ใช่เวลามาเล่น หยิบผ้าผืนนั้นมาให้ที เร็ว”
ฤทธิ์เดินมาถึงหน้าห้องพอดี กำลังไขกุญแจห้อง...ในห้อง ทั้งอัศวินกับณัฐชาต่างตัวเปียกปอน อัศวินเอาผ้ามาอุดหัวก๊อกไว้ แต่ปรากฏว่าหัวก๊อก กลับหลุดติดมือมา ทั้งสองคนมองหน้ากัน ชี้หน้าขบขันกับสภาพลูกหมาตกน้ำของอีกฝ่าย ทันใดณัฐชาก็ลื่น อัศวินรีบประคอง เอาตัวรองรับร่างณัฐชาไว้ ล้มลงไปทั้งคู่ ประตูห้องเปิดเข้ามาพอดี ฤทธิ์ตะลึงกับภาพตรงหน้า เห็นณัฐชานอนก่ายอยู่บนตัวอัศวิน ทั้งสองคนผละออกจากกันเมื่อเห็น ฤทธิ์ทิ้งถุงอาหาร ตรงเข้าไปกระชากอัศวินด้วยความโกรธ
“แกจะทำอะไรณัฐชา ฮะ”
อัศวินตกใจ
“เปล่านะครับ มันเป็นอุบัติเหตุ”
“อัศวินเขาพูดความจริง คุณจะโกรธเขาทำไม”
“ผมไม่ได้แค่โกรธ ผมจะอัดมันด้วย”
ฤทธิ์เหวี่ยงหมัดเข้าที่หน้า อัศวินไม่คิดโต้ตอบโดนเข้าเต็มๆจนผงะ ฤทธิ์จะตามไปซ้ำ แต่ณัฐชามาขวาง
“ฟังเหตุผลกันก่อนสิ ไม่ใช่เอาแต่อาละวาดแบบนี้”
“คุณโกรธผมใช่มั้ย ที่ไม่เชื่อคุณเรื่องธิชา คุณเลยประชดผมวิธีนี้”
“คุณโทมัสครับ อย่าเข้าใจผิด คือผมพักอยู่ห้องตรงข้าม ก็เลยซื้อของมาฝากผู้กอง แล้วทีนี้ก๊อกน้ำมันแตก”
ณัฐชาของขึ้นเหมือนกัน
“พอ คุณวิน คุณไม่ต้องอธิบายอะไรหรอก เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด หรือถึงจะทำ คนอื่นก็ไม่เกี่ยว”
“คนอื่นงั้นเหรอ” ฤทธิ์โมโหมาก
ฤทธิ์เดินดุ่มมาจะขึ้นรถ อัศวินวิ่งตามมา
“เจ้านาย อย่าเพิ่งไปครับ”
“นายไม่ต้องกลัวนะ ฉันไม่ไล่นายออกหรอก”
“ผมก็ไม่ยอมลาออกหรอกครับ ถ้าผมไม่ผิด”
ฤทธิ์มองหน้า
“แล้วนายต้องการอะไร”
“ผมไม่อยากให้เจ้านายกลับไปทั้งๆที่มีเรื่องคาใจแบบนี้”
“แต่ถ้าฉันไม่รีบกลับ นายอาจจะโดนอีกหลายหมัดก็ได้”
“เจ้านายรู้ได้ยังไงว่าผมจะไม่สู้”
ทั้งคู่จ้องกันเดินเข้ามาที่สนามบาส ฤทธิ์มองแป้นบาส
“อะไรของนาย”
“ถ้าต่อยกัน ผมแพ้แน่ แต่ถ้าแข่งบาสมีลุ้น”
“นี่นายเห็นฉันเป็นเพื่อนเล่นหรือไง”
“แล้วเจ้านายเล่นบาสเป็นมั้ยละครับ”
อัศวินพูดแบบดูถูกกวนๆ ฤทธิ์ ถอดเสื้อเหลือแต่เสื้อกล้าม อัศวินยิ้ม
“ห้านาที ใครชู้ทได้มากกว่าคนนั้นชนะ”
อัศวินเอามือถือมาตั้งเวลา เป็นสัญญาณนาฬิกาปลุกทั้งคู่ผลัดกันชู้ทลูก อีกคนกั้นโดดปัด ทั้งสองฝีมือสูสี เสียงนาฬิกาหมดเวลาดัง ทั้งคู่หอบลงนั่ง
“ใครได้มากกว่าวะ”
“ไม่รู้ซิครับ ผมไม่ได้นับ”
“แต่ฉันว่าฉันชนะ”
“ผมว่าผมชู้ทลงมากกว่านะ”
ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วหัวเราะ
“นายนี่มันกวนประสาท”
“อารมณ์ดีขึ้นแล้วใช่มั้ยครับ”
“แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันอนุญาตให้นายเข้าไปอยู่กับแฟนฉันสองต่อสองได้นะ”
“เจ้านายไม่มั่นใจในตัวผู้กองเหรอครับ”
“ฉันไม่มั่นใจในตัวเองต่างหาก ฉันกลัวว่าฉันจะพูดหรือทำอะไรที่ทำให้ณัฐชาเสียใจอีก”
“ง่ายนิดเดียว ถ้ารู้ว่าผิดก็ขอโทษซิครับ”
“เอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน” ฤทธิ์ตัดบท
เช้าวันใหม่...ฤทธิ์เดินเข้ามาในห้องทำงาน ลิซ่าเดินหน้าตื่นมาหา
“โทมัส ธิชาหายไป”
“อะไรนะ”
ทั้งคู่เข้ามาดูในห้องนอนธิชา เพื่อดูว่าเธอทิ้งอะไรไว้ ฤทธิ์เปิดหมอนออกเห็นจดหมายทิ้งไว้ มีกล้องรูเข็มวางอยู่
“พี่โทมัสคะ...ธิชาตัดสินใจแล้วจะไปจากที่นี่ เพื่อความสบายใจของทุกคน...ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะคะ รัก ธิชา”
ฤทธิ์หยิบกล้องมาดู
“นี่อะไร”
“ฉันเป็นคนซ่อนกล้องไว้ในห้องนี้เพื่อดูพฤติกรรมองธิชาแต่ถ้าเธอบริสุทธิ์ เธอก็ไม่เห็นต้องกลัว”
“แต่มันแสดงว่าเราไม่ไว้ใจเธอ เธอไม่มีใครอีกแล้วนะลิซ่า”
ฤทธิ์รีบออกไป ณัฐชาเดินเร่งรีบมา อัศวินรออยู่
“ไง คุณวิน ธิชาหายไปเมื่อไหร่ ยังไง”
อัศวินยังไม่ทันพูด ฤทธิ์ก็เดินออกมา ชะงักเห็นณัฐชา
“ณัฐชา”
“คุณตรวจดูรึยังว่ามีอะไรหายไปบ้าง ธิชาหายไปแบบนี้แสดงว่าต้องขโมยของสำคัญไปแน่”
“ใครเป็นคนบอกคุณว่าธิชาหายไป” ฤทธิ์ถามเสียงเข้ม
“ผมเองครับ คือ ผมเห็นว่าผู้กองเป็นตำรวจก็เลย...”
“ตกลงนายเป็นรปภ.ของฉันหรือเป็นสายให้ตำรวจ”
“เอ่อ...คือ...”
“พรุ่งนี้นายไม่ต้องมาทำงานแล้ว”
“โทมัส คุณไร้เหตุผลเกินไปแล้วนะ” ณัฐชาโวย
“ผมพยายามใช้เหตุผลกับคุณมาตลอด คุณต่างหากที่ทำให้ผมต้องใช้อารมณ์”
ฤทธิ์เดินออกไป ณัฐชารีบตาม
นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 18 (ต่อ)
ฤทธิ์เดินตามหาธิชาไปจนทั่วบริเวณถนนละแวกบลูฟินิกซ์ เขาวิ่งออกมามองหาจนเห็นธิชา กำลังวิ่งอยู่บนริมบาทวิถีฝั่งตรงข้าม
“ธิชา”
ธิชาหันมา
“อย่าเพิ่งไป เรามีเรื่องต้องพูดกัน”
“ฉันไม่อยากพูดแล้ว พี่ก็เหมือนกับพี่ชาญ ไม่มีใครเชื่อใจฉัน”
“ธิชา รออยู่ตรงนั้น เดี๋ยวพี่จะข้ามไป”
“ไม่”
ฤทธิ์ไม่ฟังเสียงเขาตัดสินใจข้ามถนนไปหาธิชาทันที แต่แล้วก็มีรถตู้คันหนึ่งแล่นมาชนเขากระเด็นไปต่อหน้า ธิชาถึงกับมองด้วยความตกตะลึง ขณะที่สมุนพรายพิฆาตบนรถตู้ส่วนหนึ่งลงมาฉุดเธอไปขึ้นรถ ขณะที่อีกคนหนึ่งถือปืนคุมเชิงฤทธิ์เอาไว้
“ธิชา”
สมุนของพรายพิฆาตกราดยิงใส่ฤทธิ์จนต้องพลิกตัวหลบกระสุน แต่กระสุนก็ยังถากแขนไป
“พรายพิฆาตจงเจริญ”
รถของคนร้ายแล่นจากไป กว่าฤทธิ์จะตั้งหลักได้ก็ตามไม่ทันแล้ว
ณัฐชา จ่าสมพร และลิซ่ากำลังรออยู่ขณะที่อัศวินพาพวกยามบางส่วนกลับเข้ามา ลิซ่าเข้าไปถาม
“เจอคุณโทมัสรึเปล่า”
“เราคลาดกันครับคุณลิซ่า คุณโทมัสวิ่งตามธิชาไปเร็วมาก”
ณัฐชาร้อนใจ
“แล้วเสียงปืนล่ะ ฉันได้ยินเสียงปืน คุณเห็นรึเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น”
เสียงแตกตื่นของพนักงานดังขึ้น ทุกคนต่างตกใจเมื่อเห็นฤทธิ์เดินกุมแผลกลับเข้ามา ณัฐชาตะลึง
“โทมัส”
“พรายพิฆาต มันจับธิชาไปแล้ว”
ลิซ่ารีบบอกกับอัศวิน
“เขาบาดเจ็บ รีบพาเขาไปที่ห้องแลป”
“ไม่...ไม่ต้องห่วงผม รีบไปช่วยธิชา”
“โทมัส คุณทำแผลก่อนเถอะ”
“คุณกลับไปได้แล้วณัฐชา”
“โทมัส ฉัน…”
“พอได้แล้วสำหรับความหวังดีของคุณ เรื่องทุกอย่างถ้าคุณไม่เข้ามายุ่ง มันก็คงไม่วุ่นวายแบบนี้”
“แต่ฉันพยายามปกป้องคุณอยู่นะ”
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับธิชาล่ะก็ ผมจะไม่ยกโทษให้คุณเด็ดขาด”
ณัฐชาอึ้งไป
จ่าสมพรกับณัฐชาเดินกลับออกมาด้วยกัน
“เรื่องนี้เราอยู่เฉยไม่ได้นะครับผู้หมวด มันเป็นหน้าที่ของพวกเรา”
“แต่ถ้าเราเข้าไปวุ่นวายตอนนี้ โทมัสต้องไม่ยอมแน่”
“เราคอยจับตาห่างๆก็ได้นี่ครับ ไว้คนร้ายโผล่ออกมาเมื่อไหร่ค่อยลงมือ”
ณัฐชาครุ่นคิดตามก่อนจะพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
ลิซ่าคุยกับฤทธิ์หลังจากทำแผลให้เขาเสร็จ
“ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงธิชา แต่คุณก็ไม่ควรต่อว่าผู้กองแบบนั้น”
“พวกคุณทำไมไม่ปรึกษาผม ก่อนจะตั้งศาลเตี้ยธิชา”
“เรามีเหตุผลให้เชื่อว่าเธอเกี่ยวข้องกับพรายพิฆาต”
“แต่เรื่องที่เธอเล่ามาอาจเป็นความจริงก็ได้”
“หรืออาจโกหก”
“ถึงยังไงก็พิสูจน์ไม่ได้อยู่ดี”
“ฤทธิ์ ฉันรู้นะว่าคุณเอ็นดูธิชาเหมือนน้องสาว แต่ว่า…”
โทรศัพท์มือถือของฤทธิ์ที่วางอยู่ดังขึ้น เบอร์ที่โชว์อยู่ไม่คุ้นตา ฤทธิ์รับสาย
“ฮัลโหล”
“ฤทธิ์ ราวี ถ้าแกอยากให้ธิชาปลอดภัย คืนให้เตรียมน้ำตามัจจุราชไว้ให้พร้อม แล้วเราจะแลกเปลี่ยนกัน”
“พรายพิฆาต”
ฤทธิ์เดินหนีลิซ่าออกมาจากห้องและเจออัศวินยืนรออยู่
“เจ้านายครับ ผมคิดว่าเราควรแจ้งตำรวจ”
“ไม่...อย่าให้ณัฐชารู้เรื่องนี้เด็ดขาด” ฤทธิ์ห้ามเสียงแข็ง
ลิซ่าจ้องหน้า
“นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแล้วนะคุณโทมัส ฉันจะปล่อยให้ทุกอย่างมาพังเพราะธิชาคนเดียวไม่ได้”
“ถ้างั้นก็ขวางผมสิ เพราะผมจะเอาน้ำตามัจจุราชไปช่วยเธอ...เดี๋ยวนี้”
ฤทธิ์เดินหนีไป ลิซ่าอึ้ง
“โทมัส”
อัศวินเห็นลิซ่าสับสน
“ผมจะพูดให้เองครับ”
ฤทธิ์เปิดช่องลับที่ชั้นหนังสือ แล้วนำน้ำตามัจจุราชที่ซ่อนไว้ออกมาใส่กระเป๋าเอกสารใบหนึ่ง กระเป๋านั้นมีกลไกระเบิดติดตั้งอยู่ อัศวินเข้ามา
“เมื่อไหร่คุณจะบอกผมซะที ว่าคุณคือนักสู้มหากาฬ”
ฤทธิ์หันมองหน้าอัศวิน
“ผมเห็นคุณต่อสู้กับพวกพรายพิฆาต คนธรรมดาไม่มีทางทำได้ขนาดนั้น”
“เรื่องของคนใกล้ตายอย่างฉัน นายจะรู้ไปเพื่ออะไร”
“เพราะคุณต้องมีเพื่อน สภาพตอนนี้ คุณสู้คนเดียวไม่ไหวหรอก”
“ไม่ นายต้องอยู่ทางนี้ และคุ้มกันที่นี่เอาไว้”
“ที่นี่มีคนมากพอแล้ว แต่คุณต่างหากที่ต้องการกำลังเสริม ผมจะไปกับคุณ”
ฤทธิ์มองอัศวินอย่างลังเล
ลิซ่ากลับมาในห้องแลป ครุ่นคิดอย่างกระวนกระวายสักพักก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาณัฐชา
“ฮัลโหลผู้กอง พวกคนร้ายมันติดต่อมา สิ่งที่มันต้องการคือน้ำตามัจจุราช”
ค่ำนั้นที่กองปราบ...จ่าสมพรเอาแผนที่ขนาดใหญ่บริเวณบริษัทบลูฟินิกซ์มาให้ณัฐชากางลงบนโต๊ะ ณัฐชาหยิบปากกามาทำเครื่องหมายบริเวณต่างๆที่จะตั้งด่านสกัด
“สรุปว่าเป็นการเรียกค่าไถ่เหรอครับผู้กอง”
“น้ำตามัจจุราชคือเป้าหมายของพวกคนร้าย...งานนี้ฉันไม่เชื่อหรอกว่าธิชาจะเป็นเหยื่อของพวกมัน”
“แล้วถ้าเป็นกับดักจริงๆ เราจะทำยังไงดีครับ”
ณัฐชาบุ้ยหน้าที่แผนที่
“พรุ่งนี้เราจะวางกำลังดักคนร้ายไว้ตามจุดต่างๆถ้ามันโผล่มาเมื่อไหร่ มันเสร็จเราแน่”
สมุนพรายพิฆาตดึงตัวธิชาเข้ามาในโกดังร้าง บารอนกำลังยืนรออยู่
“ไม่ต้องห่วงธิชา พวกมันคงคิดไม่ถึงหรอกว่าเราจะย้อนกลับมาที่นี่”
“ตามแผนที่เราตกลงกัน มันไม่ใช่แบบนี้” ธิชาแย้ง
“แผนเดิมล้มเหลว เพราะณัฐชากับลิซ่าต่างก็สงสัยในตัวเธอ ดังนั้นฉันจึงต้องใช้แผนใหม่”
“คิดเหรอว่าหมอนั่นจะเอาน้ำตามัจจุราชมาแลกตัวฉันจริงๆ เขาไม่ได้แคร์ฉันหรอก เขาก็แค่สร้างภาพว่ารักฉันเหมือนน้องสาว แต่เขาไม่ใยดีฉันด้วยซ้ำ”
“เดี๋ยวก็รู้ธิชา เดี๋ยวก็รู้”
ธิชานิ่งงัน ทางด้านฤทธิ์นั่งรออยู่โดยมีโทรศัพท์วางอยู่เบื้องหน้า ขอเพียงคนร้ายโทรมาเขาก็พร้อมจะออกเดินทางทันที
อัศวินขับรถมาจอดประจำที่ในลานจอดรถบลูฟินิกซ์ เขาชักปืนออกมาตรวจตรากระสุนอีกครั้ง ก่อนจะเก็บเข้าซอง อัศวินมองไปที่อาคารบลูฟินิกซ์อย่างใช้ความคิด
นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 18 (ต่อ)
ลิซ่านั่งจิบเครื่องดื่มอยู่อย่างเคร่งเครียด ก่อนที่ภาพโฮโลแกรมของมาดามหลิวจะปรากฏขึ้น
“ลิซ่า”
“มาดาม”
“ฉันเห็นข่าวแล้ว คนร้ายต้องการอะไร”
“น้ำตามัจจุราชค่ะ”
“แล้วโทมัสยอมรึเปล่า”
“เขายอมทำทุกอย่างเพื่อเด็กคนนั้น”
“ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกลิซ่า ผู้ชายคนนึงเมื่อใกล้ถึงวาระสุดท้าย เขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อคนรอบข้าง”
“แต่เขาเพิ่งรู้จักธิชาได้ไม่นานนะคะมาดาม”
“ทุกคนมีจุดอ่อนลิซ่า โดยเฉพาะคนที่ไร้ญาติขาดมิตรอย่างฤทธิ์ ราวี เขาคงยอมไม่ได้ ที่จะเห็นน้องสาวของเพื่อนรักมีอันตราย”
ลิซ่ารับฟังอย่างเข้าใจและหนักใจ
ฤทธิ์นึกถึงเหตุการณ์ที่ตนเผลอ ต่อว่าณัฐชาออกไปก่อนหน้านี้
“ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ณัฐชา ถ้ามีโอกาสผมจะกลับมาขอโทษคุณ ผมสัญญา”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นฤทธิ์รีบรับสาย
“ฮัลโหล”
เสียงบารอนดังมาจากปลายสาย
“ฤทธิ์ ราวี”
“แกใช่มั้ยที่เป็นหัวหน้าทีม”
“ไม่ต้องถามให้เสียเวลา แล้วฟังที่ฉันพูดให้ดี”
ลิซ่าออกมาจากห้องแลปและเห็นฤทธิ์กับอัศวินกำลังมุ่งหน้าไปที่ลิฟต์
“คุณโทมัส คุณจะไปแล้วเหรอ”
“คนร้ายติดต่อมา ผมมีเวลาแค่สามสิบนาที”
“คุณรู้ตัวใช่มั้ย ว่าทำอะไรอยู่”
“ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ขอให้คุณจำไว้นะลิซ่า ไม่ว่าคุณณัฐชาหรือธิชาก็คือครอบครัวของผม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ ไม่ว่าจะเกิดกับใคร ผมก็จะทำเหมือนเดิม”
ฤทธิ์ว่าแล้วก็ปลีกตัวไปที่ลิฟต์ อัศวินหันมาพยักหน้าให้ลิซ่านิดหนึ่งเป็นเชิงว่าเขาจะคุ้มกันฤทธิ์เอง ลิซ่าได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วง
เช้าวันต่อมา...ฤทธิ์กับอัศวินมาขึ้นรถด้วยกัน อัศวินหยิบกล้องยาต้านไวรัสที่พกมาส่งให้
“เห็นคุณลิซ่าบอกว่าเจ้านายต้องฉีดยาต้านไวรัสทุกสิบสองชั่วโมง ผมก็เลยเตรียมมาเผื่อ”
ฤทธิ์ดูนาฬิกา
“ยังเหลือเวลาไม่ต้องรีบร้อนก็ได้”
“สถานการณ์แบบนี้ผมว่าเราอย่าเสี่ยงดีกว่าครับ กันเหนียวไว้ก่อน จะได้ไม่ต้องพะวงทีหลัง”
ฤทธิ์พยักหน้าอย่างเห็นด้วยก่อนจะรับยาต้านไวรัสมา
รถของฤทธิ์แล่นออกไป จ่าสมพรกับณัฐชาซุ่มอยู่บนรถคันหนึ่ง
“คุณโทมัสไปแล้วครับผู้กอง”
“ออกรถ”
จ่าสมพรขับรถตาม
อัศวินขับรถมากับฤทธิ์ ก่อนที่โทรศัพท์จะดังขึ้น ฤทธิ์กดรับสาย เสียงสมุนพรายพิฆาตดังมาจากปลายสาย
“ว่าไง ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่มั้ย”
“หัวหน้าแกอยู่ที่ไหน ทำไมเขาไม่มาพูดเอง”
“ไม่ต้องถาม แกคอยทำตามที่ฉันสั่งก็แล้วกัน อีกหนึ่งกิโลเมตรข้างหน้า จะมีอาคารใหญ่หลังนึง ให้แกเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ชั้นใต้ดิน”
“แล้วธิชาอยู่ที่ไหน”
“เดี๋ยวก็รู้”
จ่าสมพรเห็นรถฤทธิ์แล่นเข้าไปในอาคารหลังหนึ่ง
“เลี้ยวเข้าไปแล้วครับผู้กอง”
“อย่าเพิ่งตาม จอดรอด้านนอก”
จ่าสมพรพยักหน้ารับทราบ
อัศวินขับรถเข้ามาจอดที่ชั้นใต้ดิน ทั้งคู่ได้ยินเสียงผ่านเครื่องขยายเสียงดังขึ้น
“ลงมาจากรถ”
ฤทธิ์กับอัศวินค่อยลงมาจากรถด้วยความระแวดระวัง อัศวินชักปืนออกมาเตรียมพร้อม
“วางน้ำตามัจจุราชไว้ที่พื้นแล้วถอยออกไป”
“ธิชาอยู่ที่ไหน”
“แกไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับพวกเรา วางน้ำตามัจจุราชไว้ที่พื้นเดี๋ยวนี้”
“ในกระเป๋าใบนี้มีระเบิด ถ้าพวกแกเล่นตุกติกละก็ ทุกอย่างที่นี่จะต้องแหลกเป็นจุณ”
“แกจะเอายังไง”
“ฉันจะไม่ส่งของเด็ดขาด จนกว่าจะเห็นธิชา”
ไฟฟ้าถูกเปิดสว่าง สมุนพรายพิฆาตเปิดประตูรถและพาธิชาที่ถูกปิดตาปิดปากลงมาจากรถ
“ธิชา”
จ่าสมพรและณัฐชาถืออาวุธปืนย่องมาซุ่มแถวหน้าทางเข้า
“เราจะบุกเข้าไปตอนไหนดีครับ”
“ให้ตัวประกันปลอดภัยก่อน แล้วค่อยบุกเข้าไป” ณัฐชากำชับ
ฤทธิ์ร้อนรนเมื่อได้เห็นธิชาโดนพวกสมุนพรายพิฆาตแกะเทปปิดปากเธอออก
“ธิชา”
“พี่โทมัส ช่วยฉันด้วย”
สมุนพรายพิฆาตสั่ง
“เอาล่ะ ทีนี้ก็ส่งกระเป๋ามาได้แล้ว”
“ส่งธิชามาก่อน ไม่งั้นฉันกดระเบิดแน่”
“อย่านะครับคุณโทมัส ไม่อย่างนั้นพวกเราจะตายกันหมด”
“นายหนีไปก่อนอัศวิน ทางนี้ฉันจัดการเอง”
“นี่คุณเอาจริงเหรอ”
“ฉันไม่มีทางเลือก”
“แต่ผมมี”
ฤทธิ์หันไป อัศวินเหนี่ยวไกยิงใส่เขาเต็มๆสามสี่นัดซ้อน ฤทธิ์ผงะล้มไปกับพื้น กระเป๋าใส่น้ำตามัจจุราชกระเด็นหลุดมือ
จ่าสมพรกับณัฐชาต่างก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงปืน
“เสียงปืนครับผู้กอง”
“รีบไปดูเร็วจ่า”
ระเบิดควันลูกหนึ่งถูกโยนกลิ้งมา ทั้งจ่าสมพรและณัฐชาต่างสำลัก
“แก๊สน้ำตา ระวังครับ”
ฤทธิ์เพิ่งตั้งหลักได้ เขาชักปืนเล็งใส่อัศวินแต่อีกฝ่ายก็เตะมันทิ้งไป
“แกนี่มันโง่จริงๆ นักสู้มหากาฬ”
“นี่แก แกคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
ธิชาอึ้ง
“บารอน”
“ถูกต้อง...ฉันนี่แหละคือบารอน หัวหน้าสาขาอีกคนของพรายพิฆาต ยินดีที่ได้รู้จัก”
ฤทธิ์คำรามก่อนจะโผเข้าชกใส่อัศวิน แต่เขากลับคว้ากำปั้นไว้ได้โดยง่าย
“เป็นอะไร นักสู้มหากาฬ ไม่มีแรงเหรอ”
ฤทธิ์มองกำปั้นตัวเองด้วยความแปลกใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้
“ยาต้านไวรัส”
“ที่ฉันให้แกฉีดน่ะเหรอ น้ำเกลือต่างหาก”
ฤทธิ์อึ้งก่อนจะโดนอัศวินจับเหวี่ยงกระเด็นไป
นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 18 (ต่อ)
ท่ามกลางกลุ่มควันนั้นเห็นณัฐชากำลังสำลักควันอยู่ จ่าสมพรรีบเข้ามาพยุงแขนเธอ
“ทางนี้ครับผู้กอง”
แต่แล้วสมุนพรายพิฆาตคนหนึ่งก็โผล่ออกมาใช้ด้ามปืนทุบจ่าพรจนสลบไป ณัฐชาอึ้ง
“จ่า...”
สมุนพรายพิฆาตคนนั้นฟาดด้ามปืนใส่ณัฐชาจนหมดสติไปอีกคน
ฤทธิ์โดนอัศวินซ้อมอย่างดุเดือด ธิชาทนดูไม่ได้รีบเข้ามาขวาง
“อย่านะ คุณบอกว่าจะไม่ฆ่าเขา ที่เราตกลงกันมันไม่ใช่แบบนี้”
“งานของเธอจบแล้วน้องสาว”
“ธิชา”
อัศวินยกปืนเล็งใส่ธิชา
“อย่า”
อัศวินยิงธิชานัดเดียวร่วงลงตรงหน้า ฤทธิ์ที่ผูกพันกับธิชาเหมือนน้องสาวแท้ๆเข้าประคอง
“ธิชา...ธิชา”
“ฉันขอโทษ ฉันไม่คิดด้วยซ้ำว่าพี่จะมาจริงๆ ไม่คิดว่าพี่จะไว้ใจฉันขนาดนี้”
“เธอคือน้องสาวของฉัน เราตกลงกันแล้วไง”
“พี่ชาญเห็นมาดามหลิวสำคัญกว่าฉัน เขาทิ้งฉัน ฉันแค่...ฉันแค่…”ธิชาบีบมือเขาร้องไห้ “ขอโทษ ฉันขอโทษ”
“ถ้าสนใจรายละเอียด ฉันจะเล่าให้ฟังทีหลัง แต่ว่าวันนี้ แกต้องไปกับเรา”
ฤทธิ์วางร่างธิชาลง ก่อนจะยืนขึ้นมองหน้าอัศวินด้วยความแค้น
“แกเป็นคนวางแผนทั้งหมด”
“ซับซ้อนนิดหน่อย แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ แกก็คงไม่เอาน้ำตามัจจุราชออกมาซะที”
“ทำไมต้องเป็นธิชา ทำไมไม่เป็นคนอื่น”
“พรายพิฆาตเคยทดสอบแกไปแล้ว แกยอมให้คนรักตายแต่ไม่ยอมก้มหัวให้พรายพิฆาต ฉันก็เลยต้องหาช้อยส์อื่น...เป็นน้องสาวของเพื่อน เป็นเด็กที่น่าสงสาร และฝากความหวังทั้งชีวิตไว้ที่แก”
“ไอ้ชาติชั่ว”
ฤทธิ์บุกเข้าเล่นงานอัศวินอย่างบ้าคลั่ง แต่อัศวินก็ปัดป้องได้อย่างรวดเร็วก่อนจะซัดฤทธิ์จนกระเด็นไป
“ไม่มีเวลาเล่นสนุกแล้วเจ้านาย เราต้องไปกันแล้ว”
ฤทธิ์ตั้งท่าจะสู้อีกแต่ก็ถูกสมุนของพรายพิฆาตใช้ที่ช๊อตไฟฟ้าเล่นงาน ฤทธิ์ถึงกับช็อคหมดสติไป
เสียงไซเรนส์รถตำรวจใกล้เข้ามา จ่าสมพรค่อยๆรู้สึกตัวและมองไปเห็นณัฐชาที่ยังนอนสลบ
“ผู้กอง ผู้กอง”
ณัฐชาลืมตาตื่นขึ้น ภาพในอดีตแว่บเข้ามา สายตาของเธอเห็น ฤทธิ์ถือถาดอาหารเช้ามาเสริฟ์ในห้อง โดยใช้ตัวดันประตูเข้ามา
“อาหารเช้ามาแล้วครับ คุณผู้หญิง”
ณัฐชานั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง พอเห็นฤทธิ์ก็รีบปิดลิ้นชักด้วยท่าทางมีพิรุธ
“ฮั่นแน่ แอบดูอะไรอยู่”
“ดูที่ไหนล่ะ เรื่องส่วนตัวของคุณฉันไม่ยุ่งหรอก”
ฤทธิ์ทำหน้าจับผิดทีเล่นทีจริง เขาวางถาดอาหารก่อนจะเดินมาเปิดลิ้นชักและพบว่าณัฐชาได้ค้นเจอรูปถ่ายของใจทิพย์ที่เขายังคงเก็บเอาไว้ รวมกับเครื่องประดับเล็กๆในน้อยในกล่องใบหนึ่ง
“ฉันไม่หึงหรอก ฉันเข้าใจ คนอย่างคุณ...จะให้ลืม ใจทิพย์คงเป็นไปไม่ได้”
ฤทธิ์นั่งลงและกุมมือณัฐชาเอาไว้
“ถ้าคุณไม่ชอบ ผมเอาไปเก็บที่อื่นก็ได้นะ”
ณัฐชาสบตากับฤทธิ์แล้วส่ายหน้าอย่างจริงจัง
“ผมพูดจริงๆ นะ ผมอยากพิสูจน์ว่าตอนนี้คนที่ผมอยากมีชีวิตอยู่ด้วยก็คือคุณ”
“ไม่ต้องทำขนาดนั้นหรอก ฉันไม่ได้ต้องการรู้สึกว่าตัวเองอยู่เหนือใจทิพย์ แต่ฉันแค่อยากแน่ใจ…ว่าคุณรักฉัน…เพราะฉันคือณัฐชา”
ฤทธิ์รวบตัวณัฐชามากอดไว้อย่างนุ่มนวล ณัฐชายิ้มรับอย่างมีความสุข
ณัฐชาสะดุ้งตื่นก่อนที่ลิซ่าจะประคองไว้
“ใจเย็นๆค่ะผู้กอง คุณปลอดภัยแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น ฉันกลับมาที่นี่ได้ยังไง”
“โทมัสเป็นคนพาคุณมาที่นี่”
“อะไรนะ”
ฤทธิ์เดินเข้ามา
“คุณพูดถูกณัฐชา ธิชาเป็นสายของพรายพิฆาต”
“แล้วอัศวินล่ะ เขาหายไปไหน”
“เขาตายแล้ว”
ณัฐชามองฤทธิ์อย่างไม่เชื่อสายตา
ในโกดังร้าง 2 ชั่วโมงก่อนหน้านี้...อัศวินเฝ้ามองเหล่าสมุนที่ช่วยกันประคองร่างของฤทธิ์มาพันธนาการเอาไว้ อัศวินลากเก้าอี้มานั่งตรงหน้าด้วยอิริยาบถสบายๆ
“ผมรู้ว่าคุณมีคำถามมากมายเต็มสมองไปหมด เอาล่ะเพื่อให้คุณได้นอนตายตาหลับ ถ้ามีคำถาม ก็รีบถามเดี๋ยวนี้เลยเจ้านาย เพราะเวลาของผมมีจำกัด”
“ทุกอย่าง…มันเกิดขึ้นได้ยังไง”
“ก็อย่างที่บอก ผมเป็นหัวหน้าสาขาคนนึงของพรายพิฆาต ไม่อยากบอกนะว่าประเทศไหน แต่ผมติดตามข่าวของคุณและความพ่ายแพ้ ของพรายพิฆาตมาโดยตลอด” อัศวินบุ้ยหน้าไปที่สมุน “พวกเราที่นี่ทุกคนถูกลอยแพ ถูกตามล่า บางคนก็โดนอาวุธไวรัสเล่นงานจนป่วยอยู่ตอนนี้ คำตอบทั้งหมดอยู่ที่น้ำตามัจจุราชที่คุณเก็บไว้”
สมุนคนหนึ่งยกเก้าอี้อีกตัวมาวาง ขณะที่อีกคนยกกระเป๋าเอกสารที่ฤทธิ์ใส่น้ำตามัจจุราชไว้ข้างในมาตั้งและเปิดฝากกระเป๋า
“เราต้องใช้รหัสปลดชนวนระเบิดที่อยู่ในกระเป๋า รบกวนด้วยครับเจ้านาย”
“ไม่”
อัศวินคว้าคอฤทธิ์มาแล้วต่อยโครมๆ อย่างแรงเพื่อระบายโทสะ ฤทธิ์มึนไปชั่วขณะ เห็นอัศวินลุกขึ้นเช็ดมือพลางระเบิดอารมณ์ออกมา
“น้ำตามัจจุราชถูกกวาดล้างไปจนหมด ที่เหลืออยู่ในท้องตลาด ตอนนี้มีแต่พวกที่ผสมสารเสพติดทั้งนั้นและนั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เราต้องการกองทัพใหม่ ต้องการอำนาจ และใช้มันรักษาอาการป่วยจากไวรัสอาวุธชีวภาพ”
“เลิกโง่ซะทีเถอะอัศวิน ถ้าน้ำตามัจจุราชมันวิเศษขนาดนั้น ฉันก็คงไม่ป่วยแบบนี้หรอก”
“อย่าโกหกฉัน แกเคยใช้น้ำตามัจจุราชรักษาอาการป่วยมาแล้วครั้งนึงหรือว่าไม่จริง”
“มันไม่สมบูรณ์ พรายพิฆาตต่างหากที่ช่วยฉันเอาไว้”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เพราะเราจะใช้ห้องแลปของแกพัฒนาน้ำตามัจจุราช ให้ work จนถึงขีดสุด”
“ถ้าไม่มีคำสั่งของฉัน ใครก็ใช้ห้องแลปไม่ได้ทั้งนั้น”
อัศวินยื่นหน้ามาใกล้
“คำสั่งของใครนะ ของนายโทมัสน่ะเหรอ”
อัศวินแปลงร่างเป็นฤทธิ์ ทำเอาเขาถึงกับตะลึง
“เรื่องต่อสู้ ฉันเทียบบอสไม่ได้ แต่เรื่องนี้ ฉันเจ๋งกว่ามันซะอีก”
ลิซ่ากับฤทธิ์ที่อัศวินปลอมตัวมา กลับมาถึงบริษัท ซึ่งตอนนั้นดึกมากแล้วจึงไม่มีพนักงานเหลืออยู่ ฤทธิ์ตัวปลอมหิ้วกระเป๋าเอกสารที่ใส่น้ำตามัจจุราชและระเบิดกลับมาด้วย
“ทางตำรวจแจ้งมาว่าศพของธิชาที่เจอในที่เกิดเหตุเป็นตัวจริง แต่ศพของอัศวินถูกไฟคลอก ก็เลยตรวจสอบดีเอ็นเอไม่ได้”
ฤทธิ์หน้าสลด
“น่าสงสารอัศวิน เขาไม่น่าตายแบบนี้เลย”
“เสียใจด้วยค่ะคุณโทมัส”
ฤทธิ์หันมาและตัดบทด้วยการส่งกระเป๋าให้ลิซ่า
“ช่วยจัดการทีนะ”
ลิซ่ารับมาส่ง
“ทำไมเหรอคะ”
“น้ำตามัจจุราชอยู่ข้างใน แต่ฉันดันลืมรหัสปลดชนวนระเบิด”
“ค่ะ คุณโทมัส แล้วฉันจะจัดการให้”
ฤทธิ์ปลีกตัวไปที่ลิฟต์ ลิซ่ามองกระเป๋าแล้วมองตามอย่างเริ่มรู้สึกผิดสังเกต
ฤทธิ์เดินเข้ามาในห้องแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะกลายร่างเป็นอัศวิน
“นักสู้มหากาฬ เฮอะ...นึกว่าจะแน่”
จ่าสมพรอยู่ที่ออฟฟิศกองปราบ โทรหาณัฐชาที่พักอยู่ที่คอนโด
“ผู้หมวด คุณต้องไม่เชื่อผมแน่”
“ทำไมเหรอจ่า”
“กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุทุกจุด ใช้การไม่ได้”
“เสียเหรอ”
“ใช่ครับ สรุปว่าตอนนี้ไม่มีใครรู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น นอกจากคุณโทมัส”
ณัฐชาอึ้งไป
จบตอนที่ 18