รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 18
พิชชาทำความสะอาดบ้าน เก็บข้าวของในบ้านให้เป็นระเบียบ สุนทรีเปิดประตูเดินเข้ามา แปลกใจที่บ้านดูผิดตาไปจากเดิม นั่งลงข้างๆลูกสาว
“โอ้โห วันนี้ลูกสาวฉันเป็นอะไรไปเนี่ย”
พิชชาหัวเราะเบาๆ ที่สุนทรีแซว
“หนูรู้ว่าแม่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลบ้าน”
“แกพูดแบบนี้ แม่รู้สึกผิดขึ้นมาเลย”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ หนูรู้ว่าแม่ทำงานหนักมาตลอดเวลา แค่อยากทำให้แม่ได้อยู่สบายๆ นอนสบายบ้าง ตอนที่ยังพอมีเวลา เออ แม่คะ...หนูได้งานใหม่แล้วนะ”
สุนทรีพลอยดีใจไปด้วย
“เหรอ ทำอะไรที่ไหน”
“ก็งานโรงแรมแบบเดิมนี่ล่ะคะ แต่เป็นโรงแรมที่กรุงเทพ”
“กรุงเทพเหรอ”
สุนทรีรู้สึกเป็นห่วง เพราะลูกสาวจากไปไกลหูไกลตา พิชชารู้ว่าแม่เป็นห่วง เข้าไปกอดอ้อน
“กรุงเทพ ใกล้แค่นี้เอง สองสามชั่วโมงก็ถึง แม่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หนูจะกลับบ้านบ่อยๆ มาหาแม่”
สุนทรีถอนใจ
“มีงานทำก็ดีแล้วล่ะลูกเอ้ย”
พิชชาผละจากสุนทรี หยิบถุงของที่ซื้อมาออกมาอวด
“แม่”
สุนทรีหัวเราะที่พิชชาทำท่าเหมือนเด็กๆ
“ทำเป็นเด็กไปได้ มีอะไรจะอวดล่ะ”
พิชชายิ้ม หยิบเสื้อผ้าที่เลือกซื้อให้แม่ ออกมาวางตรงหน้า สุนทรีมอเสื้อผ้าหลายชุด ของใช้ที่จำเป็นวางกองอยู่ตรงหน้าอย่างแปลกใจ พิชชาหยิบตัวเด็ดสุดออกมาทีหลัง
“ของดีมักจะอยู่ท้ายสุด”
สุนทรีแปลกใจที่พิชชาซื้อของเหล่านี้ให้
“ซื้อมาทำไมตั้งเยอะแยะ แม่ไม่จำเป็นที่ต้องใช้เสื้อผ้าแบบนี้สักหน่อย เสียดายตังค์”
พิชชายิ้มเห็นแววตาของสุนทรีก็รู้ว่า เก็บเอาความดีใจเอาไว้ข้างใน
“แหม ลูกที่ดีต้องซื้อของให้พ่อแม่ใช่ไหมคะ หนูก็ทำตัวเป็นลูกที่ดีอยู่นะคะ อยากให้แม่ดีใจ ที่มีหนูเกิดมาเป็นลูกสาวของแม่”
สุนทรีค้อนพิชชา มองเสื้อผ้านั้น หยิบตัวที่เด็ดสุดขึ้นมาทาบกับตัว
“ชอบใช่ไหมล่ะ”
สุนทรีไม่ตอบได้แต่อมยิ้มมีความสุข พิชชายิ้มน้ำตาคลอ แต่แววตาแสนเศร้า
เย็นนั้น พิชชานั่งรอแพนที่สวนของโรงแรม ครู่ใหญ่แพนเดินออกมาจากตึก ตรงมาหาพิชชา แพนนั่งลงข้างๆ
“ได้ยินว่าเธอพึ่งกลับมาจากไปดูงานเหรอ”
“อือ”
“เธอเป็นคนเก่งเสมอ”
“แล้วนี่ มีอะไรเหรอ”
พิชชาไม่อยากพูดขออะไรที่ทำให้แพนลำบากใจ แต่เธอไม่มีเวลามากนักแล้ว
“ฉันขอกลับบ้านพร้อมเธอได้ไหม”
แพนไม่พอใจ
“เหลือเชื่อเลยเธอ ทั้งๆ ที่ทำเรื่องมาขนาดนี้ จะขอกลับไปกับฉันเหรอ”
พิชชาคิดไว้แล้วว่าแพนอาจจะปฏิเสธคำขอของเธอ
“ฉันแค่คิดว่า ถ้าเราสองคนกลับไปบ้านพร้อมกัน ให้แม่เห็น แม่คงต้องดีใจมากแน่ๆ เลย”
แพนได้ยินสิ่งที่พิชชาอยากจะทำ แล้วก็สะดุดใจตัวเอง
“เธอนี่มัน....เสียใจด้วยนะ วันนี้ฉันต้องทำงานดึก”
พิชชาเห็นแพนรู้สึกหงุดหงิดกับเธอ
“ขอโทษนะแพน ถ้าที่ผ่านมาฉันต้องทำให้เธอ เสียใจ เจ็บใจ หรือไม่มีความสุข ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ”
แพนท่าทีอ่อนลง คิดถึงเรื่องที่ผ่านมากับพิชชา
“เธอรู้ไหม ว่าทำไมฉันถึงไม่เคยชอบเธอเลย”
พิชชามองแพน เธอเองก็อยากรู้สิ่งที่คาใจทั้งสองมาเนิ่นนาน
“มันเหมือนฉันถูกเธอเยาะเย้ยมาตลอด เราเป็นคู่แข่งที่ไม่สมกันเลย ฉันตะเกียกตะกาย พยายามอย่างหนักในทุกเรื่อง เพื่อจะชนะเธอให้ได้สักอย่าง แต่มันไม่เคยเป็นแบบนั้นสักครั้ง ฉันเรียนเก่งกว่า หัวดีกว่า เธอสู้ฉันไม่ได้สักอย่าง แต่เธอมักจะได้มันไปหมดเสมอ รวมทั้งความรักของแม่”
พิชชาเข้าใจแพน นึกถึงเวลาที่ตัวเองเหลืออยู่
“ที่ได้อะไรมาเสมอ เพราะฉันคงมีเวลากับทุกอย่างน้อยเกินกว่าที่จะต้องแย่งชิงกับใคร ฉันมีเวลาที่จะอยู่กับแม่น้อยไป มีเวลาที่จะมีความสุขนิดเดียว ทุกอย่างมันมีเวลาน้อยไปสำหรับฉันจริงๆ”
แพนรับฟังสิ่งที่พิชชาระบายออกมา ไม่เข้าใจมันทั้งหมด แต่ความรู้สึกกับพิชชาเปลี่ยนไป
“ฉันไม่ได้เกลียดเธอมากมายถึงขนาด ให้อภัยไม่ได้ แค่อยากจะเอาชนะเธอให้ได้สักครั้งเท่านั้นล่ะ”
แพนลุกขึ้น พิชชาจับมือรั้งไว้ แพนแปลกใจ
“ฉันขออะไรเธอได้ไหม อยากให้เธอช่วย”
“ช่วยอะไร”
“ฉันกำลังจะไปทำงานที่กรุงเทพ อาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกนาน แม่ๆของเราฝากเธอดูพวกท่านด้วยนะ”
แพนถอนใจคิดถึงแม่ทั้งสอง พิชชาขอร้อง
“เป็นเธอ คงดูแลท่านทั้งสองได้ดี เป็นที่พึ่งของพวกท่านได้ ดีกว่าฉัน”
แพนนิ่งไม่แสดงท่าทีอะไร มีแต่แววตาที่แสดงออกถึงความห่วงแม่ทั้งสอง
“ไม่มีฉัน แม่คงเหลือแค่เธอคนเดียวเท่านั้น”
แพนมองนาฬิกาข้อมือ
“มีอะไรอีกไหม”
พิชชายิ้มให้
“วันนี้ขอให้ฉันค้างที่บ้านได้ไหม ฉันอยากไปหาแม่ก่อนไป”
“นี่ อะไรกันแน่ เธอทำยังกับสั่งเสีย”
พิชชารีบปฏิเสธ
“ไม่ใช่นะ ฉันแค่คิดถึงแม่มาก”
แพนถอนใจมองพิชชา
“ก็ตามใจเธอสิ ฉันห้ามอะไรไม่ได้อยู่แล้ว”
พิชชายิ้มออก
“ขอบใจนะแพน”
“อย่าพึ่งดีใจไป เรื่องที่เธอพูดๆ มาน่ะ ฉันยังไม่ได้รับปากอะไรเลยนะ”
แพนเดินกลับไปที่ตึก พิชชารู้สึกโล่งใจที่ได้พูดคุยเปิดอกกับแพน แต่ก็กังวลกับท่าทีของแพน
ค่ำนั้น พจนินท์กับพิชชานอนจับมือคุยกันบนเตียง
“แม่คะ หนูทำให้แม่ลำบากใจมากเลยใช่ไหม”
“อย่าพูดอย่างงั้นสิ ทำไมแม่ต้องลำบากใจ แม่คิดถึงลูกตลอด เป็นคนที่ทำให้แม่ชื่นใจได้เสมอต่างหาก”
“เหรอคะ”
“จ้ะ”
พจนินท์มองพิชชาที่เหม่อคิด
“เป็นแบบนั้นจริงๆ”
พิชชาถอนใจ
“ขอโทษนะคะแม่ ถึงจะเป็นลูกที่แท้หรือไม่ใช่ หนูก็มีความสุขเสมอ”
“ไม่ใช่แค่ลูกหรอกนะ แม่เองก็มีความสุขที่มีหนูเป็นลูกสาว ถึงเราจะจากกันไป ถึงจะมีเรื่องของลูกกับพาทิน แม่ก็ยังมีความสุข”
พจนินท์คิดถึงอดีตเมื่อตอนพิชชายังเป็นเด็ก
“จำได้ไหม ตอนที่ยังเด็ก หนูเคยเด็ดดอกไม้เอามาฝากแม่ พอเห็นมือน้อยๆของลูกที่กำดอกไม้มาให้ แม่ดีใจมาก”
พิชชาน้ำตาไหล
“แม่คะ”
พจนินท์ยิ้ม เช็ดน้ำตาของพิชชาที่ไหลออกมา
อ่านต่อหน้า 2
รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 18 (ต่อ)
เช้ามืด...พิชชาเปิดตู้เก็บแก้ว เธอวางแก้วประจำตัวของตัวเอง รวมกับแก้วของพ่อ แม่ และพาทิน พิชชามองแก้วพวกนั้นแล้วน้ำตาไหล
“แม่คะ พ่อคะ หนูต้องไปแล้วนะคะ”
พิชชาเดินออกจากบ้านไป
จิราพัชรยืนรอพิชชาที่รถ พงษ์เดินลงจากบ้าน ตรงเข้ามาหาท่าทางนอบน้อม
“ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยให้พิชชามันได้ทำงานที่กรุงเทพ”
“ไม่เป็นไรหรอก”
จิราพัชรมองพงษ์ถอนใจ
“เออ ช่วยอะไรอย่างได้ไหม”
จิราพัชรล้วงกระเป๋าเงินหยิบนามบัตรโรงพยาบาลส่งให้ พงษ์งงที่เขาให้บัตรนั้นแก่เขา
“แวะที่โรงพยาบาลนี้ ให้หมอตรวจเลือดดูหน่อย”
พงษ์ยังงจับต้นชนปลายไม่ถูก
“แต่ผมไม่ได้เป็นโรคอะไรนี่”
“ไม่ใช่แบบนั้น...”
จิราพัชรไม่รู้จะอธิบายกับพงษ์ยังไงดี
“เออน่า ฉันออกค่าใช้จ่ายให้แล้ว แค่แวะไปหน่อยเท่านั้นเอง ถือว่าขอร้องล่ะ”
จิราพัชรยกมือไหว้วาน พงษ์มองท่าทีของเขาไม่มีอะไรแอบแฝง ก็พยักหน้ารับคำ
“ก็ได้ครับ ผมจะแวะไปก็แล้วกัน”
สุนทรีช่วยพิชชาถือกระเป๋าลงจากบ้าน จิราพัชรยกมือไหว้
“สวัสดีครับ”
สุนทรีรับไหว้
“สวัสดีค่ะ”
“ผมจะขับรถไปส่งพิชชาที่กรุงเทพ จะคอยดูเธอเองครับ”
สุนทรีเกรงใจ แต่ก็ยิ้มรับความปรารถนาดีของเขา เธอส่งกระเป๋าให้พิชชาจิราพัชรเดินเข้าไปรับมาถือให้
“แม่คะ”
สุนทรีดูเศร้า
“ไปถึงแล้ว โทรมาหาแม่นะ”
สุนทรีลูบหัวพิชชาด้วยความเอ็นดูรักใคร่ พิชชาแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่
“แม่คะ”
“เออ แม่รู้แล้ว”
พิชชายิ้มให้
“แม่คะ ไว้เจอกันนะคะ”
จิราพัชรมองพิชชารู้ว่เธอพยายามเก็บความรู้สึกมากแค่ไหน สุนทรีมองพิชชา อดไม่ได้ที่จะดึงเข้ามากอด
“ดูแลตัวเองนะ”
พิชชากลั้นไม่อยู่ น้ำตาไหลออกมา
“ค่ะแม่”
สุนทรีเองก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่เหมือนกัน ทั้งคู่ปล่อยให้มันไหล
จิราพัชรขับรถมาตามถนน เขามองพิชชาเป็นระยะๆ พิชชาเหม่อมองไปข้างหน้าเหมือนไร้วิญญาณ จิราพัชรถอนใจ รู้ว่าเธอยังกังวลเรื่องอะไรอยู่
“สองคนนั้นน่ะ เราไปลาพวกเขาหน่อยดีไหม”
พิชชาหันไปมองเขา
“เดี๋ยวก็จะไปอเมริกากันแล้ว”
พิชชาตัดสินใจไม่ถูก ใจหนึ่งก็อยาก อีกใจก็กลัวว่าจะทำใจไม่ไหว
“คุณนิ่งไม่พูดอะไร ผมถือว่าเป็นคำตอบว่าไปนะ”
พิชชายิ้มอย่างเศร้าใจ
ที่สนามหญ้าใต้ต้นไม้หน้าสตูดิโอ
อรอินทุ์ดูผ้าบาติกผืนใหญ่ที่พาณีลองทำเอง
“เป็นไงคะ”
อรอินทุ์พยักหน้า
“ฝีมือคุณณี ถือว่าดีเลยนะคะ สำหรับคนที่พึ่งลองทำแค่สองสามครั้ง”
พาณีหันไปอวดกับดนัย
“บอกแล้วว่าฉันก็เป็นคนมีหัวศิลป์เหมือนกัน”
ดนัยแค่นหัวเราะ
“ขอโทษนะครับคุณณี การมีคนชมครั้งสองครั้ง ไม่ได้ทำให้คนกลายเป็นศิลปินในชั่วข้ามคืนนะครับ”
พาณีค้อนดนัยที่คอยขัดคอ แต่ก็ยอมรับว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง
“ฉันก็รู้หรอกน่า แต่แหมขอคำพูดที่สร้างขวัญ ให้ชุ่มชื่นใจหน่อยไม่ได้เหรอ”
“แหม คุณณี ผมไม่ใช่คนชอบปลอบใจใครแบบแกนๆ ถ้ามันไม่จริงเราจะหลอกกันทำไมล่ะ”
พาณีพนมมือฟังดนัยเทศน์ ดนัยหยุดปาก
“ก็เป็นซะอย่างเนี้ย”
“แบบนี้ถึงจะหยุดคุณได้”
ดนัยยกมือยอมแพ้ อรอินทุ์ยิ้มมองทั้งคู่ที่ถึงจะชอบแหย่แกล้งกัน แต่ก็เข้ากันได้ดี พาณีมองไปรอบๆ สตูดิโอ
“คุณพาทินไม่อยู่เหรอคะ”
อรอินทุ์นิ่งลงเมื่อได้ยินพาณีถามถึงพาทิน ดนัยมองไปที่ลานระเบียงชั้นบนของสตูดิโอ เขาถอนใจหนัก
“เดี๋ยวผมไปตามมาให้”
ดนัยลุกขึ้นจากวงเดินไป อรอินทุ์ยิ้มเยาะตัวเอง
“ช่วงนี้ทินเขาไม่ค่อยสบายใจน่ะค่ะ ดื่มหนักตลอดเลย”
พาณีแปลกใจไม่อยากเชื่อ
“คุณทินน่ะเหรอคะ”
พาทินเมาหลับอยู่ที่เก้าอี้รับแขก ดนัยเดินขึ้นมามองแล้วต้องถอนใจด้วยความสมเพช เขาใช้มือเขย่าแขนพาทินปลุก
“ทิน ทิน”
พาทินงัวเงียยังไม่สร่างเมา ลืมตามองดนัย ค่อยๆลุกขี้นมานั่ง
“หลังๆ มานี่แกดื่มมากไปหรือเปล่าวะ”
พาทินหัวยังมึน
“ตั้งสติหน่อยสิวะ นึกว่าจะทำใจยอมรับได้แล้วเสียอีก”
พาทินใช้มือตบต้นคอตัวเองเบาๆ เรียกสติ
“ผมหายแล้วล่ะพี่ ขอล้างหน้าหน่อย เดี๋ยวผมตามลงไป”
พาทินลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ ดนัยมองตามส่ายหน้าระอา
อ่านต่อหน้า 3
รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 18(ต่อ)
อรอินทุ์แปลกใจเมื่อรู้ข่าวว่าพิชชาจะไปทำงานที่กรุงเทพ
“พิชชาไปทำงานที่กรุงเทพ เหรอคะ”
ดนัยส่งสายตาดุปรามพาณี แต่พาณีไม่เข้าใจสัญญาณของเขาจึงบอก
“พวกคุณไม่รู้หรอกเหรอ เมื่อวานพิชชาแวะไปหาบอกลาฉันค่ะ”
พาทินเดินมาได้ยินพอดี
“พิชชาไปทำงานที่กรุงเทพ”
พาณีไม่คิดว่าเรื่องของพิชชาที่อรอินทุ์ถามเธอ จะกลายเป็นเรื่อง พาณีรู้สึกผิด
“ค่ะ ขอโทษนะคะ ฉันนึกว่าเธอบอกพวกคุณแล้ว ไม่รู้จริงๆค่ะ”
พาทินหน้าเครียดขึ้นมา คิดหาทางไปพบพิชชา อรอินทุ์รู้ว่าพาทินคิดอะไรอยู่
“ทิน”
สายตาพาทินเห็น พิชชากับจิราพัชรเดินมาด้วยกันจากทางชายหาด ทุกคนก็เห็นเช่นกัน ดนัยกับพาณีรู้สึกถึงบรรยากาศที่กดดัน จากการที่สองคู่พบหน้ากัน พิชชาเห็นหน้าพาทิน ก็ยิ้มให้เขา
“พี่คะ”
พิชชาทักอรอินทุ์ที่ยืนอยู่ข้างเขา
“คุณอร”
อรอินทุ์ไม่รู้ว่าจะทำหน้าแบบไหนรับคำทัก พิชชายิ้มให้ดนัยและพาณี ทั้งคู่ยิ้มทักตอบเธอ
“ดีจังที่อยู่พร้อมหน้ากัน วันนี้ฉันมาลาทุกคนค่ะ”
พาทินสีหน้าเรียบเฉย
“พี่ขอคุยกับเธอหน่อยสิ”
พาทินเดินไปที่หาดทราย พิชชาเดินตามไป อรอินทุ์จะเดินตามไปเช่นกัน จิราพัชรเข้ามาดึงเอาไว้ อรอินทุ์ไม่คิดว่าจิราพัชรจะเป็นคนรั้งเธอไว้
“ปล่อยให้ทั้งคู่ได้คุยกันเถอะ”
จิราพัชรยืนมองทะเล เตะทรายเล่น อรอินทุ์เดินเข้ามาหา
“พัชรเธอคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงพาเขามาที่นี่ล่ะ”
“ไม่ต้องพูดหรอก ฉันเองก็รู้สึกแบบเดียวกับเธอนั่นแหละ แต่ยังไงๆ ไอ้ทินมันก็ไม่ทิ้งเธอไปหรอก”
“พัชร เธอโทษฉันเหรอ”
จิราพัชรหันไปมอง
“เหรอ...ฉันโทษเธออยู่เหรอ”
จิราพัชรหัวเราะตัวเอง
“อร เธออย่าโทษตัวเองเลย ปล่อยวางบ้างเถอะ ฉันรู้สึกแย่กว่าเธอตั้งเยอะ อยากจะพูดความจริงแต่ก็พูดไม่ได้”
อรอินทุ์สงสัยท่าทีแปลกๆ ของจิราพัชรตั้งแต่ต้นแล้ว
“อะไรที่เธอพูดไม่ได้”
จิราพัชรรู้ตัวว่าพูดมากเกินพอแล้ว
พาทินเดินพาพิชชาออกมาไกลจากสตูดิโอพอดู
“พี่เป็นฝ่ายที่จะไปอยู่แล้ว ทำไมเธอต้อง...”
“พี่คะ ฉันไม่อยากรอให้ถึงตอนนั้น ฉันเบื่อที่จะรอแล้ว”
พาทินพยายามทำใจให้ยอมรับ
“แล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหน กรุงเทพ มันใหญ่จะตาย”
พิชชามองพาทิน
“บอกพี่ตามตรงนะคะ ฉันจะไปอยู่กับพัชรเขาสักระยะนึง”
พาทินมองพิชชาอย่างไม่อยากเชื่อ
“พัชรเขาเอ่ยปากชวน แล้วฉันก็รับปากเขาไปแล้ว”
พาทินสีหน้าผิดหวัง
“เราไม่ควรจะผิดสัญญาใช่ไหมคะ ฉันอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่”
พาทินพูดอะไรไม่ออก
“วันก่อนโน้น ที่ฉันมาหาพี่มาขอพี่แบบนั้น เพราะใจฉันไม่อยู่กับตัว เลยทำอะไรบ้าๆ ออกไป” เธอฝืนหัวเราะ “น่าขายหน้าจัง”
พาทินพยายามคิดว่ามันเป็นอย่างที่พิชชาบอกหรือเปล่า
“พี่ไม่ต้องรู้สึกผิดนะคะ ที่วันนั้นปฏิเสธฉัน ฉันเข้าใจดีค่ะ”
“ความรู้สึกของพี่ พี่นึกว่าเธอรู้ดีแล้ว”
พิชชาพยายามซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงไว้
“เรื่องนั้น ฉันรู้ดีอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าเราสองคน ต่างก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”
ทั้งคู่นิ่งเงียบ
“พี่คะ จำเอาไว้ได้เลยว่า ฉันเข้าใจพี่ เข้าใจจริงๆ” พิชชาน้ำตาซึม “ความรักของพี่หล่อเลี้ยงใจฉันมาตลอด ฉันไม่เคยเสียใจเลยสักครั้งที่รักพี่” พิชชาน้ำตาไหล “พี่อย่าลืมนะ”
พาทินก้มหน้าเศร้าซึม พิชชาไม่อยากเห็นพาทินในแบบนี้
“พี่คะ ฉันคงต้องไปแล้วล่ะ”
พิชชาหันตัวเดินกลับ พาทินจับมือเธอเอาไว้
“พี่จะไม่ลืม ไม่มีวันลืม”
พิชชาน้ำตาไหล พาทินปล่อยมือจากพิชชา เธอเดินเช็ดน้ำตาที่ไม่ยอมหยุดไปตามชายหาด พาทินยืนซึมอยู่เดียวดาย
บ่ายแก่ๆ จิราพัชรหิ้วกระเป๋าพาพิชชาเข้ามาในห้องพักของโรงพยาบาลรักษามะเร็ง พิชชามองไปรอบห้อง จิราพัชรรู้ว่าเธอรู้สึกกลัว และไม่สบายใจที่ต้องมาอยู่ที่นี่
“กลัวเหรอ”
พิชชาส่ายหน้า ยิ้มให้
“พรุ่งนี้ต้องโดนตรวจ ต้องเช็คอะไรวุ่นวายไปหมด คุณไม่กลัวเลยเหรอ”
ถึงพิชชาจะยังคงยิ้มอยู่ แต่ในใจก็หวั่นๆ จิราพัชรเดาออก เขาดึงมือเธอมากุมไว้ ให้ความมั่นใจแก่เธอ
“ขอบคุณนะที่คุณมา”
พิชชายิ้ม
“อย่าพูดแบบนั้นสิคะ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ”
พิชชามองหน้าเขา
“คุณน่ะเป็นเหมือนเทวดาประจำตัวของฉันเลย”
จิราพัชรตาโตที่เธอเปรียบเขาไว้สูง
“เทวดาประจำตัวเลยเหรอ”
จิราพัชรมองพิชชา ความรู้สึกที่รักอยากจะปกป้องเธอ มันล้นใจ เขาก้าวเข้าไปใกล้ค่อยๆ โอบ
กอดเธอเอาไว้ พิชชาไม่ขัดขืนเพราะรู้ว่า เขาอยากปลอบโยน เธอเองก็ต้องการการปลอบโยนในยามนี้
เหมือนกัน
“เธอหายกลัวขึ้นไหม”
พิชชารู้สึกอบอุ่นใจจนต้องยิ้มออกมา
“แต่ฉันไม่รู้สึกกลัวแล้วนะ”
“ขอบคุณนะคะ ตอนรักษามันจะเจ็บไหมคะ”
จิราพัชรค่อยๆผละจากพิชชา เขาหัวเราะเบาๆ ส่ายหน้า พิชชามองหน้าเขาขอคำยืนยัน จิราพัชรนิ่งคิด
“คงจะแค่นี้ล่ะ”
จิราพัชรทำมือแสดงให้ดูว่านิดเดียว
อ่านต่อหน้า 4
รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 18(ต่อ)
เช้าวันรุ่งขึ้น พยาบาลนำพิชชาขึ้นไปนอนบนเตียง จัดท่าทางเพื่อทำการตรวจไขกระดูก หมอใช้เข็มขนาดใหญ่แทงบริเวณระหว่างข้อต่อของกระดูกสันหลัง พิชชาเจ็บปวด จนแทบขาดใจ
พยาบาลเข้ามาจับเธอไว้ไม่ให้ดิ้น เพราะอาจจะเป็นอันตรายได้ หมอดูตัวอย่างไขกระดูกออกมาจำนวนหนึ่งเพื่อตรวจ พิชชาสวมแหวนของพาทินเอาไว้ตลอด
จิราพัชรนั่งรอด้วยความกังวล ลุกขึ้นเดินไปเดินมา กระวนกระวายใจ รู้สึกกลัวแทนพิชชา...พยาบาลพาพิชชากลับจากการตรวจ มาพักฟื้นที่เตียง เธอยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ พยาบาลถาม
“เจ็บเหรอคะ”
“นิดหน่อยค่ะ”
พยาบาลห่มผ้าให้
“แฟนคุณ เขากระวนกระวายมากใจ นั่งไม่ติดเลยค่ะ”
พิชชาอยากจะปฏิเสธความเข้าใจผิดของพยาบาล แต่เธอไม่มีแรงเหลือที่จะทำ
“สีหน้าของเขาซีด เหมือนจะเจ็บไปกับคุณด้วยเหมือนกัน”
พิชชาคิดได้ว่า จิราพัชรยังไม่เข้ามาเหมือนปกติ
ในสวนพักผ่อนของโรพยาบาลรอบๆ บริเวณมีพยาบาลพาคนไข้มากายภาพบ้าง ญาติพาออกมาสูดอากาศบ้าง พิชชาสวมชุดคนไข้เดินมองไปรอบๆ กวาดตามองหาจิราพัชร เห็นเขานั่งเหม่อ กังวล จมอยู่กับความคิดเธอเดินเข้าไปหาเขา จิราพัชรเห็นพิชชา เขารีบลุกเข้าไปประคองเธอมานั่งที่เก้าอี้
“คุณมานานแล้วเหรอคะ”
จิราพัชรอ้ำอึ้ง
“เมื่อกี้นี้เอง”
พิชชารู้ว่าเขาโกหก เขามาทันเห็นตอนเธอเจ็บปวด
“การตรวจเป็นยังไงบ้าง เจ็บ...เจ็บหรือเปล่า”
พิชชายิ้ม รู้ว่าเขารู้ว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน
“ฉันเจ็บแค่นี้เองค่ะ”
เธอทำมือแสดงให้ดูว่านิดเดียว เหมือนที่เขาเคยทำให้เธอดู จิราพัชรยิ้มเก้อๆ รู้ว่ามันไม่จริง
พิชชานั่งมองไปนอกหน้าต่างเหม่อคิด มองแหวนของพาทินที่นิ้ว ตัดสินใจถอดมันออกเก็บไว้ในกระเป๋า ใส่ไว้ที่ลิ้นชักข้างเตียง
อรอินทุ์มาที่โรงพยาบาลที่รักษามือของตนทดสอบมือด้วยการจับปากกาเขียน หมอพยักหน้าพอใจ
“คุณเกือบเป็นปกติแล้วล่ะนะ รอผลตรวจอีกครั้ง ถ้าไม่มีอะไรครั้งหน้าก็ไม่ต้องมาแล้วล่ะ”
อรอินทุ์ดีใจ
“มือคุณจะกลับเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง แฟนคุณคงดีใจแย่”
อรอินกังวลขึ้นมาแทนที่ความดีใจที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
พาทินกลับมาจากมหาลัย วางเป้สะพายไว้ที่เก้าอี้ นั่งลงอย่างไร้เรี่ยวแรง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขา
หยิบขี้นมาดูหมายเลข เห็นเป็นเลขของอรอินทุ์ พาทินถอนใจ ปล่อยให้ดังอยู่พักหนึ่งค่อยรับสาย
“จ้ะอร”
“ทินคะ วันนี้มีนัดทานข้าวที่บ้านพ่อแม่คุณนะคะ อย่าลืมล่ะ ฉันกำลังกลับไปหานะคะ ไปเจอกันที่บ้านคุณพ่อคุณแม่เลยก็แล้วกันนะคะ”
“จ้ะ”
พาทินวางสาย รู้สึกเหนื่อยที่ต้องปั้นแต่งตัวเอง เขาลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เย็น หยิบเบียร์ออกมาดื่ม เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก พาทินรับสาย
“ครับ”
“พาทิน พี่เอง”
“ครับพี่หมอ”
“จะโทรมาบอกว่า อรมือเขาหายเป็นปกติแล้วนะ”
พาทินอึ้งที่อรอินทุ์ไม่เคยบอกเรื่องมือกับเขาเลย
“เมื่อกี้โทรหาเขาแต่สายไม่ว่าง ก็เลยคิดว่าให้ทินบอกข่าวดีกับเขาเอง เขาคงจะดีใจกว่า เท่านี้ล่ะ ไว้ค่อยคุยกันนะ”
“ขอบคุณครับพี่หมอ”
พาทินวางสายรู้สึกผิดหวังที่อรอินทุ์หลอกเขา
เย็นนั้นทุกคนพร้อมหน้าที่โต๊ะอาหาร รอคอยพาทิน พจนินท์บ่นๆ
“พาทินมาช้าจังเลย”
พงศกรตัดบท
“เดี๋ยวก็คงมา ถ้าหิวพวกเราลงมือทานกันก่อนก็ได้”
“วันนี้ เรานัดกันกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันนะคะ”
อรอินทุ์ดูกังวลที่พาทินล่าช้ากว่าที่นัดกันไว้ แพนสังเกตเห็น
“พี่อร ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ เดี๋ยวพี่เขาก็มา พี่ทินนะถ้าจะมาช้า เกินสิบนาที เขาจะโทรมาบอกเสมอค่ะ”
อรอินทุ์ยังอดห่วงไม่ได้ สังหรณ์ใจบางอย่าง
ค่ำนั้น อรอินทุ์เดินขึ้นมาเห็นพาทินนั่งกินเหล้าอยู่
“ทินคะ วันนี้เรามีนัดกินข้าวที่บ้านคุณ ทำไมคุณถึงไม่ไปล่ะคะ พวกเรารอคุณอยู่ ฉันโทรมาคุณก็ไม่รับสาย”
พาทินยิ้มแห้งๆ ยกแก้วเหล้าที่วางอยู่ขึ้นดื่ม อรอินทุ์อ่อนใจกับท่าทีของเขาที่เปลี่ยนไป
“ทินคะ พอเถอะค่ะ หยุดดื่มสักที”
พาทินยิ้มเหมือนไม่ได้ยินคำพูดต่อว่าของอรอินทุ์
“อรจ้ะ วันนี้พี่หมอโทรมาหา บอกข่าวดีให้ผมรู้”
อรอินทุ์ใจหายวาบ สิ่งที่ใจเธอสังหรณ์มันเป็นจริงขึ้นมา เธอหน้าเสีย
“เรื่องอะไรคะ”
อรอินทุ์ถามออกไปทั้งที่รู้แก่ใจว่าเป็นเรื่องมือของเธอ พาทินยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย
“เรื่องมือของฉันสินะ”
พาทินมองอรอินทุ์ สีหน้าเขาไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา อรอินทุ์รู้ว่าเขาคงจะไปจากเธอแน่
“ขอโทษค่ะทิน ที่ฉันไม่ได้บอกคุณ” อรอินทุ์เสียงเครือ “ฉันรู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่คุณรู้” เธอน้ำตาไหล “คุณก็จะไปจากฉัน”
พาทินยิ้มให้
“ผมดีใจนะอร ที่มือคุณหายดีเป็นเหมือนเดิม”
คำพูดของเขาทำให้เธอยิ่งเสียใจมากกว่าเดิม
“ฉันไม่อยากหาย ไม่อยากเสียคุณไป”
“ผมรู้ ผมเข้าใจ”
อรอินทุ์รู้ตัวว่าคงไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้อีก
“ทินคะ คุณคงกลับไปหาพิชชาสินะ”
พาทินนิ่งคิด ถอนใจ
“ไม่หรอก ผมกลับไปหาเธอไม่ได้หรอก”
อรอินทุ์เห็นกระเป๋าเสื้อผ้าของเขาที่วางอยู่ข้างๆ
“แล้วคุณจะไปไหนล่ะคะ”
พาทินเหม่อคิด
“ผมแค่อยากจะไป สงบใจสักพักน่ะ คุณคงไม่ว่าใช่ไหม”
อรอินทุ์ไม่รู้ว่าพาทินต้องการแบบนั้นจริงๆ หรือแค่ให้เธอสบายใจเท่านั้น
“คุณจะยกโทษให้ฉันไหมคะ”
“ผมสิต้องขอให้คุณยกโทษให้ ขอโทษที่ผมไม่ยอมตัดขาดจากพิชชา ขอเวลาให้ผมตั้งสตินะอร แล้วเราค่อยไปอเมริกากัน”
อรอินทุ์มองพาทิน ไม่แน่ใจว่าเขาทำอย่างนั้นได้จริงๆ
โปรดติดตาม รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 19