มายาสีมุก ตอนที่ 18
นุชนารถนั่งอ่านหนังสืออยู่นอกชาน เสียงแตรถูกบีบดังขึ้น นุชนารถลุกขึ้นอย่างขัดใจมองตรงไปข้างหน้า แววตาแปลกใจเมื่อเห็นไข่มุกเข็นรถส้มตำพร้อมของสดเต็มรถ ยืนบีบแตรอยู่หน้าบ้าน ไข่มุกยิ้มให้นุชนารถแล้วบีบแตรล้อ
“หยุด หยุดบีบนะ เอารถขายส้มตำมาทำไม”
“ก็จะมาขายส้มตำไงคะ มาช่วยขนของเร็ว จะได้หมักไก่ เตรียมของหาเงินกัน”
นุชนารถยืนนิ่ง ไข่มุกยักไหล่ ขนของรถลงจากรถเข็น เตรียมจะลงมือทำ นุชนารถเข้ามายืนเมียงมองใกล้ๆ
“นี่เธอโง่หรือเซ่อ ตัวเองก็ท้องลูกของรินทร์ ทำไมต้องมาลำบากขายของแบบนี้”
ไข่มุกวางมือ ถอนใจ
“ระหว่างชั้นกับคุณคีรินทร์ จบแล้วค่ะ”
ไข่มุกพูดแล้วก็รู้สึกใจหาย เสทำโน่นทำนี่ พยายามจะไม่ร้องไห้ออกมา นุชนารถมองหน้าเฉยอย่างไม่อยากเชื่อ
คีรินทร์นั่งอยู่ในห้องทำงาน สีหน้าใช้ความคิดเอามือเท้าคางอยู่ที่โต๊ะ คีรินทร์ถอนหายใจหนัก ลุกขึ้นไปยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ไปอยู่ที่ไหนกัน”
คีรินทร์มองลงไปที่ข้างล่างตึก สีหน้าครุ่นคิดถึงอดีต
ภาพในความทรงจำคีรินทร์ นุชนารถเดินจับมือกับคีรินทร์ในบ้าน เป็นบ้านแบบเก่ามีนอกชาน มองไปเห็นแม่น้ำ นุชนารถบอกอย่างอวดๆ
“บ้านนี้ เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่นุชมี”
คีรินทร์ในชุดสูท สวมแว่นกันแดดอย่างเท่ เดินมาหยุดอยู่หน้าบ้านนุชนารถแล้วถอดแว่นออก คีรินทร์มองเข้าไปในบ้านแต่ไม่เห็นใครก็ชะเง้อชะแง้มอง เพื่อนบ้านหลังถัดมาเปิดประตูบ้านออกมา คีรินทร์เดินเข้าไปถาม
“โทษนะครับ คนบ้านนี้ไปไหนกันหมด”
“อ๋อ เค้าออกไปขายของกันตั้งแต่เช้ามืดแล้วคู้น”
คีรินทร์ทำหน้างง
“ขายของ ขายอะไร”
ไข่มุกควงสากตำส้มตำรถเข็น ทำท่าโยนรับอย่างคล่องแคล่ว ลูกค้ายืนอออยู่เต็ม มีนุชนารถยืนอยู่ใกล้ๆ รถเข็น สวมผ้ากันเปื้อนทำหน้าบึ้ง
“เข้าคิวจ้า ใครมาก่อนได้ก่อน ได้แซ่บทุกคนจ้า เอ้าพี่ อยากได้อะไรจดใส่กระดาษให้คนนู้นเลย” ชาวบ้านหยิบกระดาษมาจดจะส่งให้นุชนารถ นุชนารถถลึงตาใส่ ชาวบ้านหดมือหนีแทบไม่ทัน “ไก่ปิ้งสาม ตำปูสุดแซ่บได้แล้วจ้า ห้าสิบจ้ะ” ไข่มุกส่งถุงให้ลูกค้าแล้วรับเงินมาใส่ผ้ากันเปื้อน ไข่มุกหันหานุชนารถ พยักหน้าไปหน้าเตาไก่ “ดูเตาด้วยดิ เดี๋ยวไหม้หมด”
“ดูแล้วย่ะ”
นุชนารถถอนหายใจอย่างไม่พอใจแล้วไปยืนปิ้งไก่อย่างกระแทกกระทั้น ไข่มุกมองอย่างนึกขำแล้วหันมาตำต่อ
ไข่มุกหยิบมะละกอใส่ครกตำอย่างคล่องแคล่วสลับกับโยกสากขึ้นฟ้าแล้วรับมาตำต่อ ชาวบ้านมองอย่างทึ่งจนเผลอตบมือ คีรินทร์เดินมาเห็นก็ร้องเรียกดีใจ
“ไข่มุก” ไข่มุกกับนุชนารถชะงัก นุชนารถวิ่งออกไปหาคีรินทร์อย่างคิดถึงมาก คีรินทร์เบี่ยงตัวหลบ “อ่ะหือ กลิ่นไก่มาเป็นเล้า”
นุชนารถชะงักอย่างเสียความมั่นใจ ก้มลงดมกลิ่นที่เสื้อ คีรินทร์เดินมาหาไข่มุกที่ยืนอึ้ง สบสายตากันแล้วคว้ามา กอดอย่างทั้งรักทั้งโกรธ
“ปล่อย”
“ไม่ปล่อย เดี๋ยวเธอหายไปอีก ทำไมต้องหนีชั้น ไม่รู้รึไงว่าทุกคนเขาเป็นห่วงแทบตาย ยัยตัวแสบเอ๊ย”
ไข่มุกนิ่ง ยืนตัวแข็งให้คีรินทร์กอด นุชนารถหันมามองทั้งคู่ ตาขวางอย่างอิจฉาและหมั่นไส้มาก
คีรินทร์ ไข่มุก นุชนารถนั่งอยู่กับพื้นนอกชานบ้าน คีรินทร์นั่งขัดสมาธิมองหน้าไข่มุกอย่างเอาเรื่องเต็มที่
“คิดอะไรอยู่ คนเขาไปช่วยดีๆ ทำไมต้องหนี แล้วไหนจะเรื่องท้องลูกชั้น ทำไมไม่บอกกันสักคำ แล้วนี่เป็นไงมั่ง แพ้อยู่รึเปล่า”
คีรินทร์จะจับท้อง ไข่มุกปัดออก
“ไม่ค่อยแพ้แล้ว แต่ที่พูดมาน่ะ แน่ใจเหรอว่าลูกคุณจริง อาจจะเป็นลูกคนอื่นก็ได้”
คีรินทร์มองตาขวาง
“ลูกใคร” ไข่มุกนิ่งลุกขึ้นยืน คีรินทร์ลุกพรวด “บอกมาเลย พูดเดี๋ยวนี้ว่าเป็นลูกใคร ใช่ลูกผมใช่มั้ย”
คีรินทร์จับแขนไข่มุก
“ทำไมต้องถามคำนี้ ถ้าไม่เชื่อใจ ไม่ไว้ใจ ชั้นตอบอะไรไปคุณก็ไม่เชื่อหรอก” ไข่มุกสะบัดแขนออก
“ก็บอกมาก่อนสิ แล้วจะคิดว่าเชื่อดีมั้ย สรุปว่าลูกใคร” ไข่มุกนิ่งไม่ตอบ “อย่ามากวน ลูกใคร ลูกผมใช่มั้ย”
นุชนารถที่นั่งอยู่กับพื้นมองซ้ายขวาอย่างหมั่นไส้ที่ไม่มีใครสนใจเธอเลย ไข่มุกยักไหล่
“ก็ไม่แน่ รอดูหน้าแล้วกัน”
“นี่เธอ”
คีรินทร์โมโหจี๊ด ทำท่าจะเข้าไปจับไข่มุกมาเขย่าตัว ไข่มุกทำหลบ มองคีรินทร์อย่างจงใจกวน
“จะทำอะไร ชั้นต่อต้านความรุนแรงในครอบครัวนะ บอกไว้ก่อน”
“เปล่า ชั้นไม่เคยทำร้ายผู้หญิง แต่จะจับจูบให้รู้สำนึก” คีรินทร์ทำท่าจะเข้าไปหาไข่มุก นุชนารถลุกขึ้นแล้วกระโจนขึ้นหลังคีรินทร์ ออกแรงทุบหลังกรี๊ดลั่น “โอ๊ยๆๆ นุช หยุดนะ”
“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย กะล่อน เจ้าชู้ หลายใจ มักมาก สำส่อน ไอ้เลว ชั่ว หลอกผู้หญิง”
“เฮ้ย เยอะเกิน พอทีนุช โอ๊ย”
นุชนารถใช้แขนรัดคอคีรินทร์จนตาเหลือก คีรินทร์มองไปทางไข่มุกทำท่าคว้ามือจะให้ช่วย ไข่มุกมองนิ่งแล้วเมิน กระเถิบตัวหนี
“โดนซะมั่งก็ดี”
“แกหลอกชั้น ไอ้ผู้ชายบ้ากาม หื่นแตกไปทั่ว ไม่รู้จักพอ”
คีรินทร์เหวี่ยงนุชนารถไปมา นุชนารถไม่ยอมแพ้เกาะหลังแน่น คีรินทร์เซล้มไปกองทั้งคู่ มือนุชนารถหลุดออก คีรินทร์กระเถิบหนีแล้วชี้หน้านุชนารถ
“หยุดบ้าเลยนะ จะฆ่าผมรึไง”
นุชนารถมองคีรินทร์แล้วร้องไห้โฮ คลานเข้าไปกอดขาคีรินทร์ สะอึกสะอื้น
“ที่เป็นบ้าก็เพราะคุณ ชั้นรักคุณนะคะริน ทำไมถึงทิ้งกัน นุชมีแค่คุณ ไม่เหลืออะไรแล้ว ฮือออ นุชไม่ดีตรงไหน ทำไมคุณถึงไม่รักเลย ตอบสิคะ ตอบสิ ฮือออ เจ็บรึเปล่า นุชขอโทษ”
คีรินทร์อึ้ง มองนุชนารถอย่างรู้สึกผิด ค่อยๆ นั่งลงโอบนุชนารถไว้ นุชนารถกอดคีรินทร์แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น
ไข่มุกมองอย่างขมขื่นและเจ็บปวด ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านอย่างเข้าใจความขมขื่นของนุชนารถ
ไข่มุกหยิบเงินที่ได้จากการขายส้มตำขึ้นมานับ
“ร้อย สองร้อย สาม สี่ ...เจ็ดร้อยห้าสิบ สอง สาม “
คีรินทร์เดินมามอง
“ขายทั้งวันได้ไม่ถึงพัน คงรวยตายแหละ นี่ได้กำไรกี่บาทกันเชียว”
ไข่มุกยัดเงินเก็บ หันมาค้อน
“ก็พออยู่ได้ ไม่ขาดทุนแล้วกัน หลบหน่อย”
ไข่มุกแกล้งเอาศอกกระแทก หยิบพริก ติดไฟเอาลงไปคั่ว
“ทำไมไม่ซื้อเขาล่ะ คั่วเองทำไมให้เหนื่อย ร้อนเปล่าๆ”
“คั่วใหม่ๆ ดีกว่า หอมกว่า ประหยัดกว่าด้วย”
ไข่มุกแกล้งเคาะตะหลิวให้ควันขึ้น คีรินทร์จามเสียงดัง ไข่มุกแอบยิ้มสะใจ คีรินทร์ทนไม่ไหวจึงปิดแก๊สเข้าให้
“พอเลย ฟุ้งทั่วบ้าน ฮัดเช้ย แกล้งชั้นเหรอ” คีรินทร์มองสบตาไข่มุก “เธอไม่คิดจะกลับไปหาคุณจินจูเหรอ เขาเป็นห่วงเธอมากรู้มั้ย”
ไข่มุกนิ่งอึ้งไป แล้วหันหลังไปเปิดแก๊สคั่วพริกต่อ ทำท่าไม่สนใจ คีรินทร์ชักฉุน ดึงมือไข่มุกที่ถือกระทะแล้วปิดแก๊สอีกรอบ
“หูหนวกเหรอ ไม่ได้ยินหรือไง”
ไข่มุกทำหน้านิ่ง
“ได้ยิน แต่ไม่ว่างฟัง”
“ไม่ว่างก็ต้องฟัง กลับไปวันนี้เลย ไม่ต้องทำแล้วไอ้งานบ้าบอแบบนี้”
ไข่มุกชะงัก เอาตะหลิวเคาะพริกในกระทะให้ฟุ้ง คีรินทร์จามฮัดเช้ยๆ ผสมไอ จนต้องปล่อยมือ ไข่มุกวางกระทะ เท้าเอวมองคีรินทร์
“งานบ้าบอของคุณนี่แหละ ที่เลี้ยงชั้นมาจนโตป่านนี้ อย่ามาดูถูก” คีรินทร์จามไปชี้หน้าไข่มุกไปเพราะพูดไม่ออก ได้แต่จามติดๆ กัน “คุณเองก็เถอะ ที่คุณนุชเป็นแบบนี้ก็เพราะเขารักคุณ รักมากเกินไปจนทำร้ายตัวเอง”
“รู้แล้วน่า ไม่ต้องย้ำให้มาก เออ ชั้นมันเลว พอใจยัง ฮัดเช้ยๆ”
ไข่มุกมองคีรินทร์แล้วส่ายหน้าแบบปลงๆ คีรินทร์ไอพลางมองไข่มุกพลางอย่างเคืองๆ
อ่านต่อเวลา 17.00น.
ชลลดากับภัททิมานั่งกินข้าวสบายอารมณ์ บนโต๊ะมีไก่ย่าง ปลาทอด แกงหลายอย่าง ทั้งสองคนตักกันชิมอย่างสนุกสนาน มณีเดินเข้ามาที่โต๊ะพร้อมช้อย ในมือมีถาดคนละใบ ช้อยเป็นถาดเปล่า มณีเป็นถาดมีจานฝาครอบ มองสองแม่ลูก ชลลดาเอื้อมมือจะตักไก่ย่าง มณีดึงจานมาถือ
“อ้าว คุณพี่มณี ทานด้วยกันนะคะ”
มณีมองเมิน หันไปสั่งช้อย
“ช้อย จัดการ”
“รับทราบค่ะ”
ช้อยยกจานกับข้าวใส่ถาด เก็บของบนโต๊ะ ภัททิมาที่ทำท่าจะตักแกงก็ถูกดึงถ้วยออก ถือช้อนค้าง
“หนูยังกินอยู่นะ จะเอาไปไหน”
“ทำอะไรกัน ช้อย วางลงเดี๋ยวนี้ ชั้นยังทานไม่เสร็จ”
มณีวางถาดในมือกระแทกโต๊ะ
“ของพวกหล่อน กินนี่ไปแทนแล้วกัน”
ชลลดาเปิดฝาครอบออก เห็นปลาเค็มแห้งๆ หนึ่งตัว มณีมองเยาะเย้ย
“ถ้าไม่ไป ก็ห้ามล้างผลาญ ตัวเดียวแบ่งกันกินสองคน ค่าข้าวไม่คิด ถือว่าทำทานให้แร้งให้กา”
“คุณพี่จะใจร้ายกับเรามากไปแล้วนะคะ”
“ไม่ต้องมาคุณพี่ ตอนโดนจับเรียกทั้งนังแก่ นังเหี่ยว ชั้นจำได้นะยะ ฮึ แหลทั้งแม่ทั้งลูก ถ้าชั้นไล่หล่อนสองคนออกจากบ้านไม่ได้ ไม่ต้องมาเรียกว่าคุณมณี”
มณีกับช้อยมองชลลดากับภัททิมาอย่างเป็นต่อ สองแม่ลูกมองมณีอย่างเจ็บใจมาก
คืนนั้นที่บ้านนุชนารถ คีรินทร์ ไข่มุก นุชนารถนั่งล้อมวงกินข้าวกัน นุชนารถตักกับข้าวให้คีรินทร์อย่างเอาใจ สีหน้ามีความสุขมาก
“ทานเยอะๆ นะคะ”
คีรินทร์วางช้อน มองทั้งสองคน
“แล้วจะเอาไงต่อ”
“ยังไม่รู้เลยค่ะ แต่นุชไม่อยากติดคุก”
คีรินทร์พยักหน้าเข้าใจ
“ผมจะลองพูดกับทางตำรวจ ให้กันตัวคุณเป็นพยาน บอกว่าวัฒหลอกคุณ จะได้เล่นงานไอ้วัฒได้เต็มที่” ไข่มุกชะงัก
“แล้ววัฒนาเป็นไงบ้าง เห็นตอนเขาโดนยิง”
“ใช่ โดนยิงตาย แต่ศพหายไป ไม่รู้ใครมันมาแอบเอาไป”
นุชนารถชะงัก
“ใครจะเอาศพไป ไม่ใช่ชั้นนะ ชั้นไม่เกี่ยว”
คีรินทร์ถอนใจยาว
“เรื่องนั้นผมก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ คืออยากให้คุณทั้งสองคน กลับบ้านด้วยกัน ได้ไหม”
คีรินทร์ส่งสายตาไปหานุชนารถ นุชนารถมองตอบอย่างลังเลอยากจะกลับ คีรินทร์มองไปทางไข่มุก ไข่มุกเม้มปากแน่น
“คุณนุชจะกลับก็ไปเถอะ ชั้นไม่กลับ เดี๋ยวชั้นจะไปเช่าบ้านใกล้ๆ ตลาดอยู่”
“จะอยู่คนเดียวได้ไง ติงต๊องเหรอ ท้องจะโตด้วย”
“โตก็อยู่ได้ คุณสิติงต๊อง”
“ไม่ได้ เธอต้องกลับไปกับชั้น”
มายาสีมุก ตอนที่ 18 (ต่อ)
ไข่มุกจ้องหน้าคีรินทร์
“ดูปากนะ ชั้น-ไม่-กลับ”
คีรินทร์เริ่มโมโห
“ชั้นบอกให้กลับก็กลับสิ อย่านึกว่าท้องแล้วชั้นจะใจอ่อนนะ”
“ชั้นบอกว่าไม่กลับก็คือไม่ ไม่ต้องมาขู่ด้วย”
นุชนารถนั่งมองคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างงงๆ แววตาอ่อนใจปนอิจฉา กำช้อนในมือแน่น
“จะไม่กลับแน่ๆ ใช่มั้ย”
ไข่มุกเชิดหน้า
“ใช่”
“ถ้าเธอไม่กลับ ชั้นจะมาอยู่ที่นี่ด้วย”
ไข่มุกเหวอ อึ้งไปอย่างคาดไม่ถึง
“จริงเหรอคะรินทร์ นุชดีใจที่สุดเลย”
นุชนารถกอดแขนคีรินทร์ซบอย่างดีใจ คีรินทร์สบตาไข่มุกอย่างท้าทาย
กลุ่มชาวบ้านรุมล้อมส่งเสียงฮือฮา ขณะที่คีรินทร์ใส่ผ้ากันเปื้อนยืนคู่ไข่มุก มีครกคนละอัน นุชนารถยืนหน้านิ่งปิ้งไก่อยู่ ไข่มุกหยิบกระเทียมพริกใส่ คีรินทร์หยิบตาม ไข่มุกหั่นมะเขือเทศบนปากครก หักถั่วใส่ คีรินทร์หยิบมะเขือเทศทั้งลูกลงครก หักถั่วใส่ มองไปทำไปเก้ๆ กังๆ ไข่มุกหยิบมะละกอ ปรุงรส ใส่ปลาร้า คีรินทร์ทำตามหยิบอย่างลุกลี้ลุกลนไม่ค่อยถนัด ไข่มุกหยิบสากขึ้นมาควงอย่างมืออาชีพแล้วหันไปหาคีรินทร์ยักคิ้วใส่ คีรินทร์ควงบ้างแต่ทำสากหลุดมือหล่นที่พื้น คีรินทร์รีบเอาจุ่มน้ำล้างแล้วเอามาตำต่ออย่างไว้ฟอร์ม นุชนารถยื่นถุงให้ลูกค้า รับเงินมา แต่สายตามองทั้งสองคนไม่วางตา
“แหมม ล้อหล่อ คนอะไร ตำส้มตำยังหล่อ”
คีรินทร์ยิ้มโปรยเสน่ห์
“หล่อก็ซื้อเยอะๆ สิ เอาอะไรดี สั่งได้เดี๋ยวจัดให้”
“เอาตำปลาร้าแซ่บๆ กับลาบไก่ แล้วเอาพ่อค้าใส่ถุงด้วยได้มั้ยจ๊ะ”
“อย่างหลังแพงนะ แต่รับประกันว่าแซ่บเว่อร์”
สาวๆ ที่มารุมมองคีรินทร์กรี๊ดกร๊าดอย่างถูกใจ ไข่มุกมองคีรินทร์อย่างขำๆ ปนหมั่นไส้ นุชนารถถลึงตาใส่ลูกค้าจนถอยกรูด เสียงนกหวีดดังขึ้นหลายๆ ครั้ง ไข่มุกตาโตอย่างตกใจ
“มุงอะไรกัน บอกแล้วไงว่าทางเท้าห้ามขาย”
ไข่มุกรีบเก็บของใส่ นุชนารถทำท่างงๆ ไม่ได้ช่วยอะไร คีรินทร์ก็ถือครกกับสากทำหน้างงใหญ่
“เก็บทำไม กำลังขายดี”
ไข่มุกฉวยครกคีรินทร์มาเก็บ
“รีบเข้าเหอะ มาโน่นแล้ว ไปก่อนนะพ่อแม่พี่น้อง ไว้มาอุดหนุนใหม่นะจ๊ะ”
“เดี๋ยว เดี๋ยวสิ”
ไข่มุกไม่ฟัง เข็นรถเข็นวิ่งไป คีรินทร์ถือสากค้างมองอย่างงงมาก เทศกิจวิ่งเข้ามาใกล้คีรินทร์
“จับเลย โน่นไงคนขาย”
“เฮ้ย”
คีรินทร์โยนสากในมือทิ้ง แล้ววิ่งแน่บตามรถไข่มุกไป
คีรินทร์วิ่งตามหลังไข่มุกที่วิ่งเข็นรถเข็น คีรินทร์วิ่งไปก็ทำหน้านึกได้ ดึงไข่มุกให้หยุด
“อะไรล่ะ วิ่งสิ”
“วิ่งได้ไง ลูกชั้นในพุงเธอหัวสั่นหัวคลอนหมดแล้ว หยุดเลย เอามานี่ เข็นเอง”
“นี่ไง หลบอยู่นี่”
คีรินทร์กับไข่มุกหันไปเห็นเทศกิจอยู่ไกลๆ คีรินทร์จับรถเข็นวิ่ง ไข่มุกวิ่งตามเข้าไปในซอยหลังตลาดที่มีของสุมอยู่
“บอกว่าห้ามวิ่งไง”
“ไม่วิ่งก็โดนจับสิ”
“หาที่หลบไป เดี๋ยวที่เหลือจัดการเอง” ไข่มุกมองอย่างไม่เชื่อ “ไปดิ”
ไข่มุกพยักหน้าแล้ววิ่งเข้าซอกตึก เห็นเข่งผักใหญ่อยู่ก็เอามาครอบตัว แต่ก็ตะโกนสั่งทิ้งท้ายไว้
“เลี้ยวซ้ายสุดซอย แล้วก็อีกสองขวาออกถนนใหญ่นะ”
คีรินทร์ยักคิ้ว ทำท่าเลี้ยวขวา
“นั่นมันขวา โอ๊ย เวรกรรม จะรอดมั้ยเนี่ย”
ไข่มุกแอบอยู่ในเข่งมองเห็นคีรินทร์เข็นรถเข็นเก้ๆ กังๆ ตีวงกว้างแทบจะหมุน เลี้ยวไปในอีกซอย มีเทศกิจสองสามคนวิ่งตามไป ไข่มุกเปิดเข่งออก มองตามอย่างไม่แน่ใจว่าคีรินทร์จะรอดมั้ย
อ่านต่อพรุ่งนี้ เวลา 09.30น.
คีรินทร์วิ่งแน่บของตกหล่นเป็นทาง หักเลี้ยวซ้ายขวา เข้าออกซอยอย่างไม่ถนัด
“เฮ้ย หยุด บอกให้หยุดไง”
คีรินทร์หันหลังไปมองหน้าเหวอรีบเข็นจนเตาไก่ย่างไฟลุก คีรินทร์มองอย่างตกใจมาก หันซ้ายหันขวาจอด คีรินทร์หลับหูหลับตาเป่าไฟให้ดับ ไฟก็ยิ่งลุก เทศกิจวิ่งมาจะถึงตัว คีรินทร์หน้าเหวอ เข็นรถเข็นไปวิ่งไปเป่าเตาไก่ย่างไป คีรินทร์วิ่งเข้าซอยมีสองทางแยก คีรินทร์เลี้ยวอีกทาง เทศกิจเลี้ยวอีกทาง คีรินทร์ย้อนกลับมามองตามอย่างคิดว่ารอดแล้ว ทำท่าทะเล้นๆ
“อ่ะโด่ ก็แค่เนี้ย จิ๊บๆ”
คีรินทร์เป่าไฟดับแล้วเดินเข็นออกมา ผิวปาก ออกมาหน้าซอยเจอเทศกิจยืนกอดอกยิ้มยิงฟัน คีรินทร์สะดุ้งเฮือกหน้าเหวออย่างทำอะไรไม่ถูก
ไข่มุกกับคีรินทร์นั่งอยู่หน้าเทศกิจ ไข่มุกนับเงินจ่ายให้ มีแม่ค้าคนอื่นๆ เข้าแถวต่อ คีรินทร์ทำหน้าสลด
“แล้วทีหลังอย่าตั้งเกะกะอีกล่ะ มือใหม่หัดหนี จะสู้เทศกิจมือเก๋าได้ไง เอ้า คนถัดไป”
คีรินทร์ทำท่าจะบ่นเทศกิจ ไข่มุกดึงเสื้อให้ออกมา
“ไงล่ะ มาขายวันแรกก็โดนจับเลย ชั้นทำตั้งนาน หนีรอดมาตั้งหลายครั้ง เฮ้อ เสียชื่อหมด เตาไก่ก็ไหม้ ทุนหายกำไรหด”
“อย่าบ่นนักเลยน่า อืม แต่ก็สนุกดี ชั้นมีแววเป็นพ่อค้ามั่งมั้ย”
“แววดับน่ะสิ คุณไม่เหมาะหรอก กลับไปทำโรงแรมเหมือนเดิมแหละดีแล้ว”
คีรินทร์กอดอก ทำปากยื่น
“ไม่ คนอย่างนายคีรินทร์ จะทำอะไรต้องทำให้ได้ คอยดูแล้วกันว่าชั้นต้องตำส้มตำเก่งกว่าเธอแน่”
ไข่มุกเลิกคิ้วอย่างไม่เชื่อ
“อ๋อเหรอ”
“อย่ามากวน ไม่เชื่อ”
“สภาพนี้ใครจะเชื่อลง สงสัยต้องเก็บตังค์ เตรียมซื้อทั้งรถ ทั้งเตา ทั้งครก ใหม่หมดยกเซต เจ๊งก่อนรวยแหง”
ไข่มุกพูดแล้วเข็นรถเดินนำไป คีรินทร์มองตามอย่างสุดแสนรักและหมั่นไส้
ไข่มุกเดินออกมาเอาผ้าเช็ดตัวเช็ดผมใส่ชุดเตรียมนอน นุชนารถในชุดนอนเซ็กซี่มายืนดักขวางทาง
“คืนนี้ชั้นจะนอนในห้องกับรินทร์”
ไข่มุกมองอย่างเห็นใจ ตาเศร้า
“แล้วจะให้ชั้นไปนอนไหนคะ”
นุชนารถบุ้ยใบ้ไปข้างนอก
“เธอนอนนอกชานแล้วกัน มียุงนิดหน่อย ทนๆ เอานะ”
ไข่มุกมองแล้วพยักหน้า
“ตามใจแล้วกัน”
“ขอบใจมากนะที่ยอมเข้าใจ ชั้นสัญญาว่าจะดูแลสามีของชั้น เอ้อ ของเรา ให้ดีเลยล่ะ”
นุชนารถยิ้มแล้วมองไข่มุกอย่างสมใจ เดินออกไปอีกด้าน ไข่มุกมองตามอย่างเศร้านิดๆ
นุชนารถเดินออกมานอกชาน มีไข่มุกเดินตามหลังมา นุชนารถยิ้มกระหยิ่ม
“รินทร์ขา เราไป รินทร์”
นุชนารถชะงักเมื่อเห็นคีรินทร์นอนแผ่กรนอย่างหมดท่า หลับสนิทด้วยความเหนื่อย ไข่มุกมองคีรินทร์ส่ายหน้ายิ้มนิดๆ แววตาสงสารหน่อยๆ นุชนารถถลาเข้าไปเขย่า
“รินทร์ ตื่นสิ มานอนนี่ได้ไง ไปนอนในห้องนะ”
คีรินทร์ปัดมือออก ท่าทางงัวเงีย นุชนารถจับไหล่เขย่า
“ตื่นได้แล้ว จะเหนื่อยอะไรนักหนา รินทร์ อย่าทำหลับนะ” คีรินทร์พลิกตัวหนี หันหลังให้ “นี่ จะหันหนีชั้นทำไม จะนอนให้ยุงหามเหรอ ตื่นสิ ตื่น ชั้นบอกให้ตื่นไง” นุชนารถเขย่าอีกสองสามครั้งก็ผลักคีรินทร์ออกอย่างหมดความอดทน ตวัดตามองไข่มุก “คนอะไร ขี้เซาชะมัด เธอดูแลไปแล้วกัน หงุดหงิด ฮึ่ม”
นุชนารถเดินกระแทกเท้าเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูดังปัง คีรินทร์นอนตะแคงหลับกรนดัง ไข่มุกมองอย่างสงสารปนทึ่งๆ ไข่มุกคลุมผ้าห่มให้แล้วค่อยๆ นอนลงข้างๆ คีรินทร์พลิกตัวกลับมากอดทันที ไข่มุกตีเพี้ยะ
“แกล้งหลับเหรอ นี่ ปล่อยนะ”
“ไม่ได้แกล้ง แต่หลับจริงๆ เหนื่อยมาก ขอกอดเอาแรงหน่อยนะ” คีรินทร์บอกเสียงงัวเงีย ไข่มุกดิ้น คีรินทร์ก่ายขาทับ “นิดเดียวเอง อย่าทำงกดิ” ไข่มุกนอนนิ่งให้กอด คีรินทร์กอดนิ่งแล้วลืมตามอง “ชั้นถามเธอตรงๆ นะ ในพุงเธอน่ะ ลูกชั้นใช่มั้ย”
ไข่มุกตัวแข็ง ลุกขึ้นนั่งมองคีรินทร์อย่างเย็นชา
“ทำไมยังถามอีก”
“ก็รู้อยู่แล้วล่ะ แต่อยากได้ยินจากเธอตรงๆ” ไข่มุกมองตาเขียว คีรินทร์ตบปากตัวเอง “ขอโทษคร้าบ ปากเสีย ปากไม่รักดี ถามทำไมก็ไม่รู้ ปากหมา ปากแมว นี่แน่ะ ตีซะให้เข็ด”
คีรินทร์ตบปากตัวเองเบาๆ
“เบาไปมั้ง มา ชั้นช่วย”
ไข่มุกทำท่าจะฟาดปากคีรินทร์ คีรินทร์ฉวยมือดึงลงมากอด ไข่มุกทำท่าจะถอง คีรินทร์ยิ่งกอดแน่นหอมแก้มไข่มุกซ้ายขวา
“เอาปากตบก็ได้นะ ของชอบ”
ไข่มุกถลึงตาใส่ คีรินทร์ยิ้มหวานอย่างเจ้าเล่ห์ปนทะเล้น แล้วหอมแก้มไข่มุกซ้ำอีก
คืนเดียวกันั้นที่ล็อบบี้โรงแรม จินจูนั่งอยู่กับคธา ใบหน้าเศร้าสร้อย แทยอนเดินเข้ามาจากด้านหลัง จินจูหันไปเห็น
“ทำไมมาก่อนกำหนดคะ นึกว่าจะอยู่ที่เกาหลีจนสิ้นเดือน”
“เป็นห่วง ไข่มุกเป็นยังไงบ้าง”
“ยังตามไม่เจอเลย”
จินจูหน้าเศร้า
“ลูกหนีชั้นอีกแล้ว ต้องทำยังไง ลูกถึงจะยกโทษให้ชั้น พี่แทยอนชั้นไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว”
แทยอนวางมือบนไหล่จินจู
“เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะชั้น ชั้นจะเป็นคนจัดการแก้ไขเอง เธอไม่ต้องห่วง ไข่มุกจะต้องกลับมาแน่”
แทยอนมองจินจูอย่างมั่นคงและอยากให้เชื่อมั่น คธากับจินจูมองอย่างนึกสงสัยว่าแทยอนจะทำอะไร
วันต่อมา คีรินทร์นั่งฮัมเพลงอยู่ในห้องทำงาน หมุนปากกา ไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ คธาเปิดประตูเข้ามา คีรินทร์ยกขาลงแต่ยังนั่งสบายๆ เหมือนเดิม
“คุณรินทร์ได้ข่าวไข่มุกบ้างยังครับ”
“ก็ไม่มีนะครับ”
“วัฒนาไม่ติดต่อมาบ้างเหรอ”
คีรินทร์ควงปากกาเล่น
“ไม่มีเหมือนกัน ไอ้วัฒคงตายไปแล้วมั้งครับ”
คธานิ่งมองอย่างสงสัย เขม้นมองสังเกตคีรินทร์ที่ไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนใจ คีรินทร์ทำท่านึกได้ กระแอม ทำเสียงพูดเป็นการเป็นงาน
“ถ้ามีอะไรคืบหน้าผมจะรีบบอกครับ”
เขมทัตเปิดประตู เดินมาหาคีรินทร์ ก้มหัวทักทายคธาแล้วตบบ่าคีรินทร์
“หายหน้าหายตาไปเลยนะ พ่อว่าเหมือนไม่ค่อยเห็นเราที่โรงแรม บ้านช่องก็ไม่กลับ” คีรินทร์อึกอัก
“ก็ ไปคุยกับลูกค้า บางทีก็ไปเลี้ยงเลิกดึก นอนคอนโดดีกว่าขี้เกียจขับรถ”
“ให้มันแน่นา ไม่ใช่ว่าไปติดสาวที่ไหน อย่าลืมว่ามีเมียมีลูกแล้ว”
“โหย ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปติดคร้าบ”
“ประวัติเยอะอย่างเรา ใครเขาจะเชื่อ”
“เชื่อเหอะครับ คราวนี้ผมกลับตัวแล้วแน่นอน คอนเฟิร์ม”
คีรินทร์ยักคิ้วใส่ เขมทัตมองแบบไม่ค่อยเชื่อ คธาลอบมองคีรินทร์อย่างสังเกตปนสงสัย
มณียืนอยู่ในห้องนอนชลลดา ชี้นิ้วสั่งช้อยให้เก็บของ
“ทีวี ตู้เย็นเล็ก โคมไฟ โทรศัพท์ เอาออกไปให้หมด” มณี หันไปสั่งสาวรับใช้อีกคน “เครื่องอำนวยความสะดวก
ทั้งหลาย อย่าให้เหลือสักชิ้นนะ”
ชลลดากับภัททิมาเห็นสาวใช้ถือของเดินออกไปก็แทบกรี๊ด มองไปรอบห้องที่แทบไม่เหลืออะไรแล้วก็หน้าเหวอ
“คุณแม่มณี จะจัดห้องใหม่เหรอคะ แล้วเอาของไปไหนหมดคะ”
มณีทำเชิ่ด ช้อยเดินหอบของใช้ในห้องน้ำออกมา
“สบู่ ยาสระผม ยาสีฟัน โลชั่น ทิชชู เอามาหมดแล้วฮ่ะ”
“จะเอาของชั้นไปไหน”
ชลลดาปราดเข้าไปจะแย่ง มณีเข้าขวาง
“กล้าพูดว่าของเธอนะยะ ของทั้งหมดน่ะเงินชั้น ชั้นใหญ่สุดในบ้าน มีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้”
“คุณพี่เล่นขนไปทั้งหมดแบบนี้ ชลกับลูกจะนอนยังไงล่ะคะ” มณียิ้มเยาะ
“เรื่องของเธอ ชั้นไม่เกี่ยว ไปช้อย พวกครีมนี่ชั้นให้เอาไปแจกเด็กๆ”
“ค่า ฮุ้ย ของดี น่าใช้ทั้งน้าน”
“ครีมของลูกไก่เพิ่งซื้อมานะคะ เอามานะป้า ของดีๆ แพงๆ อย่างงี้ใช้กันไม่เป็นหรอก”
ภัททิมาแย่งของกับช้อย สุดท้ายภัททิมาเอาไปได้ รีบเอาไปกอดอย่างหวง มณีหันมองภัททิมา
อ่านต่อเวลา 17.00น.
มายาสีมุก ตอนที่ 18 (ต่อ)
มณีเดินออกถึงหน้าห้องแล้วคว้ารีโมทแอร์ไปด้วย มณีมองกลับมาที่สองแม่ลูกอย่างเยาะเย้ยสุดฤทธิ์ ชลลดาโกรธจนแทบเต้น
“หนอย นังแก่ปลาร้าค้างปี ได้ทีเอาใหญ่ ทีนี้จะเอาไงดีลูกไก่ คีรินทร์ก็เหลวเป๋ว ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว โอ้ยยย ชั้นแค้นจนไมเกรนจะกิน”
ภัททิมาทำหน้างงๆ มองเลยไปในห้องที่มีกรอบรูปเขมทัตกับมณีตั้งอยู่ แล้วยิ้มออกมาอย่างเจ้าแผนการ
“หนูชวดคุณรินทร์ แต่เรายังมีลุงเขมไงคะ คุณแม่ต้องเอาคืนแทนลูกไก่ด้วยนะ”
ชลลดายิ้มร้าย พยักหน้าหมายมั่น
“ฉลาดเริ่ดค่ะลูก หึ คราวนี้ยัยไดโนเสาร์หนังเหี่ยวได้เต้นแน่”
คีรินทร์เดินควงกุญแจรถผิวปากมาไขกุญแจแล้วขับออกไป คธากับจินจูนั่งอยู่ในรถ มองไปทางคีรินทร์ แล้วขับรถตามไปห่างๆ
คีรินทร์ขับรถมาจอดหน้าบ้านนุชนารถแล้วเดินออกจากรถ มีรถอีกคันตามมาจอดนอกรั้วซึ่งก็คือรถของคธากับจินจู จินจูกับคธาเดินลงมาจากรถ จินจูมองเข้าไปในบ้าน ท่าทางมาดมั่นแกมตั้งความหวัง
“ไข่มุกต้องอยู่ที่นี่แน่”
คธามองตามเข้าในบ้าน สีหน้ากังวลนิดๆ
ไข่มุกกำลังล้างผักอยู่ในกะละมัง คีรินทร์เดินมานั่งลงที่ม้านั่งเล็กใกล้ๆ คีรินทร์พับแขนเสื้อทำท่าจะช่วยล้าง แต่นุชนารถปราดเข้ามาหา
“ทานน้ำก่อนนะคะ นุชทำน้ำลำไยของโปรดไว้ให้”
“ผมช่วยไข่มุกล้างผักก่อน”
นุชนารถตีหน้ายักษ์
“ผักแค่นี้ แป๊บเดียวก็เสร็จ ไม่ต้องทำหรอก”
คีรินทร์มองไข่มุก ไข่มุกทำท่าสะบัดมือไล่ คีรินทร์ถลึงตาใส่ ทำปากมุบมิบ ไข่มุกทำเบะปากยักไหล่ ถือผักสะบัดไล่ คีรินทร์ทำท่าจะเดินตามนุชนารถ ไข่มุกลุกยืนแล้วก้มยกกะละมังจะเอาไปเทน้ำ คีรินทร์ผละออกจากนุชนารถเข้าไปแย่งยกแทน
“ไม่รู้เหรอว่าคนท้องห้ามยกของหนัก”
“ท้องไม่ใช่ง่อย แค่นี้ไม่หนักหรอก มานี่ เดี๋ยวยกให้ดู”
ไข่มุกจะแย่ง คีรินทร์เดินตึงๆ เอากะละมังไปสาดน้ำโครม หันมาทำหน้าบึ้งใส่ไข่มุก นุชนารถมองคีรินทร์สลับไข่มุกอย่างโกรธที่คีรินทร์ไม่สนใจตัวเอง มือสองข้างกำแน่น
“เกิดถือๆ แล้วลื่น ทำกะละมังกระแทกท้องขึ้นมาจะทำไง ลืมไปเหรอว่าท้อง”
“นี่ ชั้นท้องชั้นต้องระวังอยู่แล้ว คนนะไม่ใช่ปลาทอง จะได้ความจำสั้นขนาดนั้น”
คีรินทร์ชี้หน้าอย่างเอาเรื่อง
“เถียง ยังจะเถียงอีก”
คีรินทำท่าจะเข้าไปขย้ำไข่มุกแล้วก็ชะงัก นุชนารถมองตามเห็นจินจูกับคธาก็ชะงักแล้วรีบวิ่งหลบเข้าไปในห้อง
ไข่มุกมองคีรินทร์ชะงักแล้วทำท่างงมองซ้ายมองขวา
“เป็นอะไร”
ไข่มุกหันหลับกลับไปดู เห็นเป็นจินจูกับคธาก็ตกใจ จินจูเดินเข้ามาใกล้แล้วสวมกอดไข่มุกอย่างคิดถึงมาก
“หนูอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย” ไข่มุกอึ้งอย่างทำตัวไม่ถูก ท่าทางช็อคจนตัวแข็ง จินจูพูดแล้วน้ำตาหยด “แม่คิดถึงลูกเหลือเกิน อย่าหนีแม่ไปอีกนะ”
จินจู คธา คีรินทร์ ไข่มุกนั่งอยู่ด้านในบ้าน นุชนารถแอบอยู่หลังประตูมองดูคธากับจินจูอย่างระแวง จินจูเอื้อมมือจับมือไข่มุกที่วางอยู่ ไข่มุกสะดุ้งแล้วชักออก จินจูหน้าเศร้า
“กลับบ้านเถอะนะลูก”
นุชนารถมองอย่างตะลึง
“ลูก”
ไข่มุกนิ่ง แววตาแข็งอย่างไม่ยอมแพ้ ส่ายหน้าเบาๆ
“กลับกันเถอะ อย่าอยู่ที่นี่ต่อไปเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง”
“แย่กว่านี้ ลำบากกว่านี้หนูยังโตมาได้ คุณไม่ต้องห่วง คิดซะว่าเราเป็นแค่คนรู้จัก เหมือนเมื่อก่อนก็ได้”
จินจูมองน้ำตาจะหยด
“ไข่มุก”
“ทำไมถึงพูดแบบนี้ พ่อกับแม่ห่วงลูกมากนะ”
“ขอบคุณค่ะ แต่หนูไม่เป็นไรจริงๆ”
คีรินทร์ที่ฟังอยู่อดปากไม่ไหว
“ให้มันน้อยๆหน่อยเหอะแม่คุณ นี่แม่ยายชั้นอุตส่าห์มาง้อ พ่อตาชั้นก็มาตามกลับ จะงอนไปถึงไหน” คีรทร์นิ่งไปแล้วพูดเสียงอ่อนลง “เธอไม่รัก ไม่สงสารลูกเหรอ เธอมีสิทธิ์โกรธชั้น โกรธคุณจินจู แต่เธอไม่มีสิทธิ์เอาลูกมาอยู่ลำบากอย่างนี้ เห็นแก่ลูกสักครั้งได้มั้ย”
ไข่มุกจับท้อง แววตาอ่อนลง
ที่ห้องนั่งเล่นบ้านคีรินทร์นุชนารถคลานเข่าเอาพานดอกไม้ธูปเทียนมาวางตรงหน้าเขมทัตกับมณี แล้วก้มลงกราบ นุชนารถเงยหน้าขึ้น น้ำตาคลอ ส่งพานให้มณี มณีทำท่ากลัวๆ สะกิดเขมทัตให้รับแทน ชลลดากับภัททิมามองอย่างหมั่นไส้ปนกลัว
“หนูกราบขอขมา ที่ทำผิด หลงผิดไป หนูรู้ว่าสิ่งที่ทำกับคุณมณีร้ายแรงมาก จนไม่น่าให้อภัย แต่ขอให้ยกโทษให้หนูได้มั้ยคะ”
มณีทำท่ากระอักกระอ่วน
“เอ่อ เอาเหอะ ถือว่าชั้นยกโทษให้ ไม่ติดใจเอาความแล้วกัน ต่างคนต่างไปนะ ไม่ต้องมาขอขมาลาโทษอะไรหรอก”
ชลลดาเห็นก็อดปากไม่ได้
“ดราม่าสุดๆ”
นุชนารถนิ่ง น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมา ไข่มุกมองนิ่งเม้มปากแน่น นุชนารถหันไปหารัตนา คลานเข้าไปจับมือไว้
“หนูนาขา พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆ พี่ผิดไปแล้ว”
รัตนากอดนุชนารถ นุชนารถร้องสะอื้น
“ไม่เป็นไรนะพี่นุช หนูนาไม่โกรธหรอก แต่คิดถึงมากเลย ต่อไปพี่นุชอย่าดุ อย่าใจร้ายอีกนะ หนูนากลัว”
นุชนารถกอดรัตนาแน่น
“จ้ะ พี่สัญญาว่าจะเป็นคนใหม่” นุชนารถหันมองทุกคน “นุชรู้ว่าทำผิดต่อทุกคน แต่ขอโอกาสอีกครั้งเดียว ขอให้นุชได้ปรับปรุงตัวเองอีกครั้งนะคะ”
“ยี้ แกอย่ามาตีหน้าเศร้าหน่อยเลย ทีตอนนั้นทำชั้นตั้งเท่าไหร่ จับโขกเอาๆ ตบซะหน้าไหล ทำเป็นลืมเหรอยะ”
“ใครจะยกโทษให้ก็ยกไปเหอะ ชั้นไม่ยอมคนนึง”
ภัททิมากับชลลดาบอก นุชนารถมองสองแม่ลูกแล้วสะอื้นเงียบๆ จนมณีกับเขมทัตชักสงสาร มณีมองหน้าคีรินทร์อย่างลำบากใจ
“ถ้าสำนึกผิดก็ดีแล้ว จากนี้ไปก็เป็นคนใหม่ ลืมเรื่องเก่าๆ ไปซะนะ”
คีรินทร์สบตาไข่มุกนิ่งแล้วหันไปพูด
“ผมมีอีกเรื่องต้องบอก นุชเขาจะขอกลับมาอยู่ที่บ้านนี้ด้วยนะครับ”
ทุกคนอึ้ง ไข่มุกหันมองหน้าคีรินทร์อย่างคาดไม่ถึง
มณีลากคีรินทร์มาคุยอีกมุมหนึ่ง มณีมองคีรินทร์ด้วยสายตาคาดคั้น
“ยังไงก็ไม่ได้ นุชนารถน่ากลัวจะตาย ตอนที่จับแม่ไปก็ใกล้จะเป็นบ้าเต็มที แม่ไม่ยอมนะรินทร์”
คีรินทร์จับไหล่มณี
“แต่ตอนนี้นุชเขากลับใจแล้วนะแม่ เราน่าจะให้โอกาสเขา ยังไงนุชก็เคยเป็น...” คีรินทร์เหลือบมองไข่มุกที่มองมา “เป็นคนบ้านนี้”
เขมทัตนิ่งคิด
“แล้วแน่ใจเหรอ ว่าเขาจะไม่กลับไปเป็นแบบเดิมอีก”
“แน่ใจครับ ตอนนี้นุชไม่มีใคร ไม่มีที่ไป ถ้าผมไม่ช่วย เขาก็คงไม่รู้จะทำยังไง”
ไข่มุกมองคีรินทร์ด้วยสายตาน้อยใจ
“งั้นให้เงินไปตั้งตัวสักก้อนก็ได้ บอกตรงๆ ว่าแม่กลัวใจเหลือเกิน”
คีรินทร์ส่ายหน้า
“ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่ผมห่วงว่าเขาจะอยู่ยังไง อยู่คนเดียวจะยิ่งเครียด ยิ่งคิดมาก เดี๋ยวเลยกลายเป็นโรคประสาทไปจริงๆ ให้นุชกลับมาอยู่เถอะนะครับ” มณีลังเล “ผมขอร้อง นุชเคยช่วยผมไว้ ยังไงผมก็ทิ้งเขาไม่ได้”
เขมทัตกับมณีอ้ำอึ้ง พูดไม่ออกแต่ก็ไม่ปฏิเสธ ไข่มุกชำเลืองมองคีรินทร์ แววตาตัดพ้อและน้อยใจที่คีรินทร์ไม่ยอมตัดนุชนารถให้ขาด
นุชนารถเดินคุยกับคีรินทร์ นุชนารถหยุดแล้วกราบที่อกขอบคุณ
“ขอบคุณคุณมากนะคะ” นุชนารถมองหน้าคีรินทร์อย่างซาบซึ้ง “บุญคุณของคุณ นุชจะไม่มีวันลืม ขอฝากชีวิตทั้งหมดไว้ที่คุณนะคะ นุชรักรินทร์นะ”
คีรินทร์มองนิ่ง ไม่ผลักออก
“คุณก็ทำตัวดีๆ อย่าให้เป็นเหมือนเมื่อก่อนอีก เป็นนุชคนใหม่นะ”
“ค่ะ”
นุชนารถโผเข้ากอดคีรินทร์ ไข่มุกที่กำลังจะเดินมาหาชะงักมอง แววตาเปลี่ยนเป็นเสียใจ ไข่มุกหันหลังกลับ ไปเจอชลลดากับภัททิมายืนดักอยู่
“ไงยะ เห็นภาพบาดตาบาดใจมาล่ะสิ ตาแดงยังกะนกกระปูด”
“หลบหน่อยค่ะ ชั้นจะเข้าบ้าน”
“นี่ละน้า วาสนาแกนี่น้อยนิดจริงๆ อุตส่าห์ให้แต่งหลอกๆ ดั๊นนน ปล่อยให้ท้องโต คิดจะจับเศรษฐี แล้วไง นี่ขนาดป่องอยู่ทนโท่ คีรินทร์ยังเอานังโรคจิตเข้าบ้าน ฮึ สมน้ำหน้า”
ไข่มุกเลี่ยงไปอีกทาง ชลลดากับภัททิมาตามไปขวาง จ้องหน้าอย่างสะใจเต็มแก่
“อุ๊ย ทนฟังไม่ได้ บอกไว้เลย ผัวแกน่ะไม่ได้แคร์ ไม่เห็นหัวแกสักนิด จะกลับมาอยู่ด้วยก็ทำใจไว้เลยย่ะ”
“หนูตัดสินใจเองได้ ไม่รบกวนให้ออกความเห็น “
ภัททิมาเท้าเอวมองเขม็ง
“ว่าชั้นสาระแนเหรอยะ เอาสิ ชั้นก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าคนสิ้นคิดอย่างแก จะใช้วิธีไหนแย่งรินทร์ไปจากชั้นได้ หรือว่าจะแค่ฝันลมๆ แล้งๆ ฮ่ะๆๆ”
ภัททิมากับชลลดาหัวเราะอย่างสะใจ ไข่มุกนิ่งอย่างขมขื่นเสียใจมาก
มายาสีมุก ตอนที่ 18 (ต่อ)
คีรินทร์เปิดห้องให้ไข่มุกเข้ามา ไข่มุกทำหน้านิ่ง คีรินทร์ดูหัวเสีย
“ไม่เข้าใจเลย คุณจะมาอยู่โรงแรมทำไม บ้านเราก็มี”
“บ้านคุณ ไม่ใช่บ้านเรา”
“อย่าบอกนะว่าหึงนุช” ไข่มุกเงียบ คีรินทร์ถอนใจ“เฮ้อ ก็จะให้ทำยังไง ชั้นต้องรับผิดชอบเขาเหมือนกัน จะให้ทิ้งไม่สนใจใยดีเขาเหรอ ชั้นทำไม่ได้หรอก มันใจดำเกินไป”
“เรื่องของคุณ จะทำอะไรก็ทำเถอะ ไม่เกี่ยวกับชั้น”
“งั้น คืนนี้มาค้างด้วยนะ”
“ไม่...”คีรินทร์จะพูด ไข่มุกบอกเสียงหนัก “เด็ดขาด”
คีรินทร์หน้าตึง พูดงอนๆ
“ผู้หญิงใจยักษ์”
จินจูกับคธาเดินตามเข้ามา จินจูจับมือมุก
“ทำไมไม่ไปอยู่ด้วยกัน มีห้องนอนอีกห้องว่างในห้องแม่ ไปอยู่ด้วยกันนะ”
ไข่มุกดึงมือออก
“หนูอยากอยู่ห้องนี้มากกว่าค่ะ ห้องคุณหรูเกินไป ไม่ชินค่ะ”
จินจูหน้าเศร้า คธาแอบกระซิบ
“ไม่เป็นไรน่ะคุณ ให้เวลาลูกหน่อย” คธาหันไปพูดกับไข่มุก “ไว้หนูหายเหนื่อย อารมณ์ดีๆ แล้วเราค่อยคุยกัน พ่อกับแม่แค่อยากบอกให้รู้ ว่าเรารักลูกมากนะ”
ไข่มุกอึ้ง จินจูมองไข่มุกอย่างอาลัย คธากระตุกแขนให้เดินออกไปด้วยกัน ไข่มุกยืนนิ่ง หน้าเศร้านิดๆ คีรินทร์จับมือไข่มุกสบตาอย่างปลอบใจ ไข่มุกปลดมือออก เดินเลี่ยงไป คีรินทร์ถอนใจ ชักน้อยใจไข่มุก
มณีอยู่ในห้องแม่บ้านของโรงแรม มีแม่บ้านยืนอยู่สองสามคน มณีหยิบไม้กวาดโยนใส่ชลลดา ชลลดารับแบบเหวอๆ งงๆ
“ว๊ายๆๆ เดี๋ยวค่ะเดี๋ยว อะไรกัน ว๊าย อย่าโยนสิคะ”
มณีโยนไม้ถู ไม้ม็อบ ไม้รีดน้ำใส่ชลลดา ชลลดารับทุกอันอย่างเก้ๆ กังๆ
“ถังน้ำอยู่นู่น เอาไปด้วย ชั้นให้ยืมรถเข็น ทำไล่ลงมาทุกชั้น ไม่สะอาด ทำใหม่ย่ะ”
“ชลไม่ใช่คนใช้นะคะ ยี้ สกปรก”
“แต่หล่อนต้องเป็นแม่บ้านของโรงแรม แลกกับค่ากินค่าอยู่ย่ะ”
ชลลดาโยนของลงพื้นอย่างเหลืออด
“ไม่มากไปหน่อยเหรอ ชั้นเป็นคนมีหน้ามีตานะคะ จะให้มาทำงานแบบนี้ คนรู้จักมาเห็นได้ดูถูกตาย”
“เรื่องของหล่อน ชั้นไม่แคร์”
มณีลอยหน้า เขมทัตเดินเข้ามา พวกแม่บ้านรีบเดินออกไป มณีหันมอง
“คุณมาได้ไงคะ”
เขมทัตพยักเพยิดไปทางชลลดา
“เขาโทรตามมา จะให้เป็นแม่บ้านเลยก็ยังไงอยู่...” มณีชี้นิ้วห้าม
“หยุด อย่าเข้าข้าง”
“เอาน่า อย่าให้ถึงขั้นต้องไปทำงานแบบนี้เลย สงสารเขาหน่อยสิคุณ ยังไงก็ถือว่าคนรู้จัก อย่าให้เสียหน้าเลย”
“หึ คนอย่างงี้ไม่อยากรู้จักให้เสียเวลาหายใจหรอก”
ชลลดาเข้าไปกอดแขนอ้อนเขมทัต
“ชลไม่เป็นแม่บ้านนะคะพี่เขมขา ขอทำอย่างอื่นนะคะ”
“จะทำอะไรยะ”
ชลลดาสบตาเขมทัตยิ้มหวาน
“ก็...” ชลลดาหันมองมณีแววตาไม่ยอมแพ้ “เลขาท่านประธานใหญ่ไง”
มณีหน้าเหวอ ชลลดาทำเชิดหน้าไม่สน หันไปยิ้มประจบเขมทัตที่ยิ้มตอบกรุ้มกริ่ม
ที่ห้องฟิตเนส ไข่มุกในชุดออกกำลังกาย ทำท่าวาดแขนช้าๆ แบบออกกำลังกายเบาๆ แล้วยืดตัวเปลี่ยนเป็นท่าต่างๆ ผู้จัดการฟิตเนสมองอย่างทึ่ง
“เยี่ยมเลยครับ ผมว่าน่าจะเรียกพวกคุณแม่ๆ มาเป็นสมาชิกได้อีกเพียบแน่”
“ใช่ค่ะ ชั้นตั้งใจเจาะกลุ่มคุณแม่ท้องอ่อนๆ ไปจนถึงสักห้าเดือน แล้วก็หลังคลอดด้วย ท่าไม่ยาก เน้นกล้ามเนื้อบางส่วน”
คีรินทร์เดินเข้ามา
“คิดจะกลับมาสอน” ไข่มุกไม่ตอบ ตั้งท่าวาดแขนต่อเฉียดหน้าคีรินทร์ ไม่สนใจคีรินทร์ คีรินทร์หันไปหาผู้จัดการ “นี่ ถ้าคิดจะเปิดคอร์ส เรามีปัญหากันแน่”
ผู้จัดการทำหน้าหงอรีบหลบฉากทันที ไข่มุกมองตาแข็ง คีรินทร์มองอย่างท้าทายในที แองจี้ น้องแพรว กีกี้ที่เดินอยู่ด้านนอกเห็นคีรินทร์หน้าเครียดก็แอบฟังอย่างอยากรู้อยากเห็นมาก
“ถ้าที่นี่ไม่ให้ทำ ชั้นไปทำที่อื่นก็ได้”
“แล้วจะทำทำไม เธอท้องลูกของชั้นอยู่นะ”
สามสาวหันมองหน้ากัน
“ลูก”
ไข่มุกมองตาคีรินทร์แววตาน้อยใจ
“ถ้าไม่ทำงาน จะเอาเงินที่ไหนเลี้ยงลูก”
“หมายความว่าไง นี่คิดจะเอาลูกไปคนเดียวงั้นเหรอ แล้วชั้นล่ะ ชั้นเป็นพ่อนะ”
ไข่มุกนิ่งไม่ตอบ สามสาวมองคีรินทร์สลับไข่มุกอย่างงงๆ ไม่อยากเชื่อ ภัททิมาที่อยู่ด้านในฟิตเนสวิ่งออกมาเกาะแขนคีรินทร์จะฟ้อง
“รินทร์ขา ดูสิ ลูกค้าหนีคลาสลูกไก่หมดเลย” ภัททิมาหันมองไข่มุก “เธอคิดจะแย่งงานชั้นล่ะสิ ใจร้าย รินทร์ขา รินทร์ช่วยลูกไก่น้า”
คีรินทร์มองไข่มุกที่แววตาเฉยเมยแล้วก็ถอนใจ ไข่มุกนิ่งมองภัททิมาที่กอดคีรินทร์แล้วได้แต่รู้สึกเจ็บปวด แต่ไม่แสดงออก
“ตามใจ เธออยากทำก็ทำไปเลย”
“งั้นให้ลูกไก่ไปทำอะไรล่ะ อ๋อ รู้แล้ว ไปเป็นเลขาเหมือนเดิมได้มั้ยคะ รินทร์ขา”
ภัททิมาทำกระเง้ากระงอด คีรินทร์มองไข่มุกที่ตีหน้าเฉยก็ยิ่งงอน เดินออกไปทันที ภัททิมาหันมามองยิ้มเบะปากอย่างสะใจมาก
“ลงทุนมีลูก สุดท้ายก็ปิ๋ว ฮ่าๆๆ แกนี่มันซวยไม่รู้จะซวยยังไง สะใจคนสวยจริงๆ”
ภัททิมาหัวเราะร่าเยาะเย้ย ไข่มุกไม่ตอบโต้ ทำเมินเฉย ทั้งๆที่เสียใจมาก แองจี้ น้องแพรว กีกี้มองภัททิมาอย่างหมั่นไส้มาก
พวกกีกี้จับกลุ่มทำท่าซุบซิบ มณีเดินผ่าน กีกี้รีบไปดักหน้า
“คุณแม่ขา หยุดก่อนค่ะ เรื่องรินทร์มีลูกกับไข่มุก อะไรยังไงกันแน่ หนูงงไปหมดแล้ว”
มณีพยักหน้านิ่งอย่างไว้เชิง
“ไม่ต้องงงหรอก ข่าวจริง คอนเฟิร์ม” สาวสาวทำท่าจะกรี๊ดมณียกมือห้าม “หยุด ไม่ต้องกรี๊ด ถึงตอนนี้แล้วพวกหนูน่าจะเข้าใจ แล้วก็ทำใจเรื่องรินทร์ได้ซะที พวกหนูไม่ใช่คนโง่ ก็คงจะรู้ว่าตอนนี้ รินทร์เขามีคนที่รักจริงๆ แล้ว”
สามสาวอึ้ง กีกี้ทำหน้าไม่อยากยอมรับแต่ก็ต้องยอม
“ก็รู้หรอกค่ะ แต่อดโมโหไม่ได้ นี่ถ้าไข่มุกร้ายกว่านี้อีกนิด หนูคงทำใจแกล้งๆ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องท้อง ตีสองคนนั้นให้แตกได้อยู่หรอก”
“ก็นั่นสิคะ แม่ไข่มุกนั่น แค่เห็นหน้าก็ทำอะไรไม่ลง”
น้องแพรวทำตาแบ๊ว
“ถึงจะไม่อยาก แต่ถ้าเป็นคนที่รินทร์รัก น้องแพรวก็จะพยายามทำใจ”
มณีมองสามสาว พยักหน้าพอใจ
“ขอบใจหนูๆ มากนะที่เข้าใจ แต่ว่าก็มีบางคน...”
ภัททิมาเดินผ่านทั้งสี่คน มองมาแล้วยิ้มเยาะ ทำเชิดว่าฉันสวยมากแล้วก็เดินไป สามสาวทำท่าอยากตบ
มณียิ้มเจ้าเล่ห์ แกล้งทำเศร้า
“มีแต่สองแม่ลูกหน้าปลวก พูดก็แล้ว ไล่ก็แล้ว ยังไม่ยอมรับ อู๊ย แม่จะช้ำใจอกแทบแตก ยัยลูกไก่เขาหลอกว่าท้อง หวังเขี่ยพวกหนูจากรินทร์ บอกว่าพวกหนูไม่คู่ควร เป็นแค่ดารากิ๊กก๊อก ไฮโซจอมปลอม แล้วก็...แอ๊บแบ๊วไม่เข้ากับหน้า” มณีพูดไปเหล่สามสาวไป เห็นทั้งสามทำท่าอารมณ์ขึ้นก็อมยิ้มอย่างสะใจ “แม่ไม่รู้จะทำไง จะตามแก้ข่าวให้ ลูกไก่ก็เล่าซะทั่วแล้ว”
กีกี้กระทืบเท้า มองตามแค้นๆ
“ไม่ต้องค่ะคุณแม่ เดี๋ยวกีกี้จะช่วยจัดเต็มให้เอง”
“กำลังหงุดหงิดเรื่องรินทร์ อยากหาที่ระบายพอดี”
“จัดหนัก จัดให้สุด เอาให้สำนึก ไม่งั้นไม่ต้องมาเรียกว่าน้องแพรว”
สามสาวมองตามไปทางภัททิมาอย่างอาฆาต มณีทำหน้าเห็นใจแล้วก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นตื่นเต้นปนสะใจแทน
ไข่มุกนั่งอยู่กับพื้น เปิดหนังสือโยคะสำหรับคุณแม่แล้วทำตาม จินจูเดินเข้ามาหา ไข่มุกชะงักแล้วลุกขึ้นยืน
“อยู่นี่เอง เป็นยังไงบ้างลูก ยังแพ้ท้องอยู่มั้ย”
ไข่มุกนิ่ง พูดเบาๆ
“ไม่ค่อยแพ้แล้วค่ะ ลูกคงสงสารหนู”
จินจูหน้าเจื่อนแต่พยายามฝืนยิ้ม
“แม่กำลังจะไปซื้อของ ไปดูชุดคลุมท้องกันนะ อีกไม่กี่เดือน คงได้ใช้แล้ว”
“คุณไปเถอะค่ะ หนูมีธุระ”
“ไข่มุก ให้แม่ทำหน้าที่ของแม่บ้างไม่ได้เหรอลูก”
ไข่มุกหันมองนิ่ง สบตาจินจู จินจูมองตาไข่มุกอย่างอ้อนวอนนิด
“ขอบคุณนะคะ แต่ไม่เป็นไร หนูอยู่มาได้ตลอดชีวิตโดยไม่มีคุณ ถึงตอนนี้คุณจะแสดงว่ารักหนูแค่ไหน แต่มันสายไปแล้ว”
ไข่มุกหยิบหนังสือแล้วเดินออกไป จินจูทำท่าทางหมดแรง อยากจะตามก็ตามไม่ไหว ร้องไห้น้ำตาหยดอย่างเสียใจมาก
จบตอนที่ 18
อ่านต่อตอนที่ 19 พรุ่งนี้ เวลา 09.30น.