ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 14
สร้อยเพชรซ่อมเรียบร้อยแล้วอยู่ในมือห่านที่กำลังถือดูอยู่
“หูย...เหมือนเดิมเป๊ะทุกประการ” ห่านใส่กล่องปิดแล้วหันมายิ้มแฉ่งให้บื้อ “ ขอบใจนะ นายบื้อ นายก็ยังคงเป็นนายบื้ออัศวินขี่ม้าขาวคอยช่วยฉันได้อีกเหมือนเดิม เก่งที่สุด”
บื้อน้อยใจวูบ แต่ก็ก็ทำหน้าเฉย
“ไม่มีอะไรจะใช้ฉันแล้วใช่มั้ย จะได้กลับ”
บื้อหันหลังจะเดินกลับทันที ห่านรีบดึงมือไว้
“เดี๋ยวก่อนสิ”
คุณชายเดินเข้ามาเห็นชะงัก
“คุณห่าน”
“คุณคุณชาย”
ห่านกับบื้อมองคุณชาย คุณชายมองมือห่านจับมือบื้อ ห่านรีบปล่อย บื้อรู้สึกน้อยใจ คุณชายชะงักมองอีกมือของห่านถือกล่องสร้อยเพชรอยู่ ห่านเห็นสายตาคุณชายก็ชะงัก พิรุธ เอามือหลบๆ คุณชายเปลี่ยนเรื่อง ทักบื้อ
“ไง คุณบื้อ”
“ไม่ไง”
แล้วบื้อก็เดินออกไปเลยโดยไม่สน ห่านมองหน้าคุณชายหน้าแหยๆ
บื้อเดินเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งในบ้านอย่างอารมณ์บ่จอย ขณะที่โจ๊กกำลังตีคอร์ทให้โย่ง โจ๊กรัวกีตาร์ส่งให้โย่งร้อง
“เจ็บนี้...อีกนาน...เจ็บนี้...ไม่ลืม”
บื้อมองขวับ พูดเรียบๆ แต่เข้ม
“เปลี่ยนเพลงได้มั้ยวะ”
โจ๊ก โย่ง ลุงจ๊อดมองหน้ากัน
“เพลงนี้ละกัน” โจ๊กรัวกีตาร์ “ ไอ้เรามันตัวสำรองคนหนึ่ง”
“เฮ๊ย บอกให้เปลี่ยนเพลง” บื้อโวย โย่ง โจ๊ก ลุงจ๊อดมองหน้ากัน
“อ้าวเฮ๊ย ไงวะไอ้บื้อ”
“ก็เออไง ก็เปลี่ยนให้แล้วไงเฮีย”
ลุงจ๊อดตบหัว 2 คนผลัวะๆ
“นี่แน่ะ! นี่แน่ะ! พวกเอ็งมันโง่ พูดจาไม่รู้ฟัง เฮียเขาบอกให้เปลี่ยนเพลงก็เปลี่ยนเพลงสิวะ...มา ข้าเอง จัดไปแฮ่มๆ” ลุงจ๊อดกระแอมแล้วร้องโหยหวนหน้าตาอินสุดๆ “เค้ากอดกันแน่แล้ววว เค้าจูบกันแน่แล้วววว” บื้อตาเขียวปั้ด โย่งกับโจ๊กสะกิดลุงจ๊อดยิกๆ ให้ดูหน้าบื้อ “จะสะกิดทำไม?” ลุงจ๊อดมองหน้าบื้อ “แน่ะ ชอบ สายตาอย่างนี้แปลว่าถูกใจ”
บื้อถอนหายใจ จ้องลุงจ๊อดตาเขียวปั้ด
ห่านลุกพรวดเมื่อรู้ว่าคุณชายมาหาด้วยเรื่องอะไร
“จะให้ห่านไปกราบขอโทษคุณแม่คุณ ห่านไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ ทำไมจะต้องขอโทษ”
คุณชายทำหน้าลำบากใจ
“คุณห่าน ผมเข้าใจคุณนะ แต่วันนั้น คุณรีบกลับกะทันหันมันทำให้คุณแม่ท่านเสียใจมาก”
“กะทันหัน ห่านก็ลาท่านแล้วนะคะ”
“แต่โดนมารยาท เราเป็นเด็กไม่ควรกลับก่อนผู้ใหญ่”
“โดยมารยาท” ห่านอึ้ง พยักหน้าหงึกๆ “ค่ะ ก็ห่านก็เป็นของห่านแบบนี้ กระจอกๆ ไร้มารยาท”
“คุณห่าน ผมไมได้ตั้งใจจะว่าคุณนะครับ ผมแค่พูดโดยทั่วๆ ไป”
“คุณหญิงชื่นเพื่อนของคุณแม่คุณพูดถูก”
“คุณหญิงชื่น” คุณชายทำหน้างง
“คนอย่างห่านควรจะเจียมตัว เพราะถึงยังไงห่านก็ไม่มีวันที่จะกลายเป็นหงส์ไปได้ ก็เพราะห่านเจียมตัว สำนึกได้ไงคะว่าห่านไม่ควรจะอยู่ตรงนั้น ห่านถึงได้รีบออกมา”
คุณชายปรี่เข้ามาจับมือห่าน
“เข้าใจผิดใหญ่แล้ว อย่าเพิ่งโกรธกันสิครับที่รักของผม” ห่านเจอคำนี้ก็ต้องถอนใจเฮือก ข่มอารมณ์สุดฤทธิ์ “ก็แค่ไปกราบท่าน ไม่ต้องขอโทษ” ห่านเบือนหน้า “เราจะจับมือไปด้วยกัน ก้าวไปด้วยกันไม่ใช่เหรอครับ”
ห่านมองคุณชาย ไม่ตอบ
เย็นวันนั้นที่บ้านคุณชาย คุณหญิงรื่นฤดีทำท่าเหมือนช็อกทรุดลงนั่ง
“นังเด็กห่าน มันทำอย่างนั้นจริงๆ เหรอหนูดาหลา”
“จริงสิคะคุณหญิงแม่ มีคนเห็นนัง 18 มงกุฎนั่นมันเอาสร้อยเพชรที่คุณแมให้มันไปที่แผงเลี่ยมพระ”
“แผงเลี่ยมพระ”
“มันต้องเอาไปเล่นแร่แปรธาตุแน่ๆ ค่ะ ดิฉันว่ามันต้องไปแงะเพชรไปขาย เหมือนที่หนูดาหลาชอบแงะมงกุฎ” ดารัณบอกอย่างลืมตัว ดาหลาตาโตด้วยความตกใจ
“คุณแม่”
“เอ่อ ดิฉันหมายถึงเหมือนหนูดาหลาที่ชอบแงะเครื่องเพชรของดิฉันเล่นตอนเด็กๆ น่ะค่ะ”
“ว่าแต่คุณหญิงแม่อย่าเสียใจไปเลยนะคะ ดาหลาเคยบอกแล้วคนมันสันดานโจรก็ต้องเป็นโจรวันยังค่ำ”
“เสียใจ” แล้วคุณหญิงรื่นฤดีก็หัวเราะออกมา “ฮ่าๆๆ” ดาหลา ดารัณ มองหน้ากัน “ใครบอกว่าแม่เสียใจ แม่ดีใจต่างหากล่ะ”
“ดีใจ”
“ก็ใช่น่ะสิ แม่ดีใจที่แผนดักจับหมาป่าของแม่มันสำเร็จเร็วเกินกว่าที่คิดไว้ตั้งเยอะ แม่ไม่คิดเลยว่านังหมาป่าตัวนี้มันจะหิวโซถึงขนาดรีบเอาสร้อยเพชรของแม่ไปขายรวดเร็วแบบนี้”
“แต่ เอ่อ...ดาหลาไม่แน่ใจนะคะ สายของดาหลารายงานแค่ว่านังนั่นมันเอาไปซ่อม”
“เอาเถอะน่ะ จะยังไงก็ชั่ง แม่ถือว่านังนั่นมันมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ มันเที่ยวเอาสร้อยเพชรที่แม่ให้ออกไปร่อนเร่ตามแผงเลี่ยมพระ เจตนาไม่บริสุทธิ์แน่ๆ”
“จริงด้วยค่ะ ดาหลาลืมเม้าท์ สายของดาหลายังรายงานด้วยว่านังนั่นมันไม่ได้ไปคนเดียว แต่มันไปกับไอ้บื้อกิ๊กของมัน” คุณหญิงรื่นฤดีอึ้ง
“ไอ้กิ๊กฮิปปี้ผมยาวนั่นน่ะเหรอคะลูก ตายแล้ว” ดารัณทำท่าตกใจ
ทันใดนั้นคุณชายเดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดี
“คุณแม่ครับ คุณแม่” คุณชายเห็นดารัณกับดาหลาก็ชะงัก ยกมือไหว้ดารัณ
“สวัสดีครับ”
ดาหลาโผเข้าแตะแขน
“คุณคุณชาย” คุณชายยิ้มให้น้อยๆ
“ขอโทษนะครับ” ดาหลาค่อยๆ ปล่อยมือ คุณชายพูดกับคุณหญิงรื่นฤดีเสียงสดใส “คุณแม่ครับ คุณแม่สะดวกเมื่อไหร่บอกชายนะครับ”
“ชายมีอะไรเหรอลูก”
“คุณห่าน เค้าอยากจะเข้ามากราบคุณแม่นะครับ”
คุณหญิงรื่นฤดีหน้าตึง สองแม่ลูกมองหน้ากัน คุณหญิงรื่นฤดีค่อยๆ ยิ้มออกมา
“ดีจ๊ะ ได้จ๊ะ แม่ว่างเสมอ”
คุณชายยิ้มดีใจ
“คุณแม่ครับ ชายขอคุยธุระสำคัญกับคุณแม่ เป็นส่วนตัวได้มั้ยครับ”
ดาหลากับดารัณยังไม่รู้สึกตัว ยังยืนไม่ขยับไปไหน
“ชายมีอะไรเหรอลูก”
คุณชายมองสองแม่ลูกแล้วพูดแบบรักษามารยาท
“คือ...มันเป็นเรื่องส่วนตัวนะครับ” สองแม่ลูกยังไม่รู้สึกตัว คุณหญิงรื่นฤดีมองสองแม่ลูกแล้วบอกคุณชาย
“แม่ถือว่าคุณดารัณกับหนูดาหลาเป็นคนในครอบครัวเดียวกันกับเรา” คุณชายอึ้ง สองแม่ลูกยิ้มแฉ่งสะใจ
“ชายมีอะไรจะคุยกับแม่ก็ว่ามา”
คุณชายอึกอัก เห็นสองแม่ลูกอยากฟังมาก แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจพูด
“คือ...เรื่องที่คุณแม่จะให้ห่านเข้ามากราบขอโทษน่ะครับ”
คุณหญิงรื่นฤดีชะงักฟัง ยืด เชิด ดาหลากับดารัณสะใจนึกว่าห่านจะมา
“อ๋อ...เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ช่วงนี้แม่ยังไม่ว่าง ถ้าว่างเมื่อไหร่จะสั่งไปอีกที”
คุณชายกลืนน้ำลายเอื้อก
“คือ...คุณห่านเค้าไม่มาน่ะครับ”
ตะลึงช็อกกันไปทั้งสามนาง
“ว่าไงนะ” คุณหญิงรื่นฤดีตาค้าง ดาหลากับดารัณจึงใส่ต่อเป็นชุด
“บังอาจ”
“ไพร่”
“นังคนชั้นต่ำ”
“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง”
“พอก่อนเถอะครับ” คุณชายโพล่งขึ้นมา คุณหญิงรื่นฤดีที่ยังตะลึงอยู่ ลมขึ้น
“เอิ้กกกก” คุณหญิงรื่นฤดีเซแซ่ดๆ จะเป็นลม
“คุณแม่”
คุณชายปรี่เข้าไปอุ้มไว้ ดาหลากับดารัณร้องวี้ดว้ายโกลาหล
คืนเดียวกันนั้นที่บ้านเช่าห่าน แหม่มทำตาโต หน้าตาสยองจ๋อยสะพรึงมาก
“ไอ้ห่าน!”
แหม่มครางเสียงอ๋อย ห่านสีหน้าเฉย มั่นใจไม่แคร์
“ทำไม อะไร ทำหน้ายังกะโดนผีหลอก”
“แกบอกคุณคุณชายว่าแกจะไม่ไปกราบขอโทษคุณหญิงแม่ของเค้า” ห่านยักคิ้วนิดนึง หน้านิ่งๆ “แก...แกนี่มัน”
“หยุด นี่แกอย่าบอกนะว่าแกจะให้ฉันไปกราบยัยคุณแม่นั้น แกนี่มันเพื่อนประสาอะไรทำไมถึงได้อยากให้ เพื่อนเสียศักดิ์ศรี...อุ๊บส์”
แหม่มเข้าล็อกคอตะปบปากห่านแน่น หน้า 2 คนใกล้กัน
“หุบปาก” ห่านตาโต มือแหม่มยังปิดปากอยู่ “ฉันอยากจะบอกแกว่า...” แหม่มยิ้มแฉ่ง “แกนี่มันสุดยอดอ่ะ ที่สุดอ่ะ...รักแกตรงนี้”
แหม่มตะโกนลั่น ห่านตาโต ดีใจ สองสาวเต้นกอดกันกลม
คุณชายเอายาดมจ่อจมูกคุณหญิงรื่นฤดีอยู่ ทุกคนมะรุมมะตุ้ม ชนะศึกก็ประคองเมียอยู่ขณะที่สมยืนรอคำสั่ง
“นี่มันอะไรกันตาชาย ใครไปทำอะไรให้แม่เราเค้าปรี๊ดถึงขนาดเป็นลมเป็นแล้งอย่างนี้ ห๊า” คุณชายพูดไม่ออก
“จะมีใครซะอีกล่ะคะ คุณพ่อ ก็นังห่าน 18 มงกุฎนั่นสิคะ มันบังอาจ มันเหยียบย่ำ มันหยามศักดิ์ศรีของคุณหญิงแม่ค่ะ มันกล้าปฏิเสธคำสั่งของคุณหญิงแม่ที่จะให้มันมากราบเท้า” ดาหลาบอก
“กราบขอโทษ” คุณชายแย้ง
“นั่นแหละค่ะ เหมือนกัน คุณชายต้องลากคอมันมากราบเท้าขอโทษคุณหญิงแม่ให้ได้นะคะ ไม่อย่างนั้น คุณหญิงแม่จะต้องนอนตายตาไม่หลับแน่”
ชนะศึกกับดารัณสะดุ้งตกใจ คุณหญิงรื่นฤดีลืมตาพรึ่บราวกับได้ยิน
“อะไร อะไรกัน” ดาหลาสะดุ้ง
“คุณหญิงแม่” ทุกคนดีใจ
“คุณแม่ ...คุณแม่ฟื้นแล้ว” คุณชายกอดแม่ด้วยความดีใจ คุณหญิงรื่นฤดียังมืนๆ หลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาใหม่
“นี่ฉันเป็นอะไรไปคะ”
“คุณเป็นลม” ชนะศึกบอกอย่างสงสาร
“เป็นลม”
“ใช่ค่ะ เพราะอีนังห่านคนเดียว” ดาหลาบอก ดารัณจึงพูดต่อทันที
“มันทำให้คุณหญิงโกรธมากจนเป็นลม”
คุณหญิงรื่นฤดีกะพริบตาเรียกความจำ
“มันไม่ยอมมากราบขอโทษ คุณแม่ยังไงล่ะคะ จำได้มั้ยคะ” คุณหญิงรื่นฤดีของขึ้นทันที
“ได้ จำได้ จำแม่นเลยล่ะ”
“อูย...ใจเย็นน่าคุณ เดี๊ยวเป็นลมล้มตึงไปอีก”
“ไม่เย็นแล้วค่ะ” คุณหญิงรื่นฤดีลุกพรวด คุณชายรีบตามประคองไว้ “ไม่ต้อง แม่ยังไม่ตายง่ายๆ”
“คุณแม่ครับ” คุณหญิงรื่นฤดีหันมายิ้มหวานกับลูกชาย
“ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะลูกแม่” ทุกคนงงกับอาการหวานของคุณหญิงรื่นฤดี “ในเมื่อหนูห่านไม่ยอมเป็นฝ่ายมาหาแม่...” คุณหญิงรื่นฤดีตาวาวพูดเสียงร้ายทั้งที่ปากยิ้ม “แม่ ก็จะเป็นฝ่ายไปหาหนูห่านเอง”
ทุกคนถึงกับช็อกพูดออกมาพร้อมกัน
“ห๊า อะไรนะครับ/คะ/คุณ”
คุณหญิงรื่นฤดี ยิ้มน่ากลัว
วันต่อมาเสียง “เย้” ไชโยโห่ฮิ้วดีใจดังออกมาจากบ้านเช่าบื้อ ขณะนั้นหนูจ๋าวางเป็ดพะโล้น่ากินลงเป็นจานสุดท้าย ทุกคนนั่งล้อมวงอยู่กับพื้นร้องไชโยโห่ฮิ้วกับอาหารชั้นเริ่ด
“คุณพระ ชาติก่อนจ๊อดทำบุญอะไรไว้ ชาตินี้ถึงได้มาเจอกับนางฟ้าใจดีอย่างคุณหนูจ๋า”
“ลุงจ๊อดที่ไหน ไอ้โจ๊กตะหากมั้งลุง” โย่งใช้ศอกกระทุ้งโจ๊ก “จิงป่ะ จิงป่ะ”
หนูจ๋าอายๆ โจ๊กเขิน
“เฮียโย่งงงง” โจ๊กทำตาส่งซิกแบบเดี๋ยวหนูจ๋าจะว่าเอา ลุงจ๊อดชะโงกมองตาโจ๊ก
“ตาเอ็งเป็นอะไรไอ้โจ๊ก เคืองตาเป็นตากุ้งยิงรึเปล่า อย่าบอกนะว่าไปแอบดูผู้หญิงแก้ผ้าอาบน้ำมา กร๊ากๆๆ” ลุงจ๊อดอารมณ์ดีเว่อร์เพราะจะได้กินของอร่อย หนูจ๋าอมยิ้ม
“บ้า ลุง...ไม่จริงนะครับ คุณหนูจ๋าอย่าไปฟังลุงจ๊อด แกเว่อร์”
“แน่ะๆๆ” ลุงจ๊อดกับโย่งหัวเราะคิกคัก
“ผมไม่เคยมองผู้หญิงคนไหน นอกจากคุณหนูจ๋า” โจ๊กบอกต่อ หนูจ๋าหน้าแดงสุดขีด
“หนูจ๋าว่า ทานข้าวกันเถอะค่ะกับข้าวร้านนี้อร่อยมาก หนูจ๋าอุตส่าห์ซื้อมาฝาก เดี๋ยวจะเย็นซะหมด”
“จัดไป”
ลุงจ๊อดกับโย่งเอาช้อนจ้วงเลยแต่ โจ๊กเอาช้อนกันสกัดช้อนของ 2 คนนั่นไว้
“เดี๋ยว”
“อ้าว ไงล่ะ ไอ้นี่ ไอ้หลานมารคอหอย”
“ลืมใครไปรึเปล่า” โจ๊กพยักเพยิดไปอีกมุมนึงเห็นบื้อนั่งบื้อๆ อยู่ ทุกคนมองหน้ากัน โจ๊กตะโกนเรียก “เฮีย กินข้าว”
บื้อหันมามอง
“กินเหอะ ยังไม่หิว” ลุงจ๊อดกับโย่งลุยเลย
“เอาละเหวย...เอาให้หนำ”
โจ๊กกับหนูจ๋ามองๆ บื้อก่อน หนูจ๋าจะตักกับข้าวให้โจ๊กดูน่ารัก สองคนมองตากัน บื้อมองภาพสองคนกุ๊กกิ๊กกันแล้วอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะนั่งจ๋อยต่อ ทันใดนั้นนีรนุชโทรเข้ามา บื้อรับสาย
“ครับ คุณน้องนุช” วงกินข้าวชะงักกึก หูผึ่งมากๆ “อ๋อ ยังไม่ได้ทานครับ ยังไม่หิว คุณน้องนุชทานรึยังครับ”
วงกินข้าวกันมองหน้ากัน ตรึ่ง! อาหารร่วงจากปากลุงจ๊อดดังตุ้บ! ช้อนหล่นจากมือโย่งดังเกร๊ง บื้อหันขวับมอง สองฝ่ายจ้องหน้ากัน บื้อทำหน้าแปลกๆ แล้วลุกออกไปพูดโทรศัพท์ตรงอื่น วงกินข้าวฮือเม้าท์กันทันที เสียงเซ็งแซ่
“อะไร/ยังไง/คุณน้องนุช”
“เชื่อข้า มันต้องมีพลังงานบางอย่างบอกข้าว่า มันต้องมีอะไร ข้ารู้สึกได้” ลุงจ๊อดสรุปทุกคนพยักหน้าหงึกๆ
บื้อยืนพูดโทรศัพท์อยู่หน้าบ้าน
“โอเค.ครับ พูดได้แล้ว”
“ทางค่ายเพลงเค้าอยากให้บื้อไปถ่ายรูปหล่อๆ เก็บไว้เผื่อโปรโมท”
“โห...หล่อๆ หล่อตายล่ะผม” บื้อขำ
“เอ๊า ทำไมล่ะ บื้อก็หล่ออยู่นะ” บื้อชะงัก แอบเขิน
“ผมเนี่ยนะครับ โห่...คุณน้องนุชก็พูดปายยย”
บื้อแอบเตะนู่นเตะนี่แบบเขินนิดๆ ขำๆ คิกคัก บื้อคุยโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดี แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นห่าน
กำลังมองลงลงมาจากหน้าต่าง ห่านถอนใจเอาหลังพิงฝา
“เอ จริงสิบื้อ ลืมเรื่องใหญ่ไปเลย”
“เรื่องใหญ่ ใหญ่แค่ไหนครับ”
“อย่าล้อเล่น ใหญ่มาก เรื่องคุณห่าน” บื้ออึ้งฟังทันที
“ทำไมครับ ห่านทำไม”
“คุณหญิงแม่กำลังจะไปหาคุณห่าน ที่บ้าน”
บื้ออึ้งไป พูดเบาๆ ไม่ได้ตกใจมากแค่งง
“อะไรนะ”
บื้อค่อยๆ หันไปมองที่หน้าต่างบ้านห่านโดยอัตโนมัติ ห่านหลบวูบโดยไม่รู้อะไร บื้อมองหน้าต่างอย่างเป็นห่วง
เจ๊มะพร้าว แหม่มช็อกสุดขีดกับสิ่งที่บื้อบอก
“คุณหญิงแม่จะบุกมาที่นี่”
ห่านยืนหน้าเชิดไม่กลัว บื้อมอง
“แล้วไง ก็ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้น”
“นังห่าน ไม่ตื่นเต้นเลยนะแก คุณหญิงแม่ของคุณคุณชายน่ะนะกำลังจะบุกมาที่นี่ โอย...เจ๊ฉี่จะราด”
“จริงด้วยแก ฉันจะเป็นลม”
“กลัวอะไร”
“ก็ แหม...ดูสภาพซิยะ นึกว่าตัวเองอยู่คฤหาสน์รึไง แม่ซินเดอเรลล่า”
“แล้วไง อยู่กระต๊อบนี่แล้วยังไง ฉันก็อยู่ของฉันอย่างนี่ แล้วฉันก็จะไม่หนีไปไหนอีก” ห่านบอกอย่างไม่แคร์ บื้อมอง แอบปลื้ม “ใครอยากมาก็มา ใครไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา ฉันไม่สน”
บื้อปลื้มทึ่ง เจ๊มะพร้าวกับแหม่มสยองขวัญ ทันใดนั้นโย่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
“แย่แล้วๆๆ”
“แย่อะไรโย่ง ใครตายห๊า”
“ตาย ตายแน่ๆ ...ห่าน” โย่งมองห่าน
ทุกคนงงๆ มองๆ โย่งว่าอะไรวะ โย่งค่อยๆ หันไปทางหน้าบ้าน ทุกคนหันตาม คุณหญิงรื่นฤดีเดินหน้าเชิดดั่งนางพญาเข้ามาพร้อมคุณชายและดารัณ ดาหลา ก่อนจะมาหยุดยืนนิ่งอยู่ไกลๆ ห่าน บื้อ มองอย่างไม่กลัว เจ๊มะพร้าวโย่ง แหม่ม สยองขวัญสั่นพั่บๆ คุณชายพุ่งเข้ามาจับมือห่าน
“คุณห่าน”
บื้อมองจ๋อยๆ ห่านยกมือไหว้คุณหญิงรื่นฤดี
“สวัสดีค่ะ”
คุณหญิงรื่นฤดีรับไหว้แบบจำใจ แต่ก็ยังแกล้งยิ้ม กวาดสายตามองไปทั่วอย่างดูถูก ทุกคนลุ้นระทึก ในที่สุดคุณหญิงรื่นฤดีก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ ทั้งที่หน้ายิ้ม
“นี่บ้านเหรอจ๊ะ” ห่านหน้าชา
“ครับคุณแม่ บ้านคุณห่านน่าอยู่นะครับดูอบอุ่นเป็นกันเอง” คุณชายช่วย ดาหลากวาดตามองฝูงชน
“อุ่นไปมั้ยคะ”
คุณหญิงรื่นฤดีกวาดสายตามองฝูงชนก่อนจะสะดุดกึกเข้าที่บื้อ จึงค่อยๆ ย่างเท้าเข้ามาจ้องหน้าบื้อด้วยสายตาดูถูก บื้อจ้องตอบ ไม่กลัว
“นี่ คงจะเป็น...” คุณชายรีบช่วย
“คุณบื้อ เพื่อนคุณห่านครับ”
“เพื่อนมากเลย” ดาหลาจ้องหน้าบื้อ ห่านอึ้ง คุณชายมอง บื้อมองดาหลาแล้วส่ายหน้าเซ็งๆ
“ฉันก็หวังว่าเธอจะเป็นแค่เพื่อน นะ” บื้ออึ้งมองคุณหญิงรื่นฤดี ดารัณเบะปาก
“เพื่อนอะไร เห็นตัวติดกันยังกะปาท่องโก๋”
“เก็บปากไว้กินปาท่องโก๋ดีกว่าครับ” บื้อพูดเรียบๆ ดารัณตะปบปาก
“อร้ายยย”
“ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ ยิ่งต้องพูดจาให้เหมาะสมนะครับ”
“อร้ายย ไอ้ฮิปปี้ ไอ้ฮิปปี้ปากจัด”
“ตกลง ที่มาถึงนี่คงไม่ได้ตั้งใจจะมากรี๊ดกร๊าดลั่นซอยอย่างนี้เท่านั้นใช่มั้ยคะ” ห่านถามขึ้นมา
“อร้ายย ปากจัดพอกันทั้งคู่”
“ใช่ ที่ฉันมาถึงที่นี่ก็เพราะอยากจะมาเห็น มาทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น ไหนๆ ฉันก็อุตส่าห์มา หวังว่าเธอคงจะต้อนรับแขกอย่างมีมารยาทนะจ๊ะ หนูห่าน”
คุณหญิงรื่นฤดีบอกยิ้มๆ แต่ตาวาว ห่านมองจ้องคุณหญิงรื่นฤดีก่อนจะตวัดสายตาไปที่คุณชาย คุณชายยิ้มให้กำลังใจ
เจ๊มะพร้าว แหม่ม โย่ง นั่งลุ้นกันหน้าสั่นหน้าซีด บื้อมองๆ ชะเง้อๆ แอบเป็นห่วงห่าน เจ๊มะพร้าวพนมมือท่วมหัว
“เจ้าประคู้ณ คุณพระคุณเจ้า เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้ไอ้ห่านมัน อยู่รอดปลอดภัย ไม่มีอันตรายใดๆ มากล้ำกรายด้วยเถิ้ด เพี้ยงๆๆ”
“โหย...เจ๊มะพร้าว ทำยังกะห่านเค้าไปออกรบ”
“ก็เออสิ งานนี้มันยิ่งกว่าสงครามซะอีก ตาโย่ง”
บื้อสงสารห่าน มองชะเง้อๆ ไป
คุณหญิงรื่นฤดีก้าวเท้าช้าๆ เข้ามาหยุดยืน กวาดสายตาสำรวจห้องนอนห่านด้วยแววตาคมกริบ พวกดาหลาดารัณ เดินเหย่งๆ แบบกลัวเท้าสกปรก ห้องของห่านดูกระจอกแต่ก็เรียบร้อยพอใช้ สายตาคุณหญิงรื่นฤดีฉายแววดูถูก ดาหลากับดารัณเบะปากรังเกียจ
สายตาคุณหญิงรื่นฤดีสะดุดกับฟูกของแหม่มที่ปูข้างๆ เตียงห่านจึงถามเสียงเขียวทันที
“อยู่กับใคร นอนกับใคร”
คุณชายอึ้งรอฟัง ดาหลากับดารัณตาโต
“แหม่มค่ะ เพื่อนค่ะ เมื่อกี้ที่หัวฟูๆ”
“แน่ใจเหรอว่าแหม่ม ฉันเห็นคนหัวฟูๆ มีอยู่ตั้ง 2 คน ตกลงว่าแหม่มหรืออีตาบื้อปากจัดนั่นกันแน่” คุณชายอึ้ง
“คุณดาหลา”
“นี่ อย่าเสียงดัง ผู้ดีเค้าไม่ทำกัน” ห่านอึ้ง คุณชายสงสารห่าน ดาหลากับดารัณสะใจ คุณหญิงรื่นฤดีเดินมองไปรอบๆ อีกนิดก็ส่ายหน้า ถอนใจเฮือก “เวรกรรมของตาชายลูกแม่” ห่านอึ้ง
“คุณแม่ครับ ชายว่าเรากลับกันดีกว่ามั้ยครับ รบกวนคุณห่านมากแล้ว”
“หู๊ย...รบกงรบกวนอะไร ต้องถือเป็นเกียรติอย่างสูงด้วยซ้ำที่คุณหญิงรื่นฤดีอุตส่าห์ยอมลดตัวลงมาที่ซอมซ่อแบบนี้” ห่านตวัดสายตามองดารัณ
“จะได้กินปาท่องโก๋มั้ยเนี่ยคุณนาย” ห่านกำมือแน่น ดารัณมองมือห่านก็สะดุ้งปิดปาก
“อูย...เรากลับกันเถอะค่ะคุณหญิง อยู่นาน เหม็นสาบ”
“กลับ” ทุกคนจะออก ยกเว้นคุณชายกับห่านที่ยังยืนนิ่ง “ตาชาย แม่บอกให้กลับ”
“ครับ” คุณชายตอบรับเสียงอ่อยจูงมือห่าน “ไปครับ คุณห่าน”
ห่านจำใจเดินออกไปกับคุณหญิงรื่นฤดีและดารัณ เหลือดาหลาเบะปากใส่จะเดินออกแล้วก็ชะงักกึก เมื่อสายตามองเห็นกล่องสร้อยข้อมือเพชรวางอยู่บนโต๊ะของห่าน ดาหลาตาวาว ค่อยๆ เดินเข้าไปมอง เหลียวซ้าย – ขวา เอื้อมหยิบมาเปิดดู ฟรึ่บ! เห็นเป็น ‘สร้อยข้อมือเพชร’ ดาหลาตาวาว คิดแผนร้ายทันที
“ฮิฮิ นังคอห่าน”
ที่บ้านเช่าบื้อ ลุงจ๊อดดีใจเสียงดังลั่นกับชะลอมผลไม้ ถุงใส่ปลา ของทะเลสดๆ จากมือน้าตุ้มน้าเต๊ะที่ยื่นส่งให้
“น้ำใจ อย่างนี้เค้าเรียกว่าน้ำใจ คนไทยเขาว่ามีน้ำใจไม่เคยลืมกัน เออ! ว่าแต่พวกเอ็ง 2 คนเป็นใครเหรอจ๊ะ ฉันไม่ยักกะรู้จัก”
“อ้าววว”
“ไม่รู้จักแล้วเอาของเค้าทำไม” น้าตุ้มเอาชะลอมผลไม้คืน
“อ๊ะ! จับมือกันแล้ว ถือว่ารู้จักกันแล้ว แล้วก็ได้” ลุงจ๊อดกระชากชะลอมผลไม้คืน น้าตุ้มค้อนขวับ
“คืองี้จ้ะ ฉันชื่อเต๊ะ เมียชื่อตุ้ม...เราคนบ้านเดียวกัน แค่มองตากัน ก็รู้กันอยู่...” ลุงจ๊อดเผลอเต้น แล้วรู้สึกตัว
“เฮ่ย จะมามองตาอะไรกันตรงนี้ ตกลงยังไง? เป็นผัวเมียกันแล้วยังไงมิทราบ”
“อ้อ ก็ฉันมากจากชลบุรีมาส่งของที่กรุงเทพฯ ก็เลยจะแวะมาหาหลานชาย”
“หลานชาย ฉันไม่ใช่หลานชายพวกเอ็ง”
“โอย...เหี่ยวซะป่านนี้ ปู่ละป่าว”
“สรุปครับสรุป สรุปว่าเราจะแวะมาเยี่ยมหลานชายของเราที่ชื่อว่า “ไอ้บื้อ”
“อ๋อ ไอ้บื้อ หึ้ย! แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก”
“แล้วไอ้บื้อมันอยู่มั้ย”
“อ๋อออ ไม่อยู่”
“อ้าว!”
ขณะนั้นบื้อยังอยู่ที่บ้านห่าน บื้อนั่งมองๆ รอห่านอยู่อย่างห่วงๆ กับเจ๊มะพร้าว แหม่ม โย่ง
“อีตาโย่ง คอยฟังเสียงให้ดีนะ ถ้าไอ้ห่านร้องโวยวายขึ้นมาล่ะ แกต้องลุยเลยนะ”
“ครับพ้ม เอ๊ะ! แต่คงไม่ถึงโย่งหรอกครับ เจ๊” โย่งมองเหล่ไปที่บื้อ “สงสัยจะเป็นคนนั้นซะละมากกว่า”
เจ๊มะพร้าว แหม่ม หันมองไปที่บื้อ บื้อเพิ่งจะรู้ตัวว่ามีคนมองก็สะดุ้ง
“อะไร มองอะไรกัน” เจ๊มะพร้าวอมยิ้ม ตาวิบวับ
“แอ๊ะแอ๋” บื้อส่ายหน้า ไร้สาระ
“แอ๋เอ๋ออะไร”
ทันใดนั้นกลุ่มห่านเดินออกมา
“เอาล่ะ ฉันกลับแล้ว”
“ค่ะ สวัสดีค่ะ” เจ๊มะพร้าวกับแหม่มบอก
“สวัสดีครับพ้ม” โย่งบอก ขณะที่บื้อเฉยๆ ไม่สนใจ คุณหญิงรื่นฤดีมองคุณชายที่ยืนอยู่กับห่าน
“ไป! ชาย กลับได้แล้ว”
“เดี๋ยวค่ะเดี๋ยว หนูดาหลาหายไปไหน”
ดาหลาวิ่งมามือกอดกระเป๋าถือไว้แน่น
“มาแล้วค่ะ มาแล้ว” ห่านมองหน้า มองมือดาหลา สงสัยพิรุธ
“คุณหายไปไหนมาคะ คุณดาหลา
ดาหลาสะดุ้ง ทุกคนมอง ทันใดนั้นน้าตุ้มน้าเต๊ะส่งเสียงมาเลย
“บื้อ ไอ้หลานน้า”
ทุกคนหันไปมอง บื้อกับห่านดีใจมาก บื้อเข้าไปกอดน้าเลย
“น้าตุ้มน้าเต๊ะมาได้ไง” ห่านวิ่งไปสวัสดี กอดน้าตุ้ม
“น้าเต๊ะ น้าตุ้ม คิดถึงจังเลย” ทุกคนมองๆ งงๆ น้าตุ้มมองๆ ยิ้มๆ
“โหย...ใครเป็นใครมั่งเนี่ย ยืนกันหน้าสลอนเชียว” แก๊งไฮโซสะดุ้งโหยง บื้อแนะนำ
“นี่เพื่อนฉัน ไอ้โย่ง แหม่ม เจ๊มะพร้าว” ทุกคนสวัสดีทักทายกัน น้าเต๊ะมองแก๊งไฮโซ
“อ้าว แล้วนั่นเพื่อนใคร? ไม่ใช่เพื่อนเอ็งเรอะไอ้บื้อ”
“ใคร ใครเพื่อน อย่าสะเออะ” ดาหลาแว๊ด
“อ้าว!” น้าตุ้ม น้าเต๊ะหน้าตาเอาเรื่อง
“พูดงี้ก็สวยสิแก เอ๊ะ! หน้าคุ้นๆ” น้าตุ้มเข้ามาจ้องแล้วนึกได้ “นางงามนี่หว่า ตายละไอ้เต๊ะ นางงามที่เราเคยเชียร์ในทีวีกันไง ต๊าย รู้งี้แช่งให้ตกรอบไปซะก็ดี”
“อร้าย!”
“ตกลงเป็นนามงามเหรอเนี่ย นึกว่าเปรต”
“อร้าย!” คราวนี้ดาหลากับดารัณร้องออกมาพร้อมกัน
“อ้าว เปรตแม่เปรตลูกเลยทีนี้”
“หุบปากเน่าๆ ของแกเดี๋ยวนี้เลยนะนังบ้านนอก” ดาหลามองน้าตุ้มหัวจรดเท้า
“อ้าว! นังนี่ ปากเหม็นยิ่งกว่าปลาเค็มตากแห้งที่บ้านข้า แหม มันน่าจับลงครกอ่างศิลาแล้วตำๆๆ นะตาเต๊ะนะ”
“น้าครับ พอเถอะครับ” บื้อรีบปราม คุณหญิงรื่นฤดีมองด้วยสายตาเหยียดๆ
“สมกับเป็นน้าหลานกันจริงๆ ‘สมบัติผู้ดี’ ไม่มีกันเลยซักนิด”
“อ้าววว” น้าตุ้ม น้าเต๊ะปรี่เข้าหาเลย
“ว๊าย” คุณหญิงรื่นฤดีร้องด้วยความตกใจ คุณชายเข้าขวาง จากจะตบน้าตุ้มเข้าสวมกอดคุณชายเลย
“แล้วนี่ใครจ๊ะ” ดาหลาปรี่มากระชากน้าตุ้มออก
“สกปรก เหม็นสาป อย่าบังอาจแตะต้องคุณคุณชายของฉันนะ”
“อ้าว พวกเดียวกันเรอะ เชอะ หล่อแค่ไหนก็ไม่สนเว้ย เหม็นสาป เหม็นสาบเศรษฐี”
“กลับ กลับได้แล้ว” คุณหญิงรื่นฤดีบอก น้าตุ้ม น้าเต๊ะจึงช่วยกันไล่
“ไปๆๆ ชิ้วๆๆ”
แก๊งไฮโซรีบเผ่นออกไป คุณชายหันมาพูดกับห่าน
“แล้วผมจะโทร.มานะครับ”
พูดจบคุณชายก็รีบเดินตามไป แก๊งโลโซเฮฮาสะใจกันไป ยกเว้นบื้อกับห่านที่มองหน้ากัน ถอนใจเฮือก
“เฮ๊ย บื้อ ไอ้พวกนั้นมันเป็นใคร มันมาทำอะไรที่นี่”
“อย่าสนใจเลยน้า ไร้สาระ เออ...ว่าแต่น้ามาถึงนี่ มีธุระอะไรรึเปล่าครับ”
น้าตุ้ม น้าเต๊ะอมยิ้มยังไม่ตอบ
ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 14 (ต่อ)
น้าเต๊ะนั่งลงด้วยท่าทางสบายๆ
“เอาจริงๆ น้าก็จะเอาของมาส่งที่กรุงเทพฯ แต่น้าตุ้มเค้าบ่นคิดถึงเอ็งกะหนูห่านก็เลยแวะมาเยี่ยมตามประสา ค.ร.ม. คนรักเมีย ไม่กล้าขัดใจเมีย”
น้าตุ้มร้องเพลงรักแถม น้าตุ้มร้องตอบอีกเพลงนึงโต้กัน บื้อกับห่านยิ้มขำอย่างอารมณ์ดี ลืมเรื่องแย่ๆ ไปสนิท
ลุงจ๊อดที่นั่งอยู่ไกลๆ เหล่มองสองน้า
“ก็น้าคิดถึงอ่ะ เมื่อไหร่จะไปค้างบ้านน้าอีกล่ะหนูห่าน...ไม่คิดถึงกันหรา”
ห่านเหลือบมองบื้อ แอบเขินๆ บื้อก็แอบรอฟังคำตอบ
“คิดถึงสิจ๊ะ คิดถึงน้าตุ้มน้าเต๊ะตลอดแหละ”
“แหม...คิดถึงแค่น้าตุ้มกะน้าเต๊ะ สองคนเองหราาา” ห่านอึกอัก บื้อตัดบทเพราะไม่อยากฟังคำตอบแทงใจ
“น้าเอาอะไรมาส่งเหรอ”
“อ๋อ ก็ปลาเค็มน่ะ ปลาอินทรีย์ตากแห้ง มีลูกค้าเค้าไปกินข้าวที่ร้านแล้วเค้าติดใจ ขอให้ส่งมาให้ร้านอาหารของเค้าที่กรุงเทพฯ นี่ โห...ไม่นึกไม่ฝันว่าปลาเค็มของน้าจะได้ส่งออกนอกกะเค้าด้วย”
“นอกไหนเมียจ๋า”
“ก็นอกเขตไงไอ้เต๊ะ ส่งออกจากเมืองชลมากรุงเทพฯ แต่อีกหน่อยไม่แน่นะเว๊ย ปลาเค็มของน้าอาจจะได้โกอินเตอร์ก็ได้ใครจะไปรู้”
“โห...จริงเหรอจ๊ะ อยากเห็นจังว่าปลาเค็มของน้าตุ้มจะน่ากินแค่ไหน”
“ได้สิ ไอ้เต๊ะ ไหนปลาเค็ม”
“ก็ไหนล่ะ” น้าเต๊ะถามกลับ น้าตุ้มซัดผลัวะ
“มันใช่เวลาเล่นมั้ย ไหน...เข่งปลาเค็มอ่ะ เอาไว้ไหน ไปยกมา”
“จะเอาไว้ไหน ก็เอาไว้ในสองแถวที่ว่ามาไง” น้าตุ้มซัดอีกผลัวะ
“ยังจะลีลา ก็ไปยกมาเซ่”
“ยกที่ไหนล่ะ สองแถวมันไปแล้ว”
“ห๊า สองแถวไปแล้ว แล้วจะเอาปลาเค็มที่ไหนไปส่งให้ลูกค้า”
สองน้ามองหน้ากันช็อกสุดขีด ก่อนจะหันขวับมาที่บื้อ
“ไอ้บื้อ หลานน้า” สองน้าส่งเสียงครวญครางพร้อมกัน
ลุงจ๊อดทรุดนั่งลง เอามือกุมสมอง
“ตุ๊กตุ๊กของข้า ทำไมต้องเป็นตุ๊กตุ๊กของข้า”
“เหอะน่าลุง นึกซะว่าแลกกันกะของฝาก” น้าตุ้มบอก ลุงจ๊อดด่าแล้วเดินโกรธออกไป น้าเต๊ะเข้ามาคุยกับน้าตุ้ม ยิ้มกริ่ม
“ไงล่ะ แผนปลาเค็มสื่อรักของเรา”
“สำเร็จ”
สองน้าตีมือกันเพี๊ยะ หัวเราะชอบใจ
“ป่านฉะนี้ ไอ้ซื่อบื้อกะยัยคอห่าน จะหวานนนชื่นกันถึงไหน...ถึงไหนแล้วน้อ บรื๋อ คิดแล้วขนลุก”
สองน้าหัวเราะคิกคัก
เย็นวันนั้นที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ดาหลาหงายหลังนอนยิ้มพริ้มพึงพอใจอยู่บนเตียงก่อนจะถอนใจเฮือกออกมา
“เด็ด...ที่สุด” โชค ผู้ชายที่ดาหลานอนด้วย นอนแผ่อยู่ข้างๆ “ไปอาบน้ำก่อนนะ”
ดาหลาจะลุกขึ้นแต่ โชคดึงไว้อ้อนๆ
“จะรีบไปไหนล่ะจ๊ะ เมียจ๋า”
“บ้า พูดอะไรน่ะ บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่าเรียกฉันแบบนี้ ใครได้ยินเข้าล่ะซวยแน่”
“ใครจะไปได้ยิน นอนกกกันอยู่ 2 คนแค่นี้”
“ไปอาบน้ำแล้ว”
ดาหลาลุกพรวดไป โชคมองตามเบะๆ ปากก่อนจะล้มตัวลงนอน แต่แล้วสายตาชะงักกึกที่ “กระเป๋าถือ”ของดาหลา โชคมองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ รีบตะปบกระเป๋ามาเปิดคุ้ยดูแล้วตาวาว ค่อยๆ หยิบกล่อง”สร้อยข้อมือเพชร” ที่ดาหลาขโมยห่านมาออกมาถือ โชคชะเง้อดูดาหลายังไม่มาจึงเปิดโพล๊ะ โชคตาโตเป็นไข่ห่าน
“ว้าว” โชคหยิบสร้อยขึ้นมามองแล้วจุ๊บสร้อย “เด็ด...เด็ดที่สุดอ่ะ”
ทันใดนั้นดาหลาออกมาจากห้องน้ำ ตะลึงมอง
“เฮ๊ย โชค ทำอะไรน่ะ” ดาหลาวิ่งมาตะปบสร้อยคืน แต่ไม่สำเร็จ ดาหลาโวยวายลั่น พยายามตะปบคืน “เอามา เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ”
โชคเอาสร้อยซ่อนไว้ข้างหลัง
“หนอย ถามเท่าไหร่ก็บอกไม่มีตังค์ ไม่มีตังค์ แล้วนี่อะไร” โชคชูสร้อย “เดี๋ยวนี้ริ ซุกสร้อยเพชรไม่บอกกันแล้วเหรอ”
“ไม่ใช่นะ บอกให้เอาคืนมา”
ดาหลาโถมตัวจะตบปบสร้อยเพชร โชคเบี่ยงตัวหลบ แล้วผลักดาหลาร่วงลงพื้นดังตุ้บ
“โถ ไอ้คุณชายหน้าโง่ นั่นมันได้แล้ว ทำไมไม่เอามาให้ฉัน”
“ก็บอกแล้วว่ามันไม่ใช่” ดาหลาตวาดพยายามยันตัวลุกขึ้น “เอาคืนมานะไอ้บ้า”
ดาหลาพุ่งเข้าตบตีจิกข่วนเลยโดนตบเพี๊ยะ หัวทิ่มดาหลาเลือดออกมุมปาก
“พูดดีๆ ไม่ชอบ”
ดาหลาเห็นเลือดก็กรี๊ดด้วยความโกรธ
“ไอ้โชค แก...แกกล้าตบฉัน ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับแก”
“แจ้งตำรวจ กล้าแจ้งก็กล้าให้จับ ว่าแต่เธอเถอะกล้าลงหน้า1 กับฉันด้วยรึเปล่าล่ะ คุณนางสาวไทยสยาม”
โชคพูดจบก็โยนสร้อยเล่นเย้ยๆ ก่อนจะเดินออกไป ดาหลาทั้งเจ็บกาย เจ็บใจ โกรธ
“ไอ้บ้า...แย่แล้ว สร้อยเพชรนังคุณหญิงแม่”
ดาหลาเป็นกังวลเรื่องสร้อย ปากก็เจ็บ
บื้อกับห่านมาที่ร้านอาหารตุ้มเต๊ะ พอมาถึงห่านเดินนำพรวดๆ เข้ามา ปากก็บ่น
“อยู่ไหนวะ ปลาเค็มน้าตุ้ม? นี่อีตาบื้อ” ห่านหันขวับไปไม่เห็นบื้อก็โวย “เอ๊า อีตาซื่อบื้อ จะชักช้าไปไหน” ห่านชะงักมองอ้าปากค้าง เพราะบื้อค่อยๆ เดินขาถ่างๆ มาแต่หน้าตามึน “เฮ๊ย ทุเรศ ทำไมเดินขาถ่างอย่างนั้น ทุเรศ”
“รู้แล้วว่าทุเรศ ไม่ต้องเน้น” บื้อทิ้งตัวลงนั่งกางขากว้างสุดๆ “ขี่สามล้อมาสอง ช.ม.กรุงเทพฯ เมืองชลฯ ไม่ใช่พระเอกละครอย่างพี่เวียร์ พี่พอร์ช ศรัณย์ นี่ค้าบจะได้ยังหล่ออยู่” ห่านอึ้ง บื้อทุบขาหนีบตุ้บๆ “ขากลับคร่อมดูมั้งมั้ยล่ะจะได้ซึ้ง”
“บ้า คร่อมเคริ่มอะไร พูดจา”
“โอ๊ย นี่ก็ ใครเค้าจะอยากคร่อมเธอ กล้าพูด” บื้อนั่งกางขาทุบๆ นวดๆ ขาตัวเอง ห่านสงสารเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ จะบีบต้นขาให้ บื้อเอาขาหลบ “เฮ่ยๆๆ จะทำอะไรอ่ะ”
“ก็จะช่วยให้ไง”
บื้ออึ้ง มองหน้า สายตาห่านห่วงใย บื้อเริ่มซึ้ง
มือห่านค่อยๆ เอื้อมไปแถวต้นขาบื้อดูวาบหวิว ทันใดนั้นบื้อปัดมือห่านฟรึ่บ หนีบขาหนีบแขนตัวเองแน่นเหมือนสาวน้อยหวงตัว
“ไม่เอาๆ ไม่ต้องๆ” ห่านลุกพรวดเลย
“หึ้ย เรื่องเยอะ งั้นก็นั่งปวดขาหนีบอยู่นี่ละกัน ไหนล่ะปลาเค็ม น้าตุ้มเก็บไว้ไหน ฉันไปยกเอง”
“จะรู้มั้ยล่ะ? ก็คงแถวๆ นู้นแหละ ไปหาเอา” ห่านเกาหัวแกรกๆ
“เฮ้อ! ไม่น่ามาด้วยเล๊ย”
“ก็ใครใช้ให้มา”
“เออ...เสนอหน้ามาเอง จบป๊ะ”
“ไปๆ ไปหาปลาเค็มไป ดมๆ เอาเดี๋ยวก็เจอ”
“คนนะยะ ไม่ใช่หมา ไอ้...” ห่านจะด่าแล้วสะดุ้ง นึกถึง ‘เอาหมาออกจากปาก’ ห่านรีบปิดปากแน่น บื้ออมยิ้ม จ้องตาเพราะนึกอยู่เหมือนกัน ห่านเขิน รีบเฉไฉ “ไหนวะ ปลาเค็มน้าตุ้มอยู่ไหนวะ”
ห่านรีบเดินหาซอกนู้นนี้ บื้อมองตามอย่างเอ็นดู
คืนนั้นที่บ้านคุณชาย ดาหลานั่งกุมแผลที่ปาก ร้องไห้โฮๆ ดารัณโอบกอดลูกสาวหน้าตาเรื่องใหญ่
“เป็นเพราะนังเด็กห่านนั่นคนเดียว หนูดาหลาถึงได้เป็นแบบนี้” คุณหญิงรื่นฤดีบอก คุณชายตกใจงง
“อะไรครับคุณแม่ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับคุณห่านนะครับ”
“เออ...นั่นน่ะสิ พ่อก็ว่า มันจะไปเกี่ยวกันตรงไหน” ชนะศึกบอก
“เกี่ยวสิทำไมจะไม่เกี่ยว ก็ถ้าไม่ใช่เพราะชายมัวแต่ไปหลงนังเด็กห่านนั่น แล้วไม่สนใจหนูดาหลาทิ้งขวางให้หนูดาหลาต้องไปไหนมาไหนคนเดียวดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ หนูดาหลาก็คงจะไม่เคราะห์ร้ายโดนโจรปล้นกระชากเอากระเป๋าไปแบบนี้หรอก” คุณหญิงรื่นฤดีสงสารดาหลาจริงๆ โผเข้ากอดปลอบใจ คุณชายอึ้ง
“เอาล่ะๆ แทนที่จะโทษกันไปกันมาพ่อว่า เรารีบไปแจ้งความกันก่อนจะดีกว่ามั้ย เดี๋ยวพ่อติดต่อท่านรองไพโรจน์ให้เลย ตีกอล์ฟด้วยกันตลอด” ชนะศึกบอกแล้วจะลุก ดาหลากับดารัณ ตาเหลือก ดารัณรีบฉุดชนะศึกไว้แล้วร้องเสียงหลง
“อย่าค่ะ...อย่าาา” ชนะศึกชะงักกึก
“อ้าว ทำไมล่ะครับ เกิดเหตุร้ายขนาดนี้เราต้องรีบแจ้งความโดยเร็วที่สุดนะครับ ตำรวจจะได้ตามจับคนร้ายได้”
ดาหลากับดารัณ มองตากันอึกอัก
“โธ่ คุณชนะศึกคะ หนูดาหลาน่ะไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ แต่เป็นถึงนางสาวไทยสยาม มันคงจะไม่งาม ถ้าต้องตกเป็นข่าวขึ้นหน้า1 นสพ. จริงมั้ยคะ”
“มันยิ่งต้องขึ้นสิครับ เป็นนางสาวไทยสยามยังโดนโจรผู้ร้ายดักปล้น แล้วตาสีตาสาคนธรรมดาทั่วไปจะหาความปลอดภัยได้ที่ไหนล่ะครับ” ดาหลากับดารัณอึ้ง “อย่างนี้มันต้องยิ่งเป็นข่าว จะได้เป็นกรณีตัวอย่าง ตำรวจก็จะต้องรีบจับคนร้ายให้ได้เพื่อให้ประชาชนอุ่นใจ ผมว่าคนเค้าจะนึกขอบคุณนางสาวไทยสยามอย่างหนูดาหลาซะด้วยซ้ำ จริงมั้ย”
ชนะศึกมองตา ถามทุกคน ดาหลากับดารัณ หน้าซีดเป็นไก่ต้ม
“อย่างที่คุณชนะศึกพูดก็ถูกนะคะคุณดารัณ” คุณหญิงรื่นฤดีคล้อยตาม ดาหลากับดารัณมองหน้ากัน ใจระทึกสุดท้ายดาหลาก็ใช้บทดราม่า
“ไม่ดีกว่าค่ะ นางสาวไทยสยามต้องงามทั้งกายและใจ ดาหลาควรจะให้อภัย มีเมตตาแก่ผู้ยากไร้” คุณชาย ชนะศึก คุณหญิงรื่นฤดี งงๆ “ดาหลาเลยคิดว่า ดาหลาจะไม่ติดใจ ไม่เอาความคนที่เค้ากระชากกระเป๋าดาหลา เพื่อที่ว่าเราจะได้หมดเวรหมดกรรมกันในชาตินี้ ไม่มีการอาฆาตแค้นต่อกันและกัน”
คุณชาย ชนะศึก คุณหญิงรื่นฤดีอึ้ง ดารัณแอบโล่งอกเฮือกใหญ่
มุมลับตา ดารัณเหวี่ยงดาหลาไปชิดกำแพง หันซ้ายหันขวาแล้วด่าลูกสาว
“เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ นังตัวดี” ดารัณตีๆๆ “ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้เลิกคบกับไอ้โชกเลือดบ้าบอนั่น”
“โอ๊ย...แม่ เค้าไม่ได้ชื่อโชกเลือด เค้าชื่อโชคชัย”
“ไอ้โชคร้าย ไอ้เวรตะไลน่ะสิ หึ้ย” ดารัณตีลูกสาวจนหอบ “แล้วนี่จะยังไงกันต่อล่ะ นังลูกโง่ อุตส่าห์วางแผนจับคุณคุณชายมาตั้งหลายปีกินของดีของหรูไม่ชอบ ชอบกินขยะ”
“นี่ แม่ หยุดว่าโชคของหนูซะที ได้กินที่ไหนล่ะคุณชายของแม่น่ะ ท้องว่างมาเป็นปีๆ มันก็ไม่ไหวนะ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าของดีของแม่น่ะ จะแซบมั้ย? แต่ที่แน่ๆ ขยะของหนูน่ะแซบมากกกก”
“ห๊า แกว่าไงนะ” ดาหลาลอยหน้าลอยตาเชิด ดารัณตกใจ “นี่แก อย่าบอกนะ ว่าแกยังไม่ได้กิน คุณคุณชาย”
“โธ่แม่ คืนนั้นอีกตาคุณคุณชายเมาหลับยังกะหมาสลบ ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น ถ้าลองว่าปลุกไม่ตื่นแล้วหนูจะกินได้มั้ยล่ะแม่”
ดารัณแทบช็อก เซแซ่ด อยากจะบ้าตาย
“โอย ฉันจะเป็นลม นังลูกบ้าลูกโง่ แกยังไม่ได้กินคุณคุณชาย แต่แกไปกินไอ้ขยะนั่น แกมันบ้า แกมันโง่ อีนังกระสือ” ดารัณตีลุกสาวเพี๊ยะๆๆ
“พอได้แล้วแม่ ที่ผ่านมาหนูก็ยอมทำเพื่อแม่ทุกอย่าง วิ่งรอกประกวดนางงาม กินข้าวกับเสี่ย นอนกับเสี่ย”ดารัณรีบตะปบปากลูกสาว
“นังบ้า เดี๋ยวใครได้ยินเข้า” ดาหลาแกะมือแม่ออกแล้วพูดต่อ
“แล้วหนูจะนอนกับไอ้โชคของหนูแค่นี้ ทำไมแม่ต้องทำเป็นเรื่องใหญ่ด้วย”
“ไอ้นอนนะไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกย่ะ แต่ไอ้ที่ใหญ่ก็คือ ไอ้โชคของแกน่ะมันเอาสร้อยข้อมือเพชรของนังห่านไปที่นี้จะทำยังไงกันดีล่ะ เฮ่ย ฉันกับแกได้ซวยกันแน่ๆ”
ดาหลาคิด หน้าร้าย
“เอาน่าแม่ มือชั้นนี้แล้ว ไม่มีทางที่เรา 2 แม่ลูกจะซวย คนที่ซวยมันจะต้องเป็น นังห่าน”
ที่ร้านอาหารตุ้มเต๊ะ ห่านก้มลงหาปลาเค็มน้าตุ้มตามซอกนู้นนี้ เข่ง กะละมัง ปีนดูตามหลังตู้ ฯลฯ แต่ก็หาไม่
เจอ ห่านถึงกับปาดเหงื่อ
“อยู่ไหนวะ ปลาเค็มน้าตุ้ม” บื้อยังนั่งยืดขาอยู่ที่เดิม
“ก็บอกแล้วให้ดมๆ หาเอา” ห่านหันขวับ ท้าวเอว
“หุบปากไปเลย นั่งนวดขาหนีบต่อไปเงียบๆ ไม่ช่วยก็อย่าป่วน กินแรง” บื้อส่ายหน้าเซ็ง
“พูดนิดเดียว นางมาเป็นชุด”
“เม้าท์อะไร”
“ไม่ได้เม้าท์ท์ท์ แค่บ่น”
“บ่นก็ไม่ได้ รบกวนสมาธิ”
“อ่ะๆๆ เชิญๆๆ”
ห่านค้อนขวับก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาหาต่อ บื้อนั่งมองขำๆ ส่ายหน้าแล้วชันเข่าท้าวคางนั่งมองห่านหาปลาเค็ม
ห่านก้มๆ เงยๆ เกาหัวแกรกๆ หนังยางมัดผมร่วง ผมก้อนจุกร่วงสยายลงมาสวยงาม เซ็กซี่ราวนางแบบโฆษณาแชมพูสระผม บื้อท้าวคางอยู่ถึงกับอึ้ง...สวยว่ะ
ห่านยังก้มๆ เงยๆ ผมสลวยเป็นนางแบบซัลซิลอยู่ แถมแอบมีเม็ดเหงื่อแพรวพราวเล็กน้อยที่หน้าผาก สายตายื้อยังจับจ้องห่าน บื้อลืมตัวค่อยๆ ลุกขึ้นเดินช้าๆ ตรงมาหาห่าน ห่านค่อยๆ หันมามองบื้อ บื้อเดินมาหยุดยืนใกล้หน้าห่าน ห่านมอง บื้อค่อยยกมือขึ้นประคองหน้าห่าน ห่านลุ้น บื้อค่อยๆ เอานิ้วโป้งปาดเหงื่อที่ขมับห่านเบาๆ ห่านมองหน้าบื้อ บื้อค่อยๆ ยกอีกมือนึง สอดไปที่ต้นคอของห่าน บื้อใช้ 2 มือโน้มต้นคอของห่านมาใกล้หน้ามากๆๆ จนจมูกจ่อกัน เหมือนจะจูบกันแล้ว ทันใดนั้นห่านสะดุ้ง ผลักบื้อออก
“เฮ๊ย จะทำไรอ่ะ”
บื้อสะดุ้ง ได้สติ เลิกลั่ก
“เฮ๊ย เปล่านะ...เปล่า...ฉัน...ฉัน”
“ฉันอะไร”
“ฉัน ก็...” บื้อเหลือบตามองเห็นหนังยางมัดผมที่พื้นก็ก้มลงเก็บ “ฉันก็แค่เห็นเธอร้อน” ห่านเลิกคิ้ว บื้อชูหนังยางใส่หน้ายืนยัน “ยางมัดผมเธอหลุด” ห่านเอียงคอ บื้อกระชากห่านมาใกล้ๆ จับหันหลังแรงๆ “มาๆๆ” บื้อเอามือรวบผมห่าน ทำท่าจะมัด ปากก็พูด “ก็จะมัดให้ไง” ห่านอมยิ้ม ขณะที่บื้อรวบผมไปปากก็บ่นไป “ผมหรือหญ้าฟาง ทำไมมันเยอะยังงี้” ผมร่วงหลุดอีก “หึ้ย ผู้หญิงนี่ น่าเบื่อ ผมเยอะแยะ ยาวด้วย” ห่านอมยิ้มเพลินๆ บื้อเริ่มมัดๆ เห็นห่านเพลินๆ ก็แอบๆ ดมผมห่าน
“ทำไรอ่ะ” ห่านแว้ดถามเหมือนกับมีตาหลัง บื้อสะดุ้ง รีบฟอร์มเสียงเข้ม กระชากหางจุกที่มัดเสร็จแล้วแรงๆ
“ดู๊! ยาวก็ยาว เหม็นก็เหม็น สระผมมั่งรึเปล่าเนี่ย” ห่านหันมาตีเพี๊ยะ
“ไอ้บ้า ฉันสระของฉันทุกวันย่ะ นายแหละ” ห่านจิกผมบื้อมาดม บื้อหน้าทิ่ม “แหวะ เหม็นยังกะหมาเน่า”
ห่านพูดจบก็ชะงัก เพราะหน้า 2 คนอยู่ชิดกันมาก บื้อยังยืนเอียงๆ แต่แก้มใกล้จมูกห่านมากๆๆ บื้อเหล่ตามองห่าน ห่านก็มองบื้อ สองคนจ้องกัน
อีกด้านหนึ่งที่บ้านเช่าบื้อน้าตุ้ม น้าเต๊ะ กุมกันจับหมากรุกโขกโป๊ก! ชนะ! เฮลั่น ผัวเมีย กอดกันแน่น จุ๊บซ้ายจุ๊บขวา ลุงจ๊อดนั่งค้อนขวับๆ
“สำเร็จ การวางหมากของเรามันสำเร็จ” น้าเต๊ะจุ๊บแก้มน้าตุ้มซ้าย ขวา “รักเมีย หลงเมีย เมียจ๋า ผัวมาแล้วจ้ะ อยู่นี่แล้วนะ เขยิบมาใกล้ๆ”
“อัลละวา จ้าาา ผัวจ๋า”
“ถุ้ย ประทานโทษครับ นึกว่าอายุ 18-19 กันรึยังไงครับ เด็กๆ ทำน่ะมันน่ารัก คนแก่ทำน่ะมัน...”
“หยุด” น้าตุ้มสวน ลุงจ๊อดชะงัก น้าตุ้ม น้าเต๊ะร้องพร้อมกันทันที
“หยุดๆ อยู่ตรงนี้...”
“เว๊ย รำคาญอีผัวเมียนักร้องคู่นี้จริงๆ เลย” ลุงจ๊อดโวยลั่น
“แน่ะๆๆ รำคาญรึว่าอิจฉากันแน่”
“อิจฉา น่ะเซ่ ไม่เห็นจะต้องถาม ดูซิ หน้าตาขี้อิจฉ๊าขี้อิจฉา อิจฉาซะฟันพุ่งออกนอกปาก”
“ค้าบบบ นังมารดำ” น้าตุ้มพนมมือไหว้งาม
“ขอบพระคุณค่ะคุณลุง” แต่แล้วน้าตุ้มก็สะดุ้ง “ว๊าย เห็นมะ อิจฉาคนสวยด้วย นี่ฉันจะบอกให้นะ วิธีแก้ขี้อิจฉา
ง่ายๆ นะจ๊ะลุงจ๋า ลุงต้องมีเมีย”
“ถูก” ลุงจ๊อดสะดุ้งเขิน
“บ้า พูดจาอะไร อีดำ”
“อีดำเอ๊ย เมียจ๋าของผมพูดถูกแล้วนะครับ” น้าเต๊ะออกท่าทางอินมากๆ “ความรักทำให้โลกสวยงาม เป็นยาชูกำลัง เป็นพลังใจ ให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไป”
สองผัวเมียหันมองตากันฟรึ่บ ร้องเพลงทันที ลุงจ๊อดเคลิ้มไปนิดนึง ก่อนจะโวยขึ้นมา
“เว๊ย เอาอีกแล้ว เอ็งจะร้องกันไปถึงไหน นี่ถามจิงเถอะ ต้องร้องเพลงกันทุกที่ทุกเวลาเลยเรอะ ถามตง เวลานอน เอ็งร้องกันมั้ยวะ”
น้าตุ้ม น้าเต๊ะอาย คิดไปลึก
“บ้า ร้องสิ ทำไมจะไม่ร้อง”
“ห๊า จริงเหรอ”
“จริงสิลุง เผลอๆ มี แอ๊ดลิ่บ กันด้วยแหละ” น้าเต๊ะบอก ลุงจ๊อดงงๆ น้าตุ้ม น้าเต๊ะโชว์เลย
“เว๊ย พอแล้ว หนวกหู พวกเอ็งจะไปขลิบกันที่ไหนก็ไปไป๊”
“แอ๊ดลิ่บ”
“นั่นแหละ ข้าไปนอนดีกว่า” ลุงจ๊อดลุกเดินไป “โอ๊ย กูจะบ้า”
“เออ ว่าแต่ป่านนี้ แกว่าหลานซื่อบื้อกะหนูคอห่านของเรา เค้าจะแอ๊ดลิ่บกันรึยังวะตาเต๊ะ”
สองผัวเมียคิกคักแล้วแอ๊ดลิ่บกันต่อ ลุงจ๊อดตะโกนออกมา
“ไปหอนที่อื่นข้าจะนอนนนน”
น้าตุ้ม น้าเต๊ะสะดุ้ง กอดกันหวานเว่อร์แล้วทำหอนบรู่ว์คู่กัน
บื้อกับห่านยังอยู่ท่าเดิมเด๊ะ ตาจ้องตากันและเหมือนมีแม่เหล็กดึงดูดให้ สองคนค่อยๆ ขยับหน้ามาในตำแหน่งที่พร้อมจะจูบกัน แต่ทันใดนั้นห่านก็ได้สติ ผลักหัวบื้อออกอย่างแรง บื้อหน้าหงายร้อง ‘เย้ยยย’ สั่น
“ไป๊ แหวะ หัวเหม็นยังกะหมาเน่าจริงๆ”
บื้อเก้อเขิน แต่ไม่วายแอบน้อยใจนิดๆ พูดใส่งอนๆ
“ก็เออดิ ฉันมันหมาหัวเน่านี่ ใครมันจะไปหอมเหมือน....”
ห่านเดาออก รีบแว้ดก่อน
“เหมือนใคร เหมือนใคร พูดให้ดีๆ”
บื้อจ้องหน้ห่านา งอนๆ
“ไม่พูด” บื้อค้อน แล้วเดินกลับไปนั่งจ๋องกับพื้นที่เดิม “ไม่มีอารมณ์” ห่านท้าวเอวหมั่นไส้
“ย่ะ ติสท์” ห่านเบะปากพูดเลียนๆ ล้อๆ “ไม่มีอารมณ์ ชิ” แล้วห่านก็มองหาปลาเค็มต่อพร้อมกับเกาหัวแกรกๆ “แล้วไงว่ะเนี่ย ปลาเค็มน้าตุ้ม ตกลงแกเอาไปฝังดินไว้ที่ไหนรึเปล่า หาตั้งนานก็หาไม่เจอ”
“งั้นเดี๋ยวโทรถามให้” บื้อควักมือถือออกมา ห่านหันขวับ
“ไอ้บ้า ไอ้บ้าบื้อ เพิ่งจะคิดได้เนี่ยนะ ทำไมไม่โทร.ซะพรุ่งนี้เช้าซะ เลยล่ะ” บื้อกวน ตีหน้าซื่อ เก็บมือถือ
“โทร.พรุ่งนี้ก็ได้” ห่านรีบวิ่งมาถึงตัวเลย
“โทรเลย โทรๆๆ” ห่านเอามือควักมือถือจากกระเป๋าหน้าของกางเกงยีนส์บื้อ โดยไม่ได้คิดอะไร “โทร เดี๋ยวนี้”
บื้ออึ้งๆ ก่อนจะปัดป้องเป็นพัลวัน
“เฮ่ยๆๆ” บื้อผลักห่านกระเด็น “จะบ้า ฉันหยิบเอง”
“หยิบเลย โทรเลย โทรเดี๋ยวนี้”
“ดุยังกะหมา” บื้อหยิบไปบ่นไป ห่านตาโตใส่ บื้อกดโทรศัพท์หาน้าตุ้ตุ้ม น้าตุ้มตาโต รีบบอกน้าเต๊ะด้วยความดีใจตื่นเต้น
“อร้ายย มันโทรมาแว้ววว” น้าเต๊ะรีบวิ่งมาประกบ น้าตุ้มกดสปีคเกอร์โฟน “ฮาโหลลล”
“น้าตุ้ม เหรอครับ”
“ก็เออสิ ได้กันรึวะ ไอ้บื้อ” บื้อสะดุ้ง
“อะไรนะครับ”
“เอ่อ...คือ น้าถามว่า หาเจอรึยัง ปลาเค็มน้าน่ะ”
“ก็เนี่ย จะโทรมาถามเนี่ย น้าเก็บไว้ไหนอ่ะครับ ห่านหาตั้งนานยังไม่เจอเลย”
“เอ่อ...” น้าตุ้มมองหน้าน้าเต๊ะ น้าเต๊ะโบกไม้โบกมือว่าพอแล้ว ไม่ต้องหาแล้ว “อ๋อๆๆ อ้าว! อะไรนะไอ้เต๊ะ เจอแล้วเหรอ”
“ห๊า เจอแล้ว”
ห่านหันขวับงงๆ
“เจอแล้วอ่ะเมียจ๋า” น้าเต๊ะดมๆๆ จั๊กกะแร้เมีย “นี่ไง เจอแล้วอยู่นี่ไง หอมเชียว”
น้าตุ้มด่าไม่ออกเสียง “ไอ้บ้า”
“เดี๋ยว ตกลงยังไงครับเนี่ย” บื้อถามอย่างงงๆ
“อ๋อ ก็คนขับรถสองแถวที่น้าจ้างมา เค้าเพิ่งเอากลับมาส่งคืนให้เมื่อกี้”
“อ้าว”
“ขอบใจ เอ็งกะหนูห่านมากนะ ว่าแต่นี่มันก็ดึกมากแล้ว อย่าขับรถกลับมาเลย มันอันตราย น้าว่าเอ็งกับหนูห่านนอนค้างซะที่บ้านน้านั่นแหละนะจะได้ ได้กันซะที” น้าตุ้มรีบตัดบท
“ห๊า อะไรนะครับ”
“ป่าวว น้าก็ว่าจะได้พักผ่อนนอนหลับเอาแรง ตื่นเช้ามาค่อยขับรถกลับบ้านกันซะที บื้อว่าดีไหม” บื้ออึ้งๆ หันไปมองห่านที่ยืนท้าวเอวเลิกคิ้ว เหมือนรอฟังคำตอบจากน้าตุ้มอยู่ “ว่าไงบื้อ”
ตาบื้อยังมองห่าน
“เอ่อ...”
คุณชายนั่งหน้าเซ็งอยู่ในร้านกาแฟ ซักพักนีรนุชเดินมามองหาแล้วเดินเข้ามา ยืนมอง คุณชายเงยหน้ามอง ยิ้มเศร้าๆ
“ไอ้นุช” นีรนุชนั่งลง
“ไง วันนี้มีคดีเด็ด 7 สีอะไรอีกล่ะ”
“เวียนกบาลว่ะ เมื่อไหร่จะจบๆ กันไปซะที เฮ้อ”
“ก็อยากไปเริ่มทำไม”
“ใครอยากเริ่ม จนวันนี้ยังนึกไม่ออกเลยว่าไปเริ่มตอนไหน” นีรนุชมองฉุกใจ
“จริงเหรอไอ้ชาย”
“จริง จะโกหกแกทำไมหล่ะ ฉันเคยโกหกแกด้วยเหรอไอ้นุช มีอะไรฉันก็บอกแกหมดทุกเรื่อง”
นีรนุชแอบดีใจ ก่อนจะมองหน้าคุณชาย
“ชาย คืนนั้น ที่แก เอ่อ...มีอะไรกันกับคุณดาหลา แกจำอะไรได้มั่ง”
คุณชายนิ่งมองหน้านีรนุช นึกถึงเหตุการณ์คืนนั้นก่อนจะส่ายหน้าเสียงอ่อย
“จำได้แค่ว่า ตื่นมาฉันก็เห็นเค้านั่งร้องไห้อยู่ที่ปลายเตียงแล้ว”
“ถามจริงนะ คืนนั้นเป็นครั้งแรกจริงๆ หรือเปล่า”
“ไอ้บ้า ครั้งแรกสิว่ะ ครั้งแรกแล้วก็ครั้งเดียวด้วย ถามทำไม” นีรนุชอึ้ง พึมพำ
ครั้งแรก แล้วก็ครั้งเดียว”
นีรนุชนึกย้อนกลับไปตอนที่เห็นดาหลาเข้าไปซื้อยาคุมที่ร้านขายยา
“นี่ แกถามทำไมหว่ะ ไอ้นุช” คุณชายถามขึ้นมา นีรนุชสะดุ้ง
“เอ่อ...” นีรนุชตัดสินใจยังไม่พูด “ปะ...เปล่า ไม่มีอะไร ก็แค่ถามดู”
“ไอ้บ้านี่ ทะลึ่ง คนกำลังกลุ้มอยู่”
นีรนุชนึกถึงดาหลา
คืนเดียวกันนั้น ดาหลาซึ่งใส่แว่น ใส่หมวกแบบอำพรางตัวนั่งอยู่ข้างๆ โชคในบ่อนเล็กๆ แห่งหนึ่ง ดาหลาหัวเสียมากที่เสียพนันจึงโวยใส่โชค
“บอกแล้วใช่มั้ย ว่าอย่าแทงหมด อย่าหมดก็ไม่ฟัง”
โชคหัวเสียเช่นเดียวกัน
“ก็ซวยเพราะเธอนั่นแหละ พูดมากอยู่ได้ หนวกหู น่ารำคาญจะไปไหนก็ไปไป๊”
“นี่ มีเงินเล่นนี่เพราะฉันนะ ยังจะกล้ามาขึ้นเสียงอีกเรอะ”
โชคเสียฟอร์มมาก เห็นคนทั้งโต๊ะมองขำๆ เลยตบดาหลาหัวทิ่ม
“นี่ไง ทำไมจะไม่กล้าละนังนี่” ดาหลาตกใจ กลัว เพราะนับวันโชคจะรุนแรงกับดาหลามากขึ้นทุกที โชคบีบแก้มดาหลาให้เงยขึ้น “จะบอกอะไรให้นะ แทนที่จะมาหาเรื่องเจ็บตัวแบบนี้ ฉันว่าเธอรีบไปไถเงินไอ้คุณชายไฮโซหน้าโง่นั้นมาให้ฉันถอนทุนคืนดีกว่า ไป๊”
โชคผลักดาหลา ดาหลาทั้งกลัว ทั้งโกรธ
ส่วนที่ร้านอาหารตุ้มเต๊ะ ห่านผงะเงิบถอยหลังเข้ามาอย่างตกใจมาก
“อะไรนะ จะให้นอนค้างที่นี่”
บื้อแอบน้อยใจ จึงมองห่านอย่างกวนๆ
“หืมม์ ตกใจเว่อร์ไปป่าวเธอ ทำยังกะฉันอยากจะนอนนักนี่” บื้อกอดอก เมินหยิ่งๆ
“ใช่ซี้ ทีหายหัวไปกับคุณน้องนุช ทั้งคืนล่ะก็อยากมากสิ” บื้อหันหน้าขวับ ห่านก็ตกใจที่หลุดปากพูดไปจึงหันหน้าขวับ
“หายไปกับคุณน้องนุช” บื้อนึกถึงวันที่นั่งปรับทุกข์กับนีรนุชจนดึก แล้วนีรนุชขับรถมาส่งหน้าบ้านตอนเช้า “อ๋อ วันนั้น” บื้อนึกได้ รีบถามห่าน ตาจ้องจับผิด “เธอรู้ได้ไง” ห่านกลืนน้ำลายเอื้อก บื้อย่างก้าวมาใกล้ จ้อง เค้น “เธอรู้ได้ยังไง ว่าฉันไปกับคุณน้องนุชทั้งคืน”
“ก็...ก็...ลุงจ๊อด ลุงจ๊อดบอก”
“แล้วทำไมลุงจ๊อดบอก ทำไมอยู่ๆ ลุงจ๊อดต้องมาบอกเธอด้วย” ห่านอึกอัก “ว่าไง” ห่านสะดุ้ง บื้อก้าวย่างเข้าประชิดตัวอีก “ฉันถาม ทำไมไม่ตอบ”
“เอ่อ...เอ่อ ห๊าววว โอย ง่วงอ่ะ ง่วงมากเลยอ่ะ” บื้อหรี่ตารู้ทัน “ทั้งง่วง ทั้งเมื่อย ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย ทั้งเปลี้ย ทั้ง...” บื้อส่ายหน้า ตัดบท
“พอเลย” ห่านยิ้มสู้
“แฮ่ งั้นฉันไปนอนก่อนนะ”
ห่านสะบัดตัวหันหลังจะออกไป บื้อคว้าแขนไว้ แล้วกระชากมาหน้าชิดเลย สองคนมองหน้ากันห่านหน้าตาเหวอๆๆ
“กลับ” บื้อบอกเสียงเฉียบขาด
“อะไรนะ”
“กลับบ้าน ฉันจะไม่นอนค้างที่นี่”
“ห๊า”
บื้อหน้านิ่งซิ่งตุ๊กตุ๊กกลับกรุงเทพ ห่านนั่งเกาะรถตัวเก็ง สีหน้าห่านเม้งๆ หงุดหงิดๆ ซักพักก็แว้ดขึ้นแหกปากลั่น
“นี่ อีตาบื้อ”
บื้อตกใจมากร้องเย้ยยย รถตุ๊กตุ๊กเบรกเอี๊ยดหัวทิ่มอยู่กลางถนนเปลี่ยว ไม่มีรถอื่น ในรถห่านหัวทิ่มทะลุปะทะหน้าบื้อ หน้าห่านแหงนเงิบแว่นเบี้ยวแทบหลุด ตัวลงไปกองคุกเข่าอยู่กับพื้น พอได้สติห่านก็แหกปากตะโกนใส่หูบื้อ
“ไอ้บ้า ไอ้บื้อบ้า นึกจะเบรกก็เบรก ฉันคอหักหักตายไปจะทำไง”
บื้อเอียงคอ เอานิ้วอุดหูแบบหูกรูจะแตก แล้วฉุนกระชากคอห่านเอียงมาใกล้เลย แหกปากใส่หูห่านซะลั่น
“ก็ฝังเลยไง ฝังในป่าข้างทางนี่ซะเลยไง” บื้อผลักหัวห่านออกแรง ค้อนๆๆ ปากก็บ่น “จะแหกปากไปไหน ก็อยู่ใกล้กันแค่นี้”
ห่านยังเอานิ้วแยงหูที่ยังดับอยู่ ผลักหัวบื้อ หัวทิ่มเหมือนกัน
“ก็เหมือนกันแหละ นายก็จะแหกปากไปไหน” บื้อส่ายหน้าเอื้อม
“อ่ะ ตกลงยังไง ตะกี้แหกปากเรียกทำไม ตกใจหมด”
“หืมม์ พ่อคนขวัญอ่อน”
“ปวดฉี่เหรอ ไปดิ” บื้อเพยิดหน้าไปที่ป่าข้างทาง ห่านหันขวับมองป่าข้างทาง เห็นเป็นป่ามืดๆ ดูน่ากลัว
“บ้า ใครจะกล้าเข้าไป น่ากลัวจะตาย อ้อ อีกอย่าง ฉันไม่ได้ปวดฉี่เว๊ย แต่จะฉี่ราดก็เพราะนายแหละ ซิ่งซะเร็วเวอร์ จะรีบไปไหนห๊า กลัวคุณไฮโซน้องนุชรอรึยังไง”
“อะไร พูดอะไร”
ห่านค้อน เบือนหน้า พึมพำ
“ยังจะถาม”
“ตกลงไม่ฉี่ใช่มั้ย”
“ใช่”
“เออ จะได้รีบไป”
“นั่นไง รีบไปหาคุณน้องนุชแน่ๆ ถึงได้รีบซิ่งนรกซะขนาดนี้” ห่านแอบเคือง ฉุน น้อยใจ “น้าตุ้มบอกให้ค้างยังไม่ยอมค้าง”
บื้อหันมาจ้องตา ทำเหมือนจะเถียงแล้วชะงัก ตายังมองจ้องห่านพร้อมกับคิดในใจ
“ยัยเบื้อก โง่ชะมัด ไอ้ที่ไม่ยอมค้างน่ะก็เพราะเธอ” ห่านเชิดหน้า มองจ้องแบบว่าจะพูดอะไรก็พูดมา บื้อมองต่อแล้วคิดในใจ “ขืนอยู่กันสองคน นอนค้างด้วยกันที่บ้านเมืองชล ฉันทนไม่ไหวขึ้นมาจะทำยังไง” ห่านขมวดคิ้ว จิกจ้องหน้าบื้อ ทำไมมันไม่พูดอะไรซักที บื้อมองต่อคิดในใจ “ดูดิ่ น่ารักขนาดนี้ อดใจไม่ไหวแน่ๆ” บื้อถอนใจเฮือก ห่านมอง สายตาบื้อเหมือนคนอกหัก “แต่เธอไม่ได้รักฉัน...”
ห่านจิกตามอง บื้อหน้าเศร้า “เธอรักคุณคุณชาย”
ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 14 (ต่อ)
สองคนมองหน้ากัน แล้วห่านก็พูดขึ้น ชี้หน้าบื้อ
“คิดอะไรอยู่” บื้อสะดุ้ง “อย่านะ อย่าคิดจะปล้ำฉันจะเว๊ยเฮ๊ย”
“บ้าาา ใครมันจะบ้าคิด อี๋ น่าปล้ำตายล่ะ”
“ให้จริงเหอะ”
“หืยยย แถมกีต้าร์โหลนึงยังไม่เอาเลย”
“นี่ไง ปากงี้ไง”
“อ่ะๆๆ ไม่ปวดฉี่ก็ไปต่อ เอ้า!นั่งให้ดีๆ” สองคนขยับตัวประจำที่เตรียมออกรถ บื้อสตาร์ท...แฉะๆๆ “เฮ่ยๆ”
บื้อสตาร์ทแฉะๆ ห่านมอง “เฮ่ย ไม่” บื้อเอามือกุมกะโหลก “ไม่นะ โว๊ย ไม่จริง”
ห่านตกใจ ชะโงกหน้ามา
“อะไรอ่ะ รถเป็นอะไร”
“เป็นไรไม่รู้ สตาร์ทไม่ติด”
“สตาร์ทไม่ติด”
บื้อตะโกนลั่น
“เอ้า ออกแรงหน่อยซิคุณน้ายยย เดี๋ยวก็ได้โดนรถทับตายอยู่กลางถนนเนี้ย”
บื้อกำลังเข็นตุ๊กตุ๊กอยู่ท้ายรถ ส่วนห่านเป็นคนบังคับพวงมาลัย ไม่ได้นั่ง แต่ยืนเข็นอยู่ข้างล่าง มือนึงจับพวงมาลัย มือนึงช่วยเข็น ห่านหยุด ท้าวเอว
“นี่ นายเห็นฉันเป็นอะไร เป็นนักมวยปล้ำเรอะ ดูแขนฉันซิยังกะตะเกียบ เดี๋ยวแม่ทิ่มตาซะเลย แรงสุดก็ได้แค่นี้ล่ะเว๊ย”
“ไม่น่ามาด้วยเลยจริงจริ๊ง”
ห่านฉุนกึก นึกน้อยใจ
“อีกและ พูดอีกและ เลิกพูดเลยนะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ไปไหนกับนายอีกแล้ว”
บื้ออึ้ง เห็นห่านน้อยใจจนน้ำตาคลอก็ใจหายแว๊บ บื้อยื่นทื่อเลย
“เอ๊ย ขอโทษ” บื้อกลืนน้ำลายเอื้อก “เธอก็รู้ว่าฉันมันปากไม่ดี”
ห่านมองจ้องบื้อ ไม่พูดไม่ด่าแล้ว
“เอ้า จะเข็นมั้ย” บื้อจ๋อยไปเลย
“เข็นๆๆ”
บื้อเข็นรถสุดพลัง ห่านช่วยหักพวงมาลัยแถเข้าข้างทาง ปรากฏรถไหลๆ ลงข้างทาง ห่านร้องลั่นเพราะเสียหลักกลิ้งหลุนๆ ลงกับพื้น บื้อตกใจมาก ร้องเรียกลั่น
“ห่านนนน”
บื้อโดดเอาตัวกอดห่านแน่น แล้วกลิ้งไปด้วยกัน จนหยุดกลิ้งนิ่ง
สองคนกอดกันกลมอยู่กับพื้น มีรถตุ๊กตุ๊กจอดนิ่งอยู่อีกมุม สองคนแน่นิ่ง เอาหัวซุกกันอยู่ซักพักก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองกัน บื้อถามเสียงนุ่ม เพราะเป็นห่วงห่านจริงๆ
“เป็นอะไรรึเปล่า” ห่านส่ายหน้า ยังกลัวๆ ตัวสั่น “เจ็บมั้ย” ห่านส่ายหน้า ทั้งที่จริงๆ ก็เจ็บ น้ำตาคลอๆ ทั้งกลัวทั้งเจ็บ บื้อโอบหัวห่านมาซบไว้แน่น “ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ”
ห่านสะอื้นเบาๆ กอดซุกบื้อไว้แน่น หน้าตาตกใจมาก
แหม่มเคาะประตูบ้านบื้อรัว โย่งซึ่งประแป้งขาว หน้าตางัวเงีย เปิดประตูผลัวะออกมา โย่งหลับตา หาว พูดงัวเงีย
“ใครมาเคาะประตูดึกๆ วะ ไม่หลับไม่นอนเหรอ” โย่งลืมตาเห็นเป็นแหม่มก็สะดุ้งสุดตัว ตกใจ ตะเบ๊ะ “ครับพ้ม”
“ใครจะนอนหลับลงห๊าตาโย่ง”
“ทำไมครับ มีใครมาทำอะไรให้แหม่มจ๋าโกรธ เดี๋ยวโย่งจะไปจัดการเองครับพ้ม”
“ม่ายช่ายยย”
โย่งชะงัก มองแหม่มตาหวาน
“แหนะ หรือว่าแหม่มจ๋านอนไม่หลับ เพราะคิดถึงโย่ง”
“เฮ้อ” แหม่มถอนใจเฮือก เอือมสุดๆ “นี่ ที่ฉันนอนไม่หลับเนี่ยก็เพราะไอ้ห่านน่ะสิ ป่านนี้แล้วมันยังไม่กลับมาเลย”
โย่งนึกตาม แล้วยิ้มแฉ่ง
“อ๋อออ แหม แหม่มจ๋าไม่ต้องเป็นห่วงห่านหรอกครับ ห่านเค้ามีไอ้บื้อไปด้วยทั้งคน”
“ก็ไปกันสองคนเนี่ยสิ ถึงได้ห่วง”
“อ้าววว”
แหม่มเบือนหน้านึกในใจ
“ฉันห่วงว่าแกจะยิ่งสับสนน่ะสิไอ้ห่าน ว่าตกลงแกรักใครกันแน่ ระหว่างคุณคุณชายรึว่านายบื้อ”
ห่านกับบื้อยังกอดกันอยู่ บื้อมีสตินิ่งไม่ได้กลัวกับบรรยากาศรอบตัว ขณะที่ห่านที่มีอาการกลัวๆ
“ฉันว่าเธอไปนั่งรอในรถก่อน”
บื้อลุก ห่านลุกแล้วเจ็บขาแปล๊บ
“โอ้ย” บื้อประคอง “เจ็บข้อเท้าอ่ะบื้อ”
“สงสัยจะซ้น”
บื้อช้อนตัวห่านทันทีเลย
“เฮ่ย”
บื้อไม่พูดไม่จาอุ้มห่านไปวางที่เบาะท้ายรถตุ๊กตุ๊ก
“นอนพักตรงนี้ดีกว่า” ห่านมองหน้าบื้ออย่างซึ้งใจ บื้อรีบควักมือถือแล้วกดฟัง เอะใจ แหงะหน้าจอมามอง “เฮ่ย อย่านะเว้ย อย่า อย่า นั่นไง”
“ทำไมอ่ะ”
“แบตหมด”
“เอาของฉัน” ห่านควักมือถือ เอ๊ะ! แล้วตะปบๆๆ ไม่เจอ “เฮ้ย หายไปไหน”
“หล่นเมื่อกี้รึเปล่า อยู่นี่ละกัน เดี๋ยวฉันไปหาดู”
“จะเจอมั๊ยน่ะ มืดก็มืด” บื้อไม่พูดอะไร เริ่มเดินออกมองหา ห่านถอนใจเฮือก นั่งมองไปรอบๆ สายตาหวั่นๆ บื้อเดินไกลออกไป ห่านตะโกนบอก “อย่าไปไกลนะ มันมืด อันตราย”
ไม่เห็นบื้อแล้ว เหลือแต่ห่าน เงียบ มืด ห่านเริ่มมองไปรอบๆ อย่างหวาดๆ อีกครั้ง ขณะนั้นมีรถกระบะขับมา ชายขี้เมาในรถ 3 คนเฮฮาเมา ขับมามองเห็นรถตุ๊กตุ๊กของห่านอยู่ไกลๆ
“เฮ้ย!นางฟ้ามาโปรดแล้วพวกเรา”
ทุกคนชะโงกมองไปที่ห่าน ขี้เมาเบรกรถเลย ห่านหันขวับ เห็นว่าเป็นรถก็ดีใจ
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย รถเสียค่ะ”
ห่านตะโกนบอก บื้อที่อยู่ไกลออกไปหันขวับมอง ขี้เมาลงรถกันมา เดินอาดๆ เป๋ๆ ตาเป็นมัน ห่านเห็นแล้วอึ้ง บื้อวิ่งปรี่มาที่ห่านเลย ปากก็ตะโกน
“ห่าน”
ห่านหันขวับมองบื้อ
“บื้อ”
ไม่ทันแล้ว สามขี้เมาเข้ามาปรี่รุมลากห่านลงจากรถ คนนึงก็ขึ้นไปบนรถตุ๊กตุ๊กถึงตัวห่าน บื้อปรี่มาถึงกระชากคอเสื้อคนนึง
“หยุด”
บื้อต่อยเปรี้ยง จากนั้นก็บู๊กันพอหอมปากหอมคอ ห่านเองก็โดนลากโดนดึงทึ้งกรีดร้อง สุดท้ายบื้อไม่ไหว พลาดเพราะสามรุมหนึ่ง บื้อโดนจับล็อค ขี้เมาคว้ามีดออกมา ห่านเห็น กรีดร้องเตือน
“บื้ออออ” ขี้เมาแทงบื้อมิดด้าม ห่านช็อกสุดชีวิต กรีดร้องไห้ “บื้อออออ” บื้อร่วงลง สายตายังมองห่านอย่างเป็นห่วง ห่านยังโดนขี้เมาอีกคนล็อกอยู่ ห่านร้องไห้โฮ “ไม่ ไม่นะบื้อ บื้อ”
ขี้เมาสะใจ ทิ้งบื้อกองไว้ แล้วย่างเท้าเข้ามาหาห่านดูน่ากลัว
“ไม่ต้องห่วงน้องสาว ผัวเก่าตายแล้วพี่จะเป็นผัวใหม่ให้ ได้ใหม่ทีเดียวสามเลย สะใจแน่น้อง”
“ไม่ ไม่ ไม่”
ขณะที่ลุ้นสุดขีด มีรถสายตรวจตำรวจเข้ามาจอด เปิดไซเรนดังลั่น ขี้เมาชะงักทันที
“พ่อมึงมาแล้ว เผ่น”
สามคนแตกฮือ เผ่นแน่บ ตำรวจสามนายวิ่งตามผู้ร้ายไป2 วิ่งมาที่ห่าน1
“บื้ออออ” ห่านวิ่งกะเผลกๆ มาที่บื้อ ประคองบื้อจับพลิกขึ้น บื้อยังมีสติ มองหน้าห่านด้วยความเป็นห่วง แล้วคอพับไปในอ้อมแขนห่าน “บื้ออออ”
วันต่อมาที่ห้องอาหารพนักงานของห้าง BKK Plaza จู่ๆ มีถ้วยโจ๊กร้อนๆ หล่นโพล๊ะลงบนพื้น แหม่มหน่ายใจ มองจ้องโย่งที่เป็นคนชนเธออย่างเคือง
“ที่มีตั้งเยอะแยะ ไม่เดิน ทำไมต้องมาเดินชนฉันห๊า...ตาโย่ง”
“โธ่ แหม่มจ๋า โย่งไม่ได้ตั้งใจ” โย่งยื่นถ้วยโจ๊กตัวเองให้ “อ่ะ กินของโย่งแทนนะ มื้อนี้โย่งยอมอด”
แหม่มมองโจ๊กแล้วส่ายหน้า ถอนใจเฮือก
“กินไม่ลงอ่ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะจ๊ะแหม่มจ๋า”
“เป็นห่วงไอ้ห่านน่ะสิ ป่านนี้มันยังไม่กลับบ้านเลย” แอปเปิ้ลเดินมาชะงักฟัง “ไม่รู้จะเป็นอะไรรึเปล่า หายไปทั้งคืนกับอีตาบื้อแบบนั้น” แอปเปิ้ลช็อก
“หายไปด้วยกันทั้งคืน บื้อกับอีนังคอห่านหายไปด้วยกันทั้งคืน”
แอปเปิ้ลรีบบอกดาหลาเรื่องนี้ ดาหลาหันมาตาวาวกับข่าวใหม่
“นังคอห่านมันหายไปกับไอ้จิ๊กโก๋นั่นทั้งคืน” แอปเปิ้ลแค้นและเจ็บช้ำ
“ใช่ค่ะ มันหายไปด้วยกัน 2 คน ทั้งคืน”
“อีนังนี่มันแซบจริงไรจริง เห็นทำหน้าซื่อๆ เนิร์ดๆ ที่ไหนได้ ร้ายกาจสุดๆ”
“จริงค่ะคุณดาหลา คนเรานี่รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ” ดาหลารู้สึกร้อนตัว
“เธอว่าใครแอปเปิ้ล”
“ก็นังห่านซิคะ นังนี่มันอสรพิษจริงๆ มีอะไรอีกมั้ยในโลกนี้ที่มันไม่กล้าทำ” ดาหลาตาวาว
“ถ้ามันกล้า...ฉันก็กล้ายิ่งกว่า”
แอปเปิ้ลหันมองหน้าดาหลา
คุณชายช็อก ทรุดลงนั่งเก้าอี้เมื่อรู้เรื่องห่าน
“มั๊ยล่ะ ฉันพูดไว้ไม่มีผิดเลยใช่มั้ย นั่งเด็กคนนี้มัน 18 มงกุฎ มันร้าย มันไม่ธรรมดา แล้วมีใครเชื่อกันบ้างมั้ยห๊ะ ทั้งพ่อ ทั้งลูก” คุณหญิงรื่นฤดีบอก คุณชายกับชนะศึกอึ้ง
“อย่าซ้ำเติมคุณชายเลยค่ะคุณหญิง เราก็ต้องยอมรับนะคะ ว่านังเด็กนั่นมันเล่นละครได้เนียนจริงๆ ก็จะมีแต่คุณหญิงกับคุณหนูดาหลาที่สายตาเฉียบขาด มองทะลุ” ดารัณบอก
“แล้วอย่างนี้ชายยังจะหน้ามืดเอามันมาเป็นลูกสะใภ้บ้านเราอีกเหรอ แม่พูดเลยนะ ว่าแม่ไม่เอาเด็ดขาด”
คุณชายอึ้งไม่แอ๊ะซักคำ เพราะก็ยังทำใจกับสิ่งที่ได้ยินไม่ได้ “นอกจากนี้ แม่ยังจะต้องขอสั่งให้ชายกับคุณหนูดาหลาหมั้นกันให้เร็วที่สุด”
“คุณแม่” คุณชายอึ้ง ดาหลากับดารัณช็อกดีใจ
“เพราะหนูดาหลาคนเดียวเท่านั้นที่เหมาะสมกับตำแหน่งสะใภ้ BKK ของเรา”
คุณหญิงรื่นฤดีมีสีหน้าเอาจริง ดาหลากับดารัณกอดกันกลม คุณชายถึงกับหมดแรง
หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ห่านนั่งรออย่างใจจดจ่อ น้ำตารื้น
“บื้อ นายต้องไม่เป็นอะไรนะบื้อ” ห่านผุดลุกขึ้นไปเกาะประตู ทันใดนั้นคุณหมอเปิดประตูออกมา ห่านปรี่ไปถาม “คุณหมอคะ บื้อเป็นยังไงบ้างคะ”
“เราช่วยคนไข้ได้ระดับนึงเท่านั้นนะหนู” หมอบอก ห่านอึ้ง
“ทำไมล่ะคะ ทำไม ทำไมคุณหมอช่วยบื้อไม่ได้” ห่านปล่อยโฮออกมา
“เครื่องมือและอุปกรณ์ของเราไม่พร้อม เลือดสำรองก็ไม่พอ” ห่านทรุดลงอย่างหมดแรง คุณหมอเข้ามาจับไหล่ห่านปลอบใจ “เราจะรีบส่งตัวคนไข้เข้ากรุงเทพฯ”
ห่านยังอึ้งมึนอยู่ น้ำตาหยด
บื้อนอนไม่ได้สติอยู่ในรถพยาบาลมีหน้ากากออกซิเจน ห่านจับมือบื้อไว้อย่างเป็นห่วงที่สุด ห่านปาดน้ำตา
“บื้อ อย่าทิ้งฉันไปนะบื้อ เธอเคยบอกจะไม่ทิ้งฉัน เธอต้องอยู่กับฉันนะบื้อ”
ห่านร้องไห้โฮ
ที่บ่อน โชคหงุดหงิดเพราะเสียจนหมดตัว
“โธ่เว๊ย หมดตัวแล้วเว๊ย”
ทันใดนั้นเงินปึกนึงถูกโยนลงตรงหน้าโชค โชคชะงัก หันมองงงๆ ดารัณนั่งลงข้างๆ
“ฉันจะให้แกอีกเท่านึง ถ้าแกรับปากว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับลูกสาวชั้น”
โชคมองแล้วค่อยๆ ยิ้ม ตาร้าย
ดาหลาตกใจเมื่อรู้ว่าดารัณไปเจอกับโชคมา
“คุณแม่ทำอย่างนั้นทำไมคะ”
“อย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ ที่ฉันทำอย่างนี้ก็เพื่อแกไงล่ะ แกที่กำลังจะกลายเป็นคุณนายลูกสะใภ้มหาเศรษฐี BKK Plaza” ดาหลาถอนหายใจเฮือก “ถ้าขืนแกยังคบกันกับไอ้แมงกะจั๊วนั่น มีหวังได้พังกันหมด คุณหญิงรื่นฤดีคงได้ฉีกอกแล้วก็เฉดหัวแกกับแม่ออกจากบ้านแน่ เพราะฉะนั้น ฉันต้องจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”
“แล้วคุณแม่คิดว่าเอาเงินฟาดหัวโชคแล้วทุกอย่างมันจะจบเหรอคะ”
“แกพูดงี้ หมายความว่าไง”
ดาหลาอึ้งๆ ไปก่อนจะเปิดคลิปในโทรศัพท์มือถือให้แม่ดู ดารัณงงๆ แล้วมองมือถือ คลิปในมือถือดาหลา เป็นโชคยิ้มเต็มจออยู่
“สวัสดีครับคุณผู้ชม วันนี้ผมจะพาไปเกาะติดขอบเตียง คุณดาหลา นางสาวไทยสยามกันนะครับ”
โชคแพนมือถือไปถ่ายดาหลาที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ ดูรู้เลยว่าทั้งคู่นอนด้วยกันเพราะโชคถอดเสื้อ ดาหลา เกาะอก ดารัณแทบสิ้นสติ
“อดใจไว้ดูคลิปต่อไป เร็วๆ นี้ขอบอกว่ามีอีกเยอะ จุใจแน่นอนครับ บ๊ายบาย”
ดารัณช็อก ค่อยๆ หันมองดาหลา
“นี่ นี่มันอะไรกัน”
ดาหลาทำหน้าพูดไม่ออก บอกไม่ถูก ดารัณถึงกับเป็นลม ดาหลาร้องลั่น
“คุณแม่”
ดาหลารีบเข้าประคอง
โจ๊กออกจากบ้าน ปิดประตูบ้าน หันมาเจอหนูจ๋ายิ้มแฉ่ง
“คุณหนูจ๋า”
“อรุณสวัสดิ์โจ๊ก ไปเรียนไหวแล้วเหรอ”
“ไหวแล้วครับ สบายมาก ก็ได้อาหารคุณหนูจ๋าบำรุงทุกวัน” คุณหนูจ๋ายิ้มอายๆ
“ไป งั้นไปด้วยกัน”
“เหรอครับ จะดีเหรอครับ”
“ทำไมล่ะ”
“ก็ นั่งรถกันไป 2 คนเดี๋ยวป้าน้อยด่าเล่ะ”
“ใครบอก 2 คน” โจ๊กทำหน้างงๆ
โจ๊กกับหนูจ๋านั่งอยู่บนรถกะป๊อ ทั้งคู่มองกันไป-มา
“ไม่อยากเชื่อนะครับ คุณหนูจ๋านั่งรถกะป๊อ”
“เอ๊า ทำไมล่ะ ก็วันนี้รถหนูจ๋าเสียนี่ แล้วทำไมหนูจ๋าจะนั่งไม่ได้”
“ก็ คุณหนูจ๋าเป็นคุณหนู”
“คุณหนูก็นั่งได้ นี่ไง ไม่เห็นเหรอ”
คุณหนูจ๋ายื่นหน้าเข้าไปจ่อให้โจ๊กได้เห็นชัดๆ โจ๊กตะลึง สองคนจ้องตากัน แล้วมองซึ้ง ก่อนคุณหนูจ๋าจะค่อยๆอาย ถอยออกไปนั่งอมยิ้ม
สองคนนั่งอมยิ้ม ซักพักโจ๊กค่อยๆ เอื้ยมมือไปจับมือคุณหนูจ๋าที่วางอยู่บนเบาะ คุณหนูจ๋าสะดุ้งมองโจ๊ก โจ๊กหน้าเสียรีบดึงมือตัวเองออกอย่างกลัวหนูจ๋าจะโกรธ คุณหนูจ๋าอมยิ้ม ค่อยๆ เอื้อมมือไปกุมมือโจ๊กไว้ โจ๊กอึ้งช็อกดีใจสุดขีด ‘YES’ลั่น คุณหนูจ๋าขำโจ๊ก
หน้าห้องผ่าตัดที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ ห่านนั่งอยู่ที่เก้าอี้ คอพับเผลอหลับแล้วสะดุ้งตื่นขึ้น ทันใดนั้นประตูห้องผ่าตัดเปิดออก ร่างของบื้อถูกเข็นออกมา ห่านที่ยังไม่รู้ผลก็มองอึ้งช็อก น้ำตาไหล
“บื้อ” ห่านโผไปเกาะเตียงบื้อ แล้วหันมองหน้าคุณหมอ น้ำตาหยด เหมือนจะถาม “คุณหมอคะ”
หมอยิ้มอย่างใจดี
“คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ”
ห่านยิ้มดีใจสุดขีด ร้องไห้ดีใจ โผกอดบื้อแน่น
“บื้อ”
“ระวังแผลคนไข้ด้วยครับ” หมอรีบบอกห่าน ห่านหน้าเจื่อน
“ค่ะๆ ขอโทษค่ะ” ห่านมองบื้อที่หลับอยู่ “นายเก่งที่สุดเลย นายไม่ทิ้งฉันไปจริงๆ ด้วย นายบื้อของฉัน”
ห่านยิ้มดีใจทั้งน้ำตา
ห้องพักคนไข้รวม ห่านนั่งลูบผมบื้อที่นอนหลับอยู่
“มันเหลือเชื่อเนอะ นายกับฉัน เราผ่านอะไรไม่รู้มากันเยอะเหลือเกิน ฉันรู้นะว่าฉันมันแย่ งี่เง่า น่ารำคาญ หาเรื่องเดือดร้อนให้นายตลอด แต่ทำไมนายถึงไม่เคยโกรธฉันเลยล่ะบื้อ” บื้อยังนอนหลับ ห่านนึกกระดากๆ นิดนึง มองซ้าย-ขวา ก่อนจะกระซิบถาม “ถามจริงๆ เถอะ นายรักฉันบ้างรึเปล่า”
บื้อยังนอนหลับ ห่านถามเอง กระดากเอง
“เฮ้อ ฉันนี่ติงต๊องจริงๆ คิดไปได้ อยู่คนเดียวแป๊บนึงนะ ไปฉี่ก่อน”
พูดจบห่านก็ลุกเดินออกไป บื้อค่อยๆ ลืมตา แววตาวิบวับแทบไม่มีแรงจะยิ้มแต่ก็ยิ้มเต็มที่
บ้านคุณชาย คุณหญิงรื่นฤดีเปิดกล่องแหวนเห็นเป็นแหวนเพชรเม็ดใหญ่ประกายน้ำงามวิบวับ
“นี่เป็นแหวนหมั้นที่ดิฉันตั้งใจหามาให้หนูดาหลาโดยเฉพาะ” ดาหลา ดารัณ ตาโตยังกะไข่ห่านก่อนจะกอดกันแน่น “ชอบมั๊ยจ๊ะ”
ดาหลายังตื่นเต้นอยู่
“ชะ...ชอบ...ชอบค่ะ ชอบที่สุด” ดารัณส่งซิกให้ดาหลาขอบคุณคุณหญิงรื่นฤดี ดาหลาทรุดลงกราบที่ตัก “ดาหลากราบขอบพระคุณคุณหญิงแม่ค่ะ” คุณหญิงรื่นฤดีกอดดาหลา
“ถ้าอยากจะขอบคุณแม่ ก็ขอให้ช่วยดูแลตาชายของแม่ให้ดีที่สุด ก็พอ”
คุณชายนั่งหน้าอมทุกข์อยู่
“ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ ดาหลาจะดูแลคุณคุณชายไม่ให้คลาดสายตาเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะคุณหญิงแม่”
สามสาวหัวเราะถูกใจ คุณชายกลุ้มใจสุดๆ มองหน้าพ่อที่ก็กลุ้มพอกัน ชนะศึกตัดสินใจถาม
“นี่คุณ”
“มีอะไรคะ”
“เอ่อ ถามลูกมันมั่งรึยัง”
“เออ จริงสิ แม่ลืมถามชายไปเลย” สายตาคุณชายมีความหวัง คุณหญิงรื่นฤดียื่นแหวนให้ดู “ชายว่าแหวนเพชรเม็ดนี้ใหญ่พอมั๊ยลูก”
คุณชายชายกับชนะศึกถึงกับอึ้ง
“ม่ายช่าย คือ ผมหมายความว่า...”
“คุณแม่ครับ ผมยังไม่พร้อม” คุณชายชิงพูดขึ้นมา ทั้งสามสาวถึงกับอึ้ง
“หมายความว่ายังไง ยังไม่พร้อม”
“คือ ผมยังไม่พร้อมที่จะใช้ชีวิตร่วมกับคุณดาหลา” ดาหลาแกล้งเสียใจ
“คุณชาย พูดอย่างนี้ดาหลาเสียใจ”
“แล้วเมื่อไหร่จะพร้อม” คุณหญิงรื่นฤดีถามต่อ
“ผมยังไม่สามารถตัดคุณห่านออกไปจากใจผมได้หมด คุณแม่ครับ ลึกๆ ผมยังเชื่อว่าคุณห่านเป็นคนดี”
“เป็นคนดี ถึงขนาดนี้แล้ว แกยังกล้าพูดว่านังเด็กนั่นเป็นคนดี มีอะไรจะพิสูจน์ให้แม่เห็นว่ามันเป็นคนดีอย่างที่แกพูด” ดาหลาตาโต ได้ที
“เอางี้สิคะ ดาหลามีวิธีง่ายๆ คุณหญิงแม่กับคุณคุณชายจำสร้อยข้อมือเพชรที่คุณหญิงแม่เคยซื้อให้นังห่านนั่นได้มั๊ยคะ”
“จำได้สิ ทำไมเหรอจ๊ะ”
“ให้มันเอามาให้ดูสิคะว่ายังอยู่รึเปล่า ถ้ายังอยู่ก็แปลว่ามันรักคุณคุณชายมากกว่าแก้วแหวนเงินทอง แต่ถ้าสร้อยเพชรนั่นไม่อยู่ก็แสดงว่า...”
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว เอาล่ะผมจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าคุณห่านไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด”
คุณชายบอกอย่างมั่นใจ
ที่โรงพยาบาล พยาบาลเดินเข้ามาพูดเสียงดังแจ้งให้ทราบ
“หมดเวลาเยี่ยมแล้วนะค้า ญาติๆ”
ห่านมองบื้ออย่างห่วงๆ บื้อยังหลับอยู่ ห่านลูบผมบื้อ
“ฉันไปนอนรอหน้าห้องนะนายบื้อ พรุ่งนี้นายต้องรีบฟื้นนะ จะได้คุยกัน ฉันคุยคนเดียว ไม่มีนายตอบ ไม่สนุกเลย ไปนะ” ห่านหันหลังจะออกไป บื้อลืมตาคว้ามือไหว้ ห่านตกใจหันมาเห็นบื้อมองอยู่ ห่านดีใจสุดขีด “นายบื้อ โทษๆๆ ฉันดีใจ นายฟื้นแล้ว”
ห่านโผกอด เอาแก้มแนบแก้มบื้อ สองคนยิ้มแฉ่ง
เมื่อบื้อออกจากโรงพยาบาล ห่าน โย่ง แหม่ม ลุงจ๊อด โจ๊กช่วยพยุงบื้อเข้ามานั่งพักในบ้าน
“โบราณท่านว่าคนดีผีคุ้ม ไอ้บื้อของเรามันเป็นคนดีจึงตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ โดนมีดทิ่มมิดด้ามมันก็ยังไม่ตาย เห็นมั้ย” ลุงจ๊อดบอก บื้อส่ายหน้าน้อยๆ
“ก็นึกว่าไม่รอดแล้วเหมือนกันลุง”
“ปาก พูดจา” ห่านแว้ดขึ้นมา
“อ้าว ก็จริงอ่ะ แต่ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ยอมตายหรอก” บื้อมองหน้าห่าน ห่านอึ้ง ทุกคนอึ้ง มองหน้ากัน บื้อรีบบอก “ตายแล้วใครจะช่วยไอ้โย่งหารค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟล่ะ”
“แหนะ ไม่ต้องเลยไอ้บื้อ เหตุผลที่ไม่ยอมตายน่ะ เพราะใคร สารภาพมาซะดีๆ”
ทุกคนโห่ฮิ้ว บื้อกับห่านแอบเลิ่กลั่ก ทันใดนั้น
“สวัสดีครับ” ทุกคนหันขวับจึงเห็นคุณชายยืนอยู่ มีดาหลาเกาะแขน “ผมมาหาคุณห่านครับ”
บื้ออึ้ง ห่านมองหน้าบื้อ บื้อเบือนหน้าไป
ห่านหันขวับมามามองหน้าดาหลา
“สร้อยเพชรของคุณหญิงแม่”
“ใช่ ฉันอยากรู้ว่ามันยังอยู่ดีรึเปล่า” ดาหลาบอก ห่านมองหน้าคุณชาย คุณชายหลบตา
“แล้วมันเรื่องอะไรของคุณ คุณถึงต้องมาอยากรู้ มีสิทธิ์อะไร” ดาหลาตาโต โกรธ
“ก็สิทธิ์ของสะใภ้ BKK Plaza น่ะสิยะ คุณหญิงแม่ให้ฉันพาคุณชายมาดูให้เห็นกะตาว่าสร้อยข้อมือเพชรที่เคยซื้อให้เธอน่ะ ยังอยู่ดีรึเปล่า”
ห่านมองคุณชายอย่างน้อยใจ
“ทุกคนจะได้เชื่อว่าคุณเป็นคนดี อย่างที่ผมเชื่อ” คุณชายบอก
“ใครไม่เชื่อก็ช่างสิมัน ฉันไม่สน”
“นั่นไง เห็นมั้ยคะ มันมีพิรุธ มันไม่ยอมให้ดู มันบ่ายเบี่ยง มันต้องแอบเอาไปขายแล้วแน่ๆ” ดาหลาใส่เป็นชุด
“หุบปากซะทีได้มั้ย ตอนเด็กๆ แม่ไม่เคยให้พูดรึไง ถึงพูดไม่หยุด”
“อร้าย อีบ้า”
ห่านมองคุณชาย
“ได้ ถ้าอยากดูนักก็ได้ ฉันจะไปเอามาให้ดู” ดาหลาลอบยิ้มเยาะ “แล้วก็ไม่ได้เอามาให้ดูอย่างเดียว” ห่านก้าวมาประจันหน้าคุณชาย “ช่วยเอาคืนไปซะที มันเกะกะบ้านฉันมานานแล้ว”
ห่านเดินออกไปทันทีหลังจากพูดจบ คุณชายอึ้ง ดาหลาสะใจ
ห่านวิ่งเข้ามาในห้องอย่างโกรธ หยุดยืนแล้วพุ่งไปที่ๆ เคยวางกล่องเครื่องเพชรไว้แล้วตกใจเมื่อไม่เห็นมันอยู่ในที่ๆ เคยวางไว้
“เฮ่ย”
ห่านเริ่มค้นๆๆ อย่างลนลาน ทุกซอกทุกมุม กระจุยกระจาย ซักพักแหม่มวิ่งตามมาดูอย่างเป็นห่วง
“ห่าน แกเป็นไงมั่ง?คุณคุณชายเค้า”
ห่านพรวดมาจับไหล่แหม่มสองข้าง
“แหม่ม แกเห็นสร้อยข้อมือมั้ย”
“สร้อยอะไร”
“ก็สร้อยข้อมือเพชรที่ยัยคุณหญิงแม่ซื้อให้ฉันไง แกเห็นมั้ย”
“ก็เคยเห็นแกวางไว้...”
“ไม่อยู่แล้ว” ห่านสวนเสียงสั่น “มันไปไหน มันหายไปไหนอ่ะแหม่ม”
แหม่มอึ้ง ห่านอึ้ง ตกใจจะร้องไห้
ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 14 (ต่อ)
ดาหลาเดินกอดอกหน้าเชิด
“ว่าไง ไหนล่ะ สร้อยข้อมือเพชรที่คุณหญิงแม่ซื้อให้เธอ” ห่านยืนหน้ากังวัลอยู่ คุณชายมอง รอคำตอบ “ว่าไง ทำไมไม่ตอบ” ดาหลาแว๊ดใส่ แหม่มจึงแว๊ดกลับ
“นี่ พูดดีๆ ก็ได้คุณดาหลา”
“หนอย บังอาจมาขึ้นเสียงใส่ชั้น ลืมแล้วเหรอว่าเธอเป็นพนักงานขายรองเท้าที่ BKK Plaza ของคุณคุณชายคู่หมั้นของฉัน เดี๋ยวฉันสั่งย้ายไปขัดส้วมซะหรอก” แหม่มอึ้ง ห่านมองคุณชายแอบเสียใจ ดาหลาหันมาพูดกับห่าน “ว่าไง คุณห่าน” ดาหลาแบมือ “ขอดูสร้อยเพชรของคุณหญิงแม่ให้แน่ใจหน่อยว่ามันยังอยู่ดี ไม่ได้หายสาบสูญไปไหน”
ห่านอึ้ง คุณชายชักไม่แน่ใจ แหม่มเกาะแขนห่านเขย่า
“ทำไงดีล่ะ”
“ว่าไง” ห่านสะดุ้ง
“ตกลงว่ายังไงครับคุณห่านสร้อยเพชรเส้นนั้นอยู่ที่ไหน” คุณชายถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ ห่านอึ้งที่คุณชายก็เอากะเค้าด้วยเลย ตัดสินใจ
“สร้อยเพชรของคุณหญิงรื่นฤดี มันหายไปค่ะ”
คุณชายอึ้ง แหม่มสงสารเพื่อน ดาหลาหัวเราะลั่น
“หายไป หายไปไหน จู่ๆ สร้อยเพชรมันจะหายไปเองได้ยังไง มันมีขาเดินได้เหรอยะ...โกหก” ดาหลาจ้องหน้าห่าน “แกเอาไปขาย เอาเงินไปเลี้ยงผู้ชาย”
“คุณดาหลา”
“ผู้ชายที่ชื่อไอ้บื้อ เท่านั้นยังไม่พอ แกยังหายหัวไปกกกันข้ามวันข้ามคืนสองต่อสอง ทุเรศที่สุด”
“หยุดได้แล้ว”
“ขอตบอีนี่ซักทีเถอะวะ ตายเป็นตาย”
แหม่มปรี่ไปตบดาหลาเพี๊ยะ
“อร้าย แก ฉันจะไล่แกออก”
“เหรอ ไหนๆ จะโดนไล่ออกแล้วก็ขอเอาให้คุ้มเลยละกัน”
แหม่มโดดจิกหัวกดดาหลาล้มลงนอนแล้วขึ้นคร่อมตบๆๆ ดาหลาร้องลั่น
“พอ หยุด บอกให้หยุด” คุณชายตวาด ห่านเข้าไปดึงแหม่มออก
“แหม่ม แกอย่าทำอย่างนี้” ดาหลาลุกขึ้นเกาะซบคุณชาย
“ไล่มันออกเลยนะคะ คุณคุณชายต้องไล่มันออกแล้วเอาตำรวจมาจับมันด้วย จับมันทั้งคู่ นังห่านขี้ขโมยกับอีนังเพื่อนอันธพาล”
“แล้วแกล่ะอีนังแบหลา เค้ามีข้อหาสตอเบอรี่ในบ้านผู้อื่นมั้ย ฉันจะได้เรียกตำรวจมาจับแกด้วย” แหม่มสวนกลับ
“อร้ายยย”
“บอกให้พอ” คุณชายบอกอย่างไม่พอใจ ดาหลาเงียบ คุณชายเดินมาจ้องหน้าห่าน “ฉันมองเธอผิดไปจริงๆ”
พูดจบคุณชายก็เดินออกไปทันที ดาหลาระเบิดหัวเราะ แหม่มทำท่าจะลุย ดาหลารีบวิ่งหนีตามคุณชายไป
ห่านกลืนน้ำตาด้วยความเจ็บใจ แหม่มกอดปลอบใจ
“ช่างหัวมัน อย่าไปสนมัน เข้าบ้านเถอะ”
แหม่มพาห่านหันหลังกลับจะเข้าบ้านก็ชะงักเมื่อเห็นบื้อยืนมองอยู่กับโย่งที่ประคองอยู่ บื้อกับห่านมองกันสายตาเห็นใจสุดๆ
ห่านกำลังเช็ดตัวให้บื้อ
“ฉันไม่ได้เอาสร้อยเพชรไปขายจริงๆ นะ”
“ฉันรู้ ฉันเชื่อเธอ”
ห่านชะงักมองหน้าบื้อ
“ทำไมเธอถึงเชื่อฉัน คนอื่นเค้ายังไม่ยอมเชื่อฉันเลย”
“ก็ช่างคนอื่นมันสิ ฉันเชื่อว่าฉันมองเธอไม่ผิด”
ห่านชะงักอึ้ง น้ำตารื้นด้วยความซึ้งใจ
“บื้อ”
“เอ้าๆๆ ร้องไห้อีกแล้ว” บื้อพูดเหมือนระอา แต่จริงๆ เป็นห่วง “ไม่เอาๆ อย่าร้อง ฉันไม่ชอบเห็นน้ำตาผู้หญิง”
“ฉันดีใจนี่เธอเชื่อฉัน ไม่เหมือนคุณคุณชาย...”
“อย่าเทียบได้มั้ยขอร้อง” บื้อสวน ห่านเห็นบื้อหน้านิ่งๆ ก็จ๋อย
“โทษ”
ห่านเช็ดตัวให้บื้อต่อ บื้อแอบงอน
คุณหญิงรื่นฤดีตกใจมากเมื่อรู้เรื่องจากดาหลา
“คุณพระช่วย ตกลงว่ามันเป็นอย่างที่เราสงสัยจริงๆ เหรอเนี่ย เห็นมั้ยตาชาย แม่พูดอะไร ไม่มีผิด”
คุณชายนิ่ง ชนะศึกก็พลอยอึ้งไปด้วย
“ดาหลาอยากให้คุณหญิงแม่เห็นหน้าตอนที่มันพูดไม่ออกค่ะ หน้ามันงี้ซีดเป็นไก่ต้มเลยค่ะ”
“จริงเหรอจ๊ะ หนูดาหลา”
“จริงค่ะ ตัวงี้สั่นเป็นเจ้าเข้าเลย”
“ต๊าย ดิฉันน่าจะไปด้วยจะได้ขอหวยซัก 2-3 ตัว”
สามสาวหัวเราะกันใหญ่
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ยัง ยังไปไม่ได้” คุณชายชะงัก “ต่อไปนี้ชายจะต้องไม่ติดต่อยุ่งเกี่ยวกับนังเด็ก 18 มงกุฎนั่นอีกเป็นอันขาด และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงานหมั้นระหว่างชายกับหนูดาหลา”
คุณชายอ่อนใจ พูดไม่ออก
วันต่อมาที่มุมหนึ่งใน BKK Plaza แอปเปิ้ลหัวเราะสะใจเมื่อรู้เรื่องจากดาหลา
“ในที่สุด เราก็กระชากหน้ากากนังห่านมันได้อีกครั้ง แหม...แอปเปิ้ลล่ะสะใจจริงๆ คุณดาหลาของแอปเปิ้ลเก่งที่สุดเลยค่ะ” แอปเปิ้ลเห็นมุมปากดาหลามีรอยช้ำๆ ก็ชะงัก “เอ๊ะ นั่นปากคุณดาหลาเป็นอะไรคะ เหมือนโดนใครตบมา”
ดาหลาสะดุ้ง รีบเอามือแตะมุมปาก ก่อนจะบอกแบบเสียฟอร์มเล็กน้อย
“จะใครล่ะ ก็อีนังแหม่มหัวหยิกเพื่อนอีนังห่านนั่นน่ะสิ”
แอปเปิ้ลตาโต เสียงดังเว่อร์
“อะไรนะคะ นังแหม่ม นังแหม่มมันกล้าตบคุณดาหลา”
“นี่ เบาๆ ใครได้ยินเข้าล่ะ ฉันอาย”
“อาย ไม่ต้องอายเลยค่ะ เป็นแค่พนักงานขายรองเท้าแต่บังอาจตบว่าที่สะใภ้ BKK Plaza อย่างนี้มันต้อง ‘ล้างอาย’ ค่ะ คุณดาหลา”
ดาหลาเลิกคิ้วแล้วยิ้มมุมปากอย่างสนใจ
แหม่มอุ้มกล่องสูงบังหน้าเดินมาตามทาง ทันใดนั้นกล่องในมือโดนปัดกระจาย
“เฮ๊ย ใครวะ”
แอปเปิ้ลยืนอยู่ตรงหน้า
“ฉันเองแอปเปิ้ล” แอปเปิ้ลท้าวเอว “ได้ข่าวว่าเดี๋ยวนี้ซ่าเว่อร์นักใช่มั้ย? นังแหม่มหัวหยอยยังกะฝอยขัดหม้อ”
“แล้วไง แล้วมันหนักหัวกลวงๆ โบ๋ๆ ของแกตรงไหนนังแอ๊บแบ๊ว”
“เชอะ ดวงจะตกแล้วยังไม่รู้ตัว ไม่รู้เงาหัว”
“แกพูดอะไรของแก”
“ถ้ายังโง่ไม่เข้าใจ เดี๋ยวคุณดาหลาจะช่วยเคลียร์ให้เอง” แหม่มอึ้ง ดาหลาก้าวเข้ามา
“เมื่อเช้าก้าวเท้าไหนออกจากบ้านห๊า นังแหม่ม” แหม่มมอง รู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น “รู้ไว้ด้วย วันนี้เป็นวันซวยของแกแล้ว”
แหม่มขยับตัว แต่ไม่ทันแอปเปิ้ลที่โดดเข้าล็อก
“ตบมันเลยค่ะคุณดาหลา ตบมันเลย”
ดาหลาพุ่งเข้ามาตบเพี๊ยะๆๆ
“ไง ยังจะซ่าส์ออกอีกมั้ย”
“ตัวตัวสิวะ แน่จริงอย่าหมาหมู่”
“ใครจะโง่ละนังแหม่ม อ้อ! เค้าไม่ได้เรียกว่าหมาหมู่ แต่เค้าเรียก ‘สามัคคีชุมนุม’ ย่ะ”
พอพูดจบ ดาหลาเงื้อสุดแขน แหม่มก้มหลบ ดาหลาตบเพี๊ยะเข้าหน้าแอปเปิ้ลเต็มๆ แอปเปิ้ลหมุนติ้ว
“คุณดาหลา”
แหม่มวิ่งพุ่งชนกลางลำตัวดาหลายังกะนักมวยปล้ำ ดาหลาร้องเรียกให้แอปเปิ้ลช่วย
“มัวยืนเซ่ออยู่ทำไม มาช่วยจับนังนี่เร็ว”
แอปเปิ้ลวิ่งมากระชากแหม่มไปล็อกไว้อย่างเก่า
“ฤทธิ์เยอะนักเหรอแก”
ดาหลาตบเพี๊ยะๆ
“พอก่อนค่ะ คุณดาหลาเดี๋ยวจะเจ็บมือ ณ จุดนี้ เราขอเสนอ” แอปเปิ้ลควักมือถือยื่นให้ “นี่ค่ะ”
ดาหลามอง ยิ้ม รับมา
“ขอบใจ”
ดาหลาเงื้อสุดแขน แหม่มตาโต ดาหลาตบเปรี้ยงด้วยโทรศัพท์ แหม่มมึนจนร่วงทันใดนั้นโย่งวิ่งเข้ามาเป่านกหวีดปรี๊ดๆๆ โย่งเห็นดาหลาก็ตกใจ ตะเบ๊ะ
“คุณดาหลา เกิดอะไรขึ้นครับ”
“แหกตาดูเอาเองสิอีตาโย่ง ฮิฮิฮิฮ่าๆ” แอปเปิ้ลหัวเราะสะใจ โย่งเห็นแหม่มกองอยู่กับพื้นก็ตกใจสุดขีด
“แหม่ม”
อีกด้านหนึ่งที่บ้านเช่าห่าน บื้อนั่งพยายามแปะผ้าก็อซกับพลาสเตอร์ที่แผล จู่มียื่นดอกไม้ให้ดอกนึงบื้อเงยหน้ามองจึงเห็นเป็นนีรนุช
“คุณน้องนุช” บื้อยิ้มออกมา
“หายเร็วๆ นะ มา ฉันช่วย” บื้อรับดอกไม้
“โอย ขอบคุณครับ ผมทำเองดีกว่า”
“อยู่เฉยๆ เถอะน่ะ เดี๋ยวฉันโกรธนะ แค่ไม่ติดต่อ ไม่บอกให้รู้กันมั่ง ฉันก็โกรธแล้วนะ” นีรนุชทำไปพูดไป
“โห มันเรื่องเล็กน้อยครับ”
“เล็กน้อยอะไร พุงเป็นรูโบ๋ซะขนาดนี้”
บื้อขำๆ นีรนุชทำแผลให้ ห่านถือถาดกับข้าวเข้ามาเห็นก็ชะงักกึก บื้อมองเห็นห่าน ห่านจะหันหลังกลับเพราะงอน นีรนุชหันมาเห็นห่าน
“คุณห่าน” ห่านจำใจหันมา “ขอโทษนะคะ ฉันตั้งใจจะมาเยี่ยมบื้อไปหาที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่เลย ฉันก็เลยแวะมาดูที่นี่” ห่านฝืนยิ้ม
“เชิญค่ะ ตามสบาย”
“เออ เที่ยงพอดี ทานข้าวด้วยกันเลยดีมั้ยครับคุณน้องนุช ถ้าไม่รังเกียจ”
บื้อเอ่ยชวน ห่านอึ้ง นีรนุชยิ้ม
ห่านหน้าหงิกมองซ้าย-ขวา ขวา-ซ้าย เพราะบื้อกับนีรนุชนั่งข้างกัน ตรงข้ามห่าน ทั้งคู่กินข้าวอย่างอร่อย ตักนู้นนี่ให้กันเพลิน
“ลองชิมครับ ฝีมือห่าน สุดยอด”
“อืมม์ อร่อยจริงๆ ด้วยค่ะ ว่างๆ สอนฉันทำกับข้าวบ้างได้มั้ยคะคุณห่าน”
“ไม่ว่างค่ะ อ๋อ...ก็ช่วงนี้มีผู้ป่วยเป็นภาระก็เลยจะไม่ค่อยว่างน่ะค่ะ”
“งั้นเอางี้สิ ให้คุณน้องนุชมาช่วยดูแลผมจะได้แบ่งเบาภาระห่าน ห่านจะได้มีเวลาสอนคุณน้องนุชทำกับข้าว” บื้อบอก ห่านอึ้ง บื้อหันมาถามห่าน “แจ๋วมั้ย ไอเดีย”
ห่านลุกขึ้นทันที
“ก็ตามใจ ถ้านายอยากได้อย่างนั้นก็ตามใจ”
พูดจบห่านเก็บจานข้าวของตัวเองเดินออกไปอย่างงอนๆ บื้อมองตาม อมยิ้ม
“บื้อ ทำไมพูดแบบนั้นกับคุณห่าน จะบ้าเหรอ” นีรนุชต่อว่า บื้อยิ้มชอบใจ
“ลองดูครับ หนุกๆ”
“เออ...นี่ ที่มาเนี่ย นอกจากจะเอามาเยี่ยมแล้วก็จะมาบอกว่า ค่ายเทปเค้าซีเรียสแล้วนะ โทร.ตามเธอตลอด จะให้ไปถ่ายภาพนิ่งโปรโมทน่ะ” บื้อตกใจ
“จริงด้วย งั้นเดี๋ยวรีบหายเลยครับ” นีรนุชส่ายหน้า ยิ้มๆ
“บื้อนี่ ตลกได้ตลอดจริงๆ”
ทั้งคู่หัวเราะกีนคิกคัก
ห่านถือจานข้าวเข้ามาในครัว ห่านวางจานข้าวอย่างกระแทกแล้วนั่งลง ได้ยินเสียงเค้าหัวเราะคิกคักแว่วๆ มา ก็หันขวับไปทางที่ได้ยินเสียง
“แฮปปี้ มีความสุขกันเหลือเกิน”
ห่านน้อยใจสุดๆ
ห้องทำงานคุณชาย คุณชายหน้าเสีย
“อะไรนะ คุณโย่งกับคุณแหม่มจะลาออก”
“ดีค่ะ ให้มันออกๆ ไปซะให้หมด พนักงานแบบนี้เก็บไว้ BKK ก็มีแต่จะตกต่ำ” ดาหลาบอก
“จริงค่ะ คุณดาหลา” แอปเปิ้ลช่วยสนับสนุน คุณชายหันขวับ
“ผมยังไม่ได้ขอความเห็น” ดาหลาอึ้ง แอปเปิ้ลจ๋อย “เกิดอะไรขึ้นครับคุณโย่ง คุณแหม่ม”
“จะเกิดอะไรขึ้นก็ช่างมันเถอะครับ แต่ผมขอยืนยันว่าผมกับแหม่มจะลาออก และเมื่อผมลาออกจากที่นี่แล้วก็ขอเตือนว่า...” โย่งหันมาพูดกับดาหลา “อย่างมายุ่ง วุ่นวายกับพวกเราอีกเด็ดขาด”
โย่งถอดป้ายพนักงานของตัวเองออก แล้วก็ถอดของแหม่มที่นั่งหน้าช้ำอยู่ตรงนั้นออกโยนลงบนโต๊ะตรงหน้าคุณชายแล้วประคองแหม่มจะเดินออก
“เดี๋ยวครับ”
โย่งหันมาชี้หน้าคุณชาย
“ที่ผ่านมายกให้ ไม่เอาเรื่องทดแทนบุญคุณที่เคยจ่ายเงินเดือนให้พวกเรา แต่จากนี้ผมจะไม่เกรงใจใครอีกต่อไป...กลับบ้านเรานะแหม่มจ๋า”
โย่งพูดจบก็ประคองแหม่มเดินออกอย่างเท่ห์ ดาหลา แอปเปิ้ลสะใจ คุณชายมึน
โย่งประคองแหม่มเดินมา แหม่มหยุด
“ไม่ต้องประคองแล้ว ฉันเดินเองได้ ขาไม่ได้หัก”
“แต่โย่งเป็นห่วง”
แหม่มมองหน้าโย่งตาดุๆ
“โย่ง” โย่งสะดุ้ง
“ครับพ้ม จะด่าอะไรโย่งอีกแหม่มจ๋า”
“จะบอกว่าเมื่อกี้...” แหม่มยิ้ม “นายแมนมาก”
โย่งตกใจ ยิ้มแฉ่ง อายม้วน แล้วสองคนก็เดินคู่กันต่อไป
ดาหลาเดินลั้นลาสบายอารมณ์มาถึงรถ กดรีโมทเปิดประตูเข้าไปนั่งที่คนขับ ทันใดนั้นมีคนเปิดประตูหลังพรวดเข้าไปนั่งด้านหลังแล้วล็อกคอดาหลาทันที
“ช่วยด้วย”
โชคนั่นเอง โชคเอามือปิดปากดาหลา
“เงียบ” ดาหลาเหลือบตามองเห็นเป็นโชคก็ตกใจ “ไม่เจอกันหลายวัน คิดถึงจังเลย ออกรถ”
ดาหลากลัวมาก รีบทำตาม
เจ๊มะพร้าวพรวดเข้าในบ้านห่านอย่างตกใจ
“อะไรว้า เจ๊กลับบ้านนครสวรรค์แค่ 2 วัน มันเล่นไอ้แหม่มเละอย่างนี้เลยเหรอวะ” ทุกคนนั่งกันอยู่ “แล้วยังไงใจคอจะทิ้งเจ๊ไว้ที่ อเวจี พลาซ่า ไว้คนเดียวงี้”
“นั่นซิแหม่ม,โย่ง วู่วามไปรึเปล่า จนถึงวันนี้ฉันยังหางานใหม่ไม่ได้เลยนะ” ห่านบอก
“ฉันช่วยแกซักผ้าก็ได้ สบายใจกว่าเยอะ”
“ใช่ คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก ครับพ้ม” โย่งบอกเสียงดัง เจ๊มะพร้าวสะดุ้ง
“ไอ้นี่ ไม่ได้เป็นรปภ.แล้ว เลิกครับพ้มได้แล้วมั้ง เจ๊ตกใจ”
“แล้วแกหล่ะโย่ง จะทำไงต่อ” บื้อถามขึ้นมา
“ทำอะไรก็ได้ ยกของ ส่งของ ตัดหญ้า อาบน้ำหมา ให้ทำอะไรก็ได้หมดแหละ ขอแค่ไม่มีใครรังแกแหม่ม โย่งก็สุขใจแล้ว”
“โห...พ่อเสาไฟฟ้าของเจ๊”
แหม่มมองโย่งยิ้มแก้มปริ บื้อมองโย่งกับแหม่มยิ้มๆ ห่านแอบมองบื้อ บื้อหันมามองห่านพอดี ห่านเบือนหน้าไปเพราะยังงอนอยู่
โชคพาดาหลามาที่ห้อง หลังจากมีความสุขกันแล้วโชคก็คุ้ยๆๆ กระเป๋าดาหลาอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะเททุกอย่างในกระเป๋าร่วงลงมา เจอแบงค์ 20 อยู่ 3-4 ใบโชคหยิบมา อึ้ง โวยใส่ดาหลาที่นอนเซ็งๆ อยู่ข้างๆ
“อะไรวะ เป็นถึงนางสาวไทยสยาม แถมยังมีไฮโซหน้าโง่นั่นไว้ให้ไถเงิน” โชคชูเงิน “แล้วมีแค่เนี้ย ไม่ถึง 100หึ้ย”
โชคขว้างเงินใส่หน้าดาหลา
“ก็จะให้มีแค่ไหนล่ะ เดี๋ยวแม่ก็ไถ เดี๋ยวแกก็ไถ แล้วฉันจะไปเหลืออะไร เงินจะซื้อยาคุมยังไม่พอเลย”
“อ้าว เฮ้ย อย่านะเว๊ยป่องขึ้นมาฉันไม่รับนะเว๊ย บอกก่อน”
“ไอ้เลว เหลือแค่เนี๊ย” ดาหลาขว้างเงินใส่หน้าโชค “จะเอาหรือไม่เอา” โชคส่ายหน้าดูถูก
“กระจอกชิบเป๋ง” โชคเข้ามาบีบแก้มดาหลา “นี่ ฉันบอกเธอไว้ก่อนเลยนะ ถ้าขืนยังไม่โกยเงินจากไอ้หน้าโง่นั่นมาให้ฉันใช้หนี้บ่อนล่ะก้อ...คลิปฉาวกระฉ่อนเมืองแน่”
“ไอ้โชค” โชคยิ้มอย่างเป็นต่อ
“มีหลายเวอร์ชั่นซะด้วย ฮ่าๆๆ”
โชคจะลุกไปแล้วชะงัก หยิบเงินเก็บไปด้วย ดาหลาโกรธจนน้ำตาคลอ
วันต่อมาที่สตูดิโอภาพนิ่ง บื้อแต่งตัวหล่อพลิกโฉมถ่ายภาพนิ่งโดยมีสไตลิสท์คอยบงการ
“โอเค จบงานวันนี้ เดี๋ยวพี่จะส่งให้บอร์ดเลือกว่าจะเอาลุคส์ไหนนะจ๊ะ ไว้เจอกันจ๊ะ” สไตลิสท์บอกกับบื้อ บื้อยกมือไหว้ นีรนุชที่นั่งดูอยู่ตลอดก็เดินมาหา
“เป็นไงเหนื่อยมั้ย”
“เมื่อยหน้ามากกว่าครับ ต้องเก็กน่าดู”
“แต่ก็โอนะ หล่อเชียว”
“ไม่ขนาดน้าน” บื้อเขิน
“อย่าลืมนะ ดังแล้วอย่าให้เข้าถึงยากล่ะ”
“โห คุณน้องนุช เกินปาย”
“เออ ว่าแต่ทำไมบื้อไม่ยอมให้บอกคุณห่านหรือเพื่อนๆ เรื่องที่เธอกำลังจะได้เป็นศิลปินล่ะ”
“นั่น ศิลปิน เรียกซะ”
“อ้าว ไม่รู้นี่ ก็เห็นเค้าเรียกกันแบบนี้” บื้อถอนใจเฮือก
“เอาจริงๆ นะ” บื้อเอียงหน้ามากระซิบ “ผมอายอ่ะ”
“บ้า อายทำไม มีแต่คนเค้าอยากเป็นกันทั้งนั้น”
“อืมม์ ไม่รู้สิ เอาไว้เสร็จเรียบร้อยเมื่อไหร่ค่อยบอกดีกว่า เขิน”
บื้อยิ้ม นีรนุชส่ายหน้าขำๆ
ส่วนที่บ้านเช่าห่าน ห่านกับแหม่มนั่งซักผ้ากันอยู่ ห่านซักไปชะเง้อมองบ้านบื้อไป
“รู้งี้ลาออกตั้งนานแล้ว ซักผ้าอยู่กะบ้านสบายใจกว่าขายรองเท้าที่อเวจี พลาซ่าตั้งเยอะ แกนี่ก็ไม่รู้จักชวนกันเลยนะห่าน” แหม่มบอก
“บ้า รับจ้างซักผ้า ได้ตังค์ไม่ถึงครึ่งของเงินเดือนที่ห้างเลยนะไอ้แหม่ม ใครจะบ้าไปชวน”
“เงินเดือนน้อยแต่พออยู่ได้ ที่สำคัญไม่ต้องเจอหน้านังแบหลากับแก๊งค์นังแอ๊บแบ๊ว ฉันก็ว่าซักผ้าเริ่ดกว่าว่ะ
ไอ้ห่าน แกมองหาอะไรของแก”
“อ๋อ ปะ...เปล่า”
“อีตาบื้อไม่อยู่ ออกไปไหนใม่รู้ตั้งแต่เช้ามืด”
“ห๊า ไปกับใครอ่ะ” แหม่มอึกอักไม่กล้าตอบ ห่านหน้าจ๋อย
“รู้และ คุณน้องนุช”
“เออ ห่าน แล้วคุณคุณชายเค้าหายไปเลยเหรอวะ” ห่านเปลี่ยนเรื่อง ห่านถอนใจเฮือกแล้วก็ซักผ้าอย่างซังกะตาย “ห่าน เมื่อไหร่แกจะลงล็อกซักทีวะ” แหม่มถามอย่างเป็นห่วง ห่านมอง “เมื่อไหร่แกจะเจอ”รองเท้าคู่ที่ใช่” ของแกซะที”
ห่านถอนใจเฮือก
วันต่อมา ภายในห้องจัดเลี้ยง นักข่าวเบียดเสียดกันแน่นหน้าเวทีกดชัตเตอร์กันวูบวาบ คุณคุณชาย & ดาหลาแต่งตัวสวยงามไทยประยุกต์ นั่งเตรียมอยู่กับพื้น บนโซฟามีชนะศึก คุณหญิงรื่นฤดี ผู้ใหญ่ที่เป็นประธานและดารัณนั่งอยู่ มีพานใส่แหวนหมั้นวาง
“เอาล่ะครับถึงเวลาเป็นมงคลฤกษ์แล้วนะครับ”
นักข่าวฮือฮา รอกดชัตเตอร์วินาทีที่สำคัญสุดฤทธิ์ คุณชายยังนั่งอึ้ง ดาหลารีบยื่นนิ้วรอ คุณหญิงรื่นฤดีหน้ายังยิ้มแต่เสียงเขียว
“ตาชาย ได้เวลาแล้ว สวมแหวนให้หนูดาหลาซิลูก”
คุณชายถอนใจเฮือก มองหน้าชนะศึก ชนะศึกเห็นใจลูกที่สุด คุณชายค่อยๆ หยิบแหวนมาสวมให้ดาหลา ดาหลายิ้มแฉ่ง ช่างภาพกดกันรัว
“ลูกดาหลา สวมแหวนให้คุณคุณชายซิค่ะลูก”
ดาหลาเอียงอาย ก่อนจะเอื้อมไปคว้ามือคุณชายมาสวมแหวนหมับ ช่างภาพเฮ กดชัตเตอร์รัว
“หอมแก้มๆๆ” นักข่าวบอก คุณชายเซ็ง ดาหลาเอียงอาย
“ตาชาย” คุณหญิงรื่นฤดีเร่ง คุณชายจำใจ หอมแก้มดาหลา...แชะ
เช้าวันรุ่งขึ้น ภาพงานหมั้นของคุณชายกับดาหลาปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ “กิ่งทองใบหยก” หมั้นแล้วคุณชายไฮโซ นส.ไทยสยาม หนังสือพิมพ์อยู่ในมือบื้อ แหม่ม โย่ง รุมอ่านกันอยู่
“ตายล่ะ นี่ถ้าไอ้ห่านรู้เข้าล่ะก้อ...”
“สงสารห่านจังเลย”
บื้อสงสารห่าน ห่านอุ้มตะกร้าผ้าซักเดินเข้ามาพร้อมส่งเสียงสดใส หน้าตาแช่มชื่น
“เฮ้! พวกเราวันนี้ได้ลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 2 บ้านแน่ะ เดือนนี้สบายแล้ว ค่าเช่าพร้อม ค่าน้ำค่าไฟพร้อม” บื้อรีบนั่งทับหนังสือพิมพ์ ทุกคนทำหน้ามีพิรุธ ห่านชะงัก “เป็นไรกัน ทำหน้ายังกะโดนผีหลอก แหม่ม” ห่านมองแหม่ม แหม่มรีบส่ายหน้า
“เปล๊า” ห่านเหล่โย่ง
“โย่ง” โย่งส่ายหน้า
“เปล่า ครับพ้ม” ห่านมองบื้อ
“ตาบื้อ”
“เปล่านี่ ไม่มีอะไร” ห่านเดินช้า มาใกล้ ทุกคนมีพิรุธ
“ไม่มีอะไรก็ดีแล้วไป ไปช่วยกันซักผ้า” ห่านห่านเดินนำออก ทุกคนโล่งอก รีบลุก ทันใดนั้นห่านหันขวับกลับมา ทุกคนสะดุ้งโหยง “นั่นไง นสพ.ที่แท้อีตาบื้อนั่งทับอยู่นี่เอง” ห่านบอกอย่างดีใจแล้วปรี่ไปเลย “แหม่ ฉันหาอยู่ตั้งนาน จะอ่านละครตอนอวสานซะหน่อย”
ทุกคนตกใจห่านจะคว้านสพ.บื้อฉกไปแอบไว้ข้างหลัง
“เฮ้ย อย่าอ่านเลย”
“เอ๊ะ นายนี่ยังไง ฉันติดของฉันนี่ยะ พระเอกนางเอกกำลังจิ้นเลย”
“อย่างเพิ่งอ่านเลย ไปซักผ้ากันก่อนเหอะ”
“เอ๊ะ ไอ้แหม่ม”
“ใช่จ๊ะ โย่งอยากซักผ้าเต็มที่แล้ว”
“ไม่ต้องเลย พวกนี้มีพิรุธ ทำไม ในนสพ.มีอะไร” ห่านฉกๆๆ นสพ.ที่บื้อซ่อนไว้ทันที บื้อก็หลบพัลวัน “เอามานี่ๆๆ”
ในที่สุดห่านฉกมาได้ กางอ่านพรึ่บ แล้วอึ้งเมื่อเห็นภาพคุณชายหอมแก้มดาหลา พร้อมพาดหัวข่าว ห่านช็อคกนสพ.ร่วงลงพื้น
“เฮ้อ” ทุกคนร้องออกมาพร้อมกัน
“ห่าน”
“ห๊ะ ว่าไงแหม่ม” ห่านยังช็อกๆ อยู่
“ห่าน” ห่านกลืนน้ำตา ยิ้มฝืนๆ
“ไป ไปซักผ้า อยากซักผ้าแล้ว” พูดจบก็เดินออกไปอย่างเร็ว แหม่มวิ่งตามไป
“ห่าน”
“แหม่มจ๋า” โย่งวิ่งตามไปอีกคน บื้อยืนมองห่านอย่างสงสาร
ห่านขยี้ๆๆ ผ้าอย่างระบายอารมณ์ เอาแขนปาดน้ำตา แหม่มโอบไหล่เพื่อนให้กำลังใจ โย่งซักผ้าไปมองไป
แล้วหันไปมองหน้าบื้อที่ก็ซักผ้าไปมองห่านไป ห่านร้องไห้สะอื้นฮั่กๆ อย่างไม่ไหว แล้วซบกับแหม่มปล่อยโฮออกมา
จบตอนที่ 14