เลือดเจ้าพระยา ตอนที่ 14
ที่โรงพยาบาล คุณนายศรีสอางค์และท่านผู้ว่าทรงยศฟื้นขึ้นมาแล้ว หมออวยชัยกับพยาบาลกำลังตรวจวัดความดัน
“ตอนนี้สุขภาพของคุณท่านแข็งแรงแล้วทั้งคู่ หมดห่วงซะทีนะครับ”
“ขอบคุณหมออวยชัยมากนะ ที่ช่วยดูแลพวกชั้นสองคนมาตั้งแต่หนุ่มยันแก่”
“ท่านสองคนเป็นผู้มีพระคุณ ผมยินดีที่ได้รับใช้ครับ”
“แล้วนี่เมื่อไหร่พวกเราจะได้กลับบ้านกันคะหมอ”
“พรุ่งนี้ก็น่าจะกลับได้แล้วครับ ยังไงตอนนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ”
หมออวยชัยกับพยาบาลพากันเดินออกไป ท่านผู้ว่าทรงยศหันมาคุยกับคุณนายศรีสอางค์
“ชั้นหลับไปนานหลายวัน ไม่นึกว่าจะมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นขนาดนี้”
“ก่อนตกบันได ชั้นจำได้ว่าไอ้โจรที่ผลักชั้นมันก็คือเด็กที่ชื่อขจรศักดิ์ ที่ตายพร้อมกับแม่สร้อยเพชรเมื่อคราวไปทอดกฐินนั่นเอง”
“แม่สร้อยเพชรกล้าทำเรื่องร้ายแรงแบบนี้ เวรกรรมเลยตามทัน”
“สงสารก็แต่หนูดาวที่ถูกใส่ร้าย คงจะเสียใจมาก ไม่รู้ตอนนี้ไปตกระกำลำบากที่ไหน”
“ได้ยินว่าหนีกลับไปลานเทกับพ่อบุญเหลือค่ะคุณท่าน” บัวบอก
“พูดถึงลานเท ชั้นเองก็รู้สึกละอายใจเหลือเกินแม่ศรีสอางค์ พวกเราทำผิดกับแม่ศรีนวล พรากผัวพรากเมียเขามาตั้งหลายปี ทั้งๆ ที่แม่ศรีนวลไม่มีความผิดอะไรเลย”
“เป็นเพราะความโง่ของชั้นเองที่หลงผิด ออกจากโรงพยาบาลคราวนี้ ถ้าตาเลอสรรจะกลับไปหาแม่ศรีนวล ชั้นก็จะไม่ห้ามปรามอีกต่อไป”
เดือนในชุดไว้ทุกข์ยืนแอบฟังอยู่หน้าห้อง รู้สึกสะเทือนใจ เกียรติกล้าเดินเข้ามา
“ร้องไห้ทำไมอีกพี่เดือน”
เดือนน้ำตาไหลพรากแล้ววิ่งหนีไป เกียรติกล้ารีบตาม
เกียรติกล้าเดินเข้ามาหาเดือนที่กำลังร้องไห้โฮด้วยความสะเทือนใจ
“พี่เดือน อย่าร้องไห้ซิ”
“เกียรติกล้า ตอนนี้เราเหลือกันแค่สองคนแล้วนะ ฮื่อๆ”
“หมายความว่ายังไงพี่เดือน คุณพ่อ คุณปู่ คุณย่าก็ยังอยู่”
“ฮื่อๆ ต่อไปจะไม่มีใครรักเราอีกแล้ว คุณแม่ตายไปแล้ว คุณปู่คุณย่าจะให้คุณพ่อกลับไปรับแม่ศรีนวลกลับมา พวกเราจะกลายเป็นหมาหัวเน่า ฮื่อๆ”
“คุณพ่อจะทิ้งพวกเราไม่ได้ ชั้นไม่ยอมหรอกพี่เดือน”
“เราต้องช่วยกันนะ อย่าให้ใครมาแย่งคุณพ่อของเราไป ฮื่อๆ”
“ได้ แต่พี่เดือนอย่าร้องไห้ซิ ชั้นใจไม่ดี ฮื่อๆ”
สองพี่น้องกอดกันร้องไห้ดูน่าสงสาร
ภาพถ่ายงานศพของสร้อยเพชรถูกประดับไว้บนผนัง เลอสรรกำลังจุดธูปไหว้ จากนั้นก็หันไปหาท่านผู้ว่าทรงยศกับคุณนายศรีสอางค์ซึ่งบัดนี้ร่างกายแข็งแรงกลับมาบ้านแล้ว
“เสร็จงานศพก็ถือว่าหมดเคราะห์หมดโศกกันซะทีนะลูกนะ”
“ผมก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นครับคุณพ่อ”
ลุงมหาเดินเข้ามา
“ลุงมหากลับมาแล้ว”
“คุณแม่ให้ลุงมหาไปไหนมาหรือครับ”
“คุณท่านให้ผมไปที่วัด ไปสืบเรื่องที่คุณเดือนเข้าใจผิดเรื่องเจ้าบุญเหลือกับคุณดาวน่ะครับ”
“ได้ความเป็นยังไงบ้างล่ะ”
“ความจริงก็คือวันนั้น เจ้าบุญเหลือมันไม่สบาย นอนซมอยู่ในห้อง หลวงพ่อท่านสงสารก็เลยบอกให้คุณดาวไปช่วยดูแลเช็ดตัวให้ ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้นหรอกครับ เพราะห้องตรงนั้นคนผ่านไปผ่านมาตลอด คุณเดือนคงจะเข้าใจผิดไป”
“ชั้นเองก็คิดว่าแม่เดือนเข้าใจเรื่องนี้ผิดไปจริงๆ”
“แล้วนี่มีใครอธิบายให้เดือนฟังหรือยังครับ”
“เอาไว้เป็นธุระของแม่เอง”
“ตอนนี้แกก็เป็นพ่อหม้าย หมดพันธะอย่างถูกต้องตามกฎหมายกับแม่สร้อยเพชรไปแล้ว พ่อกับแม่ไม่ว่าอะไรหรอกนะหากแกจะกลับไปหาแม่ศรีนวลเค้า”
“จริงเหรอครับ”
“จ้ะ แม่กับคุณพ่อ คุยกันเรื่องนี้มานานแล้ว แม่รู้สึกผิดจริง อยากจะขอโทษแม่ศรีนวลเค้าเหลือเกิน”
เลอสรรยิ้มด้วยความดีใจ เดือนยืนแอบฟังอยู่ เธอรู้สึกไม่สบายใจ
สมิงนั่งอยู่ที่มุมหนึ่ง เหิม ขวดและลูกน้องพากันเดินเข้ามาหา
“จะไปกันแล้วใช่มั๊ย”
“จ้ะ พวกเราจะกลับผาช่องลมไปก่อน”
“สมิงไม่ต้องห่วง พวกเราจะดูแลผาช่องลมให้ รับรองไอ้มเหศักดิ์จะบุกเข้ามาไม่ได้เด็ดขาด”
“ขอบใจ เสร็จธุระทางนี้เมื่อไหร่ สมิงจะรีบกลับไป”
“พวกเราไปนะ”
พวกลูกน้องต่างล่ำลาสมิงแล้วพากันเดินออไป สมิงมองตาม สักครู่ดาวก็เดินเข้ามา
“ที่สมิงยังไม่กลับก็เพราะว่าวันมะรืนก็ใกล้วันเกิดแม่ศรีนวลอีกแล้วใช่มั๊ย”
“ใช่ สมิงจะอยู่วันเกิดของศรีนวลเหมือนทุกปี แล้วค่อยกลับผาช่องลม”
“ปีที่ผ่านมามีแต่เรื่องวุ่นวาย ดาวทำเรื่องให้แม่ศรีนวลไม่สบายใจตั้งหลายเรื่อง”
“ที่แล้วมาก็ให้มันแล้วกันไป ดาวไม่ต้องคิดมาก”
“จ้ะ เอ้อ แล้วสมิงจะขอแม่แต่งงานอีกครั้งมั๊ย” สมิงยิ้มเศร้าๆ
“ถึงแม้จะไม่มีความหวังเหมือนที่ผ่านมา แต่สมิงก็จะลองดูอีกครั้ง”
“ถึงดาวจะเป็นเด็กกำพร้า แต่ดาวก็รักสมิงเหมือนพ่อคนนึง ถ้าเป็นไปได้ดาวอยากจะขอพรพระให้สมิงสมหวัง”
ดาวยิ้มให้กำลังใจสมิง
บ้านกำนันธง ศรีนวลกำลังเลี้ยงไก่อยู่ บุญเหลือเดินเข้ามา
“แม่จ๋า วันเกิดปีนี้ แม่จะจัดงานเหมือนทุกปีหรือเปล่าจ้ะ”
“แม่อยากจะพักสักปี ไม่คิดจัดงานอะไร”
“งั้นก็แค่ทำบุญตักบาตรนะแม่นะ”
“จ้ะ แม่ก็ว่าอย่างงั้น”
“เลี้ยงเพลดีมั๊ยจ้ะ ประเดี๋ยวบุญเหลือจะไปนิมนต์พระให้”
“ก็ดีเหมือนกัน งั้นบุญเหลือช่วยเป็นธุระแทนแม่ด้วยนะลูกนะ”
“อืม...งั้นเดี๋ยวบุญเหลือไปที่วัดเลยดีกว่า เดี๋ยวมานะแม่”
บุญเหลือหันไปคว้าจักรยานแล้วขี่ออกไป ดาวดึงมือสมิงมายืนแอบดูศรีนวล
“มาซิสมิง”
“แต่ว่า”
“เชื่อดาวเหอะน่า สมิงเข้าไปหาแม่แล้วชวนคุยเรื่องสัพเพเหระอะไรก็ได้ ห้ามคุยเรื่องแต่งงานหรือเรื่องหนักๆ แหย่หรืออะไรก็ได้ให้แม่ได้หัวเราะบ้าง”
“ทำแบบนั้นแล้วจะได้ผลเหรอ”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็ทำให้สมิงกับแม่ได้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ไปซิ”
ดาวดันสมิงให้ออกไปหาศรีนวล สมิงเดินเข้าไปหา แล้วช่วยศรีนวลเลี้ยงไก่ ทั้งคู่คุยกันเบาๆ ดาวยืนแอบมองยิ้มๆ
ท่าเรือบ้านลานเทมีเรือเร็วแล่นมาจอด บนเรือมีเดือนนั่งมาคนเดียวโดยมีคนขับเรือให้
“รอที่นี่นะ เสร็จธุระแล้วชั้นจะมา” เดือนบอกคนขับเรือ
“ครับ”
เดือนเดินขึ้นจากเรือ แล้วสักครู่ก็เห็นบุญเหลือขี่จักรยานผ่านมาพอดี บุญเหลือชะงักไม่คาดว่าจะได้เจอกับเดือน
“คุณเดือน” บุญเหลือรีบลงจักรยานมาหาเดือน “คุณเดือนมาทำไมครับ”
“เดือนมาหาแม่ศรีนวล”
“เอ้อ...มีอะไรเหรอครับ”
“เป็นเรื่องระหว่างเดือนกับแม่ศรีนวล เดือนยังไม่พูดตอนนี้”
“แล้วเรื่องที่คุณเดือนเข้าใจผมกับดาวผิดไป เอ้อ...ผมอยากจะ...”
“เรื่องนั้นเดือนรู้แล้ว ขอโทษที่เข้าใจผิดไป” บุญเหลือโล่งอก
“โล่งอกไปที ผมกลุ้มใจแทบแย่ นึกว่าชาตินี้จะไม่มีโอกาสได้คุยกับคุณเดือนอีกแล้ว”
“ขอโทษนะบุญเหลือ ตอนนี้เดือนไม่ว่าง เดือนมีธุระสำคัญจะต้องคุยกับแม่ศรีนวล”
“ครับๆ งั้นซ้อนท้ายเลยครับ ผมจะพาไป”
บุญเหลือให้เดือนซ้อนจักรยานแล้วขี่ไป
เลือดเจ้าพระยา ตอนที่ 14 (ต่อ)
สมิงกำลังช่วยศรีนวลตากพริกแห้ง ปลาแห้ง ห่างออกไปเห็นดาวแอบดูอยู่ยิ้มๆ
“วันนี้สมิงเป็นอะไร ทำไมถึงมาช่วยศรีนวลทำโน่นทำนี่”
“มันอยู่ว่างๆ น่ะ สมิงเลยอยากมาช่วย ไม่ว่ากันนะ”
“จะว่าได้ไง ดีเหมือนกันจะได้มีแรงงานมาช่วยเพิ่มอีกคน”
“งั้นประเดี๋ยวสมิงไปผ่าฟืนให้นะ”
“จ้ะ ฟืนกำลังจะหมดพอดี”
สมิงแยกไปที่มุมหนึ่งแล้วลงมือผ่าฟืน ศรีนวลนั่งมอง บุญเหลือขี่จักรยานพาเดือนเข้ามา ดาวมองเห็นก็ชะงัก แปลกใจ
“แม่จ๋า”
ศรีนวลเงยหน้าขึ้นมามองเห็นเดือน
“คุณเดือน”
“สวัสดีค่ะ แม่ศรีนวล”
“คุณเดือนมาหาแม่จ้ะ บอกว่ามีธุระสำคัญจะคุยด้วย” บุญเหลือบอก
“ธุระอะไรคะ”
“ขอคุยส่วนตัวได้มั๊ยคะ”
“ค่ะ งั้นเชิญทางนี้”
ศรีนวลพาเดือนเดินเลี่ยงออกไป ดาวเข้ามาหาบุญเหลือ
“มีอะไรกันพี่บุญเหลือ”
“ไม่รู้ซิ คุณเดือนไม่ยอมบอกอะไรเลย”
ดาวและบุญเหลือมองตามด้วยความสนใจ
ศรีนวลพาเดือนเดินมาหยุดคุยในมุมเงียบๆ ไม่มีใครอยู่แถวนั้น
“คุยกันแถวนี้นะคะ เป็นส่วนตัวดี”
“ที่เดือนมาวันนี้ก็มาเพื่ออยากจะขอร้องแม่ศรีนวล”
“เรื่องอะไรคะ”
“แม่ศรีนวลคงรู้ข่าวแม่ของเดือนแล้วนะคะ”
“ค่ะ เสียใจด้วยนะคะ แม่คุณเดือนไม่น่าอายุสั้นเลย”
“แม่ตายแล้ว ตอนนี้คุณพ่อก็เป็นโสด เอ้อ...ขอโทษนะคะ พอดีเดือนทราบมาว่าแม่ศรีนวลเคยเป็น เอ้อ...ภรรยาของคุณพ่อเดือนจริงมั๊ยคะ”
“เอ้อ ค่ะ แต่นั่นมันเรื่องในอดีตนานมาแล้ว”
“เดือนรู้ว่าคุณพ่อยังรักแม่ศรีนวลอยู่ แต่คุณพ่อก็ยังรักแม่ของเดือนเหมือนกันแต่ตอนนี้แม่ของเดือนตายแล้ว เดือนเลยไม่สบายใจ”
“ไม่สบายใจเรื่องอะไรคะ”
“คือเดือนไม่อยากให้คุณพ่อกลับมาคืนดีกับแม่ศรีนวล ขอโทษนะคะที่พูดตรงๆ” ศรีนวลชะงักนิ่ง ไม่คาดว่าเดือนจะพูดออกมาแบบนี้ “และเดือนก็ไม่อยากให้คุณพ่อแต่งงานใหม่ ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม วันนี้เดือนเลยมาที่นี่ก็เพื่ออยากจะขอร้องแม่ศรีนวลไม่ให้กลับไปคืนดีกับคุณพ่อ เดือนกราบละค่ะ”
เดือนก้มลงกราบ ศรีนวลรีบห้าม
“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ เพราะเรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในหัวของศรีนวลเหมือนกัน เรื่องระหว่างศรีนวลกับคุณเลอสรร มันเป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านมาแล้วหลายสิบปี ยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ศรีนวลจะกลับไปรื้อฟื้นขึ้นมาอีก วางใจเถอะค่ะคุณเดือน ศรีนวลรับปากไว้ตรงนี้เลยว่าจะไม่มีวันกลับไปคืนดีกับคุณเลอสรรอีก”
“จริงๆ นะคะ แม่ศรีนวลรับปากเดือนแล้วนะคะ”
“ค่ะ คนอย่างศรีนวลคำไหนคำนั้น”
เดือนรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของศรีนวล
ดาวและบุญเหลือยืนรออยู่ที่มุมหนึ่ง สักครู่ก็เห็นศรีนวลและเดือนเดินออกมา สีหน้าเดือนดูสดชื่นไม่เคร่งเครียดเหมือนที่ผ่านมา
“มีอะไรกันเหรอคะ ทำไม...” ดาวถาม
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ แค่คุยธุระกันนิดหน่อย” ศรีนวลบอก
“ที่ผ่านมา เดือนเข้าใจดาวกับพี่บุญเหลือผิดไป เดือนขอโทษด้วยนะ”
“ค่ะ ดาวไม่เคยโกรธคุณเดือนเลยแม้แต่น้อย”
“บุญเหลือก็เหมือนกัน”
“ถ้างั้นต่อจากนี้ไป หวังว่าเราจะไม่มีเรื่องบาดหมางกันอีก แล้วยังไง ว่างๆ เดือนจะมาเที่ยวที่นี่อีก”
“อ้าว จะกลับแล้วเหรอ”
“ค่ะ เดือนไม่ได้บอกทางบ้านไว้ ประเดี๋ยวจะเป็นห่วงกัน”
“งั้นผมไปส่ง”
บุญเหลือหันไปคว้าจักรยานมา เดือนนั่งซ้อนแล้วขี่ออกไป ดาวหันไปหาศรีนวล
“คุณเดือนคุยอะไรกับแม่เหรอจ้ะ”
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ดาวอย่าใส่ใจเลย”
“แต่ว่า”
“เชื่อแม่สิ มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร”
แม้ปากศรีนวลจะพูดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ในใจของเธอกลับรู้สึกตรงกันข้าม จู่ๆ เธอก็รู้สึกเศร้าขึ้นมากะทันหัน
บุญเหลือขี่จักรยานพาเดือนมาส่งที่ท่าเรือ เดือนเดินไปที่เรือ บุญเหลือรีบตาม
“คุณเดือนจะมาอีกเมื่อไหร่ครับ”
“เดือนยังไม่รู้เหมือนกัน ตั้งแต่คุณแม่ตาย เดือนก็มีภาระต้องดูแลบ้าน เวลาว่างก็ไม่ค่อยจะมีเลย”
“งั้นวันหลัง ผมไปเยี่ยมคุณเดือนที่บ้านจะเป็นอะไรมั๊ย”
“เชิญเลยค่ะ คุณปู่คุณย่าท่านก็ไม่ได้รังเกียจอะไร ถ้าพี่บุญเหลือจะไปที่บ้านก็คงไม่มีใครว่าหรอกค่ะ”
“งั้นเอาไว้คราวหน้า บุญเหลือจะไปนะ”
“ค่ะ วันนี้เดือนกลับก่อน ไว้เจอกันอีก”
บุญเหลือยื่นมือไปจับมือของเดือนขึ้นมา ทั้งคู่มองตากันจากนั้นเดือนก็ลงเรือ แล่นเรือออกไป บุญเหลือยืนมองตามด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์
บ้านท่านผู้ว่าทรงยศ ลุงมหากำลังยืนคุยอยู่กับเลอสรร
“ความจริงเรื่องง้อศรีนวล ชั้นก็พยายามง้อมาหลายครั้งแล้วเหมือนกัน แต่ศรีนวลใจแข็งเหลือเกินจนปัญญาจริงๆ”
“ก็เมื่อก่อน คุณเลอสรรยังไม่ใช่พ่อหม้ายนี่ครับ”
“จริงซิ ศรีนวลเคยพูดเอาไว้ว่า ไม่อยากทำลายครอบครัวของใคร แต่ตอนนี้สร้อยเพชรก็ตายไปแล้ว บางทีศรีนวลอาจจะใจอ่อนลงบ้างก็ได้”
“ผมว่าคุณเลอสรรรีบไปพรุ่งนี้เลยดีกว่าครับ เพราะเป็นวันครบรอบวันเกิดแม่ศรีนวลเค้า บางทีขอคืนดีกันในวันเกิดก็น่าจะง่ายขึ้นนะครับ”
“จริงซิ ขอบใจมากนะครับลุงมหา งั้นพรุ่งนี้ผมจะไปลานเทแต่เช้าเลย ลุงมหาไปกับผมนะ”
“ได้ครับ”
เลอสรรยิ้มกริ่มคาดหวังถึงความสำเร็จ
วันต่อมาที่บ้านลานเท ชาวบ้านมารวมตัวกันทำบุญเลี้ยงพระที่วัด ศรีนวล กำนันธง ผู้ใหญ่ต้อง สมิง นั่งอยู่ในกลุ่มชาวบ้าน ดาวและบุญเหลือคอยช่วยเด็กวัดประเคนภัตราหารและเครื่องสังฆทานให้พระ ทุกคนเตรียมตัวกรวดน้ำ ดาวยกขวดน้ำและพานรองกรวดน้ำมาให้ศรีนวลและสมิง
“อันนี้ของแม่ อันนี้ของสมิงจ้ะ”
“มากรวดน้ำด้วยกันซิลูก”
“จ้ะ”
“อย่าลืมอุทิศกุศลให้คุณสร้อยเพชรเธอบ้าง ถึงแม้ว่าตอนมีชีวิตอยู่จะไม่ลงรอยกัน แต่เค้าก็ตายจากกันไปแล้ว ความโกรธแค้นใดๆ ก็ให้มันสูญกันไปนะลูกนะ”
“จ้ะ ดาวเชื่อแม่ ดาวจะกรวดน้ำให้คุณสร้อยเพชรจ้ะ”
“สำหรับสมิง คงกรวดน้ำให้เถ้าแก่ชิ้นกับพวกที่เคยเป็นศัตรูกันมา ขอให้เวรกรรมจบกันในชาตินี้”
“พระเริ่มสวดแล้ว”
สมิง ดาวและศรีนวลเริ่มกรวดน้ำเมื่อเสียงพระสวดดังขึ้น
อ่านต่อพรุ่งนี้ เวลา 09.30น.
เลือดเจ้าพระยา ตอนที่ 14 (ต่อ)
เรือเร็วแล่นมาจอดที่ท่าเรือบ้านลานเท เลอสรรและลุงมหาลงจากเรือมา น้อยซึ่งกำลังยืนคุยกับชาวบ้านแถวนั้นหันมามอง จากนั้นก็เดินเข้าไปหาลุงมหา
“สวัสดีจ้ะ ลุงมหา คุณเลอสรร”
“ไง มาทำอะไรแถวนี้”
“ชั้นมารอขนมจ้ะ ว่าเค้าไว้จะเอาไปเลี้ยงวันเกิดแม่ศรีนวล นี่เรือยังไม่มาส่งเลย”
“แล้วตอนนี้ศรีนวลอยู่ที่ไหนจ้ะ”
“เอ้อ อยู่วัด”
“อยู่วัดก็ดีเหมือนกันนะครับ คุณเลอสรรจะได้ขอคืนดีกับแม่ศรีนวลต่อหน้าพระไปเลย” ลุงมหาหันมาพูดกับเลอสรร
“ดีครับ ผมก็ว่างั้น”
“งั้นเรารีบไปกันเถอะครับ”
เลอสรร และลุงมหารีบเดินไปยังวัด น้อยมองตาม รู้สึกไม่สบายใจเนื่องจากเลอสรรเป็นตำรวจ และสมิงเองก็อยู่ที่วัดเช่นกัน
“คุณเลอสรรจะขอคืนดีกับแม่ศรีนวลเหรอ แย่แล้ว สมิงอยู่ที่นั่น”
น้อยรีบขอจักรยานชาวบ้าน แล้วรีบขี่ไปอีกทาง
สมิง ศรีนวล ดาว บุญเหลือ กำนันธง ผู้ใหญ่ต้อง และพวกชาวบ้านพากันทยอยกันลงมาจากศาลาวัด ดาวรีบเข้าไปกระซิบสมิง
“สมิง รีบพาแม่ศรีนวลไปไหว้พระในโบสถ์ซิ”
“แต่ว่า”
“เหอะน่า ไปเหอะ”
“ก็ได้ๆ” สมิงหันไปหาศรีนวล “ศรีนวล เราไปไหว้พระในโบสถ์กันเถอะ”
“จ้ะ สมิง”
สมิงและศรีนวลพากันเดินเข้าโบสถ์ไป กำนันธงตบมือให้พวกชาวบ้านมารวมตัวกัน
“เอาละๆ ไหนๆ วันนี้ก็วันดี เรามาทำบุญเลี้ยงพระกันแล้ว คนพร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างงี้ ชั้นก็เลยอยากจะขอแรงพวกเราให้ช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดลานวัดให้สะอาดสวยงาน ทำบุญด้วยแรงกายแรงใจเพิ่มกันอีกสักหน่อยเป็นไรดีมั้ย”
“ดีจ้ะ”
“ดีก็ลงมือได้เลย ช่วยกันคนละไม้ละมือ ให้วัดเราสวยสะอาดตา”
ทุกคนช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดลานวัดกัน น้อยขี่จักรยานเข้ามาแล้วรีบเข้าไปมองหาศรีนวล แต่ฝุ่นคลุ้งตลบไปหมด
“ศรีนวลๆ”
ดาวได้ยินเข้ามาหา
“มีอะไรเหรอ เรียกหาแม่ทำไม”
“แย่แล้วดาว คุณเลอสรรกำลังมาที่นี่”
น้อยรีบเล่าเรื่องที่ได้ยินให้ดาวฟัง บุญเหลือเข้ามาสมทบ
สมิงกับศรีนวลกำลังจะเดินเข้าโบสถ์ จู่ๆ ดาวก็วิ่งเข้ามา
“แม่จ๋า แม่”
“มีอะไรดาว”
ดาวรีรอ อยากพูดกับศรีนวลสองต่อสอง สมิงรู้ทันเลยเข้าโบสถ์ไปก่อน
“สมิงไปรอในโบสถ์นะ”
“จ้ะ เดี๋ยวตามไป” ศรีนวลเข้ามาหาดาว “มีอะไรลูก”
“คุณเลอสรรมาจ้ะ เขาบอกว่าจะมาขอแม่คืนดี”
ศรีนวลตกใจ ไม่คาดคิด
สมิงกำลังก้มกราบพระในโบสถ์ สักครู่ก็เห็นศรีนวลเดินเข้ามาก้มกราบพระ เมื่อกราบเสร็จสมิงก็หันมายิ้มให้ศรีนวล
“ทุกปี ในวันเกิดศรีนวลสมิงจะมานั่งที่นี่แล้วทำเหมือนทุกปี นั่นคือการขอศรีนวลแต่งงาน ปีนี้สมิงก็จะทำเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าคำตอบของศรีนวลจะออกมาเหมือนเดิม สมิงก็อยากจะฟัง”
ใบหน้าของศรีนวลเหมือนกำลังพยายามตัดสินใจบางอย่างครั้งสำคัญ
เลอสรรและลุงมหาพากันเดินเข้ามา ขณะที่พวกชาวบ้านพร้อมใจกันกวาดลานวัดจนฝุ่นตลบ คุ้งไปหมด ลุงมหาพาเลอสรรมาหากำนันธง ผู้ใหญ่ต้อง ดาว และบุญเหลือซึ่งยืนรอที่มุมหนึ่ง ทุกคนรู้เรื่องหมดแล้วกำนันธงมีท่าทีมึนตึง ไม่ค่อยชอบใจ
“สวัสดีครับกำนันธง ผู้ใหญ่”
“สวัสดีค่ะ คุณเลอสรร”
“สวัสดีครับ”
“ศรีนวลอยู่ไหนครับ”
“ไม่รู้เหมือนกัน คุณลองหาดูเอาเอง”
“ฝุ่นตลบอบอวล มองไม่เห็นหรอก”
“จะให้ทำไงได้ คนกำลังช่วยทำงานวัด ชั้นคงห้ามไม่ได้หรอก”
กำนันธงและทุกคนพากันแยกย้ายไปช่วยกวาดลานวัดให้ฝุ่นตลบยิ่งขึ้น
“ลองหาดูนะครับคุณเลอสรร เดี๋ยวคงเจอ” ลุงมหาบอก เลอสรรจึงตะโกนเรียกศรีนวล
“ศรีนวลๆ”
เลอสรรเดินตะโกนหาศรีนวล ท่ามกลางฝุ่นที่คุ้งกระจาย
สมิงเดินออกมาจากในโบสถ์กับศรีนวล ท่าทีของสมิงมีความสุขสมหวังขณะที่ท่าทีของศรีนวลกลับดูเศร้าสร้อย เก็บความรู้สึก เสียงตะโกนของเลอสรรแว่วดังเข้ามา
“ศรีนวลๆ”
สมิงชะงัก จำได้
“นั่นเสียงของไอ้เลอสรร”
“ค่ะ ดาวมาบอกเมื่อกี้ว่าเค้ากำลังมาที่นี่ สมิงรีบหนีไปเถอะ”
“แต่ว่า”
“พ่อกับชาวบ้านช่วยกันกวาดลานวัดให้ฝุ่นคลุ้ง เวลาสมิงหนีจะได้ไม่มีใครสังเกตเห็น”
“แล้วศรีนวลล่ะ”
“ศรีนวลคงหนีไปไหนไม่ได้หรอกค่ะ ถึงวันนี้หนีไป แต่วันหน้าก็ต้องเจอ”
เสียงตะโกนของเลอสรรดังใกล้เข้ามา
“ศรีนวลๆ”
“หลบไปก่อนเถอะค่ะ เขามาที่นี่แล้ว”
ดาวและบุญเหลือ เดินเข้ามาในโบสถ์
“สมิงตามมาทางนี้เร็ว”
ดาวและบุญเหลือดึงสมิงให้ตามไปหลังโบสถ์ สักครู่ก็เห็นเลอสรรก็เดินเข้ามา เลอสรรเห็นศรีนวลก็ดีใจ
“ศรีนวล นึกแล้วว่าศรีนวลต้องอยู่ที่นี่”
“คุณเลอสรรมา มีธุระอะไรคะ”
ขณะนั้นพวกชาวบ้านเริ่มมาแอบเมียงมองสังเกตการณ์
“ผมมาที่นี่ก็เพราะจะมาบอกกับศรีนวลว่าตอนนี้ผมเป็นคนไม่มีพันธะแล้ว ผมอยากจะมาขอคืนดีกับศรีนวล และตอนนี้คุณพ่อ คุณแม่ของผม ท่านก็ยินดี และอยากให้ผมกลับมาหาศรีนวล ผมเองก็รู้ตัวตลอดเวลาว่าผมลืมศรีนวลไม่ได้ ศรีนวลแต่งงานกับผมนะ”
ศรีนวลนิ่งอึ้งหน้าชา รู้สึกลำบากใจเพราะเธอเองยังรักเลอสรรอยู่
“ขอโทษนะคะคุณเลอสรร ศรีนวลแต่งงานกับคุณไม่ได้หรอกค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“คุณมาช้าเกินไป ตอนนี้ศรีนวลตกลงที่จะแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นไปแล้ว”
“มันเป็นใคร บอกผมมาว่ามันเป็นใคร”
“สมิงค่ะ ศรีนวลรับปากที่จะแต่งงานกับสมิงไปแล้วเมื่อสักครู่”
เลอสรรโกรธ ไม่อยากเชื่อ
“ไม่จริง ศรีนวลหลอกผมเล่นใช่มั้ย มันไม่จริงใช่มั้ย”
“ศรีนวลไม่เคยพูดเล่น คนอย่างศรีนวลคำไหนคำนั้น”
“มันอยู่ไหน ไอ้สมิงมันอยู่ไหน สมิง”
เลอสรรชักปืนออกมาแล้วเดินตามหาสมิง ศรีนวลน้ำตาไหลด้วยความสะเทือนใจ
เลือดเจ้าพระยา ตอนที่ 14 (ต่อ)
เลอสรรเดินถือปืนตะโกนหาสมิงด้วยความโกรธแค้น กำนันธง ผู้ใหญ่ต้อง ชาวบ้านยืนมอง
“สมิง แกออกมา ไอ้สมิง ออกมาเดี๋ยวนี้” ลุงมหารีบเข้าไปหาเลอสรร
“มีอะไรครับคุณเลอสรร”
“ไอ้สมิงมันอยู่ที่นี่ มันตัดหน้าผม มันขอศรีนวลแต่งงานไปแล้ว ออกมาเดี๋ยวนี้ไอ้สมิง มาดวลกันให้ตายไปข้างนึง ออกมา”
ศรีนวลเดินออกมาเผชิญหน้ากับเลอสรร
“ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกค่ะคุณเลอสรร ถึงสมิงจะออกมาดวลกับคุณ ไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะ มันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว ศรีนวลจะแต่งงานกับสมิงค่ะ”
เลอสรรน้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจ
“ศรีนวลทำแบบนั้นไม่ได้นะ ศรีนวลเป็นเมียผม ผมจะไม่ยอมให้ศรีนวลแต่งงานกับคนอื่นเด็ดขาด”
“เลิกพูดเรื่องอดีตกันได้แล้วค่ะ ชาวบ้านที่ลานเทเค้าเห็นมาตลอดว่าคุณทำกับศรีนวลยังไง ปล่อยให้ศรีนวลเป็นอิสระเถอะค่ะ”
“ศรีนวลหมดรักผมแล้วใช่มั้ย บอกมาซิว่าศรีนวลรักใครระหว่างผมกับไอ้สมิง”
“เมื่อก่อนศรีนวลรักคุณเลอสรรคนเดียว แต่ตอนนี้ศรีนวล...รัก...สมิงค่ะ กลับไปเถอะคุณเลอสรร อย่ามาข้องเกี่ยวกับชีวิตของศรีนวลอีกเลย ศรีนวลขอร้อง ขอโอกาสให้ศรีนวลได้มีความสุขกับคนที่ศรีนวลรักบ้าง”
ศรีนวลพูดไปน้ำตาก็ไหลพรากเพราะสิ่งที่เธอพูดมันเป็นการพูดเพื่อให้เลอสรรเข้าใจผิด แท้จริงแล้วศรีนวลรักเลอสรรมาก แต่จำเป็นต้องทำตามคำขอร้องของเดือน เลอสรรสะเทือนใจที่สุดในชีวิต ร้องไห้สะอึกสะอื้นหมดอาย
สมิงแอบมองอยู่มุมหนึ่งยิ้มออกมาด้วยความดีใจและมีความสุข ดาวและบุญเหลือแอบอยู่ข้างๆ
ดาวและบุญเหลือเดินมากับสมิง เพื่อหนีเลอสรร แต่สมิงไม่ค่อยเต็มใจนัก
“สมิงไม่อยากต้องหนีแบบนี้เลย กลับไปดวลกันให้รู้แล้วรู้รอดดีกว่า”
“ไม่ได้นะสมิง ยังไงก็ดวลกันไม่ได้เพราะถ้าพลาดขึ้นมา แม่ศรีนวลจะอยู่กับใคร”
“แต่ลูกผู้ชาย โดนมันท้าทายแล้วหนี มันเหมือนคนไม่มีศักดิ์ศรี”
“อย่าเพิ่งคิดถึงศักดิ์ศรีเลยสมิง คิดถึงแม่ศรีนวลก่อน”
“ใช่ เมื่อกี้ก็ได้ยินแล้วว่าแม่ศรีนวลบอกว่ารักสมิง”
“จริงซิ สมิงต้องมีชีวิตอยู่ เพื่อจะได้มีโอกาสได้อยู่กับคนที่สมิงรักแล้วเค้าก็รักสมิง”
“มาทางนี้เร็ว”
ดาว บุญเหลือรีบพาสมิงหลบไป
เลอสรรและลุงมหาเดินมาขึ้นเรือด้วยอาการเศร้าซึม แต่ขณะกำลังจะออกเรือ จู่ๆ ลอสรรก็ลุกพรวดพราด กระโดดขึ้นจากเรือ
“คุณเลอสรร จะไปไหนครับ”
“ผมจะไปตามหามัน มันต้องอยู่ในหมู่บ้านแน่นอน ผมจะปล่อยให้มันเสวยสุขไม่ได้”
“แต่ว่าศรีนวลเค้า...”
“เรื่องนี้ศรีนวลไม่เกี่ยว ผมจะไปตามหาไอ้สมิงในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ ไอ้สมิงมันเป็นโจร ผมต้องจับมัน”
เลอสรรชักปืนออกมาแล้ววิ่งไป
“กลับมาครับ กลับมา” ลุงมหารีบวิ่งตามไป
ดาว บุญเหลือ และสมิงพากันเดินเข้ามาหาน้อยซึ่งอยู่แถวนั้น
“ปลอดภัยแล้วจ้ะ ลุงมหาพาไปท่าเรือเมื่อตะกี้ ป่านนี้คงออกเรือไปแล้ว” น้อยบอก
“โล่งอกไปที นึกว่าจะยิงกันซะอีก”
“นั่นซิ คนนึงก็สมิง คนหนึ่งก็คุณเลอสรร เลือกไม่ถูกจริงๆ ว่าจะเชียร์ฝ่ายไหน”
“แล้วนี่ศรีนวลอยู่ไหน”
“ยังอยู่ที่วัดจ้ะสมิง ประเดี๋ยวก็คงกลับ”
“งั้นสมิงไปหาที่วัดเลยดีกว่า”
สมิงหันกลับมาเพื่อไปวัดแต่แล้วก็พบกับเลอสรร ทั้งคู่ยืนเผชิญหน้ากัน เลอสรรชักปืนจ้องมาที่ร่างสมิง
“ยกมือขึ้น แล้วนอนลงเดี๋ยวนี้”
สมิงค่อยยกมือขึ้น จากนั้นก็อาศัยจังหวะวิ่งหลบเข้าหลังต้นไม้ แล้วชักปืนมายิง เลอสรรยิงตอบโต้ ดาว บุญเหลือและน้อยพากันวิ่งหลบ
ดาว บุญเหลือ น้อยพากันมาหลบกระสุนปืนด้วยกันที่หลังต้นไม้
“รีบไปตามแม่มาเร็ว มีแม่คนเดียวที่จะห้ามได้”
“ก็ได้ งั้นดาวกับพี่น้อยไปด้วยกัน พี่บุญเหลืออยู่นี่นะ”
“ตกลง”
ดาวและน้อยพากันวิ่งไป บุญเหลือแอบอยู่หลังต้นไม้คอยสังเกตการณ์
ศรีนวล กำนันธง ผู้ใหญ่ต้องและพวกชาวบ้านยังอยู่ที่ลานวัดและกำลังร่ำลากันหลังทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว
“ศรีนวลต้องขอโทษทุกคนด้วยนะจ้ะที่วันเกิดปีนี้มีเรื่องเกิดขึ้น”
“ไม่เป็นไรหรอกศรีนวล เรื่องนี้ถ้าไม่เกิดวันนี้ก็ต้องเกิดในวันหน้า”
“โชคดีที่ควบคุมไม่ให้มีเรื่องได้ ไม่งั้นคงแย่”
เสียงปืนดังแว่วเข้ามา
“เสียงปืน”
“ดังมาจากแถวบ้าน”
“รีบไปเถอะพ่อ”
ศรีนวล กำนันธง ผู้ใหญ่ต้องและคนอื่นๆ พากันวิ่งไป
สมิงและเลอสรรต่างยิงตอบโต้กันไปมา โดยทั้งคู่มีทั้งไหวพริบและปฏิภาณในการรุกและรับสลับกันได้เปรียบ และเสียเปรียบตลอดเวลา แต่แล้วจู่ๆ เลอสรรก็ตัดสินใจออกจากที่ซ่อนเดินออกมากลางที่โล่งแจ้ง
“ไอ้สมิง ถ้าเอ็งแน่จริงก็ออกมาดวลกัน”
สักครู่ก็เห็นสมิงเดินออกมา
“คนละนัด ตายเป็นตาย”
“ได้ คนละนัด ตายเป็นตาย”
สมิงโชว์ปืน เปิดลูกโม่เทกระสุนออกแล้วบรรจุเอาไว้เม็ดเดียว เลอสรรเองก็เปิดลูกโม่เทกระสุนแล้วบรรจุเอาไว้เม็ดเดียวเช่นกัน
ทั้งคู่ก็ยืนจ้องตากันไม่กระพริบ แล้วหันหลังให้กัน สลับกันนับ
“หนึ่ง”
“สอง”
“สาม”
สมิงหันกลับมายิงไปยังเลอสรร ขณะที่เลอสรรยังไม่ยิงแต่ม้วนตัวหลบเข้าข้างต้นไม้ เมื่อสมิงยิงปืนออกไปแล้ว ทำให้ปืนของสมิงไม่มีลูกกระสุนอีกต่อไป เลอสรรรีบพุ่งเข้ามาหาจะยิงแต่สมิงรีบหลบ แล้วเข้าไปล็อกเลอสรร จากนั้นก็เปิดฉากต่อสู้กัน ลุงมหาวิ่งเข้ามาแล้วร้องตะโกนห้าม
“อย่าครับ อย่า ผมขอร้อง”
ลุงมหาพยายามร้องห้าม แต่ไม่มีใครฟัง
ศรีนวล กำนันธง ผู้ใหญ่ต้องและพวกชาวบ้านพากันวิ่งมาตามทาง ดาวและน้อยวิ่งเข้ามาหา
“เร็วแม่ คุณเลอสรรกับสมิงปะทะกันแล้ว”
“ตอนนี้อยู่ที่ไหน”
“ทางนี้จ้ะ ตามมาเร็ว”
ดาวและน้อยรีบพาศรีนวลและคนอื่นไป
เลอสรรและสมิงต่อสู้กัน ผลักกันรุก ผลัดกันรับ ลุงมหาพยายามจะห้าม แต่โดนลูกหลงเซไปฟาดต้นไม้นั่งมึนหัวอยู่ สมิงเสียทีล้มลง เลอสรรได้โอกาสชักปืนออกมาขู่ ศรีนวลและคนอื่นๆ พากันวิ่งเข้ามา
“อย่า อย่ายิง” ศรีนวลร้องห้าม
“ห้ามทำไม” เลอสรรถามอย่างไม่พอใจ
“วันนี้วันเกิดศรีนวล ขอเถอะค่ะ อย่ามีเรื่องกันเลย”
“ศรีนวล ไม่ต้องห้าม ถ้าจะตายเพราะพ่ายแพ้ สมิงก็ภูมิใจ”
“คนอย่างเอ็งไม่ตายง่ายๆ หรอกสมิง ชั้นจะจับแกในฐานนะตำรวจจับผู้ร้าย ไม่ใช่ในฐานะผัวเก่ากับชายชู้ ยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้”
เลอสรรเหนี่ยวไกปืนขู่ให้สมิงทำตาม ด้านหลังเลอสรร บุญเหลือย่องเข้ามาแล้วเอาไม้ฟาดเลอสรรล้มลงไป ศรีนวลตกใจเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
จบตอนที่ 14
อ่านต่อตอนที่ 15 เวลา 17.00น.