เลือดเจ้าพระยา ตอนที่ 13
วันต่อมาที่โรงพยาบาล ท่านผู้ว่าทรงยศและคุณนายศรีสอางค์นอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงคนไข้ โดยมีบัว นั่งคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ
มุมหนึ่งของห้อง เลอสรรกำลังซักไซ้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสร้อยเพชร โดยเลอสรรไม่อยากเชื่อว่าเป็นความจริง
“ไม่จริง ชั้นไม่เชื่อเรื่องที่เธอเล่ามาเด็ดขาด”
“นี่คุณจะเข้าข้างนังเด็กนั่นไปถึงไหน มันทำชั่วในบ้านเรา มันจะฆ่าคุณแม่ของคุณนะคะ”
“แต่เรื่องที่เธอเล่ามามันไม่มีเหตุผลเลย ฟังยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้”
“คุณมันลำเอียง คุณหลงนังเด็กนั่นจนหน้ามืดตามัว คุณไม่เคยรักชั้น ไม่เคยรักแม่เดือนกับตาเกียรติกล้าเลย”
“นี่อย่าพูดจ้าเพ้อเจ้อซิสร้อยเพชร”
“ชั้นไม่ได้เพ้อเจ้อ ก็ได้...ถ้าคุณไม่เชื่อเรื่องที่ชั้นเล่าก็เชิญไปตามมันกลับมาเสวยสุขที่บ้านนี้เลย ไปซิ ไป”
สร้อยเพชรโมโหเดินกระแทกเท้าหนีออกจากห้องไป เลอสรรได้แต่ยืนเซ็ง
มุมหนึ่งของโรงพยาบาล ระพีกำลังพูดคุยกับเดือนบรรยากาศไม่สู้ดีเช่นกัน
“นี่คุณไม่เชื่อเดือนเลยเหรอคะคุณระพี คุณกำลังหาว่าเดือนโกหกเหรอคะ”
“เปล่าๆ ผมไม่ได้พูดแบบนั้น เพียงแต่ผมแปลกใจ”
“ค่ะเดือนเองก็แปลกใจ ถ้าเค้าสองคนเป็นพี่น้องกันจริงๆ ยังไงก็ไม่ควรจะนอนกอดกันแบบนั้น ที่ผ่านมาพวกเค้าแสดงละครตบตาพวกเรามาโดยตลอด”
เดือนร้องไห้สะเทือนใจเมื่อเล่าเรื่องดาวกับบุญเหลือ
“อย่าเพิ่งตีความไปขนาดนั้นเลยครับ บางทีมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณเดือนคิดก็ได้”
“แล้วที่เค้าผลักคุณย่าตกบันไดละคะ เรื่องนี้คุณแม่เห็นกับตา”
“เรื่องนี้ผมว่าเรารอถามคุณย่าก่อนดีกว่านะครับ คุณย่าฟื้นมาเมื่อไหร่แล้วค่อยมาสรุปกัน”
“ก็ได้ค่ะ ยังไงความจริงก็ต้องเป็นความจริงอยู่แล้ว”
เดือนมั่นใจในความคิดของตัวเอง สร้อยเพชรเดินเข้ามายังอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ”
“คุณแม่จะไปไหนคะ”
“ไปหาอะไรทานหน่อย คุณระพีไปด้วยกันมั๊ยคะ”
“พอดีผมกับผู้การนัดประชุมเอาไว้ครับ ประเดี๋ยวก็จะได้เวลาแล้ว”
“งั้นเดือนไปกับแม่นะ”
“ค่ะคุณแม่ ขอตัวก่อนนะคะ”
“ครับ เชิญครับ”
สร้อยเพชรและเดือนเดินออกไป
สร้อยเพชรและเดือนพากันเดินเข้ามานั่งในห้องอาหารของโรงพยาบาล
“คุณแม่เป็นอะไรไปคะ หน้าไม่ยิ้มเลย”
“ก็พ่อแกน่ะซิ แม่พูดยังไงก็ไม่ฟัง หาว่าแม่โกหก”
“เกิดเรื่องขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณพ่อยังไม่ยอมเชื่ออีกนะ”
บริกรเดินเข้ามาส่งเมนูอาหาร สร้อยเพชรและเดือนหยุดสนทนาแล้วสั่งอาหาร
ภายในห้องคนไข้ หมออวยชัยเดินเข้ามาพร้อมนางพยาบาล ขณะนั้นบัวกำลังเช็ดตัวให้ท่านผู้ว่าทรงยศอยู่ เลอสรรรีบเข้าไปหาหมออวยชัย
“สวัสดีครับผม”
“ครับสวัสดีครับคุณเลอสรร ผลตรวจออกมาแล้วครับ สาเหตุที่คุณท่านทั้งสองสลบแบบนี้เป็นเพราะโดนวางยานอนหลับครับ”
“วางยายานอนหลับ”
“ใช่ครับ เป็นยานอนหลับชนิดเดียวกันทั้งคู่ โดยยาอาจจะละลายในเครื่องดื่มแล้วให้คุณท่านดื่ม”
“แล้วแม่ผมละครับ บาดเจ็บอะไรจากการตกบันไดบ้างหรือเปล่า”
“โชคดีที่คุณผู้หญิงท่านมีแผลแค่ฟกช้ำเท่านั้น สมองไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรมากนัก แต่ยังไงคงต้องรอให้คนไข้ฟื้นอีกทีแล้วค่อยเช็คกัน”
“แล้วจะฟื้นเมื่อไหร่ครับ”
“ท่านผู้ว่าอาจจะเป็นพรุ่งนี้ครับ เพราะคงจะดื่มยานอนหลับเข้าไปเยอะกว่า ส่วนคุณผู้หญิงวันนี้บ่ายๆ ก็น่าจะฟื้นแล้ว”
“ขอบคุณมากนะครับหมอที่ช่วยดูแลพ่อกับแม่ผมเป็นอย่างดี”
“ไม่เป็นไรมิได้ครับ ผมเป็นหมอประจำตัวคุณท่าน ยังไงก็ต้องดูแลสุดฝีมืออยู่แล้วครับ”
หมออวยชัยและนางพยาบาลเดินออกจากห้องไป บัวตัดสินใจเดินเข้ามาหาเลอสรร
“เอ้อ...คุณเลอสรรคะ”
“มีอะไรบัว”
“ก่อนคุณท่านจะสลบไป บัวเป็นคนจัดของว่างให้คุณท่านทั้งสองเอง”
“แล้ววันนั้นของว่างมีอะไรบ้าง”
“ก็มีผลไม้ ขนม แล้วก็น้ำส้มค่ะ”
“น้ำส้ม ใครเป็นคนทำ”
“เอ้อ อ้อยเองค่ะ”
เลอสรรครุ่นคิด สงสัยว่าใครกันที่เป็นคนวางยา
อ่านต่อเวลา 17.00น.
เดือนกับสร้อยเพชรนั่งกินอาหารกันไปคุยกันไป
“ใช่ค่ะคุณแม่ คุณระพีบอกเดือนให้รอคุณย่าฟื้นก่อนแล้วเราจะได้รู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น”
“ฟื้นเหรอ”
“ใช่ค่ะ ถ้าคุณย่าฟื้นขึ้นมา คุณย่าจะได้เป็นพยานให้เราว่าใครเป็นคนผลักคุณย่า คุณแม่ไม่ต้องกลัวนะคะว่าจะไม่มีใครเชื่อคุณแม่ ความจริงก็ย่อมเป็นความจริง”
“ถ้างั้นแม่จะช้าไม่ได้แล้วซิ”
สร้อยเพชรรีบเดินออกไป สร้อยเพชรกลัวคุณนายศรีสอางค์ฟื้นขึ้นมาแล้วจะเล่าเรื่องต่างจากที่เธอโฆษณาเอาไว้
“อ้าว คุณแม่ขา คุณแม่จะไปไหน”
เดือนแปลกใจที่จู่ๆ สร้อยเพชรก็รีบออกไป
สร้อยเพชรเดินมาหมุนโทรศัพท์ เพื่อโทรกลับไปยังบ้าน ที่บ้านเห็นเกียรติกล้าเดินมารับโทรศัพท์
“ฮัลโหล”
“เกียรติกล้า แม่วานอะไรแกหน่อย”
“อะไรหรือครับคุณแม่”
“เข้าไปในห้องนอนแม่ แล้วหยิบหลอดยาในกระเป๋ามาให้แม่ที่โรงพยาบาลที”
“ยาอะไรครับคุณแม่”
“แกไม่ต้องรู้หรอก ไปหยิบมาให้แม่ แล้วรีบมาที่โรงพยาบาลเร็ว”
“ครับๆ เดี๋ยวจัดการให้ครับ”
สร้อยเพชรวางโทรศัพท์ลง
ในห้องนอนเลอสรร เกียรติกล้าเดินมามองหากระเป๋าของสร้อยเพชร จากนั้นก็หยิบเอาหลอดยาเล็กๆ ออกมา
“หลอดยานี่แน่ๆ เลย”
เกียรติกล้าหยิบเอายาใส่กระเป๋าแล้วเดินออกไป
ที่โรงพยาบาลสร้อยเพชรและเดือน ทานอาหารเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังสั่งเมนูขนมของหวานกินกัน สักครู่เกียรติกล้าก็เดินเข้ามา
“คุณแม่อยู่นี่เอง”
“ได้ของมาหรือเปล่า”
“นี่ไงครับ”
เกียรติกล้าส่งยาให้สร้อยเพชร เดือนมองด้วยความสงสัย
“ยาอะไรคะคุณแม่”
“ยาส่วนตัวของแม่เอง ไม่มีอะไรหรอก”
“กินขนมกันเหรอ กินด้วย” สร้อยเพชรส่งเมนูขนมให้เกียรติกล้า
“แกสองคนอยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวแม่มา”
สร้อยเพชรลุกออกไป เกียรติกล้าและเดือนสั่งขนมกินกัน
เลือดเจ้าพระยา ตอนที่ 13 (ต่อ)
ห้องคนไข้บัวนั่งเฝ้าอยู่ที่ข้างเตียง ท่านผู้ว่าทรงยศและคุณนายศรีสอางค์ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง สร้อยเพชรเปิดประตูเข้ามา
“คุณสร้อยเพชร”
“คุณเลอสรรไปไหน”
“เห็นว่าออกไปประชุมน่ะค่ะ”
“แล้วคุณแม่ ยังไม่ฟื้นใช่มั๊ย”
“ยังค่ะ”
คุณนายศรีสอางค์เริ่มฟื้น ขยับตัว
“ดาว ดาวอยู่ไหน”
สร้อยเพชรและบัวรีบเข้าไปหา
“คุณท่านฟื้นแล้ว”
“บัว เอ้อ...แก แกเอ้อ...ออกไปซื้อ เอ้อ...ขนมมาที”
“แต่คุณท่าน”
“เดี๋ยวชั้นดูเอง แกไปซื้อขนมมาที ชั้นอยากกินขนม”
“ขนมอะไรคะ”
“ขนมอะไรก็ได้ เอ้านี่เงิน ออกไปซื้อเร็ว” บัวรับเงินมางงๆ “เร็วซิ ออกไป”
“ค่ะๆ” เมื่อบัวเดินออกจากห้องไปสร้อยเพชรรีบหยิบยานอนหลับขึ้นมาแล้วละลายน้ำป้อนให้คุณนายศรีสอางค์กิน
“ทานน้ำค่ะคุณแม่ ทานเยอะๆ”
ระหว่างที่สร้อยเพชรป้อนน้ำผสมยานอนหลับ ที่หน้าประตูบัวแอบแง้มประตูมองด้วยความสงสัย
อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องประชุมกรมตำรวจ เลอสรร ระพี จ่าสมหมาย กำลังประชุมร่วมกับตำรวจคนอื่นๆ ระพีส่งเอกสารซึ่งเป็นแผนที่พิกัดต่างๆ ให้ทุกคนดู
“ครั้งที่แล้ว ถึงเราจะจัดการพวกมันไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราก็รุกคืบเข้าใกล้แหล่งพำนักของพวกมันมากพอควร แผนที่ที่ผมแจกคือพิกัดต่างๆ ที่ผมทำการสำรวจจากเส้นทางจริง อยากให้ทุกคนได้ลองพิจารณากันดูครับ”
“แผนที่ของคุณเหมือนเป็นการขยายแผนที่จริงให้ละเอียดขึ้น ถ้าเป็นอย่างงี้แสดงว่าผาช่องลมอยู่ห่างจากจุดที่เราไปถึงไม่กี่ร้อยเมตรนี่เอง”
“ใช่ครับถ้าผนวกแผนที่จริงมาประกอบ จะเห็นว่าครั้งที่แล้วเราเดินมาแถวจุดนี้ โดยห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตรจะมีถ้ำ มีช่องเขาเล็กๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า”
“ปัดโธ่ โง่จริงๆ พวกเราโดนป่าบังเส้นทางเข้าออก แค่บุกเข้าไปไม่กี่ก้าวก็ถึงเขาช่องลมแล้ว”
“ใช่ครับ ครั้งที่แล้วเราอยู่ใกล้ผาช่องลมแค่คืบ แต่กลับมองไม่เห็นกัน”
“เดี๋ยวนะ ถ้าเป็นไปตามแผนที่นี้ แสดงว่าผาช่องลมยังมีทางเข้าออกอีกทางคือแม่น้ำเส้นนี้”
“ครับ ด้านหลังผาช่องลม มีลำน้ำเล็กๆ เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา ล่องไปนิดเดียวก็ถึงลานเท เร็วกว่าเดินเท้าอีกครับ”
“ดี ครั้งต่อไป เราจะวางกำลังทางน้ำเอาไว้ด้วย ปิดล้อมทางเข้าออกของพวกมันให้หมด คราวนี้มันหนีไม่รอดแน่”
ทุกคนพากันประชุมกันต่อไปเงียบๆ
ที่โต๊ะสนุ้ก สร้อยเพชรเดินเข้ามากับเกียรติกล้า
“ขอบคุณมากครับคุณแม่ที่ให้ผมติดรถมาด้วย”
“ก็วันนี้แกช่วยเหลือแม่ แม่ก็เลยต้องตอบแทนแกบ้าง”
“กะอีแค่หยิบยาแค่เนี๊ยะ เรื่องเล็กน้อยครับคุณแม่”
“เอาละ แยกกันตรงนี้ เพื่อนแม่รออยู่ในห้อง”
“เอ้อ...ขอเงินหน่อยได้มั๊ยครับคุณแม่ คือว่า...”
“เป็นหนี้อีกแล้วใช่มั๊ย ครั้งที่แล้วชั้นใช้หนี้แทนแกไปตั้งหลายหมื่น”
“คราวนี้ไม่กี่พันเองครับแม่”
“เท่าไหร่”
“ห้าพันครับ”
สร้อยเพชรเซ็ง หยิบเงินให้เกียรติกล้าไปห้าพัน จากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป
สร้อยเพชรเดินเข้ามาร่วมวงกับขาไพ่ซึ่งกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน โดยมีวิชัยคอยดูแลความสะดวกให้
“คุณสร้อยเพชรมาพอดี นี่ครับ” วิชัยส่งซองกฐินให้
“ซองอะไร”
“กฐินสามัคคีครับ อยากจะเรียนเชิญคุณสร้อยเพชรให้เป็นเจ้าภาพงานกฐินของพวกเราซักหน่อย”
“ทอดกฐินเหรอ”
“ใช่ครับ วัดแถวอยุธยาน่ะครับ พวกเราไปกันทุกคน”
“ใช่จ้ะ เป็นเจ้าภาพหน่อยนะสร้อยเพชร จะได้ถือโอกาสไปเที่ยวด้วยกัน”
เพื่อนๆ ทุกคนช่วยกันคะยั้นคะยอให้สร้อยเพชรรับเป็นเจ้าภาพ สร้อยเพชรยิ้ม รับปากในที่สุด
ที่โรงพยาบาล เลอสรรกำลังดูอาการของคุณนายศรีสอางค์และท่านผู้ว่าทรงยศ ซึ่งบัดนี้ยังคงหลับใหลไม่ได้สติเช่นเดิม บัวยืนอยู่ข้างๆ คอยดูแล
“หมอบอกว่าคุณแม่น่าจะฟื้นวันนี้ แล้วทำไมยังไม่ฟื้นอีกนะ แปลกจริงๆ”
“เมื่อตอนบ่าย ท่านฟื้นขึ้นมาแล้วค่ะคุณเลอสรร” บัวบอก
“เหรอ อาการท่านเป็นไงบ้าง”
“ไม่ทันได้ดูหรอกค่ะ พอดีคุณสร้อยเพชรใช้ให้ไปซื้อขนมก่อน”
“ซื้อขนม”
“บัวก็ไม่อยากไปหรอกค่ะ แต่ว่าคุณสร้อยเพชรบอกให้ไป”
สร้อยเพชรเดินเข้ามาพอดี
“หายไปไหนมา ผมรอตั้งนาน”
“ชั้นก็ไปหย่อนใจชั้นบ้างซิ จะให้มานั่งจับเจ่าอยู่แต่ในโรงพยาบาลได้ยังไง”
“หวังว่าคงไม่ได้ไปเล่นไพ่มาหรอกนะ” สร้อยเพชรค้อนขวับที่เลอสรรพูดดักคอเหมือนรู้ทัน “เห็นบัวบอกว่า เมื่อตอนบ่ายคุณแม่ฟื้นขึ้นมา”
“เอ้อ ก็แค่ละเมอ แล้วก็หลับต่อ ไม่เห็นมีอะไรนี่”
“แต่บัวได้ยินคุณท่านเรียกชื่อคุณดาวด้วยนะคะ คุณท่านไม่ได้ละเมอหรอกค่ะตอนนั้นอาการเหมือนท่านจะรู้สึกตัวแล้ว” สร้อยเพชรหันไปใช้สายตาหยุดบัวไม่ให้พูดต่อ
“แล้วไงต่อ” เลอสรรถามต่อแต่บัวกลัวสร้อยเพชรไม่กล้าพูดต่อ
“ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ท่านแค่เรียกชื่อคนที่ผลักท่านตกบันได แล้วก็ร้องโวยวายหวาดกลัว บอกว่าดาวอย่าทำย่า ดาวอย่าทำย่า แล้วก็หลับไป คุณแม่คงจะหวาดกลัวนังเด็กคนนั้นมากซิคะก็เลยเก็บมาละเมอ น่าสงสารจริงๆ”
สร้อยเพชรบอก เลอสรรหันไปมองบัว บัวทำหน้าปูเลี่ยนๆ ก้มหน้าก้มตา
เลอสรรมาคุยกับหมออวยชัยที่ห้องทำงาน
“ผลการตรวจเลือดคุณท่านทั้งสอง พบว่าปริมาณยานอนหลับยังไม่ลดลงเลยครับ ตรงกันข้ามกลับมีเพิ่มขึ้น”
“หมายความว่ายังไงครับ”
“ผมคิดว่าท่านน่าจะโดนวางยาเพิ่ม”
“อะไรนะครับ วางยาเพิ่ม”
“ครับ น่าเป็นห่วงมาก หากโดนแบบนี้ไปเรื่อยๆ คุณท่านทั้งสองก็อาจเสียชีวิตได้นะครับ”
“บัดซบ”
เลอสรรแค้นใจที่พ่อกับแม่ถูกวางยา
“ผมอยากให้คุณเลอสรรจับตาคน บางทีคนที่วางยาอาจจะเป็นคนใดคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ชิดท่านก็เป็นได้” เลอสรรครุ่นคิด
เลอสรรยืนรออยู่ที่มุมหนึ่งของโรงพยาบาลจนกระทั่งเดือนเดินเข้ามา
“คุณพ่อเรียกเดือนมา มีอะไรเหรอคะ”
“พ่อมีเรื่องสำคัญอยากจะขอให้เดือนช่วย”
“เรื่องอะไรคะ”
“พ่ออยากให้เดือนช่วยพ่อหาตัวคนที่วางยาคุณปู่กับคุณย่า”
“อะไรนะคะ มีคนวางยาคุณปู่คุณย่า”
เดือนตกใจที่ได้ยิน เลอสรรและเดือนคุยกันเงียบๆ
วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอยุธยา เด็กวัดกำลังติดป้าย “ ยินดีต้อนรับคุณนายสร้อยเพชร ชินวร และคณะกฐินสามัคคี ” ผู้ใหญ่ต้องยืนมองด้วยความสนใจ แล้วหันไปถามเด็กวัด
“พวกกฐินจะมากันเมื่อไหร่”
“พรุ่งนี้ครับพี่”
“แล้วตัวคุณนายเค้าจะมาด้วยหรือเปล่า”
“อ้อ คุณนายสร้อยเพชรเหรอ ต้องมาซิผู้ใหญ่ เค้าเป็นประธานยังไงก็ต้องมา”
ผู้ใหญ่ต้องยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก
วันเดียวกันนั้นผู้ใหญ่ต้องกำลังนั่งคุยกับกำนันธงอยู่ที่มุมหนึ่งของลานบ้าน
“พอดีชั้นผ่านไปแถววัดใต้ เห็นป้ายต้อนรับก็เลยถามเด็กมันดู”
“ตัวคุณนายสร้อยเพชรจะมาแน่ใช่มั๊ยผู้ใหญ่”
“มาแน่นอนกำนัน ไม่งั้นที่วัดเค้าไม่ขึ้นป้ายต้อนรับกันหรอก”
“ยังไงก็อย่าให้ศรีนวลมันรู้เรื่องนี้ละกัน ไม่งั้นประเดี๋ยวจะสะเทือนใจกันเปล่าๆ”
“จ้ะ ชั้นไม่บอกใครหรอก นอกจากกำนัน”
สองคนคุยกันโดยไม่รู้ว่าเหิมแอบฟังอยู่ที่มุมหนึ่ง
“นังคุณนายสร้อยเพชรจะมาทอดกฐิน ฮึ่ม คราวนี้คงได้เห็นดีกันแน่”
เหิมเริ่มวางแผนกำจัดสร้อยเพชร
เลือดเจ้าพระยา ตอนที่ 13 (ต่อ)
วันต่อมาขณะที่สร้อยเพชรกำลังแต่งตัวเตรียมไปทำบุญทอดกฐิน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“เข้ามา”
เกียรติกล้าเดินเข้ามา
“นั่นคุณแม่จะไปไหนครับ”
“วันนี้แม่จะไปทอดกฐินที่วัดแถวอยุธยา”
“มิน่าแต่งตัวซะสวยเชียว”
“ชมแม่แบบนี้ จะมาประเหลาะขอเงินอีกละซิ”
“โธ่...คุณแม่รู้ทันอีกละ”
สร้อยเพชรหยิบเงินส่งให้จำนวนหนึ่ง
“เอาไป แล้วตอนเย็นเจอกัน”
“ครับ” สร้อยเพชรเดินออกจากห้องไป เกียรติกล้าเอาเงินขึ้นมาดู “วันนี้ใจดี ได้มาตั้งหลายพันแน่ะ” เกียรติกล้านับเงิน
ห้องคนไข้ เดือนนอนหลับอยู่บนโซฟาสำหรับญาติมาเฝ้าไข้ บัวเดินย่องออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินไปที่เตียงคุณนายศรีสอางค์ จากนั้นบัวก็หันไปหยิบถ้วยน้ำจากมุมหนึ่งมารินน้ำโดยทุกกริยาของบัวทำเหมือนกับว่ากำลังหลบซ่อนไม่อยากให้เดือนเห็น
เดือนซึ่งนอนหลับอยู่ค่อยๆ หรี่ตาขึ้นมาแอบดู แล้วรู้สึกสงสัยในพฤติกรรมของบัว สักครู่ก็เห็นบัวเดินไปป้อนน้ำให้คุณนายศรีสอางค์ที่เตียงแบบเบาๆ ท่าทางเหมือนมีพิรุธ เดือนเข้าใจผิดคิดว่าบัวกำลังวางยานอนหลับจึงลุกพรวดขึ้นมาจากที่นอน
“หยุดนะ นั่นจะทำอะไร”
เดือนถามเสียงดัง บัวตกใจสะดุ้งเฮือก ท่าทางมีพิรุธ
“บัวเปล่าๆ นะคะ ไม่ได้ทำอะไร”
“แกวางยาคุณปู่กับคุณย่าใช่มั๊ย บอกมาเดี๋ยวนี้นะ”
“เปล่า บัวเปล่า”
“โกหก เห็นอยู่กับตาว่าแกทำ”
เลอสรรเปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง
“มีอะไร”
“จับได้แล้วค่ะคุณพ่อ คาหนังคาเขา คนที่วางยาคุณปู่คุณย่าก็คือแม่บัวนี่เอง” บัวตกใจหน้าซีด หวาดกลัว
เกียรติกล้านับเงินเสร็จกำลังจะเดินออกจากห้องแล้วสายตาเหลือบไปเห็นหลอดยานอนหลับของสร้อยเพชรจึงหยิบขึ้นมาดู
“คุณแม่ลืมยา”
เกียรติกล้าหยิบยา แล้วรีบเดินออกไป
ที่โรงพยาบาลเลอสรรกับเดือนกำลังช่วยกันสอบสวนบัวที่กำลังหวาดกลัวตัวสั่น
“บัวเปล่านะคะ บัวไม่ได้เป็นคนวางยาคุณท่านทั้งสองเลย”
“งั้นก็ตอบมาหน่อยว่าเมื่อกี้แกทำอะไร”
“บัวกลัวคุณท่านจะคอแห้งก็เลยเอาน้ำเปล่ามาป้อน เป็นน้ำของโรงพยาบาล ไม่มีผสมยานอนหลับหรอกค่ะ”
“แต่หมอบอกว่าคุณแม่ชั้นโดนวางยาจากคนใกล้ชิด ถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร”
“บัวไม่ได้ทำ คนที่ทำต้องเป็นคุณสร้อยเพชรแน่ๆ บัวเคยเห็นคุณสร้อยเพชรป้อนยาคุณท่านค่ะ”
“อะไรนะ นี่แกพูดจริงเหรอ”
“จริงค่ะ คุณสร้อยเพชรเอายาในหลอดใส่น้ำ แล้วก็ป้อนให้คุณท่าน”
“ยาในหลอด”
เดือนคิดถึงภาพยาที่เกียรติกล้าเอามาให้สร้อยเพชรเมื่อวันก่อน
หน้าบ้านท่านผู้ว่าทรงยศเห็นรถจอดรออยู่ สร้อยเพชรเดินลงมา คนขับรถยืนคอยท่าอยู่ใกล้ๆ รถ
“วันนี้ขับเร็วๆ หน่อย เดี๋ยวชั้นไปไม่ทันเรือออก”
“ครับผม”
คนขับรถเปิดประตูให้สร้อยเพชรเดินขึ้นไปนั่ง รถขับออกไป เกียรติกล้าเดินถือยาวิ่งออกมาจากบ้าน
“คุณแม่ครับ คุณแม่”
เกียรติกล้ายืนถือหลอดยาในมือ
โทรศัพท์บ้านเสียงดังขึ้น เกียรติกล้าเดินเข้ามารับสาย
“ครับคุณพ่อ”
“ขอสายแม่แกหน่อย”
“คุณแม่ออกไปเมื่อกี้นี้เองครับ บอกว่าจะไปทอดกฐิน”
“เมื่อวานแม่เค้าแกให้เอายาอะไรไปให้จำได้มั๊ย”
“จำได้ครับ ยาอะไรก็ไม่รู้ ยาอยู่กับผมเนี่ยะครับ”
“งั้นรีบมาที่โรงพยาบาลนะ เอายามาด้วย”
“ครับ ได้ครับ”
เกียรติกล้ามองยาในมืองงๆ
เกียรติกล้ามาที่โรงพยาบาลพร้อมกับหลอดยาของสร้อยเพชร เกียรติกล้าส่งหลอดยาให้กับหมออวยชัย โดยมีเลอสรรและเดือนนั่งอยู่ด้วย
“นี่ครับ ยา”
หมออวยชัยพลิกดูไปมา
“เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ ยาตัวนี้แหละครับที่เราพบในร่างกายของคุณท่านทั้งสอง อันตรายจริงๆ”
“ทำไมครับ”
“ยาตัวนี้เป็นยานอนหลับอย่างแรง ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ เพราะถ้าให้ยาซ้ำๆ ติดต่อกันหลายๆ วัน อาจถึงกับเสียชีวิตได้”
“นี่คุณแม่ทำแบบนี้ทำไมคะ”
“ไม่จริงพี่เดือน คุณแม่ต้องไม่ทำกับคุณปู่คุณย่าแบบนี้แน่”
“พ่อเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าแม่แกจะเป็นคนทำเรื่องแบบนี้”
เลอสรรรู้สึกผิดหวังในสิ่งที่สร้อยเพชรทำเช่นเดียวกับเดือนและเกียรติกล้า
เรือกฐินกำลังแล่นมาตามลำน้ำ ในเรือเห็นสร้อยเพชรนั่งเด่นเป็นสง่า จิตและเพื่อนๆ อยู่รายรอบกำลังสนุกสนานกับการร่ายรำ ขจรศักดิ์ วิชัยและลูกน้องกำลังกินเหล้าเมาเฮฮาตีกลองร้องเพลงครึกครื้น เรือกฐินแล่นมาจอดที่ท่าน้ำของวัด จากนั้นทุกคนก็พากันยกขบวนร่ายรำเข้าไปในวัด
เหิม ขวดและพวก ซุ่มแอบดูอยู่เงียบๆ มุมหนึ่ง
“พวกมันมากันแล้ว”
“ปากบอกว่ามาทำบุญ แต่กินเหล้าหยำเป แบบนี้มันน่าตายจริงๆ”
“รีบลงมือกันเร็ว ก่อนที่สมิงจะรู้ว่าเราหายไป”
เหิม ขวดและพวก พากันซุ่มตัวตามพุ่มไม้ แล้ววิ่งกระจายกำลังเข้าไปในวัด
มุมหนึ่งใกล้ลานบ้านกำนันธง สมิงกำลังเดินตามหาเหิม ขวดและพวก ผู้ใหญ่ต้องผ่านมาเห็นจึงถามอย่างสงสัย
“หาใคร สมิง”
“ไม่รู้ว่าเหิม กับพวกมันหายไปไหนกัน”
“เอ...ไม่รู้เหมือนกัน ข้าเองก็ไม่เห็นแต่เช้าแล้ว”
“แล้วนี่ผู้ใหญ่จะไปไหน”
“คือ เอ้อ...”
“มีอะไรผู้ใหญ่”
“พอดีกำลังจะไปที่วัดใต้ วันนี้เค้ามีกฐินพวกกรุงเทพฯมาทอดที่วัด”
“กฐินของใคร”
“เอ้อ ถ้าบอกไปแล้ว สมิงอย่าไปแพร่งพรายถึงหูศรีนวลล่ะ ประเดี๋ยวจะสะเทือนใจกัน”
“ไม่บอกหรอกน่าผู้ใหญ่ บอกมาเถอะ”
“กฐินของคุณสร้อยเพชร เมียของคุณเลอสรรเค้าน่ะ”
สมิงครุ่นคิดถึงเหิมกับพวก ก็รู้ทันทีว่าพวกนั้นหายไปไหน
เลือดเจ้าพระยา ตอนที่ 13 (ต่อ)
สมิงรีบจูงผู้ใหญ่ต้องมาที่ท่าเรืออย่างเร่งรีบ
“จะรีบไปไหนสมิง ช้าๆ หน่อยก็ได้ ชั้นเหนื่อย”
“เร็วหน่อยเหอะผู้ใหญ่ ประเดี๋ยวจะไม่ทัน”
“บอกมาก่อนซิว่ามีเรื่องอะไร ทำไมต้องรีบแบบนี้”
“ก็ไอ้เหิม ไอ้ขวด กับพวกลูกน้องสมิงน่ะซิ พวกมันจงเกลียดจงชังคุณนายสร้อยเพชรกันมาก สมิงกลัวว่าที่พวกมันหายไปก็คงไปดักรอฆ่าคุณนายสร้อยเพชรนั่นแหละ”
“แบบนี้ก็เรื่องใหญ่น่ะซิ เร็วสมิง เร็ว ๆ เดี๋ยวไม่ทัน เฮ้ย เอ็ง เอาเรือออกเร็ว ไปวัดใต้ด่วนที่สุด”
ผู้ใหญ่ต้องเป็นฝ่ายเร่งรีบ บอกให้คนขับออกเรือแล้วเร่งเครื่องออกไป
ภายในวัดใต้ ขบวนกฐินกำลังสนุกสนานร่ายรำกันอย่างครื้นเครง สร้อยเพชร จิตและเพื่อนๆ เริ่มเมา แล้วพากันร่ายรำไปตามเสียงปี่เสียงกลอง พวกชาวบ้าน และมัคนายกยืนมองจากบนศาลาแล้วพากันเหนื่อยหน่าย
“เข้าวัดแล้ว ยังไม่เลิกกินเหล้ากันอีก”
“นั่นซิ ไม่เกรงใจพระเณรกันเลย”
วิชัย ขจรศักดิ์และพวกยืนเชียร์ ร่ายรำอย่างสนุกสนาน วิชัยเมาแอ๋ เข้ามาโค้งสร้อยเพชร แล้วพากันร่ายรำ เมื่อเหล้าหมดวิชัยก็ตะโกนโวยวาย
“เหล้า เหล้าอยู่ไหน เอาเหล้ามา เหล้า”
มัคนายกทนไม่ไหวรีบลงไปห้ามปราม
“ที่วัดไม่มีเหล้าหรอกคุณ”
“นี่อะไรกัน อย่างงี้แสดงว่าไม่เต็มใจต้อนรับกันใช่มั๊ย”
“จะทอดกฐินกันอยู่แล้ว สำรวมกันหน่อยเถอะครับ เกรงใจพระท่าน”
“หุบปากไปเลยตาเฒ่า คนกำลังสนุกอย่ามาทำให้เสียบรรยากาศ”
สร้อยเพชรโวยวาย ขจรศักดิ์เข้ามาหาสร้อยเพชร เมื่อเห็นว่าสร้อยเพชรมีปัญหากับมัคนายก
“มีอะไรกันครับ”
“ก็ไอ้บ้านี่น่ะซิ ปากไม่ดี พูดจาสามหาว สั่งสอนมันทีขจรศักดิ์”
ขจรศักดิ์เข้ามากระชากคอมัคนายกจะชก แต่แล้วเหิม ขวดและพวกปรากฏตัว
“หยุดนะ อย่ารังแกคนไม่มีทางสู้”
“เฮ้ย พวกเอ็งเป็นใคร ตายซะเถอะ”
วิชัยชักปืนออกมาแล้วยิงใส่ จากนั้นเหิม ขวดและพวกก็พากันยิงตอบโต้ ชาวบ้านและคนที่เกี่ยวข้องพากันวิ่งหนีวุ่นวาย ท่ามกลางเสียงปืนดังลั่น
เรือของผู้ใหญ่ต้องและสมิง แล่นมาจอดที่ท่าเรือ ขณะที่สมิงและผู้ใหญ่ต้องกำลังขึ้นจากเรือก็เห็นชาวบ้านที่วิ่งหนีกระสุนปืนพากันวิ่งหนีผ่านไปมา เสียงปืนที่ยิงกันดังกึกก้อง
“เหิมกับคนอื่นๆ อยู่ที่นี่จริงๆ”
“ก่อเรื่องใหญ่แบบนี้ คอยดูเถอะ ตำรวจแห่กันมาแน่”
“แยกกันตรงนี้นะผู้ใหญ่”
สมิงรีบแยกตัวไป ขณะที่ผู้ใหญ่ต้องเข้าไปช่วยพยุงชาวบ้านที่หกล้มหกลุกด้วยความตกใจเสียงปืน
เหิม ขวดและพวกวิ่งมาหลบที่มุมหนึ่ง วิชัย ขจรศักดิ์ และพวกวิ่งไล่ยิงมา เหิม ขวดและพวกหันไปยิงตอบโต้ ทำให้วิชัยโกรธ จากนั้นเหิม ขวดและพวกก็พากันวิ่งหนีกันไปกระจัดกระจาย
“พวกมันไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาแน่”
“เป็นพวกไอ้สมิง ชั้นจำได้” ขจรศักดิ์บอก
“หนอย ที่แท้ก็พวกโจร คอยดูวันนี้ข้าจะจับโจรให้ดู”
วิชัยหันไปทำสัญญาณมือให้ทุกคนกระจายกันออกไปเพื่อไล่ล่า
ขวดกำลังยิงต่อสู้กับขจรศักดิ์ สักครู่ขจรศักดิ์ก็บุกเข้ามาประชิดตัวขวดแล้วต่อสู้กัน ขจรศักดิ์ล้มลงขวดรีบใช้ปืนจ่อจะยิง แต่สมิงเข้ามาขวางไว้
“อย่ายิง”
“สมิง”
“ไอ้นี่มันเด็ก ปล่อยมันไป”
“ไปซิ ก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจ”
ขวดบอกกับขจรศักดิ์ ขจรศักดิ์รีบลุกขึ้นแล้วหนีไป ขวดหันไปหาสมิง สมิงต่อว่าทันที
“ทำอะไรกัน ทำไมไม่บอกสมิง”
“ขอโทษสมิง พวกเรามาที่นี่ก็เพราะต้องการแก้แค้นนังคุณนายสร้อยเพชร”
“ถึงเป็นเสือ แต่ก็ไม่ควรทำผู้หญิง”
“แต่ว่ามัน...”
“ไม่มีแต่”
ขจรศักดิ์ก้มลงหยิบปืนที่พื้นแล้วหันมาเล็งจะยิงสมิง ขวดหันไปเห็นเลยยิงสวนไปกระสุนปืนถูกขจรศักดิ์ตาย
“มันถึงฆาตแล้วสมิง”
สมิงพยักหน้าเข้าใจ จากนั้นทั้งคู่ก็รีบพากันไปตามหาเหิม
สร้อยเพชร จิตและพวกเพื่อนๆ พากันหลบกระสุนปืนไปอยู่ที่มุมหนึ่งแล้วสักครู่ก็เห็นเหิมวิ่งหนีเข้ามา สร้อยเพชร จิต และเพื่อนกรีดร้องด้วยความตกใจ วิชัยตามเข้ามาแล้วยิงต่อสู้กับเหิม แต่กระสุนปืนเหิมหมดเหิมจึงวิ่งเข้าไปจับตัวสร้อยเพชรเอาไว้เป็นตัวประกัน
“หยุดนะ อย่าเข้ามา”
“ช่วยด้วย วิชัย ช่วยชั้นด้วย”
“เอ็งจนมุมแล้ว ยอมมอบตัวซะดีๆ ไอ้มหาโจร”
“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นนังคุณนายนี่ตาย”
“คิดว่าข้ากลัวมันตายเหรอ ฮ่ะๆ”
วิชัยกระหน่ำยิงมาที่เหิมโดยไม่สนใจว่าสร้อยเพชรจะเป็นยังไง ทำให้สร้อยเพชรโกรธ
“ไอ้วิชัย นี่แกทำอะไร”
“คุณนายตายไปพร้อมโจรน่ะดีแล้ว ฮ่ะๆ”
“แก ไอ้สารเลว”
“ถึงจะเลว แต่ก็น้อยกว่าแกนังคุณนาย ฮ่ะๆ”
เหิมหาจังหวะรีบเปลี่ยนกระสุน เมื่อเปลี่ยนเสร็จ สร้อยเพชรก็ฉวยโอกาสคว้าปืนมาแล้วเล็งไปยังวิชัย
“ไอ้วิชัย แก...”
จังหวะนั้นเองที่วิชัยกระหน่ำยิงสวนเข้ามาถูกร่างของสร้อยเพชรล้มลงขาดใจตาย เหิมหยิบปืนที่หล่นลงพื้น แล้วยิงกระหน่ำไปยังวิชัยทำให้วิชัยถูกกระสุนปืนล้มลงขาดใจตายเช่นกัน
ลูกน้องสมิงกระหน่ำยิงไปยังร่างของลูกน้องวิชัยล้มลงขาดใจตายจนหมด สมิงกับขวดเดินเข้ามา พวกลูกน้องรีบเข้ามาสมทบ สมิงมองไปที่ศพที่นอนเกลื่อนวัดด้วยความไม่สบายใจ
“เหิมอยู่ไหน”
เหิมโผล่มาจากมุมหนึ่งตรงเข้ามาหาสมิง
“ชั้นอยู่นี่”
สมิงตรงเข้าไปหา แล้วตบหน้าฉาดด้วยความโกรธ
“รู้ตัวมั๊ยว่าทำอะไรลงไป”
“ขอโทษสมิง”
“ไม่ต้องขอโทษสมิง พวกเอ็งทุกคนต้องขอขมาพระ ขอขมาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะที่นี่เป็นเขตอภัยทาน” สมิงหันหน้าไปทางโบสถ์แล้วคุกเข่าลงพนมมือ ทุกคนทำตาม “ข้าแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าพเจ้ากราบขอขมาในการกระทำใดๆ อันเป็นการลุแกโทสะ และผิดศีลธรรมในเขตพัทธสีมาแห่งนี้ ขอพระองค์โปรดประทานอภัยให้แก่พวกเราด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า”
สมิงและคนอื่นๆ พากันก้มลงกราบพระสามครั้ง
วันต่อมาที่บ้านท่านผู้ว่าทรงยศ เดือนและเกียรติกล้าตกใจเมื่อเลอสรรบอกข่าวการตายของสร้อยเพชร เดือนทำหนังสือในมือหล่นพื้นแล้วเธอก็ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจ
“คุณแม่ตายแล้ว”
“ไม่จริง ไม่จริง”
เลอสรรตรงเข้าไปกอดลูกพยายามปลอบโยน เดือนและเกียรติกล้าร้องไห้โฮ
“คุณแม่ไปสบายแล้วนะลูก ท่านไปดีแล้ว”
“ฮื่อ คุณแม่ตายแล้วเดือนจะอยู่กับใคร ฮื่อ”
“ใครๆ ก็ว่าคุณแม่ทำผิดกับคุณปู่คุณย่า คุณแม่ต้องกลับมาอธิบายก่อนซิครับว่าความจริงมันเป็นยังไง ผมไม่ยอม ฮื่อๆๆ”
เลอสรรกอดลูกทั้งสอง ปลอบโยน
จบตอนที่ 13
อ่านต่อตอนที่ 14 เวลา 17.00น.