ตรัง - พบใบฎีกาเชิญร่วมทอดกฐินสามัคคีกว่า 200 วัด ทั้ง จ.ตรัง พร้อมแอบอ้างชื่อชมรม และสมาคม เตือนพุทธศาสนิกชนพิจารณารอบคอบ
วันนี้ (12 พ.ย.) พระครูปลัดสุวัฒนพรหมวิหารคุณ หรือพระครูปลัดอุดม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง จังหวัดตรัง ได้รับการร้องเรียนจากพุทธศาสนิกชน ว่า พบใบฎีกาเชิญชวนร่วมทำบุญมหากุศล ร่วมทอดกฐินสามัคคีและถวายปัจจัย จำนวน 221 วัด ในจังหวัดตรัง ช่วงระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม-17 พฤศจิกายน 2556 โดยอ้างชื่อชมรม และสมาคมบางแห่ง พร้อมกับระบุชื่อวัดต่างๆ ทั้ง 10 อำเภอ ของจังหวัดตรัง ร่วมเป็นเจ้าภาพ แต่เมื่อสอบถามไปยังเจ้าอาวาสบางวัด ต่างก็ไม่รู้ไม่เห็นต่อใบฎีกาดังกล่าว อีกทั้งบางแห่งก็มีการทอดกฐินเสร็จสิ้นไปนานแล้วก่อนหน้านี้ รวมทั้งยังมีเจ้าภาพองค์กฐินระบุเอาไว้อย่างชัดเจน
จากการตรวจสอบใบฎีกาดังกล่าว มีลักษณะที่ไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง เพราะเป็นการเอากาลทานในสมัยฤดูกาลออกพรรษา หรือในสมัยทอดกฐิน มาทำมาหากิน ซึ่งเมื่อญาติโยมได้รับใบฎีกาดังกล่าวก็อาจมีการใส่เงินลงไปในซองกฐินกันเยอะๆ เพราะเชื่อว่าจะเป็นการทำบุญอันมหาศาล ฉะนั้น จึงขอให้พุทธศาสนิกชนพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ ทุกครั้งที่มีผู้นำซองกฐินไปเรี่ยไร เพราะบางครั้งอาจมีลักษณะของการแอบอ้าง โดยจะต้องตรวจสอบว่า เจ้าภาพองค์กฐินที่ระบุไว้ในใบฎีกาเหล่านั้นมีตัวตนที่ชัดเจนหรือไม่ อย่างไร สำหรับรายชื่อวัดต่างๆ มีการนำมาจากสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อตีพิมพ์ลงไปเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูปลัดอุดม ได้นำใบฎีกา และซองกฐินเรี่ยไรดังกล่าวไปให้ พระพรหมจริยาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ (มหานิกาย) เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง เพื่อทำการตรวจสอบ โดยพบว่า มีตัวแทนของสมาคมแห่งหนึ่งที่มีชื่ออยู่ใบฎีกาดังกล่าว ได้ทำการส่งเงินมาร่วมทำบุญทอดกฐิน กับวัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา เพียงแค่ 100 บาทเท่านั้น ซึ่งถือเป็นจำนวนที่น้อยมาก
เมื่อเทียบกับความเป็นจริงการออกใบฎีกาที่มีการระบุชื่อเกือบทุกวัดทั้งจังหวัดตรังนั้น น่าจะใช้เงินเป็นก้อนใหญ่พอสมควร ทั้งนี้ จะมีการส่งเรื่องไปยังเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบได้ดูแลเรื่องนี้อีกทีโดยรอบคอบ หากมีการกระทำผิดจริงก็จะจัดส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป