ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 6
กษิดิฐพยุงเจนเดินเข้ามาในซอยในชุมชนแออัด
"พี่ว่าน้องไปหาหมอเถอะ โรงพยาบาลก็อยู่แค่นี้เอง"
"ไม่เป็นไรค่ะ เจนเป็นลมอย่างนี้บ่อยๆอยู่แล้ว พอดีเจนเป็นโรคเลือดจาง โดนแดดแรงๆ หน่อยก็เป็นลม เดี๋ยวเข้าไปพักในบ้านก็หาย"
เจนเดินเซเข้าซบเขามากขึ้น เขามองอย่างเป็นห่วง
"พี่ว่าอย่างนั้นต้องไปหาหมอนะ เผื่อเป็นอะไร"
"อย่าเลยค่ะพี่ เจนไม่มีเงิน"
"เดี๋ยวพี่ออกให้ก็ได้"
เจนรีบพูด
"อย่าค่ะพี่ แค่เงิน 1000 บาทที่พี่เคยให้เจนตอนนั้น มันก็รบกวนพี่มากพออยู่แล้ว"
"เงินแค่นั้นเอง"
เจนยิ้มเศร้าๆ
"เงินแค่นั้นของพี่ รู้ไหมคะว่ามันมีค่ามากกับเจนขนาดไหน"
เจนทำหน้าน้ำตาปริ่ม กษิดิฐชะงักอยากรู้ว่า ชีวิตเจนมันจะเศร้าอะไรขนาดไหน
เจนเดินต้อนกษิดิฐมาถึงหน้าบ้านไม้หลังเก่าในชุมชนแออัด แม่เจนอุ้มเด็กอายุ 3 ขวบและจูงเด็กอายุ 5 ขวบและ 7 ขวบ ออกมาจากบ้านไม้หลังเก่า
"อ้าว...กลับมาแล้วเหรอเจน"
เจนแนะนำ
"นี่แม่เจนกับน้องๆของเจนจ๊ะ แม่... นี่พี่กษิดิฐ พี่ที่ให้เงินเจนคืนนั้นไงจ๊ะ"
แม่เจนมองกษิดิฐอย่างปลาบปลื้ม แล้วรีบเดินไปนั่งคุกเข่าตรงหน้า กษิดิฐตกใจรีบพยุงตัวแม่เจนให้ลุกขึ้น
"ทำอะไรน่ะครับ"
"ฉันขอขอบคุณคุณมาก ที่ช่วยชีวิตไอ้ด้วงมัน"
แม่เจนกอดเด็กอายุ 3 ขวบ
"คืนนั้นมันเป็นลมชัก ถ้าไม่ได้เงินของคุณ มันคงตายไปแล้ว ฉันกราบ..."
แม่เจนจะยกมือไหว้ กษิดิฐรีบจับมือ
"ไม่เป็นไรครับ อย่ากราบผมเลย มีอะไรพอช่วยได้ ผมพร้อมช่วยอยู่แล้ว"
เจนรีบบอกแม่
"เจนเป็นลม พี่กษิดิฐก็ช่วยพาเจนมาส่งที่บ้าน"
แม่เจนทำท่าซาบซึ้งจนทำตาคลอ
"โถ..พ่อพระ ใจดี ใจบุญจริงๆ เห็นเจนบอกว่าคุณให้งานเจนทำด้วยเหรอจ๊ะ ฉันขอบพระคุณมากนะจ๊ะ เจนจะได้เลิกทำงานร้านอาหารนั่น ค่ำๆ มืดๆ สักที มีแต่ผู้ชายคอยจ้องจะลวงลามมัน ถ้าแม่ไม่ป่วยเป็นโรคหัวใจ แม่อยากจะไปทำงานเอง ไม่อยากให้เจนต้องลำบาก แบบนี้"
"แม่จ๋า เจนไม่ได้ทำงานกับพี่กษิดิฐแล้วล่ะจ๊ะ พอดีเขารับคนแล้ว"
แม่เจนชะงัก แล้วทำเสียงเศร้า
"อ้าว...เหรอ"
กษิดิฐคิดแล้วตัดสินใจ
"วันจันทร์หน้า เจนไปทำงานที่บริษัทพี่ได้เลย พี่จะรับเจนเป็นเลขาของพี่แล้วกัน"
เจนดีใจ รีบยกมือไหว้อย่างดีใจ
"จริงเหรอคะ ขอบคุณ พี่กษิดิฐมากๆเลยค่ะ"
แม่เจนยกมือไหว้กษิดิฐ แล้วกอดเจนอย่างดีใจ และกอดเด็กๆทั้ง 3 คนดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก กษิดิฐอิ่มเอิบที่ได้ช่วยครอบครัวเจน เขายกมือไหว้ลา
"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับ ... แล้วเจอกันที่บริษัท"
กษิดิฐเดินออกไป เจนมองตามแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
ภายในบ้านของเจน แม่เจนเดินอุ้มเด็กอายุ 3 ขวบตามเข้ามา แล้ววางเด็กลงจนแทบจะโยนทิ้งด้วยความเมื่อยที่ต้องอุ้มนานๆ ไม่หลงเหลือความรักเด็กอยู่เลย
"แม่แกเอาอะไรให้กินวะไอ้ด้วง ถึงได้หนักเป็นหมูแบบนี้ นี่ถ้า นังเจนไม่จ่ายค่าป๊อกเด้งให้ฉัน ฉันไม่ลงทุนอุ้มเอ็งอย่างนี้หรอก"
ว่าแล้วก็หันไปทางเด็กอายุ 7 ขวบ
"ไปขายพวงมาลัยสิไอ้ตั้ม"
"จ่ายค่าจ้างฉันมาก่อนสิป้าจันทร์"
"ไปเอาที่นังเจนโน้น ตัววางแผน แหม อยากทำงานใกล้ๆเขา จนต้องลงทุนให้แม่เป็นโรคหัวใจ มีน้องกำพร้าอีก 3 คน ดีนะที่ฉันไปคว้าตัวไอ้เด็กเวรพวกนี้มาเล่นละครให้แกทัน"
เจนเซ็ง เปิดกระเป๋าตังค์ให้ดู
"ถ้าไม่ทำอย่างนี้ จะได้งานอย่างนี้ไหมล่ะ ฉันมีแต่แบงค์พัน แม่จ่ายไปก่อนแล้วกัน แค่คนละ 20 บาท"
"แหม...เอาเปรียบกันตั้งแต่ตอนนี้ ต่อไปถ้าได้เหยื่อรายใหม่ แกไม่ทิ้งฉันเหมือนตอนที่แกได้ไอ้เสี่ยบ่อพลอยนั่นเหรอวะ"
"ก็ฉันเป็นคนลงทุน แม่แค่นั่งเล่นไพ่รอเงิน จะมาบ่นอะไรนักหนา จ่ายเงินให้พวกมันไป ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว จะไปซื้อชุดใหม่ไว้เตรียมไปอ่อย เอ้ย ทำงานวันจันทร์นี้"
เจนคิดถึงกษิดิฐอย่างหมายมาดว่า ต้องคว้ากษิดิฐมาให้ได้
ติณณ์ลงจากรถพร้อมถือดอกกุหลาบสีขาว 2 ดอก ตัดสินใจแล้วว่า จะต้องบอกความในใจกับนลิน
เสียงมือถือของติณณ์ดังขึ้นหน้าจอเป็นชื่อ “อณุกา” เขากดรับสาย
"ครับพี่ณุกา ผมยังคุยงานกับลูกค้าอยู่เลยครับ ครับ เดี๋ยวผมเสร็จแล้วจะโทรกลับหาพี่นะครับ สวัสดีครับ"
ติณณ์กดวางสาย แล้วถอนใจอย่างโล่งอกที่อณุกาไม่มีวี่แววสงสัย เขามองไปที่หน้าบ้านนลินแล้วตัดสินใจ
ริมถนนตรงข้ามหน้าบ้านนลิน รถของอณุกาจอดอยู่ เธอกำมือถือแน่นด้วยความโกรธ
"ติณณ์กล้าโกหกฉัน"
แตงกวาแอบยิ้มสะใจที่เรื่องของติณณ์กับนลินกำลังจะเปิดเผยแล้วนำไปสู่ความพินาศ
ปราณแอบยิ้มด้วยความสนุกที่จะได้เห็นความวิบัติของคนอื่น
ปราณแกล้งพูดเสียงเห็นใจ
"ใจเย็นๆก่อนนะครับคุณณุกา คุณติณณ์ อาจะมีเหตุผลก็ได้"
"เห็นคาตา ได้ยินคาหูอย่างนี้ ยังจะมีเหตุผลบ้าบออะไรอีก นอกจาก..."
อณุการับไม่ได้เมื่อคิดถึงเหตุผลที่ติณณ์ลงทุนโกหกเพื่อมาหานลิน
"แล้วพี่ณุกาเอายังไงต่อดีคะ"
อณุกานิ่งไม่ตอบแตงกวา
ภายในครัว บ้านนลิน นันทิดา กมลาหั่นผักเตรียมทำกับข้าวมื้อกลางวันอยู่
เสียงกริ่งหน้าบ้านดัง
"เอ๊ะ ! ใครมาตอนนี้เนี่ย" นันทิดาบอก
นลินมองไปทางหน้าบ้านอย่างสงสัยเช่นกัน
ดารินทร์ขับรถ มัญจา สารัช น้องจุงนั่งอยู่ในรถด้วย รถแล่นอยู่บนถนนทางไปบ้านนลิน"ไม่ต้องไปแล้วล่ะพี่ริน" มัญจาบอก
"ไม่ได้ๆต้องไป ถ้าคุณติณณ์ยังอยู่บ้านบัวเราจะได้ช่วยกันหาทางให้คุณติณณ์กลับ"
"ขับช้าเป็นเต่าคลานอย่างนี้... ป่านนี้กบคงถึงบ้านแล้วเจอกับคุณติณณ์ไปแล้ว"
"ขับเร็วมันอันตราย" ดารินทร์บอก
"พี่รินนี่รอบคอบจังเลยนะครับ ห่วงความปลอดภัยของพวกเราด้วย" สารัชว่า
"ห่วงความปลอดภัยของลูกย่ะ ถ้าน้องจุงไม่มาด้วยพี่เหยียบ 180 ไปแล้ว..แต่เพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าเราจะถึงบ้านบัวก่อนคุณกบ พี่ขับให้เร็วขึ้นก็ได้"
ดารินทร์เร่งความเร็วเป็น 50
"จาก 40 เป็น 50 เร็วกว่าเดิมเยอะเลย" มัญจาบอก
สารัชมองดารินทร์เซ็งตามมัญจาไปอีกคน
อณุกายังนั่งมองติณณ์อยู่ในรถอย่างกระวนกระวาย อยากจะออกจากรถเต็มที แตงกวาจับมือห้ามไว้
"เปิดประตู"
นลินเปิดประตูบ้านเห็นติณณ์ก็ตกใจ
"อ้าว ! คุณติณณ์"
นลินตกใจว่าติณณ์กลับมาอีกทำไม และพะวงว่ากษิดิฐกำลังจะกลับมาแล้ว
"คุณลืมดอกไม้ครับ"
ติณณ์ยื่นดอกกุหลาบสีขาวให้ เธอชะงัก แล้วรู้สึกกลัวติณณ์โกรธที่ลืมดอกกุหลาบขาว
นลินกับติณณ์นั่งอยู่ที่สนามหน้าบ้าน เธอมองช่อกุหลาบขาวที่วางบนโต๊ะอย่างรู้สึกผิด"บัวขอโทษค่ะ บัวไม่ได้ตั้งใจจะลืม"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ"
นลินเผลอพูดอย่างร้อนใจ
"เป็นสิคะ"
ติณณ์มองนลินอย่างดีใจที่เธอดูเห็นค่าของดอกกุหลาบ นลินรีบกลบเกลื่อน
"คุณอุตส่าห์เอามาเยี่ยมไข้บัว แต่บัวกลับลืม ถ้าเป็นบัวคงน้อยใจ"
"แต่ผมดีใจนะครับที่คุณลืมดอกไม้ช่อนี้ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ได้เข้ามาคุยกับคุณ"
"จริงสิ...ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลคุณบอกว่า มีเรื่องจะบอกบัว คุณคงอยากจะคุยกับบัวเรื่องนี้ บัวนี่แย่จริงๆที่ลืมแล้วก็ให้คุณกลับ"
"ผมเข้าใจครับว่าคุณบัวอยากพักผ่อน...ผมไม่รบกวนคุณบัวนานหรอกครับ"
"งั้นก็รีบบอกมาเลยคะ"
ติณณ์มองอย่างเขินๆ
"ผมชอบคุณ"
นลินมองติณณ์อย่างตกใจสุดขีด อณุกา แตงกวา ปราณ เดินเข้ามาได้ยินพอดี อณุกาสีหน้าโกรธจัด แตงกวากับปราณยิ้มเยาะสะใจ
"ติณณ์ชอบบัวเหรอ" อณุกาโพล่งถามจากด้านหลัง
ติณณ์ นลินตกใจมาก
"พี่ณุกา"
"ได้ยินที่พี่ถามมั้ยติณณ์"
"ได้ยินครับ"
"งั้นก็ตอบให้พี่ฟังชัดๆอีกทีซิว่า ติณณ์คิดยังไงกับบัว"
ติณณ์มองอณุกาอย่างกลัวๆ
ภายในบ้านกษิดิฐ ยศภัทรนอนหลับ มีหนังสือที่อ่านค้างอยู่วางบนอก เสียงอณุกาดังเข้ามา
"ตอบพี่มาสิ"
ยศภัทรได้ยินเสียงโวยวายของอณุกาก็ตื่นขึ้น
"เสียงใคร"
ยศภัทรลุกขึ้นหันไปมองทางบ้านนลิน เห็นทุกคนอยู่หน้าบ้าน โดยเฉพาะอณุกามีสีหน้าโกรธจัด ก็ตกใจ
"เฮ้ย"
ยศภัทรรีบวิ่งออกมาจากในตัวบ้าน
นลิน ติณณ์ยังมองอณุกาอย่างตกใจ
"พี่บอกให้ตอบพี่ไงติณณ์"
นันทิดา กมลา ยศภัทร วิ่งมาถึงพร้อมกันพอดี
"มีเรื่องอะไรกันเหรอบัว"นันทิดาถาม
ติณณ์ถอนหายใจมองนลินอย่างสงสาร
"ผมชอบคุณบัวครับ"
นันทิดา กมลาร้อง "หา" ยศภัทร ร้อง "เฮ้ย" นลินมองติณณ์อย่างไม่อยากจะเชื่อ
"แต่ไม่ได้ชอบอย่างที่ทุกคนเข้าใจ"
ปราณประชดถาม
"แล้วชอบแบบไหนละครับ"
"ชอบที่คุณบัวตั้งใจทำงาน แล้วก็ชอบที่คุณบัวเป็นลูกน้องที่ดีของผมมาตลอด"
"กลัวถูกจับได้ว่าโกหก จนแก้ตัวด้วยเหตุผลงี่เง่าขนาดนี้เลยเหรอคะ ถ้าคุณคิดว่าบัวเป็นแค่ลูกน้อง แล้วทำไมคุณต้องแอบลูบผมตอนบัวหลับด้วย" แตงกวาถาม
ทุกคนมองติณณ์อย่างตกใจ ติณณ์หน้าเจื่อนเมื่อจนมุม
"ติณณ์ทำอย่างที่แตงกวาพูดจริงเหรอ"
ติณณ์มองแตงกวาอย่างหนักใจ
"จริงครับ"
ทุกคนมองติณณ์อย่างตกใจ
"ติณณ์โกหกพี่"
"ผมจำเป็นเพราะรู้ว่าพี่หวงผม ผมไม่อยากให้คุณบัวเดือดร้อน แต่ไหนๆก็มีคนพยายามเปิดเผยเรื่องของผมแล้ว ผมขอยอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยละกันว่า ผมชอบคุณบัว แล้ววันนี้ผมก็ตั้งใจมาขอคุณบัวเป็นแฟน"
ทุกคนมองติณณ์อย่างตกใจ
"ยอมรับได้ซะทีนะคะ"
แตงกวาหันไปพูดกับนลิน
"เธอก็ชอบคุณติณณ์เหมือนกันใช่มั้ย"
นลินตกใจมาก
"เธอรู้ได้ยังไง"
"รู้จากการที่เธอไม่ยอมบอกเค้าว่า แต่งงานแล้วน่ะสิ"
ติณณ์ นลิน มองแตงกวาอย่างตกใจ
"ก็บัวเพิ่งฟื้น"
ทุกคนหันไปมอง เห็นกิษดิฐยืนอยู่
"จะให้บอกตอนไหน"
ทุกคนมองกษิดิฐอย่างตกใจ
"กบ"
นันทิดา กมลา ยศภัทร มองกษิดิฐอย่างดีใจ อณุกายิ้มเยาะสะใจที่ติณณ์จะได้รู้ซะทีว่านลินแต่งงานแล้ว กษิดิฐเข้ามายืนข้างนลิน โอบไหล่อย่างปกป้อง
"ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะเมียจ๋า กบมาทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณพ่อตาแล้ว กบจะไม่ให้ใครรังแกบัวได้อีก"
แตงกวามองกษิดิฐอย่างเจ็บปวด
"กบ..นี่นายกับคุณบัว" ติณณ์ถาม
"เป็นสามี ภรรยากันตามนิตินัยและพฤตินัย"
ติณณ์ แตงกวา มองคู่สามี ภรรยาอย่างเจ็บปวด นลินอึดอัดใจมากอยากบอกความจริงแต่บอกไม่ได้
"นี่คุณติณณ์รู้จักกับสามีคุณบัวด้วยเหรอครับ" ปราณถาม
"ผมกับกบเคยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันที่อเมริกา"
"ขอโทษนะที่เราไม่ได้เชิญ...แต่งกระทันหันน่ะ"
แตงกวาแขวะ
"ไม่บอกไปด้วยล่ะว่าแต่งเพื่อให้บัวได้งานคืน"
"ไม่จริงกบแต่งงานกับบัวเพราะกบรักบัว" กมลาบอก
"แล้วบัวก็รักกบ" นันทิดาว่า
"กบกับบัวรักกัน" ยศภัทรร่วมสามัคคียืนยัน
"ผู้ใหญ่ในบ้านยอมร่วมขบวนต้มตุ๋นด้วยอย่างนี้น่ะสิ กบกับบัวถึงไม่รู้สึกผิด ที่แต่งงานลวงโลกหลอกชาวบ้าน" แตงกวาว่า
กษิดิฐแกล้งทำเสียงเหนื่อยหน่าย
"ต้องให้กบบอกอีกกี่ครั้ง ว่าเราแต่งงานเพราะเรา รักกัน ! ... จริงไหมจ๊ะ เบบี๋"
นลินชะงัก แล้วมองว่าจะพูดย้ำอะไรนักหนา
"จ้ะ"
"เลิกหลอกตัวเองซะทีเถอะกบ กบก็รู้อยู่แก่ใจว่า บัวเห็นงานสำคัญที่สุด ตอนนี้บัวรู้แล้วว่าคุณติณณ์ชอบ ต่อไปบัวก็ต้องใช้คุณติณณ์เป็นเครื่องมือเพื่อหน้าที่การงาน อีกไม่นานบัวก็จะทิ้งกบแล้วไปคบคุณติณณ์"
"ผมไม่ยุ่งกับคนมีเจ้าของหรอกครับ โดยเฉพาะของๆเพื่อน"
นลินมองติณณ์อย่างเจ็บปวด อณุกายิ้มโล่งใจ ปราณถอนหายใจอย่างเซ็งๆ
"แล้วฉันก็ไม่มีวันยุ่งกับคุณติณณ์เพราะฉันรักกบคนเดียว"
"น่าน ..มันต้องอย่างน้านอย่าไปยอม" ยศภัทรว่า
แตงกวามองนลินอย่างไม่พอใจ ติณณ์เจ็บปวดที่นลินกับกษิดิฐประกาศรัก อณุกายิ้มสมใจที่แตงกวาทำให้ทั้งคู่เลิกกันไม่ได้
รถดารินทร์จอดหน้าบ้าน ทุกคนก้าวลงจากรถ และมองเข้าไปในบ้านอย่างตกใจ น้องจุงเคาะกระจกบอกสารัช
"พาน้องจุงไปด้วย"
ดารินทร์ มัญญาหันไปมอง
"ลืมลูกพี่เหรอสารัช"
"มัวแต่ตื่นเต้นว่าในบ้านเค้ามีอะไรกันน่ะครับ"
สารัชเปิดประตูพาน้องจุงลงจากรถ
"กบกับคุณติณณ์เจอกันแล้ว จะมีอะไรได้นอกจากความลับแตก" มัญจาบอก
"แตงกวามาร่วมวงด้วยไม่ใช่แค่ความลับแตกอย่างเดียว เดี๋ยวคงมีเรื่องให้วงแตกอีกเพียบ"
ชลัชเดินมามองอย่างไม่พอใจ
"ไม่ต้องรอแตงกวาหรอก ฉันนี่แหล่ะจะทำให้วงแตกเดี๋ยวนี้เลย"
ชลัชเดินเข้าบ้าน มัญจา ดารินทร์ รีบตาม สารัชจูงน้องจุงแต่ไม่ทันใจเปลี่ยนเป็นอุ้มเข้าไปแทน
แตงกวามองนลินอย่างดูถูก
"รัก..แต่ทิ้งให้กบเฝ้ารถ แล้วไปเขาใหญ่คนเดียว รัก แต่ให้ผู้ชายอื่นพาออกจากโรงพยาบาลแล้วมาส่งบ้านโดยไม่บอกกบสักคำ แบบนี้เค้าไม่เรียกว่าความรักหรอกบัว"
นันทิดาบอก
"คนเรามีรูปแบบความรักไม่เหมือนกันนะจ๊ะแตงกวา"
"เรื่องรูปแบบแตงกวาพอรับได้ แต่ที่แตงกวารับไม่ได้คือ ตลอดเวลาที่ผ่านมาบัวคิดกับกบแค่เพื่อน แต่กบกลับมาไม่เท่าไหร่ก็มาบอกว่ารักกบ แตงกวาไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้"
"เป็นไปด๊าย... เคยได้ยินมั้ยเพลงรักไม่ต้องการเวลาน่ะ"กษิดิฐบอก
"มันมีจริงนะ ไม่อย่างนั้นเพลงที่เค้าแต่งคงไม่โดนใจคนฟังจนดังไปทั้งประเทศหรอก...มาๆจะร้องให้ฟัง ... ฉันคิดว่ารักมันคือความผูกพัน" ยศภัทรว่า
กมลาตีแขนยศภัทร
"พ่อ กำลังหน้าสิ่วหน้าขวานยังจะเล่นอีก"
"อยากให้ผ่อนคลาย เผื่อจะเปลี่ยนสิ่วกับขวานให้เป็นปี่เป็นขลุ่ย แล้วเลิกทะเลาะกันได้บ้าง"
กมลา นันทิดามองยศภัทรอย่างขำๆ
"มันก็เป็นแค่เพลงที่แต่งขึ้นจากความเพ้อฝัน" แตงกวาบอก
"หมายความว่าไม่ว่ากบจะพูดยังไง แตงกวาก็ไม่เชื่อใช่มั้ยว่ากบกับบัวรักกัน"
"ไม่"
"งั้นกบยอมบอกเหตุผลที่แท้จริงก็ได้"
"เหตุผลอะไร" อณุกาถาม
"บัวท้องครับ"
นลินตาโตตกใจ อย่างไม่คาดคิดว่ากษิดิฐจะมาไม้นี้ ทุกคนโพล่ง "ท้อง" ขึ้นพร้อมกันด้วยความรู้สึกกับเรื่องนี้แตกต่างกันไป นลินกระซิบถามกษิดิฐ
"ท้องเลยเหรอ"
กษิดิฐกระซิบตอบ
"ต้องเอาให้แรงอย่างนี้แหละ รับรองจบ"
ชลัช และกลุ่มเพื่อนร่วมงานนลินเดินเข้ามา
"นายว่าใครท้อง"
กษิดิฐ นลินมองไปทางชลัช แล้วชะงักว่า ฉิบหาย มาทำไมตอนนี้ !
"ก็ลูกสาวคุณที่เป็นลูกสะใภ้ผมไง เราจะมีหลานกันแล้วนะคุณพ่อตา" ยศภัทรว่า
กลุ่มเพื่อนมองอย่างตกใจมาก
"คุณบัวท้อง...นี่มันแค่ฝันร้ายไม่ใช่ความจริง โอ้ย" สารัชพูดพลางหยิกแก้มตัวเอง
แตงกวายิ้มเยาะ
"กบแต่งงานไม่ถึงเดือน ยายบัวจะท้องได้ยังไง"
"ก็กบกับบัวถือธรรมเนียมฝรั่งอยู่ก่อนแต่งไง" กษิดิฐบอก
"ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ กบเพิ่งกลับจากอเมริกาจะเอาเวลาตอนไหนมาอยู่กับบัว"
"ก็ตอนที่แตงกวาคิดว่า กบเที่ยวซานฟรานกับเพื่อนๆไง..กว่าแตงกวาจะรู้ว่า กบกลับเมืองไทยก็ปาเข้าไปเกือบเดือนแล้ว ใช่มั้ยจ๊ะ เบบี๋ เราอยู่ด้วยกันตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีใครรู้เนอะๆ"
ยศภัทรพูดกับกมลา
"แต่พ่อกับแม่รู้นะ... เนอะๆๆ"
กมลางงแต่รับมุก
"ค่ะๆ...พวกเรารู้"
นันทิดาผสมโรงด้วย
"ฉันก็รู้"
"งั้นก็มีคุณที่ไม่รู้อยู่คนเดียว" ปราณพูดใส่ชลัช
"รู้"
ทุกคนมองชลัชอย่างตกใจ
"ถ้าคุณมีลูกสาวแล้วรู้ว่า ลูกอยู่กับผู้ชายจนท้องก่อนแต่ง คุณก็คงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนที่ผมทำนี่แหล่ะ"
อณุกายิ้มโล่งใจ รีบพูดสรุป
"งั้นก็แปลว่านลินกำลังท้องจริงๆ"
ชลัชนิ่ง ไม่อยากโกหกกับเรื่องนี้ไปมากกว่านี้
"ไม่จริง แตงกวาไม่เชื่อ ! พี่ณุกาคะพวกเค้ารวมหัวกันโกหกอย่าเชื่อนะคะ"
กษิดิฐสะกิดนลินแล้วขยิบตา นลินรับมุกแกล้งอาเจียน ดารินทร์กระซิบบอกมัญจา
"มีแพ้ท้องโชว์ด้วย"
"ดีแล้วยัยแตงกวาจะได้เชื่อ"
"แพ้ท้องขนาดนี้บัวคงท้องจริงๆ...เรากลับกันเถอะน้องแตงกวา พี่ว่าเรื่องมันจบแล้วละ"
แตงกวามองนลินอย่างครุ่นคิด
"ยังไม่จบค่ะ"
"มาถึงขั้นบัวท้องแล้ว ยังไม่ยอมจบ ต้องทำยังไงถึงจะยอมจบละจ๊ะตัวเธอ" มัญจาถาม
"พรุ่งนี้ฉันจะพาบัวไปตรวจที่โรงพยาบาล ผลตรวจจะบอกเองว่าเรื่องนี้จบมั้ย"
นลินมองหน้ากษิดิฐว่า งานงอกแล้ว !
ผ่านเวลาเล็กน้อย ในห้องรับแขก บ้านนลิน ชลัชพูดอย่างไม่พอใจ
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย นายคิดบ้าอะไรถึงบอกว่า ลูกฉันท้อง"
ทุกคนที่นั่งอยู่ แม้แต่น้องจุงต่างจ๋อยไปตามๆกัน มียศภัทรที่ร่าเริงอยู่คนเดียว
"เดี๋ยวผมไปซื้อสารกันบูดมาทาหน้าคุณพ่อตาให้ก็ได้ หน้าจะได้ ไม่เสีย"
"คุณพูดอะไรของคุณ"
"ก็ปลอบใจที่คุณกลัวเสียหน้าไง"
"ถ้าคุณชลัชร่วมวงด้วย คุณชลัชคงไม่กลัวแล้วละค่ะว่าจะเสียหน้า" นันทิดาบอก
"ที่ผมกลัวน่ะ คือกลัวว่าพรุ่งนี้บัวจะไปตรวจยังไงในเมื่อบัวไม่ได้ท้อง"
"คุณบัวไม่ได้ท้อง" สารัชว่า
"งั้นคืนนี้ก็ให้ตากบทำให้ผลตรวจเป็นท้องสิ" ยศภัทรว่า
"อ้าว...พูดงี้ได้ไง" ชลัชบอก
มัญจาพูดกับสารัชอย่างหมั่นไส้
"รู้ทั้งรู้ว่ากบกับบัวแกล้งแต่งงานกัน ยังจะอินไปซะทุกเรื่อง"
สารัชยิ้มอย่างอายๆ
"ทำยังไงผลตรวจถึงจะออกมาว่าบัวท้อง" กมลาว่า
"หนูมีวิธีค่ะ"
ทุกคนหันไปมองดารินทร์เป็นตาเดียวกัน
ในเวลากลางคืน ติณณ์เปิดประตูคอนโดฯ อณุกาเดินหน้าบึ้งเข้ามากระแทกตัวลงนั่ง ติณณ์มองอย่างรู้สึกผิด ปราณเดินตามเข้ามายิ้มเยาะ
ติณณ์ไหว้อณุกา
"ผมขอโทษนะครับที่โกหก"
ปราณเสแสร้ง
"คุณติณณ์สำนึกแล้วเลิกโกรธคุณติณณ์เถอะครับ"
"ฉันหายโกรธแล้วเหลือแต่ความเสียใจ"
ติณณ์มองอณุกาอย่างเสียใจเช่นกัน
"พี่ห้ามแล้วใช่มั้ยว่า อย่าคิดเกินเลยกับพนักงาน เพราะผู้หญิงพวกนั้นไม่คู่ควรกับติณณ์ ทำไมติณณ์ไม่เชื่อพี่"
"ผมชอบคุณบัวจริงๆ ครับ"
"แต่พี่ก็สบายใจนะ ที่พอติณณ์รู้ว่าบัวเป็นเมียคุณกบ ติณณ์ก็ประกาศว่าจะไม่ยุ่งกับบัว ติณณ์รับปากพี่ได้มั้ยว่า ต่อไปนี้จะไม่ไปชอบผู้หญิงที่ไม่คู่ควรอีก"
ติณณ์อึกอักไม่ตอบ
"รับปากสิครับ คุณณุกาจะได้สบายใจ"
ติณณ์อึดอัด แต่ยอมรับปาก
"ครับ"
อณุกาจับไหล่ติณณ์อย่างอ่อนโยน
"บางครั้งพี่อาจจะดูเข้มงวดกับติณณ์ไปบ้าง แต่ขอให้รู้ไว้นะว่า พี่ทำทุกอย่างเพราะอยากให้ติณณ์พบเจอแต่สิ่งดีๆ พี่อยากให้น้องชายคนเดียวของพี่มีความสุขที่สุด"
"ครับ"
ปราณมองติณณ์อย่างหมั่นไส้
ผ่านเวลาเล็กน้อย อณุกาเดินออกจากประตูคอนโดฯ เพื่อมาขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านหน้าตึก ปราณสงสัยว่าอณุกากำลังคิดอะไร จึงเดินตรงไปดักหน้าอณุกาก่อนจะขึ้นรถ
"ผมถามคุณจริงๆเถอะ คุณเชื่อเรื่องคุณบัวกับนาย... คุณกบแต่งงานกันจริงๆเหรอ แล้วไหนจะเรื่องท้องอีก"
"เธอคิดว่าฉันโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ"
"แล้วทำไมวันนี้คุณไม่ทำอะไรสักอย่าง ถ้าเป็นผม ผมคงไม่ยอมให้สองผัวเมียกำมะลอนั่นปั้นเรื่องหลอกต่อไปหรอก"
อณุกายิ้มเยือกเย็น
"เพราะฉันฉลาดกว่าเธอไง"
อณุกาดันตัวปราณที่ขวางทางออก แล้วเดินขึ้นรถโดยไม่สนใจอาการหงุดหงิดของปราณที่บ่นพึมพำ
"คิดจะอะไรวะ"
ในร้านอาหารกึ่งผับ แตงกวานั่งดื่มไวน์อยู่คนเดียวแล้วนึกถึงนลินอย่างแค้น
นลินนั่งมองช่อกุหลาบขาวอย่างเศร้าใจ พึมพำกับตัวเอง
"ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ บัวจะได้ไม่ต้องแต่งงานกับนายกบ"
เสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอรีบเอาช่อดอกไม้ใส่กล่องที่เตรียมไว้แล้วปิดฝา แต่ด้วยความรีบร้อนทำให้ปิดไม่สนิท เธอวิ่งไปเปิดประตู แต่ไม่เห็นมีใคร ครั้นเธอจะยื่นหน้าออกไปดู กษิดิฐยื่นหน้ามาซะก่อน
"จ๊ะเอ๋"
ทั้งคู่หน้าใกล้จนจมูกชิดกัน แล้วชะงักไปครู่หนึ่ง กษิดิฐยิ้มมีความสุข นลินเขินมาก รีบผลักเขาออก
"เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง ดีนะหน้าไม่ชนกัน ไม่อย่างนั้นคงเจ็บตัวทั้งคู่"
กษิดิฐจับมือนลิน
"ไป"
"ไปไหน"
"นอนบ้านกบ"
"ทุกคนในบ้านรู้อยู่แล้วว่าเราแต่งงานหลอกๆ บัวไม่ต้องไปนอนบ้านกบก็ได้" นลินบอก
นลินสะบัดมือแล้วเดินเข้าห้อง กษิดิฐเดินตามมาอย่างร่าเริง
"แต่แตงกวากำลังจับผิดเราอยู่ ตอนนี้อาจจะส่งคนมาซุ่มดูเราอยู่ก็ได้ แล้วถ้าบัวไม่ไปนอนบ้านกบ คนของแตงกวาก็จะถ่ายรูปไปเปิดโปงความลับของเรา"
นลินเซ็ง
"เพราะกบคนเดียวที่ทำให้ชีวิตบัววุ่นวายอย่างนี้ อาบน้ำก่อนเดี๋ยวตามไป"
นลินเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวอย่างเซ็งๆ
"ไปพร้อมกันมันถึงจะสมจริง กบรอนะ"
นลินเดินไปหยิบชุดนอนในตู้เสื้อผ้า กษิดิฐยิ้มขำแล้วเดินไปนั่งตรงที่นลินนั่งดูช่อกุหลาบ เห็นช่อกุหลาบอยู่ในกล่องที่ฝาปิดไม่สนิท เขารู้ทันทีว่า นลินชอบติณณ์ เขาหน้าเจื่อนแล้วทำเป็นร่าเริงกลบเกลื่อน
"ฮั่นแน่ เก็บดอกไม้ของติณณ์ไว้ด้วย"
กษิดิฐหยิบช่อกุหลาบออกจากกล่อง นลินวิ่งมาแย่ง
"อย่ายุ่งกับดอกไม้ของคุณติณณ์นะ"
กษิดิฐมองอย่างเจ็บปวดแล้วรีบร่าเริงกลับเกลื่อน
"หวงมากด้วย มีคนบอกว่า ถ้าเราหวงของๆใครมากๆ แปลกว่าเราชอบคนนั้น บัวชอบติณณ์เหรอ"
นลินถอนหายใจเซ็งๆ
"อือ... แต่มันก็เป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ"
"เป็นไปด๊าย... เดี๋ยวพอบัวได้งานคืนกบก็จะหย่ากับบัว แล้วตอนนั้นบัวก็ไปคบกับติณณ์ไง"
"ผู้ชายที่ไหนจะอยากคบกับผู้หญิงที่เคยแต่งงานแล้วล่ะ"
"บัวก็บอกติณณ์ไปสิว่า เราแต่งงานกันหลอกๆ กบจะช่วยอธิบายอีกคน ติณณ์จะต้องเชื่อแล้วก็คบกับบัวแน่นอน"
นลินยิ้มร่าเริง
"จริงนะ"
"จริ๊ง"
นลินยิ้มอย่างดีใจ กษิดิฐสายตาเจ็บปวดแต่ยิ้มกลบเกลื่อน
"ทำเป็นหวงนักหวงหนา แต่เอาดอกไม้ของติณณ์ไว้ในกล่อง เดี๋ยวก็เน่าหรอก"
"ใครจะปล่อยให้ดอกไม้ของคุณติณณ์เน่าได้ลงคอล่ะ...บัวจะทำดอกไม้แห้ง แต่ยังหาที่แขวนเหมาะๆไม่ได้กลัวแม่เข้ามาเห็นน่ะ"
กษิดิฐคิดๆ
"มีที่นึงที่อาดาไม่เห็น"
นลินมองกษิดิฐอย่างแปลกใจ
ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 6 (ต่อ)
กษิดิฐยืนหน้าตู้เสื้อผ้าของนลินที่เปิดอยู่ เขาดันเสื้อผ้าของนลินที่แขวนไปแถบหนึ่ง เธอถือช่อกุหลาบที่ปลายข้างหนึ่งมีโบว์ผูกผมผูกอยู่ ยืนข้างกษิดิฐ
"บัวเอาเสื้อผ้าเข้าตู้เอง อาดาไม่เปิดมาเห็นแน่นอน"
"วันนี้กบฉลาดจัง"
"ถามหน่อยตั้งแต่เล็กจนโต เวลาบัวมีปัญหาใครคอยแก้ให้"
"กบ"
"ชัดเลยว่ากบฉลาดมาตั้งแต่เกิด... ส่งมา"
"บัวอยากดูแลดอกไม้ของคุณติณณ์เอง...บัวผูกเองนะ"
กษิดิฐเก็บอาการแกล้งร่าเริง
"เชิญ"
กษิดิฐหลีกทางให้นลินเอาช่อกุหลาบมาผูกกับราวผ้า เธอยิ้มมีความสุข แต่กษิดิฐมองอย่างเจ็บปวดใจมาก
ติณณ์นั่งดูรูปนลินอย่างเสียใจ
"ถ้าผมไม่มัวแต่ขี้ขลาด แล้วบอกว่าผมคิดยังไงกับคุณให้เร็วกว่านี้ บางทีผมอาจจะไม่เสียคุณให้กบ"
ภายในบ้านกษิดิฐ ยศภัทรนั่งดูทีวีแล้วหัวเราะสนุกสนาน กมลาหาวอย่างง่วงจัด
"ฉันไปนอนก่อนนะคะ"
กมลาลุกขึ้น ยศภัทรดึงไว้
"ไปด้วย"
"คุณยังไม่ง่วงดูไปก่อนก็ได้นี่คะ"
ยศภัทรปิดทีวี
"ไม่มีคุณอยู่ข้างๆ ดูไปก็ไม่สนุก ไปนอนกับคุณดีกว่าสนุกกว่าเยอะ"
กมลาตีแขน
"บ้า...ปูนนี้แล้วยังทะลึ่ง"
"นอนอ่านหนังสือสนุกๆ ข้างๆ คุณทะลึ่งตรงไหน...คุณนั่นแหล่ะ คิดทะลึ่งไปก่อนผมอีก"
"คนบ้า คนผีทะเล ไม่พูดด้วยแล้ว"
กมลาเดินไปแล้วมองไปบ้านเล็ก ที่ไฟยังสว่าง กษิดิฐนั่งทำงานอยู่ ยศภัทรเดินตามกมลาอยู่
"คุณคะ"
ทั้งคู่รู้ทันทีว่า กษิดิฐมีเรื่องไม่สบายใจ
กษิดิฐนั่งทำงานอย่างเหม่อ ๆ ยศภัทรวิ่งเข้ามาตะโกนตรงหน้า
"แฮ่"
กษิดิฐสะดุ้งโหยงอย่างตกใจ
"เฮ้ย"
ยศภัทร กมลาหัวเราะขำ
"แกล้งให้ตกใจอย่างนี้ ระวังตากบจะตกใจแล้วเอาปากกาทิ่มหน้าคุณ"
"ลูกชายเราไม่ขวัญอ่อนอย่างนั้นหรอก"
ยศภัทรถามลุกชายน้ำเสียงจริงจัง
"เป็นอะไร"
กษิดิฐทำร่าเริงกลบเกลื่อน
"ก็เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณยศภัทรกับคุณนายกมลาไงครับ"
กมลาบอก
"ไม่ต้องเฉไฉเลยกบ แม่รู้ดีว่า กบไม่ชอบทำงานที่บ้าน ถ้าวันไหนทำแปลว่า กบมีเรื่องเครียดเพราะกบจะได้คิดงานแล้วไม่ต้องคิดถึงเรื่องนั้น"
ยศภัทรโอบไหล่กษิดิฐ
"บอกพ่อกับแม่มาเถอะว่าเป็นอะไร"
"บัวชอบคุณติณณ์ครับ"
ยศภัทร กมลามองกษิดิฐอย่างตกใจ
"ใครบอกลูก"
"บัวครับ"
ยศภัทรกับกมลามองหน้ากันแล้วหัวเราะ
"ขำอะไรครับ" กษิดิฐถาม
"ขำบัวกับกบน่ะสิ" ยศภัทรบอก
"โตป่านนี้ยังไม่ประสีประสาเรื่องความรัก" กมลาว่า
"แม่หมายความว่ายังไงครับ"
"บอกไปตอนนี้ กบก็ไม่เข้าใจ ให้กบเรียนรู้เองดีกว่า แม่ไปนอนก่อนนะ"
กมลาเดินออกไป กษิดิฐมองตามอย่างงงๆ
"พ่อ...แม่พูดอะไรของเค้าน่ะ"
"อย่าไปสนใจเลย...แล้วก็ไม่ต้องรอเวลาเรียนรู้อะไรทั้งนั้น ถ้าอยากให้หนูบัวเปลี่ยนใจมารักกบแทนคุณติณณ์ก็ทำตามที่พ่อบอก"
"อะไรเหรอครับ"
"ปล้ำ"
กษิดิฐมองยศภัทรอย่างตกใจ
ในห้องนอนกษิดิฐ มีเพียงแสงจากโคมไฟข้างเตียง นลินนอนหลับอยู่บนเตียง กษิดิฐค่อยๆเปิดประตูเข้ามา แล้วค่อยๆเดินมาที่เตียง มองรูปร่างของเธอที่นอนอยู่ ไล่ตั้งแต่หัว อก เอว และช่วงเรียวขา
กษิดิฐค่อยๆขึ้นบนเตียงแล้วเอื้อมมือลูบแขนของนลินอย่างนุ่มนวล เธอรู้สึกตัวตื่นแล้วหันมามองหน้า
"อ้าว...กบ"
"ตื่นมาสนุกกันเถอะจ้ะเมียจ๋า"
นลินมองกษิดิฐอย่างงงๆ
"กลิ่นเหล้าหึ่งเลยกบเมาเหรอ"
กษิดิฐยิ้มหวาน
"นิดหน่อยพอจะย้อมใจให้กล้าขึ้นได้"
"กล้า...กล้าเรื่องอะไร"
"เรื่องนี้ไงจ๊ะเมียจ๋า"
กษิดิฐเอื้อมแขนไปคล่อมตัวนลิน เธอตกใจ
"ทำอะไรน่ะกบ"
"ก็ทำให้บัวเป็นของกบ อย่างที่พ่อบอกไง"
กษิดิฐพุ่งเข้าไปทับตัวนลิน เธอดิ้นโวยวาย
นลินนอนดิ้นละเมอโวยวายอยู่บนเตียง
"ปล่อยบัวนะ...ปล่อย"
กษิดิฐเปิดประตูวิ่งหน้าตื่นเข้ามา เห็นนลินนอนดิ้นละเมอก็รีบเข้าไปปลุก
"บัว...บัว"
นลินตื่นขึ้นมาเห็นกษิดิฐก็ตกใจมาก
"กบ"
นลินลุกพรวดลงจากเตียงแล้ววิ่งไปมุมหนึ่ง
"อ้าวๆ เป็นอะไร หนีไปอยู่ตรงนั้นทำไม"
"กบจะทำอะไรบัวล่ะ"
"ไม่ได้ทำ เห็นนอนละเมอไล่ใครก็ไม่รู้ กบเลยปลุกบัวให้ตื่นจากฝันร้าย"
"ฝันหรอกเหรอ บัวกำลังตกใจกับความฝันเลยเข้าใจผิดน่ะ แล้วทำไมกบยังไม่นอนอีก"
"เครียด"
นลินเดินมานั่งบนเตียงถามสั้นๆ
"เรื่อง"
กษิดิฐคิดๆแล้วโกหก
"จะเรื่องอาร้าย...ก็เรื่องผลตรวจของบัวพรุ่งนี้น่ะสิ"
"พี่รินช่วยเราได้ไม่ต้องเครียดหรอกน่า"
"แต่กบกลัวแผนพี่รินไม่ได้ผล เรามาทำแผนสำรองกันมะ"
กษิดิฐขึ้นมาบนเตียงแล้วคลานมาหา นลินเผลอนึกถึงความฝันที่กษิดิฐจะปล้ำ ก็เผลอถีบกษิดิฐจนหงายตกเตียงดัง โครม !
นลินตกใจที่ตัวเองทำแรงไปหน่อย
"เฮ้ย ! กบเป็นอะไรรึเปล่า"
กษิดิฐลุกขึ้นมาด้วยความเจ็บและโมโห
"ผู้หญิงอะไร ! เท้าหนักอย่างกับช้างตกมัน"
"ก็อยากมาแกล้งบัวทำไมล่ะ ขอโทษ"
นลินลงไปประคองกษิดิฐให้ลุกขึ้น เขามองเธอที่ห่วงใยแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
"อือ..โหสิ" กษิดิฐบอก
"นอนได้แล้ว...พรุ่งนี้ต้องตื่นไปโรงพยาบาลแต่เช้า"
"เครียดทั้งเรื่องผลตรวจ ทั้งเสียขวัญที่โดนถีบ นอนไม่หลับหรอก"
"เยอะจริงๆ...ไปขึ้นเตียงเลยเดี๋ยวทำให้หลับเอง"
กษิดิฐยิ้มดีใจ
กษิดิฐ นลินนอนเอาหัวมาทางปลายเตียง นลินเกาหัวให้
"อ่ะ สระผม สระผม..หลับซะนะ"
กษิดิฐนอนยิ้มมีความสุขพร้อมพยักหน้า
"หลับยัง"
"ใกล้แล้ว"
"หลับเร็วๆ สิ บัวง่วง"
กษิดิฐลืมตามาพูดกับนลิน
"พูดกรอกหูอยู่อย่างนี้กบจะหลับลงมั้ย"
"เออๆไม่พูดแล้ว..สระผมสระผมหลับซะนะ"
นลินเกาหัวให้กษิดิฐอย่างเซ็งๆ กษิดิฐหลับตายิ้มอย่างมีความสุข
ในห้องนอนของอณุกา เธอกำลังคุยมือถือกับใครบางคนอยู่ ปราณใส่ชุดนอนออกมาจากห้องน้ำแล้วไปนั่งข้างๆอณุกา
"ฉันฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ"
ปราณกอดอณุกา
"ดึกป่านนี้ ...ยังคุยกับใครอีกเหรอครับ ผมหวงนะครับ"
อณุกาจูบแก้มปราณ
"ฉันไม่ใช่เธอ ถึงจะโปรยเสน่ห์พร่ำเพื่อ"
"แล้วตกลงคุณคุยกับใครล่ะครับ"
"ก็กับใครบางคนที่จะจัดการเรื่องของนลินให้ฉันได้"
ปราณมองอย่างอยากรู้อยากเห็น
"จัดการ นี่คุณจะไล่คุณบัวออกเหรอครับ"
อณุกาไม่ตอบ หันไปหยิบขวดครีมมาทามืออย่างเย็นใจ
กษิดิฐกับนลินเดินเข้ามาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อนๆรออยู่ กษิดิฐมองสารัช
"นายมาทำไมเนี่ย"
"ผมก็มาพิทักษ์ความปลอดภัยให้กับนางในดวงใจของผมสิ"
"มัวแต่พิทักษ์คนอื่น อย่าลืมพิทักษ์ความปลอดภัยของตัวเองด้วยล่ะ เดี๋ยวจะล้มหัวปักมีดผ่าตัด...ตาย"
สารัชถอยห่างจากกษิดิฐไปยืนข้างดารินทร์ นลินมีท่าทางกังวล
"พี่รินทร์คุยกับเพื่อนพี่เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ"
"เรียบร้อยแล้วจ๊ะ พี่จัดการบอกเพื่อนให้ตรวจบัว แล้วก็ปลอม ผลตรวจให้บัวท้อง"
"พอเธอได้ผลตรวจ ก็เอาแปะกลางหน้ายายแตงกวาเลยนะ เผื่อหมึกปากกาจะซึมเข้าสมองบ้างจะได้เลิกจองล้างจอง ผลาญเธอกับกบสักที" มัญจาบอก
แตงกวาเดินหน้าเชิดเข้ามา
"พร้อมรึยัง"
"ถามตัวเธอดีกว่า ว่าพร้อมจะยอมรับความจริงรึยัง" มัญจาบอก
แตงกวายิ้มเยาะ
"รีบไปกันเถอะ คุณหมอวารีรอเรานานแล้ว" ดารินทร์บอก
ทุกคนจะเดินไป
"ใครบอกว่าเธอจะตรวจกับหมอชื่อนั้น"
ทุกคนชะงัก หันมามองแตงกวาเป็นตาเดียวกัน
"อะไรนะ"
"เธอคิดว่า ฉันจะให้เธอตรวจกับหมอของเธอเองเหรอ เธอประเมินฉันต่ำไปแล้ว"
แตงกวาเดินนำนลินไปทางห้องหมออีกคนหนึ่ง ทุกคนมองหน้ากันว่า จะเอายังไงดี
แตงกวาเดินนำมาที่ห้องตรวจครรภ์ ทุกคนเดินตามมาห่างๆจะได้กระซิบคุยกัน
"แตงกวาเล่นหักแผนเราอย่างนี้ จะทำยังไงดีล่ะ"
ทุกคนช่วยกันคิด ดารินทร์มองไปทางป้ายบอก “ห้องน้ำหญิง” แล้วคิดบางอย่างออก
"บัวเข้าห้องตรวจไปก่อน พอหมอให้ฉี่เพื่อตรวจ บัวก็มาเข้าห้องน้ำนี่ เดี๋ยวพี่จะทำให้ผลตรวจของบัวเป็นคนท้องเอง"
นลินมองดารินทร์อย่างสงสัยว่าจะทำยังไง แตงกวามองนลิน พูดเสียงเยาะหยัน
"ซุบซิบวางแผนอะไรกันเหรอ"
นลินชะงัก แล้วทำหน้าปกติ แล้วคล้องแขนกษิดิฐ
"ไม่มีอะไรนี่ เข้าห้องไปสิ ไปค่ะสามี ตื่นเต้นจังเนาะ"
นลินคล้องแขนกษิดิฐเดินผ่านหน้าแตงกวาเข้าห้องไป แตงกวามองนลินอย่างหมั่นไส้ แล้วหันไปมองทางกลุ่มเพื่อนนลิน
"อย่าคิดจะช่วยอะไรยายบัวเลยนะ ยังไงก็ไม่รอดมือฉันหรอก"
แตงกวาเดินเข้าห้องไป
มัญจาหันไปพูดกับดารินทร์
"เดี๋ยวก็รู้ว่ารอดหรือไม่รอด ! เราจะช่วยบัวยังไงต่อพี่รินทร์"
ดารินทร์ยิ้มมีแผน
"เธอเคยดูละครไหม"
ในห้องตรวจ กษิดิฐ นลิน แตงกวานั่งอยู่หน้าโต๊ะหมอ
"เดี๋ยวเชิญคนไข้ไปปัสสาวะและเจาะเลือดก่อนนะครับ"
นลินรีบพูด
"ขอตรวจแต่ปัสสาวะอย่างเดียวได้ไหมคะ"
"ตรวจเลือดด้วย จะแน่นอนกว่านะบัว" แตงกวาบอก
กษิดิฐพูดช่วยนลิน
"คนท้องตรวจด้วยอะไร ผลก็ออกมาว่าท้องทั้งนั้นแหละแตงกวา จริงไหมครับคุณหมอ"
"ตามสะดวกคนไข้แล้วกันครับ"
พยาบาลเดินมายื่นถ้วยใส่ปัสสาวะให้ นลินจะเดินไป
"เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน"
นลินชะงัก แล้วพูดกับแตงกวาด้วยเสียงรำคาญ
"นี่แตงกวา ...ฉันไม่ใช่เด็กอายุสองสามขวบ ไม่ต้องมีใครไปห้องน้ำเป็นเพื่อนหรอก"
กษิดิฐทำท่าลุกจะตามไปช่วย แตงกวารีบพูดดักคอ
"กบไม่ต้องไปหรอก บัวไม่ใช่เด็กอายุสองสามขวบ ไม่ต้องมีใครไปห้องน้ำเป็นเพื่อนหรอก"
กษิดิฐชะงัก
"เธอก็รู้ แล้วจะตามฉันมาทำไม"
"ก็ฉันก็ไม่ได้ไปเป็นเพื่อน แต่จะไปเป็นผู้ปกครอง ควบคุมความประพฤติ เผื่อเธอตุกติก"
นลินมองอย่างหงุดหงิด แล้วเดินหนีแตงกวาไปเข้าห้องน้ำ แตงกวารีบเดินตามไป กษิดิฐเครียดว่ามัญจา ดารินทร์ สารัชจะหาปัสสาวะคนท้องมาให้ นลินได้รึเปล่า
ในห้องน้ำหญิง นลินนั่งในห้องน้ำอย่างเครียดๆว่า จะเอาฉี่ของคนท้องที่ไหนไปให้หมอตรวจ แล้วก็มีมือหนึ่งยื่นถ้วยใส่ฉี่มาทางใต้กำแพงกั้นระหว่างห้องน้ำ นลินมองถ้วยฉี่ที่ยื่นมา แล้วลังเลว่าเป็นแผนของแตงกวารึเปล่า มือปริศนาถือถ้วยใส่ฉี่กลับเข้าทางด้านห้องน้ำตัวเอง แล้วยื่นกลับมาใหม่พร้อมกระดาษที่เขียนข้อความ นลินหยิบกระดาษมาอ่าน
"เพื่อนคุณที่ชื่อมิ้นท์กับรินทร์ จ้างฉันให้เอาฉี่มาให้"
นลินชะงัก แล้วรีบรับถ้วยฉี่จากมือปริศนานั้น
แตงกวายืนรอนลินอยู่หน้าห้องน้ำที่นลินกำลังเข้าอยู่ ประตูห้องน้ำห้องข้างๆนลินเปิดออก ผู้หญิงวัยรุ่นตัวไม่อ้วน ใส่เสื้อยืดและกางเกงสบายๆ ดูไม่ออกว่าท้อง เดินออกมาห้องน้ำ แล้วเดินออกจากห้องไป
แตงกวามองตามผู้หญิงที่เพิ่งออกจากห้องน้ำ พยายามสังเกตความผิดปกติ แต่เห็นว่าผู้หญิงดูไม่ใช่คนท้อง จึงไม่ใส่ใจ
นลินเปิดประตูห้องน้ำออกมาพร้อมถือถ้วยฉี่ออกมา
"เรียบร้อยแล้ว ตื่นเต้นจังเนาะ ไม่รู้ว่าจะได้ลูกผู้ชายหรือผู้หญิง"
นลินเดินด้วยท่าทางมั่นใจ นำแตงกวาออกจากห้องน้ำไป แตงกวามองอย่างหมั่นไส้กับความมั่นใจ แล้วคิดบางอย่าง
มุมหนึ่งที่หน้าห้องน้ำ ดารินทร์จ่ายเงินให้ผู้หญิงท้องอ่อน นลินกับแตงกวาเดินออกจากห้องน้ำหญิงเพื่อตรงไปห้องตรวจ มัญจาทำสัญญาณมือโอเคกับนลิน เช่นเดียวกับที่เธอส่งสัญญาณมือกลับ แล้วรีบทำเป็นปกติ เดินด้วยท่าทางมั่นใจไปทางห้องตรวจ
แตงกวามองไปทางมุมที่มัญจาแอบดูอยู่ แต่พวกเธอไม่อยู่แล้ว
ในห้องตรวจ กษิดิฐนั่งรอนลินอย่างกังวล นลินถือถ้วยฉี่เข้ามาพร้อมส่งสายตาให้กษิดิฐว่า สบายใจได้ เขาโล่งอก
นลินกำลังจะยื่นถ้วยฉี่ให้พยาบาลเอาไปเข้าห้องตรวจ
"ได้แล้วค่ะ"
แตงกวาเดินเข้ามาแล้วแกล้งสะดุดขาตัวเองเซไปโดนถ้วยฉี่ของนลินกระเด็นหก นลินกับกษิดิฐชะงัก
"เธอ"
แตงกวาทำหน้ารู้สึกผิดเว่อร์
"ฉันขอโทษ พอดีสะดุดขาตัวเอง เอาน่า...ยังไงเธอก็ท้องอยู่แล้ว จะฉี่อีกกี่ที ผลออกมาก็ต้องท้อง ใช่ไหมคะ คุณหมอ"
"ใช่ครับ"
ทั้งคู่รู้ว่า แตงกวาจงใจแกล้งแน่ๆ แตงกวาพูดกับพยาบาล
"ขอถ้วยใหม่ให้บัวด้วยค่ะ"
พยาบาลหยิบถ้วยใส่ฉี่มาให้นลินใหม่ นลินรับถ้วยแล้วจะเดินออกไปที่ห้องน้ำอีกที
"เธอจะไปไหน"
นลินหงุดหงิด
"ไปผัดสะตอให้เธอกินมั้ง ! ก็ไปห้องน้ำสิ"
"ห้องน้ำในห้องคุณหมอก็มี นั่นไง... ฉันเพิ่งเห็น" แตงกวาพูดพลางชี้ไปทางห้องน้ำ
กษิดิฐรีบช่วยพูด
"เป็นห้องน้ำส่วนตัวของหมอ อย่าเลย"
"ไม่เป็นไรครับ ความจริงผมก็ให้คนไข้เข้าห้องน้ำนี้แหละครับ เมื่อกี้บอกคุณนลินไม่ทัน ... เชิญเลยครับคุณนลิน"
นลินมองกษิดิฐว่าจะเอายังไงดี แตงกวาดึงตัวนลินพาไปห้องน้ำ
"รีบเข้าไปได้แล้ว คุณหมอมีคนไข้อื่นรออยู่"
นลินเครียด กษิดิฐคิดว่าจะเอายังไงดี แตงกวายิ้มเยาะว่า คราวนี้นลินไม่รอดแน่
นลินเดินวนไปวนมาในห้องน้ำว่าจะเอายังไงดี แตงกวาเคาะประตูถาม
"เสร็จรึยังบัว"
มือถือนลินสั่น เธอหยิบมือถือมาดูว่า ใครโทรมา นลินชะงัก
แตงกวาเคาะประตูห้องน้ำ
"ได้ยินไหมบัว เธอหลบอยู่ในนั้นทั้งวันไม่ได้หรอกนะ เธอยอมรับมาดีกว่าเธอกับกบโกหก"
กษิดิฐรีบห้ามแตงกวา
"เลิกเคาะได้แล้วแตงกวา บัวเพิ่งจะเข้าห้องน้ำไปเมื่อกี้ เข้าอีกที...มันก็ต้องใช้เวลาแบบนี้แหละ"
"อย่ามาช่วยกันแก้ตัวหน่อยเลย กบคิดว่าแตงกวาโง่เหรอ กบกลับมาจากอเมริกาไม่ถึงเดือน ยายบัวจะท้องได้ยังไง เอากุญแจมาไขเลยค่ะคุณพยาบาล ไม่รู้เครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกตายในห้องน้ำแล้วรึเปล่า"
นลินเปิดประตูออกมา พร้อมยื่นถ้วยใส่ฉี่ให้พยาบาล
"ฉันยังไม่ตายย่ะ นี่ค่ะ"
แตงกวามองถ้วยฉี่แล้วมองนลิน
"หวังว่าจะไม่แอบเก็บของคนอื่นมาให้หมอตรวจนะ"
"เธอยืนเฝ้าฉันขนาดนี้ แล้วฉันเอาของคนอื่นมาให้หมอได้ยังไง"
" ก็ดี จะได้รู้ผลสักที เรื่องโกหกหลอกลวงจะได้จบสิ้น"
พยาบาลเอาถ้วยฉี่ที่นลินยื่นให้ไปเข้าห้องตรวจ นลินมองกษิดิฐมองเธออย่างกังวล
บริเวณหน้าห้องตรวจ กลุ่มเพื่อนนั่งคุยกันอยู่หน้าห้องอย่างกังวลว่า ผลตรวจจะเป็นยังไงบ้าง
ในห้องตรวจ นลินกับกษิดิฐนั่งสีหน้ากังวลอยู่ หมอเดินถือใบผลตรวจเข้ามานั่งที่เก้าอี้
"ตกลงจากผลตรวจปัสสาวะ ผลแสดงว่าคุณนลิน"
แตงกวารีบพูด
"ไม่ท้องใช่ไหมคะ"
"คุณนลินตั้งครรภ์ครับ" หมอบอก
กษิดิฐ แตงกวาตกใจคาดไม่ถึง
"อะไรนะคะ/ครับ"
"ผลการตรวจ คุณนลินตั้งครรภ์ได้ห้าสัปดาห์แล้วครับ"
กษิดิฐ แตงกวามองนลินอย่างตกใจ และอึ้งว่า นลินท้องได้ยังไง นลินนั่งนิ่งเพราะรู้ว่าทำไมผลถึงออกมาเป็นอย่างนี้ เธอคิดถึงคนที่โทรหานลินตอนที่เธอนั่งเครียดอยู่ในห้องน้ำ
ภายในร้านกาแฟ ของโรงพยาบาล ดารินทร์พูดอย่างภูมิใจ
"บอกแล้วว่าวิธีของพี่ต้องได้ผล"
"ผลตรวจที่ออกมา ไม่ใช่เพราะวิธีของพี่รินหรอกค่ะ" นลินบอก
ทุกคนตกใจ
"แตงกวาแกล้งชนบัว จนฉี่เพื่อนพี่รินทร์หกหมดเลยครับ" กษิดิฐบอก
"อ้าว...แล้วบัวเอาฉี่ใครไปให้หมอตรวจ" มัญจาถาม
"ของบัวเอง"
สารัชโวยวาย
"แล้วผลก็ออกมาว่าท้อง บอกว่า แต่งกันปลอมๆ ทำไมถึงปล่อยให้ท้องจริงอย่างนี้ล่ะ"
กษิดิฐยิ้มเยาะมองสารัช แล้วโอบนลิน
"ก็เราอยากมีเจ้าตัวเล็กมาเป็นโซ่ทองคล้องใจน่ะสิ...ใช่มั้ยจ๊ะ เมียจ๋า"
สารัชเบะหน้าจะร้องไห้
"เธอท้องจริงๆเหรอบัว" มัญจาถาม
"ขาอ่อนฉัน กบยังไม่เคยเห็น ฉันจะท้องได้ยังไงเล่า"
สารัชดีใจแล้วทำเข้มใส่กษิดิฐ
"คุณพูดเพ้อเจ้ออีกแล้วนะ คุณกบ"
"พูดเพ้อเจ้อ แต่ก็มีคนเชื่อ จนน้ำตาคลอเบ้า"
สารัชมองกษิดิฐอย่างไม่พอใจ
"นี่กบ...เลิกแกล้งสารัชแล้ว ก็ช่วยคิดหน่อยได้มั้ยว่า ผลตรวจมันออกมาว่าบัวท้องได้ยังไง"
"ด๊าย... จากการคิดจนรอบคอบแล้ว กบสันนิษฐานว่าอาจจะมีการสลับผลตรวจเกิดขึ้น"
"โรงพยาบาลนี้เน้นความปลอดภัยของคนไข้เป็นอันดับหนึ่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะทำผลตรวจสลับกัน"
"แต่ถ้าไม่สลับกับของคนอื่น ผลตรวจจะออกมาว่าบัวท้องได้ยังไงละคะ" ดารินทร์ว่า
ทุกคนครุ่นคิด
มัญจาโวยวายอย่างหงุดหงิด
"โอ้ย"
ทุกคนสะดุ้งมองมัญจาอย่างตกใจ
"ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว หาเหตุผลไม่ได้ ก็ไม่ต้องหาถือซะว่าโชคช่วยก็แล้วกัน"
ทุกคนพยักหน้าอย่างงงๆที่มัญจาหงุดหงิด
ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 6 (ต่อ)
บริเวณสนามกอล์ฟ ลูกกอล์ฟถูกอณุกาพัตต์ลงหลุมอย่างสวยงาม อภิชาติ ปราณอยู่ในชุดเล่นกอล์ฟ มีแคดดี้ดูแล อภิชาติ ปราณ ปรบมือให้อณุกา
"สวยมาก"
เสียงมือถืออณุกาดัง แคดดี้รีบเอามือถือมาส่งให้ อณุการับสาย แล้วยิ้มสมใจ
"ฮัลโหล... บ่ายนี้ฉันจะโอนค่าใช้จ่ายไปให้"
อณุกาวางสายแล้วพูดกับอภิชาติ
"ผลตรวจออกมาแล้วค่ะ...นลินท้อง"
"ฮะๆๆ ...คราวนี้แตงกวาก็จะได้เลิกยุ่งกับนายกบซะที คุณเก่งมากคุณณุกา"
อณุกายิ้มดีใจที่อภิชาติชม
"คุณเป็นคนทำให้ผลตรวจออกมาว่า คุณบัวท้องเหรอ" ปราณถาม
"ก็แค่ให้คนของฉันปลอมเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ไปสลับผลตรวจ ก่อนที่ผลจากห้องแล็บจะถึงมือหมอ โดยที่คนของโรงพยาบาลไม่รู้เรื่อง"
"แต่คุณบัวไม่ได้ท้องจริง ผ่านไปสักเดือนสองเดือน แล้วท้องคุณบัวไม่โต คุณแตงกวาก็ต้องรู้"
"นั่นน่ะสิเราจะแก้ปัญหานี้ยังไง" อภิชาติถาม
"ทำให้นลินท้องกับคุณกบจริงๆ"
อภิชาติ ปราณมองอณุกาอย่างตกใจ
ภายคอนโดฯ ติณณ์นั่งมองเอกสาร แต่ใจไม่อยู่กับงานเหม่อคิดถึงเรื่องราวในตอนที่กษิดิฐประกาศว่า เขากับนลินเป็นนสามี - ภรรยา ตามนิตินัยและพฤตินัย
ติณณ์ถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น ติณณ์เดินไปรับ
“ฮัลโหล... มีคนมาหาผม... ชื่อคุณแตงกวา”
แตงกวาเดินเข้ามาในห้อง และพูดกับติณณ์อย่างหงุดหงิด
“ฉันจะมาบอกคุณว่า ผลตรวจออกมาว่ายัยบัวท้อง”
ติณณ์หน้าเจื่อนยิ้มเศร้าอย่างเจ็บปวด
ขอบคุณนะครับที่มาบอก พรุ่งนี้ผมจะไปแสดงความยินดีกับคุณบัวที่ออฟฟิศ”
“ไม่ต้องแสดงความยินดีหรอกค่ะ เพราะฉันมั่นใจว่ายัยบัวไม่ได้ท้องจริง”
“ผลตรวจยืนยันขนาดนี้แล้ว คุณยังไม่เชื่ออีกเหรอครับ”
“แค่ผลตรวจจ้างใครทำให้ก็ได้ แล้วถ้าเราร่วมมือกัน เราก็จะทำให้คนอื่นได้รู้ไปด้วยว่า บัวจ้างคนทำผลตรวจปลอม”
“เรา !?”
“ฉันต้องการกบ ส่วนคุณชอบบัว ถ้าเราช่วยกันแยกคู่นี้จากกันได้ คุณก็จะมีโอกาสสมหวังกับบัวนะคะ”
“ผมเอะใจแล้วเชียวว่า คุณคงไม่ได้มาหาผมถึงที่นี่ เพื่อแค่ส่งข่าวว่าคุณบัวท้อง”
“ตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าฉันมาเพราะอะไร คุณจะร่วมมือกับฉันมั้ย”
“ผมอยากสมหวังในความรักเพราะรัก ไม่ได้อยากสมหวังเพราะทำลายชีวิตคู่ของใคร... ขอโทษด้วยนะครับที่ผมจะไม่ร่วมมือกับคุณทำลายคุณบัว”
แตงกวามองติณณ์อย่างไม่พอใจ คว้ากระเป๋าแล้วเดินออกไปอย่างหงุดหงิด ติณณ์มองตามอย่างหนักใจแล้วเดินตามไป
แตงกวาเปิดประตูห้องติณณ์ออกมาอย่างหงุดหงิด
“คุณแตงกวา อย่าทำร้ายคุณบัวอีกเลยครับ”
แตงกวายิ้มเยาะ
“ห่วงบัวเหรอคะ”
ติณณ์ไม่ตอบ
“ห่วงมาก ก็ไปบอกบัวสิว่าให้คืนกบให้ฉัน แล้วฉันจะไม่ยุ่งกับเค้าอีก”
“คุณกำลังต้องการในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้”
“ความต้องการของฉันเป็นไปได้ทุกอย่าง แล้วอย่าคิดนะว่า ไม่มีคุณฉันจะทำอะไรบัวไม่ได้”
แตงกวาเดินออกไปอย่างหงุดหงิด ติณณ์มองตามอย่างหนักใจ
ภายในบ้าน เจนหลับสนิทอย่างมีความสุข
“อย่าเข้ามานะ” จ้นทร์บอก
“หลีกไป” เสี่ยเม้งบอก
“เจน เจน อีเจน...”
เจนสะดุ้งตื่นอย่างตกใจ เมื่อได้ยินเสียงจันทร์ตะโกนลั่นบ้าน
“อีเจนออกมานี่เร็ว อีเจน”
เจนรีบวิ่งออกจากห้องไปอย่างร้อนใจ
เจนวิ่งหน้าตื่นออกมาอย่างตกใจ เห็นจันทร์กำลังยื้อยุดเสี่ยเม้งไม่ให้เข้าบ้าน
“อีเจนออกมาซะทีสิโว้ย”
เจนตกใจ
“เสี่ยเม้ง”
“มาเคลียร์กับผัวเก่าแกเลย” จันทร์บอก
“เอาทองฉันคืนมา” เสี่ยเม้งบอก
เจนมองเสี่ยเม้งอย่างตกใจ แล้วแกล้งตีหน้าซื่อ
“ทอง ทองอะไรเหรอคะเสี่ย”
“ฉันบอกแล้วว่าเจนมันไม่รู้เรื่อง”
เสี่ยเม้งเดินไปหาเจนอย่างเอาเรื่อง
“ไม่รู้เรื่องเหรอ ที่คอนโดมีฉันกับเธออยู่กันแค่ 2 คน ถ้าไม่ใช่เธอ แล้วหมาที่ไหนจะเอาทองฉันไป”
“นี่เสี่ย ฉันรู้นะว่าเสี่ยโกรธที่นังเจนมันบอกเลิก แต่ยังไงมันก็เคยเป็นเมีย พูดกับมันให้ดีกว่านี้หน่อยก็ได้” จันทร์บอก
“กับผู้หญิงที่ดีแต่สูบเงิน พอฉันทำธุรกิจขาดทุนก็ทิ้งฉัน พูดแบบนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว... เอาทองฉันคืนมา”
“เจนไม่ได้เอาทองของเสี่ยมาจริงๆ นะคะ”
“ไม่ต้องมาตีหน้าเศร้า ฉันไม่สงสารผู้หญิงหน้าเงินอย่างเธออีกแล้ว”
เจนโมโห
“เออ ไม่เศร้าก็ได้ ฉันไม่ได้เอาทองแกมา ถ้าแกไม่เชื่อก็เชิญค้นบ้านทั้งหลังได้เลย”
เสี่ยเม้งมองเจนอย่างโมโห แล้วเดินเข้าไปค้นของในบ้าน
จันทร์รีบวิ่งมาหาเจน
“ทองที่แกเอาของมันมาอยู่ในห้องแกไม่ใช่เหรอ ให้มันค้นอย่างนี้เดี๋ยวมันก็เจอน่ะสิ”
เจนยิ้มเยาะ
“มันไม่มีวันหาเจอหรอกแม่”
จันทร์มองเจนอย่างสงสัย
กษิดิฐขับรถที่มีนลินนั่งข้างๆมาถึงหน้าห้างแห่งหนึ่ง
“หิวมั้ย”
“หิวสิ ตั้งแต่เช้ากินกาแฟไปแค่แก้วเดียวเอง”
กษิดิฐเปิดไฟเลี้ยวจะเข้าห้าง
"ทำอะไรน่ะกบ"
"แวะกินข้าวเพราะกบก็หิวเหมือนกัน"
"แต่บัวมีงานต้องทำเยอะมาก กลับไปกินที่บ้านเถอะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาที่จอดรถ เสียเวลาสั่งอาหาร รออาหาร"
"เสียเวลานิดหน่อยแลกกับการที่เราไม่ต้องเสี่ยงเป็นโรคกระเพาะต้องยอมเสีย"
กษิดิฐเลี้ยวรถเข้าห้างไป นลินมอง ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด
"รู้งี้บอกว่าไม่หิวดีกว่า...กินเร็วๆเลยนะจะได้รีบกลับ"
"ตามนั้นเลยจ๊ะเมียจ๋า"
นลินมองกษิดิฐอย่างเซ็งสุดๆ
ภายในบ้าน ปภพเล่นเครื่องบินอยู่กับน้องจุง
"เครื่องบินลงจอดแล้ว ฟิ้ว..."
น้องจุงถือเครื่องบินอีกลำ
"ของน้องจุงก็จอด...ฟิ้ว"
น้องจุงเอาเครื่องบินลงจอดเหมือนปภพ ดารินทร์เดินเข้ามาในบ้าน น้องจุงวิ่งไปกอด
"คุณแม่มาแล้ว"
ดารินทร์กอดหอมแก้มจุง
"คุณแม่คิดถึงน้องจุงจังเลย"
"น้องจุงก็คิดถึงคุณแม่ครับ"
ปภพมองดารินทร์อย่างรักสุดหัวใจ แล้วเดินไปหา
"แผนของคุณได้ผลมั้ย"
"ไม่ได้ผล แต่โชคช่วยผลเลยออกมาว่า บัวท้อง"
"โชคช่วยยังไง"
"ตื่นไปช่วยบัวตั้งแต่เช้า ง่วง ไว้ค่อยเล่า ขอไปนอนก่อน"
ดารินทร์เดินออกไป ปภพมองดารินทร์อย่างรักมาก แล้วหันไปบอกน้องจุง
"ไปส่งคุณแม่เข้านอนกันนะครับ"
ปภพจูงน้องจุงเดินตามดารินทร์ไป
ดารินทร์เดินเข้ามาในห้องนอน แล้วเอากระเป๋าไปวาง ปภพจูงน้องจุงเดินตามเข้ามา เขาเปิดตู้หยิบชุดนอนให้น้องจุงที่รับชุดนอนแล้ววิ่งไปแม่
"ชุดนอนครับ"
"ขอบคุณครับ"
"เราไม่ได้ไปทานข้าวนอกบ้านกันนานแล้ว เดี๋ยวพอคุณตื่น เราพาน้องจุงออกไปหาอะไรอร่อยๆทานกันนะ"
"ยังไม่รับปากนะ ขอดูก่อนว่าตื่นมาแล้วอารมณ์ไหน" ดารินทร์บอก
ดารินทร์ถือชุดนอนเดินเข้าห้องน้ำไป ปภพมองตามอย่างน้อยใจ
แตงกวาเดินหน้าบึ้งเข้าบ้านอย่างหงุดหงิด เสียงมือถือแตงกวาดังขึ้น เธอกดรับ
"ว่าไงคะคุณปราณ พี่ณุกาเป็นคนจัดการเรื่องผลตรวจของบัว"
แตงกวาตกใจ
ปราณยืนอยู่มุมหนึ่ง ส่วนอณุกา อภิชาตินั่งคุยกันที่โต๊ะ ซึ่งมีเครื่องดื่มตั้งอยู่
"ครับ แล้วคุณณุกาก็ไม่ได้หยุดแค่นั้นนะครับเค้ายังวางแผนจะให้บัวท้องจริงด้วย"
"คุณรู้รึเปล่าว่าพี่ณุกาจะทำอะไร"
"รู้ครับ คุณณุกาบอกผมหมดแล้ว"
แตงกวาคุยโทรศัพท์กับปราณอย่างร้อนใจ
"งั้นก็รีบบอกฉันมาเลย ฉันจะได้รีบหาวิธีขัดขวางพี่ณุกา"
"ได้ครับ"
ปราณยิ้มสมใจ
ภายในบ้าน เจนนั่งกระดิกเท้าอย่างสบายอารมณ์ เสี่ยเม้งเดินออกมาอย่างหงุดหงิด
จันทร์กระซิบเจน
"หน้าหงิกออกมาอย่างนี้แสดงว่าหาไม่เจอ"
เสี่ยเม้งถามเจน
"เธอเอาทองของฉันไปไว้ที่ไหน"
"ก็บอกว่าไม่ได้เอาไป ไม่ได้เอาไป พูดไม่รู้เรื่องรึไง"
"คนอย่างเธอ จับไม่ได้คาหนังคาเขา ไม่มีวันยอมรับหรอก ถือซะว่าทองเส้นนั้นเป็นค่าโง่ ที่ฉันเอาผู้หญิงอย่างเธอมาเป็นเมียก็แล้วกัน"
เสี่ยเม้งเดินออกไปอย่างหงุดหงิด
จันทร์รีบวิ่งมาหาเจน
"แกไม่บอกไอ้เสี่ยเม้งน่ะได้ แต่ฉันเป็นแม่ แกต้องบอกฉันว่า เอาทองของมันไปไว้ที่ไหน"
เจนชูกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงใบหนึ่งขึ้น จันทร์รีบคว้ากระเป๋ามาค้น แต่ไม่เจอทอง
"ไม่มีทองสักสลึง"
"ฉันไม่ได้เอาไว้ในนี้"
จันทร์ปากระเป๋าลงพื้นอย่างหงุดหงิด
"ไม่ได้ไว้ในนี้ แล้วเอามาให้ดูทำไม"
เจนรีบเก็บกระเป๋ามากอด
"แอร๊ย...ปาได้ยังไงใบตั้ง 3 หมื่นนะแม่"
"3 หมื่น เงินยาไส้แทบจะไม่มี แต่เอาเงินไปซื้อกระเป๋าใบละ 3 หมื่น แกบ้าหรือแกโง่ หา"
"งั้นคนบ้าคนโง่ก็เต็มเมือง เพราะใครๆก็หิ้วกระเป๋ายี่ห้อนี้ทั้งนั้น เพราะไอ้กระเป๋าเนี่ย มันทำให้คนอื่นยกย่องราวกับฉันเป็นเจ้าหญิง"
"แล้วเมื่อไหร่จะเป็นจริงๆซะทีล่ะ เจ้าหญิงน่ะ ฉันจะได้พลอยสบายไปด้วย"
"ยัง หนุ่ม... แต่เป็นถึงเจ้าของบริษัท พี่กษิดิฐน่าจะรวยมาก จับพี่กษิดิฐได้เมื่อไหร่ แม่ก็จะได้เป็นแม่ของเจ้าหญิงเมื่อนั้น"
"ฉันก็ไม่อยากจะหวังกับเรื่องลมแล้งในอนาคตนักหรอกนะ... เอาที่ได้เห็นๆตอนนี้ดีกว่า บอกมาว่าแกเอาทองไว้ที่ไหน"
"ขายหมดแล้ว"
"ทองเส้นนั้นตั้ง 5 บาทเอาไปขายก็ได้เป็นแสนเลยน่ะสิ เอามาเลยหมื่นนึง"
"ฉันเอาเงินไปซื้อกระเป๋าใบนี้ ที่เหลือก็ไปกิน ไปเที่ยวจะหมดแล้ว เหลือไม่ถึงหมื่นหรอก"
"อีเจน อีลูกโง่ เงินเป็นแสนใช้เหลือไม่ถึงหมื่น หมดเงินก้อนนี้แล้วจะเอาที่ไหนใช้จ่ายกันล่ะ"
"ที่พี่กษิดิฐไงแม่ ฉันจะทำให้เค้ามาอยู่ในกำมือฉันให้เร็วที่สุด"
เจนยิ้มร้าย จันทร์มองยิ้มอย่างชื่นชม
ภายในร้านอาหารญี่ปุ่น อาหารหลายอย่างวางอยู่บนโต๊ะ มีแคลิฟอเนียโรลด้วย กษิดิฐชี้อาหารบอก
"นี่ ๆ ๆ ของโปรดกบ นี่ๆ ๆ ของโปรดบัว"
กษิดิฐตักของโปรดตัวเองใส่จานนลิน
"ตักของโปรดกบให้บัวอีกแล้วนะ"
"อยากให้บัวลองกิน ของที่กบชอบ เผื่อจะชอบเหมือนกบไง"
"กบให้บัวลองกินตั้งหลายทีแล้ว แล้วบัวก็บอกตั้งหลายทีแล้วเหมือนกันว่า ไม่ชอบ บัวไม่กิน"
"หยุดเลยหยุด ไม่ต้องงอแง ล้อเล่นนิดเดียวจริงจังไปได้"
กษิดิฐตักอาหารออกจากจานบัว
"ชอบนักแกล้งให้หงุดหงิดเนี่ย โรคจิต"
กษิดิฐหัวเราะขำ แล้วหยิบแคลิฟอเนียโรลป้อนให้
"อ่ะของโปรดบัว...อ้าปาก"
นลินยังงอนอยู่
"กินเองได้"
"อยากชดใช้ความผิดที่กวนประสาทขอป้อนหน่อย นะนะนะ"
นลินค้อนกษิดิฐอย่างหมั่นไส้แล้วกินแคลิฟอเนียโรลที่กษิดิฐป้อน ครีมเลอะปากนลิน
กษิดิฐยิ้มขำ แล้วหยิบกระดาษมาเช็ดปากให้นลินอย่างอ่อนโยน
"เลอะน่ะ"
นลินค้อนกษิดิฐอย่างงอนๆ เขายิ้มขำมองเธออย่างมีความสุข
ผ่านเวลามา กษิดิฐ นลินเดินออกมาจากร้านอาหาร เธอเดินอย่างรีบร้อนไปทางหนึ่ง เขารีบดึงไว้
"ทางนี้"
"กบจอดรถทางนี้"
"กบไม่ได้จะไปที่รถ"
"จะไปเข้าห้องน้ำก็รีบไปเลย บัวจะรีบกลับไปทำงาน"
"วันนี้วันหยุดนะบัว หยุดทำงานสักวันแล้วใช้ชีวิตแบบอื่นบ้างเถอะ"
"บัวไม่ได้อยากใช้ชีวิตแบบอื่น บัวอยากทำงาน"
"กบไม่ให้ทำ มานี่เลย"
กษิดิฐลากนลินออกไปทางหนึ่ง
"จะพาบัวไปไหน บัวจะกลับบ้าน"
"แป๊บเดียวน่า เดี๋ยวพากลับ"
กษิดิฐลากนลินออกไป เธอถอนหายใจอย่างเซ็งๆ
กษิดิฐลากนลินมาตรงจอโปรแกรมหนัง แล้วชี้ไปที่หนังเรื่องหนึ่ง
"ดูเรื่องนี้กัน"
"บอกว่าแป๊บเดียว แต่จะดูหนังเนี่ยนะ บัวไม่เอาเวลาสองสามชั่วโมงมาทิ้งเพราะ ความเอาแต่ใจของกบหรอก"
กษิดิฐตะโกนลั่น
"เจ้าข้าเอ๊ย..."
คนแถวนั้นหันมามอง นลินมองกษิดิฐอย่างตกใจ
"จะทำอะไร"
"ก็ประกาศให้คนรู้ทั้งห้างเลยไง ว่ามีเมียบ้างานไม่ยอมดูหนังด้วย"
"เก่งนักนะ เรื่องทำให้บัวขายหน้าน่ะ"
"ถ้าไม่อยากขายหน้าก็ดูหนังกับกบสิ"
"ถ้าอยากโดนบัวโกรธตลอดชีวิตก็ประจานบัวเลย เอาเลย"
"ด๊าย..."
กษิดิฐเปลี่ยนท่าที เป็นคุกเข่าอ้อนวอน
"บัวจ๋า"
คนที่เดินผ่านไป ผ่านมาแถวนั้นมองกษิดิฐแล้วยิ้มขำ
"ตั้งแต่กลับจากอเมริกา กบยังไม่ได้ดูหนังสักเรื่องเลย กบขอร้องกบอ้อนวอน กบขอความเห็นใจดูหนังกันเถอะนะ นะนะนะ"
นลินยิ้มขำที่เป็นผู้ชนะ
"ก็ได้ แต่ถ้าดูเสร็จแล้วไม่รีบกลับ บัวจะโกรธกบไปตลอดชีวิตเลย"
"หนังจบปุ๊บ กบจะแจ้นขึ้นรถกลับบ้านปั๊บเลย"
นลินมองกษิดิฐที่ยิ้มขำมีความสุข
ภายในบ้านนลิน กมลากำลังใช้สายวัดวัดรอบท้องยศภัทรที่ยืนแขม่วท้องอยู่ นันทิดาถือกระดาษเตรียมจด
"เล็กกว่านี้อีกค่ะ"
ยศภัทรถอนหายใจอย่างเหนื่อยสุดๆ
"ไม่ไหวแล้ว เหนื่อยจะเป็นลม"
"คุณภัทรพักก่อนนะคะ หายเหนื่อยแล้วค่อยวัดใหม่" นันทิดาบอก
"หายเหนื่อย ผมก็ทำท้องได้เล็กที่สุดเท่านี้อยู่ดีละครับ ผมว่าวัดคนที่ท้องเล็กกว่าผมดีกว่า"
ชลัชเดินลงมาจากข้างบน
"พูดถึงก็มาพอดี อย่างนี้อยู่ร้อยปีแน่ๆ เพราะตายยาก"
"นินทาอะไรผม" ชลัชถาม
"ไม่ได้นินทาแค่พูดถึง ขอความร่วมมือหน่อยนะ ยืนตรงนี้" ยศภัทรพูดพลางดึงชลัชมาหากมลา
"เฮ้ยๆๆ จะทำอะไร ผมเอางานกลับมาทำเต็มเลย ผมจะไปทำงาน"
"วันหยุด แต่ยังเอางานมาทำที่บ้าน บัวติดนิสัยบ้างานมาจากคุณนี่เอง"
"จะวันหยุดหรือวันอะไร ผมก็อยากใช้เวลาให้คุ้มค่า ไม่ใช่ใช้เวลาไปกับเรื่องไร้สาระแบบคุณ"
"อย่าหาว่าผมสอนเลยนะ จริงจังทุกเรื่องชีวิตมันเครียด ไร้สาระบ้างชีวิตจะได้มีความสุขขึ้น"
"ผมไม่ชอบเรื่องไร้สาระ"
นันทิดาเห็นท่าว่าชลัช ยศภัทรจะเถียงกันยาวก็รีบห้าม
"คุณชลัชคะ ถ้าคุณอยากรีบไปทำงานก็ยืนนิ่งๆสัก 5 นาทีนะคะ"
"นี่พวกคุณทำอะไรกัน"
"ขอฉันวัดท้องคุณแป๊บเดียว เดี๋ยวเล่าให้ฟังค่ะ"
กมลาวัดท้องชลัชที่มองทุกคนอย่างงงๆ
"แขม่วท้องให้เล็กลงนี๊ดนึงค่ะ"
ชลัชทำตามที่กมลาบอก ยศภัทร นันทิดายิ้มขำ
ในโรงหนังมีคนนั่งอยู่ไม่กี่คน กษิดิฐถือป็อปคอร์นกับเครื่องดื่มเดินเข้ามานั่ง นลินมานั่งลงข้างๆ เขายื่นป็อปคอร์นให้
"อ่ะ อุปกรณ์เพิ่มความสุขในการดูหนังของบัว"
นลินมองกษิดิฐอย่างหมั่นไส้
"ทำเป็นเอาใจ"
"ไม่เอาใจ เดี๋ยวบัวงอนกลับบ้าน กบก็ไม่ได้ดูหนังน่ะสิ"
"บัวเสียเวลาทำงานตั้งหลายชั่วโมง เอาใจแค่นี้มันน้อยไป"
"อยากได้มากกว่านี้ใช่มั้ย"
นลินยักคิ้วกวนๆ
"จัดให้"
กษิดิฐจับหน้านลินหันไปทางจอหนังที่เริ่มฉายหนังตัวอย่าง นลินหันหน้ามามองอย่างงงๆ เขาจับหน้านลินหันไปทางจอหนังอีกครั้ง
"ดูไป"
กษิดิฐหยิบป็อปคอร์นป้อนใส่ปากนลิน
"มือบัวจะได้ไม่เปื้อน แล้วก็ไม่ต้องหยิบป็อปคอร์นให้เสียสมาธิเวลาดูหนัง"
นลินยิ้มพยักหน้าดีใจ กินป็อปคอร์นที่กษิดิฐป้อนให้อย่างมีความสุข เขายิ้มมีความสุขเช่นกัน
นลินเคี้ยวป็อปคอร์นไป ดูหนังไปอย่างมีความสุข แล้วจู่ๆเขาก็หยุดป้อนป็อปคอร์น
"หยุดป้อนทำไม"
นลินหันไปเห็นกษิดิฐถือถุงป็อปคอร์นแต่หลับหัวพิงเบาะอ้าปากหวอ
"ชวนดูหนังแต่ตัวเองหลับ อย่าคิดเลยว่าจะได้หลับอย่างมีความสุข"
นลินยิ้มมีแผน แล้วหยิบป็อปคอร์นใส่ปากทีละอันจนเต็มปาก เขาลืมตาแล้ว ทำท่าเหมือนจะกัดนิ้วนลิน
"ง่ำ"
นลินตกใจ ร้อง "แอร๊ย" กษิดิฐหัวเราะลั่น คนในโรงมองอย่างตกใจ
นลินตีแขนกษิดิฐอย่างโมโห
"แกล้งบัวอีกแล้วนะ"
"ก็บัวแกล้งกบก่อน"
นลินจะต่อว่ากษิดิฐต่อ เขาเอานิ้วปิดปากนลินอย่างอ่อนโยน
"อย่า เสียงดังรบกวนคนอื่น"
นลินมองรอบๆ เห็นคนในโรงหนังมองอย่างไม่พอใจ เธอยิ้มแหย
"ขอโทษค่ะ"
นลินหันไปมองและตีแขนกษิดิฐอย่างแรงด้วยความโมโห แล้วหันไปดูหนังต่อ เธอขำหนัง หัวเราะลั่น
กษิดิฐพึมพำ
"เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวหัวเราะท่าจะบ้า"
นลินหันขวับ
"ว่าบัวบ้าเหรอ"
"เปล๊า บอกว่าหนังสนุกเป็นบ้า ดูสิ ฮะๆๆ"
นลินหันไปดูหนังแล้วขำไปกับหนัง หัวเราะลั่น กษิดิฐมองอย่างมีความสุข
ผ่านเวลามา กษิดิฐ นลินเดินออกจากโรงหนังอย่างมีความสุข
"ตั้งแต่กบกลับมา นี่เป็นครั้งแรกที่กบเห็นบัวหัวเราะเสียงดังเหมือนเมื่อก่อน"
"วันๆ คิดงานจนสมองจะระเบิด จะเอาเวลาที่ไหนมาหัวเราะ"
"อยู่กับกบมาก ๆ สิ รับรองบัวจะหัวเราะมากขึ้น"
"บัวว่าบัวจะตายเร็วขึ้นเพราะเส้นเลือดในสมองแตก เพราะโกรธที่โดนกบแกล้งมากกว่า"
"บอกว่ามีความสุขกับการทำงาน แต่พอทำแล้วก็เครียด อยู่กับกบก็เอาแต่โกรธ เคยคิดบ้างมั้ยว่า ความสุขที่แท้จริงของบัวคืออะไร"
"การได้เป็นแฟนกับชายในฝัน"
"ติณณ์เหรอ"
นลินพยักหน้าอย่างเขินๆ กษิดิฐมองนลินอย่างเจ็บปวดแล้วแกล้งร่าเริงกลบเกลื่อน
"ผลตรวจออกมาว่า บัวท้อง เดี๋ยวคุณณุกาก็คงคืนงานให้บัวแล้วล่ะ พอบัวได้งานคืน กบจะหย่าให้ทันที บัวจะได้ไปมีความสุขกับติณณ์"
"ขอบใจมากนะกบ"
"เฮ้ย เพื่อนกันไม่ต้องเกรงใจ"
กษิดิฐยิ้มให้นลินอย่างร่าเริง แต่ในใจเจ็บปวดมากเหลือเกิน
ภายในบ้านดารินทร์ ปภพนั่งอ่านนิทานให้น้องจุงฟัง ดารินทร์ใส่ชุดนอนเดินถือโทรศัพท์ออกมา
"ตัดสินใจได้รึยัง ว่าจะออกไปทานข้าวนอกบ้านรึเปล่า" ปภพถาม
"ได้แล้ว... ไม่ไป ขี้เกียจ"
"แต่ผมอยากไป"
"งั้นคุณก็ไปกับน้องจุง ฉันอยู่บ้านคนเดียวได้"
"ผมอยากให้คุณไปด้วย"
"ก็บอกแล้วว่า ขี้เกียจ คุณจะบังคับให้ฉันหงุดหงิดทำไม"
ปภพมองดารินทร์อย่างน้อยใจ
เสียงมือถือดารินทร์ดังขึ้น
ดารินทร์น้ำเสียงตกใจ
"ว่าไงมิ้น... อะไรนะ ได้ๆเดี๋ยวเจอกันที่ร้าน"
ดารินทร์วางสายจากมัญจา แล้วพูดกับปภพ
"เย็นนี้ คุณณุกาเชิญพนักงานแผนกครีเอทีฟทานข้าว แล้วให้พาครอบครัวไปด้วย คุณกับน้องจุงไปทานกันเองไม่ได้แล้วต้องไปกับฉัน"
"ครับ"
"ฉันจะไปอาบน้ำแต่งตัว คุณเอาลูกอาบน้ำแต่งตัวด้วย"
"ครับ"
ดารินทร์เดินออกไป ปภพมองตามอย่างน้อยใจ
ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 6 (จบตอน)
ค่ำวันเดียวกัน ที่ร้านอาหารตัวละคร กษิดิฐ นลิน เดินเข้ามาในร้าน
"ทำงานมาตั้งหลายปี คุณณุกาไม่เคยนัดพนักงานกินข้าววันหยุดเลย ไม่รู้มีเรื่องด่วนอะไร"
"อาจจะรู้จากแตงกวาแล้วว่า บัวท้องก็เลยจะรีบคืนงานให้บัวก็ได้"
นลินยกมือไหว้
"ขอให้เป็นอย่างที่กบพูดจริงๆด้วยเถอะ"
นลินไหว้เสร็จก็เดินถึงหน้าห้องพอดี นลินเปิดประตูห้องแล้วชะงัก เมื่อเห็นติณณ์นั่งอยู่กับ สารัช มัญญา ดารินทร์ ปภพ น้องจุง
"คุณติณณ์"
ติณณ์มองทั้งคู่อย่างเจ็บปวดแต่เก็บอาการ กษิดิฐก็เจ็บปวดแ ล้วแกล้งร่าเริง
"สวัสดีครับทุกคน"
"ขอแสดงความยินดีกับนายกับคุณบัวด้วยนะ" ติณณ์บอก
"ขอบใจ ค่อยๆเดินนะจ๊ะเมียจ๋า"
กษิดิฐประคองนลิน เธอมองติณณ์อย่างเกรงใจ
"บัวเดินเองได้ ไม่ต้องประคองหรอก"
"ใช่ ไม่ต้องประคองหรอก" สารัชบอก
กษิดิฐยิ้มเยาะแล้วบอก
"ไม่ได้ เดี๋ยวพลาดพลั้งขึ้นมาจะกระทบกระเทือนไปถึงลูกเรา"
สารัชมองกษิดิฐอย่างหมั่นไส้ มัญจา ดารินทร์ ปภพ ยิ้มขำ น้องจุงเล่นของเล่นไม่รู้เรื่องของผู้ใหญ่
นลินมองติณณ์อย่างอึดอัดใจ
"มิ้นท์ พี่ริน... พาบัวไปห้องน้ำหน่อยค่ะ ไปคนเดียวกลัวลื่นล้ม"
เพื่อน 2 คนมองนลินอย่างงงๆ นลินขยิบตาให้สัญญาณ ดารินทร์กับมัญจารีบลุกมาประคองนลินออกไป ทุกคนมองอย่างงงๆ
ที่ห้องน้ำ มัญจา ดารินทร์พูดอย่างตกใจ
"พูดอีกทีซิ"
มัญจาตะโกนใส่หูดารินทร์
"เมื่อวานคุณติณณ์ไปสารภาพว่าชอบบัว"
"โอ๊ย...หูจะแตก"
มัญจายิ้มแหย
"กลัวพี่ได้ยินไม่ชัด แล้วต้องถามอีกน่ะค่ะ"
"คุณติณณ์นะคุณติณณ์ บอกให้เร็วกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้"
"บัวเสียดายกว่าพี่รินอีกค่ะ" นลินบอก
"ต้องมานั่งทนดูกบเอาใจเธอ คุณติณณ์คงเสียใจแย่" มัญจาบอก
"จะบอกให้กบไม่เอาใจก็ไม่ได้ เพราะกบต้องทำให้คุณณุกาเชื่อว่าเป็นสามีฉันจริงๆ"
ดารินทร์หนักใจ
"มันช่างเป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดเหลือเกิน"
มัญจาคิดๆแล้วโพล่งออกมาอย่างดีใจ
"เราช่วยกันทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้นะคะ พี่ริน"
ดารินทร์ นลิน มองมัญจาอย่างตื่นเต้น
ภายในห้องส่วนตัว ในห้องอาหาร กษิดิฐ ติณณ์ ปภพ น้องจุงนั่งอยู่ ติณณ์พูดกับกษิดิฐอย่างรู้สึกผิด
"กบ เราขอโทษนะที่คิดเกินเลยกับคุณบัว"
สารัชตกใจถาม
"คิดเกินเลย คุณติณณ์ชอบคุณบัวเหรอ"
ปภพมองติณณ์อย่างตกใจไปด้วย
"ครับ" ติณณ์ยอมรับอย่างลูกผู้ชาย
กษิดิฐมองติณณ์อย่างชื่นชม
"ทำอะไรก็จะยืดอกยอมรับอย่างลูกผู้ชาย นายนี่ไม่เปลี่ยนเลย"
"กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิ"
"ภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า ไม่รู้ย่อมไม่ผิด นายทำไปเพราะไม่รู้ว่าบัวเป็นเมียเรา นายไม่ผิดหรอก ไม่ต้องคิดมาก"
"ขอบใจนายมากนะ กบ"
ชายหนุ่มสองคนยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร สารัชเศร้า แล้วพูดกับปภพ
"กับคุณกบยังพอสู้ได้ แต่กับคนที่เพียบพร้อมอย่างคุณติณณ์ผมจะเอาอะไรไปสู้"
"ไม่ต้องสู้ ทำใจไปเลย"
สารัชถอนหายใจอย่างเศร้าๆ นลิน มัฐจา ดารินทร์เดินเข้ามา
"มาแล้วเหรอจ๊ะ เมียจ๋า"
กษิดิฐจะขยับเก้าอี้ให้นลินนั่ง
มัญจาขยับเก้าอี้ให้นลิน แล้วพูดกับกษิดิฐ
"กบไม่ต้อง..ฉันทำเอง เพื่อนท้องอยู่ เลยอยากดูแลเพื่อนน่ะ"
กษิดิฐมองมัญจาอย่างงงๆ เดินไปหานลิน
"ไป กบพาไปนั่ง"
"พี่พาไปเอง น้องสุดที่รักท้อง อยากดูแลด้วย" ดารินทร์บอก
ดารินทร์ประคองนลินไปนั่งที่เก้าอี้ นลินยิ้มให้เพื่อนอย่างขอบคุณ
แตงวาเดินเข้ามามองกษิดิฐ นลินอย่างไม่พอใจ แล้วนั่งเก้าอี้ว่างข้างติณณ์ที่มองแตงกวาอย่างหนักใจ
อณุกา ปราณเดินเข้ามา
อณุกาทำทีถามอย่างตื่นเต้น
"ผลตรวจเป็นยังไงบ้างบัว"
แตงกวามองอณุกาอย่างไม่พอใจ แต่อณุกาไม่เห็น
อณุกา ปราณนั่งเรียบร้อยแล้ว ทุกคนยกแก้วเครื่องดื่ม
"เชียร์ส" อณุกาเริ่มต้น
น้องจุงบอก "โช้น..." ทุกคนยิ้มขำ
ปภพยิ้มเขินบอก
"คงจำมาจากที่ผมดื่มกับเพื่อนๆที่บ้านน่ะครับ"
"ยินดีด้วยนะนลิน คุณกบ"
นลินยิ้มแหย
"ขอบคุณค่ะ"
"ขอบคุณครับ" กษิดิฐ
แตงกวาเปิดประเด็น
"พี่ณุกา คงไม่ได้นัดพวกเรามาเพื่อฉลองการท้องของบัวใช่มั้ยคะ"
"พี่เพิ่งรู้ตอนมาถึงนี่เองว่า นลินท้อง พี่จะนัดมาเพื่อฉลองเรื่องนลินได้ยังไงละจ๊ะ"
"วันนี้มีลูกค้าโทรมาชื่นชมแผนกครีเอทีฟของบริษัทเราให้คุณณุกาฟัง คุณณุกาเลยอยากเลี้ยงขอบคุณพวกคุณที่ทุ่มเททำงานหนักเพื่อบริษัทน่ะ" ปราณบอก
"แล้วฉันก็ไม่ใจจืดใจดำเลี้ยงข้าวพวกเธอแค่นี้หรอกนะ ฉันจะพาพวกเธอไปเที่ยวด้วย"
มัญจาน้ำเสียงตื่นเต้น
"ปารีส"
"อันนั้นเธอคงต้องไปเอง"
มัญจายิ้มเจื่อน
"ฉันจะพาพวกเธอไปทะเล แล้วทริปนี้ก็เป็นทริปพิเศษ ที่ฉันขอบังคับให้พาคู่สมรสกับลูกไปด้วย"
กษิดิฐไหว้อณุกา
"ขอบคุณคร้าบ"
นลินมองกษิดิฐอย่างเซ็งๆ อณุกายิ้มมีแผน ปราณ แตงกวาอย่างไม่พอใจ
ดารินทร์ ปภพ น้องจุงเดินออกมาจากร้านอาหาร
ปภพบอกน้องจุง
"พรุ่งนี้เราจะได้ไปเที่ยวทะเลกันแล้วนะครับ"
"เย้" น้องจุงร้องดีใจ
"คุณกับลูกไม่ต้องไปหรอก" ดารินทร์บอก
"อ้าว...ทำไมล่ะ"
"น้องจุงใกล้สอบแล้ว ฉันไม่อยากให้ลูกขาดเรียน"
"แต่ผมอยากให้ครอบครัวเราไปเที่ยวด้วยกันบ้าง ผมจะเอาหนังสือไปสอนลูกเอง"
"คุณสอน ก็ไม่เหมือนที่ลูกเรียนกับครู"
"คุณณุกาใช้คำว่าบังคับ ไม่ให้ผมกับลูกไป เดี๋ยวคุณณุกาก็โกรธหรอก"
"ฉันจะบอกเค้าว่าน้องจุงสอบ รับรองคุณณุกาโกรธไม่ลง ไว้สอบเสร็จแล้ว คุณแม่ค่อยพาไปนะครับ"
"ครับ"
"ลูกยังเข้าใจมากกว่าคุณซะอีก"
ปภพมองดารินทร์อย่างน้อยใจ
กษิดิฐ นลินเดินเข้ามาในบ้าน
"แตงกวาก็ไป คุณปราณก็ไป ไม่เห็นน่าสนุกเลย ทำไมคุณณุกาต้องบังคับให้ไปด้วยก็ไม่รู้"
"แต่ติณณ์ไปด้วยนะ บัวไม่อยากไปนั่งมองทะเลสวยๆกับติณณ์เหรอ"
"อยาก แต่อยากไปกันสองต่อสอง ไม่ได้อยากไปเป็นโขยงเข้าใจมั้ย"
กษิดิฐมองอย่างเจ็บปวด
"อยากแกล้งป่วยแล้วไม่ไปแต่ก็กลัวคุณณุกาโกรธ"
"คุณณุกาโกรธก็ดีน่ะสิ เค้าจะได้ไล่บัวออก"
"กบนี่ปรึกษาอะไรจริงจังไม่เคยได้เลย"
นลินมองกษิดิฐอย่างเซ็งๆ แล้วเดินเข้าบ้านไป กษิดิฐยิ้มแฉ่งรีบเดินตาม
นลินเดินเข้ามาในบ้าน กษิดิฐเดินตาม กมลา นันทิดา ยศภัทรถือหมอนคาดเอวมาคนละใบ ชลัชที่นั่งทำงานอยู่ ลุกมาดู มองลูกสาวอย่างสงสาร กมลาเอาหมอนคาดท้องนลิน
"กบจับให้บัวหน่อยซิ"
กษิดิฐมาจับหมอนอย่างงงๆ กมลาไปยืนดูกับนันทิดา ยศภัทร และชลัช
"2 เดือน น่าจะพอดี" กมลาบอก
"ลองดู3 เดือนบ้างนะคะ"
นันทิดาว่า พลางถือหมอนอีกใบมา แล้วดึงหมอนที่คาดเอวนลินออกแล้วเอาหมอนใบที่ถือมาคาดให้แทน
กษิดิฐช่วยจับไว้
"3 เดือนก็พอดี"
"พอดีทุกอัน งั้น 4 เดือนก็คงได้ไม่ต้องลอง" ยศภัทรว่า
"ไอ้นี่มันอะไรเหรอคะ" นลินถาม
"คุณกมลา คุณภัทรแล้วก็แม่บัว เค้าช่วยกันทำท้องปลอมให้บัวน่ะ" ชลัชว่า
"ความคิดใครครับเนี่ย" กษิดิฐถาม
"พ่อเอง"
"รอบคอบที่สุด"
"ไม่ใช่รอบคอบแค่ตอนเริ่มนะ รอบคอบไปถึงจบเลย พอบัวท้องสัก 4 เดือน ก็ขอคุณหมอเข้าไปตรวจสุขภาพแล้วก็นอนโรงพยาบาลสักสองวัน แต่บอกพวกที่ทำงานว่าแท้ง"
"จะได้ไม่มีใครรู้ว่าบัวไม่ได้ท้องจริง" กมลาพูดเสริม
"สุดอ่ะสุด พ่อแม่ผม"
ชลัชมองกษิดิฐอย่างหมั่นไส้
"ทำให้บัวเสียชื่อเสียงแล้วยังไม่สลด ไร้สำนึกจริงๆ"
"ที่ทุกอย่างวุ่นวายมาถึงวันนี้ เพราะบัวขอผมแต่งงาน คนที่สำนึกต้องเป็นบัวนะครับไม่ใช่ผม"
"แต่ถ้านายเป็นสุภาพบุรุษมากพอ ก็ต้องยอมรับผิดแทนผู้หญิง"
"โอเคครับ ผมขอยอมรับผิดแทนบัวเอง ผมสำนึกแล้วครับ"
กษิดิฐทำหน้าสลดแล้วทนไม่ไหว หัวเราะก๊ากออกมา
"ขอโทษครับ ผมทำหน้าสลดไม่เป็นจริงๆ"
ชลัชมองกษิดิฐอย่างโมโห
"เตะเลยค่ะ พ่อ" นลินบอก
"ไม่อยู่ให้เตะหรอกคร้าบ"
กษิดิฐวิ่งออกจากบ้านไป ชลัชมองตามอย่างหงุดหงิด คนอื่นๆ หัวเราะขำ นลินมองตามกษิดิฐอย่างมีความสุขโดยไม่รู้ตัว
"เก็บเสื้อผ้าเลยนะกบ พรุ่งนี้เราต้องออกกันแต่เช้า" นลินบอก
"ออกแต่เช้า จะไปไหนกัน" นันทิดาว่า
"คุณณุกาจะพาพนักงานไปเที่ยวทะเลค่ะ"
วันใหม่ เวลากลางวัน ในบรรยากาศท้องทะเลอันสวยงาม บริเวณหน้ารีสอร์ตหรูมีผู้จัดการกับพนักงานสองคนยืนรอต้อนรับ รถตู้ของรีสอร์ตวิ่งมาจอด พนักงานรีบไปเปิดประตูรถ กษิดิฐ นลิน มัญจา ดารินทร์ สารัชนั่งในรถ
ผู้จัดการรีสอร์ตเดินมาไหว้ต้อนรับทุกคน
"สวัสดีค่ะ... ยินดีต้อนรับค่ะ"
มัญจาลงจากรถเป็นคนแรก มองทะเลสวยงามอย่างตื่นเต้น
"อ๊าย...ทะเลสวยม๊าก ดุ๊กดู๋น่าจะอยู่เมืองไทยจะได้มาด้วยกัน"
คนอื่นๆ ทยอยลงจากรถ
รถตู้ของรีสอร์ตอีกคัน วิ่งเข้ามาจอด พนักงานไปเปิดประตู ปราณ อณุกา แตงกวา ติณณ์นั่งในรถ
ปราณลงจากรถแล้วยื่นมือรับอณุกา ติณณ์ลงจากรถมองทะเลสวยงามอย่างชื่นชม แตงกวากำลังจะลงจากรถ
"ติณณ์ รับน้องแตงกวาหน่อยสิจ๊ะ"
ทุกคนมองอณุกาอย่างแปลกใจ ติณณ์สีหน้าหนักใจ แล้วยื่นมือให้แตงกวาอย่างสุภาพ นลินมองภาพนั้นอย่างเจ็บปวด กษิดิฐเห็นแววตานลิน ก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน
"แตงกวาลงเองได้ค่ะ"
แตงกวาลงจากรถ โดยไม่จับมือติณณ์ อณุกาหน้าเจื่อน ปราณลอบยิ้มเยาะ
"สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับค่ะ เราจัดห้องพักไว้ให้ตามที่คุณณุกาสั่งเรียบร้อยแล้วค่ะ"
อณุกาพยักหน้ายิ้มให้ผู้จัดการแล้ว หันไปพูดกับทุกคน
"ขึ้นไปที่ห้องกันก่อน จะได้รู้ว่าใครนอนห้องไหน"
กษิดิฐประคองนลิน
"ไปบัว"
ติณณ์ แตงกวามองทั้งคู่อย่างเจ็บปวด สารัช ปราณ มองกษิดิฐอย่างหมั่นไส้ มัญจา ดารินทร์ มองอย่างตกใจ แล้วรีบวิ่งแถเข้าไป
"มิ้นท์กับพี่รินพาบัวไปเอง"
กษิดิฐมองเพื่อนของนลินอย่างงงๆ
"ในฐานนะที่พี่เคยท้องมาก่อน พี่รู้ดีกว่าคุณกบแน่ๆ ว่าต้องดูแลคนท้องยังไง ปล่อยให้เป็นหน้าที่พี่นะ"
อณุกาปรามดุ
"มัญจา ดารินทร์"
ทั้งคู่ขานรับ "คะ"
"เพื่อนดูแลเพื่อนได้ไม่ดีเท่าสามีดูแลภรรยาหรอก ให้คุณกบพานลินเข้าไปเองเถอะ"
มัญจากับดารินทร์หน้าจ๋อยบอก "ค่ะ"
"เชิญเลยจ้ะกบ" มัญจาบอก
กษิดิฐประคองนลิน
"ถึงกบจะไม่เคยท้อง แต่กบก็จะดูแลบัวให้ดีที่สุดครับ"
"อู้ย... หวาน" อณุกาบอก
ติณณ์ แตงกวามองอย่างเจ็บปวด สารัช ปราณมองกษิดิฐอย่างหมั่นไส้
"ไปกันเถอะครับ"
ปราณจูงอณุกาเดินนำ กษิดิฐประคองนลินเดินตาม ตามด้วยคนอื่นๆที่เหลือ
อณุกาเปิดประตูห้องสวีตซึ่งเป็นห้องที่สวยงามมาก มัญจา ดารินทร์ สารัชมองห้องอย่างตื่นเต้น
"สวยหรูน่าอยู่ม๊าก" ดารินทร์บอก
"ห้องนี้สำหรับคุณกบกับนลิน ถือซะว่าเป็นของขวัญฮันนีมูน"
"ขอบคุณคุณณุกามากค่ะ"
"ฉันลงทุนจัดห้องให้สวีตให้ทั้งที ใช้ห้องให้คุ้มนะ"
นลินยิ้มอายมาก มองติณณ์อย่างเกรงใจ
"บัวคงเขินเลยไม่กล้ารับปาก ผมรับปากแทนบัวเองครับว่า ผมกับบัวจะใช้ห้องนี้ให้คุ้มค่าที่สุด ไม่แน่นะครับผมอาจจะมีลูกแฝดมาอวดคุณณุกาก็ได้"
อณุกามองติณณ์ แตงกวายิ้มสมใจ สารัช ปราณมองกษิดิฐอย่างหมั่นไส้
"เดินทางมาเหนื่อยๆ ให้ทุกคนเข้าห้องเถอะครับจะได้ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น"
"ฉันจัดให้แล้วว่าใครนอนห้องไหน แยกย้ายกันพักผ่อน แล้วอีกชั่วโมงนึงไปเจอกันที่ชายหาด"
ภายในออฟฟิศกษิดิฐ ปภพ น้อย พนักงานฝ่ายบัญชี และ อุ๋ม พนักงานฝ่ายบุคคล นั่งทำงานอย่างตั้งใจ
เจนนั่งใกล้โต๊ะกษิดิฐชะเง้อมองไปทางประตูตลอดเวลา แล้วก้มดูนาฬิกา
เอ็ดดี้ร้องแรปเข้ามา
"มาแล้วครับ ผมมาแล้วครับ"
เจนยิ้มดีใจ คิดว่าเป็นกษิดิฐก็เงยหน้าขึ้นมองแล้วถอนหายใจเซ็งๆ เอ็ดดี้มองเจนอย่างตะลึงในความน่ารักรีบปรี่เข้าไปหา
"ขอโทษนะครับน้อง น้องเป็นคนหรือนางฟ้าครับ"
ทุกคนมองแล้วยิ้มขำ เจนแกล้งตีหน้าซื่อ ยิ้มเขินไม่กล้าตอบ
"เอ็ดดี้ มีแฟนแล้วยังจะแซวน้องเค้าอีกเหรอ" ปภพบอก
"แซวเพื่อสร้างความสนิทสนมกับน้องใหม่ ไม่ได้แซวเพื่อจีบนี่ครับ น้องชื่ออะไรครับ"
"เจนค่ะ"
"หน้าก็สวยเสียงก็เพราะ มาเป็นเลขาเฮียเหรอครับ"
"ไม่ใช่ค่ะ เจนมาเป็นเลขาพี่กษิดิฐ"
ทุกคนหัวเราะขำเจน
"คนเดียวกันครับ พี่เรียกพี่กษิดิฐว่าเฮีย"
"แล้วพี่กษิดิฐของเจนเค้าก็ชื่อเล่นว่ากบ เรียกเค้าว่าพี่กบก็ได้ จะได้ไม่ต้องเรียกชื่อจริงเต็มยศอย่างนั้น" ปภพบอก
"ค่ะ แล้วปกติพี่กบเข้าออฟฟิศกี่โมงคะ"
"ถ้าไม่ไปพบลูกค้าก็เข้าตามเวลาออฟฟิศนั่นแหล่ะ แต่วันนี้คุณกบไม่เข้า"
"พาเมียไปฮันนีมูนน่ะ" เอ็ดดี้บอก
เจนหน้าเจื่อนอย่างเสียดาย
"พี่กบไม่มา เจนก็คงว่างทั้งวัน เอาอย่างนี้ดีกว่า รบกวนพี่ๆช่วยเล่าเรื่องพี่กบให้เจนฟังหน่อยนะคะ เจนจะได้รู้จักนิสัยใจคอพี่กบบ้าง เวลาทำงานให้จะได้ถูกใจพี่กบไงคะ"
"พี่รู้จักเฮียตั้งแต่พี่ยังเรียนมหาวิทยาลัย น้องเจนอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเฮียถามมา พี่จะตอบน้องเจนแบบหมดไส้หมดพุงเลยครับ" เอ็ดดี้บอก
เจนลอบยิ้มร้าย สมใจที่จะสืบข้อมูลของกษิดิฐ
กษิดิฐ นลิน เปลี่ยนจากชุดเดินทางเป็นชุดสบายๆ เดินมาที่ชายหาด
"ทะเลสวยนะ เสียดายมั้ยที่คนที่มาเดินด้วยเป็นกบไม่ใช่ติณณ์"
"เสียดาย... แต่ช่วยหยุดพูดเรื่องคุณติณณ์ได้แล้ว เดี๋ยวคุณติณณ์มาได้ยินเข้า ก็รู้หรอกว่าบัวชอบเค้า"
กษิดิฐกระซิบข้างหูนลิน
"งั้นกบพูดเบาๆก็ได้ กบช่วยวางแผนให้บัวมาเดินดูทะเลกับติณณ์เอามั้ย"
นลินยื่นหน้าไปจะกระซิบตอบ แต่จมูกเลยไปชนแก้มอีกฝ่าย กษิดิฐอึ้ง ยิ้มอย่างมีความสุข ฝ่ายนลินเขิน แล้วยิ้มมีความสุขไม่รู้ตัว พอได้สติก็รีบพูดอย่างเขินๆ
"ขอโทษ"
กษิดิฐมองนลินอย่างรักสุดหัวใจ
"ไม่ถือ"
นลินกระซิบตอบ
"บัวจะบอกกบว่า บัวไม่กล้าอยู่กับคุณติณณ์สองต่อสองบัว กลัวเก็บอาการไม่อยู่"
กษิดิฐแกล้งตกใจ
"เก็บอาการไม่อยู่ บัวจะปล้ำคุณติณณ์เหรอ"
"บัวไม่บ้าทำอย่างนั้นหรอก บัวกลัวว่าถ้าอยู่กับคุณติณณ์สองต่อสองแล้ว บัวจะอดใจสารภาพว่า ชอบเค้าไม่ได้ต่างหากล่ะ"
กษิดิฐแกล้งทำร่าเริง
"ไม่จริงอ่ะ เก็บอาการไม่อยู่ของบัวต้องหมายความว่า บัวจะปล้ำติณณ์แน่ๆ"
"บอกว่า ไม่ใช่ไง"
"ใช่ / ไม่ใช่ / ใช่ /ไม่ใช่"
ที่มุมหนึ่ง แตงกวาเดินมาเห็นนลินวิ่งเอาทรายปากษิดิฐก็มองอย่างไม่พอใจ เธอครุ่นคิดแล้วหยิบมือถือมาถ่ายวิดีโอ
"แตงกวาไม่ยอมให้แผนของพี่สำเร็จง่ายๆ หรอกนะคะ..พี่ณุกา"
แตงกวามองภาพในจอโทรศัพท์แล้วยิ้มร้าย