ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 5
ดารินทร์ถอนใจโล่งอก ติณณ์เดินไปแล้วชะงักเท้าหยุดเดิน
"ผมว่าเรากลับขึ้นไปหาคุณบัวเถอะครับ"
ติณณ์จะเดินกลับไปกดปุ่มลิฟท์ ดารินทร์รีบขวาง
"อย่าค่ะ ! รินทร์บอกแล้วไงคะว่า คุณติณณ์ไม่ควรอยู่ เพราะพ่อบัวดุมาก คงเอาเรื่องคุณติณณ์แย่"
"ผมพร้อมจะรับผิดชอบครับ"
"งั้นเราก็ขึ้นไปหาคุณบัวเถอะครับ ผมอยากสวัสดีคุณพ่อ คุณแม่ของคุณบัวด้วย"
สารัชจะเอื้อมมือไปกดปุ่มลิฟท์ ดารินทร์รีบตีมือ เผลอตวาด
"บอกว่าไม่ต้องไปไง"
ติณณ์กับสารัชมองดารินทร์อย่างชะงัก งงว่าทำไมดารินทร์ต้องโมโหขนาดนั้น
"ทำไมพี่รินทร์ต้องโมโหด้วยล่ะครับ"
ดารินทร์ชะงัก แล้วรีบยิ้มกลบเกลื่อน
ดารินทร์บอกติณณ์
"เอ่อ ... คือรินทร์ไม่อยากให้คุณติณณ์เจอคุณพ่อคุณแม่ของบัวตอนนี้ เพราะถ้าเกิดเรื่อง บัวจะเครียด รินทร์สงสารบัวน่ะค่ะ"
ติณณ์ลืมคิดเรื่องนี้ไปไปสนิท เขาไม่อยากให้นลินเครียดจึงยอมรับฟัง
"ก็ได้ครับ เรากลับกันก่อนก็ได้"
ติณณ์เดินนำไปทางที่จอดรถ ดารินทร์ถอนใจโล่งอก
"หนูรินทร์"
ดารินทร์ชะงัก เมื่อได้ยินเสียงนันทิดา เธอหันไปมองตามทางเสียง นันทิดา ชลัช กมลา ยศภัทร เดินเข้ามาหา เธอคิดว่า งานนี้ติณณ์ต้องรู้เรื่องนลินแต่งงานกับกษิดิฐแน่ !
ทุกคนเดินมานั่งที่โซฟาซึ่งทางโรงพยาบาลจัดไว้ต้อนรับคนที่เข้ามารับบริการ ชลัชมองติณณ์อย่างไม่พอใจ ดารินทร์กระสับกระส่ายเป็นกังวลกลัวจะมีใครบอกเรื่องแต่งงานของนลิน
"ผมจะไม่โทษเรื่องอุบัติเหตุ แต่จะโทษที่ความประมาทของผมเอง ผมขอโทษครับ"
ติณณ์ยกมือไหว้ขอโทษ ชลัชและนันทิดา ชลัชถอนหายใจแล้วพยายามข่มใจไม่เอาเรื่อง
"ดีนะ ที่ลูกบัวไม่เจ็บมาก ถ้าลูกบัวเป็นอะไร ผมไม่ให้อภัยคุณแน่"
ติณณ์ชะงัก แล้วคิดว่าถ้าเธอเป็นอะไรก็จะไม่ยกโทษให้ตัวเองเหมือนกัน
"แล้วนี่ตากบมาหาหนูบัวรึยังเนี่ย"
ดารินทร์สะดุ้งที่ยศภัทรพูดถึงกษิดิฐ ติณณ์มองประมาณว่า ยศภัทรพูดถึงใคร
"นั่นสิ ...ภรรยา..."
ยศภัทรพูดยังไม่จบประโยค ดารินทร์ก็ชิงร้องโวยวายก่อน
ดารินทร์รีบดูนาฬิกาข้อมือแล้วแกล้งทำท่าร้อนรน
"แว๊ก ! ตายแล้ว รินทร์ต้องรีบไปทำงานต่อแล้วล่ะค่ะ มีพรีเซนต์งานลูกค้า เราไปกันเถอะค่ะคุณติณณ์"
ดารินทร์หันไปยกมือไหว้ลาผู้ใหญ่ทุกคน แล้วคะยั้นคะยอให้ติณณ์ กับสารัชรีบเดินไป
ในห้องพักฟื้น กษิดิฐเห็นนลินเจ็บแล้วรู้สึกโมโห หงุดหงิด
"ไม่รู้เลยรึไงว่า หน้าตึกคนเดินไปเดินมาเยอะแยะถึงขับรถไม่ระวัง"
"ความจริงบัวผิดนะที่เดินไม่ดูรถ"มัญจาบอก
"บัวผิดหรือถูกไม่รู้ แต่ถ้าใครทำบัวเจ็บ มันนั่นแหละผิด"
"แต่เค้าก็รับผิดชอบค่าพยาบาลทุกอย่างแล้วนะ"
"ถ้าบัวเป็นอะไรไป เงินเยอะขนาดไหน ก็รับผิดชอบไม่ได้หรอก..กบจะเอาเรื่อง"
กษิดิฐหันไปมองนลินที่ยังหลับอยู่อย่างเป็นห่วง มัญจาชะงัก แล้วคิดว่าจะหาวิธีห้ามกษิดิฐยังไง
"ตามใจกบแล้วกัน ถ้ากบคิดว่า ชีวิตบัวยังวุ่นวายไม่พอกบอยากจะไปเอาเรื่องใคร ..ก็เชิญ"
กษิดิฐชะงัก เพราะสิ่งที่มัญจาพูดนั้นจี้ใจดำเขาเข้าพอดี
ภายในรถ ติณณ์เป็นคนขับ สารัชนั่งข้างติณณ์ ดารินทร์นั่งด้านหลังแอบมองอาการของติณณ์ว่า รู้สึกสงสัยที่กมลากับยศภัทรพูดถึงกษิดิฐรึเปล่า ติณณ์ขับรถนิ่งๆ แต่ในใจรู้สึกสังหรณ์บางอย่างคิดถึงคำพูดของกมลากับยศภัทรที่พูดถึงกษิดิฐ โดยติณณ์รู้สึกสงสัยอย่างที่ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องสงสัย แต่ดารินทร์เห็นอาการนิ่งๆ จึงคิดว่าติณณ์คงไม่สงสัยอะไร
ลานจอดรถในตึก ภัทร แอดเวอร์ไทซิ่ง รถติณณ์เข้ามาจอด ทุกคนลงจากรถ ดารินทร์ สารัชจะเดินไปทางขึ้นลิฟต์
"คุณรินทร์ครับ"
"อะไรคะคุณติณณ์"
"คุณกบเป็นใครเหรอครับ" ติณณ์ถาม
ดารินทร์ชะงักแล้วคิดจะพูดแถ สารัชรีบพูดแทรก
"นายนั่นเป็นสา...(จะพูดว่าสามี)"
ดารินทร์รีบแหกปากกลบเสียงของสารัช
"แว๊ก...! สายแล้ว รินทร์ต้องรีบไปแล้วค่ะคุณติณณ์ ไปเร็ว !"
ดารินทร์หันไปคว้ามือสารัช ลากไปทางขึ้นลิฟต์ ติณณ์มองตามและยังมีคำถามว่า กษิดิฐเป็นใครอยู่ในใจ
ดารินทร์ลากสารัชให้เดินตามพร้อมกับพูดกับสารัชด้วยเสียงขู่
"จำไว้นะ ! อย่าพูดเรื่องบัวแต่งงานแล้วให้คุณติณณ์ได้ยิน"
"ทำไมล่ะครับ"
"เธอก็รู้นี่ว่าบัวแต่งงานหลอกๆ ยิ่งคนรู้เรื่องนี้น้อยเท่าไร บัวก็ยิ่งเสียหายน้อยเท่านั้น ถ้านายชอบบัว ก็ต้องช่วยรักษาเกียรติของบัวสิ"
"พี่รินทร์พูดถูก ได้ครับ เพื่อรักษาเกียรติของคุณบัว ผมจะปิดปากทุกคนเอง"
แตงกวาเดินเบียดแซงสารัชและดารินทร์ไป สารัชมองตามหลังแตงกวาแล้วบอก
"แต่คนนี้..ผมคงปิดปากไม่ได้"
ดารินทร์ชะงัก แล้วพึมพำอย่างเครียด
"เราลืมคนนี้ไปได้ยังไงเนี่ย"
ดารินทร์กับสารัชจะเดินไปที่โต๊ะทำงานตัวเอง โดยเดินผ่านโต๊ะนลิน แตงกวานั่งอยู่ที่โต๊ะนลินพร้อมกับอ่านแฟ้มงานโฆษณาประกันภัย ดารินทร์กับสารัชต่างชะงัก
"ได้ข่าวว่าบัวโดนรถชนเหรอ"
"แค่รถเฉี่ยวค่ะ"
แตงกวาพูดยียวนต่อ
"แขนหักด้วยใช่ไหม"
ดารินทร์เสียงเน้นย้ำบอก
"แค่กระดูกเคลื่อนค่ะ"
แตงกวายิ้มเยาะ
"และหัวกระแทกจนสมองเสื่อม"
"แค่หัวแตกค่ะ"
"สภาพแบบนั้น หมอคงให้พักสองเดือน"
ดารินทร์เสียงเน้นย้ำดังกว่าเดิม
"แค่สองวันค่ะ"
แตงกวาลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาที่หน้าโต๊ะด้วยใบหน้ายิ้มเยาะ
"ถึงจะพักแค่สองวัน ก็คงไม่ทันอยู่ดี"
แตงกวาหยิบแฟ้มงานโฆษณาประกันภัยบนโต๊ะนลินแล้วเดินไปทางห้องทำงานอณุกา ดารินทร์กับสารัชมองตามอย่างงงๆ
"อะไรไม่ทันเหรอครับพี่รินทร์"
"หรือว่า..."
อณุกาพูดอย่างหนักใจ
"แตงกวาอยากทำโปรเจกต์ประกันภัยกับโปรเจกต์บ้านตากอากาศคนเดียว"
ในร้านกาแฟ แตงกวานั่งคุยกับอณุกา มีปราณนั่งอยู่ด้วย บนโต๊ะมีแก้วกาแฟของอณุกา และปราณตั้งอยู่
"แต่ลูกค้าเลือกงานของคุณบัวด้วย คุณก็รู้นี่ครับว่าคุณณุกาขัดใจลูกค้าไม่ได้" ปราณบอก
"แตงกวารู้ค่ะว่าความต้องการของลูกค้าสำคัญที่สุด สำคัญจนทำให้พี่ณุกาผิดคำพูดกับแตงกวาได้"
อณุกาหน้าเจื่อนเมื่อโดนแตงกวาประชด
"แต่พี่ณุกาก็ใช้เรื่องป่วยให้บัวออกจากโปรเจกต์ แล้วไม่ต้องบอกให้ลูกค้ารู้ก็ได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ"
อณุกามองแตงกว่าอย่างลำบากใจ
"ทำอย่างนั้นมันไม่สมควรนะครับ"
อณุกา ปราณ แตงกวาเห็นติณณ์ยืนอยู่
"ติณณ์" อณุกาเรียกด้วยน้ำเสียงดีใจมาก
ร้านอาหารในโรงแรมหรูเวลาต่อมา ติณณ์ แตงกวา อณุกา ปราณนั่งร่วมโต๊ะกัน
"ขอแนะนำอย่างเป็นทางการนะจ๊ะ นี่น้องแตงกวาหัวหน้าครีเอทีฟคนใหม่ของบริษัท ลูกสาวคนเดียวของคุณอภิชาติ ส่วนหนุ่มหล่อคนนี้ ติณณ์จ้ะ MD ของภัทรแอดเวอร์ไทซิ่ง ลูกพี่ลูกน้องของพี่เอง"
แตงกวามองติณณ์อย่างไม่พอใจ ที่ขวางไม่ให้แตงกวาปลดนลิน ติณณ์มองแตงกวาอย่างไม่พอใจ แต่เก็บอาการ อณุกามองทั้งคู่อย่างอึดอัด แล้วมองปราณอย่างขอความช่วยเหลือ
"เราสั่งอาหารกันดีกว่า คุณติณณ์มาที่นี่บ่อยช่วยแนะนำอาหารให้คุณแตงกวา หน่อยสิครับ"
"คุยเรื่องงานให้จบก่อนแล้วค่อยสั่งเถอะครับ"
ปราณชะงัก มองติณณ์อย่างสังเกต
"ผมว่าการทำอะไรลับหลังลูกค้ามันไม่ซื่อสัตย์ แล้วการถอดคุณบัวออกจากโปรเจกต์เพราะเค้าป่วยมันก็ไม่ยุติธรรม"
"ถ้าโลกนี้มีความยุติธรรม ฉันคงไม่ต้องเสียคนที่ฉันรักไปหรอก"
ติณณ์มองแตงกวาอย่างไม่เข้าใจ อณุกาพูดอย่างใจเย็น
"พี่ว่าน้องแตงกวาควรฟังเหตุผลของติณณ์นะ"
"พี่ณุกาเข้าข้างคุณติณณ์เหรอคะ"
"ไม่ได้เข้าข้างจ้ะ แต่พี่ไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวกับสองโปรเจกต์นี้อีกแล้ว"
แตงกวามองอณุกาอย่างแปลกใจ
"หน้าที่ติณณ์คือดูแลทุกโปรเจกต์ของภัทรพี่มาทำแทนเพราะติณณ์ไปเกาหลี"
ปราณยิ้มรู้ทันในความเจ้าเล่ห์ของอณุกา
"นี่ติณณ์กลับมาแล้ว พี่ก็ต้องมอบหน้าที่คืนให้เค้าแล้ว พี่ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของติณณ์"
"ขอบคุณครับพี่ณุกา"
แตงกวาไม่พอใจ
"แตงกวาขอตัวไปห้องน้ำนะคะ"
แตงกวาลุกขึ้นแล้วเดินปึงปังออกไป อณุกา ติณณ์ยิ้มโล่งใจ ปราณลอบมองติณณ์อย่างสังเกตครุ่นคิด
"ผมไปเลือกเครื่องดื่มนะครับ เดี๋ยวจะได้ดื่มฉลองการกลับมาของคุณติณณ์กัน"
ปราณลุกเดินออกไปอีกคน
แตงกวาเข้ามาในห้องน้ำด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
"ยัยบัว ! ตัวไม่อยู่ ยังจะมีคนอื่นช่วยปกป้องอีก"
แตงกวาเปิดน้ำล้างมือแล้วชะงัก คิดเรื่องติณณ์ที่มีอาการเป็นเดือดเป็นร้อนแทนนลิน
"ช่วยปกป้อง"
อณุกามองติณณ์อย่างขอบคุณ
"ถอดบัวออกโปรเจกต์ก็พัง... ไม่ตามใจน้องแตงกวาคุณอภิชาติก็โกรธ ขอบใจติณณ์มากนะที่ทำให้พี่มีข้ออ้างกับน้องแตงกวา"
"ผมกลับมาดูแลงานที่นี่เหมือนเดิมแล้ว...ถ้าคุณแตงกวาทำอะไรไม่มีเหตุผลผมจะพูดกับเค้าเอง พี่ณุกาจะได้ไม่ต้องลำบากใจอย่างนี้อีก"
อณุกาเข้าทาง
"จ้ะ...ฝากติณณ์ดูแลแตงกวาด้วยนะเพราะบางอย่างพี่ก็เกรงใจคุณอภิชาติจนทำอะไรแตงกวาไม่ได้จริงๆ"
"ครับ"
อณุกายิ้มสมใจ ที่จะทำให้คนคู่นี้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
แตงกวาเดินออกมาจากห้องน้ำ ปราณยืนพิงกำแพงมองด้วยสายตาเจ้าชู้ เธอมองกลับอย่างไม่พอใจ ปราณรีบเปลี่ยนท่าทีทันที
"ผมมารอเพราะมีเรื่องจะปรึกษา"
"มีอะไรก็ว่ามา"
"ผมรู้สึกมาสักพักแล้วว่า คุณติณณ์สนใจคุณบัวเป็นพิเศษยิ่งวันนี้ยิ่งเห็นชัด...ผมเลยคิดว่าคุณติณณ์น่าจะชอบคุณบัว"
"แล้วคุณมาบอกฉันทำไม"
ปราณยิ้มเจ้าเล่ห์
"เพราะข้อมูลนี้อาจจะทำให้คุณได้คุณกบคืนมาน่ะสิครับ อ้อ แล้วข้อมูลอีกอย่างที่คุณควรรู้ คุณณุกาหวงคุณติณณ์มาก บัวต้องเดือดร้อนแน่ ถ้าคุณณุการู้ว่า คุณติณณ์คิดเกินเลยกับคุณบัว"
แตงกวามองปราณครุ่นคิด
ในห้องพักฟื้น นลินยังหลับอยู่ มัญจายืนข้างๆเตียง ทุกคนกำลังเถียงกันว่า คืนนี้ใครจะเฝ้านลิน
"คืนนี้ผมจะอยู่เฝ้าลูกบัวเอง" ชลัชบอก
ยศภัทรพูดหยอก
"อูย สังขารอย่างคุณพ่อตา ไม่รู้จะเฝ้าหนูบัว หรือหนูบัวต้องนอนเฝ้าก็ไม่รู้
ชลัชฉุน
"ใครจะพูดยังไงผมไม่สน ผมจะเฝ้าลูกผม เพราะคนอื่นมันดูแลไม่ได้อย่างที่รับปาก"
ชลัชพูดเหน็บกษิดิฐ
"มันเป็นอุบัติเหตุ กบจะรู้ได้ยังไงละคะว่าบัวจะถูกรถชน" นันทิดาบอก
"ให้กบอยู่เฝ้าบัวเถอะค่ะ" กมลาว่า
"ให้คุณพ่อเฝ้าน่ะดีแล้วค่ะ"
ทุกคนมองมัญจาอย่างแปลกใจ เธอยิ้มเจื่อนแล้วแถ
"เอ้อ... ไม่อยากให้คุณพ่อหงุดหงิดเลยอยากตามใจน่ะค่ะ"
ทุกคนมองมัญจาอย่างเซ็งๆ
"แต่ตอนนี้กบอยู่ในฐานะสามีของบัว คนที่ต้องดูแลบัวต้องเป็นกบ" กษิดิฐบอก
"ใช่เลยถูกเลย ตากบเป็นผัวก็ต้องดูแลเมีย คนนอกอย่ายุ่ง" ยศภัทรแดกดัน
ชลัชมองยศภัทรอย่างไม่พอใจ จะตอบโต้ นันทิดารีบจับสามีไว้
"ถ้าคุณเฝ้าบัวเองคนอื่นอาจจะสงสัยก็ได้นะคะว่า ตากบกับบัวมีปัญหากัน"
กษิดิฐรีบเสริม
"ใช่ครับใช่...แล้วถ้าสงสัยกันมากๆ แล้วขุดคุ้ยจนรู้ว่าบัวกับกบแต่งงานกันหลอกๆ เรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่นะครับ"
"เพื่อไม่ให้ใครสงสัยคนที่เฝ้าหนูบัวต้องเป็นตากบคนเดียวเท่านั้น" กมลาสนับสนุนอีกแรง
กษิดิฐ ยศภัทร นันทิดาพยักหน้าพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง ชลัชมองทุกคนอย่างไม่พอใจ มัญจาคิดระแวงว่า ถ้าติณณ์มาเยี่ยมบัวแล้วจะเจอกัน
ริมถนนหน้าโรงพยาบาล มัญจายืนรอรถแท็กซี่และคุยมือถือกับดารินทร์
"พี่รินทร์แน่ใจนะว่า คุณติณณ์จะไม่มาหาบัวคืนนี้"
ภายในบ้านดารินทร์ ดารินทร์นั่งทาเล็บไปคุยโทรศัพท์ไป ปภพกำลังใส่ชุดนอนให้น้องจุงอยู่ที่โซฟาข้างๆ
"ไม่ไปหรอก พี่เห็นกับตาว่าคุณอณุกาลากคุณติณณ์ไปด้วย แล้วนี่ก็ดึกแล้ว"
มัญจาถอนใจเครียดๆ
"อยากรู้จริงๆ ว่าตื่นมาบัวจะทำยังไง"
ติณณ์ขับรถแล้วถอนใจเครียดๆ แล้วนึกถึงนลิน และนึกถึงคำพูดและเหตุการณ์ของสารัชที่พูดถึงเรื่อง "สายเกินไป"
ติณณ์ขับรถครุ่นคิดตัดสินใจบางอย่าง
ในร้านขายดอกไม้ ติณณ์หยิบดอกกุหลาบขาวขึ้นมอง พร้อมคิดว่าควรจะบอกความรู้สึกกับนลินในคืนนี้เลยดีไหม เจ้าของร้านเดินเข้ามายิ้มให้ติณณ์
"ให้จัดช่อไหมคะ"
" ไม่ครับ ผมอยากได้แค่ดอกเดียว"
พนักงานขายดอกไม้เดินเข้ามาหาเจ้าของร้าน
"พี่บุษ ...การ์ดของช่อดอกไม้นี้ จะให้เขียนข้อความว่าอะไรคะ"
"เขียนว่า .. “ต่อให้มีดอกไม้ให้เธอเป็นหมื่นดอก มันก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเธอไม่รู้”
ติณณ์ฟังแล้วชะงัก
"เขียนเสร็จ ก็ให้ตุ้ยเอาไปส่งที่สุสานเหมือนเดิมนะ"
ติณณ์ฟังแล้วมองดอกกุหลาบขาวในมือตัวเองแล้วครุ่นคิด
ในห้องพักฟื้น กษิดิฐมองนลินด้วยความเป็นห่วง เขาลุกมาจับแขนนลินที่ขยับตัว กษิดิฐมองนลินด้วยความเป็นห่วง
รถติณณ์ขับเข้ามาจอดที่ลานจอดรถหน้าโรงพยาบาล เขาเปิดประตูรถลงจากรถพร้อมกับถือดอกกุหลาบขาวในมือ แล้วเดินผ่านล็อบบี้มากดลิฟต์
ติณณ์เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องพักฟื้น ลังเลว่า จะเปิดประตูดีไหม แล้วตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป
นลินนอนหลับอยู่บนเตียง แต่ไม่มีกษิดิฐอยู่ในห้อง เขาถือดอกกุหลาบขาวเข้ามายืนข้างเตียง กษิดิฐลงมาซื้อของกินและของใช้ส่วนตัวออกมาจากร้านสะดวกซื้อ
ติณณ์นั่งอยู่ข้างๆเตียง มองนลินที่ยังนอนนิ่ง แล้วจะเอื้อมมือจะไปจับมือของนลิน แต่ชะงักไว้ด้วยใจที่ไม่กล้า
บริเวณริมถนนทางเดินกลับโรงพยาบาล กษิดิฐกำลังเดินจะเข้าประตูทางเข้าโรงพยาบาลผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาคว้าแขนกษิดิฐไว้
"พี่คะ ช่วยหนูด้วย ผู้ชายคนนั้นตามหนู"
กษิดิฐหันไปมองเจน แล้วมองผู้ชายอ้วนอายุสี่สิบกว่าที่เดินตามมา ผู้ชายคนนั้นจะคว้าแขนของเจน
"กลับบ้านเรานะ"
เธอผวาหนีพร้อมร้องขอความช่วยเหลือ
"อย่าจับฉันนะ ฉันไม่รู้จักคุณ"
เธอหันไปทางกษิดิฐ
"พี่ช่วยหนูด้วย"
กษิดิฐปัดมือ ผู้ชายอ้วนโมโห ตวาด
"เฮ้ย ! แกอย่ายุ่ง นี่มันเรื่องของผัวเมีย"
เจนรีบชิงพูด
"ไม่จริงนะพี่ หนูไม่รู้จักเขา"
"บอกให้กลับบ้าน"
กษิดิฐยืนขวางผู้ชายอ้วนไม่ให้ยุ่งกับเจน
"คุณไปเลยนะ ไม่อย่างนั้นผมจะแจ้งตำรวจ"
ผู้ชายอ้วนชะงัก แล้วจ้องหน้ากษิดิฐอย่างเอาเรื่อง เจนยืนหลบอยู่ข้างหลังกษิดิฐอย่างกลัวผู้ชายอ้วน
ในห้องพักฟื้น ติณณ์เอาดอกกุหลาบขาวมาปักแจกันข้างๆนลิน แล้วยืนอยู่ข้างเตียง นลินขยับตัวแล้วรู้สึกเจ็บแขน เขาเข้าไปโอบตัวเบาๆ เพื่อค่อยพยุงตัวให้นอนดีๆ ติณณ์มองหน้าเธอที่ยังหลับอยู่อย่างใกล้ๆ
ริมถนนหน้าโรงพยาบาลกษิดิฐพาผู้หญิงคนนั้นมายืนรอแท็กซี่
"ขอบคุณพี่มากๆ นะคะที่ช่วยเจน"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ รีบกลับบ้านแล้วกัน เป็นผู้หญิง ไม่ควรมาเดิน มืดๆค่ำๆแบบนี้"
เจนหน้าเศร้า
"มันเลี่ยงไม่ได้นี่คะพี่ เจนต้องทำงานพิเศษน่ะค่ะ พอดีแม่เจนป่วย ต้องหาเงินไปรักษาแม่ ไหนจะน้องอีกสามคน"
กษิดิฐมองเจนอย่างเห็นใจตามนิสัยเป็นคนขี้สงสาร
"น้องเรียนจบรึยัง"
"เจนเรียนจบบัญชีแล้วค่ะ"
กษิดิฐหยิบนามบัตรมาให้เจน
"ถ้าไม่คิดว่าพี่หลอกจีบ ก็มาหาพี่ที่ออฟฟิศนี่ พี่กำลังหาพนักงานบัญชีอยู่พอดี"
เจนรับนามบัตรจากกษิดิฐด้วยความดีใจใสซื่อ
"ขอบคุณพี่มากนะคะ เจนจะไปหาพี่แน่นอนค่ะ"
กษิดิฐหยิบเงินให้เจน 1,000 บาท
"พี่ให้"
"ค่าอะไรคะ"
"ก็เป็นค่ารถ ค่ายาของแม่ ค่าอะไรก็ได้ รับไปเถอะ พี่อยากช่วย"
เจนมองกษิดิฐอย่างซาบซึ้งแล้วยกมือไหว้แล้ว รับเงินจากกษิดิฐ
"ขอบคุณพี่มากนะคะ"
กษิดิฐยิ้ม
"พี่ไปก่อนนะ "
กษิดิฐยิ้มให้เจนแล้วเดินไปทางเข้าโรงพยาบาล เจนมองเงินในมือ แล้วมองไปทางกษิดิฐก่อนเปลี่ยนจากหน้าเด็กใสซื่อเป็นผู้หญิงกร้านเจ้าเล่ห์
ในห้องพักฟื้น ติณณ์ได้สติแล้วถอนหน้าออกห่างจากหน้านลิน ประตูห้องถูกเปิดแง้มออก เหมือนมีคนกำลังจะเข้า แล้วชะงักไม่เข้า บานประตูค่อยๆปิดเหมือนเดิม
แตงกวายืนพิงประตูห้องพักฟื้นของนลินอยู่ แล้วนึกถึงภาพที่เห็น...
ใบหน้าติณณ์อยู่ใกล้ใบหน้านลิน
แตงกวายิ้มเจ้าเล่ห์
ภายในบ้านอณุกา เวลา กลางคืน อณุกานั่งที่โซฟาอย่างหงุดหงิด ปราณนั่งข้างๆคอยนวดคลึงให้อณุกาอย่างเอาใจ
"ติณณ์นะติณณ์ ! อุตส่าห์พาไปทานข้าวกับน้องแตงกวา แทนที่จะสนใจน้องแตงกวา ยุ่งแต่เรื่องนลินอยู่นั่นแหละ"
"ใจเย็นๆนะครับคุณณุกา เครียดมาก เดี๋ยวริ้วรอยขึ้นนะ"
"จะไม่ให้ฉันเครียดได้ยังไง ถ้าติณณ์กับน้องแตงกวายังเป็นอย่างนี้ มันจะมีผลกระทบกับอนาคต เธอก็รู้ว่าที่ติณณ์กลับมานี่เพราะจะ มาเลือก ครีเอทีฟ กรุ๊ป เฮด (Creative Group Head) ไปเสนอหุ้นส่วนบริษัทเกาหลีว่าจะให้ใครได้เลื่อนตำแหน่งเป็นแอสโซสิเอต ครีเอทีฟ (Associate Creative) ประจำที่นั่น แล้วติณณ์เองก็อยากได้นลิน แต่ฉันอยากได้น้องแตงกวา"
"คุณณุกาก็สั่งคุณติณณ์เลยสิครับ"
"เธอก็รู้ว่าอย่างติณณ์เอาเหตุและผลเป็นหลัก ถ้าจะเปลี่ยนความคิดของติณณ์ก็ต้องเอาผลงานไปวัด แต่น้องแตงกวาไม่มีผลงานอะไรเลย แถมติณณ์ยังเห็นตอนน้องแตงกวาพยายามจะแย่งงานของนลินอีก ติณณ์ถึงปกป้องนลินออกหน้าออกตาอย่างนี้ไง นี่ถ้านลินไม่แต่งงาน ฉันคงคิดว่าติณณ์คิดอะไรกับนลินแน่ๆ"
ปราณแกล้งพูดยั่วให้อณุกาคิด
"แต่คุณติณณ์ยังไม่รู้ว่าคุณบัวแต่งงานแล้วนี่ครับ"
อณุกาชะงักว่าปราณพูดมีความนัย
"เธอหมายความยังไงปราณ"
ปราณยิ้ม
"ผมก็แค่พูดตามสัญชาติญาณผู้ชายด้วยกัน"
อณุกามองปราณแล้วคิดระแวงเรื่องติณณ์กับนลินด้วยใบหน้าเคร่งเครียดๆ
"ไม่จริงหรอก ฉันไม่เชื่อ"
ปราณมองอณุกาแล้วแอบยิ้มเจ้าเล่ห์
แตงกวาอยู่หน้าห้องพักฟื้นของนลิน มองเข้าไปในห้องพักฟื้น เห็นติณณ์พยายามค่อยๆขยับแขนออกจากร่างนลิน ติณณ์เห็นว่า ควรจะบอกสิ่งที่เก็บไว้ในใจก่อนจะสายไป เขามองใบหน้าเธอที่ยังหลับ
"ผมรู้ว่ามันอาจจะเร็วไปที่ผมจะบอกว่า ผมรู้สึกยังไงกับคุณ แต่ถ้าผมไม่บอก ผมกลัวว่ามันจะสายเกินไป"
ติณณ์ค่อยๆเอื้อมมือไปจับมือนลิน
"ฟื้นเร็วๆนะครับคุณบัว ผมจะไม่ปิดบังอะไรคุณอีกแล้ว"
แตงกวาแอบฟังติณณ์ระบายความรู้สึก
"นี่คุณติณณ์แอบชอบยายบัวฝ่ายเดียวเหรอ ... แล้วคิดจะบอกชอบตอนนี้ แปลว่าคุณติณณ์ไม่รู้ว่ายายบัวแต่งงาน แล้วน่ะสิ เอ๊ะ ! ก็ไหนคุณปราณว่าสองคนนี้สนิทกัน แล้วทำไมยายบัวไม่บอกเรื่องแต่งงาน คุณติณณ์คงไม่ได้แอบชอบยายบัวฝ่ายเดียวแล้วล่ะมั้ง"
แตงกวายิ้มเจ้าเล่ห์
แตงกวาหยิบมือถือขึ้นมา
"คนรักตัวจริงกลับมา การแต่งงานลวงโลกคงจบกันสักที"
แตงกวากำลังจะกดเบอร์กษิดิฐ
ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 5 (ต่อ)
กษิดิฐเดินถือถุงของที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อจะเข้าลิฟต์ เป็นจังหวะเดียวกับที่มือถือของกษิดิฐดัง เขาหยิบมือถือมาดู เห็นชื่อแตงกวา เขามองลังเลก่อนกดปิดเครื่อง
แตงกวาโมโห
"ปิดเครื่องใส่กันเลยเหรอกบ"
แตงกวาคิดบางอย่างแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
กษิดิฐเดินเลี้ยวมุมมาเพื่อเดินตรงไปห้องพักฟื้น เมื่อเห็นแตงกวายืนอยู่จึงเบรคกเอี๊ยด! แล้วรีบถอยหลังกลับไปหลบที่มุมกำแพง
กษิดิฐพึมพำกับตัวเอง
"แตงกวานี่หว่า! อุตส่าห์ปิดมือถือคิดว่าจะรอด แม่คุณเล่นยืนเฝ้าหน้าห้องแบบนั้น ไม่ไปไหนง่ายๆแน่ เอายังไงดีวะ"
กษิดิฐคิดหาวิธีกำจัดแตงกวา
แตงกวามองเข้าไปในห้องพักฟื้น เห็นติณณ์ประคองมือของนลินขึ้นมาจะจูบ เธอกดมือถือไปที่ปุ่มอัดวิดีโอ แล้วเคลื่อนมือถือเข้าไปในซอกประตูเพื่อจะอัดคลิปภาพระหว่างติณณ์กับนลิน
พยาบาลเดินเข้ามายืนด้านหลังแตงกวา
"คุณทำอะไรคะ"
แตงกวาชะงักรีบเก็บมือถือ ติณณ์ได้ยินเสียงคนพูดกันที่หน้าห้องก็ชะงัก เขาวางมือนลินลง แล้วเดินไปที่หน้าห้อง เพื่อดูว่าใครพูดอะไรกัน
พยาบาลมองแตงกวาอย่างสงสัย
"ตกลงเมื่อกี้คุณจะทำอะไรคะ"
แตงกวาหงุดหงิด
"ก็แค่จะถ่ายรูป มีปัญหาอะไรรึเปล่า"
"ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แต่ว่าหมดเวลาเยี่ยมแล้วเชิญญาติคนไข้ กลับไปก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาถ่ายรูปใหม่นะคะ"
ติณณ์เปิดประตูห้องออกมา เขามองแตงกวาอย่างชะงัก เพราะไม่คิดว่าจะเจอแตงกวาที่นี่
"คุณแตงกวา"
แตงกวาคิดแผนบางอย่างแล้วยิ้มให้ติณณ์
"ฉันไม่อยากถ่ายรูปแล้วล่ะ ฉันมีอย่างอื่นที่เด็ดกว่ารูปภาพแล้ว ... สวัสดีค่ะคุณติณณ์ คุณพยาบาลบอกให้กลับได้แล้วค่ะ หรือว่าคุณติณณ์ยังอยู่ได้เพราะเป็นคนพิเศษ" แตงกวาพูดกับพยาบาล
ติณณ์ชะงัก มองอย่างระแวงว่าแตงกวาเห็นอะไรในห้อง ถึงบอกว่าติณณ์เขาเป็นคนพิเศษของนลิน
ติณณ์เดินนำแตงกวามากดลิฟต์ เขายืนนิ่งแต่แอบเหลือบอย่างระแวง แตงกวายืนกอดอกมองอยู่ด้านหลัง มองอาการกระสับกระส่ายของติณณ์แล้วยิ้มเยาะ
ประตูลิฟต์เปิด ทั้งคู่เดินเข้าลิฟต์ไปอย่างเงียบๆ จนประตูลิฟต์ปิดลง
กษิดิฐโผล่หน้ามาจากมุมหนึ่งตรงทางเดิน เพื่อดูว่าแตงกวาไปแล้วจริงๆ เขารีบเดินไปทางห้องพักฟื้นโดยไม่ได้สนใจติณณ์ เพราะคิดว่าเป็นญาติคนไข้อื่น
กษิดิฐเปิดประตูห้องเข้ามา เห็นพยาบาลกำลังห่มผ้าให้นลิน
"ขอบคุณคุณพยาบาลมากนะครับที่ช่วยไล่เพื่อนให้ผม เพื่อนคนนี้ขี้เมาท์ครับ ขืนอยู่ บัวไม่ได้พักแน่"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
กษิดิฐเดินไปยืนข้างๆเตียงเพื่อมองดูนลินว่าจะมีแววตื่นมาบ้างไหม เขาเหลือบไปเห็นดอกกุหลาบขาวในแจกันบนโต๊ะข้างเตียงแล้วคิด
"ใครเอามาให้บัว"กษิดิฐพึมพำ
"ก็เพื่อนของคุณไงคะ"
กษิดิฐไม่อยากเชื่อ
"แตงกวาเนี่ยนะครับ"
พยาบาลมองกษิดิฐอย่างไม่อยากเชื่อเหมือนกัน
"คุณผู้ชายคนนั้น ชื่อแตงกวาเหรอคะ"
"ผู้ชาย... ผู้ชายไหนครับ"
กษิดิฐมองไปยังดอกกุหลาบ อยากรู้ว่าใครคือเจ้าของดอกไม้ดอกนี้
ภายในลิฟต์ แตงกวาหยิบมือถือมากดเล่นเฟซบุ๊กเหมือนไม่สนใจติณณ์ แต่แอบมองอาการ กระสับกระส่ายของเขาแล้วแอบยิ้มเจ้าเล่ห์
ติณณ์ตัดสินใจพูด
"ผมกับคุณบัวไม่ได้เป็นคนพิเศษกันนะครับ ที่ผมมาเยี่ยมคุณบัวบ่อยๆ เพราะผมเป็นคนทำให้คุณบัวเจ็บเท่านั้น"
แตงกวายิ้ม
"คุณติณณ์รู้ไหมคะ บางครั้งคำแก้ตัว คือคำยืนยันว่าเรื่องบางเรื่องมันเป็นความจริง"
ติณณ์ชะงัก
"เอ่อ...คือ"
แตงกวารีบแย่งพูด
"ฉันอยากให้คุณกับบัวชอบกันค่ะ"
ติณณ์มองแตงกวาอย่างอึ้งๆ
แตงกวาเดินนำหน้าติณณ์ออกจากตัวอาคารแล้วจะเดินไปที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลพร้อมพูดเรื่องของนลินด้วยน้ำเสียงเห็นใจ
"ฉันกับบัวเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม บ้านบัวเคยฐานะดี แต่พ่อโดนฟ้องล้มละลาย บัวเลยต้องทำงานหนัก เป็นเสาหลักของบ้าน แตงกวาอยากให้บัวคบกับผู้ชายสักคนที่พร้อมจะดูแล และทำให้บัววางความทุกข์ลงได้บ้าง แตงกวาดีใจมากถ้าคนนั้น เป็นคุณติณณ์"
เขามองแตงกวาอย่างวิเคราะห์ ขณะที่แตงกวาเรียกร้องจะทำงานโฆษณาคนเดียวโดยไม่แคร์นลิน แล้วตอนนี้ทำไม ตอนนี้แตงกวากลับกลายดูเป็นห่วงนลิน
"ผมคิดว่าคุณกับคุณบัวไม่ค่อย เอ่อ..."
"ไม่ชอบกันน่ะเหรอคะ"
แตงกวาหัวเราะเสียงใสบอก
"แค่เรื่องงานเท่านั้นล่ะค่ะ ถ้าเรื่องส่วนตัว...เราคุยกันทุกเรื่อง ฉันถึงรู้ไงคะว่า บัวคิดยังไงกับคุณ"
ติณณ์ชะงัก สงสัยอยากรู้เรื่องที่แตงกวาพูดว่า นลินคิดอะไรกับติณณ์ หมายความว่ายังไง เธอทำหน้าซื่อ ทำเป็นดูอาการติณณ์ไม่ออก
"ผมว่าเรื่องของผมกับคุณบัวเป็นไปไม่ได้หรอกครับ พี่ณุกาคงไม่ยอม คุณก็รู้ว่าพี่ณุกาอยากให้ผมกับคุณ"
แตงกวายิ้ม
"ที่แท้ก็กลัวพี่ณุกานี่เอง"
เห็นติณณ์จะพูดปฏิเสธไม่อยากให้แตงกวาเข้าใจผิดไปเอง เธอรีบพูดแทรกขึ้น
"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันจะช่วยเรื่องพี่ณุกาเอง ได้ข่าวว่าคุณกลับมาเมืองไทยแค่ 5 วันไม่ใช่เหรอคะ นี่ก็ผ่านไปตั้ง 2 วันแล้วจะทำอะไรก็รีบทำนะคะ ก่อนจะมีคนอื่นตัดหน้า"
ติณณ์ยิ้มนิ่ง ไม่แสดงความรู้สึกให้แตงกวาเห็นมาก แตงกวารู้ทันว่า เขาเก็บความรู้สึกอยู่
ภายในรถ แตงกวานึกถึงนลินอย่างเยาะหยันว่า ครั้งนี้นลินต้องพังไม่เป็นท่าแน่ !
ในห้องพักของนลิน กษิดิฐยืนข้างๆเตียง มองนลินแล้วมองไปที่ดอกกุหลาบขาว แล้วสงสัยว่า ผู้ชายที่เอาดอกกุหลาบมาให้นลินเป็นใคร
"หรือว่านายสารัช"
ในคอนโดฯ ติณณ์มองแจกันดอกกุหลาบขาว ที่เขาใส่ดอกกุหลาบแห้งและสด คละไล่เลี่ยตามเวลาที่ติณณ์ซื้อมาใส่แจกันทุกวัน แล้วคิดถึงคำพูดของแตงกวา...
"จะทำอะไรก็รีบทำนะคะ ก่อนจะมีคนอื่นตัดหน้าไป"
ติณณ์ถอนใจ แล้วพูดเตือนตัวเอง
"ได้เวลาเดินหน้าแล้วนายติณณ์"
เช้าวันรุ่งขึ้น ในห้องพักฟื้น นลินเริ่มรู้สึกตัว ค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ มองไปรอบห้อง แล้วเห็นกษิดิฐนอนหลับอยู่ ที่โซฟา เธอชะงักเพราะไม่คิดว่าคนที่จะมานอนเฝ้านั้นจะเป็น..กษิดิฐ
เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่กษิดิฐมาที่บ้านพักเขาใหญ่อย่างห่วงใย
นลินพยายามปัดเหตุการณ์นั้นออกไปจากความคิด
"คิดอะไรเนี่ย ต้องเป็นผลกระทบตอนโดนรถชนแน่ๆ"
กษิดิฐขยับตัว เธอไม่อยากสบตากับเขาตอนนี้ จึงแกล้งหลับต่อ
เขาลุกขึ้นจากโซฟาแล้วมองมาทางนลินพลางบ่น
"ยังไม่ตื่นอีกเหรอ นี่หมอให้ยานอนหลับหรือยาพิษเนี่ย"
เขาเดินมายืนข้างเตียง แล้วเอานิ้วอังที่จมูก เพื่อเช็กว่าหายใจรึเปล่า ก่อนก้มหน้าลงมาใกล้ๆหน้านลินแล้วเอียงหูฟังเสียงหายใจ นลินลืมตาแอบมองกษิดิฐที่ยื่นหน้ามาใกล้ แล้วรีบหลับตาต่อ
"ทำไมหัวใจบัวเต้นเร็วจังเป็นอะไรรึเปล่าวะ" กษิดิฐพึมพำกับตัวเอง
นลินชะงักแล้วค่อยๆหายใจเข้า-ออก มีสติ ไม่ตื่นเต้นกับการเข้าใกล้ของเขาอีก เขาเอียงหูฟังเสียงหัวใจนลินอีกครั้ง เธอแกล้งพลิกตัวไม่ให้เขาเอียงหัวใกล้ชิดจนฟังเสียงหัวใจได้
กษิดิฐคิดว่านลินคงไม่ได้เป็นอะไร เขาเหลือบไปเห็นดอกกุหลาบขาว แล้วทำหน้าหมั่นไส้ทันที
"ผู้หญิงยังไม่ทันตื่นมาเห็น ดอกไม้ก็เหี่ยวซะแล้ว ของถูกก็อย่างเนี่ย ! ตื่นมาดูดอกไม้เร็วๆสิแม่คุณ คนให้จะได้ไม่เสียแรงที่แอบผะ..(จะพูดว่าแอบผัว)..เอามาให้ !"
กษิดิฐมองดอกกุหลาบขาวอย่างพาลๆ แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ
นลินค่อยๆลืมตา แล้วหันมามองดอกกุหลาบขาวเข้าใจเองว่า กษิดิฐเป็นคนให้
"ดอกไม้ของกบเหรอ"
ติณณ์ถือดอกกุหลาบขาวออกจากร้านดอกไม้ ตั้งใจว่า วันนี้เขาตัดสินใจที่จะมอบกุหลาบขาวให้นลินกับมือ เขาเดินขึ้นรถแล้วขับออกไป
ถนนฝั่งตรงข้ามร้านดอกไม้ แตงกวาลดกระจกรถลงมา แล้วมองตามรถของติณณ์ที่ขับไปทางโรงพยาบาล เธอยิ้มเยาะ
"เป็นผู้ชายที่เดาไม่ยากจริงๆ เล้ย"
แตงกวาหยิบมือถือมากดโทร.หากมลา
"สวัสดีค่ะคุณแม่ กบอยู่บ้านไหมคะ"
ภายในรถ ยศภัทรกำลังขับรถ กมลานั่งข้างคนขับและคุยมือถือกับแตงกวา
"กบไม่อยู่บ้านหรอกจ้ะ เขานอนเฝ้าภรรยาที่โรงพยาบาลทั้งคืน ผัวเมียกัน เจ็บไข้ทั้งที เขาจะทิ้งกันได้ยังไงล่ะจ๊ะ"
แตงกวาเบะปากหมั่นไส้คำพูดของกมลา แล้วจงใจพูดย้ำประชดใส่กมลา
"กบอยู่โรงพยาบาลกับเมีย !ก็ดีค่ะ แตงกวาดีใจมากที่สุดที่รู้ว่าสองคนนั้นอยู่ด้วยกัน"
แตงกวากดวางสายทันทีโดยไม่รอให้กมลาโต้ตอบ แล้วยิ้มสะใจที่รู้ว่าติณณ์ กษิดิฐและนลินจะได้ปะฉะดะกัน !
กมลามองมือถืออย่างงงๆ แล้วหันไปพูดกับยศภัทร
"แตงกวาพูดแปลกๆ แม่สังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องล่ะพ่อ"
ยศภัทรมองกมลางงๆ ว่ากมลาหมายถึงจะเกิดเรื่องอะไร
ในห้องพักฟื้น นลินถือดอกกุหลาบขาวและมองอย่างไม่อยากเชื่อว่ากษิดิฐจะเอาดอกกุหลาบให้
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เธอรีบเอาดอกกุหลาบขาวใส่แจกันเหมือนเดิม เอ็ดดี้ถือกระเป๋าใส่เสื้อผ้าของกษิดิฐเข้ามา
"เฮีย ! ผมเอาเอกสารด่วนมาให้เซ็นต์ วันเสาร์แท้ๆ ยังต้องทำงาน ไม่เห็นใจคนมีนัดกับแฟนบ้างเลย"
เอ็ดดี้มองนลินที่นั่งยิ้มให้
"อ้าว อาซ้อตื่นแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้างครับ"
"บัวตื่นแล้วเหรอ"
กษิดิฐส่งเสียงดีใจ ก่อนนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำด้วยความดีใจ
"เมียจ๋า...ดีขึ้นแล้วเหรอ"
นลินมองเขาที่นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวอย่างอึ้งๆ
"แอร๊ย... ใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้นะนายกบ"
กษิดิฐหยิบเสื้อยืดจากในห้องน้ำมาสวม
"กรี๊ดสะเทือนแก้วหูอย่างนี้ แปลว่าดีขึ้น มามะ สามีจะ จู จุ๊บเรียกขวัญ"กษิดิฐแกล้งทำเป็น จะเข้าไปกอด เธอเอาหมอนปาใส่
"นายกบ ! บัวตื่นมาแทนที่จะถามไถ่อาการ กลับทำทะลึ่ง"
"งั้นเอาใหม่ สมองบัวยังโอเคไหม บอกสิว่า ตัวเองชื่ออะไร"
นลินตอบเสียงเซ็ง
"นลิน"
กษิดิฐชี้ตัวเอง
"แล้วคนนี้ล่ะชื่ออะไร"
"นายกบ"
"ผิด ! นี่จัสติน บีเบอร์"
กษิดิฐหันไปตบมือไฮไฟว์กับเอ็ดดี้ นลินทำหน้าเซ็ง
"จำได้ไหมว่าเราแต่งงานกันแล้ว"
"จำได้"
"แล้วจำได้ไหมว่าเรามีลูกด้วยกัน"
"ไม่มี"
"นั่นไง ต้องเรียกหมอด่วน ความจำบัวหายไป บัวถึงไม่รู้ว่าเรามีลูกกันแล้วสามคน ชื่อ ฝ้าย ฝน และแฝ่บ"
นลินตีแขนกษิดิฐ
"คนบ้าอะไรมีลูกชื่อแฝ่บ เลิกเล่นได้แล้ว บัวปกติ แข็งแรง พร้อมจะไปทำงาน"
"อะไรนะ"
"บัวบอกว่าบัวจะไปทำงาน"
ติณณ์ขับรถเข้ามาจอด ณ ลานจอดรถของโรงพยาบาล เขาก้าวลงจากรถพร้อมกับดอกกุหลาบขาว 1 ดอกที่จัดช่อเล็กๆน่ารักๆ แล้วเดินเข้าอาคารโรงพยาบาล รถแตงกวาขับเข้ามาจอดเยื้องกับรถของติณณ์ไปนิดเดียว เธอลงจากรถแล้วเดินมายืนที่รถของติณณ์แล้วมองเขาที่เดินเข้าไปในโรงพยาบาล เสียงมือถือของแตงกวาดัง เธอกดรับสาย “อณุกา” แล้วยิ้มอย่างมีความสุข
"สวัสดีค่ะพี่ณุกา"
อณุกากับปราณกำลังนั่งทานอาหารเช้าที่ชุดโต๊ะกลางสวนหน้าบ้าน
"วันนี้น้องแตงกวาว่างไหมคะ พี่จะชวนไปไดร์ฟกอล์ฟน่ะจ๊ะ แล้วก็จะให้ติณณ์พาไปเลี้ยงข้าวแก้ตัวที่เมื่อคืน ติณณ์ทำให้น้องแตงกวาเสียอารมณ์น่ะจ้ะ"
ติณณ์เดินเข้าประตูโรงพยาบาลไป โดยไม่รู้ตัวว่าแตงกวาเดินตามมา
"แล้วคุณติณณ์จะว่างไปกับเราเหรอคะ ป่านนี้อาจจะไปดูแลลูกน้องคนโปรดที่โรงพยาบาลอยู่ก็ได้ เห็นเมื่อคืนดูเป็นห่วงเป็นใยกันมากไม่ใช่เหรอคะ" แตงกวาแกล้งพูดยั่วอณุกา
อณุกาฟังแตงกวาพูดจากปลายสายแล้วชะงัก แต่รีบหัวเราะกลบเกลื่อน
"พี่บอกน้องแตงกวาแล้วไงคะ ว่าติณณ์เป็นคนขี้สงสาร เห็นใครเดือดร้อนก็ไปเป็นทุกข์เป็นร้อนแทนเขาไปหมด แต่ไม่มีอะไรเกินเลยหรอกจ้ะ เอาเป็นว่าติณณ์ว่างแน่นอน ตกลงน้องแตงกวาไปกับพี่นะคะ"
ติณณ์เดินจากล็อบบี้เลี้ยวไปทางขึ้นลิฟต์ของโรงพยาบาล แตงกวาเดินตามหลังอยู่ห่างๆ
"ถ้าคุณติณณ์ว่าง แตงกวาก็ไปค่ะ"
อณุกาคุยมือถือกับแตงกวาด้วยสีหน้ามั่นใจ
"ติณณ์ว่างแน่นอนค่ะ แล้วเจอกันนะคะน้องแตงกวา"
อณุกากดวางสาย
"แล้วถ้าคุณติณณ์ไม่ว่างล่ะครับ" ปราณถาม
อณุกายิ้มเยาะให้ปราณ
"ไม่มีทาง ติณณ์ไม่เคยไม่ว่างกับฉัน"
"อะไร อะไร ก็เปลี่ยนแปลงได้ เพราะ..."
"เพราะอะไร"
ปราณเอียงหัวไปซุกอ้อนอณุกา
"ก็อะไรที่เปลี่ยนเสืออย่างผมให้เป็นแมวขี้อ้อนแบบนี้ได้ มันก็เปลี่ยนคุณติณณ์ได้เหมือนกัน"
"ปราณ ฉันบอกแล้วไงว่าอย่ามาพูดจาไร้สาระอย่างนี้ให้ฉันเสนียดหู ฉันย้ำเธออีกครั้งนะว่า ติณณ์ไม่มีวันใฝ่ต่ำอย่างที่เธอคิดแน่นอน" อณุกาตวาด
แตงกวามองมือถือที่เพิ่งคุยกับอณุกาแล้วพูดเสียงเยาะ
"เรามาลุ้นกันดีกว่าค่ะ ว่าคุณติณณ์จะว่างอย่างที่พี่ณุกาบอกไหม"
มุมหนึ่งในโรงพยาบาล ดารินทร์จูงน้องจุงเดินไปทางขึ้นลิฟต์พร้อมกับมัญจาและสารัช มัญจาเห็นติณณ์แล้วเหลือบไปเห็นแตงกวาที่เดินตามหลังอยู่ห่างๆ ก็ดึงให้ทุกคนหลบ
"นั่นคุณติณณ์กับยายแตงกวา"
ดารินทร์มองไปทางติณณ์และแตงกวาอย่างหน้าตกใจ
"ทำไมสองคนนั้นมาด้วยกันได้ล่ะ"
"หรือว่ายายแตงกวารู้ว่าบัวปิดเรื่องแต่งงานกับกบไม่ให้คุณติณณ์รู้ ยายแตงกวาเลยพาคุณติณณ์มาแฉ" มัญจาว่า
"เฮ้ย ! คุณแตงกวาจะรู้ได้ยังไง เรื่องนั้นมีแต่พวกเราเท่านั้นที่รู้" ดารินทร์บอก
มัญจาหันไปขี้หน้าเอาเรื่องสารัช
"นายปากโป้งใช่ไหม"
"ผมไม่ได้พูดน้า"
"ถ้านายไม่พูดแล้วใครพูด ถ้านายทำความลับแตก แม่จะตบให้ไส้แตกเลย" มัญจาบอกดารินทร์รำคาญ
"ใครจะพูดก็ช่างเถอะ ตอนนี้รีบถามคุณกบก่อนว่าอยู่ไหน ถ้าอยู่กับบัวล่ะ แซ่บแน่"
มัญจารีบหยิบมือถือมากดโทรหากษิดิฐ
ในห้องพักฟื้น มือถือสั่นอยู่บนโซฟา แต่ไม่มีใครกดรับสาย กษิดิฐล็อกเอวนลินไว้กับเตียง เธอโวยวายและพยายามดิ้น เอ็ดดี้วิ่งหาเชือกทั่วทั้งห้อง
"ไอ้เอ็ดดี้ ! หาเชือกเจอรึยังวะ"
"กบ ปล่อยบัวเดี๋ยวนี้นะ บัวมีงานสำคัญต้องไปเคลียร์ มานอนอย่างนี้ไม่ได้หรอก ดี ไม่ดี ป่านนี้ยายแตงกวาปาดหน้าเค้กเอางานบัวไปอีกรึเปล่าก็ไม่รู้ ปล่อยบัวนะ"
"ไม่ปล่อย บัวยังเจ็บอยู่เลย แล้วจะไปทำงานได้ยังไง กบไม่ยอม"
"ถ้ากบไม่ปล่อย บัวจะเรียก รปภ. มาจับกบกับนายเอ็ดดี้โยนออกไป"
เอ็ดดี้หยุดหาเชือกทันที
"ว้าย อยู่ๆก็จำไม่ได้ว่าเชือกมีลักษณะยังไง"
กษิดิฐมองเอ็ดดี้อย่างเซ็งๆ
"ถ้าไม่มีเชือก กบก็จะใช้ตัวกบล็อกบัวไว้นี่แหละ"
กษิดิฐทำท่ากอดล็อกตัวนลินไว้กับเตียง ชลัช นันทิดา กมลา ยศภัทรเดินเข้ามา ชลัชรีบพุ่งไปผลักกษิดิฐออกจากนลิน
"นายทำอะไรลูกฉันเนี่ย"
กษิดิฐชะงัก
มุมหนึ่งของล็อบบี้ มัญจา สารัช ดารินทร์จูงน้องจุง แอบดูติณณ์กับแตงกวาอยู่อย่างร้อนใจ
"ทำยังไงดีพี่รินทร์ กบไม่รับสาย ยายบัวก็ปิดเครื่อง มิ้นท์ว่ากบเฝ้าบัวอยู่ในห้องแน่ๆ เอายังไงดีล่ะพี่รินทร์"
มัญจา ดารินทร์หันไปมองทางติณณ์ที่ยืนรอลิฟต์อย่างเครียด
"มาถึงขั้นนี้ คงต้องใช้วิธีเด็ดขาด"
"นั่นก็คือ..." สารัชพูดเป็นเชิงถาม
ดารินทร์พนมมือไหว้
"เจ้าประคุ๊ณ ...ขอให้มีเหตุขวางคุณติณณ์ไม่ให้ไปหาบัวทีเถิด"
ติณณ์ยืนรอลิฟต์ มือถือดังขึ้นพอดี เขากดรับสาย
"สวัสดีครับพี่ณุกา"
แตงกวาที่ยืนหลังห่างออกไปได้ยินก็ยิ้มเยาะ คุยสักครู่ติณณ์ก็ถอนใจ และตัดสินใจโกหกอณุกา
"เอ่อ... วันนี้ผมไม่ว่างน่ะครับพี่ณุกา มีนัดกับลูกค้าพอดี ไว้ผมพาคุณแตงกวาไปพรุ่งนี้แล้วกันนะครับ"
แตงกวาได้ยินติณณ์โกหกอณุกาก็ยิ้มสะใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้
"แหม...เห็นน้องชายโกหกพี่สาวอย่างนี้แล้ว เราจะใจดำไม่บอกความจริงกับพี่สาวได้ไหมเนี่ย"
แตงกวาหยิบมือถือออกมาดู แต่ยังไม่กดโทรแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
ในห้องพักฟื้น ชลัชมองกษิดิฐอย่างไม่พอใจ
"นายเล่นอะไรเนี่ย"
"คือบัวจะไปทำงาน ผมเลยล็อกตัวบัวไว้"
นันทิดาเดินเข้าไปหาลูกสาว
"เพิ่งจะฟื้นแท้ๆ จะไปทำงานได้ยังไงล่ะ ลูกบัว"
"ก็บัวเป็นห่วงงานนี่คะแม่ บัวไม่อยู่อย่างนี้ ไม่รู้ใครจะแย่งงานบัวรึเปล่า"
"แต่วันนี้วันเสาร์ ไม่มีใครทำงานกันหรอกลูก ป้าว่าหนูบัวพักเถอะ" กมลาบอก
"แต่ถ้าบัวเบื่อหน้าคนแถวนี้ ก็กลับไปพักบ้านเรา" ชลัชบอก
"หนูบัวไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ตากบทำหลานให้ลุงได้ทุกทีแหละ"
ชลัชโมโห
"นี่คุณ"
กมลาตีแขนยศภัทร
"หยุดปากเสียซะที ! คุณจะรีบไปธนาคารไม่ใช่เหรอ คุณชลัชกับตากบไปทำงานเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันกับคุณนันจะดูแลหนูบัวเอง"
"อ้าว คุณพ่อตาทำงานวันเสาร์เหมือนตากบเลย สมพงษ์แม้แต่เวลาทำงาน สมแล้วที่เป็นลูกเขยกับพ่อตา"
ชลัชมองหน้ายศภัทรอย่างไม่พอใจ แล้วเดินไปที่ประตู ยศภัทรแกล้งพูดยั่วชลัชอีก
"ตากบ อย่าลืมจุ๊บๆเมียก่อนไปทำงานนะลูก"
ชลัชหันขวับมามอง กษิดิฐเห็นสายตาแล้วสะดุ้ง แล้วกระซิบบอกพ่อ
"ไว้คราวหน้าแล้วกันพ่อ"
กษิดิฐกับยศภัทรเดินตามชลัชไป เอ็ดดี้เดินตามกษิดิฐ
กษิดิฐเปิดประตูแล้วหันมามองนลิน แล้วทำมือส่งจูบให้ก่อนเดินออกไป นลินทำหน้าเซ็ง แล้วแอบยิ้มหันมามองดอกกุหลาบขาวที่เธอคิดว่า กษิดิฐเอามาให้
ประตูลิฟต์เปิด ติณณ์เดินเข้าลิฟต์ไป แตงกวายืนแอบไม่ให้ติณณ์เห็น ประตูลิฟต์ปิด
ทุกคนยังแอบดูติณณ์กับแตงกวาอยู่ที่มุมหนึ่งอย่างร้อนใจ
"เราตามคุณติณณ์ไปเลยไหมครับ" สารัชถาม
"จะขึ้นไปยังไง นายไม่เห็นเหรอว่าแตงกวายังอยู่"
สารัชงง
"แล้วทำไมคุณแตงกวาไม่ขึ้นลิฟต์ไปพร้อมคุณติณณ์"
"ฉันไม่ใช่แตงกวา ฉันจะรู้ไหม" มัญจาบอก
"เอ้อ ผมลืมไปว่าคุณมิ้นท์ไม่ใช่คุณแตงกวา ดำอย่างนี้น่าเป็นคุณมะเขือม่วง"
มัญจาฉุน
"นายกล้าว่าฉันเหรอ"
ดารินทร์รำคาญ
"หยุดเถียงกันได้แล้ว เราไปบันไดหนีไฟแล้วกัน"
"ชั้น 8 เลยนะครับพี่รินทร์ น้องจุงคงขึ้นไม่ไหว"
"ฉันก็ไม่ได้ให้น้องจุงเดินเองสักหน่อย"
ดารินทร์อุ้มน้องจุงส่งให้สารัชแล้วบอก
"นายเป็นผู้ชาย ต้องอุ้มเด็ก"
มัญจากับดารินทร์รีบเดินไปทางประตูเข้าบันไดหนีไฟ สารัชบ่นอย่างเซ็ง
"เพิ่งรู้นะเนี่ยว่า สุภาพบุรุษแปลว่าขี้ข้า !"
สารัชอุ้มน้องจุงด้วยหน้าเซ็ง
ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 3 (ต่อ)
หน้าลิฟต์ ที่ชั้นห้องพักฟื้น ชลัชกับยศภัทรเดินนำกษิดิฐเข้าลิฟต์ไปยืนข้างๆแผงปุ่มกดปิด-เปิด ขณะที่กษิดิฐจะเดินเข้า กลุ่มญาติ
คนไข้อื่นพาเด็ก4-5คนวิ่งมาเดินเข้าตัดหน้ากษิดิฐกับเอ็ดดี้ จนเต็มลิฟต์ ทั้ง 2 คนพยายามจะเบียด แต่เข้าไม่ได้
กษิดิฐบอกชลัช
"คุณอาไปก่อนเถอะครับ ไม่ต้องรอผม"
"ฉันไม่ได้รอนาย ฉันรอเด็กเข้าเรียบร้อยแล้วค่อยปิดประตู"
ชลัชจงใจกดปุ่มปิดประตูลิฟต์โชว์ แล้วแอบยิ้มสะใจที่ย้อนกษิดิฐได้ ยศภัทรยื่นมือเบียดหน้าชลัชไปกดปุ่มเปิดประตู ชลัชฉุน
"นี่คุณจะเปิดประตูทำไม ก็เห็นแล้วว่านายกบเข้าไม่ได้"
"ผมไม่ได้เปิดให้กบเข้า แต่ผมเปิดเพื่อยียวนคุณ พอใจแหละ ปิดได้"
กษิดิฐขำยศภัทรแล้วยืนรอลิฟต์ตัวอื่นกับเอ็ดดี้
ติณณ์มองดอกกุหลาบขาวในมือแล้วยิ้ม เขายืนอยู่ในลิฟท์เพียงคนเดียว
มัญจารีบวิ่งขึ้นบันไดหนีไฟนำดารินทร์ และสารัชที่อุ้มน้องจุง
"รีบวิ่งเร็วๆ สินายสารัช ! เป็นผู้ชายซะเปล่า วิ่งช้าอย่างกับเต่าปวดริดสีดวง"
สารัชมองน้องจุง
"ผมวิ่งปรู๊ดไปแล้ว ถ้าผมไม่มีภาระ"
ดารินทร์ตวาดถาม
"นายว่าใครเป็นภาระ"
สารัชสะดุ้งแล้วรีบพูดแถ
"เปล๊า ! ผมบอกว่า ผมจะวิ่งปรู๊ดได้ยังไง ผมอุ้มเด็กน่ารักอยู่"
สารัชรีบวิ่ง แล้วสะดุดบันไดล้มตัวกระแทกพื้น ไปพร้อมน้องจุงที่ล้มทับเขาอยู่
"น้องจุง เป็นยังไงบ้าง" ดารินทร์ถาม
สารัชนอนจุก ที่ขามีรอยถลอก
"โอ้ย ! ถามผมดีกว่าไหม พาผมไปหาหมอที"
มัญจาเซ็งกุมหัวเครียด
"ไปหาหมอก็รีบไป ! จะขวางคุณติณณ์ทันไหมเนี้ย"
ดารินทร์กับมัญจารีบช่วยกันพยุงสารัชออกประตูหนีไฟ
กษิดิฐยังยืนรอลิฟต์
"แกนะแก เอาเอกสารมาให้ฉันเซ็นต์ก็ไม่ครบ สุดท้ายฉันเลยต้องไปออฟฟิศอยู่ดี"
เอ็ดดี้มองนาฬิกาข้อมืออย่างร้อนใจ
"เฮียแค่กลับไปออฟฟิศ แต่ผมสิ...มีนัดกับแฟนต่อ กว่าจะไปออฟฟิศกับเฮีย ไม่รู้จะไปทันนัดรึเปล่า ผมว่าเราลงบันไดหนีไฟเถอะ"
กษิดิฐแกล้งถ่วงเวลายั่วเอ็ดดี้
"รอแป๊บเดียว ลิฟต์จะมาแล้ว"
เอ็ดดี้ยียวนกลับ
"ลืมไปว่าเฮียแก่แล้ว ไขข้อไม่ดี ลงบันได 8 ชั้นไม่ไหว"
กษิดิฐทำหน้าเซ็ง แล้วสตาร์ทวิ่งไปเปิดประตูบันไดหนีไฟ และตะโกนบอกเอ็ดดี้
"ใครลงช้า โดนถีบเว้ย"
กษิดิฐเข้าไปในประตูหนีไฟ เอ็ดดี้รีบวิ่งตาม
ประตูลิฟต์เปิด ติณณ์เดินถือดอกไม้ออกจากลิฟต์ ฉิวเฉียดกับกษิดิฐอีกครั้ง ติณณ์มองดอกกุหลาบขาวแล้ว เดินตรงไปห้องพักฟื้นของนลิน
ในห้องพักฟื้น นลินพยายามเจรจากับกมลาและนันทิดา
"ขอบัวกลับไปทำงานเถอะนะคะแม่ บัวอยากรู้ว่ายายแตงกวาเปลี่ยนคอนเซ็ปท์งานของบัวรึเปล่า ยายนั่นยิ่งพูดอยู่ว่าจะเปลี่ยนทุกอย่างที่บัวทำไว้ บัวสัญญาว่า ถ้าบัวรู้สึกว่าร่างกายไม่ไหว บัวจะกลับบ้านทันที"
"แต่ว่า..." นันทิดาจะค้าน
นลินรีบพูด
"ต่อให้แม่ไม่ยอมให้บัวไปทำงาน บัวก็คงไม่ได้พักเพราะบัวต้องห่วงงานจนไม่เป็นอันหลับอันนอน ดี ไม่ดี นอกจากแขนเจ็บ บัวอาจจะเครียดจนเส้นเลือดแตกก็ได้นะคะ"
นันทิดาทำหน้าระอากับความดื้อรั้นของลูกสาว แล้วหันมองหน้ากมลาเป็นเชิงปรึกษา
"เอาอย่างนี้ เดี๋ยวป้ากับแม่จะไปถามหมอก่อน ถ้าหมอบอกว่า อาการบัวไม่มีปัญหา เราค่อยว่ากันนะจ๊ะ"
นลินยิ้มดีใจ
"ขอบคุณค่ะคุณป้า"
นันทิดากับกมลาเดินออกจากห้องไป แต่ปิดประตูไม่สนิท ประตูเปิดแง้มๆไว้ นลินนั่งมอง ก่อนเดินไปหยิบดอกกุหลาบขาวที่ปักแจกันอยู่ แล้วยิ้มขำที่กษิดิฐอุตส่าห์เอาดอกกุหลาบขาวมาให้
ติณณ์เปิดประตูที่แง้มอยู่เข้ามา เห็นนลินมองดอกกุหลาบขาวยิ้มๆอยู่คนเดียว
"ผมดีใจที่คุณบัวชอบดอกกุหลาบขาว"
นลินสะดุ้ง เงยหน้ามองติณณ์อย่างอึ้ง
"คุณติณณ์"
ติณณ์ยิ้มพร้อมกับยื่นดอกกุหลาบขาวดอกใหม่ให้นลิน
แตงกวาแอบมองติณณ์กับนลินอยู่หน้าประตูอย่างหงุดหงิด
"กบหายไปไหนอีกล่ะเนี่ย ไหนคุณแม่บอกว่ากบเฝ้ายายบัวไง"
มัญจา ดารินทร์พยุงสารัชที่เดินกระเผลกเข้ามาโดยไม่ทันมีใครมองแตงกวาที่ยืนอยู่หน้าห้อง
"ไหนบอกว่าจะพาผมไปหาหมอไงครับ"
"เอาไว้ก่อนเถอะ แค่ตกบันไดไม่กี่ขั้น เอายาหม่องทาก็หาย รีบไปก่อนที่ยายแตงกวา"มัญจาว่า
แตงกวารีบเดินเข้าไปหา
"ฉันทำไม"
มัญจา ดารินทร์ สารัชมองแตงกวาอย่างชะงัก
"กบสวนพวกเธอไปรึเปล่า"
ทั้ง 3 คนมองหน้ากัน ว่าแตงกวาถามแบบนี้แปลว่า กษิดิฐไม่อยู่ในห้องพักของนลิน
"นี่กบไม่ได้อยู่ในห้องกับบัวเหรอ" มัญจาถาม
"ถ้าอยู่ ฉันจะถามเธอหาสวรรค์วิมานอะไรล่ะ ตกลงเห็นกบไหม"
มัญจาทำยียวน
"เห็นหรือไม่เห็น มันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย ลืมไปแล้วเหรอว่ากบแต่งงานแล้ว ฉันจะเตือนในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน ผู้หญิงดีๆ เขาไม่มาถามหาสามีคนอื่นแบบนี้หรอกนะ"
แตงกวาโมโห
น้องจุงพูดกับดารินทร์
"แม่ครับ เราไม่รีบไปขวางคุณติณณ์แล้วเหรอครับ"
ดารินทร์รีบปิดปากน้องจุงทันที แตงกวามองทุกคนอย่างประเมิน ทุกคนมองหน้ากันว่า จะแถยังไงดีมัญจาตบแขนสารัชอย่างหงุดหงิดจนร้อง "จ๊าก !"
แตงกวายิ้มด้วยท่าทางของคนที่กำลังถือไพ่เหนือกว่า
นันทิดา กมลายืนคุยกับหมออยู่ที่หน้าห้องพักพยาบาล หมออ่านแฟ้มรายงานการผลการตรวจของนลิน
"ตอนนี้อาการของคุณนลินก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นอกจากต้องพักผ่อนเยอะๆ ถ้าจะกลับบ้าน ก็กลับได้ครับ"
กมลาพูดกับนันทิดา
"ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวฉันโทรบอกตากบก่อน เผื่อให้ตากบมารับหนูบัวไปทำงาน"
กมลาหยิบมือถือมากดโทรหากษิดิฐ
ภายในรถ กษิดิฐกำลังใช้บลูทูธคุยกับกมลาอยู่
"นี่ตกลงบัวจะไปทำงานจนได้เหรอครับเนี่ย ได้ครับ เดี๋ยวกบย้อนไปรับบัวตอนนี้เลย" กษิดิฐเสียงเซ็ง
กษิดิฐวางสาย แล้วขับรถไปกลับรถ เอ็ดดี้รีบพูดท้วง
"เดี๋ยวเฮีย ถ้าเฮียย้อนกลับไปรับซ้อ แล้วเฮียจะไปเซ็นต์เอกสารให้ลูกค้าทันเหรอ แล้วเฮียมีประชุมกับลูกค้าต่ออีกนะ ผมบอกแล้วว่าอย่าโหมรับงานวันหยุดเยอะ เฮียก็ไม่เชื่อ เห็นไหมว่าผมต้องเลื่อนนัดแฟนไปด้วยเลย เดือดร้อนนะเนี่ย"
"ถ้าแกเดือดร้อนมาก ก็ลาออกไป"
เอ็ดดี้แกล้งเขี่ยคางกษิดิฐ
"อุ้ยตาย ! น้องล้อเล่นนิดเดียว ทำเป็นจริงจังไปได้"
"โทรบอกให้คุณปภพเลื่อนประชุมไปก่อน"
เอ็ดดี้กดมือถือหาปภพ
ในบริษัทของกษิดิฐ ปภพคุยมือถือกับเอ็ดดี้ เจนเดินเข้ามาในบริษัทพร้อมกับชะเง้อมองหากษิดิฐ แต่ไม่เห็นจึงเดินมายืนข้างหลังปภพเพื่อจะถามหากษิดิฐ
"บอกคุณกบว่าไม่ต้องมาแล้ว ลูกค้าเพิ่งโทรมาเลื่อนนัดเมื่อกี้นี้เอง...โอเค"
ปภพวางสาย แล้วหมุนตัวไปจะเดินไปที่โต๊ะ ชนกับเจนที่ยืนอยู่ด้านหลังจนเธอล้มกับพื้น
"อุ้ย ! ขอโทษครับ" ปภพตกใจ
เขาก้มลงไปพยุงเจนให้ลุกขึ้น เธอก้มตัวเพื่อใช้แขนเท้าพื้นยันตัวลุก เสื้อของเจนหย่อนจนเห็นร่องอก ปภพเผลอเห็นแล้วรีบหันหน้าหนี เจนพูดเสียงใสซื่อ
"ไม่เป็นค่ะ เจนซุ่มซ่ามเอง พี่ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ"
"พี่ไม่เป็นไรครับ น้องมาติดต่ออะไรครับ"
"อ๋อ เจนเห็นว่าบริษัทเปิดวันเสาร์ เลยมาหาพี่กษิดิฐค่ะ"
เจนยื่นนามบัตรของกษิดิฐให้ปภพดู
"พี่กษิดิฐให้เจนมาสมัครงานฝ่ายบัญชีน่ะค่ะ"
"ฝ่ายบัญชีเหรอครับ เอ่อ...เราเพิ่งตกลงรับคนใหม่ไปเมื่อเช้านี้เอง"
เจนชะงักแล้วทำหน้าเศร้า ปภพรู้สึกเห็นใจอย่างบอกไม่ถูก
"เอ่อ เอาไว้พี่จะถามคุณกบอีกทีแล้วกันนะครับ บางทีคุณกบอาจจะอยากรับเพิ่ม"
เจนยิ้มสดใสดีใจ
"ขอบคุณค่ะ แล้วพี่กษิดิฐอยู่ไหมคะ"
"ไม่อยู่ครับ พอดีคุณกบไปเฝ้าภรรยาที่โรงพยาบาล"
เจนชะงักที่รู้ว่ากษิดิฐมีภรรยาแล้ว
"ภรรยา"
"ครับ ...เดี๋ยวเชิญน้องนั่งรอตรงโซฟานะครับ เดี๋ยวพี่เอาใบสมัครงานมาให้กรอกทิ้งไว้ก่อนแล้วกันนะ"
ปภพผายมือให้เจนแล้วเดินนำไปทางโซฟา เขาเดินไปเอาน้ำดื่มมาเสิร์ฟให้ เจนมองนามบัตรแล้วยิ้ม
บริเวณหน้าห้องพักฟื้น มัญจา ดารินทร์ สารัชมองแตงกวาอย่างระแวงว่า แตงกวาจะสงสัยอะไรตามที่น้องจุงพูดไปไหม
แตงกวาไม่พูดอะไร แต่กลับจะเดินออกไป มัญจาแปลกใจ
"เธอจะไปไหน"
แตงกวาจงใจพูดให้มัญจา ดารินทร์สงสัย
"ฉันก็จะไปตามหากบน่ะสิ เจ้านายเมียมาเยี่ยมทั้งที สามีควรจะมาต้อนรับสิ"
แตงกวาเดินออกไป มัญจา ดารินทร์มองหน้ากันว่าบรรลัยแล้ว
"เอายังไงดีพี่รินทร์"
"ตามหาคุณกบ"
"แล้วจะไปตามที่ไหน"
"ก็ตามคุณแตงกวาไปสิ ! พอคุณแตงกวาเจอคุณกบ เราก็ปาดหน้าเค้กแย่งตัวคุณกบมา"
ทุกคนรีบเดินตามแตงกวาไป
แตงกวาเดินเข้าและปิดประตูลิฟต์ มัญจาพุ่งไปกดปุ่มให้ประตูลิฟต์เปิด แต่ไม่ทัน
"เข้าลิฟท์ไม่ทันอย่างนี้ อย่าบอกนะครับว่าเราจะ…" สารัชว่า
"ลงบันไดหนีไฟแล้วกัน" มัญจาบอก
"หา ! แต่ขาผมเจ็บอยู่นะครับ"
มัญจา ดารินทร์จูงน้องจุงไปทางประตูบันไดหนีไฟ โดยไม่มีใครใส่ใจสารัช
แตงกวากดเลขลิฟต์ลงชั้น 3 ไม่ใช่ชั้นล็อบบี้
"ตามฉันมาเลยนะ ไอ้พวกซื่อบื้อ จะได้ไม่มีมารไปขวางให้ยายบัวอยู่กับคุณติณณ์"
แตงกวายิ้มเจ้าเล่ห์
บริเวณลานจอดรถหน้าบ้าน คนขับรถเปิดประตูรถแวนคันหรูรอ อณุกาเดินออกจากบ้านพร้อมปราณเตรียมจะขึ้นรถแวน
"เร็วๆปราณ น้องแตงกวาบอกว่ารออยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว"
"แปลกนะครับ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าคุณแตงกวาจะชวนเราไปเยี่ยมคุณบัว"
"ก็ดีแล้วล่ะที่น้องแตงกวาชวน เพราะฉันยังไม่เคยไปเยี่ยมนลินเลย ทั้งๆที่น้องชายฉันเป็นคนขับรถชนเค้าแท้ๆ เดี๋ยวเยี่ยมเสร็จ จะได้ชวนน้องแตงกวาไปหาอะไรทาน ชดเชยที่ติณณ์เบี้ยวนัด"
อณุกาเดินขึ้นรถไปก่อน ปราณคิดเรื่องแตงกวาชวนอณุกาไปเยี่ยมนลิน แล้วพึมพำ
"มันต้องมีอะไรแน่ๆ"
ปราณรีบขึ้นรถด้วยความตื่นเต้น
ในห้องพักฟื้น นลินมองอย่างอึ้งๆ ตกใจที่ติณณ์กลับมาก่อนกำหนด เธอกลัวว่าระหว่างเธอหลับไปนั้น ติณณ์จะรับรู้เรื่องการแต่งงานของเธอกับกษิดิฐ เสียงความคิดของเธอปลอบตัวเอง
"ใจเย็นๆบัว คุณติณณ์คงเพิ่งกลับมาวันแรกก็ได้ "
เพื่อความแน่ใจ เธอหันมาพูดกับติณณ์
"คุณติณณ์เพิ่งกลับมาใช่ไหมคะ"
"ผมกลับมาสามวันแล้วครับ"
นลินชะงัก
"สามวัน !"
นลินหันหน้าหนีติณณ์มาพูดพึมพำปลอบตัวเอง
"ใจเย็นๆ บัว คุณติณณ์คงเพิ่งมาเยี่ยมเราวันแรกก็ได้"
เธอหันมาพูดกับเขา
"คุณติณณ์เพิ่งมาเยี่ยมบัวใช่ไหมคะ"
"ผมอยู่กับคุณบัวตลอดล่ะครับ"
นลินชะงัก
"อยู่ตลอดเลย"
ติณณ์หน้าเสียนิดนึง
"ผมเป็นคนขับรถเฉี่ยวคุณบัว"
นลินยิ่งตกใจมากไปอีก
"คุณติณณ์ขับรถชนบัวเหรอคะ"
เธอหันหน้าอีกครั้ง แล้วพึมพำอย่างเครียดๆ
"กบต้องไม่ปล่อยคุณติณณ์แน่ๆ"
นลินตั้งสติ และ ปลอบตัวเอง
"ใจเย็นๆ บัว คุณติณณ์คงยังไม่เจอกบ ก็ได้"
เธอตัดสินใจถาม
"คุณติณณ์ยังไม่เจอกบ ใช่ไหมคะ"
ติณณ์ชะงัก
"คุณกบไหนครับ"
นลินเคลิ้มพูดตามความคิดตัวเอง... " เจอกบ แล้วจริงๆด้วย..."
เธอชะงักเมื่อนึกได้ว่า สิ่งที่ติณณ์พูดนั้นไม่เหมือนที่ตัวเองคิด
"เมื่อกี้คุณติณณ์พูดว่าอะไรนะคะ"
ติณณ์จำได้ว่าเคยได้ยินกมลาพูดถึงคนชื่อกบเหมือนกัน
"คุณกบเป็นใครเหรอครับ"
นลินโล่งอกที่ติณณ์ไม่รู้จัก
นลินหาข้ออ้าง
"กบ เอ่อ กบเป็นคนขับรถค่ะ"
"คนขับรถ"
นันทิดากับกมลาเดินเข้าห้องมา พร้อมพูดบอกนลิน โดยยังไม่ทันเห็นติณณ์อยู่ในห้อง
"คุณหมอยอมให้บัวไปทำงานแล้วล่ะลูก" นันทิดาบอก
"ป้าโทรให้กบมารับบัวแล้ว" กมลาบอก
นลินตกใจ
"กบจะมารับบัวเหรอคะ"
นันทิดากับกมลาเห็นติณณ์แล้วชะงัก ทั้งคู่โพล่งขึ้นพร้อมกัน
"อ้าว...คุณ"
ติณณ์ยกมือไหว้นันทิดาและกมลา
"คุณบัวจะไปทำงานเหรอครับ แต่คุณบัวยังไม่หายดีเลยนะครับ"
"น้าก็บอกแล้ว แต่บัวดื้อ" นันทิดาว่า
"เอาอย่างนี้แล้วกันครับ ถ้าคุณบัวจะไปจริงๆ เดี๋ยวผมพาไปเอง ไม่ต้องให้คนขับรถมารับหรอกครับ"
นลินชะงัก ไม่คิดว่าติณณ์จะพูดโพล่งออกมาแบบนี้
นันทิดาและกมลางง
"คนขับรถ"
กมลาจะแย้ง
"กบไม่ใช่..."
นลินร้องเสียงดังกลบเสียงของกมลา
"โอ๊ย !!! ตัวอะไรไม่รู้ อยู่ในเสื้อบัว มันกัดบัวด้วย แม่กับคุณป้าดูให้หน่อยสิคะ"
นลินพูดกับติณณ์
"คุณติณณ์ออกไปข้างนอกก่อนนะคะ หรือไม่ก็กลับไปก่อนก็ดีค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณบัวจะออกจากโรงพยาบาล เดี๋ยวผมรอเคลียร์ค่าใช้จ่ายให้เลยครับ"
"ให้ประกันจ่ายก็ได้นี่คะ"
"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปเบิกกับประกันก็ได้"
ติณณ์ออกจากห้องไป นลินทำหน้าเครียดที่กษิดิฐกำลังจะกลับมาและอาจจะเจอติณณ์ก็ได้
"แม่คะ ช่วยโทรบอกกบว่าไม่ต้องมา บัวไม่ไปทำงานแล้วค่ะ"
"อ้าว !" นันทิดากับกมลามองนลินอย่างแปลกใจ
พยาบาลเดินนำติณณ์เข้าไปในลิฟ
"เดี๋ยวเชิญไปแผนกการเงินที่ชั้น 1 นะคะ"
ประตูลิฟต์ปิด
บริเวณหน้าลิฟต์ ชั้นล็อบบี้ กษิดิฐกำลังคุยมือถือกับกมลาอยู่
" อ้าว ตกลงคุณนายจะเอายังไงเนี่ย เมียเอาแต่ใจอย่างนี้ ต้องเจอสั่งสอน โบกสักทีสองที" กษิดิฐทำมือเหมือนจะตบ
เอ็ดดี้มองหมั่นไส้ที่เจ้านายปากเก่ง เลยแกล้งหันไปทางด้านหลังกษิดิฐแล้วทำท่าตกใจ
"อ้าว...อาซ้อ"
กษิดิฐรีบหันไปมองอย่างผวาทันที เอ็ดดี้หัวเราะ
"พ่อคนเก่ง หน้าซีดเป็นไก่ไหว้เจ้าเลย ฮ่าๆๆ"
กษิดิฐถีบเอ็ดดี้ไปที่ผนังที่มีหน้าจอบอกชั้นที่ลิฟต์อยู่
" เดี๋ยวกบขึ้นไปหาแล้วกันครับแม่ พอดีลูกค้าเลื่อนนัดกบไม่ต้องเข้าออฟฟิศแล้ว"
"ไหนๆวันนี้ไม่มีประชุมแล้ว ผมลาไปหาแฟนก่อนแล้วกัน"
เอ็ดดี้บอก ทำท่าจะเดินไปแล้วคลำกระเป๋าตังค์
"อ้าว..กระเป๋าตังค์ เฮีย ! สงสัย กระเป๋าตังค์ผมตกในรถเฮียแน่เลย เฮียไปเปิดรถให้ผมหน่อยสิ"
กษิดิฐเซ็ง
"แกนี่ยุ่งจริงๆเว้ย"
กษิดิฐเดินออกไปกับเอ็ดดี้
ประตูลิฟต์เปิด ติณณ์เดินออกจากลิฟต์พร้อมพยาบาล เฉียดเกือบเจอกับกษิดิฐ
ในห้องพักฟื้น นลินทำหน้าตาตกใจ
"อะไรนะคะ กบไม่ต้องไปออฟฟิศแล้ว ซวยล่ะสิ ยายบัวเอ๊ย อย่างนี้นี่เองที่เขาบอกว่า ในโลกนี้ไม่มีความลับ มีแล้วมันก็ทุกข์ แบบนี้"
นันทิดาและกมลาไม่เข้าใจว่า นลินพูดหมายถึงอะไร
"หนูบัวพูดเรื่องอะไรน่ะลูก" กมลาถาม
นลินชะงักแล้วรู้ตัวว่าพูดมากไป
"เอ่อ...ปะ...เปล่าค่ะ จะมีใครขวางกบได้บ้างไหมเนี่ย"
นลินควานหามือถือของตัวเอง
"แม่คะ...มือถือบัวอยู่ไหนคะ"
นันทิดาหยิบมือถือของนลินที่เก็บไว้ในกระเป๋าสะพายออกมายื่นให้ นลินโทรหามัญจาทันที
ดารินทร์ สารัช น้องจุงเปิดประตูบันไดหนีไฟออกมาด้วยอาการ เหนื่อยหอบจนขาอ่อน
มัญจานั่งหอบคุยมือถือกับนลิน
"ฉันอยู่โรงพยาบาลแล้ว กำลังตามหานายกบแข่งกับยายแตงกวาอยู่เนี่ย"
บริเวณระเบียงห้องพักฟื้น นลินคุยมือถือกับมัญจาอย่างร้อนใจ
"อะไรนะ ยายแตงกวามากับคุณติณณ์แล้วกำลังจะตามกบมาเจอคุณติณณ์เหรอ...โอ้ย ฉันต้องทำบุญด้วยอะไร ถึงจะสาปส่งยายนี่ให้ไปเกิดไกลๆฉันสักที งั้นเธอทำยังไงก็ได้ ถ่วงเวลากบไว้ให้ห่างๆ คุณติณณ์กับยายแตงกวา"
ดารินทร์จูงน้องจุงและยืนเอาหูแนบมือถือมัญจาเพื่อฟังว่านลินพูดอะไรบ้าง สารัชพยายามจะยื่นหน้ามาฟังด้วยแต่โดนมัญจาและดารินทร์พร้อมใจกันยื่นมือไปผลัก
หัวสารัช จนเซออกไป
"ก่อนจะให้ฉันไปถ่วงเวลานายกบ ช่วยฉันคิดก่อนดีกว่าว่า จะไปตามหานายกบเจอที่ไหน"
ดารินทร์ สารัชมองมัญจาอย่างสงสัยว่าจะตามกษิดิฐด้วยวิธีอะไร
พยาบาลเดินนำติณณ์มาที่ช่องจ่ายเงิน เขาหยิบกระเป๋าตังค์ แต่หาไม่เจอ ก็ชะงักแล้วคิดว่าเอากระเป๋าตังค์ลงจากรถรึเปล่า
"ผมลืมกระเป๋าตังค์ไว้ในรถ เดี๋ยวผมมานะครับ"
ติณณ์เดินไปทางลานจอดรถ
ติณณ์เดินออกจากอาคารโรงพยาบาลเพื่อไปเอากระเป๋าตังค์ที่รถ รถกษิดิฐจอดถัด จากรถติณณ์ กษิดิฐกับเอ็ดดี้เปิดฝากระโปรงรถก้มดูเครื่องรถอยู่
ติณณ์จะเปิดประตูรถ แล้วหันไปมองรถคันที่เสียอยู่
"มีอะไรให้ช่วยไหมครับ"
กษิดิฐพูดทั้งยังก้มหน้า
"เมื่อกี้ผมเปิดไฟหน้าทิ้งไว้น่ะครับ สงสัยแบตจะหมด ยังไงผมรบกวนขอ..."
กษิดิฐเงยหน้ามองติณณ์แล้วต่างชะงักกันไป
"ติณณ์"
"กบ"
นลินรีบเปิดประตูระเบียงห้องเข้ามาในห้องอย่างร้อนรน แล้วรีบวิ่งไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อผ้าเปลี่ยน
"คุณแม่ คุณป้าคะ รีบเก็บของกลับบ้านกันเถอะค่ะ"
นลินรีบหยิบกระเป๋าและถุงใส่ของยื่นให้นันทิดากับกมลา
"รอกบก่อนสิหนูบัว กบกำลังจะมาแล้วนะ" กมลาบอก
นลินคิดหาข้ออ้าง
"เอ่อ...กบเพิ่งโทรมาบอกบัวเมื่อกี้นี้เองว่า กบไม่ว่าง ให้บัวกลับบ้านเองเลยค่ะ"
นลินจะเดินไปที่ประตู
"แล้วคุณติณณ์ล่ะ" นันทิดาถาม
นลินชะงัก
"เราอย่าไปรบกวนเขาเลยค่ะ เกรงใจเค้า"
นลินที่อยู่ในชุดคนไข้รีบหิ้วกระเป๋าแล้วจะเดินออกจากห้อง
"บัวจะไปทั้งชุดนั้นเหรอลูก"
นลินมองตัวเองในชุดคนไข้อยู่ แล้วชะงัก
"อุ้ย ! บัวลืมไปน่ะค่ะ"
นลินรีบเปิดกระเป๋าหาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ นันทิดากับกมลามองหน้ากันอย่างสงสัย
"เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ดูหนูบัวลนลานตั้งแต่เรากลับเข้ามาแล้วนะ หรือว่าจะเกี่ยวกับแตงกวา"
"แตงกวามาเกี่ยวอะไรด้วยคะ" นันทิดาถาม
"ก็ตอนที่ฉันจะมาที่นี่ แตงกวาโทรถามหาตากบ แล้วก็พูดแปลกๆ ว่าดีใจที่รู้ว่ากบกับหนูบัวอยู่ด้วยกัน"
นันทิดาถอนใจแล้วบอก
"ความพอเพียง มันไม่ได้ใช้ได้แค่การใช้ชีวิต แต่ยังรวมไปถึงความรัก รักน้อยก็โหยหา รักมากมักวิบัติ ดังนั้นต้องรักอย่างพอเพียง ถึงจะพบความสุขที่เพียงพอ"
กมลาถอนใจบ้าง
"กว่าแตงกวาจะรู้ถึงคำนั้น เราต้องเจอวิบัติอะไรบ้าง ก็ไม่รู้"
กมลานิ่งคิดว่านลินต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ
ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 5 (จบตอน)
บริเวณหน้าประตูทางเข้าตึกโรงพยาบาลแตงกวายืนรอรถของอณุกาอยู่ เธอใจร้อนจนต้องหยิบมือถือมากดโทรหาอณุกา
"พี่ณุกาอยู่ไหนแล้วคะ"
ภายในรถ อณุกาคุยมือถือกับแตงกวา ปราณนั่งดูทีวีในรถและดื่มไวน์ที่มีอยู่ในรถอย่างสบายใจ
"แยกไฟแดงหน้า พี่ก็ถึงแล้วค่ะ น้องแตงกวามีอะไรรึเปล่าคะ เสียงดูรีบร้อนจัง"
ปราณเหลือบมองแล้วยิ้มเยาะ คิดในใจว่าแตงกวาต้องมี อะไรรออณุกาอยู่แน่ๆ
แตงกวายืนคุยมือถือกับอณุกาด้วยใบหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์
"แตงกวาอาจจะกลัวพี่ณุกาจะพลาดอะไรไปมั้งคะ แตงกวารอพี่อยู่หน้าประตูนะคะ ...สวัสดีค่ะ"
แตงกวากดวางสายแล้วยิ้มเยาะ
"อดใจรอวินาทีที่พี่สาวรู้ว่า น้องชายโกหกไม่ไหวแล้วสิ นับเวลาถอยหลังกับการแต่งงานจอมปลอมกับหน้าที่การงานของเธอได้เลย...ยายบัว"
บริเวณลานจอดรถ กษิดิฐกับติณณ์ยืนคุยกันอยู่
"ไม่เจอตั้งสองปี ยังดูเนี๊ยบไม่เปลี่ยนเลยนะคุณชาย อ้อ ลืมแนะนำ นี่เอ็ดดี้ผู้ช่วยเรา นี่คุณชายติณณ์ เพื่อนสมัยเรียนที่อเมริกา"
กษิดิฐทักทายแล้วแนะนำให้ติณณ์กับเอ็ดดี้รู้จักกัน
"แล้วนายมาทำอะไรที่นี่" ติณณ์ถาม
"เมียป่วย"
"นายแต่งงานแล้วเหรอ ดีใจด้วย แล้วภรรยานายเป็นอะไรล่ะ อยู่ห้องไหนจะได้ไปเยี่ยม"
"งั้นไปเลย จะได้แนะนำให้รู้จักกัน"
กษิดิฐจะเดินไปกับติณณ์ เสียงโทรศัพท์มือถือกษิดิฐดัง เขากดรับสาย
"ว่ายังไงคนกินเด็ก ขอโทษที่ไม่ได้รับสาย เราคุยกับเพื่อนอยู่ อยู่ที่ลานจอดรถ เธอมีอะไรเหรอ ..มีธุระ ! เอาไว้คุยวันหลัง แล้วกัน เราจะพาเพื่อนไปหาเมีย"
มุมหนึ่งที่ชั้นล็อบบี้ มัญจายืนคุยมือถือกับกษิดิฐ สารัชและดารินทร์โอบน้องจุงยืนฟัง
มัญจาตวาดแล้วรีบหาข้ออ้างเพื่อดึงกษิดิฐไว้
"ไม่ได้ ! กบห้ามไปหาบัวนะ ! มาช่วยมิ้นท์ก่อนมิ้นต์ขับรถชนคน"
"หา ! แล้วเขาเป็นอะไรมากรึเปล่า แจ้งตำรวจรึยัง เธออยู่ที่ไหนเนี่ย"
"ฉันอยู่ที่ถนนข้างหลังโรงพยาบาล กบรีบมาช่วยหน่อยนะ ฉันไม่กล้าแจ้งตำรวจ ฉันกลัว ! โอเค บาย"
มัญจากดวางสาย
"คุณกบมาช่วยไหม"
"คนขี้สงสารชอบช่วยเหลือชาวบ้านอย่างนายกบ มีเหรอคะ จะไม่มา"
"แล้วเราจะทำยังไงต่อไปครับ" สารัชถาม
มัญจายิ้มเจ้าเล่ห์
"ซื้อน้ำแดง"
ดารินทร์กับสารัชร้อง "หา" ขึ้นพร้อมกัน
กษิดิฐกดวางสายจากมัญจา แล้วหันไปคุยกับติณณ์
"เรามีธุระด่วนว่ะ เอาไว้วันหลังเราค่อยพานายไปเจอเมียแล้วกัน"
"ได้ ไม่มีปัญหา เราก็จะรีบไปจัดการค่าใช้จ่ายให้เพื่อนเราเหมือนกัน"
ติณณ์จะหยิบนามบัตรให้กษิดิฐ แต่นึกได้ว่านามบัตรอยู่ในกระเป๋าตังค์ที่ลืมอยู่ในรถ
"นามบัตรเราอยู่ในรถ"
"ไม่เป็นไร เอานามบัตรเราไปก็ได้"
กษิดิฐหยิบนามบัตรมายื่นให้ติณณ์
"ไว้โทรนัดกินข้าวกัน ส่วนแกก็รีบไปหาแฟนซะ"
กษิดิฐรีบเดินไป ติณณ์เก็บนามบัตรไว้แล้วรีบเดินเข้าอาคารเพื่อไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายของนลินต่อ
นลินเดินออกมาจากห้องน้ำในห้องพักฟื้นอย่างรีบร้อนพร้อมคุยมือถือกับมัญจา
"โอเค ถ่วงเวลาไว้ก่อนนะมิ้นท์ เดี๋ยวบัวกำลังจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะได้ไม่มีใครเจอใครอีก แค่นี้นะ"
นันทิดาและกมลาเก็บของเตรียมกลับบ้าน
"เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ งั้นกลับกันเลยค่ะ"
นลินเดินไปที่ประตู กมลาจับมือท้วงไว้
"ป้าว่าเรารอตากบมารับไม่ดีกว่าเหรอหนูบัว"
"อย่าเลยค่ะ เสียเวลา เราไปกันเองก็ได้"
นลินจะเดินไปที่ประตู นันทิดาจับมือท้วงไว้อีกคน
"เราไม่รอบอกขอบคุณคุณติณณ์หน่อยเหรอลูก"
นลินชะงัก แล้วคิดข้ออ้าง
"ไม่ต้องหรอกค่ะ เมื่อกี้ตอนบัวเข้าห้องน้ำ คุณติณณ์โทรมาบอกว่ากลับไปทำงานแล้ว"
ติณณ์เปิดประตูห้องเข้ามาพอดี นลินมองอย่างชะงัก
รถของอณุกาเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าตึกโรงพยาบาล ประตูรถเปิดอัตโนมัติ อณุกากับปราณลงจากรถ แตงกวาเดินไปหา พูดนิ่งๆอารมณ์ดี
"เชิญค่ะพี่ณุกา"
อณุกาเดินนำแตงกวากับปราณเข้าประตูไปก่อน แตงกวาจะเดินตามแต่ปราณคว้าแขนแตงกวาไว้
"คุณมีอะไรรอเซอร์ไพรส์คุณณุกาอยู่ใช่ไหมครับ"
"คุณรู้ได้ยังไง"
" ก็เพราะผมรู้ว่าคุณแตงกวาเป็นคนชอบเซอร์ไพรส์"
แตงกวายิ้มเหยียด
"ถ้าคุณรู้จักฉันขนาดนั้น คุณก็ควรรู้ว่าฉันไม่ชอบ...ใครก็ไม่รู้ มาแตะต้องตัวฉัน"
แตงกวาสะบัดแขนออกจากกุมมือของปราณอย่างแรง แล้วเชิดหน้าเดินตามอณุกาไป
ปราณมองแตงกวาแล้วยิ้มเยาะ
"เหวี่ยงอย่างนี้ล่ะสิ ไอ้กบมันถึงไม่เอา"
ในห้องพักฟื้นของนลินนันทิดาถามนลิน
"อ้าว ไหนเมื่อกี้บัวบอกว่าคุณติณณ์ไปทำงานแล้วไงลูก"
นลินทำหน้าเลิ่กลั่กคิดหาข้ออ้าง
"อ้าว... ก็ไหนคุณติณณ์โทรมาบอกบัวว่า ไปทำงานแล้วไงคะ"
"ผมยังไม่ได้โทรหาคุณบัวเลยครับ"
นลินทำหน้าเหลอหลา
"อ้าว ! สงสัยบัวจำผิด คนที่โทรมาคงเป็นนายติณณ์ เพื่อนบัวน่ะค่ะ"
นันทิดากับกมลาแอบสงสัย แต่ยังไม่ถามอะไร
"ไหนๆคุณติณณ์ก็มาแล้ว บัวขอขอบคุณที่คุณติณณ์รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง ยังไงบัวขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ"
นลินจะเดินไปที่ประตู ติณณ์งง ไหนตอนแรกบอกว่าจะไปทำงาน นันทิดากับกมลาจะเอื้อมไปหยิบกระเป๋าและกระเช้าของเยี่ยม แต่ติณณ์เอื้อมือมาถือแทน
"งั้นเชิญไปกันเลยครับ เดี๋ยวผมไปส่ง"
ทุกคนเดินออกจากห้องไป นลินทำหน้าเครียด
"ขืนไปส่ง คุณติณณ์ก็รู้สิว่าอยู่บ้านเดียวกับกบ"
นลินยังไงดี
ถนนหลังโรงพยาบาล มัญจากำลังจับสารัชนอนแกล้งทำท่าเจ็บอยู่กลางถนน แล้วหยิบขวดน้ำแดงมาจะเทใส่ตัว
"เดี๋ยวครับ ทำไมต้องเป็นผมด้วย" สารัชรีบห้าม
ดารินทร์บอก
"ถ้าเอาคนอื่นมาแกล้งเจ็บ ความลับก็แตกสิ เทเลยมิ้นท์"
มัญจาตั้งท่าจะเทน้ำแดงบนตัวสารัช
"เดี๋ยวครับ ! ผมว่าเราทำอย่างนี้ ใครมาเห็นจะเข้าใจผิด นะครับ"
"เราเล่นละครแป๊บเดียว แล้วหลังโรงพยาบาลก็ไม่ค่อยมีรถผ่าน ไม่มีใครมาเห็นหรอก"
"เดี๋ยวครับ"
ดารินทร์รำคาญ
"นี่นายสารัช นายทำเพื่อบัวแค่นี้ไม่ได้เหรอ นายคิดดูว่า ถ้าบัวรู้ว่านายลงทุนเอาตัวคลุกน้ำแดงเพื่อช่วยบัว บัวจะปลื้มนายขนาดไหน"
สารัชคิดตามแล้วยิ้ม
"พี่รินทร์พูดถูก เพื่อคุณบัว แค่เทน้ำแดงใส่ตัวเรื่องเล็ก"
"ดี ! ฉันจะได้เทสักที"
"เดี๋ยวครับ"
มัญจาเซ็ง
"อะไรของนายอีก"
"ผมจะบอกว่าแค่เทบนตัว มันไม่น่ากลัวพอ..มันต้องอย่างนี้"
สารัชคว้าขวดน้ำแดงมากระดกเข้าปากแล้วอมน้ำแดงไว้ มัญจา ดารินทร์ น้องจุงมองสารัชอย่างคาดไม่ถึงว่า สารัชจะบ้าได้ขนาดนี้
กษิดิฐวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
"มิ้นท์ ! เป็นยังไงบ้าง พาคนโดนชนไปหาหมอรึยัง"
ทุกคนองไปทางสารัชที่นอนอยู่บนถนนด้านหน้ารถของมัญจา พอกษิดิฐมองสำรวจเห็นว่า สารัชโดนรถมัญจาชนก็โล่งอก
"มิ้นท์ชนไอ้หมอนี่เองเหรอ งั้นไม่ต้องไปสนใจหรอก ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่ เสียเวลา ไปหาเมียดีกว่า"
สารัชถุยน้ำแดงออกจากปากเหมือนกระอักเลือด กษิดิฐมองอย่างตกใจ
"เฮ้ย"
มัญจากับดารินทร์แอบยกนิ้วโป้งชม มัญจากระซิบดารินทร์
"แผนเราคงถ่วงเวลากบได้ยาว"
มุมหนึ่งแถวถนนหลังโรงพยาบาล บุรุษพยาบาล 2 คนเดินผ่านมาพอดี เห็นเหตุการณ์ที่สารัชกระอักน้ำแดงก็คิดว่าเป็นเลือด บุรุษพยาบาล 1 ถาม
"คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ"
3 ผู้สร้างสถานการณ์ ต่างตกใจว่า มาได้ยังไง กษิดิฐร้องเรียกให้บุรุษพยาบาลมาช่วยสารัช
"ช่วยด้วยครับ ! เขาโดนรถชน"
ฉิบหาย เรื่องไปกันใหญ่แล้ว ! ดารินทร์กระซิบมัญจา
"โทรถามบัวสิว่าออกจากโรงพยาบาลรึยัง ท่าทางเราจะถ่วงเวลาได้ไม่นานอย่างที่คิด"
ติณณ์เดินนำนลิน นันทิดาและกมลามาที่หน้าลิฟต์ นลินสีหน้าหน้าเครียด เดินรั้งท้าย
"คุณติณณ์ไม่ต้องไปส่งบัวหรอกค่ะ"
"ทำไมล่ะครับ"
นลินยิ้มแหยๆ คิดหาข้ออ้าง
"คือว่าบ้านบัวกับออฟฟิศมันคนละทาง บัวไม่อยากรบกวนคุณติณณ์น่ะค่ะ ... เราไปแท็กซี่ สะดวกกว่านะคะแม่"
"เฮ่อ..." ติณณ์อึ้งไป
"จะดีมั๊ยคะแม่"
นันทิดาอึกอัก
"ให้คุณติณณ์ไปส่งเถอะ ขืนไปยืนตากแดดรอแท็กซี่ เดี๋ยวหนูบัวก็ได้กลับมานอนโรงพยาบาลอีกรอบหรอกลูก รบกวนหน่อยนะคะ"
"ยินดีครับ"
ประตูลิฟต์เปิด
ติณณ์ใช้มือกันประตูลิฟต์ไม่ให้ปิดเพื่อให้นลินกับนันทิดา กมลาเดินเข้าไปในลิฟต์ก่อน ติณณ์เดินตามคนสุดท้าย แล้วกดประตูลิฟต์
หน้าลิฟต์ ชั้นล็อบบี้ แตงกวา อณุกา ปราณยืนรอลิฟต์อยู่
"พี่ขอโทษน้องแตงกวาอีกครั้งนะที่ติณณ์ไม่มา ติณณ์เขาติดนัดลูกค้าจริงๆ"
แตงกวายิ้มเยาะ
"ท่าทางจะเป็นลูกค้าที่สำคัญมาก"
" ติณณ์เขาก็เป็นอย่างนี้แหละจ่ะ เห็นลูกค้าสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น ชีวิตทำแต่งาน ถึงไม่มีใครมาดูแลสักที"
"ที่พี่ณุกาบอกว่าคุณติณณ์ไม่มีใคร เพราะพี่ณุกาไม่เคยเห็นรึเปล่าคะ"
อณุกาชะงัก
"ไม่มีจริงๆจ้ะ พี่รับรองได้ น้องชายของพี่คนนี้ มีอะไรบอกพี่หมด ไม่เคยมีความลับ ไม่เคยโกหกพี่"
แตงกวาแอบยิ้มเยาะในความไม่รู้อะไรบ้างเลยของอณุกา
"ลิฟต์มาแล้วค่ะ รีบไปดูความจริง เอ้ย ! บัวกันเถอะค่ะ"
แตงกวาผายมือเชิญอณุกาเดินเข้าลิฟต์ ปราณเดินเข้าตามอณุกา แตงกวาเดินเข้าลิฟต์เป็นคนสุดท้ายแล้วกดปิดประตูลิฟต์
ประตูลิฟท์อีกด้านเปิดออก ติณณ์ นลิน นันทิดา กมลาเดินออกมา เฉียดฉิวกันซะอีกแล้ว
ด้านหลังโรงพยาบาล ความลับมาแตก เมื่อบุรุษพยาบาล 2 คนกำลังเช็ดเลือดให้สารัช
บุรุษพยาบาล 1บอก
"นี่มันไม่ใช่เลือด"
"แต่เป็นน้ำแดง" บุรุษพยาบาล 2 บอก
"น้ำแดง" กษิดิฐย้ำ
มัญจากระซิบดารินทร์
"เราอยู่ในงานมายามากไป จนลืมไปว่าเลือดปลอมในทีวีกับเลือดปลอมนอกทีวีต่างกัน ที่นอกทีวีเขาพิสูจน์ได้"
กษิดิฐหันไปมองคณะผู้ก่อการ แล้วไล่เรียงไปทีละคน
น้องจุงสะดุ้งบอก
"น้องจุงไม่เกี่ยว น้องจุงตามแม่มาเฉยๆครับ"
ดารินทร์สะดุ้งแล้วแถ
"พี่ไม่เกี่ยวนะคะ พี่ตามมิ้นท์มาเฉยๆ"
"ฉันไม่เกี่ยวนะ นายสารัชเป็นคนทำ"
"อ้าว !! ก็ไหนคุณมิ้นท์..."
สารัชพูดไม่หมดประโยค มัญจารีบพูดแทรก
"นายอิจฉาที่กบได้อยู่ใกล้บัวตลอดเวลา นายเลยวางแผนให้กบห่างบัวบ้าง นายนี่แย่มาก ดูสิ..ฉันกับพี่รินทร์ก็หลงเชื่อว่านายเจ็บจริง ต่อไปนี้..นายไม่ต้องมาคุยกับฉันอีก ! เราไปกันเถอะค่ะพี่รินทร์"
มัญจาจูงมือดารินทร์รีบเดินออกไป สารัชมองตามอย่างเซ็ง กษิดิฐจ้องหน้าสารัชที่แกล้งหยิบมือถือมาทำท่ากด ก่อนค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินห่างกษิดิฐไปอย่างเนียนๆ
"ฮัลโหล รายการ TAKE ME OUT เหรอครับ จะเชิญผมไปออกรายการ แหม ผมลำบากใจมากเลยที่ต้องไปเลือกผู้หญิงตั้ง 30 คน..ผมทำร้ายจิตใจผู้หญิงไม่ได้"
สารัชได้ที รีบวิ่งหนีกษิดิฐออกไป
กษิดิฐมองตามพลางคิดว่า พวกมัญจาทำแผนหลอกเขาทำไมกัน
มุมหนึ่งในโรงพยาบาล มัญจาเดินคุยมือถือกับนลินตามหลังดารินทร์มา
"บัว ! แผนถ่วงเวลากบแตกอ่ะ ตอนนี้เธออยู่ไหน ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แล้วเธอออกไปกับใคร หา ! คุณติณณ์ แกอย่าให้คุณติณณ์เข้าบ้านนะ ไม่อย่างนั้นได้เจอหลักฐานว่า แกแต่งงานกับกบแล้วแน่ๆ"
ดารินทร์รีบดึงมือถือจากมัญจามาคุย
"และในฐานะที่พี่มีประสบการณ์สลับรางผู้ชายมาก่อน พี่ขอบอกว่า บัวอย่าให้คุณติณณ์อยู่บ้านนาน ถ้าคุณกบรู้ว่าบัวกลับบ้านแล้ว คุณกบต้องตามไปหาบัวที่บ้านแน่"
ภายในรถติณณ์นันทิดากับกมลานั่งด้านหลังรถ นลินนั่งข้างติณณ์และคุยมือถือกับมัญจาด้วยเสียงเบาๆ นลินกระซิบตอบ
"ได้ค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะพี่รินทร์"
นลินกดวางสาย
กมลาคุยกับนันทิดา
"รถแบบนี้นั่งสบายดีเนอะ ฉันเคยบอกให้กบ..."
เท่านั้น นลินก็รีบพูดเสียงดังกลบเสียงกมลา
"ไฟเขียวแล้วค่ะคุณติณณ์"
"เขียวตรงไหน ยังแดงอยู่เลยลูก"
นลินชะงัก แล้วแถกลบเกลื่อน
" บัวมองผิดฝั่งน่ะค่ะ"
กมลาพูดกับติณณ์
"รถคันนี้แพงไหมคะ ป้าอยากให้กบ..."
นลินรีบพูดเอาเสียงกลบเสียงกมลาอีก
"โอ๊ย ในรถคุณติณณ์มียุงด้วยเหรอคะ" นลินตบที่ขาว่าโดนยุงกัด
ติณณ์ชะงัก
"ไม่มีนะครับ"
นลินทำท่าเกาขาแล้วมองหาตัวช่วย ที่จะทำให้กมลากับนันทิดาจะไม่พูดเรื่องกษิดิฐอีก
"เราฟังเพลงกันดีกว่านะคะ"
"อย่าเลยลูก... นั่งเงียบๆน่ะดีแล้ว คุณติณณ์จะได้มีสมาธิขับรถ"
"แต่บัวเหงานี่คะ"
"งั้นเปิดเพลงก็ได้ครับ"
ติณณ์กดปุ่มเครื่องเล่นเพื่อเปิดคลื่นวิทยุฟังเพลง ปรากฏว่า เพลงนั้นเป็นเพลงเดียวกับเพลงที่กษิดิฐเปิดเต้นกับนลินในงานแต่งงาน นลินชะงัก
"นี่มันเพลงเดียวกับในงานแต่ง..."
นลินรีบกดปุ่มเปิดเพลงให้เสียงดังมาก
"เปิดเบาๆหน่อยสิลูก" นันทิดาบอก
"ขอโทษค่ะ บัวกดผิดปุ่ม"
นลินกดปุ่มเปลี่ยนคลื่นวิทยุไปฟังคลื่นอื่น แล้วพึมพำ
"มันจะพังตั้งแต่ยังไม่ถึงบ้านล่ะมั้งเนี่ย"
บริเวณเคาน์เตอร์พยาบาล ชั้นห้องพักฟื้นนลิน แตงกวามองหน้าพยาบาลอย่างอึ้งๆ
"บัวกลับบ้านไปแล้วเหรอ เป็นไปได้ยังไง แล้วใครเป็นคนพากลับไปคะ"
"ญาติคนไข้นั่นแหละค่ะที่พากลับ น่าจะเป็นคุณแม่กับคุณป้า แล้วก็เพื่อนผู้ชายอีกคน"
"สงสัยจะเป็นคุณกบพากลับล่ะสิ สามีภรรยาคู่นี้เขาก็รักกันดีนะ"
แตงกวาทำหน้าไม่พอใจ ทันใดนั้น เมื่อเธอหันไปเห็นกษิดิฐเดินเข้ามา ก็ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข
"อ้าว...กบไม่ได้พาเมียกลับบ้านเหรอ"
กษิดิฐชะงัก งง
"ใครกลับบ้าน"
"อ้าว... คุณไม่รู้เหรอว่า คุณบัวกลับบ้านไปแล้ว เมียไปไหนไม่รู้ ทำเหมือนไม่ใช่ผัวเมียกันจริงๆ"
กษิดิฐมองปราณอย่างไม่พอใจ
"ไม่รู้เรื่องแค่นี้ ไม่น่าตำหนิหรอกครับ ถ้าผมรู้ว่า ลูกใครเมียใครแล้วผมยังไปยุ่ง อันนี้สิน่าตำหนิว่า..เลว งั้นผมขอตัวไปดูเมียก่อน อย่างว่าล่ะครับ เมียผมเขามีเสน่ห์ อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย แม้แต่หมาตัวผู้ ! ยังจ้องลอบกัดเลย"
ปราณชะงักแล้วมองหน้ากษิดิฐอย่างท้าทายและรู้กัน ก่อนกษิดิฐจะเดินออกไป
ผ่านเวลาเล็กน้อย กษิดิฐเข้ามานั่งในรถแล้วนั่งคิดก่อนสตาร์ทรถว่า นลินกลับบ้านไปกับใคร แล้วทำไมไม่บอกก่อน เขาสังหรณ์แปลกๆ เมื่อเขารีบสตาร์ทรถเพื่อจะขับรถไปหานลินที่บ้าน ปรากฏว่า สตาร์ทไม่ติด เขานึกบางอย่างได้แล้วทำหน้าเซ็ง
"แบตหมดนี่หว่า กะจะขอพ่วงแบตรถไอ้ติณณ์ ก็ดันคุยจนลืม"
กษิดิฐทำหน้าเซ็งว่าจะทำยังไง
ในเวลาเดียวกัน อณุกา แตงกวา ปราณเดินออกจากประตูโรงพยาบาล
"พี่ยังสงสัยนะว่า คุณกบเป็นสามีแท้ๆ ทำไมถึงไม่รู้ว่านลินจะกลับบ้าน"
"ก็พวกสามีปลอมๆไงครับ"
อณุกามองปราณอย่างไม่พอใจ
"ยังหวังในตัวนลินรึไง ถึงคิดว่านลินกับคุณกษิดิฐไม่ได้แต่งงานกันจริงๆ"
ปราณรีบอ้อนอณุกา
"โธ่ คุณคิดได้ยังไงเนี่ย ผมก็แค่พูดเล่นเท่านั้นเอง"
แตงกวายืนนิ่ง คิดว่าผู้ชายที่พยาบาลบอกว่าพานลินไปส่งบ้าน ถ้าไม่ใช่กษิดิฐก็ต้องเป็นติณณ์ แน่ๆ
"เราไปเยี่ยมบัวที่บ้านกันไหมคะ"
อณุกากับปราณหันมามองแตงกวาอย่างชะงัก
"อะไรนะจ๊ะ"
"ไหนๆ เราก็ตั้งใจจะเยี่ยมบัวแล้ว เราก็น่าจะไปให้เห็นกับตา ว่าบัวสบายดีแล้ว เราจะได้เริ่มทำงานกันสักที"
อณุกานิ่ง ไม่ตอบรับ
รถของติณณ์ขับเข้าซอยบ้านนลิน เธอกระวนกระวาย ไม่อยากให้ติณณ์รู้ว่า นลินอยู่บ้านเดียวกับกษิดิฐ
"บัวว่าคุณติณณ์ส่งบัวข้างหน้านี่ก็ได้ค่ะ"
"ข้างหน้านั่นบ้านคุณบัวเหรอครับ"
นลินกำลังจะตอบ กมลาพูดแทรก
"ไม่ใช่ค่ะ บ้านเราอยู่อีกสองซอย"
"งั้นผมไปส่งถึงบ้านเลยก็ได้ครับ"
"แต่ว่า..."
ทุกคนมองอาการนลินอย่างสงสัย
"บัวอยากกินลูกชิ้นทอดเจ้าประจำตรงข้างหน้านี้น่ะค่ะ บัวไม่อยากให้คุณติณณ์รอ"
นันทิดาบอก
"ลูกชิ้นเจ้านั้น เลิกขายไปนานแล้วนี่ลูก"
นลินแกล้งทำหน้าซื่อ
"เอ้า …เลิกขายแล้วเหรอคะ บัวเพิ่งรู้นะเนี่ย"
นลินยิ้มให้นันทิดาแล้วหันมาเปลี่ยนรอยยิ้มเป็นเบะปากทำหน้าจะร้องไห้ ที่พูดอะไร โดนขัดไปหมด
รถติณณ์ขับมาจอดหน้าบ้าน นลินรีบลงจากรถและหยิบของทุกอย่างเตรียมจะเข้าบ้าน เพื่อไม่ให้ติณณ์ได้ตามเข้าไป เขาลงจากรถแล้วช่วยหยิบของทุกอย่าง แล้วจะเดินเข้าบ้าน แต่เธอขวางไว้
"บัวเอาของไปเก็บเองดีกว่า คุณติณณ์กลับไปทำงานเถอะค่ะ"
"พูดอย่างนั้นได้ยังไงลูกบัว คุณติณณ์ขับรถมาเหนื่อยๆ ... เชิญเข้าไปทานน้ำในบ้านก่อนนะคะ" นันทิดาบอก
"นี่ก็เที่ยงแล้ว ทานข้าวด้วยกันเลยนะ" กมลาบอก
นลินเผลอพูดเสียงดัง
"ทานข้าวเลยเหรอคะ"
นันทิดา กมลามองนลิน
"คุณติณณ์เขางานยุ่งน่ะค่ะแม่"
"ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ทานข้าวด้วยได้"
นลินแอบถอนใจเครียด
"งั้นเชิญเข้าบ้านค่ะ"
กมลาเดินนำไปทางบ้านกษิดิฐ ติณณ์เดินตาม นลินคิดว่า ถ้าติณณ์เห็นรูปแต่งงานในบ้านต้องซวยแน่ ! ก่อนติณณ์กำลังจะเดินเข้าบ้าน นลินรีบเดินไปดักหน้าติณณ์ไว้
"คุณติณณ์กลับไปเถอะค่ะ"
ติณณ์ชะงัก มองนลินงงๆ
"อะไรนะครับ"
"บัวขอร้อง คุณติณณ์กลับไปเถอะค่ะ บัวไม่สะดวกจะต้อนรับคุณติณณ์จริงๆ"
ติณณ์อึ้งๆแล้วยิ้มอย่างเข้าใจ
"งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ"
ติณณ์เดินไปขึ้นรถ นลินปาดเหงื่ออย่างโล่งอก
ติณณ์กำลังจะสตาร์ทรถ แล้วเหลือบเห็น ดอกกุหลาบสีขาว 2 ดอกที่ติณณ์มอบให้ ซึ่งนลินลืมไว้ เขาหยิบดอกกุหลาบขาวมามองแล้วคิด
ภายในบ้าน นันทิดาและกมลากำลังช่วยกันเก็บของ นลินเดินเข้าบ้านมา
"บัวหิวไหมลูก เดี๋ยวแม่ทำอะไรให้กินจะได้กินยานอนนะลูก"
"ทำเผื่อกบด้วยนะคะแม่ เดี๋ยวกบมาถึง จะได้มีอะไรยัดปาก ไม่ต้องบ่นมากที่บัวกลับมาโดยไม่บอกค่ะแม่"
นันทิดากับกมลาเดินเข้าไปในครัว นลินคิดถึงกษิดิฐ
"อยู่ไหนแล้วเนี่ย นายกบ"
ริมถนนหน้าโรงพยาบาล กษิดิฐยังยืนรอแท็กซี่ เขาเท้าเอวอย่างเซ็งๆ
"ไม่มีรถคันไหนว่างเลยเหรอเนี่ย"
"พี่กษิดิฐ"
กษิดิฐหันไปมองตามเสียง เห็นเจนยืนยิ้มให้อยู่
"อ้าว..น้อง มาทำอะไรแถวนี้เนี่ย"
"เจนมาทำงานพิเศษที่ร้านอาหารนั่นน่ะค่ะ"
กษิดิฐมองไปทางร้านอาหารตามสั่ง
"อ๋อ ..จริงสิ คืนนั้นน้องก็บอกแล้วว่าทำงานพิเศษแถวนี้"
กษิดิฐหันไปมองแท็กซี่เพราะใจพะวงอยากหารถกลับบ้านไปหานลิน เจนพยายามชวนคุย
"วันนี้เจนไปสมัครงานที่บริษัทพี่ด้วยนะคะ"
"อ้าว เหรอ แล้วเป็นยังไงบ้าง"
เจนทำเสียงเศร้า
"พี่ที่อยู่ออฟฟิศบอกว่า บริษัทรับคนแล้ว"
กษิดิฐชะงักแล้วยิ้มแหยๆให้
"เอ้อ ...จริงด้วย ขอโทษนะ พี่ลืมไปว่า คุณภพเขาเลือกคนไว้แล้ว ไม่เป็นไร ไว้พี่จะช่วยหางานที่อื่นให้นะ"
เจนยิ้มหวังจะอ่อยกษิดิฐให้ตกหลุมเป็นเหยื่อรายต่อไป เธอคิดว่าจะทำยังไงให้เขารับเธอเข้าทำงานในบริษัท กษิดิฐยังคงมองหาแท็กซี่ เจนคิดแผน
"งั้นเจนขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณพี่มากๆที่ช่วยเหลือเจน"
เจนยกมือไหว้แล้วจะเดินออกไป แต่ทำเป็นเซล้มลงกับพื้น เขารีบเข้าไปพยุง"น้องเป็นอะไรรึเปล่า"
เจนทำท่าเหนื่อย อ่อนแรง แล้วเอียงหัวซบในอ้อมอกกษิดิฐแล้วแอบยิ้ม
ติณณ์มองดอกกุหลาบขาว
"ถ้าไม่บอก มันก็จะเป็นแค่ดอกไม้ที่รอเวลาแห้งเหี่ยว เหมือนกับพวกของมันที่ห้อง"
ติณณ์มองดอกกุหลาบ อย่างวัดใจตัวเองว่าจะเก็บไว้เองเหมือนที่ผ่านมาหรือจะกล้าหาญเอาดอกกุหลาบไปให้ เพื่อบอกความในใจ
อ่านต่อตอนต่อไป 17.00 น.