xs
xsm
sm
md
lg

ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 2
 
เวลากลางวัน นลิน ดารินทร์ มัญจา สารัชยืนรอคิวเข้าร้านอาหารแถวๆ ตึกภัทร แอดเวอร์ไทซิ่ง มัญจาเรียกพนักงานต้อนรับ

"บัวฉันขอกินหลายๆ อย่างเลยนะเพราะเธอเลี้ยง"
"ฉันก็อยากเลี้ยงนะมิ้นท์ แต่เธอลืมไปแล้วเหรอว่ากระเป๋าตังค์ฉันหาย ไม่รู้ไปตกที่ไหนกันแน่"
มัญจากระซิบไม่ให้สารัชได้ยิน
"แค่รู้ว่าไม่ตกในรถคุณปราณก็พอแล้ว ฉันโล่งอกแทนเธอมากๆเลยนะบัว ที่เรื่องมันพลิกล็อกออกมา ดีกว่าที่คิดแบบนี้"
"ในฐานะที่พี่มีประสบการณ์ทำงานที่นี่มาก่อน พี่ขอบอกว่าอย่าเพิ่งประมาท ถ้าให้ดีนะ...บัวควรมีแฟน" ดารินทร์บอก
สารัชได้ยินแว่วๆ ก็รีบเสนอหน้า
"คุณบัวจะมีแฟนเหรอครับ ผมยังรอคุณบัวอยู่นะครับ"
"สารัชไปเอาน้ำให้หน่อยน๊า"
สารัชเดินฟูมฟายไปที่เคาน์เตอร์หยิบน้ำ
"นายจุ้นจ้านไปแล้ว จะได้เมาท์กันมันส์ปากหน่อย" มัญจาบอกแล้วหันไปพูดกับดารินทร์
"พี่รินทร์ขา บัวเขาไม่ยอมหาแฟนแล้วล่ะค่ะ เพราะเขามี ว่าที่แฟนอยู่ในหัวใจแล้วทั้งคน"
นลินปรามเสียงดุ
"มิ้นท์ !"
มัญจาขำอาการของนลิน
"แล้วคืนนี้จะไปส่งคุณติณณ์ไหม"
นลินชะงัก
"จะบ้าเหรอ จะให้ฉันไปส่งเค้าในฐานะอะไร"
"ในฐานะที่พี่มีประสบการณ์ทำงานและมีสามีก่อน ...พี่ขอบอกว่าการไม่ส่งผู้ชาย เราไม่ใช้ต้องฐานะจ้ะ เราใช้ใจก็พอ"
มัญจาตบมือไฮไฟว์กับดารินทร์ตอบรับการถูกใจ นลินถอนใจอย่างขำๆ
"ถึงยังไงบัวก็ไปไม่ได้หรอกค่ะ บัวต้องรีบคิดแคมเปญให้เสร็จ ภายในคืนนี้ ตอนนี้บัวยังไม่มีไอเดียเลย"
"แต่คุณติณณ์จะไม่อยู่ถึง 3 เดือนเลยนะ"
นลินชะงักรู้สึกเสียดายเหมือนกัน
"งั้นบัวก็ดักส่งคุณติณณ์ที่ออฟฟิศก็ได้นี่ คุณติณณ์จะไปตอนสามทุ่มไม่ใช่เหรอ ยังไงคืนนี้บัวก็คงทำงานจนดึกอยู่แล้วนี่" ดารินทร์บอก
นลินนิ่งคิดอย่างลังเลเพราะกลัวว่าจะทำอะไรออกหน้าเกินไป
กษิดิฐโผล่หน้าเข้ามาข้างๆหน้านลิน
"ไม่ร้องไห้ฟูมฟายอย่างนี้ แปลว่ายังไม่โดนไล่ออกใช่มั้ย"
นลินตกใจ
"กบ ! ทำไมยังอยู่อีกล่ะ"
กษิดิฐยิ้มๆและยักคิ้วยียวนยังไม่ตอบอะไร

ในร้านอาหาร สารัชนั่งคั่นกลางระหว่างนลินกับกษิดิฐ สารัชมองกษิดิฐอย่างไม่ถูกชะตาและแสดงออกว่าหวงนลิน กษิดิฐมองอีกฝ่ายอย่างไม่ใส่ใจเหมือนเป็นอากาศธาตุ
"อะไรนะ กบเช่าออฟฟิศที่นี่เปิดบริษัทออกแบบเหรอ"
กษิดิฐเอื้อมมือผ่านหน้าสารัชไปดึงมือนลินมาจับ
"เยส ..ทีนี้เราก็จะได้อยู่ด้วยกัน ทั้งเช้า กลางวัน เย็น และเวลานอนเลยเนอะ... อดีตภรรยาจ๋า"
นลินดึงมือออกทันที
"นายกบ ! บัวบอกแล้วไงว่าเรียกบัวแบบนี้"
สารัชได้ที พูดย้ำใส่หน้า
"ได้ยินไหม คุณบัวบอกว่าอย่าเรียกแบบนั้น เรื่องของคุณกับคุณบัวจบไปแล้ว ขอย้ำ! จบไปแล้ว"
กษิดิฐหยิบส้อมทิ่มลงโต๊ะอย่างแรง สารัชสะดุ้งโหยง เขามองท่าทางตกใจของสารัชแล้วขำ
"ขอโทษ เวลาได้ยินอะไรไม่เข้าหู แขนมันกระตุกอย่างนี้ทุกที"
กษิดิฐทิ่มส้อมลงโต๊ะอย่างเร็ว 5 ทีซ้อน สารัชรีบย้ายที่นั่งไปนั่งข้างๆดารินทร์แทนทันที
มัญจากระซิบนลิน
"ซวยล่ะสิบัว ขืนกบอยู่ตึกเดียวกับเราแบบนี้ เรื่องบัวเคยแต่งงานต้องเข้าหูคุณติณณ์เข้าสักวันแน่"
นลินชะงักเพราะคิดถึงสถานการณ์ที่ปั๊มเมื่อตอนเช้าที่กษิดิฐตะโกนเรียกเมีย เธอกระซิบตอบเพื่อน
"นั่นน่ะสิ เมื่อเช้ากบก็เกือบทำบัวขายหน้าทีหนึ่งแล้ว งั้นบัวขอตัวก่อนแล้วกันนะ ก่อนที่กบจะทำให้บัวขายหน้าอีก"
กษิดิฐยื่นหน้าเข้าไปพูดกระซิบกับสาวๆบ้าง
"กระซิบอะไรกันเหรอ"
3 สาวสะดุ้งเฮือกร้อง "เฮ้ย"
"เปล่า คุยกันเรื่องงานน่ะ เดี๋ยวกบกินข้าวกับมิ้นท์ต่อนะ บัวมีงานสำคัญต้องรีบขึ้นไปทำงานต่อ" นลินตอบแล้วจะลุกเดินไป
"ไหนๆกบก็อยู่ที่นี่แล้ว เดี๋ยวกบรอกลับบ้านพร้อมบัวแล้วกันนะ"
"กบกลับไปก่อนเถอะ คืนนี้บัวคงอยู่ทำงานดึกแน่ๆ เดี๋ยวบัวกลับเอง บัวไปนะ" สารัชเหลือบไปทางกษิดิฐ
"ผมไปด้วยครับคุณบัว ผมไม่ชอบร่วมโต๊ะกับคนแปลกหน้า"
นลินรีบเดินออกจากร้านอาหารไป สารัชเดินตาม กษิดิฐมองตามอย่างหงุดหงิด แล้วหันมาบ่นกับมัญจา
"นี่บัวเขายังกล้าอยู่ทำงานดึกๆอีกเหรอ ต่อให้เจ้านายไม่เอาเรื่องแล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าไอ้หมอนั่นมันจะปล่อยบัวไปนะ"
"ใจเย็นน่ากบ บัวเขาห่วงงานน่ะ งานนี้มันสำคัญมาก บัวจะได้เลื่อนตำแหน่งหรือไม่เลื่อนก็ขึ้นกับงานนี้ แล้วอีกอย่าง.. บัวก็คิดว่าคุณปราณไม่มายุ่งอีกแล้วล่ะ" มัญจาว่า
"แต่กบไม่คิดอย่างนั้นนะ"
ดารินทร์จับสังเกตุ กษิดิฐที่เป็นห่วงบัว

นลินกับสารัชเดินออกจากร้านอาหารตรงเข้าบริษัท ปราณเดินออกมาจากมุมตึก มองนลินที่เดินผ่านไป ปราณจับรอยเขียวช้ำบนใบหน้าอย่างแค้นๆ
"มีความสุขไปเถอะ พรุ่งนี้เธอจะยิ้มไม่ออก เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นตัวกับฉัน เธอเจอศึกใหญ่แน่"

นลินเดินยิ้มทักทายคนที่เดินสวนกันด้วยอารมณ์มีความสุข โดยไม่รู้ว่ากำลังโดนปราณมองอยู่

ในร้านอาหาร มัญจาบอกกษิดิฐ

"กบไม่ต้องห่วงบัวนะ เดี๋ยวคืนนี้มิ้นท์กับพี่รินทร์จะอยู่เป็นเพื่อนบัวเอง กบกลับไปเถอะ"
"ยังไงฝากบอกบัวด้วยว่า กบจะมารับ"
มัญจารีบพูด
"ไม่ต้องมารับหรอก เอาอย่างนี้ ถ้ากบไม่สบายใจ เดี๋ยวมิ้นท์ไปส่งบัวเอง กบรีบกลับไปเถอะ"
กษิดิฐมองท่าทางที่มัญจาคะยั้นคะยอให้รีบกลับอย่างสงสัย
"มิ้นท์รู้ไหมว่า ท่าทางมิ้นท์ตอนนี้เหมือนตอนสมัยมหาวิทยาลัยเป๊ะเลย"
มัญจาชะงัก
"เหมือนอะไร ตอนนี้มิ้นท์สงบเสงี่ยมกว่าตั้งเยอะ"
"ก็เหมือนตอนที่บัวแอบไปปิ๊งหนุ่มวิศวะ แต่บัวไม่อยากให้กบรู้ แล้วมิ้นท์ก็ช่วยบัวปิดไง"
กษิดิฐมองมัญจาอย่างคาดคั้น มัญจาเริ่มเลิกลั่ก ดารินทร์กระซิบแนะนำ
"พูดไปเลยว่า เขาคิดมากไป"
"กบคิดมากไปรึเปล่า"
กษิดิฐยิ้ม
"แล้วตอนนั้นที่กบจับได้ ก็เพราะมิ้นท์พูดคำนี้แหละ"
ดารินทร์ มัญจาต่างชะงัก "แป่ว !"
กษิดิฐมองคาดคั้น
"บัวแอบปิ๊งใครอยู่ใช่ไหม"
มัญจามองหน้าดารินทร์อย่างปรึกษาว่า เอายังไงดี

มัญจากับดารินทร์รีบเดินหนีกษิดิฐออกจากร้านอาหารทันที เขารีบเดินตาม
"ถ้าบัวไม่ได้ปิ๊งใคร แล้วทำไมต้องรีบหนีกบด้วยล่ะมิ้นท์"
"ไม่ได้หนี แต่นี่จะบ่ายโมงแล้ว มิ้นท์ต้องรีบไปทำงานต่อ ไว้ค่อยเจอกันนะกบ ไปเร็วพี่รินทร์"
"ไว้เจอกันนะคะคุณกบ" ดารินทร์บอก
มัญจากับดารินทร์จะเดินไป กษิดิฐพูดลอยๆ
"คนที่บัวชอบนี่ใช่คุณติณณ์รึเปล่า"
มัญจากับดารินทร์ชะงัก กษิดิฐรู้ได้ยังไง มัญจารีบเฉไฉ
"กบเอาที่ไหนมาพูด"
กษิดิฐยิ้มอย่างมีเลศนัย
"ก็วันแรกที่กบมา กบเห็นบัวได้ยินชื่อ คุณติณณ์ บัวก็ร้อนรนรีบวิ่งไปหาคุณติณณ์ แล้วเมื่อกี้ กบได้ยินน้า เรื่องไปส่งคุณติณณ์น่ะ"
มัญจาชะงัก กระซิบดารินทร์
"บรรลัยล่ะสิ กบได้ยินเราพูดเรื่องนั้นด้วย ทำยังไงดีพี่รินทร์"
ดารินทร์กระซิบบอก
"สถานการณ์จนตรอกอย่างนี้ ต้องใช้มุก ฉอ. ฉอ."
"หนีไปฉิ๊งฉ่องเหรอ"
"เฉไฉย่ะ !"
มัญจาพยายามปั้นหน้าซื่อแล้วพูดเฉไฉ
"จะบ้าเหรอกบ คุณติณณ์ เขาเป็นเจ้านายเรา เราเลยอยากไปส่งเจ้านายเอาหน้าเฉยๆ อีกอย่างนะ คุณติณณ์ก็อายุไปตั้งห้าสิบกว่าแล้ว มีลูกมีเมีย เต็มบ้านไปหมด บัวไม่มีทางคิดอะไรกับคุณติณณ์หรอก"
กษิดิฐยิ้มเจ้าเล่ห์
"จริงเหรอ แหม..กบว่างพอดี งั้นไปหาเจ้านายบัวดีกว่า จะได้ฝากฝั่งให้ดูแลสวัสดิภาพของพนักงานสาวๆ ให้มันดีๆ ไม่ใช่ปล่อยให้สามีเจ้าของบริษัทพาเข้าโรงแรมอย่างนี้"
กษิดิฐจะเดินไปทางออฟฟิศ มัญจารีบวิ่งไปยืนขวาง
"ไปไม่ได้นะกบ"
ดารินทร์มองท่าทางของกษิดิฐแล้วคิดแผนบางอย่าง
"ไปสิ เดี๋ยวพี่พาไป"
มัญจาคาดไม่ถึง
"พี่รินทร์"
กษิดิฐมองดารินทร์

ดารินทร์เดินนำมัญจากับกษิดิฐมายังทางเดินล็อบบี้ มัญจากระซิบถาม
"พี่จะพากบไปหาคุณติณณ์จริงๆเหรอ"
"ในฐานะที่พี่มีประสบการณ์ทำงานที่นี่มาก่อน พี่ขอบอกว่า คนอย่างคุณกบ ไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ ถ้าเราไม่พามาเจอ มีหวังคุณกบตามสืบหาเองแน่"
"พี่พามาเจออย่างนี้ ผลมันก็ไม่ต่างกันนะ"
"ต่างสิ"
ดารินทร์มองไปเห็นพนักงานผู้ชายแก่และอ้วนเดินมา เธอใช้ศอกกระทุ้งบอกมัญจาให้มอง ผู้ชายคนนั้น มัญจาเห็นผู้ชายแล้วยิ้มดีใจ
"คุณติณณ์มาพอดีเลย สวัสดีค่ะคุณติณณ์"
"สวัสดีครับ คุณมิ้นท์กับคุณรินทร์มาทานข้าวเหรอครับ"
"ใช่ค่ะ นี่คุณติณณ์ไงกบ" มัญจาบอก
กษิดิฐมองผู้ชายแก่อย่างแคลงใจ
"สวัสดีครับ ผมชื่อกษิดิฐ เป็นเพื่อนของบัว"
"อ๋อ คุณบัว สวัสดีครับ ... ผมขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวผมมีประชุมต่อ"
กษิดิฐมองตามผู้ชายแก่และอ้วนอย่างแคลงใจ มัญจากับดารินทร์มองหน้ากันอย่างโล่งอก
"เป็นยังไงล่ะกบ เธอคิดว่าสภาพแบบนี้ บัวจะชอบไหม ถ้าหมดข้อสงสัยแล้ว มิ้นท์กับพี่รินทร์ไปทำงานก่อนนะ"
มัญจากับดารินทร์รีบเดินไปที่ลิฟท์ กษิดิฐไม่อยากเชื่อ

มัญจากับดารินทร์รีบเดินหนี กษิดิฐมายืนรอลิฟท์กับพนักงานคนอื่นๆ
" พี่รินทร์เกือบทำให้มิ้นท์ช็อคตาย"
"ในฐานะที่พี่มีประสบการณ์ทำงานที่นี่มาก่อน พี่รู้ว่าคนชื่อติณณ์ในบริษัทนี้มี 3 คน โชคดีที่คุณติณณ์ฝ่ายการตลาดเดินมาพอดี"
"ขอให้กบเชื่อพวกเราด้วยเถอะ ไม่อย่างนั้น กบต้องป่วนความรักของบัวเหมือนเมื่อก่อนแน่"
ดารินทร์ชะงักคิด
"พี่สงสัยอย่างนึง มิ้นท์บอกว่าคุณกบกับบัวเป็นแค่เพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วเรื่องแต่งงานของสองคนนั้นก็เป็นเพราะคำขอของคุณย่า นั่นก็แปลว่าคุณกบกับบัวไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางใจกันใช่ไหม"
"ใช่ค่ะพี่รินทร์"
"ถ้าอย่างนั้น บัวจะชอบใครมันก็เป็นเรื่องของบัวสิ แล้วคุณกบ มาป่วนทำไม"
มัญจาชะงักแล้วมองตาดารินทร์ที่คิดว่ากษิดิฐอาจจะชอบนลินรึเปล่า
"เฮ้ย เป็นไม่ได้หรอกพี่รินทร์"
"พี่ก็แค่พูดในฐานะที่พี่มีประสบการณ์โดนผู้ชายตามชอบมาก่อน แหม ! ถ้าเป็นอย่างที่พี่คิด เรื่องคงสนุก คุณกบชอบบัว บัวชอบคุณติณณ์ นี่ถ้าคุณติณณ์ชอบบัวด้วย โอ้โห ! สุดหรรษา"
มัญจาคิดถึงแตงกวาขึ้นมา
"แค่นี้ยังไม่สนุก พี่รินทร์ต้องเจออีกคน"

"ใครเหรอ"

ในบ้านกษิดิฐ เวลาต่อเนื่องมา ยศภัทรกำลังเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของกษิดิฐและเช็กอีเมลในเมลของลูกชายที่เปิดค้างอย่างสนุกอยู่ กมลาเดินถือผ้าม่านลงมาซักพร้อมกับเด็กรับใช้ชื่อ “มะขามเปียก”

"เดี๋ยวมะขามเปียกเอาผ้าม่านนี่ไปซักนะ แล้วเอาผ้าม่านผืนใหม่ที่ฉันเอามาจากบ้านสวนมาใส่แทน"
มะขามเปียกโอดครวญ
"หนูซักหมดนี่คนเดียวกลัวไม่ไหวน่ะค่ะคุณนาย"
"เดี๋ยวฉันให้เงินเพิ่มอีกห้าสิบบาท"
มะขามเปียกเปลี่ยนท่าทางทันที
"มีเวลาถมเถ ผ้าแค่นี้ซักหมดสบายๆ"
มะขามเปียกเอากองผ้าม่านไปซักหลังบ้าน กมลาเดินมานั่งข้างๆยศภัทรอย่างเหนื่อยอ่อน
"ตากบนะตากบ อยู่ๆก็กลับมาก่อน ดูสิ ต้องรีบทำความสะอาดบ้านช่อง มือเป็นระวิง นี่ดีนะที่เอามะขามเปียกมาช่วยจากบ้านสวน ขืนแม่ทำคนเดียว คงตาย"
กมลาหันไปมอง ยศภัทรเงียบ
"พ่อทำอะไรน่ะ"
"ตากบมันเปิดคอมทิ้งไว้ พ่อเลยแอบเข้ามาอ่านอีเมลของมันเล่น เผื่อมันมีรูปโป๊"
กมลาปิดหน้าจอโน้ตบุ๊คของกษิดิฐ
"พ่อนี่นะ ถ้ามีเวลาว่างมาก ไปช่วยแม่ทำความสะอาดบ้านไหม หรือไม่ก็ไปเก็บค่าเช่าที่ที่รังสิต คุณแม่ท่านทิ้งที่ดิน ทิ้งบ้าน ให้คนอื่นเช่าตั้งมากมาย พ่อควรจะไปดูแลบ้างนะ ไม่ใช่มาทำอะไร ไร้สาระแบบนี้"
"แต่ในความไร้สาระมันยังมีประโยชน์นะแม่"
"ประโยชน์อะไรของพ่อ"
ยศภัทรชี้ไปที่จอคอมพิวเตอร์ กมลาดูแล้วชะงัก

รถของกษิดิฐขับเข้ามาจอดในโรงรถหน้าบ้าน เขาลงจากรถ ยศภัทรวิ่งพุ่งเข้ามาล็อกแขนของลูกชายพร้อมกับเอาเชือกรัดข้อมือของกษิดิฐไว้ แล้วหยิบไม้ช็อตยุงที่เหน็บไว้ที่ขอบกางเกงมาช็อตขู่กษิดิฐ
"ทำอะไรเนี่ยพ่อ"
"ก็จะสอบสวนความจริงจากผู้ร้ายปากแข็งไง"
ยศภัทรตะโกนเข้าไปในบ้าน
"จับผู้ร้ายได้แล้วครับ ท่านผู้บังคับบัญชา"

กมลาเดินออกมาจากในบ้านแล้วไปตียศภัทร
"พ่อทำอะไรลูกเนี่ย เอาที่ช็อตยุงมาให้แม่"
กมลาดึงไม้ตียุงจากยศภัทรมา กษิดิฐยิ้ม คิดว่าแม่มาช่วย
"เอาไปเก็บเลยครับแม่"
กมลายิ้มเหี้ยม กดที่ช็อตยุงโชว์
"ใครบอกว่าแม่จะเอาไปเก็บ แม่จะเอามาช็อตกบเองนี่แหละ"
"เฮ้ย !นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่ที่แสนดีของกบเนี่ย"
"ไม่ต้องมาพูดดีเลย ! กบบอกแม่มาตรงๆดีกว่า ว่าทำไมกบถึงรีบกลับมาจากอเมริกา"
"อยู่ๆแม่มาสงสัยอะไรตอนนี้เนี่ย กบเรียนจบก็กลับบ้านไงครับ"
กมลากดที่ช็อตยุงเข้าใกล้กษิดิฐมากขึ้น
"แม่ให้โอกาสกบอีกที ทำไมกบถึงรีบกลับจากอเมริกา"
"ก็กบบอกแล้วไงคร้าบ ว่ากบเรียนจบ กบก็อยากรีบกลับมาเปิดบริษัทของตัวเอง วันนี้กบไปเช่าออฟฟิศแล้ว อยู่ตึกเดียวกับบริษัทของบัวด้วย"
กมลาได้ยินก็ดีใจจนโยนที่ช็อตยุงทิ้ง แล้วโผเข้าไปกอดกษิดิฐอย่างดีใจ
"จริงเหรอกบ ทำถูกแล้วลูก"
กษิดิฐรู้ทัน
"ทำถูกที่เปิดบริษัท หรือ ทำถูกที่เช่าออฟฟิศตึกเดียวกับบัวครับ"
กมลายิ้ม
"ทำถูกทั้งสองอย่างล่ะลูก"
ยศภัทรเตือนสติ
"แม่ ! เรื่องนั้นไว้ก่อน ลืมไปแล้วเหรอว่าเรากำลังสอบสวนตากบอยู่"
กมลานึกได้ หยิบไม้ช็อตยุงขึ้นมาขู่ต่อ
"เออ...จริง บอกแม่นะกบว่าที่กบรีบกลับมาเพราะหนีใครมาใช่ไหม"
กษิดิฐชะงัก แต่พยายามนิ่ง ๆ เนียน ๆ ไว้
"แม่พูดอะไร ผมไม่รู้เรื่อง"
ยศภัทรกับกมลามองตากัน ว่ารู้อยู่แล้วว่ากษิดิฐต้องมาไม้นี้ ยศภัทรยิ้มเจ้าเล่ห์ว่ามีหลักฐาน มัดตัวกษิดิฐไว้แล้ว

ยศภัทรจับลูกชายนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ กษิดิฐอ่านอีเมลตรงหน้าแล้วยังทำหน้าไม่รู้เรื่อง
"ก็แค่อีเมล ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่พ่อ"
"อย่ามาเฉไฉตากบ นี่ถ้าพ่อไม่แอบดูอีเมลของกบ พ่อกับแม่คงไม่รู้ว่าที่กบรีบกลับเพราะหนีเขามา" ยศภัทรบอก
กมลาถอนใจหนักใจ
"ตากบนะตากบ ทำอย่างนี้อีกแล้ว กบคิดเหรอว่าหนีเขามาแบบนี้ แล้วเขาจะไม่ตามมาน่ะ"
กษิดิฐเฉไฉ
"หิ๊ว หิว แม่มีอะไรกินบ้างอ่ะ"
"ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง กบติดต่อกลับหาเขาเลยนะ คุยกับเขาให้รู้เรื่อง อย่าปล่อยให้เรื่องมันเป็นแบบนี้"
กษิดิฐยังเฉไฉ
"พ่อ ตอนนี้แม่ติดพระเอกเกาหลีชื่ออะไรน่ะ"
"วอน ดง ซอก"
"ชื่อพระเอกของแม่ฟังแปลกๆเนอะ"
"ไม่ใช่ชื่อพระเอกของแม่หรอก แต่หมายถึงกบน่ะ..วอนโดนช็อต"
ยศภัทรชูไม้ช็อตยุง
"เลิกเฉไฉ แล้วไปจัดการอย่างที่แม่เขาบอก"
กษิดิฐอิดออด เพราะรู้ว่าทำตามที่กมลาบอกไปก็ไม่มีประโยชน์
"แต่ว่า..."
กมลาเสียงเด็ดขาด
"ห้ามมีแต่ ถ้ากบเหลวไหลเรื่องอื่นแม่จะไม่ยุ่ง แต่เรื่องนี้แม่ปล่อยไม่ได้ เพราะถ้าขืนกบไม่คุยกับเขาให้รู้เรื่อง ถ้าเขาตามกบกลับมา คนที่ซวยมันไม่ใช่กบคนเดียว แต่ยังมีคนอื่นด้วย..กบก็รู้นะว่าใคร"
กษิดิฐเข้าใจว่า กมลากลัวว่าถ้าแตงกวากลับมา นอกจากแตงกวาจะอาละวาดกับกษิดิฐแล้ว คนที่ซวยไปด้วยคือนลิน

บนโต๊ะทำงาน เวลาเย็น นลินกำลังเปิดแฟ้มข้อมูลแคมเปญโฆษณา พร้อมกับดูคอมพิวเตอร์ไปด้วย

ดารินทร์ที่อยู่โต๊ะข้างๆเริ่มเก็บของหันมาพูดกับนลิน

"เป็นไงบ้างบัว...จะเสร็จหรือยัง"
นลินก้มหน้าก้มตาทำงานพร้อมพูด
"ยังไม่เสร็จเลยค่ะพี่รินทร์ สงสัยคืนนี้คงดึกแน่ๆ"
มัญจาล้อ
"คนเก่งอย่างบัว ถ้าจะคิดก็ใช้เวลาไม่นานหรอก แต่นี่ที่คิดนาน เพราะจงใจจะรอส่งใครบางคนมากกว่า"
นลินปราม
"พูดจาเหลวไหลน่ามิ้นท์"
ดารินทร์ดูนาฬิกาบอก
"ห้าโมงแล้ว ในฐานะที่พี่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน พี่ขอบอกว่าพี่ต้องรีบไปแล้ว ไม่อย่างนั้นรถจะติดอย่างแรง วันนี้ต้องพาพี่ภพกับลูกไปซื้อของเข้าบ้านด้วย"
"ขอมิ้นท์ติดรถพี่รินทร์เหมือนเดินนะคะ"
สารัชเดินเสนอหน้ามาทันที
"เดี๋ยวผมอยู่เป็นเพื่อนคุณบัวเองครับ"
"ได้ข่าวว่าวันนี้พ่อแม่นายมาหาจากต่างจังหวัดไม่ใช่เหรอ" ดารินทร์ถาม
สารัชเพิ่งนึกได้
"เฮ้ย ! ตายแล้ว ลืมไปรับพ่อแม่ที่หมอชิต ผมไปก่อนนะครับ"
สารัชรีบวิ่งออกไปทันที
"บัวอยู่ได้ไหม กลัวคุณปราณรึเปล่า เดี๋ยวพี่บอก รปภ. มาเดินแถวบัวบ่อยๆให้เอาไหม" ดารินทร์ถาม
"ไม่เป็นไรค่ะ บัวอยู่ได้ บัวเคยพลาดไปทีนึงแล้ว ทีนี้บัวจะระวังตัวมากขึ้น ไม่ให้พลาดอีก"
"งั้นก็ตามใจ พี่ไปก่อนนะ"
"อย่าลืมคิดคำสวยๆให้สมกับเป็นครีเอทีฟไปบอกลาคุณติณณ์ล่ะ" มัญจาบอก
นลินทำหน้าเซ็ง มัญจากับดารินทร์เดินออกจากออฟฟิศไป นลินหันไปมองทางห้องทำงานติณณ์ว่า จะคิดคำดีๆบอกลาติณณ์ ดีไหม แล้วตัดใจเพราะกลัวจะดูออกอาการนอกหน้าเกินไป เธอก้มหน้าทำงานต่อ
บรรยากาศท้องฟ้าสีออกแดงบ่งบอกเวลายามเย็นภายนอกหน้าต่าง

บรรยากาศท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว กษิดิฐกำลังโทรหานลินพร้อมกับเดินไปเดินมาอย่างกังวลอยู่ในสนามหน้าบ้าน เพราะนลินไม่รับสาย เขาเดินงุ่นง่านคิดว่าถ้าไปรับตัวนลินกลับ นลินต้องไม่กลับมาง่ายๆแน่ ก่อนคิดบางอย่างออก แล้วขับออกไปทันที
กมลาเดินออกมาจะตามลูกชายเข้าบ้าน แต่เห็นกษิดิฐขับรถออกไป
"ตากบ ! ไปไหนลูก"

นาฬิกาที่วางบนโต๊ะติณณ์บอกเวลาสามทุ่ม เขาปิดคอมพิวเตอร์ เก็บของบนโต๊ะ หยิบกระเป๋าที่วางข้างๆกับ กระเป๋าเดินทางที่วางชิดผนังไว้ขึ้น เปิดเพื่อจะเก็บโน้ตบุ๊ก เขามองในกระเป๋าแล้ว ชะงัก เมื่อเห็นดอกกุหลาบสีขาวเสียบอยู่ในกระเป๋า เขาหยิบขึ้นมาดมพร้อมกับคิด
"อีกตั้งสามเดือนกว่าจะได้เจอกัน จะลองให้เขาสักครั้งดีไหม"
ติณณ์มองดอกกุหลาบอย่างลังเล

บนโต๊ะทำงาน นลินนั่งเปิดนิตยสาร AD เล่มโตของต่างประเทศเพื่อหาไอเดียอย่างเคร่งเครียด แล้วเหลือบมองไปที่ห้องทำงานของติณณ์ ก่อนเรียกสมาธิกลับมาคิดงานต่อ เธอ เหลือบมองไปอีกครั้งก่อนส่ายหน้าไล่ความคิดที่รบกวนสมาธิออกไป
นลินถอนใจแล้วหยิบแก้วน้ำมาดื่ม แต่น้ำในแก้วหมด เธอถือแก้วแล้วเดินไปเติมน้ำในห้องพักดื่มกาแฟ
ติณณ์เดินลากกระเป๋าเดินทางมาจากทางห้องทำงาน เขาเดินผ่านมาที่โต๊ะเห็นบนโต๊ะยังเปิดคอมพิวเตอร์และ นิตยสาร ADโฆษณาของต่างประเทศ ยังเปิดค้างไว้อยู่
"คุณบัวยังไม่กลับอีกเหรอเนี่ย"
เขามองซ้ายมองขวาแล้วก้มลงเปิดกระเป๋าตัวเอง หยิบดอกกุหลาบขาวขึ้นมามองอย่างชั่งใจก่อนตัดสินใจเอื้อมมือลงวาง จังหวะนั้น นลินเดินถือแก้วน้ำและมองจานรองแก้วที่มีมดติดอยู่ เธอจะเขี่ยมดออกแล้วเผลอทำจานรองแก้วตกพื้นดัง เพล้ง !
ติณณ์ตกใจรีบเอาดอกกุหลาบขาวเก็บใส่กระเป๋าทันที
นลินเก็บจานรองแก้วขึ้นมาแล้วเงยหน้าเห็นติณณ์
นลินและติณณ์พูดขึ้นพร้อมกัน
"เอ่อ"
ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วขำที่ต่างพูดพร้อมกันอีกแล้ว
"คุณติณณ์พูดก่อนเถอะค่ะ"
ติณณ์ยิ้มขอบคุณ
"ผมจะบอกว่าผมเพิ่งรู้ว่าพี่ณุกาให้คุณทำแคมเปญ ให้เสร็จในคืนนี้เหรอครับ"
นลินตื่นเต้น พูดอะไรไม่ออก นอกจาก
"ค่ะ"
"ยังไงก็ขอให้คุณบัวพยายามนะครับ"
"ค่ะ"
"หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกัน"
"ค่ะ"
ติณณ์มองนลินโดยแอบหวังว่า นลินจะพูดอะไรดีๆกับเขาบ้าง แต่เธอกลับตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก
"เอ่อ...ผมไปก่อนนะครับ"
"ค่ะ"
ติณณ์ยิ้มให้นลินแล้วเดินลากกระเป๋าเดินทางเลยผ่านเธอไป เธอมองตามแล้วเอามือเคาะหัวตัวเองด้วยความเซ็ง แล้วกุมหัวอย่างระอาตัวเอง
"พูดเป็นแต่คำว่า ค่ะ รึไงยายบัว"

ติณณ์เดินมาหยุดที่หน้าลิฟท์ แล้วเปิดกระเป๋าหยิบกุหลาบขึ้นพึมพำกับตัวเอง
"แค่ถือดอกไม้ไปให้เขาเอง นายติณณ์"
ติณณ์วางกระเป๋าเดินทางพิงผนังไว้ แล้วเดินถือดอกกุหลาบกลับไปหานลิน

นลินเดินวนไปวนมาอยู่หน้าโต๊ะทำงานตัวเองอย่างลังเล แล้วพูดให้กำลังใจตัวเอง
"ทีกับเรื่องคุณปราณยังไม่กลัว แล้วจะกลัวอะไรกับพูดอวยพรคุณติณณ์"

สุดท้ายนลินตัดสินใจวิ่งออกไปทางหน้าลิฟท์

ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 2 (ต่อ)
 
หน้าลิฟท์ ไม่มีใครยืนอยู่ มุมที่ติณณ์เคยวางกระเป๋าเดินทางไว้ ตอนนี้กระเป๋าเดินทางหายไปแล้ว นลินมองที่หน้าจอแสดงตัวเลขขึ้น - ลงของลิฟท์ เห็นตัวเลขกำลังลดลง เธอถอนใจทำท่าท้อใจกับตัวเอง

บริเวณล็อบบี้ ประตูลิฟท์เปิด ติณณ์เดินออกจากลิฟท์ด้วยสีหน้าเซ็งตัวเองที่ไม่กล้าให้ดอกกุหลาบกับนลิน พนักงาน 2 คนเดินออกจากลิฟท์ตัวอื่นเดินคุยผ่านหน้าไป
"น่าสงสารยายตูนเนอะ เพิ่งแต่งงานได้สองอาทิตย์ แฟนก็รถคว่ำตายซะก่อน"
"นั่นน่ะสิ ยายตูนร้องไห้ไม่หยุดเลยนะ มันบอกว่ามันยังบอกรักแฟนมันไม่พอเลย...เศร้าแล้วเนอะ"
"คนเราก็อย่างเนี่ยนะ คิดว่าเราคงอยู่ด้วยกันอีกนาน เลยไม่ค่อยบอกรักกัน พอจะบอกอีกที ก็สายไปแล้ว ฉันโทรไปบอกรักแฟนดีกว่า"
พนักงานสาวคนนั้นหยิบมือถือมากดโทร. ติณณ์ฟังพนักงานพูดแล้วก็ชะงักคิด ตัดสินใจเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดประตูลิฟท์

นลินเดินคอตกเซ็งๆมานั่งที่เก้าอี้ แล้วก้มหน้าทำงานต่อ ทางด้านหลัง เธอได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินตรงมาที่โต๊ะทำงานของเธอ เธอชะงัก พึมพำกับตัวเอง
" หรือว่าคุณติณณ์ลืมของ คุณติณณ์ลืม..."
นลินเงยหน้า ยิ้มสวยเพราะคิดว่า ติณณ์ แล้วก็ต้องหุบยิ้ม ชะงัก กับผู้ชายที่ยืนข้างโต๊ะทำงาน
"กบ"
กษิดิฐมองนลินที่ยิ้มและเรียกชื่อติณณ์ แล้วชะงักกึก เพราะไม่เคยเห็นรอยยิ้มของเธอในแบบนี้มาก่อน
"เมื่อกี้เรียกกบว่าอะไรนะ"

ติณณ์เดินถือดอกกุหลาบด้วยท่าทางตื่นเต้น พยายามข่มความไม่มั่นใจเดินไปหานลิน แต่แล้วเขากลับเห็นนลินยืนคุยอยู่กับกษิดิฐ จึงตัดสินใจเก็บดอกกุหลาบแล้วเดินไปขึ้นลิฟท์

กษิดิฐยังมองนลินอย่างสงสัย
"นี่บัวอย่าบอกนะว่าที่บัวทำงานดึกเพราะรอคุณติณณ์น่ะ"
นลินนึกถึงเรื่องที่มัญจากับดารินทร์เล่าให้ฟังตอนบ่าย

เมื่อตอนบ่าย ดารินทร์กับมัญจากำลังเมาท์เรื่องที่พากษิดิฐไปเจอคุณติณณ์ฝ่ายการตลาด
"อยู่ๆกบก็อยากเจอคุณติณณ์ซะงั้น ดีนะที่พี่รินทร์คิดเร็ว เลยพากบไปเจอคุณติณณ์ฝ่ายตลาดแทน" มัญจาว่า
"แต่พี่รู้สึกว่าคุณกบไม่ค่อยเชื่อเท่าไร ยังไงถ้าคุณกบถามบัว บัวต้องตอบลักษณะแบบคุณติณณ์การตลาดนะ ไม่ใช่คุณติณณ์ของเรา" ดารินทร์บอก
นลินมองหน้ากษิดิฐแล้วรีบอธิบาย
"เปล่า ที่บัวอยู่ดึกเพราะบัวทำงาน แหม บัวจะไปรอคุณติณณ์ทำไม เขามีลูกมีเมียแล้วนะกบ ว่าแต่กบเถอะ มาทำไม"
กษิดิฐไม่เชื่อสายตาคู่นั้นของนลิน แต่พยายามเก็บความรู้สึกไว้แล้ว แล้วทำเป็นพูดเหวี่ยงๆกับนลิน
"กบโทรหาตั้งหลายครั้ง ทำไมไม่ยอมรับ ก็นึกว่าโดนฉุดรอบสอง"
นลินเซ็ง
"จะรับได้ยังไง ก็มือถือบัวตกอยู่ในรถกบน่ะ"
"อ้าว ! แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่เมื่อตอนกลางวัน ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา จะเรียกใครมาช่วยได้"
"กบเห็นแล้วนี่ว่าบัวไม่เป็นอะไร กบกลับไปเถอะ บัวจะทำงานต่อ"
นลินก้มหน้าดูงานในหนังสือ AD โฆษณาของต่างประเทศต่อ กษิดิฐดึงหนังสือจากมือและปิดคอมพิวเตอร์ แล้วกวาดอุปกรณ์ทำงานบนโต๊ะทำงานของนลินใส่กระเป๋า
"กบทำอะไรเนี่ย"
กษิดิฐยียวน
"กำลังแข่งวิ่งควายอยู่"
"นายกบ ! นายมาเก็บของๆบัวทำไม"
"ก็จะพาไปทำต่อที่บ้านไง...เร็วๆ พ่อแม่ของกบรอกินข้าวกับบัวอยู่ วันนี้แม่เขาเลี้ยงต้อนรับกบกลับมา แม่บอกว่าถ้าบัวไม่กลับ แม่ก็จะนั่งรอ"
กษิดิฐดึงกระเป๋าของนลินแล้วเดินไป
"แต่ว่า..."
กษิดิฐเดินไปปิดสวิตซ์ไฟ ทำให้ทั้งแผนกไฟดับมืด
"ระวังผีตาโบ๋โผล่มานะ แบร่ !"
กษิดิฐวิ่งออกไปทางหน้าออฟฟิศ นลินเซ็งโคตร
"ทำไมคนที่ไม่อยากเจอถึงได้เจอ แต่คนที่อยากเจอทำไมเขาไม่มา"

นลินเดินนำกษิดิฐเข้ามา แล้วส่ายตามองหายศภัทร กมลา แต่ไม่เจอใครนั่งที่โต๊ะอาหารเลย
"ไหนกบบอกว่าพ่อแม่กบรอบัวอยู่ไง แล้วไหนพ่อแม่กบล่ะ"
"นี่มันห้าทุ่มกว่าแล้วนะจ้ะแม่คุณ ใครจะไปนั่งหิ้วท้องรอคุณบัวได้ล่ะ ป่านนี้พ่อแม่ของกบนอนกรนสนั่นบ้านไปแล้ว"
"อ้าว ! ถ้าทานกันเสร็จแล้ว กบจะลากบัวมาจากออฟฟิศทำไม"
กษิดิฐแกล้งทำหน้าซื่อ
"เออ นั่นสิเนอะ"
นลินแทบคลั่ง
"นายกบ"
กมลากับยศภัทรสวมชุดนอนเดินลงบันไดมา
"มีเรื่องอะไรกันจ้ะหนูบัว"
นลินพยายามใจเย็น
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณป้า บัวขอโทษนะคะ ที่มากินเลี้ยงต้อนรับกบกับคุณป้าไม่ทัน"
กมลามองกษิดิฐอย่างงงๆ
"กินเลี้ยงอะไรกันเหรอจ้ะ ป้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย"
นลินอึ้ง มองกษิดิฐ
"อ้าว ! จะอธิบายยังไงนายกบ"
นลินกับกมลา ยศภัทรจ้องหน้าเอาเรื่องว่ากษิดิฐกำลังเล่นอะไร เขามองหน้าทุกคนแล้วทำหน้าง่วงพร้อมหาว
"ง๊วง ง่วง สงสัยจะเจ็ตแล็กไปนอนดีกว่า"
กษิดิฐเดินขึ้นบันไดแล้วแอบยิ้มพึมพำ โดยไม่สนนลิน
"ยังหลอกง่ายจริงๆ..คุณนายบัวเอ้ย"
นลินโมโห
"นายกบ ! ลงมาคุยให้รู้เรื่องนะ"

นลินมองกษิดิฐอย่างแค้น

นลินเดินหงุดหงิดเข้ามาในห้องนอนมาแล้วรีบเปิดคอมพิวเตอร์รีบทำงานต่อ

"นายกบนะนายกบ เคยสร้างความวุ่นวายให้กับชีวิตยังไง ก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้น ดีนะที่หลอกเรื่องคุณติณณ์ได้ ไม่อย่างนั้น ล่ะก้อ... โอ้ย ไม่อยากจะคิด"
นลินรีบทำงานต่ออย่างเครียดเพราะกลัวไม่เสร็จไม่ทันพรุ่งนี้

กษิดิฐยืนคิดอยู่ที่หน้าต่าง สายตามองไปทางหน้าต่างห้องนอนนลิน แล้วคิดถึงติณณ์ที่มัญจากับดารินทร์พาไปเจอเมื่อกลางวัน และที่นลินเผลอปากเรียก "คุณติณณ์" ที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ
กษิดิฐนั่งคิดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
"คิดว่าจะหลอกกันได้เหรอ พรุ่งนี้มีเรื่องสนุกๆทำแล้วสิ"
กษิดิฐเดินไปขึ้นเตียงแล้วปิดไฟหัวเตียงทิ้งตัวนอน โทรศัพท์มือถือของเขาที่เสียบสายชาร์ตแบตวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมีแสงไฟวาบๆ บอกว่ามีสายเข้า 25 สาย

คืนวันเดียวกัน แตงกวาลงจากรถพร้อมกับโทรหากษิดิฐ คนรับใช้และคนขับรถช่วยกันขนกระเป๋าเดินทางของแตงกวาเข้าไปเก็บบนห้อง กษิดิฐไม่ยอมรับสาย แตงกวากดวางสายอย่างโมโห
"คิดว่าจะหนีแตงกวาพ้นเหรอ กบ"

เช้าวันรุ่งขึ้น นาฬิกาบอกเวลา 6.00 น. นลินยังใส่ชุดทำงานตัวเดิมนั่งเขียนงานอยู่ที่โต๊ะทำงาน นันทิดาเปิดประตูห้องลูกสาวเข้ามาแล้วอุทาน
"ได้นอนบ้างรึยังลูก หกโมงเช้าแล้วนะ"
นลินมองนาฬิกา
"ว้าย ! หกโมงแล้วเหรอคะ บัวไปอาบน้ำก่อนนะคะแม่"
นลินรีบวิ่งไปหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ในตู้เสื้อผ้า
"รีบๆนะลูก กบมานั่งรอบัวพักนึงแล้ว"
นลินโผล่หน้าออกจากห้องน้ำ
"แล้วกบมารอบัวทำไมคะแม่"

ภายในห้องรับแขก ชลัชใส่ชุดทำงานมองกษิดิฐอย่างไม่พอใจ
"ใครสั่งให้นายคอยรับคอยส่งลูกบัวไปทำงาน"
"คุณย่าครับ"
ชลัชเซ็ง
"นี่อย่ามาพูดเล่นกับฉันนะ"
"ผมไม่ได้พูดเล่น คุณย่าเคยสั่งให้ผมคอยรับคอยส่งบัวตลอด คุณอาลืมไปแล้วเหรอครับ งั้นเดี๋ยวผมจุดธูปเรียกคุณย่ามายืนยันอีกที"
"ไม่ต้อง"
กษิดิฐพูดล้อๆขำๆ
"อ้อ ผมลืมไปว่าคุณอากลัวผี"
ชลัชฉุนที่โดนล้อ
"นายกบ"
กษิดิฐแอบขำ กมลาเดินเข้ามาหากษิดิฐ กมลาพูดกับกับชลัช
"สวัสดีค่ะคุณชลัช ตากบ ! มีคนมาหา"
"ใครเหรอแม่"
กมลาพูดเสียงไม่ค่อยชอบใจ
"ไปดูเองแล้วกัน"
กษิดิฐลุกขึ้นแล้วเดินออกจากบ้านไปพร้อมกมลา ชลัชทำนั่งนิ่ง ไม่สนใจอยากรู้ แต่พอกษิดิฐกับกมลาออกจากบ้านไปแล้ว ชลัชก็รีบลุกขึ้น ชะเง้อมองทางหน้าต่างอย่างอยากรู้อยากเห็นทันที
"ใครมาหาตากบแต่เช้าเนี่ย"

กษิดิฐเดินเข้าบ้านพร้อมกับกมลา เขามองไปที่ผู้หญิงซึ่งนั่งหันหลังให้เขาคุยกับยศภัทร อยู่ กษิดิฐพยายามทำเสียงร่าเริง
"กลับมาแล้วเหรอ..แตงกวา"
แตงกวายิ้ม รอยยอ้มนั้นเหมือนยิ้มเยาะกษิดิฐ
"ก็หลังจากที่แตงกวารู้ว่า กบโกหกว่าไปเที่ยวซานฟรานกับเพื่อน แต่ความจริงหนีกลับเมืองไทย แตงกวาก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม"
กษิดิฐชะงัก แล้วพยายามทำหน้าระรื่น
"กบจะหนีแตงกวามาทำไม"
"ตากบ หนูแตงกวาบอกพ่อกับแม่ว่า ตอนอยู่อเมริกา แกรับปากจะแต่งงานกับหนูแตงกวาเหรอ"
กษิดิฐมองแตงกวาอย่างคาดไม่ถึง
"แต่งงาน"
"ตกลงมันยังไงตากบ บอกแม่มาสิ"
แตงกวายิ้มเยาะ กษิดิฐมองแตงกวาอย่างไม่พอใจ แล้วดึงแตงกวาให้ลุกขึ้น
"ไปคุยกันข้างนอก"
กษิดิฐดึงแขนแตงกวาเดินออกไป
"เอาล่ะสิ ภาพมันคุ้นๆ เหมือนเคยเกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนเลยนะแม่"ยศภัทรบอก"ใช่ ตอนนั้นตากบกำลังจะเรียนจบ หนูแตงกวาก็ตามมาพูดเรื่องแต่งงานอย่างนี้เลย แต่ไปๆมาๆ คุณแม่ก็ให้ตากบกับหนูบัวแต่งงานกันซะงั้น"
"ใช่ แล้วคราวนี้ล่ะ แม่ว่าตากบจะเสร็จหนูแตงกวา หรือจะมีพลิกล็อกเหมือนเมื่อครั้งก่อนอีก"
กมลามองไปทางหน้าบ้านเพราะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ในใจของกมลานั้น ลุ้นขอให้เกิดพลิกล็อกอีกครั้ง

กษิดิฐดึงแขนแตงกวาเดินมาที่รถของแตงกวาที่จอดอยู่หน้าบ้าน
"แตงกวาเล่นอย่างนี้อีกแล้วนะ"
"ก็ช่วยไม่ได้ กบอยากหนีแตงกวามาเองทำไมล่ะ"
กษิดิฐถอนใจอย่างเซ็งโคตร
"ก็แตงกวาเล่นพูดเรื่องแต่งงานกับกบทุกวัน กบบอกแล้วไงว่า กบไม่เคยพูดเรื่องแต่งงานกับใครทั้งนั้น"
กษิดิฐเผลอไปมองทางบ้านนลิน ในใจลึกๆที่กษิดิฐยังไม่รู้ตัวคือ เขาคิดจะแต่งงานกับนลินคนเดียวเท่านั้น
"กบรับปากรึเปล่าไม่รู้ แต่แตงกวาบอกเรื่องนี้กับพ่อไปแล้ว"
กษิดิฐถอนใจ
"อะไรนะ แตงกวาทำอย่างนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ยังไงกบก็ไม่แต่ง"
แตงกวายิ้มเหมือนคนรู้ทัน

"คอยดูแล้วกัน แตงกวาจะทำให้กบเปลี่ยนคำพูด"

แตงกวาเดินไปขึ้นรถ เขามองอย่างสงสัย

"แตงกวาจะทำอะไร"
แตงกวามองไปทางบ้านนลินแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
"ถ้าบอก.. ก็ไม่สนุกสิ"
แตงกวาก่อนจะขับรถออกไปได้เลื่อนกระจกลงแล้วพูดกับเขา
"กบรู้จักบริษัทภัทร แอดเวอร์ไทซิ่งไหม"
"อะไรนะ"
แตงกวาหัวเราะเสียงเยาะเย้ยแล้วขับรถออกไปทันที
"ชักได้กลิ่นไม่ดีแฮะ"
นลินชะโงกหน้าข้ามรั้วตะโกนเรียกกษิดิฐ
"กบ จะไปส่งบัวเหรอ งั้นไปเร็ว ! บัวรีบ"
กษิดิฐมองรถแตงกวาที่แล่นออกไป และนลินสลับกันไป

กษิดิฐขับรถพลางคิดเรื่องที่แตงกวาพูดทิ้งท้ายไว้ แล้วเหลือบมองนลินที่นั่งอ่านงานในไอแพคเพื่อทบทวน เขาตัดสินใจถาม
"บัว"
นลินพูดพร้อมอ่านไอแพค
"มีอะไรก็พูดมาเร็วๆ บัวจะทบทวนงานก่อนพรีเซนต์"
"เอ่อ...บัวได้ข่าวแตงกวาบ้างไหม"
นลินได้ยินชื่อก็ชะงัก คิดถึงอดีตคืนที่หลังจากคุณย่ายอแสงเสีย แล้วนลินเห็นแตงกวา อยู่ในสภาพเหมือนนอนกับกษิดิฐ ทำให้นลินทนไม่ได้จึงขอหย่ากับกษิดิฐ นลินพยายามทำสีหน้าปกติ ไม่ให้กษิดิฐเห็นอาการบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในใจมานาน
นลินพูดพร้อมอ่านไอแพค
"บัวต้องถามกบมากกว่ามั้ง ก็แตงกวาตามไปเรียนต่อกับกบไม่ใช่เหรอ"
กษิดิฐถามย้ำ
"ตกลงแตงกวาไม่ได้วนเวียนแถวชีวิตบัวใช่ไหม"
นลินมองเขาอย่างงงๆ
"เปล่า มีอะไรรึเปล่ากบ"
กษิดิฐรีบทำเป็นเนียนปกติ
"เปล่า ...แล้วบริษัทบัวชื่อว่าอะไรนะ"
"ภัทร แอดเวอร์ไทซิ่ง"
กษิดิฐชะงัก
"เอาแล้วไง"
"นี่กบดูแปลกๆจริงนะ ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆเลยใช่ไหม"
กษิดิฐรีบเฉไฉ
"เปล่า ไม่มีอะไร แค่หาเรื่องคุยแก้ง่วง"
"ง่วงแล้วทำไมไม่นอนล่ะ จะมาส่งบัวทำไม"
"กบจะไปเซ็นต์สัญญาเช่าออฟฟิศด้วย ก็เลยรอมาพร้อมกัน ประหยัดน้ำมันลดโลกร้อนไงครับคุณนาย นี่ได้นอนรึยัง"
"ยัง ...แต่โอเคอยู่ ระดับบัวแล้ว อดนอนสองวันยังได้เลย"
นลินยักคิ้วท้าทายให้ แล้วหันไปมองบรรยากาศข้างนอก
"กบ...ตอนนี้ที่เกาหลีหนาวไหม"
กษิดิฐยียวน
"จะไปรู้เหรอ ไม่ใช่คนเกาหลี"
นลินเซ็ง
"ก็เห็นว่าไปเรียนต่อตั้งเมืองนอก นึกว่าจะรู้น่ะสิ"
"กบไปเรียนสถาปัตย์นะ ไม่ได้ไปเรียนภูมิศาสตร์ ถึงจะได้รู้สภาพอากาศทุกประเทศ แล้วบัวจะถามทำไม หรือว่าใครไปเกาหลี"
ไม่ได้ยินเสียงเธอพูดตอบ เขาหันไปมองเธอนอนพิงหัวกับกระจกหลับไปแล้ว เขามองขำ
"ไหนบอกว่าอดนอนสองวันยังไหวไง"
กษิดิฐมองนลินหลับอย่างอ่อนเพลีย ก่อนเอื้อมมือไปปรับช่องแอร์ให้ใบพัดทิศทางลมของแอร์พ้นตัวเธอ แล้วเอื้อมมือไปหยิบแจ็คเก็ตที่เบาะหลังมาคลุมตัวให้
"รู้ว่าตัวเองเป็นคนขี้หนาว ก็ยังจะชอบปรับแอร์ใส่ตัวอีก"
เขาเห็นว่าแสงแดดส่องเข้าตานลินจึงหันไปมองหาของมาบังแสงแดดให้ แต่ไม่มีของอะไรที่จะใช้ได้เลย เขาจึงค่อยๆเอื้อมมือกันแดดไม่ให้เข้าตานลิน พอดีรถเคลื่อน กษิดิฐก็เอามือไปจับพวงมาลัย นลินขยับตัวนิดหน่อยเพราะแดดส่องตา เขารีบเอื้อมมือข้างนึงไปบังแดดให้ แล้วใช้มืออีกข้างบังคับพวงมาลัย
กษิดิฐมองนลินอย่างระอา
"ทำงานจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนอย่างนี้ หวังว่าเจ้านายของบัวจะไม่ตุกติกอย่างที่กบคิดนะ"

รถแวนคันหรูของอณุกาขับเข้ามาจอดหน้าตึก ประตูรถเปิดโดยอัตโนมัติ ปราณก้าวลงมาก่อน แล้วยืนรอหน้าประตูรถพร้อมยื่นมือรอรับมือของอณุกาที่ก้าวลงจากรถด้วยมาดนางพญา ทรายแก้วรีบวิ่งถือแฟ้มตารางนัดหมายเข้ามาหา
"นลินทำงานเสร็จไหม"
"เมื่อเช้าคุณบัวโทรมาบอกว่าคิดงานเสร็จแล้ว พร้อมพรีเซ็นต์ค่ะ"
อณุกายิ้มเยาะ
"ดี ! สมแล้วที่เป็นครีเอทีฟมือรางวัล แต่น่าเสียดาย"
"เสียดายอะไรเหรอคะ"
อณุกาไม่ตอบทรายแก้ว แล้วเดินมาดมั่นเข้าตึกไป
ปราณบอกทรายแก้ว
"รีบโทรตามนลินให้รีบมาเร็วๆสิ แล้วเธอจะรู้เองว่าคุณณุกาเสียดายอะไร"
ปราณเดินตามอณุกาเข้าตึกไป ทรายแก้วมองตามงงๆแล้วรีบหยิบมือถือกดโทรหานลิน

กษิดิฐเอื้อมมือไปบังแดดให้นลิน เสียงมือถือนลินดัง กษิดิฐรีบดึงมือกลับมาจับพวงมาลัยเหมือนปกติทันที
นลินสะดุ้งตื่น แล้วหยิบมือถือจากในกระเป๋ามากดรับสายของทรายแก้ว
"ค่ะคุณทราย ข้ามแยกไฟแดงนี้ก็ถึงตึกแล้วค่ะ ...ขอบคุณค่ะ"
นลินกดวางสายแล้วหันไปพูดเร่งกษิดิฐ
"ไฟเขียวแล้ว รีบๆแซงเร็วสิกบ"
"ใจเย็นๆจ้ะแม่คุณ ถ้าไปถึงช้าแล้วเขาจะไล่ออก ก็ให้ไล่ไปเลย"
เธอหงุดหงิดกับความยียวนของเขา
"กบ ! นี่บัวไม่ได้ล้อเล่นนะ"
"บัว...ถ้าสมมุติเจ้านายบัวตุกติก หรือมันมีบางอย่างไม่คาดฝันเกิดขึ้น แล้วบัวไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง บัวจะเสียใจไหม"
"คุณอณุกาไม่มีทางตุกติกบัวหรอก คุณอณุกาเป็นคนพูดคำไหน ต้องเป็นคำนั้น ไม่เคยตุกติกใคร แล้วบัวก็มั่นใจว่างานของบัว ต้องทำให้ลูกค้าพอใจ"

นลินยิ้มและพูดด้วยความเชื่อมั่น

ในเวลาต่อมา อณุกา ลูกค้าและหุ้นส่วนชาวเกาหลีนั่งฟังอยู่เต็มโต๊ะประชุม บรรยากาศดูจริงจัง อึมครึม

นลินโชว์พรีเซนเตชั่นและ พูดพรีเซนต์คอนเซปต์แคมเปญโฆษณาประกันภัยอยู่
"ดิฉันขอสรุปโฆษณาชิ้นนี้อีกครั้งนะคะว่า เราจะเสนอภาพประกันภัยเราเหมือนเพื่อนข้างบ้านที่เกิดพร้อมกัน เติบโตมาด้วยกัน แล้ววันนึงเพื่อนสนิทก็ถูกลืม จนกระทั่งวันนึงที่เพื่อน อีกคนเดือดร้อน เพื่อนสนิทคนนี้คือคนแรกที่ไปยืนเคียงข้าง ไม่เคยทิ้งไปไหน ซึ่งแคมเปญโฆษณาชุดนี้จะอยู่ภายใต้ คอนเซปต์ที่ว่า ..เรามักเห็นความสำคัญของคนใกล้ตัวเป็นคนสุดท้าย แต่เราคิดถึงคุณเป็นคนแรกเสมอ ...ไทยวัฒนาประกันภัย อยู่เคียงข้างคุณตั้งแต่วันแรกและ ตลอดไป"
ทุกคนในห้องประชุมนั่งนิ่งเงียบ
นลินชะงักมองทุกคนในห้องประชุมอย่างประหม่าเพราะไม่เห็นใครแสดงอาการใดๆ
"นี่คืองานที่คุณคิดเมื่อคืนนี้เหรอ... คุณนลิน"
"ใช่ค่ะ"
"ใช้เวลาแค่คืนเดียวเนี่ยนะ"
นลินประหม่า
"ใช่ค่ะ"
ลูกค้าหันไปมองหน้ากันเงียบๆ
"เอ่อ...ถ้ามีข้อบกพร่อง บัวจะไม่โทษเรื่องเวลา แต่จะโทษว่าบัวคิดไม่มากพอ ยังไงบัวขอโอกาสกลับไปแก้ไขอีกครั้ง บัวรับรองว่างาน..."
ลูกค้ารีบพูดแทรก
"พอ !"
นลินชะงักคิดว่า ลูกค้าไม่ชอบผลงานแน่ๆ เธอมองไปทางอณุกาที่นั่งนิ่งไม่แสดงความรู้สึกอะไร เธอเริ่มใจเสียที่กำลังจะเสียโอกาสได้เลื่อนตำแหน่ง นลินพยายามจะเจรจากับลูกค้า
"เอ่อ...คือบัว"
ลูกค้าและคนอื่นๆในห้องประชุมต่างค่อยๆลุกขึ้นยืน ปรบมือให้นลิน
"คุณเก่งมาก...คุณนลิน"
นลินยิ้มขอบคุณให้กับทุกคนแล้วมองไปทางอณุกา
รอยยิ้มอณุกาไม่ใช่แสดงความชื่นชม แต่เป็นรอยยิ้มเยาะหยัน แล้วก้มลงมองมือถือในมือที่มีข้อความเข้ามาว่า " กำลังจะขึ้นลิฟท์ค่ะ "

กษิดิฐกับเอ็ดดี้จะเดินไปขึ้นลิฟท์
"ฉันคิดผิดรึเปล่าที่เรียกเหลนรหัสอย่างแกมาช่วยงานบริษัทของฉันน่ะ ฉันนัดแกกี่โมง...ไอ้เอ็ดดี้" กษิดิฐบ่นอย่างเซ็งๆ
"แปดโมงเช้า"
"แล้วแกมากี่โมง"
เอ็ดดี้ทำหน้าซื่อ
"ก็แปดโมงไง"
กษิดิฐดีดหูเอ็ดดี้
"แปดโมงบ้าอะไร นี่มันปาเข้าไปสิบโมงแล้ว"
"แถวบ้านผมเรียกแปดโมงกับอีกสองชั่วโมงไงเฮีย"
กษิดิฐดีดหูเอ็ดดี้
"แกไปเลยนะ... ไปสืบดูสิว่า บริษัทนี้มีคนชื่อติณณ์กี่คน"
เอ็ดดี้งง
"อ้าว ...ตกลงเฮียจะให้ผมมาทำงานออกแบบหรือเป็นนักสืบกันแน่เนี่ย"
"จะทำมั้ย"
"แล้วเฮียอยากรู้ไปทำไม มันเป็นชู้เมียเฮียเหรอ"
กษิดิฐง้างขาเตะ เอ็ดดี้กระโดดหลบแล้วจะวิ่งไปทางลิฟท์ พนักงานผู้ชายที่ยืนรอลิฟท์ต่างเหลียวไปมองทางผู้หญิงที่ยืนหน้าลิฟท์เป็นตาเดียวกัน
เอ็ดดี้มองตามผู้ชายเห็นแตงกวายืนสวยเด่นสง่าอยู่
"เฮีย...บอกผมทีว่าที่ผมเห็นเป็นคนไม่ใช่นางฟ้า"
กษิดิฐมองตามสายตาของเอ็ดดี้ ก็เห็นแตงกวากำลังจะหันหน้ามา กษิดิฐรีบดึงเอ็ดดี้หลบหลังเสาทันที
"หลบทำไมล่ะเฮีย เจ้าหนี้เฮียเหรอ"
"น่ากลัวกว่าเจ้าหนี้อีก" กษิดิฐบอก
กษิดิฐแอบชะเง้อมองแตงกวาจนเดินเข้าลิฟท์ไป
"แตงกวาคิดจะทำอะไรกันแน่เนี่ย" กษิดิฐพึมพำอย่างสงสัย
นลินเดินออกจากห้องประชุมเป็นคนสุดท้าย ดารินทร์ มัญจา สารัชเดินมาหา
"เป็นยังไงบ้างครับคุณบัว" สารัชถาม
"ราบรื่นดีใช่ไหม"
"ค่ะ ทุกอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหา"
มัญจาหยิบนิตยสารมาเปิดให้นลินดู
"นี่ฉันเช็กดวงให้เธอด้วย เค้าบอกว่าดวงการงานราศีของเธอจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ รับรองคราวนี้บัวได้เลื่อนตำแหน่งแน่นอน หมอมิ้นท์ฟันโช๊ะ"
ทรายแก้วเดินเข้ามาหานลินด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
"คุณบัวคะ คุณอณุกาเรียกเข้าพบค่ะ ทรายแอบได้ยินแว่วๆว่า ลูกค้าตกลงซื้อคอนเซปต์ของคุณบัวแล้วนะคะ ก็เลยอยากคุยกับเจ้าของคอนเซปต์น่ะค่ะ"
"เฮ้ย ! ดวงในหนังสือแม่นจริงๆ ด้วย"
นลินยิ้มมีความสุข
"งั้นบัวไปหาคุณอณุกาก่อนนะ"
นลินยิ้มแล้วเดินไปพร้อมทรายแก้ว ดารินทร์ขยี้ตาขวา
"วันนี้ตาขวาขยิบจังแฮะ ชักสังหรณ์ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น"
ดารินทร์มองตามนลินอย่างกังวล แตงกวาเดินผ่านด้านหลังมัญจา ดารินทร์ สารัชไปทางห้องทำงานอณุกา โดยที่ไม่มีใครเห็น

กษิดิฐกับเอ็ดดี้แอบมองแตงกวาที่เดินเข้าออฟฟิศไป
"นี่เฮีย...ตกลงเราจะมาเปิดบริษัทออกแบบหรือบริษัทนักสืบกันแน่เนี่ย ผมชักสงสัยอย่างจริงจังแล้วนะ"
"แกเงียบเถอะน่า ฉันยิ่งเครียดๆอยู่ ทำยังไงดีวะ"

ทรายแก้วเคาะประตูห้องอณุกาแล้วเปิดประตูเข้ามา อณุกามองทรายแก้วแล้วหันมาคุยกับลูกค้า
"เจ้าของคอนเซปต์งานนี้มาแล้วค่ะ"
ลูกค้าและหุ้นส่วนลุกขึ้นยืนและปรบมือต้อนรับ นลินเดินเข้ามาในห้องอณุกาด้วยท่าทีเคอะเขิน ไม่คาดคิดว่าจะมีคนปรบมือต้อนรับแบบนี้
อณุการีบพูดขัดขึ้น
"ขอเวลาสักครู่นะคะ มีบางอย่างผิดพลาดน่ะค่ะ"
นลินชะงัก งงว่าอะไรผิดพลาด
อณุกาเดินตรงมาหาทรายแก้วกับนลินด้วยใบหน้าไม่พอใจ
"ทรายแก้ว ! ฉันให้เธอไปตามเจ้าของความคิดคอนเซปต์นี้มา แล้วเธอไปตามนลินมาทำไม"
นลินกับทรายแก้วฟังแล้วยิ่งงง
"ก็คุณบัวไงคะที่เป็นเจ้าของความคิดคอนเซปต์นี้"
อณุกามองนลินแล้วยิ้มเยาะ
"นลินไม่ใช่เจ้าของความคิดนี้"
ทั้งทรายแก้วและนลินต่างงงด้วยกันทั้งคู่
" อ้าว"
" อะไรนะคะคุณอณุกา" นลินถาม
อณุกายิ้มให้นลิน
"ฉันบอกว่าเธอไม่ใช่เจ้าของความคิดนี้ เธอเป็นแค่ครีเอทีฟที่มาพรีเซนต์งานให้ลูกค้าฟังเฉยๆ ส่วนเจ้าของความคิดนี้จริงๆแล้วคือ..."
แตงกวา ผู้หญิงสวย รสนิยมดี วัย 30 ปีเปิดประตูเข้ามา
"ขอโทษค่ะที่แตงกวามาช้า"
นลินได้ยินเสียงแตงกวาแล้วชะงัก
"แตงกวา"
แตงกวามองนลินนิ่งๆ แล้วเหยียดปากยิ้มเยาะ
"ไฮ ..บัว"
อณุกาเดินไปจูงมือแตงกวามาหาลูกค้าและหุ้นส่วน
"ดิฉันขอแนะนำคุณแตงกวา เป็นหัวหน้าครีเอทีฟคนใหม่ของบริษัทภัทร แอดเวอร์ไทซิ่ง และเป็นเจ้าของคอนเซปต์ของงานนี้ค่ะ"

นลินมองอณุกา แตงกวา และปราณอย่างอึ้งงงเหมือนคนที่กำลังเห็นโลกแตกในบัดดล
 
อ่านต่อ 17.00 น.

ตนรักริมรั้ว ตอนที่ 2 (ต่อ)

นลินนั่งหน้าเครียดคิดว่า อณุกาทำอย่างนี้กับตัวเองได้ยังไง และแตงกวามาได้ยังไง ดารินทร์ มัญจา สารัชยืนนั่งอยู่รอบโต๊ะของเธอ ดารินทร์เอามือตบโต๊ะด้วยความโกรธ
"อย่างนี้มันเรียกว่าขโมยงานกันนี่" 
"ฉันสังหรณ์อยู่แล้วเชียวว่ามันต้องเกิดเรื่องพลิกล็อก" มัญจาบอก
สารัชพูดเสียงเศร้า เห็นใจนลินสุดๆ
"ทำไมคุณอณุกาถึงทำกับคุณบัวของผมอย่างนี้ ถ้าคุณบัวอยากร้องไห้ ก็ร้องเลยนะครับ หน้าอกผมพร้อมเป็นที่พึ่งให้คุณบัวเสมอ" สารัชพูดพลางยืดอกผายไหล่ผึ่งโชว์
มัญจาผลักสารัชกระเด็นไปด้วยความรำคาญ
"แล้วคนที่ขโมยงานคนอื่นไป เขาไม่รู้สึกอะไรบ้างรึไง" ดารินทร์ถาม
"นั่นสิ ! อยากเห็นหน้าจริงๆ" มัญจาบอก
อณุกาเดินนำแตงกวาและปราณมายืนหน้าแผนก
"ทุกคนจ้ะ ฉันขอแนะนำหัวหน้าทีมครีเอทีฟคนใหม่ คุณแตงกวาจ้ะ"
นลินหันไปมองแตงกวาด้วยสายตานิ่งๆ แตงกวามองตอบแล้วยิ้มเยาะ มัญจามองแตงกวาอย่างอึ้งๆ คาดไม่ถึง หันไปกระซิบถาม
"ยัยแตงกวา ! มาได้ไงเนี่ยบัว"
นลินยังไม่ทันตอบอะไร อณุกาพูดขึ้นมาก่อน
"ยังมีอีกเรื่องที่ฉันจะประกาศ ความจริงงานนี้ออกมาดีได้เพราะ นลินช่วยไว้ ถ้าฉันจะไม่ให้อะไรนลินเลยก็ดูจะใจร้ายไป"
อณุกาเดินด้วยมาดพญาเข้าไปใกล้นลิน ปากยิ้ม แต่ดวงตานิ่ง
"ฉันมีของขวัญให้เธอ"
อณุกาวางกระเป๋าเงินของนลินลงบนโต๊ะตรงหน้า เธอและเพื่อนทุกคนมองกระเป๋าเงินอย่างอึ้งๆสารัชพูดประสาซื่อๆ
"นี่มันกระเป๋าตังค์ของคุณบัวที่หายไปนี่ครับ แล้วมันไปอยู่ที่คุณอณุกาได้ยังไง"
ดารินทร์กับมัญจามองดุสารัช แล้วพูดพร้อมกัน
"จะถามอะไรตอนนี้"
อณุกายิ้มเยาะ
"เพราะมันตกอยู่ในรถของสามีฉันไง"
อณุกามองหน้านลินอย่างเอาเรื่อง นลินมองกระเป๋าเงินแล้วคิดประมวลเหตุการณ์ทุกอย่าง

ในเวลาต่อมา อณุกาเดินมาดพญาหงส์นำปราณและแตงกวาเพื่อจะออกไปนอกบริษัท นลินมาดักหน้าไว้ มัญจา ดารินทร์ สารัชรีบวิ่งตามมาพร้อมกับนลิน
"คุณกำลังเข้าใจผิดนะคะ บัวกับคุณปราณไม่ได้..."
อณุกามองนลินตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วรีบพูดแทรก
"หยุด ! ฉันฟังปราณเล่ามามากพอแล้ว ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่า ผู้หญิงที่ดูมีสมองอย่างเธอ จะใช้วิธีมอมเหล้าผู้ชายเพื่อพาไปแบล็คเมล์หวังจะเลื่อนตำแหน่งทางลัด"
นลินมองปราณอย่างคาดไม่ถึง
"คนอย่างบัวเนี่ยนะคะจะมอมเหล้าคุณปราณ"
ปราณทำหน้ารู้สึกผิด
"ขอโทษนะคุณนลิน ผมเข้าใจว่าคุณไม่ได้เลื่อนตำแหน่งมานาน คุณเลยอาจทำอะไรขาดสติไปบ้าง ผมเองก็ไม่อยากจะบอกคุณณุกาหรอก แต่ความประพฤติคุณไม่เหมาะสมจริงๆ"
นลินโกรธ
"คุณมันจอมลวงโลก"
"มันจะมากไปแล้วนะ ความจริงฉันชอบงานเธอมากนะ แต่เสียดาย ที่ต่อไปออฟฟิศนี้จะไม่มีครีเอทีฟที่ชื่อนลินอีก ! ไปกันเถอะปราณ ฉันมีประชุมที่สิงคโปร์อีก"
อณุกาเดินนำปราณและแตงกวาออกไปทางลิฟท์ทันที นลินยืนอึ้งเหมือนโลกทั้งใบถล่มลงตรงหน้า

อณุกาเดินมากับปราณและแตงกวา กษิดิฐรีบดึงเอ็ดดี้หลบซ่อนตัว
"ความจริงพี่ก็เสียดายฝีมือของนลินนะ นลินเป็นคนเก่ง นี่ถ้านลินมีแฟนหรือแต่งงานแล้ว พี่ก็คงไม่ไล่ออกแบบนี้" อณุกาพูดระหว่างทางเดิน
แตงกวาทำหน้าไม่แคร์เรื่องนลิน ตอนนี้เธอมีแต่ความสะใจมากกว่า กษิดิฐยื่นหน้าออกมาได้ยินเข้าก็ตกใจ
"บัวโดนไล่ออก" กษิดิฐพึมพำกับตัวเอง
"ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณณุกา เรามีคุณแตงกวามาเป็นหัวหน้าครีเอทีฟแทนนลิน เราก็มีคนเก่งไม่แพ้กัน"
กษิดิฐได้ยินแล้วยิ่งอึ้ง
"แตงกวาแย่งตำแหน่งบัว"
อณุกาเดินเข้าลิฟท์โดยมีปราณกับแตงกวาเดินตามเข้าลิฟท์ไปด้วย นลิน ดารินทร์ มัญจา สารัชรีบวิ่งตามมาเพื่อจะคุยกับอณุกา แต่ประตูลิฟท์ปิดลงเสียก่อน เธอพยายามกดปุ่มลิฟท์ให้เปิด แต่ไม่ทัน ตัวเลขบนจอแสดงการลงของลิฟท์
"ทำยังไงต่อล่ะบัว" มัญจาถาม
"ในฐานะที่พี่มีประสบการณ์ที่นี่มาก่อน พี่ขอยืนยันว่างานนี้บัวต้องบอกคุณอณุกาไปเลยว่าบัวมีแฟนแล้ว"
"เจอขนาดนี้ บอกแค่มีแฟนอย่างเดียวไม่พอหรอกพี่รินทร์ ต้องบอกว่ามีผัวไปเลย"
ประตูลิฟท์อีกตัวเปิด ทั้งหมดรีบเข้าลิฟท์ไป
กษิดิฐกับเอ็ดดี้ออกมาจากที่ซ่อนแล้วรีบกดลิฟท์ แต่ไม่มีลิฟท์ขึ้นมา กษิดิฐร้อนรน
"ไปเว้ย ! เอ็ดดี้"
กษิดิฐลากเอ็ดดี้วิ่งไปทางบันไดหนีไฟ

อณุกากับปราณและแตงกวาเดินออกจากลิฟท์แล้วเดินไปประตูหน้าตึก นลิน ดารินทร์ มัญจา สารัชออกจากลิฟท์อีกตัว มัญจาชี้ไปทางประตู
"คุณอณุกาจะขึ้นรถแล้วบัว"
นลินรีบวิ่งตามอณุกาไป

กษิดิฐรีบวิ่งลงบันไดอย่างรวดเร็วและรีบร้อน เอ็ดดี้วิ่งตามหลังพร้อมกับตะโกน
"เฮียจะไปช่วยอะไรเค้าได้"
กษิดิฐไม่ตอบ รีบวิ่งตามอย่างเดียว

ด้านหน้าตึก ภัทร แอดเวอร์ไทซิ่ง รถแวนจอดอยู่ อณุกากำลังจะเดินขึ้นรถ นลินวิ่งมาขวางไม่ให้อณุกาขึ้นรถ
"คุณอณุกาคะ"
"ถอยไป อย่าให้ฉันต้องสั่งยามให้หิ้วเธอไปโยนเหมือนมนัญญาอีกคนนะ"
"คุณอณุกาฟังบัวก่อนนะคะ บัวไม่มีวันยุ่งกับคุณปราณได้หรอกค่ะ"
อณุกามองนลินอย่างเยาะเย้ย
"ทำไมจะไม่ได้"
นลินตัดสินใจพูด
"เพราะบัวมีแฟนแล้วค่ะ"
นลินหวังว่าอณุกาจะเชื่อ
"เธอว่าอะไรนะ"
"บัวมีแฟนแล้วค่ะ และเรากำลังจะแต่งงานกัน"

เอ็ดดี้คลานหอบๆลงมาอย่างช้าๆ กษิดิฐไม่สนใจวิ่งต่อเนื่องลงบันไดหนีไฟไปอย่างรวดเร็ว

ด้านหน้าตึก อณุกายืนจ้องหน้านลินอยู่ ปราณกับแตงกวามองอย่างไม่อยากเชื่อ

อณุกาหัวเราะเยาะ
"นี่เธอเห็นฉันเป็นคนโง่รึไงนลิน เธอคิดว่า แค่พูดว่ามีแฟนแล้วจะแต่งงาน ฉันก็จะเชื่ออย่างนั้นเหรอ"
"แต่บัวพูดความจริงนะคะ เรากำลังวางแผนจะแต่งงานกันจริงๆ"
"งั้นเธอกล้าพิสูจน์ไหมล่ะบัว" แตงกวาถาม
"ฉันกล้าค่ะ"
"ดี! งั้นพาว่าที่เจ้าบ่าวเธอมาแจกการ์ดให้ฉันวันจันทร์หน้า ถ้าเธอแต่งงานจริง ฉันจะคืนตำแหน่งให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน แต่ถ้าฉันรู้ว่าเธอโกหกล่ะก้อ เธอเตรียมลาวงการโฆษณาไปได้เลย"
อณุกาจ้องหน้าแล้วเดินผ่านนลินไปขึ้นรถแวนคันหรูของตัวเองออกไป ปราณยิ้มเยาะตามขึ้นรถ รถของอณุกาเคลื่อนออกไป
แตงกวามองนลินอย่างไม่เชื่อว่านลินจะมีแฟน
"ฉันขอโทษนะบัวที่งานและตำแหน่งของเธอดันมาเป็นของฉัน"
"เธอทำอย่างนี้ทำไม ฉันไปทำอะไรให้เธอ ทำไมเธอต้องคอยมาวุ่นวายกับชีวิตฉันตลอดน่ะ"
"เธอก็รู้นี่ว่าเพราะอะไร"
นลินไม่เข้าใจอยู่ดีว่าแตงกวาต้องการอะไร กษิดิฐวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา เอ็ดดี้คลานตามหลัง
"บัว ! เจ้านายบัวไปไหน กบจะเคลียร์กับเจ้านายบัวเอง"
แตงกวากับนลินมองไปทางกษิดิฐพร้อมกัน นลินมองถามแตงกวาว่าต้นเหตุคือกษิดิฐใช่ไหม
"บัว"
นลินผลักกษิดิฐกระเด็นไป
"เพราะกบอีกแล้ว"
นลินเดินโมโหออกไป มัญจา ดารินทร์ สารัชรีบวิ่งตามไป กษิดิฐยืนอึ้ง แตงกวามองอย่างสะใจ

แตงกวาเดินเฉิดฉายมาที่ลิฟท์ กษิดิฐกับเอ็ดดี้วิ่งตามมา
"แตงกวา"
แตงกวาปลายตามองกษิดิฐแล้วพูดเสียงยียวน
"โอ๊ะโอ...เสียงเข้มอย่างนี้แปลว่าโกรธจริง"
"คิดว่าทำอย่างนี้แล้วกบจะแต่งงานด้วยเหรอ"
แตงกวายิ้มเยาะ
"เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับเรื่องแต่งงานของเราหรอกนะกบ มันเป็นแค่เรื่องความสะใจ"
"ทำคนอื่นตกงาน เจ๊เรียกว่าสะใจ ผู้หญิงน่ากลัว" เอ็ดดี้พึมพำทำท่าขนลุก
แตงกวาเดินเข้าใกล้กษิดิฐแล้วพูดเสียงเยาะ
"ส่วนเรื่องแต่งงาน ถ้ากบยังดื้อ ไม่แต่ง กบก็ดูต่อไปแล้วกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
ประตูลิฟท์เปิดพอดี แตงกวามยิ้มอย่างผู้มีชัยแล้วเดินเชิดเข้าลิฟท์ไป เอ็ดดี้มองแตงกวาแล้วส่ายหน้า
"น่าสงสารเจ๊คนที่โดนไล่ออกเนอะ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง"
กษิดิฐคิดถึงนลิน

ในเวลาเย็นที่บ้านดารินทร์ เจ้าของบ้านเอาศอกสะกิดแขนมัญจา
"ถามบัวสิว่าโอเครึยัง"
มัญจามองหน้านลินที่เครียดแล้วส่ายหน้าบอกไม่กล้า มัญจาหันไปใช้ศอกสะกิดแขนสารัชที่นั่งติดกันอีกทอดหนึ่ง
"ถามบัวสิว่าโอเครึยัง"
สารัชส่ายหน้าไม่กล้าถาม แล้วหันไปใช้ศอกสะกิดแขนน้องจุง ลูกชายของดารินทร์ที่นั่งติดกัน
"ถามน้าบัวสิว่าโอเครึยัง"
น้องจุงส่ายหน้าไม่กล้าถาม สารัชขู่เด็ก
"เป็นลูกผู้ชายรึเปล่าเนี่ย"
ปภพ สามีของดารินทร์สวมผ้ากันเปื้อน เดินถือจานข้าวเกรียบปากหม้อมายืนอยู่ข้างหลังสารัช ขู่เสียงเข้มกว่า
"แล้วคุณเป็นลูกผู้ชายรึเปล่าถึงมาใช้เด็กน่ะ ! เดี๋ยวปั๊ดตบโชว์ลูก" ปภพพูดพลางง้างมือ
สารัชรีบถอยกรู
"ลืมไปว่ามีพ่อดุ"
ปภพหัวเราะ ก่อนวางจานข้าวเกรียบข้าวปากหม้อ และวางจานเล็กให้ทุกคน
"ผมล้อเล่น ข้าวเกรียบปากหม้อเจ้าอร่อยมาแล้วจ้ะ... ทานลอง ท้องกันก่อนนะครับ กับข้าวเกือบเสร็จแล้ว น่าเครียดเชียว ..คิดงานกันไม่ออกเหรอครับ"
"ไม่มีอะไรหรอกพี่ภพ เข้าไปทำกับข้าวเถอะ" ดารินทร์บอก
"ได้จ้ะ"
ปภพจะเดินไปแล้วนึกได้ หันมาหานลิน
"เอ้อ...น้องบัวจ้ะ รินทร์บอกว่า เพื่อนน้องบัวเปิดบริษัทออกแบบเหรอ แนะนำให้พี่หน่อยได้ไหม หลังจากที่รินทร์ให้พี่ออกมาเลี้ยงลูกมาสามปี ตอนนี้พี่อยากทำงาน"
ดารินทร์ตีปภพทันที
"พี่ภพ มาถามอะไรตอนนี้"
ปภพถามหน้าซื่อ
"อ้าว...ถามไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้ บัวเขาทะเลาะกับเพื่อนคนนั้นอยู่"
"อ้าว งั้นพี่เข้าครัวล่ะ"
ปภพจะเดินไปแล้วหันมาบอก
"ถ้าน้องบัวคืนดีกับเพื่อนแล้ว อย่าลืมถามเรื่องงานให้พี่นะ"
ดารินทร์ชี้นิ้วสั่งให้ปภพเข้าครัว
"พี่ภพ"
"บัวขอไปเดินเล่นข้างนอกนะคะ"

นลินเดินออกนอกบ้าน

นลินเดินคิดอย่างเซ็งๆ อยู่สวนหน้าบ้านดารินทร์

ดารินทร์เดินออกมาจากในบ้านพร้อมมัญจา สารัชและน้องจุง ดารินทร์ทนไม่ไหว จึงเดินเข้าไปถาม
"พี่ทนไม่ไหวแล้ว มัวนั่งกล้าๆกลัวๆอย่างนี้ ชาตินี้ก็คงไม่รู้เรื่อง ไหนบอกมาสิว่า แตงกวานั่นเป็นใคร เขาโกรธแค้นอะไรบัวมาแต่ชาติปางไหนถึงมาทำกับบัวอย่างนี้ แล้วคุณกบมาเกี่ยวอะไรด้วย"
ดารินทร์เห็นนลินยังมองนิ่ง ก็แถเปลี่ยนทิศไปชี้หน้าถามมัญจา
"พี่ถามไม่ได้ยินเหรอ..มิ้นท์"
"อ้าว ...ก็นึกว่าถามบัว"
ดารินทร์กระซิบบอก
"ไม่กล้า ...กลัว"
"ความจริงบัวกับแตงกวาไม่มีเรื่องโกรธแค้นอะไรกันหรอก แต่ที่ทุกอย่าง มันเป็นแบบนี้ก็เพราะ..."
นลินบอกแล้วเล่าย้อนอดีต เล่าให้เพื่อนๆฟัง

บริเวณริมกำแพง คั่นกลางระหว่างบ้านของกษิดิฐและนลิน ในเวลาเย็น ตอนนั้นุกคนยังอยู่ในวัยมัธยม
กษิดิฐขมวดคิ้วมองนลินอย่างเอาเรื่องที่เธอยื่นมือเอาซองจดหมายมาเทใส่ตัวกษิดิฐที่ยืนริมกำแพงอีกฝั่ง นลินมองขำๆ ในมือถือตุ๊กตาหมีสีขาวน่ารักๆตัวนึงอยู่ด้วย
"เอาจดหมายมาเทใส่กบทำไมเนี่ย"
ซองจดหมายร่วงอยู่เต็มพื้น
"ก็มันเป็นจดหมายที่แฟนคลับของกบฝากบัวมาทั้งนั้นแหละ อ้อ อันนี้ทับทิมฝากมาให้"
นลินยื่นตุ๊กตาหมีในมือให้กษิดิฐ เขารับมามอง
"ผู้ชายที่ไหนเค้าเล่นตุ๊กตา บัวเก็บไว้เถอะ ถือว่ากบให้เป็นของขวัญวันเกิดก็ได้"
"โห...ไม่ลงทุนเลยนะ"
"กบ!"
นลินหันไปมองตามเสียงเรียกที่ดังมาจากในบ้าน แล้วมองกษิดิฐอย่างเอาเรื่อง
"โห...นี่พอคุณย่า คุณลุง คุณป้าไม่อยู่ กบเอาผู้หญิงเข้าบ้านเลยเหรอ"
กษิดิฐตีหน้าซื่อพูดแถ
"ผู้หญิงที่ไหน ไม่มี้"
"แน่ใจนะว่าไม่มี"
นลินไม่ฟัง รีบปีนกำแพงกระโดดเข้าบ้านกษิดิฐ
"เฮ้ย บัวจะไปไหน"
นลินไม่ตอบ เดินผ่านเขาเข้าบ้านไปทันที กษิดิฐรีบเก็บจดหมาย และของขวัญบนพื้นก่อนวิ่งตามเข้าบ้าน

ในห้องรับแขก บ้านกษิดิฐ นลินเดินเข้ามาแล้วชะงัก แตงกวาใส่เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นนั่งไขว้ขาอยู่ นลินมองหน้ากษิดิฐอย่างเอาเรื่อง
"ไหนบอกว่าไม่มีผู้หญิงในบ้านไง แล้วนี่อะไร"
กษิดิฐแถ
"ก็ไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นแตงกวา"
นลินเอือมระอาในคำแก้ตัว
แตงกวามองนลินตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วมองที่มือกษิดิฐที่ถือจดหมายเยอะแยะอยู่
"มีอะไรกันเหรอกบ แล้วยัยนี่เป็นใคร แล้วนั่นจดหมาย อะไรน่ะกบ"
นลินหมั่นไส้แตงกวาเลยแกล้งพูดลอยๆ
"จดหมายรักจากแฟนคลับของกบ"
แตงกวาโวยวาย
"แฟนคลับที่ไหนกบ"
กษิดิฐไม่ตอบอะไร
"งั้นในฐานะที่เธอเป็นคนเอามา เธอก็เอากลับไปให้หมดด้วยนะ เพราะกบเค้าไม่อ่าน" แตงกวาบอก
"รู้ได้ไง บางทีกบเค้าอาจจะอยากอ่านก็ได้"
"กบ ถ้ากบอ่าน แตงกวาโกรธจริงๆด้วย"
กษิดิฐนิ่งไม่พูดอะไรเพราะขี้เกียจมีเรื่อง
"เห็นไหม กบเค้าไม่อยากอ่าน"
"งั้นก็ให้กบเค้าเอาไปคืนเองแล้วกัน"
นลินหันหลังเดินลอยหน้าลอยตาผ่านแตงกวาออกจากบ้านไป แตงกวาโมโห หยิบจดหมาย และตุ๊กตาจากมือกษิดิฐมาแล้วเดินออกจากบ้านไปทันที

นลินกำลังจะปีนกำแพงกลับบ้านตัวเอง ทันใดนั้นเห็นตุ๊กตาหมีตัวที่นลินให้กษิดิฐก็ลอยมากระทบที่ท้ายทอยตัวเอง นลินหันขวับ แตงกวาเขวี้ยงซองจดหมายตามมาติดๆ นลินโกรธจนหน้าเขียว แต่ยังไม่ได้พูดอะไร เสียงกษิดิฐก็ดังขึ้นก่อน
"หยุดเดี๋ยวนี้นะแตงกวา"
แตงกวายังไม่หยุดปาซองจดหมาย
"บอกให้หยุดไง"
แตงกวาชะงักมองกษิดิฐอย่างเอาเรื่อง
"ทำไม"
"ขอโทษบัวเดี๋ยวนี้"
"นี่กบเห็นมันดีกว่าแตงกวาเหรอ"
"กบบอกให้ขอโทษ"
แตงกวาโมโห หันไปทางนลิน
"ไม่ขอโทษ ! แตงกวาบอกไว้ก่อนนะว่า กบห้ามเห็นใครดีกว่าแตงกวา ไม่อย่างนั้น เจอดีแน่"

คิดถึงอดีตแล้ว นลินยังโกรธกษิดิฐไม่หาย
"บัวไม่เคยยุ่งกับกบเลย มีแต่กบมาวุ่นวายกับบัว แต่สุดท้ายคนที่ซวยคือ บัว!"
นลินตบโต๊ะอย่างโมโห
"ความซวยในชีวิตบัวเกิดขึ้นเพราะกบ"
ปภพเดินออกมาจากในบ้าน
"น้องบัว...พี่ขอติดสินบนน้องบัวด้วยขากบทอด ชอบไหมจ้ะ"
ดารินทร์ลุกขึ้นยืนแล้วมองปภพอย่างเซ็งๆ
"คุณจะมาพูดเรื่องกบอะไรตอนนี้เนี่ย"
ปภพถามหน้าซื่อ
"น้องบัวไม่ชอบกบเหรอ"
"ใช่ค่ะ กบมันไม่มีอะไรดี อยู่ด้วยทีไร มีแต่สร้างปัญหา"
ปภพพูดหน้าซื่อๆ
"ใจเย็นๆ กบมันไม่รู้เรื่องหรอก มันก็กระโดดไปกระโดดมา ตามประสาของมันเท่านั้นเอง"
"บัวไม่ได้หมายถึงกบที่เป็นสัตว์ แต่หมายถึงกบที่เป็นคน"
ดารินทร์ชี้นิ้วสั่งให้ปภพเข้าไปในบ้าน ปภพเดินเข้าบ้านตามคำสั่ง
"แต่ฉันว่าคนผิดคือยัยแตงกวาต่างหาก ยัยนั่นโรคจิต ขี้อิจฉา กบไม่สนใจก็มาพาลใส่เธอตลอด คราวนี้เรายอมไม่ได้แล้วนะบัว" มัญจาบอก
"ฉันไม่ยอมอยู่แล้ว ฉันถึงบอกคุณอณุกาไปไง..ว่าฉันจะแต่งงาน"

"แล้วคุณบัวจะแต่งงานจริงๆเหรอครับ" สารัชถาม

เวลาต่อมา ดารินทร์เดินนำนลิน มัญจา สารัชออกมารอรถแท็กซี่หน้าบ้านหลังจาก กินข้าวกันเสร็จแล้ว ปภพนั่งแท็กซี่มาจอดหน้าบ้าน แล้วลงจากรถเปิดประตูรอให้นลิน มัญจา และสารัช ขึ้นแท็กซี่แทน

"ตกลงเธอจะแกล้งทำการ์ดแล้วก็พาผู้ชายไปหลอกคุณอณุกาเหรอบัว" มัญจาถาม
นลินยิ้มรับ
"แต่พี่ติดอยู่นิดนึงว่า บัวจะเอาใครไปโชว์คุณอณุกา ความลับสำคัญอย่างนี้ ต้องเอาคนที่รู้จักและไว้ใจได้นะ" ดารินทร์ว่า
"ผมนี่ไง" สารัชเสนอตัว
"ไม่เอา" 3 สาวโพล่งขึ้นพร้อมกัน
"อย่างนี้เองที่เขาเรียกพลังหญิงเพื่อเพื่อนหญิง ถ้าคุณบัวไม่เอาผม แล้วคุณบัวจะเลือกใครล่ะครับ"
นลินชะงัก แล้วยิ้มแหย
"บัวขอสารภาพ ว่าลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย"
ดารินทร์กับมัญจาร้อง "อ้าว"
นลินคิดว่าจะหาผู้ชายที่ไหนดี

กษิดิฐยืนด้อมๆ มองๆ ข้างรั้วไปทางบ้านนลิน ยศภัทรค่อยเดินย่องไปยืนข้างหลังลูกชายแล้วชะเง้อมองไปทางบ้านนลินตามกษิดิฐ
ยศภัทรกระซิบข้างหู
"แอบดูคุณชลัชอาบน้ำเหรอ"
กษิดิฐสะดุ้งตกใจ มองอึ้งว่า ยศภัทรกับกมลามาตั้งแต่เมื่อไหร่
กษิดิฐเฉไฉ ทำท่ากระโดดตบ
"ผมไม่ได้แอบดูใคร ผมมาออกกำลังกายเฉยๆ"
"อุ้ย ! หนูบัว" ยศภัทรแกล้งทักเรียก
กษิดิฐรีบหันไปมองทางบ้านนลินทันที ยศภัทรกับกมลาตีมือไฮไฟว์กัน
"บอกมาซะดีๆว่าทำไมถึงมาดักรอหนูบัว" กมลาถาม
ยศภัทรพูดล้อ
"ผู้ชายมาแอบรอสาว มันมีเหตุผลเดียวล่ะแม่ แอบพบประสบรัก"
กษิดิฐเซ็ง
"ตอนนี้บัวไม่อยากประสบรักกับผมหรอก แต่อยากให้ผมประสบอุบัติเหตุมากกว่า"
กมลามองกษิดิฐที่สีหน้ามีแววเครียดอย่างสงสัยว่าต้องมีเรื่องอะไร
"ก่อปัญหาให้หนูบัวอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย เกี่ยวกับหนูแตงกวารึเปล่า"
กษิดิฐอึกอัก พยายามพูดขำๆ
"เรื่องจุ๊บจิ๊บน่ะแม่ เดี๋ยวกบเอาของกินล่อ บัวก็หายโกรธเหมือนทุกครั้งนั่นแหละ กษิดิฐ
คอนเฟิร์ม"
รถแท็กซี่มาจอดหน้าบ้านนลิน กษิดิฐชะโงกหน้าไปดูแล้วรีบวิ่งไปบ้านนลินทันที

นลินหยิบกระเป๋าเดินลงจากรถแท็กซี่ กษิดิฐตะโกนแซวถามนลินที่ฝั่งบ้านตัวเอง
"ไปไหนมาจ๊ะน้องสาว"
นลินมองกษิดิฐนิ่ง ไม่พูดอะไรแล้วจะเดินเข้าบ้าน เห็นอย่างนั้นกษิดิฐก็รีบปีนข้ามรั้วไปฝั่งบ้านเธอทันที
กษิดิฐเดินมาขวางนลิน
“แม่กบทำยำปลาดุกฟูของโปรดบัวนะ ไปกินไหม”
นลินไม่พูดอะไร เบี่ยงตัวหนี เขามาดักขวางอีก
“มีลูกตาลลอยแก้วด้วยนะ กบเป็นคนช่วยแม่ปอกเลยนะ”
นลินยังไม่ตอบเอาแต่เดินหลบท่าเดียว
“ถ้าไม่ยอมพูด งั้นต้องใช้ไม้เด็ด”
กษิดิฐเข้าไปจักจี้เจอนลินเอากระเป๋าทำงานตี
“เลิกเล่นเป็นเด็กๆสักทีเถอะกบ”
กษิดิฐหัวเราะชอบใจ
“นั่นไง ! ยอมพูดกับกบแล้ว”
“บัวโดนไล่ออก กบไม่รู้สึกผิดเลยใช่ไหม”
กษิดิฐชะงัก แล้วเฉไฉ พูดกลบเกลื่อน
“เอ่อ...อ่า มีแกงส้มมะรุมด้วยนะ กบโขลกเครื่องแกงสูตรคุณย่ากับมือเลยน้า”
“นายกบ นายก็เป็นอย่างนี้ทุกที”
นลินโมโหจะเดินหนีไป กษิดิฐตามขวางอีก
“แล้วเรื่องของบัวจะทำยังไงต่อไป”
“ก็จะทำทุกอย่างที่จะได้ตำแหน่งของบัวคืนมา”
“ให้กบช่วยไหม”
“ไม่ต้อง”
นลินเดินหนี กษิดิฐไปเปิดประตูรั้วแล้วเดินเข้าบ้าน

กมลาและยศภัทรเดินมายืนกอดอกมองกษิดิฐที่บริเวณสวนหน้าบ้านนลิน
“เอาของกินล่อก็หายโกรธ ...เฮอะ ! บอกแม่มาดีๆว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อลูกมหาจำเริญของแม่” กมลาตบแก้มลูกชายเบาๆ แต่เต็มๆเนื้อ
“ว่าไงนายกบ” ยศภัทรจี้
กษิดิฐรู้สึกถึงรังสีความสยองจากด้านหลังกมลาลางๆ

ภายในบ้าน กษิดิฐวิ่งพุ่งไปหยิบหมอนอิงที่โซฟามาปิดหู กมลาเดินมาหายิ้มเยือกเย็นให้ลูกชาย แล้วมองไปทางยศภัทรที่พยักหน้าเข้าใจคำสั่ง ยศภัทรพุ่งเข้าไปแย่งหมอน ล็อกแขนลูกไว้
"แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าให้เคลียร์กับหนูแตงกวาให้รู้เรื่อง เห็นรึยังว่าคนที่ซวยคือหนูบัว"
"เก๊าขอโทษ"
"ไม่ขำเลยนะตากบ แล้วพรุ่งนี้เราต้องไปทำบุญครบรอบคุณย่าเสีย 3 ปี บ้านหนูบัวก็ไปด้วย แล้วจะมองหน้ากันได้ไหมเนี่ย"
"ยังไงแกต้องขอโทษหนูบัว แล้วก็ช่วยหนูบัวให้ได้งานคืนมาด้วย" ยศภัทรบอก
"เรื่องนั้นผมรู้ แต่ที่ยังไม่รู้ก็คือ บัวจะทำอะไรเพื่อให้ได้งานคืน"
กษิดิฐมองไปทางบ้านนลินแล้วคิดอย่างสงสัย

ในห้องนอน นลินเปิดเฟสบุ๊กในไอแพด ทั้งที่ยังหงุดหงิดกับกษิดิฐอยู่ เธอพูดล้อเลียนคำพูด
"ให้กบช่วยไหม ..เชอะ ! ... ถ้าไม่มียัยแตงกวาเป็นเงามารตามตัว บัวคงเลือกกบเป็นแฟนกำมะลอคนแรก จะหาคนมาเป็นแฟนได้จากที่ไหนเนี่ย"
นลินมองในเฟซบุ๊ก ตรงช่องโชว์เพื่อนแชต เห็นติณณ์ออนไลน์อยู่ เธอชะงัก ลังเลว่าจะส่งข้อความทักทายดีไหม

ในห้องพักติณณ์ที่เกาหลี ติณณ์กำลังมองที่จอคอมฯ หน้าเฟซบุ๊ก ตรงช่องโชว์เพื่อนแชต เห็นนลินออนไลน์อยู่ ลังเลด้วยความรู้สึกเดียวกันว่า จะทักทายดีไหม เขาพิมพ์ข้อความ “สวัสดีครับ ยังไม่นอนอีกเหรอครับ” นิ้วของเขาคาอยู่ที่ปุ่ม ENTER ว่าจะกดส่งข้อความนั้นดีไหม

เช่นเดียวกับนลินที่พิมพ์ข้อความเดียวกัน แล้วลังเล ตัดสินใจ

ตนรักริมรั้ว ตอนที่ 2 (ต่อ)

นลินไม่กล้า วางไอแพดที่เตียงอย่างเซ็งๆ เสียงข้อความส่งมาทางเฟซบุ๊กดัง เธอรีบหยิบไอแพดมาดูว่าใครส่งข้อความมา - - กินแกงส้มมะรุมไหม กินผักเยอะๆ จะได้ไม่จ้ำม้ำเหมือนตอนนี้

"นายกบ! ฉันอ้วนตรงไหนยะ"
นลินกดออฟไลน์หนีกษิดิฐทันที

ติณณ์นั่งดูหน้าเฟซบุ๊ก เห็นนลินออฟไลน์ไปแล้ว เขากดลบข้อความที่จะส่งแล้วปิดหน้าจอโน้ตบุ๊กแล้วหันมองดอกกุหลาบสีขาวที่ปักแจกันอยู่ที่โต๊ะข้างเตียง
"กู๊ดไนท์ครับ คุณบัว"

เช้าวันใหม่ บริเวณศาลาวัด นลินกำลังนั่งพับดอกบัวอยู่กับนันทิดา ชลัชยกถาดจานชามพร้อมเตรียมใส่อาหารถวายเพลเข้ามา
"วันนี้เมื่อสามปีก่อน เป็นวันที่บัวกับกบแต่งงานกัน ...บัวจำได้ไหมลูก" นันทิดาบอก
นลินชะงัก ชลัชรีบพูดแทรก
"วันแต่งที่ไหนคุณ เป็นวันที่ลูกหย่าต่างหาก"
รถยนตร์ของบ้านกษิดิฐขับมาจอดหน้าศาลา
"คุณยศภัทรกับคุณกมลาคงมากันแล้ว บัวไปช่วยกบถือของหน่อยสิลูก"
นลินพูดโดยไม่หันไปมองกษิดิฐ
"ขนของมาได้ตั้งไกลได้ ถืออีกหน่อยคงไม่เป็นไรมั้งคะแม่"
"แต่บัว..."
"บัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ"
นลินเดินออกนอกศาลา

นลินเดินลงบันไดสวนกับกษิดิฐที่หิ้วของเข้ามาเยอะแยะ ทั้งปิ่นโตกับข้าว สังฆทาน เต็มไม้เต็มมือไปหมด เธอจะเดินผ่าน เขารีบทำของตก แล้วมองด้วยสายตาอ้อนวอน เธอก้มลงเก็บถุงของให้ เขายิ้มคิดว่า นลินหายโกรธและช่วยถือของ เธอเอาถุงยื่นไปที่ปากให้กษิดิฐคาบถุงไว้ แล้วนลินก็เดินผ่านเขาหน้าตาเฉย ไม่แยแส
กษิดิฐมองตามที่นลินเดินหนีออกไป ยศภัทรกับกมลาเดินผ่านมาที่ลูกชาย
"สมน้ำหน้า"
ยศภัทรกับกมลาเดินเข้าศาลาไป กษิดิฐเซ็งตัวเอง

กมลาเดินถือของอีกส่วนหนึ่งเข้ามา ส่วนยศภัทรถือกรอบรูปคุณย่ายอแสงเข้ามา กษิดิฐเดินตามหลัง ชลัชพูดลอยๆ
"ทำบุญครบรอบแม่ตัวเองแท้ๆ ดันมาสาย"
ยศภัทรต่อทันที
"ด่าลูกชายเขาต่อหน้าแม่แบบนี้ ระวังโดนแม่เขามาหลอก เอานะ"
"ไร้สาระ"
ยศภัทรทำเป็นจะเดินผ่านหลังชลัช แล้วชะงัก แล้วทำเสียงดังหลอกผีชลัช
"แฮ่ !"
ชลัชแกล้งตกใจ เอามือไปฟาดโดนต้นคอ ยศภัทรเจ็บ กษิดิฐช่วยจัดผลไม้แล้วมองไปทางนลินที่ยังไม่กลับมา เขาตัดสินใจเดินไปหานลิน

มุมนึงหน้าศาลาวัด นลินกำลังคุยมือถือกับมัญจาอยู่
"นี่เธอหาคนจะมาเป็นแฟนฉันได้แล้วเหรอมิ้นท์ ..ใคร พี่อนัทธ์ ! เจอเย็นนี้เลยเหรอ ก็ได้ ฉันจะรีบไป"
นลินกดวางสายแล้วหันหลังจะเดินเข้าศาลา แล้วชะงัก เมื่อเห็นกษิดิฐยืนอยู่
"นี่บัวคิดจะทำอะไร"
"ไปจัดการเรื่องตัวเองให้รอดก่อน แล้วค่อยมายุ่งเรื่องคนอื่น"
นลินเดินผ่านกษิดิฐเข้าศาลาวัดไป เขารีบเดินตาม

บนศาลาวัด ชลัชกับยศภัทรช่วยกันจัดของคาว นันทิดากับกมลาช่วยกันปอกผลไม้
ยศภัทรกับชลัชหยิบชามใบเดียวกัน ทั้งคู่มองหน้ากัน
"ผมหยิบก่อน" ชลัชบอก
"ผมหยิบก่อน"
"คุณก็เห็นว่าผมหยิบก่อน"
"ผมเห็นแต่ว่าผมหยิบก่อน" ยศภัทรบอก
กมลากับนันทิดาถือชามมายื่นให้ยศภัทรกับชลัชคนละใบ นันทิดาพาชลัชแยกไปมุมนึงเพื่อไม่ให้ทะเลาะอีก
"ไม่เอาน่าคุณ วันนี้เรามาทำบุญให้คุณป้านะคะ ต้องทำใจให้สบาย ดารู้สึกนะคะ ว่าคุณป้าดีใจที่พวกเรามากันพร้อมหน้า แล้วคุณป้าก็คงมีความสุข ที่เห็นพวกเรารักกัน โดยเฉพาะกบกับบัว"
นลินเดินหนีกษิดิฐมานั่งข้างๆชลัช เขาจะเดินตามไป แต่ชลัชมองมาอย่างไม่พอใจ
กษิดิฐชะงักแล้วเดินไปอีกมุมของศาลา

มุมนึงในศาลาวัด ยศภัทร กมลาฟังลูกชายเล่าเรื่องที่นลินนัดเจออนัทธ์
"นายอนัทธ์ที่เป็นรุ่นพี่ที่ตามจีบหนูบัวตอนมหา’ลัยนั่นใช่ไหม" ยศภัทรถาม
"ก็ไอ้คนที่มายืนร้องไห้หน้างานแต่งของกบกับบัวนั่นแหละพ่อ"
"แล้วหนูบัวจะกลับไปนัดเค้าอีกทำไมล่ะตากบ" กมลาถาม

กษิดิฐคิดทบทวนไปถึงตอนที่นลินวิ่งตามอณุกามาที่หน้าลิฟท์เพื่ออธิบายเรื่องปราณ แต่ไม่ทัน... คำพูดของเพื่อน 2 คน
ดารินทร์บอก
"ในฐานะที่พี่มีประสบการณ์ที่นี่มาก่อน พี่ขอยืนยันว่างานนี้บัวต้องบอกคุณอณุกาไปเลยว่าบัวมีแฟนแล้ว"
"เจอขนาดนี้ บอกแค่มีแฟนอย่างเดียวไม่พอหรอกพี่รินทร์ ต้องบอกว่ามีผัวไปเลย" มัญจาว่า"อะไรก็ได้ทั้งนั้น ! ขอแค่บัวได้ตำแหน่งของบัวคืน"

กษิดิฐมองนลินอย่างอึ้งๆ
"นี่บัวคิดจะหาแฟนไปโชว์เจ้านายเหรอ"
"พูดอะไรบ้าๆน่ะตากบ" กมลาว่า
"เดี๋ยวก็รู้ครับแม่ ว่าผมพูดบ้าหรือพูดจริง"

กษิดิฐตั้งใจจะถามความจริงให้ได้

บริเวณศาลาวัดในเวลาต่อเนื่องมา พระ 5 รูปเดินเข้าไปนั่งที่อาสนะ เตรียมสวดทำบุญ

นลินนั่งยกมือไหว้พระอยู่ข้างกมลา กับนันทิดา ยศภัทรส่งซิกให้กษิดิฐเดินไปนั่งข้างๆนลิน
กษิดิฐเดินตรงไปตั้งใจจะไปนั่งข้างนลิน ทันใดนั้น ชลัชโผล่เข้ามานั่งข้างลูกสาวแทน ชลัชหันไปยักคิ้วให้ยศภัทรอย่างเยาะเย้ย กษิดิฐมองอย่างเซ็ง
ยศภัทรทำหน้าแค้นๆ กระซิบกษิดิฐ
"เดี๋ยวเอาใหม่ ยังไงวันนี้พ่อต้องช่วยให้กบได้คุยกับหนูบัวให้ได้"
ยศภัทรมองชลัชอย่างท้าทาย กษิดิฐมองนลินอย่างไม่ยอมแพ้ นลินเชิดใส่ กมลาและนันทิดามองทั้งสองคู่แล้วถอนใจ
กมลาบ่นกับนันทิดา
"แหม...เป็นวันทำบุญที่สนุกจริงๆ"

นลิน ชลัช นันทิดา กมลากำลังประเคนสังฆทานให้หลวงพ่อและพระ กษิดิฐเดินตรงไปช่วยนลินประเคนหลวงพ่อทันที
"ทำไมไม่ไปประเคนพระองค์อื่น"
"ก็กบอยากประเคนกับบัว ชาติหน้าจะได้เกิดมาคู่กัน"
"เก็บไว้พูดกับแตงกวาดีกว่ามั้ง"
หลวงพ่อที่นลินจะประเคนของ มองทั้งคู่อย่างคุ้นหน้า
"นี่หลานโยมยอแสงที่เพิ่งแต่งงานไปเมื่อสามปีที่แล้วนี่ โยมยอแสงนิมนต์อาตมาไปฉันเพลงานแต่งของโยม เป็นยังไง มีลูกกันไปกี่คนแล้วล่ะ"
นลินกับกษิดิฐมองหน้ากัน
"ผมอยากมีสักโหลนึงน่ะครับ แต่บัวไม่ยอม"
"กบ"
ชลัชรีบพูด
"สองคนนั้นเลิกกันแล้วครับ"
หลวงพ่อชะงัก
"อ้าว นี่ถ้าโยมยอแสงยังอยู่คงเสียใจนะ เพราะตอนโยมยอแสงมานิมนต์อาตมาน่ะ"

หลวงพ่อย้อนคิดถึงตอนคุณย่ายอแสงนั่งคุยกับหลวงพ่อด้วยใบหน้ามีความสุข
"ฉันมีความสุขมากเลยค่ะหลวงพ่อ ฉันรอวันที่เด็กสองคนนี้แต่งงานกันมานาน ถึงตอนนี้เขาจะปฏิเสธว่าไม่ได้รักกัน แต่วันนึง เขาจะรู้ว่า ทุกครั้งที่เกิดอะไรขึ้น เขาจะคิดถึงกันและกันก่อนคนอื่นเสมอ เพราะเขาสองคนขาดกันไม่ได้"

กษิดิฐ นลินนั่งฟังหลวงพ่อเล่าถึงคุณย่ายอแสงแล้วอึ้งๆ
"คุณป้าอาจจะดูผิด" ชลัชพึมพำ
"อาตมาไม่รู้หรอกว่าโยมยอแสงดูใครผิดรึเปล่า และก็ไม่มีใครรู้ได้ นอกจาก...โยมสองคน"
นลินกับกษิดิฐมองหน้ากัน
"ประเคนของถวายเลยนะครับหลวงพ่อ" ชลัชตัดบท ไม่อยากพูดมาก
กษิดิฐยังดื้อที่จะประเคนกับนลินด้วย เธอมองเขาอย่างไม่พอใจ
กษิดิฐกระซิบบอก
"กบรู้นะว่าบัวคิดจะทำอะไร"
นลินชะงักไม่คิดว่ากษิดิฐจะรู้ แต่เธอต้องปิดเรื่องนี้ไว้ ไม่อย่างนั้นกษิดิฐจะทำให้เรื่องวุ่นวายอีก

หน้าศาลาวัด นลินเดินถือพานใส่น้ำที่เพิ่งกรวดออกมารดต้นไม้กับชลัช กษิดิฐยืนมองบนศาลาอย่างไม่วางตา นลินมองรูปการณ์แล้วคิดว่าต้องรีบหนีเขาแล้ว เธอกระซิบบอกชลัช
"พ่อคะ ช่วยอะไรบัวหน่อยได้ไหมคะ"
ชลัชมองหน้าลูกสาว

บริเวณเจดีย์ ยศภัทร กมลา กษิดิฐ เอาพวงมาลัยมาวางที่เจดีย์ของคุณย่ายอแสง กษิดิฐมองรูปคุณย่ายอแสงที่ติดอยู่ที่เจดีย์
"ผ่านไปกี่ปี คุณย่าก็ยังสวยเหมือนเดิมนะครับ"
กษิดิฐหันไปมองหานลิน
"แล้วพวกคุณอาชลัชไปไหนกันล่ะครับ เมื่อกี้ยังเห็นเดินตามมาอยู่เลย"
"กลับไปแล้วจ้ะ"
"หา กลับไปตอนไหนครับแม่"
"เมื่อกี้นี้แหละ เห็นบอกว่าคุณชลัชไม่สบาย เลยขอตัวกลับกันก่อน"
"กัดพ่อตลอดเวลานั่นน่ะ คนไม่สบาย" ยศภัทรบอก
กษิดิฐหันไปพูดกับเจดีย์ของคุณย่ายอแสง
"ดูหลานสาวคุณย่าสิ อยากไปหาผู้ชายจนขอให้พ่อตัวเองโกหก"
"ตากบ"
กษิดิฐเครียดเป็นห่วงว่านลิน ว่าจะตกลงเป็นแฟนกับอนัทธ์ไหม

เวลาเย็น นลิน ดารินทร์ มัญจาเดินคุยมาถึงหน้าร้านอาหาร
"มันจะดีเหรอที่ทำอย่างนี้"
"ถ้าไม่ทำอย่างนี้ แล้วเธอจะเอาใครไปโชว์คุณอณุกา เราไม่มีเวลาเลือกมากแล้วนะ วันมะรืนคุณอณุกาก็จะกลับมาแล้ว" มัญจาว่า
"ฉันก็แค่รู้สึกไม่ดี เราไม่ได้ติดต่อเค้านานแล้ว แต่อยู่ๆก็ขอให้เขามาเป็นแฟน มันไม่สนิทใจ"
"ถ้าบัวอยากได้คนที่สนิทใจ พี่มีอยู่ตัวเลือกเดียวที่เหมาะกับบทแฟนกำมะลอมาก"
"ใครคะพี่รินทร์"
"คุณกบ ! พี่พูดจริงๆนะบัว อย่าลืมนะว่าอายุการเป็นแฟนกำมะลอต้องไม่เกินสามเดือน ทุกอย่างต้องจบก่อนคุณติณณ์กลับ ที่สำคัญ... ผู้ชาย คนนั้นต้องไม่ปากโป้งหรือคิดชั่วจะเอาเรื่องบัวมาแบล็กเมล์ทีหลัง แล้วคุณกบก็เหมาะที่สุด ไว้ใจได้ สนิทใจ หวังดีกับบัว"
"บัวบอกตรงนี้เลยนะคะว่าบัวไม่มีวันเลือกกบแน่ๆ บัวเชื่อว่าแค่พี่อนัทธ์คนเดียว เอาอยู่"
นลินเปิดประตูร้านแล้วเดินนำมัญจาและดารินทร์เข้าร้านไป

มัญจามองไปเห็นอนัทธ์เดินเข้ามาในร้านพอดี ก็โบกมือเรียก
"นั่นไง พี่อนัทธ์มาแล้ว! พี่อนัทธ์ ...ทางนี้ค่ะ"
อนัทธ์เดินหน้าเครียดมาทางโต๊ะมัญจา แล้วเดินผ่านนลิน มัญจา ดารินทร์ไปที่โต๊ะด้านหลัง ทั้ง 3 คนมองตามอย่างงงๆว่า อนัทธ์เดินผ่านไปไหน อนัทธ์เดินไปตบโต๊ะข้างหลังโต๊ะของนลิน ซึ่งโต๊ะนั้นมีผู้ชายนั่งกับผู้หญิงนั่งอยู่
อนัทธ์ด่าผู้ชาย
"ที่หลบหน้าฉัน เพราะแอบมาคบกับนางชะนีนี่เองน่ะเหรอ"
"ใจเย็นๆก่อนนะ" ผู้ชายบอก
"โดนชะนีหน้าเหงือกแย่งผัวไป ใครจะใจเย็นอยู่ได้ หา !"
ทั้ง 3 สาวมองหน้ากันอย่างอึ้งๆ
"พี่ว่าพี่อนัทธ์ของบัว คงเอาไม่อยู่แล้วล่ะ เปลี่ยนใจเอาคุณกบไหม"ดารินทร์บอก

นลินทำหน้าระอาชื่อ กษิดิฐ ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากเห็นหน้าอีก

เวลากลางคืน กษิดิฐเดินไป เดินมาอยู่หน้าประตูรั้วบ้านนลินเพื่อรอนลินกลับมาอย่างกังวล

รถแท็กซี่วิ่งมาจอด นลินลงจากรถ กษิดิฐรีบเข้าไปหานลินเพื่อจะถาม เธอหยิบน้ำยาฉีดดับกลิ่นปาก ฉีดใส่หน้ากษิดิฐทันที จนเขาแสบตาไปหมด
"บัวฉีดอะไรใส่ตากบเนี่ย"
"ถ้ายังไม่เลิกยุ่งกับเรื่องของบัว คราวหน้าเจอยาฆ่าแมลงแน่"
นลินเดินเปิดประตูรั้วแล้วปิดประตู พร้อมจงใจใส่กลอนเสียงดังให้รู้ว่า ไม่ให้ตามเข้ามา
ในห้องนอน นลินเปิดเฟสบุ๊กดูเพื่อนผู้ชายคนเก่าๆแล้วคุยมือถือกับมัญจาไปด้วย
"คนนี้ก็ดีนะ พรุ่งนี้เธอนัดมาแล้วกัน ตอนนี้ใครก็ได้ เราไม่มีเวลาแล้ว"

กษิดิฐยืนมองหน้าต่างห้องนอนนลินอย่างกังวลว่า นลินจะทำยังไงต่อ เขาคิดวางแผนตามนลิน

เช้าวันใหม่ นลินรีบเดินแอบๆ ซ่อนๆ พร้อมชะโงกหน้ามองไปทางบ้านกษิดิฐก่อนออกไปข้างนอก นลินไม่เห็นกษิดิฐ รถของเขายังจอดสนิทอยู่หน้าบ้าน นลินโล่งอกว่าเขาคงไม่ตาม นลินจึงรีบขึ้นรถของชลัชขับออกไปทันที
รถนลินเลี้ยวออกจากหมู่บ้านผ่านรถเก๋งคันเล็กที่จอดอยู่ริมถนนไป

ในรถเก๋งคันเล็ก กษิดิฐคุยมือถือกับเอ็ดดี้
"ขอบใจนะเอ็ดดี้ที่ให้ยืมรถ ระดับฉันจะตามทั้งที ต้องไม่ให้จับได้เว้ย"
กษิดิฐกดวางสายแล้วขับรถตามนลินไป

บริเวณลานจอดรถศูนย์อาหารและแหล่งช๊อปปิ้ง คอมมูนิตี้มอลล์แห่งหนึ่ง นลินลงจากรถ เธอรู้สึกเหมือนมีคนแอบมอง พอหันไปมองรอบๆก็ไม่เห็นใคร เธอรีบเดินเข้าตัวอาคารเพื่อลงลิฟท์ กษิดิฐโผล่หน้ามาจากหลังรถคันนึง

นลินเดินล้วงกระเป๋าจะหยิบมือถือเพื่อโทรหามัญจาแล้วรู้สึกว่ามีคนเดินตาม เธอเดินเร็วขึ้นแล้วไปหลบมุมร้าน เธอมองที่พื้น มองเงาร่างสูงของผู้ชายเดินใกล้ เธอโผล่จากมุมร้าน
"นี่นายตามฉันมาทำไม"
ผู้ชายแก่ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้นลิน
"หนูทำผ้าเช็ดหน้าตกน่ะ"
นลินยิ้มแหยๆ
"ขอบคุณค่ะ"
ชายแก่เดินไป เธอมองผ้าเช็ดหน้าแล้วถอนใจที่ตัวเองคิดมากไป แล้วเธอก็เดินต่อไป กษิดิฐโผล่หน้ามาหัวเราะกับเหตุการณ์เฟอะฟะของเธอ

มัญจากับดารินทร์ยืนรอนลินอยู่หน้าร้านอาหาร นลินเดินเข้ามา
"ไปเร็วบัว ! วันนี้ฉันนัดผู้ชายมาให้เธอช้อปปิ้งสี่คน ยังไงวันนี้เธอต้องได้ผัว...เอ้ย...แฟน"
มัญจาลากนลินกับดารินทร์ ไปร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามกับร้านอาหาร
กษิดิฐออกมาจากที่หลบแล้วจะเดินตามนลิน
"กบ! จะไปไหน"
กษิดิฐแปลกใจที่เห็นแตงกวา
"แตงกวา มาได้ยังไง"
"แตงกวาส่งข้อความบอกกบไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าเย็นนี้เรามีนัดกันที่นี่"
กษิดิฐหยิบมือถือมาดู เห็นเป็นข้อความของแตงกวาที่ยังไม่เปิดอ่าน กษิดิฐแกล้งเนียนๆ
"อ๋อ จริงด้วย แตงกวามีธุระสำคัญไหม ถ้าไม่ ..กบขอตัว"
กษิดิฐจะเดินไป เธอดึงแขนไว้
"แตงกวานัดคุณพ่อมาคุยกับกบเรื่องแต่งงานของเรา"
กษิดิฐชะงัก
"หา"
กษิดิฐมองไปทางร้านอาหารที่นลินไปนัดเจอผู้ชาย

ที่ร้านกาแฟ ทั้ง 3 สาวนั่งร่วมโต๊ะกับไมค์ ดารินทร์มองสำรวจแล้วกระซิบบอกนลินกับมัญจา "หล่อ ดูดี มีการศึกษา ท่าทางน่าไว้ใจ พี่ว่าคนนี้ เอาอยู่"

มุมส่วนตัวในร้านอาหาร แตงกวาดูเมนูอาหาร กษิดิฐเอาแต่มองหน้าต่างไปยังร้านกาแฟอย่างร้อนใจ
"แตงกวา กบกลับก่อนนะ กบมีธุระ"
แตงกวาดึงแขนกษิดิฐไว้
"นี่กบ พ่อแตงกวาเป็นถึงผู้ช่วยรัฐมนตรี คนอื่นกว่าจะพบท่านได้ ต้องจองคิวกันเป็นเดือน แต่นี่ท่านเสียสละมาเจอกบ กบควรจะนั่งรอท่าน"
"งั้นก็ฝากขอโทษท่านด้วยแล้วกัน กบมีธุระที่สำคัญกว่าจริงๆ"
กษิดิฐลุกแล้วไปชนกับอภิชาติ พ่อแตงกวาที่เดินเข้ามาพอดี
"มีธุระอะไรสำคัญกว่าการคุยเรื่องงานแต่งของลูกสาวฉันอีกเหรอ"
กษิดิฐมองอภิชาติที่มีมาดเคร่งขรึม เอาจริง แล้วรู้สึกว่างานนี้ไม่ง่ายอีกต่อไปแล้ว

ภายในร้านกาแฟ ทั้ง 3 สาวยืนโบกมือลาไมค์ที่อุ้มลูกและจูงภรรยาที่กำลังท้องโย้ ออกจากร้านไป ดารินทร์ตีแขนมัญจา
"เธอนัดผู้ชายภาษาอะไร ไม่รู้รึไงว่าเขามีลูกมีเมียแล้ว"
มัญจามองไมค์อย่างแค้นๆ
"มิ้นท์ไม่รู้น่ะสิถึงได้นัดมา เมื่อคืนบอกว่าเหงา ไม่มีใคร แต่วันนี้เมียพาลูกมาตามถึงร้านเลย"
"ฉันว่าเรากลับเถอะ"
นลินทำท่าจะลุก แต่มัญจาดึงมือไว้
"เดี๋ยวก่อนสิ ยังเหลืออีก ชื่อเอิร์ท รับรองคนนี้ ไม่มีลูก ไม่มีเมีย ไม่เป็นเกย์ชัวร์ เป็นเพื่อนสนิทของเบบี๋ฉันเอง"
มัญจาหันไปทางเอิร์ท ผู้ชายหน้าตาดี หุ่นดี ล่ำบึกที่เปิดประตูร้านเข้ามา ดารินทร์มองตาค้าง"โอ้ว... คนนี้พี่ขอได้ไหมแบบว่าพี่เป็นโรคภูมิแพ้กล้ามผู้ชาย"
นลินมองเอิร์ทที่พอใจในความสวยของนลินมาก
ในมุมส่วนตัวที่ร้านอาหาร มีบอดี้การ์ดของอภิชาติยืนเฝ้าอยู่ แตงกวากำลังคุยกับพ่อเรื่องงานแต่งงานอย่างมีความสุข กษิดิฐไม่ได้สนใจฟัง แต่มองไปทางหน้าต่างร้านตลอดเวลา แตงกวาไม่พอใจ
"กบ"
กษิดิฐสะดุ้งแล้วหันมามองแตงกวากับอภิชาติสีหน้าเหลอหลา อภิชาติไม่ค่อยพอใจแต่พยายามเก็บอาการไว้
"แตงกวาถามว่าเราจะจัดงานที่โรงแรมไหนดี"
"จัดงานอะไร"
อภิชาติทนไม่ไหว ตบโต๊ะอย่างหงุดหงิด
"เวลาฉันมีค่า ฉันจะเข้าเรื่องเลยแล้วกัน นายจะแต่งงานกับแตงกวาเมื่อไหร่"
กษิดิฐจะตอบ แตงกวาชิงพูด
"แตงกวาบอกแล้วไงคะว่าเร็วได้ที่จะเร็วได้"
อภิชาติถามกษิดิฐ
"แล้วพ่อแม่คุณสะดวกส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอเมื่อไหร่"
กษิดิฐอ้าปากจะตอบ แตงกวารีบตอบแทน
"เรื่องผู้ใหญ่ไม่สำคัญหรอกค่ะ เอาเป็นว่าพร้อมเมื่อไหร่ ก็แต่งเลย"
อภิชาติหันไปดุใส่ลูกสาว
"พ่ออยากให้ผู้ชายตอบบ้างนะ แตงกวา"
"จะกบหรือแตงกวาตอบก็เหมือนกันล่ะค่ะคุณพ่อ"
กษิดิฐตัดสินใจพูด
"ผมไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานครับ"
สองพ่อลูกมองกษิดิฐอย่างอึ้งๆไม่คิดว่า กษิดิฐจะพูดแบบนี้ แตงกวากระซิบขู่
"กบก็รู้ว่าพ่อแตงกวาไม่ใช่คนเล่นๆ กบจะพูดอะไร คิดถึงความเดือดร้อนที่จะตามมาด้วย"
แตงกวายิ้มให้อภิชาติ เพราะคิดว่ากษิดิฐฟังคำขู่แล้วจะพูดดีขึ้น
"ขอโทษนะคะคุณพ่อ ตกลงแตงกวากับกบจะแต่งกันเดือน..."
กษิดิฐพูดแทรกตัดบท
"ผมขอลาท่านนะครับ"
กษิดิฐจะลุกขึ้น แตงกวาดึงแขนไว้
"กบ"
"ขอโทษนะแตงกวา ถ้าคุยเรื่องแต่งงาน กบไม่มีอะไรจะคุยจริงๆ"
กษิดิฐเดินออกไปทันที
"กบ"

อภิชาติมองกษิดิฐอย่างไม่พอใจ

กษิดิฐรีบเดินออกจากร้านอาหาร แล้วจับหัวใจตัวเองที่เต้นเร็วรัวด้วยความกลัวและตื่นเต้น

"โอ้ย เก่งจริงไอ้กบ ไปปฏิเสธลูกสาวรองรัฐมนตรี จะโดนกระทืบไหมเนี่ย"
กษิดิฐได้ยินเสียงโครมครามมาจากร้านกาแฟฝั่งตรงกันข้าม ก็หันไปมอง

เอิร์ทกำลังต่อยกับกลุ่มผู้ชายที่หน้าร้านกาแฟ เอิร์ทพูดโวยตามประสานักเลง
"กล้ามองผู้หญิงของฉันมันเจอกระทืบ"
สามสาวค่อยๆย่องผ่านกลุ่มคนที่รุมดูเอิร์ทกับกลุ่มผู้ชายต่อยกัน แล้วเดินหนีห่างจากร้านด้วยความกลัว ดารินทร์ตีแขนมัญจา
"เป็นยังไงล่ะ ผู้ชายที่แสนดีของเธอ แค่พนักงานเสิร์ฟมาคุยกับบัว พ่อล่อเข้าต้นคอพนักงานเสิร์ฟ นี่ถ้ารู้ว่าบัวจะคบเล่นๆ มีหวังกระโดดถีบบัวกลิ้งแน่"
นลินชักเครียด
"ทำยังไงดีล่ะเนี่ย พรุ่งนี้คุณอณุกาก็จะกลับมาแล้ว การ์ดก็ยังไม่ได้ทำ ผู้ชายก็ยังหาไม่ได้"
"หาแฟนไปหลอกเจ้านายได้รึยัง" เสียงกษิดิฐตะโกนมาจากฝั่งถนนตรงข้าม หน้าคอมมูนิตี้มอลล์

ทั้งสามสาวหันไปมองกษิดิฐที่ยืนฝั่งตรงข้าม นลินชะงักว่า เขามาได้ยังไง
"มันไม่ใช่เรื่องของกบ"
กษิดิฐตะโกนบอก
"เจ้าข้าเอ้ย ! เมียผมกำลังนอกใจ"
นลินตกใจรีบเอากระเป๋าปิดหน้าชี้หน้ากษิดิฐอย่างเอาเรื่อง
"เล่นอย่างนี้อีกแล้วนะกบ"
นลิน มัญจา ดารินทร์รีบเดินหนีกษิดิฐ
"ดูหน้าผู้หญิงที่ใส่ชุด... เขาเป็นผู้หญิงใจร้าย ทิ้งสามีจนๆผู้ไปหารักใหม่"
นลินโกรธแล้วชี้หน้ากษิดิฐอย่างเอาเรื่องพร้อมตะโกนข้ามฝั่ง
"หยุดเดี๋ยวนี้นะกบ ที่บัวต้องมาทำอย่างนี้ เป็นเพราะใครล่ะ กลับไปหาแตงกวาซะ อย่ามายุ่งกับบัวอีก"
"รับปากก่อนสิว่าจะหยุดไปหาชู้ !"
"ไม่หยุด ! คืนนี้ทั้งคืน บัวจะไปหาผู้ชายมาเป็นแฟนให้ได้"
"กบไม่ยอม"
"บัวจะทำ"
กษิดิฐทนไม่ไหว จึงตัดสินใจจะเดินข้ามถนนไปหานลิน รถมอเตอร์ไซค์ขี่มาพอดี นลินมองอย่างตกใจกลัวเขาจะโดนรถชน
"กบ"

แตงกวาออกจากร้านมามองหากษิดิฐ

กษิดิฐนั่งอยู่ริมฟุตบาท นลิน มัญจา ดารินทร์นั่งล้อมดูเขาอยู่ นลินนั่งข้างๆแล้วถาม
"เป็นอะไรรึเปล่ากบ"
"ไม่เป็นไร อดีตนักฟุตบอลมหา’ลัย รถคันแค่นั้น กระโดดหลบทันอยู่แล้ว"
นลินหมั่นไส้พูดยียวนใส่
"ไม่เป็นไรก็ดี บัวจะได้ไปหาผู้ชายต่อ !"
นลินลุกจะเดินไป กษิดิฐรีบเอื้อมไปดึงมือไว้ เธอเสียหลักล้มลงไปทับ ใบหน้าทั้งคู่ประชิดใกล้กัน
แตงกวาออกมาเห็นเข้าพอดี ก็เดินเข้าไปหาด้วยความโมโห
"ฉันคิดว่าเธอจะเอาเวลาไปทำการ์ดแต่งงานซะอีก"
นลินกับกษิดิฐมองแตงกวา นลินรีบลุกขึ้น แล้วกระซิบบอกกษิดิฐ
"อยู่ใกล้กบทีไร งานเข้าบัวทุกที"
แตงกวาพูดเสียงเยาะเย้ย
"รีบเอาการ์ดแต่งงานกับผู้ชายมาแลกตำแหน่งกับงานของเธอเร็วๆนะ ฉันอยากจะคืนให้เธอจะแย่อยู่แล้ว"
กษิดิฐไม่อยากเชื่อ ตอนแรกคิดว่านลินหาผู้ชายมาแกล้งเป็นแฟน แต่ไม่คิดว่าจะแต่งงานด้วย
กษิดิฐกระซิบถาม
"นี่ถึงขั้นมีการ์ดแต่งงานด้วยเหรอ"
นลินกลัวแตงกวาจะรู้แผนตัวเอง รีบกระซิบกษิดิฐ
"เอาสิกบ พูดให้แตงกวารู้ไปเลยว่าบัวทำอะไร ชีวิตการงานของบัวจะได้พังอย่างสมบูรณ์แบบ"
กษิดิฐชะงัก ใจจริงของเขาไม่อยากให้นลินไปหาผู้ชายคนอื่นมาเป็นแฟน แต่อีกใจก็ไม่อยากทำให้นลินเดือดร้อนไปกว่านี้อีก
"ไปกันเถอะแตงกวา"
แตงกวายิ้มเยาะนลิน ที่สุดท้ายกษิดิฐก็ต้องไปกับตัวเอง แตงกวาเดินเข้าไปเผชิญหน้า
"อย่าเสี่ยงเล่นกับฉัน ถ้าเธอไม่อยากเจอเซอร์ไพร์สอีก !"

แตงกวามองหน้านลินก่อนเดินออกไปกับกษิดิฐ นลินโมโห คิดว่าต่อไปนี้จะไม่ยอมแตงกวาอีกต่อไป

 
อ่านตอนต่อที่ 3
กำลังโหลดความคิดเห็น