นางร้ายสายลับ ตอนที่ 3
ภายในห้องประชุมที่ปิดไฟมืดทั้งห้อง รูปริชาร์ดในอิริยาบถต่างๆ ซึ่งถ่ายจากมือถือสุรีกานต์ถูกฉายขึ้นบนโปรเจคเตอร์กลางห้องประชุม แต่ละรูปเห็นหน้าริชาร์ดและบอดี้การ์ดแต่ละคนอย่างชัดเจน มีเพียงชายนิรนามอีกคนหนึ่งที่นั่งหันหลังให้ จึงมองไม่เห็นหน้า
“นี่คือรูปทั้งหมดที่ถ่ายได้จากกล้องมือถือของสายลับเนปจูน” นฤเบศอธิบาย
อัศวินชม
“โอ้โห ชัดแจ๋วเลยนะครับเนี่ย แต่เสียดาย ผู้ชายคนนั้นนั่งหันหลังให้มองยังไงก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร”
“ถ้ายัยดารานั่น ไม่มาช้า เราอาจจะได้เบาะแสเกี่ยวกับคนที่มาพบริชาร์ดแล้วก็ได้” นฤเบศบ่น
“โธ่ สารวัตรครับ อย่าไปโทษคุณโซ่เลยครับ มือใหม่หัดเป็นสายลับ ได้แค่นี้ก็สุดยอดแล้วครับ” จ่ายมปลื้มๆ
นฤเบศมองหน้าจ่ายม
“เข้าข้างกันจังเลยนะจ่า งั้นถ้าคราวหน้าพลาดอีกละก็ ผมจะให้จ่ารับผิดชอบแทนก็แล้วกัน”
“จะดีเหรอครับสารวัตร” จ่ายมเสียงอ่อยๆ
อัศวินและปรีติหัวเราะจ่ายม ในขณะที่ประเสริฐแอบอมยิ้ม นฤเบศไม่สนใจหันมาประชุมต่อ
“ท่าทางหมอนั่นคงต้องเป็นคนสำคัญมาก ไม่งั้นริชาร์ดคงไม่ต้องการพบเขาเป็นคนแรกทันทีที่มาถึงเมืองไทยหรอก” นฤเบศหันไปทางปรีติ “ถ้างั้นหมวดไปสืบข้อมูลมาให้ผมด้วย อ้อ...แล้วอย่าลืมเช็คกำหนดการของริชาร์ดในเมืองไทยด้วยนะ”
“ครับสารวัตร ถ้าได้ความคืบหน้า ผมจะรีบรายงานทันทีครับ” ปรีติรับคำ
นฤเบศหน้าตามุ่งมั่น
รถลีมูซีนของริชาร์ดแล่นเข้ามาจอดหน้าคลับเฮ้าส์สนามกอล์ฟของกวิน บอดี้การ์ดของ ริชาร์ดลงมาเปิดประตูให้ ริชาร์ดก้าวลงมามองบรรยากาศรอบๆ สนามกอล์ฟและยิ้มอย่างพึงพอใจ
กวินนั่งอ่านแฟ้มเอกสารอยู่ตรงโต๊ะทำงาน ที่ห้องทำงานบนตึกสำนักงานสนามกอล์ฟ เสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นมอง นัฐชาเปิดประตูและก้าวเข้ามารายงานท่าทางนอบน้อม
“คุณกวินคะ คุณมงคลและและตัวแทนจาก R.G. International Group ที่นัดไว้ มารออยู่ที่ห้องประชุมแล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับ คุณนัฐชา อ้อ...เดี๋ยวคุยกับอามงคลเสร็จแล้ว ผมจะลงไปตรวจงานด้านล่างสักหน่อย คุณนัฐชาช่วยเตรียมแฟ้มเอกสารให้ผมด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ คุณกวิน”
กวินเดินนำออกไปจากห้อง
กวินเปิดประตูห้องประชุมเข้ามา มงคลและริชาร์ดนั่งรออยู่ โดยมีบอดี้การ์ดของ ริชาร์ดยืนอยู่ห่างๆ กวินเดินไปหา มงคลและริชาร์ดลุกขึ้นยืน
“กวิน นี่ มิสเตอร์ริชาร์ด รอซซินี่ ประธานกรรมการบริษัท R.G. International Group ที่จะมาเซ็นสัญญาผลิตและนำเข้าอุปกรณ์กอล์ฟกับเรา” มงคลแนะนำ
กวินยื่นมือเช็คแฮนด์
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ มิสเตอร์ริชาร์ด”
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ คุณกวิน ผมพอจะได้ยินชื่อเสียงของคุณมาบ้างเหมือนกัน คุณเป็นคนหนุ่มไฟแรงที่น่าจับตามองจริงๆ”
“นักธุรกิจหน้าใหม่อย่างผมคงต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ แต่ผมก็โชคดีมากที่มีที่ปรึกษามือหนึ่งอย่างคุณอามงคลคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ และยังโชคดีที่ได้ร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง R.G. International Group ด้วย”
“เอาเป็นว่าเราเริ่มประชุมกันเลยดีกว่านะครับ”
มงคลผายมือเชิญให้ริชาร์ดนั่ง ทั้งหมดเริ่มประชุมงานกัน
กวินและมงคลเดินมาส่งริชาร์ดขึ้นรถที่โถงด้านล่างของคลับเฮ้าส์
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคุณนะครับคุณริชาร์ด”
ริชาร์ดยิ้มตอบสุภาพ
“ยินดีเช่นกันครับ...สนามกอล์ฟที่นี่ทั้งกว้างขวาง แล้วบรรยากาศดีมาก ผมหวังว่าโอกาสหน้าจะได้มาใช้บริการที่นี่บ้างนะครับ”
กวินยิ้มรับ
“ได้สิครับ รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน”
บอดี้การ์ดริชาร์ดเปิดประตูรถให้ ริชาร์ดก้าวขึ้นนั่ง รถของริชาร์ดแล่นออกไป กวินและมงคลมองตาม
“ยังไงผมฝากอามงคลช่วยดูแลโปรเจ็คนี้ด้วยนะครับ”
“ได้สิ อายินดีช่วยอยู่แล้ว กวินก็เหมือนหลายชายคนหนึ่งของอา”
“ขอบคุณมากนะครับคุณอา ตั้งแต่คุณพ่อท่านเสีย ถ้าไม่ได้คุณอาคอยช่วย ผมก็คงไม่สามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้”
“อาก็เป็นแค่ผู้ช่วย แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวกวินนั่นแหละ คนเราถ้าตั้งใจจริง ก็ย่อมประสบความสำเร็จได้เสมอ อาเชื่อว่าถ้าวันนี้ท่านประธานยังอยู่ ท่านจะต้องภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้ เหมือนที่อาภูมิใจแน่นอน”
มงคลตบบ่ากวินเบาๆ อย่างรักใคร่สนิทสนม กวินยิ้มน้อยๆ หันไปเห็นนัฐชาถือแฟ้มเอกสารรออยู่
มงคลมองกวินด้วยสายตาชื่นชม
กวินเดินตรวจงานมุมต่างๆ ในคลับเฮ้าส์ด้านล่าง โดยมีนัฐชาคอยเดินตาม เขาเดินผ่านโซนด้านหน้าซึ่งมีโต๊ะพนักงานต้อนรับ พนักงานสาวสองคนยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
สักครู่หนึ่งกวินเดินผ่านโซนล็อคเกอร์ลูกค้า ซึ่งสะอาดเรียบร้อย เขาพยักหน้าอย่างพอใจ
กวินเดินผ่านร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟ สินค้าต่างๆ ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ พนักงานร้านยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เขายิ้มและพยักหน้าให้...กวินเดินผ่านโซนที่นั่งพักผ่อนของลูกค้า ซึ่งสะอาดเรียบร้อยเช่นกัน
แพรไหมตกแต่งเค้กอยู่ในครัวด้านหลังร้านร้านเบเกอร์รี่ เธอบีบครีมลงบนแป้งมาการองหลากสีสันที่วางเรียงรายอยู่ในถาดอย่างคล่องแคล่ว ก่อนนำแป้งอีกส่วนหนึ่งประกบปิดได้เป็นขนมมาการองหลากสีสัน จากนั้นใช้มีดตัดแบ่งเลมอนเมอแรงค์ทาร์ตออกเป็นชิ้นๆ ก่อนจัดเรียงลงบนถาด แล้วบีบครีมช็อคโกแลตลงบนช็อคโกแล็ตเค้กชิ้นสี่เหลี่ยม แล้วโรยหน้าเค้กด้วยช็อคโกแลตขูดและ ผงโกโก้
หญิงสาวตกแต่งเค้กไวท์ช็อคโกแล็ตรูปหัวใจ ด้วยไวท์ช็อคโกแลตสีขาวแผ่นบางๆคล้ายปีกนางฟ้า ตามด้วยสตอร์เบอร์รี่อย่างตั้งใจ แล้วยืนมองถาดเค้กที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะสีหน้าท่าทางดูมีความสุข ก่อนจะยกถาดเค้กขึ้นมาถือในมือเพื่อเตรียมเอาไปวางในตู้เค้ก
กวินเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านเบเกอร์รี่ของแพรไหมที่ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเปิดร้านเป็นวันแรก เขามองป้ายชื่อร้านที่เขียนด้วยตัวอักษรงดงาม Felicite เขาหันมาถามนัฐชา
“ร้านนี้เปิดแล้วเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ เพิ่งตกแต่งเสร็จเมื่อสองวันก่อน เหมือนว่าวันนี้จะเปิดร้านเป็นวันแรกนะคะ”
กวินพยักหน้ารับ มองร้านอย่างสนใจ
“วันนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว คุณนัฐชาไปทำงานต่อเถอะครับ”
“ค่ะ”
นัฐชาเดินออกไป กวินหันไปมองทางร้านแพรไหม ก่อนตัดสินใจเดินเข้าไป
องุ่นเอาบลูเบอรี่ชีสเค้กที่จัดวางอยู่ในจานอย่างสวยงามมาเสิร์ฟให้กับกวินที่นั่งอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่งของร้านซึ่งติดกับผนังกระจก มองออกไปเห็นทิวทัศน์ของสนามกอล์ฟ
“เค้กที่คุณสั่งได้แล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
องุ่นเขิน เพราะแอบปลื้มความหล่อของกวิน ยิ่งเขายิ้มให้ยิ่งใจละลายมือไม้สั่น ยกแก้วกาแฟร้อนที่อยู่ในถาดกำลังจะเสิร์ฟให้เขาแต่เพราะมัวมองหน้าเขาจึงทำกาแฟหกรดเสื้อสูทของเขาแก้วตกลงพื้นแตกกระจายเสียงดัง องุ่นตกใจหน้าซีด
“เอ่อ คือ ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวหนูเช็ดให้นะคะ”
แพรไหมที่กำลังยกถาดขนมออกมาพอดี รีบวางถาดขนมบนเคาน์เตอร์ แล้วรีบเข้ามาดูด้วยความตกใจ
“คุณเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ ฉันต้องขอโทษแทนพนักงานด้วยนะคะ ที่ทำให้ชุดคุณเลอะหมดเลย”
“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นอุบัติเหตุ”
“แต่ในฐานะที่คุณเป็นลูกค้าของร้าน ยังไงฉันก็ต้องรับผิดชอบอยู่ดี ให้ฉันเอาชุดของคุณไปส่งซักให้นะคะ”
“ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ เรื่องแค่นี้เอง”
“ถ้าคุณไม่รีบ ก็อย่าปฏิเสธเลยนะคะ ไม่งั้นฉันคงจะเสียใจมาก ถ้าปล่อยให้ลูกค้า คนแรกของร้านเลอะเทอะอย่างนี้”
สุดท้ายก็กวินก็ยอมแพ้ความตั้งใจของแพรไหม ถอดเสื้อสูทส่งให้แพรไหมแล้วยิ้ม
เซฟเฮ้าส์ทีมเดอะซัน...ปรีติพยายามขยายรูปมงคลที่ได้จากกล้องมือถือของสุรีกานต์อย่างขะมักเขม้น โดยมีจ่ายมและอัศวินคอยลุ้นอยู่ข้างๆ อย่างตื่นเต้น ภาพที่จอคอมพิวเตอร์ของปรีติ เป็นภาพมงคลที่นั่งร่วมโต๊ะกับริชาร์ด มงคลนั่งหันหลังกำลังหันไปคุยกับริชาร์ดเห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นใคร
“ขยายรูปให้มันใหญ่กว่านี้ไม่ได้เหรอหมวด” อัศวินถาม
“โห ผู้กอง จะขยายมากขยายน้อยมันก็เห็นแค่นี้อยู่ดีแหละ”
นฤเบศเดินถือแก้วกาแฟ เข้ามาในห้อง
“ได้เรื่องมั้ยหมวด”
“ยังเลยครับสารวัตร รูปที่ถ่ายมาแทบจะไม่เห็นหน้าเลย ผมลองหาทางขยายรูป และลองเทียบโครงหน้ากับประวัติอาชญากร แต่ก็ไม่พบข้อมูลที่ตรงกันครับ”
“งั้นหมวดลองติดต่อกับทางโรงแรมขอเช็คภาพจากกล้องวงจรปิดดูแล้วกัน อาจจะได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมก็ได้”
“ครับสารวัตร”
ประเสริฐเปิดประตูเข้ามาพอดี
“สารวัตรครับ สายของเราที่ให้จับตาดูความเคลื่อนไหวของพ่อเลี้ยงกำธรรายงานมาว่า พ่อเลี้ยงกำธรจะไปพบริชาร์ดเย็นนี้ครับ”
นฤเบศนิ่งคิดแววตามีความหวังขึ้นมาทันที
สุรีกานต์เล่นโยคะอยู่ที่คอนโดอย่างอารมณ์ดี เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น แต่เธอไม่สนใจจนเสียงเรียกเข้าดับไป สักพักเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก สุรีกานต์หงุดหงิดหยุดเล่นโยคะเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้บนโซฟาขึ้นมาดู หน้าจอโชว์ชื่อที่เมมไว้ว่า “สารวัตรปากร้าย” สุรีกานต์กดรับสายอย่างหงุดหงิด
“ว่าไง คุณสารวัตร มีอะไรอีกไม่ทราบ หรือจะโทรมาชื่นชมฝีมือการถ่ายรูปของฉัน...อะไรนะ ให้ไปพบเดี๋ยวนี้เหรอ …เดี๋ยวสิ ฮัลโหล ฮัลโหล”
สุรีกานต์มองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายทิ้งไปทันทีอย่างโมโห
สุรีกานต์ขับรถมาจอดหน้าร้านหนังสือมือสองแห่งหนึ่ง ตามที่นฤเบศบอกไว้ เธอสวมแว่นกันแดดและหมวกเพื่ออำพรางใบหน้าก้าวลงจากรถยืนมองร้านหนังสือ
“ที่นี่เนี่ยนะ”
สุรีกานต์ฮึดฮัดขัดใจแต่ก็เดินเข้าไปในร้าน...บรรยากาศในร้านค่อนข้างเงียบเพราะไม่มีลูกค้า ในร้านมีชั้นหนังสือสูงวางเรียงราย แถมบนพื้นยังมีหนังสือวางกองๆ อย่างไม่ค่อยเป็นระเบียบจนทำให้ทางเดินแคบลงไปอีก สุรีกานต์เดินมองนฤเบศตามชั้นหนังสือต่างๆ แทรกตัวไปตามกองหนังสืออย่างค่อนข้างลำบาก
“อยู่ไหนเนี่ย หรือว่ายังมาไม่ถึง ทีกับคนอื่นน่ะจิกเอาๆ ถ้าเจอล่ะก็จะวีนให้เข็ดเลยคอยดู”
สุรีกานต์เริ่มจามฟุดฟิด เพราะแพ้ฝุ่น
“โอ๊ย ทำไมฉันต้องมาที่แบบนี้ด้วยนะ หน้าตาไม่หล่อแล้วยังรสนิยมแปลกๆ อีก”
สุรีกานต์หันไปมองทางชั้นหนังสือ นฤเบศโผล่หน้ามาตรงช่องว่างพอดี
สุรีกานต์แทบกรี๊ดเพราะตกใจแต่เบรกไว้ได้ทัน
สุรีกานต์กับนฤเบศทำทีเป็นเดินเลือกหนังสือ ตรงชั้นหนังสือทางด้านในสุดของร้าน แต่จริงๆ แล้วแอบคุยกัน
“นี่ คุณดารา คราวหน้าคราวหลังหัดมีมารยาทซะบ้างนะ ไม่ใช่นินทาใครต่อหน้าต่อตาเขาแบบนี้”
“งั้นคราวหลัง คุณก็ช่วยหัดมีมารยาทในการพูดทางโทรศัพท์ด้วย ไม่ใช่โทรมาสั่ง สั่ง สั่ง แล้วก็วางสายโดยที่ฉันยังไม่ได้ตอบคุณเลยแม้แต่คำเดียว”
นฤเบศถอนหายใจ
“เอาล่ะๆ ผมไม่ได้โทรชวนคุณออกมาทะเลาะนะ”
“โอเค มีอะไรก็ว่ามา วันนี้วันหยุดของฉันนะ ทำไมคุณต้องขัดขวางความสุขโดยการโทรเรียกฉันออกมาด้วย แล้วนัดแต่ละที่ก็แปลกๆ ทั้งนั้น วันหลังช่วยนัดที่ๆ มันลำบากน้อยกว่านี้หน่อยได้มั้ย”
“หรือคุณอยากให้ผมนัดในที่สาธารณะล่ะ คราวหน้าจะได้จัดให้ ดีเหมือนกันนะ เผื่อผมจะได้เป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์กับเขาบ้าง หนุ่มปริศนาควงนางร้ายเบอร์หนึ่งสวีตสองต่อสอง”
นฤเบศหัวเราะแล้วยักคิ้วให้อย่างกวนๆ สุรีกานต์ยอมจำนนต่อเหตุผล และอึ้งๆ ไปเมื่อรู้ว่า นฤเบศทำไปเพราะห่วงความปลอดภัยของเธอ
“ก็ได้ๆ มีอะไรก็ว่ามา”
“รูปที่คุณถ่ายมาวันนั้นมันยังใช้สืบหาหลักฐานต่อไม่ได้ ผมอยากให้คุณหาทางเข้าไปใกล้ชิดริชาร์ดเพื่อล้วงความลับอีก เพราะฉะนั้นคุณต้องไปปฏิบัติภารกิจ เย็นนี้”
สุรีกานต์หน้าตื่น
“เย็นนี้ เนี่ยนะ”
นฤเบศไม่สนใจหยิบหนังสือเรื่องเกี่ยวกับสืบสวนสอบสวนเล่มหนึ่งบนชั้นหนังสือ แล้วส่งยิ้มกวนๆให้สุรีกานต์
“ขอบคุณนะ ที่มาเป็นเพื่อนผมเลือกหนังสือ”
สุรีกานต์อ้าปากค้าง
“อ้าว นี่คุณไม่ได้เรียกฉันมาเพื่อ...”
“ไม่ต้องทำหน้าซาบซึ้งขนาดนั้นก็ได้คุณ เอาน่า ไหนๆ มาแล้ว สนใจสักเล่มไหมล่ะ”
“ใครบอกว่าฉันมาเพราะคุณ ที่ฉันยอมมาก็เพราะอยากซื้อหนังสือเหมือนกันย่ะ”
สุรีกานต์ไม่ยอมเสียฟอร์ม มองหาหนังสือบนชั้น เห็นนิยายเกี่ยวกับสายลับเล่มหนึ่งก็พยายามเอื้อมมือขึ้นไปหยิบ แต่ก็หยิบไม่ถึง นฤเบศเห็นเธอพยายามเขย่งเอื้อมหยิบหนังสือ จึงเดินไปด้านหลังแล้วเอื้อมหยิบให้ ทั้งสองคนอยู่ในระยะใกล้ชิด สุรีกานต์เขินเมื่อตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา แต่แล้วก็จามออกมาเสียงดังเพราะอาการแพ้ฝุ่นกำเริบ ทั้งคู่ผละจากกันแบบเขินๆ นฤเบศยื่นหนังสือให้ สุรีกานต์รับมา
“ขอบใจนะ”
นฤเบศเดินหันหลังไป สุรีกานต์ยกหนังสือในมือขึ้นมอง เห็นชื่อหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ ก็หน้าแดง โมโหปรี๊ด บ่นพึมพำไล่หลัง
“ไอ้...ไอ้สารวัตรบ้า ฮึ่ย ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้นางร้ายอย่างฉันเอาคืนบ้างละกัน”
นฤเบศแอบอมยิ้ม
กวินนั่งดื่มกาแฟอยู่ แพรไหมถือเสื้อสูทกวินที่ส่งซักแห้งเสร็จเรียบร้อยเดินเข้ามาให้
“เสื้อของคุณเรียบร้อยแล้วค่ะ”
แพรไหมยื่นเสื้อให้ กวินรับมา
“ขอบคุณครับ กาแฟกับเค้กอร่อยมาก ผมขอตัวก่อนนะครับ แล้ววันหลังผมจะมาอุดหนุนใหม่”
“ยินดีค่ะ”
กวินยิ้มให้อย่างสุภาพและเดินออกจากร้านไป องุ่นปลื้มมาก
“โอ๊ย คนอะไรทั้งหล่อ ทั้งแสนดี ยิ้มทีกระชากใจ อย่างกับเจ้าชายในฝัน”
แพรไหมหันมาดุ
“มัวแต่เพ้ออยู่นั่นแหละ เป็นเรื่องเลยเห็นมั้ย ดีนะที่ลูกค้าไม่เอาเรื่อง”
องุ่นจ๋อยๆไป
“แหะๆ ขอโทษค่ะคุณไหม คราวหน้าองุ่นจะระวังให้มากกว่านี้ค่ะ ว่าแต่หน้าตาคุณลูกค้าคนนั้นหล่ออย่างกะดารา ถ้ามีลูกค้าหล่อๆ แบบนี้มาที่ร้านทุกวันล่ะก็คงกระชุ่มกระชวยหัวใจดีนะคะ”
“ไร้สาระ ไปทำงานได้แล้ว”
“ค่ะ คุณไหม”
แพรไหมมองตามกวินที่เดินออกจากร้านไป
อ่านต่อหน้า 2
นางร้ายสายลับ ตอนที่ 3 (ต่อ)
ฟากเนธานกับพลอยนิลกำลังมานอนนวดผ่อนคลายในสปาหรู พนักงานนวดเสร็จพอดีจึงเดินออกไป เหลือพลอยนิลกับเนธานอยู่ในห้อง 2 คน
“ถ่ายละครเป็นยังไงบ้าง” พลอยนิลถามขึ้น
“ก็โอเค”
“เสียดาย นิลน่าจะได้เล่นเรื่องนี้ด้วย เราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันนานกว่านี้”
“ถึงไม่ได้เล่นละครด้วยกัน แต่ผมก็หาเวลาอยู่กับนิลได้อยู่ดีแหละน่า”
“แต่นิลไม่อยากให้ธานอยู่ห่างสายตานี่คะ”
“ถึงผมจะอยู่ห่างคุณ แต่ผมก็คิดถึงคุณเสมอแหละ”
“อย่ามาทำเป็นปากหวานหน่อยเลย ถ้านิลจับได้ว่าคุณแอบไปกุ๊กกิ๊กกับใครในกองละครล่ะก็ นิลเอาตายแน่”
เนธานแอบสะดุ้ง
ไม่นานต่อมา พลอยนิลเดินควงแขนกระหนุงกระหนิงออกจากสปามากับเนธาน แก้วดารา ที่กำลังจะมานวดที่สปาเหมือนกัน เห็นพลอยนิลควงเนธานท่าทางสนิมสนมในมุมไกลๆ ก็รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเนธานกับพลอยนิล แก้วดารายิ้มร้าย
“ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
เนธานเดินผละไปทางห้องน้ำ พลอยนิลยืนยิ้มอย่างอารมณ์ดี ทันใดนั้นเสียงแก้วดาราดังขึ้น
“ดีใจจังเลยค่ะที่ได้เจอพี่นิลที่นี่”
พลอยนิลชะงักหันไปประจันหน้าอย่างระแวง
“แก้วดารา”
“แหม ไม่เห็นต้องเรียกเต็มยศขนาดนั้นเลยนี่คะ ฟังดูห่างเหินยังไงไม่รู้ พอดีแก้วแค่อยากมาทักทายพี่นิลตามประสารุ่นพี่รุ่นน้องน่ะค่ะ”
“ถ้าเสร็จธุระของเธอแล้วก็เชิญ”
“รีบผลักไสไล่ส่งกันขนาดนี้ ไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอคะ หรือว่ากลัวคนอื่นจะมาเห็นว่าพี่นิลกำลังปิดบังความลับอะไรอยู่”
พลอยนิลโมโห แต่ต้องเก็บอาการ
“เอ คนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนี่เขาเรียกว่าอะไรน๊า”
แก้วดาราไม่พอใจ
“นี่พี่นิลว่าแก้วสาระแนเหรอคะ”
“ก็ไม่โง่นี่นา”
พลอยนิลยิ้มเยาะแล้วเดินจากไป แก้วดาราฮึดฮัดขัดใจที่โดนตอกกลับ อยากจะกรี๊ดแต่ก็เก็บอาการไว้แก้วดารามองตามด้วยสีหน้าอาฆาต
“ฮึ อีแก่ ฉันจะสาระแนแกให้แสบไส้ไปเลย คอยดู”
เนธานเดินออกมาจากห้องน้ำ โทรศัพท์มือถือมีสายเข้า เขายกขึ้นดูเห็นเป็นเบอร์ของอุษณะก็ถึงกับชะงักหน้าเครียด จำใจกดรับสาย
“ฮัลโหล มีธุระอะไร...ได้ โอเค พรุ่งนี้เจอกัน”
เนธานวางสายหันกลับไปเจอพลอยนิลที่มองมาท่าทางจับผิด
“คุยกับใครเหรอธาน”
เนธานปรับสีหน้าให้ปกติ
“เอ่อ...คือ ทีมงานโทร.มาบอกคิวถ่ายละครน่ะ เห็นว่ามีปัญหาเรื่องโลเกชั่นเลยมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย”
พลอยนิลมองจับผิด
“แน่ใจนะคะ ว่าทีมงานจริงๆ”
“ไม่เอาน่ะนิล วันนี้เราอุตส่าห์มาพักผ่อน อย่าให้เสียบรรยากาศเลยนะ เมื่อกี้นิลยังอารมณ์ดีอยู่เลย”
“ขอโทษค่ะ บังเอิญเจอพวกชอบทำลายบรรยากาศก็เลยหงุดหงิดนิดหน่อย”
เนธานแปลกใจ
“ใครเหรอ”
“ก็แค่พวกหิ่งห้อยที่ชอบแข่งแสงจันทร์น่ะค่ะ อย่าไปสนใจเลย เราไปหาอะไรทานกันดีกว่านะคะ”
เนธานเข้ามาโอบเอวพลอยนิล แล้วเดินกระหนุงกระหนิงไปด้วยกัน
ทางด้านนฤเบศนั่งอยู่ในรถ แอบส่องกล้องส่องทางไกลเพื่อดูความเคลื่อนไหวของริชาร์ด เห็นรถของริชาร์ดแล่นเข้ามาจอดที่ลานจอดรถหน้าร้านอาหารญี่ปุ่น แล้วริชาร์ดลงจากรถเดินเข้าร้านโดยมีบอดี้การ์ดชายสองคนคอยตามประกบ นฤเบศยกมือขึ้นแตะหูฟังสายลับเพื่อติดต่อกับสุรีกานต์
“เดอะซัน 1 เรียกเนปจูน พลูโตเดินทางมาถึงแล้ว พร้อมปฏิบัติภารกิจได้”
พนักงานหญิงของร้านในชุดกิโมโนออกมาต้อนรับริชาร์ด โค้งคำนับแบบธรรมเนียมญี่ปุ่น แล้วเดินนำริชาร์ดและบอดี้การ์ดทั้งสองคนไปยังห้องที่จองไว้ ซึ่งเป็นโซนห้องวีไอพีส่วนตัวและเป็นโต๊ะแบบนั่งเสื่อทาทามิ
พนักงานหญิงเดินนำริชาร์ดมาถึงห้องที่จองไว้ แล้วเปิดประตูให้ ประตูไม้ไผ่บานเลื่อนค่อยๆ เปิดออก พ่อเลี้ยงกำธรที่มานั่งรออยู่ข้างในเห็นริชาร์ดมาถึงก็รีบลุกขึ้นต้อนรับและเชิญไปนั่ง พนักงานต้อนรับหญิงโค้งคำนับแล้วปิดประตูห้องให้เหมือนเดิม บอดี้การ์ดของริชาร์ดยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง
นฤเบศนั่งซุ่มรออยู่ในรถอย่างกระวนกระวายใจ ยกนาฬิกาขึ้นมองก่อนยกมือขึ้นแตะหูฟังสายลับเพื่อติดต่อกับสุรีกานต์
“เดอะซัน 1 เรียก เนปจูน รายงานความคืบหน้าด้วย”
สุรีกานต์ในชุดกิโมโน ใส่รองเท้าเกี๊ยะ ในมือถือถาดกาน้ำชา และถ้วยน้ำชาเดินซอยเท้าเล็กๆ แบบสาวญี่ปุ่น อยู่ในร้านอาหาร
นฤเบศ เห็นว่าสุรีกานต์ยังไม่ตอบก็ตะโกนซะดังลั่น
“เดอะซัน 1 เรียก เนปจูน ได้ยินแล้วตอบด้วย”
สุรีกานต์ที่กำลังเดินถือถาดน้ำชาไปยังห้องริชาร์ดชะงักเกือบสะดุด
“นี่คุณ ฉันได้ยินแล้ว ไม่เห็นต้องตะโกนเลย”
นฤเบศที่นั่งคอยอยู่ในรถหงุดหงิด
“คุณได้ยินผมเรียกแล้วทำไมไม่ตอบ”
“ก็ฉันกำลังใช้สมาธิอยู่น่ะสิ”
“แล้วสถานการณ์ตอนนี้เป็นไงบ้าง”
“พลูโตเข้าไปพบเป้าหมายแล้ว คุณไม่ต้องห่วงหรอกน่า บทปลอมตัวแบบนี้ฉันผ่านมาเยอะแล้ว รับรองไม่มีพลาด”
สุรีกานต์เดินมาหยุดถึงหน้าห้องของริชาร์ด มองไปบอดี้การ์ดของริชาร์ดยังคงยืนคุมเชิงอยู่
ในห้อง...ริชาร์ดนั่งคุยกับพ่อเลี้ยงกำธร บนโต๊ะมีอาหารวางเรียงราย ประตูบานเลื่อนไม้ไผ่ค่อยๆ เปิดออก สุรีกานต์ที่ปลอมตัวมาในชุดกิโมโน ทาแป้งหน้าขาว ทาปากแดงครึ่งเดียว ทำทรงผมแบบเกอิชา ยืนถือถาดน้ำชาและส่งยิ้มหวานให้ที่ประตู ริชาร์ดและพ่อเลี้ยงกำธรหันไปมองแบบงงๆ สุรีกานต์ก้าวเข้ามาในประตู ค่อยๆ ก้าวเดินสั้นๆ นุ่มนวล ย่อตัวลงเอาถาดน้ำชาไปวาง แล้วนั่งคุกเข่าโค้งคำนับแบบญี่ปุ่น ท่าทางมีจริตมารยาหว่านเสน่ห์เต็มที่
“คมบังวะ ยินดีต้อนรับค่ะ” เธอแกล้งพูดไทยสำเนียงญี่ปุ่น “อาโน ดิฉัน ฮิเดโกะ จะมาคอยบริการคุณค่ะ”
สุรีกานต์ชม้ายชายตาหว่านเสน่ห์เต็มที่ พ่อเลี้ยงกำธรมองสุรีกานต์สายตากรุ้มกริ่ม สุรีกานต์ค่อยๆ ยกกาน้ำชา รินชาแล้วเอาไปเสิร์ฟริชาร์ดที่ยกมือขึ้นแตะถ้วยอย่างระแวงพ่อเลี้ยงกำธรยิ้มแย้ม
“สงสัยคงเป็นบริการพิเศษของทางร้านใช่มั้ย”
สุรีกานต์ยิ้มตอบ
“อาโน... ไฮ้”
“แต่เราต้องการความเป็นส่วนตัว” ริชาร์ดเสียงแข็ง
“ดิฉันจะคอยอยู่ห่างๆ ไม่วุ่นวายความเป็นส่วนตัวของคุณหรอกค่ะ ยกเว้นถ้าคุณต้องการ”
ขาดคำเธอก็ส่งสายตาหว่านเสน่ห์ให้ พ่อเลี้ยงกำธรยิ้มพึงใจ
“อืม จะว่าไปมีสาวสวยมาคอยบริการแบบนี้ อาหารก็ดูมีรสชาติขึ้นเยอะ จริงมั้ยครับ คุณริชาร์ด”
สุรีกานต์ส่งถ้วยชาให้พ่อเลี้ยงกำธรที่แอบจับมือเธอ สุรีกานต์สะดุ้งแต่ก็ยิ้มสู้ หันไปรินชาให้ริชาร์ดที่มองมาอย่างระแวง
“ธุรกิจคุณตอนนี้เป็นยังไงบ้างพ่อเลี้ยง”
“ผมมีโครงการจะขยายไร่อีกหลายร้อยไร่ ตอนนี้กำลังให้ลูกน้องไปจัดการกว้านซื้อที่ดินจากพวกชาวบ้านอยู่”
“ดูเหมือนกิจการคุณจะไปได้สวยนี่ โปรเจ็คใหญ่ขนาดนี้คงต้องใช้เงินลงทุนไม่ใช่น้อยเลยสินะ”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา เพราะผมมีแหล่งเงินทุนดี คุณก็น่าจะรู้”
ริชาร์ดกับพ่อเลี้ยงกำธรหัวเราะกันอย่างมีเลศนัย สุรีกานต์ที่ไปนั่งชงชาอยู่มุมหนึ่งคอยลอบมองตลอด เสียงนฤเบศดังขึ้นจากหูฟังสายลับ
“เดอะซัน 1 เรียกเนปจูน สถานการณ์ตอนนี้เป็นไงบ้าง”
สุรีกานต์ยกมือขึ้นแตะหูฟังพูดจากระซิบกระซาบ แอบลอบมองริชาร์ดไปด้วย”
“ไฮ่ เอ้ย ตอนนี้กำลังเจรจากันอยู่ แต่ไม่เห็นจะพูดถึงเรื่องอะไรเลยมัวแต่คุยกันเรื่องธุรกิจไร่ชากาแฟกันอยู่”
“พวกมันอาจจะไม่ไว้ใจที่มีคนอื่นอยู่ด้วย ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะคุณ ถ้าถูกจับได้ขึ้นมาเราไม่รอดแน่”
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาล่ะก็ คุณต้องมาช่วยฉันทันที เข้าใจมั้ย”
ริชาร์ดบังเอิญหันมาเห็นสุรีกานต์เหมือนพูดอยู่คนเดียวก็มองจ้องอย่างสงสัย
“มิส ฮิเดโกะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า”
สุรีกานต์สะดุ้ง
“อาโน ไม่มีอะไรค่ะ”
“แต่เมื่อกี้ผมเห็นคุณเหมือนคุยกับใครอยู่นะ”
ริชาร์ดมองอย่างสงสัยขยับเข้าไปใกล้สุรีกานต์ ยื่นหน้าไปจนใกล้เกือบเห็นหูฟังสายลับที่ซ่อนอยู่ สุรีกานต์ยกพัดขึ้นมาบังหน้าไว้ครึ่งหนึ่งได้ทันเวลา
“อาโน ฮิเดโกะ กำลังซ้อมการแสดงอยู่น่ะค่ะ”
สุรีกานต์ลุกขึ้นโชว์ร้องเพลงประกอบการรำพัดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากริชาร์ดและพ่อเลี้ยงกำธรจนไปหยุดใกล้ๆ ประตูทางออก ก่อนจะจบท่ารำอย่างสวยงาม สุรีกานต์โค้งคำนับ พ่อเลี้ยงกำธรปรบมือชื่นชม
“อะริงาโตะ ขอบคุณค่ะ ขอให้ทุกท่านทานให้อร่อยนะคะ”
สุรีกานต์หาทางเลี่ยงออกไปจากห้องได้อย่างหวุดหวิด ในขณะที่ริชาร์ดมองตามอย่างสงสัย
สุรีกานต์แอบยืนหลบอยู่ตรงมุมทางเดินในร้านอาหาร ถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอยกมือขึ้นแตะหูฟังสายลับ
“โอ๊ย...เกือบไปแล้ว เพราะคุณคนเดียวเลย”
“เกิดอะไรขึ้น”
“ก็ถ้าคุยไม่ชวนฉันคุยจนฉันเสียสมาธิ พลูโตคงไม่สงสัยจนฉันต้องรีบหนีออกมายืนนอกห้องอย่างนี้หรอก”
“สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ คุณรีบออกมาเดี๋ยวนี้ วันนี้เรายกเลิกภารกิจกันก่อน” นฤเบศสั่ง
“จะมายกเลิกง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน คุณอุตส่าห์ลากฉันมาถึงที่นี่ ฉันไม่ยอมกลับไปมือเปล่าหรอก”
เสียงฝีเท้าคนเดินมาทางด้านหลัง ทำให้สุรีกานต์ถึงกับสะดุ้งรีบหลบเข้ามุม พอเห็นเป็นพนักงานหญิงของร้านก็ถอนหายใจโล่งอก ก่อนจะยิ้มกริ่มเมื่อนึกแผนขึ้นมาได้
ริชาร์ดกับพ่อเลี้ยงกำธรกำลังนั่งคุยกันอยู่
“สินค้าล็อตนี้จะทำให้เราร่ำรวยมหาศาล แต่เราต้องระวังเรื่องความปลอดภัยให้มาก เพราะพวกตำรวจมันก็คอยตามกลิ่นเราอยู่เหมือนกัน”
“ถึงพวกตำรวจมันจะฉลาด แต่ยังไงก็ไม่มีทางแน่ไปกว่าเราได้หรอกครับ”
“ถึงยังไงเราก็ไม่ควรประมาท อาทิตย์หน้าเรือขนส่งสินค้าก็จะเดินทางมาถึงเมืองไทย ผมรู้มาว่าที่ด่านตรวจศุลกากรเข้มงวดมาก เราอาจจะมีปัญหาได้”
พ่อเลี้ยงกำธรยิ้มมั่นใจ
“วางใจเถอะครับ ผมมีคนดูแลเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว”
ริชาร์ดกับพ่อเลี้ยงกำธรกำลังนั่งคุยกันอยู่ อีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ติดกัน สุรีกานต์กำลังยืนอยู่ตรงฝาผนัง พยายามหาทางจะแอบดูริชาร์ด โดยการเอานิ้วเจาะส่วนหนึ่งของผนังที่ดูเหมือนเป็นกระดาษบางๆ จนเป็นรูแล้วแอบส่องเห็นริชาร์ดกับพ่อเลี้ยงกำธรกำลังคุยกันเป็นปกติ
“เนปจูน คุณมัวทำอะไรอยู่ ทำไมยังไม่ออกมาซะที”
“ใจเย็นน่า ฉันกำลังทำตามแผนของฉันอยู่ รับรอง Mission Complete แน่”
สุรีกานต์เอาหูแนบกับผนังพยายามฟังบทสนทนาอย่างตั้งใจ
“คุณวางใจได้เลย งานนี้ผมรับผิดชอบเอง” พ่อเลี้ยงกำธรยกถ้วยชาขึ้นชนกับริชาร์ด “แด่ความสำเร็จในธุรกิจของเรา...พรุ่งนี้คุณมีนัดที่ไหนรึเปล่า พอดีผมมีที่เด็ดๆ จะแนะนำเพียบ รับรองคุณต้องชอบ”
“ผมคงต้องขอตัว เพราะคืนพรุ่งนี้ผมมีนัดปาร์ตี้กับหุ้นส่วนจากฮ่องกง ถ้าคุณสนใจจะไปสนุกด้วยกันก็ได้นะ”
“ที่ไหนเหรอครับ”
“M Club”
สุรีกานต์ พูดพึมพำกับตัวเอง อย่างมีความหวัง
“M Club เหรอ”
สุรีกานต์เปลี่ยนชุดเป็นชุดปกติ แต่ยังไม่ได้ล้างหน้า กำลังเอาชุดกิโมโนคืนให้พนักงานเสิร์ฟหญิง แต่ก็แอบเหลียวมองซ้ายขวาอย่างระวังเพราะกลัวริชาร์ดออกมาเห็น
“ขอบใจมากนะ ที่ช่วยให้พี่มาลองซ้อมบทในสถานที่จริงแบบนี้ อินมากๆ เลยจ้ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ก็หนูเป็นแฟนคลับพี่โซ่นี่คะ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เจอพี่โซ่ตัวเป็นๆ แบบนี้ ว่าแต่บทเกอิชานี่เรื่องไหนเหรอคะ หนูจะได้รอดู”
สุรีกานต์หัวเราะกลบเกลื่อน
“บอกก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์สิจ๊ะ เอาเป็นว่าคอยติดตามละกันนะ พอดีพี่มีธุระขอตัวก่อนนะจ๊ะ”
“เดี๋ยวค่ะ หนูขอถ่ายรูปกับพี่โซ่เป็นที่ระลึกหน่อยได้มั้ยคะ”
“เอ่อ... ก็ได้จ้ะ”
พนักงานหญิงตื่นเต้นดีใจ หยิบกล้องถ่ายรูปจะมาถ่ายกับสุรีกานต์ ขณะกำลังโพสต์ท่าจะถ่ายรูป สุรีกานต์เหลือบเห็นริชาร์ดกับพ่อเลี้ยงกำธรพร้อมบอดี้การ์ดกำลังเดินตรงมาพอดี เธอรีบลากพนักงานหญิงไปอีกมุมหนึ่ง หลบริชาร์ดได้อย่างหวุดหวิด พนักงานหญิงงงๆ
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
“เอ่อ คือ...พี่ว่ามุมนี้มันสวยกว่าน่ะจ้ะ แสงไฟส่องมากำลังดี รับรองถ่ายรูปออกมาแล้วแจ่มแน่นอน”
พนักงานหญิงเออออแล้วถ่ายรูปกับสุรีกานต์ เธอแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
นฤเบศส่องกล้องส่องทางไกล เห็นพ่อเลี้ยงกำธรเดินไปส่งริชาร์ดขึ้นรถ รถของริชาร์ดแล่นออกไป พ่อเลี้ยงกำธรเดินไปขึ้นรถตัวเอง แล้วขับออกไปเช่นกัน นฤเบศรออยู่ แต่ยังไร้วี่แววของสุรีกานต์
“ยัยดารานั่นมัวทำอะไรอยู่วะ หรือว่าจะเกิดเรื่อง”
นฤเบศหน้าเครียด เตรียมหยิบปืน พร้อมยกมือแตะหูฟังสายลับอย่างร้อนใจ
“เดอะซัน 1 เรียกเนปจูน คุณปลอดภัยรึเปล่า เนปจูน คุณได้ยินผมมั้ย”
นฤเบศตัดสินใจเปิดประตูรถจะลงไปดูในร้าน แต่แล้วก็ต้องตกใจแทบผงะเมื่อเห็นสุรีกานต์ยืนหน้าขาวปากแดงแบบเกอิชาอยู่ แต่เปลี่ยนชุดแล้ว
“เฮ้ย...”
นฤเบศยกปืนเล็งไปที่สุรีกานต์
“จะบ้าเหรอ จำฉันไม่ได้รึไง”
นฤเบศลดปืนลง เพ่งมอง ก่อนจะหัวเราะขำก๊ากออกมา สุรีกานต์ชักฉุน
“ขำอะไรไม่ทราบ”
“คุณลงทุนแต่งหน้าทำผมเป็นเกอิชาเลยเหรอเนี่ย จริงจังไปมั้งคุณ”
“คนอย่างสุรีกานต์ เวลาทำงานจัดเต็มเสมอแหละย่ะ คุณหยุดหัวเราะฉันเดี๋ยวนี้นะ”
สุรีกานต์เชิดหน้าเดินไปขึ้นรถ นฤเบศขึ้นรถมองขำๆ แล้วขับรถออกไป
อ่านต่อหน้า 3
นางร้ายสายลับ ตอนที่ 3 (ต่อ)
ในเวลาต่อมา ที่เซฟเฮ้าส์ทีมเดอะซัน...นฤเบศนั่งประชุมงานกับทีมเดอะซัน โดยมีสุรีกานต์ที่ยังแต่งหน้าเกอิชาเข้าประชุมด้วย ทีมเดอะซันมองสุรีกานต์อึ้งๆ
“ผมว่า… คุณไปล้างหน้าก่อนดีมั้ย” นฤเบศบอก
จ่ายมขัดขึ้น
“โอ๊ย ไม่เป็นไรหรอกครับสารวัตร คุณโซ่แต่งแบบไหน ก็สวย...ไฮ่”
สุรีกานต์ยิ้ม
“ขอบคุณนะคะจ่ายม แต่บางคน ตาต่ำ หรือไงไม่รู้ มองของสวยๆ เป็นไม่สวยไปได้”
สุรีกานต์ปรายตามองค้อนๆ ไปทางนฤเบศ เขาทำไม่รู้ไม่ชี้ จ่ายมยังจ้อต่อ
“ใคร...ใครมันบังอาจมาว่าคุณโซ่ของผม ผมจะไปจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยครับ ไอ้หมอนั่น สงสัยต่อมรสนิยมเรื่องผู้หญิงมันคงพิการแน่ๆ จริงมั้ยครับสารวัตร”
นฤเบศที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มแทบสำลัก
“นั่นสิคะจ่า ไม่เป็นไรหรอกค่ะ โซ่ไม่ถือสา แค่นี้เขาก็น่าสงสารมากพออยู่แล้ว”
นฤเบศกระแอมขัดขึ้น
“จ่า จะประชุมมั้ย หรือวันนี้จะอยากค้างที่นี่ ไม่ต้องกลับบ้าน”
จ่ายมยิ้มแหยๆ
“แหะๆ ขอโทษครับสารวัตร ประชุมสิครับ ขืนไม่กลับ เมียเอาผมตาย”
นฤเบศถามกวนๆ
“ว่าไง คุณสุรีกานต์ Mission Complete ของคุณได้อะไรมาบ้าง”
สุรีกานต์เชิดหน้า
“ได้แน่นอน ระดับฉันมีหรือจะพลาด คืนพรุ่งนี้ริชาร์ดจะไปปาร์ตี้กับหุ้นส่วนที่ M Club”
ทุกคนพูดออกมาพร้อมกัน
“M Club”
สุรีกานต์ท่าทางตื่นเต้น
“พวกคุณรู้เหรอว่าที่ไหน”
ทุกคนส่ายหน้า มองไปทางปรีติเป็นสายตาเดียวกัน ปรีติ คีย์ข้อมูล หาสถานที่ M Club ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หน้าจอรันข้อมูลไปเรื่อยๆ จนรูปและรายและเอียดสถานที่ปรากฏบนหน้าจอ ทุกคนมุงดูที่หน้าจอ
“บาร์เกย์”
ทีมเดอะซันกลืนน้ำลายเอื้อก สุรีกานต์หัวเราะก๊าก
“โบราณว่าไว้ หัวเราะทีหลังดังกว่ามันเป็นแบบนี้นี่เอง”
สุรีกานต์หัวเราะแล้วแกล้งเก๊กเสียงผู้ชาย เข้าไปลูบไล้นฤเบศ
“นี่ น้องชาย คืนนี้ไปกับพี่มั้ยจ๊ะ”
จ่ายมมองหน้านฤเบศท่าทีหวาดๆ
“สารวัตรครับ เราต้องไปไอ้ M Club นี่จริงๆ เหรอครับ”
นฤเบศพยักหน้า ทีมเดอะซันแทบจะเป็นลมไปตามๆ กัน สุรีกานต์เสนอตัว
“ฉันขอไปด้วยคนนะ”
นฤเบศรีบแย้ง
“จะบ้ารึไง คุณเป็นผู้หญิงนะ จะเข้าไปได้ไง”
“เถอะน่า ฉันมีวิธีก็แล้วกัน ขอฉันไปด้วยคนนะ นะๆ”
นฤเบศไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ สุรีกานต์แกล้งทำเป็นตื่นเต้นกรี๊ดกร๊าดอยู่คนเดียว ในขณะที่ทุกคนหน้าเครียดเป็นแถบ
วันต่อมา...แพรไหมนั่งทานอาหารเช้าอยู่กับรองมานพที่บ้าน ป้าอิ่มและน้อยคอยยืนอยู่ห่างๆ แพรไหมตักอาหารให้พ่ออย่างเอาใจ
“ขอบใจจ้ะลูก... อืม แล้วเปิดร้านวันแรกเป็นยังบ้างน่ะเรา”
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะ ลูกค้าที่มาทานก็ชมกันทุกคน เค้กของไหมขายหมดเกลี้ยงเลยแต่เสียอย่างเดียว ยัยองุ่นดันซุ่มซ่ามทำกาแฟหกใส่ลูกค้าคนแรก ดีนะคะที่เขาใจดีไม่เอาเรื่อง… แล้วช่วงนี้ งานคุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ”
“งานยุ่งเหมือนเดิม ดีนะ ที่ได้คนฝีมือดีอย่างนายเบศมาช่วย รายนั้นก็บ้างานจนไม่มีเวลาไปจีบสาวที่ไปเลย”
รองมานพหัวเราะอย่างอารมณ์ดี แพรไหมแอบยิ้มอย่างมีความสุขที่รู้ว่านฤเบศยังไม่มีแฟน
นฤเบศกำลังจะไปพบรองมานพ บังเอิญเจอกับมังกร
“หมู่นี้รู้สึกว่าเราเจอกันบ่อยนะ” มังกรพูดกวนๆ
“ฉันมีธุระกับท่านรอง”
“มีธุระกับท่าน หรือเอาเรื่องงานมาบังหน้าเพราะมีจุดประสงค์อื่นกันแน่”
นฤเบศชะงัก
“หมายความว่าไง”
“แหม พูดแค่นี้ ทำเป็นอารมณ์ร้อนไปได้ หรือว่าที่ฉันพูดมันไม่ใช่เรื่องจริง”
“ถ้านายจะพูดจาไร้สาระล่ะก็ ฉันขอตัว”
นฤเบศเดินผละไป มังกรพูดไล่หลัง
“ขยันขนาดนี้อีกไม่นานคงได้ทั้งยศ ได้ทั้งตำแหน่งลูกเขยนายไปครองด้วยละมั้ง”
นฤเบศชะงักหันกลับมาเผชิญหน้ากับมังกร
“ฉันว่านายเอาเวลาที่คอยจับผิดคนอื่น ไปตามคดีที่รับผิดชอบอยู่ดีกว่านะ จะได้เลิกฟุ้งซ่าน”
นฤเบศเดินจากไป มังกรมองตามด้วยความแค้น
“ทำเป็นอวดดีไปเถอะ คอยดูอย่าให้ถึงเวลาเอาคืนบ้างละกัน”
สุรีกานต์เข้าฉากซ้อมบทอยู่กับกวิน ซึ่งในบทต้องแกล้งเป็นลมและกวินรับไว้ได้ทัน สุรีกานต์แอบยิ้มร้ายตามบท
“คุณวิลาสินีครับ เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
“ขอโทษค่ะ วิรู้สึกมึนหัวนิดหน่อย ถ้าไม่ได้คุณตะวันฉาย วิคงแย่”
แก้วดาราในมาดคุณหนูแสนหวานเดินเข้ามาในซีนมองอย่างอึ้งๆ อายอดเดินเข้ามาทางสุรีกานต์กับกวิน
“โอเคเลย ทั้งสองคน เดี๋ยวพอถ่ายจริง เอาให้เหมือนแบบนี้เลยนะ”
วุ้นกรอบกับพายไก่ วิ่งเข้ามาซับหน้า ดูและความเรียบร้อยให้กับสุรีกานต์และกวิน ส่วนเกี๊ยวกุ้งก็เข้าไปดูแลแก้วดารา
“โอ๊ย เริ่ดไปเลยเจ๊ เล่นได้เนียนมากๆ” วุ้นกรอบชมออกหน้าออกตา
“ใช่ เล่นซะจนใครบางคนหมั่นไส้อยากจะมาสวมบทร้ายกว่าแทนแล้วละมั้ง” พายไก่แดกดัน
วุ้นกรอบและพายไก่ หัวเราะคิกคัก มองไปทางแก้วดาราที่ยืนหน้าหงิก กวินเดินเข้ามาหาสุรีกานต์
“คุณโซ่เก่งมากเลยนะครับ นี่ขนาดแค่ซ้อม ยังเล่นซะเหมือนจริงขนาดนี้”
“คุณวินก็เก่งเหมือนกันค่ะ อายอดยังชมเลย เล่นละครเป็นครั้งแรก ยังเล่นได้ลื่นไหลขนาดนี้ ตอนโซ่เล่นเรื่องแรก อายอดสั่งเทคยับเลยค่ะ”
แก้วดารามองภาพกวินและสุรีกานต์คุยกันด้วยความอิจฉา ยิ้มร้ายเดินมาทางสุรีกานต์และกวิน แล้วก็ทำเป็นแกล้งเป็นลมเรียกร้องความสนใจ สุรีกานต์และกวินตกใจหันไปมอง เห็นแก้วดาราล้มอยู่ที่พื้นก็รีบวิ่งไปดู วุ้นกรอบและพายไก่ อายอด ตามมาสมทบ เกี๊ยวกุ้งร้องลั่น
“ว้าย ตายแล้ว คุณน้องแก้ว เป็นลมค่ะ”
แก้วดาราหันไปมองกวิน
“คือแก้วมึนหัวมาก เดินไม่ไหวเลยค่ะ พี่วินช่วยอุ้มแก้วไปพักหน่อยได้มั้ยคะ”
วุ้นกรอบพึมพำ
“เมื่อกี้ยังเห็นดีๆ อยู่เลยนี่นา สงสัยจะแกล้งป่วยการเมือง”
แก้วดาราเคืองปรายตามองวุ้นกรอบนิดหน่อย แต่ก็หันไปอ้อนกวินต่อ
“นะคะ พี่วิน”
กวินท่าทีอึดอัดหันมามองทางสุรีกานต์ แล้วก็ตัดสินใจอุ้มแก้วดาราไป
แก้วดารายิ้มร้ายใส่สุรีกานต์
สุรีกานต์ วุ้นกรอบ และพายไก่ นั่งพักอยู่ตรงมุมเปลี่ยนเสื้อผ้านักแสดง สุรีกานต์นั่งท่องบทอยู่อย่างเซ็งๆ วุ้นกรอบโพล่งออกมา
“โอ้ย ฉันล่ะหมั่นไส้ยัยแก้วมังกรนั่นจริงๆ เลย เปิดกล้องวันแรกชีก็มากองสาย แถมไม่วายยังแกล้งเป็นลมอ่อยเหยื่อผู้ชายอีก”
“นั่นน่ะสิ เมื่อกี้ยังเห็นดีๆ อยู่เลย เผลอแป๊บเดียว ลงไปกองกับพื้นซะแล้วแถมยังมีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาอุ้มไปอีก” พายไก่พูดอย่างหมั่นไส้
สุรีกานต์ขัดขึ้น
“เขาอาจจะป่วยจริงๆ ก็ได้น่า พวกแกอิจฉาเขาล่ะสิที่มีเจ้าชายมาอุ้มไป”
“อิจฉงอิจฉาอะไรกันเจ๊ หมั่นไส้ต่างหาก ระดับวุ้นกรอบไม่ต้องอิจฉาใครก็มีผู้ชายวิ่งเข้าหาตลอดๆ อยู่แล้ว แต่อย่างยัยแก้วมังกรนี่สิ เมื่อกี้ดูก็ออกว่าก็อปบทเจ๊ออกมาแสดงนอกจอชัดๆ วุ้นคอนเฟิร์ม”
กวินเดินเข้ามาดูใบคิวที่จะถ่ายในมือ สุรีกานต์หันไปถาม
“คุณวิน แก้วดาราเป็นยังไงบ้างคะ”
“ค่อยยังชั่วแล้วล่ะครับ ตอนนี้คุณเกี๊ยวกุ้งดูแลอยู่ เห็นว่าอายอดจะสลับซีนถ่ายซีนที่มีเราสองคนก่อน ผมว่าเราไปซ้อมบทกันดีกว่าครับ”
“ได้ค่ะ”
กวินกับสุรีกานต์ลุกเดินออกไปด้วยกัน วุ้นกรอบกับพายไก่มองตาม
พายไก่หันไปเม้าท์กับวุ้นกรอบ
“คุณวินนี่ ไปเร็วเคลมเร็วจังเลยเนอะแก อุ้มยัยแก้วมังกรหายไปได้แป๊บเดียว โผล่มาหาเจ๊ซะล่ะ”
“สงสัยงานนี้ เจ๊เราจะมาวินเห็นๆ นะเนี่ย”
ในเซฟเฮ้าส์ทีมเดอะซัน...จ่ายม อัศวิน ปรีติ ประเสริฐ นั่งล้อมวงคุยถึงภารกิจคืนนี้ในห้องประชุม
“ไอ้ริชาร์ดนี่มันเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกันหรือไงวะ ที่อื่นมีตั้งเยอะ ไม่รู้จักไป” จ่ายมบ่นๆ
ประเสริฐสงสัย
“แต่จากข้อมูลของหมวดปรีติ ริชาร์ดชอบเที่ยวผู้หญิงไม่ใช่เหรอ”
อัศวินคิดๆ
“หรือว่าข้อมูลของหมวดจะผิดพลาด”
ปรีติขัดขึ้น
“ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ ผมเช็คดูจนแน่ใจแล้ว จากภารกิจครั้งแรก ริชาร์ดก็ดูจะพอใจคุณสุรีกานต์อยู่ไม่น้อย”
จ่ายมคิดตาม
“หรือว่า...”
ทุกคนหันไปมองจ่ายม
“หรือว่าอะไรจ่า”
ทุกคนตื่นเต้น นิ่งฟังเพราะคิดว่าจ่ายมจะนึกปะติดปะต่อเบาะแสได้
“หรือว่ามันจะเข้าทำนอง หญิงก็ได้ ชายก็เอา”
ทุกคนสะดุ้ง
“เฮ้ย”
นฤเบศเดินเข้ามาในห้องประชุม
“ผมหวังว่าทุกคนคงเตรียมพร้อมแล้วสำหรับภารกิจคืนนี้”
จ่ายมรีบแย้ง
“สารวัตรครับ เราเว้นภารกิจนี้ไปก่อนไม่ดีเหรอครับ ถ้าเมียรู้ว่าผมเข้าบาร์เกย์ มันเอาผมตายแน่ครับสารวัตร”
อัศวินเห็นด้วย
“นั่นสิครับสารวัตร แค่นึก ผมยังทำตัวไม่ถูกเลยเนี่ย ถ้าไปจริงๆ จะขนาดไหน”
นฤเบศกวาดสายตามองทุกคน
“นี่เป็นคำสั่ง ทุกคนต้องปฏิบัติ ห้ามต่อรองเด็ดขาด ผมรู้ว่าทุกคนลำบากใจแต่บางทีเราอาจจะได้ข้อมูลเด็ดๆ จากภารกิจครั้งนี้ก็ได้”
“แล้วงานนี้ สารวัตรจะยอมให้คุณสุรีกานต์ไปด้วยจริงๆ เหรอครับ” ประเสริฐถาม
นฤเบศครุ่นคิด
สุรีกานต์ที่เปลี่ยนชุดเป็นชุดปกติ ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมอง แล้วรีบเก็บของใส่กระเป๋าอย่างเร่งรีบ วุ้นกรอบมองอย่างสงสัย
“นี่เจ๊ จะรีบไปไหน หรือว่า เจ๊มีนัดกับผู้ชาย”
สุรีกานต์เผลอหลุดปาก
“อือ...เอ้ย ไม่ใช่ คือฉันหมายถึง ฉันมีนัด แต่ไม่ได้นัดกับผู้ชายที่ไหนหรอก ฉันไปก่อนนะ…” สุรีกานต์หันไปเห็นวิกกับชุด “ฉันขอยืมนี่ก่อนนะพาย เดี๋ยวเอามาคืน”
สุรีกานต์คว้าวิกและชุดแล้วรีบวิ่งไป วุ้นกรอบและพายไก่มองตามอย่างสงสัย
สุรีกานต์ขึ้นนั่งในรถแล้วปิดประตูยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหานฤเบศ สุรีกานต์เก๊กเสียงแมน
“ฮัลโหล พ่อหนุ่มน้อย คืนนี้พี่พร้อมจะปฏิบัติการแล้ว เดี๋ยวเจอกันนะจ๊ะ จุ๊บๆ”
สุรีกานต์วางโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดีแล้วขับรถออกไป
บรรยากาศความคึกคักของย่านสถานบันเทิงยามค่ำคืน...รถตู้สายลับทีมเดอะซันปราดเข้ามาจอด ทุกคนลงจากรถ ทั้งหมดแต่งกายด้วยชุดแนวนักร้องบอยแบนด์ นฤเบศลงจากรถเป็นคนสุดท้าย แต่งกายสไตล์หล่อเนี้ยบ
“ทุกคนเตรียมตัว เตรียมใจ กับภารกิจในค่ำคืนนี้กันมาพร้อมแล้วใช่มั้ย”
ทีมเดอะซันทำหน้าเหมือนยังไม่พร้อมทั้งกายและใจ จ่ายมหน้าจ๋อยๆ
“ยังครับ ผมยังไม่พร้อม แต่เพื่อหน้าที่ความรับผิดชอบ มันถึงเวลาแล้วใช่มั้ยครับที่ผมต้องยอมพลีกาย”
อัศวินปลอบ
“เอาน่าจ่า เปลี่ยนจากผับโคโยตี้มาเป็นบาร์เกย์ซะบ้าง ถือว่าได้กำไรชีวิตไปอีกแบบ”
อัศวินกับปรีติ พากันหัวเราะสนุกสนาน ประเสริฐมองหา
“แล้วคุณสายลับของเราล่ะครับสารวัตร”
ทันใดนั้นเสียงสุรีกานต์ดังขึ้น
“อยู่นี่ครับ”
ทุกคนหันไปมอง สุรีกานต์มาด้วยมาดหนุ่มน้อยสวมวิกผมสั้นเดินมาดแมนมาหาทุกคน สุรีกานต์ยกมือตะเบ๊ะ
“สายลับเนปจูนรายงานตัว พร้อมปฏิบัติงานแล้วครับผม”
นฤเบศส่ายหัว หันไปพูดกับลูกน้อง
“เอาล่ะ อย่าลืมนะว่าเป้าหมายวันนี้ คือเราต้องรู้ให้ได้ว่าริชาร์ดมาพบใคร”
ทุกคนรับคำ
“ครับสารวัตร”
สุรีกานต์โพล่งขึ้น
“แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง”
ทีมเดอะซันพากันแอบยิ้มขำ นฤเบศส่ายหน้า ถอนหายใจ
“ถ้าเอาตามใจผม คุณควรกลับบ้านไปอาบน้ำนอนซะ แต่ถ้าอยากตามไปวุ่นวายให้ได้จริงๆ ละก็…กรุณาอย่าอยู่ห่างจากผมแม้แต่วินาทีเดียวเข้าใจมั้ย เกิดอะไรขึ้น ผมจะได้เบรกคุณทัน”
สุรีกานต์เบ้หน้า
“ชิ...คอยดูละกันว่าฉันจะวุ่นวายหรือจะสร้างประโยชน์ให้กับทีมกันแน่”
บรรยากาศความคึกคักภายในบาร์เกย์ M Club ที่มืดสลัว...นฤเบศ สุรีกานต์ จ่ายม อัศวิน ปรีติ และประเสริฐ เดินแทรกความแออัดเข้ามาตามทางเดินแคบๆ ตลอดทางมีสายตาหวานเชื่อมจากชายหนุ่มตรงมุมต่างๆ โลมเลียมาไม่ขาดสาย มือปริศนายื่นมาบีบก้นจ่ายมที่สะดุ้งโหยง
“โถ พ่อคุณเอ้ย รุ่นนี้ยังไม่ละเว้นกันอีกเหรอ”
หนุ่มเกย์ที่เดินสวนทางมา ยกแก้วเครื่องดื่มทักทาย อัศวินสะดุ้งรีบเดินหนี ปรีติขำ กระทุ้งศอกแซว
“เรทติ้งดีจริงๆ เลยนะผู้กอง ฮอตในหมู่สาวๆ ไม่พอ ยังฮิตในกลุ่มหนุ่มๆ อีกด้วย”
อัศวินเซ็งๆ
“ผมควรภูมิใจใช่มั้ยเนี่ย”
ประเสริฐมองบรรยากาศรอบตัวแล้วส่ายหน้าปลงกับชีวิต นฤเบศกับสุรีกานต์เดินรั้งท้ายเข้ามา สุรีกานต์มองดูสถานที่อย่างตื่นตาตื่นใจ
“ตื่นเต้นจังเลยคุณ ความรู้สึกเหมือนตอนเข้าฉากละครครั้งแรกไม่มีผิด”
“ห้ามพูดคำว่าตื่นเต้นระหว่างปฏิบัติหน้าที่เข้าใจมั้ย มันไม่เป็นมงคลกับการทำงานของทีม”
นฤเบศรีบเดินทิ้งห่างไป
สุรีกานต์หน้าเหวอ หุบปาก แต่ไม่วายแอบงุบงิบปากด่าตามหลัง
อ่านต่อหน้า 4
นางร้ายสายลับ ตอนที่ 3 (ต่อ)
ครู่ต่อมานฤเบศสอดส่องสายตามองหาเป้าหมาย จนหันไปสะสุดตาตรงมุมหนึ่งก็ยิ้มกริ่ม เมื่อเห็นเป้าหมาย
โต๊ะชายต่างชาติ บรรยากาศรอบโต๊ะเต็มไปด้วยความสนุกสนานเฮฮา จอนนี่ยิ้มแย้มพอใจ
“เพื่อนผมทุกคนชอบที่นี่มากริชาร์ด ขอบคุณมากกับการต้อนรับที่อบอุ่น”
“สำหรับมิตรภาพของเรา เท่านี้ถือว่าเล็กน้อยมาก เอาเป็นว่าค่ำคืนนี้เป็นของคุณ ผมจะบันดาลทุกอย่างให้ตราบเท่าที่คุณต้องการ”
ริชาร์ดเหลือบมองพนักงานหนุ่มหล่อที่เดินผ่านไปมา เป็นเชิงบอกให้รู้ว่าถ้าจอนนี่ต้องการเพื่อนคุยคนไหนก็สามารถจัดการให้ได้ จอนนี่ยิ้มกริ่มพอใจ
โต๊ะมุมมืด ซึ่งเยื้องห่างมาทางด้านหน้าของโต๊ะชายต่างชาติ นฤเบศกับสุรีกานต์นั่งซุ่มดูความเคลื่อนไหวโต๊ะชายต่างชาติอยู่อย่างสนใจ สุรีกานต์หยิบโทรศัพท์ทำท่าจะแอบเก็บภาพที่โต๊ะนั้น นฤเบศรีบผลักมือสุรีกานต์ลง
“คุณจะทำบ้าอะไร”
“ก็ถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐานไง”
“ใครเขาเก็บหลักฐานกันโจ่งแจ้งแบบนี้ล่ะ เดี๋ยวก็ซวยกันหมดหรอก”
“เอาน่า ฉันมีวิธี”
สุรีกานต์ขยับไปนั่งใกล้นฤเบศ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาทำทีเป็นถ่ายภาพคู่กันอย่างสนิทสนม ทั้งที่ความจริงต้องการเก็บภาพความเคลื่อนไหวของโต๊ะชายต่างชาติที่อยู่ข้างหลังมากกว่า
“ยิ้มหน่อยสิคุณ ยิ้มสิ”
แขกโต๊ะอื่นมองมา เข้าใจว่านฤเบศกับสุรีกานต์เป็นคู่เกย์กัน นฤเบศรีบขยับหนี แต่มือตุ๊กแกของสุรีกานต์ก็เกาะแขนเขาไว้ไม่ยอมปล่อย นฤเบศส่งเสียงดุ
“นี่ไม่ใช่เวลามาเล่นสนุกนะ”
“ไม่เอาน่า อย่าดื้อสิที่รัก ถ่ายรูปกันต่อดีกว่านะ 1-2-3 แชะ”
บนเวที การเต้นโชว์จบลงพร้อมเสียงปรบมือดังลั่น สปอร์ตไลท์ฉายไปยังพิธีกรชายมาดตุ้งติ้งที่เดินยิ้มขึ้นมาบนเวที
“ขอเสียงปรบมือให้กับโชว์ชุดพิเศษจาก 3 หนุ่มของเราอีกครั้งด้วยครับ แล้วก็มาถึงไฮไลท์สำคัญประจำทุกค่ำคืนกันเลยดีกว่า”
นักเที่ยวขาประจำในบาร์เฮกันดังสนั่น
“ใช่แล้วครับ เรากำลังจะประกาศผู้ครองตำแหน่งสปอร์ตไลท์บอย ชายหนุ่มผู้ได้รับเสียงโหวตจากสมาชิกคลับว่าน่ารักที่สุดในค่ำคืนนี้ เอาเป็นว่า เราไปตามหาเขาคนนั้นพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ”
สปอร์ตไลท์หมุนส่องไปที่หนุ่มหล่อมากมายในผับ กระทั่งไปหยุดนิ่งที่สุรีกานต์ ใบหน้าของเธอปรากฏขึ้นบนจอแอลซีดียักษ์ของบาร์ เกิดเสียงอื้ออึงดังขึ้นมา ทุกคนพยายามมองหาตัวจริง
“และนี่คือสปอร์ตไลท์บอย ประจำคืนนี้ของเราครับ”
สุรีกานต์ตกใจตาค้าง นฤเบศอึ้ง จ่ายม อัศวิน ปรีติ ประเสริฐ ที่อยู่อีกด้านก็หน้าเหวอ
“เชิญสปอร์ตไลท์บอยตัวจริง เสียงจริง ขึ้นมาโชว์ตัวบนบนเวทีด้วยครับ”
คนในผับร้องเชียร์ ขึ้นเลยๆๆ สุรีกานต์หันรีหันขวาง ทำอะไรไม่ถูก ทุกสายตามองมาที่เธอเป็นตาเดียว สุรีกานต์หันไปกระซิบ
“เอาไงดีคุณ”
“ผมบอกแล้วว่าคุณอย่ามา”
“มันใช่เวลาที่จะมาดุกันตอนนี้มั้ยเนี่ย ช่วยกันคิดหน่อยสิ ว่าฉันจะทำยังไงดี
นฤเบศที่ผมคิดออกตอนนี้คือคุณต้องขึ้นไป”
สุรีกานต์หน้าแหย หมดทางเลือก
บนเวทีสุรีกานต์ในมาดหนุ่มน้อยยืนยิ้มโบกมือให้ทุกคน หนุ่มๆ ในบาร์กิ้วก๊าวกันใหญ่ ที่โต๊ะชายต่างชาติ ริชาร์ดเห็นจอนนี่มองสุรีกานต์ไม่วางตา ก็ยิ้มกริ่มออกมา
“สนใจเหรอจอนนี่”
“คุณรู้ใจผมเสมอเลยนะริชาร์ด”
จอนนี่มองสุรีกานต์ ริชาร์ดยิ้มรู้ใจ
“สำหรับเพื่อนที่แสนดีอย่างคุณ เรื่องนี้ผมช่วยคุณได้นะ”
จอนนี่ยิ้มกริ่มเป็นนัย บอกให้รู้ว่าเขาต้องการให้ริชาร์ดจัดการเรื่องนี้ให้ ริชาร์ดเอียงหน้าไปทางบอดี้การ์ด ที่ยืนคุมเชิงด้านหลัง
“จัดการด้วยนะ”
“ครับท่าน”
บอดี้การ์ดเดินออกไป
นฤเบศมองตามบอดี้การ์ดริชาร์ดที่เดินไปหาสุรีกานต์หน้าเวที ทั้งสองคุยกันนิดหน่อย สุรีกานต์หันไปมองที่โต๊ะชายต่างชาติ แล้วเดินตามบอดี้การ์ดริชาร์ดไป นฤเบศรีบแตะหูฟังสายลับทันที
“คุณจะทำบ้าอะไร กลับมาเดี๋ยวนี้ มันอันตราย”
สุรีกานต์ไม่ตอบ เหมือนไม่ได้ยินที่สั่ง นฤเบศมองอย่างขัดใจ
“โธ่เว้ย” นฤเบศแตะหูฟังสายลับสั่งการทีมเดอะซัน “จับตาดูเป้าหมาย เตรียมจู่โจมทันทีหากเกิดเหตุร้าย”
ทีมเดอะซันรับคำ
“รับทราบ พร้อมปฏิบัติ”
สุรีกานต์นั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับจอนนี่ บริกรรินเครื่องดื่มให้เธอ จอนนี่ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาขอชน ริชาร์ดกับคนอื่นๆ นั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
“ผมจอนนี่ ดื่มเพื่อเป็นเกียรติกับผมหน่อยได้มั้ยครับ”
สุรีกานต์ดัดเสียงใหญ่
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
สุรีกานต์ชนแก้ว
“หวังว่าคืนนี้เราคงได้รู้จักกันมากขึ้นนะครับ”
จอนนี่แววตามีเลศนัย สุรีกานต์ยิ้มรับจืดๆ ชายต่างชาติคนหนึ่งในกลุ่มหันไปคุยกับริชาร์ด
“How about your golf equipment business Richard, Is it going good Are you satisfied with the new market” (เป็นไงบ้างริชาร์ด ออเดอร์อุปกรณ์กีฬากอล์ฟในเมืองไทยของคุณไปได้สวยมั้ย คุณพอใจกับการเปิดตลาดที่นี่หรือเปล่า)
สุรีกานต์หูผึ่งทันที...ริชาร์ดหันมาตอบเพื่อน
“This place is wonderful. If everything is on plan, we will distribute our special goods perfectly” (ที่นี่วิเศษมาก หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ รับรองว่าการกระจายสินค้าล็อตสำคัญจะต้องไปได้ดีอย่างแน่นอน)
“So let‘s me say congratulation to your incoming success.” (งั้นผมขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับความสำเร็จของคุณเลยก็แล้วกัน)
ริชาร์ดกับชายต่างชาติยกแก้วชนกัน ในจังหวะนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของริชาร์ดดังขึ้นมา
“I’ll be right back” (ผมขอตัวสักครู่)
บอดี้การ์ดเตรียมตัวจะเดินตาม แต่ริชาร์ดรีบยกมือห้ามไม่ให้ตามไป สุรีกานต์มองตามหลังริชาร์ดไปอย่างเสียดาย เสียงคำสั่งจากนฤเบศผ่านหูฟังสายลับก็ดังขึ้นในหูของเธอ
“หาทางหลบออกไปจากตรงนั้นเลยเนปจูน ผมจะตามพลูโตไปเอง”
สุรีกานต์เหลือบเห็นนฤเบศยืนหลบเสามุมมืดอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น ก่อนมองตามหลังริชาร์ดที่เดินออกไปจากโต๊ะ แล้วจึงหันกลับมาฉีกยิ้มให้จอนนี่
“ผมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ”
สุรีกานต์ลุกเดินออกไป
ริชาร์ดยืนคุยโทรศัพท์ท่าทางซีเรียสอยู่มุมหนึ่ง นฤเบศย่องตามมา เห็นสุรีกานต์หลบมุมแอบมองริชาร์ดอยู่ก่อนแล้ว นฤเบศดุ
“ผมบอกให้คุณหลบออกไปก่อนไง ตามมาอีกทำไม”
“เอ๊ะคุณ ตอนนี้ฉันเป็นสายลับนะ จะให้ทิ้งงานตัวเองไปได้ยังไงล่ะ”
นฤเบศหัวเสีย
“แต่ถ้ามันเป็นคำสั่งของผม คุณก็ต้องปฏิบัติตาม”
“บ้าอำนาจ เห็นว่าเป็นหัวหน้าทีมแล้วคิดจะสั่งอะไรก็ได้เหรอ ไหนบอกเราต้องรู้ให้ได้ไงว่าริชาร์ดมาพบใครบ้างนอกจากเพื่อนต่างชาติกลุ่มนั้น”
นฤเบศโมโห
“คุณนี่มัน…”
เสียงริชาร์ดดังมา
“ใกล้ถึงแล้วใช่มั้ย”
นฤเบศกับสุรีกานต์รีบสงบศึกลงชั่วคราว หันไปมองริชาร์ด เงี่ยหูฟัง
“โอเค แล้วเจอกัน”
นฤเบศกับสุรีกานต์หันมองหน้ากัน ครุ่นคิดถึงบุคคลปลายสายของริชาร์ดอย่างสงสัยว่าเป็นใคร
ตรงประตูทางเข้า M Club เนธานแต่งกายอำพรางตัวเดินแหวกผู้คนเข้ามา หันซ้ายแลขวามองหาคนที่นัดไว้ จนเหลือบไปเห็นอุษณะที่โบกมือให้จึงรีบเดินไปหาที่โต๊ะ อุษณะแต่งกายพรางตัวไม่ให้คนจำได้นั่งดื่มรออยู่แล้ว เนธานนั่งลง
“คิดว่าจะมาที่นี่ไม่ถูกซะแล้ว”
“รีบพูดธุระของคุณมาดีกว่า ผมไม่มีเวลามานั่งเล่นในที่แบบนี้กับคุณหรอก”
อุษณะแสยะยิ้ม
“ที่แบบนี้เหรอ...สงสัยจะลืมไปแล้วสินะ ว่าฉันเคยขุดนายขึ้นมาจากที่แบบไหน”
“คุณอุษณะ”
“ฉันหยอกเล่นน่า ทำเป็นมีอารมณ์ไปได้”
อุษณะยกเบียร์จิบอย่างใจเย็น เนธานชักหงุดหงิด
“คุณมีอะไรก็ว่ามา”
อุษณะยิ้มเหี้ยม
“มีของสำคัญหายออกไปจากบ้านฉัน ในฐานะที่เคยอยู่ที่นั่นมานาน นายพอจะรู้บ้างมั้ยว่ามีใครอีกบ้างที่สามารถเข้าไปที่นั่นได้ ถ้าไม่ใช่คนที่มีกุญแจ”
เนธานตกใจ ตาเลิกลั่ก
“คุณพูดเรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจ”
“อย่ามาทำเป็นไก๋เลยน่า กล้าปฏิเสธมั้ยล่ะว่านายไม่ได้ไขประตูเข้าไปในบ้านฉัน แล้วถือวิสาสะหยิบเมมโมรี่การ์ดจากกล้องถ่ายรูปของฉันไป”
“ผมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น คุณเผลอไปทำมันหล่นหายที่ไหนเองหรือเปล่า”
ขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์มือถือเนธานดังขัดจังหวะขึ้นมา เขาหยิบดูเห็นเป็นสายของพลอยนิล อุษณะเหลือบเห็น
“นายจะปากแข็งต่อไปก็เรื่องของนาย วันนี้แค่อยากบอกให้รู้ว่านอกจากเมมโมรี่การ์ดนั่นแล้ว ฉันยังมีรูปวันวานระหว่างสองเราเก็บไว้ดูเล่นที่บ้านอีกเพียบ ถ้าอยากแบ่งให้คนที่โทรมาหรือนักข่าวดูบ้าง นายก็บอกฉันได้นะ”
อุษณะยิ้มร้าย ขณะเนธานหน้าถอดสี
ริชาร์ดเดินมาตามทางเดินเพื่อกลับไปนั่งที่โต๊ะสังสรรค์ นฤเบศกับสุรีกานต์ที่หลบอยู่ตรงมุมมืดใกล้ทางเดิน เห็นริชาร์ดกำลังจะเดินผ่านมา จึงรีบผลักประตูห้องข้างๆ เข้าไปหลบทันที
ทั้งสองยืนอยู่หลังประตู สักครู่ก็เปิดประตูออกมา แต่ประตูห้องกลับถูกเปิดเข้ามาจากคนข้างนอกเสียก่อน นฤเบศกับสุรีกานต์ตกใจ หันมองหน้ากัน นฤเบศใช้ไหวพริบลากสุรีกานต์ไปหลบหลังราวแขวนเสื้อผ้านักแสดงที่ดูมิดชิดทันที ไฟในห้องเปิดสว่างขึ้น นักแสดงโชว์ 3 คนเดินเข้ามาในห้องนฤเบศกับสุรีกานต์แอบมองลอดช่องว่างราวผ้าจึงเห็นว่าห้องนี้เป็นห้องแต่งตัว นักแสดงในบาร์ สุรีกานต์เกือบหลุดกรี๊ดเมื่อเห็นกางเกงในกากเพชรแขวนอยู่ตรงหน้า แต่นฤเบศยกมือขึ้นปิดปากเธอไว้ได้ทัน นักแสดงโชว์ยืนจัดเสื้อผ้า เติมหน้า อยู่หน้ากระจกบานใหญ่
“วันนี้คุณริชาร์ดเพื่อนสนิทเจ้าของ M Club จะปิดบาร์เลี้ยงทุกคนด้วยล่ะ”
“ได้ยินว่าเพื่อนคุณริชาร์ดเจอหนุ่มถูกใจ คุณริชาร์ดเลยอยากจะฉลองให้กับความสุขของเพื่อนที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้”
“สปอร์ตไลท์บอยหน้าอ่อนนั่นแน่ๆ เลยใช่มั้ย”
“ได้ยินว่าคืนนี้เพื่อนคุณริชาร์ดจะเผด็จศึกมันให้ได้ด้วยนะ”
สามหนุ่มหัวเราะเฮฮากันอย่างสนุกสนาน ก่อนพากันออกไปจากห้อง ปิดประตูดังปัง สุรีกานต์หน้าเหวอ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ นฤเบศหน้าเครียด
“ซวยแล้ว”
เนธานเดินหัวเสีย ตรงไปที่ประตูทางออกอย่างรีบร้อน ระหว่างนั้นเผลอชนกับริชาร์ดที่เดินสวนทางมาพอดี ทั้งคู่หยุดขอโทษกันตามมารยาท แต่ภาพนั้นกลับดูเหมือนการหยุดคุยกันมากว่า นฤเบศกับสุรีกานต์เดินเบียดคนตามหลังริชาร์ดมาติดๆ หยุดมองภาพนั้นอย่างสนใจ แต่เห็นหน้าเนธานไม่ชัด นฤเบศรีบยกแขนโอบคอสุรีกานต์ เพราะเป็นมุมที่สามารถบันทึกภาพริชาร์ดด้วยนาฬิกาฝังกล้องได้ถนัดแต่สุรีกานต์กลับตกใจคิดว่าถูกแต๊ะอั๋ง พยายามดิ้น แต่พอหันมองตามเห็นหน้าเนธานชัดๆ ก็ตาค้าง ตกใจ
“เนธาน”
นฤเบศแปลกใจ
“คุณรู้จักหมอนี่เหรอ”
ริชาร์ดกลับมานั่งลงตรงที่นั่งของเขา เห็นชายต่างชาติคนอื่นมีชายหนุ่มมานั่งคุยเป็นเพื่อนครบทุกคนแล้ว เหลือแต่จอนนี่นั่งดื่มแบบเซ็งๆ อยู่คนเดียว
“ไม่สนุกเหรอจอนนี่ แล้วเพื่อนคุยของคุณล่ะ”
“หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ สงสัยหนีกลับบ้านไปแล้วแน่ๆ เลย”
“เอาน่าจอนนี่ อย่าหมดสนุกเพราะคนๆ เดียวเลยดีกว่า ในบาร์นี้ยังมีคนน่ารักสำหรับคุณอีกเยอะเลย”
“แต่ไม่มีใครแทนหนุ่มน้อยคนนั้นได้หรอกริชาร์ด คุณก็รู้ว่ารักแรกพบมันไม่ได้เจอกันบ่อยๆ นักหรอก”
ริชาร์ดแอบส่ายหน้าเซ็งๆ ในความเรื่องมากของจอนนี่ หันไปสั่งงานบอดี้การ์ดคู่ใจ
“เปิดไฟทั่วบาร์ ตามหาตัวสปอร์ตไลท์บอยเดี๋ยวนี้”
โต๊ะมุมมืด นฤเบศกับสุรีกานต์เดินมาถึงโต๊ะกำลังจะนั่งลง จู่ๆ ไฟในบาร์ก็เปิดสว่างจ้าขึ้นมา พร้อมเสียงดีเจประกาศดังลั่น
“ขอโทษที่ขัดจังหวะความสนุกของทุกท่านนะครับ พอดีตอนนี้ เรากำลังตามหาสปอร์ตไลท์บอยผู้น่ารัก ใครพบเห็นเขาโปรดแจ้งที่บูธดีเจด้วย แล้วเราจะสมนาคุณโดยการให้คุณเป็นเม็มเบอร์ M Club ฟรีตลอดหนึ่งปี”
ผู้คนเริ่มวุ่นวาย มองหากันใหญ่ เสียงดังอื้ออึง สุรีกานต์หันมองนฤเบศ หน้าตาตกใจ นฤเบศเซ็งๆ
“คิดเอาไว้แล้วว่าต้องวุ่นแบบนี้ ไม่น่าเอาผู้หญิงมาทำงานด้วยเลย”
สุรีกานต์หน้าจ๋อย นฤเบศแตะหูฟังสายลับติดต่อทีมเดอะซัน
“สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ เตรียมถอนกำลังออกจากที่นี่ด่วน”
“รับทราบ”
นฤเบศดึงมือสุรีกานต์ให้รีบวิ่งออกไปจากบาร์ ทีมเดอะซันกระจายตัววิ่งหลบออกไปจากบาร์คนละทางแบบเนียนๆ ผู้คนในบาร์เริ่มหันมาเห็นสุรีกานต์ต่างชี้ตะโกนว่า
“สปอร์ตไลท์บอยอยู่นั่นไง”
บอดี้การ์ดริชาร์ด 2-3 คนวิ่งมาตามเสียงบอก เห็นนฤเบศกับสุรีกานต์จูงมือวิ่งแหวกฝูงชนไปด้วยกัน ก็รีบวิ่งตามไปทันที สุรีกานต์วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต จนวิกผมสั้นของเธอปลิวหลุด ทุกคนแตกฮือเมื่อเห็นสปอร์ตไลท์บอยกลายเป็นผู้หญิงผมยาว แต่ความมืด ทำให้ไม่มีใครจำได้ว่าเป็นสุรีกานต์ นฤเบศวิ่งพาสุรีกานต์ออกไปทางประตูบาร์ จนลับหายไปจากสายตาของกลุ่มบอดี้การ์ดริชาร์ดที่ตามมาถึงหน้าประตูบาร์ด้วยสภาพเหนื่อยหอบ หยุดยืนมอง วิ่งตามไม่ทันแล้ว
บอดี้การ์ดวิ่งกลับมาที่โต๊ะรายงานริชาร์ดกับจอนนี่ที่นั่งรออยู่ ริชาร์ดถามทันที
“เจอตัวมั้ย”
“สปอร์ตไลท์บอยคนนั้น มันเป็นผู้หญิงครับ”
จอนนี่ตกใจรับไม่ได้ ริชาร์ดสะดุด รู้สึกแปลกๆ
“ผู้หญิงงั้นเหรอ”
“น่าจะเป็นพวกที่แอบปลอมตัวเข้ามาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนผู้ชาย พอถูกประกาศตามหาตัวเลยก็เลยรีบหนีออกไป ดูแล้วไม่น่ามีพิรุธอะไรครับ”
ริชาร์ดนิ่งไปไม่ติดใจ โทรศัพท์มือถือของริชาร์ดดังขึ้นมา เป็นเบอร์ของมงคลโทรมา ริชาร์ดกดรับสาย
“สงสัยที่นี่คงไม่สะดวกแล้วล่ะ พอดีเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นนิดหน่อย เอาเป็นว่าเราเจอกันวันหลังก็แล้วกัน”
นฤเบศวิ่งจูงมือสุรีกานต์มาถึงที่รถตู้สายลับทีมเดอะซัน ที่จอดอยู่ในลานจอดรถฝั่งตรงข้ามบาร์เกย์ M Club ด้วยสภาพเหนื่อยหอบ ประตูรถเลื่อนออกจ่ายม อัศวิน ปรีติ ประเสริฐ ที่มาถึงก่อนโผล่หน้าออกมา ทุกคนมองสุรีกานต์กับนฤเบศอึ้งๆ จนทั้งคู่แปลกใจรีบก้มมองสำรวจตัวเองถึงได้รู้ว่ายังจับมือกันอยู่ สุรีกานต์รีบปล่อยมือทำเป็นขยะแขยง ทีมเดอะซันหลุดยิ้มแอบขำ สุรีกานต์หน้าแดง รีบขึ้นไปนั่งบนรถ นฤเบศเขินแต่พยายามเก๊กขรึมขึ้นตามไป
สุรีกานต์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูรูปที่ถ่ายได้ จ่ายม อัศวิน ปรีติ ประเสริฐ หันมองเธออย่างสนใจ จ่ายมตื่นเต้น
“หลักฐานเด็ดใช่มั้ยครับคุณสุรีกานต์”
สุรีกานต์ฉีกยิ้ม
“ผลงานของสายลับสาวเนปจูนไม่เคยทำให้ใครผิดหวังอยู่แล้ว”
“ไหนดูซิว่าจะเก่งได้เท่าปากพูดแค่ไหน” นฤเบศก้มไปดูด้วย
สุรีกานต์ทำหน้าเป็นผู้ชนะ เปิดคลิปให้ทุกคนดู ภาพในโทรศัพท์เป็นคลิปสวีทหวานของสุรีกานต์กับนฤเบศ เขาเห็นแล้วอายๆ รับไม่ได้ แต่พอเห็นฉากหลังเป็นภาพริชาร์ดกับกลุ่มชายต่างชาติ ที่เก็บรายละเอียดหน้าตาของทุกคนเอาไว้ได้ชัดเจน นฤเบศก็หันมองสุรีกานต์อย่างทึ่งๆ สุรีกานต์เชิดหน้าอย่างผู้ชนะ
“เป็นไง เห็นฝีมือฉันรึยัง”
สุรีกานต์ปิดคลิป แล้วยืนโทรศัพท์มือถือให้ปรีติ
“ถ่ายโอนข้อมูลเอาไว้ด้วยนะคะหมวด เพราะพรุ่งนี้ทีมเดอะซันอาจติดต่อฉันไม่ได้”
ด้านพลอยนิลในชุดนอนเดินไปเดินมาอยู่ที่มุมรับแขกหน้าทีวี กดโทรศัพท์มือถือยิกๆ อย่างหงุดหงิด จนเมื่อได้ยินเสียงกดกริ่งดังขึ้น ก็ยิ้มดีใจออกมา รีบวิ่งไปเปิดประตูห้องทันที
“ทำไมมาช้าจังคะ ปล่อยให้นิลรอตั้งนาน”
เนธานเดินเข้ามาในห้องท่าทางเซ็งๆ ไปนั่งลงบนโซฟา
“ตอนโทรไปนิลบอกว่าต้องเจอผมให้ได้คืนนี้ มีเรื่องอะไรรึเปล่า”
พลอยนิลเดินตามไปนั่งบนตัก คล้องมือกอดคอเขาเอาไว้
“ความจริงนิลเองก็อึดอัดเหมือนกันนะคะที่ต้องปกปิดเรื่องของเราเอาไว้แบบนี้ แต่ธานเข้าใจนิลใช่มั้ยคะ โฆษณาหลายชิ้นที่นิลเพิ่งเซ็นสัญญาไปพวกเขาแคร์เรื่องภาพพจน์พรีเซ็นเตอร์น่ะค่ะ”
เนธานทำหน้าน้อยใจ
“โดยเฉพาะถ้าพรีเซ็นเตอร์ระดับซุปเปอร์สตาร์จะมาคบหากับดาราหน้าใหม่โนเนมอย่างผม ภาพลักษณ์ของสินค้าก็อาจจะลดความน่าสนใจลง ผมเข้าใจ ผมผิดเองที่ไม่คู่ควรกับนิลเลยสักนิด”
“ใครเขาจะคิดยังไงก็ไม่สำคัญเท่าความรู้สึกของนิลที่มีให้ธานหรอกค่ะ อย่าน้อยใจไปเลยนะคะคนดี”
“สรุปที่นิลให้ผมมาหาวันนี้ มีเรื่องอะไรกันแน่”
“ธานจำวันที่เราไปสปาด้วยกันวันก่อนได้มั้ยคะ วันนั้นนิลเจอยัยแก้วดาราที่นั่นด้วย มันพูดเหมือนมันรู้เรื่องของเราเลยค่ะ”
“นิลคิดมากไปเองหรือเปล่า”
“นิลไม่ไว้ใจมันเลยค่ะธาน”
สุรีกานต์ ยังอยู่ในชุดที่ปลอมตัวเข้าบาร์เกย์เปิดประตูเข้ามาในห้อง เดินเหนื่อยๆไปนั่งลงบนโซฟา เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเห็นเป็นเบอร์พลอยนิล ก็กดรับสาย
“ว่าไงนิล”
พลอยนิลร้อนใจ
“ฉันคิดว่าตอนนี้นังแก้วดารามันรู้เรื่องของฉันกับธานแล้ว แกช่วยคิดหน่อยสิว่าฉันจะทำยังไงดี”
“แกก็แค่ปฏิเสธไปเหมือนทุกทีว่ายังโสดสนิท หรือไม่ ก็ชิงจบความสัมพันธ์กับผู้ชายของแกซะก่อนที่นางเอกดาวรุ่งรุ่นน้องจะปล่อยข่าวแฉแกให้ต้องเสียเรทติ้ง”
พลอยนิลหงุดหงิด
“จะบ้าเหรอ วิธีแก้ปัญหาปัญญาอ่อนของแกนี่มันเลือกง่ายมากเลยนะ โซ่ แกต้องคิดหาวิธีช่วยฉันให้ได้นะเข้าใจมั้ย”
“แค่เรื่องเมมโมรี่การ์ดนั่น แกยังทำฉันเดือดร้อนไม่พอใช่มั้ยเนี่ย”
“เมมโมรี่การ์ด...แกต้องเดือดร้อนอะไรเพราะภาพงานปาร์ตี้ธรรมดาๆ นั่นด้วย ฉันไม่เข้าใจ”
“อย่าให้ฉันต้องพูดให้แกเข้าใจเลยว่าฉันต้องเดือดร้อนเรื่องอะไร เอาเป็นว่าต่อไปนี้ถ้าฉันจะช่วยอะไรแกอีก ฉันก็จะช่วยเท่าที่ช่วยได้ก็แล้วกัน… อ้อ ฉันจะดีใจมากนะถ้าแกจะเอาวิธีที่สองของฉันไปปฏิบัติ แค่นี้ก่อนนะนิล”
พลอยนิลหงุดหงิด
“เดี๋ยวก่อนสิ อย่าเพิ่งวางนะ… โซ่… โซ่”
ด้านหลังพลอยนิล เนธานที่นอนอยู่บนเตียงลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างครุ่นคิด
“เมมโมรี่การ์ดงั้นเหรอ”
นฤเบศขับรถเข้ามาจอดในโรงรถหน้าบ้าน แล้วเดินเข้ามาขึ้นบันไดตรงไปชั้นบน หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์โทรหาสุรีกานต์
เสียงโทรศัพท์มือถือสุรีกานต์ดังขึ้น เธออยู่ในชุดคลุมเตรียมอาบน้ำหยิบขึ้นมารับสาย เดินคุยเข้าไปในห้องน้ำ
“มีธุระอะไรกับฉันไม่ทราบ”
“ผมจะโทรบอกเรื่องนัดประชุมงานที่เซฟเฮ้าส์พรุ่งนี้”
“ฉันบอกแล้วไงว่าพรุ่งนี้พวกคุณอาจติดต่อฉันไม่ได้”
“มีงานเหรอ”
“เปล่า แต่พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของฉัน ฉันไม่รับทั้งงานราษฎร์และงานหลวง”
นฤเบศเปิดประตูเข้ามาในห้องนอน ปลดกระดุมเสื้อไปพลางๆ เตรียมอาบน้ำ
“พรุ่งนี้นัด 10 โมงเช้านะคุณ อย่าสายล่ะ”
“เอ๊ะ คุณ ก็บอกแล้วไงว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุดของฉัน คุณฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ”
“ภาษาคนผมฟังรู้เรื่อง แต่เมื่อกี้คุณบอกเองว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุด นั่นก็แสดงว่าคุณไม่ได้ทำงาน เพราะฉะนั้น คุณก็ควรมาประชุมร่วมกับทีม”
สุรีกานต์โมโหจี๊ด
“ไม่ทำงาน ฉันก็ไม่ยอมให้คุณมาฉกฉวยเวลาส่วนตัวของฉันไปได้ตามใจชอบหรอกย่ะ พรุ่งนี้ฉันต้องเข้าสปา นวดหน้าทำผม ตำรวจดิบๆ เถื่อนๆ ที่วันๆ เอาแต่ทำงานจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองอย่างคุณไม่มีวันเข้าใจหรอก”
นฤเบศยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ มองหน้าหน้าตัวเอง เห็นหนวดเคราครึ้มเขียวจนดูเถื่อนตามที่ถูกสุรีกานต์กล่าวหาก็ถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย
“เอาน่าคุณ ตีนกา หน้าเหี่ยว สมัยนี้ครีมตัวเดียวก็ช่วยได้ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากมายคุณก็สวยไปถึงพันปีแล้ว แต่การประชุมพรุ่งนี้นี่สิ ผ่านแล้วก็ผ่านเลยนะคุณ ที่เขาเรียกว่างานด่วนน่ะ คุณเข้าใจมั้ย”
สุรีกานต์มองหน้าตัวเองในกระจกห้องน้ำ เห็นรอยพับที่หางตา แล้วอยากจะกรี๊ด
“นี่คุณหาว่าฉันเป็นยัยแก่หน้าเหี่ยวทำตัวไร้สาระเหรอ”
“ผมแค่เตือนสติให้คุณลำดับความสำคัญในชีวิตดูใหม่ก็เท่านั้นเอง”
สุรีกานต์แค้น คำรามในลำคอ
“ก็เอาซี่ คอยดูละกันว่าพรุ่งนี้ฉันจะไปตามนัดคุณหรือเปล่า”
อ่านต่อตอนที่ 4