xs
xsm
sm
md
lg

รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 14

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 14

จิราพัชรขับรถมาส่งพาทิน เขาลงจากรถอย่างหมดเรี่ยวแรง ไร้อารมณ์

“ขอบใจมาก”
พาทินเดินเข้าสตูดิโอ จิราพัชรเดินตามไปติดๆ
“พาทิน”
พาทินหันมา จิราพัชรชกเขาเซตามแรงหมัด
“สำหรับอร”
พาทินไม่โต้ตอบ จิราพัชรชกซ้ำอีกครั้ง พาทินทรุดลงไปกองที่พื้น
“สำหรับพ่อแม่ของมึง”
จิราพัชรตามไปดึงพาทิน เงื้อจะชกซ้ำ พาทินยังคงไม่มีท่าทีโต้ตอบ ได้แต่นิ่งรับหมัด จิราพัชรยั้งหมัดค้างไว้
“ของกูเอาไว้ทีหลัง”
จิราพัชรผละจากพาทิน เดินกลับไปที่รถ
“พัชร”
จิราพัชรหยุดหันไปมองเพื่อน พาทินเสียใจกับเหตุการณ์ทั้งหมด
“ถ้ากูห้ามใจได้ เรื่องนี้มันคงไม่เกิดขึ้น แต่...ต่อให้ต้องทำร้ายทุกคน กูก็จะไม่ปล่อยพิชชาไป กูจะไม่เลิกรักเขา พัชร ชีวิตกูขาดเขาไม่ได้”
จิราพัชรยืนซึมสิ่งที่พาทินพูดเรื่องพิชชา เหมือนสิ่งที่อยู่ในใจเขาไม่มีผิด เขาเดินไปขึ้นรถ พาทินลุกขึ้นมองเพื่อนที่ขับรถจากไป เขาเดินออกจากสตูดิโอ

พิชชาเดินคิดเรื่องพาทิน รถจากในบ้านพักราชการวิ่งมาตามทาง พิชชามองรถที่วิ่งใกล้เข้ามา คิดอยู่ครู่หนึ่ง โบกมือเรียก

พิชชามาที่จุดชมวิวมองวิวเมือง หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพาทิน
“พี่คะ พี่อยู่ไหนคะ”

พิชชานั่งที่ม้านั่งตัวประจำ คิดเรื่องที่จะพูดคุยกับพาทิน อยู่ครู่ใหญ่ พาทินเดินเข้ามานั่งข้างๆ เธอหลุดจากห้วงคิด หันมองเขายิ้มให้ พาทินยิ้มตอบ เธอเห็นรอยช้ำที่โหนกแก้มของเขา
“พี่ไปโดนอะไรมาคะ”
พาทินรู้สึกตัวใช้มือปัดๆ อำพรางรอย
“ไม่มีอะไรหรอก...เธอเป็นไงบ้าง”
“โดนแม่เทศน์ใหญ่เลย แล้ว...พ่อกับแม่ว่ายังไง”
พาทินส่ายหน้าแทนคำตอบ พิชชาคิดอยู่พักใหญ่ ไม่แน่ใจว่าจะถามเขาดีไหม
“คุณอรล่ะคะ”
พาทินรู้สึกลำบากใจเรื่องอรอินทุ์มาก เขาส่ายหน้าแทนคำตอบอีก พิชชาคิดถึงสิ่งที่ตั้งใจจะพูดกับเขามาตลอดบ่าย
“พี่คะ”
พาทินเดาออกถึงสิ่งที่เธอต้องการจะพูด เขาเอ่ยปากดักไว้
“เธอน่ะ คิดถึงแต่พี่เท่านั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่น...ทำใจให้สบายนะ”
พิชชาฝืนพยักหน้ารับ พูดไม่ออกได้แต่เก็บมันไว้ในใจ
“แต่พี่คะ ทำไมฉันถึงได้รู้สึกเจ็บขนาดนี้”
พาทินยิ้มปลอบใจ ทั้งที่เขาเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน เขาเอามือไว้บนหัวของเธอทำเหมือนตอนเป็นเด็กๆ
“พ่อกับแม่อโหสิให้”
พิชชาทำบ้างเอื้อมมือจับหัวเขาไม่ถึง จับได้แค่ไหล่ของเขา
“คุณอรกับคุณพัชรอโหสิให้”
ทั้งคู่ยิ้มออกมา แม้จะรู้ว่านั่นเป็นการปลอบใจที่แกนๆ

สายวันต่อมา...พิชชาเข้ามาทำความสะอาดห้อง จิราพัชรนั่งกินเหล้าที่โต๊ะรับแขก เขากำลังเมา พิชชาเห็นเขา เธอไม่รู้จะวางตัวแบบไหน
“ยังมาทำงานตามปกติ ตามหน้าที่สินะ”
พิชชายืนรับฟัง จิราพัชรลุกขึ้นเดินถือแก้วเหล้าเข้าไปหา
“สำหรับคุณ ผมไม่มีความหมายอะไรเลยสินะ”
“ฉันตั้งใจจะโทรหาคุณนะคะ”
“เหรอ เมื่อไหร่ล่ะ หลังจากแต่งงานกับไอ้ทินมันแล้วน่ะเหรอ”
พิชชาไม่มีข้อแก้ตัวอะไร
“ฉันเสียใจค่ะ”
จิราพัชรน้ำเสียงโกรธขึ้น
“คุณไม่เสียใจหรอก อย่ามาแกล้งทำ”
พิชชาไม่มีอะไรจะพูดนอกจากขอโทษเขาอีก
“ฉันเสียใจจริงๆ ค่ะ”
“ไม่ต้องพูดอีกแล้ว”
จิราพัชรกลัวว่าน้ำเสียงของพิชชาจะทำให้เขาใจอ่อน เขาเปลี่ยนทีท่าเป็นเยาะเย้ย
“คุณจะเสียใจเรื่องอะไร หักหลังผมแล้วหนีตามกันไป หรือเรื่องหลอกผมทั้งที่ไม่ได้รัก บอกให้รู้หน่อยสิ”
พิชชานิ่งยอมรับไม่แก้ต่างอะไร
“บอกมาหน่อย ว่าคุณ...คุณไม่เคยรักผมเลย”
จิราพัชรยิ่งพูด ยิ่งรู้สึกทำร้ายความรู้สึกของตัวเอง แต่ก็หยุดไม่อยู่
“ไม่ แม้แต่นิดเดียว”

พิชชานิ่งเพราะ เสียใจที่ทำร้ายความรู้สึกของเขา เธอเก็บความรู้สึกจริงๆ ต่อเขาอยู่ในใจฝืนใจให้
คำตอบที่ทำร้ายใจของเขา
“ค่ะ ถูกแล้ว ฉันไม่เคยรักคุณ สักนาที”
จิราพัชรมองพิชชา สายตาปวดร้าว เดินไปที่ระเบียง พิชชามองตาม เสียใจกับความรู้สึกที่เขามีให้ เธอถอดสร้อยแทนใจเขาออกจากคอวางไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกไปจากห้อง จิราพัชรหันมา พิชชาไม่อยู่แล้ว เห็นสร้อยที่เธอถอดคืนไว้ เขาเดินกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะ หยิบสร้อยขึ้นดู คิดถึงวันที่เขามอบมันให้เธอ จิราพัชรร้องไห้เสียใจ

ค่ำนั้น จิราพัชรยืนถือดอกไม้อยู่หน้าบ้าน ยืนตะโกนเรียกพิชชา
“พิชชา ออกมาหาผมหน่อย”
เพื่อนบ้านคนอื่นของพิชชา เปิดหน้าต่างออกมองดู จิราพัชรพยายามมองหาแต่ไม่เห็นพิชชาแสดงตัว

พิชชากับสุนทรีนั่งในบ้าน เสียงตะโกนเรียกพิชชาเป็นระยะๆ ทำให้สุนทรีทนไม่ไหวลุกขึ้นต่อว่า
พิชชา
“ทำไมแกใจดำกับเขาขนาดนี้”
พิชชานิ่งเฉย แอบร้องไห้เงียบๆ สุนทรีโมโห
“ทุกคนเขาเสียใจกันหมด”
จิราพัชรนั่งที่ถนน เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อไป รอพิชชาอย่างท้อใจ

พิชชาเดินลงบันได เห็นดอกไม้ที่พัชรถือมาวางไว้ที่ขั้นบันได เธอหยิบมันขึ้นมารู้สึกเสียใจที่ทำให้เขาผิดหวังและเสียใจ เธอครุ่นคิดในใจ
“ขอโทษนะคะ คุณไม่ต้องยกโทษให้ฉัน”

พิชชาเดินไปที่ถนนทางเข้าบ้าน ยืนมองรถของจิราพัชรที่ขับออกไปไกล


อ่านต่อหน้า 2

รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 14 (ต่อ)

สองวันต่อมา...พาทินเก็บของบางอย่างของอรอินทุ์ที่ทิ้งไว้ที่สตูดิโอ ดนัยเดินขึ้นบันไดมา

“ทำอะไรอยู่วะ”
พาทินหันไป
“ของๆ อรที่ลืมเอาไว้นะ ผมนัดให้เธอมาเอามันกลับไป”
“พี่ได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้วว่ะ ก็เข้าใจได้อยู่นะ แต่ว่าไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ”
“ผมไม่โทษที่ใครจะด่าว่ายังไงหรอกครับ ผมเองแหละที่ทรยศความไว้วางใจของทุกๆ คน พ่อ แม่ เพื่อน คู่หมั้นของตัวเอง”
ดนัยมองพาทินที่รู้สึกมีความสุขในเรื่องนี้
“คิดดีแล้วเหรอเรื่องนี้”
“ช่างเถอะพี่ ผมไม่สนหรอก”
“มึงใจดำนะเนี่ย”
“ขอแค่อยู่กับพิชชา ผมพอใจแค่นี้แล้ว”
ดนัยมองพาทินส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
“เตรียมตัวรับผลที่จะตามมาทีหลังด้วยก็แล้วกัน”
พาทินยิ้มรับคำ ตะเบะให้ดนัย

พาทินทำงานปั้นของเขาต่อ อรอินทุ์ขับรถมาจอดที่ริมรั้ว พาทินรู้สึกลำบากใจที่ต้องพบกับเธอเพียงลำพัง

พาทินและอรอินทุ์ นั่งคุยที่ใต้ต้นไม้
“ฉันต้องเอาทุกอย่างกลับไปให้หมดใช่ไหมคะ”
พาทินได้แต่รับฟัง
“สิ่งของ ความทรงจำ หัวใจ ความรักที่มีให้คุณ”
พาทินรู้ว่าเธอกำลังเสียใจ แต่เก็บความรู้สึกในใจไม่แสดงออกมา
“ผมขอโทษ”
อรอินทุ์ฝืนยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...ยังไงฉันก็เข้าใจคุณ การคิดถึงใครสักคนที่เรารักมากๆ มันเป็นยังไง ที่ผ่านมาคุณคงคิดถึงพิชชามาก”
พาทินยอมรับ รู้สึกเสียใจที่ทำให้เธอผิดหวังในตัวเขา อรอินทุ์เห็นสีหน้าของเขาเข้าใจว่าเขารู้สึกยังไง
“ไม่ต้องเสียใจหรอกค่ะ”
อรอินทุ์มองพาทินยิ้มเศร้าๆ ให้เขา
“เรื่องนี้มันก็มีด้านดีของมันเหมือนกัน ทำให้ฉันเห็นคุณในด้านที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ด้านที่คุณรักใครสักคนมาก มากจนยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขาได้”
“ในเรื่องนี้ ผมคงโดนลงโทษไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ตอนนี้ผมบอกได้แต่เพียงว่า ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้ ผมเสียใจนะ”
อรอินทุ์ยิ้มให้เขา
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเสียใจหรอกค่ะ ถึงฉันเองจะยังตัดใจไม่ได้”
อรอินทุ์ต้องเก็บความรู้สึก เพื่อไม่ให้ร้องไห้ออกมา พาทินมองอย่างสงสาร
“ฉันเพิ่งรู้สึกตัวเหมือนกัน ว่าเราสองคนคงไม่ใช่เนื้อคู่กัน”
พาทินทำได้เพียงพูดปลอบใจ
“คุณคงได้พบรักแท้ของคุณแน่นอน”
อรอินทุ์เก็บความรู้สึกไม่ไหวต่อไป น้ำตาไหล แต่ก็ยังฝืนยิ้มให้เขา
“ฉันรู้ค่ะ เพราะฉันเป็นคนดีใช่ไหม”
พาทินพยักหน้ารับ อรอินทุ์เช็ดน้ำตา สงบอารมณ์ตัวเอง
“ไปส่งฉันที่รถหน่อยนะคะ”

พาทินหยิบของอรอินทุ์ ใส่ไว้ในรถ ปิดประตู
“รักษาตัวนะ”
“ค่ะ”
อรอินทุ์ยืนมองพาทินไม่อยากจากเขาไป น้ำตาไหลอีก
“ทินคะ...กอดฉันหน่อยได้ไหม”
พาทินเดินเข้าไปกอดลา อรอินทุ์กอดเขาแน่น
“ทินคะ...ฉันจะจำคุณ จำความรู้สึกในอ้อมแขนคุณ จะไม่มีวันลืม”
พาทินและอรอินทุ์คลายกอดจากกัน อรอินทุ์มองเขาอยากจะจำเขาไว้ตลอดไป
“ขอให้มีความสุข”
“คุณก็เหมือนกันนะ”
อรอินทุ์ตัดใจขึ้นรถทั้งที่ยังร้องไห้ พาทินมองรถที่วิ่งออกไป เสียใจที่ทำให้ผู้หญิงดีๆ อย่างอรอินทุ์ต้องเสียใจ

บ่ายวันนั้น พิชชาเลิกงาน เปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดพนักงาน เป็นชุดปกติ พาณีเดินเข้าไปหา ยื่นถุงของฝากให้
“อะไรคะ”
“ขอฝากจากแม่ฉัน เขาส่งมาให้จากเชียงใหม่ ส่งมาเยอะเกิน กินคนเดียวไม่หมด เออฝากให้พี่...เออ คุณพาทินเขาด้วยนะ”
พิชชารับของจากมือพาณี มองอย่างสงสัย พาณีเห็นท่าทางที่พิชชาทำ เหมือนรู้อะไร
“เยอะขนาดนี้ฉันกินกับพี่ทินไม่หมดหรอกค่ะ จะฝากเผื่อคนอื่นด้วยหรือเปล่า”
พาณีรีบปฏิเสธ แต่ท่ามีพิรุธจนจับได้
“เปล่าๆ นะ แต่ถ้ากินไม่หมดจะแบ่งให้คนอื่น ฉันก็ไม่ว่านะ”
“ฉันจะเอาไปฝากพี่ดนัยเผื่อให้นะคะ”
พาณียิ้มที่พิชชาจับความรู้สึกของเธอได้ พงศกรเดินเข้ามาที่แผนก พิชชาดีใจที่เห็นพงศกร แต่รู้สึกผิดเรื่องเมื่อสองวันก่อนด้วย เธอยื่นของฝากในมือคืนให้พาณี
“พี่คะ ขอเวลาแป๊บนึงนะคะ”
พิชชาเดินเข้าไปหายกมือไหว้
“สวัสดีค่ะพ่อ หนูจะโทรบอกแพนให้นะคะว่าพ่อมา”
“ไม่ต้องหรอกลูก วันนี้แพนเขาไม่ได้มาทำงานหรอก”
“ทำไมเหรอคะ”
“แม่เขาไม่ค่อยสบาย”
พิชชาตกใจ
“แม่ไม่สบายเหรอคะ เป็นอะไรมากไหมคะ”
“ก็ป่วยมากเหมือนกัน”
“เหรอคะ”
พิชชาใจหายเรื่องพจนินท์
เย็นนั้น พาทินเดินเข้ารั้วสตูดิโอมา ดนัยกำลังสอนพาณีทำถ้วยจากดินเหนียวอยู่
“อืม ใช้ได้นะ”
“ฉันว่า ฉันพอมีหัวทางนี้เหมือนกันนะ”
“ครูสอนดีต่างหาก”
“ไม่เห็นคุณสอนอะไรเลย แค่พูดด้วยปากเปล่าๆ ฉันทำเองหมดนี่นา”
“ผมจะไปจับมือคุณ แล้วบอกให้บีบตรงนั้นคลายตรงนี้ได้ยังไง ไม่ใช่หนังเรื่องโกสต์นะคุณ หรืออยากให้สอนแบบนั้น ปั้นหม้อรอรัก”
พาณีตีแขนดนัย ที่ล้อเธอเล่น
“คุณน่ะ ทะลึ่ง”
“ทะลึ่งตรงไหน”
ดนัยส่งสายตา พาณีเขินรีบหลบตา ดนัยหันไปเห็นพาทินยืนยิ้มมองทั้งคู่อยู่ เขารีบแก้เก้อ
“เฮ้ยทิน คุณณี เอาของมาฝาก”
พาทินหันไปขอบคุณพาณี
“ขอบคุณครับ”
พาณียิ้มแย้มบอก
“แม่ของฉันส่งมาให้เยอะแยะ จริงๆ ฉันฝากพิชชาเอามาให้พวกคุณ”
พาทินรีบถาม
“แล้วเขาไปไหนล่ะครับ”
“คุณพ่อคุณ มารับเธอไปที่บ้านน่ะค่ะ”
พาทินชะงัก
“กลับไปบ้านเหรอ”

พาทินสงสัย


อ่านต่อหน้า 3

รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 14 (ต่อ)

พงศกรพาพิชชาเดินเข้าบ้าน แพนกำลังเอายาไปให้พจนินท์ ได้ยินเสียงพงศกรเดินเข้าบ้านมาเธอร้องถาม

“พ่อคะ มาแล้วเหรอคะ”
“อืม แม่เขาตื่นแล้วเหรอ”
แพนเดินถือถาดยาเข้ามา เห็นพิชชาก็ยืนมองอย่างไม่พอใจอยู่ครู่หนึ่ง
“พิชชา มาที่นี่ทำไม”
พิชชาก้มหน้าไม่กล้ามองหน้าแพน
“พ่อ แม่น่ะป่วยเพราะเขานะคะ”
พงศกรมองทั้งคู่เห็นใจทั้งสองฝ่าย พิชชาเสียใจ ที่พจนินท์ป่วยเพราะตัวเอง
“แพน พ่อขอเวลาให้พิชชาเขาหน่อย”
แพนจะแย้ง
“พ่อคะ...”
พงศกรพยักหน้าขอร้อง แพนยอมอย่างเสียไม่ได้ เดินหนีไป

พจนินท์นอนอยู่บนเตียงท่าทางอิดโรย พิชชาเปิดประตู มองพจนินท์ที่นอนป่วยด้วยความเสียใจ เดินเข้าไปหาที่เตียงนั่งลงข้างๆ เอื้อมมือไปกุมมือ พจนินท์รู้สึกตัว ลืมตาเห็นว่าเป็นพิชชา เธอมีสีหน้าดีใจสดชื่นขึ้นทั้งคู่มองกันอยู่ครู่ใหญ่
“พิชชา”
พิชชาน้ำตาไหลดีใจที่แม่รู้สึกตัว เสียใจที่แม่ป่วยเพราะตัวเอง
“แม่ป่วยเพราะเรื่องหนูกับพี่ทินเหรอคะ”
พจนินท์ส่ายหน้า
“ไม่ใช่จ้ะ ไม่ใช่เพราะลูกหรอก”
พจนินท์ขยับลุกจากเตียงขึ้นนั่งช้าๆ พิชชาคอยประคอง
“มันเป็นความผิดของพวกเราเอง ของพ่อกับแม่”
พิชชายิ่งร้องไห้เสียใจมากขึ้นที่แม่รับความผิดทั้งหมดไว้เอง พจนินท์น้ำตาซึมเมื่อเห็นความทุกข์ที่พิชชาต้องแบกเอาไว้
“เราไม่ควรแยกพาทินจากหนู พวกลูกต้องเจ็บปวดที่ต้องแยกจากกัน...แต่ว่า...ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปแล้วนะ”
พจนินท์มีท่าทางเหนื่อยล้า
“แม่ไม่เป็นไรนะคะ พักผ่อนก่อนนะคะ”
พิชชาประคองพจนินท์ให้นอนลงพักผ่อน เธอซบลงที่ตักแม่ พจนินท์ยิ้ม ลูบหัวพิชชาด้วยความรัก

พงศกรนั่งที่เก้าอี้รับแขก พิชชาเดินลงมาจากห้องพจนินท์ เธอนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ
“แม่เขาเป็นไงบ้าง”
“แม่หลับไปแล้วค่ะ”
พงศกรพยักหน้ารับ เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูด
“พ่อมาคิดดูแล้ว ลูกกลับไปเรียนต่อดีไหม จะไปที่ไหนก็ได้ ยุโรป อเมริกา”
พิชชาฟังสิ่งที่พงศกรบอก ไม่ทันตั้งตัว พงศกรเห็นสีหน้าพิชชา เขารีบอธิบายต่อ
“พ่อไม่ได้จะส่งลูกไปปล่อยเกาะนะ เราจะไปกับลูกด้วย พ่อกับแม่ พ่อแม่ลูกสามคน”
พิชชาไม่กล้ารับข้อเสนอนี้ ถึงจะรู้ว่ามันแฝงด้วยความห่วงใยและหวังดี
“ขอโทษค่ะพ่อ”
พงศกรพอเข้าใจความรู้สึกของพิชชา เขายิ้ม
“พิชชา เราอาจจะดูเหมือนเหินห่างกันอยู่ ถึงลูกจะโตแล้ว แต่ในใจพ่อ ยังเห็นลูกเป็นเด็กเล็ก ที่ยังชอบเล่นซนอยู่เสมอ พ่อกับแม่ยังคิดถึงลูกทุกคืน”
พิชชารู้สึกหนักอึ้งในใจ พงศกรคิดถึงเรื่องที่ทิ้งพิชชาไว้ แล้วย้ายไปอเมริกา
“พ่อขอโทษ ที่ทำเรื่อง ให้ทุกคนต้องเสียใจมาตลอดหลายปีนี่”
“พ่อคะ อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะ”
“ถึงจะไม่ใช่เลือดเนื้อ เชื้อไข แต่ลูกก็ยังเป็นลูกของพ่อ พ่อเตือนตัวเองมาตลอด”
พิชชาซาบซึ้งที่พ่อยังเห็นเธอเป็นลูกสาว
“ตอนเด็กๆ ลูกสองคนเข้ากันได้ดี พ่อสุขใจมาก แต่ว่าลูกกับพาทินน่ะ...”
พงศกรไม่อยากพูดต่อ พิชชาหน้าสลด
“หนูเสียใจค่ะ”
พงศกรถอนใจเพราะอึดอัดใจในเรื่องนี้
“เราไปอเมริกาด้วยกัน ไปเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ ลูกอาจจะได้พบกับใครสักคน”
พาทินเปิดประตูเข้ามาในบ้าน
“พิชชาจะไม่ไปไหน ทั้งนั้นครับพ่อ ผมจะแต่งงานกับเธอ”
พงศกรและพิชชา ไม่คิดว่าพาทินจะมาที่นี่ พงศกรอ่อนใจกับพาทิน
“เราจะแต่งงานกัน และผมจะพาเธอไปอเมริกาเองครับ”
“ทิน” พงศกรหันไปมองพิชชา “ลูกสองคนเป็นพี่น้องกันจะแต่งงานกันได้ยังไง”
“ตอนนั้นที่ผมบอกว่าเธอ เป็นน้องสาวคนเดียวของผม พ่อก็ไม่ยอมรับ มาตอนนี้ ผมจะแต่งงานกับเธอ พ่อก็มาบอกว่าเราเป็นพี่น้องกัน”
พงศกรเถียงพาทินไม่ได้ เพราะความจริงที่เขาพูดออกมายัน พงศกรกุมหัวด้วยความปวดใจ
“พ่อตัดพิชชาไปตั้งแต่สิบปีที่แล้ว”
พงศกรลุกขึ้นตบหน้าพาทิน พิชชาตกใจ
“พ่อคะ พี่คะ”
พาทินเจ็บ เสียใจ ร้องไห้เพราะความคับแค้นในใจ
“เราสองคนไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ ซะหน่อย ทำไมเราถึงรักกันไม่ได้ล่ะครับพ่อ มันผิดตรงไหนเหรอครับ”
พงศกรสงบลง คุมอารมณ์ที่พลุ่งล่านออกไปกลับมา
“ไม่ว่าพ่อจะยอมรับหรือไม่ เราก็จะแต่งงานกันครับ”
พงศกรโกรธ
“ทิน แกนี่มัน”
พิชชาเข้ามาห้าม
“พ่อคะ พอเถอะค่ะ”
พิชชาพยายามดันพาทินให้ถอยห่างออกมา
“ถ้าแกจะเอาแบบนั้น ฉันจะไม่นับแกเป็นลูกอีกต่อไป”
“พ่อคะ”
พิชชาน้ำตาไหล พาทินยืนเสียใจที่ได้ยินพงศกรพูดแบบนั้นออกมา เขาจับมือพิชชาขึ้นมา
“ผมเคยปล่อยมือจากเธอไปครั้งหนึ่งแล้ว ผมจะไม่ปล่อยอีกเป็นครั้งที่สอง”
พาทินดึงมือพิชชาเดินออกจากบ้าน แพนยืนแอบมองที่บันได รับรู้เรื่องทั้งหมด รู้สึกเสียใจเพราะครอบครัวกำลังแตกสลายเพราะชะตากรรมของเธอกับพิชชาที่มีร่วมกัน

พงศกรได้แต่มองตาม ทรุดตัวนั่งที่เก้าอี้อย่างหมดแรง


อ่านต่อหน้า 4

รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 14 (ต่อ)

ค่ำนั้น พิชชากับพาทินนั่งเหม่อคิดเรื่องที่เกิดขึ้นที่บ้าน

“เดือดร้อนกันไปหมดเลย เนอะ”
พิชชาทุกข์ใจ มากกว่าน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย พาทินเข้าใจความรู้สึกภายในของเธอ
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ”
พิชชาเสียใจ น้ำเสียงเครือ
“พี่กับพ่อต้องทะเลาะกัน...แม่ก็ต้องมาป่วย พัชรกับคุณอร ทั้งสองคนต้องมาเสียใจเพราะเรา”
“มองในมุมนี้สิ ว่าเราสองคนกำลังฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหมดทั้งมวลอยู่ ตอนนี้ก็มีแค่เรา”
พิชชายิ่งเศร้ามากขึ้น เพราะเหตุผลที่พาทินอ้าง ฟังไม่ขึ้น ไม่ใช่ความจริงที่กำลังเกิด
“ไม่นะคะ เราทั้งสองคนผิด ในแบบที่ให้อภัยตัวเองไม่ได้”
พาทินเสียเข้ม
“หยุดนะ”
พิชชาถอนใจ
“เราจะยังไงต่อไปคะ...เพราะฉันเป็นต้นตอทั้งหมดนี่” พิชชาร้องไห้ “ถ้าฉันไม่กลับมาหาพี่ ถ้าฉันไม่โผล่ออกมาพบพ่อกับแม่ เรื่องทั้งหมดมันคงไม่เป็นแบบนี้”
“ไม่ต้องพูดต่อแล้ว”
พิชชาหยุดความในใจของตัวเองไม่อยู่
“พี่คะ ถ้าพี่ไม่ได้มารักฉัน...”
พาทินกอดเธอไว้ ไม่ให้พูดอะไรต่ออีก
“พี่ดีใจที่ได้มาอยู่กับเธออีก พี่ไม่มีความสุขถ้าพี่ไม่มีเธอ”
“พี่คะ ฉันเองก็เหมือนกัน”
พิชชาพูดเหมือนมีความหวังอยู่ข้างหน้า แต่ในใจรู้สึกขมขื่นมาก เธอร้องไห้อย่างหยุดอารมณ์ไม่อยู่

เช้าวันต่อมา...พิชชากับพาทินช่วยกันทำอาหารมื้อเช้า เขาลังเลที่จะชวนเธอไปที่ไร่ หลังจากเกิดเรื่องขึ้นเมื่อวาน
“เสาร์ อาทิตย์นี้ ไปที่ฟาร์มกันไหม”
พิชชาละมือยิ้มให้
“คราวนี้ ไม่ต้องหนีใครไปแล้ว”
พิชชาไม่ตอบอะไร มือยังเตรียมของเพื่อทำกับข้าวอยู่
“พิชชา เราย้ายไปอยู่ที่นั่นกันดีไหม”
พิชชาละมือ หยุดคิด เขาเห็นเธอเหม่อคิดก็ถามอย่างสงสัย
“มีอะไรเหรอ”
“เปล่าไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
พาทินยังข้องใจท่าทีของพิชชาที่เห็นอยู่
“งั้นเราไปกันนะ”
พิชชายิ้มยกมือเกี่ยวก้อยสัญญา พาทินเกี่ยวก้อยสัญญา เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พาทินมองดูเลขหมาย เขาสีหน้าเปลี่ยนไปก่อนจะรับสาย
“ฮัลโหล ครับ”
พาทิน สีหน้ากังวล
“ตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ ครับๆ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ”
พิชชาเห็นสีหน้าของเขารู้ว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น เธอเองก็รู้สึกกังวลไปด้วย
“พี่คะ มีเรื่องอะไรเหรอคะ”

พาทินกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาที่ห้องฉุกเฉิน พิชชาตามมาติดๆ อัจฉรานั่งกังวลอยู่ที่หน้าห้อง พาทินเดินเข้าไปหา พิชชาหยุดยืนอยู่ห่างๆ อัจฉราเงยหน้าเห็นพาทินยืนอยู่ข้างๆ นิ่งมองเขาอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะลุกขึ้นใช้มือทุบเขาด้วยความโกรธ
“ทำไมเธอ ถึงใจดำแบบนี้ คนใจดำ ใจดำ”
พาทินปล่อยให้อัจฉราทุบตีระบายอารมณ์ออกมา อัจฉราแผ่วแรงลง ทรุดตัวลง พาทินประคองให้เธอนั่งลงที่ม้านั่ง
“คุณน้าครับ อรเป็นอะไรเหรอครับ”
อัจฉราร้องไห้ พาทินเองก็ใจไม่ดีที่อัจฉราไม่บอกอะไรเขา พิชชายืนมองทั้งคู่รู้สึกผิด รับรู้ว่าเรื่องเกิดเพราะตัวเธอ หมอออกจากห้องฉุกเฉิน
“ญาติคุณอรอินทร์ครับ”
พาทินและอัจฉราลุกขึ้นแสดงตัว
“ลูกสาวดิฉันเองค่ะ ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะหมอ”
“ครับ ปลอดภัยแล้ว ยังมีอาการอ่อนเพลียจากการเสียเลือดอยู่”
อัจฉราและพาทินดูโล่งอก
“แต่มือซ้าย ต้องรอดูอาการครับ เพราะอาการบาดเจ็บอาจจะลึกถึงเส้นเอ็น”
อัจฉราโวยวาย
“ลูกฉันจะเสียมือไม่ได้นะคะ ลูกฉันเป็นศิลปินนะ เสียมือไม่ได้”
“ผมยังยืนยันตอนนี้ไม่ได้นะครับ”
พาทินปลอบ
“คุณน้าครับใจเย็นก่อนครับ เอ่อ...ตอนนี้พอเข้าไปเยี่ยมได้ไหมครับ”
อัจฉราหันไปหาพาทิน
“เธอช่างกล้านะ อยากจะเยี่ยมเขาไปทำไม”
พาทินชะงัก
“คุณน้าครับ”
อัจฉราโมโหขึ้นมาอีก ทุบพาทินระบายโกรธ
“เป็นความผิดของเธอไม่ใช่เหรอ ที่ทำให้เขาทำอย่างนี้ลงไป”
พาทินไม่พูดอะไร เขาปล่อยอัจฉราระบายอารมณ์ เพราะรู้สึกผิดและต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ พิชชาที่มองดูรับรู้เรื่องราวทั้งหมด รู้สึกเสียใจ ตัดสินใจบางอย่าง เดินจากไป

พิชชาเข็นรถอุปกรณ์ทำงานผ่านห้องพักแขก เธอไม่มีใจทำงานนัก ใจกังวลเรื่องของอรอินทุ์

พาทินขออัจฉราเข้าไปเยี่ยมอรอินทุ์
“คุณน้าขอผมเข้าไปเยี่ยมเธอหน่อยนะครับ”
อัจฉราดูไม่พอใจที่พาทินมาแต่ไม่พูดอะไร เธอโบกมือไล่ ไม่ให้เข้าไปเยี่ยม พาทินทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนรอที่หน้าห้อง

สายวันต่อมา...พิชชาทำความสะอาดห้องที่ชั้นบน เสียงผู้หญิงดังขึ้น
“ห้องคุณน่าอยู่จัง”
พิชชาได้ยินเสียงชะโงกหน้าลงไปมอง เห็นจิราพัชรพาเพื่อนหญิงเข้ามาในห้อง
“ตามสบายเลยนะ”

“งั้นไม่เกรงใจนะคะ”


โปรดติดตาม รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 15
กำลังโหลดความคิดเห็น