xs
xsm
sm
md
lg

รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 13

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 13

จิราพัชรให้เงินพงษ์ เผื่อเขามีเบาะแส พงษ์กระตือรือร้นรับปาก จิราพัชรเจอทางตัน เขายังมองไม่เห็นทางที่จะพบทั้งคู่

พิชชากับพาทิน สนุกกับกิจกรรมต่างๆ ในฟาร์ม ช่วงเวลาที่มีความสุข...ให้อาหารม้า...เดินดูไร่...มองดูคนงานฝึกม้า...ขี่จักรยานเล่นไปรอบๆ...เดินจูงมือคุยสัพเพเหระ
พาณีเดินตามมนตรีชี้แจงเรื่องพิชชา
“พักงานพิชชาเหรอคะ”
“เขาไม่ได้มาทำงานสองวันแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เขาขอลาพักร้อนนี่คะ”
“หนีตามผู้ชายไป ไม่เรียกว่าพักร้อนหรอกนะ”
พาณีชะงัก
“เอ๊ะ”
“คุณไม่รู้เรื่องเหรอ” มนตรีส่ายหน้า “จะปกป้องลูกน้อง ก็ตามเด็กให้มันทันหน่อย”
พาณียืนคิดพยายามรวบรวมเรื่องราวทั้งหมด

พาณียืนริมรั้วมองเข้าไปในสตูดิโอ ข้างในเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่ เธอลังเล ก่อนที่จะเดินกลับ
ออกไป ดนัยเดินลงมาจากชั้นบน พาณีถอยกลับมา ร้องเรียกเขา
“นี่คุณ”
ดนัยยิ้มรับพยักหน้าทัก
ดนัยชงกาแฟมาให้พาณี
“ปกติพิชชา เธอดูเป็นคนใช้เหตุผล มากกว่าอารมณ์ ไม่อยากเชื่อเหมือนกันนะว่าเธอจะทำแบบนั้น”
ดนัยหัวเราะเบาๆ
“ไอ้ทินเป็นคนที่ดูมีเหตุมีผลมากกว่าพิชชาอีกนะ ผมยิ่งไม่เชื่อยิ่งกว่าคุณอีก”
พาณีถอนใจ
“มันไม่ทางออกหรือไงนะ ทั้งคู่ถึงต้องทำแบบนี้”
“ได้ยินว่าพ่อแม่ของไอ้เจ้าทิน ช๊อคไปเลย คงยังมองว่าทั้งคู่ยังเป็นพี่น้องกันอยู่”
“แต่ทั้งคู่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดนี่คะ”
“แต่ต่างฝ่ายต่างก็มีคนรักอยู่แล้วด้วยนะ”
“ฉันว่าเขาสองคนคงจะรู้อยู่แล้ว”
“รู้ว่าอะไร”
“ว่าต้องลงเอยแบบนี้”
ดนัยถอนใจ
“คงเป็นเพราะความรักนั่นแหละ ถึงจะเป็นทางตัน ก็ทำให้คนดันทุรังเดินทะลุมันไปจนได้”
“แต่ฉันก็แอบเอาใจช่วยทั้งสองคนนะ ให้เขาลงเอยกัน”
“ผมอิจฉาเจ้าทินมันนิดๆ”
“ก็ไม่ใช่ใครก็ได้ ที่จะมีความรักลึกซึ้งแบบนี้นะ”
พาณีพูดสิ่งที่คิดได้อย่างสบายใจกับเขา ดนัยรู้สึกถูกใจสิ่งที่เธอพูดจากความรู้สึกข้างในที่เข้าใจคน

เช้าวันต่อมา...พาทินตื่นแต่เช้า เขาเดินจากบ้านพัก ไปตามถนนมองวิวรอบๆ เขาพยายามจินตนาการ เมื่อตอนที่พิชชามาใช้ชีวิตที่นี่...พิชชาให้อาหารม้า...พิชชาตักน้ำเทใส่ราง...พิชชานั่งบนรั้วมองม้าวิ่งในคอก...พิชชาปอกผลไม้ที่เป็นอาหารม้า...พิชชานั่งร้องไห้ที่ใต้ต้นไม้ สลักชื่อแฟน...พาทินนึกถึงต้นไม้นั้น พยายามเดินหา แต่ไม่พบ เขาเห็นดอกไม้ที่ขึ้นอยู่ข้างทาง เลยเปลี่ยนใจเก็บดอกไม้นั้นแทน พิชชาเดินตามหาเห็นเขาเก็บดอกไม้อยู่
“พี่โรแมนติคมากเลย”
พาทินหันมายิ้มให้ พิชชายื่นมือไปรับดอกไม้ที่เขาถืออยู่ เขาชักมือกลับ ส่ายหน้าปฏิเสธ
“อ้าว พี่เก็บมันให้ฉันไม่ใช่เหรอ”
“เปล่า”
“นิสัยไม่ดี”
พิชชางอนเดินหนีไป พาทินดีใจที่ได้แกล้ง เขาเดินตามเธอไป
“พี่อยากถามเธอหน่อย คำถามเชยๆ นะ รู้ตัวว่าชอบพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่”
พิชชาคิดทบทวนอยู่นาน
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน แล้วพี่ล่ะ”
พาทินทวนความรู้สึกตัวเองบ้าง
“พี่เองก็เหมือนเธอ บอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่เหมือนกัน แต่สิ่งที่พี่จำได้แม่น ไม่เคยลืม ก็คือเธออยากเกิดเป็นต้นไม้”
“ฉันอยากเข้มแข็งเหมือนต้นไม้ พอมันหยั่งรากลึกลงไปแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถึงจะเจ็บปวดแค่ไหน มันก็จะไม่หนีไปไหน”

พาทินรู้ว่าถึงพิชชาจะพูดออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว แต่ก็คงเจ็บปวดข้างในไม่น้อย เขาโอบไหลเธอ
ปลอบโยน
“พี่ก็เหมือนกัน สัญญาว่าถึงจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็จะไม่หนีไปจากเธอ”
พาทินยื่นดอกไม้ที่เขาถือมาตลอดทางให้
“แฮบบี้เบิร์ทเดย์”
พิชชาดีใจ ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่ายังไงเขาต้องให้เธอ
“พี่คะ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมาก”
พาทินอยากพูดสิ่งที่อยู่ในใจเขามาตลอด
“พิชชา...แต่งงานกับพี่นะ”
พิชชาถึงจะดีใจ แต่ก็สับสน ไม่รู้จะแสดงออกอย่างไรดี พาทิน ถึงจะไม่ได้คำตอบจากเธอแต่ก็รับความรู้สึกของเธอได้ เขาเดินออกไปแบบเขินๆ พิชชายิ้มทั้งดีใจ ทั้งขำกับทีท่าที่ไม่เคยเห็นจากเขา
“พี่คะ”
พิชชาเร่งฝีเท้าเดินตามพาทิน บรรยากาศที่มีความสุขห้อมล้อมทั้งคู่ไว้

พจนินท์ป่วยนอนอยู่บนเตียง มองดูปฏิทินบนผนัง จำได้ว่าเป็นวันเกิดของพิชชา พจนินท์ค่อยๆ ลุกจากเตียง เธอไปเตรียมมื้อเช้า เกือบเสร็จแล้ว ทยอยวางไว้บนโต๊ะเป็นอาหารที่พิชชาชอบตั้งแต่เด็ก แพนเดินลงมาจากห้อง ตรงเข้ามาช่วย
“หนูทำเองค่ะแม่”
พจนินท์ขืนไว้
“ไปนั่งเถอะ”
แพนจ๋อยเดินไปนั่งที่เก้าอี้
“จะได้รีบไปทำงาน”
พงศกรเดินเข้ามา
“แม่ไหวแล้วเหรอ”
“ฉันค่อยยังชั่วแล้วล่ะ นั่งเถอะค่ะ”
พงศกรนั่งที่หัวโต๊ะ พจนินท์ตักกับข้าวลงจานของแพน เธอยิ้มที่แม่ทำให้ พจนินท์พูดขึ้น
“วันนี้เป็นวันเกิดพิชชา”
รอยยิ้มของแพนค่อยๆ สลายไป พงศกรเห็นใจแพน แต่ก็ไม่ได้แย้งพจนินท์เพราะเห็นว่าเธอป่วยอยู่ พจนินท์หันมาถามสามี
“พ่อ...จะทำยังไงดี จะปล่อยไว้อย่างนี้เหรอ”
“ให้เวลาพวกเขาหน่อย ทั้งคู่ต้องกลับมาแน่ สองคนนั่นเป็นพี่น้องกันนะ ผมไม่ให้เกิดเรื่องไม่งามในบ้านเราหรอก ชาวบ้านเขาจะคิดยังไง”
“คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่าง ฉันไม่สน”
“แม่ คิดดูให้ดีหน่อยสิ ชื่อเสียงตระกูลเรานะ”
“ชื่อเสียงของตระกูลเหรอ ต้องโทษคุณนะ เพราะคุณทิ้งพิชชาเอาไว้ที่นี่”
“แม่”
แพนที่นิ่งฟังมาตลอดแทรกขึ้น
“วันนี้เป็นวันเกิดของพิชชา...มันเป็นวันเกิดของหนูด้วยเหมือนกัน”
พจนินท์น้ำตาซึมกับคำท้วงของแพน
“แพน”
“หนูนึกอยู่แล้วว่าพิชชาโผล่มาเรื่องมันต้องเป็นแบบนี้”
แพนน้อยใจลุกจากโต๊ะเดินออกไป พงศกรอึ้ง
“แพน”
พจนินท์รู้ตัวว่าทำให้แพนเสียใจและน้อยใจ

สุนทรีทำกับข้าววางไว้บนโต๊ะ มีอาหารที่พิชชาชอบอยู่ด้วย สุนทรีมองกับข้าวนั้นนึกถึงพิชชา

อ่านต่อหน้า 2

รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 13 (ต่อ)

ในฟาร์มม้า...พิชชาถือดอกไม้ ยืนมองคนงานป้อนอ้อยให้ม้ากิน ตาวุธสั่งงานคนงานอยู่ เห็นพิชชาก็ทักทาย

“ว่าไงตัวเล็ก”
พิชชาหันไป
“สวัสดีค่ะ คุณตาเรียกหนูแบบนั้นอีกแล้ว”
“ก็เมื่อก่อนตอนมาอยู่ ตัวแค่นี้” ตาวุธยกมือเทียบความสูง “ตอนนี้ก็สูงขึ้นมาอีกแค่นี้”
พิชชาหัวเราะกับความเป็นจริง
“จะกลับวันไหน อย่าลืมเอาของไปฝากแม่ด้วยนะ ตาให้คนเตรียมไว้ให้แล้ว”
“คุณตาจะไปไหนเหรอคะ”
“วันนี้ต้องขึ้นกรุงเทพ ตามสบายนะ ฝากสวัสดีแม่เราด้วย บอกเขาให้แวะมาเที่ยวบ้างนะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ตาวุธเดินไปสั่งงานคนงานอื่นๆต่อ พิชชาคิดถึงสุนทรี

พิชชาหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาสุนทรี
“ฮัลโหล”
พิชชาได้ยินเสียงสุนทรี แต่ไม่ส่งเสียงกลับ ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
“ฮัลโหล...ฮัลโหล”
“แม่คะ หนูเองค่ะ อยากให้แม่รู้ว่าหนูสบายดี”
สุนทรีดีใจที่พิชชาโทรมา
“เดี๋ยว พิชชาอย่าพึ่งวางหูนะ อย่าวางนะลูก”
พิชชารู้ว่าสุนทรีอยากคุย อยากรู้สาเหตุที่เธอทำ
“ทำไมแก ถึงทำแบบนั้นล่ะ พิชชา อยู่ที่ไหน กลับบ้านเถอะนะ”
พิชชารู้สึกถึงความห่วงใยของสุนทรี น้ำตาซึม
“แม่คะ หนูขอโทษค่ะ แต่ตอนนี้ หนูมีความสุข จริงๆนะคะ มีความสุขมาก”
“จะมีความสุขได้ยังไง เขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว แล้วคุณพัชรอีกล่ะ คนรอบข้างเราเจ็บช้ำใจ เราจะมีความสุขอยู่ได้ยังไง จะไม่มีใครยกโทษให้แกทั้งสองคนนะ”
พิชชารู้เหตุผลทั้งหมด เสียใจแต่ยังไม่อยากตัดใจจากตรงนี้
“หนูขอโทษค่ะแม่ ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูสบายดี”
“ตอนนี้แกสองคนอยู่ไหน”
พิชชาคิดๆ
“ที่ฟาร์ม”
“ฟาร์ม ฟาร์มไหน ฟาร์มม้าเหรอ ไปทำอะไรที่นั่น”
“ค่ะ”
พงษ์นั่งฟังอยู่ที่บันไดชะงัก
“แค่นี้นะคะแม่”
“เดี๋ยวก่อนพิชชา พิชชา”
สุนทรีอ่อนใจ

พิชชาวางสายคิดถึงคำพูดของสุนทรี
“คนรอบข้างเราเจ็บช้ำใจ เราจะมีความสุขอยู่ได้ยังไง จะไม่มีใครยกโทษให้แกทั้งสองคนนะ”
พิชชาเครียด รู้สึกมีของเหลวไหลออกมาจากจมูก เช็ดมันออกมาดู เป็นเลือดกำเดา เธอเงยหน้าขึ้น
ฟ้า ไม่ให้เลือดหยดลงมา ค่อยๆ เดินไปตามทาง พาทินเดินกลับมาในมือมีกล่องใส่เค้กก้อนเล็กๆ มา เขาเห็นท่าแปลกๆ ของพิชชา สักพักก็รู้ว่าเธอเลือดกำเดาออก รีบวิ่งเข้าไปหา
“อยู่นิ่งๆ ก่อน”
พาทินหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋า ซับเลือดที่จมูกของเธอแล้วพาไปนั่งพักใต้ต้นไม้เช็ดที่จมูกให้เธอ
“พอแล้วค่ะพี่ มันหยุดแล้ว”
“เฉยๆ ก่อนอย่าดื้อ”
พาทินเชยคางพิชชา ยกให้หน้าเธอเงยมองฟ้า พิชชานั่งนิ่งทำตามโดยง่าย
“พี่ตกใจมากเลยเหรอ”
“ใช่สิ”
“พี่วิ่งหน้าตั้งมาเลย ฉันชอบชะมัดเลย”
พาทินไม่ค่อยชอบใจพิชชาเห็นเรื่องที่เกิดเป็นเรื่องเล็กๆ พิชชาชำเลืองมองกล่องเค้กที่อยู่ข้างๆ
“อุตสาห์ไปซื้อมาให้ฉันเหรอ”
พิชชาซึ้งใจ น้ำตาซึม
“ไม่ดีใจเหรอ”
“ดีใจมาก จนนึกกลัวต่างหาก กลัวว่าความสุขแบบนี้จะไม่อยู่กับเรานานๆ”
พาทินลุกขึ้น ยิ้มให้
“อย่าพึ่งไปคิดเรื่องที่ยังมาไม่ถึงสิ”
พาทินหยิบกล่องเค้กเดินไป พิชชายังเงยหน้าค้างอยู่
“พี่คะ มันหยุดไหลหรือยัง”
“มันหยุดไปตั้งแต่แรกแล้ว”
พิชชาเจ็บใจที่เสียรู้พาทิน
“พี่อ่ะ”
พาทินหัวเราะเดินหนีไป พิชชาลุกขึ้นเร่งฝีเท้าตามเขา
“อย่าเครียดๆ เดี๋ยวเลือดมันไหลออกมาอีกนะ”

จิราพัชรนั่งที่โซฟามองกล่องแหวน ที่ซื้อมาเพื่อขอพิชชาแต่งงาน เขาหยิบขึ้นมาเปิดออกดู เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขารีบรับสาย
“ครับ” จิราพัชรตื่นเต้น “เหรอ เข้ามาเลย”

จิราพัชรเปิดประตู...พงษ์เดินตามเข้ามา เขาไม่รีรอถามทันที
“สองคนนั่นไปอยู่ที่ไหน”
พงษ์ทำท่าเหมือนลำบากใจ
“ต้องขอโทษแทนพิชชามันด้วยครับ มันทำให้ลำบากกันไปหมด”
“เข้าเรื่องเลยดีกว่า”
“ผมอยากไปลากมันกลับมาด้วยตัวเอง แต่ว่า...”
จิราพัชรรู้ความหมายในน้ำเสียงของพงษ์ เขาหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์ออกมา
“ที่ไหน”

พงษ์รีบรับไว้ แต่ยังยักท่าเอาไว้ จิราพัชรไม่ชอบใจนัก คว้าคอพงษ์ เขารีบบอก

อ่านต่อหน้า 3

รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 13 (ต่อ)

เย็นนั้น จิราพัชรขับรถมาตามทาง ขับเลยแยกทางเข้าฟาร์ม เขาจอดมองดูแผนที่ ที่พงษ์เขียนบอกทาง เขาถอยรถกลับมา เลี้ยวเข้าถนนเส้นไปฟาร์มม้า

พิชชาและพาทินปักเทียนบนเค้ก ฉลองวันเกิด เธอเป่าเทียนเขาตัดเค้กแบ่งกันกิน
“พรุ่งนี้เรากลับกันนะ”
พิชชาอารมณ์เปลี่ยน กลับมาสู่ความเป็นจริง
“ค่ะ”
พาทินเห็นสีหน้าพิชชา ฝืนยิ้มปลอบใจเธอ
“ไม่ต้องเศร้าหรอกน่า พอเรากลับไป บอกทุกคนเรื่องแต่งงานกัน แล้วค่อยมาที่นี่กันใหม่”
พิชชารู้ว่าสิ่งที่พาทินพูด เป็นไปไม่ได้
“ไม่ต้องห่วง พี่จะจัดการเรื่องนี้เอง ไม่ต้องไปฟังคำพูดของใครทั้งนั้น ขอให้เธออยู่กับพี่แค่นั้นก็พอ”
“อย่าเลยค่ะพี่ ไม่จำเป็นหรอก ไม่ต้องบอกใครหรอก สำหรับฉันแค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว เวลาที่เราอยู่ด้วยกันที่นี่ ช่วงเวลาแค่นี้ก็ล่อเลี้ยงชีวิตของฉันได้ตลอดไปแล้วล่ะ”
พาทินคิดตาม รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดถูกต้อง
“อย่าให้พ่อแม่ต้องเสียใจกว่านี้เลยนะคะ ฉันตั้งใจเอาไว้จะไม่ทำร้ายใจใครเพื่อมีความสุขเฉพาะแค่เราสองคน”
พิชชาน้ำตาไหล เมื่อคิดถึงคนอื่นต้องมาเจ็บปวดเพราะทั้งคู่
“สำหรับพี่ มันไม่พอหรอก อยู่กับเธอทั้งชีวิตมันก็ยังไม่พอสำหรับพี่”
พาทินยิ้มให้พิชชาที่ยังร้องไห้ เขาเอื้อมไปจับมือเธอมาใกล้ตัวแล้วหยิบแหวนออกมาจากกระเป๋า สวมให้ พิชชาร้องไห้หนักกว่าเดิม ความรู้สึกข้างในทั้งหวานชื่นและขมขื่น ผสมปนกันจนสับสน พาทินก็มีความรู้สึกไม่ต่างกัน

จิราพัชรขับรถเข้ามาจอด ลงจากรถมองที่บ้านตาวุธ ไม่พบใคร เขาเดินตามทางไปบ้านพักคนงานเห็นพิชชาและพาทินจับมือกัน เดินอยู่ลิบๆ ข้างหน้า เขาเร่งฝีเท้าจนเกือบจะวิ่งเพื่อตามให้ทันทั้งคู่ พิชชาได้ยินเสียงฝีเท้าหันกลับไปมอง พาทินเองก็เช่นกัน พิชชาตะลึง
“คุณพัชร”
พาทินก็อึ้งไป
“พัชร”
จิราพัชรตามมาทันหยุดมองทั้งคู่ เห็นทั้งคู่จับมือกัน พิชชารู้สึกตัว ค่อยๆปล่อยมือจากพาทิน
จิราพัชรสังเกตเห็นมืออีกข้างของเธอสวมแหวนของพาทินไว้ เขารู้สึกเจ็บลึกในใจ

ใกล้ค่ำ...พาทินและจิราพัชรยืนรอพิชชาที่เข้าไปเก็บของในบ้านพัก
“กูกับพิชชาจะแต่งงานกัน”
จิราพัชรโมโหมองพาทินที่ดูไม่สนใจคนอื่น
“ไอ้ทิน มึงคิดให้ดีก่อนนะ มึงไม่เหมาะกับพิชชาหรอก พ่อแม่ของมึง แล้วก็อร มึงตัดขาดพวกเขาได้เหรอ กูรู้จักมึงดี มึงไม่ใจร้ายขนาดนั้นแน่”
พาทินรู้ว่าเพื่อนพูดถูก จิราพัชรต่อว่าอีก
“ใจของอร ใจของพ่อแม่ ต้องเจ็บแค่ไหน เคยคิดบ้างไหม แล้วใจกูล่ะ”
พาทินเสียใจที่ทำให้ทุกคนเจ็บปวด
“กูเสียใจ เสียใจจริงๆ พัชร”
จิราพัชรไม่พูดอะไรต่อ พาทินพูดต่อน้ำเสียงหนักแน่น
“แต่ กูก็จะแต่งกับพิชชา”
จิราพัชรโกรธที่พาทินดื้อด้าน เขาข่มความรู้สึกเอาไว้
“กูจะไปรอที่รถ”
จิราพัชรเดินกลับไปที่รถ

จิราพัชรนั่งข่มใจในรถ แต่ก็อดเสียใจไม่ได้ คิดถึงตอนที่เห็นแหวนของพาทินที่นิ้วของพิชชา หยิบ
แหวนของตัวเองที่คิดจะให้พิชชาออกมาดู ยิ่งเสียใจมากขึ้น กำมันแน่นด้วยความแค้นใจ จิราพัชรเห็นพิชชากับพาทินที่กระจกมองหลัง เขาลงจากรถ...พิชชาถือของเดินมาถึงรถไม่กล้าสบตาจิราพัชร พาทินเดินไปเปิดประตูหลังรถให้เธอ จิราพัชรเสียเข้ม
“มานั่งข้างหน้า”
พิชชาและพาทินหยุด
“อย่ามานั่งคู่กันให้เห็น”
พิชชาลังเล เดินไปที่ประตูหน้า พาทินดึงแขนเธอเอาไว้ พาเธอไปนั่งที่เบาะหลัง จิราพัชรจำนนกับความรั้นของพาทิน เขาขึ้นรถขับออกจากฟาร์ม

จิราพัชรขับรถจอดที่ริมรั้ว พิชชาและพาทินเดินเข้าสตูดิโอ จิราพัชรตามเข้ามา
“พรุ่งนี้เช้าผมจะพาคุณกลับไปที่บ้าน”
พิชชานิ่งฟัง เดินขึ้นห้องพัก พาทินไม่ชอบใจ ไม่อยากไปพบพ่อแม่นัก จิราพัชรมอหน้าพาทิน
“คืนนี้กูจะอยู่ที่นี่ มึงอย่าคิดเรื่องอะไรบ้าๆ ออกมาอีก”
พาทินไม่โต้แย้งอะไร ยอมจำนน เขาเดินขึ้นห้องพักไป จิราพัชรมองทั้งคู่ เขานั่งลงที่เก้าอี้ท่าทางเหนื่อยอ่อนใจ คิดถึงเรื่องวันพรุ่งนี้

เช้าวันต่อมา...พงศกร พจนินท์ และแพน นั่งรอที่ห้องรับแขก เสียงกริ่งหน้าบ้านดัง พงศกรและพจนินท์ตื่นตัว
“เดี๋ยวหนูไปเปิดเองค่ะ”
แพนลุกขึ้นไปที่ประตู พงศกรและพจนินท์ กระวนกระวายใจที่จะพบกับพาทินและพิชชา แพนหันมาบอก
“พี่อรกับแม่มาค่ะ”
แพนเดินกลับเข้ามา พร้อมกับอรอินทุ์และอัจฉรา พงศกรและพจนินท์ผิดคาดไม่คิดว่าจะเป็นทั้งคู่ พงศกรและพจนินท์ลุกขึ้นต้อนรับ อัจฉราก้าวเข้ามาท่าทางโมโห อรอินทุ์ฉุดแขนข้างหนึ่งเอาไว้
“แม่คะ ใจเย็นๆ นะคะ”
“ปล่อยน่า”

พงศกรและพจนินท์วางตัวไม่ถูก รู้ว่าอัจฉรามาด้วยเรื่องอะไร อัจฉราเห็นทั้งคู่รู้สึกผิด อารมณ์เย็นลงนั่งลงที่เก้าอี้รับแขก ทุกคนนั่งตาม

อ่านต่อหน้า 4

รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 13 (ต่อ)

แพนยกน้ำเย็นมาให้ทุกคน เดินเลี่ยงขึ้นห้องไป พงศกรถอนใจ

“ผมต้องขอโทษจริงๆ ครับ”
อัจฉราถามเสียเข้ม
“ลูกสาวหนีตามลูกชาย บ้านคุณมันยังไงกัน”
อรอินทุ์พยายามเตือนแม่
“แม่คะ”
“เงียบไปเลยเราน่ะ”
อรอินทุ์เห็นอัจฉรายังโมโห เลยไม่กล้าขวาง
“พวกคุณเป็นผู้ใหญ่มีชาติตระกูล แต่ศีลธรรมหายไปไหนหมด ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง”
พจนินท์พูดให้อัจฉราเย็นลง
“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ ฉันรู้ว่าเขาจะต้องกลับมาค่ะ ขอเวลาสักหน่อยนะคะ”
“กลับมาแล้วไง คิดว่าฉันจะยอมรับเขาได้เหรอ”
อรอินทุ์นั่งเศร้า
“เรื่องต่ง เรื่องแต่งน่ะ ไม่ต้องแล้วนะ ยกเลิกไปเลย”
อรอินทุ์ตกใจที่แม่ตัดสินใจยกเลิกงานแต่ง
“แม่ใจเย็นสิคะ”
อัจฉราหยุดฟัง
“ถ้าขาดทิน หนูอยู่ไม่ได้นะ”
“คืนสติซะทีสิ อร”
อรอินทุ์มองอัจฉราด้วยแววตาที่แน่วแน่
“แม่...แม่อยากให้หนูฆ่าตัวตายเหรอคะ”
อัจฉราเห็นแววตาของลูกสาวรู้สึกหวั่นใจ เธอคงจะทำจริงๆแน่ ท่าทีของอัจฉราอ่อนลง
“พูดอะไรออกมา ทำไมพูดแบบนี้”
พงศกรเสียใจ
“เป็นความผิดของพวกเราเองครับ”
พจนินท์หน้าเครียด
“ขอโทษด้วยนะคะ”
ทุกคนทำให้อัจฉราไม่รู้จะจัดการเรื่องนี้ยังไงต่อ ประตูหน้าบ้านเปิดออก ทุกคนหันไปมอง จิราพัชรเดินนำเข้าบ้าน พิชชากับพาทินเดินตามเข้ามา พจนินท์ดีใจ
“ทิน พิชชา”
พาทินกับพิชชาไม่คาดคิดว่าจะมาพบทุกคนพร้อมหน้าแบบนี้ ทั้งคู่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาใคร อัจฉราเสียเข้มมาก
“พาทิน”
พาทินได้ยินอัจฉราเรียกชื่อ เขาจับมือพิชชาเอาไว้ อรอินทุ์เห็นแหวนที่พาทินเลือกไว้สำหรับงานแต่งของเธอที่นิ้วของพิชชา ทุกคนเองก็สังเกตเห็น พาทินรวมความกล้าเอ่ยปากบอกทุกคน
“ผมขอโทษ”
พิชชาได้แต่ก้มหน้า ไม่สามารถทำอะไรดีไปกว่านี้
“เราสองคน...ขออนุญาตแต่งงานกันนะครับ”
ทุกคนได้แต่อึ้งตะลึงงัน อรอินทุ์เสียใจมาก น้ำตาไหล
“ทินคะ”
จิราพัชรมองพิชชา อยากรู้ว่าเธอจะมีคำตอบสำหรับเรื่องนี้ยังไง พิชชาสบตาเขาไม่รู้จะแสดงความรู้สึกอะไร พาทินเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำไปคือทางออกของเรื่องนี้จริงๆ หรือเปล่า

พจนินท์นั่งที่เตียง พงศกรยืนอยู่ข้างๆ ทั้งคู่ปรึกษาหาทางออกให้กับเรื่องนี้
“คุณคะ ฉันจะไปอเมริกากับพิชชา”
“มันไม่ใช่ทางออกนะแม่ แม่เองก็ยังป่วยอยู่ ไปไม่ไหวหรอก”
พจนินท์ไม่คิดว่านั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ไปไม่ได้
“ฉันจะไปอเมริกากับพิชชา”
คำย้ำของพจนินท์ ยืนยันทำให้พงศกรยอมแพ้
“ก็ได้ งั้นก็ไปกันทั้งหมด”
“ไม่ แค่ฉันกับพิชชาสองคน ทั้งหมดที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะคุณผิดที่ทิ้งแกไว้ที่นี่ ฉันจะไปกับลูกเท่านั้น”

สุนทรีเพิ่งทำครัวเสร็จ พิชชาเดินมาตามถนนเข้าบ้าน สุนทรีเห็นทั้งดีใจทั้งโกรธ เดินเข้าไปหา
“ทำไมถึงทำแบบนี้”
สุนทรีใช้มือตีไปตามตัวพิชชาเหมือนตีเด็ก พิชชายืนนิ่งไม่หลบเลี่ยง
“ถึงจะไม่ใช่แม่ที่ดีนัก แต่อย่ามาทำแบบนี้กับแม่”
สุนทรีร้องไห้

สุนทรีมองพิชชาที่นั่งกินข้าว สายตาทั้งห่วง ทั้งกังวล จนต้องถอนใจ พิชชาวางช้อนในมือมองสุนทรี
“แม่ทำให้เมื่อวานวันเกิดนะ”
สุนทรีลูบแขนพิชชาเหมือนจะดูว่าลูกสาวผอมลงไปหรือเปล่า
“ค่อยๆ กินนะ เอ้านี่ด้วย”
พิชชาตื้นตัน
“แม่คะ”
“ไม่ต้องพูดหรอก...รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าบ้านโน้นเขาจะรับเป็นลูกอยู่แล้ว อีกอย่างคุณพัชรเขาไม่ดีตรงไหน ทำไมถึงไม่ยอมแต่งกับเขาดีๆ”
พิชชาหาเหตุผลดีๆ มาแย้งสุนทรีไม่ได้
“ชีวิตลูกกำลังได้โอกาสดีๆ เพราะเป็นคนดีน่ารัก ทำไมไม่คว้าไว้ให้ชีวิตดีขึ้นล่ะ”
ความหวังดีของแม่ กับสิ่งที่หัวใจเรียกร้องทำให้ พิชชาน้ำตาคลอ
“แม่คะ หนูห้ามใจตัวเองไม่ได้ค่ะ ห้ามไม่ให้รักเขาไม่ได้”
“ไม่ต้องพูดออกมา แม่ไม่อยากฟัง”
สุนทรีทีท่าสงบลง จับมือพิชชามองดู สัมผัสไปมาอย่างทะนุถนอม
“ลูกควรจะอยู่กับบ้านนั้น เอาชีวิตของตัวเองคืนมา นั่นแม่ถึงจะมีความสุข”
สุนทรีมองตาพิชชา
“แม่เข้าใจที่ลูกชอบเขา แต่มันไม่ใช่ความรักอย่างที่ลูกคิดหรอก ลูกจากเขามานาน ก็แค่คิดถึงเขามากเท่านั้น”
พิชชาไม่คิดว่าสิ่งที่สุนทรีบอก คือความรู้สึกจริงๆในใจเธอ
“คิดให้ดีๆ ทำเพื่อแม่สักครั้งได้ไหม...เท่ากับทำเพื่อตัวเองนั่นแหละลูก ทำได้ไหม”

พิชชาน้ำตาไหล ไม่เห็นทางออกจากทางเลือกที่สุนทรีแนะ สุนทรีรู้ว่าสิ่งที่ขอไม่ใช่ทางออกที่แท้จริงของเรื่องนี้

โปรดติดตาม รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ตอนที่ 14
กำลังโหลดความคิดเห็น