xs
xsm
sm
md
lg

ข้าวนอกนา ตอนที่ 25 - 26

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ข้าวนอกนา ตอนที่ 25

เดือนหันไปมองอย่างตกใจ เพลินแค่นยิ้มอย่างขมขื่น ฤทัยเห็นสีหน้าขอเดือนก็ถาม

“เดือนเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะ แค่ตกใจกับเรื่องของเพลิน ทำไมโลกมันถึงโหดร้ายอย่างนี้”
“เพิ่งรู้เหรอพี่เดือน โลกความจริงมันโหดร้ายอย่างนี้แหละ ถึงเขาจะเอาพี่เดือนไปเลี้ยงให้สูงส่งแค่ไหน มันก็หนีความจริงไปไม่พ้นหรอก ยังไงๆ เราก็เหมือนกันนั่นแหละ เป็นลูกผู้หญิงขายตัว พ่อก็ชุ่ย แม่ก็ชุ่ย เราเองก็เกิดมาแบบชุ่ยๆ” ดำแค่นหัวเราะ “ฮ่าๆ”
เดือนรู้สึกสะท้านไปทั้งตัวด้วยความเจ็บปวด กับความจริงที่ค่อยๆ ผุดขึ้นมา หลังจากชีวิตเจอแต่ความสวยงาม เดือนมองยาในที่วางอยู่ใกล้ตัว หยิบมันใส่ปากตัวเอง ฤทัยกับอู๊ดมองยิ้มดีใจ

จอร์จทำแผลให้ไวภพเสร็จ
“แผลฉีกนิดหน่อยนะครับ ผมเย็บให้แล้ว สำหรับยาก็กินตัวเดิมจนหมดก่อน”
“ขอบคุณครับหมอ”
ซูซี่ก้าวเข้ามาพร้อมกับโบกมือราวกับนางงาม
“กูดอ๊าฟเตอร์นูน เอเวอรี่บอดี้...”
ซูซี่พอเห็นไวภพก็ชะงักตกใจ
“ชะอุ๊ย...”
“อ้าว...ซูซี่ สวัสดีครับ”
ซูซี่ยังรู้สึกผิด
“สะ...สวัสดีค่ะ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้คะ”
“ผมมาทำแผลกับหมอจอร์จครับ เขาช่วยผมไว้วันที่ผมโดนทำร้าย”
25.1 ซูซี่หน้าจ๋อยไป หลบตาอย่างรู้สึกผิด ไวภพบอกทุกคน
“ผมขอตัวก่อนนะครับ มีธุระต้องรีบไปทำต่อ...ขอบคุณนะครับหมอ”
“โชคดีครับ”
ใจหวานบอกกับจอร์จ
“เรารีบไปหาดำกันเถอะ มันจะอยู่บ้านหรือเปล่าไม่รู้”
ซูซี่พูดขึ้น
“ไม่รู้ว่าดำไปกับพี่สาวหรือเปล่านะ เมื่อคืนพี่สาวดำไปหาซูซี่ที่ผับด้วย”
จอร์จแปลกใจ
“พี่สาวที่ชื่อเดือนน่ะเหรอ”
ไวภพชะงัก หันกลับมา
“เมื่อกี้ซูซี่พูดถึงเดือนใช่ไหมครับ ตอนนี้เดือนอยู่ที่ไหน”
ซูซี่กับจอร์จและใจหวานมองหน้ากันงงๆ

เย็นนั้น เขมวรรณลงจากรถเข้าไปในบ้าน เธอสวมชุดสีขาวไปปฏิบัติธรรมกลับมา ไพเข้ามาพร้อมกับน้ำเย็น
“รถติดจังเลย อากาศร้อนมากด้วย กว่าจะถึงเล่นเอาเพลีย”
“คุณยายยังไม่กลับเหรอคะ”
“คุณแม่อยู่ต่ออีกสองวันจ้ะ” เขมวรรณดื่มน้ำ “ชื่นใจ...คุณผู้ชายกลับมาแล้วเหรอจ๊ะ”
“กลับมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ”
เขมวรรณตกใจนิดๆ
“อะไรนะ ทำไมกลับเร็ว แล้วคุณหนูล่ะ”
ไพอึกอักไม่กล้าตอบ ทันใดนั้นเสียงดนัยธรดังขึ้น
“มันหนีไปกับผู้ชายแล้ว”
เขมวรรณหันไปมองอย่างตกใจ ดนัยธรเดินออกมา
“เดือนน่ะเหรอคะ แกหนีไปกับใคร”
“ก็ไปกับไอ้ผู้ชายที่ชื่อไวภพนั่นไง”
“เป็นไปไม่ได้ ยัยเดือนไม่ใช่คนแบบนั้น หรือถ้าแกจะหนีไปก็ต้องมีสาเหตุ”
“สาเหตุอะไร”
เขมวรรณมองดนัยธรอย่างระแวง
“ไม่รู้สิคะ แล้วคุณแจ้งความหรือยัง”
“จะแจ้งความทำไมให้เรื่องมันฉาวโฉ่ เดี๋ยวมันก็กลับมาเองนั่นแหละ”
“ดูคุณไม่เป็นห่วงลูกเลย ทำไมคะนัย”
ดนัยธรพูดเสียงกระชาก
“ทำไมจะไม่ห่วง ผมหาจนทั่วแล้ว โทรตามที่บ้านเพื่อนก็ไม่มีแม้แต่บ้านนายไวภพนั่นผมก็ไปตามมาแล้ว แต่มันปฏิเสธ”
เขมวรรณถึงกับตัวชา ร้องไห้โฮออกมา
“บางทีแกอาจจะตกอยู่ในอันตรายก็ได้นะคะ”
ดนัยธรรู้สึกใจหายขึ้นมาเหมือนกัน

จอร์จเดินนำ ไวภพ ใจหวาน และซูซี่ เดินลงมาจากอพาร์ตเมนท์อย่างผิดหวังที่ไม่พบดำ
“ดำไม่อยู่ที่ห้อง โทรไปก็ไม่รับสาย เกิดอะไรขึ้นกันแน่” อร์จเป็นห่วงดำ
ใจหวาน มองไปที่ รปภ.
“เดี๋ยวหวานลองถาม รปภ. ดูนะคะ”
ทุกคนเดินเข้าไปหา รปภ. ใจหวานเข้าไปถาม
“น้องเห็นดำออกไปหรือเปล่า”
“เห็นออกไปตั้งแต่บ่ายแล้วครับ”
ทุกคนสบตากันอย่างมีความหวังมากขึ้น
“ออกไปคนเดียวหรือไปกับใครครับ” ไวภพถามอย่างร้อนใจ.
“รู้สึกจะออกไปกับผู้หญิงคนนึง ผิวขาว หน้าตาสวย เมื่อคืนก็มานั่งรอดำอยู่ข้างในทั้งคืน”
“ผู้หญิงคนนั้นผมยาว สีผมออกแดงๆ หน้าตาลูกครึ่งใช่ไหม”
“ครับๆ ใช่ แต่งตัวดีด้วย”
ไวภพสันนิษฐาน
“ใช่เดือนแน่ๆ”
ซูซี่คิดๆ

“แล้วดำมันพาเดือนไปไหน ป่านนี้ยังไม่กลับ”

จอร์จตัดสินใจ

“นั่นสิ ผมคงต้องอาศัยมูลนิธิช่วยตามหาสองคนนี้ด้วย เผื่อจะเจอตัว”
“งั้นหวานจะรออยู่ที่นี่เอง” ใจหวานหันไปบอกรปภ. “ถ้าดำกลับมา ช่วยโทรบอกฉันด้วยนะ”
“ได้ครับ”
ทุกคนสบตากันหน้าเคร่งเครียด

เดือนเริ่มมึนเพราะฤทธิ์ยา และมองเห็นโลกสวยงามขึ้น จึงยิ้มตาลอย
“พี่เดือน ถ้าเบื่อก็กลับไปก่อนได้นะ” ดำหันมาบอก
เดือนหัวเราะออกมา นัยน์ตาเคลิ้มล่องลอย
“สนุกดีจะตาย เพิ่งรู้ว่านั่งเฉยๆ ก็สนุกได้”
“พ่อแม่ใหม่พี่เดือนไม่ตามหาพี่เหรอ”
“ไม่หรอก เขาไม่สนใจพี่อีกแล้ว”
ฤทัยเข้ามานั่งใกล้เดือน
“ปัญหาของเดือนเพิ่งจะเกิด แต่ของพวกผมมันเกิดพร้อมผมเกิด ชีวิตตอนเด็กของคุณก็ยังดีกว่าของพวกผม”
“ตอนเด็กๆ แม่ขายพี่เดือนให้พ่อเลี้ยง รู้ไหมค่าตัวพี่เดือนน่ะเป็นแสนๆ เชียวนะ ส่วนฉัน...”ดำยักไหล่นิดๆ “ไม่มีใครซื้อ ทีแรกดีใจแทบตาย คิดว่าจะได้ไปอยู่กับแม่ มารู้ทีหลังว่าไอ้เรามันไม่มีใครเขาอยากได้ แม้แต่แม่ของตัวเอง”
“เหมือนลูกสัตว์ไงล่ะ เกิดมารอดแล้วก็ต้องเลี้ยงตัวเองให้มีชีวิตอยู่ต่อไป”
“มันน่าแค้น เกิดมาเป็นคนกับเขาทั้งที ตอนเด็กๆ เขาซื้อขายเอาไปใช้เหมือนวัวเหมือนควาย โตขึ้นหน่อยอย่าว่าแต่ราคาก็ไม่มีจะให้เขาประมูลเอาไปเลี้ยงพี่เดือนเกิดมาโชคดีกับพวกเรามาก พ่อเลี้ยงยอมทุ่มแบบไม่เสียดายเลย”
คำพูดของดำสะกิดให้เดือนสะเทือนใจขึ้นมา ความเจ็บปวดทะลักออกมาเหมือนหนองที่กลัดจนสุกงอม เดือนถึงกับตัวสั่น ดำมองงงๆ
“พี่เดือนเป็นอะไรไปน่ะ ไม่สบายเหรอ”
ดำเอามือแตะหน้าผาก เดือนสะอื้นฮักๆ ออกมา ดำจับมือพี่สาวไว้อย่างเป็นห่วง
“พี่เดือน...”

เขมวรรณเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนเดือน ดนัยธรตามเข้ามาอย่างหวาดระแวง กลัวจะทิ้งหลักฐานอะไรไว้ ขจิตเข้ามาด้วย
“จะเข้ามาดูให้มันได้อะไรขึ้นมา เดือนไม่ได้อยู่ในนี้หรอก”
เขมวรรณสำรวจไปทั่วห้อง
“ฉันแค่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก ทำไมแกถึงหนีไปกันแน่ ถ้าหนีตามผู้ชายก็ต้องมีเตรียมเสื้อผ้าไว้บ้าง”
เขมวรรณเปิดตู้เสื้อผ้า และดูกระเป๋าเดินทาง
“เสื้อผ้ากับกระเป๋าก็ยังอยู่ครบ เดือนไม่ได้หนีตามใครไปหรอก มันต้องมีสาเหตุอื่น...”
ดนัยรู้สึกสันหลังหวะขึ้นมา เขมวรรณมองไปบนที่นอน แต่ไม่กล้าพูดออกมา ขจิตชิงทักก่อน
“ทำไมผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่อย่างนี้ล่ะ ปกติยัยเดือนไม่ใช่คนนอนกลางวันนี่”
เขมวรรณมองสามีอย่างแคลงใจ ดนัยธรทำโวยวายกลบเกลื่อน
“มันก็ลงไปนอนกลิ้งเล่นได้นี่ครับ ไม่เห็นจะแปลก”
ขจิตไม่เชื่อ
“นอนกลิ้งจนหมอนกระจัดกระจายแบบนี้น่ะเหรอ”
“ผมจะไปรู้เรอะ ใครนอนยังไง”
ดนัยธรหงุดหงิดออกไป เขมวรรณรู้สึกสะท้านขึ้นมา ทนไม่ไหวกับความแคลงใจที่เกิดขึ้น
“เข็มไปแจ้งความดีกว่า”
ขจิตมองตาม พลางส่ายหน้าอย่างสงสารลูก
“เข็มเอ๊ย แม่เหนื่อยแทนลูกจริงจริ๊ง”

เขมวรรณเดินมาหมดแรง ร้องไห้ออกมาอีก
“โธ่...เดือนลูกแม่ หายไปไหน เกิดอะไรขึ้นกับลูกกันแน่นะ”
ดนัยธรซึ่งลงมาก่อนแล้วพาลหงุดหงิด โทสะพลุ่งขึ้น เขาแผดเสียงออกมาใส่ภรรยา
“โศกเศร้าทำไม ก็เมื่อก่อนสนับสนุนดีนักไม่ใช่เรอะ ว่าให้ลูกคบกับไอ้ไวภพนั่น”
“ใครว่าฉันสนับสนุน แล้วคุณก็บอกเองว่ายัยเดือนไม่ได้ไปกับไวภพ”
“มันอาจจะโกหกก็ได้”
“ฉันไม่เชื่อว่ายัยเดือนจะกล้าทำอย่างนั้น ถ้าคุณยังจะคิดว่าแกไปกับไวภพก็ตามใจคุณ มันอาจเป็นอย่างที่คุณสงสัยหรือไม่ใช่ก็ได้”
“คุณรู้จักยัยเดือนน้อยไป มันกล้ามากกว่าที่คุณคิด”
เขมวรรณกลืนก้อนแข็งๆ ในลำคอให้หลุดลงไปอย่างยากเย็น
“ถึงยังไง ฉันก็เลี้ยงยัยเดือนมาด้วยความรักแกเหมือนเลือดในอกจริงๆ หากแกมีความสุขฉันก็พลอยมีความสุขไปด้วย เวลานี้ลูกเดือนทุกข์ ฉันทุกข์หนักไม่น้อยไปกว่าลูก คนที่ควรรู้อยู่แก่ใจคือคุณ”
“จะมามัวรำพันอะไรอยู่อีกล่ะ ไอ้เรายิ่งอยากรู้ว่ายัยเดือนมันไปไหนของมัน”
เขมวรรณยืดอกขึ้น จ้องมองสามีเขม็ง
“ลูกจะไปอยู่ที่ไหนกับใครก็ตาม ฉันถามคุณหน่อยเถอะค่ะนัย ถ้าเดือนเกิดทำอะไรอย่างเด็กขวัญเสีย ถ้าแกเกิดคิดอะไรวูบวาบเตลิดเปิดเปิงไป อาจถึงเสียผู้เสียคน คุณจะรับผิดชอบหรืออภัยให้แกแค่ไหน”
ดนัยธรหลบตาภรรยา
“ทำไมผมต้องรับผิดชอบด้วย”
ดนัยธรเดินหนีไป เขมวรรณมองตามอย่างเสียใจ ขจิตเข้ามาก็มองตาม
“ตานัยดูแปลกๆ นะเข็ม แม่ว่าที่ยัยเดือนหายไปอาจจะเกี่ยวกับนัยด้วย”
เขมวรรณเหมือนถูกจี้ใจดำ ถึงกับเซไป ขจิตเข้าประคอง
“ทำใจดีๆ ไว้ลูกเข็ม อะไรที่เกิดไปแล้วเราแก้ไขไม่ได้ หาทางป้องกันเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปดีกว่า”
“เข็มไม่รู้ว่าอะไรกำลังเกิดกับยัยเดือน แล้วอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป แต่ขอให้แกปลอดภัยก็พอ”

ขจิตมองลูกสาวอย่างสงสารจับใจ


อ่านต่อเวลา 17.00 น.

ข้าวนอกนา ตอนที่ 25 (ต่อ)

ไพล้างแก้วในครัว เขมวรรณเดินเข้ามาถาม นัยน์ตายังแดงก่ำ

“ไพ...”
ไพรีบวางมือ
“คะคุณผู้หญิง”
“เกิดอะไรขึ้นตอนที่ฉันไม่อยู่ ทำไมคุณหนูถึงหนีไป”
ไพอึกอัก ไม่รู้จะเล่าอย่างไรดี เขมวรรณยิ่งใจเสีย กลัวว่าที่ระแวงจะเป็นจริง
“ว่าไงไพ”
“ไพก็ไม่แน่ใจค่ะ ตอนแรกที่คุณผู้ชายกลับมาถึง ท่าทางเหมือนเมามาด้วย เข้ามาก็ต่อว่าคุณหนูว่านัดใครไว้ คุณหนูหนีขึ้นห้อง คุณผู้ชายเลยตามไปค่ะ...”
เขมวรรณนิ่วหน้าอย่างรู้สึกเครียดขึ้นสมอง ไพเห็นก็เป็นห่วง
“คุณผู้หญิงเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่เป็นไร เล่าต่อไปสิ เกิดอะไรขึ้นบนห้อง”
“ไพก็ไม่รู้เหมือนกัน เห็นอีกที คุณหนูก็วิ่งลงมาแล้วค่ะ หลังจากนั้นก็ออกจากบ้านไปเลย”
“นานแค่ไหนกว่าคุณหนูจะวิ่งลงมา”
“ไม่เกินสิบนาทีค่ะ”
เขมวรรณค่อยโล่งใจ คิดว่าคงไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น
“เดี๋ยวให้นายต๋องเตรียมรถนะ ฉันจะไปแจ้งความ”
“ค่ะคุณผู้หญิง”
เขมวรรณเดินออกไป ไพมองตามเป็นห่วง

เดือนยังร้องไห้ ฤทัยเข้ามาปลอบ เสียงเขาอ้อแอ้เพราะฤทธิ์ยา
“อย่าเสียใจไปเลยเดือน คุณยังมีพวกเรานะ”
เดือนร้องไห้ไม่หยุด ฤทัยกอดไว้ แต่เดือนขืนตัว ดำเข้าไปดึงฤทัยออกมา
“พอแล้วทัย พี่เดือนเขารับไม่ได้”
ฤทัยปัดมือดำออก ตาขวาง
“อย่ายุ่งน่า”
“แกเมาแล้วทัย”
“กูไม่ได้เมา กูอยากคุยกับเดือน”
ฤทัยจะเข้าไปกอด แต่เดือนปัดป้อง
“ฉันไม่อยากคุย ฉันอยากกลับบ้าน”
ฤทัยเสียงดัง
“ยังกลับไม่ได้”
เดือนกับดำตกใจ ดำดึงตัวฤทัยหันมา
“เฮ้ย...ฤทัย ถ้าเป็นอย่างนี้ฉันก็จะกลับเหมือนกัน”
ดำฉุดมือเดือนขึ้นมาจะกลับบ้าน แต่ฤทัยดึงเดือนไว้
“บอกว่ายังกลับไม่ได้ไงล่ะ”
ดำตะคอก
“กูจะกลับ”
อู๊ดดึงดำออกไป
“จะรีบกลับไปไหนวะดำ มาสนุกกันต่อเหอะ”
“กูไม่สนุกแล้ว”
ดำดึงเดือนไป แต่ฤทัยไปดึงออกมา เดือนดิ้นพราด
“อยู่คุยกันต่อดีกว่าคนสวย”
“ไม่นะ ปล่อยฉัน”
ดำเข้าไปขวาง
“ปล่อยพี่เดือนนะไอ้ทัย ปล่อยสิวะ”
ฤทัยผลักดำออกอย่างแรง แล้วฉุดเดือนเข้าไปในห้อง
“อย่านะ อย่าทำอะไรพี่เดือน”
ดำจะตามไป อู๊ดเข้ามาจับตัวไว้
“อย่าไปยุ่งกับมัน มันกำลังจะมีความสุข”
ดำดิ้น
“ปล่อยกูนะไอ้ห่าอู๊ด”
เดือนกรีดร้อง
“ดำ...ช่วยพี่ด้วย”
“พี่เดือน...ปล่อยพี่เดือนนะไอ้ทัย ไม่งั้นมึงเจอกูแน่”
ดำสู้กับอู๊ดสุดชีวิต ถีบอู๊ดเซไป พวกเพื่อนของอู๊ดช่วยกันจับตัวดำไว้ อู๊ดชกท้องดำจนล้มลง เดือนเห็นก็ตกใจ
“ดำ...”
เดือนดิ้นพราด แต่สู้แรงของฤทัยไม่ได้
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย...”
“พี่เดือน”
ฤทัยฉุดเดือนเข้ามาในห้อง
“เล่นตัวนักเหรอมึง”
ฤทัยผลักเดือนลงบนเตียง เดือนพยายามต่อสู้ขัดขืน
“ปล่อยฉันนะ ฉันจะกลับบ้าน”
“กูยังไม่ให้มึงกลับหรอก”
ฤทัยก้มลงจะจูบ เดือนขัดขืนพลางกรีดร้องดังลั่น
“อย่า...”

เสียงเดือนดังออกมา ดำได้ยินเสียงพี่สาวก็ดิ้นพราด
“พี่เดือน”
ดำทั้งดิ้นทั้งถีบจะให้หลุด
“ปล่อยกู ปล่อยสิวะ...ทำไมมึงทำแบบนี้”
“มึงจะช่วยอีเดือนทำไมวะ มึงเกลียดมันมากไม่ใช่เหรอ”
“ถึงยังไงเขาก็เป็นพี่สาวกู มึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้”
ดำดิ้นจนหลุดจากการจับกุม ถลาจะเข้าไปหาเดือน แต่อู๊ดถีบดำล้ม แล้วเอาเท้ายันไว้
“มึงอย่ายุ่งดีกว่าอีดำ ไอ้ทัยมันกำลังจะมีความสุข เดี๋ยวกูก็จะมีต่อจากมัน”
ดำหน้าตื่น
“อย่านะโว้ย อย่าทำพี่สาวกู”
“บอกให้อยู่เฉยๆ ไงล่ะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
เสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้น

“ใครวะ” อู๊ดสั่งพรรคพวก “จับตัวอีดำมัดไว้ก่อน เดี๋ยวกูจะออกไปดูว่าใครมา”

สมุนอู๊ดช่วยกันจับตัวดำไว้ ผู้หญิงคนหนึ่งไปหาเชือก อู๊ดมาที่หน้าประตู

“ใครวะ”
“เบียร์ไงพี่อู๊ด”
อู๊ดแง้มประตูดู มองไปว่าไม่มีคนอื่นอยู่แถวนั้น
“กูนัดมึงพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอวะ”
“ฉันขอมาเอาของก่อนได้ไหม มีลูกค้าอยากได้คืนนี้ เขายอมจ่ายไม่อั้น”
“น่าจะโทรบอกก่อนนะมึง”
“โทรแล้วพี่ไม่รับสาย”
“สงสัยกูไม่ได้ยิน เออเข้ามาก่อน”
อู๊ดเปิดประตูกว้างออก ตำรวจที่ซ่อนอยู่บุกเข้ามาทันที
“หยุดนะ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนยกมือขึ้น”
อู๊ดตกใจ ทุกคนยกมือขึ้น มองตำรวจอย่างหวาดกลัว อู๊ดอาศัยจังหวะที่ทุกคนเผลอก็วิ่งหนีไป ตำรวจตามไปจับ อู๊ดต่อสู้ดิ้นรนไม่ยอมให้จับ

ฤทัยก้มลงจูบ เดือนดิ้นรนสุดชีวิต แต่สู้แรงฤทัยไม่ได้ ได้แต่กรีดร้องและร้องไห้ พอฤทัยเผลอเธอก็ข่วนที่หน้าเขา
“เฮ้ย...อีนี่...”
ฤทัยยิ่งแค้นตบฉาดใหญ่ เดือนถึงกับมึนหมดแรง ฤทัยยิ้มกริ่มจะถอดเสื้อเดือนออกแต่แล้วฤทัยได้ยินเสียงเอะอะข้างนอก จึงชะงัก เดือนได้จังหวะรวบรวมกำลังผลักฤทัยออก แล้ววิ่งหนีออกไป แต่ฤทัยกระชากผมเดือนกลับมา
“จะหนีไปไหน”
ฤทัยจับตัวไว้ เดือนร้องลั่น
“ช่วยด้วย...”
ฤทัยปิดปากเดือน
ตำรวจชะงัก ได้ยินเสียงร้องของเดือน
“ช่วยด้วย...”
ดำรีบบอก
“ช่วยพี่หนูด้วยค่ะ เขาอยู่ข้างใน”
ตำรวจหันมาถาม
“ข้างในมีกี่คน”
“มีพี่สาวหนูกับผู้ชายอีกคนค่ะ มันจะปล้ำพี่หนู”

ตำรวจ 2 คนไปยืนรอหน้าประตู แล้วส่งสัญญาณให้กัน อีกคนถีบประตูเข้าไป ตำรวจต้องผงะ เมื่อเห็นฤทัยล็อคคอเดือนไว้ พร้อมกับปืนจ่อ
“หยุดนะ ยอมมอบตัวซะดีๆ”
“ปล่อยกูไป ไม่งั้นอีนี่ตาย”
ดำตกใจ
“พี่เดือน...แกอย่าทำอะไรพี่เดือนนะ”
ฤทัยตาขวาง
“ก็ปล่อยกูไปซี่”
ดำบอกกับตำรวจ
“อย่าให้เขายิงพี่หนูนะคะคุณตำรวจ”
ตำรวจต้องปล่อยให้ฤทัยพาเดือนออกไป

ฤทัยลากตัวเดือนออกมาหน้าบ้าน เจอรถตำรวจที่ล้อมอยู่ ดำกับตำรวจด้านในตามออกมา
“ตำรวจล้อมไว้หมดแล้ว ยังไงก็หนีไม่พ้นหรอก”
“ก็ลองดูซี่ ถ้ากูหนีไม่พ้น อีนี่ก็ตาย”
ดำเป็นห่วงเดือน
“ปล่อยมันไปก่อนค่ะคุณตำรวจ หนูขอร้อง อย่าให้มันทำอะไรพี่หนู”
ตำรวจคนหนึ่งพยายามเข้ามาเจรจากับฤทัย
“ค่อยๆ คุยกันก็ได้”
ดำขอร้องฤทัย
“ปล่อยพี่เดือนเถอะฤทัย”
ฤทัยตาขวาง
“ไม่ กูไม่ปล่อย จนกว่าพวกมึงจะปล่อยกู ไม่งั้นอีนี่ตาย”
ฤทัยรัดตัวเดือนแน่นขึ้นจนเธออึดอัด และเอาปืนจ่อชิดขึ้น ดำกับตำรวจได้แต่มองอย่างวิตก

จอร์จ ไวภพ ใจหวาน และซูซี่เดินออกมาจากล็อบบี้อพาร์ตเมนท์ดำ จอร์จบอกทุกคน
“เดี๋ยวผมกลับไปที่คลินิกก่อน ถ้ามีอะไรคืบหน้าค่อยโทรติดต่อกัน...”
ทุกคนพยักหน้า แต่แล้วเสียงมือถือดังขึ้น จอร์จดูหน้าจอแล้วดีใจ
“มูลนิธิโทรมาแล้ว อาจจะมีข่าวดำก็ได้”
จอร์จรับสาย คุยมือถือกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิ
“ฮัลโหล ผมจอร์จครับ...”จอร์จฟัแล้วตกใจ “งั้นเหรอครับ อยู่ที่ไหนครับ...ขอบคุณ
ครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
ใจหวานกับซูซี่ตั้งใจฟังมาก ใจหวานถามอย่างร้อนใจ
“เจอดำแล้วเหรอคะ”
“มูลนิธิโทรมาบอกว่าตำรวจบุกทลายบ้านแก๊งค้ายา เจอผู้หญิงผิวดำคนนึงอาจจะเป็นดำก็ได้”
ไวภพรีบถาม
“เดือนอยู่ที่นั่นด้วยหรือเปล่าครับ”
“มีผู้หญิงลูกครึ่งคนนึงถูกคนร้ายจับเป็นตัวประกัน ตำรวจกำลังเจรจาอยู่”

ไวภพตกใจมาก

ข้าวนอกนา ตอนที่ 26

ตำรวจพยายามเจรจากับฤทัยอยู่หน้าบ้านอู๊ด

“นายฤทัยใจเย็นๆ นะ อยากได้อะไรบอกมาเดี๋ยวทางเราจัดให้”
“กูไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น อยากจะเป็นอิสระโว้ย”
ดำช่วยตำรวจหว่านล้อม
“ฤทัยอย่าทำอย่างนี้เลย ยอมมอบตัวซะเถอะ ไม่งั้นแกโดนสองกระทงเลยนะ”
“กูไม่ยอม มึงอย่ามากล่อมซะให้ยาก”
จอร์จกับใจหวาน ซูซี่ และไวภพเข้ามา พอเห็นก็ตกใจ ไวภพหน้าตื่น
“เดือนถูกจับเป็นตัวประกันจริงๆ ด้วย”
จอร์จหันมาบอก
“ไม่ต้องห่วงนะ ตำรวจกำลังเจรจาอยู่”
ทุกคนมองลุ้นมาก ใจหวานเป็นห่วงดำ
“นังดำจะไปยุ่งทำไมนะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจซะสิ้นเรื่อง”
ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมฤทัยต่อ
“อยากเจอใครหรือเปล่าฤทัย แฟนหรือพ่อแม่”
“กูไม่อยากเจอใคร กูไม่มีใครทั้งนั้น”
ดำถามบ้าง
“แกอยากได้อะไรล่ะฤทัย”
ฤทัยรู้สึกกดดัน ตะโกนลั่น
“กูไม่อยากได้อะไร หลีกทางให้กูเดี๋ยวนี้”
“ตกลงๆ” ดำบอกกับตำรวจ “ปล่อยฤทัยไปเถอะค่ะคุณตำรวจ ไม่งั้นพี่หนูแย่แน่”
ฤทัยตวาด
“หลีกไป”
ตำรวจเห็นท่าไม่ดี ส่งสัญญาณให้ลูกน้องหลีกทางให้ ฤทัยตายใจ พาเดือนค่อยๆ เดินฝ่าวงล้อมออกไป ไวภพมองลุ้นๆ อย่างเป็นห่วงเดือน ดำอาศัยจังหวะที่ฤทัยหันหลังให้ ตัดสินใจกระโดดเข้าแย่งปืนกับฤทัยทางด้านหลัง ฤทัยตกใจจึงปล่อยมือจากเดือน แต่หันมาจะยิงดำ จอร์จตกใจตะโกนลั่น
“ดำ...ระวัง”
ดำกัดแขน ฤทัยสะบัดปืนลั่นดังเปรี้ยง ดำถูกยิงเข้าที่เหนือหน้าอกด้านซ้าย กระเด็นหงายหลังลงไป เดือนตกใจกรีดร้อง
“ดำ...”
จอร์จ ซูซี่ และใจหวานตกใจร้องลั่น
“ดำ...”
ตำรวจอาศัยจังหวะนั้นเข้าชาร์จตัวฤทัยไว้ เดือนวิ่งเข้าไปหาดำที่นอนแน่นิ่งบนพื้น ร้องเรียก
“ดำ...อย่าเป็นอะไรนะดำ ดำน้องพี่...”
จอร์จฝ่าวงล้อมเข้าไป
“ผมเป็นหมอครับ ผมเป็นหมอ”
เดือนอ้อนวอนจอร์จ
“ช่วยดำด้วยค่ะ”
จอร์จเข้าไปช่วยปั๊มหัวใจให้
“ดำ...ฟื้นสิ ดำ...”
ดำนอนแน่นิ่งจมกองเลือด เสียงรถหวอดังแทรกเข้ามา

บุรุษพยาบาลเข็นดำที่หมดสติเลือดท่วมตัวมาหน้าห้องฉุกเฉิน จอร์จ ใจหวาน และซูซี่วิ่งตามมา จอร์จพยายามเรียก
“ดำ...ทำใจดีๆ ไว้นะ เธอต้องไม่เป็นอะไร”
ดำถูกเข็นเข้าไปในห้อง ทุกคนรออยู่หน้าห้อง ใจหวานกับซูซี่มองตามอย่างใจเสีย ใจหวานเป็นห่วงมาก
“โธ่...ดำ ไม่น่าเลย”
ซูซี่ภาวนา
“แกอย่าตายนะดำ”
ใจหวานกับซูซี่กอดกันร้องไห้ จอร์จเศร้าตามไปด้วย

หมอและพยาบาลช่วยกันเตรียมอุปกรณ์ปั๊มหัวใจให้ดำ หมอใช้เครื่องปั๊มหัวใจแล้วมองไปที่หน้าจอ เส้นกราฟหัวใจกระตุกขึ้นนิดหนึ่ง หมอปั๊มอีกที เส้นกราฟหัวใจกระตุกขึ้นอีกเล็กน้อย แล้วกลับแน่นิ่งเหมือนเดิม ดำนอนนิ่งยังไม่ฟื้น

จ้อยอยู่ในบ้านรับสายซูซี่
“อะไรนะซูซี่ คืนนี้แกจะลาไม่ได้นะ”
“หนูมีธุระจำเป็นจริงๆ ค่ะคุณจ้อย”
“แกไม่แจ้งล่วงหน้า แล้วฉันจะหาคนที่ไหนทันวะ”
“ซูซี่ขอโทษจริงๆ ค่ะ”
“ถ้าแกลาวันนี้ก็ลาออกไปเลย”
“งั้นหนูลาออกก็ได้ค่ะ”
ซูซี่กระแทกหูใส่จ้อยดังโครม จ้อยถึงกับผงะ กรีดร้องออกมาอย่างแค้นใจ
“นังซูซี่”

จ้อยเดินบ่นเข้ามาในห้องนั่งเล่นอย่างหงุดหงิด
“โอ๊ย...เซ็งๆๆ จะหานักร้องที่ไหนมาแทนทันวะเนี่ย”
จรูญศรีซึ่งนั่งดูทีวีอยู่หันมาถาม
“อะไรอีกล่ะลูกจ้อย”
“ก็นักร้องที่ผับน่ะสิแม่ จู่ๆ ก็มาลา แถมหมู่นี้แขกขาประจำหายหน้าไปเยอะเพราะนักร้องหายไปหลายคน”
“แล้วทำไมไม่รับคนใหม่ล่ะ”
“จ้อยไล่นังดำกับใจหวานไปแล้ว ส่วนนังออยก็เจ็บอยู่ นังซูซี่ก็มาลาอีก”
“ที่ให้โจ้มันไปเล่นดนตรีแทนล่ะชดเชยไม่ได้หรือไง”
“คนฟังคนละกลุ่มกันน่ะแม่ ผับนี้แขกผู้ชายเยอะ”
โจ้แทรกขึ้น
“เดี๋ยวเอาโคโยตี้สวยๆ ไปแทนก็ได้”
จ้อยชี้หน้าโจ้

“แกก็ลากลงน้ำไปอีกน่ะสิ”

จรูญศรีกับโจ้ตกใจ

“เฮ้ยพี่จ้อย ด่าแรงไปป่ะเนี่ย”
“น้อยไปด้วยซ้ำ ฉันรู้นะว่าแกแอบคั่วนังแนทอยู่ จะเอาใครก็เอา แต่อย่ายุ่งกับนักร้องในสังกัดได้ไหม”
“เด็กมันยั่วเอง” โจ้ยักไหล่ “ช่วยไม่ได้”
“หืม...ไอ้คาสโนว่า”
จ้อยมองโจ้อย่างหมั่นไส้ แต่แล้วทุกคนก็ชะงัก เมื่อเสียงทีวีรายการข่าวด่วนดังขึ้น
“เมื่อค่ำวานนี้ ตำรวจได้นำกำลังบุกเข้าทลายเครือข่ายยาเสพติดที่บ้านหลังหนึ่งในย่านรังสิต พบยาอี 50 เม็ด ยาไอซ์ 148 เม็ด และยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน...”
ภาพในทีวีเป็นภาพ วัยรุ่นทั้งหลายนั่งปิดหน้าไม่ยอมให้ถ่าย
“...ในบ้านยังพบผู้เสพเยาวชนจำนวน 9 ราย รายหนึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง และเป็นถึงลูกสาวของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ถูกจับเป็นตัวประกัน...”


ภาพเดือนถูกถ่ายตอนขึ้นรถตำรวจ เธอพยายามปิดบังใบหน้า จรูญศรีจำได้
“ว้าย....นั่นมันหนูเดือนของแกนี่โจ้”
จ้อยกับโจ้หันมามองพร้อมกัน อุทานออกมาอย่างแปลกใจ
“เฮ้ย...นังดำ”
ภาพในทีวี ดำที่ได้รับบาดเจ็บเลือดท่วมถูกหิ้วขึ้นเตียงเปล
“นักศึกษารายนี้ยังถูกผู้ต้องหาค้ายาจับเป็นตัวประกัน และเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหนึ่งคน คือ นางสาวดลิน เหลากระโทก...”
จ้อยเข้าใจทันที
“ที่แท้นังซูซี่มันลาไปดูใจนังดำนี่เอง”
จรูญศรีสะใจ
“โดนอย่างนี้ท่าทางจะไม่รอด สมน้ำหน้า อยากห้าวนัก”
โจ้สงสัย
“อีดำกับอีเดือนไปเจอกันที่นั่นได้ยังไง ต้องสืบให้รู้เรื่อง”
จรูญศรีกับจ้อยมองโจ้อย่างอยากรู้ด้วย

ดนัยธรโวยวายอย่างหัวเสีย พลางชี้ทีวีที่เปิดดูข่าวอยู่เช่นกัน
“เป็นไง งามหน้าไหมล่ะ นักศึกษาไฮโซติดยา ทุเรศที่สุด ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว”
“คุณห่วงหน้าตาตัวเองมากกว่าความรู้สึกของลูกเราเหรอคะ”
“ผมไม่นับเด็กแบบนี้เป็นลูก แล้วจะไม่ไปประกันตัวมันออกมาเด็ดขาด”
“แต่ฉันจะไปค่ะ”
ดนัยธรไม่พอใจ
“ก็เชิญซี่ เชิญเลย”
เขมวรรณรีบออกไป ดนัยธรมองตามหงุดหงิด

หมอออกมาจากห้องฉุกเฉิน
“ใครเป็นญาติคนไข้ครับ”
จอร์จ ใจหวาน ซูซี่พูดออกมาพร้อมกัน
“ผมครับ/ฉันค่ะ”
หมอมองงงๆ แต่ก็อธิบายให้ทั้งสามฟัง
“อาการของคนเจ็บน่าเป็นห่วง เพราะเสียเลือดมาก ต้องให้เลือดด่วน แต่ในคลังเรามีเลือดกรุ๊ปนี้ไม่พอ”
จอร์จรีบถาม
“เลือดกรุ๊ปอะไรครับ”
“กรุ๊ปเอบีเนกาทีฟครับ”
จอร์จตกใจ
“เอบีเนกาทีฟ”
ซูซี่สงสัย
“ทำไมเหรอคะ มันป็นยังไง”
จอร์จหน้าเครียด
“เป็นกรุ๊ปเลือดที่หายากมาก โดยเฉพาะคนไทยมีอยู่ไม่กี่คน”
หมอหนักใจ
“ถ้าคนเจ็บไม่ได้รับเลือดภายในสองชั่วโมง อาจจะช็อคได้นะครับ”
ใจหวานรีบออกความเห็น
“งั้นเราต้องรีบประกาศหา เผื่อจะมีคนต่างชาติที่มีเลือดกรุ๊ปนี้อยู่พอดี”
จอร์จกับซูซี่พยักหน้ากันเห็นด้วย

ในสถานีตำรวจ...นักข่าว 4-5 คนเข้ามาถ่ายรูป เดือนพยายามปิดหน้าไม่ให้ถ่าย
“น้องเดือนเป็นลูกสาวอธิบดีดนัยธรใช่ไหมครับ”
เดือนไม่ตอบส่ายหน้าปฏิเสธ นักข่าวอีกคนถาม
“ทำไมถึงถูกจับเป็นตัวประกันคะ”
เดือนยังไม่ตอบ แต่นักข่าวก็ซักต่อ
“น้องเป็นหนึ่งในผู้เสพยาด้วยใช่ไหมครับ”
เขมวรรณเข้ามาอย่างร้อนใจ มองหาเดือน พอเจอก็ดีใจ
“เดือน เดือนลูกแม่”
เดือนหันมา เห็นเขมวรรณ ตอนแรกดีใจ แต่แล้วก็ก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด เขมวรรณเข้ามาปกป้องเดือน
“พอแล้วนะคะ ขอร้องค่ะอย่าถ่ายเลย”
เขมวรรณช่วยกันตัวเดือนไปอีกทาง

เขมวรรณกันตัวเดือนออกมาให้พ้นจากนักข่าว
“เดือน...เป็นยังไงบ้างลูก”
เดือนยกมือไหว้

“หนูขอโทษค่ะคุณแม่”

ข้าวนอกนา ตอนที่ 26 (ต่อ)

เขมวรรณกอดเดือนไว้แน่น พลางลูบหลังปลอบ

“ขวัญเอ๋ยขวัญมานะลูกนะ”
เขมวรรณจับหน้าจับตาเดือนอย่างเป็นห่วง
“ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่ให้ทนายมาประกันตัวลูกออกไป”
เขมวรรณกอดไว้ เดือนหน้าเศร้าอย่างรู้สึกผิด มองไปแปลกใจเมื่อเห็นไวภพเดินเข้ามา เขาดีใจที่ได้เจอเดือน
“เดือน...”
เขมวรรณหันมา ไวภพยกมือไหว้ เขมวรรณรับไหว้ เดือนเมินใส่เขา
“มาที่นี่ทำไม มาดูความล้มเหลวของฉันงั้นเหรอ”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิ ผมเป็นห่วงเดือนจริงๆ นะ” ไวภพหันไปหาเขมวรรณ “มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้นะครับ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ แม่หาทางช่วยเดือนแล้ว” เขมวรรณหันมาบอกลูกสาว “ไวภพเป็นห่วงลูกมาก โทรไปถามแม่ทันทีหลังจากรู้ข่าว”
“เมื่อวานผมตามหาเดือนทั้งวัน จนเจอซูซี่ เขาบอกว่าเดือนออกไปกับดำ”
เดือนนึกเป็นห่วงดำขึ้นมาจับใจ
“ดำ...รู้ไหมคะว่าดำเป็นยังไงบ้าง”
ไวภพหนักใจ

จอร์จเดินเข้ามาหน้าห้องฉุกเฉินตรงไปที่ใจหวานกับซูซี่ที่รออยู่ ใจหวานถามอย่างร้อนใจ
“เป็นยังไงบ้างคะหมอ”
จอร์จส่ายหน้า
“ผมให้ทางมูลนิธิช่วยประกาศแล้ว แต่ยังหาเลือดกรุ๊ปนี้ไม่ได้”
ซูซี่หน้าเสีย
“ตอนนี้ดึกแล้วด้วย ใครจะตื่นมาบริจาคเลือด”
ใจหวานกังวล
“แต่จะรอถึงพรุ่งนี้เช้าก็ไม่ทันแน่”
จอร์จถึงกับนั่งหมดแรง กุมขมับ
“มันต้องมีทางช่วยดำได้สิ”
ใจหวานร้องไห้ออกมา ใจคอไม่ดี
“ดำมันอึดจะตาย มันต้องไม่เป็นอะไร”
ซูซี่ยกมือไหว้ท่วมหัว
“เจ้าประคู้ณ คนดีพระย่อมคุ้มครอง ดำมันลำบากมามากแล้ว ขอให้คุณพระคุณเจ้าช่วยดำด้วยเถอะ”
จอร์จมองขึ้นไปบนฟ้าอย่างอ้อนวอนเบื้องบนเช่นกัน

จอร์จอยู่มุมหนึ่งในโรงพยาบาล เขากดมือถือโทรออก
“รายการข่าวอัพเดทเหรอครับ...ผมอยากจะขอให้ทางรายการช่วยประกาศหาคนที่มีกรุ๊ปเลือดเอบีเนกาทีฟให้หน่อยครับ...”
ใจหวานกับซูซี่ต่างคนต่างกดมือถือตัวเอง
“ฉันประกาศไปทางเฟซบุ๊คของฉันแล้ว แต่ยังไม่เจอใครมีเลือดกรุ๊ปนี้”
“ซูซี่ส่งข้อความไปหาเพื่อนๆ ก็ยังไม่มีใครตอบกลับมาเลย”
จอร์จคุยมือถือเสร็จ เข้ามาปลอบทุกคน
“ใจเย็นๆ นะ นี่เพิ่งผ่านไปชั่วโมงเดียว”
ใจหวานหน้าเครียด
“แต่ก็เหลืออีกแค่ชั่วโมงเดียวเอง”
ซูซี่กังวลใจ
“ดำเอ๊ย...รอหน่อยนะ ต้องมีคนมาช่วยแกแน่”

ดำนอนแน่นิ่งอยู่ในห้องไอซียู จอร์จเข้ามาเกาะกระจกดู
“ดำ...เธอต้องไม่ตายนะ ฉันจะหาทางช่วยเธอให้ได้”
ดำยังแน่นิ่งไม่ไหวติง จอร์จเอามือสัมผัสกับดำผ่านทางกระจก
“ฉันรักเธอนะดำ”
จอร์จน้ำตาไหลออกมาอย่างสุดกลั้น

ไวภพพาเดือนเข้ามา พบใจหวานกับซูซี่ ที่ข้อพับแขนเดือนมีผ้าก๊อซปิดอยู่ เพราะเพิ่งบริจาคเลือดให้ดำ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็น ไวภพเข้ามาถาม
“ดำเป็นยังไงบ้างครับ”
ใจหวานกับซูซี่เงยหน้าขึ้น พอเห็นเดือนก็มองเคืองๆ
“ดำยังไม่ฟื้นเลย”​ซูซี่ตอบไวภพ
ใจหวานชี้หน้าเดือนอย่างโกรธแค้นแทนดำ
“เพราะเธอถึงทำให้ดำเป็นแบบนี้”
เดือนหน้าสลดลง
“เดือนไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่ได้ตั้งใจเหรอ เธอไม่เคยยอมรับว่าดำเป็นน้อง แล้วจะมาเยี่ยมดำทำไม”
“เดือนขอโทษค่ะ เดือนผิดเอง”
ไวภพบอกกับใจหวาน
“เดือนก็เป็นห่วงดำมากนะครับพี่หวาน”
“ดำมันใจดีเกินไป มันช่วยพี่มันทั้งๆ ที่เขาไม่เคยยอมรับมันเป็นน้อง”
เดือนร้องไห้ออกมา
“เดือนขอโทษค่ะ ถ้าแลกได้ ให้เดือนตายแทนดำจะดีกว่า”
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี ตอนนี้พูดยังไงก็พูดได้ เพราะคนที่นอนรอความตายอยู่คือดำ”
จอร์จวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“ใจหวาน ซูซี่ มีคนบริจาคเลือดให้ดำแล้ว”

ทุกคนมองหน้ากันอย่างดีใจมาก

จอร์จพาทุกคนมาที่หน้าห้องไอซียู

“ตอนนี้หมอกำลังให้เลือดอยู่ อีกสักพักก็คงรู้ผล”
ใจหวานโล่ใจไปได้บ้าง
“โชคดีของดำมันจริงๆ”
ซูซี่ดีใจ
“ดำรอดตายแล้ว”
ไวภพกับเดือนจับมือกันอย่างดีใจ จอร์จสังเกตเห็นผ้ากอซที่ขัอพับแขนเดือน
“เดือนโดนอะไรมาครับ”
ไวภพอ้าปากจะตอบ แต่เดือนแอบกันไว้
“เป็นแผลจากตอนที่โดนจับเป็นตัวประกันน่ะค่ะ”
เดือนรีบซ่อนแขนไว้ ใจหวานมองหมั่นไส้
“คนโดนจับเป็นแผลแค่นี้เอง ดูนังดำสิมันเกือบเอาชีวิตไม่รอด”
เดือนนิ่งอึ้งไปอย่างรู้สึกผิด ไวภพบอกกับใจหวาน
“เดือนก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ เดือนไม่ได้ตั้งใจ”
ใจหวานเบ้หน้า
“เพิ่งมาเสียใจตอนนี้ไม่มีประโยชน์หรอก ที่ผ่านมาถ้ายอมรับดำมันตั้งแต่แรกก็คงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น”
ซูซี่ตัดบท
“เอาน่าพี่หวาน เรื่องมันก็เกิดไปแล้ว”
“พี่สงสารดำมันน่ะสิ ถึงมันจะปากร้าย พูดหวานกับใครไม่เป็น แต่ที่จริงมันเป็นคนจริงใจ เวลามันช่วยใครก็ช่วยเต็มที่ แม้แต่ชีวิตตัวเองมันก็ไม่ห่วง”
จอร์จตบบ่าใจหวานเบาๆ พยายามปลอบเพราะรู้ว่าใจหวานพูดด้วยความเสียใจและห่วงดำ
“ผมเชื่อว่าเดือนก็รักดำไม่แพ้พวกเราเหมือนกัน ความดีของดำต้องช่วยให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น”
“หวานก็หวังว่าอย่างนั้น”
จอร์จมองแขนเดือนอย่างไม่หายสงสัย

เขมวรรณกลับเข้าบ้านมาอย่างเหนื่อยอ่อน ดนัยธรซึ่งกำลังจะเข้านอนทำทีไม่สนใจ แต่ที่จริงอยากรู้มาก พอเห็นเขมวรรณไม่พูดไม่จาอะไร ก็อดรนทนไม่ได้ที่จะถามขึ้น
“เรียบร้อยแล้วเหรอ”
“เรียบร้อยค่ะ ฉันให้ทนายประกันตัวลูกออกมาแล้ว”
“แล้ว..ยัยเดือนล่ะ”
“ฉันให้ไวภพพาเดือนไปเยี่ยมน้องสาวที่อยู่โรงพยาบาล”
ดนัยธรโพล่งออกมาอย่างมีโทสะ
“อยากให้มันเสียผู้เสียคนหรือไง ถึงได้ปล่อยให้มันไปกับไอ้นั่นอีก ดูช่างพยายามยัดเยียดให้มันมีผัวก่อนถึงเวลาเสียเหลือเกิน”
แววตาที่คิดมากของเขมวรรณมองจับอยู่ที่สามี
“ก็คุณจะเก็บมันเอาไว้ทำไมล่ะ”
หน้าของดนัยธรเผือดแล้วกลับแดงจัดขึ้น รู้สึกถูกแทงใจดำ เลยใช้โทสะข่มความอายและความรู้สึกผิด
เสียงของเขาดังออกจากลำคอ เหมือนคำราม
“คิดสกปรก บัดซบที่สุด”
“ฉันก็แค่ถาม...”
ดนัยธรปึงปังออกไป แล้วชนเก้าอี้ล้มโครมใหญ่ เขมวรรณสะดุ้งผวาทั้งตัว เอามือทาบอก

ทุกคนรออยู่อย่างใจจดจ่อ จอร์จลุกเดินไปมาอย่างนั่งไม่ติด ซูซี่หาวแล้วหาวอีก ไวภพจับมือปลอบเดือนที่นั่งน้ำตาซึม หมอเปิดประตูออกมา จอร์จผวาเข้าไปถาม
“เป็นยังไงบ้างครับหมอ”
“เราให้เลือดไปแล้ว แต่คนไข้ยังไม่รู้สึกตัว ต้องรอดูอาการพรุ่งนี้เช้าอีกทีครับ”
เดือนถามอย่างร้อนใจ
“ตอนนี้พ้นขีดอันตรายหรือยังคะ”
หมอส่ายหน้า
“หมอยังบอกไม่ได้ครับ เพราะคนไข้ขาดเลือดไปค่อนข้างนาน”
ทุกคนมองหน้ากันอย่างวิตกมากยิ่งขึ้น

ไวภพพาเดือนออกมาที่ทางเดินในโรงพยาบาล
“เดี๋ยวผมไปส่งเดือนที่บ้านนะ”
“ไม่ค่ะ เดือนไม่อยากกลับ”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับเดือน”
เดือนหลบตา
“ไม่...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เดือนเป็นห่วงดำ อยากรอดูอาการของดำที่นี่”
“ดำมีหมอจอร์จคอยดูแลอยู่แล้ว เดือนกลับบ้านไปพักก่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้าค่อยมาเยี่ยมใหม่”
“งั้นเดือนขอกลับไปนอนห้องดำนะคะ”
ไวภพพยักหน้า

ไวภพมาส่งเดือนที่หน้าอพาร์ตเมนท์ดำ
“พรุ่งนี้เช้าโทรหาผมนะครับ ผมจะมารับไปเยี่ยมดำ”
“ขอบคุณค่ะ”
เดือนหันหลังเดินจากไป ไวภพรีบบอกเดือน
“ฝันดีนะครับ”
เดือนเดินไปเหมือนไม่ได้ยิน ไวภพหน้าเจื่อน เลยหันกลับ
“ฝันดีค่ะ เจอกันพรุ่งนี้”
ไวภพหันกลับมาอย่างดีใจ
“ครับ”
เดือนเข้าตึกไป ไวภพมองตามยิ้มๆ

เดือนเข้ามาในห้องดำ มองข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของดำแล้วรู้สึกเสียใจกับที่ผ่านมา ภาพอดีตแว่บเข้ามา
“ฉันไม่เคยมีพี่มีน้อง ฉันเป็นลูกคนเดียว”
เดือนร้องไห้ออกมาแล้วกอดหมอนของดำไว้
“ดำ...พี่ขอโทษนะ พี่มันเห็นแก่ตัว พี่ไม่น่าเลย พี่ขอโทษ...”
เดือนร้องไห้ด้วยความเสียใจ


ใจหวานกับซูซี่นั่งหลับพิงกันบนเก้าอี้ จอร์จเดินวนมาดูอาการของดำอย่างเป็นห่วง...เลือดหยดลงมาทีละหยด มาเข้าที่แขนของดำที่ยังนอนแน่นิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาอะไร

โปรดติดตาม ข้าวนอกนา ตอนที่ 27
กำลังโหลดความคิดเห็น