มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 25
ดวงเข็นผักไปส่งที่แผงผักตามปกติ เจ้าของแผงจ่ายเงินให้ เขารับมันมานับ
“เอ่อ...นี่มันมากกว่าปกตินะครับ”
“ก็ของเมื่อวานด้วยไง”
“แต่เมื่อวานผมไม่ได้มาทำงาน”
“ก็เอ็งส่งคนมาทำแทนไม่ใช่เหรอ”
ดวงงงๆ
“คนมาทำแทน ใครครับ”
“ชื่ออะไรก็ไม่ได้ถามด้วยสิ แต่มีอายุแล้วนะ ไม่ได้เห็นในตลาดนี้ซะด้วย”
“แล้วเขาบอกว่าผมให้มาทำแทนน่ะเหรอ”
“ใช่ แล้วก็ไม่เอาเงินด้วย บอกว่าให้เก็บไว้ให้เอ็ง”
ดวงแปลกใจ
“ใครทำแบบนี้เนี่ย”
ขณะที่ดวงกำลังครุ่นคิด อยู่ๆแฝดก็มาเกาะขาหนึบ
“พ่อ”
ดวงหันไปมอง ระอาใจที่เห็นแฝดอีกครั้ง
สายมุกพาหนูดีมาบริเวณแผงที่ว่างในตลาด
“ที่ว่างอยู่ก็มีแค่ตรงนี้แหละ”
“งั้นฉันจอง”
“นี่ตกลงจะเอาจริงๆใช่มั้ยเนี่ย”
“ทำไมล่ะ”
“เธอจะมาขายหมู ขายผักแข่งกับชาวบ้านรึไง”
“ใครว่าฉันจะขาย”
“หมายความว่าไง”
“เดี๋ยวก็รู้เองแหละน่า”
หนูดียิ้มๆ สายมุกมองไม่เข้าใจ
ดวงนั่งกินข้าวแกงอยู่ แฝดนั่งมองดวงกินข้าวตาปริบๆ
“หิวเหรอเราน่ะ”
แฝดพยักหน้า
“กลับไปหาแม่สิ ไปกินนมโน่น”
แฝดยังคงมองดวงกินข้าวตาปริบๆ
“กินข้าวแบบนี้ได้ด้วยเหรอ มันของผู้ใหญ่นะ”
แฝดกลืนน้ำลายเอื๊อก อยากกิน ดวงถอนหายใจ ยื่นจานข้าวให้
“เอ๊า...อยากกินก็กิน”
แฝดกินข้าวในจานอย่างตะกละ ดวงมองออกกลัวๆกับพฤติกรรมเด็กประหลาด ถนอมแอบดูดวงอยู่ไกลๆ ดวงไม่สังเกตเห็น แต่แฝดหันไปเห็น จ้องเขม็ง
“พ่อ” แฝดชี้ไปที่ถนอม “พ่อ”
“พ่อไหนอีกล่ะ”
ถนอมพยายามจะหลบ แต่ดวงเห็นซะก่อน
“นั่นมัน...”
ดวงรีบเดินไปหาถนอมทันที
“คุณ เดี๋ยวก่อนสิ”
ถนอมเก้ๆกังๆ ปฏิเสธไม่ได้
“มาทำธุระแถวนี้เหรอครับ”
ถนอมพยักหน้า
“ไปกินข้าวด้วยกันก่อนสิครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉัน...”
“นะครับ ให้ผมได้ตอบแทนอะไรคุณบ้าง”
ถนอมชะงัก มองหน้าดวง ปฏิเสธไม่ได้
อั้มเปิดประตูเข้ามาในร้านกาแฟลั้นลา
“นี่...เห็นนิชคุณลูกฉันมั้ย”
“อีเด็กปิศาจนั่นน่ะเหรอ”
“แกอย่ามาเรียกลูกฉันแบบนั้นนะ ดูตัวแกเองบ้างรึเปล่า”
“ก็เพราะดูตัวเองนี่แหละ ใครๆเขาก็หาว่าอีแฝดลูกแกเป็นลูกฉันทั้งนั้น”
“เพราะแกน่ะร้ายนัก เอากาแฟปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีร้านแกให้ฉันกิน ลูกเลยออกมาเป็นแบบนั้น”
ลั้นลาฉุนกึก
“อ้าวอีนี่ หาเรื่อง”
“ไม่ได้หาเรื่องเว้ย มาหาลูก ตกลงเห็นหรือไม่เห็น”
“ก็เที่ยวไปไล่หาว่าใครเป็นพ่ออีกละมั้ง ขาดความอุ่นนัก”
“เออ ไอ้ดวง ไปอยู่กับไอ้ดวงแน่ๆเลย”
อั้มเดินออกจากร้านไป ลั้นลามองอย่างเวทนา
“ดีนะเรียกไอ้ดวงว่าพ่อ ถ้าเรียกฉันว่าพ่อ ฉันจะเอานมตบให้คว่ำเลย”
ถนอมนั่งกินข้าวเกรงๆดวง มีแฝดนั่งจ้องหน้าสองคนสลับไปมา
“ไม่ต้องเลี้ยงฉันก็ได้นะ เดี๋ยวฉันจ่ายเองดีกว่า”
ดวงไม่ยอม
“ได้ยังไงครับ เงินคุณอยู่ที่ผมตั้งมากมาย คุณยังไม่เอาไปเลย”
“ไม่ใช่เงินฉันซักหน่อย มันเป็นของเธอต่างหาก”
“ผมบอกแล้วไง ว่ายังไงผมก็ไม่รับไว้หรอก ผมรอที่คุณพร้อมที่จะเอามันไป”
ถนอมส่ายหน้า ยิ้มๆเวทนาตัวเอง ดวงแปลงใจ
“ทำไมละครับ”
“ไม่มีอะไรหรอก”
อยู่ๆแฝดก็จ้องหน้าถนอมแล้วก็พูดขึ้นมา
“พ่อ...พ่อ”
แฝดชี้ให้ดวงดู แล้วเรียกถนอมว่าพ่อ ถนอมร้อนตัว ระแวง ดวงยิ้มๆ
“ไม่ต้องตกใจครับ เด็กคนนี้ก็เรียกทุกคนว่าพ่อไปทั่วแหละ เขาก็เรียกผมว่าพ่อเหมือนกัน”
แฝดยังเรียกไม่หยุด
“พ่อ...พ่อ”
ถนอมมองหน้าดวง
“แต่เธอไม่ใช่พ่อ”
“ผมเป็นพ่อใครไม่ได้หรอกครับ ผมไม่ใช่คนที่ดีพร้อมขนาดนั้น”
“เธอเป็นคนดีเชื่อฉันสิ เธอเป็นพ่อได้ดีกว่าคนบางคนแน่ๆ”
เจ้าของแผงผักเดินมาเรียกดวง
“ดวง ดวง!”
“ครับ”
ถนอมหันไปเห็นเจ้าของแผงผัก รีบลุกออกจากโต๊ะทันที
“ฉันไปก่อนนะ นึกได้ว่ามีธุระ”
ถนอมพยายามหลบหน้าเจ้าของแผงผักเดินหนีไป แต่เจ้าของแผงผักเห็นพอดี ถนอมทำกระเป๋าสตางค์เก่าๆตกไว้
“ไอ้คนนั้นไง คนที่มาทำงานแทนเอ็งเมื่อวาน”
“เหรอครับ”
ดวงหันไปมองหา ถนอมก็หายไปซะแล้ว เจ้าของแผงยืนยัน
“ใช่...ฉันจำได้”
ดวงพึมพำ
“เขาจะทำแบบนั้นทำไม”
“เออ...เดี๋ยวเอ็งไปช่วยขนของเพิ่มอีกหน่อยละกันนะ เดี๋ยวมีเงินพิเศษให้”
“ได้ครับ”
ดวงจะเดินตามเจ้าของแผงไปตาไปสะดุดกับกระเป๋าตังค์ที่ร่วงอยู่ เขาหยิบมาเปิดภายในมีรูปเด็กแบเบาะอยู่คนนึง แฝดมาเกาะขาพร้อมที่จะไปกับดวง
ดวงกับแฝดเดินมาหาซันที่แผงไข่ พร้อมกับกระเป๋าสตางค์ของถนอม
“เฮ้ยไอ้ดวง โผล่มาได้นะวันนี้ พักนี้หายหัวไปเลย”
อาซ้งหันมาถามอย่างห่วงใย
“เป็นไงบ้างดวง ได้ข่าวว่าไปอยู่บ้านคุณนายสร้อยเพชรเหรอ”
“ใช่ครับ”
“บ๊ะ มันเป็นไปได้ยังไงวะเนี่ย อีคุณนายมันเขียมจะตาย”
ซันเห็นด้วยกับพ่อ
“ฉันก็ว่างั้นแหละ ฉันล่ะไม่ไว้ใจเลย”
อาซ้งมองหน้าดวง
“แล้วนี่มันเก็บตังค์ค่าเช่าที่ไปอยู่รึเปล่า”
ดวงส่ายหน้า
“เปล่าหรอก แต่ผมก็ทำสวน ดูแลบ้านให้”
ซันคิดๆ
“แบบนี้ล่ะยิ่งน่ากลัว”
อาซ้งกังวล
“ไปรวบยอดทีเดียวเลยรึเปล่าก็ไม่รู้”
“ไม่หรอกมั้ง”
อาซ้งมองเห็นแฝด
“ตกลงกลายเป็นลูกไปแล้วใช่มั้ยน่ะ”
“นี่ไอ้แฝด กินไข่มะ”
ซันหยิบไข่ชูขึ้นมา แฝดหน้าตาอยากกิน ซันยิ้มๆ
“รับให้ได้ ถึงจะได้กินนะ”
แฝดหน้าตาจริงจัง ซันโยนไข่ไปกี่ใบๆ ก็โดนหัว โดนหน้า แฝดเปื้อนไข่เละเทะ หน้าเซ็งมาก ซันหัวเราะ อาซ้งหันมาดุซัน
“ไปแกล้งมันทำไม”
“นี่พ่อเห็นใจมันเหรอ”
“เปล่า เสียดายของ”
ซันหัวเราะชอบใจ แฝดโกรธเดินหายไป อาซ้งมองเห็นดวงถือกระเป๋าเงินอยู่
“แล้วนั่นอะไรน่ะ”
“อ๋อ...มีคนเขาทำตกไว้ ผมก็ไม่รู้ว่าจะไปหาตัวเขาได้ที่ไหน เลยว่าจะมาฝากอาซ้งไว้ เพราะอาซ้งอยู่ในตลาดตลอด เผื่อเขามาถามหา”
“ไหนอั๊วดูซิ”
ดวงส่งกระเป๋าให้ อาซ้งเปิดดูเห็นรูปตอนแบเบาะของเด็กคนหนึ่ง อาซ้งตกใจ
“อั๊ยหยา...ซี้แล้วอ่า”
ซันสงสัย
“มีอะไรเหรอพ่อ”
อาซ้งจ้องหน้าดวง
“ไปเก็บกระเป๋าตังค์นี่ได้จากตรงไหน”
“ร้านข้าว”
“ลื้อเห็นหน้ามันรึเปล่า”
ดวงพยักหน้า
“เห็น ลุงเขาเป็นคนขายหวยน่ะ แต่ไม่ได้มาขายแถวนี้บ่อยๆหรอกนะ มีอะไรรึเปล่าครับ”
“ขอตัวก่อนนะ อาซัน เฝ้าร้านด้วย”
อาซ้งเดินถือกระเป๋าตังค์เข้าไปในร้าน ซันกับดวงได้แต่มองกันงงๆ
“เหมือนจะมีอะไรนะ”
“คงไม่มีหรอก พักหลังนี่แกก็เป็นแบบนี้แหละ บางทีก็เบลอๆ”
ดวงพยักหน้ารับแต่ก็ยังมองอย่างห่วงๆ
อาซ้งเดินเข้ามาหลังร้าน เขาค้นหาดูตามโต๊ะ ตามลิ้นชัก แล้วก็เจอรูปเด็กที่เขาเพิ่งเก็บจากคนที่เอามาทิ้งในตลาด อาซ้งเอามาเปรียบเทียบ หน้าตาเหมือนเด็กในกระเป๋าตังค์มาก ซ้งเห็นก็ตกใจ
“เหมือนกันมาก...หรือว่า...”
อาซ้งรีบเดินหน้าตื่นออกมากลางวง ดวงกับซันกำลังคุยกัน
“หน้าตามันเป็นยังไง”
ซันงงๆ
“อะไรของพ่อเนี่ย พูดขึ้นมาไม่เกริ่น ไม่อะไรเลย ใครจะเข้าใจ”
“ก็ไอ้เจ้าของกระเป๋าตังค์เนี่ย หน้าตามันเป็นไง”
ดวงอึกอัก
“ก็อธิบายยากเหมือนกันนะครับ”
“บ้านมันอยู่ไหน”
ซันมองหน้าพ่ออย่างไม่เข้าใจ
“อะไรของพ่อเนี่ย ชื่อเขาไอ้ดวงมันยังไม่รู้เลย ถ้ารู้จักบ้านจะเอามาฝากพ่อไว้มั้ยเนี่ย”
อาซ้งมองหน้าดวง
“ดวง...ถ้าเจอเขาอีก พาเขามาเจอฉันเลยนะ เข้าใจมั้ย”
“ครับ”
ซันยิ่งงง
“เป็นอะไรเปล่าเนี่ยพ่อ”
อาซ้งตัดบท
“เออน่า เรื่องของฉัน”
แฝดเดินกลับมาพร้อมกับลากของบางอย่างมาล้างแค้น ทุกคนยังไม่เห็นว่าเป็นอะไร หน้าตาแฝดเคียดแค้นมาก ซันหัวเราะ
“เฮ้ย มันกลับมาจะแก้แค้นเว้ย”
ดวงหันไปดู ยังไม่เห็นว่าด้านหลังแฝดคืออะไรกันแน่ แฝดตะโกนลั่น
“แก้แค้น”
ซันขำๆ
“พูดได้ด้วยว่ะ”
แฝดยกทุเรียนลูกโตออกมาจากด้านหลัง
ซันตาเหลือก
“เฮ้ย! นี่เอาจริงเลยเหรอ”
“เอาจริง”
แฝดทำท่าจะทุ่มทุเรียนใส่ ซันรีบวิ่งหนีออกไป แฝดเดินตามเหมือนนักล่า ดวงกับอาซ้งมองระอา
ซันวิ่งหนีแฝดมาในตลาด ชนกับแหววพอดี
“หนีอะไรมาน่ะ”
“ไอ้เด็กปิศาจ”
แหววหันไปมอง แฝดยืนถือทุเรียนพร้อมล้างแค้น
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย”
“ก็แค่แกล้งมันนิดหน่อย มันจะล้างแค้นแบบเอาถึงตายเลยน่ะสิ”
“ไม่เป็นไร...ฉันเป็นคนรักเด็ก เดี๋ยวฉันเคลียร์ให้”
แหววนั่งย่อลงหน้าตาเป็นมิตรต่อหน้าแฝด
“ไงจ้ะเด็กน้อย โกรธอะไรมา”
แฝดหน้านิ่ง ไม่เป็นมิตร
“ไหนดูซิ ไอ้ซันมันแกล้งหนูตรงไหนบ้าง”
แฝดหน้านิ่ง ไม่เป็นมิตรเหมือนเดิม แหววลูบหัว
“ไหนให้พี่ดูซิ”
แฝดไม่เอาด้วย คว้าแขนมากัด แล้วเข้าตะครุบแหววเหมือนหมา แหววกรี๊ดโวยวาย ซันคว้าไม้หน้าสามใกล้มือได้จะฟาดแฝด อั้มกับลั้นลาโผล่เข้ามาก่อน
“ว๊าย...ตายแล้ว แกจะทำอะไรลูกฉันน่ะไอ้ซัน”
แฝดพอเห็นอั้มก็ทำหงอ เข้าอ้อน น่าสงสาร ซันโวยใส่
“ก็ลูกเจ๊ตะครุบแหววจะลากไปกินในน้ำน่ะสิ”
อั้มปรี๊ดขึ้นทันที
“อีบ้า...ลูกฉันไม่ใช่ไก่”
ลั้นลามองหน้า
“แน่ใจ๊...เขาหมายถึงไก่เหรอ”
แหววสะบักสะบอม มองอั้มกับลั้นลา มองแฝดกับอั้ม สลับมองแฝดกับลั้นลา
“สาบานทีว่าไม่ใช่ลูกเจ๊ลั้นลา”
“อีบ้า...มันเหมือนฉันตรงไหน”
“ถามว่าไม่เหมือนตรงไหนดีกว่า”
อั้มชี้หน้า
“นี่พวกแกมาทำร้ายลูกฉันทำไม”
แหววจะพูด ซันห้ามไว้
“ไม่ต้อง เดี๋ยวจัดการเอง” ซันหันหาอั้ม “โห...เจ๊ พูดอะไรดูด้วย ดูสภาพแหววสิ แล้วดูลูกตัวเอง”
อั้มเห็นแหววสะบักสะบอม หันไปดูแฝดก็เห็นเศษผ้าติดอยู่ที่ปาก
“ก็ไม่ว่ามันจะทำอะไร มันก็เป็นเด็ก ยังไม่ได้หัดพูดเลยด้วย”
ซันแย้ง
“ไม่หัดพูดอะไร ฉันเห็นมันพูดอยู่”
อั้มเถียง
“บ้า...เด็กเพิ่งเกิดใครจะพูดได้”
ลั้นลาเบ้หน้า
“กล้าพูดเนอะ มันคลอดออกมาตัวขนาดนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้หมดแหละ”
อั้มไม่พอใจ
“ลูกฉันออกจะน่ารักน่าเอ็นดู พวกแกก็พูดอย่างกับมันเป็นตัวประหลาด”
อั้มหันไปที่ลูกตนเห็นกำลังปอกทุเรียนด้วยมือเปล่า แหกออกมาเป็นพูๆแล้วกินอย่างเอร็ดอร่อย ลั้นลาถอนใจ
“ฉันว่าแกพามันไปหาหมอเถ๊อะ มันอาจจะก่ออาชญากรรมในไม่ช้านะ”
อั้มชักฉุน
“พวกแกก็พูดกันเกินไป รุมประณามเด็กแบบนี้” อั้มหันไปบอกแฝด “นิชคุณ กลับบ้านกันลูก”
อั้มจูงนิชคุณกลับบ้าน ลั้นลามองอย่างเวทนา
“ฉันว่าฉันผิดปกติที่สุดในตลาดแล้วนะ เจออีเด็กนี่เข้า ฉันอายเลย”
ลั้นลาเดินจากไป แหววส่งยิ้มให้ซัน
“ขอบคุณนะที่ช่วยฉันอีกแล้ว”
“ช่วยอะไร ถ้าช่วยเธอไม่สภาพนี้หรอก ดูสิ เยินเชียว”
“เหรอ”
แหววจับหน้าตา ห่วงสวย
ดวงเพิ่งเสร็จจากงานเหงื่อโชก หนูดีกับสายมุกเดินมาเจอพอดี หนูดียิ้มดีใจ
“อ้าวดวง”
“ครับ”
“เสร็จงานรึยังเนี่ย”
“เสร็จพอดีครับ”
“พอดีเลย ฉันกับมุกกำลังจะไปหาข้าวกินกัน ไปด้วยกันสิ”
ดวงลำบากใจ
“อย่าดีกว่าครับ ผมตัวสกปรกมากเลย แล้วแต่งตัวไม่สุภาพด้วย”
หนูดียิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอกน่า...ไปด้วยกันเถอะ”
ดวงเหลือบตามองสายมุก
“ผมว่าคุณมุกคงไม่อยากให้ผมไปด้วยหรอก คงอยากคุยกันตามประสาเพื่อนมากกว่า”
“มุกไม่ว่าอะไรหรอก เพราะถ้ามุกว่า...เราก็ไปกินกันสองคน เพราะฉันมีเรื่องจะคุยกับดวงพอดี”
สายมุกรู้สึกหวงๆ
“ก็ไปด้วยกันเนี่ยแหละ ไม่เห็นจะเป็นไร”
ดวง หนูดี สายมุก เดินอยู่ในห้างสรรพสินค้า
“ผมไม่น่ามาเลย สภาพผมดูแย่จัง” ดวงบอกอย่างเขินๆ เพราะเขาแต่งตัวมอซอ
หนูดียิ้มแย้ม
“ก็ไม่เห็นจะแย่ตรงไหนนี่”
“พวกคุณกินกันไปเถอะครับ ผมขอตัวดีกว่า”
สายมุกนึกได้
“ถ้าไม่สบายใจ ฉันมีสูทอยู่หลังรถ เอามาคลุมก่อนมั้ย”
หนูดีขัดขึ้น
“จะบ้าเหรอมุก ตัวเธอก็แค่นี้ ดวงจะใส่ได้ยังไง...เอางี้ดีกว่า”
ขณะเดียวกันนั้นมีชายคนหนึ่งใส่สูทเข้ามาในร้านไม่ได้ดูหรูหรามาก เหมือนพนักงานออฟฟิศปกติ หนูดีรีบเดินเข้าไปหา
“คุณคะ ฉันขอซื้อสูทต่อคุณหน่อยสิ”
ชายคนนั้นงงๆ
“เอ่อ แต่...”
หนูดีควักแบงค์พันเป็นฟ้อนจ่ายให้โดยไม่ถามราคา ชายคนนั้นเห็นเงินก็รีบรับไว้ แล้วถอดให้ทันที
“เอาไปเลยครับ”
หนูดีเอาสูทมายื่นให้ดวง
“ใส่สิ จะได้สบายใจ”
ดวงรู้สึกไม่สบายใจ
“คุณหนูดีทำแบบนี้ ผมยิ่งรู้สึกแย่นะครับ”
“ถ้าดวงไม่ใส่ ฉันก็จะให้เด็กเสิร์ฟละนะ”
ดวงจำใจรับมาใส่
“ใส่แล้วดูดีออก ว่ามั้ยมุก”
“รีบเข้าไปกินซะทีเถอะ ฉันหิว”
สายมุกเดินนำเข้าไป
มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 25 (ต่อ)
หนูดี ดวง สายมุกนั่งกินข้าวกัน ดวงหันมาถาม
“เห็นว่าคุณหนูดีมีเรื่องจะคุยกับผม เรื่องอะไรครับ”
“อ๋อ ใช่...พอดีฉันเช่าแผงในตลาดไว้...ดวงจะมาขายอะไรดีล่ะ”
สายมุกกินน้ำอยู่ถึงกับน้ำพุ่งออกมาทันที ดวงตกใจ
“คุณมุกเป็นอะไรรึเปล่าครับ”
“ขอโทษที ไม่มีอะไร”
สายมุกจัดการเช็ดปากเรียบร้อย ดวงหันไปคุยกับหนูดีต่อ
“คุณหนูดีหมายความว่ายังไงครับ”
“ก็หมายความว่า ฉันเช่าแผงในตลาดไว้ให้ดวงมาเปิดร้านไง ดวงอยากขายอะไรก็ได้เลยนะ จะได้ไม่ต้องไปรับจ้างเข็นผักอะไรนั่นอีก งานแบบนั้นมันหนัก”
ดวงไม่เข้าใจ
“เช่าให้ผมทำไมครับ”
หนูดียิ้มๆ
“ไม่มีอะไร...ก็แค่สายมุกบอกว่าที่ตรงนั้นมันว่าง อยากให้มีคนมาเช่า ฉันก็เลยเช่า”
สายมุกตะลึง
“ฉันพูดแบบนั้นด้วยเหรอ”
“เฉยเหอะน่า” หนูดีหันไปพูดกับดวงต่อ “แล้วดวงจะว่ายังไง”
“มันไม่มีเหตุผลพอที่ผมจะรับข้อเสนอนี้เลยครับ”
หนูดีชะงัก
“ทำไมล่ะ โอกาสมันไม่ได้มาบ่อยๆนะ”
ดวงตัดสินใจ
“ไม่ดีกว่าครับ”
หนูดีจ๋อยไป
“มุกช่วยพูดหน่อยสิ”
สายมุกถอนใจ
“ฉันก็ว่ามันดูแปลกๆไปรึเปล่า”
หนูดีหน้าเหวอ
“อ้าว...ทำไมไม่ช่วยเพื่อนล่ะ...งั้นเอางี้ ฉันจ้างดวงมาดูแลแผงให้ฉัน เป็นไง กำไรเราก็แบ่งคนละครึ่ง จะได้ไม่ต้องเกรงใจกัน”
ดวงอึกอัก
“คือ...”
หนูดีตัดบท
“อย่าเพิ่งตอบ เก็บไปคิดก่อน แล้วค่อยว่ากัน”
ดวงถอนหายใจลำบากใจ สายมุกมองหนูดี ไม่พอใจนัก
เย็นนั้นคุณนายสร้อยเพชรนั่งกดเครื่องคิดเลข คำนวณเงินอยู่ในบ้าน
“ไอ้ดวงมาอยู่สองอาทิตย์ ค่าเสียหายวันละสองพัน มันก็...”
พะวงพาโอมเดินเข้ามาหา
“คุณนายคะ คุณโอมมาค่ะ”
“สวัสดีครับคุณแม่”
“ไปไงมาไงละเนี่ย”
“พอดีแวะมาหามุกน่ะครับ”
พะวงสอดขึ้น
“คุณมุกออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”
โอมหน้าเหวอ
“อ้าว...เหรอครับ”
คุณนายสร้อยเพชรยิ้มแย้มออก
“แต่เดี๋ยวก็คงกลับแล้วล่ะ”
“งั้นผมรอก็ได้ครับ”
“เมื่อยมั้ยล่ะ จะได้มีอะไรทำระหว่างรอ”
สายตาคุณนายสร้อยเพชรมองโอมอย่างมีหวังจะได้นวด
“ไม่ล่ะครับ”
คุณนายสร้อยเพชรเซ็งทันที
“เอ่อ...แม่ครับ สายมุกเขามาพูดเรื่องอะไรกับแม่บ้างรึเปล่าครับ”
คุณนายสร้อยเพชรงอน
“ไม่รู้ไม่ชี้”
พะวงทำท่าพยักเพยิดบีบๆนวดๆ ใบ้ให้โอมรู้ โอมเข้าใจทันที
“อ๋อ...จะว่าไปก็เมื่อยๆหลังเหมือนกันนะครับเนี่ย”
คุณนายสร้อยเพชรตาวาว
“จริงเหรอ”
คุณนายมองโอมอย่างมีความหวัง เดินมานวดให้โอมทันที
“ก็ไม่เห็นว่ายายมุกจะพูดอะไรนะ”
สายมุกเดินเข้าบ้าน ดวงเดินตามมา
“คุณมุกครับ”
“ว่า”
“คุณมุกคิดยังไงกับเรื่องที่คุณหนูดีพูด”
“ก็แล้วแต่ตัดสินใจสิ ฉันคนนอก มาถามทำไมล่ะ”
“คือมันก็ดี...ผมจะได้หาเงินมาใช้แม่คุณกับคุณได้เร็วขึ้น”
“ชู่ว อย่าพูดเรื่องนี้ดัง”
พะวงเดินออกมาพอดี
“คุณมุกคะ คุณโอมมารออยู่ในห้องน่ะค่ะ”
“ห๊า อะไรนะ”
“คุณโอมมาค่ะ ตอนนี้อยู่กับคุณนาย”
“ว๊าย”
สายมุกรีบวิ่งเข้าไป ดวงกับพะวงมองงงๆ...สายมุกวิ่งเข้ามาในห้องรับแขก เห็นคุณนายกำลังนวดให้โอมอยู่ สายมุกชะงักพึมพำเบาๆ
“นวดด้วย แย่ละ”
“นี่โอมมารอตั้งนานแล้วล่ะลูก”
สายมุกจ้องหน้าโอม โอมยิ้มเป็นนัย สายมุกนึกถึงคำขู่ของโอมที่บอกให้เธอให้ดวงย้ายออก โอมยิ้มเย้ย
“มุกมีอะไรจะคุยกับแม่ไม่ใช่เหรอ”
คุณนายสร้อยเพชรงงๆ
“อ้าวเหรอ เรื่องอะไร”
สายมุกอึกอัก
“เอ่อ...คือ...”
“ถ้าพูดยาก ให้ผมพูดมั้ย”
“ไม่ต้อง มุกพูดเอง”
ดวงกับพะวงเดินเข้ามาพอดี โอมหันไปเห็น
“อ้าว เข้ามาสิ เข้ามาฟังพร้อมๆกันเลย”
สายมุกมองหน้าโอม ลำบากใจ
“เรื่องอะไรก็ว่ามาสิยายมุก ถ้าไม่ใช่เรื่องยืมเงินล่ะแม่ได้หมด”
“เอ่อ...คือ เหมือนว่า...ดวงเขาจะไม่ค่อยชอบที่จะอยู่ที่นี่นะคะ”
ดวงหันมองหน้าสายมุก ไม่เข้าใจการกระทำของเธอนัก คุณนายสร้อยเพชรหันไปถาม
“จริงเหรอดวง เธอไม่ชอบอยู่ที่นี่เหรอ”
ดวงชะงัก
“เอ่อ...”
โอมมองหน้าดวง ยิ้มเยาะ
“เอาเป็นว่า ถ้ามีใครซักคนในบ้านนี้ ไม่มีความสุขที่ผมอยู่ที่นี่ ผมก็จะไปครับ”
“ใคร...ใครไม่มีความสุข พะวงเหรอ”
พะวงส่ายหน้าปฏิเสธ คุณนายสร้อยเพชรหันมาหาลูกสาว
“มุกเหรอ มุกไม่อยากให้ไอ้ดวงอยู่ที่นี่ใช่มั้ย”
สายมุกอึกอัก
“เอ่อ...”
โอมจ้องหน้าสายมุก
“คุณอยากให้มันอยู่ที่นี่เหรอมุก”
“ไม่ค่ะ”
ดวงมองหน้าสายมุกอย่างเศร้าๆ คุณนายสร้อยเพชรไม่ชอบใจ
“โธ่ลูกเอ๊ย ทำไมไม่คิดถึงเรื่องเงินทองในอนาคตล่ะลูก”
พะวงหน้าตื่น
“อะไรนะคะคุณนาย เงินของใคร”
คุณนายสร้อยเพชรรีบแก้
“หมายถึงว่า...ทำไมลูกไม่หัดมีน้ำใจให้คนอื่นบ้าง”
สายมุกนิ่งเงียบไม่มีความคิดเห็น เอาแต่ก้มหน้า คุณนายสร้อยเพชรหันไปหาดวง
“ไม่เป็นไรนะดวง เดี๋ยวฉันจะจัดสรรที่นอนให้เธอใหม่เอง ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยน เอ้ย...ถือว่าเป็นน้ำใจ”
ดวงรีบแย้ง
“ไม่เป็นไรครับ ถ้ามีคนไม่อยากให้ผมอยู่ ผมไปอยู่ที่อื่นน่าจะสบายใจกว่า”
โอมรีบแทรกทันที
“ใช่ครับ...แบบนั้นคือทางออกที่ดีที่สุดเลย”
ดวงน้อยใจเดินออกไปไม่ฟังใคร คุณนายสร้อยเพชรกลุ้มใจ
“หมดกัน แผนที่วางกันมาเป็นปี”
สายมุกมองดวงเศร้าๆ ทำอะไรไม่ได้
ดวงเดินเครียดออกมาหน้าบ้าน เสียใจที่สายมุกไม่อยากให้เขาอยู่บ้าน เจอกับหนูดีพอดี
“เป็นอะไรรึเปล่า หน้าเครียดๆ”
ดวงชะงัก
“อ้าวคุณ...”
“พอดีฉันลืมของน่ะ เลยย้อนกลับมาเอา”
“ก็ดีครับ ผมตกลงจะขายของที่แผงคุณ”
หนูดีดีใจมาก
“จริงเหรอ...ดีจังเลย”
“แต่เรื่องเงินทุน”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวฉันออกเอง ถือซะว่าเป็นค่าเรียนศิลปะก็แล้วกัน”
“ครับ...ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ดวงจะไปไหน”
“ออกไปข้างนอกครับ”
“ก็ติดรถฉันไปเลยสิ จะได้ออกพร้อมกัน”
ดวงมองไปเห็นสายมุกยืนมองดูอยู่ไกลๆ จึงตอบตกลงหนูดี
“ไปก็ได้ครับ”
หนูดียิ้ม พาดวงออกไปทันที
ค่ำนั้น หนูดีพาดวงมาเดินในตลาด ดูแผงที่จะตั้ง
“ดวงจะขายอะไรก็ไปคิดมาเลยนะ เดี๋ยวฉันให้คนของฉันไปจัดไว้ให้”
“ครับ”
“แล้วนี่ค่ำแล้ว ดวงมาที่ตลาดทำไมเนี่ย”
“วันนี้ผมว่าจะมาของนอนกับเพื่อนหน่อยน่ะครับ”
“อ้าว...ทำไมล่ะ ที่บ้านมุกมีเรื่องอะไรเหรอ”
“เปล่าครับ”
ดวงลำบากใจ ไม่อยากตอบ
สายมุกหน้าเครียดๆ ส่วนโอมยิ้มพอใจ
“ขอบคุณมากครับที่ทำเพื่อผม”
“พอใจแล้วใช่มั้ย”
สายมุกเชิดใส่โอมเดินเข้าบ้านไป
“เชิดไปเถอะ เดี๋ยวสักวันขี้คร้านจะมากออดอ้อน”
โอมมองสายมุกไม่สนใจ สบายใจที่จัดการเรื่องดวงได้
คุณนายสร้อยเพชรเดินไปเดินมาเป็นเสือติดจั่น พะวงมองตามจนต้องดมยาดม
“ตายแล้ว ถ้าไปไล่มันออกจากบ้านแบบนี้ แผนเปลี่ยนหมดเลยสิ เราจะซื้อใจมันได้ยังไง”
พะวงดมยา
“คุณนายคะ คุณนายเดินบ่นอะไรไปๆมาๆคะเนี่ย ฉันมึนหัวไปหมดแล้ว”
“เรื่องใหญ่ของฉัน แกไม่รู้เรื่องอะไรน่ะดีแล้ว”
พะวงมองระแวง
“ดูจากหน้าตา มีแผนร้ายแน่ๆ”
คุณนายสร้อยเพชรยังกังวลห่วงสิ่งต่างๆที่จะเกิด
ดวงเคาะประตูบ้าน ซันเดินมาเปิดประตู
“เฮ้ยมีอะไร ทำมาเอาป่านนี้”
“ขอนอนด้วยสิ”
“เฮ้ยมีเรื่องอะไร”
“ไม่มีอะไรหรอก อย่าถามมากเลย”
ซันมองหนูดี
“แล้วนี่ใคร ไม่คิดจะแนะนำให้รู้จักหน่อยเหรอ”
ดวงหันมาแนะนำ
“คุณหนูดีครับ นี่ซันเพื่อนผมเอง”
“สวัสดีค่ะ หนูดีค่ะ เป็นเพื่อนของมุก”
“ครับ”
ซันมองดวงเจ้าเล่ห์ ดวงเซ็งๆ
“มองอะไร ไม่มีอะไรเลย เดี๋ยวคุณหนูดีก็จะกลับแล้ว”
หนูดีหน้าเหวอ
“อ้าว...ไม่ชวนเข้าไปทานกาแฟหรืออะไรหน่อยเหรอคะ”
ซันขัดขึ้น
“ผมเกรงว่าจะไม่ดีครับ”
“ทำไมละคะ”
“คือ...ผมมีแขกน่ะครับ”
ซันเปิดประตูกว้างให้ทุกคนเห็น แฝดนั่งดูละครติดหนึบ แถมพูดจาด่าเป็นชุดตามละคร
“มันมาตั้งแต่บ่ายละ นั่งดูทีวีอย่างเดียว แล้วก็พูดเจื้อยแจ้วอย่างที่เห็น”
เสียงแฝดพูดเจื้อยแจ้วตามละครไม่หยุด หนูดีชะงัก
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันอยู่ไม่นานหรอก แค่อยากรู้ว่าพวกคุณอยู่กันยังไง”
ซันตาโต
“โอ้วว”
“คือฉันกำลังจะเช่าแผงให้ดวงเป็นคนช่วยขาย เลยอยากจะรู้ว่าหัวใจชาวบ้านเป็นยังไงบ้าง มีผลต่อธุรกิจฉันมากน้อยแค่ไหน”
ซันจำใจ
“งั้นก็เชิญเลยครับ ห้องรกไปหน่อย อย่าถือครับ”
แฝดวิ่งมาเกาะขาดวงทันทีที่เห็น แล้วก็พูดเจื้อยแจ้วตามละคร
“พ่อ...”
“เฮ้ย เดี๋ยวขอตัวไปอาบน้ำก่อน แล้วค่อยมาเล่นด้วย”
“พ่อจะมาทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้ พ่อเป็นของฉันคนเดียว”
ดวงหันมองแฝดประหลาดๆ หนูดีหัวเราะกับพฤติกรรม ซันส่ายหน้า
“มันพูดตามละครน่ะ”
“แกให้มันดูเรื่องอะไร”
“แหม มันพูดขนาดนั้นยังเดาไม่ได้อีกเหรอ ทองประกายแสด ไง”
ดวงเซ็งๆ
“โห อนาคตเยาวชน”
ซันหันไปพูดกับหนูดี
“เชิญตามสบายเลยครับ เดี๋ยวผมชงกาแฟให้”
หนูดียิ้มรับ
“ค่ะ”
ซันหันไปบอกดวง
“แกรีบอาบน้ำเลย ฉันมีเรื่องต้องเคลียร์กับแกยาว”
ซันมองดวงเจ้าเล่ห์
“เออ” ดวงหันมาหาหนูดี “ขอตัวก่อนนะครับ”
ดวงถอดตุ้มหูวางไว้หน้ากระจก ก่อนจะถือผ้าขาวม้าเข้าไป โดยแฝดเกาะขาพูดเจื้อยไปด้วย
“ถ้าเธอเถียงฉันแม้แต่คำเดียว ฉันจะตบให้หน้าหันเลยคอยดูสิ”
ดวงระอาเข้าห้องน้ำไป พอดวงเข้าห้องน้ำไป หนูดีก็เดินสำรวจบ้าน ดูรูปที่ซันกับดวงถ่ายด้วยกัน แล้วก็ไปเห็นตุ้มหูดวงที่ถอดทิ้งไว้โดยไม่ตั้งใจ เธอนึกถึงที่เธอคุยกับสายมุกเรื่องตุ้มหู
หนูดีหันไปมาไม่เห็นใคร เธอแอบเก็บมันใส่กระเป๋าทันที...
มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 26
ซันเดินถือกาแฟมาก็ไม่เห็นหนูดีอยู่ที่เดิมซะแล้ว ซันงง
“อ้าว...ไปไหนซะแล้วเนี่ย”
ดวงเดินออกมาจากห้องน้ำ
“คุณหนูดีไปไหนซะแล้วล่ะ”
ซันส่ายหน้า
“ไม่รู้ดิ สงสัยกลับไปแล้วมั้ย”
ดวงงงๆ
“อ้าว...”
แฝดเดินมาเกาะขาดวงเหมือนเคย ซันหันไปถาม
“เฮ้ยไอ้แฝดผี เห็นผู้หญิงคนที่อยู่ตรงนี้มั้ย”
แฝดพูดแบบตัวร้ายในละคร
“แกคิดว่าฉันเป็นใคร แกถึงจะมาพูดจาอะไรแบบนี้กับฉันได้”
ดวงส่ายหน้าระอา
“ฉันว่าแกให้มันดูละครมากไปแล้วว่ะ”
ซันเซ็งๆ
“ฉันก็ว่างั้น”
ดวงหาตุ้มหูที่ถอดวางไว้ไม่เห็น เขาพยายามหา แต่ก็ไม่มี
“ใครเห็นตุ้มหูที่ฉันถอดไว้ตรงนี้บ้าง”
ซันแปลกใจ
“ตุ้มหูอะไร”
“ก็ตุ้มหูที่ฉันใส่ตลอดไง ก่อนอาบน้ำฉันถอดวางไว้ตรงนี้เนี่ย”
“ฉันไม่รู้ว่ะ ฉันก็เพิ่งเดินมาตรงนี้เนี่ย” ซันหันมองแฝด “นี่ขโมยไปกินรึเปล่าเนี่ย”
แฝดมองหน้า
“ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองซะบ้างเถอะ”
ซันเอือมๆ
“ฉันไม่น่าถามแกเล๊ย ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าแกพึ่งไม่ได้”
แฝดชี้หน้า
“ฉันจะไสหัวแกออกไปจากเรือนหลังเล็กให้ได้ คอยดูสิ”
ซันหงุดหงิด
“อีบ้า”
ซันเพลียกับแฝด ส่วนดวงยังกังวลเรื่องตุ้มหู พยายามหาตามพื้น แต่ก็ไม่เห็นมี ดวงเครียดๆ
หนูดีเดินมาเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ เธอส่องกระจกพร้อมกับหยิบตุ้มหูของดวงมาใส่แล้วก็มองยิ้มๆ
ทางด้านสายมุกเอามือจับตุ้มหู คิดถึงเรื่องที่เธอบอกกับแม่เรื่องไม่อยากให้ดวงอยู่บ้าน เธอเศร้ากับสิ่งที่ทำลงไป ชะเง้อรอดวงที่ไม่มีวี่แววว่าจะกลับมา สายมุกมองนาฬิกาตีสองแล้ว เธอห่วงดวงมาก
สายวันใหม่...สายมุกหลับอยู่ที่โซฟา พะวงทำความสะอาดบ้าน เอาไม้ปัดขนไก่มาปัด เห็นสายมุกก็ตกใจ
“อ้าวคุณมุกมาทำอะไรตรงนี้คะเนี่ย”
สายมุกงัวเงีย ตื่นขึ้นมา
“พะวงเข้ามาทำอะไรในห้องฉันแต่เช้าเนี่ย”
พะวงหน้าเหวอ
“ห้องคุณมุกที่ไหน นี่ห้องรับแขกค่ะ”
สายมุกสะดุ้ง
“อ้าวเหรอ...นี่ฉันหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“คุณมุกนอนที่นี่เหรอคะเนี่ย”
“ดวงกลับมารึยังน่ะ”
“เอ ไม่เห็นเลยนะคะ”
สายมุกถอนหายใจ ท้อๆ
“เฮ้ย...วันนี้มีเรียนวาดรูปนี่ ใช่มั้ย”
สายมุกดีใจ รีบวิ่งขึ้นห้องไปทันที เธอตรงไปหยิบอุปกรณ์ที่จะใช้เรียนศิลปะ จัดแจงให้เรียบร้อย รีบเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ จัดแจงกิจธุระของตน
ดวงยังคงหาตุ้มหูพยายามจะหาให้เจอ แต่ก็ไม่เห็นมีวี่แวว ซันเดินผ่านมา
“นี่แกยังหาตุ้มหูอยู่เลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ มันสำคัญต่อฉันมาก มันเป็นสิ่งเดียวที่ติดตัวฉันมาที่นี่”
“มันคงตกไปตามซอกตู้อะไรแบบนั้นละมั้ง”
“ดูแล้ว ก็ไม่เห็นมี”
“นี่อย่าบอกนะว่าแกหาตั้งแต่เมื่อคืน”
“เปล่า”
“แล้วนี่แกมีปัญหาอะไรที่บ้านยายคุณนายสร้อยเพชรรึเปล่าวะ ทำไมถึงมานอนห้องฉันเนี่ย จนป่านนี้ก็ไม่กลับไป”
ดวงหลบตา
“ไม่มีอะไร”
“ไม่ใช่สิ คนที่อาจจะทำให้แกออกจากบ้านได้ อาจจะเป็น คุณหนูสายมุก นั่น ใช่มั้ยล่ะ”
“บ้า...จะไปเกี่ยวอะไรกับเขาเล่า เขากับเรามันคนละฉันกัน”
“นี่เคยได้ยินมั้ย...ถ้าเราอยากได้อะไรมากๆ มันจะยิ่งไม่ได้ ให้ปล่อยมันไป สุดท้ายถ้ามันเป็นของเรา ยังไงมันก็กลับมาเป็นของเรา”
“นี่แกพูดเรื่องตุ้มหูอยู่ใช่มั้ย”
“ก็แล้วแต่จะคิดว่ะ” ซันยักไหล่
สายมุกเตรียมอุปกรณ์วาดรูปนั่งรออย่างใจจดใจจ่อ ซ้อมวาดรูปวงกลมใหญ่ แล้วก็มีคนเดินเข้ามาหา สายมุกได้ยินเสียงฝีเท้าคิดว่าเป็นดวง สายมุกหันไปหาทันที
“นี่ ตอนนี้ฉันวาดวงกลมได้...”
คนที่ยืนตรงหน้าสายมุกคือหนูดีต่างหาก สายมุกหน้าจ๋อยๆ
“อ้าว...”
“แหม...วันนี้ดูกระตือรือร้นจะเรียนวาดรูปจังนะ”
“เปล่า ก็ไหนๆจะต้องเรียน ก็ต้องเต็มที่ ใช่มะ”
“แต่วันนี้คงไม่ได้เรียนหรอก”
สายมุกชะงัก
“ทำไมล่ะ”
“ก็ดวงเขาฝากฉันมาบอกว่าเขาไม่ว่าง”
“ไม่ว่างแล้วทำไมไม่มาบอกเอง”
“ฉันจะไปรู้เหรอ ฉันก็แค่มาทำหน้าที่คนส่งสาส์นก็เท่านั้น”
“แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหน”
“ก็คงทำงานในตลาดละมั้ง”
หนูดีพยายามจะทำให้สายมุกเห็นตุ้มหูของดวงที่ตนใส่
“นี่มุก เธอว่าฉันเป็นคนหูกางมั้ย”
สายมุกตอบแบบไม่หันมอง เสียใจเรื่องดวงอยู่
“ก็ไม่เห็นว่าจะกางนี่”
“ดูดีๆสิ กางมั้ย”
สายมุกหันไปดูไม่เต็มใจนัก หนูดีเอาผมทัดหูโชว์ให้เห็นตุ้มหูของดวง สายมุกเห็น มองที่ตุ้มหูไม่วางตา หนูดีแอบยิ้ม
“ว่าไง หูฉันกางรึเปล่า”
“ก็ไม่กางนี่ ใครว่าว่ากางล่ะ”
“เปล่าหรอก แค่สงสัย แค่นั้นเอง”
สายมุกยังมองไปที่ตุ้มหูของดวงอยู่
ดวงนั่งคุยอยู่ที่แผงไข่กับซัน แหววแต่งตัวเฉิดฉายมาที่แผงไข่
“ทำไมวันนี้ว่างได้ล่ะ” ดวงหันไปถาม
“นี่...เธออย่ามาพูดแบบนี้ คนพูดแบบนี้ควรเป็นฉันพูดกับเธอต่างหากนะดวง”
ซันหัวเราะ
“นั่นไง โดนเข้าให้แล้ว”
แหววทำงอน
“ปกติอยู่ตลาดก็ทำงานงกๆ ไม่เคยมีเวลาให้เพื่อนไม่ใช่เหรอ”
“พูดแบบนี้ ฉันก็ไปไม่ถูกเลยสิ...แล้วนี่แต่งตัวซะสวยเชียวจะไปไหนเนี่ย”
“ก็จะไปธุระกับไอ้ซันน่ะแหละ”
ดวงยังงงๆ มองแหววกับซันไม่เข้าใจนัก
“ไปกับไอ้ซัน ทำไมต้องแต่งสวยด้วย”
แหววขึ้นเสียง
“เอ่อ...ทำไมล่ะ ก็อยากสวยมั่งไม่ได้รึไง”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร ทำไมต้องเสียงดังด้วย”
ซันมองแหวว
“เออ ทำพิรุธนะเนี่ย”
แหววค้อน
“พูดมากเดี๋ยวก็ไม่ไปซะเลย”
ซันรีบง้อ
“โอ๋ๆ ไปสิ ไป”
ซันหันไปเห็นคนที่เดินมาที่ร้านถึงกับตกใจ
“เฮ้ย”
“อะไร”
ดวงหันไปตามสายตาซันที่มองอยู่ไม่วางตา เป็นสายมุกนั่นเองที่เดินมาแต่ไกล ดวงเห็นก็อึกอัก สายมุกมาถึงก็พูดลอยๆ
“พอดีฉันจะทำเค้ก ฉันต้องใช้ไข่”
ซันพยักหน้า
“ครับ”
“ฉันขอไข่ไก่ซักโหลนึงก็แล้วกัน ขอสดๆนะ”
ดวงหันบอกเพื่อนๆ
“เออ ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะ”
“อ้าว นี่ กะจะให้ฉันถือไข่ไก่กลับบ้านเองเหรอ ไหนจะของอีกตั้งเยอะแยะ”
ดวงอึกอัก
“เอ่อ...”
ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทั้งดวง ซัน แหวว ซันหันมาบอกดวง
“เดี๋ยวฉันกับแหววจะออกไปข้างนอกด้วย ไม่มีคนส่งนะ”
ดวงลำบากใจ
ดวงถือของที่ซื้อให้สายมุก เขาพยายามทำไม่สนใจ ทำทุกอย่างตามหน้าที่ สายมุกแอบมองที่หูของดวง เขาไม่ใส่ตุ้มหูแล้วจริงๆ หญิงสาวพึมพำ
“หายไปจริงด้วย”
ดวงงงๆ
“อะไรเหรอครับ”
“เปล่า...ตกลงจะเปิดแผงขายของกับหนูดีรึเปล่า”
ดวงพยักหน้า สายมุกผิดหวัง
“มันจะขายได้เร้อ”
ดวงหันมองหน้าสายมุก
“ฉันไม่ได้หมายความว่ายังงั้น แค่อยากให้ระวังจะถูกเอาเปรียบเฉยๆ”
“ขอบคุณครับที่เป็นห่วง...คุณถึงรถแล้ว ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวสิ”
“เรื่องของที่อยู่บ้านคุณ เดี๋ยวผมจะเข้าไปเก็บตอนที่คุณไม่อยู่บ้านก็แล้วกันครับ”
ดวงเอาของต่างๆวางใส่รถสายมุก แล้วก็ปลีกตัวไป สายมุกเสียใจ จะตามเข้าไปเคลียร์กับดวง
สายมุกเดินตามดวงเข้ามาในตลาด
“เดี๋ยวก่อน มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ”
ดวงไม่หยุดรอ รีบเดินจั้มออกไป สายมุกจะตามแต่แล้วแฝดนิชคุณก็เข้ามาขวาง กันไม่ให้สายมุกไป
“เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กไม่เกี่ยว”
แฝดพูดเสียงเข้มจำมาจากละคร
“อยากลองดีกับฉันรึไง”
สายมุกอึ้งๆ
“เป็นไรมากป่ะเนี่ย”
“ถ้าเธออยากอยู่ใกล้พ่อละก็ ฉันช่วยได้...แต่มันก็ต้องมีเงื่อนไขกันบ้าง”
“จะให้ทำอะไร”
แฝดทำหน้าเจ้าเล่ห์
สายมุกพาแฝดมาดูลิเกนั่งแถวหน้าสุด แฝดมีความสุขออกนอกหน้า สายมุกมองแฝดเบื่อๆ
“ถ้าพามาดูลิเกแล้วไม่ช่วยอะไรนะ มีเรื่องแน่”
ลิเกเริ่มแสดง สายมุกเบื่อๆ ส่วนแฝดนั้นเพลิดเพลินมาก
สายมาพาแฝดมากินอาหารที่ร้านในตลาด ชามเปล่าวางเต็มโต๊ะ แฝดกินอาหารในชามอย่างเอร็ดอร่อย
“นี่มีต่อมอิ่มรึเปล่าเนี่ย กินอะไรมากมายขนาดนี้”
แฝดกินไม่สนใจ สายมุกมองระอา
“ทำให้ขนาดนี้ ต้องช่วยนะ”
แฝดถือไอ้ติม 5 แท่ง กินพร้อมกัน สายมุกถอนใจ
“ช่วยรึยังเนี่ย เงื่อนไขเยอะจริง”
“พร้อม หล่อนช่วยไปหยิบอาวุธให้ฉันหน่อยสิ”
สายมุกตกใจ
“ไม่ต้องถึงกับฆ่าใครนะ”
“อย่าพูดมากได้มั้ย บอกให้หยิบก็หยิบ”
แฝดชี้ไป สายมุกเดินไปหยิบอาวุธที่หมกๆอยู่แถวนั้น เป็นคันธนู สายมุกมองงงๆ
“ธนูเนี่ยนะ”
ดวงกำลังเข็นผักอยู่ แฝดวิ่งไปเกาะขา
“พ่อ”
“อะไรอีกล่ะ ไม่ใช่เวลาเล่นนะ”
ดวงจะเดินไป แฝดยังเกาะขาไว้ สักครู่สายมุกก็เดินมา
“ฉันว่าเราต้องคุยกัน...”
ดวงมองแฝดดุๆ
“นี่ร่วมมือกันใช่มั้ย”
แฝดมองดวง ยิ้มอายๆ ดวงบอกกับแฝด
“ออกไปก่อนไป ผู้ใหญ่จะคุยกัน”
แฝดพูดแบบละคร
“ได้...ต้องการแบบนั้นก็ได้เลย”
แฝดเดินออกไปแอบดูอีกมุม
“ผมมีเวลาไม่มาก”
“ฉันรู้ว่าคุณโกรธฉันมากเรื่องเมื่อวาน แต่ฉันมีเหตุผลที่ทำแบบนั้น”
“ซึ่งผมควรจะต้องฟังใช่มั้ย”
แฝดแอบอยู่ มองอย่างเจ้าเล่ห์
“เห็นทีฉันจะต้องเป็นลงมือช่วยซะแล้ว”
แฝดง้างธนู ทำเหมือนหยิบลูกธนู แต่เป็นอากาศ แล้วยิงไปที่ดวงกับสายมุก
“สำเร็จทุกรายไป”
แฝดท่าทีมั่นใจว่าช่วยทั้งคู่ได้แน่
“ฉันหวังดีกับคุณนะ ฉันถึงต้องทำแบบนั้น”
“ขอบคุณครับ ผมก็รับความหวังดีของคุณแต่โดยดีแล้วไง คุณก็น่าจะพอใจนะครับ ยังไงผมก็ไม่ใช่คนที่จะมีปากมีเสียงอะไรได้อยู่แล้ว”
สายมุกอึ้งไป
มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 26 (จบตอน)
“คือ...”
“ผมขอตัวก่อนนะครับ มีงานต้องทำ”
ดวงเข็นรถออกไป สายมุกจ๋อยๆ แฝดที่มองอยู่ไกลๆถึงกับเสียเซ็ง
“อ้าว”
ซันกับแหววเดินอยู่ริมถนน อยู่ๆก็มีชายคนหนึ่งท่าทางตุ้งติ้งเดินเข้ามาหา
“น้องคะ”
แหววชะงัก
“คะ”
“คือพี่เป็นผู้จัดการดารานะคะ พี่เห็นว่าน้องดูหน้าตารูปร่างผิวพรรณดีเลย ถ้าน้องสนใจจะเข้าวงการบันเทิงละก็” เอ ยื่นนามบัตรให้ “ติดต่อพี่มานะคะ”
แหววมึนๆ
“หนูน่ะเหรอคะ จะเป็นดารา”
ซันมองหน้าเอ
“มิจฉาชีพรึเปล่า”
“ถ้ากลัวโดนหลอกละก็ น้องเปิดตามหนังสือพิมพ์บันเทิงได้นะคะ ทุกเล่มพูดถึงพี่หมดทุกคนค่ะ”
“ถ้างั้นก็เอาเบอร์ผมไปดีกว่าครับ”
แหววกับเอมองหน้าซันเอือมๆ ซันจ๋อยๆ
“น้องลองไปคิดดูก็แล้วกันนะคะ” เอยิ้มให้แหวว
เอเดินจากไป แหววยังตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“เฮ้ย...ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยอ่ะ ฉันจะได้เป็นดาราอ่ะ”
ซันงงๆ
“ไปอยากเป็นดาราตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นเคยพูดเลย”
“ผู้หญิงทุกคนก็อยากเป็นดารากันทั้งนั้นแหละ เพราะมันพิสูจน์ว่าฉันสวยพอ”
“ฝันไปละ”
“อ้าวจริงๆนะ ฉันโทรเลยดีกว่า”
ซันรีบห้าม
“เฮ้ย...เขาเพิ่งแยกไปเมื่อกี้”
“ก็ได้ เล่นตัวซัก 2-3 วัน”
ซันไม่ชอบใจ
“ไม่เห็นจะดีเลย ไปเป็นดาราน่ะ”
“ไม่ดียังไงห๊า มีชื่อเสียง มีคนมาชื่นชม มีเงิน คนเคารพยกย่อง ไม่เห็นจะไม่ดียังไง”
“นั่นแหละ ไม่ดี”
ซันไม่ค่อยพอใจนักเดินนำแหววไป แหววไม่เข้าใจซันนัก แต่กำลังดีใจกับการได้ทาบทามเป็นดารา
คุณนายสร้อยเพชรเดินไปมาครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ในห้องรับแขก
“ไอ้ดวงไม่อยู่ที่นี่ บุญคุณก็ไม่มี แล้วเราจะเอาเงินมันได้ยังไงอีก มันต้องมีทางสิ มีซักทาง”
พะวงทำความสะอาดอยู่ได้ยินคุณนายพึมพำ
“วางแผนอะไรอยู่อีกละคะ”
“ก็วิธีเอาเงินจากไอ้ดวงน่ะสิ”
พะวงหน้าตื่น
“ห๊า”
คุณนายสร้อยเพชรตกใจที่พลั้งปาก
“ว๊าย...ไม่ใช่ ฉันหมายถึงว่าไอ้ดวงมันไม่อยู่ที่นี่แล้วจะไปอยู่ที่ไหนได้”
พะวงไม่ค่อยเชื่อใจ
“อยู่ๆก็เกิดห่วงขึ้นมาซะงั้น”
“เออน่า”
สายมุกเดินเข้ามาหน้ากลุ้มใจ พะวงหันไปถาม
“เป็นอะไรละคะคุณมุก”
สายมุกมองแม่
“คุณแม่จะจัดการยังไงเรื่องดวงคะ”
คุณนายสร้อยเพชรเซ็งๆ
“ก็ลูกบอกว่าไม่อยากให้มันอยู่บ้าน แม่จะทำอะไรได้”
“แม่ก็ต้องบอกว่า ไม่ได้ ดวงต้องอยู่ที่นี่ อะไรแบบนี้สิคะ”
คุณนายสร้อยเพชรกับพะวงมองหน้าสายมุกพร้อมกัน
“หนูหมายความว่า แม่เป็นคนอยากให้ดวงมาอยู่ที่นี่เอง แม่ก็ต้องมีจุดยืนของแม่ที่ไม่ว่าหนูหรือใครก็จะมาเปลี่ยนความคิดแม่ไม่ได้สิคะ”
พะวงงงๆ
“ตกลงคุณมุกอยากให้นายดวงอยู่ หรือไม่อยู่กันแน่คะเนี่ย”
สายมุกอึกอัก
“ก็...ไม่ได้คิดอะไร”
คุณนายสร้อยเพชรมองลูกสาวอย่างไม่เข้าใจ
“อ้าว...แล้วทำไมเมื่อวานลูกพูดแบบนั้น”
สายมุกตัดบท
“ช่างเถอะค่ะ...แล้วแต่แม่ก็แล้วกัน ว่าอยากให้เขาอยู่หรือไม่อยากให้อยู่”
สายมุกเดินออกจากห้องไป คุณนายสร้อยเพชรกับพะวงมองหน้ากัน ไม่เข้าใจสายมุก
“แล้วคุณนายจะเอายังไงต่อคะเนี่ย”
“ฉันก็พอเห็นลู่ทางความร่ำรวยของฉันแล้วน่ะสิ”
“นี่คุยเรื่องเดียวกันอยู่รึเปล่าคะเนี่ย”
“แกไปตามไอ้ดวงมาคุยกับฉันซิ”
“ได้ค่ะ”
พะวงเดินออกไป คุณนายแอบยิ้มพอใจ
คุณนายสร้อยเพชรนั่งรอให้ดวงมาพบ สักครู่พะวงพาดวงเข้ามา คุณนายพูดขึ้นทันที
“เรื่องย้ายน่ะ...”
“ผมกำลังจะกลับมาขนของครับ”
“ฉันจะบอกว่าไม่ต้องย้าย อยู่ที่นี่ไปนั่นแหละ”
“แต่คุณมุกเขา...”
“จะไปฟังอะไรยายมุก ฉันเป็นเจ้าของบ้าน”
“แต่ผมคงอยู่ไม่ได้หรอกครับ ถ้ามีคนในบ้านซักคนไม่อยากให้อยู่”
“งั้นก็เอางี้ ถ้าอยู่แบบคนมาเช่าอยู่เป็นไง...”
พะวงขัดขึ้น
“คุณนาย แบบนั้นจะดีเหรอคะ”
“อ้าว ก็ดวงมันบอกเองว่ามันลำบากใจ แต่ถ้ามันมีการจ่ายเงิน...มันก็จะรู้สึกว่า ไม่ได้มาอยู่ฟรีๆไง ดีออก”
พะวงค้อน
“ดีกับคุณนายน่ะสิ”
คุณนายสร้อยเพชรดุ
“พะวง”
ดวงถอนใจ
“ผมไม่ได้มีเงินทองขนาดที่จะเอามาจ่ายค่าเช่าในบ้านหลังใหญ่ๆ แบบนี้หรอกครับ”
“โอ๊ย...อย่าเรียกว่าหักค่าเช่าเลย ฉันไม่ได้เก็บรายเดือนหรอกน่า มีเมื่อไหร่ก็่จ่าย ราคาไม่ได้แพงอะไร”
“ยังไงผมก็คงไม่มีเงินจ่ายอยู่ดีครับ หนี้เก่าผมก็ยัง...”
“แหม...ที่เธอมีอยู่นั่นมันก็มากมาย ถ้าเธออยากจะใช้ ยังไงก็หมดอยู่แล้ว”
“ไม่ดีกว่าครับ...”
คุณนายสร้อยเพชรพยายามโน้มน้าว
“น่านะ...หนี้เก่ากับหนี้ใหม่...รวมกันมันก็คงไม่ได้มากมายอะไร ฉันก็ไม่ได้เสียอะไรมาก”
“ไม่ละครับ”
คุณนายสร้อยเพชรเริ่มหงุดหงิด
“เอ๊ะ บอกให้อยู่ก็อยู่ ถ้าเธอจะไม่อยู่ก็ออกจากตลาดฉันไปเลยไป งานการก็ไปหาทำที่อื่น หนี้เก่าก็เคลียร์มาตอนนี้เลยมา เล่นตัวนัก”
พะวงตาเหลือก
“คุณนาย นั่นเป็น นางฟ้า หรือว่าซาตาน กันแน่”
“แกว่าฉันเป็นใครล่ะพะวง”
ดวงมองหน้าคุณนายสร้อยเพชรชะงัก ไม่กล้าปฏิเสธอีก คุณนายสร้อยเพชรจ้องหน้า
“ตกลงว่าอยู่ จบนะ ส่วนเรื่องหนี้เก่าหนี้ใหม่ ฉันจะส่งใบรวบยอดมาให้เอง”
ดวงงงๆที่โดนบังคับ พะวงส่ายหน้า
“ถ้าเป็นคนแบบนี้ สงสัยตอนเด็กจะไม่มีใครพูดถึงเลย”
ค่ำนั้น พะวงรีบมารายงานสายมุก
“เป็นไงบ้างพะวง”
“เรียบร้อย”
“แน่นะพะวง”
“เห็นมากับตาเลยค่ะ”
“งั้นก็ดี...แต่ฉันอยากขอพะวงเรื่องนึง”
“อะไรคะ”
“เรื่องที่ดวงยังอยู่ที่นี่ เป็นความลับได้มั้ยคะ ไม่ต้องบอกใครคนนอกรู้เลยซะยิ่งดี”
“จะพยายามนะคะ”
สายมุกแอบยิ้ม
ดวงทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงท้อๆเหนื่อยๆ คิดถึงสายมุก...
“ชีวิตนี้ผมจะหนีไปจากคุณได้มั้ยเนี่ย”
สายวันใหม่...ดวงเดินมาที่สนามเห็นสายมุกกำลังไล่ดมดอกไม้อยู่ที่สนาม แล้วก็มานั่งหัดวาดรูป ดวงเห็นก็ยืนแอบมองเธออยู่ไกลๆ ไม่อยากเข้าไปใกล้เธอนัก พะวงเดินเข้ามา
“มองอะไรอยู่น่ะ ตั้งนานสองนาน”
พะวงหันมองไปตามดวงบ้าง เห็นสายมุกยืนอยู่ตรงนั้น
“ให้มันน้อยๆหน่อย แกเป็นใครเจียมตัวไว้ซะบ้าง”
“ครับ”
“ไปได้แล้ว”
ดวงเดินเลี่ยงไปอีกทาง พะวงมองถอนหายใจ เดินเข้าไปหาสายมุก
“คุณมุกตื่นแต่เช้าเลยนะคะ”
สายมุกหันมายิ้มให้พะวง สายตาสายมุกกวาดหาดวง พะวงถามอย่างสงสัย
“มองหาใครคะ”
สายมุกเฉไป
“ก็มองไปทั่วๆนั่นแหละ”
“คุณมุก...ชอบวาดรูปตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย”
“ก็เพลินๆดีนะ”
“คุณมุกเปลี่ยนไปนะคะ ไม่เหมือนคนเดิมที่พะวงรู้จักเลย”
“คนเดิมเป็นยังไง”
“คนเดิมไม่เคยตื่นแต่เช้ามาดมดอกไม้ มาวาดรูปอะไรแบบนี้แน่ๆ”
สายมุกคิดตาม
“ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ดีเหรอ”
“ถ้ามันเป็นตัวเองก็ดีค่ะ...กลัวว่าคุณมุกจะเปลี่ยนเพราะใส่ใจคนอื่นมากเกินไป ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ เรื่องใหญ่แน่”
สายมุกนิ่งคิดตามคำพะวง
แหววแต่งตัวสวยเฉิดเดินในตลาด คนมองกันเกรียว ซันอยู่แผงไข่เห็นเข้าก็ถามอย่างสงสัย
“นั่นจะไปไหนน่ะ”
“เปล่า ก็ไม่ได้จะไปไหน แค่แต่งตัวมากินข้าวแถวนี้แหละ”
“แล้วต้องจัดเต็มขนาดนี้เลยรึไง”
“ก็ต้องเตรียมตัวไว้สิ ถ้าฉันเป็นดารา ปาปารัชชี่มันมีทุกที่นะ ฉันต้องสวยพร้อมเสมอ”
“แค่ได้นามบัตรมาใบเดียว ฝันไปไกลขนาดนั้นแล้ว”
“มันไม่ใช่ใครก็ได้นะที่จะได้เป็นดาราน่ะ แต่ฉัน...เขาเลือกฉัน แปลว่าฉันมีดีกว่าคนอื่น ใช่มั้ย”
“เธอน่ะมีดีกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ไม่ต้องรอให้เป็นดาราฉันก็รู้”
“เธอไม่เข้าใจหัวใจผู้หญิงหรอก”
“เออ ฉันไม่เข้าใจ ไม่เห็นว่าไอ้การเป็นดาราจะดีกว่าคนปกติยังไงเลย”
“ฉันไม่คุยด้วยแล้ว”
แหววเดินจากไป ซันมองท้อๆใจ
ดวงจะออกจากบ้าน เจอกับสายมุกพอดี ทั้งคู่ต่างอึกอัก
“ออกไปทำงานแล้วเหรอ”
“ครับ”
“เออนี่ ฉันกำลังจะไปซื้อของที่ตลาดพอดี ติดรถฉันไปสิ”
ขณะเดียวกันนั้น หนูดีเข้ามาพอดี
“ดวง พร้อมรึยัง”
สายมุกเสียอารมณ์ทันทีที่หนูดีเข้ามา
“คุยอะไรกันอยู่เหรอ”
สายมุกมองหน้าเพื่อนสาว
“มาทำไมแต่เช้าเนี่ย”
“ก็ฉันนัดกับดวงไว้ ว่าจะไปดูของที่จะเอามาขายกันน่ะ”
สายมุกมองตุ้มหูหนูดีที่เหมือนกับของเธออย่างไม่พอใจนัก
“ถ้างั้นก็ตามสบาย”
สายมุกจะเดินเข้าบ้าน หนูดีหันมาหาดวง
“พร้อมมั้ย”
“ครับ”
หนูดีกับดวงเดินออกไปด้วยกัน ดวงแอบมองๆสายมุกเหมือนกัน
สายมุกเปิดประตูเข้าไปในห้องดวงด้วยความไม่พอใจนัก เธอถอดตุ้มหูที่ดวงให้ออก แล้วก็วางคืนไว้บนโต๊ะ
“เอาคืนไป ฉันไม่อยากใส่แล้ว”
ดวงขึ้นนั่งบนรถหนูดี แล้วก็สังเกตเห็นตุ้มหูของหนูดีโดยบังเอิญ เขามองมันอย่างตั้งใจ หนูดีเข้าใจว่าดวงมองตนก็เขินๆ
“มองอะไรน่ะ ไม่มีใครบอกรึไงว่าถ้าจ้องใครแบบนี้จะทำให้คนอื่นเขิน”
“ขอโทษครับ...คุณหนูดีครับ ผมมีเรื่องอยากถาม”
“จะถามตอนนี้เลยเนี่ยนะ มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ”
“ไม่เร็วหรอกครับ”
“ก็ได้...กล้าถามฉันก็กล้าตอบเหมือนกัน”
“ตุ้มหูที่คุณใส่อยู่ คุณเอามาจากไหนครับ”
หนูดีหายจากอาการเขินทันที
“คือฉันเก็บได้น่ะค่ะ บังเอิญเห็นว่ามันร่วงอยู่...สวยดี ก็เลยเอามาใส่”
“มันเป็นของผมเองล่ะครับ...”
หนูดีทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“อ๋อ เหรอคะ ถึงว่าสิ คุ้นๆนะ”
“คงไม่เป็นไรใช่มั้ยครับถ้าผมจะขอคืน”
หนูดีชะงัก
“แต่มันก็ดูเก่าแล้ว...”
“มันสำคัญกับผมมากจริงๆครับ มันเป็นสิ่งเดียวที่พ่อแม่ผมทิ้งไว้กับผม”
“ถ้าสำคัญขนาดนั้น แล้วคุณให้...” หนูจะเอ่ยชื่อสายมุกแต่ชะงัก “ไม่มีอะไรค่ะ”
“นะครับ”
“ได้สิคะ ยังไงมันก็เป็นของคุณ”
หนูดีถอดให้ดวงอย่างไม่เต็มใจนัก ดวงรับมันมาเก็บไว้ดีใจ
แหววแต่งตัวสวยเดินผ่านมา แฝดเห็นเข้าก็ทักทาย
“แต่งตัวเป็นผู้ดีแปดสาแหรก”
แหววขึงตาใส่
“นี่เพิ่งดูละครย้อนยุคมาใช่มั้ยเนี่ย ถึงใช้คำแบบนี้ ถามจริง ที่พูดนี่เข้าใจบ้างมั้ยเนี่ย”
แฝดส่ายหน้า
แหววถอนใจ
“งี้แหละน้า พ่อแม่สมัยนี้ ปล่อยให้ลูกอยู่แต่กับทีวี ไม่เคยรู้ว่ามันไปจำอะไรมาบ้าง”
แฝดขึ้นเสียงใส่ทันที
“ไม่ต้องมาสั่งสอนฉัน”
“ไม่ได้สั่งสอนแก ฉันบ่นพ่อแม่โน่น”
“คุณจะด่าอะไรฉันก็ได้ แต่อย่ามาด่าพ่อกับแม่ของดาว ท่านไม่เกี่ยว”
แหววระอา
“เอาเข้าไป ฉันมัวมาเสียเวลาคุยกับไอ้เด็กประหลาดอย่างแกทำไมเนี่ย เสียเวลาการเป็นดาราหมด”
แฝดชะงัก
“เป็นดารา คืออะไร”
“เป็นดาราก็คือ เป็นคนที่แสดงละครให้แกดูนั่นไง เขาเรียกว่าดารา”
แฝดตาลุกวาว
“ดารา...อยากเป็นดารา”
แหววถอนใจ
“นั่นไง ดูทีวีมากไป อยากเป็นดารา เข้าสูตรเด็กยุคใหม่”
แฝดดิ้นเร่าๆ
“จะเป็นดารา จะเป็นดารา จะเป็นดารา”
“เออ...ฉันยังไม่ได้เป็นเหมือนกัน ถ้าเป็นแล้วจะมาชวน เข้าใจ๊”
“ถ้าหล่อนหลอกฉันละก็ ฉันเอาหล่อนตายแน่”
“เออ...ไอ้เด็กประหลาด”
แหววเดินจากไป แฝดนั่งเคลิ้ม ฝันว่าตนจะได้เป็นดารา
“คราวนี้...ถึงทีไอ้เสือบ้างแล้ว หึหึหึหึ”
ซันนั่งหงอยอยู่ที่แผง ดวงมาหา
“เฮ้ย...เป็นอะไรวะแก”
“อ้าว...ได้ข่าวว่าแกจะเปิดแผงขายของเหรอวะ”
“อย่าเรียกแบบนั้นเลย เขาแค่จ้างฉันไปขายให้ ฉันไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรหรอก”
“แต่อย่างน้อย แกก็ได้ใกล้เข้าความฝันไปอีกขั้นแล้วไม่ใช่เหรอ”
ดวงงงๆ
“ความฝันอะไรวะ”
“ก็ตอนเด็กๆ แกเคยบอกว่า แค่มีแผงขายของในตลาดได้ ก็ใจจะแย่แล้ว”
ดวงยิ้มๆ
“เออ นั่นสินะ”
“เฮ้ยดวง ระหว่างความรักกับความฝัน แกเลือกอะไรวะ”
“ทำไมถามแบบนั้น...มันไม่เห็นจำเป็นต้องเลือกเลย”
“มันก็มีบางทีที่ต้องเลือกนะ”
“อย่างเช่น...”
“ถ้าสมมติคนๆนึงที่มีทีท่าว่าอาจจะชอบฉันแล้ว แต่เธอคนนั้นเขาฝันอยากเป็นดารา แล้วอยู่ๆเขาก็กำลังจะได้เป็นเหมือนที่ฝันแล้ว เขาจะมาชอบฉันทำไมวะ แกดูฉันสิ”
ดวงปลอบใจเพื่อน
“อย่าเพิ่งคิดมาก...เคยได้ยินมั้ย ความกลัวเกิดเพราะเราคิดไปเอง ดังนั้นอย่าเพิ่งคิดอะไรเว้ย...”
ซันถอนหายใจกลุ้มใจ
โปรดติดตาม มนต์รักตลาดสด ตอนต่อไป พรุ่งนี้ 9.30 น.