มารกามเทพ ตอนที่ 17 อวสาน
นัยน์ตาของพลอยยามนี้วาววับแลดูเหี้ยมโหด ริมฝีปากเหยียดยิ้ม แกล้งวิ่งหนี มาตามทางเปลี่ยว อย่างมีจริต ทิ้งช่วงจังหวะ
“ช่วยด้วยๆๆ” แต่พออีกจังหวะหนึ่งก็แกล้งล้มลง “โอ๊ย”
นักปราชญ์หัวเราะตามมาทัน “เป๋...แล้วยังจะวิ่งอีก”
พลอยทำเป็นหวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่น “อย่า..อย่าทำอะไรฉันเลยนะ...ฉันขอล่ะ” พร้อมกับจะยกมือไหว้
นักปราชญ์จับมือพลอยไว้ “ความจริง..ฉันก็ไม่อยากกินของเหลือเดนไอ้เกรียงศักดิ์หรอกนะ แต่ในเมื่อไอ้เพชรมันรักแก สิ่งเดียวที่ฉันจะทำลายไอ้เพชรได้ คือทำลายแก!”
พลอยอ้อนวอนขอร้อง “ฉันขอร้องล่ะ อย่า”
“เก็บปากไว้บอกไอ้เพชรดีกว่า ว่าฉันทำอะไรกับแก นังพลอย”
นักปราชญ์กระชากพลอยเข้ามา ทำท่าจะปล้ำจูบ พลอยร้องเอามือป้อง ประสานสายตาวาบหวามยั่วยวน
“งั้น ช่วยสาธิตอย่างละเอียดให้ฉันจำได้ทุกขั้นทุกตอนด้วยนะ”
นักปราชญ์งวยงง มองอย่างไม่เข้าใจ พลอยเอามือไล้เบาๆ รอบดวงหน้านักปราชญ์ ตาเป็นประกายเชิญชวน
“ความจริง ฉันก็ไม่ได้รังเกียจคุณนะ แต่คุณเป็นผู้ชาย อย่าทำเลย ปลุกปล้ำขืนใจผู้หญิงน่ะ มันไม่แมน” นักปราชญ์ยิ่งงง “เอาเป็นว่า...ฉันเต็มใจให้คุณเองแล้วกัน”
พลอยหัวเราะระริกมีจริต แต่หากนักปราชญ์จะรู้ เสียงหัวเราะของพลอยมันช่างดังน่ากลัว
ด้านเพชรขับรถมาตามทาง หน้านิ่ว น้ำหนึ่งเป็นห่วง รู้ว่าเพชรกังวล
“นี่ถ้ารถไม่เสีย เราคงถึงบ้านเชิงเขานานแล้ว งั้นเราแจ้งตำรวจดีมั้ยคะพี่เพชร”
“แค่คำขู่ เจ้าหน้าที่คงไม่รับแจ้ง”
“แต่เราโทร.ไปบอกได้นี่คะ...ว่ากลัวจะมีเรื่องไม่ดี อยากให้เค้าช่วยมาดูหน่อย” พูดจบน้ำหนึ่งก็กดสายโทร.ออกทันที “191 นะคะ”
พลอยแกล้งทำท่าเชิญชวน และยั่วยวนพานักปราชญ์มายังลานกว้างด้านหลังบ้านเชิงเขา ในมือของพลอยถือขวดเครื่องดื่มมาด้วย
“ฉันชอบดื่ม...เราดื่มกันซักหน่อยนะคะ” พลอยเอามือคล้องแขนนักปราชญ์ ทำท่าจะดื่ม แต่เปลี่ยนใจ “คุณดื่มก่อนดีกว่า”
นักปราชญ์ดื่มเครื่องดื่มจากขวด พลอยยิ้มพอใจบอก
“อร่อยมั้ยคะ? ไวน์ผลไม้ ฉันทำเอง”
“ก็ดี”
“ดื่มเยอะๆนะคะ ดื่มเยอะๆ” พลอยจะให้ดื่มอีก
นักปราชญ์ปัดมือออก “อย่าลีลา ยังไง เธอก็ต้องเป็นของฉันอยู่ดี”
“เหรอ” พลอยย้อน ดวงตามองมาเหี้ยมเกรียมแกมเย้ยหยัน “คิดว่าอย่างนั้นเหรอ”
นักปราชญ์หัวเราะ เหี้ยมโหดพอกัน “งั้นเธอก็คิดถูกแล้ว ว่ามันไม่ใช่”
คราวนี้พลอยเป็นฝ่ายงงเอง นักปราชญ์เอามือบีบปากพลอยอย่างแรง
“เธอคิดเหรอ ว่าคนที่เพียบพร้อมทุกอย่างอย่างฉัน จะพิศวาสผู้หญิงที่ทั้งแก่ ขาเป๋
แถมยังเป็นเมียน้อยคนอื่นอย่างเธอ...” นักปราชญ์กระแทกเสียงเย้ย “มันไม่มีทาง”
พร้อมกันนั้นนักปราชญ์ผลักพลอยอย่างแรง จนพลอยล้มลง นักปราชญ์เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ยิ้มเหี้ยม “อยากรู้มั้ย ฉันจะทำยังไงให้ไอ้เพชรกระอักเลือด”
นักปราชญ์กระชากตัวพลอยเข้ามาอย่างแรง พลอยเนื้อตัวสั่น เพราะนักปราชญ์ดูเหี้ยมโหดกว่าที่คิด
ด้านทับทิมวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในบ้าน ร้องเสียงดังด้วยความเป็นห่วง
“พลอย..พลอย”
เงียบไม่มีเสียงตอบรับของพลอย ทับทิมยิ่งหน้าเสีย ด้านนวลรู้สึกตัวร้องครวญคราง ทับทิมหันไปเห็น
“นวล!” ทับทิมรีบปราดเข้าไปประคอง
นวลครางเสียงแผ่วๆ “ทับทิม”
“ไอ้นักปราชญ์มันทำเธอใช่มั้ย” นวลพยักหน้า ทับทิมด่าทันที “อยากสาระแนดีนัก สมน้ำหน้า!” ทับทิมผลักนวลออก ยังโกรธอยู่
นวลล้มลงกับพื้นไปอีก ร้องไห้ “ก็ฉันไม่รู้นี่ทับทิม ฉันบอกเธอแล้วว่าไม่รู้” พูดถึงตรงนี้นวลตาวาวโรจน์โกรธแค้นขึ้นมา “แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ฉันจะร่วมมือกับเธอทุกอย่าง แฉไอ้นักปราชญ์ ฉันจะเป็นพยานเอง มันฆ่าตาหวาน”
ทับทิมพอใจ “จุดจบของแกมาถึงแล้ว ไอ้นักปราชญ์”
ตัวละครพลอย นักปราชญ์
นักปราชญ์กระชากพลอย พลอยเนื้อตัวสั่น กลัว นักปราชญ์มองเยาะเย้ย
“อยากรู้แล้วใช่มั้ย ฉันจะทำอะไรกับเธอ ฉันจะส่งเธอให้ลูกน้องฉันที่มีเป็นสิบ หลังจากนั้นฉันจะถ่ายคลิปประจาน แล้วก็แล่เนื้อเอาเกลือทา อยากรู้เหมือนกัน ว่าน้ำหน้าอย่างไอ้เพชร มันจะทำอะไรฉันได้” นักปราชญ์ยิ้ม กลอกตาหลอนๆ จิตพอกัน “แต่ตอนนี้...สิ่งที่ฉันจะทำกับเธอเป็นอย่างแรกคือ...”
พลอยปากคอสั่นกลัว “แกจะทำอะไร”
“ทรมานแกเล่น นังเป๋!” นักปราชญ์ผลักร่างพลอยไปสุดแรง
พลอยร้องสุดเสียงขณะที่ร่างก็กลิ้งหลุนๆ ลงเนินเขาไป นักปราชญ์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ฟากทับทิมที่กำลังประคองนวลที่มีท่าทีเจ็บปวดขึ้นมาได้ยินเสียงพลอยร้องโหยหวน
“พลอย”
“ไอ้นักปราชญ์”
ทับทิมผละจากนวลจะไป นวลร้อง
“ฉันไปด้วย”
ทับทิมสั่งเสียงเหี้ยม “ไม่ต้อง แล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อย่าลืมที่เธอบอก เธอจะอยู่ข้างฉัน”
“แน่นอน!” ทับทิมผละไปทันที นวลมองตามสายตาบ่งบอกโกรธแค้นนักปราชญ์มากๆ
ร่างของพลอยกลิ้งหลุนๆ จนหยุดนิ่งอยู่ที่พื้น พลอยร้องโอดครวญ นักปราชญ์ตามไปหัวเราะเยาะดังลั่น จ้องหน้าพลอย
“ไง..นังเป๋...สนุกมั้ย ฉันสนุกว่ะ สนุกมาก แต่ฉันไม่อยากเล่นสนุกคนเดียวแล้ว ฉันจะส่งแกไปให้ลูกน้องฉันมันเล่นดีกว่า”
นักปราชญ์ล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋า โทร. ออก “เฮ้ย! พวกแก”
จังหวะนี้ทับทิมย่องมาทางด้านหลัง พร้อมท่อนไม้ขนาดเหมาะมือฟาดเข้าที่ด้านหลังของนักปราชญ์เต็มแรง นักปราชญ์ร้องโอ๊ยสุดเสียง ล้มลงไป แต่ตั้งสติได้ ทำท่าจะล้วงกระเป๋าหยิบเอาปืนออกมา ทับทิมฟาดเข้าที่ท่อนแขนนักปราชญ์อย่างแรง ก่อนจะฟาดเข้าที่ด้านหลังอีก
จนนักปราชญ์ชักกระแด่วๆ
พลอยยืนมอง หัวเราะลั่นอย่างสะใจ
“เหมือนปลาที่ถูกทุบหัวยังไงยังงั้น แต่ฉัน...อยากให้แกสนุกมากกว่านี้” พลางหันไปบอกทับทิม “แม่...พลอยขอ”
ทับทิมยื่นไม้ให้ลูกสาว พลอยรับไม้มา นักปราชญ์ร้องลั่น
“อย่า..อย่าทำฉัน พอแล้ว ฉันเจ็บ”
พลอยหัวเราะ “อ้อ! กลัวฉันจะทุบงั้นเหรอ ฉันไม่ทุบแกหรอก แต่ฉัน....จะจับแกย่าง เหมือนปลา ที่ถูกเสียบในไม้” พลอยลูบไม้ในมือไปมา
นักปราชญ์ถอยหลัง มองลนลาน ท่าทางหวาดกลัว “แกจะทำอะไร”
“ก็เหมือนปลาถูกย่างไงไอ้โง่”
“ไม้ท่อนนี้ มันจะถูกยัดเข้าปากแก” พลอยเงื้อไม้ในมือขึ้นหมายจะยัดแทงเข้าปาก
นักปราชญ์ร้องสุดเสียง “อย่า
พลอยเงื้อไม้จะแทงนักปราชญ์ นักปราชญ์กลั้นใจครั้งสุดท้ายเอามือดึงไม้เอาไว้ สองคน
ยื้อไม้กันไปมา นักปราชญ์กระชากอย่างแรง จนไม้มาอยู่ในมือ
“แกตายแน่!นังเป๋!” จากนั้นก็กระหน่ำฟาดพลอยอย่างแรง
พลอยร้องสุดเสียง ด้วยเจ็บปวดทุรนทุราย
ทับทิมร้องแทบจะขาดใจ “พลอย” ปราดไปหาลูกสาว
นักปราชญ์กระชากร่างทับทิมอย่างแรง “มานี่”
พลอยผงะ เมื่อร่างของทับทิมอยู่ในมือของนักปราชญ์ พลอยร้องลั่น
“อย่าทำอะไรแม่ฉันนะ”
“งั้นแกก็เลือกเอา...จะให้ฉันทำแม่แก หรือ แก”
ทับทิมกับพลอยมองหน้ากันด้วยความเป็นห่วง นักปราชญ์หัวเราะเยาะ
“แต่ฉันไม่วิปริตซาดิสต์ โรคจิตอย่างพวกแกหรอก ฉันขอ..โป้งเดียวพอ”
นักปราชญ์ล้วงปืนออกมา พลอยกับทับทิมมองปืนนิ่งใจเต้นรัว
ฟากเพชรกับน้ำหนึ่งขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านพอดี เพชรบอกเสียงรัวเร็ว
“เร็วน้ำหนึ่ง”
สองคนวิ่งเข้าไปด้านใน
นวลซึ่งพยายามกัดฟันลุกขึ้นจะตามทับทิมไป เจอเพชรกับน้ำหนึ่งวิ่งเข้ามา สองคนงงที่เห็นนวล
“ป้านวล”
นวลสะดุ้งหันกลับมามอง “คุณน้ำหนึ่ง” มองไปยังเพชร อย่างเต็มตาเป็นครั้งแรกที่ได้รู้ว่า
เป็นลูก “เพชร...” ร้องไห้ทันที “เพชรลูกแม่!”
เพชรกับน้ำหนึ่งมองหน้ากัน งุนงง ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ขณะที่นวลโผเข้มากอดเพชรร้องไห้โฮๆ ละล่ำละลักบอก
“เพชร เพชรลูกแม่..แม่ขอโทษลูก แม่ขอโทษ”
“อะไรครับป้านวล” เพชรดันตัวนวลออก มองหน้า งงมาก
ขณะเดียวกันนักปราชญ์ล็อกคอทับทิมเอาไว้ มองมายังพลอยแล้วหัวเราะ
“ฉันเลือกให้ แกมองแม่แกถูกฆ่าต่อหน้าแล้วกัน”
“แม่”
พลอยร้องสุดเสียงขณะที่นักปราชญ์เหนี่ยวไกปืนออกไปเสียงดังเปรี้ยง
นวล เพชร และน้ำหนึ่งได้ยิน
“เสียงปืน”
“ไอ้นักปราชญ์!”
เพชรตะลึง หน้าซีดเผือด ผละไปตามเสียงอย่างรวดเร็ว นวลเกาะน้ำหนึ่ง ที่จะตามเพชรไป
“คุณน้ำหนึ่ง ไปด้วยๆๆ”
น้ำหนึ่งงง ไม่เข้าใจ แต่ประคองนวลไปด้วยทันที
พลอยร้องไห้ออกมาปิ่มว่าจะขาดใจ ขณะที่นักปราชญ์หัวเราะลั่น
“ยัง...ฉันยังไม่ได้ยิงแม่แก”
ทับทิมยืนหน้าซีด หัวใจจะวาย นึกว่าตายไปแล้ว นักปราชญ์เย้ยต่อ
“ฉันแค่ยั่วประสาทแกสองคนเล่น แต่...ต่อไป คือของจริง!”
นักปราชญ์พูดไม่ทันจบ ทับทิมเอาศอกกระทุ้งเข้าที่ท้องนักปราชญ์ และกระทืบเข้าที่เท้า
อย่างแรง นักปราชญ์ที่ไม่ทันระวังตัวร้องลั่น ตัวงอ ทำท่าจะเซล้มลง เร็วเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด พลอยคว้าไม้ทุบเข้าด้านหลังอย่างแรง จนนักปราชญ์เสียหลักล้มลงปืนหล่น ทับทิมคว้าปืนมาเล็งใส่
“แกตาย”
นักปราชญ์ร้องลั่น “อย่า”
พลอยบอกเสียงเยียบเย็น “อย่าค่ะแม่”
“ทำไมพลอย”
“คนอย่างมัน ตายด้วยลูกปืน มันดีเกินไป” พลอยฟาดนักปราชญ์อีก ฟาดๆๆ จนแน่ใจว่านักปราชญ์หมดทางสู้
“อย่า..พอแล้ว อย่าทำอะไรฉัน ...ฉันไหว้ล่ะ”
พลอยยื่นเท้าออกไป นักปราชญ์มองเท้าพลอยก่อนเงยขึ้นมองหน้า ต้องไหว้จริงเหรอ
พลอยหัวเราะร่วน “แกบอกเองไม่ใช่เหรอ กราบเท้าฉันสิ กราบเท้าฉันเลย”
“เอ่อ” นักปราชญ์หน้าแหยหมดท่า
พลอยหัวเราะ “ไม่ต้องหรอก..เพราะฉันก็ไม่อยากให้เท้าฉันต้องแปดเปื้อน กับคนเลวๆ
อย่างแก” ว่าพลางพลอยกระชากคอเสื้อนักปราชญ์ขึ้นมา
“แกจะทำอะไรฉัน”
ไม่มีใครตอบ พลอยตรงเข้าไปกระชากลากนักปราชญ์ ขณะที่ทับทิมเอาปืนขู่ตลอดเวลา
เพชรวิ่งมาตามทางด้านนอกตัวบ้าน ตะโกนร้องลั่นด้วยความเป็นห่วง
“พี่พลอย แม่ พี่พลอย”
น้ำหนึ่งประคองนวลตามมา สองคนหน้าตาเป็นกังวล นวลร้องไห้ครวญคร่ำ
“แม่ไม่น่าเลย แม่ไม่น่าเลย”
เพชรมองหน้านวล งงๆ มาเรียกอะไร น้ำหนึ่งเองก็งง เสียงของนักปราชญ์แหกปากร้องลั่น
“แกจะทำอะไรฉัน นังบ้าพลอย แกจะทำอะไรฉัน”
“พี่พลอย” เพชรตามเสียงไปทันที
พลอยกระชากลากนักปราชญ์มาที่บริเวณที่ดื่มไวน์ พอมาถึงพลอยก็คว้าขวดไวน์ขึ้นมายื่นให้นักปราชญ์
“กิน”
นักปราชญ์มองงงๆ “ไม่”
“จะกินหรือจะให้กรอก”
นักปราชญ์งง ชักเริ่มสงสัย ทำไมต้องให้กินไวน์ ทับทิมที่ประกบตลอดเวลา ตะคอก
“เอ้าไอ้นี่! ไม่เข้าใจภาษาคนหรือไง จะให้กินหรือจะให้กรอก”
นักปราชญ์งง “กินๆ” ยอมกินแต่โดยดี เพราะเคยกินมาแล้ว ไม่ได้มีอะไร สงสัยจะให้กินทำไม
“กินให้หมด”
พลอยกับทับทิมมองจ้อง ถ้าขัดคำสั่ง ตายแน่ๆ ทุกครั้งที่นักปราชญ์ออกอาการต่อต้าน
จะถูกเอาปืนขู่ นักปราชญ์กรอกไวน์เข้าลำคอ พลอยถามเสียงเย็น
“แก..รู้มั้ย ฉันผสมอะไรลงไปในนั้น”
นักปราชญ์ชะงัก พลอยไม่ได้พูดต่อ ทับทิมเป็นฝ่ายที่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ยาวิเศษ เหมือนกับที่ฉันผสมให้แม่แกกับแกกินที่กรุงเทพฯ จนแม่แกเดี้ยงต้องไป
นอนโรงพยาบาล และล่าสุด แม่แกมันตายไปแล้วมั้ง” ทับทิมว่า
นักปราชญ์งุนงง ไม่เข้าใจ ขณะที่กรดกำมะถันจากไวน์ที่ดื่มไปจนหมดขวด เริ่มออกฤทธิ์
นักปราชญ์มีอาการตาลาย อาเจียน อย่างทรมานจนล้มทรุดลงไป สองแม่ลูกหัวเราะร่วน
“แม่แกก็เป็นอย่างนี้แหละไอ้นักปราชญ์” ทับทิมหัวเราะลั่น ผลักหัวนักปราชญ์ “แม่แกก็
เป็นแบบนี้แหละ”
เพชร น้ำหนึ่ง และนวล วิ่งเข้ามาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ทุกคนเห็น พลอยกับทับทิมเหมือนคนบ้า ขณะที่นักปราชญ์หมดสภาพ พลอยบอกด้วยท่าทีหลอนๆ
“ยาวิเศษของฉัน มันจะทำให้แกตายลงเดี๋ยวนี้แหละ ไอ้นักปราชญ์”
พูดจบพลอยก็คว้าขวดไวน์มากรอกเข้าที่ปากนักปราชญ์ เพชรร้องลั่น
“อย่าพี่พลอย อย่า” เพชรเข้ามาห้าม
นักปราชญ์ฉวยโอกาสนั้น รวบรวมกำลังครั้งสุดท้ายผลักทับทิมสุดแรง จนทับทิมล้มลง
ปืนกระเด็น นักปราชญ์คว้าปืนทันที และเล็งมาที่ทุกคน น้ำหนึ่งกะนวลร้องลั่น
“อย่า!อย่า”
คราวนี้นักปราชญ์เป็นต่อ หัวเราะลั่น เบนกระบอกปืนมาที่นวลและทับทิม
“มาพร้อมหน้าพร้อมตากันพอดีเชียวนะ งั้น แกเลือกเอาแล้วกันไอ้เพชร ว่าจะให้
ฉันยิงใครก่อน” นักปราชญ์เบนกระบอกปืนมาใส่ทีละคน “พี่บ้าๆของแก เมียชั่วๆ ของแก หรือ จะเป็น...” นักปราชญ์พูดช้าๆ “แม่...” ส่ายปืนมาที่ทับทิม “แม่ที่เลี้ยงแกมา หรือ” แล้วเบนมาที่นวล “แม่แท้ๆ ของแก”
เพชรงง นวลร้องไห้โฮออกมา
“เพชร..แม่ขอโทษ..แม่ขอโทษ”
เพชรมองนวลงงๆ “แม่”
“ก็นี่แหละ แม่แท้ๆ ของแก” นักปราชญ์กระชากตัวนวลมาอย่างโกรธแค้น
เพชรมองที่ทับทิม ทับทิมบอก
“นี่แหละเพชร...แม่แท้ๆ ของลูก”
เพชรตะลึงอึ้ง “แม่”
“แกเลือกเอาแล้วกัน ว่าจะให้ฉันยิงใครก่อน” นักปราชญ์เบนกระบอกปืนมาที่นวลสลับกับ
ทับทิม ก่อนหัวเราะร่า “อย่าเลย...พวกแกตายพร้อมๆ กันเลยดีกว่า”
นักปราชญ์กลั้นใจจะยิงปืน แต่อาการกำเริบ พลอยเห็นบอกเสียงเยือกเย็น
“แกฆ่าใครไม่ได้หรอก เพราะแกกำลังจะตาย”
นักปราชญ์อาการกำเริบหนัก อาเจียน จนตัวงอ
“ตายแบบไม่มีโอกาสได้ออกไปร้องขอความเป็นธรรมกับใคร” พลอยเยาะ
“แกจะถูกฝังเป็นผีเฝ้าไร่” ทับหัวเราะเสียงหลอนๆ “เหมือนๆ กับ...”
“พ่อของฉัน” พลอยบอก
ทุกคนมองตะลึง สภาพของพลอยกับทับทิมเหมือนบ้าเต็มที่ เหมือนอยู่กันคนละโลก ขณะที่นักปราชญ์อาการรุนแรงหนักขึ้น ทรุดตัวลงไปกองกับพื้น อาเจียน ทุรนทุราย
พลอยกับทับทิมหัวเราะเหมือนคนบ้า เพชรมองภาพตรงหน้าสะท้อนใจ สงสารแม่กับพี่สาว ขณะที่ก็รู้สึกอื้ออึงกับสิ่งที่ได้รู้ พ่อถูกฝังอยู่ในไร่ ทับทิมนั่งลงเอามือลูบหัวนักปราชญ์ท่าทีหลอนๆ
“จำความรู้สึกนี้ไปคุยในนรกกับแม่แกนะ เพราะก่อนตาย แม่แกก็มีสภาพทุเรศๆ แบบนี้เหมือนกัน”
ปืนที่ทับทิมถือในมือจ่ออยู่หน้าของนักปราชญ์ ทับทิมนั่งชันเข่าลืมตัว
นักปราชญ์จ้องมองที่ปืนนิ่ง คิดในใจ เอาวะตายเป็นตาย ขณะที่เพชรทนดูไม่ได้บอก
“แม่ พี่พลอย....พาเค้าส่งรพ.เถอะครับ”
“แกบ้าไปแล้วเหรอเพชร ถึงได้พูดอย่างนี้ ไอ้บ้านี่มันจะฆ่าแม่ ฆ่าพี่ ฆ่าเมียของแกนะ”
“แต่ผมไม่อยากให้แม่ พี่พลอย ฆ่าคนตาย” เพชรบอก
“มันสมควร” พลอยบอก
จังหวะนี้รถตำรวจแล่นมาจอด พร้อมๆ กับตำรวจ 2-3 นายก้าวลงมา ตำรวจกวาดตามอง
“นี่ล่ะบ้านเชิงเขา ที่มีคนแจ้งให้เรามาดู”
ด้านทับทิมตะคอกใส่เพชร
“ใช่! ไอ้นี่มันสมควรตาย”
“พวกแกต่างหาก”
นักปราชญ์กระชากปืนจากทับทิมอย่างแรง แล้วยิงปืนใส่ทับทิมและกราดยิงคนอื่นๆ อย่างบ้าคลั่ง สภาพขณะนี้ ชุลมุนมาก ตำรวจที่กำลังเดินเข้ามาได้ยิน
“เสียงปืน” ตำรวจวิ่งตามเสียงไป
เพชรกอดน้ำหนึ่งที่ซุกอยู่กับอกปกป้อง พลอยร้องกรี๊ดๆ ร้องไห้โฮๆ
“แม่..แม่”
เพชรหันไปมอง เห็นทับทิมนอนจมกองเลือด ข้างๆ คือนักปราชญ์ที่นอนหรี่ตาจวนจะหมดลม
เพชรตะโกนสุดเสียง “แม่”
นวลตะลึง “ทับทิม”
พลอยตะโกนก้อง “แกตาย!”
พลอยตรงมาคว้าปืนจากมือของนักปราชญ์ที่นอนอยู่ แล้วยิงใส่นักปราชญ์อย่างแค้นจัด
นักปราชญ์ร้องสุดเสียง ร่างกระตุก ขณะที่ตำรวจวิ่งเข้ามาเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้าพอดี นั่นคือพลอยฆ่าคน!
“หยุดนะ” ตำรวจตะโกนก้อง
“ตำรวจ” น้ำหนึ่งหันมามองพลอยอย่างเป็นห่วง
พลอยตะลึงอึ้ง ตื่นตกใจ “ตำรวจ”
พลอยถือปืนอยู่ มองมาอย่างหวาดกลัว ปฏิเสธลั่น
“ไม่นะ ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้ทำ!”
พลอยทิ้งปืนแล้ววิ่งลนลานขากระเผลกหนีไป เพชรร้องลั่น
“พี่พลอย” เพชรหันไปมองพลอย เห็นทับทิม “แม่”
เพชรรีบมาหาทับทิมทันที ตำรวจสองนายรีบตามพลอยไป
พลอยวิ่งระหกระเหินหนีตำรวจมาตามทางซึ่งทั้งรกและเปลี่ยว ขณะที่ตำรวจวิ่ง
ตาม แต่พลอยชำนาญพื้นที่กว่า จึงเร้นกายหายไปอย่างรวดเร็ว
เพชรประคองร่างของทับทิมที่กำลังจะสิ้นลม กอดแน่น มีนวลเข้ามาหาทับทิมร้องไห้โฮๆ
“ทำใจดีๆนะครับแม่ ผมจะพาแม่ส่งโรงพยาบาล” เพชรจะอุ้มขึ้น
ทับทิมเอ่ยขึ้น “เพชร! พลอยรักเพชรมาก อย่าทิ้งพี่นะลูก” แล้วหันมาทางนวล จับมือนวลไว้มาจับมือเพชร “นวล...ดูแลลูกของเราด้วย” พูดจบทับทิมก็สิ้นใจตาย
“แม่!”
“ทับทิม!”
น้ำหนึ่งอึ้ง มองภาพตรงหน้าด้วยความเศร้า สลดใจ
วันต่อมาเกรียงศักดิ์ บอกกับอารีย์ที่นอนซมอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล
“ผมเสียใจด้วยนะครับ แต่ผมคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะเกิดเรื่องราวรุนแรงขนาดนี้”
“เพราะท่านนั่นแหละ ท่านเป็นคนไปพัวพันกับนังพลอย ทำให้ทุกอย่างต้องเป็นอย่างนี้” อารีย์ร้องไห้โฮแทบขาดใจ “ลูกฉัน..ลูกฉัน..นักปราชญ์”
สมบัติกอดอารีย์ปลอบ บอกเกรียงศักดิ์ “นี่ถ้าใจพาคุณอารีย์ส่งโรงพยาบาลไม่ทัน ก็คง…”
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี คุณก็เหมือนกัน ไปเกลือกกลั้วกับของโสมม เรื่องถึง
ได้เป็นแบบนี้ นังทับทิมมันจะฆ่าฉัน” อารีย์มองเกรียงศักดิ์ “นังพลอย มันก็ฆ่านักปราชญ์ ฉันไม่มีทางปล่อยมันไปแน่ ฉันจะลากคอมันเข้าคุกให้ได้”
อารีย์แค้นสุดๆ
อ่านต่อหน้า 2
มารกามเทพ ตอนที่ 17 อวสาน (ต่อ)
อลิสอยู่ในชุดดำไว้ทุกข์ให้หมอณัฐ เดินเข้ามาในห้องโถง บอกเกรียงศักดิ์ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง อาการกราดเกรี้ยว
“อลิสก็จะทำทุกอย่าง ลากคอนังพลอยบ้า เข้าคุกให้ได้ หล่อนฆ่าพี่หมอ หล่อนทำให้ครอบครัวอลิสสูญเสีย จนป่านนี้คุณลุงคุณป้ายังทำใจไมได้เลย”
เกรียงศักดิ์ลำบากใจ “อลิส ก็รู้ว่าเค้าเป็น...บ้า”
“คนบ้า ฆ่าคนไม่ผิดเหรอคะ” อลิสมองไปทางดาราณีที่ยืนหน้าซีดอยู่ “นี่ถ้าอลิสเป็นคุณน้า อลิสคงกัดลิ้นตายไปแล้วล่ะ ที่จนป่านนี้ คุณน้าผู้ชายยังปกป้องเมียน้อยอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ทั้งๆที่มันทำให้คุณน้าพิการ”
ดาราณีพยายามข่มใจตัวเอง “ทุกอย่าง ล้วนมีเหตุและผลของมัน น้าให้อภัยพลอย”
อลิสมองคาดไม่ถึง พูดเยาะหยัน “อลิส เคยว่าพวกผู้หญิงบ้าๆ ที่ให้อภัยผู้ชายที่ไปมีเมียน้อย ไม่คิดจริงๆ ว่า ผู้หญิงโง่ๆ คนนั้น จะเป็นคุณน้า”
เกรียงศักดิ์โกรธ “อลิส”
“คุณน้าจะไม่เอาผิดนังพลอยบ้าก็ตามใจ แต่อลิสจะเอาผิดมัน ต่อให้มันเป็นบ้าอลิสก็จะลากคอมันเข้าคุก คอยดู” อลิสเดินปึงปังไป ท่าทางโกรธจัด
ดาราณีหน้าซีด เกรียงศักดิ์จับมือไว้ สีหน้าแสดงความเสียใจอย่างที่สุด
“ผมขอโทษคุณหญิง ขอโทษ”
“ฉันเข้าใจคุณค่ะ เข้าใจพลอย เข้าใจทุกคน...ใครจะว่าฉันโง่ ฉันบ้าก็ช่าง แต่ฉันรู้ ตัวฉันดี ว่าฉันทำทุกอย่างเพื่อคนที่ฉันรัก ไม่งั้นความแค้นคงไม่จบไม่สิ้น นั่นคือ ฉันเลือกที่จะให้อภัย”
เกรียงศักดิ์เต็มตื้น “ขอบคุณมาก ผมโชคดีจริงๆ ที่ได้คนอย่างคุณหญิงเป็นคู่ชีวิต ผมสัญญาตั้งแต่วันนี้ไป ผมจะทำแต่สิ่งที่ดี เพื่อทดแทนสิ่งที่ผมได้พลาดไปโดยเฉพาะสิ่งที่ผมทำกับพลอย”
ดาราณีมองเกรียงศักดิ์ อย่างเข้าใจ เกรียงศักดิ์พูดต่อ
“ต่อให้พลอยเสนอ ถ้าผมไม่สนอง เรื่องทุกอย่างก็จะไม่เกิดขึ้น ผมเป็นผู้ชายทุกอย่างเป็นความผิดของผมเอง!!”
เย็นนั้นควันสีขาวจากปล่องควันของเมรุลอยละล่องขึ้นสู่ท้องฟ้า เพชรได้แต่มองเศร้าใจ นวลปลอบ
“เพชร..แม่ขอโทษ...มันเป็นความผิดของแม่เอง ถ้าแม่ไม่ไปยุ่งกับไอ้นักปราชญ์”
“เรื่องมันผ่านไปแล้ว เราอย่าพูดถึงมันเลยครับ” เพชรยังไม่เรียกนวลว่าแม่ มองฟ้าพึมพำ “ไปสู่สุขคตินะครับแม่ ผมจะดูแล ผมจะไม่ทิ้งพี่พลอย”
น้ำหนึ่งมองเพชร ด้วยความสงสารและเห็นใจ ได้แต่กุมมือเพชรเอาไว้ให้กำลังใจ เพชรได้แต่มองท้องฟ้านิ่งนาน สายตามีแต่ความว้าวุ่นทุกข์ใจ นวลถาม
“แล้วนี่เพชรพอจะรู้มั้ยลูก ว่าพลอยอยู่ที่ไหน”
เพชรมองนวลอย่างชั่งใจ ไม่แน่ใจเหมือนกัน นวลบอก
“นี่เพชรกลัวว่าแม่จะปากโป้ง จนเป็นเรื่องอย่างที่ผ่านมาเหรอลูก” นวลน้ำตาคลอ “แม่บอกแล้วไง ว่าแม่ไม่รู้ เพราะถ้าแม่รู้ แม่ไม่มีทางเห็นคนอื่นดีกว่าลูกแน่”
“เป็นเพราะ...ป้านวลรักน้ำหนึ่ง” น้ำหนึ่งกอดนวลเอาไว้
เพชรบอกกับนวล ยกมือไหว้ “ผมขอโทษครับ แต่ผมยังทำใจไม่ได้ ผมขอเก็บเรื่องของพี่
พลอย ไว้เป็นเรื่องส่วนตัว”
“แปลว่า...พี่เพชรรู้ใช่มั้ยคะ ว่าพี่พลอยอยู่ไหน”
เพชรนิ่งไม่ตอบคำถามน้ำหนึ่ง
ในหุบเขากลางป่าเปลี่ยว มีกระท่อมเล็กๆ แฝงอยู่ในนั้น ส่วนด้านในเห็นร่างของพลอยซุกอยู่มุมหนึ่ง เนื้อตัวสั่น ทั้งกลัว และหวาดระแวงทุกสิ่งอย่าง คุมตัวเองไม่อยู่ ขณะที่ปากพึมพำ
“แม่..แม่อยู่กับพลอยนะ..แม่อย่าไปไหน พลอยกลัว”
ทับทิมสภาพเป็นเงาเลือนราง ปรากฎตัวขึ้น
“เออ แม่ไม่ไปไหนหรอก แม่จะอยู่กับแก ไปตามเพชรกลับมาแล้วกัน”
“ค่ะ..พลอยจะไปตามเพชรกลับมา”
เช้าวันต่อมาที่โรงพยาบาล อลิสเดินลิ่วมาหน้าตาร้อนรน เปิดประตูผลัวะเข้าไปยังห้องของพจนีย์ เห็นเตียงว่างเปล่า อลิสใจหายวับ เจ้าหน้าที่พยาบาลเดินเข้ามามองอลิสแปลกใจ
อลิสถามทันที “คนไข้เตียงนี้ไปไหนคะ”
“คุณพจนีย์?” พยาบาลถาม
“ค่ะเค้าไปไหน...” อลิสหน้าเสีย “อย่าบอกนะคะว่า..เค้าเสียแล้ว”
“เค้าหายแล้วต่างหากล่ะคะ”
อลิสถามรัวเร็ว “หายแล้ว...แล้วตอนนี้ เค้าอยู่ที่ไหน”
ขณะที่พจนีย์มีสีหน้าเศร้าหมองกำลังจะเดินออกจากโรงพยาบาล อลิสรีบตามไปร้องเรียก
“พจนีย์”
พจนีย์มองอลิสอย่างประหลาดใจ อลิสโพล่งทันทีตามนิสัย
“รู้มั้ยฉันดีใจมากเลยที่เธอฟื้นขึ้นมา เราต้องช่วยกันนะพจนีย์”
พจนีย์ยังงงอยู่ “ช่วยอะไร”
อลิสชักหงุดหงิด “จะช่วยอะไร ก็จับยัยพลอยบ้าเข้าคุกสิ มันฆ่าน้องเธอไม่ใช่เหรอ แล้ว
มันก็ยังฆ่าพี่ฉัน”
สีหน้าของพจนีย์เต็มไปด้วยความเจ็บปวด อาฆาตแค้น และชังชัง อลิสบอกย้ำ
“เราต้องช่วยกันนะพจนีย์”
“แน่นอน...ฉันไม่ให้น้องสาวฉัน ตายฟรีหรอก!”
ส่วนเพชรมองดูสภาพบ้านเชิงเขา ด้วยความปวดร้าว และทุกข์ใจ นวลบอก
“เพชรไม่ต้องห่วงนะ แม่จะมาดูแลทุกอย่างที่นี่ให้เอง...บ้านเชิงเขาจะต้องมีชีวิตเหมือนเมื่อตอนมี แม่ทับทิม มีพลอย”
“ยังไงมันก็ไม่มีทางเหมือนเดิมหรอกครับ”
นวลมองเพชรด้วยความเสียใจ “แม่รู้..ว่าแม่แทนที่ใครไม่ได้ แม่ก็แค่อยากทำหน้าที่ของแม่บ้างแต่ถ้าเพชรไม่ต้องการ....แม่จะไป” นวลก้มหน้าเดินร้องไห้ออกไป
เพชรมองตามชั่งใจ ก่อนร้องเรียก “แม่”
นวลค่อยๆ หันมา น้ำหนึ่งมองลุ้นเอาใจช่วย เพชรเดินไปสวมกอดนวลเอาไว้ นวลกอด
เพชรแน่น ร้องไห้โฮ
“แม่ขอโทษ ขอโทษนะเพชร แม่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“มันผ่านไปแล้วครับแม่..มันผ่านไปแล้ว ถึงเราจะเสียใจ มันก็ย้อนกลับคืนไปไม่ได้
อยู่ดี สู้ยอมรับ สิ่งที่มันเกิดขึ้นดีกว่า”
“แล้วพลอย?” นวลถามออกมา
เพชรยังไม่ทันถาม ตำรวจก็ก้าวเข้ามา ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกใจ
“เราได้รับการแจ้งความจากหลายคนครับ มีการฆาตกรรมเกิดขึ้นที่นี่ นี่หมายค้น”
ตำรวจยื่นหมายค้นมาตรงหน้า เพชรอึ้ง ใจหล่นวูบอยู่ตรงนั้น อลิสก้าวเดินเข้ามาพร้อมพจนีย์ อลิสบอกตาวาววับ
“ฉันกับพจนีย์นี่แหละเป็นคนแจ้งความเอง”
“พ่อแม่ของคุณนักปราชญ์ เค้าก็ไปแจ้งด้วยเหมือนกัน” พจนีย์บอก
เพชร น้ำหนึ่ง และนวล ได้แต่นิ่งงันไป เจ้าทุกข์อยู่ตรงหน้า
เวลาเดียวกันดาราณีนั่งดูข่าวทีวีอยู่ในห้องโถงคฤหาสน์ ขณะที่เกรียงศักดิ์เดินเข้าไปหา เสียงผู้สื่อข่าวรายงานในจอทีวีดังก้อง
“เกิดเหตุสยอง เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้น พบศพในบ้าน ในสภาพถูกโบกูปนเหี้ยมโหด แล้วยังพบศพถูกฝังในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย”
เกรียงศักดิ์หน้าแหย “ทำไมทุกวันนี้ ผู้คนใจคอถึงได้โหดเหี้ยมนัก ที่ไหนกันคุณ”
ดาราณีบอกหน้าซีดเสียงสั่น “บ้านเชิงเขาค่ะ”
เกรียงศักดิ์หันไปมองทีวี เห็นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นภายในบ้าน เห็นสภาพผนังครัวที่ถูกกะเทาะออก แล้วเจ้าหน้าที่ขนย้ายศพรจนาออกมา พจนีย์กอดศพร้องไห้โฮๆ อีกภาพเป็นภายในสวน มีเจ้าหน้าที่กำลังนำศพจินดาออกมา ก่อนที่จะเห็นเพชร น้ำหนึ่งและนวล ยืนหน้าซีดอยู่ในข่าว
ทั้งดาราณีและเกรียงศักดิ์ ได้แต่อึ้ง ตะลึงอยู่อย่างนั้น
ภายในบ้านเชิงเขา สภาพมีการถูกตรวจค้น เพชร น้ำหนึ่ง และนวลหน้าเครียดสลด ในขณะที่อลิสพูดปาวๆ
“สรุป....คนบ้านนี้ โรคจิตกันทั้งบ้าน แม่โชคดีอยู่หน่อยที่ชิงตายไปแล้ว แต่นัง
พลอยบ้า มันติดคุกหัวโตแน่”
น้ำหนึ่งมองเพชรอย่างเป็นห่วง “อลิสพูดจาอะไร คิดถึงใจคนฟังบ้างสิ”
“คิดถึงทำไม นังพลอยบ้ามันฆ่าพี่หมอ แล้วก็ยังวิปริตฆ่าคนอื่นๆ อีก คนแบบนี้
สมควรเหรอที่จะให้ลอยนวลน่ะ”
“ก็พี่พลอยเค้าไม่ใช่คนปกติ” น้ำหนึ่งท้วง
“งั้นก็แปลว่า คนบ้าฆ่าใครก็ได้งั้นสิ” พจนีย์ว่า
น้ำหนึ่ง เพชร และนวลได้แต่ยืนอึ้งหน้าซีด พจนีย์พูดต่อแบบไม่เกรงใจเพชร
“ต่อให้พี่พลอยเป็นบ้า พจนีย์ก็จะลากตัวมารักษาให้หาย หลังจากนั้น พี่พลอยต้องชดใช้ความผิดในตะราง”
เพชรลำบากใจ “พี่รู้ สิ่งที่พี่พลอยทำมันรุนแรง แต่พี่อยากขอพจน์”
อลิสตอบแทน “ขอก็ไม่ให้”
นวลฉุน “เพชรพูดกับคนอื่นไม่ใช่คุณ”
“ฉันมีสิทธิ์พูดแทนได้ เพราะฉันเป็นเจ้าทุกข์เหมือนกัน ต่อให้พจนีย์ใจอ่อนไม่เอา
ผิด ฉัน พ่อแม่คุณนักปราชญ์ก็ไม่มีทางยอมความ”
ระหว่างนี้ ดูเหมือนว่าทุกคนถูกใครบางคนจับตามองตลอดเวลา พจนีย์รู้สึกตัว หันขวับไปมองทางด้านนอกอีกมุม เหมือนเห็นดวงตาพลอยจับตามองอยู่ พจนีย์เนื้อตัวสั่นทั้งโกรธทั้งกลัว ขณะที่อลิสไม่รู้ตัวพูดเรื่อยๆ
“นังพลอยบ้ามันจะต้องได้รับโทษทัณฑ์ในสิ่งที่มันก่อ”
“คุณอลิส ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี กลับกันเถอะ” พจนีย์บอก
“กลับทำไม? ฉันยังด่าไม่เสร็จเลย” อลิสวึดวืออยู่อย่างนั้น
พจนีย์เร่งใหญ่ “กลับเถอะ”
“ทำไม? จู่ๆ ก็ตาขาว เธอเป็นอะไร”
พจนีย์มีท่าทีแหยงๆ “ฉันรู้สึกเหมือนพี่พลอยอยู่ที่นี่”
ทุกคนชะงักงันกันไป ต่างกวาดตาพรึ่บเหลียวมองทั่วบริเวณ อลิสก็ชะงักก่อนบอก
“ดีให้มันมาเลย ฉันจะจับมันเข้าคุก”
“เธอคิดว่า พี่พลอยจะให้เธอจับดีๆ เหรอ ฉันกลัว เธอจะเป็นศพรายต่อไปต่างหากกลับเถอะ ป่ะ” พจนีย์ลากแขนอลิสออกไป
“ไม่กลับ...ไปค้นหาตัวมันเลย” อลิสดึงดันจะเข้าไป
พจนีย์ดึงแขนเอาไว้ “อย่า...” พลางกวาดตามองทุกคน “ที่นี่มีแต่คนของเค้า เธอคิดว่าเค้าจะยอมให้เราสองคนจับพี่พลอยง่ายๆ เหรอ กลับเถอะ..เร็ว กลับ”
พจนีย์ลากแขนจนอลิสยอมเดินออกไป นวลหันไปมองเพชร
“เพชร พลอยอยู่ที่นี่เหรอ”
เพชรมีสีหน้าไม่แน่ใจ ก่อนผลุนผลันไปตรวจค้นรอบๆบ้านทันที โดยมีน้ำหนึ่ง นวล ตามไป
ตกตอนเย็นบรรยากาศที่ด้านนอกเงียบสงัด โพล้เพล้ ตะวันลาลับขอบฟ้าไปอย่างรวดเร็ว เพชรเดินนำทุกคนค้นหาตัวพลอยมุมต่างๆ
“พี่พลอย..พี่พลอย พี่พลอยอยู่ไหนครับพี่พลอย”
ตามมุมต่างๆ ไม่เห็นพลอย เพชรออกอาการกังวลเหมือนจะคลั่ง
“พี่พลอย”
น้ำหนึ่งแตะมือเพชรเอาไว้ “พี่เพชรคะ...สองคนนั้นอาจจะแค่พูดไปเรื่อยๆ น้ำหนึ่งว่า พี่
พลอยไม่ได้กลับมาหรอกค่ะ”
เพชรเสียงสั่น “พี่มั่นใจว่า...พี่พลอยกลับมาที่นี่”
นวลถามรัวเร็ว “ทำไมเพชร”
เพชรเบนสายตาไปมอง เห็นช่อดอกปีบสีขาวนวลทั้งช่อวางอยู่ ช่อยังสดใหม่ เหมือนเพิ่งถูกปลิดออกมา เพชรยืนอึ้ง นึกถึงภาพในอดีต
ตอนนั้นเพชรในสมัยยังหนุ่ม เล่นบาสอยู่ภายในบริเวณบ้าน พลอยในวัยสาว เดินเข้ามาพร้อมขนมน้ำดอกไม้
“เพชร...มากินขนมก่อน”
เพชรเลิกเล่นบาสหันมาหา “ขอบคุณครับพี่พลอย”
เพชรหันมารับจานขนมน้ำดอกไม้ในมือพลอย เห็นเป็นดอกปีบโรยหน้าขนมอยู่
“อ้าว! นี่ดอกอะไรครับ” เพชรหยิบขึ้นมาดม
“ดอกปีบจ้ะ”
“แล้วทำไมพี่พลอยไม่ใช้ดอกมะลิเหมือนเดิมล่ะครับ”
“ออกดอกไม่ทัน พี่เห็นบ้านเรามีดอกปีบ เลยเอามาใช้แทน หอมนะ”
“หอมมากครับ สวย...กลีบดอกเหมือนระฆัง ถ้าผมมีแฟน ผมจะเอาดอกปีบไปให้”
พลอยหัวเราะ “ทำไมล่ะจ้ะ”
“ไม่เหมือนใครดี....สวย หอม ดอกปีบ”
เพชรหยิบดอกปีบขึ้นมาดม
เพชรดึงตัวเองกลับมา หยิบช่อดอกปีบขึ้นมาทั้งช่อ มือสั่นระริก น้ำหนึ่งกับนวล ก็มองดวงตาหวาดหวั่น
“แปลว่า พจนีย์พูดถูก พลอยกลับมาแล้ว” นวลเอ่ยขึ้น
น้ำหนึ่งเสียงสั่นเป็นห่วง “งั้นพจนีย์กับอลิส ก็กำลังมีอันตราย”
น้ำหนึ่งพูดเท่านั้น เพชรก็วิ่งนำออกไปทันที
ที่บริเวณเชิงเขาด้านนอก มืดแล้ว พจนีย์กอดแขนอลิส ท่าทางหวาดกลัว
“ทำไมที่นี่มืดเร็วจัง น่ากลัวชะมัด” อลิสว่า
“นี่ถ้าฉันฉุกคิดตั้งแต่แรก ฉันต้องรู้ ว่าที่นี่เป็นแดนผีดิบ”
“ก็เธอมันโง่ ไม่เหมือนฉัน ฉันมองออกตั้งแต่ทีแรกว่ายัยพลอยมันไม่ปกติ”
“เอ๊ะ! เธอนี่ เรื่องอะไรมาด่ากัน”
“ด่าเพื่อเตือนสติถือว่าหวังดี”
“งั้นถือซะว่าฉันหวังดีต่อเธอเหมือนกันนะ เพราะความแส่ของเธอนั่นแหละ ทำให้เกิดเรื่องยุ่งๆ”
อลิสมองมาตาเขียวเสียงขุ่น “ยัยพจนีย์”
อลิสทำท่าจะมีเรื่องกับพจนีย์ แต่แล้วกลับมีเสียงเหมือนคนขุดอะไรซักอย่าง
“ใครขุดอะไรอ่ะ”
สองสาวมองหน้ากัน
อลิสจูงมือพจนีย์ค่อยๆ เดินมาตามเสียงมา
“นี่ถ้ามีทางอื่นออกจากบ้านเชิงเขาได้ ฉันไม่มาทางนี้นะเนี่ย”
“ทางนี้ล่ะดีแล้ว ยังไงก็ยังมีชาวบ้านอยู่ นั่นไง”
สองคนเห็นด้านหลังของผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งตัวเหมือนชุดชาวบ้าน สวมผ้าถุง ใส่เสื้อตัว
โคร่ง มีผ้าขาวม้าพันใบหน้าเอาไว้ แบบชาวสวนปกติ อลิสเดินเข้าไปทัก
“มาขุดอะไรค่ำๆ มืดๆ ล่ะป้า”
สองคนไม่รู้ว่าเป็นพลอย ที่ก้มหน้า ท่ามกลางเงามืด ยังไม่เห็นหน้าชัดเจน พลอยดัดเสียง
“ให้ปุ๋ยต้นไม้”
“ต้นอะไร?”
อลิสเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเป็นต้นปีบต้นใหญ่
“ต้นปีบ” พจนีย์บอก
“แล้วทำไมต้องมาให้ตอนดึกขนาดนี้ด้วยล่ะป้า” อลิสสงสัย
พลอยดัดเสียงอีก “นานๆ จะเจอปุ๋ยวิเศษ”
“ปุ๋ยวิเศษ ปุ๋ยอะไร” อลิสสงสัย
“ก็แกสองคนไงล่ะ”
พลอยหันขวับมากระชากผ้าขาวม้าออก พร้อมเงื้อจอบในมือขึ้น อลิสกับพจนีย์ร้อง
สุดเสียง
“แอร๊ยยย”
เพชรนำน้ำหนึ่งนวล วิ่งมาตามหาพลอย สีหน้าท่าทางแต่ละคนใจคอไม่สู้ดี ได้ยินเสียง
กรี๊ด ทุกคนรู้ในทันที
“พี่พลอย”
เพชรเร่งฝีเท้าตามไปรวดเร็ว
ด้านพลอยเหวี่ยงจอบลงมาหมายร่างของหญิงสาวทั้งสอง สองคนหนีหกล้มหกคว่ำ
“แกตาย!”
สองคนร้องลั่นไปในทำนองเดียวกัน “อย่าๆๆ ฉันกลัวแล้ว” / “ช่วยด้วยๆๆๆ”
พจนีย์พลาดสะดุดขาตัวเองล้มลง พลอยเงื้อจอบสุดแขน พจนีย์ร้องกรี๊ด
“อย่า”
อลิสตรงมากระชากร่างของพจนีย์หลบ จอบฝังลงดินฉึก ห่างร่างพจนีย์แค่คืบเดียว
พลอยเองก็ผงะเพราะแรงเหวี่ยง อลิสตรงไปหาพลอย
“ฉันจะจับแกเข้าคุก นังพลอย” อลิสถลันเข้าไป
พจนีย์เป็นห่วงดึงไว้ “อย่า”
ร่างของอลิสเซ พลอยตั้งตัวได้หันขวับมาพร้อมกำด้ามจอบมองตาขวาง อลิสร้องด่าพจนีย์
“เห็นมั้ย มันตั้งหลักได้แล้ว เธอจะมาดึงฉันทำไม๊”
“แกสองคนไม่มีทางหนีฉันได้...มาเป็นปุ๋ยให้ฉันดีๆ นังปุ๋ย”
พลอยคำรามเงื้อจอบขึ้นสุดแขน เหวี่ยงลงไป พจนีย์กับอลิสร้องกรี๊ดๆ หลบเป็นพัลวัน พลอยเหวี่ยงจอบดุดันเอาจริง
เพชร น้ำหนึ่ง และนวลวิ่งเข้ามา ทุกคนร้องห้าม
“อย่าพี่พลอย”
พลอยมองน้ำหนึ่งที่เกาะแขนเพชรแน่น “เพชร!”
นวลตะโกนบอกสองสาว “หนีเร็ว!”
พจนีย์กับอลิสรีบตะเกียกตะกายหนีรวดเร็ว พลอยขัดใจนักหันมามองนวลตาขวาง
“แกบอกมันทำไม” พลอยกรี๊ดใส่นวล ถลันเข้าไปหา
เพชรเอาตัวกั้น นวล กะ น้ำหนึ่งร้องบอก “พอได้แล้วพี่พลอย เลิกทำผิดได้แล้ว”
“เพชร”
“พี่พลอยทำผิดมามากพอแล้ว พอเถอะ ผมขอ พอเถอะ”
“เพชรลืมพี่ไปแล้วใช่มั้ย” พลอยเข้ามาทุบตีเพชร “เพชรเห็นคนอื่นดีกว่าพี่แล้วใช่มั้ย”
น้ำหนึ่งเข้ามาห้าม มาช่วยเพชรบ้าง “อย่าพี่พลอย อย่า”
พลอยกรี๊ดใส่ “นังน้ำหนึ่ง”
พลอยถลันเข้าหาน้ำหนึ่ง ขยุ้มจิกตีพัลวัน นวลกับเพชรเข้าไปห้าม
“อย่าพลอยอย่า” / “พี่พลอยอย่า”
เพชรกระชากร่างพลอยออกจนพลอยล้ม เพชรบอกดุดัน “อย่าทำร้ายเมียผม”
พลอยอึ้ง ชะงัก “เมีย..เมีย..หมายความว่า..เพชรกับมัน”
เพชรดึงตัวน้ำหนึ่งมากอด “น้ำหนึ่งเป็นเมียผม”
พลอยอึ้ง ตะลึง คาดไม่ถึง “เมียเพชร” แล้วกรี๊ดใส่ใหม่ “พี่ไม่ยอม”
ด้านพจนีย์กับอลิสวิ่งมาตามทาง อลิสล้วงเอามือถือออกมาโทร.
“คุณตำรวจ รีบมาที่บ้านเชิงเขาเร็วค่ะ ยัยพลอยบ้า มันอยู่ที่นี่” อลิสวางสาย แล้วดึงข้อมือ
พจนีย์ “ไปเร็ว”
“ไปไหน”
“ก็กลับไปดูยัยพลอยบ้าไง..ฉันกลัวมันจะหนีไปอีก”
“แต่ฉันกลัวตายมากกว่าอลิส ฉันไม่อยากถูกจับนอนขดนอนก่อ ฆ่าโบกปูนแบบรจนา”
“คนอยู่เยอะแยะ มันทำอะไรเราไมได้หรอก..เราต้องรีบกลับไปเพื่อเอาความผิดกับมัน ป่ะ”
อลิสลากแขนพจนีย์กลับไปจนได้
ส่วนพลอยบ้าดีเดือด ตรงเข้ามากระชากลากตัวน้ำหนึ่งจะขย้ำทำร้าย เพชรกับนวลตามมาห้ามปกป้อง
เพชรตะโกนเสียงดังทนไม่ไหวแล้ว “หยุดพี่พลอย”
“เพชร”
“พอซะที ผมไม่ยอมให้พี่พลอยทำร้ายเมียผมหรือว่าใครๆ อีกแล้ว”
พลอยลนลาน กลัวการสูญเสีย “ไม่...อย่าทำท่าทางอย่างนี้กับพี่” พลอยผวาตัวเข้ามากอดเพชรแน่น “พี่รักเพชรนะ พี่รักเพชรคนเดียว พี่ทำทุกอย่างอย่างน้ำหนึ่งได้นะ พี่เป็นเมียเพชรได้นะ” ล็อกคอเพชรกอดจูบพัลวัน
เพชรขยะแขยงผลักออก “อย่าพี่พลอย” พร้อมกับผลักออกอย่างแรงจนพลอยล้มลง
พลอยล้มลง เหลียวมามองเพชรตาซื่อ ยังไม่รู้สติ “ทำไมเพชร พี่ยังสาว ยังสวย พี่ให้ทุกอย่างกับเพชรได้ ได้ดีกว่านังน้ำหนึ่ง” พลอยทำท่าทางดึงคอเสื้อจนเห็นไหล่
เพชรเข้ามาห้ามปัดมือพลอยไม่ให้ทำ “หยุดพี่พลอย หยุด”
“เพชร!”
“พี่คือพี่สาวผม อย่าให้ผมทุเรศสมเพชตัวเองมากไปกว่านี้เลย ผมขยะแขยง”
พลอยตาขวาง หันมาทางน้ำหนึ่ง “เพราะแก นังน้ำหนึ่ง เพราะแก”
พลอยขย้ำน้ำหนึ่งอีก เพชรเข้ามาดึงพลอยออก นวลกอดน้ำหนึ่งเอาไว้
พลอยยิ่งมองยิ่งโกรธ “คิดว่าจะห้ามพี่ได้เหรอ? นังน้ำหนึ่ง ฉันจะฆ่าแก”
พลอยวิ่งกลับเข้าไปด้านใน ทุกคนงง ไม่รู้จะทำอะไรอีก เพชรบอกนวล
“แม่ดูน้ำหนึ่ง ผมจะไปดูพี่พลอย” เพชรตามพลอยเข้าไปเร็วรี่
พลอยวิ่งกลับเข้าไปในห้องเก็บของ รื้อค้น หาของ แล้วคว้าขวดน้ำกรดขึ้นมา
“ทำอะไรน่ะพี่พลอย หยุดนะ”
พลอยไม่ฟังเสียง ผลักเพชรออก เดินลิ่วออกไป
อ่านต่อหน้า 3
มารกามเทพ ตอนที่ 17 อวสาน (ต่อ)
พลอยเดินหน้าตาถมึงทึงออกมา
“แกตายนังน้ำหนึ่ง”
พลอยเปิดขวดน้ำกรดออกมาจะเทใส่น้ำหนึ่ง นวลดึงน้ำหนึ่งหลบ ขณะที่เพชรปัดมือ
พลอยอย่างแรง
“อย่า”
ขวดน้ำกรดหกเลอะพื้น กัดพื้นน่ากลัว เพชรมองอนาถใจ
“พี่พลอย! ทำไมพี่พลอยร้ายกาจอย่างนี้”
“เพราะพี่รักเพชรไง นังน้ำหนึ่งมันจะแย่งเพชรไปจากพี่”
“ไม่มีใครแย่งใครไปได้ทั้งนั้น ที่ไม่มีใครอยู่กับพี่พลอย เพราะพี่พลอยทำตัวเอง”
“เพชร”
“ผมรักพี่พลอย รักมากที่สุดในชีวิต แต่ผมทนไม่ไหวแล้ว” เพชรเสียงสั่นเครือเริ่มร้องไห้
ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ กอดประคองน้ำหนึ่ง “ไป...น้ำหนึ่ง”
พลอยมองภาพที่เพชรกอดประคองน้ำหนึ่งอย่างหวงแหน แถมนวลยังอยู่ข้างๆ พลอย
“เพชรรักมันมากกว่าพี่ใช่มั้ย ได้...งั้นพี่ก็จะไม่อยู่อีกต่อไป”
พูดจบพลอยก็คว้ามีดขึ้นมา กรีดที่ข้อมือตัวเอง กรีดลึก เป็นแผลเห็นเลือดสดๆ ไหลเป็นทางยาว ทุกคนตกใจ
“พี่พลอย”
“พลอย”
เพชรอึ้ง กลุ้ม เครียด สลด ความอดทนถึงที่สุด พลอยเห็นท่าทางของเพชรก็พูดอย่างเป็นต่อ “เอาซี้...เพชรปล่อยให้พี่ตายได้ เพชรก็ไปเลย...พี่จะตายอยู่ตรงนี้แหละ”
“พี่พลอย”
พลอยท้า คิดว่ายังไงเพชรก็ไม่ไป “ไปเลย..ปล่อยให้พี่ตายเลย” พลอยยกมือขึ้นเห็นเลือดไหลหยดลง
เพชรถอนหายใจ ไม่ไหวแล้ว ฉุดมือน้ำหนึ่งไป
“ดูแลตัวเองด้วยพี่พลอย”
เพชรพาน้ำหนึ่ง และนวลออกไป พลอยคาดไม่ถึง กรี๊ด
“เพชร”
เพชรหันมา พลอยตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
“ต่อให้เพชรพามันไป ยังไงนังน้ำหนึ่งมันก็ถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยอยู่ดี”
สามคนหันมามองอย่างสลดใจ พลอยบ้า ไม่จบไม่สิ้น พลอยพูดอย่างโกรธแค้น
“ลืมไปแล้วเหรอ เพชรจดทะเบียนสมรสกับพจนีย์ ต่อให้เพชรพามันไปจนสุด
หล้าฟ้าเขียว นังน้ำหนึ่งมันก็ถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อย หน้าบ้าน แย่งผัวชาวบ้าน”
พจนีย์เดินเข้ามาพร้อมกับอลิส
“ฉันพร้อมจะหย่าให้พี่เพชร”
“นังพจนีย์” พลอยมองมาอย่างเข่นเขี้ยว
“พี่เพชรจะเป็นอิสระ และได้แต่งงานกับน้ำหนึ่ง”
“ส่วนแก ตำรวจกำลังมาที่นี่ เตรียมเข้าไปนอนในคุกได้เลยนังพลอย”
ขาดคำของอลิส เสียงไซเรนดังก้องขึ้น พลอยรู้ทันที
“ตำรวจ! คุก! ไม่..ไม่...ฉันไม่ยอม ถูกจับ!”
พลอยเหวี่ยงมีดในมือทิ้ง วิ่งลนลานหนีออกไป อลิสคว้าตัวพลอยไว้ร้องตะโกนบอก
“จับมันเร็ว จับมัน”
คนอื่นๆ นิ่งไม่มีใครขยับ พลอยผลักอลิสออก อลิสได้แต่ขัดใจร้องตะโกน
“คุณตำรวจ นังพลอยมันอยู่ที่นี่ มาจับมันเร็วค่ะ”
พลอยวิ่งหัวซุกหัวซุนหนีไป
พลอยวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน เสียงไซเรนดังก้อง กระแทกเข้ามาถึงหัวใจ พลอยวิ่งลนลานหนีสุดชีวิต ตำรวจวิ่งเข้ามา อลิสชี้ทันที
“นังพลอยมันหนีไปทางนั้นค่ะคุณตำรวจ”
ตำรวจวิ่งไปตามมืออลิสชี้ อลิสยิ้มพอใจ
“เสร็จแน่นังพลอย”
เพชรได้แต่กุมขมับ เครียดจัด
ด้านพลอยวิ่งหนีเตบิดมา ตำรวจวิ่งมาตาม ตะโกน
“แยกย้ายกันค้นหาคนร้าย ให้เร็วที่สุด” พลอยได้ยินหน้าซีดเผือด กลัวจับใจ
พลอยวิ่งหนีเข้าไปโรงกลึงเก่าๆ แถวนั้น ท่าทางของพลอยลนลานไปหมด
“มีแต่คนแกล้งฉัน มีแต่คนรังแกฉัน!”
พลอยมองเหลียวหน้าเหลียวหลัง แล้วเกิดภาพหลอนเห็นรจนาปรากฏตัวขึ้น
“นังรจนา” พลอยผละ ไปทางอื่น คราวนี้เห็นผีนักปราชญ์ “ไอ้นักปราชญ์”
สองคนเดินตัวแข็งทื่อเข้ามาหา พลอยถอนร่นไปชนเข้ากับแผงที่เก็บอุปกรณ์เครื่องมือ จังหวะนี้กระป๋องน้ำกรด เทราดรดลงมาที่ตัวพลอยอย่างจัง
พลอยปวดแสบปวดร้อนกรีดเสียงร้องดังโหยหวน ล้มตัวลงนอนกลิ้งกับพื้นอย่างทุรนทุรายแลเห็นน้ำกรดบางส่วนกัดพื้นจนสึกกร่อนอย่างรวดเร็ว
แล้วร่างของพลอยมีหรือจะเหลือ!
ฟากเพชรกำลังนั่งอยู่กับตำรวจที่ทำการสอบปากคำเรื่องพลอยอยู่บนโรงพัก น้ำหนึ่งมองด้วยความสงสาร และเห็นใจ
“ขอบคุณมากครับ ที่ให้ความร่วมมือ ถ้าคุณพลอยติดต่อกลับมา รบกวนแจ้งด้วย ไม่ต้องห่วงนะครับ”
อลิสมองค้อน “พี่สาวเป็นคนร้าย ถ้าพี่สาวกลับมา ใคร๊จะบ้า แจ้งตำรวจ”
น้ำหนึ่งโมโห “อลิส”
“ฉันไม่ได้บ้า ฉันรู้ ฉันชื่ออลิส ไม่ต้องเรียก” อลิสบอกกับตำรวจ “ฉันไม่ยอมความนะคะ ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่อย่าให้ฉันรู้แล้วกัน ว่าแอบตุกติกอะไรกันน่ะ”
“ไม่ต้องห่วงครับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย” ตำรวจบอก
“ให้มันจริงนะคะ...เพราะนายคนนี้ เค้าเป็นว่าที่ ลูกเขย รัฐมนตรี” อลิสเหน็บ
“ไม่ว่าจะเป็นใคร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ความยุติธรรมทุกคนครับ”
“ขอบคุณค่ะ...จะได้ไม่ต้องเป็นข่าวฉาวอีก” คราวนี้อลิสมองหน้าน้ำหนึ่ง “เพราะเรื่องที่เป็น
เมียน้อย ลูกสาวรัฐมนตรี เธอก็ยังไม่ได้เคลียร์”
น้ำหนึ่งมองหน้าพจนีย์ที่อยู่ข้างๆอลิส พจนีย์มองหน้าเพชรและน้ำหนึ่งอย่างเห็นใจ
น้ำหนึ่งบอกเจ้าหน้าที่ “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เรากลับนะคะ”
เพชรกะน้ำหนึ่งยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเดินออกไป อลิสเบ้ปากใส่
“ทีอย่างนี้ทำหน้าบาง”
“ฉันว่าคุณหน้าหนาต่างหาก” พจนีย์ว่า
“เธอ”
“เรื่องที่ไม่สมควรพูด แล้วเอามาพูด ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของตัว เรียกว่าอะไร คุณบอก
ตัวเองได้ค่ะ” พจนีเดินหนีไป
“นัง..นังพจนีย์ รู้งี้ ฉันปล่อยให้ยัยพลอยเอาจอบเฉาะหน้าเธอซะก็ดี”
อลิสโมโหเดินตามไป แต่เท้าสะดุดตรงบันได ล้มกลิ้งลงมา ได้แต่เจ็บใจ
ที่ด้านล่างสถานีตำรวจ เกรียงศักดิ์เดินเข้ามารับ น้ำหนึ่งโผเข้ากอดเกรียงศักดิ์
“คุณพ่อ..น้ำหนึ่งสงสารพี่เพชร...ทำไมต้องเกิดเรื่องร้ายๆ กับพี่เพชรถึงขนาดนี้ด้วย”
เกรียงศักดิ์กอดปลอบน้ำหนึ่ง เพชรเดินหน้าเครียดออกมา เกรียงศักดิ์บอก
“ทำใจดีๆ นะเพชร เรื่องมันอาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิดไว้ก็ได้ พลอยวิกลจริต”
“เหมือนที่เค้าว่า ต่อให้บ้า ก็ต้องจับพี่พลอยมาเข้าคุก”
จังหวะนี้อารีย์กับสมบัติเดินเข้ามาสมทบ เสียงของอารีย์ดังก้อง
“ต่อให้นังพลอยมันหนีไป ฉันก็จะเอาผิดกับน้องมัน”
ทุกคนหันไปมอง สมบัติพาอารีย์เข้ามา อารีย์มอง เห็นเพชร เกรียงศักดิ์แนะนำ
“คุณอารีย์ นี่ครับเพชร น้องชายของพลอย”
อารีย์กับเพชรมองหน้ากันตะลึง
“คุณ!”
อารีย์ทั้งตกใจและเสียใจ “เพชร...เธอเองเหรอที่เป็นน้องชาย..ของ...” อารีย์พูดไม่ออก “พลอย!”
“ครับ” เพชรยกมือไหว้ “ผม..ผมขอโทษแทนพี่พลอย ขอโทษแทนแม่ด้วยครับ”
“ขอโทษ” อารีย์เมินหน้าไปทางอื่น “แล้วชีวิตลูกฉันล่ะ ตัวฉันเองก็เกือบตาย”
“แม่กับพี่พลอย มีปัญหาทางจิตทั้งคู่”
“เธอจะบอกฉันอีกคน ว่าคนบ้าฆ่าคนตายไม่ผิด”
เพชรบอกเสียงแข็ง “ผมไม่ได้หมายความว่ายังงั้น ผมแค่ ขอความเห็นใจจากคุณ...เรา
สองคนต่างสูญเสีย” เพชรหน้าสลดเสียใจมาก แต่ก็ทะนง “อีกอย่าง แม่กับพี่พลอย ไม่ได้เป็นคนเริ่มต้นก่อเรื่อง”
“เธอหมายความว่า...”
“เราสองคนต่างรู้อยู่แก่ใจ” เพชรบอกเท่านั้น
อารีย์มองหน้าเพชร ก่อนหันหน้าไปทางอื่น ลึกๆ ก็รู้ว่าตัวเองก็ผิดเหมือนกัน
เพชรมีท่าทีอ่อนลง “มันอาจจะเป็นการเห็นแก่ตัว แต่..ผมขอได้มั้ยครับ ปล่อยพี่พลอยไป” เพชรกลั้นสะอื้น “กรุณาปล่อยพี่พลอยไป”
น้ำหนึ่งจับมือเพชรกุมเอาไว้แน่น อารีย์น้ำตาไหล เสียใจเหมือนกัน
“ทำไมต้องเป็นเธอเพชร ทำไมต้องเป็นเธอ”
ทุกคนมองงงเป็นแถบ ไม่เข้าใจ ทำไมอารีย์พูดอย่างนั้น อารีย์หันไปบอกสมบัติ
“เพชรเคยมีบุญคุณกับฉัน”
“คุณก็เคยมีบุญคุณกับผม” เพชรมองมาด้วยแววตาอ้อนวอน “เราทั้งสองเคยเริ่มต้นด้วย
ความเป็นมิตร ผมไม่อยากให้เราต้องจบกันแบบศัตรู กรุณาเถิดครับ..ปล่อยพี่พลอยไป” เพชรทรุดตัวลงนั่ง ทำท่าจะก้มลงกราบ
อารีย์ตกใจรีบจับมือเพชรไว้ “ไม่ต้องเพชร อย่างที่เธอพูดก็ถูก พลอยกับทับทิมไม่ได้ผิดอยู่
ฝ่ายเดียว ฉันเองก็ผิดด้วย”
“แปลว่า...คุณจะไม่เอาผิดกับพี่พลอย”
“คดีอาญา ยอมความไม่ได้ คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ฉันรับปาก ฉันจะไม่ไปตามล่าหาตัวพลอย” อารีย์บอก
อลิสที่ยืนลุ้นอยู่นาน ปรี๊ดแตกขึ้น
“ไม่ได้นะคะคุณอารีย์ คนบ้า ยิ่งปล่อยตัวไป ยิ่งเป็นอันตรายต่อคนอื่น” อลิสมองหน้าเพชร “นี่ก็ท่าจะบ้าตามแม่ตามพี่ อย่าคิดว่าเป็นคนบ้าแล้วจะไม่ได้รับโทษ พอรักษาตัวหาย ก็ต้องมารับโทษอยู่ดี ยังไงฉันจะตามล่าตัวพี่คุณมารับโทษ รู้ไว้
น้ำหนึ่งโมโห “อลิส”
อลิสถลึงตาใส่ “นี่ก็วอนโดนด่าอีกคน รู้ซะบ้างสิน้ำหนึ่ง ว่าอะไรเป็นอะไร คนทำผิด
แถมยังเป็นฆาตกรหั่นศพต่อให้บ้ายังไงก็ต้องได้รับโทษ”
พจนีย์มองเพชรอย่างเข้าใจ “พี่เพชร เข้าใจใช่มั้ยคะ”
เพชรพยักหน้า ยอมจำนนกับสิ่งที่เกิด
เพชรพาน้ำหนึ่งเดินไปยังที่จอดรถ พร้อมกับเกรียงศักดิ์ เกรียงศักดิ์บอกเพชร
“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม”
“ครับท่าน”
“ฉันเห็นใจเธอมากนะ แต่คนเราไม่ควรที่จะจมอยู่กับอดีต เธอต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยเฉพาะชีวิตที่มีน้ำหนึ่ง วันนั้นฉันทำไม่ถูกที่ปล่อยให้น้ำหนึ่งไปกับเธอ แต่ฉันรู้...เธอกับลูกสาวฉันรักกัน”
น้ำหนึ่งมองเกรียงศักดิ์ ทั้งดีใจ ตื้นตันและรู้สึกผิด
“หัวอกคนเป็นพ่อ ยังไงก็อยากให้ทุกอย่างถูกต้องตามประเพณี จัดการเรื่องทะเบียนให้เรียบร้อยได้มั้ย ฉันไม่อยากให้น้ำหนึ่งถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยใคร”
จังหวะนี้พจนีย์เดินเข้ามา ทุกคนหันไปมอง อย่างไม่สบายใจ กลัวเกิดเรื่อง แต่พจนีย์ยิ้ม
“พจน์กับพี่เพชรแต่งงานกันแค่ในนามเท่านั้นค่ะ พี่เพชรพร้อมวันไหน พจน์พร้อมจดทะเบียนหย่าให้มันทีค่ะ”
“ขอบใจมากพจน์”
ทุกคนมองพจนีย์ ยิ้มโล่งใจ พจนีย์โพล่งออกมาแบบลืมตัว
“ไม่มีพี่พลอย อะไรๆ มันก็ง่ายแบบนี้ล่ะค่ะ”
เมื่อพูดถึงชื่อพลอย สีหน้าของทุกคนหุบยิ้มลงทันควัน
ที่โรงกลึงร้างแห่งนั้น พลอยในสภาพถูกน้ำกรดราดรดทั้งตัวรู้สึกตัว พลอยร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด
“ทำไม ทำไม ทำไมฉันไม่ตาย”
พลอยร้องไห้โฮทั้งเจ็บทั้งทรมาน ทุกข์ทั้งกายและใจ ขนาดกรีดมือเพชรไม่สนใจ เพชรเลือกน้ำหนึ่ง
“เพชร...ทำไมเพชรทำกับพี่อย่างนี้”
พลอยร้องไห้อย่างเคว้งคว้างโดดเดี่ยว ก่อนที่ดวงตาจะเปล่งประกายแห่งความแค้นออกมา
วันต่อมาเพชรกับพจนีย์นั่งอยู่ต่อหน้าเจ้าหน้าที่บนที่ว่าการอำเภอ ทั้งเพชรทั้งพจนีย์มีสีหน้ายิ้มแย้ม
“นี่คุณสองคนจะมาหย่ากันจริงๆ เหรอครับ”
สองคนยิ้มรับ “ครับ” / “ค่ะ”
“ผมนึกว่าจะมาแต่งกันซะอีก แปลก แปลกมาก เพิ่งเห็นเป็นคู่แรกที่แหละ มาหย่าพร้อมรอยยิ้ม”
“เราจบกันด้วยความเข้าใจค่ะ”
เพชรโอบไหล่พจนีย์เหมือนน้องสาว “ถึงจะหย่า ยังไงเราสองคนก็ยังคงรู้สึกดีๆ ต่อกัน เธอยังเป็นน้องสาวของผมเสมอ”
“ดีจังเลยนะครับ..อยากให้คู่อื่นเป็นอย่างงี้บ้าง ไม่กันไม่ได้ ก็จบกันด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ไม่เห็นจะต้องโกรธกัน ฆ่ากันเลย นี่ครับ”
เจ้าหน้าที่ยื่นเอกสารหย่ามาให้ เพชรกับพจนีย์เซ็นหย่า เจ้าหน้าที่อวยพร
“ขอให้คุณทั้งสองพบกับคนที่ใช่ และครองรักกันตราบนานเท่านาน”
สองคนยกมือไหว้ “ขอบคุณครับ” / “ขอบคุณค่ะ”
เพชรยิ้มให้พจนีย์ “ขอบใจมากนะพจน์”
“พจน์ก็ต้องขอบคุณพี่พจน์ที่ไม่โกรธพจน์ค่ะ”
ทุกคนแถวนั้น มองเพชรกะพจนีย์ งงๆ
ไม่นานต่อมาพจนีย์ถือดอกไม้มานั่งที่หน้าโกฏิรจนา ยิ้มอ่อนโยน
“พี่ว่าพี่ทำดีที่สุดแล้วนะรจ ทั้งเรื่องพี่พลอย พี่เพชร อย่างน้อยพี่ก็ให้อภัย พี่ไม่ได้มีความเคียดแค้นพยาบาท พี่ก็ได้แต่หวังว่า..บุญกุศลที่พี่ทำจะส่งให้รจได้ไปสู่ภพภูมิใหม่ที่ดีนะ”
พจนีย์วางดอกไม้ลงหน้าโกฏิน้องสาว
หากพจนีย์มีเซ้นส์เธอจะแลเห็นว่าวิญญาณรจนาปรากฏขึ้นรางๆ ถือช่อดอกไม้ที่พจนีย์ให้ ยิ้มเศร้า
ตกตอนกลางคืนเกรียงศักดิ์นั่งกุมมือดาราณีอยู่ ดาราณีย้อนถามอย่างยินดี
“หมายความว่า.. คุณยกน้ำหนึ่งให้กับเพชร”
“จ้ะ ทันทีที่เพชรจัดการเรื่องทะเบียนกับพจนีย์เสร็จเรียบร้อย ผมบอกให้เพชรมาสู่ขอน้ำหนึ่งได้เลย”
“ดีใจด้วยนะนวล”
สองคนจับมือกับอบอุ่น นวลก้มลงกราบนายทั้งสองคน
“นวลกราบขอบพระคุณท่านสองคนจริงๆ นะคะที่เมตตานวล เมตตาเพชร”
“เพราะเพชรกับนวลเป็นคนดี”
นวลน้ำตารื้น “ทับทิม สอนเพชรมาดีน่ะค่ะ ถ้าทับทิมยังอยู่ คงจะดีกว่านี้”
“อาจจะไม่ดีก็ได้ เพราะที่ผ่านมา ทับทิมสนับสนุนลูกให้ทำผิดทุกอย่าง”
ดาราณีตัดบท “อย่าพูดถึงคนตายเลยค่ะคุณ เราเองก็ผ่านการเป็นพ่อเป็นแม่มาแล้ว บางอย่างสอน ลูกใช่ว่าจะจดจำทำตาม น้ำหนึ่งก็เคยพลาดมาเหมือนกัน เรื่องพลอย...”
ส่วนที่โรงกลึง แลเห็นพลอยพยายามลุกขึ้นด้วยความเจ็บปวด แต่ล้มลงไปใหม่ เดินไม่ได้ ทั้งเนื้อทั้งตัวเป็นหนองน่าเกลียวดน่ากลัว
ดาราณีพูดต่อ “ถ้าจะผิด ก็ผิดที่ตัวพลอยเองนั่นแหละค่ะ ไม่มีใครในโลกที่เกิดมาเพียบพร้อมสมบูรณ์ทุกอย่าง แต่พลอยกลับเลือกความขาด มาเรียกร้องความสงสารให้กับตัวเอง”
นวลเสริม “โดยมีเพชรเป็นเหยื่อ...อย่าหาว่านวลใจดำเลยนะคะ...ไม่ว่าในสภาพไหน นวลไม่อยากให้พลอยกลับเข้ามาในชีวิตเพชรอีกเลย เพราะพลอยเป็นมาร มารสำหรับทุกคน”
จังหวะนี้พลอยเดินแทบไม่ได้ เจ็บปวดทั่วกายา แต่สายตาของพลอยมีแต่ความเคียดแค้น
“เพราะพวกแก...ฉันจะไม่มีวันให้พวกแกมีความสุขอย่างเด็ดขาด”
พลอยพูดได้แค่นั้นก็ร้องออกมาเสียงดังโหยหวน เจ็บทั่วทั้งสรรพางค์กาย จนแทบขาดใจ
เวลาผ่านไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง มีงานแต่งงานเล็กๆ ของเพชรกับน้ำหนึ่ง เห็นดอกกล้วยไม้สีขาว ตกแต่งประดับทั่วทั้งงาน น้ำหนึ่ง-เพชรอยู่ในชุดไทย ที่เรือนผมของน้ำหนึ่งมีช่อดอกปีบแซมอยู่ สองคนอยู่ในพิธีรดน้ำสังข์ เกรียงศักดิ์รดน้ำให้
“มีความสุขให้มากๆ นะลูก หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน จะเกิดปัญหาอะไร ก็ให้
นึกถึงอุปสรรคที่เราทั้งสองฝ่าฟันกันมาให้ได้”
“ขอบคุณครับคุณพ่อ” / “ขอบคุณค่ะคุณพ่อ” บ่าวสาวรับคำ
ดาราณีรดน้ำสังข์ ต่อ“อย่าเรียกร้องจากกันและกัน แต่จงเติมเต็มสิ่งที่ขาดให้กันและกัน
ยึดถือความสุขของกันและกันนะลูก”
เพชรกะน้ำหนึ่งรับคำ “ขอบคุณครับคุณแม่” / “ขอบคุณค่ะคุณแม่”
นวลรดน้ำให้ ตื้นตันไปหมด “แม่พูดไม่เก่ง แต่สิ่งที่แม่ดีใจที่สุดเลยก็คือ คนที่แม่รักสุดหัวใจทั้งคู่ ได้มาใช้ชีวิตร่วมกัน มีความสุขมากๆ อย่าได้มีอันตรายใดๆ มากล้ำกราย เพชรดูแลคุณน้ำหนึ่งให้ดีที่สุดนะลูก”
“ผมจะดูแลน้ำหนึ่งเทียบเท่ากับชีวิตผมเองครับแม่”
นวลตื้นตัน ผู้ใหญ่คนอื่นๆ มารดน้ำสังข์ อลิสกับเพื่อนเก้งมินโฮยืนเมาท์กันอีกมุม อลิสเบ้ปากเหยียดๆ
“แต่งงานกับคนจนๆ ยัยน้ำหนึ่งมันจะดีใจนักหนา”
“ก็ดีใจที่ได้แต่งงานไง ไม่เหมือนแก เกลียดยัยน้ำหนึ่งขนาดนี้ แกจะมางานแต่งเค้า
ทำไมยะ” มินโฮว่า
“มาเพื่อความสะใจ แกดูสิ สุดท้าย ยัยน้ำหนึ่งก็ได้แม่ผัวที่เป็นคนใช้ตัวเอง อี๋ๆๆๆ” อลิสมอง ดูถูกใหญ่ “แกดูสิ ดู...โหยแขกเหรื่อ นายเพชรยังกับกรรมกร”
“ตรรกะอลิสแปลกๆอีกแล้ว เกลียดเค้ายังเดินเข้าไปใกล้อีก” มินโฮเดินเข้าไปหาแต่ไม่วายบ่น “ฉันเกลียดอะไร ฉันจะอยู่ให้ไกลสิ่งนั้นที่สุดเล้ย”
เป็นเวลาแห่งความสุข ความหวานชื่นของเพชรกับน้ำหนึ่ง เพชรหอมแก้มน้ำหนึ่ง สลับกับน้ำหนึ่งหอมแก้มเพชร ถ่ายรูปตามธรรมเนียม ขณะที่เพชรกระซิบบอกน้ำหนึ่ง
“ลูกคนแรกของเรา ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย พี่จะให้ชื่อว่า...เพชรน้ำหนึ่ง”
ค่ำคืนนั้นพลอยคลานมาตามทางสะเปะสะปะ เดินไม่ได้เพราะแผลเปื่อยยุ่ยไปทั้งตัว สภาพน่าเวทนามาก พลอยคลานไปตามทาง เห็นโลกเหลือนิดเดียว เพราะตาบอดไปข้าง อีกข้างเหลือเพียงริบหรี่
“ทำไมโลก เป็นแบบนี้ ...ช่วยด้วย...ช่วยด้วย”
เด็กแถวนั้นโผล่หน้าออกจากบ้านมาดู เห็นตกใจ “ผี...ผี”
พลอยผงะ ผู้เป็นแม่อยู่ในบ้านดุเด็ก
“ผีมีที่ไหน”
เด็กชี้มาทางพลอย “นั่นไงแม่..นั่นไง ผี!”
แม่มองตามเด็กเห็นสภาพเน่าทั้งตัวก็ร้อง “เฮ้ย! ผี”
แม่รีบปิดประตูบ้าน และหน้าต่างอย่างรวดเร็ว พลอยเองก็ตกใจกลัว
“ผี..ผี” ยังไม่ทันคาดคิดว่าคนอื่นกลัวตัวเอง
พลอยพยุงกายลุกขึ้นกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วก็ชะงัก เมื่อกระจกจากมอเตอร์ไซค์ที่
จอดอยู่ สะท้อนเข้ากับหน้าของตัวเองอย่างจัง พลอยแลเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผมเผ้าหยิกหยอง แทบจะไม่เหลือ เห็นแต่หนังติดศีรษะ ดวงตาพิกลพิการ หนองไหลเยิ้ม พลอยตัวสั่น ค่อยๆ เอามือแตะตามหน้าตัวเอง พลอยอึ้ง ตะลึง ช็อก ก่อนจะกรีดร้องเสียงดังโหยหวนออกมา เพราะรับสภาพตัวเองไม่ได้ ลงไปชักดิ้นชักงอ
ด้านในบ้านยามนั้น แม่กอดลูกแน่นกลัวเสียงพลอยที่คิดว่าเป็นผี
ที่ริมถนนลูกรังแห่งนั้น พลอยดิ้นอยู่ที่พื้น ทั้งเจ็บทั้งปวด เดียวดายไม่เหลือใครแล้ว
หนึ่งปีผ่านไป ค่ำคืนนี้สองคนอยู่ในห้องนอนที่คอนโด เพชรตระกองกอดน้ำหนึ่งอยู่อย่างมีความสุข แต่แล้วเพชรก็สะดุ้งเฮือกลุกขึ้น
“พี่เพชรฝันร้ายอีกแล้ว”
เพชรถอนหายใจเหงื่อแตกพลั่ก
“คราวนี้ฝันว่าอะไรอีกคะ”
“ฝันว่า..พี่พลอยจะมาเอาน้ำหนึ่งไป” เพชรผวากอดน้ำหนึ่งแน่น
น้ำหนึ่งกอดเพชร “เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ น้ำหนึ่งอยู่กับพี่เพชรทุกวัน”
“พี่พลอยเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น พี่กลัว”
น้ำหนึ่งกอดเพชรแน่น “แต่นี่เรื่องก็ผ่านมาเป็นปีแล้วนะคะ คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ น้ำหนึ่งว่าที่พี่เพชรฝันร้ายทุกวัน เพราะพี่เพชร....รู้สึกผิด”
“ใช่..พี่รู้สึกผิด...ผิดมาก พี่ไม่ได้ไปตามหาพี่พลอยเลย แต่บอกตรงๆ พี่ไม่กล้า...ปล่อยให้พี่พลอยหนีไป ยังดีกว่า ถูกจับกลับมา ชดใช้กรรมในคุก”
“น้ำหนึ่งเข้าใจพี่เพชรค่ะ...เพราะถ้าพี่พลอยถูกจับ พี่พลอยก็ต้องถูกส่งไปรักษาตัว
แต่สุดท้ายพี่พลอยก็ต้องติดคุกอยู่ดี”
เพชรนิ่ง สีหน้าเป็นกังวล น้ำหนึ่งกอดเพชรเอาไว้ ปลอบประโลม บอกอย่างเข้มแข็ง
“ถ้าพี่เพชรไม่สบายใจ เราไปบ้านเชิงเขาด้วยกันก็ได้นะคะ เผื่อพี่พลอยจะกลับมา”
อ่านต่อหน้า 4
มารกามเทพ ตอนที่ 17 อวสาน (ต่อ)
สองคนอยู่ที่บ้านเชิงเขา ซึ่งสภาพยังเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ดูเก่า ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนบ้านที่ไม่มีคนอยู่ทั่วไป
เพชรหยิบรูปของทับทิมมามอง ก่อนกอดไว้แนบอก โหยหา แล้วก็ได้แต่ทอดถอนหายใจขณะเหลือบตามองดูรูปของพลอย ดวงหน้านั้นยังดูสวย เพชรจะหยิบรูปพลอยมาดูแต่เปลี่ยนใจ น้ำหนึ่งถาม
“พี่เพชรไม่เอาอะไรกลับไปไว้ที่คอนโดเหรอคะ”
“ไม่..พี่อยากเก็บความทรงจำทุกอย่างไว้ที่นี่ ถ้าจะเอาก็เอาแค่”
“อะไรคะ”
เพชรหยิบเสื้อเบอร์ 13 และสมุดภาพของน้ำหนึ่งขึ้นมามองยิ้มอ่อนโยนแกมเย้า
“ความรักความจริงใจที่น้ำหนึ่งมีให้กับพี่”
ยามเย็นที่ด้านนอกบ้านเชิงเขา บรรยากาศตอนพระอาทิตย์จะตกดิน สวยงามสดใส เพชรกอดน้ำหนึ่งเอาไว้แนบแน่น บอกเสียงอ่อนโยน
“พี่อาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่ดิบดีอะไร แต่พี่ก็คิดว่าพี่มีพร้อม มีครบทุก
อย่าง จนกระทั่งพี่มาพบกับน้ำหนึ่ง พี่ถึงรู้ว่าพี่ขาด ความรักของน้ำหนึ่ง เปลี่ยนโลกทั้งใบของพี่ได้ น้ำหนึ่งเปลี่ยนความแค้น ให้กลายเป็นความรัก น้ำหนึ่งทำให้พี่รู้จัก รักแท้คืออะไร”
“เราจะรู้จักรักแท้ก็ต่อเมื่อเราได้เจอรักแท้ค่ะ” น้ำหนึ่งจับมือเพชรมากุมไว้ ยิ้มหวาน “พี่เพชรรู้มั้ย...น้ำหนึ่งดีใจแค่ไหน ที่วันนี้คนในฝันของน้ำหนึ่งได้มายืนอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่แค่นี้..ผู้ชายคนนั้นยังเป็นคนที่น้ำหนึ่งจับต้องได้ ดูแลได้ และที่สำคัญเค้ามีหัวใจให้น้ำหนึ่ง ที่น้ำหนึ่งยอมทนทุกอย่าง เพราะน้ำหนึ่งรู้ พี่เพชรรักน้ำหนึ่งค่ะ...น้ำหนึ่งก็รักพี่เพชร...เรารักกันค่ะ”
“ใช่..เรารักกันน้ำหนึ่ง”
เพชรก้มลงจูบน้ำหนึ่ง น้ำหนึ่งกอดเพชรแน่นจูบตอบ ระหว่างนี้เหมือนมีสายตาของใครใครคนหนึ่งจ้องมองเพชรกับน้ำหนึ่งตลอดเวลา เสียงหายใจของใครคนนั้นหอบแรง ราวกับกำลังควบคุมตัวเองไม่อยู่
จู่ๆ น้ำหนึ่งทำท่าจะอาเจียน เพชรตกใจ
“เป็นอะไรน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งยิ้มไม่ยอมตอบ
เพชรมองดู ท่าทางตื่นเต้นดีใจ “หรือว่าเรากำลังจะมี...เพชรน้ำหนึ่ง”
“ค่ะพี่เพชร เพชรน้ำหนึ่งกำลังจะเกิดมา”
“เรากำลังจะมีลูก พี่ดีใจที่สุดเลยน้ำหนึ่ง”
เพชรดึงตัวน้ำหนึ่งมากอดเอาไว้ น้ำหนึ่งกอดตอบ สองคนมีความสุขอย่างท่วมท้น โดยไม่เห็นว่าอีกมุมหนึ่งช่อดอกปีบช่อหนึ่งถูกโยนลงกับพื้นอย่างแรง ก่อนที่จะเห็นพลอยหลบมุมใต้ต้นปีบมองมา ดวงตาวาวโรจน์แค้นสุดขีด
วันต่อมาสามคนรู้ข่าวรีบมาเยี่ยมน้ำหนึ่งถึงคอนโด น้ำหนึ่งอยู่ในชุดคลุมท้องนั่งยิ้มเคียงข้างเพชร ขณะที่เกรียงศักดิ์ยิ้มดีใจ
“แต่งงานมาเป็นปี ท้องซะที”
“แล้วทำไมไม่กลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่ล่ะลูก พ่อแม่เป็นห่วง” ดาราณีถาม
น้ำหนึ่งยิ้มละไม “น้ำหนึ่งอยากดูแลพี่เพชรค่ะ”
“มาอยู่นี่ก็ดูแลเพชรได้”
“จริงด้วยค่ะ...แม่อยากให้คุณน้ำหนึ่งกับเพชร มาอยู่ด้วยกันที่นี่” นวลว่า
“ผมเป็นลูกผู้ชาย ให้ผมได้ดูแลลูกเมียด้วยตัวเองเถอะนะครับ เพชรน้ำหนึ่งเกิดมาจะได้ภูมิใจ” เพชรบอก
“ตั้งชื่อไว้แล้ว” ดาราณีแปลกใจ
“ตั้งตั้งแต่วันแต่งงานเลยครับ” เพชรว่า
“งั้นก็ตามใจ น้ำหนึ่งดูแลตัวเองดีๆ นะลูก”
“ค่ะคุณพ่อ น้ำหนึ่งจะดูแลตัวเอง ดูแลพี่เพชรและดูแลลูกให้ดีที่สุด”
น้ำหนึ่งเอามือลูบท้องตัวเองหวงแหน เพชรกอดน้ำหนึ่ง ทุกคนมองภาพตรงหน้าอย่างอบอุ่นใจ
วันต่อมา ขณะที่เพชรจอดรถหน้าคอนโด เสียงโทรศัพท์ดังลั่น เพชรรับ
“ว่าไงจ้ะน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งอยู่ในห้อง “พี่เพชร...น้ำหนึ่งอยากทานขนมน้ำดอกไม้จังเลยค่ะ พี่เพชรช่วยซื้อมา
ให้น้ำหนึ่งได้มั้ยคะ”
เพชรนิ่งคิด “ซื้อที่ไหนล่ะ พี่กลับมาถึงคอนโดแล้วเนี่ย เอางี้ น้ำหนึ่งรอก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะออกไปหามาให้”
“ไม่ต้องไปหาที่ไหนหรอกค่ะพี่เพชร น้ำหนึ่งมองลงไป ที่หน้าคอนโดเรา มีคนมาขาย...พี่เพชรซื้อขึ้นมาให้น้ำหนึ่งด้วยนะคะ”
“จ้ะ” เพชรวางสายแล้วเดินไป
เพชรเดินมายังบริเวณหน้าคอนโดที่มีคนขายของเรียงรายอยู่เต็ม ท่ามกลางความมืดสลัว เพชรเห็นผู้หญิงสูงอายุคนหนึ่ง กำลังแคะขนมน้ำดอกไม้จากถ้วยตะไลในลังถึง ใส่ในถาด ร่างของสตรีนางนั้นถูกคลุมด้วยชุดยาวทั้งชุด สีอึมครึมที่ศีรษะมีผ้าคลุมด้วย จนมองแทบไม่เห็นหน้า
เพชรไม่สำเหนียกว่านั่นคือพลอย แต่มองดูสภาพแล้วไม่น่ากินเลย จังหวะนี้เสียงหญิง 2 คน เดินผ่านมาคุยกัน
“จริงๆ ฉันก็ไม่อยากซื้อหรอกนะ ไอ้ขนมน้ำดอกไม้นี่ ดูสภาพคนขายสิไม่น่ากินเลย”
“ใช่ ไม่น่ากินเลย แต่ฉันสงสารคนขาย เห็นเค้าคุยกัน ว่าแกพิการ หน้ายังกับผี ฉันเลยช่วยซื้อ เอาน่าถือว่าทำบุญ”
ขาเม้าท์สองคนเดินไป เพชรยืนมองชั่งใจ ไม่ได้คิดถึงพลอยเลยแม้แต่น้อย แต่สภาพคนขายไม่น่ากิน เพชรมองดูเห็นขนมน้ำดอกไม้ มีดอกมะลิโรยแลดูน่ากิน
เพชรชำเลืองมองคนขาย เห็นผิวที่พ้นออกมาจากผ้าคลุมร่าง เป็นรอยแผลเป็นฉกรรจ์ แทบจะทั้งตัว ดวงหน้าก็เป็นแผลเป็นแทบไม่เห็นสภาพผิวหน้าเดิม ดวงตาถูกคลุมไว้ด้วยแว่นสีดำอันใหญ่ อำพรางใบหน้า จมูก ปาก ดูไม่มีเค้าเดิมเพราะเป็นรอยแผลเป็นทั้งตัว ร่างนั้นงกๆ เงิ่นๆ ทำขนม ไม่ถนัด พังผืดเส้นเอ็นในร่างกายถูกยึดเอาไว้ เพชรถอนหายใจ
“ผมซื้อ 2 กล่อง”
พลอยจำเสียงได้ สะท้อนในใจ ดัดเสียง “ขอบใจ ชอบกินเหรอ”
“ก็ด้วยฮะ แล้วก็พอดี ภรรยาผมแพ้ท้อง เค้าอยากทาน”
มือของพลอยที่กำลังหยิบขนมใส่ถุงสั่นอย่างชัดเจน เพชรถามทันที
“ป้าเป็นอะไรรึเปล่าครับ”
พลอยสั่นหัว เพชรมองอย่างสังเวช สลดใจ ถามทันที
“แล้วนี่ป้าไม่มีลูก ไม่มีญาติพี่น้องดูแลเหรอครับ ถึงต้องมาขายของแบบนี้”
“มี”
“แล้วทำไมเค้าไม่ดูแล”
“เค้าเกลียดฉัน เค้าตัดขาดฉัน” พลอยเค้นคำบอกไป
“ผมเสียใจด้วย..นี่ครับ ไม่ต้องทอน”
เพชรรับขนมแล้วเดินจากไป
พลอยถอดแว่นมองตาม ดวงตาหรี่เล็กที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียว มีหยาดน้ำตารินไหลออกมา
ฝ่ายน้ำหนึ่งทานขนมน้ำดอกไม้อย่างเอร็ดอร่อย
“พี่เพชรอุดหนุนป้าแกทุกวันเลยนะคะ ขนมแกอร่อย ชีวิตแกน่าสงสารด้วย”
“จ้ะ...พี่จะซื้อมาฝากน้ำหนึ่งทุกวันเลย จนกว่าน้ำหนึ่งจะเบื่อ”
“น้ำหนึ่งไม่เบื่อหรอกค่ะ ยิ่งช่วงนี้แพ้ท้อง อยากทานทุกวันเลย”
“ดีจ้ะ จะได้อุดหนุนป้าแก พี่จะซื้อใส่บาตรให้แม่ด้วย”
“งั้นพรุ่งนี้น้ำหนึ่งลงไปด้วย...น้ำหนึ่งจะได้ใส่บาตรกับพี่เพชร”
“จ้ะ”
เพชรป้อนขนมให้น้ำหนึ่ง น้ำหนึ่งป้อนขนมให้เพชร สองคนคลอเคลียกระหนุงกระหนิง น่าเอ็นดู
รุ่งเช้าเพชรประคองน้ำหนึ่งลงมาซื้อขนมน้ำดอกไม้ของพลอย น้ำหนึ่งมองพลอยแสนสงสารและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แต่ไม่ได้สังหรณ์ใจอะไร ก่อนที่เพชรจะประคองพาน้ำหนึ่งไปใส่บาตรพระ
พลอยมองคนทั้งสองเขม็ง ไม่ได้มองพระ จดสายตามองแต่เพชร น้ำหนึ่ง ใส่บาตรเสร็จ เพชรประคองน้ำหนึ่งกลับขึ้นคอนโด พลอยถอดแว่นออกมา พระเดินผ่านหน้าพลอย แต่พลอยไม่ได้สนใจ สายตาจับจ้องอยู่แต่เพชรกับน้ำหนึ่ง ด้วยแววตาอาฆาตพยาบาท
วันเดียวกันอลิสกับเพื่อนนั่งเม้าท์มอยกันอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง อลิสลากเสียงยาววว
“เหรอ... จนป่านนี้ยัยน้ำหนึ่งก็ยังอยู่คอนโดเล็กๆ ของนายเพชรอีกเหรอ”
“ก็เค้าเป็นผัวเมียกัน” มินโฮว่า
“ผัวจน บอกตรงๆ รับไม่ได้ นี่! คืนนี้ไปมั้ย”
“ไปไหน? โอ๊ย..คำถามอะไรของเธอฉันงง”
“ก็ไปคอนโดนายเพชรไง ขับรถหรูๆของเรา ไปเย้ยยัยน้ำหนึ่ง”
“เธอไปเหอะ ฉันไม่ไปหรอก”
“ทำไมล่ะ”
“ก็ฉันไม่ได้โรคจิตเหมือนเธอไง!”
อลิสค้อนขวับ
คืนนั้นอลิสขับรถมาตามทางค่อนข้างเร็ว
“เฮ้อ! ทางโล่งยังกับให้มาขับรถแข่ง คอนโดนอกเมืองราคาถูกก็เป็นแบบนี้แหละนี่ฉันคิดผิดคิดถูกที่มาเนี่ย? เพราะเธอคนเดียวยัยน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งมีท่าทีแพ้ท้องอยู่ในห้อง นั่งอิดโรย เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ
“ใครคะ”
พลอยนั่นเองอยู่หน้าห้อง ดัดเสียงบอก
“ป้าเอง...ป้าน้ำดอกไม้”
“อ๋อ..รอซักครู่ค่ะ” น้ำหนึ่งเดินไปเปิดประตู “มีอะไรคะป้า”
พลอยบอกเสียงพร่า “ไม่เห็นลงไปซื้อขนมมาหลายวันแล้ว เอามาฝาก”
“ขอบคุณมากค่ะ พอดีช่วงนี้น้ำหนึ่งแพ้ท้องหนัก” น้ำหนึ่งรับขนมมา “ป้ารอเดี๋ยวนะคะ น้ำ
หนึ่งไปหยิบเงินให้”
ไม่มีเสียงตอบ น้ำหนึ่งมองไป เห็นพลอยเดินลงไปแล้ว
“ป้านี่น่ารักจริงๆ ขนมน้ำดอกไม้นี่ก็ห้อมหอม”
น้ำหนึ่งแลเห็นเป็นดอกปีบ
“แล้วทำไมวันนี้เป็นดอกปีบ สงสัยพี่เพชรไปบอกป้าแหงๆ ว่าเราชอบ” น้ำหนึ่งมองนาฬิกา
ติดผนังยิ้มๆ “ป่านนี้ยังไม่กลับมาอีก น้ำหนึ่งทานก่อนพี่เพชรแล้วกันนะคะ ลูกหิว”
น้ำหนึ่งทานขนมน้ำดอกไม้อย่างเอร็ดอร่อย
ฟากพลอยค่อยๆ เดินไปด้วยความยากลำบาก ด้วยสภาพร่างกายพิกลพิการน่าเวทนา
พลอยถอดแว่นเหวี่ยงทิ้งไปแบบข่มอารมณ์ไม่อยู่
พลอยคิดแค้นอยู่ในใจ “เดี๋ยวเธอก็จะได้รู้จักฉัน และเธอกับเพชรก็จะจำฉันไปจนวันตาย”
ริมฝีปากพลอยเบ้บิดเบี้ยว ดวงตาเหี้ยมโหด
พิษจากกรดกำมะถันออกฤทธิ์ น้ำหนึ่งเริ่มมีอาการวิงเวียน โลกหมุน อาเจียน
ออกมาอย่างรุนแรง ซึ่งไม่ใช่การแพ้ท้อง
“ทำไมเราเป็นอย่างนี้”
น้ำหนึ่งอาเจียนอยู่ตรงนั้น หมดแรง พยายามจะลุกก็ลุกไม่ไหว ได้แต่อาเจียนออกมา น้ำหนึ่งพยายามยันกายขึ้น แต่มือไปโดนขนมน้ำดอกไม้ ลื่นปื้ดออกไป หน้าน้ำหนึ่งกระแทกพื้นอย่างแรง น้ำหนึ่งรีบเอามือกุมท้องห่วงที่สุด “ลูก...ลูก”
ที่หน้าห้องเกรียงศักดิ์เดินมากับเพชร เพชรยิ้ม
“นี่ผมไม่ได้บอกน้ำหนึ่งนะครับว่าท่านจะมาหา เซอร์ไพร์ส”
“ฉันก็อยากเซอร์ไพร์สลูกเหมือนกัน”
เพชรเคาะประตู “น้ำหนึ่ง..น้ำหนึ่งจ๋า..” เพชรแกล้ง “พี่ลืมเอากุญแจไป เปิดประตูให้พี่หน่อย”
เกรียงศักดิ์หลบมุม กะว่าถ้าน้ำหนึ่งเปิดจะไม่เห็นแล้วค่อยโผล่ออกไป ส่วนน้ำหนึ่งได้ยินเสียงเพชร เริ่มทุรนทุราย หน้าตาเลอะไปด้วยอาเจียน
“พี่เพชร”
น้ำหนึ่งพยายามยันกายขึ้นอีก แต่มือกลับถูกขนมน้ำดอกไม้ ลื่นลงไปอีก
“โอ๊ย”
เพชรกะเกรียงศักดิ์ตกใจ “น้ำหนึ่ง”
“น้ำหนึ่งเป็นอะไรน้ำหนึ่ง” เพชรทั้งพูดทั้งเอากุญแจมาเปิดประตูก่อนผลักเข้าไป
เกรียงศักดิ์กับเพชรเปิดประตูเข้าไป เห็นน้ำหนึ่งอยู่ในสภาพเวทนานอนกองอยู่ที่พื้นเลอะเทอะไปหมด
“น้ำหนึ่ง” / “ทำไมเป็นแบบนี้ลูก”
น้ำหนึ่งส่ายหน้า ใกล้หมดแรง “ไม่..ไม่รู้”
เพชรคว้าตัวน้ำหนึ่งมากอด น้ำหนึ่งอาเจียนออกมาเป็นขนมน้ำดอกไม้ เพชรมอง
ตะลึง เกรียงศักดิ์ก็ตะลึง
“อะไรเนี่ย”
เกรียงศักดิ์คว้ากล่องขนมน้ำดอกไม้มาดู เพชรหันขวับมามองเห็นดอกปีบวางอยู่บนขนม
นึกถึงตอนที่พลอยเอาดอกปีบใส่บนจานขนมมาให้เพชรแทนดอกมะลิ น้ำหนึ่งบอกเกรียงศักดิ์เสียงแผ่วๆ
“ป้า..เอาขนมมาให้”
“ป้าไหน” เกรียงศักดิ์ฉงน
“ป้า..น้ำดอกไม้” น้ำหนึ่งบอก
เพชรอึ้งมองดูกล่องขนมในมือและกล่องดอกปีบ ภาพจำตอนที่ตัวเองกินกรดกำมะถันที่พลอยใส่ลงในขนม รวมทั้งตอนที่นักปราชญ์ กินกรดกำมะถันจากไวน์ผุดขึ้นมาในหัว
เพชรมองน้ำหนึ่ง ทุกคนมีอาการอย่างเดียวกัน
“ผมจะไปเอารถออก เราต้องรีบพาน้ำหนึ่งส่งรพ.เร็วครับ”
พูดแค่นั้นเพชรก็วิ่งออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็ว เกรียงศักดิ์รีบประคองน้ำหนึ่งรวดเร็ว
เพชรวิ่งลงมาหน้าคอนโด เห็นพลอยในสภาพป้าน้ำดอกไม้กำลังเก็บของเตรียมกลับบ้าน เพชรประมวลเหตุการณ์ คำพูดป้าน้ำดอกไม้ที่ว่า “เค้าตัดขาดฉัน” รวมทั้งดอกปีบในห้องน้ำหนึ่ง
เพชรฉุกคิดวิ่งไปหาพลอย แต่พลอยซ่อนหน้าหลบตา เหมือนคนมีความผิด ส่อพิรุธเต็มๆ เพชรมองป้าน้ำดอกไม้อย่างจับสังเกต
“ขอโทษนะครับ”
โดยที่พลอยไม่ทันได้พูดอะไร เพชรคว้ามือของพลอยมาพลิกดู แม้ผิวหนังนั้นจะเป็นแผลเป็นแต่ก็ยังเห็นรอยกรีดลงไปเป็นแผลลึกบนข้อมือ ตอนที่พลอยกรีดข้อมือของตัวเอง เพชรเนื้อตัวสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
“พี่พลอย”
ใจของพลอยกระตุกวูบ สั่นไปทั้งร่าง เพชรกระชากแว่นดำดันใหญ่ออกแม้จะเห็นเพียง
ดวงตาข้างเดียวที่หรี่เล็ก เพชรก็จำได้
“พี่พลอย..พี่พลอยจริงๆ” เพชรเลือดขึ้นหน้า “พี่พลอยทำกับผมอย่างนี้ได้ยังไง”
เกรียงศักดิ์ประคองน้ำหนึ่งลงมาเห็นเพชรอาละวาดก็มองดู เพชรร้องไห้แทบบ้า
“พี่พลอยจะฆ่าลูก ฆ่าเมียผม ผมเกลียดพี่พลอย”
เกรียงศักดิ์ตะลึง “พลอย!”
“เพชร!”
“ไม่ต้องมาเรียก พอกันที ตั้งแต่วันนี้ผมกับคุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว ผมเกลียดคุณ!”
จังหวะนี้ตำรวจเห็นนึกว่าคนทะเลาะกัน รีบวิ่งมาหา
“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ”
พลอยตกใจลนลานไปหมด “ตำรวจ..ตำรวจ...ไม่...ฉันไม่ได้ฆ่าใคร? ฉันไม่ได้ฆ่าใคร”
พลอยวิ่งหนี ข้ามถนนหนีเท่าที่แรงจะทำได้
ระหว่างนี้อลิสขับรถมาด้วยความเร็วสูง อลิสร้องลั่นรถเมื่อมีคนวิ่งมาปาดหน้ารถ เบรกไม่ทัน รถของอลิสพุ่งเข้าชนร่างของพลอยอย่างจัง พลอยร้องสุดเสียง
เพชรตื่นตะลึงตกใจ “พี่พลอย”
ร่างของพลอยลงไปนอนกระตุกหัวกระแทกพื้น ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตื่นตะลึงกันไป
หมด เลือดสดๆ ไหลออกมาจากศีรษะและจมูก พลอยวิ่งพุ่งให้รถชน
“ไม่ตาย...ฉันไม่ตาย”
พลอยพึมพำขณะที่ดวงตาค่อยๆ หรี่ลง แต่ไม่ยอมปิด ค้างอยู่อย่างนั้น สำนึกสุดท้ายพลอยเห็นทับทิมเดินเข้ามาหา
“ไม่ว่าแกจะเป็นยังไง แม่ก็รักแกที่สุดในชีวิตพลอย”
ทับทิมยื่นมือมาจับมือพลอย ดวงตาเบิกค้างอยู่เหมือนเดิมก่อนที่พลอยจะนอนแน่นิ่งสิ้นใจตาย เพชรกระโจนมาถึงตัวพลอย กอดพลอยแน่น
“พี่พลอย”
เพชรร้องไห้โฮ
วันต่อมาอลิสถูกตำรวจควบคุมตัวเอาไว้ อลิสคุยเม้าท์มอยกับมินโฮเพื่อนสาว
“เหมือนอย่างที่เค้าว่าไว้จริงๆ ใครทำอะไรไว้ ก็ต้องได้รับกรรมอย่างนั้น ยัยพลอยบ้ามันเคยจะเอาน้ำกรดสาดยัยน้ำหนึ่ง ผลสุดท้าย หมอบอกว่าที่มันหน้าตากลายเป็นผีพิกลพิการแบบนั้นเพราะมันถูกน้ำกรดราดรดทั้งตัว และจากการชันสูตร แผลเป็นพวกนั้นเกิดจากถูกกรดกำมะถันทำลายอย่างรุนแรง เหมือนอย่างที่มันกับแม่แอบเอาใส่อาหารให้คุณนักปราชญ์กินจนตายไงล่ะ ยัยพลอยบ้านี่มันเป็นมารสำหรับทุกคนจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ แม้กระทั่งฉัน”
“แต่ฉันว่า ที่เธอขับรถชนยัยพลอยไม่มีมารที่ไหนหรอก เป็นเพราะเธอต่างหาก” มินโฮว่า
“ทำไม”
“ก็ถ้าเธอไม่จุ้นไปหายัยน้ำหนึ่งถึงที่ เธอคงไม่โดนข้อหาขับรถชนคนตาย”
“นี่จะมาเพื่อซ้ำเติมใช่มั้ย”
“มาเพื่อเตือนสติ ฉันจะบอกเธอนะอลิส เธอจะไม่สูญเสียอะไรเลย ทั้งเรื่องพี่หมอ เรื่องขับรถชนคนตาย ถ้าเธอไม่เป็นคนชอบยุ่งชอบจุ้นเรื่องของคนอื่น” มินโฮเตือนอย่างหวังดี
“สิ่งที่ฉันทำคือความถูกต้องทุกอย่าง”
“แหงล่ะตรรกะของอลิส อลิสทำอะไรก็ไม่เคยผิด”
“แน่นอน ฉันจะสู้คดี ว่ายัยพลอยบ้ามันวิ่งทะเร่อทะร่ามาชนรถฉันเอง”
ตำรวจเจ้าของคดีเดินเข้ามาหา “เชิญครับคุณอลิศครับ”
อลิสหน้าหงิกจะเดินไปหาตำรวจ “ยังไงฉันก็ไม่ยอมรับผิด”
“ต่อให้เธอไม่ยอมรับผิด เธอชนะคดี ยังไงมันก็เป็นตราบาปไปตลอดชีวิต ว่าเธอขับรถชนคนตาย!”
อลิสหน้าซีดเผือด รู้สึกแย่เหมือนกัน
ด้านน้ำหนึ่งรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา เพชรสุดแสนจะดีใจ
“น้ำหนึ่ง”
“พี่เพชร! ลูก...ลูกของเรา” น้ำหนึ่งถามถึงลูกเป็นอันดับแรก
“ลูกยังอยู่จ้ะ”
น้ำหนึ่งร้องไห้โฮทั้งดีใจ ทั้งโล่งอก เพชรกอดน้ำหนึ่งเอาไว้
“โชคดีที่พี่ไปทันเวลา”
“แล้ว..แล้ว..พี่พลอย”
เย็นวันหนึ่ง ทุกคนรวมตัวอยู่ที่วัด บนเมรุที่กำลังจะทำพิธีฌาปนกิจ เห็นรูปพลอยตั้งอยู่
“ที่พวกเราทุกคนมาที่นี่ เพื่ออโหสิกรรมให้พี่พลอย” เพชรวางดอกไม่จันทน์
ทุกคนเดินเอาดอกไม้จันทน์วางลงในโลงศพพลอย
“อโหสิกรรมให้ฉันด้วยนะพลอย”
ดาราณี น้ำหนึ่ง และนวล วางดอกไม่จันทน์ตาม
เวลาผ่านไปเพชรแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นควันก่อตัวเป็นรูปคล้ายใบหน้าพลอยมองลงมา
“ผมหวังว่าพี่พลอยจะรับรู้ และนำคำว่าอโหสิกรรมไปสู่ภพภูมิใหม่นะครับ”
เพชรมองจนควันรูปใบหน้าพลอยค่อยๆ จางหายไป
วันต่อมาเพชรนำเอาป้าย ประกาศขาย ปักไว้ที่หน้าบ้านเชิงเขา
“พี่เพชรจะขายที่นี่จริงๆ เหรอคะ” น้ำหนึ่งถาม
เพชรพยักหน้า “ถึงพี่จะรักแม่ รักพี่พลอย รักบ้านหลังนี้มากแค่ไหน แต่พี่รู้แล้วว่าการยึดติดมีแต่ความทุกข์...พี่ไม่ต้องการยึดติด” เพชรมองตัวบ้านอย่างอาลัย ลึกๆ ชายหนุ่มรู้สึกผูกพันกับที่นี่ไม่คลาย “โดยเฉพาะ ความรู้สึกที่พี่รู้สึกว่าโดนทำร้าย มาตลอดชีวิต โดยคนที่พี่รัก”
“น้ำหนึ่งดีใจค่ะ...ที่พี่เพชรจะลืมมันไป” น้ำหนึ่งยิ้ม
“พี่ยินดีที่จะลืม เพราะการลืมมันช่วยดับทุกข์ เรื่องที่ไม่ดี เราก็ไม่ควรปล่อยให้มันตามมาหลอกหลอนใจให้เราต้องเจ็บปวด”
“จริงค่ะ..การไม่มีความทรงจำที่ไม่ดี ทำให้ชีวิตเราก้าวต่อไปได้ดีกว่า”
“ต่อไปนี้ชีวิตของพี่จะมีแต่เพชรน้ำบุศย์ และเพชรน้ำหนึ่ง ลูกของเรา” เพชรเหลียวมองบ้านเป็นครั้งสุดท้าย “และความทรงจำของพี่ก็จะมีแม่ มีพี่พลอย เพราะยังไง แม่กับพี่พลอยก็เป็นคนที่พี่รักอยู่ดี”
เพชรจับมือน้ำหนึ่งเดินเคียงกันออกมา สองคนค่อยๆ ห่างบ้านเชิงเขาออกไปทุกทีๆ จนบ้านเชิงเขาค่อยๆ หายลับสายตาไป
แลเห็นเพียงต้นปีบสูงใหญ่ ยืนต้นตระหง่านอยู่ตรงนั้น
จบบริบูรณ์
โปรดติดตาม "หัวใจเรื่องพ่วง" เร็วๆ นี้