xs
xsm
sm
md
lg

อาญารัก ตอนที่ 21

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อาญารัก ตอนที่ 21

ในเวลาเดียวกัน เรียมยืนอยู่กลางห้องนอนของทานตะวัน ร้องเรียกหา

“หนูอี๊ดขา มากินข้าวลูก เอ๊ะ ไม่อยู่ในห้อง นี่หนูอี๊ดออกไปไหนรึว่าไปที่ร้าน แปลว่าอารมณ์ดีมากแล้ว ถ้าเช่นนั้นก็ค่อยยังชั่ว”
เรียมโล่งอกสบายใจหันมาเจอกบ
“คุณนายเรียมมาหาคุณหนูอี๊ดหรือเจ้าคะ”
“ใช่ สงสัยว่าจะไปร้านเสียแล้ว”
“ไปทางเรือนคุณสนต่างหากเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ ไม่ได้การละ”
“นี่แหละเจ้าค่ะ ที่กบรีบมาเรียนให้ทราบเจ้าค่ะ”
เรียมร้อนใจเดินตัวปลิวออกไป กบวิ่งตามแทบไม่ทัน

สองคนพายเรือมาในคลองทานตะวันนั่งยิ้มในสีหน้า สนพายเรือไป ยิ้มในทีไปด้วย ต่างคนต่างมีแผน
สองคนไม่ทันสังเกตุว่าที่ผิวน้ำ ซึ่งมีต้นกกกอเล็กๆ คล้ายเป็นหลอดสำหรับช่วยหายใจ เห็นเงาเนียนแหวกว่ายอยู่ใต้ผิวน้ำ
ติดตามเรือไปเรื่อยๆ เนียนแอบโผล่หน้ามามองเหตุการณ์แล้วดำลงไปใหม่
“ทำไมถึงเกลียดเขามากมายนัก เขาทำอะไรสาหัสสากรรจ์ให้นักรึ”
“มันทำกับทุกคนค่ะ มันทำให้คุณพ่ออับอายขายหน้าด้วยการคบชู้และที่สำคัญเป็นเสือหนัก มัน…”
“ทำไมเดือดร้อนแทนคุณพ่อมากมายถึงขนาด ต้องเกลียดเขาหนักหนา”
“ใช่ค่ะ เพราะมันคิดฆ่าหนูอี๊ด จำไม่ได้หรือคะ มันใช้ลูกสาวมันหลอกไปทำเรือล่มให้เสือหนักมาปล้ำหนูอี๊ด แล้วตอนนี้มันฆ่าปิดปาก ไปทีละคนสองคน”
“ทำไมคิดว่าเป็นเขา ทำไมไม่คิดว่ามีใครวางแผนใส่ร้ายป้ายสีเขา”
“วุ๊ย ก็มันมีหลักฐานทั้งนั้นนะคะ เชื่อแม่สนเถิดค่ะ”
ขณะฟังสนใส่ร้ายเนียน ทานตะวันมองหน้าสนยิ้มร้ายๆออกมา
“ชั้นไม่เชื่อ”
สนตะลึง
“อ้าว หนูอี๊ดพูดว่ากระไรนะคะ”
“เมื่อก่อนอะไรๆ ชั้นก็อยากให้เขาผิด ถึงขนาดแม้ว่าหายใจก็ยังผิด แต่ตอนนี้ ชั้นตาสว่างแล้ว รู้ว่าคนโกหก คนหลอกลวง คนปลิ้นปล้อนตลบตะแลง ใจดำอำมหิตผิดมนุษย์บางคน ที่ฆ่าคนอื่นตายคือ…”
สนตวาดแว้ด “หยุดนะ”
“ไม่หยุด ชั้นจะพูดต่อไปว่า นังฆาตกรใจร้ายมันคือ...”
ทานตะวันไม่พูดเปล่า ทำท่ายกมือจะชี้หน้าสน
“บอกให้หยุด”
สนโมโหยกไม้พายจะฟาดใส่ ทานตะวันร้องลั่น
จู่ๆ เนียนโผล่มาแล้วพลิกเรือให้คว่ำทันทีก่อนที่ไม้พายจะฟาดใส่ร่างลูกสาว
“ว้าย ใครมาล่มเรือกู”
ทั้งสนและทานตะวันต่างตกลงไปในน้ำทั้งคู่
“ช่วยด้วย” ทานตะวันร้องให้คนช่วย
สนว่ายน้ำยิ้มแสยะ
“แค่ตัวเองยังเอาตัวไม่ค่อยจะรอด ช่วยตัวเองเถิด แม่คนปากเก่งแต่พูดพูดออกมาล้วนแต่โง่”
สนเกาะเรือกระทุ่มน้ำถีบให้ห่างออกไป ทิ้งทานตะวันให้ตะเกียกตะกายจะจมมิจมแหล่
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
สนกระทุ่มน้ำหนีห่างออกไปแล้ว เหลียวหลังมายิ้มเยาะ และทานตะวันเองก็กำลังย่ำแย่ ร้องไห้โวยวาย
แล้วจู่ๆ ทานตะวันก็เห็นกระบอกไม้ไผ่ลำใหญ่ยาวขนาดย่อม ลอยใกล้เข้ามา พร้อมๆ กับเนียนโผล่ขึ้นมาด้วย
“เกาะค่ะ เกาะไหวไหมคะ”
ทานตะวันตะลึง แต่ดีใจมาก อ้าปากพูดไม่ออก “นี่ นี่”
“อย่าเพิ่งพูดอะไรคะ รีบเกาะลำไผ่นี่ค่ะ ไม่จมดอกค่ะ”

เนียนช่วยดึงมือดึงไม้ ทานตะวันปล่อยให้เนียนจัดการเอามือมาเกาะลำไผ่

ไม่นานต่อมาสองคนแม่ลูก ลอยคอเคียงข้างกันเกาะลำไผ่มาตามลำน้ำ

“กระทุ่มน้ำค่ะ ไหวไหมคะ”
“ไหวสิ เอ้อ ไหว ค่ะ”
“หันลำไผ่ไปที่ท่าน้ำบ้านเรานะคะ ตรงนั้นขึ้นฝั่งง่าย”
“รู้ไหมว่าอีสนมันเลวทรามมาก มัน…”
“อย่าเพิ่งไปเอ่ยถึงใครเลยนะคะ คุณหนู”
“อย่าเรียกคุณหนู อย่าเรียกเลยนะ มัน เอ้อ มันไม่ดีดอก” ทานตะวันบอกท่าทีขัดเขินอยู่
เนียนดีใจ เพราะลูกสาวคนโตพูดเสียงอ่อนนุ่มนวลมาก
“เอ้อ ค่ะ”
“ขึ้นไปได้ จะไปเปิดโปงอีสน จะไปบอกให้คุณพ่อโบยมันด้วยแส้ม้าดีไหม”
เนียนอบรม “ไม่ดีดอกค่ะ การแก้แค้นไม่ช่วยแก้ไข แต่ตอกย้ำเพิ่มความเกลียดชังให้เพิ่มขึ้น อย่าไปเพิ่มศัตรูเลยค่ะ”
“มันตั้งตัวเป็นศัตรูก่อนนี่นา”
“วางเฉยสิคะ แต่ระวังตัวไว้ ถ้าเป็นไปได้ ทอดไมตรีให้เขานะคะ” เนียนบอก
ทานตะวันหงุดหงิด “นั่นมันนางฟ้าแล้วโอ๊ย..ชั้นทำดีขนาดนั้นไม่ได้ดอก มันจะฆ่าเอายังไม่รู้ตัวรึ ที่ไปกับมันชั้นก็แค่แกล้งตามมันไปเพื่อทดสอบว่ามันคิดยังไงกับ เอ้อ กับเนียน”
“ขอบคุณมากค่ะ ที่หวังดีกับม..เอ้อ ชั้น”
“ชั้นตั้งใจจะประจานมันให้รู้ว่ารู้ทันมัน นี่ถ้าเรือไม่ล่มก่อน มีหวังมันเอาไม้พายฟาดหน้าจมน้ำตาย โชคดีแท้ๆ ที่ ม..เอ้อ มาช่วยทัน”
เนียนยิ้ม ทานตะวันนึกได้หันมามองหน้าเนียน ที่มองมาอย่างรักใคร่ห่วงใยมากมาย
“เอ๊ะ หรือว่า...ใช่แล้ว แอบตามมาอีกแล้วใช่ไหม”
“ม.. เอ้อ ชั้นตามคุณหนูมาค่ะ เกรงว่าจะเกิดอันตราย เพราะบ้านเราตอนนี้ไม่ปลอดภัย” เนียนบอก
ทานตะวันน้ำตาคลอมองเนียน “ขอบคุณ ขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆ”
“เอ้อ...ค่ะ”
เนียนดีใจเหลือแสน ทำนบน้ำตาแตกน้ำตาไหลรินอีกแล้ว

ฝ่ายสนลอยคอว่ายน้ำหนีไปกลางลำคลอง หนีสถานเดียว จนมาตั้งสติได้ก็ไกลโขและเหนื่อย สองฝั่งดูเงียบๆ สนหันมองรอบตัว
“ใครล่มเรือกูหว่า”
เสียงใบไผ่พัดซู่ฟังดูวังเวง สนครุ่นคิด
“รึว่า...”
ภาพ ยายอ่อนโดนเท้าสนกดหัวให้จมน้ำผุดขึ้นมาในมโนนึก
“ไม่ ไม่จริง ไม่จริง นะ”
สนอดมองลงไปที่ผิวน้ำไม่ได้ แล้วสนก็ตาเหลือก เมื่อเห็นช้อยมองมาตาถลึงไม่อ้าปากบอก แต่สนได้ยินเสียงในหัว
“กูจะแก้แค้นมึง พวกกูจะตามแก้แค้นมึงไม่มีที่สิ้นสุดจนกว่ามึงจะตายอย่างทารุณเหมือนพวกกู”
สนกลัวมาก มองไปทางไหนก็เจอผี ว่ายหนีไปทางไหนก็เจอแต่ผีพวกนั้นบ้างมาดึงขา มาดึงแขน มาจิกหัว
“กลัวแล้ว กลัวแล้ว ไปนรกสิ ไปนรกซะ”

หากใครมองลงไป จะเห็นว่าสนดิ้นรนอยู่คนเดียวกลางลำน้ำ

เรียมเดินมาพร้อมกับกบและแมว ถามขึ้นอย่างร้อนใจ

“กบแน่ใจนะว่าคุณหนูอี๊ดไม่ได้ออกไปนอกบ้าน แต่มาเดินแถวนี้”
“นางแมวมันเห็นเจ้าค่ะ” กบบอก
“ใช่เจ้าค่ะ พอแมวเห็น ก็รีบไปบอกนางกบเจ้าค่ะ”
“กบเลยรีบมาเรียน คุณนายเรียมเจ้าค่ะ แถวนั้นอันตรายจะเป็นจะตาย เจ้าค่ะ”
“ใครมาเดินแถวนี้ ก็คล้ายเอาชีวิตมาเสี่ยงตายด้วยการแขวนตัวไว้บนเส้นด้ายเจ้าค่ะ” แมวเสริม
เรียมเอ็ดเอา “นี่เลิกพูดน่ากลัวกันได้แล้ว ช่วยกันตามหาลูกสาวชั้น”
กบ และแมวต่างเร่งกันตามหาหนูอี๊ด
“คุณหนูอี๊ดเจ้าขา”
“หนูอี๊ด หนูอยู่ที่ไหนลูก”
“อยู่นี่ค่ะ คุณแม่” เสียงทานตะวันดังแว่วมา
สามคนฟังแล้วงง เสียงกระทุ่มน้ำดังจ๋อมแจ๋ม เรียม กบและแมวพากันมองไป เห็นทานตะวันลอยคอเกาะไม้ไผ่ลำใหญ่มากับเนียน
“เนียน หนูอี๊ด”
กบกะแมวประหลาดใจ “มาด้วยกันได้อย่างไร”
เนียน และทานตะวันมาถึงริมท่าน้ำ กบกะแมว ผวาไปช่วย เรียมตามไปดู เนียนพยายามดันลูกสาวขึ้นฝั่ง
“นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
เนียนตามขึ้นมา ผวามาประคองทานตะวัน
“คุณหนู เป็นอย่างไรบ้างคะ”
ทานตะวันปรือตามองหน้าเนียน ก่อนจะหรี่ลงเหมือนจะหมดสติ แต่ยังพูดออกมาได้
“ข.อ.บคุณมาก หนู... ขอ ..โทษ หนู...”
แล้วทานตะวันก็เป็นลมล้มพับไป
“หนูอี๊ด” เรียมตกใจ
เนียนกอดทานตะวันเอาไว้แนบอก “ทูนหัวของแม่ อย่าเป็นอะไรนะ”
กบกะแมวยืนมอง สองคนตบตัวเองคนละฉาด พูดโดยไม่ได้นัด
“นั่นปะไร กูว่าแล้ว”
“อย่าพูดมาก รีบช่วยคุณนายเนียน อุ้มคุณหนูไปดูแลที่เรือนของชั้น”
“เจ้าค่ะ”
เนียนยังคงมองลูกท่าทีห่วงใยมาก

กลางลำคลองตรงจุดที่สนตะกายเหมือนคนจะจมน้ำ ตะเกียกตะกาย ร้องโวยวาย
“กลัวแล้ว กลัวแล้ว โอ๊ย จะตายอยู่แล้ว กลัวแล้ว เหนื่อยแล้ว ใจจะขาดแล้ว
เสียงเรือยนต์ดังแว่วๆ มา ก่อนที่เรือจะค่อยๆ ปรากฏลำขึ้น แลเห็นเป็นเทิดศักดิ์และแดงน้อยอยู่ในเรือ สองหนุ่มได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วย
“เสียงใครเรียกให้ช่วย”
แดงน้อยมองไป
“มีคนตกน้ำ ไปช่วยเร็วๆ เข้า”
คนขับเรือพุ่งเรือไปทางสน
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย จะตายอยู่แล้ว”
เรือใกล้เข้ามา สองคนมองไปที่คนจมน้ำซึ่งท่าทีจะจมมิจมแหล่ เทิดศักดิ์มองเขม้นไปแล้วตกใจมาก
“คุณแม่”
ขาดคำทั้งเทิดศักดิ์และแดงน้อยพุ่งลงไปในน้ำพร้อมกันทันที

ครู่ต่อมาแดงน้อยกับเทิดศักดิ์พาร่างสนมาที่เรือ สองหนุ่มช่วยกันเอาสนขึ้นเรือได้แล้ว สนมองเห็นว่าสองคนมาช่วยตนลางๆ
“เทิดศักดิ์ แดงน้อย”

แล้วสนก็หมดสติไป

ด้านทานตะวันถูกจับเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้ว มีเนียนนั่งมองหน้ารอเวลาให้ลูกสาวฟื้น เนียนพัดวีอี๊ดลูบไล้เนื้อตัวนวดไปด้วย เรียมกับทองจันทร์นั่งมองห่างออกมา

“โชคดีเหลือเกินที่เนียนบังเอิญเห็นเข้า แล้วแอบตามไป” เรียมว่า
“หาไม่ก็ลงเอยแบบเดียวกับนางช้อยนางอ่อน มันทำเกินไปแล้วจริงๆ” ทองจันทร์โกรธจัด
“เนียน จะไม่ยอมบอกจริงๆ รึ ว่าหนูอี๊ดไปทำอะไรที่ในคลองนั่น”
เนียนอึกอักเช่นเคย “เอ้อ...”
ทองจันทร์หมั่นไส้ “มาตะเภานี้อีกแล้วนะเนียน กลัวพิกุลจะร่วงจากปาก ไม่ยอมเอ่ยปาก เกรงจะพาดพิงคนอื่นละสิ ไม่บอกก็พอจะเดาถูกว่ายัยอี๊ดไปกับใคร”
“ใช่อย่างที่คุณแม่คิดใช่ไหมเนียน” เรียมถาม
“เอ้อ รอให้ คุณหนู…”
เนียนพูดไม่ทันจบทองจันทร์ทนไม่ไหว วี้ดขึ้นทันที
“จนป่านนี้อย่ามาเรียกคุณหนงคุณหนู ช่วยชีวิตกันจนชีวิตตนเองแทบจะหาใหม่ ไม่รู้พระคุณก็ไล่มันไปเป็นลูกหมาแล้ว เอาละ ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก”
“คือเนียนคิดว่า น่าจะรอให้คุณเอ๊ย หนูอี๊ดเธอบอกเองเถิดค่ะ”

สนเองก็ถูกสองหนุ่มพามาอยู่บนเรือน แต่ยังไม่ฟื้นคืนสติ
“คุณแม่ลงไปทำอะไรในน้ำ” เทิดศักดิ์ปรารภขึ้นมา
“เมื่อสักครู่หมู่เติม พบเรือคว่ำลอยเท้งเต้งอยู่แถวนี้” แดงน้อยเองก็ฉงน
กบกะแมวโผล่หน้าเข้ามาเพื่อจับผิดสน
“เอ้อ คือคุณท่านให้มาเรียนถามว่า คุณสนอยู่ไหมเจ้าคะ” กบถาม
“อยู่ คุณแม่เรือคว่ำจมน้ำ ชั้นเพิ่งไปช่วยขึ้นมา” เทิดศักดิ์บอก
แมวร้องขึ้นมา “ต๊าย มาตะเภาเดียวกันกับคุณหนูอี๊ด เจ้าค่ะ”
“ว่ากระไรนะ เกิดอะไรขึ้นกับน้องอี๊ดรึ” แดงน้อยตกใจ
กบกะแมวประสานเสียง “ตกน้ำเจ้าค่ะ”
เทิดศักดิ์และแดงน้อยมองหน้ากัน อุทานพร้อมเพรียง
“อะไรกันนี่”
“ตอนนี้น้องอี๊ดอยู่ที่ไหน” แดงน้อยถาม
“เรือนคุณนายเรียมเจ้าค่ะ” กบบอก
แมวเสริม “ยังหมดสติเหมือนคุณนายสนเปี๊ยบเจ้าคะ”
เทิดศักดิ์กระซิบ “มันแปลกเกินไป แดงน้อย แกรีบไปที่เรือนคุณนายแม่เดี๋ยวนี้”
แดงน้อยพยักหน้า

ไม่นานต่อมาแดงน้อยมาถึงบนเรือนแล้ว กบกะแมวยื่นหน้ายื่นตารายงาน
“คุณนายสนนอนเป็นลมหมดสติ อาการเดียวกันกับคุณหนูอี๊ดเปี๊ยบเจ้าค่ะ” กบบอก
“นายอำเภอติดตามกลับมาที่นี่ด้วยเจ้าค่ะ คงจะมา...” แมวว่า
กบกะแมวนั่งแปะตั้งท่าเล่าต่อ ทองจันทร์เงื้ออะไรจะปาใส่
“พวกเอ็งนั่นแหละไป หมดธุระแล้วก็ไป อย่ามานั่งทำไขสือ ไปเลย”
กบกะแมวทำหน้าผิดหวังแต่ก็ออกไปโดยดี แดงน้อยไหว้ทองจันทร์ เรียม และเนียน
“แม่เนียนครับ ใครเป็นคนพบน้องอี๊ดครับ”
“แม่เองจ้ะ” เนียนบอก
“สันนิษฐานได้ว่าน้องอี๊ดน่าจะไปกับคุณแม่สนนะครับ ใช่ไหมครับ แม่เนียน”
เนียนนิ่ง ทองจันทร์กับเรียมมองหน้ากัน
“นั่นเขาไม่เปิดปากพาดพิงใครดอก รอให้หนูอี๊ดได้สติขึ้นมาแล้วให้หนูอี๊ดบอกเองก็แล้วกัน เฮ้อ คนที่ดีมันก็จะดีกันไปถึงไหน คนที่ร้ายมันก็รักษาความร้ายไว้เหนียวแน่น” ทองจันทร์บ่นว่า
ทุกคนมองไปที่ทานตะวัน ที่เริ่มขยับตัวพึมพำ เบาๆ แต่ทุกคนได้ยินชัดเจน
“แม่เนียนจ๋า”
ทุกคนมองหน้ากัน ด้วยความตกใจและยินดี ขณะที่เนียนตะลึงงันน้ำตาไหลย้อย
“ทูนหัวของแม่”
“หนูเสียใจ หนูขอโทษ”
เนียนส่ายหน้า
“ไม่ต้องดอก ทูนหัวของแม่”
เนียนโน้มตัวลงไปโอบอุ้มเอาตัวทานตะวันมาแนบอกเอาหน้าแนบหน้าลูกสาวไว้
ทานตะวันเงยหน้า เห็นเบลอๆ แล้วเห็นเนียนชัดเจนขึ้น คนอื่นจ้องตาไม่กระพริบ
ทานตะวันลืมตาเต็มที่ “แม่เนียนจ๋า แม่เนียนช่วยชีวิตหนูอีกแล้ว”
“หน้าที่ของแม่ ต้องปกป้องลูกเสมอ ทูนหัวของแม่ ไม่ต้องกลัวไม่เป็นอะไรแล้วนะลูก”
ทานตะวันส่ายตาไปเจอเอากับเรียม ทองจันทร์ แดงน้อยกำลังมองมา
“คุณแม่ คุณย่า พี่แดงน้อย”
“ย่าดีใจที่หนูรู้เสียทีว่าแม่คนนี้ของหนู พร้อมที่จะเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อหนูเสมอ”
“หนูสบายใจแล้ว ไม่อับอายเรื่องแม่อีกแล้วใช่ไหม หนูเอ่ยคำว่าแม่เต็มปากเต็มคำแล้วหรือยัง”
ทานตะวันพลิกตัวมากอดเนียนซบหน้ากับอกเนียน
“หนูรู้ตลอดเวลาว่าแม่ปกป้องคุ้มครองดูแลหนู แต่หนูไม่ดี หนูหลงผิด”
ทานตะวันผละออกมาแล้วก้มลงกราบบนตักเนียน
“แม่เนียนขา หนูขอโทษ หนู หนู รักแม่เนียนนะจ๊ะ”
ทานตะวันกอดเนียนแน่น เนียนกอดลูกสาวเต็มรักน้ำตาไหลริน สามคนพลอยยิ้มเต็มตื้นไปด้วย
“หนูไม่ได้แค่รู้ว่าใครคือแม่แท้จริงหนูเท่านั้น หนูควรรู้จักพี่น้องของหนูด้วยค่ะ” เรียมเอ่ยขึ้น
“ยัยติ๋ว หรือคะ หนูทราบแล้ว หนูเอ้อ หนูจะปรับความเข้าใจกับเขาเองค่ะ”
“ยังไม่หมดแค่นั้นดอก หนูยังมีพี่ชายอีก พี่แดงน้อยคือพี่คนละพ่อของหนูไงจ๊ะ” ทองจันทร์เป็นคนบอก
ทานตะวันหันมาหาแดงน้อย ยกมือไหว้งงๆ
“พี่แดงน้อย พี่แดงน้อย นี่มันอะไรกัน”

บรรยากาศบนเรือนใหญ่เวลานั้น แสนชื่นมื่น ท่ามกลางความดีใจและเป็นสุขของทุกคน

อ่านต่อหน้า 2

อาญารัก ตอนที่ 21 (ต่อ)

ส่วนเทิดศักดิ์ฟังสนเล่าเรื่องแบบเข้าข้างตัวเองจนจบไปแล้ว

“เชื่อที่แม่บอกเถิดนะลูก แม่แค่ชวนหนูอี๊ดไปพายเรือเล่น แต่มีคนมาล่มเรือเราสองคนจม โธ่ หนูอี๊ด ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนะ”
“ปลอดภัยแล้วครับ”
“ปลอดภัยแล้ว” สนตกใจระคนแปลกใจ
เทิดศักดิ์มองอาการแม่ ที่หน้าซีดลงเงียบๆ
“แม่ไม่ได้ทำอะไรหนูอี๊ดนะ”
“ไม่มีใครคิดว่าคุณแม่ทำอะไรดอกครับ”
“หนูอี๊ดนิสัยไม่ดีลูกก็รู้ แกอาจจะใส่ร้ายแม่ก็ได้”
“ผมเป็นตำรวจ วิเคราะห์ออกครับ ว่าใครพูดจริง ใครพูดโกหก”
สนมองหน้าเทิดศักดิ์ที่แลดูหม่นหมองมากๆ จึงไม่ปริปากพูดอะไรต่อไปอีก

ทางด้านแดงน้อยขี่จักรยานพาทานตะวันมาส่งที่ร้านเสริมสวย ทานตะวันใส่หมวกเพราะร้อน แดงน้อยปั่นมาถึงหน้าร้าน ทานตะวันลง ก่อนจะหันมาบอกใบหน้ายิ้มแย้ม
“ถึงหนูไม่อาจรักพี่แดงน้อยฐานะคู่รักได้ และพี่แดงน้อยเองก็ไม่เคยคิดมีใจกับหนูฐานะคนรัก แต่หนูก็ดีใจที่ยังไงเสีย พี่แดงน้อยก็รักหนู ในฐานะน้องสาว”
“น้องสาวที่น่ารัก เกิดมาเคยซ้อนจักรยานใครมาจากบ้าน ไกลถึงร้านแบบนี้ไหม ร้อนมากไหม เหนื่อยมากไหม”
“ไม่ค่ะ หนูเห็นยัยติ๋วขี่จักรยานไปไกลถึงโรงเรียนด้วยซ้ำ ยังไม่เหนื่อยหนูจะเหนื่อยไปทำไม ขอบคุณมากคะที่มาส่งหนู หนูจะเข้าไปจัดร้าน เตรียมตัวที่จะเปิดร้านใหม่อีกครั้ง”
“พี่ดีใจด้วยจ้ะ พรุ่งนี้ คุณพ่อขุน เทิดศักดิ์ จะบอกน้องติ๋วเรื่องของแกน้องอี๊ดกับน้องติ๋วคงจะได้พูดจากันประสาพี่น้องซักที”
ทานตะวันพยักหน้า แดงน้อยขึ้นจักรยานแล้วปั่นไปทางศาลากลาง ทานตะวันเข้าร้านไป

ทองจันทร์กินอาหารกับเนื้อทอง ตามลำพัง มีกบคอยดูแล ทองจันทร์ดูมีความสุขมาก
“ตอนนี้ถ้าย่าตาย ย่าก็นอนตายตาหลับ”
“คุณย่าขา อย่าพูดเรื่องนี้สิคะ”
“ก็ย่ามีความสุขมาก จนเลิกห่วงความตายแล้ว”
จังหวะนี้ทานตะวันเดินยิ้มเข้ามา ยิ้มเกลื่อนไปถึงเนื้อทองอีกด้วย แล้วก็นั่งลงมาสวมกอดทองจันทร์
“หนูมาขอกินข้าวด้วยคนค่ะคุณย่า”
“เชิญจ้ะ กบจัดจานข้าวให้คุณหนูอี๊ด”
เนื้อทองกุลีกุจอจะไปทำ ทานตะวันมองตาม
“ไม่ต้องดอกยัยติ๋ว ให้กบทำไปเถิด วันนี้เธอทำอะไรให้คุณย่ากินรึ”
เนื้อทองงงๆ “เอ้อ ทำ ทำ...”
“ทำอะไรชั้นก็กินได้ทั้งนั้น ดูสิ น่ากินทั้งนั้นเลย วันหลังเรามาช่วยกันทำให้คุณย่ากินด้วยกันดีไหม”
ทองจันทร์หัวเราะลั่นบ้านแต่เนื้อทองเหวอ
“ในที่สุด ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ และดีที่สุดแล้วความดีงามก็งอกงามเข้าไปในหัวใจของทุกคน”

เนื้อทองยังงงๆ กบแอบประหลาดใจ

บนเรือนใหญ่เวลานั้น สามคนกินอาหารเสร็จพอดี

“พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่ทุกอย่างจะเปิดเผยเป็นทางการเสียที” ขุนภักดีว่า
“ค่ะ พี่ขุน เอ้อ แต่สำหรับเรื่อง คุณเทิดศักดิ์ เนียนว่า...”
“เนียนเขากลัวว่าเทิดศักดิ์จะเสียใจมาก อยากให้ประวิงไว้ก่อนค่ะพี่เทพ” เรียมขอร้องอีกแรง
“ก็ได้”
ท่านขุนยิ้มย่อง แมวที่แอบหลบนั่งอยู่พลอยยิ้มตามไปด้วย

ขณะที่เนื้อทองเดินจูงจักรยานออกมาจากข้างในโรงเรียนแต่ต้องชะงัก ท่านขุนยืนยิ้มรออยู่หน้าประตูโรงเรียน
ติ๋วรีบยกมือไหว้ท่านขุน ในขณะที่ขุนภักดีก็ยกมือรับไหว้
“มารับน่ะ”
เนื้อทองตกใจอีกรอบหนึ่ง
“เอ้อ…”
“ไม่เอาไปขายที่ไหนดอกน่า แม่เนียนเขาก็รู้แล้วว่าจะมารับ”
เนื้อทองแปลกใจ “แต่ หนูเอ้อ ขี่จักรยานกลับเองก็ได้เจ้าค่ะ”
“นี่ ชั้นไม่ใช่เสือสางที่ไหน อย่ามาอิดเอื้อน ไปขึ้นรถ บอกให้ก็ได้ว่าแม่เราเขาให้มารับ แล้วไปเจอเขาที่บ้านนายอำเภอแดงน้อย”
“เอ้อ เจ้าค่ะ”
“งั้นก็ไปขึ้นรถสิ”
“เจ้าค่ะ เอ้อ แล้วจักรยานนี่”
“ไอ้เอกลงมาขี่จักรยานไปบ้านนายอำเภอแดงน้อย”
เนื้อทองเดินตามท่านขุนไปขึ้นรถแบบกลัวๆ ท่านขุนยิ้มแย้ม เนื้อทองแปลกใจมากขึ้นเรื่อยๆ

วันนี้ทองจันทร์แต่งตัวออกมาสวยงามมีกบประคองเดินมานั่ง
“คุณนายเนียนกับคุณนายเรียม ยังไม่มาอีกรึ”
“ยังเจ้าค่ะ ให้คนมาเรียนว่า อีกสักครู่ กำลังให้เด็กเอาอาหารใส่ปิ่นโตไปรับประทานเจ้าค่ะ”
“อ้อ…”
แมวเข้ามาแบบตื่นเต้นมาก พูดกระซิบ “คุณท่านเจ้าขา มีคนมาขอพบเจ้าค่ะ”
“ใคร”
แมวกระซิบบอก “หมอเสน่ห์เจ้าค่ะ”
“ไฮ้ แล้วเอ็งจะกระซิบทำไม”
“เขาบอกว่า มาแบบลับๆ เจ้าค่ะ”
“เอ เอ็งถามมันหรือเปล่าว่ามาทำไม”
“เขาว่าจะมาเป็นพยานการฆ่ากันตาย ตั้งแต่ศพแรกจนถึงยายอ่อนเจ้าค่ะ”
“ใช่แล้ว หมอที่ทำเสน่ห์แล้วบ้านเคยโดนไฟไหม้สูญหายไปนานแล้ว”
“อิชั้นจะไปถามเขาให้นะเจ้าค่ะ ถ้าใช่ ให้เขามาพบ ถ้าไม่ใช่ให้ไล่เขาไปใช่ไหมเจ้าค่ะ”
“ใครใช้ให้เอ็งมาออกความคิดแทนข้า นังสู่รู้”
“เอ้อ ถ้าเช่นนั้น จะให้อิชั้นไปบอกเขาว่ากระไรเจ้าคะ”
“ก็บอกอย่างที่เอ็งพูดเมื่อสักครู่ นั่นแหละ”
“แฮ่ะๆ”
“ยังไม่รีบไป แล้วอย่าให้มันเอิกเกริก”
“เจ้าค่ะ”

แมวรีบเผ่นออกไป

ฟากขุนภักดีพาลูกสาวเดินเข้ามาในศาลากลาง เนื้อทองแปลกใจ

“เอ้อ นี่ศาลากลางนะเจ้าค่ะ”
“ใช่ ที่นี่เหมาะมากที่ชั้นจะบอกบางสิ่งที่สำคัญมาก สำหรับชีวิตเราสองคน”
“เอ้อ…”
ท่านขุนอ้าแขนออก เนื้อทองมองมาอย่างแปลกใจ
“ลูกรัก มาให้พ่อกอด เป็นครั้งแรกทั้งที่ควรจะเป็นครั้งที่ล้านแล้ว”
เนื้อทองยังคงยืนงงอีก
“หนูคือลูกสาวคนเล็กของพ่อ หนูคือฝาแฝดคนน้องของพี่อี๊ด”
เนื้อทองตะลึงนิ่งงันไป ขุนภักดีเดินเข้าไปหาทั้งที่ยังกางแขนอยู่
“ลูกรัก ถ้าพ่อก้มลงกราบขอโทษลูกได้ พ่อจะทำ พ่อเสียใจสำหรับยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา พ่อไม่เคยให้ความรักความปราณี แก่ลูก พ่อให้แต่ความโหดร้ายทารุณ ทั้งกายและจิตใจของลูก พ่อผิดไปแล้ว อภัยให้พ่อด้วย”
ขุนภักดีมายืนตรงหน้าลูกสาวคนเล็กน้ำตาเอ่อออกมา เนื้อทองนิ่งไปสักครู่ จึงโผเข้าสู่อ้อมกอดของท่านขุน สองคนกอดกันกลม
“คุณพ่อ”
“ขอบใจลูกรัก ลูกอภัยให้พ่อได้ใช่ไหม”
“ไม่มีสิ่งใดต้องอภัยให้ดอกเจ้าค่ะ แม่เนียนสอนไว้ว่าให้จงรักภักดี และรับใช้บ้านภักดีภูบาลไปจนตายค่ะ”
“แม่เนียนของหนูเป็นหญิงประเสริฐ อบรมสั่งสอนให้หนูเป็นเด็กประเสริฐ พ่อภูมิใจในตัวหนูและแม่ของหนูมาก”
“ขอบคุณมากค่ะ คุณพ่อ”
สองคนโอบกอดกันอย่างซาบซึ้ง น้ำตาซึมไปทั้งคู่

ส่วนทองจันทร์บอกกับเนียนและเรียม
“ตกลงว่าแม่จะไม่ไปแล้วนะแม่เรียม แม่เนียน”
“คุณแม่ขา พวกเด็กๆ รอคุณย่าอยู่นะคะ”
“แม่ ไม่ค่อยสบาย แม่ปวดหลัง เอาเป็นว่าไปเจรจากันให้สนุกสนานแล้ววันพรุ่งนี้ ค่อยมารวมญาติกันที่บ้านแม่”
“ค่ะ คุณแม่ เอ้อ คุณแม่อยู่ลำพังจะดีหรือคะ”
“ถ้าเช่นนั้นเนียนอยู่กับคุณแม่นะคะ”
“ไฮ้ อย่าให้แม่เป็นคนขัดความสุขของทุกคนสิ ไปเถิด นี่บ้านของแม่ แม่อยู่มาตั้งแต่แต่งงานกับพ่อของพ่อเทพ ไม่เคยมีเหตุร้ายมากล้ำกราย นังกบ นังแมวมันก็อยู่ตั้งสองคน ถ้าใครไม่ไปแล้วมานั่งเฝ้าแม่นี่แหละ แม่จะรู้สึกไม่ดี ไปกันเถิดแล้วกลับมาเล่าสู่กันฟัง”
“กบ แมวดูแลคุณท่านอย่าให้คลาดสายตาทีเดียวนะ” เรียมกำชับ
“เจ้าค่ะ” สาวคู่หูประสานเสียง
เรียมและเนียนสบตากัน พยักหน้ารับรู้กัน หันกลับลงเรือนไป ทองจันทร์มองตามเรียมและเนียนแล้วพึมพำอย่างสุขใจ
“ช่างสวยสดงดงามครบทั้งกายและใจ ทั้งสองคน พ่อเทพโชคดีแท้ๆ

เรียมและเนียน พากันหันมามองทองอีกครั้ง ทองจันทร์โบกมือให้เป็นเชิงบอกไปเถิด สองคนจึงหันกลับ

อ่านต่อหน้า 3

อาญารัก ตอนที่ 21 (ต่อ)

ทองจันทร์แอบถอนใจโล่งอก หันมากวักมือเรียกคู่หู กบกะแมว

“มานี่”
“เจ้าค่ะ”
“ไอ้หมอเสน่ห์คนนั้นมันหลบๆ ซ่อนๆ ตัว กลัวใครจะมารู้มาเห็นว่ามันมาหาข้าเพราะอะไรรึ”
“เขาบอกว่า ไอ้หวานที่เขาเคยเจอมันยังโดนฆ่าตาย เพราะมันรู้มันเห็นว่าหมอเสน่ห์พยายามจะมาขอพบ คุณสนเจ้าค่ะ” กบบอก
“แม่สนอีกแล้ว อ๋อ มันคงกลัวตัวเองตาย” ทองจันทร์คิด
“เขารอดตายจากไฟเผาบ้านเพราะคุณนายเนียนไปช่วยดับไฟเจ้าคะ” แมวบอก
“ไม่เห็นเนียนจะเคยบอกอะไรๆ ในบ้านนี้ และมันก็เกี่ยวกับสองคนนี้เสมอเอ็งมั่นใจว่าไม่มีใครเห็นมันใช่ไหม” หญิงชราย้ำ
“มีเจ้าค่ะ” แมวบอก
“ใคร” ทองจันทร์ฉงน
“แมวเองเจ้าค่ะ” แมวเล่นลิ้น
ทองจันทร์ฉวยอะไรทำท่าจะปาใส่แมว
“เถรตรงจนน่าเขกกบาล เอาอย่างนี้ พอตอนสักสองทุ่ม คนอื่นๆ มันเข้าห้องหับกันหมด เอ็งไปลอบพามันมาพบข้าที่เรือนนี่”
“เจ้าค่ะ”
กบกะแมวถอยออกไป ทองจันทร์พึมพำ
“ทีนี้แหละ คนร้ายไม่อาจลอยนวลได้อีกต่อไป”
ทองจันทร์ยิ้มสมหวัง มาดหมายว่าจะได้ตัวคนร้ายเสียที

ฟากสนเดินเข้ามาในโรงครัวเรือนใหญ่ ถามด้วยความสงสัย
“วันนี้ทำไมเอ็งทำอาหารสำรับเดียว”
“ท่านขุน คุณนายเรียม คุณนายเนียน คุณหนูอี๊ด หนูติ๋ว พากันไปรับประทานอาหารนอกบ้านเจ้าค่ะ” แม่ครัวบอก
“แปลว่าไปกันจนหมดบ้านรึ”
“ทีแรกทำท่าจะไปหมดเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้ จู่ๆ คุณท่านเปลี่ยนใจไม่ไปแล้ว”
“ทำไมรึ” สนซัก
“ไม่ทราบเจ้าค่ะ คุณสนจะรับอะไรเป็นพิเศษไหมเจ้าคะ” แม่ครัวถาม
“ไม่เอา เอ้อ นางกบนางแมวมันไปไหน”
“นางกบอยู่เรือนคุณท่าน นางแมวมันเดินลับๆ ล่อๆ ไปทางหลังบ้านเจ้าค่ะ” แม่ครัวดันปากโป้ง
“ลับๆ ล่อๆ รึ” สนหูผึ่ง
“ใช่เจ้าค่ะ ราวกลับกลัวว่าใครจะเห็นมันเจ้าค่ะ”
สนฟังแล้วยิ้มดุดันออกมาในสีหน้า

แมวแอบมาหาเสน่ห์ ยื่นอาหารห่อใบตองและกระบอกน้ำไม้ไผ่ ส่งให้เสน่ห์ที่หลบมุมอยู่ในเพิงสวนท้ายบ้านห่างหมู่เรือนออกมา
“กินเสีย แล้วรออยู่ที่นี่ จนกว่าจะสองทุ่ม ชั้นจะออกมารับไปพบคุณท่าน” แมวบอก
“นังเอ๊ย คุณสน มันเห็นพวกแกไหม”
“ไม่เห็นดอก” แมวมั่นใจ
เสน่ห์พยักหน้า ในขณะที่สน มาแอบมองเสน่ห์แล้วยิ้มร้ายในที
“นึกว่ากูไม่เห็นมึงรึ นึกว่าจะหนีหายตายจาก ไอ้หมอเสน่ห์ จอมลามก มึงลักลอบมาทำอะไรกันรึ”
สนคำราม แอบมองต่อไปจนเห็นแมวเดินกลับไปทางเรือนทองจันทร์

ทานตะวัน กับเนื้อทอง นั่งชิงช้าคุยกันอยู่ ตรงด้านนอกบ้านพักนายอำเภอแดงน้อย
“ขอบใจมากนะ ที่ไม่ถือสาพี่ โกรธพี่ พี่ขอโทษ ที่ผ่านมาพี่รังแกเธอเสมอมา”
“มันผ่านไปแล้วนะคะ และ พี่อี๊ดก็เข้าใจผิดด้วยนะคะ”
“แต่พี่ก็ทำเกินไป เพราะไปเชื่อฟังนางสนมัน เมื่อวานมันก็จะฆ่าพี่แต่แม่เนียนแอบตามมาช่วยพี่เอาไว้ พี่จะฟ้องคุณพ่อ แต่แม่เนียนห้ามไว้ แค่ให้หลีกห่างไว้ เธอก็เหมือนกัน ระวังตัวด้วย มันเกลียดพวกเรา”
“ขอบคุณมากค่ะ”
เทิดศักดิ์เดินออกมาเรียกสองสาว
“สาวๆ คะ คุณพ่อให้เข้าไปข้างในค่ะ”
เทิดศักดิ์ยื่นมือไปจูงสองคนซ้ายขวา
“มีน้องสาวฝาแฝดนี่มันน่าภูมิใจแท้ๆ”

เทิดศักดิ์ยิ้มย่อง สามคนหัวเราะให้กัน

ทุกคนรวมตัวอยู่ในบ้าน ร่วมวงรับประทานอาหาร ต่างมีความสุขที่ได้ทราบเรื่องราวของกันและกัน ขุนภักดีป่าวประกาศด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา

“ทุกคนจงฟังพ่อทางนี้ ในที่สุดครอบครัวเราก็คลี่คลายเรื่องร้ายๆ ที่คลุมเครือทั้งหลาย กลายเป็นเรื่องดีทั้งหมด พวกลูกๆ ทั้งสี่คน เกี่ยวดองเป็นญาติกันทั้งสิ้น มีแดงน้อยเป็นพี่ใหญ่ ขอให้รับรู้ทั่วกันในวันนี้ แม้นว่าแดงน้อยจะไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของพ่อ แต่พ่อก็จะรับแดงน้อยมาเป็นลูกชายบุญธรรมของพ่อ”
แดงน้อยเดินมาทรุดตัวลงกราบแทบเท้าท่านขุน
“กราบขอบพระคุณ ในความเมตตาของคุณพ่อมากขอรับ ผมจะดูแลน้องๆ ทุกคนครับ”
“นี่มันอย่างไรกัน ทำไปทำมา กันต้องกลายเป็นน้องชายแกเสียแล้ว นายอำเภอแดงน้อย” เทิดศักดิ์สัพยอก
“ทำไปทำมา หนูก็ต้องกลายเป็นคนมีพี่น้องเพิ่มขึ้นมาอีกสองคน คือยัยติ๋ว กับพี่แดงน้อย ยัยติ๋วต่อไปนี้เธอต้องเชื่อฟังพี่ เข้าใจไหม”
“เข้าใจค่ะ พี่อี๊ด”
“แต่กันไม่เชื่อฟังแกดอกนะ แดงน้อย”
แล้วทุกคนก็หัวเราะกันอย่างครึกครื้น
“เสียดายที่คุณย่า ไม่ได้มาด้วย หาไม่เช่นนั้น ท่านต้องมีคำพูดที่ทำให้ทุกคนได้หัวเราะกันแน่ๆ” เนียนนึกถึงทองจันทร์ขึ้นมา
“พรุ่งนี้สิ ท่านบอกให้ทุกคน ไปรับประทานอาหารที่เรือนท่านด้วยกัน” เรียมว่า
เทิดศักดิ์มีสีหน้าหมองลงไปถนัดตา ท่านขุน เรียม และเนียนมองเทิดศักดิ์แล้วให้นึกสงสาร
“คุณเทิดศักดิ์ บอกคุณแม่ให้มาด้วยสิคะ” เนียนเอ่ยขึ้น
“ความจริงวันนี้ ก็คิดว่าจะบอกอยู่ดอกนะ แต่ได้ยินว่า ไม่สบาย” เรียมว่า
“ครับ คุณแม่ไม่ค่อยสบาย คุณแม่ไม่อยากออกไปไหนครับ”
“พี่ขุนคะ เนียนเป็นห่วงคุณแม่ เราทานขนมเสร็จแล้วเรารีบกลับกันเถิดนะคะ”
“ใช่จ้ะ เราควรรีบกลับ ถึงแม้ว่า จะมีกบกับแมวดูแล เราก็ไม่ควรให้ท่านอยู่กับสองคนนั่นตามลำพังนานเกินไป” เรียมว่า
“คุณแม่รับปากดิบดีกุลีกุจอว่าอยากจะมา ทำไมคุณแม่เปลี่ยนใจง่ายแท้ๆ” ขุนภักดีอดแปลกใจไม่ได้
“ท่านว่าปวดหลังน่ะค่ะ” เรียมบอก
ทุกคนพยักหน้า

ด้านเสน่ห์เล่าความให้ทองจันทร์ฟังจนหมดสิ้นแล้ว ร่ายมาตั้งแต่ตอนต้นเรื่องที่ช้อยพาสนไปทำเสน่ห์
“ตกลงว่าคนที่ทำเสน่ห์ให้ผัวรักผัวหลงนั่น ไม่ใช่เนียน แต่เป็นแม่สนแล้วคนที่ฆ่าไอ้หวานไปจนถึงฆ่าสารพัดไอ้ อีนั่นเล่า”
“ไม่แคล้วนางสนดอกขอรับ ไอ้หวานไอ้เหิมนางช้อย ทุกคนล้วนกำความลับของมันทั้งสิ้น” เสน่ห์บอก
“เวรานุเวร ถ้าเช่นนั้นนายหมอเสน่ห์ เอ็งกำลังตกอยู่ในอันตรายเสียแล้ว เอ็งแน่ใจนะว่าไม่มีใครเห็นเอ็ง นอกจากนางแมวนางกบ”
“ขอรับ”
“เอ็งรีบกลับไปหลบซ่อนตัวให้ดี บอกที่อยู่กับนางกบนางแมวเอาไว้ ชั้นจะบอกลูกชายให้ไปรับตัวเอ็งมาเป็นพยาน” ทองจันทร์วิตก
“ขอรับ”
ทองจันทร์หยิบเงินมาส่งให้เสน่ห์ที่ส่ายหน้าไม่รับท่าเดียว
“รับไปเถิด นี่ไม่ใช่สินจ้างรางวัล แต่คือน้ำใจจากชั้น รับไปสิ”

เสน่ห์ไหว้ทองจันทร์แล้วรับเงินมา

ทุกคนไม่รู้ว่านางสนคนชั่วแอบมองอยู่ เห็นเสน่ห์เดินลงเรือนมาเจอกบกับแมว สองคนพยักหน้าหงึกๆ เสน่ห์เดินไปกับแมวหลบแว้บหายไปอย่างรวดเร็ว

สนมองเหตุการณ์ทั้งหมด แววตาเป็นประกายวาววับ
“ไอ้หมอสารเลวมันมาหาอีแก่ทองจันทร์ มันมาเล่าอะไรรึ มึงคิดร้ายต่อกูอีกเเล้ว ไอ้หมอลามก เสียดายนะที่ตอนนี้ กูไม่มีเวลากำจัดเสี้ยนหนามพร้อมกันสองคน”
สนคิดแผนชั่วทันที มองไปที่กบที่ยืนชะเง้อมองตามสองคน
สนถือไม้ดุ้นใหญ่พอสมควร ย่องไปทางด้านหลังกบ ฟาดโครมไปบนหัวโดยแรง กบม้วนตัวลงไปกอง
สลบไม่เป็นท่า สนลากกบไปแอบไว้ที่หลังพุ่มไม้
“หลับให้สบายนะ อีนางตัวดีชอบเพ็ดทูล กว่ามึงจะตื่นมาก็หมดเวลาเพ็ดทูลนายมึงพอดี”
สนเดินออกไปตามทาง ที่แมวกับเสน่ห์เดินไป

ขณะเดียวกันแดงน้อยเดินออกมาส่งทุกคนที่หน้าบ้าน แดงน้อยกอดเนียนกระซิบพูดกับเนียน
“ผมรักแม่เนียนนะครับ”
“ขอบใจมากจ้ะลูก แม่ก็รักลูกจ้ะ”
“อะไรกันน่ะ ทำอะไรอย่าให้คนอื่นเขาอิจฉานะคะ พี่แดงน้อย แม่เนียนอย่าลำเอียงนะคะ ยัยติ๋วเธออย่ายอม” ทานตะวันแซว เนื้อทองได้แต่หัวเราะขำ
“กิ๊วๆ ยัยติ๋วไม่อิจฉาใครดอก แต่ยัยอี๊ดนี่แหละ ตัวอิจฉานางร้ายลิเกอายม้วน” เทิดศักดิ์ล้อ
“หยอกล้อกันยกใหญ่กลับบ้านได้แล้วเด็กๆ” เรียมว่า
“เด็กโข่งทั้งนั้น” ท่านขุนยิ้มเผล่ สีหน้ามีความสุขมาก
เอกโผล่หน้ามา
“กระผมกลับอย่างไรขอรับท่านขุน”
“เอ็งก็ขี่จักรยานกลับสิ รถมันเต็มนี่นา”
เอกยืนเกาหัวแกรกๆ ทุกคนหัวเราะกันอีก ขุนภักดีพาลูกเมียเดินไปที่รถ

ฟากเสน่ห์ซุบซิบกับแมวแล้วพยักหน้าให้อีกครั้ง
“เข้าใจแล้วใช่ไหมว่า บ้านชั้นอยู่ที่ไหน”
“เข้าใจแล้วจ้ะ”
เสน่ห์รีบออกไป แมวหันหลังกลับ เดินผ่านหน้าสนที่ถือไม้เตรียมซุ่มรออยู่ พอแมวผ่านไป สนเอาไม้ฟาด
หัวแมวจากด้านหลัง แมวม้วนลงไปกองสภาพเดียวกับกบไม่มีผิด
สนลากแมว ไปไว้หลังพุ่มไม้ รีบร้อนออกไปหน้าตาดุดันเอาเรื่องมาก

ฟากทองจันทร์เดินกระย่องกระแย่งมามองหากบกับแมว
“นางกบ นางแมว เอ้า หายหัวไปไหนกันหมด ตามใจ หายก็หายไม่ได้มีอะไรจะใช้สักหน่อย แค่จะบอกว่าข้าจะนอนแล้ว”
ทองจันทร์หันกลับไปยังห้องนอน

อีกด้านหนึ่ง รถของท่านขุน วิ่งมาตามถนนในความมืด
“ป่านนี้คุณแม่คงหลับแล้วสินะ”
“ค่ะ คุณย่าท่านอาจไม่หลับก็ได้ ท่านรอให้หนูไปอ่านอิเหนาให้ฟังต่อค่ะ” เนื้อทองว่า
“พี่อ่านสำเนียงเสนาะอย่างเธอไม่เป็นดอกนะยัยติ๋ว เธอมันเก่งสารพัด” ทานตะวันบอก
“แต่หนูอี๊ดพูดเก่งทั้งไทยทั้งฝรั่ง ทำผมก็เก่งจ้ะ” เนียนชม
“น้าเนียนเขาพูดรักษาน้ำใจยัยอี๊ด” เทิดศักดิ์แซว
“สองคนนี่อย่าตีกัน แขวะกันอยู่เรื่อย ไงคะพี่เทพ อยากมีลูกแยะๆ รู้แล้วหรือยังว่ามันเป็นอย่างไร” เรียมว่า
“สนุกเจี๊ยวจ๊าวดีกว่า ด่าทอกันนะ เรียม”
ทุกคนหัวเราะครื้นเครงกันอีก

ฝ่ายทองจันทร์นั่งหันหลังให้ประตู หยิบหนังสืออิเหนามามองดูแล้วส่ายหน้าบ่น
“อยากรู้เสียจริง ว่าเรื่องราวต่อไปมันเป็นอย่างไร”
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
“ใคร”
ไม่มีเสียงตอบมีแต่เสียงเคาะ
“ถามว่าใคร นางกบนางแมว เอ็งรึ ทำไมไม่ตอบ หรือว่าหนูติ๋วกลับมาแล้ว”
เสียงเคาะเงียบไปแล้วเคาะใหม่ ทองเดินย่องแย่งไปที่ประตู ทองดึงกลอนออก ยังไม่ทันที่กลอนประตู
จะหลุด ประตูก็เปิดผลัวะเข้ามาเป็นสนนั่นเอง
“กูเอง อีแก่”
ทองจันทร์ตกใจมาก “นังสน นี่ นี่แกมาทำไม”
“มาฆ่ามึงไงล่ะ มึงมันตัวป่วนกู มึงประชดประชันเคี่ยวเข็ญกู เกลียดกูด่ากูมาตั้งแต่วันแรกที่กูเหยียบย่างเข้าบ้านนี้ อีแก่ มึงตายเสียเถิด”
ทองจันทร์อ้าปากจะร้อง สนตวัดแขนรัดคอทองเอาไว้แน่นจนทองจันทร์ตาเหลือก
“แก...”
“มึงกำความลับกูไว้มากมาย มึงเที่ยวสืบเสาะ หาคนโน้นคนนี้ มาเล่นงานกู มันไม่ง่ายดอกนะอีแก่”

สนคำราม ถีบทองจันทร์ล้มลงไป ทองจันทร์ตะกายหนี แต่ไม่ทันเรี่ยวแรงไม่อำนวย สนตามมาจิกหัวหมับ

อ่านต่อตอนที่ 22 (อวสาน)
กำลังโหลดความคิดเห็น