xs
xsm
sm
md
lg

น้องเมีย ตอนที่ 21 - 22

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


น้องเมีย ตอนที่ 21


“ทำไมคุณคิดแบบนั้นล่ะคะ”

งามเนตรยิ้มฝืนๆ กลบเกลื่อน
“ฉันแค่คิดน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก คุณกันตาคะ อย่าบอกคุณภพนะคะว่า ฉันอยู่กับนิดา”
“ทำไมล่ะคะ”
“ถ้าฉันพร้อมที่จะคุยกับเขา ฉันจะบอกเขาเองค่ะ”
กันตาพยักหน้าทำทีเข้าใจ แต่ในใจแอบหมั่นไส้
“ก็ได้ค่ะ....เอ่อเดี๋ยวฉันขอตัวก่อนนะคะ เพื่อนๆมากันแล้ว”
กันตายิ้มให้ทุกคนแล้วเดินแยกไป นิดาหน้าจ๋อย
“ขอโทษนะที่เผลอพูดออกไป ไม่รู้ว่าคุณคนนี้สนิทกับคุณภพน่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันคิดว่าคุณกันตาเขาคงเข้าใจฉันน่ะ”
“งั้นก็แล้วไป ทานต่อดีกว่าครับเพราะวันนี้คุณนิดาเป็นเจ้ามือ เราสองคนต้องจัดหนักเลย ทานให้คุ้ม” มาวินพยายามพูดให้บรรยากาศดีขึ้น
นิดามองค้อน
“บอสอ่ะ...ล้อเล่นใช่ไหม...นิดาไม่พกเงินสดนะค๊า บัตรเครดิตก็ไม่มีด้วยอ่ะบอส”
งามเนตรกับมาวินพากันหัวเราะขำๆ โดยไม่รู้ว่ากันตาใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพงามเนตรกับมาวินที่ท่าทีดูมีความสุขไว้
“ฉันไม่บอกคุณภพหรอก”
กันตายิ้มอย่างมีแผน

บัวเดินตามการ์ดของเสี่ยเข้าไปในเลาจน์ เสี่ยนั่งจิบไวน์รออยู่ในส่วนวีไอพี
“นั่งสิหนู”
บัวลงนั่งที่โซฟา ไม่ไกลจากเสี่ยนัก แล้วยกมือไหว้
“บัวขอบคุณเสี่ยนะคะ ที่ให้ที่พักกับบัว”
“หวังว่าหนูคงอยู่ได้นะ ที่นี่อาจจะมีคนพลุกพล่านสักหน่อย แต่รับรองว่าปลอดภัยไม่มีใครกล้ายุ่งกับหนูเด็ดขาด”
“บัวขออาศัยที่นี่สักพักนะคะ เสี่ยจะให้บัวรับใช้ หรือทำงานอะไรเป็นค่าตอบแทนได้เลยนะคะ”
เสี่ยขยับมานั่งใกล้ๆ
“ตอบแทนเสี่ยด้วยการอยู่ใกล้ๆเสี่ยแบบนี้ เสี่ยก็มีความสุขแล้ว อยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรหรอก”
“บัวอยู่เฉยๆไม่ได้หรอกค่ะ บัวเกรงใจเสี่ย”
เสี่ยเชยคางบัวขึ้นมามองยิ้มๆ
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะหนูบัว อะ! ถ้างั้นหนูบัวเต้นได้ไหม ร้องเพลงพอได้รึเปล่า ถ้าอยากทำ ก็พอจะให้หนูทำได้แค่นี้แหละ”
บัวดีใจ
“ได้คะ บัวทำได้ แต่เสี่ยอย่าให้ใครมายุ่งกับบัวนะคะ บัวกลัว”
เสี่ยโอบบัว
“ฉันดีใจนะที่หนูคิดถึงฉันเป็นคนแรก แต่ทำไมถึงได้หนีออกจากบ้านตอนกลางค่ำกลางคืนแบบนั้นล่ะ”
บัวแค้นใจ
“บัวโดนใส่ร้ายว่าขโมยของ....แต่บัวไม่ได้ทำนะคะ นังนั่นมันเกลียดบัว มันก็เลยใส่ความบัว บัวสู้มันไม่ได้บัวก็เลยต้องออกมา”
เสี่ยฟังอย่างสงสาร
“อยู่กับฉัน ฉันจะไม่ให้ใครมารังแกหนูได้อีก หนูอยากได้อะไรบอกมาเลยนะ เสี่ยให้หนูบัวได้ทุกอย่าง”
บัวก้มลงกราบเสี่ย ในใจมุ่งมั่นว่าจะต้องแก้แค้มะเฟืองให้ได้!!

ภัสสรนั่งอ่านหนังสือธรรมะอยู่ในห้องนั่งเล่น มะเฟืองเข้ามาหา
“คุณนายเรียกมะเฟืองมามีอะไรหรือเปล่าคะ”
ภัสสรวางหนังสือลงหันมามอง
“มีสิ....ฉันอยากให้เธอย้ายไปอยู่ที่อื่น”
มะเฟืองไม่พอใจ
“ทำไมล่ะคะ”
“เธอก็รู้อยู่แก่ใจ ว่าที่ผัวเมียเขาต้องมาทะเลาะกันก็เพราะเธอ”
“แล้วไงคะ ก็ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริง คุณคิดเหรอคะว่าไล่ฉันออกไปจากบ้านแล้วเรื่องมันจะจบ พี่เนตรไม่กลับมาหรอกค่ะ ป่านนี้คงหลงระเริงอยู่กับชายชู้จนลืมคุณภพไปแล้วล่ะค่ะ”
ภัสสรโกรธ
“มะเฟือง เนตรเป็นพี่สาวเธอไม่ใช่เหรอ ทำไมเธอถึงพูดถึงพี่ตัวเองแบบนี้”
“ทำไมจะพูดไม่ได้ ที่พี่เนตรหาเรื่องออกจากบ้าน ไม่ใช่เพราะรู้เรื่องมะเฟืองกับคุณภพหรอกนะจะบอกให้ แต่เป็นเพราะพี่เนตรอยากออกไปอยู่กับชู้มากกว่า”
“พอได้แล้วมะเฟือง ถ้าเนตรไม่อยู่ที่บ้านนี้เธอก็ไม่ควรจะอยู่ที่นี่ เธอจะออกไปอยู่หอพักหรือบ้านเช่าอะไรก็ได้ ส่วนค่าใช้จ่ายฉันจะออกให้เอง”
“มะเฟืองก็เป็นเมียคุณภพทำไมจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ มะเฟืองจะออกไปก็ต่อเมื่อเอกภพเอ่ยปากเท่านั้น”
มะเฟืองแค้นใจ ลุกออกไปจากห้อง ภัสสรมองมะเฟืองระอาใจ

มะเฟืองโทรหาเอกภพ เมื่อเขารับสายเธอแสร้างร้องไห้
“คุณภพคะ...คุณภพต้องช่วยมะเฟืองนะคะ”
เอกภพตกใจ
“มะเฟืองเป็นอะไรเหรอ ร้องไห้ทำไม”
“คุณแม่คุณไล่มะเฟืองออกจากบ้านค่ะ คุณแม่คุณด่าว่ามะเฟืองว่าเป็นต้นเหตุทำให้คุณกับพี่เนตรทะเลาะกัน มะเฟืองพยายามอธิบายคุณแม่คุณก็ไม่ยอมฟัง จะโยนข้าวของๆมะเฟืองออกนอกบ้านท่าเดียว....มะเฟืองเสียใจมะเฟืองไม่ได้เป็นคนผิดนะคะ ทำไมท่านต้องใจร้ายกับมะเฟืองแบบนี้ด้วย”
มะเฟืองอ้อนทำคะแนนบีบน้ำตาเรียกความสงสาร เอกภพฟังมะเฟืองใจนึงก็สงสาร อีกใจก็เข้าใจสิ่งที่แม่กำลังทำ และก็คิดว่ากลับไปคงต้องพูดกับมะเฟือง เรื่องออกจากบ้านไปเหมือนกัน
“ใจเย็นๆนะมะเฟือง เดี๋ยวกลับไปคุยกัน”
“รีบมานะคะ ก่อนที่คุณแม่คุณจะโยนมะเฟืองออกจากบ้าน”
“ครับ...ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ”
มะเฟืองวางสายแล้วยิ้มเยาะ
“รู้จักฉันน้อยไปแล้ว ฉันไม่ยอมไปง่ายๆหรอกอีแก่”

มะเฟืองเดินไปเดินมา คิดแผนจะทำไงกับภัสสร เหลือบไปเห็นชมกำลังถูพื้นอยู่หน้าบันได เห็นถังน้ำยาทำความสะอาดพื้นวางอยู่ใกล้ๆบันได มะเฟืองนึกแผนได้ เดินเข้าไปหาชม
“คุณผู้หญิงสั่งให้ไปเตรียมอาหารให้คุณภพก่อน คุณภพจะถึงแล้ว”
ชมละล้าละลัง
“ตอนนี้เลยเหรอ”
“ก็ตอนนี้น่ะสิ หรือจะให้คุณภพรอกินวันพรุ่งนี้ล่ะ”
“ก็ได้ๆ แหม..แต่ถูอีกนิดเดียวก็เสร็จแล้วนะเนี่ย”
“ไม่ไปก็ตามใจ แต่ถ้าคุณนายโมโหฉันไม่รู้ด้วยนะ”
“ไปก็ได้ ไม่ต้องมาขู่หรอก”
ชมรับคำแล้วเดินไปที่ครัว มะเฟืองมองซ้ายขวาไม่มีใคร รีบเอาน้ำยาเทราดที่พื้นเจิ่งนอง ตรงขั้นบันได

เมื่อรถเอกภพเข้ามาจอด มะเฟืองแกล้งส่งเสียงเรียกดังๆ
“คุณภพ...คุณภพกลับมาแล้วเหรอคะ คุณแม่คุณไล่มะเฟืองออกจากบ้าน”
ภัสสรรีบออกจากห้อง เพื่อจะไปหาเอกภพ เมื่อภัสสรเดินมาถึงบันไดเห็นเอกภพเดินเข้ามา มะเฟืองเข้าไปควงแขนก็ไม่พอใจ
“ตาภพ...”
ด้วยความรีบ ภัสสรไม่ได้มองที่บันใด พลาดท่าเหยียบบันไดช่วงที่น้ำเจิ่งนองลื่นกลิ้งตกบันไดลงมา เอกภพตกใจสุดขีด มะเฟืองยิ้มสะใจ
ภัสสรกลิ้งลงมาสลบอยู่ที่พื้นชั้นล่าง เอกภพรีบโผเข้าไปหาแม่
“คุณแม่...”
มะเฟืองทำทีตกใจร้องกรี๊ดดังลั่น ชมได้ยินวิ่งออกมา ในมือยังถือตะหลิววิ่งมาดู
“มีอะไรคะ...กรี๊ดทำไมคะ”
ชมเห็นภัสสรนอนอยู่ที่พื้น มีเลือดออกที่ศีรษะ ชมทิ้งตะหลิววิ่งไปหาทันที
“คุณผู้หญิง...คุณผู้หญิงเป็นอะไรคะคุณภพ....ใครทำคุณผู้หญิง”
“ชมอย่าเพิ่งถามเลย ไปเรียกรถพยาบาลมาก่อนไป” เอกภพบอกอย่างร้อนใจ
“ค่ะ...ค่ะ...”
ชมรีบลนลานออกไป มะเฟืองทำทีเป็นห่วงเป็นใย
“คุณนายเป็นอะไรมากไหมคะ”
“ผมไม่รู้”
เอกภพพยายามเรียกแม่ให้รู้สึกตัว มะเฟืองแอบมองสมน้ำหน้า ในใจอยากให้ตายๆไปซะ

งามเนตรนั่งมองโทรศัพท์อยู่ในร้าน นิดาเดินมาเห็นก็แกล้งแซว
“ถ้าคิดถึงก็โทรไปหาเขาสิ มัวแต่ปิดเครื่องอยู่แบบนี้เขาจะติดต่อเราได้ยังไง”
“ฉันแค่เป็นห่วงเขา และที่สำคัญเป็นห่วงคุณแม่ด้วย”
“แหม ก็ถ้าไม่คิดถึงจะเป็นห่วงไหมล่ะ คนรักกันอยู่ด้วยกันมันก็ต้องผูกพันกันเป็นธรรมดา ฉันว่าที่บ้านโน้น เขาก็คงคิดถึงเธอเหมือนกันแหละ”
งามเนตรคิดถึงภัสสร
“ถ้าเป็นคุณแม่ก็คงจะใช่”
“อ้าว...แล้วถ้าเป็นคุณภพล่ะ”
“บางทีเราอาจจะคิดผิดที่แต่งงานกันก็ได้นะ”
นิดาสงสารเพื่อน
“เอางี้...ถ้าเธอเป็นห่วงและคิดถึงคุณแม่ เธอก็หาโอกาสไปเยี่ยมท่านสิ ฉันว่าท่านคงดีใจที่ถึงแม้เธอจะพยายามแยกทางกับคุณภพ แต่เธอก็ยังไม่ลืมท่านนะ”
งามเนตรคิดสิ่งที่นิดาพูด

เอกภพ มะเฟือง และชม ยืนรออยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดด้วยกัน

“คุณภพคะ คุณภพจะไม่บอกคุณเนตรเหรอคะว่า คุณผู้หญิงเข้าโรงพยาบาลน่ะ” ชมถาม

มะเฟืองหันขวับไปมองอย่างไม่พอใจ
“จะต้องไปบอกทำไม เขาหนีไปยังไม่บอกสักคำว่าไปไหน คนแล้งน้ำใจแบบนั้น มีเหรอจะมาสนใจคนแก่ตกบันไดน่ะ…สาระแนไม่เข้าเรื่อง”
“ชมก็แค่ถามเฉยๆ ไม่เห็นจะต้องมาด่ากันเลย” ชมไม่พอใจเช่นกัน
เอกภพเดินแยกไป กดโทรศัพท์หางามเนตรแต่ติดต่อไม่ได้
“ทำไมต้องปิดมือถือด้วยนะ”
เอกภพเครียดเป็นห่วงแม่ มะเฟืองเห็นแล้วว่าติดต่องามเนตรไม่ได้ก็รู้สึกสะใจ เดินตรงเข้าไปหา
“พี่เนตรคงกลัวว่าจะมีใคร โทรมารบกวนความสุขของเขาก็เลยปิดเครื่องน่ะค่ะ แต่คุณไม่ต้องกลัวนะคะ มะเฟืองจะอยู่เคียงข้างคุณเอง เพราะยังไงมะเฟืองก็เป็นเมียคุณเหมือนกัน”
คำพูดของมะเฟือง ทำให้ชมตกใจมาก

ระหว่างรอภัสสรผ่าตัด เอกภพยืนหน้าเครียดเป็นห่วงภัสสรอยู่ที่เดิม เสียงมือถือดังขึ้น เอกภพดีใจคิดว่าเป็นงามเนตรรีบกดรับ
“ฮัลโหลเนตรเหรอครับ”
“ฉันกันตาไม่ใช่คุณเนตรหรอกค่ะ”
เอกภพผิดหวัง
“ขอโทษครับ...คุณกันตา ผมคิดว่าเนตรโทรมา คุณมีธุระด่วนอะไรหรือเปล่าครับ”
“ก็ไม่ได้ธุระอะไรหรอกค่ะ แค่อยากจะมาชวนคุณไปทานข้าวเย็นกันน่ะค่ะ เดี๋ยวฉันไปรับที่บริษัทก็ได้ค่ะ เพราะฉันผ่านไปทางนั้นอยู่แล้ว”
“วันนี้ผมคงไปไม่ได้หรอกครับ เพราะตอนนี้ผมอยู่ที่โรงพยาบาล”
“ตายจริง คุณภพเป็นอะไรเหรอคะ”
“คุณแม่ผมเกิดอุบัติเหตุน่ะครับ ตอนนี้หมอกำลังผ่าตัดอยู่ ยังไงวันนี้คงต้องขอตัวนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่คุณอยู่โรงพยาบาลอะไรคะ เดี๋ยวกันตาแวะไปหาค่ะ”
เอกภพบอกให้รู้ว่าอยู่ที่โรงพยาบาลไหน กันตารีบบอกอย่างเป็นห่วง
“โอเคค่ะ แล้วเจอกันนะคะ”
“ครับผม”
เอกภพวางสายไป มะเฟืองเดินเข้ามาหาเอกภพ ไม่พอใจที่เอกภพบอกกันตาว่า อยู่โรงพยาบาลอะไร
“ลูกค้าคนสำคัญของคุณโทรมาเหรอคะ”
“ครับ”
“แล้วทำไมคุณต้องบอกมัน…เอ่อ...เขาด้วยคะว่าอยู่โรงพยาบาลอะไร”
“คุณกันตาจะมาเยี่ยมคุณแม่น่ะ”
เอกภพเดินหนีไปนั่ง มะเฟืองมองตามอย่างเจ็บใจ

หมอออกมาจากห้องผ่าตัด เอกภพรีบเข้าไปหา
“อาการคุณแม่เป็นไงบ้างครับ”
“จากอาการภายนอกของคนเจ็บก็จะมีแผลหัวแตก กระดูกคอเคลื่อน และแขนซ้ายหัก ตอนนี้อาการภายนอกหมอจัดการให้หมดแล้ว เดี๋ยวรอผลเอ็กซเรย์สมองก่อน ดูว่ามีการกระทบกระเทือนแค่ไหน”
บุรุษพยาบาลเข็นภัสสรออกมาจากห้องเพื่อพาไปห้องพัก เอกภพมองแม่ที่ยังนิ่งอยู่อย่างเป็นห่วง
“แต่ทำไมคุณแม่ยังไม่รู้สึกตัวอีกล่ะครับ”
“อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาด้วย เลยทำให้ยังหลับอยู่น่ะครับ อีกสักพักก็คงจะฟื้นครับ หมอย้ายคนเจ็บเข้าห้องพักแล้วนะครับ เชิญได้เลยครับ หมอขอตัวนะครับ”
“ขอบคุณครับ”
เอกภพรีเดินตามพยาบาลที่เข็นรถออกไป ชมกับมะเฟืองรีบตาม

ค่ำคืนนั้น เอกภพนั่งเฝ้าภัสสรไม่ยอมห่าง เขาจับมือแม่อยู่ตลอดเวลา เสียงเคาะประตูดังขึ้น ชมลุกไปเปิดให้ กันตาเดินเข้ามา มะเฟืองมองไม่พอใจ
“สวัดดีค่ะคุณภพ” กันตายิ้มให้
“สวัดดีครับ”
กันตาส่งกระเช้าเยี่ยมไข้ให้ชม แล้วเดินปรี่เข้ามาที่เตียงที่ภัสสรนอน
“คุณแม่เป็นไงบ้างคะ”
มะเฟืองหมั่นไส้
“ก็ไม่เห็นหรือไงนอนเหม็บอยู่นั่นน่ะ”
กันตาอึ้ง มองมะเฟืองที่นั่งอยู่ที่โซฟา
“อ้าว..!! นึกว่าเสียงนกเสียงกาที่ไหนซะอีกที่แท้ก็คุณมะเฟืองนี่เอง ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่นะคะ”
“ฉันก็ต้องอยู่ที่นี่ซิคะ เพราะเป็นคุณแม่ของคุณภพ ยังไงฉันก็ต้องมาเฝ้าอยู่แล้วล่ะค่ะ”
กันตายิ้มๆ
“มาเฝ้าคุณแม่ หรือว่ามาเฝ้าอย่างอื่นกันแน่คะ”
มะเฟืองอารมณ์ขึ้น
“ก็มาเฝ้ามันทุกอย่างแหละค่ะ เพราะกลัวว่าจะมีใครมาคาบไปกิน”
เอกภพรีบปราม
“มะเฟืองเบาๆหน่อยคุณแม่ท่านนอนอยู่ แล้วนี่ก็โรงพยาบาลนะ”
“คุณมะเฟืองคงจะชินกับเสียงดังๆในตลาดน่ะค่ะ”
กันตาพูดนิ่งๆ ชมแอบขำ มะเฟืองหันมอง
“คุณภพคะฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณหลายเรื่องเลย เราไปคุยกันข้างนอกดีกว่าไหมคะ”
มะเฟืองรีบขัด
“คุยในนี้ก็ได้”
“คุณแม่คุณภพนอนอยู่ คุณมะเฟืองไม่เกรงใจคุณแม่เหรอคะ คุณภพไปกันเถอะค่ะ”
มะเฟืองดึงเอกภพไว้
“ฉันไม่ให้ผัวฉันไปกับเธอ”
เอกภพตกใจ
“มะเฟือง!!”
กันตาเบ้ปาก
“อุ๊ย หน้าด้านจังเลยนะคะ สามีพี่แต่เรียกเป็นผัวตัวเอง ถามผู้ชายเขายังคะว่าเขารับรึเปล่า”
“แก”
มะเฟืองจะเข้าไป เอกภพปราม
“อย่าก้าวร้าวคุณกันตานะมะเฟือง แล้วทีหลังอย่าพูดอ้างตัวแบบนี้อีก ผมไม่ชอบ” เอกภพหันไปบอกชม “ชมฝากดูคุณแม่ก่อนนะ ฉันจะออกไปคุยกับคุณกันตา”
“ได้เลยค่ะ ตามสบายค่ะ”
มะเฟืองโมโห แต่ทำอะไรไม่ได้ กันตาดึงภพออกไปพร้อมทำหน้าสะใจ

เอกภพถือกาแฟมาให้กันตา แล้วลงนั่งข้างๆในห้องอาหารของโรงพยาบาล
“กาแฟครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“อย่าสนใจมะเฟืองเลยนะครับ ว่าแต่คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ”
กันตาแกล้งทำท่าทีไม่ค่อยอยากพูด
“เอ่อ...เรื่องคุณเนตรน่ะค่ะ”
เอกภพอยากรู้ทันที
“เนตร...ทำไมเหรอครับ”
“คือ...เมื่อตอนกลางวันฉันเจอคุณเนตรที่ร้านอาหารค่ะ เอ่อ...ไม่รู้ว่าฉันควรจะเล่าให้คุณฟังดีไหม”
เอกภพดีใจที่ได้ยินข่าวเรื่องงามเนตร
“คุณเจอเนตรเหรอ”
กันตาทำท่าลำบากใจที่พูด แล้วหยิบมือถือส่งให้เอกภพดู
“ฉันอาจจะคิดมากไปแต่ คุณดูเอาเองแล้วกันนะคะ”
เอกภพเห็นภาพถ่าย งามเนตรนั่งยิ้มแย้มอยู่คู่กับมาวินสีหน้ามีความสุข เขาอึ้งไป
“ฉันเห็นแล้วยังอดโมโหแทนคุณไม่ได้เลย ในขณะที่คุณเศร้าไม่เป็นอันทำอะไร แต่คุณเนตรกับกำลังมีความสุข กินข้าวไปหยอกล้อกันไป”
เอกภพนิ่งๆไปเพราะโกรธ
“เขามากันสองคนเหรอครับ”
“ค่ะ ฉันจะเดินเข้าไปทักทาย แต่ไม่ทันได้คุยอะไรมากมาย คุณมาวินก็พาคุณเนตรออกไป ฉันเข้าใจความรู้สึกคุณนะคะ ฉันคิดอยู่นานว่าจะเล่าให้คุณฟังดีรึเปล่า”
“ขอบคุณนะครับคุณกันตา ขอบคุณที่คุณมาบอกผมนะครับ”
เอกภพบอกอย่างเศร้าๆ

มะเฟืองนั่งหน้างอหงุดหงิดอยู่ในห้อง
“เมื่อไหร่จะเข้ามาสักทีวะ เบื่อจะตายอยู่แล้ว”
ชมมองอย่างไม่พอใจ
“เบื่อก็กลับไปก่อนสิ ชมดูคุณผู้หญิงเองก็ได้”
มะเฟืองหันไปแว๊ดใส่
“หุบปากไปเลยนะ ใครให้ออกความคิดเห็น”
มะเฟืองมองตาขวาง ชมเงียบไป เอกภพกลับเข้ามาอย่างเครียดๆ
“ทำไมคุยนานจังเลยคะ มะเฟืองรอตั้งนาน” มะเฟืองรีบเข้าไปคล้องแขน
“ตอนนี้ผมอยากอยู่คนเดียว คุณกลับบ้านไปเถอะ”
“ไม่ค่ะ มะเฟืองรอกลับบ้านพร้อมคุณไงล่ะคะ”
“กลับไปเถอะ คืนนี้ผมจะนอนเฝ้าคุณแม่ที่นี่”
“ถ้าคุณไม่กลับมะเฟืองก็ไม่กลับ มะเฟืองจะอยู่เป็นเพื่อนคุณค่ะ”
ชมมองรำคาญ
“จะอยู่ได้ยังไงเพราะที่ห้องนี้มีเตียงเดียว ให้คุณภพอยู่น่ะดีแล้ว เขาเป็นลูก เธอเป็นใคร”
“เอ๊ะ…”
มะเฟืองจะเอาเรื่อง เอกภพหันมาขอร้องปนโมโห
“มะเฟืองกลับไป ฉันขอร้อง…ชมฝากมะเฟืองด้วย”
“ได้ค่ะคุณภพ…กลับสิ” ชมหันมาบอก
มะเฟืองเซ็ง มองหน้าชมอย่างโกรธๆ

มะเฟืองกลับเข้าบ้านอย่างหงุดหงิด เมื่อมาถึงห้องรับแขก เธอโยนกระเป๋ากับพื้นแล้วสั่ง...
“เก็บกระเป๋าฉันด้วยนังหน้าแบน”
ชมอึ้งๆ แต่ทำเป็นไม่ได้ยินจะเดินไปมะเฟืองดึงไว้
“ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งหรือไง”
“ได้ยิน”
“ได้ยินก็ทำสิ”
ชมไม่อยากจะเถียง จึงเงียบไปแล้วก้มลงเก็บกระเป๋าที่พื้น ส่วนมะเฟืองลงไปนั่งที่โซฟาทำตัวเป็นคุณนาย
“มานวดขาฉันหน่อยสิ ฉันเมื่อย”
ชมโกรธมากแต่ทำไรไม่ถูก จำใจเดินเข้าไปนวด
“หยุด! ใครสั่งให้แกเดินมา คลานมาสิ หัดรู้จักที่ต่ำที่สูงบ้าง”
“มันจะมากไปแล้วนะ อี...”
มะเฟืองลุกขึ้นชี้หน้าด่า
“อย่ามากำแหงใส่ฉันนะ ต่อไปฉันคือนายใหญ่ของบ้านนี้ แกก็รู้ฉันเป็นอะไรกับคุณภพ ถ้าแกอยากอยู่บ้านหลังนี้ต่อไปต้องฟังคำสั่งฉัน...แล้วเอาน้ำส้มไปให้ฉันที่ห้องด้วย”
มะเฟืองเดินเชิดออกไป ชมด่าตามหลัง
“โธ่เอ้ย...อีนังคากคกขึ้นวอ....คอยดูนะถ้าคุณเนตรกลับมาเมื่อไหร่แกจะต้องเสียใจ”

ชมบ่นอย่างเจ็บใจมาก

น้องเมีย ตอนที่ 21
 

เช้าวันใหม่ โทรศัพท์บ้านดัง ชมกำลังทำความสะอาดบ้านรีบเดินไปรับสาย


“ฮัลโหล...บ้านคุณภัสสรค่ะ”
บัวที่โทรมาพอได้ยิ้มเสียงชมก็ยิ้มอย่างดีใจ
“น้า...นี่บัวเองนะ”
“นังบัว แกจริงๆเหรอ” ชมร้องถามอย่างดีใจ
“ก็ฉันน่ะสิน้า”
“แกเป็นยังไงบ้าง แกอยู่บ้านนอกแล้วใช่ไหม อากาศหนาวไหมวะนังบัว”
“ถามซะเป็นชุดเชียวนะน้า ฉันไม่ได้กลับไปบ้านนอกหรอก”
“อ้าว...แล้วเอ็งอยู่ที่ไหนล่ะ”
“ฉันทำงานอยู่ที่กรุงเทพนี่แหละ...น้าฉันคิดถึงน้าอยากเจอน้าจัง น้ามาหาฉันได้ไหม”
“ข้าก็คิดถึงเอ็ง แต่ข้าไปนานๆไม่ได้หรอกนะ เพราะไม่มีใครอยู่บ้านช่วงนี้ยิ่งวุ่นๆอยู่ด้วย”
“มีอะไรเหรอน้า เกิดอะไรขึ้นล่ะ”
“เดี๋ยวข้าเล่าให้ฟัง ว่าแต่เอ็งจะให้ข้าไปเจอเอ็งที่ไหนวะ”
บัวบอกสถานที่ และกำชับให้ชมมาหาเร็วๆ

งามเนตรกับนิดามาหาภัสสรที่บ้าน นิดาลงจากรถไปกดกริ่ง
“มีใครอยู่ไหมคะ....Hey! ดู ยู เฮียร์ มี ? ไปไหนกันหมดน๊า”
นิดามองสำรวจแต่ไม่เห็นใคร จึงเดินกลับมาที่รถ
“ในบ้านไม่เห็นมีใครเลย เอาไงดีล่ะ”
“แปลกจัง ปกติที่บ้านจะมีคนอยู่ตลอดนะ” งามเนตรมองไปด้านใน
“แต่วันนี้ไม่มีเลยสักคน เธออุตส่าห์เอาขนมมาให้คุณแม่โชคไม่เข้าข้างเอาซะเลย”
งามเนตรมองในบ้านกังวล
“พี่ชมกับคุณแม่ไปไหนกันนะ”

ภัสสรฟื้นค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างรู้สึกเจ็บตามแผล เอกภพที่ยังหลับอยู่ รู้สึกตัวลุกมาหาแม่
“คุณแม่ตื่นแล้วเหรอครับ”
“ภพ...”
เอกภพดูแลปรับเตียงนั่งให้แม่
“เป็นไงบ้างครับคุณแม่ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ ผมจะได้ตามหมอมาดูให้”
“ไม่จ้ะ...นี่แม่เป็นอะไรเหรอลูก ทำไมมานอนที่นี่ได้ล่ะ”
“คุณแม่ลื่นตกบันไดลงมาน่ะครับ โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก”
“แม่อยากกลับบ้าน ไม่อยากอยู่ที่นี่ พาแม่กลับบ้านเถอะ”
“คุณหมอบอกให้รอดูผลสแกนสมองก่อนน่ะครับ ถ้าไม่มีอะไรก็คงกลับได้”
ภัสสรพยักหน้า เอกภพจัดหมอนหนุนหลังให้แม่
“แม่จำได้แล้ว แม่คุยกับมะเฟืองว่าจะให้ย้ายออกไปจากบ้าน แล้วแม่ก็ได้ยินว่าลูกกลับมาแม่จะลงไปหา”
มะเฟืองเข้ามาถือกระเป๋าเสื้อผ้าของใช้มาให้ ทั้งสองหันกลับมามอง
“คุณนายฟื้นแล้วเหรอคะ มะเฟืองดีใจจังเลย เมื่อคืนมะเฟืองเป็นห่วงจนนอนไม่หลับเลยล่ะค่ะ…มะเฟืองเตรียมชุดทำงานมาเผื่อให้คุณด้วยนะคะ คุณจะได้ไม่ต้องย้อนไปที่บ้านอีก”
“ขอบคุณครับ” เอกภพหันไปบอก
มะเฟืองทำทีมาดูแผลที่ตัวภัสสรใกล้ๆ
“คุณนายไม่เจ็บมากใช่ไหมคะ”
“นิดหน่อย” ภัสสรไม่เต็มใจจะพูดด้วย
“ไม่น่าเกิดเรื่องแย่ๆแบบนี้เลยนะคะเป็นเพราะชมแท้ๆที่สับเพร่า ทำน้ำหกเลอะพื้น จนทำให้ให้คุณนายต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ น่าไล่ออกจริงๆเลย”
“ไม่ได้เป็นเพราะชมหรอก มันคงเป็นความซวยของฉันเอง หรือเป็นเพราะเธอล่ะ เพราะตั้งแต่เธอเข้ามาในบ้านฉันก็มีแต่เรื่องซวยๆ”
มะเฟืองโกรธตัวสั่น ถ้าตบได้ตบแล้วแต่ต้องกล้ำกลืน เอกภพเห็นท่าไม่ดีรีบตัดบท
“มะเฟืองตามพยาบาลให้หน่อย บอกคุณแม่ฟื้นแล้ว”
มะเฟืองเดินออกไปจากห้องอารมณ์เสีย ภัสสรเองก็มองตามแบบไม่ไว้ใจมะเฟืองเหมือนกัน
เอกภพเองก็เข้าใจถึงบรรยากาศที่ไม่สู้จะดีนัก

บัวพาชมเดินเข้ามาในเลาจน์ ชมเดินมองรู้สึกแปลกๆหันมาถามบัว
“นี่เหรอที่ทำงานแกน่ะ”
“ก็ที่นี่แหละน้า เป็นทั้งที่ทำงานและก็ที่อยู่ด้วย กลางวันฉันก็ซ้อมเต้น ซ้อมร้องเพลง อีกไม่นานฉันก็จะได้ขึ้นโชว์แล้วล่ะ”
“เดี๋ยวๆๆๆ นี่เอ็งหันมาชอบอาชีพเต้นกินรำกิน ตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย”
“ฉันก็ไม่ได้ชอบหรอกน้า แต่ทำไงได้ชีวิตฉันเดินมาทางนี้แล้วนี่ มันอาจจะดีกับฉันก็ได้ จะได้ทันเล่ห์เหลี่ยมคนบ้าง”
ชมไม่เข้าใจ
“ก็แกทำตัวแกเองนี่นา เนรคุณคุณผู้หญิงได้ลงคอ”
บัวพูดจริงจัง
“ฉันไม่ได้ทำจริงๆนะน้า อีมะเฟืองมันใส่ร้ายฉัน เชื่อฉันสิน้า”
ชมไม่อยากเชื่อ
“จะเชื่อได้ยังไงก็หลักฐานมันมัดตัวเอ็งขนาดนั้นน่ะ”
“อีมะเฟืองมันทำทุกอย่าง เพื่อกำจัดฉันให้ออกไปจากบ้าน เพื่อที่ตัวมันเองจะได้ใกล้ชิดกับคุณภพ โดยไม่มีใครคอยขวาง”
ชมคิดๆ
“มิน่าล่ะ...ตอนนี้ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลย คุณเนตรก็ออกจากบ้านไปแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้นกับคุณเนตรเหรอน้า”
“คุณเนตรคงรู้เรื่องที่น้องสาวตัวเอง มีอะไรกับคุณภพนั่นแหละ ยังมีอีกนะ....ตอนนี้คุณผู้หญิงก็ตกบันไดนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล”
“ทำไมคุณผู้หญิงถึงตกบันไดมาได้ล่ะน้า มันเกิดอะไรขึ้น”
“คุณนายลื่นตกบันไดตรงที่น้าทำความสะอาดอยู่น่ะสิ...เอ...แต่ตอนที่น้ากำลังทำความสะอาดอยู่มันไม่มีน้ำเลอะเทอะเลยนะแล้ว มะเฟืองก็มาเรียกน้าให้ไปในครัว”
บัวคิดตามที่ชมเล่า แล้วบอกอย่างมั่นใจ
“ไม่ต้องสงสัยเลยน้า...ฝีมืออีมะเฟืองแน่ๆ มันกำจัดทุกคนที่ขัดขวางมันนั่นแหละ”
ชมคิดตามนั่งไล่นับ
“แก...คุณเนตร คุณผู้หญิง...แล้วต่อไปจะเป็นคิวของฉัน มั๊ยอ่ะที่จะโดนกำจัดน่ะ”
ชมกังวลขึ้นมาทันที

พยาบาลตรวจวัดไข้ภัสสรเสร็จแล้วบอก...
“ไม่มีไข้นะคะ เดี๋ยวช่วงบ่ายคุณหมอจะเข้ามาตรวจอีกทีค่ะ”
“ขอบคุณนะครับ”
พยาบาลเดินออกไป ภัสสรหันมาบอกเอกภพ
“ตาภพ....ตามเนตรมาหาแม่ที แม่มีเรื่องอยากคุยกับเนตร”
เอกภพหนักใจ
“ผมพยายามแล้วครับแม่ แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เนตรอยู่ที่ไหน ที่สำคัญตอนนี้เนตร อาจมีความสุขอยู่กับใครสักคนก็ได้”
“ตาภพจำที่แม่เคยพูดได้ไหม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแม่อยากให้ลูกทั้งสองจดจำวันที่ลูกรักกัน อย่าให้ใครเข้ามาทำลายความรักของลูกได้ วันนี้ลูกลืมไปแล้วใช่ไหม”
มะเฟืองโพล่งขึ้นมา
“คงคิดว่ามะเฟืองเป็นตัวทำลายความรักใช่ไหมคะ พี่เนตรลูกสะใภ้ที่แสนดีของคุณนายต่างหาก ที่สวมเขาให้คุณภพ อ้อ...คุณภพคงยังไม่ได้บอกคุณแม่สินะคะว่า เคยเห็นพี่เนตรอยู่กับชู้มาแล้วด้วยตาตัวเองน่ะ เนี่ยเหรอคะลูกสะใภ้”
ภัสสรไม่อยากเชื่อ
“เธอพูดอะไรมะเฟือง”
เอกภพหันไปดุ
“หยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้วมะเฟือง”
“ไม่หยุด…คุณกับคุณนายต้องฟัง...จะบอกให้นะคะ ที่มะเฟืองต้องมายุ่งกับคุณภพ ก็เป็นเพราะพี่เนตรนอกใจและมีชู้ก่อน มันก็ไม่ผิดที่คุณภพจะเอามะเฟืองเป็นเมียอีกคน”
“มะเฟืองจะพูดอะไร เกรงใจคุณแม่บ้าง”
“มะเฟืองก็เครียดเหมือนกัน ทำไมมะเฟืองจะต้องเงียบจะต้องปิด ในเมื่อทุกคนก็รู้กันหมดแล้วว่า มะเฟืองก็เป็นเมียของคุณเหมือนกัน ไม่ใช่พี่เนตรคนเดียว”
เอกภพภพอึ้งไป ภัสสรจะเป็นลม เอกภพรีบเข้าไปดู
“คุณแม่ คุณแม่ครับ”
มะเฟืองหมั่นไส้เดินออกไป

มะเฟืองเดินอารมณ์เสียออกมาบริเวณที่รอยา พลางแช่งภัสสร
“โธ่เว้ย...แก่จะตายอยู่แล้ว รู้งี้พูดให้หัวใจวายตายไปซะเลยก็ดี”
มะเฟืองเดินเลี้ยวมาพบวิภา ตกใจที่เห็นแม่มีผ้าแปะแผลที่คิ้ว
“แม่...”
วิภาแปลกใจ
“มะเฟือง...เอ็งมาทำอะไรที่นี่วะ”
“ก็อีแก่...เอ้ย..แม่คุณภพเข้าโรงพยาบาลน่ะฉันก็เลยมาดู ว่าแต่แม่เถอะมีแผลแบบนี้ไปโดนอะไรมาล่ะ”
วิภาหน้าเจื่อนๆ
“ก็มีเรื่องกับเจ้าของห้องนิดหน่อย มันไม่ยอมให้ค้างค่าเช่า มันโยนข้าวของแม่ออกมาหมดเลย แล้วก็โยนแม่ออกมาเนี่ย”
มะเฟืองมองแม่อย่างสงสาร
“แล้วแม่จะไปอยู่ไหนเนี่ย”
วิภาตีหน้าเศร้า
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“แล้วทำไมแม่ไม่โทรมาหาฉัน”
“ที่ไม่โทรหาเอ็ง ก็เพราะเกรงใจกลัวว่าเอ็งจะด่าเอาอีก”
“เอางี้ งั้นฉันมีที่ให้แม่อยู่ แต่ชั่วคราวนะ”
วิภาดีใจกอดลูก มะเฟืองก็จำใจเพราะสงสาร

ชมนั่งคิดเรื่องมะเฟือง บัวเอาน้ำมาให้
“กินน้ำก่อนน้า”
ชมกังวล
“เอ็งว่าข้าควรจะทำไงดีวะนังบัว”
“คนอย่างมะเฟืองมันทำได้ทุกอย่างแหละน้า ลองมันทำร้ายพี่สาวมันได้มันก็ทำคนอื่นได้”
ชมกลืนน้ำแบบฝืดคอกลัวๆ
“ข้าดูในละครนางร้ายมันยังไม่น่ากลัวเท่านี้เลย”
บัวคิดถึงเรื่องร้ายๆที่ตัวเองเจอมา
”บางทีชีวิตคนมันก็ยิ่งกว่าละครน่ะน้า...แค่เราพลาดนิดเดียวชีวิตเราก็เปลี่ยนไปแล้ว...ฉันเป็นห่วงคุณภพจังเลยน้า ฉันกลัวว่าคุณภพจะพลาดเลือกมะเฟืองมาแทนที่คุณเนตรจัง”
บัวเป็นห่วง ชมก็ห่วงเหมือนกัน
“ข้าจะช่วยคุณภพยังไงดี”
“น้าต้องคอยกันมันไว้นะ...เพราะคุณภพเป็นผู้ชายที่ดีมาก ขนาดฉันลงทุนอ่อยสารพัด คุณภพยังไม่คิดจะทำอะไรฉันเลย”
ชมหันขวับมองจ้องหน้าบัว
“ทีแท้แกก็คิดจะแย่งคุณเนตรเหมือนกันแหละ”
“แหมน้า....ก็ฉันรักของฉันนี่นา”
“ฉันก็รักคุณภพเหมือนกัน ฉันอยากให้คุณภพมีความสุข ได้อยู่กับคุณเนตร”
“น้าก็ต้องช่วยกันนังมะเฟืองอย่าให้มันเข้าใกล้คุณภพ ไม่งั้นคุณภพต้องเสร็จมันแน่”
ชมหวั่นใจ ยกมือพนม
“สาธุ...สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยดลบันดาลให้เรื่องร้ายๆวุ่นวายเหล่านี้ หมดไปจากบ้านคุณผู้หญิงทีเถิ๊ดดด”
บัวมองชมอย่างหนักใจแทน

วิภาเดินมองสำรวจความใหญ่โตของบ้านภัสสร อย่างตื่นตาตื่นใจ
“แม่เจ้าโว๊ยบ้านอย่างกับวังแน่ะ”
มะเฟืองเอาน้ำมาให้ วิภารับมาดื่ม
“นี่ถ้าแกเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ก็ดีน่ะสิ...แม่จะได้สบายไปด้วย”
มะเฟืองยิ้ม
“อีกไม่นานหรอกแม่”
วิภาจ้องหน้า มะเฟืองยิ้มๆ
“หมายความว่าแกมีแผน…ลูกแม่จะต้องมีแผนการที่ไม่ธรรมดา หรือว่าแกกับผัวพี่แก มีอะไรกันแล้วงั้นเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
วิกาตกใจ แล้วโผเข้ากอดมะเฟือง
“โอ๋...ลูกรักของแม่...แกนี่มันร่านจนได้ดีจริงๆ เออ...ว่าแต่อีนังพี่สาวแกล่ะ”
มะเฟืองหัวเราะขำๆ
“มันหอบผ้าหอบผ่อนหนีออกไปแล้วล่ะแม่”
วิภาฟังแล้วหัวเราะไปด้วย
“นังเนตรมันเหมือนแม่ของมันไม่มีผิด พอรู้ว่าผัวมีคนอื่นก็หนีออกจากบ้านไปแล้วเป็นไงรู้ไหม”
“แล้วไงล่ะแม่”
“ในที่สุดมันก็ตรอมใจตาย”
มะเฟืองกับแม่หัวเราะขำ โทรศัพท์มะเฟืองดัง เธอกดรับสาย
“มะเฟืองนี่เราเองนะ”
มะเฟืองเซ็ง เมื่อได้ยินเสียงนำโชค
“นำโชค แกจะโทรมาทำไมเนี่ย”
“คือ...เราเรียนจบแล้วนะมะเฟือง”
“เออก็ดีแล้ว แต่ฉันว่าแกน่าจะบอกพ่อแม่แกมากว่านะ”
“คือวันนี้ ฉันไปรับปริญญามาแล้ว”
“เออ...แล้วไง”
“คือ...เราอยากให้มะเฟืองมาถ่ายรูปกับเราหน่อยจะได้ไหม
มะเฟือง หัวเราะ

“เพื่อ...ให้ฉันไปถ่ายรูปกับแกเพื่ออะไรฉันไม่ใช่ญาติพี่น้องแกสักหน่อย แกไหวป่ะเนี่ยนำโชค”

“เรารู้ว่าเธอรำคาญ แต่จากวันนี้ไปเราคงหางานทำที่มั่นคงกว่าขับแท็กซี่แล้ว และก็คงไม่มีโอกาสได้เจอเธออีก เราขอร้องนะมะเฟืองทำเพื่อเราสักครั้งเถอะนะ”
 

มะเฟืองนึกสงสารนำโชค ที่เป็นคนซื่อๆให้หลอกใช้มาตลอด
ภัสสรนอนซึมๆ เอกภพมองอย่างสงสาร
“ผมขอโทษที่ทำให้แม่ไม่สบายใจ”
“แม่อยากคุยกับเนตร แม่ไม่เชื่อสิ่งที่มะเฟืองพูดหรอกนะ แม่มั่นใจว่าเนตรไม่ใช่คนแบบนั้น”
ภัสสรเสียงนิ่งๆ เอกภพฟังที่แม่พูดแล้วอึ้ง
“แม่พักผ่อนนะ เดี๋ยวผมจะให้พยาบาลพิเศษมาอยู่กับแม่”
ภัสสรดึงเอกภพไว้
“ตาภพ ตามหนูเนตรมาหาแม่นะ นะลูก สัญญากับแม่นะ”
“ครับ…ผมสัญญา”
ภัสสรดีใจจนแทบกลั้นนำตาไม่อยู่ เอกภพจับมือแม่เพื่อความมั่นใจ
“อย่าทำให้แม่ผิดหวังนะลูก”
ภัสสรมีความหวัง เอกภพเองหนักใจไม่ใช่น้อยที่จะตามหาเนตรต่อไป

นำโชคนั่งรออยู่ที่สวนสาธารณะในชุดครุย ช่างภาพที่รออยู่นานเดินเข้ามาบอก
“น้องครับ...พี่คงรอถ่ายรูปให้น้องไม่ได้แล้วล่ะ เพื่อนน้องจะมาหรือก็ไม่รู้ พี่ต้องรีบไปงานต่อแล้ว”
“เออ...รออีกแป๊บไม่ได้เหรอครับ...นะครับ”
“นี่พี่ก็รอมานานแล้วนะ”
นำโชคยกมือไหว้
“รออีกนิดนะครับ...”
ทันใดเสียงมะเฟืองดังมาไกลๆ
“ไอ้นำโชค...”
นำโชคหันไปมอง เห็นมะเฟืองก็ดีใจมาก
“เพื่อนผมมาแล้วครับพี่”
มะเฟืองเดินเข้ามาถึงพร้อมกับบ่น
“ทำไมเข้ามาอยู่ซะลึกแบบนี้วะ แกจะมาถ่ายรูปกับฉัน หรือว่าจะมาถ่ายรูปกับสัตว์ป่ากันแน่เนี่ย …โหยย...เหนื่อยนะเนี่ย ร้อนก็ร้อน”
มะเฟืองหน้าบึ้ง นำโชครีบเอาน้ำส่งให้
“ขอบใจนะที่มา”
มะเฟืองมองหมั่นไส้
“ที่มาเนี่ยก็เพราะว่าแกบอกว่า จะไม่อยู่ให้รกหูรกตาฉันหรอกนะ ฉันถึงได้มา”
นำโชคเสียใจกับคำพูดของมะเฟือง หน้าสลดไป มะเฟืองหันมาเห็นรู้สึกตัวว่าพูดไม่ดีเลย
เปลี่ยนเรื่อง
“เอ้า....ไงล่ะ..จะถ่ายไหมรูปน่ะ ถ้าไม่ถ่ายจะได้กลับ”
“ถ่ายๆ...พี่ครับพร้อมถ่ายแล้วครับ”
นำโชคมีความสุขมาก เมื่อมะเฟืองยอมถ่ายรูปด้วย

เอกภพโทรหานิดา เมื่อเธอรับสายรีบถามทันที...
“เนตรติดต่อมาหาคุณบ้างไหม”
“เอ่อ...ไม่เลยค่ะ”
โจ้เดินถืองานเข้ามาในห้องเอกภพเพื่อปรึกษา เห็นคุยโทรศัพท์อยู่เลยนั่งรอ
“ถ้าเนตรติดต่อมา ฝากบอกเนตรด้วยนะครับว่าตอนนี้คุณแม่อยู่ที่โรงพยาบาล อยากเจอเนตรมาก ขอบคุณนะครับ”
เอกภพวางสาย โจ้ถามอย่างตกใจ
“เฮ้ยภพ...คุณแม่เป็นอะไรวะ”
“คุณแม่ตกบันไดน่ะ”
“เอ้า...ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”
“เมื่อวานนี้“
“ทำไมแกไม่บอกฉันวะ ฉันจะได้ไปเยี่ยม”
“พอดีมันวุ่นๆก็เลยไม่ได้บอกน่ะ”
เอกภพกลุ้มใจ โจ้สงสารเพื่อน
“ฉันว่านายไปอยู่กับแม่เถอะ เดี๋ยวเรื่องงานที่ค้างๆฉันจัดการให้เอง”
เอกภพเครียดๆ
“ฉันเพิ่งมาจากโรงพยาบาล ตอนนี้คุณแม่โกรธ ไม่พูดกับฉัน ท่านต้องการคุยกับเนตรคนเดียว แต่ฉันไม่รู้จริงๆว่าเนตรอยู่ที่ไหน”
เอกภพกลุ้มใจ โจ้มองเอกภพอึ้งๆรู้สึกผิด

มะเฟืองนั่งดื่มน้ำรอนำโชคเซ็งๆ นำโชคจ่ายเงินให้ช่างภาพ แลกกับแผ่นดิสรูปถ่ายให้ แถมภาพนิ่งที่เป็นแบบภาพโพรารอยให้ 2 ภาพ
“ขอบคุณนะครับ”
ช่างภาพเดินแยกไป นำโชคมองดูภาพถ่ายที่มือยิ้มมีความสุข เสียงมะเฟืองดังขึ้นมา
“เสร็จยัง ฉันจะได้กลับบ้านสักที”
นำโชคเดินเข้ามานั่งด้วย
“ได้ภาพถ่ายมาแล้ว ฉันให้เธอเก็บเป็นที่ระลึกนะ”
มะเฟืองรับภาพโพรารอยมามาภาพหนึ่ง อย่างไม่สนใจเอาใส่กระเป๋าไป
“งั้นฉันกลับนะ”
มะเฟืองลุกขึ้นจะเดินแยกไป โชคจับมือมะเฟืองไว้
“เดี๋ยวสิ”
นำโชคเอาอีกมือขึ้นมาจับกุมมือมะเฟืองไว้
“วันนี้เป็นวันพิเศษที่สุดในชีวิตของฉันเลย ฉันดีใจมากที่มะเฟืองยอมมา ถ่ายรูปกับฉัน”
มะเฟืองมองมือที่นำโชคจับอยู่
“จะจับอีกนานไหมเนี่ย”
นำโชคบอกอย่างจริงจัง
“ฉันอยากจับมือเธอไว้แบบนี้ตลอดไป...แต่ฉันรู้ดีว่าเธอคงไม่ยอม”
“เออ....รู้แล้วก็ปล่อยซะสิ”
มะเฟืองสะบัดมือออก เดินออกไป นำโชคมองตัดสินใจพูดความในใจ
“มะเฟือง....ฉันรักเธอนะ...”
มะเฟืองอึ้ง ไม่คิดว่าคนซื่อบื้ออย่างนำโชคจะพูดแบบนี้
“ที่ฉันมุมานะเรียนจนจบ เพราะต้องการทำให้เธอเห็นว่าฉันมีอนาคต ไม่ได้เป็นแค่คนขับแท็กซี่ไปตลอด วันนี้ฉันทำสำเร็จแล้วนะมะเฟือง ฉันจะหางานที่มั่นคงทำฉันจะหาเลี้ยงเธอเอง ให้โอกาสฉันสักครั้งได้มั๊ย”
“ขอบใจนะที่เธอรักฉัน...แต่ฉันไม่เคยคิดอะไรกับเธอเลย เธอทำเพื่อตัวเธอเองดีกว่านะ”
นำโชคมุ่งมั่น
“ฉันจะทำให้เธอเปลี่ยนใจ หันกลับมามองฉันให้ได้”
“นายเปลี่ยนใจฉันไม่ได้หรอกนำโชค นายมีชีวิตของนาย...ส่วนฉัน...ก็มีชีวิตของฉัน”
มะเฟืองเดินแยกไป นำโชคตะโกนตามหลัง
“ฉันรักเธอ...ฉันจะรอเธอตลอดไป...จำไว้นะมะเฟือง”
มะเฟืองแอบซึ้งใจกับคำพูดที่ไม่เคยได้ยินจากใครมาก่อน แต่รู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไรมะเฟืองตัดใจเดินไปไม่หันกลับไปมอง นำโชคลงนั่งอยู่ที่เดิมมองดูภาพถ่ายในมือน้ำตาคลอ

โจ้แอบมาคุยโทรศัพท์กับนิดาที่ด้านหน้าออฟฟิศ
“ไอ้ภพมันเครียดมากเลยรู้ไหม ไม่เป็นอันทำงานเลยล่ะ เค้าสงสารมันอ่ะตัวเอง”
“เค้าก็สงสารแต่จะให้เค้าทำไงอ่ะ จะให้ฉันหักหลังเพื่อนบอกที่อยู่กับคุณภพฉันก็ไม่กล้าทำนะ คราวที่แล้วเรื่องบริษัทคุณมาวินทีโกหกให้เนตรไปทำงาน ฉันยังไม่หลุดพ้นคดีเลย”
“เค้าเข้าใจตัวเองนะ....”
เอกภพเดินออกมาพอดี เห็นโจ้คุยโทรศัพท์
“....โอยยย....หนักใจเหลือเกินรู้ทั้งรู้ว่าเนตรอยู่ที่ร้านกับเธอแท้ๆ แต่ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น”
เอกภพได้ยินก็โกรธมาก เข้าไปคว้าคอเสื้อโจ้
“ไอ้โจ้....ทำไมทำแบบนี้วะ”
โจ้ตกใจโทรศัพท์ร่วงไป นิดางงๆที่จู่ๆโจ้ก็หายไป
“ฮัลโหล....ฮัลโหล..ตัวเอง...หายไปไหนอ่ะ”
เอกภพต่อว่าโจ้ทั้งที่ยังขย้ำคอเสื้อโจ้อยู่
“แกรู้ทุกอย่าง....ทำไมไม่บอกฉัน...จะปิดฉันทำไม”
โจ้กลัวๆ
“ฉันขอโทษ...คือ...คุณเนตรขอร้องพวกฉันไว้...”
เอกภพผลักโจ้ออกด้วยความน้อยใจ
“แล้วฉันไม่ใช่เพื่อนแกหรือไงวะ...”
โจ้รู้สึกผิด
“ฉันรักแกนะไอ้ภพและฉันก็รักคุณเนตรด้วย ฉันกับนิดาลำบากใจมากกับเรื่องนี้ฉันสองคนก็ไม่มีความสุขเหมือนกันที่ต้องปิดบังแก จริงๆก็กะว่าสักพักจะบอกแกเหมือนกัน แต่ตอนนี้แกรู้แล้วแกก็ไปหาคุณเนตรเถอะ...ฉันขอโทษว่ะ...”
โจ้เสียใจ เอกภพรีบออกไปทันที

เอกภพเข้าไปที่ร้าน เห็นงามเนตรอยู่ด้านใน
“เนตร...”
เอกภพยืนยิ้มมองดูเนตรที่ทำงานอยู่ พลางพึมพำ
“ผมรักคุณ”
เอกภพจะไปหางามเนตร แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นมาวินเดินอกมาจากด้านใน ทั้งสองคุยกันใกล้ชิดมาก เขามองอย่างเสียใจจะเดินเลี่ยงออกไป
งามเนตรเดินมาที่เคาท์เตอร์ เหลือบเห็นหลังเอกภพคิดว่าเป็นลูกค้า
“สวัสดีค่ะ...รับอะไรดีคะ”
เอกภพหยุด งามเนตรเดินเข้ามาใกล้ๆ เอกภพหันหน้ามา
“คุณภพ”
“ผมขอโทษที่มาขัดจังหวะความสุขของคุณนะ ผมแค่จะมาบอกข่าว เรื่องคุณแม่น่ะ”
งามเนตรตกใจ
“คุณแม่เป็นอะไรคะ”
“คุณแม่ตกบันได ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล”
“แล้วคุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ”
มาวินเดินออกมาพอดี แล้วชะงักมอง เอกภพข่มใจให้นิ่งพูดเรียบๆ
“ผมมาบอกคุณแค่นี้แหละ”
เอกภพมองด้วยดวงตาแดงกร่ำตัดใจ ด้วยความรู้สึกว่าในชีวิตเขา คงไม่มีงามเนตรอีกแล้ว

ชมกลับเข้าบ้านมาเดินผ่านแถวๆสระน้ำ ได้ยินเสียงแว่วๆ “ป๊อคเลยๆๆๆๆ” เหมือนมีเสียงเชียร์อะไรกันสักอย่าง
“อะไรน๊อคๆวะ ใครมันเชียร์มวยเสียงดังมาถึงนี่วะเนี่ย”
ชมเดินผ่านมาใกล้ห้องโต๊ะอาหาร ได้ยินชัดขึ้น
“แบบนี้ก็ต้องป๊อคซิวะ..ฮ่าๆๆๆ”
เสียงโห่ฮาดังมาจากครัวชมตกใจเดินเข้าไปดู เห็นวงไพ่ป๊อกเด้งที่ดูโกโรโกโส มีวิภานั่งเป็นเจ้าอยู่ที่โต๊ะอาหารที่ตอนนี้สภาพเหมือนบ่อนการพนันไม่มีผิด
“อ๊ายยยยยยยย” ชมร้องกรี๊ดดังลั่นบ้าน
มะเฟืองเข้าบ้านมาพอดีได้ยินเสียงกรี๊ดของชม ก็นึกขึ้นได้
“....แม่...ตายแล้ว.....”
มะเฟืองรีบวิ่งเข้าบ้านไปทันที

ทุคนในวงไพ่หันมามองที่ชมงงๆ ชมรีบคว้าไม้กวาดที่อยู่ใกล้ๆแถวนั้นขึ้นมา
“พวกแกเป็นใคร เข้ามาที่บ้านฉันได้ไง”
วิภายืนขึ้นท้าทาย ชมเห็นวิภาก็อึ้งไป
“แกนั่นแหล่ะอีหน้าแบน...แกเข้ามาบุกรุกบ้านฉันได้ยังไง”
ชมงงๆแต่ก็เถียง
“บ้านนี้เป็นบ้านคุณผู้หญิงไม่ใช่บ้านของคุณ”
“ก็กูนี่แหละคุณผู้หญิง”
ขาไพ่เชียร์วิภากันอื้ออึง
“มีปัญหาอะไรไหม...”
ขาไพ่เออออด้วย ชมงงไม่รู้จะทำไง มะเฟืองโผล่มาเห็นตกใจ
“ โอ๊ยยย...อะไรกันเนี่ย...แม่...”
วิภาบอกทุกคน
“นั่นไงลูกสาวของฉัน ตัวจริง เสียงจริง เอา....ปรบมือต้อนรับหน่อยพวกเรา...”
ขาไพ่ปรบมือตามวิภาสนุกสนาน มะเฟืองมองรอบๆห้องที่เกลื่อนกราดไปหมดแถมพวกขาไพ่ไร้สัญชาติก็น่าเกลียดสิ้นดี
“นี่มันอะไรกัน คนพวกนี้เป็นใครกันแม่”
วิภายิ้มแย้ม
“พระสหายของแม่เองจ้ะ”
มะเฟืองโมโหอย่างแรง
“แม่เอาพระสหายแม่ ออกไปจากบ้านให้หมดทุกตัวเลยนะ”
มะเฟืองชี้หน้ากราด
“ไป...ออกไป...”
พวกขาไพ่ แตกตื่นโวยวาย
“ตายแล้วเพื่อนๆ วันนี้ต้องขอโทษนะ”
ส่วนมะเฟืองก็ด่ากราด
“ใจเย็นๆสิลูกนี่เพื่อนๆแม่นะ”
มะเฟืองชี้หน้าขาไพ่
“...ยัง..ยังไม่ไปอีก...

มะเฟืองไล่ด่าเรียงตัว วิภาคอยห้ามวุ่นวาย มะเฟืองมองแม่อย่างโมโห ชมที่มงเหตุการณ์อยู่ ถอนใจเครียดๆ

น้องเมีย ตอนที่ 22
 

เอกภพเดินเศร้ากลับมาที่โรงพยาบาล เขาทอดถอนใจก่อนจะเอื้อมมือจับลูกบิดเปิดห้อง งามเนตรเดินเข้ามาหยุดข้างๆ เขาหันไปมองแล้วอึ้งจนพูดไม่ออกด้วยความดีใจ

“คุณแม่อยู่ในห้องใช่มั๊ยคะ”
เอกภพยิ้มดีใจ รีบเปิดประตูเข้าไปทีนที ภัสสรเห็นงามเนตรมาด้วยก็ดีใจมาก
“หนูเนตร...”
งามเนตรรีบเข้าไปไหว้ ตกใจที่เห็นสภาพภัสสร
“คุณแม่...คุณแม่เป็นไงบ้างคะ”
“ค่อยยังชั่วแล้วล่ะจ้ะ แม่ดีใจจังที่เนตรมาหาแม่”
“เนตรเพิ่งทราบข่าวจากคุณภพก็เลยรีบมา”
“หนูหายไปตาภพติดต่อหนูไม่ได้เลย ทำไมล่ะลูกทำไมไม่พูดจากันดีๆล่ะจ๊ะ แม่เป็นห่วงรู้ไหม” “เอ่อ...เนตรขอโทษที่ทำให้คุณแม่เป็นห่วงนะคะ”
“แม่เป็นห่วงทั้งสองคนนั่นแหละ แม่อยากให้เราทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจกันซะ ทำเพื่อแม่ได้ไหมลูก”
งามเนตรลำบากใจ ภัสสรหันไปบอกเอกภพ
“ภพ...แม่อยากคุยกับเนตรสองคน ลูกออกไปรอข้างนอกก่อนนะ”
“ครับคุณแม่...”
เอกภพมองเนตรก่อนจะเดินออกไป
“เนตร...หนูโกรธตาภพจนให้อภัยไม่ได้เลยงั้นเหรอ”
งามเนตรนิ่งเงียบ ก้มหน้าน้ำตาคลอๆ
“มันไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมเลยเหรอจ๊ะ”
“มันคงจะเหมือนเดิมไม่ได้หรอกค่ะคุณแม่ ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาขนาดนี้แล้ว อีกอย่างมะเฟืองก็เป็นน้องสาวของเนตรนะคะ”
งามเนตรเสียใจน้ำตาไหลที่ต้องพูด ภัสสรอึ้งๆไป
“ตาภพรักหนูมากนะ”
“แต่คุณภพต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำกับมะเฟือง”
“แล้วตัวเนตรเองล่ะจ๊ะ”
“เนตรรับผิดชอบตัวเองได้ค่ะ”
ภัสสรดูออกว่าไม่มีทางที่จะพูดให้งามเนตรใจอ่อนได้เลย
“แม่มีลูกสะใภ้แค่คนเดียวคือเนตร ถ้าเนตรไม่กลับไปอยู่ที่บ้านแม่ก็คงให้มะเฟืองอยู่ที่บ้านไม่ได้เหมือนกัน”
งามเนตรหนักใจกับการยื่นคำขาดของภัสสร
“ให้โอกาสตาภพสักครั้งเถอะนะเนตร ถือว่าเห็นแก่แม่เถอะนะ แม่ไม่ได้บังคับให้เนตรยกโทษให้ตาภพหรอกนะ แม่รู้ว่ามันต้องใช้เวลา กลับไปอยู่กับแม่นะ เนตรก็เหมือนเป็นลูกแม่อีกคน แม่ไม่สบายอยู่ในสภาพแบบนี้ เนตรจะปล่อยให้แม่อยู่บ้านโดยไม่มีใครดูแลเหรอ นะเนตร”
งามเนตรนิ่งคิด ภัสสรมองเธออย่างอ้อนวอน

เอกภพยืนเครียดๆอยู่หน้าห้อง โทรศัพท์ดังขึ้น เขากดรับสาย
“คุณภพคะ...แย่แล้วค่ะ” เสียงชมร้อนรน
“มีอะไรเหรอชม”
“แม่ของคุณมะเฟืองมาอยู่ที่บ้าน ทำวุ่นวายไปหมดจะให้ชมจะทำไงดี จะให้ชมไล่ไปเลยไหมคะ”
ยังไม่ทันที่เอกภพจะตอบอะไร พยาบาลกับหมอเดินผ่านจะเข้าไปในห้อง เอกภพรีบบอกชม
“แค่นี้ก่อนนะชม”
ชมงงๆ ที่เอกภพรีบวางสาย
“เอาไงดีวะเนี่ย...ท่าทางอีชมจะต้องรับศึกหนักแร๊ะ”
ชมเซ็งสุดๆ

หมอกับพยาบาลเข้าไปในห้อง เอกภพตามไปด้วย
“สวัสดีค่ะคุณหมอ” ภัสสรทักทาย
“หวัดดีครับ...หมอจะมาแจ้งผลตรวจสแกนสมอง ทุกอย่างปกติดีครับ”
“แล้วแผลส่วนอื่นๆล่ะครับ” เอกภภพถาม
“แผลที่แขนคงต้องเข้าเฝือกแบบนี้ไปสักระยะนะครับเพื่อให้กระดูกที่หักต่อกันได้สนิทก่อน โดยรวมแล้วไม่มีอาการอะไรที่น่าเป็นห่วง หมออนุญาตให้คนเจ็บกลับบ้านได้แล้วนะครับ”
หมอกับพยาบาลเดินออกไป ภัสสรจับมืองามเนตรอย่างดีใจ
“กลับไปบ้านกับแม่นะลูกนะ”
งามเนตรมองภัสสรอย่างสงสาร
“ค่ะคุณแม่”
ภัสสรปลื้มใจที่งามเนตรยอมกลับบ้านด้วย เอกภพแอบดีใจอย่างที่สุด

เอกภพกับงามเนตรประคองภัสสรเข้าไปในบ้าน ทุกคนแปลกใจกับสภาพบ้านที่เห็น เพราะเศษไพ่ตกเกลื่อนห้องรับแขก รองเท้าเกะกะในบ้าน เศษของกินอีกเกลื่อน
“นี่มันเกิดอะขึ้นเนี่ย.....ชม...ชม” ภัสสรร้องเรียก
ชมรีบวิ่งออกมารับหน้า
“คุณผู้หญิงกลับมาแล้วเหรอคะ”
“ทำไมบ้านถึงได้เลอะเทอะแบบนี้ห๊า”
“คือว่า...คุณมะเฟือง...กับ..เอ่อ...”
มะเฟืองกับวิภาเดินออกมาจากด้านใน
“มะเฟืองกับแม่ทำเลอะเองแหละค่ะ”
มะเฟืองเห็นงามเนตรมาด้วยก็ตกใจ วิภาสะกิดมะเฟืองพูดเบาๆ
“ไหนแกว่ามันไปแล้วไง”
มะเฟืองฮึดฮัดโกรธที่เห็นงามเนตร
“แกกลับมาทำไม ที่นี่ไม่ต้อนรับคนสำส่อนอย่างแกหรอก”
งามเนตรอึ้ง ภัสสรโกรธแทน
“ฉันเป็นเจ้าของบ้าน ฉันจะพาใครมามันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน”
มะเฟืองโกรธอยากจะกรี๊ด
“แต่นังนี่มัน...มันสวมเขาให้คุณภพนะคะ”
“ฉันไม่สน...ตราบใดที่เนตรยังเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนตรก็มีสิทธิ์ที่จะอยู่ในบ้านหลังนี้ ถ้าใครไม่พอใจก็ย้ายออกไป”
ภัสสรเดินออกไปชมรีบเข้ามาช่วย วิภามองค้อนๆภัสสรที่เดินผ่านไป มะเฟืองมองหน้างามเนตรแค้นสุดๆ

ชมยกกระเป๋าสัมภาระต่างๆเดินผ่านหน้าวิภากับมะเฟือง
“ฮ่าๆ!...ไม่ทันไรก็ถึงเวลาที่คางคกต้องลงจากวอ.ซะแล้ว...น่าสงสารจริงๆเลยเน๊าะ” ชมหัวเราะเยาะ
มะเฟืองหันไปตวาดแว๊ด
“เป็นขี้ข้าก็อยู่ส่วนขี้ข้า อย่ามายุ่งเรื่องเจ้านาย”
ชมลอยหน้าตอบ
“เผอิญชมเป็นลูกจ้างของเจ้านายก็เลยต้องเข้าข้างเจ้านาย ว่าแต่..พวก..คุณ..คุณ.. เถอะได้ข่าวว่าเป็นแค่...ผู้อาศัยไม่ใช่เหรอ คงต้องหัดเจียมตัวซะมั่งนะ”
วิภาหมั่นไส้
“หนอย...อีนี่วอนโดนมือโดนตีนซะแล้วไหมล่ะ”
มะเฟืองรีบจับแม่ไว้
“แม่อย่า...”
ชมวางของตั้งหมัดท้า
“มาเลย....เก่งไม่กลัว...กลัวไม่เก่ง....ชมสู้ตาย...”
“ปล่อยแม่เดี๋ยวแม่จัดการอีหน้าแบนนี่เอง”
“แม่...อย่าเลยถือซะว่าปล่อยมันไปเอาบุญแล้วกันนะ”
มะเฟืองร้องห้าม วิภานิ่งไป
“โธ่...นึกว่าจะแน่...เชอะ...”
ชมเย้ย แล้วหยิบของที่วางไว้เดินเชิดๆออกไป วิภาหมั่นไส้มองตามแล้วเจ็บใจหันถามมะเฟือง
“ทำไมต้องห้ามข้าด้วยวะ”
“ไม่มีใครเข้าข้างเราเลยแม่ไม่เห็นหรือไง”
วิภากับมะเฟืองพากันเครียด

งามเนตรพาภัสสรเข้าไปในห้อง
“อย่าคิดมากนะลูก แม่อยู่ข้างเนตรเสมอนะ”ภัสสรปลอบ
“ขอบคุณค่ะคุณแม่”
“แม่อาบน้ำร้อนมาก่อนแม่รู้ว่าใครดีใครร้าย แม่ขอให้เนตรหนักแน่นมีสติ การหนีไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาหรอกนะจ๊ะ ต่อให้หนีไปไกลแค่ไหนถ้าใจเรายังอยู่ที่เดิม มันก็ยิ่งทำให้เราร้อนเท่าเดิม อาจจะร้อนกว่าเดิมด้วยซ้ำ เราต้องสู้กับปัญหานะลูกนะ”
งามเนตรคิดตามที่ภัสสรบอก เอกภพเข้ามาเห็นงามเนตรคุยกับแม่ก็แอบดีใจ
“คุยอะไรกันอยู่หรือเปล่าครับ..ผมออกไปก่อนดีกว่าไหมครับคุณแม่”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะตาภพ มาก็ดีแล้วล่ะ พาหนูเนตรไปพักผ่อนเถอะเหนื่อยกับแม่มาทั้งวันแล้ว...ไปพักเถอะจ๊ะ”
“ค่ะคุณแม่”
เอกภพยิ้มให้แม่แล้วพางามเนตรออกไป ภัสสรมองตามยิ้มๆ

งามเนตรเข้ามาในห้องเอกภพตามมาแล้วปิดห้อง เมื่อเห็นอย่างนั้นเธอเดินเลี่ยงทันที
“เป็นไรหรือเปล่า”
งามเนตรเดินเลี่ยง เพราะยังรู้สึกถึงคืนวันที่เอกภพขืนใจ เธอหยิบหมอนกับผ้าห่มแล้วบอก
“ฉันขอออกไปนอนห้องคุณแม่นะคะ”
เอกภพรู้สึกว่างามเนตรยังหวาดระแวงตัวเอง
“คุณคงลำบากใจที่ต้องอยู่กับผม”
งามเนตรอ้ำอึ้ง ไม่กล้าพูด
“ผมเข้าใจครับ...คุณอยู่ในห้องนี้แหละ เดี๋ยวผมจะไปนอนที่ห้องทำงานเอง”
เอกภพออกไป งามเนตรโล่งใจ

มะเฟืองนั่งหงุดหงิดอยู่บนเตียง วิภาเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ
“ทำไมนังเนตร มันถึงกลับมาบ้านนี้ได้”
“ก็เพราะอีแก่มันบังคับให้คุณภพไปตามมาน่ะสิ เบื่อจริงๆอีพวกแก่ไม่อยู่ส่วนแก่เนี่ย”
วิภาสะอึก
“นี่เอ็งไม่ได้เหมารวมเอาข้าไปด้วยใช่ไหม”
“ก็ไม่แน่”
“อ๊ะอีลูกเวร...ที่เอ็งบอกว่าอีนังคุณนายมันให้ตามนังเนตรกลับมานั่น ก็เท่ากับว่านังเนตรมันมีอีแก่คอยถือหางให้อยู่น่ะสิ...แบบนี้แกจะไปสู้อะไรมันได้ล่ะ”
“ไม่ต้องมีใครมาถือหางให้ฉันหรอกแม่ ฉันจัดการทุกอย่างเองได้”
“แล้วแกจะทำไง”
มะเฟืองนิ่งคิด

เช้าวันใหม่...งามเนตรออกมาจากห้องนอนเดินผ่านห้องทำงาน เห็นเอกภพนอนฟุบอยู่ที่โต๊ะทำงาน เธอมองอย่างสงสาร เอกภพลืมตาขึ้นมาพอดี
“เนตร...”
งามเนตรตกใจ จะเดินออกเอกภพคว้ามือเธอไว้
“เดี๋ยวสิครับ...คุณมีอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่าครับ”
งามเนตรแก้เก้อ
“คือ... ฉันเห็นคุณเปิดไฟไว้ก็เลยจะเข้ามาปิดไฟให้น่ะค่ะ”
เอกภพมองงามเนตร ขยับเข้ามาใกล้จับมือเธอไว้
“เนตรครับ...ยกโทษให้ผมได้มั๊ย”
งามเนตรอ้ำอึ้ง เอกภพยังต้องการคำตอบ
“ยกโทษให้ผมได้มั้ยเนตร”
เอกภพยังจับมือเนตรพร้อมรอคำตอบ
วิภาเดินหาวผ่านมาตรงห้องทำงาน หันมองเห็นว่าเอกภพจับมืองามเนตรอยู่หมั่นไส้แกล้งพูดเสียงดังๆ
“ไป๋..ชิ้วๆ!...ไปให้พ้นนะนังแมวขโมย...ยังอีก..ดูซิเผลอเป็นไม่ได้จ้องจะขึ้นมาบนเรือนตลอด..ไป”
วิภาเดินผ่านหน้าห้องไป งามเนตรรีบแกะมืออออกจากเอกภพ
“เนตรขอตัวนะคะ เดี๋ยวคุณแม่จะรอ”
“เนตร!!”
งามเนตรรีบออกไปจากห้อง เอกภพเศร้าใจได้แต่มองตาม

มะเฟืองนอนหลับอยู่ วิภาเข้าห้องมาปลุกมะเฟืองให้ตื่น
“ตื่นได้แล้วนังมะเฟือง...จะนอนไปถึงไหน...”
วิภาดึงมะเฟืองลุกขึ้นมา
“แม่...แม่จะตื่นก็ตื่นไปคนเดียวสิ ฉันจะนอน”
มะเฟืองงัวเงีย ล้มตัวลงนอนต่อ วิภาเท้าเอวโมโห
“เออดี...นอนเข้าไปเลยนะ...ปล่อยให้อีนังเนตรมันคาบเอาผัวไปกินก่อน แล้วค่อยตื่นก็แล้วกัน”
วิภาทำไม่สนใจเดินหนีไป มะเฟืองลุกพรวดขึ้นมา
“เมื่อกี๊แม่ว่าอะไรนะ”
“อยากนอนก็นอนไปสิ”
“โอย...ไม่นอนแล้ว แม่ว่านังเฉิ่มนั่นมันทำอะไรนะ”
“มันไม่ได้เฉิ่มอย่างที่แกเข้าใจหรอกนะ”
“ยังไงแม่”
“ก็ฉันเห็นมันแอบเข้าไปจิ๊จ๊ะกับผัวมันถึงในห้องทำงานน่ะ คนเฉิ่มๆที่ไหนเขาจะกล้าขนาดนั้น”
“จริงเหรอแม่”
“ก็เออสิวะ ข้าเห็นมากับตา ข้ายังแกล้งส่งเสียงดังๆให้มันอายผีสางเทวดาเลย แกมัวแต่นอนรออยู่แบบนี้ไม่ทันมันหรอก จะทำอะไรก็รีบๆทำซะ เพราะถ้ามันกลับมารักกันมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อไหร่ แกจะไม่มีทางแย่งผัวมันมาได้เลย”

มะเฟืองฟังแล้วเครียด พยายามหาทางออก

น้องเมีย ตอนที่ 22
 

งามเนตรเข้าไปดูแลภัสสรในห้องนอน

“แม่ดีใจ ที่หนูกลับมาอยู่บ้านเราเหมือนเดิมนะลูก” ภัสสรมีความสุขที่เห็นงามเนตรอยู่ด้วย
“เนตรคงจะอยู่ดูแลคุณแม่จนกว่าคุณแม่จะหายดี หลังจากนั้นเนตรคง...”
“แต่แม่อยากให้ลูกอยู่ที่นี่ตลอดไป...แม่มีบ้านริมน้ำอยู่หลังหนึ่งไม่มีใครอยู่ แม่ว่าให้มะเฟืองกับแม่ของเขาแยกไปอยู่ที่นั่นก็น่าจะดีนะ”
“เนตรขอให้มะเฟืองอยู่ที่บ้านนี้ต่อดีกว่าคะ เพราะอย่างน้อยมะเฟืองก็เป็น น้อง..ของเนตรและก็เป็น... ขอบคุณคุณแม่นะคะ เนตรเข้าใจที่คุณแม่พูด”
ภัสสรสะเทือนใจ
“ตามใจลูกนะ แม่แค่กลัวว่าหนูจะลำบากใจ”
“เนตรไม่คิดอะไรหรอกคะ เนตรกลัวน้องจะลำบากใจมากกว่าที่ยังเห็นเนตรอยู่ที่นี่...คุณแม่ไปเดินเล่นไหมคะ เนตรพาไปคะ”
ภัสสรไม่รบเร้า เพราะเข้าใจงามเนตร ได้แต่เดินตามเธอออกไป

กันตากับโจ้นั่งอยู่ในห้องรับแขก ชมถือน้ำมาเสิร์ฟ
“รอสักครู่นะคะคุณภพกำลังลงมาค่ะ ดื่มน้ำก่อนนะคะ”
ชมแยกไป ครู่หนึ่งเอกภพเดินลงมานั่งข้างๆ
“หวัดดีครับคุณกันตา”
“หวัดดีค่ะ”
“ไงโจ้แค่ฉันไปสายหน่อยเดียว ต้องชวนคุณกันตามาตามเลยเหรอไง”
“ฉันน่ะเหรอจะชวนแม่นี่มา...พูดใหม่ได้นะฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกแม่กันตาลากมาที่นี่”
เอกภพยิ้มๆ
“จริงเหรอครับ”
“แหม...โจ้ก็พูดเกินไป” กันตาหันไปบอกเอกภพ “ที่จริงเราสองคนอยากมาเยี่ยมคุณแม่น่ะค่ะ เพราะวันก่อนไปที่โรงพยาบาลคุณแม่ท่านก็ยังไม่ฟื้นเลย ฉันก็เลยถือโอกาสมาเยี่ยมท่านที่นี่คุณคงไม่ว่าอะไรนะคะ”
เอกภพยิ้มให้
“ไม่หรอกครับ ดีซะอีกคุณแม่ท่านจะได้ไม่เหงามีเพื่อนคุย ลำพังผมคนเดียวคุณแม่ท่านก็คุยจนเบื่อแล้วล่ะครับ”
ทั้งสามคนหัวเราะ ภัสสรเดินเข้ามาโดยมีงามเนตรคอยประคอง เอกภพหันไปเห็นพอดี
“อ้าว...คุณแม่ลงมาพอดีเลย”
กันตาหันไปยิ้มแย้มสดใส สวัสดีภัสสรพร้อมโจ้ แล้วเหลือบเห็นงามเนตรก็ตกใจคิดไม่ถึงว่าจะเจอ
“คุณเนตร...” กันตาหน้าเจื่อนไป
“สวัสดีค่ะคุณกันตา คุณโจ้”
กันตาอึ้งๆไป เอกภพช่วยพยุงภัสสรลงนั่ง
“คุณแม่ครับนี่คุณกันตาเพื่อนร่วมงานของผมครับ เขามาเยี่ยมคุณแม่น่ะครับ”
ภัสสรยิ้มให้
“ขอบใจนะจ๊ะ”
กันตายิ้มๆ
“วันก่อนกันตาไปเยี่ยมคุณแม่ที่โรงพยาบาลมา แต่คุณแม่ยังหลับอยู่ก็เลยไม่ได้คุยกัน คุณแม่ดีขึ้นแล้วนะคะ”
“ก็ได้หนูเนตรมาช่วยดูแล อาการของแม่ก็เลยดีขึ้นเยอะ”
โจ้มองเอกภพยิ้มแซวๆ
“ผมว่าไม่ใช่แค่อาการคุณแม่ดีขึ้นคนเดียวหรอกครับ...อาการไอ้ภพก็ดีขึ้นด้วยเหมือนกัน...คุณแม่ว่าไหมครับ”
ภัสสสรอดหัวเราะขำๆไม่ได้ เอกภพมองงามเนตรที่เขินๆ กันตาเห็นแล้วรู้สึกผิดหวังมาก

มาวินมาหางามเนตรที่ร้านนิดา
“บอส...” นิดายิ้มแหยๆ เพราะถึงเวลางานแล้ว แต่ยังไม่ได้ไป
“นี่สายแล้วทำไมคุณยังไม่ไปออฟฟิศอีก”
นิดาแสร้งดูนาฬิกา
“คุณพระ...สายแล้วจริงๆด้วย...คือนิดาไม่ทันได้ดูนาฬิกาน่ะค่ะ แต่เดี๋ยวนิดาจะรีบควบมอเตอร์ไซด์ไปให้ทันเวลาเข้างานนะคะ บอสไม่ต้องห่วงนิดาจะไม่ใช้ความเสน่ห์หาที่บอสมีให้นิดาเป็นข้ออ้างให้บอสเสียการปกครองแน่นอนค่ะ นิดารับรอง”
“ไม่ต้องชักแม่น้ำทั้งห้าหรอกคุณนิดา..ยังไงก็สาย”
นิดาจ๋อย
“ว๊า...แย่จังบอสรู้ทัน...”
มาวินชะเง้อมองหางามเนตร นิดารู้ทัน
“บอสคะ...หาเนตรเหรอคะ”
“เอ่อ..ครับ..เนตรล่ะครับ”
“ไม่อยู่หรอกค่ะ เนตรเขากลับไปคืนดีกับสามีแล้วล่ะค่ะ นิดาลุ้นแทบแย่”
มาวินหน้าเสีย
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“เมื่อวานค่ะ”
“เหรอครับ...”
“เฮ้อ...ป่านนี้น่าจะปรับความเข้าใจกันแล้ว. ..อย่างว่าแหละนะคะ คนรักกันแค่มองตากันก็รู้ใจ..พูดแล้วก็อิจฉาอ่ะ..”
“ต่อไปนี้..คุณเนตรคงจะมีความสุขสักที...”
มาวินยิ้มเศร้าๆอย่างยอมรับความจริง

งามเนตรเข้าไปเตรียมคุกกี้กับชา กาแฟให้ทุกคนที่อยู่ในห้องรับแขก กันตาเดินเข้ามาอาสาช่วย
“มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ”
งามเนตรหันมายิ้มๆ ส่งจานกับคุกกี้ให้
“งั้นคุณกันตาช่วยจัดคุกกี้ใส่จานก็ได้ค่ะ”
งามเนตรละมือไปเตรียมชาให้ภัสสร กันตาแอบมองหาเรื่องชวนคุย
“คุณแม่ของคุณภพ ท่าทางจะดีใจนะคะที่คุณเนตรกลับมา คุณโชคดีมากนะคะที่เป็นสะใภ้ที่แม่สามีรักและเอ็นดู”
“คงเป็นเพราะคุณแม่รักคุณภพมาก ก็เลยเผื่อมาถึงฉันด้วยน่ะค่ะ”
“แต่ท่านคงไม่เผื่อไปถึงน้องสาวคุณใช่ไหมคะ”
งามเนตรอึ้งไปทันที กันตาแอบยิ้มเล็กๆ ก่อนเปลี่ยนเรื่องคุย
“เอ่อ...ขอโทษนะคะที่ทำให้คุณไม่สบายใจ ฉันไม่ทันคิดน่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ว่าแต่...คุณเนตรกับคุณภพเข้าใจกันดีแล้วใช่ไหมคะ”
งามเนตรหลบตาไม่ตอบอะไร
“ฉันดีใจด้วยนะคะ คุณภพชอบมาปรึกษาปัญหาชีวิตกับฉันตลอดเวลาเรา สองคนเลยสนิทกัน คุณภพเหมือนเด็กๆ ที่บางครั้งก็ไม่มั่นใจในความคิดของตัวเองสักเท่าไหร่ ขนาดเรื่องของคนรักของตัวเองยังต้องขอคำปรึกษาจากฉันเลย” กันตาแกล้งทำขำๆ “คุณภพนี่น่ารักดีนะคะ”
งามเนตรอึ้ง นิ่งงันกับคำพูดของกันตา
“ความจริงถ้าคุณไม่กลับมา ฉันกะว่าจะอาสาเข้ามาดูแลคุณภพให้นะคะเนี่ย เพราะฉะนั้นคุณกลับมาแล้ว จับเขาไว้ให้มั่นนะคะคุณเนตร”
กันตายิ้มให้งามเนตรแล้วยกถาดคุกกี้ออกไป งามเนตรอึ้งไปไม่แน่ใจกับคำพูดของกันตา

ระหว่างทางกันตาเดินถือถาดคุกกี้ยิ้มสะใจเดินออกมา เธอพบมะเฟืองพอดี
“แกเข้ามาบ้านฉันได้ยังไง”
“เธอคงต้องไปถามคุณภพเอานะ”
กันตาจะเดินไป มะเฟืองขวางไว้
“ฉันเป็นเจ้าของบ้านนี้ ฉันจะไล่เธอออกไปเมื่อไหร่ก็ได้”
กันตายิ้มยั่ว
“เธอเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ฉันมาที่นี่ในฐานะแขกของคุณภพ และฉันก็รู้จักกับคุณเนตร ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณภพดี แบบนี้เขาไม่เรียกว่าเจ้าของบ้านหรอกเหรอ...แล้วเธอเป็นใครกัน”
มะเฟืองเจ็บใจ
“ฉันก็เมียคุณภพเหมือนกัน”
กันตาหัวเราะขำ
“เหรอ...ไม่เห็นคุณภพเคยพูดถึงเลย...หรือว่าเธอจะเป็น...เป็นตัวอะไรน๊าที่มันตกกระป๋องน่ะ อ๋อ หมาตกกระป๋อง...”
มะเฟืองโกรธตบหน้ากันตาฉาดใหญ่ จานคุกกี้หล่นกระจาย
“แก...แกกล้าด่าฉันเหรอ”
กันตาจับแก้มที่โดนตบสายตาเอาเรื่องหันกลับมาที่มะเฟือง ตบหน้ามะเฟืองเต็มๆมือ
“ไม่ใช่แค่กล้าด่าอย่างเดียว จำไว้”
“แก...แน่นักใช่ไหม”
มะเฟืองโผเข้าใส่ กันตาสู้ ต่างคนต่างยื้อกันไปมา เอกภพกับโจ้วิ่งเข้ามาเพราะได้ยินเสียงเอะอะทั้งสองคนตกใจ เอกภพรีบเข้ามาห้าม
“มะเฟืองหยุดเดี๋ยวนี้นะ...มะเฟือง”
“กันตา...พอๆ”
โจ้ร้องห้าม แล้วหันไปถามเอกภพ
“เอาไงวะภพ...ตบกันใหญ่แล้ว”
“ช่วยกันแยกก่อนเร็ว”
เอกภพเข้าไปดึงมะเฟืองออก ส่วนโจ้เข้าไปห้ามกันตาโดนลูกหลงบ้างเล็กน้อย
“หยุด...นี่มันเรื่องอะไรกัน” เอกภพตวาดถาม
“อีนังนี่มันมาด่ามะเฟือง คุณภพต้องไล่มันออกไปจากบ้านนะคะ ไม่งั้นมะเฟืองไม่ยอมจริงๆด้วย”
เอกภพนิ่ง ทำเสียงเข้มบอกมะเฟือง
“มะเฟือง...ขอโทษคุณกันตาเดี๋ยวนี้”
มะเฟืองอึ้ง
“ให้ฉันขอโทษนังนี่น่ะเหรอ”
“ใช่...คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับแขกของผม”
มะเฟืองทั้งโกรธ ทั้งเจ็บใจ กำมือแน่นแล้วเดินออกไปด้วยความโมโห กันตาแอบยิ้มสะใจ ขณะที่งามเนตรแอบมองอยู่มุมหนึ่งอย่างเศร้าใจ
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เอกภพถามกันตาอย่างเป็นห่วง
“นิดหน่อยค่ะ” กันตาจับแก้มที่โดนตบอย่างอ้อนๆ
“ผมต้องขอโทษจริงๆนะครับ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
“ช่างมันเถอะค่ะ เผอิญฉันเป็นคนไม่ยอมคนซะด้วย”
โจ้ส่ายหน้า
“ก็เลยตบกันซะเลย”
“ก็ต้องสู้สิ จะมายอมให้เค้ารังแกได้ไงล่ะ ฉันไม่ใช่คุณเนตรนะ”
งามเนตรที่แอบฟังอยู่อึ้งไป
“ขอโทษนะครับ...เชิญข้างในดีกว่าครับ” เอกภพบอก
“ฉันว่า...ฉันกลับก่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวโจ้ต้องรีบไปออฟฟิศด้วยใช่ไหมโจ้”
โจ้งงๆ กันตากระทุ้งที่ท้องโจ้ให้รับมุข
“เออ..เออ...ใช่..รีบ...รีบกลับ”
“ขอตัวนะคะ”
“โอเคครับ เดี๋ยวผมไปส่งที่หน้าบ้านนะครับ”
เอกภพนำกันตากับโจ้ออกไป งามเนตรแอบมองตามอย่างหนักใจ

มะเฟืองแกล้งบีบน้ำตาร้องไห้อยู่มุมหนึ่ง เอกภพเดินเข้ามาหา
“มะเฟือง คุณทำผมขายหน้ามากรู้ไหม”
“นี่มะเฟืองเป็นคนผิดเหรอคะ” มะเฟืองไม่พอใจ
“คุณคิดว่าคุณทำถูกแล้วงั้นเหรอมะเฟือง”
“คุณภพไม่เคยเข้าข้างเมียตัวเองเลย ทั้งๆที่มะเฟืองไม่ผิดคุณก็จะให้มะเฟืองผิดให้ได้ นังนั่นมันมีดีอะไรคุณถึงต้องยกมันขนาดนี้ด้วย”
“คุณก้าวร้าวเกินไปแล้วนะมะเฟือง”
“ทำไมคะ ถ้าคุณอยากไล่มะเฟืองออกไปให้พ้นๆคุณคุณพูดมาตรงๆ เหมือนที่พี่เนตรพูดก็ได้นะเฟืองรับได้...ตอนนี้พี่เนตรกลับมาแล้วนี่ คุณไม่ต้องมีฉันก็ได้ มะเฟืองยอมที่จะอยู่ในที่ของมะเฟืองเงียบๆไม่ให้กระทบกระเทือนพี่เนตร มะเฟืองพยามยอมรับพี่เนตร แต่มะเฟืองไม่รับนังคนนั้นด้วยหรอกนะคะ”
“ฟังนะมะเฟือง คุณกันตาเขาเป็นแค่เพื่อนร่วมงานของผมคนหนึ่งเท่านั้น”
“มันบอกมะเฟืองอยู่ว่า มันจะแย่งคุณมาจากฉันและก็พี่เนตรให้ได้ แบบนี้เหรอที่เรียกว่าเพื่อนน่ะ”
งามเนตรเดินมาเห็นมะเฟืองออเซาะเกาะแขนเอกภพ แล้วโอบกอดเขาก็ชะงัก
“มะเฟืองยอมทุกอย่างเพราะมะเฟืองรักคุณจริงๆนะคะ มะเฟืองรู้ว่าคุณก็รักมะเฟือง”
เมื่อมะเฟืองพูดอย่างนั้น งามเนตรรู้สึกเจ็บ แต่พยายามข่มใจ ชมมาเห็นเข้าเลยเข้าไปขัดจังหวะ
“คุณภพคะ คุณผู้หญิงให้มาเชิญคุณภพที่ห้องค่ะ”
เอกภพรีบผละออกจากมะเฟือง เดินออกไปกับชม มะเฟืองเจ็บใจที่ชมมาขัดจังหวะ
“ฮึ่ย...อีหน้าแบน”
มะเฟืองหงุดหงิดออกไป งามเนตรยืนมองหนักใจกับปัญหาที่อยู่ตรงหน้า

ค่ำคืนนั้น งามเนตรกลับเข้าไปในห้อง ครู่หนึ่งเอกภพตามเข้าไป
“ยังไม่นอนเหรอ”
“ยังค่ะ”
“เอ่อ..คือ..ผมจะขอเข้ามาอาบน้ำหน่อยน่ะครับ”
“เชิญค่ะ”
งามเนตรเดินไปหยิบชุดให้
“นี่ชุดคุณค่ะ อาบได้เลยนะคะ”
งามเนตรจะเดินออกไป เอกภพรีบถาม
“คุณจะไปไหนเหรอ”
“ฉันจะไปดูคุณแม่น่ะค่ะ”
เอกภพเข้ามาจับแขนเธอไว้
“ทำไมคุณต้องหนีผมด้วย”
งามเนตรเบือนหน้าหลบ ไม่ตอบ
“เนตร...เรารักกันไม่ใช่เหรอ”
“มีคนรักคุณตั้งมากมาย”
เอกภพไม่เข้าใจ
“คุณหมายถึงใครเหรอเนตร”
“ฉันไม่อยากเป็นอีกคนที่ต้องมาตบตีกันเพื่อแย่งคุณ ฉันกลับมาที่เพื่อมาดูแลคุณแม่ ไม่ได้กลับมาเพราะคุณ”
เอกภพโมโหขึ้นมา
“ใช่สิ...คุณเองก็มีผู้ชายคนใหม่ดูแลแล้วนี่”
“ก็แล้วแต่คุณจะคิดนะคะ”
งามเนตรจะไป เอกภพเข้าไปกอดเธอไว้
“ปล่อยฉันนะ”
“ไม่...”
งามเนตรพยายามผลักออก เอกภพดึงมาจูบอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะถอนริมฝีปาก
“ผมรักคุณมากนะเนตร”
งามเนตรมองตาเอกภพด้วยความปวดร้าว
“เพราะคำพูดแบบนี้ซินะที่ทำให้ทุกคนหลงรักคุณ ฉันไม่เชื่อสิ่งที่คุณพูดหรอกนะคะ”
เอกภพอึ้ง งามเนตรเดินเลี่ยงไป
“ผมจะรอจนกว่าคุณจะเชื่อใจผม”

เอกภพเดินออกไปจากห้อง งามเนตรยืนนิ่งสับสนกับสิ่งที่เอกภพพูด แต่ก็เสียใจที่ไม่อยากตกอยู่ในสภาพนี้

น้องเมีย ตอนที่ 22 (จบตอน)
 

มะเฟืองเดินมาแอบดู เห็นว่าเอกภพเข้ามาในห้องทำงานคนเดียวจึงเข้าไปหา

“ทำไมไม่เข้าไปอยู่กับพี่เนตรล่ะคะ”
เอกภพเลี่ยงตอบ
“ผมต้องทำงานน่ะ”
มะเฟืองรู้ทันพูดดักคอ
“ต้องทำงานหรือไม่กล้าสู้หน้าพี่เนตรกันแน่คะ อยู่กันไปแบบนี้ไม่ดีหรอกนะคะ”
“ไม่ดียังไง”
“ก็มันไม่ชัดเจนน่ะสิคะ ในเมื่อพี่เนตรเขาตัดใจจากคุณแล้ว คุณก็ยังยื้อเขาไว้อีก ทั้งๆที่คุณก็มีมะเฟืองอยู่แล้วทั้งคน ถ้าคุณจะทำแบบนี้ทำไมคุณไม่บอกพี่เนตรไปซะเลยล่ะคะว่า เราจะอยู่กันแบบสามคนผัวเมีย จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกันอีก”
เอกภพไม่คิดว่ามะเฟืองจะพูดออกมาแบบนี้
“ต่อให้ผมต้องเลิกรากับเนตร ผมก็ไม่มีทางรักคุณได้หรอกมะเฟือง”
มะเฟืองโกรธ
“นังเนตรมันมีอะไรที่ฉันไม่มีหรือไง คุณถึงได้โง่จมปลักอยู่กับมันน่ะ”
เอกภพมองมะเฟืองแล้วบอก
“จิตใจที่ดีไงล่ะ ที่คนอย่างคุณไม่มี”
เอกภพเดินออกไปจากห้อง มะเฟืองโกรธแทบจะกรี๊ดออกมา

งามเนตรนั่งอยู่ในห้อง สับสนกับความรู้สึก เธอนึกถึงเอกภพที่ดึงเธอมาจูบ
‘ผมรักคุณมากนะเนตร’
นึกถึงเหตุการณ์ที่เขาเมาแล้วขืนใจเธออย่างเจ็บช้ำ แล้วก็เศร้า
“ฉันจะเชื่อคุณได้ยังไงกันคุณภพ”
ขณะเดียวกัน เอกภพนั่งคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ตั้งแต่พบงามเนตรครั้งแรก กระทั้งขอเธอแต่งงาน แล้วก็เศร้าอย่างบอกไม่ถูก เมื่อความสุขเหล่านั้นสูญหายไปเพราะตัวเขาเอง

ระหว่างรอขึ้นเวทีร้องเพลง บัวโทรศัพท์หาชม ไม่นานนักชมรับสาย
“ฮัลโหล”
“น้า...นี่บัวเองนะ”
“นังบัว...หายเงียบไปเลยนะเอ็ง” ชมดีใจมากที่ได้ยินเสียงบัว
“ก็ไม่ได้เงียบอะไรหรอกน้าพอดีฉันยุ่งๆน่ะ น้าฉันมีข่าวดีจะบอกน้าด้วยล่ะ”
ชมนึกขึ้นได้
“ฉันก็มีข่าวดีจะบอกแกเหมือนกันแหละ”
“งั้นฉันให้น้าเล่าก่อนก็ได้ ข่าวดีอะไรเหรอ”
“เรื่องมันมีอยู่ว่า...แต่น แตน แต๊นนนน...คุณเนตรกลับมาบ้านแล้ว”
“อะไรกันน้า..นี่เล่าจบแล้วเหรอ...”
“เออจบแล้ว”
“ทำไมเล่าสั้นจัง”
“ก็เล่าแบบย่อๆกระชับๆไง ข้าดีใจที่สุดเลยที่คุณเนตรกลับมา”
บัวยิ้มเยาะ เมื่อนึกถึงมะเฟือง
“สมน้ำหน้านังมะเฟืองจริงๆเลย ป่านนี้อกมันคงแทบระเบิด แล้วมั๊งน้า”
“หน้าหงิกเป็นม้าหมากรุกเลย แต่ไม่รู้ว่าอกมันเป็นไง ฮ่าๆ! อีกไม่นานคงจะถอดใจไปเอง”
“คนอย่างอีมะเฟือง มันไม่ทิ้งกลางคันหรอกน้า มันต้องเอาให้ได้แหละ น้าคอยดูแลคุณภพให้ดีล่ะ เข้าใจไหม”
เสียงพนักงานดังขัดขึ้น...
“บัวเตรียมตัวขึ้นเวทีได้แล้ว”
“จ้าๆๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละจ้า”
ชมยินเสียงบัวก็แปลกใจ
“ขึ้นเวทีทำอะไรวะนังบัว”
“ก็เนี่ยแหละข่าวดีที่ฉันจะโทรมาบอกน้าน่ะ วันนี้ฉันจะได้ขึ้นร้องเพลงบนเวทีครั้งแรกนะ น้าอวยพรให้ฉันหน่อยสิ”
ชมตื่นเต้นไปด้วย
“ข้าดีใจด้วยนะนังบัว ข้าขอให้เอ็งประสบความสำเร็จนะ”
“ขอบใจจ้ะน้า” บัวยิ้มอย่างดีใจ

บัวแอบดูแขกที่มาในร้านแน่นไปหมด
“โห...คนเยอะแยะไปหมดเลย..ตื่นเต้นอ่ะ”
บัวหันไปเห็นกลุ่มฉลามนั่งอยู่เกือบติดเวทีก็อึ้งไป
“ไอ้...พวกนั้นนี่...”
บัวขาสั่น กลัวฉลามไม่กล้าออก ดีเจประกาศ
“ต่อไปเชิญเปิดซิงกับนักร้องสาวสุดเซ็กซี่น้องใหม่ของคลับเราได้เลย เชิญพบกับน้อง เบลล์ ครับ!”
พอดีเจเรียกชื่อ เสียงปรมมือดังสนั่น อยากเห็นนักร้องสวยเซ็กซี่ แต่บัวไม่กล้าออก เสี่ยเดินเข้ามาหา
“ทำไมไม่ออกไปล่ะบัว”
“คือบัว...กลัว...”
“มันเป็นโอกาสของบัวแล้ว ถ้าบัวไม่กล้าก็ไม่ต้องทำ”
เสี่ยมองหน้าบัวจริงจัง บัวฟังแล้วเครียด

บัวก้าวขึ้นบนเวที เสียงปรบมือสนั่นเสียงดนตรีคึกคักเพลงสนุกๆ บัวเต้นตามแดนซ์เซอร์แรกๆก็เกร็งๆกลัวว่าฉลามจะจำได้ แต่เมื่อเริ่มร้องเพลงสนุกสนานผู้คนปรบมือตาม ทำให้มีกำลังใจ เมื่อเหลือบมองที่โต๊ะฉลามเห็นว่าฉลามเมาจำเธอไม่ได้ จึงตั้งใจและร้องเพลงเต้นเซ็กซี่เต็มที่ผู้คนปรบมือชอบใจ กระทั่งจบเพลง
“ขอบคุณมากค่ะ”
“เอาอีกๆ”
นักเที่ยวชอบในการแสดงโชว์ของบัว ซึ่งทำให้บัวตื่นเต้นมาก
“ขอเสียงให้กับน้องเบลล์ด้วยคร้าบ”
เสียงกรี๊ด เป่าปาก ปรปมือดังไปทั่ว ฉลามเงยหน้ามองไปที่เวทีจ้องที่หน้าอย่างคลับคล้ายคลับคา
บัวหันไปปะทะสายตากับฉลาม รีบลงเวทีไปด้วยความกลัว

เสี่ยมารอรับบัวที่หลังเวที บัวหน้าตาตื่นๆกลัวๆลงจากเวทีมา
“เก่งมาก...หนูเป็นเพชรในตรมจริงๆ...คงจะตื่นเวทีสินะแรกๆก็แบบนี้ทุกคนแหล่ะ เดี๋ยวอีกหน่อยเสี่ยจะจัดคิวโชว์ให้ขึ้นร้องบ่อยๆจะได้เก่งๆ”
เสี่ยเข้ามาโอบ บัวไหว้ที่อก
“ขอบคุณค่ะเสี่ย”
ฉลามเดินเซเข้ามาหา พูดอย่างเมาๆ
“อ๊ะ..อ๊ะ...น้องสายบัวสุดที่รักนั่นเอง ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะจ๊ะ”
บัวถอยไปหลบหลังเสี่ย
“เฮ้ย...ถ้าเมาก็กลับบ้านอย่ามาลุ่มล่ามที่นี่ฉันไม่ชอบ” เสี่ยมองหน้าฉลามอย่างไม่พอใจ ฉลามยกมือไหว้ขอโทษกวนๆ
“โทษทีคร้าบเสี่ย ขอทักทายคนคุ้นเคยนิดนึงนะคร้าบ”
ฉลามเดินมามองบัวที่อยู่หลังเสี่ย แล้วแซวต่อ
“ที่รักจ๊ะ...นี่ที่รักติดใจเสี่ย ถึงขนาดตามมาอยู่ที่นี่เลยเหรอจ๊ะ”
ฉลามจะเข้าไปจับแก้มบัว เสี่ยปัดมือฉลามออกอย่างแรงจนเซไป
“ถ้าคิดจะหากินที่นี่ต่อ อย่ายุ่งกับคนของฉันจำไว้”
สมุนเสี่ยเดินเข้ามา เสี่ยพยักหน้าให้สมุนแล้วพาบัวออกไป สมุนเดินเข้าฉลามที่หงอไปทันที
“แหม..ล้อเล่นหน่อยเดียว...ไม่ได้ตั้งใจน่า...ฉันสั่งของไปตั้งนานแล้วได้ยังอ่ะ”
สมุนส่งถุงซิปเล็กๆให้
“เอาไป..หนี้เก่าจ่ายมาด้วย”
“รู้น่า...ทวงจริง”
ฉลามหยิบเงินส่งให้ แล้วรับยามาถือไว้ บัวแอบมองอย่างสงสัย

เช้าวันใหม่...วิภาแต่งตัวเสร็จเดินมาเห็นมะเฟือง นั่งหน้างออยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
“เป็นอะไรอีกล่ะ หน้าบูดหน้าบึ้งเชียว”
“เบื่อ...เบื่อ..เบื่อ..โอย!”
“เอ็งจะเบื่ออะไรนักหนาวะ นังมะเฟือง”
“ก็เบื่อมันหมดทุกอย่างแหละแม่ ทำไมนะ ผู้ชายถึงชอบผู้หญิงโง่ๆทึ่มๆอย่างนังเนตรนัก”
วิภาส่ายหน้า
“นั่นไง...ที่แท้ที่แกเบื่อก็ เพราะเรื่องนังเนตรล่ะสินะ”
“ก็ใช่น่ะสิแม่ คุณภพหลงมันจนหัวปักหัวปำ”
“นังเนตรมันเก็บอารมณ์เก่ง คนแบบนี้แหละที่ผู้ชายหลงกลมานักต่อนัก”
“ก็นั่นน่ะสิแม่ แล้วยิ่งตอนนี้คุณภพก็เห็นฉันเป็นเหมือนไส้เดือนกิ้งกือไปแล้ว ฉันจะทำยังไงดีล่ะแม่”
“เหตุมันเกิดจากใคร ก็กำจัดมันไปซะก็จบเรื่อง”
“แล้วฉันต้องทำไง”
วิภาคิดๆแล้วยิ้ม คิดออก
“แกทำตามที่ฉันบอกแล้วกัน”

ทุกคนนั่งประจำที่โต๊ะอาหาร ชมเดินตักข้าวให้ มะเฟืองรีบอาสาช่วย
“เดี๋ยวมะเฟือง ช่วยเทน้ำให้นะพี่ชม”
ชมหันมองมะเฟืองงงๆ นึกว่าหูฝาด มะเฟืองช่วยเทน้ำให้ทุกคน วิภาแสร้งถาม
“ที่บ่นว่าเวียนหัวเมื่อคืนน่ะ หายแล้วเหรอมะเฟือง”
“หายแล้วจ้ะ”
งามเนตรมองน้องสาวอย่างเป็นห่วง
“ไปหาหมอไหมมะเฟือง เดี๋ยวพี่พาไป”
“ไม่ต้องหรอก มันเป็นๆหายๆมาพักนึงแล้ว”
“ไปหาหมอตรวจดูไม่ดีกว่าเหรอ” ภัสสรหันไปถาม
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มะเฟืองเกรงใจ”
มะเฟืองแสร้งเรียบร้อย ภัสสรงงๆ
“อาหารหน้าตา น่าทานหมดเลยเน๊าะพี่ชม”
“เอ่อ..ค่ะ...” ชมงงๆว่ามะเฟืองมาไม้ไหน
วิภามองหน้ามะเฟืองแล้วขยิบตาให้ ก่อนมือตักอาหารให้
“มะเฟืองลองอันนี้สิน่ากินเชียวลูก แม่ตักให้”
วิภาตักอาหารมาไว้ในจานมะเฟือง พอได้กลิ่นอาหารก็ทำเป็นคลื่นไส้...
“แม่..เอาอาหารนี่ออกไปที ได้กลิ่นแล้วมะเฟืองคลื่นไส้”
มะเฟืองทำท่าพะอืดพะอม วิภาก้มดม
“เหม็นที่ไหนล่ะ หอมจะตายไป”
“นั่นสิมะเฟือ ถ้างั้นก็ทานอย่างอื่นแล้วกัน” เอกภพบอก
“งั้นเอานี่ ดูน่ากินดี”
วิภาตักอาหารอย่างอื่นให้ มะเฟืองได้กลิ่น พะอืดพะอมทำท่าอ้วกจะพุ่ง แกล้งเอามืออุดปากแล้ววิ่งออกไปจากโต๊ะอาหาร
“อ้าว..มะเฟือง...เป็นอะไร”
วิภาวิ่งตามมะเฟืองออกไป เสียงมะเฟืองอ้วกดังมาแต่ไกล ทุกคนที่โต๊ะพลอยกินข้าวไม่ลง แล้วเสียงวิภาก็ดังลั่นขึ้นมา
“แกท้องเหรอนังมะเฟือง”
ทุกคนที่โต๊ะอาหารพากันตกใจ

มะเฟืองทำท่าอ้วก โอ้กอ้ากอยู่ในห้องน้ำ วิภาแกล้งโวยวายเสียงดัง ตีมะเฟือง

“แกท้องกับใครบอกฉันมานะนัง มะเฟือง”
 

งามเนตรพยุงภัสสรมาที่หน้าห้องน้ำพร้อมเอกภพ และชม
“แม่อย่า...ฉันเจ็บ....แม่”
มะเฟืองร้องห้ามแม่ พลางแกล้งหันไปอ้วก
“แกก็บอกมาสิว่าแกท้องกับใคร”
“ฉันท้องกับคุณภพ”
ทุกคนอึ้ง งามเนตรแทบช็อค วิภาทำท่าทางเสียใจมาก
“ทำไม...ทำไม..ต้องเป็นแบบนี้ด้วย..ทำไม....”
ภัสสรร้องห้าม
“ใจเย็นๆนะแม่วิภาค่อยๆพูดค่อยๆจากันก็ได้”
วิภาทำเป็นร้องไห้เสียใจ
“ฉันเสียใจจริงๆที่เลี้ยงลูกสองคนมาไม่ดี พี่น้องคู่นี้ถึงต้องมาแบ่งกันกินแบ่งกันใช้แบบนี้”
“น้าวิคะ...”
งามเนตรจะปราม วิภาสวนทันที
“งามหน้าจริงๆเลย ผัวพี่ ผัวน้อง ผัวคนเดียวกัน”
งามเนตรหน้าชา แทบล้มทั้งยืน ชมเข้ามาประคองเธอไว้

ทุกคนพากันมาที่ห้องรับแขก เอกภพบอกอย่างมั่นใจ
“ผมไม่เชื่อว่ามะเฟืองท้อง”
“ก็อาการแบบนี้มันเป็นอาการของคนท้อง คนเป็นแม่อย่างฉันรู้ดี” วิภาเถียงแทน
มะเฟืองแกล้งทำท่าเวียนหัว
“งั้นก็ต้องไปตรวจ” เอกภพบอก
มะเฟืองกับแม่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก แล้วปั้นหน้าเสียใจ
“มะเฟืองไม่คิดเลยว่าคุณจะใจร้าย กับมะเฟืองแบบนี้”
“ผมแค่ต้องการความแน่ใจนะมะเฟือง ว่ามันเป็นเรื่องจริง”
“คุณคิดว่ามะเฟืองแกล้งทำอย่างงั้นเหรอคะ”
เอกภพอึ้งๆ ภัสสรที่นั่งฟังอยู่ด้วยความอึกอัดใจพูดขึ้น
“ถ้าจะให้เชื่อก็ต้องไปตรวจนั่นแหละ เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว”
วิภาโมโห
“งั้นพรุ่งนี้ไปตรวจให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย มะเฟืองหันมองแม่ตกใจ
“แม่...”
“แกไม่ต้องพูดเดี๋ยวแม่พูดเอง...ในเมื่อไม่มีใครเชื่อว่าลูกสาวฉันท้องจริงๆฉันก็ต้องพาไปตรวจ แต่ถ้ามะเฟืองท้องจริงๆพวกคุณจะทำยังไง”
เอกภพอึ้งๆ แต่ก็ถามไป
“แล้วถ้ามะเฟืองไม่ได้ท้องล่ะ”
“ฉันกับลูกจะออกไปจากบ้านหลังนี้ แต่ถ้ามะเฟืองท้อง คุณภพต้องยอมรับมะเฟืองเป็นเมีย แล้วก็ไล่แม่เนตรออกไป”
ทุกคนอึ้งเมื่อวิภาประกาศอย่างนั้น

มะเฟืองเข้าห้องมากับวิภา รีบล็อคห้องแล้วลากแม่มาคุยอย่างร้อนใจ
“แม่ไปท้าแบบนั้นแล้วที่นี้จะทำไงล่ะ เตรียมเก็บข้าวของออกจากบ้านได้เลยนะ แม่หาเรื่องให้ฉันซวยไปด้วยอีกแล้ว”
“มาขนาดนี้แล้วมันต้องได้กับได้ ฉันจะจัดการทำให้แกท้องเอง ไม่ต้องกลัวหรอก”
มะเฟืองสงสัยว่าแม่จะทำยังไง

วันต่อมา...ทุกคนมารอผลการตรวจปัสสาวะของมะเฟืองที่โรงพยาบาล ภัสสรจับมืองามเนตรปลอบใจ
“แม่รู้ว่าลูกไม่สบายใจ”
“เนตรไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะคุณแม่”
“อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด”
เอกภพเดินวนไปมาเครียดมาก มะเฟืองก็กระวนกระวายนั่งไม่ติด แอบพึมพำ
“แม่นะแม่หายไปนานจัง”

หมอออกมาแจ้งผลการตรวจครรภ์
“คุณนราทิพย์ครับ”
มะเฟืองรีบลุกขึ้น
“ฉันเองค่ะ”
เอกภพหันไปที่หมอ ภัสสรกับงามเนตรหันไปมอง
“ดีใจด้วยนะครับ คุณกำลังตั้งครรภ์”
มะเฟืองงงๆว่าท้องได้ไง แต่ก็แสดงละครไป
“ท้องเหรอคะ...ฉันท้องเหรอคะหมอ”
“ครับ”
“ขอบคุณนะคะหมอ”
มะเฟืองดีใจ งามเนตรน้ำตาคลอ แอบเช็ดน้ำตา ภัสสรมองอย่างสงสาร

หญิงท้องเดินออกมาจากห้องน้ำ มองหากระปุกฉี่
“เราเอาวางไว้ตรงนี้นี่น่า หายไปไหนนะ”
หญิงท้องวิภากำลังล้างมืออยู่เลยถาม
“โทษนะคะ คือเห็นกระปุกใส่ฉี่ของฉันที่วางไว้ตรงนี้ไหมคะ”
วิภาส่ายหน้า
“ไม่เห็นนี่”
พอคนท้องหันไปหาอีกมุม วิภาก็เอากระดาษทิชชู่จับกระปุกฉี่ของหญิงท้องออกมาจากถุง มาวางลงในอ่างล้างหน้าข้างๆแล้วแกล้งพูด
“นั่นหรือเปล่าจ๊ะกระปุกฉี่ที่ว่าน่ะ”
หญิงท้องหันมาดูงงๆ
“ทำไมไปอยู่ตรงนั้นได้นะ.. ไม่มีฉี่อยู่เลย นี่ฉันต้องฉี่ใหม่อีกเหรอเนี่ย...”
วิภามองยิ้มๆให้ แล้วรีบเช็ดมือแล้วเดินออกไปอย่างมีความสุข

มะเฟืองกับวิภา กลับมาที่บ้านภัสสร แล้วตรงขึ้นไปบนห้องนอนทันที ทั้งคู่หัวเราะกันคิกคัก
“ตอนที่หมอบอกว่าฉันท้องนะ หน้าทุกคนตกใจแทบช็อคแน่ะ”
“เล่นกับใครไม่เล่น” วิภาหัวเราะร่า
“แม่นี่เก่งจริงๆเลย ว่าแต่แม่ทำให้ฉันท้องได้ไงล่ะ”
“กว่าฉันจะแอบขโมยฉี่คนในห้องน้ำได้ต้องนั่งรอตั้งนาน”
“แม่นี่สุดยอดจริงๆ”
“ฉันไม่อยากได้คำชม อยากได้เงินค่าจ้างมากกว่า”
“โห...อะไรเนี่ย..เอะอะก็เงินๆ”
“เอามาเลยเร็วๆ อดไปเจอเพื่อนมาหลายวันแล้ว ป่านนี้ขาไพ่คงรอแย่”
มะเฟืองจำใจเปิดกระเป๋าเงิน หยิบเงินขึ้นมานับ วิภาคว้าหมับที่มะเฟืองกำลังนับ
“เอามาหมดนั่นแหละ นับทำไมเสียเวลา เหลือแล้วจะเอามาคืน”
วิภาแม่เอาเงินยัดใส่กระเป๋าทันที
“ไปล่ะนะแม่ลูกรัก”
วิภาเดินยิ้มดีใจออกไป

งามเนตรพาภัสสรมานั่งที่เตียงในห้องนอน
“หนูเนตร ไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวแม่จัดการเองได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ เนตรอยากส่งคุณแม่เข้านอนก่อน”
งามเนตรเศร้ามาก ภัสสรเป็นห่วง
“เสียใจใช่ไหมลูก...แม่เองก็ไม่ต่างจากลูกหรอกนะ แม่เชื่อว่าตาภพเองก็คงเสียใจเหมือนกัน”
งามเนตรมองภัสสรน้ำตาคลอ กราบลงที่ตัก
“เนตรขอโทษนะคะ ที่พาแต่เรื่องหนักใจมาให้คุณแม่กับคุณภพไม่จบไม่สิ้น ถ้าคุณภพไม่แต่งงานกับเนตรบ้านนี้คงจะมีแต่เรื่องดีๆ หนูเสียใจค่ะคุณแม่”
ภัสสรลูบหัวเธออย่างสงสาร
“อย่าคิดแบบนี้สิจ๊ะ เรื่องไม่ได้เกิดจากตัวลูกหรอกนะเนตร มันเกิดมาจากตาภพมากว่า มันเป็นปัญหาที่ตาภพต้องแก้ปมเองไม่ใช่ตัวหนู”
งามเนตรพูดทั้งน้ำตา สะเทือนใจมาก
“แต่มะเฟืองกำลังจะมีลูกกับคุณภพ หนูคงต้องช่วยคุณภพหาทางออกที่ดีที่สุด สำหรับลูกของมะเฟือง”
“หนูเนตรกำลังจะทิ้งแม่ไปงั้นเหรอจ๊ะ”
“เนตรจำเป็นต้องทำเพื่อน้องและหลานที่กำลังจะเกิดมา เนตรจะหย่ากับคุณภพค่ะ เนตรจะไปจากที่นี่”
“ลูกไม่จำเป็นต้องทำตามที่มะเฟืองต้องการก็ได้นี่จ๊ะ อยู่กับแม่เถอะนะ”
“เนตรตัดสินใจแล้วค่ะคุณแม่ ให้เนตรไปเถอะนะคะ”
ภัสสรเสียใจ แต่ไม่อยากรั้งงามเนตรไว้ เพราะเข้าใจ
“ฉันคงรั้งหนูไว้ไม่อยู่แล้วสินะ”
งามเนตรกอดภัสสรไว้
“เนตรรักคุณแม่นะคะ”
ภัสสรลูบหัวงามเนตรเบาๆด้วยความรักเช่นกัน

เอกภพเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น นั่งจมอยู่กับความทุกข์
“โธ่เว้ย...ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย”
เอกภพเสียใจ เครียดอยู่คนเดียว

งามเนตรเดินซึมๆเข้ามาในห้อง หันกลับไปจะล็อคประตู มะเฟืองเดินเข้ามา
“มะเฟือง”
“ฉันอยากคุยด้วยน่ะ”
มะเฟืองเดินเข้ามาในห้องมองรอบๆห้อง
“มะเฟืองมีอะไรเหรอ”
“ฉันไม่อยากทำให้พี่เสียใจหรอกนะ แต่คุณภพบังคับให้ฉันไปตรวจฉันก็เลยต้องไป ความจริงฉันตั้งใจจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ แต่อย่างว่าแหละนะ ความจริงก็คือความจริง”
“พี่เข้าใจ”
“เข้าใจฉันจริงๆเหรอ”
“มะเฟืองต้องการให้พี่ทำอะไรก็บอกได้นะ”
มะเฟืองเข้ามาใกล้ มองสายตาเย้ยๆ
“หย่ากับคุณภพซะ นึกว่าเห็นแก่หลานที่กำลังจะเกิดมาดูโลก อย่ามายุ่งกับคุณภพอีก ไปให้ไกลๆแล้วอย่ากลับมา ฉันขอแค่นี้ ทำให้ฉันได้ไหม”

มะเฟืองจ้องสายตาดุดัน งามเนตรเจ็บปวดกับความรู้สึกที่แตกหักของความเป็นพี่น้องที่มะเฟืองพูดออกมา

โปรดติดตาม "น้องเมีย" ตอนที่ 23 พรุ่งนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น