มายาสีมุก ตอนที่ 23
คีรินทร์นั่งเหม่ออยู่ในห้องนอน มณีเดินเข้ามามองสักพักแล้วถอนใจอย่างตัดใจ
“เรื่องเมียกับลูกเรา ตกลงจะเอาไงแน่” คีรินทร์หันมอง
“แม่พูดอย่างงี้ แสดงว่ายอมรับเรื่องไข่มุกกับหลานแล้วใช่มั้ยครับ”
“เมื่อกี้ตัวประกาศปาวๆ อยู่เอง ขนาดนี้แล้วไม่รับได้ไง เดี๋ยวคนจะหาว่าชั้นเป็นแม่ผัวตัวร้ายหมด จะทำอะไรก็รีบๆ ทำ ทางนี้แม่จัดการเอง คันไม้คันมือหมั่นไส้มานานแล้ว”
“ผมรักแม่ครับ”
มณีฟังดีใจ ยิ้มออกมา
“พูดแล้วจำไว้ด้วย ต่อไปถึงมีเมียมีลูกก็ห้ามลืมแม่ล่ะ จำไว้ด้วยว่าคนนี้ใหญ่สุดในบ้าน”
คีรินทร์ยิ้มนิดๆ สายตามองเหม่อไปไกล ใจไปถึงไข่มุกแล้ว
จินจูกับไข่มุกเดินอยู่ที่วัดวาวูจองซา จินจูสังเกตเห็นไข่มุกดูเศร้าๆ แต่ไม่พูดอะไร คีรินทร์โผล่ออกมา ไข่มุกอึ้ง จินจูเดินมายืนแทรกกลางปกป้องไข่มุกเต็มที่
“มาทำไม”
คีรินทร์มองสบตาไข่มุก
“ผมมารับเมียกับลูกกลับบ้าน” คีรินทร์พูดไม่ทันขาดคำ จินจูตบหน้าดังเพี๊ยะ ไข่มุกตกใจ คีรินทร์ก็อึ้งๆ แต่ก็นิ่งอย่างสำนึกผิด “คุณแม่จะตบอีกก็ได้ครับ”
จินจูซัดเข้าอีกเพี๊ยะ คีรินทร์หน้าเหวอ ไข่มุกก็หน้าเหวออย่างตกใจไม่แพ้กัน
“แม่คะ”
“เอาจริงเหรอเนี่ย”
“ไปให้พ้น ที่นี่ไม่มีใครอยากเห็นหน้าคุณ”
“ผมบอกแล้ว ว่ามารับลูกรับเมีย”
จินจูแค่นหัวเราะ
“ถ้าเธอเห็นยองแอเป็นเมีย คงไม่ทำร้ายเขาขนาดนี้หรอก กลับไปซะ อย่ามาให้เราเห็นหน้าอีก”
คีรินทร์มองสบตาไข่มุก ไข่มุกเมินหนีอย่างจงใจคีรินทร์ทำท่ากระอักกระอ่วนจะพูดก็ไม่พูด จินจูโอบไหล่ไข่มุกเดินหนีไปอีกทาง
จินจูพาไข่มุกเดินชมรอบๆ บริเวณวัด คีรินทร์เดินตามแต่จินจูกับไข่มุกทำไม่สนใจ
“นั่งพักหน่อยมั้ย”
คีรินทร์เสนอหน้า
“พักหน่อยนะไข่มุก เดี๋ยวชั้นไปหาน้ำให้”
“ไม่ต้องค่ะ ชั้นดูแลตัวเองได้”
“ชั้น...เอ่อ ยังโกรธชั้นอยู่เหรอ”
“กลับบ้านเถอะ อย่าไปยุ่งกับพวกพูดไม่รู้เรื่อง ถอยไป”
จินจูพาไข่มุกเดินหนี คีรินทร์ตาม
“เดี๋ยวสิ ไข่มุก ไข่มุก”
จินจูหันกลับมามองสายตาโกรธมาก คีรินทร์ถึงกับผงะไป
รถลีมูซีนของจินจูจอดลงหน้าบ้าน จินจูประคองไข่มุกลงจากรถ แท็กซี่ของคีรินทร์จอดใกล้ๆ คีรินทร์ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปหา
“เดี๋ยวก่อนสิ” การ์ดสูงใหญ่สามสี่คนเข้ามาคุ้มกัน กั้นคีรินทร์ไม่ให้เข้าใกล้ คีรินทร์ทั้งดันทั้งผลักการ์ด ตะโกนเรียกไข่มุก “ไข่มุก ฟังชั้นก่อน ไข่มุก เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”
“ไม่มีค่ะ เราไม่ต้องคุยกันอีกแล้ว”
ไข่มุกเดินไป คีรินทร์ทำท่าจะฉวยข้อมือ แต่จินจูขวางไว้ ปรายตามองหัวจรดเท้า พูดเสียงเย็นชา
“กลับไปเถอะ บ้านนี้ไม่ต้อนรับ”
จินจูเดินเข้าไปในบ้าน คีรินทร์ที่ถูกการ์ดกันอยู่อึ้ง ได้แต่มองตามไป
พอเข้ามาในบ้านไข่มุกยืนอยู่ข้างหน้าต่างเปิดม่านแอบมองคีรินทร์ ไข่มุกเห็นคีรินทร์ยืนมองเข้ามาจากที่ไกลๆ ไข่มุกทำหน้าเศร้า
“เป็นห่วงเขาเหรอลูก”
ไข่มุกรีบปิดม่าน หันกลับมา
“หนู หนูเปล่า”
จินจูโอบไข่มุกไว้กับตัว
“ลืมไข่มุกคนเก่าไปเถอะ ที่นี่จะมีแต่ยองแอ ลูกสาวจินจู หนูจะมีอนาคตดีๆ กับคนที่ดีกว่า ลืมผู้ชายคนนั้นซะ เขาไม่มีค่าพอให้เป็นห่วงหรอกนะ”
ไข่มุกนิ่ง คิดหนัก
“จะยองแอหรือไข่มุก ก็จะพยายามลืมเขาให้ได้ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูไม่ยอมเจ็บเป็นครั้งที่สอง”
จินจูจับมือ มองไข่มุกที่พยายามฝืนยิ้ม จินจูลูบใบหน้าไข่มุก
“แม่ดีใจ ที่ได้ยินลูกพูดแบบนี้ ก่อนจะรักใคร เราต้องหัดรักตัวเองก่อน”
ไข่มุกยิ้มรับฝืดๆ สายตายังคงมองม่านที่ปิดอยู่อย่างกังวล เป็นห่วงคีรินทร์
คีรินทร์นั่งอยู่ข้างนอกบรรยากาศทั้งมืดทั้งหนาว คีรินทร์นั่งอยู่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงท้องร้อง คีรินทร์ลูบท้องตัวเอง ชะเง้อคอมอง เห็นเงาคนเดินมา คีรินทร์ทำหน้าดีใจรีบลุกยืน
“ไข่มุก...อ้าว คุณจินจู” จินจูเดินมาหยุดยืนหน้าคีรินทร์ “เมื่อกี้ได้กลิ่นหอมๆ ลอยมา ทำอะไรทานกันครับ ขอเข้าไปกินด้วยคนได้มั้ย”
“ไม่ได้ กลับไปซะ อย่ามายุ่งกับลูกชั้น”
“แต่เขาเป็นเมียกับลูกผมนะ ให้ผมเข้าไปหน่อย คิดจะกีดกันเหรอ แม่ยายใจร้าย”
จินจูชักสีหน้าไม่พอใจ
“ชั้นไม่มีลูกเขย คนข้างในเป็นลูกกับหลานชั้น แล้วก็ไม่ต้องการสามีหรือพ่อแย่ๆ อะไรทั้งนั้น กลับไปได้แล้ว”
“ไม่กลับ ยังไงผมก็ไม่ไปแน่นอน ขอผมเข้าบ้านหน่อย ผมอยากเจอไข่มุก”
คีรินทร์ทำท่าจะบุกเข้าไป จินจูเอาตัวขวาง ยกโทรศัพท์ขึ้นขู่
“เอาสิ เข้ามาอีกก้าว ชั้นเรียกตำรวจแน่” คีรินทร์ผงะ
“เอางี้เลยเหรอ”
“ใช่ ที่นี่ไม่ใช่ประเทศไทย ที่คุณจะเอาอำนาจใหญ่โตมากดดันชั้นได้ ที่นี่มีกฎหมาย” คีรินทร์ทำท่าจะเดินเข้าไป “หยุด ห้ามเข้ามาเด็ดขาด ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือน”
คีรินทร์ชะงัก ทำหน้าเซ็ง จินจูมองแล้วเดินเข้าบ้าน คีรินทร์มองตาม ทำชะโงกมองแล้วหันซ้ายขวา ย่องจะแอบเข้าตามแบบเนียนๆ การ์ดสองคนโผล่มาหิ้วปีกสองข้าง ออกมาโยนทิ้งหน้าบ้าน ไม่สนใจเสียงโวยวายของคีรินทร์
ชลลดานั่งเจ๊าะแจ๊ะกับเขมทัต มณีมองหน้าบึ้ง
“พี่เขมคะ ชลว่าเราจัดงานแต่งอีกรอบล้างอาถรรพ์กันดีกว่า รอคุณรินทร์กลับจากเกาหลีแล้วรีบจัดเลยเนอะ”
“ยังไม่สำนึกอีก คนเรา เฮ้อ ไม่รู้จะพูดยังไง”
เขมทัตลุกขึ้นยืน
“จะไม่มีงานแต่งของลูกไก่อีกแล้ว รินทร์เขาไปรับเมียกับลูกกลับมา ผมว่า บางทีเราต้องคุยกันใหม่นะคุณชล”
“แต่ลูกไก่เป็นเมียคุณรินทร์ จะมาคบซ้อนได้ยังไง”
“ชลไม่ยอม พี่เขมจะเอายังไงกันแน่ ลืมเรื่องเมื่อก่อนที่คุณยุทธเคยทำไว้แล้วใช่มั้ยคะ”
“ผมไม่ลืม เพราะอย่างนั้น เอาไปคนละสามล้าน แล้วออกไปอยู่บ้านคุณเหมือนเดิม เพราะถึงกลับมา รินทร์ก็ไม่แต่งอยู่ดี”
ชลลดากับภัททิมาอึ้ง มณียิ้มเยาะ
“นี่ยังใจดีนะยะ เป็นชั้นให้สามหมื่น ไม่ออกก็โยนทิ้งนอกบ้านจะเอาไง”
เขมทัตมองชลลดา
“ผมทำได้แค่นี้ ถ้าไม่ออกไปคงต้องใช้วิธีอื่น ถือว่าขอร้องแล้วกัน”
ชลลดากับภัททิมามองหน้ากันอย่างอึ้งๆ ทำอิดออดเล่นตัว เหมือนไม่ตัดสินใจ สองแม่ลูกสบตากันแต่สุดท้ายก็พยักหน้าอย่างไว้เชิง
อ่านต่อเวลา 17.00น.
มายาสีมุก ตอนที่ 23 (ต่อ)
จินจูกับไข่มุกกำลังเลือกเสื้อผ้าเด็ก จินจูหยิบมาพลิกดู ไข่มุกส่ายหน้า หยิบสีชมพูขึ้นมาชูพลิกมองอย่างพอใจ
“สีชมพูดีมั้ยคะแม่ สวย น่ารักดี”
คิรินทร์โผล่มาจากด้านหลัง
“ขอร้องเลย ไม่เอาสีชมพู แหววมาก ลูกเป็นผู้ชายสีฟ้าดีกว่า”
ไข่มุกทำเสื้อหลุดมือ มองคีรินทร์อย่างทั้งอึ้งทั้งตกใจ จินจูจับมือไข่มุกเดินหนีไปตรงราวเสื้อเด็กอีกที่
คีรินทร์เดินตาม จินจูหันไปแหวใส่
“ตามมาทำไม บอกว่าอย่ามายุ่ง ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง”
คีรินทร์ทำไม่รู้ไม่ชี้ หยิบเสื้อดู
“นี่ไงสีฟ้า น่ารักกว่า ผ้านิ่มดีด้วย เหมาะกับเด็กผู้ชาย”
“รู้ได้ไงว่าจะเป็นลูกชาย” ไข่มุกหลุดปากพูดออกมา
“อ้าว ลูกชั้น ไม่รู้ได้ไง”
ไข่มุกเดินห่างออกมา
“จะไปไหนก็ไป ไม่งั้นจะเรียกการ์ดแน่ เมื่อวานยังไม่เข็ดหรือไง”
“ผมไม่กลัว ถึงที่นี่คุณจะเป็นดาราใหญ่คับประเทศ แต่ความจริงเด็กในท้องไข่มุก คือลูกผม จะเอาใครมาขู่ก็ห้ามผมไม่ได้หรอก...ขอร้องล่ะ ขอให้ผมดูแลเมียกับลูกเถอะครับ”
จินจูอึ้ง มองคีรินทรด์ด้วยสายตาอ่อนลงนิดๆ ไข่มุกเดินไปดูเสื้อเด็กอีกที่ ทำเป็นไม่สนใจ เลือกเสื้อเด็กมาพาดบนแขนไว้ คีรินทร์ดึงมาถือเอง ไข่มุกมองหน้า
“คนกำลังท้องกำลังไส้ ห้ามถือของหนัก”
“เสื้อผ้าเด็กเนี่ยนะหนัก”
“เอาน่า อยากถือให้ นี่ไง เอาสีเหลืองไปด้วย ใส่ได้ทั้งชายทั้งหญิง แต่ขอเลยยกเว้นชมพู” คีรินทร์มองเสื้อแล้วยิ้ม “ลูกเราใส่แล้วต้องน่ารักที่สุดในโลกแน่เลย”
คีรินทร์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดูเสื้อเด็ก ไข่มุกหลุดยิ้มตามแต่รู้ตัวก็ทำเนียนหน้าบึ้ง จินจูมองอยู่ไกลๆ อย่างจับสังเกต
จินจูกับไข่มุกเดินเลือกของใช้เด็กอ่อน คีรินทร์เดินตามมีถุงพะรุงพะรัง ไข่มุกหยิบอะไรคีรินทร์ก็ฉวยไปจ่ายเงิน คอยวุ่นวายถือให้ ทำชวนคุย ไข่มุกไม่ตอบ จินจูมองส่ายหัว ไข่มุกก้มลงดูรถเข็นเด็ก คนขายเดินเข้ามาช่วยจับดู คีรินทร์มองยิ้มๆ
“เอาแข็งแรงๆ แบบสวยๆ นะครับ อีกไม่กี่เดือนจะได้เห็นหน้าลูกแล้ว ผมกำลังจะเป็นพ่อคน เชื่อมั้ยว่าลูกต้องหล่อเหมือนพ่อแน่นอน”
คนขายยืนยิ้มทำหน้างงใส่ ไข่มุกมองกึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง จินจูทำหน้านิ่ง ฉวยแขนไข่มุกแล้วเดินไป คีรินทร์ยืนอึ้งมองตามอย่างสำนึกผิด แววตาเสียใจ
จินจูเดินมาที่ประตูรั้ว หน้านิ่ง ค่อยๆ เปิดประตูออก สีหน้าเปลี่ยนเป็นตกใจคาดไม่ถึงเมื่อเห็นคีรินทร์คุกเข่าอยู่ที่พื้นแล้วหมอบคำนับจินจู จินจูอึ้ง คีรินทร์ยังคุกเข่าเงยหน้ามองจินจู
“ทำแบบนี้ทำไม คิดว่าจะใจอ่อนเหรอ”
“ผมอยากขอโทษคุณแม่ ในทุกๆ เรื่องที่ทำลงไป”
“คนที่คุณต้องขอโทษไม่ใช่ชั้น แต่เป็นไข่มุก”
“ไข่มุกก็ด้วย แต่อยากขอโทษ อยากให้คุณให้อภัยก่อน ผมรู้ว่าทำผิดมามาก แต่ขอโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ได้มั้ยครับ ขอร้องล่ะ”
คีรินทร์ก้มตัวคำนับนิ่ง จินจูนิ่งมองสักพักแล้วถอนหายใจ สายตาอ่อนลงอย่างรู้ว่าคีรินทร์ไม่ได้เลวร้ายอะไร
“ยืนขึ้นเถอะ”
คีรินทร์เงยหน้ามอง
“ผมขอร้อง ขอโอกาสอีกแค่ครั้งเดียว ครั้งสุดท้ายก็ได้”
“เรื่องนั้นต้องแล้วแต่ไข่มุก ชั้นบอกได้แค่นี้แหละ”
จินจูมองสบตาคีรินทร์ คีรินทร์ยิ้มนิดๆ อย่างดีใจที่จินจูยอมเข้าใจ คีรินทร์ยิ้มได้นิดๆ ก็ทำท่าจะอ้วก ผะอืดผะอมสุดๆ จินจูมองอย่างงงๆ
ไข่มุกนั่งโอ้กอ้าก ทำท่าผะอืดผะอมดมยาดมอยู่ในบ้านหน้าซีดเพราะแพ้ท้อง จินจูเดินเข้ามาก็ยิ้มจางๆ “แพ้ท้องเหรอ มิน่าล่ะแพ้แทนนี่เอง” ไข่มุกมองจินจูงงๆ จินจูนั่งลงใกล้ “คีรินทร์ยังอยู่หน้าบ้านอยู่เลย ยองแอ แม่ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่เลวร้ายมากหรอกนะลูก ตอนนี้เขาก็สำนึกได้แล้ว หนูจะ...”
“ไม่ค่ะ แม่บอกเองว่าจะไม่มีไข่มุกอีกต่อไปแล้ว ยองแอเป็นผู้หญิงเข้มแข็ง ไม่สนใจอดีต เป็นผู้หญิงที่มีคุณค่า ไม่ต้องมีผู้ชายก็อยู่ได้ ไม่ใช่เหรอคะ” จินจูอึ้ง
“แต่ยังไงเขาก็เป็นพ่อของลูก เขามาขอโทษ ทนรออยู่หน้าบ้านตั้งหลายวัน คนอย่างคีรินทร์ไม่เคยง้อใคร ไม่เคยขอร้องใครขนาดนี้ แต่วันนี้เขาถึงกับยอมคุกเข่าให้แม่เพื่อหนู จะไม่ลองให้โอกาสเขาอีกครั้งเหรอลูก”
“แม่พูดอย่างนี้ อยากไล่หนูกลับเมืองไทยใช่มั้ยคะ”
จินจูดึงไข่มุกมากอด
“ไม่ใช่ แต่แม่อยากให้หนูคิดให้ดีอีกครั้ง คนเรามีชีวิตเดียว ไม่อยากให้เสียใจทีหลังหรือต้องทรมานเหมือนพ่อกับแม่”
“หนูตัดสินใจแล้ว และจะไม่มีวันเสียใจค่ะ”
ไข่มุกนิ่ง เก็บความรู้สึก มือลูบท้องตัวเอง จินจูมองอย่างสงสารเห็นใจ
ไข่มุกเดินเล่นอยู่ที่เกาะนามิ แต่สีหน้าไข่มุกดูเศร้า ไข่มุกเหม่อมองออกไปไกลๆ มือลูบท้องนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่คีรินทร์ประกาศต่อหน้าทุกคนเรื่องภัททิมา
“เปล่า ผมตั้งใจ แล้วก็รู้ตัวดีด้วย”
กีกี้ช็อค ทุกคนอึ้งไป ภัททิมายิ้มเยาะใส่กีกี้กับไข่มุก ไข่มุกมองหน้าคีรินทร์อย่างเศร้าใจมาก คีรินทร์มองตอบไข่มุกอย่างเย็นชา
จากนั้นก็เป็นภาพงานหมั้นภัททิมาซึ่งมีแขกมาร่วมงานมากมาย ภัททิมาเดินออกมาในชุดไทยอย่างหรู มองไข่มุกเยาะเย้ยกะข่มเต็มที่
ภาพเหตุการณ์ที่บ้านร้าง คีรินทร์เอาตำรวจเข้าไปช่วยพวกมณี ภัททิมาร้องไห้วิ่งเข้าไปซบคีรินทร์อย่างออดอ้อน คีรินทร์โอบปลอบใจ ไข่มุกมองอย่างเศร้าๆ
อีกเหตุการณ์ตอนที่คีรินทร์ยืนอยู่กับไข่มุก คีรินทร์มีสีหน้าโกรธมากทั้งผิดหวังและเจ็บใจ
“จำเอาไว้ ชั้นจะไม่มีวันรักผู้หญิงหลอกลวงอย่างเธอ”
ที่หน้าบ้านจินจู คีรินทร์สภาพโทรมๆ นอนหลับสัปหงกพิงรั้วบ้าน มีมือมาเขย่า คีรินทร์สะดุ้งเฮือก
“ไข่...คุณแม่นี่เอง”
“ไม่ได้ตามไปด้วยเหรอ”
คีรินทร์ทำหน้างง
“ไปไหน ไข่มุกอยู่ที่ไหนเหรอครับ”
“ที่เกาะนามิน่ะสิ”
คีรินทร์รีบลุกพรวด จินจูมองคีรินทร์แล้วอดยิ้มอย่างใจอ่อนไม่ได้
ไข่มุกเดินเศร้าๆ อยู่ที่เกาะนามิ หยุดยืนมองรูปปั้นพระเอกนางเอกวินเทอร์เลิฟซองแล้วเอามือลูบท้องเบาๆ คีรินทร์โผล่เข้ามาหา
“อยู่นี่เอง ตามหาซะทั่วเกาะเลย” ไข่มุกอึ้ง แล้วรีบเดินหนี คีรินทร์ฉวยข้อมือไว้แล้วทำท่าประคองอย่างทะนุถนอม “อย่าเดินไวสิ เดี๋ยวลูกกระฉอก”
“ลูกของชั้น คุณไม่เกี่ยว”
“ลูกของผมด้วย ไม่เกี่ยวได้ไง”
“แค่ลูกคนเดียว ชั้นเลี้ยงได้ ไม่ต้องการพ่อหรอก”
“แต่ผมรักคุณ”
คีรินทร์กับไข่มุกสบตากัน คีรินทร์ส่งสายตาว่ารักไข่มุกอย่างจริงใจ ไข่มุกมองกลับอย่างเจ็บช้ำ น้ำตาคลอ
“คุณบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าจะไม่มีวันรักผู้หญิงหลอกลวงอย่างชั้น”
“เรื่องนั้นมันเก่าแล้ว แต่ตอนนี้ชั้นรักเธอ รักลูก ไข่มุก เราคืนดีกันเถอะนะ”
ไข่มุกเม้มปากนิ่ง
“คุณเห็นชั้นเป็นตัวอะไร อยากทิ้งก็ทิ้ง จู่ๆ ก็บอกว่ารัก ไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ” ไข่มุกเดินหนี “เดี๋ยวสิ ไข่มุก เดี๋ยว โธ่เว้ย ไอ้โง่รินทร์เอ๊ย”
คีรินทร์พึมพำอย่างโกรธตัวเอง แล้วรีบตามไข่มุกไป
ไข่มุกยืนอยู่บริเวณสนามที่โพรว้องซ์ ไข่มุกเดินทำหน้าไม่สบอารมณ์ คีรินทร์เดินล้อมหน้าล้อมหลังทำท่าเหมือนประคอง ไข่มุกปัดมือคีรินทร์ที่อยู่ใกล้ตัวออก คีรินทร์ฉวยโอกาสจับมือไว้ ไข่มุกมองหน้าอย่างโมโหแล้วสะบัดมือออก เดินค้อนคีรินทร์ออกไป คีรินทร์มองตามตาละห้อยแล้วฮึดเดินตามต่อไป
ไข่มุกนั่งอยู่ในร้านกาแฟ บริกรมาเสิร์ฟชา ไข่มุกยกแก้วชาขึ้นจิบ สักพักสังเกตเห็นที่รองแก้วเขียนคำว่าขอโทษเอาไว้ ไข่มุกหันซ้ายขวา คีรินทร์โผล่ออกมานั่งตรงข้ามมองไข่มุกยิ้มๆ อย่างลุ้นปนหวัง ไข่มุกถอนใจแล้วแกล้งทำไม่เห็น จิบชาต่อทำเหมือนคีรินทร์ไม่มีตัวตน คีรินทร์มองหน้าเศร้าหนัก สายตาขอความเห็นใจ ไข่มุกมองเมิน ไม่ยอมสบตา
คีรินทร์ยืนเศร้าอยู่หน้าบ้านจินจูที่ปิดประตูเงียบ คธาเดินมาจากด้านหลังตบไหล่
“ไงครับ จองตั๋วกลับไทยได้หรือยัง”
“ใครจะกลับครับคุณพ่อ ผมยังไม่ยอมกลับหรอก”
“เห็นนั่งหน้าเศร้า นึกว่าคุณจะยอมแพ้ฤทธิ์ลูกสาวผม ตีตั๋วกลับไทยแล้วเสียอีก”
“ไม่ได้หรอก นั่นเมียกับลูกผมเชียวนะ ยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด ยังไงๆ ก็จะพากลับไปด้วยให้ได้”
คธามองอย่างพอใจ
“ดี ลูกเขยผมต้องให้ได้อย่างงี้”
คธาตบบ่าให้กำลังใจ คีรินทร์ยิ้มนิดๆ อย่างมีกำลังใจเพิ่มมาหน่อย
มายาสีมุก ตอนที่ 23 (ต่อ)
คธาเดินเข้ามาในบ้าน ไข่มุกนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเห็นก็ลุกเข้าไปกอดอย่างดีใจ
“คิดถึงพ่อจังค่ะ เดินทางเหนื่อยมั้ย” คีรินทร์เดินตามเข้ามา ไข่มุกอึ้ง คลายกอดออกมองหน้าคธา “พ่อพาเขามาทำไม”
“หนุ่มไทยด้วยกัน ต้องเห็นใจกันหน่อย จะมารักสาวเกาหลีหรือสาวลูกครึ่งก็ต้องช่วยๆ กัน จริงมั้ย” จินจูเดินออกมาเห็นคีรินทร์ก็อึ้งไปนิด คธาเดินเข้าไปหาจินจูแล้วกอด จูบหน้าผากเบาๆ “คิดถึงคุณจัง”
“คุณ ทำไมถึงมาด้วยกันล่ะคะ”
“เก็บได้ที่หน้าบ้านน่ะ คืนนี้พอจะมีห้องว่างให้หนุ่มไทยคนนั้นบ้างมั้ย”
คธาหันมองคีรินทร์ ไข่มุกมองจินจูขอความเห็นใจ จินจูอึ้งๆ ไปสักพักแต่ก็พยักหน้า คีรินทร์ยิ้มกว้าง
“ถ้าไม่ว่าง นอนห้องลูกสาวคุณแม่ก็ได้ครับ คิดถึงจะแย่แล้ว”
คีรินทร์ทำเนียนกอดเอวไข่มุก ไข่มุกสะบัด
“ไม่ ออกไปจากบ้านนี้เดี๋ยวนี้”
“ไม่เอาน่าลูก ใจเย็นหน่อย”
ไข่มุกมองคธากับจินจูด้วยแววตาตัดพ้อ
“ทำไมมีแต่คนเข้าข้างเขา เขาทำร้ายหนูตั้งเท่าไหร่ ทั้งดูถูก เหยียดหยาม มีผู้หญิงอื่นประชด ทำร้ายน้ำใจ ทำให้เสียใจตลอด ยังจะให้ยกโทษให้เขาง่ายๆ อีกเหรอ”
ทั้งสามคนอึ้ง
“ฟังพ่อกับแม่ก่อน”
“ทำไมคะ ทำไมต้องให้เขามาทำให้เจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะให้เสียใจไปถึงไหน หนูไม่เอาแล้ว”
ไข่มุกพูดไปน้ำตาไหลไป คธาเดินเข้าไปกอดจับหัวไข่มุกซุกอกโอบเอาไว้อย่างสงสารมาก
“ไข่มุก คนเราทำผิดพลาดกันได้ แต่คนรักกันก็ต้องให้อภัยกันนะ ยิ่งมีลูกด้วยก็อย่าให้อารมณ์เหนือเหตุผล คุณรินทร์เขาเคยไม่ดีก็จริง แต่ตอนนี้เขามาขอโทษ มาขอให้หนูอภัย คนบางคนรักกันแทบตายยัง ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็มี อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลยนะลูก อย่าให้ทิฐิทำให้หนูต้องหมดความสุขไปตลอดชีวิต”
ไข่มุกร้องสะอึกสะอื้นสักพัก คีรินทร์มองอย่างเจ็บปวด ไข่มุกกลั้นสะอื้น พูดเสียงสั่น
“พอเถอะค่ะหนูไม่ได้รักผู้ชายคนนี้อีกต่อไปแล้ว”
ไข่มุกมองสบตาคีรินทร์อย่างคนตัดใจแล้วเดินเข้าห้องไป คีรินทร์มองตามอย่างสำนึกผิด
ไข่มุกเดินเล่นอยู่ในเอเวอร์แลนด์ ไข่มุกเดินไปหยุดหน้ารถไฟเหาะที่เคยมาเล่น คีรินทร์ตามมายืนด้านหลัง เอาผ้าคลุมไหล่มาคลุมให้
“อย่าให้ตัวเย็นสิ แล้วก็ไม่ต้องคิดอยากขึ้นเลย กำลังท้องนะคุณแม่”
ไข่มุกมองคีรินทร์
“ชั้นอยากเล่น ขึ้นแทนให้หน่อยได้หรือเปล่าล่ะ”
คีรินทร์หน้าเหวอ
“เฮ้ย ไม่เกี่ยวกันนะ”
“อยากขัดใจคนท้องหรือไม่กล้าขึ้นกันแน่ เอาเถอะ ถ้าไม่ขึ้นก็กลับบ้านไป ชั้นเดินเล่นคนเดียวได้”
“ถ้าขึ้นแล้วจะให้เดินด้วยเปล่าล่ะ”
ไข่มุกยิ้มมุมปาก ไม่ตอบแต่เบนสายตาไปทางรถไฟเหาะ คีรินทร์มองตามกลืนน้ำลายเอื๊อก
“กล้าทำเพื่อชั้นมั้ยล่ะ”
คีรินทร์ทำหน้าฮึด
“ได้ ไม่มีปัญหา ถึงจะกลัวความสูง แต่คราวนี้ สู้ตายเพื่อเมีย”
คีรินทร์เดินไปต่อแถว คีรินทร์อยู่บนรถไฟ หน้าซีด พอรถไฟวิ่งลงมาก็แหกปากร้องลั่น
ไข่มุกนั่งกระเช้าลอยฟ้าคนเดียวมองเหม่อไปที่วิวสวยๆ รอบสวนสนุก กระเช้าถัดไปเป็นคีรินทร์ที่นั่งมองไข่มุกอยู่ ในมือถือกระดาษที่พับไว้ ไข่มุกมองวิวรอบข้างอย่างไม่รู้ตัวว่าคีรินทร์ตามมา กระเช้ากำลังจะถึงจุดถ่ายรูป คีรินทร์ยกป้ายขึ้นชู
“ผมขอโทษคร้าบบบ” ตัวใหญ่ กล้องลั่นชัตเตอร์
ไข่มุกรับภาพที่มีมือยื่นมาให้ ไข่มุกหยิบขึ้นดู
“หือ”
ไข่มุกมองรูปเห็นคีรินทร์ยกป้ายขอโทษถ่ายติดจากด้านหลัง ไข่มุกนึกขำหลุดยิ้มออกมาหันกลับไปดูคีรินทร์ก็ยืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ ไข่มุกทำหน้าบึ้งใส่
“มุกเก่า เชยมาก”
“จะเฉิ่ม จะเชย ขอให้เธอหายโกรธชั้นก็จะทำ”
ไข่มุกตีหน้านิ่งไม่ตอบ เดินเลยไป คีรินทร์มองตามตาละห้อย แล้วรีบเดินตามไป
จินจูกับไข่มุกเดินเล่นที่ลานกว้างตรงโซลทาวเวอร์ ไข่มุกมองหนุ่มสาวที่มาล็อคกุญแจด้วยกันก็ถอนหายใจ ทำหน้าเศร้า
“เป็นอะไรเหรอ”
ไข่มุกส่ายหน้า ฝืนยิ้ม
“เปล่าค่ะ”
ขณะนั้นคีรินทร์กำลังพลิกหาแม่กุญแจ จินจูกับไข่มุกเดินมาเห็น จินจูร้องเรียก
“คีรินทร์ หาอะไรอยู่น่ะ”
“ผมหากุญแจที่เคยมาล็อคไว้กับไข่มุก อันที่เขียนเป็นชื่อยัยลูกไก่”
“จะหาไปทำไม เสียเวลาเปล่าๆ”
“ไม่เสียหรอก ชั้นจะเอามาเปลี่ยนเป็นชื่อเธอแทนไง”
คีรินทร์พลิกหาต่อ
“ตั้งเป็นร้อยเป็นพันอัน คงหาไม่เจอหรอก อย่าพยายามเลย”
“ไม่ต้องหาหรอก เรื่องของเราไม่มีทางเหมือนเดิมได้ คุณอย่าทำอะไรแบบนี้เลย”
คีรินทร์ชะงัก มองหน้าไข่มุก
“ไม่ มันต้องเหมือนเดิม เพราะชั้นจะไม่เป็นคนเดิมอีกแล้ว แต่จะดีกว่าเดิมให้เธอดู ถ้าหาเจอจะยอมยกโทษให้ชั้นมั้ย” ไข่มุกมองนิ่ง ไม่ตอบแต่เดินเลยไป คีรินทร์มองตามแล้วหันกลับไปหาต่อ “จะกี่อันกันเชียว ยังไงก็ต้องเจอ”
จินจูมองทั้งสองคนที่อยู่คนละทางแล้วได้แต่ถอนใจด้วยความเป็นห่วง
“จะปล่อยให้เขาทำแบบนี้”
ไข่มุกพูดเหมือนไม่แคร์
“ถ้าเขาอยากทำ ก็ช่างปะไรคะ”
จินจูถอนใจ ในความงอนของลูกสาว
ไข่มุกนั่งหน้าซีดๆ ลูบท้องอยู่ตรงม้านั่งไม่ไกลจากที่คล้องกุญแจนัก จินจูนั่งอยู่ด้วย
“เหนื่อยแล้วใช่มั้ย กลับบ้านกันนะ”
ไข่มุกเผลอมองไปทางคีรินทร์ เห็นคีรินทร์กำลังปีนดูชื่อกุญแจในรั้วที่สูงขึ้นไป จินจูกุมมือไข่มุกมองไปทางคีรินทร์ ยิ้มนิดๆ อย่างนึกรู้
“หรือว่าเป็นห่วงใครแถวนี้”
“เปล่าค่ะ กลับก็ได้”
ไข่มุกทำหน้าเฉย ลุกจากม้านั่ง
“ไป เราไปกันเถอะ ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก เดี๋ยวเบื่อก็กลับไทยไปเอง”
ไข่มุกรีรอ ทำท่ามองไปทางคีรินทร์ จินจูจับมือเดิน
“ยองแอ หนูมึนหัวเหรอลูก ยืนนิ่งเชียว”
ไข่มุกส่ายหน้า หันหลังให้คีรินทร์ที่กำลังหากุญแจอย่างมุ่งมั่น
ไข่มุก จินจู คธานั่งอยู่ในร้านอาหาร จินจูนั่งติดคธา สบตามองกันอย่างหวานซึ้ง ไข่มุกนั่งเหม่อๆ
“ยองแอ ยองแอ เหม่ออีกแล้ว”
ไข่มุกสะดุ้งนิดๆ ยิ้มให้จินจู
“แม่ว่าอะไรนะคะ”
“แม่เขาบอกว่า พ่อกับแม่จะแต่งงานกัน จองโบสถ์เอาไว้แล้วต้นเดือนหน้า คราวนี้เราจะได้อยู่กันเป็นครอบครัวสักที”
ไข่มุกมองทั้งสองคนแววตาเป็นประกาย จินจูสบตาคธา แอบยิ้มเขิน
“ชุดเจ้าสาวก็เรียบร้อยแล้ว แต่งงานตอนแก่ก็แอบเขินเหมือนกัน”
“ไม่ต้องเขินหรอก คุณต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดแน่ๆ”
“หนูดีใจกับพ่อกับแม่ด้วยนะคะ ดีจังที่ครอบครัวเราได้กลับมาอยู่ด้วยกัน รอมาตั้งยี่สิบกว่าปี”
“เป็นยี่สิบกว่าปี ที่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมากมาย แม่ก็ดีใจจ้ะ ดีใจมากที่สุดในชีวิตเลย”
คธาสบตาจินจูอย่างรู้กัน
“แต่กว่าจะรู้ตัว รู้ใจกันไม่ง่ายเลยนะ อันที่จริงเรื่องคุณรินทร์ ไม่ลองคิดใหม่อีกทีเหรอลูก มันไม่ง่ายเลยนะ กับการที่คนที่เจ้าชู้ รักศักดิ์ศรี แถมยังเอาแต่ใจตัวเองอย่างเขาจะยอมได้ขนาดนี้”
จินจูแสร้งถอนใจ
“ถ้าเขาไม่มีความหมายแล้ว ก็ช่างประไร ปล่อยให้หนาวตายไปบนนั้นยิ่งดี จะสนใจทำไม ใช่มั้ยยองแอ”
ไข่มุกอึ้ง อึกอัก
“หนู...ค่ะ แม่”
“แต่ถ้าเป็นอะไรไป หลานเราจะทำไงล่ะ”
“แหม หลานคนเดียวชั้นเลี้ยงได้ค่ะ ไม่เห็นต้องแคร์”
“ใจร้ายจังนะคุณ”
“ดีเท่าไหร่แล้วที่ชั้นไม่หาหนุ่มเกาหลีคนใหม่ให้ด้วย เดี๋ยวนี้เขาไม่ถือกันแล้วนะคะ ยิ่งลูกเราทั้งสวยทั้งเก่ง อีกหน่อยคงต่อคิวกันยาว”
โถ น่าสงสารหนุ่มไทยจริงๆ”
จินจูกับคธาสบตากันอย่างรู้กัน ไข่มุกนั่งนิ่งเขี่ยกับข้าวไปมาหน้าตาครุ่นคิด
มายาสีมุก ตอนที่ 23 (ต่อ)
ที่ราวกุญแจโซลทาวเวอร์ คีรินทร์กำลังปีนเหยียดสุดมือจะพลิกกุญแจที่เขียนว่า “ริ...”ดู คีรินทร์ปีนขึ้นไปแล้วพลิกกลับมาปรากฏว่าเขียนเป็นชื่อ “ริน่า..” คีรินทร์ถอนใจเฮือก ทำท่าจะปีนลงมา แต่ตัวเอียงหล่นลงมากองกับพื้นก่อน
“โธ่เว้ย” คีรินทร์ถอนหายใจเฮือก ทิ้งตัวแผ่ลงนอนกลางพื้นมองท้องฟ้า แล้วทำหน้าฮึดลุกขึ้นยืน “สู้เว้ย ไอ้รินทร์”
คีรินทร์ลุกไปที่ราวกุญแจอีกครั้ง คีรินทร์จับพวงกุญแจพลิกหาทีละอันอย่างตั้งใจแต่สีหน้าเหนื่อยอ่อน คนเริ่มบางตาลงจนแทบไม่เหลือ
ไข่มุกนั่งนิ่งอยู่ภายในบ้านมองออกไปนอกหน้าต่าง คธากับจินจูเดินมาหยุดยืนดูด้วยกัน
“เข้าไปด้วยกันมั้ย”
“ไม่ดีกว่าค่ะ เมื่อกี้เพิ่งเล่นบทแม่ยายตัวร้ายไป เดี๋ยวลูกจับได้”
คธายิ้มให้จินจูแล้วเดินไปหาไข่มุก
“เขากลับมาหรือยัง
“ยังค่ะ หนูไม่เห็นเลย”
ไข่มุกเม้มปากแน่น คธาลูบหัว
“เหนื่อยมั้ย”
“เหนื่อยอะไรคะ”
“ก็เหนื่อย...ที่ต้องแกล้งฝืนใจตัวเอง ทรมานทั้งเขาทั้งเรา”
“หนูไม่ได้แกล้งฝืน แต่เป็นสิ่งที่น่าจะทำมาตั้งนานแล้วต่างหาก” คธายิ้ม
“ชีวิตคนมันไม่แน่นอนหรอกลูก บางทีอาจจะสั้นกว่าที่เราคิด จนพลาดบางอย่างที่สำคัญในชีวิตไป พ่อขอพูดอีกครั้ง อย่าเอาแต่ทิฐิจนลืมคิดถึงหัวใจของตัวเองเลย”
จินจูเดินมากอดไข่มุก
“แม่ไม่อยากให้หนูต้องเสียใจไปตลอดชีวิต ที่วันนี้ไม่ได้คืนดีกับคีรินทร์”
ไข่มุกถอยตัวออก สบตาจินจู
“พ่อกับแม่จะให้หนูยกโทษให้ง่ายๆ เหรอคะ เขาร้ายขนาดนั้นน่ะ”
“ร้ายขนาดไหนไม่รู้ แต่พ่อรู้ว่าเขารักหนูมาก แค่นั้นก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่เหรอ”
ไข่มุกทำท่าคิดหนัก จินจูลูบหัวเบาๆ
“ถามใจตัวเองนะ ว่าจะเอายังไง จะปล่อยเขาไปแล้วอยู่คนเดียวหรืออยากอยู่ด้วยกัน ขึ้นอยู่กับหนูคนเดียวนะ
ไข่มุก”
จินจูพูดเบาๆ มองไข่มุกอย่างรักใคร่ คธากอดทั้งมุกทั้งจินจูไว้ด้วยกัน
ขณะนั้นคีรินทร์ถือไฟฉายส่องกุญแจทีละอัน คีรินทร์พลิกหาทีละอันอย่างไม่ลดละแต่ก็ช้าลงเรื่อยๆ เพราะเหนื่อยเต็มที คีรินทร์ฉายไปที่กุญแจไฟฉายดับลง
“เฮ้ย ได้ไงอ่ะ ถ่านหมดเหรอเนี่ย”
คีรินทร์เคาะไฟฉาย คิ้วขมวดแน่น มีแสงไฟจากไฟฉายอีกลำ คีรินทร์หันไปมองจึงเห็นไข่มุกถือไฟฉายถือของกินอยู่
“ไข่มุก”
คีรินทร์ก้าวเข้าไปจะกอดอย่างดีใจมาก ไข่มุกถอยหลังแล้วยกถุงใส่ข้าวกั้นกลาง
“ชั้นเอาข้าวมาให้ กลัวมีคนหิวตายแถวนี้ สงสารคนอื่นเดี๋ยวจะต้องมากลัวผี”
“จะเหตุผลอะไรก็ช่าง แค่เธอมา ชั้นก็ดีใจแล้ว”
ไข่มุกก้มหน้า เขินนิดๆ แบบไว้ฟอร์ม
“รีบทานก่อนเถอะคะ”
คีรินทร์นั่งกินข้าวข้างไข่มุก ไข่มุกนั่งมองคีรินทร์ที่กินอยู่แล้วชักจะสงสาร คีรินทร์ทำท่าเหมือนเพิ่งรู้ตัว รีบถอดเสื้อมาคลุมให้มุก
“เดี๋ยวตัวเย็น ไม่ดีต่อสุขภาพนะ เธอกลับไปก่อนดีกว่า”
“ไม่เป็นไร แต่ก็ขอบคุณนะ” คีรินทร์ยิ้มให้แล้วกินต่อ ไข่มุกมองแล้วเม้มปาก เงยหน้ามองท้องฟ้า “คุณกลับไทยไปเถอะ ชั้นอยู่ได้ อย่ามาทิ้งงานเพื่อชั้นเลย”
“เรื่องงานพ่อดูแลให้อยู่ ส่วนเรื่องกลับไทย ไม่มีทาง”
“ชั้นไม่เข้าใจ คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร”
“เพื่อเธอไง” ไข่มุกอึ้ง “แล้วก็เพื่อลูกของเราด้วย ชั้นเห็นพวกเธอสามคน พ่อแม่ลูก ได้อยู่ด้วยกัน มีความสุขด้วยกัน หลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ มา เลยคิดว่าถ้าทำดีกับเธอมากๆ รักเธอมากๆ ไม่ทำให้เสียน้ำตาอีก เราสามคน พ่อแม่ลูกก็คงมีความสุขแบบนั้นได้”
ไข่มุกนิ่ง คีรินทร์เอื้อมจับมือ
“แต่ชั้น...”
“เธอไม่อยากเป็นแบบนั้นเหรอ”
ไข่มุกนิ่งไป คีรินทร์สบตาไข่มุก จ้องมองอย่างลึกซึ้ง ไข่มุกสบตากลับอย่างเริ่มเปิดหัวใจ
“แต่จะให้ชั้นลืม คงทำไม่ได้”
“ไม่ต้องตอนนี้ก็ได้ ชั้นจะอยู่กับเธอและลูก ให้มั่นใจว่าจะไม่มีวันทำให้เสียใจอีกแล้ว ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำนะ ไข่มุก”
คีรินทร์สบตาไข่มุกอย่างจริงใจ ไข่มุกสบตากลับอย่างใจอ่อนลง
คีรินทร์ยังคงไล่หากุญแจส่องไฟฉายไปเรื่อยๆ ไข่มุกนั่งอยู่ใกล้ๆ มีเสื้อคีรินทร์คลุมทับ ไข่มุกมองคีรินทร์
“ทำไมคุณต้องยึดติดเรื่องกุญแจขนาดนั้นด้วย พอเถอะค่ะ ชั้นยกโทษให้ก็ได้ กลับบ้านกันเถอะ”
คีรินทร์ชะงัก วิ่งเข้ามากอดไข่มุก
“หูฝาดไปหรือเปล่า เธอพูดจริงๆ เหรอ”
“ค่ะ แล้วก็หยุดหาได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่สบาย”
“เธอยกโทษให้แล้ว แต่ชั้นยังไม่ยกโทษให้ตัวเอง ขออีกนิดเดียวชั้นว่าอยู่แถวนี้แหละ”
คีรินทร์เดินกลับไปหาต่อ ไข่มุกเดินตามไป
“กุญแจนั่นสำคัญกับคุณขนาดนั้นเชียวเหรอ กับแค่กุญแจที่เขียนชื่อคนอื่นไว้”
“สำคัญสิ เพราะคนที่ชั้นอยากผูกติดไปตลอดชีวิตชื่อไข่มุก ไม่ใช่ลูกไก่อะไรทั้งนั้น” ไข่มุกชะงัก
“ก็แค่สัญลักษณ์ คุณบอกชั้นเองไม่ใช่เหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ แต่เป็นสัญลักษณ์แทนตัวชั้นกับเธอ ว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ด้วยความรักและความเข้าใจไง มันเป็นตัวแทน ที่บอกว่าจะดูแลเธอ จะรักและให้อภัยกันและกัน จำไม่ได้หรือไง”
คีรินทร์พูดจบก็หันไปหาต่อ ไข่มุกมองนิ่งสักพัก คีรินทร์ก้มตัวลงหา มีมือไข่มุกยื่นมาช่วยหาด้วย คีรินทร์ชะงัก มองหน้าไข่มุก
“ถ้าเป็นของสำคัญสำหรับเรา ก็ต้องช่วยกันหาไม่ใช่เหรอคะ” ไข่มุกยิ้มให้คีรินทร์ คีรินทร์รวบมากอดเบาๆ ไข่มุกกอดตอบแล้วร้องไห้ ทุบไหล่คีรินทร์อย่างยังไม่หายแค้นดี “คนบ้า”
“เอาเลย ทุบให้ตายก็ยังรักนะ”
ไข่มุกมองหน้า คีรินทร์ดึงเธอมากอดอย่างมีความสุข ยิ้มออก
ไข่มุกกับคีรินทร์ช่วยหันพลิกหากุญแจ มือทั้งสองคนเลื่อนเข้าหากัน มือจับที่กุญแจอันเดียวกัน ช่วยกันพลิกดู ปรากฎว่าเป็นกุญแจที่เคยล็อคเอาไว้
“เจอแล้ว เยส ทำได้แล้วไข่มุก” คีรินทร์อุ้มไข่มุกตัวลอย ไข่มุกกอดคอคีรินทร์ยิ้มอย่างดีใจ คีรินทร์วางไข่มุกลงก้มลงเอาหน้าแนบท้องไข่มุก “ลูกครับ พ่อหาเจอแล้วนะ ดีใจหรือเปล่า”
ไข่มุกยิ้ม น้ำตาคลอ คีรินทร์ยืนตัวขึ้นจูบซับน้ำตาไข่มุกแล้วกอดแน่นอีกครั้ง
“เจอแล้ว ทำไงต่อคะ”
คีรินทร์ยิ้ม จับมือไข่มุกช่วยไขล็อคกุญแจ แล้วหยิบปากกากันน้ำสีดำขึ้นมาขีดฆ่าชื่อลูกไก่เป็นสีดำ คีรินทร์พลิกอีกด้าน จับมือไข่มุกช่วยกับเขียนชื่อ “คีรินทร์&ไข่มุก”
“เรามาเริ่มต้นสร้างความทรงจำดีๆ กันใหม่ ชั้นรักเธอนะไข่มุก”
คีรินทร์จูบกุญแจ แล้วยื่นไปหาไข่มุก ไข่มุกยื่นหน้ามาจูบ ยิ้มให้คีรินทร์
“ค่ะ เราสามคน พ่อ แม่ ลูก มาเริ่มต้นกันใหม่นะคะ”
คีรินทร์จับมือไข่มุกช่วยกันล็อคกุญแจที่รั้ว คีรินทร์จูบไข่มุกเบาๆ ไข่มุกถอยออกช้าๆ แล้วเขย่งตัวขึ้นกระซิบข้างหูคีรินทร์
“ชั้นก็รักคุณค่ะ”
คีรินทร์กอดไข่มุก ทั้งสองคนยิ้มอย่างมีความสุข มองแสงไฟสวยๆ ที่โซลทาวเวอร์ด้วยกัน
วันต่อมาคีรินทร์กับไข่มุกอยู่ในชุดฮันบกเพื่อให้ช่างภาพถ่ายรูป ทั้งคู่แอคท่าในแบบต่าง ทั้งกอด แนบแก้ม จับมือ ยิ้มหัวเราะ แกล้งกันไปมาผลัดกันแกล้งบ้าง จบด้วยภาพคีรินทร์จุ๊บแก้มไข่มุก ทั้งสองคนยิ้มอย่างมีความสุข
ที่เกาะนามิ คีรินทร์ยื่นมือออกมารอรับแล้วมีมือไข่มุกวางลงไป คีรินทร์มองไข่มุกแววตาหวานซึ้ง
“ให้จับมือแบบนี้แล้ว ชั้นจะไม่ปล่อยเธอไปตลอดชีวิตนะ”
“แน่ใจเหรอคะ”
ไข่มุกสบตาหวาน ยิ้มนิดๆ
“แน่ที่สุด แต่ขอเรื่องเดียว ต่อไปเธออย่าหลอกกันอีกนะ ระหว่างคนสองคน ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญสุด”
“งั้น...ต่อไปคุณก็ต้องเชื่อใจชั้น อย่าโกรธแบบไม่มีเหตุผลอีก ทำให้ได้มั้ยคะ”
คีรินทร์แตะที่ท้องไข่มุกเบาๆ
“ไม่มีปัญหา ต่อไปชั้นก็มีผู้ช่วยตัวเล็กๆ ออกมาจากตรงนี้แล้ว รับรองด้วยเกียรติของว่าที่คุณพ่อ ว่าจะไม่ทำให้ว่าที่คุณแม่เสียใจ” ไข่มุกวางมือบนมือคีรินทร์ที่อยู่บนท้อง แล้วเอนตัวซบ คีรินทร์จูบหน้าผากเบาๆ “ชั้นรักเธอนะ”
ไข่มุกยิ้มหวานรับ
“ขอบคุณคะ”
“ขอบคุณอย่างเดียว บอกรักตอบด้วยสิ” ไข่มุกแกล้งทำเฉย คีรินทร์มองหน้านิ่ว ทำกระแซะ พยักเพยิดให้พูด ไข่มุกแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ “พูดหน่อยน่า นะ...ทีชั้นยังบอกแล้วเลย อย่าเอาเปรียบกันดิ รักชั้นตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ บอกมาเลย”
ไข่มุกทำหน้าทะเล้น ส่ายหน้าไม่ยอมบอก คีรินทร์รวบตัวเข้ามากอดกระซิบข้างหู
“บอกหน่อยนะ นะครับ คุณแม่คนดี” ไข่มุกยิ้มเขินอาย ดันคีรินทร์ออกแล้วเขย่งขึ้นไปทำท่ากระซิบข้างหู คีรินทร์ได้ฟังก็ยิ้มกว้าง “พึ่งรู้ว่าเราก็เจ้าเสน่ห์ มีสาวรักตั้งแต่แรกเห็นเหมือนกัน”
คีรินทร์ยิ้มชอบใจ ยกไข่มุกตัวลอยแล้วจูบเบาๆ ที่หน้าผาก ใต้ร่มแนวต้นไม้บนเกาะนามิ
จบบริบูรณ์