มายาสีมุก ตอนที่ 22
ทุกคนยืนมองไข่มุกที่นอนหน้าตาซีดเซียวอยู่บนเตียงพยาบาล คีรินทร์จับมือไข่มุกมากุมไว้เบาๆ
“เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหน”
ไข่มุกยังคงนิ่งไม่ตอบ จินจูดึงมือคีรินทร์แล้วผลักออก มองหน้าคีรินทร์อย่างยังไม่หายแค้น
“ยังจะกล้าถามอีก เพราะเธอกับผู้หญิงของเธอนั่นแหละ ไม่ต้องมาจับลูกชั้น”
จินจูปราดเข้าไปจับมือไข่มุกมาแนบแก้ม ไข่มุกน้ำตาไหล สะอื้นเบาๆ
“แม่ขา ลูก...จะไม่อยู่กับหนูแล้วใช่มั้ย”
จินจูน้ำตาคลอ หมอพูดเบาๆ
“ตอนนี้เด็กยังอยู่ครับ แต่ได้รับความกระทบกระเทือนมากคงต้องรอดูอาการสักพัก”
ไข่มุกแตะที่ท้องเบาๆ คีรินทร์มองอย่างเป็นห่วงมาก
“แล้วเราต้องทำยังไงบ้างครับหมอ”
“ตอนนี้ให้คุณแม่นอนพักนิ่งๆ ห้ามขยับตัว แล้วหมอจะเข้ามาเช็คอาการเรื่อยๆ นะครับ ขอตัวก่อนครับ”
หมอเดินออกไป จินจูลูบหัวไข่มุกอย่างสงสาร มณีเดินมาจับมือให้กำลังใจ
“เสียดายจริงจิ๊งงงง” ชลลดาพูดชึ้นลอยๆ มณีหันขวับ ชลลดาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“อย่าไปฟังเสียงแร้งเสียงกา ตอนนี้เด็กยังอยู่ เธอต้องรักษาตัวดีๆ นะ”
“หนูต้องเข้มแข็งนะลูก”
คธาลูบหัวไข่มุกอย่างอ่อนโยน
“ทำใจให้สบาย พักเยอะๆ นะ”
คีรินทร์เข้าไปจับมือไข่มุก
“ชั้นขอโทษ”
ไข่มุกมองหน้าคีรินทร์ แล้วดึงมือออก หลับตาลงนอนนิ่ง น้ำตาค่อยๆ ไหล ร้องไห้อย่างขมขื่น คีรินทร์มองไข่มุกด้วยความสงสารและรู้สึกผิดมาก ชลลดากับภัททิมามองทุกคนอย่างหมั่นไส้
คีรินทร์นั่งสีหน้าอ่อนล้าอยู่ใสนห้องนั่งเล่น
“ไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนมั้ยลูก”
มณีบอก คีรินทร์พยักหน้าแต่ยังนั่งนิ่ง รัตนากอดคีรินทร์แน่นด้วยความเป็นห่วง คีรินทร์กอดตอบ สีหน้าเหม่อลอย
“เห็นมั้ยคะ ชลว่าแล้วว่าต้องเป็นนังนุช คนเราจะเปลี่ยนนิสัยได้ยังไง”
มณีปรายตามองชลลดา
“ก็เหมือนหล่อนแหละย่ะ แถมยังหน้าหนาอีกต่างหาก ใช่มั้ยช้อย”
“หนาพิเศษค่ะ อย่างงี้ต้องเรียกหน้าคอนกรีตเสริมใยเหล็ก”
ชลลดาทำท่าอยากจะด่า แต่มณีทำไม่สนใจ หันไปหาเขมทัต
“คุณคะ แล้วอย่างนี้วัฒนากับนุช จะรับโทษยังไงบ้าง ออกมาได้เร็วรึเปล่าก็ไม่รู้”
“อย่างต่ำคงหลายปี ถึงจะไม่ได้ฆ่า แต่ข้อหาลักพาตัว กักขัง ทำร้ายร่างกาย พยายามฆ่า โทษก็ไม่เบาเหมือนกัน”
“ดี สมน้ำหน้า ลูกไก่ล่ะสะใจ๊สะใจ”
คีรินทร์นั่งนิ่ง มณีมองอย่างเป็นห่วง
“รินทร์ ไม่เป็นไรใช่มั้ย ลูกดูเหนื่อยๆ”
“เพราะผมคนเดียว ไข่มุกกับลูกถึงเป็นแบบนี้”
ภัททิมารีบเข้าไปกระแซะกอด
“โอ๋ๆ อย่าเศร้านะคะ ถึงไข่มุกจะแท้งก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวลูกไก่ท้องให้ใหม่ เอาแบบเปิดปุ๊บติดปั๊บ แฝดสามเลย”
คีรินทร์แกะมือออก แล้วเดินออกไปเลย ภัททิมาทำท่าจะถลาตาม “คุณรินทร์ โอ๊ย”
ช้อยดึงแขนภัททิมาไว้ ภัททิมาหันมองตาเขียว มณียืนเท้าเอวมองสองแม่ลูก
“ช้อย จับเอาไว้ ชั้นขอสั่งพวกหล่อนเลยนะ ว่าห้ามยุ่ง ห้ามกวนใจ ลูกชายชั้นเด็ดขาด ไม่งั้นชั้นจะจับไปขังในห้องทั้งคู่”
ภัททิมาฮึดฮัด แต่ชลลดาพยักหน้าให้ยอมๆ ไป ภัททิมาสะบัดแขน กระแทกเท้าเดินไปหาชลลดา
“ยอมๆ ไปก่อน รอเวลาเหมาะๆ แม่จะจัดการเขี่ยนังกาปากร้ายนี่เอง” ชลลดากระซิบบอก
มณีปรายตามองสองแม่ลูกแล้วสะบัดเมินไปอย่างไม่อยากสนใจ
คีรินทร์เปิดประตูห้องนอนเข้ามาในสภาพอิดโรย คีรินทร์มองไปรอบๆ ห้อง สีหน้าใจหายเพราะคิดถึงไข่มุก
คีรินทร์เดินมาถึงเตียง ลูบเบาๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนก่ายหน้าผาก ถอนหายใจแรงอย่างเหนื่อยทั้งตัวทั้งใจ
อีกด้านหนึ่งที่โรงพยาบาล ไข่มุกนอนนิ่ง จับท้องตัวเองลูบเบาๆ พยาบาลเดินเข้ามาทำท่าพูดคุย ไข่มุกพยักหน้า ยิ้มอย่างขมขื่น พยาบาลวัดความดัน ไข่มุกนอนนิ่งมองเพดานแต่แววตาเข้มแข็ง ไข่มุกมองท้องตัวเองอย่างเป็นห่วงเด็กในท้อง
วันต่อมาคีรินทร์เดินถือดอกไม้มาถึงหน้าห้องพิเศษ ที่ติดป้ายห้ามเยี่ยม คีรินทร์มองแต่ไม่สนใจจะเปิดประตู การ์ดสองคนเดินมาขวาง ดึงตัวคีรินทร์ออก คีรินทร์ชะงัก
“เฮ้ย ทำแบบนี้ได้ไง รู้มัยว่าผมเป็นใคร เกี่ยวอะไรกับคนไข้”
“คุณจินจูสั่งห้ามทุกคนเข้าเยี่ยม”
“ผมไม่สน ถอยไป”
คีรินทร์ทำท่าจะบุกเข้าไป การ์ดจับตัวไว้ ประตูเปิดออก เป็นคธากับจินจูออกมา
“ปล่อยเขา”
การ์ดปล่อย แล้วหลบออกไป
“คุณคธา ไข่มุกเป็นยังไงครับ ดีขึ้นรึยัง ผมเอาดอกไม้มาเยี่ยม”
“เขาอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ ไม่อยากเจอใครตอนนี้ เดี๋ยวดอกไม้ผมเอาเข้าไปให้”
“แต่ผมไม่ใช่คนอื่น เป็นสามีของเขานะครับ”
จินจูฉวยดอกไม้จากในมือคีรินทร์มา มองอย่างยังแค้นไม่หาย
“สามีที่ดีแต่หาเรื่องล่ะสิ มีอย่างงี้ไม่ต้องมีดีกว่า”
“คุณแม่ ฟังผมก่อน”
“ใครให้เรียกว่าแม่ ตอนนี้ลูกสาวชั้นต้องการพักผ่อนมากๆ ห้ามมีเรื่องมากระทบกระเทือนจิตใจ ถ้าคุณไม่อยากให้เขาแท้งก็อยู่ห่างไข่มุกสักพัก ถือว่าชั้นขอร้องก็ได้”
“แต่ผมอยากเข้าไปเยี่ยมเมียกับลูก”
“พูดไม่รู้เรื่อง” จินจูหันไปหาการ์ด “ห้ามผู้ชายคนนี้เข้ามาในห้องเด็ดขาด”
จินจูพูดจบก็จับมือคธาเดินเข้าห้องไป คีรินทร์จะตามก็ถูกปิดประตูใส่ คีรินทร์ถอยออกมาอย่างผิดหวัง ปนเสียใจ มองประตูที่ปิดอยู่สีหน้าเศร้า
จินจูถือดอกไม้ของคีรินทร์เข้ามาในห้อง ไข่มุกที่หลับตาอยู่ลืมตาขึ้น
“เขากลับไปแล้วเหรอคะ”
“จ้ะ แต่มีดอกไม้มาด้วย”
ไข่มุกมองดอกไม้นิ่ง คธาลูบผม
“เดี๋ยวก็คงมาอีก หนูอยากเจอเขามั้ย”
ไข่มุกนิ่งไปอย่างสองจิตสองใจ จ้องมองดอกไม้ในอ้อมแขนจินจูอย่างลังเล จินจูมองอย่างสงสาร
“ผู้ชายแบบนี้อยู่ด้วยมีแต่เสียใจ หนูรีบรักษาตัวนะลูก หนุ่มเกาหลีรักเดียวใจเดียวมีเยอะ กลับไปที่นั่น หนูอาจจะได้เจอคนดีๆ สักคน” คธายิ้มหยอก
“พูดอย่างนี้หนุ่มไทยน้อยใจแย่ คนดีๆ ก็มีน่า ไม่งั้นคุณจะรักผมเหรอ”
จินจูมองคธา ยิ้มเขิน
“พูดอะไรต่อหน้าลูก” คธาโอบจินจู จินจูดิ้นอย่างเขินๆ “คุณคธา อย่าสิคะ”
“ไม่ต้องเขินหรอก ลูกดีใจมากกว่าที่เห็นเรารักกันดี” ไข่มุกมองยิ้มๆ
“ใช่ค่ะ ไว้แม่จัดงานแต่งเมื่อไหร่ หนูจะคอยถือชายผ้าคลุมให้นะคะ”
จินจูยิ้มเขิน คธามองไข่มุกอย่างอ่อนโยน
“แน่นอน แต่ตอนนี้ลูกต้องทำใจให้สบายที่สุด อย่าพึ่งคิดเรื่องอะไรทั้งนั้น เพื่อหลานของพ่อกับตัวหนูเองนะลูก”
ไข่มุกยิ้มรับ สีหน้าดีขึ้นนิดๆ จินจูมองไข่มุกอย่างทั้งรักและสงสารลูก
คีรินทร์นั่งอยู่ในสวนของโรงพยาบาล มองคนที่เดินผ่านไปมาอย่างเหม่อลอย คีรินทร์มองไปเห็นพ่อแม่กำลังวิ่งไล่จับเด็กเล็กวัย 2-3 ขวบอย่างสนุกสนาน สีหน้าร่าเริง คีรินทร์มองด้วยแววตาเศร้า รีบหันไปอีกทางก็เห็นแม่กำลังอุ้มทารกพาดบ่า มีพ่อนั่งหยอกอยู่ใกล้ๆ สีหน้ามีความสุขและรักกันมาก คีรินทร์หันกลับ ถอนหายใจเฮือก หลับตาลงอย่างรู้สึกผิดและเสียใจมาก
หมอเอาหูฟังแตะที่อกไข่มุก แล้วพยักหน้าอย่างพอใจ ไข่มุก จินจู คธา มองหมออย่างลุ้นมาก
“เด็กปลอดภัยแล้วครับ คุณแม่เองก็แข็งแรงขึ้น แต่ยังต้องกผ่อนมากๆ ไม่ให้ร่างกายกระทบกระเทือนรุนแรง”
ไข่มุกน้ำตาซึม ลูบท้องเบาๆ อย่างดีใจ จินจูเองก็น้ำตาซึม รีบก้มหัวขอบคุณหมอ
“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ”
“ระยะนี้ให้คุณแม่ออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ ได้นะครับ ถ้าเบื่อๆ พรุ่งนี้ก็ออกไปเดินเล่นได้ จิตใจจะได้แจ่มใส”
ไข่มุกพยักหน้า ยกมือไหว้
“ขอบคุณหมอมากนะคะ ที่ช่วยหนูกับลูก”
หมอยิ้มให้อย่างใจดี ไข่มุกยิ้มให้กับลูกในท้องทั้งน้ำตา
คธาเข็นไข่มุกเดินเล่นในสวนกับจินจู ทำท่าพูดคุยกันอย่างมีความสุข คธาเข็นไข่มุกไปใต้ต้นไม้ ลูบหัวอย่างเอ็นดู
“เหนื่อยรึยัง หิวน้ำมั้ย เดี๋ยวพ่อไปซื้อให้”
“ขอบคุณค่ะ”
“งั้นหนูนั่งรอตรงนี้นะลูก เดี๋ยวแม่ไปช่วยพ่อถือน้ำ”
ไข่มุกยิ้มรับ คธากับจินจูเดินออกไป ไข่มุกเข็นรถเล่นช้าๆ สีหน้าเศร้าเพราะคิดถึงคีรินทร์ แต่แล้วจู่ๆ มีมือมาจับตรงมือจับรถเข็น ไข่มุกสะดุ้งแล้วยิ้มเพราะคิดว่าเป็นจินจู
“ไม่ต้องห่วงค่ะแม่ หนูอยู่คนเดียวได้ ไปช่วยพ่อถือของเถอะ”
ไข่มุกพูดแล้วรู้สึกแปลกๆ จะเอี้ยวตัวมาดู แต่ชลลดาเดินออกมาดักหน้า ยิ้มร้ายใส่ไข่มุก ไข่มุกชะงักอย่างตกใจ
“คิดถึงชั้นมั้ยยะ นังไข่มุก”
มายาสีมุก ตอนที่ 22 (ต่อ)
จินจูนั่งอยู่บนโซฟาในร้านกาแฟเล็กๆ มีแก้วกาแฟเย็นพลาสติกวางอยู่ คธารับแก้วอีกสองแก้วจากคนขายแล้วจ่ายเงิน จินจูมองเหม่อไปข้างนอก เห็นคีรินทร์เดินถือของเยี่ยม ทำท่าเมียงมองอยู่หน้าตึกคนไข้ จินจูมองอย่างนึกโกรธ หยิบแก้วลุกขึ้น
“คุณ จะไปไหน”
จินจูไม่ตอบเดินออกไปที่คีรินทร์ คีรินทร์เห็นจินจูก็ชะงัก ยกมือไหว้
“ผมมาเยี่ยม...”
“ยังไม่เข็ดอีก บอกว่าห้ามเยี่ยมจะมาทำไม”
“ผมก็มาดูลูกดูเมียผมสิครับ ใครก็ห้ามผมไม่ได้ แล้วไข่มุกอยู่ไหน มาครับ เดี๋ยวผมช่วยถือแก้วให้”
จินจูดึงมือถอยห่าง ส่งสายตาดุ
“ไม่ต้อง กลับไปดีกว่า ก่อนที่การ์ดของชั้นจะลากตัวคุณไป”
คธาเดินตามมาสมทบ
“ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอคุณ ไม่เอาน่า อีกหน่อยเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ค่อยๆ พูดกันสิ”
คีรินทร์พยักหน้า
“ขอบคุณครับคุณพ่อ”
“ชั้นไม่นับญาติกับคุณ จนกว่าคุณจะเลิกกับผู้หญิงทุกคน แล้วห้ามทำให้ลูกชั้นเสียใจอีก แต่อย่างคุณให้เวลาเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่ามายุ่งกับเราดีกว่า”
“เดี๋ยวสิครับคุณแม่ เอ่อ คุณจินจู ผมขอแค่ไปดูไข่มุกก็ได้ รับรองว่าจะไม่ทำอะไรกระทบกระเทือน ไม่พูดมาก อย่าไล่ผมเลย ผมคิดถึงเขาจริงๆ”
จินจูมองอย่างไม่ค่อยเชื่อ แต่คธามองจินจูแล้วพยักหน้าให้ยอม
รถเข็นไข่มุกกระแทกกับผนังตึก ไข่มุกงอตัวปกป้องท้อง ชลลดากับภัททิมายืนจังก้า
“ไม่ต้องมาสำออย เก่งนักนะยะ ปล่อยท้องจับผัวลูกชั้น”
“ทำตีหน้าซื่อ ให้คนสงสาร ชั้นไม่ยอมให้แย่งรินทร์ไปหรอก”
ไข่มุกมองสองแม่ลูกอย่างโมโห
“ชั้นไม่เคยแย่ง ถ้าคุณรินทร์ไม่รักคุณลูกไก่ก็เพราะนิสัยคุณเองต่างหาก”
ภัททิมากรี๊ดลั่น
“แก แกว่าชั้นนิสัยไม่ดีเหรอ สวยเริ่ดเพอร์เฟคอย่างชั้นเนี่ยนะ ตักน้ำใส่กะลาดูตัวเองก่อนเหอะ”
“ชั้นไม่ได้พูดอะไร คุณยอมรับเอง” ภัททิมากรี๊ดหนัก
“ชั้นสวย จบป่ะ แต่แกนั่นแหละ ทำไมไม่แท้งๆ ไปซะ รินทร์จะได้กลับมาหาชั้น”
ไข่มุกมองชลลดาสลับภัททิมา
“ถึงจะยังไม่ได้เกิดมา แต่เขาก็เป็นลูกชั้น มีชีวิต มีจิตใจ เป็นคนเหมือนคุณ ทำไมถึงใจร้ายแบบนี้”
ไข่มุกพยายามจะเข็นรถหนี แต่ชลลดาจับไว้แน่น ชลลดาโน้มตัวลงมาพูดกับไข่มุก
“ใจร้ายแล้วไง ใจดีแล้วโดนรังแก อยู่อดๆ อยากๆ ชั้นไม่เอาหรอกย่ะ บอกไว้ก่อน คนอย่างชลลดา ต้องได้ทุกอย่างที่อยากได้ ไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็ตาม”
ไข่มุกชะงัก สีหน้าหวาดกลัว ชลลดาดึงรถเข็นอย่างแรง แล้วเข็นไปตามทางเดิน
“คุณจะพาชั้นไปไหน ปล่อยนะ คุณชลลดา คุณลูกไก่”
ชลลดาเข็นรถเข็นเร็วๆ ภัททิมามองตามอย่างสะใจแล้วรีบเดินตาม
คีรินทร์ จินจู คธา เดินมาถึงสวน จินจูกับคธาหน้าเปลี่ยนสี ตกใจมากที่ไม่เห็นไข่มุก
“ลูกหายไปไหน” จินจูหันมองคีรินทร์ “ใครเอาตัวลูกชั้นไป”
คีรินทร์ส่ายหน้า แววตาเป็นกังวล
“ผมเปล่า ไม่รู้เรื่อง”
“ไม่ใช่คุณแล้วใคร เอาลูกชั้นไปไว้ที่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้”
จินจูส่งแก้วกาแฟให้คธา แล้วไปยืนดักหน้าคีรินทร์แววตาหาเรื่อง เอาจริงไม่ยอมใคร คีรินทร์ส่ายหน้าส่งสายตาไม่รู้จริงๆ
ชลลดาเข็นไข่มุกมาตามทางเดินอย่างรวดเร็ว ไข่มุกจับรถเข็นแน่น
“คุณชล หยุด หยุดเดี๋ยวนี้”
“สั่งชั้นเหรอ สั่งใช่มั๊ย”
ชลลดาเข็นเร็วขึ้น ไข่มุกจะร้องก็ร้องไม่ออก ชลลดาเข็นมาหยุดที่ทางลาด ไข่มุกมองทางลาดที่ค่อนข้างชัน ด้านล่างมีรถแล่นสวนไปมา ไข่มุกถึงกับช็อคหันมองชลลดาที่ยิ้มเหี้ยม
“จะทำอะไร”
“คุณแม่ขา ปล่อยมันลงไป มันจะตายมั้ยคะ” ภัททิมาถามอย่างกลัวๆ
ชลลดายิ้มจับรถเข็นทำขยับไปข้างหน้า ไข่มุกเกาะแน่น พยายามจะลง แต่ชลลดาจิกไหล่ไว้ให้นั่ง
“คุณชล อย่าทำหนูเลยนะคะ ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ ใครอยู่แถวนี้ ช่วยชั้นด้วย”
ชลลดาเอามืออุดปากไข่มุก ไข่มุกเบิกตากว้างอย่างกลัวมาก
“แกทำทุกอย่างเพื่อลูกของแก ชั้นก็ทำทุกอย่างเพื่อลูกชั้นเหมือนกัน” ชลลดาดันรถเข็นไปข้างหน้าตรงทางลาด แล้วทำจะปล่อยมือ “อโหสิให้กันนะ”
ชลลดาปล่อยจากรถเข็น ไข่มุกกรี๊ดเสียงดังลั่น
จินจูจ้องหน้าคีรินทร์อย่างไม่เชื่อ
“ไม่ต้องมาโกหก คุณให้คนแอบมาพาลูกชั้นไปใช่มั้ย” จินจูระดมทุบคีรินทร์ คีรินทร์ปัดป้องไปร้องเจ็บไป คธามองอย่างไม่รู้จะช่วยยังไง “เอาลูกชั้นไปไหน พาไปไว้ไหน บอกมานะ”
“โอ๊ยๆๆ ผมไม่รู้ คุณจินจู เจ็บครับ โอ๊ยๆๆ”
คีรินทร์ปัดป้องอย่างกลัวจินจู สียงไข่มุกร้องดังมาจากที่ไกลๆ
“ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ ใครอยู่แถวนี้ ช่วยชั้นด้วย”
จินจูกับคีรินทร์ชะงัก คีรินทร์มองหน้าจินจู เสียงกรี๊ดดังขึ้น คีรินทร์รีบผละออกวิ่งไปตามเสียง จินจูยืนอย่างงงๆ
“เมื่อกี้ เสียงลูกใช่มั้ยคะ”
“ตามไป”
จินจูกับคธามองตามคีรินทร์แล้วรีบตามไป
ทางลาดหน้าตัวตึก ไข่มุกกรี๊ดลั่นเมื่อรถเข็นกำลังแล่นลงมาอย่างรวดเร็ว ด้านล่างมีรถยนต์วิ่งมาอย่างเร็ว
ไข่มุกมองรถแล้วกรี๊ดสุดเสียงหลับตาปี๋ ชลลดากับภัททิมาตกใจมาก กรี๊ดดังลั่น
“ว้าย”
รถเข็นไข่มุกวิ่งลงมาเกือบถึงรถที่แล่นมา คีรินทร์กระโดดมาจากด้านข้างคว้าตัวไข่มุกกลิ้งบนพื้น รถเข็นล้มไปอีกทาง รถแล่นเลยไป ภัททิมาปิดตาแน่น ถามกลัวๆ
“คุ...คุณแม่ นังมุกตายแล้วเหรอคะ ฮือออ มีรถวิ่งมาพอดีเลย”
ชลลดาทำแล้วก็อดตกใจไม่ได้ จินจูกับคธาวิ่งมาถึง ร้องเรียกไข่มุกอย่างตกใจ
“ไข่มุก”
คีรินทร์ลุกขึ้นประคองไข่มุก
“ไข่มุก เป็นอะไรมั้ย เจ็บตรงไหน ท้องล่ะ เจ็บท้องรึเปล่า ไปหาหมอ”
ไข่มุกอึ้งไปไม่ตอบ ยื่นมือสั่นๆ แตะหน้าผากคีรินทร์มีเลือดติดปลายนิ้ว คีรินทร์หัวแตกเลือดไหล
“คุณ...เลือดออก”
คีรินทร์ปาดเลือดทิ้งอย่างไม่สนใจ
“ช่างเหอะ เธอสำคัญกว่า เป็นอะไร เจ็บตรงไหนมั้ย บอกชั้นมานะ”
จินจูจะวิ่งเข้าไปหาไข่มุก คธาเอาตัวบังเอาไว้แล้วยื่นแก้วกาแฟให้ถือ ส่ายหน้าห้าม จินจูทำท่าขัดใจนิดๆ แต่ก็ยอม
ไข่มุกสบตามองคีรินทร์อย่างซาบซึ้ง ยกมือขึ้นจับแขนคีรินทร์แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น คีรินทร์มองอย่างทั้งรักและสงสาร ไข่มุกร้องไห้ไปพลางสบตา คีรินทร์ดึงไข่มุกเข้ามากอดลูบผมเบาๆ
“ขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ อย่าร้องนะ ชั้นขอโทษ”
คีรินทร์โอบกอดไข่มุกอย่างหวงแหนและทะนุถนอม
คีรินทร์ทำแผลแล้วมีผ้าพันหัว เข็นรถเข็นไข่มุกเดินนำมีจินจูกับคธาเดินตาม ชลลดารีบเดินมาดักข้างหน้า เท้าเอวมองไข่มุกอย่างเอาเรื่อง
“เพราะเธอคนเดียว คุณรินทร์ถึงหัวแตก เป็นคนป่วยดันไม่เจียมอยากเข็นรถเอง ดีนะไม่ไหลลงไปโดนรถชนตาย”
ไข่มุกมองหน้าชลลดา
“ก็คุณ...”
“คุณอะไร อ๋อ นี่จะใส่ความชั้นอีกแล้วล่ะสิ อย่าถือว่าเป็นลูกดาราแล้วจะมารังแกกันได้นะยะ”
จินจูเดินเข้ามาใกล้ชลลดา แล้วตวัดมือตบอย่างแรง ชลลดาช็อค
“รังแกลูกชั้นเหรอ”
“รังแกอะไร ชั้นไม่ได้แกล้ง ว๊าย” จินจูตบอีก มองจ้องหน้า ชลลดาจ้องกลับอย่างเริ่มโมโห “เออ ชั้นแกล้ง มีอะไรมั้ย อย่านึกว่าจะยอม วันนี้ขอตบนางเอกสักทีเถอะ”
ภัททิมาเดินเข้ามาใกล้แล้วรีบล็อคข้อมือจินจูจากข้างหลังไว้ ชลลดาเดินเข้ามาทำท่าจะตบ คธาจะเข้ามาขวาง จินจูส่ายหน้าห้าม
“ไม่ต้อง ชั้นจัดการเอง”
“เอาเลยค่ะคุณแม่ ตบให้หน้าไหลเลย”
ชลลดาเข้ามาใกล้ จินจูกระทืบเท้าลงบนเท้าภัททิมาแล้วหมุนตัวสาดกาแฟใส่หน้าภัททิมา ภัททิมาร้องกรี๊ดลั่น จินจูไปหยิบกาแฟอีกสองแก้วที่คธาถือมาสาดใส่ชลลดา ชลลดากรี๊ดลั่น สองคนพุ่งตัวเข้าใส่จินจูถอยหลบฉาก สองแม่ลูกชนกันเอง
“อ๊ายๆ คุณแม่”
ชลลดาหันมาใส่จินจูอยากโกรธจัด วิ่งเข้ามาจะตบ จินจูหมุนตัวหลบแล้วถีบชลลดาหน้าคว่ำ ภัททิมาวิ่งเข้าประคองชลลดา
“ไม่ต้องมาประคอง ไปสู้มันสิ”
ภัททิมาลุกขึ้นสู้ๆ กล้าๆ กลัวๆ จินจูจับข้อมือภัททิมาบิด ภัททิมากรี๊ดลั่น คธามองอย่างอึ้งๆ แตะตัวคีรินทร์กับไข่มุกพยักเพยิดให้เข็นหลบไปอีกทาง จินจูจับแล้วถีบภัททิมาลงไปกองกับชลลดา ชลลดาฮึดสู้ลุกขึ้นโถมเข้าใส่ จินจูจับแขนบิดไปด้านหลัง อีกมือนึงรัดคอ พูดขู่ชลลดา
“จำไว้ให้ดี อย่าคิดทำร้ายลูกชั้นอีก คราวหน้าเจอหนักกว่านี้แน่”
จินจูบิดแขน ชลลดาร้องโอดโอยอย่างหมดท่า
อ่านต่อพรุ่งนี้ เวลา 09.30น.
มายาสีมุก ตอนที่ 22 (ต่อ)
คีรินทร์ค่อยๆ ประคองไข่มุกนั่งลงบนเตียง จินจูยืนมองสีหน้าไม่พอใจ คีรินทร์ลูบผมไข่มุกเบาๆ อย่างรักและเป็นห่วง ไข่มุกนิ่ง เม้มปากแน่นอย่างพยายามจะเข้มแข็ง
“ชั้นจะกลับเกาหลี แล้วก็จะพาลูกไปด้วย อยู่ที่นี่มีแต่อันตราย” จินจูบอก
“แต่ไข่มุกเป็นเมียผมนะครับ ผมไม่ยอม”
จินจูเดินเข้ามา มองสบตาคีรินทร์
“แน่ใจเหรอ เมียหรือตัวอะไรกันแน่ ทำไมถึงปล่อยให้คนอื่นมารังควานไม่หยุดไม่หย่อน”
“ผมเสียใจ ผมจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”
“คราวนี้รอดมาได้ แต่ถ้าคราวหน้าช่วยไม่ทัน ลูกชั้นไม่ตายเหรอ ไม่เอาแล้ว ยังไงชั้นก็ไม่ให้อยู่กับเธอ” คธาลุกขึ้นจับข้อศอกจินจู ดึงให้เดินออกนอกห้อง จินจูดิ้น “คุณคะ ปล่อยนะ ชั้นยังพูดไม่จบ”
“ค่อยพูดกันดีกว่า ไปๆ ไปข้างนอกกับผม ให้ใจเย็นก่อน”
จินจูจะหันกลับมา แต่คธากอดโอบเอวให้เดินออก ปิดประตูลง คีรินทร์เดินเข้าไปใกล้มุก จับมือไข่มุกขึ้นมาจูบเบาๆ แล้วโอบไว้ ไข่มุกเอนหัวซบนิ่ง
“ผมจะเคลียร์กับทุกคนเอง จะไม่ให้มีใครมากวนใจคุณอีก กลับไปอยู่กับผมได้มั้ย” คีรินทร์จับมือไข่มุก มองสบตา “ขอโอกาสอีกครั้งนะ กลับไปอยู่กับผม” ไข่มุกมองสบตานิ่งไม่พูดอะไร แต่น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมา คีรินทร์มองอย่างขมขื่นและเสียใจมาก “นะ...ไข่มุก”
คีรินทร์ค่อยๆ เช็ดน้ำตาให้เบาๆ แต่ไข่มุกกลับหลับตานิ่ง
ห้องนั่งเล่นบ้านคีรินทร์ ชลลดากับภัททิมานั่งอยู่กลางวง ตัวเปียกกาแฟ ดมแล้วทำหน้ายี้ มณียืนจังก้าเท้าเอวมีช้อยประกบ
“ชั้นไม่ได้ทำ” ชลลดาบอก
“เมื่อเย็นคุณเพิ่งยอมรับเองว่าทำ”
ชลลดาลอยหน้าลอยตา
“มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้ตั้งใจแค่จะเข็น แต่นัง...เอ่อ ไข่มุกดิ้นจนลื่นไปเอง”
“กล้าพูด นี่หล่อนแม่ลูกเกาะลูกชายชั้นหนึบเป็นตุ๊กแกไม่พอ ยังจะกล้าทำลูกสะใภ้ชั้น ไม่รู้จะเรียกว่ายังไงดีแล้ว”
ช้อยรีบเสนอหน้า
“ก็เรียกว่า กินบนเรียน ขี้รดบนหลังคาสิคะ”
ชลลดาตบโต๊ะ มองหน้ามณีกับช้อย
“จะมากไปแล้วนะยะ ไม่ได้โดนผลักเองซะหน่อย จะโวยทำไม ทีนังแม่มันสาดกาแฟใส่ชั้น ไม่เห็นมีใครโวยแทน”
คีรินทร์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ เขมทัตมองชลลดากับภัททิมาแล้วส่ายหน้าหันมาสบตากับคีรินทร์ มณีเห็นชลลดาตบโต๊ะก็ยิ่งหมั่นไส้
“กล้าขึ้นเสียงใส่ชั้นเหรอ รู้มั้ยว่าที่นี่ ชั้นใหญ่สุด”
มณีเน้นเสียง เขมทัตสะดุ้ง
“แต่คุณแม่ไม่ยุติธรรม รักแต่นังไข่มุก ลำเอียง” ภัททิมาต่อว่ามณี
“ใช่ ลำเอียง ขี้งก ใจดำ อำมหิต” มณีเต้นผาง
“แก เกินไปแล้วนะยะ ช้อย จัดเต็ม”
ช้อยหักข้อมือหักนิ้วกร็อบๆ
“จัดให้ค่ะ คันไม้คันมือมานานแล้ว”
รัตนาหัวเราะ ตบมือเชียร์อย่างชอบใจ
“คุณแม่สู้ๆ ป้าช้อยสู้ตาย”
มณีจิกผมชลลดา ช้อยจิกผมภัททิมา แล้วเอามาโขกกัน เขมทัตกับคีรินทร์มองอย่างหวาดเสียว เขมทัตเข็นรัตนาออก สะกิดคีรินทร์
“ไปเหอะ ปล่อยแม่เราจัดหนักไป”
เขมทัตกับคีรินทร์พารัตนาออกไป มณี ช้อย ชลลดา ภัททิมา ตบตีกันอย่างอลหม่าน
จินจูประคองไข่มุกเข้ามาในห้องพักแล้วให้นั่งที่โซฟา
“ค่อยๆ นั่งนะลูก ได้ออกจากโรงพยาบาลซะทีนะ” จินจูลูบหัวไข่มุก ไข่มุกมองรอบห้องสีหน้าเศร้าๆ จินจูลูบหัวไข่มุกอย่างสงสาร “อีกสองสามวัน พอหนูแข็งแรง เราไปเกาหลี ไปเริ่มต้นใหม่กันที่นั่น” ไข่มุกนั่งนิ่ง ไม่พูดอะไร แต่แววตาเศร้า จินจูนั่งลงข้างๆ แล้วโอบไข่มุกให้ซบที่ไหล่ “แม่รู้ ว่าหนูรักเขามาก แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้ายังเป็นแบบนี้ ถ้าคีรินทร์รักหนู เขาก็ต้องแสดงให้เห็นว่ารักเราจริงแค่ไหน”
“หนูไม่รู้ค่ะแม่ หนูสับสน แต่หนูไม่อยากอดทนกับเรื่องผู้หญิงของเขาแล้ว”
ไข่มุกน้ำตาร่วง สะอื้นเงียบๆ จินจูกอดแน่นขึ้น
“ไม่เป็นไรลูก แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น จะไม่มีใครมารังแกลูกแม่ได้อีกแล้ว”
จินจูกอดลูบหัวไข่มุกอย่างสงสารมาก ไข่มุกกอดจินจูอย่างเป็นที่พึ่งทางใจ
คีรินทร์มาเยี่ยมนุชนารถที่เรือนจำ คีรินทร์ถือหูโทรศัพท์คุยกับนุชนารถในห้องเยี่ยมนักโทษที่มีกระจกกั้น
“ผมให้ทนายดูแลคดีคุณแล้ว ไม่ต้องห่วง” นุชนารถมองคีรินทร์น้ำตาคลอ คีรินทร์เม้มปาก ทั้งสงสารและเห็นใจผมขอโทษที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้ แต่อยากขอให้คุณอโหสิกรรมให้”
นุชนารถหลับตา พูดเสียงสั่น
“ค่ะ”
คีรินทร์ยิ้มนิดๆ
“ทุกๆ อย่างที่ผมทำลงไป ผมจะพยายามชดใช้ให้คุณเต็มที่ คุณออกมาจากคุกก็ขอให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ผมจะช่วยคุณทุกอย่าง แต่ในฐานะเพื่อนเท่านั้น”
นุชนารถลืมตา น้ำตาไหล
“แต่นุชรักคุณ นุชขาดคุณไม่ได้ ขอร้องนะคะรินทร์”
“ผมขอโทษ”
คีรินทร์วางหูคืน ค่อยๆ ลุกขึ้นเดินออกมาอย่างขมขื่นและเจ็บปวดแทน นุชนารถลุกขึ้นยืน ตะโกนใส่คีรินทร์แล้วร้องไห้ทุบกระจกที่กั้นอย่างบ้าคลั่ง
“นุชรักคุณ รินทร์คะ นุชรักคุณ ฮืออออ นุชรักคุณ ได้ยินมั้ย นุชรักคุณ”
นุชนารถร้องไห้สะอึกสะอื้น ทุบกระจกอย่างไม่ยอมรับเรื่องที่คีรินทร์พูด มองข้างหลังคีรินทร์ด้วยแววตาปวดร้าว
ไข่มุกนั่งพับเสื้อมีกระเป๋าเดินทางวางอยู่ใกล้ๆ จินจูเดินถือเสื้อใส่ไม้แขวนมากับคธา แล้ววางให้บนเตียง
“แม่ช่วยพับนะ”
ไข่มุกยิ้ม ส่ายหัว
“ไม่เป็นไรค่ะ แม่ไปเตรียมตัวเถอะค่ะ ของหนูมีนิดเดียว”
คธาถอนหายใจ
“เฮ้อ เสียดายที่พ่อติดสัญญากับโรงแรม ต้องเล่นเปียโนให้งานแต่งลูกท่านรัฐมนตรี ไม่งั้นจะได้ไปพร้อมกัน”ไข่มุกยิ้มร่าเริง
“แค่สองอาทิตย์เองค่ะ แม่เขารอได้อยู่แล้ว”
คธายิ้มหยอก จินจูตีแขนเบาๆ อย่างเขินๆ ไข่มุกมองพ่อกับแม่แล้วอมยิ้ม
“อะไรไม่รู้ทั้งพ่อทั้งลูก ไปค่ะ ไปช่วยชั้นจัดของต่อ เดี๋ยวจัดเสร็จแล้วไปห้องแม่นะ”
ไข่มุกพยักหน้ายิ้มร่าเริง จินจูกับคธาเดินออกไป สีหน้าไข่มุกเปลี่ยนเป็นแววตาเศร้าเปิดกระเป๋าเดินทางออก ข้างในมีรูปคู่ไข่มุกกับคีรินทร์ที่เกาหลี หลงอยู่ในกระเป๋าใบนึง ไข่มุกหยิบขึ้นมาดูอย่างเศร้าๆ และอาลัยมาก ปลายนิ้วไล้ที่รูปอยากจะเก็บความทรงจำเอาไว้
ไข่มุกหลับตาลงแล้วถอนหายใจ วางรูปไว้ที่หัวเตียงแล้วมองอย่างเศร้าๆ
คีรินทร์นั่งอยู่ในสวน สีหน้าเคร่งเครียด ชลลดากับภัททิมาแอบย่องมาดู ภัททิมาทำท่าเดินสวยถือแก้วน้ำมาให้คีรินทร์แล้วยิ้มหวาน
“คุณรินทร์ ทานน้ำก่อนนะคะ”
คีรินทร์ไม่รับ จ้องมองภัททิมานิ่ง
“คุณลูกไก่ คุณชลลดา ผมมีเรื่องอยากบอกให้คุณทั้งคู่เข้าใจ”
ภัททิมากับชลลดาฟังอย่างลุ้นๆ
“เรื่องอะไรคะ ข่าวดีรึเปล่าเอ่ย”
“เรื่องไข่มุก ต่อให้เขาจะไม่กลับมาอยู่บ้านนี้ หรือจะอะไรก็แล้วแต่ ยังไงเขาก็เป็นคนที่ผมรัก ส่วนเรื่องคุณลูกไก่ผมอยากจะหยุดเรื่องทุกเรื่องของเราไว้แค่นี้” ภัททิมาอึ้งไป
“แต่ แต่..ลูกไก่เป็นเมียคุณนะคะ คุณจะทิ้งขว้างเรา เฉดหัวออกจากบ้าน ไม่เกินไปหน่อยเหรอ”
“ผมไม่ได้ไล่ ถ้าคุณอยู่ต่อก็ให้ถือว่าเป็นแขกของพ่อกับแม่ แต่ระหว่างเราให้จบเถอะนะ”
ชลลดาตั้งท่าวีนแตก
“พูดอย่างนี้ก็เห็นแก่ตัวน่ะสิ น้าเลี้ยงลูกมา ไม่ได้ให้ใครเอาไปเป็นเมียฟรีๆ นี่ถ้าพี่ยงยุทธยังอยู่ คงจะเสียใจมากที่เราต้องโดนรังแกแบบนี้ ไม่เห็นแก่บุญคุณที่เคยทำให้เลย”
คีรินทร์ถอนใจหนัก
“ผมไม่เคยลืมบุญคุณอายงยุทธ ที่คุณน้ากับลูกไก่ได้อยู่บ้านนี้มาหลายเดือนก็เพราะเราเห็นแก่คุณอา แต่สิ่งที่ครอบครัวผมให้คุณก็น่าจะพอทดแทนทุกอย่างได้แล้ว บุญคุณ.ยังไงก็มีวันหมด ผมคงทำให้ได้แค่นี้”
ชลลดาอึ้งที่คีรินทร์เอาจริง สบตามองภัททิมา ภัททิมาทำแกล้งร้องไห้กอดแขนคีรินทร์เอาไว้
“แต่ลูกไก่รักคุณนะ คุณไม่รักก็ไม่เป็นไร ลูกไก่จะรักคุณไปจนตาย ฮื้อออ ยอมตายเพื่อคุณก็ได้เอ้า อย่าทิ้งกันนะคะ”
ภัททิมาทำท่ากอดร้องไห้กระซิก เสียงโทรศัพท์ดัง คีรินทร์กดรับ
“ฮัลโหล อะไรนะ ไข่มุกกำลังจะไปไหนกัน เดี๋ยวผมจะรีบไปที่โรมแรมเดี๋ยวนี้”
คีรินทร์กดตัดสายแล้วปัดมือภัททิมาออก ภัททิมาร้องว้าย คีรินทร์ผลุนผลันออกไปอย่างรวดเร็ว ชลลดาจิ๊ปากขัดใจ ภัททิมาหยุดร้องทันที เช็ดน้ำตาเซ็งๆ
“อุตส่าห์บีบน้ำตาแทบตาย ชิ คุณแม่ขา นังมุกจะไปไหนของมัน แต่ถ้ามันไปแล้วเราก็ยังมีหวังสิ”
ชลลดาตาโต ยิ้มกว้าง
“ยังไงก็ต้องมีอยู่แล้ว แม่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก โอย เมื่อยหน้า เมื่อกี้ตีหน้าเศร้าซะเหนื่อย”
ชลลดายิ้มร้ายอย่างไม่ยอมเลิกราง่ายๆ มองไล่หลังคีรินทร์ไป
คีรินทร์เปิดเข้ามาในห้องพักจินจูอย่างนิ่งเฉย ทอดสายตามองรอบห้องอย่างอาลัยอาวรณ์ คีรินทร์เดินสำรวจทุกมุมห้อง แววตาเศร้า คีรินทร์มองไปเห็นรูปบนหัวเตียงก็หยิบขึ้นมาดู แววตาหม่นลง
ภาพในความทรงจำ คีรินทร์กับไข่มุกนอนคว่ำอยู่บนเตียงเรียงรูปดูด้วยกันอย่างมีความสุข
“เก็บไว้ดีๆ อย่าทำหายนะ ห้ามทิ้งด้วย”
ไข่มุกยิ้มทะเล้น
“ไม่รู้สิ หมั่นไส้คนแถวนี้อาจจะแกล้งทำหายก็ได้”
คีรินทร์ทำเสียงอ้อน เอาหัวซบไหล่ไข่มุก
“ใจร้ายจังคนอะไร รูปเนี่ยให้เก็บไว้แทนใจ”
ไข่มุกอมยิ้ม แกล้งทำเสียงดุ
“เลี่ยนแล้วคุณ”
“จริงๆ นะ ถ้าไม่รักเมื่อไหร่ ค่อยทิ้งแล้วกัน”
คีรินทร์ถือรูปดูอยู่ แววตาเศร้าเมื่อนึกถึงคำพูดไข่มุก
“ถ้าชั้นทิ้งรูปนี้ก็แสดงว่าไม่เหลือเยื่อใย ไม่รักอีกแล้ว”
คีรินทร์เม้มปากแน่น มองรูปอย่างใจหายและเศร้าใจมาก
ที่เกาหลี จินจูกับไข่มุกเดินลากกระเป๋าเข้ามาในบ้าน ไข่มุกมองอย่างทึ่งที่บ้านใหญ่มาก ยูรีปราดเข้ามาจับแขนมองไข่มุกอย่างแปลกตา นิ่ง พิจารณา แล้วหันไปสบตาจินจูที่ยิ้มดีใจน้ำตาคลอ จินจูพยักหน้ารับ ยูรียิ้มตอบน้ำตาคลอดึงไข่มุกมากอด
“คุณหนูยองแอ ไม่นึกเลยว่าจะมีวันนี้”
ไข่มุกทำหน้างง
“ยองแอ เป็นชื่อเกาหลีของหนู” จินจูบอก
“น่ารัก สวยที่สุด มีอะไรคล้ายคุณมาก”
ยูรีกอดไข่มุก ไข่มุกกอดอย่างตื้นตัน
“ป้ายูรี เป็นแม่บ้าน คอยดูแลแม่มาตลอด ชอบบ้านนี้มั้ย”
“ค่ะแม่ บ้านสวยมากเลย”
“ต่อไปนี้ ที่นี่คือบ้านของหนู ทุกๆ อย่างของแม่ก็จะเป็นของหนูกับลูก”
ไข่มุกกราบจินจูที่อก
“แม่คะ ขอบคุณมากค่ะ”
ไข่มุกยิ้มฝืนๆ จินจูกอดเบาๆ
“ลืมเรื่องร้ายๆ ที่ผ่านมาให้หมด ต่อไปนี้จะไม่มีผู้หญิงชื่อไข่มุกอีกแล้ว จะมีแต่ปาร์คยองแอ ลูกสาวของแม่ เริ่มต้นใหม่นะ ยองแอ”
ไข่มุกสบตาแล้วกอดจินจู พยักหน้าน้ำตาคลอ จินจูกอดตอบอย่างสงสารลูกมาก
คีรินทร์นั่งเหม่ออยู่ในห้องทำงาน เขมทัตเดินเข้ามาตบบ่าเบาๆ
“เป็นไงบ้าง ทำหน้าเบื่อโลกดีนี่หว่า”
“ใครว่าเบื่อ สบายดีหรอกครับพ่อ ไม่มีปัญหาอะไร สบ๊ายสบาย”
“ยังจะปากแข็ง ฟอร์มเยอะนะ รักเขาแล้วทำไมไม่ตามไป” คีรินทร์ถอนใจ
“ตามไปให้หน้าแตกเหรอพ่อ เขารักผมที่ไหน”
“เรามันดันทำดีไว้เยอะนี่” คีรินทร์แค่นเสียงประชด
“เขาเกลียดผมทั้งแม่ทั้งลูก หน้าผมเขายังไม่อยากมองเลย”
“คุณจินจูน่ะไม่ใช่เรื่องใหญ่ สำคัญที่ว่าเรารักไข่มุกกับลูกหรือเปล่า คิดให้ดี”
“เรื่องลูก พ่อไม่น่าถาม หมายังรักลูกมันเลย แล้วนี่ผมเป็นคน จะไม่รักลูกตัวเองได้ไง”
“แล้วแม่ของลูกล่ะ”
คีรินทร์นิ่ง แล้วพูดหนักแน่น
“ผมรักเขา”
“พูดตรงนี้เขาไม่ได้ยินหรอก รักแล้วรออะไร อย่าเสียลายเสือสิเจ้ารินทร์”
เขมทัตตบบ่า บีบให้กำลังใจ คีรินทร์มองเขมทัต ยิ้มออกมานิดๆ อย่างรู้กัน
มณียืนอยู่หน้าชลลดากับภัททิมาที่นั่งเอนอยู่บนโซฟา มณีเท้าเอวพูดหน้าถมึงทึง
“ต๊าย ไล่ไม่ไป อย่างหนาทั้งแม่ทั้งลูก”
ชลลดาเชิดหน้าใส่
“ไม่ไป จะทำไม อยู่นี่สบายจะตาย เรื่องไรจะไปให้ลำบาก โง่สิ”
“ลูกไก่เป็นเมียคุณรินทร์ ทำไมจะไม่มีสิทธิ์อยู่บ้านนี้” มณีแค่นหัวเราะ
“เมียเหรอ คู่นอนซะมากกว่ามั้ง แถมโดนเขี่ยทิ้งแล้ว ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ ฮึ กล้ามากที่ยังเสนอหน้า ทำชั้นไว้ซะแสบยังไม่ได้คิดบัญชีเลย”
คีรินทร์เดินเข้ามา ภัททิมารีบลุกถลาเข้าไปกอดแขนคีรินทร์
“กลับมาแล้วเหรอคะ ลูกไก่คิดถึงม้ากมาก”
คีรินทร์สะบัดแขนออก ถอนใจ
“พอเหอะ เมื่อไหร่จะเหนื่อยสักที เฟคตลอด ทำอ้อนว่ารักผมทุกวันเนี่ย ไม่เบื่อรึไง บอกตรงๆ ว่าเหนื่อยแทน”
ภัทชะงัก แต่ไม่ยอมแพ้
“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ ไม่เฟคด้วย ลูกไก่รักคุณนะ เรามาเริ่มกันใหม่ นะคะ นะคะดาร์ลิ่ง”
“เราไม่เคยเริ่ม และไม่มีวันทำด้วย ผมมีเมียมีลูกแล้ว เมื่อไหร่คุณจะยอมเข้าใจสักที ผมมีครอบครัวแล้ว ได้ยินมั้ย”
ภัททิมาอึ้งอย่างช็อdมาก
“เชอะ ครอบครัวเหรอ ใช่ซี้ ตอนนี้มังมุกมันเป็นลูกดาราใหญ่ ไม่ใช่แม่ค้าส้มตำแล้วนี่ ทำเป็นจะยกเชิดชู” ชลลดาบอกอย่างไม่พอใจ
“เปล่าเลย ผมรักเขาตั้งแต่ยังเป็นลูกแม่ค้าส้มตำเป็นครูสอนฟิตเนส เป็นสตั๊นท์ จะเป็นอะไรก็รัก”
ภัททิมาหน้าแหย
“อ๋าย พูดงี้ได้ไง”
“นี่คิดจะแอ้มลูกสาวชั้นแล้วทิ้งหรือไง ลูกไก่รักคุณมากนะ”
“พวกคุณรักใครไม่เป็นหรอก ทำทุกอย่างเพื่อตัวเองทั้งนั้น ลูกไก่ไม่เคยรู้สึกอะไรกับผมหรอก อ้อ ไม่สิ รักเงินกับทุกอย่างที่ผมมีต่างหาก แต่ไม่ใช่ตัวผม”
“ไม่จริง ลูกไก่รักคุณนะคะ”
“ตกลงจะทิ้งเราสองคนแม่ลูกใช่มั้ย ชั้นไม่ยอม คอยดูแล้วกันว่าพี่เขมจะจัดการยังไง”
“ไม่ต้องรอพี่เขมหรอกย่ะ เดี๋ยวพี่มณีคนนี้จะจัดการยันออกจากบ้านทั้งแม่ทั้งลูกให้ดู”
“เอ๊ะ บอกว่าไม่ไปก็ไม่ไปไง”
คีรินทร์มองสบตาชลลดา
“ขอร้องนะคุณชลลดา คุณกับลูก ออกไปจากชีวิตผมสักที”
คีรินทร์เดินไป มณีอึ้งมองตามคีรินทร์ ภัททิมาหันไปร้องงอแงกับชลลดา
“ฮือ คุณแม่ขา ทำไงดี ลูกไก่ไม่ยอมนะ”
ชลลดาอึ้งอย่างไม่รู้จะทำยังไง
จบตอนที่ 22
อ่านต่อตอนที่ 23 ตอนอวสาน พรุ่งนี้ เวลา 09.30น.