เสือสมิง ตอนที่ 22
ระรินกรีดร้องเสียงดัง
“ช่วยด้วย”
ทหารชนกลุ่มน้อยจะเข้าไปจับระริน สมรักษ์กับภราดรเข้ามา สมรักษ์ยิง ปืนยาวซัดมันหงายไป ระรินปลอดภัยแล้ววิ่งมาหาภราดร
พวกทหารต่างมาจากทุกทาง ทั้งหน้าต่าง ประตู ยิงปืนใส่ทั้งสามคน สมรักษ์เก็บพวกมันเรียบ ภราดรแปลกใจ
“นี่มันพวกไหนเนี่ย”
“พวกทหารกระเหรี่ยง ดีเคบีเอน่ะสิ นึกอยู่แล้วว่าพวกมันต้องวางกับดักเอาไว้ มันคงรอให้เรากระจายกันแล้วเลือกโจมตีตอนที่เราไม่รู้ตัว”
ระรินกับภราดรหน้าเสีย มีเสียงปืนยิงกันตลอด
“แล้วพวกเราล่ะ” ระรินถามอย่างกังวล
สมรักษ์ส่ายหน้า
“ไม่รู้ สิ...แต่ผมว่ารีบไปสมทบกับพวกเราจะดีกว่า”
สมรักษ์นำมาที่หน้าบ้าน พวกทหารมากันเป็นกองทัพราว 4 – 50 คน ภราดรวิตก
“หมวดมีแผนไหม”
“หมอยิงปืนเป็นไหมล่ะ”
ภราดรพยักหน้ารับ
จ่าชิต กินรี มะค่า หิน แก้ว และประเดิมกำลังลอบเข้ามาในหมู่บ้านชนกลุ่มน้อย ทั้งหมดได้ยินเสียงปืนดังสนั่นมาจากในหมู่บ้าน
“เดี๋ยว...ได้ยินเสียงปืนไหม” จ่าชิตชะงัก
ประเดิมพยักหน้า
“ได้ยินสิจ่า ยิงกันสนั่นขนาดนั้น”
“ต้องเกิดอะไรในหมู่บ้านแน่” หินออกความเห็น
“ถ้าจะไม่ดีแล้ว” จ่าชิตเครียดๆ
“ยังไงเราก็ต้องเข้าไปช่วยพวกนั้น” กินรีบอกอย่างกังวล
แก้วเห็นด้วยกับกินรี
“ใช่...เราไม่มีทางเลือกแล้วลุงจ่า”
จ่าชิตมองทุกคน
“ถ้าฉันจะบอกว่าให้พวกผู้หญิงอยู่ที่นี่ พวกเธอคงไม่ยอมใช่ไหม ไหนๆก็ไหนๆแล้วนี่ ลุยมันเลย...ไป...”
จ่าชิตนำทุกคน เคลื่อนตัวออกไปที่หมู่บ้าน
เสี่ยรงค์ ศักดา และเบิ้ม รีบมาหาอองไชยที่กำลังยิงทหารที่บุกเข้ามาหาเขา ช่วยยิงจนพวกมันตายหมด
“ไอ้พวกเวรเอ๊ย...มันต้องการอะไรกันวะ”
อองไชยมองศพทหาร
“ไอ้พวกนี้น่ะหรือ ข้าวของ เงินทอง อาวุธ แล้วก็ผู้หญิง”
ศักดายิงต่อต้านพวกที่กำลังมาเสริม
“โอ้โห เล่นมาเป็นกองทัพเลย จะเอาอยู่ไหมเนี่ย”
เสี่ยรงค์ เบิ้มและอองไชยช่วยกันยิง
“เห็นทีจะเอาไม่อยู่ ข้าว่ารวบรวมคนแล้วรีบไปเถอะ” อองไชยรีบบอก
ศักดาพยักหน้ารับ เสี่ยรงค์เห็นด้วย ทั้งหมดเคลื่อนไป
เสือทศยิงสู้กับทหารโวยวายอย่างโมโห
“เข้ามาสิวะ...เข้ามา”
พวกทหารยังคงเติมกำลังมาที่กลุ่มเสือทศอย่างต่อเนื่อง เสือเรือง เสือชิน และทหารรับจ้างบางส่วนต่างยิงต้านเอาไว้
“ท่าจะแย่พี่ พวกมันเยอะมากเลย เอาไงดี” เสือเรืองหน้าเครียด
เสือทศตัดสินใจ
“ไปเก็บข้าวของที่จำเป็นเร็ว”
เสือเรืองนำลูกน้องบางส่วนไปเก็บของ เสือทศกับเสือชินและคนอื่นๆยิงต้านไว้
ทหารรับจ้างที่ควบคุมจงใจกำลังยิงต่อสู้กับพวกทหารชนกลุ่มน้อย หัวหน้าพวกมันเข้ามาสั่งลูกน้อง
“ฆ่าให้หมดทุกคน ยกเว้นผู้หญิง”
จงใจถอยร่นไปหลบที่ข้างบ้านพัก ทหารยิงผู้คุมตายหมดและกำลังมุ่งมาที่จงใจ
“มาสิวะ ข้าไม่กลัวแกหรอก”
จงใจหยิบปืนยาวจากศพของผู้คุมยิงใส่พวกมัน แต่พวกมันมีมาก จงใจยิงจนลูกกระสุนหมด แต่ก่อนที่จงใจจะเป็นอะไร สมรักษ์ก็เข้ามาช่วยได้ทัน สมรักษ์ดึงเธอออกไปแล้วยิงใส่ทหารพวกนั้นไปด้วย
“หมวด...”
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ”
ภราดรยิงปืนต้านไว้ จงใจกลัวจนยืนไม่ติดสมรักษ์เข้าประคอง ระรินที่ยืนห่างไปรู้สึกหมั่นไส้
“สำออยจริงนะ”
จงใจหันขวับมองระรินแววตากร้าว ระรินจ้องตาอย่างไม่กลัว
“ทำไม...”
ทันใดนั้น จงใจคว้าปืนที่มือสมรักษ์แล้วยิงใส่ระรินอย่างรวดเร็ว ปืนเข้าเป้าอย่างแม่นยำ เปรี้ยง...ระรินตกใจ แต่จงใจไม่ได้ยิงระรินแต่ยิงทหารที่กำลังจะยิงระริน ทุกคนโล่งอก จงใจเชิดหน้าแล้วชวนสมรักษ์ไป
“หลบไปทางโน้นก่อนดีกว่าหมวด”
ระรินหน้าซีดในใจรู้สึกดีกับจงใจนิดหน่อย
กลุ่มจ่าชิตบุกมาเกือบถึงหมู่บ้านแล้วเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
“แย่แล้ว” จ่าชิตหน้าเครียด
ประเดิมเข้ามาถาม
“จะเอายังไงจ่า ลุยหรือถอย”
กินรีมองหน้าจ่าชิตแววตาเป็นห่วงภราดร จ่าชิตสั่ง
“อ้อมไปทางโน้น ฉันคิดว่าหมวดสมรักษ์ต้องพาทุกคนถอยแน่”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยแล้วเคลื่อนที่อ้อมไป
เสือทศ กับเสือชินและลูกน้องอีกบางส่วนกำลังยิงต่อสู้กับทหารอีกกลุ่ม เสือทศยิงพวกมันร่วงไปคนหนึ่ง
“นี่...เป็นไง...”
เสือชินยิงถูกทหารคนหนึ่ง ตัวเองก็ถูกยิงเข้าเต็มไหปลาร้าแล้วเอามือกุมแผล
“นี่แน่...ไปนรกซะ...โอย...ไอ้บ้าเอ๊ย...”
เสือเรืองขนข้าวของที่จำเป็นมาพอดี
“เรียบร้อยแล้วพี่”
เสือทศหันไปถามเสือชินอย่างเป็นห่วง
“ไหวไหมวะไอ้ชิน”
“พอไหวพี่”
“ไป...”
ทุกคนยิงเปิดทางแล้วหนีออกมา มีทหารรับจ้างที่เป็นลูกน้องเหลือ 3 คน
สมรักษ์ ภราดร จงใจ ระริน วิ่งเลาะมาตามมุมของบ้านต่างๆ เจอทหารสองสามคนสมรักษ์ยิงพวกมันแล้วสั่ง
“รีบวิ่งไปก่อน”
เบื้องหน้ามีทหารอีกหลายคน หัวหน้าสั่งการ
“เอาตัวผู้หญิงมาให้ได้”
ทั้งหมดช่วยกันยิง สมรักษ์หันไปบอกภราดร
“หมอ...พาพวกนี้หนีไปก่อน”
ภราดรกับจงใจยิงเปิดทางฝ่าทหารออกไป จังหวะที่จงใจกำลังวิ่งไปกับภราดรเกิดล้มลง ระรินหันมาเห็น จึงยื่นมือให้จับแม้เสียงจะแข็งแต่แววตาอ่อนโยน
“ลุกขึ้น...เร็วสิ”
จงใจซาบซึ้งในใจแล้วจับมือระรินลุกไป สมรักษ์ยิงระวังหลังแล้วตามไปห่างๆ
กลุ่มเสี่ยรงค์ วิ่งหลบมาที่มุมหนึ่งของหมู่บ้าน ซึ่งจะเป็นทางออกจากหมู่บ้าน เบิ้มและคนงานต่างๆพากันเก็บของมาหมดแล้ว จังหวะเดียวกับพวกเสือทศเข้ามาสมทบ เสี่ยรงค์หันไปถาม
“อ้าว...เสือทศ...คนอื่นๆล่ะ”
“ไม่รู้...กระเจิงไปไหนกันหมดก็ไม่รู้”
ศักดามองไปรอบๆไม่มีพวกทหารตามมา
“พวกมันไม่มาแล้ว รีบไปกันดีกว่า”
เสี่ยรงค์หน้าเครียด
“ไม่...ฉันจะไม่ไปโดยไม่มีลูกสาวของฉัน”
เสือทศเห็นด้วยกับศักดา
“ไม่เอาน่าเสี่ย...มีโอกาสแล้วก็รีบไปเถอะ บางทีพวกนั้นอาจจะเสร็จพวกมันไปแล้วก็ได้”
“ฉันต้องเห็นศพก่อนถึงจะไป”
มีเสียงปืนของภราดรดังมาจากกลางหมู่บ้าน
“ลูกฉัน...อยู่นั่น”
เสี่ยรงค์แววตาเข้ม มองหน้าทุกคน เสือทศตัดสินใจไปช่วย
“ก็ได้...”
ทุกคนรีบไปตามเสียงปืน เสี่ยรงทองตามเสือทศอย่างไม่พอใจ
กลุ่มจ่าชิตเข้ามาที่กลางหมู่บ้านที่ยังคงมีการยิงกันอยู่
“แยกกันไปตามหาพวกนั้นเร็ว...แล้วไปเจอกันที่จุดนัดพบ” จ่าชิตสั่ง
ประเดิมรับคำ
“ไปกินรี...”
ประเดิมกับกินรีตรงไปที่ภราดรอยู่แต่ยังไม่เห็น แก้วกับหินแยกไปตามหาสมรักษ์กับจงใจ
“ไป...หิน”
จ่าชิตกับมะค่าแยกไปอีกทาง
“มะค่า...ทางนี้”
เสือสมิง ตอนที่ 22 (ต่อ)
ภราดร ระริน และจงใจ วิ่งมาหยุดที่บริเวณหลังหมู่บ้าน สมรักษ์เข้ามาสมทบเขามองแต่ข้างหลัง
“รีบไปเร็วหมอ”
ภราดรเห็นด้านหน้ามีทหารดักอยู่
“ก็อยากจะไปอยู่หรอกหมวด...แต่...โน่น...”
สมรักษ์หันมามองตกใจเห็นทหารล้อมเอาไว้ หัวหน้ามันยิ้มหยัน
“จะไปไหน...ยอมเสียเถอะ พวกแกหนีไม่พ้นหรอก”
ทหารคุมเชิงเอาไว้แต่ยังไม่ยิง ระรินตื่นกลัว
“ทำยังไงดีหมอ...”
“พวกมันมีตั้งเยอะแน่ะหมวด”
จงใจกอดแขนหมวดสมรักษ์ ระรินกอดภราดร สมรักษ์ตัดสินใจ
“ยิง...ยิงไว้ก่อน”
ทั้งหมดช่วยกันยิง หัวหน้าโมโห
“อยากตายนักใช่ไหม...ยิง...”
ทหารยิงใส่กลุ่มสมรักษ์จนโงหัวไม่ขึ้น
“แย่แล้ว...ลูกปืนผมหมดแล้ว” สมรักษ์เครียด
ภราดรก็หมดเหมือนกัน
“ผมก็หมด”
ทหารย่ามใจ
“สิ้นฤทธิ์แล้วหรือ...” หัวหน้าหัวเราะ “ไปจับผู้หญิงมา”
ทหารบุกเข้ามา สมรักษ์กับภราดหน้าตระหนกทำอะไรไม่ถูก ทันใดนั้น ประเดิมกับกินรีโผล่เข้ามายิงปืนใส่ทหารล้มลงขาดใจ ทั้งหมดหันไปมอง
“กินรี ประเดิม” สมรักษ์โล่งใจ
ภราดรอึ้งดีใจ ระรินไม่พอใจแต่เก็บแววตาเอาไว้ ประเดิมตะโกนบอก
“หนีก่อนเถอะหมอ...หมวด”
ประเดิมปิดท้ายด้วยระเบิดโยนไปที่กลุ่มทหารกระเหรี่ยงแบบไม่จงใจนักเพราะต้องการถ่วงเวลา ระเบิดตูม ทั้งหมดหายไป หัวหน้าทหารแค้นๆ
“ไปจับพวกมันมาให้ได้”
กลุ่มเสี่ยรงค์ มุ่งมาที่กลุ่มของภราดร แต่ก็ต้องเจอทหารเข้ามาสกัดกลุ่มใหญ่
“สู้ตายโว้ย” เสี่ยรงค์ตะโกนสั่ง
ทุกคนต่างยิงกระหน่ำไป ทหารยิงตอบโต้
“มาเลยไอ้พวกไร้ราก...” ศักดาตะโกนลั่น
เสือทศหันมาบอก
“ฉันจะอ้อมไปทางโน้น ตีโอบพวกมัน”
ศักดาพยักหน้า
“ไป...”
เสือทศ เสือเรือง เสือชินและทหารับจ้างเคลื่อนตัวไป ทุกคนยิงต่อสู้ต่อไปด้วย
แก้วกับหิน ลอบเข้ามาตาทาง แล้วเห็นเสือทศ เสือเรือง และเสือชิน กับทหารรับจ้าง กำลังตีโอบพวกทหารที่มาโจมตี
“ไอ้ทศ”
หินกระชับปืนในมือ
“ไอ้ทศ วันนี้ข้าจะแลกชีวิตกับแก เอาเลือดแกเซ่นวิญญาณแม่ข้า”
หินกับแก้วพยักหน้าให้กัน แล้วยิงใส่เสือทศ
“แก...ตาย”
กระสุนพุ่งไปถูกทหารรับจ้างตายไปสองคน เสือทศ กับลูกน้องหันมามอง แล้วเลี่ยงเข้าที่กำบัง
“ไอ้หิน ไอ้แก้ว...”
เสือทศแบ่งพวกหันมายิงสู้หินกับแก้ว
สมรักษ์นำทุกคนหลบออกมานอกหมู่บ้านมีทหารตามมาติดๆ กลุ่มสมรักษ์สู้พลางหนีพลาง กำลังจะพลาดพลั้ง สมรักษ์หันไปบอกภราดรกับประเดิม
“หมอ ประเดิม พาพวกผู้หญิงหนีไปก่อน”
ภราดรชะงัก
“แล้วหมวดล่ะ”
สมรักษ์บรรจุกระสุนแล้วยิงต้านพลางย้ำ
“ไม่ต้องห่วงผม...กระสุนเรามีจำกัดนะ รีบไป”
ทหารยิงรุกเข้ามา หัวหน้าของพวกมันท่าทางโกรธและบ้าเลือด เนื้อตัวมอมแมมด้วยฤทธิ์ระเบิดของประเดิมเมื่อสักครู่
“เอาของหนักมา”
ทหารเอาเครื่องยิงอาร์พีจี มาแล้วกำลังจะยิง สมรักษ์และทุกคนเห็นแต่ไกล
“แย่แล้ว ทุกคนหลบ” สมรักษ์หน้าเสีย
ทุกคนแยกย้ายกันหลบ พวกมันตะโกน
“อย่าให้ถูกผู้หญิงนะโว้ย...”
ระเบิดถูกยิงออกไประเบิดตูม ทุกคนไม่เป็นไร หัวหน้ามองอย่างพอใจ
“จะยอมหรือยัง...”
พวกสมรักษ์กำลังเข้าตาจน ทันใดนั้นจรวดอาร์พีจีพุ่งทะยานมาใส่กลุ่มของทหารกลางวง ตายไปหลายคน หัวหน้าบาดเจ็บ จ่าชิตเป็นคนยิง เขายืนอยู่ไม่ห่างจากกลุ่มสมรักษ์
“หนีไป”
มะค่าวิ่งไปสมทบกับกลุ่มสมรักษ์ กินรีดีใจ
“มะค่า”
“พี่กินรี...หนีก่อนเถอะ ทางนี้จ่าชิตเข้าจัดการเอง”
ทุกคนหนีไป จ่าชิตระดมยิงจนหัวหน้าและทหารตายหมด แล้ววิ่งตามพวกสมรักษ์ไป
ทหารรับจ้างลูกน้องของเสือทศถูกยิงตายหมด...เสี่ยรงค์เสียงกร้าว
“พวกมันคงไม่ยอมง่ายๆแน่ ถอยกันก่อนดีกว่าผู้กอง”
ศักดาเห็นทหารยิงสู้กับพวกเสือทศอย่างดุเดือด
“แล้วพวกเสือทศล่ะ”
เสี่ยรงค์ไม่สนใจ
“ปล่อยมันไป เอาไปด้วยคงไม่มีประโยชน์แล้ว”
อองไชยเห็นด้วย
“ใช่...ข้าคิดว่าเราใกล้จะถึงสุสานแล้ว”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ศักดาสั่ง
“ถอนตัว”
ทุกคนค่อยๆถอนตัวออกไป
เสือทศและลูกน้องกำลังยิงต่อสู้กับหินและแก้ว กับอีกข้างต้องยิงกับทหาร เสือเรืองหันไปเห็นพวกเสี่ยรงค์กำลังหนีไป
“พี่ทศ พวกเสี่ยรงค์หนีไปแล้ว”
เสือทศมองตามเห็นว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ
“ไอ้เสี่ยเลวเอ๊ย...ทิ้งกันเลยหรือ...”
เสือทศไม่มีเวลาทำอะไรนอกจากยิงต้านหินกับทหาร ขณะที่กำลังยิงกันอยู่ ทหารแจ้งข่าวให้พวกรู้
“ถอยเถอะ หัวหน้าตายแล้ว”
“จริงหรือ...พวกเราถอยก่อน”
ทหารล่าถอยออกไป เสือทศแปลกใจ
“นั่นมันอะไรวะ”
“มันถอยไปแล้วพี่” เสือชินบอก
เสือทศแววตาเข้มย่ามใจ แล้วคิดจัดการกับหินและแก้ว
“ดี...จัดการไอ้หินกับนังแก้ว”
ทั้งหมดมุ่งกำลังไปโจมตีหินกับแก้วที่สู้ยิบตา
“ฉันไม่ไหวแล้วพี่แก้ว ลูกกระสุนกำลังจะหมดด้วย”
แก้วมุ่งมั่น
“นี่เป็นโอกาสของเราที่จะได้แก้แค้น ถ้าพี่ตาย ไอ้ทศต้องตายไปกับเราด้วย”
หินพยักหน้า ใจสู้
“เอา...ตายเป็นตาย”
หินกับแก้วยิงเข้าใส่เสือทศอย่างบ้าเลือด
“ไอ้เด็กเมื่อวานซืนเอ๊ย...พวกเอ็งไปลากมันมา ไอ้เรืองข้ายกนังแก้วให้...ไป...” เสือทศยิ้มไม่หวั่น
เสือเรืองลูบปากด้วยความกระหยิ่มแล้วเคลื่อนตัวไป หินกับแก้วถูกล้อมทำอะไรไม่ถูก ทั้งคู่ลูกกระสุนหมด ทหารรับจ้างลูกน้องตรงเข้ามาหมายจะจับ
“เบาๆนะโว้ย เดี๋ยวน้องแก้วของข้าช้ำหมด” เสือเรืองรีบบอก
เสือเรืองหัวเราะสะใจ หินกับแก้วอยู่ภายใต้วงล้อมหน้าเครียดพร้อมสู้ตาย ทั้งคู่ชักมีดออกมา แก้วกวัดแกว่งมีด
“มาสิวะ ข้าสู้ตาย”
ทหารรับจ้าง เสือเรืองและเสือชินที่บาดเจ็บอยู่ ตรงเข้าไปหาหินและแก้วช้าๆ เสือทศเดินมาห่างๆ ทันใดนั้นมีกระสุนเข้ามาปลิดชีพทหารรับจ้าง ที่กำลังจะเข้าถึงตัวแก้ว ทุกคนหันไปทางที่กระสุนมาในมุมมืดเผยให้เห็นร่างของเสือใจปรากฏขึ้นช้าๆ หินกับแก้วร้องออกมาพร้อมกัน
“ลุงเสือ...”
เสือทศและทุกคนหน้าตื่นตระหนก
“พ่อเสือ...”
เสือใจเสียงเหี้ยม
“มันจะมากไปแล้วไอ้ทศ...”
เสือใจยิงใส่พวกเสือเรืองเสือชินอย่างไม่ยั้ง เสือชินถูกยิงตาย ทหารรับจ้างถูกยิงตายไปคนหนึ่ง จึงเหลือเพียง เสือทศ เสือเรืองและทหารรับจ้างอีกคนหนึ่ง แก้วกับหินวิ่งมาที่เสือใจ เสือทศเห็นท่าไม่ดีจึงสั่งถอย
“เฮ้ย...ถอยก่อนโว้ย...”
พวกเสือทศล่าถอยไป แก้วรีบบอก
“มันหนีไปแล้วพ่อเสือ ตามมันไปเร็ว”
หินกับแก้วทำท่าจะตามไปแต่เสือใจห้ามเอาไว้
“อย่าเพิ่ง...เวลาล้างแค้นยังมีอีกเยอะ ตามมันไปตอนนี้ก็มีแต่จะเสียเปรียบพวกมัน...พวกเราไปไหนหมด”
หินกับแก้วมองหน้ากันคิดเหมือนกัน
กลุ่มสมรักษ์มาพักที่ชายป่ามุมสงบแห่งหนึ่ง มะค่าพูดขึ้น
“ลุงจ่าสั่งให้รอตรงนี้แหละ”
ทุกคนหยุดพัก ระรินรีบมาเกาะแขนภราดร กินรีอยู่ห่างออกไปมองด้วยสายตาแกร่ง ภราดรมองกินรีในใจโหยหา
“นังกินรี แกอุตส่าห์ตามมาจนได้นะ ยังไงซะหมอก็ไม่สนใจแกหรอก”
กินรีเงียบไม่ตอบโต้ จงใจพูดขึ้นอย่างรำคาญ
“คุณระรินนี่ไม่ใช่เวลาจะมาหึงหวงกันหรอกนะ มาช่วยกันคิดหาทางไปจากที่นี่จะดีกว่า”
ประเดิมเห็นด้วย
“นั่นสิ...ช่วงนี้มันช่วงรบ พักรักไว้ก่อนดีกว่านะ”
ระรินค้อนตาเขียวออเซาะภราดร จ่าชิตเดินเข้ามาอย่างรีบเร่ง
“จ่าชิต” สมรักษ์เข้าไปหา
“ทุกคนไม่เป็นอะไรนะ”
ทุกคนพยักหน้ารับ ทันใดนั้น เสียงศักดาแทรกเข้ามา
เสือสมิง ตอนที่ 22 (ต่อ)
“แต่กำลังจะเป็น...โดยเฉพาะ แก จ่าชิต”
ทุกคนหันไปเห็นว่าศักดา เสี่ยรงค์ อองไชย เบิ้ม หัวหน้าคนงานและลูกน้องคนอื่นๆ ถือปืนล้อมเอาไว้ ศักดามองเยาะเย้ย
“คงไม่ต้องบอกนะว่าต้องทำยังไงกับอาวุธพวกแก”
สมรักษ์มองหน้าจ่าชิต ประเดิมแล้ววางปืนลง เสี่ยรงค์ยิ้มพอใจ
“ระริน...หนู...มานี่”
ระรินดึงภราดรไปหาเสี่ยรงค์หน้ากระหยิ่ม จงใจไม่ไปและเข้าไปเกาะแขนสมรักษ์ แล้วมองเสี่ยรงค์แววตาแข็ง เสี่ยรงค์หน้าเฉยเมยในใจรู้สึกดีที่จงใจอยู่ใกล้สมรักษ์ กินรีมองตามแบบเป็นห่วงภราดร
“ทีนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องกำจัดตัวถ่วงบางตัวแล้ว” ศักดายิ้มเหี้ยม
ศักดาเล็งปืนไปที่จ่าชิต อองไชยห้ามไว้
“อย่าเพิ่ง...ท่านผู้กอง เราอาจต้องใช้มัน”
เสี่ยรงค์พยักหน้าเชิงอนุญาต ศักดาลดปืนลง ห่างออกไป เสือใจ แก้วและหินซุ่มดูอยู่
“พ่อเสือ...เอายังไงดี...เข้าไปช่วยพวกนั้นไหม” หินกระซิบถาม
“ดูมันไปก่อน ท่าทางมันยังคงไม่ทำร้ายใคร”
เสือใจมองจงใจกับหมวดสมรักษ์ที่อยู่ใกล้กันอย่างคลายความเป็นห่วง
วันใหม่...กลุ่มคาราวานของเสี่ยรงค์กำลังเคลื่อนขบวนต่อไป สมรักษ์กับอองไชยและจ่าชิตเดินนำหน้า
กินรี ประเดิม เดินอยู่กลางขบวนมีเบิ้มกับหัวหน้าคนงานคุมทั้งหมดแบกของตามที่จะถือได้ ถัดไปเป็นเสี่ยรงค์ ระริน ภราดร จงใจ และศักดา ทุกคนเหน็ดเหนื่อย แต่ก็เดินทางอย่างต่อเนื่อง
เย็นนั้น กองคาราวานของเสียรงค์หยุดพักกันที่ริมลำธารกลางป่า เบิ้ม กับหัวหน้าคนงานและลูกน้องเสี่ยรงค์ปักเสาเต็นท์ อองไชย สมรักษ์และเสี่ยรงค์ยืนคุยกัน
“ดูจากแผนที่...เรากำลังจะไปถึงสุสานแล้ว”
อองไชยยิ้มพอใจ
“ก็ดีสิ...เวลาของข้าใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว”
“แต่มันไม่ใช่แบบที่พรานคิดน่ะสิ...ฉันลาดตระเวนแถวนี้มาเป็นปีๆไม่เคยเห็นว่าจะมีสุสาน หรือฮวงซุ้ยที่ไหนเลย”
อองไชยมองแผนที่อย่างมั่นใจ
“ฉันมั่นใจว่ามันต้องมี”
เสี่ยรงค์กังวล
“ท่านพรานแน่ใจนะ”
“ถ้าท่านเสี่ยไม่แน่ใจก็กลับไปก่อนก็ได้ ถ้าอยู่ต่อก็ต้องตั้งแคมป์ที่นี่ก่อน”
อองไชยพูดจบแล้วเดินไปดูทางที่จะเดินต่อไป สมรักษ์เดินไปหาจงใจ ที่ขณะเดียวกันจ่าชิตเข้ามาคุยด้วย
“เป็นอะไรไปหรือจงใจดูเศร้าๆ นั่นไงพระเอกของเธอมาแล้ว”
สมรักษ์ทรุดนั่งลงข้างๆ
“พ่อตายแล้ว ไอ้เสี่ยรงค์มันฆ่าพ่อ...”
จ่าชิตปลอบ
“อย่าเพิ่งไปตีโพยตีพายเลย คนอย่างไอ้ใจไม่ตายง่ายๆหรอก”
สมรักษ์ปลอบอีกคน
“นั่นสิ...เสี่ยรงค์มันอาจจะโกหกให้จงใจไปอยู่กับเขาก็ได้”
จงใจรู้สึกดีขึ้น จ่าชิตหันมาถามสมรักษ์
“เอาไงต่อหมวด”
“ตามน้ำไปก่อน คืนนี้เราจะค้างที่นี่”
จ่าชิตพยักหน้ารับแล้วเอนกายพักผ่อน
สมรักษ์ตัดมันทำฟืน ประเดิม เข้ามาช่วยทำให้เป็นชิ้นเล็กลง จงใจเข้ามาช่วยอีกคน
“เราจะได้กลับบ้านไหมหมวด”
สมรักษ์ยิ้มมั่นใจ
“ได้สิ...ต่อให้ฉันต้องแลกด้วยชีวิต ฉันก็จะยอม จงใจต้องได้กลับบ้านแน่”
จงใจเอามือปิดปากสมรักษ์ ทั้งคู่มองตากันอย่างซึ้งใจ
“หมวดอย่าพูดแบบนี้นะ จงใจยิ่งใจไม่ดีอยู่”
สมรักษ์เหงื่อเต็มใบหน้า จงใจยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เขารับไปเช็ดหน้า ห่างออกไป ระรินยืนดูภราดรเก็บฟืน
ไม่ห่างกันกินรีกับประเดิมและมะค่าก็ตัดไม้ จังหวะกินรีเดินไปเกี่ยวกิ่งไม้ทำให้แขนกินรีถูกกิ่งไม้เลือดไหล
“ว้าย...”
มะค่าตกใจ
“พี่...กินรี”
ประเดิมเข้าไปดู ภราดรหันมาตามเสียงแล้ววิ่งมาที่กินรี เขามาดูแผลเธอ ระรินตามมาทีหลังท่าทางแปลกใจในพฤติกรรมของภราดร
“ห้ามเลือดก่อน ประเดิมไปเอากระเป๋ายามา”
ประเดิมวิ่งออกไป ภราดรท่าทางเอาใจใส่ กินรีอึ้งๆ
“หมอ”
ทั้งคู่มองตากันอย่างอ่อนโยนภราดรทำนิ่งเฉยเมยพูดเสียงแข็ง
“อยู่นิ่งๆ...”
ประเดิมอากระเป๋ายาเข้ามาภราดรจัดการทำแผลให้ ระรินมองอย่างสงสัยและริษยา
บนเนินห่างออกไปไม่มากนัก เสือใจ หิน และ แก้วลอบมองอยู่
“ท่าทางพวกมันจะตั้งแคมป์ที่นี่ ไปแก้ว หินไปหาที่ซุ่มนอนกันดีกว่า”
ทั้งหมดเคลื่อนตัวลัดเลาะไปอย่างระวัง
สมรักษ์ช่วยจงใจกางเต็นท์ มะค่าและประเดิมอยู่ไม่ห่างนัก
“สุสานที่ว่ามันมีจริงหรือหมวด” จงใจสงสัย
“ทำไม...อยากได้สมบัติเหมือนกันหรือ”
จงใจพูดอย่างจริงใจ
“เปล่า...เราจะได้ไปจากคนพวกนี้”
“จงใจจะไปไหน เสี่ยรงค์เป็นพ่อของจงใจนะ”
จงใจรู้สึกหนักใจแล้วมองไปที่เสี่ยรงค์ที่กำลังนั่งมองไปที่แม่น้ำอย่างสงบนิ่ง ห่างออกไป ภราดรนั่งดื่มน้ำเย็นๆจากกระติก แล้วมองไปที่กินรีที่กำลังนั่งพักกับมะค่า ระรินเดินเข้ามานั่งด้วย
“หมอไม่เห็นจะต้องทำแผลให้นังกินรีมันเลย ให้ประเดิมทำก็ได้”
“ไม่ได้หรอก ผมเป็นหมอ ผมทิ้งจิตวิญญาณนี้ไปไม่ได้หรอก พบคนป่วยก็ต้องรักษา...ขืนให้ประเดิมทำแผลให้อาจเป็นบาดทะยักได้”
ระรินไม่แยแส
“ก็ช่างมันสิ ตายไปก็ยิ่งดี”
ภราดรรับรู้ถึงความใจร้ายของระริน เขาขอตัวลุกไปเอาน้ำ
“ผมไปเอาน้ำก่อนนะ”
ภรดรลุกไป ระรินมองตามแววตากร้าวหันไปมองกินรี
กินรีนั่งพักที่ใต้ต้นไม้ ภราดรเดินเอาน้ำและยามาให้ ระรินเดินตามมาด้วย
“เอ้านี่ยา...กินซะจะได้ไม่อักเสบ”
กินรีรับยาไปงงๆ
“ขอบคุณค่ะ”
ระรินแหวเข้ามา
“รู้สึกว่าหมอจะเอาใจมันเกินไปแล้วนะ แกก็อีกนังกินรีทำเป็นสำออย เอามานี่”
ระรินแย่งยามาจากกินรี ภราดรเซ็งๆ
“โธ่ระริน...เอาให้กินรีไปเถอะ ผมรักคุณคนเดียว แต่ที่ผมทำแบบนี้เพราะเราต้องรักษาคนเอาไว้ใช้งาน...ระรินเข้าใจผมนะ”
ระรินเบาใจลงมองภราดร แววตาเขาดูรักเธอ
“ก็ได้...เอ้า...เอาไปกินซะ”
ระรินโยนยาให้กินรีแววตาอาฆาตยื่นหน้าไปใกล้ๆ กินรีแล้วพูดแบบกัดฟัน
“แต่แกก็จะไม่มีวันรอดจากเงื้อมมือฉันหรอก...ไปหมอ”
ระรินลากภราดรเดินจากไป กินรีมองตามสายตาไม่เข้าใจภราดร
กองไฟที่ก่อเอาไว้บริเวณลานกว้างรุกโชน ภราดรกับระริน นั่งล้อมวงกินอาหารเย็นอยู่กับเสี่ยรงค์ ศักดา อองไชย ทั้งหมดกินกันไปปรึกษากันไป
“จงใจล่ะ...เบิ้ม ไปตามมาซิ” เสี่ยรงค์สั่ง
เบิ้มกำลังจะไป แต่ระรินอาสา
“ระรินตามเองค่ะ”
ระรินลุกไปเสี่ยรงค์มองตามงงๆ ทุกคนปรึกษากันต่อ
“ท่านพราน ท่านตีปริศนาออกหรือยัง”
อองไชยหน้าเครียด
“ยัง...ข้ากำลังพยายามอยู่”
ศักดาไม่พอใจ
“อ้าว...อย่างนั้นถ้าเราเจอสุสานมันก็ไม่มีประโยชน์น่ะสิ”
อองไชยมั่นใจ
“ข้ามั่นใจ...ปริศนาจะคลี่คลายในไม่ช้า”
ภราดรรู้สึกเบื่อและเซ็งจึงขอตัวออกไป
“ผมขอตัวก่อนนะ”
เสี่ยรงค์ไม่ได้สนใจภราดร ทั้งหมดหารือกันต่อ
จงใจยืนกอดอกใจลอยมองไปในความมืด ระรินเดินมาข้างหลังท่าทางมีไมตรีแล้วทัก
“ทำไมไม่ไปกินข้าว พ่อให้มาตาม”
จงใจหันมาท่าทางนิ่งในใจสับสน แต่ก็ยอมรับในเสี่ยรงค์บ้าง
“คุณนั่นเอง...พ่อหรือ...บอกตรงๆนะฉันยังสับสนอยู่เลยจากลูกเสือลูกโจรอยู่ดีมีพ่อเป็นเศรษฐี แถมยังยิงพ่อเสือฉันตายอีก”
“แต่คนที่เธอเรียกว่าพ่อเสือน่ะ ขโมยเธอไปจากพ่อนะ”
จงใจน้ำเสียงเรียบ
“แต่เขาก็เลี้ยงฉันมาจนโต”
“ฉันเข้าใจเธอนะ...แต่ฉันอยากรู้จริงๆ...”
“อะไร”
ระรินจ้องจงใจท่าทางมีไมตรี
“เธอจะนับฉันเป็นพี่หรือเปล่า”
จงใจนิ่งในใจสับสนไม่พูดออกมา ระรินเข้าใจ
“ช่างเถอะ...แต่ยังไงฉันก็ขอบใจเธอที่ช่วยชีวิตฉัน...อย่าลืมไปกินข้าวล่ะ”
ระรินพูดจบแล้วเดินจากไป
เสือสมิง ตอนที่ 22 (ต่อ)
กินรีกำลังทำแผลด้วยตัวเอง ภราดรเดินเข้ามาคุยด้วย
“แผลเป็นยังไงบ้าง”
“ค่อยยังชั่วแล้วค่ะ”
“อย่าลืมกินยาล่ะ”
ภราดรจะเดินจากไป กินรีเรียกไว้
“หมอคะ...”
“มีอะไรหรือ”
กินรีตัดสินใจถาม
“หมอจำอะไรไม้ได้จริงๆหรือ”
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันมีสติและจำได้ทุกอย่าง”
“แล้วเรื่องของเรา...ความรักของเราล่ะ”
“ความรักหรือ”
ภราดรหัวเราะเบาๆ แล้วยิ้มให้กินรีอย่างมีไมตรียังคงปิดบังเธออยู่ ระรินผ่านมาเห็นทั้งคู่คุยกันอย่างสนิทสนมระรินแค้นรำพึงในใจ
“นังกินรี”
ภาพภราดรกับกินรีจ้องกันมาปรากฏอยู่บนแท่นศิลาตรงหน้างะดินเด เขามองดูเหตุการณ์ยิ้มกระหยิ่ม
“ไอ้พวกโง่...จงนำข้าไปสู่สุสานแห่งบาเยงโบ...เจ้าจะได้รักกันไปชั่วนิรันดร์ไม่มีวันได้ผุดได้เกิด...ข้าจะไม่ยอมผิดพลาดเป็นครั้งที่สามอีก”
ในอดีต เมื่อ 800 ปีที่แล้ว งะดินเดตัดสินใจ
“เราต้องกำจัดบาเยงโบให้ได้...”
ชะเวโบอยู่ไม่ห่างนักเขาหน้าตื่นตระหนก
“แต่เราเหลือแค่สองคนแล้วนะท่านพ่อ...พวกสมิงพวกนั้นไม่รู้แตกกระเจิงกันไปไหนหมดแล้ว”
“ให้เหลือข้าคนเดียวข้าก็ต้องกำจัดมัน มิฉะนั้นเราหาอยู่ไม่เป็นสุขไปตลอดชีวิต เจ้าอยากใช้ชีวิตอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆหรือไง”
ชะเวโบเห็นด้วยกับพ่อแต่ในใจยังหวั่น
“เราจะทำเยี่ยงไร...”
“ชะเวมะรัตไง...แก้วตาดวงใจของมันคือชะเวมะรัต เจ้าต้องไปพานางออกมา”
ชะเวโบสงสัยว่าพ่อจะทำอะไร
“ที่เหลือข้าจัดการเอง...ก่อนอื่นข้าต้องชิงดาบเล่มนั้นมาเสียก่อน”
ชะเสมะรัตร้อยมาลัยและจัดตกแต่งพานพุ่มอยู่ในตำหนักริมสระ มีนางกำนัลช่วยอยู่หลายคน มีพานพุ่มและดอกไม้ดูสวยงาม
“พระมเหสีช่างมีฝีมือละเอียดลออหามีผู้ใดเปรียบจริงๆ” นางกำนัลชม
“ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับความตั้งใจและความเพียรข้าหาได้วิเศษกว่าผู้ใด”
เสียงบาเยงโบลอดเข้ามา
“แต่สำหรับข้าเจ้าวิเศษกว่าผู้ใดในโลกนี้”
บาเยงโบเดินมาหา
“ถวายพระพรพ่ออยู่หัว”
นางกำนัลต่างทำความเคารพ แล้วออกไป บาเยงโบทรุดลงนั่งข้างๆชะเวมะรัตแล้วกล่าวชม
“เจ้าร้อยบุปผาได้งามนัก จะมีงานบุญที่ไหนอีกรึ”
“หม่อมฉันตั้งใจนำไปไหว้พระธาตุบนเขาในวันพรุ่ง”
“เนื่องในกิจอันใด”
ชะเวมะรัตกลบเกลื่อน
“หาได้มีกิจอันใดพิเศษหม่อมฉันเพียงบูชาปกติตามราชธรรมเนียม”
“นึกว่าเรื่องบิดากับน้องชายเจ้า”
ชะเวมะรัตมองนัยน์ตาบาเยงโบอย่างซาบซึ้ง
“เรื่องนั้นหม่อมฉันควรบูชาพระองค์มากกว่า”
บาเยงโบเข้าใจในความหมายยิ้มบางๆอย่างพอใจ
นางกำนัลสองคนกำลังเตรียมน้ำใส่อ่างสำหรับอิระวดี เมื่อเรียบร้อยแล้วอิระวดีก็เข้ามาเปลือยกายแล้วลงอ่างแช่น้ำอย่างสบายใจ
“พวกเจ้าออกไปได้แล้ว”
“เพคะ...”
นางกำนัลออกไป อิระวดีทอดกายแช่น้ำอย่างสบาย...ด้านหน้าประตูมีกลุ่มควันเบาๆบางๆโรยมาที่ทหารรักษาการ ทหารสูดควันเข้าไปก็ร่วงลงหลับทันที นางกำนัลหลับเช่นกัน
อิระวดียังคงแช่น้ำอย่างสบายใจ ทันใดนั้นมีเสียงงะดินดังเข้ามา
“เรือนร่างเจ้านี่ช่างยั่วยวนเสียจริง ช่างผิดกับใจเจ้าราวฟ้ากับดิน”
อิระวดีสะดุ้งชันตัวขึ้นมองมาที่มาของเสียงพร้อมรำพึง
“งะดินเด...”
อิระวดีมองไปรอบห้องไม่มีอะไรผิดปกติ ทันใดนั้น งะดินเดก็ยื่นหน้ามากระซิบข้างหูจากข้างหลัง
“คิดถึงข้าหรือเปล่า”
อิระวดีตื่นกลัว
“งะดินเด...เจ้าบังอาจนัก...ทหาร...ทหาร”
งะดินเดเลื่อนกายมาข้างๆอิระวดีบีบกรามเบาๆ
“นิ่งซะ...เพลานี้หาได้มีผู้ใดมาช่วยเจ้าได้”
อิระวดีจะขยับตัวหนีแต่ร่างกลับแข็งทื่อกระดุกกระดิกไม่ได้
“งะดินเด เจ้าทำอะไรข้า”
“นิ่งไว้...ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก ถ้าเจ้าเชื่อฟังข้า”
“เจ้าต้องการอะไร”
“ดาบอาญาสิทธิ์ของบาเยงโบ”
อิระวดีหัวเราะ
“เกรงว่าข้าจะต้องอาญาก่อนเจ้าจะได้ดาบน่ะสิ”
“นั่นมันขึ้นอยู่กับฝีมือเจ้า”
“ข้าช่วยเจ้าไม่ได้หรอก”
งะดินเดยิ้มอย่างเป็นต่อ
“แต่ข้ามีข้อเสนอที่เจ้าปฏิเสธไม่ได้”
งะดินเดเอายาพิษเม็ดเท่าลูกกลอนยัดเข้าปากอิระวดีแล้วทุบหน้าอกให้กลืนลงไป
“นี่เจ้า...” อิระวดีตกใจ
“ภายใน 2 ราตรีถ้าข้าไม่ได้ดาบ เจ้าก็จะทรมานจนตาย”
งะดินเดยิ้มอย่างพอใจ อิระวดีเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
วันใหม่...ขบวนเสด็จของชะเวมะรัตประกอบด้วยทหารองครักษ์ และนางกำนัลต่างๆ กำลังเดินทางถึงช่องเขา ทันใดนั้น ชะเวโบปรากฏกายดักหน้าขบวน ทหารคุ้มกันตกใจ
“ชะเวโบ”
“ขอบใจที่จำข้าได้”
ชะเวโบบุกเข้าไปฆ่าฟันทหารจนตายไปหลายคน นางกำนัลต่างแตกกระเจิง ชะเวมะรัตอยู่ในเกี้ยวรับรู้ถึงการต่อสู้ ด้านนอกชะเวโบกำลังฆ่าฟันทหารจังหวะหนึ่งชะเวโบกำลังจะเงื้อฟันทหารที่หมดทางสู้ ชะเวมะรัตออกมายืนห้าม
“หยุดนะชะเวโบ...นี่เจ้ายังไม่สำนึกอีกหรือ”
ชะเวโบหยุดและต่อคำกับชะเวมะรัต
“ข้ามาไกลเกินกว่าจะหยุดแล้วท่านพี่”
ชะเวมะรัตไม่พอใจ
“พระมเหสี...เจ้าควรเรียกข้าว่ามเหสี...เจ้าต้องการอะไร”
“ตัวท่าน”
ชะเวมะรัตตกใจและแปลกใจ ชะเวโบเชือดคอทหารคนนั้นแล้วบุกฆ่าทหารจนหมด แล้วตรงเข้าไปจับตัว ชะเวมะรัตขัดขืน
“ข้าไม่ไปกับเจ้า”
“จะให้ข้าฆ่าพวกมันให้หมดเลยหรือ”
ชะเวมะรัตอึ้งมองดูข้าราชบริพารแล้วรู้สึกเห็นใจ แล้วมองชะเวโบอย่างยินยอม
บาเยงโบนั่งอยู่ที่ตำหนักกำลังอ่านตำรา หัวหน้าราชองครักษ์มารายงาน
“พระอาญามิพ้นเกล้า ชะเวโบจับพระมเหสีไปแล้วพระพุทธเจ้าข้า”
ตำราที่บาเยงโบอ่านอยู่ตกลงพื้น แววตาบาเยงโบกร้าว
“นี่พี่สาวมันก็ไม่เว้นหรือ มันต้องการสิ่งใดกันแน่”
บาเยงโบผุดลุกขึ้นแล้วเดินออกไปนอกห้อง
บาเยงโบเดินมาตามทางกับหัวหน้าราชองครักษ์แล้วคุยกันมา
“มันต้องการอะไร”
“งะดินเดต้องการเจรจากับพ่ออยู่หัวพระพุทธเจ้าข้า”
“มันช่างบังอาจจริงๆ”
ทั้งคู่เดินออกไป...ด้านหลังอิระวดีปรากฏกายขึ้นกับองครักษ์หญิงคู่ใจลอบมาตามทาง แล้วตรงไปที่ตำหนัก
“เจ้าเปิดเส้นทางเรียบร้อยแล้วหรือ”
“กระหม่อมปิดปากพวกมันทุกตัวคนแล้วเพคะ”
อิระวดีเดินผ่านทหารยามเข้ามา ทหารยามสกัดไว้
“พระสนม...”
องครักษ์หญิงเข้ามาขวาง ทหารยามให้ผ่านไปโดยดี องครักษ์รออยู่ที่ทางเข้ากับทหารยาม อิระวดีเดินเข้าไปในตำหนักเดินลัดเลาะไปที่ห้องบรรทมละเห็นดาบวางอยู่ที่หัวนอนแล้วเดินเข้าไปหยิบ ทันใดนั้นเสียงหญิงชราดังเข้ามาข้างหลัง
“ทำอะไร...พระสนม...”
อิระวดีสะดุ้ง ในมือมีดาบแล้ว หันมาพบว่าคุณท้าวยืนจ้องอยู่
“คุณท้าว...”
“พระสนมจะเอาดาบไปไหน...ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พระสนมจะเสด็จ ทหาร...ทหาร”
อิระวดีทำอะไรไม่ถูก แต่แล้วองครักษ์หญิงก็ปรากฏกายข้างหลังคุณท้าวแล้วแทงด้วยมีสั้นจนล้มลงสิ้นใจ
“จัดการอย่าให้เหลือร่องรอย แล้วนำดาบไปให้งะดินเดโดยด่วน”
องครักษ์หญิงพยักหน้ารับอย่างรู้ใจ
ค่ำนั้น บาเยงโบเดินเข้ามาในห้องบรรทมอย่างอ่อนใจ ในใจคิดหนักเรื่องชะเวมะรัต จังหวะหนึ่งเขาหันไปมองที่หัวเตียงแต่ไม่มีดาบเสียแล้ว บาเยงโบยิ่งแค้นใจ
องครักษ์หญิงเดินจูงม้ามาตามทางในป่าแล้วปล่อยม้ายืนพักผ่อน เธอเดินมาหยุดที่ลานกว้าง ในมือมีดาบและคบไฟ งะดินเดกับชะเวโบเดินออกมาจากเงามืด
“มาแล้วหรือ”
องครักษ์หญิงคุกเข่าทำความเคารพ
“ท่านงะดินเด”
“ได้ของมาหรือเปล่า”
องครักษ์หญิงมอบดาบที่ห่อผ้าก่อนจะส่งให้ งะดินเดรับไปแล้วเปิดดูเห็นเป็นดาบของบาเยงโบ งะดินเดพินิจดูอย่างพอใจ
“หมดหน้าที่เจ้าแล้ว...กลับไปได้”
“ท่านลืมอะไรไปหรือเปล่า”
งะดินเดยิ้ม
“นั่นสิข้าเกือบลืมไป...ชะเวโบ”
งะดินเดสั่งชะเวโบให้ทำอะไรบางอย่าง ชะเวโบมององครักษ์หญิงแววตากร้าว
อิระวดีเดินงุ่นง่านอยู่ในห้องบรรทมในใจคิดถึงยาแก้พิษ นางกำนัลถือห่อผ้าใส่พานเข้ามาหา
“นั่นอะไร”
“ไม่ทราบเพคะ มีคนเอามาให้บอกว่าจากองครักษ์หญิง”
อิระวดีดีใจแล้วสั่งนางกำนัล
“ออกไปได้แล้ว”
นางกำนัลออกไป อิระวดีรีบแก้ห่อผ้าดู แล้วก็ต้องตื่นตระหนกและหวาดกลัวสุดขีดเมื่อเห็นสิ่งของในห่อผ้า!
จบตอนที่ 22