มารกามเทพ ตอนที่ 5
วันต่อมา ขณะที่พลอยเข็นรถเข็นเข้ามาในห้องโถงบ้านเชิงเขา ได้ยินเสียงของน้ำหนึ่งดังแว่วมาเหมือนคนนอนละเมอ
“อย่า..พี่เพชร...น้ำหนึ่งรักพี่เพชร”
พลอยค่อยๆ เข็นรถเข็นเข้าไปดูใกล้ๆ เห็นน้ำหนึ่งนอนหลับสนิทอยู่บนโซฟากลางห้องโถง ละเมอออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว ระคนเจ็บช้ำ เนื้อตัวสั่นเทา
น้ำหนึ่งครางเบาๆ “อย่าพี่เพชร...อย่าทำน้ำหนึ่ง...น้ำหนึ่งรักพี่เพชร”
พลอยมองน้ำหนึ่งด้วยสายตาแห่งความเคียดแค้น และเกลียดชัง ระหว่างนั้นมีเสียงฝีเท้าย่ำมาจากด้านหลังเบาๆ พลอยหันไปมอง เห็นเพชรเดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบย่อม เพชรไม่ได้มองพลอย แต่สายตามองไปที่น้ำหนึ่ง แววตาของเพชรบ่งบอกถึงความเวทนา สงสาร
แต่ดวงตาของพลอยที่มองมายังเพชรมีความเสียใจ ไม่พอใจ ก่อนที่พลอยจะเลื่อนรถเข็นออกไป ดวงตา แข็งกร้าว
ที่แท้ น้ำหนึ่งหลับฝันไปว่า เพชร ข่มเหง
บ้านเชิงเขาด้านนอก เห็นบรรยากาศธรรมชาติสดชื่น สวยงาม พลอยเข็นรถเข็นออกมา
ขณะที่เพชรเดินตาม เพชรจับด้านหลังรถเข็น พลอยเลื่อนตัวออกห่างบอกน้ำเสียงหมางเมิน
“ที่รีบกลับมาเพราะห่วงมันใช่มั้ย”
เพชรเงียบ ไม่กล้าตอบ เพราะหากตอบไปพลอยก็โกรธ แต่พลอยกลับถามคาดคั้นด้วยเสียงแข็งยิ่งขึ้นไปอีก
“พี่ถามว่าใช่มั้ย”
“ผมห่วงแม่ ห่วงพี่พลอย กลัวว่าไอ้เกรียงศักดิ์มันจะส่งคนมาตามน้ำหนึ่ง ที่นี่”
พลอยบอกเสียงเข้ม “ไม่จริง....พี่มองดูสายตาเพชรก็รู้...เพชรห่วงนังเด็กนั่น สงสารนังเด็กนั่น ใจ
เพชรอ่อนทันทีที่รู้ว่ามันรักเพชร”
เพชรปฏิเสธในท่าทีลังเล “ไม่นะครับพี่พลอย”
พลอยไม่ฟัง บอกเสียงสะอื้นน้ำตาไหลริน ทั้งเสียใจ และน้อยใจ
“พี่ไม่เชื่อ...บอกแล้วไง...พี่มองตาเพชรก็รู้...เพชรไม่สนใจด้วยซ้ำว่าพี่เป็นอะไร รู้สึกยังไง” พลอยถามรัวเร็ว “สายตาเพชรมีแต่คำถาม ทำไมมันถึงมานอนตรงนั้นแทนที่จะเป็นห้องเพชร พี่บอกให้ก็ได้...มันรู้ความจริงหมดแล้วเรื่องพ่อของมันทำเลวทำชั่วยังไง แล้วมันก็ทำใจไม่ได้ มันเป็นลม...รู้ไว้...ใจจริงพี่อยากจะทิ้งให้มันนอนอยู่ตรงนั้น แต่แม่ แม่เป็นคนพามันเข้ามา แม่เป็นคนให้มันนอนตรงนั้น ไม่งั้นมันก็...”
พลอยจะพูดต่อว่า..มันก็นอนอยู่ตรงนั้น แต่พูดไม่ทันจบเพชรสวนขึ้น
“ผมไม่ได้สนใจเค้าเลยว่าเค้าจะเป็นยังไง ผมห่วงแต่แม่ ห่วงพี่พลอย”
“ห่วง..เพชรห่วงพี่...” พลอยร้องไห้สะอึกสะอื้น “งั้นเพชรก็ต้องรู้...ลูกไอ้เกรียงศักดิ์ มันเห็นสภาพน่า
สมเพชของพี่...” จู่ๆ พลอยก็คลั่งกรี๊ดขึ้นมาอีก “มันเห็นพี่ง่อยเปลี้ยเสียขา มันเห็นพี่พิกล พิการ พี่ล้มลุกคลุกคลานอยู่กับพื้น...มันเห็นสภาพทุเรศทุรังของพี่หมดแล้ว พี่อายนะเพชร พี่อาย”
เพชรกอดพลอยเอาไว้แล้วปลอบ “มันไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยครับพี่พลอย”
“แต่พี่อาย...พี่อาย..ได้ยินมั้ยเพชร พี่อาย”
พลอยสะอื้นฮักๆๆ ท่าทีเสียใจหลือแสน พยายามเรียกร้องความสงสารจากเพชรสุดขีด เพชรนิ่ง สายตาสับสน และพลอยก็รับรู้ถึงความรู้สึกนั้น ถอนตัวออกจากเพชร มองจ้องหน้า
“แต่เพชรคงไม่อาย เพราะเพชรไม่ใช่พี่ ขนาดพ่อยัยน้ำหนึ่งตามไล่ล่า เพชรยังไม่คิดจะทำอะไร เพชรไม่คิดทำอะไร” น้ำเสียงของพลอยฟังดูน่าสงสารแต่ตาวาวโรจน์ขณะพูด “มันก็จริง...ถ้ามีใครซักคนที่รักเรา เราจะทำร้ายเค้าได้ยังไง?” พูดมาถึงตรงน้ำพลอยก้มหน้า เหมือนทำใจได้ “ได้...เพชรจะทำยังไงก็แล้วแต่เพชร พี่ก็จะอยู่ในโลกแห่งความทุกข์ของพี่ต่อไป”
จากนั้นพลอยค่อยๆ เข็นรถออกไป แต่หางตายังแอบชำเลืองมองเพชร ยิ่งเห็นเพชรยืนนิ่ง สายตาของพลอยก็มีแต่ความโกรธแค้นล้นใจ
เพชร เครียดจัด สับสน และว้าวุ่นใจ ไม่รู้จะทำยังไงดี?
ส่วนน้ำหนึ่งค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา น้ำหนึ่ง ตกใจ งุนงง เห็นตัวเองนอนอยู่บนโซฟา น้ำหนึ่งกวาดสายตามองไปรอบๆ เริ่มประมวลเหตุการณ์ ตั้งแต่วิ่งเตลิดหนีไป และหมดสติ น้ำหนึ่งคิดในใจ
“แปลว่า...ตะกี้เราแค่ฝันไป”
เพชรเดินพรวดเข้ามา น้ำหนึ่งสะดุ้งโหยง
“พี่เพชร” ลุกพรวดถอยหลังกรูด ท่าทีหวั่นกลัว
เพชรมองน้ำหนึ่ง ใจหนึ่งก็เวทนา แต่พอคิดถึงพลอย นึกถึงเกรียงศักดิ์ เพชรก็หน้าตาดุดัน
“เธอรู้แล้วใช่มั้ย ความจริงมันคืออะไร”
น้ำหนึ่งเสียใจสุดๆ “พี่เพชร...หลอกน้ำหนึ่งให้รัก...เพื่อต้องการแก้แค้น”
เพชรนิ่งหันหน้าหนีไปทางอื่น กลัวน้ำหนึ่งจะเห็นว่าตัวเองเสียใจ น้ำหนึ่งถาม
“แต่มันยุติธรรมสำหรับน้ำหนึ่งเหรอคะ? น้ำหนึ่งไม่เคยรู้ด้วยซ้ำ ว่าคุณพ่อกับพี่พลอยรู้จัก
กัน น้ำหนึ่งไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าพี่เพชรกับพี่พลอยเป็นพี่น้องกัน แต่ที่น้ำหนึ่งรู้...น้ำหนึ่งถูกหลอกใช้ น้ำหนึ่งเป็นแค่เหยื่อ เหยื่อ ของความแค้น” น้ำหนึ่งเปลี่ยนเสียงเป็นกร้าวแข็งขณะพูโประโยคต่อมา “และทุกคนที่นี่ต่างยัดเยียดให้คุณพ่อเป็นคนเลว”
“ก็พ่อเธอมันเลวจริงๆ”
น้ำหนึ่งตบหน้าเพชรอย่างแรง จนหน้าหัน เพชรโกรธจัด
“น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งโกรธเถียง “ถึงน้ำหนึ่งจะรักพี่เพชร...แต่จะให้พี่เพชรมายืนด่าคุณพ่อต่อหน้า น้ำหนึ่งไม่
ยอมค่ะ”
“แล้วเธอจะทำอะไรฉัน”
“ปกป้องศักดิศรีของคุณพ่อทุกอย่าง”
“ปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองให้ได้ก่อนเถอะน้ำหนึ่ง”
เพชรหยัน แล้วอุ้มน้ำหนึ่งจนลอยหวือ น้ำหนึ่งร้องกรี๊ด
“ปล่อยนะพี่เพชร ปล่อย..ปล่อยน้ำหนึ่ง”
“ไม่ปล่อย...พี่พลอยถูกพ่อเธอข่มเหงรักแกยังไง เธอก็ต้องถูกฉันทำยังงั้นน้ำหนึ่ง”
เพชรอุ้มน้ำหนึ่งไปที่ห้องนอนตัวเอง น้ำหนึ่งทั้งร้องทั้งดิ้นทั้งผลัก น้ำหนึ่งผลัก จนตัวเองหล่นลงพื้น แล้วเพชรค่อยลาก ค่อยอุ้มขึ้นไปใหม่
ทับทิมได้ยินเสียงร้องกรี๊ดๆ ของน้ำหนึ่งก็วิ่งออกมาดู เห็นเพชรอุ้มน้ำหนึ่งตรงไปที่ห้อง แล้วปิดประตูดังโครม วูบแรกทับทิมรู้สึกตกใจ ก่อนเปลี่ยนเป็นยิ้มหยันขณะคิดในใจ
“เธอต้องชดใช้ทุกอย่างแทนพ่อเธอ น้ำหนึ่ง”
ส่วนเพชรโยนน้ำหนึ่งลงบนเตียง ก่อนโถมตัวลงมาหา น้ำหนึ่งร้องกรี๊ด
“อ๊าย...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ปล่อย”
“ไม่”
เพชรพูดจบก็ปลุกปล้ำจูบ ซุกไซร้ทั่วใบหน้า น้ำหนึ่งผลักออกอย่างแรง ทั้งโกรธ ทั้งเกลียด แต่ร่างของเพชรไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย น้ำหนึ่งงับเข้าที่หัวไหล่ของเพชรอย่างแรง เพชรร้องลั่น
“โอ๊ย”
น้ำหนึ่งกัดไม่ปล่อย ไม่เหลือแล้วอารมณ์รัก รู้แต่ตอนนี้โกรธ เกลียดเพชรอย่างที่สุด
“น้ำหนึ่ง”
เพชรผลักน้ำหนึ่งออกอย่างแรง น้ำหนึ่งลอยหวือ เซไปติดกระแทกหัวเตียง ร้องอย่างเจ็บปวด
“โอ๊ย”
เพชรจะโถมเข้ามา แต่น้ำหนึ่งคว้าโคมไฟขึ้นมากำแน่นไม่ยอม
“ฉันไม่รู้เรื่องพ่อฉันกับพี่สาวคุณ และฉันไม่มีทางชดใช้อะไรทั้งนั้น แต่ถ้าคุณเข้ามา...ฉันสู้ตาย”
น้ำหนึ่งมองเพชรตาวาว ไม่เหลือแล้วความอ่อนหวานน่าสงสาร เพชรมองน้ำหนึ่งอึ้ง คาดไม่
ถึง ขณะพูดออกมา
“ถ้าคิดว่าจะสู้แรงฉันได้...ก็เอา
พูดจบเพชรก็โถมเข้ามา น้ำหนึ่งฟาดโคมไฟในมือกะใส่หัวเพชร แต่เพชรหลบฉาก แล้วปล้ำน้ำหนึ่งลงบนเตียง น้ำหนึ่งร้องลั่น
“คุณว่าพ่อฉันเลว...แต่สิ่งที่คุณทำกับฉัน...มันก็เลวพอๆ กัน”
“ฉันไม่สน...ฉันรู้แค่ว่า...เธอต้องมีสภาพเดียวกับพี่ฉัน น้ำหนึ่ง”
เพชรโถมตัวจูบน้ำหนึ่ง แต่น้ำหนึ่งสู้ตาย มือของเพชรกระชากเสื้อน้ำหนึ่ง ก่อนจะโยนหวือเหวี่ยงไปแบบไร้ทิศทาง ตามมาด้วยเสื้อของเพชร ที่ถูกโยนตามมาในเวลาไล่เลี่ยกัน
พลอยเข็นรถมาอยู่ที่มุมหนึ่งของบ้านเชิงเขา มือที่กำพนักรถเข็นเกร็งแน่น คับข้อง ขุ่นเคืองแค้นใจ ดวงตาของพลอยวาวโรจน์ ริมฝีปากบิดเบี้ยวโกรธ ส่วนที่ด้านหลัง พจนีย์เดินเข้ามา มองท่าทางของพลอย ก็รู้...ว่าพลอยรู้สึกอย่างไร พจนีย์ถามเสียงอ่อนหวาน
“พจน์ไม่รู้หรอกนะคะว่า ทำไมพี่พลอยถึงเกลียดผู้หญิงคนนั้น”
พลอยสะดุ้ง เหลียวขวับ พยายามปรับสีหน้าปกติ ขณะที่พจนีย์พูดประจบเอาใจ
“แต่พจพร้อมจะทำทุกอย่าง ที่จะทำลายผู้หญิงคนนั้นแทนพี่พลอยเอง”
พลอยมองพจนีย์เขม็ง พจนีย์มองประจบ สายตาบอกว่าพร้อมทำทุกอย่าง พลอยมองพจนีย์
อย่างพอใจ ดวงหน้าปรากฏรอยยิ้มบางๆ ก่อนบอกด้วยท่าทีนิ่งๆ
“งั้น..พจน์ก็ต้องทำทุกอย่าง อย่างที่คนเป็นเมียจะต้องทำ”
พจนีย์เนื้อเต้นที่พลอยไฟเขียว ยิ้มอย่างดีใจ “พี่พลอยพูดจริงเหรอคะ”
“พี่เคยบอกพจน์แล้วไง พี่ไม่เคยพูดเล่น”
“งั้นพจน์ก็จะแสดงความเป็นเมียของพี่เพชรให้สมบาทเลยล่ะค่ะ”
พจนีแอบยิ้มพอใจ ฝันเฟื่องว่าจะได้เป็นเจ้าของเพชรจริงๆ พลอยเองก็ยิ้ม...ยิ้มอย่างคนเป็นต่อ เหนือกว่า
ทับทิมเดินเข้ามาบอก “รอมานาน...ก็จัดเต็มแล้วกัน พจนีย์”
“งั้น..พจน์ก็ซ้อมไว้ก่อนนะคะ...” พจนีย์ทำเสียงระรื่นกับทับทิม “คุณแม่ขา...” แฃล้วหันมาทางพลอย "คุณพี่ขา...ส่วนพี่เพชร...ก็..คุณผัวขา”
พลอยกับทับทิมมองหน้าพจนีย์อย่างไม่พอใจ แต่พจนีย์ยิ้มหวาน เอาจริงมาก
เพชรพยายามปลุกปล้ำน้ำหนึ่งที่อยู่ใต้ผ้าห่ม ช่วงบนที่พ้นชายผ้าออกมาของน้ำหนึ่ง
เปลือยปล่า น้ำหนึ่งกอดผ้าห่มแน่น ร้องไห้โฮๆ รู้ว่าสู้ไม่ได้ เพชรชะงัก น้ำหนึ่งพูดเสียใจ
“ถ้าฉันสู้คุณ...ฉันก็คงตายเปล่า...ตาย พร้อมกับความน่าสมเพช เวทนา ของผู้หญิงที่ถูกข่มขืน”
เพชรสลดถามเสียงอ่อนลง “น้ำหนึ่งรักพี่ไม่ใช่เหรอ”
“พี่เพชรดูละครมากไปรึเปล่าคะ...นางเอกถูกพระเอกปล้ำ ได้แต่ร้องกรี๊ดๆ สุดท้ายก็โอนอ่อนผ่อนตาม ตื่นขึ้นมาร้องไห้กระซิกๆ รักกัน แฮ้ปปี้เอ็นดิ้ง”
เพชรหลบตาน้ำหนึ่ง รู้สึกละอายใจ น้ำหนึ่งมองหน้าเพชรพูดต่อ
“ชีวิตจริง ไม่มีผู้หญิงคนไหน ยินดีมีความสุขกับการที่ถูกคนที่ตัวเองรัก ข่มเหงรังแกหรอกค่ะ...ถ้ามีความเป็นลูกผู้ชายอยู่บ้าง ก็สำนึกด้วยนะคะ สิ่งที่พี่เพชรกำลังทำ มันเลวร้ายแค่ไหน”
จู่ๆ ประตูเปิดผลัวะเข้ามา เพชรกับน้ำหนึ่งหันไปมอง สองคนเห็นพจนีย์ยืนจังก้าอยู่
พจนีย์ก็เห็นน้ำหนึ่งช่วงบนเปลือย กอดผ้าห่มแน่นร้องไห้ อยู่ข้างๆ เพชรที่ด้านบนเปลือยเหมือนกัน พจนีย์มองน้ำหนึ่งเกลียด ถลันเข้ามาจิกผม ตบตี
“งั้นเธอก็สำนึกด้วยนะน้ำหนึ่ง สิ่งที่เธอทำเลวร้ายแค่ไหน” พจนีน์จิกหัวน้ำหนึ่งตบเต็มแรง
เพชรตกใจมาก ถลันเข้ามาห้าม “อย่าพจน์”
พจนีย์ผลักเพชรออก “พี่เพชรอย่ามาห้าม...” ถลันเข้าหาน้ำหนึ่งอย่างสมบทบาท “ไม่ได้ทาคาลาไมน์รึไง ถึงได้ชอบแย่งสามีคนอื่น หน้าด้าน”
“ฉันไม่ใช่...” น้ำหนึ่งยังพูดไม่จบคำพจนีย์สวนทันทีด้วยเสียงดังมากๆ
“ยังจะเถียงว่าไม่ใช่....เธอลองดูมั้ย ถ้าทุกคนได้เห็นเธออยู่กับพี่เพชรในสภาพนี้เค้าจะคิดกันยังไง”
ขาดคำพจนีย์ก็ควักมือถือออกมาถ่ายคลิป
ด้านพลอยกับทับทิมที่อยู่อีกห้องถัดไปได้ยินเสียงเหตุการณ์ สองคนยิ้มสาแก่ใจ
ส่วนน้ำหนึ่งกอดผ้าห่มแน่นตื่นตกใจ ขณะที่เพชรกระโจนไปแย่งมือถือจากพจนีย์
“อย่านะพจน์ หยุด”
พจนีย์เบี่ยงตัวออก ไม่ยอมหยุดถ่ายคลิปแต่ตะโกนเสียงดัง
“อย่าค่ะพี่เพชร อย่ามาห้าม คนทั้งประเทศจะได้รู้...ว่าลูกสาวรัฐมนตรีเกรียงศักดิ์ หน้าด้านเป็นได้แค่เมียน้อยเมียเก็บชาวบ้าน”
น้ำหนึ่งตกตะลึงหน้าซีดเผือด ขณะที่พจนีย์วิ่งออกไปพร้อมคลิป เพชรมองน้ำหนึ่ง ทั้งสงสารทั้ง เสียใจ น้ำหนึ่งนิ่งอึ้ง น้ำตาไหลเป็นทาง ถามเพชรเสียงสั่น
“นี่ใช่มั้ย คือสิ่งที่คุณต้องการ”
เพชรนิ่งอึ้ง ไม่รู้จะบอกน้ำหนึ่งยังไง น้ำหนึ่งพูดต่อ
“รู้ไว้นะคะสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตน้ำหนึ่ง คือการไม่เชื่อพ่อแม่ แต่หลงเชื่อพี่เพชร...” น้ำหนึ่งเสียงเครือมากขึ้นขณะพูดถ้อยคำต่อมา “นี่ใช่มั้ยที่พี่เพชรต้องการ...”
น้ำหนึ่งสุดกลั้น ร้องไห้โฮๆ ออกมา เพชรมองน้ำหนึ่งอย่างเวทนา ยิ่งรู้สึกผิด เวทนา
พจนีย์วิ่งมาหาพลอยอย่างลิงโลด
“คลิปค่ะพี่พลอย”
พจนีย์ยื่นมือถือให้ พลอยหยิบมือถือมาเปิดคลิปดู เป็นภาพที่พจนีย์ด่าน้ำหนึ่งที่อยู่ในสภาพเกือบเปลือย ว่าเป็นเมียน้อย พลอยยิ้มกับทับทิมอย่างพอใจ บอกตัวเอง ในใจ
“นี่ล่ะ คือสิ่งที่ฉันต้องการ”
ทับทิมบอก “ทำดีมากพจนีย์”
“นี่แค่เบาๆ ค่ะ”
ทับทิมยิ้มขำ “แล้วถ้าหนักๆล่ะ”
“พจน์ก็ต้องเป็นเมียพี่เพชรจริงๆ”
ทับทิมกับพลอยหันขวับมามองพจนีย์ เห็นพจนีย์ยิ้ม กิริยามุ่งมั่นและเอาจริงมาก
เพชรเดินหน้าเครียด กลุ้มใจสิ่งที่พจนีย์ทำ พจนีย์เดินมาโอบกอดทางด้านหลัง เพชรสะดุ้งหันมา
“พจทำอะไร”
“ก็ทำหน้าที่เมียของพี่เพชรน่ะสิคะ”
“พจน์ไม่ใช่”
พจนีย์ถลันมาด้านหน้า เข้ามาเอานิ้วแตะปากเพชร
“จุ๊ๆๆๆ อย่าพูดเสียงดังไปสิคะพี่เพชร....เดี๋ยวใครได้ยิน...ไหนๆ พวกเราก็ลงทุนขนาดนี้แล้ว พี่เพชรต้องลงทุนเล่นให้สมบทบาทหน่อย”
พจนีย์สวมกอดเพชรอีกที ก่อนยื่นหน้าเข้าไปจูบที่แก้มกระซิบเสียงแผ่ว
“โดยเฉพาะบทบาทการเป็นผัวเมีย”
พลอยเข็นรถเข็นมาด้านหลัง จ้องมองพจนีย์เขม็ง อารมณ์เสีย เริ่มไม่อยากได้
พจนีย์เป็นน้องสะใภ้ เพชรพูดนิ่งๆ
“พี่เล่นได้นะ...ถ้าความจริงพจน์ไม่ได้คิดอะไรกับพี่”
พจนีย์ถอนตัวออกมามองเพชรงงๆ ขณะที่เพชรหนักใจ
“แต่นี่....พี่รู้...ว่าพจน์รักพี่....พี่ไม่อยากทำให้พจน์เสียหาย ไม่ว่าสถานะไหนก็ตาม”
เพชรจะเดินหนี พจนีย์คว้าตัวเพชรเอาไว้ มองหน้าออดอ้อนขณะบอก
“แต่ถ้าพจน์เต็มใจล่ะค่ะ?”
พจนีย์กับเพชรประสานสายตากัน เพชรมองพจนีย์ไม่เข้าใจ พจนีย์มองเพชร สายตาบ่งบอก
ความรู้สึกชัดเจน น้ำเสียงอ่อนหวาน
“พจน์พร้อมจะเป็นเมียแต่งของพี่เพชรจริงๆ ค่ะ”
พจนีย์โน้มตัวลงจูบเพชรอย่างแผ่วเบา เพชรตัวแข็งทื่อ พลอยมองพจนีย์ตาวาว ไม่พอใจมาก
รจนาถาม ตะกุกตะกัก แอ๊บเหนียมอายสุดขีด
“อะไรนะคะ พี่พจน์...พี่พจน์...” ทำเป็นไม่กล้าพูด
พจนีย์พูดออกมาเอง “เออ...พี่จูบพี่เพชร...อะไรของแกรจนา แค่คำว่าจูบก็ไม่กล้าพูด”
“ก็รจอาย...” รจนาทำหน้าเขินอาย
พจนีย์หัวเราะ “แรกๆ พี่ก็อาย...แต่พอพี่ได้” พจนีย์พูดแทบจะไม่ออกเสียง “จูบพี่เพชร...พี่ลืมทุก
สิ่งทุกอย่าง แบบที่เค้าพูดว่า ลืมโลกไปเลยล่ะ”
รจนาทำท่าอายมาก “พี่พจน์พูดอะไรน่าเกลียด รจทนฟังไม่ได้แล้วค่ะ”
รจนาสะบัดหน้าวิ่งเข้าบ้านไป พจนีย์หัวเราะขำ
“เด็กหนอเด็ก แค่นี้ก็ทนฟังไม่ได้...กำลังจะเล่าต่อซะหน่อย หลังจากนั้น พี่เพชรผลักพี่แทบ
หัวคะมำ”
พจนีย์ยิ้ม ขำตัวเอง
รจนาวิ่งเข้ามาในห้อง ล็อกประตู คว้ามือถือมาเปิดดูคลิปที่พจนีย์แอบถ่ายเพชรเอาไว้ เห็นพจนีย์มองเพชรอย่างหลงใหลได้ปลื้ม เสียงของพจนีย์ดังก้อง
“แต่พอพี่ได้ จูบพี่เพชร...พี่ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แบบที่เค้าพูดว่า ลืมโลกไปเลยล่ะ”
“รจอยากลืมโลกบ้างจังเลยค่ะ”
รจนาได้แต่มองเพชร อย่างคนแอบรักแอบหลง แต่ไม่กล้าแสดงออก
ขณะที่นวลทำกับข้าวอยู่ในครัว โดยมีตาหวานเป็นลูกมือ นวลเดินมาชำเลืองมองมือถือเครื่องเก่าที่วางอยู่บนโต๊ะเตรียมอาหารเป็นระยะ แต่ไม่มีคนโทร.เข้ามา นวลเดินไปทำกับข้าวต่อ ท่าทางไม่สบายใจ
ตาหวานชำเลืองมองโทรศัพท์ ทำหน้ายุ่ง นวลเดินกลับมาชำเลืองมองมือถืออีก ที่มือถือไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ นวลเดินกลับไปทำกับข้าวต่อเซ็งๆ ตาหวานชะโงกหน้ามามองมือถือ เขม้นตามอง
“5 6 9…”
นวลหันมามองตาหวานงงๆ ตาหวานมองมือถืออีก พึมพำ
“เอ๊...หรือ 8 3 2”
“อะไรของแกตาหวาน”
“ก็ป้านวลมองหาเลขที่ออกไม่ใช่เหรอ? ตาหวานเลยช่วยดูไง”
“บ้า” นวลเดินมาคว้ามือถือ “ป้าดู...เพราะอยากรู้...คุณน้ำหนึ่งจะโทร.มาหรือเปล่า”
ตาหวานเกาหัวยิกๆ “เอ๊า! ถ้าพี่น้ำหนึ่งโทร.มาก็ต้องมีเสียงเรียกเข้าสิป้า ป้าจะเดินมาดูทำไมให้
เสียเวลา”
นวลลดเสียง “เผื่อคุณน้ำหนึ่งไม่กล้าโทร.มาไง...แต่อาจจะส่งข้อความมาแทน”
“ป้า..พี่น้ำหนึ่งกำลังมีความสุขอยู่กับพี่คนนั้น....พี่น้ำหนึ่งไม่โทร.มาหรอก ป้าไม่ต้องห่วง”
“ไม่ห่วงเลยเหรอว่าท่านจะเป็นยังไง? ข่าวก็ออกกันโครมๆ ว่าท่านไม่สบาย”
ตาหวานทำท่าคิด “พี่น้ำหนึ่งอาจจะกำลังฮันนีมูนอยู่ก็ได้”
นวลพึมพำ “ฮันนีมูนกับคนที่มีเมียแล้วนี่นะ”
ตาหวานเอียงหน้าเข้ามา “หือ?”
นวลเอามือผลักหน้าออก “ไม่ต้องสอดรู้สอดเห็นขนาดนั้นก็ได้”
“ก็ป้านวลพูดแปลก พี่น้ำหนึ่งน่ะนะ กำลังฮันนีมูนกับคนที่มีเมียแล้ว”
นวลตกใจมาก “ตาหวาน”
นวลรีบเอามือมาอุดปากตาหวาน ดาราณีเดินเข้ามา นวลสะดุ้งเฮือก รีบบอก
“อาหารจวนเสร็จแล้วค่ะคุณหญิง”
“ฉันไม่ได้มาตามอาหาร ฉันมีเรื่องอยากจะถามนวล”
“เรื่องอะไรคะ”
นวลมองดาราณี ใจเต้นไม่เป็นส่ำ
ดาราณีเดินนำออกไป ท่าทางมีเรื่องกังวลใจ นวลเดินตามอย่างนอบน้อม ดาราณีถาม
“นวลบอกฉันว่า....พี่สาวของนายเพชร เสียงเหมือนพลอย”
นวลเลิ่กลั่ก “ค่ะ...แต่นวลก็ไม่แน่ใจนะคะ....แค่รู้สึกว่าเสียงเค้าคุ้นๆ คล้ายๆเสียงของพลอย”
“แล้วนวลคิดว่าเป็นไปได้มั้ย? ที่พี่สาวของนายเพชรจะเป็นพลอย?”
นวลหน้าซีดเผือด มองดาราณีสงสารบอกอย่างสงสาร
“นวลอาจจะแค่หูฝาด คิดไปเอง เพราะที่ผ่านมา...พลอยก็ไม่เคยพูดถึงพี่น้องที่ไหน ขอโทษค่ะถ้านวลทำให้คุณหญิงไม่สบายใจ”
“ฉันก็ไม่สบายใจจริงๆนั่นแหละ คิดมาก ห่วงไปสารพัด ไม่เข้าใจเลย ทำไมน้ำหนึ่งถึงได้หลงรักนายเพชร ถึงขนาดทำตัวตกต่ำขนาดนั้น”
“คุณน้ำหนึ่งยังเด็ก” นวลบอก
ดาราณีเสียงเครือสั่น รู้สึกโกรธลูกสาว “หนีตามผู้ชายได้ ไม่ใช่เด็กแล้วนะนวล”
นวลตกใจ “คุณหญิง”
“ต่อหน้านวลนะ ฉันถึงได้กล้าพูดอย่างนี้ ไม่งั้น...ฉันก็คงได้แต่ทำหน้าชื่นอกตรม” ดาราณีนิ่งงันไป
นิด “แล้วถ้านายเพชร...เป็นน้องชายของพลอยจริงๆ ฉันยังคิดไม่ออกเลยว่าฉันจะทำยังไง”
ตกตอนกลางคืน เกรียงศักดิ์ที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บที่ขา ตวาดดาราณี สองคนอยู่ในห้อง นอน
“พูดอะไรคุณหญิง เหลวไหล”
“ฉันก็แค่ลองคิดดู....พลอยอาจจะส่งน้องชายมาหลอกน้ำหนึ่ง”
เกรียงศักดิ์มองอย่างสงสาร “คุณหญิงอาจจะห่วงลูกมาก เท่าที่ผมรู้...พลอยเป็นลูกคนเดียว เค้า
ไม่มีพี่น้องที่ไหน อีกทั้งพลอยกับไอ้เพชร หน้าตาก็ไม่ได้เหมือนกันแม้แต่นิดเดียว”
“พี่น้องหน้าตาอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้”
“นวลพูดให้คุณหญิงคิดมากไปจริงๆนั่นแหละ นอนเถอะ”
เกรียงศักดิ์ประคองดาราณีนอนลงบนเตียง ขณะบอก
“พลอยเค้าไปจากชีวิตเราแล้ว อย่าพูดถึงเค้าอีกเลย”
ปากบอกดาราณีอย่างนั้น แต่ดวงตาของเกรียงศักดิ์กลับมีความกังวลเข้ามาแทน
ท่ามกลางความมืด เกรียงศักดิ์หลบมุมออกมาโทรศัพท์
“ฉันอยากรู้ว่าประวัติของไอ้เพชรอย่างละเอียด ประวัติของพลอยประดับด้วย...แล้วก็อยากรู้...ตอนนี้พลอยประดับอยู่ที่ไหน? ด่วน”
เกรียงศักดิ์วางสาย ท่าทางกังวลอย่างเห็นได้ชัด
มารกามเทพ ตอนที่ 5 (ต่อ)
เช้าวันต่อมา พลอยถามเพชรในอาการงุนงง
“อะไร เพิ่งมาก็จะกลับ ไหนบอกว่า...ลาพักร้อนไปแล้ว”
“ผมกลัวไอ้เกรียงศักดิ์จะตามมาเจอครับ เลยจะหลบไปอยู่ที่อื่น” เพชรบอก
“ญาติเรามีมากมาย เพชรไปอยู่บ้านลุงกลั่นท้ายสวนก็ได้...ที่นั่นเงียบ ร้าง ไอ้เกรียงศักดิ์ไม่มีทางตามเจอ พายัยน้ำหนึ่งไปอยู่ด้วยก็ได้”
“พี่พลอย....ผมว่า...ปล่อยน้ำหนึ่งไปเถอะ” เพชรตัดสินใจพูดออกไป
“เพชร” พลอยฉุนกึก
“เค้าเสียหายมากพอแล้ว”
“แล้วมันเพียงพอกับที่พี่สูญเสียแล้วเหรอ?”
เพชรอึ้งพลอยว่าต่อ
“สิ่งที่น้ำหนึ่งมันเจอ...เทียบเท่าไม่ได้กับสิ่งที่พี่เจอแม้แต่นิดเดียว...ถ้าน้ำหนึ่งต้องชดใช้...มันต้องชดใช้ให้พี่ทุกอย่าง”
น้ำเสียงของพลอยนิ่งเย็น แต่ดูน่ากลัว
น้ำหนึ่งเดินหิ้วกระเป๋าออกมาจากด้านใน เป็นจังหวะเดียวกับที่เพชรเดินเข้าไป เพชรถาม
“จะไปไหน”
“กลับบ้าน”
เพชรห่วง “กลับยังไง”
“ ที่นี่กับกรุงเทพฯ...ถึงจะไม่ได้ใกล้กันมาก...แต่มันคงไม่ใช่เรื่องยากลำบากสำหรับน้ำหนึ่ง”
“ใช่...เรื่องแค่นี้ง่ายนิดเดียวสำหรับลูกสาวของท่านรัฐมนตรีเกรียงศักดิ์”
น้ำหนึ่งบอกเสียงขื่นขม “ขอบคุณค่ะที่ยังให้เกียรติ”
เพชรเยาะหยัน “เกียรติของเธอ ถูกทำลายลงหมดแล้ว”
น้ำหนึ่งมองด้วยสายตาตัดพ้อ เสียใจมาก “ค่ะ...ถึงไม่ใช่เรื่องจริง...แต่ถ้าคลิปนั่นหลุดออกไป คนทั้งประเทศก็ต้องเข้าใจว่าน้ำหนึ่งเป็นเมียน้อย เมียเก็บพี่เพชรอยู่ดี...และชื่อเสียงของคุณพ่อก็จะถูกทำลายลงอย่างย่อยยับ..ทั้งๆ ที่ความจริง...คุณพ่ออาจไม่ใช่คนผิด”
เพชรโกรธตะคอกใส่ “น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งน้ำตาไหลริน เพชรมองสงสาร น้ำหนึ่งย้อนถาม
“น้ำหนึ่งรู้ว่าพี่เพชรรักพี่พลอย...น้ำหนึ่งเองก็รักคุณพ่อ...พี่เพชรเชื่อพี่พลอย...น้ำหนึ่งเองก็อยากจะฟังคำอธิบายจากคุณพ่อ ว่าเรื่องมันเป็นยังไง?...ถ้ามันเป็นเรื่องจริง...น้ำหนึ่งพร้อมจะชดใช้...แต่ถ้ามันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด”
เพชรตะคอก “ไม่มีทางเป็นเรื่องเข้าใจผิด...พ่อเธอทำร้ายพี่ฉัน”
“แต่คุณพ่อที่น้ำหนึ่งรู้จัก ไม่ใช่คนเจ้าชู้ ไม่ใช่คนทำลายผู้หญิง”
พลอยเข็นรถเข็นเข้ามาด้านหลังได้ยินพอดี ตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธ รู้สึกเหมือน
ตัวเองถูกด่าว่าเป็นคนผิด
เพชรกระชากตัวน้ำหนึ่งเข้ามา
“งั้นก็แปลว่า...พี่พลอยให้ท่าพ่อเธอ”
พลอยยิ่งโกรธ เสียใจหนัก น้ำหนึ่งร้องไห้รีบแก้
“น้ำหนึ่งไม่ได้ว่าอย่างนั้น...เพียงแต่ถ้าเราฟังความสองข้าง ถ้าเราได้รู้ความจริง”
เพชรไม่ฟังให้จบ ตะคอกใส่อีก “ความจริงคือพ่อเธอทำร้ายพี่ฉัน”
“ไม่จริงค่ะ...คุณพ่อไม่เคยทำร้ายใคร”
“น้ำหนึ่ง”
“ให้น้ำหนึ่งกลับไปถามคุณพ่อนะคะ...ถ้าคุณพ่อยอมรับว่ามีสัมพันธ์กับพี่พลอยจริง...คุณพ่อทอดทิ้งพี่พลอย คุณพ่อทำให้พี่พลอยเจ็บปวด น้ำหนึ่งจะชดใช้ให้...แม้จะต้องเป็นการทำร้ายคุณแม่ น้ำหนึ่งก็ยอม”
พลอยเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี ยิ่งน้ำหนึ่งเทิดทูนครอบครัวตัวเองแค่ไหน พลอยยิ่งเจ็บ พลอยมองน้ำ
หนึ่งอย่างเกลียดชัง ส่วนเพชรเอ่ยขึ้นอีก
“แล้วเธอคิดว่าพ่อเธอจะยอมรับทุกอย่างกับเธอเหรอ”
น้ำหนึ่งมอง นิ่งอึ้ง เพชรพูดต่อ
“ไม่มีใครยอมรับความเลวร้ายของตัวเองได้หรอก น้ำหนึ่ง เพชรน้ำบุศย์ รวมทั้งพ่อเธอ!”
เพชรกับน้ำหนึ่งยืนจ้องหน้ากัน น้ำหนึ่งน้ำตาไหล ขณะที่พลอยค่อยๆ เคลื่อนรถเข็นห่างออกไป
มือถือของเกรียงศักดิ์ดังลั่น เกรียงศักดิ์ที่รอข่าวจากคนของตัวเองแทบกระโจนคว้ามือถือ
แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นเป็นชื่อพลอย ดาราณีเดินเข้ามา ถามอย่างสงสัย
“มีอะไรเหรอคะ”
“นักข่าว ผมไม่อยากรับ ขี้เกียจตอบคำถาม”
เกรียงศักดิ์กดสายทิ้งทันที ส่วนพลอยที่อยู่บ้าน โกรธมาก มือกำมือถือแน่น แน่นจนเกร็ง ดวงหน้าบิดเบี้ยว
“ดีแล้วค่ะ ตอนนี้ฉันก็ไม่อยากตอบคำถามใคร”
ดาราณีเดินออกไป เกรียงศักดิ์ยกมือถือขึ้นมามอง เห็นมิสคอลของพลอย เกรียงศักดิ์ทำท่าครุ่นคิดถึงเรื่องอดีต
ในห้องส่วนตัวภายในร้านอาหารวันนั้น พลอยนั่งก้มหน้าอยู่ต่อหน้าเกรียงศักดิ์ ที่บอกอ่อนโยน
“พลอยยังมีอนาคตอีกไกล ลืมฉันเถอะนะพลอย”
พลอยเงยหน้าขึ้นมามองทั้งน้ำตา “แต่พลอยรักท่าน พลอยอยากอยู่กับท่าน”
เกรียงศักดิ์ถอนหายใจเหนื่อยหน่าย
“เราพูดกันหลายครั้งแล้วนะพลอย มันเป็นไปไม่ได้...ฉันมีครอบครัวแล้ว”
“งั้น...ถ้าท่านไม่มีครอบครัว...เราก็อยู่กันได้ใช่มั้ยคะ”
เกรียงศักดิ์อ่อนใจมาก “มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว...ยังไงฉันก็เลือกครอบครัวฉัน”
พลอยหน้าสลด เกรียงศักดิ์รีบบอก
“แต่พลอยไม่ต้องห่วงนะ...ฉันยินดีดูแลพลอยทุกอย่าง ดูแลพลอยทุกเรื่อง”
“งั้นถ้าพลอยมีปัญหา...พลอยก็โทร.มาหาท่าน ติดต่อท่านได้ใช่มั้ยคะ”
“ได้สิพลอย สำหรับพลอยได้เสมอ...ฉันยินดีเป็นที่ปรึกษาให้พลอย ช่วยเหลือพลอยทุกเรื่อง ยกเว้น...ความสัมพันธ์แบบที่ผ่านมาของเรา มันต้องจบแค่นี้”
เกรียงศักดิ์พูดจริงจัง พลอยหน้าสลดเสียใจ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนที่พลอยจะถูกรถชน เหมือนเรื่องราวจะเลิกลากันด้วยดีแล้ว
แต่จริงๆ เกรียงศักดิ์ไม่รู้ตัวว่า พลอยไม่ยอมจบ!
เกรียงศักดิ์นั่งมองมือถือในมือ ด้วยสีหน้าครุ่นคิด กังวลเรื่องที่ดาราณีสงสัยเรื่องเพชรเป็นน้องพลอย เกรียงศักดิ์ตัดสินใจกดมือถือโทร.กลับไปหาพลอยทันที ในจังหวะเดียวกันนั้นพลอยมองโทรศัพท์เขม็ง ก่อนกดรับ
“พลอยนึกว่าท่านจะไม่โทร.กลับมาหาพลอยซะแล้ว”
เกรียงศักดิ์ดวงตามีแผน พยายามทำเสียงปกติ “โทร.สิ บอกแล้วไง ฉันมีเวลาให้พลอยเสมอ”
ดวงตาพลอยฉายแววไม่พอใจ เป็นสิ่งที่พลอยคิดได้ เกรียงศักดิ์ก็สนใจพลอยเกรียงศักดิ์ไม่ดี เกรียงศักดิ์ย้ำ
“แต่โทษที ตะกี้คุณหญิงอยู่ด้วย ฉันเลยไม่กล้ารับสาย” ถึงจะมีแผนแต่ก็ให้พลอยรู้ มีดาราณีและเกรงใจตลอด
พลอยโกรธมาก มองด้วยหางตาเห็นน้ำหนึ่งเดินมา ในระยะห่างพอควรพลอยยิ้มสมใจ แกล้งบอกเสียงอ่อนโยน
“ตอนแรกพลอยเป็นห่วง...ที่เห็นข่าวของท่าน..แต่ตอนนี้พลอยทราบว่า ท่านคงสบายดีแล้วแค่นี้นะคะ”
พลอยวางสายทันที แล้วเข็นรถเข็นเลื่อนออกไป เกรียงศักดิ์ร้องเรียกเบาๆกลัวคนได้ยิน
“พลอย..พลอย”
สัญญาณหายไป เกรียงศักดิ์กดสายโทร.หาพลอยออกไปอย่างขัดใจ
น้ำหนึ่งที่หิ้วกระเป๋าดวงหน้าเศร้า เต็มไปด้วยคราบน้ำตาเดินมา เสียงมือถือดังลั่น น้ำหนึ่งเดินผ่านไป แต่แล้วก็หยุด เมื่อเสียงมือถือดังไม่หยุด ความอยากรู้ทำให้น้ำหนึ่งถอยหลังกลับมามอง และเห็นชื่อเกรียงศักดิ์โทร.เข้ามาชัดเจน น้ำหนึ่งมองจ้องเขม็ง น้ำหนึ่งมองซ้ายขวาไม่เห็นใคร ไม่รู้ว่าพลอยหลบอยู่มุมหนึ่ง มองน้ำหนึ่งอยู่
น้ำหนึ่งกวาดสายตามองไปรอบๆ ท่าทีระวังตัว ก่อนหยิบมือถือขึ้นมารับ ลุ้น ระทึกใจเต้นโครมคราม
ด้านเกรียงศักดิ์ พยายามทอดเสียงหวานตะล่อม
“โธ่! พลอยจ๋า...อย่าเพิ่งงอนสิจ้ะ....พลอยก็น่าจะรู้...ถ้าคุณหญิงรู้ว่าฉันยังติดต่อกับพลอยจะเป็นเรื่องใหญ่”
น้ำหนึ่งช็อก อึ้ง ตกใจ พลอยยิ้มสาสมใจ ขณะที่เกรียงศักดิ์พยายามตะล่อมต่อ เสียงตะกุกตะกัก
“ฉันเป็นห่วงพลอยมากนะ...คิดถึง...แล้วก็อยากรู้....ตั้งแต่เราไม่ได้พบกัน พลอยเป็นยังไง”
น้ำหนึ่งน้ำตาไหล กลั้นสะอื้น ไม่คิดว่าพ่อจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เกรียงศักดิ์ได้ยินเสียงสะอื้นก็ตกใจ
“นี่พลอยร้องไห้เหรอ ไม่เอาน่าพลอย...คุณหญิงอยู่....ฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่” เกรียงศักดิ์เข้าเรื่องทันทีหลอกถาม “เอางี้ พลอยอยู่ที่ไหนบอกฉันมา...ฉันจะไปหาพลอยทันทีพลอยจะได้เชื่อ...ว่าฉัน...ยังรู้สึกเหมือนเดิมกับพลอย”
น้ำหนึ่งวางโทรศัพท์อย่างเดิม น้ำตาไหลริน ร้องไห้สะอึกสะอื้น ส่วนพลอยยิ้มสาแก่ใจ
ขณะที่เสียงของเกรียงศักดิ์ดังลอดออกมา
“พลอย...นี่พลอยยังฟังฉันอยู่รึเปล่า? บอกฉันมา พลอยอยู่ที่ไหน ฉันจะไปหาพลอย”
กระเป๋าในมือของน้ำหนึ่งร่วงลงพื้น น้ำหนึ่งร้องไห้โฮวิ่งออกไปทันที เกรียงศักดิ์ได้ยินแต่เสียง
ร้องไห้ ก็ยิ่งตกใจ
“พลอยๆๆๆ”
ดาราณีเดินกลับเข้ามา เกรียงศักดิ์จำต้องกดสายทิ้งทันที พลอยมองมือถือ เสียงสัญญาณดังออกมาว่าเกรียงศักดิ์วางสายไปแล้ว พลอยยิ้มพอใจ ค่อยๆ เข็นรถตามน้ำหนึ่งออกไป
น้ำหนึ่งวิ่งร้องไห้ออกมาล้มลงที่พื้นตรงด้านนอก เหมือนคนหมดแรง ร้องอย่างเสียใจอย่างที่สุด
พลอยมองสภาพน้ำหนึ่งพร้อมรอยยิ้ม ขณะเข็นรถเข้าไปถามน้ำหนึ่ง
“ไง...คุณพ่อที่แสนดีของเธอ”
น้ำหนึ่งหันขวับมามอง พลอยถามเย้ยหยัน
“ต้องให้ฉันเล่าให้ฟังอีกมั้ย? ว่าความสัมพันธ์ของฉันกับพ่อเธอมันขั้นไหน”
“ไม่...น้ำหนึ่งไม่อยากฟัง” น้ำหนึ่งเอามือปิดหูร้องไห้ “น้ำหนึ่งไม่อยากฟัง”
“แต่เธอต้องฟัง”
พลอยเลื่อนรถเข็นปรื้ดมาข้างตัวน้ำหนึ่งพร้อมตวัดมือน้ำหนึ่งที่ปิดหูออกอย่างแรง น้ำหนึ่งผงะ
พลอยจ้องน้ำหนึ่ง “พ่อเธอทำลายชีวิตฉัน ทำลายครอบครัวฉัน เธอรู้มั้ยน้ำหนึ่ง วันแรกที่แม่รู้ว่าฉันเป็นเมียน้อยเมียเก็บ แล้วกลายสภาพเป็นนังง่อย แม่เป็นยังไง”
น้ำหนึ่งมองพลอย ส่ายหน้า ไม่รู้...พลอยมองจ้องอย่างเกลียดชัง พูดไปเรื่อย
“แม่ล้มหัวฟาดพื้น ตื่นมาแทบจำอะไรไมได้ ส่วนฉันก็มีตราบาปเป็นนังง่อยที่แย่งผัวชาวบ้าน ทั้งๆ ที่ฉันเป็นฝ่ายถูกข่มเหงรังแก เพชรต้องถูกตามฆ่า” พลอยกระชากผมน้ำหนึ่ง “ได้ยินมั้ยน้ำหนึ่ง เธอต้องชดใช้ เธอต้องชดใช้”
น้ำหนึ่งร้องลั่น “อย่าพี่พลอย..เจ็บ..น้ำหนึ่งเจ็บ”
“ความเจ็บของเธอมันไม่เท่า ความเจ็บของฉัน”
พลอยกำผมน้ำหนึ่งแน่น ขณะที่อีกมือเตรียมจะเข็นรถเข็นไป ที่ด้านหลัง เพชรวิ่งออกมาเห็นร้องลั่น
“อย่าพี่พลอย”
เพชรวิ่งเข้ามา พร้อมๆ กับที่พลอยกระชากผมน้ำหนึ่งเข็นรถเข็นออกไป น้ำหนึ่งร้องกรี๊ดเจ็บปวด
ขณะที่เพชรคว้าตัวน้ำหนึ่งไว้ได้ทัน พลอยหันขวับตวาดลั่น
“เพชร”
น้ำหนึ่งร้องไห้โฮ เจ็บปวดทั่วหัว เพชรกอดประคองน้ำหนึ่งเอาไว้บอกพลอย
“ให้น้ำหนึ่งชดใช้วิธีอื่นเถอะครับ...อย่าเป็นวิธีนี้เลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ...” น้ำหนึ่งบอกกับพลอย “เพื่อทดแทนความผิดของคุณพ่อ...น้ำหนึ่งยอมพี่พลอยทุกอย่าง...พี่พลอยจะทำยังไงกับน้ำหนึ่งก็ได้ ขอเพียงพี่พลอยให้อภัย ในสิ่งที่คุณพ่อทำ”
“น้ำหนึ่ง”
“แค่นี้มันยังน้อยไปค่ะพี่เพชร กับสิ่งที่พี่พลอยต้องเจอ”
พลอยยิ้มพอใจ “เธอเป็นเด็กที่น่ารักมากน้ำหนึ่ง น่ารัก”
พลอยค่อยๆ เลื่อนรถเข็นเข้ามาเชยคางน้ำหนึ่ง ท่าทางหลอนๆ น้ำหนึ่งมองตามมือพลอย เนื้อตัวสั่น ลุ้นว่าพลอยจะทำอะไร ขณะเงยหน้าสบตา พลอยยิ้มแอ๊บดีแต่ดวงตาแอบร้าย
“ทำตัวดีๆ นะ....ทำตัวดีๆ...เอาความดีเข้าแลก...ซักวัน....ฉันจะให้อภัยเธอ”
พลอยยิ้มให้น้ำหนึ่งก่อนเข็นรถออกไป น้ำหนึ่งมองพลอยเนื้อตัวสั่น เพชรมองน้ำหนึ่งเวทนา
“เธอนี่มันโง่จริงๆ”
“แต่น้ำหนึ่งตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ ค่ะพี่เพชร...น้ำหนึ่งจะเป็นมือเป็นเท้าให้พี่พลอย..น้ำหนึ่งจะ
ดูแลพี่พลอยทุกอย่าง เอาความดีเข้าแลก จนกว่าพี่พลอยจะให้อภัย”
น้ำหนึ่งบอกในท่าทีจริงจัง เพชรมองเด็กสาวทั้งเวทนาและสงสาร
ตกกลางคืน ทับทิมยื่นเม็ดยาพร้อมแก้วน้ำให้พลอย
“ยาระงับประสาทกินซะ”
พลอยตาเขียว “พลอยไม่ได้เป็นบ้า พลอยไม่กิน” ดันยาออก
ทับทิมเสียงอ่อนแต่เข้ม มองเห็นใจ “แกต้องกิน”
พลอยพูดเสียงสั่น “พลอยบอกแล้วไงว่าพลอยไม่ได้เป็นบ้า”
ทับทิมมองลูกสาวอย่างเวทนา “แม่ก็ไม่เคยคิดว่าแกเป็นบ้า....แต่ที่แกต้องกิน แกจะได้หายเร็วๆ...” ถอนหายใจเหนื่อยล้า “ทุกวันนี้แกเครียดมากนะพลอย...แกไม่มีความสุขเลย”
“พลอยจะมีความสุขได้ยังไง? ในเมื่อพลอยยังไม่ได้แก้แค้น”
“แต่แกก็บอกนังเด็กนั่นเองไม่ใช่เหรอ? ให้มันเอาความดีชนะแก”
“แม่คิดว่าพลอยหมายความอย่างที่พูดเหรอคะ”
พลอยย้อนถามพร้อมรอยยิ้มหยัน ทับทิมมอง พลอยบอกอีก
“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกค่ะแม่....พลอยจะรอให้นังน้ำหนึ่งมันท้อง...ท้องไม่มีพ่อ...ถึงตอนนั้นไอ้เกรียงศักดิ์มันก็จะปฏิเสธไม่ได้ ว่าลูกสาวของมันขาวสะอาด ไม่มีมลทิน”
“แกคิดว่าเพชรจะทำเหรอ”
“พลอยมองตาก็รู้” พลอยบอกด้วยเสียงแฝงความขมขื่น “เพชรกับนังเด็กนั่นมีใจให้กัน ...แล้วซักวัน...”
“โอเค...ซักวัน...มันอาจจบลงอย่างที่แกคิด แล้วแกคิดเหรอว่าเพชรจะปล่อยนังน้ำหนึ่งเป็นของเล่นของแก”
“เพชรไม่ยอม...พจนีย์ก็ไม่ยอมเหมือนกันค่ะ”
พลอยเหยียดยิ้ม เหมือนจะรู้ล่วงหน้า ว่าพจนีย์จะทำอะไร
ด้านรจนานั่งดูคลิปของน้ำหนึ่งอยู่กับพจนีย์ ดวงตาของรจนาสาแก่ใจ แกล้งถาม
“พี่พจน์ร้ายจัง ยังกับสก๊อยแน่ะ”
“พี่จำเป็นต้องทำ ไม่งั้นยัยนั่นจะกลัวเหรอ”
“เป็นผู้หญิงทำเรื่องแบบนี้น่าอาย”
“คนที่จะต้องอายไม่ใช่พี่ แต่เป็นยัยน้ำหนึ่ง ลูกรัฐมนตรีคนดัง ที่เอาเข้าจริง ก็เป็นได้แค่
เมียเก็บเมียน้อยเค้า ส่งคลิปให้เพื่อนๆ พี่ดูบ้างดีกว่า”
“อย่าค่ะพี่พจน์อย่า สงสารเค้า”
“สงสารมันทำไม”
“ยังไงก็ลูกผู้หญิงด้วยกัน”
“ผู้หญิงดีๆ ว่าไปอย่าง แต่พวกผู้หญิงหน้าด้าน มันต้องประจาน”
พจนีย์ยิ้มสะใจ ก่อนส่งคลิปให้เพื่อน รจนาแอบมองเก็บข้อมูล
กลางดึกพระจันทร์ยามค่ำคืนลอยเลื่อนอยู่บนท้องฟ้า พจนีย์หลับสนิทอยู่ในห้อง ประตูห้องของพจนีย์ค่อยๆ ถูกเปิดเข้ามา และเห็นเป็นรจนาแอบย่องเข้ามา หยิบมือถือของพจนีย์ออกไป
รจนาเปิดประตูเข้ามาในห้องตัวเองก่อนล็อกประตู เดินไปที่คอมพ์ฯ เปิดคลิปที่พจนีย์ด่าน้ำ
หนึ่ง อัพขึ้นยูทูป รจนาแอบยิ้มสะใจดวงตาวาววับในความมืดสลัว
วันต่อมา ตามสถานที่ต่างๆ สำนักงานหนังสือพิมพ์ อินเทอร์เนต เห็นผู้คนอ่านข่าว “เขยรมต.เกรียงศักดิ์ วิวาห์เหาะ” มีใบหน้าเพชรประกอบข่าว อย่างครึกโครม
ตกตอนบ่ายกองทัพนักข่าวมาสัมภาษณ์เกรียงศักดิ์ที่เปิดห้องโถงในคฤหาสน์ให้สัมภาษณ์ บางสื่อยื่นหนังสือพิมพ์ให้เกรียงศักดิ์
“มีข่าวออกมาอย่างนี้ ท่านจะว่ายังไงครับ”
เกรียงศักดิ์ปัดนสพ.ออก ไม่มอง ทำไม่สนใจ
“ผมไม่สนใจ”
“แต่เค้าว่าผู้ชายคนนี้มีภรรยาอยู่แล้ว”
ดาราณี นวลซีดเผือด ตาหวานที่อยู่วงล้อมด้านนอกก็ตาโต เกรียงศักดิ์พูดเสียงนิ่งๆ
“ถ้าจริง..ก็ให้ภรรยาผู้ชายคนนี้ออกมายืนยัน...ผมจะได้ถือโอกาส แยกลูกสาวผมออกมาด้วย เพราะเท่าที่ผมรู้ มันไม่มีอะไร น้ำหนึ่งกับผู้ชายคนนี้แค่คนรู้จักเท่านั้น”
ดาราณีแกล้งยิ้ม ใจดีสู้เสือ “ถ้าพวกคุณมีแหล่งข่าว ก็ช่วยแฉประวัติผู้ชายคนนี้ด้วยค่ะ ผู้หญิงคน
อื่นจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ “ผู้ชาย” ที่มี “ภรรยา” แล้ว”
บรรดานักข่าว เห็นว่าเกรียงศักดิ์ และดาราณี ท่าทางปกติไม่ซีเรียส นักข่าวมองหน้ากันงง
ไปไม่ถูก แต่ก็พยายามถาม
“แล้วถ้าเค้ามีภรรยาแล้วจริงๆ”
“ก็บอกแล้วไงครับให้ภรรยาเค้ามาแสดงตัวด้วยแล้วกัน เรื่องจะได้จบๆ”
“แล้วท่านไม่อายหรือครับ ถ้าลูกสาวแย่งสามีคนอื่นจริงๆ”
“ถึงวันนั้นค่อยว่ากัน แค่นี้นะครับ ผมจะพักผ่อน”
“เชิญค่ะเชิญ”
นวลกับตาหวานพานักข่าวออกไป นักข่าวเดินออกไป ทันทีที่คล้อยหลังนักข่าว ดาราณีก็นั่ง
ทรุดลงกับโซฟา หน้าซีดเผือด ท่าทางจะเป็นลม
“คุณ...มันกลายเป็นเรื่องไปแล้ว”
“คราวก่อนมีแค่ชื่อ คราวนี้มีรูป”
สองคนมองหน้ากัน เกรียงศักดิ์เอ่ยขึ้น
“คนใกล้ชิดเราที่รู้เรื่องของนายเพชรก็มีแค่คนเดียว”
ดาราณีมองหน้าเกรียงศักดิ์ ขณะที่เกรียงศักดิ์พูดอย่างมั่นใจ
“อลิส”
ดาราณีนัดเจออลิสในร้านอาหารหรู อลิสถามดาราณีตาใส
“คุณอาให้อลิสมาทานข้าวด้วย...แสดงว่ามีเรื่องกลุ้มใจ น้ำหนึ่งเป็นยังไงเหรอคะ?
“อาว่า...อลิสน่าจะรู้แล้วนะ ข่าวลงออกขนาดนั้น มีรูปด้วย”
อลิสงง “รูป...รูปอะไรคะ”
ดาราณีมองอย่างหงุดหงิดไม่พอใจ แต่สำรวม “ถึงขนาดนี้แล้ว อลิสไม่ต้องทำปากแข็งกับอาหรอก”
“อลิสไม่รู้จริงๆ ค่ะว่าเรื่องอะไร พอดีอลิสไม่ได้ตามข่าวเลย เพิ่งบินไปกินโจ๊กฮ่องกงกลับมา”
“ก็ข่าวของนายเพชรกับน้ำหนึ่งน่ะสิ...ลงรูปด้วย...และคนที่มีรูปของนายเพชรก็คืออลิสคนเดียว”
อลิสตาโตชักงง เพราะตอนบอกนักข่าวบอกแค่ชื่อ
“มีทั้งรูปทั้งชื่อ ตาย อลิสไม่รู้เรื่องเลย ขออลิสเช็กข่าวเดี๋ยวนะคะ”
อลิสคว้าไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดออกมา คลิกหาข้อมูลรวดเร็ว เห็นรูปเพชร อลิสเขม้นตามองเพราะเป็นรูปที่ไม่เคยเห็น ดาราณีมองอย่างหมั่นไส้
“ทำไมต้องทำท่าเหมือนไม่เคยเห็นด้วยอลิส”
“ก็รูปนี้อลิสไม่เคยเห็นจริงๆ นี่คะคุณอา”
อลิสเลื่อนไอแพดให้ดาราณีดู ดาราณีเห็นเป็นรูปของเพชรที่ไม่เคยเห็นจริงๆ ดาราณีมองหน้าอลิส อลิสมองไอแพดหาข้อมูล แล้วก็ร้องลั่น
“ว้าย”
“ร้องอะไรอีกอลิส”
“มีคลิปด้วยค่ะ มีคลิปด้วย”
“คลิป” ดาราณีตกใจ
มือของอลิสกดคลิปดูทันที เห็นเป็นพจนีย์ด่าทอน้ำหนึ่ง แต่เห็นแค่ภาพน้ำหนึ่งคนเดียว ส่วนเพชร กับเสียงพจนีย์มีแค่เสียง
“อย่านะพจ หยุด”
“อย่าค่ะพี่เพชร อย่ามาห้าม คนทั้งประเทศจะได้รู้...ว่าลูกสาวรัฐมนตรีเกรียงศักดิ์ หน้าด้าน เป็นได้แค่เมียน้อยเมียเก็บชาวบ้าน”
ดาราณีหน้าซีด ขณะที่อลิสจ้องหน้าดาราณี ตะเบ็งเสียงแหลมดังแสบแก้วหู
“นายเพชรมีเมียแล้ว น้ำหนึ่งเป็นเมียน้อยเค้าหรือคะเนี่ย”
คนทั้งร้านหันมามองอลิส ดาราณีหน้าซีดเผือด อับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี
มารกามเทพ ตอนที่ 5 (ต่อ)
พลอยเปิดดูคลิปมือไม้สั่น ทับทิมถาม
“คลิปหลุดไปได้ยังไง”
พลอยหันขวับไปมองทับทิม ก่อนสะบัดหน้ากลับ ตาวาวโรจน์
พจนีย์นั่งมองคลิปในมือถืออย่างสะใจ
“ถ้าฉันร้ายกว่านี้ คลิปนี้ถูกอัพโชว์ทั่วประเทศแล้วยัยน้ำหนึ่ง”
โดยไม่รู้ว่าที่ด้านหลัง พลอยเข็นรถเข็นเข้ามา พจนีย์ได้ยินเสียงรถเข็นสะดุ้งหันไปมอง
“พี่พลอย”
“คงกำลังฝันหวานอยู่ล่ะสิ ว่าจะมีนักข่าวตามมาสัมภาษณ์ในฐานะเมียของเพชร”
พจนีย์งง “อะไรคะพี่พลอย”
รจนารีบมาแอบดู ท่าทางอยากรู้ปนสะใจ เห็นพลอยก่นด่าพจนีย์
“ยังจะถามอีก...เธออัพคลิปให้คนดูทั่วประเทศ เธอทำเกินคำสั่งฉันพจนีย์”
พูดจบพลอยก็พุ่งรถเข็นเข้าชนร่างของพจนีย์อย่างแรงจนพจนีย์ล้มลง ร้องลั่น
“พจเปล่านะคะ พจน์เปล่า”
พลอยเลื่อนรถเข็นเข้ามาอย่างเร็วกระชากผมพจนีย์ ตะคอกอย่างกราดเกรี้ยว
“ยังจะมาแก้ตัวอีก” พลอยกัดฟันกรอด “คงอยากป่าวประกาศมากนักสินะ ว่าเธอน่ะเป็นเมียเพชร
“ก็ตามกฎหมายพจน์คือเมียพี่เพชรจริงๆ”
“หน้าด้าน”
พลอยตบหน้าพจนีย์อย่างแรง ตบอย่างแน่นหนัก พจนีย์หน้าหัน มองพลอยทั้งเจ็บและกลัว
รจนาเองก็รีบหลบกลัวพลอยเหมือนกัน พลอยจ้องพจนีย์
“รู้อยู่แก่ใจว่าการจดทะเบียนของเธอกับเพชร มันจอมปลอมยังจะกล้าอ้างสิทธิ์นั้นอีก ตกลง...เธออยากเป็นเมียของเพชรนักใช่มั้ย”
พลอยจ้องเขม็ง พจนีย์มองตาพลอยที่ช่างน่ากลัวนัก พจนีย์ส่ายหน้า
“เปล่าค่ะ...พจน์ไม่ได้อยากเป็นเมียพี่เพชร”
“ดี”
พลอยคำราม ขณะกระชากผมของพจนีย์จนหน้าหงาย บอก
“เพราะถ้าเธอคิด...เธอก็จะมีสภาพที่ไม่ต่างจากนังน้ำหนึ่ง”
พจนีย์มองไม่เข้าใจ พลอยเหยียดยิ้ม
“ศัตรูหมายเลขหนึ่งของฉัน”
พลอยเลื่อนรถเข็นออกไปอย่างรวดเร็ว พจนีย์หลบตาซ่อนหน้าไม่กล้ามองหน้า กลัวจับใจ รจนาเองก็หลบวูบ กลัวไม่ต่างกัน
ไม่นานต่อมารจนาทำแผลฟกช้ำให้พจนีย์อยู่ในบ้าน รู้สึกผิดเหมือนกัน พจนีย์บ่น
“ถ้าพี่รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยคลิป พี่จะจิกหัวในมาตบเหมือนอย่างที่พี่พลอยทำกับพี่เลย”
รจนารีบหลบตาบอกอ้อมแอ้ม
“ก็เพื่อนพี่พจน์นั่นแหละค่ะ”
“เพื่อนพี่ไม่ได้มีส่วนได้ ส่วนเสีย จะส่งไปทำไม”
“ก็คึกคะนองไงคะ...พี่พจน์รีบออกมาเถอะค่ะ พี่พลอยน่ากลัว”
“ไม่ใช่แค่น่ากลัวอย่างเดียว พี่พลอยโหดเหี้ยมอีกต่างหาก”
พจนีย์พูดออกมาเบาๆ ดวงตาประหวั่นพรั่นพรึง เมื่อนึกถึงภาพอดีต ที่เห็นมากับตา
เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นที่บ้านของพลอย ซึ่งเป็นคนละหลังกับปัจจุบันนี้ เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นก่อนที่พลอยจะย้าย หลังมีเหตุการณ์เกรียงศักดิ์แต่อยู่ในละแวกบ้านปัจจุบัน
พลอยอยู่ในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กำลังคลุกข้าวอยู่ในครัว พจนีย์เดินเข้ามา
“พี่พลอย ทำอะไรอยู่คะ”
พลอยยิ้มๆ “คลุกข้าวให้แมวน่ะจ้ะ”
พลอยพูดพลางคว้ายาเบื่อหนูมาเทลงในชามข้าวที่คลุกกับปลาทู พจนีย์มองในอาการตะลึง ก่อนถามเสียงสั่นๆ
“แล้วทำไมพี่พลอยต้องใส่ยาเบื่อหนูลงไปด้วย”
“ก็พวกแมวบ้า มันชอบมาขโมยกินของในครัว”
แมวตัวหนึ่งกระโดดมาเกาะที่ริมหน้าต่าง ส่งเสียงเมี๊ยวๆๆ พลอยมองแมวดวงตาเฉยเมย
“ไล่ก็แล้ว ด่าก็แล้ว...ไม่ยอมไป...แถมเห็นพรรคพวกนอนตายก็ไม่เข็ด”
พลอยพูดเหมือนรายงานลมฟ้าอากาศ ขณะมองออกไปนอกหน้าต่าง พจนีย์มองตาม เห็นแมวหนึ่งตัวนอนชักกระตุกน้ำลายฟูมปากอยู่ข้างชามข้าว ใจพจนีย์เต้นไม่เป็นส่ำ ขณะพลอยยิ้มเรียกแมว
“เหมียวๆๆๆ มากินข้าวเร็ว”
รจนาฟังแล้วทำหน้าสยอง ถามพจนีย์
“รู้อย่างนี้แล้ว พี่พจน์ยังไม่กลัวพี่พลอยอีกเหรอ”
“ไม่...อยากได้ลูกเสือพี่ก็ต้องเข้าถ้ำเสือ อยากเป็นเมียพี่เพชร พี่ก็ต้องยอมพี่พลอย”
พจนีย์พูดด้วยรอยยิ้มอย่างคนอวดดี รจนาหัวเสีย เพราะโดนขนาดนี้ ยังไม่ยอมเลิกกับเพชรอีก
ตกตอนกลางคืน บ้านเชิงเขา ตกอยู่ในความมืด มีแสงไฟส่องสว่างเป็นจุดๆ
พลอยเลื่อนรถเข็นมาตามทางที่บริเวณด้านนอกตัวบ้าน แต่แล้วก็ต้องหยุดกึก เมื่อเห็นเพชรยืน
คุยกับน้ำหนึ่ง
“เห็นข่าวแล้วใช่มั้ย”
น้ำหนึ่งน้ำตาคลอ “เห็นคลิปถึงจะถูก...”
“อีกไม่นาน...พ่อของน้ำหนึ่งก็คงจะมา...”
“มา...ทุกอย่างก็สายไปแล้วล่ะค่ะ...เกียรติยศ ชื่อเสียงของน้ำหนึ่ง ถูกทำลายจนป่นปี้ แต่ถ้ามันชดเชย มันทดแทนกับความผิดที่คุณพ่อทำกับพี่พลอย...น้ำหนึ่งว่าคุณพ่อจะเข้าใจ”
เพชรมองน้ำหนึ่งเวทนา ขณะที่พลอยคำรามก้องในใจ
“ฉันไม่ยอมให้ใครพานังน้ำหนึ่งไปไหนทั้งนั้น”
ดวงตาของพลอยวาวโรจน์ ไม่มีวันยอม!
พอทับทิมรู้เรื่อง ก็บอกพลอยเสียงเข้ม ในท่าทางแข็งกร้าวดูออกว่าโกรธจัด
“แม่ก็ไม่ยอมให้นังเด็กนั่นไปไหนทั้งนั้น”
พลอยน้ำตาไหลบอกทับทิมเสียงอ่อน ท่าทางเสียใจ ท่าทางพลอยน่าสงสาร
“แล้วเราจะทำยังไงได้ล่ะแม่...พลอยมองก็รู้...” พลอยสะเทือนใจ “เพชร...เพชร เป็นพวกของน้ำหนึ่ง”
“ยังไงเพชรก็ต้องเป็นพวกของเรา เพราะเพชรเป็นน้องของแก”
ทับทิมลูบเรือนผมพลอยเบาๆ ก่อนดึงพลอยเข้ามากอด ศรีษะพลอยซบลงที่หน้าอกทับทิม ขณะพึมพำออกมาเบาๆ
“ใช่ค่ะ! เพชรเป็นน้องของพลอย เพชรต้องทำทุกอย่างให้พลอย ถึงแม้ว่าเพชรจะรักนังเด็กนั่นก็ตาม”
ดวงตาของพลอยเปล่งประกาย เห็นแต่ความชิงชังน้ำหนึ่งเริงโรจน์อยู่ในนั้น
ส่วนน้ำหนึ่งเปิดประตูเข้ามาในห้อง ท่าทางทุกข์ทรมานใจแสนสาหัส และสับสนว้าวุ่นมากๆ เหตุการณ์ตอนได้ยินเสียงเกรียงศักดิ์ผุดขึ้นมาหลอกหลอนอีก และสลับกับภาพความทุกข์ทรมานของพลอยที่เห็น สายตาของน้ำหนึ่งมีความเสียใจ ผิดหวัง ภาพความรัก ภาพความอบอุ่นของครอบครัว ที่มีน้ำหนึ่ง เกรียงศักดิ์ ดาราณี อยู่ด้วยกันสลับเข้ามา
“คุณพ่อที่แสนดีของน้ำหนึ่ง กลายเป็นคนอย่างนี้ได้ยังไง” ความรู้สึกอื้ออึงสับสน “ทำไม...
ทำไมคุณพ่อถึงกลายเป็นคนแบบนี้”
น้ำหนึ่งร้องไห้ ทุกข์ทรมาน ผิดหวังในตัวเกรียงศักดิ์มาก เสียงมือถือดังลั่น น้ำหนึ่งสะดุ้งเฮือก เห็นเป็นเบอร์เกรียงศักดิ์ น้ำหนึ่งไม่รับกดสายทิ้ง
เกรียงศักดิ์หันไปบอกดาราณี ที่ยืนอยู่ข้างๆ ทั้งเสียใจ กลุ้ม และโมโห
“น้ำหนึ่งตัดสายทิ้ง”
ดาราณีคว้ามือถือของตัวเองออกมาโทร.หาน้ำหนึ่งทันที พอน้ำหนึ่งเห็นเป็นเบอร์ดาราณีชั่งใจ ก่อนคว้ามารับ
“คุณแม่”
ดาราณีดีใจมากที่รับสาย “น้ำหนึ่ง น้ำหนึ่งอยู่ไหน? กลับมาบ้านเรานะลูก”
“น้ำหนึ่งไม่กลับค่ะ”
ดาราณี ผิดหวัง เสียใจ ใจหายวาบ
“น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งโกรธเกรียงศักดิ์ “ฝากเรียนคุณพ่อด้วย น้ำหนึ่งไม่กลับ ไม่ใช่เพราะพี่เพชร แต่เพราะคุณพ่อ น้ำหนึ่งเกลียดคุณพ่อ”
พูดได้แค่นั้นน้ำหนึ่งก็กดปิดมือถือ ดาราณีตะโกนเรียก
“น้ำหนึ่งๆ”
เกรียงศักดิ์คว้ามือถือของดาราณีกรอกเสียง “น้ำหนึ่ง”
แต่ไม่มีสัญญาณจากปลายสาย เกรียงศักดิ์กดมือถืออีก คราวนี้เป็นสัญญาณปิดเครื่อง
เกรียงศักดิ์ทั้งโมโหทั้งสะเทือนใจ “น้ำหนึ่งปิดมือถือไปแล้ว”
ดาราณีมองมาอย่างเกรงใจและเสียใจ
“คุณต้องช่วยลูกนะคะ คุณต้องช่วยลูก ฉันว่าลูกต้องถูกล่อลวง”
“ถ้าถูกล่อลวงจริง น้ำหนึ่งกลับมาแล้ว...แต่นี่...ลูกไม่คิดที่จะกลับมาเลยต่างหาก” เกรียงศักดิ์สุดแสนจะเสียใจ
ดาราณีมองเกรียงศักดิ์ นึกถึงคำพูดของน้ำหนึ่ง ค่อยๆ บอกสามีอย่างเกรงใจ
“ลูกอาจจะกลัวคุณโกรธ เลยไม่กล้ากลับมา”
“ผมโกรธแน่...ที่น้ำหนึ่งทำตัวอย่างนั้น...คุณรู้มั้ย...ผมต้องให้คนไปจัดการเก็บคลิปอุบาทว์
นั่น ไม่ให้มันเผยแพร่ต่อไป แต่ขนาดนี้ ชื่อเสียง วงศ์ตระกูล ก็ป่นปี้หมด...น้ำหนึ่ง...ไม่น่าเลย”
สีหน้าเกรียงศักดิ์เครียดเคร่ง ดาราณียิ่งน้ำตาไหลพราก สองคนสบตากันด้วยความทุกข์ใจสาหัส
ส่วนน้ำหนึ่งตัดสินใจเด็ดขาดบอกตัวเองในใจ
“น้ำหนึ่ง จะชดใช้ทุกอย่างแทนคุณพ่อค่ะ”
น้ำหนึ่งมองกระเป๋าที่จัดเรียบร้อย ตัดสินใจเปิดออก รื้อเสื้อผ้าและข้าวของออกมาเหมือนเดิม
ขณะเดียวกันเพชรยืนนิ่ง ครุ่นคิดอยู่บริเวณด้านนอกบ้านเชิงเขาด้านนอก ภาพตอนที่เพชรนั่งทำงาน เปิดคอมพิวเตอร์แล้วเห็นคลิปของน้ำหนึ่ง เพชรตกใจ คาดไม่ถึง เป็นห่วงน้ำหนึ่ง เสียงของน้ำหนึ่งดังก้อง
“ทุกอย่างก็สายไปแล้วล่ะค่ะ...เกียรติยศ ชื่อเสียงของน้ำหนึ่ง ถูกทำลายจนป่นปี้”
เพชรได้แต่ทอดถอนหายใจ รู้สึกสงสารน้ำหนึ่งจับใจ
ขณะที่น้ำหนึ่งรื้อของออกจากระเป๋า ก็เห็นเสื้อกีฬาเบอร์ 13 และขวดดาวที่ทำให้เพชร น้ำหนึ่ง
ชะงักมอง เห็นทีไรเจ็บในใจทุกที ระหว่างนั้นประตูห้องเปิดออก เพชรเดินเข้ามา น้ำหนึ่งสะดุ้งรีบปิดกระเป๋า
เพชรนึกว่าน้ำหนึ่งเก็บของจะกลับไป ก็รู้สึกใจหาย
“น้ำหนึ่งจะไปจริงๆ เหรอ”
น้ำหนึ่งเงียบไม่ตอบ ทั้งรัก ทั้งเสียใจ ทั้งรู้สึกผิด อยากหนีไปให้ไกล แต่ก็ยังอยากอยู่เพื่อชดใช้แทนพ่อ ความรู้สึกสับสนไปหมด
เพชรมองอย่างเข้าใจ “พี่ช่วย” เดินเข้ามาหาจะช่วยปิดกระเป๋า
“ไม่เป็นไรค่ะ”
น้ำหนึ่งเบี่ยงตัวดึงกระเป๋าออก กระเป๋าหล่นพื้น เสื้อบาสของเพชร และขวดโหลดาวที่น้ำหนึ่งพับหล่นลงพื้น เพชรจะเก็บ แต่น้ำหนึ่งรีบคว้าเสื้อกับขวดโหลเอาไว้บอก
“ไม่ต้องค่ะ....น้ำหนึ่งกำลังจะเอาไปทิ้งพอดี”
เพชรเสียงอ่อยๆ “ถ้าน้ำหนึ่งรังเกียจพี่ขนาดนั้น...ก็ตามใจ”
เพชรมองน้ำหนึ่งด้วยความเสียใจ น้ำหนึ่งเองก็มองเพชร ใจอ่อนยวบ เพราะรักเพชรสุดใจ
“น้ำหนึ่ง....พี่...”
เพชรเอื้อมมือมาจะจับมือน้ำหนึ่ง หมายจะอธิบายจะขอโทษ จังหวะนี้ประตูห้องถูกเปิดผลัวะเข้ามาพร้อมร่างของทับทิม สองคนเหลียวไปมองพร้อมกัน
ทับทิมมองจ้องท่าทีที่เพชรมีต่อน้ำหนึ่งอย่างไม่พอใจ น้ำหนึ่งฉวยโอกาสค้อมตัวเดินเลี่ยงผ่านทับทิมออกไปด้านนอก ทับทิมหันขวับมาจ้องหน้าเพชรอย่างไม่พอใจ
น้ำหนึ่งเดินออกมาด้านนอก ในมือหอบเสื้อ ขวดโหลดาวออกมา ท่าทางสับสนลังเล ทิ้ง หรือไม่ทิ้งดี ก่อนจะทำท่าฮึด
“เรากับพี่เพชรไม่ควรมีเยื่อใยอะไรกันอีก”
น้ำหนึ่งทิ้งเสื้อบาสเบอร์ 13 กับขวดโหลดาวลงถังขยะ น้ำตาหยดริน เจ็บปวดใจเหลือเกิน
ส่วนในห้อง ทับทิมปรายตามองกระเป๋าของน้ำหนึ่ง ก่อนจะถามเพชรเสียงแข็ง
“ทำอะไรน่ะ”
“เก็บของให้น้ำหนึ่งครับ...เผื่อพ่อเค้ามารับ”
“แกจะให้นังเด็กนั่นไปเหรอ”
เพชรไม่กล้าสบตาทัยทิม เพียงแต่บอกออกมา
“ผมว่า..เราทำกับเค้ามากพอแล้ว แค่นี้น้ำหนึ่ง วงศ์ตระกูลของไอ้เกรียงศักดิ์ก็เสียหายไปหมดแล้ว”
ทับทิมเค้นคำ “เสียหาย”
“คนเห็นคลิปทั่วประเทศนะครับแม่” เพชรลดเสียงแผ่วลง “พี่พลอย..ไม่น่าทำถึงขนาดนี้เลย”
“พลอยไม่ได้ทำ”
“แล้วใครทำ”
“ก็ใครล่ะที่มันเป็นคนถ่าย”
“พจนีย์”
นัยน์ตาเพชรวาวโรจน์ขบกรามแน่น โกรธพจนีย์มาก
รุ่งเช้า พลอยถามทับทิมอย่างตกใจ
“อะไรนะคะแม่...เพชรไปบ้านพจน์”
“ฮื่อ... ผลุนผลันออกไปแต่เช้าเลย”
พลอยหน้าเครียด ตาวาว ไม่พอใจพจนีย์ขึ้นมา
ด้านพจนีย์ยิ้มระรื่นให้เพชรอย่างดีใจ
“พี่เพชร...พี่เพชรจะให้พจน์ไปค้างที่บ้านใช่มั้ยคะ? ได้ค่ะ..รอเดี๋ยว”
พจนีย์กระวีกระวาดจะเข้าไปในบ้าน แต่เพชรตะคอก
“ไม่ต้อง”
น้ำเสียงของเพชรน่ากลัวจนพจนีย์ต้องหันกลับมามอง เพชรถามอย่างไม่พอใจ
“พจน์เอาคลิปไปปล่อยทำไม”
“พจน์ไม่ได้ทำค่ะ ต่อให้คุณน้าทับทิม พี่พลอย พี่เพชรมาถาม พจน์ก็จะบอกเหมือนเดิมว่าไม่ได้ทำ”
อีกมุมหนึ่ง ใต้เงาทะมึนของต้นไม้ แลเห็นทับทิมเข็นรถให้พลอยอยู่ สองคนมองจ้องดูเพชรกับพจนีย์ไม่วางตา ทับทิมกับพลอยมองหน้ากัน
“พจนีย์ปากแข็งจริงๆ”
ส่วนอีกมุม ตรงด้านหลังบ้าน รจนาค่อยๆ ย่องมาแอบฟัง พลอยเห็นเข้าพึมพำออกมา
“หรือพจน์จะไม่ได้ทำจริงๆ”
พลอยมองสองพี่น้องสลับกัน ท่าทีลังเลสงสัย ฟากพจนีย์ยืนกรานบอกเพชร
“พจน์ไม่ได้เป็นคนปล่อยคลิปจริงๆ นะคะพี่เพชร”
เพชรตะคอก “พี่ไม่เชื่อ”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ” พจนีย์มองอย่างสงสัย “แต่เอ๊ะ...แล้วทำไมพี่เพชรต้องเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้คะ หรือว่า....พี่เพชรรักและห่วงผู้หญิงคนนั้นจริงๆ”
พลอยกับทับทิม เพ่งมองหน้าเพชร อยากรู้คำตอบ เช่นกัน
“เรื่องของพี่”
“เรื่องของพจน์ด้วยค่ะ เพราะพจน์เป็นเมียพี่เพชร”
“จะให้พี่บอกอีกกี่ครั้งกี่หนว่าไม่ใช่”
รจนาโผล่หน้าออกจากมุมเสา ลอบมองยิ้มดีใจ พจนีย์ไม่ยอมต่อปากต่อคำ
“แต่ทะเบียนสมรสก็บอกว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน”
พลอยโกรธมาก ทับทิมเองก็ไม่พอใจ ออกอาการยุ่งยากใจ ที่เรื่องมันยุ่งไปใหญ่
เพชรโกรธไม่พอใจ “พจน์รู้แก่ใจว่ามันไม่ใช่” เพชรกระชากแขนพจนีย์พูดใส่หน้า “และพจน์ก็ไม่ควรทำเกินหน้าที่อย่างนี้”
“พจน์รู้ว่าพี่เพชรโกรธ แต่พจน์ก็อยากให้พี่เพชรเข้าใจพจน์บ้าง...พจน์เองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน..แต่ในเมื่อพจน์ถูกจ้าง พจน์ก็ต้องทำหน้าที่ของพจน์ให้ดีที่สุด”
เพชรอึ้ง มองพจนีย์ พลอยหรี่ตามองอย่างโกรธขึ้ง พจนีย์บอกเพชรอย่างเหนือกว่า คิดว่าตัวเองเป็นต่อ
“คนที่พี่เพชรควรตำหนิ ควรเป็นพี่พลอยค่ะ เพราะพี่พลอยเป็นคนจ้างพจน์”
พลอยฟังนิ่งๆ แต่ประกายตาวาววับ เพชรผลุนผลันออกไป ท่ามกลางความตกตะลึงของสองพี่น้อง พลอยมองพจนีย์ ทั้งโกรธและเกลียด
สองพี่น้องอยู่ในบ้าน พจนีย์โกรธเพชรบ่นบ้าเอากับน้องสาวจอมแอ๊บ
“เรื่องของยัยน้ำหนึ่ง มันจะอะไรกันนักกันหนา เดี๋ยวพี่พลอยก็พล่าน เดี๋ยวพี่เพชรก็พล่าน”
“จะเรื่องอะไรก็ไม่เกี่ยวกับพี่พจน์” รจนาบอก
“เกี่ยวสิ ก็พี่เป็นเมียพี่เพชร”
“พี่พจน์ก็รู้ ว่าความจริงไม่ใช่”
“พี่บอกแล้วไง ว่ามันต้องใช่ วันหนึ่ง พี่เพชรต้องเป็นของพี่ แต่ที่พี่อยากรู้...พี่พลอยจ้างพี่เป็นเมียพี่เพชร ทำไม”
สองพี่น้องมองหน้ากัน สายตาของทั้งคู่บอกชัดเจน ว่าอยากรู้เหมือนกัน รจนาพึมพำ
“นั่นสิคะ...พี่พลอยจ้างพี่พจน์ไปเป็นเมียพี่เพชรทำไม”
ท่ามกลางความเงียบสงบของหุบเขา ทับทิมเข็นรถเข็นของพลอยมาตามทาง ทับทิมถอนหายใจ
“ท่าทางพจนีย์มันจะบังคับยากแล้วมั้งพลอย”
“พลอยชอบปราบม้าพยศค่ะ โดยเฉพาะถ้าม้าตัวนั้น มันพยศกับเพชร มันถูกสั่งสอนแน่”
พลอยพูดพร้อมระบายยิ้มบางๆ บนสีหน้าเหมือนไม่ได้ซีเรียส แต่ดวงตาวาวโรจน์น่ากลัว
เพชรเดินกลับเข้าบ้านด้วยสภาพสีหน้าบึ้งตึงโกรธจัด เสียงของรจนาดังก้อง
“คนที่พี่เพชรควรตำหนิ ควรเป็นพี่พลอยค่ะ เพราะพี่พลอยเป็นคนจ้างพจน์”
เพชรงุ่นง่านหงุดหงิด ได้แต่ ทุบ เตะ ต้นไม้ระบายอารมณ์ อยากอัดใครซักคน แต่ไม่รู้จะอัดใคร
น้ำหนึ่งชะเง้อชะแง้มองเพชรอยู่ที่หน้าต่าง
“พี่เพชรไปไหน? ป่านนี้ทำไมยังไม่กลับมา”
ประตูถูกผลักเข้ามาตามความเคยชิน น้ำหนึ่งลุกขึ้นหันขวับไปมองเพชรชะงัก
“พี่ขอโทษ....” เพชรเผลอหลุดปาก “พอดีพี่เคยแต่อยู่คนเดียวเลยไม่ได้เคาะประตู”
น้ำหนึ่งสงสัยก็ไหนว่ามีเมีย “อยู่คนเดียว?”
เพชรรู้ตัวว่าหลุด รีบแก้ “ก็...พี่เป็นกับพจน์เป็นผัวเมียกัน ก็ถือว่า...เป็นคนคนเดียวกัน”
น้ำหนึ่งสะอึก สะเทือนใจ เพชรเดินมาคว้าผ้าเช็ดตัว
“นั่งลงเถอะ....พี่จะออกไปอยู่ข้างนอก เอ่อ...พี่จะไปง้อพจนีย์...เค้าโกรธ”
น้ำหนึ่งยิ่งเสียใจ เพชรมองมาให้นึกสงสาร แต่ต้องตัดใจ พอจะเดินออกไปข้างนอก ต้องชะงักเมื่อเห็นทับทิมเข็นรถพลอยตรงมา สองคนมองจ้องหน้าเพชรเขม็ง โดยเฉพาะพลอย เพชรถอยกลับเข้าไปในห้องปิดประตู บอกน้ำหนึ่งเบาๆ
“พี่รับปาก ถึงพี่จะอยู่ในห้องนี้ พี่ก็ไม่ทำอะไรน้ำหนึ่งหรอก”
จากนั้นเพชรเดินเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ น้ำหนึ่งมองตามงงๆ ประตูห้องน้ำถูกปิดลง น้ำหนึ่งทำ
หน้าสงสัยค่อยๆ ย่องไปที่ประตูห้อง เปิดแง้มออกเบาๆ แล้วสอดตามองออกไป เห็นด้านหลังของทับทิมที่เข็นรถเข็นพาพลอยออกไป น้ำหนึ่งนิ่วหน้านึกสงสัย เริ่มเห็นความไม่ชขอบมากล ระหว่าง เพชร และพลอย
ตกตอนกลางคืน พลอยนั่งอยู่นิ่งๆ ท่ามกลางความมืดในห้อง ท่าทางเหมือนไม่รู้สึกอะไร...แต่
เห็นประกายตาที่วาววับโกรธแค้นชัดเจน โกรธเกลียดทุกสิ่งอย่าง ทั้งเกรียงศักดิ์ น้ำหนึ่ง และพจนีย์
วันต่อมาเกรียงศักดิ์กดโทร.ออก หาน้ำหนึ่งอีก แต่สัญญาณปลายสายเป็นปิดมือถือ ดาราณีถาม
“น้ำหนึ่งยังไม่เปิดมือถืออีกเหรอคะคุณ”
เกรียงศักดิ์ทั้งโมโหและเสียใจ “คุณรู้แล้วใช่มั้ยว่าน้ำหนึ่งไม่ได้ถูกล่อลวง...น้ำหนึ่งเต็มใจเป็นเมียน้อยเค้าจริง”
ดาราณีอึ้งก่อนที่จะปล่อยน้ำตาไหลรินออกมา คุณหญิงร้องไห้โฮ ความทุกข์เกาะกินใจมากขึ้นเป็นทวี
คืนนั้นพลอยเปิดคอมพิวเตอร์ดูข่าวตามเว็บต่างๆ เห็นเป็นข่าวเกรียงศักดิ์เรื่องน้ำหนึ่ง
“หึ่งทั่วเนต ลูกรมต.เป็นน้อย” / “ลือสนั่น รมต.เกรียงศักดิ์สั่งเก็บคลิปฉาว”
พลอยเซิร์ชคลิปดูในยูทูป คลิปไม่มีแล้ว พลอยยิ้มออกมา
“สั่งเก็บ...ก็อัพลงใหม่ได้ ไม่เห็นจะยากเลย”
พลอยคว้ามือถือขึ้นมา เปิดคลิปที่พจนีย์ส่งมาให้ดู แล้วยิ้มร้ายออกมา
ขณะเดียวกัน พจนีย์นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายเหมือนกัน ได้แต่ตั้งคำถามในใจ
“พี่พลอยจ้างเรามาเป็นเมียพี่เพชรทำไม...หรือว่า...พี่พลอยไม่อยากให้ยัยน้ำหนึ่ง
เป็นเมียพี่เพชร...” ก่อนจะพึมพำออกมาด้วยความสงสัย “แล้วจะให้ยัยน้ำหนึ่งอยู่ในบ้านทำไม? เราต้องรู้ให้ได้”
สีหน้าและดวงตาของพจนีย์มุ่งมั่นมาดหมายว่าต้องรู้ให้ได้
มารกามเทพ ตอนที่ 5 (ต่อ)
ฟากน้ำหนึ่งอยู่ในห้อง มองเพชรอย่างกลัวๆ จนเพชรเอ่ยขึ้น
“พจนีย์โกรธพี่จนไม่ยอมกลับบ้าน...พี่ไม่ทำอะไรให้มันยุ่งยากไปกว่านี้หรอก ไม่ต้องกลัว”
เพชรดับไฟล้มตัวเอนกายลงนอนที่ฟูกบนพื้น แล้วหันหลังให้ น้ำหนึ่งมองเพชรก่อนทรุดตัวลงนั่งบนเตียง ชะโงกหน้าไปดูเพชรให้แน่ใจ เห็นเพชรนอนกอดอกหันหลังอยู่
จังหวะหนึ่งลมพัดวูบแรงเข้ามาทางหน้าต่าง น้ำหนึ่งมองเห็นผ้าห่มมีเพียงผืนเดียว น้ำหนึ่งนั่งนิ่ง จ้องมองเพชรอย่างเป็นห่วง สังเกตเห็นเพชรเริ่มหายใจสม่ำเสมอ แสดงว่าหลับแล้ว น้ำหนึ่งจึงค่อยๆ ย่อง ไปเอาผ้าห่มคลุมร่างเพชรแล้วกลับขึ้นเตียงโดยไว
ทันทีที่ผ้าห่มถูกร่าง เพชรก็รู้สึกตัวลืมตาแต่ยังไม่ขยับกาย ดวงตารับรู้ถึงความรัก ความอาทร และเป็นห่วงที่น้ำหนึ่งมีให้ สีหน้าของเพชรสลด ก่อนจะค่อยๆ หันหลังกลับไปมองน้ำหนึ่ง เห็นน้ำหนึ่งหันหน้าเข้าข้างฝา หันหลังให้
น้ำหนึ่งนอนร้องไห้ เสียใจ สงสารชะตากรรมของตัวเอง
เพชรได้ยินเสียงถอนสะอื้นยิ่งสงสาร นอนมองนิ่งๆ จนเห็นว่าร่างน้ำหนึ่งนอนนิ่ง แสดงว่า
หลับแล้ว เพชรจึงค่อยๆ ย่องขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างน้ำหนึ่งพร้อมกับผ้าห่ม เห็นคราบน้ำตานองหน้า เพชรเช็ดน้ำตาให้น้ำหนึ่งอย่างแผ่วเบา ก่อนเอาผ้าห่มคลุมร่างให้มอง หลากหลายความรู้สึกปนเปในหัว ทั้งเวทนา สงสาร และเห็นใจ ความผูกพันลึกซึ้งก่อตัวขึ้นในใจเพชรตั้งแต่บัดนั้น
ขณะเดียวกันในห้องนอนของนวล ตาหวานนอนกระสับกระส่ายหลับไม่ลง จนนวลต้องพลิกตัวหันมาถาม
“แกจะดิ้นเป็นไส้เดือนโดนขี้เถ้าทำไมตาหวาน”
“ก็ตาหวานคิดถึง..เป็นห่วงพี่น้ำหนึ่ง”
“ห่วงทำไม? ไหนบอก พี่คนนั้น เป็นพระเอก เป็นเทพบุตร เชียร์คุณน้ำหนึ่งให้ พี่คนนั้นนักหนา...แล้วเป็นไง? ตอนนี้ พี่คนนั้น ทำคุณน้ำหนึ่งขายหน้าทั่วประเทศ...คอยดูถ้าป้าเจอหน้าเมื่อไหร่ จะแพ่นกบาล พี่คนนั้น ของแกให้แยกเลย”
“ขอให้จริงเถอะ”
“ก็แล้วทำไมจะไม่จริง?”
“อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้ วันหนึ่ง พี่คนนั้นที่ป้านวลสุดแสนจะเกลียด อาจจะกลายเป็นคนที่ป้านวลรักสุดหัวใจก็ได้ไง” ตาหวานเพ้อ
“ไม่มีทาง....นายเพชร ทำลายชีวิตคุณน้ำหนึ่ง ป้าไม่มีทางรักคนอย่างนั้นลงแน่ๆ”
นวลโกรธเพชร และยิ่งเป็นห่วงน้ำหนึ่ง
รุ่งเช้า เพชรนอนหลับสนิทอยู่ที่ฟูกด้านล่าง ดวงตาภายใต้เปลือกตาเคลื่อนไหว ไปมา เหมือนคน
กำลังฝันร้าย เพชรละเมอออกมาจากจิตใต้สำนึก
“แม่..แม่อยู่ที่ไหน ผมอยากเจอแม่”
น้ำหนึ่งที่หลับอยู่สะดุ้งตื่น เหลียวมามองดูเพชร เห็นดวงหน้าของเพรชกระสับกระส่าย
น้ำหนึ่งจะลงไปดู แต่ร่างถูกพันไว้ด้วยผ้าห่ม น้ำหนึ่งนิ่งมองดูผ้าห่ม จำได้ เมื่อคืนห่มให้เพชร
“แปลว่า...พี่เพชร” น้ำหนึ่งมองผ้าห่มสลับกับมองเพชร
เพชรนอนนิ่ง ลมหายใจสม่ำเสมอ หลับต่อ น้ำหนึ่งลุกขึ้นมาหยิบเอาผ้าห่มห่มคืนให้ มองเพชรถามตัวเองในใจด้วยความสงสัย
“แม่...แม่อยู่ไหน? ทำไมพี่เพชรละเมออย่างนี้”
ทับทิมไม่สบายใจ จึงแวะมาทำบุญที่วัด กำลังเอาดอกไม้ธูปเทียนมาถวายพระ ท่าทางของทับทิมไม่สบายใจ
“ทุกวันนี้ จิตใจลูกมีแต่ความทุกข์ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองให้ลูกผ่านวิกฤตตรงนี้ไปให้ได้ด้วยเถอะ” ทับทิมบอกตัวเองในใจ “นวล...ฉันขอโทษ...ฉันเองก็รักเพชรเหมือนลูก...แต่เพื่อพลอย ฉันจำเป็นให้เพชรต้องทำอย่างนี้...เธอให้อภัยฉันนะนวล”
ทับทิมมององค์พระนิ่ง ทุกข์ใจ
น้ำหนึ่งอาบน้ำเสร็จเปลี่ยนชุดเรียบร้อยเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นเพชรนอนกอดผ้าห่มแน่นท่าทางหนาวมาก ใจน้ำหนึ่งอ่อนยวบ
“พี่เพชรเองก็หนาว...แต่เมื่อคืนพี่เพชรยังห่มผ้าให้เรา”
น้ำหนึ่งมองเพชร สายตาบอกว่ารักเต็มเปี่ยม น้ำหนึ่งนิ่งคิด ก่อนเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว ท่าทางกังวล ร้อนใจ
รจนาเดินออกมาด้านนอก กวาดสายตามองหาพจนีย์? แต่ไม่เห็น
“พี่พจน์ไปไหนแต่เช้า? อย่าบอกนะว่าไปตามพี่เพชร”
รจนาหน้าตึง ตาขวาง แอบหวงเพชรทั้งที่ไม่มีสิทธิ์
จริงดังที่รจนาสงสัย พจนีย์เดินลิ่วมายังบ้านเชิงเขา และเห็นน้ำหนึ่งเดินลิ่วไปที่แห่งหนึ่งด้วย
ท่าทางร้อนรน
“ยัยนั่นจะไปไหน”
พจนีย์สงสัยมองตามน้ำหนึ่งที่เดินไปที่ถังขยะ หยิบเสื้อกล้ามของเพชรและขวดโหลดาวขึ้นมาอย่างดีใจมากที่มันยังอยู่ จู่ๆ มือของพจนีย์คว้าหมับทั้งสองสิ่งกระชากไปอย่างรวดเร็ว น้ำหนึ่งตกใจ
“ว้าย!”
สองสาวสบตากัน พจนีย์มองเสื้อบาส
“ฉันจำได้...นี่มันเสื้อทีมของพี่เพชร” มองลงที่ขวดดาว “จะเก็บดาวทุกดวงให้พี่เพชร” ก่อนจะมอง
หน้าน้ำหนึ่งแล้วด่ารับอรุณ “หน้าด้าน..รู้ว่าพี่เพชรมีเมียอยู่แล้วยังหน้าด้านมาแย่งของของฉันอีก”
“ฉันไม่เคยคิดแย่งของๆ ใคร เอาของฉันคืนมา” น้ำหนึ่งจะแย่งคืน
พจนีย์เบี่ยงมือออก “ไม่....ในเมื่อฉันเป็นเมียทุกอย่าง ที่เป็นของพี่เพชร มันก็คือของฉัน”
พจนีย์เดินลิ่วหนีไปพร้อมของในมือ น้ำหนึ่งร้องลั่น
“เอาของของฉันคืนมานะ เอาของฉันคืนมา!” น้ำหนึ่งตามพจนีย์ไปทันที
พจนีย์วิ่งมาหาพลอย เล่นบทน้องสะใภ้เต็มที่ ตะโกนดังลั่น
“พี่พลอยขา...พี่พลอย ช่วยพจน์ด้วยค่า”
เพชรอยู่ในห้องได้ยินเสียงพจนีย์ดุ้งตื่น เห็นผ้าห่ม รู้ทันทีน้ำหนึ่งคลุมให้ เพชรรีบวิ่งออกมานอกห้องทันที
พจนีย์จะวิ่งเข้าไปในบ้าน แต่ทับทิมเดินออกมาขวางทางหน้าตึง
“เสียงดังอะไรแต่เช้า”
พจนีย์ชี้ใส่น้ำหนึ่งที่วิ่งตามมา น้ำหนึ่งหยุดหอบหายใจ มองทับทิมอย่างกลัวๆ พจนีย์ฟ้องต่อ
“ก็ผู้หญิงคนนี้สิค่ะคุณแม่ หน้าด้านแย่งพี่เพชรไม่พอ....ยังขโมยเสื้อที่พี่เพชรให้พจน์อีก”
เพชรเดินออกมาพอดี ได้ยินทุกอย่าง น้ำหนึ่งจ้องหน้าเพชร แต่ปากบอกพจนีย์
“เปล่า ฉันไม่ได้ขโมย พี่เพชรให้ฉัน”
พจนีย์จ้องตาเพชรถาม “พี่เพชรเอาของที่เคยให้พจน์ ให้มันเหรอคะ”
เพชรอ้ำอึ้งเจอสายตาทับทิมที่จ้องเขม็งมองมาอย่างไม่พอใจ เลยต้องตอบอ้อมแอ้มแต่ท่าทางลำบากใจ
“เปล่า...พี่ไม่ได้ให้”
น้ำหนึ่งตกใจคาดไม่ถึง “พี่เพชร” แล้วนึกเสียใจ จนน้ำตาปริ่มๆ
“ถ้าพจน์อยากได้คืน พจน์ก็เอาคืนมา”
พูดแค่นั้นเพชรก็ผลุนผลันเดินเข้าบ้านไป ทับทิมมองตามอย่างรู้ทัน เพชรไม่กล้าอยู่สบตาน้ำหนึ่งในขณะที่พจนีย์ได้ทีเดินไปเผชิญหน้าน้ำหนึ่งว่า
“ได้ยินเต็มสองหูแล้วใช่มั้ย”
น้ำหนึ่งมองตามเพชรเสียใจน้ำตาไหลริน พจนีย์รู้เพชรให้น้ำหนึ่งจริงๆ พูดต่อ
“แต่ในเมื่อเธอลงทุนหน้าด้านมาถึงนี่แล้ว เอาคืนไป”
พจนีย์ปาเสื้อใส่น้ำหนึ่งและแกล้งทิ้งขวดโหลดาวลงกับพื้น น้ำหนึ่งผงะ ขวดดาวแตกกระจาย ดาวนับพันหล่นเกลื่อนพื้น น้ำหนึ่งน้ำตานองหน้า ในขณะที่พจนีย์ยิ่งมองยิ่งหมั่นไส้
รจนาตามมา วิ่งมาเห็นเหตุการณ์ มองภาพตรงหน้าสะใจ พจนีย์บอกน้ำหนึ่ง
“เสื้อน่ะฉันให้เธอได้ แต่พี่เพชร....อย่าหวัง น้ำหน้าอย่างเธอ เป็นได้แค่เมียน้อยจำไว้”
พจนีย์มองจ้องน้ำหนึ่งก่อนสะบัดหน้าเดินหนีไป รจนามองสบตาน้ำหนึ่ง แกล้งทำทีเป็นเห็นใจ
น้ำหนึ่งยืนร้องไห้มองเสื้อและขวดดาวที่พื้น ทับทิมมองแววตาเจ็บปวด
“เธอเจ็บใช่มั้ย? เธอเสียใจใช่มั้ย...งั้นก็รู้ไว้นะ...สิ่งที่เธอถูกเมียเพชรกระทำ คือสิ่งที่แม่เธอทำกับพลอย”
ทับทิมเดินหนีไปอีกคน น้ำหนึ่งร้องไห้โฮ มองที่พื้นนิ่ง ค่อยๆ ก้มลงเก็บเอาเสื้อของเพชรและ
ดาวนับพันที่หล่นเกลื่อนพื้นขึ้นมา
ระหว่างนั้นพลอยนั่งบนรถเข็นมองอยู่ และเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง คิดในใจ
“คนฉลาด ไม่ต้องทำอะไร มีหน้าที่แค่ ยุ ให้คนตีกัน”
พลอยยิ้มในสีหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะเข็นรถเข็นไปเรื่อยๆ ท่าทางสบายใจ
พจนีย์เดินยิ้มสะใจ ปนโกรธเกลียด จะกลับบ้าน แต่ต้องชะงักเมื่อเจอรจนายืนอยู่
“ทำไมพี่พจน์ถึงทำตัวอย่างนี้คะ”
“ก็พี่อยากได้...ไม่ใช่แค่พี่เพชร....แต่ทุกอย่าง ที่เป็นของบ้านเชิงเขา รจคงเข้าใจนะ”
“พี่พลอยไม่มีทางให้พี่พจน์ทำอย่างนั้นแน่ๆ”
“แต่ถาพี่เพชรหลงรักพี่ มันก็อีกเรื่องใช่มั้ย”
พจนีย์ยิ้มร่าวิ่งกลับบ้านไป รจนามองตาม คิดในใจ
“ไม่มีทาง พี่เพชรไม่มีทางรักพี่พจน์ ไม่มีทาง”
รจนามองตามตาเขียวแล้วเดินตามพจนีย์กลับบ้านไป พลอยเข็นรถเข็นเข้ามา
“ทำยังกับฉันจะดูเธอสองพี่น้องไม่ออก พจนีย์ รจนา”
พลอยหัวเราะนิดๆ เบิกบานใจ เป็นที่สุด
คืนนั้นเพชร ยืนกอดอกอยู่ด้านนอกบ้าน ท่าทางกลุ้มใจ ทับทิมเดินเข้ามา เห็นท่าทางของเพชรก็รู้จึงบอกออกไป
“คนเรา...ลองคิดจะทำอะไร แล้วเกิดลังเล ไม่มีทางสำเร็จ”
เพชรหันมามอง ทับทิมมองจ้องเข้าไปในแววตา ทั้งโกรธทั้งน้อยใจ แทนพลอย
“แม่เห็นตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แกสงสารนังเด็กนั่น แต่แกไม่ควร ใจอ่อน โดยเฉพาะถ้าแกได้
เห็น ความทุกข์ทรมาน ของพลอย”
ทับทิมจ้องหน้าเพชรเป็นเชิงตำหนิ ในแววตามีแต่ความเสียใจ และผิดหวัง เพชรเองก็เสียใจ
เวลาต่อมา ที่บริเวณทำกายภาพบำบัดของพลอยในบ้านเชิงเขา พลอยกำลังฝึกกายภาพบำบัด ด้วยการจับราวคู่หัดเดิน สีหน้าพลอยมุ่งมั่น ส่วนด้านหลัง ทับทิมเดินมาพร้อมกับเพชร บอกเสียงเครือ
“ขนาดดึกดื่นค่ำคืน อากาศหนาวเหน็บขนาดนี้ พลอยมันยังต้องออกมาทำกายภาพบำบัดเพราะพลอยอยากเดินได้...ทั้งๆ ที่ความจริง...ถ้าไม่มีไอ้เกรียงศักดิ์ ชีวิตพลอยก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้...ฮึ!!คำพูดเดิมๆ แต่แม่ก็ต้องพูด....เพราะมันเจ็บ มันแค้น แกได้ยินมั้ยเพชร”
เพชรหน้าสลด ทับทิมมองตำหนิ บอกย้ำสำทับ
“รู้ทั้งรู้ ว่าอะไรเป็นอะไร แกจะปล่อยนังเด็กนั่นไปอย่างบริสุทธิ์ผุดผ่องก็ตามใจแก”
ทับทิมเดินหนีไปอย่างโกรธจัด มองจากหางตา พลอยเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง พอทับทิมเดินไป ท่าทีที่เข้มแข็งของพลอยเปลี่ยนเป็นอ่อนแอขึ้นมาทันที แกล้งปล่อยตัวล้มลุกหกล้มน่าเวทนา
เพชรตกใจ “พี่พลอย”
เพชรรีบวิ่งเข้ามาหา ประคองร่างพลอยให้ลุกขึ้น พลอยยิ้มให้เพชรด้วยดวงตาสดใส
“ไม่เป็นไรเพชร...พี่ไม่เป็นไร พี่ต้องเดินให้ได้”
พลอยดึงมือตัวเองออกจากร่างเพชร เอื้อมมือจับราว และพยายามโหนตัวลุกขึ้นไปใหม่ ไม่ทันไรร่างของพลอยก็ล้มฮวบลงแบบไม่มีแรง เพชรประคองพลอยขึ้นมาอีก พลอยยิ้ม
“พี่ไม่เป็นไรจริงๆ เมื่อก่อนพี่ทรมานมากกว่านี้อีกเพชร......แค่นี้ถือว่านิดเดียว”
พลอยยิ้ม แล้วกัดฟันจับราวจะลุกยืนให้ได้ เพชรคว้าตัวพลอยมากอดแน่นสุดจะสงสาร
พลอยแกล้งถามซื่อๆ ในกิริยาตกใจ “อะไรจ๊ะเพชร อะไร”
เพชรมองมาอย่างจริงใจ ห่วงใย และรู้สึกผิด “ผมจะไม่ลังเล...ผมจะไม่ใจอ่อน ใครที่มันทำพี่พลอยเจ็บ...ผมจะเอามันคืน”
ท่าทีของเพชรแข็งกร้าว พลอยแกล้งทำหน้าตกใจ งวยงงว่าเพชรเป็นอะไร เพชรดึงตัวพลอยมา
กอดมือแข็งแรงแตะศรีษะพลอยที่ซบบนไหล่เบาๆ พลอยยิ้มพอใจ แต่เพชรกลุ้มหนัก
เพชรเปิดประตูเข้ามาในห้อง น้ำหนึ่งสะดุ้งโหยง ยังไม่ทันจะทำอะไรร่างสูงใหญ่ของเพชรก็ผวามากอด น้ำหนึ่งทั้งตกใจทั้งโกรธ
“พี่เพชร”
น้ำหนึ่งผลักร่างเพชรออกเต็มแรง เพชรล้มลงบนเตียง นอนแน่นิ่ง น้ำหนึ่งงง
“พี่เพชร”
น้ำหนึ่งค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้ เอามือแตะ แล้วก็ต้องทำหน้าย่น
“พี่เพชรดื่มหนักขนาดนี้เลยเหรอ”
น้ำหนึ่งถามตัวเอง ค่อยๆ พลิกร่างของเพชรให้นอนหงาย แม้จะหลับ แต่เห็นชัดเจนว่าเพชรคิ้ว
ขมวดเหมือนมีเรื่องกลุ้มใจ น้ำหนึ่งมองเป็นห่วง รีบเดินไปเอาผ้าเย็นออกมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้
เพชรบ่นเพ้องึมงำ “แกต้องใจแข็งไว้เพชร...น้ำหนึ่ง..พี่ขอโทษ”
น้ำหนึ่งนิ่งอึ้ง มองเพชรอย่างไม่เข้าใจ
“พี่เพชรแคร์น้ำหนึ่ง! ต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ๆ”
น้ำหนึ่งตั้งคำถาม คิดในใจ
“เราต้องอยู่ที่นี่ เพื่อค้นหาความจริง!”
วันต่อมาพลอยเข็นรถเข็นพาตัวเองมาตามทาง น้ำหนึ่งออกมาเห็นก็วิ่งมาหา เข็นช่วย
“น้ำหนึ่งช่วยค่ะ”
พลอยยิ้มพูดเหมือนใจดีแต่แอบเหน็บ “ไม่เป็นไร....ที่ผ่านมา พี่ก็ช่วยตัวเองทุกอย่าง”
พลอยเข็นรถเข็นพาตัวเองไป น้ำหนึ่งมองจ้องพลอย ใจหนึ่งก็อยากทดแทนความผิดพ่อ อีกใจอยากรู้ มีอะไรซ่อนอยู่
“น้ำหนึ่งเคยบอกพี่พลอยแล้วไงคะ...จะทำทุกอย่างจนกว่าพี่พลอยจะให้อภัย”
“แล้วถ้าคุณพ่อมารับล่ะ”
“น้ำหนึ่งไม่กลับค่ะ น้ำหนึ่งจะอยู่ดูแล จนกว่าพี่พลอยจะหาย”
พลอยมองน้ำหนึ่งยิ้มเอ็นดูแต่ตะโกนก้องในใจ
“ทำเป็นกตัญญูเพื่อพ่อ เชอะ...ความจริง หลงรักน้องชายฉันต่างหาก นังน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งถามซื่อๆ “พี่พลอยไม่เชื่อเหรอคะ”
จังหวะนั้นพจนีย์เดินมาทางด้านหลัง เห็นท่าทางที่พลอยมีต่อน้ำหนึ่งก็อิจฉา พลอยแกล้งมองน้ำหนึ่งยิ้มเอ็นดู บอกเสียงอ่อนโยน
“เชื่อ...เพียงแต่ตอนนี้พี่ไม่ต้องการแล้ว”
น้ำหนึ่งมองพลอยอย่างงุนงง พลอยยิ้มอ่อนโยน เหมือนผู้ใหญ่ใจดี
“พูดตรงๆ นะ ตอนแรก พี่โกรธ...พี่เกลียดน้ำหนึ่ง...แต่พอพี่เห็นความตั้งใจจริงของน้ำหนึ่งที่
จะทำทุกอย่างเพื่อพี่...พี่เลยไม่เจ็บไม่แค้นอะไร...ท่าน...แล้วก็น้ำหนึ่งอีก..คิดซะว่าที่ผ่านมา...เป็นเวรเป็นกรรมของพี่เอง”
น้ำหนึ่งตกใจ คาดไม่ถึง “พี่พลอย”
“พี่พูดจริงๆ จ้ะน้ำหนึ่ง....ถ้าน้ำหนึ่งอยากกลับบ้าน ให้เพชรไปส่งนะจ๊ะ ถือซะว่า..เรื่องของเราจบกันเพียงแค่นี้”
พูดจบพลอยก็เข็นรถเข็นเข้าบ้านไป แต่จากหางตาเห็นพจนีย์มองอยู่ พลอยแอบยิ้ม น้ำหนึ่งมอง
ตาม ยิ่งสงสารเห็นใจพลอย
พจนีย์มองน้ำหนึ่งอย่างชิงชัง
พลอยนั่งยิ้มสำราญใจ กำลังจะเข็นรถเข็นเข้าบ้าน พจนีย์วิ่งตามเข้ามาโวยวาย
“พจน์ไม่เข้าใจ....”
พลอยทำทีเป็นไม่รู้ ย้อนถามเสียงหวาน “เรื่องอะไรจ๊ะ”
“ก็เรื่องที่พี่พลอยจ้างให้พจน์มาเป็นเมียพี่เพชร แต่พี่พลอยกลับไปทำดีกับยัยน้ำหนึ่ง”
“แล้วทำไม”
“ก็แล้วพี่พลอยจะให้พจน์ทำยังไงกันแน่คะ”
“ทำทุกอย่างตามใจพจน์เลยจ้ะ...จะคืนสัญญาก็ได้ หนี้ พี่ยกให้...เพราะตอนนี้...พี่ให้อภัยน้ำหนึ่งหมดแล้ว พูดก็พูดนะ...” พลอยจงใจเสี้ยม แหย่รังแตน “เพชรจะรักจะชอบกับน้ำหนึ่งพี่ก็ไม่ว่า”
พจนีย์อึ้ง นิ่งงันไป คาดไม่ถึง “พี่พลอย”
“พี่อยากพักผ่อน ขอตัวก่อนนะ”
พลอยเข็นรถเข็นเข้าบ้านไป พจนีย์หงิกงอ ได้แต่ตะโกนก้องในใจ
“ถึงพี่พลอยจะยอม แต่พจน์ไม่ยอม”
พจนีย์กระแทกเท้าเดินออกไป พลอยชำเลืองมอง แค่เห็นสีหน้าของพจนีย์ พลอยก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พลอยเลี้ยวรถเข็นกลับอย่างรวดเร็ว
เห็นชัดเจนเลยว่าบัดนี้ พลอยนั้นแข็งแรงขึ้นมาก ขณะตามพจนีย์ไป
ขณะที่น้ำหนึ่งเดินด้อมๆ มองๆ สอดสายตามองไปทั่วบริเวณบ้านเชิงเขา ด้วยความอยากรู้อยากเห็น พจนีย์โผล่มาด้านหลัง
“มองหาผัวชาวบ้านรึไง”
น้ำหนึ่งมองพจนีย์เป็นเชิงตำหนิ “มองหาชะนีมากกว่าค่ะ วันๆ ไม่ทำอะไรเอาแต่ร้องหาผัว”
“นังน้ำหนึ่ง”
“กรุณาเรียกฉันให้สุภาพด้วยค่ะคุณพจนีย์ ไม่งั้น...ดิฉันจะพาลถามไปถึงบรรพบุรุษของคุณ
ได้ เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานยังไง ถึงได้มาจิกหัวคนอื่น”
“ทำไมฉันจะจิกไม่ได้...ในเมื่อคนที่ฉันจิก มันคือเมียน้อย”
“คำก็เมียน้อย สองคำก็เมียน้อย แต่เสียใจด้วยนะ ฉันไม่ได้สะทกสะท้านอะไรหรอก เพราะ
ความจริงฉันไม่ได้เป็น”
พจนีย์ยกมือถือขึ้นขู่ “งั้น...ก็ลองดูคลิปอีกซักรอบแล้วกัน....ต่อให้เธอปฏิเสธ ฉันก็อยากรู้
เหมือนกันว่าคนทั้งประเทศจะคิดยังไง”
“อย่านะ”
“กลับไปซะ อย่ายุ่งกับพี่เพชร ไม่งั้น คลิปแย่งผัวชาวบ้านของเธอได้โผล่อีกรอบแน่”
น้ำหนึ่งอึ้ง หน้าเสีย ไม่อยากเสียหายอีก สะบัดหน้าเดินหนีไป พจนีย์ยิ้มอย่างพอใจ
“แค่ขู่ก็กลัวจนหางจุกตูด ขี้ขลาดชะมัด” พูดอย่างไม่เชื่อ “ท่าทางแบบนี้เป็นเมียน้อยได้
ยังไง” ทำท่าคิดก่อนมองมือถือยิ้มร้าย “ดี...ฉันจะเอาคลิปขู่แกตลอดเลยน้ำหนึ่ง”
พจนีย์ยิ้มพอใจ ด้านพลอยเองก็ยิ้มพอใจ หยิบมือถือขึ้นมากดส่งคลิปพจนีย์ด่าน้ำหนึ่ง อัพขึ้นยูทูปทันที
ตกตอนกลางคืนเกรียงศักดิ์อยู่ที่คฤหาสน์ หน้าซีดตัวสั่น ขณะตะเบ็งเสียงถามลูกน้อง
“ผมสั่งให้เก็บคลิปบ้าๆ พวกนั้นไปแล้ว โผล่มาอีกได้ยังไง”
“มีคนอัพขึ้นมาใหม่ครับ”
“ไปสืบให้ได้ ว่าอัพมาจากไหน?ใคร?แล้วเรื่องไอ้เพชรด้วย...ที่ทำงาน บ้าน คอนโด มันซุกหัวอยู่ที่ไหน ตามมาให้ได้”
“ครับผม”
ลูกน้องเดินออกไป เกรียงศักดิ์หน้าเครียด ดาราณีกลุ้มจนไม่รู้จะกลุ้มยังไง?
“อัพแล้วอัพอีก แสดงว่าคนที่อัพคลิปต้องการประจานเรา”
“ผมต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นใคร”
เกรียงศักดิ์โกรธจัด ตาหวานหน้าจ๋อยสงสารน้ำหนึ่ง ดาราณีกะนวลหน้าตึงอยากรู้เหมือนกัน
อลิสแต่งตัวสวยเดินอารมณ์ดีออกมาจากบ้านตรงไปที่รถ ภาคย์เดินเข้ามาหา
“อารมณ์ดีเชียวนะอลิส”
อลิสหันมามองดีใจ “พี่ภาคย์” รีบเข้ามาหาเกาะแขน “ก็ต้องอารมณ์ดีสิคะ อลิสแต่งตัวสวยจะไปหาพี่ภาคย์อยู่เลย แต่พอเจอพี่ภาคย์ยืนอยู่ตรงนี้ อลิสรู้เลยว่าบุพเพสันนิวาสมีจริง”
“อะไรของเธอ แค่นี้ก็ถือเป็นบุพเพสันนิวาส”
“ตรรกะอลิสค่ะ เราได้มาเจอกันเพราะเรามีบุพเพสันนิวาสต่อกัน โดยเฉพาะเมื่อคืนอลิสอธิษฐานว่า ถ้าเจอหน้าผู้ชายคนไหนเป็นคนแรก คนนั้นจะเป็นเนื้อคู่ของอลิส...” อลิสหัวเราะเขิน “แล้วอลิสก็เจอพี่ภาคย์ จะไม่ให้อลิสดีใจได้ยังไงคะ”
“แต่พี่เสียใจ” ภาคว่า
อลิสหน้าเสีย “อ้าว”
“อลิสเป็นคนปล่อยคลิปน้ำหนึ่งใช่มั้ย”
อลิสถอนหายใจเฮือกๆๆ หน้าหงิก “พี่ภาคย์คะ...อลิสไม่ได้เป็นแฝดอินจันกับยัยน้ำหนึ่งนะคะ พอยัยน้ำหนึ่งมีเรื่องจะต้องคิดถึงอลิสน่ะ”
“ก็มีแต่อลิสคนเดียว ที่คิดร้ายกับน้ำหนึ่ง”
“พี่ภาคย์”
“ที่พี่แวะมาเพราะอยากบอก ลบคลิปซะ ก่อนที่จะเดือดร้อน วงในเค้าบอก ท่านเกรียงศักดิ์เอาเรื่องคนปล่อยคลิปแน่”
พูดจบภาคย์ก็ขึ้นรถขับออกไป อลิสหน้าเหวอ
“แล้วมันตรรกะอะไรยะ เอาเรื่องคนปล่อยคลิป แล้วมาตามบอกฉัน ฉันไม่ได้ปล่อยโว้ย” ท่าทีอลิสน่าขัน หงุดหงิดหยิบมือถือขึ้นมา “พี่หมอ..อารมณ์ไม่ดี เดี๋ยวอลิสไปหานะ...จะไปอยู่ด้วยหลายๆ วันเลย”
อลิสหน้าตาหงิกงอ สุดจะเซ็ง
อลิสขับรถมาจอดพรืดที่หน้าโรงพยาบาล หมอณัฐยืนรออยู่หัวเราะ
“ขับรถเป็นพายุหมุนอย่างนี้...ระวังเถอะ ต่อไปจะได้นั่งรถกู้ภัยมาที่นี่แทน”
“โอ๊ย..จะลงนรกหรือสวรรค์อลิสไม่สนใจแล้วค่ะพี่ภาคย์...ตอนนี้เซ็งโคตร...จู่ๆ ก็มีเหามากระเด้งบนหัวดึ๋งๆๆๆทั้งที่ไม่ได้ทำ..ไม่รู้เรื่องอะไรนักหนา”
หมอณัฐหัวเราะ “พี่ไม่ได้เป็นยาฆ่าเหาซะด้วยซิ สงสัยช่วยไม่ได้”
“แค่ให้อลิสมาอยู่ด้วย...ก็ช่วยได้แล้วค่ะ ส่วนยาฆ่าเหาเดี๋ยวอลิสจัดการเอง ว่าแต่..จะไปไหนคะ? อลิสไม่เชื่อหรอกว่ามารออลิส”
“อลิสคิดถูกแล้วจ้ะ พี่ไม่ได้มารออลิส..แต่กำลังจะไปบ้านเชิงเขา”
“บ้านเชิงเขา...” อลิสทำท่าคิด “บ้านของคนไข้คนสวยของพี่หมอที่ชื่อ พลอยประดับ ใช่มั้ยคะ”
หมอณัฐยิ้มอ่อนโยน “ใช่จ้ะ...พี่กำลังจะไปหาคุณพลอย”
“ว้าว! อลิสไปด้วยค่ะ อยากเห็นแทบขาดใจแล้วเนี่ย คุณพลอย คนไข้คนสวยของพี่หมอ”
“โอเค้..แต่เดี๋ยวพี่โทร.บอกคุณพลอยหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวเค้าจะตกใจ ที่เห็นแม่เหาโผล่ไปบ้านเค้า”
“พี่หมออ่ะ..ว่าอลิสซะเสียเลย”
อลิสหัวเราะไม่ถือสา ขณะที่หมอณัฐหยิบมือถือขึ้นมา
“คุณพลอยเหรอครับ...ผมมีเรื่องจะรบกวนหน่อยนะครับ”
พลอยกำลังคุยโทรศัพท์กับหมอณัฐ
“เรื่องแค่นี้เอง..ไม่เห็นจะรบกวนตรงไหน ยินดีค่ะ..แล้วเจอกันค่ะคุณหมอ”
พลอยวางสาย ทับทิมที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ถาม
“มีอะไร”
“หมอณัฐจะมาหาพลอยค่ะ บอกว่าจะพาน้องสาวมาด้วย...ชื่อน่าเอ็นดูเชียวค่ะ อลิส”
น้ำหนึ่งเดินเข้ามาพอดี ได้ยินชื่อ อลิส ก็ส่ายหัว แต่ไม่ได้ติดใจคิดว่าใช่หรือไม่ใช่อลิส คู่ปรับตัวแสบ
ติดตาม "มารกามเทพ" ตอนที่ 6