xs
xsm
sm
md
lg

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 13

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 13

อนุชเข้ามาในสวนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดใจที่ตัวเองไม่มีค่าอะไรสำหรับเขา กร้าวเป็นห่วงอนุช แต่ต้องฝืนใจตัวเองทำเป็นไม่สนใจ ลลิตายิ้มคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชนะ เข้ามากอดคลอเคลียไม่ยอมห่าง

“ลิต้าช่วยคุณขายรัตนกิจสำเร็จแล้ว ไม่คิดจะตอบแทนกันบ้างเหรอคะ”
ลลิตายื่นหน้าเข้ามาจะจูบ กร้าวดึงตัวเธอออก
“คุณได้ส่วนแบ่งของคุณแน่ แต่วันนี้คุณกลับไปก่อนนะลิต้า”
ลลิตาไม่ยอม ยื้อกอดเขาไว้
“ทำไมต้องกลับด้วย...ตอนนี้ทุกอย่างเป็นของเราแล้ว สิตแพ้คุณราบคาบ เราสองคนไม่จำเป็นต้องปิดบังใครแล้ว”
“ผมรู้ แต่หลายวันมานี่ผมเหนื่อย อยากพัก ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรทั้งนั้น”
กร้าวผละหนี เดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา หลับตานิ่งๆ ลลิตามองอย่างหงุดหงิดใจ
“ก็ได้ค่ะ ไม่มีอารมณ์ก็ไม่มีอารมณ์ งั้นลิต้าก็จะไปพักบ้าง”
ลลิตาคว้ามือถือของตัวเองที่อนุชปาทิ้งขึ้นมาแล้วเดินขึ้นบันไดไป กร้าวลืมตามาเห็นก็หน้าเครียด รีบตามไป
“เดี๋ยวก่อนลิต้า จะไปไหน ลิต้า!”

ลลิตาไม่ฟังเสียง เดินฉับๆขึ้นบันไดไป

กร้าวรีบร้อนเปิดประตูห้องนอนเข้ามา

“ลิต้า...”
ลลิตาไม่ได้อยู่ในห้อง เขาแปลกใจ เดินเข้ามามอง ลลิตาที่แอบอยู่หลังประตูย่องเข้ามากอดเขาผลักตัวไปที่เตียง กร้าวเสียหลักล้มลงบนเตียง จะลุกขึ้น ลลิตาเข้ามานั่งข้าง กดตัวเขานอนลง
“ไม่เอาน่ะ ลิต้า”
“คุณอยากพักไม่ใช่เหรอคะ นอนไปสิคะ”
ลลิตาลูบไล้ กร้าวปัดมือลลิตาออก ลุกขึ้นนั่ง
“ผมพูดชัดแล้วนะลิต้า คุณจะกลับไปดีๆไหม”
ลลิตางอน สะบัดหน้าหนี แต่ยังนั่งอยู่ที่เตียง
“ลิต้าไม่กลับค่ะ ลิต้าจะอยู่ที่นี่!”
“คุณจะอยู่ได้ยังไง ในเมื่ออนุช...”
ลลิตาสวนขึ้นทันที
“ทำไมคะ อย่าบอกนะว่าคุณเกรงใจมัน!”
กร้าวอึกอัก พอดีมือถือลลิตาดังขึ้น เธอไม่รับสาย จ้องหน้าคาดคั้นกร้าว
“ว่ายังไงคะ หรือคุณแคร์มันจริงๆ”
“ผมไม่ได้แคร์ แค่ไม่อยากให้มีเรื่องทะเลาะกันในบ้าน”
ลลิตาจ้องเขาอย่างจับพิรุธ กร้าวรำคาญ
“จะรับไหม สายนั่นน่ะ ผมรำคาญเสียง”
ลลิตาหยิบมือถือมาดูแล้วหน้าตื่น เห็นว่าเชิดโทรมา กร้าวเห็นท่าทีของลลิตาก็แปลกใจ
“ใครน่ะ!”
ลลิตาฝืนยิ้ม
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” เธอกดตัดสาย “ไม่อยากให้ลิต้าอยู่ด้วยก็ตามใจคุณ วันนี้ลิต้ากลับก่อนก็ได้”
เสียงมือถือดังขึ้นอีก ลลิตาสะดุ้ง ต้องกดรับสายอย่างรำคาญ
“รู้แล้ว ฉันติดธุระอยู่ เดี๋ยวโทร.กลับ!” เธอกดวางสาย “ลิต้าไปนะคะ”

ลลิตายิ้มให้ ก่อนจะลนลานออกไป กร้าวมองตามอย่าสงสัย

ลลิตาแอบเดินมามุมหนึ่งของบ้าน ดูโทรศัพท์ที่เป็นชื่อเชิดโทร.เข้ามา เธอกดตัดสายแล้วปิดเครื่อง เจ็บใจที่เชิดตามจองล้างจองผลาญ...กร้าวลงมา เห็นขำกำลังเก็บแก้วน้ำที่เอามารับรองลลิตา

“ลิต้ากลับไปแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ”
กร้าวถอนใจ แล้วนึกถึงอนุชเป็นห่วง
“คุณนุชล่ะ”
พอดีอนุชเดินกลับเข้ามา กร้าวเห็นอนุชก็ตีหน้าขรึม ขำยกถาดน้ำออกไป
“ถามหาฉันทำไม”
“ไม่มีอะไร แค่จะเช็คว่าหนีกลับบ้านไปรึยัง”
“คุณได้ทุกอย่างที่ต้องการไปแล้ว ยังจะให้ฉันอยู่ที่นี่ทำไม”
กร้าวกวาดสายตามองทั่วเรือนร่างของเธอ
“รู้ได้ยังไงว่าผมได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้ว”
อนุชเห็นสายตากร้าว ทั้งอึดอัดทั้งหวาดหวั่น
“คุณนี่มันหยาบช้า น่าทุเรศที่สุดเลย!”
อนุชสะบัดหน้าหนี กร้าวกระชากกลับมา
“เดี๋ยวซี่...ผมยังไม่ได้บอกเลย ว่าผมดีใจแค่ไหนที่เห็นอสิตมันเป็นเหมือนที่พ่อผมเคยเป็น”
อนุชทั้งโกรธทั้งเสียใจ สะบัดหนี กร้าวจับแขนไม่ปล่อย กระชากกลับมาอีก
“หวังว่ามันจะไม่ตรอมใจตายไปซะก่อนนะ จะได้ทนอยู่กับความทุกข์ทรมานนานๆ”
“คุณมันใจร้ายที่สุด! ฉันขอให้ไฟแค้นในใจคุณ เผาผลาญตัวคุณเองให้มอดไหม้ ให้พินาศย่อยยับ เหมือนที่คุณทำกับคนอื่น!”
อนุชสะบัดออกไป เจ็บปวด กร้าวอึ้ง รู้ว่าเธอแค้นเขา เหมือนที่เขาแค้นครอบครัวเธอ...แล้วเมื่อไรเรื่องมันจะจบ กร้าวยุ่งยากใจ

ด้านกรวิกนั่งจ๋อยๆ มองเหม่อไปที่ประตูห้องทำงานกร้าว คิดถึงเขามาก คณิตเดินเข้ามา
“เจ้านายคุณอยู่ไหม เจ้ากร้าวน่ะ”
กรวิกส่ายหน้า
“วันนี้ไม่เข้าออฟฟิศค่ะ”
“เอ้อ...ดีเหมือนกันนะ เป็นเจ้าของกิจการ อยากมาทำงานก็มา ไม่อยากมาก็นอนกอดเมียอยู่ที่บ้าน”
กรวิกไม่พอใจ ตวัดสายตามองค้อนทันที คณิตรู้ตัวว่าไม่น่าพูด หน้าเจื่อนไป
“ขอโทษครับ ผมลืมตัว คิดว่าพูดกับเพื่อนผู้ชาย”
กรวิกยิ่งโกรธ
“ฉันเหมือนผู้ชายตรงไหนห้ะ!”
“ไม่ครับ ไม่เหมือน! เพียงแต่ผมรู้สึกคุ้นเคยกับคุณ เหมือนคุณเป็นเพื่อนเท่านั้นเอง...”
กรวิกค้อน คณิตกลบเกลื่อน
“ไหนๆไอ้กร้าวก็ไม่อยู่ ให้เพื่อนคนนี้เลี้ยงข้าวซักมื้อนะครับ”
กรวิกเอือมๆ แต่ไม่อยากจะเอาเรื่อง

กรวิกนั่งกินข้าวกับคณิตอยู่ในร้านอาหาร กรวิกนึกถึงกร้าวแล้วแค้นอนุชขึ้นมา
“แต่ก็ถูกอย่างที่คุณพูดนะ...ป่านนี้ยัยนุชคงรั้งตัวอากร้าวไว้ ไม่ให้มาเจอฉัน”
“ว่าไปนั่น คุณนุชจะทำอย่างนั้นทำไม”
“ก็แม่นั่นชอบแย่งของคนอื่น เป็นนิสัยอันถาวรอยู่แล้ว”
“ถามจริงๆเหอะ ที่ผ่านมา ที่พวกคุณเคยเป็นเพื่อนกัน คุณนุชเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆเหรอ”
กรวิกอึกอัก ที่ผ่านมาอนุชเป็นเพื่อนที่ดี แต่ตอนนี้เธอแค้นใจเกินกว่าจะไปคิดถึง
“ความจริง ที่คุณนุชต้องมาพัวพันกับไอ้กร้าว...เป็นเพราะแผนของไอ้กร้าวมันต่างหาก”
กรวิกแปลกใจ
“แผนของอากร้าว”
คณิตพยักหน้า ตัดสินใจเล่าเรื่องของกร้าวที่เกิดขึ้นให้กรวิกฟัง...กรวิกรู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็อึ้งไป
“ที่แท้อากร้าวแต่งงานกับนุชเพราะต้องการจะแก้แค้นที่พ่อนุชเคยโกงพ่ออากร้าว...ทำไมเรื่องมันซับซ้อนอย่างนี้”
“ทีนี้เข้าใจรึยังล่ะครับว่าจริงๆ แล้วคุณนุชต่างหากที่ตกเป็นเหยื่อการแก้แค้นของไอ้กร้าว...คุณนุชน่าสงสารมากนะครับ”
กรวิกเริ่มสงสารอนุช แต่ก็ทำใจแข็งขึ้นมา
“แต่ยัยนุชก็สมควรโดนแล้ว”
คณิตหน้าเหวอ
“อ้าว!”
“ก็ถ้ายัยนุชอยู่ดีๆ ไม่มายุ่งกับอากร้าว ไม่ทรยศเพื่อน แย่งอากร้าวไปจากฉัน ยัยนุชก็ไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้”
“เป็นงั้นไป”

คณิตได้แต่ถอนใจ ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา

คณิตเข็นรถชาติเข้ามาในบ้าน กร้าวออกมาเจอ ยกมือไหว้

“ลุงครับ...”
ชาติมองหน้า
“ชนะแล้วใช่ไหม”
กร้าวชะงัก
“เมื่อไหร่ถึงจะหยุด”
กร้าวทำใจแข็ง
“ก็จนกว่าพวกนั้นจะชดใช้ให้ครบ...จนผมพอใจ”
คณิตปราม
“ไอ้กร้าว...”
กร้าวสวน
“แกไม่ต้องพูด แกเป็นหมอที่รู้จักแต่ความเจ็บปวดภายนอก ไม่ใช่ความเจ็บปวดข้างใน”
ชาติถอนใจ
“แต่การแก้แค้น มันไม่ทำให้หายเจ็บหรอกนะกร้าว!”
กร้าวรู้ว่าจริง พูดไม่ออก
“ที่กร้าวทำ มันจะยิ่งสร้างความเจ็บแค้นในใจเราเอง เพราะมันจะคอยเตือนไม่ให้ลืม เป็นไฟที่เผาใจไม่รู้จักจบสิ้น...หยุดแค่นี้เถอะ ลุงขอร้อง”
กร้าวสลดลง ได้แต่ถอนใจ
“ลุงครับ... ผมมาไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับได้อีกแล้ว”
อนุชเข้ามา กร้าวมองอนุช แล้วใจแข็งเดินหนีไป อนุชเข้ามากราบที่ตักชาติ

อนุชเข็นรถชาติเดินเล่นในสวน แต่เธอแอบร้องไห้ ชาติรู้สึกได้ จับมือเธอดึงจากแฮนด์รถเข็นให้มาตรงหน้า อนุชมาคุกเข่าตรงหน้าเขา ชาติมีสีหน้าเจ็บปวดไม่ต่างจากอนุช
“นุช...ป๋าขอโทษที่ปกป้องนุชไม่ได้ ยกโทษให้ป๋าด้วยนะ”
อนุชส่ายหน้า
“ป๋าอย่าพูดอย่างนั้นสิคะ ป๋าไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้”
“แต่ป๋าน่าจะห้ามเจ้ากร้าวได้”
“นุชรู้ค่ะ ว่าป๋าพยายามเต็มที่แล้วที่จะช่วยนุช” เธอไหว้ผู้มีพระคุณที่ตัก “นุชขอบพระคุณค่ะ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับนุช”
ชาติส่ายหน้า
“ไม่...ไม่พอหรอก ป๋าควรจะทำอะไรได้มากกว่านี้”
“ป๋าทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ ทั้งหมดมันเกิดจากไฟแค้นในใจคุณกร้าว แล้วก็ไม่มีใครที่จะดับมันลงได้ค่ะ”
อนุชซบหน้าลง ร้องไห้กับตัก ชาติได้แต่ลูบหัวปลอบอย่างสงสารเห็นใจที่สุด

ค่ำนั้น ชายธงนั่งซึมอยู่ในบ้าน ธารินเข้ามามองอย่างเป็นห่วง ตัดสินใจยิ้มร่าเริงเข้าไปหา
“พี่ชายธง...”
ชายธงเหลือบมองแวบหนึ่ง ก่อนจะลุกหนี ธารินรีบเข้ามาดักทางไว้
“พี่ชายธง...ฟังรินก่อนสิคะ รินไม่เกี่ยวกับที่ตำรวจไปจับพี่ชายธงที่บ้านนายกร้าวนั่นจริงๆนะคะ”
ชายธงไม่คุยด้วย เดินหนีไป ธารินจ๋อย
“พี่ชายธง...”
ธารินมาคุยกับเธียร
“ทำยังไงดีคะคุณลุง พี่ชายธงไม่ยอมกินข้าวมาหลายวันแล้วนะคะ”
“มันหิวก็มากินเองล่ะ หนูรินไม่ต้องห่วงมันหรอก ทีมันยังไม่ห่วงหนูรินเลย”
“แต่รินไม่สบายใจที่พี่ชายธงทรมานตัวเองแบบนี้”
“เชื่อลุง ปล่อยมันไว้อย่างนี้แหละ ต้องใช้ไม้แข็งดัดนิสัยมันบ้าง!”
เธียรเดินออกไป ธารินไม่สบายใจ

วันใหม่ ธารินมาที่บ้านกร้าว เธอส่งเงินให้ลูกน้องของกร้าว ลูกน้องตาวาว ลังเล ธารินยิ้มพอใจ...อนุชโดนขังอยู่ในห้องตามเคย นั่งกอดเข่าจ๋อยๆ ขณะเดียวกันนั้นมีเสียงประตูเปิด ปรากฏว่าธารินเข้ามา อนุชแปลกใจ
“คุณธาริน...”
ธารินรีบเข้ามาพูดใกล้อนุช ลดเสียงลง
“พี่ชายธงเป็นห่วงเธอมาก”
“คุณมาหาฉันเพราะเรื่องนี้เหรอ”
ธารินถอนใจ
“บางครั้งคนเราก็ต้องฝืนใจทำอะไรเพื่อคนที่เรารัก...ฉันทนเห็นพี่ชายธงเจ็บปวดไม่ไหว...ถ้าพี่ชายธงต้องเจ็บ ฉันขอเป็นคนเจ็บเองดีกว่า”
“ขอบคุณนะ คุณธาริน”
“ฉันไม่ได้ทำเพื่อเธอ ฉันทำเพื่อพี่ชายธง”
อนุชยิ้ม
“คุณจะทำเพื่อใครก็แล้วแต่ แต่ในเมื่ออานิสงส์มาถึงฉัน ฉันก็ต้องขอบคุณคุณ”
ธารินเผลอยิ้มไปด้วย แต่นึกได้ว่าอนุชเป็นศัตรูหัวใจก็รีบตีหน้าขรึม

“เอาล่ะ ตอนนี้เรามาช่วยกันคิดดีกว่า ว่าเธอจะออกไปจากที่นี่ด้วยวิธีไหนได้บ้าง”

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 13 (ต่อ)

ค่ำนั้น...ธารินมาหาชายธงที่บ้านเธอยื่นกระดาษโน้ตให้

“จดหมายจากอนุช”
ชายธงรับมาดูแล้วหน้าตื่น
“ลายมือนุชจริงๆ!” เขาเงยหน้าถาม “รินไปเจอนุชมาได้ยังไง”
ธารินยิ้ม
“รินซะอย่าง”
ชายธงพลอยยิ้มไปด้วย ธารินจริงจัง
“รินอยากพิสูจน์ว่ารินไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่คุณลุงให้ตำรวจไปจับพี่ชายธง”
ชายธงลูบหัวธารินอย่างอารมณ์ดี
“พี่เชื่อแล้ว ขอบใจรินมาก”
ธารินยิ้มดีใจ

เช้าวันใหม่...กร้าวกับอนุชนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกันในห้องอาหาร อนุชท่าทางมึนตึง กร้าวแอบเป็นห่วง
“อยากออกไปไหนบ้างรึเปล่า”
อนุชไม่มองหน้า
“ถามทำไม”
“ก็เห็นอยู่แต่ในบ้าน เผื่อว่าจะเบื่อ อยากออกไปไหน”
อนุชวางช้อน
“ขอบคุณนะที่เป็นห่วง แต่ไอ้ที่ฉันต้องติดอยู่ในบ้านทั้งวันทั้งคืนแบบเนี้ย ลืมแล้วเหรอว่าฝีมือใคร”
“ผมถามคุณดีๆนะ”
“ถ้าฝืนใจนัก ไม่ต้องมาดีกับฉันก็ได้”
กร้าวระอา รวบช้อน ลุกออกไป อนุชแอบเหลือบมอง

รถกร้าวแล่นออกไปจากบ้าน อนุชมองอยู่ ยิ้มสมใจ เธอแกล้งปวดท้องจนตัวงอ
“โอ๊ย...”
ขำเข้ามาเห็นเข้าก็ตกใจ
“คุณนุช เป็นอะไรคะ”
กร้าวขับรถอยู่ มือถือดังขึ้น เขากดรับสายแล้วตกใจมาก
“ว่าไงนะ คุณนุชอยู่โรงพยาบาล!”

บุรุษพยาบาลเข็นเตียงคนป่วยที่มีอนุชนอนปวดท้องอยู่ โดยมีลูกน้องกร้าวตามไม่ห่าง พยาบาลเข้ามา
“ญาติคนไข้เชิญทางนี้ค่ะ”
ลูกน้องเงอะงะ ทำอะไรไม่ถูก ตามพยาบาลไป อนุชซึ่งนอนปวดท้องอยู่ เห็นลูกน้องออกไปก็รีบลุกขึ้น
บุรุษพยาบาลตกใจ
“อ้าวคุณ ระวังนะครับ!”
อนุชยิ้มให้
“ฉันหายปวดท้องแล้วค่ะ”
อนุชกระโดดลงจากเตียง วิ่งหนีไป ปล่อยให้บุรุษพยาบาลมองงงอยู่ตรงนั้น

อนุชหนีมาที่โทรศัพท์สาธารณะในโรงพยาบาล โทรหาชายธง
“ชายธง มาถึงรึยัง!”
ชายธงยืนรออยู่ข้างรถที่ลานจอดรถโรงพยาบาลคุยมือถือกับอนุช
“ถึงนานแล้ว เรารอนุชอยู่ที่ลานจอดรถชั้นสาม!”
“ชายธงรอนุชเดี๋ยวนะ จะรีบไปเดี๋ยวเนี้ย!”
ขณะเดียวกัน กร้าววิ่งมาด้วยความเป็นห่วงอนุช แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าคืออนุชลุกเดินเองได้ ไม่ได้เป็นอะไร กร้าวรู้ว่าโดนหลอก เจ็บใจ แต่ยังไม่เข้าไปหา อนุชไม่เห็นกร้าว พอวางสายก็รีบออกไป

อนุชวิ่งออกมาที่ลานจอดรถ มองลงไปชั้นล่างเห็นชายธงยืนรออยู่ด้วยความกระวนกระวาย อนุชยิ้มดีใจ จะรีบวิ่งไปหาชายธง ทันใดนั้น กร้าวเข้ามาข้างหลังอนุช ล็อคตัว เอามือปิดปากไว้ อนุชตกใจ แต่กรีดร้องไม่ได้ กร้าวลากอนุชกลับเข้าไปในโรงพยาบาล ชายธงยืนดูนาฬิกาอย่างร้อนใจ หันไปมองที่ทางออกด้านบนแต่ไม่เห็นใคร

กร้าวลากอนุชกลับเข้ามาในโรงพยาบาล
“เจ้าเล่ห์นัก...พวกวิชเวทย์!”
“อย่ามาก้าวล่วงถึงตระกูลฉันนะ!”
“รึไม่จริง!”
“ตัวเองคงดีเลิศมากสินะ จับผู้หญิงไม่มีทางสู้ขังไว้ในบ้าน”
กร้าวกระชากอนุชเข้ามาใกล้
“อย่าคิดว่าที่นี่โรงพยาบาลแล้ว ผมจะไม่กล้าทำอะไรคุณนะ”
อนุชเจ็บใจ ได้ทีกระทืบใส่เท้าเขา
“โอ๊ย!!”
กร้าวเผลอปล่อยมือ อนุชวิ่งหนีไปทันที

อนุชวิ่งหนีมากดลิฟต์ รอลิฟต์อย่างกระวนกระวาย กร้าววิ่งตามมา
“อนุช!”
อนุชตกใจ วิ่งหนี กร้าวตามมาจับตัวอนุชไว้ได้
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย!”
พอดีชายหญิงคู่หนึ่งเดินผ่านมา อนุชรีบร้องขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วย เขาจับตัวฉันมา!”
ชายหญิงทั้งสองสีหน้าตกใจ กร้าวรีบบอก
“ไม่มีอะไรครับ เธอเป็นภรรยาผมเอง”
“เขาไม่ใช่สามีฉันค่ะ!”
“ภรรยาผมไม่ค่อยสบายครับ ผมกำลังจะพาเธอไปแผนกจิตเวทย์”
“ฉันไม่ได้บ้านะคะ เขาไม่ใช่สามีฉัน...”
กร้าวจับอนุชด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างล้วงกระเป๋าเงินออกมาเปิดให้ดูรูปแต่งงานของเขากับอนุช อนุชอ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึง ชายหญิงเห็นรูปแต่งงาน เชื่อที่กร้าวพูด มองอนุชอย่างกลัวๆแหยงๆ อนุชเผลอเสียงดังใส่
“นี่คุณ ฉันไม่ได้บ้านะ!”

ชายหญิงตกใจ ชักชวนกันเผ่นหนีไป

กร้าวดึงอนุชกลับมาที่ลิฟต์

“ปล่อยนะ ฉันเจ็บนะ!”
กร้าวอมยิ้ม อนุชยิ่งแค้น
“แล้วคุณจะบ้าเหรอ พกรูปแต่งงานทำไม!”
“คนจะได้รู้ไง ว่าผมแต่งงานแล้ว...”
“คงภูมิใจมากสินะ ที่เอาเรื่องนี้มาบังคับฉันได้”
กร้าวกวน
“ใช่...ภูมิใจมาก...ถึงแม้เมียผมจะเป็นโรคประสาท!”
อนุชโกรธ
“คุณ!”
ลิฟต์มาพอดี กร้าวดึงอนุชเข้าลิฟต์ไป

กร้าวดึงอนุชกลับมาที่รถที่จอดอยู่ลายจอดรถชั้นล่าง เขาเปิดประตูฝั่งคนขับ ดันอนุชเข้าไปก่อน แล้วจึงดันตัวเองเข้าไป อนุชดันเขาออกไป แต่สู้แรงไม่ได้ เธอรีบกระเถิบมาที่นั่งข้างคนขับ จะเปิดประตูหนีออกไปอีกด้านหนึ่ง กร้าวกระชากดึงกลับเข้ามา ทันใดนั้น ชายธงโผล่มา กระชากเสื้อกร้าว ดึงออกมาจากรถ อนุชออกมาจากรถ เห็นชายธงก็มีความหวัง
“ชายธง!”
ชายธงต่อยกับกร้าว แรกเริ่มชายธงเป็นต่อเพราะเล่นกร้าวทีเผลอ อนุชยืนมองอย่างเป็นกังวล ในใจไม่ได้อยากให้ใครต้องเจ็บตัว กร้าวเริ่มรับมือได้ เอาคืนในที่สุด ชายธงโดนชกหน้า ล้มไปข้างกรวยที่วางจองช่องจอดรถอยู่ อนุชตกใจเป็นห่วง
“ชายธง!”
กร้าวเข้ามากระชากแขนอนุช ดึงกลับไปที่รถ
“มานี่!”
กร้าวลากอนุชมาถึงรถ ทันใดนั้น ชายธงเข้ามาด้านหลัง ใช้กรวยเมื่อครู่ฟาดใส่กร้าวอย่างแรงเขาเสียหลัก เซถลา ล้มลง อนุชตกใจ
“คุณกร้าว!”
ชายธงคว้าแขนอนุชดึงไป
“นุช วิ่ง!”
กร้าวลุกขึ้นมา มองตาม แค้น!

ทั้งสองวิ่งขึ้นมาตามทางในลานจอดรถ อนุชไม่ไหว สะดุดขาล้มลง ชายธงรีบเข้ามาประคอง
“นุช ไหวไหม!”
อนุชพยักหน้า ชายธงช่วยประคองอนุช วิ่งหนีไปด้วยกัน

อนุชกับชายธงวิ่งมาถึงรถของชายธงที่จอดอยู่ ชายธงกดปลดล็อครถ
“นุช ขึ้นรถ”
อนุชรีบเข้าไปเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับ กร้าวขับรถตามมา จนตามมาทัน เขาเข้ามากระชากชายธง ชกและจับหัวชายธงโขกกับเสาจนล้มลง หมดสติ อนุชตกใจมาก
“ชายธง!”
อนุชวิ่งเข้าไปดูชายธง แต่กร้าวมากระชากแขนไว้
“ไปได้แล้ว!”
“แต่ชายธง...!”
กร้าวเห็นผู้ชายเดินอยู่ไกลๆ ก็ตะโกนบอก
“คุณครับ...คุณ มีคนหมดสติอยู่ตรงนี้!”
ชายหนุ่มคนนั้นได้ยิน รีบเดินเข้ามาดู กร้าวหันมาบอกอนุช
“ไปได้รึยัง”
อนุชเป็นห่วงชายธง
“แต่...”
“ที่นี่โรงพยาบาล เดี๋ยวเขาก็พานายสายธงไปหาหมอเองล่ะ”
“ใจคอคุณทำด้วยอะไร!”
กร้าวดึงอนุชไปขึ้นรถขับรถออกไป ทิ้งให้ชายธงนอนหมดสติอยู่ตรงนั้น

อนุชมองจากในรถด้วยความเป็นห่วงชายธง ก่อนที่รถจะแล่นออกไป

กร้าวดึงแขนอนุชลากกลับเข้ามาในบ้าน

“คุณกร้าว ฉันเจ็บนะ”
“เจ็บบ้างก็ดี จะได้จำ”
เสียงมือถือกร้าวดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นชื่อลลิตา เขากดสายทิ้งทันทีอย่างโมโห

ลลิตาที่รอสายอยู่ ไม่พอใจที่กร้าวกดทิ้ง
“เล่นอย่างนี้ใช่ไหม”
ลลิตาโทรหากร้าวอย่างไม่ลดละ

กร้าวดึงอนุชเข้ามาในบ้าน ขำออกมาเห็นก็แปลกใจ
“คุณนุช!”
เสียงมือถือดังขึ้นอีก กร้าวรำคาญ หันไปสั่งขำ
“ขำ พาคุณนุชขึ้นห้อง แล้วล็อคห้องไว้”
“คุณ...”
อนุชโมโห กร้าวหันมาสั่งเสียงเข้ม
“อย่าให้ขำต้องลำบากไปด้วยเลย”
อนุชชะงัก มองขำอย่างเห็นใจ ก่อนจะยอมตามขำไปโดยดี

เมื่ออนุชไปแล้ว กร้าวกดรับสายอย่างหงุดหงิด
“ว่าไงลิต้า”

กร้าวขับรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของบริษัท ลลิตาเดินออกมาจากมุมหนึ่ง กร้าวลงจากรถพร้อมกระเป๋าเอกสาร
“เดี๋ยวนี้ลิต้าคงเป็นคนอื่นไปแล้วสินะ จะให้นั่งรอที่ห้องทำงานคุณก็ไม่ได้ต้องให้เจอที่ลานจอดรถ”
“ผมว่ารีบ...เข้าเรื่องเลยดีกว่า”
กร้าวเปิดกระเป๋าเอกสารออกมา ภายในบรรจุเงินจนเต็มกระเป๋า
“เงินจากการขายรัตนกิจ คุณเอาไป”
กร้าวจะกลับขึ้นรถ ลลิตาตามมาดึงไว้
“แค่นี้เหรอคะคุณกร้าว”
“เท่านี้แหละ เงินทั้งหมดที่ขายรัตนกิจได้ คุณจะเอาอะไรอีก”
“ลิต้าไม่ได้หมายถึงเงิน ลิต้าหมายถึงตัวคุณ!”
“เอาเงินนี่ไป แล้วถ้าอยากได้คอนโดก็อยู่ไป ผมจะไม่ไล่คุณ แต่เลิกมาวุ่นวายกับผมเสียที!”
“คิดจะสลัดลิต้าทิ้งมันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดหรอกนะ ฟังไว้ให้ดีนะคุณกร้าว ยังไงลิต้าก็ไม่มีวันเลิกกับคุณ!”
กร้าวปัดกระเป๋าเงินออกจากกระโปรงรถ เงินหกกระจาย ลลิตาตกใจ
“คุณไม่อยู่ในฐานะที่จะขู่ผม จำไว้ด้วยลิต้า”
กร้าวกลับขึ้นรถ ขับออกไป เงินปลิวกระจาย ลลิตาตกใจ รีบตะครุบเงินไว้
“โธ่เว้ย! คุณกร้าวนะ คุณกร้าว” เธอก้มเก็บเงิน “เงินของฉัน!!”
ลลิตาก้มเก็บเงิน จนมาหยุดที่เท้าใครบางคน เธอเงยหน้าขึ้นมอง เชิดก้มลงมอง ยิ้มให้

ลลิตาเรียงเงินใส่กระเป๋าจนครบ เชิดยืนเยื้องไปด้านหลังมองยิ้มอยู่
“ว่าไง ครบไหมจ๊ะ ที่รัก”
ลลิตาพยักหน้า เหลือบหางตามองเชิดอย่างหวั่นๆ
“เอาล่ะ ถ้าครบแล้วก็รบกวนแบ่งส่วนของผัวมาด้วยนะ ที่รัก”
ลลิตากัดฟันแค้น นึกแล้วว่าต้องโดนเชิดขูดรีดอีกรีบหาทางเอาตัวรอด
“เอ้า ทำเฉย...ไหนล่ะ ส่วนแบ่งของฉัน!”
“ฉันนึกอะไรออกแล้ว...”
เชิดแปลกใจ ลลิตาอาศัยจังหวะนั้นเอากระเป๋าเงินฟาดใส่ก่อนจะวิ่งหนีเข้าไปในตัวอาคาร เชิดตั้งหลักขึ้นมาได้ มองตามอย่างเจ็บใจ

เย็นนั้น กร้าวกลับเข้ามาในบ้าน ขำกำลังยกถาดอาหารไปให้อนุชบนห้อง
“อะไรน่ะขำ”
“สำรับของคุณนุชค่ะ”
กร้าวมองไปที่ถาดอาหาร

อนุชนั่งจ๋อยอยู่ที่เตียง กร้าวเปิดประตูเข้ามานำถาดอาหารมาวางที่โต๊ะข้างหัวเตียง
“กินซะ”
อนุชโมโห ลุกขึ้นมาต่อว่า
“ฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของคุณนะ จับฉันมาขัง ถึงเวลาให้กินต้องกิน ให้นอนต้องนอน ฉันทนอยู่แบบนี้ไม่ไหวแล้ว!”
อนุชปัดถาดอาหารหกกระจาย กร้าวมองอาหารบนพื้น แล้วหันมามองอนุช หน้านิ่ง
“คิดว่าอาละวาดแบบนี้แล้วอะไรมันจะดีขึ้นหรือไง”
อนุชหน้าเครียด คิดได้ กร้าวออกไป พลางตะโกนเรียกขำ
“ขำ เอามาให้คุณนุชอีกชุด!”
ประตูปิดลงอีกครั้ง อนุชมองตาม หน้าเครียด

ค่ำนั้น ธารินยืนรอชายธงอย่างกระสับกระส่าย คอยดูนาฬิกา แต่เขาไม่มาสักทีก็เป็นห่วง ครู่หนึ่งมือถือดังขึ้นเธอหยิบมาดู เห็นเป็นชื่อชายธงก็ตื่นเต้น
“พี่ชายธงเป็นไงบ้าง สำเร็จไหม แล้วตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน”
ธารินฟังสายแล้วต้องตกใจ
“อะไรนะคะ!”

ธารินขับรถโดยชายธงมีผ้าปิดแผลที่หัวนั่งข้างๆมาตามถนน
“พี่ชายธงไม่น่ารีบออกมาเลย น่าจะอยู่ดูอาการอีกซะหน่อย”
“พี่ไม่เป็นอะไรหรอก”
“ไม่รู้ว่ารินคิดถูกหรือคิดผิด ที่ช่วยพี่ชายธงเรื่องอนุช”
ชายธงเหลือบมองธาริน รู้ว่าเธอเป็นห่วงเขามาก กุมมือเธอที่จับพวงมาลัย
“พี่ขอโทษนะ ที่ทำให้รินเป็นห่วง”
ธารินเหลือบมองชายธง สีหน้าอ่อนลง
“ถ้าคุณลุงเห็นพี่ชายธงในสภาพแบบนี้ ไม่รู้จะว่ายังไงบ้าง”

“พี่ยังไม่กลับบ้านหรอก รินช่วยพาพี่ไปที่นึงก่อน”

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 13 (ต่อ)

ชายธงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อรชากับอสิตฟัง

“ผมขอโทษ ที่ช่วยนุชมาไม่ได้ ทั้งที่มันเกือบจะสำเร็จอยู่แล้ว”
อรชาหน้าเครียด เป็นห่วงอนุช แต่ก็ปลอบชายธง
“อย่าโทษตัวเองเลยจ้ะ ชายธงทำเต็มที่แล้ว”
อสิตเป็นห่วง
“ก็เท่ากับว่า นายกร้าวรู้ว่านุชวางแผนหนี...แล้วมันได้ตัวนุชกลับไปอย่างนี้ มันจะทำอะไรนุชบ้าง”
“ตอนนี้นายกร้าวคงย่ามใจ คิดว่าตัวเองชนะ แต่ผมต้องเอาคืนมันแน่!”
ชายธงแค้นๆ อรชานึกเป็นห่วงอนุช อรชาคิดอะไรบางอย่างได้ แอบออกมาที่หน้าบ้าน แล้วขึ้นรถขับออกไป

กร้าวเปิดประตูห้องเข้ามา เห็นอนุชนั่งกอดเข่าอยู่ที่เตียงข้างๆมีถาดอาหารที่เธอไม่แตะแม้แต่น้อย
เขาอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่ก็ทำใจแข็ง
“ตกลงไม่กินใช่ไหม”
อนุชไม่แม้แต่จะหันไปมอง กร้าวตะโกนเรียกขำ
“ขำ...ขำ!”
ครู่หนึ่งขำวิ่งเข้ามา
“ยกถาดอาหารไปเก็บ”
ขำเป็นห่วงอนุช
“แต่คุณนุช...”
“เอาไปเก็บ!”
ขำจ๋อยๆ
“ค่ะ...”
ขำเข้ามายกถาดอาหาร เสียงแตรรถดังขึ้นทุกคนประหลาดใจ กร้าวพึมพำ
“ดึกป่านนี้ใครมา”
เสียงอรชาดังเข้ามาจากหน้าบ้าน
“คุณกร้าว ปล่อยนุชออกมา คุณกร้าว!”
อนุชหน้าตื่น
“พี่อร...”
อนุชกระโดดลงจากเตียง วิ่งออกไป กร้าวจะคว้าตัวไว้แต่ไม่ทัน
“อนุช!”
กร้าวรีบวิ่งตามไป ขำหน้าเหวอ มองงง

อรชายืนตะโกนอยู่หน้าบ้าน
“นุช ได้ยินพี่ไหม นุช...คุณกร้าว!”
อรชากดกริ่งไม่ยั้ง...อนุชวิ่งหนีลงมาที่ชั้นล่างมองไปที่หน้าบ้าน เห็นอรชายืนอยู่ เธอรีบวิ่งไปเปิดประตูบ้าน กร้าวเข้ามากอดตัวอนุชจากด้านหลัง อุ้มออกมา
“ปล่อย! ปล่อยฉัน!”
ขำตามลงมา หน้าตื่นๆ กร้าวสั่งขำ
“ไปเปิดรั้วให้คุณอรชาเข้ามา”
กร้าวอุ้มอนุชพาดบ่า พากลับขึ้นบันได เธอพยายามดิ้น
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย!”

อนุชถูกโยนลงบนเตียง กร้าวจะกลับออกไป เธอรีบตะเกียกตะกายขึ้นมา
“คุณกร้าว...”
กร้าวชะงัก อนุชขอร้อง
“อย่าทำอะไรพี่อรนะ ฉันขอร้อง...”
กร้าวยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่น่ากลัว แล้วออกจากห้องไป อนุชใจหายวาบ รีบตามไปดึงประตู
แต่กร้าวล็อคจากด้านนอกไปแล้ว
“คุณกร้าว เปิด! คุณกร้าว อย่าทำอะไรพี่อรนะ!”
อนุชรู้ว่าทำอะไรไม่ได้ ทรุดลงพิงประตูอย่างหมดหวัง

อรชานั่งรออยู่ในห้องรับแขกอย่างกระวนกระวาย กร้าวเข้ามา อรชารีบลุกขึ้น
“นุชอยู่ไหน...น้องสาวอรอยู่ไหน!”
กร้าวยิ้ม
“ใจเย็นสิครับคุณอร...ผมไม่ใช่ยักษ์ไม่ใช่มาร ผมไม่กินน้องคุณหรอก”
“แต่สิ่งที่คุณทำกับพวกเราก็คือการฆ่ากันทั้งเป็นอยู่แล้ว”
กร้าวแกล้งทำเป็นคิด
“อืม...ก็ใช่...ก็เหมือนที่พ่อคุณเคยทำไว้กับพ่อแม่ผมไง!”
อรชาน้ำตารื้น ตัดสินใจทรุดลงนั่งที่พื้น ยกมือขึ้นไหว้ กร้าวชะงักมองอย่างไม่คาดคิด
“อรยอมทุกอย่างแล้ว...อรขอรับผิดแทนคุณพ่อทั้งหมด คุณจะฆ่าจะแกงอรก็เชิญ แต่อรขอให้คุณปล่อยนุชไป อย่าทรมานน้องสาวอรอีกเลย”
กร้าวเบือนหน้าหนี อรชายิ่งหวั่นใจ รีบเข้ามาเกาะขาเขา
“คุณกร้าว...อรขอเถอะนะคะ”
กร้าวนึกถึงความแค้นที่แม่เขาขอร้องประสิทธิ์หันมายิ้มร้าย กร้าวย่อตัวลงข้างๆอรชา เชยคางเธอขึ้นมา
“แล้วคุณจะชดเชยให้ผมยังไง...หรือว่า...เอาตัวคุณมาแลกกับอนุช ดีไหม”

อรชาชะงัก แต่ถ้าต้องแลก ก็ยอมทรมานแทนน้อง

อรชามีสีหน้าหวั่นใจ แต่อยู่ๆกร้าวก็หัวเราะขึ้นมา อรชางง เขาสะบัดออกจากเธอ

“นี่คุณคงอยากมาแทนน้องสาวจนตัวสั่นเลยสิท่า”
อรชาอึ้งไป รู้สึกเสียหน้า
“รู้ไหม อะไรที่มันง่ายๆ ผู้ชายเขาไม่ชอบหรอก หัดสงวนท่าทีไว้บ้าง!”
อรชาลุกขึ้นมา
“คุณกร้าว! คุณดูถูกฉันมากเกินไปแล้ว!”

อนุชยังทรุดเครียดอยู่ที่ประตู แต่แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้รีบไปที่เตียง ดึงผ้าปูที่นอนออกมาผูกกับรั้วระเบียง ลองดึงดูให้แน่ใจเห็นว่าแน่นดีแล้ว เธอปีนออกไป

อรชาเริ่มร้องไห้ ต่อว่ากร้าว
“หรือที่ผ่านมา คุณเห็นฉันเป็นแค่เครื่องมือล้างแค้นเท่านั้นจริงๆ”
กร้าวหน้านิ่ง
“ใช่ คุณมีค่าแค่นั้นจริงๆ”
“คุณใจร้ายมาก คุณกร้าว!”
กร้าวยิ้ม
“โทษผมไม่ได้หรอก...ถ้าจะโทษก็ต้องโทษพ่อคุณ ที่มาทำชั่วทำเลวกับครอบครัวผมก่อน!”
อรชายืนร้องไห้ จ้องมองเขาอย่างผิดหวัง กร้าวแกล้งทำหน้าสงสารเดินเข้ามาลูบผม
“โถ...นี่คุณรักผมเข้าแล้วจริงๆเหรอเนี่ย...ถ้าอย่างนั้น ผมจะรับคุณไว้ในฐานะเมียน้อยดีไหม
ยังไงน้องคุณก็เป็นเมียหลวงไปแล้ว”
อรชาตบหน้าเขาแล้ววิ่งร้องไห้ออกไป กร้าวเจ็บปวดกับสิ่งที่ทำ แต่ก็สะใจในการแก้แค้นระคนกัน

อนุชวิ่งออกมาจากข้างตัวบ้าน แล้วต้องชะงักไป เมื่อเห็นอรชาวิ่งร้องไห้กลับมาขึ้นรถ อนุชเห็นก็ใจหายด้วยความเป็นห่วง
“พี่อร...”
อนุชรีบวิ่งไปที่รถอรชา แต่พอมาถึงหน้าตัวบ้านก็โดนกร้าวกระชากตัวไว้ได้ อรชาไม่เห็นอนุช ขับรถออกไป อนุชพยายามตะโกนเรียก
“พี่อร...พี่อร...”
อรชาไม่ได้ยิน ร้องไห้ขับรถออกไป กร้าวยิ้มสะใจ อนุชหันมาเห็นรอยยิ้มของเขา
“คุณทำอะไรพี่อร!” เธอทุบเขา “บอกมานะ คุณทำอะไรพี่อร!”
“ผมจะไปทำอะไรได้ ถ้าหากเขาไม่เต็มใจเจ็บเพราะผม”
กร้าวยิ้มเย้ย ก่อนจะกลับเข้าไปในบ้าน อนุชมองตามรถอรชาไปอย่างเป็นห่วง

แท็กซี่มาจอดที่หน้าคอนโดของกร้าว ลลิตาก้าวออกมาจากรถ มองซ้ายมองขวาอย่างระวังตัว
เมื่อไม่เห็นใคร เธอมองกระเป๋าบรรจุเงินในมือ ยิ้มลำพองจะเข้าไปในคอนโด เชิดออกมาจากมุมหนึ่ง ลลิตาชะงัก ตกใจ
“ธนาคารปิดซะก่อนสิท่า แกเลยยังไม่ทันได้ฝากเงิน...นับเป็นโชคดีของฉัน”
ลลิตาตาเหลือกตัดสินใจวิ่งหนีออกไปที่ถนน เธอวิ่งหนี พลางร้องตะโกนให้คนช่วย
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย!”
ถนนเงียบเชียบ เชิดวิ่งตามมาไม่ลดละ ลลิตาสะดุดล้ม เชิดเข้ามาจิกผมขึ้นมา
“ฤทธิ์มากนักนะ แกคิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ”
“ยอมแล้ว ฉันยอมแล้ว”
ลลิตาจะหลอกให้เชิดตายใจแล้วเอากระเป๋าฟาดใส่อีกแต่เชิดรู้ทัน รับกระเป๋าไว้ได้ ทั้งสองยื้อกระเป๋ากัน
“ปล่อยนะ ไอ้เชิด ไอ้ชั่ว นี่มันเงินของฉัน!”
เชิดยื้อกระเป๋าไว้ แต่มืออีกข้างล้วงมีดขึ้นมา เขาสะบัดมือ กดใบมีดเด้งออกมา ลลิตชะงัก
“ก...แก...”
“พูดดีๆไม่ชอบใช่ไหม”
ลลิตาตื่นกลัว
“ฉ...ฉันยอมแล้ว...แกเอาส่วนของแกไปเลยเอาไปครึ่งนึงเลยก็ได้”
“ครึ่งนึงเหรอ นังตา”
เชิดกระชากกระเป๋าไป ยื่นมีดมาขู่ ครึ่งนึงน่ะ มันก่อนที่แกจะทำฉันเหนื่อย แต่ตอนนี้มันไม่พอแล้ว”
ลลิตาหน้าเสีย
“แกจะเอาไปทั้งหมดไม่ได้นะ แล้วส่วนของฉันล่ะ!”
“แกก็จับไอ้เสี่ยหนุ่มรูปหล่อนั่นให้ได้สิวะ แล้วเงินในกระเป๋านี้ก็จะเป็นแค่เศษเงินสำหรับแก”
เชิดเอากระเป๋าไป ลลิตาอึ้งค้าง แต่แล้วความละโมบบังตา เธอเข้าไปแย่งกระเป๋าจากเชิดอีกครั้ง
“ไม่ได้ แกเอาไปหมดไม่ได้!”
ลลิตาเอากระเป๋าสะพายฟาดใส่

“หยุด เลิกบ้าซะที”

เชิดดึงกระเป๋าสะพายของลลิตาไว้

“แกปล่อยนะ อย่าเอามือสกปรกของแกมาแตะกระเป๋าแบรนด์เนมของฉัน!”
เชิดโยนกระเป๋าเงินออกไป ดึงมีดออกมาอีกครั้ง กดมีดเด้งออกมา ลลิตาชะงัก เชิดเอามีดจิ้มทะลุกระเป๋าสะพาย ลลิตากรี้ดลั่น
“ไอ้เชิด ไอ้บ้า แกทำกระเป๋าฉันทำไม!”
ลลิตาเข้าไปทุบ เชิดผลักอย่างแรง ลลิตาล้มกลิ้งลงกับพื้น เชิดย่างสามขุมเข้าหา ลลิตาพยายามถดตัว ถอยหนี เชิดเข้ามาจับข้อเท้าไว้ได้ ลลิตาตกใจ
“อย่านะ ไอ้เชิด แกจะทำอะไร!”
อยู่ๆเชิดก็ถอดรองเท้าลลิตาออกมา
“นี่ก็แบรนด์เนมด้วยสิท่า”
เขากรีดรองเท้าของเธอจนขาดยับ ลลิตากรี้ด
“ไอ้เชิด ไอ้ชั่ว รองเท้าฉัน!”
เชิดลุกขึ้น โยนรองเท้ากลับคืนให้ ชี้มีดขู่
“อย่าตามมาอีกนะ ไม่งั้นที่โดนกรีด จะไม่ใช่ข้าวของ แต่เป็นตัวแก!”
เชิดกลับไปหิ้วกระเป๋าเงิน เดินไปมิวายหันกลับมามองเยาะเย้ย ลลิตาสูญทั้งเงิน ทั้งข้าวของแบรนด์เนมพังเสียหายได้แต่ดิ้นพร่านอยู่ที่พื้นอย่างเจ็บใจ

กร้าวเข้ามานั่งในห้อง อนุชตามเข้ามาท่าทางจริงจัง
“คุณกร้าว คุณต้องการยังไง คุณบอกมาสิว่าคุณจะเอาอะไรจากพวกฉันอีก!”
กร้าวเตือนตัวเองเรื่องความแค้น ไม่หันไปมองอนุช
“พวกฉันไม่มีอะไรจะให้คุณแล้ว นอกจากชีวิต”
“ชีวิต...ก็อาจจะแค่นั้น ที่ผมต้องการ”
“หรือคุณต้องการให้พวกเราตกตายไปจนหมดคุณถึงจะพอใจ!”
“ก็ไม่แน่!”
กร้าวลุกออกไป อนุชตามมาดึงไว้
“คุณกร้าว...ฉันขอร้องล่ะ ปล่อยพวกพี่ๆของฉันไปเถอะนะ”
“พวกวิชเวทย์ทุกคนต้องรับผิดชอบ”
อนุชจับมือเขาไว้
“ฉันขอรับแทนพี่ๆ ได้ไหมคุณกร้าว ปล่อยพี่ๆฉันไป แล้วฉันจะยอมคุณทุกอย่าง”
กร้าวยิ้มเจ้าเล่ห์
“ยอมทุกอย่างเลยเหรอ”
อนุชกัดฟัน
“ทุกอย่าง!”

อนุชนอนอยู่บนเตียง สีหน้าทุกข์ใจและเป็นกังวลอย่างที่สุด กร้าวอาบน้ำเสร็จ อยู่ในชุดนอน เดินมาหยุดมองอนุชที่นอนตัวแข็งอยู่ที่เตียง เขาเข้ามานั่งข้างเธอเอียงเข้ามาใกล้ อนุชนอนหลับตา เตรียมรับชะตากรรม แต่แล้วเขาก็แค่เอื้อมมือมาปิดโคมไฟ แล้วนอนลงด้านข้างหันหลังให้ อนุชค่อยๆลืมตา เห็นเขานอนหันหลังให้ก็แปลกใจ เธอนอนหันหลังให้เขาครุ่นคิด...กร้าวเองก็นอนไม่หลับ ทั้งสองต่างนอนหันหลังให้กัน ครุ่นคิดกันไป

เช้าวันใหม่...รถตำรวจแล่นเข้ามาจอด ชายธงลงจากรถ พร้อมตำรวจ 2 คน
“ที่นี่แหละครับ บ้านายกร้าว ศุภกาญจน์ คนที่ทำร้ายร่างกายผม!”
ตำรวจคนหนึ่งมากดกริ่ง แต่มีใครออกมา
“บุกเข้าไปเลยครับ มันขังเพื่อนผมไว้ที่นี่”
ตำรวจหันมาบอก
“ต้องมีหมายค้น”
“งั้นคุณตำรวจไปเอาหมายค้นมาเลย!” ชายธงบอกทันที

ชายธงเดินนำตำรวจเข้ามาในบ้าน อรชาเข็นรถอสิตตามเข้ามา
“ชายธง เจอนุชรึยัง”
“มันขังนุชไว้ที่ห้องข้างบน”
ชายธงนำทุกคนมาถึงหน้าห้องที่มีกุญแจคล้องไว้
“ห้องนี้แหละครับ นุชอยู่ในห้องนี้!”
ตำรวจรีบเข้าไปเปิด ในห้อง อรชาและอสิตโผเข้ามาอย่างดีใจ
“นุช...”
ในห้องว่างเปล่า ไม่มีใครเลยสักคน ชายธงหน้าเสีย
“เป็นไปได้ยังไง!”

กร้าวขับรถมาตามถนนโดยมีอนุชนั่งข้างๆส่วนขำนั่งที่เบาะหลัง กร้าวเหลือบมองอนุช
“ไม่ลืมอะไรนะ”
อนุชส่ายหน้า
“ดีแล้ว...เพราะจากนี้ คงอีกนานกว่าคุณจะได้กลับเข้ากรุงเทพอีกครั้ง”
อนุชหน้าเครียด เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถ

อรชาเข็นรถอสิตกลับมาที่บ้าน ปรารภยืนรออยู่ อรชาเห็นปรารภก็อึ้งไปไม่สบายใจที่เคยปฏิเสธเรื่องที่เขาขอเธอแต่งงาน
“คุณรภ...”
อสิตมองท่าทีของอรชาอย่างเป็นห่วง

อรชาวางแก้วน้ำตรงหน้าปรารภ แล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม เธอมองหน้าเขาไม่ติด
“อรคิดว่าคุณจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว หลังจาก...”
“ผมผิดเองที่เร่งรัดคุณอร แต่ตอนนี้ผมคิดได้แล้ว...แค่คุณอรให้ความเป็นเพื่อนกับผมก็ดีนักหนาแล้ว ผมจะไม่ขอให้คุณอรลืมนายกร้าว...”
“อย่าพูดถึงเขา!”
ปรารภชะงัก อึ้งไป
“คุณอร...”
“อรโง่เอง ที่เคยคิดว่าเขาอาจจะมีเยื่อใย อรผิดที่ยังหวังอยู่ลึกๆว่าจะทำให้เขาลืมการแก้แค้นได้...”
อรชาน้ำตารื้น
“แต่ในที่สุด...อรก็เป็นได้แค่เครื่องมือแก้แค้นของเขา”
อรชาก้มหน้าร้องไห้ ปรารภเห็นใจ เข้าไปนั่งข้างๆ แตะไหล่เธอปลอบ
“คุณอร...”
อรชาโผเข้ากอดร้องไห้กับอกเขา ปรารภได้แต่ลูบผมปลอบใจ

อสิตมายืนมองอยู่ ได้แต่ทอดถอนใจ ก่อนจะหันหลังออกไป

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 13 (ต่อ)

อสิตเข็นรถเข้ามาในห้องนอนของตน ยันตัวลุกขึ้นจะไปนั่งบนเตียงแต่เซไปเกาะโต๊ะข้างเตียงที่โต๊ะนั้นมีรูปของเขากับลลิตายังวางอยู่

อสิตเหลือบเห็นก็แค้นใจ หยิบรูปนั้นขึ้นมากระแทกกรอบรูปกับมุมโต๊ะจนกรอบรูปแตก เขาดึงรูปออกมา ฉีกรูปลลิตาออกจากรูปเขาแล้วฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ปาทิ้ง...อสิตหอบหายใจแค้นคั่ง แล้วนึกอะไรออกมาได้เปิดลิ้นชัก มีปืนของเขาวางอยู่

ลลิตาอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ นั่งทายาแผลถลอกที่เข่า
เสียงเคาะประตูดังขึ้น เสียงเด็กเสิร์ฟดังเข้ามา
“อาหารมาส่งคร้าบ!”
ลลิตาสลัดความคิด เดินไปหยิบกระเป๋าเงินแล้วเปิดประตู เด็กเสิร์ฟนำอาหารเข้ามา
“วางไว้ตรงนั้นแหละ”
เด็กเสิร์ฟวางอาหาร รับเงินแล้วออกไป ลลิตาเดินไปเก็บกระเป๋าเงินเห็นกระเป๋าสะพายที่โดนเชิดกรีดก็เสียดาย เธอถอนใจ หันกลับมา แต่แล้วต้องตกใจ เมื่ออสิตเข้ามาในห้อง ล้วงปืนออกมาจากกระเป๋า ลลิตามองอย่างตกใจ

กร้าวขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านไร่ทานตะวัน พร้อมเข็นรถชาติออกมาต้อนรับ กร้าวกับอนุชเข้ามาไหว้ชาติ
“มา ให้ป๋ากอดให้หายคิดถึงหน่อย”
อนุชไหว้เสร็จก็กอดชาติ
“มีคนหนุ่มคนสาวมาอยู่แล้วมันสดใสขึ้นเป็นกองเลยนะพร้อม”
พร้อมยิ้มรับ
“ค่ะ คุณชาติ”
กร้าวพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงครับลุง คราวนี้อนุชจะอยู่ที่นี่จนกว่าลุงจะหายคิดถึง” เขามองอนุชอย่างมีนัยแฝง “และถึงแม้อยากจะร้องกลับก็คงไม่ได้กลับง่ายๆ”
ชาติได้ยินก็หวั่นใจ แอบเหลือบมองตากับพร้อม ขำขนกระเป๋าออกมาจากรถ
“มา ขำ ช่วยกัน”
พร้อมเข้าไปช่วยขำขนกระเป๋า กร้าวสั่งเสียงเข้ม
“ไม่ต้อง!”
พร้อมกับขำชะงัก
“ให้อนุชยกเข้าไป ป้าพร้อมช่วยไปเตรียมน้ำเย็นๆให้ผมดีกว่ามาร้อนๆ”
พร้อมอึกอัก
“แต่...”
กร้าวตวาดอนุช
“ยืนเฉยอยู่ทำไมอนุช ยกกระเป๋าเข้าบ้านไปสิ!”
อนุชไม่ตอบโต้ ผละออกจากชาติ จะไปยกกระเป๋า ชาติจับมือไว้แล้วหันไปหากร้าว
“เด็กก็มี ทำไมต้องให้นุชขนกระเป๋าเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะป๋า นุชจัดการได้”
อนุชเข้าไปยกกระเป๋าลงจากรถ ขำจะช่วย
“ไม่เป็นไรจ้ะขำ พาป๋าเข้าบ้านเถอะ ข้างนอกแดดแรง”
อนุชยกกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดลงจากรถ ลากบ้างสะพายบ้างขนคนเดียวเข้าไปในบ้าน ชาติมองหน้ากร้าว
“แกคิดจะทำอะไรอีก เจ้ากร้าว”
กร้าวหันมองชาติ หน้าเครียด ไม่ตอบ

อสิตนั่งมองปืนในมืออย่างเงียบเฉย ยิ่งเพิ่มความกดดันให้ลลิตาที่นั่งนิ่ง ไม่กล้าขยับเขยื้อน พยายามรวบรวมความกล้า
“สิต...”
อสิตตวาดลั่น
“เงียบ!”
ลลิตาสะดุ้งโหยง
“ฉันไม่อยากได้ยินคำแก้ตัวจากเธอ”
ลลิตารู้ว่าหากไม่ใช้มารยาต้องไม่รอดแน่ ตะกายเข้ามากอดขาเขา
“ใช่ ลิต้าผิดต่อคุณ ฆ่าลิต้าเถอะค่ะ ยังไงตนนี้ลิต้าก็ไม่เหลืออะไรแล้ว คุณกร้าวหลอกลิต้าให้ร่วมมือโกงบริษัทของคุณ แล้วเขาก็หักหลังลิต้า...ถ้าลิต้าจะผิดก็เพราะลิต้ากลัวความจน ลิต้าไม่อยากกลับไปอยู่ในสภาพนั้นอีก...”
ลลิตาทำเป็นร้องไห้สะอึกสะอื้น อสิตทำใจแข็ง สะบัดขาออก ลลิตาเสียหลักลงกับพื้น
“ความโลภมันตา จนถึงกับทำให้เธอฆ่าผัวอย่างฉันเลยเหรอ!”
“ลิต้าไม่เคยคิดจะฆ่าคุณ ที่ลิต้าต้องทำ เป็นเพราะคำสั่งของคุณกร้าว!”
อสิตตวาด
“โกหก!”
“ลิต้าพูดจริงนะคะ!”
“ถ้าไอ้กร้าวมันอยากให้ฉันตาย มันทำไปนานแล้ว...แต่ที่มันไม่ทำ เพราะมันอยากให้ฉันตายทั้งเป็น!”
ลลิตาประหลาดใจ
“สิตหมายความว่าไงคะ”
“ไอ้กร้าวมันแค้นที่พ่อฉันเคยโกงพ่อมัน กดขี่ข่มเหงแม่มัน ที่มันทำทั้งหมดเพื่อแก้แค้นวิชเวทย์!”
ลลิตาเพิ่งรู้เรื่องทั้งหมด อึ้งไป
“ส่วนไอ้ที่จะฆ่าฉัน มันเป็นความต้องการของเธอเองล้วนๆ ที่ผ่านมาฉันมันโง่เองที่รักเธอ หลงเธอ... แต่ตอนนี้ ฉันตาสว่างแล้ว!”
อสิตยกปืนขึ้นมา ลลิตาตกใจกลัวตาเหลือก
“สิต อย่าทำอะไรโง่ๆนะ คิดถึงอนาคตตัวเองบ้าง”
อสิตยิ้มอย่างหมดอาลัย
“ไม่ต้องห่วง ลิต้า...อย่างน้อย ฉันก็แค่ตายตามเธอไป”
อสิตยกปืนขึ้นเล็ง ลลิตารีบบอก
“แล้วอรกับนุชล่ะ! อรกับนุชจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีสิตคิดถึงน้องๆบ้างสิ!”
อสิตชะงักไป ลลิตาได้ที หาทางเอาตัวรอด เหลือบเห็นแจกันใบใหญ่ เธอพยายามหว่านล้อมเขาขณะลุกเนียนๆ เดินไปที่แจกัน
“ถ้าสิตต้องตาย หรือต้องติดคุก อรกับนุชจะยิ่งลำบากกว่านี้แค่ไหน”
อสิตเหม่อคิดไป มือที่ถือปืนค่อยๆลดลง
“อย่าทำอะไรโง่ๆเลยนะสิต”
“ถึงจะโง่ แต่อย่างน้อยฉันก็ได้กำจัดนางมารอย่างเธอ ไม่ให้มายุ่งกับน้องฉัน”
อสิตตัดสินใจจะยิงลลิตาเป็นจังหวะเดียวกับที่ลลิตาคว้าแจกันมาได้ ฟาดใส่อสิตเต็มแรงจนเขาหมดสติล้มลง เธอกลัวๆ เอามือมาอังที่จมูก...แล้วถอนใจโล่งเมื่อเขายังไม่ตาย ลลิตารีบลุกไปโทรศัพท์
“ช่วยเรียกยามขึ้นมาที่ห้องฉันทีค่ะ มีคนบ้าบุกเข้ามาที่ห้องฉัน!...อย่าค่ะ อย่าแจ้งตำรวจ แค่มาลากตัวมันออกไปก็พอ!”

นางมารร้ายลลิตาเหลือบเห็นปืนที่กระเด็นตกอยู่ เธอวางสายแล้วเข้าไปหยิบปืนมาเก็บไว้

อนุชจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ กร้าวเปิดประตูเข้ามา

“เดี๋ยวเสร็จแล้วลงไปที่ไร่ เลือกองุ่นสวยๆ มาคั้นน้ำให้หน่อย”
อนุชชะงัก แต่ก็พยักหน้ารับ พร้อมยกถาดน้ำเข้ามาให้อนุช พอดีได้ยินเข้า
“ป้าคั้นน้ำองุ่นไว้พอดีค่ะ เดี๋ยวป้าไปเอาให้นะคะ”
“ไม่ต้องป้าพร้อม ผมอยากได้แบบที่คั้นสดๆ”
“แต่ป้าเพิ่งคั้นเมื่อเช้าเองนะคะ”
“ผมอยากได้สดกว่านั้น”
พร้อมสงสารอนุช
“แต่คุณนุชมาเหนื่อยๆ...”
นุชขัดขึ้น
“ไม่เป็นไรจ้ะป้าพร้อม นุชไม่เหนื่อย เดี๋ยวนุชจัดการเอง”
อนุชจัดของเสร็จ เอากระเป๋าไปเก็บแล้วเดินออกไป กร้าวนิ่งมอง พร้อมแอบหนักใจ

อนุชออกมาใส่รองเท้า หิวตะกร้าใส่กรรไกรตัดกิ่งออกไป กร้าวออกมา ยืนมอง ชาติเข็นรถเข้ามาหยุดด้านหลัง
“แกกำลังจะทำอะไรอีก”
กร้าวชะงัก หันมองชาลุง
“แกได้ทุกอย่างแล้ว ทำลายจนสามพี่น้องบ้านแตกสาแหรกขาดหมดเนื้อหมดตัว อยู่กันไม่เป็นสุข ขนาดนี้แล้ว ยังไม่พออีกเหรอกร้าว”
กร้าวส่ายหน้า
“นั่นมันแค่เริ่มต้นครับ”
“แล้วแค่ไหนแกถึงจะพอ!”
“ที่สามพี่น้องนั่นเจอ ยังเทียบไม่ได้กับความทุกข์ทรมานของแม่ชื่น”
“แล้วแกไม่เห็นเหรอ ว่าผลจากการแก้แค้นน่ะ มันทำให้ลุงเป็นยังไง”
ชาติชี้ที่ขาทั้งสองข้างของตัวเอง

ในอดีตชาติขับรถจะชนประสิทธิ์
“ไอ้ประสิทธิ์ แกฆ่าน้องฉัน แกตาย!”
ประสิทธิ์วิ่งหนี ชาติเกิดเสียหลัก รถไถลชนต้นไม้ เขาหมดสติไป

ชาติเจ็บปวดเมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต จึงอยากเตือนหลานชาย
“ชีวิตบนรถเข็นทำให้ลุงคิดได้ว่าความแค้นไม่ได้ทำลายแค่คนที่เราต้องการแก้แค้น แต่มันทำลายชีวิตเราทั้งเป็นด้วย ลุงไม่อยากให้กร้าวพบจุดจบอย่างลุง”
กร้าวสะท้อนใจ แต่ทำใจแข็ง
“ต่อให้ต้องตกนรกหมกไหม้ผมก็ต้องทำ...ไม่งั้นผมคงรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต ที่ไม่แก้แค้นแทนพ่อกับแม่”
กร้าวเดินออกไป ชาติมองตามอย่างหนักใจ

อนุชเลื่อนแก้วน้ำองุ่นมาตรงหน้า กร้าวเหลือบมอง หน้านิ่ง
“ผมรอไม่ไหว เลยดื่มน้ำองุ่นของป้าพร้อมไปแล้ว”
อนุชชะงัก จ้องหน้า
“เอาอย่างนี้แล้วกัน ขอเปลี่ยนเป็นพายองุ่นดีกว่าทำได้ใช่ไหม”
พร้อมเข็นรถชาติเข้ามา ชาติไม่พอใจ
“ทำอย่างนี้มันจงใจหาเรื่องกันชัดๆนะเจ้ากร้าว”
กร้าวไม่สนสั่งอนุช
“ทำเผื่อพวกคนงานด้วย”
ชาติเสียงเข้ม
“เจ้ากร้าว...”
กร้าวไม่สนอีก
“ไม่ใช่แค่พาย จัดอาหารคาวให้ครบ ผมจะเลี้ยงพวกคนงาน”
ชาติกับพร้อมอึ้งไป อนุชเจ็บใจ แต่ต้องก้มหน้ารับคำ กร้าวหันไปที่ชาติกับพร้อม
“มีใครอยากจะพูดอะไรช่วยอนุชอีกไหมครับ”
ชาติกับพร้อมมองหน้ากันอย่างหนักใจ ยิ่งพูดกร้าวยิ่งเพิ่มงานให้อนุชมากขึ้น

อนุชเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบเพื่อทำขนม พร้อมกับขำแอบเข้ามา คอยมองว่ากร้าวจะมาเห็นไหม
พร้อมพูดเบาๆ
“คุณนุช พวกป้ามาช่วยค่ะ”
“อย่าเลยค่ะป้าพร้อม เดี๋ยวคุณกร้าวมาเห็นเข้าจะพลอยโกรธพวกป้าไปด้
วย”
ขำแย้ง
“แต่คุณนุชจะทำคนเดียวไหวยังไงล่ะคะ”
พร้อมตัดบท
“คุณนุชทำพายไปนั่นแหละค่ะ ส่วนอาหารที่เหลือเป็นหน้าที่ป้ากับขำเอง”
กร้าวเข้ามายืนกอดอกที่ทางเข้าครัว
“ระวังนะครับ ถ้าไม่ได้รสที่อนุชทำ ผมคงต้องให้เขามาทำใหม่”
พร้อมกับขำหน้าเจื่อนไป อนุชถอนใจ หันมาที่พร้อมกับขำ
“ป้าพร้อมกับขำออกไปเถอะจ้ะ นุชจัดการเองได้”
พร้อมกับขำมองอนุชอย่างขอโทษ อนุชยิ้มให้กำลังใจ พร้อมกับขำจำต้องก้มหน้าออกไป อนุชหันไปเห็นกร้าวยังไม่ไปไหน แต่ก็ทำไม่สนใจ หันมาเตรียมข้าวของทำอาหารต่อไปอนุชลงมือทำพาย ตวงแป้ง ร่อนแป้งตวงส่วนผสม น้ำตาล เกลือต่างๆ กร้าวกอดอกมอง...อนุชเคี่ยวองุ่น เติมน้ำตาล แล้วมือพลาดไปโดนหม้อร้อนสะดุ้งเฮือก กร้าวขยับตัว เหมือนจะเข้าไปดู แต่แล้วก็ทำใจแข็งยืนมองเฉยอยู่ อนุชจะเหลือบมองกร้าว แต่ก็รู้ว่าเขาไม่สนใจ จึงเศร้าไป

ค่ำนั้น กร้าวกับพวกคนงานนั่งกินข้าวกันอย่างครื้นเครง อนุชยกกับข้าวออกมาเติมให้ กร้าวหันมาสั่ง
“อนุช ยกพายออกมาเสิร์ฟเลยนะ”
“นุชยกออกมาแล้วค่ะ อยู่ที่โต๊ะด้านนั้น...ต้องการอะไรอีกไหมคะ”
ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามาพูดกับหัวหน้าคนงาน
“ห้องน้ำน้ำไม่ไหล”
“รองน้ำข้างนอกเข้าไปทำความสะอาดสิวะ”
ลูกน้องคนนั้นจะออกไปทำความสะอาดห้องน้ำ กร้าวสั่งเสียงเข้ม
“ไม่ต้อง”
ลูกน้องหันกลับมา กร้าวหันไปหาอนุช
“ได้ยินแล้วใช่ไหม ว่าต้องทำอะไร”
อนุชหน้าชา หันไปมองพวกคนงาน ทุกคนมองอนุชเป็นตาเดียว ต่างก็แปลกใจที่กร้าวใช้ภรรยาตัวเองขนาดนี้
“อนุชเขาไม่ถือสาหรอก เขาติดดินจะตายใช่ไหม อนุช”
อนุชน้ำตารื้น
“ฉันจะไปจัดการให้เดี๋ยวนี้ค่ะ”

อนุชออกไป กร้าวกำช้อนในมือแน่น ระงับใจตัวเองให้แข็งใจเข้าไว้ต้องทำร้ายจิตใจอนุชจนถึงที่สุด

อนุชหิ้วถังน้ำเข้ามา ทั้งหนักทั้งเหนื่อยแต่ที่เจ็บปวดที่สุดคือเจ็บใจ ในที่สุดเธอก็ทนเข้มแข็งต่อไปอีกไม่ไหว ยืนพิงประตูก้มหน้าร้องไห้อย่างน่าสงสาร

เช้าวันใหม่...อนุชหลับสนิทเพราะความเหนื่อยอ่อนล้า มือข้างหนึ่งเข้ามาดึงเธอ อนุชตกใจตื่น ผวาแล้วจึงเห็นว่ากร้าวเข้ามาดึง

“ตื่นได้แล้ว คุณมีงานต้องทำ”

อนุชเปลี่ยนชุดแล้ว เดินตามกร้าวเข้ามา
“ผมอยากให้คุณทำความสะอาดห้องนี้ทั้งหมด วันนี้จะมีแขกมา”
ชาติเข็นรถเข้ามา
“ใครกัน แขกของแก”
กร้าวอึกอัก
“คณิต”
“เฮอะ! เจ้าคณิตมันเป็นแขกของแกตั้งแต่เมื่อไหร่!”
“ก็ตั้งแต่วันนี้แหละครับ”
กร้าวออกไป ชาติมองตามอย่างหัวเสีย แล้วเข็นรถมาใกล้อนุช
“ไม่ต้องไปทำตามที่มันสั่ง ห้องนี้สะอาดอยู่แล้ว พร้อมเขาทำอยู่ทุกวัน”
อนุชชะงัก
“แต่คุณกร้าว...”
“มันร้ายมา เราก็เจ้าเล่ห์กลับไปบ้าง แกล้งทำตอนที่มันมาดูเท่านั้น แล้วหาโอกาสพักบ้าง”
ชาติยิ้มให้ อนุชอมยิ้มตอบ รู้สึกอุ่นใจที่มีชาติ

อนุชเช็ดถูตู้กระจก พร้อมเข้ามากับขำที่ยกถ้วยขนมหวานเข้ามาด้วย
“คุณนุชขา พักก่อนเถอะค่ะ ไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้า เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไป” พร้อมเข้ามาบอก
“ไม่ได้หรอกจ้ะป้า เดี๋ยวคุณกร้าวมาเห็นเข้า นุชจะโดนหนัก”
ขำสงสัย
“ทำไมคุณกร้าวต้องแกล้งคุณนุชขนาดนี้ด้วย”
อนุชชะงัก สะท้อนใจ พร้อมเป็นคนเก่า พอรู้เรื่องอยู่บ้าง
“พูดมากนะนังขำ เอาขนมให้คุณนุชซี่!”
พร้อมดึงผ้าเช็ดตู้จากอนุช ขำส่งถ้วยขนมให้ พร้อมส่งผ้าให้ขำ อนุชไม่สบายใจ ทันใดนั้นเสียง กร้าวดังขึ้น
“งานแค่นี้ทำไม่ได้เหรอ ถึงต้องใช้คนอื่นต่อ”
อนุช พร้อมและขำต่างตกใจ อนุชพูดไม่ออก
“ป้าผิดเองค่ะคุณกร้าว ป้าเห็นคุณนุชยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้าเลยให้เธอพักทานขนมรองท้องก่อน”
“ป้าพร้อมน่าจะรู้นะ ป้าพร้อมขัดคำสั่งผมแบบนี้ อนุชจะต้องเจออะไร”

อนุชเงยหน้ามองพัดลมเพดานที่เธอจะต้องปีนขึ้นไปทำความสะอาด เธอหน้าซีดจากความอ่อนล้า
กร้าวกอดอกมอง พร้อมมองอนุชอย่างรู้สึกผิด ขำยกบันไดเข้ามา กร้าวสั่งเสียงเข้ม
“จัดการให้เรียบร้อย”
กร้าวจะออกไป แต่หันกลับมากำชับพร้อมกับขำ
“ใครอยากจะช่วยอนุชอีกก็ลองดู”
กร้าวออกไป พร้อมรู้สึกผิดมากๆ
“ป้าขอโทษนะคะคุณนุช ป้าเอาความเดือดร้อนมาให้คุณนุชแท้ๆ”
อนุชจับมือพร้อม
“ป้าไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย นอกจากหวังดีและเป็นห่วงนุช”
ขำเป็นห่วง
“คุณนุช ไหวไหมคะ”
“ไม่ไหวก็ต้องไหว จริงไหม ป้าพร้อมกับขำมีอะไรก็ไปทำเถอะจ้ะ ไม่ต้องห่วง”
พร้อมกับขำมองหน้ากัน จำต้องออกไป อนุชปีนขึ้นบันไดไป

ชาตินั่งกินข้าวต้มอยู่ กร้าวเข้ามานั่ง ครู่หนึ่ง พร้อมกับขำตามเข้ามา กร้าวหันมาถาม
“ตกลงจะมีใครตักข้าวต้มให้ผมกินบ้างไหมเนี่ย”
พร้อมกับขำงอนกร้าวที่ใจร้ายกับอนุช แต่ก็ต้องรีบทำหน้าที่ พร้อมตักข้าวต้ม ขำเตรียมน้ำดื่ม ชาติหันมาถาม
“หนูนุชล่ะ ทำไมไม่ตามมากินข้าวด้วยกัน”
“เห็นบอกว่าจะทำงานให้เสร็จก่อนน่ะครับ ลุงไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเขาก็มากินเอง”
พร้อมแอบค้อนกร้าว ชาติชักสงสัย

อนุชอยู่บนบันได เงยหน้าเช็ดพัดลมแต่แล้วอยู่ๆก็หน้ามืด เธอรีบเกาะบันไดไว้ พยามสะบัดหัวเรียกความสดชื่น ก่อนจะเงยหน้าจะเช็ดใหม่ แต่ตาลายมากขึ้นแล้วร่วงตกจากบันได

ชาติเช็ดปากเตรียมจะไปดูอนุช กร้าวนั่งกิน พร้อมกับขำยืนคอยรับใช้ เสียงอนุชร้องดังเข้ามา
พร้อมตกใจ
“คุณนุช!”
กร้าววิ่งออกไปก่อนใคร

อนุชร้องเจ็บแขนอยู่ที่พื้นเพราะไหล่หลุด คณิตที่เพิ่งมาถึงวิ่งเข้ามาประคอง
“คุณนุช เป็นยังไงบ้าง”
พอคณิตโดนแขน อนุชยิ่งร้องเจ็บ
“โอ๊ย!! ข...แขน...แขนนุช!”
กร้าววิ่งเข้ามา
“นุช เป็นอะไร”
พร้อมวิ่งเข้ามาพร้อมกับขำที่เข็นรถชาติเข้ามา ชาติมองบันไดก็เดาออก
“หนูนุช นี่หนูตกบันไดลงมาเหรอ”
คณิตจับดู รู้ว่าไหล่หลุด
“นุชไหล่หลุด! ประคองไปนั่งตรงนั้นก่อน”
กร้าวรีบเข้ามาอุ้มทันที แล้วเอาเธอไปวางที่โซฟา อนุชร้องเจ็บ น้ำตาแทบไหล กร้าวหันไปถามคณิต
“ไอ้หมอ ต้องทำยังไง!”
คณิตเข้ามานั่งข้างอนุช
“คุณนุช...ทนเจ็บหน่อยนะครับ!”
อนุชพยักหน้ารับ คณิตจับไหล่เธอ ดันกลับให้เข้าที่ อนุชกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
“เข้าที่แล้ว ไม่เป็นอะไรแล้ว...”
ชาติโกรธ
“เจ้ากร้าว แกทำอะไรลงไป!”

กร้าวหน้าเสีย รู้สึกผิด

โปรดติดตาม "ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง" ตอนที่ 14 เวลา 9.00 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น