xs
xsm
sm
md
lg

เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 17 จบบริบูรณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 17 อวสาน

ขณะนั้นคะนึงนิจรออยู่หลังเวที หาญในร่างตำรวจอารักขาปรากฎกาย
“ทางนี้ค่ะ”
คะนึงนิจพาไปในฉากกั้นซึ่งงามตาแต่งตัวเหมือนราชาวดีรออยู่ ตำรวจอารักขากลายร่างเป็นหาญ “ที่แท้ก็เป็นคุณ คุณเคยช่วยฉัน”
“แสดงว่าเราสร้างบุญร่วมกันมา ตั้งสมาธิไว้เรามีเวลาไม่มาก” หาญร่ายมนต์แปลงรูปงามตาเป็นราชาวดีอย่างรวดเร็ว “นิจ อย่าลืมนะ อย่าออกมาข้างนอกจนกว่าข้ากับกล้าจะมาช่วย มันอันตราย”
“ค่ะ”
หาญในร่างตำรวจเดินกลับมาที่เดิม ราชาวดีรำจบ วิ่งเข้าหลังเวที
ราชาวดีตัวจริงเข้ามาในฉาก เจอราชาวดีปลอมยืนอยู่ ราชาวดีตัวจริงชะงักนิดนึงแต่ก็เข้าไปจับมือ
“ขอบใจนะงาม รักษาตัวนะ”
“บอกแล้วไง ฉันไม่ได้อยากช่วยเธอ ฉันอยากแก้แค้นต่างหาก”
งามตาในร่างราชาวดีเดินออกไป ราชาวดีมองตามอย่างเป็นห่วง คะนึงนิจรีบดึงราชาวดีออกไป

“แต่เราทนรออยู่ในนี้ไม่ไหว ถ้าเกิดพี่กล้าเพลี่ยงพล้ำพ่อเลี้ยง เราคงไม่ได้เจอหน้าพี่กล้าอีก ถ้าต้องตายก็ขอตายด้วยกัน”
ราชาวดีบอก คะนึงนิจตื้นตันในความรักของราชา และก็ห่วงกล้าเหมือนกัน
“ได้ งั้นก็ออกไป”
ทั้งคู่เปิดประตูออกไป เจอเข้ากับแต้มที่วิ่งเข้ามาหลบพอดี
“ที่แท้ก็มาหลบอยู่ที่นี่เอง โชคของไอ้แต้มแล้ว”
คะนึงนิจกับราชาวดีตะลึง

ภูมินทร์กุมแผลด้วยความแค้น
“แกเป็นใคร”
“คนที่แกไม่เคยเห็นว่าเป็นคนไง ผู้หญิงที่แกดูถูก เหยียดหยาม เบื่อแล้วก็เขี่ยทิ้งเหมือนผ้าขี้ริ้ว”
“งามตา”
ราชาวดีปลอมเงื้อมีดจะแทงอีก ภูมินทร์จับมือไว้บิดจนมีดปักเข้าท้องราชาวดีปลอม กล้าวิ่งเข้ามา ราชาวดีปลอมล้มลง ภูมินทร์กระชากถุงมือออกกำลังจะสะบัดพิษใส่ราชาวดีปลอม กล้าปล่อยหมัดนาคราชใส่ ภูมินทร์ผงะ
“ไอ้กล้า”
“ไอ้ภูมินทร์ หยุดทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้ได้แล้ว”

แต้มรีบตรงเข้าจับตัวราชาวดี แต่ราชาวดีสู้สุดชีวิต คะนึงนิจเข้าช่วยแล้วสองสาวก็พากันวิ่งหนี แต่แต้มยังดักไว้ได้ คะนึงนิจไม่ยอม
“อย่ายุ่งกับวดีนะ”
แต้มตบคะนึงนิจแล้วลากราชาวดีออกไป นุกูลโผล่มาขวาง แทงมีดหมอที่แต้มแต่ไม่เข้า ทั้งสองคนต่อสู้กัน แต้มอัดนุกูลจนมีดร่วงแล้วถีบกระเด็น แต้มหันมาหาสองสาวอีก
“อย่าเข้ามานะ ฉันสู้ตายจริงๆ ด้วย”
“นิจ ระวัง”

คะนึงนิจคว้าไม้ฟาดไม่ยั้ง แต่แต้มไม่สะทกสะท้าน ราชาวดีคิดนิดหนึ่งแล้วฉีกชายผ้าถุง เป็นแนวยาว รวบรวมความกล้า พุ่งเข้าไปคล้องรัดคอแต้มจากด้านหลัง แต้มพยายามดิ้น เหวี่ยงราชากระเด็น นุกุลหยิบมีดที่หล่นแทงแต้มอีกที คราวนี้เข้ามิดด้าม แต้มล้มลงขาดใจ
“เก่งมากวดี”
“นุกูลมาได้ยังไง”
นุกูลห่วงงามตา
“ไว้เราเล่าให้ฟัง ไปช่วยงามตาก่อนเถอะ”
ทั้งสามคนรีบออกไป

ภูมินทร์สะบัดพิษใส่กล้า กล้าม้วนตัวหลบทันแล้วตวัดดาบประจุพรายโจมตี เงาดาบปะทะร่างภูมินทร์ ภูมินทร์กระเด็น กล้าพุ่งเข้ามาซ้ำ ฟันแขนภูมินทร์จนขาด
“อ๊าก”
“แกยังมีโอกาสกลับตัว รับโทษทัณฑ์ตามกฎหมาย”
“รับโทษทัณฑ์เหรอ แกคิดว่าจะทำได้เหรอไอ้กล้า”
ภูมินทร์รวมสมาธิ กางแขนออก บาดแผลสมานได้เอง มือข้างที่ขาดก็งอกออกมาใหม่ แผลที่หน้าท้องสมานกล้าอึ้ง
“แก แกมันไม่ใช่คนจริงๆ”
ภูมินทร์สะบัดพิษโจมตีกล้า พิษพุ่งออกมาดุจห่าฝน กล้าร่ายคาถาปลุกพลังวิชานาคราช แขนของกล้ากลายเป็นเกล็ดพญานาคสีทอง
“หมัดนาคราช”
คลื่นหมัดสีทองเป็นวงพุ่งตรงไปปะทะเข้ากลับพิษ พิษสลายไป พลังนาคราชพุ่งเข้าหาภูมินทร์ ภูมินทร์หลบ
คลื่นมนต์กระแทกพื้นระเบิด

อีกมุมหนึ่ง ศรีแพรเขวี้ยงคชกุศโจมตีหาญ หาญหลบ เสือทับตามมาสู้ ทั้งสองคนปล่อยหมัดปะทะกัน แล้วกระเด็นคนละทาง หาญเป่ามนต์ลงบนลูกสะกดตรงเข้าหาศรีแพร ดึงแขนแต่ถูกศรีแพรเตะสวน หาญหลบกอดศรีแพรจากด้านหลัง จะใช้ลูกสะกดแตะหน้าผากแต่ศรีแพรไม่ยอม
“ปล่อยข้า”
เสือทับเข้ามาขวาง ตวัดมีดพร้า หาญผงะ ศรีแพรฉวยจังหวะปัดมือจนลูกสะกดลอยฟันหาญด้วยคชกุศในมือ
เกิดประกายไฟที่หน้าอกหาญเสียงเหล็กกระทบกัน
“ศรีแพร” หาญตกใจ
“หึหึ ข้าล่ะเห็นใจเอ็งเหลือเกินไอ้หาญ เอาเป็นว่าข้าจะคืนเมียรักให้เอ็งก็แล้วกัน”
เสือทับเป่ามนต์ แล้วกวาดไปบนหน้าศรีแพร ลมพัดเบาๆ ศรีแพรตาลอยค้าง รอฟังคำสั่ง เสือทับยัดระเบิดน้อยหนาใส่มือศรีแพร
“กลับไปหาผัวเอ็งสิ ศรีแพร ไปอยู่ปรโลกกันสองคน ฮ่าๆๆ”
ศรีแพรดึงสลักระเบิดออก แล้ววิ่งเข้าหาหาญ ยอมระเบิดพลีชีพ หาญกุมมือศรีแพรที่ถือระเบิดไว้แน่น “ศรีแพร เอ็งอย่าปล่อยมือนะ” ศรีแพรใช้อีกมือที่ถือคชกุศฟันหาญ หาญหลบ “เอ็งต้องมีสติสิ ศรีแพร ได้ยิ
ข้ามั้ย”
ศรีแพรไม่ฟังเสียง กดคชกุชลงบนไหล่หาญ หาญทรุดแต่ยังไม่ยอมปล่อยมือที่กุมระเบิดในมือศรีแพรไว้

นุกูล ราชาวดี คะนึงนิจวิ่งเข้ามาเจองามตามีมีดปักที่ท้อง อาการหนัก นุกูลรีบเข้าไปประคอง
“งามตาๆ”
“งามตา เธออดทนไว้นะ เราจะรีบพาเธอไปหาหมอ”
งามตาดึงแขนราชาวดีไว้
“ไม่ต้อง ฉันไม่ไหวแล้ว”
“เรามันไม่ได้เรื่อง ไม่เอาไหน เรารักงามแต่เราปกป้องงามไม่ได้”
“ถ้าอยากให้ฉันรับรักนายก็ต้อง ช่วยพี่กล้ากำจัดพวกคนชั่วให้ได้”
“ฉันรับปาก ฉันจะทำเพื่อเธองาม”

เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 17 อวสาน

งามตาสะอึก หายใจขัด

“งาม”
“ราชาวดี ฉันพยายามเอาชนะเธอ แต่ไม่เคยทำได้เลยตอนนี้ฉันยอมแพ้แล้ว”
“ไม่ งาม ฉันต่างหากที่แพ้ แพ้ความกล้าหาญของเธอ เธอเป็นผู้หญิงสวยและเก่งที่สุด”
งามตามองนุกูลกับราชาวดี ยิ้มให้ ก่อนจะสิ้นใจ นุกูลปล่อยโฮ
“งามตา” ราชาวดีกอดคะนึงนิจร้องไห้ คะนึงนิจเศร้าที่งามตาต้องตายเพราะพี่ชายตัวเอง นุกูลแค้นวางศพงามตาลง “ไอ้ภูมินทร์”
นุกูลวิ่งตามไปช่วยกล้า

ศรีแพรบิดมือจนระเบิดหล่นพื้น หาญเป่ามนต์ยกมือป้อง ระเบิดด้าน ไม่ระเบิด เสือทับแค้นมาก ทันใดกระเต็นก็โดดเข้ามาแตะลูกสะกดเข้าที่หน้าผากศรีแพรจนเกิดแสงเจิดจ้า
“โอ๊ย”
ศรีแพรล้มลง
“นังตัวแสบ แส่ไม่เข้าเรื่อง”
หาญทะยานเข้าหาเสือทับอย่างรวดเร็วดุจเสือตะปบเหยื่อ แต่แล้วร่างหาญก็หายไป กระโจนผลุบโผล่ตามจุดต่างๆ เสือทับมองหา สับสน ทันใดร่างหาญก็ปรากฎตรงหน้าเสือทับ หาญรัวหมัดโจมตีเสือไม่ยั้งจนเสือทับกระอักเลือด
หาญปล่อยหมัดคู่ เงาหมัดสีเหล็กพุ่งกระแทกเสือทับจนร่างเสือทับลอยกระเด็น กระอักอาการสาหัส หาญตามเข้าไปกระชากคอเสือทับ
“คนอย่างเอ็ง มันไม่สมควรฟื้นคืนชีพขึ้นมาเลย”
“อย่าฆ่าข้าเลย ข้าสำนึกแล้ว” เสือทับบอบช้ำหนัก หาญจ้องมองแล้วใช้คาถามงกุฎแก้วแตะไปที่หัวเสือทับเพื่อสลายอาคม “อ๊ากกก”
รอยสักเสือทับหายหมด หาญปล่อยเสือทับนอน
“ต่อแต่นี้ เอ็งใช้อาคมทำร้ายใครไม่ได้อีกแล้ว ก้มหน้ารับโทษเถอะ” หาญหันหลังกลับมาหาศรีแพร “ศรีแพร”
“หาญ” เสือทับสลึมสะลือมองตาม ปลดระเบิดอีกลูกที่เอว รวบรวมกำลังขว้างไปที่หาญ ศรีแพรเห็น “ระวัง”
ศรีแพรคว้าคชกุศเขวี้ยงไปที่ระเบิดเหวี่ยงกลับไปที่เสือทับ ทันใดระเบิดก็ดังสนั่น แยกร่างเสือทับกระจัดกระจาย กระเต็นหมอบ หาญประคองกอดศรีแพรไว้ มองกลุ่มควันที่ยังอบอวล

กล้าตวัดดาบตรงไปที่ภูมินทร์เกิดเงาดาบพุ่งเข้าใส่ ภูมินทร์กลิ้งหลบไปที่เสาไฟเล็กๆ ภูมินทร์เอามือกำเสาจนเหล็กเปื่อยขาด แล้วยกขว้างใส่กล้าทันที กล้ากลิ้งหลบฉิวเฉียด ภูมินทร์ชอบใจจะสะบัดพิษใส่
“ตาย” แต่แล้วนุกูลก็วิ่งเข้ามา เอาแส้จากเครื่องรางฟาดตรงมาที่หลังภูมินทร์ ภูมินทร์เจ็บล้มลง “อ๊าก”
นุกูลพุ่งใส่ หวังเตะเต็มๆ ภูมินทร์ลุกมา หลบแล้วจับขานุกูลไว้ ควันขึ้นฟู่ นุกูลร้องเจ็บปวด ทรมาน“อ๊าก”
ภูมินทร์สะใจ กล้าพรวดเข้ามาฟันแขนภูมินทร์ จนแขนภูมินทร์ที่กำขานุกูลขาดออก กล้ายันภูมินทร์หงายไป
นุกูลล้มลงไปนอน ดึงมือภูมินทร์ออกแล้วนอนกุมขาร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด กล้ารีบเข้าไปดู
“นุ นุ อดทนไว้”
ภูมินทร์ที่อยู่ด้านหลังกล้าลุกขึ้น จ้องกล้าอย่างเคียดแค้น ทำสมาธิจนแขนที่ถูกฟันงอกออกมา แล้วโผง้างมือจะตะปบที่หัวกล้า นุกูลเห็นพอดี

“พี่กล้า”

กล้าลุกหันกลับฟันฉับลงไปที่กลางกระหม่อม ภูมินทร์เอาประกบรับดาบไว้ได้ ควันพิษค่อยๆ กระจายจากมือ

กล้ากดดาบลงอีก ภูมินทร์ก็ออกแรงกำมือ ขณะที่ดาบจะถึงหน้าภูมินทร์นั้นเอง พิษที่กัดกร่อนจนดาบละลายไป กล้าอึ้ง ภูมินทร์สะใจต่อยไปที่ตัวกล้า กล้าผงะ เกิดเป็นรอยไหม้รูปสันหมัด แล้วตามซ้ำอีก คราวนี้กล้าเคลื่อนตัวหลบ
“นาคราชเคลื่อนกาย”
กล้าหลบไปอยู่ด้านหลัง ภูมินทร์หันมองหาจึงโดนสวนด้วยหมัดนาคราชรัวที่ลำตัวเต็มรัก จนเซ ก่อนจะจบด้วยจระเข้ฟาดหาง จนภูมินทร์หงายกระเด็นไป หาญ กระเต็น จุก ศรีแพร วิ่งเข้ามา จุกกับศรีแพรรีบไปที่นุกูล ลากๆ พาหลบอยู่มุมหนึ่ง หาญเห็นภูมินทร์ค่อยๆ ลุกขึ้น ปาดเลือดกำเดาที่ไหล ก็รีบเข้าไปสมทบกับกล้า
“เอ็งก่อบาปไว้มาก หยุดเพียงเท่านี้เสีย ก่อนที่จะไม่มีโอกาสแก้ตัว”
หาญบอก ภูมินทร์ยืนเซ จ้องหาญกับกล้าด้วยความแค้น
“หุบปาก คนอย่างฉัน เดินหน้าแล้วไม่มีทางถอยหลัง”
กระเต็นเข้ามา
“ไอ้ปีศาจ แกมันต้องตายสถานเดียว”
ภูมินทร์โมโห
“แก” ภูมินทร์สะบัดพิษห่าใหญ่พุ่งใส่กระเต็น แต่แล้วเป็นคะนึงนิจที่พุ่งเข้ามาขวางพิษเอาไว้ จึงโดนพิษเต็มๆ ล้มไปนอนเจ็บ ทุกคนตกใจ ภูมินทร์อึ้ง กระเต็นรีบเข้าไปดูพร้อมกับราชาวดีที่เข้ามา
“นิจ นิจ”
“พี่ภู อย่าทำผิดต่อไปอีกเลย นิจขอร้อง” คะนิงนิจบอกก่อนจะสลบไป
“นิจ พี่ภู วดีขอ อย่าทำผิดอีกต่อไปเลย เห็นแก่วิญญาณพ่อกับแม่เรานะ”
ภูมินทร์เจ็บปวดใจมาก
“ในที่สุด เธอก็รวมหัวกับวดีหลอกฉัน” ภูมินทร์น้ำตาคลอ “วดี มีสักนาทีไหม ที่เธอจะรักพี่”
“พี่ไม่มีวันได้ความรักจากใคร ถ้าใจพี่มีแต่ความแค้น”
“ตราบใดที่แกไม่เคยให้ แกจะไม่มีวันได้รับ”
“ไม่ต้องพูดมาก” ภูมินทร์โมโหจนคลั่ง “คราวนี้ฉันจะไม่ปล่อยพวกแกไว้อีก” ภูมินทร์ตะโกนเรียกพลัง“พิษมหากาฬ”
แล้วสะบัดพิษออกจากมือทั้งสอง พิษสีดำกลายเป็นหนามแหลมพุ่งตรงใส่ทุกคน กล้ากับหาญรีบพยักหน้าให้กัน แล้วใช้หมัดนาคราชกับหมัดธนูมือซัดใส่ภูมินทร์ วงคลื่นหมัดพุ่งสีเงินปนสีทองพุ่งกระแทกเหล่าหนามแหลมจนหนามแตกกระจาย ภูมินทร์กระโดดกลิ้งหลบคลื่นหมัดได้ฉิวเฉียด ต้นไม้ระเบิด ภูมินทร์ลุกขึ้นยืน เย้ย
“ฮะๆๆ ฆ่าฉันได้ ก็มาเลย”
กล้าแค้นกำหมัดพุ่งเข้าซัด แต่หาญดึงไว้
“อย่ากล้า”
“ผมจะฆ่ามัน มันคิดฆ่าได้แม้แต่น้องสาวตัวเอง”
“เอ็งอย่าให้มารครองใจ เชื่อข้า ใช้เทวะนาคราชหยุดมันเสีย”
กล้าคิดได้ หายใจเข้าเพื่อสงบจิต
“นาคะ นาคี”
รอยสักที่แขนกล้าทั้งสองแขนเรืองออกมา กล้าต่อยหมัดลงที่พื้น พื้นยวบไหว กล้าผลุบหายวับลงไปในพื้นดิน
ที่พื้นกลายเป็นเหมือนหงอนพญานาคผลุบโผล่ ภูมินทร์อึ้ง กล้าพรวดขึ้นมาด้านหลังภูมินทร์ แขนขาทั้งสองมีเกล็ดพญานาค และเอาแขนกอดล็อคภูมินทร์เอาไว้ ภูมินทร์ดิ้นๆ
กล้าเคลื่อนร่างออกจึงเห็นเป็นเชือกเส้นใหญ่ สีแดงเพลิงรัดภูมินทร์อยู่แน่น
“ร้อนๆ”
“เทวะนาคราช เป็นวิชาสูงสุดของคัมภีร์นาคราช ใครก็แก้มัดให้เอ็งไม่ได้ นอกเสียจากจิตที่เป็นกุศลของแกเอง”
หาญบอก ภูมินทร์ยิ่งโมโห
“ไอ้หาญ ไอ้กล้า” เชือกรัดแน่นขึ้น ไฟลุกพรึ่บ “อ๊าก”
“หยุดไฟแค้นในใจเอ็งเสีย เอ็งหยุดเชือกก็จะคลาย การต่อเวรต่อกรรมไม่เคยให้อะไรนอกจากความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน”
ภูมินทร์ล้มทรุดลง
“หยุดเถอะ พ่อเลี้ยง เลิกแล้วต่อกันซะที”
“ไม่ แกต้องตาย ฉันถึงจะหยุด” ทันใดไฟก็ลุกพรึ่บ ภูมินทร์ปวดร้อน
“อ๊าก”

กล้า หาญ และทุกคนต่างมองไปที่เปลวไปอย่างสลดใจ

เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 17 อวสาน (ต่อ)

วันต่อมา กระเต็นกราบหิ้งพระที่มีรูป เพชร ยิ่งยศ

“ในที่สุดเรื่องร้ายๆ ก็ผ่านไปซะทีนะ เพชร ฉันหวังว่าความดีของกล้าจะช่วยให้ลูกรอดพ้นจากข้อกล่าวหาทั้งหมด ได้กลับมาอยู่บ้านกันอย่างพร้อมหน้าตา”
รัก ยมปรากฎตัว
“แม่จ๋า ปู่หาญกับพี่กล้ากลับมาแล้ว”
“จริงเหรอ หมายความว่ากล้าได้ประกันตัวแล้ว”
กระเต็นรีบวิ่งออกไป

กระเต็นวิ่งมายิ้มแย้มตื่นเต้น หาญ ศรีแพร กล้า ราชาวดีเดินเข้ามา หน้าขรึมๆ มีตำรวจคุมมาสองนาย
“กล้า” กะเต็นเห็นตำรวจ หุบยิ้มทันที
“ขอบคุณมากครับ”
หาญบอก ตำรวจเดินออกไป
“ตำรวจต้องมาอีกทำไม ก็กล้าได้ประกันตัวแล้วนี่”
“แม่ครับ ผมมีอะไรจะบอก”
กล้าฉุดกระเต็นไปที่โต๊ะรับแขก ให้นั่ง คนอื่นลุ้นๆ ว่ากระเต็นจะว่ายังไง
“มีเรื่องอะไรกันเหรอ”
“ผมจะยอมรับโทษตามพยานหลักฐานที่มี แต่จะไม่สู้คดีด้วยการพิสูจน์เรื่องคาถาอาคมให้ศาลเห็น”
“เดี๋ยว นี่กล้า พูดอะไร แม่ไม่เข้าใจ”
“ข้ากับกล้าเห็นตรงกันว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะเอาเรื่องนี้มาอ้าง เพราะจะทำให้ผู้คนงมงาย หันกลับไปลุ่มหลงเรื่องไสยเวทย์ ท่านอธิบดีก็เห็นด้วย เลยอนุญาตให้กล้ากลับมาลาเอ็ง” หาญบอก กระเต็นลุกขึ้น
“แต่กล้าไม่ได้ทำผิด จะรับผิดได้ยังไง”
“ผิดซิครับ อย่างน้อย ผมก็เคยปล้น เคยทำร้ายคนจริงๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง”
กระเต็นพยายามหาเหตุผลให้กล้าเปลี่ยนใจ
“แล้วถ้าลูกต้องรับโทษ แล้วราชาวดีล่ะ”
ราชาวดีเดินมา อยู่ข้างกล้า
“วดีเห็นด้วยกับพี่กล้าค่ะ วดีจะรอจนกว่าพี่กล้าจะเป็นอิสระ” กระเต็นอึ้ง แล้วทรุดลงนั่งหมดแรง
“คราวนี้แม่คงต้องยอมแพ้จริงๆ แล้วใช่มั้ย”
“กระเต็น ที่ผ่านมาเอ็งได้ทำหน้าที่แม่อย่างดีที่สุดแล้ว ต่อไปให้กล้าได้เลือกทางเดินชีวิตของตัวเองเถอะ”
กระเต็นจำเป็นต้องพยักหน้าทั้งน้ำตา
“ขอบคุณครับแม่”
ศรีแพรเศร้าเช็ดน้ำตา หาญโอบปลอบ

จุกบวชเป็นพระมารับบาตรจากกล้าและราชาวดี คู่บ่าวสาวที่หน้าบ้าน ศรีแพร กระเต็น หาญยืนมอง สาวๆช่วยกันส่งของให้ใส่บาตร จุกสวดให้พร
“ขอให้ครองคู่ด้วยความรัก ความเข้าใจกันนะ”
“ขอบคุณครับหลวงน้า”
จุกเดินไปหาหาญ
“พรุ่งนี้อาตมาจะออกธุดงค์”
“ข้าดีใจที่ท่านเลือกเดินทางนี้ ขอให้ท่านบรรลุธรรมตามที่ตั้งใจ ข้าจะคอยอนุโมทนา”
“ที่ผ่านมา อาตมา อยู่ใกล้พระแต่กลับไม่เคยศึกษาพระธรรม ชีวิตถึงได้พบแต่ความเดือดร้อน แล้วโยมล่ะไม่คิดจะกลับไปบวชอีกเหรอ” หาญยิ้มเศร้าๆ ไม่ตอบ จุกเหลือบไปมองศรีแพรเลยเข้าใจไปว่าหาญจะไปอยู่กับศรีแพร จุกกระแอมแก้เก้อ “เป็นฆราวาสก็ศึกษาพระธรรมได้งั้น อาตมาลาล่ะ โยมกระเต็น”
“นมัสการลาค่ะ ถ้าท่านมากรุงเทพฯส่งข่าวบ้างนะคะ” ทุกคนไหว้จุก จุกเดินจากไป กระเต็นมองกล้ากับราชาวดีที่ยืนจูงมือกันอย่างสงสาร “เวลามันน้อยเหลือเกิน ความจริง แม่อยากจัดงานให้เต็มพิธีกว่านี้”
“แค่นี้ก็ดีที่สุดแล้วครับแม่”
“ค่ะ แค่นี้ วดีก็มีความสุขที่สุดแล้ว ผิดหวังอยู่อย่างเดียว ทำไมนิจถึงไม่มา”
ขณะนั้นคะนึงนิจแอบดูอยู่ใกล้ๆ มองภาพวาดในมือที่ห่อกระดาษผูกโบว์มา ศรีแพรมองมา คะนึงนิจหลบ
“นิจอาจจะยุ่งๆ กับงานที่ปางไม้น่ะ” หาญบอก

“ใช่ๆ เข้าบ้านกันก่อนดีกว่านะ พวกเจ้าต้องขึ้นไปไหว้พระกันไม่ใช่เหรอ”
 

ทุกคนเข้าบ้านไป คะนึงนิจมองภาพในมือ ลังเล ศรีแพรเดินเข้ามา

“นิจ”
คะนึงนิจตกใจ

ราชาวดีแกะรูปของคะนึงนิจโดยมีกล้าอยู่ใกล้ๆ รูปที่แกะออกมาเป็นภาพวาดกล้ากับราชาคู่กัน และมีลายเซ็นคะนึงนิจ
“โธ่ นิจ”
กล้าเห็นจดหมายเหน็บอยู่
“มีจดหมายด้วย”
กล้าแกะจดหมาย ส่งให้ราชาวดีอ่าน
“ของขวัญจากนิจค่ะ พี่กล้า วดี ฝีมือไม่ค่อยดีหรอกนะ แต่นิจก็วาดด้วยความรัก ความหวังดีทั้งหมดจากหัวใจของนิจ”
คะนึงนิจนั่งวาดรูปนี้ที่ปางไม้ วาดไปน้ำตาก็ไหลไป
“นิจอยากจะไปอวยพรด้วยตัวเอง แต่นิจกลัวว่าคงตื้นตันจนพูดอะไรไม่ออก ทีสำคัญนิจไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวของพี่กล้ากับวดีที่มีน้อยเหลือเกิน ใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่าที่สุดนะคะพี่ชายและเพื่อนรัก เราจะได้พบกันอีกแน่นอนค่ะ”
นิจ
คะนึงนิจเซ็นใต้รูป ปาดน้ำตายิ้มปลื้มกับผลงาน
ราชาวดีพับจดหมายกอดไว้
“นิจ”
“นิจเข้มแข็งเสมอ”
“ค่ะ วดีหวังว่าซักวันนิจจะพบคนที่ปกป้องเค้าได้”
“อย่าเหมือนพี่ที่กว่าจะมีวันนี้ก็ทำให้วดีเสียน้ำตาไม่รู้เท่าไหร่”
“น้ำตานั่นเป็นเพราะความเข้าใจผิด แต่พี่กล้าไม่เคยทำร้ายจิตใจวดีเลย”
“แม้แต่เรื่องที่พี่ยอมรับโทษ ทิ้งให้วดีอยู่คนเดียวน่ะเหรอ”
“วดีไม่ได้อยู่คนเดียวหรอกค่ะ เพราะพี่กล้า อยู่ในนี้ตลอดเวลา” ราชาวดีเอามือทาบที่หัวใจ
“งั้นเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่ดี”
“ทำไมละค่ะ”
กล้าจับมือราชาวดีมาทาบอก
“เพราะสำหรับพี่ วดีอยู่ในนี้ตลอดเวลาเหมือนกัน”
“พี่กล้าน่ะ”
ราชาวดีดึงมือออกฟาดกล้าเบาๆ กล้าเอามือไปจูบ ดึงราชาวดีเข้ามากอด
“พี่ว่า เรามาทำตามที่นิจขอดีมั้ย”
“อะไรคะ”
“ใช้เวลาทุกวินาทีให้มีค่าไง เรามีเวลาคืนนี้คืนเดียวนะ”

ราชาวดีเขิน กล้าเชยคางราชาวดีมาจูบหน้าผากแล้วจูบริมฝีปาก ทั้งคู่เอนลงไป

เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 17 อวสาน (ต่อ)

 
วันต่อมากล้าเดินเข้าห้องขังในชุดนักโทษ โดยมีผู้คุมประกบ

“ลาก่อนนะวดี”
กล้าบอกลาราชาวดี ราชาวดีเศร้าใจ น้ำตารื้น
“วดีจะรอพี่กล้านะคะ”
กล้าข่มความเศร้าใจ พยักหน้ารับ กระเต็นเองก็เศร้าแต่พยายามเข้มแข็ง
“แม่จะดูแลวดีให้เอง เข้มแข็งแล้วก็อดทนให้มากนะกล้า”
“ครับแม่ ต่อไปผมจะใช้สติ ใช้ปัญญาเป็นเครื่องนำทาง ไม่ใช้อารมณ์เหมือนเมื่อก่อนอีก” กล้าหันไปมองนุกูล
“แกก็เหมือนกันนะนุ เรียนให้จบ เอาปริญญามาฝากพี่ให้ได้ ไม่งั้นพี่จะออกไปเตะแก”
“รับรองครับ ผมจะไม่ทำให้ให้วิญญาณพ่อกับพี่ผิดหวัง”
กล้ามองหาหาญกับศรีแพร
“หาปู่แกใช่ไหม ไม่รู้ว่าเค้ากับศรีแพรหายไปไหน แม่กับวดีตามหาก็ไม่เจอ”
“ไม่เป็นไรหรอกแม่ ปู่เหนื่อยเพราะผมมามาก ผมอยากให้ปู่ได้พักผ่อนอย่างสงบกับคนที่ปู่รัก เสียดายที่ผมไม่มีโอกาสได้กราบลาหลวงปู่”
“ลา”
กระเต็นเอะใจกับคำพูดกล้า กล้ายิ้มเศร้าๆ

ม่อนช้างเผือก ที่หน้าผาสวยๆ เห็นภูเขาสุดลูกหูลูกตา ศรีแพรจูงมือหาญเข้ามา
“นี่ไง จุดที่สวยที่สุดของม่อนช้างเผือก แม่ข้าชอบมานั่งเล่นตรงนี้ที่สุด”
“สวยจริงๆ”
“ถ้าแม่มองอยู่บนฟ้า คงดีใจที่เห็นเจ้ายืนอยู่ตรงนี้”
“ข้าหวังว่า แม่เจ้าจะอภัยให้ข้าในทุกอย่างที่ผ่านมา ข้าทำร้ายจิตใจเค้าไว้มาก และยังทำให้เจ้าต้องเดือดร้อน กรรมนี้คงติดตามข้าไปทุกภพชาติไม่อาจลบเลือน”
“ข้าเชื่อว่าแม่ต้องให้อภัยเจ้า เพราะเจ้าเป็นคนที่แม่รัก...” ศรีแพรมองหน้าหาญ “เหมือนกับที่ข้า...รักเจ้า ถึงแม้เจ้าจะไม่เคยมีใจกับข้าเลย”
“เอ็งรู้ไหม มีผู้หญิงเพียง 2 คนเท่านั้นที่อยู่ในหัวใจข้า คนนึงได้ตายจากไปแล้ว ส่วนอีกคน อยู่ตรงหน้าข้า”
“หาญ”
หาญค่อยๆ ดึงตัวศรีแพรเข้ามาหอมหน้าผากเบาๆ ทั้งสองกอดแล้วมองกัน น้ำตาคลอด้วยความรู้สึกทั้งตื้นตันทั้งเสียใจที่จะต้องจาก
“เพียงแค่นี้ ข้า ข้าก็พอใจแล้ว”
“เจ้าไม่ตำหนิข้าใช่มั้ยที่ตัดสินใจแบบนี้”
ศรีแพรยิ้มกลบความเศร้า พยักหน้า
“ข้าทนไม่ได้หรอกที่ข้าต้องกลายเป็นยายแก่หนังเหี่ยว แต่เจ้าหนุ่มแน่นตลอดไปเพราะพลังพลังเหล็กไหล”
หาญยิ้มและศรีแพรมองไปยังเบื้องหน้า ลมพัดมาวูบใหญ่ หาญพยักหน้ารับ “ลมแรงนะ ถ้าข้าได้น้ำสมุนไพรอุ่นๆ ก็คงดี”
“ข้าจะเอามาให้”
ศรีแพรบอกน้ำเสียงสั่นเครือแล้วหักใจ เดินออกไป หาญไม่หันมองตาม แต่กลับมองเบื้องหน้า เห็นใบไม้แห้งร่วงหล่นลง เป็นสัญญลักษณ์แห่งอนิจจัง
หาญหายใจเข้าราวกับทำความเข้าใจกับการจากลาก่อนจะนั่งลง เข้าสมาธิ เชิญพญาเหล็กไหลออกจากร่าง
ร่างของหาญเรืองแสงขึ้น พญาสมิงเหล็กลอยออก

ศรีแพรถือกระบอกน้ำร้อนเข้ามา เห็นหาญนั่งอยู่ ศรีแพรเข้าไปดูก็เห็นว่าหาญผมหงอก ผิวหนังเหี่ยวย่น นั่งสมาธินิ่งอยู่ ก็รู้ว่าหมดลมแล้ว กระบอกน้ำร่วงจากมือศรีแพรก่อนจะ เดินไปทรุดนั่งลงข้างๆ หาญ น้ำตาไหล ก้มลงมองที่ท้องเอามือทาบ ศรีแพรซบไหล่กับร่างไร้วิญญาณของหาญ
 


 
“สิบปีผ่านไป”
 

ที่ปางไม้ไพรพญา คนงานวิ่งหนีเข้ามาโดยมีคะนึงนิจซึ่งมีอายุมากขึ้นถือปืนยาว ยิงไปใกล้เท้าคนงาน
“หยุด ไม่งั้นหัวกระจุยแน่”
คนงานกลัว ยกมือไหว้
“ผมกลัวแล้วแม่เลี้ยง อย่ายิงนะครับ”
“แกลอบเข้ามาในปางไม้ฉัน เพราะจะขโมยตัดงาช้างที่ฉันเลี้ยงไว้ใช่มั้ย”
“ผมผิดไปแล้ว ลูกผมป่วย ผมอยากได้เงินไปรักษาลูก”
“อยากได้เงินก็ต้องทำงาน ไม่ใช่เป็นหัวขโมย ตามฉันกลับไปโรงพัก”
คนงานทำเป็นยกมือแต่แล้วพอคะนึงนิจเผลอก็ปัดปืนแล้วทุบใส่ก้านคอ คะนึงนิจทรุดลง ปืนหลุดมือ คนร้ายแย่งปืนไปได้ จ่อคะนึงนิจ
“เป็นผู้หญิงริจะมาทำซ่า” คนงานยิง แต่กระสุนไม่ออก “เฮ้ย อะไรวะ”
คะนึงนิจเองก็งง กล้าเดินเข้ามา
“พี่กล้า”
คนงานเห็นท่าไม่ดี ทิ้งปืนชักมีด เข้าบู๊กับกล้า แต่ถูกซัดหมอบ กล้าเข้าไปยื่นมือฉุดให้คะนึงยืนขึ้น “เป็นยังไงบ้างครับแม่เลี้ยง”
คะนึงนิจอึ้งๆ ไม่คิดฝัน
“นิจ”
คะนึงนิจหันไปมองตามเสียงจึงเห็นราชาวดียืนจูงมือลูกชาย กระเต็นยืนอยู่ด้วย
“วดี น้ากระเต็น”

ทั้งหมดเดินมาด้วยกัน
“ไม่นึกเลยว่าพี่กล้าจะพ้นโทษเร็วอย่างนี้”
“กล้าได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวง ลดโทษให้ตั้งแต่ปีฉลองกรุง บวกกับเป็นนักโทษชั้นดีก็เลยได้ออกมาก่อนหลายปี”
“ที่ไม่บอกก่อนเพราะอยากจะให้นิจแปลกใจ แต่พี่กลับเป็นคนแปลกใจซะเองที่เห็นนิจมาถือปืนแทนพู่กัน”
“ใช่ เราเองก็แทบไม่เชื่อสายตาเลยว่านิจจะเก่งขนาดนี้”
“เราก็ทำเก่งไปอย่างงั้นแหละ เคยยิงใครที่ไหน แต่ถ้าไม่ทำอย่างงี้ก็ปกครองใครไม่ได้ ไงจ๊ะ หลานน้า โตขึ้น หล่อกว่าพ่ออีกนะเนี่ย”
“น้านิจก็สวยกว่าในรูปอีกครับ” เวหา ลูกชายของกล้ากับราชาวดีบอก
“ปากหวานเหมือนพ่ออีกต่างหาก”
“แต่ก็จริงใจนะ ไม่เชื่อถามวดีดูได้”
หาญบอก เวหามองไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งที่โคนต้นไม้ตกแต่งให้เป็นหลุมศพภูมินทร์ มีดอกไม้ปลูกไว้ออกดอกสวยงาม มีแท่นหิน เขียนว่า ภูมินทร์ ไพรพญา มีรูปเล็กๆ ติดอยู่
“นั่นคืออะไรครับ”
เวหาถามอย่างสงสัย แล้ววิ่งไปที่หลุมศพ คะนึงนิจมองตาม หน้าสลดลง

ทุกคนเดินมาที่ใต้ต้นไม้
“ภูมินทร์ ไพรพญา ใครเหรอฮะ คุณย่า” เวหาถามเมื่อเห็นชื่อภูมินทร์
“พ่อลี้ยงภูมินทร์เป็นเจ้าของที่นี่ เป็นพี่ชายของน้านิจไงลูก”
“ตอนพี่ภูมีชีวิตอยู่แทบจะไม่เคยทำความดีเลย นิจก็เลยฝังร่างเค้าไว้ที่นี่ อย่างน้อยก็เป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ได้เติบโต”
“คนเราเกิดมาแล้ว น้อยคนนักที่จะไม่ตกเป็นทาสของกิเลส กว่าจะสำนึกได้ก็มักสายเกินไป”
กล้าจูงมือราชาวดีขยับเข้าใกล้ต้นไม้
“ถ้าคนเราเกิดมาเพื่อชดใช้กรรม ผมก็หวังว่า เวรกรรมระหว่างผมกับพ่อเลี้ยง จะหมดสิ้นลงแล้วในชาตินี้”
“ขอให้วิญญาณของพ่อเลี้ยงไปสู่สุขคตินะครับ สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น อะเวราโหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย”
คะนึงนิจมองเวหาอย่างทึ่ง แล้วหันไปมองกล้า ราชาวดี กระเต็น ประมาณสอนลูกให้ท่องได้ขนาดนี้เชียวหรือ พวกกล้ายิ้มให้ แล้วทุกคนก็พนมมือ ฟังเวหาท่องบทแผ่เมตตา ลมพัดผ่านเข้ามาต้นไม้ไหวเอน กล้ากับราชาวดีแหงนมองใบไม้ดอกไม้ ร่วงลงมาอย่างสวยงาม รอบๆ ตัวของทุกคน ดอกไม้ดอกหนึ่งร่วงลงมาที่รูปภูมินทร์
“น ชจฺจา วสโล โหติ น ชจฺจา โหติ พฺราหฺมโณ
กมฺมุนา วสโล โหติ กมฺมุนา โหติ พฺราหฺมโณ
บุคคลเป็นคนเลวเพราะชาติสกุลกำเนิดก็หาไม่
เป็นผู้ประเสริฐเพราะชาติสกุลกำเนิดก็หาไม่
แต่บุคคลเป็นคนเลวเพราะ “กรรม” คือ การกระทำ
เป็นผู้ประเสริฐก็เพราะ “กรรม” คือ การกระทำ”

จากนั้นภาพก็ย้อนกลับไปในอดีตสมัยรัชกาลที่5 ที่ทำการกรมกองตระเวณ พุ่มซึ่งก็คือภูมินทร์ ถูกมัดโยง พนักงานลงหวาย เฆี่ยนจนบอบช้ำ ร้องโอดโอย หลังพุ่มลายเลือดไหลอาบ หลวงพินิจซึ่งก็คือกล้า ในชุดตำรวจสมัยรัชกาลที่ 5 ยืนมอง หน้านิ่ง อย่างไม่มีความเห็นใจสงสาร คนโบยเอาถังน้ำเกลือสาด พุ่มที่สลบไปฟื้นขึ้นมา หลวงพินิจเข้าไปจิกหัว
“เอ็งจักสารภาพหรือไม่ ไอ้พุ่ม”
“ข้าไม่ได้เป็นคนทำ เอ็งต่างหากที่ลักเอาของไปแล้วใส่ความข้า”
“สามหาว ทำผิดแล้วไม่รู้สำนึก เอาตัวมันไปเข้าเครื่องทรมานจนกว่าจักยอมเปิดปาก”
คนโบยปลดเชือก หลวงณรงค์เข้ามา มองอย่างไม่สบายใจ
“หลวงพินิจ ท่านจักทำกระไร พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงห้ามมิให้ทรมานนักโทษเยี่ยงนี้แล้ว”
“คนชั่วเยี่ยงมัน ใช้ไม้อ่อนมิได้ดอก”
“ไอ้พุ่มเป็นคนซื่อ ข้าไม่เชื่อว่ามันจักเป็นคนทำ”
“มันเป็นคนเก็บรักษาของที่ยึดได้จากพวกโจรทั้งหมด หากมิใช่มันเป็นคนแอบลักเอาไป ของจักหายไปได้กระไร”
“ข้าขอสอบสวนมันเอง”
“งานคุณหลวงล้นมืออยู่แล้ว ให้เป็นหน้าที่กระผมจะดีกว่า รีบเอาตัวไปซิ”
พุ่มถูกหิ้วปีกไป ระหว่างนั้นพุ่มตะโกนออกมาด้วยความอาฆาต
“เอ็งใส่ความข้า ข้าจักจองล้างจองผลาญเอ็งทุกชาติ ไอ้หลวงพินิจ ไอ้คนชั่ว”

หลวงพินิจมองอย่างไม่ยี่หระ หลวงณรงค์อัดอั้น ไม่รู้จะทำยังไง

                                         จบบริบูรณ์
กำลังโหลดความคิดเห็น