xs
xsm
sm
md
lg

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 16

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 16

เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเห็นธารินเปิดเข้ามา ชายธงกำลังอารมณ์ไม่ดี

“พี่อยากอยู่คนเดียว ออกไปซะ”
“พี่ชายธง...”
ชายธงไม่ฟัง ดันไหล่ธารินให้ออกไปจากห้อง
“พี่บอกว่าอยากอยู่คนเดียว พูดไม่รู้เรื่องเหรอไง”
“ฟังรินก่อนสิคะ รินจะช่วยพี่ชายธงเอง”
“รินจะช่วยยังไง ในเมื่อพ่อไม่ยอมให้พี่ออกจากบ้าน”
“ปล่อยเป็นหน้าที่รินเองค่ะ”
ธารินยิ้ม ชายธงแปลกใจ

ธารินหน้าตาตื่นเข้ามาหาเธียรซึ่งใส่ชุดนอนแล้ว คนงาน 2 คนประคองชายธงที่ร้องโอดโอยเข้ามา
“คุณลุงคะ แย่แล้วค่ะ พี่ชายธงแผลฉีก”
เธียรตกใจ
“รินจะพาพี่ชายธงไปโรงพยาบาลเองค่ะ”
เธียรไม่สบายใจ
“แต่ว่า...”
“คุณลุงไม่ต้องห่วงนะคะรับรองว่ารินจะเฝ้าพี่ชายธงไว้ไม่ให้คลาดสายตาเลยค่ะ”
เธียรพยักหน้าตามใจธาริน
“รินไปก่อนนะคะ”
ธารินรีบร้อนออกไป คนงาน 2 คนประคองชายธงตามไป เธียรเป็นห่วงชายธง

ธารินพาชายธงมาที่หน้าบ้านวิชเวทย์
“รินช่วยได้เท่านี้แหละค่ะ”
ชายธงเป็นห่วง
“แล้วรินจะไปบอกพ่อพี่ยังไง คุณพ่อต้องว่ารินแน่”
“ไม่ต้องห่วงรินหรอกค่ะ รินเอาตัวรอดได้ ยังไงคุณลุงก็คงไม่ใจร้ายกับรินหรอก”
ชายธงไม่เข้าใจ
“ทำไมรินถึงช่วยให้พี่ไปหานุช ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนรินไม่ชอบนุช คอยขัดขวางพี่กับนุชตลอดเวลา”
ธารินเศร้า
“รินรู้แล้วว่าความสุขของพี่ชายธงคืออะไร รินอยากให้พี่มีความสุขค่ะ”
ชายธงอึ้ง ซึ้งใจ ธารินเปิดกระเป๋าหยิบเงินใส่มือเขา
“ติดตัวไว้เผื่อต้องใช้นะคะ รินกลับก่อนนะ”
ธารินจะเดินหนี ชายธงห้ามไว้ เธอแปลกใจ ชายธงกอดไว้ ธารินอึ้ง ตะลึง ไม่คิดว่าจะโดนกอด
“ขอบใจนะ ขอบใจที่ช่วยพี่”
ชายธงกอดสักพัก จึงปล่อย
“พี่ชายธงระวังตัวด้วยนะคะ”
“พี่จะระวังตัว”
ชายธงออกไป ธารินมองตาม เจ็บปวดที่เขาไปหาอนุชแต่ต้องยอมเพื่อความสุขของคนที่เธอรัก

ธารินเข้ามาในห้องรับแขกบ้านเธียร แกล้งร้องไห้สะอึกสะอื้น
“รินขอโทษนะคะคุณลุง รินไม่ดีเองที่ปล่อยให้พี่ชายธงคลาดสายตา”
เธียรปลอบ
“หนูรินไม่ผิดหรอก เจ้าชายธงนี่มันดื้อจริงๆ”
ธารินแอบมองเธียร รู้สึกผิดที่ต้องโกหก เธียรโมโหลูกชาย

อรชานอนไม่หลับ ออกมาเดินเล่นในสวนเจอปรารภ
“คุณรภ นอนไม่หลับรึคะ พรุ่งนี้ต้องไปแต่เช้านะ”
“คงเพราะแปลกที่ครับ แล้วคุณอรล่ะครับ”
“อรไม่สบายใจค่ะ กลัวว่าพรุ่งนี้คุณกร้าวจะเปลี่ยนใจ ไม่ยอมปล่อยนุช”
ปรารภกุมมือ
“เรื่องของพรุ่งนี้ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของพรุ่งนี้เถอะครับอย่ากังวลไปก่อน จะไม่สบายใจเปล่าๆ”
“ค่ะ”
“มานี่สิครับ”
ปรารภชวนออกไป อรชาแปลกใจ

ในห้องอาหาร...ปรารภใส่ผ้ากันเปื้อนน่ารัก ยกถ้วยนมอุ่นๆ สองถ้วยวางบนโต๊ะ
“ดื่มนมอุ่นๆ ก่อนนอน จะได้หลับสบายนะครับ”
เขายกถ้วยนมมาชนกับถ้วยของเธอ อรชาดื่มนมอุ่นๆ ปรารภมองแล้วยิ้มมีความสุข อรชาสังเกตเห็น
“ยิ้มอะไรเหรอคะ หน้าอรมีอะไรติดรึเปล่า”
“เปล่าครับ ผมไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้ดูแลคุณอรอย่างนี้ครับ”
“คุณรภรำคาญที่อรอ่อนแอรึเปล่าคะ”
“ไม่เลยครับ ผมมีความสุขที่ได้อยู่ข้างๆ ได้ดูแลคุณอรครับ”
อรชาสบตาเขารู้สึกดีที่เขาดีกับเธอ ปรารภเขินอาย ไม่กล้าสบตาอรชาเลยหันไปหยิบถ้วยใส่นมแก้เก้อ แต่กลับทำนมหกลวกมือ
“โอ๊ย”
อรชาตกใจ
“คุณรภ”
ทั้งสองมาในห้องรับแขก อรชาทายาให้ปรารภ
“แทนที่ผมจะดูแลคุณอร กลายเป็นภาระคุณอรซะอีก”
“คุณรภดูแลอรมาตลอด ถือว่าอรตอบแทนคุณรภนะคะ”
อรชายิ้มให้ปรารภ ทั้งสองสบตากันหวานๆเหมือนมีแรงดึงดูดทั้งสองเข้าใกล้กัน ปรารภค่อยๆ
ก้มหน้าเข้ามาใกล้ อรชาก็นิ่ง แต่เธอกลับนึกถึงตอนที่ กร้าวจูบเธอ อรชาตกใจ รีบผลัก ปรารภชะงัก
“อรขอโทษค่ะ”
ปรารภเศร้า
“ผมต่างหากครับ ที่ต้องขอโทษคุณอร ผมน่าจะรู้ตัวว่าสำหรับคุณอรแล้ว ผมเป็นได้แค่เพื่อน”

ปรารภเศร้า เดินหนีไป อรชาเสียใจ ตามไป

ปรารภเดินหนีมาในสวน อรชาตามมาจับแขนไว้

“คุณรภคะ อรขอโทษ อรก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงยังไม่ลืมคุณกร้าวทั้งๆ ที่เขาทำร้ายครอบครัวอร”
“คงเพราะคุณอรรักคุณกร้าวมาก”
“อรก็ไม่รู้คะ อรรู้แค่ว่า คุณกร้าวเป็นเหมือนไฟ เวลาที่อยู่ใกล้ๆ เขาอรรู้สึกเหมือนจะละลาย แต่คุณรภเป็นเหมือนน้ำ อรรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่มีคุณรภอยู่ข้างๆ” อรชาถอนใจ “อรรู้ว่าอรไม่ควรรักคุณกร้าว
แต่อรคงต้องใช้เวลาที่จะลืมเขา”
ปรารภกุมมือ
“ผมจะรอครับ ไม่ว่านานแค่ไหนก็จะรอ”
ทั้งสองยิ้มให้กัน ต่างรู้สึกดีต่อกัน ท้องฟ้ายามค่ำคืนสวยงาม

พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าสวยงาม...อนุชนอนอยู่ใต้ผ้าห่ม ในอ้อมกอดของกร้าว ด้วยสีหน้าแววตาครุ่นคิดสงสัยไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันคืออะไร รักจริงหรือแค่หลอกให้หลงเสน่ห์ กร้าวขยับตัวจะกอดอนุชให้แน่นขึ้น แต่กลับถูกเธอผลักไส เขาแปลกใจ
“มีอะไรหรือเปล่า”
“ทำอย่างนี้ทำไม”
อนุชอยากได้ยินคำว่ารัก แต่กร้าวบื้อ ไม่เข้าใจ
“ก็คุณเป็นเมียผม”
“แค่นั้น”
“อือ”
อนุชงอนน้อยใจ
“จริงสินะ คุณเสียเงินตั้งร้อยล้าน ขอบคุณนะคะที่ตีค่าตัวฉันสูงขนาดนั้น”
อนุชหยิบเสื้อคลุมมาสวมก่อนจะเดินออกไปด้วยความน้อยใจ กร้าวมองตามด้วยความงง ๆ

พร้อมกับขำเดินถือตะกร้าผ้ามาตามทางเดินจะเก็บไปซัก พร้อมกำชับขำ
“อย่าลืมไปเก็บผ้าที่ห้องคุณกร้าวด้วย”
ทันใดนั้นก็เห็นอนุชที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เดินหน้าบึ้งออกมาจากห้อง กร้าวที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วเช่นกันตามมาติด ๆ
“เป็นอะไรไปคุณ”
อนุชงอน
“อย่ามาแตะเนื้อต้องตัวฉัน”
“ก็เมื่อคืน...”
อนุชสวนแรง
“ถ้าคิดจะแบ็คเมล์ฉันก็เอาเลย” เธอร้องไห้ออกมา “ฉันไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้แล้ว”
อนุชวิ่งออกไปทั้งน้ำตา ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ กร้าวจะรั้งไว้
“เดี๋ยวก่อนสิคุณ...คุณ...เป็นอะไรของเค้า หรือว่าเราทำอะไรผิด”
พร้อมยืนมองดูอยู่อีกมุมหนึ่ง หันไปถามขำ
“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นนังขำ”
“ฉันจะไปรู้เหรอป้า ไม่ได้นอนใต้เตียงเค้า”
“นังนี่วอนซะแล้ว”
“ขอโทษ” ขำคิดได้ “หรือว่า คุณกร้าวจะกินตับคุณนุช”
“อาจเป็นได้...เฮ้ย จะบ้าเหรอ คุณกร้าวเป็นคนไม่ได้เป็นปอบ แกนี่พูดไปเรื่อย ไป ๆ ไปทำงาน”
ขำเดินไป พร้อมอดมองกร้าวที่ยืนงงอยู่ด้วยความสงสัยไม่ได้

ที่โต๊ะอาหารเช้า...พร้อมกับขำ ช่วยกันเสิร์ฟอาหาร ชาติกับอนุชนั่งอยู่ด้วยกัน
“ว่าไงคราวนี้บอกป๋าได้หรือยัง ไอ้เจ้ากร้าวมันรังแกอะไรหนูอีก”
อนุชรู้สึกอาย ไม่รู้จะพูดยังไงดี
“คือ...คือว่าคุณกร้าว...คุณกร้าว...”
ชาติมองหน้า
“หรือว่ามันบังคับไม่ให้หนูพูด”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะป๋า”
“งั้นมันเรื่องอะไรล่ะ”
“คือว่า...”
“คงถูกมันขู่อีกล่ะสิ” ชาติโกรธ “ไม่ไหวเลย แสดงว่าไอ้สิ่งที่ป๋าพร่ำสอนไม่เคยเข้าหูมันเลย ไม่เป็นไร เดี๋ยวป๋าจัดการเอง”
อนุชรีบรั้งไว้
“อย่าค่ะป๋า ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะค่ะ นุชขอร้อง”
ชาติถอนหายใจ
“ถ้าเจ้ากร้าวรู้จักให้อภัยคนอื่นได้แบบหนู ป๋าจะดีใจมาก แต่ในเมื่อเตือนแล้วไม่ฟัง ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”

ชาติพูดจบรีบเข็นรถออกไป อนุชจะห้ามแต่ไม่ทัน ทั้งอายทั้งขัดใจ

กร้าวเดินกลับไปกลับมาด้วยความกังวลว่าไปทำอะไรให้อนุชไม่พอใจ พอหันมาก็เห็นชาติเข็นรถเข้ามาพอดี

“อยู่นี่เองเหรอเจ้ากร้าว”
“มีอะไรเหรอครับ”
“เมื่อคืนแกไปทำอะไรหนูนุช”
“ผมเปล่านะครับ”
“แล้วทำไมเค้าถึงได้กลัวแกขนาดนั้น”
“ผมไม่ได้ทำอะไรจริง ๆ นะครับ”
“ไม่ต้องมาโกหก นุชเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว”
กร้าวเหวี่ยงทันที
“งั้นมาถามผมอีกทำไมล่ะครับ”
“เพราะฉันอยากได้ยินจากปากแกยังไงล่ะ แกทำอะไรหนูนุช”
กร้าวอึกอักลังเลไม่แน่ใจว่าควรเล่าดีหรือเปล่า
“ผม...ผม...”
ทันใดนั้นอนุชก็เข้ามา
“พอเถอะค่ะป๋า อย่าให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลย”
ชาติไม่พอใจ
“ไม่ได้ เพราะป๋าสัญญากับพี่สาวหนูแล้วว่าจะดูแลหนูให้ดีจนกว่าหนูจะกลับบ้าน ...บอกมาแกทำอะไรหนูนุช”
กร้าวอึกอัก
“ผม...”
“เห็นมั้ยหนูนุชหน้าซีดหมดแล้ว”
“ผม...”
อนุชทนอับอายไม่ไหววิ่งหนีไป ชาติหันมาตำหนิหลานชาย
“ยิ่งทำอย่างนี้ลุงก็ยิ่งอยากรู้ว่าแกทำอะไรเค้า เค้าถึงได้เสียใจขนาดนี้”
“ผม...ปล้ำอนุชครับ”
ชาติตะลึง
“ว่าไงนะ”
กร้าวรู้สึกผิด
“ผมปล้ำอนุช...”
ชาติบันดาลโทสะตบหน้ากร้าวอย่างแรง
“บัดซบที่สุด แกมันเลว ประณามคนอื่น แต่สุดท้ายก็เป็นซะเอง”
กร้าวอึ้งไปรู้สึกสำนึกผิด
“แกเคยคิดถึงความรู้สึกหนูนุชมั้ย ถ้าหนูนุชคิดสั้นเหมือนแม่แกจะทำยังไง”
คำพูดของชาติทำให้กร้าวใจหาย
“อนุช”
กร้าวรีบวิ่งออกไป ชาติโกรธหลานชายมาก

กร้าววิ่งเข้ามาในห้อง เห็นอนุชถือเชือกขนาดยาวอยู่ก็ตกใจ
“อย่านะนุช”
กร้าวรีบเข้าไปรวบตัวเธอแย่งเชือกจากมือมาถือ อนุชงงๆ
“คุณจะทำบ้าอะไรขึ้นมาอีกคุณกร้าว”
“ยังไงผมไม่ยอมให้คุณทำอย่างนี้แน่ ๆ”
“แล้วฉันทำอะไร”
“ก็เชือกนี่ไง”
“ก็เชือกแล้วไง”
“คุณไม่ได้จะผูกคอตายเหรอ”
“ฉันจะเอามัดของฝากพี่อร...”
กร้าวงง
“เรื่องเมื่อคืน...”
อนุชทั้งโกรธ ทั้งอาย
“ถ้าจะพูดเรื่องนี้อีกไปพูดที่อื่นเลย”
เธอจะเดินหนี เขารีบสวนไป
“ผมขอโทษ”
อนุชหันมาคิดไม่ถึง
“ขอโทษงั้นเหรอ...คุณพูดยังกับว่าเดินเหยียบเท้าฉันบนรถเมล์”
“แล้วจะให้ผมทำยังไง”
“เรื่องแค่นี้ต้องถามด้วยเหรอ ฉันเกลียดคุณ คุณมันพวกฉวยโอกาส เอาแต่ได้”
อนุชพูดเสร็จเดินออกไปทั้งน้ำตา กร้าวงงว่าเกิดอะไรขึ้น

ชายธง อรชา ปรารภเดินเข้ามาในโถงบ้านชาติ อนุชเดินถือกระเป๋ามาพอดีเห็นทั้งสามคนก็ดีใจ
“พี่อร”
อรชารีบเข้ามาดูน้อง
“เป็นยังไงบ้างนุช”
“นุชไม่เป็นไรค่ะพี่อร”
อรชาเห็นรอยถลอดแดงตามแขนขาก็ถามน้องด้วยความเป็นห่วง
“แล้วรอยตามแขนขานี่ล่ะ”
ชายธงโกรธ
“ไอ้กร้าวมันทำอะไรนุช บอกเรา”
อนุชห้าม
“อย่าชายธง เรื่องมันแล้วไปแล้วให้มันจบไป อย่ามีเรื่องกันอีกเลย”
ชายธงฮึดฮัดไม่พอใจ แต่ก็ยอมอ่อนลงตามคำขอของอนุช อรชาโล่งใจ
“นุชไม่เป็นไรพี่ก็โล่งอก”
“แล้วพี่อรคิดว่าคุณกร้าวจะทำอะไรนุชเหรอคะ”
อรชาคิดถึงตอนที่กร้าวหลอกตนไปปล้ำ เธอกระดากไม่กล้าพูด
“คือว่าพี่คิดว่าคุณกร้าวจะ...จะ...”
ชายธงโพล่งออกมา
“จะทำมิดีมิร้ายกับนุช”
อนุชหน้าสลด
“แล้วทำไมทุกคนถึงคิดแบบนั้นล่ะคะ”
“ก็เพราะว่าพ่อเรา...” อรชาอึกอัก “ไปข่มขืนแม่เค้า”
อนุชตกใจ
“ข่มขืน”
ปรารภหันมาบอก
“คุณลุงเป็นคนเล่าเรื่องนี้ให้พวกเราฟังเอง”
กร้าวตามมาถึงพอดี อนุชมองเขาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ คิดว่าเขาทำทั้งหมดเพราะต้องการแก้แค้นเธอ อนุชเสียงสั่นน้ำตาคลอ
“ที่แท้เรื่องเมื่อคืนก็...”
ชายธงถามทันที
“ก็อะไรนุช”
กร้าวเห็นชายธงเข้ามาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยอนุชก็ฮึดฮัดไม่พอใจ อนุชตัดใจกลัวจะมีเรื่องขึ้นมาอีก
“ไม่มีอะไรชายธง...กลับกันเถอะค่ะ นุชจะไม่อยากจะเหยียบที่นี่อีก”

อนุชมองกร้าวอย่างน้อยใจก่อนจะเดินไป กร้าวหน้าตึงขึ้นมาเพราะหึงอนุช

ขณะที่เชิดนอนกอดผู้หญิงอยู่บนเตียงในโรงแรม เสียงเคาะประตูดังขึ้น ปลุกทั้งสอง เชิดงัวเงียอารมณ์เสีย

“ใครวะมาเคาะแต่เช้าอย่างนี้”
ผู้หญิงเดินไปเปิดประตู ทันใด พวกตำรวจก็บุกเข้ามารวบตัวเชิด
“เฮ้ย ปล่อยกู ปล่อย”

ลลิตาเดินออกมาจากโรงแรมเล็กๆ อยู่ๆตำรวจก็เข้ามาประกบ
“คุณลลิตา ผมต้องขอเชิญคุณไปให้ปากคำที่โรงพัก”
ลลิตาหน้าตื่นตกใจ
“เรื่องอะไร ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะ”
“คนร้ายคดีวางแผนฆ่าคุณอนุช ศุภกาญจน์ซัดทอดว่าคุณเป็นคนจ้างวาน”
ลลิตาอึ้ง ตกใจ

กร้าวเดินโมโหเข้ามาในโรงพัก ไหนครับคุณตำรวจ ไอ้คนร้ายที่มันจะฆ่าเมียผม”
เชิดที่นั่งหันหลังอยู่ หันมายิ้มให้อย่างกวนๆ กร้าวเข้าไปกระชากเชิดขึ้นมาต่อยกองไปที่พื้นทันที ตำรวจเข้ามาห้าม
“คุณ ควบคุมอารมณ์หน่อย”
“ทำร้ายร่างกายโดนปรับเท่าไหร่ครับ”
กร้าวเปิดกระเป๋าหยิบเงินให้ปึกหนึ่ง
“นี่ครับคุณตำรวจ”
เชิดเพิ่งลุกขึ้นมาได้ โดนกร้าวต่อยล้มโครมลงไปอีก
“พอแล้ว แกจะทำก็ไปทำนังตามันซี่ มันเป็นคนสั่งให้ฉันทำ”
“เขาสั่งให้แกไปตายแกจะไปไหม อย่าเอาคำนี้มาอ้าง แกมันเห็นแก่เงิน แกเกือบจะฆ่าคนดีๆไปคนนึงแล้ว”
ตำรวจพยายามห้าม
“คุณกร้าวครับ เรารู้ครับว่าคุณรักภรรยา”
กร้าวชะงักไป มีอีกคนที่ทักว่าเขารักอนุช
“แต่เราขอให้คุณควบคุมอารมณ์หน่อย อย่ามีเรื่องชกต่อยที่นี่”
ตำรวจอีกชุดคุมตัวลลิตาเข้ามา พอเห็นกร้าวเธอก็โผเข้าหา
“คุณกร้าว ลิต้าไม่ได้ทำนะคะ มันปรักปรำลิต้า ลิต้าไม่ได้บอกให้มันฆ่านุช แค่จะให้มันขู่นุช”
เชิดโมโห
“ถ้าแกไม่สั่งแล้วฉันจะทำได้ไง เรื่องอะไรฉันถึงอยากฆ่าคนสวยๆอย่างนั้น...คุณตำรวจครับ นังนี่แหละ
มันหลอกให้ผมทำ”
ลลิตาโกรธ
“แก ไอ้ชั่ว แกปรักปรำฉัน”
ลลิตากระโดดเข้าตะปบหน้าเชิด ทั้งสองยื้อ จะทำร้ายกัน ตำรวจคอยห้าม กร้าวเห็นแล้วเอือม เดินหนีออกไป ลลิตาหันมาเห็น
“อ้าว คุณกร้าว อย่าเพิ่งไปสิคะ คุณกร้าว...คุณตำรวจคะ อย่าเพิ่งจับฉันนะคะ ฉันขอตกลงกับคุณกร้าวก่อน”

กร้าว ชาติ กรวิกอยู่ด้วยกันที่บ้าน ตำรวจพาลลิตาเข้ามา กร้าวถามอย่างสงสัย
“คุณตำรวจจะพาเขามาที่นี่ทำไมครับ”
ลลิตาเข้ามากอดแข้งกอดขา เสแสร้งขอร้องไห้
“คุณกร้าวคะ เชื่อลิต้าเถอะนะคะ ลิต้าไม่คิดว่าเรื่องจะเลวร้ายขนาดนั้นจริงๆ”
กรวิกเบ้หน้า
“จ้างวานฆ่าอย่างนั้นเนี่ยนะ”
ลลิตาแอบทำหน้าเจ็บใจ หันไปอ้อนกร้าวต่อ
“เรื่องราวมันไปไกลกว่าที่ลิต้าคิดจริงๆนะคะคุณกร้าว ลิต้าไม่เคยคิดจะให้นุชตาย”
กร้าวมองหน้า
“แล้วที่จะเอาปืนไปยิงนุชล่ะ”
ลลิตาสะอึก
“เอ่อ...ลิต้าทำไมด้วยอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นเอง ถ้าคุณไม่ไล่ลิต้าไป มีเหรอคะ ลิต้าจะอาละวาดขนาดนั้น”
ชาติส่ายหน้าระอา
“ขาดสติถึงกับจะฆ่าจะแกงกันอย่างนั้นก็ไม่ไหวนะ”
ลลิตาแสร้งเข้ามาไหว้ชาติ
“ลิต้าผิดไปแล้วค่ะ ลิต้าเผลอทำร้ายคุณลุงด้วย ยกโทษให้ลิต้านะคะ”
ลลิตากอดขาชาติอ้อนวอน
“ลิต้าจะไม่ทำอย่างนั้นแล้ว ให้โอกาสลิต้าแก้ตัวนะคะ”
ชาติมองหน้ากร้าวว่าจะเอายังไง กร้าวถอนใจ
“ผมยกโทษให้คุณได้ แต่เรื่องนี้เป็นคดีอาญา ยังไงก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ”
ลลิตาโผเข้ากอดขากร้าว
“คุณกร้าวจะให้ลิต้านอนคุกจริงๆเหรอคะ ช่วยประกันตัวลิต้าเถอะนะคะ”
กรวิกรีบห้าม
“อย่านะคะอากร้าว เขาสมควรไปนอนคิดในคุก ว่าสิ่งที่ทำมันผิด”
ลลิตาแอบทำหน้าเจ็บใจ แล้วแกล้งสำออยต่อ
“คุณกร้าวอย่าใจร้ายกับลิต้าเลยนะคะ ลิต้าสำนึกผิดแล้วจริงๆ”

กร้าวระอาใจ มองหน้ากับชาติอย่างตัดสินใจ

[อ่านต่อหน้า 2]

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 16 (ต่อ)

พออรชากับปรารภพาอนุชกลับมาถึงที่บ้าน อรชายิ้มแย้มบอกน้องสาว

“ขอต้อนรับกลับบ้านอีกครั้งจ้ะ น้องพี่...”
อนุชกอดอรชา
“ขอบคุณค่ะพี่อร...” อนุชหันไปหาปรารภ “ขอบคุณมากพี่รภที่ช่วยให้นุชได้กลับบ้านอีกครั้ง”
ทั้งหมดกำลังจะเดินเข้าบ้าน อสิตที่พยายามเดินออกมาโดย ใช้ไม้เท้าช่วยพยุง อนุชเห็นพี่เดินได้อีกครั้งก็ตื้นตัน
“พี่สิต...”
อนุชโผเข้ากอดพี่ชาย อสิตลูบหัวน้องอย่างรัก เอ็นดู
“นุช...ได้กลับบ้านซะทีนะ น้องพี่...”
“นุชคิดถึงพี่สิต คิดถึงพี่อร...คิดถึงบ้านของเรา”
อรชาเข้ามาใกล้
“ตอนนี้ก็ได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้งแล้วไงจ๊ะ”
อนุชดึงอรชามากอดด้วย สามพี่น้องกอดกันอย่างยินดี ปรารภพลอยยินดีไปด้วย ชายธงเข้ามาเข้าไปกุมมืออนุช
“นุช...นุชกลับมาแล้วจริงๆ”
อนุชดีใจ
“จ้ะ...นุชได้กลับมาบ้านแล้วจริงๆ”
ปรารภยิ้มแย้มบอก
“ผมว่า งานนี้ต้องฉลองกันหน่อยนะครับ”
พวกสามพี่น้องยิ้มอย่างเห็นด้วย

กร้าวขับรถกลับกรุงเทพ นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เขากับอนุชบอกรักด้วยคำว่าเกลียดกัน
“ฉันเกลียดคุณ เกลียดท่าทางถือดี เกลียดรอยยิ้ม เกลียดเวลาที่คุณกอดฉัน เกลียดทุกครั้งที่คุณอ้อนฉัน เกลียดเวลาที่ทำให้ฉันใจอ่อน”
“ผมก็เกลียดคุณ เกลียดตั้งแต่แรกเห็น เกลียดหน้าคุณ ตาคุณ จมูกคุณ ปากคุณ เกลียดแก้มคุณ เกลียดเวลาที่ถูกคุณผลักไส เกลียดทุกครั้งเวลาที่คิดว่าจะเสียคุณไป เกลียดที่ทำยังไง ผมก็เกลียดคุณไม่ลงซักที”
“ฉันก็เกลียดคุณ”
เขาโน้มตัวลงจูบเธอ...กร้าวคิดถึงแล้วก็ไม่เข้าใจอนุช แล้วเขาก็นึกถึงตอนที่อนุชถามหาชายธง กร้าวทุบพวงมาลัย โกรธ ไม่พอใจ

เย็นนั้นสามพี่น้องกับสองหนุ่มจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวกัน บรรยากาศสนุกสนาน ปรารภปิ้งบาร์บีคิว แล้วใส่จานที่อรชาส่งให้
“คุณอรเอาไปให้พี่สิตก่อนเลยครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
อนุชเตรียมเครื่องดื่มสำหรับทุกคน อรชานำบาร์บีคิวมาให้อสิต
“พี่สิตคะ ทานเยอะๆนะคะ”
ปรารภยกจานบาร์บีคิวมาเพิ่มให้ที่โต๊ะ
“นุช มากินได้แล้วจ้ะ”
อนุชนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้ เห็นรอยยิ้มทุกคนแล้วก็สะท้อนใจ
“นุชอยากให้เราอยู่ด้วยกันที่นี่ แบบนี้ตลอดไป”
อสิตกับอรชาได้ยินก็สะท้อนใจเพราะบ้านโดนขายไปแล้ว ปรารภเห็นสีหน้าทุกคนก็เป็นห่วง
“ไม่ต้องห่วงนะครับ ตอนนี้ผมปรึกษากับทนายอยู่ เรามีโอกาสร้องต่อศาลให้การขายบ้านของลิต้าเป็นโมฆะ”
อนุชเศร้าๆ
“ถ้าเราสามคนกลับมาเป็นเจ้าของบ้านที่แท้จริงอีกครั้ง จะเป็นของขวัญที่วิเศษที่สุดเลยค่ะ”
อรชาหันไปหาปรารภ
“ขอบคุณคุณรภมากจริงๆค่ะ”
อสิตซึ้งใจ
“นั่นสิ ไม่ได้รภ พวกเราสามพี่น้องคงลำบาก”
“อย่าคิดมากเลยครับ ผมอยากช่วยเท่าที่ทำได้”
เสียงเพลงสนุกๆดังขึ้น ทั้งสี่หันไปมอง ชายธงนำเครื่องเสียงออกมา
“ปาร์ตี้ทั้งที ไม่มีดนตรีได้ไงครับ”
ชายธงเดินตามจังหวะเพลงเข้ามา
“ชายธง นั่งก่อน เดี๋ยวนุชเอาเครื่องดื่มให้”
อนุชลุกไปเตรียม ยืนหันหลังให้ชายธง แต่พอหันมาก็เห็นชายธงยืนอยู่ข้างหลัง จับมือเธอเต้นตามจังหวะเพลง
“อะไร ชายธงนี่” อนุชหัวเราะ
“เร็วสินุช โชว์สเต็ปหน่อย…เร็ว”

ชายธงดึงอนุชมาเต้น จนอนุชยอมเต้นด้วย ทั้งที่ในมือยังถือแก้วเครื่องดื่ม

กร้าวขับรถเข้ามาที่หน้ารั้วบ้าน ลงมาดู ได้ยินเสียงเพลงดังออกมา นึกฉุน เปิดประตูรั้วเข้าไป...อสิตดันปรารภกับอรชาออกไปเต้นด้วย

“สองคนนี้จะดูอยู่เฉยๆทำไมเนี่ย ออกไปเต้นกับเขาสิ”
อรชามองหน้ากับปรารภแล้วยิ้มขำ ปรารภนึกสนุก ลุกมาโค้งให้อรชา ยื่นมือให้ อรชาแตะมือ เขาจับมือเธอออกไปเต้นบ้าง กร้าวเข้ามา หยุดมองอยู่มุมหนึ่งไกลๆ เห็นพวกสามพี่น้องกับสองหนุ่มสนุกสนานรื่นเริง...อนุชเต้นรำกับชายธงด้วยรอยยิ้ม กร้าวนึกฉุน ทั้งสี่คนสองคู่เต้นรำกันไป อรชาที่หันหลังให้อนุช ชนหลังอนุช เครื่องดื่มในมืออนุชหกใส่ชายธง
“อุ๊ย ชายธง นุชขอโทษ”
“อยากให้ถอดเสื้อเต้นก็ไม่บอก”
“แหวะ ใครจะอยากเห็น มานี่ นุชพาไปล้าง” อนุชหันไปบอกกับพวกพี่ๆ “เดี๋ยวนุชมานะคะ”
อนุชวางแก้วแล้วพาชายธงออกไป กร้าวเดินอ้อมตัวบ้านตามไป

อนุชกับชายธงเข้ามาในบ้าน
“ชายธงไปล้างในห้องน้ำ เดี๋ยวนุชจะไปเอาเครื่องดื่ม แล้วเดี๋ยวไปเจอกันข้างนอก”
“โอเคคร้าบ...”
ชายธงเดินแยกไปทางหนึ่ง อนุชมองตามยิ้มๆ แล้วหันกลับมา กร้าวเดินเข้ามาจากอีกด้านหนึ่งของบ้าน อนุชเห็นเขาก็ชะงัก
“คุณกร้าว...คุณมาที่นี่ได้ยังไง”
“เมียผมอยู่นี่ ทำไมผมจะมาไม่ได้”
“อย่าใช้คำนั้นกับฉัน จะหย่าเมื่อไหร่ นัดมาได้เลย”
“หย่าเพื่อให้คุณไปเสวยสุขกับชายธงน่ะเหรอ...เห็นผมเป็นคนใจดีอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่”
“แล้วคุณยังต้องการอะไรอีก”
“ผมยังอยากเก็บคุณไว้ดูเล่นอีกสักพัก...กลับบ้านกับผม”
กร้าวดึง อนุชสะบัด
“จะมากไปแล้วนะ ฉันไม่ใช่ลูกหมาลูกแมวที่คุณจะใช้เงินซื้อ”
“ผมก็ไม่ได้เห็นคุณเป็นลูกหมาลูกแมวซะหน่อย...ผมเห็นคุณเป็นภรรยา...หรือว่าหลังจากคืนนั้นแล้ว คุณไม่เห็นผมเป็นสามีบ้างเลย”
อนุชทั้งโกรธทั้งอาย
“อย่าพูดถึงคืนนั้นอีก ฉันไม่อยากได้ยิน”
“ทำไม คุณกลัวชายธงจะมาได้ยินเข้าเหรอ...หึ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ถ้ามันรู้ว่าผมกับคุณเป็นสามีภรรยากันแล้วทั้งนิตินัยและพฤตินัยมันจะว่ายังไง”
“นี่คุณคิดจะเอาเรื่องนี้มาขู่ฉันงั้นเหรอ”
“แล้วได้ผลไหมล่ะ”
อนุชพูดไม่ออก ได้แต่กัดฟัน เจ็บใจ
“ผมมีสิทธิในตัวคุณทุกอย่าง จะไปกับผมดีๆ หรืออยากให้มีเรื่องก่อน”

ชายธงล้างเสื้อเสร็จออกมา เอากระดาษเช็ดเสื้อไปพลาง
“นุช...เสร็จรึยัง...ให้ช่วยยกอะไรไหม”
ไม่มีเสียงตอบ ชายธงเดินไปดู แต่ไม่เห็นอนุช

อรชากับปรารภที่เต้นเสร็จก็เดินมานั่งกับอสิต กร้าวออกมาด้วยท่าทางกวนๆ
“สวัสดีครับ ทุกคน”
อสิตเห็นกร้าวก็ปรี๊ด จะลุกขึ้นไปต่อย
“ไอ้กร้าว ใครอนุญาตให้แกเข้ามา”
อรชากับปรารภต้องรีบห้ามอสิต
“พี่สิต ใจเย็นก่อนครับ”
อรชามองหน้ากร้าว
“คุณกร้าว คุณมาที่นี่อีกทำไม ต้องการอะไรอีก”

“ก็ไม่มีอะไรมาก...แค่มาพาเมียกลับบ้าน...”

เห็นอนุชหิ้วกระเป๋าใบเล็กๆ ออกมา อรชาถึงกับอึ้ง

“นุช...”
ชายธงตามออกมา
“ไม่ได้ แกจะพานุชไปไหนอีกไม่ได้”
“ไม่ยักรู้ว่าแกก็มีสิทธิออกคำสั่ง”
อรชาไม่พอใจพูดเสียงกร้าว
“พวกเราที่นี่ไม่มีใครยอมให้คุณพานุชไป”
“ได้...งั้นก็คืนสินสอดร้อยล้าน ค่าตัวอนุชมา”
อสิตโกรธ
“แกกล้าเรียกว่าค่าสินสอดเหรอ ในเมื่อแกให้ลิต้าหลอกให้ฉันเซ็นสัญญากู้ยืม”
“กับคนอย่างพวกคุณ ผมก็ต้องมีหลักประกันบ้าง”
ชายธงจ้องหน้า
“หมายความว่าถ้าใช้หนี้ร้อยล้านเป็นอันจบใช่ไหม...ได้ งั้นฉันจะใช้หนี้แกเอง”
กร้าวมองหยัน
“แกจะเอาอะไรมาใช้หนี้ฉัน เงินพ่อแกงั้นเหรอ”
ชายธงโกรธจี๊ด
“ไอ้กร้าว”
ปรารภห้ามไว้
“ชายธง อย่า”
“หึ...ก็คนอย่างแกมันจะมีปัญญาอะไร เป็นแค่ไอ้กระจอกที่วันๆเอาแต่ตามเมียชาวบ้าน”
“แก...”
ชายธงสะบัดปรารภออก จะเข้าไปต่อยกร้าว แต่อนุชขวางไว้ ไม่อยากให้มีเรื่อง
“อย่า ชายธง อย่ามีเรื่องกันอีกเลย พี่สิต พี่อร...นุชจะไปกับเขาค่ะ”
อสิตอึ้ง
“นุช”
“ไม่ต้องห่วงนุชหรอกค่ะ...ถึงยังไงตอนนี้นุชก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว” อนุชหันไปหากร้าวถามเสียงแข็ง “จะไปได้รึยัง เลิกกวนประสาทคนอื่นซะที”
กร้าวยิ้มท้าทายทุกคน ก่อนจะเดินนำอนุชออกไป พวกที่เหลือต่างก็ใจหายที่อนุชต้องไปอีก อรชากับอสิตเรียกพร้อมกัน
“นุช...นุช...”
อนุชหันมองพวกพี่อย่างตัดใจ ก่อนจะหันตามกร้าวออกไป...กร้าวพาอนุชออกมาที่รถ อนุชมองกลับไปทางตัวบ้านอย่างเสียใจ อุตส่าห์คิดว่าจะอยู่กันครบสามพี่น้องแล้ว กร้าวเห็นอนุชอาลัยอาวรณ์คิดว่าอยากอยู่กับชายธง
“ขึ้นรถสิ ยังจะอาลัยอาวรณ์ไอ้ชายธงอยู่อีกรึไง”
อนุชประชด
“ใช่...ฉันอยากให้ชายธงใช้หนี้แทนฉัน ฉันกับคุณจะได้จบกันซะที”
“งั้นก็เสียใจด้วยที่คุณกับผมยังไม่จบง่ายๆ”
“ฉันไม่เข้าใจ คุณได้ทุกอย่างไปหมดแล้ว ยังต้องการอะไรอีก”
อนุชจ้องตากร้าวอย่างค้นหา กร้าวปากแข็ง ไม่ยอมบอกว่ารัก
“ผมไม่ชอบเห็นใครมีความสุข โดยเฉพาะพวกวิชเวทย์”
“คุณกร้าว...”
“เลิกทำตัวมีปัญหา แล้วก็ไปซะที” เขาดึงเธอไป “ขึ้นรถ”
อนุชมองกร้าวอย่างตัดพ้อ แต่ก็จำต้องขึ้นรถไป

งานจบลงอย่างกร่อยๆ อสิตทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ ท่าทางหมดหวัง ชายธงหน้าเสีย
“ผมขอโทษ ที่ปกป้องนุชไม่ได้”
“ชายธงไม่เกี่ยวหรอก พี่ต่างหาก ที่ปกป้องน้องสาวตัวเองไม่ได้”
อรชาเข้ามาบีบไหล่อสิตปลอบโยน หน้าตาทุกคนสิ้นหวัง

กร้าวขับรถพาอนุชเข้ามาในรั้วบ้านของเขา พอรถจอด อนุชลงจากรถ ไม่พูดไม่จา เดินเข้าบ้านไป กร้าวลงจากรถ มองตามไปอย่างห่วงๆ
อนุชเดินเข้ามา มองรอบๆ รู้สึกเบื่อหน่าย สิ้นหวัง กร้าวตามเข้ามา เห็นเธอเย็นชา พยายามเอาใจ
“เหนื่อยรึเปล่า”
อนุชใจแข็ง ทำเป็นไม่ตอบ
“หิวไหม อยากได้อะไรรึเปล่า”

อนุชเหลือบมองเขา แล้วเดินหนีขึ้นห้อง กร้าวมองตามอย่างหนักใจ

ค่ำนั้น ธารินรอชายธงกลับมาอย่างร้อนใจ พอได้ยินเสียงรถก็ดีใจ ครู่หนึ่งชายธงเข้ามา หน้าตาดูไม่ดี ธารินเป็นห่วง

“พี่ชายธง...เป็นไงบ้างคะ ได้เจออนุชรึเปล่า”
ชายธงหนักใจ
“นายกร้าวพาอนุชกลับไปอีกแล้ว”
ชายธงเดินไปทิ้งตัวลงนั่งอย่างหัวเสีย เขานึกถึงเรื่องราวเมื่อครู่ที่กร้าวดูถูกเขา
“แกจะเอาอะไรมาใช้หนี้ฉัน เงินพ่อแกงั้นเหรอ”
ชายธงโกรธมาก
“ไอ้กร้าว”
ปรารภห้ามไว้
“ชายธง อย่า”
“หึ...ก็คนอย่างแกมันจะมีปัญญาอะไร เป็นแค่ไอ้กระจอกที่วันๆเอาแต่ตามเมียชาวบ้าน”

ธารินเห็นสีหน้าชายธงขึ้งเครียดก็เป็นห่วง
“พี่ชายธง...ไม่เป็นไรนะคะ”
“พี่เป็นคนไม่เอาไหนใช่ไหมริน”
“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะคะ”
“พี่มันไม่ได้เรื่อง พี่ช่วยนุชไม่ได้ พี่ไม่เคยเอาชนะไอ้กร้าวได้เลย”
“ไม่จริง พี่ชายธงของรินไม่ใช่คนไม่เอาไหน...อย่างน้อยพี่ชายธงก็ยอมทำทุกอย่างเพื่ออนุช...” ธารินสลดลง “เพื่อผู้หญิงที่พี่ชายธงรัก”
ชายธงเห็นใจธาริน
“ริน...”
“คนที่พยายามแล้ว แต่ไม่สำเร็จมีอยู่เยอะแยะไป มันไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เอาไหน แต่มันยังไม่ใช่โอกาสของเขาต่างหาก”
ชายธงยิ้มออก
“หัดพูดจาเป็นผู้ใหญ่แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
เขาลูบหัวเธอ ธารินยิ้ม
“ถ้าพี่ชายธงต้องการกำลังใจ มาหารินได้ทุกเมื่อ”
“ขอบใจนะ”
ทั้งสองยิ้มให้กัน

อนุชมาเตรียมเสื้อผ้า จะอาบน้ำ กร้าวตามมา มองอนุชอยู่ที่ด้านหลัง ตัดสินใจจะง้อ กร้าวเดินเข้ามาหา แล้วกอดทางด้านหลังอนุชตกใจ ดิ้นหนี
“อะไรกันคุณกร้าว ปล่อย”
“ทำไมล่ะ ขอกอดหน่อยไม่ได้เหรอ”
“ปล่อย ฉันจะไปอาบน้ำ”
“งั้นอาบด้วยกันนะ”
อนุชสะบัดหลุด
“เลิกทำเป็นล้อเล่นกับฉันซะที”
“ก็ไม่ได้ล้อเล่น จะทำจริงๆ”
“ฟังนะคุณกร้าว ฉันอาจจะผิดที่ยอมคุณ แต่มันจะไม่เกิดขึ้นซ้ำสองอีก”
กร้าวชะงัก
“มีอะไรกับผมมันผิด แล้วที่ถูกต้องเป็นใคร ชายธงเหรอ”
อนุชประชด
“ก็อาจจะใช่”
กร้าวโมโห
“อย่าลืมว่าคุณเป็นเมียผม”
“ไม่ลืมหรอก ไม่ต้องมาตอกย้ำ”

อนุชเดินหนีไป กร้าวมองตามอย่างหัวเสีย

[อ่านต่อหน้า 3]

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 16 (ต่อ)

เสียงโทรศัพท์ในบ้านมโนรมย์ดังขึ้น อสิตใช้ไม้เท้าเดินมาดู

“แหวน อยู่ไหน ทำไมไม่รับสาย”
เงียบ อสิตต้องเดินมารับสายเอง
“สวัสดีครับ บ้านวิชเวทย์”
ลลิตาคุยโทรศัพท์อยู่ที่โรงพัก
“สิคะ ลิต้าเอง...”
อสิตอึ้งไป
“สิต ได้ยินลิต้ารึเปล่า”
“ต้องการอะไร”
“ลิต้าอยู่ที่โรงพัก ลิต้าโดนคุณกร้าวใส่ร้าย สิตช่วยมาประกันตัวลิต้าหน่อยได้ไหม”
“หน้าเธอทำด้วยอะไร มันถึงได้หนาพอจะมาขอความช่วยเหลือจากฉัน”
“สิตอย่าพูดอย่างนั้นสิคะ หรือสิตไม่เคยคิดถึงความสัมพันธ์ครั้งก่อนของเราบ้างเลย”
“ไม่ต้องมาตอแหลลิต้า...ถ้าฉันช่วยเธอก็คือฉันจะประกันตัวเธอมาฆ่าด้วยมือฉันเอง”
อสิตกระแทกหูโทรศัพท์ นึกเจ็บใจ ลลิตาขัดใจ วางสายแล้วด่าใส่โทรศัพท์
“ไอ้บ้า ไอ้ขาเป๋...ฉันไม่น่าโทรไปให้แกด่าเลย...แล้วจะทำไงดี...”

อนุชมาพบอรชากับปรารภที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า
“พี่อร...พี่รภ”
“นุช เป็นไงบ้าง พี่ดีใจนะที่อย่างน้อยคุณกร้าวไม่ได้ขังนุชอีก”
“เขาคอยย้ำเรื่องเงินร้อยล้าน ใช้เรื่องนี้เป็นหลักประกันว่านุชจะไม่หนี”
ปรารภออกความเห็น
“ถ้าเราหาทางใช้หนี้เขาได้ นายกร้าวคงไม่มีข้ออ้างมากักนุชไว้ได้อีก แต่ปัญหาคือ เราจะไปหาเงินร้อยล้านจากที่ไหน”
อรชาคิดๆ
“หรือเราควรจะกู้รายอื่นมาจ่ายหนี้คุณกร้าวคะ...เจ้าหนี้รายใหม่อาจจะไม่ใจร้ายเท่าคุณกร้าว”
อนุชแย้ง
“ไม่ดีหรอกค่ะพี่อร มันเป็นการเอาหนี้มาโปะหนี้”
“แต่อย่างน้อย นุชจะได้เป็นอิสระจากคุณกร้าวซะทีนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่อร นุชทนได้”
“แต่พี่กลัวว่าคุณกร้าวจะ...จะทำมิดีมิร้ายนุช...นุชอยู่กับเขาสองต่อสองอย่างนั้น นุชไม่กลัวบ้างเหรอ”
“เขา...เขาไม่ได้ทำอะไรนุชหรอกค่ะ”
“แน่ใจนะ”
อนุชอึกอัก พอดีมือถือดัง อนุชรีบรับสายเพื่อหนีคำถามอรชา
“สวัสดีค่ะ...” อนุชอึ้งไป “พี่ลิต้า...”
อรชากับปรารภได้ยินว่าเป็นลิต้าก็ประหลาดใจ

อนุช อรชา ปรารภเดินเข้ามาในโรงพัก ลลิตาหันไปเห็น รีบลุกมาหา
“นุช...ขอบใจนะที่มา นุชยอมช่วยพี่แล้วใช่ไหม”
“พี่ลิต้าแน่ใจเหรอ ว่าสำนึกผิดแล้วจริงๆ”
“พี่รู้ว่าพี่ทำผิดต่อนุชไว้มาก... แต่มันเป็นเพราะคุณกร้าวบีบคั้นพี่...ส่วนไอ้เชิดก็ทำเกินคำสั่ง พี่แค่จะให้มันไปขู่นุช ไม่คิดจะให้มันทำร้ายนุชจริงๆเลย”
“แล้วที่พี่ลิต้าจะเอาปืนมายิงนุชล่ะ”
อรชากับปรารภได้ยินก็ตกใจ ปรารภจ้องหน้าลลิตา
“อะไรนะ ลิต้า เธอทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ”
ลลิตาสะอึก
“เอ่อ...ฉันทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบน่ะ คุณกร้าวไล่ฉัน ฉันเลยขาดสติ อาละวาด...”
อรชาไม่พอใจ
“ขาดสติถึงกับจะฆ่าจะแกงกันอย่างนั้นก็ไม่ไหวนะคะ”
ลลิตาแกล้งบีบน้ำตา เข้ามาไหว้อนุช
“นุช...พี่ผิดไปแล้ว ยกโทษให้พี่เถอะนะ...จะให้พี่กราบนุชก็ได้”
ลลิตาจะลงไปกราบ อนุชดึงไว้
“ไม่ต้องหรอกค่ะ นุชไม่อยากถือโทษโกรธเคืองอะไรใคร...นุชยกโทษให้พี่ลิต้าก็ได้ แต่เรื่องนี้เป็นคดีอาญา นุชช่วยพี่ลิต้าไม่ได้ ยังไงก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ”
อนุชพยักหน้ากับอรชาปรารภ ชวนกันออกไป ลลิตาโผเข้ากอดขาอนุช
“นุช...นุชจะให้พี่นอนคุกจริงๆเหรอ ช่วยประกันตัวพี่เถอะนะ อย่าใจร้ายกับพี่เลย พี่สำนึกผิดแล้วจริงๆ” ลลิตาหันไปหาปรารภ “รภ แกต้องช่วยฉันนะ ฉันเป็นญาติแก” เธอหันไปกอดอนุชอีก “นุชช่วยพี่นะ...”
ลลิตาแกล้งร้องไห้ อนุชมองหน้าอรชากับปรารภอย่างหนักใจ ลลิตาแอบยิ้มร้าย รู้ว่ามารยาได้ผล

ไม่นานต่อมา ลลิตาเดินนวยนาดเข้ามาที่หน้าห้องขังเชิด ยิ้มเย้ย
“ต้องผิดหวังแล้วนะไอ้เชิด คืนนี้แกต้องนอนที่นี่คนเดียว...ฉันไม่ได้อยู่เป็นเพื่อน”
“ถ้าฉันมีมารยาร้อยเล่มเกวียนอย่างแกก็คงสบายไปแล้ว”
“เสียดาย ของแบบนี้เป็นพรสวรรค์ ลอกเลียนแบบกันไม่ได้...ฉันต้องไปละนะ”
ลลิตาโบกมือให้
“เดี๋ยวก่อนนังตา...แกคิดเหรอว่าจะทำงานใหญ่ด้วยตัวคนเดียว”
ลลิตาชะงัก
“ยังไงแกก็ต้องพึ่งฉัน ทางที่ดีหาทางช่วยฉันออกไปด้วยจะดีกว่า”

ลลิตาคิดตามก็เห็นจริงอย่างเชิดว่า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ต่อจากตอนที่แล้ว

ด้านกรวิกเดินเข้ามาในบ้านกร้าว มือหอบหิ้วเอกสารงานมาด้วย

“อากร้าวคะ...อากร้าว”
กร้าวเดินออกมา กรวิกเห็นกร้าวก็แย้มยิ้มดีใจ
“อ้าวนก...มีอะไร”
“นกเข้าไปที่บริษัทมาค่ะ มีเอกสารที่อากร้าวจะต้องเซ็น นกเลยเอามาให้”
“ขอบใจนะ วางไว้นั่นแหละ เดี๋ยวอาจะดูเอง”
กรวิกวางเอกสาร แต่ไม่ยอมกลับยังรั้งอยู่ต่อ
“อากร้าวคะ...เรื่องหย่าอากร้าวเรียบร้อยรึยังคะ”
กร้าวหน้าเครียด หันมามองกรวิกอย่างไม่พอใจ
กรวิกอึกอักแก้ตัว “ลุงชาติโทร.มาถามนกน่ะค่ะ”
กร้าวรู้ทันว่าไม่จริง แต่ถามย้ำ “ลุงชาติโทร.มาถามนกเหรอ”
กรวิกอึกอัก “ค่ะ”
กร้าวส่ายหน้าระอา “นกกลับไปเถอะ เดี๋ยวเอกสารงาน อาจะจัดการเอง”
กรวิกจ๋อย “ค่ะ”
กรวิกจะหันกลับออกไป พอดีเห็นอนุชเข้ามา กรวิกถึงกับสะอึก
“นุช”
อนุชรู้ว่ากรวิกยังเกลียดเธอ ก็จะเดินเลี่ยงหนี แต่กรวิกเข้ามาขวางไว้
“หยุดนะนุช เธอมาทำอะไรที่นี่อีก อย่าบอกนะว่าจะมาตามตื้ออากร้าว”
อนุชหันมาทางกร้าว “คุณน่าจะอธิบายกับนกได้นะคะ ว่าทำไมฉันต้องกลับมาที่นี่อีก” ว่าแล้วทำท่าจะไป
กรวิกขวางไว้อีก “จะไปไหน เธอไม่มีสิทธิ์อยู่ที่นี่ต่อไปแล้วนะ”
“อาเป็นคนพานุชมาที่นี่เอง เขามีสิทธิ์เต็มร้อยที่จะอยู่ที่นี่”
กรวิกอึ้ง “อากร้าว”
อนุชเหนื่อยใจ เดินเลี่ยงเข้าไปด้านใน

กรวิกตามคาดคั้นกับกร้าว ขณะที่กร้าวเดินหนี
“อากร้าวช่วยอธิบายกับนกหน่อยได้ไหมคะ ว่าทำไมต้องให้นุชมาอยู่ที่นี่อีก ในเมื่อจะหย่ากันอยู่แล้ว”
“เพราะว่าอาไม่ได้คิดจะหย่ากับอนุช”
“ทำไมคะ คนไม่ได้รักกันจะทนอยู่กันไปเพื่ออะไร”
“เหตุผลของอา นกไม่จำเป็นต้องรู้”
อนุชเดินย้อนมาหยุดฟังอยู่มุมหนึ่ง
“หรือว่าอากร้าวรักนุช ถึงไม่ยอมปล่อยนุชไป” กรวิกพูดแทงใจดำ
อนุชลุ้นกับคำตอบของกร้าวเช่นกัน กร้าวนิ่งอึ้งไป สับสนหนัก
กรวิกคาดคั้น “ว่าไงคะอากร้าว อากร้าวรักนุชเหรอคะ”
กร้าวยังหลอกตัวเองอีก “อาไม่ได้รักอนุช”
อนุชสะเทือนใจ ได้ยินคำว่าไม่รักจากปากกร้าว น้ำตาคลอๆ เดินเลี่ยงหลบออกไป
กร้าวฉุนไล่กรวิกกลับ
“ทีนี้ได้ยินชัดหรือยังนก กลับได้หรือยัง”
กร้าวเดินหนีอย่างเอือมระอา กรวิกมองตาม ยังคาใจไม่หาย

ส่วนเธียรประหลาดใจที่ชายธงมาขอทำงาน
“ว่าไงนะ แกจะขอไปทำงานที่บริษัท”
ชายธงงอน “อะไรอีกล่ะครับ พ่อจะเอายังไงกันแน่ ผมไม่ทำงานก็บ่น พอมาขอทำงานก็มองอย่างกับผมเป็นตัวประหลาด”
“ก็มันไม่ประหลาดเหรอ ที่อยู่ๆ แกมาเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมืออย่างนี้อย่าบอกนะว่าผีเข้า”
“ผมแค่ไม่อยากให้ใครมาดูถูกว่าเป็นคนไม่เอาไหน ใช้แต่เงินพ่อ...ตกลงพ่อจะให้ผมทำงานที่บริษัทรึเปล่า ไม่ให้จะได้ไปสมัครที่อื่น”
เธียรเข้ามาตบไหล่ชายธง ยิ้มด้วยความยินดี “ให้สิวะ อีกหน่อยบริษัทนี้ก็ต้องเป็นของแกแกยิ่งมาเรียนรู้เร็วขึ้นเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งเบาใจมากขึ้นเท่านั้น”
ธารินเดินเข้ามาพอ พนมมือไหว้ทักทายเธียร
“สวัสดีค่ะคุณลุง...คุณลุงกับพี่ชายธงคุยอะไรกันอยู่หรือเปล่าคะ”
“คุยเสร็จแล้ว...ขอบใจหนูรินมากนะที่ทำให้เจ้าชายธงเปลี่ยนไปในทางที่ดียอมมาฝึกงานที่บริษัทซะที”
เธียรหันมายิ้มให้ชายธงอีกครั้ง ก่อนเดินออกไป

ธารินนิ่งงันไป นึกสะท้อนใจเพราะรู้ดีว่าชายธงไม่ได้ทำเพื่อเธอ

ธารินออกมานั่งจ๋อยอยู่อีกมุมของบ้าน ชายธงตามออกมามองเห็นอาการธารินก็แปลกใจ

“เป็นอะไรริน ไม่ดีใจเหรอ ที่พี่จะเริ่มทำงานเป็นชิ้นเป็นอันซะที”
ธารินฝืนยิ้ม “รินดีใจค่ะ... แต่ไม่สบายใจที่คุณลุงเข้าใจผิด”
ชายธงแปลกใจ “เข้าใจผิด..”
ธารินพนักหน้า “คุณลุงเข้าใจว่ารินเป็นคนทำให้พี่ชายธงเปลี่ยนใจมาทำงาน แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะอนุชต่างหาก... ไม่ใช่ริน”
“ใครบอกล่ะ ว่าเป็นเพราะนุชคนเดียว”
ธารินชะงัก มองหน้าชายธงงงๆ
“ส่วนนึง พี่อยากเป็นคนดีเพื่อนุช...แต่อีกส่วน พี่ทำเพื่อริน...เพราะรินไม่เคยหมดหวังในตัวพี่” ชายธงกุมมือธารินไว้ “ขอบใจนะริน ที่เชื่อมั่นในตัวพี่”
ธารินยิ้ม ซาบซึ้งใจ

ชาติอยู่ที่บ้านทานตะวันรู้เรื่องอนุชจากกรวิกก็ไม่สบายใจ
“ว่าไงนะ เจ้ากร้าวมันไม่ยอมหย่ากับนุชเหรอ”
“ใช่ค่ะ อากร้าวจับนุชมาทรมานที่บ้านอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่อากร้าวจะยอมปล่อยนุช”
ชาติโมโหขึ้นมา “เจ้ากร้าว ทำไมไม่แล้วเลิกกันซะทีนะ” ตะโกนเรียก “ขำ... ขำ...”
ขำวิ่งพรวดเข้ามา
“ขา... คุณชาติ”
“ไปเก็บกระเป๋า เตรียมเข้ากรุงเทพฯ ไปดูซิว่าเจ้ากร้าวมันทำอะไรกับหนูนุชบ้าง แล้วกลับมารายงานฉัน” ชาติสั่ง
“ค่ะคุณชาติ” ขำรีบออกไป
กรวิกลอบยิ้มที่เป่าหูชาติได้สำเร็จ

ตกตอนกลางคืน อนุชจัดโต๊ะอาหารมื้อค่ำให้ พอกร้าวเดินเข้ามา อนุชก็จะเดินหนี
กร้าวขวางไว้ “จะไปไหนล่ะ”
“ฉันจัดโต๊ะให้คุณแล้ว กินเสร็จฉันจะมาเก็บล้าง”
“ทำไมเห็นหน้าผมเป็นต้องเดินหนี”
“ก็ฉันทำหน้าที่เสร็จแล้ว”
“หน้าที่ภรรยาที่ต้องปรนนิบัติสามีน่ะเหรอ”
“ภรรยา คนรับใช้ นางบำเรอ อยากเรียกอะไรก็เชิญ...กินซะเดี๋ยวเย็นจะไม่อร่อย แล้วจะมาโทษว่าฉันไม่ตั้งใจทำ”
อนุชผละหนี แต่กร้าวรวบตัวมากอดไว้ไม่ยอมปล่อย
“คุณกร้าว จะทำอะไร”
กร้าวอ้อน “ถ้าผมอยากกินอย่างอื่นล่ะ”
อนุชฉุน แข็งขืน ผลักไส “อย่ามาทำรุ่มร่ามกับฉันนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
“นี่ก็หน้าที่ภรรยาเหมือนกัน” กร้าวกอดจูบอนุชด้วยความรัก “ผมคิดถึงคืนนั้นของเรานะ”
ขำดันหิ้วกระเป๋าเข้ามาพอดี เห็นสองคนกอดกันก็ตกใจ
“ว้าย ตาเถรยายชี!” ขำปิดตา “ขำไม่เห็นอะไรนะคะ”
กร้าวขัดใจที่ถูกขัดคอ “ขำ มาที่นี่ทำไม!”

พอกร้าวรู้เรื่องที่กรวิกไปฟ้องชาติก็ไม่พอใจ
“คุณชาติกลัวคุณกร้าวทำร้ายคุณนุชอีกนะค่ะ เลยให้ขำมาดู” ขำบอก
“ยุ่งไม่เข้าเรื่องจริงๆ ยัยนก”
“มันก็ช่วยไม่ได้นี่คะ คุณไปทำให้เขารัก เขาก็แค่ต้องการได้คุณคืน” อนุชแดกดัน
“ผมไม่เคยคิดอะไรกับยัยนกเลย”
“ถ้าคุณไม่ไปบริหารเสน่ห์กับยัยนก เขาจะหลงคุณหัวปักหัวปำอย่างนี้เหรอ”
กร้าวเถียงลั่น “ผมไม่เคยทำอย่างนั้น”
“ไม่ต้องมาแก้ตัวกับฉันหรอก เรื่องของคุณกับยัยนก ฉันไม่เกี่ยว” อนุชลุกเดินออกไป
กร้าวรีบตามไปง้อ “เดี๋ยวอนุช คุณเข้าใจผิดนะ”
ขำมองตาม ถอนใจเฮือก เพราะเหมือนจะเป็นหนังคนละม้วน
“คุณชาติ ขำจะกลับไปเล่ายังไงดี”

เช้าวันต่อมาขณะที่ขำจะออกมาทิ้งขยะ แต่เห็นลลิตาอยู่ที่หน้ารั้วก็ชะงัก
“คุณ...”
“คุณกร้าวอยู่ใช่ไหม เปิดประตูซิ ฉันจะไปหาคุณกร้าว”
“ตอนอยู่ที่ไร่คุณกร้าวไล่คุณอย่างกับหมูกับหมา ขำไม่กล้าให้คุณเข้ามาหรอกค่ะ” ขำบอก
“นี่แก! จะเปิดไม่เปิด”
กร้าวยินเสียงเอะอะ จึงเดินออกมาดู
“มีอะไรเหรอขำ” พอเห็นลลิตาก็ชะงัก “ลิต้า”
ลลิตาเปลี่ยนเป็นอีกคน ใช้มารยา ทำตัวให้น่าสงสาร
“คุณกร้าว... ลิต้าดีใจจังค่ะ ที่ได้เห็นหน้าคุณอีก”
“มาทำไม”
“ลิต้าอยากมาขอบคุณนุชค่ะ ที่ช่วยเรื่องประกันตัวลิต้า...นุชอยู่ใช่ไหมคะ”
กร้าวอึ้งไป “นุชประกันตัวคุณออกมาเหรอ”

ลลิตาพยักหน้ารับ ตาละห้อย

กร้าวยอมให้ลลิตาเข้ามาหาอนุช แต่ก็ยังคาใจ จนต้องถาม

“นุช คุณช่วยประกันตัวลิต้าออกมาจริงๆ เหรอ”
“จริงๆ แล้วพี่รภเป็นคนประกันตัวพี่ลิต้า” อนุชบอก
ลลิตาตอแหล เข้ามาจับมืออนุช เหมือนซาบซึ้งใจเต็มประดา
“แต่ถ้านุชไม่ช่วยพูด รภก็คงไม่ช่วยประกันตัวพี่”
“ทำแบบนั้นทำไม หรือว่าผู้หญิงคนนี้ทำร้ายคุณยังไม่พอ” กร้าวโกรธแทนเมีย
ลลิตาแกล้งจ๋อย บีบน้ำตา
“ยังไงพี่ลิต้าก็เคยเป็นคนรักของพี่สิต อีกอย่าง ฉันกับพี่อรก็เห็นแก่พี่รภ”
กร้าวฮึดฮัดโกรธแทนอนุช “เห็นแก่คนอื่น แล้วไม่เห็นแก่ที่เขาจะเอาปืนไปยิงคุณบ้างหรือไง”
“คุณกร้าวยกโทษให้ลิต้าไม่ได้เชียวเหรอคะ นุชก็อโหสิกรรมให้ลิต้าแล้ว”
“ไม่ต้องเล่นละครกับผมหรอกลิต้า...จะมาขอบคุณนุชใช่ไหม รีบขอบคุณเขาซะ แล้วก็ออกไป”
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ แค่ต่อไปนี้เราต่างคนต่างอยู่ นุชก็ขอบคุณพี่ลิต้ามากแล้ว”
อนุชเดินหนีไป กร้าวองตามอย่างหัวเสียเพราะโกรธแทนอนุชไม่หาย รีบตามอนุชไป ลลิตาเลิกสำออย มองตามอย่างเจ็บแค้น

กร้าวตามออกมาคุยกับอนุชอีกมุมหนึ่ง โดยคิดว่าลลิตากลับไปแล้ว
“ลิต้าพยายามทำร้ายคุณครั้งแล้วครั้งเล่า แต่คุณกลับยกโทษให้เขาง่ายๆ อย่างเนี้ยเหรอ”
“แล้วจะให้ฉันเจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนคุณหรือไง”
“หัดแค้นไว้บ้างก็ดีนะ คนอย่างนั้น มีโอกาสเขาก็ทำร้ายคุณอีก” กร้าวโมโหไม่เลิกรา
“คุณจะแค้นเคืองอาฆาตใครต่อใครก็เป็นไปคนเดียว ฉันโดนจากคุณมาเยอะแล้ว ไม่อยากให้ใครต้องรู้สึกเหมือนฉัน”
“นี่เลิกแขวะผมซะทีได้ไหม ผมเตือนเพราะเป็นห่วงคุณนะไม่อยากให้คุณต้องตกหลุมพรางลิต้าอีก”
“ที่เป็นห่วงน่ะ เพราะจะเก็บฉันไว้ระบายความแค้นคนเดียวใช่ไหมคุณมันทำตัวเหมือนเด็กหวงของเล่น อย่ามาพูดว่าห่วงเลยคุณก็แค่ต้องการให้ฉันตายกับมือคุณ ไม่ใช่มือคนอื่น”
“จะคิดยังไงก็เรื่องของคุณ แต่คุณเป็นเมียผมแล้ว ผมจะไม่ยอมให้คนอื่นมาทำร้ายคุณ”
ลลิตาที่ตามมาแอบฟังได้ยินก็ยิ่งแค้นอนุช ที่ได้ไปทั้งตัวทั้งหัวใจกร้าว
“คุณจะแคร์อะไร ในเมื่อเรื่องคืนนั้น คุณก็ทำไปเพื่อล้างแค้นเท่านั้น” อนุชพูดโกหก “แล้วฉันก็ไม่ได้เต็มใจเป็นของคุณ!”
อนุชสะบัดหน้าหนี แต่กลับหันมาเจอลลิตา
“นี่คุณยังไม่ไปอีกเหรอลิต้า!”
“ลิต้าแค่จะมาลาน่ะค่ะ...” รีบตีหน้าเศร้าบอกลาอนุช “ขอบใจนะนุช ที่ยกโทษให้พี่”
อนุชไม่ตอบอะไรเดินหนีไป กร้าวเดินตามไปด้วย
ลลิตาหันไปมองตาม สีหน้าเปลี่ยนเป็นโกรธแค้น

ลลิตาแวะมาเยี่ยมคุยกับเชิดที่ห้องขัง
“ฉันเกลียดนังนุช เกลียดมันเหมือนขี้ มันได้ทุกอย่างไปหมดเลย ทั้งตัวทั้งหัวใจคุณกร้าว”
“เกลียดแล้วจะเอามันไว้ทำไม”
“ฉันก็อยากให้มันตายๆ ไปเหมือนกัน แช่งมันอยู่ทุกวี่ทุกวันเนี่ย”
“แค่นั้นมันคงจะตายไปเองหรอกนะ...อยากให้มันตาย ทำไมไม่ลงมือ”
ลลิตาชะงัก “แต่ว่าฉันต้องทำยังไง”
เชิดยิ้มร้าย “ฉันมีคนรู้จัก พอจะหาเครื่องอำนวยความสะดวกให้เธอได้”
ลลิตานิ่งคิดไป

คืนนั้นลลิตาเดินลับๆ ล่อๆ เข้ามาในซอยเปลี่ยว อยู่ๆ มีผู้ชายออกมาจากมุมมืด ลลิตาตกใจ
“เงินครบรึเปล่า”
ลลิตาท่าทางหวั่นๆ ส่งเงินปึกหนึ่งให้ ชายหนุ่มรับไปดู แล้วล้วงหยิบห่อกระดาษส่งให้ลลิตา
ก่อนจะรีบหลบหายไปในความมืด
ลลิตามองซ้ายมองขวา ค่อยๆ หยิบของในห่อกระดาษออกมา
ที่แท้สิ่งที่มือลลิตาหยิบออกมาเป็นปืนกระบอกหนึ่ง

วันต่อมา ขำหิ้วเป้ออกมา หาอนุชที่นั่งอยู่
“คุณนุชคะ ขำทำความสะอาดแล้วก็ซักรีดทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วนะคะ”
“ขอบใจมากนะขำ แล้วจะกลับเลยเหรอ”
“ค่ะ อีกวันสองวันขำจะมาใหม่ คุณนุชจะฝากอะไรถึงคุณชาติไหมคะ”
อนุชถอนใจ “บอกว่านุชคิดถึงแล้วกัน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาสไปเยี่ยมท่านอีก”

ขำออกมาหน้ารั้วบ้านแล้ว ลลิตาแอบซุ่มดูอยู่

[อ่านต่อหน้า4]

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 16 (ต่อ)

ขณะที่อนุชกำลังจะลุกเดินออกไป แต่ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา คิดว่าขำลืมอะไร

“ลืมอะไรเหรอขำ”
กลายเป็นลลิตาปรากฏตัวขึ้น อนุชแปลกใจ
“พี่ลิต้ามาที่นี่อีกทำไม”
ลลิตาบอกหน้านิ่ง “ฉันอยากตอบแทน...”
“นุชบอกแล้วว่าต่อไปนี้เราต่างคนต่างอยู่ ไม่จำเป็นต้องตอบแทนอะไรทั้งนั้น”
“จำเป็นสิ ถ้าฉันไม่ตอบแทนให้สาสมกับความเกลียดที่ฉันมาต่อแก ฉันคงข่มตาหลับในแต่ละคืนไม่ลง”
“พี่ลิต้าหมายความว่าไง!”
ลลิตาสวมถุงมือ หยิบปืนออกมา
“ทุกคืน ฉันภาวนาให้แกรีบตายๆไปซะที แต่แกก็ไม่ยอมตายเองฉันเลยหาทางสงเคราะห์ให้”
“คุณกร้าวพูดถูก คนอย่างพี่ลิต้าไม่เคยสำนึกบุญคุณใคร มีโอกาสก็คิดจะทำร้ายคนอื่น... เอาสิ พยามยามมาหลายครั้งแล้วนี่ จะฆ่าก็ฆ่าเลย แต่อย่าคิดนะว่าจะหนีกฎหมายพ้น”
“ที่นี่มีแกกับฉันแค่สองคน ใครจะเป็นพยานได้ว่าฉันฆ่าแก... เห็นถุงมือนี่ไหม จะไม่มีใครเจอรอยนิ้วมือฉันที่ปืน พอแกตายฉันก็จะยัดปืนใส่มือแก เป็นแกที่ฆ่าตัวตายเองเพราะโดนคุณกร้าวข่มขืนไง”
อนุชหลงคารม “พี่ลิต้ารู้เรื่องนี้”
ลลิตาหัวเราะเยาะ โกหกตอแหลสุดชีวิต “จะไม่รู้ได้ยังไง ในเมื่อคุณกร้าวบอกกับฉันมาตลอดว่าจะทำอะไรกับแก เขาวางแผนให้แกรัก ให้แกยอมเป็นของเขา”
อนุชอึ้งไป
“แกมันโง่เองนะนังนุช... เพราะฉะนั้น อย่าดีใจที่ได้ตัวคุณกร้าวแล้ว เพราะฉันก็เคยนอนกับคุณกร้าวเหมือนกัน แค่มีอะไรกันคืนเดียว ผูกมัดคุณกร้าวไม่ได้หรอก”
อนุชเสียใจ ลลิตายิ้มร้าย ยกปืนขึ้นมาจะยิงอนุช
อนุชรีบคว้าของใกล้มือ ขว้างใส่ จนลลิตาเสียจังหวะ อนุชเข้ามาแย่งปืน
อนุชกระแทกมือลลิตากับพนักโซฟาหรือขอบโต๊ะจนปืนในมือลลิตากระเด็นหลุดมือ จากนั้นอนุชวิ่งหนีขึ้นชั้นสอง

อนุชหนีเข้ามาในห้องนอน แต่ลลิตาดันประตูไว้
“แกหนีไม่รอดหรอกนังนุช ยอมตายง่ายๆ ดีกว่า”
อนุชดันประตูไม่ไหว ลลิตากระแทกประตูเปิด เข้ามาในห้องจนได้ อนุชเข้ายื้อแย่งปืนอีกครั้ง ทั้งสองดันตัวกันจนเข้ามาใกล้หน้าต่าง แล้วยื้อกันจนปืนหลุดมือตกออกไปนอกหน้าต่าง
ลลิตาผลักอนุชล้ม หัวกระแทกพื้น
“โอ๊ย”
อนุชมึน ตาลาย ลลิตาขึ้นคร่อมบีบคอ อนุชหายใจไม่ออก ใกล้หมดแรง
“พี่ลิต้า...!”
“จะร้องขอชีวิตเหรอ ฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ”
ลลิตาเหลือบเห็นตู้ยาชะงัก อนุชได้อากาศหายใจอีกครั้ง หอบหายใจ สำลัก แต่ยังไม่มีแรงต่อสู้
ลลิตาย่างสามขุมมาที่ตู้ยา หยิบขวดยาล้างแผลออกมา ที่ข้างขวดเห็นรูปกะโหลกไขว้เด่นหรา อนุชนอนหอบหายใจที่พื้น พยายามตะกายหนี ลลิตากลับมาที่อนุชพร้อมขวดยา
อนุชแทบจะหมดแรง “พี่ลิต้า อย่า”
“แกแย่งของรักฉันไปก่อน แกทำฉันก่อน โทษฉันไม่ได้!” ลลิตาบีบปากอนุช จะกรอกยา
อนุชพยายามปิดปาก แต่โดนกรอกยาจนสำลัก ในที่สุดต้องกลืนกินยาเข้าไป

กร้าวขับรถกลับเข้ามา ลลิตาได้ยินเสียงรถ ชะงักกึก แต่อนุชไม่ไหวแล้ว กำลังหมดสติ ลลิตาลากอนุชขึ้นมานั่ง

กร้าวเดินเข้ามาในบ้าน เห็นสภาพเหมือนมีการต่อสู้ก็นึกหวั่นใจ
“นุช... คุณอยู่ไหน นุช”
เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบ กร้าวร้อนใจ วิ่งขึ้นชั้นสองพลางตะโกนเรียกอนุช
“นุช... คุณอยู่ไหน”
ลลิตารีบออกมาจากที่ซ่อน วิ่งหนีออกไป

กร้าวเข้ามาในห้องนอน เห็นอนุชนั่งหันหลัง โล่งใจว่านุชไม่เป็นไร
“นุช...ทำไมไม่ขานรับ ผมตกใจหมด นึกว่าโจรเข้าบ้าน ทำไมข้างล่างมันเหมือนกับมีคนต่อสู้กันอย่างนั้นล่ะ”
อนุชยังนิ่งเฉย กร้าวชักเอะใจ
“นุช... เป็นอะไรรึเปล่า”
กร้าวหวั่นใจ เดินเข้าไปที่ด้านหลัง เข้าไปแตะไหล่อนุชเรียก
“นุช...”
นุชคอพับล้มลง เห็นขวดยาตกลงมา
กร้าวตกใจ ร้องเรียกอนุชที่หมดสติไปแล้วดังลั่น
“นุช... นุช”

กร้าวประคอง ร้องเรียกชื่ออนุช แต่อนุชไม่มีวี่แววจะฟื้นขึ้นมา

ไม่นานหลังจากนั้น บุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่อนุชนอนไร้สติเข้ามาหน้าห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน โดยมีกร้าววิ่งตาม

“นุช อย่าเป็นอะไรนะ นุช”
บุรุษพยาบาลเข็นเตียงเข้าห้องฉุกเฉินไป กร้าวกระวนกระวายใจ ห่วงอนุชมาก

ส่วนขำกลับถึงบ้านไร่ เข้ามาไหว้บอกชาติ ที่ถามอย่างร้อนใจ
“เป็นไงขำ นุชเป็นไงบ้าง”
“สบายดีนะคะ คุณกร้าวไม่จับคุณนุชขังห้อง แถมยังไม่ใช้งานคุณนุชหนักเหมือนที่ผ่านมาด้วยค่ะ”
ชาติโล่งอก
“ได้ยินอย่างนั้นฉันค่อยสบายใจ หวังว่าเจ้ากร้าวมันคงคิดได้แล้ว”
“คุณนุชยังฝากความคิดถึงมาถึงคุณชาติด้วยค่ะ”
ชาติยิ้มดีใจ
“ฉันก็คิดถึงนุชเหมือนกัน”
ชาติโทรศัพท์หาอนุช โทรติด แต่ดังอยู่นานก็ไม่มีคนรับ ชาติแปลกใจ
“นุชไม่รับสาย”
ชาติโทรหากร้าวแทน

กร้าวอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน รับโทรศัพท์เสียงเครียด
“ครับ คุณลุง”
“อยู่กับนุชรึเปล่า ขอลุงคุยกับนุชหน่อยสิ ลุงคิดถึง”
กร้าวได้ยินชื่ออนุช ยิ่งเสียใจ น้ำตาคลอ เขาตอบลุงอย่างยากเย็น
“นุชกินยาฆ่าตัวตาย ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉินครับ”

ชาติฟังแล้วตกใจมาก มือไม้อ่อนโทรศัพท์หลุดมือหล่นพื้น พร้อมและขำตกใจ พร้อมร้องลั่น
“คุณชาติ เป็นอะไรคะ”
ชาติช็อก ทำอะไรไม่ถูก ห่วงอนุช

กร้าวรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน กระวนกระวาย...เขารอในหลายอิริยาบถ เดี๋ยวยืน เดี๋ยวนั่ง ประสานมือภาวนาขอให้อนุชปลอดภัย ใจคอไม่ดี กลัวอนุชจะเป็นอะไร กร้าวยืนรอหน้าห้องฉุกเฉิน นึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ตอนนั้นเขาเห็นแม่น้ำลายฟูมปาก หมอออกมาส่ายหน้าแทนคำตอบว่าแม่ไม่รอด...กร้าวใจคอไม่ดี กลัวมากว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย หมอออกมาจากห้องฉุกเฉิน กร้าวลืมตัว ไปเขย่าตัวหมอ
“หมอครับ ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับ หมอ”
“ยังไม่พ้นขีดอันตราย ต้องรอดูอาการก่อนครับ”
กร้าวมือไม้อ่อน ปล่อยมือจากหมอ ใจคอไม่ดี หมอออกไป กร้าวพิงผนังห้องฉุกเฉินอย่างหมดเรี่ยวแรง

ลลิตามาเยี่ยมเชิดที่โรงพัก เชิดตื่นเต้น
“เป็นไง ได้เรื่องมั้ย”
ลลิตายิ้มร้าย
“ก็เกือบไปเหมือนกัน นังนุชมันร้ายไม่ใช่เล่น”
ลลิตายิ้มสะใจก่อนจะพูดเบาๆ
“ฉันจับมันกรอกยา ทำให้เหมือนฆ่าตัวตาย”
“แกนี่เก่งจริงๆ ได้ดีแล้วอย่าลืมส่งเงินมาให้ใช้บ้างละกันนังตา”
“แกเรียกผิด เรียกใหม่”
เชิดงง
“ต่อไปนี้แกต้องเรียกฉันว่า ลลิตา ศุภกาญจน์”
ลลิตายิ้มพอใจ ที่กำจัดอนุชไปได้

ลลิตาออกมาจากสถานีตำรวจ มองกลับเข้าไปแล้วเบ้หน้าใส่

“แก่ตายในคุกไปเถอะไอ้เชิด”

ชาติรีบร้อนมาที่โรงพยาบาล พร้อมและขำมาด้วย กร้าวรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พอเห็นชาติมาก็มานั่งคุยกับชาติที่ใจคอไม่ดี

“นุชเป็นไงบ้าง”
“หมอบอกว่ายังไม่พ้นขีดอันตราย รอดูอาการอยู่ครับ”
ชาติโกรธมาก ตบหน้ากร้าวอย่างแรงจนหน้าหัน พร้อมตกใจ
“ว้าย คุณชาติ”
“ที่นุชต้องทำแบบนี้เป็นเพราะแก ทำร้ายเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำร้ายเขาทั้งกาย ทั้งใจ จนเขาทนไม่ไหว”
ชาติตบหน้ากร้าวอีก
“ขนาดเขากลับไปอยู่กับครอบครัวของเขาแล้ว แกก็ยังไปบังคับขู่เข็ญให้เขามาอยู่กับแกอีก ทางเดียวที่จะหนีคนอย่างแกได้ ก็มีแต่ตายเท่านั้น”
กร้าวเสียใจสับสน
“นุชฆ่าตัวตายเพราะผม ไม่จริงใช่มั้ยครับ”
“ถ้านุชเป็นอะไรไป ก็เพราะแก แกเป็นฆาตกร แกบีบให้เขาต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้”
ชาติน้ำตาคลอ เสียใจ กร้าวรู้สึกผิด เสียใจมาก บุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่อนุชนอนไม่ได้สติเข้ามา
“นุช”
ชาติ กร้าว พร้อม ขำรีบเข้าไปดูอนุช ชาติเสียใจ
“นุช อย่าเป็นอะไรไปนะลูก ป๋าอยู่นี่แล้วนะนุช”
พร้อมเป็นห่วง
“คุณนุช”
หมอหันมาบอก
“พ้นขีดอันตรายแล้วครับ จะย้ายคนไข้ไปที่ห้อง”
กร้าว ชาติ พร้อม ขำยิ้มออก ต่างดีใจที่อนุชปลอดภัย

ค่ำนั้น กร้าวคุยกับชาติที่หน้าห้องพัก
“ผมอยู่เฝ้านุชเองครับ ลุงไปพักเถอะ”
ชาติพยักหน้า...ชาติ พร้อมและขำต่างไม่สบายใจ ออกไป

กร้าวนั่งข้างเตียง มองอนุชที่นอนนิ่งไม่ได้สติด้วยความรู้สึกผิด เขากุมมือเธอมาจูบ
“ถ้าผมทำให้คุณเสียใจ ถ้าคุณโกรธ เกลียดผม ทำไมคุณไม่ทำร้ายผม ทำร้ายตัวเองทำไม”
กร้าวมองอนุชที่นอนหลับตานิ่ง
“ตื่นสินุช ตื่นมาทุบผม ตีผม คุณจะตบผม จะด่าว่าผมยังไง ผมยอมทุกอย่าง ขอแค่คุณอยู่กับผม อย่าทิ้งผมไปนะนุช”
กร้าวจับมืออนุชมาแนบแก้ม ร้องไห้ด้วยความรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้เธอฆ่าตัวตาย

วันใหม่...กร้าวนำดอกไม้ใส่แจกันมาวางไว้ข้างเตียงอนุช
“กุหลาบขาวที่คุณชอบไงนุช ตื่นขึ้นมาคุยกับผมสิ ว่าผมสักคำก็ได้ อย่าเอาแต่นอนนิ่งแบบนี้”
กร้าวลูบผมอนุชอย่างอ่อนโยน จูบหน้าผากด้วยความรัก อนุชรู้สึกตัวตื่นขึ้น ตายังปรือๆ เพลียๆ ไม่มีแรง กร้าวดีใจมาก
“คุณฟื้นแล้ว”

หมอมาดูอาการอนุช
“ร่างกายคนไข้ยังอ่อนเพลียมาก ยังต้องพักฟื้นอีกสักพักใหญ่ๆ ช่วงนี้ให้พักผ่อนเยอะๆ นะครับ”
กร้าวยิ้มแย้ม ดีใจ
“ครับ ขอบคุณครับ”
หมอออกไป กร้าวห่วงใย
“เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนรึเปล่า ถ้าคุณอยากได้อะไร บอกผม ผมจะหามาให้คุณทุกอย่าง”
อนุชมอง กร้าวกุมมือ
“รู้มั้ยว่าผมกลัวแค่ไหน ผมนึกว่าคุณจะทิ้งผมไปซะแล้ว ทีหลังอย่าทำแบบนี้นะนุช คุณทำร้ายผม
ผมยังไม่เจ็บเท่ากับเห็นคุณทำร้ายตัวเอง”
อนุชมองกร้าว เธอนึกถึงคำพูดของลลิตา
“เขาวางแผนให้แกรัก ให้แกยอมเป็นของเขา…ฉันก็เคยนอนกับคุณกร้าวเหมือนกัน แค่มีอะไรกันคืนเดียว ผูกมัดคุณกร้าวไม่ได้หรอก”
อนุชน้ำตาไหล เสียใจ เธอขยับมือหนีเขาไม่ให้จับ
“คุณโกรธผมเหรอ”
อนุชเบือนหน้าหนี ไม่อยากฟัง กร้าวเสียใจ
“ผมขอโทษในทุกสิ่งที่เคยทำไม่ดีกับคุณ ผมขอโทษ”

อนุชไม่ยอมสบตาเขา กร้าวเสียใจที่ทำไม่ดีกับเธอไว้มากมาย ทำให้เธอโกรธ

ชาติบอกกับพร้อมอย่างไม่สบายใจ

“น้องสาวเขาเป็นขนาดนี้ จะไม่บอกให้รู้เลยก็คงไม่ดีแน่”
ชาติโทรศัพท์หาอรชา

อรชารับสาย
“สวัสดีค่ะลุงชาติ อรว่าจะแวะไปหานุชที่บ้านคุณกร้าวอยู่พอดีค่ะ” เธอฟังแล้วตกใจมาก “ว่าไงนะคะ”
อรชามองปรารภ หน้าเสีย
“อรจะรีบไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”

ในห้องทำงานบริษัทเธียร ชายธงทำงานอยู่มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เชิญครับ”
ธารินเข้ามา
“พี่ชายธง”
ชายธงยิ้ม
“คุณลุงบอกรินว่าพี่ชายธงไม่ยอมไปทานข้าวเที่ยง รินก็เลยซื้อมาให้ค่ะ ทานก่อนสิคะ เดี๋ยวค่อยทำต่อก็ได้”
“รินทานก่อนเถอะ พี่ขอทำงานอีกนิดหนึ่ง”
“รินรอทานพร้อมพี่ชายธงดีกว่า พี่ชายธงทำงานเถอะค่ะ รินรอได้”
ธารินนั่งรอ โทรศัพท์มือถือชายธงดังขึ้น เขารับสาย
“ครับพี่อร ว่าไงนะครับ นุชอยู่โรงพยาบาล”
ชายธงตกใจมาก ธารินได้ยินก็ตกใจไปด้วย

อรชารีบร้อนเข้ามาในห้องพักไข้กับปรารภ
“นุช”
อนุชมองอรชาและปรารภ ยิ้มบางๆ ดีใจที่เจอพี่สาว อรชาเห็นกร้าวก็โกรธมาก ผลักเขาออกห่างจากน้องสาว
“ออกไปห่างๆ จากน้องฉันเลยนะ คุณทำอะไรนุชอีก คุณทำร้ายนุชใช่มั้ย”
อนุชไม่สบายใจ แต่ยังไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับตัว อรชาทุบตีกร้าว
“คุณทำร้ายนุชจนนุชทนอยู่ต่อไปอีกไม่ได้ ออกไปให้พ้น อย่ามายุ่งกับน้องสาวฉันอีก”
กร้าวเสียใจ
“ผมรู้ว่าคุณเกลียดผม แต่อย่าไล่ผมเลย ขอให้ผมอยู่กับนุช ผมอยากดูแลนุช”
อรชาไม่พอใจ
“ดูแลเหรอ คุณจะดูให้แน่ใจรึไงว่านุชตายสมใจคุณแล้วรึยัง”
อรชาผลักกร้าว
“ไปให้พ้นเลยนะ ห้ามเข้าใกล้นุชอีก ไม่งั้นฉันนี่แหละจะฆ่าคุณด้วยมือของฉันเอง”
อรชาใช้กระเป๋าสะพายฟาดกร้าว ปรารภห้าม
“พอเถอะครับคุณอร” ปรารภหันมาบอกกร้าวเสียงห้วน “คุณกลับไปก่อนเถอะ”

กร้าวไม่อยากห่างจากอนุชแม้วินาทีเดียว แต่ต้องออกไปเพราะไม่อยากมีเรื่อง อรชาร้องไห้ ในอ้อมกอดของปรารภ ขณะที่อนุชไม่สบายใจมาก

กร้าวออกมาจากห้องพักฟื้นของอนุชอย่างอาลัยอาวรณ์ ไม่อยากอยู่ห่างอนุช หันมาอีกทีเจอชายธงกับธาริน พอชายธงเห็นหน้ากร้าวก็บันดาลโทสะ ไม่พูดพล่ามทำเพลง ชกกร้าวจนเซไป

“ไอ้เลว! เก่งแต่รังแกผู้หญิง! แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย”
กร้าวไม่สู้ กำลังรู้สึกผิดอย่างหนัก
ชายธงกระชากเสื้อกร้าวมาชกอีก
ธารินตกใจมาก “อย่าค่ะพี่ชายธง”
ธารินพยายามดึงแขนชายธงไว้ ชายธงชกไม่ได้ แต่ยังถีบกร้าวจนได้
“แกไปให้พ้นเลยนะ อย่ามายุ่งกับนุชอีก ไม่งั้นฉันเอาแกตายแน่”
ธารินดึงชายธงเข้าห้องไป กร้าวเศร้า

ด้านลลิตาลอบเข้ามาในบ้านกร้าว มองหาปืนทุกจุดที่คิดว่าจะหล่น รื้อค้นหาหลายๆ มุม
“ปืนอยู่ไหนนะ”
ลลิตากุมขมับ หาปืนไม่เจอ ร้อนใจมาก
“น่าจะอยู่แถวนี้นี่นา”
เสียงกร้าวเข้ามาในบ้าน ลลิตาสะดุ้งตกใจสุดขีด

กร้าวเข้ามาในห้องโถงของบ้าน มองไปที่มุมหนึ่ง เห็นภาพอนุชขณะที่อนุชวิ่งหนีเขา แล้วกร้าววิ่งไล่จับ สวีทหวานกัน
กร้าวเศร้า คิดถึงและเป็นห่วงอนุชจับใจ

กร้าวนั่งเศร้าอยู่อย่างเดียวดายและอ้างว้าง
เสียงลลิตาดังเข้ามา “คุณกร้าว”
กร้าวชะงัก หันไปมอง แต่พอเห็นเป็นลลิตาก็ผิดหวัง
“ลิต้า”
กร้าวไม่สนใจ
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นคะ ท่าทางคุณเครียดจังเลย”
ลลิตามาด้านหลัง นวดไหล่ให้ แล้วก้มลงมาใกล้ๆ อย่างยั่วยวน กร้าวรำคาญ ลุกหนี
ลลิตาหน้าเกือบคะมำ
ลลิตาโกรธ “คุณกร้าว” แล้วรีบตามกร้าวไป

กร้าวเดินหนี ลลิตาตามไม่ลดละ
“คุณกร้าวจะไปไหน รอลิต้าด้วยสิคะ”
ลลิตาตามทันเกาะแขนกร้าวไว้
กรวิกโผล่เข้ามา ลลิตาชะงัก
“มาทำอะไรยะ”
กรวิกไม่สนใจลลิตา หันไปพูดกับกร้าว
“นกเห็นว่าวันนี้อากร้าวไม่ได้เข้าบริษัทก็เลยเอาเอกสารมาให้เซ็นค่ะ”
กร้าวบอกกับนก “ขอบใจนะนก” แล้วหันมาบอกลลิตา “คุณกลับไปได้แล้ว ผมไม่ว่าง”
ลลิตาไม่พอใจที่ถูกกร้าวไล่ กร้าวเดินหนีไป กรวิกเหยียดยิ้มพูดเย้ย
“เขาไล่แล้วก็รีบไปสิ”
“แก”
ลลิตาจะตบกรวิก
กรวิกหยิบคัตเตอร์ออกมาจากกระเป๋า ขู่ลลิตา
“อย่าดีกว่า วันนี้ฉันไม่ได้มามือเปล่า ขืนทะเล่อทะล่าเข้ามา ระวังจะเสียโฉม”
ลลิตากลัวเสียโฉม ไม่กล้าบุ่มบ่ามทำอะไร กรวิกยิ้มหยันลลิตา แล้วตามกร้าวไป

“อ๊าย” ลลิตาเจ็บใจกรี๊ดลั่น เต้นเร่าๆ

กร้าวรีบเซ็นเอกสาร หน้าตาท่าทางหมดอาลัยตายอยาก ไม่ร่าเริง เซ็นเสร็จก็ยื่นแฟ้มคืนให้ กรวิกสังเกตเห็นก็มองอย่างเป็นห่วง

“อากร้าวเป็นอะไรคะ มีเรื่องไม่สบายใจรึเปล่า แล้วนี่นุชไปไหนคะ”
กร้าวเสียใจ
“นุช...เขา...”
กร้าวเล่าเรื่องอนุชให้กรวิกฟัง ลลิตาแอบฟังอยู่...
“นุชฆ่าตัวตาย จริงเหรอคะเนี่ย อากร้าวไม่ได้ล้อนกเล่นใช่มั้ย” กรวิกตกใจมาก
กร้าวพยักหน้าเศร้าๆ แทนคำตอบ กรวิกไม่สบายใจ
“แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ”
“โชคดีที่หมอล้างท้องทัน ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล”
กรวิกเห็นใจกุมมือกร้าว
“นกเสียใจด้วยนะคะ ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น บอกตามตรงถ้าไม่ได้ยินจากปากอากร้าว นกคงไม่เชื่อว่าคนอย่างนุชจะคิดสั้น”
ลลิตาตกใจมากเมื่อรู้ว่าอนุชไม่ตาย เธอร้อนใจ กลัวความผิด พึมพำกับตัวเองเบาๆ
“นังนุชมันไม่ตายเหรอเนี่ย”
ลลิตาหวาดกลัว เครียดมาก

วันใหม่...อนุชนอนบนเตียง อรชาห่มผ้าให้
“พักผ่อนเยอะๆ นะนุช จะได้หายเร็วๆ”
อนุชนอนหลับ ปรารภหันมาถามอรชา
“คุณอรแน่ใจเหรอครับที่ไม่บอกพี่สิตเรื่องนุช”
“ถ้าพี่สิตรู้ว่าคุณกร้าวทำร้ายนุชขนาดนี้ คงไม่ปล่อยเขาไว้แน่ อรกลัวว่าเรื่องราวจะไปกันใหญ่ค่ะ”
“ผมว่าช้าเร็วยังไงพี่สิตก็ต้องรู้ เราปิดได้ไม่นานหรอกครับ”
อรชามองอนุชแล้วก็เศร้าใจ สงสารน้อง ปรารภจับมืออรชา ยิ้มให้ให้กำลังใจ อรชารู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น

กรวิกถือช่อดอกไม้เข้ามา แต่ลังเลไม่กล้าเอาไปให้อนุชด้วยตัวเอง เธอบอกกับพยาบาล
“ฝากดอกไม้ให้คนไข้ห้อง...ด้วยนะคะ”
คณิตพูดขึ้นด้านหลัง
“เอาไปให้ด้วยตัวเองไม่ดีกว่าเหรอครับ”
กรวิกหันไปเห็นคณิต

คณิตคุยกับกรวิกที่มุมหนึ่งในโรงพยาบาลคณิตท่าทางกวนๆ
“ถามจริงๆ ที่มาเนี่ย จะมาดูว่าคุณนุชตายรึยังเหรอ”
กรวิกโมโห
“ตาบ้า ปากเสีย ฉันไม่ได้ใจยักษ์ใจมารขนาดนั้น”
“ก็เห็นปกติไม่ญาติดีกัน”
กรวิกซึมลง
“ฉันก็แค่อยากให้เขาเจ็บเหมือนที่ฉันเจ็บ แต่ไม่ได้อยากให้เป็นอะไรร้ายแรงขนาดนี้ ตอนที่รู้ข่าว ฉันใจหายหมดเลย”
คณิตยิ้มพอใจ
“ยิ้มอะไร”
“คุณนี่ถึงจะปากร้าย แต่ก็ใจดีเหมือนกันนะ”
“ว่าหรือชมกันแน่”
“ชมสิคุณ”
กรวิกไม่สบายใจเรื่องอนุช

ลลิตากระวนกระวายใจ มาปรึกษาเชิดที่ห้องขัง
“จะทำยังไงดี นังนุชมันยังไม่ตาย แล้วถ้ามันบอกตำรวจว่ามันไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่เป็นฝีมือฉันล่ะ
โอ๊ย ฉันไม่อยากติดคุก”
“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว แกถอยไม่ได้ ต้องเดินหน้าอย่างเดียว”
“จะทำยังไงล่ะ”
“ปิดปากอนุชซะ ก่อนที่จะบอกคนอื่นว่าเกิดอะไรขึ้นวันนั้น”
“จะทำยังไงล่ะ นังอรกับนายชายธงผลัดกันไปเฝ้าไม่ยอมห่างเลย แค่จะเข้าห้องยังไม่ได้”
“ก็ต้องหาทางเข้าถึงตัวอนุชก่อน”

ลลิตานึกถึงอสิต

โปรดติดตาม "ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง" ตอนที่ 17
กำลังโหลดความคิดเห็น