ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 20 อวสาน
ขณะเดียวกันชลนิภาเดินเข้ามาในห้องโถง ถามถึงธนกรกับแป๋ว
“แป๋ว คุณธนกรไปไหน”
“ไปบริษัทแต่เช้าค่ะ”
“แกไปเตรียมกระเป๋าให้ฉัน ฉันจะเข้าบริษัท”
“ไม่ได้ค่ะ คุณธนกรห้ามคุณผู้หญิงขยับไปไหน? ไปก็มีแต่เรื่อง”
ชลนิภามองดุ แป๋วยิ้มสารภาพ
“อันหลังแป๋วเติมเองค่ะ คุณธนกรสั่งให้คุณผู้หญิงพักผ่อน ทำจิตใจให้สบาย”
“ฉันจะรู้สึกดีมาก ถ้าแกหลบหน้าไป”
“ค่ะ”
แป๋วรีบหลบออกไป ชลนิภายิ้มกับตัวเอง รู้สึกชีวิตมีความสุขขึ้นที่มีธนกรคอยมาดูแล ชลนิภามองไปหน้าคฤหาสน์รู้ว่ามีคนเข้ามา
ชลนิภาเดินเข้ามา คิดว่าธนกรกลับมาแล้ว
“กลับจากบริษัทแล้วเหรอคะ”
กลับเป็นชยางกูรที่เดินเข้ามาหา
“คุณแม่ครับ”
ชลนิภาตกใจและแปลกใจ “มาทำไม”
“กูรมาลาคุณแม่ครับ”
ชยางกูรทรุดตัวก้มลงตรงหน้าชลนิภา ยกมือพนมไหว้
“กูรคงไม่ได้พบหน้าคุณแม่อีกแล้ว...กูรไม่รู้ว่าหลังจากนี้ ชีวิตกูรจะเป็นยังไง...คุณแม่ให้พรกูรด้วยครับ”
“แม่ให้พรไม่ได้หรอก ลูกไม่เคยฟังและรักแม่” ชลนิภาสะเทือนใจ
ชยางกูรผิดหวังและเสียใจ
“ถ้าเธอยังรักแม่...ทำตามที่แม่บอก เข้ามอบตัวสู้คดี”
“กูรให้ไม่ได้ครับ”
ชลนิภาผิดหวังและเสียใจ แต่ทำใจแข็ง “งั้นเธอก็ไม่ใช่ลูกฉัน”
ชยางกูรอึ้งคาดไม่ถึง
“ออกไปได้แล้ว ที่นี่ไม่ต้อนรับคนชั่ว”
ชยางกูรผิดหวังและเสียใจ ก้มลงกราบเท้าแม่ ชลนิภามองด้วยความสงสาร แต่ใจแข็ง
ชยางกูรลุกขึ้น มองมายังชลนิภาแล้วหันกลับเดินออกไป ชลนิภามองตามชยางกูร หัวใจสลาย น้ำตาตก
ขณะที่ชยางกูรเดินร้องไห้ออกมาเจอกับธนกรที่เพิ่งกลับจากบริษัท
“ลูกกูร”
“กูรฝากดูแลคุณแม่ด้วยครับ” ชยางกูรยกมือไหว้ “กูรขอโทษที่ทำให้คุณพ่อเสียใจ”
ชยางกูรจะเดินออกไป ธนกรบอกชยางกูร
“ลูกเปลี่ยนใจก็กลับมาหาพ่อ พ่อจะช่วยลูก”
ชยางกูรหยุดฟัง แล้วเลือกที่จะเดินออกไป
ชลนิภาเดินเข้ามาหาธนกร มองตามชยางกูรตาละห้อยรู้สึกผิด
“ฉันใจร้ายกับลูก”
“คุณทำดีที่สุดแล้ว ปล่อยลูกไปเถอะ...เขาเลือกชีวิตของเขาเอง”
ธนกรกอดปลอบใจชลนิภา
สุตาภัญและสุรัมภาถูกจับตัวมาที่ห้องในโรงแรมร้าง และพยายามดิ้นหนี
“แกจับฉันมาทำไม? แกต้องการอะไร”
เพทายมองสุรัมภา “น้องสาวเธอติดค้างฉัน”
“ปล่อยพี่ตาไป พี่ตาไม่เกี่ยวอะไรด้วย”
ระหว่างนั้นเฮียปรัชญาและลูกน้องเดินเข้ามาสมทบ
“เกี่ยวสิ หนูคือสุดที่รักของเฮีย เฮียรักหนู”
ปรัชญาเข้ามาจับใบหน้าสุตาภัญอย่างรักใคร่
“ปล่อยฉันนะ ไอ้แก่หื่นกาม”
ปรัชญาหัวเราะลั่น หันไปสั่งลูกน้อง
“พาเด็กฉันไปส่งห้อง ฉันจะจัดพิธีแต่งงานสองต่อสอง”
ลูกน้องปรัชญาพาสุตาภัญแยกออกจากสุรัมภา เพื่อพาไปห้องปรัชญา
สุรัมภาตื่นตกใจ “พี่ตา...พี่ตา”
“รางวัลสำหรับคนทำดี ขอให้สนุก”
ปรัชญาตบไหล่เพทาย แล้วเดินออกไป เพทายหันมาทางสุรัมภา
“ได้เวลาสนุกกันแล้ว”
“ปล่อยฉันนะ”
เพทายจับตัวสุรัมภา แยกไปยังอีกห้อง
ทางด้านชนกชนม์ยังอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์ พยายามโทรศัพท์หาชยางกูร ลุ้นให้รับสาย
“ชยางกูร รับสิ”
ชยางกูรเดินออกมาที่ถนนหยิบแว่นดำใส่จะออกไป เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชยางกูรมองดูชื่อ
ชนกชนม์รอลุ้นให้ชยางกูรรับสาย
ชยางกูรทำท่าเหมือนจะกดรับ แต่ตัดสายทิ้ง
ชนกชนม์ผิดหวัง สุทินเข้ามาเร่งถาม
“ได้ที่อยู่มันรึยัง”
“น้องผมยังไม่รับสายครับ” ชนกชนม์บอก
“น้องนายร่วมกับพวกมัน”
“ไม่ใช่ครับ พวกมันก็ตามเล่นงานน้องผม ผมจะส่งข้อความไปถาม”
“จะทำอะไรก็เร่งทำเข้า”
เสาวนิตย์เข้ามาถามสุทินด้วยความเป็นห่วง
“คุณคะ ลูกของเรา”
สุทินเครียด กอดปลอบใจเสาวนิตย์
ชนกชนม์รีบพิมพ์ข้อความ ส่งข่าวชยางกูร
ด้านเพทายผลักสุรัมภาเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตู
ส่วนลูกน้องปรัชญาผลักสุตาภัญเข้าไปในห้องหนึ่ง ปรัชญาเดินคุยโทรศัพท์มาถึงหน้าห้อง
“แกเจอตัวมัน...ไม่ต้องเสียเวลาเอามาให้ฉัน เช็คบิลซะ!”
ปรัชญาวางสาย ยิ้มพอใจ แล้วเดินเข้าห้องไป
ชยางกูรมองดูข้อความที่ส่งมา
“ภากับตาถูกจับไป พวกมันอยู่ที่ไหน”
ชยางกูรกดลบข้อความ
“มันไม่เกี่ยวกับฉัน”
ชยางกูรจะเดินออกไป ลูกน้องปรัชญาเดินเข้ามาด้านหลัง
“ชยางกูร!”
ชยางกูรหันกลับไปมอง เจอลูกน้องปรัชญาเล็งปืนมา
“เฮียให้มาส่งแกขึ้นสวรรค์”
ลูกน้องจะยิงปืนใส่ชยางกูรกระโดดหลบแล้ววิ่งหนีลูกน้องปรัชญาวิ่งไล่ล่าชยางกูร
ฟากสุทินร้อนใจเข้าไปถามชนกชนม์
“น้องนายติดต่อมารึยัง”
“กูรไม่ตอบครับ”
“ฉันว่าน้องนายสมรู้ร่วมคิดกับมัน ลูกสาวฉันเป็นอะไร พวกนายต้องรับผิดชอบ”
สุทินบันดาลโทสะต่อยชนกชนม์ เสาวนิตย์เข้ามาห้าม
“พอเถอะค่ะ เรารีบแจ้งตำรวจให้ไปช่วยลูกเถอะค่ะ”
“ผมกลัวลูกจะเป็นอันตราย มันอาจจับไปเรียกค่าไถ่”
สุทินและเสาวนิตย์เป็นห่วงลูกมาก ชนกชนม์เครียดจัด
ลูกน้องปรัชญาวิ่งไล่ตามหาชยางกูรในสวนสาธารณะ ลูกน้องมองหาชยางกูร ชยางกูรตรงเข้ามาล็อกคอ แล้วลากตัวลูกน้องปรัชญาเข้าหลังพุ่มไม้ ทั้งสองต่อสู้ เสียงปืนดังลั่น
ครู่หนึ่ง เห็นชยางกูรออกจากพุ่มไม้ ท่าทางโกรธแค้นปรัชญามากๆ
“ไอ้เฮีย เล่นฉันถึงตาย แกก็ต้องตาย!”
ชยางกูรคิดจัดการปรัชญา
จู่ๆ มีเสียงข้อความเข้ามือถือชนกชนม์ ชนกชนม์กดเปิดอ่าน
“กูรบอกที่อยู่พวกมันแล้วครับ ผมจะไปช่วยภากับตาครับ”
ชนกชนม์รีบออกไปจากห้อง สุทินไม่ยอม
“อย่าทำอวดเก่ง ฉันไปด้วย” สุทินบอกเสาวนิตย์ “คุณรอผมอยู่ที่นี่”
“คุณระวังตัวด้วยนะคะ” เสาวนิตย์อวยพรชนกชนม์ “ขอให้เธอปลอดภัย”
“ครับ”
ชนกชนม์และสุทินรีบออกไปจากห้อง เสาวนิตย์เป็นห่วงลูกมาก
ด้านสุตาภัญเดินถอยหลัง ปรัชญาเดินเข้ามา
“ปล่อยฉันไปเถอะ!”
“เฮียชอบหนูจริงๆ แค่เห็นก็ตอบได้เลยว่าใช่...สวย ใจเด็ด..นี่แหละผู้หญิงของเฮีย”
สุตาภัญสะบัดหนี ปรัชญารุกเข้ามาหา พูดจาหว่านล้อม
“เฮียไม่ได้คิดว่าหนูเป็นของเล่น เฮียจะเลี้ยงดูหนูให้ดีที่สุด”
ปรัชญาเข้ามากอดรัด สุตาภัญคิดหาทางเอาตัวรอด
“เฮียคะ”
ปรัชญาขานเสียงหวาน “ขา...”
“ตามอมแมมไปหมดแล้ว ตาขอเข้าห้องน้ำ อาบน้ำก่อนนะคะ”
“ได้จ้ะ...เฮียชอบกลิ่นหอมๆ เนื้อตัวสะอาดๆ”
สุตาภัญสะพายกระเป๋าใบเล็กจะเข้าไป ปรัชญาดึงตัวไว้ ล้วปลดกระเป๋าสะพาย หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า
“อาบน้ำคงไม่ต้องใช้โทรศัพท์”
สุตาภัญหน้าเสียที่ปรัชญารู้ทัน ยิ้มแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ
พอเข้าห้องน้ำ สุตาภัญล็อคประตู กังวลใจหนัก หมดหนทางหนีไปได้
ฝ่ายชนิกานต์เดินเข้ามานั่งร้องไห้ที่มุมหนึ่งในสวนสาธารณะ เสียใจที่ณวัตรไม่ยอมรับธีรดนย์ รู้ว่าธีรดนย์เป็นคนทำตนท้อง จึงต้องบังคับให้แต่งงานกับกฤติยา
ชนิกานต์หยิบขวดยาออกจากกระเป๋าคิดตัดสินใจ นึกถึงเหตุการณ์ที่ณวัตรบังคับให้ชนิกานต์ไปอยู่ออสเตรเลีย และไม่ต้องกลับมาเมืองไทยอีก
ชนิกานต์เปิดฝาขวด เทยาใส่มือกำใหญ่ แล้วนึกถึงลูกในท้องขึ้นมา
ชนิกานต์ปายาในมือทิ้ง ร้องไห้โฮ
ฝ่ายธีรดนย์เดินกลับเข้ามาในคฤหาสน์ กฤติยาที่รออยู่รีบเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วงชนิกานต์
“เจอนิกกี้ไหม นิกกี้อยู่ไหน”
ธีรดนย์ส่ายหน้า
“นายหาทั่วรึยัง ไปกับฉัน ฉันจะไปช่วยตามหา”
กฤติยาจะลากธีรดนย์ออกไปตามหาชนิกานต์ กัณฐิกาเรียกไว้
“ไม่ต้องไป... เธอสองคนไปลองชุดแต่งงานได้แล้ว”
“ยังมีเวลาอีกหลายวัน ไว้ค่อยลองก็ได้ครับ”
“คุณณวัตรเปลี่ยนใจแล้ว...เราจะเลื่อนงานแต่งให้เร็วขึ้น แต่งกันพรุ่งนี้”
ธีรดนย์และกฤติยาเครียด ที่ถูกกดดันและบังคับ
ทางด้านสุตาภัญหลบอยู่ในห้องนาน จนปรัชญามาเคาะประตู
“เปิดประตูได้แล้ว”
สุตาภัญตกใจกลัว
“ฉันยังไม่เสร็จ”
“แผนถ่วงเวลาของหนู ทำเอาเฮียหัวใจเต้นแรง..ชักสนุกแล้วสิ”
ปรัชญาเคาะประตูห้อง สุตาภัญหวาดกลัว ปรัชญาใช้กุญแจ ประตูเปิดออก สุตาภัญตกใจ วิ่งจะหนีออกไป ปรัชญาคว้าตัวไว้
“ปล่อยฉันนะ!”
เพทายกำลังปลดกระดุมถอดเสื้อ
“หนีรอดได้ครั้งสองครั้ง เพราะโชคช่วย แต่มันจะไม่มีครั้งที่สาม”
สุรัมภาตกใจกลัว
ขณะเดียวกันชนกชนม์เดินนำมาบริเวณทางเดินในโรงแรม
“พวกมันอยู่ที่นี่ครับ”
“ฉันโทร.แจ้งตำรวจแล้ว ตำรวจกำลังตามมา รีบไปช่วยลูกฉัน”
สุทินและชนกชนม์ออกตามหาสุตาภัญและสุรัภมา เจอ ลูกน้องปรัชญาเข้ามาขวาง ชนกชนม์และสุทินต่อสู้กับลูกน้องปรัชญา...
เพทายถอดเสื้อออก โยนทิ้ง สุรัมภาผวา หวากลัว เพทายเข้าหาอย่างหื่น
“เป็นเมียของฉัน แล้วเธอจะมีความสุข”
เพทายโถมตัวเข้าหาหมายจะขืนใจสุรัมภา....
จู่ๆ ประตูถูกยิง ตามด้วยแรงถีบออก เพทายตกใจเหลียวกลับไปมอง ต้องตกใจ
“ไอ้กูร”
ชยางกูรเล็งปืนใส่เพทาย สุรัมภารีบลุกขึ้นหลบไปที่มุมหนึ่ง
“ใจเย็นเพื่อน มีอะไรคุยกันได้ แกอยากได้เด็กแก ฉันคืนให้”
เพทายเข้าไปจับสุรัมภาผลักเข้าหาชยางกูร สุรัมภารีบหลบ..
“ฉันไม่ได้มาเอาของ แต่มาเอาชีวิตแก”
“กูร..อย่า....เราเป็นเพื่อนกัน”
เพทายพูดถ่วงเวลาแอบล้วงไปหยิบปืนจะยิง ชยางกูรไวกว่ายิงใส่เพทายที่แขนและลำตัวสองนัด เพทายล้มลง
สุรัมภาตกใจที่เพทายถูกยิง
“ฉันช่วยเธอ เป็นการปลดหนี้ที่ฉันทำร้ายเธอ”
ชยางกูรเดินออกไปจากห้อง สุรัมภาได้สติ แล้วเดินออกไปจากห้อง
ชนกชนม์และสุทินต่อยลูกน้องปรัชญา จนน่วมนอนหมอบ
“แยกย้ายกันตามหา”
“ครับ”
สุทินและชนกชนม์แยกกันตามหาสุตาภัญและสุรัมภา
ชนกชนม์วิ่งมาที่ห้องเพทาย มองเข้าไปเห็นเพทายนอนอยู่ ไม่เจอสุตาภัญและสุรัมภา
ลูกน้องปรัชญายืนเฝ้าหน้าห้องให้ปรัชญาอยู่ ชยางกูรเดินเข้ามาบอกลูกน้องปรัชญา
“ฉันมาเจรจากับเฮีย!”
“แกมาผิดเวลา แล้วก็ผิดที่”
ลูกน้องจะยิง แต่ชยางกูรไวกว่ายิงลูกน้อง ล้มลงตายคาที่
ชนกชนม์ได้ยินเสียงปืนอีกด้านหนึ่งของโรงแรมจึงรีบออกไปตามเสียง
เพทายลืมตา คิดจะแก้แค้นเอาคืนชยางกูร
ชยางกูรเปิดประตูเข้าไป ปรัชญาจับตัวสุตาภัญไว้เป็นประกัน
“ทิ้งปืนซะ ไม่งั้นผู้หญิงคนนี้ตาย”
“ฉันไม่ได้มาช่วยใคร ฉันมาชำระแค้นกับแก”
ปรัชญาโกรธ สุตาภัญฉวยจังหวะเผลอ ผลักปรัชญาออก แล้ววิ่งไปหลบที่มุมหนึ่ง
ปรัชญาจะยิงสุตาภัญ ชยางกูรยิงปืนขู่ทันที
“ทิ้งปืน”
ชยางกูรเล็งปืนจะยิงปรัชญา ปรัชญารู้ว่าเสียเปรียบ ยอมโยนปืนทิ้ง
“แกไล่จับตัวฉัน ต้องการหนี้จากฉัน ฉันมาแล้ว ฉันเอากระสุนปืนมาใช้หนี้แก”
ปรัชญาต่อรอง “แกอยากหนี แกต้องการเงิน ฉันจะให้เงินแกเป็นสิบเท่าที่แกติดฉัน แกใช้ได้สบายไปทั้งชาติ!”
“ฉันไม่ไว้ใจลิ้นสองแฉกอย่างแก!”
ทันใดนั้น ลูกน้องปรัชญาคนหนึ่งเข้ามาด้านหลัง ต่อยชยางกูรทีเผลอ จนปืนตกพื้น ปรัชญาเดินมาหยิบปืนของตัวเองที่อยู่ใกล้ตัวขึ้นมา
“แกประเมินฉันต่ำเกินไป...” ปรัชญาเดินย่างสามขุมเข้ามาหาชยางกูร “คิดหนีฉัน”
ปรัชญาแค้นจัด ยิงปืนเปรี้ยง ใส่ขาชยางกูรหนึ่งข้าง
“คิดฆ่าฉัน”
ปรัชญายิงปืนใส่มือชยางกูรอีกข้าง
“สมองแก เกลียดฉัน!”
ปรัชญาจะยิงที่หัว ชยางกูรดึงขาปรัชญาจนปรัชญาเสียหลักล้มลง ชยางกูรคว้าปืนของตัวเองยิงปรัชญา ปรัชญาล้มลงเสียชีวิตทันที
ชนกชนม์วิ่งเข้ามาสุตาภัญวิ่งเข้ามาหาชนกชนม์
“ชนม์”
ชนกชนม์ดีใจที่สุตาภัญปลอดภัย ชนกชนม์หันไปถามชยางกูร
“นายเป็นไง ฉันจะพานายส่งโรงพยาบาล”
ชนกชนม์เข้าไปดูอาการชยางกูร ถูกชยางกูรผลักออกแล้วเอาปืนจี้ไล่
“ไม่ต้องยุ่งกับฉัน หนี้บุญคุณเราจบกัน”
ชยางกูรเดินออกไปจากห้อง สุตาภัญหันไปบอกชยางกูร
“ขอบใจนายมาก”
ชยางกูรหันมายิ้มรับ แล้วเดินออกไป ชนกชนม์เข้าไปสวมกอดสุตาภัญ
สุทินวิ่งตามหาสุตาภัญ ชนกชนม์พาสุตาภัญออกจากห้อง สุตาภัญเห็นพ่อ
“คุณพ่อคะ”
สุตาภัญวิ่งเข้ากอดพ่อ สุทินกอดดีใจที่ลูกสาวปลอดภัย
“ปลอดภัยแล้วลูก น้องล่ะ น้องอยู่ไหน”
สุตาภัญ สุทิน และชนกชนม์ต่างเป็นห่วงสุรัมภา
ทางด้านสุรัมภาพยายามหนีออกจากโรงแรม
ส่วนเพทายโซเซออกจากมุมหนึ่งฝืนสังขาร...จะตามไปทำร้ายสุรัมภาให้ได้
ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 20 อวสาน (ต่อ)
ภายในคฤหาสน์ณวัตร ช่วงตอนกลางวัน กฤติยาแต่งชุดไทยเจ้าสาว สำหรับใส่พิธีรดน้ำสังข์ กัณฐิกายิ้มปลื้ม เข้ามาดูความเรียบร้อย
“แอน...ลูกของแม่จะเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด”
ธีรดนย์แต่งชุดเจ้าบ่าวไทยออกมา
“เธอก็หล่อมาก ยังกะเป็นเทวดาคู่กับนางฟ้า นี่ถ้าคุณแม่เธออยู่ คงปลื้มใจมาก”
ธีรดนย์หน้าเสียเล็กน้อย กัณฐิการู้ว่าเผลอพูดทำให้ธีรดนย์สะเทือนใจ รีบเปลี่ยนเรื่อง
“เดี๋ยวฉันเอากล้องมาถ่ายรูป จะส่งให้ช่างดู ว่าต้องเพิ่มเติมอะไรรึเปล่า”
กัณฐิกาเดินออกไป ธีรดนย์มองกฤติยา รู้สึกเศร้ากับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
“เพราะฉันคนเดียว ทุกอย่างถึงแย่”
“มันยังไม่สายเกินไป ที่เราจะแก้ตัว เราต้องทำอะไรสักอย่าง”
ชนิกานต์เดินเข้ามาในบ้านพอดี ทั้งสองคนดีใจมาก
“นิกกี้ เธอเป็นยังไงบ้าง เธอหายไปไหนมา ทุกคนเป็นห่วงเธอมาก”
ชนิกานต์มองธีรดนย์และกฤติยาแล้วยิ้ม ทำตัวเหมือนเป็นปกติ ไม่วีน ไม่วี้ด
“ชุดเจ้าบ่าวชุดเจ้าสาวสวยมาก....เธอสองคนแต่งแล้วเข้ากัน”
กฤติยาและธีรดนย์ยิ่งรู้สึกผิด
“นิกกี้พวกเรา”
กฤติยาจะบอกยกเลิกแต่งงาน แต่ชนิกานต์ขัดขึ้น
“ฉันอยากถ่ายรูปกับธี”
กฤติยายิ้มตอบ รับมือถือมา ชนิกานต์บอกธีรดนย์
“ให้โอกาสฉันได้เป็นเจ้าสาวของนายสักนาที”
“หนึ่ง..สอง...สาม”
กฤติยานับแล้วกดถ่าย ภาพบันทึกในจังหวะที่ชนิกานต์ร้องไห้พอกฤติยาถ่ายเสร็จก็ร้องไห้ธีรดนย์ยิ่งรู้สึกแย่มาก
“พอแล้วล่ะ ไว้ถ่ายวันจริงดีกว่า”
ชนิกานต์รับกล้องคืนจากกฤติยา “ฉันคงไม่อยู่...ฉันต้องไปออสเตรเลีย”
ชนิกานต์รู้สึกเสียใจ วิ่งหนีขึ้นไปที่ห้อง
ธีรดนย์ยิ่งรู้สึกผิด “ฉันปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไม่ได้”
ธีรดนย์ฮึด คิดทำอะไรบางอย่างเดินดุ่มออกไป
กัณฐิกาถือกล้องถ่ายรูปเข้ามา
“ธีรดนย์ไปไหน? ยัยนิกกี้มาป่วนอะไรอีก”
กัณฐิกาเข้ามาซัก กฤติยาไม่อยากบอกว่าธีรดนย์จะทำอะไร
“เปล่าค่ะ”
กัณฐิกาแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ที่แท้ธีรดนย์เข้ามาหาณวัตรอีก
“คุณท่านครับ ผมจะแต่งงานกับชนิกานต์”
ถูกณวัตรยื่นคำขาด “เลิกยุ่งกับลูกสาวฉัน เธอต้องทำตามที่ฉันสั่ง”
“คุณท่านไม่มีสิทธิ์มาบงการผมอีก ผมไม่ได้อยู่ในฐานะคนรับใช้ หน้าที่นั้นมันหมดไปตั้งแต่วันที่แม่ผมตายไปแล้ว”
“ฉันใช้สิทธิ์ความเป็นพ่อของนิกกี้ ถ้าแกยังคิดยุ่งลูกสาวฉัน ฉันจะเอาเด็กออก”
ณวัตรยกลูกมาขู่ ธีรดนย์จนตรอก ไม่สามารถต่อรองอะไรได้อีก เพราะสงสารลูก
ด้านชนิกานต์เข้ามาในห้อง เปิดดูภาพที่ถ่ายคู่ธีรดนย์ แล้วยิ้มทั้งน้ำตา แต่ต่พอนึกถึงกฤติยาก็โกรธที่ต้องเสียธีรดนย์ให้ไป
ชนิกานต์แอบเดินเข้ามาในห้องณวัตรตอนณวัตรไม่อยู่ แล้วเดินไปเปิดลิ้นชัก หยิบปืนที่วางอยู่ในลิ้นชักออกมา
ส่วนเหตุการณ์ที่โรงแรมสุตาภัญ สุทิน และชนกชนม์ ออกตามหาสุรัมภา ทุกคนช่วยกันตะโกนเรียก
“ภา”
“ลูกภา”
ชนกชนม์และทุกคนมองหาตามหาสุรัมภาต่อไป
สุรัมภาเดินหนีมาหยุดอยู่ที่มุมหนึ่งในโรงแรม ด้วยความหวาดกลัว พยายามจะหนีออกจากโรงแรมให้ได้
จู่ๆ เพทายเดินเข้ามาตะโกนเรียกสุรัมภา
“กลับมาหาฉัน”
สุรัมภาตกใจกลัว รีบวิ่งหนีไปอีก
เพทายไม่พอใจ “ฉันบอกให้กลับมา”
เพทายยิงปืนใส่ สุรัมภาตกใจมาก รีบวิ่งหนีไปทันที เพทายกระเสือกกระสนวิ่งไล่ตามไม่ลดละ
ชนกชนม์ สุตาภัญและสุทินได้ยินเสียงปืนก็ตกใจ
สุตาภัญใจหล่นวูบ “ภา”
ทุกคนรีบวิ่งตามไปจุดที่ได้ยินเสียงปืน
ฝ่ายสุรัมภาวิ่งหนี เพทายวิ่งไล่ตาม
“หยุดเดี๋ยวนี้”
สุรัมภาไม่ฟัง วิ่งหนีไป
“เพราะเธอ ทำให้ฉันต้องซวย”
เพทายโกรธ เล็งปืนใส่สุรัมภา
ชนกชนม์ สุตาภัญและสุทินวิ่งมาที่มุมหนึ่ง เห็นภาพเพทายกำลังจะยิงสุรัมภา สุตาภัญร้องเสียงหลง
“ภาระวัง”
เพทายยิงปืนใส่ สุรัมภาตกใจ หลบไปอีกทาง
สุรัมภาเซหลบไปทางบันได แต่เกิดเสียหลักกลิ้งตกบันได ชนกชนม์ สุตาภัญและสุทินตกใจมาก
“ลูกภา”
สุรัมภากลิ้งตกบันได นอนนิ่งจมกองเลือดด้านล่าง แต่เป็นบันไดไม่สูงมากนัก
เพทายหันไปหาชนกชนม์,สุตาภัญและสุทิน
“พวกแกก็ตายตามมันไป”
เพทายยิงปืนใส่มาทางสุตาภัญ ชนกชนม์เข้ามากันตัวสุตาภัญไว้
เสียงปืนดังปัง สุทินตกใจ
ร่างเพทายร่วงลง โดยฝีมือเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงจากด้านหลังเพทาย ตำรวจเข้ามาช่วยไว้ได้สุตาภัญดีใจที่ชนกชนม์ปลอดภัย สุทินเป็นห่วงสุรัมภา
“ลูกภา”
สามคนรีบวิ่งไปหาสุรัมภา
สุทินเข้ามาถึงก่อนกอดร่างสุรัมภาแน่น
“ลูกภา..ลูกต้องไม่เป็นอะไร”
ตกตอนกลางคืนกฤติยายังคงอยู่ในชุดเจ้าสาว ยืนรอธีรดนย์ ครู่ต่อมาธีรดนย์ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าว เดินคอตกออกมาจากห้องณวัตร
“คุณอาว่าไงบ้าง”
ธีรดนย์หน้าเศร้าส่ายหัว “คุณท่านยืนยันคำเดิม”
กฤติยาถามคำเห็นธีรดนย์ “ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันผิด มันไม่ใช่ เรายังจะเลือกเดินไปเส้นทางนั้นอีกเหรอ”
“ฉันพยายามแล้ว จะให้ฉันทำยังไง”
ธีรดนย์สุดกลั้นร้องไห้ออกมา กฤติยาเดินเข้ามาเช็ดน้ำตาให้
“เราสองคนเท่านั้นที่หยุดมัน ยกเลิกงานแต่ง ไม่มีใครบังคับเราได้”
“คุณท่านขู่จะเอาเด็กออก”
“คุณอาไม่กล้าพอจะทำร้ายหลานตัวเองได้หรอก”
ธีรดนย์ตัดสินใจแน่วแน่ “เราจะยุติเรื่องนี้ด้วยกัน...เพื่อความสุขของทุกคน”
ส่วนชนิกานต์ยืนมองปืนในลิ้นชัก ร้องไห้ แล้วหยิบปืนขึ้นมาคิดจะทำอะไรบางอย่างเพื่อยุติปัญหา
ธีรดนย์บอกกฤติยา
“ไปหาคุณท่านด้วยกัน!”
กฤติยายิ้มรับ จะเดินออกไป กัณฐิกาเข้ามาขวางไว้
“ไม่ได้ แม่ไม่ยอมให้ลูกยกเลิกงานแต่ง”
“พอเถอะแม่...อย่าให้มันเลวร้ายไปกว่านี้เลย...ถึงเวลาที่ทุกคนต้องพูดความจริง...รวมทั้งแม่ด้วย”
กัณฐิกาฉงน “ลูกจะทำอะไร”
“แอนจะบอกคุณณวัตร ว่าเราเป็นแม่ลูกกัน!” กฤติยาบอกอย่างเด็ดเดี่ยว
“ไม่ได้นะยัยแอน!”
“แม่ก็เห็นว่าผลของการปิดบัง โกหก มันเป็นยังไง”
“เชื่อแอนเถอะครับ...ถ้าคุณณวัตรรักคุณกัณ ท่านต้องยอมรับมันได้”
“ฉันไม่ยอมให้เธอสองคนทำลายชีวิตฉัน ไม่รักก็ไม่ต้องแต่ง นายก็ออกไปจากบ้านนี้”
กัณฐิกาเลือกที่จะไล่ธีรดนย์ออกไปจากชีวิตกฤติยา
“แม่ก็ไล่แอนด้วยสิ แอนไม่อยากเล่นละครเป็นตัวประกอบฉากของแม่อีกแล้ว”
กฤติยามองกัณฐิกา ลุ้นว่ากัณฐิกาจะตัดสินใจอย่างไร
“แกก็ไปซะ”
กฤติยาอึ้ง
แต่แล้วจู่ๆ ณวัตรซึ่งฟังอยู่นาน ก็เดินเข้ามาโวยวายกัณฐิกา
“คนที่ต้องไปคือเธอ!”
กัณฐิกาช็อก! “คุณณวัตร!”
ขณะเดียวกันบุรุษพยาบาลเข็นร่างสุรัมภาพาไปยังห้องฉุกเฉิน เสาวนิตย์เป็นห่วงลูกสาวมาก
“ลูกภา ลูกต้องปลอดภัยนะลูก”
เสาวนิตย์และสุทินเป็นห่วงสุรัมภา เช่นเดียวชนกชนม์และสุตาภัญที่ตามเข้ามา
บุรุษพยาบาลกำลังเข็นสุรัมภามายังหน้าห้องฉุกเฉิน เสาวนิตย์เข้าไปบอกหมอ
“ช่วยลูกสาวฉัน ช่วยเด็กในท้องด้วยนะคะ”
“ครับ ผมจะรักษาให้ดีที่สุด”
บุรุษพยาบาลเข็นสุรัมภาเข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้ว สุทินเข้าไปกอดปลอบใจเสาวนิตย์
สุตาภัญเป็นห่วงน้องสาวและหลานในท้องมาก ชนกชนม์ยืนเคียงข้าง
ฝ่ายกัณฐิกาเดินเข้าไปหาณวัตร
“คุณพูดอะไรคะ กัณไม่เข้าใจ”
“ฉันได้ยินที่เธอคุยกันหมดแล้ว”
“ไม่จริงนะคะ หนูแอนโกรธที่ฉันบังคับแก ก็พาลสร้างเรื่อง”
“ละครชีวิตของเธอมันจบแล้ว ฉันไม่อยากเป็นตัวละครโง่ๆ ในฉากชีวิตเธอ!”
กัณฐิกาตกใจที่ณวัตรโกรธมาก
“ฉันน่าจะเชื่อสุรเดช”
ณวัตรเอ่ยขึ้น พร้อมๆ กับคิดถึงเหตุการณ์ที่สุรเดชเข้ามาแฉความจริง ว่ากัณฐิกาเป็นแม่ของแอน
“แล้วฉันก็ควรเชื่อลูกสาวฉัน”
ณวัตรนึกถึงเหตุการณ์ที่นิกกี้ลากตัวกฤติยาขึ้นมาแฉบนเวทีในงานแต่งว่ากฤติยาเป็นลูกของกัณฐิกา
“ฉันไม่น่าเชื่อเธอเลย” ณวัตรย้ำ
“คุณคะ เรื่องนี้กัณอธิบายได้นะคะ”
กัณฐิกาเข้ามาพูดดี ณวัตรตบหน้ากัณฐิกาฉาดใหญ่
“ยัยแอน บอกคุณณวัตรว่าเธอเป็นลูกบุญธรรม เธอไม่ใช่ลูกฉัน”
กฤติยาเสียใจที่กัณฐิกายังไม่ยอมรับความจริงเสียที จึงไม่ยอมพูดอะไร
“ธีรดนย์ ฉันช่วยเธอมาหลายครั้ง เธอต้องช่วยฉัน” กัณฐิกาลนลาน
ณวัตรรู้สึกสมเพชกับสิ่งที่กัณฐิกากำลังดิ้นรนเอาตัวรอด
“ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว”
กันฐิกาเสียใจที่ณวัตรไล่เธอออกจากบ้าน เข้ามากอดขาณวัตร
“คุณคะ อย่าทิ้งกัณ กัณรักคุณ รักคุณนะคะ”
กัณฐิกากอดขาณวัตรร่ำไห้อย่างน่าสงสาร ชนิกานต์เดินเข้ามา พูดเสียงดัง
“ออกไปได้แล้วนังแม่มด!”
ทุกคนตกใจ
ด้านเสาวนิตย์นั่งร้องไห้ รอฟังผลอย่างกระวนกระวาย สุทินเข้ามากุมมือพูดปลอบใจ
“ลูกเขียนการ์ดให้เรา...ลูกตั้งใจขอโทษเรา”
เสาวนิตย์ส่งการ์ดให้สามี สุทินรับการ์ดมาเปิดดู เป็นภาพวาดการ์ตูน ที่อยู่พร้อมหน้าครอบครัวพร้อมข้อความในการ์ด
“ขอบคุณนะคะ ที่ให้อภัยลูกสาวที่ผิดพลาดคนนี้...ภาสัญญาค่ะ ภาจะเป็นลูกที่ดีของคุณพ่อคุณแม่”
สุทินอ่านข้อความก็ร้องไห้โฮ กอดกับเสาวนิตย์แน่น
สุตาภัญนั่งเศร้า น้ำตาร่วงอยู่อีกมุม ชนกชนม์เข้ามานั่งแล้วกุมมือปลอบใจ
“ภาขอให้ผมตั้งชื่อให้ลูก...ผมคิดชื่อออกแล้วนะ ไม่ว่าเขาจะเกิดมาเป็นชายหรือหญิง ผมจะตั้งชื่อว่า....“เติมใจ”...เขาจะมาเติมใจ..เติมความสุขให้ชีวิตภา คุณว่าชื่อนี้เพราะไหม”
สุตาภัญพยักหน้ารับทั้งน้ำตา ร้องไห้เป็นห่วงสุรัมภามาก
บรรยากาศที่คฤหาสน์ณวัตรมาคุสุดๆ ชนิกานต์เข้ามาเย้ยกัณฐิกา
“ขอแสดงความเสียใจ ที่ฝันของแกพังลงแล้ว..สุดท้ายแกก็ไม่เหลืออะไร มันเป็นผลกรรมที่แกทำร้ายฉัน”
“ยัยนิกกี้!”
กัณฐิกาโกรธจะเข้ามาตบชนิกานต์ ณวัตรปราดเข้ามาดันตัวไว้ แล้วตบหน้ากัณฐิกา
“หยุดทำร้ายลูกสาวฉัน ออกไปซะ!”
“อย่าเพิ่งไป...อยู่ดูของขวัญที่ฉันจะมอบให้ลูกสาวเธอ”
ชนิกานต์หยิบกล่องของขวัญ เปิดฝาออก แล้วยกปืนขึ้นมา
ธีรดนย์ตกใจ “นิกกี้ เธอจะทำอะไร”
ชนิกานต์เล็งปืนไปที่ธีรดนย์ แล้วเบี่ยงไปหากฤติยา
“ฉันไม่ยอมให้ใครแย่งธี”
“นิกกี้ฟังฉันก่อน...เราสองคนตัดสินใจจะยกเลิกการแต่งงาน” กฤติยาอธิบาย
ชนิกานต์ไม่เชื่อ “ไม่จริง! ฉันไม่เชื่อ!”
กัณฐิกาเป็นห่วงกฤติยา รีบบอกชนิกานต์
“ลูกฉันพูดความจริง”
“ฉันไม่เชื่อพวกแกอีกแล้ว! พวกแกสุมหัวโกหกมาตลอด!”
“นิกกี้เอาปืนมาให้พ่อ”
“คุณพ่อออกไป...มันเป็นเรื่องระหว่างนิกกี้กับมัน!”
ชนิกานต์เล็งปืนไปที่กฤติยาเขม็ง กฤติยาตกใจ ธีรดนย์คุมสติเข้ามาเกลี้ยกล่อมชนิกานต์
“นิกกี้...เธอต้องเชื่อฉัน จะไม่มีงานแต่งเกิดขึ้น”
“นายโกหกฉันเพื่อปกป้องมัน”
“นิกกี้เอาปืนให้ฉัน..เธอรักฉัน เธอต้องเชื่อใจฉัน”
“ฉันรักเธอ แล้วฉันต้องสูญเสียเธอย่างนั้นเหรอ”
“ฉันจะรับผิดชอบลูกของเรา...ฉันจะดูแลเธอ”
ธีรดนย์เดินเข้ามาหาชนิกานต์ช้าๆ ชนิกานต์สับสน ลังเล ว้าวุ่นใจหนัก
“ไม่จริง นายอยากช่วยมัน นายรักมัน”
ที่สุดชนิกานต์ไม่เชื่อใจ จะยิงกฤติยา ธีรดนย์พุ่งเข้ามาแย่งปืน
“เอาปืนมาให้ฉัน”
ชนิกานต์ยื้อแย่งปืนไว้
“ฉันเกลียดมัน ฉันจะฆ่ามัน!”
ธีรดนย์เข้าไปแย่งปืนกับชนิกานต์ จังหวะหนึ่งเสียงปืนดังปัง!
กฤติยา กัณฐิกา และณวัตรตกตะลึง ชนิกานต์ถอยห่างจากธีรดนย์ แล้วทรุดตัวลง
ณวัตรตกใจคิดว่าชนิกานต์ถูกยิง
จังหวะนั้นเองร่างธีรดนย์ล้มลงกับพื้น
“ธี”
กฤติยา กัณฐิกา และณวัตรตกใจเมื่อกลายเป็นธีรดนย์ที่ถูกยิง ชนิกานต์ได้สติรีบวิ่งเข้าไปกอดร่างธีรดนย์ไว้
“ธี...”
กัณฐิกาเดินเข้ามาจับมือกฤติยา มองไปยังร่างธีรดนย์ในอ้อมกอดชนิกานต์ อย่างหดหู่ใจ
ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 20 อวสาน (ต่อ)
ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก หมอเดินออกมา สุทินและเสาวนิตย์ถลาเข้าไปถาม ชนกชนม์และสุตาภัญตามเข้าไปฟังผล
“ลูกสาวผมเป็นยังไงครับ?”
“เธอกับเด็กในท้อง...ปลอดภัยครับ” หมอบอก
ชนกชนม์และสุตาภัญโล่งอก ดีใจมาก
สุทินและเสาวนิตย์ดีใจมาก เสาวนิตย์ยกมือไหว้หมอ
“ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณนะคะ”
สุตาภัญร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ ชนกชนม์เข้ามายืนกุมมือสุตาภัญ
ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ของชนกชนม์ดังขึ้น ชนกชนม์รับสาย นิ่งฟังอย่างตกใจ
“อะไรนะ? ธี”
สุตาภัญแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ชนิกานต์กอดร่างธีรดนย์ที่เลือดโทรมกาย ร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ธี ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายนาย..ยกโทษให้ฉันด้วย”
ธีรดนย์มองหน้าบอกชนิกานต์ “ฉันไม่โกรธเธอ ฉันเองทำผิดกับเธอไว้มาก...เธอให้อภัยฉันได้ไหม”
“ฉันให้อภัยนายได้เสมอ เพราะฉันรักนาย...ธี..บอกฉันได้ไหม...ทำไมนายถึงไม่รักฉันบ้าง”
ธีรดนย์ตัดสินใจสารภาพความในใจ
“ฉันเก็บความแค้นที่เธอเคยกดขี่ทำร้ายความรู้สึกฉัน ทำร้ายแม่ฉัน ฉันเกลียดเธอจนไม่อาจยอมรับความรักของเธอได้ ฉันมันโง่...ก่อกำแพงความเกลียดชังด้วยใจของฉันเอง...จนไม่เห็นความรักของเธอ ในวันที่รู้ความจริง...มันก็สายไปแล้ว”
ชนิกานต์จับมือธีรดนย์ร้องไห้โฮ
ชนกชนม์และสุตาภัญเข้ามาเห็นธีรดนย์ ก็ตกใจ
“ธี...”
สุตาภัญและชนกชนม์เข้ามา ธีรดนย์ยิ้มให้ทั้งสองคน
“ตา....ชนม์”
“นายไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พวกเราจะช่วยพานายส่งโรงพยาบาล”
ธีรดนย์หันไปบอกสุตาภัญ “อโหสิกรรมให้เพื่อนที่เห็นแก่ตัวคนนี้ อย่าโกรธอย่าเกลียดผมนะ”
“ตาไม่เคยเกลียดธี ธีเป็นเพื่อนของตา ไม่ว่าเราจะทะเลาะผิดใจกันแค่ไหน ไม่มีอะไรมาทำลายความเป็นเพื่อนรักของเราได้”
ธีรดนย์ยิ้มให้ แล้วหันไปบอกชนกชนม์
“ชนม์...เหลือนายเป็นผู้ชายคนเดียวในกลุ่มของเรา...ฉันฝากนายเป็นองครักษ์พิทักษ์ตา ดูแลแอน และช่วยเหลือนิกกี้ด้วย...นิกกี้คือแฟนของฉัน”
ชนิกานต์ได้ฟังน้ำตาไหลพราก
“นายต้องดูแลนิกกี้ให้ดีที่สุด สัญญากับฉันเพื่อนรัก”
“ฉันไม่สัญญา...ฉันจะไม่ดูแลไม่สนใจนิกกี้.....มันเป็นหน้าที่ของนาย นายเป็นแฟนก็ต้องดูแลแฟนสิเพื่อน”
ธีรดนย์ยิ้มให้ รู้ดีว่าชนกชนม์พูดให้กำลังใจตน ธีรดนย์หันไปบอกชนิกานต์
“นิกกี้...เธอรักฉันมากแค่ไหน เธอต้องรักลูกมากเท่านั้น เขาเป็นตัวแทนฉัน เป็นสายเลือดของเรา แล้วที่สำคัญ เธอต้องสอนให้เขารู้จักความรัก...รักตัวเอง รักคนอื่นให้มาก อย่าให้เขาทำผิดพลาดเหมือนฉัน”
ชนิกานต์ฟังไปร้องไห้ไป ธีรดนย์ยิ้มให้ชนิกานต์ แล้วเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ชนิกานต์
“หยุดร้องไห้ได้แล้ว...โตเป็นคุณแม่ต้องเข้มแข็ง...ฉันไม่อยู่เช็ดน้ำตาให้เธออีกแล้วนะ”
ชนิกานต์จับมือธีรดนย์แน่น “นายไง นายจะเช็ดน้ำตาให้ฉัน...ทุกครั้งที่ฉันร้องไห้”
ชนิกานต์พูดไม่ทันจบ ธีรดนย์ยิ้มแล้วค่อยๆ หลับตาลง ชนิกานต์ตกใจ เห็นมือธีรดนย์ตกลง
“ธี...”
ชนิกานต์ตะโกนสุดเสียงฟุบกอดธีรดนย์ร้องไห้โฮ สุตาภัญเสียใจ ชนกชนม์กอดปลอบใจสุตาภัญ กฤติยาร้องไห้ด้วยความสะเทือนใจ กัณฐิกาปลอบใจ
ณวัตรเสียใจที่เป็นส่วนหนึ่งของความผิดพลาดในครั้งนี้ และทำให้ธีรดนย์ต้องตาย
ไม่นานต่อมา รถตำรวจหนึ่งคันเปิดไซเรนวิ่งเข้ามาในบริเวณบ้าน ประตูรถเปิดออก ตำรวจก้าวลงจากรถ เดินเข้าไปในคฤหาสน์
ชนิกานต์กอดร่างธีรดนย์ ร้องไห้ฟูมฟาย และตกใจที่ได้ยินเสียงไซเรนตำรวจ ณวัตรเดินเข้ามาหาชนิกานต์
“ส่งปืนมาให้พ่อ”
ชนิกานต์ตกใจที่ณวัตรเลือกจะยอมรับผิดแทนตน
“ทุกอย่างเกิดจากน้ำมือพ่อ พ่อทำลายความสุขของลูก ทำร้ายความรู้สึกธีรดนย์มาตลอด...ถึงเวลาที่พ่อต้องชดใช้...คนที่ฆ่าธีรดนย์คือพ่อ”
ณวัตรเข้ามาโอบกอดชนิกานต์ ยอมรับผิดแทนว่าเป็นคนฆ่าธีรดนย์
“คุณพ่อ”
ณวัตรกอดชนิกานต์ ร้องไห้ด้วยกัน
ตำรวจเข้ามายืนมองที่มุมหนึ่ง ชนกชนม์และสุตาภัญสะเทือนใจ และตื้นตันกับความรักที่พ่อเสียสละเพื่อลูก กัณฐิกาและกฤติยา เศร้าและเสียใจมากเช่นกัน
เช้าวันหนึ่ง สองคนมาทำบุญให้ธีรดนย์ที่วัดแห่งหนึ่ง พระกำลังสวดมนต์ สุตาภัญและชนกชนม์นั่งกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลให้ธีรดนย์
ส่วนที่คฤหาสน์ณวัตร บรรยากาศหดหู่เศร้าหมอง ชนิกานต์แต่งชุดดำนั่งมองภาพธีรดนย์
กัณฐิกาเดินออกมาชนิกานต์หันไปมอง
“ไม่ต้องยิ้มเย้ยฉัน ฉันไม่ได้แพ้เธอ ที่นี่มันไม่เหมาะกับฉัน ฉันจะไปอยู่กับคนที่รักฉัน รักฉันจริงๆ”
ณวัตรเดินเข้ามา...กัณฐิกาหันไปบอกณวัตร
“กัณขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ ที่คุณมอบให้กัณ...คุณดูแลตัวเองด้วย”
ชนิกานต์ลุกขึ้นเดินเข้ามาหา กัณฐิกาแปลกใจ
“ไปแล้วก็ไปให้ดี...ดีกว่าที่นี่”
ชนิกานต์พูดทิ้งท้าย กัณฐิการู้สึกดี ยิ้มให้เล็กน้อย
กัณฐิกาเดินออกไป ชนิกานต์หันไปมองณวัตร ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
“ไม่เอา...” เช็ดน้ำตาให้ “หยุดร้องได้แล้ว...พ่อไม่อยู่ ลูกต้องเข้มแข็งเป็นเสาหลักของครอบครัว ลูกต้องดูแลตัวเองและลูก”
ชนิกานต์โผเข้ากอดณวัตรน้ำตายนองหน้า ระหว่างนั้นตำรวจเดินเข้ามา
“ขอเชิญคุณณวัตรครับ”
ชนิกานต์ตกใจ “คุณพ่อ”
ณวัตรยิ้มให้ชนิกานต์ “พ่อรักลูก”
ตำรวจเข้ามาคุมตัวณวัตรเดินออกไป ชนิกานต์โผเข้ากอดณวัตรอีกครั้ง
“นิกกี้รักคุณพ่อค่ะ”
ณวัตรยิ้มอำลาชนิกานต์ ตำรวจควบคุมตัวณวัตรออกไป
ติดตาม "ลูกไม้หลากสี"ตอนที่ 20 อวสาน (ต่อ) เวลา 17.00 น.
ขณะเดียวกันชลนิภาหายป่วยกลับบมาทำงาน กำลังเดินเข้ามาในบริษัท และต้องแปลกใจมากที่เจอพนักงานที่ลาออก กลับมานั่งทำงานกันพร้อมหน้า
พนักงานไหว้ พร้อมกับทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีค่ะคุณชลนิภา” / “สวัสดีครับ คุณชลนิภา”
ชลนิภาหน้าตึงนิดๆ “พวกเธอกลับมาทำไม ฉันไล่พวกเธอไปหมดแล้ว”
พนักงานชายบอกแทนคนอื่น “เราไม่ได้มาทำงานให้คุณครับ เรามาทำงานให้ประธานคนใหม่”
ชลนิภาแปลกใจ แต่คิดว่าเป็นสามี “คุณธนกร”
พนักงานหญิงบอก “ไม่ใช่ค่ะ เราหมายถึงคุณชนกชนม์”
ชลนิภายิ่งประหลาดใจ เดินฉับๆ ไปที่ห้องทำงานทันที
ชลนิภาผลักประตูห้องเข้ามาเจอกับธนกร ชลนิภามองหาชนกชนม์
“ฉันไม่เข้าใจที่พนักงานพูดถึงชนกชนม์”
“ผมแต่งตั้งให้ชนกชนม์เป็นประธานกรรมการบริษัท”
ชลนิภาหน้าตึง ไม่พอใจนัก “คุณ”
ธนกรบอกด้วยสุ้มเสียงอ่อนโยน “ถึงเวลาที่คุณควรจะรู้สักทีว่าลูกที่คนเกลียดชัง....ช่วยอะไรคุณไว้บ้าง”
ชลนิภาฉงน และอยากรู้มาก ธนกรตัดสินใจเล่าความจริงให้ชลนิภารู้
“ตั้งแต่คุณป่วยไม่สบาย ชนกชนม์นี่แหละที่คอยดูแลคุณ”
ภาพเหตุการณ์ที่ชนกชนม์คอยเข้ามาดูแลชลนิภาผุดขึ้นมาประกอบเสียงเล่าของธนกร
“บริษัทมีปัญหา...ชนม์ก็ช่วยเหลือ”
ภาพเหตุการณ์ที่ชนกชนม์สาละวน เอาแบบมาส่งให้พนักงานผุดขึ้นมาอีก
“แล้วที่สำคัญ ชนม์เป็นคนขอร้องผม ให้ผมกลับมาอยู่ดูแลคุณ”
ชลนิภายิ่งแปลกใจ
“ทุกลมหายใจของเขา ห่วงใยคุณ...แทบจะไม่คิดถึงตัวเองเลย คุณยังจะเกลียดเขาลงอีกเหรอ”
ชลนิภารู้ความจริงทั้งหมดก็สะท้อนใจ รู้สึกผิด และเสียใจกับสิ่งต่างๆ ที่ทำร้ายชนกชนม์
“เขาอยู่ไหน..ฉันอยากเจอเขา”
ชลนิภาขอบตาร้อนผ่าว พูดออกมาเสียงสั่น อย่างเต็มตื้น
ด้านชนกชนม์เดินเข้ามาที่ในคฤหาสน์ หยุดยืนที่กรอบรูปชลนิภา ตรงชั้นวาง ชนกชนม์หยิบภาพขึ้นมา
“คุณชนม์กลับมาอยู่ด้วยกันเถอะค่ะ” แป๋วยืนอ้อนอยู่ข้างๆ
“ไม่ล่ะ..ฉันแค่แวะมาเอารูปคุณแม่...ไปเป็นกำลังใจ”
ชนกชนม์ เห็นชลนิภาเดินเข้ามา ก็ชะงัก
“คุณแม่”
แป๋วกลัวระเบิดลง รีบชิ่งหลบไปที่ดูเหตุการณ์อยู่มุมหนึ่ง
“ฉันไม่อนุญาตให้เธอเอารูปฉันไป.....วางรูปไว้ที่เดิม” ชลนิภาบอกเสียงแข็ง
ชนกชนม์ใจหล่นวูบ “คุณแม่คงจะเกลียดผมมาก แม้แต่รูป ก็ไม่อยากให้ผม”
ชนกชนม์วางกรอบรูปลง แล้วจะเดินออกไป
“เธอจะไปไหน? ว่านิดว่าหน่อยก็จะหนีฉัน...แล้วก็เลิกทำตัวเป็นคนดี ปิดทองหลังพระ ทำโน่นทำนี่ไม่บอกฉัน...ทำอย่างนั้นฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเธอทำอะไรให้ฉันบ้าง”
ชนกชนม์ตกใจที่ชลนิภารู้ความจริง “คุณแม่”
“ฉันรู้ความจริงหมดแล้ว ให้อภัยฉัน....รักฉันก็กลับมาอยู่กับฉัน”
ชนกชนม์ตื้นตัน
“กลับมาอยู่กับแม่”
ชนกชนม์ อึ้ง ดีใจมาก แต่ยังยืนแข็งทื่อ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากชลนิภา
“หรือต้องให้ฉันคุกเข่าขอร้อง... เธอถึงจะยอม”
ชลนิภาทำท่าคุกเข่าลง ชนกชนม์ตกใจรีบก้มลงประกอด
“อย่าครับ ขอแค่คุณแม่บอกให้ผมกลับมา ผมก็พร้อมจะอยู่กับคุณแม่”
ชลนิภามองหน้าชนกชนม์ พูดบอกลูกชายด้วยสุ้มเสียงอันอ่อนโยน “กลับมาอยู่บ้านของเรานะลูก”
ชนกชนม์ตื้นตันใจ “ผมรอฟังคำนี้มานานแล้วครับ ผมจะกลับมาอยู่บ้าน อยู่กับคุณแม่”
ชลนิภาอ้าแขนโผเข้ากอดลูกชายอย่างเต็มรัก ชนกชนม์กอดชลนิภาร้องไห้โฮอย่างตื่นตันใจ ความน้อยใจ เสียใจ มลายไปจนหมดสิ้น
ธนกรยืนมองอยู่ที่มุมหนึ่ง พาลน้ำตาไหลรินออกมาด้วยความปลาบปลื้ม ซาบซึ้งใจตาม ที่ทั้งสองแม่ลูกปรับความเข้าใจกันได้
วันเวลาผ่านไป ทุกชีวิตยังคงดุ่มเดินไปตามครรลองบนบาทวิถีของตน
เช้าวันนี้ สุทินสั่งเสาวนิตย์ที่กำลังง่วนเตรียมของอยู่ด้วยน้ำเสียงสดใส ท่าทีตื่นเต้นสุดๆ
“คุณเตรียมของพร้อมรึยัง พรุ่งนี้ถึงกำหนดลูกภาคลอดแล้ว”
“ฉันจัดของเสร็จแล้วค่ะ”
“คุณลองเช็คดูอีกที ขาดอะไรอีกรึเปล่า”
“คุณให้ฉันเช็คดูหลายรอบแล้วนะคะ”
สุตาภัญเดินยิ้มเข้ามาบอกแม่
“อย่าว่าคุณพ่อเลยค่ะ คุณพ่อตื่นเต้นเป็นคุณตามือใหม่”
พร้อมกันนั้น สุตาภัญเข้าไปโอบเอวแซวสุทิน ทุกคนหัวเราะ ยิ้มหัวด้วยกันอย่างมีความสุข
ชนกชนม์เดินเข้ามาในบ้าน ยกมือไหว้สุทินและเสาวนิตย์ สุตาภัญมองลุ้นอาการว่าสุทินจะว่ายังไง
“ขอบใจนายมากที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อลูกตา แล้วก็ขอบใจที่ช่วยรับดูแลลูกภา”
ชนกชนม์ยิ้มปลื้ม “คุณอายอมรับผมเป็นสมาชิกคนหนึ่งของบ้านได้ไหมครับ”
สุรัมภาซึ่งอยู่ในสภาพท้องโย้เต็มที คอยฟังว่าสุทินตอบอย่างไร
“ใจฉันอยากปฎิเสธ แต่ทำไงได้...ลูกฉันเลือกนาย...นายแน่ใจว่าต้องการดูแลสุรัมภา”
สุทินถามย้ำให้แน่ใจ เพราะรู้ดีว่าชนกชนม์รักใคร่มีใจให้กับสุตาภัญ
ชนกชนม์หันไปมองสุตาภัญ แล้วหันมาตอบสุทิน
“ครับ”
สุรัมภาเห็นท่าทีของชนกชนม์ที่มีต่อสุตาภัญ สุรัมภาคิดอะไรบางอย่าง แล้วเดินขึ้นห้องไป พอเข้าห้องมา สุรัมภารู้สึกสับสนอย่างหนัก ถอดสร้อยของชนกชนม์มามอง นิ่งคิดตัดสินใจ
ชนกชนม์ยืนคุยอยู่กับสุตาภัญที่มุมหนึ่งในบ้าน
“นายบอกเรื่องนี้กับคุณแม่นายรึยัง”
“ยังไม่ได้คุยกัน แต่ฉันเชื่อว่าคุณแม่คงยินดีให้ฉันดูแลภา”
จู่ๆ ชลนิภาเดินเข้ามาหาในบ้าน สุตาภัญเห็นก็ตกใจ
“คุณอา...”
ชนกชนม์แปลกใจ “คุณแม่มาที่นี่ มีธุระอะไรครับ”
“แม่มีเรื่องต้องคุยกับหนูสุตาภัญ และคุณพ่อคุณแม่”
สุทินและเสาวนิตย์เดินออกมาพอดี สุทินพูดเสียงแข็งใส่
“ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ”
เสาวนิตย์ปรามสุทิน “คุณคะ ใจเย็นๆ ก่อน”
“ฉันขอเวลาให้ฉันได้พูดในสิ่งที่ควรพูด ทำในสิ่งที่ควรทำ”
สุตาภัญ สุทิน และเสาวนิตย์ รวมทั้งชนกชนม์แปลกใจ
ชลนิภาหันมาทางสุตาภัญ “หนูสุตาภัญ ฉันขอโทษที่เคยพูดจาไม่ดี และให้ร้าย หนูเป็นเพื่อนที่ดีและเป็นกำลังใจในยามที่เขาไม่มีใคร ฉันขอบใจ ขอบใจหนูจริงๆ”
ชลนิภาขอโทษสุตาภัญทั้งน้ำตา สุตาภัญซาบซึ้งใจ ยกมือไหว้ชลนิภา
“ตาก็ขอโทษคุณน้าที่พูดจาก้าวร้าวค่ะ”
ชลนิภาและสุตาภัญยิ้มให้กัน
จากนั้นชลนิภาหันมาบอกสุทินและเสาวนิตย์
“ฉันขอโทษที่ทำร้ายความรู้สึกของครอบครัวคุณ ไม่ให้เกียรติพวกคุณ ยกโทษให้ฉันด้วย”
ชลนิภายกมือไหว้ขอโทษสุทินและเสาวนิตย์จากหัวใจ เสาวนิตย์รับไหว้ พร้อมให้อภัย ชลนิภามองไปยังสุทิน ในที่สุดสุทินก็ยอมรับไหว้
“กลับไปได้แล้ว!”
ชลนิภาบอกต่อ “ฉันขอรับผิดที่ชยางกูรได้ล่วงเกินลูกสาวคุณ ฉันพร้อมจะรับสุรัมภาและหลานไปดูแล”
“ไม่ต้อง ผมดูแลลูกสาวผมได้ เราไม่ใช้ลูกสาวหากิน”
“แต่เด็กในท้องเป็นหลานของฉัน ฉันเป็นย่าของเขา เขาเป็นเชื้อสายของฉัน ขอโอกาสให้ฉันดูแลหลานนะคะ”
ชลนิภาร้องไห้ขอร้องวิงวอนสุทิน ทุกคนต่างลุ้นว่าสุทินจะยอมใจอ่อนเรื่องนี้หรือไม่
ด้านสุรัมภามองสร้อยของชนกชนม์ คิดตัดสินใจบางอย่าง แล้วรู้สึกปวดท้อง
“คุณพ่อคุณแม่คะ..ภา”
สุรัมภาปวดท้องจะคลอด สร้อยตกจากมือสุรัมภา ร้องเรียกขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วยค่ะ!”
ทุกคนได้ยินเสียงร้องของสุรัมภาดังมาจากชั้นบน สุตาภัญตกใจ
“ภา”
“ภาคงปวดท้องจะคลอดลูกครับ”
“รีบพาลูกไปโรงพยาบาล!”
ทุกคนรีบกรูเข้าไปดูสุรัมภา
ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 20 อวสาน (ต่อ)
ขณะเดียวกันชยางกูรยืนนิ่งมองไปยังโบสถ์ในวัดแห่งหนึ่ง ด้วยท่าทีสงบอย่างคนรู้ซึ้งชั่วดี และสำนึกผิด ชยางกูรยกมือขึ้นไหว้ แต่ปรากฏว่าเขายกมือได้ข้างเดียว ที่แท้แขนอีกข้างพิการเพราะโดนปรัชญายิงนั่นเอง
ระหว่างนั้นรถสายตรวจวิ่งผ่านมา ชยางกูรกลัวถูกจับ รีบวิ่งหนีไป จึงเผยให้เห็นอีกว่าชยางกูรขาเป๋!
ชยางกูรเดินหนีด้วยความลำบาก ต้องคอยหลบหลีกหนีตำรวจ ตำรวจที่ตามไล่ล่าชยางกูร ขับรถผ่านไป
ชยางกูรมองสภาพร่างกายที่พิการ...น้ำตาไหลริน นิ่งคิดตัดสินใจอะไรบางอย่าง
วันเวลาผ่านไปอีก
ที่บ้านของสุทินวันนี้ ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ สุรัมภาอุ้มลูกชายตัวน้อยไว้ในอ้อมอกอย่างรักใคร่และทะนุถนอม สุตาภัญเห็นแล้วยิ้มสุขใจ
“หลานใครน้อน่ารักน่าชังที่สุด”
“บอกไปสิครับ ว่าเป็นหลานคุณตาสุทิน”
เสาวนิตย์ท้วง “หลานยายต่างหาก ผิวขาวเหมือนคุณยาย....ใช่มั้ยครับ”
“หลานใครไม่รู้... แต่เป็นลูกภาค่ะ....
“คุณพ่อยังไม่มาอีกเหรอ” สุตาภัญหมายถึงชนกชนม์
สุรัมภาอึ้งไปนิดหนึ่ง สุตาภัญรีบอธิบาย
“พี่หมายถึงชนม์น่ะ”
“พี่ชนม์โทร.บอกว่ากำลังออกมาแล้วค่ะ”
สุตาภัญยิ้มให้น้อง รอชนกชนม์ที่จะมาเยี่ยมลูกชายของคุณแม่วัยทีน
ด้านชนกชนม์เดินนำชลนิภาและธนกร เพื่อไปเยี่ยมลูกสุรัมภา
“คุณธนกรเร็วๆ หลานฉันอยากเจอหน้าคุณย่าแล้ว” ชลนิภาเร่ง
ธนกรเลยแซวเอา “ตื่นเต้นเหลือเกินนะครับ คุณย่าป้ายแดง”
ชนกชนม์เดินนำออกมา เจอชยางกูรยืนรออยู่ สภาพทรุดโทรม ทุกคนตกใจ
“กูร”
ชยางกูรยิ้มให้ แล้วค่อยๆ เดินเข้ามาหาอาการขาเป๋ ทุกคนตกใจ ชยางกูรเข้ามายกมือไหว้ ไหว้ได้ข้างเดียว
“สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่”
ทุกคนยิ่งตกใจที่ชยางกูรแขนพิการหนึ่งข้าง ชยางกูรมองแขนขา ยอมรับสภาพ
“ลูกกูร” ชลนิภาใจจะขาด สงสารลูกชายจับใจ
“อย่าเสียใจเลยครับ มันคงเป็นกรรมที่ผมทำไว้... ผมมาที่นี่ ผมตัดสินใจแล้วครับ...ผมอยากเป็นลูกของคุณพ่อคุณแม่”
ชลนิภาฉงน “ลูกหมายถึงอะไร”
“ผมอยากขอโทษคุณพ่อแม่...ขอโทษพี่ชนม์”
ว่าแล้วชยางกูรนั่งคุกเข่า ต่อหน้าชลนิภา ธนกร และ ชนกชนม์ 3 คนที่เขาทำเลวใส่
“สิ่งที่ผมทำกับทุกคน มันเลวร้ายเกินให้อภัย...แต่ผมก็อยากขอให้ทุกคน..ให้โอกาสผม...ผมจะมอบตัว...ไม่ว่าจะติดคุกนานแค่ไหน ผมก็จะอดทน รอคอยวันที่ได้ออกมาเป็นอิสระ...อย่างน้อยผมก็รู้ว่ายังมีคนที่รักผม....รอผมอยู่”
ชยางกูรก้มลงกราบทุกคนอย่างทุลักทุเล ชลนิภาร้องไห้ เข้าไปโอบกอดชยางกูร
“แม่ให้อภัยลูกได้เสมอ”
“ทำผิดยอมรับผิด....ลูกเป็นลูกของพ่อ” ธนกรบอก
“เราเป็นพี่น้องกัน ก็ต้องรักกัน” ชนกชนม์ว่า
ชลนิภา ธนกรและชนกชนม์โอบกอดชยางกูร ดีใจที่ชยางกูรสำนึกผิด
จู่ๆ ตำรวจเดินเข้ามา ชยางกูรลุกขึ้น หันกลับมาหาตำรวจ
“ขอเวลาผมสักครู่ครับ”
ชนกชนม์ฉงนว่าชยางกูรจะทำอะไร
ไม่นานต่อมา ขณะที่สุรัมภาอุ้มลูกชายตัวน้อยอยู่กับอก ได้ยินเสียงกริ่ง สุตาภัญ สุทิน และเสาวนิตย์เดินออกมา แปลกใจว่าใครมา แท้เป็นชยางกูรเดินลากขาเข้ามาหา
“ชยางกูร...” สุรัมภาแปลกใจ
“นายมาทำไม? ฉันอยากฆ่านายนัก”
สุทินจะเข้าไปทำร้ายชยางกูร..เสาวนิตย์ปรามไว้ ชยางกูรนั่งลง คุกเข่าตรงหน้าสุทินและเสาวนิตย์ พนมมือไหว้ได้ข้างเดียว
“ผมขอโทษ ที่ทำร้ายความสุขในครอบครัวของคุณอา ทำลายชีวิตลูกสาวคุณอา...ผมขอโทษครับ”
ชยางกูรน้ำตานองหน้า ก้มลงกราบเท้าสุทินและเสาวนิตย์ สุตาภัญและสุรัมภาแปลกใจที่ชยางกูรสำนึกผิดแล้ว ชยางกูรขอร้องสุทินและเสาวนิตย์
“ให้อภัยผมด้วยครับ...ผมพร้อมรับโทษความผิดที่ผมทำ”
เมื่อเห็นตำรวจเดินเข้ามาที่มุมหนึ่ง สุทินและเสาวนิตย์จึงรู้ว่าชยางกูรคิดมอบตัว สุทินและเสาวนิตย์พยักหน้าให้อภัย ชยางกูรฝืนลุกขึ้น แล้วเข้ามามองหน้าลูก บอกสุรัมภา
“แกน่ารักมากนะ....โตขึ้น..สอนให้เป็นคนดี คนเก่ง...อย่าบอกว่าเป็นลูกของฉัน...อย่าให้ฉันไปทำลายชีวิตแกเลย”
ชยางกูรยิ้มให้สุรัมภา แล้วเดินออกไป ตำรวจเดินเข้ามาใส่กุญแจมือ แล้วพาชยางกูรออกไปขึ้นรถที่หน้าบ้าน
สุตาภัญเข้าไปโอบกอดสุรัมภา ให้กำลังใจน้อง สุทินและเสาวนิตย์ก็ดีใจที่ทุกคนได้ให้อภัยแก่กัน
วันเวลาผ่านไป เมฆหมอกแห่งความชั่วร้ายผ่านพ้นไปจากชีวิต ของเหล่าลูกไม้
วันนี้ชนกชนม์ เดินนำชลนิภาและธนกรเดินเข้ามาในบ้านสุทิน มีแป๋วตามหลังมา เห็นสุทินอุ้มเด็กชายตัวน้อยไว้ในมือ เสาวนิตย์เดินเข้ามาแซว
“เห่อหลานไม่วางมือเลยนะคะ ให้คนอื่นได้ชื่นชมบ้างสิคะ
เสาวนิตย์มองไปยังชลนิภาที่ยืนมองที่มุมหนึ่ง โดยมีธนกรยืนอยู่ข้างๆ แป๋วอยู่ด้านหลัง
ทุกคนมองลุ้นว่าสุทินจะยอมหรือไม่ ในที่สุดสุทินอุ้มเด็ก ส่งให้กับมือชลนิภา
“ไปหาคุณย่านะครับ”
ชลนิภารับหลานชานมาด้วย กอดด้วยความดีใจที่สุทินให้อภัยตนแล้ว
ชลนิภามองดูหลาน ธนกรเดินเข้ามา เอาสร้อยจี้เพชรรูปหัวใจสวมรับขวัญหลาน
“ของขวัญสำหรับหลานของปู่ครับ”
ระหว่างนั้นวีรภัทร นัชชาและนิธิเดินเข้ามา เสียงวีรภัทรดังขึ้น
“อย่าลืมปู่วีรภัทรนะครับ”
ทุกคนหันไปมอง เห็นวีรภัทร นัชชา และนิธิเดินเข้ามา พร้อมของขวัญมามอบรับขวัญหลาน ชลนิภาหันไปยิ้มให้นัชชาอย่างจริงใจ นัชชาถือโอกาสมอบของให้ชลนิภา
“ของขวัญรับขวัญหลานค่ะ”
ชลนิภายิ้มขอบคุณ “ขอบคุณนะคะ”
ธนกรรับของแทนชลนิภา ชนกชนม์มองภาพด้วยความสุข ที่ทุกคนกลับมารักกัน สุตาภัญหันไปยิ้มดีใจกับชนกชนม์ ชลนิภาอุ้มหลานมาส่งให้ชนกชนม์
“คุณพ่อมือใหม่ เอาไปคืนให้คุณแม่ได้แล้ว”
ชนกชนม์รับเด็กน้อยมาอุ้ม แล้วเดินตรงไปหาสุรัมภาที่เดินเข้ามา ชนกชนม์ส่งเด็กให้สุรัมภา
“ขอบคุณคุณลุงรึยังครับ” สุรัมภายิ้มบอกเด็กน้อย
ชนกชนม์และสุตาภัญแปลกใจที่สุรัมภาพูดอย่างนั้น
“ขอบใจพี่ชนม์มากนะคะที่ช่วยดูแลภา หลังจากนี้ ภาดูแลลูกได้ มีคุณตา คุณยาย และคุณย่า คุณปู่ ช่วยดูแลแล้ว”
สุรัมภาหันไปมองสุทิน เสาวนิตย์ ชลนิภา ธนกร วีรภัทร นัชชา และนิธิ
ก่อนจะบอกเสาวนิตย์อย่างรู้กัน “คุณแม่คะ”
เสาวนิตย์หยิบสร้อยให้สุรัมภา เพื่อคืนให้ชนกชนม์ สุรัมภาเอ่ยขึ้น
“ภาขอคืนค่ะ...ของรักของพี่ชนม์..ต้องมอบให้กับผู้หญิงที่พี่ชนม์รัก”
ชนกชนม์รับสร้อยมา แล้วยิ้มให้สุรัมภา ก่อนจะหันไปมองสุตาภัญ ทำเอาสุตาภัญเขิน
“อยู่กันพร้อมหน้า...เรามาถ่ายรูปครอบครัวดีกว่าค่ะ” สุตาภัญบอก
“แป๋วถ่ายให้ค่ะ”
ทุกคนเข้าไปยืนรวมตัวกัน แป๋วถ่ายรูปให้
“มีความสุขกันอย่างนี้พูดคำว่าแฮ้ปปี้นะคะ หนึ่ง สองสาม” ช่างภาพแป๋วบอก
“แฮ้ปปี้!”
ทุกคนประสานเสียง ยิ้มหัวให้กันถ่ายรูปร่วมกัน กลายเป็นภาพของครอบครัวขนาดใหญ่ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข
อยู่มาวันหนึ่ง ชนกชนม์ สุตาภัญ แวะมาหาชนิกานต์ 3 คนนั่งรวมตัวคุยกันอยู่ที่สระน้ำคฤหาสน์ณวัตร สุตาภัญเอ่ยถามชนิกานต์ขึ้น
“นิกกี้ เธอเป็นไงบ้าง”
“ก็โอเค อยู่คนเดียวมันก็เหงาบ้างไรบ้าง แต่พอคิดถึงหน้าลูกที่จะเกิดมา มันก็อิ่มใจทุกครั้ง...ลูกคนนี้มาเติมเต็มความรักให้ฉัน”
สุตาภัญยิ้มดีใจที่เห็นชนิกานต์มีกำลังใจที่ดี
“ได้ข่าวว่าแอนย้ายออกไป ได้เจอกันบ้างรึเปล่า”
ชนิกานต์ส่ายหน้า จู่ๆ กฤติยาถือถาดใส่ขนมเดินเข้ามา
“นินทาอะไรฉันยัยคุณหนูขี้วีน”
ชนิกานต์ตาโตดีใจมาก “แอน”
“ขอโทษนะ ไม่ได้มาเยี่ยมนาน ช่วงนี้กำลังเปิดร้านขนม”
ชนิกานต์อดถามถึงกัณฐิกาไม่ได้ “แล้วแม่เธอล่ะ”
“ล่าสุดส่งข่าวว่าได้แฟนใหม่เป็นชาวเยอรมัน หวังว่าแม่จะได้เจอใครสักคนที่รักแม่จริง”
“ชีวิตมันไม่ง่ายเลยนะ” ชนิกานต์เอ่ยขึ้นอย่างรู้ซึ้ง
“แต่มันก็ไม่ยาก อยู่ที่เราจะใช้มันยังไง...ถ้าเราอยู่ด้วยความรักโลกนี้ก็สีชมพู” สุตาภัญว่า
ชนกชนม์เสริม “อยู่ด้วยความทุกข์ โลกก็สีดำ”
สุตาภัญเติม “ชีวิตแต่ละคน...หลากอารมณ์หลากสี”
“แม่นางฟ้าเบอร์ฟ้า ของเธอสีอะไร” ชนิกานต์ถามเย้า
สุตาภัญบอก “รักโลกรักสิ่งแวดล้อมอย่างฉัน มันต้องสีเขียว”
ชนกชนม์แหลมขึ้นมา “ของฉันสีรุ้งอ่ะ หลากสีสุดๆ”
“ของฉันสีเทามั้ง...แต่พี่เดช...น่าจะแดง” กฤติยาคิดถึงสุรเดช
“ฉันกับธี...สีเดียวกัน...สีส้ม อมเปรี้ยวอมหวาน” ชนิกานต์บอก
“พูดแล้วคิดถึงธีกับเดช...คิดถึงวันเก่าๆ” ชนกชนม์ว่า
เหล่าลูกไม้หลานสีสันทุกคน ต่างนั่งทวนหวนคิดถึงความสุขในอดีต เป็นภาพที่เขาและเธอได้อยู่ด้วยกัน พร้อมหน้า ร้องเพลง ทำกิจกรรมด้วยกัน บางเหตุการณ์มีสุรเดชผู้ลาลับร่วมแจม
คิดแล้วทุกคนต่างมองหน้ากัน ชนกชนม์บอก
“ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันต่อไป”
สุตาภัญเสริม “อยู่เป็นกำลังใจให้กันและกัน”
ทุกคนมองหน้ากัน แล้วเข้าสวมกอดเป็นกำลังใจให้กัน
ตรงมุมหนึ่งบรรยากาศแสนสวย ทิวทัศน์งดงามร่มรื่น สุตาภัญเดินเข้าไปหาชนกชนม์
“นายจำได้ไหม ครั้งแรกที่เราเจอกัน”
เหตุการณ์ตอนที่สุตาภัญถือช่อดอกกุหลาบจะเข้าผับชนกับชนกชนม์
“นายเข้าใจผิดว่าฉันให้ดอกกุหลาบนาย นี่จะเป็นครั้งแรกที่ฉันให้นายจริงๆ”
สุตาภัญมอบช่อดอกกุหลาบหลากสีที่ซ่อนไว้ให้ชนกชนม์
“ขอบคุณสำหรับเพื่อนร่วมทาง เพื่อนที่แสนดี”
ชนกชนม์ยิ้มแฉ่งรับดอกไม้มา
“ฉันปลูกเองกับมือเลยนะ”
ชนกชนม์มองดอกกุหลาบแล้วนึกได้ “เอ..นี่มันกุหลาบที่ฉันปลูก”
“ฉันช่วยรดน้ำ ฉันก็เป็นเจ้าของ”
ชนกชนม์ส่งดอกไม้คืนให้ “ฉันไม่อยากได้แล้ว”
สุตาภัญรับดอกไม้มาถือไว้...แปลกใจ
“ได้ดอกกุหลาบ ไม่นานก็เหี่ยว แต่ถ้าได้คนช่วยปลูกจะได้ดอกกุหลาบทั้งชีวิต”
“แล้วถ้าฉันอยากได้ดอกรักล่ะ” สุตาภัญบอกเขินๆ
ชนกชนม์ยิ้มให้สุตาภัญ “ก็ต้องให้ฉันไปช่วยปลูก....ต้นรัก”
สุตาภัญยิ้มหวานซึ้งให้ ชนกชนม์หยิบสร้อยมาแล้วเข้ามาสวมคอให้สุตาภัญ
“ชีวิตฉัน จะอยู่กับเธอชั่วชีวิต”
สุตาภัญยิ้ม ชนกชนม์ยื่นหน้ามาจูบเบาๆ ที่แก้มนวล ชนกชนม์ได้ใจจะจูบอีกฟอด สุตาภัญเอาช่อดอกกุหลาบกันไว้
“พ่อฉันสอน...อย่าริรึกในวัยเรียน” สุตาภัญ
“แม่ฉันสอน...อดเปรี้ยวไว้กินหวาน”
ชนกชนม์โอบกอดสุตาภัญ สุตาภัญกอดตอบ สองคนที่ผ่านทุกข์ขม เผชิญเรื่องราวร้อนร้ายและอุปสรรคมากมายในชีวิต ยิ้มให้อย่างมีความสุข
จบบริบูรณ์
โปรดติดตาม "อาญารัก" เร็วๆ นี้