ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 20
พอลูกน้อง 2 คน เข้ามารายงานเรื่องทรรศนะหายตัวไป ครองสุขตกใจตาค้าง ลุกยืนพรวด ถามเร็วปรื๋อ
“อะไรนะ ตานะหายไป หายไปไหน”
ลูกน้องคนแรกเอ่ยขึ้น “ผมเจอกระเป๋าเงินของคุณนะตกอยู่ตรงทางไปน้ำตก”
ครองสุขนิ่งนึก “จอมมันก็ไม่อยู่ด้วย” ในที่สุดก็นึกออก “โทร.เรียกไอ้เจิดไอ้ก้านเดี๋ยวนี้เลย”
ที่ริมน้ำตกเวลานั้น เสี่ยตงเหยียบยอดอกทรรศนะ ด่าทอต่อว่า
“ปลิ้นปล้อนกันทั้งครอบครัว อยากนั่งรถเข็นมากใช่มั้ย ชั้นจะสงเคราะห์ให้”
เสี่ยตงพยายามเล็งปืนไปที่เท้าทรรศนะ
แต่ทรรศนะพลิกตัวรวบขาเสี่ยตงก่อน เสี่ยตงยิงเปรี้ยง ลูกปืนพลาด เสี่ยถลาล้มลงไป
ทรรศนะขึ้นคร่อมเสี่ยตง ยื้อแย่งปืนกัน สองคนกลิ้งอยู่บนพื้น ปืนกระเด็นไป
ทรรศนะแย่งปืนได้ รีบหยิบปืนลุกเล็งใส่เสี่ยตง มือไม้สั่น
เสี่ยตงพยายามลุก เดินงกๆ เงิ่นๆ เข้าหา
“หนีไปซะ อย่าบังคับผม ผมไม่อยากฆ่าคน อย่ากดดันผม” ทรรศนะขึ้นเสียง
“ยิง ยิงเลย แกจะได้ติดคุก ยิงสิ ยิง”
ทรรศนะหลับหู หลับตา เหนี่ยวไกดังปัง ลูกปืนเฉี่ยวขาเสี่ยตงจุดข้างน่อง เลือดไหลเป็นทาง
ปิ่นอนงค์โผล่มาจากด้านหลังตกใจมาก มองทรรศนะที่เดินได้ปกติ ทรรศนะก็ตกใจที่ปิ่นอนงค์จับได้
ปิ่นอนงค์มองเสี่ยตงที่อยู่ข้างหน้าอาการงวยงง จังหวะนั้นใหญ่โผล่มาทางด้านหลังทรรศนะ เอาไม้ฟาดตรงท้ายทอย ทรรศนะทรุดลงไปกองกับพื้น สลบเหมือด
เสียงรถยนต์กระบะของครองสุขและลูกน้องราว 5 คน ดังเข้ามา ใหญ่พูดไปเอาผ้าที่โพกหัว มาพันหน้าพรางตัว
“ปิ่นเร็ว พาเสี่ยหนีไปก่อน รู้นะที่ไหน”
“แล้วคุณใหญ่...”
“ไม่ต้องถาม รีบไป”
ใหญ่พุ่งไปหยิบปืนข้างทรรศนะ มาเหน็บหลัง เห็นชัดว่าใหญ่ก็มีปืนอีกกระบอก แต่ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย
ใหญ่ยืนกระชับไม้มั่นในมือ รถครองสุขวิ่งเข้ามาจอด ครองสุขเห็นทรรศนะร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ
“อ๊าย...” เหล่าสมุน 5 คนกระโดดลงเข้าไปล้อมใหญ่
ใหญ่ตกอยู่ในวงล้อม “จับเป็นมัน ฉันอยากรู้ว่าใครสั่งมันมา”
ครองสุขประกาศกร้าว มาดเจ้าแม่เต็มองค์
ปิ่นอนงค์จับมือเสี่ยตงพาดไหล่ อีกมือจับขอบกางเกงตรงกระเบนเหน็บ พาเสี่ยตงลุยลำธาร ฝ่าพงหญ้าหนีมา
จังหวะต่อมาปิ่นอนงค์ดึงร่างเสี่ยตงให้ข้ามโขดหินและขอนไม้ จนเสี่ยตงทำท่าหมดแรงทิ้งตัวบนพื้น“แข็งใจหน่อย เสี่ยตง เราต้องรีบไป ข้ามภูเขาเล็กๆ ข้างหน้าก็ถึงแล้ว” ปิ่นอนงค์ปลุกปลอบ
“ชั้นเคยคิดร้ายกับเธอกับคุณใหญ่ เคยปล้ำเธอ เคยคิดจะฆ่าพวกเธอ มาช่วยชั้นทำไม” เสี่ยตงสงสัย
“ถือว่าไม่ติดค้างบุญคุณต่อกัน เสี่ยต้องรักษาชีวิตเอาไว้ เพื่อเป็นพยานให้พวกเรา เอาตัวคุณนายมาชดใช้กรรมให้ได้”
“อีคุณนายมันก็ต้องซัดทอดชั้น ชั้นยอมตายดีกว่าติดคุก ชั้นไม่โง่ช่วยพวกเธอหรอก”
ปิ่นอนงค์ส่ายหน้าระอาใจ “ไม่เป็นไร ถึงไม่อยากช่วย แต่ก็ต้องรีบไปด้วยกัน ก่อนที่พวกมันจะตามมาถึง มาค่ะปิ่นช่วย”
ปิ่นอนงค์จับข้อมือเสี่ยตงดึงให้ลุกยืน เตรียมประคอง แต่ร่างเสี่ยตงกลับร่วงทรุดลงไปอีกเสี่ยตงเอามือจับขาตัวเอง เห็นเลือดไหลซึมออกมา ร้องครวญคราง
“ไม่ไหว เจ็บ เจ็บจริงๆ”
ปิ่นอนงค์มองแผล หยิบมีดพกที่ใหญ่ให้ไว้ติดตัวออกมา เสี่ยตงสะดุ้งหน้าเสีย
ปิ่นอนงค์กรีดเสื้อตรงขอบเอวตัดออกมา หยิบผ้าเช็ดหน้า มาพับปิดแผล เอาผ้าที่ตัดมาพันรัดให้เสี่ยอย่างจริงจัง
เสี่ยตงนิ่งมอง ครุ่นคิด อึ้งในใจกับความแสนดี
เหตุการณ์ที่ริมน้ำตกยังตะลุมบอนกันอยู่ โดยใหญ่ซึ่งปิดหน้าปิดตาใช้ไม้เป็นอาวุธ ต่อสู้กับสมุนครองสุขสามสี่กระบวน
เจิดเสียท่าถูกตีสีข้างร่างกระเด็นไป ใหญ่ตีเฉียงกะลำตัว ก้านอาศัยจังหวะที่ใหญ่พัวพันกับเจิด
กระโดดถีบรับที่มือใหญ่ ไม้กระเด็น สมุนคนอื่นเข้าล็อกแขนใหญ่
ใหญ่ดิ้นรนไปติดริมโตรกน้ำตก สมุนถีบขาพับหลังเข่า ใหญ่ทรุดลงคุกเข่า
เจิดย่างสามขุมเข้าหาใหญ่ ขยุ้มผ้าขาวม้าเตรียมจะกระชาก
จังหวะนั้นถวิลซึ่งพรางหน้าเช่นกัน กระโดดถีบเจิดกระเด็น
ใหญ่ถีบตัวเองกระโดดตีลังกาหลัง ลงน้ำมาดอย่างเท่ สมุนครองสุขชักปืน
ถวิลจ้องอยู่เตะมือจนปืนหล่น อีกคนโดนถวิลใช้สันมือสับคอ ทรุดฮวบ
ก้านจ้องอยู่สบโอกาสเตะเสยหน้าถวิลสลบเหมือด ก้านเปิดหน้าถวิลให้ครองสุขดู
“ไอ้หวิน แกเองหรือ” ครองสุขตาค้าง
ไม่นานหลังจากนั้น ครองสุขเอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าทรรศนะไปมา ทรรศนะได้สติจับท้ายทอยหน้าเหยเก
น้อยถือขันน้ำอยู่ ลุ้นฟังถ้อยความ “วางขัน ไสหัวไป นังน้อย” ครองสุขตวาด
น้อยรีบวางขัน วิ่งแจ้นออกไป
“คุณน้าครับ ปิ่นหายไปไหน ปิ่นเป็นอะไรรึเปล่า”
ทรรศนะเหลียวซ้าย แลขวามองหา
“น้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่เห็นมันแม้แต่เงา”
“ปิ่นเค้ารู้ความจริงแล้ว ว่าผมโกหก ผมไม่น่าเชื่อคุณน้าเลย ปิ่นต้องเกลียดผมแน่เลย”
ทรรศนะมองครองสุขงอนๆ นึกถึงตอนที่ครองสุขวางแผนให้แกล้งเดินไม่ได้
วันนั้นที่ห้องคนป่วยโรงพยาบาล ครองสุขก้มโน้มตัว ลูบหัวทรรศนะ กระซิบเบาๆ
“เป็นโอกาสทองของนะแล้ว นะต้องแกล้งทำเป็นเดินไม่ได้ปิ่นมันจะได้สงสาร น้าจะให้มันมาดูแลนะอย่างใกล้ชิด”
ทรรศนะสบตาครองสุข อาการลังเล
ทรรศนะดึงตัวเองกลับมา ยังปัจจุบัน ครองสุข งอน ค้อนทรรศนะ
“น้าหวังดี เห็นนะนอนเจ็บอยู่บนเตียง น่าก็สงสาร อยากให้นะสมหวัง มาโทษน้าอีกแล้ว”
ทรรศนะนึกขึ้นได้รีบลุกนั่ง หน้าตื่น “ไอ้เสี่ย ไอ้เสี่ยตงเป็นคนมาจี้จับผมไป มันบอกจะฆ่าพวกเราแก้แค้น”
ครองสุขตาค้าง “ห๊า...ไอ้เสี่ย มันยังไม่ตายอีกเหรอ ถ้าอย่างนั้น มัน...มันต้อง” ครองสุขครุ่นคิด “เป็นคนจับนังปิ่นไปแหงๆ”
“คุณน้า คุณน้าต้องช่วยตามปิ่นกลับมาให้ผมนะครับ”
ยินเสียงประตูดังเอี๊ยดอ๊าด ครองสุขสะดุ้ง เหลียวขวับ พุ่งไปที่ประตู ประตูเปิด “ใคร อีน้อย แกมาแอบฟังชั้นเหรอ”
ทัศนีย์เข้ามาเผชิญหน้าซึมๆ “นีเองค่ะ คุณน้า นีเป็นห่วงพี่นะ เลยมาเยี่ยม”
ครองสุขมองทัศนีย์ที่เดินเข้าไปหาทรรศนะ เห็นกิริยาแปลกๆ หลายครั้งเข้า ครองสุขชักสงสัยทัศนีย์ขึ้นมาแล้ว
ทัศนีย์เก็บเสื้อผ้าสามสี่ตัวยัดๆๆ ใส่กระเป๋าสะพาย เก็บไปก็บ่นไป
“พี่นะร่วมมือกับคุณน้า เสี่ยตงกลับมาแก้แค้น มันจะฆ่าล้างครัวอยู่นี่ไม่รอดแน่”
ทัศนีย์สะพายกระเป๋า พุ่งไปเปิดประตูห้อง ชะโงกหน้าเหลียวซ้าย แลขวา เห็นว่าทางโล่งปลอดคน
เช้าวันต่อมา จินตนากับเพื่อนหมอหญิงคนหนึ่งอยู่ที่หน้ากระท่อมป้าทอง สองสาวหันไปมองที่ในกระท่อม ในขณะที่จินตนาส่งกระเป๋ายา อุปกรณ์ให้ พลางขอบคุณ
“ขอบใจมากนะเพื่อน”
จินตนาตบไหล่เพื่อนหมอเบาๆ
“รับรองเป็นความลับชั้นสุดยอด” เพื่อนหมอบอกยิ้มๆ
จากนั้นหมอสาว ก็ขึ้นรถ ATV ขับออกไป ปิ่นอนงค์ออกมากระท่อมพอดี
“ขอบใจมากจิน”
“ก็บอกแล้ว เพื่อนต้องช่วยเพื่อน”
จินตนาจับไหล่ปิ่นอนงค์ เมียงมองสำรวจ ปิ่นอนงค์งงๆ
“หมอเค้าทักว่าสีหน้าเธอไม่ปกติว่างๆ ไปให้หมอตรวจร่างกายหน่อยก็ดีนะปิ่น”
“พักนี้ก็เพลียๆ เหมือนกันเราอาจจะเครียดมากไปก็ได้” ปิ่นอนงค์เหลียวดูไปมา “เอ๊ะ...ป่านนี้แล้วทำไมคุณใหญ่ยังไม่มาตามนัดอีก”
จินตนาสะกิดแขน ชี้ไปอีกทาง ปิ่นอนงค์เหลียวมองตาม
เห็นชายชาวบ้านที่เคยปลอมเป็นใหญ่ในวันที่ถูกจอมไล่ล่า โอบเอวประคองใหญ่เข้ามา ตัวเปียกโชก
ถวิลถูกมัดอยู่กับเสาในโรงนาเก็บฟาง สมุนคุมเชิงอยู่ใกล้ๆ
ครองสุขเข้าไปพูดข้างหูถวิล “ถ้าไม่อยากตาย บอกชั้นมาไอ้ตงมันอยู่ที่ไหน มันบอกอะไรแกบ้าง”
ถวิลยิ้มเยาะ “ไม่รู้ อี...”
ครองสุขตบหน้าถวิล ถอยออกมาสั่งสมุน “ซ้อมจนกว่ามันจะพูด”
สมุนตั้งหลักเตรียมตัวซ้อม จอมวิ่งหน้าตื่นเข้ามา ตะโกนก้อง
“เฮ้ย...หยุด ใครแตะต้องพ่อกูก็ยิงกัน”
จอม มองสมุน มองครองสุข “พ่อเธอร่วมมือกับไอ้เสี่ยตงคิดฆ่าตานะ ฉันจำเป็นจะต้องจับตัวไว้เพื่อขอให้นายหวินบอกที่ซ่อนของเสี่ยตง”
จอมอาสา “ผมจะคุยกับพ่อเอง”
ครองสุขยิ้ม “ก็ได้ ฉันเองก็ไม่ได้คิดทำร้ายนายหวินอยู่แล้ว ยังไงก็คนกันเอง”
ว่าพลางครองสุขลูบแผงอกจอมให้ถวิลเห็น “ฉันจะรอคำตอบที่ห้องนอนเหมือนเคยนะจ๊ะจอม”
ครองสุขเดินออกไป เจิด กะก้านตาม ครองสุขชะงักนิดหนึ่ง ส่งสายตาให้สัญญาณสมุนเป็นเชิงบอกให้จัดการเก็บถวิลเสีย!!
ถวิลจ้องหน้าจอมอย่างผิดหวัง
“เอ็งทำไมทำตัวแบบนี้ แค่มาเป็นหมารับใช้มันยังไม่พอยังเอาตัวไปบำรุงบำเรอมัน ไอ้สารเลว เอ็งมันจะทำตัวชั่วไปถึงไหน”
“มันไม่ใช่อย่างที่พ่อเข้าใจ พ่อรีบบอกมาว่าเสี่ยตงมันอยู่ไหน”
“เอ็งไม่ต้องมาถามอะไรข้า ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
“พ่อ ผมอยากจะช่วยพ่อจริงๆ” จอมรำพัน
“เอ็งฆ่าข้าได้เลย ไม่ต้องรอนังคุณนาย เอาเลยสิวะ”
พ่อ ลูก สบตากันเครียด
ในขณะที่ครองสุขนั่งทาเล็บอยู่ในห้องโถง ปิ่นอนงค์เดินกะเผลกเข้ามา ตัวเลอะโคลนไปหมด
ครองสุขชะงัก เงยหน้ามอง
“ดูสารรูปเข้า แกหายไปตะลอนที่ไหนมานังปิ่น ชั้นสั่งให้แกดูแลตานะให้ดี นี่อะไรกันตานะถูกไอ้ตงจับไป ถูกตีสลบไสลมาเกือบตาย”
“ปิ่น...ปิ่นก็ถูกเสี่ยตงจับไปเหมือนกันค่ะ แต่ปิ่นหนีมาได้เพราะเสี่ยตงเจ็บหนัก โดนคุณนะยิง”
ครองสุขลุกไปหา จับแขนปิ่นอนงค์เขย่าๆ “แกแน่ใจนะ ว่าแกไม่ได้โกหกชั้น”
ทรรศนะได้ยินเสียงรีบเข้ามา น้อยตามติด ทรรศนะเอ่ยขึ้น
“จริงๆครับ ผมยิงไอ้เสี่ยตงไปนัดหนึ่ง ไม่รู้ว่าโดนตรงไหน”
ปิ่นอนงค์ไม่ยอมมองหน้าทรรศนะ ยังเคืองเรื่องที่โดนหลอกว่าเดินไม่ได้
“ปิ่นขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
ปิ่นอนงค์กะเผลกจะไป ทรรศนะรีบเข้าประคองแขนโอบเอว ปิ่นอนงค์รีบเบี่ยงตัวออก
“ไม่ต้องค่ะ ให้น้อยพาไปก็ได้ เดี๋ยวคุณนะจะลื่นล้ม เดินไม่ได้อีก”
ทรรศนะเจื่อนจ๋อย น้อยกระโดดแผล็วเข้าไปพยุงปิ่นอนงค์
ทรรศนะมองตามไป ครองสุขเครียด
จอมนำหน้าถวิลมา เดินระแวดระวังมาตรงริมรั้วที่มีต้นไม้ใหญ่รายรอบ
“พ่อหนีไปซะ อย่ากลับมาที่ไร่ไพศาลอีก”
“แล้วเอ็งจะเสียใจ ไอ้ลูกโง่ คุณนายมันเป็นคนใจคด เอารัดเอาเปรียบลูกน้อง เอ็งอยู่ที่ไร่ก็เคยเห็นมาตลอด แล้วทำไมยอมเป็นขี้ข้ามัน”
“พ่อคิดว่าผมมีความสุขที่ได้ทำงานให้คุณนายหรือ แต่ผมต้องอดทนอยู่ เพื่อปิ่น”
ถวิลอบรมต่อ “คนเราต้องอยู่เพื่อความถูกต้องเมื่อไหร่เอ็งจะเข้าใจวะ” ถวิลส่ายหน้าระอาใจ ถ่างลวดหนาม จะออกไป
สมุน 5 คน โผล่ออกมาจากมุมต่างๆ ตัวหัวหน้าถือปืน ลูกน้องถือมีดปาดตาล สปาต้าร์ ทุกคนใส่โม่ง รุมล้อมจอม กะถวิล
จอมตะโกนบอก “หนีพ่อ”
แต่แล้วบรรดาหมู่มวล ร่วงไปทีละคน เป้าแรกที่มือคนถือปืนฟุบคาที่ ตัวหัวหน้าปืนกระเด็น จับมือตัวเองเลือดสาด บาดเจ็บสาหัส เหล่าลูกน้องเหวอ เสียงดังฟุบ พร้อมๆ กับมีดกระเด็นจากมือสมุนทุกตัวคน
เหล่าสมุน เหลียวรอบตัวสายตาล่อกแล่ก แล้วเผ่นเข้าพงหญ้าหายหัวไป
ใหญ่นั่งคาบก้านดอกหญ้าอยู่บนคบไม้ ส่องกล้องเล็งปืนแพนไปมาช้าๆ ก่อนจะเก็บปืนเอามาสะพายไหล่
จอมถือปืนสอดส่องมองหา ถวิลอมยิ้มรู้ว่าเป็นใหญ่
“จะมองหาไปทำไม เค้าไม่ยิงกบาลเอ็งก็บุญโขแล้ว”
“ใครพ่อ พ่อทำงานให้ใคร”
“เอ็งไม่จำเป็นต้องรู้ รู้แค่ว่าเขาเป็นคนดี”
ถวิลมุดรั้วหายไป จอมสงสัย
สีหน้าครองสุขยามนี้ ไม่พอใจมาก “ไอ้หวินมันหนีรอดไปได้หรือ”
สมุนก้มหน้านิ่ง จอมเข้ามา “ผมเป็นคนปล่อยพ่อไปเอง ผมยินดีรับโทษทุกอย่าง”
ครองสุขเหลือบตามองสมุน รู้กัน “เธอกตัญญูกับพ่อฉันเองก็เข้าใจ แต่พ่อเธอร่วมมือกับไอ้เสี่ยตงจะฆ่าฉัน”
“ผมเชื่อว่าพ่อไม่รู้ไม่เห็นด้วย พ่อเองก็โดนตามฆ่าอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าพวกไหน”
ครองสุขกลอกตา แต่งเรื่องให้ร้ายปานเทพ “ก็คงพวกไอ้ปานนั่นแหละ มันอาจแค้นเธอเรื่องไอ้ปลอดก็เลยเล่นงานพ่อเธอแทน ทำไมคนพวกนี้มันถึงร้ายกาจนักนะ มรดกทั้งหมดคุณไพศาลให้ฉันเอง พอแย่งไปไม่ได้ ก็จะฆ่าแกงกัน ขนาดนังปิ่นยังเกือบโดนลูกหลงไปด้วย”
ครองสุขผุดแววตาเจ้าเล่ห์ จอมตกใจรีบออกจากห้อง เป็นห่วงปิ่นอนงค์
ครองสุขหันมาด่ากราดลูกน้อง
“มันน่าตัดเงินนัก สั่งอะไรเหลวตลอด”
คืนนั้นสองคนอยู่ในห้องนอนปิ่นอนงค์ เปลี่ยนชุดกันแล้วเรียบร้อย
ปิ่นอนงค์หันมาทางใหญ่ “คุณใหญ่ช่วยลุงหวินได้แล้วหรือคะ”
“แล้วทางเธอล่ะ”
“ทางปิ่นก็ราบรื่นดีค่ะ คุณนายเชื่อว่าปิ่นก็โดนเสี่ยตงจับไปด้วยเลยไม่สอบสวนอะไรมาก”
ใหญ่มองปิ่นอนงค์ผ่านกระจกเงา “ดูหน้าตาเธออิ่มเอิบแจ่มใสเชียวนะ คงจะดีใจล่ะสิที่นายนะไม่ได้พิกลพิการไปจริงๆ”
“คุณนะไม่พิการปิ่นก็ต้องดีใจสิคะ ขืนปิ่นเสียใจคงเป็นคนเลือดเย็นน่าดู”
ใหญ่ลุกไปยืนเคียงข้างโต๊ะเครื่องแป้ง หาเรื่องเพราะหึง “พูดอย่างนี้ก็ว่าชั้นเป็นคนเลือดเย็นน่ะสิ”
ปิ่นอนงค์ลุกงงๆ มองใหญ่ แล้วไปนั่งที่เตียงวัดอารมณ์ใหญ่
“คุณใหญ่ไม่ใช่คนเลือดเย็นหรอกค่ะแต่เป็นคนเลือดร้อน”
ใหญ่หันไปมองปิ่นอนงค์พาลเต็มที่ “นี่เธอหลอกด่าฉันหรือ”
“เฮ้ย...ไม่ใช่อย่างนั้น...”
ใหญ่ชี้หน้า “ขึ้นเฮ้ยกับชั้นเหรอ อยากมีเรื่องใช่มั้ยปิ่นอนงค์ ได้...ได้เลย”
ใหญ่ทำฮึดฮัดถอดเสื้อเขวี้ยงทิ้ง จ้องปิ่นอนงค์เขม็ง
“แล้วถอดเสื้อทำไมคะ” ปิ่นอนงค์แกล้งถาม
“คงจะให้เธอเกาหลังให้มั้ง” ใหญ่ประชดส่งๆ ลอยหน้ากวนๆ
ใหญ่พุ่งตัวกระโดดเข้ารวบตัวปิ่นอนงค์บนเตียง ปิ่นอนงค์รู้ทันลุกหลบ ใหญ่วืดหน้าคว่ำลงกับเตียง
“ปิ่นไม่ตามใจคุณใหญ่หรอก เก่งแต่เอาเปรียบ”
ปิ่นอนงค์วิ่งไปที่ประตูห้อง เปิดหนีออกไป
ใหญ่ยิ้มขำๆ สุขใจอารมณ์ดีที่แกล้งปิ่นอนงค์ได้
ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 20 (ต่อ)
ปิ่นอนงค์รีบปิดประตูลงอย่างโล่งใจ พอมองไปก็เห็นจอมเดินรี่มาตามทางสีหน้าเครียด จึงรีบเดินไปหาจอมเพื่อกันไม่ให้จอมมาที่ห้องเจอใหญ่
จอมมาถึงตัวก็จับแขนปิ่นอนงค์แน่น “ตกใจหมดเลยที่ได้ยินมาว่าเสี่ยตงจับปิ่นไป”
พร้อมกันนั้นจอมดึงปิ่นอนงค์เข้ามากอด “เราขอโทษที่ไม่ได้ดูแลปกป้องคุ้มครองปิ่น ต่อไปนี้เราจะไม่ให้พลาดอีก”
ปิ่นอนงค์ไม่ทันตั้งตัวตกใจตัวแข็งทื่อ ระหว่างนั้นใหญ่แอบมองอยู่ที่ประตูแง้มๆ ดู
ปิ่นอนงค์ได้สติดันตัวจอมออก จอมหน้าเจื่อนๆ ไป
“ขอบใจที่จอมเป็นห่วงเรา เราเหนื่อยจังเลย จอมก็กลับไปพักผ่อนเถอะ”
ปิ่นอนงค์จะกลับห้อง จอมเดินตามติด ปิ่นอนงค์หันมาหา “ตามมาทำไมหรือจอม”
จอมเขม้นมองไปที่ประตูห้องนอน ใหญ่รีบหลบวูบ
ปิ่นอนงค์เดินมาที่ประตูห้อง จอมเดินเครียดตามมา
“โธ่จอมไม่มีอะไรหรอก เสี่ยตงเขาหนีไปแล้ว ส่งเราแค่นี้ก็พอ ขอบใจมากนะ”
ปิ่นอนงค์เปิดประตูแง้มดูข้างใน เห็นใหญ่ยืนหน้าดุ กอดอกจ้องอยู่ไม่ยอมซ่อนตัว
ปิ่นตกใจ ตาโตกระแอมไอกลบเกลื่อน
“คืนนี้เราจะนอนเฝ้าปิ่นหน้าห้อง”
ใหญ่ได้ยินเต็มหู ปิ่นอนงค์ตกใจ ใหญ่ออกท่าทางทำปากให้ไล่ตะเพิดจอมไปซะ
ปิ่นอนงค์รีบหันมาบอกจอม “เรานอนแล้วนะ ราตรีสวัสดิ์” รีบทำหน้าปกติกับจอม
จากนั้นปิ่นอนงค์ก็แทรกตัวเข้าประตู ดันใหญ่ให้หลีกออกจากประตู
ใหญ่เดินดักหน้า ดักหลัง ดันตัวปิ่นอนงค์ไปที่เตียง ปิ่นอนงค์ตาดุใส่ใหญ่ สองคนพูดโต้เถียงกันเบาๆ
“รีบไปก่อนที่จอมจะสงสัย”
ใหญ่งอแงพูดตอบเบาๆ “เรื่องอะไรมาไล่ฉัน เธอก็ไปไล่ไอ้จอมมันสิ”
“บอกกับคุณใหญ่ง่ายกว่า ปิ่นรู้นิสัยจอม”
ใหญ่โมโหยียวนปิ่นอนงค์ “แหม รู้ใจกันจริงนะ ไม่รู้ล่ะ ถ้าจะมีใครต้องไป ต้องเป็นไอ้จอม ไม่ใช่ฉัน”
ปิ่นอนงค์ชักโกรธ “คุณใหญ่ ทำไมชอบทำอะไรเป็นเล่นไปหมดแล้ว ปิ่นเครียดมากนะคะ”
คราวนี้ใหญ่ทำท่ากรุ้มกริ่ม “ชั้นเป็นห่วงเธอ เมื่อกี้มันก็ขโมยกอดเธอไปทีนึงแล้ว ยอมมันไม่ได้ มันแค่ได้กอดเธอ แต่ฉันต้องได้มากกว่านั้น”
ว่าพลางใหญ่กอดปิ่นอนงค์ซุกไซ้ไปมา ดันตัวไปนอนลงที่เตียง ปิ่นอนงค์ปกป้องขัดขืน ใหญ่ทำจุ๊ปาก
แล้วดันปิ่นอนงค์จนหงายแหงนลงไปนอนบนเตียง ปิ่นอนงค์ทำตาดุสบตากับใหญ่ที่ทะเล้นใส่
เวลาผ่านไปใหญ่หลับตาแกล้งหลับห่มผ้าถึงอก
ปิ่นอนงค์ค่อยๆ ลุกเขยิบออกจากผ้าห่ม เดินไปหยิบผ้าห่มอีกผืนที่ปลายเท้าจะลุกเอาไปให้จอม
ใหญ่ยกเท้าทับผ้าห่มที่ปิ่นอนงค์หยิบ ยื้อกันอยู่ ใหญ่ลุกแย่งผ้าห่มมา ห่มกึ่งกอด หันหลังให้ปิ่นคุดคู้ก้นงอน
“มาแย่งทำไมคะ คุณใหญ่ก็มีผ้าห่มอยู่แล้ว”
“ดึกๆ มันหนาว อยากห่มสองผืนมีปัญหาอะไรมั้ย” ใหญ่กระซิบเย้ย
ปิ่นอนงค์โกรธขึ้นเตียงหันหลังให้ใหญ่ ก้นชนกัน ใหญ่กระดกก้นชนก้นปิ่นอนงค์อย่างชอบใจ
แต่ปิ่นอนงค์ไม่เล่นด้วย นอนหลับตา
ทางด้านจอมหลับกอดอกคอพับพิงประตูอยู่ในท่านั้น
จู่ๆ ใหญ่ทนไม่ไหว ลุกพรวด ปิ่นอนงค์ตกใจเด้งตัวตาม
“อะไรคะ”
“รำคาญ ออกไปวัดดวงกับไอ้จอมเลยดีกว่า มันบังอาจทำให้เมียนอนหันหลังให้ฉัน”
“เดี๋ยวก็พังกันหมด”
“พังก็พัง”
ใหญ่แกล้งคว้าปืนมา ปิ่นอนงค์แย่งมาอย่างรวดเร็ว ปืนจ่อไปทางใหญ่
“อย่าเล่นบ้าๆ เกิดลั่นโป้งป้างมาจะทำไง”
“อย่างมากก็เป็นม่าย นอนลงเดี๋ยวนี้”
“นี่เธอ” ใหญ่ขัดใจ
“บอกให้นอน”
ใหญ่นอนตามสั่ง “หลับตา เร็ว”
ใหญ่หลับตา ปิ่นอนงค์แอบยิ้ม เอาปืนวางหัวเตียงแล้วลงนอนกอดใหญ่หมับ ใหญ่ลืมตา
“บอกให้หลับตา”
ใหญ่รู้ว่าปิ่นอนงค์แกล้ง รีบหลับตา กอดก่ายปิ่นอนงค์ ยิ้มอย่างมีความสุข
จอมตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน ทำท่าจะเคาะ แต่เกรงใจ เลยได้แต่นั่งเฝ้า
วันต่อมาทัศนีย์เดินสะพายกระเป๋าออกมาจากร้านก๋วยเตี๋ยว เฮียพ่อค้าชี้บอกให้ไปอีกทาง
ทัศนีย์กำลังไหว้คุณยาย “แถวนี้มีห้องเช่ามั้ยคะ”
คุณยายชี้ไปอีกทาง
คล้อยหลังทัศนีย์เดินไป ลูกน้องครองสุขโผล่ออกมา จ้องทัศนีย์อย่างประสงค์ร้าย
บริเวณห้องเช่า เซฟเฮ้าส์ที่ปานเทพกับใหญ่เอาเสี่ยตงมาซ่อนตัว
ทัศนีย์เดินมาหยุดที่หน้าประตูอีกห้องที่ปิดอยู่ มีกระดาษปิดว่า “ให้เช่า ติดต่อเบอร์โทร”
ด้านในห้องเช่า ปานเทพห่มผ้าให้เสี่ยตงที่นอนหลับไปแล้ว หลังจากไปรับมาจากหมู่บ้านนาข้าวของป้าทอง
ปานเทพเปิดประตูออกมาคุยโทรศัพท์
“คืนนี้ฉันคงต้องนอนเฝ้าเสี่ย ถึงไม่มีปัญญาหนีอีก แต่ก็กลัวแผลอักเสบตายไปซะก่อน”
ปานเทพตัดสาย บ่นพึมพำ “คนอะไรวะ โคตรดวงแข็ง”
ทัศนีย์ได้ยินเสียงปานเทพหันมาจ้องหน้า ต่างคนต่างตกใจ ไม่คาดฝัน
“นายปาน นายมาอยู่ที่นี่ได้ไง”
ทัศนีย์มองไปที่ห้องเช่าของปานเทพ ปานเทพรีบกลบเกลื่อนกลัวทัศนีย์เห็นเสี่ยตง
ปานเทพมองกระเป๋าเสื้อผ้าทัศนีย์ “เธอหนีออกจากไร่หรือเนี่ย”
“ใครใช้ให้นายไม่ช่วยฉันล่ะ ฉันก็มือมีเท้า หนีเองได้”
ปานเทพก้าวเร็วๆ ไปเข้าหาเรื่องทัศนีย์
“ทำไมถึงคิดหนีแม่ตัวเอง คราวนี้ฉันจะรีดความจริงออกจากปากเธอให้ได้”
ทัศนีย์หันหลังกลับจะวิ่งหนี ปานเทพคว้าไว้ทัน “ปล่อยฉัน ฉันไม่รู้เรื่องอะไรของคุณน้าจริงๆ”
ทัศนีย์ดิ้น ปานเทพชี้ห้องที่ให้เช่า “ถ้าเธอไม่พูด ฉันจะปล้ำเธอเป็นเมีย ห้องนี้ไม่มีคนอยู่ซะด้วยเหมาะกับเป็นรังรักของเรา”
ทัศนีย์แหกปากร้องลั่น “ช่วยด้วยๆ ไอ้หมอนี่มันจะข่มขืนฉัน”
สมุนครองสุขวิ่งมา ทัศนีย์ตกใจร้องโวยวายโบกมือห้าม
“อ๊าย ฉันไม่ได้เรียกพวกแก ไม่ต้องมาช่วยฉัน ฉันสบายดี”
สมุนไม่สนเดินเข้าหา ทัศนีย์กลัวมากรีบหลบหลังปานเทพ
“ช่วยฉันด้วย คุณน้าต้องส่งพวกมันมาฆ่าฉันแน่ๆ”
“อย่าทำอะไรผู้หญิง” ปานเทพจัดเต็ม โชว์ฮีโร่มาดแมนมาก “โดยเฉพาะผู้หญิงคนนี้ใครก็ห้ามแตะ”
ทัศนีย์ตาโตมองปานเทพ ไม่อยากเชื่อ
“จับมันไปทั้งสองคน”
ปานเทพสู้กับสมุนคนหนึ่ง สมุนอีกคนเข้าไปจับ ทัศนีย์ทั้งดิ้น ทั้งตบ เตะ ข่วน สู้สุดฤทธิ์
ปานเทพโดนชกกระเด็นไป เลือดที่มุมปากออกนิดๆ คุยฟุ้ง
“เมื่อกี้นะแค่อุ่นเครื่อง คราวนี้เอาจริงแล้วนะโว้ย”
ปานเทพพุ่งเข้าหาอีก คราวนี้โดนซัดเสยคางอีกหนึ่งหมัด หมุนคว้างเห็นดาว ปานเทพร่วง สลบคาที่
ทัศนีย์ตกใจ “เฮ้ยอะไรเนี่ย นึกว่าจะช่วยกันได้ ไม่มีน้ำยาเอาซะเลย”
สมุนสองคน เดินย่างสามขุมเข้าหา ทัศนีย์ถอยหลังกรูด
ที่สุดทัศนีย์ถูกรวบตัวกลับมาที่ไร่ไพศาล
สมุนครองสุขแค้นจัด บันดาลโทสะ ตบทัศนีย์สุดแรงเกิดจนหน้าหัน
“แกหนีไปหาไอ้ปาน คิดเอาความลับฉันไปบอกมันหรือดีนะที่ฉันให้ไอ้สองคนนี่คอยสะกดรอยตามแก แกนี่มันน่า...”
ครองสุขเงื้อมือจะตบซ้ำ ทัศนีย์จับข้อมือครองสุข รั้งไว้ “อย่าตบอีกนะคะ ไม่งั้นนีสู้”
“นังลูกเนรคุณ แกอยากตกนรกหมกไหม้หรือ” ครองสุขตวาด
“ยังไงก็ต้องไปปีนต้นงิ้วด้วยกันอยู่แล้ว จะกลัวทำไม” ทัศนีย์ย้อน
ครองสุขตบเปรี้ยง จนทัศนีย์กระเด็นไปนั่งแบบที่พื้น ทัศนีย์กุมแก้มน้ำตาเอ่อ
“สงสัยคนดื้อด้านอย่างแกคงใช้ไม้นวมเสียแล้ว ไอ้บุญ ไอ้มี”
ครองสุขหันไปสั่ง ทัศนีย์กลัวหัวหดรีบคลานเข้าไปกอดขาครองสุข ออเซาะร้องไห้
“นีไม่รู้เรื่องจริงๆ นีไปเจอไอ้ปานโดยบังเอิญ มันจะปล้ำนี ไอ้สองคนนี้มันก็เห็นว่าไอ้ปานมันฉุดกระชากลากถูนีเข้าห้อง”
ครองสุขมองไปทางสมุน “ครับคุณนาย แต่...”
ทัศนีย์สวนคำ “แต่อะไร แกอย่ามาใส่ร้ายฉันนะ ที่ฉันต้องข่วนหน้ามัน” มองจิกที่สมุนโชคซวย “เพราะไม่อยากให้มันถูกเนื้อต้องตัวฉัน”
ครองสุขเข้าไปกระชากกระเป๋าทัศนีย์ที่สมุนคนนั้น มาเปิดดู แล้วทิ้งลงพื้น
“แล้วนี่อะไร แกจะหนีออกจากบ้านเหรอยัยนี อย่ามาทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาเรียกร้องความสนใจ” ครองสุขหันมาทางสองสมุน บุญกะมี “ต่อไปนี้แกสองคนคอยเป็นบอดี้การ์ดให้คุณนี อย่าให้คลาดสายตาเด็ดขาด”
ครองสุขสะบัดตัวหนีไป
สมุนบุญกับสมุนมี ยืนกอดอกมองทัศนีย์เขม็ง ทัศนีย์กลืนน้ำลายหวาดเสียวที่รอดไปได้อีกครั้ง
เวลาเดียวกัน ปิ่นอนงค์แอบดูอยู่อีกมุมหนึ่ง หน้าตาตื่น ทั้งตกใจและสงสารทัศนีย์
ที่เพิงหมาแหงนมุมลับตาคน ใหญ่นั่งพิงเสาสายตาเพ่งมองไปที่ฝูงแพะเบื้อหน้า ส่วนปิ่นอนงค์ยืนอยู่อีกมุมหน้าเครียดจัด
“คุณปานโดนพวกคุณนายทำร้ายค่ะ คุณใหญ่ต้องไปตามหาตัวนะคะ ตอนนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง”
ใหญ่หน้าตาบึ้งตึง ยังเคืองปิ่นเรื่องจอมกับทรรศนะอยู่
“เรื่องไอ้ปานฉันรู้แล้ว ตอนนี้มันอยู่ที่ฟาร์ม ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่คางเหลืองนิดหน่อย ส่วนเธอรีบกลับไปได้แล้ว” ใหญ่ลอยหน้าลอยตาพูด “เดี๋ยวไอ้จอมมันจะคิดถึง จนตามมาเจอฉันเข้า”
ปิ่นอนงค์โกรธเม้มปากเดินกลับ แต่แล้วกลับหน้ามืดเป็นลม พับเพียบลงกับพื้น
“ปิ่น ปิ่นอนงค์”
ใหญ่กระโจนพรวดเดียวออกจากเพิงเข้าไปประคอง ปิ่นอนงค์ลุกไม่ไหว
ใหญ่อุ้มปิ่นอนงค์มานั่งที่กระท่อม ปิ่นอนงค์สูดลมหายใจลึกๆ
ใหญ่ประชด ท่าทางกวนประสาท “ก็อย่างนี้แหละ วันๆ ต้องไปดูแลผู้ชายคนโน้นที ปลอบใจผู้ชายคนนี้ที จนไม่มีเวลาพักผ่อน ร่างกายมันเลยไม่ไหว เพลาๆ ลงซะบ้างสิ ชอบคนไหน ก็เลือกเอาสักคน”
ปิ่นอนงค์นิ่งน้ำตาไหล แล้วเบะปากร้องไห้ตัวโยน ปิ่นอนงค์เข้าไปกอดรอบคอใหญ่ ด้วยสองแขน
ใหญ่อึ้งไปที่ปิ่นอนงค์กล้าแสดงออกก่อน ใหญ่กอดรอบเอว ปิ่นอนงค์ร้องไห้ซบหน้าอยู่กับไหล่ของใหญ่ ปิ่นอนงค์พูดโดยยังไม่ผละจากใหญ่
“ทำไมเราต้องหาเรื่องทะเลาะกันด้วย ทำไม เราไม่รักกันมากๆ เพราะเราจะต้องพรากจากกันวันไหนก็ไม่รู้”
ใหญ่ฟังแล้วเครียด ดันตัวปิ่นอนงค์มาให้มองหน้า ใหญ่ดุ “พูดไม่เป็นมงคล อยากโดนตบด้วยปากหรือไง”
ใหญ่หมายจะจูบ ปิ่นอนงค์เบือนหน้าหนี ดันคางใหญ่ไว้ “ปิ่นอยากพูดเอาไว้ก่อน อะไรๆ มันก็เกิดขึ้นได้เพราะคุณนายเป็นคนใจร้าย จิตใจโหดเหี้ยม แม้กระทั่งลูกตัวเอง ก็ยังไม่เว้น”
ใหญ่มองสบตา แววตาอ่อนโยน “เธอกลัวเหรอปิ่น ถ้าอย่างนั้นชั้นจะหยุดเรื่องนี้เดี๋ยวนี้ ชั้นจะมอบตัวกับตำรวจทุกคดี ถ้าแพ้ความ อย่างมากก็ติดคุก ชั้นไม่กลัวหรอก”
ปิ่นอนงค์ประคองหน้าใหญ่ด้วยสองมือ “ไม่ค่ะ ปิ่นไม่ได้อยากให้คุณใหญ่ยอมแพ้ ถ้าเราแพ้ คุณนายก็จะทำร้ายคนไปเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุด ขอเวลาปิ่นอีกนิด ปิ่นต้องหาพินัยกรรมให้เจอ”
สองคนสบตากันอย่างซาบซึ้ง สวมกอดกันแน่น
เย็นนั้น ปิ่นอนงค์ถือถังน้ำกับไม้ถูพื้นเดินผ่านมา นทรรศะเปิดประตูออกมา สองคนสบตากัน
“ปิ่นหายโกรธพี่รึยัง ปิ่นต้องเข้าใจพี่บ้าง พี่ทำทุกอย่างลงไปเพราะพี่รักปิ่น พี่กลัวเสียปิ่นให้ไอ้จอม”
ปิ่นอนงค์ยิ้มน้อยๆ พูดให้ทรรศนะรีบไปๆ ซะ
“ปิ่นให้อภัยคุณนะค่ะ พอลองคิดไปคิดมา ทบทวนอยู่หลายรอบ คนที่ทำให้คุณนะเจ็บตัวก็คือปิ่นเอง ปิ่นควรจะดีใจที่คุณนะไม่ได้เป็นอะไรมาก”
ทรรศนะยิ้มดีใจ เข้าไปจับแขนปิ่นอนงค์ แล้วรู้สึกตัวรีบปล่อย
“ปิ่นเข้าใจพี่แล้ว ไม่โกรธพี่แล้วจริงๆ นะปิ่น”
“โธ่...เรารู้จักกันมาตั้งนาน ปิ่นโกรธคุณนะไม่ลงหรอกค่ะปิ่นขอไปทำงานก่อนนะคะ ไม่เสร็จเดี๋ยวโดนดุ”
ทรรศนะมองถังน้ำที่พื้น “ปิ่นจะทำความสะอาดห้องไหน พี่ช่วยยกไปให้”
ทรรศนะเอื้อมมือไป ปิ่นอนงค์รีบห้าม “อุ๊ย อย่าๆ เลยค่ะ คุณนะทำแบบนี้ คุณนายมาเห็นจะงานเข้าปิ่นนะคะ”
ทรรศนะคล้อยตาม “จริงด้วย ก็ได้ๆ พี่ต้องออกไปทำธุระก่อน กลับมาค่อยคุยกันใหม่นะ ขอบใจนะปิ่นที่ให้อภัยพี่”
ปิ่นอนงค์ยิ้มให้ ทรรศนะร่าเริงออกไป บ๊ายบายกับปิ่นอนงค์
ปิ่นอนงค์โล่งอกที่ทรรศนะยอมไป หญิงสาวร้อนรนรีบหิ้วถังน้ำไปยังจุดเป้าหมาย...ห้องเก็บของ
ปิ่นอนงค์นั่งรื้อดูเอกสาร หนังสือหน้าเครียด ยกกล่องเก็บที่ชั้น จังหวะที่ปิ่นอนงค์ชักมือกลับ ศอกไปโดนด้ามไม้ถูพื้นล้มตีพื้น ปัง
ปิ่นอนงค์ปิดปาก ตาค้าง
ครองสุข เดินอยู่แถวหน้าห้อง ตกใจ หรี่ตา รีบไปหน้าห้องเก็บของ ตะโกนถาม
“ใครอยู่ในห้อง”
ทัศนีย์แง้มประตูแอบมองอยู่
ปิ่นอนงค์รีบเอาไม้ม็อบถูพื้น กับถังน้ำแอบตามมุม หน้าตื่นตกใจ หมอบลงพนมมือตัวสั่น
“ชั้นถามว่าใคร อยู่ในห้องเก็บของ”
ครองสุขค่อยๆ เปิดประตูห้องเก็บของ เปิดกว้างออกช้าๆ
ทัศนีย์โผล่มาด้านหลังครองสุข เข้ามากอดครองสุขหันไปอีกทาง
“อย่าค่ะคุณน้านีกลัว อย่าเข้าไป ผีๆๆ กรี๊ดๆ”
ปิ่นอนงค์หน้าเหลอหลา รีบวิ่งหนีไปไหล่เฉียดหลังครองสุข
ครองสุขสะบัดทัศนีย์ด้วยความฉุนเฉียว
“ปล่อยๆ ชั้น ยัยนี มากอดฉันไว้ทำไมเล่า ปล่อย”
ครองสุขผลักทัศนีย์ ออกหันขวับตามปิ่นอนงค์ไป ไม่มีใครแล้ว
ครองสุขเงื้อมือตบ ทัศนีย์รู้ทันไวมากก้มหลบ จนครองสุขเซไปปะทะผนังห้อง
“นีไม่ได้ทำอะไรคุณน้าเลยนะคะ คุณน้าทำตัวคุณน้าเองต่างหาก”
ทัศนีย์สะบัดหน้าไป สมุนสองคนที่ตามเฝ้าทัศนีย์วิ่งมาหน้าตาตื่น โดนครองสุขตวาด
“ฉันสั่งให้แกจับตาดูมันไว้ไม่ใช่หรือ รีบไปตามคนอื่นๆ มามีคนร้ายแอบซ่อนตัวอยู่ในเรือนนี้ ค้นให้ทั่วทุกซอกทุกมุม”
ในเวลาต่อมา พวกสมุน 7-8 คน ถือปืนไฟฉายวิ่งเข้าในเรือนวุ่นวาย ไฟตามห้องต่างๆ เปิดสว่าง ทีละห้องๆ
ส่วนปิ่นอนงค์นั่งพับเพียบไหว้พระอธิษฐานจิต อยู่ในห้องพระ
“ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองปิ่น อย่าให้ถูกจับได้ ถ้าความดีต้องชนะความชั่วอย่างที่พระพุทธองค์เคยสอนไว้ ขอให้ปิ่นรอดพ้นจากภัยครั้งนี้” ปิ่นอนงค์อัดอั้นจนสะอื้นออกมา “หรือถ้าต้องตาย ก็ขอให้ปิ่นได้เห็นหน้าคุณใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายก่อน”
ปิ่นอนงค์ก้มลงกราบสามครั้ง เงยหน้ามององค์พระประธาน ไล่สายตาลงมา แล้วสะดุดตากับบางสิ่ง
ปิ่นอนงค์เพ่งสายตามอง เห็นไม้เท้าไพศาลวางอยู่บนหิ้งพระ
ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 20 (ต่อ)
เจิด ก้าน และลูกน้องสองคนเดินสำรวจกันหน้าเครียด เปิดตามห้องมองดู ไล่เรียงมา บางห้องมืดมิดลูกน้องฉายไฟส่องมองหากันอย่างขันแข็ง
สมุนคนหนึ่งมาหยุดยืนที่หน้าห้องพระ ขยับลูกบิด เปิดประตูเข้าไป
ปิ่นอนงค์ยืนกอดไม้เท้าอยู่ลุ้นระทึก บานประตูถูกเปิดมาบังตัวปิ่นอนงค์ไว้พอดี
สมุนอีกคนฉายไฟ ส่องไปมา ก้าวเดินเข้ามาในห้องพระช้าๆ ส่องไฟไล่ไปเรื่อย
ระหว่างนั้นใหญ่ กับปานเทพ ซึ่งใช้ผ้าขาวม้าโพกหัว กำลังเริ่มแผนสร้างความวุ่นวาย บนพื้นข้างสองหนุ่ม มีทั้งประทัด ลูกหนู ตะไล พลุ วางเรียงเป็นตับ
ใหญ่ กับปานเทพ ถือธูปติดไฟ จ่อจุดทุกชนวน ไฟติดดังฟู่...ลามลุกไปตามเชื้อชนวนอย่างรวดเร็ว
สมุนคนนั้นหันกลับไปมองบานประตูห้องพระ ที่บังปิ่นอนงค์อยู่ ฉายไฟส่องพลางเอียงคอมองหา
จู่ๆ มีเสียงดังปึงปัง วี๊ด...ตู้ม สมุนคนนั้นชะงัก หันไปมองแสงพลุ ตะไล ลูกหนู ที่วิ่งวุ่นไร้ทิศทางด้านนอกหน้าต่าง
สมุนอีก 2 คน วิ่งผ่านประตูไป สมุนคนนั้นเผ่นตาม ปิ่นอนงค์โล่ง ค่อยๆ แง้มประตูก้าวออกมา เสียบไม้เท้าเข้าคอเสื้อด้านหลังดันลงไปเหน็บกับขอบกางเกง พุ่งไปสอดส่องหน้าประตู เห็นว่าปลอดคน รีบวิ่งออกจากห้องพระไปทันที
ภาพเศษประทัดกระจายอยู่บนพื้น พลุเสียบฐานบนพื้น กงตะไล ถูกโยนบนพื้น ทุกคนเครียด มองจ้องหลักฐาน จอมตรงรี่เข้ามาที่หลังเรือน
“เกิดอะไรขึ้น แล้วนี่ใครจุดเล่น”
หมู่มวลคนงานส่ายหน้า “สงสัยเด็กมือบอนมันจุดเล่น”
จอมมองหน้าสมุนเป็นเชิงถามว่ามันเรื่องอะไรกัน
ตรงทางเดินบนชั้นสอง ทัศนีย์มองหาปิ่นอนงค์ ร้องเรียกเบาๆ
“ปิ่น เธอหลบอยู่แถวนี้หรือเปล่า”
ทัศนีย์แง้มประตูห้องหนึ่ง แต่ตกใจแทบช็อก มีคนกระชากแขนให้หันกลับมาด้านหลัง
ทัศนีย์หันมาเจอหน้าครองสุขเต็มๆ หน้าตาบิดเบี้ยวร้ายกาจ น่ากลัวมาก
ทัศนีย์นั่งที่พื้นกลัวจนตัวสั่น ครองสุขหน้าเฉยนิ่ง นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าข่มขู่หนัก
“แกร่วมมือกับคนร้าย ตั้งใจช่วยให้มันหนี มันเป็นใครทัศนีย์ แกรู้อะไรบ้างบอกชั้นมาให้หมด”
ครองสุขหยิบมีดโกนแบบมีด้ามโบราณออกมาง้างช้าๆ ทัศนีย์เอาหมอนมากอด
ทัศนีย์สยองสุดๆ ถดตัวหนี ครองสุขพูดเสียงเย็นเยียบ “อย่าหาว่าแม่ใจร้ายนะลูก”
ครองสุขดึงหมอนจากทัศนีย์ เอามีดโกนกรีดขวับๆ เป็นแนวๆ
“ไม่บอกก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ใจร้ายหรอก มีดคมๆ ไม่เจ็บมากมายอะไรมันจะปวดหนึบๆ เลือดก็ค่อยๆไหลออกมา แต่อย่าแหวกแผลเชียวนะลูก”
ว่าพลางครองสุขขยุ้มหมอนยื่นใส่หน้าทัศนีย์ อย่างรวดเร็ว
ทัศนีย์กรี๊ดสะดุ้งสุดตัว “บอก บอกแล้วจ้ะ คุณน้าต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ฆ่าใครอีกมันบาป แค้นอาฆาตกันไม่มีวันหยุด”
“ชั้นก็อยากมีชีวิตที่สงบสุขเหมือนกัน ชั้นรับปากจะไม่ทำร้ายแก ไม่ทำร้ายใครอีกแล้ว ที่ถามแกเพราะชั้นอยากรู้จะได้หาทางหนีที่ไล่ได้ถูก ชั้นก่อกรรมทำเข็ญเอาไว้เยอะ อยากจะจบดีๆ ไม่ต้องติดคุกติดตะราง” ครองสุขล่อหลอก
“คุณน้าพูดจริงหรือคะ” ทัศนีย์หลงเชื่อ
“ฉันให้ตานะแอบถ่ายเทเงินมาจากเสี่ยตง ก็ได้หลายอยู่ คงพอให้เราหลบหนีไปอยู่ที่อื่น โดยตำรวจตามไม่เจอ”
สองแม่ลูกสบตากัน ทัศนีย์โพล่งออกมา
“คุณใหญ่ คุณใหญ่ยังไม่ตาย”
ครองสุขตาค้าง มีดในมือสั่นระริก
ปิ่นอนงค์วิ่งหวาดระแวงเข้ามาที่เรือนคนงาน ชนกับหวาน ต่างคนต่างตกใจ หวานหน้าตื่นกังวลหนัก
“ปิ่น แกเจอคุณใหญ่กับคุณปานรึยัง”
“คุณใหญ่มาที่นี่เหรอพี่หวาน”
“ใช่น่ะสิ มาตั้งนานแล้ว พอไม่เจอแกก็รีบออกไป ตามหา”
ปิ่นอนงค์รู้สึกกังวลใจ
ปิ่นอนงค์เข้าห้อง ใหญ่ใช้ผ้าขาวม้าคล้องที่คอโผล่เข้ามาพอดี สองตรงเข้าจับมือกัน ปิ่นอนงค์จ๋อยๆ หน้าซีดเผือด
“ปิ่น เกือบโดนจับได้อยู่แล้ว แต่ไม่รู้ใครจุดพลุ จุดประทัด ช่วงชุลมุน ปิ่นเลยหนีมาได้”
ใหญ่รีบบอก “ฝีมือชั้นเอง มาหาเธอที่นี่ไม่เจอ เลยลองไปตามที่เรือนใหญ่เห็นไฟสว่าง คนวิ่งกันวุ่นวาย คิดว่าเกิดเรื่องแน่”
“แล้วพวกพลุ...” ปิ่นอนงค์งง
“ลูกคนงาน ซื้อมาจะจุดวันเกิด เลยแย่งมา”
ปิ่นอนงค์เอื้อมมือหยิบไม้เท้าออกมาใหญ่ตะลึงมอง
ปิ่นอนงค์ส่งให้ ใหญ่มองแล้วลูบไล้ไปมา “ไม้เท้าของพ่อชั้น”
“ปิ่นเจอในห้องพระ คิดว่าคุณใหญ่คงอยากจะเก็บเอาไว้”
ระหว่างนั้นเสียงครองสุข ดังขึ้น “ล้อมเอาไว้อย่าให้หนีไปได้ มันต้องอยู่ทีนี่แหละ”
ปิ่นอนงค์กับใหญ่พุ่งไปแอบดูข้างล่าง เห็นครองสุขจอม และคนงานกว่า 10 คน พร้อมสมุนอีก 10 ในในมือถือปืน ถือไฟฉาย ล้อมอยู่หน้าเรือนคนงาน
ปิ่นอนงค์กับใหญ่ ตกใจหันไปสบตากัน
ใหญ่จูงปิ่นอนงค์ท่าทีร้อนรนมาที่หน้าต่าง
“ไม่ต้องกลัวนะ ชั้นจะลงไปรอรับเธอ”
“คุณใหญ่หนีไปเถอะค่ะ ปิ่นจะหาทางถ่วงเวลาไว้เอง เอาไม้เท้าของคุณไพศาลไปด้วยนะคะ”
ปิ่นอนงค์ยื่นให้ ใหญ่ไม่รับ “เธอนั่นแหละไปกับฉัน ถ้าไม่ไป ฉันจะออกไปลุยกับพวกมันให้ตายกันไปข้างหนึ่ง หรือจะเอาอย่างนั้น”
เจอไม้นี้ ปิ่นอนงค์หมดทางปฏิเสธ
ใหญ่ลงมารอรับปิ่นอนงค์ ที่ถือไม้เท้ามาด้วย จนลงมาได้แล้ว น้อย กะหวาน วิ่งเข้ามาสมทบหน้าตื่น
“คุณใหญ่ ทำยังไงกันดีคะ นังคุณนายมันรู้เรื่องหมดแล้ว”
“หนีสิ ถามได้”
ใหญ่จูงมือปิ่นอนงค์เตรียมจะเผ่น จู่ๆ ไฟฉายหลายดวงจับจ้องมาที่กลุ่มปิ่นอนงค์กับใหญ่ เล็งปืนไปที่ใหญ่กับปิ่นอนงค์เป็นจุดเดียว
ครองสุขเดินออกมา สบตาใหญ่ ครองสุขอึ้ง
“ผีคุณใหญ่หรือ ฉันน่าจะเอะใจตั้งแต่แรก ว่าแกมันเจ้าเล่ห์ขนาดไหน”
ใหญ่ยิ้มเย้ยกวนประสาท “คนโง่ย่อมถูกจูงจมูกโดยคนฉลาดเสมอ แต่ตอนนี้ฉันหมดสนุกที่จะเดินจูงจมูกคุณนายเสียแล้ว มันขี้เกียจ”
“เห็นหรือยังจอม ว่ามันเห็นแกกับฉันโง่เหมือนวัวเหมือนควาย โดยเฉพาะนังปิ่น แกทำกับคนที่รักแกได้แสบสันต์ดีเหลือเกินนะ”
ครองสุขยุ จอมมองจ้องหน้าปิ่นอนงค์เขม็ง
จอมแค้นจัด มองจ้องหน้าปิ่นอนงค์เขม็ง
“ทำไมปิ่นทำกับเราแบบนี้”
“จอม ปิ่นไม่ได้คิดร้ายกับจอม”
“ไม่คิดร้าย แต่ปิ่นก็ไม่เคยเห็นเราในสายตา ไม่เคยเห็นค่าความรักของเรา” จอมประชด
“ความรักจะมีค่าต่อเมื่อแกรู้จักใช้สติปัญญาแยกแยะ แต่นี่แกทำทุกอย่างแค่เพื่อให้ได้ปิ่นไป แกไม่ได้โง่หรอกจอม แต่แกเห็นแก่ตัว แกตั้งใจมองข้ามความถูกต้องทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ครอบครองปิ่น” ใหญ่บอก
ครองสุขเยาะ “ฟังแล้วความรักของแกสองคนนี่มันช่างถูกต้องสูงค่าเหลือเกินนะ เอาซิ ถ้าเธอเห็นใจมันก็ปล่อยมันไปเสพสุขด้วยกันเลย จอม”
“ไม่มีวัน ผมไม่ยอมให้ใครมาเหยียบย่ำหัวใจผมอีกแล้ว” จอมเสียงกร้าวบอกกับคนงาน “จับทุกคนมัดไว้”
คนงานกรูเข้าไปจับพวกผู้หญิง จอมเข้าสู้กับใหญ่หลายคิว ผลัดกันแพ้ชนะ พอใหญ่ได้ทีคร่อมข้างบนจะชักปืน
ครองสุขพยักหน้าให้เจิดกะก้าน สองแสบเข้าเตะปืนใหญ่จนกระเด็นหลุดมือไป จากนั้นศอกเข้าตรงสะบ้าจนใหญ่ทรุดลงไปที่พื้น ครองสุขเดินมาเก็บปืนอย่างใจเย็นแล้วหันมาจ่อใหญ่
“อย่าค่ะ คุณนาย อย่าฆ่าใครอีกเลย ถ้าจะฆ่า ขอให้ปิ่นเป็นศพสุดท้าย ปล่อยคนอื่นไป”
“แกคิดว่าแกมีค่าพอจะมาต่อรองเหรอนังปิ่น สำคัญตัวผิดไปแล้ว”
“ไม่ต้องขอร้องมันปิ่น ยังไงแกก็หนีไม่รอด ถึงไม่มีใครจับแกได้ กรรมก็ต้องตามทันแก” ใหญ่ตอกหน้าครองสุขยิ้มหยัน
“งั้นฉันก็ต้องรีบตัดเวรตัดกรรมซะ แล้วกรรมของฉันก็คือแก”
ครองสุขจะฆ่าเอง จอมจับมือไว้ ครองสุขตวาด “นี่เธอยังไม่เลิกโง่อีกเหรอ”
“ผมขอฆ่ามันด้วยมือผมเอง”
จอมแย่งปืนมาจ่อเอง “ไม่นะจอม ถ้าจอมฆ่าคุณใหญ่เราจะไม่มีวันให้อภัยจอม เราจะเกลียดจอมไปตลอดชีวิต”
“มันจะเป็นไรไปล่ะปิ่น ในเมื่อปิ่นก็ไม่เคยรักเราอยู่แล้ว”
ใหญ่ทะลึ่งตัวจะสลัดออก จอมตบด้วยปืนใหญ่ทรุดลงไปอาการมึนๆ แล้วเตะอีกที ปิ่นอนงค์สะบัดคนงาน วิ่งมากอดใหญ่แน่น
“คุณใหญ่”
“เอาปิ่นไปขังแยกกับนังหวานนังน้อย ไอ้ใหญ่ฉันจัดการเอง” จอมสั่งการ
เจิดกับก้านลากปิ่นอนงค์ไป ปิ่นอนงค์ดึงมือใหญ่จนหลุดจากกัน
หวานกับน้อยร้องไห้ตัวสั่น ถูกคนงานคุมตัวไป
ทัศนีย์โดนผลักเข้ามาในห้อง ประตูปิดดังปัง ทัศนีย์ถลาไปรีบเปิดประตู แต่ประตูโดนล็อกจากด้านนอก
“เปิด เปิดประตูเดี๋ยวนี้ ไอ้บ้า”
ทัศนีย์หันกลับมาอย่างหงุดหงิด เห็นทรรศนะถูกมัดมือไพล่หลัง นั่งทอดอาลัยอยู่ตรงมุมห้อง
ทัศนีย์รีบเข้าไปแก้มัดให้พี่ชาย ทรรศนะบอก “พี่จะไปช่วยปิ่น เลยถูกคุณน้าจับขังเอาไว้”
“คุณน้าเป็นฆาตกร ฆ่าคุณไพศาล ฆ่าป้าอุ่น ฆ่าไอ้ธีระ ฆ่าทุกคนที่ขวางทาง คุณน้ายึดไร่ไพศาล ที่พี่นะเดินไม่ได้ ก็แผนคุณน้าใช่มั้ย”
“ใช่...แต่คุณน้าทำเพื่อพี่ อยากช่วยให้พี่สมหวังกับปิ่น” ทรรศนะพยักหน้า ท่าทียังงมงายอยู่กับคำหวานลวงๆ ของแม่
ทัศนีย์รีบบอก “แต่ตอนนี้คุณน้ากำลังจะฆ่าคุณใหญ่รายต่อไปไม่พ้นปิ่นอนงค์”
ทรรศนะเครียดขึ้นมาทันที
ปิ่นอนงค์ถูกจับมัดมือไพล่หลังไว้ จอมเดินเข้ามาหา ปิ่นอนงค์ห่วงใหญ่ใจจะขาด ถามอย่างร้อนใจ
“จอม คุณใหญ่ล่ะ จอมเอาคุณใหญ่ไปไหน”
“ห่วงมันมากหรือปิ่น” จอมถามเสียงเข้ม
“ไม่ใช่ ปิ่นห่วงจอม ความโกรธแค้น ความชิงชัง ที่มีกับใครก็ตาม เราเปลี่ยนแปลงแก้ไขที่ใจเราได้ แต่ความผิดที่ฆ่าคนตาย มันจะติดตัวเราไปตลอดชีวิต ล้างออกยังไงก็ไม่หมด” ปิ่นอนงค์พยายามจะเกลี้ยกล่อมจอม
จอมหน้านิ่ง “เราให้โอกาสปิ่นครั้งสุดท้ายก็ได้ ถ้าปิ่นตกลงทำตามที่เราขอ เราจะยอมปล่อยคุณใหญ่ไป”
“ได้ ปล่อยคุณใหญ่ไปเถอะ ปิ่นยอมทุกอย่างที่จอมต้องการ”
“ยอมเป็นเมียเราด้วยงั้นหรือ”
“ใช่” ปิ่นอนงค์ตอบโดยไม่ต้องคิด
จอมกระชากปิ่นอนงค์เข้ามาหา ปิ่นอนงค์จ้องหน้าจอมบอกด้วยเสียงหนักแน่นท่าทีแน่วนิ่ง
“แต่จอมจะได้แค่ร่างกายของปิ่น จะไม่มีความรัก ความเป็นเพื่อน ความรู้สึกดีๆ มันจะไม่มีอีกต่อไป”
จอมยิ้มอย่างเจ็บปวด แต่ก็ยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว
“นี่ซิ ถึงจะเป็นปิ่นของเรา”
เจิดกะก้านเดินก๋าเข้ามา “ขุดหลุมให้มันแล้ว ที่บึงน้ำข้างไร่ น้ำมันกับยางพร้อม” เจิดบอก
“ดี”
จอมเดินออกไป ปิ่นอนงค์ตะโกนก้อง “จอม อย่านะ จอม”
เจิดกับก้านมองหน้ากันยิ้มสะใจ
สมุน 2 คน ลากใหญ่ตรงไปที่รถกระบะ ที่รถยังมีสมุนยืนอยู่อีก 3 คน
ใหญ่เหลือบตามองสมุน 2 ที่ถือพลั่ว แล้วแกล้งเข่าทรุดก้มหน้าแหกปากร้อง
“โอ๊ย”
“เฮ้ยอย่าลีลา เดี๋ยวปัด” สมุนคนหนึ่งตะคอก
พอสมุนก้มตัวลงมาจะดึงใหญ่ขึ้น ใหญ่ใช้หัวกระแทกคางสมุนคนนั้นจนหงายเงิบไปแล้วแย่งพลั่วมาได้
บิดตัวตีสมุนคนนั้น ทรุดกับพื้น หันไปตีสมุนที่อยู่ด้วยทรุดไปอีกคน
เหล่าสมุนที่รถเข้ารุมใหญ่ ใหญ่ปล่อยอาวุธครบสูตรสมศักดิ์ศรี หมัด หัว เท้า เข่า และศอก
เหล่าสมุนย่ำแย่คลุกพื้นบ้าง ยืนกุมท้องบ้าง สะบักสะบอม
ใหญ่ยืนจังก้า แต่พอหันกลับจะไป เจอหมัดหนักๆ ของจอมไปเต็มเปา
ใบหน้าใหญ่แหงนหงาย จอมเตะก้านคอ หมุนตัวเตะจระเข้ฟาดหาง
ใหญ่เลือดออกจมูก เหล่าสมุนทั้ง 5 เข้าไปรุมกระทืบด้วยความแค้น
จอมวิ่งมา ตะโกนลั่น “เฮ้ย พอแล้ว”
ใหญ่แน่นิ่งไปแล้ว “พอแค่นี้ ให้มันตายตรงนี้เดี๋ยวตำรวจจะดมกลิ่นมาถึง ฉันจะเอามันไปอำพรางศพเอง แกสองคนไปกับฉัน”
สมุนทุกคนหยุดกึก สมุน 2 คนพยุงปีกลากใหญ่ตามจอมไปที่รถ
ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 20 (ต่อ)
เสี่ยตงนั่งอยู่บนเตียงในเซฟเฮ้าส์หน้าเครียดเคร่ง ปานเทพเดินเข้ามาหา
“เสี่ยโทร.เรียกผมทำไม”
เสี่ยพยุงตัวลุกยืน ยังมีอาการบาดเจ็บที่ขา
“แน่ใจนะว่ากฎหมายเอาคุณนายเข้าคุกได้”
ปานเทพคาดไม่ถึงว่าเสี่ยจะยอมช่วย
ขณะที่ถวิลโกยฟางอยู่ที่ฟาร์มแพะ เปี๊ยกวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา หน้าตาตื่นตกใจ เปี๊ยกส่งภาษาถวิลพยายามแกะกิริยาแปลซับไทยทีละท่า
“คุณใหญ่ ปิ่น หาย ถูกจับ”
ถวิลตบไหล่เปี๊ยก “ไปไอ้เปี๊ยก”
จังหวะนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ถวิลรับสาย นิ่งฟัง “ฮัลโหล...ไอ้จอม”
ถวิลตาค้าง คาดไม่ถึง หน้าเครียดอยู่ 5 วิ เปี๊ยกอยากรู้จัดอ้อแอ้ๆ ถามว่าอะไร ถวิลไม่ตอบรีบวิ่งไปอย่างเร็ว เปี๊ยกร้องเรียกให้รอด้วย แล้ววิ่งจู๊ดตามไป
ที่บริเวณบึงน้ำในราวป่า สมุนจอม 2 คนลากใหญ่ลงจากรถ ผลักล้มไปริมหลุมที่ขุดเตรียมไว้แล้ว
ใหญ่พยายามลุกแต่ลุกไม่ขึ้นสมุนออกความเห็น
“เอาไงดีผู้จัดการ จะฝังมันทั้งเป็น หรือจะเป่าสมองมันก่อนดี”
“พวกแกหลีกไป ฉันกับมันมีบัญชีแค้นกันอยู่ ฉันจะจัดการด้วยมือฉันเอง”
จอมยกปืนขึ้น สมุนหลบไปด้านข้าง จอมเล็งไปที่ใหญ่ ใหญ่จ้องจอมคิดว่าวันนี้กูตายแน่
“ลาก่อนไอ้คุณใหญ่”
จอมกำลังจะยิง ใหญ่หลับตาเสียงปืนดังเปรี้ยง ใหญ่สะดุ้งสุดตัวคิดว่าโดนยิง
แต่กลับเป็นสมุนที่ถูกยิงขาลงไปนอนดิ้น สมุนอีกคนงงตาเหลือกจอมยิงใส่ไม่ให้มันสงสัยนาน กระสุนเจาะเข้าที่ขา ลงไปนอนดิ้นอีกคน
ใหญ่ลืมตามองงงๆ หันมามองสบตาจอม
จอมลงจากรถเดินมาที่หน้าโรงนาเก็บฟาง พูดโทรศัพท์อยู่
“ผมฆ่าไอ้ใหญ่เรียบร้อยแล้วครับ ส่วนปิ่นผมขอทรมานให้สมใจผมก่อน”
ครองสุขเดินนวยนาดอยู่หน้าเรือนใหญ่ คุยโทรศัพท์มือถืออยู่กับจอม “แหม แสดงว่าฉันรู้ใจเธอซิจอม ฉันสั่งให้ไอ้เจิด ไอ้ก้านมันทรมานนังปิ่นให้เธอแล้ว รับรองว่า สะใจเธอแน่”
จอมร้องลั่น “คุณนายจะทำอะไรปิ่น ฮัลโหลๆ”
ครองสุขตัดสายไป ใบหน้าเหี้ยมโหด แค้นเพราะรักไม่สมรัก
“นึกว่าฉันจะหลงแกจนโง่เหรอ ไอ้จอม เมื่อแกไม่รักฉัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเอาแกไว้”
ปิ่นอนงค์พยายามบิดเชือกให้หลุดจากข้อมือ เชือกคลายปมเริ่มหลุด
จังหวะนั้นประตูโรงนาเก็บฟางถูกเปิดออกเห็นเจิดกับก้านเดินเข้ามา ปิ่นอนงค์ถดตัวหนีไปจนสุดกองฟาง ไม้เท้าของไพศาลวางอยู่บนพื้นด้านหลังปิ่นอนงค์นั่นเอง
“อย่าเข้ามานะ”
เจิด ก้าน เดินย่างสามขุมเข้าหาช้าๆ ในมือเจิดถือเชือกเส้นใหญ่ ทำท่าม้วนบิดไปมาจ้องปิ่นอนงค์เขม็ง
เจิดพูดเย้ยหยัน “คุณนายส่งฉันมาช่วยเธอให้ตายสบายขึ้น รับรองแค่ทรมานอึดใจเดียว ไม่มีเลือดสาดกระจายให้อุจาดตา จากนั้นก็ค่อยถึงคิวไอ้จอม”
ปิ่นอนงค์ตาค้าง “นี่คุณนายจะฆ่าจอมเหรอ ทำไม”
“อันนี้ก็ไม่รู้นะ อาจจะอยากให้เธอกับไอ้ใหญ่มีเพื่อนมั้ง” เจิดบอก
ก้านจ้องปิ่นอนงค์แววตาหื่น รู้สึกเสียดาย “เฮ้ย ข้าเล็งนังปิ่นนี่มาตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรกแล้ว ขอให้มันได้ทำบุญบริจาคร่างกายสงเคราะห์สัตว์โลกผู้ยากไร้รักอย่างข้าซักครั้งเถอะวะ” ก้านขอ
“เออเว้ย...จิตเป็นกุศล งั้นข้าขออนุโมทนาต่อคิวก็แล้วกัน”
เจิดบอกแล้วเดินหนีไปทางอื่น ก้านเดินเข้าหาอนงค์ปิ่น ถอดหัวเข็มขัด มือของปิ่นอนงค์หลุดจากเชือกควานเจอไม้เท้าจากหน้าหวาดกลัวเป็นหน้านิ่ง ก้านก้มตัวไปหาปิ่นอนงค์ จับไหล่อย่างย่ามใจ
ปิ่นอนงค์เอาปลายไม้เท้าทิ่มเข้าตาก้านโดนจังๆ ก้านปิดตาล้มลงไปดิ้นพร่าด ปิ่นอนงค์ลุกวิ่งหนีสุดชีวิตพร้อมไม้เท้า เจิดได้ยินเสียงก้านร้องหันมาชักปืนจ่อไปที่ปิ่นอนงค์ทำท่าจะจริง
“พิษสงร้ายนักอีนี่”
เสียงจอมตะโกนมา “หมอบลงปิ่น”
ปิ่นอนงค์ก้มหมอบตามสัญชาตญาณ จอมยืนอยู่ที่หน้าประตูยิงใส่เจิด โดนหัวไหล่ซ้ายข้างที่ไม่ได้ถือปืน เจิดทรุดลงไป
จอมวิ่งเข้าไปคว้ามือปิ่นอนงค์ “หนีปิ่น”
จอมพาปิ่นอนงค์วิ่งออกมาที่หน้าโรงนาเก็บฟาง ตรงไปที่รถ ปิ่นอนงค์ถือไม้เท้าไปด้วย
สองคนไม่รู้ว่าที่ด้านหลังเวลานั้น เจิดกับก้าน ตามออกมาหยุดยืนระยะไกล ยิงใส่จอมกับปิ่นอนงค์พร้อมๆ กันหลายนัด เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว
จอมถูกกระสุนปืนกระหน่ำยิงจนกระสุนหมด โดยที่ปิ่นอนงค์ไม่รู้
จอมผลักปิ่นอนงค์ไปที่รถอย่างแรง จนไม้เท้าในมือตก “รีบไป ไม่ต้องห่วงเรา”
“หนีไปด้วยกันนะจอม
จอมมองปิ่นอนงค์แล้วดึงเข้ามากอดอย่างแสนรัก
“จอมขอโทษ จอมรักปิ่น รีบไปหาคุณใหญ่ที่บึงน้ำข้างไร่ นี่เป็นสิ่งเดียวที่จอมจะให้ปิ่นได้”
ปิ่นอนงค์ตัดใจวิ่งไปทางประตูคนขับ
จากนั้นจอมหันกลับไป หาเจิดกับก้าน มองจากด้านหลังเห็นแผลถูกยิงที่กลางหลังของจอม 2 นัดแล้ว เลือดอาบเสื้อ เจิดกับก้าน เดินเล็งปืนเข้าหาจอม
จอมประคองตัวเดินเข้าหาเจิดกับก้านอย่างไม่กลัวตาย ก้านยิงใส่อีกสามนัด จอมสะดุ้งเฮือก เลือดไหลออกมาทางมุมปาก จอมร้องบ้าคลั่งวิ่งเข้าชาร์จก้าน บีบคอแน่น
เจิดจะยิงซ้ำอีก แต่กระสุนหมด ลูกน้องวิ่งกรูกันมา เจิดคว้าปืนลูกน้องคนหนึ่ง
“จัดการไอ้จอม” เจิดสั่งการแล้ววิ่งตามปิ่นอนงค์ไป ในจังหวะที่ปิ่นอนงค์วิ่งกลับมาเอาไม้เท้า แล้วหันกลับจะขึ้นรถ เจิดยิงใส่ปิ่นอนงค์ไม่ยั้ง ปิ่นอนงค์ขึ้นรถขับออกไป
ลูกน้องครองสุขเข้ามากระชากจอม ออกมาทั้งต่อยทั้งเตะ จอมบ้าคลั่ง สู้ไม่ยอมล้ม เจิดหันมามองยิงอีกสองนัด ร่างจอมสะดุ้งเฮือก จากนั้นค่อยๆ ทรุดลง เหลียวมองตามปิ่นอนงค์ที่ขับรถออกไปแล้ว
จอมคว่ำหน้าลงกับพื้น แก้มที่แนบพื้นมองตามส่งปิ่นอนงค์ไปเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ดวงตาของชายหนุ่มจอมมุทะลุ จะค่อยๆ ปิดลง
ทรรศนะถือดัมเบลเหล็ก ตีลูกบิดแรงๆ จนหลุดห้อยต่องแต่ง ทรรศนะวางดัมเบลลงที่พื้นเปิดประตู จะออกไปพร้อมทัศนี ครองสุขยืนขวางประตูเดินเข้ามา ทั้งคู่ตกใจถอยกรูด
ครองสุขเดินเข้าหา “ฝันร้ายของครอบครัวเราผ่านไปแล้ว ป่านนี้ไอ้ใหญ่มันคงตายไปแล้ว เราได้เป็นเจ้าของไร่ไพศาล โดยสมบูรณ์ซะที”
“ผมไม่ต้องการไร่นี้ ปิ่นอยู่ไหน คุณน้า”
“มันก็ตามไปอยู่กับผัวมันน่ะสิ” ครองสุขพูดเสียงเย็นเฉียบ
ทรรศนะช็อก ทรุดนั่งลงบนเตียง
“คุณน้าใจร้าย นีก็ไม่อยากได้เหมือนกัน ไร่นี้มีแต่เลือดมีแต่ศพ”
ทรรศนะเข้าไปเกาะแขนครองสุขพูดอ้อนวอน “คุณน้าไปมอบตัวกับตำรวจเถอะครับ มันเกินไปแล้วคุณน้าไปไกลเกินไปแล้ว”
ครองสุขสะบัดแขนออก “นี่แกสองคนเป็นบ้าอะไร โง่หรือเปล่า ต่อไปนี้แกจะมีมีเงินทองใช้กันไม่ขาดมือ ไม่ชอบหรือยังไง”
“ผมไม่กล้าใช้เงินที่ได้มาจากการฆ่าคนหรอกครับ ผมกับทัศนีย์จะไปจากที่นี่ เราจะไม่กลับมาอีก”
จังหวะที่ทรรศนะจูงมือทัศนีย์จะไป เสียงรถหวอตำรวจดังเข้ามา
ครองสุขตกใจหน้าตื่น ทรรศนะกับทัศนีย์ชะงัก
ตำรวจ 6 นาย ยืนเป็นแผงที่โถงเรือนใหญ่ ทรรศนะกับทัศนีย์เดินลงบันไดมา ทัศนีย์หวาดผวาท่าทางกลัวมากๆ ทรรศนะพยายามสงบอารมณ์ ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“มีอะไรครับ คุณตำรวจ”
“เรามาเชิญตัวคุณนายครองสุขไปสอบสวน”
ทรรศนะชะงัก “เรื่องอะไรครับ”
ปานเทพประคองเสี่ยตงแหวกทางตำรวจเข้ามา
เสี่ยตงเอ่ยขึ้น “ก็เรื่องที่คุณนายครองสุขวางยาพิษฉันน่ะซิ”
“เสี่ยตง” ทัศนีย์ตกใจ
ปลอดเดินขึ้นมายืนข้างเสี่ยตงอีกด้าน “แล้วก็ยังมีข้อหาฆ่าคนตายอีก บอกมานังคุณนายอยู่ที่ไหน”
จังหวะนั้นครองสุขลงบันได้แอบดูอยู่ตรงมุมห้อง
“เสี่ยตงมันยังไม่ตาย” ครองสุขคิดหาทางหนี
ด้านปิ่นอนงค์ขับรถมือเดียว ยิ้มน้อยๆ ยินเสียงจอมก้องในหัว
“รีบไปหาคุณใหญ่ที่บึงน้ำข้างไร่ นี่เป็นสิ่งเดียวที่จอมจะให้ปิ่นได้”
ปิ่นอนงค์พยายามประคองพวงมาลัย สีหน้ามุ่งมั่นต้องไปหาใหญ่ให้ได้
“คุณน้า ไม่อยู่” ทรรศนะโกหก
ปานเทพเห็นทัศนีย์ยืนสั่นรู้ว่าโกหก “จริงเหรอทัศนีย์ ถ้าเธอโกหกจะถูกข้อหาสมรู้ร่วมคิดนะ”
ทัศนีย์หน้าถอดสี “แล้ว แล้วคุณน้าจะโดนประหารชีวิตมั้ย”
ครองสุขรู้ว่า แย่แน่ ตัดสินใจวิ่งออกไปทางประตูด้านหลัง
“นั่น มันอยู่นั่น”
ปลอดเห็นชี้ไปที่ครองสุข
ครองสุขวิ่งหนีไปด้านหลัง ตำรวจเล็งปืนไปทางด้านหลังครองสุข
“หยุด ไม่งั้นยิง”
ทรรศนะเข้ามาขวางตำรวจไว้ “อย่ายิง ครับ อย่า”
เหตุการณ์ชุลมุน ทรรศนะดันกับตำรวจ ทัศนีย์เงอะงะ ส่วนปลอด วิ่งชนทัศนีย์ร่างกระเด็นเข้าไปในอ้อมกอดปานเทพ ปลอดไล่ตามครองสุข
ในที่สุดตำรวจรวบตัวทัศนีย์กับทรรศนะ ส่วนกำลังที่เหลือ 3 นายไล่ตามไปติดๆ เสี่ยตงยืนเกาะเก้าอี้เพราะยังเจ็บขาอยู่ ตะโกนบอกเหยงๆ
“อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้นะคุณตำรวจ”
ครองสุขวิ่งออกมาด้านนอก เจิดกับก้านวิ่งหน้าตื่นมาหา ยังไม่รู้ว่ามีตำรวจ
“ไอ้จอมมันทรยศ ผมยิงมันตายไปแล้ว แต่นังปิ่นหนีไปได้”
“โอ๊ยช่างหัวมัน หลีกไป”
ครองสุขวิ่งไปทางรถ ปลอด กับตำรวจวิ่งออกมา เจิดตกใจยิงใส่ปลอดก่อน ปลอดกระโดดหลบ
ก้านยิงใส่ตำรวจ ถูกตำรวจยิงสวนพร้อมกัน เจิดกะก้านยิงสู้ ตำรวจโดนยิ่งกระเด็น ไปคนหนึ่ง
ปลอดหยิบปืนตำรวจ ยิงสวนเปรี้ยงๆ เจิดกะก้านโดนกระสุนตายคาที่ทั้งคู่
ตำรวจไล่ตามครองสุข เห็นครองสุขขับรถหนีไปไม่ทิ้งฝุ่น
“ตามเร็ว” หัวหน้าตำรวจตะโกนก้อง
ตำรวจวิ่ง กลับไปที่รถ ปานเทพวิ่งมาพอดี
“พ่อเป็นไง”
“ไม่เป็นไร ไปที่รถเร็ว
ปลอดกับปานเทพไปทางเดียวกับตำรวจ
เวลาเดียวกันปิ่นอนงค์ขับรถมาจอดริมบึง ก้าวลงจากรถ เดินเหลียวรอบทิศหาใหญ่ ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองโดนยิง
ปิ่นอนงค์หน้าซีดเป็นไข่ต้ม เหงื่อเต็มหน้า เดินลากเท้ามา กัดฟันใช้ไม้เท้าพยุงตัวเดินต่อ
สายตาเริ่มพร่าเลือน เห็นมีคนสามคนเดินมา แต่มองเห็นไม่ชัด
ปิ่นอนงค์รวบรวมกำลัง เพ่งมองเห็นเป็น เปี๊ยก ถวิล พากันประคองใหญ่เดินมา ปิ่นอนงค์ยิ้มออกมาอย่างดีใจ
“คุณใหญ่”
ปิ่นอนงค์ฝืนตัวเดินต่อไปไม่ไหวล้มลงกับพื้น
ใหญ่หันมาเห็นสะบัดตัวจากถวิล เปี๊ยก โผนทะยานวิ่งไปหา ประคองปิ่นอนงค์ไว้ในวงแขน
ปิ่นอนงค์ลูบไล้แก้มใหญ่อย่างรักใคร่ “คุณใหญ่ยังไม่ตายจริงๆ ด้วย”
“ชั้นไม่เป็นอะไร จอมไม่ได้ฆ่าฉัน”
ถวิลรีบบอก “จอมมันโทร.ให้ผมมาช่วยคุณใหญ่ มันรู้แล้วว่ามันถูกหลอกใช้ตอนที่คุณใหญ่แอบไปช่วยผม ไอ้จอมมันก็สงสัยแล้ว”
ถวิลเล่าเรื่องให้ทุกคนฟัง
ตั้งแต่ตอนที่จอมฟาถวิลมาส่งแล้วจะถู฿กลูกน้องครองสุขฆ่าทิ้ง แต่ใหญ่แอบช่วยยิงลูกสมุนครองสุข จนเตลิดหนีไป
จอมมานอนเฝ้าปิ่นอนงค์ที่หน้าห้อง แล้วสะดุ้งตื่น
ถวิลเล่าต่อ “วันที่มันไปนอนเฝ้าหน้าห้องหนูปิ่น มันก็ได้ยินเสียงคุณใหญ่ มันก็เลยสะกดรอยตามนังหวานไปที่ฟาร์มแพะ”
ในขณะที่ถวิล เปี๊ยกช่วยกันจับแพะให้จินตนาตรวจสุขภาพ หวานวิ่งเข้ามา
“ไอ้เปี๊ยก คุณใหญ่ล่ะ ปิ่นให้มาตาม”
เปี๊ยกชี้ๆ ไปทางหนึ่ง จินตนาเงยหน้าขึ้นมา เห็นจอมยืนจังก้ามองจ้องอยู่ห่างออกไป
จินตนาลุกยืนพรวด “จอม”
ถวิลตกใจ จอมหน้าตาถมึงทึงโพล่งขึ้น “คนที่ช่วยชีวิตพ่อวันนั้น คือไอ้ใหญ่จริงๆ ทุกคนรวมหัวกันหลอกผม” มองจินตนาอย่างผิดหวัง “ทั้งเพื่อน” หันไปมองถวิล “ทั้งพ่อ”
ถวิลเดินไปหาจอม “เอ็งมันคนมุทะลุ ใครจะกล้าบอกความจริงกับเอ็ง นังคุณนายมันตัวร้าย ถ้าเอ็งคิดจะพิสูจน์ก็ไม่ยาก”
จอมทำตามแผนที่พ่อแนะนำ มอมเหล้าสมุนเสี่ยตง 2 คน จนเมาปลิ้น
จอมพูดขึ้นเบาๆ “ฉันได้ยินมาว่า เสี่ยตงเคยจับคนกดน้ำตายคามือจริงหรือ”
สมุนคนหนึ่งนึกไปนึกมา ถามขึ้นมาแบบเมาๆ “เสี่ยเคยทำอย่างนั้นด้วยหรือวะ”
“ก็นังอุ่นเรือนแม่นังปิ่นอนงค์ไง แต่เสี่ยไม่ได้ทำเองเว้ย นังคุณนายต่างหาก” สมุนอีกคนว่า
“ฉันจำได้แล้ว เสี่ยให้ฉันสะกดรอยตามดูคุณนาย คุณนายโคตรโหดเลย จับบีบคอกดน้ำ ชั้นเห็นเต็มสองตา”
“ช่าย ไอ้ใหญ่มาทีหลัง นังอุ่นกลายเป็นผีไปแล้ว” สมุนเสี่ยตงทั้ง 2 คนเล่าอย่างสะใจ
จอมบีบแก้วมือสั่น หูตาสว่าง
ถวิลเอ่ยขึ้น “ไอ้จอมมันเลยหูตาสว่าง”
ปิ่นอนงค์พยายามฝืนใจพูด “จริงสิ จอม จอมถูกไอ้เจิด ไอ้ก้านรุมทำร้าย ลุงหวิน คุณใหญ่ ไปช่วยจอมด้วย จอมเป็นคนช่วยปิ่นให้หนีมา”
ถวิลห่วงลูกชาย “ผมจะรีบไปดูไอ้จอมก่อน” ถวิลสั่งเปี๊ยก “เอ็งอยู่นี่แหละ”
ถวิลวิ่งไปเร็วรี่ ใหญ่กอดปิ่นอนงค์แน่นจูบหน้าผากอีกหลายหน
"ฉันนึกว่าจะไม่ได้เจอเธออีกแล้ว ปิ่น"
ปิ่นปิ่นก็ดีใจที่ได้เจอคุณใหญ่อีก โอ๊ย
ปิ่นอนงค์ร้องขึ้นจังหวะที่มือใหญ่ไปโดนเอว ใหญ่รู้สึกถึงน้ำที่เปื้อนมือ ใหญ่แปลกใจมากจึงยกมือขึ้นดู เห็นเลือดเต็มมือ
“เลือด” ใหญ่อุทานอย่างตกใจ
เปี๊ยกทรุดลง ก้มดู แล้วร้องอ้อแอ้ ลั่น
เมื่อเห็นด้านหลังปิ่นอนงค์เลือดโชก แผลข้างหลังทะลุรูใหญ่
ใหญ่รีบพลิกดูที่เอว ปิ่นอนงค์ปล่อยมือที่กุมเอวไว้ เห็นรูปืนเล็กๆ เลือดไหลไม่หยุด
“ปิ่นถูกยิง” ใหญ่ตกใจ ตาค้าง
ปิ่นอนงค์คอพับไป ใหญ่เขย่าตัว “ปิ่นๆ ตื่นขึ้นมา มองหน้าฉัน ปิ่นๆๆ”
ปิ่นอนงค์พยายามปรือตาขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณใหญ่” ยิ้มให้ “ปิ่นไม่เป็นไร ปิ่นไม่เจ็บเลย คุณใหญ่ไม่ต้องห่วง”
“แข็งใจไว้นะ ปิ่น เปี๊ยกมาช่วยกัน”
เปี๊ยกรีบเข้ามาช่วยพยุง ปิ่นอนงค์ขืนตัวไว้ พูดเสียงแผ่วๆ “คุณใหญ่ สัญญากับปิ่นนะคะ ว่าคุณใหญ่จะไม่ผูกใจเจ็บคุณนาย แม่ปิ่น แล้วก็ศัตรูคุณใหญ่ทุกคน ปิ่นไม่ได้ขอเพื่อแม่ หรือคนเหล่านั้น แต่ปิ่นขอเพื่อตัวคุณใหญ่เอง ปิ่นอยากเห็นคุณใหญ่ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข”
ใหญ่พยักหน้าหงึกๆ “ฉันรับปากเธอได้ทุกอย่าง แต่เธอต้องสัญญากับฉันว่าเธอจะไม่ทิ้งฉันไป เธอต้องเข้มแข็ง”
ปิ่นอนงค์ยิ้ม “ไม่ว่าปิ่นจะอยู่ที่ไหน ปิ่นจะจำความรักของคุณใหญ่ไว้ ตลอดไป”
“ไม่ ปิ่น เราต้องอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ฉันไม่ยอมให้เธอจากฉันไปอีกแล้ว”
ใหญ่กอดปิ่นแน่น ปิ่นมือตก เปี๊ยกตะลึงน้ำตาไหล
ภาพเหตุการณ์ความรักความหลังของใหญ่กับปิ่นอนงค์ พร่างพรูในสำนึกสุดท้ายของปิ่นอนงค์ราวกับสายน้ำไหล
ตอนที่ใหญ่กับปิ่นอนงค์วิ่งเล่นไล่กันในทุ่งข้าวหมู่บ้านชาวนา
สองคนเดินเล่นในทุ่งดอกไม้สวย ใหญ่นอนหนุนตักปิ่นอนงค์อย่างมีความสุข
ตอนใหญ่หื่นปล้ำปิ่นอนงค์จนเตียงหัก ฉากรัก ฉากโรแมนซ์ต่างๆ นาๆ
ในที่สุดปิ่นอนงค์คอพับแน่นิ่งไป ใหญ่ตะลึง ตะโกนก้อง
“ปิ่น......”
ใหญ่แค้นจัด คำรามลั่น “นังปีศาจ มันอยู่ไหน ฉันจะฆ่าแก”
โปรดติดตาม "ปิ่นอนงค์" ตอนที่ 21 - อวสาน พรุ่งนี้