xs
xsm
sm
md
lg

บ่วงบาป ตอนที่ 14

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บ่วงบาป ตอนที่ 14

ทัดมองเกลียวอย่างผิดหวัง

“ต่างสิ เพราะชุ่มเป็นเมียพี่ เป็นคนที่พี่รัก แต่ที่เป็นแบบนี้เพราะเขาจำพี่ไม่ได้ พี่จะรอจนกว่าชุ่มจะจำพี่ได้ ถึงจะต้องรอไปตลอดชีวิต...พี่ก็จะรอ”
ทัดล้มตัวลงนอนหันหลังให้เกลียว
“เอ็งกลับไปเถอะ ข้าวกับยานั่นเดี๋ยวพี่กินเอง อย่าให้พี่เป็นเหตุให้ท่านเจ้าคุณลงโทษเอ็งอีกเลย”
เกลียวมองหลังผู้ชายที่ไม่เคยเห็นค่าความรักของตนเลย

เกลียวเดินเร็วกึ่งวิ่งมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เกลียวหยุดวิ่งแอบหอบเล็กๆพร้อมมีน้ำตา
เสียงยังคงก้องในหัว
“ในสายตาของพี่ฉันทำอะไรก็ผิดใช่มั้ย ทั้งๆที่ฉันพูดความจริง แทนที่คุณนวลจะดูแลผัวตัวเองกลับมาดูแลผู้ชายอื่น แบบนี้มันดีนักหรือไง เมียพี่ก็ไม่ต่างอะไรจากฉัน”
ทัดมองเกลียวอย่างผิดหวัง
“ต่างสิ เพราะชุ่มเป็นเมียพี่ เป็นคนที่พี่รัก แต่ที่เป็นแบบนี้เพราะเขาจำพี่ไม่ได้ พี่จะรอจนกว่าชุ่มจะจำพี่ได้ ถึงจะต้องรอไปตลอดชีวิต...พี่ก็จะรอ”

“ถ้าคุณไม่อยากเสียนายทัดไปอย่างที่ดิฉันเคยเสียคนรัก คุณจะต้องระวังคุณนวลให้ดี”

เกลียวกำมือแน่นก่อนจะยกขึ้นมาปาดน้ำตา
“ฉันจะไม่ให้พี่มีวันเสียพี่ทัดให้กับผู้หญิงร้ายกาจแบบนั้นเป็นอันขาด”
แววตาเกลียววาวโรจน์ด้วยไฟแห่งความริษยา

บริเวณโถงรับแขก ระพีลงนั่งลงด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“ระพีไม่ยอมนะคะคุณแม่ พี่เทิดถึงขนาดลงมือฉุดนังน้อย เป็นแบบนี้ต่อให้มีร้อยพี่อัฐก็คงจะขวางพี่เทิดไม่ได้แล้ว”
“ระพี แกจะตีโพยตีพายให้มันได้อะไรขึ้นมา”
“ระพีก็ไม่ต่างจากคุณแม่หรอกค่ะ เวลาอยากได้อะไรก็ต้องได้ คุณแม่อยากได้ใครคุณแม่ก็ต้องได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม!”
ระพีมองแม่อย่างมีความนัย
“แกพูดอะไรของแก”
ระพีชะงักไป
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ระพีก็แค่พูดไปตามที่เห็น”
รำพึงจบความสงสัย หันมาเปลี่ยนเรื่องเป็นปรามระพี
“ฟังแม่นะระพี แม่น้อยนั่นออกจะจืดชืด ถ้าคนอย่างแกไม่มีน้ำยาพอจะมัดใจพ่อเทิด ก็อย่าหวังจะชนะมันได้เลย”
ระพีไม่พอใจ
“คุณแม่!”
ระพีฟึดฟัดออกไป ชนกับจวงที่วิ่งหน้าเริ่ดเข้ามา จวงล้ม
“ว้าย! .ตาเถรหกตกใจหมดเจ้าค่ะ คุณหนูระพีเป็นอะไรไปเจ้าคะทูนหัวของบ่าว ทำไมปึงปังเหมือนโดนผีเข้าเลยเจ้าคะ”
“ผีบ้าเข้าสิงตามเคย...แล้วเอ็งวิ่งหน้าเริ่ดมามีอะไรนังจวง”
“มีคนมาหาคุณรำพึงเจ้าค่ะ”
“ใคร มาเอาป่านนี้”
“ที่คุณรำพึงวางเหยื่อล่อปลาไว้ ตอนนี้ปลาติดเบ็ดแล้วเจ้าค่ะ”
จวงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ว่าแผนของเจ้านายชะงัดทุกที รำพึงยิ้มพอใจ

รำพึงเดินเข้ามา เกลียวยืนอยู่
“ตัดสินใจได้แล้วใช่มั้ย”
“ฉันไม่อยากเสียพี่ทัดไป”
“ถึงเวลาบอกลาคุณนวลซะที”
รำพึงเดินเข้าไปจ้องหน้าเกลียว
“ถึงเวลาที่คนอย่างนั้นจะได้รับความเจ็บปวดซะบ้าง อย่าให้ใครแย่งของรักของเราไปได้”
“ฉันต้องทำยังไง”
แววตาของรำพึงมีแผนร้าย ในขณะที่แววตาของเกลียวเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น

ระพีทุบเตียงด้วยความโมโห
“ใครว่าคนอย่างระพีไม่มีน้ำยา”

ระพีคิดเรื่องที่เทิดดูถูกเอาไว้
เทิดผลักระพีกระเด็นล้มลงกับพื้น
“อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคุณน้อยอีก เพราะมันตลกสิ้นดี คนอย่างเธอเทียบกับคุณน้อยไม่ได้เลยสักนิด ถ้าใครได้เธอไป คนนั้นดวงตกชัดๆ”

ระพีได้ยินว่า รำพึงเคยทำเสน่ห์
“หรือเราจะพาคุณอัฐไปทำเสน่ห์ใส่คุณน้อยไปเลยดีเจ้าคะ”
“ไม่ดีหรอก”
“ไม่ดีจริงหรือเจ้าคะ ถ้าไม่ดีแล้วคุณรำพึงทำทำไม”
“คุณแม่เคยทำเสน่ห์”

ระพีคิดถึงคำพูดหมอไสย์
“ข้าเอาของดีมาประเคนให้ตรงหน้า ถ้าไม่เอาก็โง่เต็มที!”

ระพีดวงตาวาวโรจน์
“ในเมื่อไม่มีใครช่วยระพี ระพีก็จะลงมือเอง”

ไฟโหมกระหน่ำที่กระท่อมแห่งหนึ่ง ทัดถูกมัดไว้กับต้นไม้ ทัดตกใจพยายามดิ้นรนให้หลุดจากการถูกมัด แล้วนวลกับน้อยก็ค่อยๆเดินมาที่หน้ากระท่อม ทัดเห็นตะโกนเรียก

“ชุ่ม...คุณน้อย”
นวลกับน้อยยืนมองเขาน้ำตาไหล ก่อนที่จะค่อยๆเดินเข้าไปในกองไฟ
“ชุ่มอย่าเข้าไป คุณน้อย อย่าเข้าไป”
นวลจูงมือน้อย เดินเข้ากองไฟไป ทัดตะโกนลั่น
“ไม่!”
ภายในห้องนอน ทัดสะดุ้งเฮือกตื่นขึ้นมา เหงื่อเต็มกาย ร่างปะทุไปด้วยความร้อน
“ทำไมเราฝันแบบนี้”
ทัดรู้สึกไม่สบายใจ

ภายในห้องนอนคุณพระเกิด นวลนั่งปักผ้าอยู่ นวลคิดถึงคำพูดของเกลียว

“คุณนวลกลับขึ้นเรือนไปเถอะค่ะคนที่คุณนวลควรจะดูแลน่าจะเป็นคุณพระเกิดมากกว่า ไม่ใช่เหรอคะ”

คุณพระเกิดกลับเข้ามาในชุดทำงาน เห็นนวลนั่งเหม่อจึงเรียก
“แม่นวล”
นวลตกใจเข็มตำมือ!
“อุ้ย!”
คุณพระเกิดเห็นรีบเข้าไปจับมือนวลขึ้นมา เห็นเลือดที่มือนวล คุณพระเกิดดึงมือนวลขึ้นมาใช้ปากซับห้ามเลือดให้นวล
นวลมองผู้ชายตรงหน้าก่อนค่อยๆดึงมือออกมา
“ไม่เป็นไรค่ะคุณพี่ แค่เข็มตำนิดเดียว”
คุณพระเกิดมองนวลที่อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะรวบตัวนวลเข้ามากอด
“แม้เจ็บเพียงนิดเดียว พี่ก็ไม่ต้องการให้นวลเจ็บ”
นวลรู้สึกผิด คุณพระเกิดผละตัวออก
“จริงๆ พรุ่งนี้พี่ต้องไปดูสมุนไพรที่มากับเรือจากพระนคร แต่พี่คงของด ช่วงนี้มีแต่เรื่อง พี่กลัวว่านวลกับแม่น้อยจะมีอันตราย”
“อย่าให้ดิฉันกับลูกเป็นต้นเหตุให้คุณพี่ต้องเสียงานสิค่ะ ดิฉันกับลูกไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ อีกอย่างมีนายทัดอยู่ ยังไงเขาต้องปกป้องดิฉันกับลูกอยู่แล้ว”
นวลเผลอพูดออกมา คุณพระเกิดชะงักมองจนนวลรู้สึก
“เดี๋ยวนี้นายทัดเป็นคนสำคัญของเมียกับลูกพี่ไปซะแล้ว”
“ดิฉันหมายถึงว่าที่เรือนยังมีผู้ชายอยู่บ้าง ไม่ใช่มีแต่ลำพังผู้หญิง คุณพี่อย่าห่วงเลยค่ะ ไปทำงานเถอะค่ะ”
“เอาเป็นว่า ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ นวลกับลูกก็อย่าออกจากเรือน รอพี่กลับมาก่อน”
“ค่ะ”
นวลรับคำสามี คุณพระเกิดเดินไป ก่อนหันมามองหลังนวลอย่างกังวล

วันใหม่ ที่โถงเรือนคุณพระไว อัฐเดินออกมาจากห้อง แต่เจอรำพึงที่นั่งจิบน้ำชาอยู่
“จะไปไหนแต่เช้าพ่ออัฐ”
“ผมจะไปเยี่ยมคุณน้อย กับคุณน้านวล ครับคุณแม่”
รำพึงทำเสียงดัง
“ทำไมต้องวันนี้”
อัฐชะงักไป รำพึงรีบหาทางแก้
“เอ่อ...คือ แม่มีหนังสือที่อยากให้ลูกอ่านให้ฟังหน่อยน่ะจ้ะ ไว้ไปหาแม่น้อยวันอื่นเถอะนะ”
อัฐคิดนึดนึง
“แต่ว่า ผมเป็นห่วง”
“แม่ว่าคุณพ่อคงกลับวันนี้ แม่อยากให้ลูกอยู่รอรับคุณพ่อกับแม่ด้วย ได้มั้ยพ่ออัฐ”
อัฐเจอไม้นี้ของรำพึงจึงจำต้องยอม
“ครับคุณแม่”

บนโต๊ะอาหารที่เรือนคุณพระเกิด นวลกำลังคนจัดสำรับ มีคนใช้เป็นลูกมืออยู่ น้อยเดินเข้ามาหานวลทางด้านหลัง
“น่ากินจังเลยค่ะคุณแม่”
“ที่มาชมแม่เนี่ย เพราะหิวล่ะสิ”
“ไม่ใช่ซะหน่อยค่ะ น้อยกำลังคิดว่าถ้าลุงทัดได้ชิมฝีมือของแม่นวล ต้องหายเร็วแน่ๆ”
ทันใดนั้นก็มีเสียง ตะโกนโหวกเหวกเรียกนวล
“แย่แล้วค่ะ คุณนวล แย่แล้ว”
เกลียววิ่งตรงเข้ามาหานวล ดูท่าทีร้อนรน
“คุณนวลคะแย่แล้วค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณเกลียว”
“คุณพระเกิดถูกโจรทำร้าย ระหว่างทางไปที่ท่าเรือค่ะ”
“คุณพี่/คุณพ่อ”
บ่าวไพร่พากันตกใจ
“พอดีเจ้าหน้าที่มาแจ้งท่านเจ้าคุณ ดิฉันได้ยินก็เลยรีบเอาข่าวมาบอก”
“ตอนนี้คุณพี่อยู่ที่ไหน”
“คุณพระบาดเจ็บสาหัส ยังเดินทางกลับมาไม่ไหว คณะเลยให้พักอยู่กลางป่าค่ะ”
นวลตกใจมาก
“แม่จะไปดูคุณพ่อ แม่น้อยอยู่เรือนนะลูก อย่าไปไหน”
“ไม่ค่ะ น้อยจะไปกับแม่นวล”
เกลียวตกใจ
“ไม่ได้นะคะ แม่น้อยอย่าไปดีกว่าค่ะ มันอันตราย!”
“น้อยขอไปด้วยนะคะคุณแม่ น้อยพอรู้เรื่องสมุนไพร คงจะพอช่วยคุณพ่อได้ ให้น้อยรออยู่นี่ น้อยคงอยู่ไม่เป็นสุขแน่”
“คุณเกลียว ช่วยให้คนนำทางดิฉันกับแม่น้อยไปหาคุณพี่หน่อยนะคะ”
“แต่ว่าแม่น้อย...”
“อย่ามัวชักช้าดีกว่าค่ะ รีบไปกันเถอะ”

นวลกับน้อยรีบไป เกลียวมองตามสองแม่ลูกอย่างเย็นชา

อ่านต่อเวลา 17.00น.

เกลียวเดินนำนวลกับน้อยมาหยุดที่กระท่อมกลางป่า
“ที่นี่แหละค่ะ”
“ทำไมไม่เห็นมีคณะของคุณพี่อยู่เลย”
“คุณน้าเกลียวพาเรามาถูกแน่นะคะ”
เกลียวดูอยู่ไม่เป็นสุข ตอบลนลาน
“แน่สิคะ”
ทันใดนั้นลูกน้องชายร่างกำยำ 2 คนก็โผล่ออกมาจากกระท่อม นวลกับน้อยมีท่าทีระวัง
“พวกแกเป็นใคร”
ไม่มีคำพูดใดๆ ลูกน้องพุ่งเข้าจับตัว 2 แม่ลูก นวลกับน้อยวิ่งหนี แต่ไม่ทันถูกรวบตัวไว้ได้
“ปล่อยนะ /ปล่อยฉัน”
ลูกน้องคนแรกหันไปพูดกับเกลียว
“งานของคุณเกลียวเสร็จแล้ว แต่นายสั่งว่าให้คุณเกลียวรออยู่นี่ก่อน”
นวลกับน้อยตกใจหันไปมองเกลียวอย่างไม่เชื่อหู
“คุณเกลียว?!”
“น้าเกลียวทำแบบนี้กับน้อยกับแม่นวลได้ยังไง”
เกลียวเริ่มสั่นกลัว
“น้าไม่ได้ตั้งใจจะทำแม่น้อย ก็น้าบอกแล้วไม่ให้แม่น้อยมา”
“คุณเกลียว อย่าให้พวกเขาทำอะไรเราสองแม่ลูกเลยนะ ฉันขอร้อง”
“ไม่ต้องพูดมาก...ยังไงวันนี้พวกเอ็งก็ไม่รอด”
น้อยกัดมือโจร พุ่งจะไปช่วยนวล
“โอ้ย!”
“แม่น้อย...ระวัง”
โจรกระชากแขนน้อยกลับมา น้อยเจ็บ ร้องเสียงหลง นวลกระทืบเท้าโจร วิ่งจะเข้าไปหาน้อย แต่โจรอีกคนดึงนวลและจับนวลเหวี่ยงออกไป นวลล้มลงหัวไปกระแทกพื้นอย่างแรง น้อยเห็นตะโกนลั่น
“แม่นวล..แม่นวล!”
นวลสลบ มีเลือดออกที่โคนผม เกลียวตกใจมาก
“จับมัน 2 คนไปมัดไว้ในกระท่อม”
ชายทั้ง 2 ลากนวลกับน้อยผ่านหน้าเกลียวที่รู้สึกสับสน เข้ากระท่อมไป

ภายในห้องนอน อัฐหลับพับอยู่บนเตียง แก้วน้ำมะตูมเหลือเพียงเสี้ยว จวงโผล่หน้ามามองอัฐในระยะใกล้ๆ และใช้มือตบหน้าเบาๆเรียกอัฐ
“คุณอัฐคะ คุณอัฐ...”
จวงก็หัวเราะคิกคัก
“เสร็จจวง!”
รำพึงก้าวเข้ามามองลูกชาย
“รับรองยาขนานนี้คุณอัฐหลับเป็นตาย ว่าแต่คุณรำพึงให้จวงวางยาคุณอัฐทำไมเจ้าคะ”
“ข้าจะปล่อยให้ตาอัฐไปขวางทางตายของนังชุ่มไม่ได้”
“ทูนหัวของบ่าวนี้แค้นนังชุ่มฝังในจริงๆนะเจ้าคะ”
“นังชุ่มมันแย่งหัวใจข้าไป ที่ข้าอยู่ได้ทุกวันนี้ก็แค่มีลมหายใจแต่ไร้ความรู้สึก ไม่มีวันที่ข้าปล่อยให้มันได้เสวยสุขบนความทุกข์ของข้า!”
รำพึงสีหน้าหมายมั่น
“เอ็งดูตาอัฐไว้ อย่าให้ไปเรือนคุณพระเกิดได้”
“เจ้าค่ะทูนหัวของบ่าว”
รำพึงเดินออกจากห้องไป จวงถอนใจมองอัฐที่นอนสลบไสล

ที่ห้องทัดในเรือนคุณพระเกิด ทัดลุกจากเตียงมาเปิดประตูห้อง คนใช้สองคนถือถาดอาหารตรงมาที่ทัดแล้วพูดกัน
“คุณพระไม่น่าโชคร้ายเลย ไม่รู้จะเป็นอะไรมากรึเปล่า”
“ฉันน่ะสงสารก็แต่คุณนวลพอได้ข่าวคุณพระถูกโจรทำร้ายก็หน้าถอดสีเลย”
“สาธุ ขอให้คุณๆปลอดภัยด้วยเถอะ”
ทัดรีบออกมาตรงไปที่คนใช้ทั้งสองคน
“คุณนวลกับคุณน้อยอยู่ไหน”
ทัดเขย่าแขนคนใช้จนถาดข้าวหล่นกระจาย
“ข้าถามว่าคุณนวลกับคุณน้อยไปไหน”
“คุณนวลกับคุณน้อยตามคุณเกลียวไปดูคุณพระน่ะ”
“เกลียว”

ทัดวิ่งออกมาที่หน้าเรือน หน้าตาตกใจ ทัดไม่อยากเชื่อสายตาคือ คุณพระเกิดเดินกลับเข้ามาในเรือน ทัดงง!
“คุณพระ!ทำไมคุณพระอยู่ที่นี่”
คุณพระเกิดแปลกใจ
“นายทัดพูดอะไร”
“คุณพระไม่ได้โดนโจรทำร้ายเหรอครับ”
“โจรที่ไหน นี่นายทัดไข้กลับหรือเปล่า”
“คุณนวลกับคุณน้อยตกอยู่ในอันตรายขอรับ เรารีบออกตามหาคุณทั้งสองกันเถอะ”
คุณพระเกิดกับทัดรีบออกไป

ในกระท่อม น้อยกับนวลถูกมัดมือกับขาไพล่หลัง นวลนอนสลบอยู่ น้อยร้องไห้
“แม่นวล ฟื้นสิจ๊ะ...แม่นวล”
นวลเลือดไหลออกจากหน้าผากนิ่งไม่ไหวติง
“แม่นวลอย่าตายนะ ช่วยด้วย น้าเกลียวช่วยพวกเราด้วย น้อยขอร้อง”
ทางด้านนอก เกลียวเดินกลับไปกลับมาอย่างร้อนรน เกลียวนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา

เกลียวพาทัดมาขอความช่วยเหลือ เกลียวพาทัดที่หน้าตาปูดบวมลงนั่งที่หน้าบ้าน
“คุณพระเกิด คุณพระเกิดคะ”
นวลกับน้อยออกมาจากในเรือน
“คุณนวล ช่วยพี่ทัดด้วยค่ะ”
“ลุงทัด !”

น้อยกับนวลรีบวิ่งลงบันไดมาดูทัด

เกลียวมือกำมือแน่น ตัดสินใจพูดกับโจร
“ปล่อยคุณน้อย กับคุณนวลเถอะ”
“เพ้อเจ้ออะไร”
“ฉันขอร้องปล่อยพวกเขาเถอะ ฉันจะให้ค่าจ้าง 2 เท่าเลย”
ลูกน้องมองหน้ากัน แต่เป็นจังหวะที่รำพึงก้าวเข้ามา
“ใครปล่อยพวกมันข้าเอาตาย!”
รำพึงหันขวับไปมองเกลียว
“เกิดบ้าอะไรขึ้นมา ไหนว่าอยากกำจัดนังนวลมันนักหนาไง”
“ฉัน...ฉันทำไม่ลง ความริษยามันทำให้ฉันตาบอด แต่ตอนนี้ฉันได้สติแล้ว ฉันฆ่าพวกเขาไม่ได้”
รำพึงตบหน้าเกลียว เพี๊ยะ เกลียวหน้าหัน
“อย่ามาน้ำเน่า ใส่ฉัน!”
เกลียวมองรำพึงอย่างโกรธ!!
“ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำอะไรพวกเขา”
กลียวจะวิ่งเข้าไปในกระท่อม รำพึงสั่งลูกน้องเสียงเข้ม
“จับมัน!”
ลูกน้องคนหนึ่งเข้ารวบเกลียว
“ปล่อยข้า นะ ปล่อย! โอ้ย”
เกลียวดิ้นลูกน้องคนที่สองชกท้องเกลียวสองที จนเกลียวจุกตัวงอ สลบไป
“นังโง่ หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ จับมันไปมัดรวมไว้ในกระท่อม”
ลูกน้องลากเกลียวไป
“ไม่มีใครหน้าไหนขวางข้าได้ทั้งนั้น”
ดวงตารำพึงวาวโรจน์
“เผาพวกมันซะ!”

ที่ตลาด ทัดถามคนที่เดินผ่านมา ว่าเห็นนวลกับน้อยหรือไม่ คุณพระเกิดจับไหล่ ผู้หญิงคนหนึ่งให้หันกลับมาเพราะเข้าใจว่าเป็นนวล
ทางเดินในป่า ทัดกับคุณพระเกิด ชี้ว่าตัวเองจะไปดูทางไหน และแยกกันไป ณ จุดเดิม ทั้งคู่วิ่งกลับมาเจอกันและส่ายหัวว่าไม่มี ทั้งทัดกับคุณพระเกิดมีสีหน้าเป็นห่วง แววตากังวล เดินตรงเข้าหา

ด้านในกระท่อม ควันไฟเริ่มเข้ามาในกระท่อม น้อยเห็นควันรีบตะโกนเรียกนวลกับเกลียวที่สลบอยู่
“แม่นวลจ๋า น้าเกลียวฟื้นเร็ว...ไฟไหม้”
น้อยพยายามตะเกียกตะกายไปเขย่าตัวเกลียว เกลียวค่อยๆฟื้นลืมตา สำลักควัน
“แม่น้อย!”
เกลียวมองไปรอบๆเห็นควันไฟมากมาย และเห็นนวลสลบ
“แม่นวล ฟื้นสิ...แม่นวล”
เกลียวเห็นสภาพตัวเองและนวลกับน้อยก็ร้องไห้ ได้แต่บอกว่า
“แม่น้อย น้าขอโทษ น้าขอโทษ”
น้อยกับเกลียวสำลักควันไฟ
ที่ด้านนอก รำพึงยื่นถุงเงินให้นักเลง 2 คน
“งานหมูๆแบบนี้ถ้ามีอีก ก็เรียกใช้พวกเราได้นะ”
ลูกน้องสองคนรับเงินเสร็จแล้วเดินไป รำพึงหันกลับไปมองเปลวไฟที่ลุกโชน
“อย่าหวังว่าจะหนีไฟแค้นของข้าพ้น นังชุ่ม”
ชุ่มยังนอนสลบไม่ไหวติง

คุณพระเกิดกับทัดเดินเข้ามาในป่า ท่าทางร้อนใจหนัก
“ทำไมคุณเกลียวต้องปองร้ายเมียกับลูกฉันด้วย”
ทัดได้คิด

“ในสายตาของพี่ฉันทำอะไรก็ผิดใช่มั้ย ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากฉัน”
“ต่างสิ เพราะชุ่มเป็นเมียพี่ เป็นคนที่พี่รัก แต่ที่เป็นแบบนี้เพราะเขาจำพี่ไม่ได้ พี่จะรอจนกว่าชุ่มจะจำพี่ได้ ถึงจะต้องรอไปตลอดชีวิต...พี่ก็จะรอ”

ทัดร้อนใจ
“เกลียว...เอ็งอย่าทำอะไรโง่ๆนะ”
ที่มุมหนึ่งมีเปลวไฟพวยพุ่งขึ้นมา ที่คุณพระเกิดเห็น
“นั่น!”
ทัดหันขวับกลับมามองคุณพระเกิด ทั้งสองรีบมุ่งไปที่ทิศทางของไฟอย่างรวดเร็ว

อีกมุมหนึ่ง คุณพระไวกับขบวนเดินมาตามทาง สายตาของคุณพระไวเหลือบไปเห็นควันไฟกลุ่มใหญ่ลอยขึ้นมา คุณพระไวบอกให้ขบวนหยุด
“หยุดก่อน! นั่นควันอะไร”
ลูกน้องเข้ามารายงาน
“พวกออกหาของป่า อาจจะพักแรมอยู่แถวนี้ก็ได้ขอรับ”
“แต่กลุ่มควันใหญ่ขนาดนั้น ไม่น่าจะแค่พักแรม ไปดูสิ เผื่อใครจะต้องการความช่วยเหลือ”
“ขอรับ”
กลุ่มของคุณพระไวเดินมุ่งไปตามทางของควันไฟ

ทัดกับคุณพระเกิดวิ่งมาถึงที่หน้ากระท่อม ไฟโหมกระหน่ำ แต่เสียงที่ทำให้ทัดและคุณพระเกิดต้องช็อคคือเสียงน้อยร้องเรียกคนช่วย
“ช่วยด้วย แม่นวลจ๋า ฟื้นสิ”
คุณพระเกิดเป็นห่วงลูก
“ยัยน้อย!”
ไม่ทันขาดคำ ทัดก็วิ่งฝ่ากองไฟเข้าไป คุณพระเกิดเห็นรีบวิ่งตามเข้าไป ภายในกระท่อม น้อย กับเกลียว สำลักควันจนน้ำหูน้ำตาไหลทัดถีบประตูที่ไหม้ไฟออกมา
“ลุงทัด!”
“พี่ทัด!”
“ลุงทัดช่วยแม่นวลด้วย ลุงทัด”
ทัดวิ่งเข้าไปประคองนวล แต่ลูกไฟตกมาใกล้ๆ ทัดใช้ตัวบังไฟให้นวล เป็นจังหวะที่คุณพระเกิดตามเข้ามาเห็น น้อยตะโกนเรียก
“คุณพ่อ!”

“ยัยน้อย!”

บ่วงบาป ตอนที่ 14 (ต่อ)

คุณพระเกิดวิ่งเข้าไปหาน้อย คุณพระเกิดอุ้มน้อยขึ้นมา ทัดบอกคุณพระเกิด

“คุณพระพาคุณน้อยออกไปก่อนขอรับ”
คุณพระเกิดฝ่าไฟพาน้อยออกไป ทัดหันมองเกลียวที่สำลักควันไฟ
“พี่ทัดฉันขอโทษ ฉันขอโทษ”
ทัดใช้แขนของเขาพยายามจะพยุงเกลียว แต่ลูกไฟอีกลูกก็หล่นมาขวาง
“พี่ช่วยคุณนวลออกไปก่อนเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน อยู่แบบนี้จะตายกันหมด”
“เกลียว...พี่จะกลับมาช่วยเอ็ง”
“รีบไปเถอะพี่!”
ทัดอุ้มนวลที่สลบฝ่าไฟออกไป เกลียวมองตามหลังผู้ชายที่รัก
“คนอย่างฉันมันสมควรตายแล้วที่ทำแบบนี้กับพี่”
ทางด้านนอก คุณพระเกิดอุ้มน้อยมานั่งลง หน้าน้อยเต็มไปด้วยเขม่าและน้ำตา
“คุณพ่อ แล้วแม่นวล…”
คุณพระเกิดกำลังจะเข้าไปช่วยนวลในกระท่อม จังหวะนั้น ทัดก็อุ้มนวลออกมาจากกองไฟ
ทัดตรงมาที่กลุ่มคุณพระไว
“แม่นวล!”
“นวล!”
ทัดส่งนวลให้กับคุณพระเกิด
“กระผมต้องเข้าไปช่วยเกลียว”
ทัดกลับหลังหันจะเข้าไป แต่กระท่อมก็พังโครมลงมาต่อหน้าต่อตา ทัดช็อก
“เกลียว!”
คุณพระเกิดประคองลูกและเมียอยู่ในอ้อมแขน ทัดทรุดตัวลงกับพื้น คุณพระไวยืนดูเหตุการณ์ ยืนช็อกอยู่!
“ไอ้พิทักษ์”
คุณพระไวกัดกรามกำหมัดแน่น ก่อนที่จะหันไปมองนวลที่อยู่ในอ้อมกอดของคุณพระเกิด
“นังชุ่ม”
คุณพระไวตะลึงงัน

เรือนหมอไสย์ในเวลากลางคืน ระพีนั่งอยู่ต่อหน้าหมอไสย์ที่หัวเราะเสียงลั่น!!
“ฉลาดมากที่เจ้าเลือกข้า!”
“จะทำอะไรก็รีบทำ อย่าพูดมาก!”
“ข้าจะลงมนต์ให้เอ็ง กายของเอ็งจะเป็นทอง ชายที่เอ็งหมายปองจะตะเกียกตะกายกลับมาหาเอ็ง”
ระพีกระหยิ่มที่เทิดจะตกอยู่ในกำมือเธอ!

ระพีใส่ผ้าแถบ หมอไสย์บริกรรมคาถาลูบไล้ทองตามแผ่นหลังของระพี ระพีสีหน้าตาขยะแขยง หมอไสย์ลืมตา ภาพเก่าซ้อนเข้ามา เมื่อครั้งที่รำพึงลงทองที่แผ่นหลัง
“ถึงเวลาที่ข้าจะได้ชำระแค้นกับพวกเอ็ง อีรำพึง!”
หมอไสย์ลูบมาถึงแขนระพี หมอไสย์จับหมับเข้าที่แขน ระพีลืมตาตกใจ
“แกจะทำอะไร”
หมอไสย์ยิ้มหน้าเหี้ยมแล้วบริกรรมคาถาต่อ จากนั้นก็พ่นเลือดใส่หลังระพี ระพีเห็นร้องกรี๊ด! ด้วยความขยะแขยงจะวิ่งหนี แต่หมอไสย์ใช้มือกดหัวระพีและท่องคาถาต่อ ระพีเหมือนโดนสะกด ตาค้าง หมอไสย์พ่นเลือดใส่หน้าระพีจนร้องกรี๊ดและสลบลง
“ ของต่ำที่อยู่ในตัวเอ็งจะทำให้เอ็งเจ็บปวดปางตาย!เอ็งต้องชดใช้ในสิ่งที่แม่เอ็งทำกับข้า”
ระพีสลบ มีหนอนตามรอยเลือดที่อยู่ข้างตัวระพี

ภายในห้องนอน รำพึงหัวเราะสะใจ
“สมน้ำหน้านังชุ่ม! ถ้าตายไปตั้งแต่สิบห้าปีที่แล้ว ข้าก็ไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อย”
“แบบนี้ถ้าท่านขุนพิทักษ์รู้เข้าต้องตรอมใจตายตามนังชุ่มไปแน่ๆเจ้าค่ะ”
รำพึงหุบยิ้ม
“ถ้าคุณพี่จะตายก็ต้องตายเพราะข้า ไม่ใช่นังชุ่ม”
คุณพระไวก้าวเข้ามา จวงเห็นเข้าก็ตกใจ กระเด้งตัวไปไกล
“คุณพระช่วย! อุ่ย!ท่าทางแบบนี้ต้องมีใครสักคนตายก่อนแน่ๆ จวงไปดีกว่านะเจ้าคะ”
จวงรีบคลานออกไป
“ไอ้พิทักษ์มันยังไม่ตาย”
รำพึงหันขวับด้วยความตกใจ
“คุณพี่!”
“น้องรู้แต่น้องปิดพี่ มีเหตุผลอะไรที่น้องไม่บอกพี่”
“คือ...น้องก็เพิ่งรู้ตอนคุณพี่ไม่อยู่นี่ค่ะ”
คุณพระไวไม่เชื่อ
“รำพึง”
“คุณพี่จะมาคาดคั้นน้องให้ได้อะไร”
“หัวใจน้องยังมีไอ้พิทักษ์มันอยู่ตลอดเวลาใช่มั้ย สิบห้าปีมานี้หัวใจของน้องมีแต่มัน ความแค้นของน้องจึงไม่รู้จักจบสิ้น”
คุณพระไวก้าวเข้าไปหารำพึงอย่างเอาเรื่อง
“คุณนวลเมียคุณพระเกิดหน้าเหมือนนังชุ่มอย่างกับคนคนเดียวกัน ไม่ใช่สิ...คุณนวลก็คือ นังชุ่ม น้องก็เลยคิดจะจัดการนังชุ่มเพื่อจะได้เสพสุขกับไอ้พิทักษ์ใช่มั้ย”
คุณพระไวจับแขนรำพึงเขย่า
“คนต่อไปที่น้องอยากให้ตาย คือพี่รึเปล่า ตอบมาสิ หัวใจน้องไม่เคยมีพี่อยู่เลยใช่มั้ย ตอบมาสิรำพึง ตอบมา”
รำพึงสะบัดออก ตบหน้าคุณพระไว
“หยุดดูถูกน้องได้แล้ว เสียแรงที่ร่วมใช้ชีวิตด้วยกันมา”
“แล้วจะให้พี่คิดยังไง ที่น้องทำทุกอย่างนี้จะให้พี่คิดยังไง”
“ที่ผ่านมา คุณพี่ได้ตัวน้องมาครอบครองสมใจ แล้วยังจะเรียกร้องอะไรอีก ถ้าคุณพี่โลภมากแบบนี้ ระวังจะไม่เหลืออะไรเลย”
“ชีวิตของพี่ไม่เคยต้องการอะไร นอกจากน้องรำพึงเพียงคนเดียว น้องเคยรักพี่บ้างมั้ย”
รำพึงหันหลังให้คุณพระไว คำตอบที่รำพึงทำให้น้ำตาแห่งความเจ็บใจของคุณพระไวจุกอยู่ที่คอ“เพราะมัน..ไอ้พิทักษ์”
คุณพระไวออกจากห้องไป

อัฐตื่นลืมตาอย่างสะลึมสะลือ อัฐจับหัวที่รู้สึกปวดจี๊ด คุณพระไวเปิดประตูผัวะเข้ามา
“คุณพ่อ”
คุณพระไวไม่พูดไม่จาเข้ามากระชากคออัฐขึ้นมา
“ฉันไม่น่าเลี้ยงเลือดชั่วๆอย่างแกไว้เลย”
“อะไรกันครับคุณพ่อ”
“คนอย่างแกไม่มีสิทธิ์มาเรียกฉันว่าพ่อ”
รำพึงกระชากคุณพระไวออกมาจากอัฐ

“หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณพี่”

รำพึงเข้าไปขวางตรงหน้าอัฐ

“ถ้าคุณพี่จะทำอะไรตาอัฐก็ข้ามศพน้องไปก่อนเถอะค่ะ”
“รักมันมาก น้องรักเลือดของมันมากกว่าพี่ ทำไมน้องทำกับพี่แบบนี้”
“ใครเคยบอกว่าถ้าน้องอยากได้อะไรก็จะถวายให้ ใครเคยบอกว่ารักน้องจนแลกได้ แม้แต่ชีวิตตัวเอง”
คุณพระไวน้ำตาคลอ
“ถ้าทำไม่ได้อย่างที่พูดก็อย่ามาบอกว่ารักน้อง คุณพี่ไม่รักน้องแล้วเหรอคะ”
คุณพระไวโดนบีบคั้นด้วยคำถามที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้ คุณพระไวหันหลังเดินไป ทิ้งให้อัฐงงกับสิ่งที่เจอ
“คุณแม่ครับทำไมคุณพ่อโกรธผม”
“คุณพ่อไม่ได้โกรธลูก เขาโกรธแม่ต่างหาก แม่จะไม่ให้ใครทำอะไรอัฐได้ แม่สัญญา”
รำพึงกอดอัฐไว้อย่างหวงแหน

ในเวลากลางคืน น้อยนอนอยู่ที่ตั่งกลางโถงเรือน คุณพระเกิดกำลังเอายาสมุนไพรให้น้อยสูดดม
“ขอบใจมากนะทัดที่ช่วยลูกกับเมียฉัน”
“ผมตายดีกว่าที่จะเห็นคุณนวลกับคุณน้อยเป็นอะไรไป”
คุณพระเกิดสะดุด ทัดเองก็มองหน้าคุณพระเกิด
“นายเป็นใครกันแน่”
จังหวะนั้นเองที่น้อยไอขึ้นมา น้อยตื่นลืมตา
“คุณพ่อ…”
คุณพระเกิดรีบไปดูน้อย
“ยัยน้อย ลูกเป็นยังไงบ้าง”
“น้อยไม่เป็นไรค่ะ แม่นวลเป็นยังไงบ้างคะ”
“อยู่บนห้อง ยังไม่ฟื้นเลย”
ทัดและน้อยกังวลใจ
“ไม่น่าเชื่อว่าคุณเกลียวจะทำแบบนี้ได้”
“ดูเหมือนน้าเกลียวจะต้องการทำร้ายแม่นวลมากกว่าน้อย แต่พวกที่จับน้อยบอกว่ามีอีกคนที่จ้างพวกเขา”
“คุณน้อยบอกว่ามีคนจ้างเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ แต่น้อยไม่รู้ว่าเป็นใคร”
ทัดกำหมัดแน่น พูดออกมาเบาๆในลำคอ
“รำพึง”

ระพีสลึมสะลือ ตกใจค่อยๆฟื้นลุกขึ้น หมอไสย์อยู่ตรงหน้า ทุกอย่างดูสงบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ร่างกายของระพีไม่มีรอยเลอะเลือด
“แกทำอะไรฉัน”
“เอ็งสลบ เพราะกำลังของเอ็งต้านมนต์ของข้าไม่ได้ แต่ข้าทำพิธีให้เอ็งเสร็จแล้ว”
หมอไสย์ส่งหุ่นรานีกำหนัดให้ระพี
“หุ่นรานีกำหนัด เอ็งเอาไปบูชา และให้หุ่นกินเลือดในเวลาที่เอ็งต้องการให้ผู้ชายหลงเสน่ห์เอ็ง”
ระพีจะยื่นมือไปรับ แต่หมอไสย์ดึงไว้
“ผลที่เอ็งจะได้รับ มันจะเปลี่ยนชีวิตเอ็งไปจนตาย”
ระพีดึงหุ่นมาจากหมอไสย์ที่หัวเราะดังลั่นและเดินออกไป ระพีมองตามไปอย่างแปลกใจ
“เป็นบ้าอะไรของมัน”

บริเวณโถงเรือน คุณพระไวยืนนึกถึงคำพูดของรำพึง

รำพึงสะบัดออก ตบหน้าคุณพระไว
“หยุดดูถูกน้องได้แล้ว เสียแรงที่ร่วมใช้ชีวิตด้วยกันมา”
“แล้วจะให้พี่คิดยังไง ที่น้องทำทุกอย่างนี้จะให้พี่คิดยังไง”
“ที่ผ่านมา คุณพี่ได้ตัวน้องมาครอบครองสมใจ แล้วยังจะเรียกร้องอะไรอีก ถ้าคุณพี่โลภมากแบบนี้ ระวังจะไม่เหลืออะไรเลย”
“ชีวิตของพี่ไม่เคยต้องการอะไร นอกจากน้องรำพึงเพียงคนเดียว น้องเคยรักพี่บ้างมั้ย”

คุณพระไวถอนใจหนัก น้ำตาจุก คุณพระไวจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน เจอกับระพีที่เดินถือห่อผ้าเข้ามา ระพีตกใจที่เห็นพ่อ
“คุณพ่อ“
“ลูกไปไหนมาค่ำมืดป่านนี้”
ระพีรีบหาทางเปลี่ยนเรื่อง ระพีวิ่งเข้าไปกอดคุณพระไว
“ระพีดีใจจังที่คุณพ่อกลับมาแล้ว ระพีคิดถึ้ง คิดถึง คุณพ่อจังค่ะ”
คุณพระไวกอดตอบลูกสาว
“ชีวิตพ่อคงจะมีแค่ระพีคนเดียวที่รักพ่อแบบนี้”
“ก็ระพีเป็นลูกคุณพ่อนี่คะ”
“แล้วนี่ไปไหนมา ยังไม่ตอบพ่อเลย”
ระพีรีบทำง่วง หาว
“ฮ้าว... ระพีง่วงแล้วค่ะ ขอไปนอนก่อนนะคะคุณพ่อ”
ระพีหอมแก้มคุณพระไวแล้วรีบวิ่งเข้าห้องตัวเองไป คุณพระไวรู้สึกแปลกใจมองตามลูกสาว

ระพีเปิดประตูเข้ามาในห้อง แล้วเป่าปากโล่งใจที่หลุดจากพ่อมาได้ ระพีคว้าห่อผ้าที่ซ่อนออกมาวางบนเตียง ระพีคลี่ห่อผ้าออกมา เห็นเป็นหุ่นรานีกำหนัด ระพียิ้ม
“พี่เทิดจะต้องเป็นของระพี”

หุ่นรานีกำหนัดที่อยู่ในมือระพี

ภายในห้องนอนคุณพระเกิด นวลค่อยๆตื่นลืมตา ภาพแทนสายตา นวลเห็น น้อย และคุณพระเกิด ภาพแพนไปที่หน้าทัด นวลช็อก นวลโผเข้ากอดทัด

“ท่านขุน”
ทุกคนตกใจ
“แม่นวล”
ทัดดันตัวนวลออก
“แม่นวลรู้จักนายทัดมาก่อนใช่ไหม”
“ก็...”
“ไม่รู้จักขอรับ”
นวลไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“ทำไมท่าน....(ขุนพูดแบบนี้?)”
“กระผมไม่รู้จักกันมาก่อนจริงๆขอรับ หัวคุณนวลถูกกระแทก และก็เพิ่งฟื้น คุณนวลอาจจะจำอะไรสับสน กระผมไม่มีบุญจะได้รู้จักคนอย่างเธอหรอกขอรับ”
นวลกลืนก้อนสะอื้น
“ขอโทษ ฉันคงสับสน คนอย่างฉันคงไม่มีวันรู้จักกับคนอย่างนาย”
“กระผมขอตัวก่อนนะขอรับคุณพระ”
ทัดเดินออกไป ชุ่มมองตาม คุณพระเกิดสังเกตเห็นอาการ ชุ่มมองคุณพระเกิดแล้วพยายามเก็บอาการ ล้มตัวลงนอน หันหน้าไปด้านอื่น
“แม่นวลคงยังเหนื่อย เราออกไปกันดีกว่าค่ะคุณพ่อ แม่นวลจะได้นอนพัก” น้อยบอก
น้อยดันคุณพระเกิดออกจากห้องไป นวลนอนน้ำตาไหลอยู่

ทัดเดินเร็วมาหยุดที่สวน
“ข้าดึงเจ้าลงมาต่ำต้อยกับข้าไม่ได้หรอกชุ่ม ยกโทษให้ข้าด้วยนะ”
สิ้นคำคุณพระไวก้าวเข้ามา
“เอ็งนี่มันตายยากจริงๆ นะไอ้พิทักษ์”
ทัดหันขวับไปเจอคุณพระไว
“ไอ้ไว”
“ดีที่เอ็งยังจำข้าได้ แต่สารรูปของเอ็งทำให้ข้าเกือบจำไม่ได้”
ทัดเดินหนี แต่คุณพระไวกับกระชากคอทัดไว้
“ไม่ได้เจอกันนาน จะรีบหลบหน้าข้าไปไหน”
ทัดดึงแขนคุณพระไว
“ไอ้พิทักษ์มันตายไปแล้ว เอ็งกับข้าหมดเวรกันแล้ว ต่างคนต่างอยู่”
ทัดกระชากมือคุณพระไวออก
“แต่ใจของเมียข้าไม่เคยลืมเอ็ง เวรกรรมของเอ็งกับข้าคงไม่มีวันหมด”
คุณพระไวต่อยเข้าหน้าทัดเต็มๆ
“นี่สำหรับเวลาสิบห้าปีที่เอ็งไม่เคยตายไปจากใจรำพึง”
คุณพระไวเข้าต่อยทัดอีกหมัด ทัดไม่สู้
“นี่สำหรับเลือดชั่วของเอ็งที่ข้าต้องทนเลี้ยงมันทั้งๆที่ข้าเกลียดมันเข้าไส้”
ทัดเลือดขึ้นหน้าหันขวับเมื่อคุณพระไวพูดถึงลูก ทัดพุ่งเข้าไปกระชากคอคุณพระไว แต่คุณพระไวพูดสวนขึ้นมาก่อน
“จำไว้...ว่าชีวิตของลูกเอ็งอยู่ในกำมือของข้า ไอ้พิทักษ์”
ทัดมองคุณพระไวไม่วางตา เดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายคิดแผนการอะไรอยู่

มุมหนึ่งในตลาดอัฐเดินมาตลาดกับรำพึง
“คุณแม่ครับ ผมขอไปรับกริชของคุณน้านวลที่ที่ร้านตีเหล็กด้านโน่นก่อนนะครับ ป่านนี้คงเสร็จแล้ว”
“จ๊ะ”
อัฐเดินไปทางร้านตีเหล็ก รำพึงเดินดูของอยู่ จนมาถึงมุมหนึ่ง รำพึงถูกมือของทัดดึงเข้าใกล้กับหน้า
“คุณพี่”
“เผากระท่อมกลางป่าเป็นฝีมือเจ้าใช่มั้ย รำพึง”
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม”
“ถ้าเจ้าอยากฆ่าใคร คนๆนั้นควรจะเป็นพี่ไม่ใช่ชุ่ม ถ้าเจ้าไม่ยอมหยุดทำร้ายชุ่ม พี่จะไม่นิ่งให้เจ้าทำพี่ฝ่ายเดียวอีกแล้ว”
“คุณพี่จะทำอะไร คุณพี่จะฆ่าน้องหรือไง เอาสิถ้าทำได้ก็เอาเลย มันคงจะดี ถ้าน้องได้ตายในมือคุณพี่ เอาสิเอาเลย”
รำพึงจับมือทัดมาบีบคอตัวเอง ทัดสะบัดมือรำพึงออก รำพึงล้มไปที่พื้น อัฐเข้ามาในจังหวะที่อัฐเห็นแม่ล้ม
“คุณแม่”
อัฐพุ่งเข้าไปประคอง รำพึงยิ้มอย่างมีแผน รำพึงแกล้งสำออย
“ตาอัฐ ช่วยแม่ด้วย ไอ้ทัดมันจะทำร้ายแม่”
ทัดตกใจ
“ไม่ใช่นะขอรับคุณอัฐ”
อัฐใช้กริชที่ถือมาจ่อหน้าทัด ทัดเห็นกริช
“กริชนั่น”
“ไอ้ทัด แกกล้าดียังไงมาทำร้ายคุณแม่ของฉัน”
ภาพในอดีตแล่นเข้ามาในหัวทัด

ขุนพิทักษ์เคยก้าวร้าวกับพระยาสุรเดชไมตรี จนท่านพระยาใช้เอกสารตบหน้าขุนพิทักษ์ ขุนพิทักษ์พูดเสียงกร้าว
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณพ่อ ถ้าต้องตาย ลูกตายคนเดียวได้ คงไม่ต้องให้โคตรเหง้ามาร่วมรับผิดชอบ”
พระยาสุรเดชฯเงื้อมือจะตบหน้าอีกครั้ง แต่ยั้งใจไว้เมื่อเห็นขุนพิทักษ์มองอย่างไม่รู้สึกผิด
“อย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก”
อัฐเสียงกร้าวใส่ทัด

“อย่าให้ฉันเห็นหน้าแกอีก”

อัฐมองทัดด้วยสายตาแห่งความเกลียดชังแบบไม่วางตา รำพึงยิ้มเย้ยทัด

“ยังยืนเซ่ออยู่ได้ ลูกข้าไล่ แล้วยังมาเสนอหน้าอยู่ทำไม”
ทัดมองอัฐอย่างเสียใจที่ลูกในไส้เห็นเขาเป็นศัตรู ทัดจำต้องเดินจากไป
ที่เรือน เวลากลางวัน พระยาสุรินลุกขึ้นเขวี้ยงของ
“ไอ้ทัด ไอ้นรก!”
“ไอ้ทัดมันคงแค้นที่คุณเทิดทำร้ายมัน ก็เลยฆ่าคุณเกลียวเป็นการแก้แค้น” คุณพระไวบอก
เทิดสะใจ
“ก็เห็นว่าเมียพ่อรักไอ้ทัดมันนักหนา โธ่เอ๊ย!ต้องมาตายเพราะไอ้ทัด น่าสมเพทจริงๆ”
“ท่านเจ้าคุณคงจะไม่ปล่อยไอ้ทัดให้ลอยนวลนะขอรับ” คุณพระไวว่า
พระยาสุรินคลั่ง
“ส่งคนไปลากตัวมันมา จับเป็นไม่ได้ก็จับตาย”
คุณพระไวปั่นหัวพระยาสุรินสำเร็จ และเทิดสะใจ

ทัดกำลังเดินกลับมาที่เรือนคุณพระเกิด แต่แล้วก็ถูกล้อมด้วยกลุ่มลูกน้องของเทิด เทิดก้าวออกมา
“ฆ่าคนแล้วคิดว่าจะลอยนวลไปได้เหรอไอ้ทัด”
ทัดไม่เข้าใจ
“คุณเทิดพูดอะไร”
“ความจริงข้าต้องขอบใจเอ็งที่ฆ่านังเมียทาสของเจ้าคุณพ่อแทนข้า เพราะข้าเกลียดขี้หน้ามัน”
“คุณเทิดเข้าใจผิด กระผมไม่ได้ฆ่าเกลียว”
เทิดยิ้มเหยียดบอก
“พูดไปก็เท่านั้น เพราะยังไงเอ็งก็ต้องตายอยู่ดี... จัดการมัน” เทิดพูดพลางสั่งลูกน้อง ลูกน้องเทิดเข้ารุมทัด แต่ทัดสู้ได้ ลูกน้องของเทิดลงไปกองที่พื้น ทัดโดนบ้างดอก สอง ดอก เทิดเข้าลุย ทัดคว้ามีดจากลูกน้องได้ ปาดเข้าไปที่ท้องเทิด เทิดผงะไป จังหวะที่ทัดจะจัดการลูกน้อง เทิดยกปืนขึ้นเล็งทัด ทัดหยุดชะงัก
“เอ็งทำข้าได้เลือด เอ็งอย่าอยู่เลย”
นิ้วเทิดกำลังจะเหนี่ยวไกปืน ทัดใช้แขนปัดมือเทิดออก ก่อนจะถีบเข้าไปที่แผลเทิด ทัดวิ่งหนีไป
แต่จังหวะนั้นเทิดเล็งปืนไปที่ทัดและยิงออกไป ลูกกระสุนพุ่งเข้าไปที่หัวไหล่ด้านหลัง ทัดผงะ เฮือก!
ทัดจับหัวไหล่และวิ่งโซซัดโซเซไป ทางฝั่งเทิดจะลุกขึ้นตามแต่เจ็บแผลมาก จนลูกน้องต้องเข้าพยุงเทิด
“ไอ้ทัด ข้าไม่ปล่อยเอ็งไว้แน่”

ทางเดินกลับเรือนคุณพระเกิดอีกมุมหนึ่ง ในเวลาเดียวกัน น้อยถือกระจาดสมุนไพรมา ที่พื้นน้อยเห็นหยดเลือดเป้นทาง น้อยก้มลงแตะ
“เลือด!”
น้อยเดินไปตามรอยเลือด จนเห็นทัดนั่งกุมแผลอยู่ในพุ่มไม้
“ลุงทัด”
น้อยเข้าไปหาทัด
“ทำไมลุงทัดเป็นแบบนี้ ลุงทัดแข็งใจไว้นะ น้อยจะพาลุงทัดกลับเรือน”
“กลับเรือนตอนนี้ไม่ได้ขอรับ คุณพ่อคุณน้อยจะลำบาก พระยาสุรินไม่ปล่อยไว้แน่”
“แล้วน้อยจะช่วยลุงทัดได้ยังไง”
ทัดหน้าซีดเพราะเลือดออกมาก น้อยตัดสินใจ
“ลุงทัดอดทนหน่อยนะ ไปกับน้อย”

ที่เรือนเก็บสมุนไพรในเวลาต่อมา น้อยทำแผลและเอาน้ำเช็ดหน้าให้ทัด
“ลุงทัดอยู่ที่นี่ก่อนนะ ที่นี่เป็นเรือนเก็บสมุนไพรของคุณพ่อ มีน้อยกับแม่นวลเท่านั้นที่รู้จักที่นี่”
“คุณน้อยไม่น่าต้องลำบากเพราะลุง”
“ลุงทัดช่วยน้อยกับแม่มาไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง แค่นี้ยังน้อยไปซะอีก”
“ขอบคุณนะขอรับคุณน้อย”
“น้อยจะกลับเรือนไปเอาข้าวกับน้ำมาให้ลุงทัด ลุงทัดรอน้อยที่นี่นะ”
น้อยรีบเก็บข้าวของออกไป ทัดนอนซมพิษไข้อยู่

เวลาเย็น น้อยเข้ามาในห้องนอนคุณพระ นวลเห็นสภาพน้อยก็ตกใจ
“แม่น้อย ลูกไปทำอะไรมา ทำไมเปื้อนเลือดแบบนี้”
“แม่นวล คุณพ่ออยู่ไหนเหรอคะเหรอคะ”
“เกิดอะไรขึ้น”
“ลุงทัดค่ะ...ลุงทัดโดนยิง”
นวลตกใจ
“อะไรนะ!”
“พระยาสุรินคิดว่าลุงทัดฆ่าน้าเกลียว ก็เลยให้คนมาจัดการจนลุงทัดบาดเจ็บ น้อยก็เลยพาลุงทัดไปพักที่เรือนเก็บสมุนไพร น้อยอยากให้คุณพ่อไปดูอาการลุงทัดหน่อยค่ะแม่”
น้อยพูดไปด้วยความหวั่นกลัว
“เดี๋ยวแม่จะไปดูนายทัดเอง ลูกรอคุณพ่ออยู่ที่เรือน...ไม่ต้องกลัวนะลูก ลุงทัดต้องไม่เป็นอะไร”

ที่ด้านนอกห้อง คุณพระเกิดได้ยินทุกสิ่ง

บ่วงบาป ตอนที่ 14 (ต่อ)

ในเวลาต่อมา นวลเข้ามาในเรือนเก็บสมุนไพรเห็นสภาพของผู้ชายที่ตนรัก นอนซมพิษไข้ ตัวเปื้อนเลือด นวลเข้าไปจับตัวทัด ได้แต่น้ำตาไหลออกมา
“เป็นยังไงบ้าง”
ทัดลืมตามาเห็นนวล
“คุณนวล!”
“ท่านลืมข้าไปแล้วจริงๆ เหรอ ท่านขุน!”
ทัดมองเมียตนที่ร้องไห้ด้วยความคิดถึง
“ชุ่ม....ข้าไม่เคยลืมเจ้า ไม่มีวันลืม”
“แล้วทำไมถึงบอกว่าไม่รู้จักข้า ท่านไม่รักข้าแล้วใช่มั้ย”
“รักของข้าติดตามเจ้าไปทุกที่ แต่ตอนนี้ข้าไม่สามารถจะปกป้องเจ้าได้ ข้าต้องการให้เจ้ามีความสุข มีชีวิตที่ดี มีคนที่ดีอยู่เคียงข้าง ข้าไม่อยากทำให้เจ้าต้องลำบากเพราะข้าอีกต่อไป”
“ท่านใจร้าย! ท่านไม่เคยถามข้าสักคำว่าข้าต้องการได้อะไร ชีวิตนี้ข้าไม่สามารถรักใครได้อีกนอกจากท่าน แล้วท่านจะผลักไสข้าไปให้คนอื่นอย่างนั้นเหรอ คนใจร้าย”
ทัดทนเห็นชุ่มร้องไห้ไม่ได้ เขายันตัวขึ้นมา
“ชุ่ม!”
“ท่านขุน!”
นวลโผเข้ากอดทัดด้วยความคิดถึงที่มันเอ่ออยู่เต็มหัวใจ ทัดกอดชุ่มอย่างหวงแหนให้สมกับการรอคอยของเขา
ที่ด้านนอกขุนเกิดได้ยินทุกสิ่ง และเห็นทุกสิ่งเขาได้แต่กำหมัดแน่น ระงับแรงโทสะในใจ

ภายในห้องนอน เวลากลางวัน ระพีเอาหุ่นรานีกำหนัดวางบนพาน ระพีเอาเลือดหยดใส่หุ่น

ทางฝั่งบ้านเทิด เทิดนั่งมองรูปน้อยแล้วขยำรูปทิ้ง
“ทำไมคุณน้อยไม่รักพี่..ทำไม!”
เทิดเจ็บแผลที่ถูกฟัน

ระพีบริกรรมคาถา
“ใจเป็นของกู ตัวเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู”

ที่ด้านนอกห้องรำพึงได้ยินเสียงระพีพึมพำจึงแง้มประตูห้องลูกสาว รำพึงเห็นคือระพีกำลังหยดเลือดใส่หุ่น มันเป็นภาพที่เธอคุ้นเคย รำพึงช็อก!

กลุ่มควันดำลอยพุ่งเข้าหาตัวหมอไสย์

รำพึงกระชากประตูห้องระพีออก พุ่งเข้าไปปัดหุ่นรานีจนกำหนัดกระเด็น

หมอไสย์กระอักเลือดไม่หยุด
“แกทำอะไรระพี แกทำอะไร”

ระพีกลัวลนลาน
“ระพีเปล่านะ”
“นั่นมันของทำเสน่ห์ แกเอามาจากไหน ระพีบอกแม่มา”
ระพีได้แต่ร้องไห้ รำพึงตีระพีไม่ยั้งมือ
“แกเอามันมาจากไหน แกทำแบบนี้ได้ยังไง”
“ก็ทำแบบเดียวกับแม่นั่นแหละ ระพีรู้นะ เมื่อก่อนคุณแม่ก็เคยทำเสน่ห์ใส่ผู้ชาย แล้วคุณแม่มาตีระพีทำไม”
รำพึงโกรธ จับระพีเหวี่ยงไป
“นังลูกไม่รักดี”
“โอ้ย...คุณแม่ระพีเจ็บ”
“เจ็บแค่นี้มันยังน้อยกว่าที่ฉันเจ็บ”
ภาพเก่าๆที่หมอไสย์ปลุกปล้ำรำพึงตามมาหลอกหลอน
“ระพี...บอกแม่มาว่าไอ้หมอไสย์นั่นมันทำอะไรแกรึเปล่า”
ยังไม่ทันที่ระพีจะตอบ อยู่ๆระพีก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด ระพีลงไปชักตาค้างนอนดิ้นที่พื้น รำพึงตกใจ
“ระพี! แกเป็นอะไร ระพี”

รำพึงยิ่งเรียกระพียิ่งดิ้น หนอนยั้วเยี้ยอยู่ในกองเลือด...

อ่านต่อพรุ่งนี้ เวลา 09.30น.

ภายในห้องนอนคุณพระเกิด นวลกลับประตูเข้าห้องมา ไฟมืด คุณพระเกิดนั่งอยู่ที่เตียง
“ทำไมคุณพี่อยู่มืดๆแบบนี้ล่ะคะ”
นวลเปิดไฟ
“คนโกหก”
นวลชะงัก แปลกใจ
“คุณพี่ว่าอะไรนะคะ”
คุณพระเกิดเดินตรงเข้าหานวล
“หลอกลวงผู้ชายอย่างพี่ได้ มันสนุกมากใช่มั้ย ชุ่ม”
นวลตกใจ ที่คุณพระเกิดเรียกชื่อตนว่าชุ่ม
“คุณพี่”
คุณพระเกิดจับแขนนวลบีบ
“ทำไมเจ้าทำกับพี่แบบนี้ ทำไม”
นวลร้องด้วยความเจ็บที่ถูกบีบ
“คุณพี่...ดิฉันเจ็บ”
“เจ็บเหรอ...เจ็บแค่นี้ ยังไม่ได้ครึ่งที่พี่เจ็บ พี่มันโง่นักใช่มั้ย เจ้ากับท่านขุนของเจ้า ถึงรวมหัวกันหลอกพี่”
“ดิฉันไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะ”
คุณพระเกิดพูดด้วยความโกรธ
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่ไม่เคยได้นอนกอดเจ้า ไม่เคยได้นอนกอดเมียตัวเอง คนอย่างพี่มันไม่ดีพอสำหรับเจ้าใช่มั้ย”

ในอดีต... คุณพระเกิดห่มผ้าให้นวลก่อนที่คุณพระเกิดจะเดินไปนอนที่เตียงไม้ของตัวเอง

“พี่ยอมทุกอย่างเพื่อเจ้า แต่เจ้ากลับตอบแทนพี่แบบนี้ ไม่มีผู้ชายคนไหนทนเห็นเมียตัวเองปันใจให้ผู้ชายคนอื่นได้หรอก”
คุณพระเกิดยิ่งบีบนวลแรงขึ้น
“ในเมื่อเจ้าไม่เคยคิดถึงใจพี่ พี่ก็จะไม่คิดถึงใจเจ้าอีกต่อไป”
คุณพระเกิดดึงนวลเข้ามา แล้วจูบไซร้ซอกคอนวล นวลได้แต่ร้องไห้
“ฉันขอโทษ! ขอโทษ”
คุณพระเกิดผลักนวลไปที่เตียง คุณพระเกิดจูบนวลด้วยความบ้าคลั่ง นวลได้แต่ร้องไห้ ร้องไห้แทบขาดใจ แต่แล้ว นวลก็หยุดดิ้น
“ถึงแม้ว่าตัวฉันจะเป็นของคุณพี่ แต่หัวใจของฉันมีเพียงรักเดียวไม่เปลี่ยนแปลง” นวลน้ำตาหยดติ๋ง
การหยุดต่อต้านของนวลทำให้คุณพระเกิดได้สติ คุณพระเกิดถอนตัวออกมาจากนวล และมองนวลด้วยความละอายปนเสียใจ
“พี่ขอโทษ พี่ไม่เคยคิดจะทำร้ายนวล”
นวลรวบเสื้อผ้าลุกขึ้นมานั่ง คุณพระเกิดจะเข้าไป แต่นวลถดหนีด้วยความกลัว คุณพระเกิดชะงัก
“พี่เคยคิดว่าจะใช้ความรักทั้งหมดของพี่ทำทุกอย่างเพื่อแลกกับหัวใจของนวล แต่ตอนนี้พี่รู้คำตอบแล้ว...ว่าพี่คงไม่มีวันได้มันมา”
“บุญคุณที่คุณพี่มีให้ ดิฉันคงตอบแทนได้ไม่หมดในชาตินี้ แต่หัวใจของดิฉันรักท่านขุนได้เพียงคนเดียวเท่านั้น”
คุณพระเกิดไม่พูดอะไรกำหมัดแน่น มองนวลด้วยแววตาของผู้แพ้ก่อนที่จะเดินออกไป นวลได้แต่ร้องไห้
เวลากลางคืน คุณพระเกิดเดินออกมาจากในเรือน หยุดยืนที่สวนด้วยความเศร้า จวงวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“คุณพระเกิด คุณพระเกิดเจ้าขา ! รีบไปที่เรือนคุณพระไวหน่อยเถอะเจ้าค่ะ”

“มีใครเป็นอะไร !”

ในห้องนอน คุณพระไวกอดระพีที่หมดสติไว้อย่างเป็นห่วง รำพึงยืนหน้าซีด มีอัฐอยู่ข้างตัว
“ระพี ลูกพ่อต้องไม่เป็นอะไรนะ ระพี”
คุณพระไวหันขวับมาหารำพึง
“รำพึง ทำไมลูกเป็นแบบนี้ ระพีเป็นแบบนี้ได้ยังไง”
รำพึงอึ้งไป... นึกถึงภาพที่ลูกสาวทำเสน่ห์
คุณพระไวระเบิดอารมณ์ตะคอก
“พี่ถามว่าลูกเป็นแบบนี้ได้ยังไง”
รำพึงสะดุ้งพยายามหาทางแก้
“ระพีคงไปกินของผิดสำแดง ก็เลยสำรอกออกมาเป็นเลือดแบบนี้”
ยังไม่ทันที่คุณพระไวจะได้ซักต่อ เสียงจวงก็ขัดขึ้นมา
“คุณพระเกิดมาแล้วเจ้าค่ะ!”
จวงพาคุณพระเกิดเข้ามา คุณพระเกิดเห็นระพีนอนหน้าซีดอยู่บนเตียง
“อาการเป็นอย่างไรครับคุณพระ” คุณพระเกิดถาม
“ระพีสำรอกออกมาเป็นเลือด แล้วก็เป็นลมชักจนสลบไป”
คุณพระเกิดเข้าไปดูอาการจับชีพจรระพี
“แล้วที่สำรอกออกมามีอาหารอะไรอยู่บ้าง”
จวงโพล่งทันที
“มีแต่เลือดกับหนอนเจ้าค่ะ”
รำพึงหันขวับมองจวงทันที จวงสะดุ้ง ทุกคนแปลกใจ
คุณพระเกิดตรวจดูอาการของระพี คุณพระไวมีหน้าตาเป็นห่วงลูกสาวอย่างเห็นได้ชัด คุณพระเกิดตรวจชีพจร และเปิดเปลือกตาระพีดู แล้วจังหวะนั้นระพีก็ลืมตาโพลง และสำรอกเลือดใส่หน้าคุณพระเกิดและบีบคอคุณพระเกิดในทันที
“ไอ้ผีบ้า ออกไป ออกไป”
คุณพระไวต้องเข้าไปแยกระพีออก
“ระพี นี่พ่อนะลูก พ่อของลูก...ระพีเป็นอะไร ใครทำลูก บอกพ่อสิ”
ระพีนิ่ง หน้าตึง ตาขวางไม่ตอบ สิ่งที่คุณพระเกิดเห็น คือ ดวงตาของระพีเหม่อลอย ไม่มองใคร
“การเต้นของชีพจรก็เป็นปกติ ไม่มีไข้”
คุณพระเกิดเปิดเปลือกตาระพี เห็นแต่ตาขาว
“แต่การรับรู้ดูจะไม่ตอบสนอง แถมมีอาการเพ้อคลั่ง อาการแบบนี้ผมไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน คงต้องขอเวลาสักหน่อยเพื่อวินิจฉัยว่า อะไรที่ทำให้หนูระพีเป็นแบบนี้”
คุณพระไวจับมือลูกสาวอย่างห่วงใย รำพึงกำหมัดแน่น โกรธแค้นหมอไสย์

เช้าวันใหม่ ที่โถงเรือนพระยาสุริน เทิดจับแผลที่ท้องด้วยความเจ็บใจ พระยาสุรินนั่งเฝ้าลูกชายอยู่ใกล้ๆ
“ไอ้ทัด! ลูกจะฆ่ามัน ลูกต้องฆ่ามันให้ได้ ...โอ๊ย!”
พระยาสุรินเห็นสภาพลูกตัวเองยิ่งโกรธทัดหนัก
“ไอ้ทัด...เอ็งเกิดมาเพื่อทำลายครอบครัวข้า ข้าไม่เอาเอ็งไว้แน่”

ภายในห้องนอนระพี คุณพระไวนั่งจับมือและลูบหัวระพีที่นอนหลับอยู่ รำพึงนั่งอยู่ด้วย
“พี่จะส่งระพีไปรักษาตัวที่พระนคร”
“น้องไม่เห็นด้วยค่ะ”
“แต่...”
รำพึงตัดบททันที
“คุณพระเกิดมีฝีมือ น้องเชื่อว่าคุณพระเกิดต้องช่วยรักษาระพีให้หายได้ค่ะ”
คุณพระไวก็ยังห่วงระพีอยู่ดี
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จวงเดินเข้ามา
“คุณพระไวเจ้าคะ ท่านพระยาสุรินสั่งให้คนมาเชิญคุณพระไปพบเจ้าค่ะ”
คุณพระไวเดินออกจากไปห้อง จวงรอจนประตูปิดแล้วรีบคลานเข่าเข้าไปกระซิบรำพึง
“คุณรำพึงเจ้าขา อย่าหาว่าจวงปากมากเลยนะเจ้าคะ จวงว่าอาการคุณระพีคล้ายคนโดนของต่ำเข้าตัวเลยนะเจ้าคะ”
รำพึงถอนใจหนัก เพราะรู้อยู่แก่ใจ
“ใช่”
จวงงง
“ถ้าคุณระพีโดนของ แล้วเมื่อคืนคุณรำพึงให้จวงไปตามคุณพระเกิดมาทำไมล่ะเจ้าคะ”
“หรือเอ็งจะให้ข้าสั่งเอ็งไปตามไอ้หมอไสย์มาแทนล่ะ ความลับของข้าจะได้แตกกันพอดี”
“หมอไสย์ ไอ้หมอไสย์ที่มันเคย....”
“ใช่ ข้าเห็นระพีใช้หุ่นราณีกำหนัดของไอ้หมอไสย์”
“หา ! อกอีจวงจะแตก แต่มันตายไปแล้วนี่เจ้าคะ”
“ก็ทีคุณพี่กับนังชุ่มที่เราคิดว่าตาย มันยังฟื้นกลับมาได้ แล้วนับประสาอะไรกับไอ้หมอไสย์ ข้าเชื่อว่าไอ้หมอไสย์มันต้องอยู่แถวนี้แน่ เอ็งต้องรีบไปตามหามันให้พบ ก่อนที่อะไรมันจะสายเกินไป”

ระพียังนอนแน่นิ่งบนเตียง

อ่านตอ่เวลา 17.00น.

เวลากลางวัน นวลถือตะกร้าใส่อาหารมาที่กระท่อม พอเปิดกระท่อมเข้าไปก็หยุดยืนมองอย่างอึ้งๆ ที่
เห็นคุณพระเกิดกำลังทำแผลให้ทัดด้วยสีหน้าเย็นชา
“ทำไมแม่นวลต้องทำหน้าแบบนั้น”
“ดิฉันไม่คิดว่าจะพบคุณพี่ที่นี่”
“พี่เป็นหมอมีหน้าที่รักษาคนเจ็บ ในเมื่อที่นี่มีคนเจ็บ พี่ก็ต้องมารักษา ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม”
“ขอบคุณคุณพี่มากนะคะ”
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม”
นวลนิ่งรอฟังต่อ
“แบ่งความรักของเจ้ามาให้พี่บ้าง เพียงเศษเสี้ยวก็ยังดี”
นวลน้ำตารื้นด้วยความสงสาร จนรู้สึกอึดอัด คุณพระเกิดจ้องตานวลที่น้ำตาคลอ เขาก้าวเข้าไปหานวล ยกมือจะแตะแก้มเธอ
“ได้ไหมนวล”
ทัดร้องโอ๊ยเพราะเจ็บแผล นวลปราดเข้าไปหาทัดทันที
“ท่านขุน !”
คุณพระเกิดยกมือค้างแล้วลดมือลง พร้อมกับหันไปมองนวลที่กำลังประคองทัด นวลกับทัดสบตากันด้วยความรัก คุณพระเกิดมองภาพนั้นอย่างเจ็บช้ำใจ มือกำแน่นราวกับจะระงับความเจ็บปวดในหัวใจของเขา !

ภายในห้องนอน ระพีที่หลับอยู่ จู่ๆก็ลืมตาปึง ! อัฐนั่งอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆ เห็นระพีฟื้นขึ้นก็รีบเข้าไปหา
“ระพี ระพีเป็นยังไงบ้าง”
ระพีมองอัฐนิ่ง
“ระพี...จำพี่ได้ไหม”
ภาพในหัวระพีเห็นแต่หุ่นราณีกำหนัด และเลือดพลุ่งพล่านเข้ามาในความคิด ระพีร้องกรี๊ดแล้วผลักอัฐกระเด็นไปกองบนพื้น ระพีตามไปขึ้นคร่อมบีบคออัฐ
“ระพี อย่า...”
อัฐจะดึงมือระพีออก แต่สู้แรงไม่ได้ ระพีพึมพำมองตาขวาง
“ตัวเป็นของกู ใจเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู”
อัฐตาเหลือก หน้าแดง หายใจไม่ออกไม่ได้ฟังสิ่งที่ระพีพึมพำ
รำพึงเปิดประตูเข้ามาพอดี
“ระพี !”
รำพึงเข้าไปดึงร่างระพีออก อัฐไอโขลก รำพึงเขย่าร่างระพีอย่างแรง
“ระพีหยุดเดี๋ยวนี้ ตั้งสติให้ดีๆ ระพี !”
ระพีร้องกรี๊ดดังลั่นแล้วเป็นลมล้มพับ อัฐรับร่างระพีไว้ได้ทัน ก่อนที่ร่างระพีจะถึงพื้น
“ระพี ระพี”
ระพีสลบไปแล้ว
“ทำไมระพีเป็นแบบนี้ครับคุณแม่”
“เพราะแม่เอง เพราะแม่เอง...”
รำพึงน้ำตาคลอเบ้า แต่อัฐไม่เข้าใจ

ภายในตลาด จวงเดินหิ้วตะกร้าเข้ามาเลือกซื้อผักกับแม่ค้า จวงส่งเงินให้แม่ค้าแล้วกระซิบถาม
“เออ...แม่ค้าจ๋า ถามหน่อยสิ แถวนี้มีหมอทำเสน่ห์บ้างไหม”
“มีสิ มีตั้งหลายคน อยากได้แบบไหน”
จวงคิดไม่ออกไม่รู้จะพูดยังไง
“เอ่อ...เอาแบบ”
“สารรูปอย่างเอ็งต้องเอาหมอเก่งๆ ผู้ชายถึงจะหลงได้ งั้นต้องคนนี้เลย พวกชาวบ้านลือว่าท่านเก่งมาก เพิ่งมาใหม่ อยู่ที่เรือนร้างชายป่าโน้น”
จวงยิ้มสมใจ

พระยาสุรินสั่งคุณพระไวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“ตามล่าหัวไอ้ทัดมาให้ได้ ข้าจะเอาเลือดมันมาล้างตีนลูกข้า!”
“ตอนนี้มันคงไหวตัวแล้วขอรับ ไม่น่าจะอยู่ที่เรือนคุณพระเกิด แต่กระผมจะไปดูให้แน่ใจอีกที!”
“ต้องพลิกแผ่นดิน คุณพระก็ต้องหามันให้เจอ!”
“ไม่ต้องห่วงขอรับ เพราะกระผมยังต้องมีเรื่องต้องสะสางกับมัน !”
คุณพระไวดวงตาวาวโรจน์

อัฐเดินเร็วๆ มุ่งหน้าไปทางเรือนคุณพระเกิด แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นน้อยถือห่อยาออกมาจากเรือน
น้อยมองอัฐด้วยความน้อยใจ
“คุณน้อยจะไปไหนเหรอครับ”
“เอายาไปให้ลุงทัดค่ะ ลุงทัดโดนทำร้าย”
“นายทัดเป็นคนเลว ทำไมคุณน้อยต้องช่วยเขาด้วย”
“ลุงทัดไม่ใช่คนเลว ลุงทัดเป็นคนดี พี่อัฐจะเชื่อยังไงก็แล้วแต่พี่อัฐเถอะค่ะ แต่สำหรับน้อย ลุงทัดเป็นผู้มีพระคุณของน้อยกับแม่นวล น้อยจะปกป้องลุงทัดจนถึงที่สุด !”
ระหว่างนั้นคนใช้เดินออกมา
“คุณอัฐมาพบคุณพระเกิดหรือเจ้าคะ คุณพระเกิดอยู่ที่ศาลาหลังบ้านกับ...”
น้อยพูดแทรกขึ้นทันที
“คุณพ่อไม่อยู่ค่ะ ออกไปรักษาคนเจ็บตั้งแต่เช้าแล้ว”
อัฐรู้ว่าน้อยไม่อยากให้ตัวเองเข้าไปบนเรือนจึงเดินกลับไป น้อยมองตามอย่างโกรธๆ คนใช้งง

“เมื่อกี้พี่แดงบอกว่าคุณพ่ออยู่ที่ศาลาหลังบ้านกับใคร”

บ่วงบาป ตอนที่ 14 (ต่อ)

ที่ศาลาคุณพระไวกับคุณพระเกิดคุยกัน
“คุณพระไว มีธุระอะไรเหรอครับ”
“ผมอยากมาดูให้แน่ใจว่าเรือนคุณพระมีไอ้ทัดอยู่รึเปล่า”
“นายทัดไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว คุณพระตามหานายทัดทำไม”
ที่มุมหนึ่งน้อยเข้ามาแอบฟังอยู่
“ไอ้ทัดเป็นฆาตกรฆ่าคุณเกลียวและทำร้ายพ่อเทิด มันต้องได้รับโทษ ถ้าคุณพระทราบว่าไอ้ทัดมันอยู่ที่ไหนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วย หวังว่าคุณพระคงไม่ปกป้องคนผิด”
คุณพระเกิดคิดนิดหนึ่งก่อนตัดสินใจตอบ
“ผมไม่ทราบจริงๆ”
คุณพระไวรู้สึกได้ว่าคุณพระเกิดมีอะไรปิดบัง แต่คิดว่า ตอนนี้ขืนตื้อไปคงไม่เป็นผล
“ถ้าอย่างนั้น...ผมขอตัวก่อนนะครับ”
คุณพระไวหันหลังเดินไป คุณพระเกิดคิดถึงภาพนวลกับทัดที่สนิทสนมกัน

“แบ่งความรักของเจ้ามาให้พี่บ้าง เพียงเศษเสี้ยวก็ยังดี”
นวลน้ำตารื้นด้วยความสงสาร จนรู้สึกอึดอัด คุณพระเกิดก้าวเข้าไปหานวล ยกมือจะแตะแก้มเธอ
“ได้ไหมนวล”
ทัดร้องโอ๊ยเจ็บแผล นวลปราดเข้าไปหาทัดทันที
“ท่านขุน !”
พระเกิดยกมือค้าง พร้อมกับหันไปมองนวลที่กำลังประคองทัด

คุณพระเกิด ตัดสินใจ
“เดี๋ยวครับ!”
คุณพระไวยิ้มมุมปาก ก่อนหันไปหาคุณพระเกิด
“คุณพระมีอะไรจะบอกผมใช่ไหมครับ”
คุณพระเกิดนิ่งไปนิด แล้วบอก
“นายทัดอยู่ที่เรือนเก็บสมุนไพรท้ายสวนของผม!”
น้อยยืนอึ้งที่เห็นคุณพระเกิดบอกความลับเรื่องทัด
“คุณพ่อ !”
น้อยคิดหาทางว่าจะทำยังไง ก่อนที่รีบวิ่งออกไป
คุณพระไวยิ้มเย็นบอก
“ขอบคุณคุณพระมากครับ ไอ้ทัดคือตัวอันตรายของทุกคน มันสมควรแล้วที่จะต้องตาย”
คุณพระเกิดไม่รู้ว่าตนทำอะไรลงไป

ในเวลาต่อมา คุณพระไวกับลูกน้องเดินฉับๆ มุ่งหน้าไปที่กระท่อมเก็บสมุนไพร

ภายในกระท่อมสมุนไพร นวลกำลังป้อนข้าวให้ทัด น้อยวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“คุณแม่ รีบพาลุงทัดหนีเร็วค่ะ”
นวลกับทัดตกใจ

ลูกน้องถีบประตูกระท่อมสมุนไพร แต่ไม่พบใคร มีแต่ข้าวของเครื่องใช้ คุณพระไวหยิบจานข้าวที่ยังสดๆ ใหม่ขึ้นมาดู จึงแน่ใจว่า ทัดเพิ่งหนีไป คุณพระไวปาจานลงพื้นแล้วสั่งลูกน้อง
“ตามหามันให้เจอ !”
ทุกคนออกไปจากเรือน
นวลกับน้อยหิ้วปีกทัดหนี แต่ผู้หญิงสองคนรับน้ำหนักผู้ชายไม่ไหว จึงทรุดล้มลงกับพื้น
ทัดร้องเพราะเจ็บปวดแผล
“ท่าน...เอ่อ” นวลจะเรียกท่านขุนอย่างเคยปาก แต่เกรงใจน้อย จึงเลี่ยงเป็นเรียกชื่อทัด
“นายทัด...อดทนหน่อยนะ”
“คุณแม่พาลุงทัดหนีไปเถอะค่ะ น้อยจะไปล่อพวกคุณพระไวไปอีกทาง”
“แต่มันอันตราย”
“เชื่อน้อยสิคะ”
เสียงคุณพระไวดังแว่วมา
“พวกเอ็งไปดูทางโน้น”
นวล ทัด น้อยต่างตกใจ
“รีบไปสิคะคุณแม่”
นวลยอมประคองทัดหนีไป น้อยชะเง้อมองกลับไปอย่างมีแผน

ลูกน้องคุณพระไวเดินฉับๆ ตามหาทัด ทันใดนั้นมีร่างคนหนึ่ง ผลุบหายเข้าไปในโพรงหญ้า
“เฮ้ย !”

ลูกน้องคุณพระไววิ่งไปทางนั้นทันที

น้อยวิ่งมาหลบหลังต้นไม้ เหลียวมองกลับไปเห็นลูกน้องคุณไวเดินชะเง้อมองหามาทางน้อย แต่ไม่เห็นใคร ลูกน้องจึงวิ่งออกไปอีกทาง น้อยยิ้มสมใจ แต่พอหันกลับไป เจอคุณพระเกิดยืนอยู่ น้อยสะดุ้งโหยง

“คุณพ่อ !”
“แม่น้อยทำอะไร”
“น้อยทำในสิ่งที่ถูกต้องค่ะ”
น้อยจะเดินไป แต่คุณพระเกิดดึงแขนลูกสาวไว้
“แม่น้อย ทำไมลูกทำแบบนี้”
“แล้วคุณพ่อล่ะคะ ทำไมถึงต้องบอกคุณพระไวว่าลุงทัดอยู่ไหน”
“นายทัดทำผิด!”
“คุณพ่อเชื่อเหรอคะ ว่าคนที่เคยช่วยชีวิตน้อยกับแม่นวลจะฆ่าคนอื่นได้ลงคอ คุณพ่อทำเหมือนกับคุณพ่อไม่รู้จักว่า พี่เทิดกับท่านพระยาสุรินเป็นคนยังไง คุณพ่อทำแบบนั้นได้ยังไง คุณพ่อคนเดิมของน้อยหายไปไหน”
น้อยเดินออกไปเลย คุณพระเกิดมองตามอย่างอึ้งๆจุกๆ กับคำพูดของลูกสาว

นวลประคองทัดเข้ามา ทัดสะลึมสะลือและเจ็บแผล ตรงแผลมีเลือดไหลซึมออกมา ทัดทนพิษบาดแผลไม่ไหว ทรุดล้มลง นวลล้มตามไปด้วย
“โอ้ย! ชุ่ม ปล่อยข้าไว้ตรงนี้ เจ้าไปซะ”
“เราต้องไปด้วยกัน ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาพรากเราจากกันได้อีก”
เสียงลูกน้องคุณพระไวดังเข้ามาว่า
“น่าจะทางโน้นขอรับคุณพระ”
นวลรีบประคอง ทัดกัดฟันลุกขึ้น
“อดทนหน่อยนะเจ้าคะ”
เลือดที่แผลไหลไม่หยุด ทัดไม่ไหวทรุดล้มลงอีก จังหวะนั้น อัฐเข้ามาเห็นเข้าพอดี
“คุณน้านวล เกิดอะไรขึ้นครับ”
“พ่ออัฐ ช่วยน้ากับลุงทัดด้วย ลุงทัดกำลังถูกคุณพระไวตามล่า”
อัฐมองทัดอย่างโกรธเคือง
“นายทัดทำความผิด คุณน้าน่าจะส่งตัวนายทัดให้คุณพ่อไป”
“แต่ตอนนี้นายทัดเจ็บหนัก ถ้าคุณพระไวพาตัวนายทัดไปให้พระยาสุริน นายทัดต้องตายแน่ๆ ขอเวลาให้เขาได้รักษาตัวจนหาย แล้วถ้านายทัดผิดจริง น้าจะให้เขาไปรับผิดกับคุณพระไวด้วยตัวเอง ช่วยนายทัดด้วยเถอะนะพ่ออัฐ น้าขอร้อง”
นวลจับมือขอร้อง อัฐเห็นน้ำตาอาบหน้านวลก็ใจอ่อนยวบ ด้วยสายสัมพันธ์ลึกๆของสายใยแม่ลูก อัฐเข้าไปประคองทัดขึ้น
“มาทางนี้ครับ”
นวลดีใจรีบเข้าไปช่วยประคองทัด และลุกตามอัฐไป

ภายในกระท่อมเก็บฟืนของชาวบ้าน ทัดนอนอยู่บนแคร่ นวลเอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาให้ อัฐเดินเข้ามา
“ผมขอลุงเจ้าของที่ให้แล้ว เขาอนุญาตให้นายทัดพักได้ชั่วคราว”
“ขอบใจพ่ออัฐมากนะ”
ทัดมองอัฐด้วยความรัก แต่อัฐเมิน ไม่อยากมอง
“หมดธุระของผมแล้ว ผมขอตัว”
“เดี๋ยวจ้ะพ่ออัฐ น้ามีเรื่องจะขอร้องอีกเรื่อง”
“อะไรครับ”
“อย่าบอกใครว่านายทัดอยู่ที่นี่ น้ากลัวคนของพระยาสุรินจะบุกมาทำร้ายนายทัด พ่ออัฐรับปากกับน้านะ” นวลมองด้วยสายตาอ้อนวอน อัฐตัดสินใจนิดหนึ่งก่อนตอบ
“ครับ ผมสัญญา ผมจะไม่บอกใคร”
นวลสบายใจขึ้น
“ผมไปนะครับ”
นวลมองตามอัฐพร้อมกับยิ้มบางๆ ทัดรู้ทันความรู้สึกชุ่ม
“ชุ่ม...เจ้ารักเด็กคนนี้ใช่ไหม”
“ค่ะ เขาเป็นเด็กน่ารัก ข้ายังแปลกใจตัวเองว่าทำไมถึงรักและเอ็นดูเด็กคนนี้มากขนาดนี้”
“ข้ารู้ว่าทำไม”
ชุ่มแปลกใจ
“เพราะพ่ออัฐ คือลูกของเรา!”
ชุ่มอึ้ง ช็อก ผ้าหล่นจากมือ
“อะไรนะคะ”
ทัดกำลังจะเล่าความจริงให้นวลฟัง

คุณพระไวเคยหลุดปาก
“แต่ตาอัฐเป็นลูกของไอ้พิทักษ์”
“คุณพี่อย่าพูดไปสิคะ ประเดี๋ยวใครได้ยินเข้า” รำพึงว่า
“ที่จริง น้องน่าจะฆ่าตาอัฐให้ตายตามพ่อแม่มันไปเสียตั้งแต่วันนั้น ไม่น่าเก็บมันมาเลี้ยง มันจะได้ไม่ต้องอยู่ในรกหูรกตาพี่”

ทัดบอกนวล
“รำพึงตัดสินใจไม่ฆ่าลูกของเรา เพราะต้องการเลี้ยงเขาไว้เพื่อใช้เป็นเครื่องมือแก้แค้นเราสองคน”
ชุ่มช็อก จนแทบพูดไม่มีเสียง
“ลูกแม่ !”
นวลจะลุกไป แต่ทัดคว้าแขนนวลไว้
“เจ้าจะไปไหน”
“ข้าจะไปหาลูก!”
“อย่าเพิ่งชุ่ม!”
“ข้าทนเห็นคุณรำพึงใช้ลูกเป็นเครื่องมืออีกต่อไปไม่ได้แล้ว”
“ตาอัฐยังไม่รู้เรื่องนี้ ตอนนี้ลูกก็อยู่ในมือรำพึงกับขุนไว ถ้าเจ้าวู่วามทำอะไร ลูกจะเป็นอันตราย ปล่อยให้รำพึงคิดว่าเจ้ายังเป็นคุณนวลไปก่อนเป็นทางออกที่ดีที่สุด เชื่อข้าเถอะ”
ทัดดึงชุ่มเข้าไปกอด ชุ่มร้องไห้ในอ้อมอกของทัด

คุณพระไวกับลูกน้องเดินหงุดหงิดมาจากทางหนึ่ง
“น่าเสียดายจริงๆ คลาดกันนิดเดียวขอรับ ไม่งั้นเราคงจับไอ้ทัดได้คาหนังคาเขา”
อัฐเดินมาอีกทางได้ยินที่พวกคุณพระไวคุยกัน
“ไม่ว่ามันอยู่ที่ไหนข้าต้องลากตัวไอ้ทัดมันมาให้ได้ ไม่งั้นข้าได้มีปัญหากับพระยาสุรินแน่ๆ”
คุณพระไวหันไปเห็นอัฐยืนอยู่ด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
“อัฐ มายืนทำอะไรตรงนี้”
“เอ่อ...”
“มีอะไรหรือเปล่า”

อัฐลังเล จะบอกหรือไม่บอกดี?!

อัฐนึกถึงเรื่องที่รับปากกับนวลไว้

“อย่าบอกใครว่านายทัดอยู่ที่นี่ น้ากลัวคนของพระยาสุรินจะบุกมาทำร้ายนายทัด พ่ออัฐรับปากกับน้านะ” นวลมองอย่างอ้อนวอน อัฐตัดสินใจนิดหนึ่งก่อนตอบ
“ครับ ผมสัญญา ผมจะไม่บอกใคร”

อัฐตอบคุณพระไว
“ไม่มีอะไรครับคุณพ่อ”
คุณพระไวหงุดหงิดในตัวอัฐ

ภายในห้องนอนของรำพึง เวลากลางวัน จวงรายงานรำพึง
“ไอ้หมอไสย์อยู่ที่เรือนร้างท้ายป่า”
“เจ้าค่ะ จวงไปสืบมาแล้ว น่าจะใช่ไอ้หมอไสย์คนเดียวกันแน่เจ้าค่ะ”
“นังจวงเอ็งอยู่ที่นี่ ถ้ามีใครถามหาข้า เอ็งออกรับหน้าแทนไปก่อน”
“คุณรำพึงจะไปหาไอ้หมอไสย์หรือเจ้าคะ ให้จวงไปด้วยดีกว่าเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจะ เอ่อ..เสียท่าให้มันอีก”
“ข้าพร้อมจะเสียทุกอย่างเพื่อแลกกับการช่วยชีวิตลูกข้า!”
รำพึงสีหน้าเด็ดเดี่ยว

ภายในเรือนท้ายป่า หมอไสย์ล้มกระอักเลือด เลือดออกทั้งปากและจมูก เจ็บปวดทุรนทุราย แต่ต้องชะงักเมื่อใครคนหนึ่งเดินเข้ามาในเรือน
“นังรำพึง!”
รำพึงตกใจกับสภาพตรงหน้า
“แกยังไม่ตายจริงๆ”
หมอไสย์ยิ้มแสยะทั้งที่ร่างกายจะไม่ไหวอยู่แล้ว
“เอ็งกับผัวยังอยู่สุขสบายดี ข้าจะตายได้ยังไง”
“ถ้าแกยังไม่อยากตายทั้งเป็น รีบไปถอนของออกจากระพีเดี๋ยวนี้ !”
หมอไสย์หัวเราะ
“นังเด็กนั่นมันต้องชดใช้ในสิ่งที่เอ็งทำไว้กับข้า”
“แกรู้ว่าระพีเป็นลูกข้า แกตั้งใจทำร้ายระพี แกทำทำไมๆๆ”
รำพึงหัวใจจะแตกสลายเข้าทุบตีหมอไสย์ไม่ยั้งมือ หมอไสย์กระอักเลือดอีกครั้ง รวบรวมกำลังผลักรำพึงล้มคว่ำไปกับพื้น
“แม่มันเคยชั่ว ลูกมันก็เลยชั่วพอกัน คิดจะทำเสน่ห์มันก็ต้องโดนแบบนี้”
รำพึงสุดทน
“แกกำลังฆ่าลูกตัวเอง ! ได้ยินไหมว่าแกกำลังฆ่าลูกตัวเอง!”
หมอไสย์ชะงักไป
“ลูกข้า”
“แกต้องไปช่วยระพีเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้!”
รำพึงเข้าไปคว้าตัว หมอไสย์จับรำพึงไว้แน่น
“ข้าไม่เชื่อ! เอ็งมันงูพิษ ไม่มีวันที่ข้าจะหลงกลเอ็งหรอก”
“ข้าก็ไม่อยากให้ระพีเป็นลูกคนอย่างแก ถ้าวันนั้นแกไม่ทำอัปรีย์กับข้า ดูสภาพแกสิ ที่ของเข้าตัวแบบนี้มันเพราะอะไร เพราะอะไรล่ะ”

หมอไสย์นึกถึงตอนที่ทำของใส่ระพี เขาใช้มือกดหัวระพีและท่องคาถา ระพีเหมือนโดนสะกด ตาค้าง หมอไสย์พ่นเลือดใส่หน้าระพี ระพีกรี๊ด!และสลบลง

หมอไสย์กระอักเลือด

“ก็เพราะแกทำร้ายลูกในไส้ของตัวเอง ของต่ำมนต์ดำก็เลยย้อนกลับมาเล่นงานตัวแกเอง”
หมอไสย์อึ้ง ช็อก!
“ลูก ! ข้ากำลังฆ่าลูกตัวเอง ไม่จริง..ไม่จริง!”
รำพึงดึงกระชากหมอไสย์ให้ลุกขึ้น
“แกต้องไปช่วยลูกเดี๋ยวนี้ ลูกกำลังจะตายเพราะแก”
“ไม่จริ๊ง!”
หมอไสย์คลุ้มคลั่งผลักรำพึงกระเด็นไปติดข้างฝา รำพึงเจ็บจนลุกไม่ไหว หมอไสย์สติแตกวิ่งออกไปจากเรือน
“ได้โปรดเถอะ ไปช่วยลูกเดี๋ยวนี้ !”
รำพึงตะโกนอ้อนวอนทั้งน้ำตา

ภายในป่า หมอไสย์วิ่งเตลิดเปิดเปิงอย่างคนสติเสีย
“ไม่จริง ข้าไม่ได้ฆ่าลูก ไม่จริง!”
หมอไสย์กระอักเลือดเฮือกใหญ่จนล้มลง กลุ่มควันดำลอยวูบ ฉวัดเฉวียนไปมารอบตัวหมอไสย์ เสียงหวีดร้องดังระงมไปทั่วป่า กลุ่มสัมเวสี หน้าตาเคียดแค้นเดินเข้าหาหมอไสย์
“ไป! อย่ามายุ่งกับข้า ออกไป”
หมอไสย์พยายามลุกขึ้น สัมภเวสีพุ่งเข้าบีบคอ หมอไสย์ทรมานตาเหลือก กระอักเลือด ล้มกลิ้งไป สัมภเวสีจ้องมองตาวาว
“ข้า ยังไม่อยากตาย”
หมอไสย์เกิดภาพหลอนตัวเอง เห็นระพียืนร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ สายตามองหมอไสย์ที่กำลังทุกข์ทรมาน
“พ่อจ๋า! พ่อฆ่าหนูทำไม ฆ่าหนูทำไม”
หมอไสย์น้ำตาไหลพยายามตะเกียกตะกายไปหาระพี
“พ่อผิดไปแล้ว ระพี..พ่อขอโทษ”
หมอไสย์รวบรวมแรงฮึดวิ่งเข้าไปหาระพี แต่จังหวะนั้นหมอไสย์ตกวูบลงไปในหลุมกับดักสัตว์ หมอไสย์ถูกคมไผ่แทงทะลุร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังลั่น
“ข้าตาย...ไม่ได้”
หมอไสย์พยายามปีนขึ้นมาจากหลุมด้วยความทรมาน แต่ทันใดนั้น กับดักสัตว์แหลมคมพุ่งลงมาจากด้านบน หมอไสย์เงยหน้ามองแล้วร้องด้วยความช็อก!

“อ๊าก!”

ภายในห้องนอน ระพีหัวเราะออกมาเพียงชั่วครู่แล้วก็เศร้าสะอื้นน้ำตาไหลคล้ายคนฟั่นเฟือน จวงนั่งมองอย่างสงสาร

“น่าสงสารเหลือเกินแม่คุณ เกิดมาไม่รู้อีโหน่อีเหน่ กลับต้องมารับเคราะห์ โดยพ่อตัวเองทำร้าย”
ที่หน้าห้อง คุณพระไวกำลังจะเข้าห้อง ได้ยินจวงพูดลอยๆก็หยุดฟัง
“นี่ถ้าได้เกิดเป็นลูกคุณพระไวจริงๆ ก็คงดี”
คุณพระไวนิ่วหน้าผลักประตูเข้าไป
“เอ็งหมายความว่ายังไงนังจวง”
จวงสะดุ้งโหยง
“จะ..เจ้าคะ อะไรหรือเจ้าคะ”
“ที่เอ็งพูดเมื่อกี้ว่า ระพีไม่ใช่ลูกข้า เอ็งหมายความว่ายังไง”
จวงรีบหลบสายตา
“จะ...จวง ไม่ได้พูดอะไรนี่เจ้าคะ”
คุณพระไวพุ่งเข้ามาคว้าจวงหมับ
“เอ็งจะบอกข้าไหมนังจวง!”
จวงยิ่งตกใจ ทำท่าจะร้องไห้ด้วยความกลัว
“จวงไม่ได้พูดอะไรจริงๆ นะเจ้าคะ จวงสาบานให้ตายในสามวัน เจ็ดวันเลยก็ได้เจ้าค่ะ”
“ถ้าเอ็งไม่พูด เอ็งได้ตายสมใจแน่ !”
คุณพระไวกระชากจวงไป จวงร้องกรี๊ดดังลั่น ระพียังเหม่อลอยไม่รับรู้ใดๆ

ในเวลาเดียวกัน รำพึงกลับขึ้นเรือนมาพอดี ก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อจวงถูกลูกน้องคุณพระไวโยนเข้าลงกับพื้น เนื้อตัวบอบช้ำ จวงร้องไห้พูดกับคุณพระไว
“บ่าวไม่รู้จริงๆเจ้าค่ะ”
รำพึงปราดเข้าไปหาจวง
“จวง ! เอ็งเป็นอะไร”
“เป็นหมารับใช้ที่กำความลับไว้โดยที่มันไม่ยอมปริปากยังไงล่ะ”
รำพึงสังหรณ์ใจวูบแต่ทำใจดีสู้เสือ
“คุณพี่ ! นี่มันเรื่องอะไรกันคะ”
คุณพระไวแววตาเย็นชาเดินเข้ามาใกล้รำพึง
“นังจวงต้องพูดว่า ถ้าระพีได้เกิดเป็นลูกพี่ก็คงจะดี มันพูดแบบนี้ พี่ควรจะเข้าใจว่ายังไง”
รำพึงตกใจ พยายามหาทางแก้
“คุณพี่จะไปเอาความอะไรกับนังจวง มันเพ้อเจ้อ”
คุณพระไวจับแขนสองข้างของรำพึงบีบแน่นคาดคั้น
“ระพีไม่ใช่ลูกของพี่ใช่ไหม”
“คุณพี่ถามน้องอย่างนี้ คุณพี่ไม่ให้เกียรติน้องเลยนะคะ”
“เพราะพี่ให้เกียรติน้อง พี่ถึงต้องการได้ยินความจริงจากปากน้อง พูดมา!”
รำพึงอยู่ในสภาพอึดอัดหนัก
“ถ้าน้องไม่พูด พี่จะเปิดปากนังจวงเอง ไม่แน่พี่อาจจะรู้ความลับอะไรอีกมาก เอาตัวนังจวงไป !”
ลูกน้องสองคนเข้ามาลากจวงออกไป คุณพระไวผลักรำพึงและตามจวงออกไป รำพึงอึ้งตัวสั่น ไม่คิดว่าคุณพระไวจะเอาจริงขนาดนี้

เช้าวันใหม่ ที่โถงเรือนคุณพระเกิด น้อยเดินลงมา คุณพระเกิดเห็นเข้าพอดี
“แม่น้อยจะไปไหน”
“น้อยจะไปตามหาคุณแม่กับลุงทัดค่ะ”
“แม่น้อยไม่ต้องไป พ่อจะไปตามหาเอง”
“แล้วถ้าคุณพ่อเจอลุงทัด คุณพ่อจะไปบอกคุณพระไวให้มาจับลุงทัดอีกหรือเปล่า”
“แม่น้อย พ่อไม่ทำแบบนั้นแล้ว พ่อสัญญา”
น้อยนิ่ง คุณพระเกิดกอดน้อย
“ถ้าพ่อทำอีก ขอให้พ่อ...”
น้อยรีบเบรก
“คุณพ่อคะ น้อยเชื่อตั้งแต่คุณพ่อให้คำสัญญาแล้วค่ะ”
คุณพระเกิดผละตัวออกมาเห็นน้อยยิ้ม คุณพระเกิดยิ้มอย่างโล่งใจ
“แล้วนี่ลูกจะไปตามหาแม่กับลุงทัด รู้หรือว่าเขาหนีไปอยู่ที่ไหน”
“ไม่รู้ค่ะ”
“อ้าว...”
คนใช้เดินเข้ามาหา
“คุณน้อยคะ คุณอัฐมาขอพบค่ะ”

น้อยหน้าบึ้ง ยังงอนอัฐอยู่

จบตอนที่ 14

อ่านต่อตอนที่ 15 ตอนอวสาน พรุ่งนี้ เวลา09.30น.
กำลังโหลดความคิดเห็น