ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 9
กร้าวเดินออกมาเจออนุชเดินพอดี ต่างคนต่างก็ชะงักไป กร้าวถามอนุชด้วยความแปลกใจ
“มาที่นี่ทำไม”
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันนี่คะว่า สามีฉันทำมาหากินอะไร”
กร้าวเป็นห่วง
“แผลหายหรือยัง”
อนุชกวนๆ
“ทำไมคะ กลัวฉันมาแก้แค้นหรือไง”
กร้าวไม่ยอมรับ
“คนอย่างผมนี่อะนะกลัว”
“อย่างน้อยตั้งแต่เกิดเรื่อง คุณก็เอาแต่หลบหน้าฉัน”
กร้าวเผลอยิ้มออกมา
“ปากดีอย่างนี้แสดงว่าหายดีแล้ว...เรื่องวันก่อนผมขอโทษ”
“เรื่องบางเรื่องที่ทำให้เราไม่สบายใจก็ลืมมันไปเถอะค่ะ”
กร้าวรู้สึกเหมือนถูกแทงใจดำโดยไม่ได้ตั้งใจ เผลอพูดความรู้สึกของตัวเองออกมา
“แต่เรื่องบางเรื่องถึงจะทำให้เราไม่สบายใจ แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่ามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร”
อนุชเอะใจสงสัย
“คุณหมายถึงอะไร”
“เดี๋ยวถึงเวลาคุณก็รู้เอง”
กร้าวเดินมาที่ทางเดินหน้าบันได อนุชเดินตามหลังมา
“ไปทำงานใช่มั้ย ฉันไปด้วย”
“จะตามผมไปทำไม หรือว่าอยากสืบเรื่องผม”
อนุชไม่ยอมลดละ
“แล้วทำอะไรไม่ดีไว้หรือเปล่าล่ะ ถึงได้ระแวง”
กร้าวชะงัก ฝืนยิ้มกลบเกลื่อนดูว่าอนุชจะมาไม้ไหนกันแน่
“เยอะ จะเอาเรื่องไหนก่อนล่ะ”
“เรื่องข้อตกลงของเรา คุณจะได้ไม่มีข้ออ้างติดต่อพี่ลิต้าอีก”
กร้าวไม่ติดใจสงสัย
“ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง...สรุปว่าคุณหึงผม”
“อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย”
กร้าวหันกลับมาประจันหน้า
“เพราะคนที่ควรจะหลงคือคุณใช่มั้ย”
“ดูหน้าฉันนะ” อนุชฝืนยิ้มตาแข็ง “ฉันพยายามทำตัวอีคิวสูง ไม่เก็บคำพูดคุณมาเป็นอารมณ์ เพราะฉะนั้น...อย่ายั่วประสาทฉัน ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ ผลักคุณตกบันได”
กร้าวมองบันไดที่อยู่ตรงหน้า เผลอยิ้มออกมากับท่าทางเอาจริงเอาจังของอนุช
“ถ้าจะไปงั้นก็ตามมา”
อนุชเดินตามกร้าวไปอย่างงอน ๆ
ค่ำนั้น ลลิตามารอกร้าวอยู่หน้าบ้าน มองนาฬิกาข้อมือ ด้วยความกระวนกระวายใจ รถกร้าวเลี้ยวเข้ามาจอดในบ้าน
“คุณกร้าว!”
ลลิตาดีใจจะวิ่งเข้าไปหาแต่ต้องชะงัก เมื่อเห็นอนุชเปิดประตูลงจากรถ ก่อนกร้าวจะขับรถไปจอดที่จอดรถ
“นังนุช”
อนุชเข้ามาในบ้าน ลลิตาตามเข้ามาท่าทางหึงหวง
“พี่ลิต้า!” อนุชแปลกใจ
ลลิตาตะคอก
“แกกับคุณกร้าวไปไหนมา”
“แปลกเหรอที่นุชไปไหนต่อไหนกับสามีตัวเอง ว่าแต่พี่ลิต้าเถอะค่ะ เอาเวลาเป็นห่วงสามีชาวบ้านไปดูแลสามีตัวเองดีกว่านะคะ”
“นี่ฉันถามดีๆนะ”
“นี่ถามดีแล้วเหรอคะ ท่าทางพี่ลิต้าจะแยกแยะไม่ออกนะคะ ว่าอันไหนดีอันไหนหยาบคาย”
“นังนุช”
ลลิตาจะเข้าไปเอาเรื่อง อนุชสวนออกไป
“ก็เอาสิคะ นุชจะได้บอกเรื่องทั้งหมดกับพี่สิต”
“ดี ! ไอ้ง่อยนั่นจะได้ถอดใจ ตายๆไปซะ”
“จะพูดจะจาอะไรกรุณาให้พี่เกียรติพี่ชายนุชด้วย อย่างน้อยเขาก็ยังได้ชื่อว่าเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของพี่”
ลลิตาแกล้งเกทับ
“สิตเป็นสามีโดยนิตินัย แต่ถ้าโดนพฤตินัยล่ะก็...”
อนุชโกรธ
“หมายความว่ายังไง”
กร้าวเข้ามาจะเข้าบ้านเห็นรองเท้าส้นสูงถอดวางอยู่ก็เอะใจ...ลลิตาเย้ยอนุช
“หัดกดน้ำใส่ชักโครกชะโงกดูหนังหน้าโง่ ๆ ของตัวเองซะบ้าง จะได้รู้ว่าเขารักจริงหรือแค่หลอกใช้”
“เก็บคำแนะนำไว้ใช้กับตัวเองเถอะค่ะ”
ลลิตาโกรธที่ถูกหาว่าแก่กรี๊ดเสียงดัง
“คอยดูเถอะ ถ้าฉันช่วยคุณกร้าวทำกำไรจากการขายวิชเวทย์ได้เมื่อไหร่ ฉันจะเฉดหัวแกออกจากบ้านคนแรก แกจะไม่มีที่ซุกหัวนอน”
อนุชตกใจ
“อะไรนะ คุณกร้าวจะขายวิชเวทย์”
ลลิตารีบเอามือปิดปาก เมื่อรู้ว่าตัวเองหลุดปากออกไป ทันใดนั้นเสียงกร้าวดังขึ้น
“มีเรื่องอะไรกัน เสียงดังไปถึงหน้าบ้าน”
ลลิตากับอนุชหันไปมองตามเสียงเห็นกร้าวเดินหน้าเครียดเข้ามา ลลิตาละล่ำละลักกลัวกร้าวจะโกรธ
“ลิต้าไม่พูดอะไรนะคะ ลิต้าไม่ได้พูด”
ลลิตารีบเดินลนลานออกจากบ้านไป กร้าวหันมาถามอนุช
“ลิต้ามาทำไมนุช”
อนุชไม่สนใจตอบ
“อยากรู้ก็โทรไปถามสิคะ”
อนุชรีบเดินเข้าบ้านไปอย่างร้อนรน กร้าวมองตามด้วยความสงสัย
กร้าวขับรถมามาจอดที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล แล้วลงจากรถพร้อมลลิตา เขามีท่าทางไม่ค่อยพอใจ
“เมื่อวานไปบ้านผมทำไม ผมสั่งแล้วใช่มั้ยไม่ให้ไป”
ลลิตาออดอ้อนฉอเลาะ
“ก็ลิต้าคิดถึงคุณ คุณเอาแต่หลบหน้าลิต้า”
“ผมมีงานต้องทำนะลิต้า แล้วเมื่อวานคุยอะไรกับอนุช”
ลลิตาอึกอัก กลัวกร้าวรู้ว่าหลุดปากพูดเรื่องแผน
“เอ่อ...คือ ลิต้า” เธอคิดแก้ตัวได้ “ลิต้า...ไม่อยากให้มันเข้าใกล้คุณ”
“แต่นุชเค้าเป็นภรรยาผม”
ลลิตาไม่พอใจหึง
“อย่าบอกนะว่าคุณมีใจให้มัน”
กร้าวหยุดหันมาพูดย้ำ
“ผมกลัวงานของเราพัง แล้วเราจะไม่ได้อะไรเลย”
ลลิตามั่นใจ
“จะกลัวทำไม พวกมันโง่จะตาย” ลลิตาเยาะเย้ยหลุดปาก “ขนาดหลุดปากพูดยังไม่รู้เลย”
กร้าวแปลกใจ
“ว่าไงนะ”
ลลิตาแก้ตัว
“ลิต้าแค่สมมติ”
กร้าวมองอย่างไม่ไว้ใจ
“อย่าเผลอแล้วกัน หน้าที่ของคุณคือดีกับไอ้อสิต อย่าให้ใครสงสัย”
ลลิตาขู่รู้สึกว่าเป็นต่อ
“งั้นคุณต้องให้ความมั่นใจลิต้าด้วย…พอดีลิต้าเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจ อาจจะเผลอเมื่อไหร่ก็ได้”
กร้าวถูกลลิตาต่อรองก็ไม่พอใจแต่ต้องยอมเพราะจำเป็นต้องใช้เธอเป็นนกต่อจึงหยิบเช็คออกจากกระเป๋าเซ็นให้
“1 ล้านบาท คงจะช่วยคุณมั่นใจมากขึ้น”
ลลิตาเห็นเงินแล้วตาโต รีบเก็บใส่กระเป๋า กร้าวมองอย่างระอา
อสิตนอนอยู่บนเตียงพักฟื้นหลังจากผ่าตัด คณิตจับ กดบริเวณขา
“เป็นยังไง เริ่มมีความรู้สึกหรือยัง”
“นิดๆครับ แต่ยังชาๆอยู่”
“เป็นสัญญาณที่ดี คงต้องรอสักระยะให้เส้นประสาทฟื้นตัว”
อนุช อรชา ปรารภ ชายธงเปิดประตูเข้ามา
“สวัสดีครับทุกคน” คณิตทักทาย
ทุกคนไหว้ คณิตไม่เห็นกร้าวมาด้วยก็ทัก
“ไอ้กร้าวไม่ได้มาด้วยเหรอ”
อนุชอึกอักไม่อยากให้รู้ว่าหนีมา
“คุณกร้าวติดงานค่ะ” อนุชเปลี่ยนเรื่อง “แล้วนี่พี่สิตเป็นยังไงบ้างคะ”
“อีกไม่นานก็หัดเดินได้แล้ว” คณิตหันไปหาอสิต “ใช่มั้ยครับ”
“ครับ...แล้วนี่ยกโขยงมากันทำไมตั้งเยอะแยะ”
“คือเรามีเรื่องสำคัญจะคุยกับพี่สิตค่ะ” อรชาเหลือบมองคณิตนิดหนึ่งว่าจะพูดดีหรือไม่ “เรื่องรัตนกิจค่ะ”
คณิตรู้ว่าคงเป็นเรื่องสำคัญ จึงปล่อยให้พี่น้องคุยกันเอง
“งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”
“คุยกันตามสบายนะ เดี๋ยวผมกับคุณรภออกไปรอข้างนอก”
อนุชกับอรชา พยักหน้ารับ
คณิตเดินมาออกมา เห็นกร้าวกับลลิตาเดินมาพอดี คณิตทัก
“อ้าว...ไอ้กร้าว ไหนคุณนุชบอกว่าติดงาน”
กร้าวแปลกใจ
“นุชบอกแบบนี้เหรอ”
“อือ...มีอะไรหรือเปล่า”
กร้าวไม่ค่อยพอใจ
“เปล่า พอดีมาดูไซด์งานแถวนี้”
“งั้นฉันขอตัวไปทำงานก่อน”
กร้าวพยักหน้ารับรู้ คณิตเดินแยกไป ชายธงกับปรารภที่เดินตามหลังคณิตมาเห็นกร้าวก็ตกใจ
“นายกร้าว!”
กร้าวเดินมากับลลิตา ชายธงกับปรารภทำทีเข้ามาชวนคุยเพื่อถ่วงเวลา
“ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณพอดี ไปหาอะไรดื่มกัน”
กร้าวพูดห้วนๆไม่เป็นมิตร
“ผมไม่ว่าง”
กร้าวจะเดินไป ชายธงรีบสวนออกไป
“ผมอยากคุยเรื่องนุช”
กร้าวหันขวับมามองหน้าอย่างไม่พอใจ
“นุชเป็นภรรยาผม คุณมายุ่งอะไรด้วย”
ชายธงแกล้งหาเรื่องถ่วงเวลา
“ผมก็ไม่อยากยุ่งหรอก ถ้าคุณไม่ไปยุ่งกับภรรยาคนอื่น”
ลลิตาโกรธสวนแรง
“นี่! จะพูดจาอะไรหัดให้เกียรติคนอื่นบ้าง”
ปรารภโพล่งออกไปถ่วงเวลา
“พี่ลิต้าทำอย่างนี้ไม่ถูกนะครับ สงสารพี่สิตบ้าง”
ลลิตาไม่พอใจเสียงดัง
“ฉันมาทำงาน แล้วมันกงการอะไรของแก”
กร้าวกับลลิตาจะเดินไปอีก ชายธงรีบเข้าไปขวางอย่างร้อนรนอ้างไปเรื่อย
“แต่นุชเป็นเพื่อนผม”
กร้าวเห็นท่าทางแปลกๆ ของชายธงและปรารภก็นึกสงสัยขึ้นมา
“ถามจริงๆ คิดจะเล่นตลกอะไรกัน”
ชายธงกับปรารภมองหน้ากัน กลัวแผนแตก
อรชาปรับเตียงเอนให้ อนุชช่วยประคองพี่ชายให้นั่ง
“ที่บริษัทเป็นยังไงบ้าง” อสิตถามอนุช
อรชาตอบแทน
“เห็นว่าคุณกร้าวเปลี่ยนทีมผู้บริหารใหม่หมด”
อสิตยิ้มพอใจ
“สมเป็นคนรุ่นใหม่...นุชเลือกคนไม่ผิดจริงๆ”
อนุชขัดขึ้น
“แต่มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิด”
อสิตเอะใจ
“หมายความว่ายังไง”
อนุชกับอรชามองหน้ากันอย่างชั่งใจ อรชาพยักหน้าให้อนุชพูด
“นุชกับพี่อรสงสัยว่าคุณกร้าวร่วมมือกับพี่ลิต้า ยึดสมบัติวิชเวทย์”
อสิตไม่พอใจ
“เป็นไปไม่ได้”
อนุชพยายามอธิบาย
“แต่นุชได้ยินพี่ลิต้าพูดกับหู”
อสิตไม่เชื่อเริ่มรำคาญ
“เหลวไหล แล้วลิต้าจะทำอย่างนั้นทำไม”
อนุชกับอรชามองหน้ากันอึกอักไม่กล้าบอกอสิตเรื่องที่ลลิตาคบชู้ อสิตไม่พอใจ
“ตอบไม่ได้...เลิกมองลิต้าในแง่ร้ายได้แล้ว”
อรชายืนยัน
“แต่นุชพูดความจริงนะคะพี่สิต อรก็เอะใจอะไรหลายๆอย่าง โดยเฉพาะคุณกร้าว ไม่รู้ว่าเขาจะช่วยเราทำไม”
“เขาเป็นสามียัยนุช ช่วยครอบครัวภรรยาตัวเองแปลกใจตรงไหน นอกจากว่า นุชไม่ได้เต็มใจแต่งกับเขา”
อนุชรีบแก้สถานการณ์
“นุชเต็มใจค่ะ แต่ไม่ไว้ใจ”
อสิตเข้าใจผิด
“ที่แท้ก็หึงลิต้า”
อนุชพยายามอธิบาย
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะพี่สิต”
อสิตสวนแรงกลัวจะเป็นจริงอย่างที่น้องพูด
“คุณกร้าวเขาเป็นนักธุรกิจใหญ่ รวยเป็นพันๆล้าน จะมาสนใจที่ผู้หญิงที่มีสามีแล้วอย่างลิต้าทำไม”
อรชาเข้ามาห้าม
“ใจเย็นๆค่ะพี่สิต เรื่องแบบนี้ป้องกันไว้หน่อยก็ดีนะคะ อย่างน้อยน่าจะให้อรหรือนุช เข้าไปดูแลก็ยังดี”
ทันใดนั้นเสียงกร้าวดังขึ้น
“จะไปดูแลอะไรกันเหรอครับ”
อรชากับอนุชหันไปตามเสียง เห็นกร้าวกับลลิตาเดินเข้ามา ส่วนชายธงและปรารภที่เดินตามหลังมาทำสีหน้าบอกไม่ถูก อรชากับอนุชมองหน้ากันหน้าเสีย
อนุชต่อว่ากร้าวด้วยความไม่พอใจ เมื่อแยกมาคุยกันตามลำพัง
“จะดูแลอะไรก็ดูแลพี่สิตนะสิ เพราะเมียเขามัวแต่ดูแลสามีคนอื่น”
กร้าวยิ้ม
“คุณหึงผม”
“ฉันไม่ได้หึง แต่ฉันอาย หน้าตาท่าทางคุณก็ดี ทรัพย์สินเงินทองก็มี ฉันไม่เข้าใจทำไมต้องแย่งของคนอื่น”
กร้าวจงใจยั่ว
“ก็เพราะว่ามันท้าทายไง” เขายื่นหน้าไปใกล้กระซิบ “เหมือนคุณ”
อนุชโกรธ
“แต่ฉันเกลียดพวกที่ชอบเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น”
อนุชเดินไปด้วยความโกรธ กร้าวเข้าไปขวางด้วยความไม่พอใจ
“จะไปไหน ไปหาไอ้เสาธงชู้รักคุณหรือไง”
อนุชจงใจยั่วเช่นกัน
“ใช่ แล้วยังไง”
เธอจะเดินไป เขาโกรธเข้าไปกระชากแขน
“ผมไม่ให้ไป ผมจ้างคุณมาเป็นนางบำเรอ”
อนุชยั่วประสาทท้าทาย
“แต่ข้อตกลงไม่ได้ห้ามให้ฉันเป็นนางบำเรอคนอื่นนี่”
อนุชสะบัดแขนกร้าวออก เดินหนี ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย กร้าวไม่พอใจเข้าไปกระชากตัวไว้ไม่ให้ไป
“ผมไม่ให้ไป”
อนุชเสียงเบาอายๆ
“ปล่อยนะ ที่นี่มันโรงพยาบาล”
กร้าวได้ใจไม่อาย
“โรงพยาบาลมีกฎห้ามจูบเมียตัวเองหรือไง”
กร้าวปล้ำจูบ อนุชอาย
“ปล่อยฉันนะ ฉันบอกให้ปล่อย”
ลลิตาเดินเข้ามาพอดีเห็นอย่างก็ไม่พอใจ ตวาดเสียงดัง
“มาทำอะไรบัดสีบัดเถลิงกันตรงนี้”
กร้าวกับอนุชผละออกจากกัน
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 9 (ต่อ)
อนุชเดินหนีไปทันที เพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย แต่ลลิตาเดินตามเข้าไปหาเรื่อง
“เดี๋ยวจะไปไหน ฉันยังพูดไม่จบ”
อนุชหันมาประจันหน้าไม่กลัว
“ไปปีนต้นงิ้วมั้งคะ”
ลลิตาโกรธ รู้ว่าอนุชว่าตน
“นังนุช แกว่าฉัน!”
ลลิตาปราดเข้าไปจะตบอนุช แต่กร้าวเข้ามากระชากตัวไว้ก่อน
“หยุดเดี๋ยวนี้นะลิต้า”
อนุชทำหน้าล้อเลียนลลิตา ก่อนจะเดินไปอย่างไม่สนใจ...กร้าวผลัก ลลิตาติดผนังร้องด้วยความเจ็บ
“ลิต้าเจ็บนะ คุณมาห้ามลิต้าทำไม”
“ก็เพราะนุชพูดถูก”
ลลิตาโกรธเสียงดัง
“คุณกร้าว!”
“อย่าลืมสิ เรากำลังทำอะไร อย่าปล่อยให้ทุกอย่างพังเพราะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้”
แต่มันยั่วโมโหลิต้าก่อน”
“เขาก็จะยั่วแบบนี้ต่อไปเพราะรู้ว่าได้ผล”
ลลิตาฮึดฮัดไม่พอใจ แต่ก็ยอมอ่อนลง กร้าวเน้นย้ำให้ลลิตาเข้าใจว่ากำลังทำอะไรอยู่
“ทำตามแผนเรา อย่าให้อะไรมาทำให้คุณเสียสติ...ประกบไอ้อสิต อย่าปล่อยให้มันอยู่คนเดียว เราไว้ใจใครไม่ได้”
ลลิตาไม่ค่อยพอใจ แต่ก็พยักหน้ารับตามที่เขาบอก
อนุชเดินเข้ามาหาอรชา ชายธง ปรารภที่รอเธออยู่อย่างเป็นห่วง อรชารีบเข้ามาถาม
“เป็นยังไงบ้างยัยนุช”
“นุชไม่เป็นไรค่ะพี่อร...นุชแกล้งเบี่ยงไปเรื่องอื่น คิดว่าคุณกร้าวไม่น่าจะสงสัย”
อรชาโล่งอก
“ได้ยินอย่างนี้ค่อยโล่งขึ้นมาหน่อย”
ปรารภกังวล
“แล้วเราจะทำยังไงกันดีครับ พูดยังไงพี่สิตก็ไม่ยอมเชื่อ”
ชายธงครุ่นคิด
“คงต้องหาหลักฐาน”
อนุชหนักใจ
“แต่คนอย่างคุณกร้าวทั้งฉลาดทั้งรอบคอบ ถ้าเรายิ่งตามเขาก็ยิ่งสงสัย”
อรชาร้อนใจ
“แล้วจะปล่อยให้เขาทำลายวิชเวทย์งั้นเหรอ พี่ยอมไม่ได้”
ปรารภปลอบ
“ใจเย็นๆครับคุณอร”
“ถ้าเราเล่นงานเจ้าตัวตรง ๆ ไม่ได้ ก็คงต้องใช้ทางลัด” ชายธงออกความเห็น
อนุชสงสัย
“ยังไงเหรอชายธง”
“ทำให้คนของเขาพูดออกมาเอง”
อนุช อรชา และปรารภ คิดตามที่ชายธงพูด
ภายในห้องทำงานที่บริษัท เครื่องพริ้นเตอร์กำลังพริ้นท์รายชื่อทีมบริหารชุดใหม่ของรัตนกิจ ออกจากเครื่อง ก่อนที่อนุชเอารายชื่อพวกนั้นส่งให้ชายธง อรชา และปรารภ ยืนรออยู่อย่างใจจดใจจ่อ
“รายชื่อทีมบริหารชุดใหม่”
ชายธงรับมา
“ผมจะลองหาทางดู เผื่อจะมีใครให้ข้อมูลเราได้”
อนุช อรชา ปรารภมีความหวัง
ธารินนั่งซึมเอาแต่ร้องไห้อยู่ในห้อง แม่ของเธอบอกเธียรที่ยืนมองอยู่ด้วยความเป็นห่วง
“รินเป็นแบบนี้มา 2 - 3 วัน ข้าวปลาไม่ยอมกินเอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง ไม่รู้ทะเลาะอะไรกัน”
เธียรหน้าเครียด
“เดี๋ยวผมจะลองคุยกับชายธงดู”
แม่กลุ้มใจ
“ฉันว่าถอนหมั้นดีกว่า อย่าฝืนใจเด็ก จะเจ็บกันทั้งสองฝ่าย”
เธียรครุ่นคิดหน้าเครียดหนัก
เธียรเดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้องนั่งเล่น เขาครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดี ชายธงเดินเข้ามา
“พ่อครับ ผมมีเรื่องจะปรึกษา พอดีผมจะเปิดบริษัทกับเพื่อน อยากจะจ้างทีมที่ปรึกษา พ่อพอจะรู้จักคนพวกนี้หรือเปล่าครับ”
ชายธงยื่นรายชื่อทีมบริหารที่ได้มาจากอนุชให้ดู เธียรกระชากมาถือแต่ไม่สนใจดูเพราะโกรธลูกชาย
“แกทำอะไรหนูริน”
ชายธงอึกอักไม่กล้าพูดความจริง
“รินมาฟ้องพ่ออีกแล้วเหรอ”
“เปล่า แต่แม่เขามาขอถอนหมั้นแก มีเรื่องอะไรกัน”
ชายธงเดินหนีเบื่อคุยเรื่องนี้
“ผมก็มีชีวิตของผม มีหน้าที่การงานต้องทำ จะให้ผมทำตัวติดกับรินตลอดเวลาได้ยังไง”
“ยอมรับมาแล้วใช่มั้ยว่าแกไปก่อเรื่องจริง”
ชายธงเหนื่อยใจพยายามอธิบายอย่างเซ็งๆ
“ผมแค่พูดให้รินเข้าใจ”
เธียรคาดคั้น
“แล้วทำไมเป็นแบบนั้น เพราะพวกวิชเวทย์ใช่มั้ย”
ชายธงใจเย็นพยายามอธิบาย
“ไม่เกี่ยวกับนุชนะครับ แต่รินต้องรู้จักโตเป็นผู้ใหญ่ เรียนรู้ที่จะควบคุมตัวเอง ไม่ใช่เอะอะไรก็เอาแต่ใจ พอไม่ได้ดังใจก็ระรานคนอื่น คนอย่างนี้ใครอยู่ด้วยก็ไม่มีความสุข”
เธียรโกรธไม่ฟัง
“แต่แกก็ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายหนูรินอย่างนั้น”
ชายธงไม่พอใจ
“ผมไม่ได้ทำร้าย แต่ถ้าพ่อมองไม่เห็นปัญหา เอาแต่โทษว่าเป็นความผิดคนโน้นคนนี้ ผมก็จนปัญญา ผมขอแนะนำนะครับ ยอมให้เขาถอนหมั้นไปเถอะครับ ขืนแต่งไป มีปัญหาแน่ๆ”
ชายธงพูดจบเดินออกไปอย่างไม่สบอารมณ์ เธียรรีบรั้งไว้
“เดี๋ยว เมื่อกี๊แกจะปรึกษาอะไรฉัน”
ชายธงเซ็ง
“หาที่ปรึกษาจะเปิดบริษัทใหม่กับเพื่อน แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้วก็ได้ครับ”
เธียรดูรายชื่อคร่าวๆ
“ถ้าฉันบอกฉันรู้จักคนในนี้ล่ะ”
ชายธงหันขวับกลับมา เธียรพูดต่อ
“แต่ถ้าจะให้ฉันช่วย ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
ธาริน หมกตัวอยู่แต่ในห้อง แม่ป้อนข้าวโจ๊กให้แต่เธอไม่ยอมกิน จนแม่ต้องถอนหายใจ หันหลังจะเดินออกมา ชายธงเข้ามาพอดี แม่ธารินถอนใจบอก
“คุยกันดีๆ นะลูก”
ธารินหันมาเห็นชายธงก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ จะไปหา
“พี่ชายธง”
ธารินนึกได้ว่าโกรธเขาอยู่ ก็นั่งลงทำหน้างอนตามเดิม ชายธงเดินเข้าไปนั่งข้างๆ พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แฝงความเป็นห่วงอย่างจริงใจ
“พี่ไม่คิดว่าจะทำให้รินเสียใจขนาดนี้ พี่ขอโทษ”
ธารินงอนไม่หันมองหน้า
“ใครใช้พี่มา แม่รินหรือคุณพ่อพี่”
“คุณพ่อ”
ธารินโกรธน้อยใจ
“ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ต้องมา”
“รินก็รู้ว่าไม่มีใครบังคับพี่ได้”
ธารินชะงัก ครุ่นคิดเห็นว่าเป็นจริงตามที่เขาพูดก็ใจอ่อน
“แต่ถ้ารินไม่ยอมยกโทษให้พี่ก็ไม่เป็นไร”
ชายธงทำท่าจะลุกเดินไป ธารินรีบสวนออกไปงอน ๆ
“เรื่องวันนั้นรินก็ไม่ดีเหมือนกัน”
ชายธงชะงักหันมามอง
“รินไม่น่าใช้แต่อารมณ์ ทำให้คนเดือดร้อน ทำให้ตัวเองดูแย่”
ชายธงยิ้มอ่อนโยน
“พี่ดีใจที่รินเข้าใจ กินข้าวนะ เดี๋ยวพี่ป้อนให้”
ธารินยังงอนอยู่
“แต่พี่ชายธงต้องสัญญากับรินก่อน...” เธอเสียงสั่นจะร้องไห้ด้วยความน้อยใจจริง ๆ “อย่าไล่รินอีก รินสัญญา รินจะพยายามกลับมาเป็นเด็กดีของพี่ชายธง”
ชายธงขยี้หัวหญิงสาวอย่างเอ็นดู
“โธ่ เด็กโง่ คิดว่าเรื่องอะไรซะอีก กินข้าวนะ”
ธารินยิ้มออกมา ชายธงป้อนข้าวให้
เธียรเอารูปถ่ายพร้อมประวัติ หนึ่งในทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ คนของกร้าว ยื่นให้ชายธงพร้อมบรรยายรายละเอียด
“นายคนนี้ชื่อ อำพล พงศ์สุวัฒน์ เคยทำงานกับพ่อเมื่อ 5 ปีก่อน เป็นคนเก่งเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว มีประสบการณ์และชั้นเชิงทางธุรกิจสูง...แต่ติดตรงที่ว่ามีนิสัยเจ้าชู้เพลย์บอย ชอบพูดจาโอ้อวด ทำให้มีปัญหากับผู้ร่วมงานด้วยกันบ่อยๆ แต่ทุกคนก็ต้องยอมเพราะเก่งจริง”
ค่ำนั้น อำพล นั่งกินเหล้าอยู่ในผับมีสาวๆคลอเคลียร์ซ้ายขวาอย่างมีความสุข...เชอรี่ สาวสวยหนึ่งในหลายๆคนที่นั่งกินเหล้าด้วยประคองอำพลที่อยู่ในสภาพเมามายเข้ามาในห้องพักของโรงแรมม่านรูด
“เดินดีๆ ค่ะป๋าขา”
เชอรี่ประคองอำพลลงนอนบนเตียง อำพลทำเจ้าชู้ใส่
“มาให้ป๋าชื่นใจหน่อยสิจ๊ะ”
“ถ้าให้ง่าย ๆ ก็ไม่สนุกสิคะ” หญิงสาวคิดอะไรออกหยิบมือถือออกมากดอัดคลิป “เอา
อย่างนี้เรามาเล่นสัมภาษณ์กันดีกว่า เชอรี่ถาม ป๋าตอบ เชอรี่ถอด ป๋าจูบ นะคะ ป๋าทำอาชีพอะไร”
“นักธุรกิจจ๊ะ”
เชอรี่ดูถูก
“คิดว่าอาแปะเขียงหมูซะอีก”
อำพลโกรธโวยวาย
“เฮ้ย พูดอย่างนี้มันดูถูกกันชัดๆ ในแวดวงนักบริหารไม่มีใครไม่รู้จักผม ขนาดนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่าง กร้าว ศุภกาญจน์ ยังต้องมาจ้างผมให้เข้าไปเทคโอเวอร์รัตนกิจกรุ๊ป”
เชอรี่สาวบาร์ที่ถ่ายคลิปแอบยิ้ม ที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน เมื่อได้ข้อมูลมากพอ หล่อนรีบนำมาให้ชายธง แลกกับค่าจ่างทันที
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 9 (ต่อ)
วันต่อมาทุกคนอยู่ในห้องทำงานที่บ้าน ดูคลิปในมืออนุชเป็นตอนที่อำพลเผลอหลุดปากเรื่องเทคโอเวอร์รัตนกิจออกมา อนุช อรชา และปรารภ ดูคลิปนั้นอย่างไม่พอใจ
“เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ” อรชาแค้นใจ
ชายธงหนักใจ
“ผมคงไปด้วยไม่ได้...ผมรับปากกับคุณพ่อไว้แล้วต้องดูแลธาริน”
อนุชซาบซึ้งใจ
“ไม่เป็นไร แค่นี้ก็ถือว่ามากสำหรับนุชแล้ว ขอบใจชายธงมากนะ”
“เพื่อนุชผมยินดีเสมอ”
“ผมว่ารีบไปกันเถอะครับ” ปรารภบอก
อนุชเดินนำทุกคนมองหาอสิตที่ห้องทำกายภาพ เห็นนักกายภาพบำบัดยืดแขนขาอสิต ทำกายภาพอยู่ อนุชกับอรชาหันมายิ้มให้กัน ทำท่าจะเดินเข้าไปแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นกร้าวยืนอยู่ด้วย อสิตร้องทัก
“อร นุช วันนี้ขาพี่เริ่มมีความรู้สึกแล้ว”
อนุชกับอรชาหน้าเจื่อนไป แต่จำเป็นต้องเดินเข้าไป อสิตสังเกตเห็น
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นไม่ดีใจเหรอ”
กร้าวรู้ทัน พูดกระแทกใส่อนุช
“คงมีบางคนไม่อยากให้ผมอยู่ที่นี่”
อนุชทำหน้างอนไม่พอใจ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย
อนุชยืนล้างมือคุยกับอรชาอย่างเครียดๆ อยู่หน้าอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ
“เดี๋ยวนุชจะกันคุณกร้าวออกไปเอง...”
ลลิตากำลังจะเปิดประตูออกจากห้องน้ำชะงักไป อนุชยังไม่รู้ตัว
“พี่อรค่อยเอาคลิปที่ว่าให้พี่สิตดูนะคะ”
อรชารับคำ
“อือ...”
ลลิตามองตามด้วยความสงสัย
“คลิปอะไร”
นักกายภาพนวดแขนขาให้อสิต กร้าวถาม
“เป็นไงบ้างครับ”
“รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยครับ ไม่ต้องเอาแต่นั่งๆ นอนๆอย่างเดียว”
กร้าวยิ้มพยักหน้ารับรู้ อนุชกับอรชา เดินเข้ามา
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ” อนุชพูดกับกร้าว
“พูดมาสิ”
อนุชทำเป็นไม่สน
“ถ้าไม่อยากรู้ว่าพี่ลิต้ามาหาฉันทำไม ก็ตามใจ”
อนุชทำท่าจะเดินไป กร้าวรีบรั้งไว้
“เดี๋ยว”
อนุชแอบยิ้ม
อนุชเดินคุยกับกร้าวมาตามทางเดินหน้าร้านอาหารโรงพยาบาล
“คราวนี้บอกได้หรือยังว่าเรื่องอะไร”
อนุชแกล้งถ่วงเวลา
“คนมาเหนื่อยๆ ขอกินอะไรก่อนสิ”
อนุชเดินเข้าไปในร้าน กร้าวเซ็ง
อรชาอยู่กับอสิตในห้องกายภาพ เธอบอกกับพี่ชาย
“พี่สิตคะ อรมีเรื่องอยากจะคุยด้วย”
อสิตเซ็ง
“ถ้าจะมาปรักปรำคุณกร้าวอีกไม่ต้องพูดเลย”
อสิตทำท่าจะเข็นรถหนี ปรารภรีบเข้าไปขวาง
“พี่สิตดูคลิปนี้ก่อนนะครับ ถ้าดูแล้วไม่เชื่อ พวกเราจะไม่พูดเรื่องนี้อีก“
อสิตชะงักหันมามองด้วยความสนใจ ลลิตาที่แอบฟังอยู่ตกใจ
“ที่แท้พวกแกก็จ้องทำลายฉัน”
อรชารีบเปิดคลิปให้อสิตดู ลลิตาแอบยืนดูอยู่กระสับกระส่าย
“จะทำยังไงดี” ลลิตามองหากร้าวต้องการความช่วยเหลือ “คุณกร้าวนะคุณกร้าวไปไหนเนี่ย”
ลลิตาคิดอะไรบางอย่างได้
คลิปในมือถือ เป็นตอนนี้สาวบาร์เปิดมือถือออกมาชวนเล่นเกม อำพลกำลังจะพูด ทันใดนั้นภาพก็หยุด...มีสัญญาณคนโทร.เข้ามา ขึ้นชื่อหน้าจอว่า พี่ลิต้า อรชาบอกปรารภด้วยความตกใจ
“พี่ลิต้าโทร.มา”
“ตัดสายไปก่อน ดูให้เสร็จค่อยโทร.กลับ”
อรชาทำตามเปิดคลิปขึ้นมาใหม่...ลลิตาที่แอบดูอยู่เจ็บใจ...คลิปมือถือในมืออรชาคลิปเล่นไปถึงตอนที่อำพลบอกว่าเป็นนักธุรกิจ...ลุ้น ๆ ว่ากำลังจะได้รู้ความจริงแล้ว ทันใดนั้นก็มีสัญญาณเรียกเข้าเป็นชื่อลลิตาเข้ามาอีก อสิตรำคาญบอกอรชากับปรารภ
“พี่ว่ารับสายก่อนเถอะ”
อรชารับคำ ก่อนจะกดรับสาย ลลิตาที่แอบดูอยู่รีบตัดสายทิ้ง อรชาบอกอสิตกับปรารภ
“พี่ลิต้าวางสายไปแล้ว”
ปรารภเอะใจอะไรบางอย่างมองไปรอบๆ เหมือนเห็นหลังลลิตาที่แอบดูอยู่ไกลๆ
ลลิตาที่แกล้งกดโทร.หา ยิ้มเยาะ
“เอาให้รำคาญจนเลิกดูไปเลย”
ลลิตาพูดจบหันมาเจอปรารภเข้ามาพอดี รีบเอามือถือแอบด้านหลัง
“ใครรำคาญใครเหรอครับ”
ลลิตาตกใจหน้าถอดสี
อสิตรำคาญเข็นรถหนี
“จะเล่นอะไรยัยอร ดูแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย”
อรชารีบตามไปขวางขอร้อง
“พี่สิตทนดูอีกนิดนะคะ อรขอร้อง”
อสิตเสียงเข้ม
“ถ้าไม่มีอะไรอีก พี่ไม่เสียเวลาด้วยแล้วนะ”
อรชาเปิดคลิปให้ดูอีก คลิปในมือ อำพลโกรธที่ถูกดูถูก...กำลังจะบอกว่าเขามาเทคโอเวอร์รัตนกิจ ทันใดนั้นลลิตาก็โผล่เข้ามา
“ดูอะไรกันอยู่เหรอคะ”
ลลิตายิ้มหวาน อรชารีบกดหยุด แล้วเอามือถือซ่อนไว้ด้านหลัง กลัวว่าลลิตาจะรู้ ลลิตามองอรชาอย่างไม่เป็นมิตร
อนุชกินน้ำจนหมดแล้ว กร้าวพูดขึ้นมาด้วยความรำคาญ
“ตกลงจะบอกไม่บอก ถ้าไม่บอกผมกลับ”
กร้าวลุกขึ้นเดินหนี อนุชรีบลุกขึ้นตามไปรั้ง
“เดี๋ยวก่อนสิคะคุณกร้าว”
กร้าวหันมาพูดอย่างเซ็งๆ
“เลิกเล่นตลกซะที”
อนุชแกล้งหาเรื่อง
“หน้าฉันขำตรงไหนพูดให้ดีๆ”
กร้าวเซ็งไม่ตอแยด้วยเดินไป
“คุณกร้าว คุณกร้าว เดี๋ยวก่อนรอฉันด้วย”
อนุชรีบวิ่งตามออกไป
ในห้องพักฟื้น...ลลิตาเทซุปที่ซื้อมาใส่ชามให้อสิต
“ลิต้าซื้อซุปมาฝาก ทานเยอะๆ จะได้แข็งแรงไวๆ ว่าแต่เมื่อกี๊ดูอะไรกันเหรอคะ”
อรชากับปรารภ ที่ยืนอยู่ข้างๆ อสิตอึกอัก อสิตตอบแบบรำคาญ
“คลิปอะไรสักอย่าง อย่าไปสนใจเลย”
ลลิตาหันมาถามอรชาแกล้งทำเป็นพูดดี
“ขอพี่ดูหน่อยได้มั้ย”
อรชาเหลือบมองปรารภอึกอัก
“เอ่อ คือว่า...”
อสิตหันมาบอก
“ดูด้วยกันก็ดีเหมือนกัน เผื่อมีอะไรลิต้าจะได้คุยกับคุณกร้าว...เปิดสิอร”
อรชาหันไปมองหน้าปรารภว่าจะทำยังไงดี ปรารภพยักหน้าให้เปิด อรชาเปิดคลิป ยื่นให้อสิตดู คลิปในมืออสิตเล่นไปจนอำพละกำลังจะพูดความจริง ลลิตาเดินมาแกล้งทำเป็นสะดุด ซุปหกใส่มือถือในมืออสิต
“ว้าย ลิต้าขอโทษค่ะ เดี๋ยวลิต้าเช็ดให้นะคะ”
ลลิตาใช้ความไวดึงมือถือไปจากมืออสิต แล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำ อรชาเรียกไว้
“เดี๋ยวค่ะ พี่ลิต้ามือถืออร”
ลลิตาเข้ามาในห้องน้ำเปิดน้ำราดรดมือถือจนเครื่องดับไป แล้วแกล้งทำเป็นตกใจ
“ต๊าย พี่ขอโทษ พี่ลืมไปว่ามันไม่กันน้ำ”
ลลิตายิ้มเย้ย อรชาเจ็บใจจะเข้าไปเอาเรื่อง แต่เสียงอสิตดังมาเสียก่อน
“มีอะไรเหรอลิต้า”
ลลิตาดินออกมาจากห้องน้ำ โดยมีอรชาเดินท่าทางไม่พอใจตามหลังมา
“พอดีลิต้าเผลอทำมือถืออรถูกน้ำน่ะค่ะ” ลลิตาแกล้งทำเป็นพูดดีกับอรชา “เดี๋ยวพี่
ซื้อใหม่ให้นะ”
“ไม่ต้องก็ได้ครับ เดี๋ยวผมเอาไปซ่อมให้”
ปรารภยื่นมือมาจะขอคืน ลลิตาทำหน้าไม่พอใจทำปากขมุบขมิบ
“อย่ามายุ่ง”
ปรารภจริงจัง
“สิครับ”
ปรารภขยับตัวไปใกล้อีก ท่าทางเอาจริง ทันใดนั้นกร้าวกับอนุชก็โผล่เข้ามาพอดี
“คุยอะไรกันอยู่ครับ ท่าทางสนุกเชียว”
อรชาอึ้งไป
ลลิตาแอบมาคุยกับกร้าวตามลำพัง
“ท่าทางพวกมันจะสงสัยเรา...เห็นว่าในนี้มีคลิปอะไรก็ไม่รู้”
ลลิตายื่นมือถืออรชาให้ กร้าวรับมางง ๆ
อนุชเดินคุยมากับอรชาและปรารภที่มุมหนึ่ง พออนุชรู้เรื่องทุกอย่างก็ตกใจ
“ว่าไงนะพี่ลิต้าเอาคลิปนั้นไปแล้ว”
อรชาหน้าเสีย
“พี่ขอโทษ พี่น่าจะระวังให้มากกว่านี้”
ปรารภหนักใจ
“ถ้าสองคนนั่นเห็นคลิป ต้องรู้แน่ๆว่าพวกเราสงสัย”
อนุชร้อนใจ
กร้าวเดินมาที่ลานจอดรถกำลังจะขึ้นรถ อนุชที่เดินตามหลังมา ร้องเรียก
“เดี๋ยวก่อนคุณกร้าว ฉันขอของฉันคืนด้วย”
กร้าวทำไก๋
“มือถือไม่ได้อยู่ที่ผม”
“แล้วรู้ได้ไงว่าฉันมาตามมือถือ”
กร้าวอึ้งไปที่หลุดแกล้งทำเป็นโกรธ
“ผมบอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิ”
“ฉันไม่เชื่อ ฉันรู้ว่าพี่ลิต้าเอาให้คุณ”
อนุชไม่พูดเปล่า ตบกระเป๋ากางเกงเขาซ้ายขวาหน้าหลัง กร้าวปัดป้องร้องโวยวาย
“คุณจะทำบ้าอะไร หยุดเดี๋ยวนี้นะ ผมบอกให้หยุด”
อนุชล้วงมือถือจากกระเป๋ากางเกงหลังของเขาออกมา
“แล้วนี่อะไร”
กร้าวกวน
“มือถือ”
กร้าวกระชากมือถืออรชาจากมือเธอแล้วโยนทิ้งไปเลย อนุชไม่พอใจ
“คุณกร้าว!”
กร้าวกวนๆ
“ก็คุณมารุกล้ำความเป็นส่วนตัวผมก่อน”
อนุชโกรธ
“แต่คุณไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนั้นกับของของคนอื่น”
กร้าวประชด
“เดี๋ยวผมซื้อให้ใหม่ก็ได้ จะเอากี่เครื่อง”
“แต่มันไม่เหมือนกัน”
“ในนั้นมีอะไร ถึงได้สำคัญกับคุณมาก”
“คุณทำอะไรไม่ดีไว้หรือเปล่าล่ะ ถึงได้ระแวงฉัน”
กร้าวชักโมโห
“ผมไม่ใช่พวกวิชเวทย์ถึงต้องแอบทำ”
อนุชประชด
“ฉันก็ไม่ใช่พวกศุภกาญจน์ถึงชอบลอบกัดคนอื่น”
กร้าวโกรธเสียงดัง
“อนุช!”
อนุชยียวน
“เรียกฉันทำไม หรืออยากจะจำชื่อนี้ไปจนตาย”
กร้าวโมโหกระชากตัวมาจูบ อนุชผลักเขาออกไป ก่อนจะตบหน้าอย่างแรง
“อย่ามาทำแบบนี้กับฉัน”
อนุชวิ่งหนีไปด้วยความโมโห กร้าวเจ็บใจ
โปรดติดตาม "ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง" ตอนที่ 10