ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 8
ค่ำนั้น เมื่อกลับมาถึงห้องพักที่คอนโด ลลิตาโวยกร้าวทันที
“ลิต้าทนไม่ไหวแล้วนะคะ ลิต้าไม่อยากทนอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้อีกต่อไปแล้ว”
“ถ้าคุณรอไม่ไหว ก็ไม่ต้องรอก็ได้ ผมไม่ว่า...”
กร้าวเดินหนีรำคาญ ลลิตาเข้าไปคลอเคลีย
“โธ่ ทำไมพูดกับลิต้าอย่างนั้นล่ะคะ ลิต้ารักคุณนะคะ”
“งั้นก็ใจเย็น ๆ จนกว่าคนของผมจะเข้าไปควบคุมกิจการทั้งหมด...ถึงตอนนั้นคุณอยากได้อะไร ผมไม่ปฏิเสธ”
ลลิตาใจอ่อน
“แล้วลิต้าต้องทำยังไง”
“ใช้สามีคุณให้เป็นประโยชน์ อย่าปล่อยให้อนุชปลุกปั่นหุ้นส่วนที่เหลือได้สำเร็จ”
กร้าวยิ้มเจ้าเล่ห์
วันใหม่...อสิตนอนอยู่บนเตียงอย่างสิ้นหวัง อรชาป้อนข้าวให้
“ทานข้าวหน่อยนะคะพี่สิต “
“ลิต้าหายไปเลย เจอลิต้าบ้างรึเปล่า”
อรชาเหลือบมองปรารภที่ยืนอยู่ข้างๆ ปรารภช่วยพูด
“พี่ลิต้างานยุ่งครับ”
“พี่กินไม่ลง พี่ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ทำไม เป็นภาระคนอื่นเปล่าๆ”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิคะพี่สิต”
“ปล่อยให้พี่ตายไปเถอะ อยู่ต่อไปก็ไม่มีความหมาย”
ทันใดนั้นเสียงลลิตาดังขึ้น
“ทำไมจะไม่มีความหมายล่ะคะ”
ทุกคนหันไปเห็นลลิตาเดินเข้ามากับกร้าว
“สิตยังมีลิต้าอยู่ทั้งคน”
อสิตดีใจ
“คุณหายไปไหนมา”
“ลิต้าไปดูแลงานแทนคุณที่บริษัทไงคะ ตอนนี้คุณกร้าวอาสามาช่วยงานด้วยนะคะ สิตพักผ่อนเยอะๆ
ไม่ต้องห่วงที่บริษัทนะ น้องเขยสิต ทำงานเก่งมาก ผู้บริหารชมกันทุกคน”
ลลิตาเห็นชามข้าวในมืออรชา ก็แย่งมา
“มาค่ะ เดี๋ยวลิต้าป้อนให้”
ลลิตาป้อนข้าวให้อสิต พอเขากินก็อดทำหน้าหมั่นไส้ไม่ได้
“ผมนี่แย่จริง ๆ ทำให้คุณลำบากอีกแล้ว” อสิตซึ้งใจ
ลลิตาเปลี่ยนหน้าทำเป็นยิ้มแย้ม
“ถ้ากลัวลิต้าลำบากสิตคุณก็ต้องหายเร็ว ๆ”
อสิตหนักใจ
“แต่ผ่าตัดใช้เงินมาก ไม่รู้จะได้ผลหรือเปล่า ผมไม่อยากให้คุณกับน้องต้องลำบาก”
กร้าวยิ้ม
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจัดการให้”
อสิตเกรงใจ
“อย่าดีกว่า ครอบครัวผมรบกวนคุณมามากแล้ว”
“รบกวนอะไรครับ เอาไว้ถ้ามีโอกาส คุณได้ตอบแทนผมแน่”
กร้าวยิ้มแฝงความเจ้าเล่ห์ ส่อนัยยะถึงเรื่องในอดีต อรชามองอย่างไม่ไว้ใจ
อรชาเดินคุยกับกร้าวที่ทางเดินหน้าห้อง
“ยังไงฉันก็ไม่ยอม เรื่องนี้เป็นเรื่องของครอบครัวเรา เราจัดการเองได้”
กร้าวหันมาพูดดีน้ำเสียงอ่อนโยน
“อย่าลืมสิครับ ตอนนี้เราไม่ใช่คนอื่นคนไกล เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”
“ฉันไม่ลืมแล้วก็ไม่มีวันลืมด้วย...เพราะฉะนั้นอย่าสร้างบุญคุณต่อกันอีก ฉันไม่อยากให้มันกลายเป็นบุญคุณที่ไม่มีวันชดใช้หมด”
“แล้วถ้าผมบอกว่าผมทำทุกอย่างเพื่อไถ่โทษที่ทำไว้กับคุณล่ะครับ” กร้าวมองอย่างอ่อนโยน “อภัยให้ผมนะครับ”
อรชาเดินหนีอย่างถือดี
“ไม่จำเป็น ถ้าคุณสำนึกจริงๆ ก็ดูแลยัยนุชให้ดี อย่าให้เสียใจเหมือน...”
อรชาพูดได้แค่นั้นน้ำตาก็รื้นขึ้นมา เธอพยายามข่มไว้ กร้าวรู้ทัน
“คุณ...”
กร้าวยิ้มร้าย อรชาข่มอารมณ์หันมาประจันหน้า
“อย่าทำเหมือนเห็นวิชเวทย์เป็นของเล่น ฉันไม่ชอบ”
“ผมแต่งงานเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีคุณนุช ไม่ตั้งใจจะทำให้คุณเจ็บปวด”
อรชาจะร้องไห้
“พอเถอะ อย่าพูดอะไรอีก”
“ก็ได้ครับ ถ้ามันเป็นความต้องการของคุณ ผมจะดูแลนุชให้เหมือนที่ผมอยากดูแลคุณ แม้ว่าผมจะรักนุชไม่ได้เหมือนที่รักคุณ”
คำพูดของกร้าวทำให้อรชาน้ำตารื้นขึ้นมา หันมามองหน้าด้วยความรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงกับเธอกันแน่ อรชาเดินหนีไป ซ่อนน้ำตา กร้าวรีบตามไป
อรชาเดินหนีมา พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล แต่ก็ทำไม่ได้ กร้าวไม่ปล่อยให้โอกาสทองในการทำแต้มของเขาหลุด ตรงเข้าไปเช็ดน้ำตาให้
“อย่าร้องไห้สิครับคนดี...น้ำตาอาจเป็นเพื่อนคุณ แต่มันกรีดใจผมทุกครั้งที่เห็นมัน”
อรชากำลังจะใจอ่อนกับคำพูดและท่าทีที่อ่อนโยนของกร้าว ทันใดนั้นปรารภเข้ามา
“มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าครับคุณอร”
กร้าวผละออก อรชารีบเช็ดน้ำตาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไม่มีค่ะ ไม่มีอะไร กลับบ้านกันเถอะค่ะ”
อรชาเดินออกไป ปรารภหันมามองหน้ากร้าวอย่างไม่เป็นมิตร
“อย่าให้ผมรู้นะว่าคุณทำร้ายจิตใจคุณอรอีก”
ปรารภพูดเสร็จเดินตามอรชาไป กร้าวยิ้มไม่ยี่หระ
ชายธงกับอนุชเดินคุยกันมาในสวน
“ผ่าตัดต้องใช้เงินมาก มีอะไรบอกผมได้นะ”
“อย่าดีกว่า เพราะแค่นี้คุณพ่อของชายธงก็มองนุชไม่ดีแล้ว”
“แต่จะให้ทนดูเฉยๆ ผมทำไม่ได้”
“เอาเป็นว่าถ้าอยากช่วยนุช หางานให้นุชทำงานดีกว่า แต่นุชขอไม่ทำกับชายธงนะ ไม่อยากมีปัญหากับคุณริน”
“ผมเข้าใจ ผมขอโทษแทนรินด้วย”
“นุชไม่ถือหรอก” อนุชถอนหายใจนึกถึงกร้าว “ใครๆจะได้เลิกโขกสับนุชซะที”
“นอกจากเรื่องพี่ลิต้าแล้ว คุณกร้าวยังทำไม่ดีกับนุชอีกเหรอ”
อนุชไม่อยากให้เป็นห่วง
“เปล่า นุชหมายถึงสายคาคนทั่วๆไปมองที่นุชไม่ดี”
ชายธงไม่ติดใจ
“เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรคับข้องใจบอกผมได้ โดยเฉพาะนายกร้าว ผมจะไม่มีวันยอมให้ดูหมิ่นเกียรตินุชเด็ดขาด”
อนุชยิ้มอ่อนโยน
“ขอบคุณนะชายธง...นุชเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เอง ว่าความยากลำบากทำให้เรารู้ว่ามีอย่างอื่นสำคัญกว่าเงิน...”
“อะไรเหรอครับ”
“มิตรภาพของเรายังไงล่ะ”
“ยินดีครับ ถึงแม้ผมจะเป็นได้แค่เพื่อนนุช”
ชายธงยิ้มอบอุ่นแฝงความขมขื่นใจ ในความรักที่เขามีต่ออนุช
กร้าวอยู่ในห้องทำงานนั่งดูเอกสาร และแบบแปลนบ้านกับทีมวิศวกรและฝ่ายข้อมูล
“คุณช่วยหาข้อมูลเกี่ยวกำลังซื้อและพฤติกรรมของคนในพื้นที่ให้ผม บางทีเราอาจจะต้องเปิดเฟสใหม่เพิ่มขึ้น”
ลูกน้องรับคำก่อนจะแยกย้ายเดินออกไป สวนกับกรวิกที่เดินเข้ามาหน้าตาท่าทางไม่ค่อยพอใจ
“ฝ่ายบัญชีบอกว่าอากร้าว สั่งเตรียมเช็คให้พวกวิชเวทย์อีกแล้วเหรอคะ”
กร้าวอ่านเอกสารโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาตอบ
“อือ”
กรวิกโกรธ
“ทำไมอากร้าวทำแบบนี้คะ เป็นเพราะยัยนุชขอร้องอากร้าวใช่มั้ยคะ”
กร้าวปิดเอกสารตอบอย่างหมดความอดทน
“อนุชไม่ได้ขอร้อง แต่อายินดีช่วย”
“แล้วทำไมต้องช่วย หรือว่าพวกวิชเวทย์มีบุญคุณกับเรา”
กร้าวลุกขึ้นตบโต๊ะไม่พอใจ
“หน้าอย่างพวกวิชเวทย์งั้นเหรอมีบุญคุณ พวกมันต่างหากที่ต้องชดใช้”
กรวิกตกใจแปลกใจ
“ชดใช้ อากร้าวหมายความว่าอะไรคะ”
กร้าวรู้ว่าหลุดรีบกลบเกลื่อน
“นกอย่ารู้เลย เอาเป็นว่าอาก็มีเหตุผลของอา และอาก็ไตร่ตรองเรื่องนี้ดีแล้ว”
กร้าวพูดจบเดินออกไป กรวิกมองตามด้วยความสงสัย
เธียรนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในห้องนั่งเล่น ชายธงเดินเข้ามา
“ไปไหนมา รู้มั้ยหนูรินมารอตั้งนานแล้ว”
ชายธงตอบห้วนๆ
“ผมไปบ้านเพื่อน”
“อย่าบอกนะว่าพวกวิชเวทย์ ยายผู้หญิงนั่นมาขอเงินอีกใช่มั้ย”
ชายธงพยายามอธิบายอ่อนใจ
“นุชไม่ได้ขออะไรทั้งนั้น แต่ผมอยากช่วยหางานให้เขา”
เธียรประชด
“ทำไมต้องหางาน ไหนออกข่าวใหญ่โตว่าแต่งงานกับเศรษฐีหรือว่าถูกเฉดหัวทิ้งแล้ว”
ชายธงเสียงดังไม่พอใจ
“ผมไม่เข้าใจ ทำไมพ่อต้องจงเกลียดจงชังนุชด้วย แค่บ้านเขาไม่รวยเหมือนเมื่อก่อน”
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 8 (ต่อ)
เธียรปาหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ ลุกพรวดขึ้นอย่างไม่พอใจ หันมามองหน้าลูกชาย
“ฉันเกลียดสิ่งที่พวกวิชเวทย์ทำ โดนเฉพาะเพื่อนตัวดีของแกเป็นผู้หญิงยิงเรือกลับให้ผู้ชายคนโน้นลากไปทีคนนี้ลากไปที”
“พ่อเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว”
“ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อนแก ย่อมรู้ดีว่าอะไรถูกอะไรควร แกจะทำอะไรก็ให้คิดถึงชื่อเสียงวงศ์ตระกูล คิดถึงความรู้สึกของหนูรินบ้าง อย่าให้ฉันต้องอับอายขายขี้หน้า”
“คนที่ควรคิดถึงความรู้สึกคนอื่นคือพ่อ ส่วนธารินจะคิดยังไงผมไม่สนใจ เพราะผมไม่ได้รักเขา ผมรักอนุช ไม่มีวันที่ธารินหรือใครจะมาแทนที่ได้”
จานคุกกี้ตกกระแทกพื้น ชายธงกับเธียรหันไปเห็นธารินที่ถือมายืนมองอยู่ทั้งน้ำตา
“รินไม่เคยคิด เวลาแค่ไม่กี่ปี ผู้หญิงคนนั้นทำให้พี่เปลี่ยนไปขนาดนี้”
ธารินวิ่งออกไปทั้งน้ำตา ชายธงตกใจ
“เดี๋ยวก่อนริน...ริน...”
ชายธงรีบวิ่งตามธารินไป
อนุช กำลังจะออกจากบ้าน แหวนส่งกระเป๋าถือให้ อนุชรับมาแล้วบอกแหวน
“อย่าลืมดูแลเรื่องอาหารการกินพี่สิตด้วยนะ”
แหวนรับคำ อนุชเดินออกมาเห็นกรวิกเข้าเข้ามาพอดี
“นก !”
กรวิกเข้าไปกระชากแขนถามอย่างไม่พอใจ
“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้เธอกับครอบครัวทำอะไรอากร้าว อากร้าวถึงอยากให้เธอชดใช้นัก”
อนุชแปลกใจ
“ชดใช้งั้นเหรอ นกพูดเรื่องอะไร”
“ไม่ต้องมาทำไขสือตีหน้าซื่อเลย” กรวิกหลอกถาม “อากร้าวบอกความจริงฉันหมดแล้ว แต่ฉันอยากได้ยินจากปากเธอ เธอกับอากร้าวตกลงอะไรกัน” เธอกระชากแขนอนุชเขย่างคาดคั้น “บอกฉันมาเดี๋ยวนี้”
“ฉันเจ็บนะนก ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเธอหมายถึงอะไร”
“โกหก ! แล้วที่อากร้าวต้องใช้หนี้แทนเธอ แล้วไหนจะค่าผ่าตัดพี่ชายเธออีก แบบนี้หมายความว่าอะไร เธอกับครอบครัววางแผนปอกลอกอากร้าวใช่มั้ย ใช่มั้ย”
อนุชร้องไห้
“เรื่องนั้นฉันไม่รู้จริงๆนะนก แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าอากร้าวของเธอทำแบบนี้ทำไม จะให้ฉันไปสาบานที่ไหนก็ได้”
กรวิกชะงักไป
“แน่ใจนะ”
“ฉันไม่รู้จริงๆ”
“งั้นพิสูจน์สิ หย่ากับอากร้าวซะ!”
อนุชนึกถึงข้อตกลงที่ให้ไว้กับกร้าว
“ฉันทำอย่างนั้นไม่ได้”
“ทำไมจะทำไม่ได้ ในเมื่อเธอได้ทุกอย่างไปหมดแล้ว จะทนหน้าด้านอีกทำไม”
อนุชขมขื่น
“ฉัน...ฉัน...ฉันบอกเธอไม่ได้ อย่าบีบคั้นฉันอีกเลย”
อนุชทนแรงกดดันไม่ไหว วิ่งหนีออกไปทั้งน้ำตา
“จะหนีไปไหน ยังไงวันนี้เราก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”
กรวิกวิ่งตามออกไป
อนุชเดินมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ธารินเดินเข้ามาพอดี อนุชชะงัก ตกใจ
“แกนังสารเลว”
ธารินไม่พูดพล่ามทำเพลงตบหน้าทันที อนุชไม่ทันตั้งตัวล้มลง กรวิกเข้ามาถึงพอดีเห็นเพื่อนถูกตบก็ถามด้วยความไม่เข้าใจ
“นี่มันเรื่องอะไรกัน”
ธารินไม่สนใจกรวิกด่าอนุช
“ไหนแกรับปากว่าจะเลิกยุ่งกับพี่ชายธง ทำไมถึงยังปั่นหัวเขาไม่รู้จักจบจักสิ้น”
ธารินไม่พูดพล่ามทำเพลงตรงเข้าไปตบอนุชซ้ำ อนุชไม่ทันตั้งตัวได้แต่ปัดป้องตัวเอง
“โอ๊ย อย่า อย่า ฉันไปปั่นหัวชายธงตอนไหน”
กรวิกสะใจด่าซ้ำ
“คิดว่าเรื่องอะไร ที่แท้เธอมันก็พวกจับปลาสองมือ คิดจะปอกลอกผู้ชายอย่างที่ฉันคิดไว้จริงๆ”
กรวิกยิ้มเยาะไม่ช่วย ธารินตบไม่ยั้ง
“ยังจะมีหน้ามาถามอีก พ่อลูกตีกันเกือบตาย แถมพี่ชายธงยังเกลียดฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะแกแล้วจะเพราะใคร”
อนุชได้แต่ปัดป้อง
“ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ ส่วนเรื่องพี่ชายธงเธอควรพิจารณาตัวเองมากกว่าว่า ไปทำอะไรเขาถึงเกลียด”
ธารินตะคอกอย่างเอาเรื่อง
“นี่แกย้อนฉันเหรอ”
“ไม่ได้ย้อน ถ้าพูดกันดีๆไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องพูด”
อนุชฮึดสู้ จับมือธารินไว้ได้ก่อนจะเหวี่ยงธารินไปชนกับกรวิกที่ยืนเยาะเย้ยอยู่โดยไม่ช่วย สองสาวล้มกลิ้งไปด้วยกัน อนุชเห็นอย่างนั้นก็ตกใจเข้าไปดูเพื่อน
“นก !”
ธารินได้จังหวะจิกหัวตบอนุช กรวิกโกรธเพราะคิดว่าอนุชตั้งใจทำร้ายรี่เข้าไปผลักอนุช กร้าวและชายธงมาหาอนุช แหวนกำลังจะพาเข้าไปในบ้านเดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์นั้นพอดี
“อนุช !”กร้าวตกใจ
กร้าวกับชายธงรีบเข้าไปช่วยอนุช ส่วนแหวนรีบวิ่งเข้าไปบอกอรชาในบ้าน
อรชานั่งคุยอยู่กับปรารภในห้องนั่งเล่น ผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจ หลังจากรู้เรื่องทั้งหมดจากแหวน
“ว่าไงนะยัยนุชถูกทำร้าย...”
ปรารภร้อนใจ
“แล้วตอนนี้คุณนุชอยู่ไหน”
กร้าวแยกตัวกรวิกออกมา ส่วนชายธงแยกตัวธาริน
“อย่านก อาบอกให้พอได้แล้ว พอแล้ว”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะริน ผมบอกให้หยุด หยุด”
กร้าวเคลียร์ตัวกรวิกออกมาได้รีบถามอนุชด้วยความเป็นห่วง
“เป็นยังไงบ้างนุช”
อนุชตอบห้วนๆ
“ฉันไม่เป็นไร”
กร้าวไม่พอใจ
“ไม่เป็นไรได้ไง ถูกทำร้ายขนาดนี้” กร้าวหันไปโวยชายธง “นายดูแลคนของนายยังไงปล่อยให้มาเอะอะระรานคนอื่น”
ชายธงย้อน
“แล้วคุณดูแลนกยังไงถึงปล่อยให้มาทำร้ายนุช”
กรวิกไม่พอใจ
“อย่ามาว่าอากร้าวนะชายธง เรื่องนี้อากร้าวไม่เกี่ยว”
ธารินโมโห
“แล้วแกมาเกี่ยวอะไรด้วย ถึงมาขึ้นเสียงกับพี่ชายธง”
อนุชเบื่อหน่าย
“พอเถอะค่ะ ฉันขอร้องอย่ามีเรื่องกันเลย”
กร้าวไม่พอใจ
“นี่คุณเข้าข้างมันเหรอ อย่าลืมสิว่าคุณแต่งงานแล้ว”
“แต่งแล้วก็เลิกได้ จะไปทนอยู่กับมันให้คนเขาดูถูกทำไมนุช” ชายธงโวย
“ไอ้สารเลว”
ขาดคำกร้าวต่อยชายธงหน้าหงายไป ชายธงไม่ยอมแพ้ต่อยกร้าวคืน สองหนุ่มตะลุมบอนกัน สามสาวร้องวี้ดว้ายด้วยความตกใจ ปรารภ อรชา แหวนมาถึงพอดี
“มีเรื่องอะไรกัน...” ปรารภเห็นสองหนุ่มต่อยกันก็ตกใจ “หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณกร้าว ชายธง”
ปรารภเข้าไปผิดจังหวะถูกกร้าวต่อยสวนออกมา อรชาทนดูถูกไม่ได้ ตวาดเสียงดัง
“หยุดเดี๋ยวนี้ ฉันบอกให้หยุด ถ้าไม่หยุดอีก ฉันจะโทร.เรียกตำรวจ”
พอได้ยินว่าตำรวจ ทุกคนหยุดกึก อรชาสั่งต่ออย่างเกรี้ยวกราด
“แล้วก็ไสหัวออกจากบ้านฉันให้หมด ก่อนที่ฉันจะแจ้งจับข้อหาบุกรุก”
อรชาเดินเข้ามาในห้องอย่างไม่พอใจ อนุชเดินตามหลังมาพยายามอธิบาย
“เดี๋ยวก่อนสิคะพี่อร ฟังนุชก่อน มันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่อรคิดนะคะ”
อรชาเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบกล่องเครื่องประดับ
“เห็นอยู่ตำตาว่าผู้ชายสองคนมีเรื่องกันเพราะเธอ แถมยัยกรวิกยัยธาริน อะไรนั่นมากล่าวหาเราอีกว่าเป็นพวกไร้ยางอาย นุชจะให้พี่อยู่เฉยอีกเหรอ”
อรชาเปิดกล่องเครื่องประดับออกมา เป็นเครื่องเพชรชุดสุดท้ายที่มีอยู่
“พี่อรจะทำอะไรคะ”
“พี่จะขาย เป็นค่าผ่าตัดพี่สิต แล้วย้ายครอบครัวไปอยู่ต่างจังหวัด พี่ทนอับอายเพราะเรื่องบ้าๆนี่ไม่ได้แล้ว”
อรชารีบหนีออกไป อนุชตามไปห้าม
“หยุดนะพี่อร นี่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของคุณแม่ที่เหลืออยู่นะคะ”
“แล้วนุชจะให้พี่ทำยังไงทนให้คนดูถูกแบบนี้ต่อไปงั้นเหรอ พี่ทนไม่ได้ พี่ไม่ใช่นุชนะ!”
อนุชตกใจคิดไม่ถึง
“พี่อร!”
อรชาผิดหวัง
“เสียแรงที่ไปเรียนเมืองนอกเมืองนา คิดว่าจะกลับมาช่วยกันกอบกู้ครอบครัวเรา แต่กลับทำลายศักดิ์ศรีวิชเวทย์จนป่นปี้”
อนุชร้องไห้
“คนอื่นดูถูกยังไม่เจ็บเท่าคนในครอบครัวเข้าใจผิด เราโตมาด้วยกัน พี่น่าจะรู้ว่านุชเป็นคนยังไง พี่คิดเหรอคะว่านุชอยากให้เป็นแบบนี้”
“อยากไม่อยากมันก็เป็นไปแล้ว ยังไงพี่ก็ปล่อยให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ไม่ได้”
อรชาจะออกไป
“แต่นุชไม่ยอมให้พี่ทำอย่างนี้เด็ดขาด”
อนุชเข้าไปแย่งกล่องใส่เครื่องประดับจากอรชา สองสาวยื้อยุดฉุดกระชากกัน...ลลิตาเข็นรถอสิตเข็นรถเข้ามามุมหนึ่ง ต่างตกใจ
“นุช! อร!”
อนุชกับอรชายื้อยุดกัน ลลิตากับอสิตรีบร้อนเข้ามา ลลิตาเซ็งๆ
“อ้าว ๆ ๆ พี่น้องบ้านนี้มีเรื่องอะไรกันอีก”
อสิตตกใจเข้าไปห้าม
“หยุดเดี๋ยวนี้นะยัยอร ยัยนุช”
อสิตเข้าไปขวางสองสาว ก่อนจะเสียหลักถูกลูกหลง ตกจากรถ อรชากับอนุชตกใจ
“พี่สิต!”
อนุชกับอรชารีบเข้าไปดูพี่ชายที่นอนกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจ
สองสาวพี่น้องช่วยกันประคองอสิตนอนลงบนเตียง ลลิตายืนมองอย่างเซ็ง ๆ อสิตขมขื่นใจ
“เจ็บตัวไม่เท่าไหร่แต่เจ็บใจยิ่งกว่า ไม่คิดว่าวิชเวทย์จะมีวันนี้ พี่น้องตีกันเกือบตายเพราะเรื่องเงิน เรื่องผู้ชาย”
อรชาหน้าเสีย
“อรขอโทษค่ะที่ดูแลน้องไม่ดี”
“ไม่ใช่ความผิดของพี่อรหรอก นุชไม่ดีเองที่นำความเสื่อมเสียมาสู่ครอบครัวเรา”
อสิตส่ายหน้าอ่อนแรง
“ไม่ใช่เพราะเธอสองคนหรอก เพราะพี่เอง ถ้าพี่ใจสู้กว่านี้สักหน่อย ไม่ทำตัวท้อแท้สิ้นหวัง วิชเวทย์ก็คงไม่มีจุดจบอย่างนี้”
อรชาร้องไห้
“ไม่มีใครรู้หรอกค่ะว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้”
อนุชร้องไห้
“นุชรู้ค่ะว่าพี่สิตทำดีที่สุดแล้ว”
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 8 (ต่อ)
ลลิตาหมั่นไส้ ออกปากยุอย่างรำคาญ
“สิตต้องลุกขึ้นสู้นะคะ จะปล่อยให้วิชเวทย์เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้”
อสิตคิดได้
“จริงสินะ ผมคงต้องลุกขึ้นสู้ จะมานอนท้อแท้สิ้นหวังอย่างนี้ไม่ได้ คงต้องยอมรับความช่วยเหลือจากคุณกร้าวอีกครั้ง”
อรชาขัดขึ้น
“อรไม่ยอมให้พี่สิตไปรบกวนผู้ชายพรรค์อย่างนั้นเด็ดขาด”
ลลิตาโวย
“เอ๊ะ ยัยอร ไปว่าคุณกร้าวเขาทำไม เขามีบุญคุณกับครอบครัวเรา”
อรชามองหน้าลลิตา
“ไม่ต้องย้ำเรื่องนั้นอรรู้ดี แต่อรไม่อยากทำตัวน่าสมเพชแบมือขอเงินใครอีก”
ลลิตาหาเรื่อง
“แล้วจะให้ทำยังไง ให้ฉันเอาสมบัติเก่าไปขายอีกงั้นเหรอ ฉันไม่ไหวแล้วนะ ฉันก็อายเป็นเหมือนกัน หรือว่าเธอจะขายตัวกินเหมือนยัยนุช”
อนุชโกรธ
“พี่ลิต้า”
อสิตรีบสวนขึ้นมา
“พอเถอะๆ พี่ตัดสินใจแล้ว”
อสิตหันไปพูดกับอนุช
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้นุชอดทน ดูแลคุณกร้าวให้ดี อย่าให้ใครมาว่าเราได้ ว่าทำทุกอย่างเพื่อเงินโดยไม่คิดถึงหัวใจของคนอื่น เพราะถ้าเป็นแบบนั้น เราคงไม่เหลืออะไร แม้แต่กระทั่งศักดิ์ศรีของตัวเอง”
“ค่ะพี่สิต”
อนุชรับคำพี่ชายทั้งน้ำตา อรชามองอนุชด้วยความสงสารที่น้องต้องมาแบกรับภาระนี้
เมื่อกลับมาบ้านชายธงยื่นคำขาดกับธาริน
“ถ้ารินยังไม่เลิกนิสัยอย่างนี้อีก ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องมาเจอกัน”
“ทำไมพี่ชายธงพูดกับรินอย่างนี้คะ เพราะผู้หญิงคนนั้นเป่าหูมาใช่มั้ยคะ”
“นุชไม่ได้เป่าหู แต่เพราะพี่ไม่ชอบสิ่งที่รินทำ”
ธารินคิดไม่ถึง
“พี่ชายธง”
“ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบผู้หญิงที่ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ พร้อมจะมีเรื่องกับทุกคนหรอก”
ธารินผิดหวัง
“ทำไมพี่ชายธงพูดกับรินแบบนี้”
“เพราะพี่หวังดี ถ้ารินไม่หัดไว้ใจคนอื่น รินจะไม่มีวันความสุข”
ธารินอ้อนวอน
“แต่ที่รินทำทุกอย่างเพราะรักพี่นะคะ”
“รินไม่ได้รักพี่ แต่รินรักตัวเอง ตราบใดที่รินใช้ความรักทำร้ายคนอื่น รินจะไม่มีวันเจอรักแท้ และพี่คงจะต้องเสียใจ ที่จะบอกว่า น้องสาวที่แสนดีของพี่คนนั้นได้ตายจากพี่ไปแล้ว”
ชายธงพูดจบเดินจากไปอย่างไม่มีเยื่อใย ธารินปล่อยโฮออกมาอย่างสิ้นหวัง
อนุชกลับมาถึงบ้าน เห็นกร้าวนั่งดื่มรออยู่ เสื้อผ้ายับยู่ยี่
“คงจะมัวสั่งเสียไอ้ชู้รักอยู่ล่ะสิท่า ถึงกลับมาป่านนี้”
อนุชหันมาประจันหน้าอย่างไม่กลัว
“คนเราเป็นยังไงมักจะคิดว่าคนอื่นเป็นเหมือนตัวเอง”
กร้าวไม่พอใจ
“นี่คุณย้อนผมเหรอ”
อนุชยิ้มกวน
“ฉันพูดความจริง นี่คงสั่งเสียพี่ลิต้าไม่ได้สิคะ ถึงได้มาลงที่ฉัน”
“ก็แหงล่ะ ฉันเสียเงินจ้างเธอมาเป็นนางบำเรอแต่เธอกลับไปบำเรอชายอื่น ไม่อายบ้างเหรอเวลาเจ้าของตัวจริงเขาตามมาทวงถึงบ้าน”
อนุชสวนกลับ
“แล้วคุณไม่อายเหรอเวลายุ่งกับเมียคนอื่น”
“อย่ามากล่าวหาผม ผมไม่ใช่พวกวิชเวทย์ จะได้ชอบแย่งของคนอื่น”
อนุชโกรธ
“นี่ !!! ถ้าไม่พอใจอะไรก็มาลงที่ฉัน ทำไมต้องว่าครอบครัวฉันด้วย”
“ผมเป็นเจ้าหนี้คุณ ผมจะทำอะไรก็ได้”
อนุชโกรธ สะบัดหนีไป กร้าวรีบตาม
“หยุดเดี๋ยวนี้ ผมบอกให้หยุด”
อนุชไม่ยอมหยุด กร้าวกระชากแขน
“ปล่อยฉัน”
“ผมจ่ายค่าสินสอดให้ครอบครัวคุณร้อยล้าน คุณก็ควรทำหน้าที่ของคุณ”
กร้าวพูดจบกระชากตัวอนุชมากอด
อนุชดิ้นรนขัดขืน และสู้ตอบอย่างไม่ยอมลดละ กร้าวพยายามปล้ำจูบพัลวัน อนุชปัดป้อง
“อย่านะ ปล่อย ฉันบอกให้ปล่อย”
“ทำไม รังเกียจผมมากนักเหรอ อย่าลืมสิ คุณเป็นเมียผม แล้วผมก็เป็นสามีคุณ”
“ใช่ ฉันรังเกียจคุณ คุณมันพวกป่าเถื่อนชอบใช้กำลังข่มเหงผู้หญิง”
อนุชพูดจบกัดแขนเขาอย่างแรง กร้าวร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะสะบัดตัวออกตามสัญชาตญาณ อนุชที่ไม่ทันตั้งตัวเสียหลัก ล้มหัวกระแทกโต๊ะ
“โอ๊ย”
กร้าวตกใจรีบเข้าไปดู
“คุณเป็นยังไงบ้าง ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
อนุชหันมาเห็นเลือดซึมมาตรงไรผม
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ฉันมันก็แค่นางบำเรอ มีไว้สนองตัณหาคุณ ฉันจะเป็นจะตายก็ไม่ต้องยุ่ง”
อนุชพูดจบก็วิ่งหนีขึ้นข้างบนไป กร้าวมองตามด้วยความรู้สึกเจ็บใจ
อนุชวิ่งเข้ามาในห้อง ล็อกประตู ก่อนจะไปฟุบหน้าร้องไห้บนเตียงเพราะถูกทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง...กร้าวอยู่ในห้องนั่งเล่นปัดข้าวของบนโต๊ะแตกกระจายเต็มพื้นระบายอารมณ์
“ฉันไม่วันยอมใจอ่อนกับพวกวิชเวทย์เด็ดขาด!”
วันต่อมา...อสิตนอนอยู่บนเตียงให้ห้องผ่าตัด หมอวางยาสลบเตรียมการการผ่าตัดใหญ่...ขณะเดียวกันนั้น อนุชกับอรชาเดินคุยกันมาตามทางเดินในโรงพยาบาล
“พี่สิตผ่าตัดแล้วใช่มั้ยคะ” อนุชถามพี่สาว
“อือ แล้วเรื่องทางบริษัทล่ะเป็นยังไงบ้าง”
“เป็นยังไงงั้นเหรอคะ”
อนุชนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาอย่างเซ็ง ๆ
“พี่สิตทำหนังสือแจ้งไปทางฝ่ายบริหาร ให้คุณกร้าวขึ้นรับตำแหน่งแทน คุณกร้าวก็เลยมีสิทธิขาดเต็มที่ในบริษัท ทั้งทางพฤตินัย นิตินัย มีการเปลี่ยนทีมผู้บริหารใหม่ และเพิ่มทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเพื่อสภาพคล่องของบริษัท”
อนุชนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ มีการจัดงานเลี้ยงค็อกเทลแบบเล็ก ๆที่หน้าห้องประชุม กร้าวและอนุชชนแก้วกับผู้ถือหุ้นอาวุโส เพื่อแสดงความยินดีที่ทุกอย่างผ่านได้ด้วยดี กร้าวรวบตัวเธอมาถ่ายรูป อนุชชักสีหน้าไม่พอใจ กร้าวกระซิบบอก
“แสดงให้มันแนบเนียนหน่อย หรืออยากให้ทุกคนรู้ว่าวิชเวทย์มันก็แค่นางบำเรอ”
อนุชโกรธ พยายามข่มอารมณ์ไว้ ฝืนยิ้มสร้างภาพกับกร้าวให้ช่างภาพถ่ายรูป
ลลิตายืนมองทุกอย่างอยู่ด้านหลังไกล ๆ ด้วยความริษยา
วันต่อมาอนุชกับอรชาช่วยกันจัดโต๊ะอาหารอยู่ที่สวนหน้าบ้าน เตรียมกินอาหารกลางวัน มีชายธง กับปรารภ ช่วยด้วย ชายธงถามขึ้นอย่างสงสัย
“แล้วไม่มีใครสงสัยเลยเหรอครับว่าคุณกร้าวทำแบบนี้ทำไม”
อรชาจัดจานจัดจานอยู่หันมาดุ
“ยังจะถามอีก ภรรยาเขายืนอยู่นี่ทั้งคน”
อนุชหน้าเศร้าหมองไป
“คุณกร้าวไม่ได้ทำเพื่อนุชหรอกค่ะ”
ปรารภสงสัย
“อ้าวแล้วเขาทำเพื่อใคร”
“ไม่ใช่เพื่ออรแน่ค่ะ”
อรชานึกรู้ แต่ไม่พูดอะไร ทุกคนช่วยกันจัดโต๊ะจนเสร็จแล้วนั่งลงร่วมกันกินอาการ ชายธงฉุกคิดอะไรบางอย่างได้
“แล้วทำไมนุชถึงคิดว่าเขาไม่ได้รักนุช”
อนุชที่กำลังจะกินอาหารชะงัก นึกถึงสัญญาเรื่องสินสอดและนางบำเรอก็อึกอักไม่กล้าตอบ อรชาแปลกใจในสีหน้าของน้องสาว
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นมีอะไรหรือเปล่า”
อนุชอึกอัก
“เปล่าค่ะ”
อรชา สังเกตเห็นแผลก็ถามด้วยความสงสัย
“แล้วนั่นหัวไปโดยอะไร”
เธอเอื้อมมือจะเปิดไรผมดูด้วยความเป็นห่วง อนุชรีบปัดมือออกเบือนหน้าหนี
“คงเป็นรอยเล็บเมื่อวันก่อน”
ทุกคนไม่ติดใจสงสัยเรื่องแผล คิดว่าเป็นแผลที่อนุชถูกรุมตบ ปรารถคิดๆแล้วพูดออกมา
“หรือว่าเขาจะชอบลิต้า”
“อรว่าไม่ใช่ ถ้าเขาชอบอรหรือพี่ลิต้า จะแต่งงานกับนุชทำไม”
ชายธงนิ่งคิด
“บริษัทคุณกร้าวทำเกี่ยวกับพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใช่มั้ย”
อนุชนึกได้
“หรือว่าคุณกร้าวต้องการทรัพย์สินของวิชเวทย์”
ทุกคนฉุกคิด อนุชครุ่นคิดสงสัยว่ากร้าวต้องการอะไรกันแน่
ชายธงคุยกับทุกคน บนโต๊ะมีข้อมูลอยู่มากมายทั้งแผ่นพับใบปลิว แฟ้มงานเอกสาร ที่อรชาและปรารภช่วยกันหามา
“ผมเช็กรายชื่อทีมบริหารแล้ว” ชายธงยื่นเอกสารให้อรชา “เป็นทีมบริหารมืออาชีพจริงๆ เห็นว่าคุณกร้าวเพิ่งรับมาเพราะงานนี้โดยเฉพาะ”
อรชาส่งเอกสารที่มีให้อนุช
“ส่วนนี่เป็นเอกสารเกี่ยวที่ดินตลอดจนสินทรัพย์ทั้งหมดของวิชเวทย์ ตามที่ธนาคารประเมินไว้”
อนุชเปิดดูถามด้วยความสงสัย
“ไม่ถึงร้อยล้านด้วยซ้ำ”
อรชาแปลกใจ
“ยังไงก็ไม่คุ้มกับเงินที่คุณกร้าวให้พวกเรา”
ชายธงส่งเอกสารอีกชุดให้ดู
“นี่แผนประจำปีบริษัทคุณกร้าว คุณกร้าวไม่มีแผนพัฒนาที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์บริเวณนั้น”
อนุชสงสัย
“หรือว่าคุณกร้าวไม่ได้ต้องการสมบัติของวิชเวทย์”
ปรารภแย้ง
“ผมว่าเราอย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรตอนนี้เลยครับ”
ชายธงเห็นด้วย
“นั่นสิครับ ผมเห็นด้วย”
“ฉันต้องรู้ให้ได้ คุณกร้าวคิดเล่นตลกอะไรกันแน่”
อนุชครุ่นคิดด้วยความสงสัย
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 8 (ต่อ)
ขณะเดียวกันกร้าวยืนอ่านเอกสาร แผนฟื้นฟูวิชเวทย์ อยู่ในห้องทำงาน ลลิตาเดินนวยนาดถือกระเป๋าถือใบเล็กเข้ามา
“ฉันช่วยให้คุณได้ทุกอย่างอย่างที่คุณต้องการแล้ว...”
อลลิตาเปิดกระเป๋า กดมือถือบันทึกเสียงสนทนา แล้วยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูกร้าว ด้วยลีลาเซ็กซี่เร่าร้อน
“หวังว่าคุณคงไม่ลืมสัญญาของเรานะคะ”
กร้าวหันไปประจันหน้ากับลลิตาจนหน้าใกล้กัน
“สำหรับผมสัญญาไม่มีความหมาย”
กร้าวล้วงเข้าไปหยิบมือถือในกระเป๋าลลิตา
“หากขาดความจริงใจ”
กร้าวชูมือถือลลิตาในมือ พลางกดปุ่มยกเลิก ลลิตาหน้าเสียที่เขารู้ทัน ก่อนจะแกล้งทำเป็นฝืนยิ้มพูดดี
“แหมลิต้าแค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง ทำเป็นซีเรียสไปได้”
กร้าวเสียงเข้ม
“แต่ผมไม่ชอบ ถ้าไม่ไว้ใจกัน คุณจะไปซะก็ได้”
ลลิตาไม่พอใจ
“แหมพอได้ของแล้วไล่กันเลยนะคะ”
กร้าวอ่อนลง
“ไม่ได้ไล่ แต่ผมอยากให้คุณอดเปรี้ยวไว้กินหวาน”
“งั้นคุณก็ช่วยทำให้ลิต้ามั่นใจหน่อยสิคะ”
ลลิตาหลับ ยื่นให้เขาจูบอย่างเย้ายวน กร้าวผละออกไปที่โต๊ะทำงาน
“เอาไว้ให้แผนสำเร็จก่อนดีกว่า รับรองผมตอบแทนคุณแน่”
ลลิตาขัดใจ
“กว่าจะถึงวันนั้นลิต้าคงอกแตกตายเพราะไอ้ง่อยนั่นแน่ ๆ”
ลลิตาไม่ยอมจะเข้าไปเคล้าคลอเคลียเขาอีก แต่เขาไวกว่ากดโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานเรียกกรวิกเข้ามา
“นก เข้ามาหาอาหน่อย”
“คุณกร้าวอะ อย่างนี้ทุกทีเลย จะให้ลิต้าชื่นใจหน่อยก็ไม่ได้”
กรวิกเข้ามาขัดจังหวะ
“อากร้าวมีอะไรเหรอคะ”
พอเห็นหน้าลลิตา กรวิกก็ทำหน้าเหม็นเบื่อ กร้าวสวมเสื้อนอก
“เดี๋ยวบ่ายนี้อาจะออกไปดูหน้างาน จะไม่เข้ามาอีก” กร้าวหยิบเอกสารแผนฟื้นฟูให้ “บอกทุกคนทำตามแผนนี้ได้เลย อาอนุมัติแล้ว”
“ได้ค่ะ”
กร้าวเดินออกไป ลลิตาจะวิ่งตามไป กรวิกเข้าไปขวาง...กร้าวออกมาจากห้องทำงานโล่งอกที่หนีลลิตาได้...กรวิกและลลิตาเผชิญหน้ากัน
“หลีก”
“ไม่”
“ฉันจะให้คุณกร้าวไล่แกออก”
“อากร้าวไม่ทำอย่างนั้นแน่ เพราะพ่อแม่ฉันกับอากร้าวสนิทกัน แล้วคุณแม่ฉันก็มีหุ้นในบริษัทนี้ด้วย ถ้ามีปัญหามากนักคนที่กระเด็นออกไป อาจเป็นเธอ”
กรวิกยิ้มเยาะลลิตาและออกจากห้องไป ลลิตาทำอะไรไม่ได้ กรี๊ดแตกระบายอารมณ์โกรธ
จบตอนที่ 8 โปรดติดตาม "ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง"ตอนที่ 9 เวลา 09.00 น.