ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 15
เวลาเดียวกันนั้นธีรดนย์นั่งจมจ่อมร้องไห้เสียใจ ทุกข์ใจกับชะตากรรมชีวิตของตัวเอง นึกทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาในชีวิต ตอนสัญญากับแม่ว่าจะทำงานเก็บเงินแล้วไปออกอยู่ข้างนอกด้วยกัน
เหตุการณ์ที่อุษาถูกชนิกานต์ขับรถชนต่อหน้า ธีรดนย์กอดศพแม่ร้องไห้ปานจะขาดใจ เหตุการณ์ที่ธีรดนย์ดีดกีต้าร์ร้องเพลงหน้าศพอุษา
ฝ่ายชนิกานต์เดินไปที่มุมหนึ่งในห้องนอน เห็นรูปของอุษาที่เคยถ่ายคู่กับตน ชนิกานต์เข้าไปยกมือไหว้ภาพนั้น ด้วยความเสียใจที่ขับรถชนจนทำให้อุษาเสียชีวิต ชนิกานต์ร้องไห้สะอึกสะอื้น
ธีรดนย์ยังคงคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทั้งที่เคยทำร้ายชนิกานต์ จนถึงเหตุการณ์ตอนที่ธีรดนย์โกรธชนิกานต์เข้าไปด่าทอต่อว่า และลวนลาม จนนำพาไปสู่การได้เสียกันในที่สุด
ชนิกานต์เองก็หวนคิดถึงเหตุการณ์ที่เฝ้าบอกรักธีรดนย์ แต่ทุกครั้งต้องเสียใจที่ธีรดนย์ปฏิเสธไม่รับรักตนแม้แต่น้อย
ธีรดนย์คิดถึงเหตุการณ์ที่ชนิกานต์ตามราวีไม่ยอมให้ไปไหน กระทั่งมารื้อกระเป๋า เททิ้งลงสระ
ชนิกานต์หวนคิดถึงเหตุการณ์ที่เธอบอกความจริงกับสุตาภัญและชนกชนม์ ว่าธีรดนย์ข่มขืนเธอ และถูกธีรดนย์ขับไล่ไสส่ง ด่าทอ ชนิกานต์ร้องไห้เสียใจ ที่ธีรดนย์เกลียดตน
ขณะเดียวกันธีรดนย์นึกถึงเหตุการณ์ที่สุตาภัญบอกเลิก สั่งให้ธีรดนย์ไปดูแลชนิกานต์ ธีรดนย์ร้องไห้ออกมา ชีวิตนี้ไม่เหลือใครอีกแล้ว
มือของใครคนหนึ่งเคาะประตูห้องตอนเช้าวันต่อมา สุตาภัญเดินไปเปิดประตู ชะโงกมองไปไม่เห็นใครชนกชนม์ซึ่งหลบอยู่พุ่งเข้ามาหาพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
“ตกใจหมดเลย”
“ใครกันน้อเคยแกล้งฉัน กรรมนั้นคืนสนอง”
“มาทำไม”
“มารับเธอไปมหาวิทยาลัยไง”
“เช้านี้ยังไม่มีเรียน...ฉันจะทำงานก่อน”
“ทำอะไร”
“ไม่บอก...ความลับ”
สุตาภัญเดินออกไป ชนกชนม์ตาม สุรัมภายืนที่มุมหนึ่ง คิดอะไรบางอย่าง
ด้านชยางกูรแต่งชุดนักศึกษา เข้าไปไหว้ลาชลนิภา
“คุณแม่ครับ กูรไปมหาลัยก่อนนะครับ เช้านี้กูรต้องไปช่วยอาจารย์ทำงานวิจัย”
“งานวิจัยอะไรเหรอลูก”
แป๋วยืนฟังอยู่ข้างๆ เข้ามาพูดแทรก
“คงจะวิจัยฝุ่นน่ะค่ะ คุณชยางกุรกลับมาทีไร ฝุ่นติดเสื้อผ้าเต็มไปหมด”
ชยางกูรโมโห “นังแป๋ว”
แป๋วหน้าเสียถอยหลังไปทันที
“เป็นงานวิจัยของคณะนะครับ อาจารย์เขาเลือกนักศึกษาหัวแถวไปช่วยงาน กูรไปก่อนนะครับ”
ชยางกูรเข้าไปหอมแก้ม ชลนิภายิ้มให้ สงสัยในพฤติกรรมชยางกูร
ชยางกูรขับรถออกไป ชลนิภาเดินออกมา เพื่อจะตามไปมหาวิทยาลัย แป๋วเข้ามาถาม
“คุณผู้หญิงจะไปไหนคะ”
“ฉันจะไปมหาวิทยาลัย”
แป๋วแปลกใจ “คุณผู้หญิงจะเรียนต่อศึกษาผู้ใหญ่”
ชลนิภามองดุ
“รึว่าไปช่วยคุณชยางกูรวิจัยฝุ่น”
“นังแป๋ว”
แป๋วหุบปากทันที ชลนิภาออกไปที่มหาวิทยาลัย
“คุณผู้หญิงปลอมตัวเป็นสายลับจับผิดลูก สนุกล่ะงานนี้.. วะฮะฮะฮะฮะฮ่า ๆ” แป๋วระเบิดหัวเราะออกมาราวกับนางร้ายในละคร 7 สี
ขณะที่สุตาภัญหอบถุงใส่เสื้อผ้าเดินออกไป ชนกชนม์เดินตาม
“เธอไปรับชุดอะไร จะทำงานอะไร”
“ความลับเขาไม่บอกกันหรอก”
“ไม่บอกฉันไม่ให้ไป”
ชนกชนม์ยืนขวางไว้ สุตาภัญจะไปซ้าย ชนกชนม์กันซ้าย พอสุตาภัญจะไปขวา ชนกชนม์กันขวา สุตาภัญจะทำท่าเตะผ่าหมาก ชนกชนม์เอามือกุมเป้าไว้
“แน่ะ..เขารู้ทันนะตะเอง”
สุตาภัญยิ้มแล้วผลักชนกชนม์เต็มแรง ชนกชนม์ดันตัวขืนไว้ ทำให้ถุงเสื้อสุตาภัญตกพื้น
สุตาภัญจะเข้าไปหยิบ ชนกชนม์แย่งมาได้ แล้วดึงชุดออกมา เห็นเป็นเสื้อผ้าชุดการ์ตูนญี่ปุ่นน่ารักๆ แล้วก็เห็นใบปลิวสำหรับประชาสัมพันธ์ร้านเค้กญี่ปุ่นก็หัวเราะ
“เป็นพริตตี้แจกใบปลิว”
สุตาภัญแย่งเสื้อผ้าและของคืนมา ชนกชนม์เป็นห่วง
“เรื่องแค่นี้ทำไมต้องปิดบังกันด้วย”
“ฉันไม่อยากให้ภารู้ กลัวภากังวลใจและคิดมาก ว่าฉันต้องลำบากเพราะน้อง”
“ก็จริงของเธอ...ฉันจะช่วยปิดเรื่องนี้ให้มิดเลย”
จู่ๆ สุรัมภาเดินเข้ามาหาสุตาภัญและชนกชนม์ เอ่ยขึ้น
“ไม่ทันแล้วล่ะค่ะ”
“ภา” สุตาภัญตกใจและคาดไม่ถึง
ขณะเดียวกันเสาวนิตย์แต่งตัวจะออกจากบ้าน มองไปยังห้องทำงานสุทินกลัวสุทินเห็น พอเห็นทางโล่งปลอดภัย จะเดินออกไปจากบ้าน สุทินเรียกไว้
“คุณจะไปไหน”
เสาวนิตย์ไม่ตอบ ตัดสินใจเดินดุ่มออกไป สุทินไม่พอใจ
สองพี่น้องอยู่ที่มุมหนึ่งในมหาวิทยาลัย สุตาภัญถามสุรัมภา
“ภาตามพี่มาทำไม”
“ภาจะมาช่วยพี่ตา”
ชนกชนม์และสุตาภัญแปลกใจ
“พี่ช่วยพี่ตาได้ ภาน่าจะพักอยู่บ้าน” ชนกชนม์ว่า
“คนท้องไม่ใช่คนป่วยนะคะ ภาแข็งแรง ทำงานได้” หันมาทางสุตาภัญ “ภามาอาศัยอยู่กับพี่ตา ภาต้องช่วยงานสิ...คุณแม่เคยสอนไว้...พี่ตาจำได้ไหม”
สุตาภัญคิดถึงคำสอนของแม่ “อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย”
สุตาภัญกับสุรัมภาประสานเสียง “ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น”
โดยสุตาภัญพ่นคำว่าควาย ไปทางชนกชนม์
“ควายกระเด็นใส่หน้าเต็มๆ เลย”
สองสาวหัวเราะขำชนกชนม์
“ดีใจจัง ได้ผู้ช่วยเป็นสาวน่ารัก อย่างนี้ต้องแจกหมดแน่”
สุตาภัญจะออกไปกับสุรัมภา
“เดี๋ยวก่อน....ขอหนุ่มหล่อไปช่วยด้วยคน”
สุตาภัญทำท่าจะอ้วก “แหวะ”
สุตาภัญลากสุรัมภาออกไป ชนกชนม์วิ่งตามไป
“ฉันหล่อมากเลยนะ ใครๆ เรียกฉันว่าหล่อลากดิน”
เสาวนิตย์จะเดินออกไปที่หน้าบ้าน สุทินเข้ามาคว้าแขนไว้
“ผมถามว่าคุณจะไปไหน?”
“ฉันจะไปหาลูก”
เสาวนิตย์ตัดสินใจบอกความจริง สุทินอึ้ง..
“คุณห้ามไม่ให้ฉันเถียง ไม่ให้ฉันคิดฉันพูดได้ แต่คุณห้ามไม่ให้ฉันรักลูกไม่ได้”
เสาวนิตย์พูดจบก็เดินออกไป สุทินมองตาม แล้วตะโกนบอก
“ผมไปส่ง”
เสาวนิตย์หันกลับไปมองสุทินด้วยความแปลกใจ สุทินเดินเข้ามาหา
“ผมเป็นห่วงคุณ สุขภาพไม่ค่อยดี เป็นลมเป็นแล้งไป ใครจะดูแล”
สุทินเดินไปรอที่รถ เสาวนิตย์รู้สึกดีที่สุทินยอมไปที่มหาวิทยาลัย
ส่วนชยางกูรเดินตามหาชนกชนม์
“ไอ้หมาหัวเน่ามันไปไหน”
ชยางกูรเดินตามหาชนกชนม์ต่อไป
ส่วนที่มุมหนึ่ง ชลนิภาแปลกใจว่าชยางกูรจะไปไหน
ชนกชนม์แต่งตัวเป็นชุดตัวการ์ตูนญี่ปุ่น ป่าวประกาศบอกนักศึกษา
“เชิญครับ เชิญมาทางนี้...เรามีสิ่งดีๆจะนำเสนอให้กับทุกท่าน”
ชนกชนม์พูดจบ ก็วิ่งกลับไปเปิดเพลง เป็นเพลงญี่ปุ่นจังหวะน่ารักๆ
สุตาภัญและสุรัมภาแต่งชุดเป็นตัวการ์ตูนญี่ปุ่นน่ารัก ออกมาเต้นท่าญี่ปุ่น เพื่อดึงดูดคนเข้ามา
นักศึกษาผ่านไปมา เริ่มวิ่งเข้าไปมุงดูมากขึ้นๆ
ชนกชนม์ดีใจที่คนเข้ามามุงดูเยอะ หันไปมองเป็นกำลังใจให้สองสาว
สุตาภัญและสุรัมภาเต้นไปมา ยิ้มแย้มมีความสุข พอเพลงจบ ชนกชนม์เข้าประกาศบอกนักศึกษา
“เอ้าปรบมือ”
“เราสองคนมีร้านเค้กแสนอร่อย” สุตาภัญพูดสลับกันสุรัมภา
“สูตรพิเศษจากฮอกไกโด”
“ด้วยคุณภาพที่เต็มคัพ”
“ขอแนะนำร้านคัพเค้ก”
สุตาภัญกับสุรัมภาประสานเสียง “คิขุเนะ”
ชนกชนม์ถือถาดใส่คัพเค้กส่งให้สองสาวคนละถาด สุตาภัญและสุรัมภาเดินถือคักเค้กแจกให้นักศึกษาลองชิม
“เชิญชิมได้เลยค่ะ”
“ชิมคัพเค้กแสนอร่อยได้เลยค่ะ”
“รับใบปลิวเป็นส่วนลดราคาพิเศษครับ”
ชนกชนม์ก็เดินแจกใบปลิว ประชาสัมพันธ์ร้าน ส่วนสุตาภัญและสุรัมภาแจกคัพเค้ก
ระหว่างนั้น มีรถคันหนึ่งแล่นมาจอดตรงจุดห่างจากที่สุตาภัญแจกคัพเค้กไม่ไกลนัก กระจกข้างที่นั่งเลื่อนลง เผยให้เห็นว่าเป็นเฮียปรัชญา
ปรัชญาตาเป็นประกาย มองสุตาภัญด้วยความพึงพอใจ อยากเชยชมสุตาภัญใจจะขาด
เพทายเดินเข้าไปรายงานปรัชญาที่ด้านข้างรถ
“ไอ้ชยางกูรมันเข้ามาแล้วครับเฮีย”
“ลากตัวมันมาให้เฮียสั่งสอน” ปรัชญาบอกเสียงเหี้ยม
“ครับเฮีย”
ปรัชญาหันไปมองสุตาภัญอีกครั้ง แล้วเลื่อนกระจกปิดลง ก่อนที่รถจะวิ่งออกไป
ขณะที่เพทายจะเดินออกไป หันไปเห็นสุรัมภาเดินแจกคัพเค้ก ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข
เพทายยิ้มกริ่ม คิดจะจัดการสุรัมภาให้ได้ แต่ตอนนี้ต้องออกไปตามล่าชยางกูรก่อน
ฝ่ายสุตาภัญและสุรัมภาช่วยกันแจกคัพเค้ก สองสาวยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ที่ได้ผลตอบรับดีเกินคาด
ครู่ต่อมาชนกชนม์แปะมือไฮไฟว์ดีใจกับสุตาภัญ ร้อง “เย๊!” พอสุรัมภาเดินเข้ามาหา ชนกชนม์ก็หันไปแปะมือกับสุรัมภา ร้อง “เย๊!” อีก
สุตาภัญแปะมือสุรัมภาร้อง “เย๊”
“งานแรกผ่านไปได้ด้วยดี เพราะว่าพวกเรามีความสามัค...”
ชนกชนม์ สุรัมภารับลูกพร้อมกัน “...คี”
“เราจะเป็นดรีมทีมทำงาน เพื่อความสุขของพวก”
สุตาภัญบอกยิ้มๆ ท่าทีฮึกเหิม ชนกชนม์สุรัมภารับลูก “เรา”
ทุกคนยิ้มแย้มหัวเราะกันมีความสุข
“ลูกค้าชอบงานของพวกเรามาก บอกจะให้งานต่อเนื่อง” สุตาภัญว่า
สุรัมภาตัดพ้อ “คราวหน้าชวนภาด้วยนะ ห้ามแอบมาทำกันสองคนอีก”
สุตาภัญกับชนกชนม์ประสานเสียง “จ้า” / “คับ”
สุตาภัญหันมาบอกชนกชนม์ “ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า นายไปรับเงินค่าจ้างให้ด้วยนะ”
ชนกชนม์ตะเบ๊รับแข็งขัน “ครับผม จะดูแลไม่ให้เงินหายแม้แต่บาทเดียวครับ”
ชนกชนม์รีบวิ่งเริงร่าออกไป สุตาภัญพาสุรัมภาออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน”
สองพี่น้องไม่รู้ว่า จังหวะเดียวกันนั้นรถของสุทินวิ่งเข้ามาจอดที่มุมหนึ่งของมหา’ลัย
สุทินและเสาวนิตย์ลงจากรถพร้อมๆ กัน
“ไปตามหาลูกด้วยกันนะคะ”
“ผมรอคุณอยู่ที่นี่”
สุทินยังคงวางฟอร์ม เลือกรอที่รถ เสาวนิตย์รู้ทันสามี เลยไม่อยากตื๊อ ยิ้มให้ แล้วเดินไปที่คณะ
สุทินคิดจะเดินตามเสาวนิตย์ แต่เกิดเปลี่ยนใจ รออยู่ที่รถ
ขณะที่ชนกชนม์กำลังจะเดินไปรับเงินจากนายจ้าง แต่เจอกับชลนิภาที่เดินเข้ามา
“คุณแม่”
ชนกชนม์อึ้งตกใจ ชลนิภาก็ไม่คิดว่าจะเจอชนกชนม์
สุตาภัญเปลี่ยนชุดเสร็จ หันไปถามน้องสาว
“ภาเสร็จรึยัง”
“เสร็จแล้วค่ะ....ขอเข้าห้องน้ำก่อน...”
“พี่ไปรอที่คณะนะ”
“ค่ะ”
สุตาภัญเดินออกไปจากห้องน้ำ เจอเสาวนิตย์ที่กำลังเดินผ่านมา
“ลูกภา”
สุตาภัญอึ้งตะลึงที่เจอแม่ เสาวนิตย์เข้าไปโผกอดสุตาภัญด้วยความรักและคิดถึง
“แม่คิดถึงลูกเหลือเกิน”
“ตาก็คิดถึงแม่ค่ะ”
สุตาภัญกอดเสาวนิตย์เต็มรัก สองคนร้องไห้ด้วยความดีใจ
ชนกชนม์ยืนมองแม่อย่างตื่นตะลึง คาดไม่ถึง ชลนิภาตัดสินใจจะเดินหนีไป เพื่อตามหาชยางกูร
“คุณแม่ครับ”
ชลนิภาเดินไป แล้วตัดสินใจหยุด หันกลับมามองชนกชนม์
“คุณแม่มาทำธุระอะไรครับ? รึว่าคุณแม่มาหาน้อง”
“ใช่...ฉันมาหาลูกกูร อย่าเข้าใจผิดคิดว่าฉันมาหาแก”
“น้องกูรคงอยู่ที่คณะทางด้านโน้น.. ผมพาไปครับ”
“ไม่ต้อง ฉันมีปัญญาไปเองได้”
ชนกชนม์ยิ้มให้ อยากคุยอยากถามไถ่ชลนิภา เพราะห่วงใย
“คุณแม่สบายดีนะครับ”
“ฉันป่วยคงมาที่นี่ไม่ได้..
ชลนิภารู้สึกเป็นห่วง แต่ไม่ได้ถามตรงๆ เห็นชุดที่ชนกชนม์แต่งตัวเป็นญี่ปุ่นก็แปลกใจ
“แกแต่งชุดบ้าอะไร ไม่ไปเรียนหนังสือ”
“วันนี้ผมไม่มีเรียน ผมมารับจ๊อบแจกใบปลิวครับ ผมทำงานเก็บเงินไว้เป็นค่าเทอม วันไหนมีตลาดนัดผมก็ทำเครื่องประดับมาขาย พอจะมีรายได้ไว้ใช้ครับ”
ชนกชนม์เล่าด้วยความภาคภูมิใจ ชลนิภาฟังก็รู้สึกสงสารลูก ที่ต้องมาทำบาก แต่ก็ไม่แสดงออก
“ทำอะไรก็ทำไป อย่าทำให้ฉันเดือดร้อน”
ชลนิภาจะเดินออกไป ชนกชนม์เรียกไว้
“คุณแม่ครับ”
ชลนิภาหยุดเดิน แต่ไม่ยอมหันกลับหาชนกชนม์
“ผมคิดถึงคุณแม่...คุณแม่รักษาสุขภาพด้วยนะครับ”
ชลนิภาฟังแล้วเต็มตื้น น้ำตาไหลริน ชนกชนม์พูดจบก็เดินออกไป
ชลนิภารู้ว่าชนกชนม์เดินออกไปแล้ว จึงหันกลับไปมองตามลูกชายไป น้ำตาไหลออกมาด้วยความตื้นตันใจ
สุตาภัญกอดเสาวนิตย์แน่น เสาวนิตย์ดันตัวลูกออกเบาๆ ยืนมองสำรวจสุตาภัญด้วยความเป็นห่วง
“ลูกเป็นยังไงบ้าง กินอยู่ยังไง พักที่ไหน แล้วน้องล่ะ น้องพักกับลูกรึเปล่า”
สุรัมภาเดินออกจากห้องน้ำ เจอเสาวนิตย์ ก็ตกใจระคนดีใจ
“คุณแม่คะ”
“ลูกภา...กลับไปอยู่บ้านของเรานะลูก”
“คุณแม่กลับไปเถอะค่ะ...อย่าทำให้ภารู้สึกแย่กว่านี้”
“ทำไมลูกพูดอย่างนั้น” เสาวนิตย์ตกใจ
“ภาอาย...ภารู้สึกผิดที่ทำให้คุณแม่เสียใจ...คุณแม่ต้องถูกคุณพ่อทำร้ายเพราะภา”
สุตาภัญพูดเสริมสุรัมภา “คุณพ่อไม่มีวันให้อภัยตากับน้อง...คุณแม่ลืมลูกไม่รักดีคนนี้เถอะค่ะ”
เสาวนิตย์บอกสุตาภัญและสุรัมภา “จะให้แม่ลืมลูกได้ยังไง...ในเมื่อลูกเป็นลูกแม่...ไม่ว่าลูกจะทำผิดร้ายแรงแค่ไหน...ลูกก็คือลูกของแม่”
สุตาภัญและสุรัมภาโผเข้ากอดแม่ ทั้งสามคนกอดกันกลมด้วยความรักและคิดถึง
ด้านชนกชนม์เข้าไปรับเงินค่าจากนายจ้าง
“เก่งนะเรา..รู้จักทำมาหากินตั้งแต่เรียนหนังสือ คุณพ่อคุณแม่สอนดี ท่านคงภูมิใจน่าดู”
“ใช่ครับ..ท่านคอยเป็นกำลังใจให้ผม คุณแม่ภูมิใจในตัวผมมาก”
ชนกชนม์ไหว้ลานายจ้าง แล้วเดินออกไป
ชลนิภายืนแอบมองที่มุมหนึ่ง ภูมิใจในสิ่งที่ชนกชนม์ทำ และตื้นตันใจที่ชนกชนม์ยังรักเธอ เสียงโทรศัพท์ชลนิภาดังขึ้น ชลนิภารับสาย
“คุณแม่ชยางกูรค่ะ จะให้ดิฉันไปพบอาจารย์ที่ตึกไหนคะ”
ชลนิภารับสายจากอาจารย์ของชยางกูร แล้วเดินออกไป
เสาวนิตย์บอกสุตาภัญและสุรัมภา
“ลูกกลับบ้านกับแม่นะ”
สุตาภัญกังวลใจ “คุณพ่อคงไม่ยอม”
“ใครบอกล่ะ แม่รู้ว่าคุณพ่อก็ห่วงลูกมาก ไม่งั้นคงไม่พาแม่มาส่ง”
สุตาภัญและสุรัมภากังวลใจ
“คุณพ่อมาที่นี่”
เสาวนิตย์พยักหน้า “คุณพ่อเป็นคนปากแข็งใจแข็ง แต่ยอมมากับแม่ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าคุณพ่อรักและเป็นห่วงลูก...ไปหาคุณพ่อเถอะ”
สุรัมภายังกลัวสุทินไม่หาย หันไปขอความเห็นจากสุตาภัญ
“พี่ตาว่าไงคะ”
“ไปหาคุณพ่อกัน” สุตาภัญตัดสินใจ
สุรัมภากังวลใจไม่หาย “พี่ตา..ภากลัว”
“เชื่อคุณแม่สิ....คุณพ่อคงให้อภัยพวกเราแล้ว...เราไปกราบขอโทษท่าน”
สุตาภัญพูดให้กำลังใจน้อง สุรัมภาคลายกังวล ยอมไปด้วย
“รีบไปกันเถอะ คุณพ่อเองก็ต้องดีใจที่ได้เจอหน้าลูก”
เสาวนิตย์ดีใจรีบพาสุตาภัญและสุรัมภาไปหาสุทิน
ฟากสุทินยืนอยู่ที่รถ รอนานแล้วแต่เสาวนิตย์ยังไม่กลับมา สุทินมองนักศึกษาที่เดินผ่านไปมา ก็เริ่มคิดถึงสุตาภัญ ตัดสินใจออกเดินตามไปหาสุตาภัญ
ฝ่ายชนิกานต์ชะเง้อคอรอคอยธีรดนย์ด้วยความเป็นห่วงมาก
“นายธีหายไปไหนของเขานะ...ข้ามวันข้ามคืน”
ชนิกานต์รอคอยธีรดนย์ด้วยความเป็นห่วง มองไปที่ถนนหน้าตึก เห็นรถวิ่งเข้ามาก็ดีใจ
“ธี!”
ชนิกานต์รีบวิ่งไปเพื่อรอรับธีรดนย์ กฤติยาเดินออกมาพอดี เห็นชนิกานต์วิ่งไป ก็แปลกใจ มองตาม
ธีรดนย์ขับรถเข้ามา มองเห็นชนิกานต์ยืนรอห่างออกไปก็หยุดรถไม่พอใจ ชนิกานต์ยืนยิ้ม รอให้ธีรดนย์ออกจากรถ
แต่ธีรดนย์เร่งเครื่อง แล้วเดินหน้า พุ่งเข้าไปหาชนิกานต์
กฤติยายืนมอง เริ่มเอะใจที่เห็นธีรดนย์ขับรถพุ่งมาหาชนิกานต์เร็วและแรง
ชนิกานต์มองรถที่พุ่งมา อย่างแปลกใจ ธีรดนย์ขับรถ พุ่งตรงเข้าหาชนิกานต์อย่างจงใจ ชนิกานต์ตกใจ แล้วธีรดนย์เบรครถดังเอี๊ยด ห่างจากชนิกานต์เพียงนิดเดียว
ชนิกานต์ยืนตัวสั่นด้วยความกลัว กฤติยาโล่งใจที่ชนิกานต์ปลอดภัย
ธีรดนย์ลงจากรถ มีอาการกึ่มๆ สภาพเหมือนคนเมาเหล้า ดื่มมาอย่างหนัก กลิ่นละมุดหึ่ง
ชนิกานต์ตกใจน้ำตาไหล “ธี”
“รู้รึยังว่าความกลัวเป็นยังไง ตอนที่เธอขับรถชนแม่ฉัน แม่ฉันรู้สึกยังไง”
ชนิกานต์ร้องไห้โฮ ด้วยความเสียใจ
“ฉันไม่น่าเบรกรถ ฉันน่าจะชนเธอให้ตาย เธอควรรับกรรมที่ทำไว้กับแม่ฉัน!”
“ฉันขอโทษ จะให้ฉันกราบเท้านายฉันก็ยอม...ขอให้นายให้อภัยฉัน ดีกับฉันบ้าง”
ธีรดนย์เหยียดยิ้มขณะมองชนิกานต์ หวนนึกไปถึงเหตุการณ์ในอดีต ตอนที่ชนิกานต์สั่งให้ตนก้มกราบขอโทษ
“คุณหนูเอาแต่ใจที่เคยสั่งฉันให้กราบเธอ วันนี้ยอมก้มหน้ากราบเท้าขี้ข้า...เอาสิ กราบฉันจนกว่าฉันจะให้อภัยกับสิ่งที่เธอทำกับฉัน”
ชนิกานต์ก้มลงกราบเท้าธีรดนย์ทั้งน้ำตา
“กราบอีก! กราบอีก!” ธีรดนย์บอกอย่างบ้าคลั่ง
กฤติยามองด้วยความแปลกใจ ที่ชนิกานต์ยอมทำตามสั่งของธีรดนย์
ชนิกานต์ก้มลงกราบเท้าธีรดนย์ ถูกธีรดนย์เอาเท้ามาเหยียบมืออย่างแรง
ชนิกานต์ร้องลั่น “โอ๊ย ฉันเจ็บ”
“มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่เธอเคยทำกับฉันและแม่ ฉันเกลียดเธอ! ฉันเกลียดเธอ”
ธีรดนย์ผลักร่างชนิกานต์ออกไปอย่างไม่ใยดี ชนิกานต์ลุกขึ้นวิ่งเข้ามาโอบกอด
“ฉันขอโทษ ฉันสัญญา ฉันจะไม่ทำร้ายความรู้สึกนายอีกแล้ว ฉันจะยอมนายทุกอย่าง อย่าโกรธอย่าเกลียดฉันนะ”
ธีรดนย์มองหน้าชนิกานต์ ยิ้มเหมือนจะยอมให้อภัย แต่กลับผลักชนิกานต์ออกไปเต็มแรง ชนิกานต์ล้มลงหัวกระแทกกับรถ ธีรดนย์มองเย้ยไม่สนใจ เดินไปทางหลังบ้าน
“นิกกี้ เธอเป็นยังไงบ้าง?"
กฤติยาประคองชนิกานต์เข้าไปในคฤหาสน์อย่างเวทนา
โปรดติดตาม "ลูกไม้หลากสี" ตอนที่ 15 (ต่อ) เวลา 9.00 น.
ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 15 (ต่อ)
ส่วนชนกชนม์ยืนยิ้มนับเงินค่าแรงที่ได้รับจากนายจ้าง กำเงินในมือยิ้มออกมาอย่างสุขใจ
“ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงได้ห้าพัน อยู่ได้อีกหลายวันเลย”
แต่จู่ๆ ชยางกูรเข้ามาดึงเงินไป ชนกชนม์ตกใจ
“กูร....เอาเงินฉันคืนมา!”
“ฉันขอ!”
“ฉันให้นายไม่ได้ มันเป็นเงินของตา” ชนกชนม์ไม่ยอม
“เงินใครฉันไม่สน...แกมีเงินให้ฉันอีกไหม”
“ไม่มี”
“โกหก! แกขายของได้เงินตั้งเยอะ เอาบัตรเอทีเอ็มมา ฉันจะไปกด”
ชนกชนม์ฉุน “นายได้ไปก็เอาไปเล่นการพนันหมด ฉันไม่ให้”
ชยางกูรเข้าไปจะแย่งกระเป๋าเงินจากชนกชนม์
จังหวะนั้นลูกน้องปรัชญาเดินเข้ามา ชยางกูรเห็นก็ตกใจ รีบวิ่งหนีไป สมุนปรัชญาวิ่งไล่ตาม
ชนกชนม์ตกใจห่วงน้อง “กูร!”
ชลนิภาออกจากห้องพักอาจารย์ที่ปรึกษา หน้าตาไม่ดี
“ผมฝากดูแลลูกชายคุณด้วย ไม่งั้นแกจะหมดสิทธิ์สอบ” อาจารย์บอก
“ค่ะ”
อาจารย์เดินกลับเข้าไปในห้อง ชลนิภาเครียดเรื่องชยางกูรที่ได้รับฟังมา
“ลูกกูร”
ฟากชยางกูรยังวิ่งหนีลูกน้องปรัชญาไม่คิดชีวิต แต่ชยางกูรแทบช็อกวิ่งมาเจอเฮียปรัชญายืนดักรออยู่กับเพทาย
“เฮีย..ฉันไม่ได้ตั้งใจเบี้ยวเฮีย” ชยางกูรละล่ำละลัก
“เฮียรู้....ใครดีเฮียก็ดีตอบ ใครชั่วเฮียก็จัดหนัก”
ปรัชญาตบหน้าชยางกูรเต็มแรง
ชยางกูรตกใจ “เฮีย”
ปรัชญาสั่งลูกน้อง “สั่งสอนให้หลาบจำ”
ชยางกูรหน้าซีด ตกใจ ลูกน้องปรัชญาเข้าไปเล่นงาน ชยางกูรจะสู้ แต่สู้ไม่ได้ เพทายยืนมองด้วยความสะใจ
ลูกน้องปรัชญาเล่นงานชยางกูรหนัก จนชยางกูรเซล้มลงไปกองกับพื้น ชนกชนม์วิ่งเข้ามา ตะโกนห้าม
“หยุดนะ!”
“แกช่วยฉันด้วย ช่วยฉันด้วย!”
ชยางกูรลนลานกลัวพวกปรัชญา ชนกชนม์ตกใจที่ชยางกูรถูกทำร้าย
พอเสาวนิตย์พาสุตาภัญและสุรัมภามาที่รถจอด แต่กลับไม่เจอสุทิน
“คุณพ่อล่ะคะ” สุตาภัญงง
“นั่นสิ...บอกว่าจะรอที่รถ....รึว่าคุณพ่อออกไปตามหาลูก” เสานิตย์ว่า
สุตาภัญยิ้ม รู้สึกดี “คุณแม่กับภารอที่นี่ดีกว่า ตาไปตามให้เองค่ะ”
เสาวนิตย์และสุรัมภายิ้มให้ สุตาภัญเดินกลับไปที่คณะ ตามหาสุทิน
สุรัมภาและเสาวนิตย์ยืนมองตามใบหน้ายิ้มแย้ม
ชนกชนม์ต่อว่าปรัชญา
“หยุดทำร้ายน้องฉัน! ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ!”
ปรัชญาเย้ย “ไม่เคยได้ยินรึไง ตำรวจเป็นมิตรประชาชน และประชาชนอย่างเฮียก็กว้างขวางซะด้วย แกเป็นพี่ชายจะจ่ายหนี้แทนมันเฮียก็ยินดี”
ชนกชนม์หันไปมองชยางกูร รู้ความจริงว่าปรัชญามาทวงหนี้
“ฉันไม่มี”
“ไม่มีก็ออกไป!”
ปรัชญาหันไปมองลูกน้องเป็นเชิงสั่ง พวกลูกน้องเข้าไปดึงตัวชยางกูรมาเล่นงานต่อ
“ช่วยฉันด้วย ช่วยฉันด้วย”
ชนกชนม์สงสารน้องแสบ เข้าไปช่วย สู้กับลูกน้องปรัชญา
สุทินเดินตามหาสุรัมภามาเห็นเหตุการณ์ จึงยืนมองดูที่มุมหนึ่ง
ส่วนชลนิภาเดินตามหาชยางกูร แต่มาเจอเสาวนิตย์กับสุรัมภา
“คุณ!” เสาวนิตย์แปลกใจ
ชลนิภาก็แปลกใจ “มาทำอะไรกัน? คงไม่พาลูกสาวมาเรียกค่าเสียหายจากลูกชายฉันถึงที่นี่!”
สุรัมภารู้สึกกลัวชลนิภา ไม่กล้าสู้หน้าหลบหลังแม่ เสาวนิตย์ปกป้อง
“เรื่องนั้นคุณไม่ต้องกังวล ดิฉันจะไม่ใช้ลูกเป็นเครื่องมือหากิน และที่สำคัญ ดิฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวคุณ ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า”
“ทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกัน..อ้อ..กรุณาเอาคำพูดนี้บอกสามีคุณด้วย”
ชลนิภาเดินเชิดออกไป ตามหาชยางกูรต่อ เสาวนิตย์ไม่พอใจนักที่ถูกต่อว่า
ชนกชนม์ยังคงต่อยตีสู้กับลูกน้องปรัชญา แต่ถูกลูกน้องปรัชญาเข้ามารุมเล่นงาน จนเสียท่า สุตาภัญเดินตามหาสุทิน เห็นชนกชนม์ถูกเล่นงานจึงวิ่งเข้ามาห้ามไว้
“หยุดนะ”
สุทินมองอยู่ รู้สึกแปลกใจที่สุตาภัญเข้ามาห้าม
ปรัชญามองสุตาภัญ ยิ้มพอใจที่ได้เจอสุตาภัญอีกครั้ง
สุตาภัญเข้าไปดูชนกชนม์ที่ล้มลงอยู่ที่พื้น
“นายเป็นยังไงบ้าง เกิดอะไรขึ้น”
ลูกน้องปรัชญาจะเข้าไปเล่นงานชนกชนม์ต่อ ปรัชญาสั่งหยุด
“พอแล้ว” ปรัชญาหันไปขู่ชยางกูร “อย่าเล่นอย่างนี้กับเฮียอีก...นี่แค่ใบเหลือง รีบหาเงินไปเคลียร์ ก่อนจะโดนใบแดง”
ปรัชญาขู่เสร็จ ก็เดินหนีไป เพทายและลูกน้องตามไป พวกปรัชญาเดินผ่านสุทินที่ยืนมองอยู่
สุทินหันกลับไปมองสุตาภัญ ไม่พอใจที่สุตาภัญยังเกี่ยวข้องกับชนกชนม์และชยางกูร
ชนกชนม์เข้าไปดูชยางกูร
“กูร...นายเป็นยังไงบ้าง”
ชยางกูรผลักออก “ไม่ต้องยุ่ง!”
สุตาภัญไม่พอใจมาก “พี่ชายมาช่วยยังไม่สำนึกอีก ดีแต่สร้างปัญหาให้คนอื่น”
“ไม่ต้องมาสอนฉัน”
ชยางกูรพยายามยันตัวลุกขึ้น
ระหว่างนั้นชลนิภาเดินเข้ามาเห็น ชะงัก ยืนฟังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ชนกชนม์เตือนสติชยางกูร “กูร ชีวิตนายจะพังเพราะการพนัน นายเลิกซะ”
ชยางกูรยังมีหน้าโกหก “ฉันเลิกแล้ว...แต่ฉันต้องหาเงินไปใช้หนี้มัน ฉันขอยืมแกห้าล้าน”
ชนกชนม์และสุตาภัญตกใจที่ชยางกูรติดหนี้เยอะขนาดนั้น ชลนิภาที่ฟังอยู่ ก็ตกใจ
“มากขนาดนั้นฉันไม่มีหรอก เอางี้สิ...นายมาช่วยฉันทำงานแล้วค่อยผ่อนให้หนี้พวกมัน”
ชลนิภาได้ฟังคำพูดของชนกชนม์ รู้สึกดีนิดๆ ที่ชนกชนม์มีความคิดที่ดี
“ฉันไม่ยอมลำบากนั่งขายของแลกเงินเหมือนขอทาน! แล้วต้องทำงานกี่ปีกี่ชาติถึงจะใช้หนี้หมด” ชยางกูรไม่ใส่ใจ
“นายมีทางเลือกเดียว ไปขอเงินคุณแม่ แล้วบอกความจริงทั้งหมด”
“ไม่ได้! ให้คุณแม่รู้เรื่องนี้เด็ดขาด!”
ชลนิภาทนฟังไม่ไหวตัดสินใจเดินเข้าไปหาชยางกูรทันที
“ลูกกูร”
ชยางกูรหันไปเจอชลนิภาก็ตกใจ ชนกชนม์และสุตาภัญกังวลใจที่ชลนิภามาที่นี่ กลัวจะเกิดปัญหาใหญ่โตอีก
ฝ่ายเสาวนิตย์กังวลใจที่สุตาภัญและสุทินยังไม่กลับมา หันไปบอกสุรัมภา
“ลูกไปกับแม่”
“ไปไหนคะ? คุณพ่อกับพี่ตายังไม่มาเลย”
“แม่ไม่อยากให้คุณพ่อเจอกับคุณชลนิภา ไม่งั้นต้องมีเรื่องกันอีก”
“ค่ะ”
เสาวนิตย์พาสุรัมภาออกตามหาสุทิน
ชนกชนม์และสุตาภัญกังวลใจ กลัวเกิดเรื่องอีก ชลนิภาแสร้งถามทำทีไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“ลูกกูร ทำไมเนื้อตัวเป็นแบบนี้”
ชยางกูรไม่กล้าบอกความจริง
“บอกความจริงกับแม่มา...มันเกิดอะไรขึ้น”
“คุณน้าอยากรู้ความจริง ตาจะเป็นคนบอกให้ค่ะ”
ชยางกูรลนลานกังวลใจ กลัวสุตาภัญบอกความจริง
“ลูกชายคุณน้า...”
ชนกชนม์ชิงตอบแทน “กูรมีเรื่องกับเพื่อนครับ”
สุตาภัญแปลกใจที่ชนกชนม์แก้ตัวให้ชยางกูร จึงหยุดเล่า
“เรื่องอะไรกัน”
ชลนิภาแสร้งถาม อยากรู้ว่าชนกชนม์จะบอกเล่าอะไร
“ตามประสาผู้ชายครับ ผมมาช่วยเคลียร์ ปรับความเข้าใจกันได้แล้วครับ”
สุตาภัญแปลกใจที่ชนกชนม์โกหกให้ชยางกูร ขณะที่ชยางกูรยิ้มออกที่ชนกชนม์ไม่บอกความจริงแม่ รีบเสริม
“เรื่องก็เป็นอย่างที่พี่ชนม์พูดครับ”
ชลนิภาทำทีเป็นยิ้ม แต่จู่ๆ เปลี่ยนสีหน้าเป็นผิดหวัง “ทำไมต้องโกหกแม่”
ชยางกูร ชนกชนม์และสุตาภัญแปลกใจในคำพูดชลนิภา
“แม่ได้ยินทุกอย่างหมดแล้ว...ลูกติดหนี้การพนัน”
ชยางกูรตกใจ หน้าซีด “คุณแม่”
ชลนิภาย้อนถามชนกชนม์ด้วยน้ำเสียงอ่อนลง และทีท่าอ่อนโยนแต่ยังไว้ตัว “เธอปกป้องน้อง เพื่ออะไร เธอต้องการอะไรจากฉัน”
“ผมไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไร ไม่เคยคิดให้คุณแม่รับผมกลับบ้าน แต่ผมเป็นห่วงน้อง ผมรักน้อง ไม่อยากให้น้องมีปัญหาครับ”
ชลนิภาได้ฟัง ก็รู้สึกดีกับชนกชนม์มากขึ้น
สุตาภัญเห็นท่าทีของชลนิภาดีใจกับชนกชนม์ แต่ชยางกูรไม่พอใจที่ชลนิภาเริ่มมองชนกชนม์ในแง่ดี
ชลนิภาหันมาบอกชยางกูร “ลูกกูรกลับบ้าน เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
ชยางกูรรับคำอย่างกังวลใจ “ครับ”
ชลนิภาบอกชนกชนม์ “เธอไปกับฉัน ฉันอยากรู้ความจริงทั้งหมด”
ชนกชนม์รู้สึกดี ที่ชลนิภาเปิดใจยอมรับฟังตน
สุตาภัญยิ้มรู้สึกดีใจด้วย หันไปบอกชนกชนม์
“นายไปกับแม่นายเถอะ ฉันเองก็จะกลับบ้าน คุณพ่อมารับฉันกลับบ้าน
ชนกชนม์รู้เรื่องนี้ก็ดีใจกับสุตาภัญ
“ไปกันได้แล้ว” ชลนิภาบอก
ชลนิภาบอกชนกชนม์ ชนกชนม์จะเดินไป แต่แล้วสุทินเดินเข้ามาขวางไว้
“จะรีบไปไหนกัน”
สุตาภัญตกใจ “คุณพ่อ”
ชลนิภาตกใจและแปลกใจที่เจอสุทิน
ฝ่ายเสาวนิตย์และสุรัมภา ต่างเร่งเดินหาสุทินและสุตาภัญ สุรัมภามองไปมุมหนึ่งเห็นสุทินก็ดีใจบอกเสาวนิตย์
“คุณพ่อกับพี่ตาอยู่ด้านโน้นค่ะ”
เสาวนิตย์หันไปมอง เดินเข้าไปอีกนิด เห็นชลนิภาและชยางกูรอยู่ด้วยก็กังวลใจ
“คุณชลนิภา!!”
ทุกคนรวมตัวกันอยู่ตรงมุมหนึ่งในมหาวิทยาลัย ชลนิภาถามสุทิน ด้วยความไม่พอใจ
“วันก่อนบอกไม่อยากเจอหน้าฉัน แล้วมาวุ่นวายอะไรกับฉันอีก”
“ไอ้ผู้ชายหน้าตัวเมียคนนี้ใช่ไหมที่ข่มขืนลูกผม”
สุทินจะเข้าไปทำร้ายชยางกูร
ชยางกูรตกใจ “คุณแม่ครับช่วยกูรด้วย”
ชลนิภาผลักสุทินออกไป “อย่ามาทำร้ายลูกฉัน”
สุทินชี้หน้าชยางกูร “แกยอมรับมาซะว่าแกเป็นคนทำ”
“ผมไม่ได้ทำ ผมถูกใส่ร้าย”
สุทินหันมาถามสุตาภัญ “สุตาภัญ เธอบอกฉันมา ใครทำลายน้อง”
สุรัมภายืนอยู่กับเสาวนิตย์ ตกใจกลัว เสาวนิตย์กอดปลอบใจ
“ชยางกูร นายหมดทางแก้ตัวแล้ว ยอมรับเถอะว่านายทำร้ายภา”
“ไม่จริง! เธอเป็นพี่น้องกัน เข้าข้างกันเอง แล้วก็โกรธที่ฉันไม่เล่นด้วย”
สุตาภัญตกใจ “นายว่าอะไรนะ”
ชยางกูรใส่ไฟสุทิน “คุณอารู้ไว้ด้วย ลูกสาวคุณอาชอบผม ตามตื๊อจะเป็นแฟน ผมไม่เล่นด้วยก็ใส่ร้าย โยนบาปให้ผม”
สุทินหันไปมองสุตาภัญด้วยความโกรธ สุตาภัญตกใจที่ถูกชยางกูรใส่ร้าย
“กูร นายหยุดสร้างเรื่องโกหกได้แล้ว!” ชนกชนม์โมโห
ชลนิภาตกใจ “ชนกชนม์ หมายความว่าไง”
“อยู่กันพร้อมหน้าก็ดีแล้ว จะได้เลิกคิดว่ามีใครใส่ร้ายใคร...” สุทินชี้หน้าชนกชนม์ “ถ้านายเป็นลูกผู้ชาย พูดออกมา พูดความจริงทั้งหมด!”
ชยางกูรเริ่มกังวลใจ ชลนิภามองชนกชนม์ ใจคอไม่ดีนัก กลัวชยางกูรจะเป็นคนทำ
ชนกชนม์บอกสุทิน “ลูกสาวคุณอาพูดความจริงครับ ชยางกูรขืนใจภา”
ชยางกูรตกใจแก้ตัวพัลวัน “ไม่จริงนะครับคุณแม่ มันใส่ร้ายกูร มันเกลียดกูร”
ชยางกูรร้องไห้วิ่งหนีไป ชลนิภาไม่พอใจ พาลโกรธชนกชนม์
“ลูกกูร...” ชลนิภาตกใจ หันมาต่อว่าชนกชนม์ “ปากบอกว่ารักน้อง แต่แกเข้าข้างพวกมันทำร้ายน้อง..แกมันดีแต่หาเรื่องให้น้อง เลิกยุ่งกับลูกฉันสักที”
ชนกชนม์เสียใจมากที่ชลนิภายังคงเกลียดชังตน
“ได้ครับคุณแม่”
ชลนิภาอึ้งที่ชนกชนม์ตอบอย่างนี้
“ต่อไปนี้...ไม่ว่าน้องจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น...ผมจะไม่สนใจน้องอีก”
ชนกชนม์ยกมือไหว้ชลนิภา แล้วเดินออกไปด้วยความเสียใจ
ชลนิภารู้สึกเสียหน้า “อย่าให้ฉันเห็นหน้าแกอีกนะ”
ชนกชนม์เดินมาหยุดที่มุมหนึ่ง...น้ำตาไหล เสียใจ น้อยใจที่ถูกชลนิภาต่อว่า
สุตาภัญสงสารชนกชนม์ เข้าไปหาชลนิภายกมือไหว้ชลนิภา
“คุณน้าคะ ตาขอเถอะค่ะ...อย่าทำร้ายจิตใจชนกชนม์อีกเลย”
ชลนิภาแหวใส่ “เธอกล้าดียังไงมาสอนฉัน!”
สุตาภัญยกมือไหว้อีก “ตาขอโทษจริงๆ ค่ะ ตาไม่อยากให้ชนกชนม์เสียใจและหมดกำลังใจ ลูกคุณน้าเป็นคนดี เขาเสียสละทุกอย่าง...เขารักน้อง...รักคุณน้ามากนะคะ”
“ไม่ต้องพูดดีกับฉัน ฉันรู้ทันเธอ”
สุตาภัญอึ้ง
“หวังให้ฉันรู้สึกดียอมรับเธอด้วยคนงั้นสิ เธอนี่เล่นละครได้สมบทบาทมาก” พลางหันไปมองพูดแขวะสุทิน “ที่บ้านคงจะสอนมาดี ลูกถึงได้แอ๊คติ้งดีเหมือนพ่อแม่!”
“คุณกำลังสบประมาทผม! ผมไม่เคยสั่งสอนให้ลูก” สุทินมองไปยังสุตาภัญขณะพูดประโยคต่อมา “ทำตัวแย่ๆอย่างที่คุณกล่าวหา!”
ชลนิภาย้อน “เหรอคะ แล้วที่ลูกสาวคุณออกแว้นกับลูกชายนอกคอกของฉัน หนีออกจากบ้านตะลอนอยู่กับผู้ชาย...”
สุทินโกรธหันไปมองสุตาภัญ ไม่พอใจที่ถูกชลนิภาต่อว่าเสียหาย
“ทำตัวอย่างนี้จะให้เรียกอะไร...ถ้าไม่เรียกว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน!”
“คุณไม่มีสิทธิ์มากล่าวหาผม ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ลูกผม”
สุตาภัญได้ฟังก็ช็อก ที่สุทินยังเกลียดชังเธอ เสาวนิตย์พาสุรัมภาเข้ามา
เสาวนิตย์เสียใจที่สุทินต่อว่าสุตาภัญ “คุณคะ”
ชลนิภาหันไปมองเหยียดเย้ยสุรัมภา “แต่คุณคงปฎิเสธไม่ได้ว่าลูกสาวที่ริรักในวัยเรียน...ท้องไม่มีพ่อคนนั้น เป็นลูกคุณ!”
สุทินหันไปมองสุรัมภา พูดไม่ออก สุรัมภาเสียใจ ไม่อยากทำให้สุทินต้องเสียหน้า วิ่งหนีออกไป
สุตาภัญตกใจเป็นห่วงน้อง “ภา” แล้ววิ่งตามออกไป
สุทินไม่พอใจที่ชลนิภาทำให้ลูกๆ หนีไป และรู้สึกเสียหน้า สองคนเถียงกันลั่น
“คุณไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายเรื่องในครอบครับผม”
“คุณก็หยุดวิพากษ์ครอบครัวฉัน”
“แต่ลูกคุณทำให้ลูกผมต้องเดือดร้อน!”
“ลูกคุณต่างหากที่ทำให้ลูกฉันปัญหา”
เสาวนิตย์สุดจะทน เข้ามาห้ามไว้
“พอเถอะค่ะ อย่ามัวทะเลาะเอาแพ้เอาชนะกันเลย ต่อให้คุณหาเหตุผลมาหักล้างกัน เกมนี้คงไม่มีผู้ชนะ เราทั้งสองครอบครัวคือผู้แพ้”
ชลนิภาและสุทินนิ่งงัน อึ้งไป คิดตามที่เสาวนิตย์พูด
“ดิฉันว่า...เราน่าจะคิดหาวิธี ทำยังไงให้ลูกมีความสุข และกลับมาอยู่กับเรา”
สุทินและชลนิภาฟังคำพูดของเสาวนิตย์ก็สะอึก
ชลนิภาได้สติ คิดถึงชยางกูร “ลูกกูร” รีบเดินออกไป
เสาวนิตย์หันไปมองสามี สุทินรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ฝ่ายสุรัมภาร้องไห้วิ่งออกมา หยุดยืนที่มุมหนึ่งของมหาวิทยาลัย ซึ่งชนกชนม์ยืนอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว
ชนกชนม์หันไปมองสุรัมภาที่ยืนร้องไห้อยู่ จึงเข้าไปปลอบใจ
“ไม่ต้องเสียใจนะ...”
ชนกชนม์พูดไม่ทันจบ สุรัมภาโผเข้ากอดชนกชนม์เหมือนคนเสียขวัญ ชนกชนม์สงสารกอดปลอบขวัญ
“นั่นไง..พูดไม่ทันขาดคำ ซัดมาโฮใหญ่เลย”
ชนกชนม์จับตัวสุรัมภาออกห่าง
“ร้องไห้ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นหรอก นอกจากเราต้องเข้มแข็ง...ฮึบๆ”
ชนกชนม์ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ สุรัมภาเอามาเช็ดหน้า แต่ยังคงร้องไม่หยุด
“หยุดร้องได้แล้ว....พี่มีผ้าเช็ดหน้าผืนเดียวนะ”
สุรัมภายิ้มทั้งน้ำตา ชนกชนม์หัวเราะขำ สุรัมภารู้สึกอบอุ่นใจที่มีชนกชนม์คอยดูแล
สุรัมภาโผเข้าไปซบอกชนกชนม์อีก
“อะไรเนี่ย? เด็กขี้แย”
“ผ้าผืนเล็กนิดเดียวซับไม่หมดหรอก ต้องใช้เสื้อพี่ชนม์”
สองคนหัวเราะให้กัน สุตาภัญเข้ามาเห็นภาพชนกชนม์ยิ้มหัวเราะกับสุรัมภาก็ยืนมอง รู้ว่าน้องสาวมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชนกชนม์
ชนกชนม์หันไปเจอสุตาภัญ เดินหน้าเศร้าก็รีบพูดดักคอ
“หยุดเลยนะ ห้ามร้องอีกคนล่ะ ทั้งผ้าเช็ดหน้าทั้งเสื้อ เปียกโชกหมดแล้ว”
สุตาภัญยิ้มให้ชนกชนม์ พยายามกลั้นน้ำตา
ชนกชนม์บิ้วท์ “ฮึ๊บๆ”
สามคนเลยผสมโรงหัวเราะด้วยกัน ทิ้งความทุกข์ขมในใจไปชั่วขณะ
คืนนั้นกฤติยาทำแผลให้ชนิกานต์เสร็จ
“เธอสองคนมีปัญหาเรื่องอะไรกันอีก ฉันจะไปช่วยพูดให้”
ชนิกานต์เสียงแข็ง “ไม่ต้อง”
กฤติยาหน้าเสีย ชนิกานต์รู้สึกตัว ที่เผลอตะคอกท่าทีอ่อนลง
“ปัญหาของฉัน ฉันเคลียร์เอง” ชนิกานต์จะลุกไปจากเตียง
“เธอไปตอนนี้มีแต่จะแย่ลง เธอก็เห็นว่าธีรดนย์เมามาก รอให้เขาสร่างเมา พรุ่งนี้เช้าค่อยปรับความเข้าใจกัน”
กฤติยาพูดปลอบใจ และให้ข้อคิด ชนิกานต์คิดตาม ยอมทำตามข้อเสนอของกฤติยา
ชนิกานต์ล้มตัวลงนอน กฤติยาชักผ้าห่มมาคลุมให้ จะเดินออกไปจากห้อง ชนิกานต์จับมือกฤติยาไว้อย่างซึ้งใจ
“ขอบใจเธอมาก...เธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน”
กฤติยายิ้มให้ “จ้ะ”
กฤติยาจับมือกับชนิกานต์ สัญญาจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
ส่วนธีรดนย์เดินเมา เปิดประตูเข้ามาในห้อง ธีรดนย์ไม่ยอมเปิดไฟ มองผ่านแสงสลัวตรงไปยังภาพของอุษา ด้วยความรู้สึกผิด
ส่วนกฤติยาออกมาแล้วปิดประตูห้องนอนชนิกานต์ นึกเป็นห่วงธีรดนย์ เพราะธีรดนย์เมามาก
ธีรดนย์เดินตรงไปที่ภาพอุษายกมือไหว้
“แม่ครับ ผมขอโทษ ผมไม่สามารถรักษาคำพูดได้ ผมต้องทนอยู่ที่นี่ รับใช้คุณท่าน คุณหนูชีวิตของผมพังหมดแล้ว”
กฤติยายืนอยู่หน้าห้อง ฟังธีรดนย์ระบายก็สงสาร
“คนที่ผมรักก็บอกเลิก...ผมไม่เหลือใครแล้วจริงๆ ไม่มีพ่อแม่...ไม่มีแม้แต่คนที่ผมรักสักคนเดียว...ผมอยากตายครับ ผมอยากตายไปอยู่กับแม่”
ธีรดนย์ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
กฤติยาเปิดประตูเข้ามากอดธีรดนย์ไว้
“นายคิดอย่างนั้นไม่ได้นะ อย่างน้อยนายก็มีฉัน”
ธีรดนย์แปลกใจ “แอน”
“ชีวิตฉันก็ไม่ต่างจากนาย...ฉันไม่มีใครเหมือนกัน แต่ฉันก็จะอยู่...เพราะชีวิตฉันเป็นของฉัน”
ธีรดนย์อึ้ง
“นายจำได้ไหม ในวันที่ฉันท้อใจ ฉันจะไปจากที่นี่...นายเป็นคนรั้งฉันไว้”
ธีรดนย์จำเหตุการณ์ที่กฤติยาจะออกไปจากบ้านเพราถูกณวัตรลวนลามจะขืนใจ และแตนพูดให้กำลังใจได้
“ทุกครั้งที่ฉันเสียใจ ฉันมีนายคอยให้กำลังใจ...นายจะพูดว่านายไม่มีใครไม่ได้ นายยังมีฉัน..คนที่รักและหวังดีกับนายเสมอ” กฤติยาน้ำตาไหลริน
ธีรดนย์มองกฤติยา อย่างตื้นตันใจ เช็ดน้ำตาให้กฤติยา
“ทำไมเธอถึงได้ดีกับฉัน” ธีรดนย์ร้องไห้อีก
กฤติยาเช็ดน้ำตาให้ธีรดนย์ “เพราะฉันรักนาย...”
ธีรดนย์จ้องหน้าเช็ดน้ำตาให้กฤติยา “ทั้งๆ ที่รู้ว่าฉันมีคนรักอยู่แล้ว”
กฤติยาใช้นิ้วมือเช็ดน้ำตาให้ธีรดนย์ “ความรักสำหรับฉัน ไม่จำเป็นต้องได้รักตอบ ขอแค่ฉันได้รักใครสักคน คอยดูแลให้เขามีความสุข ฉันขอเพียงแค่นี้”
ธีรดนย์รับรู้ความคิดของกฤติยาก็ยิ่งตื้นตันใจ เด็กหนุ่มจูบซับน้ำตาให้ แล้วโอบกอดประคองร่างกฤติยาล้มตัวลงบนเตียงนอน
แรงเร้าภายในใจ นำพาสองเด็กหนุ่มสาววัยเจริญพันธุ์ ดำดิ่งสู่ห้วงแห่งกามตัณหาโดยขาดการยับยั้งชั่งใจ
ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 15 (ต่อ)
คืนเดียวกันชนกชนม์ยกมือไหว้ขอโทษสุตาภัญ
“ไหว้ฉันทำไม ไม่อยากอายุสั้น”
“ก็ขอโทษอะ เงินที่เธอกับภาช่วยกันหาวันนี้ ชยางกูรเอาไปหมดแล้ว”
“ช่างมันเถอะ หาใหม่ได้ ว่าแต่..นายมั่นใจได้ไงว่าชยางกูรจะกลับใจ เลิกเล่นพนัน”
“ไม่มั่นใจหรอก...แต่นี่จะเป็นการให้โอกาสครั้งสุดท้าย ที่พี่จะให้น้องได้”
“นายหมายความว่าไง”
“ที่ฉันพูดกับคุณแม่ว่าฉันจะไม่สนใจน้องอีก ฉันไม่ได้ประชด...ฉันพูดจริงๆ...ฉันช่วยเขา ให้โอกาสเขาแก้ตัวหลายครั้ง...ฉันทำดีที่สุดแล้ว หลังจากนี้...เขาต้องดูแลตัวเอง”
“นายจะไม่เสียใจนะที่คิดอย่างนี้”
ชนกชนม์ส่ายหน้า “ชีวิตของใครก็เป็นของคนนั้น...เราดูแลเขาไม่ได้ทั้งชีวิตหรอก”
สุตาภัญแซว “ลอกเลียนคำพูดฉัน”
“ไม่ได้ก๊อป แค่จำมาพูด”
ชนกชนม์หัวเราะชอบอกชอบใจ สุตาภัญจ้องมองชนกชนม์ไม่วางตา จนชนกชนม์แปลกใจ
“มองพี่มีไรจ๊ะน้องสาว”
ชนกชนม์แปลกใจที่สุตาภัญเอาแต่จ้องหน้าตน
ส่วนสุรัมภายืนบิดผ้าเช็ดหน้า ตากไว้ที่ราวตรงระเบียง สุรัมภายืนมองผ้าเช็ดหน้าด้วยความสุขใจที่มีชนกชนม์คอยดูแลเธอ
ชนกชนม์จ้องมองสุตาภัญนิ่งนาน สุตาภัญจับมือชนกชนม์ไว้ แล้วเอามือมาจับปากชนกชนม์ฉีกยิ้ม
ชนกชนม์แปลกใจ ฉีกยิ้มให้สุตาภัญกว้างกว่าเดิม พูดเรื่องน้องสาว
“ทุกครั้งที่ภาใกล้นาย ภาดูมีความสุขขึ้นมากเลยนะ”
ชนกชนม์สนใจแต่สุตาภัญ “แล้วเธอล่ะ”
“ก็โอเค ฉันดีใจที่นายคอยดูแลภา...ทำให้ภามีชีวิตชีวาขึ้น”
ชนกชนม์สนใจแต่สุตาภัญอยู่อย่างนั้น “แล้วเธอล่ะ”
“ก็โอเค....ฉันว่าภา…”
สุตาภัญจะพูดเรื่องสุรัมภาอีก ชนกชนม์รีบเปลี่ยนเรื่อง
“หยุดสนใจคนอื่นเลย...สนใจตัวเองบ้าง”
“ก็ฉันมีน้องต้องดูแลนี่”
“น้องเธอมีเธอดูแล แล้วเธอล่ะ ก็ต้องหาคนดูแลด้วย เอางี้...ฉันเสียสละทั้งชีวิตดูแลเธอ” ชนกชนม์ยิ้มแฉ่งให้สุตาภัญ “ชอบไหม”
“ชอบ”
“ชอบฉัน”
สุตาภัญอึ้ง “ทะลึ่ง ชอบที่มีบอดี้การ์ดต่างหาก”
สุตาภัญผลักหน้าชนกชนม์ออกจะเดินหนีขึ้นห้อง ชนกชนม์เดินตาม
“จะไปไหน”
“ขึ้นห้อง”
“ทะลึ่งอีกแล้วนะ...”
สุตาภัญจะเอานิ้วจิ้มตา ชนกชนม์ห้ามไว้ แล้วแสร้งเอานิ้วจิ้มตาตัวเองแทนร้อง
“จ๊าก”
สุตาภัญหัวเราะชอบใจ “กลับไปได้แล้ว”
“ฝันดีนะครับ” ชนกชนม์เดินออกไป
“อืมม...”
ชนกชนม์หันกลับมาตะโกน “ฝันถึงฉันบ้างนะ”
สุตาภัญพยักหน้ารับ “อืมม...”
ชนกชนม์ยิ้มหันกลับไป ชนกับต้นไม้ ร้องลั่น
“โอ๊ย”
สุตาภัญขำ ชนกชนม์เขินรีบวิ่งออกไป สุตาภัญมองตาม มีความสุข
“ขอบใจนะ..ที่ดูแลกัน”
คืนนั้นชนิกานต์เปลี่ยนใจ ไม่นอน ลุกขึ้นจากเตียง
“ธีรดนย์...ฉันต้องคุยกับนายให้รู้เรื่อง”
ชนิกานต์เดินออกไปจากห้อง
กัณฐิกาออกจากห้องกฤติยา
“ยัยแอนหายไปไหน”
ชนิกานต์ออกจากห้อง เดินออกไป เพื่อไปหาธีรดนย์ กัณฐิกาเห็นก็แปลกใจ
ส่วนธีรดนย์กอดกฤติยาไว้ รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป
“แอน...ฉัน...”
“ฉันต้องกลับห้องแล้ว”
ธีรดนย์พยักหน้าเข้าใจ และยิ่งรู้สึกผิด
เวลาเดียวกันชนิกานต์กำลังเดินมุ่งหน้าไปทางห้องธีรดนย์
กฤติยาแต่งตัวเสร็จ หันมามองธีรดนย์ แล้วจะเดินออกไป ธีรดนย์เข้ามาจับมือไว้
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น...ไม่ใช่ความผิดของนาย...นายไม่ผิด”
ธีรดนย์แปลกใจ
“ฉันต่างหากที่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น...อย่าไปใส่ใจเลย...นายลืมมันเถอะ”
ธีรดนย์คลายความกังวลใจ กฤติยาจะเดินออกไป
ขณะที่ชนิกานต์เร่งเท้าเดินไปยังห้องธีรดนย์
กฤติยาจะเดินออกไปแล้ว ธีรดนย์เรียกไว้
“แอน...เธอลืมสร้อย”
ธีรดนย์ส่งสร้อยให้ กฤติยารับไว้ จะเดินออกไป ธีรดนย์เข้ามาโอบกอด
“ฉันขอบใจเธอมากนะที่เธอเข้าใจฉัน เราเป็นเพื่อนเหมือนเดิมได้ใช่ไหม”
กฤติยายิ้มให้
จู่ๆ ประตูห้องเปิดออก ชนิกานต์มองเข้าไปในห้อง เห็นภาพธีรดนย์ยืนกอดกฤติยาอยู่ ก็ตาลุกเป็นไฟ ธีรดนย์และกฤติยาตกใจ
“นิกกี้”
ชนิกานต์ปราดเข้ามากระชากตัวกฤติยาออกไปจากห้องทันที
ธีรดนย์ร้องห้าม “นิกกี้! อย่า”
ชนิกานต์ลากตัวกฤติยามาแล้วเหวี่ยงลงสระน้ำ ร่างกฤติยาตกลงไปในสระ ชนิกานต์กระโจนตามลงไปในสระน้ำ ประจันหน้ากับกฤติยา ขณะที่กฤติยาหวาดกลัวชนิกานต์
“พูดมาว่าภาพที่ฉันเห็นไม่เป็นความจริง”
กฤติยาเงียบ
“พูดออกมาสิว่าฉันเข้าใจผิด!”
กฤติยาร้องไห้ “ฉันขอโทษ”
ชนิกานต์ทั้งผิดหวังและเสียใจ “ฉันเปิดใจรับเธอเป็นเพื่อน เธอทำกับฉันได้ยังไง” ยิ่งพูดยิ่งโกรธ “ที่เธอพยายามทำดีกับฉัน อาสาเป็นแม่สื่อ เธอหลอกให้ฉันตายใจ เธอต้องการใกล้ชิดธี ต้องการแย่งธีไปจากฉัน”
“ไม่ใช่นะ ฉันไม่ตั้งใจ”
“ไม่ต้องแก้ตัว ฉันไม่เชื่อเธออีกแล้ว”
“ให้อภัยฉันเถอะ จะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก”
“ฉันเคยบอกเธอ ฉันไม่ยอมให้ใครแย่งธีไปได้ จำได้ไหม จำได้ไหม”
ชนิกานต์ทะยานเข้าไปตบตีกฤติยาพัลวัน กฤติยาได้แต่ปัดป้อง ไม่คิดต่อสู้หรือทำร้ายชนิกานต์
ธีรดนย์วิ่งเข้ามา กระโดดลงไปปกป้องกฤติยา
“หยุดได้แล้ว”
ธีรดนย์เข้าไปดึงตัวกฤติยาออกห่าง กันตัวกฤติยาไว้
ชนิกานต์โกรธจัด “นายออกไป”
ชนิกานต์จะเข้าไปทำร้ายกฤติยา แต่ธีรดนย์ผลักออก
“เธอไม่มีสิทธิ์ทำร้ายแอน”
“นายลืมไปแล้วเหรอว่าเราเป็น…” ชนิกานต์ขู่
ธีรดนย์กลัวชนิกานต์บอกความจริง “อย่านะ!”
กฤติยาแปลกใจว่าทั้งสองมีความลับอะไร?
ธีรดนย์บอกกฤติยา “เธอกลับห้องซะ”
กฤติยารีบเดินขึ้นจากสระ ธีรดนย์คอยดูแลไม่ห่าง พาเดินไปจากบริเวณสระ ชนิกานต์มองตาม คิดอะไรบางอย่าง
กัณฐิกามองหาชนิกานต์ เจอกับณวัตรที่นั่งทำงานอยู่มุมหนึ่ง
“คุณจะไปไหน”
“เอ่อ..ฉันเห็นหนูนิกกี้จะออกไปข้างนอก จะไปดูแลแกว่าเป็นอะไรรึเปล่าช่วงนี้ดูแกเศร้าๆ”
“ผมก็มัววุ่นกับงาน ผมฝากคุณช่วยดูแลแกด้วย”
“ค่ะ”
กัณฐิการีบออกไป เพื่อตามหาชนิกานต์ ณวัตรเป็นห่วงชนิกานต์ แต่ต้องรีบทำงานต่อให้เสร็จ
ธีรดนย์พากฤติยาจะกลับเข้าไปยังคฤหาสน์ด้านใน ชนิกานต์วิ่งตามเข้ามา ยื้อตัวกฤติยาไว้
“กลับมาก่อน ฉันมีเรื่องต้องบอกเธอ!”
ธีรดนย์รีบตัดบทบอกกฤติยา “รีบเข้าห้องไปซะ”
กฤติยาจะเดินเข้าไปด้านใน ชนิกานต์ตะโกนบอกกฤติยา
“ฉันเป็นแฟนกับธี ฉันเป็นของเขาแล้ว”
ธีรดนย์อึ้งที่ชนิกานต์บอกความจริง ส่วนกฤติยารู้เรื่องนี้ก็ตกใจ
สามคนอยู่ตรงมุมหนึ่งที่คฤหาสน์ณวัตร กฤติยายืนนิ่งอึ้ง หลังรู้ว่าชนิกานต์ตกเป็นของธีรดนย์แล้ว
“ได้ยินไหมว่าฉันเป็นของธี”
กฤติยาหันมาถามธีรดนย์ “นิกกี้พูดจริงใช่ไหม”
ธีรดนย์ไม่กล้าตอบรับ หลบหน้าวูบ กฤติยาจึงรู้ทันทีว่าจริง
“นายใจร้ายมาก นายไม่น่าทำอย่างนี้” กฤติยาด่า
ชนิกานต์เดินเข้ามาหากฤติยา “รู้ความจริงแล้วก็อย่าแย่งธีไปจากฉัน” จับตัวกฤติยาเขย่าๆ “ธีเป็นแฟนฉัน ฉันรักธี”
กัณฐิกาเข้ามาเห็นปราดเข้ามาดึงตัวชนิกานต์ออก เข้าไปปกป้องกฤติยา
“ปล่อยหลานฉันนะ แอน..มีเรื่องอะไรกัน”
กัณฐิกาสงสัยถามกฤติยา แต่กฤติยาไม่กล้าตอบ
ชนิกานต์พาลหันไปต่อว่ากัณฐิกา “เป็นแผนของแกใช่มั้ย”
“เธอพูดอะไร”
“แกจับธีไม่ได้ใช้หลานมาเป็นไม้สอง ถึงขั้นให้หลานบุกเข้าไปอ่อยปลุกปล้ำธี”
กัณฐิกาฉุนกึก “ฉันไม่เคยสอนให้ยัยแอนทำอย่างนั้น แล้วแอนก็ไม่มีวันทำเรื่องบัดสีอย่างที่เธอกล่าวหา”
ชนิกานต์ด่า “กล้าเถียงหน้าด้านๆ ถามหลานหน้าใสใจซื่อของเธอสิ ว่าทำงามหน้าอะไรไว้”
กัณฐิกาหันถามกฤติยา “แอน บอกน้า...เกิดอะไรขึ้น”
กฤติยาไม่กล้าพูดความจริง วิ่งหนีเตลิดไปที่คฤหาสน์ กัณฐิกานิ่งอึ้ง พอจะเดาเรื่องราวได้
“ยัยแอน”
ชนิกานต์เยาะเย้ยถากถาง “เป็นไง หลานสาวแสนดีวิ่งหนีความจริงไม่กล้าสู้หน้าฉัน แกยอมรับได้แล้วว่าเป็นแผนชั่วของแก เอาธีไปกินทั้งน้าหลาน”
“เลิกพูดเพ้อเจ้อได้แล้ว ถึงฉันจะดูแย่ในสายตาเธอ ฉันก็ไม่เคยคิดใช้ยัยแอนเป็นเครื่องมือ และฉันไม่เคยมีความคิดสกปรกอย่างใจเธอ”
กัณฐิกาวิ่งกลับไปหากฤติยา
ชนิกานต์โกรธจัด “อย่ามาย้อนด่าฉัน...กลับมาก่อน ลากตัวหลานแกมาคุยให้รู้เรื่อง!”
ชนิกานต์จะตามไป ธีรดนย์กันชนิกานต์ไว้
“หยุดอาละวาดได้แล้ว!”
ชนิกานต์เข้าสวมกอดธีรดนย์ไว้แน่น ร้องไห้ไม่ยอมปล่อย
ด้านสุตาภัญเข้ามาขอโทษสุรัมภา
“ภา...พี่ขอโทษนะ”
“ขอโทษภาเรื่องอะไร”
“พี่ทำให้คุณพ่อโกรธ ภาอดกลับบ้าน”
“ภาสิต้องขอโทษพี่ตา คุณพ่อเสียหน้าเสียใจเรื่องของภา”
สุตาภัญเข้าไปโอบกอดปลอบใจสุรัมภา
“อย่างน้อยก็น่าดีใจนะ ที่คุณพ่อตั้งใจมารับเรากลับบ้าน พี่เชื่อว่าอีกไม่นาน คุณพ่อต้องให้อภัยพวกเรา”
“ภาก็เชื่ออย่างนั้นค่ะ”
ทั้งสองกอดให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
กัณฐิกาเดินเข้ามาในห้องนอน กฤติยายืนหันหลังอยู่ หันกลับมามองกัณฐิกาทั้งสองมองหน้ากันสู้สายตากัน
“นิกกี้พูดเป็นความจริงค่ะ ภายนอกลูกของแม่หน้าใสใจซื่อ แต่ภายในชั่วช้าทำเรื่องเลวทราม”
กัณฐิกาเสียใจที่รู้ว่ากฤติยาได้เสียกับธีรดนย์
“ยัยแอน! ฉันไม่เคยสอนให้แกทำตัวอย่างนั้น ทำไม...ทำไม”
กัณฐิกาเข้ามาเขย่าตัวกฤติยา
“แอนขอโทษค่ะ แอนไม่รักดี ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ผู้ชาย ทำให้แม่ต้องโดนเขาด่า...แม่ตีแอนให้ตายไปเลย”
กฤติยาจับมือกัณฐิกาขึ้นมาตบหน้าตัวเองไม่หยุด กัณฐิกามองแล้วจับมือกฤติยาไว้
“พอเถอะลูก”
กฤติยามองกัณฐิกาด้วยความแปลกใจกัณฐิการ้องไห้ออกมา
กฤติยาแปลกใจ “แม่”
“เพราะแม่ใช่ไหม? ลูกถึงประชด ทำตัวแบบนี้...แม่ขอโทษ”
กัณฐิกาโผเข้าสวมกอดลูกสาว กฤติยาแปลกใจที่กัณฐิกาไม่ต่อว่าหรือลงโทษตน
ส่วนชนิกานต์กอดธีรดนย์ไว้แน่น
“นายสัญญากับฉันสิ...นายจะรักฉันคนเดียว”
ธีรดนย์ ดันตัวชนิกานต์ออก “ฉันทำไม่ได้”
“นายรักแอน”
ธีรดนย์บอก “ฉันรักตา”
ชนิกานต์ผิดหวังและเสียใจ
“ฉันต้องทำยังไง เธอถึงหยุดพูดหยุดคิดเรื่องนี้” ธีรดนย์อึดอัด
ชนิกานต์เงียบ
“ลืมมันได้ไหม”
“นายลืมฉันได้ แต่นายลืมสิ่งที่ทำกับฉันไม่ได้”
ชนิกานต์วิ่งร้องไห้ออกไป ธีรดนย์ยืนมองตาม เครียดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
กัณฐิกายื่นยาคุมกำเนิด และแก้วน้ำให้กฤติยา
“กินยาคุม.... แล้วนอนซะ”
กฤติยากินยา แล้วดื่มน้ำตาม รู้สึกผิด
“แม่คะ แอน...”
“ไม่ต้องพูด...แม่รู้ว่าลูกประชดแม่...มันพลาดไปแล้ว ก็อย่าให้เกิดขึ้นอีก...มันไม่ใช่เรื่องผิดบาปชั่วชีวิต เราแก้ไขแก้ตัวได้”
“ค่ะ”
“ลูกนอนได้แล้ว...ตื่นเช้ามาก็เป็นวันใหม่ ชีวิตใหม่”
กฤติยาพยักหน้ารับฟังกัณฐิกาโดยดี กัณฐิกาจะเดินออกไปจากห้อง
“แม่”
กัณฐิกาหันกลับมามอง
“แม่นอนกับแอนได้ไหม”
กัณฐิกาน้ำตาไหลรินเดินกลับเข้ามาโอบกอดกฤติยา ทั้งสองแม่ลูกกอดกันร้องไห้
กฤติยารู้สึกสุขใจที่ได้สวมกอดแม่สมใจกับที่รอคอย
ชนิกานต์เดินเข้ามาในห้องทำงานพ่อ ณวัตรแปลกใจ
“คุณพ่อคะ”
ชนิกานต์ร้องไห้ แล้ววิ่งเข้ากอดณวัตร
“ลูกเป็นอะไร ไม่สบายใจเรื่องอะไร”
“นิกกี้คิดถึงคุณแม่ค่ะ”
“ไม่ต้องร้องนะ”
ณวัตรกอดปลอบใจลูกสาวชนิกานต์ร้องไห้ออกมา
ส่วนชนกชนม์โยนหลอดยากลิ้งลงพื้น หลังจากพี้เสร็จแล้ว
ชนกชนม์หยิบสร้อย ขึ้นมาดูภาพครอบครัว ร้องไห้อย่างเจ็บปวดใจ
“แม่ครับ...ผมคิดถึงแม่”
ชนกชนม์นอนกองอยู่กับพื้น สภาพเมายา ร้องไห้คิดถึงชลนิภา
ด้านธีรดนย์เข้ามากราบภาพถ่ายอุษา
“แม่เคยสอนให้ผมรู้จักควบคุมอารมณ์ ผมทำพลาดอีกแล้ว...ผมอยากให้แม่อยู่กับผม”
ธีรดนย์คิดถึงเหตุการณ์ในงานศพ ตอนดีดกีต้าร์ร้องหน้าโลงศพอุษา
เสียงเพลง “อิ่มอุ่น” ดังก้องในหัวของเด็กหนุ่ม
หลายชีวิตดำเนินไปตามบาทวิถีแห่งตนขับคลอกับบทเพลงอิ่มอุ่น
ชนกชนม์นอนเคลิ้มเมายา ภายในห้องคลุ้งด้วยควันยา ในแสงสลัว ชนกชนม์ฝันไปด้วยฤทธิ์ยา
เห็นชลนิภาเดินเข้ามาในห้อง แล้วนั่งลงข้างๆ ชนกชนม์ดีใจมาก ชลนิภานั่งลงเอาหัวชนกชนม์มานอนหนุนตัก ลูบหัวอย่างรักใคร่
ส่วนในห้องนอนกฤติยา กัณฐิกานั่งลูบหัวลูกสาวด้วยความรัก กฤติยาแบอุ่น รู้สึกดีใจคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น
ตอนกฤติยาไม่สบาย กัณฐิกาเอาผ้ามาเช็ดตัวให้
กฤติยารู้สึกอุ่นใจที่กัณฐิกาอยู่ข้างๆ ตน
เวลาเดียวกัน ภายในห้องนอนชนิกานต์ เห็นชนิกานต์นอนอยู่บนเตียง ณวัตรลูบหัวลูกสาวอย่างอ่อนโยน ชนิกานต์มองพ่อ คิดถึงเหตุการณ์ที่ณวัตรเอาเค้กวันเกิดให้ตอนเด็ก ชนิกานต์เป่าเค้กมีความสุข
ชนิกานต์ดึงตัวเองกลับมา รู้สึกอบอุ่นที่เวลานี้มีณวัตรอยู่เคียงข้าง
ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 15 (ต่อ)
ส่วนที่ห้องนอนสุตาภัญเวลานั้น สุตาภัญนอนอยู่บนเตียงกับสุรัมภา สองพี่น้องนอนจับมือกัน สุตาภัญคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตตอนที่ตนดีดกีต้าร์ร้องเพลงกับสุรัมภาและเสาวนิตย์ โดยมีสุทินยืนปรบมือร่วมแจมอยู่ด้วย
สุตาภัญยิ้มสุขใจ เมื่อหวนคิดถึงภาพความสุขในครอบครัว
ส่วนในห้องนอนธีรดนย์ เด็กหนุ่มยังคงนั่งดีดกีต้าร์ร้องเพลงอยู่ต่อหน้ารูปอุษาในกรอบ
ขณะที่ชนกชนม์นอนหนุนตักชลนิภาที่ลูบหัวลูกชายอยู่อย่างมีความสุข
สุตาภัญนอนจับมือสุรัมภา หันหน้ามายิ้มให้กัน..ทั้งน้ำตา
ชนิกานต์นอนหลับแล้ว ณวัตรจูบที่หน้าผากด้วยความรัก อย่างอ่อนโยน
“พ่อจะดูแลลูกให้ดีที่สุด” ณวัตรบอกลูกสาวที่หลับอย่างมีความสุข
ฝ่ายกฤติยานอนหลับทั้งน้ำตา โดยมีกัณฐิกาเช็ดน้ำตาพร้อมกับให้คำมั่น
“แม่จะไม่ทำให้ลูกต้องเสียใจอีก”
ชนกชนม์ลืมตาตื่นไม่เห็นชลนิภา จึงรู้ว่าเมื่อสักครู่ตนฝันไป
“คุณแม่ครับ ผมรักคุณแม่”
ชนกชนม์นอนกอดสร้อย ร้องไห้ออกมาในสภาพเมามาย
ส่วนธีรดนย์หยุดนิ่งมองภาพอุษาร้องไห้โฮ
“ผมขอโทษครับแม่”
เช้าวันต่อมาสุตาภัญออกจากห้องกำลังจะไปมหาวิทยาลัย ชนกชนม์โผล่มาโดยใส่หน้ากากฮีโร่กระโดดพรวดเข้าหาสุตาภัญตกใจร้อง “ว้าย”
“ไม่ต้องกลัวจ้ะน้องสาว ฮีโร่คนนี้จะปกป้องน้องเอง”
ชนกชนม์ยืนเก๊กหล่อ สุตาภัญดึงหน้ากากออก แล้วดีดใส่หน้าชนกชนม์อย่างแรง
“โอ๊ย”
“เอาตัวเองให้รอดก่อนเหอะ”
“ฉันรอดสิ ฉันมีนางฟ้าเบอร์ห้าดูแล”
ชนกชนม์จับมือสุตาภัญ แบออกสุตาภัญแปลกใจ
“ฉันมีของจะให้”
ชนกชนม์ทำเหมือนเอาของใส่มือ พอสุตาภัญเปิดดู แต่กลับไม่เห็นอะไร
“เลิฟๆ”
ชนกชนม์ทำนิ้วเป็นท่าไอเลิฟยูส่งให้สุตาภัญ
“แหวะ”
สุตาภัญทำท่าอ้วกใส่ แล้วเดินหนีออกไป ชนกชนม์วิ่งตาม
“รอด้วย”
สุตาภัญเดินหนีมาอีกมุมหนึ่ง ชนกชนม์วิ่งเข้ามาขวางไว้ สุตาภัญจะหนีไปซ้าย ชนกชนม์ก็ดักทางซ้าย สุตาภัญจะหนีไปขวา ชนกชนม์ก็ดักขวา สุตาภัญจะหนีไปอีกทาง ชนกชนม์ขวางไว้ สุตาภัญกำหมัดจะต่อย
“หลบไปนะไม่งั้นโดน”
ชนกชนม์หลับตา ไม่ยอมหนีไปไหน สุตาภัญชะงักหมัดค้างไว้ ไม่กล้าต่อย
ชนกชนม์ยิ้มแฉ่งให้สุตาภัญ แล้วจับมือเอาของบางอย่างยัดใส่ในมือ
“อะไรของนายเนี่ย”
สุตาภัญแบมือออก จึงเห็นเป็นสร้อยล็อกเก็ตครอบครัวชนกชนม์
“สร้อย”
ชนกชนม์หยิบสร้อยบนมือสุตาภัญ แล้วเดินอ้อมไปข้างหลังสุตาภัญ
“หัวใจเธอว่าง ไม่ต้องดูแลใครแล้ว”
ชนกชนม์หยิบสร้อยไปคล้องคอให้สุตาภัญ
“ดูแลครอบครัวฉัน ชีวิตฉันเป็นของเธอ..เป็นนางฟ้าของฉันคนเดียว”
ชนกชนม์หันมองหน้าจับมือสุตาภัญ
“วันไหนที่เธอไม่ต้องการฉัน เอาสร้อยคืนให้ฉัน”
สุตาภัญยิ้มให้พลางบอก “ฉันจะดูแลมันให้ดีที่สุด”
ชนกชนม์ยิ้มให้สุตาภัญรู้สึกดี จะเข้าไปหอม แต่สุตาภัญดันหน้าออก
“ได้คืบจะเอาศอก”
สุตาภัญศอกใส่ชนกชนม์ แล้วเดินออกไป ชนกชนม์จุก แต่รีบตามสุตาภัญไป
ฝ่ายสุรัมภาอยู่ในห้องพัก รีดผ้าเช็ดหน้าของชนกชนม์ พับแล้วหยิบขึ้นมาหอม อย่างมีความสุข ได้ผ้าเช็ดหน้าเป็นตัวแทนของชนกชนม์
“ขอบคุณพี่ชนม์มากนะคะ ที่เป็นกำลังใจให้ภา”
เวลาเดียวกัน ชยางกูรแต่งชุดนักศึกษา เหมือนกำลังจะออกไปเรียนหนังสือ ชลนิภาเดินเข้ามาหา
“วันนี้กูรมีเรียนแต่เช้า กูรไม่ทานข้าวนะครับ” ชยางกูรยกมือไหว้ แล้วจะเดินออกไปที่รถ
ชลนิภาพูดเสียงเรียบ “ลูกก็รู้ว่าการโกหกมันบาป โดยเฉพาะการโกหกพ่อแม่”
ชยางกูรหน้าเสีย ตกใจ “คุณแม่”
“แม่ไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาของลูก”
ชลนิภาเล่าเรื่องให้ชยางกูรฟัง
บ่ายวานนี้ สองคนอยู่ในห้องพักอาจารย์ที่ปรึกษาที่คณะฯของมหา’ลัย อาจารย์รายงานเรื่องของชยางกูร
“ชยางกูรไม่มาเรียนเกือบเดือนแล้วครับ”
“เป็นไปได้ไงคะ...ลูกฉันออกมาเรียนทุกวัน” ชลนิภาตกใจ
“แกบอกว่าคุณแม่ไม่สบาย ต้องเฝ้าไข้ ผมให้งานไปทำ แกก็ไม่เคยส่งงานสักชิ้น”
ชลนิภาหน้าเสียและตกใจกับเรื่องราวของชยางกูร
พอได้ฟังชยางกูรถึงกับหน้าเสีย ชลนิภาเดินเข้าไปถามดักคอ
“ลูกคงไม่แก้ตัวว่าอาจารย์ใส่ร้ายลูก”
“คุณแม่ครับ กูรขอโทษ”
ชยางกูรร้องไห้ ยกมือไหว้ขอโทษชลนิภา
“มันเกิดอะไรขึ้น ลูกถึงทำตัวเหลวไหล ไม่เรียนหนังสือ ติดการพนัน”
ชยางกูรยังโกหกเช่นเคย “เพื่อนมันหลอกกูรครับ กูรพยายามเลิก แต่มันโกง หลอกกูรเซ็นสัญญากู้เงิน ถ้ากูรไม่ใช้หนี้ มันจะฆ่ากูร”
ชลนิภาได้ฟังก็ตกใจ สงสารชยางกูร
“ลูกติดหนี้เท่าไหร่”
“ห้าล้านครับ”
ชลนิภาตกใจกับจำนวนหนี้สินที่มากมาย ชยางกูรเครียดไม่มีทางออก ชลนิภามองชยางกูรแล้วตัดสินใจ
“เอาเงินแม่ไปใช้มันให้หมด”
“คุณแม่” ชยางกูรซึ้งน้ำใจก้มกราบเท้าแม่ ชลนิภาเข้ามาโอบกอด
“กูรผิดไปแล้ว กูรขอโทษครับ”
“กลับตัวกลับใจใหม่...กลับมาเป็นลูกที่ดีของแม่นะลูก”
ชลนิภาโอบกอดให้กำลังใจลูกชาย ชยางกูรร้องไห้เสียใจ ซึ้งในความรักของแม่
ฝ่ายชนิกานต์แต่งชุดนักศึกษา เดินลงมาเจอธีรดนย์ดักรออยู่
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”
“ถ้าจะบอกลาฉัน ไปจากที่นี่ไม่ต้องเสียเวลา ฉันไม่ยอมให้นายไป”
“ไม่อยากให้ฉันไป ก็ทำตามที่ฉันขอ”
ชนิกานต์งวยงง แปลกใจว่าธีรดนย์จะยื่นข้อเสนออะไร
ไม่นานต่อมา ธีรดนย์ก้มลงกราบณวัตร แล้วบอกณวัตร
“คุณท่านครับ ผมขอรบกวนอาศัยอยู่ที่นี่ต่อสักพักครับ”
“ทำไมนายเปลี่ยนใจ? เกี่ยวกับนิกกี้รึเปล่า”
ชนิกานต์เดินเข้ามาบอกณวัตร
“ใช่ค่ะคุณพ่อ”
“มีเรื่องอะไรกัน”
ณวัตรสงสัย หันไปมองธีรดนย์ ชนิกานต์ตอบแทน
“นิกกี้มีงานกลุ่มที่ต้องทำร่วมกับนายธี นายธีย้ายไปแล้วใครจะช่วยนิกกี้ล่ะคะ”
ณวัตรถามธีรดนย์ให้แน่ใจ “นายตกลงใจตามนี้”
“ครับ”
“งั้นเรียนจบก็ค่อยย้ายออกไป”
ณวัตรบอก ชนิกานต์ยิ้มพอใจที่ธีรดนย์จะอยู่ที่นี่ต่อ
“ครับ”
“มาพร้อมหน้าก็ดีแล้ว...นิกกี้...ธีรดนย์ ฉันมีเรื่องจะให้ช่วย”
ชนิกานต์และธีรดนย์แปลกใจว่าเป็นเรื่องอะไร?
ที่โต๊ะหน้าคณะ สุตาภัญตกใจและตื่นเต้นกับสิ่งที่ชนิกานต์บอก
“จัดงานเปิดหมู่บ้านโครงการใหม่”
“ถูกต้องจ้ะ คุณพ่อบอกให้พวกเราช่วยกันคิดรูปแบบงาน มีค่าขนมให้ด้วยนะ ไหวไหม”
“ไหวสิจ๊ะ งานสร้างสุข สุตาภัญถนัด” สุตาภัญยิ้ม
“ฉันช่วยด้วยคน” ชนกชนม์ถามธีรดนย์ “ธี ว่าไง”
“ฉันหมดสิทธิ์ปฎิเสธ...เหลี่ยมบังคับ” ธีรดนย์ว่า
“นิกกี้ รูปแบบงานเป็นไง” สุตาภัญถาม
“ไม่รู้”ชนิกานต์ว่า
“เอ้า...ไม่รู้จะช่วยไงอ่ะ” สุตาภัญอึ้ง
ธีรดนย์ไกด์ “คุณท่านอยากสร้างภาพลักษณ์บ้านแห่งความสุขความอบอุ่นในครอบครัว... ตาเก่ง..ธีเชื่อว่าตาคิดได้”
“ขอเวลาคิดคอนเซ็ปท์ แล้วจะแจงงานว่าใครต้องทำอะไร..โอเค๊”
ทุกคนประสานเสียง “เค”
สุตาภัญและทุกคนยิ้มแย้มอย่างมีความสุข พร้อมช่วยกันทำงาน
“บ้านแห่งความสุข” สุตาภัญพึมพำครุ่นคิดนึกถึงคอนเซ็ปท์งานตาเป็นประกาย
ฝ่ายเสาวนิตย์เอากาแฟมาเสิร์ฟให้สุทิน
“ฉันไม่ดื่ม”
สุทินจะลุกหนีไป เพราะยังโกรธเสาวนิตย์
“ฉันขอโทษที่พูดอย่างนั้นต่อหน้าคุณชลนิภา ฉันไม่ได้ตั้งใจหักหน้าคุณ แค่อยากให้คุณยอมรับความจริง”
“ความจริงที่ว่าลูกสาวเราทำตัวเหลวแหลก คบนักเลง”
เสาวนิตย์พูดไม่ออก
“ฉันให้อภัยไม่ได้” สุทินเสียงแข็ง
“คุณถามความจริงจากลูกรึยังคะ”
“ไม่ต้องถาม ฉันเห็นกับตา”
“บางทีสิ่งที่เห็นอาจไม่จริงก็ได้ หลายครั้งที่คุณเข้าใจฉันผิด เพราะคุณคิดไปเอง เราต่างเข้าใจผิดกันได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ เราควรหันหน้ามาคุยกัน”
เสาวนิตย์พูดให้ข้อคิดสามี สุทินไม่ค่อยพอใจนัก
“ถ้าฉันเลือกได้ ฉันอยากให้เธอเป็นใบ้เหมือนที่เคยทำ ดีกว่าพูดเพ้อเจ้ออย่างนี้”
สุทินเดินหนีขึ้นห้องเสาวนิตย์พูดตามไล่หลัง
“ฉันดีใจนะคะ ที่คุณตั้งใจรับลูกกลับบ้าน”
สุทินยังคงฟอร์มจัด เดินหนีขึ้นห้องไป เสาวนิตย์ยืนยิ้มดีใจ เพราะอย่างน้อยก็สุทินเริ่มใจอ่อนลง
เวลาผ่านไปอีกหลายวัน
ตรงมุมหนึ่งของโครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งใหม่ของณวัตร วีรภัทรจูงมือนิธิและนัชชามายังโครงการ ณวัตรเข้าไปต้อนรับ
“ขอบคุณคุณวีรภัทรกับคุณนัชชามากนะครับที่ให้เกียรติเป็นพรีเซนเตอร์โครงการบ้านของผม”
“ด้วยความยินดีครับ”
“ดิฉันกับครอบครัวต้องทำอะไรบ้างคะ” นัชชาถาม
“ต้องถามโปรดิวเซอร์ใหญ่ของงาน หนูสุตาภัญ”
ณวัตรหันไปทางมุมหนึ่ง เห็นสุตาภัญเดินเข้ามาไหว้วีรภัทรและนัชชา
“สวัสดีค่ะคุณอา”
วีรภัทรกับนัชชารับไหว้ นัชชาไม่ค่อยพอใจนักที่เจอสุตาภัญ
“แฟนพี่ชนม์คนสวย” นิธิเข้าไปกอดสุตาภัญ
วีรภัทรถาม “ชนกชนม์มาช่วยงานด้วยรึเปล่า”
“มาค่ะ”
นัชชาหน้าตึงไม่พอใจเล็กน้อย
“เย๊ นิธิจะได้เจอพี่ชนม์” นิธิดีใจ
“เชิญด้านในค่ะ ตาจะแจ้งคิวงานและรายละเอียดทั้งหมด” สุตาภัญบอก
“เชิญครับ” ณวัตรเชื้อเชิญ
วีรภัทรหันไปจูงมือนัชชา นัชชาเดินตามเข้าไป
ด้านชนกชนม์แอบมองเหตุการณ์อยู่ที่มุมหนึ่ง เห็นสุตาภัญกำลังบอกคิวให้ครอบครัววีรภัทรก็กังวลใจ สุรัมภาเข้ามาหาพอดี
“คุณพ่อพี่ชนม์มา ไม่ออกไปพบล่ะคะ”
“พี่กลัวอ่ะ..คดีเก่ายังเคลียร์ไม่จบเลย”
“ไม่ต้องกลัวค่ะ ถ้าพี่ชนม์ถูกดุร้องไห้งอแง ภาซับน้ำตาให้”
พลางสุรัมภาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาโชว์ชนกชนม์
“ของพี่นี่ เอาคืนมาเลย”
สุรัมภาดึงกลับ “ไม่ให้ค่ะ ของที่ระลึกแทนใจ”
ชนกชนม์อึ้งเล็กน้อยที่สุรัมภายังพูดเรื่องนี้เหมือนยังตัดใจจากเขาไม่ได้ ก่อนจะพูดอะไรอีก สุตาภัญเดินเข้ามาบอกชนกชนม์
“เรียบร้อยแล้ว”
“เรียบทั้งร้อยสิไม่ว่า เธอไม่น่าเชิญครอบครัวคุณพ่อฉันมาเลย” ชนกชนม์ว่า
“เชื่อฉัน วันนี้จะเป็นวันดีของนาย ไปเปลี่ยนชุดกันได้แล้ว ใกล้ถึงเวลาเปิดงานแล้ว”
“ค่ะ”
สุรัมภารับคำแล้วเดินออกไป ชนกชนม์หันไปบอกสุตาภัญ
“แต่ฉัน...”
สุตาภัญจ้องหน้า “อะไรอีก อย่าเยอะ!”
“ตื่นเต้น...ขอกำลังใจหน่อย”
ชนกชนม์อ้อล้อ อ้าแขนรอให้สุตาภัญมาให้กอด สุตาภัญเดินเข้ามาแต่ผลักอกชนกชนม์ออก
“ไปได้แล้ว”
ชนกชนม์รีบวิ่งออกไป สุตาภัญมองตามแล้วยิ้มฮึด พร้อมที่จะเริ่มงาน
ส่วนชยางกูรยื่นเงินให้เฮียปรัชญา ที่ออฟฟิศในบ่อน
“หนี้ทั้งหมด...จบเรื่องแล้ว...ฉันจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก”
ชยางกูรจะเดินออกไป ลูกน้องปรัชญาขวางไว้
“อะไรกัน” ชยางกูรงง
“แกจ่ายหนี้ไม่ครบ” ปรัชญาว่า
“ฉันคืนให้หมดแล้ว ห้าล้าน” ชยางกูรโวย
ปรัชญาหันไปทางเพทายเป็นเชิงบอก เพทายยื่นใบสัญญาให้ชยางกูรดู
“เจ็ดล้าน!”
ชยางกูรโกรธมาก “แกโกงฉัน”
ปรัชญาตบหน้าชยางกูร “อย่าใช้คำว่าโกงกับเฮีย...เฮียไม่ชอบ”
“ฉันยืมแกแค่ห้าล้าน”
ปรัชญาเยาะ “แกจ่ายช้า มันก็เลยออกดอกมาอีกสองล้าน”
ชยางกูรฉีกสัญญาทิ้ง “พวกแกโกง ฉันไม่มีจ่ายให้แล้ว!”
ชยางกูรจะเดินออกไป ลูกน้องปรัชญาชักปืนขึ้นมาขู่ ชยางกูรตกใจ
“แกยังมีทางเลือก ฉันไม่อยากได้เงิน แต่อยากได้คน”
ชยางกูรแปลกใจว่าปรัชญาต้องการใคร
“ฉันต้องการแฟนพี่แก”
เฮียปรัชญานึกถึงตอนที่ลดกระจกรถ มองดูสุตาภัญที่มหาวิทยาลัย และตอนที่เห็นสุตาภัญเข้ามาช่วยชนกชนม์
“สุตาภัญ” ชยางกูรนึกออก บอกปรัชญา “แกชอบใครก็จัดการเอาเอง ฉันไม่ยอมเป็นขี้ข้าแก”
ชยางกูรจะเดินหนีไป ปรัชญาควักปืนออกมาจะยิง ชยางกูรตกใจ ปรัชญาเหนี่ยวไกปืนขู่ๆแล้วทำเสียงปืน
“ปัง”
ชยางกูรกลัวตาย ตกใจสุดขีด ทรุดตัวลง ร้องเสียงหลง “อย่า”
ปืนปรัชญาไม่มีกระสุน ปรัชญาบอกชยางกูร
“เอาผู้หญิงคนนั้นมาสังเวยฉัน แล้วแกจะหมดปลอดภัย”
ปรัชญาหัวเราะชอบใจ ชยางกูรกลัวมาก รู้ว่าปรัชญาเอาจริง
ท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านจัดสรรของณวัตร ตอนสายวันนั้น แสนสดใส เห็นลูกโป่งและป้ายงาน เขียนข้อความเด่นหรา
“บ้านในฝัน..ที่คุณฝันถึง”
สุตาภัญแต่งชุดเป็นพิธีกรประจำงานเปิดหมู่บ้านโครงการใหม่ของณวัตร
“ยินดีต้อนรับท่านผู้มีเกียรติเข้าสู่งานเปิดตัวโครงการใหม่ บ้านในฝันที่คุณฝันถึง....เราขอนำเสนอบ้านที่พร้อมสรรพไปด้วยพื้นที่สำหรับครอบครัว”
ครู่ต่อมาณวัตรพาแขกเดินเยี่ยมชมห้องรับแขกที่กว้างขวาง โอ่อ่า ตกแต่งด้วยเครื่องเรือนชั้นดี ดูทันสมัย
เสียงสุตาภัญ บรรยายต่อ “ขยายห้องนั่งเล่นให้กว้างขวาง รองรับครอบครัวใหญ่”
กัณฐิกานำแขกออกมาชมสวนหน้าบ้าน ซึ่งมีเตาปิ้งบาบีคิววางไว้มุมหนึ่ง
“และพื้นที่สนามในตัวบ้าน สำหรับปาร์ตี้สังสรรค์”
เสียงสุตาภัญบรรยายเสริม และสุตาภัญอยู่บนเวทีเล็กๆ ประกาศบอกแขกในงาน
“นอกจากนั้น พื้นที่ส่วนกลาง ก็ออกแบบพิเศษสำหรับความสุขของทุกคนในครอบครัว”
ภายในสปอร์ตคลับของหมู่บ้าน เห็นณวัตรกำลังออกกำลังกาย มีกัณฐิกาเดินถือแก้วน้ำส้มมาให้
ณวัตรดื่มน้ำส้มเสร็จ กัณฐิกาเข้าไปซับเหงื่อให้ณวัตร ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
ขณะเดียวกันธีรดนย์และชนกชนม์กระโดดลงว่ายน้ำแข่งกัน มีชนิกานต์และสุรัมภาถือพู่ปอมๆ วิ่งเชียร์ทั้งสองคนที่ขอบสระว่ายน้ำ
ตามมาด้วยวีรภัทรและนัชชาจูงมือนิธิมาที่สระว่ายน้ำ นิธิกระโดดลงไปเล่นน้ำพร้อมกับกับวีรภัทรและนัชชา
ส่วนณวัตรและกัณฐิกาโอบกอดกันอยู่ที่ริมสระน้ำ ขณะที่ธีรดนย์ ชนกชนม์ ชนิกานต์และสุรัมภาแย่งลูกบอลในน้ำอย่างสนุกสนาน
สุตาภัญเดินมาที่สระน้ำ ประกาศบอกแขกที่ยืนดูที่มุมหนึ่ง
“ภาพแห่งความสุข จะเกิดขึ้นที่นี่ ณที่แห่งนี้ เพราะนี่คือ...”
สุตาภัญทอดเสียงค้างค่ำให้ ชนกชนม์ ธีรดนย์ ชนิกานต์ สุรัมภา วีรภัทร นัชชา นิธิ ณวัตรและกัณฐิกา หันไปพูดกับแขกในงานอย่างพร้อมกัน
“บ้านในฝันที่คุณฝันถึง”
แขกในงานปรบมือชื่นชมกับการนำเสนอที่น่าสนใจ
นักข่าวต่างกรูเข้าไปถ่ายภาพณวัตร กัณฐิกา ชนิกานต์ วีรภัทร นัชชาและนิธิ โดยมีชนกชนม์ ธีรดนย์ สุรัมภาร่วมถ่ายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
สุตาภัญยืนมอง ดีใจที่งานประสบความสำเร็จอย่างดี ท่ามกลางเสียงชัตเตอร์ และแสงแฟลชวูบวาบจากกล้องที่ถ่ายภาพครอบครัวอย่างต่อเนื่อง
ด้านสุรเดชอยู่ในตึกร้างแหล่งมั่วสุมแก๊งลูกเทวดา กำลังหยิบอุปกรณ์จะเล่นยาเสพติด กฤติยาเข้ามาแย่งหลอดโยนทิ้ง
สุรเดชไม่พอใจ “มาทำไม”
“พี้ยาไม่มีวันหยุด...อยากตายนักรึไง” กฤติยาด่า
“ฉันจะเป็นจะตายก็เรื่องของฉัน เธอมายุ่งอะไรด้วย ไม่รักฉันก็ไม่ต้องสนใจ”
“แกตายแล้วฉันจะอยู่กับใคร...เลิกเถอะ...มันไม่ทำให้ชีวิตพี่ดีขึ้นหรอก...ฉันเป็นห่วงนะ”
สุรเดชอึ้งไม่รู้กฤติยามาไม้ไหน “น้องแอน”
“เลือกเอา...อยากตายบนกองยา” กฤติยาหันไปมองเพื่อนสุรเดชที่นอนเคลิ้มยาไม่ได้สติอยู่ “หรือ เป็นแฟนฉัน”
พูดจบกฤติยาเดินออกไป สุรเดชมองตามอย่างแปลกใจและครุ่นคิดตัดสินใจ
กฤติยาจะเดินออกไปนอกตึกร้างแล้ว สุรเดชเข้ามาคว้ามือให้หันมา พลางถาม
“ทำไมถึงเลือกพี่”
“ไม่มีเหตุผล”
“อกหัก ประชดรัก หรือใช้พี่เป็นเครื่องมือเย้ยใคร”
สุรเดชรอฟังคำตอบ กฤติยามองหน้านิ่งๆ
“พี่ยังรักฉันรึเปล่า?”
“รัก รักสุดๆ” หนุ่มกะล่อนบอก
“ฉันเหนื่อยจะวิ่งไล่ตามคนอื่น....ฉันขอเลือกคนที่รักฉัน”
สุรเดชดีใจโผเข้ากอดกฤติยา ตะโกนลั่น
“พี่เดชดีใจที่สุดในโลก”
“ไปกับฉัน”
“ไปไหน” สุรเดชแปลกใจ
ระหว่างนั้นเปี๊ยกยืนมองอยู่ที่มุมหนึ่ง ไม่พอใจที่สุรเดชจะไปกับกฤติยา
ส่วนสุตาภัญประกาศบอกแขกในงานเปิดโครงการต่อ
“เชิญทุกคนเข้าชมโครงการได้เลยค่ะ อีกสักครู่เราจะมารวมตัวทำกิจกรรมครอบครัวค่ะ”
แขกทุกคนต่างทยอยเดินเข้าไปดูแบบบ้านตัวอย่าง ให้ความสนใจโครงการมาก ณวัตรและกัณฐิกาเดินเข้ามาหาสุตาภัญ
“ไอเดียหนูดีมาก ลูกค้าสนใจสั่งจองบ้านหลายราย หนูตาเก่งมาก” ณวัตรชม
“ขอบคุณมากค่ะ”
ชนิกานต์เดินยิ้มแป้นเข้ามาหาณวัตร
“ชมแต่ยัยตา แล้วลูกสาวล่ะคะ”
“คนนี้ไม่ต้องพูดถึง ลูกพ่อเก่งที่สุด”
“น้าภูมิใจในตัวหนูนิกกี้นะจ๊ะ”
ชนิกานต์ฝืนยิ้มให้กัณฐิกา แล้วบอกณวัตร
“นิกกี้ขอตัวไปเตรียมงานด้านโน้นก่อนค่ะ”
ชนิกานต์ลากตัวสุตาภัญออกไป ณวัตรเห็นชนิกานต์ยังไม่ยอมรับกัณฐิกา ก็ปลอบใจ
“อย่าโกรธแกนะครับ”
“กัณเข้าใจค่ะ”
“หนูแอนล่ะ ยังไม่เห็นเลย” ณวัตรนึกขึ้นได้
“แกไปหาเพื่อน บอกว่าจะตามมาค่ะ”
ณวัตรยิ้มให้แล้วเดินเข้าไปต้อนรับแขก กัณฐิกามองหากฤติยา แปลกใจที่กฤติยายังไม่มา“ยัยแอนไปไหนนะ”
ตรงมุมหนึ่งในงาน ชนกชนม์กำลังเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมผ้าบาติก จู่ๆ มีมือใครคนหนึ่งมาปิดตาชนกชนม์
“ใครเอ่ย” นิธิถามยิ้มๆ
“อุลตร้าแมน” ชนกชนม์เล่นด้วย
“ไม่ใช่”
“เองกี้เบิร์ด”
นิธิยิ้มแป้น “ถูกต้องครับ”
นิธิทำหน้าเหมือนนก วี๊ดเสียงใส่ชนกชนม์หันไปหานิธิ แล้วก็กอดอย่างรักใคร่
“คิดถึงที่สุดเลย...” แล้วนึกได้ “รีบกลับไปหาคุณแม่เถอะ เดี๋ยวคุณแม่จะดุเอา”
“คุณแม่สั่งให้มาหาพี่ชนม์ครับ”
ชนกชนม์แปลกใจ
ระหว่างนั้นวีรภัทรและนัชชาเดินตรงเข้ามาหาชนกชนม์ ท่าทีชนกชนม์ประหม่า และกังวลใจมาก
ฟากสุรเดชบอกกฤติยา
“ไปรอที่รถนะ พี่ไปเอากุญแจก่อน”
กฤติยาพยักหน้า แล้วเดินออกไป สุรเดชจะเดินไปหาเปี๊ยก ที่เดินเข้ามา
“ไอ้เปี๊ยก กุญแจรถ ฉันจะไปกับน้องแอน”
“แกต้องเอาของไปส่งเฮีย ฉันเอายาใส่รถไว้แล้ว” เปี๊ยกบอก
“ฉันส่งให้ตอนเย็น...ขอไปกับแฟนก่อน”
เปี๊ยกกระชากตัวไว้ “ไม่ได้ แกก็รู้ว่าเฮียว่ารอของ ไม่งั้นแกโดนเล่นแน่”
“ช่างมัน..แฟนสำคัญกว่าเฮียเว้ย”
สุรเดชไม่สน กระชากกุญแจรถจากเปี๊ยก แล้ววิ่งไปหากฤติยา
“หาเรื่องอีกแล้ว”
เปี๊ยกส่ายหัว เสียงโทรศัพท์เปี๊ยกเข้า เปี๊ยกรับสายหน้าตาเป็นกังวล
“ครับเฮีย! จะรีบส่งยาครับ”
เปี๊ยกวางสายจะตะโกนเรียกสุรเดช แต่สุรเดชขับรถออกไปแล้ว
“ซวยแล้วไอ้เดช!”
ส่วนที่งานเปิดโครงการบ้านของณวัตร วีรภัทรและนัชชาเดินเข้ามาหาชนกชนม์
ชนกชนม์ยกมือไหว้สองคน “คุณพ่อ...คุณน้า”
วีรภัทรและนัชชารับไหว้
“น้านัชชาเขามาเรื่องจะคุยกับลูก”
วีรภัทรบอกพลางหันไปมองนัชชา...นัชชารู้สึกอายเล็กน้อย แล้วบอกชนกชนม์
“ฉันขอโทษที่เข้าใจเธอผิดที่สวนสนุก...ลูกนิธิบอกว่าเธอช่วยนิธิไว้ฉัน...ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไรครับ ขอแค่คุณน้าเข้าใจผม ผมก็ดีใจแล้วครับ”
“ลูกนิธิ ไปกันได้แล้ว”
นัชชาจูงมือนิธิออกไป ชนกชนม์รู้ดีว่านัชชายังไม่เปิดใจยอมรับตน วีรภัทรเข้ามาตบไหล่ปลอบ ให้แรงใจ
“อย่างน้อยก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี”
ชนกชนม์ยิ้มให้พ่อ
“พ่อขอโทษลูกเหมือนกัน พ่อแย่มากที่ไม่เชื่อใจลูก”
“ช่างมันเถอะครับ ผมจะจำวันนี้ วันที่พ่อกับน้านัชชารู้สึกดีกับผม”
“พ่อไปดูแลคุณนัชชาก่อน แล้วเจอกัน”
“ครับ”
วีรภัทรเดินออกไป สุตาภัญเดินเข้ามาหา
“มีความสุ๊ขความสุข...ยิ้มให้โลกแตกไปเลย”
สุตาภัญเข้ามาแซว ชนกชนม์จึงแกล้งฉีกยิ้มใส่สุตาภัญ ทั้งสองหัวเราะกัน
มุมหนึ่งของงาน กัณฐิกาชะเง้อมองหากฤติยา เห็นสุรเดชขี่รถเข้ามาจอด และกฤติยาลงจากรถ กัณฐิกาไม่พอใจ “ไอ้กุ๊ย”
กัณฐิกาไม่พอใจที่เห็นกัณฐิกาพาสุรเดชมาร่วมงาน
ขณะเดียวกันชนกชนม์ยิ้มให้สุตาภัญ
“ขอบใจนะที่ทำให้คุณพ่อน้านัชชาเข้าใจฉัน”
“ฉันไม่ได้ช่วยอะไรสักหน่อย”
“ออกแบบกิจกรรมให้ครอบครัวคุณพ่อมาเป็นเซเลบ ไม่ได้ตั้งใจงั้นสิ”
“ไม่ชอบรึไง”
“ชอบสุดๆ” ชนกชนม์จ้องมองสุตาภัญซึ้งๆ “หมายถึง....คนนี้”
สุตาภัญเขินอาย สุรัมภาวิ่งเข้ามาบอก
“พี่ชนม์คะ คุณแม่พี่มาค่ะ”
ชนกชนม์ตกใจหันไปถามสุตาภัญ “ฝีมือเธอ”
“ฉันไม่รู้เรื่อง.. คุณอาณวัตรคงเชิญมา”
สุตาภัญยืนยันว่าไม่ได้วางแผนให้ชลนิภามางานนี้ ชนกชนม์กังวลใจกลัวเกิดเรื่องอีก
ติดตาม "ลูกไม้หลากสี" ตอนที่ 16