เสือสมิง ตอนที่ 14
ประเดิมยิ้มนัยน์ตาเยิ้ม ปีศาจม้าบ้องแสยะยิ้มเขี้ยววาววับพร้อมจะขย้ำเขา ประเดิมยังคงไม่ได้สติเขามองเห็นเป็นสิ่งสวยงามหลอกตา
“ช่างงดงามอะไรเช่นนี้”
ประเดิมเห็นว่าปีศาจม้าบ้องหน้าตาสะสวย กำลังเดินเข้ามาหาเขาอย่าช้าๆ
มะค่ากับกินรีตามรอยเท้าม้าไปตามทาง กินรีก้มเอาไฟส่องดูพบว่ารอยเท้าม้าหายไป
“รอยเท้าม้าหายไปแล้ว”
มะค่าหน้าตื่น
“แย่แล้ว น้าประเดิมไม่รอดแน่”
กินรีวิตก มะค่าดึงหญ้าขึ้นมาดม แล้วได้กลิ่น เธอโปรยหญ้าลงกับพื้นดูทางลม แล้วสูดจมูกดม รู้ว่าไปทางไหน
มะค่ามั่นใจ
“น่าจะเป็นทางนี้นะ”
“ไปรีบไป”
มะค่านำทางไป กินรีตามไปติดๆ
ผีม้าบ้องกำลังจะขย้ำคอ ประเดิมไม่รู้ตัวหน้าตายังคงยิ้มแย้ม ทันใดนั้นมีท่อนไม้มาฟาดที่ใบหน้าของผีม้าบ้องกระเด็นไปโดยที่ยังไม่ทันกัด ประเดิมล้มลงสลบไป มะค่าเข้าไปประคอง ผีม้าบ้องตั้งตัวได้ร้องเสียงม้าออกมา กินรีเป็นคนเอาไม้ไปฟาด ผีม้าบ้องแววตากร้าวแยกเขี้ยวดูหน้ากลัว
“วอนซะแล้วนังนี่”
กินรีกล้าๆกลัวๆ แต่ยังถือไม้ระวัง มะค่าเตือน
“พี่กินรีระวังนะ...”
กินรีกระชับไม้ในมือแน่น
“เข้ามาเลยไอ้ผีบ้า”
ผีม้าบ้องพุ่งเข้าใช้มือทั้งสองข้างตบท่อนไม้หักแล้วตบกินรีกลิ้งไปที่พื้น มะค่าตกใจ
“พี่กินรี”
ผีม้าบ้องย่ามใจตรงเข้ามาจะทำร้ายกินรี ทันใดนั้น คนรูสองผัวเมียโผล่ขึ้นมาป้องกันเอาไว้ทัน ทำให้ผีม้าบ้องกระเด็นไป กินรีรอดตายแล้วไปหามะค่าที่กำลังประคองประเดิมที่สลบอยู่ คนรูสองผัวเมียเตรียมต่อสู้ ผีม้าบ้องมองหยัน
“นึกว่าใคร ที่แท้ก็ไอ้พวกกินซากศพนี่เอง”
คนรูไม่สนใจพุ่งเข้าใส่และต่อสู้กับผีม้าบ้อง คนรูกับผีม้าบ้องผลัดกันรุกและรับ คนรูตัวเมียพลาดท่าได้รับบาดเจ็บ คนรูตัวผู้กำลังเพลี่ยงพล้ำ กินรีกับมะค่าตกใจ
“ท่าจะ.แย่แล้วพี่กินรี”
ผีม้าบ้องกำลังดึงคนรูตัวผู้ที่อ่อนแรงเข้ามาหมายจะกัดให้ตาย กินรีไม่รู้จะทำยังไง แล้วมองไปที่มีด มะค่ารีบบอกวิธี
“พี่กินรี มีด...เอามาแทงที่หัวใจมัน”
มะค่าพูดเสียงดัง ผีม้าบ้องได้ยินหันมา กินรีวิ่งไปคว้ามีดได้ทัน ผีม้าบ้องทะยานเข้าใส่กินรีมีดกระเด็นไป แล้วตรงเข้าไปหมายจะกัดกินรี แต่แล้วผีม้าบ้องก็หยุดชะงัก ตาเบิกโพลงด้วยความเจ็บปวด เลือดไหลออกมาจากปาก มะค่าเอามีดแทงหัวใจผีม้าบ้อง เลือดหยดลงพื้น ผีม้าบ้องล้มลงขาดใจตาย ทุกคนรอดตายแล้วมารวมกันมองร่างผีม้าบ้องที่ค่อยๆสลายไป คนรูพากันหนีหายไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นป่าทั้งป่าเปลี่ยนไปเป็นทุ่งโล่ง ประเดิมรู้สึกตัวแบบไม่รู้ไม่ชี้พลางบิดขี้เกียจ
“เฮ้อ...เช้าแล้วเหรอ”
ทุกคนมองประเดิมอย่างหมั่นไส้
งะดินเดแสยะยิ้มพอใจอยู่ในถ้ำแล้วหันไปมองพะอู
“ข้าช่วยพี่เจ้าอีกครั้งแล้วนะ...”
แววตางะดินเดดูน่ากลัวแต่ยิ้มให้ พะอูโล่งใจแล้วสำนึกในบุญคุณ
“ขอบคุณ ท่านบรรพบุรุษ”
“พ่อ...เรียกข้าว่าพ่อ”
พะอูไม่เข้าใจแล้วเรียกงะดินเดว่าพ่อเบาๆ
“พ่อ”
งะดินเดยิ้มอย่างพอใจ
เสือทศนั่งกินเหล้ากับเสือเรือง แล้วสอบถามถึงเรื่องที่ให้ไปจัดการ
“เป็นไงไอ้เรือง เรียบร้อยไหม”
“เรียบร้อยพี่ ไอ้พวกว้ามันบอกว่า จะให้ลงมือเมื่อไหร่ก็บอกมาเลย เงินดีๆแบบนี้มันชอบ”
เสือทศหัวเราะชอบใจ
“นี่แหละไอ้เรือง เขาเรียกว่าอำนาจเงินล่ะ เงินมันบันดาลได้ทุกอย่าง”
เสือชินเข้ามาสมทบ
“ไปไหนมาวะไอ้ชิน”
“ก็ไปหาความสุขกับเด็กๆมานิดหน่อย”
เสือเรืองต่อว่า
“ข้าขี่ม้าตากแดดตากลมแทบตาย เอ็งเสือกไปหาความสุขกับผู้หญิง น่าถีบนัก”
“ถึงฉันจะแอบไปมีความสุข ฉันก็เห็นอะไรดีๆนะพี่ทศ”
เสือทศสนใจขึ้นมาทันที
“เห็นอะไรวะ”
“ตอนที่พี่กับไอ้เรืองเปิดสมบัติเอาเงินกันน่ะ ฉันเห็นไอ้หินกับนังแก้วมันซุ่มดูพี่อยู่”
เสือทศหน้าตื่น
“จริงหรือวะ”
“จริงพี่”
เสือเรืองกังวล
“อย่างนี้ถ้าพ่อเสือกลับมาเราก็ซวยน่ะสิ”
เสือทศแววตากร้าว
“สงสัยต้องเร่งให้มันตายเร็วขึ้นอีกแล้ว ไอ้เรืองเอ็งรู้นะว่าควรจะจัดการยังไง”
“รู้พี่...”
เสือเรืองตอบรับทันที
แววนอนซมด้วยพิษไข้แต่ยังมีสติ แก้วคอยเช็ดตัวให้
“เป็นยังไงบ้างแม่”
“ครั่นเนื้อครั่นตัวยังไงก็ไม่รู้ เฮ้อ...หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ดันมาจับไข้เสียอีก”
“อย่าไปโทษตัวเองเลยแม่ ไม่มีใครอยากเป็นหรอก เดี๋ยวแม่กินข้าวต้มก่อนนะ”
แววสงสัย
“ข้าวต้ม...ใครต้นล่ะ”
จงใจอยู่ในครัวกำลังติดเตาหุงข้าวต้ม สักครู่ไฟก็ติด จงใจยิ้มดีใจ แก้วเดินเข้ามามองแล้วหัวเราะเพราะจงใจหน้าดำ
“พี่จงใจนี่ไม่เปลี่ยนเลยเข้าครัวทีไรหน้าต้องดำทุกทีเลย”
จงใจลูบหน้าตัวเองอายๆ
“แหมก็พี่ทำได้แค่นี้แหละ...” จงใจหัวเราะแก้เขิน “น้าแววสอนกี่ครั้งๆก็ไม่เคยจำ”
“ไปล้างหน้าล้างตาไป เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
จงใจลุกออกไป แก้วเรียกเอาไว้
“พี่จงใจ”
“มีอะไรหรือ”
“ขอบใจนะพี่”
จงใจพยักหน้าแล้วออกไปข้างนอกล้างหน้า...
หินเข้ามาที่บ้านกับลุงชมพร้อมยาสมุนไพร
“เป็นยังไงบ้างแวว” ลุงชมตรงเข้าไปหาแววทันทีแล้วตรวจอาการ
“ก็ปวดหัวปวดตัว”
ลุงชมจับชีพจร ตรวจอาการ จงใจล้างหน้าล้างตาเสร็จก็เข้ามานั่ง
“น้าแววเป็นอะไรมากไหมลุงชม”
“ไม่เป็นไร แต่เป็นไข้ธรรมดาเอายานี่ต้มกินสักสองสามวัน พักผ่อนเยอะๆก็จะหาย”
แววมีกำลังใจมากขึ้น แก้วยกข้าวต้มเข้ามา
“ข้าวต้มมาแล้วแม่”
หินกับจงใจช่วยกันประคองแววขึ้นมา
“ค่อยๆจ้ะ...”
แก้วป้อนข้าว ลุงชมมองดูอย่างชื่นชม
“เอ็งโชคดีนะแววมีลูกกตัญญูตั้งสามคน”
จงใจยิ้มอายๆ
“บุญใดไม่เท่ากับบุญที่เรากตัญญูกตเวทีต่อบุพการรีและผู้มีพระคุณหรอก ขอให้พวกเอ็งเจริญๆนะ ข้าไปล่ะ แล้วอย่าลืมกินยาตามที่ข้าบอกล่ะ”
ลุงชมออกไป แววได้รับความเอาใจใส่จากเด็กๆอย่างอบอุ่น มีแต่รอยยิ้ม
ประเดิมรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น จากกินรี และมะค่าก็ยิ้มโล่งใจ
“มันเป็นแบบนี้เอง ขอบใจนะทุกคนที่ช่วยฉัน...”
“แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมสถานที่ถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้” กินรีสงสัย
“มันคงใช้เวทมนต์ของมันพรางตาพวกเราน่ะพี่ พอมันตายเวทมนต์ก็เสื่อม” มะค่าอธิบาย
“ทำไมมะค่าถึงได้รู้เรื่องผีม้าบ้องนี่เยอะจัง” ประเดิมถาม
“แม่ฉันเป็นคนมาจากทางเชียงตุง ที่นั่นมีผีพวกนี้เยอะมาก แม่เล่าให้ฉันฟังตั้งแต่เด็กๆแล้ว”
ประเดิมรับรู้ กินรีมองไปรอบๆ
“นี่เราอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้”
ประเดิมถอนใจ
“หรือพูดอีกอย่างก็คือ...เราหลงทาง”
ทุกคนมองหน้ากันอย่างกังวล
ระรินนวดคลายเครียดให้ ภราดรที่นั่งอยู่ ระรินบีบขมับไล่ลงมาเรื่อยถึงหลัง ภราดรท่าทางสบาย
“เป็นยังไงคะหมอ”
“สบายดีจัง”
“หายปวดศีรษะบ้างไหมคะ”
“พอทุเลาลงบ้างแล้วล่ะ”
ระรินนวดต่อไปเรื่อยๆ ภราดรพูดเอาใจ
“คุณนี่ดีกับผมจังเลย”
“ก็เราเป็นคนรักกันนี่คะ อีกหน่อยก็ต้องแต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยาเรื่องแค่นี้มันเล็กน้อยสำหรับภรรยาอย่างระรินค่ะ”
หน้าภราดรเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“พอแล้วล่ะครับ ผมค่อยยังชั่วแล้ว”
“กลับไปคราวนี้ หวังว่าหมอคงคุยเรื่องนี้กับพ่อระรินนะ”
ภราดรยิ้มในใจอ้ำอึ้ง ขณะเดียวกันนั้น ตำรวจมาตามภราดรไปทำแผลให้เสือใจ
“หมอครับ ผู้กองศักดาเชิญให้ไปทำแผลให้เสือใจหน่อย”
“ได้สิ...ผมเอากระเป๋ายาก่อนเดี๋ยวตามไป”
ระรินยื้อไว้
“เดี๋ยวสิหมอ หมอยังไม่บอกระรินเลย”
“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว ผมไปก่อนนะ”
ภราดรตอบเลี่ยงๆ แล้วลุกไป ระรินมองตามงอนๆ
“เชอะ...พูดก็ไม่เต็มปาก”
แววนอนหลับแล้ว หิน แก้ว และจงใจออกมานั่งเล่นรับลมท่าทางสดชื่น
“พ่อจะเป็นยังไงบ้างนะ” จงใจเป็นห่วงเสือใจ
หินปลอบอย่างจริงใจ
“ลุงเสือเป็นคนเก่ง คงไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก”
แก้วเสริม
“ใช่...ลุงเสือเป็นคนดี พระย่อมคุ้มครอง”
จงใจรู้สึกมีกำลังใจ
“ขอบใจนะ”
เสือดำกับเสือเข้มรีบเข้ามาหาจงใจ
“พี่ดำ...พี่เข้ม เป็นยังไงบ้าง ได้ข่าวพ่อบ้างไหม”
“พวกมันกำลังเดินทางผ่านมา”เสือเข้มบอก
จงใจเป็นห่วงพ่อ
“แล้วพ่อล่ะ”
“พ่อเสือยังอยู่ดี แต่พวกมันคุ้มกันแน่นหนา” เสือดำเล่า
“ฉันจะไปช่วยพ่อ” จงใจตัดสินใจ
“ฉันด้วย”หินกับแก้วบอกพร้อมกัน
เสือเข้มบอกแผน
“พวกเราต้องไปช่วยพ่อเสือแน่ แต่ต้องรอให้มันผ่านมาในเขตของเราก่อน เราจะรวบรวมพี่น้องเข้าชิงตัวพ่อเสือ”
ทันใดนั้นเสียงเสือทศ ลอดเข้ามาอย่างไม่ค่อยพอใจ
“ฉะช้า...เดี๋ยวนี้ตั้งตัวเป็นหัวหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ไอ้เข้ม”
ทุกคนหันไปเห็นเสือทศ เสือเรือ
และเสือชินเดินออกมาจากเงามืด
“นี่เอ็งข้ามหัวข้าไปเลยหรือ” เสือทศไม่พอใจ
เสือเข้มปฏิเสธ
“ฉันเปล่านะพี่เข้ม”
“ใช่...ก็เราตกลงกันแล้วว่าจะช่วยพ่อเสือยังไง”
“ก็ถูกแต่ในฐานะที่ข้าเป็นลูกพ่อเสือ พวกเอ็งต้องปรึกษาข้าบ้าง”
เสือทศยกตนข่ม จงใจตัดบท
“เอาล่ะ ในเมื่อพี่ทศก็รู้แล้ว เราจะมานั่งอวดอำนาจกันอยู่ทำไม คิดหาทางช่วยพ่อเสือไม่ดีกว่าหรือ”
เสือทศเงียบลง ทุกคนเห็นด้วย
“อีกไกลไหมกว่าที่พวกเสี่ยรงค์จะมาถึงที่นี่”
“ก็อีกวันกว่าๆนั่นแหละ” เสือเข้มบอก
“งั้นดีแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะออกไปดูที่ดักซุ่มโจมดีพวกมันส่วนพวกเอ็ง ไปคอยสังเกตการณ์เหมือนเดิม”
“ฉันไปด้วย” จงใจบอกทันที
เสือทศยิ้มพอใจ
“ได้...แต่ต้องไปกับพี่ ไปกับไอ้เข้มไอ้ดำมันอันตราย ยังไงเสียพี่ก็ยังอยู่ในเขตเรา”
เสือเข้มเห็นด้วย
“ไปกับพี่ทศจะปลอดภัยกว่า”
จงใจจำใจ
“ก็ได้”
หินไม่ไว้ใจเสือทศ
“ฉันจะไปกับพี่จงใจ”
จงใจพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปบอกแก้ว
“แก้วอยู่ดูแลน้าแววนะ”
“จ้ะพี่”
เสือทศยิ้มพอใจ สายตาลอบมองเสือเรืองในใจมีแผน
ศักดายืนคุมเสือใจอยู่กับตำรวจ มีจ่าชิตและหมวดสมรักษ์ดูอยู่ห่างๆ ศักดามองแผลของเสือใจ
“แผลมันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรนี่นา...ทำเป็นสำออย”
สมรักษ์แทรกเข้ามา
“เอาน่าผู้กอง ไหนๆก็ไหนๆแล้ว หมอก็มี ยาก็มี เอามาใช้เถอะ”
“ไม่ต้องมาสอนผม รู้สึกหมวดจะดูแลไอ้เสือใจนี่มันเป็นพิเศษเลยนะ”
ศักดาไม่ค่อยพอใจสมรักษ์ จ่าชิตพูดช่วยสมรักษ์
“ก็แค่ผู้ต้องหา หมวดเขาก็ทำตามหน้าที่น่าผู้กอง”
สมรักษ์แดกดัน
“ใช่...คนอย่างผมไม่กินสินบนโจรหรอก”
เสือใจยิ้มแล้วมองศักดา ศักดาร้อนตัวโกรธๆ
“หมวดว่าใคร บอกมาเลยดีกว่า”
“เปล่านี่ ผมก็พูดไปตามที่ผู้กองกล่าวหาผม”
ยังไม่ทันที่ศักดาจะเอาเรื่องสมรักษ์ ตำรวจก็พาภราดรเข้ามา
“หมอภราดรมาแล้วครับผู้กอง”
ศักดารับรู้ แล้วสั่ง
“เอ้า...หมอ เพื่อมนุษยธรรม ทำแผลให้ผู้ต้องหาหน่อย”
“ได้ครับ”
ภราดรถือกระเป๋ายาไปใกล้ๆแล้วมองแผล เสือใจมองหน้าภราดรแล้วยิ้ม
“สวัสดีหมอ”
เสือใจแววตากร้าว ภราดรแสร้งหลบสายตาทำท่าทางกลัว เขาเอาเครื่องมือทำแผลออกมาแล้วจะเริ่มทำแผลแต่มันติดตรงที่มีเสื้อระเบิดจึงทำได้ไม่ถนัดและไม่ทั่วถึง เสือใจกระซิบ
“ให้ไอ้ผู้กองนั่นมาถอดเสื้อระเบิดออกก่อน หมอรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไงต่อ”
ภราดรส่งสายตาเข้าใจแล้วพูดเสียงดัง
“ถ้าไม่ถอดเสื้อนี้ออกผมทำไม่ได้หรอก”
จ่าชิตเข้าใจได้ทันที จึงช่วยพูด
“จริงด้วยผู้กอง”
ศักดาไม่ยอม
“ก็ทำมันเท่าที่ทำได้ก็พอ”
ภราดรยืนยัน
“ไม่ได้หรอกผู้กอง มันผิดจรรยาบรรณแพทย์”
ศักดาหงุดหงิด
“เออ เอาเข้าไป กูจะบ้าตาย คนหนึ่งมนุษยธรรม ส่วนอีกคนก็จรรยาบรรณ จ่าชิต จ่ามีอะไรกับเขาบ้างไหม...”
“ไม่มีครับ ผมมีแต่คติประจำใจครับ”
ศักดาเซ็ง
“ตำรวจโรงพักนี้มีใครเต็มบ้างเนี่ย...”
ทุกคนอมยิ้ม สักครู่ศักดาตัดสินใจ
“ได้...ทุกคนออกไปห่างๆให้หมด เหลือผมกับหมอ”
ศักดาเดินเข้าไปหาเสือใจ
เสือทศกระดกเหล้าอึกใหญ่ลงลำคอท่าทางพอใจ เขาหัวเราะร่า
“ในที่สุดฟ้าก็เป็นใจกับข้าอีกครั้ง”
เสือเรืองกับเสือชินอยู่ข้างๆ เสือเรืองเอาใจลูกพี่
“งั้นฉันไปแจ้งไอ้พวกนั้นก่อน”
“ดี...คราวนี้ข้าจะได้เป็นเจ้าของน้องจงใจแบบ สุภาพบุรุษ”
เสือชินยิ้มพอใจ
“ฉันก็จะไปจัดการเรื่องของฉัน แต่ก่อนไปขอแสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าบ่าว...เอ้า...ดื่ม”
ทั้งหมดชนแก้วกัน
ศักดาปลดเสื้อระเบิดออกจากตัวเสือใจ โดยเอาผ้าคำคลุมศีรษะเสือใจเอาไว้ไม่ให้เห็นกระบวนการ
ภราดรอยู่ใกล้ๆมองดูอยู่พยายามจำการถอดเอาไว้
“นี่กลัวฉันจำได้จนต้องเอาผ้าคลุมเลยหรือ”เสือใจเยาะ
“มันก็ต้องรอบคอบไว้ก่อน”
ภราดรพยายามหันหน้าไปทางอื่น แต่หางตามองเพราะกลัวศักดารู้ว่าแอบจำ แล้วแกล้งพูด
“ผมไปรอกับพวกหมวดสมรักษ์ได้ไหม”
“ไม่เป็นไรหรอกหมอ หมออยู่ที่นี่แหละ”
“ก็ได้...แต่ไม่ตูมตามแน่นะ ผมไม่อยากกลับบ้านแบบเป็นกล่อง”
“เชื่อมือผมเถอะน่า”
ศักดาลงมือปลดชนวน ภราดรมองเห็นทุกขั้นตอน บางขั้นตอนศักดาก็เอาตัวบังเอาไว้ไม่ให้ภราดรเห็น
เสือใจหลับตาจำความรู้สึกเอาไว้ว่าแต่ละขั้นตอนเขารู้สึกอย่างไรบ้าง ไม่นานนักศักดาปลดเสื้อออก
“หมอมีเวลา 15 นาที”
ภราดรรับรู้และเริ่มทำแผล สมรักษ์กับจ่าชิตมองอยู่ ศักดามองอย่างระวัง...เวลาผ่านไปภราดรทำแผลและพันแผลเสร็จ แล้วฉีดยาให้เสือใจ
“เรียบร้อยแล้ว ผมจะฉีดยาแก้อักเสบให้นะ”
ภราดรฉีดยาให้เสือใจที่แขนแต่ไม่เข้า ภราดรแปลกใจ เสือใจยิ้ม
“ขอโทษทีหมอ”
เสือใจท่องคาถาสองสมคำแล้วเป่าออกมาที่แขน
“เอ้า...ลองใหม่”
คราวนี้แทงเข้า ภราดรรู้สึกแปลกใจ
“เสือใจทำได้ยังไง”
“เขาเรียกว่าหนังเหนียว ผมถึงต้องคุมมันด้วยเสื้อนี้ไง ถอยไปหน่อยหมอ”
ขาดคำศักดาก็เอาเสื้อระเบิดมาสวมให้เสือใจโดยไม่ลืมคลุมใบหน้าเสือใจเหมือนเดิม ภราดรเห็นตอนใส่ชนวนด้วย
วันใหม่...เส้นทางเคลียร์เสร็จแล้ว เสี่ยรงค์พร้อมเดินทาง เขาออกมาดูเส้นทางกับอองไชยและศักดา เสี่ยรงค์ยิ้มแย้ม จนศักดาสงสัย
“วันนี้ท่าทางเสี่ยสบายใจจัง”
“แน่นอน เพราะเมื่อคืนฉันฝันดี พร้อมจะออกเดินทางหรือยัง”
“พร้อมแล้วผมขอไปตรวจความเรียบร้อยก่อน”
ศักดาขอตัวเดินจากไป อองไชยรู้สึกสนใจในความฝันของเสี่ยรงค์
“เมื่อคืนท่านฝันว่ายังไงรึ ท่านเสี่ย”
เสี่ยรงค์ยิ้มอย่างพอใจเมื่อนึกถึงความฝัน
ภราดรเก็บข้าวของแล้วนั่งดื่มกาแฟรอทุกคนเพื่อออกเดินทาง เขาท่าทางเบลอๆ ระรินคอยเอาใจ และพูดเรื่องการแต่งงานที่คุยค้างไว้เมื่อคืน
“กาแฟอีกไหมคะหมอ”
“ไม่ล่ะครับ”
ระรินท่าทางดีใจ
“วันนี้เราก็จะได้กลับไปนอนบ้านแล้วนะ...คิดถึงที่นอนนุ่มๆจัง”
“หวังว่าคงไม่มีเรื่องแบบนี้อีกแล้วนะ”
“แน่นอน ต่อไปนี้เราจะไม่ทำอะไรกันแบบนี้อีกแล้ว แล้วก็...กลับไปหมออย่าลืมพูดกับพ่อระรินนะ”
ภราดรทำเป็นงง
“เอ่อ...พูดเรื่องอะไรหรือครับ”
ระรินเซ็ง
“ก็เรื่องที่เราพูดค้างกันไว้เมื่อคืนไง”
ภราดรพยายามนึก
“ขอโทษนะผมจำไม่ได้จริงๆ”
ระรินเริ่มโกรธ
“สมองหมอเป็นอะไรไปเนี่ย”
“ไม่รู้สิ บางครั้งผมรู้สึกว่ามันเบลอๆ จำอะไรไม่ค่อยได้”
ก่อนที่ระรินจะทำอะไรต่อ จ่าชิตก็เข้ามาเรียกภราดร
“หมอครับ เชิญทางนี้หน่อย มีตำรวจไม่ค่อยสบาย”
“เอ่อ...ได้สิ ผมขอตัวก่อนนะคุณระริน”
ภราดรเดินตามจ่าชิตไป
จ่าชิตพาภราดรมาที่ที่ควบคุมตัวเสือใจ มีตำรวจนายหนึ่งไม่สบายท่าทางเป็นไข้ ภราดรเข้าไปดูอาการ
จ่าชิตกับสมรักษ์มาคุยกับเสือใจห่างจากภราดร
“เป็นไงบ้างไอ้ใจ”
“ค่อยยังชั่วแล้วว่ะ”
“แล้วไงต่อ”
เสือใจมองไปที่ภราดรกำลังตรวจอาการตำรวจ
“อีกครึ่งวันมันก็น่าจะถึงเขตของข้า ข้าเชื่อว่าต้องมีคนมาช่วยข้า”
“แล้วข้าต้องทำยังไง”
เสือใจแววตานิ่งสั่งการ
“เอ็งกับหมวดทำตามปกติ อย่าให้พวกมันสงสัยก็พอ”
สมรักษ์เป็นห่วง
“แล้วระเบิดล่ะ ถึงช่วยไปได้เสือใจก็ถอดชนวนระเบิดไม่ได้อยู่ดี มีแต่ผู้กองศักดา คนเดียวที่ถอดได้”
เสือใจมองไปทางภราดร
“หมวดรู้ได้ยังไงว่าไอ้ศักดามันถอดชนวนได้คนเดียว”
ภราดรเดินเข้ามาแจ้งจ่าชิต
“เรียบร้อยแล้วจ่า ผมฉีดยาให้แล้ว สักพักคงดีขึ้น”
“ขอบใจมากนะหมอ”
ภราดรยิ้มรับแล้วสบตากับเสือใจ
“ขอบคุณนะหมอ แล้วเจอกัน”
ภราดรท่าทางงงๆ ไม่เข้าใจว่าเจอกันเรื่องอะไร ศักดาเดินเข้ามาสั่งการ
“เอ้า...ทุกคน ขึ้นรถได้แล้ว พร้อมเดินทาง”
เสือใจถูกดึงตัวไปขึ้นรถ ทุกคนแยกย้ายกันขึ้นรถ
เสือเข้มกับเสือดำ ลอบมาวางระเบิด ตามเส้นทางที่เสี่ยรงค์ผ่าน และที่ที่กำหนดไว้ซุ่มโจมตี ทั้งสองคนวางระเบิดคนละสองลูกแล้วโรยสายมาซ่อนเอาไว้
“เป็นไงไอ้ดำ”
“เรียบร้อย เอ็งล่ะ”
“ของข้ามีร้อยก็เรียบ ไปรีบไปเตรียมพวกเรากันดีกว่า”
ทั้งคู่ออกไปจากที่นั่น
แววนอนซมอยู่ในบ้านด้วยพิษไข้ แก้วดูแลอยู่ใกล้ๆ
“เป็นยังบ้างแม่”
“ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ แต่มันก็ยังหนักหัวอยู่”
จงใจกับหินแต่งตัวทะมัดทะแทง แล้วเข้ามาหาแวว
“ดูแลน้าแววดีๆนะแก้ว”
“ไม่ต้องห่วงหรอก พี่กับหินระวังตัวด้วยก็แล้วกัน”
แววพยายามจะลุกขึ้นแล้วเตือนจงใจ
“อย่าไว้ใจมันนะ จงใจ”
แววหมายถึงเสือทศ จงใจพยักหน้ารับ
“จ้ะ”
เสียงเสือทศลอดเข้ามา
“ไว้ใจใครหรือน้าแวว”
แววจ้องตาเสือทศแบบไม่กลัว
“ทุกคนที่คิดไม่ดีกับชาวชุมเสือ”
“อืม...ฉันก็ไม่ไว้ใจคนแบบนี้อยู่แล้ว”
จงใจหันไปถามเสือทศ
“พี่เข้มกับพี่ดำล่ะ”
“ล่วงหน้าไปแล้ว เรารีบไปกันดีกว่า”
“ฉันไปก่อนนะน้า แก้ว...อย่าลืมเตรียมคนเอาไว้ล่ะ”
แก้วรับคำ
“ได้อยู่แล้ว”
จงใจ หิน และเสือทศออกไปด้วยกัน แววมองตามอย่างเป็นห่วง
กินรี ประเดิม และมะค่าเดินทางเข้ามาในป่าที่เริ่มมีต้นไม้ทึบ แล้วมาหยุดพักและทบทวน
“ฉันว่าเราเดินวนไปวนมาแล้วนะพี่ประเดิม” กินรีบอก
มะค่าสังเกตต้นไม้ข้างๆ
“ใช่...เรากลับมาที่เก่า ฉันจำต้นไม้ต้นนี้ได้”
ประเดิมกุมขมับ
“เฮ้อ...ทำไมเป็นแบบนี้นะ แล้วจะกลับบ้านยังไงเนี่ย เข็มทิศก็ไม่มี”
กินรีมองไปรอบๆแล้วคิดว่าต้องหาทางไปหาลำธาร
“ต้องหาทางไปลำธารให้ได้”
มะค่าสงสัย
“อะไรนะ ให้ไปหาลำธารหรือ”
“ใช่ ถ้าเจอลำธารเราก็จะกลับบ้านได้”
ประเดิมคิดออก
“จริงด้วย ตอนแรกน้าแววบอกว่าให้เราเดินทางเลาะลำธารไป แต่ลำธารเส้นนั้นมันเป็นเวทมนต์ของผีตัวนั้น เราต้องหาลำธารให้เจอก็จะกลับบ้านได้”
มะค่าเห็นด้วย
“จริงด้วย”
ประเดิมดีใจ
“ไชโย...”
กองคาราวานเสี่ยรงค์ออกเดินทางมาตามเส้นทางอย่างราบรื่น รถคันเสี่ยรงค์ มีอองไชยนั่งมาด้วย
“ท่านเสี่ยยังไม่บอกข้าเลยว่า ท่านฝันว่าอะไร”อองไชยยังสงสัย
“พอถึงแล้ว ท่านพรานก็จะรู้เอง”
อองไชยเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่เซ้าซี้
“นี่ท่านพรานข้าถามหน่อยสิ”
“มีอะไร”
“กษัตริย์มอญ บาเยงโบอะไรนั่นน่ะ เรืองอำนาจขนาดนั้นทำไมถึงถูกพม่ากลืนชาติล่ะ”
“ก็เพราะ หลังจากนั้น พวกมอญขาดความสามัคคี แก่งแย่งชิงดีกัน เกิดความอ่อนแอ เมื่อถูกพม่ารุกรานก็แทบหมดสิ้นเผ่าพันธุ์”
“ท่านนี่น่าไปอยู่กรมศิลปากรนะ”
เสี่ยรงค์หัวเราะอย่างสบายอารมณ์
จ่าชิตกับสมรักษ์นั่งอยู่บนรถอีกคัน
“นี่ใกล้จะเข้าเขตเสือใจแล้วนะหมวด”จ่าชิตกระซิบ
สมรักษ์รับรู้ แล้วเอาปืนมาตรวจสอบความพร้อม หมู่มองสมรักษ์และจ่าชิตและเข้าใจ เอาปืนมาเตรียมบ้าง...เสือใจถูกคุมตัวอยู่ในรถอีกคันนั่งนิ่ง ในใจเตรียมตัว ขบวนรถวิ่งผ่านไป
เสือทศเดินนำจงใจมาตามป่า หินตามมาและปิดท้ายด้วยเสือชิน
“ระวังหน่อยจงใจ”
จงใจรับรู้แล้วไม่พูดอะไร
“คอยดูนะ เจอไอ้เสี่ยรงค์เมื่อไหร่พี่จะตัดหัวมันเอาเสียบประจานที่ชุมเสือ”
หินทำท่าสำลักและไอ เสือทศรู้ว่าหินล้อเขา
“รองเท้าใครติดคอหรือหิน”
“รองเท้าเสี่ยรงค์พี่ ช่วยเขี่ยออกให้หน่อย แล้วช่วยตบแมงโม้ให้ด้วยก็ดีนะ บินว่อนไปหมดเลย รำคาญจะตายอยู่แล้ว พี่จงใจไม่รำคาญบ้างหรือ”
จงใจนึกขัน เสือทศเลือดขึ้นหน้า
“ไอ้หินนี่มึง”
เสือทศจะเข้าไปตบหินจงใจห้ามไว้เสียงเข้ม
“พี่ทศจะทำอะไร”
“ก็สั่งสอนมันน่ะสิ ตัวแค่นี้ปากกล้านัก”
จงใจมองหน้า
“ลูกผู้ชายเขาไม่ทำแบบนี้กันหรอก พ่อเสือถูกจับไปแบบนี้ยังมีอารมณ์มาทะเลาะกับเด็กอีก”
เสือทศหยุดมองหินตาขวาง
“จงใจก็บอกให้มันหยุดปากบ้าง ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่เกรงใจแล้ว”
จงใจพยักหน้ารับ หินทำเป็นมองโน่นนี่ไม่รู้เรื่อง เสือชินอมยิ้มแล้วรำพึง
“เดี๋ยวมึงก็รู้ แมงโม้กำลังบินมาหามึงแล้ว”
ทั้งหมดเดินทางต่อไป
เสือสมิง ตอนที่ 14 (ต่อ)
ขบวนของเสี่ยรงค์กำลังเคลื่อนที่มาเข้าเขตของเสือใจ เสี่ยรงค์นึกถึงเรื่องเมื่อคืน...
หลังจากที่จ่าชิตตามศักดาไปหาเสือใจแล้ว เสี่ยรงค์นั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียว เสือเรืองลอบเข้ามาหาเขาเรียกเสี่ยรงค์จากเงามืด
“เสี่ย...เสี่ย”
เสี่ยรงค์หันไปตามเสียง
“ใคร”
เสือเรืองเผยตัวออกมา
“ผมเองเสี่ย...”
“มีอะไรหรือเสือเรือง”
“พี่ทศให้ผมมาส่งข่าวเรื่องที่ชาวชุมเสือจะซุ่มโจมตี”
เสี่ยรงค์สนใจ
“ว่ามา”
“เมื่อเสี่ยไปถึงทางช่องหุบเขา จะมีต้นไม้ใหญ่ ตรงนั้นพวกมันฝังระเบิดเอาไว้ แต่ไม่ต้องกลัวผมจะจัดการเรื่องระเบิดให้เอง”
เสี่ยรงค์พยักหน้ารับรู้
เสี่ยรงค์หันมาบอกอองไชย
“อย่างนี้เรียกว่าฝันดีหรือเปล่าท่านพราน อองไชยยิ้มแล้วเตรียมอาวุธให้พร้อม รถวิ่งผ่านไป ห่างออกไปเสือเข้มกับเสือดำใช้กล้องส่องทางไกลดูอยู่
“พวกมันมากันแล้ว ไอ้ดำเอ็งรีบกลับไปบอกให้พวกเราเตรียมตัว ข้าจะตามดูพวกมันไปเรื่อยๆ เจอกันที่จุดนัดพบ”
“ได้”
เสือดำรีบจากไป เสือเข้มไปอีกทางหนึ่ง
เสือทศ พาจงใจกับหินมาตามทางเสือชินระวังหลัง ทั้งหมดเดินทางอย่างระวัง เสือทศเอาใจจงใจตลอดทาง ทันใดนั้น กลุ่มโจรว้าแดงคลุมหน้าโผล่เข้ามาล้อมทุกคนเอาไว้ เสือทศแกล้งตกใจ กระชับอาวุธ
“พวกแกเป็นใคร”
ว้าแดงคนหนึ่งตรงเข้าซัดปลายคางเสือทศหมอบไป
“ไม่ต้องถาม”
ว้าแดงคนหนึ่งพุ่งมาหาหิน หินพยายามจะสู้แต่ไม่ทันแล้วหินถูกซัดกลิ้งไป เสือชินเข้ามาช่วยแล้วบอกหิน
“หนีไป หิน รีบไปตามคนมาช่วย...”
ว้าอีกคนหนึ่งเป่าควันยาสลบใส่จงใจจนสลบ หินหนีไปได้ ภาพสุดท้ายที่หินเห็นก็คือเสือชินถูกพานท้ายปืนร่วงลงไป จงใจนอนสลบพวกว้าแดงยืนล้อมรอบแล้วเปิดผ้าคลุมหน้า...เสือทศลุกขึ้นมาด้วยอาการปกติแล้วสั่งห้ามไม่ให้ตามเพราะว่าหินจะได้เป็นพยานว่าเขาถูกทำร้ายจริงๆ
“ไม่ต้องตาม ฉันจะใช้มันเป็นพยาน คราวนี้แหละพี่ทศจะเป็นพระเอกตลอดกาลของน้องจงใจ...เอาตัวไป”
เสือชินลุกขึ้นมาท่าทางเป็นปกติ ทุกคนเดินทางพาจงใจไปที่แห่งหนึ่ง
เสือดำควบม้าเข้ามาในชุมเสืออย่างรีบเร่ง แล้วตรงไปที่บ้านแวว เมื่อถึงบ้านแววก็รีบกระโดดลงจากม้า
แก้วออกมาหน้าบ้าน
“เป็นยังไงบ้างพี่ดำ”
“พวกมันกำลังกำลังมาแล้ว คนของเราพร้อมหรือยัง”
แก้วเป่าปากเรียก บรรดาชายฉกรรจ์ชาวชุมเสือออกมาพร้อมอาวุธครบมืออย่างพร้อมเพรียง
“พร้อม”
ชายทุกคนพร้อมหน้าตาฮึกเหิม เสือดำพอใจ
“ไปกันได้แล้ว”
ทันใดนั้นเสียงแววดังออกมา
“เดี๋ยว”
แก้วหันไปเห็นแววเดินกระย่องกระแย่งมาหน้าบ้าน
“แม่”
แววเป็นห่วงจงใจ
“จงใจล่ะ”
“ไม่เจอนี่น้า”
“พี่จงใจกับหินออกไปกับพี่ทศกับพี่ชิน” แก้วบอก
เสือดำส่ายหน้า
“รีบไปกันก่อนดีกว่า”
แก้วหันมาบอกแวว
“ฉันไปนะแม่”
ทั้งหมดเคลื่อนขบวนไป แววมองตามสายตากังวล
กินรี ประเดิม มะค่า เดินทางมาเรื่อยๆ ทั้งหมดกำลังหลงทาง มะค่าพยายามสอดส่ายจมูกดมกลิ่นน้ำ กินนรีหันมาถาม
“ได้กลิ่นน้ำหรือยังมะค่า”
มะค่าส่ายหน้า
“ยังเลย”
ประเดิมบ่นแล้วทำท่าทาร์ซาน
“สงสัยต้องเป็นทาร์ซานอยู่ที่นี่แน่เลย โห่...หี้..โห่”
มะค่าถอนใจ
“โธ่ น้าประเดิม ปัญญาอ่อนหรือเปล่าเนี่ย หลงป่าจนประสาทกลับแล้วสิท่า”
“ยัง...”
กินรีมองไปรอบๆเห็นแต่ต้นไม้ มะค่าเริ่มได้กลิ่นแล้วบอกกินรี
“เอ๊ะ..เดี๋ยวนะ...ได้กลิ่นแล้ว”
กินรีดีใจ
“ได้กลิ่นแล้วหรือ”
“ทางนี้”
มะค่ายิ้มนำทางทุกคนไป...ประเดิมเดินตามไปแต่ตกหลุมที่พรานขุดเอาไว้ดักสัตว์ เป็นหลุมลึกราว 1 เมตรกว่าๆมีไม้แหลมอยู่ข้างล่าง
“โอ๊ย...ช่วยด้วย”
กินรีมองงงๆ
“พี่ประเดิม...ลงไปทำไมน่ะ”
ประเดิมแทบร้องไห้
“ไม่ได้ลง...ช่วยด้วย”
ทุกคนช่วยกันดึงประเดิมขึ้นมา เห็นว่าขาแพลงแล้วไม้ตำที่เท้าเลือดไหล กินรีตกใจ
“แย่จัง...มากินรีทำแผลให้ก่อน”
“พี่ประเดิม ไปไหวไหม”
ประเดิมโอดครวญ
“ถ้าบอกว่าไม่ไหวล่ะ”
“เราคงต้องทิ้งพี่ประเดิมไว้ที่นี่”
ประเดิมหน้าเสีย
“โธ่...ใจร้าย”
มะค่ายิ้มขำ
“ล้อเล่นน่า...”
กินรีพันแผลให้ประเดิมจนเสร็จ
“เสร็จแล้ว แข็งใจหน่อยนะพี่ประเดิม”
ประเดิมขาแพลงทำให้การเดินทางช้าลง กินรีสังเกตว่าถ้ามีการดักสัตว์คงต้องมีบ้านคนอยู่ไม่ห่างจากนี้
“เอ๊ะ...ถ้ามีหลุมดักสัตว์ก็ต้องมีบ้านคนสิ มะค่ารีบนำไปที่ริมน้ำเร็ว”
ทั้งหมดตามมะค่าไป
พวกว้าแดงพาเสือทศมาที่กระท่อมที่สร้างชั่วคราว จงใจยังสลบอยู่
“นี่หรือเรือนหอของข้า” เสือทศหัวเราะชอบใจ “เอาจงใจเข้าไปข้างใน เบาๆด้วยเดี๋ยวจะตื่นเสียก่อน”
“ไม่มีทางตื่นเร็วหรอก ยาของ ข้ามันแรงนัก ถ้าจะฟื้นจริงๆต้องมี 2 ชั่วโมงนั่นแหละ”
เสือทศยิ้ม
“เยี่ยมมาก...เอ็งกลับไปได้แล้วไอ้ชิน แล้วเก็บกวาดให้เรียบร้อนล่ะ”
เสือทศสั่งให้เสือชินกลับไปทำอะไรบางอย่างที่ตกลงกันเอาไว้
“จ้ะพี่”
เสือชินจากไป เสือทศสั่งพวกว้า
“พวกเอ็งกระจายกันออกไปดูต้นทางเอาไว้”
พวกว้าแดงทำตาม เสือทศยิ้มย่ามใจแล้วเข้าไปในกระท่อม
หินวิ่งโซซัดโซเซมาตามทาง ล้มลุกคลุกคลาน เขาไปเจอกับเสือเข้มที่กำลังซุ่มอยู่
“พี่เข้ม ช่วยด้วย”
เสือเข้มหันมาเห็น
“ไอ้หิน”
“พี่เข้ม ช่วยด้วย ช่วยพี่จงใจด้วย”
“จงใจเป็นอะไร แล้วพี่ทศล่ะ”
“มีโจรเข้ามาทำร้ายพี่ทศกับพี่จงใจ”
เสือเข้มหน้าเข้มจริงจัง
“นำทางไปเร็ว...”
เสือเข้มรีบติดตามไปช่วยจงใจทันที
จงใจนอนสลบอยู่บนแคร่ เสือทศเข้ามาแล้วปิดประตู ชื่นชมเรือนร่างจงใจอย่างย่ามใจ เขานึกถึงความเป็นใหญ่ในวันข้างหน้า
“ในที่สุดไอ้ทศก็มีวันนี้ พี่ทศจะรับบทพระเอกที่ไม่รังเกียจจงใจที่ถูกโจรว้าข่มขืน และพี่ทศจะเป็นของจงใจตลอดไป เอ้ย...จงใจจะเป็นของพี่ทศตลอดไป”
เสือทศหัวเราะเบาๆ เขาบรรจงปลดเสื้อของตัวเองอย่างช้าๆ
เสือดำกับแก้วนำพวกชาวบ้าน ชาวชุมเสือมาซุ่มดักรอเพื่อชิงตัวเสือใจ เสือดำและแก้วอยู่ด้วยกัน เสือดำบอกแผน
“เราซุ่มคนไว้รอบๆแล้ว พอมันมาถึงก็จะกดระเบิด จากนั้นเราก็โจมตี”
“แล้วจะไม่พลาดถูกลุงเสือหรือ”
“ไม่หรอก พ่อเสืออยู่รถคันสุดท้าย”
แก้วมองไปรอบๆ
“พี่เข้มล่ะ”
“นั่นสิทำไมป่านนี้ยังไม่มานะ”
ทั้งสองคนครุ่นคิด และรอ
หินพาเสือเข้มมาที่จุดที่ถูกโจรคลุมหน้าดักทำร้าย
“ตรงนี้แหละพี่”
เสือเข้มมองไปรอบๆแล้วเห็นร่องรอยการต่อสู้ แล้วมองรอยเท้า
“มันไปทางนี้ ไปหิน ระวังตัวด้วย”
หินพยักหน้ารับกระชับอาวุธ แล้วไปกับเสือเข้ม
เสือทศปลดกระดุมที่ละเม็ดอย่างช้าๆ...
“สวรรค์...วันนี้เราจะขึ้นสวรรค์ด้วยกันนะน้องจงใจ”
จงใจยังหลับไม่รู้เรื่อง ขณะเดียวกัน หินกับเสือเข้มเคลื่อนตัวเข้ามาแล้วเห็นพวกว้าคุมเชิงอยู่ มีกระท่อมอยู่ด้านหลังพวกว้า ทั้งคู่ซุ่มดูอย่างเงียบที่สุด
“พวกนี้แหละพี่เข้ม ฉันจำได้”หินจำได้
เสือเข้มมองไปรอบๆแล้วเห็นกระท่อม เขาคาดเดา
“มันต้องขังพี่ทศกับจงใจไว้ในนั้นแน่”
เสือเข้มนับพวกว้าได้ 4 คนแล้วเขาก็เอาหน้าไม้มาขึ้นสายแล้วยิงใส่พวกว้าคนหนึ่งล้มลงขาดใจตาย เพื่อนว้าคนหนึ่งเห็นแล้วตกใจ
“เฮ้ย...ใครวะ”
เพื่อนว้าพูดได้แค่นั้นหินก็ยิงหน้าไม้ทะลุคอของมันขาดใจทันที เสือเข้มกับหินเคลื่อนที่เข้าไปใกล้
“ไป...”
ทันใดนั้น ว้าแดงอีกคนหนึ่งเห็นเข้าพอดีแล้วยิงปืนใส่เสือเข้มแต่ถากไป เสือเข้มกับหินหาที่กำบังแล้วยิงตอบโต้
เสือทศที่ถอดเสื้อผ้าแทบหมดตัวแล้วสะดุ้งตกใจแล้วมองลอดช่องออกมาเห็นหินกับเสือเข้มกำลังยิงต่อสู้กับว้าแดง เขาหัวเสีย
“โธ่...ไอ้มารคอหอยเอ๊ย...”
เสือทศหันรีหันขวางคิดว่าจะทำยังไง
“เอาไงดีวะ”
เสือเข้มกับหินเก็บว้าแดงที่เหลืออีกสองคนได้แล้วรีบตรงไปที่กระท่อม...เสือทศรีบสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
เสือเข้มกับหินถีบประตูกระท่อมเข้าไป ภาพที่เห็นคือเสือทศนอนสลบอยู่ไม่ห่างจากจงใจ หินพุ่งเข้าไปหาจงใจ
“พี่จงใจ พี่จงใจ”
เสือเข้มเข้าไปดูเสือทศ ขณะที่เสือทศแสร้งนอนนิ่ง
กินรี ประเดิม มะค่าได้ยินเสียงปืนแต่ไกลก็ใจไม่ดี
“เสียงปืน”กินรีพึมพำ
“หลายนัดขนาดนี้ต้องยิงต่อสู้กันแน่เลย” ประเดิมออกความเห็น
“ไม่รู้ว่าเป็นพวกไหน เราไปหาที่หลบก่อนดีกว่า”
ทั้งหมดรีบเดินไปทางที่ตรงกันข้ามกับเสียงปืน ทันใดนั้นมีเสียงพรานเฒ่าดังมาจากบนต้นไม้
“พวกเอ็งหยุดอยู่ตรงนั้นแหละ...”
ทั้งหมดเงยหน้าไปตามเสียง เห็นเป็นพรานเฒ่ากำลังเล็งปืนแก๊ปมา พรานเฒ่ากระโดดลงมาอย่างคล่องแคล่ว
“พวกเอ็งเป็นใคร”
“พวกฉันหลงทางมาจ้ะ ฉันกำลังจะไปบ้านสาง” กินรีบอก
พรานเฒ่าพินิจดูทุกคน
“ข้าจะเชื่อพวกเอ็งได้ยังไง...”
มะค่าหลบหลังกินรีเพราะพรานเฒ่าแววตาน่ากลัว ประเดิมพยายามเจรจา
“พวกฉันมาดีนะ”
กินรีเสริม
“ใช่...พวกเรามาดี”
พรานเฒ่าไม่แน่ใจ
“พวกเอ็ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเสียงปืนเมื่อกี้ใช่ไหม”
“เปล่าจ้ะ...ฉันก็หนีเสียงปืนนั่นมาเหมือนกัน”
กินรีบอกด้วยแววตาดูไม่มีพิษมีภัย พรานเฒ่ามองประเดิม
“ขาเอ็งเป็นอะไร”
“ฉันเดินตกหลุม กับดักสัตว์จ้ะลุง ไม่รู้ไอ้บ้าที่ไหนมาทำเอาไว้ เจอตัวนะจะซัดให้หมอบเลย”
ประเดิมพูดแบบไม่คิด พรานเฒ่าสะดุ้ง
“เหรอ...พ่อคนเก่ง ข้าทำไว้เองนั่นแหละ มาสิ มาซัดสิ พ่อจะยิงให้ไส้แตกเลย”
ประเดิมหน้าซีดยกมือไหว้
“เอ่อ...ฉันไม่รู้ฉันขอโทษ”
“ข้าเชื่อว่าพวกเอ็งมาดี มา ตามข้ามา”
พรานเฒ่าเห็นว่าพวกนี้ไม่มีพิษมีภัยจึงพาไปที่บ้าน ทุกคนตามพรานเฒ่าไป
แววฟื้นจากไข้อาบน้ำแต่งตัวปะแป้งท่าทางสบายขึ้น แล้วเดินไปเก็บผ้าที่ข้างบ้าน เสือชินถือมีดซ่อนอยู่ข้างหลังก้าวเข้าไปหาแววที่กำลังเก็บผ้า
“ไอ้ชิน...มีอะไรหรือ” แววหันมาเจอ
เสือชินยังไม่ตอบแววตาเข้มกำลังจะคิดฆ่าแวว เสียงลุงชมลอดเข้ามาจากหน้าบ้าน
“แวว...แวว...อยู่หรือเปล่า”
เสือชินได้ยินรีบเอามีดเก็บซ่อนข้างหลังแล้วแก้ตัว
“เปล่าจ้ะ ได้ข่าวว่าน้าแววไม่สบายเลยแวะมาดู”
“ข้าค่อยยังชั่วแล้ว หลีกไปซิ...มาแล้วจ้ะ ลุงชม”
แววเดินเบียดเสือชินออกไปหน้าบ้าน เสือชินมองตามรู้สึกเสียดาย
“ตาชมเอ๊ย...เกือบแล้วเชียว”
แววเดินมาหาลุงชมที่หน้าบ้าน
“มีอะไรจ๊ะลุง”
“ข้าแวะเอายามาให้ เออ...ดูดีขึ้นมากเลยนี่”
เสือชินผิดหวังลอบออกไปทางหลังบ้าน
หินกับเสือเข้มช่วยกันปฐมพยาบาลจนจงใจฟื้นขึ้น
“พี่จงใจ”
จงใจงัวเงียไม่มีแรง
“หิน...พี่เข้ม”
เสือทศได้จังหวะจึงแกล้งเป็นฟื้นแล้วทำเป็นห่วงจงใจ
“น้องจงใจ โอย...”
เสือทศทำท่าเจ็บ จงใจมองเสือทศแบบไม่สงสัยและเห็นใจ
“เป็นยังไงบ้างพี่ทศ”
“พี่ไม่เป็นอะไร มันทำอะไรจงใจหรือเปล่า”
จงใจสำรวจตัวเองแล้วส่ายหน้า
“ไม่จ้ะ”
เสือทศทำเป็นโล่งอก
“โล่งอกไปที”
เสือเข้มหันมาถาม
“เรื่องมันเป็นยังไงพี่”
เสือทศเสแสร้งเล่า
“มีพวกโจรคลุมหน้าเข้ามาทำร้ายพวกเราน่ะสิ”
จงใจพยักหน้ายืนยันว่าเสือทศเล่าความจริง
“พวกไหนหรือ”
เสือทศกลบเกลื่อน
“ไม่รู้ ข้าโดนมันซัดสลบไปตื่นขึ้นมาก็เจอพวกเอ็งนี่แหละ”
หินไม่ค่อยเชื่อ เสือเข้มห่วงเรื่องเสือใจมากกว่า
“อย่าเพิ่งถามอะไรกันตอนนี้เลย รีบไปช่วยพ่อเสือกันดีกว่า พวกมันกำลังมาแล้ว”
จงใจเห็นด้วย
“จริงด้วย รีบไปกันเถอะ”
ทั้งหมดออกไปจากที่นั่น
พรานเฒ่าเดินนำทุกคนมาที่ริมลำธาร
“เชิญตามสบาย”
กินรีรู้สึกแปลกใจ แล้วพูดกับมะค่า
“พี่คุ้นๆว่าเคยผ่านมาทางนี้แล้วนะ แต่ไม่เห็นมีกระท่อมเลย”
ประเดิมเห็นด้วย
“ฉันก็ว่าอย่างนั้น”
พรานเฒ่ารู้สึกรำคาญ
“ป่ามันก็เหมือนๆกันทั้งนั้นแหละ พวกเอ็งไม่เคยได้ยินหรือไงว่า คืบก็ป่า ศอกก็ป่า”
ประเดิมติดตลกแบบซื่อๆ
“ไม่เคย เคยได้ยินแต่คืบก็ทะเลศอกก็ทะเล”
“ข้าเข้าใจแล้วทำไมคนอื่นถึงไม่ตกหลุมดักสัตว์ของข้า...ไอ้โง่”
ประเดิมยังไม่รู้เรื่องว่าถูกด่า กินรีกับมะค่า อมยิ้ม พรานเฒ่าหันมาสั่ง
“พวกเอ็งตักน้ำตักท่า แล้วหุงหาอาหารตามสบายนะ ข้าจะไปดูสมุนไพรมาทำแผลให้ ไอ้นกเอี้ยงนี่หน่อย”
พรานเฒ่าเดินจากไป
เสือสมิง ตอนที่ 14 (ต่อ)
กองคาราวานของเสี่ยรงค์เดินทางเข้าเขตชุมเสือของเสือใจ เสี่ยรงค์วิทยุบอกศักดาที่อยู่ข้างหน้า
“ผู้กอง...ผู้กอง...หยุดขบวนก่อน”
“มีอะไรครับเสี่ย เปลี่ยน”
“บอกให้หยุดก็หยุดเถอะน่า...เลิกกัน”
เสี่ยรงค์ตัดวิทยุหยุดการสนทนา ศักดาสั่งหยุดกองชั่วคราว
“หยุดรถก่อนซิ”
ขบวนรถของเสี่ยรงค์หยุด ทุกคนแปลกใจ ระรินที่นอนซบไหล่ภราดรอยู่ สะดุ้งตื่นแล้วรับรู้ว่าขบวนหยุด
“เกิดอะไรขึ้นหรือหมอ”
“ไม่รู้สิอยู่ดีก็สั่งหยุดรถ”
“มีอะไรกันนะ”ระรินระแวงแล้วชะเง้อดูข้างหน้า
จ่าชิตแปลกใจ
“ผู้กองหยุดรถทำไม”
“มีคนปวดฉี่มั๊ง”
สมรักษ์ตอบกวนๆ แล้วลงจากรถเดินไปหาศักดาพร้อมๆกับเสี่ยรงค์
“มีอะไรหรือเสี่ย”
“เตรียมพร้อมรับมือผู้กอง พวกมันซุ่มโจมตีเราอยู่ข้างหน้า พวกเสือทศจะส่งสัญญาณให้เรา”
ศักดาสงสัย
“เสี่ยรู้ได้ยังไง”
“เมื่อคืนก่อนผมฝันว่าอย่างนั้น”
เสี่ยรงค์หัวเราะชอบใจ สมรักษ์เดินมาถึงพอดี
“มีอะไรกันครับผู้กอง”
“ไม่มีอะไร...เตรียมคนกับอาวุธให้พร้อม อาจจะมีการชิงตัวผู้ต้องหาข้างหน้า”
สมรักษ์สงสัย
“ผู้กองรู้ได้ยังไง”
“เสี่ยรงค์ เขาฝัน...”
พูดจบศักดาก็เดินจากไปสั่งการ สมรักษ์กังวล
“เสี่ยรงค์รู้ได้ยังไง”
เสือใจ ถามตำรวจที่คุมอยู่
“มีอะไรกันหรือหมู่”
“ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ ไม่ต้องถาม มีหน้าที่นั่งก็นั่งไป เฉยไว้แล้วดีเอง...เข้าใจ๋”
เสือใจไม่พูดอะไรอีก แต่เดาออกว่าต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่
แก้วกับเสือดำ ซุ่มอยู่ข้างทางบริเวณที่จะโจมดีเสี่ยรงค์
“ไอ้เข้มทำไมถึงไม่มานะ” เสือดำบ่น
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าก็ไม่รู้”
แก้วกับเสือดำรู้สึกกังวล สักพักเสือเข้ม หิน จงใจ และเสือทศก็เข้ามา
“พี่จงใจ หิน”แก้วโล่งใจ
เสือดำหันไปถามเสือเข้ม
“ทำไมมาช้าวะ”
“รถติด”เสือเข้มตอบกวนๆ
เสือทศแสดงบทบาททำทีเป็นร้อนรน
“พวกมันมากันหรือยัง”
“ฉันให้คนออกไปดูแล้ว ถ้าเห็นพวกมันจะรีบมาราบงานทันที”
เสือทศพยักหน้ารับ เสือเรืองกับเสือชินเข้ามาคนละทาง
“เป็นไง ไอ้เรือง ไอ้ชิน”เสือทศหันไปถาม
“เรียบร้อยพี่”
เสือเรืองใบหน้ากระหยิ่ม เพราะเมื่อคืนก่อนที่เขาจะไปบอกเสี่ยรงค์ที่แคมป์เรื่องแผนการซุ่มโจมตี เขาลอบมาตัดสายจุดชนวนระเบิดออกหมดแล้ว...เสือเรืองส่งสัญญาณให้เสือทศรู้ว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน
“ดีแล้ว พวกเอ็งแยกไปคุมตามจุดไป”
เสือเรืองกับเสือชินแยกไปอีกด้านหนึ่ง จงใจหน้าเข้มกระชับอาวุธ ครู่หนึ่งคนที่ให้ไปดูลาดเลาก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงานเสือดำ
“พวกมันมากันแล้วพี่”
ทุกคนกระชับอาวุธพร้อมลุย
“พอข้ากดระเบิดก็โจมตีเลย”
ทุกคนรับรู้ เสือทศแอบยิ้มพอใจ
เสือเรืองกับเสือชินมาซุ่มที่ต้นทาง เห็นกลุ่มคาราวานของเสี่ยรงค์กำลังวิ่งเข้ามาในเขตระเบิด เสือเรืองเอากระจกส่องให้สะท้อนกับแสงแดดเป็นสัญลักษณ์ให้รถคันหน้าที่ผู้กองศักดานั่งอยู่รู้
“นั่นไง...” ศักดาพูดวิทยุ “ทุกคนเตรียมตัว”
เสี่ยรงค์กับอองไชย กระชับอาวุธ ภราดรกับระริน มีคนคอยดูแลอย่างแน่นหนา สมรักษ์กับจ่าชิตและหมู่ ระวังและกังวล จ่าชิตบอก...
“เตรียมหลบลูกปืน”
เสือใจกังวลรู้ว่าแผนต้องรั่วแน่ๆ เขาคิดหาทางออก...รถเคลื่อนที่มาถึงที่ฝังระเบิดช้าๆ เสือทศ จงใจ แก้ว หินและเสือดำ จ้องหาจังหวะ และแล้ว...เสือดำกดระเบิดทันทีที่กองคาราวานมาถึงแต่ระเบิดไม่ระเบิด
“เฮ้ย...” เสือดำหน้าเหวอ
เสือดำกดลูกที่สอง สาม และสี่
“ทำไมระเบิดไม่ทำงาน”
ทุกคนแปลกใจ เสือดำกดทุกลูกก็ไม่ระเบิด จงใจหันมาถาม
“ทำไมไม่ระเบิดล่ะ”
เสือทศแอบยิ้ม ชาวบ้านที่ซุ่มอยู่ไมรู้จะทำยังไง
“เอาไววะ ไม่เห็นระเบิดเลย”
“ไม่รู้สิ...ดูไปก่อน”
ขบวนรถของเสี่ยรงค์จอดทันที ศักดาออกมาประกาศพร้อมหลบในที่กำบังข้างรถ
“ชาวชุมเสือที่แอบซุ่มอยู่ฟังให้ดี ผมร้อยตำรวจเอกศักดา ขอสั่งให้ทุกคนมอบตัวเสียโดยดี อย่าให้ต้องใช้กำลัง ใครที่คิดโจมตีเพื่อชิงตัวเสือใจล่ะก็ ขอให้คิดให้ดี เราไม่อยากใช้กำลัง เราจะให้เวลา 30 วินาทีวางอาวุธและยกมือขึ้นสูง แล้วเดินลงมาอย่างช้าๆ...จับเวลา”
ศักดาดูนาฬิกาข้อมือ เสือเข้มกับเสือดำแปลกใจ
“มันรู้ได้ยังไงวะ”
จงใจแค้น...
“เกลือต้องเป็นหนอนแน่”
เสือทศกลบเกลื่อน
“อย่าเพิ่งมาหาคนผิดตอนนี้เลย พี่ว่าช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะเอายังไง”
ทุกคนสีหน้าไม่ดี...เสี่ยรงค์ ยิ้มอย่างพอใจแล้วบอกกับอองไชย
“คราวนี้จะได้ล้างบางกันเสียที”
เสือใจกังวลพูดเบาๆ
“กลับไป...หนีกลับไป”
ภราดรกับระรินอยู่ในส่วนที่ปลอดภัยข้างรถ
“จะยิงกันอีกแล้วหรือเนี่ย...” ระรินหน้าตื่น
“ใจเย็นๆนะผมจะปกป้องคุณเอง”
ระรินไม่มั่นใจ
“หมอยิงปืนเป็นด้วยหรือ”
“เพิ่งหัดตอนที่อยู่กับหมวดสมรักษ์นี่แหละ”
ระรินหน้าเบ้ไม่เชื่อใจ ภราดรกระชับปืนหน้าเข้ม
“ผ่านไป 10 วินาทีแล้ว” ศักดาจับเวลา
กลุ่มจงใจ กระชับอาวุธ เสือทศรอที่จะเห็นพวกแมงเม่าบินเข้าไปตาย
“ผ่านไป 20 วินาที...10...” ศักดาแจ้งเวลาที่เหลือ
เสี่ยรงค์ยิ้ม ศักดานับต่อ
“9...8...7...6...5...4...3...2...1...”
เสือดำตัดสินใจโจมตี
“บุก...”
ทุกคนในชุมเสือต่างบุกเข้าไปยิงใส่กองคาราวาน เสี่ยรงค์ อองไชยเข้าที่กำบังแล้วยิงตอบโต้
“เข้ามาเลยไอ้พวกสวะ”
เสือใจกังวลเป็นห่วงจงใจและชาวชุมเสือ จึงเอาเข้มซ่อนปลายที่แอบหยิบมาตอนที่ภราดรทำแผลให้ ไขกุญแจมือขณะที่กำลังชุลมุน ตำรวจที่คุมเสือใจต่างสนใจแต่การยิงตอบโต้กับพวกชุมเสือ
จงใจ แก้ว หิน จับกลุ่มกันยิงใส่คาราวานเสี่ยรงค์ แก้วส่องกล้องส่องทางไกลดูสมรักษ์ เห็นจ่าชิตกับสมรักษ์แกล้งยิงตอบโต้ไปทางอื่น
“หมวด”
“ไหน...”
จงใจขอกล้องไปดูสมรักษ์แล้วยิ้ม
“พ่อเสือล่ะ”
“อยู่คันสุดท้าย”
แก้วตอบพลางยิงพลาง จงใจส่องกล้องไปดูเสือใจ แล้วเห็นเสือใจกำลังพยายามสะเดาะกุญแจมือ
“พ่อ”
เสือดำ กับเสือเข้มยิงต่อสู้อย่างดุเดือด เสือทศแกล้งตั้งใจเล็งและยิงไปทางเสือใจ แต่ไม่ถูก ลูกปืนเฉียดเสือใจนิดเดียว เสือใจรีบสะเดาะกุญแจมือ...ภราดรพยายามยิงปืนแต่เก้เก้กังๆ ระรินแอบอยู่ข้างมองแบบเซ็งๆและรำคาญแล้วคว้าปืนมายิงเอง
“ยิงอย่างนี้เมื่อไหร่จะถูกเนี่ยหมอ มาระรินเอง”
ภราดรแกล้งไปหลบหลังระริน
พรานเฒ่าเอายาสมุนไพรทำแผลให้ประเดิม กินรีกับมะค่า ช่วยกันตักน้ำและหุงหาข้าว พรานเฒ่าและทุกคนได้ยินเสียงปืน
“ใครมารบกันแถวนี้วะ”
“พวกเดียวกันกับที่ยิงกันเมือกี้หรือเปล่าก็ไม่รู้”
ประเดิมกังวลและปวดแผล
“ท่าทางจะยิงกันหนัก”
พรานเฒ่าหันมาบอก
“พวกเอ็งรออยู่ที่นี่อย่าออกไปนอกเขตบ้านข้านะ ข้าจะไปดูสักหน่อย”
กินรีรับคำ พรานเฒ่าเสกวิชาบังกายให้บ้านเอาไว้แล้วตัวเขาก้าวผ่านอากาศแล้วหายไป ประเดิมทึ่ง
“วิชาบังกาย เกิดมาเพิ่งเห็นนี่แหละ ได้ยินแต่เขาเล่ากันไปเล่ากันมาที่แท้ก็มีจริงๆ”
กินรี กับมะค่าเห็นแล้วรู้สึกปลอดภัย
ฝ่ายชุมเสือนำโดยเสือดำกับแก้วยังคงยิงต่อสู้กับพวกเสี่ยรงค์อยู่ เสือใจพยายามสะเดาะกุญแจขณะที่กำลังชุลมุน ตำรวจนายหนึ่งเห็นเสือใจมีพิรุธจึงเข้ามาดู
“เฮ้ย...ทำอะไร”
“กินข้าวอยู่มั๊ง...”
เสือใจประชดแล้วซัดด้วยเท้าจนสลบแต่มีใครสังเกตเห็น เสือใจไขกุญแจต่อไป จ่าชิตหันมามองเสือใจแล้วปล่อยให้เสือใจไขกุญแจ ยังคงมีการยิงกันอยู่ พวกชุมเสือตายไปหลายคน เสือทศยิ้มที่พวกชุมเสือถูกยิงตายไปราวกับใบไม้ร่วงแล้วตะโกนให้ทุกคนสู้อีก
“บุกเข้าไปพวกเรา ช่วยพ่อเสือมาให้ได้”
จงใจมองเสือทศรู้สึกแปลกๆ ในมือยังถือกล้องส่องทางไกลเอาไว้ส่องดูเสือใจเป็นครั้งคราว เสือเข้มกับเสือดำปรึกษากัน
“เอาไงดีวะไอ้เข้ม ยิ่งยื้อเรายิ่งเป็นรองนะ”
เสือเข้มคิดๆ แล้วมองหน้าหินกับแก้วที่เด็ดเดี่ยว
“มาถึงขนาดนี้แล้วต้องช่วยพ่อเสือกลับไปให้ได้ จริงไหมวะ”
หินแก้วรับคำเสียงเข้ม
“ใช่...ตายเป็นตาย”
แก้วพยักหน้าแล้วยิงต่อ เสือเรืองกับเสือชินซุ่มอยู่อีกทางหนึ่ง ไม่ยิงต่อสู้แล้วเอาเหล้ามาดื่มพลางดูเขายิงกัน
“มันกว่าดูหนังคาวบอยอีกว่ะ”
ทั้งคู่หัวเราะอย่างสบายใจ
เสี่ยรงค์กับอองไชยมาสมทบศักดา
“ท่าทางพวกมันจะไม่ยอมเราง่ายๆนะ”
“ไม่เป็นไร หมู่...จัดหนักสักสองลูกซิ”
ศักดาสั่งตำรวจข้างๆ ตำรวจรับคำแล้วไปหยิบเครื่องยิงลูกจรวดมายิงใส่กลุ่มชุมเสือไปสองลูก ลูกแรกไปถูกกลุ่มชาวบ้านธรรมดา กระเด็นตายออกมาสามศพ ลูกที่สองพุ่งเข้าไปที่ทางกลุ่มเสือทศ ที่เห็นแล้วตาเหลือก
“เฮ้ยหลบ...มาแล้ว”
ทุกคนต่างกลิ้งหลบกระเจิงไปคนละทางแต่ไม่มีใครเป็นอะไร เสือทศแอบสบถ
“โธ่เสี่ยนะเสี่ย ไม่มองกันบ้างเลย”
เสือใจยังคงไขกุญแจมืออยู่ เขามองเห็นพี่น้องชาวชุมเสือล้มตายไปต่อหน้าหลายคน แววตาเสือใจแค้น ที่ข้อมือกุญแจมือหลุดพอดี เสือใจบ้าเลือดเข้าไปหักคอตำรวจที่กำลังยิงปืนกลแล้วแย่งปืนกลมายิงกราดใส่พวกเสี่ยรงค์
“อ้ากกกก...”
ลูกน้องเสี่ยรงค์ล้มตายไปราวใบไม่ร่วง ตำรวจหันมายิงเข้าใส่ เสือใจเข้าที่กำบัง จงใจส่องกล้องเห็นเสือใจเป็นอิสระ
“พ่อหลุดออกมาแล้ว ยิงช่วยพ่อเร็ว”
เสือเข้ม เสือดำ หิน แก้วต่างยิงคุ้มกันเสือใจ เสือทศไม่พอใจ แล้วพยายามยิงใส่เสือใจ
พรานเฒ่าวิ่งมาตามป่าไปตามเสียงปืน เขาวิ่งขึ้นที่สูงแล้วมองเห็นว่ามีการยิงกันแต่ไกลแล้วรำพึง
“ตำรวจ...พวกมันยิงกับใคร หรือว่าพวกเสือใจ”
พรานเฒ่ากระหยิ่มยิ้ม
“ถ้าเป็นเสือใจจริง ข้าหัวคงหลายตังค์ล่ะสิ คงไม่ต้องดักดานเป็นพรานอีกต่อไปแล้ว...”
พรานเฒ่าแววตามีแผนแล้ววิ่งออกไป
พวกชุมเสือยังคงยิงต่อสู้กับพวกเสี่ยรงค์อย่างดุเดือด ตำรวจและศักดาต้องรับศึกสองด้านเพราะมีเสือใจคอยยิงอยู่ข้างหลัง ศักดาตะโกนลั่น
“จับตาย เสือใจ ทุกคน จับตายเสือใจ”
สมรักษ์กับจ่าชิตได้ยินแล้วสีหน้าไม่ดี
“ไอ้ใจเอ๊ย...เหนียวยังไงก็ไม่รอดวะ”
สมรักษ์ร้อนใจ
“เอาไงดีจ่า”
“ดูไปก่อน บางทีหมวดอาจไม่ต้องเสียค่าสินสอดก็ได้”
สมรักษ์ฟังแล้วเซ็ง ขณะที่เสือใจมองหาภราดรจนเจอ
“อยู่นั่นเอง”
ภราดรกับระรินมาหลบที่ต้นไม้ใหญ่ที่ปลอดภัย เพราะอยู่ห่างจากทุกคน เบิ้มและลูกน้องสองคนคอยดูแลช่วยเหลือ
“หลบมาทางนี้ครับหมอ คุณระริน”
เบิ้มกับลูกน้องคอยคุ้มกัน เสือใจลูกปืนหมดแล้วลอบไปทางภราดร ศักดาและตำรวจมองไม่เห็นเสือใจ
“มันหายไปไหนแล้ว”
พวกชุมเสือระดมยิงมาอีก ศักดาต้องหันไปยิงสู้กับพวกชุมเสือ
“หันไปยิงทางโน้น...”
ตำรวจหันไปยิงสู้กับพวกเสือเข้ม จงใจยังส่องกล้องมองเสือใจอยู่ตลอดเห็นพ่อลอบไปที่ภราดร
“พ่อเขาจะทำอะไรของเขานะ” จงใจแปลกใจ
เสือใจลอบไปข้างหลังเบิ้ม แล้วซัดเบิ้มกับลูกน้องจนสลบไป
“แก...” ระรินหันมาเห็น
เสือใจเงื้อมือจะตบ
“นังนี่...”
ระรินหลับตาปี๋
“อย่า...ฉันกลัวแล้ว อย่าทำฉันเลย”
เงียบ...ไม่มีเสียงอะไร...ระรินลืมตาอีกทีเสือใจจับภราดรไปไหนแล้วก็ไม่รู้
“หมอ...หมอหายไปไหน ช่วยด้วย เสือใจมันจับหมอไปแล้ว”
ระรินโวยวาย เสี่ยรงค์กับอองไชยวิ่งเข้ามา
“พ่อ...ไอ้เสือใจมันจับหมอหนีเข้าป่าไปแล้ว”
จงใจมองในกล้องเห็นว่าเสือใจหนีไปกับภราดรแล้วบอกทุกคน
“พี่เข้ม พี่ดำ พ่อหนีไปได้แล้ว”
เสือดำ กับเสือเข้มดีใจ
“มันต้องอย่างนี่สิพ่อเสือ...” เสือเข้มตะโกนสั่ง “พวกเรา...ถอย...ถอย...”
กองกำลังชาวบ้านยิงปืนคุ้มกันแล้วล่าถอยไป เสือทศโมโห
“โธ่เว้ย...”
เสือเรืองกับเสือชิน กินเหล้าหมดพอดี
“เฮ้ย...หนังจบแล้ว...ไอ้เสือ...ถอย...”
ทั้งคู่โซเซไป
ศักดายืนแค้นใจแล้วมาสมทบกับเสี่ยรงค์ สมรักษ์กับจ่าชิตและหมู่ก็มาด้วย สมรักษ์กับจ่าชิตเบาใจ ศักดาถามเสียงเข้ม
“มันหนีไปทางไหน”
“เข้าป่าไปแล้ว”
เสี่ยรงค์รีบสั่ง
“รีบตามมันไปสิ”
ศักดา อองไชย ตำรวจ สมรักษ์ จ่าชิตและหมู่แยกกันตามไปอย่างระวัง เสี่ยรงค์มองตามอย่างแค้นๆ
ภราดรวิ่งมากับเสือใจแล้วมาหยุดพักเหนื่อยในป่า ภราดรเปลี่ยนท่าทีเป็นมิตรกับเสือใจทันที
“เอาไงต่อเสือใจ”
“เล่นเป็นตัวประกันผมไปพลางๆก่อน...ต้องหาที่สงบๆถอดชนวนระเบิด”
ภราดรพยักหน้ารับ
“ได้”
เสือใจมองซ้ายมองขวาแล้วเลือกไปเส้นทางป่าทึบ
เสียงปืนสงบลง เสี่ยรงค์มานั่งพักกับระริน เธอโวยวายอย่างโมโห
“ไม่รู้ไอ้บ้านั่นจะจับหมอไปทำไม พ่อต้องตามหมอกลับมาให้ได้ด้วย เกิดระเบิดมันเกิดระเบิดตูมตามหมอของระรินไม่เละไปด้วยหรือ...ใครมันออกหัวคิดเรื่องระเบิดนะเนี่ย...”
“รู้แล้ว พ่อก็อยากได้ตัวมันเหมือนกัน หยุดโวยวายเสียทีได้ไหม”
เสี่ยรงค์หันไปสั่งเบิ้ม
“ตั้งแคมป์ชั่วคราว วางกำลังคุ้มกันให้แน่นหนาด้วย”
“ครับ แต่ผมคิดว่าพวกมันคงไม่ย้อนมาแล้วล่ะครับ เสือทศคงคุมสถานการณ์อยู่”
เสี่ยรงค์ไม่ไว้ใจ
“มันขึ้นอยู่กับเสือทศว่าจะถอดใจหรือยัง”
เสือใจวิ่งมากับภราดรตามป่ามองหาที่ ที่เหมาะสม
“แถวนี้ก็ดีนะเสือใจ”
“ยัง...ฉันว่ามันต้องส่งคนตามมาแน่ ไปกันต่อดีกว่า”
ภราดรพยัก เสือใจชี้ไป
“ไปทางนี้”
เสือใจไปกับภราดร
ศักดา อองไชย จ่าชิต ตำรวจ ลูกน้องเสี่ยรงค์บางส่วน ต่างวิ่งดาหน้าเข้ามาหยุดในป่าโปร่งทางที่เสือใจพาภราดรหนีมา ศักดาหยุดสั่งการ
“ฉันว่าแยกกันออกค้นหาดีกว่า”
อองไชยถามทันที
“ถ้าเจอมันล่ะ”
“จับตาย”
ศักดาร้องสั่ง
“ไปกันได้แล้ว ถ้าค่ำแล้วยังไม่มีใครเจอให้กลับที่แคมป์”
ทุกคนรับทราบ จ่าชิตไปกับสมรักษ์ และหมู่
“จ่า...หมู่”
อองไชยไปกับลูกน้องเสี่ยรงค์ ศักดาไปกับตำรวจที่เป็นลูกน้อง
พวกชาวชุมเสือที่ออกไปช่วยเสือใจพากันกลับมาอย่างสะบักสบอม แล้วมาพักที่ลานกลางหมู่บ้าน เสือทศสั่งการ
“ไปตามลุงชมมา รักษาพวกที่เจ็บป่วย”
จงใจ หิน แก้ว เสือเข้มและเสือดำต่างมานั่งพัก แววมากับลุงชมที่แยกไปดูคนบาดเจ็บ
“เป็นยังไงบ้าง” แววเข้ามาหากลุ่มจงใจ
“พ่อเสือหนีไปได้แล้ว”
“ทำไมไม่ไปช่วยกลับมา”
เสือเข้มรู้สึกเสียใจ
“พี่น้องของเราล้มตายไปมาก ฉันจึงสั่งถอย”
แววรับรู้อย่างไม่สบายใจ เสือทศพูดขึ้น
“ไม่ต้องกลัวหรอกน้าแวว พ่อเสือเป็นคนเก่ง ฉันว่าพ่อเสือต้องเอาตัวรอดมาได้แน่”
แววไม่ไว้ใจเสือทศ
“ข้ากลัวว่าพี่เสือของข้า จะโดนลอบกัดกลางทางน่ะสิ”
เสือทศสะอึก
“เราจะออกตามพ่อเสือกันอีก ตอนนี้ให้ทุกคนพักก่อน ไป...ไอ้เรือง ไอ้ชิน”
เสือทศออกไปอย่างไม่มีพิรุธ เสือเรืองและเสือชินเดินตามไปกลิ่นเหล้าหึ่ง แววมองตามเสือทศอย่างกังวล
“หิน แก้ว เอ็งไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
หินยิ้ม
“สบายมากแม่”
จงใจหันไปถามเสือเข้ม กับเสือดำ
“พี่เข้ม พี่ดำ ยังไหวใช่ไหม”
เสือเข้มกับเสือดำยิ้มอย่างหนักแน่น และเข้าใจความหมาย
“พี่ไหวเสมอ”เสือเข้มบอกอย่างมุ่งมั่น
เสือดำมั่นใจ
“พี่สองคนจะพาพ่อเสือกลับมาเอง”
จงใจ แวว แก้วและหินยิ้มอย่างมีกำลังใจ
ศักดาเดินมาตามทางกับลูกน้องที่เป็นตำรวจอย่างระมัดระวัง
“ระวังกันด้วย ได้กระสุนอาคมครบกันแล้วใช่ไหม”
“ครับ”
“ถ้าเจอยิงได้เลย ไม่ต้องถาม”
“แล้วหมอภราดรล่ะครับ”
“ถ้ามันพลาดไปโดนก็ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย”
ตำรวจทุกคนรับรู้แล้วเดินทางตามหาต่อไป
สมรักษ์ จ่าชิตและหมู่ เดินตามหาเสือใจมาตามทาง
“ทางนี้หมวด”จ่าชิตดูร่องรอยแล้วบอก
“นี่จ่าจะตามเสือใจให้เจอจริงๆหรือ”
จ่าชิตบอกแผน
“มีสองอย่างตามหามันให้เจอก่อนใคร หรือถ้าคิดว่าใครจะเจอก่อนก็ต้องช่วยมัน”
หมู่งงๆ
“ผมไม่เห็นเข้าใจเลย”
จ่าชิตหลอกด่า
“ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหมู่ยังเป็นแค่สิบตรี...เอาน่าทำตามผมก็แล้วกัน”
ทั้งหมดตามจ่าชิตไป
อองไชย เดินค้นหาเสือใจ มากับลูกน้องเสี่ยรงค์สองคนแล้วมาหยุดที่กลางป่า
“หยุดก่อน”
ลูกน้องทำตาม อองไชยมองไปรอบๆแล้วหลับตาจับยามสามตา ท่องอาคม
เสือใจเดินมากับภราดรแล้วรู้สึกถึงมนตราของอองไชย เขาสั่งภราดร
“หยุดก่อนหมอ”
“มีอะไร”
“นิ่งๆ”
ภราดรทำตาม เสือใจหลับตาบริกรรมคาถาแล้วเป่าไปรอบๆ
“ไอ้พรานอองไชยเจ้าเล่ห์ เล่นวิชาจับยามหาข้ารึ ไม่ได้กินหรอก”
ภราดรมองเสือใจแบบไม่ค่อยเข้าใจในไสยศาสตร์
อองไชยหลับตาจับยามหาที่อยู่ของเสือใจ แล้วลืมตาขึ้น หน้าตามั่นใจแล้วกำลังจะไปทางที่เสือใจอยู่
“คิดว่าจะหลบข้าพ้นรึ ไอ้ใจ...ไปทางนี้”
อองไชยจะนำลูกน้องไป แต่มีเสียงปืนดังขึ้นมาแต่ไกลทางสมรักษ์และจ่าชิต
“ไป...”
ทั้งหมดวิ่งไปทางเสียงปืน
ศักดาเดินตามหาเสือใจมากับตำรวจแล้วได้ยินเสียงปืน ทั้งหมดหยุด
“ไปเร็ว...”ศักดาสั่ง
ทั้งหมดวิ่งไปทางเสียงปืน
เสือสมิง ตอนที่ 14 (ต่อ)
หมู่หน้าจ๋อยกำลังถูกสมรักษ์คาดโทษ
“หมู่เป็นตำรวจมากี่ปีแล้วเนี่ย ยังทำปืนลั่นอีกหรือ”
“ผมไม่ได้ตั้งใจครับหมวด”
ศักดาและคนอื่นๆวิ่งเข้ามานึกว่าปะทะกับเสือใจ
“มีอะไรกันหมวด”
จ่าชิตหันมาบอก
“ก็หมู่น่ะสิ เดินๆอยู่ดันทำปืนลั่น ดีที่ไม่โดนใครเข้า กลับไปต้องสั่งขังแล้ว”
หมู่หน้าจ๋อย อองไชยเซ็งมองหน้าสมรักษ์กับจ่าชิตเหมือนไม่เชื่อว่าหมู่จะทำปืนลั่นจริงๆ จ่าชิตแอบอมยิ้มที่แท้เป็นแผนถ่วงเวลาให้เสือใจหนีไป
“ไม่มีอะไรก็ออกค้นหากันได้แล้วเดี๋ยวจะค่ำเสียก่อน” ศักดาเซ็งแล้วสั่ง
อองไชยแววตาแข็งกร้าว เขารู้ว่าจะไปหาเสือใจได้ที่ไหน
เสือใจอยู่ที่เดิมกับภราดรแล้วได้ยินเสียงปืน เสือใจยิ้ม
“ไอ้ชิต...ไปหมอ ไปทางนี้”
เสือใจพาภราดรมาทางตรงกันข้ามกับเสียงปืน
อองไชยวิ่งมาตามป่าตามญาณที่เขาสัมผัสได้ และรู้ว่าเสือใจใช้อาคมสกัดยามสามตาของเขา
“คิดว่าจะใช้อาคมสกัดข้าได้หรือ...ไม่มีทาง”
อองไชยหลับตาท่องคาถาแล้วจับยามสามตาต่อแล้วลืมตา สักครู่จึงวิ่งไปทางเสือใจ
เสือใจพาภราดรมาถึงมุมสงบแห่งหนึ่งแล้วบอกภราดร
“ถึงเวลาที่เราจะต้องเสี่ยงกัน”
ภราดรมองเสื้อระเบิดแบบไม่ค่อยแน่ใจแต่ก็ต้องยอม
“เอาก็เอา แต่ผม...เอ่อ...ไม่ค่อยแน่ใจ”
เสือใจแววตาจริงจัง
“หมอใจเย็นๆ ลองคิดดูให้ดี ตอนที่หมอทำแผลให้ผม หมอเห็นอะไรบ้าง”
ภราดรพยายามตั้งสติแล้วพยายามนึกถึงตอนที่ศักดาปลดระเบิดออกก่อนที่เขาจะทำแผล ภราดรคิดๆแล้วยังไม่มั่นใจ
“ยังไงผมก็ยังจำได้ไม่หมดอยู่ดี”
“หมอต้องทำได้ เราต้องช่วยกัน หมอเห็น ผมจำสัมผัสได้”
ทั้งคู่มองหน้ากันเหงื่อตก ภราดรพยักหน้าอย่างตัดสินใจ
อองไชยกำลังเดิน มาทางที่เสือใจกับภราดรกำลังปลดระเบิด เขามั่นใจแล้วค่อยๆก้าวอย่างระวัง...เสือใจนั่งขัดสมาธินิ่ง ภราดรเริ่มลงมือปลดระเบิดด้วยการปลดฉนวนที่กระดุมทีละเม็ด ภราดรเหงื่อตก เสือใจเตือนสติ เขาหลับตาและนึกถึงสัมผัสตอนที่ศักดาปลดชนวน
“ใจเย็นๆหมอ นั่น ถูกแล้ว”
ภราดรแกะกระดุมไปสองเม็ดเหลืออีกสาม เขาปาดเหงื่อ
“เม็ดนี้ผมจำสีสายไฟไม่ได้ เห็นว่ามีสายไฟซ้ายขวา”
เสือใจพยายามนึก
“จับกระดุมซิ”
ภราดรทำตาม เสือใจบอก
“เม็ดที่สาม ทางขวา”
ภราดรปลดสายไฟอย่างลุ้นและรอด ทั้งคู่ถอนหายใจ ทันใดนั้นเสือใจได้ยินเสียงบางอย่าง เขารู้ได้ทันที
“อองไชย”
ภราดรกังวล อองไชยเดินลับเหลี่ยมต้นไม้มาแต่ไม่มีเสือใจกับภราดรอยู่ ซึ่งที่จริงทั้งคู่ควรอยู่ตรงนั้นซึ่งเป็นเพราะว่าเสือใจท่องมนต์แล้วเอาใบไม้เหยียบเอาไว้ เขาอยู่กับภราดรแล้วเห็นอองไชยยืนไม่ห่างนัก ภราดรนิ่งแทบไม่หายใจ เสือใจกระซิบ
“นิ่งไว้หมอ”
อองไชยมองไปรอบๆ
“ข้ารู้ว่าแกอยู่แถวนี้ แค่วิชาใบไม่บังตาตื้นๆคิดว่าจะหลบข้าได้หรือ”
อองไชยหลับตาแล้วบริกรรมคาถา เสือใจเขาหลับตาแล้วท่องคาถาสู้ทันที
อองไชยกับเสือใจใช้มนตราของแต่ละฝ่ายสู้กัน เสือใจเริ่มแย่เพราะกำลังจะต้านทานมนต์ของอองไชยไม่ไหว อองไชยเป็นต่อรำพึงในใจ
“ดูสิ...เจ้าจะทนได้นานแค่ไหน”
ภราดรเห็นสีหน้าเสือใจแย่และมีเหงื่อเต็มใบหน้ากำลังจะต้านไม่ไหว แต่แล้วในภวังค์ของเสือใจก็มีพระธุดงค์ผุดเข้ามาให้สติ
“สมาธิเท่านั้นโยม ความสงบจะสยบการเคลื่อนไหว นิ่งไว้รวบรวมสมาธิให้นิ่งอย่าไขว้เขว”
เสือใจตอบด้วยเสียงจากความนึกคิด
“หลวงพ่อ...”
“เจริญพร”
พระธุดงค์หายไปเสือใจทำตามที่พระธุดงค์บอก ทันใดนั้นมีพลังประหลาดทำลายอาคม อองไชยลืมตาทันที
“ทำไม...เป็นไปไม่ได้...ทำไมอาคมถึงแก่กล้าเช่นนี้”อองไชยครุ่นคิด
เสือใจกับภราดรยังคงอยู่ไม่ห่าง แต่อองไชยไม่เห็น ศักดากับลูกน้องมาตามถึง
“ท่านพราน อยู่นี่เอง กลับกันเถอะเย็นแล้ว เดี๋ยวมืดจะเป็นเป้าให้มันเปล่าๆ”
อองไชยจำใจต้องกลับไปกับศักดา เสือใจกับภราดรเผยตัวออกมา เสือใจโล่งอก ภราดรรีบแกะระเบิดต่อไป
เสือเข้มกับเสือดำ ขี่ม้ามาตามชายป่าช้าๆ
“พ่อเสือน่าจะหนีมาทางนี้” เสือเข้มสังเกตรอบๆ
“ทำไมวะ”
เสือเข้มกังวล
“แถวนี้ไกลจากผู้คนถ้าเกิดระเบิดขึ้น ก็จะไม่มีใครเดือดร้อนไง”
เสือดำเห็นด้วย
“จริงของเอ็ง แล้วเอ็งคิดว่า ไอ้เสี่ยรงค์มันจะไม่ออกตามล่าหรือ”
“ตาม...แต่มันคงไม่กล้าบุ่มบ่าม เพราะที่นี่เป็นถิ่นเรา มันย่อมรู้ดีว่าเราเป็นต่อมันทั้งขึ้นทั้งล่อง”
เสือดำเข้าใจแล้วชักม้าต่อไป
ระเบิดถูกถอดออกออกจนจะหมด แล้วภราดรตัดสายพลาด นาฬิกาเดินทันทีเข็มวินาทีเดินแบบออโตเมติก ภราดรชะงักและลังเล
“มีอะไรหมอ”
“ไม่รู้สิ นาฬิกามันเดิน”
เสือใจหน้าซีด
“ระยำแล้วไง...หมอรีบหาสายตัดชนวนเร็ว”
ภราดรค่อยเกลี่ยสายไฟสี่ห้าเส้นแล้วไล่สายไปทีละสี เสือใจกระตุ้น
“เร็วสิหมอ เดี๋ยวมืดแล้วจะลำบาก”
“ใจเย็นสิเสือใจ”
ภราดรเหงื่อเต็มใบหน้า เขาไล่สายมาเห็นว่าไม่เกี่ยวข้องอยู่สองเส้น เหลืออีกสามเส้น นาฬิกาเดินไปครึ่งรอบ
“เป็นไงบ้างหมอ”
“เอ่อ...เสือใจอยากฟังข่าวดีหรือข่าวร้ายก่อนล่ะ”
“ข่าวดี”
“เส้นนี้เป็นเส้นสุดท้ายแล้ว”
เสือใจเบาใจและโล่ง
“ก็ดีสิ งั้นก็รีบปลดเลย”
“ฟังข่าวร้ายก่อนดีกว่า”
“อะไร”
“ผมจำไม่ได้ จริงๆ”
เสือใจแทบสำลัก
“โธ่หมอ...เส้นสุดท้ายแล้ว นึกสิ นึกให้ดี”
ภราดรกำลังนึกทบทวน นาฬิกาเดินไปครบรอบเหลืออีกหนึ่งรอบ เสียงขึ้นนกปืนดังกริ๊ก ทั้งคู่หันไปเห็นเป็นพรานเฒ่า
“ถ้าเดาไม่ผิด แกต้องเป็นเสือใจแน่นอน ใช่ป่ะ...”
เสือใจกับภราดรมองพรานเฒ่างงๆ
พวกเสี่ยรงค์ตั้งแคมป์ชั่วคราว ระรินโวยวายขึ้นมาอย่างสุดฤทธิ์
“อะไรนะ หาไม่เจอ คนตั้งเยอะตั้งแยะทำไมหาไม่เจอ...”
ศักดาปราม
“ใจเย็นๆสิครับคุณระริน ไอ้เสือใจมันไม่กล้าไปชุมเสือหรอก เพราะมันมีระเบิดติดตัวอยู่ เกิดตูมตามขึ้นมาพวกมันจะถูกลูกหลง”
ระรินหันมาตาแข็ง
“ก็นั่นแหละที่ฉันกลัว ไม่รู้ล่ะ ถ้าหมอของฉันเป็นอะไรไปคอยดูนะฉันจะไม่ไว้หน้าเลย”
ระรินพูดเสร็จก็เดินสะบัดไป เสี่ยรงค์รู้สึกอ่อนใจ
“ทำไมจับมันยากเย็นจริงๆ คืนนี้ค้างที่นี่ก่อนพรุ่งนี้ต้องออกตามหาใหม่”
อองไชยบอกอย่างมั่นใจ
“ได้...ข้ายังรู้สึกได้ว่ามันยังอยู่แถวนี้”
เสี่ยรงค์รับรู้แล้วเดินจากไปกับเบิ้ม ศักดาเดินตามไป
พรานเฒ่ายังคงใช้ปืนควบคุมตัวภราดรกับเสือใจอยู่ นาฬิกาเดินไป 20 วินาทีแล้ว
“ใช่ข้าเคยได้ยินมาว่าเสือใจปล้นคนรวยแจกคนจน ไหงมาระยะหลังดันมาปล้นคนจนแล้วไม่แจกใครเลย”
เสือใจอธิบายอย่างใจเย็น
“ไอ้พวกนั้นมันแอบอ้าง”
“ข้าไม่เชื่อ อีกอย่างเสือใจมีข้าหัวแพงลิบ จะทำให้ข้าสบายไปตลอดชีวิต”
ภราดรช่วยยืนยัน
“พวกนั้นมันแอบอ้างจริงๆนะลุงผมเป็นพยานได้”
พรานเฒ่าไม่สนใจ
“เอ็งเป็นพวกกันก็ต้องเข้าข้างกันสิ”
“ผมไม่ได้เป็นพวกเสือใจ ผมถูกเสือใจจับมาเป็นตัวประกัน”
“นั่นไง...จับเขามาเป็นตัวประกัน อย่างนี้มันก็โจรแล้ว ข้าจะจับแกไปเอาค่าหัว”
เสือใจพูดด้วยใจจริงแววตาจริงใจ
“ลุงอยากทำอย่างนั้นก็ได้ คนอย่างเสือใจไม่เคยโกหกใคร ตลอดชีวิตของเสือใจไม่เคยรังแกคนที่เดือดร้อนมีแต่ช่วยเหลือ ฉันพูดได้แค่นี้ลุงจะทำยังไงกับฉันก็เชิญ”
พรานเฒ่าหยุดฟังแล้วอ่อนลง
“แล้วแกจับไอ้หนุ่มคนนี้มาทำไม”
“เขาเป็นคนเดียวที่ปลดระเบิดได้”
“ชะ...ใช่...เร็วเถอะเหลือเวลาไม่มากแล้ว”
ภราดรหน้าเสีย นาฬิกาเดินไป 35 วินาทีแล้วเหลืออีก 25 วินาที พรานเฒ่าเริ่มเข้าใจ
“ไหนดูซิ ปลดระเบิดมันยากตรงไหน”
“ยากสิ ตอนนี้ยากที่สุดดึงผิดเส้นก็หาชิ้นส่วนไม่เจอ”
พรานเฒ่าดูระเบิดไปมาจนเวลาเกือบจะหมด...ทันใดนั้นพรานเฒ่าคว้าสายไฟเส้นหนึ่งแล้วดึงอย่างรวดเร็ว จนภราดรกับเสือใจไม่รู้สึก
“นี่ไงเส้นนี้ใช่ไหม”
ภราดรกับเสือใจร้องอย่างตกใจ
“เฮ้ย...”
“อย่า...”
พรานเฒ่าทำหน้าเฉย นาฬิกาหยุดเดินเหลือเวลาแค่วินาทีเดียว เสือใจแทบร้องไห้
“ลุงรู้ได้ยังไง”
พรานเฒ่ายิ้ม
“ไม่... ข้าไม่รู้ข้าชอบสีนี้ข้าเลยดึง”
เสือใจแทบลมใส่เขารอดชีวิตมาอย่างหวุดหวิด
ค่ำนั้น จ่าชิตนั่งกินอาหารกระป๋องกับสมรักษ์
“จ่าว่าเสือใจจะปลดระเบิดได้หรือเปล่า” สมรักษ์ปรับทุกข์
“ได้สิ...คนอย่างไอ้ใจมันเป็นคนฉลาด ผมมานั่งนึกๆดู ถึงรู้ว่าทำไมมันถึงให้หมอภราดรมาทำแผล และทำไมมันต้องจับหมอภราดรไป”
สมรักษ์ยังไม่รู้
“ก็เอาไปเป็นตัวประกัน”
“ไม่ใช่หรอก มันตั้งใจให้หมอภราดรดูผู้กองศักดาปลดระเบิด หมวดว่าคนเรียนหมอต้องหัวดีไหมล่ะ”
สมรักษ์เข้าใจทันที
“จริงด้วย เสือใจนี่ร้ายจริงๆ”
สมรักษ์ถอนหายใจ
“ไม่นึกเลยว่าเราต้องมาช่วยโจร”
“ผู้กองศักดาต่างหากที่ช่วยโจร”
จ่าชิตยิ้มกระหยิ่มแล้วกินอาหารต่อ สมรักษ์เห็นด้วย
เสื้อระเบิดถูกถอดแขวนกับไม่ไผ่ทำเหมือนหุ่นไล่กาเอาไว้ ภราดรสงสัย
“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย”
“ให้ไอ้เสี่ยรงค์มันแค้นเล่น” เสือใจหัวเราะ “ขอบใจนะลุงที่เข้าใจฉัน”
พรานเฒ่ายิ้มให้
“ถ้าเอ็งเป็นเสือใจที่มีคุณธรรมจริง ก็ไม่ต้องมาขอบใจข้าหรอก เอ็งคงไม่รู้หรอกว่าครั้งหนึ่งเงินของเองเคยช่วยชีวิตลูกข้า”
เสือใจรู้สึกยินดี
“ฉันฝากไอ้หมอนี่ไว้กับลุงก่อนนะ พรุ่งนี้พวกมันคงออกตามหา”
“ได้...แปลกจังว่ะ วันนี้มีแต่คนมาพักที่บ้าน”
ภราดรสงสัย
“โชคดีนะหมอ”
เสือใจจากไป พรานเฒ่าชวนภราดร
“ไป ไอ้หมอ”
ทั้งคู่เดินไปด้วยกัน
กินรีกำลังทำกับข้าว ที่มีปลาเป็นอาหารหลัก มะค่าคอยช่วยอยู่ข้างๆ
“วันนี้ขอกินให้อร่อยสักมื้อนึงเถอะ...ซัดผลหมากรากไม้จนหน้าจะเป็นลิงอยู่แล้ว”
“นี่ยังไม่เหมือนลิงอีกหรือ”
กินรีหัวเราะ มะค่าค้อน
“พี่กินรีก็...มะค่าออกจะสวย”
กินรีอมยิ้ม ประเดิมเดินขาเขยกเข้ามาพร้อมจับปลามาอีกมากมาย
“มาแล้วปลาสดๆ ลำธารที่นี่ปลาชุมจริงๆ”
กินรีรู้สึกว่าจับมามากเกินจำเป็น
“ทำไมจับมามากจัง แค่นี้ก็จะกินไม่หมดอยู่แล้ว”
“กินไม่หมดก็ทำเค็มเก็บเอาไว้ให้ลุงพรานแก”
กินรียิ้มและชื่นชมในความคิดของประเดิม ทุกคนกำลังช่วยทำอาหารกันอย่างสนุก พรานเฒ่าพาภราดรเข้ามา พรานเฒ่าเรียกทุกคนแล้วแนะนำ
“เอ้า...พวกเอ็งมีสมาชิกใหม่มาคนนึง...แหม บ้านข้านี่มันกลายเป็นโฮมสเตย์ไปซะแล้ว”
ทุกคนหันไปเห็นเป็นภราดร ประเดิมอึ้ง
“หมอ”
กินรีดีใจ
“หมอ”
ประเดิมเดินเขยกไปหาภราดรด้วยความยินดี กินรีแอบดีใจลึกๆในใจ มะค่ารู้สึกดีใจไปกับกินรีด้วย พรานเฒ่าแปลกใจ
“นี่พวกเอ็งรู้จักกันด้วยหรือ”
เสือเข้มกับเสือดำชักม้าลัดเลาะมาตามต้นไม่ในป่า ทันใดนั้นมีคนโดดมาจากต้นไม้คว้าเขาสองคนร่วงจากหลังม้าไป ชายลึกลับไม่หยุดแค่นั้น เขายังสยบอาวุธของเสือเข้มกับเสือดำไปเป็นของตัวเองอีกด้วย แล้วเอาอาวุธปืนจ่อคนทั้งสอง เสือเข้มหันไปภาม
“แกเป็นใคร”
ชายลึกลับจุดคบในมือไฟสว่างขึ้นเป็นเสือใจ แววตาเข้มและยิ้ม เสือเข้มกับเสือดำร้องออกมาพร้อมกัน
“พ่อเสือ”
ทั้งคู่ดีใจ เสือใจยิ้ม
กินรีดูแลเอาใจใส่ภราดรและยกขันน้ำให้
“นี่ค่ะหมอ น้ำ”
“ไปยังไง มายังไงหมอถึงหลงมานี่ได้” ประเดิมถามอย่างแปลกใจ
“เรื่องมันยาว เริ่มจากมีพวกโจรมาช่วยเสือใจ แล้วเสือใจก็จับฉันมา คิดไปก็ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าจะได้มาเจอพวกเธอ”
ภราดรหัวเราะเบาๆ กินรีถามเรียบๆ
“แล้วพวกเสี่ยรงค์ล่ะคะ”
ภราดรนึกถึงระรินอย่างขำๆ แต่ไม่แสดงออก
“นั่นสิ ฉันคิดว่าป่านนี้ระรินคงตามหาฉันน่าดูเลยล่ะ”
กินรีรู้สึกน้อยใจเมื่อได้ยินประโยคนี้แล้วขอตัวออกไป
“ฉันไปเตรียมผ้าให้หมออาบน้ำนะคะ”
“ขอบคุณครับ” ภราดรขอบคุณตามมรรยาท
“ข้าอิ่มแล้ว” มะค่าลุกตามไป
ประเดิมหันมาคุยคุยกับภราดร
“งั้นพรุ่งนี้เราไปตามหาพวกนั้นกัน จะได้กลับบ้านเสียที”
“ฉันอยากกลับบ้านเต็มแก่แล้ว”
พรานเฒ่าเข้ามาพร้อมไหเหล้าแล้ววางลงกลางวง
“เอ้า...”
ประเดิมสงสัย
“อะไรน่ะลุง”
“ยารักษาแผลเอ็งไง”
ภราดรกับประเดิมมองงงๆ
เสือทศนั่งดื่มเหล้าดับแค้นและความเสียดายที่กำลังจะเผด็จศึกจงใจได้แล้ว แต่ไม่สำเร็จ
“อีกนิดเดียว....อีกนิดเดียวเท่านั้น ข้าก็จะได้จงใจแล้ว ไอ้หินนะไอ้หิน สาระแนจริงๆ”
เสือชินปลอบใจ
“วันพระไม่ได้มีหนเดียวหรอกพี่ พวกมันจับไม่ได้ก็ดีแล้ว”
“ใช่...โอกาสหน้ายังมี ในเมื่อขอดีๆไม่ให้กัน มันก็ต้องทำแบบนี้ช่วยไม่ได้จริงๆ...พ่อเสือ...”
เสือเรืองฉุกคิดเมื่อได้ยินคำว่าพ่อเสือ
“ข่าวว่าพ่อเสือหนีออกมาได้ เราจะทำยังไงกันดีล่ะพี่”
“พวกเสี่ยรงค์คงไม่ปล่อยให้มาถึงนี่หรอก หรือถ้ารอดมาได้พวกเอ็งก็เฉยไว้ ข้าหาทางออกเอาไว้แล้ว”
ทันใดนั้นมีเสียงตะโกนโห่ร้องของชาวบ้านที่ลานชุมเสือดังมา เสือทศและทุกคนสงสัย
“มีอะไรกันวะ”
ชาวบ้านสองคนวิ่งผ่านบ้าน เสือทศเรียกถาม
“เฮ้ย...พวกเอ็ง...มีอะไรกันวะ”
ชาวบ้านตอบอย่างดีใจ
“เขาว่าพ่อเสือกลับมาแล้วพี่”
ชาวบ้านบอกเสร็จแล้วรีบวิ่งไป เสือเรืองกับเสือชินหน้าซีดเพราะมีชนักติดหลัง เสือทศแค้นใจที่เสือใจไม่ตาย
“ทำไมตายยากตายเย็นนักวะ”
จงใจ กับแก้วตั้งสำรับ แววอาการดีขึ้นมากเข้ามาในวงข้าวแล้วรู้สึกพอใจ
“น่ากินทั้งนั้นเลย ทำกันเองหรือ”
จงใจยิ้มแย้ม
“จ้ะ...ฉันกับแก้วช่วยกันทำสุดฝีมือเลย”
แววรับรู้แล้วจะลงมือนั่งกิน หินวิ่งหน้าตื่นเข้ามาแจ้งข่าว
“แม่ พี่จงใจ พี่แก้ว พ่อเสือกลับมาแล้ว”
“จริงหรือหิน...พ่อ...”
จงใจทิ้งชามข้าวรีบวิ่งไปทันที แก้วกับหินวิ่งตามไป แววมองตามในใจลิงโลด
“ขอบคุณ คุณพระคุณเจ้า”
เสือใจควบม้าเข้ามาในชุมเสืออย่างองอาจและสง่า ตามด้วยเสือเข้มและเสือดำที่ขี่ม้าตัวเดียวกัน ชาวบ้านถือคบไฟมาต้อนรับด้วยความดีใจ ต่างร้องตะโกนลั่น
“ไชโย...พ่อเสือกลับมาแล้ว”
เสือใจลงจากหลังม้ายืนมองหมู่บ้านและทุกคน ด้วยความอิ่มใจที่ได้กลับมาอีกครั้ง จงใจรีบวิ่งฝ่าฝูงชนเข้ามาหาพ่อแล้วกอดอย่างดีใจ
“พ่อ...”
“จงใจ”
จงใจน้ำตาไหลด้วยความดีใจแล้วตัดพ้อ
“พ่ออย่าทิ้งจงใจไปอีกนะ”
“พ่อจะไม่ทิ้งลูกไปไหนอีกแล้ว...พ่อสัญญา”
แวว เดินเข้ามายืนหน้าฝูงชนแล้วมองเสือใจอย่างชื่นชม เสือใจมองแววแววตาปิติ
“แวว”
หินกับแก้ว รู้สึกดีใจและโล่งใจ ทุกคนต่างอยู่ในอารมณ์ปลื้มปิติจนกระทั่ง เสียงเสือทศดังขึ้น
“พ่อเสือ”
เสือทศกับลูกน้องเข้ามาแล้วเสแสร้งทำเป็นเป็นห่วงพ่อเสือ
“พ่อเสือกลับมาแล้ว ฉันเป็นห่วงพ่อจริงๆเลย พ่อไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
“ข้าไม่เป็นอะไรหรอก ไอ้ทศ”
“ฉันนะออกตามหาข่าวพ่อทุกวันเลย”
จงใจรู้สึกหมั่นไส้ แววมองเสือทศรู้ว่าเสแสร้ง เสือใจตัดบท
“เอาล่ะ ขอบใจทุกคนมากที่อุตส่าห์ออกมาต้อนรับข้า แยกย้ายกันไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้เรามีอะไรต้องทำอีกเยอะ”
เสือทศสอดเข้ามา
“ใช่ เราจะไม่ปล่อยให้ไอ้เสี่ยรงค์ลอยนวลไปเฉยๆใช่ไหมพวกเรา”
ชาวบ้านกำลังฮึกเหิมต่างตอบรับเสือทศ
“ใช่...”
เสือทศยุต่อ
“เราจะลากตัวมันมาสังเวยพี่น้องของเราที่ตายไปใช่ไหม”
“ใช่...”
เสือใจไม่ค่อยพอใจ
“เอาล่ะทุกคนแยกย้ายกันไปได้แล้ว เรื่องนี้ข้าจะตัดสินใจเอง”
เสือใจพูดจบแล้วเดินไปกับจงใจ แวว หินแก้ว ตามไป เสือทศเปลี่ยนอารมณ์เป็นไม่พอใจ
“พ่อคงอยู่ได้อีกไม่นานหรอก”
วงข้าวยังมีอาหารที่เป็นกับข้าวเหลืออยู่ แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นกับแกล้มแล้ว พรานเฒ่ารินเหล้าจากไหแล้วส่งให้ประเดิม
“เอาหน่อยสิไอ้หนุ่ม”
ประเดิมอยากกินแต่เกรงใจแผลที่ยังเจ็บอยู่
“เชิญลุงตามสบายเถอะ ขืนกินเข้าไปมีหวังแผลฉันเฟะแน่”
“ฮื้อ...ฟ้ง เฟะ อะไรกัน นี่แหละยาสมานแผล เอาน่าเอ็งลองดูถ้าพรุ่งนี้แผลไม่หาย ข้าให้เอ็งเหยียบหน้าเลย เอ้า...”
ประเดิมลังเล พรานเฒ่าคะยั้นคะยอ ประเดิมจึงรับไปดื่มรวดเดียวหมดแล้วรู้สึกดี
“หือ...รสชาติไม่เลวเลยลุง”
“เป็นไง ข้าบอกแล้ว...มากินอีก”
ทั้งคู่กินเหล้ากันอย่างสนุกสนาน
มะค่านั่งอยู่ที่ชานหลังบ้าน ดูพระจันทร์อย่างเหงาๆ กินรีเดินผ่านมาในมือมีผ้าห่ม
“คิดถึงพ่อกับแม่จัง”
กินรีปลอบ
“พรุ่งนี้เราก็หาทางกลับบ้านได้แล้ว”
มะค่าดีใจ
“พี่เอาผ้าห่มไปให้หมอก่อนนะ”
กินรีลุกไป มะค่ามองตามด้วยความเห็นใจ
จบตอนที่ 14