น้องเมีย ตอนที่ 13
ดาวรับฟังเรื่องจากมะเฟืองแล้วตกใจ
“ฮะ...แกลงทุนทำขนาดนั้นแล้ว เขายังไม่ยอมเล่นด้วยอีกเหรอ...โอ๊ย ให้ตายเหอะ ฉันว่าพี่เขยแกเป็นเกย์ชัวร์ๆ ดีไม่ดี พี่สาวแกเองก็เหอะ อาจจะยังไม่เคยมีอะไรกันเลยก็ได้”
“คุณเอกภพเขาไม่ใช่เกย์ ฉันรู้ว่าเขาชอบผู้หญิง”
“งั้นก็แสดงว่าเขาไม่ชอบแก”
มะเฟืองไม่พอใจ
“เอ๊ะ! อีนี่ พูดจาน่าตบปาก อุตส่าห์มาปรึกษา ดันมาด่ากันเอง”
“อ้าว...ก็ฉันก็พูดไปตามที่แกเล่ามานี่ยะ แกแก้ผ้าแก้ผ่อนเอาตัวเข้าถูไถขนาดนั้นเขายังไม่มีอารมณ์ ถ้าไม่ใช่เกย์ ก็ต้องแปลว่าเขาทำแกไม่ลง...แบบ...” ดาวเน้น “กระเดือกไม่ลงอ่ะ รู้จักป่ะ”
“แล้วทำไมไอ้ฉลามมันกระเดือกลงล่ะ”
“โอ๊ย...ไอ้ฉลามน่ะ ขอแค่ไม่มีหางมันก็เอาทั้งนั้นแหละ”
“มีอีกมุมหนึ่งนะ”
“อะไรอีกล่ะ”
“พี่เขยแกเขาต้องรักพี่สาวแกมาก มากจนไม่คิดจะทำผิดให้พี่สาวแกต้องเสียใจ เออ! ฉันว่ามันต้องเป็นเหตุผลข้อนี่แน่ๆ”
มะเฟืองฟังแล้วอารมณ์เสีย หน้าหงิก ของขึ้นทันที
“ถ้ามันรักกันมาก ก็มีทางเดียว”
ดาวสงสัย
“ทางอะไรวะ”
“ทำยังไงก็ได้ให้มันหมดรัก”
มะเฟืองจริงจังมาก
งามเนตรเครียดไปกับสิ่งที่มาวินบอก ซึ่งชายหนุ่มยืนยันซ้ำ...
“ห้ามปฏิเสธนะ”
งามเนตรลำบากใจ
“แต่ว่า...”
“ผมบอกแล้วไงว่าห้ามปฏิเสธ คืนนี้ยังไงคุณก็ต้องไปกับผม ผมจะเลี้ยงส่งคุณในฐานะเจ้านายเลี้ยงส่งลูกน้อง”
“มีใครไปบ้างคะ”
“มีแค่คุณกับผม”
งามเนตรหน้าเสีย
“ทำไม คุณไม่ไว้ใจผมเหรอ”
“ฉันคิดว่ามันไม่เหมาะสมน่ะค่ะ”
“อย่าคิดมากสิคุณ แล้วก็อย่าลืมว่าถึงตอนนี้ คุณยังคงสถานการณ์ลูกน้องของผมอยู่นะ แล้วผมก็ยังเป็นเจ้านาย คำพูดของผมคือคำสั่ง คุณไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ”
งามเนตรอึ้งไป
นิดาสำลักกาแฟพรวดเมื่อฟังสิ่งที่งามเนตรบอก
“โทษที มันตกใจอ่ะ...แล้วเธอรับปากเขาไปรึเปล่า”
“ก็มันจำเป็นนี่”
“บอสเรานี่ร้ายไม่เบาเลยนะ รู้วิธีเอาตัวเธอไปจนได้สิน่า...เออ แล้วอย่างนี้คุณเอกภพเขาจะไม่ว่าเอาเหรอ”
“นั่นน่ะแหละเรื่องที่ฉันกังวล คุณภพเขายิ่งไม่ชอบคุณมาวินอยู่ ขืนรู้ว่าฉันออกไปกับคุณมาวิน มันต้องเป็นเรื่องแน่ๆเลย ต่อให้เป็นเรื่องงานก็เถอะ”
“ก็ถ้ารู้แล้วมันจะเป็นเรื่อง ก็อย่าให้รู้สิ”
“เธอว่าไงนะ”
“โกหกสามีเธอซะ ถ้าไม่อยากมีปัญหา”
“มันจะดีเหรอ”
“มันไม่ดีหรอก แต่ถ้าความจริงมันจะฆ่าเธอ มันก็จำเป็นต้องทำ”
งามเนตรอึ้งๆไป คิดไม่ตก
“มันจะไปยากอะไรล่ะเนตร ไม่เห็นต้องเครียดเลย ฝั่งสามีก็ไม่ต้องให้เขารู้ ฝั่งเจ้านายก็ระวังตัวให้ดี เอาตัวให้รอด มันก็แค่นั้นแหละ จบ! ไม่เป็นเรื่องด้วย”
งามเนตรถอนหายใจอย่างหนักใจ
เอกภพอยู่ในออฟฟิศรับสายจากงามเนตร
“ว่าไงครับเนตร”
“เนตรจะโทรมาบอกว่าคืนนี้จะกลับดึกหน่อยน่ะค่ะ พอดีว่ามีงานที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จก่อนออก”
“จะให้ผมไปรับไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเนตรกลับกับเพื่อนที่ออฟฟิศได้ แค่นี้ก่อนนะคะ เนตรต้องรีบทำงานให้เสร็จ”
“ครับ”
งามเนตรวางสายด้วยความรู้สึกผิดพูดกับตัวเองเบาๆ
“ขอโทษนะคะคุณภพ...แต่เนตรจำเป็นจริงๆ”
มะเฟืองใส่ชุดนักศึกษาเตรียมจะออกจากบ้าน บัวยืนขวางทางอยู่
“เพิ่งจะรู้นะว่าเป็นเด็กไซด์ไลน์ คิดว่าแค่แรดเฉยๆ”
“อย่าปากดีไปเลย อย่างน้อยฉันก็ยังได้ชื่อว่าเป็นนักศึกษา ไม่เหมือนแกหรอก คนใช้เต็มรูปแบบ”
บัวโกรธ
“ฉันไม่ใช่คนใช้”
มะเฟืองมองหยัน
“อ๋อเหรออ ต๊าย...ดูไม่ออกเลยนะเนี่ยว่าไม่ใช่ ดูยังไงก็ใช่อ่ะ”
ชมผ่ากลางเข้ามา
“นี่ สองคนนี้หยุดทะเลาะกันซะทีได้ไหม บ้านช่องออกใหญ่โตยังอุตส่าห์เดินมาป้ะกันแฮ๋มได้อีก ไปๆ ใครจะไปเรียนก็ไป ใครมีงานต้องทำก็ทำ ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกัน ไปๆๆ แยกย้ายกันไป”
มะเฟืองลอยหน้าลอยตาใส่บัว
“ไปก่อนนะ...นังขี้ข้า!”
“อีมะเฟือง!”
บัวจะโผเข้าตบแต่ชมขวางไว้
“หยุด!"
มะเฟืองหัวเราะสะใจแล้วออกไป บัวหันมาเล่นงานชมแทน
“น้าน่ะแหละหยุด! ทำไมต้องทำให้ฉันดูเป็นคนใช้ด้วย ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่ ฉันมาเรียนเสริมสวยนะ ไม่ใช่มาเป็นคนใช้ คราวหน้าคราวหลังพูดอะไร คิดซะบ้างนะ”
บัวสะบัดหน้าพรืดเข้าบ้านไป
“เออๆๆ ไม่มีใครอยากเป็นคนใช้ ฉันเป็นคนเดียวก็ได้วะ หน้าให้อยู่แล้วกลัวที่ไหนอ่า...”
ค่ำนั้น มาวินกับเนตรอยู่ในร้านอาหารนั่งกินข้าวกันเงียบๆ...เนตรไม่ยอมกินอะไร ได้แต่นั่งนิ่งๆ
“นอกจากจะไม่ทานอะไรแล้ว ใจคอคุณจะไม่พูดกับผมสักคำเลยเหรอครับ...คุณรังเกียจผมขนาดนี้เชียวเหรอ”
“ฉันไม่ได้รังเกียจอะไรคุณหรอกค่ะ ถ้าคุณหิวก็รีบทานเถอะค่ะ ฉันไม่อยากกลับบ้านดึก”
“ดึกหน่อยเพื่อผมได้ไหมครับ อย่าลืมสิว่าอีกแค่ไม่กี่วันเราก็จะไม่ได้เจอหน้ากันอีกแล้วนะ”
งามเนตรตัดบท
“ทานเถอะค่ะ”
งามเนตรดูนาฬิกาบ่อยๆ เป็นเชิงบอกว่ารีบกลับ มาวินมองหน้า
“คุณตอบคำถามผมสักข้อได้ไหม”
“มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะถามฉันว่าอะไร”
“ถ้าคุณไม่มีคุณเอกภพ ถ้าคุณยังโสด คุณจะให้โอกาสผมเป็นคนรักคุณไหมครับ คุณเนตร”
งามเนตรอึ้งไปครู่หนึ่ง พยายามตั้งสติ
“คำถามนี้ ฉันคงตอบคุณไม่ได้หรอกค่ะ”
“ทำไมล่ะครับ ผมไม่มีค่าพอที่จะเป็นคนรักของคุณได้เลยงั้นเหรอ”
“ไม่ว่าคำตอบของฉันจะเป็นยังไง มันก็ไม่สำคัญหรอกค่ะเลิกสมมติแล้วอยู่กับความจริงกันดีกว่า ดิฉันเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แล้วก็กำลังลาออกจากงาน เราไม่ควรยุ่งเกี่ยวกันอีก ไม่ว่าในทางไหนก็ตาม” งามเนตรลุกขึ้น “ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ หวังว่ากลับมาคุณจะทานเสร็จพอดี เราจะได้กลับกันซะที”
งามเนตรลุกออกไป มาวินมองตามไปทั้งโกรธทั้งอายที่ถูกปฏิเสธ
มาวินจอดรถส่งงามเนตรที่หน้าบ้าน
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ”
งามเนตรจะเข้าบ้าน
“เดี๋ยวก่อนครับคุณเนตร”
“คะ”
มาวินลงจากรถมา
“ถ้าวันใดวันหนึ่งเกิดอุบัติขึ้นในความสัมพันธ์ของคุณ หากคุณต้องแยกทางกับเอกภพ ขอให้ผมเป็นคนที่จะดูแลคุณต่อไปนะครับ”
งามเนตรอึ้งไป คิดว่าไม่ตอบอะไรเลยจะดีกว่าได้แต่ก้มหน้าแล้วเดินเข้าบ้านไป มาวินตามไปคว้าข้อมือไว้
“นะครับเนตร”
มะเฟืองกลับมาถึงเห็นเข้าพอดี ก็ชะงักพึมพำเบาๆ
“นังเนตร!”
มะเฟืองรีบเข้าที่ซ่อนแอบดูเหตุการณ์ งามเนตรบิดข้อมือออกจากมือของมาวิน
“ฉันยังไม่ได้เกลียดคุณ แต่อย่าทำแบบนี้อีก อย่าทำให้ฉันต้องรังเกียจคุณ”
งามเนตรเปิดรั้วเดินเข้าไปด้านใน...มาวินมองตามไปอย่างผิดหวัง ก่อนจะหันกลับมาเจอเข้ากับมะเฟือง
“ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะ ฉันมาดี ไม่ได้มาร้าย”
มาวินกับมะเฟืองมานั่งคุยกันที่ร้านกาแฟ
“ถ้าคิดจะรอให้เขาหย่ากัน คุณคงต้องรอไปทั้งชาติแหละค่ะ สองคนนั้นเขารักกันจะตายไป เขาไม่มีทางเลิกกันง่ายๆ หรอกค่ะ”
“แล้วผมจะทำอะไรได้ นอกจากรอ”
“ทำได้สิคะ ถ้าอยากจะทำ”
มาวินมองหน้ามะเฟืองอย่างไม่ไว้ใจว่าคิดอะไรอยู่
“คุณรู้เหรอว่าต้องทำยังไง”
“ความสัมพันธ์มันต้องตั้งอยู่บนความไว้ใจ ถ้าทำลายความไว้ใจลงได้ ความสัมพันธ์ก็ไม่ไปรอด แล้วก็ต้องจบลงไปในที่สุด ไม่งั้นคนเขาจะหย่ากันให้เต็มบ้านเต็มเมืองเหรอคะ”
“นี่คุณกำลังจะบอกให้ผมทำลายความไว้ใจของเนตรกับคุณเอกภพงั้นเหรอ”
“แล้วคุณมีทางเลือกอื่นเหรอคะ”
มาวินเถียงไม่ออก
“ที่ฉันแนะนำคุณแบบนี้ เพราะฉันไม่อยากเห็นความล่มจมของชีวิตพี่สาวฉันหรอก”
“หมายความว่ายังไง”
“ฉันรู้ดีคุณเอกภพไมได้รักพี่เนตร”
“ฮะ...คุณว่าอะไรนะ”
“คุณเอกภพเป็นคนดีก็จริง แต่สิ่งที่เขามีให้พี่เนตรก็แค่ความรับผิดชอบแหม ก็คบกันมาเป็นสิบปี คบจนผู้หญิงแก่เงือก หมดทางไป ถ้าไม่แต่งก็ทุเรศเกินไปแล้วล่ะค่ะ”
“คุณแน่ใจเหรอ”
“ฉันจะโกหกคุณทำไม ถ้าคุณรักพี่เนตรจริงๆ อยากดูแลเธอจริงเราคงต้องร่วมมือกัน เพราะสิ่งที่ฉันต้องการที่สุดก็คือ ความสุขของพี่สาวฉัน” มะเฟื่องแสดงท่าทีว่าห่วงพี่สาวมาก
มะเฟืองออกมานั่งกินเหล้ากับดาวในผับ
“เฮ้ย...นี่แกจะร่วมมือกับเขาทำลายชีวิตแต่งงานพี่สาวตัวเองงั้นเหรอ โห...สุดยอดวะ เลวสุดยอดจริงๆ เลยอ่ะแก”
“เอ๊ะ...อีนี่ มาด่ากันทำไม”
“เอ้า ก็มันจริงอ่ะ”
“ฉันไม่ได้เลว แต่คนอย่างฉัน อยากได้อะไรต้องได้”
“แล้วแกคิดจะทำยังไง ไอ้แผนจัดฉากอะไรที่แกว่าเนี่ย ไหนว่ามาสิ”
“ไม่เห็นจะยาก ก็แค่จัดฉากให้ดูเหมือนว่านังเนตรมันมีชู้ แล้วคุณเอกภพไปเห็นเข้าแบบเต็มๆ ตา แค่นี้ก็จบ”
“พูดน่ะมันง่าย แต่อีตอนทำมันจะง่ายอย่างนี้รึเหรอ”
“ปล่อยเป็นหน้าที่ของฉันกับคุณมาวินเถอะน่า เรื่องง่ายๆแค่นี้ เราสองคน เอาอยู่”
ทันใดนั้น เสียงฉลามดังขึ้น
“มึงเอากับใครอยู่อีมะเฟือง!”
มะเฟืองกับดาวสะดุ้งเฮือก
“ไอ้ฉลาม!”
ฉลามพามะเฟืองมาที่ห้องพักในโรงแรม แล้วเหวี่ยงเธอลงที่เตียง ก่อนตามจิกหัวตบ
“คนอย่างกู ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้มึงรู้มั๊ย”
มะเฟืองจะด่า ฉลามจับบีบคาง
“มึงคิดจะหนีกูไปงั้นเหรอมันไม่ง่ายหรอกเว้ยคราวที่แล้วมึงทำกูเจ็บแสบมาก วันนี้มึงต้องชดใช้ให้กู”
ฉลามตบแล้วผลักลงเตียงก่อนจะโถมตัวเข้าใส่อย่างรุนแรง มะเฟืองน้ำตาไหลพึมพำเบาๆ
“ฉันจะต้องไปให้พ้นจากผู้ชายชั่วๆ อย่างแก”
ค่ำคืนนั้น เอกภพจะนอนกับงามเนตร แต่เธอดันตัวไว้...
“ทำไมล่ะครับ เหนื่อยเหรอ”
“เนตรยังไม่พร้อมนะค่ะ…พ่อเพิ่งเสีย…เนตรยังไม่ค่อยสบายใจ”
“งั้นก็พักผ่อนซะนะคนดี อย่าคิดมาก ทำใจให้สบายๆ จะได้นอนหลับ”
เอกภพลูบผมเบาๆ
“ขอบคุณนะคะที่เข้าใจเนตร”
“ผมเข้าใจเนตรเสมอ ก็ผมรักเนตรนี่นา”
“เนตรก็รักคุณค่ะ”
เอกภพจูบหน้าผากเบาๆ
“หลับซะ”
เขาดึงผ้าห่มมาห่มให้เธอก่อนจะลุกออกจากเตียงไป
เอกภพลงบันไดมาพบกับมะเฟืองที่เพิ่งกลับเข้ามาถึงพอดี...มะเฟืองล้มฟุบลงตรงหน้า เอกภพตกใจ
“มะเฟือง!” เอกภพรีบเข้าไปดู “มะเฟือง เป็นอะไรไป”
มะเฟืองร้องไห้
“ร้องไห้ทำไม เกิดอะไรขึ้นมะเฟือง”
เอกภพลูบหน้าลูบหลังด้วยความห่วง เช็ดน้ำตาให้
“คุณภพ ทำไม ทำไมไม่เป็นคุณ ทำไมมะเฟืองไม่เจอผู้ชายอย่างคุณ”
“พูดอะไรน่ะมะเฟือง มันเกิดอะไรขึ้น”
มะเฟืองไม่ตอบแต่สวมกอดเอกภพแน่น ร้องไห้โฮๆ บัวมาเห็นเข้าพอดี ตกใจ รีบแอบดูพูดกับตัวเองเบาๆ
“อย่าบอกนะว่าคุณเอกภพกับนังนั่น...”
เอกภพพยายามดันตัวเองออกมา
“ไปนอนซะนะมะเฟือง ดึกแล้ว มีอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้”
เอกภพลุกขึ้นปลีกตัวออกไป มะเฟืองฟุบร้องไห้อยู่ตรงนั้น
“คุณเอกภพ ทำไมมะเฟืองไมได้ผู้ชายอย่างคุณ ทำไมต้องเป็นมันด้วย”
มะเฟืองเดินกลับมาที่ห้องเจอบัวรออยู่
“มารยาซะขนาดนั้นยังจับไม่อยู่ น่าสมเพท”
“อย่ามาหาเรื่องฉันตอนนี้นะนังบัว”
“ก็แกหาเรื่องก่อนทำไม หนอย...ทำเป็นร้องห่มร้องไห้ เล่นบทน้องเมียผู้น่าสงสาร เฮอะ...น่าสมเพทล่ะไม่ว่า เป็นไงล่ะ ทำซะขนาดนั้น เขายังไม่สนใจ สมน้ำหน้า!”
“อีบัว!”
มะเฟืองจะเข้ามาตบแต่หมดแรงซะก่อน
“เรี่ยวแรงหายไปไหนหมดล่ะยะ สงสัยคงทำไซด์ไลน์ไปหลายรอบล่ะสิ วันนี้ ฮะๆ ดูสิ แม้แต่แรงจะยืนยังไม่มี สกปรก โสโครก กลิ่นแกมันคงคาวจนคุณเอกเขาทนไม่ไหวล่ะสิท่า ถึงได้หนีไปแบบนั้น”
มะเฟืองโผจะตบแต่บัวไวกว่า เบี่ยงตัวหลบแล้วตบมะเฟืองคว่ำลงไป
“เก็บแรงไว้สร้างรายได้เถอะ อีโสโครก!”
บัวก้าวข้ามตัวมะเฟืองออกไปอย่างสะใจ มะเฟืองมองตามไปด้วยความเจ็บแค้น
มะเฟืองเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าออกอย่างกระปลกกระเปลี้ยมาก...เธอเจ็บปวดไปทั้งร่าง ภาพในหัวมีแต่ภาพที่ถูกฉลามตบ ปล้ำไปซ้อมไปอย่างรุนแรง...มะเฟืองร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
“ให้มันรู้ไปสิว่าชาตินี้ฉันจะไม่ได้ผู้ชายดีๆ อย่างคุณ…คุณเอกภพ”
มะเฟืองหยิบมือถือขึ้นมากด
มาวินนั่งดื่มอยู่ในล็อบบี้โรงแรมกดรับสาย
“ว่าไงครับมะเฟือง”
“ตกลงเราจะร่วมมือกันแน่ใช่ไหมคะ”
“แน่สิครับ ผมรับปากคุณไปแล้วนี่ ยังจะต้องสงสัยอะไรอีก”
“ฉันต้องการให้มันเกิดขึ้นเร็วที่สุด”
“เร็วแค่ไหนครับ”
“พรุ่งนี้!”
มะเฟืองบอกเสียงเข้ม
เอกภพนอนมองงามเนตรที่หลับไปแล้ว ลูบผมเบาๆ
“ฝันดีนะที่รัก ผมจะไม่ยอมให้มีอะไรมาทำลายความรักของเราได้เด็ดขาด ผมสัญญา”
มาวินดื่มไวน์ ยิ้มร้าย คำพูดของมะเฟืองที่โทรมาบอกเมื่อครู่ดังก้องในหัว
“คุณเอกภพชอบลวนลามมะเฟือง ลับหลังพี่เนตร เขายิ่งได้ใจเรื่องแบบนี้เล่าไปใครจะเชื่อ ในเมื่อต่อหน้าคนอื่นเขาออกจะเป็นคนดี แต่ความดีกับความต้องการมันคนละเรื่องกัน คุณเข้าใจที่มะเฟืองพูดใช่ไหมคะ”
มาวินดื่มหมดแก้ว
“ผมจะทำเพื่อคุณนะเนตร เพื่อความสุขที่แท้จริงของคุณ”
เช้าวันใหม่...งามเนตรตักบาตรเสร็จกลับเข้าบ้านมาเจอมะเฟือง
“ตื่นแล้วเหรอ มา...มากรวดน้ำให้พ่อกัน”
“จะทำอะไรก็ทำไปเถอะน่า ไม่ต้องมายุ่งกับคนอื่นหรอก”
“แต่นี่พ่อเรานะมะเฟือง กรวดน้ำให้พ่อ พ่อจะได้ดีใจไง”
“โอ๊ย คนอย่างฉันทำอะไรพ่อก็ไม่ดีใจหรอก แกจะกรวดก็กรวดไปเถอะ ขืนฉันกรวดสิ พ่อได้สะดุ้งกันพอดี”
มะเฟืองเดินหนีไป งามเนตรถอนใจ
ทุกคนกำลังกินอาหารเช้ากันอยู่ที่โต๊ะอาหาร บัวดูแลรินน้ำใส่แก้วให้ ภัสสรหันมาหางามเนตร
“แล้วนี่ตั้งใจจะไว้ทุกข์กี่วันล่ะหนูเนตร”
“ร้อยวันค่ะ”
“ดีแล้วล่ะลูก ช่วงนี้ก็หมั่นตักบาตร ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พ่อเขา”
“ค่ะ เนตรก็ตั้งใจไว้อย่างนั้นแหละค่ะ”
“หมดเรื่องเศร้าหมองแล้วจะได้มีหลานให้แม่เสียที”
งามเนตรเขินอาย ก้มหน้าหลบ
“อย่าเพิ่งพูดเรื่องหลานตอนนี้เลยครับแม่ เนตรกำลังไม่สบายใจ”
“แม่เข้าใจ แม่ก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร แม่รอได้”
บัวฟังแล้วหมั่นไส้ ทนไม่ไหว รินน้ำหกรดงามเนตร
“ว้าย! ขอโทษค่ะ ขอโทษ บัวไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษนะคะ”
ภัสสรหันไปดุ
“นี่...ทำอะไรก็ให้มันระวังหน่อยสิ อย่าซุ่มซ่ามให้มันมากนัก”
งามเนตรรีบบอก
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่นิดหน่อย อย่าไปว่าบัวเลยค่ะ เดี๋ยวเนตรขอไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะคะ”
งามเนตรลุกจากโต๊ะไป...บัวลอบยิ้มสะใจ
งามเนตรสวนกับมะเฟืองที่บันได มะเฟืองใส่เสื้อผ้าสีสด
“มะเฟือง ไม่ไว้ทุกข์ให้พ่อเหรอ”
“โอ๊ย ก็ฉันไม่ได้ทุกข์นี่”
“แต่มันเป็นธรรมเนียมนะ ทำให้พ่อแค่นี้ ไม่ได้เชียวเหรอ”
“อย่าพูดมากได้ไหม อยากทำอะไรก็ทำไปสิ ทำไมต้องมาคอยสั่งฉันด้วยน่ารำคาญ!”
มะเฟืองเดินลงบันไดไป งามเนตรมองตามไปแล้วถอนใจ
มะเฟืองเดินมาที่รั้วกดโทรศัพท์หามาวิน
“คุณมาวิน...อย่าลืมที่ตกลงกันไว้นะคะ”
มาวินอยู่ในห้องทำงานกดวางสายแล้วยิ้มร้าย นิดาเข้ามาในห้อง
“เอกสารที่ต้องเซ็นค่ะ”
“แล้วเลขาผมไปไหน”
“เอ่อ...คือยังมาไม่ถึงเลยค่ะ บอสมาเช้าเองนี่ค่ะ มันยังไม่ถึงเวลาเริ่มงานเลย จะไปตำหนิเนตรก็ไม่ถูกนะคะ”
“ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ปกป้องกันเหลือเกินนะ”
“ก็เนตรเขาเป็นคนดีนี่คะ”
“อ้อ...เย็นนี้ผมนัดคุยกับลูกค้าตอนเย็น บอกเนตรด้วยว่าให้ไปกับผม”
“แต่ว่าตอนนี้ดิฉันกำลังเรียนรู้งานของเนตรเขาอยู่ เพราะยังไงอีกไม่กี่วันก็ต้องทำแทนเขาอยู่แล้ว เดี๋ยวดิฉันไปกับบอสเองค่ะ”
มาวินเสียงแข็ง
“ไม่ได้!”
นิดาสะดุ้ง
“อุ้ย! ตกใจหมดเลย ทำไมต้องดุด้วยล่ะคะ”
“บอกเนตรให้ไปกับผม ลูกค้ารายนี้สำคัญ ผมต้องการคนรู้งาน ไม่ใช่เลขาฝึกหัด”
“ค่ะ...ได้ค่ะ”
นิดาหอบแฟ้มออกจากห้องไป มาวินยิ้มร้าย
งามเนตรมาถึงพอดี นิดารีบวางแฟ้มแล้วบอก
“มาพอดี เตรียมรับฟังข่าวดีได้เลย”
งามเนตรแปลกใจ
“มีอะไรเหรอ”
“เย็นนี้เธอต้องไปประชุมกับบอสที่โรงแรม”
“อะไรนะ ที่โรงแรมงั้นเหรอ”
“ใช่ บอสนัดลูกค้าที่โรงแรม เห็นว่าเป็นโรงแรมที่ลูกค้าพักน่ะ”
งามเนตรหน้าเสีย นิดาปลอบ
“อย่าคิดมากเลยน่าก็แค่ล็อบบี้โรงแรม ผู้คนออกมากมาย ไม่มีอะไรหรอก บอสเขาไปได้นัดพาขึ้นห้องซะหน่อย”
เอกภพอยู่ในออฟฟิศรับสายจากงามเนตร
“จะกลับดึกอีกแล้วเหรอครับ”
“มีประชุมกับลูกค้าตอนเย็นน่ะค่ะ อาจจะกลับช้าหน่อย ยังไม่ทราบว่าจะดึกมากรึเปล่า”
น้องเมีย ตอนที่ 13 (ต่อ)
“เดี๋ยวผมไปรับแล้วกันนะครับ"
“อย่าเลยค่ะ คือ...พอดีว่าต้องออกไปประชุมข้างนอกน่ะค่ะ”
“ที่ไหนล่ะครับ”
“เอ่อ…”
“บอกมาสิครับ ที่ไหนผมก็ไปรับได้ทั้งนั้น”
“อย่าเลยค่ะ เนตรไม่อยากรบกวนคุณ ไม่รู้จะเลิกตอนไหนด้วย เนตรกลับเองสะดวกกว่าค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ เนตรต้องไปทำงาน ต่อแล้ว”
“เดี๋ยวสิครับเนตร เนตร”
งามเนตรวางสายไป เอกภพสงสัย
“ทำไมต้องไม่ให้ไปรับด้วย”
มะเฟืองมาที่ร้านเสริมสวยของแม่ดาว
“โอ๊ย...คิดยังไงจะมาแปลงโฉมตอนนี้ ไม่ไว้ทุกข์ให้พ่อแล้วรึไง” แม่ดาวตาโตเสียงดัง
“โห ป้า ก็เพราะทุกข์ใจเรื่องพ่อตายนี่แหละ ฉันถึงต้องมาทำสวยไม่อยากจมหดหู่อยู่แต่ในชุดดำ”
ดาวมองเพื่อน
“ก็เลยจะมาทำสีผมใหม่ให้มันเจิดว่างั้น”
“ไม่ใช่แค่สีผมนะ ป้ามีคอร์สทำสวยอะไร วันนี้จัดมาเลย ฉันทำหมด”
ดาวปราม
“เฮ้ย น้อยๆ หน่อย เดี๋ยวก็โดนพี่สาวแกด่าหรอก”
“ลองมาด่าสิ จะตบให้”
“แหม ทำกล้านะ ต่อหน้ากล้าอย่างนี้รึเปล่า”
“อย่าพูดถึงมันได้ป่ะ อารมณ์เสีย เอาเร็วๆ ป้า จัดมาเลย เอาเต็ม ๆเลยนะ สวยหนักๆ ไปเลย ให้มันรู้กันไปเลยว่าฉันกับนังเนตร ใครมันสวยกว่ากัน”
มะเฟืองบอกอย่างมั่นใจตัวเองมาก
ชมเปิดประตูให้รถของเอกภพเข้าไปจอด บัวรีบเข้ามารับหน้า
“กลับมาแล้วเหรอคะคุณเอกภพ ทำไมวันนี้กลับเร็วล่ะค่ะ”
ชมรีบเข้ามาแทรก
“พอๆ หุบปากไปเลยนังบัว ไม่ต้องไปตอบมันค่ะคุณภพ” ชมหันไปบอกเอกพ “กลับมาถึงเหนื่อยๆ รีบเข้าบ้านเถอะค่ะ ชมเตรียมของว่างไว้ให้แล้ว”
เอกภพยิ้มแล้วเดินเข้าไปด้านในบ้าน บัวจะตามไปแต่ชมจิกไว้
“หยุดเลยนังตัวดี แกคิดว่าแกเป็นใครฮะ เป็นเมียเขารึไงถึงได้ถามโน่นนี้นั่น”
“แล้วทำไมจะถามไม่ได้”
“ทำไมงั้นเหรอ...ก็เพราะแกเป็นคนใช้ไง คนใช้ไม่ต้องยุ่งเรื่องเจ้านาย เจียมตัวไว้บ้าง อย่าให้มันมากไป ไม่งั้นฉันจะไล่กลับบ้านนอก!”
ชมเดินหนีไป บัวไม่พอใจ
“หน้าที่เมียงั้นเหรอ ได้...แล้วฉันจะเป็นเมียให้ดู!”
เอกภพเดินเข้ามาเจอแม่
“อ้าวตาภพ หนูเนตรล่ะ ไม่ได้กลับมาพร้อมกันเหรอ”
“เขาติดประชุมน่ะครับ ผมจะไปรับก็ไม่ยอม ทำไมต้องไม่ยอม”
ภัสสรสงสัย
“ทะเลาะอะไรกันอยู่รึเปล่า”
“เปล่าครับ ผมกับเนตรยังไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันเลย”
“โชคดีของลูกที่ได้หนูเนตรเป็นคู่ชีวิต แต่บอกตามตรงนะ แม่ไม่ถูกชะตาน้องสาวหนูเนตรเลย”
“มะเฟืองยังเด็กน่ะครับคุณแม่ อย่าถือสาแกเลยครับ”
“เด็กที่ไหนล่ะ หูตาให้แพรวพราวไปหมด อย่างนี้ไม่เรียกว่าเด็กแล้ว แล้วที่สำคัญ แม่เห็นเขาชอบมาเกาะแกะกับลูก ลูกต้องระวังตัวดีๆ นะ ท่าทางไม่น่าไว้ใจ ไม่รู้คิดอะไรอยู่”
เอกภพเงียบๆ ไป
“ที่แม่เตือนก็เพราะห่วงหรอกนะ ไม่ใช่จับผิด”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณแม่ ผมรับรองว่ามันจะไม่เกิดเรื่องอย่างที่คุณแม่กังวลขึ้นเป็นอันขาด คุณแม่ก็รู้นี่ครับว่าผมรักเนตรมากแค่ไหน”
“ลูกรับปากอย่างนี้แม่ก็สบายใจ ตบมือข้างเดียว ตบให้มือหักมันก็ไม่มีวันดังไปได้หรอก”
งามเนตรก้มหน้าก้มตาพิมพ์งาน เสียงนิดาดังขึ้น
“ฉันกลับก่อนนะ”
งามเนตรเงยหน้าขึ้นเห็นนิดาสะพายกระเป๋าเตรียมกลับบ้าน
“ทำไมทำหน้าเครียดอย่างนั้นล่ะ อย่าบอกนะว่ายังกังวลเรื่องที่ต้องไปประชุมที่โรงแรมอยู่อีก เอางี้ ถ้าเธอไม่สบายใจจริงๆ ฉันจะสะกดรอยตามไปเป็นเพื่อน แต่ต้องไม่ให้บอสเห็นนะ”
“อย่าเลย...ฉันไม่ได้กังวลขนาดนั้นหรอก เพียงแต่ว่า ฉันไม่ค่อยสบายใจที่ต้องอยู่กับบอสสองต่อสองน่ะ”
นิดาถอนใจ
“ทำไงได้ เธอเป็นเลขาเขานี่ เอาน่า ทำใจ อีกไม่กี่วันก็พ้นหน้าที่แล้ว เดี๋ยวฉันรับไม้ต่อเอง คราวนี้ฉันว่าคนที่จะไม่สบายใจคงจะเป็นบอสมาก กว่าที่ต้องอยู่กับเลขาอย่างฉัน ฮ่าๆ!”
มาวินเปิดประตูออกมา นิดารีบหุบปากแทบไม่ทันหันมาถามงามเนตรเบาๆ
“ตกลงเอาไง”
งามเนตรส่ายหน้า
“กลับบ้านไปเถอะ”
“แน่นะ”
“อื้อ”
“งั้น ฉันไปก่อนนะ”
นิดาออกไป มาวินเข้ามาถาม
“มีอะไรกันเหรอครับ”
“เปล่าค่ะ"
“ถ้าไม่มีอะไรก็เตรียมตัวให้พร้อม เดี๋ยวเราจะไปโรงแรมกัน”
งามเนตรเน้นเสียงแข็ง
“เราจะไปคุยกับลูกค้าที่โรงแรมค่ะ”
มาวินหัวเราะ
“ผมล้อคุณเล่นน่ะ เห็นทำหน้าเครียดๆ”
มาวินกลับเข้าห้องไป...งามเนตรเตรียมเก็บของเตรียมแฟ้มประชุม
ดาวตื่นเต้นตาโตมองมะเฟืองที่แปลงโฉมใหม่ สวยไปทั้งตัว
“แอร๊ยย เริ่ดอ่ะแก๊ เริ่ดมากอ่ะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าแม่ฉันมีฝีมือขนาดนี้ คิดว่าหลอกแดกลูกค้าไปวันๆ ซะอีก”
แม่หันขวับมาที่ดาว
“อ้าว อีนี่...พูดยังไงเนี่ย”
ดาวยิ้ม
“โอ๋วว เจ๊เก่งจ้า...นี่เจ๊ มี ฮีรูสการ์ ยาทาลบรอยแผลเป็นไหมอ่ะ”
“มีสิจ๊ะ...ฉันก็ใช้เหมือนกัน”
แม่หยิบกล่อง ฮีรูสการ์ ออกมาจากลิ้นชักส่งให้ ดาวเปิดกล่องหยิบหลอดฮีรูสการ์มาทา ทันใดนั้นมือถือมะเฟืองดัง เธอกดรับสาย
“คุณมาวิน ฮัลโหล”
“ผมอยู่ที่โรงแรมแล้วนะ อย่าลืมทำตามแผนด้วย”
“ทำแน่ค่ะ ไม่ต้องกลัว”
มะเฟืองกดวางสาย ดาวถามอย่างสงสัย
“ใครโทรมา อย่าบอกนะว่าไอ้ฉลาม”
“อย่าพูดถึงมันได้ไหม จุดธูปอย่างเนี่ย เดี๋ยวมันก็มาหรอก ฉันต้องรีบไปแล้ว แกช่วยดูต้นทางให้ฉันด้วย เผื่อไอ้ฉลามมันอยู่แถวนี้”
“ได้ๆ”
“ทั้งหมดเท่าไหร่จ้ะ”
“สามพันจ้ะ ราคาลูกๆ หลานๆ”
มะเฟืองจ่ายเงินแล้วเตรียมออกไป
“ไปเร็วเข้านังดาว ไปดูต้นทาง”
“เออๆ!”
ดาววิ่งออกไปมองซ้ายมองขวา ไม่เห็นฉลามแถวนั้นก็ตะโกนบอก
“ปลอดภัย ไปเร็ว”
มะเฟืองโบกแท็กซี่แล้วขึ้นไป
ค่ำนั้น งามเนตรอยู่ในล็อบบี้โรงแรมกับมาวิน เธอมองไปรอบๆ
“ไหนล่ะคะลูกค้าที่คุณว่า นี่มันเกินเวลามามากแล้วนะคะ”
“คงออกไปข้างนอกยังกลับมาไม่ถึงล่ะมัง คุณจะเครียดอะไรเรามาทำงานนะ ไม่ใช่มาทำเรื่องส่วนตัว”
“ลองโทรตามดูไหมคะ เผื่อบางทีลูกค้าอาจจะลืมนัด”
“เดี๋ยวผมจัดการเอง”
มาวินกดโทรศัพท์แล้วลุกออกไป งามเนตรถอนหายใจอย่างกังวล พนักงานชายเดินผ่านมา มาวินเรียกไว้
“ขอน้ำส้มให้คุณผู้หญิงแก้วหนึ่งด้วย”
“ครับผม”
มาวินแกล้งทำเป็นกดโทรศัพท์แล้วทำหน้าซีเรียส...พนักงานชายถือถาดใส่น้ำส้มผ่านมา
“เอามานี่ เดี๋ยวผมเอาไปให้เอง”
มาวินคว้าแก้วน้ำส้มมาแล้วลอบใส่ยาลงไปในแก้ว ก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะ
“อีกสักพักถึงจะกลับเข้ามา น้ำส้มครับ ผมสั่งมาให้”
“ขอบคุณค่ะ”
“ดื่มสิครับ อย่าบอกนะว่าไม่กล้าดื่มเพราะไม่ไว้ใจผม กลัวผมวางยารึไง ท่าทางคุณคงจะเกลียดผมมากนะ”
“ฉันไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นหรอกค่ะ”
งามเนตรยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่ม...มาวินมองตามแล้วลอบยิ้มร้าย
น้องเมีย ตอนที่ 14
ค่ำนั้น...มะเฟืองแต่ตัวสวยกลับมาถึงบ้าน บัวเห็นเข้าก็แดกดันทันที
“ต๊าย...อีปลวกกลายเป็นแมงเม่า อุตส่าห์ไปทำไซด์ไลน์จนหมดเรี่ยวแรง เสียไปหลายตังค์แบบนี้จะคุ้มค่าตัวเหรอ”
“ฉันไม่มีเวลาฟังแกเห่าหรอก อีบัวใต้น้ำ หลบไป”
มะเฟืองชนบัวจนล้มไป
“อีมะเฟือง!”
บัวจิกหัวมะเฟืองไว้ได้ กระชากจนหน้าหงาย
“ว้ายย!”
“คิดจะอัพยาตัวเหรอ ถึงต้องไปทำสวยมาซะขนาดนี้ หรือคิดจะเรียกร้องความสนใจจากคุณภพ”
“ฉันจะทำอะไร เพราะอะไร มันก็เรื่องของฉัน มีปัญญา ไม่ใช่แค่คนใช้กระจอกงอกง่อยเหมือนแกนี่”
มะเฟืองกระชากผมบัวอย่างแรง
“โอ๊ย เจ็บนะ ปล่อยนะอีมะเฟือง อีบ้า...บอกให้ปล่อย”
“เจ็บซะบ้างจะได้สำนึกตัว แกกับฉันมันต่างกัน แกมันก็แค่คนใช้ ส่วนฉัน มันน้องเมีย!”
มะเฟืองผลักหัวบัวจนกระเด็นไปชนเข้ากับชมที่เดินเข้ามาพอดี
“ว้ายๆ! อะไรกันๆ มีเรื่องอะไรกัน”
“บอกญาติแกด้วยนะ ให้มันเจียมตัวซะบ้างว่ามันเป็นใคร ฉันเป็นใคร!”
มะเฟืองสะบัดหน้าพรืดเดินเข้าบ้านไป บัวด่าไล่หลัง
“อีมะเฟือง อีสก๊อย!”
“หุบปากได้แล้ว!” ชมตบปากใบบัวผลัวะ! “เขาพูดมันก็ถูก เขามันน้องเมีย น้องสาวคุณเนตร ส่วนแกมันก็แค่คนใช้ อย่าคิดหาเรื่องเขาอีกเชียวนะ ไม่งั้นได้กลับไปไล่ควายอยู่บ้านนอกแน่”
“ไม่ต้องมาขู่ คอยดูนะ ได้เป็นเมียคุณภพเมื่อไหร่ ฉันจะไล่น้าออกคนแรกเลย”
“โอ๊ย...อีบัว อย่าฝันให้มันสูงนักเลย ฝันแบบพอเพียงน่ะเป็นไหม ฮึ่ยยย!!”
บัวเจ็บใจมาก
เอกภพเดินลงมาจากฉันบน มะเฟืองเล็งๆ แล้วรีบปรี่เข้าไปหาปั้นหน้าปั้นตาตกใจ
“คุณภพคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ”
“อะไร...มีอะไร”
มะเฟืองทำอิดๆ ออดๆ จะพูดไม่พูดเพื่อให้เขายิ่งอยากรู้
“จริงๆ แล้วมะเฟืองก็ไม่ควรพูดให้คุณภพรู้หรอกนะคะ แต่ว่ามะเฟืองทน ไม่ได้จริงๆ”
“มีอะไรก็ว่ามาสิ”
“พี่เนตรน่ะค่ะ พี่เนตรเขา…”
เอกภพชะงัก
“ทำไม เนตรเป็นอะไร”
“เขานอกใจคุณภพค่ะ”
เอกภพนิ่งไป มะเฟืองก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด ซ่อนประกายตาและรอยยิ้มร้าย
“ไร้สาระน่ามะเฟือง เธอไม่น่าพูดถึงพี่สาวแบบนี้นะ มันไม่ดี”
มะเฟืองสะดุ้งเมื่อไม่เป็นไปอย่างที่คิด
“นี่คุณภพไม่เชื่อมะเฟืองเหรอคะ...คุณหาว่ามะเฟืองโกหกใส่ร้ายพี่เนตรงั้นเหรอคะ”
“ผมไม่ได้คิดขนาดนั้น มะเฟืองอาจจะเข้าใจอะไรผิดไปเองก็ได้”
“คุณกล้าพิสูจน์ไหมล่ะคะ”
“พิสูจน์”
“ก็พิสูจน์คำพูดของมะเฟืองยังไงล่ะคะ…หรือว่าคุณกลัว ขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับความจริง”
มะเฟืองจ้องหน้าเอกภพอย่างท้าทาย
รถของเอกภพขับออกจากบ้าน โดยมีมะเฟืองนั่งไปด้วย บัวมองตาม แล้วหะนไปถามชมอย่างสงสัย
“น้าชม สองคนนั่นเขาไปไหนกันน่ะ”
“ไปไหนไม่รู้ รู้แต่ว่ารีบไป”
บัวมือไม้สั่นด้วยความอิจฉา
“อีมะเฟือง มันชักจะมากไปแล้วนะ”
มาวินประครองเนตรที่สะลึมสะลือสุดๆ นอนลงบนเตียง ปัดผมที่บังหน้าออกให้อย่างเบามือ
“ไม่ต้องกลัวนะเนตร ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรคุณหรอกนะ คุณมีค่ากว่านั้น…แต่ขอโทษนะ ที่ผมต้องทำแบบนี้ก็เพื่อทำลายความสัมพันธ์ของคุณกับสามี…ในเมื่อคุณไม่มีความสุข ผมก็จำเป็นต้องช่วย ไม่มีใครจะรักคุณได้มากเท่าผม แม้แต่สามีคุณก็ตาม”
เอกภพจอดรถหน้าโรงแรมตามที่มะเฟืองบอก แล้ววิ่งเข้าไปข้างในทันที
“รอมะเฟืองด้วยค่ะ คุณภพ”
มะเฟืองวิ่งตามไป
งามเนตรค่อยๆ ฟื้น เห็นเงามาวินเลือนๆ แต่เข้าใจว่าเป็นเอกภพ
“คุณภพ คุณภพช่วยเนตรด้วย”
“ไม่ต้องกลัว คุณยังปลอดภัยอยู่นะเนตร”
งามเนตรพยายามยันตัวลุกขึ้น พอเห็นว่าเป็นมาวินก็ตกใจ
“คุณมาวิน!”
เนตรมองไปรอบๆ มองสภาพตัวเอง ทั้งโกรธทั้งตกใจ ตบหน้ามาวินฉาดใหญ่
“คนชั่ว คนสารเลว!”
“ฟังก่อนสิเนตร ฟังผมก่อน”
“ไม่ฟัง! ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น”
งามเนตรพยายามจะลุกขึ้น มาวินพยายามจับตัวไว้
“เดี๋ยวก่อนเนตร ฟังผมก่อน”
“ปล่อยฉัน อย่ามาแตะต้องตัวฉัน คุณมันสกปรก ไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้”
“ผมทำลงไปเพราะรักคุณนะ”
“รักงั้นเหรอ คนรักกันเขาไม่ทำเรื่องสกปรกแบบนี้”
งามเนตรตบหน้ามาวินไปอีกฉาด วิ่งไปที่ประตู กระชากประตูเปิดออก พอดีกับที่เอกภพมาถึง เผชิญหน้ากันจังๆ
“เนตร”
“คุณภพ!”
“เนตร…”
เอกภพอึ้งไปเลย มะเฟืองตามมาทัน
“เห็นกับตารึยังคะว่ามะเฟืองไม่ได้โกหก”
“คุณภพ”
“หลบไปเนตร ผมเคลียร์เอง”
“เคลียร์งั้นเหรอ”
เอกภพชกหน้ามาวินอย่างแรง งามเนตรกรีดร้องตกใจ เอกภพมองหน้างามเนตรด้วยความผิดหวังและโกรธสุดๆ ก่อนจะเดินจากไป
“คุณภพ”
“ยังจะกล้าหน้าด้านตามเขาไปอีกเหรอ”
มะเฟืองผลักงามเนตรกลับเข้าไปในห้อง
“สมสู่กับชู้ของแกต่อไปให้หนำใจเถอะ”
มะเฟืองวิ่งตามเอกภพไป งามเนตรทำอะไรไม่ถูก ทรุดตัวลงร้องไห้โฮๆ มาวินเข้ามาปลอบ
“ไม่ต้องร้องนะเนตร ทำใจดีๆไว้ เดี๋ยวผมจัดการเอง”
“ไม่ต้อง!...ไม่ต้องมายุ่ง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะคุณ คุณทำลายชีวิตฉันทำไม ทำกับฉันทำไม!” งามเนตรร้องไห้อย่างเสียใจสุดๆ
มะเฟืองวิ่งตามเอกภพมาทัน
“คุณภพ เชื่อรึยังคะว่ามะเฟืองไม่ได้โกหก”
“พอได้แล้ว หยุดพูดได้แล้ว ผมไม่อยากฟังอะไรอีกแล้ว”
เอกภพขึ้นรถ มะเฟืองรีบตามขึ้นไป เขากระชากรถออกรถไป
มาวินพยายามยื้อตัวงามเนตรไว้
“เนตร ฟังผมก่อนสิ”
“ปล่อยฉัน อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ไปให้พ้น”
“ฟังผมก่อน มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะครับ”
“ฉันบอกว่าไม่ฟัง ปล่อยฉัน”
เนตรสะบัดตัวออกจากเขาได้สำเร็จ ลิฟท์มาถึงพอดี เธอรีบเข้าไป
“เนตร”
“ออกไป”
งามเนตรผลักมาวินที่จะตามเข้ามา
“เนตร”
ลิฟท์ปิดใส่หน้ามาวินมองตาม
เอกภพนั่งอยู่กับมะเฟืองในผับ เขาดื่มเหล้าหมดแก้วอย่างเมามาย แต่นิ่งเงียบ ไปพูดอะไรเลย มะเฟืองหยิบขวดเหล้าขึ้นดู
“หมดขวดแล้ว อยากดื่มต่ออีกหน่อยไหมคะ”
เอกภพไม่ตอบอะไร มะเฟืองหันไปสั่งเหล้ากับบริกร
“ขอเหล้าเพิ่มด้วยค่ะ ไม่ต้องกลัวนะคะ มะเฟืองจะดื่มเป็นเพื่อน”
มะเฟืองขยับมานั่งข้างๆ
“มะเฟืองรู้ว่าคุณกำลังเสียใจ เป็นใครก็ต้องเสียใจทั้งนั้นแหละค่ะ เมียมีชู้แบบนี้ ใครจะไปรับได้ แม้แต่มะเฟือง ขนาดเป็นน้องแท้ๆ ยังรับไม่ได้เลย แล้วคนที่เป็นสามีอย่างคุณจะรับได้ยังไง เลวจริงๆ ต่อหน้าทำเป็นหงิมๆ แต่พอลับหลังก็…”
เอกภพปวดร้าว
“พอได้แล้ว ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ผมไม่อยากฟัง”
“อ๋อ...ใช่สิคะ จะฟังทำไม ในเมื่อเห็นภาพไปแล้วเต็มๆตา”
“ผมบอกให้หยุดพูด”
“แต่มะเฟืองเป็นห่วงคุณนี่คะ เจอเข้าแบบนี้ ต่อให้เข้มแข็งยังไงมันก็ต้องมีเสียหลักกันบ้างล่ะ จริงไหมคะ”
“ผมบอกให้หยุดพูด!”
เอกภพหันไปสั่งบริกร
“เช็คบิล”
“จะกลับแล้วเหรอคะ”
เอกภพจะลุกขึ้นแต่ก็เซเสียหลักเพราะความมึนเมา
“คุณภพ โอ๊ย สภาพนี้กลับไม่ไหวหรอกค่ะ จะขับรถได้ยังไงเดี๋ยวก็โดนตำรวจจับกันพอดี”
“ทิ้งรถไว้ที่นี่ ผมจะเรียกแท็กซี่กลับ”
เอกภพจะเดินออกไปแต่ก็เดินไม่ไหว
“คุณภพ” มะเฟืองรีบเข้าไปประครองตัวไว้ “มะเฟืองว่าเราหาที่พักชั่วคราว ก่อนไหมคะ รอให้คุณหายเมาก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน นะคะ”
มะเฟืองพาเอกภพมาที่โรงแรม บริกรประคองเอกภพมาส่งถึงห้อง
“ขอบใจมาก”
มะเฟืองส่งทิปให้
“ขอบคุณครับ...คุณผู้ชายเมามาก ต้องการกาแฟเข้มๆ สักแก้วไหมครับ จะได้สร้างเมา”
“ไม่ต้อง ไปได้แล้ว”
“ครับ”
บริกรออกไป มะเฟืองค้อนๆ
“ใครอยากให้สร่างเมากันล่ะ สู่รู้ไม่เข้าเรื่อง”
มะเฟืองปิดประตูห้อง…เดินไปหาเอกภพที่นอนสะลึมสะลืออยู่บนเตียง มะเฟืองยิ้มร้าย
“คุณภพ...คราวนี้ คุณหนีฉันไม่รอดแน่”
มะเฟืองลงมือนัวเนีย เอกภพพึมพำเบาๆเมาๆ
“เนตร...ทำไมคุณทำแบบนี้ ทำไม”
“ยังจะเพ้อถึงมันอีก คอยดูเถอะ จะทำให้ลืมชื่อมันไปเลย”
มะเฟืองถอดเสื้อออกเหวี่ยงทิ้งไปแล้วขึ้นคร่อมเอกภพ
“ต่อไปนี้ คุณจะต้องเรียกแต่ชื่อฉัน มะเฟือง มะเฟือง ฮึ ไม่ใช่มัน”
บัวมารอเอกภพกับมะเฟืองที่หน้ารั้ว
“ไปไหนกันนะ ป่านนี้ยังไม่กลับมาอีก อย่าบอกนะว่าไปโรงแรม”
แสงไฟหน้ารถสาดมา บัวรีบหันไปมอง...ปรากฏว่าเป็นแท็กซี่ งามเนตรลงจากแท็กซี่มา
“กลับซะดึกเลยนะคะ เลยอดเห็นอะไรดีๆเลย”
งามเนตรท่าทางร้อนใจ ไม่ได้ใส่ใจฟังคำพูดของบัว
“คุณภพล่ะ คุณภพกลับมารึยังเลยค่ะ”
“เห็นออกไปกับน้องสาวคุณน่ะค่ะ ไปตั้งนานแล้วด้วย ไม่บอกที่บ้านสักคำว่าจะไปไหนกัน ท่าทางไม่น่าไว้ใจเลยนะคะ”
งามเนตรร้อนใจ รีบร้อนเดินเข้าไปด้านใน บัวมองตามไปอย่างงงๆ
“อะไรวะ อุตส่าห์ชงขนาดนี้ยังไม่สนอีก โง่หรือเซ่อวะเนี่ย”
บัวชะเง้อมองออกไปด้านนอก
“ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับมาอีกวะ”
มือถืองามเนตรดังขึ้น เธอดูชื่อเห็นว่าเป็นมาวินโทรเข้ามาก็กดรับสาย
“ไม่ต้องโทรหาฉันอีก เราไม่มีอะไรต้องพูดกัน พอกันที หยุดได้แล้ว”
ภัสสรเดินออกมาได้ยินเข้าพอดี
“มีอะไรเหรอหนูเนตร”
งามเนตรหน้าเครียด
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”
“แน่ใจเหรอว่าไม่มี ถ้าไม่มีแล้วทำหน้าสีหน้าแปลกๆ ตกลงมีอะไรกันแน่”
“ไม่มีจริงๆค่ะ เนตรขอตัวก่อนนะคะ”
งามเนตรรีบเดินหนีไปทางห้องตนเอง ภัสสรมองตามอย่างสงสัย
“สีหน้าแบบนั้น ยังจะบอกว่าไม่มี ใครจะเชื่อ”
มาวินมองโทรศัพท์ด้วยความกังวล
“อย่าเกลียดผมเลยนะเนตร”
มาวินรู้สึกผิด
เอกภพเมาหลับไปแล้ว มะเฟืองพยายามจะปลุกอย่างหงุดหงิด
“คุณภพ...คุณภพคะ ตื่นสิคะคุณภพ”
มะเฟืองทั้งเขย่า ทั้งทุบตี แต่เขาก็ไม่มีท่าทีจะตื่น
“โธ่เว้ย...ดันมาหลับซะได้ แล้วยังไงล่ะเนี่ย อุตส่าห์วางแผนมาซะดิบดี”
มะเฟืองนิ่งคิดว่าจะเอาไงต่อดี
“ฉันไม่ยอมให้แผนเสียหรอก ยังไงก็ต้องเอาให้คุ้ม”
ว่าแล้วเธอก็หยิบมือถือขึ้นมา จับเขาถอดเสื้อ แล้วพยายามโพสท่าถ่ายรูปให้ดูเหมือนว่ามีอะไรกันอยู่ ถ่ายไว้หลายช็อต หลายมุม
“ยังไง...คุณก็ปฏิเสธไม่ออกหรอกคุณภพ”
ภัสสรอยู่ที่ห้องโถงปิดทีวี ชมหันมาถาม
“อ้าว...ไม่ดูแล้วเหรอคุณผู้หญิง”
“ไม่ไหวแล้ว ง่วงตาจะปิด ฉันไม่รอตาภพแล้ว แกอยู่รอเปิดประตูแล้วคอยดูด้วยเผื่อเขาต้องการอะไร อาจจะหิวกลับมาก็ได้ เตรียมหาอะไรอุ่นๆ ไว้ให้กินด้วย”
“ได้เลยค่ะ หน้าที่ชมอยู่แล้วล่ะค่ะ”
“เลยไม่รู้เรื่องกันพอดีว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“โอ๊ย อย่ากังวลไม่เลยค่ะคุณผู้หญิง ชมว่าไม่มีอะไรหรอกค่ะคนดีๆ อย่างคุณภพ ไม่มีทางไปทำเรื่องไม่ดีแน่ๆ อยู่แล้วล่ะค่ะ”
“ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถอะ ฉันใจคอไม่ดีชอบกล หนูเนตรมาถึงก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง มันแปลกๆ”
“เดี๋ยวชมสืบให้เองค่ะ คุณผู้หญิงไปนอนเถอะค่ะ”
ภัสสรเดินอออกไป…ชมรีบเปิดทีวีดูต่อ
งามเนตรพยายามโทรหาเอกภพ
“ทำไมไม่ยอมรับสาย รับสายสิคะคุณภพ โธ่…”
งามเนตรเริ่มร้องไห้
“คุณกำลังเข้าใจเนตรผิดนะคะ” เธอกดซ้ำ “รับสายสิคะ”
เสียงโทรศัพท์ดังไม่หยุด มะเฟืองที่กำลังพยายามถ่ายรูปรำคาญมาก
“ต้องเป็นนังเนตรแน่ อีโรคจิต โทรมาอยู่ได้ น่ารำคาญจริง”
มะเฟืองจะกดปิดมือถือแต่แล้วก็นึกอะไรได้
“อยากให้รับนักใช่ไหม ได้ ฉันจะรับให้”
มะเฟืองกดรับสาย
“ยังจะกล้าโทรมาอีกเหรอนังหน้าด้าน”
“มะเฟือง! อยู่กับคุณเอกภพใช่ไหม มะเฟือง ขอพี่พูดสายกับคุณ เอกภพหน่อย เข้าใจผิดกันไปหมดแล้ว”
“เข้าใจอะไรผิดยะ เห็นอยู่ตำตายังจะกล้ามาโกหกอีกเหรอ ที่ผ่านมาแกยังโกหกคุณภพไม่พอรึไง”
“ฟังพี่นะ มันไม่ได้เป็นอย่างที่มะเฟืองคิด”
น้องเมีย ตอนที่ 14 (จบตอน)
“ฉันไม่ฟัง คุณภพเองเขาก็ไม่อยากฟัง ไม่งั้นเขาคงไม่ให้ฉันรับสายแทนหรอก แล้วก็ไม่ต้องหน้าด้านโทรมาอีกนะ หน้าที่เมียของแก มันจบลงแล้ว!”
มะเฟืองกดวางสายด้วยความสะใจ
“หน้าที่เมียของแกมันจบ แต่ของฉันมันเพิ่งจะเริ่ม”
งามเนตรนั่งร้องไห้เพราะไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับเอกภพ
“คุณภพ...คุณกำลังเข้าใจเนตรผิดนะคะ”
งามเนตรเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“เนตรจะทำยังไงดี…”
งามเนตรร้องไห้แล้วฟุบลงที่เตียงอย่างคนหมดหนทาง ร้องไห้อยู่ที่เตียงเพียงลำพัง
วันใหม่...งามเนตรในชุดทำงานกำลังสวมรองเท้าจะออกไปจากบ้าน ชมกำลังกวาดบ้านอยู่รีบทัก
“จะไปทำงานเลยเหรอคะ ไม่ทานอาหารก่อนเหรอคะ”
งามเนตรหน้าเศร้า
“ไม่จ้ะ”
“เออ...แล้วคุณเอกภพล่ะคะ”
ชมมองไปทางบนบ้านหาเอกภพ
“คุณผู้หญิงรอทานอาหารเช้าด้วยน่ะค่ะ”
งามเนตรอึ้งที่ชมถามถึงเอกภพ
“เอ่อ...คือ...” เธอจำใจพูดโกหก “คุณภพออกไปตั้งแต่เช้าแล้วล่ะจ้ะบอกมีงานด่วนน่ะ”
ชมได้ยินตกใจ
“ไปตอนไหนคะทำไมชมไม่เห็น ชมตื่นมาแต่เช้าเลยนะคะคุณเนตร เมื่อคืนชมก็รอคุณเอกภพจนดึกเลยนะคะ นั่งดูละครจนจบ ดูข่าวจบ ต่อด้วยซีรีย์เกาหลีจนจบ ชมยังไม่เห็นคุณเอกภพกลับมาเลยนะคะ”
งามเนตรอึกอักหาคำตอบเพราะไม่อยากให้ชมถามเยอะ
“คุณภพคงกลับมาตอนที่ชมกำลังตั้งใจดูทีวีอยู่น่ะ”
ชมทำท่าทางคิดแล้วนึกออก
“อ๋อ...สงสัยมาตอนที่พระเอกสุดหล่อจะโดนยิงแน่ๆเลย”
ชมพูดไปก็อายไป งามเนตรเห็นชมเลิกซักมัวแต่อายอยู่ก็เลยรีบออกไป ชมม้วนไปมาจะเล่าเรื่องที่ดูต่อ แต่หันมาเห็นงามเนตรเดินออกไปซะแล้ว
“อ้าว...คุณเนตร”
ชมมองตามงงๆ
กันตานั่งรอโจ้อยู่ที่โต๊ะ สักครู่โจ้เดินเข้ามาพร้อมด้วยกาแฟ 2 แก้ว
“แบล็คคอฟฟี่ มาแล้วจ้า”
“ขอบใจนะจ๊ะ...พ่อรูปหล่อ”
กันตาหันไปรับแก้วจากโจ้
“อย่ามาชมพร่ำเพรื่อได้มั๊ยขอร้องล่ะ”
กันตาแกล้งยั่ว
“ทำไม...อายเหรอ”
“ก็นิดนึง ไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของสาวๆในออฟฟิศน่ะ...” โจ้กระซิบ “เดี๋ยวปกครองยากไม่อยากตกอยู่ในสภาวะนั้น”
กันตาหัวเราะขำ งามเนตรเดินเข้ามา เห็น กันตากับโจ้หัวเราะกันอยู่ที่โต๊ะ งามเนตรเดินเข้ามาหา
“สวัสดีค่ะ”
โจ้แปลกใจมองหาเอกภพว่าตามมาไหมแต่ไม่เห็น
“เอ่อ...คุณเนตรมากับภพเหรอครับ”
“เปล่าหรอกค่ะ คือ...เนตรจะมาหาคุณภพน่ะค่ะ”
“เอ่อ...แต่ว่าภพยังไม่มาเลยนะคะ เพราะฉันก็มารอคุยงานกับเขาเหมือนกันค่ะ”
กันตาเล่า งามเนตรอึ้ง
“นั่นสิครับ...เลยเวลานัดมานานแล้วด้วยนะเนี่ย”
งามเนตรหน้าเศร้าลงทันที
“เขาไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอคะ”
งามเนตรเศร้าเดินหันหลังจะออกไป กันตาสงสัยรีบเดินเข้าไปหางามเนตรที่ใจลอยน้ำตาคลอตา กันตาถามด้วยความเป็นห่วง
“คุณเนตรคะ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ”
กันตาจับมือ งามเนตรมองที่มือกันตาที่จับมือตัวเองอยู่ เธอเหมือนมีที่พึ่งน้ำตาไหลออกมาจนกันตาตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุณเนตรใจเย็นๆนะคะ ให้พวกเราช่วยอะไรไหมคะ”
งามเนตรร้องไห้ซบมาที่ไหล่ของกันตาเหมือนหาที่พึ่งพิง กันตาโอบปลอบใจ โจ้มองด้วยความเป็นห่วง
งามเนตรเล่าเรื่องทั้งหมดให้กันตาฟังที่มุมเงียบ ๆ ในออฟฟิศ
“เรื่องทั้งหมดมันเป็นแบบนี้นี่เอง แล้วตอนนี้คุณคิดจะทำยังไงต่อไปคะ”
“เนตรไม่รู้จริงๆค่ะ รู้แต่ว่าอยากให้คุณภพฟังเนตรอธิบาย แต่เนตรโทรไปคุณภพก็ไม่รับสายเลย เขาคงเสียใจและโกรธมากจนไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น”
“คุณเนตรคะ การที่ผู้ชายคนที่เขาไว้ใจคุณที่สุด มาเห็นเหตุการณ์แบบนี้เขาคงทนไม่ได้หรอกค่ะ ตั้งแต่ฉันรู้จักเขามา เขามักจะพูดถึงแต่คุณและฉันก็มั่นใจว่าเขารักคุณมาก ถ้าเขาจะต้องตัดสินใจกับเหตุการณ์นี้ฉัน เชื่อว่าเขาต้องใช้หัวใจตัดสินมากกว่าที่จะใช้อารมณ์นะคะ คู่รักทุกคู่มักเจอปัญหาแบบนี้ทุกคนแหล่ะค่ะ”
“แต่ตอนนี้ฉันอยากจะหนีปัญหาเรื่องนี้วิ่งออกไปให้ไกลแสนไกล ผ่านเหตุการณ์เรื่องพ่อเสีย ก็มาเจอกับเรื่องแบบนี้อีก ฉันเหนื่อยเหลือเกินค่ะ”
“เวลาเกิดปัญหา ถ้าเรายิ่งหนีมันคงไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น เพราะวันนึงปัญหานั้นก็ต้องกลับมาหาคุณอยู่ดีไม่ช้าก็เร็ว เผชิญหน้ากับปัญหาแล้วแก้ไข นั่นคือคนกล้าค่ะ ทุกอย่างอยู่ที่คุณไม่ได้อยู่ที่ใคร หาทางคุยและอธิบายให้คุณเอกภพฟัง ฉันเชื่อว่าเขาจะรับฟังคุณค่ะ” งามเนตรมองกันตาอย่างซึ้งใจ
“ฉันอยากเป็นคนที่ดูเข็มแข็งอย่างคุณจัง”
“ฉันก็ไม่ใช่คนเข็มแข็งอะไรหรอกคะ อาจจะอ่อนไหวกว่าคุณด้วยซ้ำ”
กันตารู้สึกเป็นห่วงเอกภพที่ต้องเผชิญเหตุการณ์แบบนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็สงสารงามเนตร
เอกภพค่อยๆ ลืมตาตื่น มึนๆ งงๆ เหลือบตามองไปรอบๆ เห็นมะเฟืองนอนอยู่ข้างๆ ก็ตกใจ สะดุ้งลุกขึ้นนั่ง พบว่าตัวเองไม่ได้สวมเสื้อผ้า
“นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น” เอกภพเขย่าตัวมะเฟือง “มะเฟือง มะเฟือง ตื่นเถอะ”
“มะเฟืองตื่นไม่ไหวหรอกค่ะ คุณภพเล่นลงมือลงไม้กับมะเฟืองขนาดนั้น มะเฟืองไม่มีแรงเหลือแล้วล่ะค่ะ”
เอกภพชะงักอึ้ง
“ว่าอะไรนะ!”
“แหม ทำเป็นจำไม่ได้ อย่าบอกนะคะว่าคุณภพจำเรื่องของเราเมื่อคืนไม่ได้”
มะเฟืองลดผ้าห่มลง เอกภพเห็นว่ามะเฟืองเปลือยอยู่ก็ตกใจ
“ไม่…ไม่จริง”
มะเฟืองมารยาบีบน้ำตา
“คุณภพพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ จะไม่ยอมรับมะเฟืองงั้นเหรอ”
“จะให้ผมยอมรับอะไร ในเมื่อผมไม่ได้ทำอะไรคุณ”
“คุณภพ นี่คุณแกล้งจำไม่ได้ใช่ไหมคะ คุณกลัวว่าจะต้องรับผิดชอบ มะเฟืองใช่ไหม”
“ผมไม่ได้กลัว แต่ผมรู้ตัวว่าผมไม่ได้ทำอะไรลงไปอย่างที่คุณกล่าวหา”
“กล่าวหางั้นเหรอ คุณหาว่ามะเฟืองกล่าวหาคุณงั้นเหรอคะ งั้นก็ดูเลย ดูให้เห็นกับตาไปเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
มะเฟืองส่งมือถือให้ เอกภพรับไปดู เห็นรูประหว่างตนกับมะเฟืองก็ตกใจ
“รูปพวกนี้คงจะฟื้นความทรงจำให้คุณได้นะคะ”
เอกภพอึ้งไปครู่หนึ่ง
“ไม่จริง…ผมไม่อยากจะเชื่อเลย…”
“คุณโกรธพี่เนตรก็เลยมาลงกับมะเฟือง”
มะเฟืองบีบน้ำตาทำเป็นร้องไห้ให้ดูน่าสงสาร
“มะเฟืองพยายามขัดขืน เพราะรู้ว่าคุณไม่ได้ทำไปเพราะความรัก คุณกำลังโกรธ แต่มะเฟืองก็ฝืนแรงคุณไม่ไหว คุณเมามาก ห้ามอะไรคุณก็ไม่ฟัง”
มะเฟืองร้องไห้โฮๆ
“หยุดร้องไห้เถอะ เรามีเรื่องสำคัญต้องตกลงกัน”
หลังจากแต่งตัวแล้ว เอกภพพูดขรึมๆ
“เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ผมขอให้คุณเก็บเป็นความลับ อย่าให้ใครรู้ โดยเฉพาะเนตร”
“ทำไมล่ะคะ ทีนัง เอ๊ย...ทีพี่เนตรยังกล้ามีชู้เลย แล้วทำไมคุณต้องปิดบังเรื่องของเราด้วย”
“ขอเวลาผมเคลียร์ปัญหาก่อน แล้วค่อยว่ากันที”
“หมายความว่าคุณจะเลิกกับพี่เนตรเหรอคะ”
“ผมยังไม่ขอพูดอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ เอาเป็นว่าคุณช่วยเก็บเรื่องเมื่อคืนเป็นความลับด้วย ทั้งเรื่องของเนตรและเรื่องที่นี่ อย่าให้ใครรู้เป็นอันขาด”
“แต่มะเฟืองเป็นคนปากโป้งนะคะ คงต้องมีค่าปิดปากกันบ้าง”
“คุณต้องการเท่าไหร่”
“มะเฟืองไม่ได้หมายถึงเงินหรอกค่ะ มะเฟืองต้องการเวลาของคุณ คุณต้องมีเวลาสำหรับมะเฟืองบ้าง เท่านั้นแหละค่ะ”
เอกภพเครียดสุดๆ
เอกภพขับรถมาด้วยสีหน้าเป็นกังวลและทุกข์ใจ มะเฟืองนั่งด้านข้างยิ้มมีความสุข เธอมองเขาแอบขยับตัวเอาหน้าไปซบที่ไหล่ออเซาะ เอกภพเครียดกับสิ่งที่มะเฟืองทำ เลี้ยวรถจอดข้างทางมะเฟืองตกใจ
“ขอโทษนะมะเฟือง คุณลงตรงนี้ได้ไหม”
มะเฟืองหน้าตาตื่น
“อะไรกันคะ คุณจะไล่มะเฟืองลงแบบนี้ไม่ได้นะคะ”
มะเฟืองไม่พอใจ
“ผมจะไปทำงานต่อ”
“คุณจะไปทำงานทั้งชุดเดิมแบบนี้น่ะเหรอคะ ทำไมไม่กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนล่ะคะ” มะเฟืองนึกขึ้นได้ “อ๋อ...ไม่กล้ากลับบ้านเพราะกลัวเขาจะสงสัยว่าไปค้างคืนกับฉันมาใช่ไหม”
เอกภพมองหน้าแล้วพูดเสียงแข็ง
“ผมขอร้องล่ะมะเฟือง”
มะเฟืองเห็นท่าทีของเขาจึงอ่อนลง
“ก็ได้ค่ะ มะเฟืองลงตรงนี้ก็ได้”
มะเฟืองโน้มตัวไปจะจูบ เขาสะบัดหน้าหนี แต่เธอไม่ลดละพูดตอกย้ำ
“อย่าลืมที่ตกลงกับมะเฟืองไว้นะคะ ตอนนี้มะเฟืองก็เป็นของคุณเหมือนกับพี่เนตรทุกอย่าง”
เอกภพอึ้ง มะเฟืองจึงโน้มตัวและจูบเขาอย่างง่ายดาย ก่อนจะลงจากรถไป เอกภพหน้าเครียดๆ ขับรถออกไปด้วยความเร็ว มะเฟืองยิ้มชอบใจที่ถือไพ่เหนือกว่า
บัวมายืนชะเง้อมองที่หน้าประตูเดินบ่นไปมา
“ทำไมไม่กลับมาสักทีน๊า ตะวันจะตรงหัวอยู่แล้วเนี่ย...”
ชมเดินมาเห็นบัวที่เดินวนไปมาชมรำคาญเข้าไปถาม
“นังบัว เองมาเดินวนไปเวียนมารออะไรมิทราบ”
บัวตอบไม่คิด
“รอผัว”
ชมสะดุ้ง
“ห๊า ตะกี๊เอ็งว่ารออะไรนะ”
บัวรำคาญ
“โอย ฉันจะรออะไรมันก็เรื่องของฉัน ขี้ข้าอย่างพี่มีอะไรทำก็ไปทำเถ่อะ”
ชมปรี๊ดขึ้นมาทันที
“นังนี่ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ข้ามาถามเอ็งก็เพราะว่าหวังดีเห็นชะเง้อชะแง้มองอยู่นั่น ข้าแค่จะมาบอกเอ็งว่าคุณเอกภพเค้าไปทำงานแต่เช้ามืดแล้วโว้ย...อีสายบัว”
ชมเอามือจิ้มหน้าบัวจนหน้าหงายแล้วเดินหัวเราะเยาะออกไป บัวมองตามไม่เชื่อที่ชมพูด
“ไปตอนไหนทำไมฉันไม่รู้ล่ะ อีพี่ชมแกโกหกฉันใช่ไหม กลับมาพูดให้รู้เรื่องก่อนสิ พี่ชม”
ชมไม่สนใจหัวเราะคิกคักออกไป บัวมองตามตาขวาง
กันตากับโจ้คุยกับงามเนตรที่โถงรับแขก
“ขอบคุณคุณกันตา แล้วก็คุณโจ้มากนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พวกเราเห็นคุณเนตรสบายใจขึ้นเราก็ดีใจแล้วล่ะค่ะ อย่าลืมนะคะถ้าคุณภพกลับมา ก็อธิบายทุกอย่างให้เค้าเข้าใจนะคะ ฉันเอาใจช่วยค่ะ”
“ค่ะ”
งามเนตรกำลังจะออกไป รถเอกภพเข้ามาจอดพอดี เอกภพลงรถมาหน้าเครียดไม่ทันได้มอง งามเนตรกับเอกภพเจอกันอย่างจังที่ประตูทางเข้าต่างคนต่างนิ่งเงียบไม่มีใครพูดอะไร โจ้สะกิดกันตาให้ดู กันตารีบทักทายทำลายความเงียบงัน
“คุณภพมาพอดีเลย คุณเนตรมารอตั้งนานแน่ะ”
โจ้เดินเข้าไปหาเอกภพ กันตาเดินเข้าไปใกล้งามเนตร โจ้ตบบ่าเอกภพ
“เรื่องงานเดี๋ยวฉันคุยกับกันตาเอง เชิญนายตามสบายนะ”
กันตากระซิบกับงามเนตร
“อยู่ที่คุณแล้วนะคะคุณเนตร”
กันตาแตะมือให้กำลังใจ งามเนตรยิ้มรับ กันตากับโจ้เดินเลี่ยงไปที่โต๊ะทำงาน เอกภพกับงามเนตรมองหน้ากันนิ่งงันอีกครั้ง เอกภพรู้สึกผิดหลบตาแล้วเดินเข้าไปในออฟฟิศ งามเนตรหันมองตามรวบรวมความกล้าตามเข้าไป
“คุณภพคะ”
กันตากับโจ้แอบมองเป็นห่วง
เอกภพเดินเข้ามาในห้องงามเนตรตามเข้ามาจับแขน
“คุณภพ”
เอกภพหยุดนิ่ง งามเนตรเดินอ้อมมาด้านหน้า เขาไม่สบตาเธอ
“คุณภพ คุณเข้าใจเนตรผิดนะคะ ขอให้เนตรได้อธิบายเรื่องทั้งหมดให้คุณฟังนะคะ นะคะคุณภพ เนตรขอร้องล่ะ ฟังเนตรก่อนนะคะ”
เอกภพเดินเลี่ยงออกไปที่โต๊ะ
“ทำไมผมต้องฟังคุณ ไม่มีอะไรต้องอธิบายแล้วเนตร การที่คุณไปอยู่กับผู้ชาย 2 ต่อสองในห้อง ในโรงแรมในภาพที่ผมเข้าไปเห็น คุณจะให้ผมคิดเป็นอะไรเนตร”
“นั่นล่ะที่ฉันอยากอธิบาย”
“คุณโกหกผมเรื่องผู้ชายคนนี้ คุณมาอยู่กับเขา ทั้งๆที่ผมเคยขอร้องคุณไม่ให้คุณยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก คุณทำไม่ได้ใช่ไหมเนตร จากที่ผมเคยไว้ใจคุณ ตอนนี้ความไว้ใจของผมมันหมดไปแล้วเนตร”
งามเนตรทรุดตัวลงร้องไห้ด้วยความเสียใจ
“เนตรเข้าใจคุณคะ ถ้าเป็นเนตรต้องมาเจอเหตุการณ์ เนตรก็คงรู้สึกไม่ต่างไปจากคุณ แต่คุณภพคะ ถ้าเนตรจะขอความกรุณาให้คุณให้โอกาส เนตรอธิบายเรื่องราวทั้งหมด เนตรขอได้ไหมคะ ฟังเนตรก่อนนะคะ เนตรขอร้อง”
งามเนตรมองหน้าเอกภพด้วยแววตาขอโอกาสอย่างจริงใจจนเอกภพอ่อนลง และมองหน้าเนตรอย่างชั่งใจ
“ได้ คุณเล่ามา”
บัวนั่งหน้างออยู่ที่หน้าบ้าน มะเฟืองกลับเข้ามา บัวเห็นมะเฟืองเดินมาเข้าไปแขว่ะทันที
“ต๊าย! หาผัว อุ๊ย หายหัวไปทั้งคืน คงได้หลายตังค์สิท่า กี่อ้าละจ๊ะเมื่อคืน แต่จากที่ดูแล้วน่าจะอ้าว”
บัวพูดจากวนประสาทแต่มะเฟืองหน้าตาราบเรียบ
“นี่นังบัวลอยไข่เน่า เช้านี้ฉันไม่มีเวลามาต่อปากต่อคำกับหล่อนหรอกนะยะ ใช่เมื่อคืนฉันอ้า อ้าจนเธอคิดไม่ถึงเลยละ ฮึน้ำหน้าอย่างแกจะไปรู้อะไร นอกจากเฝ้าเลีย คุณหญิง ไปวันๆ ถ้าว่างนักก็หาไม้มาเกาที่มันคัน มันจะได้หายคัน”
“นี่อีนังมะเฟืองปากดีแต่เช้าเลยนะ อยากเจอดีใช่ไหม”
บัวเข้าประชิด มะเฟืองเชิดใส่ เข้าบ้านไป
“ห๊าอีนี่มาแปลก วันนี้ไม่กล้าลองดีกับฉันหรอ เอ๊ะ” บัวคิดๆ “อีนังนี่มันหายไปกับคุณภพตอนกลางคืน…อย่าบอกนะว่า…”
ชมเงื้อมือจะตบบัว เมื่อบัวพูดถึงเอกภพกับมะเฟือง
“เดี๋ยวแม่ตบปากฉีกเลย อย่าพูดอย่างนี้อีกเชียวนะ”
“อ้าว ก็มันน่าสงสัยไหมล่ะ หายไปทั้งคืนด้วยกันทั้งคู่แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ฉันคิดได้ยังไง”
“คุณภพเธอทั้งรักทั้งให้เกียรติคุณเนตร ไม่มีทางที่จะทำเรื่องชั่วๆอย่างนั้นได้หรอกเว้ย ไป๊! ไปทำงานให้มันเสร็จๆ แล้วก็หุบปากด้วย ถ้าเรื่องนี้เข้าหูคุณผู้หญิง แกถูกเฉดหัวกลับบ้านนอกแน่”
ชมเดินออกไป บัวเบ้หน้า
“เชอะ! ทั้งรักและให้เกียรติคุณเนตร เดี๋ยวก็รู้ว่าจริงไม่จริง”
เอกภพฟังเนตรเล่าจนจบ
“เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ เนตรไม่ได้โกหกคุณเลย เนตรสาบานได้”
เอกภพฟังจบแล้วแล้วผุดลุกขึ้นอย่างเร็ว
“คุณภพ คุณภพจะไปไหนคะ”
“ผมจะไปฆ่ามัน ไอ้สารเลว”
“อย่านะคะคุณภพ เรื่องมันจบไปแล้วก็ให้มันจบไปเถอะค่ะ ยังไงเนตรก็ลาออกแล้ว เนตรกับเขาไม่มีทางมาเกี่ยวข้องกันได้อีก”
“แต่มันทำแบบนี้กับคุณ จะให้ผมปล่อยมันไปเฉยๆ งั้นเหรอ”
“แค่คุณเชื่อว่าเนตรบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้นอกใจคุณ เนตรก็สบายใจแล้วล่ะค่ะ ส่วนเรื่องคุณมาวิน ช่างเถอะค่ะ รู้ว่าสกปรกก็อย่าเอาตัวเข้าไปยุ่งด้วยจะดีกว่า เนตรไม่อยากให้มันเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต”
“แต่ว่า…”
“ให้มันจบกันไปเถอะนะคะคุณภพ นะคะ”
เอกภพชั่งใจครู่หนึ่ง มองหน้างามเนตรก่อนตัดสินใจ
“งั้นครั้งนี้ผมจะปล่อยมันไป แต่ถ้ามันยังกล้ามายุ่งกับคุณอีก ผมไม่ปล่อยมันแน่”
งามเนตรเบาใจดีใจที่เอกภพเข้าใจแล้ว
เอกภพเข้าห้องน้ำล้างหน้าที่อ่าง พร้อมเงยหน้าขึ้นมามองกระจก
“เนตรผมขอโทษ ผมขอโทษ”
เอกภพกำมือแน่น กดดันเรื่องที่เกิดขึ้นกับมะเฟือง ยิ่งรู้ว่างามเนตรกับมาวินไม่ได้มีอะไร แล้วตัวเองเมาจนมายุ่งกับมะเฟืองก็ยิ่งเครียดมาก
โปรดติดตาม "น้องเมีย" ตอนที่ 15 พรุ่งนี้ 9.00 น.