xs
xsm
sm
md
lg

กี่เพ้า ตอนที่ 9

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กี่เพ้า ตอนที่ 9

ซิ่วหลานเดินเข้ามาด้วยสีหน้างงๆ เพราะไม่อยากเชื่อ แม้เมื่อก่อนจะระแคะระคายเรื่องทะเลาะเบาะแว้งของจิ้นเจินกับอวี้เหลียนอยู่บ้าง แต่ไม่เคยมีใครเห็นจังๆ
 

“ตกลงคุณจิ้นทำร้ายคุณเหลียนจริงๆหรือคะ ไม่ใช่คุณเหลียนทำร้ายตัวเองอย่างเดียว”
“คราวนี้ฉันเห็นกะตาเลยค่ะ เออ...อาซิ่ว คุณจิ้นมีกำไลหยกตระกูลเจ้าด้วยไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมไม่เคยเห็นใส่”
“จริงสิ ไม่เห็นคุณจิ้นใส่กำไลหยกนานแล้ว คนอื่น ๆ ยังใส่ออกงาน”
“หรือทำกำไลหยกแตกเลยไม่กล้าใส่” เพกาตั้งข้อสังเกต
“ของซิ่วก็แตกยังใส่”
“เขาอาจจะกลัวคนถามว่า แตกเพราะอะไร ก็เลยไม่กล้าเอามาใส่ เขาอาจจะเป็นคนที่ฆ่าเมย์ลี เป็นไปได้ไหมคะ”
“ไอ้หยา คุณจิ้นเนี่ยหรือคะ”
“เป้าหมายคนต่อไปของฉัน คุณจิ้น… ฉันต้องเห็นกำไลหยกเขาให้ได้”
ซิ่วหลานรู้สึกตกใจ ไม่กล้ายอมรับเพราะจิ้นเจินดูเป็นคนดีในสายตาคนอื่น ที่โต๊ะกินข้าว อี่เหวินกับเจิ้นหลุนกินข้าวอยู่ เป่าหลินมองทั้งคู่กระซิบคุยกันอย่างไม่วางตา และยังไม่ยอมกินข้าว ชามข้าวพูน ตะเกียงยังวางอยู่ที่โต๊ะ
“คุณเพกาซุบซิบอะไรกับอาซิ่ว ได้ยินแว่ว ๆพูดถึงคุณจิ้น” เป่าหลินถาม
“อย่ารู้เลย เรื่องไม่ดี” อี่เหวินบอก
“ใช่ เรื่องไม่งามไม่ควรพูดต่อๆ ให้มากความ คุณเหลียนหึงเธอกับคุณจิ้น คุณชายรองรู้เข้าทะเลาะกันยกใหญ่”
อี่เหวินตบไหล่จิ้นหลุน
“โฮ้ย ปากไม่มีหูรูด”
จิ้นหลุนสะดุ้ง
“เอ้า นั่นคิดนะ นี่พูดออกไปแล้วหรือ”
เป่าหลินมองตาพองมีข่าวสำคัญไปรายงานหลินเพ่ยอีกแล้ว

เวลาต่อมา ภายในพิพิธภัณฑ์ เพกานั่งอ่านหนังสือมาดามซ่งเพื่อหาข้อมูลเรื่องเส้นไหม เพกาเงยหน้าจากหนังสือ เห็นจิ้นหลุนนั่งหลับสัปหงกอยู่มุมห้อง เพกายิ้มๆและลุกไปหาเอามือแตะไหล่ปลุก
“อาหลุน”
เจิ้นหลุนสะดุ้งตกใจตื่น
“มีอะไรครับคุณพิ้งค์”
เพกามองจิ้นหลุนแล้วยิ้มๆ
“มานั่งเฝ้าฉันตั้งแต่เช้าเกรงใจจัง ไปเถอะ คุณหมิงเทียนไม่รู้หรอก”
“คุณชายรองสั่งให้พวกเราดูแลคุณพิ้งค์ครับ” อี่เหวินบอก
เพกานึกเซ็งที่ถูกเฝ้าตลอดเวลา จิ้นเจินเดินเข้ามาบอกหลุน
“ออกไปก่อนอาหลุน ฉันมีเรื่องคุยกับคุณพิ้งค์”
เจิ้นหลุนลุกจะเดินออกไป เพกากลัวจิ้นเจินจะทำร้ายก็เรียกไว้
“ไม่ต้องไปหรอกอาหลุน”
เจิ้นหลุนชะงัก จิ้นเจินถลึงตาใส่จนเจิ้นหลุนยิ้มแห้งจำต้องเดินออกไป เพกาบ่นอุบ

“ทีต้องการให้อยู่ล่ะไป”
 

 
จิ้นเจินเข้ามาพูดจาเบาๆอย่างใกล้ชิดกับเพกาเพราะกลัวความลับรั่วไหล จิ้นเจินตีหน้าเศร้าเสียใจ
 

“ผมไม่สบายใจมาก อยากมาอธิบาย เมื่อเช้าผมเสียใจที่พลั้งมือตบเหลียน อยู่กับเมียโรคจิต มันกดดันมาก แต่เมื่อเช้าเป็นครั้งแรกที่ผมทนรับแรงกดดันไม่ไหว ระเบิดออกไป”
เพกาทำเป็นพูดดีด้วย
“ฉันเห็นใจคุณจิ้นค่ะ”
แต่เสียงความคิดของเพกากลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
“ไอ้พวกตบตีเมีย แก้ตัวยังไงก็ฟังไม่ขึ้น”
“ค่อยสบายใจ คุณพิ้งค์ไม่เกลียดผมนะครับ”
“โธ่ ฉันจะไปเกลียดคุณทำไมล่ะคะ คุณจิ้นน่าสงสารออก”
“พวกสตรอเบอแหล หลอกฉันไม่ได้ง่ายๆหรอก” เสียงความคิดเพกาว่าอย่างนั้น
เพกาเริ่มหลอกถาม
“ เอ คุณจิ้นไม่สวมกำไลหยก ทำไมล่ะคะ กำไลหยกแตกหรอ”
“ผมเก็บกำไลหยกไว้ที่ทำงานครับ”
“เหรอคะ”
เพกายิ้มกริ่มที่หลอกถามจิ้นสำเร็จ
ในมุมไหล เบื้องหน้าเป็นหน้าพิพิธภัณฑ์ หลินเพ่ยเพิ่งถ่ายคลิปเสร็จแล้วลดมือลงพูดกับเป่าเบาๆ
“ข่าวแกไม่ผิดแน่นะ พี่รองหึงน้าจิ้นกับนังนั่น”
“โฮ้ยไม่ผิดแน่นอนค่ะ คลิปนี้ ยายนี่ต้องกระเด็น”
หลินเพ่ยยิ้มร้ายอย่างพอใจ

วันใหม่ หมิงเทียนกับหลินเพ่ยเดินออกมาจากตึกทำงานในย่านฮาร์เบอร์พลาซาโฮเต็ล ทั้งคู่ยืนคุยกันที่ลานหน้าตึก เบื้องหน้าเป็นอ่าว
“มาหาพี่มีอะไร”
“ชุดนี้เพ่ยเพ่ยเพิ่งซื้อเมื่อวาน ใส่มาให้พี่หมิงเทียนดูคนแรก สวยมั้ยคะ”
หมิงเทียนไม่ค่อยสนใจ
“สวยดี ตอนเพ่ยเพ่ยออกมา คุณพิ้งค์ทำอะไรอยู่”
เพ่ยเพ่ยหงุดหงิดขึ้นมาทันที แล้วพูดขึ้น
“ถามถึงยายนั่นอีกแล้ว อยากรู้ยายนั่นทำอะไรก็โทรไปถามเองสิคะ”
“อย่าอารมณ์เสียน่า”
“เพ่ยเพ่ยเอาช็อตเด็ดมาให้พี่หมิงเทียนดูค่ะ”
“ช็อตเด็ดอะไร”
“บรรยายไม่ถูกค่ะ พี่หมิงเทียนเปิดดูเอาเองนะคะ”
หมิงเทียนเปิดคลิปในมือถือของหลินเพ่ยดู ก็ชะงัก หลินเพ่ยใส่ไฟทันที
“หมู่นี้เพ่ยเพ่ยเห็นน้าจิ้นกลับบ้านตอนกลางวันบ่อย ทีแรกคิดว่าลืมของไว้ที่บ้าน กลับมาเอา วันนี้รู้เหตุผลที่แท้จริง น้าจิ้นแวบกลับมาหาใคร”
หมิงเทียนไม่พอใจ โมโหหึงทันที
“นี่ถ้าน้าเหลียนรู้นะ บ้านแตก”
“ห้ามให้น้าเหลียนเห็น” หมิงเทียนบอก
“เพ่ยเพ่ยรู้ค่ะ ถึงเอามาให้พี่หมิงเทียนดูคนเดียว ตอนตามไปเจอน้าจิ้นอี๋อ๋อเพกา เพ่ยเพ่ยโมโหมาก จะออกไปต่อว่าก็กลัวน้าจิ้นด่า เพ่ยเพ่ยยังเด็ก”
“พี่จัดการเอง”

หลินเพ่ยยิ้มสะใจ
 


วลาต่อมา เพกาเดินออกจากพิพิธภัณฑ์ไปยังหน้าคฤหาสน์ อี่เหวินเดินตามอารักขาจนเพการู้สึกอึดอัดมากจึงหยุดเดินหันมาพูด
 

“ขอฉันอยู่ตามลำพังบ้างเถอะ”
“ไม่ได้ครับ คุณชายรองสั่งไว้”
อี่เหวินมองไปเห็นหมิงเทียนเดินเข้ามาพอดี
“อ้าว คุณชายรองกลับมาแล้ว”
หมิงเทียนสีหน้าเข้มพยักหน้าส่งสัญญาณ อี่เหวินเดินออกไป
“แอบนัดเจอน้าจิ้นมานานหรือยัง”
“นัดเจออะไรคะ”
เพกาสีหน้างงๆ หมิงเทียนเปิดคลิปในมือถือหลินเพ่ยให้เพกาดู
“คมชัดดีค่ะ” เพกาพูดกวน
“อย่ามายวน ผมซีเรียส”
“นี่ไม่ใช่มือถือคุณ”
เพกามองไกลออกไปอีกก็เห็นหลินเพ่ยที่เดินเข้ามาพอดี

“ทำมาหากินอย่างอื่นไม่เป็น เลยคิดจะทำคลิปแอบถ่ายขายหรือคะ”
“โดนจับได้ว่าเล่นชู้ ยังปากดีอีก” หลินเพ่ยว่า
“ฉันไม่ได้เป็นชู้กับใคร คุณจิ้นมาคุยกับฉันเรื่องคุณเหลียน ถ้าคุณเชื่อคลิปความยาวไม่กี่นาที มากกว่าคำพูดฉัน ฉันจะถือว่าคุณดูถูกศักดิ์ศรีฉัน”
เพกาหน้าตาเอาเรื่องแบบ “พูดจริงขู่จริง” หมิงเทียนชั่งใจและคิดตาม
“ถึงยังไงคุณก็สมควรถูกตำหนิ อยู่กับน้าจิ้นสองคนในห้อง ทั้งที่รู้ว่าน้าเหลียนหึงน้าจิ้นกับคุณอยู่”
“ฉันจะระวังตัวให้มากขึ้นค่ะ เอ หรือจะให้ฉันขอหมายศาลห้ามคุณจิ้นเข้าใกล้ในระยะ 100 เมตรดีคะ” เพกาทำหน้ากวน
“ไม่ต้องคำสั่งศาล คำสั่งผมนี่แหละ ห้ามคุณอยู่ใกล้น้าจิ้นอีก”
“ค่า...คุณชายรอง”
หมิงเทียนโกรธเดินออกไปขึ้นบันได หลินเพ่ยมองอย่างสะใจ
“คราวหน้า ฉันจะถ่ายตอนเธอนอนกับน้าจิ้น รับรองหล่อนโดนน้าเหลียนเอามีดกรีดหน้าแน่ ระวังให้ดี”
หลินเพ่ยขู่เสร็จก็เดินตามหมิงเทียนขึ้นบันไดไป เพกายืนอย่างเซ็งๆ

ในวันใหม่ บริเวณ วิคตอเรียพีค การ์เด้น เพกานั่งรอเหว่ยเหอที่เดินสวมหมวก ใส่แว่นตาพรางใบหน้า มาหาเพกาตามนัด เพกาส่งหนังสือพิมพ์ให้หลายเล่ม
“เอาไว้ดูข้อมูลก่อนซื้อหุ้นค่ะ”
“โทรนัดผมมาเอาหนังสือพิมพ์เนี่ยนะ”
“ของฝากติดไม้ติดมือค่ะ คุณรู้จักคนสกุลเจ้าดี ความสัมพันธ์ระหว่างเมย์ลี คุณจิ้น คุณเหลียนเป็นยังไงคะ”
“ตอนเด็ก ๆ น้าจิ้นกับน้าเหลียนก็รักเมย์ลีดี แต่ตอนอยู่ไฮสคูล ไม่รู้เมย์ลีไปทำอะไรให้น้าจิ้นโกรธ”
สีหน้าเหว่ยเหอนึกย้อนถึงอดีต...

เหว่ยยืนเล่นอยู่ริมหน้าต่างชั้นบนของคฤหาสน์ มองดูต้นไม้ในสวนหลังบ้าน สุคนธาเดินกอดสมุดไดอารี่หนีจิ้นเจินที่โวยด่าตามมา เหว่ยเหอไม่ได้ยินว่าจิ้นเจินด่าอะไรแต่สุคนธาเอาแต่ส่ายหน้า จิ้นเจินใช้กำลังแย่งไดอารี่ ก่อนจะฉีกหน้ากระดาษในไดอารี่แล้วขยำทิ้ง สุคนธาร้องไห้

เพกาถามเหว่ยเหอ
“ทำไมคุณจิ้นถึงฉีกไดอารี่เมย์ลีคะ”
“ไม่รู้ ผมไม่ได้ยินน้าจิ้นพูด คราวก่อนผมไม่น่าให้เบอร์มือถือคุณ นัดออกมาด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
“ไอ้เรื่องไม่เป็นเรื่องนี่แหละ จะช่วยให้เหว่ยพ้นผิด”
เหว่ยเหอตกใจ
“คุณสงสัยคุณจิ้นกับคุณเหลียนเป็นฆาตกรงั้นหรือ”

เพกาพยักหน้า
 

 
“คุณเหลียนมีกำไลหยกแตก แต่เขาช่วยชีวิตฉัน เขาคงไม่ใช่ แต่คุณจิ้นนี่สิ ฉันไม่เห็นกำไลของเขา มันอาจตกแตก ตอนที่เอามีดแทงเมย์ลี”
 

“ที่ผมบอกคือให้คุณกลับเมืองไทย นี่คุณคิดจะสืบหาฆาตกรจริงๆหรือ”
“คุณต้องช่วยฉัน ออกมาหาฉันทุกครั้งที่ฉันส่งข้อความไปนะ”
เพกายิ้มให้แล้วเดินจากไป เหว่ยเหอนั่งอึ้งกับผู้หญิงคนนี้

ในเวลาต่อมา เพกาเดินมาเจอหมิงเทียนนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
“พรุ่งนี้ฉันขอไปข้างนอกนะคะ”
“ผมไม่ให้ไป ถ้าเรายังไม่รู้ว่าใครทำร้ายคุณ คุณต้องระวังตัว”
“ชิงไม่อนุญาต รู้หรือคะ ฉันขอไปไหน”
หมิงเทียนงง

วันรุ่งขึ้น หมิงเทียนพาเพกาเดินชมบริษัทยาเจ้าฟาร์มาซี พวกพนักงานคำนับหมิงเทียน
“ตึกนี้มีพนักงานออฟฟิศเกือบพันคน รวมนักวิทยาศาสตร์ในห้องแล็ปด้วย นอกนั้นเป็นคนงานที่โรงงานผลิตยาฝั่งเกาลูน”
เพกาตั้งใจมาสืบหากำไลหยกที่ห้องทำงานจิ้นเจิน
“ฝ่ายการตลาดอยู่ชั้นไหนคะ”
หมิงเทียนมองอย่างจับผิดถาม
“ไหนบอกอยากมาดูขั้นตอนการผลิตยา”
“ก็ โรงงานอยู่ฝั่งเกาลูน ไม่รู้คุณจะพาฉันไปได้กี่โมง ฉันเลยอยากศึกษาการทำงานฝ่ายอื่นไปพลาง ๆ ก่อนค่ะ”
“ผมนัดหัวหน้าคนงานที่นั่น 10 โมง”
“มีเวลาอีกตั้งนาน ฉันขอเดินเล่นชมบริษัทนะคะ”
หมิงเทียนหน้าเข้ม เสียงดุบอก
“ไปได้ทุกที่ ยกเว้นฝ่ายการตลาด”
“ รับทราบค่ะ”

เพกาฉีกตัวเดินจากไป
 
อ่านต่อเวลา 17.00น.

กี่เพ้า ตอนที่ 9 (ต่อ)

เพกาเดินหาฝ่ายการตลาดจนเห็นป้าย “ Marketing ” ภายในฝ่าย มีโต๊ะพนักงานนั่งรวม กันอยู่อย่างเป็นสัดส่วน เพกาหามุมยืนแอบดูอยู่ จิ้นเจินกำลังคุยกับเลขาฯ แล้วเดินกลับเข้าห้องทำงานส่วนตัว
 

“คุณจิ้นอยู่ แล้วเราจะเข้าไปค้นได้ยังไงล่ะเนี่ย”
พนักงานเดินออกมาจากฝ่าย เพกายืนฟอร์มทำเป็นคุยโทรศัพท์แล้วหาที่หลบแอบดูไม่ให้ใครเห็น เพกามองไปที่ห้องจิ้นเจินอย่างหนักใจ
สักครู่ มู่ลี่ในห้องทำงานส่วนตัวของจิ้นเจินถูกปิดลง เขาเดินถือกระเป๋าเอกสารพร้อมแฟ้มทำงาน 1 อันออกจากห้องเพื่อจะไปธุระนอกบริษัท
จิ้นเจินยื่นแฟ้มให้เลขาฯ และสั่งงาน ก่อนเดินออกจากฝ่ายการตลาดมุ่งหน้าไปยังลิฟท์ เพการีบหลบไม่ให้เขาเห็น เพียงครู่หนึ่ง เลขาฯก็ลุกขึ้นถือแฟ้มเอกสารไปดำเนินงานต่อ โดยเดินออกไปทางลิฟท์เช่นกัน
เพกายิ้ม... พลางมองซ้ายมองขวา แน่ชัดว่าบริเวณนั้นไม่มีคนจึงเปิดประตูเข้าไปในห้องทำ
งานของจิ้นเจินในทันที

ภายในห้องทำงานของจิ้นเจิน เพกาค้นหากำไลหยกตระกูลเจ้า ในลิ้นชัก บนโต๊ะทำงานก็ไม่มี เธอหาดูตามตู้เอกสาร ค้นไป บ่นไป
“กำไลหยก กำไลหยก แตกหรือไม่แตก ต้องรู้ให้ได้”

จิ้นเจินกำลังจะเดินออกจากบริษัทฯ บังเอิญมีข้อความเข้ามาที่มือถือพอดี เป็นข้อความเตือนจากลูกค้า - อย่าลืมเอกสาร
จิ้นเจินเปิดกระเป๋าเอกสารแล้วถอนใจเมื่อไม่ได้หยิบเอกสารติดตัวออกมาด้วย เขาเดินกลับเข้าไปยังบริเวณโถงหน้าลิฟท์ชั้นล่างเพื่อกดลิฟท์ขึ้นไปยังฝ่ายการตลาดอีกครั้ง

ภายในห้อง เพกาค้นตู้เอกสารเพื่อหากำไลหยกแต่ยังไม่พบ
“ซ่อนไว้ไหนนะ”
เพกาพบตู้บานหนึ่งซึ่งล็อกกุญแจ เธอมองหากุญแจบนโต๊ะไม่มี ในลิ้นชักโต๊ะทำงานเจอกุญแจพวงหนึ่งที่มีลูกกุญแจหลายดอก เธอพยายามลองกับกุญแจดอกนั้น ดอกนี้ แต่ก็ยังเปิดไม่ออกสักที

ที่หน้าห้อง จิ้นเจินย้อนกลับมา แต่ไม่เจอเลขาฯ จึงเปิดลิ้นชักค้นเอกสารที่ว่าด้วยตัวเอง แต่บังเอิญระหว่างนั้น เขาทำของตกเสียงดัง
ภายในห้อง เพกาสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงของนอกห้องตก เธอเงยหน้าผ่านมูลี่บังตาเห็นเงาใครที่โต๊ะเลขาฯหน้าห้อง เพการีบปรี่มาดูให้ชัดๆ โดยแง้มผ่านช่องเล็กๆของมูลี่
“กลับมาทำไม”
เพการีบปิดมู่ลี่ ก่อนลนลานคิดหาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เธอตัดสินใจกดโทร.เข้าเครื่องจิ้นเจินทันที
“สวัสดีครับคุณพิ้งค์”
เพกาเอามือป้องโทรศัพท์
“ฉันมาเที่ยวบริษัทคุณค่ะ มีเรื่องอยากคุยด้วย คุณจิ้นว่างมั้ยคะ ฉันอยู่ตรง ตรงหน้าลิฟท์ชั้นล่าง” เพกาคุยโทรศัพท์หลอกล่อจิ้นเจิน
“งั้นอีกซักครู่ผมลงไปหาครับ”
“ฉันเหลือเวลาอีกแป๊บเดียวค่ะ คุณหมิงเทียนจะพาฉันไปดูโรงงานที่เกาลูน ลงมาหาฉันก่อนนะคะ ฉันอยากคุยเรื่องคุณเหลียนน่ะค่ะ"

“ก็ได้ครับ ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้”
 

 
จิ้นเจินเดินตัวเปล่าไปที่ลิฟท์พร้อมมือถือ เพกาแง้มมู่ลี่ดู เป่าปากอย่างโล่งอกแล้วรีบไขกุญแจเปิดลิ้นชักตู้อีกครั้ง สุดท้าย ตู้ถูกเปิดออกและเห็นกล่องขนาดย่อมใบหนึ่งวางอยู่ในตู้ เธอหยิบออกมาและเปิดกล่องออก
กำไลหยกตระกูลเจ้า กำไลหยกไม่แตก เรียบร้อยสมบูรณ์ดี
“ไม่ใช่คุณจิ้น”
เพกาเก็บกล่องไว้ที่เดิม ล็อกตู้และเก็บพวงกุญแจในที่เดิม แง้มมู่ลี่ดูอีกครั้ง เมื่อเห็นว่า ปลอดคนก็รีบเดินออกไปจากห้องทันที
เพกาวิ่งลงตรงบันไดหนีไฟเพื่อไปดักรอจิ้นเจินที่หน้าลิฟท์ชั้น 1

บริเวณโถงล่าง จิ้นเจินส่ายสายตามองหาแต่ไม่พบเพกาจึงโทรหา เพกาส่งเสียงเดินเหนื่อยหอบแฮ่กๆเข้ามา
“คุณจิ้น ขอโทษนะคะ...ที่รบกวน” เพกาพูดด้วยความเหนื่อยหอบ
จิ้นเจินมองอย่างแปลกใจ
“วิ่งมาราธอนมาหรือครับ”
“ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ”
“มีอะไรคุยกับผมหรือครับ”
เพกามองจิ้นเจินและคิดว่า
“กำไลหยกคุณจิ้นไม่เคยแตก คุณไม่ใช่ฆาตกรฆ่าเมย์ลี แล้วเหลือใครน่าสงสัยอีกบ้างล่ะเนี่ย”
จิ้นเจินเห็นเพกาเงียบไปก็ถามย้ำอีกครั้ง
“ว่าไงครับ มีเรื่องอะไรจะคุยกับผม”
“คือฉันจะบอกว่าฉันเชื่อใจคุณ ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณเหลียนค่ะ”
หมิงเทียนเข้ามามาเห็นเพกาอยู่กับจิ้นเจินก็ชักสีหน้าหึงหวง เพการีบตัดบท
“คุณหมิงเทียนมาแล้ว ฉัน ไปก่อนนะคะ บ๊ายบายค่ะ”
เพกาชิ่งจากจิ้นเจินออกมา ปล่อยให้จิ้นยืนงง ทั้งคู่เดินออกมาได้สักพัก หมิงเทียนก็จับแขนเพกา ถามเสียงดุ
“ผมเคยขอร้องคุณแล้วไงว่าไม่ให้ยุ่งกับน้าจิ้นอีก”
“ก็บังเอิญเจอ แล้วจะให้ฉันทำยังไง”
“ไปกันได้แล้ว”
“ไม่ไปดูโรงงานแล้วได้ไหมคะ ขอไปเดินเล่นแก้เซ็งแทนดีกว่า”
หมิงเทียนอึ้งไป งงๆกับเพกา
“นะคะ”

หมิงเทียนพาเพกามาเดินเล่นในห้างที่แบ่งเป็นห้องเล็กๆ มุมนี้เป็นมุมขายของแฮนด์เมด กับของแต่งบ้านแนววินเทจที่ฮ่องกง หมิงเทียนพาเข้าร้านที่เขารู้จัก เจ้าของร้านคำนับทักทายหมิงเทียนเช็คแฮนด์กัน หมิงเทียนยิ้มตอบ เพกาอารมณ์ดีขึ้นผ่อนคลายจากอาการเซ็ง
เพกาชอบร้านนี้มาก เพราะของแนววินเทจเป็นที่โปรดปรานของผู้หญิงแนวหวาน ตกแต่งด้วยดอกไม้ ผ้าลูกไม้ ลูกปัดหลากสี สไตล์เก๋ไก๋ย้อนยุค เพกาเดินดูของแต่ละชิ้นที่สวยน่ารัก สักครู่จึงพูดขึ้น
“ร้านนี้น่ารักดี อยากได้ทุกอย่างในร้านเลยค่ะ”
“พูดเหมือนเมย์ลีเปี๊ยบ”
เพกาเจ็บจี๊ด หมิงเทียนพูดถึงเมย์ลีอีกแล้ว เพกาเริ่มงอน เชิดและไม่มองหน้าหมิงเทียน
“ผมเคยสั่งทำกล่องไม้ให้เมย์ลีที่ร้านนี้”
เพกาหันขวับมาหาหมิงเทียน
“ใช่ที่ฝากล่องเป็นลายดอกโบตั๋นหรือเปล่าคะ”
หมิงเทียนสงสัย

“คุณรู้ได้ยังไง”
 

 
เพกาสีหน้าครุ่นคิดที่ซิ่วหลานบอกว่า
 
“นึกออกแล้ว เธอเก็บไดอารี่ไว้ในกล่องไม้สีขาวค่ะ ฝากล่องเป็นลายดอกโบตั๋นสีชมพู”
“ไดอารี่อยู่ในกล่องลายโบตั๋น”
“ตอบฉันมาค่ะคุณหมิงเทียน ใช่กล่องไม้สีขาวลายดอกโบตั๋นสีชมพูหรือเปล่า”
“ใช่”
“กล่องใบนั้นอยู่ไหน หลังเมย์ลีตาย กล่องหายไปไหนคะ”
“ไม่ได้หายไปไหนอยู่ที่ผม ผมเก็บไว้ในห้อง”
“โธ่ แล้วทำไมถึงไม่บอกฉัน ไปค่ะ”
เพกาจูงมือหมิงเทียนออกจากร้าน เขาเดินตามอย่างงงๆ
“จะไปไหน คุณ”

ในเวลาต่อมา หมิงเทียนเปิดประตูเข้ามาในห้องส่วนตัว ประตูยังเป็นอ้าอยู่
“เก็บกล่องนั่นไว้ตรงไหนคะ”
“ในตู้เสื้อผ้า คุณจะเอาไปทำอะไร”
“ในกล่องมีไดอารี่คุณเมย์ลี ฉันอยากขอดูไดอารี่ของคุณเมย์ลีหน่อย”
หมิงเทียนนิ่งไม่อยากเปิดกล่อง แม้กล่องจะอยู่กับเขามาหลายปี แต่เขาไม่เคยคิดจะเปิด ไม่อยากรู้เพราะมันเจ็บที่จะต้องคิดถึงสุคนธา
“ได้โปรดเถอะค่ะ คุณหมิงเทียน”
หมิงเทียนจำใจไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบกล่องกระดาษที่ปิดผนึกด้วยเทปกาวออกมาวาง
“พอเมย์ลีตาย ซิ่วเก็บของที่เป็นส่วนตัวของเมย์ลีใส่ไว้ในกล่องนี้ ผมขอมาเก็บไว้ ผมหวังว่าเรื่องที่เมย์ลีตายไม่ใช่เรื่องจริง สักวันเธอจะต้องกลับมา”

ที่หน้าประตูห้อง จิ้นเจินเดินผ่านมาพอดี และได้ยินที่เพกาพูดจึงหยุดฟังที่หลังประตู
เพกามองหมิงเทียนอย่างเห็นใจ
“เมย์ลีกลับมาแล้วค่ะ กลับมาทวงความยุติธรรม ถ้าไดอารี่ของคุณเมย์ลีอยู่ในนี้ เราก็จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ”
จิ้นเจินยืนอึ้งอยู่
“แล้วเมย์ลีก็จะต้องขอบคุณคุณมากๆ ที่ช่วยเก็บรักษาของของเธอไว้ให้”
“คุณเปิดดูมันเองก็แล้วกัน ผมไม่อยากดู”
หมิงเทียนพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไป จิ้นเจินรีบหลบทันที
เพกาหยิบคัตเตอร์จากโต๊ะทำงานแถวนั้นมากรีดเทปกาวที่ปิดฝากล่องออก
จิ้นเจินกระสับกระส่าย เป็นกังวลมองเพกาอย่างร้อนใจ
“คุณพิ้งค์จะเจอไดอารี่ไม่ได้”
จิ้นเจินเดินไปทางห้องดอกไม้



 
ภายในกล่องกระดาษ มีข้าวของส่วนตัวของสุคนธา เช่น รูปถ่าย ตุ๊กตา ผ้าปัก เพการื้อของออกมา แล้วเจอกล่องไม้ลายโบตั๋น
 
“นี่ไง”
เพกาหยิบกล่องไม้ลายโบตั๋นที่อยู่ล่างสุดออกมาดูด้วยความดีใจ เพกาเปิดฝากล่องไม้ลายโบตั๋น สมุดไดอารี่ของเมย์ลีอยู่ด้านใน 3 เล่ม
“จะได้รู้สักทีว่าคุณเมย์ลีบันทึกอะไรเกี่ยวกับฆาตกรไว้ในนี้หรือเปล่า”
เพกากำลังจะหยิบไดอารี่ออกมาจากกล่องและกำลังจะเปิดดูแล้ว แต่ทันใดนั้นเสียงซิ่วหลานก็ดังขึ้น
“ไฟไหม้ห้องดอกไม้ ช่วยด้วย ไฟไหม้ห้องดอกไม้”
เพกาชะงักวางไดอารี่ลงกล่องแล้วรีบวิ่งออกไป

เพกาวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในห้อง ซิ่วหลานกำลังยืนละล้าละลังทำอะไรไม่ถูกอยู่ กองไฟเผาผ้าห่มอยู่บนพื้น
“ไปหาน้ำมาดับไฟเร็วซิ่ว”
“ค่ะๆๆ”
ซิ่วหลานวิ่งเข้าไปในห้องน้ำส่วนตัวของห้องดอกไม้ เอาน้ำมาราดดับไฟ เพกาหันซ้ายหันขวาแล้วคว้าน้ำในเหยือกที่เหลืออยู่ครึ่งเดียวมาราดลงบนกองไฟ ไฟไม่ดับ ระหว่างนั้นหมิงเทียนวิ่งเข้ามาแล้วคว้าหมอนมาตบๆ ไฟจนดับ
“ซิ่วไปเอาเครื่องดูดฝุ่นมาทำความสะอาด”
ซิ่วหลานออกไปจากห้องดอกไม้เพื่อเอาเครื่องดูดฝุ่น
“คุณเป็นอะไรไหม”
“ไม่ค่ะ”
ลี่ผิงกับอวี้เหลียนตามเข้ามา
“ไฟไหม้ได้ยังไง คุณจุดเทียนไว้เหรอ”
“เปล่าค่ะ”
“แน่ใจหรือคุณ”
“แน่ใจสิคะ หรือต่อให้ฉันจุดเทียน มันก็คงไม่ไหม้จนทำให้ผ้าห่มตกลงมาตรงนี้ได้ นอกเสียจากว่า...”
“มีใครแกล้งคุณพิ้งค์ต้องเป็นฝีมือนังสองแม่ลูกชั้นต่ำนั่นแน่ๆ” ลี่ผิงบอก
“คุณนายรองกับเพ่ยเพ่ยออกไปช้อปปิ้งค่ะ” อวี้เหลียนบอก
“ผมว่าเป็นอุบัติเหตุ จะมีใครแกล้งคุณพิ้งค์ด้วยเหตุผลอะไร”
“นั่นสิ จะแกล้งฉันทำไม”
เพกาคิดไม่ตก

ซิ่วหลานเอาเครื่องดูดฝุ่นจากห้องใต้บันไดจะขึ้นไปชั้นบนชนกับจิ้นเจินที่เอากล่องไม้ใส่สมุดไดอารี่ซ่อนไว้ด้านหลังเข้าอย่างจัง
“ว้าย ขอโทษค่ะคุณจิ้น”
จิ้นเจินมองซิ่วหลานด้วยสายตาดุ แล้วรีบหันหลังออกไปนอกบ้าน
“จะรีบไปไหนของเขา”

ซิ่วเอาเครื่องดูดฝุ่นขึ้นบันไดไป
 

กี่เพ้า ตอนที่ 9 (ต่อ)

เพกาเดินมาจากทางห้องนอนดอกไม้ไปห้องหมิงเทียน ด้วยสีหน้าครุ่นคิดเรื่องไฟไหม้ผ้าห่ม และเมื่อเธอมองไปในกล่องก็พบว่ากล่องไม้ที่ใส่ไดอารี่หายไป
 

“ไดอารี่หาย”
เพกาค้นหาไดอารี่ในกล่องแต่ไม่มี เพการีบออกมาจากห้องหมิงเทียน ซิ่วหลานเดินหิ้วเครื่องดูดฝุ่นผ่านมา เพกาเข้าไปถาม
“เมื่อกี้อาซิ่วเข้ามาในห้องคุณหมิงเทียนหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ มีอะไรหรือคะ”
“ไดอารี่คุณเมย์ลีหายไป แล้วตอนไปเอาเครื่องดูดฝุ่น อาซิ่วเจอใครบ้างที่ชั้นบน”
“คุณนายใหญ่ คุณเหลียน อ้อ...คุณจิ้นอีกคนไม่รู้จะรีบร้อนไปไหน ลงบันไดชนกับซิ่วด้วย”
“คุณจิ้น”

จิ้นเจินเดินมาจากทางโรงรถหน้าบ้านเข้าจะเข้าตึก ด้วยสีหน้าและท่าทางเป็นปกติมาก จู่ๆ เพกาก็โผล่มาขวางหน้าจิ้นเจินบริเวณน้ำพุ
“คุณจิ้นเอาไดอารี่ของเมย์ลีคืนมา”
จิ้นเจินสะดุ้งตกใจแล้วค่อยตั้งสติถาม
“ไดอารี่อะไร”
“ไดอารี่ของคุณเมย์ลี คุณจงใจเผาผ้าห่มห้องฉันเพื่อให้ฉันออกไปจากห้องคุณหมิงเทียน แล้วคุณก็เข้าไปขโมยไดอารี่ของเมย์ลี”
“ที่เหมยอิงกับเพ่ยเพ่ยชอบว่าคุณสติไม่ดีเห็นท่าจะจริง”
“คุณรู้แก่ใจดีว่าฉันพูดเรื่องจริง คุณไม่อยากให้ฉันอ่านไดอารี่ของเมย์ลี เพราะคุณต้องการจะปกป้องฆาตกร คุณรู้ว่าใครเป็นฆาตกรฆ่าเมย์ลีใช่ไหมคะ”
“ผมไม่รู้ ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
จิ้นเจินจะเดินไป แต่เพกาคว้าแขนไว้
“เดี๋ยว”
นิ้วเพกาแตะไปโดนดินแฉะๆ บนท้องแขนของจิ้นเจินพอดี เพกามองไปที่นิ้วตัวเองที่เปื้อนดินแล้วแวบหนึ่ง แล้วปั้นหน้าเป็นปกติ
“เมื่อตะกี้คุณไปไหนมา”
“ทำไมผมต้องบอก”
“เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าคุณไม่ได้เผาผ้าห่มฉัน ไม่ได้ขโมยไดอารี่เมย์ลีไป”
“ ผมไปดูว่าลืมเอกสารงานไว้บนรถหรือเปล่า”
เพกาพยักหน้า จิ้นเจินเดินเข้าตึกไป เพกายกนิ้วตัวเองขึ้นดูดินที่ติดมือและมองตามจิ้นเจินอย่างไม่เชื่อ
“ดูเอกสารที่รถแต่มีดินติดตัวมาด้วยเนี่ยนะ”
เพกาเดินออกไปทางสวนที่จิ้นเจินเดินเข้ามา

บริเวณสนามหน้าตึกที่มีต้นไม้ใหญ่ปลูกอยู่ เพกาเดินเข้ามามองพื้นดิน สนามและต้นไม้รอบๆบริเวณนั้น
“คุณจิ้นต้องเอาไดอารี่มาซ่อนไว้แถวนี้แน่ๆ”
เพกาเดินก้มหาจุดน่าสงสัย ปากก็ภาวนาไปด้วย
”ช่วยดลจิตดลใจให้ฉันหาไดอารี่เจอด้วยนะคะคุณเมย์ลี”
ทันใดนั้นเพกาชนกับหมิงเทียนที่ยืน
“ว้าย”
เพกาหงายหลังล้มก้นกระแทกสีหน้าเจ็บปวด หมิงเทียนขยับจะช่วยประคอง แต่เพกายกมือห้าม
“ไม่ต้อง ฉันไม่ใช่ผู้หญิงบอบบาง ล้มเองลุกเองได้”
“หาไดอารี่อยู่หรือ”

หมิงเทียนถาม เพราะรู้เรื่องจากซิ่วหลานแล้ว
 

 
“คุณรู้ได้ไง หรือว่าคุณเจอไดอารี่แล้ว ฉันว่าแล้วเชียว คุณจิ้นต้องเอามาซ่อนไว้แถวนี้แน่ๆ”
“น้าจิ้น คุณคิดว่าน้าจิ้นเป็นฆาตกรฆ่าเมย์ลีงั้นเหรอ”
“เปล่า คุณจิ้นแค่รู้ว่าใครเป็นฆาตกร ถึงพยายามปกปิดไม่ให้ฉันเจอไดอารี่ของเมย์ลี ตกลงไดอารี่อยู่ไหนคะ เอามาให้ฉันเร็ว เรื่องจะได้จบๆ สักที”
“ผมไม่มี”
“อ้าว”
“และผมก็ไม่เชื่อว่าน้าจิ้นจะรู้เห็นเรื่องการตายของเมย์ลี เพราะน้าจิ้นไม่ได้สนิทกับเหว่ย เขาสองคนแทบจะไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ”
“เหว่ยไม่ใช่ฆาตกร”
“คนในครอบครัวผมก็ไม่ใช่”
“ใช่”
หมิงเทียนโมโหคว้าไหล่ของเพกาทั้งสองข้าง
“ทำไมคุณถึงได้ดื้ออย่างนี้”
“ฉันแค่เชื่อในสิ่งที่ฉันเห็น ไดอารี่ของเมย์ลีถูกขโมยไป ห้องฉันอยู่ดีๆ ก็มีไฟไหม้ ซิ่วเห็นคุณจิ้นมีพิรุธ ฉันเจอดินเปื้อนบนแขนคุณจิ้นแต่เขาโกหกว่าเขาไปที่โรงรถ ฉันจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่า ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความบังเอิญ ปล่อยฉัน”
เพกาสะบัดตัวออกจากหมิงเทียน จังหวะนั้น เครื่องประดับในตัวเธอหล่นลงพื้นจึงก้มเก็บและเห็นรอยดินถูกขุดอยู่ใต้ต้นไม้
“เอ๊ะ”
เพกาเข้าไปดูใกล้ๆ ดินตรงนั้นมีร่องรอยการกลบอะไรบางอย่าง เธอหากิ่งไม้แถวนั้นมาขุดหน้าดินออก และพบกล่องใส่ไดอารี่ฝังอยู่ข้างใน เพกายิ้มกว้าง
“นั่นไง”
เพกาหยิบกล่องไดอารี่ขึ้นมาชูให้หมิงเทียนดู เขาอึ้งไป
“ทีนี้คุณก็จะรู้สักทีว่าสิ่งที่ฉันเชื่อมันเป็นความจริง คุณจิ้นไม่ได้บริสุทธิ์อย่างที่คุณคิด”
เพกาเปิดสมุดออกแต่ข้างในไม่มีอะไรเลย เป็นแค่สมุดเปล่าๆ
“เป็นไปได้ยังไง”
เพกาคว้าอีกสองเล่มมาเปิดดูก็ไม่พบข้อความอะไรเลย เพกาพลิกดูที่ขอบกระดาษ
“ไม่มีรอยฉีก ไม่จริงๆ มันต้องมีอะไรบ้างสิ”
“ถ้าคุณต้องการความจริง คุณต้องยอมรับความจริงให้ได้ซะก่อนว่า เหว่ยคือฆาตกรฆ่าเมย์ลี”
เพกามองตามอย่างเจ็บใจ

จิ้นเจินเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายใจอยู่ในห้อง
 

 

"เมย์ลีจะเขียนอะไรไว้ไดอารี่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ฟ้ามืดสักทีจะได้ไปเอามาเผาทิ้ง"

ข้อความในโทรศัพท์ของจิ้นเจินดังขึ้น เขาเปิดอ่านข้อความจาก “ใครบางคน”
“ฉันรออยู่ มาเดี๋ยวนี้”
อ่านแล้วจิ้นเจินก็รู้สึดหงุดหงิดขึ้นมาทันที พลันคิด
“จะอะไรนักกันหนาวะ จะซวยกันหมดอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก"
จิ้นเจินเดินถือโทรศัพท์มือถือกำลังจะออกมาจากห้อง อวี้เหลียนเข้ามาพอดี
"คุณจะไปไหน"
"ยุ่ง"
จิ้นเจินจะเดินไปแต่อวี้เหลียนขวางหน้าไว้
“จะไปเจอมันอีกใช่ไหม"
"ผมให้คุณมายุ่งเรื่องของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ ไปให้พ้นเลยไป น่ารำคาญ"
จิ้นเจินผลักภรรยาแล้วเดินออกไป อวี้เหลียนร้องไห้โฮด้วยความเจ็บใจ

เพกาแอบหลบซ่อนตัวนั่งคอยอยู่หลังพุ่มไม้ หันหน้าไปยังบริเวณที่ฝังสมุดไดอารี่ เพกาหาวหวอดๆ รอมานานแล้ว จิ้นเจินเดินออกมาจากตัวบ้าน พลางหันซ้ายหันขวาอย่างระมัดระวังเพราะกลัวคนมาเห็น เพกาตาสว่างทันที
"นึกอยู่แล้วว่าคุณต้องกลับมาเอา ทีนี้แหละดิ้นไม่หลุดแน่"
จิ้นเจินเดินมาถึงจุดที่จอดรถคันประจำ แต่ไม่ยอมเดินทางมาที่ซ่อนไดอารี่ กลับเดินเร็วๆไปทางถนนที่เป็นซอกซอย เพกามองตามอย่างงงๆ
"อ้าวๆ จะไปไหนล่ะ"
จิ้นเจินเดินไปด้วย รับโทรศัพท์ไปด้วย ปลายสายโทรเข้ามาเซ้าซี้
"ผมกำลังไป"
เพกาพึมพำกับตัวเองเบาๆ
"คุณจิ้นนัดกับใคร หรือจะเป็นฆาตกร"
เพกาตัดสินใจตามจิ้นไปทางถนนที่เป็นซอกซอยนั้น

บริเวณสวนรถไฟ เหม่ยอิงรอจิ้นเจินอยู่อย่างหงุดหงิด เพราะคุณนายรองรู้มาจากเป่าหลินว่า จิ้นเจินคุยกับเพกาที่หัวบันได จิ้นเจินเดินเข้ามาด้วยสีหน้า ท่าทางอึดอัดเพราะพะวงกับเรื่องสมุดบันทึก
"คุณนัดพบมาทำไมตอนนี้ เดี๋ยวใครก็มาเห็นเข้าหรอก"
"ฉันได้ข่าวว่าคุณคุยกับนังเพกาเห็นว่าถูกเนื้อต้องตัวกันด้วย"
"หูตาคุณนี่มันเยอะจริงๆ"
"คุณชอบมันเหรอ"
"เปล่า"
"จริงนะ"
"ถ้าไม่เชื่อ วันหลังก็ไม่ต้องมาถาม"
จิ้นเจินพูดแล้วก็ทำท่าจะหันหลังเดินไป
จู่ๆ เหม่ยอิงสวมกอดจิ้นจากด้านหลัง
"ก็ฉันหวงคุณนี่"
เพกามาถึงพอดี แอบมองอย่างความตกใจสุดขีด
"คุณนายรองกับคุณจิ้น"

เหม่ยอิงเอาหน้าแนบกับแผ่นหลังของจิ้นเจินอย่างยั่วยวน เขาดึงมือเธอออก

"นังเพกามันสาวกว่าฉัน ฉันก็ต้องกลัวว่าคุณจะเปลี่ยนใจ"

เหม่ยอิงจับตัวจิ้นให้หันหน้ามาใช้ปลายนิ้วลูบไล้ที่แก้ม
"แต่เชื่อฉันเถอะค่ะ ถึงมันจะสาวกว่าแต่เรื่องอื่นมันสู้ฉันไม่ได้หรอก"
"ตอนนี้เราอย่าเพิ่งเจอกันเลย ผมกลัวใครจะมาเห็นเข้า เหมือนเมย์ลี คุณรู้ไหมว่าคุณพิ้งค์เขาเจอสมุดไดอารี่ของเมย์ลี ถ้าเมย์ลีเขียนเรื่องของเราไว้ในนั้น เราต้องแย่แน่ๆ"
เพกาได้ยินก็พยักหน้าให้ตัวเองอย่างเข้าใจ
"มิน่าถึงไม่อยากให้เราเจอไดอารี่"
เหม่ยอิงตกใจ
"แล้วนังเพกามันได้อ่านอะไรไหม"
"ยัง ผมเอาไปซ่อนไว้เรียบร้อยแล้ว รอฟ้ามืดผมจะไปเอามาเผาทิ้งซะ"
"เก่งที่สุดเลยคุณ อย่างงี้ต้องให้รางวัล"
เหม่ยอิงยื่นหน้าไซร้แก้มจิ้นเจินจนเขาหลับตาเคลิ้มไป เพกาปิดตาแต่อ้านิ้วแอบดูบ้าง ตัวสั่นๆ รับไม่ได้
"บัดสีที่สุด"
เพการีบกลับเข้าบ้านปล่อยให้เหม่ยอิงกับจิ้นเจินซุกไซร้กันอยู่

เพกาเดินเร็วขึ้น เปิดประตูเข้ามาในตัวบ้าน สีหน้าเพกาเต็มไปด้วยขยะแขยงและรังเกียจการกระทำของจิ้นเจินกับคุณนายรอง เพกาจะเดินขึ้นไปชั้นบนก็เจอกับหมิงเทียนที่เดินตรงเข้ามาพอดี
"ผมให้อาซิ่วทำความสะอาดห้องคุณเรียบร้อยแล้วนะ"
"ขอบคุณค่ะ"
"ตอนนี้เรื่องไดอารี่ของเมย์ลีคุณคงไม่มีอะไรอะไรค้างคาใจแล้วนะ"
"ค่ะ เพราะทุกอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋แล้วล่ะ"
"หมายความว่ายังไง"
"ก็...”
ระหว่างที่เพกาลังเลว่าจะตอบดีไหมก็เกิดเสียงดังโครมดังมาจากชั้นสอง บริเวณห้องของอวี้เหลียน เพกากับหมิงเทียนเงยหน้าขึ้นไปมอง
"น้าเหลียน"
หมิงเทียนวิ่งขึ้นบันไดไป เพกาวิ่งตามไปติดๆ

ภายในห้องนอน อวี้เหลียนนั่งร้องไห้แทบขาดใจอยู่กับพื้น ข้างๆ ตัวมีเศษแจกันแตก หมิงเทียนเดินนำเพกาเปิดประตูเข้ามา ทั้งสองปราดเข้าไปหาอวี้เหลียนทันที
"น้าเหลียน น้าเหลียนเป็นอะไรครับ"
อวี้เหลียนพยายามกลั้นสะอื้นประคองตัวเองลุกขึ้น หมิงเทียนกับเพกาช่วยกันประคอง
"น้าแค่เวียนหัวนิดหน่อย น้าไม่เป็นอะไร" อวี้เหลียนว่าพลางปาดน้ำตา
"ถ้าน้าเหลียนมีเรื่องอะไรไม่สบายใจคุยกับผมได้นะครับ อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว ผมรู้ว่ามันทรมาน"
"แต่ถ้าน้าพูดไป น้าอาจจะทรมานยิ่งกว่า ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้เถอะ เดี๋ยวน้าก็ชินไปเอง"
"สามีทำตัวไม่เหมาะสม มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงอย่างเราต้องชินนะคะ"
อวี้เหลียนอึ้งถามเพกา
"คุณรู้"
"ค่ะ ฉันรู้"
จิ้นเจินเดินเข้ามาตีหน้าตายแล้วพูดถาม
"รู้อะไรเหรอครับ"
เพกาคิดนิดนึงแบบสมองไว
 

กี่เพ้า ตอนที่ 9 (ต่อ)

"ก็รู้ในสิ่งที่คุณเมย์ลีเขียนบันทึกเอาไว้ในไดอารี่ไงคะ"
 

จิ้นเจินอึ้ง หมิงเทียนนิ่วหน้าอย่างแปลกใจ เพราะเขาเห็นกับตาว่า ในไดอารี่ไม่มีข้อความอะไรเลย
"นี่คุณ"
เพกาแกล้งพูดล่อให้จิ้นเจินสารภาพ
"เลิกหาเหตุผลช่วยน้าคุณสักทีเถอะค่ะ"
"ถ้าสิ่งที่คุณเมย์ลีเขียนไว้ในไดอารี่ไม่ใช่ความจริง แล้วคุณจิ้นจะเอามันไปซ่อนไว้ใต้ต้นไม้ทำไม"
"ไม่จริงนะหมิงเทียน เมย์ลีโกหก น้าไม่ได้เป็นชู้กับเหม่ยอิง"
หมิงเทียนตะลึงอย่างคาดไม่ถึง จิ้นเจินพยายามอธิบาย แต่ยิ่งอธิบายก็ยิ่งแย่
"ที่เมย์ลีเห็นน้ากับเหม่ยอิงที่สวนมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด น้าไม่ได้ไปแอบมีอะไรกับเหม่ยอิง เราแค่ไปคุยกัน หมิงเทียนต้องเชื่อน้านะ"
"น้าจิ้นเป็นชู้กับคุณนายรองจริงเหรอครับน้าเหลียน"
จิ้นเจินส่งเสียงดุปราม
"เหลียน"
อวี้เหลียนมองจิ้นเจินที่ส่งสายตาขู่ อวี้เหลียนหันไปมองหน้าเพกาที่พยักหน้าให้กำลังใจ อวี้เหลียนตัดสินใจบอกความจริง
"ใช่ คุณจิ้น....เป็นชู้กับเหม่ยอิง"
หมิงเทียนสีหน้าอึ้งมาก
"เหม่ยอิงมักมากสันดานต่ำตามชาติกำเนิด ส่วนคุณจิ้นหน้าฉากสุภาพบุรุษ หลังฉากชอบกดขี่ผู้หญิง เหม่ยอิงลักลอบได้เสียกับคุณจิ้นมาหลายปีแล้ว ทุกครั้งที่พี่เยี่ยไม่อยู่ เขาสองคนจะแอบไปทำเรื่องเลวชั่วที่สวนหลังบ้าน ใต้จมูกของพวกเรานี่เองและคนที่ไปเห็นเข้าคือ....เมย์ลี"

วันนั้นในอดีต ที่หลังพุ่มไม้ จิ้นเจินกับเหม่ยอิงกอดจูบกันอยู่ ขณะนั้น สุคนธาเดินถือตระกร้าเก็บดอกไม้จากที่อื่นผ่านมาเห็นพุ่มไม้ไหว จึงเดินไปชะโงกดู ก็เห็นทั้งคู่กอดจูบกันอยู่ก็ตกใจมาก จิ้นเจินหันมาเห็น สุคนธาตะลึงกับภาพที่เห็นจนทำตัวไม่ถูก เหม่ยอิงลอยหน้าลอยตาอย่างไม่มียางอาย สุคนธารีบจะเดินกลับตึก จิ้นเจินวิ่งเข้าไปกระชากตัวพร้อมพูดขู่
“ห้ามบอกใครเด็ดขาดได้ยินไหม”
สุคนธากลัวมากจนน้ำตาคลอ
“น้าจิ้น หนูเจ็บ”
“แกมันแค่เด็กขอมาเลี้ยง ถ้าแกบอกเรื่องนี้กับใคร ฉันจะฝังแกไว้ใต้สวนโบตั๋นของแก อย่าคิดว่าฉันไม่กล้า”

จิ้นเจินสีหน้าเหี้ยม สุคนธากลัวจนตัวลีบหงอ
 

 
วันใหม่ในสวนดอกโบตั๋น สุคนธาเขียนบันทึกในไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษ
 

“เมื่อคืนน้าจิ้นกับคุณนายรองแอบพลอดรักกันในสวนหลังบ้านอีกแล้ว”
จิ้นเจินโมโห บันดาลโทสะมาเปิดประตูเข้ามาอย่างแรงจนสุคนธาตกใจ
“เมื่อกี้พี่เยี่ยถามฉันว่า หมู่นี้ฉันออกไปทำอะไรที่สวนหลังบ้านบ่อยๆ แกบอกอะไรพี่เยี่ย พี่เยี่ยถึงระแคะระคาย”
“หนูไม่เคยบอกคุณพ่อหรือใคร ๆ เลยนะคะ น้าจิ้นมีชนักติดหลังเลยกลัวไปเอง”
จิ้นเจินหยิบไดอารี่ของสุคนธามาอ่านแล้วโกรธมากถึงขนาดจะฉีกไดอารี่
“นี่แกเขียนถึงฉัน”
“อย่านะน้าจิ้น”
สุคนธาแย่งไดอารี่ จิ้นเจินผลักเธอจนกระเด็น ขณะนั้น อวี้เหลียนเอาผ้าปักมาให้สุคนธาพอดี จึงรีบเข้าช่วยประคองขึ้นมา
“เจ็บมั้ยจ๊ะ เมย์ลี”
สุคนธาร้องไห้
“คนใจร้ายรังแกแม้กระทั่งหลานสาว”
“คุณไม่เกี่ยว ออกไป”
“ทำไมฉันจะไม่เกี่ยว สามีฉันเล่นชู้กับเมียรองของพี่เขย”
“คุณรู้”
“เห็นฉันเฉย ๆ เชื่อฟังคุณทุกอย่าง แต่ฉันไม่โง่นะคะคุณจิ้น คุณแอบออกไปไหนกลางค่ำกลางคืนทำไมฉันจะไม่รู้ เสียงหัวเราะต่อกระซิกในสวนหลังบ้าน มันบาดใจฉัน"
“โทษผมไม่ได้ คุณให้ความสุขผมได้ไม่เต็มที่ ผมก็ต้องมีคนอื่น”
“ไอ้ผัวเฮงซวย”
จิ้นเจินตบอวี้เหลียนจนคว่ำลง
“น้าเหลียน”
“หย่ากันมั้ยล่ะ”
อวี้เหลียนร้องไห้โฮ จิ้นเจินยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ จิ้นเจินฉีกกระดาษหน้าที่สุคนธาเขียนบันทึกมาขยำทิ้ง
“ฉันจะตามอ่านไดอารี่แก ถ้าพบว่าแกเขียนถึงฉันกับคุณเหม่ยอิงอีก แกเจ็บตัว”
จิ้นเจินออกไป สุคนธาสงสารอวี้เหลียนมาก ทั้งคู่กอดกันร้องไห้

“ตั้งแต่นั้นมา สามีแสนสุภาพของฉันก็ตามรังควานเมย์ลี” อวี้เหลียนบอกเพกากับหมิงเทียน

วันใหม่ ขณะที่สุคนธากำลังนั่งแกะสลักผัก จิ้นเจินก็เข้ามาตบโต๊ะพลางด่าโวยวาย

“เมื่อไหร่ที่พี่เยี่ย พูดหรือถามอะไรแปลกๆ คุณจิ้นจะต้องออกอาการหวาดระแวงแล้วก็ต้องลงที่เมย์ลีเข้าไปด่า ข่มขู่เมย์ลีสารพัด ทั้งที่เมย์ลีไม่เคยบอกใครสักคำ ทุกอย่างล้วนเป็นคุณจิ้นที่คิดไปเอง”
 

อวี้เหลียนพูดกับหมิงเทียน

“น้าผิดเองหมิงเทียน น้ารู้ แต่ไม่ปกป้องหลาน”
หมิงเทียนด่าจิ้นเจิน
“ผมไม่คิดเลยว่า น้าชายที่ผมชื่นชมว่าเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษจะตบตีเมียตัวเอง ทำร้ายหลานสาว เล่นชู้กับภรรยาคนที่มีบุญคุณท่วมหัว น้าเหยียบย่ำเกียรติยศคุณพ่อผม”
จิ้นเจินคุกเข่าต่อหน้าหมิงเทียน
“หมิงเทียนอย่าบอกพี่เยี่ยนะ น้าจะเลิกยุ่งกับคุณเหม่ยอิง น้าจะไม่ทำอีกแล้ว น้าสัญญา”
“คำสัญญาจากคนอย่างน้า ยังมีค่าอีกหรือครับ”
ลี่ผิงเดินเข้ามาและพูดโพล่งขึ้นมา
“แล้วถ้าเป็นคำขอของแม่ล่ะ”
จิ้นเจินโผไปกอดขาลี่ผิงพลางร้องไห้ อ้อนวอน
“ช่วยผมด้วยพี่ผิง หมิงเทียนจะบอกพี่เยี่ย ช่วยผมด้วย”
ลี่ผิงตบหน้าจิ้นเจิน ทุกคนตกใจ
“น้องเนรคุณ แกรับปากกับฉันแล้วใช่ไหม ว่าจะไม่ไปยุ่งกับนังจิ้งจอกอีก แกอยากเห็นฉันตายเพราะผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม”
ลี่ผิงนั่งลงร้องไห้คร่ำครวญอย่างหนัก
“ทำไมแกไม่เชื่อฟังพี่นะจิ้น ทั้งสามี ทั้งน้องชายที่รักที่สุดพากันไปหลงนังนั่น ความดีงามมันไม่มีค่าอีกแล้วใช่ไหม ผู้หญิงอย่างฉัน อย่างเหลียนที่ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว เจ็บปวดแค่ไหน แกเคยรู้บ้างไหม อาจิ้น”
เพกาคุ้นประโยคของลี่ผิงทันที

“อย่าไปที่สวนหลังบ้านอีก แถวนั้นมีแต่เรื่องสกปรก ไม่มีเรื่องที่คุณอยากรู้หรอก เข้าบ้าน มากับฉัน”

“คุณนายใหญ่รู้มาตลอด แต่ช่วยปกปิดให้คุณจิ้นใช่มั้ยคะ”
ลี่ผิงยอมรับและพยักหน้า
“วันนั้นฉันก็เพิ่งรู้จากเหลียนว่าเขายังไม่เลิกคบกัน ทั้งๆที่เขาเคยรับปากฉันแล้ว”

 
ภาพอดีตฉายขึ้นอีกครั้ง จิ้นเจินเดินมาจากสวนหลังบ้าน เจออวี้เหลียนที่ยืนดักรออยู่แล้ว
“อาเหลียน”
“เมื่อกี้ฉันแอบตามคุณไปที่สวน เห็นคุณกับนังเหม่ยอิงฟัดกันนัวเนีย ไอ้ผัวสารเลว”
จิ้นเจินโมโหตบตีอวี้เหลียน เขาจับเมียเหวี่ยงลงที่พื้นถนน กำไลหยกที่ข้อมืออวี้เหลียนกระแทกกับพื้นอย่างแรงจนกำไลแตก ลี่ผิงวิ่งออกมาประคองอวี้เหลียนไว้ทันที
“อาเหลียนมีเรื่องอะไรกันน่ะ บอกมานะอาจิ้น ว่าไงอาเหลียนบอกมา ไม่ต้องกลัว”
“คุณจิ้นแอบมีชู้ค่ะ”
“อะไรนะ”
จิ้นเจินตกใจคุกเข่าลงต่อหน้าลี่ผิงด้วยความรู้สึกผิด ขอโทษ สัญญา
“ผมไม่ได้ตั้งใจ มันเกิดขึ้นเพราะผู้หญิงคนนั้นยั่วยวนผม ผมสัญญา ผมจะไม่ทำอีก”

ลี่ผิงพูดกับหมิงเทียน
“พอแม่รู้เรื่อง แม่หมดอาลัยตายอยากในชีวิต มันบอกไม่ถูกเหมือนหมดศรัทธาต่อความดี แม่ลาออกจากงานไม่อยากรับใช้สามี หรือทำอะไรให้ใครอีกแล้ว”
จิ้นเจินคลานเข่าไปมาระหว่างลี่ผิงกับหมิงเทียน
“ผมเป็นน้องชายที่พี่เลี้ยงมา อย่าทำลายอนาคตผมเลยนะครับ คนโมโหร้ายอย่างพี่เยี่ยทำได้ทุกอย่าง แล้วเหม่ยอิงเขาก็... เขาไม่ยอมให้ผมหยุด หมิงเทียนหลานเป็นผู้ชาย มีเลือดมีเนื้อเหมือนน้า หลานเข้าใจใช่ไหม”
ในเวลานี้ จิ้นเจินดูไม่มีมาดเอาเสียเลย เขาคลานเข่ามาจับมือหลานชายและขอร้อง
เพกาพึมพำ ฮึดฮัดอยู่คนเดียว
“ฮึ คนอะไรน่ารังเกียจชะมัด รู้ว่าเลวก็ยังทำ ขอโทษ อ้อนวอน สัญญิงสัญญา แต่ไม่ได้รู้สึกผิด แหม มันน่าฆ่าให้ตาย”
“เห็นแก่แม่เถอะนะ หมิงเทียน” ลี่ผิงบอก
“คุณแม่ไม่รู้สึกผิดต่อคุณพ่อบ้างหรือครับ น้องชายคุณแม่สวมเขาให้คุณพ่อ”
ลี่ผิงมองจิ้นเจินด้วยความแค้น
“จิ้นเป็นน้องชายคนเดียวของแม่ ที่จริงอยากฆ่ามันให้ตายทุกวัน แต่แม่สัญญากับคุณตาของลูกไว้ว่าเราพี่น้องจะรักกัน ดูแลกัน เลือดย่อมข้นกว่าน้ำนะ หมิงเทียน"
“ผมรู้สึกสะอิดสะเอียน รับไม่ได้จริงๆ”
หมิงเทียนมองจิ้นอย่างรังเกียจ
“ถ้าพี่เยี่ยรู้ น้าต้องไม่เหลืออะ พ่อหมิงเทียนเป็นคนมีอิทธิพล เขาจะไม่แค่ทำให้น้าหมดอนาคต แม้แต่แผ่นดินฮ่องกง น้าก็อยู่ไม่ได้ อย่าบอกพ่อเลยนะหมิงเทียน น้าขอร้อง”
“รับปากแม่สิหมิงเทียน คุณพิ้งค์ด้วย จะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร”
หมิงเทียนกับเพกาไม่รับปาก ได้แต่ยืนมองหน้ากัน สร้างความหวั่นวิตกให้ลี่ผิงกับจิ้นเจินมาก
 
จบตอนที่ 9 
 
อ่านต่อตอนที่ 10 พรุ่งนี้เวลา 09.30น. 
กำลังโหลดความคิดเห็น