สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 15
ช่วงสายวันต่อมา ขณะที่ป้าชวนนั่งพักผ่อนดูทีวี กินขนมหัวเราะร่าอย่างสบายใจอยู่ในห้องรับแขกที่เซฟเฮาส์ กุหลาบ กับ สมหวัง ค่อยๆ พากันย่องลงมาจากบ้าน สองสาวตรงไปที่ประตู เมื่อดูลาดเลาแล้วเห็นว่าป้าชวนไม่ได้สนใจก็แว๊บออกประตูไปทันที
ครู่ต่อมา สมหวังกับกุหลาบยืนเรียกรถแท็กซี่อยู่หน้าปากซอย พอรถจอดรับสองสาวรีบขึ้นรถแท็กซี่ออกไปทันที เป้าหมายคือบ้านชูชนะ
เวลาเดียวกันจอมขวัญก้าวลงมาจากรถที่หน้าเรือนใหญ่ ในขณะที่เจ๊จุ๊ กะเจ๊เนาว์ ยืนตั้งท่ารอต้อนรับ ด้วยสีหน้าเอาเรื่อง ในมือเจ๊เนาว์ถือขันน้ำมนต์อยู่ด้วย
เจ๊จุ๊บอกนังเนาว์ เดี๋ยวเอาน้ำมนต์เนี่ยพรมตั้งแต่ประตูรถ ยันประตูบ้านเลยนะ กันเสนียดมันฟุ้งกระจาย”
เจ๊เนาว์ยิ้มย่อง “ได้เลยจ้าเพื่อนจุ๊”
เจ๊จุ๊เร่ง “พรมเลยสิๆ เอาให้ชุ่มๆ เสนียดตัวนี้มันเฮี้ยน หน้าหนา ตายยาก”
เจ๊เนาว์พรมน้ำมนต์เฉียดกระเด็นโดนขาจอมขวัญไปมา
ทว่าจอมขวัญไม่สนใจ เดินเชิดเข้ามา แสยะยิ้มให้ พร้อมกับพูดเย้ย
“เจ๊…นี่น้ำมนต์กันเสนียดเหรอ”
เจ๊จุ๊งง “รู้แล้วนี่ จะถามทำไมอีกล่ะ”
“ชั้นจะบอกว่าให้เจ๊สองคนเก็บไว้อาบบ้างก็ดีนะ”
จอมขวัญเดินเชิดเข้าไปในบ้านโดยไม่แยแส
เจ๊เนาว์กะเจ๊จุ๊กรี๊ดแตก “อร๊ายยย”
เจ๊เนาว์พ่น “อีงูพิษ”
เจ๊จุ๊บอก “อีหมามุ่ย”
เจ๊เนาว์ด่าอีก “อีทองหยิบ”
“อีทองหยอด” เจ๊จุ๊ตาม
“อีฝอยทอง”
เจ๊เนาว์พูดจบกำลังจะเอาขันน้ำมนต์สาดจอมขวัญ ชูชนะเดินออกมา
เจ๊เนาว์ชะงักกึก เปลี่ยนท่าทำเป็นรดน้ำต้นไม้
“อะไรกันว๊ะ นังจุ๊ นังเนาว์” ชูชนะหันมาเห็นจอมขวัญ “อ้าว…นังจอมขวัญมาแล้วทำไมไม่เข้าไปในบ้านล่ะ”
“กำลังจะเข้านี่แหละจ้ะ”
ชูชนะมองสองเจ๊อย่างจับอาการ “แล้วเอ็งสองตัวทำอะไร ร้องเอะอะโวยวาย”
“รดน้ำต้นไม้จ้ะพ่อ…พอดีเจองูก็เลยตกใจ”
ชูชนะบ่นงึมงำ “นังพวกนี้ทำตัวเป็นเด็กไปได้…ไปเข้าบ้าน”
จอมขวัญเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นยินที่สายฟ้าบอกก็ดี๊ด๊าดีใจสุดขีด
“จริงเหรอจ๊ะ”
สายฟ้าพยักหน้า
“แล้วนัง… เอ้ย สมหวังล่ะ”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับสมหวัง” สายฟ้าตัดบท
“ทำไมเหรอ เมื่อก่อนก็ยังเห็นกันดีๆ อยู่เลย อยู่ดีๆ ก็มาเนรคุณเอาซะดื้อๆ”
เจ๊จุ๊พูดขัดขึ้นลอยๆ อย่าเอาคนอื่นไปเปรียบกับตัวเองสิ”
จอมขวัญหันค้อนขวับ
“พอกันได้แล้ว” ชูนะตัดบทหันมาพูดกับจอมขวัญ “ว่ายังไงนังจอมขวัญจะมาหรือไม่มา”
จอมขวัญเนื้อเต้น แต่แสร้งทำเป็นนิ่งคิด เชิงเล่นตัว
“ชั้นขอคิดดูก่อนนะพ่อ”
เจ๊เนาว์แขวะด้วยความหมั่นไส้ “อย่ามาทำเป็นเล่นตัว ได้ข่าวว่ามีปัญหากับทางโน้นไม่ใช่เหรอ”
จอมขวัญหน้าเสีย ที่โดนหักหน้า
“ถ้าชั้นกลับมาแล้วจะได้อะไร”
“เธอจะได้ออกอัลบั้มกับเฮียจวง”
จอมขวัญจ้องหน้าสายฟ้า ย้อนถาม “แค่นั้นเหรอ”
“เธอต้องการอะไร”
จอมขวัญยื่นข้อเสนอ “ข้อแรก ชั้นต้องได้ยอดซีดี เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ข้อสอง ค่าแสดงคอนเสิร์ต
ชั้นขอครึ่งๆ...”
จอมขวัญพูดไม่ทันจบ บาสที่อยู่ด้วยสอดขึ้น “โห…แบบนี้ปล้นกันชัดๆ”
“บอกแล้วเห็นมั้ยพ่อ ความเห็นแก่ตัวมันไม่เคยลดเลย” เจ๊จุ๊บอกอย่างไม่พอใจ
ชูชนะ ถอนหายใจ เมินหน้าหนี
สายฟ้าปราม “เงียบก่อนเจ๊” สายฟ้าถามจอมขวัญ “แล้วข้อสามอะไร”
จอมขวัญยิ้มยั่วยวน อย่างเจ้าเล่ห์ “พี่ต้องแต่งงานกับชั้น”
ทุกคนตกใจ สายฟ้าอึ้ง! สีหน้าหนักใจกว่าใครอื่น!
ชูชนะทนไม่ไหว “อย่าให้มันมากไปนะนังจอมขวัญ”
เจ๊จุ๊ด่าไม่ไว้หน้า “หน้าด้าน! เป็นผู้หญิงซะเปล่ามาขอผู้ชายแต่งงาน”
จอมขวัญตอบอย่างเป็นต่อ “ก็แล้วแต่ ถ้าไม่รับขอเสนอก็ไม่เป็นไร ชั้นไปละ”
จอมขวัญเดินออกไป สายฟ้าเรียกจอมขวัญไว้
“เดี๋ยวก่อนจอมขวัญ”
จอมขวัญหยุด แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
“ตกลง พี่ยอมรับเงื่อนไข”
ทุกคนตกใจร้องลั่นพร้อมๆ กัน
“สายฟ้า”
ระหว่างนั้นรถแท็กซี่จอดที่สองสาวนั่งมาจอดที่หน้ารั้วบ้าน สมหวังกับกุหลาบเดินลงมาจากรถ
ในจังหวะที่รถจอมขวัญแล่นออกมาจากบ้านพอดี
จอมขวัญเห็นสมหวังกับกุหลาบยืนอยู่ แกล้งบีบแตรไล่ เปิดกระจกลง
“กลับมาที่นี่ทำไมอีก…ไม่มีที่ไปล่ะสิถึงต้องกลับมาตายรัง”
กุหลาบสวนกลับ “ไม่ใช่เรื่องของคุณ” หันมาทางสมหวัง “เข้าไปข้างในเถอะสมหวัง”
จอมขวัญพูดเย้ย “อย่าเข้าไปให้เสียเวลาเลย ถึงเข้าไปเค้าก็ไสหัวพวกเธอออกมาอยู่ดี”
“เค้าจะไสหัวพวกชั้นทำไม พวกชั้นมาดีกลับมาช่วยวง” กุหลาบย้อน
จอมขวัญเหยียดเย้ย “อ๋อเหรอ…คงไม่ต้องแล้วละ เพราะชั้นกลับมาเป็นนักร้องที่วงแล้ว”
สมหวังกะกุหลาบ อึ้ง
“ไม่จริง…คนอกตัญญูอย่างเธอใครเค้าจะรับกลับเข้ามาอีก” กุหลาบเถียง
“ก็พี่สายฟ้าไง เค้าโทรไปง้อชั้นให้กลับมา…แล้วที่สำคัญนะเค้าขอชั้นแต่งงานด้วยแหละ”
สมหวังตกใจแทบช็อก
จังหวะนั้นสายฟ้าเห็นกุหลาบกับสมหวังยืนคุยกับจอมขวัญอยู่ จึงเดินออกมาดู
กุหลาบเถียงต่อ “โกหก”
“ไม่เชื่อลองเข้าไปถามพี่สายฟ้าดูก็ได้…นักร้องบ้านนอกอย่างเธอจะตามใครเค้าทัน ถูกเค้าหลอกใช้มาตั้งนานยังไม่รู้ตัว น่าสมเพช”
สมหวังฟังแล้วสะอึก รู้สึกเสียใจยิ่งนัก
ส่วนจอมขวัญปิดกระจกลง แล้วขับรถออกไปอย่างสะใจ
“สมหวังอย่าไปฟังนะ ยัยจอมขวัญมันโกหก” กุหลาบปลอบ
“ชั้นว่าเค้าไม่ได้โกหกหรอก ไม่อย่างนั้นเค้าไม่กล้าท้าให้พวกเราไปถามคุณสายฟ้าหรอก เรากลับกันเถอะพี่กุหลาบ”
สายฟ้าเดินเข้ามาพอดี
กุหลาบทักทาย “คุณสายฟ้า…”
สายฟ้ากับสมหวังจ้องหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง สมหวังตัดสินใจถาม
“คุณจะแต่งงานกับคุณจอมขวัญจริงเหรอ”
สายฟ้านิ่งครู่หนึ่ง
“ใช่”
สมหวังอึ้ง! เสียใจ ขอบตาร้อนผ่าว น้ำตาคลอเบ้า หันตัวออกไปทันที!
สายฟ้าพยายามเรียกสมหวังเพื่อจะอธิบายแต่สมหวังก็ไม่ฟัง
“สมหวัง…สมหวังฟังชั้นก่อน”
สมหวังไม่ฟังเสียง กุหลาบเดินตามสมหวังออกมา
ส่วนในบ้าน เจ๊เนาว์ เจ๊จุ๊ ชูชนะ และบาส ต่างยังโมโหเงื่อนไขของจอมขวัญที่เสนอมา และยังด่าจอมขวัญไม่หยุดปาก สายฟ้าเดินสีหน้าเศร้าๆ เข้ามา
เจ๊จุ๊ด่านำ “ดู๊ดูดู เงื่อนไขมันแต่ละข้อ อยากจะตบมันให้คว่ำ”
เจ๊เนาว์ถามสายฟ้าอีกครั้ง “แน่ใจนะสายฟ้าที่ตัดสินใจแบบนั้นน่ะ”
“แน่ใจครับ”
ชูชนะโมโห “เอ็งไม่ต้องไปยอมนังจอมขวัญมันก็ได้นะ เราทำเหมือนเดิมเอาเงินไปคืนเฮียจวงเค้า ที่เหลือค่อยทำงานเก็บเงินคืนเค้าทีละนิดก็ได้”
บาสเห็นด้วย “ใช่ พี่สายฟ้า พี่สายฟ้าต้องอยู่กับผู้หญิงแบบนั้นไปตลอดชีวิตเลยนะ”
เจ๊เนาว์เสริม “นี่นะสายฟ้า ถ้าเจ๊เป็นผู้ชายนะ เจ๊ไม่ยอมให้ผู้หญิงอย่างนังจอมขวัญมาเป็นแม่พันธุ์หรอก”
สายฟ้าพูดหนักแน่น “ถ้ามันทำให้วงเรารอด ผมยอม”
เจ๊เนาว์อ้อน “เราลองไปพูดกับสมหวังดูอีกทีมั้ย เพื่อคราวนี้จะอ่อนใจ เห็นใจสายฟ้าขึ้นมา”
“อย่าไปพูดถึงเขาอีกเลยครับ”
ทุกคนนิ่ง สงสารปนซึ้งใจที่สายฟ้าต้องเสียสละมากขนาดนี้!
สมหวังเดินออกมาที่หน้าปากซอยบ้านสายฟ้าร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ จนพอขึ้นรถแท็กซี่ สมหวังยังคงร้องไห้ไม่หยุด กุหลาบพยายามปลอบอยู่ข้างๆ
เวลาเดียวกันป้าชวนเคาะประตู
“สมหวัง…กุหลาบ ตื่นได้แล้วลูก”
ในห้องเงียบกริบ ป้าชวนเปิดประตูเข้าไปในห้อง ไม่เห็นสมหวังกับกุหลาบ
“ไปไหนนะ”
ป้าชวนเริ่มใจไม่ดี
ป้าชวนตะโกนเรียกหาสองสาวมาที่หน้าเซฟเฮาส์ “สมหวัง…กุหลาบ”
รถหมวดวันชาติแล่นมาจอดหน้าบ้าน ก่อนจะเดินเข้ามาหา
“หมวดคะ…สมหวังกับจ่ากุหลาบหายไปไหนไม่รู้ค่ะ”
วันชาติตกใจ
“แล้วหายไปได้ยังไงล่ะครับ”
“ไม่รู้ค่ะ …ชั้นนึกว่ามันนอนตื่นสาย พอขึ้นไปดูบนห้องก็ไม่มี”
วันชาติสีหน้าเป็นกังวล
“หรือว่าสองคนนั่นแอบไปที่วงอาชู”
หมวดวันชาติรีบร้อนจะไปตามสมหวังกับกุหลาบ ระหว่างนั้นกุหลาบกับสมหวังก็เดินกลับเข้ามาหน้าตาหม่นเศร้า
กุหลาบกับสมหวัง เห็นวันชาติก็ตกใจ
“จ่าออกไปไหนกันมา”
กุหลาบอึกอัก “เอ่อ…”
“ไปซื้อผ้าอนามัยค่ะ พอดีผ้าอนามัยหมด” สมหวังบอก
“แล้วทำไมไม่รอผมก่อน”
“เรื่องแบบนี้จะรอหมวดได้ยังคะ เป็นวันมามากถ้าไม่มีผ้าอนามัยก็เลอะทั่วบ้านพอดี” สมหวังว่า
“แล้วทำไมไม่บอกป้า ให้ป้าออกไปซื้อให้ก็ได้”
“ชั้นเห็นป้าดูทีวีอยู่ก็เลยไม่อยากกวน”
วันชาติกำชับ “ทีหลังอย่าออกไปแบบนี้อีกนะ ถ้าจำเป็นจริงจ่าก็ไปคนเดียวให้สมหวังอยู่ในบ้าน ตอนนี้เราต้องระวังตัวให้มากขึ้นอีก”
กุหลาบแปลกใจ คิดว่าต้องมีเรื่องแน่ “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”
ทุกคนอยู่ในบ้าน วันชาติเล่าเรื่องให้ฟัง
“วันก่อนผมเกือบจะจับคนร้ายได้แล้ว แต่พวกมันไหวตัวทันหนีไปได้ซะก่อน ตอนนี้มันกำลังกบดานอยู่ที่ไหนสักที ซึ่งมันอันตรายมาก เพราะคุณสมหวังเพียงคนเดียวที่จะชี้ตัวเอาผิดพวกมันได้ มันจึงต้องการกำจัดคุณสมหวังให้เร็วที่สุด”
ป้าชวนถามทันที “สรุปคนร้ายมันเป็นใครคะ”
“นายยอดชาย สามีคุณหญิงศรีสมรเป็นคงบงการ ส่วนลูกน้องเป็นคนลงมือครับ”
ป้าชวนตาค้าง “ห๊ะ สามีคุณนายศรีสมร ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นผัวคุณนายไม่ใช่ลูกเหรอ” หันมาทางสมหวัง “เห็นมั้ยนังหวังเกือบไปแล้ว”
สมหวัง ไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“คุณยอดชายเป็นคนบงการเรื่องทั้งหมดจริงเหรอคะ”
วันชาติยืนยันหนักแน่น “จริงครับ! ตอนนี้เราได้หลักฐานบ้างบางส่วนแล้วแต่ยังไม่เพียงพอ รอจับตัวสองคนนั้นให้ได้ก่อนและให้คุณชี้ตัวคนร้ายก็จะดำเนินคดีเอาผิดได้ ซึ่งเราก็กำลังเร่งตามตัวคนร้ายอยู่ …ผมถึงบอกให้คุณต้องระวังตัวให้มากกว่านี้ อย่าออกไปข้างนอกอีกเด็ดขาด ในเซฟเฮ้าส์ปลอดภัยที่สุดแล้ว”
สมหวังนิ่ง ไม่คิดว่ายอดชายจะเป็นคนร้าย
“ค่ะ”
วันชาติกำชับกุหลาบ “จ่าต้องดูแลสมหวังให้มากกว่านี้นะ อย่าตามใจปล่อยให้สมหวังออกไปข้างนอกอีก”
“รับทราบค่ะ”
หลายวันแล้วที่สองวายร้ายหลบมากบดานที่บ้านสวนนครนายกของญาติแดน ยอดชายกำลังนั่งรอกินข้าวกันอยู่ สักครู่หนึ่งแดนก็ยกสำรับมาวางแต่ในสำรับมีแต่น้ำพริกกับผักต้ม
ยอดชายโวยวาย “มีอาหารที่ดีกว่านี้มั้ย กินแต่ผักๆ หน้าชั้นจะเป็นผักอยู่แล้ว”
“ในป่าในดงจะเอาอาหารดีๆ จากไหนมาล่ะครับ มีกินก็บุญแล้ว” แดนบอก
“ชั้นหมายถึงแค่ปลากระป๋อง ปลาทู อะไรแค่เนี้ย มีมั้ย”
“ไม่มี” แดนบอกหน้าตาเฉย
ยอดชายหงุดหงิด “ต้องทนอยู่แบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่วะ”
“ก็นั่นสิ ต้องทนอยู่แบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่…คุณนั่นแหละจะจัดการยังไงต่อว่ามา”
“ต้องกลับไปจัดการกับนังสมหวังให้เร็วที่สุด ถ้าฆ่านังสมหวังได้พวกตำรวจมันก็ไม่มีพยานเอาผิดเราได้”
“ผมรู้แล้ว คุณย้ำมาเป็นร้อยรอบแล้ว ปัญหาตอนนี้คือเรากลับไปได้ยังไง แล้วเราต้องเสี่ยงหาตัวนังสมหวังอีกนานเท่าไหร่ถึงจะเจอ”
ยอดชายอึ้ง เพราะคิดไม่ออกเหมือนกัน หงุดหงิดใส่
“ไม่รู้โว้ย…มันต้องมีวันของเราบ้างสิ”
ที่ลานจอดรถหน้าคอนโด ขณะจอมขวัญกำลังจะไปขึ้นรถ เฮียตี๋ขับรถมาจอดเทียบตรงหน้าจอมขวัญ ก่อนจะก้างลงมาจากรถ
“หนูคุยกับเฮียก่อนได้มั้ย”
“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว”
“คืออย่างนี้ เฮียยอมตกลงตามสัญญาแล้วนะ เฮียจะให้ค่ายอดซีดีตามที่หนูต้องการ”
จอมขวัญเสียงแข็งใส่ ไร้สิ้นเยื่อใย “มันสายไปแล้ว ชั้นไม่ต้องการเงินของเฮียอีกแล้ว”
เฮียตี๋อ้อน “ฟังเฮียก่อนนะ เอาอย่างงี้ก็ได้ อัลบั้มต่อไปเฮียเพิ่มเปอร์เซ็นต์ให้หนูอีกก็ได้”
“ชั้นไม่สนใจอะไรทั้งนั้น! ไปคุยกันในศาลอย่างเดียว”
จอมขวัญขึ้นรถ เฮียตี๋พยายามรั้งจอมขวัญ
“จอมขวัญ…ฟังเฮียก่อน …จะเอาอะไรอีก”
จอมขวัญไม่สน ขึ้นรถและขับออกไปไม่แยแส
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 15 (ต่อ)
ขณะเดียวกัน สมหวังนั่งเหม่อลอยอยู่ในห้องพักที่เซฟเฮ้าส์ มองดูสร้อยคอในมือที่สายฟ้าให้ จู่ๆ ก็น้ำตาคลอ เสียใจและผิดหวังที่สายฟ้าจะแต่งงานกับจอมขวัญ
เหตุการณ์ตอนจอมขวัญเห็นสมหวังกับกุหลาบยืนอยู่ แล้วแกล้งบีบแตรไล่ เปิดกระจกลงพูดจากถางถางผุดขึ้นมาในความคิดสมหวัง
“อย่าเข้าไปให้เสียเวลาเลย ถึงเข้าไปเค้าก็ไสหัวพวกเธอออกมาอยู่ดี”
“เค้าจะไสหัวพวกชั้นทำไม พวกชั้นมาดีกลับมาช่วยวง” กุหลาบย้อน
จอมขวัญเหยียดเย้ย “อ๋อเหรอ…คงไม่ต้องแล้วละ เพราะชั้นกลับมาเป็นนักร้องที่วงแล้ว”
สมหวังกะกุหลาบ อึ้ง
“ไม่จริง…คนอกตัญญูอย่างเธอใครเค้าจะรับกลับเข้ามาอีก” กุหลาบเถียง
“ก็พี่สายฟ้าไง เค้าโทรไปง้อชั้นให้กลับมา…แล้วที่สำคัญนะเค้าขอชั้นแต่งงานด้วยแหละ”
สมหวังตกใจแทบช็อก
จังหวะนั้นสายฟ้าเห็นกุหลาบกับสมหวังยืนคุยกับจอมขวัญอยู่ จึงเดินออกมาดู
กุหลาบเถียงต่อ “โกหก”
“ไม่เชื่อลองเข้าไปถามพี่สายฟ้าดูก็ได้…นักร้องบ้านนอกอย่างเธอจะตามใครเค้าทัน ถูกเค้าหลอกใช้มาตั้งนานยังไม่รู้ตัว น่าสมเพช”
สมหวังฟังแล้วสะอึกรู้สึกเสียใจ
จอมขวัญปิดกระจก แล้วขับออกไปอย่างสะใจ
“สมหวังอย่าไปฟังนะ ยัยจอมขวัญมันโกหก”
“ชั้นว่าเค้าไม่ได้โกหกหรอก ไม่อย่างนั้นเค้าไม่กล้าท้าให้พวกเราไปถามคุณสายฟ้าหรอก เรากลับกันเถอะพี่กุหลาบ”
สายฟ้าเดินเข้ามาพอดี
กุหลาบทักทาย “คุณสายฟ้า…”
สายฟ้ากับสมหวังจ้องหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง สมหวังตัดสินใจถาม
“คุณจะแต่งงานกับคุณจอมขวัญจริงเหรอ”
สายฟ้านิ่งครู่หนึ่ง
“ใช่”
พร้อมกันนั้นเหตุการณ์ตอนที่สมหวังอยู่กับสายฟ้ากูผุดขึ้นมา ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน วันที่สมหวังกับสายฟ้าไปซื้อผ้าอุปกรณ์ทำชุด ที่พาหุรัดด้วยกัน
กระทั่งวันที่สมหวังกับสายฟ้าช่วยกันทำหน้ากาก
วันที่สายฟ้ามาไปช่วยบอกบทให้สมหวังวันที่ออกเดทยอดชาย
คำพูดจอมขวัญที่เยาะเย้ยถากถางดังก้องขึ้นมาอีก “ไม่เชื่อลองเข้าไปถามพี่สายฟ้าดูก็ได้ …นักร้องบ้านนอกอย่างเธอจะตามใครเค้าทัน ถูกเค้าหลอกใช้มาตั้งนานยังไม่รู้ตัว! น่าสมเพช”
สมหวังร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น กุหลาบเดินออกมาเห็นก็ตกใจ
“สมหวัง! เป็นอะไร”
สมหวังรีบยกมือเช็ดน้ำตา
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ”
“ไม่มีอะไรแล้วจะร้องทำไม…เสียใจเรื่องที่คุณสายฟ้าจะแต่งงานกับยัยจอมขวัญใช่มั้ย”
“เปล่าจ้ะ…”
“ไม่ต้องปิดพี่หรอก…พี่เห็นสมหวังเหม่อลอยเหมือนคนไร้สติตั้งแต่กลับมาจากวงแล้ว…พี่ดูออกนะว่าสมหวังน่ะรักคุณสายฟ้า ไม่งั้นสมหวังไม่เสี่ยงชีวิตจะไปช่วยวงหรอก”
สมหวังหันมามองกุหลาบ และโผกอดกุหลาบ ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย
“มันสายไปแล้วพี่กุหลาบเค้ากำลังจะแต่งงาน”
“ใจเย็นๆ นะสมหวัง พี่ว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ เลย” คิดออก “หรือว่าที่คุณสายฟ้าเค้ายอมแต่งงานกับยัยจอมขวัญเพราะแค่อยากให้ยัยจอมขวัญกลับมาเป็นนักร้อง”
สมหวังท้วง “ชั้นว่ามันก็เป็นเหตุผลแค่ส่วนนึง ถ้าคนไม่รักกันหรือไม่รู้สึกดีต่อกันเค้าคงไม่ยอมแต่งงานกันง่ายขนาดนั้นหรอก การที่เราตัดสินใจแต่งงานกับใครคนหนึ่งแล้วเราต้องใช้ชีวิตคู่กับคนคนนั้นไปตลอดชีวิตเลยนะ ถ้าคุณสายฟ้าเค้าไม่รักจอมขวัญเค้าคงไม่เอ่ยปากขอแต่งงาน”
กุหลาบฟังแล้วยิ่งเห็นใจสมหวัง “โธ่ สมหวัง”
สมหวังบอกเสียงเศร้า “เค้าเหมาะกันดีแล้วจ้ะ”
ตอนค่ำวันนั้น สายฟ้านั่งเหม่ออยู่ที่ระเบียงท่าทีหงอยเหงา ชูชนะเดินเข้ามาหา
“ยังไม่นอนอีกเหรอลูก”
“ครับพ่อ”
“สายฟ้าเอ็งคิดดีแล้วเหรอ ที่ตัดสินใจแต่งงานกับนังจอมขวัญ” ชูชนะถามย้ำ
“ดีแล้วครับ” สายฟ้าบอก
“เอ็งไม่จำเป็นต้องเสียสละถึงขนาดนี้ก็ได้นะ เอ็งอยู่กับคนที่เอ็งไม่ได้รักมันจะเป็นทุกข์ไปตลอดชีวิตและพ่อก็ทนดูไม่ได้ที่จะเห็นเอ็งเป็นทุกข์ตลอดไป ยังมีเวลา เอ็งเปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังทัน” ชูชนะว่า
“ผมตัดสินใจแล้วครับ”
สายฟ้าฝืนยิ้มให้ชูชนะ เพื่อให้พ่อสบายใจ
ชูชนะยิ้มตอบ แล้วตบไหล่สายฟ้า ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านไป
สายฟ้ามองไปที่ห้องสมหวัง หวนคิดถึงสมหวังขึ้นมา
นับแต่วันที่เจอสมหวัง ตอนมาแอบมองสมหวังทำชุด
วันที่ให้สร้อยคอสมหวัง วันที่สมหวังโดนยอดชายมอมยาแล้วตัวเองต้องอุ้มสมหวังกลับมาบ้าน
กระทั่งวันแห่งความสุขที่ไปเดินห้างกับสมหวัง และไปกินไอติมด้วยกัน
รุ่งเช้า บนแผงหนังสือ หน้าหนังสือพิมพ์บันเทิง พาดหัวข่าวหรา “จอมขวัญประกาศวิวาห์สายฟ้าแลบ”
ส่วนที่ร้านอาหาร หน้าจอทีวีเปิดรายการเม้าท์ข่าวบันเทิง “ซดสดบันเทิง” พิธีกรรายงานอย่างออกรส
“ข่าวช็อควงการลูกทุ่งค่ะ เมื่อนักร้องสาวพราวเสน่ห์ “จอมขวัญ กตัญญู” ประกาศวิวาห์ฟ้าแลบกับหนุ่มทายาทเจ้าของวงดนตรีลูกทุ่งชื่อดัง ชูชนะ วทัญญู ว่ากันว่างานนี้จอมขวัญยังฉีกสัญญาทางทีเอสมิวสิค แล้วหันไปซบค่ายจวงเรคคอร์ดสอีกด้วยนะคะ”
นักข่าวกำลังรุมสัมภาษณ์ไมค์รวมกับจอมขวัญที่หน้าคอนโดของจอมขวัญนั่นเอง
“ข่าวที่ออกมาจริงเท็จแค่ไหนคะ” นักข่าวยิงคำถาม
จอมขวัญยิ้มแย้ม “เป็นเรื่องจริงค่ะ…ตามข่าวที่ออกมาเลยค่ะ”
“แล้วเห็นว่าจะย้ายค่ายด้วยเหรอครับ”
จอมขวัญยิ้มระรื่น “ค่ะ”
“มีปัญหาอะไรกับทีเอสมิวสิคหรือเปล่าคะ” นักข่าวอีกคนซัก
“เรื่องนี้ไม่ขอตอบดีกว่านะคะ”
จอมขวัญยิ้มใส่จริต เป็นการออกตัว
เฮียตี๋นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องทำงานในทีเอสมิวสิค เป็นภาพข่าวที่จอมขวัญให้สัมภาษณ์อยู่ เฮียตี๋ดูแล้วยิ่งโมโห
“เป็นแบบนี้นี่เอง ถึงว่าไม่รับข้อเสนอของชั้น นังตัวแสบ…เลี้ยงไม่เชื่อง”
ส่วนที่เซฟเฮ้าส์ภาพในจอทีวีกำลังรายงานข่าวเดียวกัน โดยนักข่าวกำลังถามจอมขวัญ
“แล้วเรื่องแต่งงานล่ะคะ…จะจัดช่วงเดือนอะไร”
จอมขวัญ “อาทิตย์หน้าค่ะ”
นักข่าวซักอย่างงงๆ “ห๊ะ! ทำไมเร็วจังครับ แล้วแบบนี้จะเตรียมงานทันเหรอครับ”
“ทันค่ะ…งานคงไม่ได้หวือหวาอะไร เชิญแต่ญาติผู้ใหญ่และก็เพื่อนๆ น่ะค่ะ”
สมหวังดูทีวีอยู่ สีหน้าศร้าหมอง กุหลาบเห็นก็เดินมาลูบหัวปลอบสมหวัง
เช้าวันใหม่ สมหวังเห็นภาพประกอบรายงานข่าวเรื่องแต่งงานสายฟ้ากับจอมขวัญ จากหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ถึงกับน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
ด้านเฮียตี๋ก็อ่านข่าวเรื่องแต่งงานของจอมขวัญอยู่เช่นกัน เฮียตี๋แค้นจัด ขยำหนังสือพิมพ์แทบแหลกคามือ
“ชั้นขอให้ชีวิตแกมีแต่ความล่มจม มีแต่หายนะ นังจอมขวัญ”
เช้าเดียวกันนั้นที่โรงงานปั๊มซีดีเถื่อนเสี่ยเจ้าของโรงงาน ปั๊มซีดีเถื่อน ยื่นเช็คใบหนึ่งให้จอมขวัญ
“นี่ ของลื้อส่วนแบ่งสำหรับเดือนนี้”
จอมขวัญมองดูเช็คแล้ว ชักสีหน้าอย่างไม่พอใจในจำนวนเงิน
“ทำไมได้แค่นี้ล่ะ”
“ก็เดือนเนี้ยตำรวจมันออกกวาดล้าง ยอดสั่งมันก็เลยตกฮวบ”
“ถ้าขืนส่วนแบ่งน้อยอย่างนี้ต่อไป ชั้นไม่เอาด้วยแล้วนะ มันไม่คุ้มกับการที่ต้องมาเสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง”
เสี่ยตะล่อม “ลื้อใจเย็นๆ น่า ตำรวจมันก็เป็นแบบนี้แหละ เอาจริงเอาจังเป็นช่วงๆ บริษัทเจ้าของเพลงร้องเรียนไปทีมันก็จริงจังกันสักที รับรองเดือนหน้าเหตุการณ์ปกติ ยอดสั่งกลับมาเหมือนเดิมแน่”
“แน่นะ”
“แน่สิ เดี๋ยวลื้อคอยดู”
จอมขวัญพยักหน้า “อืมๆ เดือนหน้าค่อยว่ากัน”
จอมขวัญกำลังจะเดินไปขึ้นรถ แต่นึกขึ้นได้ หันกลับมา
“นี่เสี่ย แล้วระวังไอ้พวกตำรวจให้มากๆ ด้วยล่ะ อย่าให้มันจับได้เด็ดขาด”
เสี่ยหัวเราะร่า “โอ๊ย เรื่องนั้นลื้อสบายใจได้ ชาติหน้านู่นแหละกว่าไอ้พวกตำรวจมันจะมาจับอั๊วได้”
“งั้นชั้นไปก่อน แล้วเจอกัน”
จอมขวัญเดินไปขึ้นรถ แล้วขับออกไปทันที ขณะที่เสี่ยเดินเข้าไปในโรงงาน
ห้วงเวลาที่ท้ายรถของจอมขวัญเพิ่งพ้นออกไป รถตำรวจก็ขับตรงมาในซอย จอดที่หน้าโรงงานพอดี
กองตำรวจนำทีมโดยมผู้กองเจ้าของคดี เดินดุ่มเข้ามาในโรงงานปั๊มซีดีเถื่อน บรรดาลูกจ้างต่างตื่นตกใจ วางงานวิ่งหนีจ้าละหวั่น ตำรวจวิ่งไล่จับให้อลหม่าน
เสี่ยได้ยินเสียเอะอะโวยก็เดินออกมาดู พอเห็นว่าเป็นตำรวจก็ตกใจตาค้าง! และกำลังจะหันหนีออกไปทางด้านหลัง ตำรวจเห็นพอดี
“เสี่ย! จะไปไหน”
เสี่ยชะงัก หันกลับมายิ้มแหยๆ ให้ตำรวจ
“กำลังจะไปเอาน้ำมาตอนรับคุณตำรวจไงครับ”
“ไม่ต้อง ขอบใจมาก..ผมขอจับกุมเสี่ยในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ผลิตซีดีเถื่อน”
เสี่ยแก้ตัว “เข้าใจผิดกันหรือเปล่าครับคุณตำรวจ โรงงานผมประกอบกิจการถูกต้องตามกฎหมาย”
ระหว่างนั้นลูกจ้างยังวิ่งหนีตำรวจกันให้วุ่น!
“ถูกไม่ถูกเดี๋ยวก็รู้! เชิญครับ”
ตำรวจกำลังจะพาตัวเสี่ยออกไป แต่เสี่ยไม่ยอม
“อั๊วไม่ไป! คุยกันที่นี่ให้รู้เรื่องก่อน”
ตำรวจไม่ฟังเสียง พาตัวเสี่ยออกไป
ขณะที่เฮียตี๋กำลังนั่งเครียดอยู่กับเรื่องจอมขวัญ! ยินเสียงเคาะประตู
เฮียตี๋ร้องบอก “เข้ามา”
พนักงานเข้ามา
“มีอะไร”
“ตำรวจโทร.มาบอกว่าจับกุมเจ้าของโรงงานผลิตซีดีเถื่อนได้แล้วครับ”
ไม่นานต่อมา ที่ห้องโถงโรงพัก เสี่ยเจ้าของโรงงานปั๊มซีดีเถื่อน นั่งให้ปากคำอยู่กับร้อยเวร เฮียตี๋เดินเข้ามาหา
“สวัสดีครับคุณตำรวจ”
“สวัสดีครับ” ชี้ไปที่ผู้ต้องหา “นี่ไงครับผู้ต้องหาที่ผลิตซีดีเถื่อน”
“ขอบคุณมากนะครับคุณตำรวจที่ช่วยตามเรื่องให้”
“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของพวกผมอยู่แล้ว”
เสี่ยหันมา “ไหนๆ อั๊วก็โดนจับแล้ว อั๊วไม่ยอมโดนคนเดียวแน่”
“ยังมีเครือข่ายอยู่ที่ไหนบอกมาให้หมด” ร้อยเวรซัก
“อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแถวนี้หรอก อั๊วบอกไปทุกคนต้องรู้จักแน่นอน”
“ใคร” ร้อยเวรถาม
“ก็ยัยจอมขวัญ นักร้องในสังกัดเฮียตี๋นี่ไง”
เฮียตี๋ตกใจ!
“แกว่ายังไงนะ จอมขวัญก็มีส่วนรู้เห็นด้วยเหรอ”
“ใช่! อั๊วจะบอกให้นะยัยจอมขวัญน่ะตัวดีเลย ตอนแรกจ้างให้อั๊วผลิตเฉยๆ ตอนหลังร่วมหุ้นกับอั๊วซะงั้น แสบมั้ยล่ะ” เสี่ยแฉจอมขวัญ
“อย่างนี้นี่เอง…แสบนักนะนังตัวดี”
เฮียตี๋มีสีหน้าโกรธแค้นอาฆาตจอมขวัญมาก
เวลาต่อมาที่ออฟฟิศ ค่ายเพลงจวงเรคคอร์อด จอมขวัญกำลังอ่านสัญญาโดยมี ชูชนะ สายฟ้า และเฮียจวง นั่งดูอยู่ข้างๆ
“ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็เซ็นเลย” เฮียจวงบอก
จอมขวัญกำลังจะเซ็นอยู่แล้ว มีเสียงเคาะประตูดังขัดขึ้นก่อน
เฮียจวงตะโกนบอกบอก “เข้ามา”
เลขาเปิดประตูให้ เห็นเป็นเฮียตี๋และตำรวจเดินเข้ามา ทุกคนมองด้วยความงงๆ
เฮียตี๋ไหว้เฮียจวง “ขอโทษครับเฮียที่มารบกวนเฮียถึงบริษัท”
เฮียจวงงงหนัก “มันเรื่องอะไร ทำไมต้องพาตำรวจมาด้วย”
เฮียตี๋มองจ้องจอมขวัญตาเขม็ง!
“เดี๋ยวให้คุณตำรวจบอกเองดีกว่า”
ตำรวจเดินไปหาจอมขวัญยื่นหมายจับให้
“เราขอจับกุมคุณจอมขวัญในข้อหา ละเมิด พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ จัดทำและเลียนแบบซีดีของบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต กรุณาให้ความร่วมมือด้วยครับ”
จอมขวัญตกใจแทบช็อก แหวใส่
“จะบ้าเหรอ! ชั้นเนี่ยจะปั๊มแผ่นเพลงตัวเอง”
เฮียตี๋เยาะ “ก็มีแต่คนเลวๆ อย่างเธอไงถึงทำเรื่องแบบนี้ได้”
จอมขวัญหันมาแว๊ดใส่เฮียตี๋ “ไอ้ตี๋! แกอย่าใส่ร้ายชั้นนะ ชั้นกำลังจะฟ้องแก แกเลยหาเรื่องมากลั่นแกล้งชั้นใช่มั้ย”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเฮียตี๋ครับ ทางเราจับผู้ต้องหาผลิตแผ่นซีดีเถื่อนได้ครับ แล้วเค้าซัดทอดมาถึงคุณ... เชิญคุณจอมขวัญไปสอบปากคำที่โรงพักครับ”
จอมขวัญโวยวาย “ไม่ไป! ชั้นไม่ได้ทำ”
ตำรวจเข้ามาควบคุมตัวจอมขวัญ
จอมขวัญแหกปากร้องลั่น “ปล่อยชั้น! สายฟ้าช่วยชั้นด้วย”
ตำรวจเอาตัวจอมขวัญออกไปจนได้
ชูชนะ สายฟ้า และเฮียจวง มองอย่างงงๆ และตกใจ!
“ไม่น่าเล๊ย...นังจอมขวัญ” ชูชนะคราง
“แล้วทีนี้จะเอายังไงกันต่อ” เฮียจวงตั้งคำถาม
สายฟ้ากับชูชนะ มองหน้ากัน สองพ่อลูกหนักใจขึ้นมาอีกครั้ง!
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 15 (ต่อ)
ตำรวจควบคุมตัวจอมขวัญขึ้นไปบนโรงพัก นักข่าววิ่งกรูเข้ามารุมสัมภาษณ์จอมขวัญ แสงแฟลชวูบวาบ นักข่าวยิงคำถาม
“คุณจอมขวัญอยู่เบื้องหลังขบวนการผลิตซีดีเถื่อนจริงเหรอคะ”
“ไม่จริงชั้นไม่ได้ทำ!” จอมขวัญปฏิเสธลั่น
“แล้วทำไมตำรวจเค้าถึงคิดว่าคุณเป็นคนทำล่ะคะ”
“ไม่รู้! ชั้นถูกใส่ความ”
จอมขวัญพยายามแหวกบรรดานักข่าวเพื่อเลี่ยงตอบคำถาม
นักข่าวอีกคนถาม “แล้วงานหมั้นระหว่างคุณกับคุณสายฟ้าก็ต้องยกเลิกน่ะสิครับ”
เฮียตี๋ที่อยู่บริเวณนั้น เดินยิ้มเผล่เข้ามาตอบนักข่าวแทนจอมขวัญ
“ใช่สิครับ…จอมขวัญกลายเป็นผู้ต้องหาไปแล้วจะไปแต่งงานได้ยังไงล่ะครับ”
นักข่าวจึงหันมาสัมภาษณ์เฮียตี๋แทน
“แล้วเฮียจะทำยังไงกับคุณจอมขวัญต่อไปคะ”
“ผมจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด”
จอมขวัญโมโหเฮียตี๋! หันกลับมาหานักข่าว
“แกไม่มีทางทำอะไรชั้นได้หรอก เพราะชั้นไม่ได้ทำ! แกนั่นแหละที่จะต้องติดคุก ชั้นจะแจ้งความกลับว่าที่ผ่านมาแกข่มขืนชั้น พอชั้นหนีกลับไปแต่งงานกับพี่สายฟ้า แกก็แก้แค้นชั้น มาใส่ความหาว่าชั้นอยู่เบื้องหลังผลิตซีดีเถื่อน แกนี่เลวจริงๆ นะ”
บรรดานักข่าวฮือฮา
นักข่าวถามซักเฮียตี๋ “จริงเหรอครับเฮีย”
เฮียตี๋ฉุนจอมขวัญ “เธอนั่นแหละเสนอตัวมาให้ชั้นเอง”
นักข่าวถามต่อ “สรุปเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่คะ”
“ผมกับจอมขวัญมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจริงครับ แต่ด้วยความเต็มใจของเค้า” เฮียตี๋หันไปยิ้มเย้ยจอมขวัญ “ผมไม่ได้ขืนใจแม้แต่นิดเดียว ส่วนเรื่องที่เค้าอยู่เบื้องหลังผลิตซีดีเถื่อน มันเป็นความจริงเพราะผมมีหลักฐานพร้อม ไม่เชื่อคอยดูกันต่อไป”
จอมขวัญสู้ไม่ได้ จึงทำเป็นโวยวายใส่เฮียตี๋
“ไอ้บ้า! ชั้นไม่ได้ทำ ทำไมต้องมาใส่ร้ายชั้นด้วย”
“ทำหรือไม่ได้ทำเดี๋ยวก็รู้”
เฮียตี๋ยิ้มอย่างเป็นต่อ จอมขวัญกรี๊ดอาละวาด
เย็นนั้น สายฟ้า ชูชนะ บาส เจ๊เนาว์ เจ๊จุ๊ ปอยฝ้าย และสำลี ชุมนุมกันอยู่
เจ๊เนาว์เอ่ยขึ้นอย่างสะใจ “สมน้ำหน้านังจอมขวัญ เวรกรรมตามทันจริงๆ”
“ดูสิมันเลวแค่ไหน ขนาดซีดีเพลงตัวเองยังโกงได้เลย” เจ๊จุ๊เสริม
ปอยฝ้ายเติมต่อ “ดีนะที่ยังไม่เซ็นสัญญากับเรา ไม่งั้นนะมาปั๊มแผ่นผีในวงเราแน่นอน”
“แล้วทีนี้จะทำยังไงล่ะพี่สายฟ้า พี่จอมขวัญโดนจับไปแล้ววงเราก็ไม่มีนักร้อง” บาสกังวล
“พี่สายฟ้าก็ลองไปง้อสมหวังอีกสักครั้งสิ” สำลีออกความเห็น
สายฟ้าบอกเสียงดัง “ไม่”
“ทำไมล่ะสายฟ้า ลองดูอีกครั้งนะ” เจ๊จุ๊อ้อน
“เค้าไม่มาหรอกเจ๊”
เจ๊เนาว์เซ้าซี้ “ทำไมถึงจะไม่มา ก็ลองไปคุยกับเค้าอีกสักครั้งนึง เค้าอาจจะเห็นใจเราขึ้นมาแล้วก็ได้”
“พอ! หยุดพูดเรื่องนี้กันได้แล้ว ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ในเมื่อไม่มีนักร้องเราก็ต้องยุบวงและหาเงินมาใช้เฮียจวงเค้าเหมือนเดิม”
สายฟ้าตัดบทแล้วเดินออกไป ทุกคนเศร้า
ภาพในจอทีวีที่เซฟเฮาส์ ยินเสียงพิธีกรเจื้อยแจ้ว นำเสนอข่าวที่จอมขวัญถูกจับ
“ข่าวร้อน ประเด็นดังวันนี้! นักร้องสาวเสียงหวาน จอมขวัญ กตัญญู ถูกจับ ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์อยู่เบื้องหลังขบวนการผลิตซีดีเถื่อนค่ะ”
ก่อนจะโยนเข้าภาพข่าวตอนที่นักข่าวรุมสัมภาษณ์จอมขวัญ
“คุณจอมขวัญอยู่เบื้องหลังขบวนการผลิตซีดีเถื่อนจริงเหรอคะ”
“ไม่จริงชั้นไม่ได้ทำ!” จอมขวัญปฏิเสธลั่น
“แล้วทำไมตำรวจเค้าถึงคิดว่าคุณเป็นคนทำล่ะคะ”
“ไม่รู้! ชั้นถูกใส่ความ”
จอมขวัญพยายามแหวกบรรดานักข่าวเพื่อเลี่ยงตอบคำถาม
นักข่าวอีกคนถาม “แล้วงานหมั้นระหว่างคุณกับคุณสายฟ้าก็ต้องยกเลิกน่ะสิครับ”
เฮียตี๋ที่อยู่บริเวณนั้น เดินยิ้มเผล่เข้ามาตอบนักข่าวแทนจอมขวัญ
“ใช่สิครับ…จอมขวัญกลายเป็นผู้ต้องหาไปแล้วจะไปแต่งงานได้ยังไงล่ะครับ”
สมหวังกับกุหลาบนั่งดูข่าวในจอทีวีอยู่
“ไม่อยากจะเชื่อว่ายัยจอมขวัญจะทำได้ถึงขนาดนี้” กุหลาบเอ่ยขึ้น
สมหวังดูข่าวจบ สีหน้าเป็นกังวล
กุหลาบเองก็นึกออก ตกใจ “อ้าว! ยัยจอมขวัญถูกจับแบบนี้แล้วใครจะเป็นนักร้องที่วงล่ะ วงก็ต้องยุบเหมือนเดิมน่ะสิ”
สมหวังประชดออกไป “ชั้นว่าเดี๋ยวเค้าก็แก้ปัญหากันได้แหละ”
สมหวังทำปากแข็งพูดออกไปเหมือนไม่ใส่ใจ ทั้งที่ในใจเป็นห่วงวงอย่างที่สุด จากนั้นสมหวังลุกเดินออกไป
เช้าวันต่อมา ที่ค่ายเพลงทีเอสมิวสิค หนังสือพิมพ์สารพันหัว กองอยู่บนโต๊ะทำงานเฮียตี๋ พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับ เด่นหรา แทบจะเป็นก๊อปปี้เดียวกัน
“จอมขวัญ ติดคุก! ปั๊มแผ่นผี พร้อมแฉเคยถูกเฮียตี๋เจ้าของค่ายข่มขืน”
เฮียตานั่งหน้าเครียดอยู่ในห้อง ยินเสียงเคาะประตู
“เข้ามา”
พนักงานหน้าตาตื่นเข้ามา
“มีอะไร”
“คือว่า...”
พนักงานพูดยังไม่ทันขาดคำ ลูกค้า ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ รายใหญ่ 2 คน ซึ่งต่างสีหน้าเคร่งเครียด เดินพรวดเข้ามา
“นี่เฮียทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้ แบบนี้มันก็พังกันหมดน่ะสิ” ลูกค้าคนแรกถามอย่างเอาเรื่อง
เฮียตี๋ตกใจ “ฟังผมอธิบายก่อนนะครับ”
ลูกค้าคนหนึ่งพูดใส่หน้า “ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น! ที่ผมมาวันนี้ ผมจะมาขอยกเลิกสัญญาที่จะให้จอมขวัญ
มาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าของผม”
“ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ ผมจะหาทางแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด”
“คุณจะแก้ยังไง ก็จอมขวัญติดคุกอยู่แบบนั้น ชื่อเสียงก็ย่อยยับหมดแล้วศิลปินคนอื่นๆ ของค่ายคุณก็ไม่มีใครน่าสนใจเลย”
เฮียตี๋เครียดจัด
“เป็นอันว่าผมขอยกเลิกสัญญาแล้วกันนะ” พูดจบลูกค้าก็เดินออกไปทันที
“คอนเสิร์ตทัวร์ทั่วไทยของจอมขวัญ ผมก็ขอยกเลิกเหมือนกัน” ลูกค้าอีกคนเอ่ยขึ้น
“ศิลปินคนอื่นๆ ก็มีนี่ครับ” เฮียตี๋แจง
“ก็ทำสัญญาไว้กับจอมขวัญ จะเปลี่ยนเป็นคนอื่นได้ยังไง เอาเป็นว่าผมขอยกเลิกสัญญา”
พูดจบลูกค้าเดินออกไป
เฮียตี๋เรียกไว้ “เดี๋ยวสิครับ…คุยกันก่อน”
แต่ลูกค้าไม่เหลียวหลัง
ที่บริเวณเรือนพักลูกวงบ้านชูชนะ ตอนสายๆ เสียงเจ๊เนาว์ดังขึ้น
“ไปที่โรงซ้อมกันเร็วๆ สายฟ้าเรียกประชุม”
สำลี กะปอยฝ้าย เดินออกมา
“โวยวายอะไรกันเจ๊”
“ไม่ต้องพูดมาก ไปเร็ว สายฟ้าเรียกประชุม”
“เรื่องอะไรอีกล่ะเจ๊” ปอยฝ้ายสงสัย
สำลีทำเป็นนกรู้ “เอ็งไม่น่าถาม ก็เรื่องยุบวงนั่นแหละจะเรื่องอะไรซะอีก”
เจ๊เนาว์เร่ง “รีบๆ ไปก่อนเถอะน่า เร็ว”
“ถ้างั้นจะไปให้ลุ้นทำไมอีกล่ะเจ๊ ชั้นเตรียมเก็บข้าวของย้ายออกเลยดีกว่า” สำลีว่า
“ให้ไปก็ไปเถอะน่า อย่าเล่นตัว!”
เจ๊เนาว์ สำลี และปอยฝ้ายเดินออกไป
สมหวังกลับมาเซฟเฮ้าส์ก็เอานั่งเหม่อลอย เป็นห่วงคนที่วง
“ไม่รู้ป่านนี้ที่วงจะเป็นยังไงกันบ้างเนอะ” กุหลาบเอ่ยขึ้น
“เค้าก็คงกำลังแก้ปัญหากันอยู่” สมหวังว่า
“มีอยู่ทางเดียวคือยุบวง!”
สมหวังฟังแล้วใจหายอยู่เหมือนกัน มองหน้ากุหลาบ
“เฮ้อออ ไม่รู้ว่าเราจะช่วยอะไรเค้าได้บ้าง คุณสายฟ้าคงแย่น่าดู”
“ไม่หรอก ชั้นว่าเดี๋ยวเค้าก็แก้ปัญหาได้ คราวก่อนที่จะยุบวงก็ยังเอายัยจอมขวัญกลับมาเป็นนักร้องได้เลย ตอนนี้เค้าก็คงหานักร้องใหม่ได้แล้วมั้ง” กุหลาบบอก
“แล้วถ้าหาไม่ได้ล่ะ”
คำถามนั้นทำเอาสมหวังนิ่งงันไป ไม่ยอมตอบ
“นี่สมหวัง เราจะไม่ไปช่วยเค้าจริงๆเหรอ พี่รู้นะว่าสมหวังยังโกรธคุณสายฟ้าอยู่เรื่องที่เค้าจะไปแต่งงานกับยัยจอมขวัญน่ะ ลองคิดดูดีๆนะที่คุณสายฟ้าทำไปเพราะทำเพื่อวงก็ได้เค้าถึงยอมแต่งกับยัยจอมขวัญ และที่สำคัญตอนนี้ยัยจอมขวัญก็ถูกจับไปแล้ว คุณสายฟ้าเค้าก็ไม่ต้องแต่งงานแล้ว สมหวังควรจะดีใจนะ พี่ว่าตอนนี้เค้าต้องการเรานะ”
“ไม่หรอก! ที่เค้าจะแต่งงานกันเป็นเพราะว่าเค้ารักกัน เลยเป็นผลพลอยได้ให้ยัยจอมขวัญกลับมาช่วยวง พี่กุหลาบคิดว่าเค้ายังต้องการเราอีกเหรอ”
เวลานั้นทุกคนมารวมกันอยู่ตรงลานซ้อมเต้น นั่งฟังสายฟ้าอย่างตั้งใจ
“ก่อนอื่นชั้นขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจกันจนทำให้วงอยู่ได้มาถึง วันนี้ ทุกคนคงรู้ข่าวเรื่องจอมขวัญถูกจับกันแล้ว วงเราก็ไม่สามารถดำเนินการอีกต่อไปได้ เพราะไม่มีนักร้อง จึงจำเป็นที่ต้องยุบวง”
เสียงครางฮือดังเอ็ดอึงมาจากคนที่ฟัง ทุกคนล้วนใจหาย
“ชั้นและพ่อรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและขอโทษทุกคนที่ไม่สามารถรักษาวงไว้ได้”
สำลีกะปอยฝ้าย นั่งฟังอยู่รู้สึกเซ็ง ปอยฝ้ายพูดกับสำลี
“พี่สายฟ้ามองข้ามข้าไปได้ยังไงวะ ข้าก็เป็นนักร้องได้นะ”
“ถุย…ไอ้หน้าปลาไหล! เสียงอย่างเอ็งไปร้องเพลงใครเค้าจะฟัง”
“แล้วแบบนี้จะไปทำอะไรกิน เงินเก็บสักก้อนก็ยังไม่มี”
สายฟ้าเหลือบมามอง และได้ยินปอยฝ้ายพูดพอดี
“เรื่องเงินไม่ต้องห่วงนะ ทุกคนจะได้รับเงินเดือนเดือนนี้และเดือนหน้าเพื่อไปเป็นทุนสำหรับหางานหรือจะไปทำกิจการอย่างอื่นกัน ขอให้ทุกคนโชคดี”
ทุกคนมีสีหน้าเศร้าสร้อย โดยเฉพาะชูชนะที่นั่งมองลูกวงอย่างสงสาร และสะเทือนใจที่สุด
บรรยากาศในบ้านอึมครึมสุดๆ ทุกคนต่างนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา และยังอยู่ในอาการเศร้าโศก
“พี่สายฟ้าวงเราต้องยุบจริงๆเหรอ…ไม่มีวิธีอื่นเลยเหรอ” บาสเอ่ยถาม
สายฟ้านิ่ง ไม่ตอบ
“อะไรๆ มันกำลังจะดี แต่ทำไมกลับมาเป็นแบบนี้!”
บาสหงุดหงิดเดินหนีออกไป
บาสเดินหงุดหงิดตรงไปทางศาลาริมน้ำ และดูเหมือนกำลังคิดหาวิธีช่วยวง ยินลูกวง 2 คนคุยกันอยู่
“แกจะออกไปทำไรกินต่อวะ” คนแรกถาม
อีกคนบอก “ชั้นจะลองไปสมัครงานโรงงานดู…แล้วแกล่ะ”
“ชั้นก็คงกลับไปทำนาที่บ้านน่ะ”
“เฮ้อออ ไม่เคยคิดเลยเนอะว่าวงจะต้องมายุบแบบนี้”
“เป็นชั้นนะ ชั้นจะลองไปคุยกับสมหวังดูอีกที” ลูกวงคนที่ 2 ว่า
บาสได้ยินลูกวงคุยกัน ก็คิดอะไรบางอย่างออก
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 15 (ต่อ)
ไม่นานต่อมา บาสพาตัวเองมาอยู่ที่โรงพัก และกำลังเดินเข้ามาในห้องทำงานของหมวดวันชาติ
“บาส มีอะไรทำไมวันนี้มาถึงที่นี่ได้” วันชาติยิ้มทักทาย
“พี่ชาติผมมีเรื่องให้พี่ช่วย”
“มีเรื่องอะไร”
“ตอนนี้พี่สายฟ้าประกาศยุบวงแล้ว พวกนักดนตรี แด๊นเซอร์ กำลังเก็บของแยกย้ายออกจากวงวันนี้ พวกนั้นน่าสงสารมากเพราะออกไปก็ไม่มีงานทำ ที่สำคัญนะตอนนี้พ่อชูกับพี่สายฟ้าจิตใจดูแย่มาก…พี่ชาติผมขอไปคุยกับสมหวังอีกครั้งได้มั้ย”
วันชาตินิ่ง ทั้งอึดอัด และหนักใจ
บาสอ้อนวอน “นะพี่ชาติ ผมขอร้อง”
วันชาติอ้ำอึ้ง “ไม่ได้”
“ผมขอร้องเถอะพี่ชาติ ผมขอเป็นครั้งสุดท้าย ถือว่าช่วยพ่อชูกับวงเถอะนะ”
วันชาติหนักใจ สีหน้าครุ่นคิด
ที่บ้านสวน สถานที่กบดานของ 2 วายร้าย แดนกำลังสอนยอดชายยิงปืน
“มองผ่านช่องนี้แล้วเล็งไปที่เป้านะ ลองดู”
ยอดชายเล็งเป้าตามที่แดนบอก ยอดชายเหนี่ยวไกยิงแต่ก็ยิงพลาด
“มือนิ่งๆ สิครับ มือสั่นขนาดนั้นมันจะโดนได้ยังไง” แดนบอก
ยอดชายโวย “เนี่ยนิ่งสุดๆ แล้ว”
“มันต้องนิ่งกว่านี้อีก”
ยอดชายบ่นอีก “เกร็งจนปวดมือไปหมดแล้ว! ทำไมมันยากจังวะ ชั้นไม่ฝึกแล้วไม่ได้เหรอ”
“ทนหน่อยเอาไว้ป้องกันตัว ถ้าตำรวจมาจะได้สู้มันได้”
“แกก็คอยป้องกันชั้นสิ”
“นี่คุณ ถึงเวลานั้นก็ต้องตัวใครตัวมันแล้ว…มาเดี๋ยวผมทำให้ดูอีกที”
แดนหยิบปืนขึ้นมาด้วยท่าทางกระฉับกระเฉงดูเป็นมืออาชีพ แล้วยิงให้ยอดชายดูแต่เกิดพลาด! แดนเสียฟอร์ม
“เห็นมั้ยแกยังพลาดเลย” ยอดชายบอกเซ็งๆ
“ของแบบนี้มันก็ต้องมีพลาดกันบ้าง เดี๋ยวดูใหม่”
แดนยิงให้ยอดชายดูเป็นครั้งที่สอง คราวนี้ตรงเป้าเป๊ะ
“เป็นไง…ต้องให้ได้แบบนี้ อ่ะ ลองใหม่”
จากนั้นแดนจับมือยอดชายให้นิ่งๆ แล้วยิงเป้า ยอดชายพยายามยิงให้โดนเป้า แต่ก็ยังไม่สำเร็จ
สุดท้าย ยอดชายตั้งใจยิงมากขึ้น และยิงโดนเป้า ท่าทางภูมิใจสุดๆ
เวลาเดียวกันที่เซฟเฮ้าส์ สมหวัง ป้าชวน กุหลาบ กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ วันชาติเข้ามาในบ้าน
“หมวดสวัสดีค่ะ”
ป้าชวนเรียกทานข้าว “มาทานข้าวด้วยกันก่อนค่ะหมวด”
หมวดนิ่ง สีหน้าเหมือนมีอะไรจะบอก สักครู่หนึ่ง บาสก็เดินเข้ามา
สมหวัง ป้าชวน แปลกใจ โดยเฉพาะกุหลาบดีใจปนตกใจ!
“นาย…”
วันชาติเอ่ยขึ้น “จ่าไม่ต้องตกใจ ผมพามาเอง บาสเค้ามีเรื่องจะคุยกับสมหวังน่ะ”
บาสงงปนตกใจ “จ่าหรอ?!! อย่าบอกนะว่ายัยตัวแสบนี่เป็นตำรวจ!”
กุหลาบยั๊วแหลมขึ้นมาอย่างฉุนเฉียว “ทำไมคนอย่างชั้นเป็นตำรวจไม่ได้เหรอ”
“ใช่! เห็นติ๊งต๊องๆ เปิ่นๆ แบบนี้ใครจะคิดว่าเป็นตำรวจ”
กุหลาบเบ้ปากใส่
“ถึงว่าทำไมมือเท้าหนักจัง”
“นี่ใครเหรอจ่า” ป้าชวนถาม
“น้องคุณสายฟ้าจ้ะป้า”
ป้าชวนแปลกใจว่ามาทำไม
“นายมีอะไรจะคุยกับสมหวังว่ามา”
ครู่ต่อมาสามคนคุยมากันอยู่ตรงอีกมุมของเซฟเฮ้าส์
“ตอนนี้พ่อชูกับพี่สายฟ้าจิตใจแย่มาก คนในวงก็น่าสงสาร พวกเค้าไม่มีที่ไปกัน …พี่อยากให้น้องสมหวังกลับไปช่วยวงเราอีกครั้ง”
สมหวังมีสีหน้าหนักใจ กุหลาบจับไหล่ และสบตาหวังเป็นเชิงบอกให้สมหวังคิดตรองดูให้ดี
“นะ น้องสมหวังพี่ขอร้อง”
สมหวังหวังคิดครู่หนึ่ง
“ก็ได้จ้ะ… ชั้นเห็นกับพ่อชูหรอกนะ”
บาสกะกุหลาบยิ้มให้กันอย่างดีใจ
“น้องสมหวัง! พี่ขอบใจมาก”
“ว่าแต่ป้ากับหมวดจะว่ายังไง?”
สมหวังเอ่ยขึ้น ด้วยสีหน้าเป็นกังวล
ไม่นานนัก ยินเสียงป้าชวนโวยใส่หมวดวันชาติ ดังลั่นเซฟเฮ้าส์
“ชั้นไม่ยอมเด็ดขาด! ยังไงชั้นก็ไม่ให้หลานชั้นไปเสี่ยงอันตรายแบบนั้นอีก”
วันชาติพยายามปลอบ “ใจเย็นๆ ก่อนนะครับป้า ที่ผมให้สมหวังไปคราวนี้ ผมจะเก็บเป็นความลับที่สุดและยังไม่ให้สมหวังออกคอนเสิร์ต แต่ไปเพื่อให้คนในวงมั่นใจว่าสมหวังจะกลับมาช่วยวง วงจะได้ไม่ต้องยุบ”
“แต่เราก็ไม่รู้แน่ว่า ไอ้พวกคนร้ายพวกนั้น มันจะย้อนกลับมาเมื่อไหร่”
“เรื่องคนร้ายขอให้ป้าสบายใจนะครับ ตอนนี้เราก็พอได้เบาะแสคนร้ายแล้วอีกไม่นานก็คงจับได้แน่นอน ป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับเรื่องทั้งหมดผมจะเป็นคนรับผิดชอบเองและผมจะไม่ให้สมหวังต้องเป็นอันตรายเด็ดขาด” วันชาติให้คำมั่น
ป้าชวนถอนหายใจ ยังคิดหนักและยังดูลังเลอยู่มาก
ด้านสำลี ปอยฝ้าย กำลังเก็บของเตรียมย้ายออกจากวง ทั้งคู่ดูเศร้าๆ
“ไอ้ปอยฝ้าย”
“ฮึ”
“ที่ข้าเคยด่า เคยว่า เคยเอาเปรียบ เคยแกล้งแก ยังไงข้าก็รักแกนะเว้ยเพื่อน” สำลีเอ่ยขึ้น
“ถึงการแสดงความรักของแกมันไม่เหมือนชาวบ้าน ข้าก็รู้ว่าแกรักข้า…วันนี้เราจะต้องจากกันแต่เราก็จะเป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ” ปอยฝ้ายบอก
“แกอย่าลืมข้านะเว้ย”
“ข้าจะลืมเอ็งได้ยังไงว้า”
“ข้ารักแกนะเว้ยไอ้ปอยฝ้าย”
“ข้าก็รักแกไอ้สำลี”
ปอยฝ้ายกะสำลี ซึ้ง โผเข้ากอดกัน
สายฟ้า เจ๊จุ๊ และเจ๊เนาว์ กำลังเคลียร์บัญชี และเอาเงินใส่ซองเตรียมแจกให้ลูกวง บาส กะวันชาติ เดินเข้ามา ชูชนะโมโหทันทีที่เห็น
“ไอ้ชาติเอ็งมาทำอะไรที่นี่ เอ็งกลับไปเดี๋ยวนี้เลย”
“อา ฟังผมก่อนนะ”
“ข้าไม่ฟัง”
“ใจเย็นๆ สิพ่อ พี่ชาติเค้ามาช่วยเรานะ” บาสบอก
ชูชนะเหน็บ “ช่วยซ้ำเติมสิไม่ว่า”
ระหว่างนั้น ป้าชวน กุหลาบ และสมหวังก็เดินเข้ามา สายฟ้า ชูชนะ เจ๊เนาว์ เจ๊จุ๊ หันไปเห็นก็อึ้ง ตกใจ!
ทุกคนร้องพร้อมกัน “สมหวัง”
เจ๊เนาว์ดีใจสุดขีด กรี๊ดแตก “ว้ายย! สมหวังกลับมาแล้วซิ”
ชูชนะยิ้มดีใจจนน้ำตาคลอ “สมหวัง เอ็งกลับมาช่วยวงใช่มั้ย”
สมหวังที่กำลังจ้องสายฟ้าอยู่ หันกลับมาตอบชูชนะ
“จ้ะ”
ทุกคนร้องเฮ ต่างดีอกดีใจ
“ที่ชั้นกลับมาที่นี่กลับมาเพื่อพ่อนะจ๊ะ”
ชูชนะซึ้ง “ขอบใจมาก ขอบใจเอ็งมากจริงๆ”
ทุกคนสีหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง
สายฟ้ามองสมหวังด้วยความดีใจ แต่เก๊กทำเป็นไม่สนใจ
ชูชนะเหลือบไปเห็นป้าชวน
“แล้วป้าคนนี้ใครล่ะ”
ป้าชวนสะดุ้งโหยงที่ถูกเรียกว่าป้า!
“ป้าชั้นเองค่ะ”
ป้าชวนประชด “แหม ลุง! อายุชั้นกับอายุลุงก็คงไม่ต่างกันมาก ไม่ต้องให้เกียรติกันถึงขั้นเรียกป้าก็ได้ค่ะ”
ชูชนะยิ้มแหยๆ ถามแก้เก้อ
“แล้ว คุณชื่ออะไรครับ”
“ชวนค่ะ” ป้าชวนบอก
“ผมชูชนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
ป้าชวนยิ้ม “ค่ะ”
ชูชนะหันมาพูดกับสมหวัง “มีป้ายังสาว ยังสวยอยู่ไม่เคยเห็นบอกข้าเลย”
ป้าชวนเขิน แอบยิ้มที่ได้ยินคำชม
เจ๊จุ๊แซว “แน่ะพ่อ…ไม่ได้เลย”
ทุกคนขำกลิ้ง
“เดี๋ยวผมจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ทุกคนฟังครับ” วันชาติตัดสินใจจะเล่าความจริงให้ทุกคนในวงฟัง
ตรงระหว่างทางเดินเรือนพักลูกวง สำลี ปอยฝ้าย ถือของสัมภาระเตรียมจะออกจากบ้าน ทั้งคู่กอดคอกันแน่น แสดงความรักและอาลัยที่จะต้องจากกัน
ปอยฝ้ายบอก “ถ้าแกมีปัญหาอะไรเรียกใช้ข้าได้ตลอดเลยนะเว้ย”
“แกก็เหมือนกัน มีอะไรรีบโทรบอกข้าเลยนะ เออ…แล้วเงินที่เป็นหนี้ข้าแกไม่ต้องใช้ เงินที่พี่สายฟ้าจะให้เนี่ยแกเอาไปเป็นค่ารถค่าที่อยู่หางานใหม่ทำเถอะ” สำลีว่า
“ขอบใจมากเพื่อน สุภาษิตที่ว่าเพื่อนกินหาง่ายเพื่อนตายหายาก ข้าเพิ่งเข้าใจวันนี้เอง”
“อะไรที่พอช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป” สำลีบอก
ไม่นานนัก สองเกลอสำลีกะปอยฝ้าย ถือสัมภาระเดินเข้ามาในบ้าน
ชูชนะแปลกใจ “เอ็งจะไปไหนกัน”
“ไปหางานใหม่ทำไงพ่อ”
“พวกเอ็งไม่ต้องย้ายไปไหนแล้ว”
ปอยฝ้าย กะสำลี หันไปเห็นสมหวังพอดี
“อย่าบอกนะว่าสมหวังจะกลับมาเป็นนักร้อง” ปอยฝ้ายเดา
“ใช่” ชูชนะบอก
ปอยฝ้าย กะสำลี ดีใจกระโดดกอดกันกลมพูดขึ้นแทบจะพร้อมๆ กัน
“ไชโย ไม่ต้องไปไหนแล้ว” / “ดีใจจังโว้ยยย”
ครู่หนึ่งทั้งคู่ก็ชะงัก แล้วมองหน้ากันรู้สึกเขินๆ ที่ก่อนนี้พูดอำลาอาลัยกันไปแล้ว
“ไอ้ปอยฝ้ายเมื่อกี้ที่ข้าพูดไปแกลืมไปให้หมดนะ ข้าพูดเล่น”
“เออ ข้าก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ตามมารยาท”
“แล้วหนี้ที่ข้าบอกไม่ต้องใช้น่ะ ใช้ข้าเหมือนเดิม”
ปอยฝ้ายฉุนกึก “ไอ้ปลาดุก! เรื่องเงินยกเว้นโว้ย พูดแล้วห้ามคืนคำ”
“มึงจะโกงกูเหรอ” สำลีด่า
“อ้าวๆ พอกันได้แล้ว ไหนๆ ก็มากันครบแล้วชั้นจะได้บอกที่เดียวเลย” หันมาทางชูชนะ “ที่ผมยอมให้สมหวังกลับมาเพื่อไม่ให้วงต้องถูกยุบ แต่มีข้อแม้ในระหว่างนี้ห้ามให้สมหวังออกคอนเสิร์ตหรือออกสื่อใดๆทั้งสิ้น จนกว่าทางตำรวจจะจับคนร้ายได้”
ทุกคนงงๆ ที่จู่ๆ วันชาติก็พูดถึงคนร้าย
“คนร้าย? คนร้ายอะไรของเอ็งวะ” ชูชนะงง
“ที่จริงแล้วสมหวังเป็นพยานในคดีฆาตกรรม และคนร้ายกำลังตามล่าตัวสมหวังอยู่”
สิ้นเสียงวันชาติ ทุกคนตกตะลึงตาค้างเป็นแถว
“แล้วเอ็งทำไมไม่บอกข้าตั้งแต่แรกวะ ข้าจะได้ไม่ต้องให้มันไปเสี่ยงแบบนี้” หันมาถามสายฟ้า “เอ็งก็รู้ใช่มั้ย! ทำไมไม่บอกพ่อ”
วันชาติตัดบท “เรื่องนี้เป็นความลับน่ะครับ และผมก็ขอร้องไม่ให้สายฟ้ามันบอกใคร แต่ถึงวันนี้มันจำเป็นจริงๆ ผมจึงต้องบอก และผมขอร้อง ขอให้เรื่องนี้มันเป็นความลับต่อไปให้รู้กันแค่นี้ ส่วนคนร้ายอีกไม่นานเราก็คงจับได้แต่ระหว่างนี้ช่วยดูแลและปกป้องสมหวังให้ดี จะทำอะไรก็ให้รอบคอบกันหน่อย”
“ขอบใจแกมากๆ นะชาติ” สายฟ้าซาบซึ้ง
“ไม่เป็นไร ฝากดูแลสมหวัง กับป้าชวนด้วยนะ” วันชาติกำชับ
“รับรองข้าจะดูแลและระวังให้เป็นอย่างดี” ชูชนะบอก
“งั้นผมขอตัวกลับก่อน”
“ไปๆ เดี๋ยวข้าไปส่ง”
ทั้งหมดเดินตามกันเป็นพรวน มาส่งวันชาติหน้าบ้าน
สายฟ้าเอ่ยขึ้น “ชั้นขอบใจแกอีกครั้งนะ”
วันชาติยิ้มรับ
“ขอบใจมากๆ ไอ้ชาติ”
“ครับ…ผมกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับอา” หันมาทางกุหลาบ “ผมฝากด้วยนะจ่า”
ชูชนะ เจ๊เนาว์ เจ๊จุ๊ สำลี ปอยฝ้าย ต่างตกใจหันไปทางกุหลาบ
พูดพร้อมกัน “ตำรวจ”
กุหลาบพยักหน้าหงึก ยิ้มแหยๆ
“เป็นตำรวจก็ไม่บอก จะได้ทำตัวดีๆ กว่านี้หน่อย” สำลีโอด
“ไปเล่นอีกสิการพนัน ทีนี้จะได้โดนจับเข้าตาราง” เจ๊จุ๊เหน็บทันที
“แหม เรื่องมันแล้วก็ให้มันแล้วไป ต่อไปชั้นสัญญาว่าจะไม่แตะต้องการพนันอีก และจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่” สำลีให้คำมั่นต่อทุกคน
“ดีมาก”
“เอาละๆ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรืออะไรก็ช่าง เจ๊ก็ดีใจที่สมหวังกับกุหลาบยอมกลับมา เจ๊ขอ welcome สู่ ชูชนะ วทัญญู อีกครั้ง”
ทุกคนร้องเฮออกมาอย่างดีใจ
สายฟ้าบอกสองเกลอ “สำลี ปอยฝ้าย ไปบอกนักดนตรีกับแด๊นเซอร์นะ ว่าไม่ต้องย้ายไปไหนแล้ว”
สำลี ปอยฝ้าย ดีใจ วิ่งร้องตะโกนไปทางเรือนพักลูกวงและคนงานคอนวอย
“นังเนาว์ นังจุ๊ พาสมหวัง คุณชวน กุหลาบ ไปเก็บของไป” ชูชนะยิ้มย่องบอก
จังหวะนั้น สายฟ้ากับสมหวังบังเอิญหันมาสบตากันพอดี สายฟ้ายิ้มให้ แต่สมหวังทำเป็นไก๋ไม่สนใจ
โปรดติดตาม "สายฟ้ากับสมหวัง" ตอน อวสาน พรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.