สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 14
วันชาติอยู่ในเซฟเฮ้าส์แล้ว กำลังทักทายถามไถ่สองสาว
“กินอะไรกันหรือยัง ผมซื้อก๋วยเตี๋ยวมาให้”
“ขอบคุณค่ะ กำลังจะทำกับข้าวทานอยู่พอดีเลย” กุหลาบบอก
“ที่วงเป็นยังไงบ้างคะหมวด” สมหวังถาม
“ทุกคนสบายดีครับ”
สมหวังรู้สึกอุ่นใจขึ้น
“เดี๋ยวไปเอาก๋วยเตี๋ยวใส่ชามให้นะ” กุหลาบว่า
“ไม่ต้องเผื่อผม ผมจะรีบกลับไปเคลียร์งานต่อ” หันมาพูดกับสมหวัง “ส่วนป้าชวนคุณก็ไม่ต้องห่วงนะ ผมแวะไปหาแกอยู่บ่อยๆ ผมก็บอกแกแล้วว่าคุณอยู่ในที่ปลอดภัย”
“ขอบคุณมากนะคะหมวดที่เป็นธุระให้”
“เป็นหน้าที่ผมอยู่แล้ว…ผมขอตัวก่อนนะครับ”
วันชาติเดินออกไปจากห้อง
ที่หน้าร้านชวนชมภูษา แดนปลอมตัวดูมิดชิดและเนียนกว่าเดิม จ้องเข้าไปในร้าน คิดเรื่องที่คุยกับยอดชายในตึกร้างก่อนหน้านี้
“จะให้ผมทำอะไรว่ามา”
“แกไปร้านตัดผ้าป้านังสมหวังนะ แกล้งไปตัดชุด แล้วไปหลอกถามว่านังสมหวังอยู่ที่ไหน” ยอดชายบอกแผน
“แล้วมันจะบอกเหรอ?”
“ก็หลอกถามมันสิ หลานมันเป็นนักร้องแกก็ยอๆ มันหน่อย ชมนังสมหวังเยอะๆ แล้วค่อยถามว่าตอนนี้มันอยู่ไหน เปลี่ยนที่อยู่หรือยัง เดี๋ยวมันก็หลุดพูดออกมาเอง…ชั้นคิดว่าไม่ว่าไอ้พวกตำรวจจะเอานังสมหวังไปซ่อนไว้ที่ไหนป้ามันต้องรู้แน่ๆ” ยอดชายว่า
แดนทักท้วง “แต่นี่มันเสี่ยงมากเลยนะ”
ยอดชายด่า “แกก็อย่าให้มันจับได้สิ…เลิกโง่ได้แล้ว และก็อย่าให้พลาดอีกเข้าใจมั้ย!”
แดนดึงตัวเองกลับมาเดินตรงเข้าไปที่ร้าน ปรากฏว่าร้านปิด ประตูล็อค มีป้ายเขียนบอกไว้ “ปิดชั่วคราว”
แดนอารมณ์เสีย “โธ่เว้ย!…ร้านปิด”
เสียงกริ่งดัง กุหลาบคิดว่าหมวดวันชาติย้อนกลับมา จึงเดินไปเปิดประตูทันที ป้าชวนยิ้มแฉ่งมาให้ แต่กุหลาบตกใจตาเหลือก
“ป้าชวน!”
สมหวังได้ยินรีบวิ่งมาดู
สมหวังเห็นป้าชวนรีบโผเข้าไปกอดทันที ร้องไห้ด้วยความคิดถึง
“ป้า ชั้นคิดถึงป้าที่สุดเลย”
“ป้าก็คิดถึงเอ็ง”
ป้าชวนหอมแก้มสมหวังให้หายคิดถึง
“ป้ามาได้ยังไงจ๊ะ” กุหลาบสงสัย
“ป้าแอบตามหมวดเค้ามา”
“ถ้าหมวดรู้ต้องซวยแน่ๆ เลย” กุหลาบกังวล
“ไม่ซวยหรอก เดี๋ยวป้ารับผิดชอบเอง…ป้าคิดถึงหลานป้ามันผิดตรงไหน”
“แล้วป้าจะมาอยู่ที่นี่เลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ป้าปิดร้านไปแล้ว” ป้าชวนบอกตาใส
กุหลาบมีสีหน้าหนักใจไม่คลาย ป้าชวนเห็นก็เลยปลอบ
“ไม่ต้องเครียดหรอกจ่า เดี๋ยวป้าอธิบายให้หมวดเค้าฟังเอง”
ที่ตกร้างแหล่งกบดานของสองวายร้าย ยอดชายอารมณ์เสียที่ได้ยินจากปากแดน
“ปิดร้านเหรอ…จะมาปิดอะไรช่วงนี้วะ”
“จะเอายังไงต่อดี”
“ไม่รู้โว้ย ยังไม่ได้คิด!” ยอดชายหงุดหงิด
“หรือว่าเราจะกลับไปสะกดรอยตามไอ้หมวดนั่น” แดนออกไอเดีย
ถูกยอดชายด่า “ไอ้โง่! จะไปให้มันจับเร็วขึ้นหรือไง”
“ไม่เคยได้ยินหรือไง ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด” แดนคุยปรัชญา
ยอดชายแดกดัน “งั้นย้ายไปกบดานข้างสถานีตำรวจเลยมั้ยล่ะ”
“ไปสิครับ” แดนดันเห็นด้วย
ยอดชายโมโห “ไอ้บ้า! ชั้นประชด แกอยากไปก็ไปคนเดียวสิ”
“แล้วจะทำยังไงกันต่อไป”
“ถามอยู่ได้ แกก็ช่วยชั้นคิดสิ!”
ยอดชายเครียดจัด
บ่ายนั้นสายฟ้ามีสีหน้าเครียดจัด ขณะนั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน บิลค่าของ ใบเสร็จรับของ สมุดบัญชีรายรับรายจ่าย วางอยู่บนโต๊ะเต็มไปหมด
เจ๊เนาว์ กะเจ๊จุ๊ ช่วยกันนั่งคิดค่าของที่ขายอยู่ข้างๆ สีหน้าเครียดเช่นกัน
“สายฟ้า… นี่ขนาดขายทุกอย่างหมดแล้วนะ ทั้งรถตู้สองคัน เครื่องดนตรีเก่า ไหนอีค่ามัดจำสร้างบ้าน ค่ามัดจำเครื่องดนตรี ก็เอาคืนมาหมดแล้ว มันก็ยังขาดอยู่ดี” เจ๊เนาว์บอก
“ลองคิดใหม่สิเจ๊”
“เจ๊คิดกันมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ คิดยังก็ไงก็ขาดอยู่ดี”
“ค่าบ้านละคิดรวมไปหรือยัง”
เจ๊เนาว์ตกใจ “บ้านอะไร?...ก็ค่ามัดจำที่จะสร้างบ้านใหม่รวมไปแล้งไง”
“ไม่ใช่…ผมหมายถึงบ้านหลังนี้!”
ยินที่สายฟ้าว่า 2 เจ๊ตกใจร้อง “ห๊ะ” พร้อมกัน
“ถึงขั้นขายบ้านเลยเหรอสายฟ้า”
สายฟ้านิ่ง เครียด
“ใช่! จะทำไงได้ละเจ๊”
“แล้วจะไปอยู่ไหนกัน พ่อก็แก่แล้วนะ”
“ไปหาห้องแถวเช่าเอาดาบหน้า”
เจ๊จุ๊ กะเจ๊เนาว์ ฟังแล้วสะท้อนใจ
เจ๊เนาว์ปลอบ “ใจเย็นๆ นะสายฟ้า ไม่ต้องถึงขั้นขายบ้านไปหรอก เงินที่เหลือเดี๋ยวเราช่วยกันหางานอื่นทำ แล้วเอามาใช้หนี้เค้าก็ได้”
สายฟ้านิ่ง เอามือลูบหน้าด้วยความเครียด
“คิดดีๆนะสายฟ้า ปัญหาต้องมีทางออกเสมอ อย่าด่วนใจร้อนตัดสินใจ…เดี๋ยวเจ๊ไปทำกับข้าวเย็นก่อนนะเดี๋ยวมาช่วยใหม่” เจ๊จุ๊บอก พลางทำท่าเดินไปทางโรงครัว
“ครับ” สายฟ้ารับคำแล้วหันพูดกับเจ๊เนาว์ “เจ๊เนาว์ไปช่วยเจ๊จุ๊เถอะ เดียวผมลองคิดใหม่อีกที”
บาส เดินสวนกับ เจ๊จุ๊ และเจ๊เนาว์ที่หน้าบ้าน
เจ๊เนาว์รีบบอก “บาส เข้าไปช่วยพี่สายฟ้าเค้าหน่อยไป”
“คิดค่าของกันตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่เสร็จอีกเหรอ”
“คิดเสร็จไปหลายรอบแล้ว แต่เงินมันยังไม่ลงตัว ยังเป็นหนี้อีกหลายแสน ก็เลยคิดแล้วคิดอีก แกไปช่วยพี่เค้าหน่อย”
สายฟ้านั่งคิดบัญชีที่โต๊ะทำงานในบ้าน ท่าทางดูเครียดหนัก บาสเดินเข้ามาเอ่ยขึ้นอย่างห่วงใย
“พี่สายฟ้าพักผ่อนก่อนมั้ย ไว้คิดต่อก็ได้”
“อีกแป๊ปเดียว ใกล้เสร็จแล้ว”
“ให้ผมช่วยมั้ย”
“ไม่เป็นไร นี่คงเป็นการเคลียร์ทุกอย่างครั้งสุดท้ายแล้ว ชั้นอยากคิดเอง”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะพี่สายฟ้า”
สายฟ้านิ่ง ก่อนจะถอนหายใจ “ชั้นก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ชั้นคงรักษาวงเอาไว้ได้แค่นี้จริงๆ”
ชูชนะยืนฟังสิ่งที่สายฟ้าพูดอยู่ตรงมุมบันได ชายชรารู้สึกสะท้อนใจ
สองหนุ่มคุยหารือกันต่อ บาสเอ่ยขึ้นอีก
“ถ้าเป็นเรื่องหนี้ เราขายของคืนเค้าแล้วเอามาใช้หนี้ไม่ได้เหรอ”
“ชั้นขายเกือบหมดแล้ว หนี้ยังเหลืออีกตั้งแปดแสน” สายฟ้าบอก
“ทำไมมันเหลือเยอะนั้นล่ะ” บาสตกใจ
“หนี้ยังพอใช้ได้ แต่คนในวงจะทำยังไงถ้าวงต้องปิด พ่อคงเสียใจมาก แต่มันไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ
“พี่ไม่ลองไปคุยกับสมหวังดูอีกทีล่ะ”
“เค้าไม่มาหรอก!” สายฟ้าบอก
ชูชนะเศร้าที่ได้ยินว่าวงดนตรีที่แสนรักต้องปิดตัวลง ชายชราเสียใจหนัก
ที่โต๊ะกินข้าวในโรงครัวบรรยากาศดูอึมครึม ทุกคนดูนิ่ง เงียบ ไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อน
ชูชนะนั่งเหม่อลอย เจ๊จุ๊ตักข้าวมาให้ชูชนะพลางบอก
“พ่อกินข้าว”
“ข้ายังไม่หิว”
“กินหน่อยนะพ่อ จะได้กินยา” เจ๊เนาว์คะยั้นคะยออีกแรง
ชูชนะเมินหน้าหนีเหมือนเด็กๆ
ครู่หนึ่ง สายฟ้าเดินลงมา
เจ๊เนาว์ทำท่าโบกมือเป็นเชิงฟ้องสายฟ้าว่าชูชนะไม่ยอมกินข้าว
“พ่อกินข้าว”
“ช้าไม่หิว”
“กินหน่อยน่า จะกินยาจะได้มีแรง”
ชูชนะยังนิ่งเฉย
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ ผมไปคุยกับสมหวังให้” สายฟ้าบอก
ชูชนะที่เมินหน้าหนี รีบหันขวับกลับมามองลูกชาย
“เอ็งว่าอะไรนะ”
“ผมจะไปคุยกับสมหวังให้ …แต่พรุ่งนี้ผมจะไปพูดกับไอ้ชาติว่าจะพบกับสมหวังได้หรือเปล่า”
“จริงๆ นะ” ชูชนะถามย้ำ
“จริงสิ ผมจะโกหกพ่อทำไม”
ชูชนะยิ้มแป้นดีใจอย่างยิ่ง
“เอ็งต้องพาสมหวังกลับมาให้ได้นะ”
“ผมจะพยายามพ่อ”
ชูชนะร่าเริงขึ้นมาทันที เสียงดังได้เหมือนเดิม
“เอาพวกเรากินข้าวกันเว้ยเฮ้ย”
ชูชนะกินข้าวได้ตามปกติ
“วันนี้นังจุ๊มันทำกับข้าวอร่อยจริงๆ เว้ย” ชูชนะยอ
“อร่อยขึ้นมาเชียวนะพ่อ” เจ๊จุ๊แซว
ในขณะที่หมวดวันชาติกำลังตรวจเอกสารอยู่
ตำรวจลูกน้องเดินเข้ามาตะเบ๊ะ “ขออนุญาตครับ”
“มีอะไร”
“มีคนมาขอพบหมวดครับ”
“ใคร”
ไม่ทันขาดคำ สายฟ้าเดินเข้ามา
วันชาติอึ้งพอรู้เรื่อง
“เอาเงินเค้ามาใช้ห้าล้านเลยเหรอวะ”
“ชั้นจะรบกวนแกพาไปหาสมหวังหน่อย” สายฟ้าว่า
วันชาติถอนหายใจ “ชั้นเข้าใจนะว่าแกมีความจำเป็น แต่เรื่องนี้ชั้นช่วยแกไม่ได้จริงๆ”
“แกช่วยชั้นหน่อยนะ ชั้นขอร้อง ชั้นอยากจะพูดกับสมหวังอีกครั้งเผื่อสมหวังจะเปลี่ยนใจ” สายฟ้าอ้อนวอนอย่างน่าเห็นใจ
“ชั้นขอโทษนะ ชั้นช่วยแกไม่ได้จริงๆ”
สายฟ้าพยักหน้ารับอย่างเศร้าๆ
สายฟ้ากำลังจะเดินไปขึ้นรถที่หน้าโรงพัก วันชาติเดินตามออกมาเรียก
“สายฟ้า”
สายฟ้าหันมามอง
“แกเข้าใจนะว่าชั้นทำตามหน้าที่”
“ชั้นเข้าใจ”
วันชาติกระซิบ “ที่แกจะให้ชั้นพาไปหาสมหวัง ชั้นทำไม่ได้ แต่ถ้าแกแอบตามชั้นไปโดยที่ชั้นไม่รู้เนี่ย มันอีกเรื่องหนึ่ง”
สายฟ้าอมยิ้ม แววตาเจิดจ้า มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
เสียงกริ่งดัง กุหลาบออกมาเปิดประตูให้หมวดวันชาติ
“สวัสดีค่ะหมวด”
วันชาติขยิบตาพยายามส่งซิก กุหลาบงงๆ ไม่เก็ต
“อะไรเหรอคะ”
สักครู่หนึ่ง สายฟ้าก็เดินเข้ามา กุหลาบตกใจ
“คุณสายฟ้า”
วันชาติเผลอหลุดซะเอง “จ่าไม่ต้องตกใจขนาดนั้น…แล้วก็เงียบๆ ไว้ด้วย”
สายฟ้าสงสัยที่วันชาติเรียกกุหลาบว่าจ่า
สายฟ้าทวนคำ “จ่าเหรอ”
วันชาติ ตกใจที่เผลอหลุดปากไป
“ขอโทษนะ ที่ชั้นไม่ได้บอกว่ากุหลาบเป็นตำรวจตั้งแต่แรก”
สายฟ้าตกใจ “ตำรวจเหรอ”
กุหลาบยิ้มแหยๆ ทำหน้าปุเลี่ยนๆ “ค่ะ ตำรวจ”
สายฟ้าคาใจมากขึ้นอีกจ้องหน้าวันชาติ “ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่”
วันชาติอึกอัก “ตอนนี้ชั้นยังตอบอะไรมากไม่ได้ ถ้าบอกได้เมื่อไหร่ ชั้นจะบอกแกทันที…เข้าไปข้างในกันเถอะ”
สมหวังได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา ถามขึ้นโดยที่ยังไม่ทันหันไปมอง
“หมวดเอาของมาให้เหรอจ๊ะพี่กุหลาบ”
ไม่มีเสียงตอบ สมหวังจึงหันไปดู เห็นสายฟ้ายืนอยู่ สมหวังตกใจปนดีใจ
“คุณสายฟ้า”
“ทำไม ตกใจมากเหรอที่เห็นชั้น” สายฟ้าว่า
“ไม่ต้องตกใจนะ ผมพามาเอง” วันชาติบอก
ครู่หนึ่ง ป้าชวนยิ้มร่าออกมา
“กับข้าวเสร็จแล้ว...ของอร่อยๆ ทั้งนั้นเลย”
ป้าชวนกับหมวดวันชาติ ต่างตกใจที่เห็นกันและกัน
“หมวด” / “ป้าชวน”
ทุกคนต่างมองกันด้วยความงุนงง ว่าอะไรเป็นอะไร
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 14 (ต่อ)
ในเวลาต่อมา วันชาติมายืนคุยกับกุหลาบอยู่หลังเซฟเฮาส์ด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“ป้าชวนมาอยู่ที่ได้ยังไง”
“หมวดถามตัวเองดีกว่าค่ะว่าทำยังไงถึงให้ป้าชวนตามหมวดมาที่นี่ได้” กุหลาบว่า
วันชาติตกใจ “อะไรนะ ป้าชวนตามผมมางั้นเหรอ”
“ค่ะ…ดีนะที่เป็นป้าชวน ถ้าเป็นไอ้พวกมือปืนมีหวังซวยกันหมดแน่”
วันชาติหน้าเสีย “ผมขอโทษนะ… ถ้าเรื่องนี้ถึงหูสารวัตรต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่”
“ก็เก็บเป็นความลับสิคะ ถ้าไม่มีใครพูดสารวัตรก็ไม่รู้หรอกค่ะ”
วันชาติพยักหน้า กุหลาบถามเรื่องที่คาใจ
“แล้วนี่ หมวดพาคุณสายฟ้ามาที่นี่ทำไมคะ”
“เรื่องนี้ก็ต้องเป็นความลับเหมือนกันนะ”
“ค่ะหมวด”
หมวดวันชาติออกอาการกลุ้มใจ
“ที่ผมตัดสินใจพาสายฟ้ามา เพราะที่วงกำลังมีปัญหา”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะหมวด”
“ปัญหาเรื่องการเงิน คือ อาชูแกไปเซ็นสัญญาแทนสมหวัง แล้วเอาเงินเค้ามาแล้วห้าล้าน สายฟ้ามันเลยต้องมาขอร้องสมหวังกลับไปเป็นนักร้อง”
ส่วนด้านในสายฟ้าคุยกับสมหวัง โดยมีป้าชวนร่วมฟังอยู่ด้วย
“ที่ชั้นมาวันนี้ ชั้นมาขอร้องให้เธอกลับไปเป็นนักร้อง จะได้มั้ย”
สมหวังตอบทันที “ไม่ได้ค่ะ”
ป้าชวนขัดขึ้น “ชั้นจะไม่ให้หลานชั้นไปเสี่ยงแบบนั้นอีกแล้ว”
สายฟ้านิ่งไปครู่หนึ่ง จึงถามหาเหตุผลกับสมหวัง “ทำไมล่ะ”
สมหวังหนักใจ “ตอนนี้ชั้นมีความจำเป็นจริงๆ ชั้นคงกลับไปเป็นนักร้องให้คุณไม่ได้แล้ว”
สายฟ้าคาใจ “เธอมีความลับอะไรที่ยังปิดบังชั้นอยู่ มันมีอะไรร้ายแรงกว่าที่ชั้นรู้งั้นเหรอ! เธอบอกชั้นหน่อยได้มั้ย”
“ชั้นยังบอกคุณไม่ได้จริงๆ”
ป้าชวนยืนฟังอยู่งงๆ ก่อนจะพูดกับสมหวังโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ “อ๋อ นี่เอ็งยังไม่ได้บอกความจริงเค้าใช่มั้ยว่าเอ็งเป็นพยานในคดีฆาตกรรม”
สายฟ้าตกใจมาก “คดีฆาตกรรม”
“ใช่ ไอ้หวังมันเป็นพยานในคดีฆาตกรรม หมวดวันชาติเค้าให้มันบอกคนอื่นว่าเป็นพยานในคดีจัดหาแรงงานเถื่อนหลอกมา ดูสิมันไม่ยอมบอกความจริงเลยต้องตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ น่าโมโหจริงๆ”
สมหวังตกใจเช่นกัน “ป้า! หมวดยังไม่ให้บอกใคร”
“ทำไมจะจะบอกไม่ได้ มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็บอกความเค้าไปให้หมด เค้าจะได้เข้าใจ”
สายฟ้านิ่ง รู้สึกโกรธสมหวังที่ไม่บอกความจริง
“ทำไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้เธอไม่บอกชั้น”
สมหวังอึ้ง “ก็…มันเป็นความลับ หมวดเค้าไม่ให้บอกใคร”
“แม้แต่ชั้นอย่างงั้นเหรอ”
สมหวังนิ่ง
สายฟ้าโกรธ น้อยใจก็ด้วย เลยพูดประชด “ถ้าเธอบอกความจริงตั้งแต่แรกชั้นคงไม่ให้เธอเป็นนักร้องแน่ๆ…แต่ถึงยังไงชั้นก็ขอบใจเธอมากนะ อุตส่าห์เสี่ยงชีวิตช่วยเหลือวงมาโดยตลอด! ขอให้เธอโชคดี….ชั้นหมดธุระแล้ว”
สายฟ้ากำลังจะเดินออกสมหวังใจหาย เรียกไว้
“เดี๋ยวค่ะ”
สายฟ้าหันกลับมา
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อ”
“เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เดี๋ยวชั้นหาวิธีแก้ปัญหาของชั้นเอง”
สายฟ้าพูดโดยไม่มองหน้าสมหวัง แล้วเดินออกไป สมหวังมองสายฟ้าเดินจากไปอย่างรู้สึกผิด
ขณะที่กุหลาบ กับหมวดวันชาติกำลังจะเดินเข้าบ้าน สายฟ้าเดินสวนออกมาพอดี สีหน้าไม่สู้ดีนัก บอกลาวันชาติ
“ชั้นกลับก่อนนะ ขอบใจแกมาก”
วันชาติ “ไม่เป็นไร...”
สายฟ้าเดินออกไป ไม่ได้รอฟังวันชาติพูดตอบ
กุหลาบ วันชาติมองหน้ากัน รู้ว่าสายฟ้าเจรจาไม่เป็นผล
ที่บ้านพักวงดนตรีชูชนะ เจ๊เนาว์กำลังต่อโทรศัพท์หาสายฟ้า ทุกคนรอฟังอยู่ข้างๆ ในอาการลุ้นกันจนตัวโก่ง
“ว่ายังไงอีเนาว์ โทรติดมั้ยวะ” ชูชนะลุ้นจัดถามเป็นคนแรก
“ติดจ้ะพ่อ แต่สายฟ้าไม่รับ”
ชูชนะหงุดหงิดที่ไม่ทันใจ “ยังไงของมันว๊ะไอ้สายฟ้า ได้เรื่องยังไงก็น่าจะส่งข่าวบ้าง เล่นหายเงียบไปแบบนี้ ไม่คิดถึงคนที่คอยฟังข่าวบ้างเลย”
สำลีเริ่มปากเสีย “หรือว่าสมหวังไม่ยอมกลับมา”
ปอยฝ้ายผสมโรง “พี่สายฟ้าก็เลยไม่กล้าโทร.มาบอก”
ชูชนะลุกขึ้นไล่เตะสำลีกับปอยฝ้ายไปมา สำลีกับปอยฝ้ายกระโดดหลบแทบไม่ทัน ชูชนะจะเตะซ้ำ แต่โสร่งที่นุ่งไม่เป็นใจหลุดลงมาซะก่อน
“โอ๊ยย พ่อๆๆ โสร่งหลุดหมดแล้ว ชอบทำอะไรวาบหวิวอยู่เรื่อย” เจ๊จุ๊ร้อง
ชูชนะขยับนุ่งโสร่งใหม่
“มึงสองตัวไปไกลๆ กูเลย ปากไม่เป็นมงคลไอ้พวกนี้”
ปอยฝ้ายครวญ “ชั้นแค่สันนิฐานเฉยๆ”
ชูชนะตะคอก “ยังอีก!”
เจ๊เนาว์ด่า “แก่สองคนเงียบปากไปเลย”
สำลีอิดออด “ผมก็พูด…”
คราวนี้เจ๊จุ๊ยกมือขึ้นจะฟาด สำลีชะงักหยุดพูด
เจ๊เนาว์ยกมือท่วมหัว “เจ้าประคู๊ณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยดลใจให้สมหวังกลับมาทีเถอะ”
ขาดคำ ทันใดนั้น เสียงรถสายฟ้าแล่นเข้ามา
“พี่สายฟ้ากลับมาแล้ว” บาสบอก
ไม่นานนัก สายฟ้าเดินเข้ามาในบ้าน พวกชูชนะวิ่งกรูกันเข้ามาหา
ชูชนะถามก่อนใคร “สายฟ้าๆ สมหวังล่ะ สมหวังอยู่ไหน”
“ไม่ได้มา” สายฟ้าบอกนิ่งๆ
“อ้าว…เอ็งไม่ได้พูดกับมันเหรอ” ชูชนะใจหาย ถามต่อ
“พูดแล้ว”
“แล้วไอ้หวังมันว่ายังไง”
สายฟ้าบอกซีเรียส “เค้ามาเป็นนักร้องให้เราไม่ได้แล้วหละพ่อ”
ทุกคนหน้าเสีย
“ทำไมวะ…ทำไมถึงมาไม่ได้”
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้และเราจะไม่ไปง้อเค้าอีก”
สายฟ้าพูดจบ ก็เดินขึ้นชั้นสอง
ระหว่างนั้น ชูชนะเข่าอ่อนทรุดลง ทุกคนร้องด้วยความตกใจ
สายฟ้าหันกลับมาเห็น ก็ตกใจ
“พ่อ!” สายฟ้ารีบเข้ามาพยุง
“ข้า...ไม่เป็นไร” เสียงตอบของชูชนะตรงกันข้ามกับอาการที่แสดงออก
สายฟ้ากับบาส พยุงชูชนะไปนั่ง
ที่ค่ายเพลงทีเอสมิวสิค จอมขวัญกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับลูกน้อง
“ซีดีล็อตนี้ขายดีมั้ย…ถ้าดีขนาดนี้เดือนหน้าก็ปั๊มเพิ่มไปอีกเท่าหนึ่งและขยายตลาดไปทุกๆ จังหวัด…ดีมาก…เรื่องส่วนแบ่งเหมือนเดิม…โอนเงินให้ชั้นบัญชีเดิม … โอเค”
จอมขวัญวางสาย หันกลับมาเห็นเฮียตี๋ยืนอยู่ด้านหลัง จอมขวัญตกใจ!
“หนูคุยกับใครน่ะ”
จอมขวัญตอแหล “แฟนคลับน่ะค่ะ พอดีแฟนคลับเค้าจะจัดมิทติ้งให้หนู”
เฮียตี๋ยื่นเช็คให้จอมขวัญ
“นี่ส่วนแบ่งยอดซีดีและยอดดาวน์โหลดของหนู”
จอมขวัญรับเช็คมายิ้มกริ่ม แต่พอเห็นในเช็คระบุสั่งจ่ายจำนวน 3,000,000 บาท จอมขวัญก็ออกอาการโมโห หงุดหงิดใส่ทันที
“เฮีย!...ทำไมได้แค่นี้ล่ะ ที่ตกลงกันไว้ได้มากกว่านี้นี่”
“ก็ยอดซีดี ยอดดาวน์โหลดไม่กระเตื้องเลย ไหนยังซีดีเถื่อนแล้วไอ้พวกเว็บโหลดเพลงฟรีอีก หนูเห็นใจเฮียหน่อย คราวหน้าเฮียสัญญาว่ายอดขายมันต้องดีขึ้น”
จอมขวัญไม่สน วึดวือต่อตามประสา “ครั้งที่แล้วก็สัญญาว่าคราวนี้จะเพิ่มให้ มาคราวนี้ก็ถัดไปคราวหน้า ทำการตลาดกันยังไง! ไม่รู้หละเรื่องยอดขายมันไม่ใช่ปัญหาของหนู เฮียต้องไปจัดการเอาเอง แต่ส่วนแบ่งที่เราเคยตกลงกันไว้เท่าไหนก็ต้องได้เท่านั้น!”
“ใจเย็นนะ หนูเห็นใจเฮียหน่อย”
“แล้วเฮียไม่เห็นใจหนูบ้างเหรอ หนูทำงานเหนื่อยนะ”
“หนูพูดอย่างนี้ได้ยังไง มันไม่ใช่แค่หนูคนเดียวที่เหนื่อย ทีมงานเค้าก็ เหนื่อย รู้มั้ยเค้าทำงานให้หนูจนออกมาดังขนาดนี้เค้าเหนื่อยกันแค่ไหน”
“ถ้าไม่มีหนู มันก็ไม่ดังหรอก! ยังไงหนูก็ไม่ยอม ถ้าส่วนแบ่งยังได้ไม่เท่าที่ตกลงกันไว้ หนูกับเฮียก็คงจบกันแค่นี้!”
จอมขวัญสะบัดตัวเดินออกไป ขณะที่เฮียตี๋เครียด
บ่ายนั้นสารวัตรอยู่ในห้องทำงาน มีสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัดขณะเอ่ยขึ้น
“คุณทำให้พยานตกอยู่ในอันตรายได้ยังไง”
วันชาติตกใจที่สารวัตรรู้เรื่อง
“เอ่อ… ผมเสียใจครับ เป็นความผิดพลาดของผมเอง”
“คุณก็น่าจะรู้ว่ามีคนไปหาพยานถึงที่เซฟเฮ้าท์มันอันตรายแค่ไหน”
วันชาติก้มหน้ายอมรับผิด “ครับ”
จู่ๆ วันชาติลุกขึ้น
“ผมขออนุญาตครับ”
“จะไปไหน”
“ไปย้ายที่ซ่อนสมหวังครับ”
“ย้ายที่ซ่อนสมหวัง ย้ายทำไม” สารวัตรงง
“ก็สมหวังกำลังตกอยู่ในอันตราย มีคนไปหาถึงเซฟเฮ้าส์”
“ผมหมายถึงนายสมชายพยานคดีปล้นธนาคาร”
ฟังสารวัตรว่า วันชาติมีท่าทีโล่งใจ
“แล้วสมหวังเป็นยังไงบ้าง”
“ก็สบายดีครับ ยังปลอดภัยดีครับ”
สารวัตรนิ่งคิดอะไรบางอย่าง
“เอาอย่างนี้คดีนายสมชายคุณไม่ต้องรับผิดชอบแล้ว เดี๋ยวผมให้หมวดวิทย์เค้ามาดูแลแทน คุณไปจัดการคดีสมหวังให้เต็มที่เถอะ รีบไปจับผู้ต้องหามาให้ได้ ผมอยากปิดคดีนี้เร็วๆ”
วันชาติรับคำสั่ง “ครับผม”
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 14 (ต่อ)
เวลาเดียวกันนั้น ที่เซฟเฮาส์ พอกุหลาบรู้เรื่องจากสมหวังก็ตกใจมากๆ
“อะไรนะ สมหวังบอกความจริงคุณสายฟ้าไปแล้วเหรอว่าเป็นพยานในคดีฆาตกรรม! ซวยแน่ๆ คราวนี้”
“พี่กุหลาบไม่ต้องตกใจหรอก คุณสายฟ้าเค้าไม่ไปบอกใครหรอก”
“แบบนี้นี่เองคุณสายฟ้าเค้าถึงไม่ตื้อสมหวัง เห็นเดินหน้าหงอยออกจากบ้านไปเลย”
สมหวังยิ่งรู้สึกผิด และคิดถึงสายฟ้า
“แล้วหนี้ตั้งห้าล้าน จะหาที่ไหนไปใช้เค้าล่ะเนี่ย”
“อะไรนะพี่กุหลาบ หนี้ใครห้าล้าน”
กุหลาบอึ้ง “อ้าว! คุณสายฟ้าเค้าไม่ได้บอกสมหวังเหรอ”
สมหวังงงๆ “บอกอะไรพี่กุหลาบ”
“ก็ตอนนี้ที่วงกำลังเดือดร้อน เป็นหนี้ตั้งห้าล้าน”
สมหวังตกใจ!
ความสะเทือนใจมาเป็นริ้วๆ สมหวังน้ำตาคลอ รู้สึกผิดและเสียใจต่อชูชนะและสายฟ้า ที่ไม่สามารถช่วยวงไว้ได้อีก
ค่ำนั้นสายฟ้าเดินกลับเข้ามาในห้อง เห็นชูชนะนั่งเหม่ออยู่ ข้าวในจานก็ยังไม่แตะ
“พ่อ…กินข้าวหน่อยเถอะ”
ชูชนะนิ่งก่อนจะพูดปลอบ
“สายฟ้า…เอ็งไม่ต้องคิดมากนะลูก พ่อไม่เสียใจแล้ว วงเรามันอยู่มานานแล้ว มันคงถึงเวลาเสียที”
สายฟ้าใจหาย “พ่อ!”
“เอ็งเอาเงินที่เหลือและที่ขายของได้ไปใช้หนี้เค้าซะ ที่เหลือเดี๋ยวเราช่วยกันหางานทำเอาเงินมาใช้เค้าทีหลัง”
สายฟ้าได้ยินแล้วรู้เศร้าใจ
“พ่อ ผมขอโทษที่ผมไม่สามารถรักษาวงนี้ไว้ได้”
“เอ็งจะมาขอโทษพ่อทำไม มีแต่พ่อที่คอยสร้างปัญหาให้เอ็ง อีกอย่างเอ็งก็ทำเต็มที่แล้ว”
“ผมไม่อยากให้พ่อต้องลำบาก”
ชูชนะน้ำตาคลอ “พ่ออยู่ได้ เราก็อยู่กันแบบของเราไงลูก ถึงวงจะเลิกไปแล้วเราก็ยังมีกัน พ่อมีเอ็ง เอ็งมีพ่อ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว”
สายฟ้าน้ำตาคลอโผเข้ากอดชูชนะ สองพ่อลูกกอดกันด้วยความรัก
วันต่อมาตอนสายๆ ที่หน้าตลาดแห่งหนึ่ง ขณะที่แม่ค้ากำลังผัดข้าว ออกลีลาดุเดือดเผ็ดมัน แดนปลอมตัวมิดชิด เดินสั่งข้าวที่ร้านอาหารตามสั่ง
“ป้า…กะเพราเนื้อไข่ดาวสองกล่อง”
“จ้า..นั่งคอยแป๊ปนึงนะจ๊ะ” แม่ค้ารับออเดอร์แต่หน้าง่วนอยู่กับกระทะ
ส่วนอีกมุมในตลาด หมวดวันชาติและลูกน้องตำรวจอีก 3 นาย ในชุดนอกเครื่องแบบ กำลังติดรูปประกาศจับแดนและยอดชาย
เจ้าหน้าที่เอารูปยอดชายกับแดนติดประกาศจับแปะที่บอร์ดชุมชน
วันชาติเอารูปยอดชายกับแดนให้แม่ค้าในตลาดดู
“เคยเห็นสองคนนี้ผ่านมาแถวนี้บ้างมั้ยครับ”
แม่ค้าส่ายหัว “ไม่เคย”
วันชาติเดินไล่ถามแม่ค้าพ่อค้าในตลาดไปทีละร้าน จนมาถึงที่บริเวณหน้าตลาด ร้านอาหารตามสั่งแดนสั่งอาหารไว้ วันชาติเอ่ยถามกับลูกน้อง
“แน่ใจนะว่ามีคนเห็นสองคนนี้มาแถวนี้”
“แน่ใจครับ ชาวบ้านฝั่งโน้นบอกว่าเคยเห็นสองคนนี้มาซื้ออาหารบริเวณตลาดนี้ครับ”
ระหว่างนั้นแดนยังคงนั่งรอข้าวอยู่ โดยหันหลังให้วันชาติกับลูกน้อง
กลุ่มพวกหมวดวันชาติเดินถามแม้ค้าต่อไป และกำลังเดินตรงมายังร้านที่แดนนั่งอยู่
“เสร็จแล้วจ้าพ่อหนุ่ม” แม่ค้ายื่นข้าวกล่องให้แดน
“เท่าไหร่ป้า”
“แปดสิบพอดี”
แดนยื่นเงินให้แม่ค้าแล้วกำลังหันออก เกือบชนเข้ากับวันชาติ!
แดนด่า “เดินยังไงวะไม่เห็นคนหรือ…”
แดนยังพูดไม่จบ พอเงยหน้าเห็นว่าเป็นวันชาติก็ตกใจ! รีบก้มหน้า ขยับหมวกให้หรุบลงปิดมิดชิดกว่าเดิม แล้วจะเบี่ยงตัวออกไป
วันชาติเรียกไว้ “เดี๋ยวก่อน”
แดนตกใจ หยุดชะงัก
“ขอโทษนะครับ…คุณเคยเห็นสองคนนี้ผ่านมาแถวนี้บ้างมั้ยครับ”
แดนเห็นรูปตัวเองกับยอดชาติก็ตกใจ ส่อพิรุธนิดๆ
แดนรีบดัดเสียง “ไม่เคยเห็นครับ”
“ขอบคุณครับ”
แดนรีบเดินจากไป
วันชาติมองตามแดนที่เพิ่งเจอกันตัวเป็นๆ อย่างสงสัย!
แดนรีบร้อนเข้ามาในตึกร้างแหล่งกบดาน
ยอดชายบ่นอุบ “ทำไมไปนานจังวะ หิวจะตายอยู่แล้ว”
“รีบไปจากที่นี่” แดนบอก
ยอดชายงง “พูดอะไรของแกวะ จะไปไหน”
“ไปไหนก็ได้! ไอ้พวกตำรวจมันตามเรามาถึงหน้าตลาดแล้ว”
ยอดชายตกใจตาเหลือก!
“อะไรนะ! ทำไมมันตามมาเร็วขนาดนี้วะ”
“อย่าเพิ่งพูด รีบเก็บของแล้วไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”
สองวายร้ายแดนกะยอดชาย เก็บของเตรียมหนี
เวลาเดียวกันนั้นที่ค่ายเพลงจวงเรคคอร์ด เฮียจวง ชูชนะ สายฟ้าคุยกันอยู่
เฮียจวงเอ่ยขึ้น งงนิดๆ “อะไรว๊า…สมหวังมีปัญหาส่วนตัวถึงขั้นไม่ยอมเป็นนักร้องเลยเหรอ”
“ครับ” ชูชนะว่า
“แล้วสัญญาล่ะ”
“ก็ต้องขอยกเลิกครับ” สายฟ้าบอก
เฮียจวงท้วง “เลิกไม่ได้นะ”
สายฟ้า กับ ชูชนะ มองหน้ากันงงๆ
“ทำไมล่ะครับ ในเมื่อเราไม่มีนักร้องแล้ว” สายฟ้าแปลกใจมากๆ
“ทำผิดสัญญามันมีค่าปรับน่ะสิ” เฮียจวงว่า
สายฟ้ากับชูชนะตกใจ ร้องขึ้นพร้อมกัน “ค่าปรับ”
ชูชนะงวยงง “ค่าปรับอะไรครับ ผมไม่เห็นรู้เลย”
“ลื้ออ่านสัญญาไม่ละเอียดน่ะสิ…ในสัญญาระบุไว้แล้วถ้าทำผิดสัญญาต้องจ่ายค่าปรับหนึ่งล้านบาท”
สายฟ้ากับชูชนะ ยิ่งตกใจ
“อั๊วรู้ว่าลื้อไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ แต่มันเป็นกฎของบริษัท ถ้าอั๊วช่วยลื้อ หุ้นส่วนคนอื่นเค้าจะว่าเอา อั๊วจะออกหน้าพูดให้ก็ลำบาก”
“ผมเอามาจากเฮียห้าล้านแล้ว แล้วนี่เพิ่มมาอีกตั้งล้านนึงเป็นหกล้าน ผมจะเอาที่ไหนมาให้เฮีย”
สายฟ้ากะชูชนะ ถอนหายใจอย่างหนักใจ
“เอาอย่างงี้มั้ย ลื้อก็หานักร้องใหม่มาแทนสมหวัง” เฮียจวงเอ่ยขึ้น
“แล้วผมจะไปหานักร้องที่ไหนมาให้เฮียละครับ”
“จอมขวัญไง”
สายฟ้ากับชูชนะอึ้ง “จอมขวัญ” สองพ่อลูกร้องขึ้นพร้อมกัน
“ใช่ .. อั๊วได้ข่าววงในแว่วๆ มาว่า ตอนนี้จอมขวัญกับเฮียตี๋มันมีปัญหากันอยู่ ลื้อลองไปพูดกับจอมขวัญดูว่าจะย้ายมาอยู่ค่ายอั๊วหรือเปล่า”
สายฟ้า ชูชนะ หนักใจ!
สายฟ้ากับชูชนะมาถึงบ้าน เล่าเรื่องให้สองเจ๊ฟัง
เจ๊เนาว์ตกใจร้องเสียงดัง “ว้าย! ค่าปรับอีกล้านหนึ่งซิ”
“ก็เออสิวะ” ชูชนะบอก
“แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปใช้เค้ามากมายขนาดนี้” เจ๊จุ๊ถามอย่างหนักใจ
“มีทางเดียว อย่างที่เฮียจวงเค้าแนะนำมา ไปง้อนังจอมขวัญ”
เจ๊เนาว์ไม่เห็นด้วย “พ่อ! ไม่ได้นะ จะไปง้อนังงูพิษเนี่ยนะ”
“ไม่ได้ก็ต้องได้! เอ็งคิดว่าข้าอยากทำงั้นเหรอ” ชูชนะว่า
เจ๊จุ๊กังวล “แล้วมันจะยอมมาเหรอพ่อ มันอยู่ที่นั่นก็มีความสุขดีอยู่แล้ว”
“เห็นเฮียจวงเค้าว่ามันกำลังมีปัญหากับที่นั่น ไปขอร้องมันมันอาจจะมาก็ได้” ชูชนะบอก
เจ๊เนาว์ค้านหัวชนฝา “อย่าดีกว่านะพ่อนะ ระหว่างให้นังงูพิษกลับมา ชั้นยอมอดข้าวเก็บเงินใช้หนี้
เค้าดีกว่า”
สายฟ้าขัดขึ้น “ผมจะโทรไปขอร้องจอมขวัญเอง”
“สายฟ้า” เจ๊เนาว์กะเจ๊จุ๊ ตกใจ ร้องเสียงหลง
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 14 (ต่อ)
เช้าวันต่อมา ภายให้ประชุมบริษัททีเอสมิวสิค เฮียตี๋ กับบรรดาหุ้นส่วน กำลังนั่งประชุมอยู่ สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด
หุ้นส่วนรายแรกเอ่ยขึ้น “ผมได้ยินมาว่ามีเจ้าของอีเว้นท์งานต่างโทร.มาต่อว่าเรื่องแคนเซิลงานของ
จอมขวัญหลายรายเลย”
หุ้นส่วนรายที่ 2 เสริมทันควัน “จอมขวัญเค้ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ช่วงหลังมานี่งานคอนเสิร์ตก็ลด
น้อยลงนะครับ”
และหุ้นส่วนรายที่ 3 ถามต่อ “ยอดขายซีดี ดาวน์โหลดเพลงก็เท่าเดิมยอดไม่เพิ่มขึ้นเลย ฝ่ายการตลาดมีปัญหาหรือเปล่า”
สีหน้าเฮียตี๋เครียดเคร่ง ดูออกว่าหนักใจมาก
“ใจเย็นๆ กันก่อนนะครับ ปัญหาทุกอย่างเรากำลังช่วยกันแก้…”
ระหว่างนั้นเกิดเหตุชุลมุนที่หน้าห้องประชุม เมื่อจอมขวัญ และทนายความส่วนตัวจะเข้าไปด้านใน แต่ถูก พนักงานห้ามไว้
“เข้าไม่ได้นะคะ เฮียกำลังประชุมอยู่กับหุ้นส่วนอยู่”
จอมขวัญไม่สน “ดี! อยู่กันพร้อมหน้า จะได้รู้ปัญหาของบริษัทซะที”
จอมขวัญดันตัวพนักงานที่ขวางประตูออก เดินพรวดเข้ามาในห้อง ทุกคนตกใจ
จอมขวัญยกมือไหว้ทุกคน
“สวัสดีค่ะ อยู่กันพร้อมหน้าเลยนะคะ”
เฮียตี๋ฉุน “จอมขวัญ ออกไปก่อนเฮียกำลังประชุมอยู่”
จอมขวัญไม่แยแส แนะนำทนาย “นี่ทนายของจอมขวัญเองค่ะ”
เฮียตี๋ชะงัก งวยงง “ทนาย เอาทนายมาทำอะไร”
ทนายเอาเอกสารขอยกเลิกสัญญายื่นให้เฮียตี๋ดู จอมขวัญยิ้มเย้ย ขณะที่ทนายชี้แจง
“อันนี้คือหนังสือขอยกเลิกสัญญาและสำนวนหนังสือแสดงเจตจำนง ที่คุณจอมขวัญขอยื่นฟ้องกับทางทีเอสมิวสิคต่อศาล ที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้!”
เฮียตี๋เหลียวขวับมองหน้าจอมขวัญอย่างไม่พอใจ จอมขวัญไม่สะท้านชายตามองตอบสู้สายตาแบบไม่ยี่หระ
เฮียตี๋กัดกราม “ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ด้วย”
จอมขวัญแสยะยิ้มไม่ตอบ แล้วจะหันเดินออกไป
“จอมขวัญเดี๋ยวก่อนสิ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย”
“ไปคุยกันในศาลแล้วกัน”
จอมขวัญสะบัดหน้าพรืด เดินเชิดออกไป ทนายเดินตาม บรรดาหุ้นส่วนต่างงวยงง หน้าเหวอตามๆ กัน
จอมขวัญเดินออกมาที่รถ ที่ลานจอดหน้าทีเอสมิวสิค ทนายขอตัวกลับ
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ขอบคุณนะคะ”
“แล้วผมจะดำเนินเรื่องให้ครับ”
“ค่ะ”
ทนายความเดินออกไปแล้ว เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามา
จอมขวัญเห็นเบอร์สายฟ้าโทร.มาก็ดีใจ กดรับทันที สีหน้าระรื่น
“ฮัลโหล พี่สายฟ้า คิดยังไงวันนี้ถึงโทรหาชั้นได้ คิดถึงชั้นเหรอ?”
“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” สายฟ้าอยู่ที่บ้าน
จอมขวัญฉอเลาะ “เรื่องอะไรเหรอจ๊ะ”
“ออกมาคุยกับพี่หน่อยได้มั้ย”
“วันนี้เลยเหรอจ๊ะ… ได้จ้ะสบายมาก”
“ไม่ใช่วันนี้…พรุ่งนี้สะดวกมั้ย”
“สำหรับพี่สายฟ้าชั้นสะดวกให้ทุกวันแหละจ้ะ”
“งั้นเจอ…”
สายฟ้าพูดไม่ทันจบ จอมขวัญสวนขึ้นมา “เจอกันที่บ้านพี่สายฟ้าก็ได้ เดี๋ยวชั้นไปหา คิดถึงพ่ออยู่พอดี
เลย…ตกลงตามนั้นนะจ๊ะ”
จอมขวัญวางโทรศัพท์ ยิ้มกว้างออกมาอย่างอารมณ์ดี
แดนกับยอดชายเก็บของเสร็จแล้ว กำลังจะหนี แดนคว้ากุญแจรถมอเตอร์ไซค์ แล้วเดินไปก้าวขึ้นคร่อมรถสตาร์ทเครื่องทันที ยอดชายอึ้ง งวยงง
“จะเอามอเตอร์ไซค์ไปไหน ไปรถชั้น”
“ตำรวจเต็มหน้าปากซอย คุณจะขับออกไปให้มันเห็นเหรอ! จอดรถคุณไว้นี่แหละ”
“แล้วรถแก พวกมันจะไม่เห็นเหรอ” ยอดชายลังเล และกังวล
“ผมจะขับอ้อมไปทางข้างหลัง…ขึ้นมาเร็ว”
แดนเร่งยอดชายจำยอมสวมหมวกกันน็อค แดนขับรถออกจากตึกร้างทันที
แดนบิดมอเตอร์ไซค์ออกมา แต่แล้วต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นหมวดวันชาติ และเจ้าหน้าที่ เล็งปืนมาทางตน แดนและยอดชายตกใจมาก
สีหน้าหมวดวันชาติจริงจัง! จ้องไปทางแดนอย่างเอาจริง
โดยก่อนหน้านี้ หลังจากวันชาติเห็นท่าทีของแดนตอนเอารูปให้ดูส่อพิรุธ วันชาติจึงสะกดรอยตามแดนมาถึงตึกร้าง ถึงรู้ว่าเป็นที่กบดาน
หมวดวันชาติตะโกนก้อง “ดับเครื่องแล้วลงมาจากรถเดี๋ยวนี้”
แดนเปิดหมวกกันน็อคขึ้นมอง วันชาติกับแดนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ถึงเวลาแล้วละ….ดับเครื่อง แล้วลงไปมอบตัวกันได้แล้ว”
ยอดชายบอกจ๋อยๆ อย่างยอมแพ้ทว่าแดนเสียงแข็ง “เงียบ! แล้วอยู่เฉยๆ”
แดนแกล้งทำเป็นยกมือขึ้นเหมือนจะยอมมอบตัว
วันชาติและเจ้าหน้าที่เห็นว่าแดนจะยอมมอบตัวโดยดี ก็เลย ลดปืนลงอย่างชะล่าใจ โดยไม่ทันตั้งตัว ทันใดนั้นแดนเอามือลงอย่างรวดเร็วจับคันเร่งได้ ตีวงเลี้ยวรถกลับอย่างว่องไว และบิดคันเร่งสุดแรงมือ!
วันชาติ และเจ้าหน้าที่พยายามยิงสกัด แต่ไม่ทันความเร็วของรถแดน
แดนกับยอดชายหนีรอดไปได้
วันชาติบอกกับเจ้าหน้าที่ “รีบแจ้งให้สกัดจับสองคนนั่น”
“ครับ” ลูกน้อง 1 ใน 3 รับคำ พลางควักวิทยุสื่อสารออกมา
วันชาติหงุดหงิด เสียดายที่ปล่อยให้แดนกับยอดชายหลุดมือไปได้!
รถมอเตอร์ไซค์ของแดนขับแล่นมาด้วยความเร็วสูง ยอดชายเกาะแดนแน่นสงสัยว่าจะพาไปไหน
“แกจะพาชั้นไปหลบที่ไหน”
“นครนายก บ้านลุงผม” แดนบอก
แดนขับรถมาได้ระยะหนึ่ง แต่ยังอยู่ภายในซอยริมถนนละแวกคลองรังสิต ก็เลี้ยวรถลงจอดข้างทาง
ยอดชายงง “จอดรถทำไม”
“ทิ้งรถไว้นี่แหละ ตำรวจมันจะได้ตามเราไม่ถูก”
“แล้วจะไปยังไง”
แดนออกมายืนที่ศาลา ยอดชายเดินตามออกมา แดนเห็นรถตู้กรุงเทพฯ-นครนายก
แดนเรียกรถตู้ให้จอด รถตู้มาจอดเทียบ
“ใส่แว่นตาดำซะ อย่าให้คนจำได้”
ยอดชายทำตามที่แดนบอก แดน ยอดชาย ขึ้นรถตู้ออกไป
บ่ายวันนั้น ยินเสียงสารวัตรเอ็ดตะโรเสียงลั่นของทำงานในโรงพัก
“คุณทำงานยังไงของคุณ ปล่อยให้คนร้ายหนีไปได้”
“พอดีไปเจอคนร้ายกะทันหันครับ ผมใจร้อนไปหน่อยไม่ได้วางแผนให้รอบคอบกว่านี้ ผมขอรับผิดชอบเพียงคนเดียวครับ”
“ตอนนี้พวกมันไหวตัวทันแล้ว จะจับตัวพวกมันก็ยากมากขึ้น ไม่รู้หละ คุณจะทำยังไงก็ได้ รีบจับตัวพวกมันมาให้เร็วที่สุด ไม่งั้นคุณมีปัญหาแน่!”
“รับทราบครับ”
วันชาติเดินออกจากห้อง สีหน้าหนักใจ!
ทางด้าน สมหวัง กุหลาบ และป้าชวน นั่งกินข้าวกันอยู่ สมหวังนั่งเหม่อลอย
“สมหวังอิ่มแล้วเหรอลูก”
สมหวังยังคงนิ่ง
ป้าชวนเรียกอีก “สมหวัง…” เงียบ คราวนี้ป้าชวนเรียกเสียงดังขึ้น “สมหวัง”
สมหวังสะดุ้ง
“จ้ะป้า”
“เอ็งเป็นอะไรของเอ็งวะ เห็นเหม่อลอยมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ชั้นคิดอะไรเพลินๆ น่ะ”
สมหวังพูดพลางรวบช้อน
“กินข้าวไปแค่นั้นอิ่มเหรอลูก”
“ชั้นไม่ค่อยหิวน่ะ ชั้นขอตัวก่อนนะ”
สมหวังเดินนำไป กุหลาบเดินตาม
สมหวังเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่กันสองคน “พี่กุหลาบ…ชั้นคิดว่าชั้นจะยอมกลับไปเป็นนักร้อง”
กุหลาบตกใจ “ไม่ได้นะสมหวัง”
“มันเป็นความผิดของชั้น ถ้าชั้นบอกความจริงตั้งแต่แรกเค้าก็คงไม่ให้เป็นนักร้อง และไม่เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นก็ได้ ชั้นคิดดีแล้ว ชั้นจะไปช่วยเค้า”
“แล้วป้าจะยอมเหรอ” กุหลาบกังวล
“ก็อย่าให้ป้ารู้….หมวดก็รู้ไม่ได้นะพี่กุหลาบ”
“สักวันเค้าต้องรู้”
“รู้ก็รู้สิ แต่เราก็ต้องปิดให้นานที่สุด”
“แล้วเราจะไปบอกคุณสายฟ้าได้ยังไง”
“พรุ่งนี้ชั้นจะไปที่วง”
กุหลาบตกใจ “ห๊ะ! แล้วเราจะออกไปยังไง”
“แอบออกไป”
สมหวังบอกอย่างมุ่งมั่น
โปรดติดตาม "สายฟ้ากับสมหวัง" ตอนที่ 15 ต่อ