สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 10
สมหวังเดินเข้ามาหลังเวที เนื้อตัวสั่นเทา ยังอยู่ในอาการตกใจที่ถูกแฟนเพลงกระชากหน้ากากโดยไม่ทันตั้งตัว สีหน้าสมหวังเป็นกังวลหนัก กุหลาบวิ่งตามเข้ามาหน้าตื่น
“พี่กุหลาบ! ทำไงกันดี พวกโจรมันต้องเห็นหน้าชั้นแน่ๆ”
กุหลาบได้แต่ปลอบ “ใจเย็นๆ นะสมหวัง ไม่มีใครสังเกตหรอก หน้ากากมันหลุดตอนท้ายแป๊ปเดียวเอง ไม่ต้องคิดมากนะ”
สมหวังพยักหน้ารับ แต่สีหน้าก็ยังไม่คลายกังวล
สมหวังกับกุหลาบเปิดประตูเข้ามาในห้อง
เจ๊เนาว์ร้องอย่างดีใจ “สมหวังมาแล้ว ๆ”
เสียงเฮและเสียงปรบมือดังขึ้นแสดงความยินดี เจ๊เนาว์กำลังจะเข้าไปกอดสมหวัง ถูกชูชนะเบียดจนร่างกระเด็น เจ๊เนาว์เซถลาออกไป
“หือ…พ่อ! ให้ชั้นกอดก่อนก็ไม่ได้ ศิษย์รักคนเนี้ยไม่ได้เลยนะ”
ชูชนะไม่สนใจเจ๊เนาว์ โผเข้าไปกอดสมหวังพร้อมทั้งน้ำตาคลอ ด้วยความภาคภูมิใจที่สมหวังประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นสมใจ
“เยี่ยมมากสมหวัง ให้มันได้แบบนี้สิ เอ็งไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ”
เจ๊เนาว์กรี๊ด “นี่ๆ เจ๊ยืนฟังสมหวังร้องเพลงขนนี้ลุกซู่ซู่”
“ปวดขี้เหรอ” เจ๊จุ๊กัด
เจ๊เนาว์เคลิ้ม “เออ!” พอนึกได้ก็ร้องกรี๊ด “ว๊าย ไม่ใช่! อีนี่คนเค้ากำลังยินดีปรีดากันอยู่
ขัดจังหวะตลอด” หันมาอวยสมหวัง “หนูทำให้เจ๊ปลื้มปริ่มที่สุด”
เจ๊จุ๊แถเข้าไปหาสมหวังบ้าง
“เจ๊ก็ยืนฟังสมหวังอยู่นะ ขนนี้ก็ลุกซู่ซู่เหมือนกัน”
“สตอบอแหล!…ชั้นเห็นแกมองแต่ผู้ชายน้ำลายไหลเยิ้มอยู่ ….สร้างภาพเนี้ยที่หนึ่ง” เจ๊เนาว์ด่า
“ผู้ชายอ่ะดูแว๊บๆ สนใจสมหวังมากกว่า” เจ๊จุ๊ยิ้มระรื่น
เจ๊เนาว์หมั่นไส้ “นั่นง่ะ…เห็นมะ”
เจ๊จุ๊หงุดหงิด “หักหน้ากรูกลางสาธารณชนนะอีเนาว์ คืนนี้กรูจะลักหลับมึง”
ชูชนะรำคาญ ตวาดสองคน “พอได้แล้ว…เอ็งสองคนน่ะ ข้ายังพูดกับนังสมหวังไม่จบ” ชูชนะยิ้มให้สมหวัง น้ำตาชายชราคลอเบ้าอย่างปีติ “ข้าดีใจนะที่วันนี้เอ็งได้ประกาศศักดาให้วงชูชนะ วทัญญูอีกครั้ง ข้าขอบใจเอ็งจริงๆ”
ทุกคนเฮลั่น สายฟ้ายิ้ม มองชูชนะที่กอดสมหวังด้วยความปลาบปลื้ม และมีความสุข
“นานๆจะเห็นน้ำตาพ่อสักครั้งนึง เธอทำให้พ่อน้ำตาซึมได้ถือว่าสุดยอดจริงๆ … ยินดีด้วยนะสมหวัง”
สมหวังฝืนยิ้มรับ
เจ๊จุ๊ควักกระดาษทิชชูส่งให้ชูชนะ “พ่อ พ่อ…เช็ดน้ำตาหน่อยแต่งตัวมาซะหล่อ เดี๋ยวหมดหล่อกันพอดี”
ชูชนะโวยลั่น “ข้าไม่เช็ด มันเป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มเว้ย…ต่อไปนี้วงของเราก็จะดังยิ่งขึ้น งานเยอะขึ้น เงินเยอะขึ้น ที่สำคัญลูกทุ่งยังจะอยู่กับข้าไปอีกนานแสนนาน”
ทุกคนพากันเฮลั่นอีกครั้ง ยิ้มแย้มแจ่มใส ปลาบปลื้มและดีใจ
โดยไม่ทันสังเกตกันว่า สมหวังสีหน้ายังคงไม่สู้ดีนัก
กลับมาถึงบ้าน เสียงโทรศัพท์สมหวังดังขึ้น หน้าจอ เห็นเป็นเบอร์ป้าชวนโทร.เข้ามา สมหวังรีบกดรับ
กุหลาบเข้ามายืนฟังอยู่ข้างๆ
“ฮัลโหล…จ้ะป้า”
ป้าชวนอยู่ที่ร้านชวนชมภูษา สีหน้าโกรธขึ้งและเครียดหนัก
“ทำไมเอ็งต้องโกหกป้าด้วย”
สมหวังหน้าเสียรู้ทันทีว่าเรื่องอะไร “ป้าฟังชั้นอธิบายก่อนนะ”
ป้าชวนคร่ำครวญต่อ “รู้มั้ยว่ามันเสี่ยงแค่ไหนที่เอ็งทำแบบนั้น ป้าอุตส่าห์ไว้ใจเอ็งเห็นว่าโตแล้วดูแลตัวเองได้ อยู่ในที่ที่ปลอดภัยป้าก็หายห่วง ที่ไหนได้กลายมาเป็นนักร้องออกทีวีให้โจรมันตามไปฆ่าเอ็งซะอย่างงั้น แล้วแบบนี้ป้าจะนอนหลับได้ยังไง ต้องมานั่งเป็นห่วงเอ็งอยู่อย่างงี้ทุกวันน่ะเหรอ”
สมหวังอึ้ง รู้สึกผิดและเสียใจที่โกหกป้าชวน และยังทำให้ป้าต้องมาเป็นห่วงอีก
“ป้า ชั้นขอโทษนะ..ที่ทำให้ป้าต้องเป็นห่วง แต่ป้าไม่ต้องห่วงชั้นนะ ชั้นดูแลตัวเองได้…ชั้นจะระวังตัวให้มากๆ”
ป้าชวนยื่นคำขาด “ไม่ได้!…ถ้าไม่ให้ป้าเป็นห่วง เอ็งต้องเลิกเป็นนักร้อง ป้าจะไปบอกหมวดวันชาติให้พาเอ็งไปอยู่ที่อื่น”
สมหวังตกใจ “อย่าบอกหมวดนะป้า”
กุหลาบยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินว่าจะป้าชวนบอกหมวดวันชาติถึงกับตกใจตาเหลือก
“ทำไมถึงจะบอกไม่ได้…เอ็งอยากอยู่ในที่ที่อันตรายเหรอนังหวัง”
“ป้า...ฟังชั้นนะจ๊ะ ที่ชั้นทำแบบนี้ชั้นมีเหตุผลของชั้นนะจ๊ะป้า ชั้นอยู่ในวงลูกทุ่งที่กำลังเจ๊ง มีคนงานในวงหลายสิบชีวิต ถ้าวงเจ๊งไปพวกเค้าจะไปอยู่ที่ไหนกัน ป้าเคยสอนชั้นอยู่เสมอๆ ไม่ใช่เหรอจ๊ะ ให้เป็นคนกตัญญูรู้จักบุญคุณคน ที่นี่เค้ามีบุญคุณกับชั้นมากให้ชั้นได้มีที่นอนมีข้าวกิน ถึงเวลานี้เค้ากำลังเดือดร้อนชั้นก็ต้องตอบแทนบุญคุณไม่ใช่เหรอจ๊ะ”
ป้าชวนเสียงแข็งอยู่ “มันก็ใช่ แต่นี่เอ็งต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงนะ”
สมหวังยิ่งหนักใจ พยายามพูดอธิบายให้ป้าชวนสบายใจ “ป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะจ๊ะ ต่อไปนี้ชั้นจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดและจะไม่เสี่ยงแบบวันนี้อีก แล้วพี่กุหลาบก็ดูแลชั้นอยู่ พวกโจรมันไม่มาทำอะไรชั้นง่ายๆ หรอก … และถือว่าชั้นขอร้องป้าอย่าเอาเรื่องไปบอกหมวดนะ ไม่งั้นพี่กุหลาบต้องเดือดร้อนไปด้วยแน่ ๆ”
ป้าชวน ถอนหายใจ “ตามใจเอ็ง … ดูแลตัวเองให้ดีนะ”
“จ้ะป้า…ป้าก็เหมือนกันนะ แล้วไม่ต้องเครียดเรื่องชั้นนะ ชั้นว่าอีกไม่นานเรื่องทุกอย่างมันก็จบ เราจะได้กลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมนะ... แค่นี้ก่อนนะป้า”
สมหวังวางสาย หันมาหากุหลาบ
“พี่กุหลาบ…ป้าต้องไม่สบายใจเพราะชั้นแน่ๆ”
กุหลาบให้กำลังใจ “เหตุผลที่สมหวังพูดไปเมื่อกี้ ป้าเค้าคงเข้าใจนะ…สมหวังเองก็ไม่ต้องคิดมาก เราทำเพื่อส่วนรวม ดูสิเราช่วยคนนับสิบให้อยู่รอด คนดีพระย่อมคุ้มครอง ไหนยังมีพี่ที่คอยปกป้องสมหวังอีกรับรองสมหวังไม่เป็นอะไรแน่ๆ”
สมหวังยิ้ม รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา
ด้านป้าชวนได้แต่ภาวนา “เจ้าประคูณ…สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ขอจงปกปักรักษาคุ้มครองนังสมหวัง
ให้พ้นจาก สรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย สรรพเคราะห์ เสนียดจัญไร ด้วยเถิด …” ถอนหายใจบ่นงึมงำ “นังสมหวังนะนังสมหวัง ดื้อแต่เด็กยันโต ป้าเหนื่อยใจกับเอ็งจริงๆ”
ป้าชวนมีสีหน้าหนักใจ ทุกข์ใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะเป็นห่วงสมหวัง
เวลาเดียวกันนั้นสองวายร้าย แดนอยู่กับยอดชายที่บ้านคุณนายศรีสมร
“จะให้ผมไปจัดการมันเลยมั้ย” แดนเอ่ยขึ้น
“แกรู้แล้วเหรอว่าวงลูกทุ่งมันอยู่ไหน”
“ยังครับ…แต่มันออกทีวีแบบนี้ใครๆ เค้าต้องรู้จักมันแน่ หาแป๊บเดียวก็เจอ”
“ไม่ต้อง เสียเวลา ชั้นมีแผนที่ง่ายกว่านั้น แกเตรียมตัวไว้แล้วกัน”
ยอดชายสีหน้าเหี้ยม!
เช้าวันต่อมา สองเจ๊...เจ๊เนาว์ เจ๊จุ๊แต่งตัวสวยเช้งกะเด๊ะ เดินออกมากับแด๊นเซอร์ 2-3 คน
“เดินให้มันเร็วๆหน่อยอีตุ๊ดถึก สายแล้วแดดมันจะร้อน เดี๋ยวผิวนวลๆ ของชั้นโดนแสงยูวีมันจะเสียหมด”
เจ๊เนาว์ด่าสวนกลับ “หนังหนาเป็นโคกระบืออย่างแก แสงยูวีทำอะไรไม่ได้หร๊อก”
สายฟ้าเดินสวนมาพอดี
“อ้าวเจ๊ จะไปไหนกัน”
“ไปตลาด” เจ๊เนาว์บอก
“ถึงว่าแต่งตัวซะสวยเลย” สายฟ้ายิ้มๆ
เจ๊จุ๊ทำเป็นม้วนตัว บิดเขินไปมา
“แหม…สายฟ้าก็พูดไป ชมเจ๊บ่อยๆ เจ๊คิดนะ”
“สายฟ้าเค้าหมายถึงชั้นย่ะ” เจ๊เนาว์หันมาทางสายฟ้า พูดเสียงหวาน “เจ๊สวยจริงเหรอ”
เจ๊จุ๊กัดอีก “ออกจากห้องไม่ได้ส่องกระจกเหรออีถึก”
เจ๊เนาว์หมั่นไส้ “จ้า!! อีแม่ไม่ถึก ผอมเพรียว ร่างบาง”
สายฟ้าหัวเราะขำ
“พอๆ เจ๊ สวยทั้งสองแหละ…แล้วนี่ไปแต่เช้าไปซื้ออะไรกัน”
“ยังไม่รู้อีกเหรอจ๊ะ วันนี้พ่อเค้าจะจัดงานเลี้ยงให้สมหวัง” เจ๊เนาว์บอก
“ไม่เห็นรู้เลย…แต่ก็ดีเหมือนกัน บ้านเราไม่ได้จัดงานเลี้ยงมานานแล้ว….ซื้อกับข้าวมาเยอะๆ เลยนะ อย่าลืมของโปรดผมด้วยล่ะ ปลากระพงนึ่งมะนาว ทอดมันปลากราย น้ำพริกปลาทู”
เจ๊จุ๊แบมือทันที “มันนี่ด้วย!”
สายฟ้ายิ้มแหยๆ “อ๋อ…ลืมเลย เอาเท่าไหร่”
“เท่าไหร่ก็ได้ เลี้ยงคนทั้งวงอ่ะจ้ะ”
สายฟ้าหยิบเงินให้เจ๊จุ๊ ระหว่างนั้น สายฟ้าเหลือบไปเห็นสมหวังนั่งเล่นอยู่ศาลาท่าน้ำ
สายฟ้ากำลังเดินตรงเข้ามาหาสมหวัง ทันใดนั้น โทรศัพท์สมหวังดังขึ้น
สมหวังยิ้มเขินกดรับโทรศัพท์จากยอดชาย
“คุณยอดชายเหรอคะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
สายฟ้าได้ยินสมหวังคุยกับยอดชายก็หยุดชะงัก และหลบหลังต้นไม้แอบฟัง
“เดี๋ยวนี้ออกทีวีดังใหญ่โตแล้วนะครับ” ยอดชายเย้า
สมหวังตกใจคาดไม่ถึง “คุณยอดชายเห็นด้วยเหรอคะ”
ยอดชายพูดเสียงอ้อน ตัดพ้อนิดๆ “เป็นนักร้องก็ไม่โทร.มาบอกผมสักคำ ผมน้อยใจแล้วนะ หรือว่าคุณรังเกียจผมแล้ว”
สมหวังปฏิเสธดังลั่น “เปล่านะคะ”
ที่หลังต้นไม้ สายฟ้ายังคงแอบฟังสมหวังคุยโทรศัพท์อย่างหมั่นไส้ พร้อมกับบ่นพึมพำ
“โธ่เอ๊ย! ทำเป็นเสียงอ่อนเสียงหวาน คุยกับไอ้หน้าหยกอยู่ละซี้”
ทางด้านยอดชายผุดสีหน้าเจ้าเล่ห์ออกมา
“ถ้าไม่รังเกียจวันนี้คุณสมหวังไปทานข้าวกับผมได้มั้ยครับ”
สมหวังอ้ำอึ้ง “คือ…วันนี้จะไม่สะดวกน่ะค่ะ คือที่บ้านเค้าจะงานเลี้ยงให้ชั้น เป็นวันอื่นได้มั้ยคะ”
ยอดชายทำเสียงเศร้า “น่าเสียดายจัง นึกว่าจะได้เจอคุณวันนี้ซะอีก”
“ทำไมล่ะคะ มีอะไรหรือเปล่า”
“ก็คำถามที่คุณเคยถามผมไว้ครั้งก่อน ผมยังไม่ได้ตอบคุณเลยนะ”
สมหวังงวยงง “คำถาม”
“ที่คุณถามผมว่า ผมคิดยังไงกับคุณ…” ยอดชายพูดเสียงหวาน
สมหวังนึกขึ้นได้ก็เขิน “อ๋อ…ค่ะ แล้วคุณยอดชาย…คิดยังไงละคะ”
สายฟ้าเห็นสมหวังออกอาการเขิน บิดไปมาก็รู้สึกหมั่นไส้
“หวานซะเหลือเกินนะแม่คู๊ณ…ฮึ ฮึ!”
“ถ้าอยากรู้ งั้นกลางวันนี้ออกมาทานข้าวกับผมนะครับ” ยอดชายอ้อนต่อ
“กลางวันนี้เหรอคะ” สมหวังคิดสักครู่ “ได้ค่ะ แล้วร้านไหนดีคะ”
ยอดชายบอกชื่อร้าน สมหวังทวนชื่อร้านนั้น
ขณะที่สายฟ้าเงี่ยหูฟังอย่างสุดตัว
“แล้วเจอกันนะครับ” ยอดชายวางสายหน้าเหี้ยม!!
ส่วนสมหวังวางสาย ยิ้มอย่างมีความสุข
สายฟ้าเห็นสมหวังวางโทศัพท์ ก็รีบเดินออกมา
สมหวังหันมาเห็นสายฟ้าอยู่บริเวณครัว
“คุณสายฟ้า”
สายฟ้าหันมา ถามด้วยเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์
“มีอะไร”
สมหวังฉีกยิ้มให้ “คือชั้นมีเรื่องจะรบกวนคุณหน่อย”
สายฟ้าเสียงแข็ง “เรื่องอะไรอีก”
“คือ คุณยอดชายโทรมานัดชั้นไปทานข้าวกับเค้า ชั้นอยากให้คุณไปด้วย”
สายฟ้าหึง ไม่พอใจ
“เค้าชวนเธอ เธอก็ไปเองสิ จะพาชั้นไปทำไม”
“ก็ไปช่วยชั้นเหมือนคราวที่แล้วไง”
“เธออยากคุยอะไรก็คุยไป”
“ช่วยชั้นหน่อยนะ นะ” สมหวังอ้อน
“แล้ววันนี้งานเลี้ยง เธอจะไม่อยู่ช่วยเค้าเตรียมงานหรือไง”
“ไปแป๊ปเดียว…นะนะ” สมหวังเดินมาอ้อน เขย่าแขน “นะ นะ ไปช่วยชั้นหน่อยนะ”
สายฟ้าใจอ่อนในที่สุด
“ไปก็ได้…แต่ว่าร้าน...” สายฟ้าดันบอกชื่อออกมา “มันอยู่ตรงไหนชั้นไม่รู้จัก”
สมหวังหน้าตึงใส่ “คุณรู้ได้ไงว่าจะไปร้านนั้น”
สายฟ้าหน้าตาเหลอหลา ตกใจที่เผลอหลุด
สายฟ้ารีบแถกลบเกลื่อน “ก็ร้านแถวนั้นที่ดังๆ มีสักกี่ร้านกันเชียว” เปลี่ยนเรื่อง “สรุปจะให้ชั้นไปด้วยมั้ย”
ระหว่างนั้นบาสเดินเข้ามาได้ยินพอดี ยืนนิ่งฟัง
สมหวังยิ้ม “ไปๆๆ”
“ไปไหนกันน้องสมหวัง”
สมหวังอ้ำอึ้ง “ไป…เอ่อ…ไปแถวนี้น่ะจ้ะ”
“ให้พี่ไปด้วยนะ”
“แกช่วยงานเตรียมงานอยู่นี่แหละ…ไปแป๊ปเดียวเดี๋ยวก็กลับ”
สายฟ้ากับสมหวังเดินออกไป บาสหึง มองตามตาขวางอย่างหงุดหงิด
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 10 (ต่อ)
ทางด้านกุหลาบแวะมาโรงพักเพื่อรับเบี้ยเลี้ยงเองในรอบหลายเดือน กำลังเดินเข้าไปทักทายเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ ด้วยความคิดถึง
“สวัสดีจ้ะ..ทุกๆ คน”
เจ้าหน้าที่พอเห็นกุหลาบจอมเปิ่นมาก็ต่างดีใจ
“โอ้โห…จ่ากุหลาบ หายไปนานสวยขึ้นนะเนี่ย”
“แหม….จ่าก็…ชั้นรู้ตัวอยู่”
เจ้าหน้าที่อีกคนแกล้งหยอก “ชั้นพูดเล่น”
กุหลาบหน้าบูดใส่
“สวยจริงๆ ดูสิ ขาวผ่องสดใส”
กุหลาบเขิน อวยม้วน “ปากหวาน”
เพื่อนตำรวจอีกคนถาม “อยู่โน่นคงสบายสินะ”
“สบายมากๆ คนที่นั่นน่ารักกันทุกคนเลย วันๆอยู่กับของสวยๆ งามๆ”
“น่าอิจฉา” เพื่อนว่า
“แต่พอมันจะเครียดก็เครียดจนไมเกรนขึ้น อยู่ที่นี่สบายที่สุดแล้ว….เออ นี่จ้ะ ชั้นซื้อกล้วยทอดมาก เจ้านี้อร่อยสุดๆ เลยนะ”
“ขอบใจๆ” เพื่อนพ้องบอกพร้อมกัน
ระหว่างนั้นสารวัตรเดินเข้ามา
“สวัสดีค่ะสารวัตร” กุหลาบตะเบ๊ะทำความเคารพ
“มาทำอะไรจ่ากุหลาบ”
“เอากล้วยทอดมาฝาก… เอ้ย!! มารับเบี้ยเลี้ยงค่ะ”
“แล้วคุณออกมาแบบนี้พยานอยู่กับใคร” สารวัตรถามหน้าเครียด
“อยู่ที่บ้านกับคนในวงค่ะ”
สารวัตรหงุดหงิด “ปล่อยให้พยานอยู่แบบนั้นได้ยังไง ทุกวินาทีมันอันตรายคุณรู้มั้ย…ถ้าพยานเป็นอะไรไปผมจะเล่นงานคุณให้น่าดูเลย”
กุหลาบ หงอ หน้าสยอง “ค่ะ เดี๋ยวจะรีบกลับเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ”
“ทำไมไม่ให้หมวดวันชาติเอาไปให้” สารวัตรซักอีก
“หมวดไม่ว่างค่ะ” กุหลาบบอกจ๋อยๆ
“แล้วหมวดไปไหน”
กุหลาบอึกอัก ตอบสารวัตรไม่ถูก
ที่แท้หมวดวันชาติจอดรถแอบอยู่ข้างทางหน้าปากซอยบ้านยอดชาย กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในรถ
ครู่หนึ่ง รถยอดชายขับออกมาจากซอย แล้วเลี้ยวผ่านหน้าหมวดวันชาติไป
หมวดวันชาติเหลือบขึ้นมาเห็นรถยอดชายขับผ่านหน้า รีบขับตามไป!
ยอดชายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.หาแดน ซึ่งซื้อของอยู่ในมินิมาร์ท ครู่หนึ่งก็เดินออกมาจากมินิมาร์ท
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แดนกดรับสาย
“ครับ คุณยอดชาย”
“ชั้นออกจากบ้านมาแล้ว อีกไม่เกินยี่สิบนาทีน่าจะถึง”
บาสอยู่ในอาการหงุดหงิด เตะบอลอัดผนังปลดปล่อยอารมณ์ กุหลาบเดินเข้ามา เป็นจังหวะที่ลูกบอลกระเด้งกลับ โดนหัวกุหลาบเต็มๆ
“โอ๊ย!! ไอ้บ้าใครปองร้ายชั้นเนี่ย!”
บาสเดินมาเก็บลูกบอล น้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ขอโทษ”
“เล่นบ้าอะไร ไม่ดูคนเลย”
บาสหันมามองกุหลาบนิ่งๆ ไม่ตอบโต้ แล้วหันไปเตะบอลต่อ
กุหลาบงง “เป็นอะไรวะ….สงสัยผีสิง”
กุหลาบเดินเข้าไปหาบาส
“นี่ๆ นายๆ”
บาสหันมาหา “อะไร”
“เห็นสมหวังมั้ยอ่ะ”
พอพูดถึงสมหวังบาสโมโหยิ่งใส่อารมณ์เตะบอลแรงขึ้น ลูกบอลกระเด้งเฉี่ยวหัวกุหลาบ กุหลาบหลบทัน
“โอ๊ยเป็นไรเนี่ย เตะเบาๆ ก็ได้ เฉียดหัวชั้นไปนิดเดียวเอง”
“เห็นออกไปกับพี่สายฟ้ากันสองคน”
กุหลาบตกใจ ตาเหลือก “ไปไหนอ่ะ รู้มั้ย”
บาสเสียงดังใส่ “ไม่รู้! ถามก็ไม่บอก บอกแค่ไปแป๊ปเดียวเดี๋ยวกลับมา จะไปด้วยก็ไม่ให้ไป”
กุหลาบหงุดหงิด “สมหวังนะสมหวัง ไปไหนไม่ยอมบอกอีกแล้ว!! …ไปไหนของเค้านะ”
สายแล้วกุหลาบเดินชะเง้อมองหาสมหวังอยู่ ก่อนจะเดินมาทางชูชนะ ที่กำลังเตรียมงานเลี้ยงกันอยู่
“พ่อ รู้หรือเปล่าว่าสมหวังกับพี่สายฟ้าเข้าออกไปไหนกันจ๊ะ”
“ออกไปซื้อที่ห้าง เห็นออกไปพักนึงแล้วเดี๋ยวก็คงกลับ”
กุหลาบตกใจ
“ห๊ะ!! ไปห้างกันเหรอ?” พึมพำ “อีกแล้วนะสมหวังไปไหนไม่ยอมบอก”
สีหน้ากุหลาบกังวลหนัก
สองคนอยู่ที่ร้านอาหารแห่งนั้น สถานที่นัดของสมหวังกับยอดชาย
“คราวนี้จะให้ช่วยอะไรอีกล่ะ” สายฟ้าถามเซ็งๆ
“ก็เหมือนคราวที่แล้ว ที่คุณบอกบทชั้นว่าต้องพูดอะไรบ้าง” สมหวังยิ้มย่อง
“อีกแล้วเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ แล้วชั้นจะชวนคุณมาทำไม ขนาดคราวที่แล้วนะอุตส่าห์ซ้อมมาอย่างดี ชั้นยังพูดติดๆ ขัดๆเลย …แล้ววันนี้คุณยอดชายเค้าอาจจะมาบอกรักชั้น ถ้าชั้นทำเปิ่นพูดไม่เข้าหูเค้า ชั้นก็แย่ซิ”
สายฟ้าเซ็งหนัก อาการหึงพุ่งพล่าน
“ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก….ทำเหมือนคราวที่แล้วจบ”
“เหมือนเดิมอีกแล้ว ไม่มีวิธีใหม่เหรอ” สมหวังงงๆ
สายฟ้าบอกเสียงขุ่น “ไม่มี”
สมหวังอ้อน “ก็คิดให้หน่อยสิ”
สายฟ้าหมั่นไส้ “นั่งกันสามคนไปเลยดีมั้ย ชั้นจะได้บอกเธอถนัดๆ”
“อย่าพูดเล่นสิคุณ…มันใกล้ถึงเวลาแล้วนะ”
“ชั้นพูดจริงๆ ถ้าไม่เอาวิธีเก่าก็เอาวิธีนี้ จะเอามั้ย”
สมหวังหน้าย่นใส่ “เหมือนเดิมก็ได้!”
ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์สมหวังดังขึ้น สมหวังรีบรับยิ้มหน้าบาน ท่าทีขวยเขิน
“สวัสดีค่ะคุณยอดชาย”
สายฟ้าหมั่นไส้จ้องมองเขม็ง
ยอดชายขับรถมาบนถนนขณะคุยกับสมหวัง
“คุณสมหวัง … ผมออกมาแล้วนะครับอีกประมาณครึ่งชั่วโมงน่าจะถึงร้านนะครับ …เดี๋ยวเจอกันนะครับ อยากเจอคุณสมหวังจะแย่อยู่แล้ว”
ยอดชายหยอดคำหวานก่อนจะวางโทรศัพท์
จังหวะที่เงยหน้าขึ้น ยอดชายมองที่กระจกหลังรถ เห็นรถหมวดวันชาติแล่นตามมาด้านหลัง ยอดชายตกใจ
“เฮ้ย!! ไอ้หมวดนี่”
ยอดชายเหยียบคันเร่งขับหนี ครู่ต่อมายอดชายเลี้ยวเข้าซอย แต่ยังเห็นรถหมวดวันชาติตามมาติดๆ
“มึงเล่นตามกูแบบนี้เลยเหรอวะ” ยอดชายหงุดหงิด
เวลานั้นแดนยืนดูดน้ำ รอยอดชายอยู่ตรงจุดนัด พอเห็นรถยอดชายขับเข้ามา แดนก็เตรียมลุกจะไปรอขึ้นรถ แต่ทันใดนั้น รถยอดชายขับผ่านหน้าแดนไปเฉย โดยมีรถหมวดวันชาติตาม โดยที่แดนไม่รู้ว่าเป็นรถหมวดวันชาติ แดนงงๆ
“เอ้า!! อะไรของเค้าวะ…ไม่เห็นกรูหรือไง”
แดนโมโหหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.หายอดชาย
พอยอดชายรับแดนก็โวยใส่ทันที
“ทำไมเมื่อกี้คุณไม่จอดให้ผมขึ้นล่ะ”
“จะจอดได้ยังไงเล่า…ไอ้หมวดบ้านั่นมันตามชั้นอยู่เนี่ย” ยอดชายโวยกลับ
“ผมยังไม่เห็นรถตำรวจตามคุณไปสักคัน” แดนบอกพาซื่อ
“ไอ้บ้า….รถตำรวจที่ไหน ก็รถของไอ้หมวดวันชาติน่ะ แกจำไม่ได้หรือไง”
“แล้วที่นี้จะเอายังไง หรือว่าจะยกเลิกก่อน”
ยอดชายไม่ยอม “ยกเลิกไม่ได้ ตำรวจมันตามกลิ่นถึงตัวแล้ว ยังไงต้องลงมือ แกไปเองแล้วกันร้านที่ชั้นบอก ถ้ามีโอกาสก็ลงมือเลย ชั้นไม่รู้ว่าไอ้หมวดนี่มันจะตามไปถึงไหน”
“หรือว่าจะให้ผมตามไปจัดการกับไอ้หมวดนั่นก่อน มันจะได้สิ้นเรื่องสิ้นราวกันไป ไม่มีใครมาขัดขวางเราได้อีก” แดนออกไอเดีย
ยอดชายด่า “จะบ้าเหรอ! ตำรวจนะเว้ย แกเอาสมองส่วนไหนคิดห๊ะ ทำตามที่ชั้นสั่งก็พอ จัดการนังสมหวังให้ได้ล่ะ”
“ครับ” แดนรับคำเซ็งๆ
สมหวังนั่งกระวนกระวาย ชะเง้อมองไปทางประตูทางเข้าร้านอาหารตลอดเวลา
“ทำไมคุณยอดชายยังไม่มาอีกล่ะ”
“โดนเบี้ยวแล้วมั้ง ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบเป็นแบบนี้แหละ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับผู้หญิงสักเท่าไหร่” สายฟ้าพูดลอยๆ
สมหวังหมั่นไส้ พูดเหน็บ “รวมถึงตัวคุณด้วยใช่มั้ย”
“เสียใจด้วย ชั้นอยู่ในส่วนน้อย …” น้ำเสียงประชดเต็มที่ “แล้วไหนล่ะพ่อคนดีของเธอน่ะ ไม่เห็นมาสักที”
“เดี๋ยวก็คงมาแล้วหละ คุณยอดชายเค้าเป็นคนดี ไม่เคยผิดนัดชั้น” สมหวังว่า
สายฟ้าเห็นท่าทีที่สมหวังพูดชมยอดชาย ยิ่งหมั่นไส้
“หรือว่าชั้นมาผิดร้าน โทร.หาเค้าอีกทีดีมั้ยอ่ะ”
สายฟ้าบอกเสียงเนือยๆ “แล้วแต่เธอ”
สมหวังมองสายฟ้าแล้วยิ้มแหยๆ
“มองชั้นทำไม?”
สมหวังยิ้มแหยๆ อยู่อย่างนั้น “ยืมโทรศัพท์หน่อยสิ โทรศัพท์ชั้นตังค์หมดแบตก็จะหมด”
สายฟ้าขำก๊าก “พามาร้านซะหรูเลย แต่โทรศัพท์ไม่มีเงินโทร.ออก ปั๊ดโธ๊!”
“ไม่ต้องพูดมากเลย เดี๋ยวชั้นออกไปเติมเองก็ได้” สมหวังกำลังจะลุก
สายฟ้ายื่นโทรศัพท์ให้ “อะ อะ…เห็นแล้วสงสาร”
สมหวังหยิบโทรศัพท์มาโทร.หายอดชาย
สายฟ้าลุกขึ้นจากโต๊ะ
สมหวังตกใจปนงง “นี่คุณ….จะไปไหนล่ะ”
“จะไปห้องน้ำ…ไปด้วยกันมั้ย”
สายฟ้าเดินออกไป
แดน เดินมาหยุดที่หน้าร้าน มองป้ายหน้าร้านเห็นว่าเป็นร้านที่ยอดชายบอก จึงเดินเข้าไปในร้าน!
สมหวังพยายามโทร.หายอดชาย แต่ยอดชายไม่รับสาย
“ทำไมไม่รับสายนะ…เป็นอะไรหรือเปล่า”
อีกด้าน แดนเดินเข้ามาในร้าน กำลังมองหาสมหวังอยู่ แดนเดินหาสมหวังที่ละโต๊ะๆ จนมาเจอสมหวัง
แดนรีบไปนั่งโต๊ะที่ว่าง เยื้องๆ กัน เตรียมหยิบปืนเก็บเสียงขึ้นมา
แดนกำลังจะลุกไปจัดการสมหวัง ระหว่างนั้นมี ตำรวจ 3 คน เดินเข้ามากินข้าวในร้านอาหารพอดี แดนตกใจรีบหลบลงไปนั่งที่เดิม บ่นพึมพำ
“เวรเอ๊ย!! จะเข้ามากินอะไรตอนนี้วะ”
สายฟ้าเดินกลับเข้ามาที่โต๊ะ
“ไหนล่ะนายยอดชายของเธอ มาหรือยัง”
“ยังเลย โทร.ไปก็ไม่รับ”
“งั้นกลับเหอะ…จะได้ไปช่วยกันจัดงานเลี้ยงที่บ้านกันต่อ”
สมหวังอ้อน “รออีกหน่อยนะ”
สายฟ้ามองสมหวังอย่างเห็นใจ และน้อยใจอยู่ในที
“งั้นชั้นไปหาซื้อผลไม้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวมา”
สายฟ้ากำลังจะเดินออกไป สมหวังลุกตาม
“ชั้นไปด้วย เดี๋ยวเราค่อยกลับมาดูก็ได้”
สายฟ้ากับสมหวังเดินออกไป แดนเห็นแล้วกำลังจะลุกตามออกไป แต่ไม่ทันระวังชนเข้ากับเด็กเสิร์ฟที่กำลังยกหม้อชาบูไปเสิร์ฟ น้ำร้อนเดือดๆ ราดลงไปบนตัวแดน แดนร้องจ๊าก ปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัว
ทุกคนในร้านตกใจ หันมามองแดนเป็นตาเดียว
“ขอโทษครับ…ขอโทษนะครับ”
แดนพยายามกลั้นความเจ็บปวด แล้วเดินออกมาจากร้านตามสมหวังไป
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 10 (ต่อ)
ทางด้านยอดชายจ้องผ่านกระจกมองหลัง ยังเห็นว่ารถหมวดวันชาติตามมาไม่ห่าง ก็ยิ่งโมโห
“มันจะตามไปถึงไหนของมันวะเนี่ย”
ยอดชายเห็นรถตู้คันข้างหน้ากำลังจะถอยหลังออกมาขวางทาง จึงเร่งเครื่องเพื่อจะขับให้พ้นรถตู้ไป และยอดชายขับหลุดออกไปได้ รถหมวดวันชาติตามมาแต่ไม่ทัน ถูกรถตู้ขวางไว้
วันชาติเปิดกระจกลง ตะโกนบอกดีๆ “นี่…หลบหน่อยได้มั้ย”
ชายร่างใหญ่เดินลงมาจากรถ ท่าทางเอาเรื่อง
“ก็รถกำลังถอย…รอหน่อยสิ”
วันชาติบอกอีก “ก็ถอยเร็วๆ คนกำลังรีบ”
คราวนี้ชายร่างใหญ่โมโห ตวาดออกมา “จะรีบไปตายหรือไง มีปัญหาลงมาเคลียร์เลยมา”
หมวดวันชาติเดินลงมาในชุดครึ่งท่อน ชายร่างใหญ่เห็นว่าเป็นตำรวจ ก็ตาเหลือก ยิ้มแหยๆ
“สวัสดีครับหมวด ลงมาก็ดีแล้ว จะขอโทษได้ถนัดๆ หมวดรีบไปใช่มั้ย เดี๋ยวผมหลีกให้นะครับ”
ชายร่างใหญ่รีบเข้าไปถอยรถ หมวดวันชาติขึ้นรถและขับพ้นรถตู้ออกมา แต่ไม่เห็นยอดชายแล้ว
“รอดไปจนได้” วันชาติหงุดหงิด
สมหวังบ่นกระปอดกระแปดขณะเดินมาตามทางในห้าง
“แทนที่จะฝากให้เจ๊เนาว์ เจ๊จุ๊ซื้อเข้ามาเลยก็ไม่ได้ ต้องเสียเวลามาซื้ออีก”
“จะบ่นทำไม เลือกผลไม้แป๊ปเดียวเอง”
สมหวังหน้ามุ่ย! กลัวจะคลาดกับยอดชาย สายฟ้าเห็นแล้วหมั่นไส้ ระหว่างนั้นสายฟ้าเหลือบไปเห็นร้านไอติม คิดแผนบางอย่างเพื่อถ่วงเวลา
“ฉันอยากกินไอติม…กินไอติมกันก่อนนะ”
“เอ้า! ไหนบอกจะไปซื้อผลไม้ไง ไปซื้อผลไม้ก่อนเดี๋ยวเสียเวลา” สมหวังโวย
“กินไอติมก่อนแล้วค่อยไป”
สมหวังหน้างอ “ไม่กิน”
“กิน”
สายฟ้าไม่ฟังเสียง เดินนำหน้าสมหวังเข้าไปในร้านทันที
สายฟ้าหันมาถาม “กินรสไหน”
สมหวังบอกพนักงาน “เอาช็อกโกแลตถ้วยกลางสองสคูปค่ะ”
สายฟ้าเอาด้วย “เอาเหมือนกันครับ”
“ทำไมต้องตามชั้นด้วย”
“ใครบอกว่าชั้นตามเธอ ชั้นชอบกินช็อกโกแลตอยู่แล้ว” สายฟ้าเอาสีข้างแถ
ครู่ต่อมา ทั้งคู่นั่งกินไอติมกัน สายฟ้ามองสมหวังกินไอติมอย่างเอ็นดู
“อร่อยหรือเปล่า”
“อร่อยดี”
“บอกแล้วร้านนี้อร่อยสุด ไม่มาแล้วจะเสียใจ” สายฟ้าคุย
“เคยมาบ่อยเหรอ”
สายฟ้าอึกอัก เพราะที่จริงไม่เคยมาเลย แต่แถไปเรื่อย
“ร้านประจำ! กินมาหลายปีแล้ว”
จังหวะนั้น สมหวังเหลือยไปเห็นที่ป้ายหน้าเค้าน์เตอร์ มีข้อความเขียนไว้ โปรโมชั่นฉลองเปิดร้านใหม่
“จะมากินหลายปีไดยังไง ร้านเค้าเพิ่งเปิดใหม่”
สายฟ้าหน้าเหวอ ปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อ!!
สายฟ้าแถได้อีก “ชั้นหมายถึงสาขาอื่น เค้ามีหลายสาขา”
สายฟ้า เป่าปากฟู่โล่งอก จู่ๆ สมหวังนึกขึ้นมาได้
“นี่คุณ!! ป่านนี้คุณยอดชายมารอแล้ว! ไปกันเร็ว”
สายฟ้าเซ็งขึ้นมาทันที “ยังไม่มาหรอก”
สมหวังเถียง “มาแล้ว”
สมหวังดึงสายฟ้าไป สายฟ้ามองที่ถ้วยไอติม …แล้วคิดอะไรบางอย่างออก สายฟ้าแกล้งทำไอติมหกใส่เสื้อตัวเอง
แล้วโวยวาย “นี่เธอ…จะรีบไปไหน เห็นมั้ยหกเลอะหมดแล้ว”
สมหวังหน้าม่อย “โหย… แล้วทำไมไม่ถือดีๆ”
“แน๊! ยังมาโทษชั้นอีก ก็เธอกระชากชั้นขนาดนั้นใครจะตั้งตัวทัน”
“รีบๆ ไปล้าง มัวแต่บ่นอยู่ได้ เดี๋ยวคุณยอดชายมาพอดี” สมหวังหงุดหงิด
สายฟ้ากำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ สมหวังเรียกไว้ สายฟ้าหันกลับมาหา
“เดี๋ยวๆคุณ… ถ้าคุณยอดชายเค้าโทร.กลับมาบอกชั้นด้วยนะ เค้าคงโทร.กลับมาเบอร์คุณ โทรศัพท์ชั้นแบตหมดแล้ว”
สายฟ้าพยักหน้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
แดนอยู่ในห้องน้ำแล้ว ถกเสื้อดูแผลจากน้ำร้อนลวก เผยให้เห็นรอยแดงจากน้ำร้อนบนตัวเป็นวงกว้าง
แดนลองเอามือแตะๆ บริเวณรอยแดง
“โอ๊ยย แสบ!!! ….ไอ้บ้าเอ๊ย เสือกเอาน้ำร้อนมาอาบกูได้”
สายฟ้าเดินเข้ามาในห้องน้ำ กำลังเช็ดคราบไอติมออกจากเสื้อ พร้อมกับยิ้มย่องที่แกล้งถ่วงเวลาสมหวังสำเร็จ ระหว่างนั้น สายฟ้าก็ได้ยินเสียงใครบางคนร้อง
เป็นแดนนั่นเองที่ร้องโอดครวญ
“โอ๊ย…โอย…ซี๊ดดด…อ้า”
สายฟ้าเงี่ยหูฟัง ได้ยินเสียงแดนออกมาจากห้องส้วมก็ตกใจ
“คุณครับ!..เป็นอะไรหรือเปล่าครับ…มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า”
แดนตกใจ “เอ่อ..ไม่เป็นไร..ขอบใจมาก”
แดนเดินออกมาจากห้องส้วม แล้วมองไปทางสายฟ้ายืนอยู่ แต่ไม่เอะใจอะไร พอแดนล้างมือเสร็จแล้ว ก็รีบเดินออกไป
สายฟ้าเห็นแดนเดินออกไปแล้ว จึงเข้าไปชะโงกดูในห้องส้วมด้วยความสงสัย
“มันทำอะไรของมันวะ”
ส่วนสมหวังยืนรอสายฟ้าอยู่หน้าห้องน้ำอย่างกระวนกระวายอยากไปหายอดชายใจจะขาด
ทันใดนั้น แดนเดินออกมาจากห้องน้ำ! เป็นจังหวะที่สมหวังชะเง้อมองยอดชายไปทางร้านที่นัดไว้พอดี แดนจึงมองไม่เห็นสมหวัง ส่วนแดนเดินไปทางร้านอาหารร้านเดิม
สมหวังหันกลับมามองสายฟ้าว่าออกมาหรือยัง อาการกระวนกระวายใจยิ่ง และเริ่มหงุดหงิด จึงตัดสินใจเดินไปหายอดชายเอง ขณะเดียวกันสายฟ้าเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี
สายฟ้าเห็นสมหวังกำลังเดินไปที่ร้านอาหารที่นัดกับยอดชายไว้ สายฟ้าจึงรีบวิ่งตามไป
ตรงทางเดินใกล้ร้านอาหาร สายฟ้าเรียกสมหวังไว้ เสียงดังลั่น
“สมหวัง…สมหวัง…เดี๋ยว”
สมหวังหันกลับมามอง “อะไรของคุณ”
“ทำไมไม่รอชั้นก่อนล่ะ”
สมหวังหงุดหงิด “ขืนรอคุณ…คุณยอดชายกลับพอดี…เข้าไปเร็ว ป่านนี้คุณยอดชายรอแล้ว”
ทางด้านแดน กราดสายตามองหาตำรวจที่นั่งอยู่ตอนแรก เมื่อเห็นว่าตำรวจไม่อยู่แล้วทางสะดวก แดนจึงเดินหาสมหวังทั่วร้าน
สมหวังเร่งยิกๆ ระหว่างเดินมาจนใกล้ร้านอาหาร
“ไปเร็วคุณ”
สมหวังกำลังจะเดินเข้าไปในร้าน!!
จู่ๆ สายฟ้าร้อง “โอ๊ย” พร้อมกับล้มลงไปกับพื้น
สมหวังหันมาเห็นก็ตกใจ!!
“คุณ!! เป็นอะไร”
“สะดุดขาตัวเอง…” สายฟ้าเล่นละครโรงใหญ่ “โอ๊ย เจ็บ”
สมหวังเป็นห่วง รีบเข้าไปดู และช่วยพยุง
ครู่ต่อมา สมหวังทายาให้สายฟ้าอยู่ตรงบริเวณที่นั่งพักหน้าร้านขายยา ถามอย่างห่วงใย
“เจ็บหรือเปล่า”
“เจ็บสิถามได้….เบาๆ หน่อย”
“ทนหน่อย เจ็บนิดเดียวเอง ยามันจะได้ซึมเข้าไปเร็วๆ ไง”
สมหวังตั้งอกตั้งใจทายาให้ สายฟ้ามองสมหวังอย่างเอ็นดู และซึ้งใจ
สมหวังทายาให้สายฟ้าเสร็จเรียบร้อย
“เสร็จแล้ว…เดี๋ยวคุณนั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวชั้นไปดูคุณยอดชายก่อน” สมหวังทำท่าจะไป
“ชั้นไปด้วย”
“ไม่ต้องไปหรอก คุณเจ็บอยู่จะไปได้ยังไง…เดี๋ยวชั้นมานะรอตรงนี้แหละ”
สมหวังเดินออกไป สายฟ้าเผลอตัวลุกเดินตาม
“ไม่ต้องไปหรอก นายยอดชายไม่มาแล้ว กลับบ้านกันเถอะ!”
สมหวังเห็นสายฟ้าลุกขึ้นเดินเหินได้ตามปกติ ก็เอะใจ และรู้ทันทีว่าโดนหลอก สมหวังจ้องหน้าสายฟ้าเขม็ง สายฟ้ารู้ตัวว่าโดนจับได้ก็ทำตัวไม่ถูก พยายามหลบสายตา
“คุณโกหกชั้น! คุณไม่ได้เจ็บขา”
สายฟ้าอ้ำอึ้ง ยังแถต่อ “เอ่อ….ชั้นไม่ได้โกหกชั้นเจ็บจริงๆ นะ เนี่ยยังเจ็บอยู่เลย”
สมหวังโกรธมาก เดินสะบัดตัวออกไป
“เดี๋ยว …ชั้นเจ็บจริงๆ”
สายฟ้าแกล้งเจ็บ แล้วล้มลงไปกับพื้นอีกครั้ง แต่คราวนี้สมหวังไม่แยแส และเดินหนีไป
สายฟ้ารีบเดินตามไป
ยอดชายโทรศัพท์หาแดนซึ่งอยู่ที่ตึกร้างเซฟเฮ้าส์ แหล่งกบดานของมัน
“จัดการมันได้หรือเปล่า”
“เอ่อ…เกือบครับ”
ยอดชายเดือดดาล “พลาดอีกแล้วเหรอวะ….โธ่เว๊ย!! เหยื่อมาจ่ออยู่ที่ปากแล้วยังจัดการไม่ได้ ชั้นแนะนำให้แกเลิกเป็นมือปืนซะเถอะ!”
“ฟังผมพูดก่อน…ที่ผมจัดการมันไม่ได้เพราะมีตำรวจอยู่ในร้านด้วย ให้คุณแน่แค่ไหน คุณจะกล้าทำมั้ย?” แดนอธิบายพลางย้อนถาม
ยอดชายค่อยอารมณ์เย็นลง
“เออ…งั้นก็แล้วไป ต่อไปนี้คิดจะจัดการกับมันคงยากขึ้น ตำรวจมันตามมาจนจวนตัวเราอยู่แล้ว งานนี้จะหนักขึ้นเป็นทวีคูณ แกต้องมีสติและคิดแผนให้รอบครอบมากกว่านี้ เข้าใจมั้ย”
“ครับ” แดนรับคำ
ยอดชายกำชับ “ไว้ชั้นจะโทร.ไปบอกแกอีกที ว่าจะทำยังไงต่อไป”
ระหว่างทางเดินไปลานจอดรถ สายฟ้าถามขึ้น
“โกรธเหรอ”
สมหวังโกรธจริง บอกเสียงแข็งและห้วน “คุณก็รู้นี่ ว่าชั้นนัดคุณยอดชายไว้ ถ้าเกิดคุณยอดชายมาที่ร้านไม่เจอชั้นเค้าก็กลับ”
“เรื่องแค่นี้เอง โทร.กลับไปหาเค้าสิ”
สายฟ้ายื่นโทรศัพท์ให้ ถูกสมหวังด่า
“คุณก็คิดได้แค่นี้ มันคุ้มกันมั้ยกับการที่แกล้งชั้นไม่ให้เจอกับเค้า แล้วสุดท้ายก็ต้องโทรศัพท์คุยกัน อยู่บ้านชั้นก็โทร.ได้ ไม่ต้องเสียเวลามาเจอแบบนี้หรอก!... อุตส่าห์ชวนมาเป็นเพื่อน นึกว่าจะพึ่งได้ ที่ไหนได้ทำตัวเป็นเด็กๆ!”
สายฟ้าฉุนกึก “เธอว่าใคร”
“ที่ชั้นพูดมาขนาดนี้ยังไม่รู้อีกเหรอว่าชั้นว่าใคร”
“ใช่! ชั้นแกล้งเธอเองมีอะไรมั้ย ชั้นโกหกเธอทุกอย่าง ขาก็ไม่ได้เจ็บ ไอติมชั้นก็ไม่ได้อยากกิน แล้วที่ไอติมเลอะเสื้อชั้น ชั้นก็ตั้งใจให้มันเลอะเอง เพราะชั้นหมั่นไส้เธอ ชั้นตั้งใจเพื่อจะถ่วงเวลาเธอไม่ให้กับนายนั่นที่ เอะอะก็คิดถึงแต่นายนั่น!”
สายฟ้าใส่เป็นชุด สมหวังหยุดชะงัก น้ำตาคลอ รู้สึกโกรธมากบอกเสียงดัง
“คุณมันนิสัยไม่ดี คนขี้อิจฉา ถ้าคุณไม่เต็มใจช่วยชั้นแต่แรกทำไมไม่บอก รู้มั้ยชั้นเกลียดคนโกหกที่สุด รู้มั้ยที่ชั้นชอบคุณยอดชายเพราะอะไร เพราะเค้าเป็นดี เค้าไม่เคยโกหกชั้น”
“รู้ได้ไงว่าเค้าไม่โกหกเธอ เธออาจกำลังถูกเค้าหลอกอย่างมโหฬารอยู่ก็ได้” สายฟ้าเยาะ
“ไม่มีทาง คุณยอดชายเค้าไม่มีวันหลอกชั้น” สมหวังมั่นใจมาก
สายฟ้าสะท้อนใจ พยายามระงับอารมณ์
“ขึ้นรถ…ชั้นจะกลับ”
สายฟ้าเปิดประตูขึ้นไปนั่งรอสมหวังอยู่ในรถ หน้าบึ้ง อาการปั้นปึ่ง
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 10 (ต่อ)
เย็นย่ำจนค่ำคล้อย บาสกับกุหลาบ เดินสวนกันไปมาอย่างกระวนกระวายหัวแทบจะชนกัน สองคนผลัดกันถอนหายใจ เฮือกๆ ๆ สลับกับการชะเง้อมองไปที่หน้าบ้านรอสมหวัง
กุหลาบหมั่นไส้บาส หงุดหงิดขึ้นมา “นี่ จะเดินไปเดินมาอีกนานมั้ยชั้นเวียนหัว”
“ว่าแต่คนอื่น…เธอนั่นแหละเมื่อไหร่จะหยุดเดิน” บาสตอกกลับ
“ก็ชั้นเป็นห่วงสมหวังนี่”
“ชั้นก็เป็นห่วง”
“นายมีสิทธิ์อะไรมาห่วงน้องสมหวัง ชั้นเป็นห่วงได้คนเดียว”
“สิทธิ์ที่ชั้นรักน้องสมหวังไง” บาสบอกท่าทีขึงขัง
กุหลาบชะงัก อึ้ง!
“ทำไมเธอต้องห่วงน้องสมหวังออกนอกหน้าขนาดนี้ด้วย ถามจริงๆ คิดอะไรกับน้องสมหวังหรือเปล่าเนี่ย” บาสพาลพาโล
กุหลาบโมโห “ไอ้บ้า! ไม่ได้คิดโว้ยยย”
บาสยัวะอีก “ไม่ได้คิดแล้วทำไมต้องโมโหด้วย แสดงว่าคิด!”
กุหลาบยิ่งโมโหหนัก กำหมัดขวาชกไปที่บาส ทว่าบาสจับไว้ทัน กุหลาบปล่อยหมัดซ้ายเข้าไปที่บาสอีก บาสจับไว้ได้ทันอีก บาสยักคิ้วให้กวนใส่
พอบาสเผลอ กุหลาบหาจังหวะเตะผ่าหมาก! บาส ร้องอุบ! ทั้งเจ็บและจุกจนหน้าเขียว ตัวงอเป็นกุ้ง ลงไปกองที่พื้น
กุหลาบได้ทียักคิ้วเย้ยบ้าง
บาสทั้งเจ็บทั้งโกรธ “ยัยตัวแสบ…ฝากไว้ก่อน!”
กุหลาบเดินสะบัดตัวออกไป
เวลาเคลื่อนคล้อย ค่ำคืนนั้นงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้สมหวังเริ่มแล้ว บรรยากาศคึกคัก มีเวทีและตกแต่งด้วยธงสีต่างๆ อย่างสวยงาม บรรดาลูกวง เด็กคอนวอย แด๊นเซอร์ นักดนตรีนั่งอยู่เต็มไปหมด บ้างตักอาหาร บ้างเทเครื่องดื่ม อย่างมีความสุขสนุกสนาน
บนเวที เริ่มด้วยการแสดงอย่างฮา ของเจ๊จุ๊ เจ๊เนว์ ปอยฝ้าย และสำลี ทั้งสี่ผลัดกันร้องและเป็นหางเครื่องให้กัน เจ๊จุ๊จองเพลงเชพบ๊ะ เพลงหากิน ลูกวงที่กำลังนั่งกินกันอยู่ก็ลุกขึ้นมาเต้นด้วย บรรยากาศ รื่นเริงและสนุกสนาน
พอเพลงจบ ลำลีทำหน้าที่โฆษก
“เมื่อกี้แค่ออเดิร์ฟๆ ก่อนที่จะสนุกกันจริงจังมากกว่านี้ เราต้องเปิดงานกันก่อน”
ปอยฝ้ายเป็นลูกคู่ เล่นมุก “ขอเชิญพ่อชาชะนุ ชูชนะ วทัญญู”
ทุกคนปรบมือพร้อมเสียงเฮ ชูชนะเดินขึ้นไปบนเวที
“หวัดดีทุกคน วันนี้คงรู้กันแล้วว่าเป็นงานฉลองความสำเร็จของวงวทัญญูของเรา ที่ได้ประกาศศักดาให้คนทั้งประเทศได้เห็นอีกครั้ง ก็ด้วยลูกศิษย์สุดที่รักคนล่าสุดของข้า นังสมหวัง ของพวกเราทุกคน ปรบมือหน่อย”
ทุกคนปรบมือและมองหาสมหวังแต่ไม่เห็น ชูชนะไม่เห็นสมหวัง จึงหันกลับไปถามเจ๊เนาว์
“อีเนาว์ สมหวังกับสายฟ้ายังไม่กลับอีกเหรอวะ”
“ยังเลยพ่อ…แต่เดี๋ยวก็คงกลับแล้ว”
ชูชนะแปลกใจ “มันไปไหนของมันกันวะ” หันกลับไปพูดกับทุกคน “นังหวังไปซื้อของยังไม่กลับ เดี๋ยวค่อยแสดงความยินดีอีกทีแล้วกัน…งั้น ข้าขอเปิดงานอย่างเป็นทางการ ด้วยการร้องเพลงสักหนึ่งเพลง”
ทุกคนเฮ ปรบมือให้ชูชนะ
“ดนตรีมา”
เสียงเพลงท่วงทำนองสนุกสนานดังขึ้น ชูชนะร้องเพลง โดยมีปอยฝ้าย สำลี เจ๊จุ๊ และเจ๊เนาว์ เป็นหางเครื่องให้ ทุกคนลุกขึ้นมาเต้นตามอย่างสนุกสนานครื้นเครง
อีกมุมที่หน้าบ้านชูชนะ คนอื่นกำลังสนุกสนาน แต่บาส กะกุหลาบ ต่างหน้าเซ็งนั่งรอสมหวังกลับมา
“น้องสมหวังไม่รับโทรศัพท์เลยอ่ะ เป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้” บาสนอยด์สุดๆ
“นายอย่าพูดแบบนี้สิ ชั้นใจไม่ดี”
“เธอลองโทร.บ้างสิ เผื่อน้องสมหวังจะรับ”
“ไม่รับเหมือนกัน ชั้นโทร.จนสายจะไหม้อยู่แล้ว”
“เบอร์พี่สายฟ้าก็โทร.ไม่ติด…ไปไหนกันนะ” บาสบ่นต่อ
“นั่นน่ะสิ….ป่านนี้น่าจะกลับได้แล้วนะ….ขออย่าให้เป็นอะไรเลย”
ไม่นานนัก รถสายฟ้าแล่นเข้ามาจอด ครู่หนึ่งสายฟ้ากับสมหวังลงจากรถด้วยอาการบึ้งตึงปั้นปึ่งใส่กัน
กุหลาบยืนรออยู่ปรี่เข้าไปหาสมหวังอย่างร้อนใจ และเป็นห่วง
“สมหวังไปไหนมา…พี่เป็นห่วงแทบแย่…ทำไมไปไหนมาไหนไม่บอกพี่อีกแล้ว…”
สมหวังสวนคำออกมา ท่าทางหงุดหงิด “อย่าเพิ่งนะพี่กุหลาบ ชั้นอารมณ์ดี”
สายฟ้าที่เดินเคียงกันมาหันมอง สมหวังหันมองสบตาอย่างไม่ค่อยพอใจ แล้วต่างคนต่างเดินไปคนละทาง
ฟากบาสนั่งเซ็งอยู่คนเดียว เจ๊เนาว์ผ่านมาเห็นก็แปลกใจกับท่าทีหลานชาย
“บาส…มานั่งทำอะไรตรงนี้ ไม่ไปสนุกสนานด้วยกันล่ะ”
“เจ๊ไปก่อนเถอะเดี๋ยวชั้นตามไป”
“เป็นอะไรหรือเปล่า บอกเจ๊ได้นะ”
บาสโพล่งออกมา “ก็น้องสมหวังน่ะสิ ออกไปกับพี่สายฟ้าตั้งแต่เช้า ป่านนี้ยังไม่กลับเลย”
“หึงสมหวังเหรอ” เจ๊เนาว์ถาม
บาสพยักหน้า
“นี่…เจ๊จะบอกอะไรให้นะ ถ้าแกคิดจะจริงกับสมหวังอ่ะ ให้บอกเค้าไปตรง ทำเป็นเล่นๆ หมาหยอกไก่ไปวันๆ สมหวังเค้าอาจคิดว่าเอ็งเล่นๆ กับเค้าก็ได้”
“เจ๊จะให้ผมไปบอกรักสมหวังเหรอ”
เจ๊เนาว์พยักหน้า “ก็ต้องลองเสี่ยงดู ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้”
บาสคิดตาม
ที่โต๊ะอาหารระหว่างนั้น สำลีหันไปเห็นสายฟ้าก่อนใคร ร้องเรียกขึ้น
“พี่สายฟ้ามาแล้ว
ปอยฝ้ายเรียก “พี่สายฟ้า…มานั่งด้วยกันเร็ว”
สายฟ้าหน้ามุ่ยเดินมา
“อ้าว…สายฟ้า…แล้วสมหวังล่ะ” ชูชนะร้องถาม
สายฟ้าไม่สนใจใครเดินเข้าบ้านไป ทุกคนอ้าปากหวอ งงๆ เหวอๆ ถ้วนหน้า
“ต้องงอนกันมาแหงๆ” เจ๊จุ๊แสดงทัศนะ
“ใครงอนใครวะ” ชูชนไม่รู้เรื่องรู้ราว
“ก็สายฟ้ากับสมหวังไง” แม่ครัวเชฟบ๊ะบอก
“เอ็งก็พูดไป จะงอนกันเรื่องอะไร” ชูชนะเอ็ดเอา
“หึงหวงละมั้ง” เจ๊จุ๊เม้าธ์มอยไม่เลิก
ชูชนะงงหนัก “หึง”
เจ๊จุ๊ทำเป็นกระซิบกระซาบ “พ่อไม่รู้เหรอ สายฟ้ากับสมหวังเค้ากุ๊กกิ๊กกันอยู่”
ชูชนะไม่เชื่อ “นังนี่เอามาจากไหน ข้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“พ่อจะไปเอาอะไรกับเจ๊จุ๊ นิสัยก็รู้ๆ กันอยู่” เจ๊เนาว์ฟังอยู่นาน ทนไม่ไหว พูดแขวะ
เจ๊จุ๊ปรี๊ด “นิสัยชั้นมันเป็นยังไง พูดให้ดีๆ นะ ไม่งั้นแม่เอางวงฟาดจริงๆ”
ปอยฝ้ายผสมโรง “นิสัยมั่วได้โล่ไง”
เวลานั้นตรงมุมข้างบ้าน สมหวังคุยกับกุหลาบอยู่ตรงนั้น ท่าทีกุหลาบซีเรียส
“สมหวังที่หลังไม่เอานะ ไปไหนต้องให้พี่ไปด้วย” น้ำเสียงกุหลาบไม่พอใจนิดๆ
“ก็พี่กุหลาบไม่อยู่”
“พี่ไม่อยู่ก็ต้องรอ” จ่าจอมเปิ่นบอกเสียงดุ
สมหวังหน้างอ “ชั้นไม่ใช่นักโทษนะ จะต้องได้คุมกันตลอดเวลา”
“ก็ไม่ใช่นักโทษนะสิ สมหวังเป็นพยานมันอันตราย”
บาสเดินเข้ามา และได้ยินพอดี
“พยานอะไรกัน!”
กุหลาบกะสมหวังเลิ่กลั่กตกใจมาก
“พยานอะไร…ไม่มี…นายไม่ยุ่งสักเรื่องจะได้มั้ย มันเป็นเรื่องของผู้หญิงเค้าคุยกันเข้าใจมั้ย”
บาสไม่ได้สนใจกุหลาบ หันไปคุยกับสมหวัง
“น้องสมหวังกลับมานานแล้วเหรอจ๊ะ”
“เพิ่งมาถึงจ้ะ”
“รู้มั้ยพี่เป็นห่วงน้องสมหวังขนาดไหน”
กุหลาบยืนฟังอยู่ หมั่นไส้ เบ้ปากใส่บาส
“น้องสมหวังหิวมั้ยจ๊ะ…ไปหาอะไรกินกับพี่ตรงโน้นดีกว่า”
สมหวังยอมไปกับบาส กุหลาบเดินตามไปด้วย
ปอยฝ้าย กับสำลี ยึดไมค์ร้องเพลงให้ความบันเทิงอยู่บนเวที ชูชนะ เจ๊จุ๊ และเจ๊เนาว์ นั่งคุยกันอย่างเฮฮา อารมณ์ดี บาส สมหวัง และกุหลาบเดินเข้ามาสมทบ
เจ๊เนาว์หันไปเห็นร้องเรียกขึ้นมาทันที “สมหวัง…มานั่งก่อนเร็ว หายไปทั้งวัน กินอะไรมายัง”
“ยังจ้ะ…รอกลับมากินที่นี่แหละ” สมหวังว่า
บาสเอ่ยขึ้น “น้องสมหวังนั่งอยู่ที่นี่แหละ เดี๋ยวพี่ไปตักอาหารมาให้”
“ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวชั้นไปตักเอง” สมหวังเกรงใจ
“พี่ไปตักให้ นั่งอยู่นี่แหละ” บาสไม่ยอม
สมหวังนั่งลง กุหลาบนั่งตามสมหวังเก้าอี้ติดๆกัน บาสหันขวับไปที่กุหลาบ
“ชั้นให้น้องสมหวังนั่งคนเดียว เธอไปตักกับชั้น”
กุหลาบอารมณ์เสีย ลุกเดินตามบาสออกไป
เจ๊จุ๊เขยิบมาหาสมหวัง
“นี่…สมหวัง ทะเลาะอะไรกันกับสายฟ้าหรือเปล่า?”
“นังจุ๊ แกนี่สาระแนตลอดเลยนะเรื่องชาวบ้านเนี่ย” เจ๊เนาว์ด่าเจ๊จุ๊ ก่อนจะหันมาทางสมหวัง “เออ…แล้ว สรุปงอนกันเรื่องอะไร”
เจ๊จุ๊หมั่นไส้ แขวะทันควัน “แหมๆๆ อีถึกว่าแต่คนอื่น…แกนี่แหละตัวดี”
“พอกันทั้งสองคนนั่นแหละ…มันไม่ได้ทะเลากันก็ไปยัดเยียดให้ทะเลาะกันเอ๊อ...นังพวกนี้!” ชูชนะด่าเสร็จก็หันไปถามย้ำเอากับสมหวัง “ว่าแต่ไม่ได้ทะเลาะกันแน่นะ”
“แน๊...พ่อ” เจ๊จุ๊กะเจ๊เนาว์ร้องประสานเสียง
สมหวังยังไม่ทันตอบ สายฟ้าเดินเข้ามาพอดี พอสายฟ้าเห็นสมหวังนั่งอยู่ ก็เดินเลี่ยงไปอีกฝั่ง บรรยากาศมาคุ ในสถานการณ์อึมครึม
สมหวังหน้าคว่ำไม่สนใจสายฟ้า
เจ๊จุ๊จับอาการก็รีบกระซิบบอกเจ๊เนาว์ “ชั้นว่าชัวร์ ทะเลาะกันแหงๆ”
กุหลาบกับบาสเดินเอาอาหารเข้ามา
“อาหารมาแล้ว…มีแต่ของชอบน้องสมหวัง”
สมหวังยิ้มขอบคุณ “ขอบใจจ้ะ”
บาสตักอาหารให้เอาใจสมหวัง
“อันนี้อร่อยมากเลย น้องสมหวังลองชิมสิจ๊ะ”
“ขอบใจจ้ะ”
สายฟ้าจ้องมองสมหวังตาเขม็ง ฝ่ายกุหลาบก็มองบาสอย่างเศร้าใจ
ระหว่างนั้น เสียงโทรศัพท์สมหวังซึ่งเพิ่งเปลี่ยนแบตใหม่ดังขึ้น
“เดี๋ยวชั้นมานะ”
สมหวังขอตัวแล้วเดินออกไปอีกมุมเพื่อรับโทรศัพท์จากยอดชาย!!!
โปรดติดตามเอาใจช่วย "สมหวัง" ตอนต่อไป