มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 9
อีกด้าน บริเวณสวนรกร้าง อีการ้องดังขึ้น ตามด้วยตุ๊กแก ร้องประสานกันไปมา กิ่งไม้แห้งแกรกกราก ใบไม้แห้งปลิว ดาราหวาดๆ
“ฉันว่าทำเลมันแปลกๆ บรรยากาศก็วาบๆ หวิวๆ ชอบกล”
คุณนายสร้อยเพชรกลัวดาราจะรู้ตัวก่อนรีบบอกทันที
“แปลกอะไร บรรยากาศเงียบสงบแบบนี้หายากมากๆ ในกรุงเทพแทบจะไม่มีแล้วนะ”
ทันใดนั้นหมาหอนดังขึ้น ประเวทขนลุก
“เย้ย!...ไม่มี หรือไม่มีใครเอากันแน่ กลางวันแสกๆ หมายังหอนได้”
ดารากวาดตามองอย่างหวาดๆ
“นั่นสิ มันพิลึกๆ ชอบกล”
คุณนายสร้อยเพชร รีบขัด
“พิลึกอะไรกัน ถ้าคิดมากก็นิมนต์พระมาสวดก่อนเข้าอยู่ แค่นี้ก็หลับสบาย มันมารบกวนไม่ได้หรอก”
ดารากับ ประเวทหน้าเหวอ
“อ้าว…”
ดาราสงสัย
“แล้วไอ้มันที่ว่านี่คืออะไรกันล่ะคุณนาย”
“มันก็คือผ...” คุณนายสร้อยเพชรจะพูดว่าผีแต่กลับตัวทัน “ย…ยุงย่ะสิ ไม่ใช่ยุงแล้วจะอะไรล่ะ”
ประเวทพึมพำเบาๆ
“ยุงบ้านไหนว่ะต้องนิมนต์พระมาสวดไล่”
คุณนายสร้อยเพชรรีบตัดบท
“เอ้า...ตกลงทำสัญญากันพรุ่งนี้เลยดีไหมจ้ะนายดวง ซื้อเงินสดไปเลย หมดปัญญาเรื่องดอกเบี้ย โอเคนะ”
ดาราขัดขึ้นทันที
“ยังๆๆๆ ยังไม่ซื้อ”
“อ้าว...ทำไมล่ะ อยากได้ของแถมเหรอ ได้ๆๆ เดี๋ยวแถมพัดลมให้ตัวหนึ่งแล้วกัน”
ประเวทเซ็งเลย
“โอ้โห ซื้อบ้านเป็นหลังๆ แถมพัดลม อย่าเลยครับคุณนาย เดี๋ยวพวกเราจะหนาวเกิน”
ดาราตัดสินใจ
“ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ยังไงก็ยังไม่ซื้อ”
คุณนายสร้อยเพชรข่มอารมณ์สุดๆ
“จะรออะไรอีกล่ะจ้ะ”
“จะซื้อบ้านทั้งทีมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ของอย่างนี้มันต้องลอง”
คุณนายสร้อยเพชรแปลกใจสงสัย
“ลองอะไร”
“ลองอยู่ก่อน ถ้าอยู่แล้วชอบ ถึงจะซื้อ!”
ดาราบอกทันที!
ชาวตลาดจับกลุ่มเม้ากันอยู่ บรรยากาศตึงเครียด พิศวง นักเลงเข้ามาสังเกตการณ์ด้วยการเลือกผักที่แผงเจ๊แต๋ว
“มันแปลกๆ จริงๆ นะ เชื่อฉันสิ” เจ๊แต๋วพูดขึ้นอย่างสงสัย
“ทำไม...อิจฉาเขาเหรอ อยากเล่นเป็นแม่ แต่แม่ตัวจริงดันโผล่มาก่อน อดเล่นเลย” อั้มชี้อาซ้ง “นี่ก็อดเล่นเป็นพ่อ”
เจ๊แต๋วหน้าตาไม่ไว้ใจ
“มันไม่ใช่อย่างนั้น แต่ในฐานะแม่คน ฉันมีความรู้สึกว่าพ่อแม่ไอ้ดวงมันไม่น่าไว้ใจ แววตาหลุกหลิกพิลึก”
“จะต้องสงสัยอะไรอีกละเจ๊ คนที่ทิ้งลูกอุแว้ๆ ได้ลงคอ จะเป็นคนดีได้ยังไงกันล่ะ” ลั้นลาพูดลอยๆ
แหววที่ฟังอยู่แย้งขึ้น
“ก็เขาบอกว่าเพื่อความปลอดภัยของไอ้ดวงมันนะ คิดมากกันไปรึเปล่า”
เจ๊แต๋วยังสงสัยไม่หา
“อันนั้นน่ะฟังขึ้น แล้วหลังจากนั้นล่ะ ทำไมไม่เคยมาเหลียวแล”
ซันตัดบท
“เจ๊...ฉันว่าแทนที่เจ๊จะมานั่งสงสัยอะไรพวกนี้ เจ๊ควรจะไปดีใจกับไอ้ดวงที่มันเจอพ่อแม่ดีกว่านะ”
อาซ้งเห็นด้วยกับซัน
“นั่นสิ...ลื้อนี่มันขี้สงสัยหรือขี้อิจฉากันแน่วะอาแต๋ว เว้อ...ขายของเว้ย ขายของๆ อย่าไปสนใจคนขี้อิจฉา”
อั้มหันมาขู่เจ๊แต๋ว
“ถ้ามาหาเรื่องพ่อผัวแม่ผัวอั้มอีกล่ะก็...มีเรื่อง!”
ลั้นลาค้อน
“ข้ามศพกะเทยไปก่อนเถอะนังอั้ม!”
วงแตกกันไป…เจ๊แต๋วอารมณ์เสีย
“เออๆๆ หาว่าฉันคิดมาก ถ้าคิดถูกขึ้นมา พวกแกต้องมาขอบคุณฉัน”
นักเลงที่เข้ามาสังเกตการณ์ยังเลือกผักอยู่ เจ๊แต๋วตวาดแว้ด
“แล้วนี่ยังไง เลือกอยู่นานแล้วนะ ตกลงจะซื้อไหมวะ!”
นักเลงตกใจ
“ซื้อๆ ซื้อจ้ะ”
นักเลงหิ้วถุงผักออกมาหน้าตาเซ็งจัด
“เวร...ต้องซื้อผักซะงั้น ฮึ่ย เสียลุคหมดเลยกู”
ดวงขับซาเล้งมาพอดี นักเลงตกใจรีบหลบเข้ามุม
“เฮ้ย”
ดวงจอดรถขนแผงไข่ ลงจากรถ ขนของจะเข้าไปข้างใน นักเลงเข้ามาขวางไว้ ดวงตกใจ
“ครับพี่”
“มึงชื่อไอ้ดวงใช่ไหม”
“ครับ”
“ได้ข่าวว่าช่วงนี้ มึงดวงดีเหรอ”
“เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“อย่ามาโกหก กูรู้นะว่ามึงถูกหวยเบอร์ใหญ่...กูเลยจะมาแสดงความยินดี”
นักเลงพูดจบก็ต่อยดวงอย่างแรงจนล้มไป แล้วตามไปเหยียบไว้
“จำไว้นะ ต่อให้มึงมีเงินแค่ไหนก็อย่ามายุ่งกับผู้หญิงของนายกู ไม่งั้น มึงดวงตกแน่”
นักเลงกระทืบซ้ำแล้วขว้างถุงผักใส่
“กูให้ กูไม่กินผัก!”
นักเลงเดินอาดๆออกไป ดวงพยายามลุกด้วยสีหน้างุนงงผสมเจ็บ
“นี่มันอะไรกันวะ ผู้หญิง...ผู้หญิงที่ไหนกัน...”
ที่คลาสเรียนโยคะ...สายมุกเล่าเรื่องดวงให้หนูดีฟังอย่างเครียดๆ
“ฉันก็ดีใจกับเขาที่ได้เจอพ่อแม่ แต่ก็อดห่วงไม่ได้”
“หวยก็ถูกแล้ว เงินก็มีแล้ว พ่อแม่ก็เจอแล้ว มีอะไรต้องห่วงอีกล่ะ”
“ก็เรื่องเงินนั่นแหละ นายดวงเขาตั้งใจว่าจะไม่ใช่เงินก้อนนั้น แต่ไม่รู้ว่าพ่อแม่เขาจะเอาด้วยรึเปล่าน่ะสิ”
หนูดีถอนใจ
“เฮ้อ...งั้นก็ต้องเลือกระหว่างคำสัญญา...กับ...พ่อแม่”
หนูดีเหลือบตาไป เห็นโอมเข้ามา
“แก...พี่โอมมา”
“ฮะ! จริงเหรอ...ทำไงดี ฉันไม่อยากเจอเขา”
“ทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ ไม่ทันแล้ว”
โอมเข้ามาถึง
“น้องมุกครับ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”
หนูดีรีบบอก
“งั้น...ฉันไปเรียนก่อนนะ ครูเรียกแล้ว”
หนูดีรีบผละออกไป…สายมุกมองหน้าโอมแล้วถอนหายใจเฮือก...
“ทำไมน้องมุกต้องทำแบบนี้ด้วยครับ” โอมถามทันที
“นี่พี่โอมพูดเรื่องอะไร มุกทำอะไรคะ”
“ก็ใส่เหล้าในอาหารที่ทำให้พี่ทานไงล่ะครับ”
สายมุกยิ้มเยาะ
“หึ...แล้วไม่ดีเหรอคะ น่าจะถูกใจ พี่โอมชอบอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“พี่ไม่รู้ว่าน้องมุกไปเอาข้อมูลพวกนี้มาจากไหน แล้วทำไมต้องทำกับพี่แบบนี้ อยากให้พี่เมา อยากให้พี่ดูไม่ดีต่อหน้าคุณป้างั้นเหรอครับ”
“อยากให้เห็นกันชัดๆ มากกว่าค่ะว่าเป็นคนยังไง คุณแม่จะได้ไม่เข้าใจอะไรผิดๆ มุกขอตัวก่อนนะคะ”
สายมุกจะเดินออกไปแต่โอมจับมือไว้
“รังเกียจพี่งั้นเหรอ”
สายมุกสะบัดมือออก ตัดสินใจเผชิญหน้ากับเขา
“มุกว่าเราสองคน ต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะคะ กลับไปเถอะค่ะ มุกไม่มีเวลาทะเลาะด้วย”
โอมโมโห
“แต่มีเวลาไปกับไอ้กุ๊ยนั่น!”
สายมุกหันกลับมา
“พี่โอมเรียกใครว่าไอ้กุ๊ยเหรอคะ”
“ก็รู้อยู่แล้ว ยังต้องถามอีกเหรอครับ หึ...ก็แค่ยาจกถูกหวย ลดตัวไปยุ่งกับมันทำไม”
สายมุกไม่พอใจมาก
“เลิกดูถูกคนอื่นซะทีได้ไหมคะ”
“ทำไมจะดูถูกไม่ได้ ชอบเหรอครับ” โอมเน้น “ของต่ำๆ”
สายมุกตบหน้าฉาด! โอมตะลึงงัน
ในร้านเสริมสวย เจ๊เฉียด...ดารายีผมฟู สเปร์แข็งทรงคุณหญิง ประเวทมองๆ
“นี่มันผมคน หรือว่า ขนหมากันแน่เนี่ยถึงได้ฟูฟ่องแบบนี้”
“นี่มันทรงคนรวย เศรษฐีเขาก็ต้องทำทรงนี้กันทั้งนั้นแหละ” ดารากระซิบ “อย่าลืมสิว่าตอนนี้เราเป็นพ่อแม่เศรษฐีแล้ว ช่วยทำตัวให้มันสมฐานะหน่อย” ดาราหันไปบอกเจ๊เฉียด “เอาอีก ฟูได้อีก”
“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวเจ๊จัดให้ค่ะ ว่าแต่คุณพ่อน้องดวงไม่ทำเหรอคะ”
ประเวทยิ้มแหยๆ
“เอ่อ...ไม่ล่ะ”
“เจ๊เฉียดยินดีบริการค่ะ ช่วงโปรโมชั่นแถมหนึ่งค่ะสำหรับครอบครัวน้องดวงโดยเฉพาะ”
ดาราหันมากระซิบประเวท
“แกก็ทำๆไปเถอะน่า จะได้ดูมีสกุลสมกับลูกหน่อย”
“แกมีเงินเหรอ”
ประเวทเผลอพูดดังไป เจ๊เฉียดสะดุ้ง ดารารีบกลบเกลื่อน
“เอ่อ...เรื่องเงินน่ะไม่จำเป็นหรอก เดี๋ยวลูกชายเราก็มาจัดการให้เองแหละ”
เจ๊เฉียดยิ้มพอใจ
“มีลูกชายดีก็แบบนี้แหล่ะค่ะ...ไม่ต้องพกตังค์ไปก็ได้ เครดิตลูกชายดีซะอย่าง จริงมั๊ยคะ”
ดารายิ้มรับกับเจ๊เฉียด ประเวทงงๆ
“เครดิต...เครดิตอะไรวะ”
ดารายิ้มร้ายชอบใจ มีแผนในหัว
ยามเย็น...แม่ค้าพ่อค้ากำลังเก็บข้าวของ ปิดไฟ ดวงเก็บขยะอยู่ด้านหนึ่ง ซันเข้ามาหา
“ไอ้ดวง” ซันยื่นเงินให้ “เตี่ยฝากมาให้ ค่าจิกหัวใช้”
ดวงไม่รับ
“เฮ้อ...บอกว่าไม่เอาทุกเดือน แต่ก็ยังให้ทุกเดือน”
“ให้ฉันเก็บให้เหมือนเดิมใช่ไหม”
“เออ...เก็บไปเหอะ เตี่ยแกเลี้ยงฉันมาตั้งแต่เด็ก ช่วยงานแค่นี้ ยังน้อยไปด้วยซ้ำ”
“ได้เลย เดี๋ยวเพื่อนรักจะเก็บให้ อยากใช้วันไหนมาเบิกได้นะ แต่ต้องบอกล่วงหน้าหน่อย เดี๋ยวหามาคืนไม่ทัน เฮะๆๆ”
ดารากับประเวทเข้ามาหน้าตารื่นเริงมาก สวมเสื้อผ้าชุดใหม่ ในมือถือถุงมาอีกเพียบ
“ดวงลูกรัก แม่โอไหมลูก...โอป่ะ”
ดวงกับซันงงๆ ประเวทยิ้มกว้าง
“เฮะๆ ดูดีขึ้นมาเลยใช่ไหมล่ะ”
ดวงยังงงๆ
“ก็...ก็ดีครับ”
ซันหันไปถามสองผัวเมีย
“ไปชอปปิ้งกันมาเหรอครับ แหม เมื่อเช้ายังดูชนชั้นล่างอยู่เลย พอตกเย็นกลายเป็นไฮโซไปซะแล้ว ไปชอปที่ไหนกันมาครับเนี่ย”
ดารายิ้มแย้ม
“ก็แถวนี้ แก้ขัดไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปห้างหรูๆ”
ประเวทหันมาบอกดวง
“ดวงลูกรัก อย่าลืมไปรูดการ์ดจ่ายเงินให้พ่อแม่ด้วยนะลูก”
ดวงอึ้งยิ่งงงหนัก
“หือ...รูดการ์ดอะไรครับ ผมไม่มีนะครับ”
ดารายิ้มระรื่น
“แม่ล้อเล่น แม่รู้ว่าคนมีเงินอย่างลูก ไม่จำเป็นต้องใช้หรอกบัตรเครดิตมีเงินสดซะอย่าง อยากได้อะไรก็ควักๆๆ ฟาดๆๆๆ จ่ายสดไปเลย ร้านค้าแถวนี้เขาถึงยอมให้แม่เอาของมาก่อนไง ดวงค่อยตามไปจ่ายทีหลังได้ เขาไม่ถือ”
ดวงชะงักกึก
“เดี๋ยวๆๆ นี่หมายความว่าคุณ เอ้ย...พ่อกับแม่ ยังไม่ได้จ่ายเงินค่าของพวกนี้ แต่จะให้ผมไปจ่ายให้เหรอครับ”
ประเวทกับดาราพูดพร้อมกัน
“อ้ะถูก!”
ซันมองดวงอย่างเห็นใจ
“ซวยแล้วไอ้ดวงเอ้ย…”
ดวงทำอะไรไม่ถูก หันมาหาซันหน้าเหวอๆ
“ไอ้ซัน...ไอ้ซันช่วยด้วย”
“ช่วยแน่...ไม่ต้องกลัว”
ซันบอกเซ็งๆ
ดวงจ่ายเงินให้แม่ค้าที่ดาราไปติดหนี้ไว้...
“สามร้อยใช่ไหมครับ...นี่ครับ”
ซันช่วยต่อรอง
“ไม่ลดหน่อยเหรอเจ๊”
“โอ๊ย...รวยขนาดนี้แล้ว ยังจะมาขอส่วนลดอีกเหรอแค่นี้เบาๆ เอาอยู่”
ดวงยิ้มแหยๆ เดินออกไป
“เสื้อคุณแม่ร้านนี้ รองเท้าคุณพ่อร้านโน้น ไปเร็วดวงลูกรัก”
ซันดึงดวงที่มึนๆ ออกไป
ดวงไล่ตามจ่ายเงิน ทั้งร้านรองเท้า...ร้านเสื้อผ้า...ร้านกระเป๋า ดวงจ่ายเงินหน้าเครียดๆเหงื่อแตก ก่อนจะเดินมานั่งพักที่หน้าร้านของเจ๊เฉียด
“เฮ้ย...ไอ้ดวง...ไหวเปล่า...”
ดวงพยักหน้าแบบอ่อนเพลียสุดๆ ซันลงนั่งพักข้างๆ
“ฉันว่าเราน่าจะตามจ่ายเงินจนครบแล้วนะ”
ทันใดนั้นมือเจ๊เฉียดแบมาตรงหน้าดวง ซันและดวงมองตามมือเห็นเจ๊เฉียดก็สะดุ้ง
“ค่าเสริมความงามของคุณแม่ และคุณพ่อของคุณน้องดวงค่ะ”
ดวงหน้าเหวอ ซันอึ้งไปเลยหันมองหน้าดวง
“มีเสริมสวยด้วยอ่ะ...”
“นี่จ้ะ” เจ๊เฉียดยื่นรายการให้ดู “รายการที่ทำทั้งหมด”
ดวงรับมาดู กลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่
“ซัน...จัดการให้ที...”
ดวงยื่นรายการส่งให้ซัน แล้วดวงก็เดินเซออกไป ซันอ่านรายการที่ทำทั้งหมดยาวเหยียด ควักเงินในกระเป๋าออกมานับหมดเนื้อหมดตัวแม้กระทั่งเหรียญบาท มองหน้าเจ๊เฉียดกอบเงินทั้งหมดให้
“จัดเต็มเลยนะเจ๊...คราวหลังทำพอเป็นพิธีก็ได้...นี่กะตั้งตัวเลยนี่หน่า”
ซันเชิ่ดใส่ เจ๊เฉียดรีบนับเงิน ซันตะโกนเรียกเพื่อน
“ไอ้ดวง...รอด้วย”
ในร้านกาแฟลั้นลา...ดวงดูดชาดำเย็นทีเดียวหมดแก้ว ลั้นลาดี๊ด๊าเข้ามา
“สุดยอดให้ไหมอ่ะพี่ดวง ฝีมือลั้นลาสุดยอดใช่ไหมอ้ะ อยากได้ไปชงให้ที่บ้านไหมจ้ะ”
ซันขัดขึ้น
“อ๋อ...มันไม่มีบ้าน”
“อุ้ย...รวยแล้ว เดี๋ยวก็มีเองล่ะน่า ลั้นลาจะไปช่วยเลือก ในฐานะว่าที่คุณแม่บ้าน”
“อ๋อ...มันไม่จ้างคนใช้”
“ฮึ่ย!” ลั้นลาจ้องหน้าอาซันด้วยความแค้น “ขอมีความสุขบ้างไม่ได้รึไงวะ ขัดกูจริง!”
ลั้นลาฟึดฟัดออกไป ดวงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ซันปลอบ
“ใจเย็นๆ ไอ้ดวง จะเครียดทำไมวะ เงินแกก็มีจ่าย ฝากฉันไว้ไม่ใช่น้อยนะเว้ย”
“เงินนั้นฉันไม่ได้ฝากแก แต่ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันไม่มีวันยอมรับเงินค่าจ้างจากเตี่ยแกเป็นอันขาด ก็เลยหาทางคืนให้แก หลอกว่าฝากไปงั้นแหละ”
“ทำยังกะฉันเชื่อ ฉันรู้ว่าแกไม่ยอมรับ แต่ฉันก็เก็บไว้ให้แกน่ะแหละ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินต้องใช้ อย่างวันนี้เป็นต้น”
ดวงหนักใจ
“เฮ้อ...ฉันจะหาเงินมาคืนแล้วกัน”
“เอ๊ะ...ไอ้ดวง ก็บอกแล้วว่ามันเงินแกๆๆ พูดไม่รู้เรื่องเดี๋ยวมีชก”
ซันดูดชาเย็น เห็นดวงท่าทางทุกข์มาก
“ทำไมทำหน้าเครียดงั้นวะ ได้เจอพ่อแม่ทั้งที ต้องมีความสุขสิ แกจะทุกข์ไปทำไม”
“ฉันคงยังไม่ชินน่ะ อยู่ๆ ก็มีพ่อมีแม่เหมือนคนอื่นเขา ทำตัวไม่ถูกว่ะ”
ซันพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“หึ...ที่ตัวไม่ถูกน่ะ ไม่ใช่แกหรอก”
ซันเริ่มกังวล กับปัญหาที่จะตามมาอีก
คืนนั้น ประเวทกับดารามาหยุดอยู่หน้าบ้านร้างของคุณนายสร้อยเพชร บรรยากาศหลอนมาก หมาหอน ตุ๊กแกร้อง ประเวทยิ้มปลื้ม
“ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ เมื่อวานยังนอนในเข่ง วันนี้มีบ้านอยู่แล้ว”
“มันเป็นเพราะเราสำนึกผิดแล้ว สวรรค์เลยตอบแทนเรา รู้งี้มาหาลูกตั้งนานแล้ว ไม่น่าลืมเลย”
“เอาเถอะน่า ยังไงก็เจอกันแล้ว ต่อไปชีวิตครอบครัวเรามีแต่ความสุข สนุก สำราญแน่ๆ”
“แล้วถ้าเกิดไอ้พวกเจ้าหนี้มันรู้ว่าลูกเรามีเงินล่ะ มันจะตามมาเอาเงินคืนรึเปล่า”
“โอ๋ย เงินแค่ไม่กี่แสน ลูกเรามีปัญญาใช้แทนเราอยู่แล้ว จะไปกลัวอะไร”
“เออ...ก็จริงเนอะ ชีวิตปลอดภัยและได้ดีแล้ว มีความสุขอ้ะรีบเข้าไปเหอะ ไปฉลองบ้านใหม่กัน”
ดาราชูขวดเหล้าที่ใส่ไว้ในถุง ประเวทยิ้มมีความสุข
“สุขสันต์คืนวันต้อนรับบ้านใหม่”
ประเวทกับดาราวิ่งเฮกันเข้าไป เสียงหมาหอนดังขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศหลอน
มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 9 (ต่อ)
ค่ำนั้น...คุณนายสร้อยเพชรนั่งยิ้มกริ่มดูรายการที่จะให้ดวงซื้อ ใช้สีแดงขีดฆ่า แสนสุขวิลล่า ท่าทางมีความสุขสมหวังมาก
“เสร็จแน่ๆ หน้าตาโง่ๆ แบบนั้น ยังไงก็ต้องเสร็จฉัน”
คุณนายสร้อยเพชรยิ้มฝันๆ สายมุกมาดึงรายการที่มือแม่ออกมา
“อะไรกันยายมุก”
“มุกจะไม่ยอมให้คุณแม่ทำอะไรผิดๆหรอกค่ะ”
“ฉันเนี่ยนะทำผิด ผิดตรงไหนไม่ทราบ ฉันอุตส่าห์หาทางช่วยให้ไอ้ดวงมันเป็นลูกที่ดี ไม่เนรคุณพ่อแม่ เลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่เฒ่า”
“ด้วยการซื้อบ้านผีสิงให้พ่อแม่อยู่งั้นเหรอคะ”
“ฮึ่ย...ผงผี อะไร ก็ว่ากันไป เคยเห็นกับตารึไงยะ”
“ถึงมุกจะไม่เคยเห็นกับตา แต่ใครๆ เขาก็พูดกันทั้งนั้น ไม่อย่างนั้น คุณแม่จะซื้อบ้านนั้นมาได้ในราคาไม่ถึงแสนได้ยังไงกันคะ”
“พอๆๆ หยุดพูดเรื่องเหลวไหลได้แล้ว แล้วก็ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกนายดวงด้วย ฉันเป็นผู้จัดการการเงินของนายดวง ไม่ใช่แก”
สายมุกไม่พอใจ คุณนายสร้อยเพชรนึกได้
“อ้อ...ไม่ใช่แค่บ้านสิ ยังมีคอนโด รถยนต์ อะไรอีกตั้งเยอะที่นายดวงต้องตอบแทนพ่อแม่”
สายมุกไม่พอใจ
“หยุดเถอะค่ะคุณแม่ นี่ไม่ได้เรียกว่าตอบแทนหรอกค่ะ แต่มันคือการเอาเปรียบ หาประโยชน์จากคนอื่น”
คุณนายสร้อยเพชรหันขวับมามองหน้าลูกสาว
“นี่แกหาว่าฉันเลวเหรอ”
“มุกไม่ได้ว่าคุณแม่นะคะ มุกแค่ไม่อยากให้คุณแม่ทำอะไรผิดๆ กับคนที่ซื่อๆอย่าง นายดวง เท่านั้นเองค่ะ”
สายมุกปึงปังออกไป พะวงสอดขึ้น
“โอ้โห...แร๊ง...อย่างนี้เรียกแร๊ง”
คุณนายสร้อยเพชรมองหน้าพะวง
“แรงอะไรของแกนังพะวง”
“หลงผู้ชายอย่างแร๊ง”
คุณนายสร้อยเพชรอึ้งไปทันที
หนูดีกำลังเล่นฮุล่าฮูปอยู่ คุยโทรศัพท์กับสายมุกไปด้วย
“ไม่ผิดหรอกแกที่ห่วงคนอื่น ฉันเองก็มีห่วงเหมือนกัน”
สายมุกหน้าตาเครียดเดินไปเดินมาคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องนอน
“ตอนนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องบ้านอย่างเดียวแล้ว แต่ลามปามไปถึงอย่างอื่นๆ ไหนจะรถ ไหนจะคอนโด โอ๊ย...น่าเป็นห่วงนายดวงจริงๆ เลย”
“แต่นายดวงเขาก็มีเงินแล้วนะ เขาอาจจะอยากได้ของพวกนี้ก็ได้”
“ไม่มีทางหรอก หรือถึงอยากได้ เขาก็ไม่มีวันเอาเงินพวกนั้นมาซื้อแน่”
“แหม...รู้ใจกันดีจริงนะ ตกลงไอ้ที่เป็นห่วงเนี่ย ห่วงเงินหรือห่วงคนกันแน่”
“ก็…” สายมุกเขิน “ก็ห่วงทั้งสองอย่างน่ะแหละ ทำไมต้องถามแบบนี้ด้วย”
“อย่าเพิ่งเหวี่ยงสิ ฉันก็แค่ถามเตือนสติแก เผื่อแกจะไม่รู้ตัว”
“ไม่รู้ตัว...ไม่รู้ตัวเรื่องอะไร”
“ไม่รู้ตัวว่าห่วงเขาเพราะอะไรน่ะสิ แต่ถ้าอยากรู้ ลองถามหัวใจตัวเองดูเอาเองแล้วกันนะ แค่นี้ก่อนนะ พูดไปเล่นไป ฉันจะเป็นลม”
หนูดีกดวางสาย แล้วทรุดตัวลงนั่ง เหงื่อท่วม เหนื่อยมากๆ
สายมุกวางโทรศัพท์ ใจเต้นแรงพึมพำออกมา
“เราคิดยังไงกับนายดวงงั้นเหรอ...” สายมุกนึกช่วงเวลาที่อยู่ใกล้ชิดกับดวงแล้วสะดุ้ง “หรือว่าเราจะ…” หญิงสาวตั้งสติใหม่ “ไม่นะ มันก็แค่มิตรภาพ อย่าคิดมากน่ะมุก…คิดไปข้างเดียวอีกต่างหาก น่าอายชะมัดเลย”
เมื่อตลาดปิดแล้ว ดวงเดินชะเง้อตามหา
“พ่อครับ พ่อ...” ชายหนุ่มเดินไปอีกทาง “แม่...แม่อยู่แถวนี้รึเปล่าครับ…พ่อครับ แม่ครับ อยู่ไหนกันครับ”
ดวงเดินหาจนรอบ ไม่เห็นใคร
“หายไปไหนกัน…”
ในบ้านเปิดไฟสว่างไสว ดาราอยู่ชั้นบน เปิดสำรวจห้องโน่นห้องนี้แล้วมาหยุดที่หน้าห้องนอนใหญ่
"มาสเตอร์เบดรูม ระดับฉันมันต้องมาสเตอร์เบดรูม เฮะๆ ถูกใจจริงๆ”
ดาราเปิดประตูเข้าไป…ทันใดนั้นตุ๊กแกก็ร้องขึ้น ดาราตกใจสะดุ้งโหยง
“ว้าย!”
ดาราตั้งสติได้ โล่งใจ
“โอ๊ย...คิดว่าผีหลอก ตกใจหมด”
ที่ชั้นล่าง...ประเวทกำลังเล็งๆ วัดๆ เหลี่ยมมุม
“โฮมเธียเตอร์สี่มิติ...จออยู่ตรงนี้ ลำโพงอยู่ตรงโน้น...อ้ะ ทุกอย่างพร้อม กดรีโรท”
ประเวททำท่ากดรีโมทกดปุ๊บ หมาหอนทันที ประเวทขนลุกซู่
“อ๊ากก!” ประเวทเข่าอ่อนทรุดลงไป “โอ่ยๆๆ ใจหายวาบ ทำไมต้องมาหอนตอนกดเพล์ ฮึ่ย...อย่างนี้ต้องกดสต็อป”
ประเวททำท่ากด หมาหยุดหอนทันที ประเวทหน้าเหวอ
“อ้าว เฮ้ย...หยุดจริงเหรอ...ไหนลองอีกที กดเพลย์”
ประเวททำท่ากด เสียงหมาหอนดังขึ้นอีกครั้ง ประเวทหน้าตื่นทำอะไรไม่ถูก
“แอ๊!...สต๊อป...กดสต๊อป”
เขารีบทำท่ากด หมาหยุดหอน ประเวทขนลุกขนชัน
“ฮึ่ย! กูไม่เล่นแล้ว โฮมเธียเตอร์”
เขาทำท่าขว้างรีโมททิ้ง ทันใดนั้นประตูหน้าเปิดผ่างออก ประเวทร้องลั่น
“อ๊า!”
ดวงเปิดเข้ามาตกใจ
“ผมเองครับพ่อ”
ประเวทโล่งใจถอนหายใจเฮือก ร่วงลงไปทันที...ดาราวิ่งลงบันไดมา
“อะไรๆๆ เกิดอะไรขึ้น”
ดาราเห็นดวงแล้วะงัก ดวงเซ็งๆ
“นึกแล้วเชียวว่าต้องอยู่ที่นี่”
ดวงท่างทางจริงจังมาก
“หยุดเลยนะครับ ได้โปรดหยุดคิดอะไรกับบ้านหลังนี้เด็ดขาด”
“ทำไมจะคิดไม่ได้ จะซื้อทั้งทีก็ต้องคิดให้มากๆ หน่อยสิ”
ประเวทเสริม
“ถูก...นี่เล็งไว้หมดแล้ว จะฉลองตรงไหน กินเหล้าตรงไหน เล่นไพ่ตรงไหน เล็งไว้หมดแล้ว”
ดารากระทืบเท้าสามี
“จะบ้าเหรอ รักษาภาพพจน์หน่อย”
“เอ้า...ก็คนในครอบครัว จะเป็นไรไปเล่า”
“เอาเถอะครับ ไม่ต้องเถียง ไม่ต้องทะเลาะกัน ยังไงผมก็ไม่ซื้อบ้านหลังนี้เด็ดขาด ไปกันเถอะครับ”
ดาราไม่เข้าใจ
“เดี๋ยวก่อน! ขอถามหน่อยเถอะว่าไอ้บ้านหลังนี้มันมีอะไรน่ารังเกียจนักหนาถึงจะซื้อไม่ได้ หรือว่าแกไม่อยากให้พ่อกับแม่มีบ้านอยู่”
ประเวทมองหน้าดวง
“เออ...หรือว่าเสียดายเงิน”
ดาราจ้องหน้าพูดออกมาอย่างน้อยใจ
“หรือจะให้แยกกันอยู่เหมือนเมื่อยี่สิบปีก่อน จะเอาอย่างนั้นรึไง”
ดวงอึ้งๆ ไปเครียดเลย ดาราโวยวาย
“รังเกียจนักใช่ไหมที่จะอยู่ร่วมกับพ่อแม่ บอกมาสิ รังเกียจพวกเราใช่ไหม”
“เอาเถอะครับ ก่อนที่จะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ผมคงต้องบอกความจริง”
ประเวทสงสัย
“ความจริงอะไรของแกวะ”
ดารากับประเวทหน้าเหวอสุดๆ เมื่อรู้ความจริงจากดวง ทั้งสองพูดพร้อมกัน
“เงินนั่นไม่ใช่เงินแก”
ดาราอึ้งๆ
“แต่เป็นเงินอีตาแก่คนขายล็อตเตอรี่”
ดวงพยักหน้า
“ครับ”
ประเวทมองหน้า
“แกก็เลยใช้เงินไม่ได้”
“ครับ”
ดารากับประเวทหัวเราะลั่น
“ฮ่าๆๆๆ ฮ่าๆๆ”
ดวงงงๆ
“อ้าว…”
ประเวทหัวเราะตัวงอ
“โอ๊ย ตลกโว้ย...ไม่เคยได้ยินอะไรงี่เง่าอย่างนี้ก่อนเลย”
ดารามองหน้าดวงแล้วหัวเราะ
“ตกลงลูกเราจริงเปล่าวะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ”
ดวงมองทั้งสองอย่างไม่เข้าใจ
“นี่มันอะไรกันครับ มันตลกตรงไหน ผมไม่เข้าใจ”
“ไอ้บ้า! ตื่นๆๆ ตื่นๆๆ”
ประเวทตบหลังดวงปั่กๆๆ ดาราจ้องหน้าดวง
“ฟังนะดวงลูกรัก เงินนี้มันเงินของแกชัดๆ เอาสมองที่ไหนคิดว่ามันไม่ใช่ สงสัยจะได้เลือดดีจากแม่ไปเยอะ เฮะๆๆๆ”
ดวงหน้าตาจริงจังมาก
“นี่ผมไม่ได้พูดเล่นนะครับ ผมซีเรียสนะ”
ดารากับประเวทเห็นดวงท่าทางจริงจังมาก ก็พยายามไม่ขำ
“ผมเล่าให้ฟังหมดแล้ว คงเข้าใจแล้วใช่ไหมครับว่าทำไมผมถึงจะไม่ซื้อบ้านหลังนี้ คืนนี้ ถ้าไม่รังเกียจก็ไปนอนกับผมก่อน พรุ่งนี้ค่อยคิดต่อว่าจะเอายังไง”
ดวงเดินออกไปเครียดๆ ประเวทชะงัก
“เฮ้ย...ท่าทางมันเอาจริงเว้ย เอาไงล่ะ”
“นี่ถ้าฉันเลี้ยงมากับมือมันคงไม่เป็นอย่างนี้หรอก ดูซิ ไม่ได้เลือดแม่มาสักนิด เจ็บใจจริงๆ”
ดาราหงุดหงิด
ดึกคืนนั้น ดวงหลับไปแล้ว ดารากับประเวทคุยกันอยู่มุมหนึ่ง ประเวทมองมาที่ดวง
“หรือว่ามันจะปัญญาอ่อน”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก มันแค่ซื่อบื้อ ไม่เข้าใจชีวิต ไม่รู้อันไหนผิดอันไหนถูก เฮ้อ...ลูกเอ้ยลูก ต้องสอนอีกเยอะ”
ประเวทเห็นด้วย
“เออ...ต้องทำให้มันเหมือนเราให้ได้ มันจะได้กล้าใช้เงิน แล้วก็แบ่งให้เราใช้ด้วย”
“มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เจอลูกทั้งที แถมลูกถูกหวยอีกต่างหาก ไม่มีวันยอมปล่อยมันให้หลุดมือไปอีกครั้งแน่ ต้องอุ้มไว้ให้แน่น เอาให้อยู่หมัด”
ทั้งสองหันไปมองดวงด้วยสายตาของโจรสุดๆ
วันใหม่...โอมขับรถมาถึงหน้าบ้านคุณนายสร้อยเพชร ไม่เห็นคนมาเปิดประตูก็บีบแตรเรียก สักครู่พะวงออกมาชะโงกหน้าดู
“คุณโอมมา!”
โอมลงจากรถจะเปิดประตูเอง
“แย่แล้วๆๆ”
พะวงรีบวิ่งไปจับรั้วไว้
“อย่านะคะ...อย่า”
“ทำไมต้องให้เรียก เป็นคนใช้ก็หัดดูซะบ้างสิว่ามีแขกมา”
“โอ๊ยๆๆ ห้ามเข้าค่ะ...ห้ามเข้า”
โอมไม่พอใจ
“ทำไมฉันจะเข้าไม่ได้”
“ก็คุณนายสั่งไว้นี่คะ”
“เป็นไปไม่ได้...หลบไป”
“ไม่ได้จริงๆค่ะ เข้าไปไม่ได้จริงๆ พะวงไม่ได้โกหก”
“อย่าทำให้เสียเวลาได้ไหม ฉันยิ่งกำลังรีบๆ อยู่”
โอมทะเลาะกับพะวงอยู่ที่รั้ว คุณนายสร้อยเพชรออกมาดู
“มีอะไรกัน เสียงดังโวยวาย”
โอมรีบยกมือไหว้
“สวัสดีครับคุณน้า”
คุณนายสร้อยเพชรชะงักเมื่อเห็นโอม สะบัดหน้าใส่ทัน
“พะวง ส่งแขก”
คุณนายสร้อยเพชร เดินกลับเข้าบ้านไป
“คุณน้าครับ ฟังผมก่อนสิครับ คุณน้า ผมเมาเพราะถูกมอมเหล้านะครับ ฟังผมอธิบายก่อน”
คุณนายสร้อยเพชรหันกลับมาด่า
“ไม่ต้องมาแก้ตัว จะไปเมาที่ไหนก็ไป แต่ต้องไปใช่ที่นี่”
“แต่ผมถูกน้องมุกมอมเหล้านะครับ”
คุณนายสร้อยเพชรชะงัก
“ว่าอะไรวะ พูดอีกทีซิ”
มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 10
ทั้งหมดอยู่ในห้องรับแขก คุณนายสร้อยเพชรตกใจแต่ยังไม่ค่อยแน่ใจนักเมื่อโอมบอกความจริงให้รู้
“ไม่จริง...เป็นไปไม่ได้ ยายมุกจะทำแบบนั้นเพื่ออะไรกัน”
“ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ แต่คนของผมเห็นน้องมุกไปคลุกคลีอยู่กับไอ้กุ๊ยที่ตลาด”
คุณนายสร้อยเพชรหน้าตื่น
“ฮะ! ยายมุกเนี่ยนะ”
“ผมว่าเรื่องเหล้าต้องเป็นฝีมือมันแน่ มันคงหลอกให้น้องมุกทำ น้องมุกก็ซื่อเลยไปหลงเชื่อมัน”
คุณนายสร้อยเพชรไม่อยากเชื่อ
“เป็นไปไม่ได้”
โอมใส่ไฟทันที
“คนสมัยนี้ไว้ใจได้ที่ไหนล่ะครับคุณน้า มันคงเห็นว่าน้องมุกรวยแล้วน้องมุกเองก็ใจดี มันเลยคิดจะปลอกลอก หรือไม่ก็ใช้น้องมุกเป็นเครื่องมือเพื่อหวังประโยชน์อย่างอื่น”
คุณนายสร้อยเพชรหันไปเรียก
“พะวง”
“อย่าขัดค่ะคุณนาย กำลังฟังมันๆ” พะวงหันไปถามโอม “แล้วไงต่อคะคุณโอม”
คุณนายสร้อยเพชรตีป๊าบ
“นังพะวง!”
“โอ๊ย...ขาคุณนาย ว่าไงคะ”
“ยายมุกอยู่ไหน”
“ออกไปตลาดค่ะ เห็นว่าวันนี้จะหัดทำอาหาร”
คุณนายสร้อยเพชร หน้าตื่น
“ฮะ...ไปตลาดงั้นเหรอ”
โอมแสยะยิ้ม
“เชื่อผมรึยังล่ะครับคุณน้า”
ดวงช่วยสายมุกจ่ายตลาด เดินตามถือตะกร้าให้ห่างๆ คนในตลาดมองกันใหญ่ สายมุกหันมาถาม
“ทำไมต้องเดินตามฉันด้วยล่ะ มาเดินด้วยกันสิ”
“โอย...อย่าเลยครับ แค่นี้คนก็มองจะแย่อยู่แล้ว ให้ผมช่วยถือของตามหลังก็พอแล้วครับ”
“แต่ฉันเกรงใจนายดวงนี่”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณมุกที่ทำให้ผมมีความสุข ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้จ่ายตลาดกับคุณมุก”
สายมุกอมยิ้มเขิน มาหยุดหน้าแผงผักพอดี เจ๊แต๋วยิ้มแย้มถาม
“รับผักอะไรดีคะ ผักร้านเจ๊สดๆ กรอบๆ ทั้งนั้น ขายวันทิ้งวัน รับรองไม่มีค้างคืนให้เน่าเด็ดขาด”
อาซ้งกวักมือเรียก
“มาซื้อไข่ร้านอั้วดีกว่า จะเป็ด จะไก่ จะเยี่ยว จะม้า นกกะทาก็มี ไข่อั้วมีทุกอย่าง ไข่อั๊วดีที่สุดในโลก”
เจ๊แต๋วค้อนอาซ้ง
“แหม หาจังหวะโฆษณาไข่ตลอดเลยนะอาซ้ง”
สายมุกยิ้มๆ
“ขอไข่ไก่ยกแผงเลยค่ะ”
“ได้เลยๆ”
อาซ้งใส่ถุงให้ ดวงเข้ามาแย่งรับ
“ผมช่วยเองครับ”
สายมุกเดินต่อไป ดวงรีบตาม...อาซ้งกับเจ๊แต๋วนินทาตามหลังทันที
“อาซ้ง ลื้อว่ามันแปลกๆ ไหม”
“นี่ ลื้อคิดเหมือนกันใช่ไหมว่าสองคนนั้นกิ๊บๆก๊าบๆ กันอยู่ ลื้อดูออกใช่ไหมว่าไอ้ดวงมันไม่ได้ทำแค่เป็นน้ำใจ ลื้อเห็นใช่ไหมว่ามันแอบส่งสายตา ลื้อ...”
เจ๊แต๋วสวนทันที
“โอ๊ย! พอแล้ว จะพูดดังไปทำไม เดี๋ยวเขาก็รู้ตัวหมดหรอก”
“แต่ของแบบนี้ต้องดูกันนานๆ ทำเฉยๆ ไว้ก่อนแล้วคอยจับตาดู”
“นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนมันเป็นแค่ไอ้ดวง ฉันคงจะห้ามมันไปแล้ว แต่ตอนนี้มันเป็นคุณดวงดี อะไรก็เกิดขึ้นได้ เฮะๆๆ”
อาซ้งหัวเราะชอบใจ
สายมุกเดินมาถึงร้านอั้ม...อั้มหน้าหงิกเท้าเอวรออยู่
“แม่ค้าจ๊ะ”
“ไม่จ๊ะ!”
“ขอซื้อซุปไก่ก้อนหน่อยจ้ะ”
“ไม่ขาย!”
ดวงงงๆ
“เอ้า...ทำไมล่ะ”
“ไม่ต้องมาถาม ไม่ชอบพวกใช้เงินแก้ปัญหา ใช้เงินซื้อความสุข”
ดวงรีบแย้ง
“อ้าว...จะทำอาหาร เขาก็ต้องซื้อสิ หรือว่าจะให้เขาฟรีๆ”
อั้มหงุดหงิด
“ไม่ต้องมาแก้ตัวแทนกัน...ตอนจนก็รักกันดี แต่พอรวยก็ไปรักคนรวยด้วยกัน เงินมันเปลี่ยนคนได้จริงๆ โฮ”
อั้มกุมหน้าร้องเสียงดัง ดวงหน้าเหวอไป
“เอิ่ม...ผมว่าเราไปซื้อร้านอื่นก็ได้ครับ”
ดวงรีบพาสายมุกไปทางอื่น
ดวงกับสายมุกเดินหนีอั้มออกมาถึงหน้าร้านกาแฟลั้นลา...ลั้นลามาขวางหน้าไว้
“หยุดนะ!”
สายมุกชะงักหันไปถามดวง
“เอิ่ม...คราวนี้ ใครอีกเหรอ”
ดวงไม่ทันได้ตอบ ลั้นลาฟูมฟายมาเสียก่อน
“ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ ต้องถึงกับทำเมิน ไม่เห็นเค้าอยู่ในสายตาเลยใช่ไหม!”
สายมุกถอนใจหันมาบอกดวง
“ท่าทางจะเป็นปัญหาส่วนตัวของนายนะ นายเคลียร์เองแล้วกันนะ ฉันซื้อของครบหมดแล้ว ขอตัวก่อน”
“เดี๋ยวสิครับ ผมถือของไปส่งที่รถ”
“ไม่ต้องหรอก ขอบใจมาก” สายมุกมองลั้นลากลัวๆ “ไปก่อนนะ”
สายมุกเดินถือของออกไปเลย ดวงหน้าเหวอ
“เดี๋ยวสิครับ คุณหนู คุณหนู รอผมด้วย”
ลั้นลาดึงไว้
“ไม่มีใครต้องรอใครทั้งนั้น พี่ดวง ลั้นลาคิดว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“ฮึ่ย ไม่คุย!”
ดวงวิ่งตามสายมุกไป ลั้นลาเต้นเร่าๆ
“แอร๊ย! ถูกผู้ชายวิ่งใส่อ้ะ...หยามอ้ะ หยาม”
โอมกลับเข้ามาที่ออฟฟิศ คุยโทรศัพท์กับลูกน้องนักเลงอยู่ ท่าทางหัวเสียมาก
“คราวหลังก็ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานด้วย ไม่ใช่โทรมารายงานเฉยๆเข้าใจไหม ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานให้มากที่สุด หามุมที่ดูแล้วเข้าใจผิดได้ยิ่งดี เอามาให้เร็วที่สุด ถ้าได้รูปเด็ด ฉันจ่ายไม่อั้นแน่”
โอมกดวางสาย
“ยังไงก็ต้องเรียกคะแนนคืนกลับมาให้เร็วที่สุด ไม่งั้นเราเสร็จแน่”
ลั้นลาวางแก้วกาแฟลงตรงหน้าดารากับประเวท
“อันนี้โอเลี้ยงของคุณพ่อ ชาเย็นของคุณแม่ ส่วนอันนี้” ลั้นลาทำมือท่าหัวใจแบบเกาหลี “หัวใจของลั้นลาให้ทุกคนค่ะ”
อั้มทำท่าอ้วกแตก
“แหวะ จะอ้วก! ใครจะไปอยากได้หัวใจกะเทย”
ลั้นลาหันขวับไปจ้องหน้า
“อย่ามาชวนฉันหยาบคายต่อหน้าว่าที่พ่อผัวแม่ผัวนะ ไปเลย ไม่อยากทะเลาะกับใคร เดี๋ยวจะดูไม่ดี”
“โอ๋ย...ไม่ต้องรอทะเลาะหรอก แกน่ะดูไม่ดีตั้งแต่เกิดแล้ว”
สองคนทะเลาะกันต่อ...ดาราถอนหายใจเฮือกใหญ่ ประเวทหันมาถาม
“ตกลงเรื่องบ้านจะเอายังไง ท่าทางไอ้ดวงมันไม่ยอมซื้อแน่”
ดาราหงุดหงิด
“บ้าที่สุดเลย ไม่รู้ล่ะ ยังไง ฉันก็ไม่ยอมกลับไปเร่ร่อนอีกเป็นอันขาด แล้วไอ้ตลาดสดบ้าๆ นี่ก็ไม่ใช่ที่นอนด้วย ยุงก็หึ่ง เหม็นก็เหม็น ใครจะไปนอนหลับลง”
“เอ๋า ก็ถ้ามันนอนได้ เราก็ต้องนอนได้ จะให้ทำไง ในเมื่อมันบอกปาวๆ ว่าไม่ซื้อบ้าน”
“ไม่ซื้อก็ไม่ซื้อ ฉันมีวิธีอื่นที่เราจะเข้าไปอยู่ในบ้านได้โดยไม่ต้องซื้อ”
ประเวทมองภรรยาอย่างไม่เข้าใจ
“ฮะ! วิธีอะไรของแกวะ”
ดารายิ้มร้าย
ดารากับประเวทไปหาคุณนาย สร้อยเพชรเพื่อขอเช่าบ้าน คุณนายสร้อยเพชรโวยใส่ทันที
“ว่าไงนะ จะมาขอเช่าบ้าน”
พะวงเตือน
“ใจเย็นๆค่ะคุณนาย เดี๋ยวไม่แก่ตายนะคะ”
คุณนายสร้อยเพชร มองสองสามีภรรยา
“นี่ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม”
ดารายิ้มแย้ม
“ไม่ผิดหรอก เราสองคนจะมาขอเช่าบ้านจริงๆ”
“แล้วไหนว่าจะซื้อ ที่ฉันยอมให้ทดลองอยู่ก็เพราะบอกว่าจะซื้อ ไม่งั้นจะให้อยู่ฟรีๆไปทำไม”
“พวกเรามาคิดๆ ดูแล้ว เวลาแค่นี้มันไม่พอที่จะใช้ตัดสินใจซื้อบ้านหรอก แล้วก็ไม่ได้อยากได้ของใครฟรีๆ พอดีว่ามีฐานะ ไม่จน!”
ประเวทเสริม
“ใช่...เราไม่จน!”
ดาราเสียงแข็งขึ้น
“ตกลงจะให้เช่าหรือไม่ให้เช่า ถ้าไม่ให้จะได้ไปหาที่อื่น บ้านเช่ามีถมเถไป”
คุณนายสร้อยเพชรนิ่งไป ใช้สมองคิดอย่างเร็ว...ประเวทกับดารามองหน้ากัน
“ตกลงไม่ให้เช่าใช่ไหม งั้นไปเถอะ”
ขาดคำดาราทำท่าจะลุก คุณนายสร้อยเพชรส่งเสียงเข้มขึ้นทันที
“หยุด!”
ดารากับประเวทยักคิ้วให้กัน
“โอเคๆๆ จะเช่าให้ได้ใช่ไหม” คุณนาย สร้อยเพชรพยายามข่มอารมณ์ “เช่าก็เช่า ฉันคิดค่าเช่าเดือนละ 5 หมื่น”
ดาราเบ้หน้า
“เฮอะ...ขำตายล่ะ”
คุณนายสร้อยเพชรต่อรอง
“5 หมื่นห้าก็ได้”
“ตลก!”
“6 หมื่นก็ได้เอ๊า! ไม่ต้องทอน”
ดาราเซ็งๆ
“จะฝันไปไหนคุณนาย ตื่นลืมตามาดูสภาพบ้านตัวเองก่อนเถอะ บ้านห่วยๆ แบบนั้น เต็มที่ให้พันห้า”
คุณนายสร้อยเพชรตาเหลือกโวยวายลั่น
“จะบ้าเหรอ บ้านทั้งหลังเนี่ยนะ พันห้า”
“ไม่ให้ก็ไม่เอา ไปหาที่อื่นก็ได้”
ดาราจะลุก คุณนายสร้อยเพชรรีบขัด
“เดี๋ยว!”
ทั้งสองเดินออกมาจากบ้านคุณนายสร้อยเพชร ดาราหัวเราะร่า
“ฮ่าๆๆ สำเร็จ แค่นี้ก็มีบ้านอยู่แล้ว”
ประเวทขัดขึ้น
“แต่บ้านเปล่าๆ อยู่ไม่ได้นะ ต้องมีของ มีเฟอนิเจอร์ก่อน ถึงจะอยู่ได้”
ดารายิ้มๆ
“แล้วจะมัวรออะไรอยู่ล่ะ รีบไปชอปปิ้งสิ”
ประเวทกับดาราขำฮากันออกไป
ในบ้าน...คุณนายสร้อยเพชรด่าอย่างไม่พอใจ
“ไอ้พวกหน้าด้าน!”
พะวงงงๆ
“เอ๊า! แล้วคุณนายโง่ไปให้เขาเช่าทำไมล่ะคะ”
“ก็มันไม่มีทางเลือกนี่”
“แล้วถ้าเขาเช่าไปเรื่อยๆ ไม่ยอมซื้อซะทีล่ะคะ คุณนายไม่ขาดทุนแย่เหรอ”
“ซื้อ! ยังไงมันก็ซื้อ คอยดูฝีมือฉันแล้วกัน...เงินทุกบาททุกสตางค์ของนายดวง ต้องเป็นของฉัน คอยดู!”
สีหน้าคุณนายสร้อยเพชรมุ่งมั่นมาก
มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 10
ดารากับประเวทมาเลือกซื้อเครื่องไฟฟ้า ดาราคุยโวไปรอบๆ ร้าน
“พอดีลูกชายเขามีตังค์ อยากได้อะไรเขาให้ซื้อหมดเลย ให้มาเลือกเองเลย อย่างว่าละเนอะ คนมีเงิน ทำอะไรก็เก๋อ้ะ” ดาราบอกเจ้าของร้าน “เดี๋ยวลูกชายเขาจะมาจ่ายตังค์ให้นะ”
เจ้าของร้านยิ้มแย้ม
“ครับ...ผมให้เครดิตคุณดวงดีเต็มที่เลยครับ เดี๋ยวจัดส่งให้ถึงบ้านเลย ขาดเหลืออะไรมาเลือกได้เลย ยินดีบริการเต็มที่ครับ”
ประเวทยิ้มแย้ม
“เฮะๆๆ ดูออกใช่ไหมว่ามีเงิน เฮะๆ”
ดารากับประเวทเดินยิ้มชื่นใจออกมา สบายอกสบายใจกันมาก
“ที่นอนครบ เครื่องใช้ไฟฟ้าครบ แหม...ชีวิตของคนรวยมันง่ายแบบนี้นี่เอง”
ประเวทนึกได้
“เออ...จริงของแกว่ะ...เรารวยแล้ว”
ดารากับประเวทพูดพร้อมกัน
“รวยๆๆๆ”
ทันใดนั้นเสียงเจ้าหนี้ดังขึ้น
“รวยจริงอ้ะ”
ดารากับประเวทตอบโดยไม่หันไปมอง
“จริง!”
“งั้นใช้หนี้หน่อยดิ”
ดารากับประเวทหันมามองแล้วสดุ้ง
“เฮ้ย!”
เจ้าหนี้กับลูกน้องยิ้มร้าย
ดารากับประเวทถูกจับมัดหันหลังติดกันอยู่ในโกดัง ดาราแหกปากโวยวายลั่น
“ปล่อยฉันนะ...ปล่อย เอาฉันมาขังทำไม...ปล่อย”
ประเวทหันมาดุ
“จะโวยวายไปทำไมเล่า มันไม่ปล่อยหรอก ยิ่งไปกวนอารมณ์มัน เดี๋ยวมันก็ฆ่าเอาหรอก”
“มันไม่ฆ่าหรอกให้โง่หรอก มันอยากได้เงินคืน”
เจ้าหนี้กับลูกน้องเข้ามา
“ฉลาดนี้หว่า...โชคดีนะที่พวกแกมีลูกชายดวงดี ไม่งั้นโดนแน่” เจ้าหนี้หันไปถามลูกน้อง “เฮ้ย...ตกลงพวกมันติดเราเท่าไหร่วะ”
“เน็ตๆสามแสนห้า ต้องคืนทั้งหมดก็ห้าแสน”
ประเวทหน้าเหวอ
“อ้าว...เมื่อกี้บอกติดสามแสนห้า แล้วทำไมต้องคืนห้าแสนล่ะ”
เจ้าหนี้แสยะยิ้ม
“สามแสนห้ามันหนี้ก่อนจะรู้ว่าแกมีลูกชายรวย พอรู้แล้ว เลยต้องขึ้นราคากันหน่อย” เจ้าหนี้ตวาดใส่หน้า “หรือจะให้ขึ้นอีก!”
ดาราโวยวาย
“จะขึ้นได้ยังไง อย่างนี้มันโกงกันนี่หว่า”
“ฮึ่ยย! แล้วที่พวกมึงหนีหนี้กู ให้กูต้องตามล่ามาตลอดไม่เรียกโกงรึไง กูต้องเสียแรงวิ่งไล่ตามพวกมึง กูต้องเหนื่อย กูต้องอดทน กูต้องโฟกัส กูจะท้อแท้ไม่ได้ กูจะเลิกก็เลิกไม่ได้ พื้นรองเท้ากูสึก กูต้องซื้อรองเท้าใหม่กี่คู่ พวกมึงรู้บ้างไหม”
ประเวทกับดาราอึ้งไปเลย เจ้าหนี้ยิ้มเหี้ยม
“ทางรอดเดียวของพวกมึงคือใช้หนี้ แต่ถ้าลูกชายมึงติดนิสัยเบี้ยวหนี้มาจากมึงด้วย ไม่ยอมเอาเงินมาจ่าย พวกมึงไม่รอดแน่ คราวนี้กูเอาตายทั้งบ้าน”
เจ้าหนี้ตุปัดตุป่องออกไป...ลูกน้องมองหน้ากันงงๆ ว่าเจ้านายเป็นอะไร ก่อนจะตามไป ประเวทหน้าเครียด
“ท่าทางมันจะเอาจริงเว้ยเอ้ย”
“กลัวทำไม ในเมื่อมีจ่าย! ก็แค่หนี้กระจอกๆ จ่ายๆ ฟาดๆ ไปก็จบแล้ว ไม่เห็นต้องเยอะแยะ”
เจ้าหนี้เดินช้ำใจออกมาหน้าโกดัง หันไปบอกลูกน้อง
“มึงไปส่งข่าวลูกชายมัน หนึ่งล้านบาทขาดตัว”
ลูกน้องงงๆซื่อๆ
“อ้าว...บอกเขาไปห้าแสน”
“แมร่งเถียงกูฉอดๆ กูต้องอธิบาย กูเลยเปลี่ยนแผน”
ลูกน้องชะงัก
“อ้าว เปลี่ยนแผน”
ลูกน้องอีกคนเป็นงง
“ไม่เอาหนี้คืนแล้วเหรอพี่”
“เอาสิวะ แต่กูจะเอายิ่งกว่าหนี้ ช่วยไม่ได้นะไอ้ดวงดี ถ้าจะโทษก็ไปโทษพ่อแม่มึงที่ปากมาก ขี้คุยจนเจอดี!”
เจ้าหนี้เสียงเข้ม
ในครัว...สายมุกเปิดตำราทำอาหาร ผัดฉ่าๆ อย่างไม่มั่นใจ กลัวๆ เกร็งๆ หญิงสาวอ่านตำรา
“ใส่โชยุ...น้ำตาล...น้ำมันงานิดหน่อย”
สายมุกใส่ๆ ผัดๆๆ
“โอเค ครบหมดทุกอย่างแล้ว”
หญิงสาวโล่งใจ ยิ้มออกผัดไปยิ้มไป พะวงผ่านมาเห็นเข้า
“มีความสุขอะไรนักหนา...”
พะวงหันมาเจอคุณนายสร้อยเพชรเข้าเต็มๆ
“ว้าย!”
คุณนายสร้อยเพชรเอามืออุดปากไว้
“เบาๆ สิ ตกใจอะไรขนาดนั้น เห็นผีรึไง”
“ยิ่งกว่าผีอีกค่ะ นี่คุณนายยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองน่ากลัวกว่าผี ไม่มีใครเคยบอกคุณนายเลยจริงๆ เหรอคะ”
“พอๆๆ หุบปาก ไม่งั้นฉันจะตัดเงินเดือน”
พะวงชี้หน้าคุณนายสร้อยเพชร
“อ้ะ...เชื่อยังอ่ะทีนี้ ผีที่ไหนจะมาตัดเงินคน เฮอะ! ร้ายกว่าผีจริงๆ บอกแล้ว”
“บอกให้หุบปาก” คุณนายสร้อยเพชรชะโงกมองเข้าไปในครัว “ยายมุกทำอาหารเหรอ งั้นฉันรีบไปก่อนดีกว่า ไม่งั้นเจอกินแน่”
คุณนาย สร้อยเพชรทำท่าทางขนลุกๆ พะวงหน้าเหวอ
“อ้าว คุณนายอย่าทิ้งกันสิคะ”
“ไม่เอาๆ ฉันไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยง บอกว่าฉันไปธุระ กลับดึก”
คุณนายสร้อยเพชรรีบเดินออกไปทันที
“อ้าว...ทิ้งกันอย่างนี้ พะวงก็โดนกินอีกอ่ะสิ โธ่...คุณมุกขา ผัดอยู่นั่นแหละ จะรู้ตัวไหมว่าใครๆ ก็สยองฝีมือกันทั้งนั้น” พะวงนึกได้ “เฮ้ย!แกล้งทำเป็นป่วยดีกว่า จะได้ไม่ต้องกิน”
พะวงรีบหนีไป...สายมุกหันไปปิดเตา
“เสร็จละ หอมอย่างนี้ น่าจะใช้ได้...” สายมุกคิดไปถึงดวงแล้วยิ้ม “หวังว่าคงจะชอบนะ”
ตลาดเลิกแล้ว ดวงไล่เก็บขยะตามแผง ซันกำลังเก็บแผงไข่ แหววในชุดนักศึกษาหน้าบึ้งปึงปังเข้ามา
“ไอ้ซัน ทำไมไม่ไปรับฉัน”
“อ้าว...ก็แกบอกว่านั่งซาเล้งแล้วอายเขา ฉันกลัวแกอายก็เลยไม่ไปไง” ซันกระซิบดวง “จริงๆ แล้วลืมว่ะ”
แหววเอาแผงไข่ตีหัวซัน
“ได้ยิน!”
ซันกุมหัว
“โห...ก็มัวแต่ทำงาน เตี่ยใช้เก็บแผง เลยลืม”
“ถ้าคราวหลังลืมอีก โดนแน่”
ดวงหันไปบอกเพื่อนทั้งสอง
“พวกแกกลับบ้านไปเถอะ ไอ้ซัน ไปส่งแหววสิ ที่เหลือฉันทำเอง”
ทันใดนั้นเสียงสายมุกดังขึ้น
“นายดวง”
ดวงหันมามองแล้วตะลึง...สายมุกเดินเข้ามาหา
“คุณหนู...”
แหววมองแล้วไม่พอใจหน้าหงิก ซันกระซิบดวง
“มีฮึมเว้ย วันนี้มีฮึมแน่ ดีใจด้วยนะไอ้ดวง” ซันหันไปดึงแหวว “ไปกลับบ้าน เดี๋ยวไปส่ง”
แหววสะบัด
“ไม่กลับ”
“ต้องกลับ”
ซันกระชากตัวไป สายมุกมาหยุดตรงหน้าดวงที่ท่าทางดีใจมาก
“คุณมุกมีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ บอกมาได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะรีบทำให้ทันทีเลย”
“จะทำตามทุกอย่างที่ฉันใช้เลยเหรอ”
“สัญญาเลยครับ”
“สัญญาแล้วนะ” สายมุกชูถุงในมือ “ฉันขอให้นายกินข้าวเย็นฝีมือฉันให้หน่อย”
“โอวว”
ดวงดีใจทรุดลงไปกองกับพื้น สายมุกชะงัก
“อะไรล่ะ จะเบี้ยวเหรอ นายสัญญาแล้วนะ ห้ามผิดสัญญาสิ”
ดวงยิ้มปลื้มใจ
“ผมไม่ได้ผิดสัญญา แต่ผมดีใจ ดีใจเหลือเกินครับ”
ค่ำนั้น ดวงเคี้ยวอาหารด้วยความรันทดในรสชาติ แต่กลืนอย่างมีความสุขมากๆ สายมุกยิ้มแย้มถาม
“อร่อยไหม”
“เกินจะพูดครับคุณมุก อร่อยเกินจะพูดครับ”
สายมุกยิ้มภูมิใจ
“นายเป็นคนแรกเลยนะที่บอกว่าอาหารฝีมือฉันอร่อย”
“อ้าว...แล้วคนอื่นๆ เขาว่ายังไงเหรอครับ”
“ก็ต่างๆ กันไปน่ะนะ จืดไปบ้าง เค็มไปบ้าง เจ็บคอกินต่อไม่ไหวบ้าง เครียดกินข้าวไม่ลงบ้าง แต่ที่เจอบ่อยสุดคือลดความอ้วนอยู่ กินไม่ได้”
ดวงลืมตัว
“อ้าว...แล้วไม่สงสัยบ้างเหรอครับ”
สายมุกงงๆ
“สงสัยอะไรเหรอ”
ดวงนึกได้
“เอ่อ เปล่า...เปล่าครับ ฝีมือคุณมุกอร่อยแน่นอนไม่ต้องสงสัยครับ”
สายมุกเขินๆ
“ฉันดีใจที่นายชอบนะ ฉันลงมือทำสุดฝีมือเลยนะเนี่ย”
“ผมก็ดีใจที่คุณมุกอุตส่าห์ลงมือทำอาหารให้ผม ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยมีใครทำอาหารให้ผมกินแบบนี้มาก่อนเลย มีแต่แบ่งให้ ซื้อให้ ซื้อเผื่อ หรือไม่ก็กินของเหลือๆ...นี่เป็นครั้งแรกที่ผมกินอาหารที่ถูกทำขึ้นเพื่อผมจริงๆ”
“ถ้านายชอบ ฉันจะทำมาให้อีกนะ”
ดวงดีใจ
“จริงเหรอครับ”
สายมุกยิ้มจริงใจ
“จริงสิ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนะ”
“ข้อแลกเปลี่ยนอะไรเหรอครับ”
“คือ...ฉันใฝ่ฝันอยากจะมีร้านอาหารเล็กๆ เป็นของตัวเอง ทำอาหารให้คนอื่นๆกินแล้วพวกเขาก็บอกว่า อื้ม อร่อยจังเลย คราวหน้าจะกลับมากินอีกนะ”
หญิงสาวยิ้มฝัน ดวงมองเคลิ้ม
“น่ารักจังเลยครับ”
สายมุกสะดุ้ง
“พูดอะไรน่ะ...” หญิงสาวบิตตัวอายๆ “ฉันเขินนะ”
“เอ่อ...คือ ผมหมายถึงความฝันของคุณมุกน่ะครับ เป็นความฝันที่น่ารักมาก น่ารักที่สุดเลยครับ”
“อ้าว...คิดว่าชม” หญิงสาวพูดเบาๆก่อนจะหันไปยิ้ม “นายต้องเป็นหนูทดลองของฉัน คอยกินอาหารที่ฉันคิดค้นขึ้นแล้วก็ลงมือปรุงด้วยตัวเอง โอเค”
ดวงแทบสำลักข้าว แต่พยายามกลืนลงไปจนได้ ก่อนจะหันมายิ้มให้
“ด้วยความยินดีเลยครับ”
ทั้งคู่จับมือกัน...สบตาแล้วเขิน หลบตากันไปคนละทาง
ดวงกลับเข้ามาถึงตลาดเห็นดารากับประเวทไม่อยู่ที่ที่นอนก็แปลกใจ
“อ้าว...หายไปไหนกันอีกแล้ว...หายอยู่เรื่อย”
ดวงมองไปเห็นซองจดหมายเสียบอยู่
“จดหมายอะไรวะ”
ดวงหยิบออกมาคลี่ออกอ่านแล้วตกใจ
“เรียกค่าไถ่!”
โปรดติดตาม มนต์รักตลาดสด ตอนต่อไป พรุ่งนี้ 9.30 น.