xs
xsm
sm
md
lg

มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 7-8

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 7

ที่วินมอเตอร์ไซค์เวลานั้น ต๋อยแอบดูตลอด เป้งขับกลับเข้าวินมา ต๋อยรีบเข้าไปรายงาน

“พี่เป้ง แย่แล้ว พี่”
“อะไรของมึงวะ”
ต๋อยชี้ไป เป้งมองตาม ดวงกำลังขึ้นรถคุณนายออกไป เป้งหน้าตื่น
“เฮ้ยๆๆๆๆๆ อะไรกันเว้ยเฮ้ย มันเกิดอะไรขึ้นวะ”
“ไม่รู้เหมือนกันพี่ พอคุณนายกับคุณหนูสายมุกเจอไอ้ดวงปั๊บ เจรจากันงุงิๆๆ คริคริๆๆ แล้วก็ลากกันขึ้นรถหายไปเลยอ่ะ”
“มีเจรจาก่อนด้วย...แล้วทำไมมึงไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไรกัน”
“ก็ฉันมัวแต่แอบดู เลยลืมแอบฟังอ่ะดิ”
เป้งทวนคำ
“แอบดู แต่ลืมแอบฟัง...เหรอ...มึงทำได้ด้วยเหรอ”
ต๋อยพยักหน้า
“อื้อ...ก็เพิ่งทำเนี่ย”
“โอ้โห...เครียดเลย กูเครียดเลย ไอ้ดวงไปกับคุณนายและน้องสายมุก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่วะ”
เป้งคิ้วขวมดสุดๆ

ในร้านอาหารหรู...ดวงเปิดเมนูดู ทำหน้ายุ่งๆ งงๆ คุณนายสร้อยเพชรยิ้มแย้มเอาใจ
“จะกินอะไรก็สั่งเลย ที่นี่สเต็กเขาอร่อยมาก อิมพอร์ตจากอเมริกาเลยนะ เนื้อบ้านๆ แถวนี้ ไม่มีได้ขึ้นโต๊ะหรอก เลือกเลยจ้ะ ซอสเขานุ่มนวล หมักได้ที่ ย่างกำลังดี อื้ม...นี่ถ้าไม่รวยไม่กล้ามากินนะ กลัวจะไม่มีเงินจ่าย เฮะๆๆ แต่ตอนนี้มีแล้วนี่ เต็มที่เลย”
คุณนายสร้อยเพชรตบไหล่อยางกันเอง ดวงยิ้มแหยๆ เหลือบตามองสายมุกด้วยสายตาขอร้องให้ช่วยด้วย...สายมุกเข้าใจ
“ถ้ายังไม่หิว ไม่ต้องทานก็ได้นะ ไม่ต้องฝืนหรอก”
ดวงรีบบอก
“ครับๆ ผมยังไม่หิว แล้วที่สำคัญ มันแพงมากด้วยครับ ผมไม่กล้ากิน”
“จะไปกลัวอะไรล่ะ เงินแค่นี้นายดวงมีจ่ายอยู่แล้ว เอางี้นะ ฉันสั่งให้เอง” คุณนายสร้อยเพชรหันไปหาพนักงาน “ซุปหัวหอมสามที่ แล้วก็สเต็กเซอร์ลอยด์ มีเดียมหนึ่ง ดอลลี่หนึ่ง สลัดอะโวแคโดใส่น้ำมันมะกอกน้อยหน่อยนะ แล้วก็เพนเน่ซอสครีม แล้วก็ไก่งวง...แล้วก็กุ้งแปซิฟิค อ่าวไทยไม่เอานะ ต้องแปซิฟิคเท่านั้น แล้วก็...”
สายมุกรีบขัด
“พอเถอะค่ะคุณแม่ จะกินหมดเหรอคะ”
คุณนายสร้อยเพชรหงุดหงิด
“แกนี่ชอบขัดใจฉันจริง ที่ฉันสั่งหลายอย่างเนี่ยก็เพราะจะให้นายดวงเขาชิม แล้วก็เลือกว่าชอบแบบไหน”
ดวงตาเหลือก
“โอว...ไม่ต้องหรอกครับคุณนาย อาหารพวกนั้นอย่าว่าแต่กินเลยครับเห็นผมก็ยังไม่เคยเห็น ผมกินไม่เป็นหรอกครับ”
“เห็นไหมคะ เจ้าตัวเขายังปฏิเสธเลย เรากลับกันเถอะค่ะ”
คุณนายสร้อยเพชรเสียงเข้มใส่ทันที
“ไม่ได้นะ จะกลับตอนนี้ไม่ไป เอาเถอะ ไม่กินก็ไม่กิน” คุณนายหันไปบอกพนักงาน “งั้นฉันแค่ซุปก็แล้วกัน”
พนักงานรับออเดอร์แล้วเดินออกไป คุณนายสร้อยเพชรหันมาหาดวง
“ไม่ต้องกลัวนะนายดวง ฉันรู้ว่าเป็นคนรวยน่ะมันไม่ง่าย เรื่องอาหารการกินฉันจะค่อยๆ ฝึกให้เอง แต่ยังมีอีกเรื่องที่ต้องรีบจัดการ”
ดวงชักกังวล
“อะไรเหรอครับคุณนาย”

ในซอยเปลี่ยว ใบไม้แห้งๆ ปลิวบนพื้นถนน อีการ้องลั่น รถของคุณนายสร้อยเพชรจอดหน้าบ้านไม้หลังหนึ่ง...ทุกคนลงจากรถ คุณนายสร้อยเพชรดูร่าเริงมาก
“ถึงแล้ว ถึงแล้ว ที่นี่แหละจ้ะ แสนสุขวิลล่า”
ดวงเงยหน้ามองบ้าน เห็นสภาพว่ารกร้างมาก อีการ้องไม่หยุด ชายหนุ่มอ้าปากค้าง
“แสนสุขวิลล่า”
สายมุกมองแม่อย่างไม่เข้าใจ
“คุณแม่พานายดวงมาที่นี่ทำไมคะ”
“เงียบ! ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”
คุณนายสร้อยเพชรรีบเข้าไปหาดวง
“ถูกใจไหมจ้ะนายดวง แถวนี้บรรยากาศดีนะ”
ดวงมองไปรอบๆ อีกายังคงร้องอยู่ ใบไม้แห้งปลิวๆ ดวงอึ้งๆ ไป คุณนายสร้อยเพชรเชิญชวน
“เข้าไปดูข้างในกันดีกว่า”
คุณนายสร้อยเพชรผลักประตูรั้วเข้าไปพอผลักปุ๊บประตูก็หลุดพังทันที
“เอ่อ...คือ กำลังจะเปลี่ยนเป็นประตูรีโมทน่ะ สั่งไว้แล้ว อาทิตย์หน้าเขาจะมาติดให้ มาเร็วเข้ามา”
คุณนายสร้อยเพชรเดินนำไป…ดวงทำตัวไม่ถูกหันไปมองสายมุก
“ไม่ต้องกลัว...ฉันอยู่ข้างนาย”

สายมุกให้กำลังใจ ดวงยิ้มออก

สภาพภายในบ้านรกร้างฝุ่นเขรอะ...คุณนายสร้อยเพชรเดินนำชมบ้านอย่างภาคภูมิใจ...ดวงกับสายมุกเดินตาม

“สามห้องนอน สองห้องน้ำ แล้วก็มีห้องโถงไว้ปาร์ตี้ เผื่ออยากเชิญเพื่อนๆ มาทำบาบีคิวกินกันงั้นงี้”
“อ๋อ...บาบีคิวที่ตลาดมีขายครับ ไม้ละห้าบาท ไม่ต้องทำเอง”
คุณนายสร้อยเพชรยิ้ม
“อ๋อ เหรอ” สร้อยเพชรหันหลังกลับแล้วเบะปากดูถูก “เสล่อ!”
คุณนายสร้อยเพชรนำเข้ามาที่ครัว ภูมิใจนำเสนอมาก
“ครัวก็กว้างขวางนะ ส่วนตรงนี้ทำเป็นแพนทรีเล็กๆ เอาไว้นั่งจิบไวน์”
ดวงกระซิบถามสายมุก
“แพนตี้มันคืออะไรเหรอครับ”
สายมุกตอบเบาๆ
“แพนตี้มันคือกางเกงใน แต่แพนทรี่ที่แม่ฉันพูดน่ะ หมายถึงบริเวณเตรียมอาหาร ไม่ต้องไปสนใจหรอก”
คุณนายสร้อยเพชร อธิบายต่อ
“ด้านหลังก็เป็นสระว่ายน้ำ ลงจากุซซี่เข้าไปหน่อย จะได้ฟีลเหมือนอยู่รีสอร์ตแอนด์สปาตลอดเวลา”
คุณนายสร้อยเพชรเดินนำมาด้านข้างตัวบ้าน
“รอบๆ ตัวบ้านก็จ้างเขามาจัดสวนใหม่ จะเอาสไตล์บาหลี หรือถ้าชอบแนวอังกฤษก็ติดตั้งน้ำพุเข้าไป อู๊ย...พูดแล้วขนลุกอ้ะ เห็นไหมจ้ะว่าพอรวยแล้วชีวิตมันสนุกมากๆๆ มีอะไรให้เล่นเยอะเลย เอาน่าๆ ค่อยๆ หัดไป เดี๋ยวก็ชิน”
สายมุกหันมาบอกดวง
“เดินดูไปรอบๆ ก่อนนะ”
“คุณแม่คะ”
สายมุกทนไม่ไหว ดึงตัวแม่ไปอีกทางหนึ่ง...
“คุณแม่คิดจะทำอะไรกันแน่คะ ทำไมต้องพานายดวงมาที่นี่ด้วย”
“เอ้า...ก็นายดวงเขาไม่มีที่อยู่ แม่ก็จะช่วยหาให้ไงล่ะ”
“ด้วยการหลอกขายบ้านหลังนี้ให้กับเขางั้นเหรอคะ”
“หลอกขายอะไรกัน บ้านหลังนี้มีอะไรไม่ดีตรงไหนยะ ฉันซื้อมาไม่ใช่ถูกๆ นะ”
“ตัวบ้านมันก็ดีหรอกค่ะ แต่คุณแม่ก็รู้ว่ามันมีโปรโมชั่นแถมมาด้วย”
“แกอย่าพูดเรื่องนั้นเชียวนะ”
สายมุกกับคุณนายจ้องตากัน ทันใดนั้นเสียงตุ๊กแกร้องดังขึ้น คุณนายสร้อยเพชรสะดุ้ง
“ถ้าคุณแม่คิดจะหลอกขายบ้านหลังนี้ให้นายดวงล่ะก็...ยังไงมุกก็ไม่ยอมให้เขาซื้อบ้านผีสิงแน่”
สายมุกบอกอย่างจริงจัง

บรรยากาศให้ห้องเรียนโยคะ ทุกคนเพิ่งเรียนเสร็จ สายมุกกับหนูดีเนื้อบิดตัว
“แม่แกเนี่ยน่ากลัวกว่าผีอีกนะ เดินเข้าไปบ้านไหน มันก็กลายเป็นบ้านผีสิงหมดแหละ เฮะๆๆ”
“ยังจะหัวเราะอีก คนยิ่งกำลังเครียดๆ อยู่”
“มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอยะ เยอะแล้ว ฉันว่านายดวงจะมีอิทธิพลกับเธอเยอะไปแล้วนะ แน่ใจเหรอว่าแค่เป็นห่วง”
“ก็ใช่น่ะสิ แล้วแกคิดว่ามันเป็นอะไร”
“อย่าให้ฉันพูดออกไปเลย เพราะยังไง มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ถึงตอนนี้นายดวงดีเขาจะเป็นเศรษฐี แต่ยังไงแม่แกก็ไม่มีวันยอมรับเขาในฐานะอื่นได้หรอก”
สายมุกอึ้งๆ ไป
“จะคิดยังไงก็ช่างเถอะ แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณแม่เอาเปรียบคนซื่อๆ อย่างนายดวงได้หรอก ยังไงฉันก็ต้องเซฟเขาไว้ให้...”
สายมุกเอาจริงเอาจังมาก

อาซ้งกับเจ๊แต๋วรอดวงอยู่มี่ตลาด อาซ้งมองดวง
“นั่นไง...มันมาแล้ว”
ดวงเดินกลับเข้ามาเห็นสองคนหน้าตาเครียดๆ กันอยู่ก็แปลกใจ
“มีอะไรเหรอครับ”
“เจ๊ควรจะถามแกมากกว่า ว่าแกหายหัวไปกับนังคุณนายนั่นทำไม”
“มีพยานรู้เห็นนะ”
เป้งกับต๋อย เข้ามาแสดงตัว
“เห็นๆ อ่ะ อย่ามาปฏิเสธเชียวนะ”
“ไปกับอีคุณนายสองต่อสองกูไม่ว่า กล้าดียังไงมาเอานางฟ้าของกูไปด้วย มึงบังอาจมากไปแล้วนะเว้ย!”
เป้งทำท่าจะชกดวง ต๋อยห้ามไว้
“ใจเย็นพี่ ใจเย็นๆ อย่าบิวด์ๆ”
“บอกไว้ก่อนนะไอ้ดวง มึงจะเหยียบขี้หมาที่ไหน เชิญมึงเหยียบไปแต่มึงอย่ามาเหยียบหัวใจกู กูเจ็บ!” เป้งชี้หน้าขู่ “จำไว้นะมึง”
เป้งออกไป ต๋อยรีบตามไป เจ๊แต๋วหันมาถาม
“ยังไง...ตกลงมันยังไงกัน”
ดวงถอนใจ
“ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณนายแค่พาผมไปกินข้าว แล้วก็พาไปเที่ยวบ้านของแกหลังหนึ่ง แล้วก็กลับ แค่นั้นล่ะครับ”
ทุกคนชะงักงงๆ ดวงตัดบท
“ผมขอตัวไปไปเก็บของด้นโน่นก่อนนะครับ มีงานต้องทำอีกเยอะครับ”
ดวงเดินออกไป พวกพ่อค้าแม่ค้าเริ่มสุมหัวกันทันที เจ๊แต๋วครุ่นคิด
“พาไปกินข้าว พาไปดูบ้าน”
อาซ้งคิดหนัก
“อาคุงไนอีคิดอะไรของอีอยู่วะ”
ลั้นลาสงสัย
“แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเห็นมันสนใจพี่ดวง แต่พอพี่ดวงมีเงินขึ้นมา คุณนายก็ตามจิกตลอด ยังไงมันก็ต้องคิดชั่วแน่ๆ ล่ะอาซ้ง”
อั้มโพล่งออกมา
“ไม่ต้องห่วง ในฐานะแฟน อั้มจะปกป้องพี่ดวงเอง”
ลั้นลาตบอั้มกระเด็น
“นี่แน่ะ แฟน...พูดอะไรเห็นใจเมียหลวงหน่อยสิยะ”
เจ๊แต๋วหน้าเครียด
“นังคุณนายคนนี้มันร้ายกาจนัก มันจะขึ้นราคาค่าเช่า แล้วตอนนี้มันก็มาพยายามดึงไอ้ดวงไปเป็นพวก พวกเราต้องเตรียมตัวรับมือไว้ให้ดี มันอาจจะมีแผนชั่วสุดๆ รออยู่”
อาซ้งกังวล
“อั้วว่า คนที่น่าเป็นห่วงคืออาดวง ต่อไปนี้ พวกเราต้องช่วยกันดูแลอาดวงไว้ให้ดี อย่าให้ตกเป็นเหยื่อของอีคุณนายเด็ดขาด”
เจ๊แต๋วหน้าตาจริงจังมาก
“ใครคิดจะมายุ่งกับไอ้ดวง ข้ามศพอีอั้มกับไปก่อนเถอะมึง!”
ทุกคนร้องขึ้นพร้อมกัน
“ใช่!”

อั้มหน้าเหวอไปเลย “อ้าว...”

มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 7 (ต่อ)

อั้มร้องเพลงและเต้นอย่างเมามันส์อยู่ที่ร้าน

“เช็คเรทติ้ง...เช็คเรทติ้งเฉยๆอย่าใส่ใจกันเลย...”
ขณะเดียวกัน นักเลงที่โอมจ้างมาเดินสำรวจ ทำทีมาหาซื้อของ นักเลงมองๆ แล้วเดินเข้ามาที่แผงอั้ม
“คนสวย ขายดีไหมจ้ะ”
“หมายถึงความสวยหรือสินค้าล่ะ ถ้าความสวยก็ขายได้เรื่อยๆ มีเสน่ห์ตลอดอ้ะ ไม่ต้องเสริมโปรโมชั่น”
“แล้วโดยรวมๆ ตลาดนี้เป็นยังไงบ้างจ้ะ มีอะไรตื่นเต้นๆ หรือว่าเด่นเป็นพิเศษบ้างไหมจ้ะ”
“นอกจากอั้มแล้วก็ไม่มีอะไรเด่นหรอกจ้ะ แต่อีกไม่นานจะมีงานใหญ่นะ”
นักเลงสนใจทันที
“งานอะไรเหรอจ้ะ บอกได้ไหม”
“แอร๊ยย เขินอ้ะ” อั้มชี้ให้ดู ดวงที่เข็นรถผ่านไป “เห็นผู้ชายหล่อๆ คนนั้นป่ะเราจะแต่งงานเร็วๆ แหละพี่”
นักเลงลืมตัว
“ฮะ...เขาจะเอารึ”
อั้มชะงักกึก
“อ้าว...พูดงี้อยากโดนจูบเหรอ ทำไม...พูดแค่นี้ต้องหึงด้วยเหรอ แอบรักใช่ไหม ซุ่มดูตลอดใช่ไหม” อั้มชี้ไปที่ดวง “โน้น...ไปถูกหวยรางวัลที่หนึ่งให้ได้อย่างพี่ดวงแล้วค่อยมารับบัตรคิว นี่อั้มนะ...อั้ม...อั้ม ไม่ใช่ของง่ายๆ”
นักเลงมองที่ไปดวง พึมพำเบาๆ
“ถูกหวยรางวัลที่หนึ่งงั้นเหรอ...”

โอมขับรถอยู่ คุยโทรศัพท์กับนักเลง
“มีคนถูกล็อตเตอรี่แล้วไง มันจะกี่ร้อยกี่พันกันวะ”
“ไอ้หมอนี่มันถูกรางวัลที่หนึ่งชุดใหญ่ หลายล้านอยู่นะครับนาย”
โอมสะดุดใจ
“งั้นเลยเหรอ”
“แล้วตอนนี้ทั้งตลาดก็กำลังเห่อไอ้หมอนี้กันใหญ่ ดูท่ามันจะเป็นคนสำคัญของตลาดไปแล้วล่ะครับนาย”
“จับตาดูมันไว้ก่อน คอยดูสถานการณ์ที่ตลาดไว้ด้วย เกิดอะไรขึ้น รีบรายงานฉันทันที”
“ครับนาย”
โอมกดวางสายหน้าตาไม่สบอารมณ์
“หรือมันจะเกี่ยวกับไอ้หมอนี่....”

สายมุกเดินลงบันไดมา สวนกับพะวงที่กำลังจะขึ้นไปทำความสะอาด
“คุณแม่ล่ะพะวง”
“คุณนายอยู่ในห้องนั่งเล่นน่ะค่ะ ทำอะไรก็ไม่ทราบตั้งแต่เช้าแล้วท่าทางเครียดยังกับวางแผนออกรบงั้นแหละค่ะ”
พะวงว่าแล้วก็เดินขึ้นไป...สายมุกสงสัยไม่ไว้ใจ

คุณนายสร้อยเพชรกำลังง่วนอยู่กับบัญชีตรงหน้า
“แสนสุขวิลล่า 3 ร้าน ตบแต่งอีกซะ1 ล้าน....”
คุณนายสร้อยเพชรคิดๆ สายมุกเข้ามาแอบดู
“รถยนต์...นายดวงต้องมีรถขับสักครั้ง”
สายมุกพึมพำเบาๆ
“เกี่ยวกับนายดวงจริงๆด้วย คิดแล้วไม่มีผิดเลย”
คุณนายสร้อยเพชรนึกออก
“เอาอีแก่ตายซากในโรงรถเราไปก็ได้นี่ คิดราคาเบาๆสัก 5 แสน....เอาอะไรอีกดีนะ...คอนโดไหม คอนโดห่วยๆ ไว้ให้เก็บค่าเช่ากิน แต่หาคนเช่ายากหน่อยนะยะ ฉันหามาสิบปีแล้วยังไม่มีคนเช่าเลยสักคน ยกให้แกก็แล้วกันนะ เบาๆเอาไป 2 ล้าน”
สายมุกมองแม่อย่างโกรธๆ แล้วเดินถอยออกไป

ซันเลี้ยวซาเล็งเข้ามาจอดหน้าตลาด แหววในชุดนักศึกษานั่งด้านหน้า หน้าหงิกหน้างอ
“ถึงแล้ว ลงไปได้”
แหววลงมาหน้าบึ้งวีนๆ
“บอกกี่ครั้งกี่หนแล้ววะว่าไม่ต้องไปรับ ฉันกลับเองได้
“เอ๊า...คนอุตส่าห์มีน้ำใจ”
“แต่ฉันไม่อยากนั่งซาเล้งนี่ ฉันอายคนนะเว้ย เอาไว้แกมีรถขับเมื่อไหร่ ค่อยไปรับฉันสิ ฮึ่ย!”
แหววหันขวับเข้าตลาดไป ซันเซ็งมาก
“หือ ดูถูกกันอย่างนี้ น้อยใจนะเว้ย”
สายมุกขับรถเข้ามาจอดพอดี ซันเห็นเข้าก็ตาโต
“ไอ้ดวง...ไอ้ดวง”
ซันรีบวิ่งเข้าไปตลาดไปทันที

แหววกำลังช่วยดวงเก็บของ ดวงห้าม
“เฮ่ย...ไม่ต้องช่วย กลับบ้านไป”
“ก็จะช่วยอ่ะ มีปัญหาเหรอ เพื่อนกัน ช่วยกัน ไม่เห็นเป็นไรเลย”
ซันวิ่งหน้าตั้งแหกปากเข้ามา
“ไอ้ดวง...ไอ้ดวง”
แหววหันมาเสียงแข็งใส่
“อะไรของแกวะไอ้ซัน จะใช้ไอ้ดวงมันไปทำอะไรอีก”
“ใครจะไปกล้าใช้เศรษฐี แค่จะมาบอกว่า มีคนมาหา ฮิ่ว”
ดวงแปลกใจ
“มาหาฉันเหรอ”
“ถูกต้อง...มาหาแก อยากรู้ว่าเป็นใครก็ออกไปดูเอาเอง รับรองว่าแกต้องดีใจแน่ๆ”
ดวงงงๆ ก่อนจะเดินออกไป แหววมองตามไปอย่างไม่ค่อยไว้ใจ ยิ่งเห็นซันกระดี๊กระด๊ามากๆ ยิ่งไม่ไว้ใจ
“ใครมาหาไอ้ดวงวะ”

ดวงออกมาหน้าตลาดมองๆ หา เจอสายมุกยิ้มให้
“คุณหนู” ดวงดีใจมาก “คุณหนูจริงๆ ด้วย”
ดวงหุบยิ้มไม่ลง พยายามพะงาบๆ ปากให้หุบจนสำเร็จ
“คุณหนูมาหาผมเหรอครับ วันนี้ ผมได้เจอคุณหนูตั้งสองครั้ง นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหมครับ”
“แล้วทำไมฉันถึงจะเจอนายดวงไม่ได้ล่ะ…หรือว่าตอนนี้เป็นบุคคลวีไอพีไปแล้ว ใครจะมาหาต้องนัดก่อนเหรอ”
“โอ๋ย ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับคุณหนู ผมแค่ดีใจ ตื่นเต้นแล้วก็คาดไม่ถึงน่ะครับ ว่าแต่ว่าคุณหนูมาหาผม มีอะไรจะให้ผมรับใช้เหรอครับ”
“ฉันมีเรื่องต้องบอกนาย เราไปคุยกันที่อื่นได้ไหม”
ขณะเดียวกัน แหววกับซันที่แอบดูอยู่ แหววโวยวายขึ้นมาเมื่อเห็นดวงกับสายมุกเดินไปอีกทาง
“เฮ้ย...จะไปไหนกันน่ะ รีบตามไปเร็ว”
แหววจะตาม ซันดึงไว้
“จะบ้าเหรอ จะตามเขาไปทำไม คนเขาจะไปจีบกัน ปล่อยเขาไป ส่วนแกกับฉันอยู่จีบกันที่นี่แหละ”
“จีบเหรอ...นี่แน่ะ”

แหววซัดซันหน้าหงายไป แหววหันไปมองอีกที สายมุกกับดวงหายไปแล้ว แหววร้อนอกร้อนใจ

ดวงหลบมาคุยกับสายมุกที่มุมหนึ่ง

“แน่ใจเหรอครับว่าไม่มีอะไรให้ผมรับใช้ เพื่อคุณหนูแล้ว ผมทำได้ทุกอย่าง จะให้ผมกลับไปเช็ดรถให้ไหมครับ”
“ไม่ต้อง ฉันไม่ได้เห็นนายเป็นคนใช้นะ แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าคุณหนูได้แล้ว ฉันชื่อสายมุก”
“ครับคุณหนูสายมุก เอ้ย...ขอโทษครับ คุณมุก”
“ที่ฉันมา ก็เพราะมีเรื่องอยากจะเตือนนายให้ระวังตัวไว้ให้ดี”
“คุณมุกพูดเหมือนกับว่ามีใครจะมาทำร้ายผมอย่างนั้นแหละครับ ผมมันก็แค่ไอ้กระจอกคนหนึ่ง ไม่มีใครสนใจผมหรอกครับ”
“นายลืมอะไรไปรึเปล่า ตอนนี้นายมีเงินแล้วนะ”
“เอ่อ...คือผมไม่เคยมี ผมก็เลยจำไม่ค่อยได้น่ะครับ มันไม่ชิน”
“แต่นายต้องทำตัวให้ชิน ที่ฉันพูดเนี่ยไม่ได้นายให้นายทำตัวเป็นไฮโซ รวย จัดหนัก อะไรหรอกนะ มีเงินน่ะมันก็ดี แต่บางทีมันก็นำเรื่องไม่ดีเข้ามาได้เหมือนกัน ไม่งั้นคนเขาจะโดนปล้นกันเหรอ”
ดวงตกใจ
“ฮะ! ใครจะปล้นผมเหรอครับคุณมุก คุณมุกรู้อะไรมาเหรอครับ”
“ฉันก็ไม่ได้รู้อะไรมากนักหรอก แต่การปล้นมันก็หลายแบบ หลายวิธีไม่จำเป็นต้องเอาปืนมาขู่กันหรอก เอาเป็นว่าต่อไปนี้นายต้องระวังให้ดี อย่าให้ใครมาหลอกเอาได้ ตกลงไหม”
“คุณมุกเป็นห่วงผมเหรอครับ”
“ยังต้องสงสัยอีกเหรอ”
ดวงสบตากับสายมุก…ทั้งคู่ใจเต้นแรง

โอมรับสายจากลูกน้อง เมื่อรู้ว่าดวงคุยอยู่กับสายมุกก็โวยลั่น
“จับตาดูมันไว้ให้ดี ในเมื่อมันกล้ามายุ่งกับผู้หญิงของฉัน มันต้องเจอดีแน่”

ดารากับประเวทเดินหาที่พักมาในซอยเปลี่ยว
“พี่นี่เราต้องระเหเร่ร่อนไปอีกนานแค่ไหนเนี่ย”
“ก็จนกว่าไอ้พวกบ้านั่นมันจะเลิกตามทวงหนี้เรานั่นแหล่ะ”
ดาราท้อใจ
“โอย....ทำไมเป็นคนมันถึงได้ยากเย็นอย่างนี้วะ”
ระหว่างนั้นทั้งสองเดินเกือบถึงร้านค้า ดาราสังเกตเห็นเจ้าหนี้กับลูกน้องอยู่ตรงร้านค้า
“พี่ๆๆ...ฉันว่าไอ้กลุ่มนั้นมันหน้าตาคุ้นๆแหะ”
ประเวทมองตาม
“ไม่ใช่แค่หน้านะที่คุ้น มือตีนมันก็คุ้นว่ะ...ไปเร็ว”
ประเวทดึงดาราวิ่งหนี กลุ่มเจ้าหนี้หันมาเห็นพอดี
“เฮ้ย...หยุดนะเว้ย คราวนี้พวกแกหนีไม่รอดแน่ หยุด”
หันไปด่า
“หยุดให้โง่สิ ไอ้ฟาย”
ประเวทหงุดหงิด
“เอ้า...ไปด่ามันทำไม มันยิ่งจะโกรธเราหนักเข้าไปใหญ่ ฮึ่ยย!”
“ไม่ด่าแล้วจะให้ชมมันรึไงเล่า”
“ไม่ต้องพูด หุบปากแล้วโกยให้รอดก่อนเถอะ มาทางนี้ เร็ว”
ประเวทเลี้ยวนำไปในซอยหนึ่ง ดาราตามไป
“กูบอกให้หยุด มึงจะหนีทำไม กูเหนื่อยนะเว้ย!”
เจ้าหนี้วิ่งตามไปเป็นพรวน...ดารากับประเวทโกยแน่บเลี้ยวเข้ามาอีกซอยหนึ่ง ปรากฏว่าเป็นซอยตัน
“อ๊า!”
ทั้งสองเบรกกันแทบไม่ทัน
“ฮื้ออ ซอยตัน”
ทั้งคู่มองไปรอบๆ ไม่เห็นทางออกใดๆ มีแต่ราวตากผ้าอยู่ที่ด้านหนึ่ง เจ้าหนี้กับลูกน้องวิ่งมา จะถึงทางเข้าซอยตัน
“ตามมันไป ตามไปเว้ย”
เจ้าหนี้นำหน้าลูกน้องเลี้ยวเข้าซอยตัน…ดารากับประเวทในชุดเสื้อผ้าอื่นสวนออกมาพอดี
“โอ๊ะๆๆๆ ว้ายๆๆ”
“แอร๊ยย อะไรกันเนี่ยตะเอง” ประเวทดัดเสียงทำตัวสาวแตก “ว้ายตายแล้ว ผู้ชายอ้ะ ผู้ชายเต็มไปหมดเลยอ้ะ”
พวกเจ้าหนี้สวนเข้าไปด้านใน...ดารากับประเวทโล่งอก
“ไปเร๊ว!”
ดารากับประเวทวิ่งไปทันที พวกเจ้าหนี้ชะงักหยุดคิดๆ
“เฮ้ยย”
ดารากับประเวทรีบโกยแนบหายไป พวกเจ้าหนี้แยกย้ายกันตามไปคนละทาง

ค่ำนั้น แหววกับซันกำลังจะกลับบ้าน แหววหันมาถามดวง
“แน่ใจนะว่าแกไม่กลัว”
ซันขัดขึ้น
“ฮึ่ย...มันไม่ใช่คนกลัวผี”
“ฉันไม่ได้หมายถึงผี ฉันหมายถึงโจร ไอ้ดวงมันไม่ใช่ไอ้ดวงซวยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้มันเป็นคุณดวงดีไปแล้ว ใครๆ เขาก็รู้ ถ้าใครเกิดมาปล้นแกเข้า ทำไงวะ”
ดวงไม่กลัว
“จะกลัวอะไรเล่า เงินก็อยู่ในธนาคาร ไม่ได้อยู่ที่ตัวซะหน่อย”
“เออ...นั่นดิ” ซันหันไปหึงแหวว “แกอยากให้ไอ้ดวงมันไปนอนบ้านแล้วคิดจะลุกมาปล้ำมันตอนดึกๆ ใช่ไหมล่ะ”
แหววถีบโครม ซันร้องโอ๊ก...อีกด้าน ประเวทกับดาราวิ่งหนีเข้ามาเห็นประตูตลาดยังเปิดอยู่ก็วิ่งเข้าไปข้างในทันที ดวงปรามๆเพื่อน
“พอเถอะ พวกแกเลิกทะเลาะกันได้แล้ว ไปๆ กลับบ้านไปทั้งคู่นั่นแหละ พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน”
แหววกับซันเออออแล้วออกไป ดวงกลับเข้าไปข้างใน

ดวงกลับมายังที่พัก
“จะไปนอนที่อื่นได้ยังไง ตลาดยังมีภัยอยู่ ยังไงก็ต้องเฝ้า ถ้ามีใครเข้ามาล่ะก็ จะเล่นงานให้หนักเลย”
มุมหนึ่ง ประเวทกับดารา ซ่อนตัวอยู่คิดจะลุกออกไปหาดวงแต่พอได้ยินเลยเปลี่ยนใจ
“หลบเงียบๆ ก็ได้วะ”

ประเวท กับดาราหามุมนอน แล้วพากันหลับไปในเวลาไม่นาน

กลางดึก สายมุกกำลังจะเข้านอน หนูดีโทร.มาหาจึงคุยด้วย
“โทรมาเม้าท์อะไรตอนนี้ ฉันจะนอนแล้วนะ”
“อย่าเพิ่งรีบนอนสิ ฟังก่อนว่าฉันเจอใคร”
“แล้วทำไมฉันต้องสนใจด้วยว่าแกเจอใครบ้าง”
“คนอื่นอาจไม่ต้องสนใจ แต่คนที่แม่แกอยากได้เป็นลูกลูกเขย แกคงต้องสนใจหน่อยแล้วล่ะ ฉันเจอเข้าตัวเป็นๆ เลย เดี๋ยวฉันจะส่งคลิปไปให้นะ เผื่อแกจะอยากเอาไปให้แม่แกดู”
สายมุกงงๆ อะไรวะ...ขณะเดียวกันนั้นคลิปถูกส่งมา สายมุกเปิดออกดู
“อะไรของเขานะ”
คลิปเป็นภาพของโอมที่แผนกขายเหล้า กำลังหยิบขวดเหล้าใส่รถเข็น มีทั้งไวน์ เบียร์ เหล้า ครบทุกประเภท พนักงานยิ้มแย้ม
“จัดปาร์ตี้เหรอครับ”
“เปล่า...ผมดื่มเอง”

สายมุกเห็นแล้วตาโต

มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 8

วันต่อมา...คุณนายสร้อยเพชรเผชิญหน้ากับสายมุก

“ทำไม ตาโอมไม่ดีตรงไหน เพอร์เฟคออกขนาดนั้น แกต้องรีบคว้าไว้ ไม่ใช่มาหาเรื่องด่า”
“แต่ว่า...”
คุณนายสร้อยเพชรขัดขึ้น
“พอเลย ไม่ต้องพูด ถ้าอย่างตาโอมไม่ดีแล้วใครดี อย่าบอกนะว่าไอ้ดวง...ทีกระจอกแบบนี้ล่ะสนใจเหลือเกิน อย่าบอกนะว่าแกจะลดตัวลงไปยุ่งกับมัน”
สายมุกไม่พอใจ
“ลดตัวเลยเหรอคะ มันจะไม่ดูถูกกันมากไปหน่อยเหรอคะคุณแม่ เขาก็คนเหมือนเรานะคะ”
“ไม่เหมือน! มันก็แค่ภารโรงในตลาดที่ฉันเป็นเจ้าของ ฉันมีบุญคุณกับมันมากแค่ไหนที่ยอมให้มันซุกหัวนอนอยู่ที่นั่น”
“เขาก็ตอบแทนคุณแม่ด้วยการทำงานในตลาดให้แล้วนี่คะ คุณแม่จะเอาอะไรอีก”
“ฉันไม่ได้จะเอาอะไร แค่จะช่วยให้เงินอย่างมีระบบ คนเรามันก็ต้องมีบ้าน มีรถ มีคอนโดชายทะเลไว้ตากอากาศ”
“อย่านะคะคุณแม่ เงินรางวัลพวกนั้นมันไม่ได้มากมายพอที่เขาจะซื้อของพวกนั้นได้ทุกอย่าง แล้วที่สำคัญ ดวงเขาไม่คิดจะใช้มันสักบาทเลยด้วยซ้ำ”
“แต่มันต้องใช้ เรื่องนั้นแกไม่ต้องห่วง ฉันจะหาทางทำมันยอมใช้จนได้”
สายมุกตะลึง
“คุณแม่คะ!”
พะวงวิ่งเข้ามา
“คุณนายขา...ผู้ชายมาหาค่ะ”
“ให้ไปรอที่ห้องนอน”
“ค่ะ”
แล้วทั้งสามคนก็ร้องขึ้นพร้อมกัน
“เว้ย!”
คุณนายสร้อยเพชรถามเสียงเข้ม
“ใครมา”
โอมเดินเข้ามา ยกมือไหว้
“ผมเองครับคุณน้า สวัสดีครับ”
“อ้าว...ตาโอมนั่นเอง คิดว่าใคร”
“ผมมัวแต่ทำงานจนลืมกินข้าว พอดีขับรถผ่านมาทางนี้ เลยว่าจะชวนน้องมุกออกไปทานข้าวด้วยน่ะครับ”
“ขอโทษนะคะ มุกไม่ไปค่ะ...ขอตัว”
สายมุกจะเดินหนี คุณนายจับแขนไว้
“เดี๋ยวก่อน”
คุณนาย สร้อยเพชรทำตาดุใส่ลูกสาว
“ถ้าน้องมุกไม่อยากออกไปทานข้างนอก งั้นรบกวนทำอะไรให้พี่ทานหน่อยได้ไหมครับ อะไรที่เป็นฝีมือน้องมุกพี่ทานได้ทุกอย่าง”
สายมุกทำหน้าเบื่อหน่าย ก่อนจะคิดแผนร้ายออกหันมายิ้มให้โอม
“แน่นะคะ ไม่ว่ามุกจะทำอะไรก็ต้องทานได้แน่ๆ นะคะ”
โอมยิ้มหวาน
“แน่นอนครับ”
สายมุกแอบยิ้มเจ้าเล่ห์

สายมุกออกมายืนรอที่หน้ารั้วบ้าน สักครู่หนูดีขับรถเข้ามาจอด สายมุกรีบเข้าไปรับ
“ได้ของครบรึเปล่า”
หนูดีท่าทางขนลุกขยะแขยงมาก รีบลงจากรถมา
“ได้...แต่แกให้ฉันซื้อของพวกนี้มาทำไม”
“พอดีมีคนวอนหาเรื่องน่ะ”
“หือ” หนูดีงงๆ

พะวงเคลียร์ทำความสะอาดหลังบ้านเสร็จ...มองไปเห็นสายมุกกับหนูดีแอบขนของเข้าประตูหลัง ท่าทางมีพิรุธ
“ทำอะไรกันวะ งุบๆ งิบๆ แบบนี้ ต้องมีเรื่องแน่ๆ”

สายมุกกับหนูดีวางถุงใส่ของลง หนูดีรีบโฆษณาสรรพคุณ หยิบขวดออกมาจากถุง
“นี่เหล้าจีน ปึงปังแปะโป๊ย ฉันหาแบบดีกรีหนักๆ แต่ไม่มีกลิ่นไม่มีรส แบบที่แกต้องการ...ส่วนนี้ ส่าหรีกระจุย เหล้าแขก แรงพอๆ กันแต่กินแล้วจะย้วยๆ เซิ้งๆ หน่อย เคยดูหนังอินเดียใช่ไหม เหมือนเต้นบัดสลบน่ะแหละ...แล้วนี่ก็ ออนเซนเซอร์ สาเกสูตรพิเศษ กินแล้วเมาติดเรทแน่นอน พอใจไหม”
สายมุกยิ้มพอใจ
“มากกกก”
“แต่เดี๋ยว บอกมาก่อนว่าแกให้ฉันหาซื้อเหล้าพวกนี้มาทำอะไรกันแน่”
“ทำอาหารไง พอดีมีคนหิวโหยแวะมาขออาหารกิน ก็เลยจะทำให้”
หนูดีตาโต
“ฮะ...จะใส่เหล้าพวกนี้ด้วยเนี่ยนะ”
“ทำไมจะใส่ไม่ได้ ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ใครจะไปรู้ เริ่มเลยแล้วกัน”
สายมุกหันไปคว้าหม้อ กระทะ เตรียมทำอาหาร หนูดียังสงสัยไม่หาย
“เดี๋ยวก่อนๆ แล้วตกลงคนที่มาขอกินคือใคร อย่าบอกนะว่าเป็นนายดวง”
“ไม่ใช่นายดวงหรอก นายคนนี้เขาชื่อ...วอน มึน เมา”
หนูดีแปลกใจ
“วอน มึน เมา เอ้า! เป็นเกาหลีด้วย”
“ชอบมายุ่งดีนัก วันนี้ คุณแม่จะได้เห็นกับตาว่าเข้าข้างคนผิด”
สายมุกยิ้มสะใจ

โอมนั่งคุยกับคุณนายสร้อยเพชรอยู่ในห้องรับแขก
“ธุรกิจมันต้องว่ากันยาวๆ ครับคุณน้า ยิ่งยาวยิ่งดี”
“น้าไม่ได้จะขายไส้กรอกอีสานนะ ไม่ต้องยาวนักก็ได้”
“ผมล่ะเบื่อจริงๆ ไอ้พวกเงินใหม่ มีทุนแค่นิดๆ หน่อย เอาเข้าจริงก็ทำอะไรไม่ได้”
คุณนายสร้อยเพชรระแวง
“โอมหมายถึงใคร”
“ผมพูดทั่วๆไปน่ะครับ ไม่ได้หมายถึงเศรษฐีมือใหม่คนไหนเป็นพิเศษ หรือคุณน้าคิดว่าผมหมายถึงใครครับ”
“โอ๊ะ เปล่าๆ น้าก็แค่ถามดู”
“งั้นผมก็สบายใจครับ”
โอมเลียบๆ เคียงๆ ถามเรื่องมุกกับดวง
“หมู่นี้น้องมุกไปจ่ายตลาดเองเหรอครับ”
“เปล่านี่ ปกติแม่พะวงเขาจะไปจ่ายให้ ยายมุกแทบไม่เคยไปเองด้วยซ้ำ”
“คุณน้าแน่ใจเหรอครับ”
“ทำไมถามแบบนี้ มีอะไรงั้นเหรอ”
คุณนายสร้อยเพชร จ้องหน้าคาดคั้นโอม สายมุกออกมาพอดี
“อาหารเสร็จแล้วค่ะ”
สายมุกยกอาหารออกมาที่โต๊ะ
“เดี๋ยวพี่ช่วย”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เชิญนั่งเลยดีกว่า มาหิวๆ จะได้รีบกินรีบไป”
โอมย้ายไปนั่งลงที่โต๊ะอาหาร มองอาหารตรงหน้า
“น่าทานมากๆ เลยครับ กลิ่นก็หอม” โอดสูดกลิ่น “หอมเหมือน...”
สายมุกแทรกขึ้น
“มุกใส่ผงกระหรี่น่ะค่ะ”
“อ๋อ ถึงว่าสิครับ หอมเหมือนกระหรี่เลย เอ้ย! ผงครับ...ผงกระหรี่”
คุณนายสร้อยเพชรถอนใจ
“แล้วไป”
“ทานแล้วนะครับ”
โอมตักข้าวกิน สายมุกรีบบอก
“ชิมน้ำแกงด้วยสิคะ”
“ยินดีมากครับ”
โอมซดน้ำแกงแล้วติดใจ
“อร่อยมากครับน้องมุก”
คุณนายสร้อยเพชรยิ้มแย้มเอาใจ
“อร่อยก็กินเยอะๆ ยายมุกอุตส่าห์ทำ”
“แน่นอนครับ ผมจะกินให้หมดนี่เลยครับ”
สายมุกทำเป็นยิ้มพูดเบาๆกับตัวเอง
“เอาเลย กินให้หมดเลย”

ที่ประตูครัว หนูดีมองมาด้วยความหวาดเสียว

สายมุกมาส่งหนูดีที่รถ

“ไม่อยู่รอดูผลงานก่อนเหรอ”
“ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากเห็นความวิบัติของผู้ชายหน้าตาดีๆ เหล้าแรงๆทั้งนั้น ฉันว่าอีกไม่นานพี่โอมเจ๊งแน่ แกเตรียมรับมือไว้ให้ดีเถอะ”
“ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย ในเมื่อคุณแม่ชอบเขานัก ก็รับมือไปเองสิ ฉันไม่เกี่ยว แค่ทำไงก็ได้ ให้เป็นตัวน่ารังเกียจก็พอ จะได้เลิกให้มายุ่งกับฉันซะที”
ทันใดนั้นเสียงคุณนายสร้อยเพชรร้องดังลั่น
“อ๊ายยย”
สายมุกกับหนูดีชะงัก
“ฉันไปก่อนนะ งานเข้าแกแล้ว”
หนูดีรีบขับรถออกไป...เสียงคุณนายสร้อยเพชรร้องดังมาอีก...สายมุกยิ้มสะใจ

โอมเมาไล่ปล้ำ คุณนายสร้อยเพชรร้องกรี๊ดๆ ป้องกันตัวสุดชีวิต พะวงทำตัวไม่ถูกเต้นไปรอบๆ
“คุณนายถ้าใจอยากก็อย่าได้อายค่ะ ยอมเป็นยอม”
คุณนายสร้อยเพชรหันไปตวาด
“นังพะวง แกจะบ้าเหรอ รีบโทรแจ้งตำรวจเร็ว”
โอมผวากอด คุณนายสร้อยเพชรดิ้นรน
“อ๊ายย ตาโอม!”
คุณนายสร้อยเพชรยกเท้ายันโครม โอมกระเด็นร่วงไปเมาฟุบไม่รู้เรื่อง
“ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ไปได้ คิดว่าเป็นคนดีแท้ๆ เชียว ฮึ่ย!”
สายมุกวิ่งเข้ามา แกล้งตีหน้าซื่อ
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณแม่” สายมุกมองไปที่โอม “พี่โอมเป็นอะไรไปคะ”
“ไม่ต้องไปห่วงมัน ห่วงแม่แกก่อนเถอะ ตาโอมไม่รู้เป็นบ้าอะไร กินข้าวอยู่ดีๆ ก็พูดมาก พูดเอาๆ เหมือนคนบ้า”
พะวงสอดขึ้น
“เล่าตอนเด็ดด้วยสิคะคุณนาย ตอนที่คุณโอมเริ่มลวนลามคุณนายน่ะค่ะ”
สายมุกตะลึง
“อะไรนะคะ!”
คุณนายสร้อยเพชรผลักพะวง
“แกจะพูดทำไมฮะนังพะวง”
“เอ๋า...ก็พะวงคิดว่าคุณนายชอบอ้ะ”
“มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริงๆ เหรอคะคุณแม่ ไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่โอมจะเป็นคนแบบนี้”
“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแหละค่ะคุณหนู พะวงเห็นเหตุการณ์โดยตลอดค่ะ”
คุณนายสร้อยเพชรหันมาจ้องหน้าลูกสาว
“แกใส่อะไรในข้าวให้ตาโอมกิน”
“ทำไมคุณแม่มาโทษมุกล่ะคะ ต้องโทษพี่โอมต่างหากถึงจะถูก”
“แต่ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าตาโอมจะเป็นคนแบบนี้”
“คุณแม่อาจจะมองเขาผิดไปก็ได้นี่คะ ถึงว่าสิ เขาชอบแวะมาที่นี่อยู่เรื่อย ทำเป็นเอาเรื่องธุรกิจมาอ้าง ที่แท้ก็หวังอย่างอื่น แล้วคุณแม่จะเอายังไงต่อไปล่ะคะ ถ้ายังยอมให้เขาติดต่ออยู่อีก ก็แสดงว่าคุณแม่ก็มีใจกับเขาด้วย”
พะวงสอดทันที
“เต็มๆ พะวงว่ามีเต็มๆ”
คุณนายสร้อยเพชร ผิดหวังมาก
“ฮึ่ย!ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ไปได้ก็ไม่รู้ ผิดหวัง ผิดหวังจริงๆ ระดับฉันแล้ว ไม่น่ามองคนพลาดได้”
คุณนาย สร้อยเพชรหันไปหาพะวง
“นังพะวง แกลากตัวมันออกไปเลยนะ เอามันออกไปให้พ้นบ้านฉัน...พอกันที ในเมื่อแกหมดสิทธิ์จะเป็นลูกเขยฉัน ก็ไม่ต้องมายุงกันอีก พอ!”
คุณนายสร้อยเพชรปึงปังๆ ออกไป...สายมุกแอบยิ้มสะใจ พะวงเห็นเข้าก็งงๆ
“ขำอะไรเหรอคะ”
“เปล่านี่คะ พี่พะวงรีบทำตามที่คุณมาสั่งเถอะ เดี่ยวก็ฟื้นขึ้นมาก็ก่อนหรอก”
สายมุกเดินออกไป พะวงเตรียมจะลากโอมแล้วหยุดคิด
“เมา...ไม่มีสติ...ลากไปทิ้งหน้าบ้าน หรือลากเข้าห้องนอนเราดีวะ” พะวงตัดใจ “เฮ้ย...อย่าเลย ระดับเรา ต้องได้ดีกว่านี้”
พะวงลากโอมออกไป

บรรยากาศตลาดสดยามเช้ากำลังวุ่นวาย ที่มุมหนึ่ง ประเวทกับดาราลุกออกมาจากซอกที่อาศัยนอนเมื่อตอนกลางคืน เสียงท้องดาราร้องดัง จ๊อก ด้วยความหิว
“พี่...ฉันหิวอ่ะ ตั้งแต่เมื่อวานยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย”
“ฉันก็ไม่ต่างจากแกหรอก...ตังค์ก็ไม่มีเหลือสักบาท...เอาไงดีวะ”
ดาราใช้ความคิด
“เอางี้มั๊ย...เราไปขอตังค์ไอ้หนุ่มที่เคยช่วยเราคราวก่อนมั๊ย”
ประเวทคิดตาม
“เอางั้นเหรอ”
ดาราพยักหน้า ทั้งสองรีบลุกออกมา แล้วเดินออกไป...

อีกด้านดวงเข็นไข่มาส่งให้อาซ้ง
“อาดวง อั๊วบอกว่าไม่ต้องๆๆ ลื้อก็หน้าด้านทำอยู่ได้ อั๊วเกรงใจ”
“ถ้าเกรงใจ ก็ให้ผมทำต่อไปเถอะครับ อย่าห้ามผมเลย”
ดวงขนลง ประเวทกับดาราเดินมาเห็นดวงหลบวาบไปตั้งหลักก่อนแต่ไม่ไกลนัก ดวงหันมาบอกอาซ้ง
“เหลือไข่เค็มกับไข่เยี่ยวม้าอย่างละ10 นะเฮีย เดี๋ยวผมมา”
ดวงเข็นรถออกไป อาซ้งมองตามไป หนักใจ
“ไอ้ดวงเอ้ย บุญเอ็งมันดี แต่วาสนาเอ็งคงไม่มี มันถึงได้เป็นแบบนี้ พ่อแม่เอ็งมันจะรู้มั๊ยว่าลูกที่มันเอามาทิ้งไว้ที่นี่ เป็นคนดีขนาดไหน”
อาซ้งมองตามดวง ประเวทกับดาราได้ยินคิดๆ ซันวิ่งหน้าหอบเข้ามา ส่งเงินให้เตี่ย
“สามร้อยห้าสิบ สั่งเพิ่มอีก5แพงด่วน เร็วๆ เตี่ย เยี่ยวด้วยเยี่ยว”
“กูไม่ปวด”
“หมายถึงไข่เยี่ยวม้า!”
“อ้าวเหรอ”
อาซ้งหยิบส่งให้ ซันรีบยกออกไป...ประเวทคิดๆ ก่อนจะเข้ามาหาอาซ้ง
“เอิ่ม...เฮีย”
“ไม่เคยเห็นหน้า ลื้อไม่เคยมาซื้อของที่นี่ล่ะสิ ลื้อจะเอาไข่อะไรเบอร์ไหน บอกมาเลย อั๊วมีหมด”
“ไม่ได้จะมาซื้อไข่หรอก แต่จะมาถามอะไรหน่อย”
“ถามอะไรวะ อั๊วกำลังยุ่งๆ อยู่”
ประเวทมองๆ ไปรอบๆ เห็นดวงเข็นรถอยู่อีกทาง ประเวทชี้ไป
“ไอ้หนุ่มคนนั้นน่ะ เขาเป็นใครเหรอ”
“แล้วลื้อจะอยากรู้ไปทำไม”
“แค่ถามดูเฉยๆ”
“ถามก็ไม่ได้” อาซ้งจ้องหน้าระแวง “หรือว่าลื้อมาดูต้นทาง คิดจะปล้นมัน
ใช่ไหม”
ประเวทโวยทันที
“อะโธ่ ปัดถุย! จะมาปล้นมันทำไม มันรวยนักเหรอไงฮะ”
“รวยสิวะ คนถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ไม่รวยได้ไง”
ประเวทหันไปสบตากับดารา
“ล็อตเตอรี่รางวัลที่1...”
ประเวทแทบลมจับตาโตคิดถึงเงินมหาศาล ดาราเริ่มปากคอสั่นวิงเวียน
“แล้ว...แล้ว...พ่อแม่...เขาล่ะ”
“โอ๊ย...ไอ้ดวงมันถูกเอามาทิ้งไว้ที่ตลาดนี่ตั้งแต่ยังเล็กๆ...ป่านนี้พ่อแม่มันคงไปสังเวยสุขอยู่ที่ไหนแล้วไม่รู้”

ดาราได้ยินที่อาซ้งพูดหน้ามืดเป็นลมไป ประเวทกับอาซ้งตกใจ

มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 8 (ต่อ)

ดวงขับซาเล้งกลับมาจอดหน้าตลาด…แหววกับซันรีบเข้ามาหา

“ไอ้ดวงๆๆ มานี่ก่อน”
ซันกับแหววช่วยกันดึงดวงไปหลบมุม
“เฮ่ย...มีอะไรวะ”
“มีคนมารอพบแก”
“รอพบฉันเนี่ยนะ ร้านไหนวะ ก็ฉันบอกหมดแล้วนี่ว่าวันนี้จะเอาไข่ไปส่งเอง ไม่ต้องมารับ เอ๊ะ...หรือว่าลืมเจ้าไหน เอ้ย...เดี๋ยวไปถามเฮียก่อน”
ดวงจะเข้าไปซันดึงไว้
“ไม่ใช่ลูกค้าเว้ย”
“ถ้าไม่ใช่ลูกค้า แล้วจะเป็นใครวะ”
“นักร้องมั๊ง” ซันร้องเพลง “อยากจีบ จีบได้ แฟนไม่รัก”
ซันเต้นประกอบไปด้วย แหววตวาด
“ไอ้ซัน นี่ไม่ใช่เวลาทำตลก ซีเรยสนะเว้ย ฟังฉันนะดวง พ่อกับแม่แกอยู่ข้างในโน่น กำลังรอเจอแกอยู่”
“อ๋อ แล้วไป” ดวงสะดุ้ง “เฮ้ย! ว่าไงนะ พ...พ...พ่อแม่ใคร”
แหววกับซันชี้มาที่ดวงพร้อมๆ กัน…ดวงช็อค!

ประเวทกับดาราพล่ามอยู่ในตลาด ดาราทำท่าเศร้าสุดๆ
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีวันไหนเลยที่ฉันนอนตาหลับ ถึงหลับก็ฝันร้าย ในหัวมันมีแต่เรื่องลูก ลูก ลูก ลูกฉันอยู่ไหน ลูกแม่”
ดาราลีลาเยอะมาก อั้มประจบดาราสุดๆ เพราะหวังผล
“โถๆๆ อย่าร้องไห้ค่ะคุณแม่ขา เจอกันแล้วนะคะ ไม่ได้เจอแต่ลูกชายนะคะ เจอลูกสะใภ้ด้วย”
ลั้นลาเบียดอั้มออกไปด้วยความหมั่นไส้ แล้วหันไปเอาหน้ากับดารา
“มาให้กะเทยเช็ดน้ำตาดีกว่าค่ะคุณแม่”
ประเวทเห็นลีลาดาราแล้วอนาถใจ แต่ก็ไม่ยอมแพ้
“ฉันก็ห้ามเธอแล้วว่าอย่าทำแบบนี้ อย่าทิ้งลูก ห้ามยังไงก็ไม่ฟัง”
“อ้าว…”
ดาราเหลือบตามองประเวทแบบอยากจะถีบ ประเวทโยนความผิดให้ดาราต่อ
“ทั้งหมดมันก็เป็นความผิดของเธอนั่นแหละ ถ้าคืนนั้นฉันไม่เผลอหลับไป เธอก็คงไม่สบโอกาสเอาลูกออกมาทิ้ง”
ดาราแค้นมาก แต่ก็ยังต้องพยายามอยู่ในบทเดิม
“ก็ถ้าพี่ไม่ใช่ผีพนัน ไม่ใช่โจรงัดแงะ ไม่ใช่นักโทษแหกคุก มันจะเดือดร้อนมาถึงฉันกับลูกเหรอ”
ประเวทหน้าเหวอ
“อ้าว...เฮ่ย พูดอะไรวะ”
ดาราเหยียบเท้าไว้ พูดลอดไรฟัน
“ก็แกด่าฉันก่อนทำไม” ดารากลับเข้าโหมดเศร้าต่อ “ฉันจำเป็นจริงๆ ที่ต้องทำแบบนี้ ทุกคนเข้าใจความรู้สึกฉัน ใช่ไหมจ้ะ ใช่ไหมๆๆ”
คนอื่นๆ ที่มุงกันอยู่บ้างก็พยักหน้ารับ บ้างก็งงๆ เจ๊แต๋วหน้าตาไม่เชื่อ อาซ้งตัดบท
“เอาเหอะๆๆ จะเป็นมายังไง เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว อดีตน่ะช่างหัวมัน พูดเรื่องปัจจุบันกันดีกว่า”
เจ๊แต๋วเห็นด้วย
“ใช่...ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าแกสองคนเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของไอ้ดวง ไม่ใช่พวกชุบมือเปิบ เห็นไอ้ดวงมันรวยก็เลยมาสวมรอยเป็นพ่อแม่”
“เออนั่นสิ...เป็นไปได้นะ เจ๊แต๋วพูดถูก ตกลงยังไงกันเนี่ย”
ทุกคนพากันวิจารณ์ ลั้นลาโพล่งขึ้นมา
“ตรวจดีเอ็นเอสิ ไม่เห็นจะยากเลย”
เจ๊แต๋วนึกได้
“เอางี้ แกสองคนกล้าสาบานไหม ถ้าพวกแกมาโกหกขอให้รถชนตาย ว่าไง กล้าสาบานไหม”
ประเวทกับดารามองหน้ากัน เจ๊แต๋วถามย้ำ
“ว่าไง แน่จริงก็สาบานมาสิ สาบาน”
ประเวทกับดาราไปต่อไม่ถูก ทันใดนั้น ซันก็นำหน้าดวงเข้ามา
“นั่นไง พ่อแม่”
ประเวท ดาราหันมามองแล้วรีบโผไปกอดดวง
“ดวง...ดวงลูกแม่จริงๆ ด้วย แม่จำกลิ่นได้”
ดวงอึ้งๆ เผชิญหน้ากับดารา ท่ามกลางการจับจ้องรอเม้าของทุกคน...ดวงจ้องหน้าดาราด้วยสีหน้าตื่นๆ
“ผม...ผมเป็นลูกพวกคุณเหรอครับ”
ทุกคนฮือฮา นั่นสิ...มั่วรึเปล่า...เอาอะไรมาพิสูจน์...ประเวทชักหวั่นๆ แต่ดาราไม่หวั่น ดาราพึมพำเบาๆ
“อยากให้พิสูจน์กันนักใช่ไหม...ได้” ดารามองหน้าดวง “หนูมีไฝที่ก้นข้างซ้ายใช่ไหมจ้ะ”
ดวงสะดุ้งโหยง
”อุ้ย!”
อั้มยิ้มๆ
“จริงไหมพี่ดวง ตอบไปเลย ยังไงอั้มก็รัก”
“เอ่อ...” ดวงอายๆ “จริงครับ”
คนฮือฮา...รู้ขนาดนั้น...สงสัยจะใช่...บังเอิญมั๊ง ดาราบอกต่อ
“แล้วก็มีปานที่ก้นข้างขวา”
ลั้นลาหันมาหาดวง
“จริงไหมพี่ดวง ตอบไป มีตำหนิแต่ลั้นลาไม่ถือ”
ดวงเขินๆ
“เอิ่ม…จริงครับ”
“พิสูจน์ด้วยสิจ้ะ มาลั้นลาช่วย”
ลั้นลาจะเข้ามาถอดกางเกง ดวงดิ้นหนี
“ฮึ่ย...จะบ้าเหรอ อย่านะ”
คนฮือฮา ดาราลอยหน้าลอยตาใส่ประเวททำนองว่าเจ๋งไหมล่ะ อาซันบอกกับดวง
“รู้ตำหนิขนาดนี้ คงจะตัวจริงแล้วล่ะ”
ทุกคนฮือฮาใช่ไม่ใช่กันให้ลั่น….ดวงมองหน้าประเวทกับดารา
“พ่อ…แม่…คุณสองคนเป็นพ่อแม่ผมจริงๆ ด้วย”
ดารากับประเวทร้องออดมาพร้อมกัน
“ลูกแม่/ลูกพ่อ”
สองคนโผเข้ากอด ดวงอึ้งๆ ทำตัวไม่ถูก

พะวงถือโทรศัพท์วิ่งเข้ามาในห้องรับแขก คุณนายสร้อยเพชรแต่งตัวงามกำลังลงบันไดมา
“คุณนายขา คุณโอมโทรมาค่ะ”
พะวงยื่นให้
“บอกไปว่าฉันไม่รับ แล้วก็ไม่ต้องโทรมาอีก”
คุณนายสร้อยเพชรเดินออกไปด้านนอก พะวงหน้าเหวอๆ
“อ้าว…เอ่อ เอาไงล่ะวะ” พะวงพูดสาย “เอ่อ คุณโอมคะ คือ คุณนายขี้อยู่ค่ะไว้โทรมาใหม่นะคะ”
พะวงวางสายไป

คุณนายสร้อยเพชรเดินออกมาหน้าบ้านเจอสายมุก คุณนาย สร้อยเพชร ด่างึมงำติดปากมา
“ยังจะมีหน้าโทรมาอีก”
“บ่นอะไรเหรอคะคุณแม่”
“ก็ไอ้ขี้เมาโอมน่ะสิ ทำเรื่องไว้ขนาดนั้นยังจะกล้าโทรมา ฉันไม่มีเวลาคุยกับคนขี้เหล้าหรอก เอาเวลาไปคุยธุรกิจดีกว่า”
“เดี๋ยวๆๆ ค่ะ คุณแม่จะไปคุยธุรกิจที่ไหนคะ อย่าบอกนะคะว่าไปตลาด”
“ทำไม...แกจะตามไปขัดขวางฉันอีกรึไง หยุดเลยนะ ไม่ต้องไป เรื่องตลาด ฉันจัดการคนเดียว”
คุณนายสร้อยเพชรเดินไปที่รถแล้วขับออกไป สายมุกมองตามไปอย่างไม่ไว้ใจ
“นายดวงต้องเดือดร้อนอีกแน่ๆ เลย”

โอมนอนแฮงค์ดมยาดมอยู่ที่โซฟา มีกระโถนวางข้างๆ
“โอ่ย...ทำไมมันอาการเหมือนแฮงค์เหล้ายังงี้วะ มันต้องมีอะไรในข้าวแน่ๆ”
โอมหยุดอาเจียน เงยขึ้นมาสูดยาดมเฮือกใหญ่
“แล้วเหล้ามันจะมาอยู่ในข้าวได้ยังไง…หรือว่าน้องมุกใส่เหล้า”
โอมหยุดอ้วกอีก
“เฮ่ย…แล้วน้องมุกจะมอมเหล้าเราทำไมวะ…หรือว่า...ฮึ่ย เป็นไปไม่ได้ น้องมุกจะเกลียดเราได้ยังไง เราออกจะเพอร์เฟค”
โอมอ้วกอีกรอบ ครั้งนี้รอบใหญ่
“เฮ่อ…หรือว่าไอ้หวยมันจะแอบยุให้ทำ…ใช่ ต้องเป็นไอ้หวยแน่”
โอมควานหาโทรศัพท์ กดโทรออกก่อนจะอ้วกอีกครั้ง เสียงนักเลงกดังมาจากปลายสาย
“สวัสดีครับคุณโอม มีอะไรให้ผมรับใช้อีกแล้วใช่ไหมครับ”

“มีแน่...คราวนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด”

ลั้นลาวิ่งออกมาที่ร้าน รีบหยิบเครื่องสำอางมาเติมหน้า

“ต้องสวยไว้ สวยให้ตลอด พ่อผัวแม่ผัวจะได้รัก เฮะๆๆ นังอั้มแกไม่มีวันเอาชนะฉันได้หรอก...ปากแดงจะแรงไป เอาแค่ใสๆ เด้งๆ ก็พอ เฮะๆ”
ลั้นลาหันหน้ามาทาปาก เจอกับเข้าคุณนายสร้อยเพชรที่เข้ามาพอดี
“ว้าย!”
ลั้นลาตกใจ ทาปากปื้ดไปถึงหู
“ตกใจอะไรของเธอยะ ไม่เคยเห็นผู้หญิงแท้รึไง”
คุณนายจะเข้าไปข้างใน แต่ลั้นลารีบเข้ามาขวางไว้
“เดี๋ยวค่ะคุณนาย เข้าไปตอนนี้ไม่ได้นะคะ”
“ทำไม...ตลาดของฉัน ทำไมฉันจะเข้าไม่ได้”
“ก็วันนี้วันมงคล ขืนคุณนายเข้าไป ก็อัปมงคลพอดีน่ะสิคะ”
“เอ๊ะ!”
ทันใดนั้นมีเสียงตะโกนลั่น
“เอ้า...ไช...โย...ไช...โย”
“อะไรกันน่ะ มีอะไรกัน”
คุณนายสร้อยเพชรรีบเดินเข้าไป ลั้นลาคว้าไม่ทัน
“ตัวซวยเข้าไปแล้ว แย่แน่ๆ”
ลั้นลารีบแต่งหน้าแล้ววิ่งตามเข้าไป สายมุกมาถึงพอดี บอกตัวเองอย่างมุ่งมั่น
“ไม่ต้องกลัวนายดวง ฉันมาช่วยแล้ว”

ดารากับประเวทยังคงตีบทเศร้าไม่เลิก
“แม่ขอโทษที่ทิ้งลูก แต่แม่ไม่ยอมให้ลูกเอาชีวิตมาเสี่ยงด้วยเป็นอันขาด เข้าใจแม่นะลูกนะ”
เจ๊แต๋วโวยทันที
“แต่ยังไงมันก็ต้องพิสูจน์นะ”
คุณนายสร้อยเพชรเข้ามา
“ทำอะไรกันน่ะ”
ทุกคนสะดุ้งโหยง หันไปมอง คุณนายสร้อยเพชรมองหน้าดารากับประเวท ดวงอึกอักบอกดารา
“เอ่อ...คุณนายสร้อยเพชรเจ้าของตลาดสดสร้อยเพชรแห่งนี้น่ะครับ”
ดารากับประเวทพยักหน้ารับรู้ ทำหน้าหยิ่งๆใส่ คุณนายสร้อยเพชรมองหน้าสองคน
“แล้วสองคนนี้เป็นใคร”
อั้มพูดแทรกฉอดๆ
“พ่อผัวแม่ผัวอั้มเองค่ะ เป็นพ่อแม่พี่ดวง เอาพี่ดวงมาทิ้งไว้ที่ตลาดนี่ตั้งแต่แบเบาะแล้วก็เพิ่งโผล่หน้ามาตอนนี้นี่แหละค่ะ”
คุณนายจ้องหน้าดารากับประเวท
“พ่อแม่เหรอ”
สายมุกแอบดูอยู่ที่มุมหนึ่ง ตาโต
“พ่อแม่นายดวงงั้นเหรอ”
ดาราจ้องหน้าคุณนายสร้อยเพชรอย่างไม่เกรง
“มีปัญหาอะไรไม่ทราบ”
ประเวทชี้หน้าตนเอง
“ถ้าไม่เชื่อให้ดูที่หนังหน้า เหมือนกันเป๊ะ”
ประเวทเอาตัวไปเทียบกับดวง
“ถ้าเป็นพ่อแม่จริงก็ขอให้รับรู้ไว้ด้วยว่า ฉันคือคุณนายสร้อยเพชรผู้มี เมตตาให้ที่อยู่ที่กินลูกชายของพวกเธอมาตั้งแต่แบเบาะจนถึงตอนนี้ บุญคุณของฉันนั้นมากมายล้นเหลือ พูดทั้งคืนก็ไม่จบ แต่อย่าไปสนใจเรื่องนั้นเลย เอาเป็นว่ามาก็ดีแล้ว” คุณนายสร้อยเพชรขอเช็คแฮนด์ “ยินดีที่ได้รู้จัก”
ดารากับประเวทเช็คแฮนด์ด้วยงงๆ…คนอื่นๆ มองกัน เอ๊ะ...ยังไง ดาราหันมาหาประเวทพูดเบาๆ
“นังคุณนายนี่ท่าทางไม่น่าไว้ใจ”
“เฉยๆ ดูท่าทีไปก่อน”
คุณนายสร้อยเพชรเข้าไปทักทายดาราอย่างสนิทสนม
“แล้วนี่มาจากไหนกันเหรอ”
“มาจากต่างจังหวัดครับ”
“อ้าว...ไม่ใช่คนกรุงเทพเหรอ”
ดาราเชิด
“ใช่...แต่เบื่อ เลยย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด”
คุณนายสร้อยเพชรลอบยิ้มร้าย หันไปบอกดวงอย่างใจดี
“นายดวง จำเรื่องที่เราคุยกันวันก่อนได้ไหม ฉันว่ามันถึงเวลาแล้วล่ะ…นายดวงจำเป็นต้องใช้แล้ว”

คุณนายสร้อยเพชรพามาชมบ้านเช่าโม้เต็มที่ ดารากับประเวทท่าทางตื่นเต้นมากๆ
“สามห้องนอน สองห้องน้ำ ห้องโถงกว้างขวาง รับแขกได้ไม่อั้น”
ดวงพยายามแย้ง
“เอ่อ...คือคุณนายครับ ผมไม่…”
คุณนายสร้อยเพชรยกมือห้ามไม่ให้ดวงพูด
“อย่าๆๆ อย่าได้ปฏิเสธ เธอไมได้ตัวเปล่าแล้วนะ มีพ่อมีแม่แล้วอย่าลืมสิ”
คุณนายสร้อยเพชรมองดารากับประเวท
“แค่เห็นก็ตื่นเต้นแล้วใช่ไหมล่ะ”
ดารามองรอบๆ
“แต่มันดูเก่าๆ น่ะ”
“เขาไม่เรียกว่าเก่า เขาเรียกสไตล์เรตโทนิดๆ วินเทจหน่อยๆโฮมมี่ๆ อบอุ่นน่าอยู่”
ดารากับประเวทชะงักอึ้ง
“อ่อ”
ประเวทกระซิบถามดารา
“คืออะไรเหรอ”
ดาราส่ายหน้า
“ไม่รู้...ทำเป็นรู้ไปก่อน เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราเชย”
สายมุกมาแอบดูด้านนอก
“จนได้สิน่า คุณแม่ นึกแล้วไม่มีผิดเลย หลอกขายบ้านอีกจนได้”

คุณนายสร้อยเพชรเดินนำทุกคนเข้าไปในครัว นำเสนอเต็มที่
“ครัวก็ใหญ่โต อากาศถ่ายเทโล่งโปร่งสบาย ทำอาหารชาติไหนๆก็ได้หมด แล้วแต่รสนิยม” คุณนาย สร้อยเพชรเหลือบตามองแล้วแอบพูดเบาๆ “หึ สภาพอย่างนี้ได้ตำป่าแตกแน่ๆ”
ดวงทนไมไหว
“เอ่อ...คุณนายครับ”
“นายดวง ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนดี คนดีก็ต้องตอบแทนพระคุณพ่อแม่หาบ้านดีๆ ให้ท่านอยู่สิจ้ะ”
ดวงพยายามแย้ง
“แต่ว่าผม...”
คุณนายสร้อยเพชรสวนขึ้นทันที
“ไม่ต้องกลัว ฉันจะช่วยให้นายได้ตอบแทนเอง”
ประเวทกระซิบดารา
“ท่าทางสิบแปดมงกุฎชอบกล”
ดารากระซิบถาม
“รู้ได้ไง”
ประเวทกระซิบตอบ
“เอ้า...สิบแปดมงกุฎเหมือนกัน ก็ต้องดูกันออกสิ”

คุณนายสร้อยเพชร พาทุกคนมาที่สนามหน้าบ้าน
“ด้านนอกเป็นสนามหญ้า ทำสวน ปลูกต้นไม้ เลี้ยงกระต่าย โอ๊ย...ทำได้ทุกอย่าง”
ดวงกลุ้มอกกลุ้มใจ ทันใดนั้นสายมุกก็เข้ามาดึงเขาวูบออกไปที่มุมอีกด้าน สายมุกส่งสัญญาณไม่ให้ดวงเสียงดัง
“คุณมุก!”
“อย่าเสียงดังไปสิ ไม่ต้องตกใจนะ ฉันมาช่วยนายแล้ว”
“ไม่ตกใจครับ แต่ดีใจที่ได้เจอคุณ”
“ดีใจแน่เหรอ”
“แน่สิครับ แน่สุดๆ”
สายมุกเขินๆ ดวงก็เขินๆ
“ฉันก็ดีใจนะ…ที่นายได้เจอหน้าพ่อแม่ ดีใจด้วยนะ”

สองคนสบสายตากัน หวานซึ้ง

โปรดติดตาม มนต์รักตลาดสด ตอนต่อไป พรุ่งนี้ 9.30 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น