มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 5
พระจันทร์ลอยเด่นเต็มดวง…เสียงหมาหอนดังขึ้น สายมุกกับดวงนั่งหันหลังคู่กัน บรรยากาศเหมือนจะโรแมนติกแต่มีเสียงหมาหอนตลอด
“รับไว้เถอะดวง เธออย่าปฏิเสธมันเลย”
“แต่ผม…”
“รับไว้เถอะน่า”
“ไม่เอาหรอกครับ...”
“ฉันไม่ได้พูดถึงเรื่องล็อตเตอรี่นะ”
“อ้าว...ถ้าไม่ใช่ แล้วคุณพูดเรื่องอะไรครับ”
สายมุกมองหน้าดวงแปลกๆ เผยอริมฝีปากขึ้นทำเซ็กซี่ แล้วโน้มหน้าเข้าหาดวง
“ก็เรื่องจูบน่ะสิ ฉันอยากให้เธอรับไว้”
สายมุกว่าแล้วก็โน้มหน้าเข้าจูบดวง หมาหอนกันเกรียว
ดวงสะดุ้งตื่นพรวดขึ้นมาหน้าตื่นตกใจ พอรู้ว่าเป็นฝันก็ไหล่เหี่ยวๆ ถอนใจ
“โธ่...!แค่ฝันงั้นเหรอ”
ดวงอารมณ์เสียหันไปมองซันที่นั่งหลับคาเก้าอี้เฝ้ายามอยู่ ซันกรนเสียงดัง
“ไอ้นี่ก็บอกจะมาช่วยเฝ้ายาม ไว้ใจไม่ได้เลย”
ดวงลุกออกไป กางเก้าอี้ออกนั่งลง
“เฝ้าเองก็ได้วะ ไหนๆ ก็ตื่นแล้ว”
ดวงนั่งกอดอกเฝ้ายามตลาด ในหัวคิดไปถึงเรื่องลอตเตอรี่ ดึงลอตเตอรี่ออกจากกระเป๋าขึ้นมาดูเครียดๆ
“ยังไงมันก็ไม่ใช่ของเราอยู่ดี…”
ดวงสลัดความคิดออก นั่งตั้งหน้าตั้งตาเฝ้ายามอย่างจริงจัง
เช้ามืด…ดวงนั่งหลับแต่เขียนเปลือกตาไว้เป็นรูปลูกตา แหววเข้ามาถึงพร้อมกระติกใส่กาแฟเย็น
“ไม่ง่วงเหรอไอ้ดวง เจ๋งว่ะ อยู่ได้ถึงเช้าเลยอ่ะ นี่ฉันเอากาแฟมาฝากกินสิ”
แหววยื่นให้ ดวงนิ่งไม่รับ
“อ้าว...ทำไมไม่กินล่ะ เอาไปดิ จะได้หูตาสว่าง”
ดวงยังคงนิ่งไม่รับ
“เป็นบ้าอะไรของแกวะไอ้ดวง”
แหววผลักหัว ดวงสะดุ้งเฮือก ลืมตาตื่นขึ้นมาหน้าตาตื่น แหววหมั่นไส้
“โอ้โห เขียนตา มุข...มุขนรกอ้ะ”
“นรกแล้วแกเชื่อไหมล่ะ”
ดวงรีบเอากาแฟมาดูดๆๆ
“โห...ฝีมือไอ้ซันใช่ไหมเนี่ย”
ซันง่วงงึมออกมา
“อะราย...อะราย ใครพูดถึงฉันวะ”
ซันหาว ดวงก็หาว ทั้งสองหาวใส่กัน….แหววจับหัวโขลกกันปึง!
“พอได้แล้ว เช้าแล้ว แกสองคนไปเตรียมตัวให้พร้อม โดยเฉพาะไอ้ดวง อย่าลืมสิว่าวันนี้ เรามีภารกิจสำคัญต้องทำ”
ดวง ซัน แหวว เดินมาหยุดอยู่ที่หน้ากองสลาก ซันหันมาถาม
“เฮ้ย...ไอ้แหวว แน่ใจว่าที่นี่”
“เออสิ ใครถูกล็อตเตอรี่ก็ต้องมารับรางวัลที่นี่กันหมดแหละ รีบเข้าไปเหอะ”
แหววจะเดินไป ซันดึงไว้
“เดี๋ยวๆ”
“อะไร อีกล่ะ”
ซันยกมือขึ้นพนม
“ทำตามสิ”
สองคนยกมือขึ้นพนมตามซัน
“ขออย่าให้มีอุปสรรคติดขัดอะไรเลย เพี้ยง! เอ้า ที่นี้ ก้าวเท้าขวา”
ทั้งสามก้าวเท้าขวา
“แล้วถอยหลัง”
ทั้งสามถอยหลัง
“หมุนไปรอบ ๆ”
ทั้งสามหมุน
“เอ้า ทำซ้ำ”
แหววกับดวงร้องขึ้นพร้อมกัน
“เว้ย!”
แหววหงุดหงิด
“จะถึงไหมวะเนี่ย ไอ้บ้า!”
ซันแย้ง
“เอ๋า...มันก็ต้องเอาเคล็ดกันก่อนสิ”
“หลบไปๆ” แหววหันไปบอกดวง “ไอ้ดวง ตามฉันมา”
แหววเดินนำหน้าเข้าไป
ร้านกาแฟ…ลั้นลารีบเร่งชงกาแฟ มีลูกค้ารอคิวหลายคน เป้งกับต๋อยช่วยไปใส่ลีลาไป
“รอแป๊บนะครับ รับรองว่าได้ทุกคน ไม่ต้องแย่งกัน อย่าแตกคิวนะครับ เดี๋ยวผมจะเอาไม่อยู่”
“เอาเข้าไป เฮ้อ...ฉันว่าหัวใจพี่ ไม่ใช่แค่อ่อนแอหรอก เสื่อมทรามด้วย”
เป้งเงื้อมือ
“เดี๋ยวหน่วง...เดี๋ยวหน่วง”
“เอ๋า...ก็มันเห็นๆ ศีลธรรม พี่รู้จักไหม ถามจริงๆ พี่ไปวัดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”
“ตอนไปเก็บมึงมาเลี้ยงมั๊ง”
“อ้ะ...เบี่ยงเบน เบี่ยงเบนประเด็นตลอด คนเราอ่ะน่ะพี่ ถ้าเกิดมาหน้าชั่วแล้วเนี่ย มันต้องเอานิสัยเข้าสู้ นิสัยดีๆ เข้าไว้ คนเขาจะได้เมตตา”
เป้งถีบโครม
“เม้นอะไรเม้นได้ กูไม่เจ็บ! แต่เม้นหน้าตา กูรับไม่ได้...กูเจ็บ!”
“ฮึ่ยย! ไปให้พ้น...ไม่ต้องมาช่วยแล้ว รำคาญ!”
ลั้นลาพยายามไล่เป้งกับต๋อยออกไป เสียงดังลั่น อั้มเอาน้ำสาดโครมใส่ทั้งสาม ต๋อย เป้ง และลั้นลาประสานเสียงร้องลั่น
“แอร๊ยย!”
อั้มตะโกนด่า
“คนเขาจะทำมาหากิน เสียงดังอยู่ได้ หนวกหู”
ลั้นลาสวนทันควัน
“หนวกหูก็ไปตายซะสิ มายืนเตี้ยอะไรอยู่แถวนี้”
“ฉันก็มารอพี่ดวงของฉันน่ะสิยะ ไม่รู้หายไปไหน หาไม่เจอตั้งแต่เช้าแล้ว”
“อ๋อ...พี่ดวงน่ะเหรอ แกไม่มีวันหาเจอหรอก”
“แกรู้เหรอว่าเขาอยู่ที่ไหน”
“อยู่นี่!”
ลั้นลาแบะคอเสื้อโชว์ อั้มหน้าตื่น
“ฮ้า!อยู่ในนมแกเหรอ”
“อยู่ในหัวใจย่ะ เข้าไปอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วอ้ะ เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมออกมา เฮะๆ มีความสุขอ้ะ”
“มุขนรกมาอีกแล้ว” อั้มนั่งลง “เอากาแฟมากินแก้วซิ ลาเต้นะ”
“ลาเต้ไม่มี มีแต่ลาตีน เอาไหม”
“อีลั้นลา!”
อั้มจะเข้าไปตบ อาซ้งกับเจ๊แต๋วออกมาพอดี อาซ้งเข้าขวาง
“เฮ้ยๆ หยุดก่อน ๆๆ พวกลื้อสองคนมีใครเห็นอาดวงมั้งไหม”
อั้มหน้าเหวอ
“อ้าว...อาซ้งก็ไม่เห็นเหรอ เอ๊ะ...มันยังไงกันเนี่ย ตกลงพี่ดวงเขาหายไปไหน”
เจ๊แต๋วหงุดหงิด
“ถ้ารู้แล้วจะมาถามหาทำไมวะ ดูซิ หายไปกันหมด ทั้งไอ้ดวง ทั้งไอ้ซัน ไอ้แหวว ลูกสาวฉันก็หายไปด้วย”
ลั้นล้าหน้าตื่น
“ว้าย! หนีตามกันรึเปล่า ลูกสาวเจ๊ยิ่งแรดๆ อยู่ด้วยนะ”
เจ๊แต๋วตบลั้นลาผ่าง!
“นี่แน่หนีตาม...ลูกฉันไม่ได้มักมากนะยะ มันจะผู้ชายเอาไปทำไมตั้งสองคน”
อาซ้งคิดๆ
“เอ้อ...แปลกจริง คนโน้นก็ไม่เจอ คนนี้ก็ไม่เห็น ตกลงไอ้ดวงมันหายไปไหนกันแน่วะ”
ดวง ซัน แหวว อยู่หน้าธนาคาร ดวงมองสมุดบัญชีธนาคารในมือ ก่อนจะทรุดลงไปด้วยความตื่นเต้น แหววกับซันตกใจ
“อ้าว...ไอ้ดวง!”
“เฮ้ย...เป็นไรวะ ถึงกับเข่าอ่อนเลยเหรอ”
ซันช่วยดึงดวงขึ้น แหววมองอย่างเป็นห่วง
“หน้าก็ซีด ปากก็เขียว จะเป็นไรเปล่าวะ”
ซันชะงัก
“เฮ้ย...เป็นเศรษฐีแล้วต้องตายด้วยเหรอ”
“ไม่ได้ตาย! แต่มันตื่นเต้น” ดวงจับสมุดมือไม้สั่น “พวกแกดูซิ...ฉ...ฉ...ฉ...ฉัน ตาฝาดไปรึเปล่า”
แหววส่ายหน้า
“ไม่ได้ฝาดหรอก ตัวเลขมันถูกต้องแล้ว”
ซันปลอบ
“ทำใจดีๆ ไว้ แกเป็นเศรษฐีแล้วเว้ยไอ้ดวง ส่วนฉันก็เป็นเพื่อนเศรษฐีเว้ย”
“เศรษฐี…” ดวงทำหน้าไม่ถูก “แล้วไงวะ…มันต้องยังไงอ่ะ…”
แหววยิ้มมีแผน
“ฉันคิดไว้แล้ว ซ้อมไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ต้องกลัว ฉันจัดการให้แกเอง”
ทั้งสามลงแท็กซี่หน้าห้างสรรพสินค้า แหววเป็นคนจ่ายเงินจีบปากจีบคอบอกคนขับ
“ไม่ทอนนะคะ ดิฉันรวย”
ซันมองอึ้งๆ
“เฮ้ย...มันซ้อมมาจริงเว้ยเฮ้ย”
ดวงเหวอๆ
“แกพาฉันมาห้างทำไมวะ”
ซันมองหน้าแหวว
“เฮ้ย...ไอ้แหวว อย่าบอกนะว่าแกคิดจะถลุงเงินไอ้ดวงให้หมด”
“ฮึ่ย! ไม่ได้คิดชั่วขนาดนั้น แต่ในเมื่อเป็นเศรษฐี แกก็ต้องทำตัวให้เป็นเศรษฐีสมฐานะสิวะ ตามมา เร็วเข้า”
แหววลากแขนดวงเข้าไป ซันตามเข้าไปอย่างไม่เข้าใจ
ในร้านอาหาร...สายมุกปิดเมนูอย่างไม่สนใจ โอมประจบเอาใจ
“ไม่มีอะไรถูกใจเหรอครับ ร้านนี้เขากำลังดังเลยนะ พี่เห็นน้องมุกสนใจเปิดร้านอาหารเลยพามาลองชิม แล้วก็จะได้ดูสไตล์ของร้านด้วยว่าถูกใจไหม”
“มุกไม่ได้อยากทำอะไรแบบนี้หรอกค่ะ”
“อ้าว...ก็ไหนบอกว่าอยากเปิดร้านอาหารไม่ใช่เหรอครับ”
“ใช่ค่ะ...แต่ไม่ใช่อะไรที่มันหรูหรา ขึ้นห้างแบบนี้ มุกแค่อยากมีร้านอาหารเล็กๆ เป็นของตัวเองก็แค่นั้น ถ้าพี่โอมแค่จะมามุกมาดูร้าน มุกก็ดูแล้ว เสร็จธุระแล้ว มุกขอตัวก่อนนะคะ”
สายมุกลุกขึ้น โอมหน้าเสีย
“เดี๋ยวสิครับ ถึงน้องมุกไม่สนใจ แต่ไหนๆ เราก็มาแล้ว ทานข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยแล้วกันนะครับ”
“คงไม่ได้หรอกค่ะ มุกไม่ได้ว่างขนาดจะเอาเวลาไปนั่งกินข้าวกับใครถ้าไม่หิว”
สายมุกเดินออกไป…โอมมองตามไปอย่างโกรธๆ พนักงานเข้ามา
“จะสั่งอาหารเลยไหมครับ”
“ไม่...เช็คบิลค่าเครื่องดื่มเลย เร็วๆ ด้วยนะ”
โอมบอกอย่างเซ็งสุดๆ
ที่แผนกเสื้อผ้าผู้ชาย...แหววเลือกเสื้อ ซันแอบลองอยู่อีกทาง ดวงส่ายหน้า
“ไม่เอานะแหวว ฉันไม่ซื้อ”
“จะได้ไงเล่า รวยแล้วก็ต้องแต่งตัวให้มันสมฐานะหน่อยสิ”
“แกจะบ้าเหรอ แกจะให้ฉันใส่เสื้อผ้าพวกนี้ไปทำงานในตลาดได้ยังไง”
“แกน่ะสิบ้า! ลืมไปแล้วรึไงว่าตอนนี้แกมีเงินแล้ว ไม่ต้องไปทำงานงกๆในตลาดอีกต่อไปแล้ว”
“นี่พอเลย...พอ ยังไงฉันก็ไม่ซื้อ”
“ทำไมวะ แค่เสื้อผ้าไม่กี่ตัว มันจะทำให้แกรวยน้อยลงซะที่ไหน”
ดวงมองหน้าแหวว อย่างโกรธๆ
“แกกำลังเข้าใจอะไรผิดๆ อยู่แล้วไอ้แหวว ผิดมากด้วย”
ดวงหันหลังให้ เดินหนีไปทันที แหววหน้าเหวอไป
“อ้าว...เฮ้ย เดี๋ยวสิ จะไปไหน”
ดวงเดินไปอีกทาง ซันเข้ามาหาแหววพอดี สวนกับดวง
“มีอะไร ไอ้ดวงมันเป็นไรวะ หน้าตุ่ยเลย”
“ฉันก็ไม่เข้าใจมันเหมือนกัน แค่พามาเลือกเสื้อผ้า ทำไมต้องโกรธด้วยวะ”
“เฮ่ย...แกก็ต้องให้เวลามันหน่อยสิ จนมาตั้งแต่เกิด อยู่ๆ รวยปุบปับ มันตั้งตัวไม่ทัน ให้เวลามันปรับตัวรวยหน่อย”
แหววชักสีหน้า ไม่พอใจ
มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 5 (ต่อ)
สายมุกเดินหน้าตึงมาทางหนึ่ง…ดวงหน้าวีนมาอีกทาง และมาชนกันเข้าที่ตรงหัวมุม ทั้งสองพูดพร้อมกัน
“ขอโทษครับ / ขอโทษค่ะ”
ดวงกับสายมุกมองหน้ากัน จำกันได้…ดวงดีใจมาก ทั้งสองพูดพร้อมกันอีก
“คุณหนูสายมุก / นายดวง”
ดวงดีใจจนทำอะไรไม่ถูก
“คุณหนูจริงๆ ด้วย ไม่คิดเลยครับว่าวันนี้จะได้เจอ”
“ฉันก็เพิ่งรู้นะว่านายชอบเดินห้างกับเขาด้วยเหมือนกัน”
“ไม่ๆๆ ไม่ได้ชอบครับ ผมแค่ถูกเพื่อนหลอกมาเฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจมา”
ดวงมองไปเห็นแหววกับซันกำลังวิ่งมาทางนี้
“ขอโทษนะครับ”
ดวงคว้าข้อมือดึงสายมุกหลบไปอีกทาง…สายมุกมองมือของเขาที่จับมือตัวเองอยู่ด้วยความตกใจ โอมตามสายมุกออกมาเห็นสายมุกถูกดวงลากไปทางหนึ่งพอดี
“เฮ้ย!”
แหววกับซันชะเง้อมองหา
“มันหายไปไหนของมันวะ”
โอมตามมาถูกคนบังไว้ พอเบียดออกมาได้ สายมุกกับดวงก็หายไปแล้ว โอมโมโหมาก
“โธ่เว้ย!”
ดวงกับสายมุกถือแก้วน้ำ คนละใบยืนคุยกันอยู่มุมหนึ่ง
“นายว่าอะไรนะ นายถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งงั้นเหรอ”
“จะว่าไป ไม่ใช่ผมหรอกครับที่ถูก ถ้าคืนนั้นไม่เกิดเรื่อง ก็คงมีคนอื่นที่ซื้อล็อตเตอรี่ชุดนั้นไป”
“แต่ยังไงล็อตเตอรี่ชุดนั้นก็ตกมาอยู่ในมือของนาย ฉันว่ามันเป็นเรื่องของโชคชะตา โชคนี้เป็นของนาย อย่าปฏิเสธมันเลย”
“เงินเยอะขนาดนี้ ผมไม่กล้ารับไว้หรอกครับ…แล้วที่สำคัญ ลุงคนขายแกก็สัญญากับผมแล้วว่าสักวัน แกจะกลับมาเอามันคืน”
“นายก็เลยจะเก็บเงินไว้ให้แกงั้นเหรอ”
“ครับ...ผมตั้งใจไว้แล้ว”
“เอาเป็นว่า ถึงยังไงฉันก็ดีใจกับนายนะ แล้วก็ขอให้โชคดีครั้งนี้ นำโชคดีครั้งต่อๆ ไปมาให้นายอีก”
ดวงแอบเหลือบตามองหน้าสายมุกอย่างมีหวังในใจ
“ผมก็หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้นครับ…ผมอยากเป็นคนโชคดีคนนั้น”
สายมุกเหลือบตามองดวง รู้สึกเขิน ร้อนวูบขึ้นมา รีบหลบสายตาไปทางอื่น
แท็กซี่จอดหน้าบ้าน พะวงรีบวิ่งมาดู เห็นสายมุกลงจากรถ
“มาแล้ว!” พะวงตะโกนลั่น “คุณนาย คุณนายขา คุณหนูกลับมาแล้วค่ะ”
คุณนายสร้อยเพชรรีบวิ่งออกมา กำลังคุยโทรศัพท์อยู่
“ยายมุกมาถึงแล้ว แค่นี้ก่อนนะตาโอม น้าจัดการเอง”
คุณนาสร้อยเพชรกดวางสายไป สายมุกเข้ามาพอดี
“แกหายตัวไปไหนมา โอมเขาตามหาตัวแกให้ทั่วไปหมด กำลังจะไปแจ้งความอยู่แล้ว”
“ทำไมต้องแจ้งความด้วยคะ”
“ก็โอมเขาเห็นว่าแกถูกคนร้ายฉุดกระชากลากตัวไปน่ะสิ”
“เขาไม่ใช่หรอกค่ะ”
“ไม่ใช่แล้วมันเป็นใคร บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่ามันเป็นใคร”
สายมุกถอนใจ
“คุณแม่อยากรู้จริงๆ เหรอคะว่าเขาเป็นใคร”
สายมุก คุณนายสร้อยเพชร พะวง นั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก คุณนายสร้อยเพชรตกใจตาเหลือก ผงะ พะวงรีบประครองไว้
“ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง”
พะวงหันมาถามสายมุกอย่างตื่นเต้น
“โอ๊ย เขามีเมียมีลูกหรือยังคะคุณหนู ยังโสดอยู่ใช่ไหมคะ”
สายมุกงงๆ
“ถามทำไมคะ”
“เอ้า...ก็อยากเป็นเมียเขาน่ะสิค่ะ รวยขนาดเนาะ”
สายมุกเซ็งๆ
“เรื่องนั้นพี่พะวงคงต้องไปถามเขาเองแล้วล่ะค่ะ มุกไม่ทราบ”
คุณนายสร้อยเพชรมองหน้าลูกสาวแล้วถามเสียงแข็ง
“มันชื่ออะไร ไอ้คนถูกมันชื่ออะไร”
พะวงฉุนกึก
“เอ้า คุณนาย มาแย่งกันอย่างนี้ ตบกันเลยดีกว่าค่ะ ใครชนะได้ผัว”
คุณนายสร้อยเพชรขึงตาใส่
“ฮึ่ย! ฉันไม่ได้อยากแย่งกับแก” คุณนายหันมาถามลูกสาว “บอกแม่มาซิว่ามันชื่ออะไร”
“ดวงค่ะ...เขาชื่อดวง”
“ดวงจะมีเมีย เฮะๆๆๆ ถ้ายังโสดป่านนี้แย่งกันให้ขวั่กแล้ว ต้องรีบไป”
พะวงรีบร้อนออกไป คุณนายสร้อยเพชรลุกตาม
“ยายพะวง รอฉันด้วย”
สายมุกอึ้งไปเลย
“เดี๋ยวค่ะคุณแม่ คุณแม่จะไปหาเขาเหรอคะ”
“แน่นอน” คุณนายยิ้มอบอุ่น “คนในตลาดของฉัน ก็เหมือนคนในครอบครัวของฉัน เมื่อโชคดีขนาดนี้ ฉันต้องไปแสดงความยินดี”
คุณนายสร้อยเพชรดราม่าออกไป…สายมุกมองตามไปอย่างไม่เชื่อ
“คนในครอบครัว...เหรอ”
ดวงนั่งวินมอเตอร์ของต๋อยมาลงหน้าตลาด...จ่ายเงิน
“ขอบคุณครับพี่”
“ยินดีรับใช้ครับ จะแต่งตั้งให้เป็นคนขับรถประจำตัวเลยก็ได้นะ อยากยกระดับ อัพเลเวลอ่ะ”
ดวงหัวเราะเหะหะรีบเดินเข้าไปด้านใน เป้งที่นั่งอยู่มองต๋อยอย่างหมั่นไส้
“เปรี้ยว...รับใช้เศรษฐีเข้าหน่อย เปรี้ยวเลยนะมึง”
“คนกำลังดัง มีชื่อเสียง มันก็ต้องเกาะกระแสเขาไว้หน่อย คอยดูนะพี่ถอยรถเมื่อไหร่ ฉันจะรีบเข้าไปขับให้เลย ไม่ขับมันแล้วแท็กซี่ กระจอก ไม่สมศักดิ์ศรีอ่ะ”
“มึงอย่าพูดให้กูเกลียดมันมากไปกว่านี่ได้มั๊ย แค่นี้กูก็อกจะแตกตายอยู่แล้ว…เฮอะ เงินทองมาได้ก็หมดได้วะ แต่หน้าตาดีๆ อย่างกูเนี่ย รับรองอยู่กับตัวไปจนตาย มึงไม่มีวันเอาชนะกูได้ทุกอย่างหรอกเว้ยไอ้ดวง”
“เอาเลย คิดแบบไหนแล้วสบายใจ คิดเลยพี่ เต็มที่ไปเลย”
ดวงเข้ามาในตลาด เห็นว่าบรรยากาศตลาดดูแปลกๆ เงียบๆ ไร้ผู้คน วังเวง
“หายไปไหนกันหมด...” ดวงตะโกน “เฮียซ้งครับ เจ๊แต๋ว ผมกลับมาแล้วครับ”
เงียบไม่มีเสียงตอบรับ
“ฮึ่ย...นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมมันเงียบยังกับตลาดร้างเลยวะ เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย”
ทันใดนั้นเสียงประทัดก็ดังขึ้น! ดวงตกใจร้องขึ้นมาสุดเสียง คนอื่นๆ ออกจากที่ซ่อนมา อาซ้งจุดประทัดอยู่ เจ๊แต๋วเดินยิ้มแย้ม
“ยินดีต้อนรับคุณชายดวงกลับสู่ตลาดของพวกเรา”
ทุกคนร้องขึ้นพร้อมกัน
“ฮิ่ววว”
อั้มถลาเข้ามา
“พี่ดวงจ๋า เหนื่อยไหมจ้ะ ต่อไปนี้อั้มจะเป็นคนคอยดูแลพี่ดวงเองนะจ้ะ”
ลั้นลาผลักอั้ม
“ไปเลย อย่ามายุ่งกับพี่ดวงของฉัน”สั้นลาส่งกาแฟเย็นให้ “แก้วนี้ชงด้วยใจ ให้ด้วยความรักนะจ้ะพี่ดวง”
ทุกคนเฮฮาเข้าใส่ดวงกันใหญ่ เจ๊เฉียดเดินเข้ามาหาดวง
“เจ๊ว่า คุณดวงเขาดูหล่อขึ้นนะ หล่อกว่าเมื่อวานตั้งเยอะ ดูดีแบบนี้อย่าลืมมาอุดหนุนร้านเจ๊นะ”
เจ๊แต๋วเสริม
“เขาเรียกมีออร่า คนเขามีออร่าาา”
เจ๊เฉียดชื่นชม
“ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูดีไปหมดเลย”
อั้มปลื้มสุดๆ
“หล่อค่อดๆ เลยอ้ะ น่ารว้ากกกกอ้ะ”
“หล่ออย่างนี้ต้องปล้ำ”
ลั้นลาว่าแล้วก็จะโผเข้าปล้ำ ดวงตกใจร้องลั่น
“เฮ้ย เดี๋ยวๆๆๆ นี่มันอะไรกันครับ เกิดอะไรขึ้น ผมงงไปหมดแล้ว”
ซันกับแหววหัวเราะออกมาจากด้านหนึ่ง
“ไม่ต้องงงหรอกไอ้ดวง ฉันสองคนบอกข่าวดีของแกให้ทุกคนเขารู้หมดแล้ว”
แหววยิ้มร่า
“ตอนนี้แกไม่ใช่ไอ้ดวงซวยแล้วนะ แต่เป็นคุณดวงดี”
ทุกคนเข้ามารุมล้อมดวง แย่งพูดกันเซ็งแซ่...ได้เท่าไหร่อ้ะ...คิดยังไงไปซื้อ...ฝันเห็นเลขเหรอ...โคตรโชคดีเลยอ้ะ...รวยแล้วนะ...จะเอาเงินไปทำอะไร...ขอยืมตังค์หน่อยสิ เจ๊แต๋วยกมือห้าม
“เฮ้ย!พอได้แล้ว ออกไป...ออกไปเลย...ออกไปให้พ้นจากลูกชายอั้วเลย”
ลั้นลาตาโต
“อ้ะแน่ะๆๆๆๆๆ พูดออกมาได้ว่าลูกชายเจ๊”
อาซ้งรีบโวย
“ใช่...มั่วที่สุด มาตู่เอาลูกชายอั๊วไปเป็นของลื้อได้ยังไงวะ”
ลั้นลาส่ายหน้าเอือมๆ
“เอานี่ก็พอกัน ตกลงสองคนนี้แอบเป็นผัวเมียกันแล้วออกลูกมาเป็นไอ้ดวงตั้งแต่เมื่อไหร่ยะ”
“ลูกใครอั้มไม่แคร์ แต่ที่แน่ๆ เนื้อคู่กันชัวร์ๆ”
อั้มกอดดวงเลย ดวงผละออกมา
“พอเถอะครับ พอๆๆ ก่อนนะ ทุกคนใจเย็นๆ ก่อนนะครับล็อตเตอรี่แล้วก็เงินรางวัลมันไม่ใช่ของผมหรอกครับ”
ทุกคนอึ้ง
“อ้าวว”
อาซ้งขัดขึ้น
“พอๆๆ พอเลยไอ้ดวง ไอ้ซันกับไอ้แหววมันเล่าให้พวกมันเราหมดแล้ว อั๊วขอสรุปตรงนี้ว่าเงินนั้นมันเป็นของลื้อร้อยเปอเซ็นต์ ยังไงมันก็เป็นของลื้อ”
ทุกคนเห็นด้วยใช่ๆๆ ดวงพยายามแย้ง
“ไม่ว่าใครจะคิดยังไงก็ตาม แต่เงินทั้งหมดจะถูกเก็บไว้เพื่อรอวันที่ลุงล็อตเตอรี่กลับมาเอาคืน ผมขอยืนยันตามนี้”
ดวงเดินออกไป...ทุกคนหน้าเหวอยังไงกันล่ะนี่ อาซ้งหันมาหาซัน
“มันยังไงกันวะไอ้ซัน”
“จะยังไง เจ้าของเงินเขาว่ายังไงมันก็อย่างนั้นแหละพ่อ”
เจ๊แต๋วเสียดาย
“แต่นั่นมันเงินเป็นล้านๆเชียวนะ”
แหววหันไปบอกแม่
“ไอ้ดวงมันคงจะกำลังทำตัวไม่ถูก ให้เวลามันปรับตัวอีกนิด เดี๋ยวมันก็ปรับตัวได้เองแหละแม่ เศรษฐีมันไม่ได้เป็นกันง่ายๆ นะ”
ทุกคนเซ็งแซ่...ใช่ๆ...งงๆ...เอ๊ะมันดีเหรอ...มันบ้ารึเปล่า อาซันกับแหววมองหน้ากัน
ดวงเดินออกมาชนเข้ากับคุณนายสร้อยเพชรที่กำลังจะเข้าไปพอดี
“ขอโทษครับ...ขอโทษ”
“ขอโทษบ้าบออะไร ตามีทำไมไม่ดู รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”
คุณนายสร้อยเพชรโวยวายดังลั่น สายมุกพยายามห้าม
“คุณแม่คะ...”
“ไม่ต้องพูด” คุณนายหันกลับไปด่าดวง “ท่าทางกุ๊ยสิ้นดี คิดจะมาขโมยของในตลาดใช่ไหม”
สายมุกอึ้ง
“คุณแม่คะ”
คุณนายสร้อยเพชรตวาดลูกสาวทันที
“เอ๊ะ...ฉันบอกว่าไม่ต้องพูด” คุณนายหันไปด่าต่อ “ต่อไปนี้ ฉันห้ามแกเข้ามาในตลาดสดสร้อยเพชรของฉันอีกเป็นอันขาด ไม่งั้นฉันจะเรียกตำรวจมาลากคอแก”
สายมุกตกใจ
“คุณแม่คะ”
คุณนายชักโมโหลูกสาว
“เอ๊ะ! ก็ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องพูด”
สายมุกเหลืออด
“ไม่พูดไม่ได้แล้วล่ะค่ะ ก็คนที่คุณแม่เรียกว่ากุ๊ยเนี่ย เขาคือนายดวง คนที่ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ยังไงล่ะคะ”
คุณนายสร้อยเพชรหันควับมาจ้องหน้าดวง แล้วเปลี่ยนท่าทีทันที
“โถๆๆๆๆๆ ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ แต่จะลองใจดูว่าเป็นคนขี้โม้ขี้คุยรึเปล่าก็เท่านั้นแหละ สรุปว่า ผ่าน โอเคๆๆ แหม ถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น”
สายมุกเหล่มองแม่แล้วส่ายหน้า
ทั้งหมดนั่งอยู่ในร้านกาแฟ ลั้นลาวางกาแฟเย็นลงตรงหน้าดวง คุณนายสร้อยเพชรยิ้มแย้มเอาใจ
“ตามสบาย ฉันเลี้ยงเอง”
ดวงอึ้งๆ กลัวๆ ลั้นลากลับไปที่ชง อั้มเข้ามาประกบ
“พอรู้ว่าถูกหวยเข้าหน่อย รีบมาจิกเลยนะนังคุณนาย”
“ไม่ได้มาจิกคนเดียวนะ เอาลูกสาวมาจิกด้วย”
เป้งแส่เข้ามา
“แหม อยากโดนจิกบ้างจังอ้ะ”
ต๋อยสอดอีกคน
“นั่นดิ จิกตรงไหนก็ได้ ยอมให้จิกทั้งตัวเลยอ่ะ”
ที่โต๊ะ คุณนายสร้อยเพชรวางท่าทางเป็นคนดี สนิทสนมกับดวง
“ฉันก็แค่อยากจะมาเตือนน่ะ ตลาดนี้มีแต่เสือสิงห์กระทิงแรด ส่วนดวงก็ท่าทางเป็นคนซื่อ กลัวว่าจะไม่ทันคนอื่น ถูกปลอกลอกเงินจนหมดตัว ฉันเป็นห่วง”
สายมุกไม่อยากเชื่อ
“จริงเหรอคะคุณแม่”
“ก็จริงน่ะสิ แกเคยเห็นแม่โกหกเหรอ”
สายมุกพยักหน้ารัว
“เคยค่ะ”
คุณนายสร้อยเพชรหยิกลูกสาวให้เงียบไป ก่อนจะหันไปคุยกับดวงต่อ
“แล้วคิดรึยังว่าจะเอาเงินไปทำอะไร”
“ไม่คิดหรอกครับ ผมไม่กล้าคิด”
“ไม่กล้าคิดไม่เป็นไร เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันคิดให้” คุณนายสร้อยเพชรยื่นนามบัตรให้ “นี่นามบัตรฉัน
มีทั้งเบอร์บ้านแล้วก็เบอร์มือถือ มีอะไรก็โทรปรึกษาฉันได้ตลอดเวลา ฉันยินดีเป็นที่ปรึกษาเรื่องการเงินให้ฟรี ไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียว ถือซะว่าคนกันเอง”
“คนกันเองเหรอครับ”
ดวงรีบหันไปยิ้มกับมุก คุณนายสร้อยเพชร รีบจับหน้าดวงให้หันมามองตัวเอง
“ฉันหมายถึงฉัน”
ดวงยิ้มแหยๆ
“เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะ...ยินดีที่ได้ร่วมงานจ้ะ”
คุณนายสร้อยเพชรยื่นมือให้ ดวงชะงักมอง
“หือ...”
คุณนายสร้อยเพชรดึงมือดวงไปเช็คแฮนด์ ดวงงงๆ สายมุกถอยหายใจเป็นกังวล
คุณนายสร้อยเพชรกลับมาที่รถ สายมุกตามมา
“เดี๋ยวสิคะคุณแม่ คุณแม่คิดอะไรอยู่กันแน่คะ”
“ฉันจะคิดอะไรมันก็เรื่องของฉัน แกจะมายุ่งทำไม รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้แกจะสนใจไอ้พวกตลาดนี้เหลือเกินนะ”
สายมุกอึ้งๆไป
“ทำไม...มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปห่วงพวกมัน”
“ไหนคุณแม่บอกว่าพวกเขาเหมือนคนในครอบครัวของเรา มุกจะห่วงคนในครอบครัว มันผิดตรงไหนเหรอคะ”
“อย่ามาเถียง เรื่องตลาดปล่อยเป็นหน้าที่แม่ แกไม่ต้องมายุ่ง”
ขาดคำคุณนายสร้อยเพชรก็ขึ้นรถไป สายมุกบ่นงึมงำ
“จะไม่ให้ยุ่งได้ยังไง ในเมื่อตัวเองทำตัวพิลึกอย่างนี้ แสดงว่ามันต้องมีอะไรแน่”
สายมุกกับคุณนายสร้อยเพชรขับรถเข้ามาจอดเห็นรถอีกคันจอดอยู่ พะวงที่รออยู่รีบวิ่งเข้ามา
“คุณนายขา คุณนาย มีแขกมารอพบค่ะ”
“ใคร”
โอมเดินออกมาทันที ยกมือไหว้
“ผมเองครับคุณน้า” โอมหันไปเผชิญหน้ากับสายมุก “บอกมาสิครับว่ามันเป็นใคร พี่จะแจ้งตำรวจไปลากคอมัน บอกสิครับ”
คุณนายสร้อยเพชรอึกอัก
“เอ่อ...เอิ่มๆ...ใจเย็นๆ ก่อนตาโอม”
“จะให้ผมใจเย็นได้ยังไงกันครับคุณป้า ในเมื่อน้องมุกถูกไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้ฉุดกระชากลากตัวไปแบบนั้น”
“เขาอาจจะไม่ใช่ไอ้บ้าก็ได้นี่จ้ะ”
โอมเอะใจ
“ทำไมคุณน้าพูดแบบนี้ล่ะครับ นี่คุณน้าเข้าข้างมันเหรอ”
“อุ๊ย...เข้าข้างอะไรกัน น้าก็แค่ไม่อยากให้โอมเข้าใจผิดน่ะจ้ะ”
สายมุกโพล่งออกมา
“ก็บอกเขาไปเลยสิคะว่าเขากำลังเข้าใจผิด จะได้ไปๆ ซะที”
โอมอึ้ง
“น้องมุก”
สายมุกเดินหนีไป
“เดี๋ยวสิครับน้องมุก โอ๊ย! นี่มันอะไรกันครับคุณน้า ผมงงไปหมดแล้ว จริงๆ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ”
“น้าว่าโอมกลับบ้านไปก่อนเถอะ ยายมุกก็แค่เจอเพื่อนก็เท่านั้นแหละจ้ะ”
“แต่มันเป็นผู้ชายนะครับ แล้วก็…”
คุณนายสร้อยเพชรตัดบท
“เอาเถอะจ้ะ เรื่องนี้เอาไว้ก่อนเถอะ น้ามีเรื่องอื่นอยากคุยกับโอมมากกว่า”
“เรื่องอะไรเหรอครับ”
“เรื่องการใช้เงินเป็นล้านๆ น่ะจ้ะ เงินคนอื่นนะ ไม่ใช่เงินน้า”
คุณนายสร้อยเพชรยิ้มร้าย
มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 6
อาซ้งเก็บข้าวของที่ขาย เตรียมกลับบ้าน พลางร้องบอก
“เอาพอๆๆๆๆ รวยแล้วๆๆๆ รวยแล้วต้องรู้จักพอ”
เจ๊แต๋วที่เท้าเอวมองแผงผักเหลือๆของตัวเองอยู่ เงยขึ้นมาด่า
“แหม...ขายดีเข้าหน่อยทำเป็นคุย หมั่นไส้”
“ลื้ออย่ามาอิจฉากันดีกว่าอาแต๋ว เก็บผักเน่าๆของลื้อไปต้มจับฉ่ายเถอะ”
“กินจับฉ่ายผักเน่าของฉัน ก็ยังดีกว่ากินไข่เค็มๆ ของลื้อล่ะวะ”
“ลื้อรู้ได้ไงว่าไข่อั๊วเค็ม ลื้อเคยชิมเหรอ”
“อาซ้ง อย่ามาทะลึ่งกับฉันนะ”
“ทะลึ่งอะไรวะ ก็อั๊วหมายถึงไข่เค็มของอั้วเนี่ย”
อาซ้งชี้ไปที่แผงไข่เค็ม
“ลื้อน่ะสิทะลึ่ง คิดลามกลวนลามอั๊วตลอด”
“นี่แน่ะลวนลาม!”
เจ๊แต๋วเอากระหล่ำปลีปาหัว อาซ้งร้องลั่น
“โว๊ย!”
สงครามอาซ้งกับเจ๊แต๋วดังลั่นไปทั่ว...ดวงเข้ามาพร้อมเข่งใบใหญ่
“ทุกวัน ทะเลาะกันทุกวัน”
ดวงหัวเราะเริ่มเก็บขยะผักเสียๆ ของเจ๊แต๋วลงเข่งเหมือนทุกวัน เจ๊แต๋วชะงัก
“เดี๋ยวๆๆๆ หยุดๆ หยุดเดี๋ยวนี้ จะทำอะไร”
“ก็เก็บขยะให้เจ๊ไงครับ เก็บอยู่ทุกวัน ยังจะถามอีก”
เจ๊แต๋วรีบลงมาห้าม
“ไม่ต้องๆ ห้ามทำ ห้ามยุ่งอะไรทั้งนั้น”
“อ้าว...ทำไมล่ะครับเจ๊”
“ยังจะถามอีก ต่อไปนี้ไม่ต้องมาเก็บขยะให้เจ๊แล้ว”
“ใช่ๆ แล้วก็ไม่ต้องมาเก็บแผงให้อั๊วด้วย”
ดวงเหวอไป
“ผมทำอะไรผิดเหรอครับ...”
เจ๊แต๋วจ้องหน้า
“ผิดสิผิดมากด้วย นี่แกยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ แกลืมตัวไปแล้วใช่ไหม”
“ผมขอโทษครับเจ๊ แต่ผมไม่รู้จริงๆ ว่าผมทำอะไรผิด”
“ฮึ่ยย ขอโทษนะครับ แต่ต้องขอสักที”
อาซ้งทนไม่ไหวหยิบแผงไข่มาฟาดหัว ดวงเจ็บร้องลั่น
“โอ๊ย!”
“รู้รึยัง คราวนี้รู้ตัวรึยังว่าลื้อเป็นใคร ตอนนี้ลื้อไม่ใช่ภารโรง ไม่ใช่เด็กรับใช้ของตลาดนี้อีกต่อไปแล้ว ลื้อรวยแล้ว ลื้อเป็นเศรษฐีไปแล้ว ลื้อไม่ต้องทำงานพวกนี้อีกแล้ว ไป...คืนนี้ลื้อไปกับอั๊ว อั๊วจะพาไปนอนบ้าน ไม่ต้องนอนที่ตลาดอีกต่อไปแล้ว”
เจ๊แต๋วรีบขัด
“อ้ะๆๆๆ อย่ามั่วอาซ้ง ลื้ออย่ามั่ว” เจ๊แต๋วดึงตัวดวงมา “ไอ้ดวงมันลูกฉัน มันต้องไปนอนบ้านฉันสิ”
อาซ้งเถียง
“ลื้อไม่ใช่แม่มัน อั้วต่างหากพ่อมัน”
“อย่ามามั่ว!”
ดวงตัดบท
“พอเถอะครับ อย่าเถียงกันเลย ผมเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ถูกเอาตัวมาทิ้งไว้ที่นี่ ผมไม่กล้ากำเริบเป็นลูกใครหรอกครับ แล้วผมก็จะไม่ไปนอนไหนทั้งนั้น ผมจะนอนที่นี่ ยังไงก็ไม่ไปครับ”
อาซ้งกับเจ๊แต๋วมองหน้ากันอย่างเซ็งไปเลย
อั้มมาแอบฟังอยู่ หน้าตาลามกมาก
“นอนคนเดียวเดี๋ยวจะเปลี่ยวหัวใจ เดี๋ยวอั้มจะจัดให้ จัดให้หนักเลยล่ะพี่ดวง เฮะๆๆ”
อั้มหัวเราะร้ายๆ อย่างไม่น่าไว้ใจย่องออกไป ลั้นลาโผล่มาจากมุมหนึ่งหลังจากที่ซุ่มดูอยู่นาน
“หนอย...เรื่องสกปรกแบบนี้ คิดว่ามีแกคนเดียวหรือไงที่จะทำน่ะนังชะนีหวีเหี่ยว งานนี้ใครดีใครได้เว้ยย”
หน้าตาลั้นลามุ่งมั่นซะเหลือเกิน
โอมอยู่ในบ้าน ปัดเอกสารตรงหน้าลงพื้นโครมคราม ก่อนจะนั่งลงอย่างเครียดๆ นึกถึงเมื่อตอนกลางวันก่อนหน้านี้ที่เขาไปปรึกษาคุณนายสร้อยเพชรมา...
โอมเปิดไอแพดนำเสนอโปรเจ็คให้คุณนายสร้อยเพชรที่สวมแว่นสายตายาวดู สายมุกนั่งทำหน้าเบื่ออยู่ข้างๆ โอมอธิบาย
“จากตลาดสดธรรมดาๆ จะยกระดับขึ้นเป็นคอมมูนิตี้มอลอย่างที่เห็นครับ...รายได้ก็มาจากค่าเช่าสถานที่ของแต่ละร้าน ซึ่งผมสำรวจตลาดมาแล้วว่ามีคนเช่าพื้นที่เราแน่นเอี้ยดแน่ครับ”
คุณนายสร้อยเพชรท่าทางเบื่อๆ ไม่ค่อยตั้งใจฟัง
“คุณน้าคิดว่ายังไงครับ ถ้าสนใจ ผมจะได้สานต่อเลย ก่อนอื่นเราต้องจัดการให้พ่อค้าแม่ค้าออกไปจากพื้นที่ก่อน”
“เอิ่ม...คือว่า น้าว่าช่วงนี้ไม่ค่อยเหมาะ”
“ยังไงครับ”
“น้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกตลาดน่ะ ขืนไปขับไล่ เดี๋ยวจะพาลเกลียดน้ากันซะหมด”
สายมุกหันมามองแม่แปลกๆ
“หือ”
“เราก็ใช้การเจรจาอย่างฉลาดได้นี่ครับ หรือแค่ทำให้อยู่ไม่ได้ มีตั้งหลายวิธี เรื่องนั้นผมจัดการให้ได้”
“แต่น้าว่าเพิ่งดีกว่า...โครงการนี้ ไม่ใช่ไม่ดีนะ แต่เอาไว้ทีหลัง น้ามีเรื่องอื่นต้องทำก่อน”
“เรื่องอะไรเหรอครับ บอกผมสิครับ ผมยินดีช่วยทุกอย่าง”
“เอาเป็นว่า น้าขอจัดการเองก็แล้วกัน มันเป็นเรื่องค่อนข้างส่วนตัว”
โอมไม่พอใจ
โอมแค้นเคืองมาก
“นังแก่หน้าโง่! ถ้าแกไม่ใช่แม่น้องมุก คิดเหรอว่าฉันอยากจะยุ่งด้วย ก็แค่เศรษฐีเกรดล่าง ทำเป็นอวดฉลาด ยังไงฉันก็ต้องรู้ให้ได้ว่าแกคิดจะทำอะไร”
คุณนายสร้อยเพชรกางนิ้วมือ นิ้วเท้าผึ่งเล็บที่ทาไว้...พะวงส่งแก้วพร้อมหลอดให้ดูด
“โอเลี้ยงค่ะคุณนาย”
สายมุกเข้ามาถาม
“คุณแม่คิดจะทำอะไรกันแน่คะ ตอนแรกก็เห็นเออไปกับพี่โอมทุกอย่าง แล้วทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนใจซะล่ะคะ”
“ไมได้เปลี่ยนใจ แค่เลื่อนไปก่อน ก็บอกแล้วไงว่าตอนนี้แม่มีเรื่องอื่นต้องทำ”
“อย่าบอกนะคะว่าเรื่องอื่นที่ว่ามันเกี่ยวกับนายดวง”
“แล้วทำไมจะเกี่ยวไม่ได้ ทำไม...มันวิเศษวิโสมาจากไหน ฉันถึงจะเข้าไปเกี่ยวด้วยไม่ได้ ก็แค่ยาจกถูกหวย ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันลดตัวลงไปจัดการเรื่องเงินให้”
“คุณแม่มีแผนจะทำอะไรกับเงินเขาใช่ไหมคะ”
“เรื่องนั้นแกไม่ต้องรู้ แล้วก็ไม่ต้องมายุ่ง เรื่องนายดวง ฉันจัดการเอง! รับรองคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่”
สายมุกกังวลแทนดวง
เย็นนั้น ดวงยกลังนมเข้ามาที่ร้านกาแฟ
“นมมาส่งแล้วจ้า”
ลั้นลาเห็นดวงมารีบขยับนมให้เข้าที่แล้วปรี่เข้ามาหา
“อุ๊ยตาย...พี่ดวงแค่ฝากสั่งนมเท่านั้นไม่ได้ให้ยกมาซะหน่อย...”
“ไม่เป็นไรหรอก...ไม่ได้หนักอะไรฉันเต็มใจช่วย”
ลั้นลาเขินบิดไปบิดมา
“คือ...แบบว่า...เกรงใจอ่ะ...”
ดวงเดินไปแล้วลั้นลาหลับหูหลับตาเขินอยู่นั่นบิดไปมาจนนมที่ยัดไว้กลิ้งตกลงมาแคร้ง ถ้วยกลิ้งที่พื้นจนหยุด เจ๊เฉียดเดินถือถุงกระดาษเสื้อผ้า เข้ามาพอดีมองที่ถ้วยแล้วหยิบขึ้นมาเดินมาหาลั้นลา
“นมหล่น”
ลั้นลาหันหน้ามาเจอ เจ๊เฉียดแล้วเห็นว่าดวงไม่อยู่แล้ว
“หล่นก็เก็บสิเจ๊”
เจ๊เฉียดยื่นถ้วยให้
“นมแก...ไม่ใช่นมฉัน”
ลั้นลารีบคว้าหมับแล้วมองดูนมตัวเองอีกข้างที่หายไป
“ตายแล้ว...ล่วงตอนไหนเนี่ย...อย่าบอกนะว่าต่อหน้าพี่ดวงอ่ะ...ตายๆๆๆๆๆๆหมดกัน”
“ไอ้ดวงมันไปตั้งนานแล้ว ฉันเห็นแกยืนบิดไปมาอยู่คนเดียวนี่แหละ”
“อ้อเหรอ...แล้วไป...”
เจ๊เฉียดยื่นถุงกระดาษให้
“อ่ะของที่สั่งได้แล้ว”
ลั้นลารับถุงมาเปิดออกดูแล้วยิ้มพอใจ
“ครบชุดใช่มั้ยเจ๊”
“ครบสิ...” เจ๊เฉียดแบมือ “คราวนี้จ่ายสดนะจ๊ะฉันเช่ามาแพง”
ลั้นลาหน้าง้ำ เดินเข้าไปหยิบตังค์ที่ลิ้นชัก
“เดี๋ยวนี้เขี้ยวนะเจ๊...ติดนิดติดหน่อยไม่ได้” ลั้นลาส่งเงินให้ “ฉันจ่ายสดแล้วแถมทำผมฟรีให้หน่อยได้ป่ะเจ๊”
“เสียใจ...วันนี้ไม่ว่างจ้า...ลูกค้ารออยู่”
เจ๊เฉียดเดินออกไป
“หนอย...ถ้ามีร้านอื่นจะไม่ง้อเลยอีเจ๊เฉียด”
ลั้นลาอารมณ์เสีย มองถุงในมือแล้วเปิดแง้มออกดูยิ้มมีความสุข
ค่ำนั้น ดวง แหวว ซันเข้ามานั่งในร้านข้าวต้มกุ้ย ดวงกำลังจะสั่งแต่ทันใดนั้นเจ๊คนหนึ่งมีกระเป๋าเงินคาดเอวยกมือห้าม
“อ้ะๆ ไม่ต้องหรอกดวง ไม่ต้องสั่ง”
ดวง แหวว ซัน ทำหน้างงๆ เจ๊ไปที่พ่อครัวที่กำลังผัดไฟแดงฉ่าอยู่
“เฮียเขาจัดเมนูพิเศษไว้ให้แล้ว เมนูวีไอพี มีทั้งเป็ดร่อน กั้งกระเทียม หมูหันซ้าย แล้วก็หมูหันขวา หมูหันหน้า แล้วก็หมูหัน…”
เจ๊พูดยังไม่จบ ซันกับแหววร้องขึ้นพร้อมกัน
“เว้ย!”
ซันถอนใจเซ็งๆ
“หมูเจ๊มันจะหันอะไรนักหนา”
แหววถาม
“แล้วมีอะไรอีก”
ดวงยกมือห้าม
“พอๆๆ พอก่อนๆ ของแพงๆ พวกนั้นฉันไม่มีเงินกินหรอก เอาจับฉ่ายกับไส้หมูพะโล้เหมือนเดิมก็พอ”
ซันรีบแย้ง
“เฮ้ย...ได้ไงวะไอ้ดวง รวยแล้วนะเว้ย จะมากินอะไรบ้านๆได้ยังไง”
“อย่าพูดมากได้ไหมไอ้ซัน มันจะกินอะไรก็ให้มันกินไปสิ” แหววหันไปบอกเจ๊ “เอาชุดเดิมที่เคยกินมาเลยเจ๊”
เจ๊เดินหน้างงๆ เดินกลับออกไป
“รวยแล้วยังจะงกอีก”
แหววยิ้มเข้าใจดวง
“ฟังไว้นะไอ้ดวง ต่อให้คนทั้งตลาดไม่เข้าใจแก แต่ฉันเข้าใจ อีซี่ๆ หล่อไว้ๆ”
“เลิกพูดซะทีได้ไหมว่าฉันรวย พวกแกก็รู้ว่าความจริงมันคืออะไร”
ซันกับแหววมองหน้ากัน หนักใจ...ขณะเดียวกันนั้น ดารากับประเวทเดินเข้ามาลงนั่งที่โต๊ะด้านหลังดวง ประเวทกวักมือเรียก
“สั่งอาหารหน่อยครับ”
เจ๊เดินเข้ามา
“สั่งอะไรจ๊ะ”
ประเวทยิ้มๆ
“มีอะไรอร่อยๆ บ้างจ้ะ”
เจ๊เหลือบตาดูทั้งคู่ เห็นว่าซอมซ่อมาก
“ผักบุ้งไฟแดง ข้าวคนละสองถ้วยไหม กินน้ำเข้าไปเยอะๆ จะได้อิ่มนานๆ”
ประเวทกระซิบดารา
“เรากำลังโดนหยาม”
“ได้ยินแล้ว เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
ดารายิ้มทำหน้าประจ่อประแจ๋ใส่เจ๊
“ซุปเปอร์มีไหมเจ๊ อยากกินตีนมากเลยอ้ะ ถ้ามีเอามาถ้วยหนึ่งเลย แต่ไม่ต้องตักมาหมดหม้อนะ เก็บไว้หน่อย เจ๊จะได้มีตีนไว้กินบ้างไงล่ะ เฮะๆๆ”
เจ๊หันไปตะโกนสั่งเด็ก
“ซุปเปอร์ 1 โต๊ะ 4 อยากกินตีน”
ดารากับประเวทกินอาหารจนหมดเกลี้ยง ดารากระซิบ
“ฉันอิ่มแล้วนะ”
ประเวทพยักหน้า
“พร้อม”
ประเวทตักอาหารเข้าปากคำสุดท้าย ก่อนที่จะแกล้งทำหน้าพะอืดพะอมจะอาเจียน ดาราแสร้งทำเป็นตกใจ
“พี่...พี่เป็นอะไร”
ประเวทกุมท้องกุมคอ หายใจติดขัด ดาราร้องลั่น
“ว้าย...พี่จ๋า ตายแล้ว อย่าบอกนะว่าอาการกำเริบ”
คนอื่นๆ เริ่มหันมามอง...ดวงหันมามอง ซันมองอย่างสงสัย
“กินอะไรเข้าไปวะ”
แหววตกใจ
“ไม่รู้...ดูท่าทางไม่ค่อยดีนะ”
ดารารีบเข้าไปช่วยประเวท ตบหลัง ลูบหลัง ลูบคอ
“หายใจไว้พี่ ล้วงคอ ล้วงคอออกมา”
ทุกคนหันมาสนใจ พยายามช่วย
“ท่าจะไม่ดีแล้ว ไปโรงพยาบาลดีกว่า ว้าย...จอดรถไว้ไกลซะด้วย”
ดวงลุกขึ้น
“เดี๋ยวผมช่วยเองครับ”
ดวงเข้าไปช่วยประคองประเวทไว้ ซันกับแหววจำต้องลุกมาด้วย ดาราเดินนำไป
“ตามมาทางนี้เลย เร็วๆเข้า”
ดวงประคองประเวทตามดาราไป ทันใดนั้นเจ๊ก็มาขวางไว้
“หยุด!”
ดารากับประเวทเบรกเอี๊ยด เจ๊จ้องหน้า
“มุขนี้มันเก่าแล้ว ถ้าคิดจะกินฟรี ช่วยเปลี่ยนมุขด้วย”
แหววกับอาซันอึ้งไป
“ฮะ...มุขเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันขายมายี่สิบปีเจอมาหมดแล้วทุกมุข แค่เนี่ยอย่าคิดว่าจะตบตาฉันได้ จับมันส่งตำรวจเลย”
เด็กเสิร์ฟกับเฮียจะช่วยกันจับ ดารากับประเวทจะเผ่นแต่ดวงเข้ามากันไว้
“อย่าครับ คนป่วยกำลังจะตายไม่เห็นรึไง”
ดารากับประเวทชะงัก
“อื๋อ”
ซันรีบเรียกเพื่อน
“ไอ้ดวงๆ หลบออกมาก่อนดีกว่า ให้เขาเคลียร์กันเอง”
แหววเห็นด้วยกับซัน
“เออ...มันอาจจะจริงก็ได้นะ”
“นี่พวกแกก็เป็นไปด้วยเหรอ จิตใจทำด้วยอะไรกัน ถ้าไม่ช่วยก็หลีกไป”
ประเวทรีบออกอาการป่วยใหญ่เลย ทั้งแหววและซันจ๋อยขยับออกห่าง ดวงหันมาใส่เจ๊ต่อ
“ดูสิครับเจ๊ เขาไม่ได้ป่วยจริงตรงไหน”
“อดทนไว้พี่” ดาราทำท่าเหมือนจะร้องไห้ “อดทนไว้”
“รีบไปหาหมอเถอะครับ”
“จะไปก็ไป แต่จ่ายเงินก่อน ทั้งหมด 250”
ประเวทกับดาราอึ้ง ๆไป ประเวทแสดงอาการหนักอีกดาราพยายามช่วย ดูวุ่นวายจนดวงสงสารรีบควักเงินจ่ายแทน
“ผมจ่ายเอง”
ดวงควักเงินยัดใส่มือเจ๊...เจ๊จำใจรับไป ประเวทกับดาราโล่งอก ถอนใจเฮือก ดวงหันมามอง ทั้งคู่รีบกลับเข้าโหมดป่วยต่อ ดวงรีบพาทั้งสองคนออกไป
“รีบไปเถ่อะครับ”
ดวงพาออกไป เจ๊มองตาม
“ระวังเถอะอาดวง คนซื่อๆ อย่างลื้อ ไม่ทันเขาหรอก”
แหววกับซันมองหน้ากันแล้วมองตามด้วยความห่วงดวง เจ๊โวยวายเสียงดัง
“ไม่ขงไม่ขายมันแล้ว...ปิดร้านเว้ย”
ซันกับแหววงจ๋อยๆ เสียงเจ๊โยนนั่นนี่โครมคามแหววกับซันค่อยๆปลีกตัวออกไป
ดวงพาดารากับประเวทมาถึงริมถนน ดวงเดินออกไปโบกรถแท็กซี่ ดารากับประเวทลนๆเอาไงดีดารารีบผละจากประเวทเดินเข้าไปหาดวง
“นี่พ่อหนุ่มไม่ต้องเรียกรถหรอกจ้ะ ผัวน้าเขาดีขึ้นแล้วล่ะ”
ดวงหันไปมอง ประเวทที่อาการหนักๆรีบแสดงท่าทีว่าค่อยยังชั่วแล้ว
“เดี๋ยวนั่งพักสักแป๊ปก็คงดีขึ้น ขอบใจนะที่ช่วยพวกเรา”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่...ไหวแน่นะครับ”
สองผัวเมียพยักหน้ารับ
“ไหว...ไม่ต้องห่วงหรอก”
“ถ้างั้นผมขอตัวนะครับ”
“จ๊ะ ไว้โอกาสหน้าเราสองคนคงได้ตอบแทนน้ำใจพ่อหนุ่มนะจ๊ะ”
ดวงยิ้มรับกำลังจะเดินออกไป ดารากับประเวทท่าทางโล่งอก แต่แล้วดวงก็หยุดแล้วหันกลับมา
“เอ่อ...เรื่องค่าอาหารนั่น...”
ดารากับประเวทมองหน้ากันเลิกลั่ก
“เอ่อ...จริงสิ...เดี๋ยวนะๆ”
ประเวททำท่าหากระเป๋าตังค์แต่หาไม่เจอ
มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 6 (ต่อ)
ดารามองประเวทแล้วก็เข้าใจทันที จึงทำท่าหาบ้างแต่ก็หาไม่เจอเช่นกัน ดวงมองอย่างงุนงง สองคนมองหน้าแล้วพูดพร้อมกัน
“กระเป๋าตังค์หาย”
สองคนแสดงท่าทางตกอกตกใจ
“ต้องขอโทษทีนะเราสองคนไม่มีเงินเหลืออยู่เลยเรื่องค่าอาหารนั่นน่ะ”
“เอ่อ...ผมแค่จะบอกว่าอาหารนั่นผมเลี้ยงเองครับ”
ดารากับประเวทชะงักอุตส่าห์เล่นละครตบตาว่าเป๋าตังค์หาย ดารากระซิบ
“ทีหลังแกฟังให้จบก่อนแล้วค่อยเล่นละครได้มั๊ย”
ประเวทกระซิบตอบ
“ก็คิดว่ามันจะทวงเงิน”
ดารากับประเวทหันมายิ้มเหว๋อๆให้ ดวงเป็นห่วง
“แล้วทีนี้จะไปยังไงกันล่ะครับ”
ทั้งดารากับประเวททำหน้าเศร้า ดวงควักเงินออกมา นับ มีอยู่ 80 บาท
“ผมมีอยู่แค่นี้น่าจะพอค่ารถกลับบ้านได้นะครับ”
ดวงเอาเงินยัดใส่มือดารา...ดารามองดูดวงรู้สึกถูกชะตา
“ผมคงช่วยได้แค่นี้แหล่ะครับ กลับบ้านดีๆนะครับ”
ดวงเดินออกไปดารามองตาม ประเวทมองเงินในมือดาราแล้วคว้ามา
“เงินแค่นี้จะกลับบ้านได้ยังไงวะ”
“เขาให้ก็บุญแล้ว ลำพังแกยังหาเงินไม่ได้เลย ว่าแต่เราจะไปที่นอนที่ไหนกันล่ะทีนี้”
ประเวทส่ายหน้า
“ไม่รู้เหมือนกัน...คิดไม่ออกโว๊ย...”
ประเวทกับดารามองหาทางไปแล้วประเวทก็หันไปเห็นตลาดไกลๆ เขามองอย่างครุ่นคิด
ประเวทพาดรามาถึงหน้าตลาดดาราชะงักตกใจ ประเวทเดินนำเข้าไปข้างใน มองบรรยากาศวังเวงเพราะไม่มีคนในตลาด
“พี่จะนอนที่นี่แน่เหรอ นี่มันตลาดนะ”
“ก็ยังดีกว่านอนข้างถนนแหล่ะวะ”
ดารามองรอบๆ แล้วรู้สึกคับคล้ายคับคลาเหมือนเคยมามันรู้สึกคุ้นๆ
“พี่ฉันว่า...ที่นี่มัน...ดู...คุ้นๆ ยังไงก็ไม่รู้แหะ”
“อะไรของแกอีกวะ นอนๆไปเถ่อะเดี๋ยวเช้าเราก็ไปแล้ว”
ประเวทหงุดหงิดเดินไปหามุมนอน ดารามองรอบๆแล้วรีบตามไป
ที่ร้านเสริมสวยเจ๊เฉียด...อั้มอยู่หน้ากระจก แต่งหน้าจัดเต็มมากเสมือนหนึ่งเพิ่งลงมาจากโรงลิเกขนตางอนเป็นแผง ปากแดงสดขอบตาเข้มปัด แก้มแดงรับกับสีปากโดยรวมคือดูไม่ได้ อั้มหันหน้ามาหาเจ๊เฉียดที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“เจ๊...เจ๊ว่าฉันดูโอป่ะ...”
อั้มทำปากเผยอๆ เจ๊เฉียดแลดูกลัวๆกล้าๆในการมองหน้าอั้ม
“ก็...โออ่ะ...สวย”
อั้มอายม้วน
“บ้า...เจ๊ก็พูดไป...สวยจริงอ่ะ...”
อั้มอายเขินจนบิด
“จริงสิ...จะโกหกทำไมล่ะ”
“นี่แค่แต่งเบาๆซอฟๆนะเนี่ย”
เจ๊เฉียดบ่นเองแบบหมั่นไส้
“เบาตรงไหนวะทำมาจะครึ่งค่อนวันแล้วยังไม่ไปสักที”
อั้มเหมือนได้ยินที่เจ๊เฉียดพูดรีบเดินไปจ้องหน้าเจ๊เฉียด
“เจ๊ว่าอะไรนะ”
“อ๋อ...บอกว่ามุมไหนๆก็ดูดี”
“ใครๆก็ชมแบบนี้ทั้งนั้น...ชินแร๊ะ...”
อั้มแสยะยิ้ม เจ๊เฉียดอยากจะอ้วก พยายามหาทางไล่
“นี่...ไหนว่ามีนัดไง ไปได้แล้วมั้ง”
อั้มยิ้มกรุ่มกริ่ม
“รอตลาดวายก่อนน่ะเจ๊...”
อั้มสีหน้าชวนฝัน เจ๊เฉียดถอนหายใจไม่รู้จะไล่มันยังไงดี
“เสียดายถ้าเป็นเจ๊นะ เจ๊จะเดินวนรอบๆตลาดช่วงคนพลุกพล่านสักสามรอบให้คนได้ให้อาหารกันสักหน่อย”
อั้มรู้สึกตะหงิดๆกับประโยคท้าย
“อ่ะอีเจ๊...นี่หลอกด่าหรือเปล่าเนี่ย”
“ล้อเล่น...แต่เชื่อเจ๊เถอะ...ไปตอนนี้แหล่ะดีแล้วเตรียมพร้อมไว้ก่อน”
อั้มคิดและคล้อยตามคำแนะนำ
“ก็ได้...เชื่อเจ๊นะเนี่ย”
เพียงแค่อั้มก้าวขาพ้นประตูเท่านั้นที่เจ๊เฉียดก็รีบงับประตูอย่างรวดเร็ว อั้มหันมาจะยิ้มหวานให้สักหน่อยยังไม่ทันเลยเพราะประตูปิดเรียบร้อยแล้ว
“ไรหว๋า...”
ดวงเตรียมตัวเข้านอนปะแป้งหน้าขาว ไหว้พระเสร็จมองไปรอบๆตัวนั่งคิดเรื่องที่ผ่านมา
“ชีวิตของแกก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่หว่าไอ้ดวง...ไม่เห็นต้องอยากเปลี่ยนแปลงอะไรเลย...คิดซะว่า มีชีวิตอยู่ที่นี่เพื่อตอบแทนทุกคนที่ช่วยเลี้ยงแกมาก็แล้วกัน”
ดวงล้มตัวลงนอนที่มุมที่นอนยิ้มให้ตัวเองก่อนจะหลับตาลง แต่แล้วก็นึกขึ้นได้
“โอ๊ะ...ลืมเก็บไข่...”
ดวงลุกขึ้นทันทีคว้าไฟฉายออกไป
ประเวทนอนกรนเสียงดัง ดาราเอามืออุดหูพลิกไปพลิกมา ดวงเดินมาตามทาง ดาราเอามือเขย่าตัวสามี ประเวทเงียบไปพักแล้วกรนต่อ ดาราหงุดหงิดนอนต่อไม่ได้กระเด้งลุกพรวดขึ้นมาพอดีกับดวงเดินฉายไฟเข้ามาใกล้ๆตรงหน้าดาราทันที ต่างคนต่างตกใจร้องกรี๊ดเสียงดัง
“ว๊ายยยยยย...”
“อ๊า!”
ดาราหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ ดวงเองก็ตกใจเช่นกัน ประเวทตื่นขึ้นมาเพราะเสียงกรีดร้องพลอยตกใจไปด้วย
“เฮ้ย...อะไรวะ....อะไร”
ดาราร้องไม่หยุด
“ผ...ผ...ผี...”
ประเวทเห็นดวงพลอยตกใจหลับหูหลับตายกมือไหว้
“ผี...สาธุไปที่ชอบๆเถอะ ลูกแค่มาขออาศัยนอนเท่านั้นไม่ได้คิดร้ายใดๆเลย อย่าทำอะไรพวกเราเลยนะ”
ดวงมองจ้องเห็นว่าเป็นสองผัวเมียที่เจอเมื่อตอนเย็นจำได้ ดวงเอื้อมมือจับมือ ประเวทสะดุ้ง
“น้า...ฉันคน...ไม่ใช่ผีหรอกน้า ฉันคนที่เลี้ยงข้าวพวกน้าไง”
ดารากับประเวทค่อยๆสงบลง ลืมตาค่อยๆมองที่ดวง เห็นว่าเป็นดวงจริงๆ ดาราโล่งอก
“โธ่...พ่อหนุ่ม...จริงๆด้วย”
ประเวทถอนหายใจโล่ง
“ตกใจหมดเลย”
“เอ่อ...ผมขอโทษครับ ผมไม่คิดว่าจะมีใครอยู่ที่นี่ ว่าแต่น้าสองคนทำไมถึงได้มานอนที่นี่ล่ะครับ”
ประเวทกับดารามองหน้ากันเลิ่กลั่กอีกแล้ว ดาราตัดสินใจบอก
“คือ...เราไม่รู้จะไปไหนน่ะ”
ประเวทรีบพูดสมทบ
“คือ...เราเพิ่งเข้ากรุงเทพมาน่ะจ้ะ ไม่มีญาติที่ไหนกะว่าอาศัยนอนที่นี่ก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยไปน่ะ”
ดวงเห็นใจ
“ผมน่าจะถามน้าตั้งแต่ทีแรก ไม่งั้นจะได้พามานอนที่นี่ด้วยกันตั้งแต่ทีแรก”
ประเวทมองหน้ากับดารางงๆ
“นี่นายนอนที่นี่ด้วยเหรอ”
“ใช่ครับ...ที่นอนผมอยู่ตรงโน้นแน่ะครับ”
ดารามองดวงอย่างสงสาร
“โถ...ที่แท้ก็เป็นคนเร่ร่อนเหมือนกัน”
ดวงยิ้มๆแล้วพูด
“จริงๆแล้วที่นี่เป็นบ้านของผม ผมเกิดในตลาดนี้ และผมก็โตในตลาดนี้น่ะครับไม่ได้เร่ร่อนไปไหน นี่ก็ดึกมากแล้วงั้นน้าพักผ่อนเถอะครับพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
ดวงเดินมาเก็บแผงไข่ที่วางอยู่ใส่ในลังแล้วล๊อค แล้วเดินออกไป ดารามองตาม ประเวทมองดารา
“นี่...ฉันยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ แกยังจะกล้ามองผู้ชายหนุ่มๆอีกเหรอ”
“จะบ้าหรือไง...ฉันแค่รู้สึกถูกชะตากับพ่อหนุ่มคนนี้ยังไงบอกไม่ถูก”
“พูดมาได้ ถูกชะตา...นั่นมันรุ่นลูกแกแล้วแก่แล้วยังไม่เจียม”
ดาราอึ้งๆ
“รุ่นลูก...”
ดารามองตลาดรอบๆแล้วหันมองไปตามทางที่ดวงเดินไป
ในความมืด ร่างของอั้มนั่งอยู่ข้างๆ ดวง อั้มผมยาวสยายกำลังเอื้อมมือไปจะลูบไล้ร่างกายดวง ทันใดนั้น มีอีกมือหนึ่งมาจับมืออั้มไว้
อั้มที่แต่งหน้าจัดเต็มเงยมองจ้องหน้าเจ้าของมืออวบดำที่เอื้อมมาขัดขวางคือลั้นลาที่ใบหน้าเคลือบไปด้วยเครื่องสำอางมีไฝข้างปากอวบอิ่มเสมือนหนึ่งเป็นมาริลีน มอนโล สองหน้าจ้องกัน อั้มจำลั้นลาไม่ได้ ลั้นลาสายตาจิก
“อย่าแม้แต่จะคิด...เขาเกิดมาเพื่อเป็นของฉัน...มานี่”
ลั้นลาจิกลากอั้มออกมาจากดวง อั้มสะบัดออกตั้งท่าทะเลาะ
“โถๆๆๆๆ...ช่างไม่เจียมตัวเอาซะเลย...ดูสารร่าง...อย่างกับแมลงชีปะขาว คงจะบินหากินมาไกลล่ะสิท่าถึงได้กลายร่างเป็นพยาธิตัวตืดแบบนี้น่ะ...ฮ๊ะๆๆๆๆ”
ลั้นลาสะดุ้งอยากจะตบนัก
“หนอย...อีนังภัยร้าย คิดจะมากินตับผู้ชายของฉันตอนหลับงั้นเหรอ”
“แกเป็นใคร...ถึงมาอ้างตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผู้ชายของฉัน”
“ต๊าย...กล้าพูดว่า ผู้ชายของฉัน...ถ้าผู้ชายของแกจริงทำไมไม่มาหาตอนเค้าตื่นล่ะยะ จ้องแต่จะเข้าหาตอนเค้าหลับ แกกะจะมาสิงเค้าเลยใช่มั๊ยล่ะ นังหน้าด้าน”
อั้มโกรธ
“อ๊าย...อีนังแมลงต่างถิ่น แกก็เหมือนกันนั่นแหล่ะกะจะมาล้มทับผู้ชายของฉันทำตัวเป็นผีอำล่ะสิท่า...คิดว่าฉันดูไม่ออกหรือไงยะ กลับไปสิงต้นขนุนเหมือนเดิมเถอะย่ะ”
“ปากดีนักนะ...ขอสักทีเถ๊อะ”
ลั้นลาเข้าไปตบกับอั้ม สู้กันกระจาย ดวงงัวเงียๆ ตื่นขึ้นมา
“อะไรกันวะเนี่ย...”
ดาราแอบมาเห็นเข้าก็ตกใจ การตะลุมบอนรุนแรงขึ้นไปอีก ดวงเข้าห้าม
“หยุดเถอะครับ หยุด...ผมบอกให้หยุด”
“อุ้ย...พี่ดวงตื่นแล้ว” อั้มมั่วเลยรีบเข้าหาดวงเกาะแขนดวงแน่น “ดูสิจ้ะพี่ดวง นังชีปะขาวนี่มันจะเข้ามาปล้ำพี่ดวง ดีนะที่อั้มมาเห็นเข้าก่อนที่พี่ดวงจะตกเป็นของมัน”
ลั้นลาโกรธจี๊ด
“แกต่างหากที่จะเข้าหา ไม่ใช่ฉันสักหน่อย นัง...นัง...นังภัยร้าย”
ดาราแอบมองดวงรู้สึกสงสาร
“โถ...พ่อหนุ่มจะรอดมั๊ยเนี่ย”
ดาราลุ้นๆเอาใจช่วย ลั้นลารีบปรี่เข้ามาเกาะแขนดวงข้างที่เหลือ อั้มผลักทันที
“แอร๊ยย ดูสิพี่ดวง ใส่ร้ายต่อหน้าต่อตา”
สองคนตีกันไปมาชักเขย่อดวงไปมาจนดวงทนไม่ไหว สลัดตัวหลุดออกมาได้แล้ววิ่งหนีไป
“พี่ด๊วง รออั้มด้วย”
“พี่ดวง รอมอลโลด้วย”
อั้มและลั้นลารีบวิ่งตามไปทางที่ดวงผ่านไป ไม่ทันระวังมีไม้กระดานแผ่นใหญ่ ฟาดเข้าที่หน้าทั้งสองคนอย่างจัง สองคนงงงวยมองไปเห็นไม้กระดานหล่น และเห็นเป็นดาราภาพแบบเบลอๆสองคนล่วงไป ดาราหน้าเสีย
“โทษทีนะ...ไม่ได้ตั้งใจ”
ดวงวิ่งมาหยุดหอบก่อนจะทรุดตัวลงนั่ง
“โอย ตกลงนี่เราดวงดีหรือดวงซวยกันแน่วะเนี่ย...ลุงครับ ลุงอยู่ที่ไหน ช่วยกลับมาเอาเงินของลุงไปทีเถอะครับ ก่อนที่ผมจะซวยมากไปกว่านี้”
บรรยากาศตลาดยามเช้า...อั้มที่หน้ามีร่องรอยจากการโดนไม้ฟาดมาเมื่อคืน กำลังจ้างเป้งกับต๋อย
“ค่าตัวไม่ยั้ง ค่าจ้างไม่อั้น ทำงานให้เต็มที่ รับรองอั้มจ่ายเต็ม”
เป้งเก๊กๆ
“จะจ่ายไหวเหรอ รุ่นนี้ ไม่ถูกนะ”
อั้มหงุดหงิด
“น้ำหน้าอย่างพวกแกจะแพงได้สักกี่บาทกันยะ ตกลงจะทำไม่ทำ”
“ทำก็ได้ ถือว่าเห็นใจอ่ะนะ ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินหรอก ช่วยๆกันไป”
“แต่พวกแกต้องจับตาดูไว้ให้ดีนะ มันดูคล้ายจะเป็นผู้หญิงลักษณะเหมือนๆพยาธิตัวตืดคนนึง และอีกคนนึงท่าทางจะร้ายกาจกว่าเพราะมันรอบทำร้ายฉันด้วยไม้หน้าสาม เห็นมันเข้าใกล้ตลาดอีกเมื่อไหร่ ไล่ตื้บไปเลย โดยเฉพาะอีนังผู้หญิง”
เป้งโบกมือ
“เฮ้ย...หยุด เราไม่ลงมือกับผู้หญิง”
ต๋อยเสนอตัว
“ไม่เป็นไร...เดี๋ยวต๋อยลงมือเอง เด็ก สตรี และคนชรา ต๋อยเอาอยู่อ้ะ”
อั้มยิ้มมุมปาก
“งั้นเล่นให้หนัก อย่าให้มันมายุ่งกับพี่ดวงของอั้มได้อีกเป็นอันขาด เข้าใจไหม”
ลั้นลาใช้หน้ากากผ้าปิดปากเดินเข้ามา
“พูดจาประชดประชันสะใจ
“เดี๋ยวนี้ถึงกับต้องจ้างผู้ชายเลยเหรอยะ ต๊าย...น่าสมเพทอ้ะ เหมาหมดวินเหรอ แอร๊ยย มักมากอ้ะ”
ลั้นลามัวแต่ลีลา อั้มเลยดึงหน้ากากอนามัยที่หน้าแล้วปล่อยดีดที่หน้า ลั้นลาสะดุ้งโหยง
“โอย...ฉันเจ็บนะ...หาเรื่องเหรอนังอั้ม อยากโดนใช่ไหม”
อั้มยกมือห้าม
“พอ...หยุดเลย เมื่อคืนฉันตบมามากพอแล้ว เช้านี้ ขอพักฟื้น”
ลั้นลาแกล้งทำไม่รู้เรื่อง
“ไปฟัดกับใครมาเหรอ”
“อีพยาธิตัวตืดที่ไหนไม่รู้มันมาหากินที่ตลาดเรา หน้างี้ดูไม่ได้เลยมันเหมาะที่จะเกาะอยู่กับซากศพเน่าๆมากกว่าที่จะออกมาเพ่นพล่านล่าเหยื่อเห็นแล้วอนาถมากฉันเลยจัดการซะ”
ลั้นลาสะอึกพยายามสะกดอารมณ์โกรธแค้นไว้ภายในข่มใจฟัง ลั้นลากัดฟันถาม
“อนาถเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันล่ะไม่อยากเมาส์เลยจริงๆให้ตายเหอะ”
ลั้นลาหน้านิ่งๆ
“เออ...งั้นมึงหยุดเลย”
ลั้นลาทำท่าจะไป อั้มรีบคว้าไว้
“ฮื่ยย์ เดี๋ยวสิ...ขอต่ออีกนิดแล้วกันนะ ถ้าแค่อีพยาธิตัวตืดตัวเดียวฉันไม่กลัวหรอกแต่นี่มันมีชะนีแก่อีกตัวโผล่มานี่สิ”
“แกก็เห็นนังนั่นเหมือนกันเหรอ”
อั้มมองหน้าลั้นลางงๆ
“ทำไมแกพูดเหมือนแกอยู่กับฉันเลย”
ลั้นลาแถไปแก้ตัว
“ก็...ก็แกเล่าใส่อารมณ์ซะ ฉันก็เลยมีอารมณ์ร่วมไง”
“ฉันเล่าได้อารมณ์ขนาดนั้นเลยเหรอ...แต่จะว่าไปถึงฉันจะเห็นแว๊บเดียวฉันก็จำหน้านังชะนีแก่นั่นได้นะ”
“ใช่...แต่แหม๊ หน้าตามันคงอยากมีผัวเด็กมากๆๆ” ลั้นลาใส่อารมณ์อินมาก “มันคงจะเล็งมานานแล้ว พอถึงเวลา ตลาดเงียบๆ ไม่มีใครอยู่ นอกจากพี่ดวง มันก็เลยมา คงกะจะฟันพี่ดวง ฮุบเอาเป็นผัวให้ได้ หือ หมั่นเขี้ยวว้อย!”
“เดี๋ยวๆ ทำไมแกอธิบายชัดจัง เข้าใจมันอะไรขนาดนั้น…” อั้มมองสำรวจรูปร่างลั้นลา “คงไม่ได้หมายความว่า...แก”
ลั้นลาลืมตัวพยักหน้า
“ช่าย”
อั้มตาโต
“แก!หืออ กูว่าแล้ว ถึงว่าทำไมใส่อารมณ์จัง” อั้มตบลั้นลาเปรี้ยง “หนอยแกคิดจะแย่งพี่ดวงของฉันเหรอ ตายซะเถอะ”
อั้มจะตบอีกฉาดลั้นลาร้องก่อนเลย
“แอร๊ยยย”
ลั้นลาหันหน้าหลบไปอีกทาง มองไปแล้วตาลุกวาว
“เดี๋ยวก่อนนังอั้ม อย่าเพิ่ง”
ลั้นลาจับมืออั้มไว้ได้ทัน ก่อนจะพยักเพยิดให้มองไปอีกทาง
“ดูโน่นก่อน”
คุณนายสร้อยเพชรจอดรถ กำลังลงจากรถลั้นลามองจ้อง
“นังคุณนายมันมาอีกแล้ว”
“นังคุณนายน่ะช่างหัวแกเถอะ ศัตรูของเราน่ะ นังคุณหนูต่างหาก”
สายมุกลงจากรถ ผมพลิ้ว สวยมาก อั้มกับลั้นลาร้องขึ้นพร้อมกัน
“ขี้เหร่ ม๊ากกก”
ดวงเข็นรถออกมาด้านหน้าตลาด เจอเข้ากับคุณนายสร้อยเพชรพอดี แทบชนกัน
“เว้ยย!”
ดวงหักเลี้ยวหลบ คุณนายสร้อยเพชรยิ้มให้ดวงอย่างเอ็นดู
“ดู๊ดู...ดูทำเข้า น่าเอ็นดูจริงจริ๊ง”
สายมุกชะงักอึ้ง
“คุณแม่ว่าอะไรนะคะ นายดวงน่าเอ็นดูในสายตาคุณแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
คุณนายสร้อยเพชรจึ๊จ๊ะให้สายมุกเงียบไป ดวงยกมือไหว้
“ขอโทษครับคุณนาย ผมไม่เห็นจริงๆ ครับ”
“ฉันไม่ถือสาหรอก คนกันเองทั้งนั้น”
สายมุกตะลึง
“หา...คนกันเอง”
คุณนายสร้อยเพชรยิ้มหวานให้ดวง
“กินข้าวรึยังจ๊ะนายดวง”
ดวงอึ้งงง
“ถาม…ถามผมเหรอครับ”
“ก็ใช่น่ะสิ ถามเธอนั่นแหละ กินข้าวเช้ารึยัง เพราะถ้ายังไม่กินก็เหมาะเลย ฉันจะมารับไปกินพอดี ไปด้วยกันนะ”
ดวงทำตัวไม่ถูก
“เอ่อ…”
สายมุกรีบบอก
“ไม่ต้องกลัว ฉันไปด้วย เกิดอะไรขึ้น ฉันจะช่วยนายเอง”
ดวงยิ้มออกทันที
“งั้นไปก็ไปครับ”
คุณนายสร้อยเพชรแอบหยิกลูกสาว
โปรดติดตามตอนต่อไป พรุ่งนี้ 9.30 น.