สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 9
จอมขวัญเดินลัดเลาะมาในบ้านพักวงดนตรี เพราะรู้ทางหนีทีไล่ในบ้านอย่างดี และเดินตามเสียงดนตรีที่แว่วออกมาจากโรงซ้อมเต้น มาเรื่องๆ โดยปราศจากการพบเห็นของผู้คน
ตรงลานซ้อมเต้น บาสกำลังสอนสมหวังเต้น และเริ่มให้เต้นพร้อมกับแด๊นเซอร์ ภาพการโชว์ของสมหวังเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง
ห่างออกมาในมุมลับตาคน จอมขวัญย่องเข้ามาแอบดู
ทันใดนั้น มีมือใครคนหนึ่งมาสะกิด จอมขวัญหันมา เห็นเป็น ปอยฝ้ายกับสำลีก็ขวัญตกใจ! หน้าเสีย
“เธอเข้ามาทำไม” สำลีถาม
“ใจเย็นสิ สำลี ปอยฝ้าย”
ปอยฝ้ายเสริม “ชั้นว่าเธอรีบออกไปดีกว่านะ”
ระหว่างนั้นปอยฝ้ายกำลังจับแขนจอมขวัญให้ออกไป จอมขวัญควักแบงค์พันขึ้นมา ปอยฝ้ายรีบปล่อยแขน สำลีมองตาเป็นมัน
“แบบนี้เราพอจะพูดกันดีๆ ได้หรือยัง” จอมขวัญมองอย่างเป็นต่อ
สำลีนั้นทำท่าลังเล ส่วนปอยฝ้ายรีบคว้าไว้ก่อน
“มีอะไรว่ามา”
เวลาต่อมา สำลี ปอยฝ้าย นั่งคุยกับจอมขวัญในร้านหน้าปากซอย
“เห็นเค้าว่านังนั่นมันจะใส่หน้ากากขึ้นคอนเสิร์ตเหรอ”
สำลีบอก “ใช่ เห็นเค้าพูดกัน”
“นังนั่นมันคิดยังไง ถึงจะใส่หน้ากาก”
ปอยฝ้ายงง “แล้วเธอจะสนใจทำไม”
จอมขวัญตอแหลทันที “ก็ชั้นเป็นห่วงกลัวจะไปไม่รอด ยังไงพ่อชูก็เคยมีบุญคุณกับชั้นมาก่อน ถึงจะแตกหักกันยังไง ตัดเยื่อก็ยังเหลือใย”
“ชั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แค่ว่ามันถูกบริษัทจัดหางานหลอกมา จะส่งไปทำงานต่างประเทศ แล้วถูกหลอกลอยแพ ตอนนี้เป็นคดีกับนายจ้าง หมวดวันชาติก็เอามาฝากพ่อชูไว้”
จอมขวัญนิ่งงันไป แววตามีแผนบางอย่าง
ที่อาคารทีเอสมิวสิค เฮียตี๋เดินเข้ามาในห้องซ้อมไม่เห็นจอมขวัญ ครู่หนึ่งจอมขวัญก็ตามเข้ามา
เฮียตี๋หงุดหงิด “ไปไหนมา ทำไมไม่มาซ้อม อีกไม่กี่วันจะออกทีวีแล้วนะ เฮียขอร้องแล้วไง”
จอมขวัญยิ้มย่อง “ใจเย็นสิคะ รับรองงานนี้นังสมหวังต้องสิ้นชื่อแน่ๆ”
เฮียตี๋ฉงน “อะไรของหนู”
“หนูรู้แล้วว่าทำไมมันต้องใส่หน้ากากขึ้นเวที มันเป็นพวกแรงงานเถื่อนถูกบริษัทจัดหางานหลอกมา แล้วตอนนี้กำลังเป็นคดีความกับนายจ้างมันอยู่ ถ้าเค้ารู้ว่ามันเป็นใคร อยู่ที่ไหนเค้าต้องตามมาเล่นงานมันแน่ หนูจะกระชากหน้ากากมันเอง….ได้เดือดร้อนกันแน่!!
สีหน้าจอมขวัญร้ายกาจมาก เฮียตี๋มองจอมขวัญอย่างงงๆ
บริเวณปั๊มน้ำมันยามค่ำคืน รถยอดชายขับเข้ามาจอดในปั๊ม ยอดชายเติมน้ำมัน ในรถ
“ผมไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนึง” แดนบอก
“เดี๋ยวชั้นไปจอดรอหน้ามินิมาร์ทนะ”
แดนลงจากรถไป ยอดชายเติมน้ำมันเสร็จ จึงขับรถไปรอแดนอยู่หน้ามินิมาร์ท ยอดชายลงจากรถ กำลังจะเดินเข้าไปซื้อของในมินิมาร์ท หมวดวันชาติเดินออกมาเจอกับยอดชายพอดี ยอดชายตกใจ พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ยิ้มทักทาย
“สวัสดีครับหมวด”
“อ้าว คุณยอดชาย”
“ซื้อของเสร็จแล้วเหรอครับ”
“ครับ… มาคนเดียวเหรอครับ” วันชาติยิ้มให้ พลางถามกลับ
“มาคนเดียวครับ”
“งั้นผมไม่รบกวนแล้วครับ ขอตัวก่อน”
หมวดวันชาติทำท่าเหมือนว่าจะเดินไปทางห้องน้ำ จังหวะนั้นยอดชายเห็นแดนเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี ยอดชายตกใจ รีบแก้ไขเหตุการณ์ เรียกหมวดให้หันมาทางตนทันที
“หมวดครับ”
หมวดวันชาติหยุดแล้วหันมาหา
“ครับ”
“เรื่องคดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับ”
“คืบหน้าไปเยอะแล้วครับ ถ้ายังไงผมจะรายงานคุณให้ทราบอีกทีนะครับ”
ระหว่างนั้น แดนเดินตรงมาที่ยอดชาติ โดยที่ยังไม่เห็นหมวดวันชาติ! ยอดชายพยายามส่งซิกใบ้มือให้หลบ แต่แดนไม่เข้าใจ
หมวดวันชาติ เห็นยอดชาติมีพิรุธจึงหันไปมอง แต่ไม่เห็นแดนแล้ว
ยอดชายโล่งใจ
วันชาติขอตัว “ผมขอตัวนะครับ”
วันชาติเดินจากมา สีหน้าครุ่นคิด ขึ้นรถและขับออกไป
แดนหลบอยู่ตรงพุ่มไม้เมื่อเห็นรถหมวดวันชาติขับออกไปแล้วจึงออกมา
ยอดชายบอกแดนอย่างหงุดหงิด เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ
“รีบไปกันเถอะ”
ยอดชายกับแดน ขึ้นรถและขับออกไป
ยอดชายขับออกมาหน้าปั๊มแล้ว โดยไม่รู้ว่ารถหมวดวันชาติจอดหลบอยู่มุมมืด ซุ่มดูอยู่ หมวดวันชาติเห็นชายคนที่นั่งอยู่ในรถกับยอดชาย รู้สึกคุ้นๆ หน้า
วันชาติพึมพำ “ไอ้หมอนั่นหน้าคุ้นๆ…แล้วไหนบอกว่ามาคนเดียว”
วันต่อมา หมวดวันชาติเข้าโรงพักแต่เช้า เดินเข้าห้องทำงาน แล้วหยิบแฟ้มรูปคนร้ายคดีสมหวังขึ้นมาขึ้นมา
จ้องไปที่รูปแดน วันชาติคิดไปคิดมา
พร้อมกับนึกถึงเหตุการณ์ที่ปั๊มน้ำมันเมื่อคืน ที่เห็นแดนนั่งคู่กับยอดชาย
“คนเดียวกันแน่ๆ” แม้จะแดนจะพรางหน้าตา ติดหนวมใส่วิกผมยาว แต่วันชาติมั่นใจมาก
เวลาเดียวกันสมหวังกำลังนั่งทำอะไรบางอย่าง อยู่ตรงระเบียงบ้าน สายฟ้าผ่านมาเห็นสมหวัง จึงเข้ามาดู
พอเข้ามาใกล้ๆ สายฟ้าจึงเห็นสมหวังกำลังติดประดับเพชรที่หน้ากากอยู่
“ทำหน้ากากอันใหม่เหรอ…”
“อันเดิมนี่แหละ…แต่อยากติดเพชรให้มันน่าดูมากยิ่งขึ้น”
“มีอะไรให้ชั้นช่วยมั้ย”
สมหวังคิดครู่หนึ่ง
“เดี๋ยวคุณคอยหยิบเพชรส่งให้ชั้นแล้วกัน”
จากนั้นสมหวังก้มหน้าก้มตาติดเพชรต่อไป สายฟ้ามองความน่ารักของสมหวังอย่างเพลินตา แล้วยิ้มอย่างมีความสุข
“ขอสีแดงเม็ดนึงค่ะ”
สายฟ้าหยิบให้สมหวัง
สายฟ้าแนะ “ชั้นว่าตรงนั้นน่าจะติดเพชรสีชมพูนะ”
สมหวังชี้ไปที่จุดหนึ่งบนหน้ากาก “ตรงนี้เหรอ”
สายฟ้าพยักหน้า
“ก็สวยดีนะถ้าเม็ดสีชมพูอยู่ตรงนี้…งั้นชั้นเชื่อคุณ”
สมหวังแบมือขอเพชรจากสายฟ้า ทว่าสายฟ้ามัวแต่มองสมหวังเพลิน ไม่ได้ดูหยิบเพชรสีขาวให้ สมหวังกำลังจะติดเห็นเป็นเพชรเม็ดสีขาว เงยหน้าขึ้นกำลังจะโวย
“นี่…คุณ” สมหวังชะงัก เมื่อเห็นสายฟ้าจ้องตัวเองอยู่
ส่วนสายฟ้าเห็นว่าสมหวังรู้ตัวว่าตนจ้องมอง จึงรีบทำตัวปกติ
“นี่มันสีขาว…ไหนจะให้ชั้นติดสีชมพูไง”
“มันหยิบติดมือไป…หยิบให้ใหม่ก็ได้ แค่นี้ต้องโวยวาย”
สายฟ้าหยิบเพชรเม็ดสีชมพูให้สมหวัง จังหวะที่จะส่งถึงมือสมหวังเพชรหลุดมือสายฟ้าตกลงที่พื้น
ทั้งคู่ก้มเก็บลงพร้อมกัน หน้าเกือบชนกัน
เสียงเจ๊เนาว์ดังเข้ามา “เสร็จหรือยังสมหวัง ออกมาโชว์หน่อยเร็ว”
สองคนผงะออกจากกัน
สมหวังรีบเก็บเพชรมาติดเป็นเม็ดสุดท้าย ร้องขึ้นเสียงสดใส
“เสร็จแล้วจ้าๆ”
ไม่นานนักสมหวังเดินเข้ามาหาหมู่มวลอันมี เจ๊เนาว์ เจ๊จุ๊ กุหลาบ และบาส ซึ่งนั่งเม้าท์มอยอยู่ในห้องนั่งเล่น พร้อมใส่หน้ากากเพชรมาโชว์ สายฟ้าเดินตามออกมาไล่ๆ กัน ทุกคนพากันตะลึงมอง
บาสยิ้มหน้าบานแก้มแทบแตก ดี๊ด๊าออกนอกหน้ากว่าใครอื่น
“วะวะว้าว!!...น้องสมหวังสวยจังเลย”
“ใส่หน้ากากดูสวยขึ้นเยอะ เก๋ไก๋สไลเดอร์มากๆ” เจ๊จุ๊ทั้งทึ่งทั้งชื่นชม
ทุกคนต่างกำลังชื่นชมผลงานของสมหวัง
“ราศีจับจริงๆ ซิ ความคิดสมหวังนี่สุดยอด” เจ๊เนาว์ปลื้มปริ่ม
สมหวังเดินไปมาโชว์ผลงานของตน โดยไม่ทันระวังสะดุดพรมที่พื้น ทุกคนหัวเราะขันในความน่ารักของสมหวัง
“อย่างอื่นเอาหมด แต่สะดุดแบบเมื่อกี้ไม่เอานะน้องสมหวัง”
เจ๊จุ๊แซว ทุกคนขำ
สมหวังเขิน “จ้ะ”
สมหวังถอดหน้ากากส่งให้ทุกคนดู
เจ๊เนาว์ “เจ๊ว่าทำสำรองไว้อีกอันดีกว่ามั้ย”
“ทำไมต้องทำสำรองด้วยวะนังเนาว์ …อยากใส่กับเค้าบ้างหรือยังไง” เจ๊จุ๊ท้วง
“ก็เผื่อเอาไว้ เกิดอันนี้เป็นอะไรขึ้นมา” เจ๊เนาว์บอก
“ชั้นว่าไม่ต้องหรอก อันเดียวก็พอ คอยระวังๆ หน่อยก็แล้วกัน”
สมหวังพยักหน้ารับ
ริมหน้าต่างด้านนอก ไม่มีใครเห็นว่า สำลีกับปอยฝ้ายยืนมองอย่างสนใจ!
ด้านจอมขวัญกำลังซ้อมเต้นอยู่ที่บริษัท แล้วจู่ๆ นางรู้สึกรำคาญ ที่เต้นไม่ได้เสียที เลยยิ่งหงุดหงิด
“โอ๊ยอะไรเนี่ย! ทำไมแค่ร้องเพลงต้องทำให้มันยุ่งยากด้วยนะ ไม่ซ้งไม่ซ้อมมันแล้ว”
หน้าจอมขวัญเหวี่ยงสุดขีด พร้อมกับสะบัดตัวทำท่าจะเดินออกไป ทำเอาครูสอนเต้นหน้าเสีย
เฮียตี๋ยกมือบอกครูเป็นเชิงว่าเดี๋ยวจัดการเอง
“เอาน่าหนู ทนอีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว ออกทีวีมันจะได้ดูดีไง”
“แค่เสียงหนูอย่างเดียวมันก็เหลือกินแล้ว” จอมขวัญอวดเก่ง
ขณะที่จอมขวัญกำลังดื่มน้ำ และมองหน้าเฮียตี๋อย่างเบื่อๆ จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เป็นโทรศัพท์จากสำลีที่โทร.มาจากบ้านชูชนะ
จอมขวัญคุยสาย “ฮัลโหล”
“ชั้นเอง….สำลี”
จากที่หงุดหงิดจอมขวัญกลับอารมณ์ดีขึ้นมาทันตาเห็น
“เป็นยังไงตกลงมันใส่หน้ากากแน่ใช่มั้ย”
“ใส่ชัวร์ๆ มันทำกันเสร็จแล้วด้วย” สำลีว่า
“ดี! งั้นแกก็หาทางขโมยหน้ากากมันมาให้ได้....ค่าจ้างอย่างที่ตกลงกันไว้อย่าให้พลาดล่ะ” จอมขวัญยิ้มสะใจ
“ไม่พลาดแน่นอน…แล้วอย่าเบี้ยวชั้นล่ะ” สำลีสำทับ
“ชั้นไม่เบี้ยวแน่นอน.....แค่นี้นะ”
จอมขวัญวางสาย ยิ้มร้ายสีหน้าเหี้ยมเกรียมออกมา
เฮียตี๋อยากรู้เต็มที่ “ใครโทร.มา”
“สายหนูโทร.มาส่งข่าวเรื่องไอ้พวกนั้น รับรองงานนี้มันเสร็จแน่”
ตอนสายวันนั้น แจ่มเดินเอาน้ำมาให้หมวดวันชาติที่สนามหน้าบ้าน
“รอคุณยอดชายสักครู่นะคะ”
แจ่มกำลังจะเดินออก วันชาติเรียกไว้
“เดี๋ยวๆ”
แจ่มหันมาหางงๆ “คะ”
“พักนี้มีคนแปลกหน้ามาหาคุณยอดชายหรือเปล่า”
แจ่มคิดครู่หนึ่ง “ไม่มีนี่คะ”
“แล้วคุณยอดชายเค้ามีญาติที่ไหนบ้างหรือเปล่า”
“ก็เห็นมีแต่เพื่อนผู้ชายคนนึง ที่มาบ่อยๆ”
“แล้วจำหน้าได้หรือเปล่า”
“จำได้ค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวดูรูปนี้ให้หน่อยว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่า”
วันชาติรีบเดินไปที่รถเปิดประตูหยิบเอารูปแดนออกมาจากเอกสาร
วันชาติชี้ที่รูปแดน “เนี่ยรูปนี้”
แจ่มขยับตัวจะมอง ก็พอดีเสียงยอดชายเดินเข้ามาถึงทักวันชาติ...แจ่มจึงหดกลับ
“หวัดดีครับหมวด”
“หวัดดีครับ”
ยอดชายมองไปยังแจ่ม “มีงานอะไรก็ไปทำไป”
“ค่ะ” เดินออกมา
“มีอะไรเหรอครับ” ยอดชาติหันมาทางวันชาติ
“พอดีผมได้รูปของคนร้ายมาก็เลยจะถามคุณยอดชายว่าเคยเห็นหน้าหรือเปล่า” วันชาติเอ่ยขึ้น
ยอดชายตกใจ “เหรอครับ”
วันชาติส่งรูปให้ “คุณยอดชายคุ้นๆ หน้าบ้างไหมครับ”
ยอดชายหยิบแฟ้มรูปมาดู ตกใจผงะเล็กน้อย แต่แล้วรีบกลบเกลื่อน วันชาติที่เฝ้าดูอาการเห็น
“ไม่ครับ ไม่คุ้นเลยครับ ใครครับ”
“ก็มือปืนที่ยิงคุณนายศรีสมรไงครับ ผมให้ที่กองเค้าสเก็ตรูปเต็มออกมา คุณยอดชายแน่ใจนะครับว่าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”
“ไม่ครับ ไม่เคย”
วันชาติมองยอดชายด้วยความเคลือบแคลงสงสัย ขณะที่ยอดชายรีบคืนรูปให้วันชาติท่าทางร้อนรน
“เด็กไม่ได้ยกของมาให้เหรอครับเนี่ย งั้นผมขอตัวสักครู่”
ยอดชายขอตัว แล้วเดินเข้าไปในบ้าน
ยอดชายอยู่ในบ้าน มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นหมวดนั่งอยู่ที่โต๊ะในสนามหญ้า ยอดชายสีหน้าหงุดหงิดและกังวล
“ไอ้หมวดนั่นมันต้องเริ่มสงสัยเราแล้วแน่ๆ”
ยอดชายคว้าโทรศัพท์มากดโทร.หาแดน มีแต่เสียงสัญญาณ แดนไม่รับโทรศัพท์ ยอดชายโมโห
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์วะ”
ระหว่างนั้นแจ่มกำลังจะยกของว่างออกไปให้หมวดวันชาติ
ยอดชายเรียกไว้ “เดี๋ยว…นังแจ่ม”
“คะ?”
“เมื่อกี้หมวดนั่นถามอะไรแก”
“เค้ากำลังจะให้ดูรูปใครไม่รู้ค่ะ” แจ่มตอบ
“แล้วแกเห็นหรือเปล่า”
“ยังไม่ทันเห็นค่ะ”
“ถ้าเค้าให้แกดูอีกแกไม่ต้องสนใจนะ…แล้วบอกไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น เข้าใจมั้ย”
แจ่มงงๆ แต่ก็รับคำตามเจ้านายสั่ง
“ค่ะ” แจ่มเดินออกไป
ยอดชายกลับมาหัวเสียกับแดนที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์
“ไอ้บ้าเอ๊ย! ทำไมไม่รับโทรศัพท์วะ”
ยอดชายมีสีหน้ากังวลหนัก
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 9 (ต่อ)
แจ่มเดินเอาอาหารว่างมาเสิร์ฟให้หมวดวันชาติ ในขณะที่ยอดชายเดินตามเข้ามากันท่า พอแจ่มวางอาหารเสร็จแล้วก็เดินออกไป ยอดชายเอ่ยขึ้น
“ทานอาหารว่างก่อนครับ”
“ขอบคุณครับ ผมกำลังจะกลับพอดีเดี๋ยวต้องไปทำธุระต่อ”
“อ๋อ...ครับ”
“ขอบคุณมากนะครับ ที่ให้ความร่วมมือ ถ้ามีอะไรคืยหน้าผมจะมาขอความร่วมมือใหม่”
ยอดชายยิ้มเยื้อน “ยินดีครับ”
ระหว่างนั้น เสียงโทรศัพท์ยอดชายดังขึ้น! ยอดชายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เห็นที่หน้าจอ เป็นเบอร์แดน ยอดชายมีสีหน้าตกใจ รีบกดตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง บ่นงึมงำ
“จะโทร.มาทำบ้าอะไรตอนนี้วะ”
วันชาติจ้องยอดชายที่มีท่าทีที่น่าสงสัย
“งั้นผมลานะครับ”
“ครับ”
วันชาติเดินออกไป
ยอดชายหงุดหงิดอารมณ์เสีย รีบเดินเข้าบ้านไป
ยอดชายเดินเข้ามาในห้องรับแขกของบ้านอย่างหงุดหงิด แล้วรีบหยิบโทรศัพท์โทร.หาแดนทันที แดนอยู่ในห้องน้ำที่ห้องพัก วางมือถือไว้บนโต๊ะเล็กข้างๆ เตียง
ขณะที่เสียงโทรศัพท์ดังลั่น แดนเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี ตรงมารับโทรศัพท์
“ครับ..คุณยอดชาย”
ยอดชายโมโห เสียงดังใส่ “ทำอะไรอยู่? ทำไมเพิ่งรับโทรศัพท์วะ”
“ผมเพิ่งอาบเสร็จ…มีอะไรครับ”
“ถามได้ว่ามีอะไร! ก็เกิดเรื่องใหญ่แล้วน่ะสิ ไอ้หมวดวันชาติมันรู้แล้วว่าแกเป็นมือปืนฆ่านังคุณนาย”
แดนตกใจตาเหลือกร้อง “ห๊า”
“แกไปทำอีท่าไหนให้มันจับได้ห๊ะ”
“ผมจะรู้ได้ยังไงเล่า ผมก็ระวังตัวดีแล้วนะ อีกอย่างก็ไม่เห็นมีใครสะกดรอยตามผมด้วย แล้วมันจะรู้ได้ยังไง” แดนฉุนนิดๆ
“แล้วชั้นจะรู้มั้ย ไอ้หมวดวันชาติมันเอารูปแกมาให้ชั้นดู แล้วถามว่าชั้นรู้จักแกหรือเปล่า!! ชั้นแทบช็อกคาเก้าอี้! ไม่รู้ละ แกต้องรีบไปจัดการนังสมหวังให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นเตรียมตัวเข้าตารางกันได้เลย”
“แล้วจะให้ผมไปหานังสมหวังที่ไหน”
“ตรงที่แกเคยเจอมันทุกที่ แล้วที่สำคัญแกต้องระวังตัวให้มากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า!อย่าให้ตำรวจจับได้เด็ดขาด”
“แล้วที่คุณบอกจะโทร.ล่อมันออกมาให้ผมฆ่า คุณไม่ช่วยผมแล้วเหรอ”
ยอดชายตะคอกอย่างฉุนเฉียว “ไอ้บ้า! จะช่วยได้ยังไง ตอนนี้เราต้องระวังตัวให้มากขึ้น แกกับชั้นต้องอยู่ห่างๆ กันไว้”
“ครับ”
“ชั้นขอย้ำนะ คราวนี้ห้ามพลาด! ถ้าเจอนังสมหวังที่ไหนให้จัดการได้เลย และก็ระวังตัวให้มากๆ ด้วย”
ทั้งคู่วางโทรศัพท์
แดนมีสีหน้าเหี้ยมเกรียม และมุ่งมั่นว่าจะต้องจัดสมหวังให้สำเร็จ
บ่ายวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่เคาะประตูห้องหมวดวันชาติ
“เข้ามา”
เจ้าหน้าที่เปิดประตูเข้ามา
“มีอะไรเหรอครับหมวด”
“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ให้คนของเราไปคอยประกบคุณยอดชายอย่าให้คลาดสายตา … ผมสงสัยว่าคุณยอดชายต้องมีส่วนรู้เห็นในคดีฆ่าคุณนายศรีสมรแน่ๆ”
“รับทราบครับ” เจ้าหน้าที่ทำความเคารพ แล้วเดินออกไป
สีหน้าของหมวดวันชาติมั่นใจมาก และคิดว่ายอดชายอยู่เบื้องหลังคดีฆ่าคุณนายศรีสมรแน่นอน
เช้าวันต่อมา ทุกคนกำลังเตรียมของขึ้นรถตู้ บาส กับ เจ๊เนาว์กำลังช่วยกันขนอุปการณ์การแสดงรวมถึงหน้ากากของสมหวังไปวางไว้ในรถ เจ๊จุ๊ง่วนอยู่กับกระเป๋าเครื่องสำอางที่หิ้วด้วยสองมือพะรุงพะรังมา ปอยฝ้ายกับสำลีเดินตัวปลิวเข้ามาพอดี
“แกสองคนน่ะ มาช่วยชั้นถือหน่อยสิ ไม่มีความเป็นผู้ชายเลย” เจ๊จุ๊ว่า
สำลีแขวะตามประสา “ตัวเจ๊ใหญ่กว่าผมสองคนรวมกันอีก จะต้องการคนช่วยอีกเหรอ”
คู่หูตลกประจำวงหัวเราะ ขำๆ
“ไม่ช่วยแล้วยังปากดี.. เดี๊ยะแม่ตบด้วยกระเป๋าเครื่องสำอาง” เจ๊จุ๊ด่า
ทั้งสำลี และปอยจึงรีบกุลีกุจอเข้าไปช่วยเจ๊จุ๊ถือกระเป๋าเครื่องสำอาง
“มาๆ ช่วยก็ได้” ปอยฝ้ายแถเข้าไปหา
“ดีมาก … แบบนี้สิค่อยน่ารักหน่อย”
ชูชนะกำลังสั่งการอยู่
“อ้าว…เร็วๆ กันหน่อย เดี๋ยวต้องไปเตรียมตัวกันอีก”
เจ๊เนาว์เอาชุดสมหวังแขวนไว้ที่หลังรถ หันกับมาพูดกับชูชนะ
“ไม่ต้องรีบหรอกพ่อ ไปถึงก็ต้องรอทีมงานเค้าอีก”
“ก็ข้าตื่นเต้นนี่หว่า…แล้วนี่ นังสมหวังล่ะ เตรียมตัวเสร็จหรือยัง”
“สมหวังน่ะเสร็จแล้ว…แต่ชุดน่ะยังไม่เสร็จ!” เจ๊เนาว์เล่นลิ้น
ชูชนะตกใจ “ห๊า อะไรนะ! ชุดยังไม่เสร็จ กูจะเป็นลม”
กรรไกรคมกริบในมือสมหวัง ตัดขี้ด้ายจากชุดเป็นเส้นสุดท้าย!
“เสร็จแล้ว” สมหวังยิ้มแป้น
กุหลาบกับสายฟ้า ยิ้มดีใจ
“เยี่ยมที่สุดเลยน้องพี่ เสร็จทันเวลาพอดี”
“รีบไปกันเถอะ …คนอื่นคงรอแย่แล้ว”
เวลาต่อมา สมหวัง กุหลาบ และสายฟ้า เดินถือชุดเข้ามาที่รถตู้ของวงซึ่งจอดรออยู่หน้าบ้าน
เจ๊เนาว์เห็นรีบบอกชูชนะ “ไม่ต้องเป็นลมแล้วพ่อ…ชุดเสร็จแล้ว มากันนู่นแล้ว”
ชูชนะหันไปมองค่อยโล่งใจหน่อย
“พวกเอ็งนี่ชอบทำให้คนแกหัวใจจะวาย”
บาสรีบแหลมเข้าไปช่วยสมหวังถือชุด
“มา น้องสมหวังเดี๋ยวพี่ช่วยจ้ะ”
บาสช่วยสมหวังยกชุดออกมาจากรถ เป็นชุดนางโจรสาว เข้ารูป หนังสีดำ ขาสั้นดูทันสมัยและทะมัดทะแมง พร้อมกับชุดแด๊นเซอร์ ที่ลักษณะเป็นหนังสีดำคล้ายกัน แต่รายละเอียดน้อยกว่า
เจ๊เนาว์ดี๊ด๊าเข้าไปจับชุดอย่างชื่นชม
“โห…ชุดสวยมากเลยสมหวัง…ฝีมือสมหวังนี่ไม่เคยทำให้พวกเราผิดหวังจริงๆ”
เจ๊เนาว์ กะเจ๊จุ๊ กรูมาดูชุด
“ใช่… สวยมาก ดูเข้ากันมาก” เจ๊จุ๊ยิ้มปลื้ม
ในขณะที่ทุกคนกำลังสนใจอยู่กับชุดสมหวังอยู่นั้น สำลีกับปอยฝ้ายเอากระเป๋าเครื่องสำอางมาวางในรถ สำลีเหลือบไปเห็นหน้ากากที่วางอยู่ตรงเบาะรถ
“ไอ้ปอย…”
สำลีเลิกคิ้วให้ปอยฝ้ายดูหน้ากาก ปอยฝ้ายมองไปที่หน้ากาก
ปอยฝ้ายกระซิบ “แกจะเอาตอนนี้เลยเหรอวะ”
“ก็เออสิวะ…ไม่เอาตอนนี้แล้วจะเอาตอนไหน โอกาสทองมาแล้วก็รีบๆคว้าไว้”
ปอยฝ้ายมองหน้ากากอย่างลังเล
สำลีคะยั้นคะยอ “หยิบมาสิวะ”
ปอยฝ้อยปอดๆ “ชั้นไม่กล้า…แกมาหยิบเองซิ”
“ปัดโธ่…ทำไมแค่นี้ไม่กล้าหยิบวะ”
สำลีกำลังจะเข้าไปหยิบ
เสียงสายฟ้าดังขัดขึ้น “พร้อมแล้วเราไปกันเถอะ”
สำลีรีบหดมือ แล้วแถทำตัวปกติ
ทุกคนเดินมาขึ้นรถตู้
ชูชนะเห็นสองสายสืบของจอมขวัญเข้า “อ้าว…ไอ้สำลี ไอ้ปอยยืนทำอะไรอยู่ล่ะ ขึ้นรถสิ”
“ครับๆๆๆๆ”
สำลีกะปอยฝ้ายประสานเสียง ออกอาการเซ็ง
ทุกคนขึ้นรถเรียบร้อย รถแล่นออกจากบ้านไป
แดนขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าตลาดพาหุรัด แดนมองซ้าย มองขวา อย่างระวังตัวแล้วเดินเข้าไปในตลาด
แดนสอดส่ายสายตามองหา หวังว่าจะเจอสมหวังตามร้านผ้า มุมนั้น มุมนี้ อยู่สักครู่หนึ่ง
เมื่อไม่เห็นวี่แวว แดนบ่นพึมพำ “จะบ้าหรือเปล่าจะให้ไปหาทุกที่ ร้อนก็ร้อน น้ำมันก็แพง”
แดนเดินมาหยุดตรงบริเวณร้านขายน้ำดื่มที่แดนเคยเจอกับสมหวัง แดนสั่งน้ำ
“น้ำเปล่าขวดนึง”
แม่ค้าส่งน้ำให้แดน “ได้แล้วน้อง”
แดนเปิดน้ำยืนดื่มอยู่บริเวณนั้น
จังหวะนั้นแม่ค้าหันไปเปิดวิทยุฟังเพลง และมีสปอตโฆษณาคอนเสิร์ตพอดิบพอดี
“คอนเสิร์ตลูกทุ่งเอฟเอ็ม อาทิตย์นี้ เอาใจแฟนเพลง จัดให้เต็มๆ กับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบของเธอทั้งสองคน จอมขวัญ กตัญญู ปะทะ สมหวัง วทัญญู วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม นี้ พบกันเวลาบ่ายสี่โมงนะครับ”
แม่ค้าฟังแล้วหันไปคุยกับลูกน้อง “อ้าว…วันนี้มีคอนเสิร์ตสมหวังปะมะจอมขวัญแล้วเหรอ?”
“ใช่สิเจ๊…นั้นรีบๆ ปิดร้านเดี๋ยวกลับไปดูไม่ทัน” ลูกน้องว่า
“นังนี่…อย่าหาเรื่องขี้เกียจ คอนเสิร์ตถ่ายทอดสดมีตั้งสี่โมงโน่น… ขายของเอาเงินไปก่อน”
ลูกน้องบ่นอุบ “แหม…สมเป็นเจ้านายจริงๆ รู้ทันไปหมด”
“บ่นอะไรยะ”
ลูกน้องสะดุ้ง
ลูกน้องแม่ค้ายิ้มแหยๆ “เปล่าจ้า”
แดนดื่มน้ำเสร็จกำลังจะเดินออกจากร้าน ยินเสียงแม่ค้าคุยระรื่น
“เออนี่...ชั้นจะให้ดูอะไร”
ทันใดนั้น แม่ค้าก็หยิบรูปสมหวังที่มีลายเซ็นต์ออกมาจากลิ้นชักโชว์ลูกน้อง
“วันนั้นเพื่อนชั้นตามสมหวังไปออกรายการวิทยุนี่แหละ และเค้าขอรูปกับลายเซ็นมาให้ชั้นด้วย”
แดนเหลือบไปเห็นรูปสมหวังพอดี แดนถึงกับชะงัก!
แดนถามเอากับแม่ค้า “เจ๊…นั่นรูปใครน่ะ”
“สมหวัง วทัญญูไง นักร้องลูกทุ่งหน้าใหม่ไฟแรง เสียงเพร๊าะเพราะ ถ้ายังไม่เคยเห็นนะเปิดทีวีดูสิ วันนี้เค้ามาออกคอนเสิร์ตลูกทุ่งเอฟเอ็ม”
แดนพึมพำ “มาไม่เสียเที่ยวจริงๆ …. มึงเสร็จกูแน่!”
แดนยิ้มหน้าเหี้ยม แล้วเดินออกจากร้านไป
เวลานั้นป้าชวนนั่งเย็บผ้า แล้วเปิดวิทยุฟังไปด้วย ป้าชวนได้ยินสปอตโฆษณาคอนเสิร์ตสมหวัง วทัญญูประชันกับจอมขวัญ กตัญญู หญิงชราพึมพำ
“สมหวัง วทัญญู วันนี้ต้องดูหน้าซะหน่อย! ชื่อก็เหมือนหลานชั้น เสียงยังดันมาเหมือนกันอีก ดูสิว่าจะสวยสู้หลานชั้นได้หรือเปล่า”
ทางด้านแดนหลบอยู่ในซอกตึกอับแห่งหนึ่ง โทรศัพท์คุยกับยอดชาย
“ผมรู้แล้วว่ามันอยู่ไหน”
ยอดชายตาโตด้วยความดีใจ
“จริงเหรอ แล้วมันอยู่ไหน…แกจัดการมันไปหรือยัง”
“ยังครับ…แต่เย็นนี้มันไม่รอดแน่”
“แกจะไปจัดการมันที่ไหน”
“มันได้เป็นนักร้องลูกทุ่ง แล้ววันนี้มันจะขึ้นคอนเสิร์ตลูกทุ่งเอฟเอ็ม แล้วออกทีวีด้วย ผมจะไปจัดการมันถึงที่เลย! คุณเปิดทีวีรอดูได้เลย” แดนบอก
ยอดชายแปลกใจปนตกใจ!
“มันจะไปเป็นนักร้องได้ไง? มันเป็นพยานในคดีนี้อยู่ แล้วไอ้หมวดนั่นมันก็เอาไปซ่อนไว้ มันไม่ปล่อยให้นังสมหวังมาเป็นนักร้องเด็ดขาด! แกไปเอามาจากไหน”
“ผมเห็นรูปมันมากับตา แม่ค้าในตลาดมันก็ยืนยันว่านังสมหวังมันเป็นนักร้อง แล้วเมื่อกี้ก็มีโฆษณาว่ามันจะขึ้นคอนเสิร์ตเย็นนี้ด้วย” แดนบอกอย่างมั่นใจ
ยอดชายยังสับสน “แกตาฝาดหรือเปล่า”
“ไม่ฝาด…ถ้าคุณไม่เชื่อ คุณรอดูฝีมือผมในทีวีได้เลย”
ยอดชายนึกอะไรขึ้นได้
“เฮ้ย! ไม่ได้ แกจะฆ่ามันออกทีวีได้ยังไง ขืนแกทำแบบนั้นมีหวังโดนลากเข้าตารางตรงนั้นแน่ๆ”
แดนขัดใจ “แล้วจะให้ผมทำยังไง เหยื่อมาถึงปากแล้วคุณก็ไม่ให้ผมจัดการ แล้วมาบ่นหาว่าผมทำงานพลาด!”
“แกอยู่เฉยๆ ไว้ก่อน…ชั้นขอดูทีวีเย็นนี้ให้แน่ใจก่อนว่าใช่นังสมจริงๆ หรือเปล่า! แล้วค่อยว่ากันทีหลัง”
ยอดชายกำชับก่อนจะวางสายไปด้วยสีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 9 (ต่อ)
ทุกคนมาถึงสถานที่จัดคอนเสิร์ตตอนเย็นๆ บริเวณเวทีจัดคอนเสิร์ต มีป้าย คอนเสิร์ตลูกทุ่งเอฟเอ็มเด่นหรา ส่วนหลังเวทีเต็มไปด้วยความวุ่นวายของคนที่กำลังเตรียมตัวขึ้นเวที เจ๊จุ๊กำลังแต่งหน้าให้สมหวังอยู่มุมหนึ่ง
สายฟ้ายืนอยู่แถวนั้นแอบมองสมหวังแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างชื่นชมความน่ารัก พอสมหวังหันมามอง สายฟ้าก็รีบหลบสายตาทันที
เจ๊จุ๊แต่งหน้าสมหวังเสร็จ วางแปรงลงแล้วมองดูฝีมือตัวเองอย่างชื่นชม
“จุ๊ จุ๊ จุ๊…มันสวยเว๊ย ฝีมือใครว๊า”
เจ๊เนาว์กำลังเตรียมชุดอยู่บริเวณนั้น
“มันไม่ใช่ฝีมือแกหรอกยะ…หนังหน้าเค้าดีอยู่แล้ว…ชมฝีมือได้ทุกครั้งจริงๆ นังนี่ แต่งใครก็เห็นว่าสวยทุกคน ลองไปแต่งให้ปลวกสิ ดูสิมันจะสวยมั้ย”
“แต่งให้ปลวกใช่มั้ย”
ว่าพลางเจ๊จุ๊ลุกขึ้นทำเป็นไปปัดหน้าให้เจ๊เนาว์
“นี่ไง…กำลังแต่งให้อยู่ ไปส่องกระจกสิว่าสวยหรือเปล่า”
สายฟ้า กับสมหวังพาขำไปด้วย
เจ๊เนาว์กรี๊ด “ว๊ายนังนี่….ด่าชั้นปลวกเหรอ”
“เปล่านะ…ก็แกด่าตัวเองอยู่เมื่อกี้เนี้ย!”
“ต๊ายปากคอเราะร้าย เดี๊ยตบไขมันกระเด็นเลย”
ระหว่างที่หัวเราะกันอยู่ เจ๊จุ๊จับสังเกตได้ว่าสายฟ้าแอบมองสมหวังตลอดเวลา เจ๊จุ๊เลยหาพูดหยอกสายฟ้า
“น้องสายฟ้า เป็นไงบ้างสมหวังสวยมั้ย”
สายฟ้าชะงัก เขินๆ ตั้งตัวไม่ทัน ทำหน้าไม่ถูก สมหวัง กะเจ๊จุ๊ รอคำตอบ
สายฟ้าอึกอัก พูดยิ้มๆ “สวยดี”
สมหวังได้ยินก็รู้สึกเขินหน้าแดง โดยที่ไม่รู้ตัว
“ลองไปสวมชุดนะสมหวัง”
เจ๊เนาว์ยื่นชุดให้ สมหวังรับชุดแล้วเดินออกไปเปลี่ยน
ครู่หนึ่ง ผู้กับรายการเดินเข้ามา ถามหา
“คุณสมหวังล่ะครับ”
“แต่งตัวอยู่ครับ…มีอะไรหรือเปล่าครับ” สายฟ้าบอก
“ผมจะมาบอกคิวคุณสมหวังน่ะครับ”
สมหวังสวมชุดเสร็จเดินออกมา
“มาพอดีเลยครับ…” สายฟ้าหันไปทางสมหวัง “มาฟังคิวของเธอว่าต้องทำยังไงบ้าง”
“คิวของคุณสมหวังต่อจากคุณจอมขวัญนะครับ…คิวก็ไม่มีอะไรมาก พอถึงเวลามีคนมาตามแล้ว คุณสมหวังก็ออกไป สแตนด์บายที่ข้างเวที พอเอ็มซีประกาศจบ ดนตรีขึ้นอินโทร คุณสมหวังก็ออกไป”
สมหวังพยักหน้ารับ
ผู้กับรายการ อธิบายต่อ “ส่วนคิวกล้องก็ไม่มีอะไรมากเช่นกัน กล้องมี 5 ตัว มี มูฟวิ่งแคม มีดอลลี่ มี
เครน คุณสมหวังก็ต้องคอยดูไฟแดงตรงหน้ากล้อง แสดงว่าไอ้กล้องตัวนั้นกำลังถ่ายอยู่ คุณสมหวังก็ต้องหันมาเล่นมายิ้มกับกล้อง ถ้าไดไอซ์มันมากคุณสมหวังจะเอ้าท์โฟกัส คุณพยายามออกมาข้างหน้าเวที กล้องจะได้เห็น ตามนี้นะครับ”
“ค่ะ” สมหวังพยักหน้ารับอย่างงงๆ เพราะต้องจำคิวเยอะเหลือเกิน ไหนจะตื่นเต้นอีก
สายฟ้ามองสมหวังแล้วรู้สึกเป็นห่วง
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
ผู้กับรายการเดินออกไป สมหวังหน้ามึนตึ๊บ เกาหัวยิกๆ
สายฟ้าเข้ามาพูดให้กำลังใจสมหวัง
“เป็นอะไร…งงล่ะสิ”
“คิวเยอะขนาดนั้นใครจะไปจำได้”
สายฟ้าจับแขนสมหวัง
“ไม่ต้องห่วงนะ ใจเย็นๆ ไม่ต้องตื่นเต้น ก็เหมือนทุกครั้งนึกว่าเรากำลังซ้อมกันอยู่ก็แล้วกัน ชั้นและทุกๆคนจะคอยเป็นกำลังใจให้”
สมหวังจ้องสายฟ้า แล้วรู้สึกอุ่นใจ ยิ้มออกทันที และรู้สึกมั่นใจมากขึ้น
ตรงมุมลับตาหลังเวที จอมขวัญชะเง้อเหมือนรอใครอยู่ สักครู่หนึ่ง ปอยฝ้ายกับสำลีก็เดินเข้ามา
“เป็นไงบ้าง…ได้หน้ากากมามั้ย”
“ยังเลย” ปอยฝ้ายบอก
จอมขวัญเซ็ง “อะไรกัน…ทำงานกันสองคน หน้ากากแค่นี้ยังเอามาไม่ได้อีกเหรอ”
“พวกชั้นพยายามแล้ว แต่มันหาจังหวะไม่ได้ คนเต็มไปหมด”
จอมขวัญควักเงินออกมาอีกปึกหนึ่ง ปอยฝ้าย กับสำลี จ้องเงินกลืนน้ำลายอยากได้มาก
“ไม่อยากได้ใช่มั้ยเงินนี่”
ปอยฝ้ายกะสำลีประสานเสียง “อยากได้สิ”
“อยากได้ก็ไปเอาหน้ากากมาให้ได้”
“เดี๋ยวก่อนมันขึ้นเวที ชั้นจะลองอีกครั้ง” สำลีรับปาก
“รีบไปเอามาให้ได้เลย”
ปอยฝ้ายกะสำลีวิ่งจู๊ดออกไป
เฮียตี๋เดินพล่านสีหน้ากังวล โทร.หาจอมขวัญมือเป็นระวิง ผู้กำกับรายการเดินเข้ามาอย่างหงุดหงิด
“เฮีย…ถึงคิวจอมขวัญแล้วนะ”
“แป๊ปนึงนะ…ผมตามให้อยู่”
เฮียตี๋ยิ่งเครียดมากขึ้น ระหว่างนั้นจอมขวัญเดินนวยนาดเข้ามาพอดี
“ใจเย็นๆสิคะ…มาแล้วค่ะ”
เฮียตี๋โล่งใจ
“มาแล้วก็เตรียมตัวเลยครับ…ใกล้ถึงเวลาออกอากาศแล้ว”
ทีมเสื้อผ้า ช่างผม กรูกันเข้ามารุมจอมขวัญ จอมขวัญมีสีหน้าสมใจที่แผนกระชากหน้าสมหวังกำลังจะสำเร็จ!
เสียงพิธีกรประกาศดังขึ้นที่หน้าเวที “ต่อไปนี้ขอเชิญท่านพบกับน้องร้องสาวพราวเสน่ห์ จอมขวัญ กตัญญู”
เสียงกรี๊ดของคนดูดังสนั่น พร้อมๆ กับเสียงดนตรีดังกระหึ่ม จอมขวัญกับแดนเซอร์ เฉิดฉายออกมา จอมขวัญร้องเพลงลูกทุ่งสุดฮิต จังหวะแดนซ์สนุกสนานอย่างจับตาจับใจ
ยอดชายดูทีวีอย่างหงุดหงิดอยู่ที่บ้าน พร้อมกับคุยโทรศัพท์กับแดนไปด้วย
“คนไหนของแกวะ…นังนี่มันไม่ใช่นี่”
แดนเองก็ดูทีวีอยู่ด้วยเหมือนกัน
“ไม่ใช่คนนี้”
“แล้วมันคนไหน”
“ดูไปก่อนครับ ผมว่าคนต่อไป”
ป้าชวนอยู่ในชุดเต้นแอโรบิค กำลังเต้นออกกำลังกาย พร้อมดูทีวีไปด้วย ป้าชวนจ้องทีวี เห็นจอมขวัญเล่นคอนเสิร์ตอยู่
“เมื่อไหร่ยัยสมหวังอะไรนั่นจะออกสักทีเนี่ย…ไม่ชอบยัยจอมขวัญเลย ร้องเพลงก็งั้นๆ … แล้วมีสิทธิ์อะไรมาสวยกว่าชั้น….อีกไม่นานชั้นจะสวยเท่าเธอให้ดู”
ป้าชวนเริ่มหอบ อาการยักแย่ยักยัน แต่ก็ยังเต้นต่อไป
ทีวีมอนิเตอร์ ในห้องแต่งตัว เห็นจอมขวัญกำลังแสดงคอนเสิร์ต ดนดูปรบมือเกรียวกราว ทุกคนกำลังดูถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตจากทีวีในห้องแต่งตัว
“คนยังนิยมจอมขวัญเยอะเหมือนกันนะ” สมควรว่า
“สมหวังเราสู้มันได้อยู่แล้ว” ชูชนะหันไปถามสมหวัง “จริงมั้ยสมหวัง”
สมหวังทั้งตื่นเต้นและเป็นกังวลขึ้นมาอีกครั้ง ยิ้มเจื่อน “จ้ะ”
สายฟ้าเข้ามาใกล้สมหวังและพูดให้กำลังใจสมหวัง
“ไม่ต้องกลัวนะ เธอทำได้อยู่แล้ว”
บาสเข้ามาแทรกสายฟ้า
“ใช่…น้องสมหวังของพี่ทำได้อยู่แล้ว เวลาเต้นก็นึกถึงพี่นะ มันจะได้รู้สึกว่ากำลังซ้อมอยู่กับพี่ พี่เป็นกำลังใจให้นะ”
กุหลาบมองบาสอย่างหมั่นไส้ปนหึง! รีบแถเข้ามาแทรกบาสกับสมหวังอีกที บาสเซ็ง!
กุหลาบกุมมือสมหวัง “วันนี้น้องพี่สวยที่สุดเลย…น้องพี่ต้องทำได้อยู่แล้ว” กระซิบบอกให้ความมั่นใจ “แล้วไม่ต้องห่วงนะ พี่จะดูแลน้องของพี่ให้ดีที่สุด”
บาสมองอย่างสงสัย “กระซิบอะไรกัน!”
กุหลายหันมาค้อนบาส ที่ชอบจับผิด
“เรื่องของผู้หญิงน่ะ ผู้ชายไม่เกี่ยว”
อีกมุม สำลีกับปอยฝ้าย หาจังหวะ เดินไปที่แขวนหน้ากากสมหวัง สำลีกำลังจะเอื้อมหยิบหน้ากาก
เสียงสายฟ้าดังขึ้นมา “มาทำอะไรกันตรงนี้สำลี ปอยฝ้าย”
สองแสบสะดุ้ง! แกล้งแถไปหยิบจับชุดดูความเรียบร้อย
สำลี ปอยฝ้าย พูดคนละคำออกมาอย่างพร้อมกัน
“มาเตรียมชุดให้สมหวัง” / “ชุดมันตกมาเก็บให้”
สำลี ปอยฝ้ายมองหน้ากัน ทำตัวไม่ถูก เพราะดันไม่ได้เตี๊ยมกันมา
สำลีแถต่อ “มาเตรียมชุดให้สมหวัง มาดูความเรียบร้อยน่ะครับ”
ผู้กำกับเวทีเดินเข้ามา “คุณสมหวังเตรียมสแตนด์บายนะครับ”
“พอดีเลย แกเอาหน้ากากไปให้สมหวังเค้าด้วย”
สำลี กำลังจะหยิบหน้ากาก เจ๊เนาว์เดินเข้ามา ร้องเสียงหลง
“ว๊ายยย…ไม่ต้องๆ เดียวเพชรหลุดหมด ชั้นหยิบเอง”
ชูชนะบอกทุกคน “ไปเตรียมตัวดูสมหวังข้างนอกกันดีกว่า ในนี้ผู้หญิงเค้าจะเตรียมตัวกัน”
ชูชนะนำขบวนเดินออกไป สายฟ้าหันมาให้กำลังใจสมหวัง
“เต็มที่นะ..เอาใจช่วย”
สมหวังพยักหน้า ยิ้มรับแรงใจ
สายฟ้าเดินออกไปแล้ว
ในห้องเหลือแต่ เจ๊เนาว์ เจ๊จุ๊ และกุหลาบ
“มาใส่หน้ากากเลยดีกว่า” เจ๊เนาว์บอก
เจ๊จุ๊ร้อง “อย่าเพิ่งๆ มาเติมแป้งก่อน”
“เติมแป้งเสร็จใส่หน้ากากให้สมหวังด้วยนะนังจุ๊ เดี๋ยวชั้นไปรอข้างๆ เวที เสร็จแล้วตามออกไปเลยนะ”
เจ๊เนาว์กำชับ พร้อมกับวางหน้ากากไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกไป
เจ๊จุ๊เติมแป้งให้สมหวังเสร็จพอดี
“เสร็จแล้ว…มาใส่หน้ากากมา…เจ๊ใส่ให้”
จู่ๆ สมหวังทำหน้าเหยเก เพราะปวดฉี่
“เจ๊ไปรอข้างเวทีก่อนก็ได้นะ…ชั้นปวดฉี่ ขอฉี่แป๊ปนึงนะ”
“เอาๆ…รีบเข้าไป”
“เอาหน้ากากวางไว้ตรงนี้แหละ…เดี๋ยวชั้นใส่เอง”
“เจ๊วางไว้บนโต๊ะนี่นะ”
เจ๊จุ๊วางหน้ากากไว้ แล้วเดินออกไป สมหวังรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป
เจ๊จุ๊เดินออกมาจากห้องแต่งตัว แล้วเดินออกไปทางเวที ระหว่างนั้นสำลีกับปอยฝ้ายก็โผล่ออกมาจากมุมมืด เห็นไม่มีใครแล้วจึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องแต่งตัว
ปอยฝ้าย มองซ้ายมองขวา ไม่เห็นมีคนจึงไปค้วาหน้ากากมา! ปอยฝ้ายกับสำลี หัวเราะคิกๆ อย่างดีใจแล้วตีมือกันที่ได้หน้ากากมาจนได้!
ทั่งคู่ออกจากห้องไปอย่างระมัดระวัง!
ครู่หนึ่ง สมหวังเดินออกมาจากห้องน้ำ สมหวังจะเดินมาเอาหน้ากากแต่ไม่มี สมหวังหาหน้ากาก ทั้งใต้โต๊ะ บนโต๊ะ ทุกซอกทุกมุมแต่ไม่เจอ
สมหวังหน้าเริ่มเสีย!
ทุกคนกำลังดูจอมขวัญแสดงอยู่บนเวที ระหว่างนั้นผู้กำกับเวทีเดินเข้ามา
“คุณสมหวังเตรียมตัวนะครับ อีกห้านาที”
ทุกคนหันมามองหาสมหวัง
สายฟ้าถามขึ้น “สมหวังออกมาหรือยัง”
เจ๊จุ๊รีบบอก “เมื่อกี้เห็นขอเข้าไปฉี่…แต่ไม่น่าจะนานขนาดนี้นี่นา…เป็นอะไรหรือเปล่า”
เจ๊เนาว์ปรี๊ด “อีจุ๊….ปากเสีย จะเป็นอะไรล่ะ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย”
สายฟ้านึกเป็นห่วง
“ผมว่าเข้าไปดูดีกว่า”
ทุกคนวิ่งกรูกันไปทางห้องแต่งตัว
ส่วนด้านหน้าเวที ยินเสียงคนดูกรี๊ดกร๊าด จอมขวัญ ไม่ขาดเสียง จอมขวัญร้องเพลง ด้วยท่าทางเซ็กซี่ อันเป็นเอกลักษณ์ จังหวะนั้นจอมขวัญเหลือบไปเห็นปอยฝ้าย กับสำสียืนอยู่ด้วยกัน แล้วโชว์หน้ากากสมหวังให้จอมขวัญดู
จอมขวัญยิ้มกริ่มด้วยความสะใจ!
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 9 (ต่อ)
ทุกคนวิ่งกรูเข้ามา เห็นสมหวังกำลังง่วนหาอะไรอยู่ บาสวิ่งพรวดเข้ามาถึงก่อน ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงสมหวัง
“น้องสมหวังเป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”
“ไม่ได้เป็นอะไรจ้ะ”
“แล้วหาอะไรอยู่” สายฟ้าแปลกใจ
สมหวังโพล่งขึ้น “หน้ากาก”
ทุกคนตกใจร้อง “ห๊ะ” พร้อมกัน
เจ๊จุ๊งงหนัก เพราะวางเองกับมือ “เอ้า…แล้วหายไปได้ยังไง เจ๊วางไว้ตรงนี้”
“ไม่รู้สิออกมาชั้นก็ไม่เจอแล้ว”
“ให้มันได้อย่างนี้สิน่า…คาดสายตาชั้นทีไรเป็นเรื่องทุกที่” เจ๊เนาว์ฮึดฮัด
เจ๊จุ๊เบรก “อย่าบ่นนังเนาว์…มาช่วยกันหาก่อน”
เจ๊เนาว์ยังโมโหอยู่ “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย…ความผิดแกนั่นแหละ”
สายฟ้าตัดบท “อย่าเพิ่งโทษกันเลยนะ ผมว่าเรามาช่วยกันหาดีกว่า”
ทุกคนช่วยกันหาหน้ากาก
“ไม่เห็นมีเลย … เจ๊แน่ใจนะว่าวางไว้บนโต๊ะ” กุหลาบถาม
“แน่สิ! ถ้ามันตกก็ตกแค่ตรงนี้นี่แหละ”
ผู้กำกับเวทีเดินเข้ามา
“สแตนด์บายเลยครับคุณสมหวัง เหลืออีก 3 นาที”
สมหวังสีหน้าเครียด
“เอายังไง? ก็ขึ้นไปทั้งที่ไม่มีหน้ากากนี่แหละ” สายฟ้าว่า
“ไม่มีหน้ากากชั้นขึ้นไม่ได้”
สายฟ้าหงุดหงิด ไม่เข้าใจ เปลี่ยนเป็นพาลซะงั้น “ทำไม ไม่มีหน้ากากแล้วไม่มั่นใจ กลัวนายยอดชายของเธอไม่ปลื้มหรือไง”
“ชั้นไม่คิดเลยว่าคุณเป็นแบบนี้”
“ชั้นก็ไม่คิดว่าเธอเป็นคนแบบนี้เหมือนกัน! นึกว่าจะทำเพื่อวง ที่แท้ก็ทำเพื่อตัวเอง”
สมหวังโมโหเถียงอีก “มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ!”
“แล้วเธอมีเหตุผลอะไรถึงไม่ขึ้น….นอกจากทำตัวให้ดูดีในสายตานายยอดชาย”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่เกี่ยวกับคุณยอดชาย….มันเป็นเหตุผลส่วนตัวของชั้น”
เจ๊เนาว์ปลอบสมหวัง “ขึ้นไปเถอะสมหวัง ไม่ต้องกลัวนะ พวกเจ๊เป็นกำลังใจให้”
สายฟ้าดูทีท่าสมหวังไท่ยอมขึ้นแน่ และคิดว่าคงทำอะไรไม่ได้ ตัดสินใจในที่สุด “ไม่ขึ้นก็ไม่ต้องขึ้น! เดี๋ยวชั้นจะไปบอกยกเลิกเค้าเอง!”
ผู้กำกับเวทีวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาอีกรอบ
“คุณสมหวังครับออกไปกันได้แล้วครับ!”
สมหวังอึ้งๆ ทุกคนล้วนหนักใจ!
จังหวะนั้น มีคณะมายากล 2-3 คน ทุกคนใส่ชุดการ์ตูนฮีโร่ มีทั้งชุดแบทแมน โรบิ้น ชุดซุปเปอร์แมน กำลังขนอุปกรณ์เดินผ่านสมหวังไปอีกสตูหนึ่ง สมหวังมองตามคณะมายากลและวิ่งตามออกไป
สมหวังวิ่งตามนักมายากลออกมา
“พี่ๆ เดี๋ยวก่อน”
คณะมายากลหันกลับมา มองสมหวังว่ามีอะไร สมหวังจ้องคณะมายากลที่ใส่หน้ากากแบทแมน แล้วยิ้ม คิดอะไรออก!
จอมขวัญร้องเพลงสุดท้ายจบแล้ว กำลังร่ำลาบรรดาแฟนคลับ
“ขอบคุณทุกๆ คนนะคะที่มาให้กำลังใจจอมขวัญ…ไว้เจอกันใหม่นะคะ”
เสียงแฟนคลับปรบมือและกรี๊ดสนั่น พิธีกรเดินออกมา
“ขอเสียงดังๆให้กับจอมขวัญอีกครั้งนึงครับ!”
พ่อยก แม่ยกแฟนคลับร้องกรี๊ด
“ครับ…และต่อไปขอเชิญทุกท่านพบกับนักร้องสาวเสียงใสดาวรุ่งกำลังแรงในขณะนี้ เป็นใครไปไม่ได้เลย ขอเชิญพบกับ สมหวัง วทัญญู”
เสียงดนตรีขึ้นอินโทรเพลงสมหวังนะจ๊ะ
แดนนั่งจ้องอยู่หน้าทีวี และยังคุยโทรศัพท์อยู่กับยอดชาย
“คนนี้แหละครับคุณยอดชาย…ชื่อสมหวังด้วยเห็นมั้ย” แดนบอกอย่างมั่นใจ
แด๊นเซอร์ ทยอยขึ้นมาออกลวดบนเวที ก่อนที่จะไปยืนคอยเปิดตัวสมหวัง
ไฮดรอลิคส์ค่อยยกตัวสมหวังขึ้นมาบนเวที ร่างสมหวังเห็นเป็นภาพย้อนแสง แสงไฟค่อยๆ สว่างขึ้น เห็นเป็นสมหวัง ในชุดหนัง สวมหน้ากากแบท ซึ่งเอามาจากคณะมายากล มาดอย่างเท่และแปลกตา เสียงแฟนคลับกรี๊ดดังสนั้น
ข้างๆเวที พวกชูชนะ สายฟ้า ส่งเสียงเชียร์ดังเช่นกัน
อีกด้านของเวที บรรดาคณะมายากลที่ให้สมหวังยืมหน้ากาก มายืนเต้นให้กำลังใจด้วย!
ยอดชายจ้องทีวีอย่างหงุดหงิด ตะโกนใส่โทรศัพท์
“ไอ้บ้า! มันใส่หน้ากากแล้วจะรู้ได้ไงว่ามันเป็นใคร”
ยอดชายโมโหกดตัดสายทิ้ง อารมณ์เสียที่ไม่ได้ดังใจ!
ด้านป้าชวนตั้งหน้าตั้งตาจ้องทีวี รอดูอยากเห็นว่าหน้าตานักร้องเป็นยังไง แล้วก็ผิดหวัง เมื่อนักร้องใส่หน้ากากออกมา
“เอ้า … ใส่หน้ากากออกมาทำไม! กลัวคนอื่นเค้าเห็นหน้าหรือไงแม่คู๊ณ… เลยอดเห็นหน้าเลยทีนี้”
ป้าชวนบ่นอุบ ท่าทีหงุดหงิดผิดหวัง
ส่วนทางด้านสำลีกะปอยฝ้าย ยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยเข้าไปหาจอมขวัญ เอาหน้ากากสมหวังยื่นให้ตรงหน้า
“นี่ไงหน้ากากที่เธอต้องการ”
ปอยฝ้ายทวงค่าจ้าง “ไหนเงินค่าตอบแทนล่ะ”
จอมขวัญหยิบเงินขึ้นมานับ ปอยฝ้าย กะสำลี มองตาเป็นมัน จอมขวัญส่งเงินให้ ยื่นหมูยื่นแมวแลกกับหน้ากาก สำลีรับเงินมากำลังคลี่นับด้วยความดีใจ ก่อนที่จอมขวัญฉวยกลับคืนไป
สำลี กะปอยฝ้ายงงๆ ร้องลั่นพร้อมกัน
“อ้าวเฮ้ย”
“อะไรของเธอ..เอาเงินคืนไปทำไม” ปอยฝ้ายโมโห
“คิดจะโกงพวกชั้นเหรอ!…ขอบอกว่าคิดผิดเว้ย” สำลีหงุดหงิด
“พวกแกดูโน่น”
จอมขวัญบุ้ยใบ้ พยักเพยิดไปทางเวที สำลี กะปอยฝ้าย มองตาม เห็นสมหวังใส่หน้ากากร้องเพลงอยู่บนเวที สำลี ปอยฝ้ายตาเหลือก ตกใจ!
“เอ้า…เฮ้ย”
“พวกแกเอาหน้ากากอันนี้มาหลอกเอาเงินชั้นใช่มั้ย”
จอมขวัญด่า แล้วยื่นหน้ากากคืนสำลีกับปอยฝ้าย สองแสบยังงงๆ
“เมื่อกี้มันใส่อันนี้จริงๆ”
“แล้วอันที่มันใส่อยู่นั่นคืออะไร! เสียเวลา”
จอมขวัญโมโห เดินสะบัดออกมา
“โธ่…เว๊ย” สำลีฉุน
“มันเป็นแบบนี้ได้ไงวะ” ปอยฝ้ายพึมพำ
“กรูจะรู้มั้ย…อยากรู้ไปถามมันดูสิ”
สำลี กะปอยฝ้าย อารมณ์เสีย
บรรดาแฟนคลับหน้าเวที กรี๊ดสลบขณะที่สมหวังวาดลวดลายอยู่บนเวที การที่สมหวังใส่หน้ากากร้องเพลง เป็นที่ถูกอกถูกใจคนดูมากๆ
ส่วนจอมขวัญเดินหงุดหงิดกลับเข้ามาในห้องแต่งตัว
“เป็นอะไรเหรอจะหนู…หน้ามุ่ยมาเชียว ให้เฮียนวดให้มั้ย…มามะเฮียนวดให้”
เฮียตี๋กำลังจะเข้าไปนวดให้ จอมขวัญตวาดกลับ
“อย่ายุ่งได้มั้ย! คนอารมณ์ไม่ดี”
จอมขวัญหน้าคว่ำ สะบัดเดินหนีไป
“อะไรวะ…อุตส่าห์ดีด้วย”
เฮียตี๋ได้แต่มองตามงงๆ
บรรดาแฟนคลับหน้าเวที กรี๊ดสลบ ขณะที่สมหวังวาดลวดลายอย่างต่อเนื่อง อยู่บนเวที เพลงต่อเพลง
หมู่มวลยืนดูสมหวังร้องเพลงอย่างชื่นชม โดยเฉพาะสายฟ้ายิ้มแก้มแทบแตก ที่เห็นความน่ารักของสมหวัง และชื่นชมในความสามารถและความสำเร็จที่เกิดขึ้น
ครู่หนึ่ง สายฟ้าก็เดินกลับไปข้างๆ เวทีเพื่อไปรอรับสมหวังลงจากเวที เสียงคนดูยังคงกรี๊ดไม่ขาดเสียง!!
สายฟ้าเดินเข้ามาข้างเวที สวนกับสำลี กับปอยฝ้าย สายฟ้าเห็นหน้ากากอยู่ในมือสำลี
“สำลี! นั่นมันหน้ากากสมหวังนี่”
สำลีกะปอยฝ้ายสะดุ้งเฮือก!
“แกไปเอาหน้ากากมาจากไหน” สายฟ้าฉงน
สำลีแถตามนิสัย “มะ…มะ..มันตกอยู่ที่ใต้โต๊ะในห้องแต่งตัวครับ ผมเห็นก็เลยจะเอาไปให้แต่หาใครไม่เจอเลย นึกว่าไม่ใช้กันแล้ว!”
“คนเค้าก็ตามหาให้ทั่ว…แล้วนี่ไปไหนมา ทำไมเพิ่งเอาออกมา”
“ผมให้มันพาไปส่งเข้าห้องน้ำ ผมไปไม่ถูก”
สำลีแสร้งทำเป็นคนดีเปลี่ยนเรื่อง
“แล้วนี่ยังจะใช้อยู่หรือเปล่าครับเดี๋ยวผมจะได้เอาไปให้”
“คอนเสิร์ตจะเลิกอยู่แล้ว…ที่หลังเก็บอะไรได้ก็รีบเอาไปวางที่เดิม ไม่ต้องหวังดีเอาไปให้ รู้มั้ย”
“ครับ” ปอยฝ้ายสำลีประสานเสียง
“แล้วเอาไปเก็บที่ด้วยเผื่อคราวหน้าต้องใช้ใหม่”
สำลี กับปอยฝ้าย โล่งอก แล้วรีบหันหลังเดินออกไป สายฟ้าหันไปมองดูสมหวังต่อ
สมหวังร้องเพลงจนจบแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ และจะกลับเข้าหลังเวที บรรดาแฟนคลับที่รอคล้องพวงมาลัยกรี๊ดกร๊าด ร้องเรียกชื่อสมหวังกันระงม
“สมหวัง สมหวัง ๆๆๆๆ”
สมหวังจึงต้องหันกลับมารับพวงมาลัยที่บรรดาแฟนคลับแย่งกันคล้องจนท่วมคอ
กุหลาบต้องออกมาช่วยแบ่งรับพวงมาลัยออกไป
ยอดชายนั่งดูทีวีอย่างหงุดหงิดอยู่ที่โซฟาในห้องโถง
“มันจะใส่หน้ากากทำไมวะ”
สมหวังกำลังรับพวงมาลัยจากแฟนคลับ ทันใดนั้น ก็มือแฟนคลับคนหนึ่งเอื้อมดึงหน้ากากออกโดยที่สมหวังไม่ทันตั้งตัว! สมหวังอึ้ง ตกใจ
กุหลาบที่เห็นเหตุการณ์ก็ตกใจเช่นกัน รีบพาสมหวังเข้าไปหลังเวที
ป้าชวนจ้องทีวีด้วยอาการตกใจ ไม่เชื่อสายตาว่าเป็นสมหวัง
“นังสมหวังนี่!...ใช่นังหวังจริงๆ ด้วย”
สีหน้าหญิงชรา หนักใจขึ้นมาทันที
ยอดชายตกใจปนดีใจ ยิ้มร่าออกมา
“เฮ้ย! นังสมหวังคนเดียวกันจริงๆ ด้วย มึงแน่มากนะที่มาเป็นนักร้องแหกตากู…คราวนี้มึงเสร็จกูแน่”
ยอดชายผุดยิ้มเหี้ยมเกรียมออกมาทางสีหน้าอย่างหมายมาด
โปรดติดตามเอาใจช่วยสมหวังตอนต่อไป