สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 3
แจ่มเป็นคนรับโทรศัพท์สมหวัง และอยู่ที่บ้านคุณนายศรีสมร
“สักครู่นะคะ”
แจ่มถือโทรศัพท์เข้าไปหายอดชายที่นั่งดูบอลอยู่
“คุณยอดชายคะ โทรศัพท์ค่ะ”
ยอดชาย “ใคร”
“ผู้หญิงค่ะ ไม่ทราบว่าใคร ไม่ได้ถามชื่อ” แจ่มบอก
ยอดชายฉุนเฉียว “บอกกี่ครั้งแล้วให้ถามชื่อก่อน”
“ค่ะ” แจ่มจ๋อย
“เอามา…” ยอดชายรับโทรศัพท์มาพูด “ฮัลโหล”
สมหวังยิ้มดีใจเมื่อได้ยินเสียงยอดชาย…แต่กำลังจะพูดใครคนหนึ่งก็ดึงโทรศัพท์ไป
“ฮัลโหล….ฮัลโหล” ยอดชายหงุดหงิดใส่แจ่ม “ไม่เห็นมีใครเลย แล้วที่หลังใครโทรมาก็ถามชื่อเค้าด้วย”
สมหวังหันไปมองก็เห็นว่ากุหลาบดึงโทรศัพท์ไป “พี่กุหลาบ…ทำอะไร”
“จะโทรไปไหน” กุหลาบถาม
“ชั้นจะโทร.หาเพื่อน” สมหวังโกหก
“โทร.ได้ไง จะให้ใครรู้ว่าอยู่ที่นี่ไม่ได้” กุหลาบเอ็ด สมหวังจ๋อย “ว่าแต่โทร.หาแฟนเหรอ”
สายฟ้าได้ยินไม่ชัด เลยเดินเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น
สมหวังเหนียม “ไม่ใช่ แค่คนรู้จัก”
สายฟ้าชะงักหยุดฟัง
“ไม่ใช่แล้วทำไมต้องเขินด้วย…แบบนี้แฟนแหงๆ หล่อมั้ยอะ” กุหลาบแซว
สายฟ้าหูผึ่ง
“ก็ขาวๆ ตัวสูง อัธยาศัยดี ไม่ถือเนื้อไม่ถือตัว พูดจาไพเราะ”
สายฟ้าฟังแล้ว อึ้งๆ พึมพำ “ยัยกะเปี๊ยกมีแฟนแล้วเหรอ”
กุหลาบแซวต่อ “แล้วยังปากแข็งอีก บอกว่าไม่ใช่แฟน”
“งั้นให้ชั้นโทร.หาเค้าเถอะนะ” สมหวังอ้อน
“โทร.ได้ไง เดี๋ยว…”
เสียงเจ๊เนาว์ดังขัดขึ้นก่อน “อ้าว…สายฟ้ามาทำอะไรแถวนี้”
สายฟ้าสะดุ้ง
กุหลาบกับสมหวังชะงักหันไปมอง
สายฟ้าเสียฟอร์มทำตัวไม่ถูก แถแก้ตัว “เอ่อ…คือ ผมมาเอาของที่รถน่ะ เห็นสองคนนั้นยืนกันอยู่ก็กะว่าจะเข้าไปทักซะหน่อย…แต่พอดีง่วงแล้ว เดี๋ยวขอตัวไปอาบน้ำนอนดีกว่า”
เจ๊เนาว์ยังงงๆ แล้วเดินตามสายฟ้าเข้าไป
กุหลาบถอนหายใจ “เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ”
“ชอบว่าแต่คนอื่นไม่ดูตัวเองเลย เสียมารยาท มายืนแอบฟังคนเค้าคุยกัน” สมหวังเคืองสายฟ้า
เช้าวันต่อมา สารวัตรเปิดดูประวัติยอดชาย พลางถาม
“ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรกับคุณนายศรีสมรครับ”
“ลูกบุญธรรมครับ” ยอดชายบอกเสียงเศร้า
“แต่ตามทะเบียนบ้าน..คุณเป็นเพียงผู้อาศัยนี่ครับ” สารวัตรซัก
ยอดชายอึ้งไปแว่บหนึ่ง “เออ..ใครก็รู้ว่าผมเป็นอะไรกับคุณนาย”
“ตามประวัติ คุณเคยเป็นพนักงานคนนึงในบริษัทของคุณนาย”
“ครับ…ตอนนั้นผมเป็นหัวหน้าเซลส์ขายบ้านธรรมดา แล้วคุณนายเห็นผมเป็นเด็กที่ขยันน่ารัก ท่านก็เลยเมตตาผม ตอนแรกผมก็กลัวว่าคนเค้าจะนินทาหาว่าผมหลอกท่าน แต่คุณนายท่านก็บอกไม่ต้องกลัว แค่เราบริสุทธิ์ใจก็พอ ผมก็เลยย้ายมาอยู่กับท่านตั้งแต่นั้นมา”
“แล้วคุณทราบเรื่องที่คุณนายทำพินัยกรรมไว้ให้คุณเป็นผู้รับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียวหรือเปล่าครับ”
ยอดชายแสร้งทำเป็นตกใจ “เหรอครับ! ไม่เคยทราบเลยครับ ว่าท่านไปทำไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
พร้อมกันนั้นยอดชายบีบน้ำตา ทำตาแดงๆ จะร้องไห้
“คุณนายดีกับผมเหลือเกิน ไม่น่ารีบด่วนจากไปเลย ผมขอร้องนะครับสารวัตรช่วยรีบจับไอ้มือปืนใจอำมหิตมาลงให้ได้นะครับ”
ส่วนหมวดวันชาติขับรถเข้ามาจอดหน้าโรงพัก ขณะวันชาติจะลงมาจากรถ หันไปบอกสมหวัง
“คุณรออยู่ในรถก่อนนะ ผมจะไปรายงานสารวัตรก่อนว่าคุณมาแล้ว”
วันชาติเดินขึ้นโรงพักไป
หมวดวันชาติเห็นยอดชายยิ้มร่าออกมาจากห้องสารวัตร
“สวัสดีครับ…คุณยอดชาย”
ยอดชายเห็นหมวดวันชาติรีบหุบยิ้ม แล้วรีบแกล้งทำหน้าเศร้า
“สวัสดีครับหมวด”
“เรียบร้อยแล้วเหรอครับ” วันชาติถาม
“ครับ…ผมขอตัวก่อน” ยอดชายเดินออกไป
สารวัตรออกมามองยอดชายอย่างสงสัย!
วันชาติ เอ่ยขึ้น “สมหวังมาแล้วครับสารวัตร”
“พาเข้ามา” สารวัตรบอก
ในขณะที่ยอดชายเดินออกมาจากโรงพัก กำลังเดินไปขึ้นรถ สมหวังที่อยู่ในรถ หันไปเห็นยอดชายพอดี สาวช่างตัดเสื้อแสนซื่อดีใจมาก
“คุณยอดชาย”
ยอดชายกำลังก้าวขึ้นรถ สมหวังรีบลงจากรถ
“คุณยอดชายคะ…คุณยอดชาย” สมหวังวิ่งไปหายอดชาย
ทว่ายอดชายไม่ได้ยิน
“คุณยอดชายอย่าเพิ่งไปค่ะ”
จังหวะนั้นหมวดวันชาติออกมาเห็นพอดี
“คุณสมหวัง!”
ยอดชายขับรถออกไป สมหวังจะวิ่งตาม หมวดวันชาติมารั้งแขนไว้ได้ทัน
“จะไปไหนคุณสมหวัง”
“นั่นคุณยอดชายนี่คะ…ลูกคุณนายศรีสมรไง”
หมวดวันชาติมองสมหวังอย่างสงสัย
รถหมวดวันชาติแล่นมาจอดหน้าบ้านชูชนะ
“ขอบคุณนะคะหมวด”
วันชาตินึกออก “เดี๋ยวๆ คุณสมหวัง”
สมหวังแปลกใจ “อะไรเหรอคะ”
“คุณไปรู้จักคุณยอดชายได้ยังไง”
“ก็วันที่คุณนายมาตัดเสื้อที่ร้านชั้น คุณยอดชายเค้าก็มากับแม่เค้าด้วย” สมหวังพูดพาซื่อ
“คุณยอดชายน่ะ เค้าเป็นสามีคุณนายศรีสมร ไม่ใช่ลูกชาย!” วันชาติบอก
เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ สมหวังช็อก! ยืนอึ้งไปชั่วขณะ อุทานออกมาอย่างตกใจ คาดไม่ถึง
“สามี”
“ใช่…ใครๆ เค้าก็รู้กันทั้งนั้นแหละว่าเค้าทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน เอาละ ไม่ว่าจะสามีหรือลูกชายคุณก็ห้ามติดต่อกับเค้าเป็นอันขาด เพราะคุณเป็นพยานในคดีนี้อยู่ ห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับคนรอบตัวคุณนายศรีสมร ตอนนี้ไม่มีใครไว้ใจได้ทั้งนั้น เข้าใจมั้ยครับ”
สมหวังยืนนิ่ง ใจลอย ไม่ได้ฟังหมวดพูด
“คุณสมหวังครับ..คุณสมหวัง!” หมวดวันชาติเรียกเสียงดัง
สมหวังสะดุ้ง “คะ”
“เข้าใจที่ผมพูดมั้ยครับ”
“เข้าใจค่ะ”
สมหวังหน้าเศร้า สวมบทนางเอกมิวสิคเพลงอกหักรักคุด เดินคอตกเข้าบ้านไป ท่าทีหงอยเหงาเศร้าซึม น่าสงสาร
สมหวังเดินคอตกหน้าเศร้าเข้าบ้านพักวงดนตรีวทัญญูมา ในจังหวะที่สายฟ้าเดินสวนออกมาพอดี
“เป็นไงจับได้หรือยัง” สายฟ้าถาม
สมหวังเบอลๆ งงๆ “จับอะไรคะ”
“ก็บริษัทจัดหางานที่หลอกพวกเธอไง” สายฟ้าว่า
“ยัง” สมหวังตอบห้วนสั้น
“อ้าว…แล้วเมื่อไหร่จะจับได้ อย่างนี้เธอก็ต้องเสียการเสียงานไปให้ปากคำบ่อยๆ น่ะสิ”
สมหวังนิ่ง ไม่พูดอะไร
สายฟ้าถามเรื่องซ่อมชุด “แล้วชุดเมื่อไหร่จะซ่อมเสร็จ”
สมหวังนิ่งไปอึดใจจึงบอก “เดี๋ยวจะรีบซ่อมให้นะคะ”
สายฟ้ายังเซ้าซี้หาเรื่องต่อ แถมคาดโทษอีก “เดี๋ยวๆ นะเมื่อไหร่ พรุ่งนี้ก็เดี๋ยว มะรืนก็เดี๋ยว ไม่เสร็จกันพอดี ถ้าไม่เสร็จล่ะน่าดู”
สมหวังสุดจะทนไหว น้ำตาคลอ ตะคอกใส่ ไม่ไว้หน้า “เอ๊ะ!...บอกว่าทันก็ทันสิ เซ้าซี้ จุกจิกจู้จี้ขี้บ่น เป็นคนแก่น่ารำคาญไปได้ ชั้นเป็นแค่ลูกจ้างนะ ไม่ใช่ทาส จะได้คอยรับใช้ยี่สิบสี่ชัวโมง”
สายฟ้าได้แต่อึ้ง เงียบไป!
สมหวังเดินหน้าคว่ำ น้ำตาคลอออกไป
เย็นนั้นคนงานทุกคนดูวุ่นวายเพื่อเตรียมของที่จะไปคอนเสิร์ตในวันพรุ่งนี้ โดยมีชูชนะสั่งการให้นักดนตรีจัดเตรียมเครื่องดนตรี
“วางรวมกันไว้ตรงนั้นก่อน…”
นักดนตรียกเครื่องดนตรีมาวางรวมกันไว้
สำลียกของมาเต็มไม้เต็มมือ รวมทั้งฉาบด้วย พอกำลังยกผ่านหน้าชูชนะฉาบเลื่อนไถลตกพื้น เสียงดังสนั่น ทุกคนตกใจสะดุ้งพร้อมกัน รวมทั้งชูชนะด้วย!
ชูชนะเอ็ด “ไอ้สำลี…ยกที่ละอย่างสิวะ ยกมาเต็มมือขนาดนั้นของร่วงพังหมด!”
สำลีแถ “ยกมาเยอะๆ มันจะได้เสร็จเร็วไงพ่อ…ชั้นจะรีบไปบ่อน! เอ้ย!!!...ไปนอน!”
“รีบเก็บไปวางรวมไว้สิ..เอ้อ ไอ้นี่ แล้วที่หลังยกให้มันระวังๆ หน่อย”
ชูชนะยืนสั่งการต่อไป
ส่วนที่โรงซ้อมเต้นก็วุ่นไม่ต่างกัน บาสกำลังดูแดนซ์เซอร์ซ้อมเต้นกันอยู่ ถัดมาเห็นเจ๊เนาว์กดโทรศัพท์หาจอมขวัญ สีหน้าเคร่งเครียด
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์นังจอมขวัญ…รับสิๆ”
สายฟ้าเดินเข้ามา “เจ๊…จอมขวัญรับโทรศัพท์หรือยัง”
“ยังเลย…โทร.จิกจนโทรศัพท์จะไหม้อยู่แล้วเนี่ย….มันก็ไม่รับโทรศัพท์สายฟ้าด้วยเหรอ”
สายฟ้าพยักหน้า
“ขนาดสายฟ้ามันยังไม่รับเลยแล้วนับประสาอะไรกับเจ๊…นังจอมขวัญนะนังจอมขวัญ พรุ่งนี้จะเล่นอยู่แล้วยังไม่เคยมาซ้อมสักครั้งเลย” เจ๊เนาว์บ่นอุบ
สายฟ้าบอก “เดี๋ยวผมลองโทร.อีกที…เจ๊ ดูแดนซ์เซอร์ซ้อมเต้นไปเถอะ”
ระหว่างนั้นกุหลาบเดินหอบชุดแดนซ์เซอร์มาหลายชุด แทบจะท่วมหัวมองไม่เห็นทาง เดินผ่านมา
เจ๊เนาว์หันมาเห็นก็เอ็ดเอา “นี่ๆ หอบไปที่ละชุดก็ได้ เดี๋ยวมันตกเลอะหมด ตัวแค่เนี้ยหอบซะมิดหัวเลย”
กุหลาบคุยเขื่อง “ไม่ตกหรอกเจ๊…ชั้นซะอย่าง”
“แล้วชุดที่เหลือซ่อมเสร็จหรือยัง”
“ใกล้แล้วเจ๊…สมหวังกำลังซ่อมอยู่”
“งั้นเธอรีบไปช่วยสมหวังได้แล้ว” เจ๊เนาว์บอก
ในขณะที่กุหลาบกำลังจะก้าวเดิน ดันมองไม่เห็นหินข้างหน้า สะดุดหินล้ม! จนหน้าทิ่มไปอยู่กับชุดแดนซ์เซอร์ที่กองตกอยู่ที่พื้น!!
บาสหันมาเห็นพอดี บาสขำก๊าก หัวเราะร่า “ยัยบ๊องเอ๊ยย”
เจ๊เนาว์ปวดตับ “นั่นไง…ยังพูดไม่ขาดคำเลย!”
กุหลาบหัวเราะแหะๆ แล้วรีบเก็บชุดขึ้นมา
บาสเดินเข้ามาหา “มาเดี๋ยวชั้นช่วย…ทำเป็นอวดเก่ง”
กุหลาบโทษลมแล้ง โทษหิน “ก็ทุกทีชั้นก็ยกได้…เป็นเพราะไอ้หินบ้านี่แหละ”
“คนอะไรโทษหินก็เป็นด้วย…สงสารหินมันเนอะที่มันพูดแก้ตัวไม่ได้ ว่าแต่เจ็บไหม”
“ไม่อ่ะ”
“ชั้นถามหิน ไม่ได้ถามเธอ” บาสหัวเราะคิกคัก
กุหลาบฉุน ทำหน้าย่นใส่บาส
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 3 (ต่อ)
ส่วนสมหวังกำลังสอยชุดแด้นซ์เซอร์ที่ชำรุด ดูสีหน้าเหม่อๆ บาสกะกุหลาบหอบชุดเข้ามา
บาสหยอดหวาน “น้องสมหวังเหนื่อยมั้ยจ๊ะ…มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย”
สมหวังยิ้มทัก และก็ส่ายหน้า
“น้องสมหวังเป็นอะไรหรือเปล่า…ทำไมวันนี้ดูไม่ร่าเริงเลย”
กุหลาบด่า “พอแระ….พอแระ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของชาวบ้านเลย ไปดูเค้าซ้อมเต้นกันนู่น”
บาสเถียง “ก็ชั้นเป็นห่วงน้องสมหวังอะ”
“ออกไปได้แล้ว…น้องชั้น ชั้นดูแลเองได้”
กุหลาบดันตัวบาสออกไป แล้วปิดประตู ก่อนจะเดินกลับมาหาสมหวัง
“สมหวังเป็นอะไรหรือเปล่า…เห็นกลับมาจากโรงพักดูสมหวังแปลก…หมวดเค้าบอกอะไรบ้าง”
สมหวังยิ้มกลบเกลื่อน “ไม่มีอะไรหรอกจะพี่กุหลาบ…วันนี้ข้างนอกมันร้อนชั้นคงล้าแดดน่ะ”
“มีอะไรบอกพี่ได้เสมอนะ”
“จ้ะ” สมหวังฝืนยิ้ม
“สมหวังทำไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปขนเอาชุดเข้ามาในนี้ให้หมดก่อน”
สมหวังพยักหน้า กุหลาบเดินออกไป
สมหวังเดินออกมานั่งหน้าห้องเก็บชุด กดโทรศัพท์หายอดชาย ขณะที่บ้านยอดชายมีแต่เสียงโทรศัพท์ดังแต่ไม่มีคนรับสาย สมหวังมีสีหน้าผิดหวัง
สายฟ้าเดินมาแอบเห็นสมหวังกำลังกดโทรศัพท์
“มานั่งอู้งาน โทรหาแฟนอยู่นี่เอง”
สมหวังหันไปมองหน้าสายแบบไม่สบอารมณ์
“ชั้นจ้างเธอมาทำงานนะ ไม่ได้จ้างมาโทรศัพท์ ป่านนี้แล้ว ชั้นยังไม่เห็นวี่แววว่าชุดมันจะเสร็จทันใช้งานพรุ่งนี้เลย”
สมหวังรำคาญทำท่าจะเลี่ยงออกไป
“ต่อไปนี้ถ้าเห็นว่าเธออู้งานมาคุยโทรศัพท์อีก ชั้นจะหักเงินเธอนาทีละสิบบาท”
สมหวังไม่สนใจกำลังจะเดินหนี สายฟ้าจับแขนไว้ แล้วคว้าโทรศัพท์ในมือสมหวังมา
สมหวังชักโมโห “คุณจะทำอะไร…เอาโทรศัพท์ชั้นคืนมานะ!”
“ไม่ให้! ชั้นจะคืนจนกว่าเธอจะทำงานให้เสร็จ ไม่งั้นเดี๋ยวเธอไปแอบคุยที่อื่นชั้นจะรู้ได้ยังไง จริงมั้ย”
“นี่มันของส่วนตัวของชั้น…คุณไม่มีสิทธิทำแบบนี้!” สมหวังเถียง
“มีสิ…ชั้นเป็นเจ้านายเธอ ที่กำลังเห็นว่าลูกจ้างกำลังอู้งาน ถ้างานไม่เสร็จแล้วจะทำยังไง ชั้นก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของชั้น” สายฟ้าวางอำนาจ ท่าทีขึงขัง
สมหวังฉุนสุดขีด “เชิญเลยค่ะ…จะทำอะไรก็เรื่องของคุณ! ตามสบาย!”
“แล้วจำไว้นะ…ชั้นไม่ชอบให้ใครมาพูดประชดหรือตวาดใส่ชั้น”
“ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องมายุ่งกับชั้น! รู้มั้ยตั้งแต่เกิดมาชั้นยังไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนน่ารำคาญเท่าคุณมาก่อนเลย! เลิกทำเป็นวางอำนาจขี้เก็กแบบนี้ซะทีเถอะ มันน่ารำคาญ เข้าใจมั้ย!...ปล่อย!”
สมหวังสะบัดมือสายฟ้าออกอย่างฉุนเฉียว สายฟ้าถึงกับชะงักนิ่งไป
ค่ำนั้นสมหวังวิ่งออกมาที่รั้วอย่างระมัดระวัง มองซ้ายมองขวาไม่เห็นมีใคร จึงแอบออกไปนอกบ้าน
เวลาเดียวกัน สำลีเดินเซ็งๆ บ่นพึมพำ เข้ามาตรงโต๊ะอาหาร ที่โรงครัว
“เสียย่อยเสียยับเสียหมดตัวเลยกู!..”
“ไปบ่อนมาอีกแล้วสิแก” เจ๊จุ๊ดักคอ
สำลีอึกอัก “ปละ...เปล่า…เจ๊ก็พูดซี้ซั๊ว”
“หน้าอย่างแกจะไปไหนได้นอกจากบ่อน” เจ๊จุ๊ชี้หน้า
สำลีเปลี่ยนเรื่อง “นี่เจ๊..จะกินข้าวกันได้รึยังชั้นหิว จะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว”
“แป๊บนึง...รอกินพร้อมๆ กันสิวะ”
กุหลาบกะบาสเดินเข้ามาพอดี “อ้าว…เจ๊ สมหวังยังไม่มาอีกเหรอ” บาสถาม
“ยัง…ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ” เจ๊จุ๊ว่า
“ในห้องเก็บชุดก็ไม่มี…ชั้นนึกว่ามากินข้าวแล้วซะอีก” กุหลาบบอก
บาสหน้าเสีย “น้องสมหวังหายไปไหนอะ…หรือว่าอยู่ในห้องน้ำ เดี๋ยวชั้นไปดูเอง”
“ไอ้บ้า…ไม่ต้อง เดี๋ยวชั้นไปดูเอง นายอยู่ที่แหละ”
กุหลาบโวยใส่บาส แล้วเดินออกไปอย่างร้อนใจ
สมหวังยืนชะเง้ออยู่หน้าบ้านศรีสมรตอนค่ำ สมหวังกำลังจะไปกดกริ่ง พอดีได้ยินเสียงบีบแตรรถ พอหันกลับไปดู เห็นเป็นยอดชาย
“อ้าว!..คุณ...” ยอดชายคิดไปคิดมา จำชื่อไม่ได้
สมหวังรีบบอก “สมหวังค่ะ...จำได้หรือเปล่าคะที่เจอกันร้านชวนชมภูษาน่ะค่ะ”
“อ๋อ…คุณคนสวยนี่เอง จำได้สิครับ...คุณสมหวังมาที่นี่มีธุระเหรอครับ”
“เออ...คือว่า...” สมหวังอึกอัก
ยอดชายชวน “ผมว่าเข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่าครับ”
“ค่ะ”
ยอดชายเปิดประตูรถให้สมหวัง สมหวังขึ้นไปบนรถ
“ขอบคุณค่ะ”
ยอดชายมองสมหวังแล้วยิ้ม สีหน้าเจ้าเล่ห์ อยู่ๆ ก็มีเหยื่อมาเข้าปาก!
ยอดชายพาสมหวังเข้ามาในบ้าน
“เชิญนั่งก่อนครับ” พูดจบยอดชายเดินเข้าไปทางครัว
“แจ่ม…แจ่ม...เอาน้ำมารับแขกหน่อย”
พอยอดชายเดินเข้ามาในครัว เห็นแจ่มกำลังเทน้ำใส่แก้วให้อยู่ยอดชายยื่นเงินให้
“อ่ะ...ชั้นให้แกเอาไปเที่ยวคืนนี้ แกจะไปไหนก็ได้ กลับมาดึกๆ ยิ่งดี”
แจ่มงวยงง “เออ”
“เอาไปสิชั้นให้...แล้วออกไปเลยนะ”
“ค่ะ” แจ่มกำลังจะยกน้ำไปเสิร์ฟ
ยอดชายรีบบอก “ไม่ต้อง...เดี๋ยวชั้นยกไปเอง...แกจะไปเที่ยวไหนก็รีบไปได้แล้ว”
แจ่มรีบเดินออกไป
ยอดชายยิ้มย่อง มองซ้ายมองขวา เห็นว่าแจ่มไม่เข้ามาในครัวแน่แล้ว จึงล้วงกระเป๋า หยิบซองเล็กๆอะไรบางอย่างออกมา
ยอดชายแกะซองแล้วเทผงในซองใส่ลงไปในแก้วน้ำของสมหวัง
กุหลาบวิ่งกลับมา เริ่มกังวล
บาสใจเสีย “มีหรือเปล่า”
“ไม่มี” กุหลาบส่ายหน้า
“ไปไหนมาไหนทำไมบอกอีกแล้ว” บาสเป็นห่วงมาก
สายฟ้าเดินเข้ามาได้ยิน “สมหวังไปไหน”
“ไม่รู้ค่ะ…หาจนทั่วบ้านแล้วไม่มี” กุหลาบว่า
สายฟ้าเป็นห่วง แต่ดันลืมไปว่าโทรศัพท์อยู่ที่ตน “โทรหาสิ!!”
กุหลาบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.ออก
เสียงโทรศัพท์สมหวังดังอยู่ขึ้นในกระเป๋าสายฟ้านั่นเอง สายฟ้าหยิบโทรศัพท์สมหวังขึ้นมา
“อ้าว…แล้วทำไมโทรศัพท์สมหวังอยู่ที่นี่ล่ะคะ”
สายฟ้าหน้าเจื่อนๆ
ทุกคนจ้องหน้าสายฟ้าอยากรู้คำตอบ ว่าเกิดอะไรขึ้น!
เวลาเดียวกันยอดชายเดินเอาน้ำมาให้สมหวังในห้องรับแขก
“ดื่มน้ำก่อนนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
ยอดชายมองสมหวังลุ้นๆ ว่าจะดื่มน้ำหรือเปล่า แต่สมหวังก็ยังไม่ดื่ม
“ว่าแต่คุณสมหวังมาหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ...คือว่าชั้นมาแสดงความเสียใจเรื่อง…” อึกอัก ลำบากใจ “คุณแม่…ของคุณน่ะค่ะ”
“ขอบคุณนะครับ อุตส่าห์มีน้ำใจ แล้วคุณสมหวังทราบได้ยังไงครับ”
“คือชั้นเห็น….” สมหวังลังเลว่าจะพูดดีไหม
“เห็นจากในทีวีเหรอครับ” ยอดชายเอ่ยขึ้น
“ค่ะ”
ยอดชายยังคงมองอาการลุ้นว่าเมื่อไหร่สมหวังจะยกแก้วขึ้นไปดื่มน้ำ
“คุณสมหวังมาเหนื่อยๆดื่มน้ำก่อนเถอะครับ..เดี๋ยวหายเย็นหมด”
“ค่ะ”
สมหวังยกแก้วกำลังจะดื่มน้ำ ยอดชายลุ้นตัวโก่ง แต่แล้วสมหวังก็วางแก้วลงดูท่าทางไม่สบายใจ
ยอดชายเซ็ง!!!
“อ้าว...ทำไมไม่ดื่มละครับ”
สมหวังถามขึ้นอย่างเกรงใจ “เออ...คุณยอดชายคะ ชั้นมีเรื่องสงสัยอยากจะถามคุณยอดชาย”
ยอดชายฉงน “เรื่องอะไรครับ”
“คือชั้น ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับคุณยอดชายน่ะค่ะ”
ยอดชายเสียวสันหลังวาบ ตกใจ นึกว่าสมหวังรู้เรื่องฆาตกรรม
“ข่าวลืออะไร”
“เรื่องคุณกับคุณนายศรีสมร”
ยอดชายเริ่มลนลานหนัก “ผมกับแม่...ทำไมครับ”
สมหวังอึกอัก “คือ...ไม่รู้จะถามยังไงดี”
“ถามมาเถอะครับ”
จังหวะนั้น แดนจอดรถมอเตอร์ไซค์แอบไว้ข้างๆ รั้วบ้าน แล้วรีบวิ่งไปที่ประตูรั้วเล็กอย่างระวัง เข้าไปในบ้าน
ส่วนบรรยากาศในห้องรับแขกบ้านศรีสมรยามนั้นเต็มไปด้วยความอึดอัด
“เค้าลือกันว่าคุณยอดชายกับคุณนายไม่ได้เป็นแม่ลูกกัน...แต่เป็น…” สมหวังถามอย่างยากเย็น
ยอดชายยิ้ม “อ๋อ..นึกว่าเรื่องอะไร ข่าวลือยังไงก็เป็นข่าวลืออยู่วันยังค่ำน่ะครับ ไอ้คนปล่อยข่าวมันก็บ้าจริงๆ คนเค้าเป็นแม่ลูกกันก็ไปบอกว่าเป็นผัวเมียกัน คงเป็นเพราะแม่ผมยังสวยอยู่มั้งครับคนก็เลยคิดแบบนั้น”
“คุณยอดชายไม่โกรธใช่มั้ยคะ ที่ชั้นเอาเรื่องนี้มาถาม” สมหวังหน้าเสีย
ยอดชายยิ้มย่อง “ไม่โกรธครับ...ชินแล้วครับ เรื่องนี้มันนานมากแล้ว ตั้งแต่ผมจบมาจากเมืองนอกใหม่ๆ น่าขำนะครับ แม่ผมส่งไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็ก กลับมาเลยไม่มีใครรู้จักผม คนก็เลยหาว่าผมกับแม่เป็นผัวเมียกันซะอย่างนั้น แต่คนส่วนมากก็รู้แล้วนะครับว่าผมกับแม่เป็นแม่ลูกกัน ก็มีแต่พวกชาวบ้านที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงสังคมน่ะครับที่ไม่รู้ความจริง แล้วยังไปลือกันแบบนั้น!”
“ค่ะ” สมหวัง ยิ้มโล่งใจ ไม่สำเหนียกสักนิดว่าโดนหลอก
สมหวังหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจะดื่ม ยอดชายมองลุ้นๆ อีกรอบ
พอสมหวังเห็นยอดชายจ้องก็เลยเขิน สะเทิ้น จนมือไม้สั่นทำแก้วร่วงใส่ตัวเอง
“ว้าย”
ยอดชายเซ็งเป็ด!
“ชั้นขอตัวไปล้างก่อนนะคะ”
สมหวังเดินเข้าไปทางห้องน้ำ
คล้อยหลังสมหวังยอดชายบ่นอย่างฉุนเฉียว “นังบ้าเอ๊ยซุ่มซ่าม!...กะว่าจะได้กินของหวานซะหน่อย”
ทันใดนั้น แดนก็เดินปร๋อเข้ามา “ของหวานอะไรเหรอครับ”
ยอดชายตกใจ “เฮ้ย!! แกมาได้ยังไง! จะมาทำไมไม่โทร.มาบอกก่อน ชั้นมีแขก”
แดนชะงัก ตกใจ “เอ้า! งั้นถ้าแขกคุณไปเมื่อไหร่เรียกผมด้วย!”
แดนมองหาที่หลบ แล้วมองไปทางห้องน้ำ แล้ววิ่งไปทันที
ยอดชายโมโห “อ้าวเฮ้ย! จะไปทางนั้นทำไม”
ยอดชายจะวิ่งตามไปห้าม ให้ไปหลบที่อื่น
แดนไม่ได้ยินเสียงยอดชาย รีบวิ่งไปหลบทางห้องน้ำ
“กูจะบ้า” ยอดชายกุมขมับ!
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 3 (ต่อ)
จังหวะนั้นแดนรีบเข้าไปหลบในห้องน้ำ เฉียดกับสมหวังที่เดินสวนออกมาเพียงนิดเดียว ครั้นพอสมหวังเดินออกมาเห็นยอดชายยืนอยู่หน้าห้องน้ำก็แปลกใจ
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
ยอดชายโล่งอกที่สมหวังไม่เห็นแดน “เอ่อ…คือว่าผมมีธุระนิดหน่อยน่ะครับ”
“อ๋อ…ค่ะงั้นชั้นไม่รบกวนคุณแล้วดีกว่า…ชั้นขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“ผมไปส่งครับ”
ยอดชายเดินออกไปส่งที่หน้าประตูบ้าน “กลับดีๆ นะครับ”
สมหวังเดินออกไป
ยอดชายทำหน้าเสียดายที่ปล่อยให้หลุดมือไปได้!
“โธ่…เว้ย จะได้งาบเหยื่ออยู่แล้วเชียว…มันจะมาอะไรตอนนี้วะ”
ยอดชายพาลที่แดนมาขัดคอ เดินหงุดหงิดเข้าบ้านไป
ส่วนที่บ้านวงดนตรีวทัญญู กุหลาบเดินพล่านไปเดินมาอย่างกังวล เป็นห่วงสมหวัง ส่วนบาสนั่งจ้องสายฟ้าคาดโทษ
“นี่ถ้าน้องสมหวังเป็นอะไรไปนะ…พี่สายฟ้าต้องรับผิดชอบ ทำไมต้องทำกันขนาดนั้นด้วย ที่น้องสมหวังเค้าโทรศัพท์เค้าอาจจะมีเรื่องต้องการปรึกษาใครก็ได้ พี่ยึดโทรศัพท์เค้ามาแบบนี้เค้าคงโกรธมากเลยหนีออกไปแล้วก็ได้”
สายฟ้านิ่ง รู้สึกผิด
ทุกคนต่างมีสีหน้าไม่ดี เป็นห่วงสมหวังเช่นกัน
กุหลาบโพล่งขึ้น “ชั้นรอไม่ได้แล้วนะ ชั้นจะออกไปตามหาสมหวัง”
บาสเอาด้วย “ชั้นไปด้วย”
สายฟ้าอดเป็นห่วงไม่ได้เลยบอก “งั้นไปด้วยกันหมดนี่แหละ”
ขณะที่ทุกคนกำลังจะก้าวออกไป ก็เห็นสมหวังกินไอติมเดินมาอย่างสบายใจเฉิบ
สาวอ่อนต่อโลกไม่ทันเล่ห์ชายลวงอย่างสมหวังพึมพำออกมา “หมวดนะหมวด ไม่น่าหลอกกันเลย ตกใจหมด คนเป็นแม่ลูกกันก็หาว่าเค้าเป็นผัวเมียกัน!”
ในขณะที่ทุกคนยืนมองสมหวังเป็นตาเดียว
“นี่สมหวัง…ไปไหนมาพี่เป็นห่วงแทบแย่” กุหลาบปรี่เข้าไปหา
“ใช่...พี่ก็เป็นห่วง...น้องสมหวังจะออกไปไหนทำไมไม่บอกพี่ พี่จะได้ไปเป็นเพื่อน” บาสบอก
“ชั้นขอโทษนะ..ก็ชั้นอยากกินไอติมก็เลยเดินไปซื้อหน้าปากซอย แต่ปากซอยไม่มี ชั้นก็เลยข้ามไปมินิมาร์ทฝั่งนู้น” สมหวังโกหก
สายฟ้ายืนกอดอก จดสายตามองจ้องสมหวังอยู่ พูดแขวะ “ชอบทำตัวเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อย”
“ใช่...ก็ชั้นอยากเด่น”
สมหวังบอกอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับยักคิ้วให้สายฟ้า
สายฟ้างงๆ กับอารมณ์แปรปรวนของสมหวัง
สมหวังหันมาทางทุกคน “พี่ๆจ๋า ชั้นขอโทษที่ทำให้ต้องรอกินข้าว...เรามากินข้าวกันดีกว่านะจ๊ะ”
สายฟ้าโมโหไม่หาย “กินข้าวเสร็จแล้วก็ช่วยไปทำชุดให้เสร็จด้วยนะ เดี๋ยวจะไม่ทันงานพรุ่งนี้”
“ได้ค่ะ...เจ้านาย ไม่มีปัญหารับรองเสร็จทันพรุ่งนี้ชัวร์”
สมหวังยิ้มระรื่น ไม่เถียงสักคำ สายฟ้ายื่นโทรศัพท์คืนสมหวัง
“ชั้นคืนให้…แล้วจำไว้อย่าโทรศัพท์ในเวลางานอีก…ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกชั้นก่อน”
สมหวังยิ้มอยู่อย่างนั้น “ค่ะ…เจ้านาย”
สายฟ้าฟังแล้วแอบยิ้ม
“มาๆ เดี๋ยววันนี้ชั้นตักข้าวให้ทุกคนเลยนะ”
สายวันต่อมา รถบัสและรถตู้ประจำวงที่มีรูปจอมขวัญ วทัญญูติดอยู่ข้างรถ จอดอยู่หน้าบ้าน ทุกคนช่วยกันเตรียมของขึ้นรถ นักดนตรีช่วยกันยกแครื่องดนตรีขึ้นรถ แด้นเซอร์ช่วยกันขนชุดขึ้นรถเช่นกัน
“รีบๆ กันหน่อยโว้ย…สายแล้ว…เดี๋ยวต้องไปเซ็ทเวทีที่โน่นอีก” ชูชนะบอก ยืนสั่งการต่อไป
ส่วนในห้องเก็บชุด สมหวังกำลังเย็บชุดเป็นตัวสุดท้าย กุหลาบเก็บของอยู่ข้างๆ หันไปเร่ง
“สมหวังเสร็จหรือยัง...เค้าจะไปกันแล้วนะ”
“เสร็จแล้วจ้า...เสร็จแล้ว”
กุหลาบบอกรีบๆ “ไปเร็ว..เดี๋ยวคุณสายฟ้าระเบิดลงอีก”
เจ๊เนาว์เดินเข้ามา “เสร็จยังจ๊ะสองคนนี่”
“เสร็จแล้วเจ๊” กุหลาบบอก
“เสร็จแล้วก็ขนของขึ้นรถ...จะได้ไปกัน” เจ๊เนาว์ว่า
“จ้ะๆๆ” สมหวังบอก
สามคนเดินออกไป
เจ๊เนาว์เดินนำสมหวังกับกุหลาบที่ช่วยกันหิ้วชุดแดนเซอร์ออกมา
เจ๊เนาว์สั่ง “เสร็จแล้วขึ้นรถเลย”
สมหวังกับกุหลาบขึ้นรถ บาสกะสำลี กำลังจะขึ้นรถ
“พี่อยากไปนั้งตรงน้องสมหวังจังเลย” บาสว่า
กุหลาบตาเขียวใส่ “ชั้นอยากนั่งตรงนี้...มีปัญหามะ”
บาสแยกเขี้ยวใส่ ไม่อยากนั่งใกล้กุหลาบจึงไล่สำลีให้ขึ้นไปนั่งก่อน
“พี่สำลีขึ้นไปก่อน”
“เรื่องมากจริงเว้ย” สำลีบ่น
สายฟ้ามองตรวจความเรียบร้อย “ครบแล้วใช่มั้ย”
เจ๊จุ๊แต่งหน้า แต่งตัวสีสันฉูดฉาดตามสไตล์เดิมพร้อมถือกระเป๋าเมคอัพวิ่งเข้ามา
“ว้ายย มาแล้วๆ ลืมเจ๊ได้ไง เดี๋ยวอีนังชะนีพวกนี้ก็หน้าผีขึ้นไปเต้นน่ะสิ”
เจ๊เนาว์กัด “รีบขึ้นมาได้แล้วอีจุ๊ อย่ามัวแต่พร่ามอยู่...” บอกสายฟ้า “ทีนี้ก็เหลือแต่ยัยจอม
ขวัญนั่นแหละ!”
“เดี๋ยวผมโทร.ตามเอง” สายฟ้าบอกคนขับ “ออกรถได้”
สายฟ้าปิดประตูรถตู้ให้ สักครู่หนึ่ง รถตู้แล่นออกไป
สายฟ้ากดโทรศัพท์หาจอมขวัญอยู่ที่หน้าบ้าน ในที่สุดจอมขวัญก็ยอมรับสาย
“ทำไมเพิ่งรับโทรศัพท์”
จอมขวัญอยู่ที่ออฟฟิศเฮียตี๋ “ก็ชั้นติดธุระ”
“ไม่เข้ามาซ้อมเลย…แล้วจะรู้ท่าเต้นใหม่ได้ยังไง” สายฟ้าตำหนิ
จอมขวัญฉุน ยื่นคำขาด “พี่สายฟ้าจะมาสนใจอะไรตอนนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นสนใจชั้นเลย ให้แต่เจ๊เนาว์โทร.มาตาม เจ๊เนาว์ก็พูดไม่รู้เรื่อง นัดคิวตรงกับวันที่ชั้นติดธุระตลอด ทีหลังถ้าพี่ไม่โทร.มาเองชั้นจะไม่รับโทรศัพท์ใครๆทั้งสิ้น”
“แล้วคืนนี้มาให้ตรงเวลาด้วยล่ะ” สายฟ้ากำชับ
“ไม่ต้องห่วง…เจอกันที่งานนะคะ”
จอมขวัญยิ้มสะใจอย่างเป็นต่อ
คุยจบจอมขวัญนั่งอ่านสัญญาต่อ เฮียตี๋นั่งนัวเนียอยู่ข้างๆ
“ว่าไงจ๊ะ...พอใจมั้ย”
จอมขวัญละสายตาจากสัญญาที่กำลังอ่าน
“ก็พอได้...แต่เปอร์เซ็นต์เพลงที่จอมขวัญจะได้มันน้อยไปหน่อยนะคะ”
“มันก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปซิ...ขืนให้หนูมากกว่านักร้องเก่าๆ มันก็โวยเฮียตายนะสิ”
จอมขวัญปั้นปึ่ง ไม่พอใจ
“น่านะ...เฮียมีพิเศษให้อีกต่างหาก เอาไว้ชุดสองแล้วหนูจะเอาเท่าไหร่เฮียให้ได้หมดเลย”
เท่านั้นแหละจอมขวัญจึงอารมณ์ดีขึ้น หันมาเอาใจเฮียตี๋
“เฮียสัญญาแล้วนะ”
“สัญญาสิจ๊ะ”
“เฮียใจดีจังเลยค่ะ”
“ใจดี..แล้วไหนรางวัลความดีของเฮียละจ๊ะ” เฮียตี๋ออดอ้อน
ทั้งคู่สบตากันหวานฉ่ำ ก่อนที่เฮียตี๋จะโน้มตัวจอมขวัญลงไปที่โซฟา
ที่หน้างานกาชาดค่ำนั้น ป้ายคัตเอาท์ตรงประตูหน้างาน มีรูปจอมขวัญ วทัญญู ติดอยู่ใบใหญ่ยักษ์ เบื้องหลังเห็นเป็นเวทีแสดงทีใหญ่โตดูอลังการ พ่อยกแม่ยกและคอเพลงลูกทุ่ง ต่างทยอยเดินเข้ามาในพื้นที่จัดคอนเสิร์ต อย่างล้นหลาม
ที่หลังเวที ตรงมุมเปลี่ยนชุด บรรดาแดนเซอร์ต่างกำลังแต่งตัวกันแข่งกับเวลาอย่างวุ่นวาย แว่วเสียงซาวด์เช็คเครื่องเสียงดังแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ
เจ๊เนาว์คอยจัดแจงชี้จุดให้สมหวังกับกุหลาบ แขวนชุดแด้นเซอร์
“เอาไปแขวนไว้ที่ราวตรงนั้นเลยจ้า” เจ๊เนาว์ตะโกนบอกพวกแดนซ์เซอร์ “แม่ชะนีทั้งหลายแต่งตัวกันให้เร็วๆ หน่อย”
เวลาทำการแสดงใกล้เข้ามาทุกขณะ สายฟ้ากำลังคุมนักดนตรีขึ้นประจำที่
“เร็วๆ กันหน่อย คนเข้าแล้ว”
สำลีเดินเข้ามาหน้าเครียด
สายฟ้าร้องทัก “อ้าว..สำลีทำไมไม่ไปแต่งตัว จะเริ่มแล้วนะ”
“ค่าแรงวันนี้ผมขอเบิกเต็มก่อนนะพี่ จะเอาไปใช้หนี้เค้า ส่วนที่จะหักหนี้เอาไว้คราวหน้านะพี่สายฟ้า”
สายฟ้ารู้ทันที “เสียพนันมาอีกล่ะสิ ชั้นคิดว่าเราพูดกันรู้เรื่องแล้วนะ”
สำลีเลิกลั่กทำตัวไม่ถูกเพราะเป็นเรื่องจริง
“แต่คราวนี้ผมเดือดร้อนจริงๆ นะพี่สายฟ้า” สำลีว่า
“แกหาเรื่องเองไม่เกี่ยวอะไรกับชั้น” สายฟ้าบอกฉุนๆ
สำลีทำหน้าละห้อย สายฟ้าใจอ่อนตามเคย
“ก็ได้ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ”
สำลียิ้มดีใจ “ขอบคุณก๊าฟฟ” วิ่งออกไป
เสี่ยชัยเดินเข้ามาหาสายฟ้า
“วันนี้ทำให้เต็มที่เลยนะ ฉันโฆษณาไว้เยอะ ว่าจอมขวัญร้องเพลงดีแถมเซ็กซี่ อีกต่างหาก” เสี่ยว่า
“ไม่ต้องห่วงครับเสี่ย”
สายฟ้าบอก มองตามเสี่ยไปอย่างอ่อนใจ
ตรงมุมด้านในที่เปลี่ยนชุดแดนเซอร์ยามนั้น แด้นเซอร์สองคนแย่งชุดกันหน้าดำหน้าแดง ต่างฝ่ายต่างบอกว่าเป็นของตัวเอง
เจ๊เนาว์เดินเข้ามา
“อะไรกันสองคนนั้น”
ผลปรากฏว่าชุดที่กระชากแย่งกันคนละข้าง ก็ขาดออกเป็น 2 ชิ้นต่อหน้าต่อตา
“ให้มันได้อย่างนี้สิ แย่งชุดกันทำไม” เจ๊เนาว์เอาเรื่อง
แดนซ์เซอร์คนแรกบอก “ก็นั่นมันชุดหนูนิ”
แดนซ์เซอร์อีกคนเถียง “ใครบอกชุดฉันต่างหาก”
แดนซ์เซอร์คนแรกที่ถืออยู่อีกครึ่งยืนให้อีกฝ่ายถามอาการยัวะ “ชุดแกทำไมแกใส่ไม่พอดีล่ะ”
แดนซ์เซอร์คู่กรณีแถ “ก็ผอมลงมีอะไรไหม”
“อีนี่ วอนหาเรื่อง อยากมีเรื่องใช่มั้ย”
ทั้งสองเงื้อมือจะตบกัน
สายฟ้าเดินเข้ามาพอดี ตวาดใส่ 2 คน “พอกันได้แล้วทั้งสองคน”
ทั้งสองชะงัก
“อยากมีเรื่องกันใช่มั้ย ถ้างั้นออกไปไม่ต้องทำงาน” สายฟ้าของขึ้น
ทั้งสองคนหน้าสลดลง
สายฟ้าถาม “ทะเลาะกันทำไม กินข้าวหม้อเดียวกันแท้ๆ”
แด้นเซอร์คู่กรณีบอก “ก็มันได้ชุดใหม่กว่าหนู”
สายฟ้ายัวะ “แย่งชุดกันด้วยเรื่องแค่นี้ ทำไมใส่ชุดเก่าแล้วเต้นไม่ได้หรือไง”
“ได้ค่ะ” แด้นเซอร์นางนั้น
เจ๊เนาว์ตำหนิ “ดูสิชุดขาดหมดแล้ว”
สายฟ้าจ้องหน้า 2 แด้นเซอร์เขม็ง “ชุดขาดแล้วทีนี้จะทำไง” แล้วก้มเก็บชุดที่ขาดขึ้นมาอย่างอ่อนใจ
แด้นเซอร์ทั้งสองสลด
“เจ๊ถามสมหวังสิว่าพอซ่อมไหวไหม” สายฟ้าบอกเจ๊เนาว์
เจ๊เนาว์รับชุดมา “เดี๋ยวเจ๊ถามให้”
แดนซ์เซอร์อีกคนถาม “เจ๊ แล้วหนูจะใส่อะไร”
“เปลี่ยนชุดสองมาใส่ก่อน!” เจ๊เนาว์บอก
พวกที่แต่งตัวเสร็จแล้วครางอย่างไม่พอใจ!
เจ๊เนาว์เดินมาหาสมหวัง ยื่นชุดให้ “พอซ่อมไหวมั้ย”
สมหวังมองดูสภาพชุดแล้วพยักหน้า
“เร่งมือหน่อยนะ เดี๋ยวจะเริ่มแสดงแล้ว”
“จ้ะเจ๊”
เจ๊เนาว์เดินออกไป
กุหลาบบ่นอุบ “จะมาทะเลาะอะไรกันตอนนี้เนี่ย...ลำบากคนอื่นเค้า”
“ไม่เป็นไรพี่กุหลาบแค่นี้เอง” สมหวังบอก
การแสดงเริ่มแล้วนักดนตรีเล่นเพลงเปิดตัววงส่งให้ชูชนะซึ่งทำหน้าที่โฆษก ขึ้นไปกล่าวเปิดการแสดง
“สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง มิตรรักแฟนเพลงทั้งหลายที่มาให้กำลังใจกันอย่างเนืองแน่น กระผมในนามของวงดนตรีลูกทุ่งจอมขวัญ วทัญญู รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการต้อนรับจากพ่อแม่พี่น้องในวันนี้ และแน่นอนครับ ว่าคืนนี้ท่านจะได้พบกับเจ้าหญิงเพลงลูกทุ่ง นักร้องสาวเสียงใส จอมขวัญ วทัญญู”
แม่ยกพ่อยกร้องกรี๊ดดังสนั่น
เวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง นักดนดรีโซโล่ ให้แด้นเซอร์ เต้นโชว์ไปเรื่อยๆ จนนักดนตรี กับแดนเซอร์ เริ่มหน้าหงิก
จนเวลาผ่านไปอีก คนดูนั่งมองแบบซังกะตาย บรรดาแม่ยก พ่อยกแถวหน้าส่ายหัว เพราะไม่รู้จะดูอะไรแล้ว
มองไปอีกมุมเห็นแม่ยกบางคน เอาแป้งขึ้นมาแต่งหน้าไม่สนใจการแสดงใดๆ
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 3 (ต่อ)
สายฟ้ายังพยายามโทร.ตามจอมขวัญมือระวิง เจ๊เนาว์เดินเข้ามาอย่างร้อนใจ
“ติดต่อได้หรือยัง” ชูชนะที่อยู่ด้วยถาม อาการไม่ต่างกัน
“ยังเลยพ่อ กำลังโทร.อยู่”
ชูชนะหัวเสียบ่นงึมงำ “มันไปอยู่ไหนของมันวะนังจอมขวัญ” หันมาถามสายฟ้า “ทำไมเอ็งไม่โทร.ตามก่อนหน้านี้วะ”
“ผมโทร.ไปแล้วตั้งแต่เช้าแล้วพ่อ…แล้วก็ตกลงกันว่าจะมาให้ตรงเวลา….แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ปิดเครื่องซะอย่างงั้น”
ชูชนะถอนหายใจ “เฮ้อออ…ทำไมกูต้องมาลุ้นกับอีนังจอมขวัญอยู่ทุกๆ งานเลยวะ”
สายฟ้าแก้ปัญหา “เดี๋ยวพอหมดคิวโชว์นี้...แล้วพ่อก็ขึ้นไปพูดถ่วงเวลาไว้ก่อนแล้วกัน”
“ได้ๆ”
สายฟ้ายังพยายามกดโทร.หาจอมขวัญอีก แต่เสียงจากโทรศัพท์จากสายฟ้า เป็นสัญญาณจอมขวัญปิดเครื่อง ไม่มีสัญญาณตอบรับ
เจ๊เนาว์มอง สายฟ้าที่กำลังพยายามต่อโทรศัพท์ท่าทางหงุดหงิด อย่างเห็นใจ
ครู่หนึ่ง เสี่ยชัยเจ้าภาพเดินผ่านสมหวังที่เตรียมชุดอยู่ จะไปทางสายฟ้าที่โทรศัพท์ สมหวังมองตามเสี่ยไป
เจ๊เนาว์เหลือบไปเห็น รีบสะกิดสายฟ้า
“อาจอมขวัญมาหรือยัง” เสี่ยชัยถาม
“มาแล้วครับ กำลังเดินทาง”
เสี่ยชัยโวย “อะไรวะ เมื่อกี้อั๊วถามลื้อก็บอกกำลังเดินทาง เดินทางจากประเทศไหนวะ”
สายฟ้าแก้ต่าง “เพิ่งโทร.มาบอกเมื่อกี้ครับ ว่าใกล้ถึงแล้ว”
เสี่ยชัยดักคอ “ให้มันแน่นะ”
“แน่สิครับ...เสี่ยใจเย็นๆ นะ” สายฟ้าว่า
“คนดูเริ่มไม่พอใจแล้วนะ ถ้าช้ากว่านี้ อั๊วกลัวจะมีเรื่อง” เสี่ยบอก
“อีกสิบนาทีครับ รับรองไม่เกินนี้!”
เสี่ยชัยเดินหงุดหงิดออกไป
ระหว่างนั้นตลก 3 คนเดินเข้าหลังเวที ชูชนะเดินสวนออกมา ไร้เสียงปรบมือ
“เป็นไงบางครับท่านผู้ชม ผ่านไปแล้วกับตลกคณะซุปเปอร์ฮาของเรา สนุกกันมากใช่ไหมครับ ผมยืนฟังอยู่หลังเวทีหัวเราะท้องแข็งเลยครับ”
พลางชูชนะทำท่ายื่นไมค์ถามผู้ชม แต่ไม่มีเสียงตอบ
คนดูกร่อยไม่มีอารมณ์
“จอมขวัญล่ะ เมื่อไหร่จะออกมา” พ่อยกคนหนึ่งตะโกนถาม
ตามด้วยแม่ยกอีกคน “ลงไปเอาจอมขวัญขึ้นมา”
ชูชนะเริ่มหน้าเสีย
ส่วนที่ข้างเวที สายฟ้า เจ๊เนาว์ บาส สำลี ปอยฝ้าย และตุ้มเม้ง ยืนลุ้นๆ กันอยู่
พ่อยกอีกรายตะโกนขึ้นอีก “ใช่จะเอาจอมขวัญ”
“ใจเย็นๆ ครับ อดใจรออีกนิด แล้วจอมขวัญ วทัญญู จะออกมาพบกับพ่อแม่พี่น้องแน่ครับ”
ชูชนะพูดจบ มีเสียงโห่สวนมาอย่างไม่พอใจ
แม่ยกตะโกนไล่ “ไม่เอาคนแก่” ชูชนะซะงัก “ลงไป ลงไป เอาจอมขวัญขึ้นมา”
ไม่ทันขาดคำก็มี่กระดาษถูกปาขึ้นมาบนเวทีอย่างไม่พอใจ
เจ๊เนาว์ซึ่งอยู่ที่ข้างเวที มีสีหน้าเป็นห่วง “ถ้าจะไม่ไหวแล้วนะสายฟ้า”
สายฟ้าสั่งการ “เอาตลกขึ้นไปขัดก่อนอีกรอบ” พร้อมกันนั้นสายฟ้าก็ยังคงโทร.ตามจอมขวัญอยู่ด้วย
ที่หน้าเวที ชูชนะถอยหลังเกือบชิดนักดนตรีเพื่อหลบของที่ปาขึ้นมา
เจ๊เนาว์ตะโกนเรียกอยู่ “พ่อ”
ชูชนะหันมามองข้างเวที เห็นเจ๊เนาว์เรียกอยู่ “อะไรวะ”
“ตลก...พ่อ เอาตลกคั่น”
“อ๋อ” ชูชนะหันไปพูดกับผู้ชม “ครับ และก่อนที่จะพบกับจอมขวัญ ขอเชิญทุกท่านพบกับ ตลก ของเราก่อนนะครับ ซุปเปอร์ฮา”
มีเสียงโห่สวนขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่พอใจ ชูชนะกำลังเข้าไป
นักดนตรีส่งตัวตลกพรวดออกมาหน้าเวที แล้วทักทายคนดู แต่กลายเป็นตลกฝืด คนดูจ้องอย่างนิ่งๆ ไม่มีอารมณ์ แม้ว่าทีมตลกจะพยายามงัดมุขเด็ดๆ ออกมา แต่คนดูก็ยังเซ็งอยู่ดี บางคนถึงกับหาวแล้วหาวอีกระหว่างนั้น จู่ๆ พ่อยก แม่ยก ก็โวยวาย ลุกฮือ
“ลงไปได้แล้ว จะดูจอมขวัญ”
เสียงคนดูทั้งหมดตะโกนลั่น “จอมขวัญๆๆๆ”
เจ๊เนาว์วิ่งหน้าตาตื่นมารายงาน “ไม่ไหวแล้วนะสายฟ้า คนดูฮือกันใหญแล้ว”
เสี่ยชัยเจ้าของงาน เดินคิ้วขมวดเข้ามา “ว่าไง! จอมขวัญมาหรือยัง”
สายฟ้า “จวนจะถึงแล้วครับ”
เสี่ยชัยยัวะจัด “อะไรวะ ถามกี่ทีก็จวนจะถึงๆ จวนจะถึงไหนวะ พวกลื้อทำงานกันยังไง ผิดเวลาทีเป็นชั่วโมงๆ ตอนเซ็นสัญญาก็ทีนึงแล้ว ให้อั๊วนั่งคอยได้ตั้งครึ่งค่อนวัน”
สายฟ้าออกโรงการันตี “ก่อนตลกเล่นจบมาแน่ครับ”
“แล้วถ้าอาจอมขวัญอีเบี้ยวขึ้นมา อั๊วจะทำยังไง อั๊วจะไปบอกคนดูเค้าว่ายังไง บอกว่านักร้องไม่มา คนดูจะได้ขึ้นมากระทืบตาย”
สายฟ้าได้แต่นิ่ง ทำอะไรไม่ถูก เสียงคนดูหน้าเวที ที่ลุกฮือประท้วงดังเข้ามาเป็นระยะๆ
“ลื้อเห็นหรือเปล่าคนดูเค้าไม่พอใจกันใหญ่แล้ว!” เสี่ยชัยโวยลั่น
จังหวะนั้นเสียงคนดูลุกฮือดังขึ้นอีก สายฟ้าหน้าเครียดจัด
ที่หน้าเวทีเริ่มชุลมุนหนัก เสียงคนดูโห่ร้องเรียกจอมขวัญดังอย่างต่อเนื่อง
“จอมขวัญ…จอมขวัญ…จอมขวัญ”
สายฟ้า ชูชนะ และเจ๊เนาว์ ต่างยืนเครียดอยู่หลังเวที ทำอะไรไม่ถูกแล้ว
เสี่ยชัยเจ้าภาพโมโหหนัก “พวกลื้อจะเอายังไง…จะทำอะไรก็ทำสักอย่าง!
ทันใดนั้น เสียงจอมขวัญก็ดังขึ้นมา
“มาแล้วค่า.....” แถมยิ้มร่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “มาแล้วค่ะ…” จอมขวัญถลาเข้ามาจนแทบจะไปกราบที่หน้าอกเสี่ยชัย
“สวัสดีค่ะเสี่ย…ของดีก็ต้องใจเย็นๆหน่อยสิคะ…รับรองวันนี้หนูจะเล่นให้เต็มที่เลยค่ะ”
“ดีๆ…เดี๋ยวลื้อขึ้นเลยนะ…คนดูจะกระทืบอั๊วตายอยู่แล้ว” เสี่ยชัยเดินหัวเสียออกไป
ชูชนะหันไปเอาเรื่องกับจอมขวัญ “เอ็งจะปิดโทรศัพท์ทำไมนังจอมขวัญ”
จอมขวัญแก้ตัว “พอดีแบตมันหมด”
ชูชนะซักอีก “แล้วทำไมมาช้า”
“ก็รถมันติด…นี่ชั้นออกมาตั้งนานแล้วนะ”
ชูชนะปวดหมอง “เมื่อไหร่เอ็งจะเลิกนิสัยแบบนี้สักทีวะนังจอมขวัญ…ข้าหัวใจจะวาย…ต้องมาลุ้นหงอกกระดกทุกๆ งานมันไม่ไหวนะเว้ย”
“จะบ่นอะไรล่ะพ่อชั้นก็มาแล้วไง…ชั้นถามหน่อยชั้นเคยเบี้ยวเหรอ”
สายฟ้าตัดบท “พอเถอะพ่อ…” พลางขยิบตาให้ชูชนะเป็นสัญญาณว่าไม่ต้องไปใส่ใจ
ชูชนะเหนื่อย ไม่มีแรงพูดต่อ
จอมขวัญยิ้มดีใจ คิดว่าสายฟ้าเข้าข้างตนเอง
“เดี๋ยวเตรียมขึ้นเลยนะ” สายฟ้าบอก
“งั้นชั้นไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ”
“ไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว…ขึ้นทั้งชุดนี้แหละ” สายฟ้าบอก
จอมขวัญขึ้นเสียง “จะบ้าเหรอพี่สายฟ้า…ชุดนี้เนี่ยนะ!”
“ไม่ได้ยินหรือไง…คนดูจะลุกฮืออยู่แล้ว”
จอมขวัญไม่ยอม “ไม่ได้!..ชั้นยังไม่สวยเลย”
สายฟ้าตัดสินใจพูดล่อให้จอมขวัญขึ้นไปร้องเพลง “สวยแล้ว”
จอมขวัญได้ยินก็หัวใจพองโต เพราะร้อยวันพันปี สายฟ้าไม่เคยชมตนเลย
จอมขวัญยิ้มเขินๆ “จริงเหรอพี่สายฟ้า”
“จริงสิ!...เดี๋ยวค่อยลงมาเปลี่ยนเพลงที่สองนะ”
จอมขวัญส่งสายตาชมดชม้อยยั่วยวน เขยิบเข้าไปกระแซะสายฟ้า
“เขินจัง….นานๆพี่สายฟ้าจะชมชั้นสักที งั้นชั้นขึ้นร้องชุดนี้เลยก็ได้…สวยแน่นะ”
สายฟ้าพยักหน้า
คนดูหน้าเวทียังโห่ร้องเรียกจอมขวัญดังลั่น นักดนตรีเล่นส่งตัวชูชนะขึ้นมาประกาศเปิดตัวจอมขวัญ
“ใจเย็นๆครับพ่อแม่พี่น้อง…”
“ไม่เย็นแล้วโว้ย…จะดูจอมขวัญ” แม่ยกตะโกนสวนออกมา
“ครับ..ครับ…เวลาที่ทุกท่านรอคอยมาถึงแล้ว”
คนดูเริ่มค่อยๆ เงียบ และขยับฟังอย่างสนใจ โดยเฉาะบรรดาแม่ยกพ่อยกที่อยู่บริเวณข้างหน้า
“ขอเชิญทุกท่านพบกับ นักร้องสาวพราวเสน่ห์ จอมขวัญ วทัญญู… ได้ ณ บัดนี้ครับ”
เสียงกรี๊ดดดังสนั่น… พ่อยกต่างลุกขึ้นปรบมือด้วยความดีใจ บรรยากาศต่างกันราวฟ้ากับดินจากเมื่อครู่
ดนตรีขึ้นอินโทรเพลงประจำตัวจอมขวัญ..เป็นเพลงแดนซ์แนวเซ็กซี่ขยี้ใจ
แด้นเซอร์ เตรียมตัวออกเวที เจ๊เนาว์ให้คิว “ขึ้นไปได้แล้ว…เร็วๆ”
“เต้นให้เต็มที่นะน้องๆ…ขอแบบฆ่านักร้องให้ตายไปเลย!”
บาสบิ้วท์สุดขีด แด้นเซอร์ขึ้นไปบนเวทีจนหมด
บนเวทียามนั้นแด้นเซอร์ขึ้นมาเต้นเรียงกันเป็นแผง บรรดาพ่อยก แม่ยก คนดูวัยรุ่นยังกรี๊ดไม่หยุด
จอมขวัญขยับตัวตามจังหวะเพลง นวยนาดมาหยุดร้องเพลงกลางเวที ส่งสายตาหวานพร้อมกับไหว้สวยๆให้กับคนดูทุกคน…เสียงกรี๊ดดังสนั่นอีกครั้ง
“สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคนนะคะ ที่มาให้กำลังใจจอมขวัญอย่างเนืองแน่นในวันนี้ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาสนุกกันต่อดีกว่าค่ะ”
สมหวังกับกุหลาบ วิ่งออกมาดูจอมขวัญร้องข้างหน้าเวที สมหวังมองอย่างตั้งใจ ร้องเพลงคลอตาม กุหลาบชมเปาะว่าเสียงสมหวังดี
“สมหวังเสียงเพราะนะเนี่ย…เป็นนักร้องเอามั้ย เดี๋ยวพี่ไปบอกคุณสายฟ้าให้”
“จะบ้าเหรอพี่…ไม่เอา”
“เสียงอย่างสมหวังนะรับรองฆ่ายัยจอมขวัญได้สบายเลย” กุหลาบบอก
“ไม่เอา…เพ้อเจ้อใหญ่แล้วพี่”
บาสเห็นสมหวังกับกุหลาบยืนอยู่ จึงเดินเข้ามาหา “มายืนทำอะไรกันตรงนี้”
“ยืนดูคอนเสิร์ตไม่เห็นหรือไง” กุหลาบกวน
“ชั้นถามน้องสมหวัง! ไม่ได้ถามเธอ”
กุหลาบหน้าแตก
สมหวังขำๆ “พี่สองคนนี่เจอหน้ากันไม่ได้เลยนะ ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ ทุกที”
“ถ้าพี่เป็นเด็กแล้วน้องสมหวังชอบเด็กๆ อย่างพี่มั้ยล่ะจ๊ะ” บาสหยอดอีก
สมหวังยิ้มรับ ไม่ตอบ แล้วหันไปดูจอมขวัญต่อ
“นี่ๆๆ…! ดูยัยจอมขวัญดิ..เต้นไม่เหมือนใครเลยอ่ะ” กุหลาบหัวเราะ
จริงดังว่า บนเวทียามนั้น จอมขวัญร้องท่อนฮุก แดนซ์เซอร์ทุกคนเต้นท่าใหม่ที่บาสเพิ่งสอนไป และเต้นอย่างสุดเหวี่ยง แต่จอมขวัญเต้นท่าเก่า จอมขวัญเหลือบไปดูแดนซ์เซอร์ รู้สึกเสียเซลฟ์ แล้วทำท่างกๆ เงิ่นๆ
“เหมือนตัวตลกเลยเนอะ” กุหลาบว่า
บาสหัวเราะอย่างสะใจ “สมน้ำหน้า…ไม่ยอมมาซ้อมเอง”
แด้นเซอร์ เดินลงมาจากเวที จอมขวัญเดินหน้าหงิกโมโหมาก ตามเข้ามาแว๊ดใส่
“นี่! พวกแกแกล้งชั้นเหรอ!...ทำไมไม่เต้นท่าเก่า…รู้มั้ยเมื่อกี้ชั้นอายแค่ไหน”
บาส สมหวัง และกุหลาบเดินเข้ามา
“ก็สมควรอายอยู่หรอก…เค้าให้มาซ้อมพี่ก็ไม่ยอมมาซ้อม…ตั้งแต่ผมกลับมาสอนเต้นในวง ผมยังไม่เคยเจอพี่สักครั้งเลย” บาสว่า
จอมขวัญหันมาเอาเรื่องบาส “นี่แกมาทำอะไรไอ้บาส อย่าบอกนะแกเป็นคนสอนท่าใหม่ให้อีนังพวกนี้”
“ถูกต้องนะครับ” บาสกวนใส่
จอมขวัญฉุน “ทำอะไรทำไมไม่ปรึกษาชั้นก่อน!!”
“แล้วพี่มาให้ผมปรึกษามั้ยล่ะครับ…เห็นเจ๊เนาว์บอกว่าพี่อยากได้อะไรใหม่ๆผมก็จัดให้แล้วไง….เป็นยังไงใหม่มั้ย…แดนซ์เซอร์กับนักร้องเต้นคนล่ะท่า”
จอมขวัญปรี๊ด แว๊ดใส่ “ไอ้บาส!…แกนี่กวนตั้งเด็กยันโตเลยนะ คิดจะแกล้งชั้นไปตลอดชีวิตเลยหรือไง”
“ก็พี่เป็นคนที่น่าแกล้งที่สุด เวลาเห็นพี่กรี๊ดๆ แล้วตลกดี เหมือนดูคนบ้าเต้นระบำ”
จอมขวัญกรี๊ด “ไอ้บาส…แกยอมรับแล้วใช่มั้ยว่าแกตั้งใจแกล้งชั้นให้ชั้นขายหน้าบนเวที”
เจ๊เนาว์เดินเข้ามาทันได้ยินพอดี
“ใครแกล้งใครกันแน่จอมขวัญ…ก็เห็นว่าอยากได้อะไรใหม่ๆ เจ๊ก็ให้ไอ้บาสมันคิดท่าเต้นให้…เธอเองน่ะสิที่ไม่ยอมมาซ้อม แล้วไปโทษคนอื่นหาว่าเค้าแกล้ง…”
“ไม่เข้าข้างกันเลยนะ” จอมขวัญฮึดฮัด
“ไหนบอกว่าเก่งนักไง แป๊ปเดียวเดี๋ยวก็จำท่าได้หมด เป็นไงล่ะเล่นเอาซะเด่นเลย” บาสหัวเราะเยาะ
จอมขวัญกรี๊ดแตก สายฟ้าวิ่งเข้ามาหน้าตื่น
“อะไรกัน…เสียงดังไปถึงข้างนอก”
จอมขวัญฟ้องทันที “ก็พวกนี้น่ะสิมันแกล้งชั้น…พี่เห็นมั้ย ชั้นต้องหน้าแหกบนเวทีเมื่อกี้นี้ แล้วนี่ยังมารุมด่าชั้นอีก พี่ต้องจัดการพวกมันนะ ไม่งั้นเพลงต่อไปชั้นไม่ขึ้นร้อง!”
สายฟ้าเหนื่อยใจ
“เอาล่ะ..เอาล่ะ ไม่มีใครแกล้งใครทั้งนั้น เธอต้องยอมรับนะว่าเธอไม่ได้มาซ้อมกับพวกแดนซ์เซอร์ แล้วที่เค้าเปลี่ยนท่าใหม่ก็เพราะเธออยากให้เค้าเปลี่ยน แล้วจะไปโทษใคร”
จอมขวัญฉุนกึก โกรธที่สายฟ้าไม่เข้าข้าง “พี่สายฟ้า!..ทำไมพี่ไม่เข้าข้างชั้นล่ะ ชั้นก็บอกแล้วไงว่าชั้นติดธุระมาซ้อมไม่ได้!”
สายฟ้าตัดสินใจเดินไปจับมือจอมขวัญปลอบ ให้อารมณ์เย็นลง พูดเสียงอ่อนโยนเป็นเชิงขอร้อง
“พี่ขอร้องเถอะทำให้งานวันนี้มันผ่านไปก่อน…เรื่องอื่นค่อยว่ากันที่หลังนะ…ไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว”
จอมขวัญนิ่งไม่ตอบโต้ แล้วเดินสะบัดไปห้องเปลี่ยนชุด
บาส กุหลาบ แด้นเซอร์ที่อยู่แถวๆนั้นหัวเราะคิกคักด้วยความสะใจ
ในห้องเปลี่ยนชุด เจ๊จุ๊ซับหน้าให้จอมขวัญ ระหว่างที่รอชุด
จอมขวัญโวย “เจ๊ เบาๆ สิ..หน้าชั้นช้ำหมดแล้ว”
“นี่ก็เบาสุดๆ แล้วนะยะ”
สมหวังกับกุหลาบกำลังจัดชุดให้จอมขวัญอยู่อีกมุมหนึ่ง
“ชุดน่ะได้หรือยังเร็วๆ หน่อย”
สมหวังเดินเอาชุดมาให้ จอมขวัญส่องกระจกอยู่ไม่ได้สนใจ
“ขอโทษนะ…ขอสวมชุดแป๊บหนึ่ง” สมหวังกำลังจะสวมชุดให้
จอมขวัญหันกลับมาเห็นสมหวังกำลังจะสวมชุดเก่าให้
“ไม่เอาชุดนี้!”
“แล้วจะเอาตัวไหนล่ะคะ”
“ตัวไหนก็ได้ที่ใหม่กว่านี้ มีมั้ย?!...ทำงานเป็นหรือเปล่าน่ะเธอ…รีบเอาไปเปลี่ยมาใหม่”
จอมขวัญสลัดชุดออก แล้วยัดใส่อกสมหวังทันที สมหวังถอยหลังไม่ทันระวังล้มก้นจ้ำเบ้าอยู่ที่พื้น
“โอ๊ย!...นี่เธอ”
ทุกคนตกใจ!
กุหลาบ “เฮ้ย!....อะไรวะ”
สายฟ้า รีบเข้าไปจะประคองสมหวัง แต่บาสตัดหน้าสายฟ้าไปประคองตัวสมหวังขึ้นมาได้ก่อน
สายฟ้ามองสมหวังอย่างเป็นห่วง…แต่เห็นบาสดูแลแล้ว เลยไม่ได้เข้าไปช่วย
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าจ๊ะน้องสมหวัง”
สมหวังส่ายหัวแทนคำตอบ แล้วจ้องจอมขวัญอย่างแค้นเคืองใจ
จอมขวัญเยาะ “โดนนิดโดนหน่อยทำเป็นสำออย”
สมหวังสุดจะทน “หยุดพูดไปเลยนะ!...ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ด้วย”
“ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แค่คืนชุดให้ ซุ่มซ่ามถอยหลังล้มไปเอง…แล้วดูสิเอาชุดสมัยสงครามโลกมาให้ชั้นใส่ ใครจะใส่ลง…โง่ๆแบบนี้สายฟ้ารับมาทำงานได้ยังไง”
สายฟ้าเสียงดัง “หยุดได้แล้ว! ชุดไหนๆก็ใส่ไปก่อนเถอะ…เพลงต่อไปมันต้องใส่ชุดนี้ไม่ใช่เหรอ”
จอมขวัญเรื่องมากต่อ “ใช่…แต่ชั้นไม่อยากใส่แล้วนี่ ไอ้เรื่องท่าเต้นที่ทำชั้นหน้าแหกเมื่อกี้ยังไม่ได้สะสาง แล้วนี่มีปัญหาเรื่องชุดอีก ไหนบอกชั้นต้องการอะไรใหม่ๆ ทำให้ได้ทุกอย่างไง แล้วไหนชุดใหม่ของชั้นล่ะ”
เจ๊เนาว์ “ก็ชุดใหม่มันยังไม่เสร็จ ตัดไม่ทันงานนี้”
จอมขวัญอาละวาดอีก “แล้วทำไมไม่รู้จักหัดทำไวๆ”
สายฟ้าขึ้นเสียง “บอกว่าให้หยุดไงจอมขวัญ!…ถือว่าพี่ขอร้องเถอะ!” หันมาหาเจ๊เนาว์ “เจ๊มีชุดอื่น
อีกมั้ย”
“งั้นเอาชุดสุดท้ายมาใส่ก่อนแล้วกัน ชุดนั้นใหม่สุดแล้ว แต่ต้องใส่ไปจนจบคอนเสิร์ตเลยนะเพราะไม่มีใหม่กว่านี้แล้ว” เจ๊เนาว์ตัดบท
“ไหนล่ะ…ไปเอามาสิ”
เจ๊เนาว์กำลังจะเดินไปเอาให้ กุหลาบอาสา “เจ๊…เดี๋ยวชั้นไปเอาให้เอง!”
กุหลาบเดินยิ้มออกไป สีหน้ามีแผน
โปรดเอาใจช่วยสมหวัง ต่อ พรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.