xs
xsm
sm
md
lg

สื่อรักสัมผัสหัวใจ ตอนที่ 19

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ ตอนที่ 19


สุคนธรสกำลังจะหันกลับไปมองอีก แต่อยู่ๆ หมอสมคิดเดินออกมาจนเกือบจะชนกัน สุคนธรสตกใจผวาเด้งออก

“ว้าย”
หมอผีสมคิดมองพิจารณารูปร่างสุคนธรสหัวจรดเท้า
“คนนี้แหละครับที่อยากจะให้อาจารย์ทำเสน่ห์ให้”
“ค่ะ”
“เงยหน้าให้หมอดูชัดๆ หน่อยสิ”
“เอ่อ ค่ะ”
สุคนธรสค่อยๆ เงยหน้า กลัวจะถูกจำได้ทันทีที่หมอสมคิดเห็นหน้าชัดๆ ก็เอียงคอเหมือนคุ้นเคย หมอผีสมคิดยิ้มมุมปาก
“เดี๋ยวผมพาเข้าไป”
หมอผีสมคิดยื่นมือให้สุคนธรสจับ
“เอ่อ คือ...” สุคนธรสยกมือไหว้ซะงั้น “ขอบพระคุณนะคะคุณหมอ”
หมอผีสมคิดยิ้ม หัวเราะพอใจ เดินนำเข้าไป

ณัฐเดช ไตรรัตน์ หมอวรวรรธนั่งอยู่หน้าจอภาพ ณัฐเดชพูดผ่าน ว.ติดตามตัว
“ข้างในเป็นยังไงบ้าง”
ภายในสำนักหมอผีสมคิด สายสืบลูกน้องณัฐเดชปลอมตัวปะปนเป็นลูกศิษย์หมอผีสมคิดอยู่ 2-3 คน
“ทุกหน่วยประจำตำแหน่งพร้อมแล้วครับ” ลูกน้องรายงาน
“ให้ทุกคนอย่าประมาท เตรียมตัวให้พร้อม แล้วรอฟังคำสั่งจากชั้น”
ลูกน้องพยักหน้ารับคำ
“บุกเลย บุกเลย”
ไตรรัตน์ตะโกนลั่น หมอวรวรรธรีบมาปิดปากไตรรัตน์
“ยัง ยังไม่บุก รอคำสั่งชั้นคนเดียว” ณัฐเดชบอกกับลูกน้อง
“คุณไตรเห็นแล้วใช่มั้ย ว่างานนี้พี่ณัฐของผมจัดเต็มเพื่อปกป้องคุณรสขนาดไหน เพราะฉะนั้นสบายใจได้ จริงมั้ยพี่ณัฐ” หมอวรวรรธบอก
“เพื่อนเล่นเหรอ”
หมอวรวรรธจ๋อย
“เฮ้ยๆ ไอ้ณัฐ ทำไมกล้องคุณรสมันสั่นๆ ไม่หยุดสักที เกิดอะไรไม่ดีหรือเปล่า สั่งบุกเลย บุกเลย”
“เฮ้ย ก็ยัยรสเดินอยู่ มันก็ต้องสั่นไปตามจังหวะการเดินสิ”
“แต่มันก็ไมน่าสั่นขนาดนี้หรือเปล่า”
“คุณไตรขา หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ทำใจสบายๆ อย่าเยอะ อย่านอยด์ เพราะถ้านอยด์ จนแก้มทนไม่ไหวจะโดนตบนะคะ” กรรัมภาบอก
“ก็คนมันเป็นห่วง พวกคุณไม่ห่วงเพื่อนตัวเองบ้างหรือไง”
“พี่ณัฐ นั่นอะไร”
เนตรศิตางศุ์ชี้ให้ทุกคนดูภาพในจอ กลายเป็นภาพอ่างน้ำสำหรับทำพิธีเสน่ห์ ทุกคนอึ้ง
“อ่างน้ำ ทำไมต้องมีอ่างน้ำ มันจะทำอะไรคุณรส บุกเลย บุกเลย”
“ยัง”

ที่ห้องทำพิธีสำนักหมอผีสมคิด สุคนธรสยืนอยู่หน้าอ่างน้ำ
“เอ้า หนูผลัดผ้าออกให้หมด อย่าให้เหลือเลยนะ แล้วลงไปแช่ในอ่าง”
“หือ”
“แก้ผ้า แล้วก็ลงไปแช่น้ำ ท่านอาจารย์จะได้เริ่มทำพิธีให้” กล้าบอกแล้วชูสองนิ้วทวงสัญญาสองดอกกับสุคนธรส
ไตรรัตน์โวยวายจะออกไปช่วยสุคนธรสให้ได้
“ชั้นไม่ยอม”
ทุกคนต้องมาช่วยกันล็อคไตรรัตน์ไว้
“ใจเย็นๆ สิคุณไตวาย”
“ใจเย็นไงล่ะ จะให้แก้ผ้า ผมไม่ยอม ออกจอด้วย ไม่ยอม” ไตรรัตน์โวยวาย
“โกลเด้นท์”
กรรณาเรียกกุมาริกา กุมาริกาพยักหน้า
“ได้เลย จัดให้”
กุมาริกาทำมือเสกไปที่ไตรรัตน์ ทำให้เสียงไตรรัตน์หายไปแม้จะตะโกนเท่าไรก็ตาม คนในห้องงงๆ สาวๆ ขำไตรรัตน์ยังคงตะโกนโวยวายต่อโดยไม่รู้ว่าเสียงตนหายไปแล้ว

“ต้องแก้ผ้าด้วยเหรอคะ”
สุคนธรสถามอย่างตกใจ
“ใช่ ถ้าไม่ถอด ไม่ลงไปแช่ อาจารย์ก็ทำเสน่ห์ให้คุณไม่ได้ จะเอายังไง อย่าเสียเวลา มีคนรออีกเยอะนะ”
“ถ้าถอดก็เห็นฟองน้ำน่ะสิ” สุคนธรสบ่นพึมพำแล้วหันกลับมาเล่นละครต่อ “ แต่ อากาศมันเย๊นเย็น ท่าทางจะหนาว ชั้นขออนุญาตลงไปแช่ทั้งชุดไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่ได้”
“ค่ะ งั้น ชั้นเอาน้ำมันพรายหรืออะไรอย่างอื่นที่อาจารย์มีแล้วไม่ได้หรือคะ”

“อย่างชั้นไม่ใช้น้ำมันพรายหรอกหนู ชั้นใช้อย่างอื่น” หมอผีสมคิดทำหน้าเจ้าเล่ห์ ลามก

 
“งั้น ผมไม่อยู่กวนท่านอาจารย์ล่ะครับ คิๆ”
 

กล้าออกไป สุคนธรสอึกอัก ถ่วงเวลา
“ลงอ่างเถอะหนู เชื่อชั้น”
สุคนธรสจะคล้อยตามคำพูดของหมอผีสมคิดแล้วเดินลงอ่างไปทั้งชุดแต่แอบสังเกตเห็นลิ้นของหมอผีสมคิดมีรอยสัก
“สาลิกาลิ้นทอง”
สุคนธรสพยายามจับเบี้ยแก้ที่เอามาด้วยจึงทำให้สุคนธรสยังครองสติตัวเองได้
“ถอดชุดออกเถอะ ไม่ต้องอาย มา เดี๋ยวชั้นถอดให้เอง”
“ไม่ต้องค่ะ”
“ถ้าอยากให้ชั้นทำพิธีให้ ก็อยู่เฉยๆ” หมอผีสมคิดดุ สุคนธรสอึ้งแล้วตัดสินใจลุกพรวดออกจากอ่าง
“ชั้นเปลี่ยนใจแล้ว ชั้นไม่อยากทำเสน่ห์แล้ว”
“มาถึงนี่แล้วจะมาบอกเลิกง่ายๆ ได้ยังไง”
หมอผีสมคิดจะคว้าตัว แต่สุคนธรสผวาออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากให้แตะเนื้อต้องตัวจนหมอผีสมคิดแปลกใจ สุคนธรสจะวิ่งหนีออกไป แต่อยู่ๆ หาญวิ่งพรวดเข้ามา ปิดประตูแล้วเข้ามากระซิบหมอผีสมคิด สุคนธรสอึ้ง หมอผีสมคิดพยักหน้ายิ้มๆ
“พอดีมีผู้ใหญ่มาหาชั้นด่วน เอางี้ ชั้นจะให้ของดีกับหนูไปก่อน แล้ววันหลังหนูค่อยมาทำพิธีกับชั้นใหม่นะ”
“ค่ะๆ” สุคนธรสแอบโล่งใจ
หมอผีสมคิดเดินเข้ามาใกล้แล้ววางมือลงบนไหล่ของสุคนธรส สุคนธรสร้อนวูบตรงที่หมอผีสมคิดแตะ สุคนธรสจะออกไป แต่ไม่มีแรงจึงรู้ตัวว่าโดนของเข้าแล้ว
“แกนี่เอง แฟนไอ้ไตรรัตน์ แกนี่อวดเก่งเกินไปแล้วนะ เป็นแฟนไอ้ไตรรัตน์ดีๆ ไม่ชอบ อยากจะเป็นเมียชั้นด้วย ชั้นก็จะสนองให้” หมอผีสมคิดบริกรรมคาถา
“คาถามหาเสน่ห์”
สุคนธรสงงงวย เคลิ้ม หมดแรง ไร้สติสัมปชัญญะ รู้ว่าต้านอาคมของสมคิดไม่ได้ พยายามตะปบเข็มกลัดอย่างแรงและทรุดลงไป ล้มสิ้นสติไป หมอผีสมคิดและหาญยิ้ม

ภาพที่จอในห้องบัญชาการเป็นหน้าสุคนธรสล้ม หมดสติแล้วจอก็ดับไปมืดสนิท
“คุณรส”
“ยัยรส”
ไตรรัตน์วิ่งออกไปทันที
“ทุกหน่วยจู่โจมได้เลย ไอ้หมอ ดูแลน้องสาวชั้นด้วย”
ณัฐเดชสั่งลูกน้องทาง ว. แล้วณัฐเดชและพวกลูกน้องตำรวจทั้งหมดรีบร้อนออกไปปฏิบัติหน้าที่ เหลือพวกเนตรศิตางศุ์ กรรณา กรรัมภาอยู่รอลุ้น จับมือกัน
“ยัยรสจะต้องไม่เป็นอะไร”
“โกลเด้นท์เบบี้ ไปช่วยพวกเค้าไป”
“รับแซ่บ จะพยายามเข้าไปให้ได้นะจ๊ะ”
กุมาริกาหายตัวไป ที่ประตูเห็นก๊องยืนอยู่ หยิบแว่นดำเท่ห์มาสวม
“หึๆ ได้เวลาไอ้ก๊องออกโรงแล้ว”
19.1.2
ไตรรัตน์วิ่งพุ่งตรงมาที่สำนักหมอผีสมคิด สมุนหมอผีสมคิดรีบเข้ามาขวาง
“คุณเข้าไม่ได้”
“หลบไป”
สมุนยังพูดไม่ทันจบ ไตรรัตน์ก็เหวี่ยงสมุนให้หลีกทางไปแต่สมุนกลับดึงไหล่ ไตรรัตน์หันกลับมาก็ชกหน้าสมุนทันที
“คุณรส คุณรส”
สมุนคนอื่นๆ ได้ยินเสียงรีบมาขวางหน้า ไตรรัตน์ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น โดดเข้าบู๊ด้วย ณัฐเดชกับลูกน้องตำรวจวิ่งเข้ามา แต่อยู่ๆ ก๊องโดดมาตัดหน้าแล้วประกาศ
“หยุด นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเราล้อมไว้หมดแล้ว”
“ตำรวจ”
“เฮ้ย ไปบอกเขาทำไม” บรรดาลูกศิษย์ของหมอผีสมคิดหันซ้ายขวา
“พวกเราได้รับแจ้งมาว่าที่นี่มีการทำพิธีหลอกลวงผิดกฎหมาย เราจำเป็นต้อง”
ทันใดมีสมุนสมคิดควักปืนออกมายิงใส่ตำรวจเฉี่ยวไตรรัตน์ไป
“ไม่ว่าจะตำรวจหรือใคร ก็เข้าไม่ได้”
ณัฐเดชควักปืนออกมา
“อย่าให้ต้องใช้ความรุนแรงดีกว่า เข้าไปเลย ไป”
ตำรวจยิงสวนสมุนสมคิด แต่พวกสมุนของสมคิดไม่มีใครกลัว ระหว่างนั้นไตรรัตน์ฉวยโอกาส วิ่งเข้าไป ก๊องจะแอบตามเข้าไปด้วย แต่กลับต้องผงะถูกผลักกระเด็นถอยออกมา เพราะถูกพวกสาวกของสำนักเดินขบวนปกป้อง ดันให้ตำรวจล่าถอยออกมา พวกณัฐเดชอึ้ง
“ศัตรูของหมอสมคิด คือ ศัตรูของเรา คือ ศัตรูของความดี เราไม่ปรองดองด้วยเด็ดขาด”
พวกณัฐเดช ไม่กล้าใช้กำลังกับประชาชน

ไตรรัตน์วิ่งตามหาสุคนธรส
“คุณรส คุณรส”
สมุนวิ่งเข้ามาขวางหน้า ไตรรัตน์ก็ชกใส่แบบหมัดเดียวจอด แล้วเปิดเข้าไปในห้องพิธีกลับไม่พบใครแม้แต่คนเดียว หัวใจไตรรัตน์หล่นไปที่ตาตุ่มเมื่อเจอเข็มกลัดตกอยู่

“คุณรส”

 
กุมาริกาพุ่งเข้ามาในห้องทำพิธี มองหา
 

“หมอสมคิดมันออกไปแล้วแน่ๆ อาคมมันหายไป หนูถึงเข้ามาในสำนักได้ บอสใหญ่ของหนูอยู่ไหนเนี่ย” กุมาริกาหลับตา เพ่งจิต
“บอสอยู่ไหน บอสอยู่ไหน” กุมาริกาลืมตา
“ฮ้า เจอแล้ว พี่รส”
“คุณรส คุณอยู่ไหน”
กุมาริการีบพุ่งไปที่ไตรรัตน์ดันหลัง จนไตรรัตน์ต้องวิ่งตามแรงที่ถูกดันไป

หมอผีสมคิดแค้นหลังจากรู้เรื่องจากสมุนมารายงาน
“หน็อย พวกตำรวจกับนังนี่ต้องวางแผนเอาไว้หมดแล้วแน่ๆ คิดจะเล่นงานชั้นเหรอ ชั้นจะเอาคืนให้สาสมเลย”
หาญขับรถเข้ามาเทียบ
“ท่านอาจารย์ครับ เชิญขึ้นรถเลยครับ”
“เอาตัวนังนี่ไปด้วย ชั้นต้องคิดบัญชีกับมัน” สุคนธรสนอนหมดสติอยู่ข้างๆ
หมอผีสมคิดกำลังจะขึ้นรถ แต่ชะงักเพราะกล้าลากศพหญิงท้องตามมา
“เอ่อ แล้วศพหญิงท้องนี่เอาไงครับ”
“ไอ้พวกบ้าเอ๊ย แล้วแกจะทิ้งหลักฐานไว้ให้ตำรวจมาซิวชั้นหรือไง เอาศพไปด้วย ไป”

ไตรรัตน์วิ่งออกมาที่ด้านหลังของสำนัก พอดีกับที่พวกหาญกล้าขึ้นรถแล้วรีบขับรถกระบะออกไป ไตรรัตน์เห็นพอดีว่าสุคนธรสนอนอยู่ด้านท้ายรถเคียงคู่กับศพหญิงท้อง
“คุณรส” ไตรรัตน์วิ่งไล่ตาม แต่ตามไม่ทัน “คุณรส”
“หนูตามเอง”
กุมาริกาพุ่งทะยานขึ้นฟ้าตามรถกระบะไป

รถหมอผีสมคิดวิ่งอย่างเร็วโดยมีกุมาริกาบินตามมาติดๆ เหมือนซุปเปอร์แมน ภายในรถหมอผีสมคิดกำลังโวยวายใส่หาญกับกล้า
หาญซึ่งเป็นคนขับเหลือบตามองกระจกหลังแล้วต้องตกใจ เพราะเห็นกุมาริกาบินแซงผ่านหลังคารถไปแล้วลงมายืนบนฝากระโปรงหน้ารถ รถสั่นทั้งคัน
“เฮ้ย”
หาญเผลอหักรถจนทุกคนหงายเงิบไปด้านหนึ่ง แต่พอรถกลับมาเข้าที่ก็ไม่มีกุมาริกาแล้ว
“ไอ้บ้า เป็นอะไรของแก”
“ผีครับ ผีบนกระโปรงรถ”
หมอผีสมคิดกับกล้าหันไปมองแต่ไม่พบอะไร
“ผีเผอที่ไหน ไม่เห็นจะมีอะไรเลย”
หาญที่พยายามครองสติขับรถต่อไป แต่อยู่ๆ มีเสียงเคาะกระจกดังข้างๆ ตัว พอหันไปมองก็เจอกุมาริกาโผล่หน้ามาหลอกอีก
“เฮ้ย”
หาญถึงกับเผลอเหยียบเบรกกะทันหัน หมอผีสมคิดกับกล้าหน้าคะมำระเนระนาด
“ขับให้มันดีๆ หน่อยสิวะไอ้หาญ จะฆ่าอาจารย์หรือไง”
“ผีครับอาจารย์ ผีเด็กมันตามเรามา”
กุมาริกาแว่บมานั่งในรถด้วย
“สงสัยจะหลอนไปเองแหง๋มๆ แถวนี้ไม่เห็นจะมีผีสักตัวเลย”
“ใช่ เพราะฉะนั้นแกเลิก” หาญนึกได้ หันมามองกุมาริกา
“เฮ้ย! แก”
“ปล่อยตัวพี่รสเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น หนูไม่เกรงใจนะ”
กุมาริกาพูดไม่ทันจบ หาญเหยียบเต็มที่ร่างกุมาริกาทะลุผ่านเบาะหลุดรถไป จนกุมาริกาเซซวนเสียศูนย์ไปตามแรงเหวี่ยง
“หนีโกลเด้นท์เบบี้ไม่รอดหรอก จะบอกให้”
ภายในรถหมอผีสมคิดควักของในย่ามตัวเองออกมา
“ไอ้ผีเด็กเมื่อวานซืน อยากลองดีกับข้าใช่มั้ย ดี ข้าจะได้ลองของใหม่ซะเลย” หมอผีสมคิดบริกรรมคาถาใส่ของนั้น
“อาจารย์จะใช้ทารกที่ตายในศพหญิงตายทั้งกลมเหรอวะ”
“เออซิวะ”
“กุมารพรายดำ จงทำตามคำสั่งข้า เล่นงานไอ้ผีเด็กตนนั้นซะ ไป”
กุมาริกากำลังลอยตามมา แต่แล้วจู่ๆ ก็มีควันดำรวมตัวกลางอากาศข้างหน้ากุมาริกากลายเป็นกุมารพรายดำตัวดำเกรียมพุ่งเข้ามาคว้าหมับที่หน้าจนกุมาริกาเซผงะ จนตกลงมาที่พื้น
“เฮ้ย อะไรเนี่ย”
กุมาริกาลืมตามอง แล้วก็เห็นเด็กดำเกรียมยิงฟันน่ากลัวเหมือนฟันปลาพิรันย่า จะกัด
“แฮ่”
กุมาริกาใช้สองมือคว้าหัวนั้นเอาไว้ได้หวุดหวิด เห็นว่าฟันของพรายดำสั่นกระทบกันอย่างดุร้ายพร้อมกัดกินทุกอย่างที่ขวางหน้า แล้วฟันของพรายดำก็หลุดออกจากปาก มางับคางกุมาริกาเต็มๆ กุมาริกาขยะแขยง

“อี๋”

 
ที่สำนักหมอผีสมคิดขณะนั้นพวกสมุนของหมอผีสมคิดถูกตำรวจลูกน้องของณัฐเดชรวบตัวไว้ทั้งหมด ตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิอีกกลุ่มช่วยกันทยอยขนโกศบรรจุวิญญาณออกมาวางเรียงรายกันยาวพรืดราวกับข่าวศพเด็ก2002 ศพ

อีกด้านไตรรัตน์กำลังตามตื๊อณัฐเดช
“คุณรสถูกพวกมันจับตัวไป” ไตรรัตน์โชว์ย่ามของสุคนธรส “โดยไม่มีย่ามของขลังติดตัว แล้วแกยังจะใจเย็นอะไรอยู่ที่นี่อีก แกต้องไปช่วยคุณรสสิวะไอ้ณัฐ ไปเดี๋ยวนี้เลย” ไตรรัตน์คว้าแขนณัฐเดช
“ไอ้ไตร ชั้นวอแจ้งให้ตั้งด่านสกัดจับรถต้องสงสัยแล้ว แกใจเย็นๆ หน่อยได้มั้ยวะ”
“ถ้าแกเป็นชั้น แกจะใจเย็นได้มั้ย ห๊า”
“แล้วคุณรู้เหรอว่าจะไปตามหาคุณรสที่ไหน”
กรรณา กรรัมภา เนตรศิตางศุ์ตามเข้ามา
“ใช่ค่ะ โกลเด้นท์เบบี้กำลังตามพวกมันไป ได้เรื่องแล้วก็คงรีบกลับมารายงาน”
“แล้วเมื่อไหร่จะได้เรื่อง เมื่อไหร่”
“เราก็ไม่รู้ แต่ก็คงดีกว่าตามหาไปอย่างไร้ทิศทาง”
“พวกเราเองก็ห่วงเพื่อนเราไม่น้อยไปกว่าคุณหรอก แต่เราต้องมีสตินะคะ”
“เลิกบ้าได้แล้วใช่มั้ย ชั้นจะได้ไปเตรียมรถ ทันทีที่ได้เบาะแส เราจะรีบตามไปช่วยยัยรสทันที” ณัฐเดชจะเดินออกไป
ขณะนั้นก๊องช่วยพวกตำรวจขนโกศออกมา ก๊องถือโกศอันนึงมาหาพวกกรรณา
“พี่กรรณ โกศพวกนี้คืออะไรอ่ะ มีเยอะแยะเลย”
“เออ พี่ณัฐคะ บอกลูกน้องพี่ด้วยว่าดูแลโกศพวกนั้นดีๆ อย่าเปิด อย่าทำให้โกศพวกนั้นแตกเด็ดขาด ไม่งั้น อย่าหาว่าเนตรไม่เตือน”
“มันเป็นที่เก็บวิญญาณร้าย ต้องทำพิธีปลดปล่อยเสียก่อน”
“ผี ...ช่วยด้วย” ก๊องรีบยัดโกศให้ณัฐเดชถือ ณัฐเดชรีบเดินไปกำชับพวกลูกน้อง
หมอวรวรรธหันกลับมา ไม่เห็นไตรรัตน์แล้ว
“คุณไตรรัตน์ หายไปไหนแล้ว”
ทุกคนอึ้ง

ชาวบ้านคนนึงกำลังจอดมอเตอร์ไซค์ที่หน้าตลาด แต่จู่ๆ ไตรรัตน์วิ่งโผล่เข้ามา เข้าไปคว้าขอยืมกึ่งยึดรถอย่างเร่งรีบ
“ลุงพงษ์ ผมขอยืมรถหน่อยนะ”
ไตรรัตน์กำลังจะกลับรถไปอีกทาง แต่ยังไปไม่ทันจะยูเทิร์น อยู่ๆ ก็มีรถของติณห์ขับปาดเข้ามาปาดหน้าจนเกือบชน เอี๊ยด
ไตรรัตน์เบรกชะงัก แทบคะมำ ติณห์กับญาณินโดดลงจากรถ
“มีเรื่องอะไรกัน คุณจะไปไหน แล้วยัยรสล่ะ”
“ไอ้สมคิดมันจับตัวไป ผมกำลังจะไปช่วย”
“ห๊า”
กรรณา เนตรศิตางศุ์ กรรัมภา หมอวรวรรธ ณัฐเดช วิ่งตามมาแต่ไกล
“นี่ไม่ใช่เวลามาอธิบาย ช่วยกันจับตัวคุณไตรไว้ก่อน เร็ว”
หมอวรวรรธเข้าไปล็อกตัวไตรรัตน์เอาไว้ แต่ไตรรัตน์สะบัดออกท่าทางยอมรับด้วยความหงุดหงิด

กุมาริกาโดนกุมารพรายดำเหวี่ยงมาชนกับเสาปูนที่อยู่ข้างทาง
“อูย แรงเยอะจังนะแก ทั้งดำ ทั้งเหม็น กลิ่นยังสดๆ แบบนี้ เพิ่งจะถูกไอ้หมอผีสมคิดปลุกเสกขึ้นมาใช้งานสินะ”
กุมารพรายดำแยกเขี้ยว “น้องชาย พี่ไม่มีเวลาจะเล่นด้วย พี่ต้องตามไปช่วยพี่รส หลบไป”
กุมาริกาพุ่งไป แต่กุมารพรายดำพุ่งมาชนกุมาริกาจนกระเด็นลอยกลับไปกองอยู่ที่พื้นเหมือนเดิม กุมาริกากำลังจะลุกขึ้นแต่กุมารพรายดำก็พุ่งมาล็อคแขนทั้งสองของกุมาริกาไว้กับพื้น ตรึงเอาไว้แน่น
“ปล่อยนะ” กุมารพรายดำ แสยะยิ้มน้ำลายเยิ้ม “ทนไม่ไหวแล้วนะ”
กุมาริกาฮึดสู้ สลายตัวเป็นเม็ดแล้วไปรวมตัวอย่างเร็วด้านหลังกุมารพรายดำ ทุบกุมารพรายดำลงไปนอนบนพื้น กุมารพรายดำกำลังจะลุกหนี
“จะหนีไปไหน” กุมาริกายกแขนที่เป็นค้อนขนาดใหญ่ทุบจนกุมารพรายดำจมพื้นไป แขนกลับมาเป็นเหมือนเดิม “ไอ้ผีเมื่อตะกี้ คิดจะมาสู้โกลเด้นท์เบบี้ เร็วไปหลายสิบปีเลยน้อง”
กุมาริกาพูดไม่ทันจบ อยู่ๆ กุมารพรายดำก็พุ่งขึ้นมาจากหลุมที่จมไป กุมาริกายกแขนข้างนึงกันไว้ ฟันงับเข้าที่ท่อนแขนนั้น เลือดออกตามแขนกุมาริกา
“ตัวก็ดำ ยังทำตัวน่าขยะแขยงอีก” กุมาริกาเปลี่ยนแขนที่โดนกัดเป็นท่อนเหล็กฟันกุมารพรายดำที่กัดอยู่หักออกเป็นแถบ ร่างกราวหลุดปาก “สะใจไหมล่ะ”
แต่แล้วกุมารพรายดำก็แลบลิ้นพันแขนกุมาริกาไว้ ไม่ยอมหลุดง่ายๆ
“หา” ลิ้นนั้นพันรัดแน่นขึ้น แล้วกุมารพรายดำก็ใช้ลิ้นเหวี่ยงกุมาริกาลอยไปกระแทกของแข็ง กุมาริกาลุกขึ้นมา
“ชักมีน้ำโหแล้ว”
กุมาริกาพยายามดึงลิ้นนั้น แต่ลิ้นนั้นไม่หลุด แรงแค่ไหน ก็ไม่หลุด กุมาริกาจึงเสกมีดสั้นออกมาถือไว้ด้วยมืออีกข้าง แล้วตัดฉับลงบนลิ้นกุมารพรายดำ
“นี่แน่ะ”
ลิ้นนั้นก็ขาด ปลายของลิ้นที่ยาวออกมาหดตัวอย่างรวดเร็วจนไปดีดเข้าปากกุมารพรายดำ ตีลังกากระเด็น กุมารพรายดำลุกมาคำราม
“แฮ่”
แต่ไม่พบกุมาริกาแล้ว กุมารพรายดำมองซ้ายมองขวา พยายามหากุมาริกาแล้วชะงักเมื่อเงยหน้าขึ้นพบกุมาริกาถือดาบแหลมลอยอยู่เหนือตัวเอง
“อโหสิกรรมของหนูด้วยนะ” กุมาริกาฟันฉับลงบนหน้ากุมารพรายดำจนขาด 2 ท่อน “พี่รส แย่แล้ว”

กุมาริการีบหายตัวแว่บไป
อ่านต่อหน้า 2

The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ ตอนที่ 19 (ต่อ)

กุมาริกาลอยพุ่งตามมาหันไปานด้นั้นทีด้านนี้ทีมองหาว่ารถของหมอผีสมคิดไปทางไหน จนกระทั่งเจอรถหมอผีสมคิดวิ่งไปทางด้านหนึ่ง

“อยู่นั่นเอง”
กุมาริกาพุ่งตามรถไป แต่แล้วอยู่ๆ รถคันนั้นก็หายแว่บไปต่อหน้าต่อตาเหมือนหายตัวได้ กุมาริกาผงะ เอี๊ยด อึ้ง มองหาให้ควั่ก แต่ก็ไม่เจออีก
“หายไปไหน หายไปได้ยังไง”

ภายในรถหมอผีสมคิดนั่งหลับตาอยู่ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น ยิ้มๆ
“อาจารย์แน่ใจนะครับว่าที่นี่จะปลอดภัย”
“ไม่ต้องห่วง ข้าร่ายคาถาอำพรางตาเอาไว้แล้ว ให้ตายพวกมันก็ไม่มีวันหาเราเจอแน่ หึๆ ฮะๆ”
ทั้งหมดหัวเราะกัน

รถสองคันของพวกซิกส์เซ้นส์จอดริมหาดที่กุมาริกายืนรออยู่ ทุกคนวิ่งลงมาหากุมาริกา
“หนูพลาด รู้ว่าพี่รสอยู่แถวนี้ แต่ไม่รู้พิกัดแน่ชัดว่าตรงจุดไหน”
“ไม่รู้ว่าคุณรสอยู่ไหน นี่มันอะไร” ไตรรัตน์หันไปไล่เบี้ยเอาเรื่องกับสี่สาว “ไหนพวกคุณบอกว่าผีเด็กของพวกคุณเลิศเลอเพอร์เฟ็คท์ต่างๆ นานาไง แล้วทีนี้จะทำยังไง คุณรสจะเป็นยังไง ห๊า”
“หนูไม่ดีเอง หนูมันกระจอก หนูมันเลว”
“พอๆ โกลเด้นท์ เธอไม่ผิดหรอก แต่หมอสมคิดมันต้องใช้คาถาอำพรางตาไว้ งั้นเป็นไปได้ว่ายัยรสจะต้องถูกจับเอาไว้ที่ไหนสักที่แถวนี้ เราต้องหาให้เจอ”
“ที่นี่ไม่ใช่แคบๆ แล้วเราจะหายังไง”
“ใช้เซ้นส์ของพวกเรานี่แหละ ไม่งั้นจะมีเซ้นส์พิเศษเอาไว้ทำไม พวกเราลุย”
กรรณาพยายามเงี่ยหูฟังเสียง กรรัมภาแยกออกไปสัมผัสบริเวณนั้น เนตรศิตางศุ์ถอดแว่นตาพยายามมอง อย่างกล้าๆ กลัวๆ ญาณินหลับตาถอดจิต ติณห์ประคองร่างของญาณินเอาไว้ จิตญาณินวื่บออกมาแต่ไม่พบเบาะแสอะไรเกี่ยวกับสุคนธรสเลย
“คุณรส คุณต้องไม่เป็นอะไรนะครับ”
ไตรรัตน์บอกอย่างร้อนใจ

สุคนธรสฟื้นได้สติ มองไปรอบๆ
“โอย ปวดหัวจะระเบิด” สุคนธรสเดินไปเปิดประตูแต่ประตูล็อคแน่นหนา ไม่มีทางออก เธอจึงถอยมาทรุดลงนั่งขัดสมาธิเพื่อบริกรรมคาถา
“วุ้ย...ไอ้กระโปรงนี่”
สุคนธรสพยายามขยับชายกระโปรงให้เข้าที่ ก่อนจะสูดลมหายใจแล้วหลับตานั่งสมาธิแต่สุคนธรสไม่สามารถเรียกคาถาอะไรออกมาได้เลย
“ซี้ด” สุคนธรสยกมือมาจับขมับ “คาถามันแรงจริงๆ เล่นเอานึกคาถาอะไรไม่ออกเลยวุ้ย”
อยู่ๆ หมอผีสมคิดส่งเสียงมาจากด้านหลัง
“เก่งมาก สุคนธรส”
สุคนธรสสะดุ้ง ไม่ทันตั้งตัวว่ามีคนอยู่ด้านหลัง
“เฮ้ย แก แก” สุคนธรสสำรวจตัวเอง “แกทำอะไรชั้น”
“หึๆ ยัง ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“โอม...” สุคนธรสพนมมือแต่นึกไม่ออก “โธ่เว้ย...นึกไม่ออกเลย”
“คิดเหรอว่าเธอจะใช้อาคมในที่ของชั้นได้”
“แกต้องการอะไร”
“เธอกล้ามาก ที่บุกเข้ามาในสำนักของชั้นตัวคนเดียว แล้วยังไม่พกของขลังอะไรติดตัวมาอีก ชั้นชื่นชมเธอจริงๆ และชั้นพูดตามตรงนะ ตั้งแต่ชั้นเรียนวิชาไสยมา ชั้นไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนจะมีอาคมแก่กล้ามากเท่ากับเธอมาก่อนเลย ชั้นก็เลยมีข้อเสนอมาให้กับเธอ เรามายุติความสัมพันธ์แบบศัตรูคู่อาฆาต แล้วมาเริ่มต้นใหม่ในฐานะราชากับราชินีดีกว่านะ เธอจะมีเงินทอง อำนาจ บารมี อย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน”
“เพ้อเจ้อ ความดีกับความชั่ว ไม่มีวันอยู่ข้างเดียวกันได้ ความถูกต้องน่ะ แกสะกดเป็นไหม”
“หึๆ ขนาดนี้แล้วยังปากเก่งอีก คิดใหม่ ตอบใหม่ดีกว่า”
“คนเราถ้าต้องยอมก้มหัวให้กับความชั่ว เพียงเพราะกลัวตาย มันก็ไม่ต่างอะไรกับตายไปแล้วนั่นแหละ”
“งั้นก็ช่วยไม่ได้”
หมอผีสมคิดก้าวเข้าหา กระชากตัวสุคนธรสเข้ามา สุคนธรสเตะขาหมอผีสมคิดและฮุคเข้าสีข้างเต็มๆ จนหมอผีสมคิดเซไป
“เป็นมวยซะด้วย อย่างนี้ยิ่งสนุก” หมอผีสมคิดขยับแข้งขยับขา
“แกจะทำอะไร”
“วิธีทำให้พวกคนเล่นของผู้หญิงของเสื่อม มันไม่ใช่เรื่องยากอะไร ออกจะสนุกด้วยซ้ำ รับรอง เธอจะติดใจ”
หมอผีสมคิดโน้มตัวเข้าไป สุคนธรสชกแต่หมอผีสมคิดจับหมัดได้แล้วตบสุคนธรสด้วยมืออีกข้างจนสุคนธรสกระเด็น

ญาณินลืมตาผึ่ง
“เป็นไงบ้างครับคุณณิน เจอคุณรสมั้ย”
“ไม่เจอเลยค่ะ”
แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงเนตรศิตางศุ์ร้องดังมา

“ว้าย!”

ทุกคนผงะ ตกใจ รีบวิ่งไปตามเสียงจึงเห็นเนตรศิตางศุ์กำลังยืนปิดตาอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง

“คุณเนตร ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่นี่แล้วค่อยๆ ตั้งสตินะครับ แล้วบอกผมว่าคุณเห็นอะไร” หมอวรวรรธบอก ญาณิน กรรณา กรรัมภา ก๊อง ติณห์วิ่งตามมาสมทบ
“หมอคะ ตรงนั้นมีผู้หญิงยืนอยู่”
เนตรศิตางศุ์ชี้ไปทางด้านหนึ่ง หมอวรวรรธมองตามไป ทุกคนหันมองตามไปแต่ไม่เห็นอะไร กุมาริกาโผล่แว่บขึ้นมามอง ตาโต จำได้
“นั่น พี่ผู้หญิงท้องคนนั้น ที่อยู่ในรถกับพี่รสนี่นา”
ผีหญิงสาวท้องที่ศพถูกหมอผีสมคิดอุ้มมาด้วยกำลังเดินซวนเซ อ่อนแรง มือประคองท้องเอาไว้ ที่ขามีเลือดที่เปื้อนไปทั้งขา กำลังร้องครวญด้วยความเจ็บปวด โดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองตายแล้วและหน้าท้องถูกผ่าออก
“ช่วยด้วย ช่วยชั้นกับลูกด้วย”
สุคนธรสผลักหมอผีสมคิดออกสุดแรง
“ไอ้เลว หลงมัวเมาอยู่กับกิเลส กามราคะ”
“เรียกร้องการใช้กำลังใช่ไหม ได้”
หมอผีสมคิดบริกรรมคาถา แปะมืออีกข้างบนหัวสุคนธรส เหนือหัวสุคนธรสมียันต์สีดำปรากฏขึ้นพร้อมมีอักขระสีดำอยู่บนยันต์สีดำนั้น ลอยคลุมหัวสุคนธรสอยู่ เธอพยายามจะขยับหนีแต่ทำไม่ได้ มือเท้าหนักไปหมด สุคนธรสถูกคาถา งงงวย จากที่โวยวายก็กลายเป็นสงบ ค่อยๆ จับมือหมอผีสมคิดอย่างทะนุถนอม เอามาแนบแก้ม ดมกลิ่น ชื่นชม รักใคร่
“ทำตัวดีๆ แบบนี้สิ ถึงจะน่ารัก”
ที่ข้างทางบริเวณเซฟเฮ้าส์หมอผีสมคิด ผีสาวท้องยังเดินครวญหาคนช่วยเหลือ โดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองตายแล้ว
“ช่วยด้วย ช่วยชั้นกับลูกที”
จิตของญาณินหลุดออกมาจากร่างที่ติณห์กำลังประคองดูแลอยู่ จิตญาณินเดินเข้าไปหาผีสาวท้องตนนั้น
เนตรศิตางศุ์มองผีสาวท้องอย่างกลัวๆ กล้าๆ
“คุณเนตร คุณณินปลอดภัยหรือเปล่า”
ติณห์ถาม ขณะที่จิตญาณินเข้ามายืนตรงหน้า ผีสาวท้องหันมาเห็น
“คุณ ช่วยชั้นด้วย ช่วยชั้นกับลูกที ชั้นเจ็บท้องเหลือเกิน ลูกคงใกล้จะคลอด พาชั้นไปโรงพยาบาลทีนะ”
“คุณคะ” ญาณินมองผีท้องอย่างสงสารเมตตา
“ช่วยด้วย ช่วยชั้นกับลูกที ชั้นไม่อยากเสียลูกคนนี้ไป ช่วยเมตตาชั้นกับลูกทีนะ”
“เอ่อ คือชั้นอยากจะช่วยคุณนะ แต่ แต่มันคงไม่ทันแล้ว”
“ชั้นปวดท้อง ช่วยชั้นด้วย ช่วยชั้นกับลูกที”
“ชั้นจะบอกความจริงกับคุณ แต่คุณต้องตั้งสติดีๆ นะคะ คือว่า คุณ ตายแล้ว”
ผีท้องจ้องญาณินอย่างพิศวง เงียบสนิท ผีท้องก้มมองท้องและมือที่เปื้อนเลือดของตัวเองแล้วผงะ
“ไม่”
“ชั้นรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ ไอ้พวกหมอสมคิดผ่าท้องเอาลูกคุณไปทำกุมารดำ และตอนนี้เพื่อนชั้นกำลังอยู่ในอันตราย คุณช่วยบอกชั้นว่าคุณเดินออกมาจากที่ไหน บ้านหลังไหน นะคะ”
“ไม่จริง ลูกแม่” ผีท้องร้องไห้ออกมา
“คุณคะ ได้โปรดเถอะค่ะ บอกชั้นที นะคะ”
จู่ๆ ผีท้องหันมาบีบคอญาณิน หน้าตากลายเป็นผีซีดเขียว ลิ้นจุกปาก ตาเหลือก น่าเกลียดน่ากลัว
“ไม่จริง เอาลูกชั้นคืนมา”
ญาณินถูกบีบคอ หายใจไม่ออก เล็บของผีท้องงอกยาวออกมาแหลมคมจิกเข้าไปในเนื้อต้นคอของญาณิน จนเนื้อบุ๋มลงไป เนตรศิตางศ์ตกใจ
“เจ๊ณิน”
“ยัยเจ๊เป็นอะไร” กรรัมภารีบถาม
ร่างของญาณินที่ติณห์ประคองอยู่ ดิ้นๆ ชักๆ
“เกิดอะไรขึ้นกับคุณณิน คุณเนตร บอกผมมา”
“โกลเด้นท์เบบี้ ช่วยเจ๊เร็ว” กรรณาบอกกุมาริกา
“ปล่อยเจ๊จีจ้านะ”
กุมาริกาพุ่งเข้าไปช่วย แต่ผีท้องหันขวับมาตะปบกุมาริกาจนกระเด้ง น็อกไป
“ไม่ เอาลูกชั้นคืนมา พวกแกฆ่าลูกชั้น ชั้นจะฆ่าพวกแกทุกคน”
ทุกคนผงะสยอง ก๊องเห็นร่างญาณินที่ชักไม่หยุด
“ไม่มีใครปราบผีได้เลยเหรอ เจ๊ตายแน่ๆ”
“พวกชั้นมีแต่เซ้นส์ มียัยสุคนธรสคนเดียวที่มีอาคมปราบผีได้”
“หมอ ฝากคุณณินที” ติณห์ส่งร่างญาณินให้หมอวรวรรธประคอง แล้วติณห์ก็เดินออกไป “ทางไหนคุณเนตร”
“ไอ้ฝรั่ง แกจะทำบ้าอะไร”
“ตรงนั้นค่ะคุณติณห์ ระวังตัวนะคะ เขามีความเครียดสีดำรอบตัวเลยค่ะ”
ติณห์ไม่หยุด เดินตรงเข้าไปหาผี
“คุณ คุณอย่าทำอะไรคุณณินเลย ผมขอร้อง ผมรู้ว่าคุณกำลังโกรธ แต่เขาไม่ได้เป็นคนทำร้ายคุณกับลูก คุณกำลังทำร้ายคนดี ปล่อยเธอเถอะ แล้วพวกเราจะช่วยให้คุณได้เจอกับลูกคุณอีกครั้ง” ติณห์บอกทั้งที่ตัวเองไม่เห็นผี
“แก เอาลูกชั้นมา”
ผีท้องพุ่งเข้าใส่ติณห์ จนติณห์ล้มหงายไปลุกไม่ขึ้น เพราะผีท้องนั่งคร่อมทับอยู่
“อ๊าก”
“แฮ่ เอาลูกชั้นคืนมา”
ไตรรัตน์วิ่งเข้ามา

“คุณติณห์”

ผีท้องที่กำลังจะทำร้ายติณห์ถึงกับผงะกระเด็นไปไกล เพราะไตรรัตน์สวมสร้อยพระรอดอยู่ที่คอนั่นเอง สร้อยลอยออกมานอกคอเสื้อ เปล่งแสงเป็นประกายวูบวาบๆ
“พระรอดของยัยรส ช่วยทั้งไตรรัตน์และคุณติณห์”
กุมาริกาวิ่งประคองจิตญาณินเข้ามาที่ร่าง จิตญาณินจางหายไปแล้วร่างของญาณินก็ได้สติ ไอแค่กๆ เหมือนคนขาดอากาศหายใจ
“เจ๊จีจ้าฟื้นแล้ว”
ติณห์โล่งอกอยากจะไปหา แต่ก็เจ็บเกินกว่าจะไปได้ในทันที หมอวรวรรธรีบเข้ามาดูแลญาณิน
“ไอ้ติณห์เป็นอะไร” ณัฐเดชตามเข้ามา
แล้วทุกคนก็หันมาเห็นร่างจางๆ ของผีท้องที่ทรุดอยู่ด้านหนึ่ง ใบหน้ากลับมาปกติ อ่อนแรง คร่ำครวญหาลูก
ณัฐเดช ไตรรัตน์ผงะ ถอยออกห่าง
“ลูก ลูกแม่ แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ”
ญาณินผละออกจากหมอวรวรรธ พูดกับผีท้อง
“คุณคะ ได้โปรดเชื่อพวกเราเถอะ คนที่ฆ่าคุณกับลูก ไอ้หมอผีคนนี้มันชั่วร้ายมาก อย่าให้ต้องมีใครกลายเป็นเหยื่อเหมือนกับคุณอีกเลย”
แววตาผีท้องอ่อนลง กุมาริกาเข้าไปจับมืออย่างอ่อนโยน
“บอกพวกหนูเถอะนะคะ หนูสัญญาว่าจะช่วยคุณให้ได้พบกับลูกอีก นะคะ”

ภายในเซฟเฮ้าส์ สุคนธรสจูบนิ้วหมอผีสมคิดทีละนิ้ว แล้วถอยแบบอาลัยอาวรณ์ แล้วค่อยๆ ทำท่าเหมือนเต้นระบำเล็กๆ สุคนธรสพุ่งเข้ามาปลดดุมเสื้อหมอผีสมคิดทีละเม็ดๆ นัวเนียหมอผีสมคิดอย่างต้องมนต์ ปลดเสื้อตัวนอกหมอผีสมคิดออก เอามือแตะไหล่หมอผีสมคิดแล้วเต้นขึ้นๆ ลงๆ เหมือนระบำรูดเสา หมอผีสมคิดจับสุคนธรสเข้ามากอดและหอม

ด้านนอกที่ทางเดินที่ทอดยาวไปสุดไกล ที่ปลายของทางเดินนั้นคือเซฟเฮ้าส์หมอผีสมคิด มีพื้นที่บริเวณกว้างขวาง ติดเขื่อนริมทะเล
“ชั้นมาจากในนี้” ผีท้องก้าวนำมา ทุกคนมายืนมองบ้านหลังนั้น “ชั้นอยู่หลังรถคันนั้น”
“ในโรงรถหรือครับ”
ไตรรัตน์ไม่รอช้าเดินไป แต่อยู่ๆ ก็มีแผ่นไม้ลอยคว้างมาปักลงพื้นข้างหน้าไตรรัตน์กับณัฐเดชเหมือนเตือนไม่ให้เดินเข้ามาใกล้ ณัฐเดชกับไตรรัตน์อึ้ง เพราะฉิวเฉียด
“รู้สึกว่า จะมีอะไรไม่ธรรมดา พยายามเตือนพวกเรา ไม่ให้เข้าไปใกล้นะ”
“ต่อให้มีผีเป็นกองทัพ ชั้นก็ต้องช่วยคุณรสให้ได้ คุณณินผมฝากย่ามของคุณรสด้วย” ไตรรัตน์ส่งย่ามสุคนธรสให้ญาณิน “ส่วนผม แค่มีพระรอดของคุณรสก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว”
ไตรรัตน์เดินเข้าไป ไม่หยุด เนตรศิตางศุ์เห็นอะไรบางอย่างที่หน้าบ้านหลังนั้น
“เอ๊ะ นั่น” เนตรศิตางศุ์ผงะ ถอยมาคว้ามือกรรัมภา “แก้ม เห็นอย่างที่เนตรเห็นมั้ย”
กรรัมภามองไปที่หน้าบ้านหลังนั้น จึงเห็นวิญญาณผีไอ้ธรรม คำรามคลุ้มคลั่ง กำลังยืนผงาดอารักขาหน้าบ้านเอาไว้เป็นผีเฝ้าประตู กรรัมภากับเนตรศิตางศุ์สยอง
“นั่นมันผีที่เคยตามคุณไตรรัตน์นี่”
ผีไอ้ธรรมคำรามข่มขู่
“คุณไตร ระวัง”
เนตรศิตางศุ์ตะโกนเตือน ผีไอ้ธรรมพุ่งเข้ามาจะทำร้ายไตรรัตน์ แต่แล้วต้องผงะ ไตรรัตน์มีอานุภาพของพระรอดเปล่งแสงปกป้องอยู่
“คนดี พระย่อมคุ้มครอง” ไตรรัตน์ตะโกนบอก ผีไอ้ธรรมคำราม
ไตรรัตน์เดินรี่เข้าไปพวกผู้ชายเกาะติดไตรรัตน์ไปทั้งทีม พวกสาวๆ หยิบของขลังในย่ามสุคนธรสขึ้นมาคนละอย่าง แล้วยกชูขึ้น เดินเรียงเข้าไป ผีไอ้ธรรมถอยๆ แล้วจางบางเบาลง

ภายในเซฟเฮ้าส์ หมอผีสมคิดจับตัวสุคนธรสเข้ามากอดแล้วก้มลงไปจะจูบ แต่แล้วหมอผีสมคิดก็ชะงัก รับรู้ได้ว่าผู้บุกรุกเข้ามา แววตาเปลี่ยนเป็นกร้าวขึ้นมาทันที ผละออกจากสุคนธรส
“พวกมัน หนอย ไอ้พวกแมลงหวี่แมลงวัน สร้างความรำคาญไม่รู้จักจบจักสิ้น วันนี้พวกแกไม่ได้ตายดีแน่” สุคนธรสตามนัวเนียลูบไล้ใบหน้าหมอผีสมคิดอย่างหลงใหลไม่เลิก
“หยุด ไปนั่งรอตรงนั้น”
สุคนธรสทำตามอย่างว่าง่าย หมอผีสมคิดเปิดประตูห้องออกเห็นหาญกับกล้าเฝ้ารอหน้าประตู แทบคะมำเข้ามา เพราะแอบฟังอยู่
“พวกแกเฝ้านังนี่ไว้”
หมอผีสมคิดรีบเดินออกไป หมอผีสมคิดเดินออกมาที่เฉลียงชั้นบนแล้วบริกรรมคาถา

ขณะนั้นไตรรัตน์นำทีมพวกผู้ชายเดินนำเข้ามา พวกสาวๆ เดินตามมา
“ชั้นอยู่นั่น ช่วยชั้นด้วย” ผีท้องปรากฎตัวตรงหน้ากรรณาแล้วชี้ไปที่รถ
“ชั้นได้ยินแล้ว ตรงนั้น” กรรณาชี้มือไปที่รถหมอผีสมคิด
“ในรถเหรอ ตรงไหน”

ก๊องกร่างเดินรอบรถแล้วพอเห็นในกระบะรถถึงกับสะอึก เซแซ่ดๆ ถอยหลัง
 
“อะไร ก๊อง” ณัฐเดชเข้าไปดูแล้วผงะ เมื่อศพหญิงท้องนอนคากระบะรถ “ไอ้พวกเลว มันเอาเค้ามาทิ้งไว้ยังกะไมใช่คน”
“ไอ้พวกหมอผีมันโดนข้อหาฆ่าคนอีกข้อหาแล้ว”
“พวกคุณไม่ต้องมาดูเลย ถอยออกไป” ติณห์บอก พวกผู้หญิงจับมือกันแน่นต่างเห็นผี
“เราจะช่วยคุณนะ” ญาณินบอกกับผีท้อง “เราจัดการกับพวกมันแล้ว จะทำพิธีช่วยคุณกับลูกนะคะ คุณช่วยเราด้วยนะคะ”
“ไอ้หมอสมคิด พวกแกต้องพินาศ”
“มันโหดขนาดนี้ แล้วคุณรสล่ะ” ไตรรัตน์รีบวิ่งเข้าไป ที่เฉลียงชั้นบนหมผีอสมคิดสวดดังขึ้นๆ
อีกด้านนึงผีไอ้ธรรมที่ร่างกายซีดๆ จางๆ ได้ยินเสียงสวดของหมอผีสมคิด มีท่าทางเจ็บปวดทรมานไปทั้งร่างกาย พลันร่างชัดขึ้นจนดูเป็นตัวตนเท่ากับคน เส้นเลือดในตัวปูด บวม เป่ง ตามจังหวะเสียงสวดราวกับเส้นเลือดเหล่านั้นจะปริแตกออก
“ โอ๊ย หยุดสวด ได้โปรด หยุด” ผีไอ้ธรรมเจ็บปวดทรมานหันไปทางที่พวกมนุษย์กำลังเดินเข้าไปในบ้าน “ไอ้พวกบุกรุก แกทำให้ข้าต้องถูกทรมานอีกแล้ว พวกแก พวกแกต้องตาย” ผีไอ้ธรรมหายตัววูบ
ไตรรัตน์วิ่งขึ้นไปที่ระเบียงหน้าบ้าน แต่แล้วผีไอ้ธรรมก็ปรากฏขวางประตูบ้าน พุ่งมาที่ระเบียง พยายามเข้าถึงตัวไตรรัตน์ พระที่ไตรรัตน์สวมเปล่งแสงสีทองเป็นเกราะกำบัง ผีไอ้ธรรมฝืนยื่นมือฝ่าพลังสีทองเข้ามาเห็นว่าทั้งมือและแขนลุกไหม้ แต่ผีไอ้ธรรมก็ไม่หยุด จนกระทั่งถึงตัวไตรรัตน์แล้วต่อยอย่างแรงจนไตรรัตน์ถูกกระแทก ลอยกระเด็นไปตกใส่พวกผู้ชายที่ตามมา เหมือนลูกโบว์ลิ่งล้มไปด้วยกัน
“เฮ้ย ไตรรัตน์ ไหวมั้ย”
ทุกคนลุกมาประคองไตรรัตน์ให้ลุก ผีไอ้ธรรมมีท่าทางทรมานจากเสียงสวดมนต์ของหมอผีสมคิด
“ฆ่ามันๆ” หมอผีสมคิดบงการสั่งผีไอ้ธรรม
“รู้แล้ว รู้แล้วว่าต้องฆ่าพวกมัน” ผีไอ้ธรรมหันมา คลุ้มคลั่ง พร้อมทำร้ายพวกไตรรัตน์ให้ตาย “พวกแก ต้องตาย”
ผีไอ้ธรรมจะพุ่งเข้าใส่ แต่ญาณินดึงมีดหมออาคมออกมาจากย่ามสุคนธรสก้าวออกไปขวาง
“อย่าสร้างเวรสร้างกรรมอีกเลย คุณไม่ได้อยากทำร้ายใคร คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำ”
“มัน มันบังคับข้า” ผีไอ้ธรรมมีอาการเจ็บปวดอีก “โอ๊ย ถ้าข้าไม่ทำตามคำสั่งมัน ข้าจะต้องเจ็บปวดทรมานไม่จบไม่สิ้น ทางเดียวที่ชั้นจะรอดคือกำจัดพวกแกทุกคน”
“ยังมีทางอื่นอีก คุณต้องสู้กับหมอสมคิด อย่าให้อาคมดำของมันมีอำนาจเหนือคุณได้”
“ตั้งจิต ระลึกถึงพระพุทธคุณ แล้วพวกเราจะช่วยแผ่ส่วนกุศลให้คุณอีกแรง”
“ชั้นทำไม่ได้”
“คุณต้องปลดปล่อยตัวเอง ไม่มีอะไรจะกักขังวิญญาณคุณไว้ได้ ถ้าคุณไม่ยอมแพ้”
“ชั้น ชั้นทำไม่ได้”
“ฆ่าๆ”
สุดท้ายแล้วผีไอ้ธรรมก็ต้านอำนาจบงการของหมอผีสมคิดไม่ได้ ร่างกลายเป็นสีแดงเปลวๆ กระโจนพุ่งเข้าใส่ญาณินจนญาณินผงะเซ มีดหมอหล่น พวกกรรณา เนตรศิตางศุ์ กรรัมภาเข้าขวางพนมมือสวดมนต์ แผ่เมตตาให้นายธรรมพร้อมเพรียงกัน
“จงเป็นสุขๆ เถิด อย่ามีเวรและกรรมต่อกันเลย สัพเพ สัตตา อะเวรา”
พวกผู้ชายมองหน้ากัน แล้วทำตาม
“จงเป็นสุขๆเถิด อย่าได้เบียดเบียนกันและกันเลย”
“สัพเพ สัตตา อเวรา อัพยะปัชชา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปาริหะรันตุ”
พลังจากทุกคนเปล่งแสงสีฟ้าเยือกเย็น พุ่งเป็นคลื่นไปที่ผีไอ้ธรรม ผีไอ้ธรรมค่อยจางจากสีแดงกลายเป็นสีม่วง คราม น้ำเงิน แล้วถอยๆ ออกไป ไตรรัตน์อาศัยช่วงนั้นคว้ามีดหมอที่พื้น รีบวิ่งผ่านเข้าไปด้านในตัวบ้านทันที
“ฆ่าๆ”
ณัฐเดชจะตามไตรรัตน์ไปด้วย เสียงฆ่าๆ ของหมอผีสมคิดก้องหูผีไอ้ธรรม ผีไอ้ธรรมพยายามปิดหูร่างกลับกลายเป็นสีแดงอีก กระโจนตามณัฐเดชไปแล้วคว้าตัว ณัฐเดชกระแทกกับเสาหิน
“พี่ณัฐ อย่าทำอะไรพี่ณัฐนะ”
ภายในเซฟเฮ้าส์ สุคนธรสนั่งเคลิ้มๆ หลงๆ แต่แล้วดวงตากลับเบิกกว้างขึ้นแล้วมองรอบๆ สักพักหรี่ตาลงปรือๆ เปิดไหล่ทำท่าลูบๆ นวดๆ คลึงๆ เซ็กซี่ๆ ทำเหมือนไม่เห็นว่าหาญและกล้าที่ยืนเฝ้าอยู่แอบสังเกตพฤติกรรมสุคนธรสตลอด มองอย่างลวนลาม สุคนธรสเงยหน้ามาสบตากับหาญและกล้า หาญกับกล้าจ้องสู้ไม่หลบตา สุคนธรสยิ้ม ยั่วยวน
หาญกับกล้าถึงกับเคลิ้ม สุคนธรสกวักนิ้วเรียกให้ทั้งคู่มานั่งข้างๆ กล้าเคลิ้มจะเข้าไปหาแต่หาญจับแขนกล้าไว้
“เฮ้ย เด็กอาจารย์”
กล้ากับหาญได้แต่มอง ไม่กล้าเข้าไป สุคนธรสลุกเข้ามาหา เดินเข้าไปในอ้อมอกของกล้า คว้าแขนกล้าให้มาโอบตัวเอง แล้วก็คว้าแขนหาญให้มาโอบเอวตัวเองด้วย ก่อนจะค่อยๆ ไล้มือไปที่ใบหน้าของทั้งคู่ จนหาญกับกล้าเคลิ้ม แล้วทันใดนั้นก็จับหัวทั้งคู่มากระแทกกันอย่างแรง
หาญ กล้าร่วงทรุด มึนงง สุคนธรสเข่าเต็มๆ ที่หน้าของหาญและเตะกล้าลงไปกองน็อคทันที

“อี๋ หยะแหยง คิดว่าอาคมกระจอกๆ ของหมอสมคิดจะทำอะไรชั้นได้เหรอ ดูถูกกันเกินไปแล้ว”
 
อ่านต่อหน้า 3  

The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ ตอนที่ 19 (ต่อ)


ผีไอ้ธรรมยังคงไม่วางมือจากณัฐเดช
“พี่ณัฐตายแน่ๆ”
“ไม่นะ”
พวกญาณินรีบพนมมือ วิ่งมาแผ่เมตตาพร้อมกัน
“สัพเพ สัตตา อะเวรา”
“อัพยะปัชชา อะนีฆา”
ณัฐเดชที่เกือบสลบ เงยมาช่วยแผ่เมตตาด้วย
“สุขีอัตตนัง ปะริหะรันตุ”
“สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น”
“จงเป็นสุขๆ เถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย”
“จงเป็นสุขๆ เถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย”
“จงเป็นสุขๆ เถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย”
“จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นนี้เทอญฯ”
ผีไอ้ธรรมหอบๆ ตัวสลับสี เดี๋ยวแดง เดี๋ยวน้ำเงิน

หมอผีสมคิดกำลังบริกรรมคาถาอยู่ แต่ต้องชะงักเมื่อไตรรัตน์วิ่งเข้ามา
“ไอ้หมอผีสมคิด” ไตรรัตน์ไม่พูดพล่าม โดดเข้าแทงหมอผีสมคิด “แกเอาคุณรสไปไว้ไหนไอ้ชั่ว”
หมอผีสมคิดหลบฉากได้ ทั้งที่ไตรรัตน์มีมีดแต่หมอผีสมคิดก็หลบได้ตลอดและต่อยไตรรัตน์โดนหลายหมัด ทั้งสองคนผลัดกันรุกผลัดกันรับจนกระทั่งไตรรัตน์ถูกถีบกระเด็น
“แก ไอ้ไตรรัตน์ แกกล้ามากที่ลองดีกับชั้น อยากจะเจอนังสุคนธรสใช่มั้ย ได้ แกได้เจอแน่แต่แกจะยังมีสติจำกันได้หรือเปล่า”
หมอผีสมคิดท่องอาคมใส่ไตรรัตน์ ไตรรัตน์มีอาการเหมือนคนถูกของ หน้าหงายตึงแล้วก็เห็นภาพหลอน เห็นเสี่ยจำเริญ เจ๊หญิงเดินเข้ามา ทีแรกก็มาในสภาพปกติ
“เตี่ย ม้า มากันได้ยังไง”
แต่แล้วแต่ละคนก็ค่อยๆ ก้าวมาหาไตรรัตน์ หน้าตาเหี้ยมเกรียมเข้ารุมตบตีไตรรัตน์กระเด็นไปมา ไตรรัตน์ถือมีด แต่ไม่กล้าทำครอบครัวตัวเอง ผงะ กลัว ถูกคนผีเหล่านั้นรุมสกรัม
“เตี่ย อย่า อย่าทำผม”
ไตรรัตน์หลอนไปเองคนเดียว ล้มเอง กระเด็นเอง หมอผีสมคิดหัวเราะ อยู่ๆ สุคนธรสโผล่มาจากไหนไม่ทราบ มาถึงก็โดดถีบหมอผีสมคิดอย่างจังจนหมอผีสมคิดหน้าคะมำไป
“อาม่า อย่ากินตับผม อย่าๆ”
“นายไตวาย”
ไตรรัตน์ได้สติ มึนงง ค่อยๆ หันมองรอบๆ จนเห็นสุคนธรส
“คุณรส”
สุคนธรสกำลังจะวิ่งเข้าไปหาไตรรัตน์ แต่ยังไม่ทันไร หาญกับกล้าวิ่งตามออกมาถือปืนมาเล็ง พร้อมยิง
“พวกแกตาย” หาญยิง
สุคนธรสกับไตรรัตน์จำต้องกระโจนหลบไปคนละทาง หาญไล่ยิงไม่หยุด ไตรรัตน์กับสุคนธรสจำต้องวิ่งหนีไปคนละด้าน แยกย้ายกันไป
“ตามไปฆ่าพวกมันให้หมด ไป”
หาญ กล้า แยกย้ายกันไป หมอผีสมคิดปาดเลือดมุมปากอย่างแค้นๆ

สุคนธรสวิ่งหนีออกจากบ้านมาโผล่ที่ด้านหลังของบ้านที่ติดกับสวนสน สุคนธรสวิ่งไปตามทางเดินข้างสวนสน
หาญกับกล้าวิ่งตามหลังมา
“มันอยู่นั่น”
สุคนธรสวิ่งมาแต่แล้วก็หยุดกึก เพราะหาญมาดักหน้าพร้อมเล็งปืนมาที่สุคนธรส ด้านหลังกล้าวิ่งตามมาสมทบ
“ยิงมันเลยไอ้หาญ”
“จัดไป”
สุคนธรสยกมือขึ้นพนม แล้วบริกรรมคาถา
“สะหัส สะสีเส ปิเจโปโสนีเส สีเสสะตัง สุขามุเข”
พลันหาญถึงกับชะงักมองซ้ายขวาอย่างงงงวยเมื่อเห็นสุคนธรสเป็นสิบคนยืนกระจายอยู่รอบๆ หาญ
“ทำอะไรวะ ยิงมันเลย” หาญยิงกราดไปทั่ว ปังๆ ลูกปืนเฉี่ยวกล้า “เฮ้ย เกือบโดนชั้นแล้ว เป็นอะไรไปวะ”
ไตรรัตน์โผล่มาจากอีกด้านนึง ฉวยจังหวะหาญมึนงงต่อยเข้าเต็มกราม ปืนหล่น
“คุณรส ไป”
ทั้งคู่รีบวิ่งหลบเข้าไปในสวนสน
“โอ้โห ไอ้หาญโดนไปเต็มกรามเลย”
หาญตาลอย กล้ากำลังจะตามไป แต่หมอผีสมคิดมาเรียกไว้
“ไม่ต้องตาม เพราะพวกมันจะไม่มีวันได้ออกมาอีก”
หมอผีสมคิดท่องคาถา สุคนธรสรีบวิ่งไป ไตรรัตน์ก็วิ่งมา ทั้งสองกำลังจะถึงตัวกัน แต่อยู่ๆ สวนสนเหล่านั้นกลับเคลื่อนตัวเลื่อนเข้ามาขวางกลางของทั้งคู่ กลายเป็นกำแพงสวนสนหนาทึบ เดินฝ่าไม่ได้ ทั้งสองคนต่างผงะ เข้าไม่ถึงตัว ได้แต่ร้องเรียก
“คุณรส”
“นายไตวาย”
ไตรรัตน์พยายามเรียกหาสุคนธรส

“คุณรส คุณรส” มีเสียงสุคนธรสดังกลับมาคล้ายกับว่าทั้งสองคนอยู่ไกลกันมาก “นี่มันอะไรกัน”

 
สุคนธรสมองไปทางไหนก็มีแต่สวนสนที่สูงดั่งกำแพง กลายเป็นเขาวงกต
 
“คาถาชูชกหลงเขาวงกต ต้องใช่แน่ๆ หลวงลุงเคยพูดให้ฟังว่ามันเป็นอาคมชั้นสูง น้อยคนนักที่จะใช้อาคมนี้ได้สำเร็จ”
“เรากำลังติดอยู่ในเขาวงกตอาคมเหรอ แล้ว แล้วหลวงลุงบอกใช่มั้ยว่าจะต้องทำยังไง เราถึงจะหลุดไปได้”
“ไม่”
“ไม่ ไม่อะไร”
“ไม่เคยมีใครหลุดออกไปได้”
ไตรรัตน์กับสุคนธรสหน้าซีด

ที่หน้าเซฟเฮ้าส์ขณะนั้นทุกคนพนมมือแผ่ส่วนกุศลให้ผีไอ้ธรรม ผีไอ้ธรรมยังคงดุดันพยายามต่อต้านกับอำนาจมืดของหมอผีสมคิด ตัวเกร็ง สั่นเทิ้มไปหมด
“ได้โปรด ได้โปรดเปิดใจให้พวกเราเถอะ”
“ชั้นไม่ได้ยินเสียงสวดบังคับผีนายธรรมจากไอ้หมอสมคิดแล้ว”
ทันใดผีไอ้ธรรมกลายเป็นสีฟ้าอ่อน ตัดสินใจ ผละออก ปล่อยณัฐเดชร่วงลงกับพื้น ตุ้บ
“พี่ณัฐ”
เนตรศิตางศุ์กับหมอวรวรรธรีบไปดูแลณัฐเดช ผีไอ้ธรรมยืนอยู่อีกด้าน คอตึง มือกำเกร็ง ส่งเสียงฮืดฮาด คำรามน่ากลัวตลอด
“พวกเราสัญญา ทันทีที่ช่วยยัยรสได้ เราจะทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณคุณให้หลุดพ้นจากบ่วงพันธการนี้แล้วไปสู่สุคติ”
ญาณินบอก ผีไอ้ธรรมยังจ้องตาขวาง
“ไป รีบไปหาไตรรัตน์กับคุณรสเถอะ”
ทุกคนได้สติรีบวิ่งไป ผีไอ้ธรรมยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย

ที่สวนสน สุคนธรสพยายามเดินไปตามทางเรียกหาไตรรัตน์
“นายไตวาย นายได้ยินชั้นมั้ย”
ไตรรัตน์ก็เดินหลงในวงกต พยายามเรียกหาสุคนธรสเช่นกัน
“คุณรส ทำไมเสียงคุณก็อยู่แค่นี้ ผมถึงหาคุณไม่เจอ ทำไมยิ่งเดินมันก็ยิ่งกลับมาที่เดิมทุกที”
“มันเป็นเพราะอาคมที่พรางตาเราไว้”
“มันต้องมีทางออกสิ มันอาจจะมีเคล็ดลับบางอย่าง ที่เราต้องแก้ไข แล้วมันจะนำเราไปสู่ทางออก ผมจะต้องหาให้เจอ”
ไตรรัตน์ยิ่งเดินหาทางออก ไม่ยอมแพ้ วิ่งไปเรื่อย แต่สุดท้ายก็เหมือนกลับมาที่เดิม
สุคนธรสรู้ว่าการเดินหาไปเรื่อยๆไม่เกิดประโยชน์อะไร จึงหยุดเดินแล้วตั้งสติ
“ไม่ เราต้องไม่หลงกับภาพลวงตาของเขาวงกตตรงหน้า เราต้องคิด มันต้องมีวิธีที่จะออกจากที่นี่ได้ กลิ่น ใช่ต้องมีกลิ่นที่นำพาชั้นออกไปจากวงกตนี้ได้”
สุคนธรสหลับตาใช้เซ้นส์ของตัวเอง ดมกลิ่น แล้วสักครู่ก็ตาเบิกโต
“ฮ้า ทางนี้”
สุคนธรสรีบเดินตามกลิ่นนั้นไป ลัดเลาะ เลี้ยวซ้ายขวา สลับไปสลับมา มั่นใจว่าเจอทางออกแน่ แต่แล้วเมื่อมาสุดปลายทางเดินก็ต้องผงะเพราะเจอหมอผีสมคิด สุคนธรสอึ้ง
“ตามกลิ่นชั้นมาถึงที่เลยนะแม่หมอ หึๆ”
สุคนธรสหน้าซีด

ขณะนั้นกล้ากำลังช่วยหาญที่เริ่มได้สติ
“ตื่นได้แล้วไอ้หาญ รีบไปช่วยอาจารย์เร็ว”
พอทั้งคู่เริ่มจะขยับ ผีสาวท้องวืบมาประจันหน้าหาญกับกล้า ทั้งคู่ผงะ ซีด
“พวกแกฆ่าลูกชั้น พวกแกต้องชดใช้”
ผีท้องแยกเขี้ยวคำราม หาญ กล้า วิ่งหนีกันกระเจิง
“เฮ้ย แล้วเราหนีมาทางนี้ทำไมวะ ทำไมเราไม่หนีไปหาอาจารย์ให้ท่านช่วยว่ะ”
“เออ นั่นดิ ไปๆ”
“ทางนี้”
“ทางนี้”
หาญกับกล้าจะหันกลับมาเรียกกันและกัน แต่ต้องผงะเพราะผีท้องยืนอยู่ ทั้งคู่ร้องลั่นวิ่งหนีไปคนละทาง

หมอผีสมคิดก้าวเข้าหาสุคนธรส
“คิดว่าชั้นจะปล่อยให้เธอหนีได้เหรอ”
สุคนธรสท่องคาถาบางอย่าง ทันใดหมอผีสมคิดเห็นภาพว่าสุคนธรสแตกตัวแยกร่างออกมาเป็นสิบๆ ร่าง หลอกตา

“คาถาพรหมพันหน้า หึๆ ฝีมือไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ”

 
หมอผีสมคิดท่องคาถาชูมือขึ้น ทันใดมีนกกาตัวหนึ่งดวงตาแดงเลือด ตัวโตราวกับนางพญากา บินมาวนเวียนเหนือศีรษะหมอผีสมคิด มันบินวนเวียนไปมาแล้วทันทีที่หมอผีสมคิดชี้มือไปที่สุคนธรส พญากาตัวนั้นก็บินเลือกหาไปตามสุคนธรสทั้ง10 ว่าไหนตัวจริง แล้วพุ่งเข้าไปหาสุคนธรสตัวจริง ปากจิกกัดลงไปบนเนื้อไหล่สุคนธรสเต็มๆ
 
“โอ๊ย”
สุคนธรสผละล้มไป อาคมหมดฤทธิ์
ไตรรัตน์ที่กำลังวิ่งหาทางออกได้ยินเสียงดังมาถึงกับชะงัก ตกใจ เป็นห่วงสุคนธรส
“คุณรส เกิดอะไรขึ้น คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
สุคนธรสบาดเจ็บ พยายามปัดป้องขับไล่พญากาตัวนั้น จนตัวเองเซล้มไปกับพื้น กอนที่พญากาจะบินกลับไปเกาะบ่าหมอผีสมคิด
“หึๆ หมดเวลาเล่นสนุกแล้ว ทีนี้คือของจริง”
หมอผีสมคิดกางมือขึ้นฟ้า บนท้องฟ้ากลายเป็นทะมึนครึ้มเพราะนกกาอีกนับไม่ถ้วนบินเข้ามาเต็มท้องฟ้า
ไตรรัตน์เห็นฟ้ามืด เงยมองท้องฟ้าเห็นอีกามากมายก็ตกใจ
“คุณรส”
พวกอีกาอีกมากมายบินมาเกาะตามพื้น ตามต้นไม้ด้านหลังหมอผีสมคิดเต็มไปหมด สุคนธรสรู้ว่าไม่รอดแน่ ค่อยยันตัวยืนขึ้น
“ในเมื่อแกเล่นอาคมระดับนี้ ชั้นก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องออมมือให้กับแกอีกแล้ว อย่างแกมันต้องเจอคาถาขั้นสุดยอดของหลวงลุงสุวิทย์ คาถาโกยเถอะโยม”
ว่าแล้วสุคนธรสก็วิ่งหนีไม่คิดชีวิต อีกาทั้งหมดบินพุ่งไล่ล่าสุคนธรสส่งเสียงระงม

กล้าวิ่งหนีผีท้องมาด้วยท่าทางหอบเหนื่อยสุดๆ จนพิงต้นไม้ ทรุดนั่งพักหายใจ แล้วสักพักก็รู้สึกว่ามีน้ำเหลืองหยดลงมาบนตัวจึงแหงนหน้าขึ้นมอง แต่ไม่พบอะไร แต่พอก้มหน้าลงมากลับพบผีหญิงท้อง ลูกตาคนปะทะลูกตาโปนๆ ของผี
“อ๊าก”

หาญวิ่งหนีมาอีกทางแต่อยู่ๆ สะดุดกิ่งไม้ล้มลง ทีแรกหาญตกใจเพราะคิดว่าเป็นมือผี พยายามกระเสือกกระสนตัวหนี แต่พอเห็นชัดๆ ว่าเป็นกิ่งไม้ก็โล่งใจ ยันตัวลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงเด็กร้อง อุแว้ อุแว้
“เฮ้ย ไปไกลๆ ไม่งั้นชั้นจะบอกอาจารย์ให้จับพวกแกขังในโกศนะโว้ย”
“อุแว้ อุแว้”
หาญเห็นเด็กโผล่จากมุมนั้นที มุมนี้ที วิ่งหนีสติกระเจิง หาญจะหนีแต่มือผีท้องจับหัวหาญเอาไว้แน่น เต็มสองมือ
“อ๊าก”
หาญสยองจนยืนสิ้นสติ

ที่สวนสน ไตรรัตน์วิ่งหาทางออกยังไงก็หาไม่เจอได้ยินแต่เสียงอีการะงมรู้ว่าสุคนธรสมีอันตราย ร้อนใจ คิดจะไปช่วย แต่หาทางออกยังไงก็ไม่พบ
“คุณรส คุณอยู่ไหน คุณรส” ไตรรัตน์ขาเปลี้ย สะดุดก้อนหิน ล้มไปกับพื้น ไตรรัตน์สิ้นหนทางคว้าพระรอดขึ้นมาพนมมือ ตั้งจิต “ข้าพเจ้าขอน้อมกระแสพระพุทธเจ้า พระพุทธศาสนา พระพุทธคุณ อำนาจและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ได้โปรด ช่วยคุ้มครองคุณรสให้ปลอดภัยด้วยเถอะ ช่วยคุณรสด้วย อย่าปล่อยให้คนดีๆ อย่างคุณรสมีอันเป็นไป ให้ผมตายแทนเสียยังดีกว่า ได้โปรด ผมไม่เคยเชื่อ ไม่เคยศรัทธาในพุทธศาสนา ไม่เคยคิดจะบวช เมตตาคนบาปอย่างผม ด้วยการปกป้องคุณรส ผมขอแค่นี้” ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไตรรัตน์สิ้นหวัง “ผมขอแค่คุณรสปลอดภัย แค่นี้จริงๆ”
ขณะที่ไตรรัตน์กำลังสิ้นหวัง คิดฮึด รวบรวมแรงจะลุกไปตามหาสุคนธรสอีก อยู่ๆ พระรอดก็เปล่งประกาย เกิดลำแสงสีขาวนวลส่องสว่างเป็นทางจากพระรอดนั้น พุ่งไปที่พุ่มต้นสนทำให้ภาพลวงตานั้นจางหายไป เปิดทางให้ไตรรัตน์เห็นสุคนธรสที่กำลังล้มเสียท่าจะถูกฝูงอีการุมทึ้ง
“คุณรส”
ไตรรัตน์รีบคว้าตัวสุคนธรส จับมือได้ดึงมาสุดแรง เป็นจังหวะเดียวกับที่ฝูงอีกาพุ่งมาถึงตัว สุคนธรสรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ไตรรัตน์กอดสุคนธรสแนบแน่น
“คุณปลอดภัยแล้วคุณรส ขอบคุณพระพุทธคุณและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ขอบคุณจริงๆ”
“ไป จกกินมันอย่าให้เหลือแม้แต่กระดูก” หมอผีสมคิดสั่งฝูงกา
“รีบหนีเถอะคุณ เร็ว”

ทุกคนวิ่งมาที่ขอบสวนสน หยุดคุยกัน
“ที่ใหญ่ขนาดนี้จะหาเจอได้ไงเนี่ย”
“ยังไงก็ต้องหาให้เจอล่ะ”
แต่แล้วอยู่ๆ ไตรรัตน์ก็ประคองสุคนธรสวิ่งออกมา
“ยัยรส ยัยรสมาแล้ว”
ทุกคนเข้าไปรุมสุคนธรส
“อย่ามาสนใจชั้น หนีก่อน”

“หนีอะไร”

 
เนตรศิตางศุ์พูดไม่ทันขาดคำ ฝูงอีกาก็บินมาเต็มไปหมดทุกคนผงะ
 
ทุกคนจะหนีแต่ไม่ทัน ฝูงอีกาเข้าโจมตี ทุกคนปัดป้องไล่อีกา เนตรศิตางศุ์กับหมอวรวรรธช่วยกันปกป้องณัฐเดชแต่ก็ไม่วายถูกอีกาจิกแขนจนเลือดสาด หมอผีสมคิดเดินตามเข้ามามองผลงานตัวเอง
“หึๆ พวกแกไม่มีวันรอดกลับไปได้ ไอ้พวกซิกส์เซ้นส์”
ญาณินกับติณห์ช่วยกันขับไล่ มีนกกามาจิกย่ามของสุคนธรสแล้วนกกานั้นกลับสลายกลายเป็นอากาศไป ญาณินได้ไอเดีย รีบโยนย่ามให้สุคนธรส
“ยัยรส ของในนี้ปราบพวกมันได้”
สุคนธรสรับไว้ รีบล้วงหยิบเขี้ยวเสือของขลังในย่ามนั้นออกมา แล้วโยนให้เนตรศิตางศุ์ กรรณา กรรัมภา และญาณินคนละอัน ทุกคนรับของขลังแล้วรู้หน้าที่ยกขึ้นชู
“เขี้ยวเสือไฟ”
ควันออกมาจากเขี้ยว มารวมตัวกัน เป็นควันรูปเสือตาแวววาวตัวใหญ่ แล้วลอยตัวสูงขึ้นๆ เป็นเสือผงาดบนฟ้า แล้วอยู่ๆ ก็เกิดระเบิด กลายเป็นละอองสีทอง เหมือนฝน โปรยปรายมาทั่ว พวกอีกาที่ถูกละอองนี้ก็ชะงักแข็ง กลายเป็นละอองฝุ่น สลายไปในอากาศ
“อาคมพวกมันแก่กล้ามาก ฝากไว้ก่อน”
หมอผีสมคิดหันหลังกลับวิ่งหนีไป
“ไอ้หมอผี”
ไตรรัตน์เห็น รีบวิ่งไล่ตาม

หมอผีสมคิดวิ่งหนีมา ไตรรัตน์โผล่หน้ามาดักถือมีดหมอเอาไว้ในมือ
“ไอ้ไตรรัตน์”
“แกมันซาตานในคราบคนชัดๆ”
หมอผีสมคิดโดดเข้าบู๊กับไตรรัตน์ แลกกันหมัดต่อหมัด จนหมอผีสมคิดเตะมีดในมือของไตรรัตน์กระเด็น ไตรรัตน์เลยชกด้วยมือเปล่า ไตรรัตน์ชกหมอผีสมคิดซ้ำๆ แต่แล้วอยู่ๆ หมอผีสมคิดหันหน้ากลับมากลายเป็นเคธี่ที่ถูกชกอยู่ ไตรรัตน์ผวากระเด้งออก
“เคธี่”
ไตรรัตน์เห็นหมอผีสมคิดเป็นเคธี่
“ธไรซ์ ทำไมธไรซ์ใจร้ายกับเคธี่อย่างนี้ ไม่รักเคธี่แล้วเหรอ”
“ไม่ แกไม่ใช่เคธี่”
“ทำไมธไรซ์พูดอย่างนี้ จำเคธี่ไม่ได้เหรอ เคธี่ยังเป็นเคธี่ ทั้งภายนอกที่มองเห็นและภายในเสื้อผ้าที่ธไรซ์มองไม่เห็น แต่ธไรซ์คงจะจำได้ ใช่มั้ยคะธไรซ์” หมอผีสมคิดในคราบเคธี่จะเข้าประชิด ไตรรัตน์ผละออก
“อย่าเข้ามา แกไม่ใช่เคธี่”
“ทำไมธไรซ์พูดแบบนี้”
“ออกไป”
“โอ๊ย”
หมอผีสมคิดในคราบเคธี่แกล้งเสียหลักจะล้ม ไตรรัตน์เผลอตัวประคองไว้
“เคธี่”
หมอผีสมคิดในคราบเคธี่หันมายิ้มหวานให้
“ธไรซ์ยังเป็นธไรซ์คนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน จุดอ่อนของธไรซ์ก็มีแค่เคธี่คนนี้คนเดียว”
ไตรรัตน์ถอยมองเคธี่ ภาพเหตุการณ์ที่เมืองนอกย้อนกลับมาไตรรัตน์เบิกตาโพลงเมื่อเห็นภาพในอดีต
ไตรรัตน์เปิดประตูห้องนอนช้าๆ ประตูเปิดออกไตรรัตน์ก้าวเข้ามา
“เคธี่ ผมกลับมาแล้ว”
บนเตียงเคธี่นอนอยู่ สะดุ้งตื่น หน้าตาตกใจ
“อ้าว คุณบอกว่าจะกลับมาพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอ”
“Surprise”
ทันใดมีหนุ่มฝรั่งใส่ผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำตัวเปียก เพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ไตรรัตน์ผงะ
“ไธรซ์ มันไม่ใช่อย่างน้าน” เคธี่ยื่นมือมาหา
กลับมาภาพปัจจุบัน หมอผีสมคิดที่ไตรรัตน์เห็นเป็นเคธี่ ค่อยๆ เก็บมีดหมอที่หล่นอยู่ขึ้นมา เงื้อมือกำลังจะแทงไตรรัตน์ แต่อยู่ๆ สุคนธรสวิ่งเข้ามาก่อน เรียกไตรรัตน์เอาไว้
“นายไตวาย”
ไตรรัตน์ได้ยินเสียงสุคนธรส เหมือนตื่นจากภวังค์ จังหวะเดียวกับที่หมอผีสมคิดจะเอามีดแทง ไตรรัตน์จับข้อมือหมอผีสมคิดไว้ได้ทันก่อนมีดจะปักลงที่หน้าตน
“แกตาย”
“คำนี้ชั้นต้องพูดมากกว่า”
ไตรรัตน์จับมือที่ถือมีดไว้ แล้วออกแรงสุดพลังเท่าที่มีดันมือหมอผีสมคิดกลับไปจากนั้นไตรรัตน์ก็ค่อยๆ บิดปลายมีดในมือหมอผีสมคิดกลับไปทางหมอผีสมคิด แล้วค่อยๆ กดมีดนั้น
หมอผีสมคิดพยายามต้านสุดพลังแต่สู้แรงไตรรัตน์ไม่ได้ ปลายมีดค่อยๆ ฝังลงที่ไหปลาร้าของหมอผีสมคิด
“อย่าฆ่าเขา นายไตวาย นายจะบาปเอง”
“อ๊าก”
“ไม่ตายหรอก แค่ไหปลาร้าเท่านั้นเอง ไกลหัวใจเยอะ”
“อ๊าก”
ไตรรัตน์ดึงมีดหมอออกมา
“เป็นไง มีดหมอ หลวงพ่อเดิมของศักดิ์สิทธิ์นะโว้ย”

ไตรรัตน์ต่อยหน้าหมอผีสมคิดจนหมดสติ สิ้นท่า สุคนธรสถอนหายใจเฮือก
 
อ่านต่อหน้า 4 

The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ ตอนที่ 19 (ต่อ)

วันต่อมาที่หน้าสำนักหมอสมคิด ตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิกันพื้นที่ไว้ มีชาวบ้าน มีนักข่าวมาทำข่าว มีพวกครูอาจารย์สาวกของหมอผีสมคิดที่ยังคงแต่งชุดสาวกมาร้องห่มร้องไห้ประท้วงหน้าสำนัก

บริเวณภายในสำนักหมอผีสมคิดที่มีเฉพาะพวกซิกส์เซ้นส์กำลังทำพิธีและตำรวจบางนาย โดยมีณัฐเดชคอยดูแล ที่หน้าโต๊ะพิธีมีเครื่องเซ่นไหว้ อาหารเสื้อผ้าสำหรับดวงวิญญาณ สุคนธรสกำลังปักธูปทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณที่ถูกกักขังต่อหน้าโกศทั้งหมด

“ด้วยอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย ขอให้ดวงวิญญาณทุกดวงที่ถูกกักขังให้จำต้องสถิตอยู่ ณ ที่นี้ เป็นอิสระจากพันธการทั้งปวง ได้ไปในภพภูมิตามแต่กรรมที่มีด้วยเทิด”
โกศต่างๆ ที่เรียงรายกัน มีควันสีเทาจางๆ ของวิญญาณมากมายลอยออกไป ได้รับการปลดปล่อย มีเสียงของวิญญาณร้องโหยหวน / ขอบคุณ / พ้นทุกข์แล้ว / หลุดพ้นซะที ดังจนกรรณาดีใจ น้ำตาไหล
“พวกเขาเป็นอิสระแล้ว”
สุคนธรสกำลังทำพิธีแต่แล้วต้องชะงัก เพราะไตรรัตน์ถือน้ำดื่มเข้ามายื่นให้
“น้ำครับ” ทีแรกสุคนธรสจะเผลอรับ แต่ยั้งมือไว้แล้วเชิ่ดหน้า เดินหนี ไตรรัตน์งง
“อ้าว เป็นอะไรของเค้าอีกเนี่ย”

สุคนธรสเดินแยกมา ไตรรัตน์รีบตามมา
“เดี๋ยวๆ คุณ”
“อะไร”
“งอนอะไรผม”
“ก็ เปล่า”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาโกรธอะไรผมเลยนะ ผมต่างหากที่ต้องโกรธคุณ ที่คุณบ้าบุกเดี่ยวเข้าไปในสำนักหมอสมคิด คิดว่าตัวเองเจ๋งนักเหรอ อวดเก่ง อวดดี ไม่เจียมตัว จนตัวเองเกือบเอาชีวิตไม่รอด”
“นายไตวาย”
“ถ้าคุณเป็นอะไรไป คิดบ้างมั้ยว่าผมจะรู้สึกยังไง” สุคนธรสชะงัก
“นายจะมารู้สึกอะไร คนที่นายมีความรู้สึกรู้สมด้วยไม่ใช่ชั้นหรอก เลิกเสแสร้งได้แล้ว และจำไว้ด้วยว่าชั้นไม่ใช่มูลนิธิการกุศลที่นายจะมาพึ่งพาบำบัดจิต”
“เดี๋ยวก่อน” ไตรรัตน์คว้าแขนสุคนธรสไว้ “คุณพูดเรื่องอะไร”
เคธี่เดินเข้ามา
“ธไรซ์”
ไตรรัตน์เห็นเคธี่ รีบผละออกจากสุคนธรสอัตโนมัติ
“หึ ชั้นพูดผิดตรงไหน ตามสบายนะคะ ชั้นไม่รบกวนเวลาของคุณสองคนแล้ว”
สุคนธรสจะไปแต่ไตรรัตน์ดึงมือไว้
“ไม่ คุณไม่ต้องไป” ไตรรัตน์ดึงมือสุคนธรสมาจับประสาน “คุณต้องอยู่เคียงข้างผม ผมสาบานว่าต่อไปนี้ต่อให้เคธี่แก้ผ้าตรงหน้า ผมก็ไม่รู้สึกพิศวาสแน่นอน”
“เชอะ น้อยไปสิ หมอสมคิดเกือบฆ่านายได้เพราะอะไร หา!”
ไตรรัตน์อ้ำอึ้งหน้าแดง
“คุณรสคิดอะไรอย่างนั้น เคธี่ไม่ได้คิดจะมาคืนดีกับธไรซ์ซะหน่อย”
“แล้วคุณมาทำไม”
“เคธี่ก็ ก็ได้ยินข่าว ก็มาดูตามประสาเพื่อน แต่เคธี่ได้เห็นธไรซ์กับคุณรสลงเอยรักกันอย่างนี้ เคธี่ก็ดีใจด้วย”
“คุณยังมีอะไรข้องใจในตัวผมอีกมั้ย”
สุคนธรสเดินหนี

อีกมุมหนึ่ง ติณห์กับญาณินกำลังลาเพื่อนๆ
“ไปก่อนนะ ญาณิน เป็นห่วงทนายสมชาติกะป้าออ ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ ไปนะๆ” ทั้งคู่กำลังจะไปแต่สุคนธรสเดินหน้าบูดเข้ามา
“อ้าว เป็นไรอีกล่ะยัยรส”
“จะมีอะไรซะอีกล่ะ”
ทุกคนหันไปทางที่กรรณาส่งซิกให้พบไตรรัตน์ยืนอยู่ ไตรรัตน์ทำท่าตั้งหลักสูดลมหายใจให้เข้มแข็ง แล้วฝ่าทุกคนเข้ามา
“คุณรส อ่ะ” ไตรรัตน์ยื่นซองขาวให้ “เตี่ยกับม้าผม ฝากค่าตอบแทนที่คุณช่วยเหลือครอบครัวเรา ช่วยจัดการจนหมอสมคิดโดนปิดสำนักสำเร็จ รับไว้สิ”
“ชั้นไม่รับ”
“หูย โห” สี่สาวเป่าปาก
“เพราะชั้นไม่ได้รับจ้างทำงานนี้ ชั้นก็แค่มีเมตตาอยากจะช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกมารสังคมมันหลอกลวงให้พ้นภัยเท่านั้น”
สี่สาวปรบมือกราว ติณห์หัวเราะก๊ากขำ ชี้หน้าไตรรัตน์ ไตรรัตน์หน้าเจื่อน
“แน่ใจเหรอว่าคุณจะปฏิเสธเงินจำนวนนี้”
“ไม่ค่ะ” สี่สาวบอกพร้อมกันแล้วคะยั้นคะยอให้สุคนธรสรับซองเงินนั้นมา จับมือให้ไปจับซอง จนสุคนธรสจำใจต้องรับซองมา “ว่าไงยัยรส เท่าไหร่ บอกมาๆ”
สี่สาวคะยั้นคะยอให้เปิดสุคนธรสเปิดออกดูพบว่าในซอง มีการ์ด พร้อมแหวนและเขียนว่า
“WILL YOU MARRY ME แต่งงานกับผมนะครับ”
“หือ”
ไตรรัตน์คุกเข่าลง
“ค่าตอบแทนที่เตี่ยกับม้าอยากให้คุณก็คือทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามี และที่ผมมาทำตัวอย่างนี้ต่อหน้าคุณ เพราะผมไม่อยากเสียคุณไป ไม่ใช่เพราะผมอยากให้คุณมาอยู่คุ้มครองป้องกันภัยแต่เพราะผมรักคุณ แต่งงานกับผมนะ”

สี่สาวอึ้งอ้าปากค้าง ติณห์ลุ้น ณัฐเดชหัวเราะค้าง

 
“แต่งเลย แต่งเลย” ติณห์กับณัฐเดชบอกออกมาพร้อมกัน
 
สุคนธรสเหลือบไปมองเคธี่ที่ยืนมองอยู่ เคธี่ทำเป็นไม่สนใจอะไร
“ทำบ้าอะไรของนาย งานยังไม่เสร็จซะหน่อย”
สุคนธรสเดินหนี ไตรรัตน์หน้าแหก พวกสาวๆ และติณห์ส่ายหัว ติณห์เดินไปตบไหล่ไตรรัตน์
“พยายามต่อไปนะ คุณไตรรัตน์”
เคธี่ยิ้มสมใจ

ณัฐเดชคุมตัวหมอผีสมคิดให้ขึ้นรถตำรวจไป ก๊องและตำรวจในเครื่องแบบคนหนึ่งตามไปนั่งประกบหมอผีสมคิดเอาไว้ ควบคุมตัว ระหว่างนั้นพวกสาวกก็เข้ามาร้องห่มร้องไห้ ตะโกนเรียกสมคิดๆ นักข่าวทำข่าวดูวุ่นวาย
“ไงครับ พี่ณัฐ ผมจะไปสอบนายร้อย พี่ว่าสามารถไหม” ก๊องถามณัฐเดช
“เรียนให้จบก่อน แล้วค่อยมาพูด”
สุคนธรสทยอยขึ้นรถซิกส์เซ้นส์ ไตรรัตน์กำลังจะขึ้นขับแต่เคธี่วิ่งเข้ามาก่อน
“ธไรซ์ ธไรซ์จะไปไหนกันคะ พอดีรถเคธี่เสีย เคธี่ไม่รู้จะกลับบ้านยังไง ธไรซ์ว่างไปส่งมั้ยคะ ในฐานะเพื่อนเท่านั้น”
“ผมจะไปอยุธยา”
“อยุธยา ว้าว ดีเลย งั้นเคธี่ไปด้วยคนได้มั้ยคะ”
พวกสาวๆ ในรถส่งเสียงเรียกมา
“เอ้า จะคุยกันอีกนานมั้ยคะ”
สุคนธรสหน้างอ
“เคธี่ เอาไว้เราค่อยคุยกันนะ”
ไตรรัตน์ขึ้นรถปิดประตู เคธี่ได้แต่ยืนกระฟัดกระเฟียด แต่แล้วเคธี่ก็ต้องชะงัก ผงะ เพราะเผลอสบตากับหมอผีสมคิดที่นั่งอยู่ริมกระจกในรถตำรวจที่กำลังแล่นชะลอผ่านมา หมอผีสมคิดจ้องเคธี่ราวกับสะกดจิต เคธี่ตัวแข็ง ค้าง ละสายตาไม่ได้ราวกับตกในภวังค์
หมอผีสมคิดไม่ได้ขยับปาก เสียงนั้นดังก้องเสมือนดังอยู่ในหัวของเคธี่
“ช่วยชั้น แล้วชั้นจะช่วยให้เธอจะได้ในทุกสิ่งที่ต้องการ ความรัก เงินทอง ชื่อเสียงเกียรติยศและนายไตรรัตน์ จะเป็นของเธอ เธอต้องช่วยชั้น ช่วยชั้น”
รถของพวกสุคนธรสแล่นออกไป เคธี่ยืนมองตามไป

ติณห์กำลังขับรถ ญาณินนั่งข้างพยายามกดโทรหาป้าอรวรรณ
“ทำไมป้าออไม่รับสายก็ไม่รู้”
“อาจจะไปเล่นน้ำ ไม่ก็ไปย้อมสีผม เลยรับสายไม่ได้”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ นะ จะงอนให้หนักเลย เรามาเสี่ยงอันตรายขนาดนี้จะเป็นห่วงโทรหาเราบ้างก็ไม่มี”
อยู่ๆ กุมาริกาโผล่แว่บมานั่งในรถ
“นี่คุณติณห์ สัญญาว่าจะซื้อไอแพดให้หนูไง นานแล้วนะ ลืมหรือไง”
“อ้อ ใช่ ซื้อมาแล้ว อยู่ข้างๆ ในกล่องนั่นไง”
กุมาริกาหันไปพบกล่องไอแพดวางอยู่บนเบาะข้างตัว
“โอ้โห ขอบคุณค่ะ สุดยอด”
“นี่ไปสัญญาอะไรกันเมื่อไหร่ห๊ะ”
“ไม่มีอะไร ก็แค่โกลเด้นท์เป็นเด็กน่ารัก คอยดูแลพวกเรา ก็แค่นั้น”
“ใช่ๆ”
ญาณินพยายามมองจับผิดแล้วนึกขึ้นได้
“โกลเด้นท์ ดีแล้ว เธอล่วงหน้าไปรีสอร์ทก่อนเลย ไปดูสิว่าป้าออทำอะไรอยู่ แล้วรีบกลับมาบอกชั้น”
“ก็ด้ะ โอเค”
กุมาริกาหายแว่บไปทันทีพร้อมกล่องไอแพด
“เจ๋งดีเนอะ โซคูลล”
“นี่ ถ้าโกลเด้นท์ติดเกมส์ในไอแพดล่ะก็น่าดู”
ติณห์ขับรถต่อไป

กุมาริกาพุ่งเข้ามาในรีสอร์ทอย่างเร็ว เบรกไม่ทันถลาเข้าไปชนกับต้นไม้หน้าแบน
“โอยย รีบไปหน่อย เบรกไม่อยู่เลย ป้าออ ป้าอออยู่ไหน”
กุมาริกาตามหาป้าอรวรรณแต่ไม่เจอใคร ขณะที่กุมาริกากำลังจะกลับเข้าไปในบ้านสายตาเหลือบไปเห็นว่ามีใครมาด้อมๆ มองๆ ที่เขตรั้วของที่ดิน แต่ทำเป็นไม่เห็น
“ป้าออไม่อยู่ ไปดีกว่า”
กุมาริกากลับเข้าไปด้านใน
เด็กสองคนที่แอบดูคือรักยม หน้าตาไม่เป็นมิตร พอเห็นกุมาริกากลับเข้าไปแล้วก็โผล่ตัวออกมามองตามไป แล้วหันมาซุบซิบกัน แต่จู่ๆ กุมาริกาก็โผล่แว่บมาตรงหน้า
“จ๊ะเอ๋ พวกเธอเป็นใคร มาทำอะไรแถวนี้ ใครส่งมา มีเจตนาอะไร ตอบคำถามทั้งหมดมาเดี๋ยวนี้”
รัก ยม ไม่พูดอะไร เอียงคอมองหน้ากุมาริกาไปมา กุมาริกาเอียงคอตามนึกขึ้นได้มองไอแพดในมือที่เพิ่งได้มาใหม่
“อ๋อ อยากเล่นไอแพดของชั้นใช่มั้ยล่ะ” รัก ยม ไม่ตอบ ระหว่างนั้นที่พื้นดินก็มีรากไม้สีแดงเลื้อยมารัดขากุมาริกาเอาไว้ “เฮ้ย อะไรเนี่ย” รัก ยม ยิ้มแล้วกลายเป็นหัวเราะ รากไม้นั้นเลื้อยพันรัดกุมาริกาเอาไว้ทั้งตัวอย่างรวดเร็ว
“เจ๊จีจ้า ช่วยด้วย ช่วยหนูด้วย”
กุมาริการ้องสุดเสียง

ญาณินนั่งหลับอยู่ในรถถึงกับสะดุ้งตื่น
“ฝันเหรอครับ” ติณห์หันมาถาม
“เปล่าค่ะ แต่โกลเด้นท์ยังไม่กลับมาอีกเหรอคะ”
“ยังครับ”
“คุณขับเร็วกว่านี้ได้มั้ยคะ ชั้นรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ"
“เอาอีกแล้ว คิดมากอีกแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้วครับ ทุกอย่างแฮปปี้เอนดิ้งแล้ว” ญาณินไม่ได้สนใจฟัง มองไปข้างหน้าที่ท้องฟ้าครึ้มแปรปรวน สีแดงม่วงแปลกประหลาด “อย่านะครับ อย่าถอดจิต อย่าทำให้ผมอกแตกตายเพราะเป็นห่วงคุณอีกเลย อดทนอีกนิดนะครับจะถึงแล้ว”

ญาณินมีสีหน้ากังวลสุดประมาณ

รถของพวกสุคนธรสและนายตำรวจแล่นมาจอดที่วัดพุทธาวนาราม อีกด้านรถของเคธี่แล่นมาจอดเงียบๆ เคธี่นั่งนิ่งสังเกตการณ์หาโอกาส

“ชั้นจะไม่ยอมเป็นผู้แพ้”
ณัฐเดชและตำรวจนายหนึ่งคุมตัวหมอผีสมคิดเดินเข้ามาในอุโบสถซึ่งหลวงลุงสุวิทย์ยืนรออยู่ก่อนแล้ว
“โห หลวงลุงทราบล่วงหน้าเหรอครับว่าพวกเราจะมา ทราบจากการนั่งฌานสมาธิใช่มั้ยครับเนี่ย” ก๊องถาม
“เปล่า นังรสมันโทรมาบอก”
ทุกคนเดินตามเข้ามา หมอผีสมคิดกับหลวงลุงสุวิทย์เผชิญหน้ากัน แล้วหลวงลุงสุวิทย์ก็หันหลังเดินนำไป ทุกคนตามไปหมด หมอผีสมคิดถูกจับให้นั่งต่อหน้าพระประธานในโบสถ์
“พอ หลวงลุงจะเริ่มทำพิธีปลดของแล้ว เพื่อความปลอดภัย รักษาระยะด้วยครับ เริ่มเลยใช่มั้ยครับหลวงลุง”
หลวงลุงสุวิทย์เขกกบาลก๊อง
“ไอ้นี่ ไม่รู้อะไรก็อวดรู้ ถ้าไม่เลิกนิสัยนี้ สักวันจะชีวิตจะมีปัญหา”
“หลวงลุงหมายความว่าไงครับ”
“แล้วเอ็งจะรู้เอง ข้าจะยังไม่ทำพิธีทำลายอาคมมนต์ดำนะ จนกว่าข้าจะแน่ใจเรื่องนึง”
“ถ้าอยากแน่ใจว่าหมอสมคิดเป็นคนชั่วจริงหรือเปล่า ผมยืนยันได้เลยครับว่าสุดยอดชั่ว”
“ข้าอยากจะแน่ใจว่าใจของพวกเอ็งทุกคนไม่ผูกโกรธ ไม่อาฆาตจองเวร ไม่พยาบาทคิดร้ายต่อกันอีก ข้าอยากให้พวกเอ็งทุกคนให้อภัย”
“ให้อภัย อภัยให้หมอสมคิดเนี่ยนะคะ”
“ทุกวันนี้ ทุกคนคิดแต่จะเอาคืน แก้แค้น ทีเอ็งทีข้า แต่ไม่มีใครคิดจะให้อภัยกันเลย ทั้งๆ ที่พระพุทธเจ้าได้พูดถึงคุณค่าของการให้อภัยอยู่เสมอ ว่าการให้อภัยเป็นการประพฤติของบุคคลที่ประเสริฐที่สุดในโลก เหมือนเช่นพระพุทธองค์ทรงให้อภัยพระเทวทัต แม้ว่าจะถูกพระเทวทัตตามจองเวรทำร้ายทำลายไม่รู้กี่ร้อยกี่พันชาติ แต่พระพุทธองค์ก็ไม่มีความอาฆาตพยาบาทผูกใจเจ็บต่อพระเทวทัตเลย”
“นี่กลายเป็นว่า พวกเราถูกหลวงพ่ออบรมสั่งสอนเหรอครับ”
“นี่แหละ หลวงลุงตัวจริงเสียงจริง”
หลวงลุงสุวิทย์หันมาพูดกับหมอผีสมคิด
“เมื่อฝ่ายหนึ่งจะอภัย แต่หากทว่าอีกฝ่ายยังไม่สำนึก ยังโง่เขลา จ้องจะล้างผลาญกันอยู่ การให้อภัยนั้นก็จะไม่สำฤทธิ์ผล จะเป็นการอภัยที่เป็นโมฆะ เป็นหมัน และคนๆ นั้นก็จะไม่มีวันไปถึงสันติสุขในจิตใจได้เลย ข้าอยากให้เอ็ง ใช้เวลานี้ทบทวนความผิดพลาดของตัวเอง ต่อหน้าพระพุทธองค์ และตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าจะไม่ทำผิดพลาดแบบที่ผ่านมาอีก”
หมอผีสมคิดหน้านิ่ง ไม่ยี่หระ สะทกสะท้าน หลวงลุงสุวิทย์เดินออกไป

ทุกคนเดินออกมาจากพระอุโบสถ
“ตั้งใจจะพาหมอสมคิดมาให้หลวงลุงช่วยปลดอาคม แต่กลับถูกหลวงลุงดัดนิสัยเสียเอง ฮ่าๆ” ณัฐเดชบอกพร้อมกับหัวเราะ
“หลวงลุงท่านจะต้องรู้อะไรล่วงหน้า เลยพยายามเตือนพี่นั่นแหละ”
“ท่านเตือนแกแหละก๊อง”
“เราเป็นพุทธศาสนิกชน เรารู้จักคำว่าการให้อภัยมาตั้งแต่เด็ก แต่พอถึงจังหวะเข้าจริงๆ เรากลับไม่คิดให้อภัยกัน”
“คนบางคน ไม่เคยคำนึงถึงด้วยซ้ำ”
“คนอย่างหมอสมคิด แน่ใจเหรอว่าควรให้อภัย”
“ถูก แล้วถ้าให้อภัยไปแล้ว เขาจะกลับตัวกลับใจมั้ย”
“ถ้าคิดจะให้อภัยก็ให้อภัย อย่าไปตั้งเงื่อนไข”
“คุณรู้มั้ยว่ามันยาก” ไตรรัตน์พูดกับสุคนธรส
“ถ้ามันง่าย หลวงลุงคงไม่อยากให้พวกเราทำให้สำเร็จให้ได้หรอก”

ภายในพระอุโบสถ หมอผีสมคิดนั่งเผชิญหน้ากับพระพุทธรูป ท่าทางไม่สำนึก อยู่ๆ เคธี่แอบเดินเข้ามาทางด้านหลังของหมอผีสมคิด หมอผีสมคิดรับรู้ได้ในทันที ยิ้มมุมปาก
“คุณเรียกให้ชั้นตามมาทำไม”
หมอผีสมคิดไม่ได้ขยับปาก แต่เสียงเขาดังก้องเสมือนดังอยู่ในหัวของเคธี่
“ชั้นรู้ว่าเธอถูกกดดันอะไรมาบ้าง แม่เธอสร้างปัญหาให้กับเธอไว้เยอะใช่มั้ย ถ้าอยากให้แม่สุขสบายจงเชื่อฟังชั้น ปล่อยชั้นแล้วเธอจะได้ทุกอย่างรวมถึงนายไตรรัตน์”
“ไตรรัตน์ จะให้ชั้นทำอะไร”
“หยิบลวดบนโต๊ะนั้นมาให้ชั้น ง่ายๆ แค่นั้นเอง แล้วที่เหลือชั้นจัดการเองได้”
เคธี่เดินไปหยิบลวดหนีบกระดาษ กำลังจะเอามาให้หมอผีสมคิดเพื่อให้หมอผีสมคิดสะเดาะห์กุญแจด้วยมนต์เคธี่กำลังจะยื่นให้แต่หลวงลุงสุวิทย์เดินกลับเข้ามาก่อน
“หยุด”
เคธี่ชะงัก
“จิตที่ลุ่มหลงในโคลนตมของความพยาบาท จนแสงสว่างไม่อาจส่องถึงช่างน่าสงสารจริงๆ”
หลวงลุงสุวิทย์พนมมือ สวดมนต์
“เอาลวดมาให้ชั้น”
หมอผีสมคิดสวดพึมพำคาถาสู้ เคธี่ราวกับต้องมนต์ของหมอผีสมคิดเดินต่อไป หลวงลุงสุวิทย์ยังคงสวด แต่แล้วเคธี่มืออ่อน ปล่อยลวดหล่นพื้นแล้วก็มีอาการปวดหัวจนทนไม่ไหวกรีดร้องออกมา
“ว้าย”
พวกสุคนธรสได้ยินเสียงนั้น รีบวิ่งกันเข้ามาด้านในพบว่าเคธี่ลงไปนอนชักอยู่กับพื้น ทุกคนอึ้ง แปลกใจ
“เคธี่ มาได้ไง” ไตรรัตน์ถามอย่างแปลกใจ
“ต้องถามว่า มาทำไมมากกว่า”
หมอผีสมคิดพยายามยันตัวเพื่อยืนขึ้นมาต่อกรกับหลวงลุงสุวิทย์
“น้ำมนต์” หลวงลุงสุวิทย์บอก ก๊องรีบไปยกขันน้ำมนต์ใหญ่ที่อยู่หน้าพระประธานขึ้นมา
หมอผีสมคิดสู้ เดินเข้าหาจะทำร้ายหลวงลุงสุวิทย์ ในขณะที่หลวงลุงสุวิย์ยืนสวด ไม่ถอย สงบนิ่งดังภูผา ก่อนที่หมอผีสมคิดจะถึงตัวหลวงลุงสุวิทย์ สุคนธรสก็กำกับขึ้น

“ก๊อง เอาน้ำมนต์ให้หลวงลุงเร็ว เร็ว”

ก๊องรีบยกน้ำมนต์ไปให้หลวงลุงสุวิทย์ หลวงลุงสุวิทย์สวดไปเอาน้ำมนต์พรมใส่หมอผีสมคิดซ่า ซ่า ซ่า หมอผีสมคิดร้องลั่น
 
“อ๊าก”
หลวงลุงสุวิทย์ยังคงสวด
“เลิกจองเวรจองกรรมต่อกันเถิด หมอสมคิด อภัยให้กันและกันเถอะ” สุคนธรสบอก หลวงลุงสุวิทย์พรมน้ำมนต์ต่อไป
ไตรรัตน์รู้สึกไม่ทันใจหันไปพยักหน้ากับณัฐเดช ก๊อง ณัฐเดชกับหมอวรวรรษเข้าล็อกหมอผีสมคิดไว้ ไตรรัตน์จับหน้าหมอผีสมคิดและช่วยกับก๊องเทกรอกน้ำมนต์ทั้งหมดนั้นใส่ปากหมอผีสมคิด
“ชั้นก็ให้อภัยนายแล้ว”
หมอผีสมคิดสิ้นท่า ฟุบไปกับพื้น

เคธี่ฟื้นได้สติเห็นไตรรัตน์ยืนอยู่คนเดียว
“ธไรซ์ เกิดอะไรขึ้น แล้วที่นี่ที่ไหน เคธี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ฮ้า หรือว่าธไรซ์ลักพาตัวเคธี่มา ธไรซ์คิดจะทำอะไร อย่าบอกนะว่าธไรซ์ยังตัดใจจากเคธี่ไม่ได้”
ไตรรัตน์ยืนทำหน้าเซ็ง สักพักมีเสียงกระแอมของก๊องดังมาจากด้านหลัง เคธี่หันกลับไปมองพบว่าทุกคนยืนอออยู่ เคธี่หน้าแตกครั้งใหญ่
“ธไรซ์ลักพาตัวเคธี่มา จะทำอะไรเคธี่อ่ะ..แหวะสะกดรอยตามพวกเรามา แล้วยังจะแถอีก”
“ใครสะกดรอยตาม ชั้นไม่ได้สะกดรอย ชั้นไม่รู้เรื่อง”
“เคธี่ ทำไมเธอต้องร่วมมือกับไอ้หมอสมคิด”
“ธไรซ์ เคธี่เปล่านะ เคธี่ไม่รู้เรื่อง ธไรซ์ต้องเชื่อเคธี่นะ เคธี่ถูกสะกดจิต ไร้สติ ไม่รู้เลยว่ามาที่นี่ได้ยังไง”
“จัดการกันเองแล้วกันนะ เพลียมาก” สุคนธรสบอก กรรณากระซิบกับกรรัมภาและเนตรศิตางศุ์
“ชั้นว่ายัยนี่แหล่ะตัวปัญหาทำให้ยัยรสมันไม่ยอมแต่งงานกับนายไตวาย”
สุคนธรสรำคาญเคธี่เดินแยกไป คนอื่นๆ ระอา ทยอยกันเดินหนีไปเหลือไตรรัตน์เป็นคนสุดท้าย เคธี่ดึงแขนไตรรัตน์ไว้
“ธไรซ์ อย่าทิ้งเคธี่ไป”
“ตั้งแต่นี้ไป คุณไม่ใช่เพื่อนผม ไม่ใช่คนรู้จัก ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น และผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก”
ไตรรัตน์แกะแขนเคธี่ออกแล้วเดินหนีไป เคธี่เสียใจสุดซึ้งแล้วความเสียใจก็กลายเป็นความแค้นสุดขีด กำหมัดแน่น

หมอผีสมคิดกองอยู่กับพื้น กำลังพยายามร่ายคาถาแต่ก็ไม่เป็นผล ไม่เกิดอะไรขึ้นมาเลย หมอผีสมคิดตระหนกในความสูญเสียของตน เสียใจ รับไม่ได้
“ไม่จริง”
หมอผีสมคิดครวญสุดเสียง ทรุดลงไปกับพื้น ณัฐเดชและหลวงลุงสุวิทย์ยืนมองอยู่
“ไม่มีอาคมแล้ว ตั้งแต่นี้ไปก็เป็นแค่นายสมคิดคนธรรมดาๆ” ณัฐเดชตบบ่าหมอผีสมคิด “มันไม่น่ากลัวนักหรอกสมคิด เอาล่ะ ลุกขึ้น เตรียมตัวไปรับโทษตามกฎหมายได้แล้ว”
“ชั้นไม่ไป ชั้นอยากตาย” หมอผีสมคิดเอาหัวโขกพื้น ณัฐเดชเข้าห้าม ล็อกตัวเอาไว้ “อยู่อย่างนี้ชั้นก็เหมือนตายทั้งเป็น ให้ชั้นตายๆ ไปเลยดีกว่ายังไงชั้นก็ไม่ยอมไปตายในคุกเด็ดขาด”
“คุณสมคิด ผมให้คุณทำตามที่ต้องการไม่ได้”
“ทำไม ทำไมไม่ได้”
“เราเลยจุดนั้นมาแล้ว”
“จุดนั้น จุดไหน เลยอะไร ไม่เข้าใจ” หมอผีสมคิดหันไปคุกเข่า พนมมือ อ้อนวอนหลวงลุงสุวิทย์ “หลวงพ่อครับ ได้โปรดโปรดสัตว์ที่ไร้พิษสงคนนี้ด้วย ถ้าผมต้องติดคุก ผมก็ไม่มีสิทธิ์ได้สร้างกรรมดี ชดเชยบาปที่ได้ก่อเอาไว้ แล้วผมก็ต้องตายคากรงขัง เป็นสัตว์นรกไม่ได้ผุดได้เกิด ต้องทรมานชั่วกัปล์ชั่วกัลป์ ผมสำนึกผิดแล้ว ให้โอกาสผมกลับตัวกลับใจ สร้างกรรมดีชดเชยบาปได้มั้ยครับ” หมอผีสมคิดกอดขาหลวงลุงสุวิทย์
“ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรกก็ไม่ต้องลงเอยอย่างนี้หรอก ไป” ณัฐเดชพยักหน้าให้ลูกน้อง
ตำรวจจะเข้าดึงตัวหมอผีสมคิด แต่ไม่ทันระวังหมอผีสมคิดเอาหัวกระแทกอย่างแรงแล้วหมอผีสมคิดก็ชักปืนจากเอวตำรวจนั้นมาจ่อไปที่หลวงลุงสุวิทย์และณัฐเดช
“คิดให้ดีๆ นะโยม”
“พระอยู่ส่วนพระ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของคน”
หมอผีสมคิดเหนี่ยวไกปืน ณัฐเดชเอาตัวเข้าบังหลวงลุงสุวิทย์ หลวงลุงสุวิย์ยืนนิ่ง ปรากฏว่ามีเสียงดัง “แชะ” ปืนด้านยิงไม่ออก หมอผีสมคิด ณัฐเดช ตกใจ หมอผีสมคิดยิงอีกแต่กระสุนด้านหมด “แชะๆ”
“เจ้ามีเวลาเลือกทางเดินชีวิตตัวเองอีกไม่เกิน 3 วินาที หลังจากนี้ ทุกอย่างจะไม่มีทางแก้ไขได้อีกต่อไป” หลวงลุงสุวิทย์บอก
“พูดบ้าอะไรวะ”
ครบ 3 วินาทีพอดี จังหวะนั้นพวกสุคนธรส ไตรรัตน์เดินกลับมา ก๊องวิ่งตามมา
“จับมันๆ”
หลวงลุงสุวิทย์มองตาหมอผีสมคิด หมอผีสมคิดตัดสินใจกระโดดรีบวิ่งหนีไป
“พี่ณัฐ”
“ตามเร็ว ไอ้ณัฐ”
“ไม่ต้องตามหรอกโยม”
ทุกคนชะงัก
“ไม่มีใครตัดสินชะตาชีวิตใครได้ นอกจากตัวเอง”

หลวงลุงสุวิทย์ได้แต่สังเวชใจในชะตากรรมของหมอผีสมคิด
 
จบตอนที่ 19 


อ่านต่อตอนที่ 20 เวลา 17.00น.
กำลังโหลดความคิดเห็น