xs
xsm
sm
md
lg

สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 6

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 6

ช่วงเวลาตอนกลางวัน รถตู้คันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านวงดนตรีวทัญญู พ่อยก แม่ยก ที่เหมารถตู้มา ต่างกรูกันลงมาจากรถตู้ พร้อมของขวัญและดอกไม้เต็มไม้เต็มมือไปหมด สายฟ้ากับเจ๊เนาว์เดินออกมาดู

เจ๊เนาว์ทักทาย “สวัสดีค่ะ…มาหาจอมขวัญเหรอคะ…จอมขวัญไม่อยู่นะคะ”
พ่อยกแม่ยกบอกพร้อมกัน “มาหาสมหวัง”
สายฟ้าตกใจ ไม่เชื่อหูตัวเอง “มาหาใครนะ”
พ่อยกแม่ยกประสานเสียง “สมหวัง”
สายฟ้ากับเจ๊เนาว์อึ้งๆ

ที่หลังโรงครัว เจ๊จุ๊กำลังกดเครื่องปั่น ปั่นน้ำอะไรบางอย่างให้สมหวังอยู่
“ไม่ต้องถึงขนาดนี้ก็ได้เจ๊…ชั้นแค่จะมาเอาน้ำเปล่า”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวได้ชิมน้ำผึ้งมะนาวปั่นสูตรน้องจุ๊แล้วเธอจะติดใจ”
เจ๊จุ๊ปั่นเสร็จพอดี เทใส่แก้วให้สมหวัง
“ลองชิมๆ รับรองอร่อยเหาะ นี่นะกินแล้วบำรุงเสียงด้วยนะ เสียงจะได้ดีๆ เหมือนเมื่อคืนไง”
สมหวังลองจิบชิม ใบหน้ายิ้มแย้ม “อร่อยมากเลยเจ๊”
“เห็นมั้ยบอกแล้ว”
กุหลาบเดินเข้ามาพอดี
“พี่กุหลาบลองชิมนี่สิ น้ำผึ้งมะนาวปั่นสูตรน้องจุ๊” หัวเราะคิก “อร่อยมากเลย”
ระหว่างนั้น สายฟ้าเดินเข้ามาหา
“สมหวังมากับชั้นหน่อย”
สมหวังฉงน “มีอะไรเหรอ”
“มาเถอะ…ตามชั้นมา”

สายฟ้าเดินนำสมหวังออกมาที่หน้าบ้าน บรรดาพอแม่ยก พ่อยก พอเห็นสมหวัง ต่างฮือกันเข้ามาหาร้องประสานเสียง
“สมหวัง…สมหวัง!”
สมหวังอึ้ง ตกใจ มองหน้าสายฟ้าเป็นเชิงถาม
“แฟนคลับเธอน่ะ” สายฟ้าบอกยิ้มๆ
สมหวังอึ้ง “แฟนคลับ”
“ไปทักท้ายเค้าสิ”
สมหวังเดินเข้าไป “สวัสดีค่ะ”
“อู๊ยยย!!...น่ารักน่าเอ็นดูเนอะ เสียงเหน่อเสน่ห์ด้วยอะ” แม่ยกเป็นปลื้ม
“ดูสิตาบ่องแบ้วเชียว” พ่อยกก็ปลื้มไม่ต่างกัน
บรรดาพ่อยก แม่ยก พากันเอาของเข้ามาให้ สมหวังยังคงงงๆ
“ขอบคุณค่ะ….ขอบคุณนะคะ”

บรรดาแม่ยก พ่อยก ช่วยกันเอากับข้าวใส่จาน โดยมีสมหวังช่วยอยู่ด้วย ส่วนอีกมุมไม่ไกลนัก สายฟ้า เจ๊เนาว์ กุหลาบ บาส และเจ๊จุ๊ จับกลุ่มยืนมองกันอยู่
“นังเนาว์!! ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลยนะ แค่ชั่วข้ามคืนเดียว สมหวังมีแฟนคลับเยอะขนาดนี้เลยเหรอ”
“ก็นั่นสิชั้นยังงงๆ เหมือนกัน”
“จอมขวัญขึ้นเวทีครั้งแรกแฟนคลับยังไม่เยอะเท่านี้เลย” สายฟ้าเสริม
“ใช่…แล้วแฟนคลับยัยจอมขวัญนะไม่เคยมาบุกบ้านแบบนี้เลย” เจ๊เนาว์ทึ่งสุดๆ
“ถ้าน้องสมหวังได้เป็นนักร้องขึ้นมาต้องดังแน่ๆ เลยเนอะ” บาสพยักเพยิด
สายฟ้ายิ้มย่อง “แบบนี้นะมันแสดงให้เห็นถึงแวว”
“แววที่ว่านั่นก็คือ นักร้องคนใหม่ของวงชิมิๆ” เจ๊จุ๊บอกขำๆ

ชูชนะนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในห้องรับแขก สายฟ้ากับเจ๊เนาว์เดินเข้า
“พ่อ…ผมจะให้สมหวังเป็นนักร้องคนใหม่ของวง”
ชูชนะตกใจ “ว่ายังไงนะ”
สายฟ้ายิ้มและพูดบอกพ่อ “ผมจะให้สมหวังเป็นนักร้องคนใหม่ของวง …พ่อจะตกใจทำไม…มาดูอะไรนี่พ่อ”
สายฟ้าพาชูชนะมาดูแฟนคลับที่รุมล้อมสมหวัง
ชูชนะถามงง “เอ็งให้ข้ามาดูอะไรวะ…แล้วนั่นใครที่ไหน มาทำอะไรกันวะนั่นน่ะ”
“แฟนคลับสมหวัง”
ชูชนะตกใจ “แฟนคลับสมหวังเรอะ! อะไรวะขึ้นไปร้องเพลงครั้งเดียวมีแฟนคลับแล้วเหรอ”

ไม่นานต่อมาสมหวังบอกปฏิเสธ 2 พ่อลูก
“ไม่ดีหรอกมั้งคะ….เมื่อคืนที่ชั้นขึ้นไปก็กลัวจะทำวงล่มจะแย่”
“ต้องได้สิ เธอน่ะเสียงดีจะตาย ดูสิขึ้นเวทีแค่ครั้งเดียว แฟนคลับยังเยอะขนาดนี้”
สมหวังอึกอัก “แต่….”
ชูชนะสวนคำออกมา “ไม่ต้องแต่แล้ว…เดี๋ยวข้าจะเป็นคนฝึกให้เอ็งเอง”
“คือชั้นยังไม่พร้อมน่ะพ่อ ให้ชั้นช่วยเรื่องเสื้อผ้าต่อไปก็พอเถอะนะ” สมหวังหนักใจ
“ถือว่าช่วยกันนะสมหวัง…เธอก็รู้นี่ว่าจอมขวัญจะออกจากวงเราอยู่รอมร่อ” สายฟ้าว่า
“ชั้นยังไม่พร้อมจริงๆ นะจ๊ะ”
“ทำไมเธอถึงไม่พร้อม เธอบอกชั้นมาสิ”
“ชั้นบอกว่าร้องไม่ได้ ก็ร้องไม่ได้สิ”
“ถ้าร้องไม่ได้แฟนคลับจะเยอะขนาดนี้เหรอ…ถ้าเธอกลัวว่ายังร้องไม่ดี นี่ไงพ่อชั้นจะช่วยสอนเธอให้”
“ชั้นช่วยไม่ได้จริงๆ” สมหวังบอกหนักแน่น
“เธอมีปัญหาอะไรสมหวัง…เธอบอกชั้นสิ…ความหวังทุกคนอยู่ที่เธอนะ” สายฟ้าขอร้องอีก
สมหวังหนักใจ “คุณไม่เข้าใจชั้นหรอก..เราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะนะ”
ทุกคนอึ้ง

บ่ายนั้น ที่ห้องแถลงข่าว ทีเอสมิวสิค ป้ายด้านหลัง มีข้อความว่า “งานแถลงข่าวเปิดตัว จอมขวัญ กตัญญู”
จอมขวัญ กับเฮียตี๋ นั่งอยู่บนโต๊ะแถลงข่าวคู่กัน มือของจอมขวัญจรดปากกาเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัดกับเฮียตี๋
“ขอต้อนรับ จอมขวัญ กตัญญู สู่ ทีเอสมิวสิค” เฮียตี๋เอ่ยขึ้น
ทุกคนปรบมือแสดงความยินดี จอมขวัญ ขยับไมค์มาใกล้ปาก
“ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่ๆน้องๆ สื่อมวลชนทุกท่านที่มาเป็นสักขีพยานใน การเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในค่ายทีเอสมิวสิค เพราะฉะนั้นนับตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป ดิฉันไม่มีส่วนใดๆ เกี่ยวข้องกับวงวทัญูญูอีกต่อไป เจ้าภาพท่านใดที่ต้องการติดต่อดิฉันไปแสดง ขอให้ติดต่อโดยตรงที่ ทีเอสมิวสิค ส่วนการว่าจ้างที่ได้กระทำไปแล้วก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้ติดต่อกับดิฉันโดยตรง ถือเป็นโมฆะ จะไม่อยู่ในความรับผิดชอบของดิฉัน หากท่านเจ้าภาพยังต้องการดิฉันไปแสดง กรุณาติดต่อกลับมาที่ทีเอสมิวสิคนะคะ”
“อยากรู้เหตุผลน่ะครับว่าทำไมคุณถึงออกจากวงวทัญญู” นักข่าวซัก
“ในเมื่อความเห็นและวิธีการทำงานไปด้วยกันไม่ได้ ดิฉันก็คงต้องเลือกที่ๆ ดิฉันอยู่แล้วสบายใจดีกว่าค่ะ” จอมขวัญจ๊ะจ๋า

เจ๊เนาว์ปิดทีวี ด่าอย่างเหลืออด
“นังงูพิษ…เลี้ยงไม่เชื่อง”
ชูชนะ และสายฟ้า ถอนหายใจเซ็งๆ ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นแข่งกันทั้งเครื่องบ้านและมือถือ
สายฟ้ารับโทรศัพท์มือถือ
“ฮัลโหล”
สายฟ้าคุยโทรศัพท์ มีเสียงดังมาตามสาย
“ผมสายฟ้าพูดครับ”
คนในสายพูดขึ้น “ผมเจ้าภาพงานที่ประจวบนะ ไอ้ข่าวเมื่อกี้หมายความว่ายังไง”
สายฟ้าอึกอัก “เอ่อ…คือ”
“อยู่ๆ ดีๆ มาบอกเลิกกันดื้อๆ ได้ไงวะ อย่างนี้ผมก็เจ๊งน่ะสิ ไหนต้องเสียค่าโฆษณาไปแล้ว เตรียมงานใกล้เสร็จแล้วด้วย ทำงานกันภาษาอะไรวะ แบบนี้ผมฟ้องคุณแน่”
สายฟ้าผงะ เมื่อถูกวางหูใส่
เจ๊เนาว์ยื่นโทรศัพท์อีกสายให้ “คุณสุธรรม จากปราจีน”
สายฟ้าวางโทรศัพท์มือถือ และรับโทรศัพท์จากเจ๊เนาว์มาคุย
ทันใดนั้นมือถือที่เพิ่งวางไปก็ดังขึ้นมาอีก แถมยังมีโทรศัพท์อีกเครื่องดังระงมขึ้นมา เจ๊เนาว์รับสาย
“สวัสดีครับ”
เสียงในสายบอก “งานลอยกระทงขอยกเลิกนะ…ผมขอเงินมัดจำคืนด้วย”
สายฟ้าวางหูไป เจ๊เนาว์หันมาบอก
“กำนันดำที่สระบุรีขอยกเลิกงาน ขอเงินมัดจำคืน”
โทรศัพท์ดังอีก เจ๊เนาว์จะรับ สายฟ้าร้องห้าม
“ไม่ต้องรับแล้วเจ๊ คงมีแต่คนมายกเลิกคิว”
“หมดกัน เงินที่ลงทุนไปก็ไม่ใช่น้อยๆ ทีนี้จะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้เค้าวะเนี่ย!”
ชูชนะหนักใจ ในขณะที่สายฟ้านั่งนิ่ง สีหน้าเครียดๆ
สักครู่หนึ่งสายฟ้าหยิบสมุดบัญชีขึ้นมาดู สมุดบัญชีที่อยู่ข้างๆ สายฟ้ามีตัวเลขสีแดงเขียนจำนวนหนี้ที่ค้างอยู่หลายแสน
ขณะเดียวกันเสียงโทรศัพท์ยังคงดังระงม ทุกคนสีหน้าเหนื่อยใจ!

สมหวังแอบมองอยู่ที่ตรงประตูบ้าน ทั้งใจหายและรู้สึกผิดที่ไม่สามารถเป็นนักร้องให้สายฟ้าได้!

ทุกคนนั่งกระวนกระวายเรื่องข่าวที่จอมขวัญลาออก และลุ้นว่าวงจะเป็นอย่างไรต่อไป

ปอยฝ้ายเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก “เห็นมั้ยไปกดดันจอมขวัญมากเกินไป เลยลาออกเลย”
สำลีผสมโรง “ใช่…แล้วที่นี้จะทำยังไง ใครจะเป็นนักร้อง”
“ถ้าไม่มีเดี๋ยวกรูร้องเอง…” เจ๊จุ๊โชว์เพลงประจำตัว “เชฟบ๊ะ” และเต้นโชว์ลีลาด้วย
“อย่างเจ๊ใครเค้าจะดู” สำลีแขวะ
“ทำไมชั้นออกจะเซ็กซี่…พวกเอ็งจะไปเข้าข้างนังจอมขวัญทำไม มันน่ะตัวปัญหาเลย” เจ๊จุ๊ของขึ้น
“ไม่ได้เข้าข้าง…แค่ให้ความสำคัญ! ลองคิดดูถ้าไม่มีนักร้องแล้วจะอยู่กันยังไง...” ปอยฝ้ายว่า
สายฟ้า ชูชนะ และเจ๊เนาว์เดินเข้ามาพอดี
สายฟ้าพูดต่อจากปอยฝ้าย “วงเราก็อยู่ไม่ได้ไง”
ทุกคนฮือด้วยความตกใจ

ระหว่างนั้นสมหวังกับกุหลาบเดินตามเข้ามา สายฟ้าบอกต่อ
“ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว งานที่เล่นไปเมื่อวันก่อนก็ถือเป็นงานสุดท้ายของทุกคน วงเราจำเป็นต้องยุบ! เพราะไมสามารถรับงานต่อไปได้”
เสียงเอ็ดอึ่งเซ็งแซ่ด้วยความใจหาย
“ก็หานักร้องใหม่ไงพี่สายฟ้า…น้องสมหวังไง!” บาสว่า
เจ๊จุ๊เห็นด้วย ออกโรงสนับสนุน “ใช่ๆ สมหวัง วทัญญูไง”
ทุกคนมองไปที่สมหวัง
“ชั้นพูดกับเค้าแล้ว แต่เค้ายืนยันว่าเค้าไม่ร้อง” สายฟ้าบอก
สมหวังหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกผิด กุหลาบจับมือปลอบสมหวัง
“ทางวงจะจ่ายเงินเดือนให้ทุกคนอีกสองเดือนเพื่อเอาไปทำทุน ใครที่ไม่มีที่อยู่ก็อยู่ที่นี่ไปก่อนก็ได้จนกว่าเค้าจะมายึด!...ระหว่างนี้ทุกคนก็ควรออกไปหางานใหม่ หรือดูช่องทางทำมาหากินอื่นเผื่อเอาไว้….อีกสองวันชั้นจะเอาเงินเดือนมาจ่ายให้”
จบคำของสายฟ้า ทุกคนสีหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด
ขณะสายฟ้าจะเดินเข้าบ้าน สายตาไปปะทะกับสายตาสมหวังอย่างจัง
สมหวังเหมือนมีอะไรจะพูด “เอ่อ”
สายฟ้าสนใจรอฟัง และลุ้นโดยแอบหวังลึกๆ ว่าสมหวังจะเป็นนักร้องให้
“เอ่อ…คือ…ชั้นขอโทษ”
สายฟ้าพยักหน้าแล้วเดินจากไป

เช้าวันต่อมา รถพ่อค้า แม่ค้า ซื้อของเก่าแล่นมาจอดหลายคันที่บริเวณหน้าบ้านชูชนะ ข้าวของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรี เฟอร์นิเจอร์ ถูกยกออกมากองหน้าบ้าน
ชูชนะ เจ๊จุ๊ และบาส กำลังบอกราคาของแต่ละอย่างให้พ่อค้า แม่ค้าของเก่าอยู่
“โซฟาตัวนั้นเอาไปเลยห้าพัน” ชูชนะบอก
พ่อค้ากดราคาทันที “โห…ให้ได้แค่สองพัน”
“สามพันแล้วกันพี่” บาสต่อรอง
“สองพันนั่นแหละ” พ่อค้ายืนกราน
ชูชนะตัดบท “สองพันก็สองพัน!”
บาสท้วง “ขายถูกจังพ่อ!”

“ให้ๆ เค้าไปเถอะ” ชูชนะว่า

ทางด้านปอยฝ้ายกับสำลี กำลังเสนอกลองให้กับพ่อค้าอยู่อีกมุม

“พี่…นี่กลองทำมาจากหนังจระเข้เลยนะ” ปอยฝ้ายบอก
สำลีเสริม “ไม่ใช่จระเข้ธรรมดาด้วย…จระเข้ อเมซอนเลยนะ”
พ่อค้าโวยวาย “ก็เห็นอยู่หนังวัวชัดๆ…คิดว่าอั๊วโง่เหรอไงวะ”
“ดูดีๆ มันหนังจระเข้ฟอกขาว!...หนังวัวที่ไหน ตาไม่ถึงนะพี่เนี่ย ไม่เคยเห็นล่ะสิ” สำลีคุยต่อ
ปอยฝ้ายบอกราคา “ผมให้ในราคาพิเศษเลย 590 บาท”
สำลีชะงัก กระซิบปอยฝ้าย “หนังจระเข้บ้านเอ็งซิ 590 มึงนี่ไม่เนียนเลย”
“ขอโทษทีครับบอกผิด ตกเลขหนึ่งไปตัว 1,590 บาท ครับ”ปอยฝ้ายบอก
“ทำไมแพงจังวะ…ของมือสองนะเว้ย….400 ขาดตัว ไม่ได้ก็ไม่เอา”
ปอยฝ้ายม่ยอม “โหย…ไม่ได้หรอก”
แต่สำลีสวนขึ้น “สี่ร้อยก็สี่ร้อย เอาไปเลยครับ”
ปอยฝ้ายงงๆ “มันจะเอายังไงของมันวะ”
ส่วนเจ๊จุ๊ กำลังเอาหม้อ และเครื่องครัวมาขาย
“หม้อจ้า…ขายหม้อ หม้อใบใหญ่ๆ”
แม่ค้าคนหนึ่ง ชี้ไปที่หม้อใบใหญ่ ซึ้งก้นหม้อดำจนขัดไม่ออกแล้ว
“นี่เธอ…ใบใหญ่นั่นเท่าไหร่”
“ใบใหญ่…คิดพิเศษ 350”
แม้ค้าต่อ “300 แล้วกัน”
เจ๊จุ๊ส่ายหัว “ไม่ได้หรอก…ใบนั้นยี่ห้อนกเอี้ยงสามหัวเลยนะ สแตนเลสอย่างดี 350 นี่
ถือว่าถูกแล้ว”
“แพงไป” แม่ค้าชี้อีกใบ “ใบนั้นล่ะ”
“ใบนั้นเล็กลงมาหน่อย…200 ส่งตรงมาจากอินเดียเลยนะ”
“เอาใบนั้นก็ได้” แม่ค้าบอก

สายฟ้ามองดูทุกคนอย่างเศร้าใจ ที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

ที่อีกมุมในบ้านชูชนะ เจ๊เนาว์และพวกแด๊นเซอร์ ลากราวชุดแด๊นเซอร์ออกมาจากในบ้าน สมหวังเดินเข้ามา

“เค้ามาทำอะไรกันเจ๊”
“คนเค้ามาซื้อของเก่าที่เราเลหลัง”
“ขายทั้งหมดเลยเนี่ยนะ”
“ก็ช่ายน่ะสิ….ทั้งพวกชุดแด๊นเซอร์ ทั้งเครื่องดนตรี ขายหมดเลย เอาไปจ่ายเงินเดือนพวกลูกวงไง
สมหวังมองแล้วเศร้าใจ

ครู่หนึ่ง แม่ค้าคนหนึ่งเดินเข้ามา ชี้ชุดที่ดูอลังการที่ติดราคาไว้ 5,000 บาท
โดยถามกับเจ๊เนาว์ “สามพันได้มั้ย”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ห้าพันนี่ก็ถูกแล้วนะคะ ไม่แพงหรอก”
“ห้าพันก็ห้าพัน ขนขึ้นรถด้วยนะ”
“เอากี่ชุดดีคะ”
“ก็หมดนี่ห้าพันไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ…ชุดละ 5,000 บาท” เจ๊เนาว์บอกชัดๆ
แม่ค้าไม่เชื่อหู “อะไรวะ ชุดแบบนี้ห้าพัน โอ๊ย ไปซื้อแถวประตูน้ำใหม่กว่านี้ ดีกว่านี้ ยังแค่พันสองพันเอง งั้นไม่เอา ไม่เอา”
แม่ค้าคนดังกล่าวเดินไปดูอย่างอื่น

สมหวังยืนฟังอยู่รู้สึกไม่พอใจที่มีคนดูถูกผลงาน
ครู่หนึ่งก็มี แม่ค้าอีกคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วมาจับชุดที่เป็นขนนก มีอยู่ประมาณ 4 ชุด
“ทั้งหมดนี่ หมื่นห้าก็แล้วกัน”
“ไม่ได้หรอกค่ะ” เจ๊เนาว์ว่า
“หยวนๆน่า ไอ้พวกเลื่อมพวกโบว์เนี่ยเอาไปก็ไม่ได้ใช้ เอาไปก็ต้องตัดทิ้งมากกว่าครึ่ง” แม่ค้าบอก
สมหวังหน้าเสีย
“ห้าร้อย…ถ้าชุดละห้าร้อย เอาหมดเลย!” แม่ค้าบอกเสียงดัง
“ไม่ได้จริงๆ ค่ะ” เจ๊เนาว์ว่า
แม่ค้าคนเดิมบอก “ห้าร้อยแหละ ชั้นต้องเอาไปตัดให้กระโปรงมันสั้นกว่านี้อีก…ขายพวกหมอนวด ชุดละพันมันจะเอากันหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ชุดอะไรรุงรัง เวอร์ ไอ้คนออกแบบก็ไม่มีรสนิยมเลย”
สมหวังโมโหลมออกหู
“หมายความว่าไง!”
“ชุดแดนซ์เซอร์เนี่ยมันต้องเปรี้ยวๆกว่านี้ ให้มันวับๆแวมๆหน่อย พวกผู้ชายมันชอบ ยิ่งแก่ๆ นะมันไปเกาะขอบเวทีดูเลย นี่อะไร ยาวเกือบถึงตาตุ่ม เป็นพนักงานออฟฟิศไปได้ …ไร้รสนิยม” พลางถามสมหวัง “เธอว่ามั้ย….ชั้นอยากจะเห็นคนออกแบบชุดจังเลย”
สมหวังจ้องหน้า “อยากเห็นใช่มั้ย!..ก็ยืนอยู่หน้าเจ๊นี่ไง!”
แม่ค้าสะดุ้ง ยิ้มหน้าเจื่อนๆ
สมหวังไล่ตะเพิด “ไปเลยนะออกไปเลย ไม่ขายแล้ว พวกเจ๊นั่นแหละไม่มีรสนิยม วันๆ คิดแต่เรื่องเห็นแก่ได้ มีรสนิยมแปลกๆ กลับไปกินหมากที่บ้านได้แล้ว ออกไปเลย”
สายฟ้าได้ยินเสียงเอะอะโวยวายมาจากด้านหนึ่ง ชะเง้อมอง แล้วเดินไปทางเสียงสมหวัง

อีกมุมในบ้านพักวงดนตรีชูชนะ สมหวังยังคงไล่แม่ค้าอยู่
“อยากได้ชุดที่มีรสนิยมไปซื้อที่อื่นนู่น…ออกไปเลย”
สายฟ้าเดินเข้ามา “อะไรกัน”
“ก็เจ๊พวกนี้น่ะสิ มาหาว่าเสื้อผ้าชั้นไม่มีรสนิยม เสื้อผ้าชั้นอุตส่าห์ออกแบบมาอย่างสุดฝีมือ ชุดนึงเป็นพันๆ นี่เล่นจะมาเหมาเป็นกอง เหลือตัวไม่กี่ร้อย”
“อ้าว..ก็พวกเธอบอกเองนี่ว่าจะเลิกกิจการ แล้วอะไรมาขายชิ้นเป็นพันๆ” แม่ค้าโวย
“ก็ไม่ขายแล้ว!...ไม่พอใจในราคาก็ออกไป”
แม่ค้าบ่น “ไม่น่าเสียเวลามาเลย”
“ทางออกอยู่ทางนู้นเจ๊…เชิญ”
สายฟ้าเริ่มโมโห ไม่พอใจในสิ่งที่สมหวังทำ
“สมหวัง…สมหวัง”
สมหวังไม่ได้หันไปดูอารมณ์ของสายฟ้า “คุณไม่ต้องเลย เดี๋ยวชั้นจัดการเอง”
สายฟ้าบอกเสียงดัง “เธอนั่นและหยุดได้แล้ว”
สมหวังหันกลับมามองสายฟ้าแล้วชะงัก สายฟ้านิ่ง พยายามควบคุมตัวเอง
“เธอเลิกห่วงเรื่องรสนิยมอะไรบ้าๆ ของเธอได้แล้ว”
สมหวังฉุน “คุณ…ไอ้ชุดพวกนี้กว่าได้ออกมาแต่ละตัวมันต้องใช้เวลาและฝีมือทำขึ้นมาทั้งนั้นเลยนะ”
“เรากำลังจะเลิกกิจการ!... จำไว้! เรากำลังจะเลิกกิจการ ชุดพวกนี้มันก็เป็นแค่เศษผ้า ถ้ามันไม่ได้ช่วยทำให้อิ่มท้องขึ้นมาได้ ในเมื่อเธอไม่ยินดีที่จะช่วย ไอ้ของพวกนี้มันเลยจำเป็นต้องเอามาขาย เพื่อให้ชีวิตครอบครัวคนใน วงอีกหลายชีวิตประทังอยู่ต่อไปได้”

สมหวังอึ้ง! รู้สึกเสียใจเป็นที่สุด สายฟ้าเดินหนีไป

อ่ า น ต่ อ ห น้ า 2

สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 6 (ต่อ)

ขณะที่สายฟ้าเดินเข้ามาสงบสติอารมณ์ในบ้าน สักครู่หนึ่งสมหวังก็เดินตามเข้ามาเอ่ยขึ้น

“ชั้นมีเรื่องจะคุยกับคุณหน่อย”
“ชั้นไม่อยากคุยกับใครตอนนี้” สายฟ้าตัดรอน
สมหวังนิ่งเงียบ
สายฟ้าหันมามอง ยังคงเห็นสมหวังยืนอยู่
“เธอช่วยชั้นมาตั้งเยอะแล้ว จนชั้นไม่รู้จะขอบใจเธอยังไงดี เธอไม่สมควรที่จะมารับรู้เรื่องเดือดร้อนพวกนี้ด้วยซ้ำ ชั้นขอโทษที่พูดแรงๆ กับเธอ ตอนนี้ชั้นเครียดไปหมด ไม่มีทางเลือก ถ้ามีหนทางไหนที่จะเอาเงินมาจ่ายให้ทุกคนได้ชั้นก็จะยอมทำ ชั้นไม่ได้ตั้งใจให้เธอลำบากใจนะ แต่ชั้นต้องทำเพื่อส่วนรวม ทุกคนจะได้มีเงินไปเริ่มต้นประกอบอาชีพใหม่ มันเป็นปัญหาของชั้น เดี๋ยวชั้นจัดการเอง เธอไม่ต้องคิดมากหรอก เธอเอาเวลานี้ไปคิดหาที่อยู่ใหม่ดีกว่า เราคงอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วยกันได้อีกไม่กี่วัน เดี๋ยวธนาคารก็ต้องมายึดแล้ว”

สมหวังฟังแล้วรู้สึกเศร้าใจหนัก ตัดสินใจพูดโพล่งขึ้นมา
“ตกลง…ชั้นจะยอมเป็นนักร้องให้”
สายฟ้าอึ้ง ชะงัก หันมามองสมหวังแบบงงๆ
“เธอว่ายังไงนะ”
“ถ้าการที่ชั้นเป็นนักร้องจะช่วยทุกคนที่นี่ได้ ชั้นก็จะช่วย!”
สายฟ้าดีใจมาก “เธอแน่ใจนะ”
สมหวังพยักหน้า
“เธอเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ”
สมหวังยืนยัน “ค่ะ”
สายฟ้ายิ้มออก “ขอบใจมากสมหวัง….ชั้นขอบใจเธอจริงๆ”
สายฟ้าดีใจเผลอไปจับมือสมหวัง สมหวังอึ้งๆ
สมหวังมองไปยังมือสายฟ้าที่กำลังจับมือตัวเองอยู่ สายฟ้ารู้ตัว จึงค่อยๆ ปล่อยมือสมหวัง
สายฟ้ายิ้มให้สมหวัง เป็นเชิงขอบคุณ แววตาสายฟ้าดูมีความสุขมาก

สมหวังกับกุหลาบกำลังช่วยขนชุดแดนซ์เซอร์มาเก็บไว้ที่ห้องเหมือนเดิม
“ในที่สุดวงก็ไม่ต้องโดนยุบ…สมหวังนี่เป็นนารีขี่ม้าขาวมาช่วยวงสองครั้งแล้วนะเนี่ย”
สมหวังยังคงหนักใจ “พี่กุหลาบชั้นทำถูกแล้วใช่มั้ย”
“สมหวังทำถูกต้องที่สุด ดูสิคนอีกกว่าสิบชีวิตเค้ามีรอยยิ้มแห่งความสุขเพราะสมหวังนะ…ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่จะอยู่ข้างสมหวังเสมอ”
“แล้วถ้าหมวดวันชาติรู้จะทำยังไง”
“พี่คิดว่าเราควรจะบอกผู้หมวดก่อน…เดี๋ยวพี่จะรับรองความปลอดภัยของสมหวังกับหมวดให้เอง พี่ยอมแลกด้วยตำแหน่งของพี่”
“ถ้าเกิดหมวดไม่ยอมล่ะ”
กุหลาบคิดหนัก
“ถ้าไม่ยอมก็…”
กุหลาบพูดยังพูดไม่ทันจบคำ สายฟ้าก็เดินเข้ามาพอดี
“คุยอะไรกันสองคน”
“เปล่าค่ะ….ไม่มีอะไร”
“มีธุระอะไรจะใช้เราสองคนหรือเปล่า” สมหวังถาม
“ใครจะกล้าไปใช้เธอ ตอนนี้เธอเป็นนักร้องของวงเราแล้วนะ เธอเป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับวงเรา”
สมหวังออกตัว “ทุกคนสำคัญเท่ากันหมดค่ะ ถ้าไม่มีทุกคนชั้นคนเดียวก็ทำอะไรไม่ได้”
สายฟ้ายิ้มปลาบปลื้มในคำตอบของสมหวัง
“ชั้นหวังว่าเธอจะคิดอย่างนี้ตลอดไปนะ”
สมหวังยิ้มแทนคำตอบ
“เออ….ชั้นมาบอกให้เธอเก็บข้าวของ”
“เก็บทำไมคะ” สมหวังงง
“ชั้นจะให้เธอย้ายไปอยู่บนเรือนใหญ่ ชั้นให้เจ๊เนาว์เตรียมห้องไว้แล้ว”
“แล้วชั้นล่ะคุณสายฟ้า” กุหลาบถามทันที
สายฟ้าบอก “ก็ย้ายไปกันทั้งสองคนนั่นแหละ”

ประตูห้องเปิดออก สายฟ้าเดินนำสองสาวเข้ามา
“ห้องนี้แหละ”
สมหวังกับกุหลาบเข้ามาเห็นห้องถึงกับตะลึง
“โห…”
สายฟ้าถาม “เป็นไงชอบมั้ย!”
กุหลาบยิ้มแป้น “ชอบค่ะ”
สมหวังท้วง “มันดีเกินไปหรือเปล่า”
“ไม่หรอก ถือว่าเป็นสิ่งตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ จากชั้นก็แล้วกัน”

เวลาเดียวกันที่โรงพัก ภายในห้องทำงานหมวดวันชาติ ในขณะที่หมวดวันชาตินั่งทำงานอยู่ เจ้าหน้าที่เข้ามาหา
“ขออนุญาตครับ ….ผมเอาเบี้ยเลี้ยงมาให้จ่ากุหลาบน่ะครับ”
“ขอบใจมาก….เดี๋ยวผมจะออกไปข้างนอกนะ ถ้าสารวัตรถามก็บอกว่าเอาเบี้ยเลี้ยงไปให้จ่ากุหลาบนะ แล้วจะแวะไปหาสมหวังด้วย”
“ครับ”

หมวดวันชาติเดินลงมาจากโรงพักไปขึ้นรถ แล้วขับรถออกไป
แดนที่แอบซุ่มอยู่ รีบขี่มอเตอร์ไซค์ขับตามไป!

ด้านชูชนะกำลังเปิดคอร์สสอนร้องเพลงสมหวังอยู่
“ไอ้การที่จะเป็นนักร้องที่ดีได้นั้น มันต้องเริ่มจากการรู้จักวิธีไล่เสียงให้ถูกต้อง เอ็งดูข้า…โด…เร…มี…ฟา…ซอล…รา…ที….โด” ถึงโน้ตตัวสุดท้ายต้องสะดุดเพราะเสียงชูชนะโหนไม่ถึง จนไอแค่กๆ ออกมา
“พ่อๆ..ไหวมั้ยๆ…น้ำชาหน่อยดีกว่า” บาสว่า
ชูชนะรับไปดื่ม “ขอบใจๆ” หันมาพูดกับสมหวัง “ไหนเอ็งลองดูสิ”
สมหวังเริ่มร้องไล่เสียง…เสียงเพราะเสนาะจับใจ สายฟ้ายิ้มปลื้ม
“เสียงน้องสมหวังนี่จะทำให้หัวใจพี่บาสจะละลาย” บาสยิ้มจนตาเยิ้ม
ชูชนะอึ้งในน้ำเสียงสมหวัง
“ข้าว่าข้ามขั้นไปเลยดีกว่า….ข้ามีอะไรจะมาเซอร์ไพร้ส์เอ็งด้วยสมหวัง”
ทุกคนมองอย่างลุ้นๆ
ชูชนะหยิบเนื้อเพลงขึ้นมา เป็นบทเพลงที่แต่งใหม่ชื่อ "สมหวังนะจ๊ะ" ยื่นให้สมหวัง
“นี่เพลงใหม่ที่ข้าแต่งให้เอ็งโดยเฉพาะ ชื่อเพลงสมหวังนะจ๊ะ!”
ชูชนะร้องให้ฟังท่อนหนึ่งก่อน…แล้วให้สมหวังร้องต่อ
“ไหน…เอ็งลองดูสิ”
ชูชนะให้สัญญาณ บาสเปิดเครื่องเล่นแบ็คกิ้งแทร็ค เสียงดนตรีขึ้น
สมหวังเริ่มร้องเพลง….ด้วยไพเราะจับใจเช่นเคย

ทุกคนนั่งฟังอย่างสนใจ

เวลาเดียวกันรถหมวดหมวดวันชาติแล่นไปตามท้องถนน มอเตอร์ไซค์แดนขี่ตามติดไม่ลดละ

ที่สี่แยกสัญญาณไฟจราจรยังคงเป็นสีเขียวอยู่ รถหมวดวันชาติแล่นมาใกล้ถึงสี่แยก แล้วแล่นผ่านไฟเขียวไปได้ แดนจะขับตาม แต่ไม่ทันดันติดสัญญาณไฟแดง! แดนหงุดหงิดหัวเสียมาก!
ครั้นพอไฟเขียวแดนรีบบิดคันเร่งตามไป

ด้านสมหวังร้องเพลงสมหวังนะจ๊ะคล่องขึ้น สายฟ้ามองอย่างชื่นชม
บาสกะกุหลาบ เต้นตามสมหวัง ชอบใจสุดๆ ชูชนะเห็นสมหวังเต้นแล้วไม่ถูกใจ ยังดูเขินๆ
“เดี๋ยวๆ สมหวัง เต้นแบบนี้ไม่ได้”
สมหวังหันมามองอย่างสนใจ
“เพลงมันสนุกขนาดนี้ เอ็งต้องเต้นให้โจ๊ะๆ กว่านี้หน่อย ดูข้านี่…”
ชูชนะโชว์ลีลาการเต้น ทุกคนหัวเราะ เห็นแล้วอเนจอนาถ ห่วงโสร่งที่นุ่งจะหลุดเอา สมหวังหัวเราะ และส่ายหัวบอกว่าทำไม่ได้
“ลองดูใหม่” ชูชนะว่า
สมหวังลองเต้นใหม่
บาสเอ่ยขึ้นกับกุหลาบ
“หิวน้ำ….เฮ้อออ!....หิวน้ำ….หิวน้ำ”
“ก็ไปกินสิมาบ่นอยู่ได้”
“ชั้นอยากกินน้ำแดงง่ะ”
“ก็ออกไปซื้อสิ” กุหลาบบอก
“ออกไปได้ยังไง ชั้นต้องอยู่สอนน้องสมหวังเต้น” บาสอ้าง
กุหลาบจ้องหน้า “จะใช้ชั้นใช่มั้ย”
บาสอ้อน ทำท่าน่าสงสาร “แล้วแต่จะเมตตา”
“เออๆ…เดี๋ยวไปซื้อให้….เอาตังค์มา”
บาสยิ้มๆ แล้วหยิบเงินให้ กุหลาบเดินออกไป

หมวดวันชาติเลี้ยวรถเข้าซอยบ้านชูชนะ โดยมีแด๊นเซอร์สาว 2-3 คนเดินสวนออกมา
สักครู่หนึ่ง เห็นรถแดนขี่ผ่านเลยซอยบ้านชูชนะไป เพราะไม่ทันเห็นรถหมวดวันชาติ

แดนขี่เลยซอยบ้านชูชนะมาได้สักพัก และไม่เห็นมีวี่แววรถของหมวดวันชาติ จึงจอดเลียบข้างทาง แดนถอดหมวกออก แล้วพยายามชะเง้อและมองรอบๆ หารถหมวดวันชาติ
“ทำไมมันเร็วนักว๊ะ!...พลาดอีกจนได้”
บรรดาแด๊นเซอร์สาวๆ เดินสวนมามองๆ แดน แดนรีบขี่รถออกไป

รถหมวดวันชาติแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน กุหลาบปั่นจักรยานมาหน้าบ้าน สวนกับหมวดวันชาติพอดี
กุหลาบตกใจที่หมวดวันชาติมา รีบจอดจักรยาน
“หวัดดีค่ะหมวด”
“หวัดดี”
“มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมมาไม่โทร.มาบอกก่อนล่ะคะ”
“เอาเบี้ยเลี้ยงมาให้”
“ขอบคุณค่ะ”
“แล้วสมหวังล่ะ”
“กำลังซ้อมร้องเพลงอยู่…” กุหลาบหลุดปาก แล้วนึกขึ้นได้ “เอ้ย!! ดูเค้าซ้อมร้องเพลงอยู่”
“งั้นเดี๋ยวขอผมไปหาสมหวังหน่อย จะไปถามว่าเป็นยังไงบ้าง”
“ค่ะ”
หมวดวันชาติกำลังเดินเข้าไป กุหลาบคิดได้ ร้องขึ้น “เอ๊ย! ไม่ได้ค่ะ”
“อะไรจ่า”
“หมวดรอตรงนี้ดีกว่านะ…เดี๋ยวชั้นไปตามให้”
วันชาติแปลกใจ “ก็แค่นี้เองเดินไปก็ได้”
กุหลาบแถ “ไม่ได้ค่ะ คนอื่นเค้ากำลังซ้อมกันอยู่ เดี๋ยวเสียสมาธิ”
“ก็ได้งั้นผมรออยู่ตรงนี้นะ”

สมหวังยังฝึกร้องเพลงอยู่ที่ลานซ้อมเต้น กุหลาบเข้ามา
บาสทวง “น้ำแดงชั้นล่ะ”
กุหลาบบอก “แป๊ปนึง เดี๋ยวออกไปซื้อให้”
กุหลาบเข้าไปหาสมหวังกระซิบ “หมวดมา”
สมหวังตกใจ “เอาไงดีล่ะ”
สายฟ้ามองเขม็ง “มีอะไรกันหรือเปล่า”
“คือ….หมวดมาค่ะ” สมหวังบอก
“ไปหาสิ…เดี๋ยวค่อยมาซ้อมต่อก็ได้”
สมหวัง กะกุหลาบ ยังลังเล เหมือนจะบอกอะไรสักอย่าง บาสมองอย่างสงสัย
สายฟ้า “ทำไม…มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
“คือ…เราไม่อยากให้หมวดรู้ว่าสมหวังร้องเพลงน่ะค่ะ” กุหลาบว่า
“ทำไมล่ะ” สายฟ้าแปลกใจ
“ก็เรื่องคดีนายจ้างที่หลอกเรามาทำงาน มันยังไม่คืบหน้า หมวดเลยไม่อยากให้เราออกไปไหน…แล้วยิ่งถ้าเป็นนักร้องมันต้องอยู่ในที่โล่งแจ้ง หมวดยิ่งไม่ยอมแน่ๆ” สมหวังว่า
สายฟ้ามองสมหวังแล้วคิดตาม บาสฟังแล้วสงสัย
“ได้ๆ…ชั้นจะไม่ให้พี่ชาติรู้เรื่องนี้”
“คนอื่นๆ ด้วยนะคะ…เรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับ” กุหลาบกำชับ
บาสสวนขึ้น “ทำไมต้องเป็นความลับด้วย!”
“บอกว่าเป็นความลับก็เป็นความลับสิ”
“แค่เรื่องคดีนายจ้างหลอกมาทำงาน ไม่เห็นต้องเป็นความลับเลย”
“ก็หมวดเค้าบอกมาให้มันเป็นความลับนี่” กุหลาบแถ
“หรือว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น มันถึงเป็นความลับ” บาสบอกอย่างไม่วางใจ
เจ๊เนาว์โวย “โอ๊ย!!! พอได้แล้ว...นี่ไอ้บาสแกจะไปซักอะไรเค้านักหนา”
กุหลาบมีพิรุธ ออกอาการเลิกลั่ก
“ใช่! นายจะมาจับผิดอะไรเนี่ย!...ทำตามที่บอกเถอะ หรือไม่อยากให้สมหวังร้องเพลง”
“ชั้นก็แค่ถามดู….ทำไมต้องเสียงดังด้วย” บาสฉุน
“เอาเป็นว่าอย่าให้หมวดรู้ก็แล้วกัน”

พูดจบกุหลาบก็พาสมหวังเดินออกไป บาสมองกุหลาบอย่างคาใจ และสงสัยมากขึ้น!!!

สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 6 (ต่อ)

สมหวังกะกุหลาบ เดินมาหาหมวดวันชาติที่หน้าบ้าน

สมหวังไหว้ทักทาย “สวัสดีค่ะหมวด”
“สวัสดีสมหวัง…เป็นยังไงบ้าง”
“สบายดีค่ะ….ชั้นต้องขอบคุณหมวดด้วยนะคะที่ช่วยไปดูแลป้าชวนแทนชั้น”
“ไม่เป็นไร…ไม่ได้รบกวนอะไรมากเลย…วันก่อนผมไปคุยกับคุณป้า คุณป้าเขาจะขอมาพบคุณ แต่ผมคิดว่าให้คดีมันคลี่คลายมากกว่านี้ก่อนนะ คุณถึงจะเจอป้าคุณได้ คงไม่ว่าอะไรนะ”
สมหวังเสียงเศร้า “ค่ะ..ชั้นเข้าใจ”
“อดทนอีกนิดนึงนะสมหวัง…อีกไม่นานผมก็คงจะปิดคดีได้ แล้วคงจะจับตัวร้ายได้เร็วๆ นี้ แต่ต้องขอเก็บหลักฐานให้ได้มากกว่านี้ก่อน”
“ถ้ายังไงระหว่างนี้ก็รบกวนหมวดช่วยไปดูป้าให้ชั้นด้วยนะคะ”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง….อยู่ที่นี่ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย” วันชาติถามสารทุกข์
“ไม่เลยค่ะ…สบายมาก”
วันชาติหันมาทางกุหลาบ “อย่าลืมที่ผมบอกนะ ช่วงนี้ระวังตัวให้มากขึ้นหน่อย ไม่จำเป็นอย่าออกไปไหน!”
สมหวังกับกุหลาบมองหน้ากัน กุหลาบหลุดอีก
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วชั้นขอตัวพาสมหวังไปซ้อมร้องเพลง”
สมหวังสะกิด กุหลาบนึกได้ “ไปดูเค้าซ้อมร้องเพลงต่อนะคะ”
หมวดวันชาติมองงงๆ ดูกุหลาบแปลกๆ แล้วขับรถออกไป
“เกือบไปแล้วมั้ยละ…บอกคนอื่นซะอย่างดิบดี..แต่จะหลุดซะเอง” กุหลาบว่าตัวเอง
“วันนึงหมวดวันชาติต้องรู้แน่ๆ เลยว่าชั้นเป็นนักร้อง”
“รอให้วันนั้นมันมาถึงก่อน...อย่าเพิ่งไปคิดมาก” กุหลาบปลอบ

ที่โรงครัว ชูชนะกำลังพูดก่อนชนแก้วทุกคน
“เอาทุกคน ดื่มให้กับสมหวัง วทัญญู นักร้องคนใหม่ของวงเราหน่อย”
ทุกคนพร้อมใจกันยกแก้ว สายฟ้านั่งร่วมโต๊ะอยู่กับสมหวัง
ทุกคนตะโกน “เชียร์ส”
“กินกันให้เต็มที่เลยนะ มื้อนี่บุฟเฟ่ต์” ชูชนะว่า
“หวังว่าคราวนี้ คงหมดเคราะห์หมดโศกกันซะทีนะพ่อ ต่อไปวงเราจะได้เจอแต่เรื่องดีๆ” สำลีปากดี
“เออซิวะ...เอ็งคอยดูนะ ข้าจะปั้นให้นังสมหวังมันดังกว่าอีนังจอมขวัญอีก อ้าว ลงมือกินกันได้”
ทุกคนพากันไปตักอาหาร สายฟ้าเหลียวไปมองเป็นเชิงขอบคุณสมหวัง

สมหวังตักกับข้าวมานั่งที่โต๊ะ บาสเห็นสมหวังนั่งอยู่รีบปรี่ลงมานั่งข้างๆ
“น้องสมหวังพี่ตักมาเผื่อจ้ะ”
“ขอบใจจ้ะ...ชั้นตักมาแล้ว”
บาสเขยิบตัวเข้าไปหาสมหวังอีก เหลียวมองไปรอบๆ ยังไม่เห็นมีใครเดินมา พยายามหลอกถามสมหวังในสิ่งที่ตัวเองสงสัย
“เอ่อ…น้องสมหวังจ๊ะ”
สมหวังมองบาส “จ๊ะ”
“ก่อนที่น้องสมหวังจะถูกหลอกมาทำงานที่กรุงเทพฯ…น้องสมหวังอยู่ที่ไหนจ๊ะ”
“ก็…ทำงานที่บ้านน่ะจ้ะ”
“แล้วบ้านน้องสมหวังอยู่ไหนเหรอจ๊ะ” บาสซัก
สมหวังอึกอัก “เอ่อ...”
กุหลาบเดินเข้ามาพอดี วางจานข้าวกระแทกกับโต๊ะ กุหลาบนั่งแทรกกลางระหว่างบาสกับสมหวัง
“อยู่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องของนาย!...จะถามทำไมห๊ะ”
บาสฉุน “อะไรของเธอเนี่ย!!..…ทำไมชั้นจะถามไม่ได้ ก็แค่อยากรู้ว่าบ้านสมหวังเค้าอยู่ที่ไหน”
“อยู่ภาคอีสาน…”
บาสไม่เชื่อ ทักท้วง “อีสาน!...แต่ดูสำเนียงมันคล้ายๆ…”
กุหลาบตาเหลือก ตกใจ ที่บอกจังหวัดไม่ตรงกับสำเนียงของสมหวัง จึงสวนขึ้นมา แถตามนิสัย
“คล้ายคนสุพรรณใช่มั้ยล่ะ! ชั้นกับสมหวังเป็นคนอีสาน …แต่พอย้ายมาทำงานที่สุพรรณ มีแต่เพื่อนเป็นคนสุพรรณ ก็เลยพาเหน่อไปด้วย …พอใจรึยัง!”
สมหวังรีบเสริม “ใช่ๆ เมื่อก่อนชั้นพูดกลางชัดมาก แต่พออยู่สุพรรณนานๆ มันก็เลยเหน่อ...”
กุหลาบถอนหายใจโล่งอก
บาสกหันมาทางสมหวัง “แล้วยัยเนี่ยเป็นญาติฝ่ายไหนของน้องสมหวังเหรอจ๊ะ”
กุหลาบตอบแทน “ลูกพี่ลูกน้อง!...พอแล้วถามเซ้าซี้อยู่ได้”
สายฟ้ามองมาที่สมหวัง เดินเข้ามา
“เดี๋ยวกินเสร็จแล้ว ชั้นขอคุยอะไรด้วยหน่อยนะ”
สมหวังทำท่าจะลุก
สายฟ้าแปลกใจ “แล้วจะไปไหนเหรอ”
“ก็ชั้นไม่ค่อยหิว ไปคุยกันตอนนี้เลยก็ได้” สมหวังว่า
บาสเซ็ง โวยวายที่ถูกขัดคอ “โธ่...พี่สายฟ้าอ่า...มาขัดจังหวะอยู่เรื่อยเลย” หันมาพาลใส่กุหลาบ “เธอก็
เหมือนกัน ชั้นคุยกับน้องสมหวังอยู่ดีๆ เข้ามาทำไมก็ไม่รู้”
สายฟ้าบอกกับสมหวัง “เธอนั่งกินให้เสร็จก่อนก็ได้”
“ชั้นกินเสร็จแล้ว” สมหวังบอก
“น้องสมหวังนั่งกินอะไรเป็นเพื่อนพี่อีกสักแป๊ปสิจ๊ะ”
“ก็ชั้นนี่ไง…เดี๋ยวชั้นนั่งเป็นเพื่อนเอง” กุหลาบว่า
บาสยัวะ “ชั้นบอกหรือยัง ว่าชั้นอยากนั่งกับเธอ”
“หวังดีนะเนี่ย..ก็เห็นว่าอยากมีเพื่อน”
สายฟ้ากับสมหวังเดินออกไป
บาสครวญคราง “โธ่..น้องสมหวังไปจริงๆ ด้วย” พาลใส่กุหลาบอีก “เพราะเธอนั่นแหละ”
“เอ้า...มาโทษชั้นได้ไง”
“ก็เธอมานั่งทับที่น้องสมหวัง น้องสมหวังเค้าอยากนั่งใกล้ชั้น ดูสิน้องสมหวังเค้าเดินไปเลย”
กุหลาบยัวะ “เพ้อเจ้อ”

สมหวังเดินตามสายฟ้ามา สองคนหยุดยืนอยู่ที่อีกมุมในครัว
“มีอะไรจะคุยกับชั้นเหรอ”
สายฟ้า อึกอัก เพราะที่จริงไม่มีอะไรจะพูด
“เออ..คือ..อ๋อ ชั้นจะถามว่าเธอพร้อมจะออกแสดงหรือยัง”
“ก็น่าจะพร้อมแล้วนะ”
“ก็ดี งั้นเราจะได้เริ่มออกเดินสายซะที”
“แล้วเราจะไปแสดงที่ไหนกันบ้างคะ..ก็งานเก่าเค้ายกเลิกหมดแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ต้องห่วง...ชั้นวางแผนไว้หมดแล้ว”
สมหวังหันมามองหน้าสายฟ้า เหมือนไม่เชื่อ
สายฟ้าพยักหน้า ยิ้มยืนยัน
สายฟ้ายกแก้วที่ถืออยู่ในมือทำท่าจะชนแก้วกับสมหวัง
“เพื่อเป็นการขอบคุณเธออีกครั้งที่ช่วยชั้น...และยินดีกับนักร้องคนใหม่”
ทว่าน้ำในแก้วสมหวังหมดพอดี สายฟ้ารินแบ่งน้ำในแก้วของตน ให้กับสมหวัง
สมหวังมองอย่างอึ้งๆ งงๆ สายฟ้ายิ้มกริ่ม แล้วยกแก้วชวนสมหวังชนอีกครั้ง

ทั้งคู่ชนแก้วกัน สายฟ้ามองจ้องตา สมหวังทำตัวไม่ถูกรีบหลบสายตาวุ่นวาย

เช้าวันต่อมา สมควรซึ่งมาช่วยเรื่องแผนโปรโมทวง กำลังอธิบายแผนการโปรโมทให้ สายฟ้า สมหวัง ชูชนะ และเจ๊เนาว์ ฟังร่วมกัน

“จากที่คุยกันวันนั้น ลุงก็กลับไปลองทำแผนมา ลองดูกันแล้วกันว่าใช้ได้หรือเปล่า ลุงว่าเราคงต้องทำเหมือนเดิมก่อนในช่วงแรก คือออกไปหาเช่าที่เปิดวิกปิดการแสดง ลุงเลยลองไล่ที่ๆ พอจะได้มา ลองดูแล้วกัน”
สมควรแจกกระดาษที่มีรายชื่อสถานที่ ที่คาดว่าจะไปเปิดการแสดงให้ทุกคน
“ถ้าเรามีที่แล้ว เราก็คงต้องโปรโมทเอง ผมว่าเราน่าจะโปรโมทเหมือนคราวที่แล้ว ออกวิทยุ ติดป้าย ก่อนหน้าวันแสดงสักหนึ่งอาทิตย์”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
“แล้วจะมีรถแห่ประกาศเหมือนคราวที่แล้วหรือเปล่า” เจ๊เนาว์ถาม
สายฟ้าบอก “เรื่องนั้นมันต้องทำอยู่แล้ว”
“เรื่องป้ายเดี๋ยวพ่อจัดการเอง” ชูชนะว่า
“เรื่องโปรโมทตามคลื่นวิทยุก็ไม่ต้องห่วง ปล่อยเป็นหน้าที่ลุง” สมควรบอก
“เหลือก็แต่เรื่องบนเวที เธอทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน” สายฟ้าหีนมาทางสมหวัง
“ไม่ต้องห่วง...ชั้นจะทำให้ดีที่สุดค่ะ”
ทุกคนยิ้มอย่างมั่นใจ

ในวันต่อมา เสียงเพลง “สมหวังนะจ๊ะ” ดังกระหึ่มขึ้น ลูกวงทุกส่วนเตรียมการโปรโมท และเตรียมวงเพื่อทัวร์คอนเสิร์ต
สมหวังกำลังฝึกร้องพร้อมกับแด๊นเซอร์ที่ลานซ้อมเต้น โดยมีบาสเป็นคนนำเต้น
เจ๊เนาว์กับกุหลาบ ช่วยกันดูโชว์ และคอมเม้นท์อยู่ข้างๆ

สายฟ้า เจ๊เนาว์ และสมควร ช่วยกันโทรศัพท์ติดต่อหาสถานที่เปิดการแสดง จังหวะหนึ่งสมควรวางหูโทรศัพท์ บอกว่ามีคนตกลงแล้ว
ทุกคนยิ้มดีใจ
สมควรเขียนคิวงานขึ้นบนกระดานเป็นอันดับแรก

อีกวันต่อมาที่โรงซ้อมเต้น สำลี กะปอยฝ้าย และตลกร่วมคณะ กำลังซ้อมมายากลกันอยู่ เป็นมายากลที่เล่นกับไฟ แต่ทั้งคู่ทำพลาด ไฟไปติดแขนเสื้อสำลี ปอยฝ้ายเซ็ง ทุกคนหัวเราะขำ บรรยากาศครื้นเครง

ส่วนที่กระดานคิวงานในบ้าน เริ่มมีงานมากขึ้น ชูชนะ สมควร และเจ๊เนาว์ยังคงติดต่อสถานที่อยู่

ด้านสมหวังซ้อมเต้น กับชุดที่จะโชว์จริงบนเวที ดูสวยงามแม้จะยังไม่จัดเต็ม แด๊นเซอร์เต้นเป็นระเบียบพร้อมเพียง บาสยิ้มร่าทุกอย่างเพอร์เฟคท์ พร้อมแล้ว

คิวงานแสดงบนกระดานขึ้นชื่อ ‘อำเภอสองพี่น้อง สุพรรณบุรี’ เป็นงานแรก
คณะวงดนตรีวทัญญู เดินทางมาถึงเวทีหน้าอำเภอสองพี่น้องทุกคนเตรียมตัวทำการแสดง
เมื่อถึงเวลา ที่หน้าเวที ถึงคิวสมหวังขึ้นร้องเพลงพร้อมกับแด๊นเซอร์ สายฟ้ายืนให้กำลังใจอยู่ข้างเวที
สมหวังเปลี่ยนชุด ทุกเพลงที่ร้อง คนดูปลื้มปริ่ม กรี๊ดสลบ!

หลังเวที บรรดาแม่ยก ต่างขนเอาอาหาร ของฝากมาให้สมหวังเนืองแน่น สายฟ้ายืนดูแล้วรู้สึกภาคภูมิใจ สมหวังหันไปสบตาสายฟ้า สายฟ้ายิ้มให้
สายฟ้า เจ๊เนาว์ สมควร ช่วยกันนับเงินค่าบัตร แล้วเขียนตัวเงินลงไป 200,000

คิวงานบนกระดานครั้งต่อมาเป็นที่ “ด่านขุนทด โคราช”
เมื่อถึงวันเวลาแสดงคนดูให้การต้อนรับสมหวังอย่างคับคั่งเนืองแน่น และแฟนคลับ พ่อยก แม่ยก ที่จำนวนเพิ่มมากขึ้น ต่างมารุมมาอออยู่หลังเวที เพื่อจะให้ของสมหวัง
“โทษนะครับ เดี๋ยวรบกวนมาให้หลังการแสดงนะครับ ตอนนี้กำลังจะแสดงแล้ว”
พ่อยก แม่ยก ต้องจำยอม แล้วกลับไปหน้าเวที
ภายในห้องแต่งตัวนักร้อง สายฟ้าเอาอาหารที่เตรียมไว้มาให้สมหวังทาน สมหวังยิ้ม
“ขอบคุณค่ะ”

สมหวังขึ้นเวทีร้องเพลงอย่างมั่นใจมากขึ้น และเปลี่ยนชุดใหม่ตามเพลงที่ร้องพร้อมแด๊นเซอร์ สวยงามตระการตา
สมหวังทักทายแฟนเพลง “สวัสดีค่ะ พ่อแม่พี่น้อง แฟนคลับทุกคนนะคะ”
คนดูกรี๊ดสลบ แม่ยก พ่อยก แย่งกันคล้องพวงมาลัย
หลังเวที สายฟ้านับเงินค่าบัตร และเขียนตัวเลขลงไป 210,000 บาท

คิวงานครั้งต่อไป เป็นที่ “แก่งคอย สระบุรี”
คืนนั้น มีพ่อยกแม่ยก แฟนเพลงที่มายืนรอสมหวัง ได้กระทบกระทั่งกัน จนเกิดโมโหและลงไม้ลงมือกัน ทั้งคู่ตาเขียวเป็นหมีแพนด้า สมหวังเข้ามาเคลียร์ด้วยตัวเอง
“หยุดเถอะนะคะ ชั้นขอร้องล่ะ จับมือกันเป็นพี่น้องกัน ใครจะมาก่อนใครจะมาหลังไม่สำคัญ ชั้นถือว่าทุกคนเท่าเทียมกันนะคะ จับมือกันดีกันดีกว่านะคะ”
พ่อยกมองหน้ากันแล้วค่อยๆ จับมือกัน สมหวังยิ้มแฉ่งดีใจมาก

สายฟ้าชูนิ้วเป็นเชิงชมว่าเยี่ยมมาก

สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 6 (ต่อ)

ที่แก่งคอย สระบุรีเป็นอีกค่ำคืนหนึ่งที่ทุกคนเตรียมตัวทำการแสดงอย่างเต็มที่

ที่หน้าเวที สมหวังร้องเพลงพร้อมกับแด๊นเซอร์ อย่างพร้อมเพรียงเข้าขา สมหวังยังคงเปลี่ยนชุดไปตามเพลงที่ร้อง แต่ละชุดสวยงามตระการตา เข้ากับอารมณ์เพลงทั้งเพลงช้า และเพลงเร็ว ลีลาของสมหวังแพรวพราวมากขึ้นตามประสบการณ์
คนดูกรี๊ดสลบ!
หลังเวทีการแสดงที่จังหวัดสระบุรีคืนนั้น สายฟ้า ชูชนะ และสมควร ช่วยกันนับเงิน แล้วเขียนตัวเลขลงไป 220,000 บาท

อีกคืนต่อมา วงดนตรีวทัญญูมาเปิดการแสดงที่จังหวัดชลบุรีเมื่อถึงเวลาแสดง ที่หน้าเวที สมหวังร้องเพลงพร้อมกับแด๊นเซอร์อย่างเข้าขาและน่าตื่นตา นอกจากนี้สมหวังยังสร้างความฮือฮาเปลี่ยนชุดการแสดงหลายชุด ตามเพลงที่ร้องหลายๆ เพลง คนดูกรี๊ดสลบ!
นับวันจำนวนคนดูมากขึ้นๆ ทุกเวทีที่เปิดการแสดง

หลังการแสดงที่จังหวัด ชลบุรี จบลง...สายฟ้ากำลังประชุมทุกคนและบอกข่าวดี
“หลังจากที่เราได้ออกทัวร์กันมาครึ่งเดือน ผลสรุปมาว่าวงเรามีกำไรเพิ่มขึ้น ดังนั้นเพื่อตอบแทนทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเป็นอย่างดี ชั้นและพ่อได้ปรึกษากันแล้วว่าทุกคนจะได้เงินเดือนเพิ่มอีกคนละ10เปอร์เซ็นต์”
ทุกคนเฮด้วยความดีใจ
“และหากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ สิ้นปีอาจมีโบนัสก็ได้”
ทุกคนเฮอีก
สมหวังมองทุกคนที่กำลังดีใจ แล้วรู้สึกอิ่มเอิบใจที่ทำให้ทุกคนมีความสุข
“และลุงก็มีข่าวดีอีกข่าวที่เพิ่งจะรู้เมื่อกี้มาบอก” สมควรเอ่ยขึ้น
ทุกคนสนใจฟังสมควร
“ข่าวดีอะไรพี่ควร” ชูชนะถาม
“มีใครรู้จักเอฟเอ็ม 95 ลูกทุ่งมหานคร บ้าง”
สำลีบอก “คอนเสิร์ตลูกทุ่ง”
ปอยฝ้ายต่อ “รายการวิทยุ”
เจ๊เนาว์หงุดหงิด “มันก็ใช่ทั้งสองอันไม่ใช่เหรอ”
“ทำไมเหรอลุง ตื่นเต้นจะแย่อยู่แล้ว” สายฟ้ามองกิริยาลุ้น
“เมื่อกี้เค้าโทร.มา รู้มั้ยว่าเรื่องอะไร”
ทั้งหมดฮือฮาด้วยอาการลุ้นๆ สมควรยิ้มกริ่มอมภูมิเฉลย
“ลีลาจริงพี่ควร..ชั้นลุ้นจนฉี่จะแตกอยู่แล้ว!” ชูชนะว่า
“เมื่อกี้ข้าเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากลูกทุ่งมหานคร เค้าจะให้สมหวังไปออกรายการวิทยุ”
เสียงทุกคนเฮกว่าเดิม สายฟ้ามองหน้าสมหวังแล้วยิ้มให้อย่างภูมิใจ
สมหวังกับกุหลาบหน้าซีดๆ เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่ข่าวดี ที่จะไปออกวิทยุ
“คราวนี้ดังแน่ๆ น้องสมหวัง”
บาสยิ้มร่า สมหวังยิ้มรับหน้าเจื่อนๆ
“ใช่ ไม่แน่อาจจะต้องออกทีวีด้วยนะ” สมควรบอก
บาสดีใจ “ออกทีวีด้วย...น้องสมหวังจะเป็นดาราแล้ว”
สมหวังมองหน้ากับกุหลาบ ทำตัวไม่ถูก
“ทีวี” สมหวังกะกุหลาบร้องขึ้น
สมควรพยักหน้า “ใช่ ทีวี”

ภาพจอทีวีถูกเปลี่ยนไปเป็นช่องต่างๆ เรื่อยๆ สมหวังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงเหม่อคิดอะไรบางอย่าง สีหน้าเป็นกังวล ไม่มีกะจิตกะใจดูทีวี
กุหลาบเดินเข้ามา “ไม่สบายใจเหรอ”
สมหวังพยักหน้า
“ไม่ต้องกลัว...เอาอย่างงี้เราไปบอกเค้า ว่าขอออกแต่รายการวิทยุก็ได้นี่”
“แล้วถ้ามันต้องออกทีวีล่ะ”
“เดี๋ยวพี่บอกเองว่ายังไงก็ไม่ให้ออก หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ให้ออก”
กุหลาบไปคว้าบทสัมภาษณ์ที่นั่งเขียนเองขึ้นมา
“มาลุกขึ้น...มาซ้อมบทสัมภาษณ์กันดีกว่า แก้เครียด”
“มันจะยิ่งเครียดน่ะสิพี่”
“ไม่หรอก…มาๆ นี่พี่เขียนเองกับมือเลยนะ”
สมหวังยังคงสีหน้าไม่ดี
กุหลาบซ้อมสัมภาษณ์เสียงใส “สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟัง ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการเอฟเอ็ม 95 ลูกทุ่งมหานครกับดิฉัน กุหลาบ จิตรสำราญ” พร้อมกับทำเสียงดนตรีประกอบด้วยปาก “วันนี้ท่านจะได้พบกับแขกพิเศษ นักร้องสาวน่ารัก เสียงใส ดาวดวงใหม่แห่งวงการเพลงลูกทุ่ง ขอเชิญท่านพบกับ สมหวัง วทัญญู ค่ะ”
สมหวังไม่เล่นด้วย
กุหลาบคะยั้นคะยอ “อ้าว...ทำไมไม่สวัสดีล่ะ สมหวัง”
“พี่กุหลาบ...ชั้นจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
กุหลาบงง “ทำไมล่ะ”
“พี่ลองคิดดู ถ้าชั้นไปหมวดก็ต้องรู้แน่ๆ”
กุหลาบคิดไปคิดมา แล้วบอกออกมา
“หมวดเค้าไม่รู้หรอก เพราะเค้าไม่ฟังลูกทุ่ง ไม่ต้องกลัว ถ้าเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวพี่รับผิดชอบเอง”
“ไม่เอาดีกว่า...ชั้นไปปฏิเสธคุณสายฟ้าดีกว่า”
 
สมหวังบอกท่าทีจริงจัง

กลางดึกคืนนั้น ชาวคณะทุกคนกำลังเม้าท์มอย บ้างก็ร้องเพลงเฮฮา ดีใจ ที่วงกำลังจะดัง บรรยากาศชื่นมื่นไปหมด

สำลีคุยฟุ้ง “โอ๊ยยย…จะดังใหญ่โตแล้วโว้ยวงเรา”
“ใช่…ทีนี้พวกเราก็จะได้สบายกันซะที จริงไหมพวกเรา” ปอยฝ้ายผสมโรง
ลูกวงร้อง “ใช่” พร้อมเพรียง
“แบบนี้ชั้นก็จะพลอยดังไปด้วยน่ะสิ…จำไว้นะ สำลี ซุปเปอร์ฮา ต้องเป็นดาราตลกที่อยู่แถวหน้าของเมืองไทย” สำลีฝันเฟื่อง
“แกดัง ชั้นก็ต้องด้วยสิวะ ก็เราทีมเดียวกัน” ปอยฝ้าย
สำลีบอก “แน่นอนอยู่แล้วเพื่อน! หม่ำ เท่ง โหน่ง ต้องชิดซ้าย และต้องหลบทางให้ สำลี แอนด์ ปอยฝ้าย ซุปเปอร์ฮา โว๊ยย”
เจ๊เนาว์ด่าเอา “เพ้อเจ้อนะพวกแก…ปล่อยให้สมหวังเค้าดังไปก่อนเถอะย่ะ พวกแกน่ะอีกนาน”
สมหวังกำลังเดินมาหาสายฟ้า แอบได้ยิน
“แต่ว่าก็ว่าเถอะนะ นี่ถ้าไม่ได้สมหวัง…ป่านนี้ชั้นคงต้องเก็บกระเป๋าย้ายกลับไปอยู่ตะเข็บชายแดนแล้วแน่ๆ” เจ๊เนาว์บอก
“ชั้นก็คงต้องกลับไปหมักปลาร้าขายที่บ้านอย่างเก่า” เจ๊จุ๊เสริม
“ดาวมันจรัสแสงอยู่แค่เอื้อม ทำไมตอนแรกเราไม่เห็นนะ จะได้ไม่ต้องไปง้อนังจอมขวัญทุกวันๆ แบบนั้น” เจ๊เนาว์ยิ้มย่อง
สมหวังได้ยินแล้วอึ้ง
“หวังว่าสมหวังคงไม่ทำให้พวกเราต้องผิดอีกหวังอีกนะ” เจ๊จุ๊ว่า
เจ๊เนาว์มั่นใจ “ไม่หรอกย่ะ…สมหวังเค้าช่วยเรามาถึงขนาดนี้ เค้าไม่หนีไปไหนหรอก แล้วนี่ถ้ายิ่งได้ออกทีวีเมื่อไหร่ รับรองดังเป็นพลุระเบิดแน่ๆ”
สมหวังยืนฟัง อย่างเศร้าใจ

สายฟ้ายืนอยู่ตรงระเบียงบ้านมองไปยัง กลุ่มเจ๊เนาว์ เจ๊จุ๊ ปอยฝ้าย สำลี ที่หัวเราะเฮฮาอย่างมีความสุข สายฟ้าพลอยยิ้มมีความสุขไปด้วย
สมหวังสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ เดินเข้ามา
สายฟ้าหันมาเห็นพอดี “อ้าว…สมหวัง…. เธอมาดูนี่สิ”
สายฟ้าชี้ไปที่กลุ่มเจ๊เนาว์ที่เม้าท์มอยอย่างเฮฮา
“เห็นมั้ยเธอทำให้คนในวงเค้ายิ้มได้….พวกเค้ากลับมาหัวเราะกันได้เหมือนเมื่อก่อน”
สมหวังทำตัวไม่ถูก รู้สึกสับสน ไม่รู้จะเอายังไงดี
“เออ..ว่าแต่มาหาชั้นมีอะไรหรือเปล่า” สายฟ้านิ่วหน้า
สมหวังอึกอัก “คือ….ชั้นมีเรื่องจะคุยกับคุณน่ะ”
ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“แป๊ปนึงนะ”
สายฟ้ากดรับโทรศัพท์ คุยกับลุงสมควร ด้วยท่าทีตื่นเต้น
“อะไรนะครับลุงสมควร!...ได้ครับ!...เดี๋ยวผมจัดการให้หมดทุกอย่าง ลุงไม่ต้องห่วงนะ ครับ….เจอกันวันสัมภาษณ์ครับ”
สายฟ้าวางหู ยิ้มร่าออกมาอย่างดีใจ
“ไหน…เธอมีอะไรจะพูดว่ามาเลยสมหวัง ชั้นก็มีเรื่องที่จะพูดกับเธอเหมือนกัน”
“งั้นคุณพูดก่อน”
“เธอนั่นแหละ พูดก่อน”
สมหวัง น้ำท่วมปากได้แต่อึกอักอยู่นั่น “เอ่อ…คือ….”
“เป็นอะไรอึกอักอยู่ได้ งั้นชั้นพูดก่อน…คือว่าเมื่อกี้ลุงสมควรโทรมา ทางคลื่นวิทยุเค้านัดให้เธอไปสัมภาษณ์อังคารนี้! และอาทิตย์หน้าเธอจะได้ออกทีวีด้วย”
สมหวังอึ้ง นิ่งงันไป
สายฟ้าบอก “เธอดังใหญ่แล้วนะสมหวัง”
สมหวังยิ้มเจื่อนๆ
“ทุกคนคงดีใจ ต่อไปวงเราก็จะได้ลืมตาอ้าปากกับเค้าเสียที” จ้องสมหวังนิ่ง “เพราะเธอแท้ๆ เลยนะ วงเราถึงได้ผ่านวิกฤตมาได้ ไม่งั้นชั้นคงไม่สบายใจ ไปตลอดชีวิต ถ้าวงวทัญญูต้องยุบด้วยมือชั้นจริงๆ ขอบใจเธอมากเลยนะ ชั้นไม่รู้จะตอบแทนเธอยังไงจริงๆ”
สมหวังอึ้งไป น้ำท่วมปากจะบอกปฏิเสธก็บอกไม่ได้
สมหวังยิ้มรับเจื่อนจ๋อย หนักใจสุดๆ

ระหว่างทางเดินไปห้องสมหวังกับกุหลาบสมหวังเดินเหม่อๆ ออกมา
“ทำไมต้องออกทีวีด้วยนะ…ทีนี้เราจะทำยังไงดี…แล้วไอ้มือปืนมันจะเห็นเรามั้ย นังสมหวังเอ๊ยยยย”
จู่ๆ บาสเดินผ่านมา สมหวังไม่ทันระวังเลยชนกับบาส บาสรีบโอบสมหวังไว้
บาสจ้องสมหวัง สมหวังรีบผละตัวออก
“น้องสมหวังยังไม่นอนอีกเหรอจ๊ะ”
“กำลังจะไปนอนแล้วจ้ะ…แล้วพี่บาสล่ะ”
“ยังจ้ะ…หิวน่ะกะว่าจะไปทำไข่หวานกินสักหน่อย…ไปปาร์ตี้ไข่หวานกันมั้ย”
“ไม่ดีกว่า…พี่บาสไปเถอะนะจ๊ะ”
บาสเห็นสีหน้าสมหวังดูไม่ดี
“น้องสมหวังเป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ทำไมสีหน้าดูไม่ดีเลย”
“ไม่มีอะไรหรอก ชั้นคงง่วงแล้วน่ะ”
“มีอะไรบอกพี่ได้นะ”
บาสคิดไปคิดมา ก่อนจะบอกต่อ
“พี่ขอถามอะไรน้องสมหวังได้หรือเปล่า น้องสมหวังห้ามปิดบังพี่นะ”
สมหวังหวั่นๆ กลัวคำถามที่บาสจะถาม
“ที่หมวดวันชาติพาน้องสมหวังมาอยู่ที่นี่ มันมีอะไรมากกว่าคดีที่โดนหลอกมาทำงาน ใช่มั้ย”
สมหวังตกใจ! ที่บาสถามแบบนี้
เสียงกุหลาบเรียกขัดจังหวะขึ้น “สมหวัง”
เห็นกุหลาบเดินเข้ามา
“อยู่นี่เอง…ทำไมออกมานานจัง ไปนอนกันเถอะ”
สมหวังขอตัวกับบาส “ชั้นขอตัวไปนอนก่อนนะ”
“จ้ะ” บาสยิ้ม
กุหลาบจ้องบาส “นายล่ะไม่หลับไม่นอน ออกมายืนอ่อยยุงหรือไง”
“ยัง…เดี๋ยวไปหาอะไรกินก่อน” บาสว่า
“งั้นชั้นไปนอนก่อนนะ …ราตรีสวัสดิ์”
กุหลาบกะสมหวังเดินออกไป
บาสมองตามกุหลาบกับสมหวังเดินออกไป
“ต้องมีความลับอะไรแน่ๆ….ชั้นจะต้องรู้ให้ได้”

บาสมั่นใจเกินร้อย และมุ่งมั่นจะสืบความจริงให้ได้

โปรดติดตาม อ่ า น ต อ น ต่ อ ไ ป เวลา 9.30 น.
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 2
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 2
รุ่งเช้าวันต่อมา ยินเสียงตำพริกดังโป๊กๆ ขึ้นในโรงครัว พร้อมกับเสียงใครคนหนึ่งร้องเพลงตามวิทยุอยู่ เป็นเพลงสนุกสนานจังหวะมันส์ๆ โจ๊ะๆ เนื้อหาเกี่ยวกับสาวโสดอยากมีแฟน ภายในครัวของบ้านพักวงดนตรียามนั้น เจ๊จุ๊ ช่างแต่งหน้าซึ่งรวบตึงตำแหน่งแม่ครัวประจำวง สาวใหญ่ร่างอวบที่แต่งหน้าและแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีเจ็บ และฉูดฉาดอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว กำลังทำกับข้าวและร้องเพลงอย่างมีความสุข จังหวะนั้นเจ๊เนาว์กำลังจะเข้ามาในครัว ได้ยินเสียงเจ๊จุ๊กำลังครวญเพลง ด้วยอารมณ์บรรเจิด เจ๊เนาว์ก็หยุดกึก ออกสเต็ปวาดลวดลายสะดีดสะดิ้งตามอยู่ตรงหน้าประตู โดยที่เจ๊จุ๊ยังไม่เห็น
กำลังโหลดความคิดเห็น