สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 5
ตอนสายวันต่อมาหมวดวันชาติเดินออกมาหน้าโรงพัก
“ถ้าสารวัตรถามถึงผม บอกว่าเดี๋ยวผมกลับมา ผมไปทำธุระแป๊ปนึง”
วันชาติบอกลูกน้อง เดินไปขึ้นรถ แล้วขับออกไป
แดน นั่งซุ่มอยู่บนมอเตอร์ไซค์ พอเห็นรถหมวดวันชาติขับออกไป ก็สตาร์ทเครื่องขี่ตามไป!
รถหมวดวันชาติแล่นมาตามทาง แดนขี่ตามไปติดๆ!
รถหมวดวันชาติแล่นมาจอดที่หน้าร้านชวนชมภูษา ตามมาด้วยรถแดนที่ขับมาเทียบอยู่อีกฝากหนึ่ง
หมวดวันชาติกดกริ่งหน้าร้าน ป้าชวนเดินออกมา
“สวัสดีครับป้า” หมวดยื่นถุงขนมให้ป้า
“ขอบคุณมากค่ะหมวด…แล้วนี่ไปหาจ่ากุหลาบกับสมหวังมาด้วยหรือเปล่าคะ”
“ยังเลยครับ…กะว่าจะไปอยู่เหมือนกัน”
“ชั้นคุยกับสมหวังมัน มันอยากจะมาหาชั้นผู้หมวดพอจะมีทางให้ชั้นกับนังสมหวังได้เจอกันบ้างได้มั้ยคะ” ป้าชวนคร่ำครวญ คิดถึงสมหวัง
วันชาติลำบากใจ “ผมว่าอย่าเพิ่งดีกว่านะครับ ขอให้คดีมันคลี่คลายมากกว่านี้ก่อนดีกว่า”
ป้าชวนหน้าละห้อย “ก็ได้ค่ะ”
แดน เห็นหมวดวันชาติกับป้าชวนคุยกันอยู่ ก็สงสัย
“ทำไมไอ้หมวดนนั่นมันมาที่นี่วะ”
ครู่หนึ่ง แดนก็เห็นหมวดวันชาติขับรถออกไป
ป้าชวนกำลังจะเดินเข้าบ้าน แดนเดินเข้าหา
“ป้า”
ป้าชวนหันมาก็ตกใจ “มาหาใคร?”
“เปล่า….ป้าอยู่ร้านนี้คนเดียวเรอะ”
ป้าชวนมองแดนหัวจรดเท้าอย่างไม่ไว้ใจ
“ใช่! ชั้นอยู่คนเดียว..มีอะไร…จะตัดชุดก็เข้ามาวัดตัวก่อน”
“แล้วเมื่อก็ตำรวจมาทำอะไร”
“เค้ามาตัดชุด…ถามทำไม”
“ก็ถามดู…ดีนะร้านป้ารับตัดชุดทุกอย่างเลย ชุดตำรวจก็ตัดด้วย”
“ตำรวจเมื่อกี้เค้ามาตัดสูท ไม่ใช่ตัดชุดตำรวจ…แล้วสรุปเอ็งจะตัดหรือเปล่า” ป้าชวนว่า
“ไม่ดีกว่า…เดี๋ยวค่อยมาวันหลัง”
แดนเดินออกไป ป้าชวนมองตามอย่างจับสังเกต ท่าทางเป็นกังกล!
ไม่นานนัก เสียงโทรศัพท์ยอดชายดัง ยอดชายรับโทรศัพท์ ยอดชายคุยโทนศัพท์กับแดน
“ว่ายังไง”
“ผมสะกดรอยตามไอ้หมวดนั่นอยู่” แดนรายงาน
“ได้เรื่องยังไงบ้าง”
“มันมาที่ร้านตัดเสื้อร้านนึง ชื่อร้านชวนชมภูษา ไม่รู้ว่ามาทำไม” แดนบอก
“ร้านชวนชมภูษา…ร้านนั้นที่อีแก่มันไปตัดชุดนี่…ไอ้หมวดนั่นมันไปทำอะไรของมัน…แกตามมันต่อไปอย่าให้คาดสายตานะ”
“ครับ”
ยอดชายวางโทรศัพท์ สีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด ก่อนจะพึมพำออกมา
“ร้านชวนชมภูษา…มันไปทำอะไรของมัน”
ระหว่างที่ยอดชายคิดไปคิดมาอยู่นั้น ดันเหลือบไปมองกรอบรูปศรีสมรที่ยิ้มสง่าอยู่บนหัวเตียง
“มองทำไม!...หัวเราะเยาะกูเหรอ”
ยอดชายเข้าไปกระชากรูปศรีสมรลงมา แล้วปาลงพื้น!
“ตายไปแล้วยังสร้างความลำบากไว้ให้กูอีก แค่ยกมรดกให้กูมันมีปัญหามากนักใช่มั้ย ไหนมึงบอกว่าไว้ใจกู รักกูไง อีแก่!”
ยอดชายหยิบคัตเตอร์แถวนั้นมากรีดภาพ “เห็นแล้วหมั่นไส้”
ยอดชายนั่งสงบสติอารมณ์
สักครู่หนึ่ง ยอดชายนึกอะไรออก แล้วหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.หาใครบางคน
หมวดวันชาติกลับถึงสน.แล้ว กำลังรับโทรศัพท์จากยอดชาย
“สวัสดีครับ ผมวันชาติพูดครับ….คุณยอดชายเหรอครับ…ครับ….อยากพบผม…ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรด่วนหรือเปล่าครับ…ได้ครับ…งั้นพรุ่งนี้เจอกันครับ”
ที่โรงซ้อมเต้นในวันต่อมา ยินเสียงเพลงจากวิทยุดังกระหึ่มขึ้น โดยมีบาสกำลังแกะท่าเต้นอยู่ ในขณะที่บรรดาแด้นเซอร์สาวๆ กำลังฝึกสเตป ตามที่บาสเพิ่งสอนไป
ส่วนเจ๊เนาว์คอยเดินตรวจดูความเนี้ยบและเป๊ะของท่าเต้นแต่ละคน บาสคิดท่าใหม่เสร็จพอดี บาสเดินไปกดปิดเครื่องเล่นซีดี
“อ้าว…พวกเรา มารวมตรงนี้ เดี๋ยวเราจะทวนท่ากันตั้งแต่แรกก่อนนะ แล้วพี่จะเพิ่มท่าใหม่ให้”
“พี่บาสปล่อยท่าเร็วแบบนี้ ยัยจอมขวัญจะตามทันเหรอ” แด้นเซอร์นางหนึ่งเอ่ยขึ้น
เจ๊เนาว์ตอบแทน “ช่างมันแล้ว…ถ้าเต้นไม่ได้ก็ให้อายเหมือนงานวันก่อน”
“แล้วเค้าจะมาปะเนี่ยเจ๊” บาสสงสัย
“บอกจะมาๆ ยังไม่เห็นแม้แต่เงาเลย” เจ๊เนาว์บอกอย่างหมั่นไส้
“งั้นไม่ต้องสนใจแล้วเรามาซ้อมต่อเลย” บาสบอก
แด้นเซอร์ ตั้งแถวตามบล็อกกิ้งที่บาสจัดไว้ ดูแปลกตาและน่าสนใจกว่าเก่ามาก แด้นเซอร์ตั้งท่าเตรียมพร้อม
บาสกดเปิดเพลง แด้นเซอร์ทุกคนออกลวดลายอย่างสวยงาม และพร้อมเพียง ท่าแต่ละท่าดูแปลกใหม่ขึ้น
บาส กะเจ๊เนาว์ มองอย่างภูมิใจ
ส่วนที่ห้องเก็บชุดแด้นเซอร์ ยินเสียงเพลงจากโรงซ้อมเต้นดังคลอมา สมหวังนั่งร่างแบบชุดแด้นเซอร์อยู่ พร้อมกับฮัมเพลงไป ตามเสียงที่ได้ยินมา อย่างอารมณ์ดี สายฟ้าเดินเข้ามาใกล้ได้ยิน สมหวังร้องเพลง จึงหยุดฟัง
“เสียงดีนะเรา”
สมหวังยิ้มรับแทนคำขอบคุณ “คุณ มีอะไรหรือเปล่า”
“ชั้นยังไม่ได้ขอบใจเธอเรื่องเมื่อวานเลย” สายฟ้าบอกอย่างซึ้งใจ
“ไม่เป็นไรหรอก..ชั้นทำไปเพราะไม่อยากเห็นทุกคนต้องทะเลาะกัน และไม่อยากเห็นใครบางคนเครียดจนหน้าย่นไปมากว่านี้”
สายฟ้าชะงัก “นี่เธอหาว่าชั้นแก่เหรอ”
สมหวังยิ้มขำๆ “เปล่าสักหน่อย”
สายฟ้าไม่โกรธอะไร “ยังไงก็ขอบใจเธอมากนะ ที่ช่วยพูดจนทุกคนเข้าใจ”
สมหวังยิ้มรับที่ถูกชม
สายฟ้ามองไปเห็น “กำลังร่างแบบชุดอยู่เหรอ”
“ค่ะ…ลองวาดไปเรื่อยไปเรื่อยๆ ก่อน จะหาว่าอันไหนเหมาะที่สุด”
สายฟ้ามองดูแบบที่สมหวังสเก็ตดูราวกับมืออาชีพ ก็แปลกใจขึ้นมา
“ว่าแต่ เธอออกแบบชุดเป็นด้วยเหรอ”
สมหวังชะงัก อ้ำอึ้ง “คือ…ชั้นจำเค้ามา เคยเห็นดีไซเนอร์ที่ร้านทำ”
“เธอก็มีความรู้เรื่องเสื้อผ้าเยอะเหมือนกัน น่าจะเปิดร้านตัดเสื้อมากกว่า”
สมหวังนิ่งงันไป แล้วพยักหน้าเห็นด้วย
“แต่อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว จะได้คอยช่วยชั้น”
สมหวังหันมองสายฟ้า เห็นสายฟ้ามองมาที่ตนอยู่เลยรีบหลบสายตา
“อ้อ…มีอีกเรื่องหนึ่ง”
สมหวังหันมามองอีกครั้ง
“ชั้นโทรมมากเลยเหรอ” สายฟ้าถาม
สมหวังนึกหาทางออก “ไม่หรอก…ชั้นก็พูดไปอย่างงั้นเอง อย่างคุณเค้าเรียกว่าดูดีแบบธรรมชาติ”
สายฟ้ามั่นใจขึ้น แอ่นอกขึ้นอยากภูมิใจ แอบปลื้มใจ!
ภายในห้องรับแขก สายฟ้า เจ๊เนาว์ และกุหลาบ กำลังดูแบบสเก็ตชุดแด้นเซอร์ที่สมหวังออกแบบใหม่ เป็นดีไซน์ที่ดูเก๋เซ็กซี่และทันสมัย อยู่ด้วยกัน โดยมีสมหวังพรีเซ้นต์
“นี่คือตัวอย่างชุดหางเครื่องใหม่ที่ชั้นลองร่างแบบมาให้ดู”
กุหลาบทึ่ง “สวยจังเลยสมหวัง”
เจ๊เนาว์ดี๊ด๊า ทึ่งเช่นกัน “ไม่คิดว่าเธอจะออกแบบชุดได้สวยขนาดนี้นะเนี่ย”
สมหวังเขิน “ชั้นก็จำๆ เค้ามาน่ะ”
สายฟ้าติงว่าโป๊ “ก็สวยดีนะ…แต่มันไม่ดูเซ็กซี่ไปหน่อยเหรอ”
สมหวังอธิบาย “ไม่หรอก…แบบเนี้ยกำลังดี”
“แล้วมันจะแพงมั้ยอ่ะ”
“ก็นิดหน่อย…แต่มันก็ต้องลงทุน! รับรองชั้นจะทำให้ประหยัดที่สุด ไม่แพงอย่างที่คิด ชั้นจะเอาชุดเก่าๆ มารีไซเคิลด้วย” สมหวังบอก
เจ๊นาว์ซัก “แล้วจะใช้เวลากี่วัน…ไม่เสียเวลาแย่เหรอ?”
“ไม่ต้องห่วง…เดี๋ยวคอยดูฝีมือชั้นแล้วกัน” สมหวังบอกด้วยสีหน้ามุ่งมั่นมาดหมาย
สมหวัง กะกุหลาบเดินเข้ามาในห้องเก็บและซ่อมชุด สองสาวอารมณ์ดี ร้องเพลงทำนองสนุกสนาน ขณะช่วยกันทำงาน
สมหวัง กะกุหลาบ เดินไปหยิบเอาชุดเก่าๆ มากองรวมกัน พร้อมด้วยผ้าผืนใหม่หลากสี ด้วยอุปกรณ์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น เลื่อม เพชรตกแต่งหลากสี มาเตรียมไว้
สมหวังเริ่มออกลวดลายในการตัดผ้าอย่างคล่องแคล่ว โดยมีกุหลาบเป็นลูกมือ จังหวะต่อมาสมหวังเอาชุดเก่ามาตัดและต่อเป็นผ้าผืนเดียวกัน ร่างโครงตามแบบที่สเก็ตไว้ แล้วเอาผ้าผืนใหม่มาเย็บรวมเข้ากัน อย่างลงตัว
จากนั้นสมหวังเอาชุดที่ประกอบเป็นรูปเป็นร่างตามแบบมาสวมไว้กับหุ่น แล้วเอา เลื่อม เพชร โบว์ ต่างๆ มาเย็บเข้ากับชุด
ในที่สุดก็ออกมาเป็นชุดแด้นเซอร์ ที่ดูเซ็กซี่และทันสมัย เป็นการนำชุดเก่ามารีไซเคิล จนสำเร็จออกมาอย่างสวยงาม เด่นหราอยู่บนตัวหุ่น
สมหวังกับกุหลาบ มองชุดด้วยความภาคภูมิใจ
“สมหวังเก่งมากเลยอะ…ดูสวยกว่าในแบบอีกนะ” กุหลาบทึ่งเอามากๆ
ระหว่างนั้น สายฟ้ากับเจ๊เนาว์เดินเข้ามา เห็นชุดที่อยู่ในหุ่น สายฟ้ากับเจ๊เนาว์ถึงกับตะลึง
เจ๊เนาว์กรี๊ด บิดตูดมาดูใกล้ๆ “ว้าว…ดูสวยเก๋ไม่เหมือนใคร เซ็กซี่นิดๆ แต่ไม่น่าเกลียดจนเกินไป”
สายฟ้าเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วยิ้มชื่นชมในฝีมือสมหวัง สายฟ้าเอามือไปจับคลำชุด ปรากฏว่าชุดหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ
สายฟ้าตกใจ ทำอะไรไม่ถูก พยายามจะเอาไปติดไว้เหมือนเดิมแต่ก็ติดไม่เป็น สายฟ้าหันมายิ้มแหยๆ ให้สมหวัง
“นี่คุณ ไม่ต้องตกใจ ชุดมันยังไม่ได้เย็บ ไปจับมันก็หลุดออกมาน่ะสิ” สมหวังปลอบ
สายฟ้ายื่นชิ้นส่วนชุดให้สมหวัง
“แล้วก็ไม่บอก ตกใจหมด!”
สมหวังหัวเราะขำๆ
สายฟ้าเพ่งพินิจชุดครู่หนึ่ง “ฝีมือ….ใช้ได้!”
สมหวังยิ้มอย่างภูมิใจ “ของมันแน่นอนอยู่แล้ว!...คราวนี้ก็เหลือแต่ตัดเย็บให้สมบูรณ์ แล้วก็เตรียมไปโลดแล่นบนเวทีได้เลย!”
ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ยอดชายนั่งเหมือนรอใครที่นัดไว้ อย่างกระวนกระวาย สักครู่หนึ่งหมวดวันชาติก็เดินเข้ามา
“สวัสดีครับ” วันชาติทัก นั่งลงฝั่งตรงข้าม
“สวัสดีครับหมวด เชิญนั่งก่อนครับ ชาหรือกาแฟดีครับ”
“ขอบคุณครับ ไม่ดีกว่าครับ…คุณยอดชายมีธุระอะไรเหรอครับ”
“ก็เรื่องเดิมนั่นแหละครับ ที่ผมขอหมวดไว้ ผมอยากจะเจอพยานด้วยตัวเอง”
วันชาติปฏิเสธ “ผมคงช่วยคุณไม่ได้หรอกครับเรื่องนี้”
ยอดชายอ้อน “ผมรู้ครับ…แต่ผมอยากตอบแทนอะไรเค้าบ้าง ทำไมไม่ได้ล่ะครับ มันเป็นความหวังดีของผมนะครับ”
“ถ้างั้น…คุณอยากจะให้อะไรพยานก็ให้ผ่านทางผมก็ได้ครับ”
“ผมแค่อยากให้กับมือเค้าเองไม่ได้เหรอครับ”
“ได้ครับ! แต่ต่อเมื่อเสร็จสิ้นคดีครับ” วันชาติยืนกราน
ยอดชายเซ็งๆ “ก็ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับ”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
หมวดวันชาติเดินออกไป
ยอดชายพึมพำ “คิดว่าแน่เหรอ…เดี๋ยวมึงก็รู้ว่าใครแน่กว่าใคร!”
หมวดวันชาติขึ้นรถตรงที่จอดรถบริเวณร้านกาแฟ และขับรถออกไป แดน แอบซุ่มอยู่ห่างออกไป พอเห็นรถหมวดวันชาติขับออกไป แดนรีบขี่ตามไปทันที!
รถหมวดวันชาติแล่นมาตามถนนสายหนึ่ง วันชาติมองจากกระจกข้าง เห็นมีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง ขับตาม วันชาติตกใจ! จึงรีบมองกระจกหลังอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่กลับไม่เห็นแล้ว
วันชาติพยายามมองอีกหลายรอบแต่ก็ไม่มี วันชาติส่ายหัว คิดว่าตัวเองคิดมากไป
ครู่ต่อมา รถหมวดวันชาติแล่นอยู่บนถนน โดยมีแดนขี่รถตาไปติดๆ แต่แดนพยายามขี่หลบอยู่ข้างรถบรรทุก ทำให้วันชาติไม่เห็นแดน!
หมวดวันชาติเลี้ยวรถเข้าโรงพัก แดนขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านเลยไป ห่างออกมาหน่อยแดนจอดรถ ถอดหมวก สีหน้าหงุดหงิดที่หมวดวันชาติไม่ไปหาเป้าหมายสักที
“ไอ้หมวดบ้าเอ๊ย!!...มันจะไม่ไปหาอีนังพยานนั่นเลยหรือไงวะ”
ค่ำนั้นทุกคนรวมตัวกินข้าวด้วยกันอยู่ที่โรงครัว สายฟ้าเอ่ยขึ้น
“วันนี้ชั้นได้เห็นความตั้งใจของทุกคนที่ร่วมกันพัฒนาวงเราให้ดียิ่งขึ้น ชั้นอยากจะขอบคุณทุกคนจริงๆ”
ทุกคนเฮ
“และคนที่เราต้องขอบคุณเค้าเป็นอย่างยิ่ง ที่ทำให้เรามีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้งนั่นก็คือสมหวัง”
สายฟ้าพูดพลางมองไปที่สมหวัง แล้วยิ้มให้ สมหวังทำตัวไม่ถูก
ทุกคนเฮอีก โดยเฉพาะ บาส เฮดังที่สุด
“ต้องเกินหน้าเกินตาตลอด” กุหลาบหมั่นไส้
“ก็ชั้นภูมิใจแทนน้องสมหวังนี่”
สายฟ้าพูดปลุกใจต่อ
“ต่อไปนี้ ชั้นขอให้ทุกคนตั้งใจที่จะพัฒนาวงต่อไป คิดซะว่าวงลูกทุ่งแห่งนี้เป็นวงของทุกคนแล้วกัน เพื่อความกินดีอยู่ดีของพวกเราต่อไป”
ทุกคนเฮ เจ๊จุ๊ ซึ่งยืนตรงโต๊ะกับข้าว ที่มีฝาชีปิดอาหารอยู่หลายอย่าง เอ่ยขึ้น
“วันนี้เจ๊…ได้เห็นความตั้งใจของทุกคน เจ๊ก็เลยทำเมนูเด็ดๆ ให้กับทุกคนได้กินกัน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อแกะผัดพริกไทยดำ” ลูกวงทุกคนตะลึง ก่อนจะร้องเฮ เจ๊จุ๊ร่ายต่อ “เป็ดปักกิ่ง ราดซอส ขาหมูเยอรมัน ต้มยำกุ้งลอบสเตอร์”
สำลีน้ำลายสอ “โห…มื้อนี้อาหารฝรั่งทั้งนั้น เจ๊นี่ทุ่มทุนสุดๆ พวกเราได้กินเป็นบุญปากก็มื้อแหละโว้ย”
ทุกคนเฮ ชอบอกชอบใจ
“ที่พูดมาเมื่อกี้น่ะจะบอกว่าไม่มีสักอย่าง!”
เจ๊จุ๊หักมุมตอนจบ ทุกคนโห่
“ถ้าไอ้พวกนี้ลุกขึ้นมากระทืบ ชั้นไม่ช่วยแกนะนังจุ๊” เจ๊เนาว์เหน็บ
“เดี๋ยวใจเย็นๆ ก่อน ถึงแม้จะไม่มีอาหารฝรั่งอย่างที่พูดมาเมื่อกี้ แต่อาหารไทยวันนี้มีแต่เด็ดๆ เว๊ย มีทั้งลาบ ส้มตำ น้ำตก ต้มแซ่บ อาหารทะเล น้ำจิ้มรสเด็ด มื้อนี้บุปเฟ่ต์ กินได้ไม่อั้น สนับสนุนโดย คุณสายฟ้าของเรานั่นเอง ทุกคนลุย กินให้เต็มที่ไปเลย”
จบคำเจ๊จุ๊ ทุกต่างปรบมืออย่างดีใจ และต่างคนต่างไปตักอาหารกินกัน อย่างชื่นมื่น
สายฟ้าปลื้มหันมาพูดกับเจ๊เนาว์ “ถ้าทุกคนรวมมือกันพัฒนาวงแบบนี้ตลอดไปก็ดีสินะเจ๊ วงเราจะได้ไม่น้อยหน้าวงอื่น แล้วอีกอย่างจอมขวัญเค้าจะได้อยากมาซ้อมกับพวกเรา จะได้ไม่มีปัญหาอย่างแต่ก่อน”
“ใช่…นังจอมขวัญมันจะได้ไม่มีข้ออ้างว่าวงเราด้อยพัฒนาอีกต่อไป แล้วถ้ามันมาเห็นว่าวงเรารวมมือร่วมใจกันพัฒนาขนาดนี้ มันต้องอึ้งแน่ๆ”
สายฟ้ากับเจ๊เนาว์ยิ้มอย่างพึงพอใจ
คืนเดียวกัน ป้าชวนกำลังมาร์คหน้าด้วยมะเขือเทศและแตงกวาอยู่ในร้าน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ป้าชวนเอื้อมมือมาหยิบโทรศัพท์ พอเห็นเป็นเบอร์สมหวัง ก็รีบกระดกตัวขึ้นรับโทรศัพท์ด้วยความดีใจ แตงกวาและมะเขือเทศที่อยู่บนหน้าร่วงกราว สองป้าหลานคุยโทรศัพท์กันไปมา
“ฮัลโหล…สมหวังเหรอลูก เอ็งทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยัง”
“กินแล้วจ้ะ…ป้าละจ๊ะ”
“เรียบร้อยแล้ว…ข้ากำลังจะโทร.หาเอ็งอยู่พอดีเลย”
“ป้ามีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”
“ป้าคุยกับหมวดวันชาติแล้วนะเรื่องที่จะให้เค้าพาป้าไปหาเอ็งน่ะ…เค้าบอกว่าเรายังไม่ควรเจอกันเพราะมันจะอันตรายเกินไป”
สมหวังฟังแล้วหน้าเศร้าลงไปทันที “แล้วเราจะได้เจอกันตอนไหนล่ะป้า”
“เห็นหมวดเค้าบอกว่าให้คดีมันคลี่คลายกว่านี้ก่อน”
“คงอีกนานเลยน่ะสิ…” สมหวังพูดเสียงกระซิบ “เอาอย่างงี้เดี๋ยวชั้นหนีออกไปหาป้าดีว่า”
ป้าชวนห้ามขาด “ไม่ได้นะ! มันอันตราย เอ็งอย่าดื้อทำแบบนั้นนะ”
“ก็ชั้นคิดถึงป้านี่”
“เอาน่า..เดี๋ยวก็ได้เจอกัน อดทนอีกนิดนะลูก...ป้ารักเอ็งนะ ดูแลตัวเองดีๆ นะ”
“จ้ะป้า…ป้าก็เหมือนกันนะ”
“เออ...ไม่ต้องห่วงข้า…ฝันดีนะลูก”
สมหวังวางโทรศัพท์ไปอย่างเศร้าๆ
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 5 (ต่อ)
เสียงเพลง สมหวังนะจ๊ะ ท่วงทำนองสนุกสนานคึกคัก ปลุกปลอบและให้กำลังใจคนลูกทุ่ง ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ เหล่าแด๊นเซอร์หญิงชาย พากันมาตั้งแถวให้ สมหวัง กับ กุหลาบวัดตัว บรรยากาศแสนชื่นมื่น
ดูเหมือนทุกคนร่วมมือร่วมใจ เพื่อจะพัฒนาวงให้ดียิ่งขึ้น สายฟ้าเดินผ่านมาแอบมองสมหวัง แล้วก็ยิ้มๆ อย่างอารมณ์ดี แต่พอสายฟ้าหันไปเห็นสมหวังมองมาที่ตน ก็ทำเป็นไม่ได้สนใจ แล้วเดินเลี่ยงไป
สมหวังอยู่ในห้องตัดชุด กำลังติดแบบชุดไว้บนผนัง จากนั้นหันมาจับกรรไกรขึ้นควงก่อนจะลงมือตัดตามแบบที่วางไว้ ไม่นาน ชุดแต่ละชุดที่ตัดเป็นส่วนๆ ไว้ก็เสร็จ
สมหวัง สอนกุหลาบ สองสาวช่วยกันประกอบเป็นตัวเสื้อขึ้นมา ทาบเข้ากับหุ่น
จากนั้นสมหวังเย็บประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างชำนาญ
ชุดที่ตัดเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วหลายชุด
ที่โรงซ้อมเต้นบรรยากาศก็คึกคัก เจ๊เนาว์กำลังนับจังหวะให้แด๊นเซอร์ที่ซ้อมเต้นอยู่ โดยที่บาสนำเต้น
“5 6 7 8 พร้อมเพรียงดีมาก”
แด๊นเซอร์ทุกคนเต้นอย่างตั้งใจ พร้อมเพรียงและสวยแปลกตากว่าเก่ามาก
เจ๊จุ๊ที่ดูซ้อมเต้นอยู่ก็ทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาเต้นตามแดนซ์เซอร์ด้วย
เจ๊จุ๊บอกกับเจ๊เนาว์ “นังเนาว์ สนุกดีเนอะ บาสมันคิดท่าเก๋มากเลยอ่ะ”
เจ๊เนาว์คุยฟุ้ง “สายเลือดชั้นมันแรง”
“ไม่จริงง่ะ…ถ้าแรงจริงไอ้บาสมันต้องเป็นตุ๊ดเหมือนแกไปแล้วน่ะสิ” เจ๊จุ๊แซว
เจ๊เนาว์อารมณ์เสีย “นังนี่!..ปล่อยให้ผู้ชายมันเหลือไปสืบพันธุ์บ้างเถอะ แค่ตอนชั้นเปิดตัวว่าเป็นแบบนี้ ผู้หญิงแถวบ้านชั้นยังร้องไห้เกือบครึ่งอำเภอ”
อีกด้าน นักดนตรีก็กำลังซ้อมกันอยู่อย่างขะมักเขม้น ส่วนปอยฝ้ายกับสำลีกำลังต่อมุขตลกกันอยู่
ครู่หนึ่ง สายฟ้าเดินเข้ามา เจ๊เนาว์หันไปเห็น
“โทร.ติดต่อจอมขวัญได้หรือเปล่า”
“โทร.ไปไม่รับสายเลย ปิดเครื่องไปแล้วด้วย”
เจ๊เนาว์บ่นอุบ “ทำไมทำแบบนี้นะ ก็ตกลงกันแล้วว่าจะมา….เฮ้อ! ไม่ว่าวงเราจะพัฒนาหรือไม่พัฒนา เจ๊ว่ามันก็เป็นแบบนี้แหละ ของแบบนี้มันอยู่ที่สันดาน”
สายฟ้าเซ็งๆ
เวลาเดียวกันนั้น จอมขวัญกำลังฝึกร้องเพลงใหม่อยู่ที่ห้องซ้อมบริษัททีเอสมิวสิค ของเฮียตี๋ พอจอมขวัญร้องเพลงจบ เฮียตี๋ กับนักแต่งเพลงปรบมือให้
“เยี่ยมมากๆ”
“ใช้ได้เลยๆ” นักแต่งเพลงว่า
จอมขวัญยิ้มแฉ่ง “ขอบคุณค่ะ”
“หนูก็พร้อมออกอัลบั้มแล้วนะ…รีบออกจากวงลูกทุ่งต๊อกต๋อยนั่นเถอะ เฮียจะได้เตรียมงานแถลงข่าวให้หนูเลย” เฮียตี๋บอก
“ใจเย็นๆ สิคะเฮีย หนูขอตอบแทนบุญคุณที่วงอีกสักแป๊ปนึงไม่ได้เหรอคะ”
“ได้จ้ะๆ หนูจิตใจดีขนาดนี้ เฮียจะไปขัดหนูได้ยังไง”
“เฮียนี่น่ารักจัง ตามใจหนูทุกอย่างเลยอ่ะ”
จอมขวัญส่งสายตายั่วยวน อ่อยๆ เฮียตี๋หวิวๆ ตัวสั่นสะท้าน นิ้วกระดิกไปหมด
“ไม่ไหวแล้ว”
เฮียตี๋หันไปทางนักแต่งเพลง พูดเป็นเชิงไล่ “วันนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว เราพอแค่นี้ดีกว่านะครับ”
คนแต่งเพลงยิ้มรับ โดยที่ไม่รู้ว่าเฮียตี๋กำลังไล่
เฮียตี๋เซ็ง พูดซ้ำ “ผมบอกว่าเราพอแค่ดีกว่านะครับ หนูจอมขวัญจะได้พักผ่อน”
นักแต่งเพลงรู้ตัว “อ๋อๆ…ครับ งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
พอนักแต่งเพลงเดินออกไป เฮียตี๋รีบทะยานไปล็อคประตู และคว้าตัวจอมขวัญลงมานั่งที่ตัก
“อย่ารุนแรงสิคะ…จอมขวัญอ่อนแอ”
เช้าวันนั้นสมหวังกับกุหลาบ หอบชุดแดนซ์เซอร์เข้ามา ที่ลานซ้อมเต้น
“นี่…ทุกๆคน ชุดแด๊นเซอร์ใหม่เอี่ยมฝีมือน้องสมหวัง ได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว” สมหวังบอกเสียงดัง
ทุกคนต่างตื่นเต้น กรูกันเข้ามามุงดู
เจ๊เนาว์มองแล้วยิ้มแก้มปริ “โห…สมหวังชุดสวยมากเลย”
เจ๊จุ๊ทึ่ง “ฝีมือระดับขั้นเทพเลยนะเนี่ย….เห็นแล้วอยากใส่เลยง่ะ”
เจ๊เนาว์กัด “นังจุ๊แกจะยัดเข้าไปได้ยังไง ใส่ไปก็คงเป็นแหนมพอดี”
เจ๊จุ๊อารมณ์เสีย “นังเนาว์ปากคอเราะร้าย…นิสัย!”
บาสอวยทันที “คนสวยๆ ทำอะไรออกมาก็ดูสวยไปหมดเลยเนอะ”
กุหลาบหมั่นไส้ “ชั้นก็ช่วยสมหวังทำเหมือนกัน แสดงว่าชั้นก็สวยด้วยน่ะสิ”
“สำหรับเธอเป็นข้อยกเว้น” บาสบอก
กุหลาบเบ้หน้าใส่ “ชิ ชิ หล่อตาย”
“พี่ๆ จ๊ะ ในเมื่อชุดก็เสร็จแล้ว ชั้นอยากให้พี่ๆ ลองใส่ซ้อมเต้นกันเลย เพื่อเตรียมความพร้อมไปทัวร์อยุธยาในวันพรุ่งนี้เป็นจังหวัดแรกเลย”
จบคำสมหวัง ทุกคนเฮ
แด๊นเซอร์ทุกคน ต่างรีบไปคว้าชุดของตัวเองมาใส่
นักดนตรี ที่ซ้อมอยู่ข้างๆ ก็พร้อมที่ซ้อมไปกับแด๊นเซอร์ เสียงดนตรีดังขึ้น เป็นเพลงสนุกสนาน แด๊นเซอร์อยู่ในชุดใหม่ พร้อมท่าเต้นที่ซ้อมมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
เจ๊เนาว์กับเจ๊จุ๊ อาสาเป็นนักร้องจำเป็น ร้องเป็นลูกคู่กัน
บาสเห็นสมหวังกับกุหลาบยืนอยู่เฉยๆ ก็ชวนมาเต้นด้วย
ระหว่างนั้นสายฟ้าเดินมา เห็นชุดใหม่ที่ดูอลังการและท่าเต้นใหม่ของแด๊นเซอร์ก็รู้สึกภูมิใจและอึ้งๆ!
สายฟ้ามองไปที่สมหวัง เห็นสมหวังเต้น ดูน่ารัก สายฟ้าหลุดยิ้มออกมาอีกครั้ง บาสหันไปเห็นสายฟ้าจึงรีบไปลากสายฟ้าเข้ามาร่วมเต้นด้วย
สายฟ้ายอมมารวมทีม แต่แค่โยกนิดๆ อย่างเขินๆ แต่สายตาชำเลืองมองสมหวังตลอดเวลา ทุกคนเต้นกันอย่างสนุกสนาน
ชูชนะยืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน มองลงมาด้วยความภูมิใจและตื้นตัน
สายวันต่อมา บนถนนมีป้ายบอกทางไปจังหวัดอยุธยา เห็นรถบัส และรถตู้ ที่มีชื่อป้าวงดนตรีวทัญญู และป้ายชื่อ จอมขวัญ วทัญญู ขับผ่านไป
รถชาวคณะมาถึงที่บริเวณหน้างานแสดง ตอนบ่ายๆ กลางวัน ทุกคนลงจากรถ แล้วช่วยกันขนของไปหลังเวที
เชาว์ ชายสูงวัยรุ่นราวคราวเดียวกับชูชนะซึ่งเป็นเจ้าภาพ เดินเข้ามาหาชูชนะ
“หวัดดีพี่ชู”
“หวัดดีๆ”
สายฟ้าคุมเด็กคอนวอยยกของอยู่ สายฟ้าหันไปสั่งงานกับเจ๊เนาว์ “เจ๊ดูพวกนี้ยกของไปก่อนนะ เดี๋ยวผมไปตกลงเรื่องราคาใหม่กับอาเชาว์ก่อน”
“จ้ะๆ” เจ๊เนาว์รับคำ
สายฟ้าเดินเข้ามาหาเชาว์
“สวัสดีครับอา”
“เออๆ...ไหว้พระๆ”
ครู่ต่อมา สายฟ้า ชูชนะ และเชาว์ มานั่งคุยกันอีกมุมหนึ่ง
เชาว์ตกใจ “อะไรนะ!! แสนแปด ก็ไหนตกลงกันไว้แค่แสนห้าไงวะสายฟ้า อยู่ดีๆ มาเพิ่มขออีกสามหมื่นแล้วข้าจะหาที่ไหนมาให้เอ็ง”
“เฮ้ย! ไอ้สายฟ้า นี่อาเชาว์นะ ทำไมคิดโหดอย่างงี้วะ” ชูชนะโวย
“ฟังผมก่อนนะ…คือว่าวงเราเพิ่งปรับปรุงใหม่ ของทุกอย่างวันนี้ใหม่เอี่ยมหมด แล้วผมสัญญากับลูกน้องไว้แล้วว่าจะเพิ่มค่าตัวให้”
เชาว์ปฏิเสธ “ไม่ไหวหรอก มันไม่ใช่เงินข้า มันเป็นเงินวัดน่ะสิ ข้าก็อยากช่วยเอ็งหรอกนะ แต่เพิ่มตั้งสามหมื่นชาวบ้านด่าตายเลย”
สายฟ้าออกไอเดีย “งั้นเอาอย่างนี้ ผมขอเช่าที่ปิดวิกเก็บตังค์เองได้มั้ย”
ชูชนะ อึ้ง “เฮ้ย เอาอย่างงั้นเลยเหรอวะไอ้สายฟ้า”
“ไม่ลองก็ไม่รู้ ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไม่พอจ่ายคนงานอยู่ดี” สายฟ้าหันมาทางเชาว์ “นะอา ค่าเช่าอาก็เอาเข้าวัดเป็นรายได้ไป อาไม่ต้องเสี่ยงด้วย ผมเสี่ยงเอง”
“เอาอย่างงั้นก็ได้…เดี๋ยวข้าไปบอกหลวงพ่อให้…เออ! พี่ชูไม่ลองโทรไปหาพี่ควรที่สถานีวิทยุจังหวัดล่ะ ตอนนี้เค้ากำลังจัดรายการ จะได้ให้เค้าช่วยประกาศให้”
เชาว์หมายถึงสมควร อดีตโฆษกประจำวง ที่หันมาเป็นดีเจ
เวลาต่อมา ที่สถานีวิทยุจังหวัดอยุธยา สมควรดีเจรุ่นเก๋ากำลังอ่านสคริปท์อยู่หน้าสตูดิโอ เสียงโทรศัพท์หน้าสตูดังขึ้น
เจ้าหน้าที่รับสาย “ฮัลโหลค่ะ…รอสักครู่ นะคะ” หันมาเรียกสมควร “อาสมควรคะ โทรศัพท์ค่ะ”
สมควรมารับโทรศัพท์ สมควรคุยโทรศัพท์สลับกับชูชนะ
“สวัสดีครับ ผมสมควรพูดครับ”
ชูชนะนั่นเองที่โทร.มา “เออ…นี่ชั้นเองนะพี่…. ชูชนะ วทัญญู”
สมควรยิ้มแย้ม “อ้าว…ไอ้ชู เป็นยังไงบ้าง สบายดีเรอะ”
“ก็สบายดี…ชั้นมีธุระให้พี่ช่วยหน่อย”
“ยินดีเลย….มีอะไรว่ามา…” สมควรถาม พร้อมกับนิ่งฟัง
เจ๊จุ๊กำลังแต่งหน้าให้บรรดาแด๊นเซอร์อยู่ เจ๊เนาว์เข้ามาเร่งให้ทุกคนเตรียมตัวไวๆ
“เอาเร่งๆ กันหน่อย จะได้มีเวลาซ้อมอีกสักรอบสองรอบ”
“อย่าเร่งมากสินังเนาว์ เดี๋ยวก็แต่งนังพวกนี้ออกมาเป็นละครลิงกันหมดหรอก” เจ๊จุ๊วี๊ด
สายฟ้าเดินเข้ามาพอดี
“เจ๊ เดี๋ยวให้แดนซ์เซอร์ใส่ชุดเลยนะ จะเอาขึ้นแห่รอบตัวเมือง” สายฟ้าบอก
เจ๊เนาว์งง “แห่ทำไมสายฟ้า”
“คืนนี้เราเปิดวิกเก็บเงินเอง…แผนการตลาดใหม่ เราต้องโฆษณาแห่รอบเมือง!” สายฟ้าบอกอีก
เจ๊เนาว์ยิ้ม “โอเค.ได้เลย จัดเต็ม”
“เจ๊อยากไปแห่ด้วยได้มั้ยง่ะ” เจ๊จุ๊แหลมเข้ามา
สายฟ้ายิ้ม บอกอย่างอารมณ์ดี “ตามสบายเลยเจ๊”
เจ๊จุ๊รีบละมือจากหน้าแด๊นเซอร์ มาแต่งหน้าตัวเอง
“เดี๋ยวสิเจ๊ แต่งหน้าหนูให้เสร็จก่อนสิ” แด๊นเซอร์โวย
ที่หลังเวที ตรงมุมเปลี่ยนชุด สายฟ้าเดินเข้ามาเห็นสมหวังกำลังจัดชุดอยู่คนเดียว จังหวะนั้นสมหวังกำลังหันตัวไปแขวนชุด ชนเข้ากับสายฟ้าอย่างจัง เสียหลักซวนเซ สายฟ้าโอบตัวสมหวังไว้ สองคนจ้องตากัน
สมหวังตั้งสติได้รีบผละตัวออกจากสายฟ้า ทั้งคู่ทำตัวไม่ถูก สมหวังทำเป็นจัดชุดต่อไป
“ทำไมจัดชุดอยู่คนเดียวล่ะ กุหลาบไปไหน” สายฟ้าถามแก้เขิน
“พี่กุหลาบไปซื้อของ” สมหวังบอก
สายฟ้านิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ทำให้สมหวังต้องหันไปดู แล้วเห็นสายฟ้ายังจ้องมองตนอยู่
“จ้องชั้นทำไมเหรอ…วันนี้ชั้นแต่งตัวตลกรึไง” สมหวังก้มมองตัวเอง
“เปล่า…คือว่า…ชั้นอยากจะขอบใจเธออีกครั้งนะ สำหรับทุกๆ อย่าง”
“แหมเรื่องเล็กน้อย…มีอะไรก็ช่วยๆ กันไป”
“ชั้นต้องขอโทษด้วยนะ ที่ตอนแรกชั้นแกล้งเธอสารพัดเลย” สายฟ้าบอกอย่างจริงใจ
สมหวังยิ้มเยื้อน “ชั้นลืมไปหมดแล้ว”
“ถ้าคดีเรื่องนายจ้างของเธอเสร็จเรียบร้อยเมื่อไหร่ แล้วเธออยากจะทำงานที่นี่ต่อ ก็ทำได้นะ”
สมหวังนิ่งๆ ยังไม่ทันพูดอะไร บาสก็เดินเข้ามา
“อยู่นี่เองพี่สายฟ้า…ตามหาซะตั้งนาน” บาสว่า
“อะไรของแกวะ” สายฟ้าเซ็ง
“รถแห่โฆษณาเตรียมพร้อมหมดแล้วนะ”
“แห่อะไรกัน” สมหวังงง
“วันนี้เราขายบัตรเอง เราจะไปแห่โฆษณารอบตัวเมืองกัน….เดี๋ยวพวกแดนซ์เซอร์จะมาเปลี่ยนชุดแล้ว เตรียมชุดไว้ให้พร้อมนะ”
สายฟ้าเดินออกไป
บาสปรี่เข้าไปหาสมหวัง
“เหลืออะไรให้พี่ทำบ้างจ๊ะ มาเดี๋ยวพี่ชวย”
แม่ค้าขายผักในตลาด กำลังฟังวิทยุ ที่มีเสียงประกาศจากดีเจสมควร
“สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่รักทุกท่าน เป็นประจำทุกวันบ่ายแก่ๆ แบบนี้ เป็นหน้าที่ของผม สมควร นวลกระจ่าง ที่จะมารับใช้มิตรรักแฟนเพลง ด้วยเสียงเพลงเพราะๆ ในรายการ “ลูกทุ่งกรุงเก่า” แต่ก่อนที่เราจะไปฟังเพลงเพราะๆ จากรายการ ผมมีข่าวประชาสัมพันธ์ ในค่ำคืนนี้ ณ บริเวณหน้าวัดพระลาน ทุกท่านจะได้พบกับนักร้องสาวเสียงใส จอมขวัญ วทัญญู ขอเชิญพี่น้องชาวอยุธยาโปรดไปให้กำลังใจกันด้วยนะครับ”
จบเสียงดีเจสมควร เสียงเพลงจังหวะเร้าใจจากขบวนแห่ก็ดังสวนขึ้น ผู้คนในตลาดพากันแตกตื่นออกมาดู เห็นรถบรรทุกแห่ ซึ่งมีแด๊นเซอร์ซึ่งอยู่ในชุดใหม่เอี่ยมโยกย้ายเต้นกันอย่างสนุกสนาน รถกำลังเคลื่อนขบวนช้าๆ ผ่านตลาด ผู้คนแตกตื่นยื่นดูอย่างตื่นตาตื่นใจ
เจ๊เนาว์ เจ๊จุ๊ และแด๊นเซอร์อีกส่วนหนึ่งเดินแจกใบปลิวอยู่ด้านล่าง
บนรถแห่ยามนั้น ปอยฝ้ายกับสำลี ช่วยกันประกาศ ปอยฝ้ายเริ่มก่อน
“สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องชาวอยุธยา ค่ำคืนนี้ทีมงานราชินีเพลงลูกทุ่งหน้าใหม่ สาวเสียงใส จอมขวัญ วทัญญู ได้มีโอกาสมาเปิดการแสดงให้พี่น้องชาวอยุธยา ณ บริเวณหน้าวัดพระลาน”
สำลีเสริม “ท่านจะได้พบกับความตื่นตาตื่นใจกับการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ลูกทุ่งไทยก้าวไกลสู่ยุค2012 ด้วยระบบแสง สี เสียง ที่ตื่นตาตื่นใจเซอร์ราวด์ รอบทิศทาง แด๊นเซอร์หนุ่มหล่อ สาวสวย ที่คัดมาสดๆจากไร่!”
ปอยฝ้ายท้วง “แด๊นเซอร์! ไม่ใช่มะเขือเทศ”
“อย่าลืมอย่าพลาด ไปพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของลูกทุ่งไทย สองทุ่มคืนนี้ที่บริเวณหน้าวัดพระลาน…ครับผม”
ทุกคนบนรถต่างโบกมือทักทายผู้คนที่อยู่รอบตลาด
บริเวณหน้าห้องขายตั๋ว ผู้คนล้นหลาม ยืนต่อคิวกันเข้าซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมการแสดงคับคั่ง ชูชนะ กับสายฟ้า ยืนดูอย่างภูมิใจ
“เห็นแล้วนึกถึงสมัยพ่อตอนหนุ่มๆ ตอนพ่อดังๆ คนก็มาดูเยอะแบบนี้แหละ”
สายฟ้าขำชูชนะ ที่อวยตัวเอง
บรรดา แม่ยก พ่อยก มีทั้งแม่ค้าในตลาด วินมอเตอร์ไซค์ เด็กโรงงาน บางคนใส่เสื้อที่มีรูปใบหน้าจอมขวัญบ้าง มีป้ายไฟบ้าง ถือพวงมาลัยบ้าง ต่อแถวเข้าคิวพยายามเบียดกันใหญ่
“ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวพวงมาลัยชั้นแบนหมด” แม่ยกคนหนึ่งร้องขึ้น
ถัดไปเป็นแม่ค้าขายปลาทู หอบปลาทูจะเอามาให้จอมขวัญสองถุงใหญ่ คนที่ต่อแถวอยู่ต่างมองไปที่แม่ค้าปลาทูเป็นตาเดียว
แม่ค้าปลาทูเม้ง “มองอะไร ไม่เคยเห็นคนหรือไง…แน่ะพูดแล้วยังมองหน้าเดี๋ยวแม่ด่าซะหรอก”
เหล่าแด๊นเซอร์ กำลังวุ่นอยู่กับการแต่งตัวอยู่ที่หลังเวที ตรงมุมแต่งตัว โดยมีเจ๊เนาว์สั่งการ
“อ้าว…เร็วหน่อยๆ”
สายฟ้าเดินเข้ามา เจ๊เนาว์เรียก “สายฟ้าๆ”
“อะไรเจ๊”
“ข้างหน้าเป็นไงบ้าง”
“ได้ผลเกินคาด บัตรขายเกือบหมดแล้ว” สายฟ้าบอก
เจ๊เนาว์กรี๊ด “ดีใจจัง…เดี๋ยวจะบอกให้ทุกคนแสดงให้เต็มที่เลย” พลางหันไปบอกทุกคน “อ้าวพวกเราคนมาดูเพียบเลย โชว์ให้สุดติ่งเลยนะ!!” ทุกคนเฮลั่น ดีอกดีใจยกใหญ่
สายฟ้าเห็นสมหวังรีดชุดอยู่ เดินเข้ามาหา
“เหนื่อยมั้ย”
“ไม่เลย…สนุกดี….แล้วคุณล่ะ” สมหวังรีดชุดไปคุยไป
“ไม่เหนื่อยเหมือนกัน”
“ดีใจด้วยนะจ๊ะ…ที่บัตรขายดีเป็นเทน้ำเทท่า” สมหวังยิ้มแฉ่ง
“ถ้างั้นก็ต้องยกคุณงามความดีให้ใครบางคนแถวๆ นี้”
จู่ๆ เจ๊จุ๊เดินเข้ามา สายฟ้าเซ็ง ที่ถูกขัดจังหวะตลอด
“สายฟ้าๆ…พ่อให้มาตามนะจ้ะ” เจ๊จุ๊ว่า
สายฟ้าแปลกใจ “เรื่องอะไรรู้มั้ยเจ๊”
“เค้าจะให้ไปเจอใครไม่รู้” เจ๊จุ๊บอก
สายฟ้ายกมือไหว้สมควรที่ชูชนะแนะนำ
“จำได้หรือเปล่า นี่ลุงควรที่เมื่อก่อนเป็นโฆษกวงพ่อสมัยก่อน”
สายฟ้าส่ายหัว นึกไม่ออก
“โธ่ไอ้ชู หลานมันจะจำได้ยังไง ตั้งยี่สิบกว่าปีมาแล้ว”
“ถ้าวันนี้ไม่ได้ลุงควร เค้าประกาศออกวิทยุให้ คนไม่มาดูเรามากอย่างนี้หรอกนะ” ชูชนะว่า
“ต้องขอบคุณ ลุงอีกครั้งนะครับ” สายฟ้าไหว้ขอบคุณอีก
“คนกันเอง มีอะไรก็ช่วยกันไปวะไอ้หลาน แล้วไหนนักร้องเอ็งล่ะมาหรือยัง” สมควรถามหาจอมขวัญ
“ยังเลยครับ”
ชูชนะเซ็ง “อีกแล้ว!....โทร.ตามมันหรือยัง”
“โทรแล้ว…แต่ยังติดต่อไม่ได้เลยพ่อ”
“แล้วจะมาทันเรอะ” สมควรอดวิตกแทนไม่ได้
“กูล่ะอ่อนใจจริงๆ” ชูชนะระอาใจหนัก
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 5 (ต่อ)
เวลาเปิดแสดงใกล้เข้ามาทุกที ในขณะที่ชาวคณะกำลังเตรียมตัวเพื่อการแสดงค่ำคืนนี้ที่อยุธยา จอมขวัญยังอยู่ที่บริษัททีเอสมิวสิคในกรุงเทพฯ เฮียตี๋หยิบรูปปกซีดีอัลบั้มที่ให้ลูกน้องดีไซน์ มาให้จอมขวัญดู พร้อมแผนการโปรโมท
“เป็นไงจ๊ะ แผนโปรโมทเพลงของหนูไง หนูแค่เซ็นสัญญา แล้วเราก็จะได้แถลงข่าวเลย”
“ก็หนูบอกแล้วไงคะว่าใจเย็นๆ ขอหนูตอบแทนพระคุณที่วงก่อน” จอมขวัญว่า
“อันนั้นน่ะเฮียรู้แล้ว แต่หนูก็เซ็นสัญญากับเฮียไว้ก่อนไง แล้วเฮียก็จะให้หนูไปร้องที่วงเหมือนเดิมได้ เฮียไม่ซีเรียส” เฮียตี๋ยื้อเอาไว้
จอมขวัญลังเล เลขาเฮียตี๋เข้ามา
“เฮียคะ…สองทุ่มกว่าแล้วให้สั่งอาหารเลยหรือเปล่าคะ”
จอมขวัญตกใจ “สองทุ่มแล้วเหรอ งั้นวันนี้หนูขอตัวก่อนนะคะ ต้องขับรถไปอยุธยาโน่นแน่ะ”
เฮียตี๋จอมหื่นอ้อนออด “ไม่ไปไม่ได้เหรอ”
“ให้หนูไปเถอะ…ถ้าวันนี้ไปแล้วยังมีปัญหาเรื่องเงินอีก หนูก็จะได้พาลหาเรื่องออกจากวง มาอยู่กับเฮียแบบไม่มีใครว่าได้ไงคะ หนูขอตัวนะ”
จอมขวัญกำลังจะเดินออกไป
เฮียตี๋แกล้งพูดเสียงดัง “ว๊า!!! น่าเสียดายจัง กำลังจะคุยเรื่องสำคัญอยู่พอดีเลย”
จอมขวัญชะงักกึก เหลียวขวับ
“เรื่องสำคัญ เรื่องอะไรคะ”
“ก็เรื่องค่าตัวหนูไง คราวที่แล้วเราคุยกันแค่เรื่องเปอร์เซ็นต์เพลง แต่เรื่องค่าตัวเวลาออกคอนเสิร์ตเรายังไม่คุยกันเลย เนี่ยกะว่าจะคุยกันวันนี้ให้เสร็จ จะได้ให้เขาร่างสัญญาใหม่เลย”
“ถ้างั้น...หนูอยู่คุยอีกสักพักก็คงได้”
จอมขวัญเดินกลับมานั่งลง เฮียตี๋ยิ้มพอใจ
ถึงเวลาเปิดทำการแสดง นักดนตรีเริ่มเล่นเพลงเปิดวง แด๊นเซอร์กำลังเต้นโชว์เปิดคอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการอยู่หน้าเวที
“ลงไปได้แล้ว จะเต้นอะไรนักหนาเต้นมาสามรอบแล้ว จะดูจอมขวัญ!” จู่ๆ แม่ยกคนหนึ่งก็ตะโกนไล่
“ใช่…เมื่อไหร่จอมขวัญจะออกซะที”
ปอยฝ้าย กับเหล่าแด๊นเซอร์เริ่มหวั่นๆ บรรยากาศเริ่มมาคุเห็นๆ
ที่ข้างเวที ชูชนะแอบมองอย่างวิตก ข้างๆ เป็นสายฟ้ากำลังพยายามโทร.หาจอมขวัญ มือเป๋นระวิง
“ติดต่อได้หรือยัง”
“ยังเลยพ่อ ไม่ยอมเปิดโทรศัพท์” สายฟ้าเริ่มใจเสีย
ปอยฝ้ายสำลีเล่นตลกกันอยู่ แต่คนดูนิ่งๆ ไม่ขำ
“ลงไป….จะเอาจอมขวัญ”
คนดูเริ่มปาเศษกระดาษขึ้นไปบนเวที พร้อมกับโห่ไล่
รองเท้าข้างหนึ่งปลิวตกใส่ปอยฝ้าย
“ไนกี้ด้วยมึง!”
อีกฝั่ง ถุงน้ำอัดลมก็ลอยมาตกข้างๆ สำลี
“ส่วนกรูได้น้ำแข็งว่ะ” สำลีว่า
ปอยฝ้ายกับสำลีเริ่มหวั่นๆ และค่อยๆ ถอยลงข้างล่าง
ชูชนะตกใจร้องเรียกสายฟ้า “เฮ้ย..ไอ้สายฟ้า แย่แล้วโว้ย”
สายฟ้าหันมองเห็น ปอยฝ้ายกับสำลี ถอยกรูด หนีลงมา
สายฟ้าเอ็ดกับสำลีกับปอยฝ้าย “จะลงมาทำไมวะ…เล่นไปก่อน”
สำลีไม่เอาด้วย “ไม่ไหวมั้งพี่ ดูสิทั้งไนกี้ ทั้งน้ำแข็งหัวผมจะแตกเอา”
“ก็หลบๆ เอา ขึ้นไปเล่นอีกรอบ ลองเอามายากลขึ้นไปเล่นสิ!”
สำลี ปอยฝ้าย มองหน้ากัน แล้วเกาหัวแกรกๆ ไม่รู้จะทำยังไง
“พ่อขึ้นไปพูดขัดตาทัพก่อน เดี๋ยวให้ไอ้สองคนนี่ลองขึ้นไปอีกครั้ง” สายฟ้าบอกพ่อ
ปอยฝ้ายท้วง “จะดีเหรอพี่”
“เอาน่าถ่วงเวลาไปก่อน” สายฟ้าบอก
ส่วนที่ข้างเวทีเจ๊เนาว์ปวดตับ “คนดูลุกฮืออีกแล้ว”
สมหวังตกใจเช่นกัน “แล้วจะทำยังไงดีล่ะ”
กุหลาบบ่นอุบ “ยัยจอมขวัญทำไมเหลวไหลแบบนี้เนี่ย”
บาสอารมณ์เสีย ด่าว่าจอมขวัญ “ไอ้เรื่องที่ทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนเนี่ยต้องยกให้ยัยนี่เลย”
ทุกคนมองออกไปหน้าเวทีอย่าเป็นห่วง
“ใจเย็นครับใจเย็น” ชูชนะพยายามปลอบ
พ่อยกคนหนึ่งตะโกนถาม “จอมขวัญเมื่อไหร่จะออกสักที”
ม็อบคนดูร้องหาแต่จอมขวัญ “จอมขวัญๆๆๆๆ”
“จอมขวัญใกล้ถึงแล้วครับ…อดใจรออีกนิด ช่วงนี้ผมขอเสนอโชว์ที่ตื่นตาตื่นใจ เมื่อท่านได้รับชมแล้วต้องร้องโอ้โห! ขอเชิญท่านพบกับโชว์มายากลกับสองแสบซุปเปอร์ฮาได้นะบัดนี้!”
สำลีกับปอยฝ้ายมองออกไปด้านหน้าเวที แล้วใจไม่ดี สองคนไม่กล้าออกไป
สำลีบ่นพึมพำ “กรูไม่เสี่ยงดีกว่า”
สำลีหลุกหลิกดูมีพิรุธ ผิดสังเกต เจ๊เนาว์สงสัย “เป็นอะไรสำลี”
“ปวดท้องเจ๊….ไม่ไหวแล้ว ไปก่อนนะ!”
ปอยฝ้ายอู้ด้วย “ผมก็ปวด”
ขาดคำสำลี กับปอยฝ้าย วิ่งจู๊ดออกไป
เจ๊เนาว์ตาเหลือก “อ้าว…แล้วใครจะขึ้นล่ะ”
ชูชนะเดินเข้ามาถาม
“ไอ้สำลีกับไอ้ปอยฝ้ายไปไหน….ทำไมมันยังไม่ขึ้นอีกวะ…ประกาศไปตั้งนานแล้ว”
เจ๊เนาว์หน้าเจื่อนๆ
ครู่ต่อมาชูชนะกระซิบนักดนตรีอะไรบางอย่าง เสียงดนตรี เปลี่ยนทำนองไปในทันที หมู่มวลแด๊นเซอร์หญิงชายงวยงง ที่นักดนตรีเล่นเพลงใหม่โดยไม่ให้สัญญาณ สักครู่หนึ่งชูชนะก็เดินออกมาหน้าเวที
“ต้องขออภัยท่านผู้ชมจริงๆ ครับ ตลกซุปเปอร์ฮาของเราเกิดไม่สบายกะทันหัน กระผมจึงขอรับหน้าที่ขับกล่อมท่านผู้มีเกียรติแทนนะครับ เชิญรับชมรับฟังครับ”
ทุกคนที่อยู่ข้างเวทีต่างลุ้นชูชนะ
ชูชนะตั้งท่าจะร้องเพลง ขุดเพลงลูกทุ่งคลาสสิคขึ้นมา ทุกคนตั้งท่าฟัง แต่พอขึ้นเสียงสูง เสียงชูชนะเริ่มเพี้ยนโหนตามคีย์เพลงไม่ไหว
คนดูตะโกนด่า “ลงไปๆ ไม่เอา”
แม่ยกบ่นดังขรม “เสียตังค์มาดูจอมขวัญ ไม่ได้มาดูตาแก่ร้องเพลง”
จากนั้นคนดูเริ่มโห่ฮาอย่างไม่พอใจ หนักถึงขั้นเริ่มมีปาข้าวของและลุกฮือประท้วงไล่ ประหนึ่งว่าจะบุกทลายเวที
ชูชนะผงะ ถอยกรูดไปชนปอยฝ้าย ที่ตั้งท่าจะวิ่งหนีเช่นกัน
ทุกคนลุ้นๆ ที่ข้างเวที มองหน้ากันด้วยความกลุ้มใจ
เจ๊เนาว์เครียดปนกังวลหนัก คิดหาทางแก้ไขสถานการณ์ “เอายังไงดี”
ทันใดนั้นสายฟ้าคิดออก มองไปที่สมหวัง แล้วเดินมาหา
“เธอร้องเพลงได้นี่….เธอต้องช่วยพ่อนะ!”
สมหวังตกใจตาโต! ส่ายหัวดิกๆ
ชูชนะ ถูกคนดูปาของใส่จนต้องถอยร่นมาติดหลังเวที สมหวังยังอึ้งๆ ไม่รู้ต้องทำยังไง!
สักครู่หนึ่ง ก็มีเสียงร้องใสกังวานของของใครคนหนึ่งดังขึ้นอีก เป็นท่อนแรกของเพลง ใจสารภาพ ของ ก๊อต จักรพันธ์ นักร้องซุปตาร์ของวงการ
“แค่เพียงสมมุติว่าเรารักกัน ใจฉันก็สั่นเหมือนคนเป็นไข้”
เป็นสมหวังนั่นเองยืนถือไมค์ร้องเพลงอยู่ข้างเวที! ทุกคนถึงกับอึ้ง!
พ่อยก แม่ยกตลอดจนคนดูทุกคนเงียบกริบ เหมือนถูกมนต์สะกด คนดูเริ่มลุกฮืออีกครั้ง แต่คราวนี้อยากจะดูหน้าต้นเสียง
“ใครร้อง!” คนดูคนหนึ่งตะโกนขึ้น
อีกคนเสริม “เอาคนร้องขึ้นมา”
สมหวังหยุดร้อง เมื่อเห็นเหตุการณ์บานปลาย
บาสกังวล “เอายังไงดีล่ะพี่สายฟ้า”
สายฟ้าหันไปคว้าชุดจอมขวัญมายื่นให้สมหวัง “ใส่ซะ”
“ใส่ทำไม” สมหวังงง
“เธอต้องขึ้นไปร้อง”
สมหวังตกใจ ทั้งสับสนทั้งหวาดหวั่นใจ และบอกปฏิเสธไป “ไม่เอา…ชั้นขึ้นไปร้องไม่ได้หรอก”
“ถ้าเธอไม่ขึ้นไปทุกอย่างก็จบ! ไหนๆ ก็ช่วยชั้นมาถึงขนาดนี้แล้ว ช่วยชั้นอีกหน่อยนะ” สายฟ้าขอร้อง
คนดูโห่ไล่ชูชนะ
“พ่อ…เดี๋ยวพ่อขึ้นไปประกาศให้สมหวังขึ้นเลยนะ” สายฟ้าบอก
ชูชนะทึ่ง “เมื่อกี้เสียงนังสมหวังเรอะ”
สายฟ้าพยักหน้ารับ
“แล้วจะประกาศบอกคนดูว่านักร้องชื่ออะไรวะ”
สายฟ้าครุ่นคิด “สมหวัง วทัญญูไงพ่อ!”
ชูชนะเดินกลับขึ้นไปบนเวที
สายฟ้าส่งซิกบอกกับนักดนตรี “เพลงเดิม”
ชูชนะออกมาประกาศที่หน้าเวทีอีกครั้ง
“ใจเย็นๆ ครับพ่อแม่พี่น้อง เมื่อกี้เป็นมุกครับมุก แต่คราวนี้ท่านจะได้พบกับดาวรุ่งดวงใหม่ ขอฝากไว้ในอ้อมกอดอ้อมใจของพ่อแม่พี่น้องอีกคน ...สมหวัง วทัญญู”
ดนตรีขึ้น คนในวงทุกคนช่วยกันปรบมือให้แรงใจดังสนั่น แด้นเซอร์วิ่งออกมาเริ่มวาดลีลาเต้น
สมหวังปรากฏตัวพร้อมเปล่งเสียงร้องใสกังวาน ไพเราะเพราะพริ้งเหมือนมนต์สะกดให้ทุกคนต้องฟัง
“ขาดเธอไม่ได้ หัวใจขอสารภาพ กดโทรศัพท์
รับช้าก็ยังน้อยใจ อยู่ใกล้จนชิน
ไม่อยากได้ยินคำว่าห่างไกล
ขอร้องอย่าทำร้ายใจ ด้วยการหนีไปจากกัน
** ถ้าสิ่งใดนั้นที่ผ่านเข้ามา
หนักหนาจนเธอไร้ความเชื่อมั่น
เจ็บจนเหลืออด ก็โกรธได้แต่อย่านาน
เพราะใจที่ทรมาน คอยนานจะพาลสิ้นลม”
สมหวังร้องไปอย่างเก้ๆ กังๆ ขัดเขินไปมาด้วยอาการตื่นเวที ทุกคนในวงต่างยิ้มหน้าบาน ที่ได้ยินน้ำเสียงของสมหวัง
เสียงไพเพราะหวานเสนาะโสต สะกดคนดูนิ่งไปราวต้องมนต์ ทุกคนเงียบกริบ ต่างพากันเหลียวมองไปยังสมหวังบนเวทีเป็นตาเดียว ด้วยความสนใจ
สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 5 (ต่อ)
เสียงเพลงจากเสียงร้องของสมหวังจบลงแล้ว แต่คนดูยังคงนิ่งงันกันอยู่ สมหวังมองลงไปเบื้องล่างด้วยความรู้สึกหวั่นๆ ไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น สมหวังเก้ๆ กังๆ กำลังจะเดินลงเวที
จู่ๆ พ่อยกคนหนึ่ง ยืนขึ้นและปรบมือให้ ตะโกนก้อง
“สุดยอด! เสียงดีจริงๆ”
จากนั้นคนดูทั้งหมดก็พากันปรบมือให้
สมหวังชะงักกึก ยังรู้สึกงงๆ และยิ้มแย้มพร้อมกับพูดขอบคุณคนดู
“ขอบคุณค่ะ”
สายฟ้ายืนยิ้มอย่างภูมิใจ กุหลาบ บาส เจ๊เนาว์ เจ๊จุ๊ และชาวคณะทุกคนปรบมือให้สมหวัง
“เสียงก็ดี มีเสน่ห์ เก่งสุดๆ ไปเลยน้องชั้น” กุหลาบยิ้มแก้มแทบแตกคุยฟุ้ง
บาสยิ้มย่อง “ใช่! น้องสมหวังนี่เก่งไปซะทุกอย่างจริงๆ ร้องเพลงก็เก่ง ตัดชุดก็สวย ความคิดก็เป็นผู้ใหญ่” จังหวะนั้นบาสมองไปที่กุหลาบพูดเหน็บ “ไม่เหมือนกับเธอเลยเนอะ”
กุหลาบหมั่นเขี้ยว “หาเรื่องแขวะชั้นได้ตลอดเลยนะ…อย่าให้ถึงทีชั้นก็แล้วกัน!”
เจ๊เนาว์ ยืนตื่นเต้นอยู่กับเจ๊จุ๊
“ราศีจับให้เป็นนักร้องมากๆ” เจ๊เนาว์ปลื้มปริ่ม
“นั่นสิ…เสียงดี๊ดีเนอะ” เจ๊จุ๊เคลิ้ม
สายฟ้า เดินไปบอกชูชนะ
“พ่อออกไปประกาศให้สมหวังร้องต่อเลย”
ชูชนะยิ้มหน้าบาน เดินออกไปหน้าเวที
“เป็นยังไงบ้างครับ สมหวัง วทัญญู นักร้องน้องใหม่ของเรา ถ้าถูกใจขอเสียงปรบมืออีกสักครั้งครับ”
แม่ยก พ่อยก และคนดูต่างปรบมือและส่งเสียงกรี๊ดสนั่น
“เอาอีก…เอาอีกๆๆ”
สมหวังหันไปสบตากับสายฟ้าที่อยู่ข้างเวที สายฟ้ายิ้มให้และยกนิ้วให้แสดงความชื่นชม สมหวังเริ่มยิ้มออกและมั่นใจมากขึ้น
“ขอบคุณครับๆ…และผลงานเพลงในลำดับต่อไป ขอเสนอเพลง…”
ชูชนะหันมาคว้าตัวสมหวังออกมายืนกลางเวที
“เชิญรับฟังได้เลยครับ”
สมหวังยังเขินๆ ทำตัวไม่ถูก ทำนองเพลงขึ้น สมหวังเริ่มร้องเพลง
คนดูทุกคนปรบมือ
ข้างๆ เวที สมควรยืนโยกตัวไปตามเพลง และมองสมหวังด้วยความสนใจในเสียงของสมหวัง!
สมหวังร้องเพลงด้วยความมั่นใจมากขึ้น
พ่อยก แม่ยก เอาพวงมาลัยมาให้ติดขอบเวที สมหวังลังเลๆ ไม่กล้ารับ
สมหวังหันไปมองสายฟ้าอีก สายฟ้าทำมือออกให้ไปรับ สมหวังจึงเดินออกไป
ระหว่างนั้นรถจอมขวัญแล่นเข้ามาจอด หลังเวทีจอมขวัญลงจากรถ
เสียงร้องของสมหวังดังแว่วมา
จอมขวัญฟังอย่างงงๆ “เสียงใครนะ”
จอมขวัญเดินเข้ามาหลังเวที มองขึ้นไปบนเวที เห็นสมหวังกำลังร้องเพลงอยู่ จอมขวัญโมโห เดินเข้าไปหาสายฟ้าอย่างเอาเรื่อง
“พี่สายฟ้า!”
สายฟ้าหันมามอง
“ทำแบบนี้ได้ยังไง”
สายฟ้าย้อน “ทำอะไร พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“ก็เราเคยตกลงกันแล้วว่าวงเราจะมีนักร้องผู้หญิงได้คนเดียวเท่านั้น คือชั้น แล้วนี่เอานังบ้านั่นขึ้นไปร้องได้ยังไง” จอมขวัญของขึ้นเต็มที่
สายฟ้าสวนกลับเป็นชุด “ใช่! เราเคยตกลงกันไว้แบบนั้น แล้วพี่ก็ทำตามสัญญา เห็นพี่เคยเอานักร้องผู้หญิงคนไหนขึ้นบ้างมั้ย!…แต่คนที่ไม่เคยทำตามข้อตกลงเลย คือเธอ เวลาให้ซ้อมก็ไม่ยอมมาซ้อม มาเล่นคอนเสิร์ตก็สายทุกครั้ง แล้วจะให้พี่ทำยังไง ถ้าวันนี้ไม่ให้สมหวังขึ้นไปร้อง รู้มั้ยว่าโดนคนดูพังเวทีแน่ๆ”
จอมขวัญเถียง “อ๋อ…นี่หมายความว่า ชั้นเป็นคนผิด ที่มาช้าใช่ไหม”
สายฟ้าถอนหายใจ “พี่ก็แค่อธิบายเหตุผลให้ฟัง”
“นั่นแหละ…ยังไงความหมายมันก็คือโทษชั้นอยู่ดี”
“มีเหตุผลหน่อยสิจอมขวัญ”
“ชั้นจะไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว! พี่ลองคิดดูดีๆนะ ถ้าไม่มีชั้นสักคน วงวทัญญูมันจะอยู่มาได้ถึงป่านนี้เหรอ พี่ไม่เคยเห็นบุญคุณชั้นเลย!” จอมขวัญทวงบุญคุณ
สายฟ้ามองจ้องอย่างไม่พอใจ
“บุญคุณงั้นเหรอ?…เธอมาร้องเพลงพี่ก็จ่ายค่าตัวให้ ก็เกิดประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย”
“เงินแค่นิดเดียวเนี่ยนะ…ชั้นจะบอกอะไรให้นะเงินแค่นั้นน่ะ ยังไม่พอจ่ายค่าเครื่องสำอางชั้นเลย”
“แล้วจะเอายังไง…เงินก็รับมากกว่าเค้า แต่งานไม่เคยทำเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถ้ารักจะอยู่ด้วยกัน ก็ต้องช่วยกัน ไม่ใช่เอาตัวรอดคนเดียว” สายฟ้าเหลืออด
“หาว่าชั้นเห็นแก่ตัวใช่มั้ย อ๋อ..ใช่สิ…ถือว่ามีนักร้องใหม่แล้ว ไม่ต้องแคร์ชั้นแล้วนี่…อีนังนั่นมันคงอ่อยพี่ จนพี่ใจอ่อนยอมให้มันเป็นนักร้องสินะ…เห็นหงิมๆแบบนั้นร้ายไม่เบานะ!” จอมขวัญพาลพาโล
สายฟ้าชักสีหน้า “พูดอะไรจอมขวัญ ที่สมหวังเค้าขึ้นไปร้องเพลง พี่บังคับให้เค้าขึ้นไปเอง จะคิดอะไรหรือจะว่าใคร พี่ว่าลองดูตัวก่อนดีกว่า อย่าไปพาลคนอื่น!”
จอมขวัญแทบจะกรี๊ด ประกาศกร้าว “นี่พี่ว่าชั้นเหรอ! ก็ได้ในเมื่อไม่ต้องการกันแล้ว นับตั้งแต่วันนี้เราขาดกัน จะไม่มีจอมขวัญ วทัญญู อีกต่อไป”
จอมขวัญเดินสะบัดออกไป สายฟ้ามองตามแบบหนักใจ!
ชูชนะเดินเข้ามาพอดี
“เสียงเอะอะโวยวายอะไรกันวะ”
“ไม่มีอะไรหรอกพ่อ”
“ไม่มีอะไร….ทำไมนังจอมขวัญมันถึงเดินแพดๆออกไปแบบนั้น…แล้วมันจะไม่ขึ้นร้องเพลงหรือไง”
ชูชนะเดือดดาล ระหว่างนั้น สมควรเดินเข้ามา
“แหม…ไอ้ชู มีของดีแล้วไม่ยอมบอกกันบ้างเลยนะ”
ชูชนะงงๆ “ของดีอะไรพี่”
สมควรยิ้มร่า พูดชมไม่ขาดปาก “อ้าว…ก็สมหวังที่กำลังร้องเพลงอยู่นี่ไง…ตั้งแต่ข้าทำงานอยู่ในวงการเพลงลูกทุ่งนี้มาเกือบ 30 ปี เห็นมีเพียงไม่กี่คนที่ขึ้นไปร้องเพลงครั้งเดียว แล้วคนดูให้การต้อนรับขนาดนี้”
สายฟ้ากับชูชนะ มองไปที่สมหวังบนเวที อย่างภูมิใจๆ
คราวนี้สมหวังขึ้นเพลงใหม่ ผู้ชายในฝัน ซึ่งเป็นท่วงทำนองคึกคัก สนุกสนาน คนดูลุกขึ้นมาเต้นตามอย่างครื้นเครง
ลีลาการร้องของสมหวังดูผ่อนคลาย และกล้าเต้นมากขึ้น
ส่วนที่ข้างเวที บาส กุหลาบ เจ๊เนาว์ และเจ๊จุ๊ เต้นตามเพลงอย่างสนุกสนาน
จอมขวัญเดินหงุดหงิดมาหยุดยืน คุยโทรศัพท์
“ฮัลโหล…เฮียตี๋เหรอคะ หนูยอมตกลงเซ็นสัญญากับเฮียแล้วนะคะ หนูออกจากวงเรียบร้อยแล้ว เฮียเตรียมจัดแถลงข่าวได้เลย ยิ่งเร็ว ยิ่งดี”
จอมขวัญวางสาย เหลียวมองขึ้นไปบนเวที เห็นสมหวังร้องเพลงแล้วรู้สึกเจ็บใจ!
สีหน้าจอมขวัญบึ้งตึงเคืองแค้นสุดๆ พึมพำออกมา
“ทำชั้นก่อนนะพี่สายฟ้า! ช่วยไม่ได้ ดูสิต่อไปจะอยู่ยังไงกัน”
สมหวังผ่อนคลายหายเกร็ง แล้วร้องเพลงอย่างสนุกสนาน สายฟ้า มองสมหวังด้วยสายตาชื่นชม จังหวะเดียวกันสมหวังเหลือบมาเห็น ยิ้มเยื้อนตอบสายฟ้า
การแสดงค่ำคืนนั้นจบลง ท่ามกลางความอิ่มอกอิ่มใจของคนดู และความปลื้มปิติของชาวคณะวทัญญู
เช้าวันต่อมา กุหลาบถือถ้วยโจ๊กและแหกปากร้องเพลงเข้ามาในห้องอย่างอารมณ์ดี
สมหวังยังนอนอยู่บนเตียงต้องตื่นเพราะเสียงของกุหลาบ
“ทำไมวันนี่ตื่นไวจังพี่กุหลาบ”
กุหลาบเอาถ้วยโจ๊กมาวางข้างๆ สมหวัง
“พี่ไปตักโจ๊กในครัวมาให้สมหวังนี่ไงจ๊ะ…เร็วลุกขึ้นมากินได้แล้ว”
สมหวังงง “ทำไมต้องตักมาด้วยล่ะ…เดี๋ยวชั้นไปกินในครัวก็ได้”
“แหม! ก็ต้องบริการให้ดีหน่อย…อีกหน่อยถ้าสมหวังดังแล้วจะได้ไม่ลืมพี่ไง อย่าลืมนะ พี่ชื่อ กุหลาบ จิตรสำราญ นะจ๊ะ”
สมหวังขำๆ “พี่กุหลาบพูดอะไร…ดงดังอะไรกัน…เมื่อคืนชั้นอายแทบตาย เกือบจะไม่รอดแล้ว”
กุหลาบอวยเต็มที่ “จะบอกอะไรให้….เมื่อคืนน่ะสมหวังสุดยอดที่สุดเลยนะ เสียงของสมหวังทำพี่เก็บเอาไปฝันเลย”
สมหวังยิ้ม “ขนาดนั้นเลยเหรอ…ฝันว่าอะไร”
“ฝันว่าสมหวังได้เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงน่ะสิ แต่ที่สำคัญนะพี่ได้เป็นผู้จัดการส่วนตัวสมหวัง พี่ก็เลยพลอยดังไปด้วย เราสองคนนะมีนักข่าวมารุมถ่ายรูปเต็มไปหมด แต่เสียดายพี่กำลังจะให้สัมภาษณ์เกิดปวดฉี่สะดุ้งตื่นก่อนน่ะสิ”
สมหวังหัวเราะคิก
“พี่กุหลาบฝันอะไรประหลาดๆ อยู่เรื่อยเลย”
“ก็ไม่แน่นะ...ใครจะไปรู้สมหวังอาจจะดังขึ้นมาจริงๆ ก็ได้”
“จะเป็นไปได้ยังไง…พี่อย่าลืมสิชั้นกำลังถูกตามล่านะ เกิดพวกนั้นมันรู้ว่าชั้นอยู่ที่นี่ล่ะ” สมหวังหน่าสลดลง
กุหลาบนึกขึ้นได้ “จริงด้วย!...ไม่ได้ๆ ดังไม่ได้…โธ่เอ้ย…เสียดาย โอกาสเป็นราชินีลุกทุ่งอยู่ข้างหน้าแท้ๆ แบบนี้ก็พังหมดน่ะสิ!”
สมหวังหัวเราะกุหลาบ ที่ฝันสลาย
“เดี๋ยวชั้นไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวกลับมากินโจ๊ก”
สมหวังเดินออกไป
ตอนสายวันเดียวกัน ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งหมวดวันชาตินั่งอยู่ที่โต๊ะในร้าน และกดโทรศัพท์หาใครบางคน
พร้อมกันนั้นเสียงโทรศัพท์กุหลาบดัง กุหลาบกดรับ สองคนคุยกันเรื่องสมหวัง
“สวัสดีค่ะหมวด”
“นี่จ่า นับจากนี้ไปคุณต้องระวังตัวและคุ้มกันสมหวังให้มากขึ้นนะ”
กุหลาบตกใจ “ทำไมล่ะคะ”
“ผมเริ่มได้กลิ่นคนที่บงการฆ่าคุณนายศรีสมรแล้ว”
“ใครเหรอคะหมวด?”
“ตอนนี้ยังให้ใครรู้ไม่ได้ ขอให้ผมแน่ใจมากกว่านี้ก่อน เอาเป็นว่าคุณต้องระวังตัวให้มากกว่านี้”
“รับทราบค่ะ หมวด!”
จังหวะนั้น บาสเดินผ่านมาที่หน้าห้องกุหลาบพอดี และได้ยินเสียงพูดของกุหลาบจึงเดินเข้าไป กำลังจะเคาะประตู บาสได้ยินกุหลาบใช้คำพูดแปลกๆ และได้ยินกุกลาบเรียกหมวด บาสจึงเอาหูแนบประตูเพื่อจะฟังกุหลาบ บาสฟังอย่างงงๆ และสงสัย ว่ากุหลาบคุยกับใคร?!!
บาสพึมพำ “ยัยนั่นคุยกับใคร”
วันชาติบอก่อนวางสาย “แล้วว่างๆ ผมจะแวะไปเยี่ยม”
“ค่ะหมวด”
กุหลาบวางสาย เดินไปเปิดประตูกำลังจะออกจากห้อง ทันใดนั้น บาสที่เอาหูแนบแอบฟังอยู่ที่ประตูก็เสียหลักกระเด็นเข้ามาในห้อง
บาสร้อง “โอ๊ย”
กุหลาบตกใจ!
“นี่นายแอบฟังชั้นคุยโทรศัพท์เหรอ”
“ปะ…ปะ…เปล่า ชั้นเดินผ่านมาเฉยๆ ชั้นได้ยินเสียงเธอแล้วก็กำลังจะเคาะเรียก เธอดันเปิดประตูมาซะก่อน”
กุหลาบไม่ค่อยเชื่อนัก “แน่นะ”
บาสพยักหน้า
หมวดวันชาติวางสายจากกุหลาบ แล้วเรียกเด็กเสิร์ฟมาเก็บเงิน สักครู่หนึ่งวันชาติลุกขึ้นเดินออกจากร้านไป
โดยที่โต๊ะข้างๆ เห็นผู้ชายคนหนึ่งใส่หมวกแก๊ปและแว่นตาดำนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
ที่แท้เป็นแดนนั่นเอง แดนหันไปมองหมวดวันชาติที่เดินออกไป
ยอดชายอยู่ที่บ้าน ตกใจมากที่รู้เรื่องจากแดน ซึ่งโทร.มารายงาน
“แกว่ายังไงนะ!...ไอ้หมวดนั่นมันเริ่มสงสัยเราแล้วเหรอ”
“ผมได้ยินมันพูดแบบนั้นน่ะครับ”
ยอดชายหงุดหงิด “โธ่…เว้ย!!!”
“ผมว่าชัวร์แล้วล่ะครับ ไอ้หมวดนี่มันต้องรู้ที่อยู่ของไอ้พยานนั่นแน่ๆ”
“รู้แล้วก็รีบตามไปให้เจอสิวะ!” ยอดชายตะคอกเสียงใส่
“ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานนี้ผมต้องรู้ที่ซ่อนของมันแน่ๆ ผมได้ยินไอ้หมวดนั่นมันคุยโทรศัพท์กับใครคนหนึ่งมันบอกอีกไม่นานนี้จะแวะไปเยี่ยม ผมว่ามันต้องเป็นไอ้พยานนั่นชัวร์”
ยอดชายฟังแล้วสีหน้าเริ่มมีความหวังขึ้น
“ดี!..ถ้ามีโอกาสก็จัดการให้สิ้นซากไปเลย….แล้วอย่าให้พลาดล่ะ”
“ครับ”
สีหน้าสองวายร้ายดูมั่นใจมาก
โปรดติดตามตอนต่อไป เวลา 9.00 น.