พริกกับเกลือ ตอนที่ 18 อวสาน
จิตรวรรณและมารศรียังตบตีกันพัลวัน ศยามและยอดชายจะเข้าไปช่วย ส่วนตำรวจจะเข้าไปคุมตัวเทวัญ
เทวัญที่ฟื้นคืนสติ...เห็นตำรวจวิ่งมา รีบคว้าปืนของตัวเองที่ตกอยู่ที่พื้น ยิงสวนใส่ตำรวจเปรี้ยง เปรี้ยงสองนัดเข้าเป้าหมาย ตายสนิท จิตรวรรณและมารศรีหยุดชะงัก มองมาอย่างตกใจ ศยามกับ ยอด ชะงักเช่นกัน ศยามขยับตัวจะเข้าหา เทวัญหันปืนมาขู่
“หยุด!”
ศยามและยอดชายเหลือบมองที่ปืนของตำรวจ แต่เทวัญรู้ทัน รีบวิ่งไปจะเก็บปืน ศยามพุ่งทะยานเข้าใส่เทวัญ จนล้มลงไป แล้วยื้อปืนของเอาไว้
“คุณยอด! หยิบปืนเร็ว!”
ศยามซัดกับเทวัญต่อไป ยอดชายจะไปหยิบปืน แต่มารศรีผลักจิตรวรรณออกไปชนยอดชาย ทำให้ยอดชายเสียหลัก มารศรีวิ่งเข้าไปหยิบปืนของตำรวจมา แล้วจะยิงใส่จิตรวรรณ
“นังจี๊ด แกตาย!”
ยอดชายผลักจิตรวรรณออกไปให้พ้นวิถีกระสุน ทำให้กระสุนโดนตัวเองบาดเจ็บที่ขา
“โอ๊ย!”
จิตรวรรณตกใจ
“ยอด!”
ศยามตะโกนบอก
“คุณจี๊ด...หนีไป!”
จิตรวรรณวิ่งออกไปทันที มารศรีจะยิงจิตรวรรณอีก แต่จิตรวรรณหลบหายออกไป มารศรีตามไปทันที เทวัญใช้ไม้ฟาด ศยามกระเด็น และมึน ทำให้เชื่องช้าลง ยอดชายพยายามตะกายจะไปหยิบปืน เทวัญเข้าไปเหยียบมือแล้วหยิบปืนขึ้นมา ศยามและยอดชายชะงัก เมื่อเห็นเทวัญเล็งปืนมา
ทันใดนั้นทันวิทย์ก็พุ่งเข้ามาปะทะชนเทวัญดันเซถลาไป ศยามกับยอดชายตกใจ แปลกใจ
“ทันวิทย์”
“ไอ้ทันวิทย์ ปล่อย”
“ผมจะไม่ยอมให้พี่ทำร้ายใครอีก”
เทวัญโมโห
“งั้น แกตาย”
เทวัญจ่อยิงทันวิทย์...แต่กระสุนด้าน เทวัญตกใจ ศยามได้จังหวะพุ่งเข้าไปจะจัดการแต่เทวัญใช้ด้ามปืนตบกกหูทันวิทย์ร่วง เทวัญถีบทันวิทย์เข้าใส่ ศยามเสียหลัก เทวัญรีบหนีไป
“พี่ดิ่ง ช่วยหยุดพี่ผมที”
ศยามเป็นห่วงยอดชาย
“คุณยอด ไหวมั้ย”
“ไหว”
“ผมว่าไม่รอด ทันวิทย์ พี่ฝากคุณยอดด้วย!”
ศยามก็รีบตามเทวัญไป ยอดชายหันมาถามทันวิทย์
“มาได้ไง ให้อยู่กับตำรวจไม่ใช่เหรอ”
“ผมเป็นห่วงพวกพี่ เลยแอบตำรวจมาตามหา ลุกไหวมั้ยพี่ ผมจะพาออกไป”
ทันวิทย์รีบประคองยอดชายที่ลุกอย่างลำบากเพราะความเจ็บปวด ยอดชายรั้งทันวิทย์เอาไว้
“พี่ยังไหวนะ...เราสองคนจะปล่อยให้คุณดิ่งลำบากอยู่คนเดียวไม่ได้นะทันวิทย์”
ทันวิทย์ชะงัก เห็นด้วยกับยอดชาย
จิตรวรรณวิ่งหนีมาสะดุดหกล้ม มารศรีตามมาทัน จิกหัวจิตรวรรณขึ้นมา
“เอาเลย อยากจะฆ่าฉันก็เอาเลย”
“ไม่ต้องมาท้า! ฉันทำแน่!”
“แต่รู้อะไรมั้ย...ว่าแกจะไม่มีทางทำสำเร็จ”
จิตรวรรณกำทรายบนพื้น แล้วซัดใส่หน้ามารศรี
“โอ๊ย!”
จิตรวรรณผลักมารศรีออกไป แย่งปืนมาได้ จิตรวรรณโยนทิ้งออกไปห่างตัวทันที ปืนกระเด็นไปตกอยู่ที่หนึ่ง
“เธอกับฉัน ตัวต่อตัว”
จิตรวรรณมองมารศรีอย่างเอาเรื่อง แล้วพุ่งใส่ทันที
เทวัญวิ่งหนี ลุยป่ามา ไม่ทันระวัง...สะดุดเข้ากับก้อนหินล้มลง หลังกระแทกเข้ากับแง่งหินแหลม จนกินเข้าไปในเนื้อ เทวัญร้องลั่น
“อ๊ากส์!”
เทวัญรีบคลานหลบ หมอบอยู่ใต้พงหญ้าใกล้ๆ ศยามวิ่งเข้ามา ไม่เห็นเทวัญ แต่รู้ว่าต้องซ่อนตัวอยู่แถวๆนี้ เดินหาและตะโกนเกลี้ยกล่อมไปเรื่อยๆ
“เทวัญ...ฉันรู้ว่าแกอยู่แถวนี้”
เทวัญที่แอบอยู่ เจ็บใจ
“ชีวิตที่มีแต่การหลบซ่อน และต้องหนีอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ มันไม่ได้ทำให้แกมีความสุขเท่าไหร่ ว่ามั้ย และแกก็จะยิ่งทุกข์ทรมานมากกว่านี้อีกหลายร้อยเท่า ถ้าแกยังไม่ยอมสำนึก และมอบตัวเพื่อชดใช้ความผิด ถ้าแกยังคิดว่าตัวเองไม่มีความผิด...แกก็จะต้องหนีหัวซุกหัวซุน ไม่มีแม้ผืนแผ่นดินจะให้กลบหน้าเวลาที่แกตาย เทวัญ”
เทวัญโกรธและเคียดแค้นศยาม ไร้สำนึก เมื่อเห็นศยามหันหลังอยู่รีบวิ่งออกไปอีกทางทันที ศยามหันมาเห็น รีบวิ่งตามไป
จิตรวรรณกระโจนใส่ มารศรีล้มลงไป จิตรวรรณกดเอาไว้
“ถ้าเธอยังไม่ยอมหยุด ฉันไม่รับประกันหรอกนะ ว่าเธอจะโดนอะไรบ้าง”
“คนอย่างแก...มันจะทำอะไรได้ นอกจากคอยแย่งผู้ชายของฉัน”
“เพราะเธอเองที่ไม่รู้จักรักษาของดี ทียังงี้แล้วจะมานึกเสียดาย ถึงเธอจะพยายามแย่งคืนให้ตาย ฉันก็ไม่ยอม”
“นังหน้าด้าน”
“ว่าจะไม่แล้วนะ ขอสักทีเถอะ”
จิตรวรรณตบหน้า มารศรีรับมือจิตรวรรณไว้ได้ จิกผมแล้วเหวี่ยงตัวจิตรวรรณลง จิตรวรรณไม่ยอมให้ทำอะไรได้ง่ายๆ พลิกกลับมาคร่อมมารศรีแล้วตบเปรี้ยง!
“โอ๊ย!”
จิตรวรรณเงื้อมือจะตบอีก แต่แล้วมือของเทวัญก็มาจับมือของจิตรวรรณไว้ จิตรวรรณตกใจ หันไป เทวัญยืนอยู่ พร้อมปืนในมือ และเจ็บบาดแผลที่หลัง
“มานี่!”
เทวัญกระชากจิตรวรรณลุกขึ้น มารศรีลุกขึ้นได้ มองจิตรวรรณอย่างสะใจ จิตรวรรณโวยวาย
“แกจะทำอะไร”
“เดี๋ยวก็รู้”
ศยามวิ่งเข้ามา เห็นจิตรวรรณตกอยู่ในมือของเทวัญก็ตกใจ
“คุณจี๊ด”
“นายดิ่ง”
มารศรีมองศยามอย่างเจ็บแค้น
“รักมันมากใช่มั้ยดิ่ง”
“ใช่ ผมรักคุณจี๊ดมาก”
มารศรีเสียใจมาก แค้นมาก
“รักมันมากเหรอ!”
มารศรีหันไปตบหน้าจิตรวรรณหน้าหัน ศยามอึ้ง
“คุณจี๊ด”
ศยามจะเข้าช่วย เทวัญเล็งปืนใส่
“เฮ้ย”
จิตรวรรณร้องห้าม
“อย่าเข้ามา นายดิ่ง”
ศยามชะงัก จิตรวรรณมองมารศรีอย่างไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย ศยามเจ็บปวดไม่ได้น้อยกว่าจิตรวรรณ
“ฉันไม่เป็นไร...แค่นี้ ไม่ทำให้ฉันสะเทือนหรอก เอาสิ อยากทำอะไรฉันก็เอาเลย จะเอาให้ตายเลยก็ได้ แต่รู้ไว้นะ ยิ่งฉันเจ็บ ดิ่งจะยิ่งรักฉัน และถ้าฉันตาย ดิ่งก็จะยิ่งรักฉันมากขึ้นไปอีก และสำหรับแก...ดิ่งก็จะมีแต่ความชิงชังในฐานะผู้หญิงสิ้นคิด ไร้ค่า สมควรแล้วที่เขาจะหมดรักเธอในเวลาอันรวดเร็ว”
“นังจี๊ด ฉันจะฆ่าแก ฉันจะฆ่าแก”
มารศรีเข้าไปแย่งปืนมาจากเทวัญ...
“แกจะทำบ้าอะไร”
“เอาปืนมานี่!ฉันจะฆ่ามัน”
ศยามสบตาจิตรวรรณ หญิงสาวรีบผลักเทวัญและมารศรีออกไป แล้ววิ่งไปหาศยามทันที เทวัญเห็นจิตรวรรณหนี ตบมารศรีเซออกไป เทวัญหันปากกระบอกปืนจะยิ่งจิตรวรรณที่กำลังวิ่งไปหาศยามที่เงื้อแขนรอรับ เทวัญเหนี่ยวไก ศยามกอดจิตรวรรณเอาไว้ แล้วใช้ตัวเองบังกระสุน มารศรีเห็นว่าศยามกำลังจะรับกระสุน วิ่งเข้าไปผลักเทวัญจนเสียหลัก ล้มไป เสียงปืนลั่นเปรี้ยง...แต่ผิดเป้าหมาย จิตรวรรณกับศยามกอดกันกลม...ค่อยๆลืมตา มองหน้ากัน
“นายไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”
“ผมไม่เป็นไร”
ทั้งสองดีใจ หันไปมองเทวัญและมารศรี เทวัญโมโหมาก
“นังมารศรี”
“ฉันไม่ยอมให้แกทำอะไรดิ่ง”
เทวัญตบมารศรีกระเด็น จะไปเอาปืน ศยามกระโจนเข้าไปตะครุบขาของเทวัญ ดึงเอาไว้ เทวัญพยายามจะคว้าปืน แต่ศยามดึงตัวเอาไว้
“คุณจี๊ด หนีไป”
“ฉันไม่หนี! ฉันจะไม่ทิ้งนายไปไหน”
มารศรีอึ้งเห็นสายตาของจิตรวรรณที่รักศยามมาก และศยามก็ทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือจิตรวรรณ เทวัญถีบศยามจนหน้าหงาย จิตรวรรณวิ่งเข้าไปหาศยามทันที กอดศยามเอาไว้
“ถ้าจะรอด เราก็ต้องรอดด้วยกัน”
จิตรวรรณกับศยามกอดกันแน่น เทวัญกำลังจะถึงปืน มารศรีเข้าไปแย่งปืนมาได้ก่อน เทวัญสั่งทันที
“ยิงพวกมัน ให้ตายๆไปซะ”
มารศรีเล็งปืนไปที่จิตรวรรณและศยามที่กอดกันแน่น มองหน้ากัน เหมือนจะมองกันเป็นครั้งสุดท้าย
“คุณจี๊ด ผมรักคุณ”
“ฉันก็รักคุณ รักมากที่สุด”
ศยามและจิตรวรรณกอดกัน เตรียมพร้อมรอรับความตาย มารศรีมองอย่างสะเทือนใจ เจ็บปวด เหนี่ยวไก แต่แล้ว ก็หันปืนมาที่เทวัญ แล้วยิงเปรี้ยงใส่เทวัญทันที เทวัญตาเหลือก ทรุดฮวบ จิตรวรรณกับศยาม ตกใจ ลืมตาขึ้น หันไปมอง ร่างของเทวัญค่อยๆทรุดฮวบลง
“แก...”
“ฉันบอกแล้วไง ฉันจะไม่ยอมให้แกทำอะไรคนที่ฉันรัก”
เทวัญล้มลง...ก่อนจะสิ้นใจตาย จิตรวรรณกับศยามมองร่างไร้วิญญาณของเทวัญอย่างสะเทือนใจ ปิดฉากชีวิตชั่วร้ายของเขา ยอดชาย ทันวิทย์ และตำรวจตามเข้ามา ทันวิทย์เห็นร่างที่ไร้ลมหายใจของเทวัญก็ตกใจ
“พี่เทวัญ”
ตำรวจเล็งปืนไปที่มารศรี
“วางอาวุธลง”
มารศรีทิ้งปืนลงพื้น ตำรวจเข้าไปควบคุมตัวเอาไว้ ทุกคนมองอย่างสลดใจ
ตำรวจจะพามารศรีออกไป
“ขอเวลาฉันสักครู่ได้มั้ย” มารศรีหันไปพูดกับศยาม “ถึงฉันจะชั่วและร้ายกาจยังไง...แต่ฉันก็รักคุณ รักไม่น้อยกว่าที่ผู้หญิงคนนี้รัก และฉันก็ทำได้ทุกอย่างเพื่อเป็นการขอโทษคุณ”
ทุกคนสะเทือนใจ...จิตรวรรณมองมารศรีอย่างเห็นใจ...
“คุณจะไม่ให้อภัยฉันก็ได้...เพราะฉันคงไม่ดีพอที่จะได้รับมัน ขอแค่อย่างเดียว ช่วยกอดฉันอีกสักครั้ง...เป็นครั้งสุดท้าย...”
ศยามสงสารมารศรี หันไปมองจิตรวรรณ...หญิงสาวพยักหน้าให้...ศยามเข้าไปกอด มารศรีร้องไห้โฮ ทุกคนสะเทือนใจ
“ถ้าคุณหยุดวิ่งตามหาการให้อภัยของผม คุณจะมองเห็นว่าผมได้ให้อภัยคุณมานานแล้ว...”
“ขอบคุณค่ะดิ่ง...อ้อมกอดของคุณทำให้ฉันอุ่นใจเสมอ ฉันจะจำสัมผัสนี้ไว้ ว่าอย่างน้อยครั้งหนึ่งฉันก็เป็นคนที่คุณเคยรัก ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นคนทำมันพัง ด้วยมือของฉันเอง”
“ผมเข้าใจคุณ และภาวนาให้คุณเข้าใจผม เข้าใจทุกคนและเข้าใจเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น...ความโลภ ความทะเยอทะยาน อยากได้อยากมีอยากเป็นด้วยวิธีที่ผิดและทำร้ายคนอื่น สุดท้ายมันจะเหลือเพียงแค่ความสูญเสียและความเจ็บปวดกับทุกคนเท่านั้น”
มารศรียิ้มให้ศยามอย่างยอมรับ ก่อนจะหันไปคุยกับจิตรวรรณ
“คุณพูดถูก...ฉันไม่รักษาคนดีอย่างดิ่งเอาไว้เอง ขอให้ความรักของคุณกับดิ่ง...มั่นคงและสวยงามเหมือนที่ฉันเห็น...ต่อไปตราบนานเท่านาน”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะรักเขา ดูแลเขาให้ดีที่สุด”
มารศรียิ้มทั้งน้ำตาให้กับจิตรวรรณและศยามเป็นครั้งสุดท้าย หันเดินไป เดินผ่านทันวิทย์หยุดมอง
“เธอไม่ใช่เด็กน้อยของฉัน และเธอก็ไม่ได้เป็นไก่อ่อนอย่างที่พี่ชายเธอกล่าวหา...เธอเป็นผู้ชายที่ดี สักวันหนึ่งเธอจะได้พบผู้หญิงที่ดีที่เหมาะสมและคู่ควรกับเธอ อย่าคิดถึงสายลมที่พัดผ่านชีวิตเธอเพียงแค่วูบหนึ่งเลยนะ โชคดี”
ทันวิทย์ยิ้มให้กับมารศรีทั้งน้ำตาเช่นกัน...มารศรีเดินจากไป ตำรวจมาดูศพเทวัญ ท่ามกลางความสลดใจของทุกคน
อ่านต่อหน้า 2
พริกกับเกลือ ตอนที่ 18 อวสาน (ต่อ)
หลายวันต่อมา...จิตรวรรณ เจตนา และวันดียืนอยู่ด้วยกันที่มุมหนึ่งในบ้าน รัตนาในชุดเตรียมเดินทางไปต่างประเทศ ไหว้ลาทุกคน เจตนายิ้มให้
“เดินทางปลอดภัยนะรัตนา ถึงที่อเมริกาเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมส่งข่าวมา”
“ค่ะท่าน ขอบพระคุณค่ะ”
“และอย่าลืมนะคะว่า คุณรัตนายังมีสถานภาพเป็นผู้ช่วยของจี๊ดอยู่”
รัตนายิ้มให้
“เป็นพระคุณกับดิฉันอย่างสูงค่ะ ที่คุณจี๊ดยังให้ความไว้วางใจ”
วันดีพูดขึ้นลอยๆ
“เดี๋ยวนี้ คนดีๆ ไว้ใจได้ หายาก”
เจตนาและจิตรวรรณเหลือบมองวันดี ที่ยอมรับรัตนาแล้ว แต่ยังมีฟอร์ม สองพ่อลูกยิ้มให้กัน...แต่ไม่พูดอะไร รัตนายิ้มซาบซึ้งกับทุกคนในครอบครัวนี้
จิตรวรรณกับรัตนาเดินมาด้วยกัน
“จี๊ดไปส่งนะคะ”
“เกรงใจค่ะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณจี๊ด”
วันดีเดินตามออกมา
“เธอยังเป็นพนักงานของจี๊ดอยู่ ไม่ควรจะขัดใจเจ้านาย”
รัตนาอึ้ง จี๊ดก็อึ้ง
“บอกนายแช่มหรือยังจี๊ด ว่าลูกจะไปส่งรัตนาที่สนามบิน”
“ยังค่ะ”
“ไปบอกซะสิ จะได้เตรียมรถไว้ แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับรัตนาด้วย”
“เอ่อ...”
วันดีตัดบท
“รัตนา ตามฉันมา”
“ค่ะ”
รัตนายิ้มหน้าเสียๆ เกร็งๆให้ จิตรวรรณยิ้มให้กำลังใจ รัตนาเดินตามวันดีไป
วันดียื่นเข็มกลัดให้รัตนา
“เข็มกลัดของคุณวันดี”
“ซึ่งฉันให้เธอ เป็นของที่ระลึก”
“อุ๊ย...ดิฉันรับมันไว้ไม่ได้หรอกค่ะ เข็มกลัดอันนี้ท่านประธานซื้อให้คุณเป็นของขวัญ และราคาแพงมาก ดิฉันไม่คู่ควรกับมัน”
“เธอไม่ควรเปรียบเทียบคุณค่าของตัวเองกับราคาของวัตถุ มันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย”
รัตนาอึ้ง
“และอย่าดูถูกความตั้งใจของฉัน”
“ดิฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณวันดีรู้สึกอย่างนั้นนะคะ เพียงแต่...ดิฉัน...เกรงใจมาก”
“เธอยังได้เกรงใจฉันในเรื่องอื่นอีกเยอะ แต่สำหรับเรื่องนี้...ฉันขอสั่งห้ามเพราะอะไรฉันถึงให้เธอรู้มั้ย”
“ไม่ทราบค่ะ”
“เพราะเธอเป็นคนสำคัญของครอบครัวเรา”
รัตนาน้ำตาซึม ซาบซึ้ง
“ขอบคุณมากที่ช่วยดูแลสามีและลูกสาวของฉันเป็นอย่างดี...รับไว้เถอะนะ เธอจะได้ไม่ลืมว่าฉัน...อยากให้เธอกลับมาเร็วๆ”
รัตนารับเข็มกลัดเอาไว้ กราบขอบคุณวันดีอย่างซาบซึ้งใจ
“ขอบพระคุณค่ะ ดิฉันจะไม่มีวันลืมเด็ดขาดว่าครอบครัวของท่านประธานมีพระคุณและแสนดีกับดิฉันเหลือเกิน”
วันดีมองรัตนาอย่างชื่นชมและยินดี ก่อนจะกลับมาฟอร์มอีก
“พวกฉันแสนดีกับคนดีๆเท่านั้น ส่วนใครที่ร้ายกาจ...ก็จะไม่เอาไว้เหมือนกัน รีบไปเถอะ อย่าให้ยัยจี๊ดรอนาน”
วันดีเดินจากไป...รัตนามองอย่างเข้าใจ ค่อยๆหันเดินออกไป วันดีหันกลับมามอง สายตาอ่อนโยน เจตนาเข้ามาโอบไหล่
“ขอบคุณนะคุณวันดี ที่เมตตารัตนา”
“ฉันต่างหากค่ะที่ต้องขอบคุณคุณ ที่รักษาคนดีๆให้อยู่ใกล้ชิดพวกเรา”
“คุณพร้อมหรือยัง”
“พร้อมเสมอค่ะ”
“งั้น...เราจะประเดิมที่แรกที่...”
วันดียิ้ม
“เกาหลี”
เจตนากับวันดีร้องออกมาพร้อมกัน
“อันยองฮาเซโย”
เจตนาและวันดีหัวเราะให้กันอย่างมีความสุข มีชีวิตชีวาเหมือนกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง
ศยามเดินเข้ามาในบ้านจิตรวรรณ เห็นว่าไม่มีใคร
“ทำไมบ้านเงียบจัง คุณจี๊ด ผมมารับแล้วนะ...มีใครอยู่มั้ยครับ”
ทันใดนั้น จิตรวรรณ ใจดี ยอดชาย ศุวิมลก็ขนกระเป๋ากันอย่างโกลาหลเข้ามา ศยามตกใจ
“เฮ้ย...อะไรกัน ทำไมมาอยู่ที่นี่กันหมดเลย แล้วจะไปไหนกัน”
“เอ๊า ก็ไปซ้อมฮันนีมูนกันไง”
“ฮันนีมูนของคุณกับผม แล้วคนอื่น เกี่ยวอะไรด้วยครับ”
ศุวิมลค้อน
“โห พี่ดิ่ง ทีงี้ พวกเรากลายเป็นคนอื่นเลยใช่มั้ย นิสัยไม่ดี ไม่ชวนกันสักคำ”
“ใช่! จะชวนทำไมให้ไปเป็น ก ข ค ง จ”
“นายไม่ชวน ฉันก็เลยชวนเองไง ถึงฉันจะรักนายมากแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่ง่ายอย่างที่นายคิดนะ”
ยอดชายหันมาหาศยาม
“เพราะคุณกับเพื่อนผมยังไม่ได้แต่งงานกันจริงๆ...อย่าอิน เพราะฉะนั้นต้องมี ผมกับทุกคนไปด้วย”
“ผมล้อเล่นน่า รู้ว่าคุณจี๊ดต้องชวนทุกคนไปอยู่แล้ว ผมก็เลยอยู่นิ่งๆ ดี ไม่เหนื่อย ปล่อยให้แฟนผมเจ้ากี้เจ้าการไป สบาย”
“ร้ายนักนะ นี่!”
จิตรวรรณตี ศยามหอมแก้มโชว์ทันที
“ว้าย!”
“เอาสิ คุณตี ผมหอม ผมหอมมั้ย คุณก็ตี พอคุณตีเสร็จผมก็หอม”
ศยามหอมจิตรวรรณอีก
“ว้าย! ฉันยังไม่ได้ตีนะ งั้นตีซะเลย!”
จิตรวรรณวิ่งไล่ศยามรอบบ้าน ยอดชายกับศุวิมลยิ้มขำ ใจดีส่ายหน้า
“ไม่แคร์คนที่ไม่มีคู่อย่างฉันเลย...เงาะนะเงาะ ชวนมาก็ดันป่วยเฮ้อ...เศร้าอ่ะ”
ใจดีเดินแยกออกไป
“ใจดี...เดี๋ยวก่อน” จิตรวรรณหันไปตีแขนศยาม “นี่แน่ะ เพราะนายเลย ทำเพื่อนฉันจิตตกเนี่ย”
จิตรวรรณตามใจดีออกไป ศยามมองตามหัวเราะ
“รับรอง เดี๋ยวก็หายดีแล้ว”
ยอดชายงงๆ
“หายดี...จะหายดีได้ยังไงครับคุณดิ่ง ในเมื่อ...อ๋อ ผมรู้แล้ว...”
ศยามและยอดชายยิ้มให้กัน ศุวิมลหน้าเหวอ
“แล้วทำไมฉันไม่รู้อยู่คนเดียว”
ศยามกับยอดชาย รับออกไปปล่อยให้ศุวิมลอยู่คนเดียว
“พี่ดิ่ง คุณยอด!”
ใจดีเดินออกมา จิตรวรรณตามมาปลอบ
“ใจดี อย่าเศร้าไปเลยนะ แกไปเที่ยวกับฉันนะ ฉันจะพาไปตกปลา รับรอง เดี๋ยวก็มีผู้ชายดีๆมากินเบ็ดแกเองแหละ”
“บ้า แฟนนะ ไม่ใช่ปลากะพง”
แล้วใจดีกับจิตรวรรณก็ชะงักเมื่อโยฮันน์ยืนอยู่ เขินๆ ใจดีตะลึง
“โยฮันน์”
โยฮันน์ยิ้มแย้ม
“ปลากะพงทอดน้ำปลาอร่อยดีนะครับ”
ใจดียืนอึ้ง อ้าปากค้าง ช็อก ศยามเข้ามายืนข้างจิตรวรรณ โอบไหล่
“โยฮันน์มาหาผม ให้ช่วยพามาหาคุณใจดีหน่อย...เขาคิดถึง”
“โยฮันน์...ใจดี ใจดี โยฮันน์”
“อืม...ปล่อยให้ใจดีและโยฮันน์ อยู่กันสองต่อสองนะ”
ใจดีโพล่งออกมา
“ฉันไม่อยู่”
จิตรวรรณกับศยามเหวอไป
“อ้าว”
ใจดีงอนเข้าบ้านไป โยฮันน์หน้าเสีย
“หมายความว่ายังไงครับ”
จิตรวรรณจ๋อยๆ
“หมายความว่างอนสิคะ”
จิตรวรรณตามใจดีเข้าบ้านไป โยฮันน์หันมาถามศยาม
“แล้วต้องทำยังไงต่อล่ะครับ”
“ก็ต้องง้อสิครับ”
โยฮันน์ถอนใจ
“เฮ้อ...”
“รักจริงป่ะ”
“จริง”
“สู้ๆ เดี๋ยวผมช่วย”
“โอเค สู้ๆ”
ศยามกับโยฮันน์เช็กแฮนด์กัน
ณ บ้านริมทะเลสวยงาม...ทุกคนเข้ามาในบ้าน ใจดีเกาะจิตรวรรณแจ งอนโยฮันน์
“เอาล่ะ ทุกคน ขอต้อนรับสู่บ้านพักตากอากาศที่แสนโรแมนติก ใจดี...” จิตรวรรณแกะแขนใจดีออก “ขอโทษนะ” จิตรวรรณรีบไปควงศยาม “ฉันมีคนควงของฉัน ส่วนเธอ โน่น!”
ใจดีมองโยฮันน์
“ไม่! ขอโทษนะ...สวยๆ”
ใจดีเดินออกไปทันที ยอดชายตะโกนไล่หลัง
“สวยนักระวังแห้วนะใจดี”
ใจดีไม่สน ศยามผลักโยฮันน์ให้ตามใจดีไป
“ตามไปสิคุณ”
โยฮันน์อึกอัก
“แต่”
“แต่เต่ออยู่นั่นแหละรำคาญจัง มานี่!”
จิตรวรรณจูงโยฮันน์ออกไปทันที ศยามมาจับมือจิตรวรรณออกจากมือโยฮันน์
“อย่าทำแบบนี้ ผมหวง! มานี่ ผมจูงเอง ไปโยฮันน์”
โยฮันน์แกะมือศยามออก
“ไม่เป็นไรครับ ผมเดินเองได้ เดี๋ยวคนเข้าใจผิดว่าผมเป็นเกย์”
โยฮันน์รีบออกไป ศยามอึ้ง จิตรวรรณหัวเราะสะใจ
“ฮ่ะๆๆ หน้าแตก ฮ่ะๆๆๆๆ เนอะยอดเนอะ”
จิตรวรรณหันไป ยอดชายและศุวิมลหายไปแล้ว
“อ้าว ไปตอนไหนเนี่ย”
ศยามหัวเราะ
“ไง หน้าแตก ฮ่ะๆๆๆ”
“เชิญหัวเราะไปคนเดียวเลย ฉันจะไปช่วยเพื่อนฉัน”
จิตรวรรณรีบวิ่งออกไป
“เจ้ากี้เจ้าการทุกเรื่องจริงๆ ยัยคุณหนูจี๊ด”
ศยามรีบตามไป
ใจดีเดินมาที่มุมหนึ่งริมทะเลสวยๆ โยฮันน์ซุ่มมอง ไม่กล้าเข้าไป ใจดีเหล่มองมา หงุดหงิด
“ทำไมยังไม่เข้ามาอีก กล้าๆหน่อยสิ!”
จิตรวรรณและศยามเข้ามาหาโยฮันน์ จิตรวรรณพูดออกมาโดยที่โยฮันน์ไม่รู้ตัว
“นี่!”
โยฮันน์ตกใจ อุทานเป็นภาษาไทย
“โอ้วว คุณพระ!”
จิตรวรรณตะลึง
“โอ้วว เก่งภาษาไทยขึ้นเยอะนะ”
ศยามยิ้มๆ
“อยากมีแฟนเป็นคนไทยก็ต้องรีบเก่งภาษาไทยสิ”
“แต่ถ้าง้อไม่เก่ง ก็อดนะคะ โยฮันน์ เพื่อนฉันง้อไม่ยากหรอก จะบอกอะไรให้ เขาก็คิดถึงคุณนะ”
โยฮันน์ตาโต ใจชื้นขึ้นมา
“จริงเหรอครับ”
“ยังไม่รีบไปอีก”
โยฮันน์รีบออกไปหาใจดี จิตรวรรณและศยามซุ่มดูต่อไป
อ่านต่อหน้า 3
พริกกับเกลือ ตอนที่ 18 อวสาน (ต่อ)
ใจดียืนรออยู่ โยฮันน์เดินเข้ามาหา ใจดีดีใจ แต่เก๊ก ยืนวางท่าสุดฤทธิ์ โยฮันน์เข้ามา เห็นใจดีขรึม ใจเสีย เดินหนี ใจดีรีบตะครุบ
“เดี๋ยวก่อนสิ โยฮันน์ จะไปไหน”
“กลับ”
“กลับ” ใจดีใส่เป็นชุด “จะบ้าเหรอ คนเขาอุตส่าห์รอให้มาง้อ จะกลับซะแล้ว รู้มั้ยว่าฉันรอเวลาแบบนี้มานานแค่ไหน บอกได้เลยว่าชั่วชีวิตยี่สิบห้าปีแล้วเนี่ย ที่จะมีผู้ชายสักคนมาง้อ แล้วจู่ๆก็จะกลับ บ้าหรือไง เห็นใจกันบ้างสิ แล้วหายไปไหนมา ผลุบๆโผล่ๆ เดี๋ยวมา เดี๋ยวไป เป็นนินจาหรือไง”
โยฮันน์อึ้ง งง ใจดีจ๋อยๆ
“ฉันพูดมากไปใช่มั้ย”
“ครับ”
“เอาใหม่ สั้นๆก็แล้วกัน คุณหายไปไหนมา”
“ผมทำงาน แต่หัวใจผมอยู่ที่คุณ”
ใจดีอึ้ง
“ผมชอบคุณ”
ใจดีนิ่งงัน
“ชอบมาก”
ใจดียังนิ่งตัวชาวาบ
“คุณคงไม่ชอบผม”
ใจดีพูดออกมาเสียงสูงมาก
“ชอบสิ...ถ้าไม่ชอบ เดินหนีไปตั้งนานแล้ว”
โยฮันน์เขิน ใจดีควงแขนโยฮันน์ป๊าบ
“แน่ใจนะ”
“ครับ”
“ถอนตัวไม่ทันแล้วนะ”
“ไม่ถอนครับ”
“งั้นก็...หน้าเดินจ๊ะ”
ใจดีควงโยฮันน์เดินไปตามชายหาด อย่างมีความสุข คุยกันไป จิตรวรรณและศยาม ยิ้มมีความสุขไปกับเพื่อน จิตรวรรณหันมาจะมองหน้าศยาม แต่เห็นเขามองเธออยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวอึ้งไปกับสายตาที่อ่อนโยนของชายหนุ่ม ศยามค่อยๆโน้มหน้าเข้ามาใกล้ จิตรวรรณเอามือกันเอาไว้
“อย่ามาเนียน ไปเลย ไปเตรียมปาร์ตี้อาหารเย็นย่ะ”
“คร้าบ คุณหนูจี๊ด” ศยามดึงมือจี๊ดไป “คุณก็ต้องไปช่วยผม อย่ามาชี้นิ้วสั่งอย่างเดียว”
ยอดชายและศุวิมลเดินจูงมือกันมาริมชายหาดอีกมุม
“คุณศุครับ”
“คะ”
“อุ๊ย เสียงหวานจัง ฟังแล้วชื่นใจ เป็นบุญหูมากเลย”
“นี่! จะทำบรรยากาศเสียให้ได้เลยใช่มั้ย คุณนี่ยังไง ทำตัวเป็นนักเรียนตัวแสบได้ตลอดเวลาจริงๆ”
“ขอโทษ...ก็ผมชอบนี่ เวลาแหย่แล้วเห็นคุณงอน...น่ารักพิลึก”
ศุวิมลขึงตาใส่
“ตกลงจะน่ารักหรือจะพิลึก เอาซะอย่าง”
ยอดชายยิ้ม
“ไม่ได้ ต้องทั้งสองอย่าง ถึงจะเป็นคุณศุ...แฟนผม”
“เฮ้อ...จะดีใจดีมั้ยเนี่ย”
“แต่ผมดีใจนะ ที่ตอนนี้ ผมมีคุณอยู่ข้างๆ คอยด่า คอยสอน คอยให้กำลังใจ เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งครู เป็นทั้งคนรัก...ฟังก์ชั่นครบมาก”
“ยังเหลืออีกหน้าที่หนึ่งที่ยังไม่ได้ทำ...ไหนล่ะเงินเดือน ไหนบอกว่าจะให้ฉันเก็บทุกบาททุกสตางค์”
“โอ๊ย เตรียมไว้แล้ว นี่จ๊ะ สดๆร้อนๆ”
ยอดชายหยิบซองสีขาวจากกระเป๋าหลังให้ศุวิมล
“แต่ต้องเป็นเงินที่เหลือจากการให้เงินเดือนคุณแม่ของคุณแล้วนะ”
“ไม่ต้องห่วงครับ ให้คุณแม่เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็ต้องให้แม่คุณ”
ศุวิมลยิ้มหวาน
“น่ารักที่สุด อยู่ในโอวาทอย่างนี้ให้สม่ำเสมอนะจ๊ะ จะได้เจริญๆ”
ยอดชายยิ้มกรุ้มกริ่ม
“งั้นก็ต้องให้รางวัลสามีหน่อยสิครับ...มามะ มาหอมที”
“ว้าย ประเจิดประเจ้อ อย่านะ”
ยอดชายวิ่งไล่หอมแก้มศุวิมล สองคนวิ่งหยอกล้อกันอย่างมีความสุข
เย็นนั้น ปาร์ตี้จัดขึ้นที่มุมหนึ่งบนชายหาดใกล้บ้านพัก ขณะที่ช่วยกันปิ้งอาหารทะเล ใจดีหันไปบอกโยฮันน์
“โยฮันน์...ปิ้งไปก่อนนะ ฉันร้อน”
“โอเคครับ ดาร์ลิ้ง ผมทำให้เอง”
ใจดีเดินยิ้มไปนั่งพัก ยอดชายเบ้หน้า
“หมั่นไส้ ยัยคุณนาย...แหม...”
ศุวิมลส่งเสียงดุ
“คุณยอด...”
ยอดชายรีบเอาใจ
“ร้อนใช่มั้ยครับ คุณศุไปนั่งพักเถอะครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง รอทานอย่างเดียว”
“น่ารักมากค่ะ”
ศุวิมลเดินไปนั่งพักกับใจดี หัวเราะกันคิกคัก ยอดชายและโยฮันน์หันมายักไหล่ให้กัน
“เพราะรักน่ะนะ...”
โยฮันน์ยิ้มรับ
“เราต้องยอมครับ”
ยอดชายพูดขำๆ
“ฝรั่งหรือไทย สงสัยจะกลัวเมียกันหมด”
สองหนุ่มหัวเราะให้กัน ใจดีกับศุวิมล นึกขึ้นได้ ใจดีแปลกใจ
“เออ ไม่เห็นยัยจี๊ดกับคุณดิ่งเลยอ่ะ คุณศุ”
“ไปเติมความหวานให้น้ำทะเลอยู่มั้งคะ”
“หวานกันได้ตลอดเวลาจริงๆ คู่นี้”
“เพราะเขาสองคนผ่านเรื่องเลวร้ายและสาหัสสากรรจ์มาด้วยกัน เลยทำให้รักกันมาก และก็...ยิ่งมากขึ้นๆทุกวัน”
“นั่นสิคะ ชีวิตมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าเรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันกับคนที่เรารัก เราก็ควรจะดีต่อกัน รักกัน และใช้ชีวิตด้วยกันเสมือนว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของชีวิต”
“ใช่ค่ะ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง...”
แล้วทั้งสองสาวก็นิ่งอึ้งกันไป ก่อนจะคิดได้พร้อมกัน ว่าควรจะดีต่อคนที่เรารักในทุกๆวินาที ลุกขึ้นพร้อมกัน ถลาไปหาหวานใจ เอาใจสุดฤทธิ์
“โยฮันน์ ดาร์ลิ้ง...ฉันช่วยนะ”
“อุ๊ย เหงื่อซกเลย คุณยอด ฉันเช็ดให้นะ หิวน้ำมั้ยคะ”
ยอดชายและโยฮันน์หันมามองหน้ากันงงๆ แต่ก็มีความสุขมาก
ศยามและจิตรวรรณควงกันเดินมาที่ริมทะเลไม่ไกลนัก จิตรวรรณหันมาถามเรียบๆ
“คุณพ่อคุณเป็นยังไงบ้าง”
“เริ่มเดินได้คล่องขึ้นแล้วล่ะ แต่ยังต้องใช้ไม้เท้าช่วยอยู่”
“น่าจะพาท่านมาพักผ่อนด้วยนะ”
“ท่านขอไม่มาเอง...ไม่อยากมาทำให้พวกเราหมดสนุก ท่านว่านะ ผมก็ไม่อยากขัดใจ”
“ท่านคงจะเหนื่อย...แล้วเรื่องของมารศรีล่ะ”
“สารภาพทุกข้อหา...เหลือจำคุกตลอดชีวิต”
จิตรวรรณตกใจ
“ไม่น่าเลย”
“พลาดแค่เพียงครั้งเดียว ชีวิตอาจจะต้องตกต่ำจมดิ่งจนเกินจะแก้ไข”
“และอาจจะต้องตาย โดยเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้เลยสักอย่าง ยกเว้น คำสาปแช่งของคนที่อยู่ข้างหลัง...ฉันภาวนาเหลือเกิน ฉันไม่อยากให้มีคนหลงผิดอย่างพี่เทวัญและมารศรีอีก...แต่คงเป็นไปไม่ได้ เมื่อมีคนดี ย่อมต้องมีคนชั่ว”
“สิ่งที่เราทำได้คือ...อย่าปล่อยให้คนชั่วลุกขึ้นมามีอำนาจหรือทำร้ายคนดีได้”
ทั้งสองยิ้มให้กัน พลางถอนใจ ปลงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ศยามนึกขึ้นมาได้
“เดี๋ยวๆๆ เมื่อกี้คุณใช้สรรพนามเรียกผมว่าคุณเหรอ”
“ทำไม”
“แปลกหูจัง ไม่คุ้น”
“ไม่ดีหรือไง”
“ไม่ดี อยากให้เรียก...ที่รักมากกว่า”
จิตรวรรณค้อน
“เว่อร์! แต่...เรียกก็ได้...ที่รักคะ โอป่ะ”
ศยามส่ายหน้า
“ไม่โอ...คุณก็คุณ”
“นายเหมือนเดิมดีกว่า”
“ตามใจ จะเรียกหมูเรียกไก่อะไรก็ได้นะ ไม่ว่า...ทำชีวิตให้มันง่ายๆ แล้วเอาความเยอะไปใส่ในเรื่องงาน...ดีกว่ามั้ย”
“ดี!”
จิตรวรรณมองหน้าศยาม ด้วยความรักอย่างสุดหัวใจ
“เห็นอะไรในดวงตาฉันมั้ย”
ศยามมองๆ
“ขี้ตา”
“นายดิ่ง!”
จิตรวรรณเงื้อจะตี ศยามวิ่งหนี
“มานี่เลย คนอะไร ไม่รู้จักหวานอะไรบ้างเลย”
“ก็คุณหวานแทนผมแล้วนี่ ไม่ต้องหวานแล้ว เดี๋ยวเลี่ยน”
“ฉันชอบเลี่ยน! เลี่ยนจนอ้วกได้เลยยิ่งดี”
“ได้ จัดให้!”
ศยามเข้าไปรวบเอวของจิตรวรรณไว้ แล้วหอมแก้มอย่างแรง
“โอ๊ย ให้หวาน ไม่ใช่ให้ซาดิสม์ เจ็บนะ หนวดมันตำแก้มฉัน”
“งั้นอีกข้าง นี่แน่ะ”
ศยามหอมแก้มอีกข้างอย่างแรง
“เหนื่อยจะห้าม! อ่ะ จะทำอะไรอีกที่เรียกว่าหวานของนายน่ะ ทำมาเลย”
ศยามมองหน้าจิตรวรรณ ลึกซึ้ง รักมาก ทะนุถนอมมาก
“ผมรักคุณ”
“ทำไมถึงรักฉัน”
“ไม่มีเหตุผล รักโดยไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกที คุณก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจ ที่ขาดไปไม่ได้”
“รู้สึกดีจังเลย...ที่ฉันมีค่ากับนายมากถึงขนาดนี้ นายทำให้ฉันรักนายโดยที่ฉันก็ไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกที ฉันก็ขาดนายไปไม่ได้ ไม่มีนายฉันก็เหมือนเรือไม่มีหางเสือ สัญญานะ ว่าเราจะต้องมีกันและกันตลอดไป”
“สัญญาสิ และผมไม่มีวันผิดสัญญา”
“ฉันก็สัญญา”
“แต่...คุณต้องห้ามดื้อ ห้ามเอาแต่ใจ ห้ามเหวี่ยง ห้ามวีน ห้ามงี่เง่าโดยไม่ฟังเหตุผล ห้าม...”
จิตรวรรณตัดบท
“ไม่ห้ามหายใจไปด้วยเลยล่ะ โอย...ห้ามขนาดนี้ ตายเลยดีกว่า”
“ดีกว่าการได้มีผมทำกับข้าวให้กิน มีผมคอยนวดให้เวลาเมื่อย มีผมคอยสอนงาน มีผมคอยโทรมาปลุกตอนเช้า มีผมขับรถพาไปเที่ยว มีผม...”
จิตรวรรณตัดบทอีก
“ไม่ตายแล้ว! ฉันจะแก่ง่าย ตายยากให้ดู! พอใจหรือยัง”
ศยามส่ายหน้า
“ไม่...”
“อะไรอีกนะ”
“เราจะแก่เฒ่าไปพร้อมๆกัน...ตายเมื่อไหร่ อย่าเพิ่งไปคิด แต่ตอนนี้...เราจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้คุ้มค่าที่สุด เราควรจะรักกัน ไม่ใช่มาทะเลาะกันนะ”
จิตรวรรณเจื่อนไป
“ฉันขอโทษ...”
จิตรวรรณโผเข้ากอด ศยามกอดแน่นอย่างมีความสุข
“แต่...อย่าขี้บ่นนักได้มั้ย ฉันคิดว่าฉันอยู่กับหมีทุกทีที่นายบ่น”
“ทำไมต้องหมี”
“บ่นเป็นหมีกินผึ้งไง ยิ่งตัวใหญ่ๆแบบนี้ด้วย เหมื้อนเหมือนเลย”
“ยัยคุณหนูจี๊ด! มานี่เลย”
จิตรวรรณวิ่งหนี ศยามไล่จับ ทั้งสองวิ่งไล่กันอย่างมีความสุข ท่ามกลางบรรยากาศริมทะเลและท้องฟ้าที่สดใส
จบบริบูรณ์