xs
xsm
sm
md
lg

เกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 18

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 18

ในขณะที่เทพกำลังพยายามจะขืนใจหญิงมานศรีบนเตียง ทิวร้องตะโกนลั่น

“ไอ้เทพ!ไอ้เดนนรก! อย่านะ!”
เทพไม่แยแส หัวเราะเหี้ยม หันมามองหน้าทิว และเห็นพวงทองที่มองมาอย่างเจ็บปวด เทพยิ่งสะใจ
ขณะเดียวกัน ขวัญตาที่นอนนิ่งลืมตาโพลงอยู่อีกห้อง เริ่มขยับตัว แล้วค่อยๆ ลุกขึ้น สายตาของเธอเหม่อมองออกไปไกล
“คุณเทพ...”
ขวัญตาลุกขึ้น ค่อยๆ เดินออกไปอย่างช้าๆ

เทพลงมือขย้ำหญิงมานศรี โน้มหน้าลงมา ไซร้ซอกคอ หญิงมานศรีตัดสินใจหยุดดิ้น แล้วแสร้งทำเป็นอ่อนแรง เทพยิ้มสมใจ
“ดีมากครับคุณหญิง...รู้แล้วใช่มั้ย ว่าต่อสู้ไปก็ไม่มีทางชนะผม...คุณหญิงที่รัก”
เทพประพรมบรรจงจูบหน้าผากของหญิงมานศรี ทิวและพวงทองแปลกใจและตกใจ ที่หญิงมานศรีดูเหมือนจะอ่อนโอนผ่อนตาม ทิวเสียใจมาก
“คุณหญิง...”
“ทิว...ไม่ต้องดู”
พวงทองร้องบอกอย่างสงสารน้อง แต่ทิวยังจ้องตาไม่กะพริบ เทพยิ่งหัวเราะสะใจ
“ฮ่ะๆๆ ดูให้เต็มตาซะนะทิว...นี่คือชัยชนะของฉัน”
หญิงมานศรีใช้มือลูบไล้ไปทั่วตัวของเทพ จนไปสะดุดที่มีดพกของเทพที่เหน็บอยู่ข้างหลัง เธอกระซิบข้างหูเทพ
“ฉันรู้แล้ว...ว่าฉันสู้คุณไม่ได้”
“ฮ่ะๆๆๆ”
“...แต่ใช่ว่าฉันจะยอมแพ้”
หญิงมานศรีดึงมีดของเทพขึ้นมา แล้วปักลงที่กลางหลังของเทพทันที
“อ๊ากส์!”
เทพล้มลงไป หญิงมานศรีลุกขึ้นมาจากเตียงยืนตะลึง พวงทองร้องบอก
“คุณหญิงรีบช่วยทิวด้วย”
หญิงมานศรีได้สติ วิ่งไปแก้มัดให้ทิว เทพพยายามดึงมีดออก หญิงมานศรีแก้เชือกให้ทิว ยังไม่เสร็จ เทพดึงมีดออกมาได้ แล้วโยนมีดทิ้ง....หยิบปืนจะยิงทิว พวงทองตัดสินใจลุกขึ้นมาพุ่งเข้าไปชนเทพ ปืนกระเด็น
หญิงมานศรีแก้เชือกให้ทิวได้
“ทิว คุณหญิงหนีไป”
พวงทองร้องบอก เทพหันไปตบพวงทองจนทองล้มกระเด็นไป เทพไปหยิบปืน ทิวตัดสินใจเข้ามาช่วยพวงทอง คว้ามีดที่ตกพื้น ปาเข้าใส่โดนแขนเทพ ปืนตกพื้น ทิวเข้ามาต่อสู้กับเทพ...
ล้วนวิ่งเข้ามาในห้อง ถือปืนเข้ามา พวงทองพยายามสั่ง
“คุณหญิงหนีไปสิ”
ล้วนเข้าไปบอกเทพ...
“นายใหญ่ ตำรวจกำลังมาที่นี่”
เทพสั่งล้วน
“จัดการพวกมัน”

เทพบาดเจ็บที่กลางหลัง วิ่งหลบออกไป ล้วนเล็งปืนจะยิงทิว หญิงมานศรีคว้าแจกันข้างตัว ปาใส่มือล้วนปืนร่วงตกลง ทิวเข้าไปต่อสู้กับล้วน

เทพกระเสือกกระสนเดินออกไป เลือดไหลนอง เจ็บปวดบาดแผลมาก แต่เทพก็ฝืนเดินต่อไป เทพเดินเข้ามาหยุดชะงัก เจอผ่องทิพย์ยืนอยู่ ในสภาพที่โทรมมาก เทพพยายามเอาตัวรอด

“ผ่องทิพย์ เธอมาช่วยฉันใช่มั้ย”
ผ่องทิพย์ยิ้มให้ แล้วชักปืนออกมา เทพตกใจ
“ผ่อง ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเธอนะ”
“ไม่ต้องมาพูดดี ถึงเวลาชำระหนี้แค้นของฉัน เห็นปืนนี่มั้ย...ปืนของแกไง ฉันจะฆ่าแกด้วยปืนของแก ไอ้เทพ”
“เธออย่าลืมสิว่า...เธอรักฉัน...ผ่อง...ฉันยังมีเงินทองอีกมาก เราหนีไปอยู่ด้วยกัน ฉันจะยกตำแหน่งเมียหมายเลขหนึ่งให้เธอ”
“เมียหมายเลขหนึ่ง”
“ใช่...เมียหมายเลขหนึ่งที่เธอต้องการ ฉันจะทำหน้าที่เป็นสามีที่ดี จงรักภักดีต่อเธอคนเดียวเท่านั้น”
ผ่องทิพย์ค่อยๆเดินเข้ามาหาเทพ สีหน้าอ่อนลง
“คุณเทพ...” ผ่องทิพย์ลูบหน้าเทพ “คุณเทพของผ่อง”
“ผ่อง...”
ผ่องทิพย์ตบหน้าเทพอย่างแรงเปรี้ยง ใช้ปืนจ่อเหมือนเดิม
“คิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดของแกอีกเหรอ พอกันที แกหลอกลวงฉันมาทั้งชีวิต ฆ่าพ่อแม่ฉัน ทำให้ฉันเกลียดพี่เกลียดน้อง และต้องทำร้ายคนอื่นๆอีกมาก เพื่อสนองความเห็นแก่ตัวของแก ไอ้คนลวงโลก คนเลวอย่างแก ต้องไปรับกรรมในนรกขุมสุดท้าย”
เทพตกใจ
“อย่า อย่า...”
เทพวิ่งหนีไปบริเวณบันได ผ่องทิพย์ยิงปืนใส่ไม่ยั้ง แต่ไม่โดน เทพรีบวิ่งหนีไป...”
ผ่องทิพย์เดินถือปืนยิงตามไป...เป็นผู้ล่า...”

เทพหนีมาถึงบริเวณเชิงบันไดด้านบน ผ่องทิพย์เดินเข้ามา แล้วเล็งปืนไปเทพ
“แกหนีฉันไม่รอดหรอก ฉันจะเป็นพญายมพิพากษา ลงโทษคนบาป ให้แกทรมานอย่างแสนสาหัส”
ผ่องทิพย์เล็งปืนที่หน้า เทพลนลาน พลาดล้มหงายหลัง กลิ้งตกบันได จังหวะเดียวกับที่ผ่องทิพย์ยิงปืน ทำให้กระสุนเฉี่ยวไป ไม่โดนเทพ
เทพกลิ้งตกลงบันไดทีละขั้น ร้องอย่างเจ็บปวด เขานึกถึงเรื่องที่เขาเคยทำไว้กับแต่ละคน...ฆ่าพ่อทิว... ข่มขืนแม่ทิวจนเธอฆ่าตัวตาย...ข่มขืนพวงทอง...ฆ่าวิวัฒน์...ฆ่าลุงมิตร...และเหตุการณ์เลวร้ายอื่นๆ
เทพกลิ้งตกบันได ด้วยสภาพที่กำลังตกสู่จุดต่ำสุดของชีวิต
ผ่องทิพย์ยืนมองด้วยความสะใจ เทพกลิ้งมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย นอนกองที่พื้น

ทิวต่อสู้กับล้วนจนล้วนกระเด็นไปที่มุมหนึ่ง ล้วนคว้าปืนได้ จะยิงแต่หยุดกึก ล้มลง หญิงมานศรีแก้มัดพวงทองจนสำเร็จ พวงทองใช้เศษแจกันแทงเข้าด้านหลัง ล้วนล้มลงกองกับพื้น หญิงมานศรีเข้าไปกอดทิว ดีใจที่ทิวปลอดภัย
“นายทิวเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันไม่เป็นอะไร พี่พวง ผมฝากดูแลคุณหญิงด้วย”
“ทิวจะไปไหน”
“ผมต้องไปชำระบัญชีแค้นกับมัน”

หญิงมานศรีและพวงทองจะห้ามไว้ แต่ทิวหยิบปืนจากล้วน วิ่งออกไปจากห้อง หญิงมานศรีมองตามด้วยความเป็นห่วง

ผ่องทิพย์ถือปืนเดินลงบันได เดินเข้ามามองร่างเทพนอนนิ่งอยู่กับพื้น ด้วยความแค้นและความสะใจ ผ่องทิพย์เดินเข้ามายืนบริเวณร่างเทพ เห็นว่าเทพนอนสลบนิ่ง เตรียมเล็งยิงอีก

ทันใดนั้น มือเทพเข้ามาดึงขาผ่องทิพย์ ทำให้ผ่องทิพย์ล้มลง ปืนกระเด็นออกไป ผ่องทิพย์พยายามจะคลานเข้าไปหยิบปืนขึ้นมา แต่เทพก็ดึงขาเธอไว้..
ผ่องทิพย์พยายามถีบ แล้วคลานไปหยิบปืน จะได้แล้ว แต่ถูกเทพดึงขากระชากออก เทพฝืนลุกขึ้น มาต่อยผ่องทิพย์ ผ่องทิพย์กระเด็น หัวโขกมุมโต๊ะ สลบไป
“กระจอกๆอย่างแก ไม่มีทางทำอะไรฉันได้หรอกนังโง่ แกต่างหากที่ต้องลงนรก”
เทพจะยิงผ่องทิพย์ แต่กระสุนหมด ทิ้งปืน เทพได้ยินเสียงคนวิ่งมา จึงรีบกะเผลกออกไปทันที
ทิววิ่งมาถึงเชิงบันไดด้านบน เห็นผ่องทิพย์นอนสลบอยู่ รีบวิ่งไปอย่างตกใจ

เมื่อเทพวิ่งไปซ่อนตัวที่ห้องเก็บ เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก รู้สึกเจ็บที่บาดแผล ลองจับดู แผลเหวอะมาก เทพแค้น
“ฉันจะไม่ยอมให้พวกแกชนะ ไม่มีทาง”
ทางด้านเข้มวิ่งเข้ามากับตำรวจกลุ่มใหญ่ เทพหลบเข้ามุม ตกใจ เหงื่อแตก แต่ยิ่งเพิ่มทวีความแค้น ไม่ยอมแพ้ เทพหลบไปอีกทาง

ขณะเดียวกันในคฤหาสถ์...ทิวอุ้มผ่องทิพย์ลงนอนบนเก้าอี้ หญิงมานศรีและพวงทองดูแล เข้มมากับตำรวจ
“นายครับ”
“มันหนีไปได้...”
“ฉันจะดูแลคุณผ่องทิพย์เอง” หญิงมานศรีบอก
ทิวยิ้มให้หญิงมานศรี
“ขอบคุณมากครับ....”
หญิงมานศรีสบตาทิว เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจในหัวใจของกันและกัน
“ไป ไอ้เข้ม”
“เดี๋ยว นายทิว...”
ทิวหันมา
“ปลอดภัยกลับมานะ”
“ผมไม่มีทางทิ้งคุณไปไหนแน่ ผมสัญญา”
ทิวโผเข้ามากอดหญิงมานศรีเอาไว้ หญิงสาวกอดตอบทันที ก่อนที่ทิวจะตัดใจ รีบออกไปกับเข้มและตำรวจ
หญิงมานศรีมองตามทิวอย่างเป็นห่วง ในขณะที่พวงทองดูแลผ่องทิพย์อยู่ บุญปลูกกระโดดเข้ามาทั้งๆที่ยังถูก มัดเท้า มัดมือ
“บุญปลูก”
หญิงมานศรีรีบเข้าไปช่วยเหลือบุญปลูกทันที

ที่คฤหาสน์...หม่อมสรัสวดีเข้ามากับชายคำรณด้วยความตกใจ หญิงมานศรีและพวงทองเดินออกมา
“หม่อมแม่ พี่ชาย มาได้ยังไงคะ”
“แม่กับชายอยากมาเยี่ยมลูก แต่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมตำรวจอยู่เต็มบ้าน”
หญิงมานศรีและพวงทองสบตากันอย่างเคร่งเครียด

หม่อมสรัสวดี ฟังเรื่องจากหญิงมานศรีและพวงทองแล้วโล่งใจ
“ลูกหญิงของแม่รอดปลอดภัยก็ดีแล้วนะ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะลูก”
“ค่ะ หม่อมแม่”
“แล้วคุณทิวล่ะครับ” ชายคำรณถามอย่างเป็นห่วง
“ทิว....ไปช่วยตำรวจตามหาตัวคุณเทพค่ะ”

หญิงมานศรีและทุกคนกังวลใจ เป็นห่วงทิว


เกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 18 (ต่อ)


มุมหนึ่งไร่อ้อย...ทิวและเข้มเดินสอดส่ายสายตามองไปรอบๆ บริเวณ

“มันไม่น่าจะไปไหนได้ไกล”
“มันคงต้องหาที่ซ่อนตัวใกล้ๆ ครับนาย”
ทิวมองไปรอบๆ เห็นห้องเก็บของเก่าร้าง

ขณะที่ทุกคนในคฤหาสน์นั่งเป็นห่วงทิว บุญปลูกหน้าตื่นเข้ามา
“คุณขวัญตาหายตัวไปค่ะคุณพวงทอง”
ทุกคนตกใจและแปลกใจ
“แต่ขวัญตาไม่ลุกเดินไม่ขยับตัวเลยนะ จะหายไปไหนได้ยังไง”
“ได้ยังไงก็ไม่ทราบค่ะ แต่ที่รู้ๆคือ...บุญปลูกหาทั่วบ้านแล้วค่ะ ไม่มีเลย”
ทุกคนเป็นห่วงขวัญตาอีกคน หญิงมานศรีลุกขึ้นจะออกไป ชายคำรณฤทธีรีบถาม...
“น้องหญิง จะไปไหน”
“หญิงจะไปตามหาตัวคุณขวัญตาค่ะ”
หม่อมสรัสวดีรีบห้าม
“แต่อันตรายนะลูก ปะเหมาะเคราะห์ร้าย ไปเจอนายเทพที่ยังไม่สิ้นฤทธิ์เข้าล่ะ”
“แต่หญิงทนอยู่เฉยๆแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ”
“ดิฉันไปเองค่ะ” พวงทองตัดสินใจ
“ขอหญิงไปช่วยด้วยเถอะนะคะ หญิงเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นต้นเหตุของความวุ่นวายนี้”
“เราจะไปด้วยกันจ๊ะ” ชายคำรณฤทธีบอก
พวงทอง หญิงมานศรีมองหน้าชายคำรณฤทธี...เห็นความเข้มแข็งในดวงตาของเขาแล้วอุ่นใจ
“บุญปลูก ช่วยดูแลหม่อมแม่ด้วยนะ”
“ค่ะ” บุญปลูกรับคำ
“ชาย หญิง ระวังตัวนะลูก”
หญิงมานศรี กับชายคำรณฤทธีรับคำ แล้วรีบพากันออกไป หม่อมสรัสวดีและบุญปลูกมองตามด้วยความเป็นห่วง

เทพตั้งสติอยู่ ทันใดนั้นก็มีมือหนึ่งเอื้อมเข้ามาจับทีไหล่ของ เทพสะดุ้งเฮือก หันไป พบขวัญตายืนมองมาที่เทพอย่างเลื่อนลอย สติยังมาไม่เต็มอยู่
“คุณเทพ...”
เทพตะลึง
“ขวัญตา”
ขวัญตามองที่บาดแผลของเทพ
“คุณบาดเจ็บ...”
“ถอยไป”
เทพผลักขวัญตาที่ล้มลงไป นอนนิ่ง...ตาเหม่อลอย
“ถ้าไม่อยากตายอยู่ให้ห่างๆฉัน”
เทพพยายามหาสิ่งของที่จะใช้เป็นอาวุธได้ภายในห้องนั้น ขวัญตาเบือนหน้ามามองเทพ...

หน้าห้องเก็บของร้าง...ทิวถือปืนเข้ามา เดินเข้ามาอย่างระแวดระวังตัวกับเข้ม พยายามมองหาที่ๆเทพจะซ่อนตัวได้ ทิวไปตามมุมต่างๆของห้องเก็บของ
ทางด้านเทพหมดหวังที่จะหาอาวุธ หันกลับมา ขวัญตายืนเงื้อถือไม้หน้าสามยืนรออยู่แล้ว เทพตกใจ
“เฮ้ย!”
ขวัญตาฟาดไม้หน้าสามใส่เทพอย่างแรง เทพใช้แขนหนึ่งรับเอาไว้ได้ แต่แขนทรุด
“อ๊ากส์!”
ขวัญตากระหน่ำตีเทพไม่ยั้ง ความทรงจำที่เจ็บปวดกลับคืนมา
“แกมันชั่ว! ชั่วเกินกว่าจะเรียกว่าเป็นมนุษย์!”
ขวัญตานึกถึงเหตุการณ์ที่เทพทำร้ายวิวัฒน์อย่างเหี้ยมโหด แล้วขวัญตาร้องไห้อย่างหนัก เข้าไปตบตีเทพ โดยที่เทพไม่มีทางสู้
“ไอ้เศษมนุษย์ แก!”
“โอ๊ย!”
เทพพยายามปัดป้อง แต่ขวัญตาเต็มไปด้วยแรงโทสะ ฟาดและตีเทพไม่ยั้ง โดนแผลที่ถูกแทงข้างหลังอย่างจัง
“อ๊ากส์!”
ทิวและเข้มได้ยินเสียงร้องของเทพ รีบวิ่งไปตามเสียง ขณะที่ขวัญตายังตีเทพไม่ยั้ง เทพตัดสินใจรับไม้เอาไว้ แล้วกระชากทำให้ขวัญตาเสียหลัก กระเด็นไปตามแรงเหวี่ยง จังหวะเดียวกันนั้นเอง ทิวถีบประตูพังเข้ามา โครม!
ทิวยกปืนขึ้นจะยิง เทพใช้ไม้หน้าสามฟาดสวนเข้าไปทันที แต่ทิวหลบทัน เตะเข้าชายโครงของเทพ
“อ๊ากส์!”
ทิวจะยิงเทพ เทพตัดสินใจใช้ขวัญตาเป็นตัวกำบัง ทิวยิงเปรี้ยงออกไปก่อน...กระสุนถากโดนที่แขนของขวัญตาที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เทพผลักขวัญตาใส่ทิวและเข้ม แล้วฉวยจังหวะวิ่งหนีออกไปจากห้อง ทิวเป็นห่วงขวัญตา
“ขวัญตา ฉันขอโทษ เป็นไงบ้าง”
“ไม่ต้องห่วงฉัน ตามมันไป ไปสิ ไปลากคอมันมารับโทษให้สมกับความเลวของมัน”

ทิวกับเข้มพยักหน้าให้กัน แล้ววิ่งออกไป ขวัญตามองตามทิวอย่างเอาใจช่วย

ล้วนที่ถูกจับกุมอยู่ ใส่กุญแจมือนั่งนิ่ง เต็มไปด้วยความแค้น มองไปรอบๆ เห็นตำรวจยืนเฝ้าอยู่หนึ่งนาย ล้วนตัดสินใจเข้าจู่โจมตำรวจ พุ่งเข้าชนเอาหัวโขก จนตำรวจน็อกล้วนรีบหากุญแจในตัวตำรวจพลางมองไปรอบๆกลัวใครมาเห็น

ทางด้านเทพที่กำลังวิ่งหนี ทิวกับเข้มตามมาทัน ทิวยกปืนขึ้นยิง แต่กระสุนพลาดเป้า เทพหนีไปได้ ทิวโมโห ยิงเปรี้ยงๆๆๆๆ ใส่ไม่ยั้ง จนเข้มเองสยอง
กระสุนจากปืนของทิวหมด ทิวเขวี้ยงลงพื้น อย่างโมโห
“ตามไปเร็ว”
ทิวและเข้มวิ่งตามเทพไป

หญิงมานศรี ชายคำรณฤทธี และพวงทอง ที่เดินมาด้วยกัน ได้ยินเสียงปืน ขณะเดียวกัน ขวัญตาบาดเจ็บเดินมาถึง ทุกคนตกใจและแปลกใจที่เห็นขวัญตาในสภาพนี้
“ขวัญตา...เกิดอะไรขึ้น” พวงทองถาม
“พี่ทิวกำลังตามล่าไอ้เทพไปทางโน้น”
ชายคำรณฤทธีรีบบอก
“คุณขวัญตาได้รับบาดเจ็บ คุณพวงทองพาเธอไปรักษาก่อนเถอะครับ ผมจะไปช่วยคุณทิวอีกแรง”
“แต่ฉันเป็นห่วงทิว”
หญิงมานศรีห้าม
“แต่ถ้าคุณพวงทองเป็นอะไรไปอีกคน ทิวจะยิ่งเจ็บปวดนะคะ”
“หญิงก็ต้องกลับไปกับคุณพวงทอง”
ชายคำรณฤทธีสั่ง หญิงมานศรีแย้ง
“ไม่ค่ะ หญิงจะช่วยเกลี้ยกล่อมให้คุณเทพมอบตัว ก่อนที่นายทิวจะมือเปื้อนเลือด แล้วกลับเป็นฝ่ายที่ต้องถูกกฎหมายลงโทษซะเอง”
พวงทอง ขวัญตามองหญิงมานศรีอย่างชื่นชม
“ไปกันเถอะค่ะ พี่ชาย”
หญิงมานศรีวิ่งนำชายคำรณฤทธีไปอย่างเด็ดเดี่ยว พวงทองประคองขวัญตาเดินออกไป

ในคฤหาสน์...
หม่อมสรัสวดี เดินกระวนกระวายใจอยู่ อรอนงค์และนพดลเข้ามาอย่างร้อนใจ อรอนงค์และนพดลเข้ามายกมือไหว้สรัสวดี ทั้งคู่ต้องการจะขอโทษสรัสวดีแทนเทพ
“พวกเราทราบข่าวก็รีบเดินทางมาทันที...หม่อมคะ....ดิฉันขอโทษ”
“เรื่องอะไรคะ”
“ทุกเรื่องที่น้องชายของดิฉัน ได้สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้กับครอบครัวของหม่อม”
นพดลช่วยพูด
“และผมก็เป็นคนชักนำเทพให้รู้จักกับหม่อม เปิดโอกาสให้เทพได้เล่นเกมกิเลสสนองตัณหาของตัวเอง”
หม่อมสรัสวดีอึ้งไป
“ทั้งนายเทพและดิฉัน...ต่างก็ตกเป็นทาสของกิเลสด้วยกันทั้งคู่ ดิฉันยอมรับคำขอโทษของพวกคุณ...แต่ดิฉันจะยังไม่สบายใจนัก ถ้าไม่ได้ยินคำๆนี้อย่างจริงใจออกจากปากของผู้ชายคนนั้นด้วยตัวเอง”
อรอนงค์ และนพดลอึ้งไป ขณะเดียวกัน ธีรพลและพิไลพรเข้ามาอย่างร้อนใจ

เทพลากสังขารมาถึงมุมหนึ่ง พยายามล้มข้าวของให้ขวางทางเอาไว้ ทิวและเข้มวิ่งตามมา หลบสิ่งกีดขวาง เทพล้มลังใหญ่จนทิวและเข้มตามเทพไป ไม่ได้
“ไอ้เทพ แกวิ่งหนีไปไม่พ้นหรอก”
เทพหยุดวิ่งหนี กันมาประจันหน้ากับทิว ยิ้มเย้ยทิว
“ฉันไม่ได้หนี แต่กำลังวิ่งให้แกไล่ตามต่างหาก”
ทิวมองเทพอย่างแค้นใจ
“แกอาจจะหนีฉันพ้น แต่แกจะหนีกฎแห่งกรรมไปไม่พ้น”
“ฉันอยู่เหนือกฎเกณฑ์ทั้งปวง รู้มั้ยทิว ฮ่ะๆ”

เทพวิ่งหนีไป ทิวหงุดหงิด พยายามหาทางตามไป

(ต่อจากตอนที่แล้ว)

พวงทองทำแผลและพันผ้าให้กับขวัญตาเรียบร้อย ทุกคนมองดูอยู่

“กระสุนแค่ถาก ไม่เป็นอะไรมาก”
ขวัญตามองพวงทองอย่างซาบซึ้ง
“ขอบคุณนะ พี่พวง”
“ไม่เป็นไร”
ขวัญตายกมือไหว้
“ขวัญตาขอโทษนะ สำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา ขวัญตาทำไม่ดีกับพี่พวง ขวัญตารู้สึกผิด”
“อย่าคิดอะไรมาก ไปพักผ่อนเถอะ”
“พี่พวงไม่ยกโทษให้ขวัญตาใช่มั้ย”
พวงทองถอนใจ
“คนเราทำผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น ถ้าทำผิดแล้วสำนึกได้ ควรจะได้รับการให้อภัย”
ขวัญตาดีใจ
“พี่พวง...”
“พักผ่อนก่อนเถอะ....เธอเหนื่อยมามากแล้ว”
พวงทองลุกเดินออกไป ขวัญตามองตามพวงทอง น้ำตาไหล โล่งอกที่พวงทองให้อภัยแต่ก็ยังเป็นห่วงทิวและแค้นใจเทพ พูดขึ้นมาอย่างแค้นๆ
“ถ้าสวรรค์มีตา และฟ้ามีความยุติธรรมจริงๆ....ก็ขอให้คนอย่างไอ้เทพมันอย่าได้ตายดีเลย”

เทพซึ่งกำลังเร่งหนี ในใจเต็มไปด้วยแรงแค้น
“ไม่มีอะไรหรือใครไล่ล่าฉันได้...ต่อให้เป็นกฎแห่งกรรมที่ไร้สาระนั่น! ฉันคือผู้ล่า...”
เทพหยุดชะงัก ได้ยินเสียงบางอย่าง รีบหลบเข้าที่กำบัง ขณะเดียวกันหญิงมานศรีและชายคำรณฤทธีเดินมาถึง เทพพยายามนิ่ง ไม่เคลื่อนไหว ชายคำรณฤทธีรั้งหญิงมานศรีไว้ หยุดอยู่ใกล้ๆเทพ
“หญิง...เดี๋ยวก่อน”
“คะ พี่ชาย”
เทพยิ่งรู้สึกอึดอัด เพราะสภาพที่บาดเจ็บของตัวเองที่ทำอะไรไม่ถนัดนัก

ในคฤหาสน์...หม่อมสรัสวดีเดินงุ่นง่าน
“ลูกหญิงนะลูกหญิง...ทำไมไม่รู้จักกลัวอะไรบ้างเลย”
“คุณหญิงมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ เธอทำเพื่อคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ หม่อมเลี้ยงลูกได้ดีเหลือเกินค่ะ” อรอนงค์พูดให้กำลังใจ
หม่อมสรัสวดีอึ้ง มองสองมือของตัวเอง
“สองมือนี้ ฉันเฝ้าเลี้ยงดู ประคบประหงมเขา แต่ฉันก็เกือบเป็นคนที่ได้ชื่อว่า...ทำลายลูกด้วยมือของตัวเอง ถ้าลูกเป็นอะไรไป...ฉันจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย”
นพดลช่วยปลอบ
“หม่อมทำใจดีๆไว้นะครับ...คนดีย่อมตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ผมเชื่ออย่างนั้น”
“ทุกคนเชื่ออย่างนั้นค่ะ ยกเว้น...คนที่ไม่เคยศรัทธาในความดีงาม...อย่าง..เทพ น้องชายของดิฉัน”
อรอนงค์บอกอย่างหม่นหมอง หม่อมสรัสวดีมองอย่างเข้าใจความรู้สึก...
“คุณคงเจ็บปวดมาก”
“อย่างที่สุดค่ะ ที่ต้องเฝ้ามองจุดจบอันน่าสมเพชของน้องชายตัวเอง ซึ่งต้องมาถึงในสักวัน...แล้วในที่สุด...ก็ถึงวันนี้”
อรอนงค์น้ำตาซึม นพดลเข้ามาปลอบใจ หม่อมสรัสวดีเห็นใจอรอนงค์และนพดล
“เราทั้งหมดจะต้องเข้มแข็ง ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง”
“ค่ะ...หม่อมเองก็ต้องศรัทธานะคะว่าความดีงาม จะเป็นเกราะคุ้มภัยให้กับลูกๆของหม่อมได้”
“ค่ะ”
ทั้งหมดต่างเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน พวงทองยืนฟังอยู่ที่มุมหนึ่ง น้ำตาซึม หนักใจ ความรู้สึกส่วนตัวที่รักเทพมันอัดอั้นอยู่ข้างใน หากแต่ก็ขัดกับคำว่า....ถูกต้อง พวงทองเดินออกไป

เทพนั่งหลบเงียบ หญิงมานศรีแปลกใจที่ชายคำรณฤทธีเรียกเอาไว้
“มีอะไรคะพี่ชาย เรารีบไปกันเถอะค่ะ”
“หญิงควรจะกลับไปอยู่กับหม่อมแม่”
“อย่าคิดเปลี่ยนใจหญิงตอนนี้เลยค่ะ”
“มันอันตราย”
“วินาทีนี้ หญิงต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้เรื่องนี้จบโดยเร็วที่สุด ก่อนที่นายทิวจะกลายเป็นฆาตกรฆ่าคุณเทพด้วยแรงแค้น คนที่ต้องถูกกฎหมายจัดการคือคนชั่ว ไม่ใช่คนดี และนายเทพต้องชดใช้ความผิดของตัวเองในคุก ไม่ใช่ด้วยความตาย”
ชายคำรณฤทธีเข้าใจความพยายามของหญิงมานศรี ขณะที่เทพแค้นใจมาก

พวงทองเดินมานั่งที่ระเบียงตามลำพัง เธอคิดถึงลงนั่ง คิดถึงเทพ น้ำตาร่วง คิดถึงตอนที่เทพทำร้าย แต่บางครั้งเขาก็กอดพวงทองด้วยความรัก แต่พวงทองห้ามใจตัวเองไม่ให้กอด เพราะในที่สุดเขาก็ทำร้ายเธอ มัดไว้กับเตียง และทารุณสารพัด พวงทองนั่งร้องไห้อย่างเจ็บปวดเพราะรักคนเลว
“คุณมันเลว สมควรแล้วที่คุณต้องชดใช้มันด้วยความเจ็บปวด สมควรแล้ว ถูกแล้ว...”

พวงทองร่ำไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ


เกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 18 (ต่อ)
 

ตำรวจนายหนึ่งนำตัวธีรพลและพิไลพร เข้ามาสมทบกับทีมตำรวจอีกจำนวนหนึ่งที่ปักหลักรออยู่แล้วภายในไร่

“ขอบคุณครับหมอ ที่สละเวลามาช่วยเราเจรจาให้คนร้ายมอบตัว” ตำรวจบอก
“ผมยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งครับ”
-ตำรวจมองมาที่พิไลพรอย่างสงสัย มาด้วยทำไม ธีรพลอธิบาย
“ก็เธอเป็นผู้ช่วยของผมครับ และรู้จักกับคนร้ายเป็นอย่างดี มีเธออยู่ข้างๆผมจะอุ่นใจกว่าครับ”
พิไลพรหัวใจพองโต แอบอมยิ้ม
“งั้น ตามมาทางนี้ครับ คนร้ายยังคงหนีวนเวียนอยู่ในบริเวณนี้”
“ครับ” ธีรพลหันไปส่งยิ้มให้พิไลพร “ไปครับ”
“ค่ะ”
ธีรพลเดินนำพิไลพรไป พิไลพรเดินตามไปยิ้มๆเขินๆ

เทพมองไปที่หญิงมานศรีอย่างแค้นใจ ชายคำรณฤทธีพยักหน้าให้น้องสาว...
“เรารีบไปตามหาคุณทิวกันเถอะ”
“ค่ะ”
จังหวะที่หญิงมานศรีกำลังเดินผ่านที่ซ่อน เทพกัดฟันลุกขึ้น คว้าตัวหญิงมานศรีเอาไว้ ล็อกคอ ใช้มือเตรียมขย้ำที่คอหอยของเธอ ชายคำรณฤทธีมองอย่างตกใจ
“เสียใจด้วยนะ คุณหญิง คุณชาย...ที่ไม่ได้เจอนายทิวผู้แสนดี แต่เจอนายเทพคนชั่วคนนี้ซะก่อน”
“อย่าทำอะไรน้องหญิงนะ” ชายคำรณฤทธีร้องห้าม
“ทำแน่...ไม่ต้องห่วงหรอกคุณชาย”
“เขาไม่กล้าทำอะไรหญิงหรอกพี่ชาย ไม่ต้องห่วง”
“เหรอครับ”
เทพต่อยท้องหญิงมานศรีทันที
“โอ๊ยยยย” หญิงมารศรีทรุดลงกับพื้น
“ไอ้เลว!”
ชายคำรณฤทธีเข้าไปต่อสู้กับเทพ แต่สู้ไม่ได้ ทั้งๆที่เทพบาดเจ็บ เทพเหนือชั้นกว่ามาก หญิงมานศรีสงสารชายคำรณที่พลาดท่าถูกเทพต่อยไม่ยั้ง
“พี่ชาย!!! ช่วยด้วย!!!”
เทพจัดการจนชายคำรณฤทธี หมดแรง...โอนเอน...เทพหันไปจัดการกับหญิงมานศรีต่อ ย่างสามขุมเข้าหา
“อย่าเข้ามานะ!”
“คงได้บทเรียนแล้วนะครับว่า...อย่าประเมินผมต่ำเกินไป”
หญิงมานศรีพยายามถอยหนี เทพย่างเข้าหา
“อย่าทำอะไรน้องหญิง!”
เทพมีใบหน้าที่เหี้ยมเกรียม ขณะที่หญิงมานศรีตื่นกลัว เหมือนลูกกวางที่กำลังจะถูกเสือหิวขย้ำ ขณะที่อีกด้านไม่ห่างกันนัก ทิวกับเข้มชะงัก
“ไอ้เข้ม ได้ยินเสียงเหมือนฉันหรือเปล่า”
“มาจากทางด้านโน้นครับนาย”
เข้มชี้ไปทางหนึ่ง
“ไป เร็ว!”
ทั้งคู่วิ่งไปตามเสียงทันที

เทพฉุดตัวหญิงมานศรีขึ้นมา จ้องมองใบหน้าของหญิงมานศรีอย่างสะใจ ชายคำรณฤทธีพยายามตะกายสังขารมาจะช่วยหญิงมานศรีได้อย่างเชื่องช้า
“อย่ากลัวผมเลยคุณหญิง..ดูสิ ตัวสั่นเชียว”
“ฉันไม่ได้กลัว..แต่ฉันขยะแขยงคุณ”
“เคยได้ยินมั้ย เกลียดอย่างไร มักจะได้อย่างนั้น เกลียดผมเยอะๆ ยิ่งขยะแขยงผมมากเท่าไหร่ คุณหญิงก็จะไม่มีทางหนีผมได้พ้น”
ทิวและเข้มเข้ามาเห็นพอดี
“คุณหญิง!”
เทพหันไปเห็นทิว เทพยิ้มเหี้ยม ทิวจะเข้าไป เทพล็อกคอหญิงมานศรีเอาไว้ เอามือขย้ำที่คอหอยหญิงมานศรี
“ถึงฉันจะบาดเจ็บ....แต่ฉันยังไม่หมดแรง...มือของฉันยังแข็งแรงพอที่จะปลิดชีวิตของผู้หญิงสูงศักดิ์...ภรรยาหมายเลขหนึ่งของฉัน”
ทิวมองหญิงมานศรีอย่างสงสารมากที่สุด
“อดทนไว้นะ คุณหญิง...”
“ฉัน..ไม่..เป็น..ไร...”
เทพยิ่งโกรธและฉุน
“รำคาญโว้ย!อย่ามาส่งสายตาหวานซึ้งกันแถวนี้ ฉันจะอาเจียนน่ะทิว”
“แกได้อาเจียนออกมาเป็นเลือดแน่ ไอ้เทพ” ทิวเยอะ
“กว่าจะถึงตอนนั้น...แกคงจะตายก่อนฉันแน่นอน ทิว...ถ้ายังอยากดูโลกนี้ต่อไปนานๆ...ก็อย่าตามฉันมา ถือว่าฉันต่อชะตาชีวิตให้แก”
เทพลากคอหญิงมานศรีออกไปทางหนึ่งทันที ทิวสั่งเข้ม...
“ดูแลคุณชาย ไอ้เข้ม”
“ครับนาย”
ทิวตามเทพไปทันที เข้มไปดูแลชายคำรณ แต่ชายคำรณมองตามหญิงมานศรีไปอย่างเป็นห่วง
“เข้ม ช่วยอะไรฉันหน่อย...”
เข้มมองชายคำรณฤทธีอย่างแปลกใจว่าจะให้ช่วยอะไร

หม่อมสรัสวดีตกใจมากกับสิ่งที่เข้มมาบอก...
“อะไรนะ! ชายคำรณตามนายทิวไปช่วยลูกหญิง ที่ถูกนายเทพจับไปเป็นตัวประกันงั้นเหรอ”
“ครับหม่อม...คุณชายให้ผมมารายงานทุกคน...แล้วคุณชายก็...ตามไปช่วยคุณทิวตามตัวคุณหญิงกลับมาครับ”
“ชาย...หญิง...”
สรัสวดีเป็นลมทันที
“หม่อมคะ!”
อรอนงค์ประคองสรัสวดีเอาไว้...
“บุญปลูกอยู่ไหน เอายาดมมาหน่อยเร็ว! หม่อมเป็นลม!”
นพดลหันไปถามเข้ม
“รายงานเรื่องนี้กับตำรวจหรือยัง”
“รายงานแล้วครับ”
“เทพ...ฉันเสียดายคนอย่างนายจริงๆ..ไม่น่าเลย”
นพดลเหลียวไปดูอรอนงค์ ปฐมพยาบาลสรัสวดีอยู่ด้วยความเป็นห่วง

เทพลากตัวหญิงมานศรี หนีการไล่ล่าของพวกทิว ขณะที่เธอพยายามหวานล้อมเขาไปด้วย
“คุณเทพ คุณหนีรอดมาได้แล้ว ปล่อยตัวฉันไปเถอะ”
“ผมปล่อยตัวคุณหญิงก็โง่สิครับ คุณหญิงไม่ได้มีค่าแค่เป็นตัวประกัน แต่คุณหญิงมีค่ามากกว่านั้น”
“คุณต้องการอะไรกันแน่”
“เร็วๆเข้า รีบไปกันได้แล้ว”
เทพลากตัวหญิงมานศรีออกไป ทิวตามมาอย่างเร่งรีบ เทพหันไปมอง หัวเราะเยาะเย้ยทิว
“ตามมาอย่าหมดแรงนะทิว....ฮ่ะๆๆๆๆ”
ทิวมองหญิงมานศรีอย่างเป็นห่วง เทพกระชากตัวหญิงมานศรี เดินต่อไป ทิวตามต่อไปอย่างไม่ลดละ ก่อนชะงักหันไปมองข้างหลัง เห็นชายคำรณเดินเข้ามา
 
ทิวอึ้งนึกเป็นห่วงแต่ก็เข้าใจความรู้สึกชายคำรณที่เป็นห่วงหญิงมานศรีได้ดี

หม่อมสรัสวดีนอนหลับไปเพราะอาการช็อก อรอนงค์คอยดูแล...บุญปลูกอยู่ใกล้ๆ คอยรับใช้...ขวัญตาเข้ามานั่งข้างๆ มองหม่อมด้วยความเป็นห่วง

“น่าสงสารเสียจริง...คุณหญิงถูกจับตัวไป หม่อมก็มาเป็นลมไปอีก” อรอนงค์ทอดถอนใจ
“นี่ถ้าคุณหญิงไม่ออกไปตามหาคุณขวัญตา คุณหญิงไม่ต้องซวยถูกจับตัวหรอกค่ะ”
บุญปลูกบอกย่างไม่ค่อยพอใจ ขวัญตารู้สึกผิด
“ใช่..เป็นเพราะฉันคนเดียว..”
บุญปลูกรีบปิดปาก
“ว้าย..ปากเสียอีกแล้ว”
ผ่องทิพย์เข้ามาโวยวายลั่น
“ไอ้เทพมันหนีไปได้อีกแล้วเหรอ”
ทุกคนอึกอัก...
“ในเมื่อไม่มีใครทำอะไรมันได้.... ฉันนี่แหละ...จะเป็นคนตามล่าฆ่ามันด้วยมือของฉันเอง!”
ผ่องทิพย์วิ่งออกไปจากห้อง...ทุกคนตกใจ กลัวผ่องทิพย์จะเป็นอันตราย
“หาเรื่องอีกแล้ว ไปให้เป็นภาระเพิ่มทำมั้ย คุณพวงไปอยู่ซะที่ไหนล่ะเนี่ย” บุญปลูกบอกอย่างร้อนรน
“ฉันไปห้ามพี่ผ่องเอง”
ขวัญตาลุกเดินออกไป

เทพลากหญิงมานศรีมาหลบข้างทาง แล้วอุดปาก หญิงมานศรีพยายามจะดิ้น แต่สู้แรงเทพไม่ได้ ทิวและชายคำรณไล่ล่ามา เดินเลยไป เทพลากตัวหญิงมานศรีย้อนกลับไปในทางตรงกันข้ามกับทิว
ขณะที่ถูกลากตัวให้เดินตาม หญิงมานศรีตัดสินใจกัดแขนเทพ
“อ๊ากส์!”
เทพปล่อยมือ หญิงมานศรีวิ่งหนีไป เทพโกรธจัดตามไป หญิงสาววิ่งมาอย่างไม่คิดชีวิต พลางร้อง
“ช่วยด้วย”
หญิงมานศรีมัวแต่มองข้างหลัง แต่ไม่ได้สังเกตข้างหน้า จึงชนเข้ากับเทพที่เข้ามาดักอย่างจัง เขารวบตัวเธอไว้...
“ปล่อยนะ”
“คุณหญิง...ผมไม่อยากทำอย่างนี้เลย”
“ทำอะไร”
เทพต่อยท้องหญิงมานศรีอย่างแรง จนหญิงมานศรีทรุด สลบไป
“ผมขอโทษ...”
เทพประคองหญิงมานศรีที่ไม่ได้สติเอาไว้ มองไปทางหนึ่ง เทพลากเธอไป โดยไม่ทันสังเกตเห็นว่า...รองเท้าหญิงมานศรีหลุดอยู่บนพื้นหนึ่งข้าง

ทิว และชายคำรณฤทธีเดินมา มองไม่เห็นวี่แววของเทพ ทิวรู้สึกผิดปกติ
“เราถูกมันหลอก ย้อนกลับไปทางเดิม คุณชาย”
ทิวเดินกลับไปทางเดิม มองชายคำรณฤทธีอย่างเป็นห่วง
“ไหวมั้ย”
“สบายมาก”
“คุณหญิงโชคดีที่มีคุณเป็นพี่ชาย”
“นายก็โชคดีที่มีพี่สาวอย่างคุณพวงที่พร้อมปกป้องนายเสมอ”
“ใช่ เรารีบไปกันเถอะ”
ทิวรีบเดินกลับไปทางเดิมกับชายคำรณฤทธี

ผ่องทิพย์จะเดินไปข้างนอก แต่ขวัญตารีบมาขวางเอาไว้
“จะไปไหน”
“แกไม่ใช่ศัตรูของฉันอีกแล้ว อย่ามาขวาง”
“ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้” ขวัญตาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยพูดอย่างนี้กับผ่องทิพย์มาก่อน
“ทำไมล่ะ...ในเมื่อฉันจะไปฆ่าคนที่ทำร้ายฉันและทำร้ายแก ฉันจะไปแก้แค้นคนชั่วที่ทำกับพวกเรา”
“อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยงอันตรายเลย เธอทำอะไรมันไม่ได้หรอก”
“จะเกิดอะไรขึ้นฉันไม่สน ดีกว่าให้ฉันอยู่เฉยๆ ตอนนี้ชีวิตฉันก็เหมือนตาย ถ้าจะตายก็ขอลากคนเลวอย่างมันลงขุมนรกไปด้วย ถอยไป!”
ขวัญตาเข้าไปขวาง...ผ่องทิพย์จะไป ขวัญตารั้งไว้ ผ่องทิพย์ไม่ยอม ผลักขวัญตาล้มลงแล้ววิ่งเข้าไปในครัว เปิดลิ้นชัก แล้วหยิบมีดขึ้นมา...
“ไอ้เทพ แกต้องตายด้วยน้ำมือฉัน”
ผ่องทิพย์ถือมีดจะออกไป แต่แล้วขวัญตาเข้ามาขวางไว้...
“ฉันขอร้องล่ะ อย่าไปเลย...”
“หยุดห้ามฉันได้มั้ย”
“ฟังฉันนะ เธอเจ็บปวดมาทั้งชีวิตแล้ว ยามรักก็ต้องทุกข์เพราะถูกหลอก ยามชังก็ต้องเจ็บปวดด้วยความแค้น เลิกเอาตัวเองไปผูกมัด กับผู้ชายชั่วคนนั้นได้แล้ว”
“เพราะมันทำฉันเจ็บไง ฉันถึงต้องฆ่ามัน”
“ปล่อยให้เวรกรรมลงโทษเขาเองเถอะ...อย่าเอาชีวิตไปแลกเลย..ชีวิตเรามีค่ากว่านั้นมาก...”
ขวัญตาโน้มน้าว จนผ่องทิพย์ซึ้งใจ...
“ขวัญตา แกเป็นห่วงฉัน...ทั้งๆที่ฉันเคยคิดฆ่าแก”
“ความโกรธที่เรามีต่อกัน มันมาจากคนชั่วเสี้ยมให้เราเกลียดชังกัน เธอกับฉัน...เราต่างตกเป็นเหยื่อของมัน....ฉันให้อภัยเธอได้เสมอ...เธอก็ต้องรู้จักให้อภัยตัวเอง...”
ผ่องทิพย์ซึ้งน้ำใจขวัญตา ทิ้งมีด ร้องไห้โฮด้วยความเสียใจและแค้นใจ...

หญิงมานศรีฟื้นขึ้นมา พบว่าตัวเองถูกเชือกมัดมือมัดเท้าในบ้านร้าง เธอมองไปรอบๆ ไม่เห็นใคร พยายามจะดิ้น แต่ดิ้นไม่หลุด จึงพยายามมองหาอะไรมาตัดเชือก แล้วเธอก็เห็นขวดแก้วที่ตกอยู่ เธอคลานไป จะหยิบคว้าขวดแก้ว แต่ด้วยความรีบ มือไปโดนขวดแก้วกลิ้งห่างออกไป แต่ก็อดทนคลานตามต่อไป ต้องเอาขวดแก้วให้ได้

อีกด้านหนึ่ง เทพเดินไปหยิบปืนที่ตู้เซฟเก่า เขานึกไปถึงเหตุการณ์ในอดีต ที่ส่งปืนให้ล้วน...
“ฉันต้องการให้มีพวกมัน แทรกอยู่ในทุกอณูของทัดเทพ อาณาจักรของฉัน”
“ทำไมครับนาย”
“คนอย่างฉันขี่หลังเสือ จะอยู่บนนั้นให้ปลอดภัย ก็ต้องมีเขี้ยวเล็บที่แหลมคมอยู่เสมอ จะไว้นะล้วน มันจะช่วยฉันในเวลาที่ฉันลำบาก ไปหามาเพิ่มด้วย”
ล้วนพยักหน้ารับคำ

เทพเปิดตู้เซฟออก เห็นปืนอยู่ในนั้นหนึ่งกระบอก เขายิ้มย่ามใจ ค่อยๆหยิบขึ้นมาพร้อมกระสุน
“อย่าประเมินฉันต่ำไป ฮ่ะๆๆๆ”
เทพมองปืนอย่างชื่นชม

ทิวและชายคำรณฤทธีเมื่อย้อนกลับมา เขาเห็นรองเท้าของหญิงมานศรี
“รองเท้าคุณหญิง”
“น้องหญิง...อยู่ใกล้ๆแถวนี้”
ทั้งสองเริ่มมีกำลังใจขึ้นมา เมื่อรู้ว่าจะไปตามหญิงมารศรีทางไหน

หญิงมานศรีเอื้อมมือคว้าขวดแก้ว แต่ไม่ถึง เธอยอมทนเจ็บ ยืดตัวไปสุด...มือค่อยๆถึงขวดแก้ว เชือกที่รัดข้อเท้า ดึงเธอไว้ หญิงมานศรีกัดฟันยอมเจ็บกระทั่งจับขวดแก้วได้ เธอรีบเอาขวดแก้วมาฟาดกับพื้น เศษแก้วแตกกระจาย
เทพได้ยินเสียงขวดแก้วแตก รีบถือปืนวิ่งตามเสียงไปทันที หญิงมานศรีหยิบเศษแก้ว เอามาตัดเชือก แต่เชือกเหนียวมาก หญิงสาวออกแรงตัดเชือกมากขึ้นจนเชือกขาด พอลุกขึ้นจะหนีออกไป แต่กลับเห็นเทพเดินถือปืนเข้ามาพอดี
 
หญิงมานศรีชะงัก ตาค้าง ตกใจที่หนีไปไม่สำเร็จ
 

หญิงมานศรียังพยายามวิ่งหนี เทพเข้ามาจับตัวเธอเอาไว้ได้ทัน

“อยากตายจริงๆ ใช่มั้ยคุณหญิง” เทพชูปืนขู่
“ถ้าฉันตายได้ตอนนี้ ฉันก็อยากตายไปซะ”
“คุณหญิง อย่าท้า”
“ฉันไม่ได้ท้า ฉันยอมตาย มันจะได้สิ้นเรื่องสิ้นปัญหาไปซะที ถ้าชาติที่แล้วฉันเป็นหนี้คุณ ชาตินี้ทั้งหมดที่คุณทำกับฉัน ฉันจะอโหสิกรรมให้ จะได้หมดเวรหมดกรรมต่อกัน ไม่ต้องมาเจอะเจอกันอีก ฆ่าฉันได้เลย”
เทพโกรธมาก
“คุณหญิงบังคับผมเองนะ”
“ยิงสิ”
หญิงมานศรีหลับตาพร้อมรับชะตากรรม เทพเหนี่ยวไกปืนแล้วยิง หญิงสาวสะดุ้งเฮือก แต่แล้วก็ต้องลืมตาด้วยความแปลกใจ เพราะเทพทำเสียงปืน
“ปัง ปัง ปัง...ปืนไม่ได้ใส่กระสุนครับคุณหญิง”
เทพหัวเราะสะใจ ชูให้เห็นกล่องกระสุนในอีกมือหนึ่ง
“ทำไมไม่ฆ่าฉันให้ตายไปซะล่ะ”
“คุณหญิงคนดีต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปครับ เพื่อรอคอยวันที่ผมฆ่าไอ้ทิวต่อหน้าคุณหญิง ผมต้องชนะมัน ผมต้องได้ครอบครองคุณหญิง และการที่ผมเอาตัวคุณหญิงมากับผม ไม่ใช่แค่เอาตัวรอด แต่ผมต้องการทรมานคุณหญิงเพื่อย่ำยีหัวใจไอ้ทิวให้แตกสลาย นั่นล่ะ เป้าหมายของผม“
เทพหัวเราะสะใจ หญิงมานศรีตะโกนด่า
“คุณมันเสียสติ คุณบ้าไปแล้ว”
เทพหัวเราะสะใจอย่างมีความสุข...

ธีรพลและพิไลพรเดินมากับตำรวจ พิไลพรมีอาการเหนื่อยและเมื่อย ปวดขาอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังฝืนเดินต่อไป ธีรพลเหลือบดูอย่างเห็นใจ
“ไหวมั้ย พร”
“ไหวสิคะ พรไม่เป็นอะไรเลย”
ธีรพลยิ้ม ชื่นชมพิไลพรที่ยิ้มแข็งขันให้ ตำราวจเพิ่งคุยว.เสร็จ เดินเข้ามาหาธีรพล พิไลพรฉวยโอกาสลงนั่งคลายความเมื่อยล้า
“ผมเพิ่งได้รับแจ้งว่านายล้วน ลูกน้องของนายเทพหลบหนีไปได้พร้อมกับอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่...เราต้องแบ่งกำลังไปตามจับมันด้วย”
“ครับ”
ตำรวจหันไปสั่งลูกน้องให้กระจายกำลัง ธีรพลหันมาเห็นพิไลพรนั่งอยู่จึงยื่นมือให้...
“ไปกันต่อเถอะพร...มา ผมช่วย”
“ขอบคุณค่ะ หมอธี”
พิไลพรส่งมือให้ธีรพล ธีรพลฉุดขึ้นมา แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือ พิไลพรมองอย่างแปลกใจปนขวยเขิน
“เผื่อพรล้ม ผมจะได้ฉุดเอาไว้ได้ทัน ไปกันเถอะ”
ธีรพลจูงมือพิไลพรเดินตามตำรวจส่วนหนึ่งไป ตำรวจอีกส่วนหนึ่งแยกไปทางหนึ่ง

ในคฤหาสน์ยามค่ำคืน...
สรัสวดีนั่งนิ่ง เครียด รอคอยข่าวสาร นพดลคุยโทรศัพท์อยู่ที่มุมหนึ่ง อรอนงค์ยืนฟังอยู่ด้วย พอเขาวางสาย เธอรีบถาม
“ตำรวจว่ายังไงบ้างคะคุณ”
“ยังตามหาตัวเทพไม่พบเลย”
“เทพเป็นคนฉลาด บางที อาจจะไปซ่อนตัวอยู่ในที่ๆใครก็คาดไม่ถึง”
“ใช่...”
อรอนงค์มองมาที่หม่อมสรัสวดีอย่างเห็นใจ พวงทองเข้ามาบอก...
“หม่อมคะ ดิฉันให้เด็กตั้งโต๊ะอาหารไว้แล้ว เชิญค่ะ”
หม่อมสรัสวดีน้ำตาริน ส่ายหน้า
“ฉันทานอะไรไม่ลงหรอกค่ะ ขอบคุณมาก”
พวงทองนิ่ง หันไปสบตาอรอนงค์และนพดล ทั้งคู่ก็เคร่งเครียด ทานอะไรไม่ลงเหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้น ดิฉันจะให้เด็กอยู่คอบรับใช้ ถ้าหิวเมื่อไหร่ก็เชิญได้นะคะ”
“ขอบใจมากนะจ๊ะ พวงทอง” อรอนงค์ยิ้มให้
“ไม่เป็นไรค่ะ”
พวงทองเดินออกไป อรอนงค์มองตามพวงทองอย่างแปลกใจ ที่พวงทองยังคุมสติได้อยู่อย่างเหลือเชื่อ ทางด้านหม่อมสรัสวดีคิดถึงและเป็นห่วงหญิงมานศรีมาก
“หญิงลูกแม่...ตอนนี้ลูกจะเป็นยังไงบ้างนะ หญิง...”
หม่อมสรัสวดีเหมือนหัวใจจะแหลกสลาย แล้วก็เป็นลมลงไปอีก
 
พวงทองที่ยังเดินไปไม่ไกลหันกลับมาด้วยความตกใจ รีบเข้ามาดูอาการหม่อม พร้อมๆ กับที่อรอนงค์ และนพดลเข้ามาช่วย


เกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 18 (ต่อ)


เหตุการณ์ในบ้านร้าง...หญิงมานศรีซุกตัวอยู่ในความมืดที่มุมหนึ่ง อย่างอ่อนระโหยโรยแรง เทพนั่งนิ่ง ใช้ความคิดอยู่ที่มุมหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้น เข้ามาลากตัวหญิงมานศรี ให้ออกไป

“จะพาฉันไปไหน ฉันไม่ไหวแล้วนะ”
“ไม่ใช่เวลามาสำออย ไปได้แล้ว”
“ฉันเดินไม่ไหวจริงๆ”
“ไม่ไหวก็ต้องไป”
เทพเข้ามาลากมานศรีจะพาออกไป แต่แล้วประตูบ้านเปิดออก เทพหันไปด้วยความตกใจ ทิว ชายคำรณฤทธีเข้ามา
“นายทิว พี่ชาย!”
หญิงมานศรีดีใจ
เทพยิงสวนออกไปทันที ทิวผลักชายคำรณให้หลบหลีกจากวิถีกระสุน ทั้งคู่ล้มลงไป เทพไล่ยิงอีกอย่างคลั่งแค้น ทิวและชายคำรณวิ่งหนีเข้าหาที่กำบัง หญิงมานศรีฉวยโอกาสวิ่งหนีไปทางหนึ่ง เทพเห็น หันปืนไปขู่ทันที...
“หยุดนะคุณหญิง ไม่หยุด ผมยิง”
หญิงมานศรีหยุดกึก ทิวพยายามหาช่องมองให้เห็นเทพและหญิงมานศรี ทิวสบตาชายคำรณฤทธีที่หลบอยู่ข้าง ส่งสายตาเป็นคำถามว่าจะเอายังไงกันดี ทิวครุ่นคิด

หม่อมสรัสวดียังคงนอนไม่ฟื้น ละเมอออกมา...
“ลูกหญิง..ลูกหญิงของแม่...หญิงต้องไม่เป็นอะไรนะลูก”
บุญปลูกที่เฝ้าอยู่มองอย่างกังวล
“หม่อมสรัสวดีเพ้อใหญ่แล้วค่ะ หม่อมจะเป็นบ้าเหมือนที่คุณขวัญตาเคยเป็นรึเปล่าคะ”
พวงมองหันมาดุบุญปลูก
“บุญปลูก”
บุญปลูกตบปากตัวเองทันที พวงทองเข้ามาจับมือหม่อมสรัสวดี ให้กำลังใจ
“หม่อมคงเป็นห่วงคุณหญิงมาก...หม่อมคะ...ทิวต้องช่วยคุณหญิงกลับมาอย่างปลอดภัยค่ะ...”
พวงทองจับมือให้กำลังใจหม่อมสรัสวดีที่นอนละเมอ มองอย่างเห็นใจ

อรอนงค์ยืนคิดถึงเทพด้วยความเสียใจ นพดลเข้ามาปลอบ
“ทำใจดีๆไว้นะคุณ”
“ฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่าคะคุณ หรือมีอะไรที่ฉันยังไม่ได้ทำอีกมั้ย”
“คุณทำดีที่สุดแล้ว”
“แต่เทพก็ยัง...ไม่เคยฟังฉัน ไม่ฟังใคร ดวงตาและหัวใจมืดบอดสนิท”
“คุณเป็นพี่สาวที่ดี ดูแลน้องแทนพ่อแม่ที่เสียไปตั้งแต่เค้ายังเด็ก...ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ แต่บางที...ความดีงามก็ไม่อาจจะเกิดขึ้นในหัวใจของใครได้ ถ้าธรรมชาติของเค้า...ไม่เปิดรับมันซะเอง”
“คุณกำลังจะพูดว่า...เทพเกิดมาเพื่อเป็นคนชั่วเหรอคะ”
“เปล่า ผมกำลังจะพูดว่า เขาเกิดมาเพื่อจะเป็นคนอ่อนแอตลอดชีวิตต่างหาก อ่อนแอจนทำให้ความชั่วเข้ามาครอบงำและเกาะติดหัวใจ จนยากจะกำจัดมันออกไปได้”
อรอนงค์น้ำตาซึม
“แต่ฉันก็ยังหวังให้เกิดปาฏิหาริย์ ขอให้เขา...รู้จักคำว่า...ผิดบ้างสักครั้งก็ยังดี”

นพดลโอบปลอบใจอรอนงค์ และให้กำลังใจ

ภายในบ้านร้าง... เทพเข้าไปรวบตัวหญิงมานศรีเอาไว้ แล้วหันไปท้าทายทิวกับชายคำรณ

“ฟังนะทิว...”
เทพหันมาเล็งปืนใส่หญิงมานศรี ทิวเห็นรีบลุกขึ้น พร้อมๆกับชายคำรณฤทธี
“อย่านะ อย่าทำอะไรน้องหญิง!”
“โผล่หัวขึ้นมาได้แล้วรึ ไอ้พวกเดนตาย ตายยากตายเย็นซะจริง เข้ามาสิ พวกแกก้าวมาอีกก้าวเดียวฉันยิงคุณหญิงทันที”
“ไม่ต้องไปฟังมันค่ะ มันไม่กล้าทำร้ายหญิงหรอก”
“ใช่...ผมจะทำร้ายคนที่ผมรักได้ยังไง แต่สำหรับพวกแก..ฉันพร้อมฆ่าได้ทุกเมื่อ...”
เทพเล็งปืนไปที่ทิว แล้วย้ายไปที่ชายคำรณ แล้วย้ายมาที่ทิวอีก
“ฮ่ะๆๆ ยืนรอความตายทีเดียวพร้อมกันสองคน แล้วฉันจะเลือกยิงใครก่อนดี...ฮึ คุณหญิง...นั่นก็พี่ชาย นี่ก็...เพื่อนชายคนสนิท แต่ไม่ว่าจะยิงใคร คุณหญิงก็เจ็บปวดอย่างแสนสาหัสทั้งนั้น ใช่มั้ย”
“นายเทพ วางปืนลงเถอะ ไม่มีประโยชน์ที่นายจะฆ่าน้องหญิง คุณทิวหรือฉันอีกแล้ว”
“ทำไมจะไม่มี! ฆ่าพวกแกทุกคนได้...มันจะแสดงให้เห็นว่า ฉันคือเจ้าชีวิตทุกคน! ฮ่ะๆๆๆ”
ทิวฉวยจังหวะที่เทพเผลอ ลงไปกำทรายหรือก้อนหินที่พื้น...แล้วปาใส่หน้าเทพ จนเทพเสียหลัก
“โอ๊ยยยย”
หญิงมานศรีดิ้นหนีออกไป ชายคำรณฤทธีเข้าไปรับตัวมานศรีไว้ เทพจะหันกลับมายิง แต่ทิวพุ่งเข้าไปต่อสู้ ปืนเทพตกพื้น ทิวและเทพต่อสู้กันมือเปล่า เพื่อแย่งปืน แต่ในที่สุดปืนก็ถูกเตะไปไกล
ชายคำรณฤทธีปกป้องหญิงมานศรีอยู่ที่มุมหนึ่ง พยายามหาทางช่วยทิวไปด้วย เพราะทิวเข้าไปต่อสู้กับเทพ ผลัดแพ้ผลัดชนะ แต่ทิวถูกเทพต่อยทิวกระเด็น ทรุดตัวลง หญิงมานศรีรีบเข้าไปดู ชายคำรณฤทธีเข้ามาต่อสู้กับเทพ ทั้งๆที่สู้ไม่ได้ ก็กัดฟันสู้

ตำรวจวิ่งนำธีรพลและพิไลพรมาทางบ้านร้าง แต่แล้ว เสียงปืนก็ดังขึ้น แล้วตำรวจนายหนึ่งร่วงลง ธีรพล พิไลพรตกใจ มองไปรอบๆ มองไม่เห็นใคร ตำรวจอีกนายหันไปมองหา จะยิงป้องกันตัว แต่แล้วก็ถูกลอบยิงเสียชีวิต ธีรพลกับพิไลพรตกใจมาก
 
ไวเท่าความคิดธีรพลคว้ามือพิไลพรวิ่งเข้าไปในบ้านร้างทันที

ในบ้านร้างเวลานั้น...ชายคำรณฤทธีถูกเทพต่อยจนล้มลงไปกอง ทิวพยายามจะลุก แต่ลุกไม่ขึ้น เทพพยายามตะกายไปหยิบปืน ธีรพลและพิไลพรเข้ามาเห็นพอดี

ธีรพลเข้าไปดึงเทพขณะที่เทพกำลังจะถึงปืน เทพเตะธีรพลจนล้ม ทั้งสองต่อสู้กัน แต่ธีรพลก็สู้เทพไม่ได้...ทิวฝืนลุกขึ้น เข้าไปต่อสู้กับเทพ ทิวออกแรงเต็มที่ พลิกสถานการณ์เหนือกว่า เทพเทพล้มลง ทิวรีบไปหยิบปืนมาได้ จ่อจะยิงเทพ
“ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้ว”
ทิวจะยิงเทพ แต่แล้วเทพมองทิว หัวเราะ...
“สถานการณ์มันเปลี่ยนแล้ว”
ทิวหันไปมองด้านหลัง ล้วนถือปืนจ่อหญิงมานศรีไว้ ทั้งห้องเงียบกริบ เทพค่อยๆลุกขึ้น เป็นฝ่ายชนะ...
“สวรรค์เข้าข้างฉันเสมอ ไอ้ลูกหมา”
เทพเตะหน้าทิวล้มลงกองกับพื้น เทพหันไปบอกล้วน
“ลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ของฉัน เอาตัวคุณหญิงมา”
ล้วนเข้าไปลากตัวหญิงมานศรีมาไว้ เทพเดินไปหาทิว จะยิง
“วาระสุดท้ายของแกต่างหาก ไอ้ทิว”
เทพจะยิงทิว แต่ชายคำรณเตะขาล้วนล้ม ล้วนเสียหลัก ธีรพลเข้าไปจะซ้ำล้วน แต่ถูกล้วนยกปืนยิง ธีรพลหลบได้
ทิวจะยิงเทพ แต่เทพใช้มานศรีเป็นโล่ป้องกัน ทิวและชายคำรณไม่กล้ายิง
“ไอ้ล้วน หลบไปก่อน”
เทพและล้วนพาหญิงมานศรีวิ่งหนีออกไป พวกทิววิ่งตามไป แต่ถูกยิงกลับมา พวกทิวต้องหลบกระสุนปืน

ภายในคฤหาสน์...พวงทองจุดธูปไหว้พระและโกฏิของพ่อแม่
“ขอคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ช่วยคุ้มครองให้ทุกคนปลอดภัยกลับมาด้วยเถอะค่ะ…”
พวงทองปักธูปในกระถาง บุญปลูกพนมมือไหว้
“ถ้ากลับมาครบ 32 ประการ บุญปลูกจะเดินสายทำบุญเก้าวัดด้วยค่ะ”
พวงทองหันไปยกมือไหว้ภาพถ่ายพ่อแม่
“คุณพ่อคุณแม่คะ ช่วยคุ้มครองทิวด้วยนะคะ”
พวงทองภาวนาให้ทิวและทุกคนปลอดภัย...

ล้วนเดินนำเทพกับมานศรีโสภาคย์ ไปทางถนนใหญ่
“นายใหญ่ครับ ผมติดต่อพรรคพวกให้มารับตัวนายที่ถนนฝากโน้น ผมจะพานายใหญ่หนีไปชายแดน”
“ขอบใจแกมาก แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
“นายใหญ่หมายความว่าไงครับ”
“ฉันตกเป็นฝ่ายถูกล่ามาพอสมควรแล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องเป็นผู้ล่า”
“นายใหญ่จะทำอะไร”

เทพเดินตรงมาหาหญิงมานศรี ที่กังวลใจว่าว่าเทพมีแผนการอย่างไร

โปรดติดตาม "เกิดเป็นหงส์" ตอนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น