เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 14 อวสาน
ญาดากับมณทกานต์เดินไปเดินมาและชะเง้อมองไปในห้องผ่าตัดอย่างเป็นกังวล ทุกอย่างรอบตัวเงียบสงัด มณทกานต์หันไปถามญาดา
“พี่ภูกับพี่วินจะเป็นอะไรมั้ยคะพี่ตาล”
“ตาลก็ไม่รู้ แต่หมอต้องช่วยเค้าได้”
มณทกานต์ร้องไห้แล้วบอก
“ขออย่าให้พี่ภูเป็นอะไรเลย ถ้าพี่ภูตาย เมย์คงไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง”
มณทกานต์ทรุดลงนั่งร้องไห้ ญาดาลงมานั่งข้างๆ
“ถ้าไม่นับพ่อกับคุณปู่ พี่ภูเป็นคนที่ดีที่สุดในชีวิตเมย์ เค้าทำให้เมย์มีความหวังมีกำลังใจที่จะลุกขึ้นสู้กับปัญหา ขออย่าให้เค้าเป็นอะไรเลยนะพี่ตาล”
ญาดากุมมือมณทกานต์แล้วบอก
“เค้าต้องปลอดภัยค่ะ”
หมอผ่าตัดเปิดประตูออกมาพอดี ญาดากับมณทกานต์ลุกขึ้นถาม
“เป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ” มณทกานต์ถาม
“คุณภูบดีกับคุณธาวินปลอดภัยแล้วครับ” หมอบอก
ญาดากับมณทกานต์โผเข้ากอดกันอย่างดีใจ
“เราไปดูพวกเค้าได้มั้ยคะ” มณทกานต์ถาม
“รอให้ย้ายขึ้นห้องก่อนดีกว่านะครับ” หมอบอกแล้วเดินออกไป
มณทกานต์หันมาบอกญาดา
“คราวนี้เราก็ให้ยกโทษให้เค้าสองคนได้แล้วนะพี่ตาล”
ญาดายิ้มแต่ไม่ตอบอะไร
ภายในห้องภูบดีคนไข้ของโรงพยาบาลในเวลากลางคืน มณทกานต์เปิดประตูเข้ามาเห็นภูบดีนอนหลับอยู่ มณทกานต์แตะแก้มภูบดีอย่างแผ่วเบา ภูบดีลืมตาตื่นขึ้นมอง
“น้องเมย์”
“ขอโทษค่ะ เมย์ไม่ได้ตั้งใจทำให้พี่ภูตื่น”
“พี่ไม่ได้หลับ”
ภูบดีจับมือมณทกานต์
“พี่ภูเป็นยังไงบ้างคะ เจ็บตรงไหน”
“ที่เอว”
“หมอบอกว่าโชคดีที่กระสุนไม่ถูกเข้าที่สำคัญ”
“วินล่ะ”
“พี่วินก็ปลอดภัยค่ะ แต่ปารมีตายแล้ว”
ภูบดีพยักหน้ารับรู้
“แล้วคุณปู่ล่ะ”
“คุณปู่ก็แอดมิทอยู่ห้องข้างๆนี่ล่ะค่ะ พรุ่งนี้น่าจะลุกมาเยี่ยมพี่ภูได้ พี่ภูนอนพักเถอะนะคะ เมย์จะนั่งอยู่เป็นเพื่อนตรงนี้”
“พี่ว่าเมย์นอนเถอะ ไม่ต้องห่วงพี่หรอก”
“เมย์ไม่ง่วงค่ะ พี่ภูหลับเถอะ”
ภูบดีดึงมือมณทกานต์ขึ้นมาจูบ มณทกานต์หอมแก้มภูบดีที่ยิ้มหลับตา มณทกานต์นั่งกุมมือภูบดีอยู่ข้างเตียง
ภายในห้องธาวินคนไข้ในโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ธาวินนอนลืมตา เสียงประตูเปิดเข้ามา ธาวินลุ้นมองนึกว่าเป็นญาดา นางพยาบาลเดินเข้ามาในห้อง
“เป็นยังไงบ้างคะคุณธาวิน เจ็บตรงไหนมั้ยคะ”
“เจ็บใต้ซี่โครงนิดหน่อยครับ”
“คงระบมจากการผ่าตัดน่ะค่ะ ทานยาแก้ปวดหน่อยนะคะ”
นางพยาบาลส่งยากับน้ำให้ วินรับยาไปกิน
“ภรรยาผมอยู่ข้างนอกรึเปล่าครับ” ธาวินถาม
“ไม่เห็นนะคะ มีแค่คุณเมย์ที่ตอนนี้อยู่กับคุณภูบดี”
ธาวินมีสีหน้าผิดหวัง
“ หรือครับ”
“ค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ จะให้โทรตามมั้ยคะ”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เค้าคงมาเยี่ยมผม”
ธาวินพูดเหมือนปลอบใจตัวเอง พยาบาลยิ้มให้แล้วเดินออกไป
“อย่าบอกนะว่าตาลจะไม่ยกโทษให้เรา”
เช้าวันรุ่งขึ้น ญาดาเดินออกมาสูดอากาศที่ริมระเบียงของบ้านพักชายทะเลพลางจิบกาแฟอย่างสบายใจ
มณทกานต์เปิดประตูห้องคนไข้เข้ามาเห็นธาวินนอนอยู่บนเตียง
“มอร์นิ่งค่ะพี่วิน”
“อ้าว น้องเมย์”
“พี่ภูฝากให้เมย์มาเยี่ยมค่ะ เป็นไงบ้างคะเมื่อคืนหลับสนิทมั้ย”
“ไม่ได้หลับเลย”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ อย่าบอกว่าพี่ตาลชวนคุยทั้งคืนนะ”
“ตั้งแต่พี่ฟื้นขึ้นมาพี่ยังไม่เจอตาลเลย”
“จริงหรือคะ เมื่อคืนตอนที่รอผ่าตัดพี่ตาลยังอยู่กับเมย์เลยนะคะ”
“เค้าคงยังโกรธพี่อยู่”
“ไม่น่าโกรธแล้วมั้ง ตอนที่พี่วินถูกยิงพี่ตาลเค้ายังร้องไห้เลย เดี๋ยวเมย์โทรหาเค้าดีกว่า บางทีเค้าอาจจะมีเรื่องอะไร”
มณทกานต์กดโทรศัพท์หาญาดา ธาวินมองอยู่
ญาดากดรับสายของมณทกานต์ที่บ้านพักริมทะเล
“ค่ะ คุณเมย์”
“พี่ตาลอยู่ไหนคะเนี่ย มีคนป่วยต้องการกำลังใจด่วนค่ะ”
“อ๋อ ตาลอยู่ต่างจังหวัดน่ะค่ะ”
“พี่ตาลไปทำอะไรที่ต่างจังหวัดคะ”
ธาวินมองมณทกานต์
“ตาลมาพักผ่อนน่ะค่ะ คุณเมย์มีอะไรรึเปล่าคะ”
มณทกานต์มองหน้าธาวิน
“แล้วพี่ตาลไม่มาดูพี่วินหรือคะ”
“เค้าปลอดภัยแล้วนี่คะ ก่อนมา ตาลถามหมอ หมอบอกว่าอีกสองวันเค้าก็กลับบ้านได้”
“คือเมย์หมายถึงว่าพี่ตาล”
“ขอพี่พูดกับตาลหน่อย” ธาวินพูด มณ?กานต์ส่งโทรศัพท์ให้ธาวิน
“ ตาล นี่ตาลจะไม่ยกโทษให้ผมจริงๆหรือ”
ญาดาทำเสียงปั้นปึ่งใส่ธาวิน
“ชั้นเคยบอกคุณแล้วไงว่า ไม่”
“ต้องให้ผมทำอะไรตาลถึงจะหายโกรธหรือตายอยากเห็นผมตายไปต่อหน้า ตาลถึงจะยกโทษให้ผม”
“ถึงคุณจะตาย ชั้นก็ไม่ยกโทษให้ แค่นี้นะ”
ญาดากดวางสายไปทันที ธาวินอึ้งไป มณทกานต์มองแล้วถาม
“พี่ตาลว่าไงคะ”
“เค้าบอกว่าถึงผมตายเค้าก็ไม่ยกโทษให้ผม”
มณทกานต์มองหน้าธาวินที่เศร้าสลดลงอย่างเห็นใจ
ในเวลาต่อมา พิพัฒน์ในชุดคนไข้นั่งอยู่ในเก้าอี้รถเข็นเข้ามาในห้องภูบดี
“ปู่ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆว่าปารมีจะมีจิตใจโหดเหี้ยมขนาดนี้ ถ้าปู่ไม่ยอมเซ็นต์เอกสารให้ เค้าคงจะฆ่าปู่อีกคน”
“ผมผิดเองครับ ที่ไม่เชื่อสัญชาตญาณตัวเองตั้งแต่แรก ไม่งั้นคุณปรารภคงไม่ตาย” ภูบดีนั่งพูดอยู่บนเตียง
“ไม่ใช่ความผิดของหลานหรอก ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงที่อ่อนหวาน เจียมเนื้อเจียมตัวอย่างปารมีจะเป็นฆาตกรที่อำมหิต”
“ปารมีคงคิดวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว”
“ใช่ ตำรวจบอกว่าปารมีเป็นคนบงการฆ่าภาคิน แล้วก็พยายามหาทางฆ่าปู่มาแล้วครั้งนึง”
“ที่สนามกอล์ฟใช่มั้ยครับ”
“ใช่ ปารมีให้สมยศจ้างคนมายิงปู่”
“ไม่รู้หัวใจเธอทำด้วยอะไรนะครับ ทำไมถึงโหดร้ายได้ขนาดนี้”
พิพัฒน์ถอนหายใจแล้วบอก
“ หวังว่าคราวนี้เรื่องร้ายๆคงจะจบลงซะทีนะ”
“ครับ”
วันใหม่ตอนกลางวัน ภายในบ้านพิพัฒน์ มณทกานต์กับภูบดีเห็นธาวินยืนเหม่อลอยอยู่ที่ริมน้ำ
“สงสารพี่วินนะคะ พี่ตาลไม่ยอมใจอ่อนเลย” มณทกานต์พูดขึ้น
“แต่พี่เชื่อว่าคนอย่างธาวินไม่ยอมแพ้ตาลง่ายๆหรอก” ญาดาบอก
ภูบดีและมณทกานต์เห็นธาวินกำลังกดโทรศัพท์
ในเวลาเดียวกัน ญาดานั่งดูหนังสือเกี่ยวกับเบเกอรี่อยู่ที่ริมระเบียงในบ้านพักริมทะเล เสียงโทรศัพท์ดัง ญาดาเห็นหน้าวินในโทรศัพท์ ญาดากดรับทำเสียงเข้ม
“ฮัลโหล”
“นี่ผมนะตาล”
“ผมไหนไม่ทราบคะ”
“ผม ธาวินสามีคุณ”
“คุณอย่ามาทำซี้ซั้วพูดนะ ชั้นยังไม่เคยมีอะไรกับคุณ”
“ให้โอกาสผมอีกซักครั้งไม่ได้หรือตาล”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่”
ธาวินถอนหายใจแล้วบอกว่า
“ถ้าอย่างงั้นให้ผมได้เจอคุณอีกซักครั้งได้มั้ย”
“เพื่ออะไร”
“ผมไม่รู้หรอกว่าเพื่ออะไร แต่ถ้าคุณจะเลิกกับผม ผมก็อยากเห็นหน้าคุณอีกครั้งก่อนที่เราจะจากกัน”
“ก็ได้ ชั้นอยู่หัวหิน ถ้าคุณอยากเจอก็มาหาชั้นที่นี่”
“ได้ ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้”
ญาดาวางสายแล้วอมยิ้มขำ
“ในที่สุดก็มาง้อเราถึงนี่”
ภูบดีกับมณทกานต์เดินเข้ามาธาวินที่เพิ่งสายลง
“ไปไหนวิน”
“ไปหาตาลที่หัวหิน”
“พี่ตาลยกโทษให้แล้วหรือคะ”
ธาวินบอกภูบดี
“เปล่า พี่จะไปเจอหน้าเค้าเป็นครั้งสุดท้าย ชั้นไปนะ”
“โชคดี”
“ทำไมพี่วินพูดเป็นลางไม่ดีเลย .. ไปเจอครั้งสุดท้าย”
“มันอาจจะหมายความว่าต้องเลิกกันจริงๆมั้ง”
มณทกานต์ถอนหายใจ
“ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย”
“นี่ดีนะที่น้องเมย์ไม่ใจแข็งเหมือนตาล” ภูบดีว่า
“ที่จริง เมย์ก็อยากทำแบบพี่ตาลเหมือนกัน แต่กลัวพี่ภูไม่ง้อแล้วหนีกลับไปอยู่อเมริกา”
“ไม่มีทางหรอก ถึงยังไงพี่ก็ต้องทำให้น้องเมย์ใจอ่อนให้ได้”
“จริงหรือ”
“จริงสิ พี่รักน้องเมย์ พี่ไม่มีวันหนีน้องเมย์ไปไหนหรอก”
“รักพี่ภูที่สุดในโลกเลย”
มณทกานต์หอมแก้มภูบดีแล้วโผเข้ากอด
ภายในรถ ธาวินนึกถึงคำพูดที่คุยกับญาดา
“ทำยังไงถึงจะหายโกรธผมหรือต้องให้ผมตายคุณถึงจะยกโทษให้”
“ถึงคุณตายชั้นก็ไม่ยกโทษให้คุณ”
ธาวินเปลี่ยนเกียร์ รถพุ่งออกไปอย่างเร็ว
“ต่อให้เราตายก็ไม่ยกโทษให้งั้นหรือ”
อ่านต่อหน้า 2
เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 14 อวสาน (ต่อ)
บริเวณบ้านพักริมทะเล ญาดากำลังคุยกับผู้รับเหมา
“ตาลอยากทำมุมนี้เป็นเคาน์เตอร์หน้าร้านสำหรับขายเค้ก แล้วด้านนี้เป็นส่วนที่ให้ลูกค้านั่งดื่มกาแฟ”
“ก็ได้นะครับ เราก็ขยายส่วนนี้ออกไป แต่คุณตาลต้องถามเจ้าของบ้านที่คุณเช่าก่อนนะครับว่าเค้าอนุญาตรึเปล่า”
“ตาลถามแล้วค่ะ เค้าโอเค”
“งั้นผมขอดูด้านหลังหน่อยนะครับ”
“เชิญเลยค่ะ”
ญาดาเดินนำผู้รับเหมาเข้าไปหลังบ้าน
ธาวินขับรถเข้ามาจอดที่หน้าพักริมทะเลในเวลาต่อมา ธาวินมองซ้าย ขวาอย่างลังเลจึงเข้าไปถามคนเฝ้าบ้าน
“ขอโทษนะครับ คุณตาลพักอยู่ที่นี่ใช่มั้ยครับ”
“ค่ะ”
ธาวินเดินเข้ามาในบ้าน ญาดาเดินออกมากับผู้รับเหมา พอเห็นธาวินก็ชะงักไปหันมาบอกผู้รับเหมาว่า
“แล้วยังไงตาลจะโทรนัดวันอีกทีนะคะ”
“ครับ”
ผู้รับเหมาเดินออกไป ญาดากับธาวินมองหน้าสลับกันไปมา ญาดาถามขึ้น
“คุณอยากจะพูดอะไรก็พูดมาได้เลย”
ธาวินมองจ้องหน้าญาดานิ่ง
“ว่าไง จะพูดหรือไม่พูดมายืนมองหน้าชั้นอยู่ได้” ญาดาว่า
“ผมคงไม่มีอะไรจะพูดนอกจากบอกคุณว่า ผมรักคุณ”
ญาดายังทำเมินปั้นปึ่งเสียงแข็ง
“โอเค ชั้นรับทราบ”
“แค่นี้แหละที่ผมอยากจะบอกคุณ”
ธาวินหันเดินออก ญาดามองตามอย่างงงๆ
“อะไร มาตั้งไกลพูดแค่นี้เองหรือ”
ธาวินเดินออกมาหน้าบ้านพักริมทะเล วัยรุ่นสองคนขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามา
“เฮ้ย มันอยู่นั่นไง”
วัยรุ่นคนที่ซ้อนซ้ายโดดลงจากรถพร้อมกับถือไม้หน้าสามวิ่งเข้ามาหาธาวิน
“ซ่านักหรือไง”
“อะไรกันเนี่ย” ธาวินถาม
“เมื่อกี้มึงขับรถปาดกู”
“ใจเย็นน้อง ชั้นขอโทษ”
“ขอโทษหรือ”
วัยรุ่นฟาดไม้เข้าที่หน้าวิน วินยกมือรับ
“โอ๊ย”
ญาดาออกมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดีก็มองตะลึงอย่างตกใจ
“คุณวิน”
วัยรุ่นฟาดไม้ซ้ำที่ท้ายทอยแล้วกระโดดขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ขับหนีไป ญาดาวิ่งเข้าไปเขย่าเรียกตัวธาวินที่นอนสลบแน่นิ่งอยู่
“คุณวิน ..คุณวิน ... นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย”
ญาดาตะโกนบอก
“ช่วยเรียกรถพยาบาลทีค่ะ”
ที่หน้าห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลต่างจังหวัด ญาดาเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายใจด้วยความเป็นห่วงธาวิน พยาบาลออกมาจากห้องแล้วถามญาดา
“ขอโทษค่ะ คุณเป็นอะไรกับคนไข้คะ”
“เป็นภรรยาค่ะ เค้าเป็นยังไงบ้างคะ”
“ตอนนี้คนไข้ฟื้นแล้วค่ะ”
“แล้วอาการเค้าเป็นไงบ้างคะ เค้าถูกตีแรงมากนะคะ”
“ปลอดภัยดีค่ะให้นอนพักซักนิดเดี๋ยวก็กลับบ้านได้แล้ว”
“ไม่มีอะไรรุนแรงหรือคะ”
“ค่ะ”
นางพยาบาลเดินออก ตาลถอนหายใจ
“เฮ้อ โล่งอกนึกว่าจะเป็นอะไรไปอีก”
ญาดาเดินมาหยุดที่ข้างเตียง ธาวินลืมตามอง ญาดาแกล้งทำปั้นปึ่งอีก
“คุณนี่หัวแข็งนะถูกตีขนาดนั้น ไม่มีบาดแผลซักนิด”
ธาวินมองญาดานิ่ง
“อ้อ ชั้นโทรบอกคุณภูบดีให้เค้ามารับตัวคุณกลับกรุงเทพแล้วนะ”
ธาวินยังมองจ้องมองญาดา
“ชั้นพูดกับคุณ คุณไม่ได้ยินหรือ” ญาดาถาม
“ได้ยิน แต่ใครคือภูบดี”
“อย่ามาเล่นมุขนี้กับชั้นนะ “
ธาวินญาดาอย่างไม่ไว้ใจ
“แล้วคุณเป็นใคร”
“นี่ คุณวิน ชั้นไม่สนุกกับคุณหรอกนะ”
“วิน ผมชื่อวินหรือ แล้วคุณชื่ออะไร”
ญาดาช็อก ธาวินมองญาดาอย่างคนไม่รู้จัก
“นี่คุณจำชั้นไม่ได้จริงๆหรือ”
ธาวินส่ายหน้า ตาลตะลึง
ในเวลาต่อมา ภูบดีกับมณทกานต์เดินมาตามทางเดินในโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ญาดายืนรออยู่
“พี่วินเป็นไงบ้างคะพี่ตาล” มณทกานต์ถาม
“ปลอดภัยแล้วค่ะ แต่ว่า” ญาดาว่า
“แต่ว่าอะไร” ภูบดีถาม
“แต่เค้าจำอะไรไม่ได้เลย”
“หมายความว่าไงจำอะไรไม่ได้เลย” ญาดาถาม
“เค้าสมองเสื่อม”
ภูบดีกับมณทกานต์มองหน้ากันก่อนหันกลับไปมองญาดา
“จริงๆค่ะ”
ธาวินนั่งอยู่บนเตียง ญาดาพาภูบดีกับมณทกานต์เข้าในในห้อง ธาวินมองด้วยสายตาระแวง
“วิน ชั้นภูบดีนะ แกจำชั้นได้มั้ย”
ธาวินมองภูบดีแล้วส่ายหน้า
“แกพยายามนึกหน่อยสิ ชั้นกับแกเป็นเพื่อนรักกันนะ”
ธาวินส่ายหน้าไม่ไว้ใจ
“แล้วเมย์ล่ะคะ พี่วิน พี่วินจำน้องเมย์ได้มั้ย”
ธาวินมองจ้องมณทกานต์แล้วส่ายหน้า
“เค้าจำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่ตาลเค้าก็ยังจำไม่ได้”
“งั้นผมว่าเราควรจะเอาตัววินไปรักษาที่กรุงเทพนะ” ภูบดีบอก
“ผมไม่ไป”
ทุกคนหันมองธาวิน
“ผมไม่รู้จักพวกคุณ พวกคุณอย่ามายุ่งกับผม”
“แต่ชั้นเป็นเพื่อนแกนะไอ้วิน ตอนนี้แกความจำเสื่อมเราต้องพาแกไปรักษา”
“ผมไม่เชื่อคุณ คุณจะเอาผมไปฆ่า คุณต้องการมรดกผม”
“ไม่ใช่นะคะคุณวิน คุณภูเป็นเพื่อนคุณแล้วตาลก็เป็นเมียคุณ”
“ไม่ ผมไม่เชื่อ พวกคุณออกไปได้แล้ว ไม่งั้นผมจะให้เรียกตำรวจ พยาบาล .. พยาบาล” ธาวินตะโกนเรียกพยาบาล
“เมย์ว่าเราออกไปคุยกันข้างนอกเถอะค่ะ” มณทกานต์บอก
ภูบดีกับมณทกานต์เดินออกไป ธาวินมองอย่างไม่ไว้วางใจ ญาดาหน้าสลดไป
บริเวณหน้าห้องคนไข้ ภูบดีบอกญาดาและมณทกานต์
“ถึงยังไงก็ต้องหาทางเอาตัววินไปรักษาให้ได้” ภูบดีบอก
“แต่เมย์ว่าคงยากนะคะ ท่าทางพี่วินจะไม่ยอมง่ายๆ”
“ตาลว่าเอาอย่างนี้ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวตาลจะโทรไปหาคุณหมอที่เคยรักษาเรื่องสมองคุณวินที่กรุงเทพ เชิญให้ท่านมาตรวจดูอาการที่นี่ก่อน”
“อืมม์ เอางั้นก็ได้”
ญาดากดโทรศัพท์ มณทกานต์กับภูบดีมองหน้ากันอย่างร้อนใจ
ในเวลาต่อมา หมอที่เคยรักษาธาวินที่กรุงเทพฯเดินทางมายังโรงพยาบาลที่หัวหิน ภายในห้องคนไข้ หมอกำลังคุยกับธาวินในห้อง ญาดามองจากหน้าห้องเข้าไปเห็นหมอพยักหน้าพูดคุยโต้ตอบอยู่
ญาดามองด้วยสายตากังวลเห็นหมอตบไหล่วินอย่างให้กำลังใจ ธาวินยกมือไหว้
ทันทีที่หมอเปิดประตูออกมา ญาดาถามขึ้นทันที
“คุณวินเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ”
หมอส่ายหน้า
“ไม่มีทางรักษาหรือคะ” มณทกานต์ถาม
หมอส่ายหน้าอีก
“ถ้างั้นผมจะพาวินไปรักษาที่อเมริกา” ภูบดีบอก
“ไม่ค่ะ คุณภู ตาลจะไม่ให้คุณวินไปไหน”
“แต่คุณไม่ได้ยินที่หมอบอกหรือว่าหมอรักษาไม่ได้ คุณจะปล่อยให้วินเป็นคนสมองเสื่อมไปตลอดชีวิตงั้นหรือ” ภูบดีถาม
“ไม่ใช่ค่ะ ตาลจะรักษาเค้าเอง”
“รักษายังไงคะพี่ตาล พี่ตาลไม่ใช่หมอนะ” มณทกานต์ว่า
“คุณหมอเคยบอกตาลว่าถ้าเราช่วยกระตุ้นความทรงจำเค้า เค้าอาจจะหายได้ใช่มั้ยคะ”
“ใช่ครับ”
“งั้นตาลจะทำทุกวิถีทางให้เค้าหายค่ะ”
ทุกคนมองหน้า ญาดาเปิดประตูเข้าห้องไป มณทกานต์หันมาถามภูบดี
“แต่ถ้าพี่วินไม่หายล่ะคะ”
ภูบดีถอนใจแล้วบอก
“ก็คงเป็นกรรมของมัน”
หมอมองหน้าภูบดีกับมณทกานต์
“ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
“ขอบคุณนะครับคุณหมอ” ภูบดีบอก
ภูบดีกับมณทกานต์ยกมือไหว้หมอที่เดินออกไปก่อนจะมองเข้าไปในห้องอีกครั้ง ญาดานั่งอยู่ข้างเตียงธาวินที่นอนหลับอยู่
ภูบดีกับมณทกานต์มองสบตากันอย่างหนักใจ
ญาดานั่งอยู่ข้างเตียงมองธาวิน แล้วนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ธาวินเคยบอกว่า
“ถ้าผมจำอะไรในอดีตไม่ได้เลย ตาลจะยังรักผมอยู่ใช่มั้ย”
“รักสิคะ ก็ตาลเป็นเมียคุณภูนะคะ ตาลจะไม่รักคุณภูได้ไง”
ธาวินจับมือญาดา
“ ขอบคุณมากนะตาล ผมอยากให้ตาลรู้นะถึงผมจะจำไม่ได้ว่า ผมรักตาลตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ผมจะรักตาลตลอดไป”
ญาดามองธาวินที่นอนหลับอยู่อย่างเสียใจน้ำตาซึม ญาดาจับมือธาวินมากุมแล้วยกขึ้นมาจูบ
ธาวินลืมตาตื่นสะดุ้งมองญาดาแล้วรีบดึงมือกลับ
“นี่คุณทำอะไรผม”
“ไม่ได้ทำอะไรค่ะ แค่จูบมือคุณ”
“แล้วเรื่องอะไรมาจูบผม”
“ก็ตาลบอกแล้วไงคะว่าตาลเป็นเมียคุณ ทำไมตาลจะจูบไม่ได้”
“ผมไม่เชื่อคุณหรอก คุณอย่ามาหลอกผม”
“ตาลไม่ได้หลอกนะคะ ตาลเป็นเมียคุณจริง ๆ”
“ถ้าคุณเป็นเมียผมจริง คุณมีอะไรมายืนยัน”
“ไม่มีค่ะ”
“นั่นไง คุณจะมาหลอกเอามรดกผมใช่มั้ย”
“นี่คุณวิน ฟังให้ดีนะคะ ตอนนี้คุณไม่มีมรดกอะไรเลย มีแต่ตัวเข้าใจรึเปล่าคะ”
“ผมน่ะหรือมีแต่ตัว”
“ใช่ค่ะ เอาล่ะคุณไม่ต้องพูดมาก หมอให้กลับบ้านได้แล้ว คุณลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เราจะได้กลับบ้าน”
“กลับบ้านหรือ”
“ค่ะ เราจะกลับบ้านด้วยกัน”
“แต่ผมไม่ไปกับคุณ”
“ถ้าคุณไม่ไปกับตาล คุณจะไปอยู่ที่ไหนคะ หรือว่าคุณจำได้ว่าบ้านคุณอยู่ไหน พ่อแม่คุณเป็นใคร เอาล่ะค่ะ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว”
ธาวินสีหน้าสลดไป ญาดาหยิบเสื้อผ้าชุดเดิมส่งให้ ธาวินจำใจรับแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ญาดามองตามอย่างหนักใจ
อ่านต่อหน้า 3
เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 14 อวสาน (ต่อ)
บริเวณบ้านพักริมทะเลในเวลาต่อมา ญาดาเปิดประตูลงจากรถ ธาวินเปิดประตูตามลงมา
“นี่หรือบ้านคุณ”
“บ้านของเราค่ะไม่ใช่บ้านตาล ไปค่ะ เข้าบ้าน”
ญาดาจูงมือธาวินเดินเข้าบ้าน
ภายในบ้าน ธาวินนั่งเหม่อ ญาดายกกับข้าวออกมา
“ทานข้าวได้แล้วค่ะ คุณวิน”
ธาวินเดินมานั่งที่โต๊ะแล้วมองอาหาร
“ผมไม่กิน”
“ทำไมล่ะคะ”
“ผมไม่รู้ว่าคุณใส่ยาพิษให้ผมรึเปล่า”
“คุณจะบ้าหรือไง ตาลจะไปใส่ยาพิษให้คุณทำไม”
“ผมไม่รู้ว่าผมเชื่อคุณได้แค่ไหน คุณมาทำดีกับผมเพื่ออะไร”
“ไม่ได้เพื่ออะไรค่ะ แต่ที่ตาลทำเพราะว่าตาลรักคุณ”
“รักผม ทั้งๆที่คุณบอกว่าผมมีแต่ตัว ไม่มีสมบัติอะไรเลยเนี่ยหรือ”
“ค่ะ ตาลไม่ได้สนใจทรัพย์สมบัติอะไรของคุณ”
“นั่นไง ผมยิ่งไม่เชื่อใหญ่เลย ผู้หญิงสวยๆอย่างคุณเนี่ยหรือจะมารักผู้ชายสมองเสื่อมที่มีแต่ตัว”
“คุณวินคะ ตาลชักจะหมดความอดทนกับคุณแล้วนะ ถ้าคุณไม่กินก็ตามใจ”
ญาดาลงนั่งตักข้าวกินอย่างไม่สนใจ ธาวินมองแล้วรู้สึกหิวก็นั่งลงแล้วตักข้าวกินตามทั้งที่แววตายังมองญาดาอย่างหวาดระแวง ญาดาถอนใจอย่างเหนื่อยใจ
ในเวลากลางคืน ญาดานั่งอ่านหนังสือในห้อง จนถึงเวลาสี่ทุ่ม ญาดาเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่นเห็นธาวินนอนหลับที่โซฟา
“คุณวิน .. คุณวินคะ”
ธาวินลืมตาตื่นมองญาดา
“เข้าไปนอนในห้องเถอะค่ะ”
“ไม่ล่ะ เชิญคุณเถอะ”
“แต่นอนตรงนี้ยุงเยอะนะคะ”
“ไม่เป็นไร ผมไม่ได้เป็นอะไรกับคุณจะไปนอนร่วมห้องกับคุณได้ยังไง”
“คุณวินคะ คุณจะให้ตาลทำยังไง คุณถึงจะเชื่อว่าตาลเป็นเมียคุณ”
ธาวินมอง ญาดาดึงธาวินเข้ามากอด
“ตาลรู้ค่ะว่ามันเป็นเรื่องยากที่อยู่ๆจะให้คุณเชื่อ แต่ขอให้เชื่อใจตาลได้มั้ยคะ เชื่อในความรักที่ตาลมีให้คุณ”
ญาดาดึงธาวินผละออกมามองจ้องหน้ากัน
“นะคะ ขอให้เชื่อว่าตาลรักคุณ”
“ขอผมคิดดูก่อนแล้วกัน”
ญาดาถอนใจพยายามควบคุมความเหนื่อยใจด้วยการฝืนยิ้ม
“ก็ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวตาลจะเอาหมอนกับผ้าห่มออกมาให้คุณแล้วกัน”
ญาดาเดินเข้าไปในห้อง ธาวินมองตามแล้วอมยิ้ม
เช้าวันใหม่ เมื่อญาดาเดินออกจากห้องนอนอีกครั้ง และมองไปที่โซฟาก็เห็นผ้าห่มถูกพับอย่างเรียบร้อย ญาดามองหาธาวินไม่พบ เห็นเพียงกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่ที่โต๊ะ ญาดาเดินไปหยิบขึ้นมาดูข้อความ “ขอบคุณที่คุณรักผม แต่ผมไม่รู้จักคุณจริง ๆลาก่อน”
ญาดาอึ้งมองตะลึง
“ไม่ คุณวินคุณต้องไม่ทิ้งตาลไปนะ”
ญาดาวิ่งออกไปที่หน้าบ้าน มองซ้าย ขวา ก็เห็นธาวินกำลังเดินลงไปในทะเล
“คุณวิน ...”
ญาดาวิ่งลงไปในทะเลพร้อมตะโกนเรียก
“คุณวิน อย่านะ คุณวิน”
ญาดาวิ่งเข้ามาหาธาวิน
“นี่คุณจะทำอะไรเนี่ย ทำไมถึงทำแบบนี้”
ญาดาตบเพี๊ยะที่หน้าธาวินอย่างเหลืออด
“โอ๊ย”
“ทำไมถึงคิดสั้นแบบนี้”
“คิดสั้นอะไร”
“ก็คุณกำลังจะทำอะไร”
“ผมจะว่ายน้ำ”
“ว่ายน้ำ”
“ใช่ แล้วคุณมาตบผมทำไม”
“ตาลคิดว่าคุณจะฆ่าตัวตายน่ะสิ”
“ผมน่ะหรือจะฆ่าตัวตาย แค่ผมจำอะไรไม่ได้ ผมไม่คิดฆ่าตัวตายหรอก”
“แล้วที่คุณเขียนจดหมายทิ้งไว้ หมายความว่าไงที่บอกว่าลาก่อน”
“ผมมาคิดๆดูแล้ว ผมควรจะไปตามทางของผม”
“คุณวิน ตาลขอร้องล่ะ อย่าไปได้มั้ย ตาลรักคุณนะ อยู่กับตาล เชื่อตาลสิคะ วันนึงคุณจะต้องจำตาลได้”
ธาวินมองหน้าญาดา
“นะคะ อย่าทิ้งตาลไป”
ญาดาโผเข้ากอดธาวินที่ยิ้มขำ
“ก็ได้ ถ้าคุณไม่อยากให้ผมไปผมก็จะอยู่กับคุณ”
ตาลผละออกมามองยิ้มอย่างดีใจ
“ขอบคุณนะคะ ตาลรักคุณ”
ญาดาโผเข้ากอดอีกที
“ถ้างั้นไปเล่นน้ำกับผมนะ”
ญาดาพยักหน้า ธาวินจูงมือญาดาเดินลงทะเล ทั้งสองหัวเราะหยอกล้อกัน
ที่บ้านพักริมทะเล ญาดาตักและแกะกุ้งให้ธาวิน
“นี่คะ คุณชอบทานกุ้งจำได้รึเปล่า”
ธาวินส่ายหน้า ญาดาแกะปูให้
“แล้วคุณก็ชอบทานปูด้วย ตอนที่เรามาเที่ยวทะเลครั้งที่แล้ว คุณเป็นคนแกะให้ตาล ลองหลับตาแล้วค่อยๆนึกดูสิคะว่าจำได้มั้ย”
ธาวินหลับตาแล้วส่ายหน้า
“ผมนึกอะไรไม่ออกเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้นึกไม่ออกพรุ่งนี้ก็อาจจะนึกออก ทานเยอะๆนะคะ”
ญาดาแกะกุ้งให้ธาวินอีกตัว
“ทำไมถึงต้องดีกับผมขนาดนี้”
“ก็บอกแล้วไงคะว่าตาลรักคุณ”
“แล้วก่อนที่ผมจะสมองเสื่อมผมรักคุณรึเปล่า”
“รักสิคะ รักมากด้วย”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมรักคุณมาก”
“ก็คุณบอกตาลทุกวัน”
ญาดามองหน้าธาวินอย่างสะเทือนใจน้ำตาซึม เสียงเครือ
“ก่อนที่คุณจะถูกตีจนสมองเสื่อมคุณยังมาบอกให้ตาลรู้ว่าคุณรักตาล แต่ตาลไม่ดีเอง ถ้าตาลไม่แกล้งโกรธคุณ คุณก็คงไม่ถูกตี”
“แล้วทำไมคุณต้องแกล้งผม”
“ก็ตาลโกรธที่คุณหลอกตาลว่าคุณเป็นทายาทมหาเศรษฐี ตาลก็เลยอยากเล่นงานคุณกลับคืนบ้างเท่านั้น ถ้ารู้ว่าคุณจะเป็นแบบนี้ตาลไม่โกรธคุณหรอก”
“คุณพูดจริงหรือ”
“จริงสิคะ ที่จริงตาลยกโทษให้คุณตั้งนานแล้วด้วย”
“แล้วถ้าผมบอกคุณว่าผมไม่ได้สมองเสื่อมคุณจะโกรธผมมั้ย”
ญาดาจ้องหน้ามองธาวินแล้วลุกขึ้นยืน
“คุณว่าอะไรนะ ...นี่คุณโกหกอีกแล้วหรือ”
“อ้าว ไหนบอกว่ารักผมทำไมเรื่องแค่นี้ต้องโกรธผมด้วย”
“คุณนี่มันไว้ใจไม่ได้จริงๆ ตาลไม่น่าหลงเชื่อคุณเลย”
ญาดาทำงอนจะหันกลับไป ธาวินดึงตัวเข้ามากอด
“เดี๋ยวสิ จะไปไหนล่ะ”
“ปล่อยนะ คุณมันจอมโกหก คนลวงโลก”
“อย่าโกรธผมเลยนะ ถ้าผมไม่หลอกตาล ผมจะรู้หรือว่าตาลรักผมแค่ไหน รู้มั้ยว่าผมดีใจมากเลยนะ ที่รู้ว่าตาลยังรักผมอยู่”
“คุณนี่มันเจ้าเล่ห์จริง ๆ ตาลนึกสงสัยอยู่แล้วเชียว ว่าทำไมถูกตีแล้วไม่มีบาดแผล แถมยังสมองเสื่อมซ้ำสอง”
“หายโกรธผมแล้วนะ”
ญาดาทำงอน
“ก็บอกแล้วไงว่ายกโทษให้ตั้งนานแล้ว”
ธาวินยิ้มดึงญาดาเข้ามากอด
“ผมรักตาลนะแล้วก็จะรักตลอดไป”
ช่วงเวลาแห่งความสุขและเพลงรักเริ่มดังกังวานในชีวิตรักของธาวินและญาดาอีกครั้ง
ภายในบ้านในเวลากลางวัน มณทกานต์ถามภูบดี
“หมายความว่าพี่วินแกล้งสมองเสื่อมหรือคะ”
“ใช่จ้ะ”
“อะไรกันเนี่ย ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้”
“ถ้าวินไม่ทำแบบนี้ ตาลเค้าก็ไม่ยกโทษให้น่ะสิ”
“ใครบอกว่าเค้าไม่ยกโทษให้ พี่ตาลเค้าก็แค่ทำเล่นตัว”
“เมย์รู้ได้ไง”
“พี่ภูคะ เมย์เป็นผู้หญิงนะคะ ถ้าพี่ตาลไม่ยกโทษให้พี่วิน เค้าไม่มีทางให้พี่วินตามไปหาเค้าที่หัวหินหรอกค่ะ เฮ้อ พวกผู้ชายเนี่ยไม่รู้เรื่องอะไรบ้างเลย”
“จริงหรือ”
“ก็จริงน่ะสิคะ ว่าแต่พี่ภูน่ะร่วมมือกับพี่วินรึเปล่า”
“เปล่า พี่เพิ่งรู้จากหมอ”
“งั้นก็แล้วไป นึกว่าพี่ภูรู้เห็นเป็นใจกับเค้าซะอีก”
“ถ้าพี่รู้แล้วทำไม”
“ไม่ทำไมหรอกค่ะ เมย์จะได้ไล่พี่ไปอีกคนน่ะสิ เมย์โทรบอกพี่ตาลก่อนดีกว่า”
มณทกานต์จะเดินไปแต่ภูบดีคว้ามือไว้
“ไม่ต้องโทรหรอก ตาลเค้ารู้ความจริงแล้ว วินเพิ่งโทรมาหาพี่”
“จริงหรือคะ”
ภูบดีพยักหน้า
“ดีใจจัง ในที่สุดทุกอย่างก็จบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้งซะที”
“ใช่ แฮปปี้ซะที มาขอพี่กอดหน่อย”
ภูบดีดึงมณทกานต์มากอดแล้วหอมแก้มหนึ่งฟอด
เย็นอีกวันหนึ่ง ที่ร้านอาหารริมทะเล ธาวินกับภูบดียืนดื่มแชมเปญคุยกันอยู่ที่ริมทะเล
“แกนี่มันแสบจริง ๆไอ้วิน นี่ถ้าคุณหมอไม่บอกว่าแกแกล้งเล่นละครหลอกตาลล่ะก็ ชั้นต้องคิดว่าแกสมองเสื่อมจริงๆแน่”
“เป็นไง ชั้นเล่นได้เนียนมั้ย”
“เนียนมาก จนน้องเมย์ยังคิดว่าแกสมองเสื่อมจริง ร้องไห้บ่นสงสารตาลไม่หยุด จนชั้นต้องบอกความจริง น้องเมย์ด่าแกยกใหญ่”
“อ้าว เป็นงั้นไป”
“แล้วนี่แกจะกลับอเมริกาเมื่อไหร่”
“คิดว่าเดือนหน้า”
“แล้วตาลว่าไงเค้าจะไปกับแกรึเปล่า”
“ไป เค้าบอกว่าชั้นอยู่ไหน เค้าก็จะอยู่ด้วย”
ภูบดียกแก้วชนแก้วกับธาวิน
“ดีใจกับแกด้วย”
“ขอบใจ ชั้นก็ต้องแสดงความยินดีกับแกเหมือนกันที่ได้กลับมาเจอคุณปู่แถมยังได้เจ้าสาวมาเป็นของแถม”
ญาดากับมณทกานต์เดินเข้ามาพอดี
“อะไรคะ ใครเป็นของแถมคะพี่วิน” มณทกานต์ถาม
“เปล่าจ้ะ พี่บอกว่าน้องเมย์โชคดีที่ได้ภูมาเป็นของแถม” ธาวินว่า
“แต่เมื่อกี้เราไม่ได้ยินอย่างนี้นะ” ญาดาว่า
“อย่าไปสนใจคำพูดของคนสมองเสื่อมเลย เชื่อถือไม่ได้” ภูบดีบอก
“อ้าว ไอ้ภู ทำไมมาเล่นงานกันเอง”
“จริงของคุณภูค่ะ คุณวินเนี่ยเชื่อใจไม่ค่อยได้” ญาดาว่า
“ซวยเลยผม”
“นี่ดีนะคะที่เป็นพี่ตาล ถ้าเป็นเมย์ล่ะก็ รับรอง” มณทกานต์บอก
“รับรองอะไรจ๊ะ”
“ก็รับรองว่าพี่ภูได้สมองเสื่อมสมใจน่ะสิคะ”
ทุกคนหัวเราะร่วน หยอกล้อกันอย่างมีความสุข
งานแต่งงานของทั้งสองคู่จัดขึ้นที่ริมทะเล พิพัฒน์จูงมือญาดากับมณทกานต์เดินเข้ามาที่ซุ้มดอกไม้ส่งให้ธาวินกับภูบดีที่ยิ้มให้เจ้าสาว แขกเหรื่อหันไปมองอย่างยินดีและชื่นชม
“ขอให้หลานทั้งสองดูแลหนูตาลกับยัยเมย์ยิ่งกว่าชีวิตนะ” พิพัฒน์บอก
“ครับคุณปู่ ผมจะดูแลตาลไปจนวันตาย”
“ผมสัญญาผมจะไม่ทำให้น้องเมย์ต้องเสียใจเพราะผม”
พิพัฒน์ยิ้มพยักหน้าอย่างปลื้มใจและมีความสุข ธาวินและภูบดีต่างเคลื่อนหน้าเข้าไปจูบหน้าผากเจ้าสาว...
ญาดากับธาวิน ภูบดีกับมณทกานต์เดินออกมาจากซุ้มดอกไม้และโยนช่อดอกไม้ให้สาว ๆ ที่มารอรับ สาวๆหวีดร้องอย่างสนุกสนาน จากนั้น ทั้งคู่ก็นั่งบนรถเปิดประทุนโบกมือให้กับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานชีวิตรักของทั้งสองคู่เต็มไปด้วยความสุข
จบบริบูรณ์