xs
xsm
sm
md
lg

รักคุณเท่าฟ้า ตอนที่ 4

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รักคุณเท่าฟ้า ตอนที่ 4 
วันใหม่ ปลาฉลามว่ายน้ำอยู่ในตู้ภายในอควาเรียม พิมยืนมองตู้ปลาแต่สายตามองเหม่อและมีแววตาเครียด ธีระเดินเข้ามาหยุดมองที่ด้านหลังของพิม
“พิม” ธีระเรียก พิมหันมามอง ธีระเดินมาหา “มีเรื่องสำคัญอะไร”
พิมมองหน้าธีระสักพักก่อนจะพูดออกมา
“ชั้นว่าเราควรจะหยุดเรื่องของเราไว้แค่นี้”
“ผมไม่เข้าใจคุณพูดเรื่องอะไร”
“เมื่อวานชั้นเจอแม่คุณที่ร้านอาหารจีนโดยบังเอิญ ท่านกำลังคุยเรื่องของเราให้เพื่อนๆฟัง”
“คุยว่าไง” ธีระถาม
“แม่คุณไม่อยากให้เราสองคนแต่งงานกัน”
“พิมผมว่าเราไม่ควรคุยเรื่องนี้แล้วนะ”
“แต่เราต้องคุยค่ะ เพราะแม่คุณบอกเพื่อนๆว่า ท่านเป็นคนวางแผนเพื่อล้มเลิกงานแต่งงานของเรา” พิมบอก ธีระอึ้ง “แม้แต่เรื่องของคิตตี้ท่านก็เป็นคนจัดการทั้งหมด ท่านต้องการให้คิตตี้เข้ามาแทรกระหว่างเราเพื่อให้เราเลิกกัน”
ธีระอึ้งก่อนจะลำดับเรื่องแล้วพยักหน้าด้วยความเข้าใจ
“เอาล่ะพิม ผมเข้าใจเรื่องแม่แล้ว แต่ผมก็คิดว่าเราไม่ควรจะไปใส่ใจเรื่องพวกนี้ ขอแค่เรารักกันและเข้าใจกันก็พอแล้ว โอเคมั้ย”
“แต่ชั้นว่ามันคงไม่จบง่ายๆแล้วล่ะค่ะ เพราะถ้าเราแต่งงานกันไปโดยที่แม่คุณไม่เห็นด้วย เราก็จะไม่มีความสุขทั้งคู่” พิมบอก
“ไม่หรอกพิม ในเมื่อเรารู้ว่าแม่เป็นยังไงเราก็ไม่ต้องไปสนใจ”
“แน่ใจหรือคะว่าคุณจะไม่สนใจท่าน ถ้าวันแต่งงานเรา ท่านเกิดเข้าโรงพยาบาลขึ้นมาอีกคุณจะว่ายังไง คุณจะไม่ไปดูท่านหรือ”
ธีระตอบทันที “ไม่”
“ไม่จริงหรอกธี ชั้นรู้ว่าคุณตัดแม่คุณไม่ได้”
“วันนั้นผมไม่รู้นี่ว่าเป็นแผนการของท่าน แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วผมจะไปทำไม”
“แล้วหลังจากแต่งงาน คุณก็จะไปกินข้าวกับแม่ พาแม่ไปเที่ยว โดยที่ไม่มีชั้นงั้นหรือ”
“ก็จะทำไงได้ ในเมื่อแม่ ...”
“ในเมื่อแม่คุณไม่ชอบชั้น ชั้นก็ไม่ต้องไป”
“ใช่ ถ้าท่านไม่ชอบคุณ ผมก็ไม่อยากให้คุณต้องอึดอัดหรือง้อท่าน”
“ขอบคุณที่คุณแคร์ความรู้สึกชั้น”
“ก็ผมบอกแล้วไงว่าผมรักคุณ”
“แล้วถ้าชั้นให้คุณเลือกระหว่างแม่คุณกับชั้น คุณจะเลือกใคร”
“ไม่เอาน่าพิม ผมว่าอย่าเล่นแง่กันเลยนะ แม่ผมก็เป็นแค่คนแก่คนนึงที่เอาแต่ใจตัวเอง”
“แต่ชั้นต้องการให้คุณเลือก” พิมย้ำ
ธีระยืนอึ้ง พิมมอง
“ไม่ใช่ว่าผมเลือกไม่ได้นะพิม แต่คุณก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”
“เป็นไปได้ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่กับชั้น”
“พิม”
“บอกมาสิคะว่าคุณจะเลือกชั้น”
“นี่คุณจะให้ผมทิ้งแม่ผมไปงั้นหรือ”
“เอาล่ะค่ะ ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่กับแม่ ชั้นก็จะเป็นฝ่ายไป”
พิมหันหน้าจะเดินไป ธีระคว้าแขนของเธอเอาไว้
“ไม่นะพิม ผมไม่ยอมให้คุณทำอย่างงั้น”
“ธี ไม่ใช่ว่าชั้นไม่รักคุณนะ แต่ชั้นคงไม่มีความสุขหรอกที่รู้ว่าแม่คุณไม่ต้อนรับชั้น”
พิมแกะมือธีระออก
“มันไม่มีทางอื่นอีกแล้วหรือพิม” ธีระถาม
“มีค่ะ เอาไว้ให้ถึงวันที่แม่คุณไม่อยู่ คุณค่อยกลับมาหาชั้นก็แล้วกัน”
พิมหันหน้าแล้วเดินออกไป ธีระยืนอึ้ง

พิมเดินลงบันไดในสภาพน้ำตาไหลริน ส่วนธีระเดินไปเดินมาในอควาเรียมอย่างไม่เข้าใจ
พิมเดินร้องไห้ ธีระลงนั่งเบื้องหน้าตู้ขนาดใหญ่ที่เห็นฉลามกำลังแหวกว่าย

ออฟฟิศการบินเมื่อสามปีก่อน ธีระเดินมาที่เคาน์เตอร์
“หวัดดีครับกัปตัน” เจ้าหน้าที่ทักธีระ
จนท.ส่งเอกสารให้เขาเซ็นต์ชื่อเข้างาน สักพักก็มีแอร์โฮสเตสคนหนึ่งเดินเข้ามาหยุดด้านหลังของธีระ
“ขอโทษค่ะ กัปตันธีระใช่มั้ยคะ”
ธีระหันไปมอง
“ใช่ครับ”
“ดิชั้นพิมอัปสรเป็นหัวหน้าแอร์เที่ยวบิน...” พิมบอก
“ยินดีมากครับที่ได้ร่วมงานกับคุณ”
“กัปตันไม่ได้เซ็นต์คำสั่งให้กับดิชั้น ดิชั้นเลยต้องรอกัปตันไม่สามารถปฏิบัติงานได้ค่ะ” พิมตำหนิ
“เมื่อวานผมเซ็นต์ให้แล้วไม่ใช่หรือ” ธีระบอก
“ยังค่ะ ดิชั้นยืนยันได้”
“ผมว่าคุณลืมมากกว่า”
“ไม่ค่ะ ดิชั้นมีหลักฐานยืนยันว่ากัปตันลืม” พิมพูดอย่างจริงจัง
ธีระขำกับท่าทางเอาเรื่องของพิม “นี่คุณรุนแรงมากนะ ถึงขั้นหาหลักฐานมาเล่นงานผมเลยหรือ”
“มิได้ค่ะ มันเป็นขั้นตอนที่ดิชั้นต้องทำเพื่อไม่ให้ถูกตำหนิในฐานะเป็นหัวหน้า”
“เอา ผมยอมรับผิดก็ได้”
“อย่าพูดเหมือนตัวเองไม่ผิด แต่จำใจต้องยอมรับสิคะ” พิมว่า
“ก็ได้ครับ เป็นอันว่าผมผิดจริงที่ลืม เพราะผมคงแก่แล้ว”
“ไม่แก่หรอกค่ะ ยังหนุ่มแถมหล่อด้วย”
พิมแซว ธีระมองพิมแล้วยิ้มขำ เขาเซ็นต์ชื่อในเอกสารให้ พิมรับเอกสารแล้วเดินออกไป ธีระมองตามอย่างสนใจ

แอร์โฮสเตสเข็นรถอาหารเสริฟผู้โดยสารอยู่ในห้องผู้โดยสาร พิมถือกาชาและกากาแฟเดินให้บริการผู้โดยสาร ธีระเดินออกมาจากห้องแล้วจะไปห้องน้ำแต่แกล้งหยุดรอด้านหลังพิม พิมหันมอง
“ขอผมไปหน่อย” ธีระบอก
“ไม่ได้ค่ะ ต้องไปด้านนู้น” พิมพูดอย่างซีเรียส
ธีระยกมือโอเคแล้วยิ้มให้ก่อนจะเดินอ้อมหลังไปอีกช่อง พิมมองตาม เธอเห็นธีระมองพร้อมกับส่งยิ้มให้ พิมยิ้มตอบด้วยความหมั่นไส้

พิมกำลังเช็คงานหลังจากที่เสริฟอาหารแล้วอยู่ในห้องของแอร์โฮสเตส ธีระเดินเข้ามา พิมไปหันมอง
“ขอกล้วยหอมซักลูกสิครับ” ธีระบอก
พิมหันไปหยิบกล้วยหอมส่งให้
“ขอชีสด้วยครับ”
พิมหยิบชีสส่งให้
“ขอเชดด้าชีสได้มั้ยครับ”
พิมหยิบถาดรวมชีสทั้งหมดมาส่งให้
“เชิญเลือกตามสบายเลยค่ะ”
“นี่ประชดหรือครับ”
“เปล่าค่ะ ชั้นเดาใจกัปตันไม่ถูกว่าชอบแบบไหน”
“อะไรกัน ผมทำขนาดนี้แล้วยังเดาใจผมไม่ถูกอีกหรือ ว่าผมชอบอะไร”
พิมชะงัก “นี่พูดถึงชีสหรือว่า ...”
“รวมๆครับ ทั้งชีสแล้วก็อย่างอื่นด้วยครับ”
พิมเขินแต่ทำเก๊ก “ขอโทษนะคะ ตอนนี้กำลังปฏิบัติงานอยู่ก็เลยไม่มีสมาธิในการเดาค่ะ”
พิมหันไปเก็บชีสใส่ถาดแก้เขิน ธีระอมยิ้ม
“ขอกาแฟซักแก้วได้มั้ยครับ”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ เป็นกัปตันใหญ่ที่สุดบนเครื่องสั่งอะไรก็ต้องได้หมด”
“งั้นเดี๋ยวลงเครื่องแล้วทานข้าวเย็นกับผมนะครับ”
“นี่สั่งหรือว่าขอนัดเดทคะ”
“ทั้งสองอย่างครับ”
พิมอมยิ้ม “สองทุ่มดึกไปมั้ยคะ”
“โอเคครับ สองทุ่มเจอกัน”
ธีระเดินกลับไป พิมมองตามแล้วยิ้มเขิน ๆ

พิมนั่งอยู่ในโต๊ะอาหารกับเพื่อนๆ ทั้งหมดยกแก้วชนแล้วดื่ม
“ขอให้พี่พิมมีความสุข” เป็บอวยพร
“ขอให้สวย” แหม่มบอก
“ขอให้รวย” นุ้ยพูด
“ขอให้มีแฟนหล่อ” กุ๊กอวยพร
“ขอให้มีคนมาจีบดีกว่า” พิมขัดขึ้น
“แหมพี่พิม พูดยังกะว่าตอนนี้ไม่มีคนจีบ”
“ก็ไม่มีจริงๆ”
แหม่มรีบถาม “แล้วกัปตันธีระล่ะ”
“ใครบอกว่าเค้าจีบเค้าก็แค่มาคุยเล่น หลอกให้เราดีใจ” พิมบอก
“จริงหรือพี่พิม แต่หนูว่ากัปตันเค้าสนใจพี่พิมนะ”
“ใช่ ชั้นว่าเค้าชอบแก” กุ๊กเสริม
“แกรู้ได้ไง” พิมถาม
“อ้าว ถ้าไม่ชอบ เค้าจะมาคอยถามชั้นอยู่บ่อยๆหรือว่าแกไปไหนชอบกินอะไร”
“แล้วที่สำคัญนะพี่แหม่ม กัปตันเคยถามหนูว่าพี่พิมมีแฟนรึยัง” เป็บบอก
“แล้วเป๊บบอกว่าไง” แหม่มรีบถาม
“ก็บอกว่ายังไม่มี”
“ดีมากน้องเป๊บ” พิมชม
“แสดงว่ามีใจกับเค้าอยู่บ้างล่ะสิ” กุ๊กแซว
“นิดนิด แต่ชั้นว่าท่าทางเค้าเจ้าชู้” พิมว่า
“ผู้ชายเจ้าชู้หน่อยมีเสน่ห์นะจ๊ะ เอา ดื่ม ดื่ม ดื่ม” แหม่มชวนเพื่อนๆ
ทั้งหมดยกแก้วชนแล้วเฮกัน

นุ้ยกับเป๊บถือเค้กที่มีเทียนจุดสว่างเข้ามาในร้านที่ปิดไฟจนมืดสนิท ทั้งสองถือเค้กเข้ามาให้พิมพร้อมร้องเพลง
“แฮปปี้เบิรธเดย์ทูยู ... แฮปปี้เบิรธเดย์ ... แฮปปี้เบิรธเดย์ ...แฮปปี้เบิรธเดย์..ทู..ยู ...”
พิมเป่าเทียน
“อธิษฐานว่าไง” กุ๊กถาม
“ขอให้มีแฟนกะเค้าซะที” พิมบอก
ไฟในร้านเปิด ธีระก้าวเข้ามาในร้านอย่างช้าๆ
“พี่พิม” นุ้ยเรียก
“หือม์”
“มีแขกมา”
“ใคร” พิมถาม
“อยู่ข้างหลังหันไปดูสิคะ”
พิมหันไปมองก็เห็นธีระก้าวเข้ามา ทั้งสองสบตากัน
“หวัดดีครับ” ธีระเอ่ยทัก
เหล่าแอร์โฮสเตสเอ่ยทัก “หวัดดีค่ะกัปตัน”
“หวัดดีทุกคน” ธีระพูดกับพิม “แฮปปี้เบิรธเดย์ครับ ขอให้มีความสุข”
“รู้ได้ไงคะว่าวันเกิดพิม” พิมถาม
“ชั้นบอกเอง” แหม่มบอก
“ผมต้องขอโทษด้วยที่มาช้า มัวแต่หาซื้อของขวัญ ไม่รู้ว่าคุณพิมชอบอะไร” ธีระส่งกล่องของขวัญให้ “หวังว่าคุณพิมคงชอบนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“เปิดเลย เปิดเลยพี่พิม” เพื่อนๆ เชียร์
พิมเปิดกล่องออก เห็นแหวนน่ารักๆ อยู่ในกล่อง
“ชอบมั้ยครับ”
“ค่ะ” พิมตอบ ทุกคนปรบมือลั่นแล้ว ดึงเก้าอี้เข้ามาล้อม ธีระลงนั่งด้วย

เวลาผ่านไป ธีระกับพิมเดินจับมือคุยกันและหยอกล้อกันอยู่ที่ทะเล
พิมนอนอยู่ในอ้อมกอดธีระที่ชิงช้าริมทะเล พิมนอนหลับ ธีระมองแล้วอมยิ้มก่อนจะก้มลงหอมแก้ม พิมลืมตามองแล้วยิ้มให้ ธีระกอดพิม

เหตุการณ์ปัจจุบัน ธีระนั่งกินข้าวอยู่ในบ้านกับแม่ของเขา ธีระนั่งเหม่อ จินดานั่งกินข้าวแล้วมองลูกชาย
“ยังคิดถึงพิมเค้าอยู่หรือลูก” จินดาเอ่ยถาม
“ครับ ถ้าไม่เกิดเรื่องป่านนี้เราคงอยู่ด้วยกันแล้ว” ธีระบอก
“แม่ขอโทษ ที่เป็นต้นเหตุทำให้แกกับแฟนไม่ได้แต่งงานกัน”
“ไม่ใช่ความผิดของแม่หรอกครับ อย่าพูดถึงมันเลย”
“แต่แม่เป็นคนก่อเรื่อง ให้แม่โทรไปขอโทษเค้ามั้ยล่ะ”
จินดาขยับลุกจะไปโทรศัพท์
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมบอกแล้วไงว่าไม่ใช่ความผิดของแม่ เพราะผมรักแม่ ผมถึงเลือกที่จะอยู่กับแม่”
“แม่ก็รักลูก”
จินดาดึงธีระเข้ามากอดแล้วยิ้มด้วยแววตามีความสุข


ธีระเดินเข้ามาในออฟฟิศ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเข้ามาทักทาย
“หวัดดีครับกัปตัน”
ธีระพยักหน้ารับ เขาเดินเลี้ยวมาเจอวิทย์
“หวัดดีครับกัปตัน” วิทย์ทัก
“หวัดดี”
ทั้งสองเดินเลี้ยวไปที่ห้องเซ็นต์ชื่อ พิมกำลังเซ็นต์ชื่ออยู่ ธีระเดินเข้ามาที่เคาน์เตอร์ พิมชะงักแล้วเมินหน้าไปอีกทาง ธีระมองพิม แหม่มกับกุ๊กยืนมอง
“หวัดดีค่ะกัปตัน” แหม่มทัก
“หวัดดีครับ” ธีระตอบ
พิมเดินเลี่ยงออกไป กุ๊กกับแหม่มเดินตามออกมา
“แน่ใจหรือว่าจะเลิกกับกัปตันเค้าจริงๆ” แหม่มถามพิม
พิมพยักหน้า
“แต่ชั้นดูกัปตันเค้ายังมีเยื่อใยกับแกอยู่นะ” กุ๊กบอก
“ชั้นว่ามันไม่มีประโยชน์หรอก ไม่เลิกกันวันนี้แต่งไปก็ต้องเลิก ชั้นยอมเสียใจซะวันนี้ดีกว่า จะได้ไม่เจ็บปวดมาก”
พิมเดินออกไป เพื่อนๆ มองหน้ากันอย่างเศร้าใจ ธีระเซ็นต์ชื่อเสร็จแล้วหันไปมองเห็นพิมเดินออกประตูไป พิมเดินไปพร้อมทั้งพยายามควบคุมความรู้สึก ธีระมองแล้วหันกลับไปลากกระเป๋าเดินออกไปอีกทาง วิทย์เดินตามธีระไป

ธีระกดเครื่องมือหน้าจอเพื่อเตรียมการบิน เครื่องบินบินวนออกไปรันเวย์
“เตรียมพร้อม เทคออฟ” ธีระสั่ง
ธีระดึงคันเร่ง
เครื่องบินแล่นออกไป ธีระดังคันเร่งด้วยสีหน้านิ่ง
เครื่องบินวิ่งเร็วขึ้น ธีระดังคันเร่งหน้านิ่ง
เครื่องบินทะยานขึ้นท้องฟ้าไป




รักคุณเท่าฟ้า ตอนที่ 4 (ต่อ)

ธีระสวมแว่นดำนั่งนิ่งอยู่ในห้องกัปตัน วิทย์เหลือบมอง ธีระหันมาเห็นวิทย์มองเขาก็ถอดแว่นออก
“มองหน้าผมทำไม” ธีระถาม
“ผมกำลังคิดถึงเรื่องชีวิตรักของกัปตันน่ะครับ” วิทย์บอก
“ทำไม”
“มันเหมือนสุภาษิตที่เค้าว่าความแน่นอนคือความไม่แน่นอน คิดดูสิครับ กัปตันกับพี่พิมกำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้วอีกแค่วันสองวัน อยู่ๆกลับไม่ได้แต่งแล้วก็เลิกกันไปตลอดชีวิต”
“ยังไม่ถึงตลอดชีวิตหรอก” ธีระบอก
“อาจจะมีลมพัดหวนหรือครับ”
“ผมเองก็ไม่รู้ บอกไม่ได้”
“แล้วกัปตันเฮริทมั้ยครับ”
“จะบอกไม่เฮริทก็คงไม่จริง เอาเป็นว่าเจ็บลึกๆดีกว่า”
“ถ้างั้นผมว่ากัปตันต้องรีบหาใครมาดามใจแล้วล่ะครับ”
“ตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ ผมชักกลัวผู้หญิงแล้ว” ธีระบอก
“อย่าเพิ่งกลัวเลยครับ กัปตันอาจจะเจอผู้หญิงคนใหม่ที่เข้าใจกัปตันจริงๆก็ได้”
เสียงออดดังขึ้น ประตูห้องกัปตันเปิดออก แอร์โฮสเตสยกถาดกาแฟเข้ามาให้ธีระกับวิทย์
“กาแฟค่ะ กัปตัน”
ธีระหันไปรับกาแฟ ทันใดนั้นเครื่องก็เจอหลุมอากาศเล็กๆ แอร์โฮสเตสเลยเซทำให้กาแฟกระฉอกหกใส่ธีระ
“อุ๊ย ขอโทษค่ะกัปตัน”
ธีระเงยหน้ามองอุ้ม แอร์โฮสเตสคนใหม่
“ขอโทษค่ะ อุ้มไม่ทันระวัง” อุ้มบอก
“ไม่เป็นไรครับ แอคซิเดนท์”
“เดี๋ยวอุ้มไปเอากาแฟมาให้ใหม่นะคะ นี่ค่ะ ผ้าเช็ดมือ”
อุ้มส่งผ้าเช็ดมือให้
“ขอบคุณครับ”
อุ้มเดินออกไปจากห้องกัปตัน วิทย์มองตาม
“เป็นไงครับกัปตัน น้องใหม่ของเราสวยมั้ย” วิทย์ถาม
“แอร์ใหม่หรือ”
“ครับ เห็นว่าเคยบินพวกสายการบินยุโรป เพิ่งย้ายมาอยู่กับเรา สวยดีนะครับ”
“อืมม์”
ออดดัง ประตูเปิด อุ้มเอากาแฟเข้ามาให้ใหม่
“นี่ค่ะกัปตัน”
“ขอบคุณครับ” ธีระพูด
ธีระรับกาแฟมาแล้วยกขึ้นจิบ อุ้มยืนมองอย่างลุ้นๆ ธีระหันไปมองเห็นอุ้มยังยืนอยู่
“ใช้ได้มั้ยคะ” อุ้มถาม “เห็นพี่รัตบอกว่ากัปตันใส่เฉพาะนมอย่างเดียวไม่รู้ว่ามันไปรึเปล่า”
“กำลังดีครับ” ธีระตอบ
“อาหารกลางวันจะรับอะไรคะ” อุ้มถาม
“ผมขอปลาแล้วกัน”
“แล้ว ..... ล่ะคะ” อุ้มถาม
“ผมขอเนื้อครับ” ธีระบอก
“เครื่องดื่มล่ะคะ”
“ผมขอน้ำแร่”
“ผมขอน้ำขิงครับ” วิทย์บอก
“แค่นี้นะคะ”
“ครับ” ธีระรับคำ
“ขอบคุณครับอุ้ม” วิทย์พูด
วิทย์ยิ้มให้อย่างตีสนิท อุ้มยิ้มแล้วเดินออกไป
“คุณนี่ดูคล่องกับผู้หญิงนะ” ธีระบอก
“ผมก็แค่ทำให้ดูกันเองน่ะครับ น้องเค้าจะได้ไม่เกร็ง”
“ไม่ได้จีบเค้าหรือ”
“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่สเปค ผมชอบหมวยๆ หรือกัปตันสนใจ”
“บอกแล้วไงว่าเข็ดผู้หญิง”
ธีระหยิบแว่นขึ้นมาใส่แล้วอมยิ้ม

อุ้มเปิดลิ้นชักหยิบของเตรียมใส่ในรถเข็นสำหรับเสริฟ สักพักเป๊ปก็เดินเข้ามาแซว
“กัปตันเป็นไงอุ้ม หล่อสมใจมั้ย”
“อืมม์ หล่อมาก สมกับที่คนเค้าลือจริง ๆ” อุ้มบอก
“ถ้าสนใจอย่าช้านะ เค้าเพิ่งอกหักจากคนรักเก่าด้วย” นุ้ยว่า
“ไม่ล่ะ มิอาจเอื้อมของสูง”
“นี่ถ้าชั้นไม่มีแฟนล่ะก็ ป่านนี้ชั้นไปจีบแล้ว” เป็บบอก
“เข้าไปทาบเลยอุ้ม เผื่อฟลุ๊กจะได้แฟนเป็นกัปตันเชียวนะ” นุ้ยเชียร์
“อืมม์ จะลองคิดดู” อุ้มพูดเล่นแล้วก็ยิ้ม นุ้ยกับเป๊ปเดินออกไป “ระดับกัปตันเค้าจะชอบเรารื้อ”
อุ้มพึมพัมกับตัวเองพร้อมกับขำ ธีระซึ่งยืนอยู่ด้านหลังได้ยินพอดี
“ขอโทษครับ คุณอุ้ม”
อุ้มสะดุ้งแล้วหันมามอง “อุ๊ย ... มีอะไรคะ กัปตัน”
“ขอกาแฟอีกซักแก้วสิครับ แก้วเมื่อกี้อร่อยมาก” ธีระชม
“ขอบคุณค่ะ”
ธีระส่งแก้วคืนให้แล้วเดินเข้าห้องน้ำก่อนจะปิดประตู อุ้มชะโงกหน้ามองไปที่ห้องน้ำ
“หวังว่ากัปตันคงไม่ได้ยินที่เราพูดนะ ถ้าเกิดเค้าได้ยินขึ้นมาเราแย่แน่”
อุ้มบ่นพึมพัมพร้อมทั้งเทกาแฟใส่แก้วแล้วใส่ครีมเทียมลงไป ธีระเปิดประตูห้องน้ำออกมา อุ้มส่งกาแฟให้
“นี่ค่ะ”
“หวังว่าจะอร่อยเหมือนแก้วแรกนะ” ธีระบอก
“ค่ะ”
อุ้มยิ้มให้ ธีระถือกาแฟเดินกลับไปที่ห้องแล้วก็ชะงักพูดกับอุ้ม
“อ้อ เมื่อกี้ผมได้ยินว่า ...”
อุ้มตกใจ “หา .. กัปตันได้ยินหรือคะ อุ้มพูดเล่นน่ะค่ะ”
“พูดอะไรครับ”
ธีระมองจ้องหน้า อุ้มเขิน
“แล้วกัปตันได้ยินว่าไงล่ะคะ”
“ผมได้ยินโคไพลอทบอกว่าคุณเพิ่งย้ายมาทำงานกับเรา”
“อ๋อ ค่ะ” อุ้มโล่งอก
“แล้วชอบการบินไทยมั้ยครับ”
“ชอบค่ะ ชอบมากเลย”
“งั้นก็ดีครับ หวังว่าเราคงจะได้บินด้วยกันบ่อย ๆ”
ธีระยิ้มให้แล้วเดินออกไป อุ้มมองตามอย่างเป็นปลื้มกับธีระ
“นี่เราเป็นอะไรเนี่ย ทำไมมือไม้เย็นอย่างนี้”
นุ้ยเดินเข้ามาทางด้านหลัง
“อุ้ม”
อุ้มสะดุ้ง “ว่าไงนุ้ย”
“ได้เวลาเสริฟแล้วนะ” นุ้ยบอก
“จ้ะ จ้ะ กำลังจะออกไปพอดี”
อุ้มถอนใจเฮือกใหญ่แล้วเข็นรถเข็นออกไป

อุ้มกำลังเสริฟเครื่องดื่มบนเครื่องให้ผู้โดยสาร สักพักเป๊ปก็มาเรียก
“อุ้ม ขอไวน์ขาวหน่อย”
อุ้มส่งขวดไวน์ให้

จินดากำลังอ่านหนังสืออยู่ในบ้าน ทันใดนั้นเสียงออดก็ดังขึ้น จินดาชะงัก
“อร ...นังอร ... ฮื้อ นังนี่ หายหัวไปไหนอีกแล้ว พอเผลอก็หายแว่บทุกที”
จินดาวางหนังสือแล้วลุกเดินออกมาเปิดประตูบ้าน คิตตี้ถือถุงอาหารเดินเข้ามา
“อ้าว หนูคิตตี้” จินดาทัก
“หวัดดีค่ะคุณแม่” คิทตี้ยกมือไหว้
“หวัดดีจ้ะ นี่แม่นึกว่าหนูจะไม่มาบ้านนี้ซะแล้ว”
“ต้องมาสิคะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหนูก็ยังรักและเคารพคุณแม่ตลอดเวลาค่ะ”
“ปากหวานจัง แล้วนี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะ”
“หลายอย่างเลยค่ะ”
“ไม่ต้องซื้อมาเยอะหรอกลูก นี่แม่ก็กินอะไรไม่ได้เยอะแล้ว ต้องคุมน้ำตาลตลอดเวลา เฮ้อ พูดแล้วไม่อยากอยู่”
“อย่าเพิ่งคิดสั้นสิคะคุณแม่ อยู่รอเลี้ยงหลานให้พี่ธีก่อนดีกว่าค่ะ”
“คงจะไม่ได้เห็นแล้วล่ะ”
“ทำไมล่ะคะ” คิทตี้ถาม
“นี่หนูไม่รู้หรือว่าตาธีเค้าเลิกกับแฟนแล้ว”
“ก็เพราะได้ยินข่าวนี้แหละค่ะ หนูถึงได้กล้ามาเยี่ยมคุณแม่”
จินดาชะงักแล้วมองหน้า คิตตี้ยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน

คิตตี้ห่อแหนมเนืองแล้วส่งให้จินดา
“นี่ค่ะ คุณแม่ขา แหนมเนืองเจ้าอร่อยที่คุณแม่ชอบ”
“แหม หนูคิตตี้เนี่ยรู้ใจแม่ไปหมด ถ้าเป็นลูกสาวแม่ แม่รักตายเลย” จินดาชม
จินดารับแหนมเนืองเข้าปากแล้วเคี้ยว
“ถึงไม่ได้เป็นลูกสาว แต่เป็นลูกสะใภ้ได้นี่คะ” คิทตี้พูด
จินดาถึงกับสำลัก
“อุ๊ย คุณแม่เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
“เปล่าจ้ะ แค่สำลักน้ำลายน่ะลูก”
“ถ้าหนูได้มาเป็นสะใภ้คุณแม่ล่ะก็ หนูจะดูแลคุณแม่ไปจนวันตายเลยค่ะ นี่ค่ะ อีกคำนึงค่ะ” คิตตี้ส่งแหนมเนืองให้จินดาอีก
“พอก่อนลูก”
“ทำไมล่ะคะ ไหนเมื่อกี้บอกว่าชอบทานไงคะ”
“เมื่อกี้มันสำลักน่ะลูก ก็เลยแขยง”
“งั้นหนูไปเอาน้ำให้นะคะ”
“จ้ะ”
คิตตี้เดินไปที่ตู้เย็น จินดามองตามแล้วแอบบ่นพึมพำ
“ไม่น่าชักศึกเข้าบ้านเลยเรา”
คิตตี้เดินกลับเข้ามาพร้อมแก้วน้ำ
“มาแล้วค่ะคุณแม่ขา น้ำเย็น ๆ”
“ขอบใจจ้ะ”
“มาค่ะหนูป้อน”
คิตตี้จะป้อนน้ำให้ แต่จินดารีบคว้าแก้วไว้
“ไม่ต้องจ้ะ แม่กินเอง เดี๋ยวสำลักอีก”
“ค่อย ๆนะคะ”
จินดายกน้ำขึ้นดื่ม คิตตี้มองอย่างเป็นห่วง จินดาฝืนยิ้มให้
“งั้นคุณแม่ทานกุ๋ยช่ายแล้วกันค่ะ”
คิตตี้ตักกุ๋ยช่ายจะป้อนให้
“แม่ไม่ค่อยชอบจ้ะ” จินดารีบบอก
“อ้าว ไหนคราวที่แล้วคุณแม่บอกว่าอร่อยไงคะ”
“ตอนนู้นแม่ชอบ แต่ตอนนี้แม่ชักไม่ชอบแล้วจ้ะ” จินดาพูดอย่างมีนัย
“อ๋อ หรือคะ งั้นตี้จะจำไว้ค่ะ เดี๋ยวตี้จดก่อนว่าคุณแม่ไม่ชอบอะไร”
คิตตี้หยิบไอโฟนขึ้นมากดบันทึก
“คุณแม่ ไม่ชอบกุ๋ยช่าย”
จินดามองค้อนคิตตี้อย่างไม่สบอารมณ์

เวลาผ่านไป แดง กบ จินดา และไตรตั้นนั่งอยู่ที่โต๊ะในร้านอาหาร ทั้งหมดกำลังดูเมนูอาหารอยู่
“พ่อครับ ตั้นอยากกินข้าวผัดอเมริกันแล้วก็เกี๊ยวทอดครับ” ไตรตั้นบอก
“แม่กินอะไรดี เอาแหนมเนืองมั้ย” แดงถามจินดา
จินดาไม่ชอบใจ “ใครบอกแกว่าชั้นชอบกินแหนมเนือง”
“อ้าว ก็เห็นมาที่นี่ทีไร แม่ชอบสั่งแหนมเนืองทุกครั้ง” แดงบอก
“ไม่เอาแล้ว แม่เบื่อ”
“งั้นเอากุ๋ยช่ายทอดดีกว่านะครับ ของโปรดแม่” กบเสนอ
“ไม่เอา เดี๋ยวนี้ชั้นไม่ชอบแล้ว”
จินดาพูดเสียงแข็ง แดงชะงักมอง
“แม่เป็นอะไรอีกเนี่ย ทำไมอารมณ์ไม่ดี”
“น้าธีจะแต่งงานอีกแล้วหรือครับคุณยาย” ไตรตั้นถาม
“ไตรตั้น ผู้ใหญ่จะคุยกันลูก” กบดุ
“แม่ยังไม่บอกหนูเลยว่าเป็นอะไรถึงอารมณ์ไม่ดี” แดงถามอีก
“ก็แม่คิตตี้น่ะสิ จะมาเกาะแกะน้องชายแก” จินดาบอก
“เรื่องนี้อีกแล้วหรือแม่”
“เห็นมั้ยพ่อ ตั้นทายถูก”
กบปราม “จุ๊ จุ๊ จุ๊ ไตรตั้น”
กบหันไปดุไตรตั้น ไตรตั้นหน้าจ๋อย
“แม่ หนูว่าแม่เลิกยุ่งกับเรื่องของนายธีเค้าซะทีเถอะ ที่เค้าต้องเลิกกับพิมก็เป็นเพราะแม่นะ”
“นี่แกหาว่าชั้นเป็นต้นเหตุทำให้เค้าเลิกกันงั้นหรือ” จินดาเคือง
“ก็ใช่สิ ถ้าแม่ไม่เข้าไปยุ่งกับเค้า ป่านนี้ธีมันก็แต่งงานกับพิมไปเรียบร้อยแล้ว”
“แกถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ ที่น้องแกมันเลิกกับแม่พิมเป็นเพราะเค้าไปด้วยกันไม่ได้ ไม่ได้เกี่ยวกับชั้น”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว หนูรู้นะว่าแม่สร้างเรื่องทุกอย่าง แม่เป็นคนโทรหาคิตตี้ให้เค้าเข้ามายุ่งวุ่นวายกับธี แล้วแม่ก็ ...”
“พอทีเถอะแดง” กบปราม
“ทำไม ชั้นทำไมหรือ แกพูดมาเลยไอ้แดง” จินดาโมโห
“แม่ครับ ผมขอร้องล่ะ อย่าทะเลาะกันเลย นี่เรามากินข้าวกันนะครับ” กบบอก
“ไม่ แกต้องบอกให้เมียแกถอนคำพูดเดี๋ยวนี้”
“หนูไม่ถอน เพราะมันเป็นความจริง” แดงยืนยัน
“แดง หยุดเถอะ” กบปราม
“ไม่พี่กบ ชั้นว่าเรายอมแม่มากไปแล้ว”
“อ๋อ ใช่สิ เดี๋ยวนี้ชั้นมันแก่ไม่มีความหมายแล้วนี่ แกมีลูกมีผัว แกก็ไม่เห็นความสำคัญของชั้นแล้ว”
“นี่แม่พูดอะไรของแม่”
“แดง ผมว่าเราหยุดเถอะ แม่ครับ หยุดเถอะครับ”
“แกก็เหมือนกันกบ ควรจะสั่งสอนเมียแกบ้าง ให้มันรู้ว่าใครแม่ใครลูก”
จินดาลุกขึ้น
“นี่แม่จะไปไหนครับ” กบถาม
“คุณยายครับ เรายังไม่ได้กินอะไรเลยนะครับ” ไตรตั้นบอก
“ยายไม่กินแล้ว ยายจะกลับบ้าน”
“เอา งั้นพวกเราก็ไป”
กบขยับจะลุกไป ไตรตั้นลุกตาม
“ไม่ ถ้าแม่อยากกลับแม่ก็กลับเอง” แดงบอก
จินดามองแดงด้วยความโกรธแล้วสะบัดหน้าเดินออกไปจากร้าน
“เอาไงครับพ่อ” ไตรตั้นถาม
“ตั้นอยู่กับแม่ก่อน เดี๋ยวพ่อไปส่งยาย” กบบอก
“ไม่ต้องหรอกพี่กบ”
“แดง อย่าทำอย่างนี้น่ะ”
กบเดินตามจินดาออกไป แดงถอนใจเพราะเซ็งแม่ตัวเอง
“อย่างนี้เค้าเรียกว่าบ่อนแตก ใช่มั้ยครับแม่” ไตรตั้นถาม




รักคุณเท่าฟ้า ตอนที่ 4 (ต่อ)

จินดาเดินออกมาริมถนนแล้วโบกเรียกรถแท๊กซี่
“แท๊กซี่ .. “ จินดาตะโกนเรียกแต่รถแท๊กซี่ไม่จอดรับ “คนก็ไม่มีแล้วยังไม่รับ มาขับทำหอกอะไรวะ”
กบขับรถเข้ามาจอดเทียบ จินดาชะงักมอง กบเรียก
“แม่ครับขึ้นมาเถอะ ผมไปส่ง”
“ไม่ต้อง ชั้นไปเองได้”
“ไปเถอะครับแม่”
จินดามองหน้า กบพยักหน้า จินดาตัดสินใจเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งหน้าบึ้ง กบเคลื่อนรถออกไป

จินดาหันมาถามกบโดยที่ยังไม่หายโกรธ
“ทำไมไม่อยู่กินข้าวกับเมียแกล่ะ”
“แม่อย่าโกรธแดงเลยนะครับ” กบขอ
“ถ้าแกเป็นชั้น แกไม่โกรธหรือ ชั้นเป็นแม่มันแบกท้องมันมาตั้งเก้าเดือน เลี้ยงมันกว่าจะโตมาเป็นเมียแก หนอย ทำปากกล้ามาด่าเรา”
“แดงเค้าไม่ได้มีเจตนาอย่างงั้นหรอกครับแม่ เค้าก็แค่อยากจะเตือนแม่”
“อ๋อ นี่แกเข้าข้างเมียแกงั้นหรือ จอดรถเลย”
“ผมไม่ได้เข้าข้างแดงหรอกครับ ผมเพียงแต่ ...”
“ชั้นบอกให้จอดรถ ไม่งั้นชั้นจะโดดลงเดี๋ยวนี้”
“ใจเย็นครับแม่”
กบจอดรถเข้าข้างทาง จินดาหันมาพูด
“ชั้นจะบอกให้รู้นะ ไม่มีใครรักและเห็นว่าชั้นสำคัญเหมือนไอ้ธีลูกชายชั้นหรอก เชิญแกกลับไปหาลูกเมียแกเถอะ”
จินดาลงจากรถแล้วปิดประตูดังปังก่อนจะเดินออกไป กบมองตามแล้วส่ายหน้า เขาเห็นจินดาโบกรถแท๊กซี่ขึ้นไป
“เฮ้อ นึกว่าจะมีแต่แม่เราที่เป็นแบบนี้”
กบบ่นแล้วเคลื่อนรถออกไป

เครื่องบินแลนดิ้งลงที่สนามบินต่างประเทศ ธีระกับวิทย์เดินอยู่ที่ย่านช็อปปิ้งในต่างแดน
“เสื้อตัวนั้นสวยนะครับ เข้าไปดูกันมั้ยครับ” วิทย์ชวน
“คุณเข้าไปเถอะ ผมรอข้างนอก” ธีระบอก
วิทย์เดินเข้าไปในร้าน ธีระเดินดูของหน้าวินโดว์โชว์ไปเรื่อยๆ เขาเดินเรื่อยมาถึงหน้าร้านชอคโกแลต อุ้มซื้อของเสร็จก็เดินเลี้ยวออกมาจากร้าน
“อุ๊ย กัปตัน”
“อ้าว คุณอุ้ม ซื้อขนมหรือ” ธีระถาม
“ค่ะ ซื้อชอคโกแลตไปฝากคุณแม่ คุณแม่อุ้มชอบทานชอคโกแลต”
“เหมือนคุณแม่ผมเลย เมื่อก่อนผมเองก็ซื้อไปฝากคุณแม่ทุกไฟลท์ แต่ตอนหลังท่านเป็นเบาหวานก็เลยไม่ได้ซื้อฝาก”
“คุณแม่กัปตันเป็นเบาหวานหรือคะ” อุ้มถาม
“ใช่ครับ”
“งั้นก็ซื้อคุกกี้ที่ผสมซินนามอนไปให้ทานมั้ยคะ เค้าบอกว่าซินนามอนมันช่วยลดน้ำตาลได้นะคะ”
“อ๋อ หรือครับ งั้นเดี๋ยวผมเข้าไปดูดีกว่า”
“ร้านนี้ไม่มีค่ะ เดี๋ยวถ้าอุ้มเจอ อุ้มจะซื้อมาให้ค่ะ”
“ขอบคุณครับ”

เป๊ปเดินออกมาจากร้านเสื้อผ้ากับนุ้ยและวิทย์
“เฮ้ย เดี๋ยว” นุ้ยบอก
เป๊บถาม “อะไร”
“ดูกัปตันกับอุ้มสิ” นุ้ยชี้ไป
ทั้งกลุ่มมองตามไปก็เห็นธีระกำลังคุยกับอุ้มอยู่
“ทำไม” เป็บถาม
“จะว่าไปกัปตันกับอุ้มก็ดูเหมาะกันดีนะ” นุ้ยบอก
“นี่เธอสองคนจะจับคู่ให้เค้างั้นหรือ” วิทย์ถาม
“อ้าว ก็พี่วิทย์บอกว่าอยากหาคนมาดามใจให้กัปตันไม่ใช่หรือ”
“ใช่ เป๊บว่าอุ้มนี่แหละเหมาะสมที่สุด”
“แต่กัปตันคงไม่ชอบหรอก เพราะตอนขามาพี่ชงให้บนเครื่อง กัปตันแกดูเฉยๆ”
“นั่นมันเพิ่งเจอกัน ดูตอนนี้สิเค้าคุยกันหนุงหนิงถูกคอ”
“ใช่ กัปตันก็รักแม่ อุ้มก็บูชาแม่” เป็บบอก
“คราวนี้แหละจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องแม่แล้ว” นุ้ยว่า
“ถ้างั้นเย็นนี้เรานัดให้เค้าสองคนไปกินข้าวกัน แล้วพวกเราไม่ไปดีมั้ย” วิทย์เสนอ
“แหม เรื่องนัดบอดเนี่ยเก่งจังนะพี่วิทย์”
ทั้งกลุ่มหัวเราะออกมา อุ้มกับธีระหันมาเห็นทั้งสามจึงเดินเข้ามาหา
แล้วอุ้ม ธีระ นุ้ย เป๊บและวิทย์เดินเที่ยวเล่นด้วยกันในเมือง

ตกกลางคืน อุ้มพูดโทรศัพท์อยู่ในห้องพักที่โรงแรม
“แม่หรือคะ”
แม่ของอุ้มยืนคุยโทรศัพท์กับลูกสาวอยู่บนระเบียงบ้านที่เมืองไทย
“เป็นไงลูก หนาวมั้ย”
“นิดหน่อยค่ะ หนูได้ของฝากให้แม่แล้วนะ” อุ้มบอก
“ขอบใจลูก เออนี่อุ้ม เก๋ลูกป้านิดเค้าฝากซื้อน้ำหอมขวดนึง”
“น้ำหอมอะไรแม่”
“อะไรก็ได้ที่ลูกว่าหอม”
“ได้ค่ะ อ้อ แม่บอกพ่อด้วยนะว่าสายนาฬิกาที่พ่อฝากซื้อไม่มีหนูหาไม่เจอ”
“เออ ไม่เป็นไรหรอกลูก”
“แล้วนี่แม่ทำอะไรอยู่” อุ้มถาม
“กำลังจะต้มข้าวต้มให้พ่อเค้ากิน แล้วลูกล่ะกินข้าวรึยัง”
“ยังเลยค่ะ เดี๋ยวจะออกไปกินกับเพื่อน แค่นี้นะแม่ หนูคิดถึงแม่กับพ่อนะ”
“แม่ก็คิดถึงลูก”
อุ้มวางสาย เสียงเคาะประตูดังขึ้น อุ้มเดินไปเปิดก็เจอเป๊ปยืนอยู่หน้าห้อง
“เสร็จยัง” เป็บถาม
“รอเดี๋ยวนะ เข้าห้องน้ำแป๊บเดียว” อุ้มบอก
“ไม่เป็นไร จะบอกว่าไม่ต้องรีบ เดี๋ยวชั้นกับนุ้ยจะออกไปดูของแถวนี้ก่อน เดี๋ยวไปเจอกันที่ร้านอาหารเลย”
“ก็ได้ เดี๋ยวเจอกัน”
เป๊บเดินออกไป อุ้มปิดประตูแล้วเดินเข้าห้องน้ำ

เป๊บเดินออกมาที่หน้าโรงแรมก็เจอนุ้ยกับวิทย์
“ว่าไง” นุ้ยถาม
“เรียบร้อย” เป็บตอบ
“พี่ว่าเราแอบถ่ายรูปไว้หน่อยดีมั้ย” วิทย์เสนอ
“อย่าเลย เดี๋ยวกัปตันจับได้จะถูกด่านะ” นุ้ยบอก
“ใช่ ปล่อยเค้าเถอะ เราไปหาอะไรกินกันดีกว่า” เป็บชวน
แล้วทั้งสามก็เดินออกไป

ธีระนั่งดื่มอยู่ในร้านอาหาร เขาหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกก่อนจะรอฟังเสียงปลายสาย
“แม่หรือครับ”
จินดาพูดโทรศัพท์อยู่ที่บ้าน
“ว่าไงลูก แม่กำลังคิดถึงลูกอยู่พอดี”
“แม่กินข้าวรึยัง” ธีระถาม
“ยังเลยลูก พักนี้แม่เบื่อๆ กินไม่ค่อยลง”
“เป็นอะไรรึเปล่าแม่”
“แม่ก็ไม่รู้ มันเบื่ออาหารน่ะ”
“ให้พี่แดงพาไปหาหมอมั้ยครับ” ธีระถาม
“อย่าไปพูดถึงเค้าเลย เค้าไม่มีเวลาให้เราหรอก”
“ทำไมพูดอย่างงั้นล่ะแม่ หรือว่าทะเลาะกัน”
“แม่จะไปทะเลาะกับใครได้ เดี๋ยวนี้พูดอะไรนิดพูดอะไรหน่อยก็ไม่เข้าหูเค้า”
“เอาน่า แม่ก็อย่าคิดมาก พี่แดงเค้ารักแม่จะตาย” ธีระบอก
“ไปเชื่อมัน คนที่รักแม่จริงมีแค่ลูกคนเดียว แล้วนี่ลูกกินข้าวรึยัง”
“กำลังจะกินอยู่นี่ครับ”
“ถ้างั้นก็กินเถอะลูก ไม่ต้องห่วงแม่นะ”
“แม่ต้องกินยาให้ตรงตามเวลานะระวังอย่าให้น้ำตาลขี้น” ธีระกำชับ
“จ้ะ ไม่ต้องห่วงแม่ ทำงานให้เต็มที่”
“ครับ แล้วแม่อยากได้อะไรมั้ย”
“แม่ไม่อยากได้อะไรหรอกลูก ขอให้ลูกของแม่เดินทางปลอดภัยก็พอแล้ว”
“แม่ก็ดูแลตัวเองนะครับ”
“จ้ะ ไม่ต้องห่วง แม่รักลูกนะ”
“ครับ ผมก็รักแม่”
จินดาวางสายแล้วยิ้มอย่างอิ่มใจ
ธีระปิดโทรศัพท์ ทันใดนั้นอุ้มก็เดินเข้ามามองซ้ายขวาจนเห็นธีระนั่งอยู่ที่โต๊ะ
“กัปตันทานร้านนี้เหมือนกันหรือคะ” อุ้มถาม
“ครับ แล้วนี่อุ้มมาคนเดียวหรือ”
“เปล่าค่ะ เดี๋ยวเป๊บกับนุ้ยตามมา”
“งั้นก็นั่งด้วยกันสิ ผมก็นัดวิทย์ไว้เหมือนกัน” ธีระบอก
“ก็ได้ค่ะ” อุ้มลงไปนั่งฝั่งตรงข้าม
“ดื่มอะไร ไวน์มั้ย”
“ไม่ค่ะ อุ้มไม่ดื่ม” พนักงานเดินเข้ามา อุ้มจึงหันไปสั่ง “orange juice please”
เสียงโทรศัพท์มือถือของธีระดังขึ้น ธีระกดรับ
“ว่าไงวิทย์”
วิทย์นั่งพูดโทรศัพท์อยู่กับเป๊ปและนุ้ย
“เผอิญผมเจอเพื่อนเก่าน่ะครับ กัปตันทานคนเดียวได้มั้ยครับ” วิทย์ถาม
“อ้าว หรือ ..โอเค” ธีระกดวางสาย
ทันใดนั้นเสียงมือถือของอุ้มก็ดัง อุ้มกดรับ
“ฮัลโหล ... นี่อยู่ไหนเนี่ย ชั้นนั่งรออยู่ที่โต๊ะกัปตันนะ”
“เออ ดีเลย แกกินข้าวกับกัปตันไปก่อนนะ ชั้นกับนุ้ยขอตัว” เป็บบอก
“อ้าว ทำไมล่ะ” อุ้มงง
“เผอิญชั้นเจอเพื่อนเก่า เค้าอยากเลี้ยงข้าวชั้น แกไม่ต้องห่วงนะ เจอกันพรุ่งนี้”
“เฮ้ย แต่ว่า ...” อุ้มจะต่อรองแต่เป๊บวางสายแล้วหันมายิ้มกับวิทย์และนุ้ย
ธีระมองหน้าอุ้ม
“มีอะไรหรือ”
“เป๊ปกับนุ้ยเค้าเจอเพื่อนน่ะค่ะ” อุ้มบอก
“ก็เลยไม่มาแล้ว”
“ค่ะ งั้นอุ้มขอตัวนะคะ”
“อ้าว แล้วคุณจะไปไหน ไม่อยู่ทานข้าวก่อนหรือ”
“เดี๋ยวอุ้มไปทานบะหมี่สำเร็จรูปบนห้องก็ได้ค่ะ”
“ไม่ต้องหรอก วิทย์ก็ไม่มาเหมือนกัน คุณอยู่ทานเป็นเพื่อนผมแล้วกัน”
“เอ่อ ...”
“ทำไม กลัวแฟนจะว่าหรือ” ธีระถามหยั่งเชิง
“เปล่าค่ะ อุ้มยังไม่มีแฟนค่ะ”
“งั้นก็นั่งทานเป็นเพื่อนผมได้สิ ผมก็ไม่มีแฟน สั่งอะไรเถอะ ผมหิวแล้ว”
“ค่ะ”
ธีระกับอุ้มเปิดเมนูดู
“คุณทานอะไร” ธีระถาม
“อะไรก็ได้ค่ะ อุ้มทานได้หมด”
“มาที่นี่ก็ต้อง เอสคาโก้ ทานได้มั้ย”
“ได้ค่ะ”
“ฟลัวการ์นะ”
“ได้ค่ะ”
“แล้วก็สลัดกุ้งดีมั้ย” ธีระถามต่อ
“ได้ค่ะ”
ธีระยิ้มขำ “คุณนี่น่ารักจริง ๆ ถามอะไรกินได้หมดทุกอย่าง”
อุ้มยิ้มเขิน พนักงานเดินเข้ามา ธีระจึงหันไปสั่ง

เป๊ป นุ้ย และวิทย์นั่งกินดื่มอยู่ในร้านอาหารอีกแห่งกลางเมือง
“ป่านนี้ไม่รู้ว่าสองคนนั่นจะเป็นไงมั่งเนอะ” เป็บเอ่ยขึ้น
“ก็คงนั่งจ้องหน้ากันน่ะสิ” วิทย์บอก
“หวังว่าเค้าคงจะกิ๊กกันนะ” นุ้ยพูด
“แหม อุ้มมันไม่ได้ขี้เหร่นะ สวยจะตาย”
“แต่เธอสองคนแน่ใจนะว่าอุ้มเค้าไม่มีแฟน เดี๋ยวกัปตันชั้นอกหักซ้ำสองขึ้นมา คราวนี้ตายแน่” วิทย์บอก
“รับรอง เป็บเป็นเพื่อนกับอุ้มตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย อุ้มมันไม่เคยมีแฟนแม้แต่คนเดียว”
“จริงหรือ เป็นเลสเบี้ยนรึเปล่า”
“ไม่ อุ้มมันเป็นคนช่างเลือก มีคนมาจีบมันเยอะแยะ แต่มันช่างติ บอกคนนั้นมีตำหนิ คนนี้ก็มีตำหนิ”
“ถ้าอย่างงั้นก็เสร็จกัปตัน เพราะกัปตันเพอเฟคไม่มีตำหนิอะไรเลย” วิทย์มั่นใจ
ทั้งสามหัวเราะให้กัน

ที่ร้านอาหารอีกแห่ง อุ้มหยิบน้ำส้มขึ้นจิบแล้วเหลือบมองธีระ ธีระมองหน้า อุ้มยิ้มเขิน ๆ
“ผมถามอะไรอย่างได้มั้ย”
“อะไรหรือคะ”
“ทำไมผู้หญิงถึงรับไม่ได้ที่ผู้ชายรักแม่”
อุ้มงง “เอ่อ หมายความว่าไงคะ อุ้มไม่เข้าใจ”
“ก็...สมมุติว่าคุณมีแฟน แล้วแฟนคุณเค้าให้ความสำคัญกับแม่เค้า อาจจะมากเกินไปซักนิด คุณจะรู้สึกยังไงกับแฟนคุณ”
“อืมม์ ... แล้วผู้ชายเค้ารักอุ้มมากหรือน้อยกว่าแม่เค้าล่ะคะ”
“รักเท่ากัน” ธีระตอบ
“เป็นไปได้หรือคะที่รักเท่ากัน”
“ทำไมคุณถึงไม่เชื่อ ว่ารักเท่ากัน”
“ก็ถ้าเป็นอุ้ม อุ้มก็ต้องรักพ่อแม่อุ้มมากกว่าแฟน”
“แล้วถ้าติดเกาะอยู่สามคน มีเรือมารับแต่ให้ไปได้แค่สองคนคุณจะเลือกไปกับใคร” ธีระถาม
“อุ้มก็ต้องเลือกไปกับแม่สิคะ”
“ไหนบอกเหตุผลซิทำไมคุณถึงเลือกแม่ไม่เลือกผม” ธีระหลุดปากออกไป อุ้มชะงักมองหน้าด้วยความงง
“เอ่อ .. ไม่ใช่ ... ผมหมายถึงแฟนคุณ”
“ก็แม่อุ้มช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นี่คะ แต่แฟนอุ้มเค้าต้องช่วยเหลือตัวเองได้มากกว่า แล้ววันนึงเค้าอาจจะรอดชีวิตกลับไปรักอุ้มได้อีก”
อุ้มพูดยิ้ม ๆ ธีระมอง
“อืมม์ เหตุผลของคุณก็ถูกนะ ถ้าอย่างงั้นผมก็ไม่ผิดที่เลือกแม่ ขอบคุณนะ”
อุ้มงง “เรื่องอะไรหรือคะ”
“ก็เรื่องติดเกาะบนเรือ”
“อ๋อ ค่ะ”
ธีระยิ้มให้ อุ้มเหลือบมอง ธีระจึงยกนิ้วโป้งให้แล้วพูด
“คุณทำให้ผมกระจ่างขึ้นเยอะเลย”
อุ้มยิ้มอย่างงง ๆ เพราะไม่เข้าใจ

อุ้มกับธีระเดินออกจากร้านอาหารมาตามทางในเมือง
“ผมว่าเราเดินย่อยอาหารกลับโรงแรมดีมั้ย” ธีระเสนอ
“ได้ค่ะ”
“เดี๋ยวตรงหัวโค้งมีร้านกาแฟอร่อย ผมขอซื้อกาแฟซักแก้วนะ”
“ได้ค่ะ”
ธีระยิ้มขำ “ผมน่าจะมีแฟนแบบคุณนะที่พูดอะไรก็ไม่เคยขัดเลย”
อุ้มชะงักแล้วยิ้มเขิน “เอ่อ ..”
“คุณไม่อยากมีแฟนเป็นกัปตันบ้างหรือ” ธีระถาม
อุ้มตกใจเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว “เอ่อ.. กัปตันว่าอะไรนะคะ”
“ผมถามว่าคุณน่ะไม่อยากมีแฟนเป็นกัปตันบ้างหรือ”
อุ้มอายจนหน้าแดง
“กัปตันอย่าเล่นมุขนี้เลยค่ะ นี่อุ้มก็อายแย่แล้ว”
อุ้มเดินหนีไป
“เดี๋ยวสิคุณอุ้ม นี่ผมไม่ได้เล่นมุขนะ”
อุ้มเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว ธีระวิ่งตามมาจนทัน
“ถึงร้านกาแฟแล้วค่ะ” อุ้มรีบบอก “กัปตันซื้อกาแฟก่อนนะคะ อุ้มหนาวขอกลับโรงแรมก่อนนะคะ”
อุ้มรีบเดินข้ามถนนไป ธีระมองตามอย่างขำๆ
“ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดพ.ศ. นี้” ธีระเปรยกับตัวเอง
อุ้มเดินไปจนห่างแล้วหันมามอง เธอเห็นธีระมองมา อุ้มรีบหันกลับไปและเดินชนเสา
“โอ๊ย ..”
ธีระเห็นอุ้มเดินชนก็พูดเสียงดัง
“ระวังครับคุณอุ้ม เดินดี ๆ”
อุ้มยิ่งอายจึงเดินก้มหน้าก้มตาเลี้ยวหายไป ธีระมองแล้วยิ้มขำ




รักคุณเท่าฟ้า ตอนที่ 4 (ต่อ)
อุ้มเดินเลี้ยวมาถึงมุมถนนแล้วก็หยุด
“นี่กัปตันเค้าพูดเล่นหรือพูดจริงกับเราเนี่ย”

เสียงโทรศัพท์ที่บ้านจินดาดัง อรซึ่งกำลังทำงานอยู่วิ่งมารับ
“สวัสดีค่ะ”
แดงพูดโทรศัพท์อยู่ที่ร้านขายต้นไม้ของกบ
“อรหรือ ขอสายคุณยายหน่อย”
“ซักครู่นะคะคุณแดง”
อรวางหูโทรศัพท์ไว้แล้วเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารที่จินดากำลังกินส้มตำ ไก่ย่างอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ ในมือของจินดาถือน่องไก่ชิ้นใหญ่
“คุณยายขา คุณแดงโทรมาค่ะ” อรบอก
จินดาได้ยินชื่อแดงก็ยังไม่หายโกรธจึงกัดเนื้อน่องไก่แล้วกระชาก
“บอกว่าข้าไม่อยู่”
“แต่คุณยายอยู่นี่คะ”
“ชั้นบอกให้แกไปบอกเค้าว่าไม่อยู่”
“ก็ได้ค่ะ” อรรีบเดินออกไป
อรเดินเข้ามาคว้าหูโทรศัพท์แล้วบอกแดง
“คุณแดงขา คุณยายให้บอกว่าไม่อยู่ค่ะ”
“บอกแม่ว่าชั้นมีธุระสำคัญจะพูดด้วย”
“สักครู่นะคะ” อรวางหูแล้ววิ่งกลับออกไป
อรวิ่งเข้ามาเรียกจินดา
“คุณยายขา”
“อะไรของเอ็งอีก” จินดาถาม
“คุณแดงบอกว่ามีธุระสำคัญค่ะ ขอพูดด้วยหน่อยเดียว”
“ก็ข้าให้เอ็งบอกเค้าไงว่าข้าไม่อยู่”
“หนูบอกไปแล้วค่ะว่าคุณยายบอกว่าไม่อยู่”
“นี่เอ็งบอกว่าข้าบอกหรือ” จินดาถาม
“ค่ะ”
“เอ็งนี่มันน่าเขกกระโหลกจริง ๆ ไปบอกเค้าว่าข้าหลับไปแล้ว อ้อ แล้วไม่ต้องบอกล่ะว่าข้าบอก”
“ค่ะ” อรรับคำแล้ววิ่งออกไป
อรวิ่งเข้ามายกหูพูดโทรศัพท์
“คุณแดงขา คุณยายหลับไปแล้วค่ะ”
“นี่อร ชั้นบอกว่ามีธุระสำคัญไง” แดงย้ำ
“หนูบอกแล้วค่ะ แต่แกหลับตาไปแล้ว”
แดงถอนใจอย่างเซ็งๆ “เออ งั้นแค่นี้นะ” แดงวางสาย “แม่นี่เอาแต่ใจจริง ๆ”
“ไม่โทรเข้ามือถือแกล่ะ” กบถาม
แดงกดโทรศัพท์โทรเข้ามือถือจินดาทันที
เสียงโทรศัพท์มือถือของจินดาดัง จินดาเหลือบมองโทรศัพท์มือถือที่วางบนโต๊ะ ขณะที่แดงรอฟังเสียงปลายสาย
“จะโทรมาง้อหรือ อย่าหวังเลย” จินดาพูด
อรได้ยินเสียงมือถือก็รีบวิ่งเข้ามา
“คุณยายขา มือถือดังค่ะ” อรบอก
“ข้ารู้แล้ว ข้าไม่ได้หูหนวก แต่ข้าไม่รับ”
แดงปิดโทรศัพท์ด้วยความโมโห
“ไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมแม่ถึงเป็นคนแบบนี้นะ” แดงเซ็ง
“อย่าโกรธแกเลยน่า คนแก่ก็แบบนี้แหละ แกก็อยากให้คนตามใจ” กบบอก
“แม่คุณก็เหมือนกัน นี่ดีนะที่ชั้นไม่ยอมอ่อนข้อให้ ไม่อย่างงั้นล่ะก็ คุณไม่มีวันได้แต่งกับชั้นหรอก”
“เอาล่ะ ผมขอโทษ งั้นขอให้คุณจัดการกับแม่คุณให้เหมือนกับแม่ผมแล้วกัน”
กบเดินออกไป แดงมองค้อน

จินดาทิ้งกระดูกไก่ลงในจาน
“นังอร เอาลอดช่องน้ำกะทิมากินซิ” จินดาสั่ง
“คุณยายขา ต้องเบรคก่อนนะคะ นี่คุณยายกินไก่ไปครึ่งตัว ส้มตำปูอีกจาน แล้วจะกินลอดช่องอีกหรือคะ”
“ทำไม ของคาวจบก็ต้องตบของหวาน”
“แล้วทำไมบอกคุณธีว่ากินไม่ลง”
“นี่เอ็งเป็นแม่ข้าหรือไง ถึงมาซักอยู่ได้ ไปเอาลอดช่องมา”
เสียงออดดังขึ้น จินดากับอรถึงกับชะงัก
“อย่าบอกนะคะว่าคุณแดงตามมาถึงบ้าน” อรเปรยขึ้น
“ถ้าเป็นนังแดงบอกว่าข้าไม่รับแขก” จินดาสั่ง
“ค่ะ” อรรับคำ
อรเดินออกไป จินดามองตามไปแล้วทำหน้าหยิ่งเหมือนไม่สนใจ

อรเดินมาที่หน้าประตูรั้วพอเธอเปิดประตูออกก็เจอคิตตี้ยืนยิ้มอยู่
“คุณคิตตี้”
“คุณแม่อยู่มั้ยอร” คิทตี้ถาม
“อยู่ค่ะ เชิญเลยค่ะ”
คิตตี้เดินเข้าไปในบ้าน อรปิดประตูแล้วเดินตาม

จินดากำลังตักลอดช่องกินอยู่ในบ้าน คิตตี้เดินเข้ามาด้านหลัง
“ใครมานังอร” จินดาถาม
“หนูเองค่ะ คิตตี้”
จินดาสำลักลอดช่องทันที
“อุ๊ย ขอโทษค่ะคุณแม่ มาค่ะหนูเช็ดให้”
คิตตี้หยิบทิชชู่มาจะเช็ดปากให้จินดา แต่จินดาดึงทิชชู่มาเช็ดเอง
“ไม่ต้อง ชั้นเช็ดเอง”
จินดาเช็ดปาก คิตตี้มองถ้วยขนมก็เห็นว่าเป็นลอดช่อง
“นี่คุณแม่ทานลอดช่องน้ำกระทิหรือคะ เป็นเบาหวานทานไม่ได้นะคะ”
คิตตี้จัดแจงยกถ้วยลอดช่องออกไป จินดามองนิ่งๆ เพราะไม่ทันได้ตั้งตัว
“คุณแม่ขา ห้ามทานเด็ดขาดนะคะ” คิทตี้บอก
“เอ่อ ... “
“นี่ค่ะทานผลไม้ดีกว่า หนูซื้อชมพู่มา อรจ๋าเอาไปล้างให้คุณยายทีอร”
“ค่ะ” อรรับคำ
คิตตี้ส่งถุงชมพู่ให้อร
“นี่หนูมาทำไมจ๊ะ” จินดาถาม
“ก็มาดูแลคุณแม่ไงคะ หนูบอกแล้วไงว่าหนูจะดูแลปรนนิบัติคุณแม่ไปจนวันตาย”
“ขอบใจนะ แต่ชั้นว่าชั้นดูแลตัวเองได้” จินดารีบบอก
“อย่าเกรงใจเลยค่ะคุณแม่ นี่ตี้กะว่าอาทิตย์หน้า ตี้จะเอาเสื้อผ้ามาอยู่ค้างกับคุณแม่ซะเลย จะได้อยู่กันอย่างใกล้ชิด คราวนี้พี่ธีก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงคุณแม่อีกต่อไปแล้ว”
จินดาอึ้ง อรยืนยิ้มให้ด้วยความรู้สึกขำปนสะใจ

เช้าวันใหม่ ธีระยืนรอใครสักคนอยู่หน้าโรงแรมในต่างประเทศ สักพักวิทย์ก็เดินออกมา
“อ้าว กัปตันอยู่นี่เอง ผมนึกว่าไปซื้อของแต่เช้า” วิทย์ทัก
“นอนไม่หลับน่ะ ก็เลยมาเดินเล่น” ธีระบอก
“ไปดูของเก่ากันมั้ยครับ” วิทย์ชวน
“ไม่ล่ะ คุณไปเถอะ”
“แล้วเมื่อคืนกินข้าวเป็นไงครับ”
“เป็นยังไง” ธีระถามกลับ
“ก็หมายความว่ากินข้าวคนเดียวอร่อยมั้ยครับ”
“อ๋อ เมื่อคืนเจออุ้ม ก็เลยกินกับอุ้มเค้า”
“เป็นไงครับ”
“ก็อร่อยดี”
“ผมหมายถึงน้องอุ้มน่ะครับ”
“ทำไม” ธีระตีหน้าเหมือนไม่เข้าใจ
“น่ารักมั้ยครับ”
“ก็ดี”
“หมายความว่ากัปตันชอบ”
“อ้าว ผู้หญิงสวยใครไม่ชอบ”
“ผมดีใจจริง ๆ ครับ กัปตันจะได้หายอกหักซะที”
“คุณนี่มันรู้มากจริงๆ จะไปไหนก็ไปเถอะ”
วิทย์เดินข้ามถนนออกไป ธีระยืนอมยิ้ม

เป๊บ นุ้ย และอุ้มเดินออกจากลิฟต์มาที่ล็อบบี้โรงแรม
“สรุปว่าแกชอบเค้ารึเปล่าล่ะ” เป็บถามเพื่อน
“เพิ่งคุยกันแค่ครั้งเดียว ยังบอกไม่ได้หรอก” อุ้มบอก
“งั้นก็แสดงว่าต้องมีครั้งต่อไป ใช่มั้ย” นุ้ยแหย่
“มันก็ต้องลองคบกันดูก่อน”
“ถ้างั้นก็ลองวันนี้อีกวันแล้วกัน” เป็บเสนอ
“หมายความว่าไง” อุ้มงง
“นั่นไง กัปตันเค้ายืนรออยู่นั่น” เป็บชี้ไปที่หน้าโรงแรม
ทั้งหมดมองออกไปก็เห็นธีระยืนรออยู่หน้าโรงแรม
“ชั้นว่ากัปตันเค้ารอแกนะ” นุ้ยบอก
อุ้มเขิน “แกก็พูดบ้า เค้ารอพี่วิทย์”
ทั้งสามเดินเข้าไปหาธีระ
“หวัดดีค่ะกัปตัน นี่รอพวกเราหรือคะ” เป็บถาม
“ก็ใช่สิ” ธีระตอบ
“แล้วพี่วิทย์ล่ะคะ” นุ้ยถามต่อ
“เค้าขอแยกตัวไปดูของเก่า”
“งั้นชั้นไปดูของเก่ากับพี่วิทย์ดีกว่านะนุ้ย” เป็บบอก
“เออ ชั้นไปด้วยคน ฝากอุ้มด้วยนะคะกัปตัน” นุ้ยพูด
“เฮ้ย เดี๋ยวสิ ชั้นไปด้วย” อุ้มพยายามบอกเพื่อน
“แกจะไปทำไม แกไม่ชอบร้านของเก่าไม่ใช่หรือ”
“ใช่ แกไปเที่ยวกับกัปตันดีแล้ว ให้กัปตันพาเที่ยว” นุ้ยเสริม
“รถมาแล้วไปเหอะ”
นุ้ยกับเป๊ปรีบวิ่งข้ามถนนออกไป อุ้มมองหน้าธีระอย่างเขิน ๆ
“คุณอยากไปเที่ยวไหน” ธีระถาม
“เอ่อ ..”
“ผมรู้แล้ว เราไปหาซื้อคุกกี้ซินนามอนให้แม่ผมดีกว่า”
“ก็ได้ค่ะ”
“งั้นก็ไป” ธีระคว้ามืออุ้ม อุ้มสะดุ้ง
“อุ๊ย ...”
“ผมจะจูงคุณข้ามถนน” ธีระบอก
“ค่ะ”
ธีระจูงมืออุ้มเดินข้ามถนนไป

ธีระจูงอุ้มเดินไปเรื่อยๆ อุ้มเหลือบมองธีระ
“ไปดูร้านนู้นมั้ย” ธีระถาม
“ค่ะ” อุ้มรับคำ
ธีระจูงมืออุ้มเดินเข้าไปในร้านขนม ธีระกับอุ้มเดินดูขนมไปเรื่อยๆ แล้วจึงถามคนขาย คนขายส่ายหน้าตอบว่าไม่มี
ธีระจูงมืออุ้มเดินออกจากร้านขนมแล้วมองหาร้านค้า อุ้มเหลือบมองธีระ
“กัปตันคะ”
“หือม์”
“กัปตันจะข้ามถนนอีกรึเปล่าคะ” อุ้มถาม
“ทำไม”
“ถ้าไม่ข้ามถนนก็ไม่ต้องจูงอุ้มแล้วล่ะค่ะ”
ธีระทำเป็นตกใจแล้วจับมืออุ้มขึ้นมากุม “ขอโทษ ผมลืมไป นึกว่าจูงแฟนเดินอยู่” อุ้มทำหน้าไม่ถูกแต่ก็ยังมองหน้าธีระ “ผมหมายถึงแฟนคนเก่าน่ะ”
อุ้มเขิน “อ๋อค่ะ” อุ้มดึงมือออกอย่างเขินๆ “อุ้มว่าร้านนู้นน่าจะมีนะคะ”
อุ้มเดินผ่านไป ธีระอมยิ้มแล้วเดินตาม

อุ้มกับธีระเดินและชี้ชวนกันคุยโน่นคุยนี่มาตามทางในเมือง อุ้มมีท่าทีเขินอายในระหว่างที่คุยกับธีระ

เครื่องบินแลนด์ดิ้งลงสนามบินสุวรรณภูมิ ธีระเดินออกมากับวิทย์ เป๊บ นุ้ยเดินขนาบอุ้มออกมาจากออฟฟิศ ทั้งกลุ่มเห็นธีระ เป๊บกระซิบแซวอุ้มเรื่องธีระ อุ้มตีเพื่อนด้วยความเขิน
อุ้ม เป๊บ และนุ้ยเดินผ่านธีระ เป๊บกับนุ้ยทำเป็นไม่มอง ธีระยิ้มให้อุ้ม อุ้มสบตาแล้วยิ้มเขิน นุ้ยกระซิบบอกว่ากัปตันชอบอุ้มแน่ๆ ทำให้อุ้มยิ่งอาย

อุ้มเดินมาที่รถของตัวเองที่จอดอยู่ในลานจอดรถของออฟฟิศ เธอวางของลงบนกระโปรงรถ อุ้มเปิดกระเป๋าแล้วควานหากุญแจ
“อ้าว ตายแล้ว กุญแจรถหายไปไหน”
อุ้มรื้อดูของในกระเป๋าแต่ก็ไม่เจอกุญแจ
“อย่าบอกนะว่ากุญแจหาย”
อุ้มพยายามดึงประตูรถเพื่อเปิด เธอเดินรอบรถเพื่อมองหากุญแจแล้วจึงก้มลงมองใต้ท้องรถ ทันใดนั้นธีระก็ขับรถเข้ามาจอดข้างๆ
“หาอะไรอยู่ครับ”
“กุญแจรถน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าอุ้มไปลืมไว้ที่ไหน”
“อยู่ในลอกเกอร์รึเปล่าครับ”
“ไม่น่ามีหรอกค่ะ อุ้มเพิ่งเอากระเป๋ามาจากลอกเกอร์”
“แล้วคุณจะกลับบ้านยังไงครับ” ธีระถาม
“คงต้องเรียกรถที่แอร์พอร์ตไปส่งน่ะค่ะ”
“งั้นไปรถผมดีกว่า ผมไปส่งให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ เชิญกัปตันเถอะ”
“ไม่เป็นไรครับ มาครับ ผมช่วย”
ธีระลงจากรถแล้วช่วยหยิบกระเป๋าเดินทางของอุ้มใส่รถตัวเอง
“แต่ ...” อุ้มอึกอัก
“เชื่อผมเถอะครับ ผมอยากไปส่ง จะได้รู้จักบ้านคุณด้วย”
ธีระเปิดประตูรถให้ อุ้มมองหน้า
“เชิญครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
อุ้มขึ้นไปนั่งบนรถของธีระ ธีระปิดประตูแล้วขึ้นรถก่อนจะขับออกไป

ธีระซึ่งกำลังขับรถอยู่หันมาถามอุ้ม
“คุณอุ้มพักอยู่ที่ไหนครับ”
“บ้านอุ้มอยู่อัมพวาค่ะ” อุ้มบอก
“อัมพวาหรือครับ”
“ใช่ค่ะ อุ้มถึงไม่อยากให้กัปตันไปส่งมันไกลน่ะค่ะ เดี๋ยวลงทางด่วนแล้ว อุ้มลงก็ได้นะคะ”
“ผมทำอย่างงั้นไม่ได้หรอกครับ จะปล่อยให้ลูกน้องลงกลางทางได้ยังไง โดยเฉพาะลูกน้องสวยๆยิ่งอันตรายใหญ่”
ธีระพูดแซว อุ้มยิ้มเขิน
“ผมพูดเล่นน่ะ ดีเลยครับ ผมไม่เคยไปอัมพวา วันนี้จะได้ไปเที่ยวอัมพวาซะหน่อย”
ธีระยิ้มให้ อุ้มนั่งอมยิ้ม

รถของธีระวิ่งไปตามทางเลียบลำคลอง แดดลอดต้นมะพร้าวลงมาเป็นลำ สวนมะพร้าวเป็นทิวอยู่ข้างทาง
รถของธีระเลี้ยวเข้ามาจอดหน้าบ้านอุ้ม อุ้มเปิดประตูก้าวลงมาหยิบของหลังรถ ธีระลงตามมา
“ที่นี่สวยมากนะครับ” ธีระเอ่ยชม
“ก็สวยแบบบ้านนอกน่ะค่ะ เชิญกัปตันทานน้ำก่อนค่ะ”
อุ้มถือกระเป๋าและของฝากเดินเข้าไปในบ้าน ธีระมองบรรยากาศรอบตัวอย่างสดชื่นเดินตามไป

อุ้มเดินขึ้นบ้านมาเจอแม่กับพ่อ
“หวัดดีค่ะแม่ หวัดดีค่ะพ่อ”
“มาแล้วหรือลูก” แม่ทักลูกสาว
“แล้วนี่หอบอะไรมาเยอะแยะ” พ่อของอุ้มถาม
“ก็ของพ่อทั้งนั้น” อุ้มบอก
“ของพ่ออะไร ของแม่แกล่ะไม่ว่า” พ่อแหย่
ธีระเดินตามขึ้นมา พ่อกับแม่หันไปมอง
“อ้าว แล้วนั่นใครมาด้วย” พ่อถาม
“กัปตันธีระน่ะค่ะ กัปตันคะนี่คุณพ่อคุณแม่อุ้มค่ะ”
ธีระยกมือไหว้ “สวัสดีครับ คุณพ่อคุณแม่”
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ เชิญข้างในก่อนเลยค่ะ กัปตัน”
“ผมว่าตรงระเบียงดีกว่าครับ อากาศดีจัง”
ธีระหันหลังแล้วเดินไปที่ระเบียงติดคลองก่อนจะมองไปรอบๆ บริเวณ พ่อกับแม่อุ้มกระซิบถามลูกสาว
“แฟนหรือ”
“ทำไมไม่บอกแม่ว่ามีแฟนมาด้วย” แม่ถาม
“ไม่ใช่” อุ้มตอบ
ธีระหันมาถาม “ในคลองนี่มีปลารึเปล่าครับ”
“มีค่ะ ส่วนใหญ่คนที่นี่ก็จับปลาในคลองนี่มากินแหละค่ะ” แม่ของอุ้มตอบ
ธีระมองเห็นป้ายโฮมเสตย์ “ที่นี่เป็นโฮมสเตย์ด้วยหรือครับ”
“ค่ะ”
“ดีเลย งั้นคืนนี้ผมขอค้างที่นี่ซักคืนนะครับ” ธีระบอก
“กัปตันคะ ที่นี่มันไม่สะดวกเหมือนโรงแรมในเมืองนะคะ” อุ้มออกตัว
“นั่นสิคะ แม่ว่ากัปตันไปดูห้องก่อนดีกว่ามั้ยคะ ห้องมันเล็กๆมีแค่ที่นอนแล้วก็พัดลมนะคะ”
“แค่นั้นก็พอแล้วล่ะครับ” ธีระบอก
“งั้นเดี๋ยวผมพาไปดูห้อง จะเลือกวิวดีๆให้กัปตันเลยครับเชิญครับเชิญ” พ่อเชิญ
พ่อเดินนำออกไป ธีระเดินตามพ่อออกไป
“แม่ ให้เค้าพักทำไม” อุ้มถาม
“อ้าว ก็เขาบอกจะพักเราไม่ให้พักได้ไง เอาล่ะ แม่ไปเตรียมกับข้าวก่อนดีกว่า”
แม่เดินออกไป อุ้มมองตามไปทางธีระด้วยความประหม่า
“ทำไมอยู่ ๆ อยากมาพักที่บ้านเรา”
จบตอนที่ 4



กำลังโหลดความคิดเห็น