xs
xsm
sm
md
lg

รักคุณเท่าฟ้า ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รักคุณเท่าฟ้า ตอนที่ 3
พิมกับธีระเดินเล่นอยู่ในshopping mall พิมชี้ชวนให้ธีระดูของ ธีระพยักหน้ารับรู้แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนักเพราะเขากำลังคิดเรื่องแม่อยู่
“ไปดูร้านนู้นดีกว่าค่ะ” พิมชวน
พิมจูงมือธีระแล้วพาเดินไปร้านขายกรอบรูป

พิมเดินดูของอยู่ในร้านขายกรอบรูป เธอหยิบกรอบรูปขึ้นมาสองอันแล้วยื่นให้ธีระดู
“ธีว่าสองอันนี้ อันไหนเหมาะที่จะใส่รูปแต่งงานของเราคะ อันนี้ดีมั้ย” พิมถาม ธีระมอง “แต่พิมก็ชอบอันนี้”
“แล้วแต่พิม พิมชอบอันไหนก็เอาอันนั้น” ธีระบอก
“ไม่สิ พิมอยากให้ธีชอบด้วย”
“อืมม์ งั้นอันนี้ก็ได้”
“เอ๊ะ หรืออันนี้ดีคะ”
“อันไหนก็ได้พิมเลือกไปเถอะ”
พูดจบธีระก็ยืนเหม่อ พิมมองแล้วก็เอ่ยถาม
“แล้วธีได้คุยกับสถาปนิกเรื่องบ้านรึยัง”
“ยังเลย มัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องแม่ เลยไม่ได้คุยซะที” ธีระบอก
“พิมว่าควรจะคุยได้แล้วนะ เพราะกว่าจะปลูกบ้านก็อีกเป็นปี”
“หรือว่าเราไม่ต้องปลูกดี”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ” พิมงง
“ผมมาคิดๆดู แม่ผมก็ไม่สบายอยู่บ่อย ๆ แล้วไม่มีใครอยู่กับแก นอกจากเด็กรับใช้ผมก็เลยคิดว่าหรือเราควรจะไปอยู่บ้านแม่ ผมจะได้ดูแลแกด้วย”
พิมนิ่งไป
“พิมว่าไง” ธีระถามย้ำ
“แต่พิมอยากอยู่ส่วนตัวมากกว่า แล้วบ้านที่ปลูกใหม่ก็อยู่ติดกับคุณแม่ ธีก็ไปดูได้ตลอดเวลานี่คะ”
“อืมม์ ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้ผมจะคุยกับสถาปนิกแล้วกัน คุณดูของร้านนี้ก่อนนะ”
“แล้วคุณจะไปไหน”
“ผมจะไปซื้ออาหารมังสวิรัติให้แม่หน่อย คุณเอาอะไรมั้ย”
“ไม่ค่ะ”
ธีระเดินออกไปจากร้าน พิมมองตามแล้วหยิบกรอบรูปในมือขึ้นมาดูก่อนจะวางลง พิมมองตามไปก็เห็นธีระเดินห่างออกไป

พิมนั่งเหม่อเพราะคิดเรื่องธีระอยู่ในบ้าน สุนีย์ถือขนมปังหน้าหมูเดินเข้ามาชะงักมองลูกสาวที่นั่งเหม่ออยู่
“พิม” สุนีย์เรียก
“ขา”
“ขนมปังหน้าหมูลูก ร้อนๆเลย” สุนีย์บอก สาวใช้ถือกาแฟเย็นเดินตามมาให้ “นี่จ้ะกาแฟเย็น”
“ขอบคุณค่ะแม่”
พิมหยิบแก้วกาแฟเย็นมาแล้วเอาหลอดคนเล่น สุนีย์มองลูกสาวแล้วตัดสินใจถาม
“คิดอะไรอยู่ลูก เล่าให้แม่ฟังได้มั้ย”
“หนูรู้สึกไม่มั่นใจที่จะแต่งงานแล้วค่ะ” พิมบอก
“อ้าว ทำไมล่ะลูก หรือว่าธีเค้าไม่อยากแต่ง”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ หนูเพียงแต่คิดว่าธีเค้ารักแม่เค้ามากกว่าหนู”
“ทำไมคิดเรื่องนี้อีกแล้วล่ะ แม่บอกแล้วไงว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติหรือหนูจะบอกว่าหนูรักธีมากกว่าแม่”
“มันไม่ใช่อย่างงั้นค่ะแม่ หนูรักแม่นะคะ แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องของแม่จะต้องสำคัญที่สุดทุกเรื่อง มันก็ต้องมีเรื่องของธีหรือเรื่องของหนูสำคัญมากกว่าในบางเรื่อง”
“มันก็ถูกของลูก แต่ตอนนี้แม่เค้าไม่สบาย ธีเค้าก็ต้องให้ความสำคัญแม่เค้ามากกว่าหนูหน่อยนึง”
“มันไม่หน่อยนะคะแม่ หนูว่าเค้าให้ทั้งหมดเลยไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแม่เค้าต้องมาก่อน”
“ถ้าใครได้ยินลูกพูดแบบนี้ เค้าจะคิดว่าลูกอิจฉาแม่เค้านะ”
“หนูไม่ได้อิจฉานะคะ หนูแค่อยากให้ธีแชร์ความรู้สึกให้หนูบ้าง”
“แม่ว่าเอาอย่างนี้ดีกว่ามั้ย ทางที่ดีหนูควรจะทำตัวให้ใกล้ชิดแม่เค้ามากกว่านี้ หนูจะได้รู้สึกเป็นส่วนนึงของครอบครัวเค้า”
พิมมองหน้าแม่แล้วเอ่ยถาม
“มันจำเป็นด้วยหรือคะ”
“รู้มั้ย ตอนแม่แต่งงานกับพ่อ แม่ต้องใช้เวลาพิสูจน์กับคุณย่าตั้งสิบปี กว่าคุณย่าจะยอมรับแม่” พิมนิ่งฟัง “แม่ว่าตอนนี้ลูกกำลังรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินของครอบครัวเค้า เชื่อแม่ เข้าไปใกล้ชิดแม่เค้าซักนิดแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น”
“ก็ได้ค่ะ หนูจะทำตามที่แม่บอก” พิมบอก
สุนีย์ดึงลูกสาวเข้ามากอด

จินดาคุยกับธีระอยู่ในบ้านของเธอ
“แม่ว่าลูกอย่าแต่งเลยนะ ลูกแต่งทีไรแม่เข้าโรงพยาบาลทุกทีสงสัยดวงแม่จะชงกับงานแต่งลูก” จินดาบอก
“ไม่เกี่ยวหรอกครับแม่ แม่แก่แล้วสุขภาพมันก็ไม่แข็งแรงเป็นธรรมดา”
“แล้วถ้าคราวนี้แม่เกิดเป็นอะไรขึ้นมาอีกล่ะ” จินดาถามลองใจ
“แม่ไม่ต้องห่วง วันงานผมจะจ้างพยาบาลมาประกบแม่ไว้สองคนเลย”
“ไม่ว่ายังไงลูกก็จะต้องแต่งใช่มั้ยล่ะ”
“ใช่ครับ คราวนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมก็จะไม่ล้มเลิกงานแต่งงาน”
“เอา ก็แล้วแต่ลูก ถ้าแม่ไปไม่ไหวก็อย่าว่าแล้วกันนะ”
“ต้องไหวสิครับแม่ มันเป็นวันสำคัญของผม ผมอยากให้แม่ไปด้วยนะ” ธีระบอก
“ถ้าลูกพูดอย่างงั้นถึงตายแม่ก็ต้องไป”
จินดาฝืนยิ้มให้กับธีระ

ธีระเดินออกมาที่หน้าบ้านจินดา โดยมีอรเดินตามมาส่ง
“อร ดูแลคุณยายให้ดีนะ” ธีระกำชับ
“ค่ะ” อรรับคำ
“อย่าเอาขนมหวานหรืออะไรที่มีน้ำตาลให้คุณยายกิน เข้าใจมั้ย”
“ค่ะ อรจะดูแลคุณยายให้ดีที่สุด ไม่ให้มดไต่ไรตอมเลยค่ะ”
“ดีมาก เอา ชั้นให้แกกินขนมพิเศษร้อยนึง” ธีระหยิบเงินให้
“ขอบคุณค่ะ”
ธีระขึ้นรถแล้วขับออก อรมองตามจนรถแล่นพ้นสายตาไป

จินดานั่งหน้าเครียดอยู่ในบ้านเพราะนึกถึงคำที่ลูกชายบอก
“คราวนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมก็จะไม่ล้มเลิกงานแต่งงาน”
อรถือยาเข้ามายื่นให้จินดา
“คุณยายขา ถึงเวลาทานยาแล้วค่ะ”
จินดาปัดทิ้ง “ชั้นไม่กิน”
“อ้าว คุณยาย ทำไมทำอย่างนี้ล่ะคะ” อรงง
“ก็ชั้นบอกว่าชั้นไม่กิน”
“ไม่กินไม่ได้นะคะ เดี๋ยวน้ำตาลขึ้น ช๊อคตายนะคะ”
“ช๊อคตายสิดี จะได้ไม่ต้องไปงานแต่งงาน”
“คุณยายคะ หนูถามจริงๆเถอะ ทำไมถึงกีดกันไม่ให้เค้าแต่งงานกัน”
“ใครบอกเอ็งว่าข้ากีดกัน” จินดาย้อนถาม
“หน้าต่างมีหูประตูมีปากนะคะ หนูได้ยินคุณยายพูดกับก๊วนเพื่อนทั้งหมดแหละค่ะ”
“นี่แกแอบฟังงั้นหรือ”
“หนูไม่ได้แอบฟังนะคะ คุณยายพูดออกดัง อยู่ข้างนอกก็ได้ยิน แต่ไม่ต้องกลัวหรอกนะคะ หนูจะไม่บอกคุณธีหรอก”
“จริงนะ สาบานให้เอ็งตกนรก”
“ค่ะ สาบาน แล้วบอกได้รึยังว่าทำไมไม่อยากให้เค้าแต่งงานกัน” อรถามย้ำ
“พูดไปเอ็งก็ไม่รู้หรอกเพราะเอ็งไม่เคยมีผัว”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกันคะ”
“เกี่ยวสิ ไม่มีผัวก็ไม่มีลูก เอ็งไม่มีลูก เอ็งก็ไม่รู้หรอกกว่าการอุ้มท้องเก้าเดือนมันเป็นยังไง เราเลี้ยงเราฟูมฟักของเรามาแต่อ้อนแต่ออก อยู่ๆก็มีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาควักสิ่งที่เรารักไป”
“มันน่าหวงขนาดนั้นเลยหรือคะ”
“เอ็งลองคิดดู ถ้าเอ็งเป็นมะเร็งเต้านม แล้วหมอเค้าคว้านนมเอ็งออกไป เอ็งจะรู้สึกยังไง”
อรมองหน้าอกตัวเอง “มันก็ใจหายนะคะ เรามีสองเต้าของเรามาตั้งแต่เกิด อยู่ๆถูกตัดทิ้งไป หนูคงทำใจไม่ได้”
“นั่นแหละ เข้าใจแล้วใช่มั้ย ว่าทำไมข้าไม่อยากให้ลูกข้าแต่งงาน”
“แล้วคุณแดงล่ะคะ ทำไมถึงยอมให้แต่ง เอ๊ะ หรือคุณแดงไม่ใช่ ลูกคุณยาย”
“มันไม่เหมือนกัน นังแดงมันเป็นผู้หญิง ผู้หญิงเราต่อให้แต่งงานมีผัวมันก็ไม่ทุ่มเทหัวใจให้ผัวมันคนเดียว แต่ผู้ชายสิพอมันมีเมีย มันก็จะลืมแม่มันก็จะเห็นเมียมันดีกว่าแม่”
“อืมม์ ก็จริงของคุณยาย ถึงวันนึงหนูมีผัวหนูก็คงรักคุณยายมากกว่าผัว”
“เอ็งอย่ามาสอพลอ หนอย จะมาหลอกไถเงินข้าล่ะสิ หน้าอย่างเอ็งต้องหลงผัว” จินดาว่า อรมองค้อน

เช้าวันใหม่ ธีระยื่นการ์ดแต่งงานให้เพื่อนที่อยู่ในออฟฟิศ
“ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ถ้าครั้งหน้าไม่ไปแล้วนะ” เพื่อนแซว
“รับรองครั้งนี้แต่งแน่” ธีระบอก
“เออ แล้วเจอกัน”
เพื่อนเดินแยกออกไป ธีระพูดกับแอร์โฮสเตสอีกคน
“พี่เอียดต้องไปนะครับ”
“ไปอยู่แล้วจ้ะ สองครั้งที่แล้วพี่ก็ไปนะ แน่ะว่าที่เจ้าสาวมาแล้ว”
พิมลากกระเป๋าเดินเข้ามาหาพร้อมกับถือถุงของที่ซื้อมาจากduty free
“หวัดดีค่ะพี่เอียด” พิมทัก
“หวัดดีจ้ะ” เอียดรับคำแล้วก็เดินแยกไป
“เหนื่อยมั้ยไฟลท์นี้” ธีระถาม
“ไม่เลยค่ะ เห็นหน้าคุณก็หายเหนื่อยแล้ว”
“นี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะ”
“เป๋าฮื้อน่ะค่ะ พิมจะให้เด็กที่บ้านตุ๋นไปให้แม่ธี แล้วธีไม่ต้องห่วงนะคะระหว่างที่ธีไม่อยู่ พิมจะไปดูแลคุณแม่แทนคุณ”
“จ้ะ ขอบคุณมากจ้ะ ผมฝากแม่ด้วยนะ”
“ค่ะ ไม่ต้องห่วง แม่คุณก็เหมือนแม่พิม”
ธีระจับมือพิม “ผมดีใจจริงๆ ที่พิมรักแม่ผม”
ธีระดึงพิมมากอด พิมฝืนยิ้มให้
“ผมไปนะ เจอกันวันพุธ”
“ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ”
“จ้ะ”
ธีระจูบหน้าผากพิมก่อนจะเดินออกไป พิมมองตามแล้วหันมาดูถุงเป๋าฮื้อในมือก่อนจะยิ้มกับตัวเอง
“หวังว่าแม่คุณคงจะชอบเป๋าฮื้อนะ”

จินดาเปิดสมุดโทรศัพท์ เธอไล่ตามตัวอักษรไปเรื่อยๆ อรเดินเข้ามามองด้วยความสงสัย
“คุณยายหาอะไรอยู่คะ” อรถาม
“หาเบอร์คิตตี้ เอ็งเคยเห็นบ้างมั้ย ว่าจดไว้ที่ไหน” จินดาถามกลับ
“คุณยายก็เปิดอักษรคอควายสิคะ”
“ก็เปิดอยู่นี่ไง มันไม่มี”
อรชะโงกหน้าเข้ามามอง
“มันใช่ที่ไหนล่ะคะคุณยาย นี่มันศอศาลา มาค่ะ หนูหาให้” อรเปิดหาจนเจอชื่อและเบอร์คิตตี้ “นี่ไง คิตตี้”
จินดาหยิบโทรศัพท์ “เอ็งอ่านมาซิเบอร์อะไร”
“เดี๋ยวค่ะคุณยาย คิตตี้นี่ใครคะ”
“แฟนเก่าคุณธีเค้าสมัยเรียนหนังสือ”
“แล้วจะโทรหาเค้าทำไมคะ”
“ไม่ใช่เรื่องของเอ็ง อย่าสอด บอกมาซิเบอร์อะไร”
“0 8 1 …” อรบอกหมายเลขจนครบ
จินดากดหมายเลขโทรออกทันที

คิตตี้นั่งพิมพ์งานในโน้ตบุ๊คอยู่ในกาแฟ สักพักเสียงมือถือของเธอก็ดัง พิมกดรับ
“ฮัลโหล”
“หนูคิตตี้หรือจ๊ะ”
“ค่ะ ขอโทษค่ะนั่นใครพูดสายคะ”
“นี่แม่กัปตันธีจ้ะ”
“อ้าว สวัสดีค่ะคุณแม่ นี่คุณแม่หายดีแล้วหรือคะ”
“จะว่าดีก็ยังไม่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกลูก”
“คุณแม่มีอะไรให้ตี้รับใช้หรือคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกลูก อยู่ๆก็คิดถึงหนูตี้ขึ้นมา ก็เลยโทรมาขอบคุณที่วันนั้นอุตส่าห์ไปเยี่ยมแม่”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณแม่”
“ช่วงนี้แม่อยู่บ้านคนเดียวเหงาๆ ตาธีเค้าก็ไปบินไม่มีเพื่อนคุย อยู่ๆแม่ก็คิดถึงหนูขึ้นมา ทำไมมันถึงรู้สึกผูกพันกับหนูก็ไม่รู้”
อรมองจินดาอย่างสงสัย
“จริงหรือคะ” คิตตี้ดีใจ
“จริงสิ ถ้าไม่คิดถึงแม่จะโทรหาหนูทำไม”
“งั้นบ่ายนี้ตี้ว่าง ตี้ไปหาคุณแม่ดีมั้ยคะ คุณแม่อยากทานอะไรคะตี้จะซื้อไปฝาก”
“ไม่ต้องหรอกลูก ขอแค่หนูมาแม่ก็อิ่มสุขแล้ว”
อรมองแล้วส่ายหน้าด้วยความหมั่นไส้ในน้ำเสียงอ่อนหวานของจินดา
“งั้นเดี๋ยวเจอกันค่ะ” คิตตี้พูดแล้ววางสาย
จินดาปิดโทรศัพท์
“นี่คุณยายมีแผนใช่มั้ยคะ” อรถาม
“แผนอะไร”
“ก็คิดจะยืมมือคุณคิตตี้ทำลายงานแต่งงานลูกชายเป็นครั้งที่สามใช่มั้ยคะ”
“แกนี่ก็ฉลาดไม่เบา ถ้าแกสวยกว่านี้ซักหน่อย ชั้นเอาเป็นลูกสะใภ้แล้ว”
จินดาเดินออกไป อรมองตามแล้วพึมพำกับตัวเอง
“คุณยายนี่ นางมารตัวแม่เลยนะเนี่ย”




รักคุณเท่าฟ้า ตอนที่ 3 (ต่อ)
พิมเดินลงมาจากบ้าน เธอเห็นพ่อของตัวเองกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ด้านล่าง
“อ้าว จะไปไหนลูก” พจเอ่ยถาม
“จะไปเยี่ยมคุณแม่ธีน่ะค่ะ พ่อมีอะไรหรือคะ”
“จะชวนไปตีกอลฟกันหน่อย”
“อาทิตย์หน้าได้มั้ยคะ พอดีหนูรับปากธีว่าช่วงเค้าบินหนูจะไปอยู่เป็นเพื่อนแม่เค้า”
“เออ พ่อว่าดีแล้ว เค้าไปใกล้ชิดเรียนรู้กับแม่เค้าพอแต่งงานไปจะได้ไม่มีปัญหากันทีหลัง”
สุนีย์เดินออกมาพร้อมหม้อตุ๋นเป๋าฮื้อในมือ
“เป๋าฮื้อตุ๋นได้แล้วลูก ไปถึงก็ตักใส่ชามให้แม่เค้ากินร้อน ๆ เลยนะ”
“ค่ะ หนูไปก่อนนะคะ ไปแล้วค่ะพ่อ”
พิมเดินออก พจกับสุนีย์มองตามอย่างเอาใจช่วยลูกสาว
“หวังว่าทุกอย่างคงจะไปได้สวยนะ”
“ค่ะ แค่ยัยพิมยอมเข้าหาเค้าซะหน่อย ทุกอย่างมันก็จบ จำชั้นกับแม่คุณไม่ได้หรือ”
“ผมถึงรักคุณไง”
พจดึงสุนีย์เข้ามากอด

พัดลมในบ้านจินดาหมุนคว้าง ขณะที่จินดากำลังนั่งหลับอยู่ ทันใดนั้นเสียงออดก็ดังขึ้น จินดาสะดุ้งตื่น
“ไอ้อรเอ๊ย ไปดูซิใครมา”
อรรับคำ “ค่ะ”
อรวิ่งออกไปที่หน้าบ้าน

อรเดินออกมาเปิดประตูรั้วบ้าน โดยที่คิตตี้กำลังถือถุงอาหารยืนอยู่ที่หน้ารั้ว
“หวัดดีค่ะ มาหาใครคะ” อรถาม
“มาหาคุณแม่จินดาค่ะ” คิตตี้บอก
“อ๋อ ถ้างั้นคุณก็คือ คุณคิตตี้ใช่มั้ยคะ”
“ใช่จ้ะ”
“งั้นเชิญเลยค่ะ คุณยายรออยู่ในบ้าน”
คิตตี้เดินเข้าไป อรเดินตาม

คิตตี้เดินเข้ามาในบ้าน เธอยกมือไหว้จินดาอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะคุณแม่”
“หวัดดีจ้ะลูก” จินดารับไหว้
“หนูซื้อของมาฝากคุณแม่เต็มเลยค่ะ”
“ซื้อมาทำไมเยอะแยะ แม่เป็นเบาหวานหมอเค้าไม่ให้กินอะไรมาก”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ นี่ตี้เลือกเฉพาะของที่คนเป็นเบาหวานทานได้หมดเลยค่ะ”
“หนูตี้นี่น่ารักจริง ๆ”
อรยืนมองพฤติกรรมของทั้งคู่อยู่ จินดาหันมาเห็นก็ออกคำสั่ง
“เอ้า ไอ้อร มัวแต่ยืนมองอยู่ได้ ไปเอาน้ำเอาท่ามาให้คุณคิตตี้เค้าสิ”
“ขอโทษค่ะ” อรบอก “หนูเห็นคุณคิตตี้แกสวยน่ารักหนูเลยมองเพลินไปหน่อย”
คิตตี้ส่งถุงอาหารให้ “เอา อร เอาของไปใส่จานให้คุณแม่ แล้วห่อนี้ให้เธอ”
“ขอบคุณค่ะ” อรรับของแล้วเดินออกไป
“พี่ธีไปบินหรือคะ” คิทตี้ถาม
“จ้ะ อีกสองวันกลับ” จินดาตอบ
“ถ้างั้นหนูจะมาอยู่เป็นเพื่อนคุยคุณแม่ทุกวันเลยดีมั้ยคะ”
“ดีจ้ะลูก”
เสียงออดดังขึ้น ทั้งสองชะงัก
“ใครมาอีก ไอ้อร ไปดูซิใครมา” จินดาตะโกน
“ค่ะ”
“ไม่ต้องจ้ะ เดี๋ยวชั้นไปเปิดให้” คิตตี้บอกกับอรแล้วหันไปพูดกับจินดา “หนูไปเปิดให้ค่ะ”
คิตตี้ลุกเดินออกไป จินดามองตามแล้วยิ้ม

คิตตี้เดินมาเปิดประตู เธอเห็นพิมยืนอยู่หน้าบ้าน ทั้งสองต่างก็ชะงัก
“คุณคิตตี้”
“หวัดดีค่ะพี่พิม”
“มาหาธีหรือคะ” พิมถาม
“อ๋อ เปล่าค่ะ มาเยี่ยมคุณแม่ เห็นแกโทรไปหาบ่นๆว่าแกเหงาไม่มีเพื่อนคุย ตี้ก็เลยมาเยี่ยม”
พิมอึ้ง
“เชิญค่ะพี่พิม”
คิทตี้เดินนำเข้าไปในบ้าน พิมมองอย่างอึ้งๆ ก่อนจะเดินตาม

คิตตี้เดินนำพิมเข้ามาในบ้าน
จินดาเอ่ยถาม “ใครมาลูก”
“พี่พิมค่ะ” คิทตี้บอก
จินดาชะงัก “พิม”
พิมเดินเข้ามาในบ้าน
“ค่ะ พิมเอง หวัดดีค่ะคุณแม่”
“หวัดดีจ้ะลูก นี่ลูกไม่ได้ไปบินกับธีเค้าหรือ” จินดาถาม
“ค่ะ หนูเอาเป๋าฮื้อตุ๋นมาฝากคุณแม่ค่ะ” พิมบอก
“ต้องไปซื้อมาทำไมให้ยุ่งยาก แพงก็แพง”
“พอดีหนูไปฮ่องกงมา เห็นเค้าว่าทานแล้วมันช่วยบำรุงสุขภาพน่ะค่ะ ทานเลยมั้ยคะ เดี๋ยวหนูใส่ชามให้”
“ยังหรอกลูก เอาเข้าตู้เย็นก่อนเถอะ คิตตี้เค้าซื้ออาหารเวียดนามมาให้แม่”
อรถือถาดอาหารเดินเข้ามา
“มาแล้วค่ะ” อรตกใจที่เห็นพิม “อุ๊ย คุณพิม”
“นังอร มาแล้วก็ดี เอาเป๋าฮื้อนี่ไปแช่ตู้เย็นก่อน” จินดาสั่ง
“ค่ะ”
อรหยิบหม้อตุ๋นเป๋าฮื้อเดินออกไป เธอมองหน้าจินดา จินดายิ้มให้
“มาค่ะคุณแม่ เดี๋ยวหนูจะห่อแหนมเนืองให้นะคะ” คิทตี้บอก
“ขอบใจจ้ะลูก”
คิตตี้หยิบแหนมเนืองมาห่อให้ พิมยืนมอง
“ได้แล้วค่ะ มาค่ะ หนูป้อนให้”
จินดาอ้าปากรับ “แหม อร่อยจังเลยจ้ะ”
จินดาเหลือบมองพร้อมทั้งยิ้มให้พิม พิมมองอึ้งๆ
“คุณแม่ทานผักแนมหน่อยนะคะ” คิทตี้ป้อนผักให้ “อร่อยมั้ยคะ”
“อร่อยมากลูก”
“ถ้าอร่อยพรุ่งนี้หนูจะซื้อก๋วยเตี๋ยวลุยสวนมาให้อีกค่ะ มันมีผักเยอะค่ะ เหมาะกับคนเป็นเบาหวาน”
“หนูตี้นี่รู้ใจแม่จริงๆเลย” จินดาชม
“ลองทานหน่อยมั้ยคะพี่พิม ตี้ซื้อมาเยอะเลยค่ะ”
“ไม่ล่ะค่ะ ขอบคุณ งั้นหนูกลับก่อนนะคะ” พิมบอก
“จ้ะ ขอบใจนะลูก อีกวันสองวันแม่จะกินเป๋าฮื้อของลูกนะ เพราะกว่าจะกินของที่หนูตี้ซื้อมาหมด คงอีกหลายวัน” จินดาบอก
“ทำไมรีบกลับล่ะคะ” คิทตี้ถาม
“มีธุระน่ะค่ะ หนูไปล่ะค่ะ” พิมยกมือไหว้
“จ้ะ” จินดาหันมาบอกคิตตี้ “ไหนขอแม่อีกซักคำซิ”
พิมเหลือบมองจินดากับคิตตี้อย่างไม่พอใจแล้วเดินออกไป
“นี่ค่ะคุณแม่” คิทตี้ป้อนให้จินดาอีก
จินดาเหลือบมองตามพิมไปแล้วอมยิ้มอย่างสะใจ

พิมเดินออกมาหน้าบ้านแล้วหยุดมองกลับไปในบ้านอย่างไม่พอใจ เธอเดินจากไป ด้านในบ้านหน้าจินดากำลังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างมีความสุขอยู่กับคิตตี้

เวลาผ่านไปไม่นาน พิมก็กลับมาถึงบ้าน เธอเดินเข้าไปในบ้าน
พจกับสุนีย์กำลังนั่งกินอาหารอยู่ พิมเดินเข้าบ้านมา ทั้งสองเห็นก็เอ่ยทัก
“อ้าว พิม ทำไมกลับมาเร็วล่ะลูก”
“ไหนว่าจะอยู่เป็นเพื่อนคุยกับแม่ธีเค้าไง” สุนีย์งง
“เค้ามีคนอยู่คุยเป็นเพื่อนแล้วค่ะ”
“ใครหรือลูก” พจถาม
“แฟนเก่าธีค่ะ” พิมบอก
พจกับสุนีย์ชะงักมองหน้ากัน
“แฟนเก่า หมายความว่าไงแม่ไม่เข้าใจ”
“หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ เค้าเจอกันบนเครื่องตอนธีไปบรัสเซล แล้วหนูก็ไปเจอผู้หญิงคนนี้ไปเยี่ยมแม่เค้าที่โรงพยาบาล แต่ธีบอกเจอกันโดยบังเอิญ แล้ววันนี้หนูก็ไปเจอเค้าที่บ้านธีอีก คงบังเอิญอีกมั้งคะ” พิมประชด
“แม่ว่าชักยังไงแล้วนะ”
“พ่อว่าคิดมากกันไปน่ะ ถ้าธีเค้ามีอะไรกับแฟนเก่าเค้าจะแต่งงานกับลูกทำไม” พจบอก
“แต่ถ้าไม่มีอะไรกันแล้ว ผู้หญิงคนนี้เค้ามาหาแม่ธี มาใกล้ชิดกับธีทำไมล่ะคะ” พิมว่า
“ถ้างั้น แม่ว่าลูกควรจะถามธีให้รู้เรื่องนะ”
“ค่ะ หนูต้องถามแน่” พิมบอก

ธีระกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในห้องกัปตันโดยมีวิทย์นั่งอยู่ข้างๆ
“กัปตันครับ ผมถามอะไรอย่างได้มั้ย” วิทย์เอ่ย
“อะไร”
“ถ้าแต่งครั้งที่สามนี่คุณแม่เป็นอะไรขึ้นมาอีก กัปตันจะทำยังไงครับ”
“เท่าที่ดูตอนนี้ไม่น่ามีอะไรนะ เพราะสุขภาพคุณแม่ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้วที่สำคัญแต่งครั้งนี้หมอเค้าจะไปด้วย” ธีระบอก
“อย่างงั้นเลยหรือครับ”
“ใช่ เราต้องป้องกันทุกวิถีทาง”
“ถ้างั้นก็โล่งใจด้วยครับ ผมล่ะสงสารพี่พิมจริงๆ ใส่ชุดเจ้าสาวมาสองหนแล้วไม่ได้ตัดเค้กซะที”
“ผมรับรอง คราวนี้ได้ตัดเค้กสมใจแน่”

คิตตี้เปิดตู้เย็นแล้วเทน้ำใส่แก้วพร้อมกับถือยาเข้ามาให้จินดา
“นี่ค่ะคุณแม่ ทานยาความดันค่ะ”
“ขอบใจหนูตี้มากลูก เสียดายจังถ้าหนูเป็นสะใภ้แม่ก็ดีสิ จะได้ดูแลแม่ใกล้ชิด แม่จะได้หายจากเบาหวานความดัน” จินดาบอก
“ใจจริงหนูก็อยากเป็นล่ะค่ะ แต่พี่ธีสิคะเค้าไม่ยอมเลือกหนู” คิทตี้ตัดพ้อ
“แม่ก็ไม่อยากจะเม้าหรอกนะ”
“พูดมาเถอะค่ะ รับรองหนูไม่พูดให้ใครฟังหรอก”
“จริงๆแล้ว ตาธีเค้ายังไม่อยากแต่งงานหรอก”
“จริงหรือคะ แล้วทำไมต้องแต่งล่ะคะ”
“ก็ผู้หญิงน่ะสิ เค้าเป็นฝ่ายเร่งรัด จะให้แต่งให้ได้”
“แต่หนูว่าแต่งก็ดีนี่คะ พี่ธีเค้าก็รักกับคุณพิมมานานแล้ว”
“รักจริงรึเปล่าก็ไม่รู้” จินดาใส่ไฟ
“ทำไมคะ”
“ก็ ... บางที แม่ก็เห็นธีเค้าพูดถึงคิตตี้บ่อย ๆ”
“พูดถึงหนูหรือคะ”
“ก็หนูน่ะสิ เค้าชอบพูดถึงสมัยเรียนที่เป็นแฟนกับหนู มันกุ๊กกิ๊กมีความสุขดีจัง”
“พี่ธีพูดอย่างงั้นจริงหรือคะ”
“จริงสิ แม่ยังพูดเลยว่าถ้าไม่ลืมหนูคิตตี้จะรีบแต่งทำไม” จินดาพูด คิตตี้นิ่งฟัง “แต่ธีเค้าบอกเกรงใจฝ่ายหญิง เห็นผู้หญิงเค้าว่าคบกันมานานถ้าไม่แต่งจะเสียหาย เฮ้อ ลูกชายแม่ก็อย่างนี้แกเป็นคนดียอมเจ็บเพื่อคนอื่น”
“นี่แสดงว่า พี่ธีเค้ายังคิดถึงตี้อยู่งั้นหรือคะ”
“ไม่ใช่แค่คิดถึงนะ แม่ว่าเค้ายังรักหนูอยู่”
คิตตี้อึ้งเพราะไม่ได้คาดคิด จินดารีบสำทับ
“จริงๆนะ”
อรแอบฟังอยู่ที่มุมนึงก็พูดกับตัวเอง
“คุณยายนี่ชักจะไปกันใหญ่แล้วนะเนี่ย เดี๋ยวก็เกิดเรื่องจนได้”
อรหันกลับไปมองก็เห็นจินดากำลังพูดใส่ไฟเต็มที่ คิตตี้พยักหน้ารับฟังและหลงเชื่อ

เครื่องบินแลนดิ้งลงจอด ธีระเดินมากับวิทย์และแอร์โฮสเตสที่ทางเดินลูกเรือ ธีระเดินยิ้มทักทายคนมาตามทาง เขาเดินสวนกับหัวหน้า

เวลาผ่านไป ธีระเปิดประตูห้องที่คอนโดเข้ามาก็เห็นพิมนั่งรออยู่ในห้อง
“อ้าว พิม ผมไม่รู้ว่าคุณอยู่นี่ กะว่าเดี๋ยวอาบน้ำแล้วจะรับคุณ”
“พิมมีเรื่องจะคุยกับคุณ” พิมว่า
“ถ้าเรื่องงานแต่งงาน ขอผมอาบน้ำก่อนได้มั้ย”
“ไม่ใช่ค่ะ เรื่องผู้หญิงชื่อคิตตี้”
ธีระเดินจะเข้าห้องน้ำก็ชะงัก
“คิตตี้ ทำไมหรือ”
“พิมอยากรู้ว่าธีคิดยังไงกับเค้า” พิมถาม
“เกี่ยวกับเรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจ”
“พิมไปเจอผู้หญิงคนนี้ที่บ้านแม่คุณ พิมอยากรู้ว่าเค้าไปหาแม่ คุณทำไม”
“แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าเค้าไปหาแม่ผมทำไม เค้าอาจจะไปเยี่ยมแม่ ก็ได้”
“แต่ก่อนหน้านี้พิมไม่เคยเห็นเค้าเลย ทำไมช่วงนี้เค้าเข้ามาพัวพันกับคุณและแม่คุณ”
“ก็ผมบอกแล้วไงว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ ผมบังเอิญเจอเค้าบนเครื่องแล้วก็บังเอิญเจอเค้าที่โรงพยาบาล”
“งั้นก็แสดงว่าเค้าบังเอิญไปเยี่ยมแม่คุณที่บ้าน”
“ถ้าเรื่องไปเยี่ยมแม่ก็คงไม่บังเอิญหรอก เค้าคงตั้งใจมาเยี่ยมแม่มากกว่า”
“นั่นสิคะ แล้วเค้ามีแรงบันดาลใจอะไรถึงไปเยี่ยมแม่คุณ”
ธีระมองหน้าพิมก็เห็นพิมมีท่าทางเอาเรื่อง “ผมรู้แล้ว นี่พิมกำลังหึงผมหรือ” ธีระถาม พิมไม่ตอบอะไร “ไม่เอาน่าผมเคยบอกแล้วไงว่าผมรักพิมคนเดียว อย่าคิดมากสิ”
“ต้องคิดมากสิคะ อยู่ๆแฟนเก่าคุณก็มาป้วนเปี้ยนไปมาหาสู่คุณกับแม่”
“เค้าอยากมาก็ช่างเค้าสิ ผมไม่ได้คิดอะไรกับเค้าแล้ว”
“จริงนะคะ”
“จริงสิ ผมคิดกับคิตตี้แค่เพื่อนคนนึง”
“ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับเค้าแน่นะ”
“ไม่มี นี่ให้หลับตาผมยังนึกหน้าเค้าไม่ออกเลยนะ”
“ขอให้มันจริงเถอะ”
“สบายใจแล้วนะ”
“อย่าให้รู้นะว่าคุณยังไม่ลืมเค้า”
“โธ่ คุณนี่คิดมากจริง ๆ ผมไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวไปทานข้าวกัน”
ธีระเดินเข้าห้องน้ำไป พิมยกน้ำขึ้นดื่มก่อนจะถอนใจแล้วยิ้มกับตัวเอง

คิตตี้ก้าวออกจากลิฟต์แล้วเดินมาตามทางในคอนโด เธอมองซ้ายขวาหาห้องก่อนจะมาหยุดที่หน้าห้องธีระแล้วกดออด พิมกำลังนั่งเปิดนิตยสารดูอยู่ในห้องพอได้ยินเสียงออดก็ชะงักแล้วลุกไปเปิดประตู
พิมเปิดประตูออกมาแล้วก็ถึงกับชะงัก คิตตี้ก็ชะงักเพราะไม่คิดว่าจะเจอพิม
“สวัสดีค่ะพี่พิม”
“หวัดดีค่ะ”
“พี่ธีอยู่รึเปล่าคะ”
“อยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับธีหรือคะ”
“คุณแม่ให้เอามะยงชิดมาให้พี่ธีค่ะ พอดีคุณป้าพี่ธีมาจากต่างจังหวัดก็เลยเอามาฝาก”
“นี่คุณอยู่บ้านแม่ธีทุกวันเลยหรือคะ”
“ค่ะ คุณแม่ไม่มีเพื่อนคุย ตี้ก็เลยแวะไปอยู่เป็นเพื่อนแกทุกวัน”
“ดีนะคะ”
“แล้วพี่ธีล่ะคะ”
“อาบน้ำอยู่ค่ะ”
“ขอตี้เข้าไปรอในห้องนะคะ”
“เชิญค่ะ”
คิตตี้เดินเข้าไปในห้อง พิมมองตามด้วยความโกรธก่อนจะปิดประตูห้อง
คิตตี้เดินเข้ามามองสำรวจห้อง พิมเดินตามเข้ามามอง
“อุ๊ย ไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่ธีจะเก็บเครื่องบินลำนี้ไว้ด้วย” คิทตี้เปรยออกมา
คิตตี้หยิบเครื่องบินเล็กสะสมที่วางอยู่บนชั้นขึ้นมาดู พิมชะงักมอง
“ลำนี้ตี้ซื้อให้สมัยที่ยังชอบกันอยู่น่ะค่ะ น่ารักมั้ยคะ”
พิมฝืนยิ้ม “ค่ะ”
“พี่ธีเนี่ยโรแมนติคนะคะ เค้าให้แหวนตี้ตอนวันเกิดยังสลักที่หลังแหวนว่ารักเธอหมดหัวใจ”
พิมไม่พอใจมาก
“พี่พิมอยากดูมั้ยคะ” คิทตี้ถาม
“ไม่ล่ะค่ะ”
พิมหันหลังแล้วหยิบกระเป๋าจะเดินออก
“อ้าว พี่พิมจะกลับแล้วหรือคะ”
“ค่ะ”
“ไม่รอพี่ธีหรือคะ”
“ชั้นมีงาน ฝากคุณดูแลธีด้วยแล้วกัน”
พิมเดินออกไปจากห้อง คิตตี้มองตาม พิมเดินไปหยุดหน้าประตูแล้วหันมามอง คิตตี้โบกมือแล้วยิ้มให้ พิมเดินออกแล้วปิดประตูเต็มแรง คิตตี้ยิ้มอย่างพอใจ

พิมเดินออกมาหยุดยืนที่หน้าห้อง ฃแล้วมองกลับไปด้วยความโกรธ
“นี่หรือที่บอกว่ารักชั้นคนเดียว”
พิมเดินออกจากไปทันที

ธีระแต่งตัวในชุดใหม่แล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องนอน
“ไปจ้ะพิม” ธีระเดินออกมาแล้วก็ชะงักเมื่อเห็นคิตตี้ “อ้าว คิตตี้”
“ค่ะ ตี้เอง”
“แล้วพิมล่ะ”
“กลับไปแล้วค่ะ เห็นบอกว่ามีงาน”
ธีระหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด
“พี่ธีคะคุณแม่ให้เอามะยงชิดมาฝากค่ะ ทานเลยมั้ยคะ ตี้ปอกให้”
“ยัง พี่ขอโทรศัพท์เดี๋ยว”
ธีระกดโทรศัพท์ออกไปแล้วฟังเสียงปลายสาย
พิมลงนั่งในรถของตัวเอง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพิมหยิบมาดูเห็นเป็นหน้าธีระ เธอกดรับ
“ฮัลโหล”
“ทำไมรีบกลับล่ะพิม” ธีระถาม
“ก็คุณมีคนที่คุณรักสุดหัวใจอยู่ด้วยแล้วนี่ ชั้นจะอยู่ทำไม”
พิมปิดเครื่องทันที
“ฮัลโหล ..พิม .. พิม ..” ธีระวางสาย
“ทำไมหรือคะ” คิทตี้ถาม
ธีระมองหน้าคิตตี้แล้วก็รู้ว่าพิมหึง “พี่ต้องไปแล้วนะ”
“เดี๋ยวสิคะพี่ธี ตี้มีเรื่องอยากจะคุยกับพี่ธี”
“มีเรื่องอะไร”
“เรื่องคุณแม่น่ะค่ะ”
ธีระชะงัก “แม่พี่น่ะหรือ มีอะไร”
“ตั้งแต่ตี้ไปอยู่กับแกมาสองสามวันเนี่ย ตี้รู้สึกว่าแกดูเศร้าๆ ซึมๆน่ะค่ะ”
“จริงหรือ แล้วรู้มั้ยว่าเรื่องอะไร” ธีระถาม
“อืมม์ ตี้ว่าแกรู้สึกเหมือนพี่ธีทอดทิ้งแก”
“แต่พี่ก็ไปหาแกอยู่บ่อยๆนะ พี่แดงก็ไปหาทุกอาทิตย์”
“หรือคะ แต่เห็นแกบ่นกับตี้ว่าเบื่อ ๆ อยู่ไปวันๆเหมือนชีวิตไม่มีค่า”
ธีระตกใจ “แม่พี่พูดอย่างงั้นหรือ”
“ใช่ค่ะ ตี้ว่าพี่ควรจะแวะไปคุยกับแกหรือไปทานข้าวกับแกซะหน่อยนะคะ อย่างน้อยแกจะได้รู้สึกว่าพี่ยังให้ความสำคัญกับแกอยู่”
“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะไปคุยกับแก”
“แต่ตี้ว่าควรจะไปวันนี้นะคะ อย่ารอให้ถึงพรุ่งนี้เลยค่ะ บางทีมันอาจจะสายไป”
ธีระอึ้งกับคำพูดของคิตตี้
“ตี้ไม่อยากให้พี่ธีต้องเสียใจทีหลังนะคะ ไปเถอะค่ะ ตี้ไปเป็นเพื่อน”
ธีระมองคิตตี้ คิตตี้ยิ้มให้




รักคุึณเท่าฟ้า ตอนที่ 3 (ต่อ)
พิมเดินไปเดินมาอย่างหงุดหงิดอยู่ภายในบ้าน เธอหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู สุนีย์กับพจมองลูกสาว
“รอโทรศัพท์ธีหรือลูก” สุนีย์เอ่ยถาม
“เปล่าค่ะ”
“แล้วลูกคุยกับเค้าเรื่องแฟนเก่ารึยัง” พจถามต่อ
“คงไม่จำเป็นต้องคุยกันแล้วค่ะ เพราะวันนี้หนูเจอแฟนเก่าเค้าไปหาที่ห้อง”
“จริงหรือลูก เค้ามาหาถึงห้องตาธีเลยหรือ”
“ค่ะ หนูว่าเค้ายังมีเยื่อใยกันอยู่”
“แต่พ่อว่าถามธีเค้าก่อนดีกว่าน่า อย่าเพิ่งตัดสินใจเองเลย”
“ไม่ต้องถามแล้วล่ะค่ะ นี่ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว เค้ายังไม่โทรมาเลยแสดงว่าเค้าไม่แคร์หนูเลย”
พิมเดินออกไป พจกับสุนีย์มองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ
“นี่มันอะไรกันนักกันหนา” พจงง

พิมเดินเข้ามาในห้องนอน เธอเดินไปเดินมาด้วยอารมณ์โกรธแล้วมองโทรศัพท์ในมือ ก่อนจะตัดสินใจกดเบอร์โทรหาธีระ
ที่บ้านจินดา โทรศัพท์มือถือของธีระดัง จินดาเดินเข้ามากดรับสาย
“สวัสดีค่า ใครจะพูดสายกับกัปตันคะ นี่แม่กัปตันค่ะ”
พิมชะงัก
“คุณแม่หรือคะ นี่พิมนะคะ”
จินดาชะงักแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย
“อ้าว ว่าไงหนูพิม”
“นี่ธีเค้าไปหาคุณแม่หรือคะ” พิมถาม
“จ้ะ เค้ามาทำกับข้าวกินกันกับคิตตี้น่ะจ้ะ”
พิมถึงกับอึ้ง
“เห็นกำลังทำบาบีคิวกันอยู่ข้างนอก หนูจะมากินด้วยมั้ย” จินดาแสร้งถาม
“ไม่ดีกว่าค่ะ” พิมตอบ
“แน่ะ คิตตี้มาพอดี เดี๋ยวแม่จะให้คิตตี้เค้าเอาโทรศัพท์ไปให้ธีพูดกับหนูนะ”
“ไม่ต้องแล้วล่ะค่ะ หนูไม่มีอะไรจะพูดกับเค้าแล้ว แค่นี้นะคะ”
พิมกดวางสายด้วยความโกรธและเสียใจ จินดายิ้มแล้วมองโทรศัพท์ในมือ ธีระเดินถือจานของย่างเข้ามาแล้วเอ่ยถาม
“ใครโทรมาหรือแม่”
“พิมจ้ะ แม่กำลังจะเอาโทรศัพท์ไปให้ลูก แต่เค้าบอกว่าไม่ต้องทะเลาะอะไรกันรึเปล่าลูก”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“เมื่อกี้แม่ก็ชวนเค้ามากินบาบีคิวกับเรา เค้าบอกไม่เอา เฮ้อ เป็นคนแก่นี่มันแย่จริงๆนะ ไม่มีใครอยากกินข้าวด้วย”
“ไม่หรอกครับ แม่อย่าคิดมาก มาครับ ผมกินกับแม่เอง”
คิตตี้ถือของที่ย่างแล้วเดินเข้ามา
“นี่ค่ะ คุณแม่ ข้าวโพดย่างร้อน ๆ เลยค่ะ”
“ดีลูก มา มา มา กินข้าวกัน” จินดาเอ่ยชวน
คิตตี้นั่งลงข้างๆ ธีระ
“วันนี้เป็นวันที่แม่มีความสุขจริง ๆ” จินดาบอก
“ถ้างั้นต้องให้พี่ธีมาทานข้าวกับคุณแม่ทุกวันแล้วล่ะค่ะ” คิทตี้พูด
“ธีเค้าจะมาได้หรือ”
“ได้สิครับแม่ พรุ่งนี้ผมก็จะมาอีก”
“นี่ค่ะพี่ธี ชาดำเย็นใส่มะนาว”
“ขอบใจจ้ะ”
จินดาแทะข้าวโพดพลางลอบมองทั้งสอง เธอนึกถึงพิมแล้วก็อมยิ้มอย่างสะใจ

พิมนั่งดูทีวีอยู่ในห้องของเธอ ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
“ใคร” พิมถาม
“ก้อยเองค่ะ” สาวใช้บอก
พิมเปิดประตูออกมาถาม “มีอะไร”
“คุณธีมาหาค่ะ”
“บอกว่าชั้นนอนแล้ว”
“ค่ะ” สาวใช้เดินออกไป พิมยังคงไม่หายโกรธไม่หายงอน
“มาทำไม” พิมบ่น

สาวใช้เดินมาที่ห้องรับแขก ธีระนั่งอยู่กับพ่อและแม่ของพิม
“ว่าไงก้อย คุณพิมลงมารึยัง” พจถาม
“คุณพิมบอกว่านอนแล้วค่ะ” สาวใช้ตอบ
พจกับสุนีย์มองหน้ากัน
“พิมคงจะโกรธผมเรื่องคิตตี้” ธีระยอมรับ
“นี่กัปตัน เราพูดกันแบบลูกผู้ชายเลยนะ คุณกับผู้หญิงชื่อคิตตี้มีอะไรกันรึเปล่า” พจถาม
“ผมเรียนตามตรงเลยนะครับ ผมไม่มีอะไรกับคิตตี้จริงๆครับ” ธีระตอบ
“แล้วทำไมผู้หญิงเค้ามาพัลวันกับเธอ” สุนีย์ถาม
“ผมว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าครับ” ธีระบอก
“แต่ถ้ามันบังเอิญบ่อยๆก็ไม่ดีนะ ลูกสาวผมก็หวั่นไหวเหมือนกัน” พจพูด
“ผมเข้าใจดีครับ งั้นผมจะบอกคิตตี้ว่าจากนี้ไปผมกับเค้าไม่ควรเจอกันอีกแล้ว”
“มันก็ควรจะเป็นอย่างงั้นแหละลูก”
“ถ้าอย่างงั้นก็ขึ้นไปบอกพิมเค้าซะ เค้าจะได้หายโกรธ” พจแนะนำ
“งั้นผมขออนุญาตนะครับ”
ธีระเดินขึ้นชั้นบน
“นี่คุณให้เค้าขึ้นไปหาลูกข้างบนเลยหรือ” สุนีย์ถามสามี
“ถ้าผมไม่ให้ขึ้นไป ก็ไม่ได้แต่งกันซะทีน่ะสิ” พจบอก

ธีระเดินมาหยุดหน้าห้องของพิมแล้วเคาะประตู
พิมนั่งดูทีวีอยู่ในห้อง พอได้ยินเสียงเคาะก็ตะโกนถาม
“มีอะไรอีกล่ะก้อย”
“ผมเอง พิม”
พิมชะงัก
“ชั้นไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ” พิมบอก
“พิม ออกมาพูดกันหน่อยเถอะ”
“ชั้นบอกแล้วไงว่าเราไม่มีเรื่องพูดกันแล้ว”
“ผมแค่จะบอกคุณว่าจากนี้ต่อไปผมจะไม่ให้คิตตี้มาหาผมอีก”
“ชั้นไม่เชื่อ วันนี้คุณยังพาเค้าไปกินข้าวกับแม่คุณ”
“ไม่ใช่นะพิม พอดีแม่ผมแกงอแงอยากให้ผมอยู่กินข้าวด้วย ผมก็เลยจำเป็นต้องอยู่”
พิมนิ่งฟัง
“อย่าโกรธผมเลยนะ ผมไม่มีอะไรกับคิตตี้จริงๆ คุณก็รู้ว่าผมรักคุณคนเดียว”
พิมยังนิ่งฟัง
“ถ้าคุณไม่เชื่อ พรุ่งนี้ผมอยากให้คุณไปกับผม แล้วผมจะบอกเค้าต่อหน้าคุณเลยว่าอย่ามายุ่งกับผม เพราะผมมีคนที่ผมรักมากที่สุดแล้วคือคุณ”
พิมเริ่มผ่อนคลายความรู้สึกโกรธลงไป
“นะพิมนะ อย่าโกรธผม พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณ”
ธีระรอฟังแต่พิมก็ยังไม่ตอบ
“งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ ผมไปล่ะ”
ธีระหันหลังจะเดินออกแต่พิมเปิดประตูออกมาทำปั้นปึ่งใส่
“กี่โมง” พิมถาม
ธีระหันมายิ้ม “สิบโมงดีมั้ย พอบอกเค้าเสร็จเราก็ขับรถไปหัวหินกัน”
“สิบโมงเจอกัน” พิมบอก
“ขอผมหอมที”
ธีระเดินเข้ามาใกล้พร้อมยื่นหน้าเข้ามาหาแต่พิมปิดประตูใส่
“เอาไว้ให้คุณพูดกับเค้าก่อน แล้วชั้นถึงจะให้หอม”
ธีระถอนใจแล้วยิ้มส่ายหน้าพร้อมกับเดินออกไป พิมแง้มประตูออกมาแอบมองค้อนตามหลัง

คิตตี้เดินมาตามทาง เธอมองซ้ายขวาพอเห็นร้านกาแฟก็เดินเลี้ยวเข้าไป
คิตตี้เดินเข้ามาในร้านก็เห็นธีระโบกมือให้ คิตตี้ยิ้มรับแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นพิมนั่งอยู่ด้วย
คิตตี้หน้าเจื่อนไปทันที
“หวัดดีค่ะพี่พิม พี่ธี”
“หวัดดีค่ะ” พิมทัก
“นั่งก่อนสิคิตตี้” ธีระชวน
คิตตี้นั่งลงตรงข้าม
“มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ พี่ธีไม่เห็นบอกตี้เลยว่าพี่พิมจะมาด้วย”
“ค่ะ ธีเค้ามีเรื่องอยากจะคุยกับคุณแล้วก็อยากให้ชั้นนั่งฟังด้วย” พิมบอก
“เรื่องอะไรหรือคะพี่ธี นี่ตี้ชักกลัวแล้วนะ”
“พี่อยากจะบอกตี้ว่าพี่กับพิมกำลังจะแต่งงานกันแล้วพิมเค้าก็ไม่สบายใจที่ตี้มาเจอกับพี่บ่อยๆ” ธีระพูด
“พี่พิมหึงตี้หรือคะ” คิทตี้ถาม
“ใช่ค่ะ เพราะคุณเองก็เคยเป็นอดีตคนรักเก่าของธี ชั้นบอกตามตรงนะคะว่าชั้นไม่ชอบ” พิมบอก
“แหม พี่พิมคิดมากไปรึเปล่าคะ ตอนนี้ตี้กับพี่ธีแค่คบกันแบบเพื่อน” คิทตี้อ้าง
“จะคบกันแบบไหนชั้นก็ไม่ชอบ เอาเป็นว่าชั้นไม่อยากให้คุณมาพบกับธีเค้าอีก หวังว่าคุณคงเข้าใจนะคะ” พิมบอก
“จะเอาอย่างงั้นหรือคะพี่ธี” คิทตี้ถามธีระ
“ใช่ เพื่อความสบายใจของพิมแล้วก็ความบริสุทธิ์ใจของพี่” ธีระยืนยัน
“ไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้พี่ธีกลัวผู้หญิงขนาดนี้” คิทตี้ว่า
“เอาล่ะค่ะ ชั้นว่าหมดธุระของเราแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ ไปค่ะธี” พิมชวน
“พี่ไปนะ ขอบใจที่ตี้มา”
ธีระกับพิมเดินออกไปจากร้าน คิตตี้มองตามด้วยความโกรธและเสียหน้า
“ไหนแม่พี่ธีบอกว่าพี่ธียังรักเราอยู่ บ้าที่สุด”

พิมนอนอยู่บนชิงช้าริมทะเลกับธีระ
“เป็นอันว่าพิมเข้าใจผมดีแล้วนะ” ธีระถาม
“ยัง” พิมตอบ
“อ้าว มีอะไรอีก”
“นอกจากคิตตี้แล้วมีผู้หญิงคนไหนอีกที่เคยเป็นแฟนคุณ เล่ามาให้หมด”
“ไม่มีแล้ว ไม่ยักรู้ว่าพิมก็ขี้หึงเหมือนกันนะเนี่ย”
“ก่อนหน้านี้ก็หึง เพียงแต่ไม่เคยเห็นคุณให้ความสำคัญกับใครเท่ากับคิตตี้”
“ผมขอโทษ ผมเพียงแต่คิดว่าผมกับเค้าเคยรู้จักกัน”
“แต่ดูท่าทางคุณแม่คุณจะชอบเค้ามากกว่าพิมนะ”
“ผมว่าคุณคิดมากน่า คุณกำลังจะเป็นลูกสะใภ้นะ แม่จะชอบคนอื่นมากกว่าคุณได้ยังไง”
“จะไปรู้หรือวันก่อนที่พิมเอาเป๋าฮื้อไปให้แม่คุณ ท่านยังไม่สนใจพิมเลยเรียกหาแต่คิตตี้ คิตตี้”
“ไม่เอาน่า อย่าไปสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆเลย”
“แต่พิมว่ามันเป็นเรื่องสำคัญนะ ถ้าพิมแต่งงานกับคุณ พิมก็อยากให้แม่คุณยอมรับพิมอย่างจริงใจ”
“คุณไม่ต้องกลัวหรอก แม่ผมเคยบอกว่าถ้าผมรักใครแม่ก็จะรักคนนั้นด้วย” ธีระหอมแก้มพิม “คุณสบายใจได้”
“ขอให้เป็นอย่างที่คุณพูดก็แล้วกัน”
ธีระกอดพิม แล้วทั้งสองก็นั่งคุยกันต่อสักพักใหญ่ๆ จนหลับไปทั้งคู่




รักคุณเท่าฟ้า ตอนที่ 3 (ต่อ)
จินดาเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารภายในบ้าน เธอเห็นอรกำลังจัดสำรับข้าวต้มให้เธอ
“นังอร คุณคิตตี้มารึยัง” จินดาถาม
“ยังเลยค่ะ สงสัยวันนี้ไม่มาแล้วมั้งคะนี่จะเที่ยงแล้ว” อรบอก
“เอ แล้วเมื่อวานเค้านัดไปคุยอะไรกับตาธี ไม่เห็นมาเล่าให้เราฟัง”
“อยากรู้ก็โทรไปถามเค้าสิคะคุณยาย”
“เออ จริงด้วย เอ็งไปหยิบโทรศัพท์มาซิ”
“ค่ะ”
อรเดินออกไป ธีระถือถุงก๋วยเตี๋ยวเดินเข้าบ้านมาพอดี
“หวัดดีครับแม่”
“อ้าวธี กำลังคิดถึงอยู่พอดี กินอะไรมารึยังลูก กินข้าวต้มกับแม่มั้ย” จินดาถาม
“ผมซื้อก๋วยเตี๋ยวเป็ดมาฝากแม่ครับ”
อรเดินกลับเข้ามาพร้อมโทรศัพท์มือถือ
“หวัดดีค่ะคุณธี” อรทัก
“เอาอร เอาก๋วยเตี๋ยวไปแกะให้คุณยาย”
ธีระส่งถุงก๋วยเตี๋ยวให้ อรยื่นโทรศัพท์ให้จินดา
“นี่ค่ะคุณยาย จะให้หนูต่อหาคุณคิตตี้ให้มั้ยคะ” อรถาม
ธีระชะงัก “แม่มีธุระอะไรกับคิตตี้หรือ”
“เปล่า แม่เห็นว่าวันนี้เค้าไม่มา ก็เลยจะโทรถามว่าไม่สบายรึเปล่า”
“คิตตี้เค้าคงไม่มาแล้วล่ะแม่”
“อ้าว ทำไมล่ะลูก ทะเลาะกันหรือ” จินดาสงสัย
“เปล่าครับ ผมบอกคิตตี้ว่าให้เลิกติดต่อกับผม เพราะพิมเค้าไม่ชอบ” ธีระบอก
“อะไรกัน นี่แฟนลูกถึงกับห้ามไม่ให้ลูกติดต่อกับใครเลยหรือ”
“พิมเค้าหึงน่ะครับ แล้วผมเองก็ไม่อยากให้เค้าไม่สบายใจ”
“แม่ว่ามันจะเกินไปรึเปล่า คนเราก็ต้องมีเพื่อนมีฝูง ถ้าหึงคนซะหมด ก็ไม่ต้องคบใครพอดี”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แค่คิตตี้คนเดียว” ธีระบอก
“นี่ยังไม่ทันแต่งเลยนะ ก็เริ่มเป็นเจ้าของเจ้าของแกแล้ว วันนึงเกิดหึงแม่ขึ้นมา แกก็ไม่ต้องมาเจอแม่งั้นหรือ”
“พิมเค้าไม่หึงแม่หรอกครับ เค้ารู้ว่ายังไงแม่ก็ต้องสำคัญที่สุดสำหรับผม”
“ถ้าแม่สำคัญ ทำไมแม่บอกว่าอย่าเพิ่งแต่งงานแกถึงไม่เชื่อแม่”
“นั่นมันคนล่ะเรื่องกันแม่”
อรถือถาดก๋วยเตี๋ยวเดินเข้ามา
“ก๋วยเตี๋ยวมาแล้วค่า”
จินดามองค้อนลูกชาย ธีระทำเป็นไม่สนใจ เขาหันไปหยิบก๋วยเตี๋ยวมากิน

ธีระเดินออกมาที่รถซึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน อรเดินตามมา
“อร ถ้าคุณคิตตี้มาหาแม่ แกโทรหาชั้นทันทีเข้าใจมั้ย” ธีระสั่ง
“ค่ะ คุณธีคะทำไมไม่อยากให้คุณคิตตี้มาหาคุณยายคะ” อรถาม
“แกไม่ต้องรู้หรอก ทำตามที่ชั้นสั่งแล้วกัน”
“ค่ะ เอ่อ คุณธีคะ”
“อะไร”
“ไม่ให้ค่าโทรศัพท์หนูหน่อยหรือคะ” อรพูด ธีระหยิบเงินให้หนึ่งร้อยบาท “ขอบคุณค่ะ”
ธีระขึ้นรถแล้วขับออกไป อรมองตาม
“นึกว่าเราไม่รู้เรื่องอะไร”

จินดากดโทรศัพท์ต่อสายออกไปแล้วฟังเสียงแต่ปลายสายไม่มีคนรับ
“ทำไมหนูตี้ไม่รับสาย”
อรเดินเข้ามา
“เค้าไม่รับหรอกค่ะ คุณธีคงสั่งห้ามติดต่อกับคุณยาย” อรรายงาน
“เอ็งเห็นรึยังลูกชายข้า ยังไม่ทันแต่งงานก็เริ่มกลัวเมียซะแล้ว”
“แล้วคุณยายจะทำยังไงต่อไปคะ ในเมื่อใช้แผนคุณคิตตี้ไม่ได้แล้ว”
จินดาถอนใจ “นั่นน่ะสิ ตอนนี้คิดไม่ออกแล้ว แล้วเอ็งล่ะมีแผนอะไรบ้างมั้ย”
“หรือจะให้หนูมอมยาคุณธีแล้วขืนใจคะ แล้วก็ถ่ายคลิปไปให้คุณพิมดู”
“หมายความว่าเอ็งต้องตกเป็นเมียลูกข้างั้นหรือ”
“ก็ใช่สิคะ หนูยอมนะคะเพื่อคุณยาย”
“แต่ข้าไม่เอาเอ็งหรอก”
อรมองค้อนแล้วเดินออกไป
“เอ... จะทำไงดี หรือเราจะต้องเสียตาธีไปจริง ๆ” จินดาบ่นกับตัวเอง
เสียงโทรศัพท์ดัง จินดากดรับสาย
“ฮัลโหล”
ชดช้อยพูดโทรศัพท์กับจินดา
“พี่จินหรือคะ”
“ว่าไงยัยช้อย”
“พรุ่งนี้วันเกิดป้าใหญ่เค้าจะชวนไปกินอาหารจีนซะหน่อย ไปได้รึเปล่า” ชดช้อยถาม
“ได้สิได้ กินฟรีใครไม่อยากไป”
“งั้นพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงชั้นไปรับนะ”
“ได้จ้ะ ขอบใจยัยช้อย”
จินดากดวางสายแล้วถอนใจ
“เฮ้อ คิดไม่ออก”

ที่ร้านอาหารจีน ใหญ่คีบขนมจีบให้จินดา ส่วนชดช้อยกับภานั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย
“เอาพี่จินดา ขนมจีบกุ้ง อันนี้คนเป็นเบาหวานกินได้” ใหญ่คีบอาหารให้
“ชั้นว่ากินเข้าไปเถอะ มัวแต่ควบคุมจะไม่ได้กินอะไร” ช้อยบอก
“ใช่ เหมือนพี่สาวชั้นไง” ภาสนับสนุน “นั่นลูกเต้าเค้ารักเกินไป คุมอาหารทุกอย่างของแม่ ผลสุดท้ายก็ตายอยู่ดีไม่ได้กินอะไรเลย”
“งั้นพี่จินดาก็ต้องเลือก จะกินเพื่อเสี่ยงตาย หรือจะยอมอดแล้วไม่รู้ว่าตายเมื่อไหร่” ใหญ่บอก
“ชั้นเลือกกินเพื่อเสี่ยงตายดีกว่า” จินดาบอก
“ถ้าอย่างงั้นก็ต้องสั่งหมูหันมากินล่ะสิ” ช้อยพูด ทั้งกลุ่มเฮ “ไอ้หนูเอาหมูหันมาตัว

พิมเดินเข้ามาในร้านอาหารจีนกับพ่อและแม่
“โต๊ะนี้ดีมั้ยคะพ่อ” พิมถาม
“โต๊ะนี้ก็ได้ลูก” พจบอก
พนักงานของร้านเดิยเข้ามาถาม “ดื่มอะไรดีครับ”
“เก๊กฮวยดีมั้ยคะ” พิมถาม พ่อกับแม่พยักหน้า “เก๊กฮวยร้อนสามที่”
“ขอติ่มซำมาดูหน่อย” สุนีย์บอก
“ซักครู่นะครับ” พูดจบพนักงานก็เดินออกไป
“พ่อดีใจนะที่ลูกกับธีคุยกันเข้าใจ”
“แม่บอกแล้วไงว่าธีเค้ารักลูกจริง”
“หนูก็แค่อยากทดสอบดูว่าเค้ารักหนูมากแค่ไหน”
“แล้วตอนนี้พอใจรึยัง” พจถาม
“พอใจมากค่ะ” พิมตอบ
พนักงานเอาเข่งชุดติ่มซำมาให้ทั้งสามเลือก
“ติ่มซำมาแล้วครับ นี่เป็นของทอดครับ”
“แม่กับพ่อเลือกเลยนะคะ หนูไปเข้าห้องน้ำก่อน”
พูดจบพิมก็ลุกเดินออกไป พจกับสุนีย์มองตามอย่างโล่งใจ
“ในที่สุดทุกอย่างก็ลงเอยด้วยดี” พจเอ่ย
“คุณอย่าลืมย้ำท่านผบ.นะคะว่าคราวนี้แต่งแน่นอน” สุนีย์บอก
“เดี๋ยวบ่ายนี้ผมจะไปเรียนเชิญท่านอีกที”

หมูหันกลางโต๊ะหมุนของจินดาถูกกินจนใกล้หมดแล้ว ใหญ่คีบหมูหันขึ้นมาแล้วพูด
“เอาพวกเรา อีกคนล่ะชิ้น”
“แล้วเรื่องลูกชายตกลงว่าไงยอมแพ้เค้าแล้วใช่มั้ย” ช้อยถาม
“ยังหรอก เพียงแต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไง” จินดาบอก
“งั้นก็ใช้แผนเดิมสิ นี่กินแป้งกับหมูหันไปหลายชิ้นแล้วนะ อีกสองวันน้ำตาลขึ้นก็ชักได้เลย” ภาเสนอ
“ไม่ได้ ขืนใช้แผนเดิมคนอาจจะจับได้” จินดาบอก
“แต่ชั้นขอนะ อย่าหงายหลังลงบันไดอีก ชั้นว่าคราวนี้ไปขึ้นเมนแน่” ใหญ่ปราม
“ก็บอกแล้วว่านั่นไม่ได้ตั้งใจมันหมดสติโดยบังเอิญ”
พิมเดินเลี้ยวมาจากห้องน้ำ เธอเดินผ่านห้องส่วนตัวแล้วได้ยินเสียงคนหัวเราะ พิมชะงัก
มองไปที่ห้อง
“แต่ถึงยังไงชั้นก็ไม่มีวันยอมให้ลูกชายชั้นแต่งงานหรอก” จินดาย้ำ
พิมหยุดฟังเพราะรู้สึกคุ้นเสียง เธอหันไปมองที่ห้องอีกที
“พูดแล้วก็เสียดาย นึกว่าแผนสุดท้ายจะสำเร็จ” จินดาว่า
“แล้วแผนสุดท้ายเป็นไงพี่จิน ไม่เห็นเล่าให้พวกเราฟังเลย” ภาถาม
พิมเดินเข้ามาหยุดฟังหน้าห้อง
“ชั้นไปเจอแฟนเก่าตาธีสมัยเรียนหนังสือ ชั้นก็เลยแกล้งยุมันว่าตาธียังชอบมันอยู่”
“แล้วไง แฟนเก่าก็เลยจะหวนกลับไปหาลูกชาย” ช้อยถาม
“ใช่ เราก็กะเต็มที่เลยว่าตาธีกับยัยพิมเนี่ยมันต้องทะเลาะแล้วก็เลิกกัน”
จินดาพูด พิมถึงกับอึ้ง
“แล้วสรุปว่าไง” ใหญ่ถามต่อ
“ไม่ได้ผล” จินดาตอบ
“แล้วจะเอาไงต่อไป” ภาถาม
“ยังคิดไม่ออกเลย พวกเราใครมีไอเดียอะไรบ้าง”
“แต่ชั้นขอเสนอว่าพี่จินควรจะหยุดได้แล้ว ปล่อยให้เค้าแต่งงานกันเถอะ” ช้อยบอก
“ใช่ อย่าไปวางแผนล้มงานแต่งงานเค้าอีกเลย” ใหญ่เห็นด้วย
“นั่นสิ เราแก่แล้ว ปล่อยให้เป็นเรื่องของหนุ่มสาวเค้าเถอะ” ภาเสริม
“ไม่ ตราบใดที่ชั้นยังไม่ตาย ชั้นจะไม่ยอมให้ลูกชายชั้นแต่งงานกับใครทั้งนั้น”
จินดาย้ำหนักแน่น พิมยืนฟังแล้วก็รู้สึกตัวชาจนเย็นเฉียบ
จินดาลุกเดินออกไปแล้วเปิดประตู จินดาถึงกับชะงัก
“อ้าว หนูพิม” จินดาทำเป็นทัก
“สวัสดีค่ะ”
“มากินข้าวกับนายธีหรือ” จินดาถามต่อ
“เปล่าค่ะ หนูมากับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ”
“แม่ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะ คนเป็นเบาหวานฉี่บ่อย”
จินดาลุกขึ้นเดินเลี้ยวไป พิมมองตามอย่างไม่หายอึ้งและช๊อค

จินดาเดินเข้ามาในห้องน้ำปุ๊บก็บ่นทันที
“แม่พิมเค้าจะได้ยินที่เราเม้ารึเปล่า ... ฮึ .. แต่ถ้าได้ยินก็ดีจะได้รู้ว่าเราไม่อยากให้แต่ง”

พิมเดินกลับมานั่งที่โต๊ะของเธอ
พจเอ่ยชวน “มาลูก”
“เอาหูฉลามมั้ยลูก” สุนีย์ถาม
“ไม่ค่ะ” พิมตอบนิ่งๆ
พจตักอาหารกินสักพักแล้วก็ชะงักมอง
“เป็นอะไรรึเปล่าลูก ทำไมเงียบไป”
“เปล่าค่ะ หนูแค่คิดอะไรนิดหน่อย”
“ตอนนี้ยังจะคิดอะไรอีก ทุกอย่างมันแฮปปี้เอนดิ้งแล้วนี่ กินเถอะลูก”
“ค่ะ”
พิมคีบอาหารเข้าปากแต่แววตายังครุ่นคิดถึงเรื่องที่ได้ยินเมื่อสักครู่

ธีระขับเครื่องบินอยู่ในห้องกัปตัน ส่วนพิมเดินไปเดินมาอยู่ในห้องพร้อมกับนึกถึงเรื่องที่ได้ยิน
เสียงจินดาดังขึ้นในหัวของเธอ “ชั้นไปเจอแฟนเก่าตาธีสมัยเรียนหนังสือ ชั้นก็เลยแกล้งยุมันว่าตาธียังชอบมันอยู่”
“แล้วไง แฟนเก่าก็เลยจะหวนกลับไปหาลูกชาย” เสียงช้อยถาม
“ใช่ เราก็กะเต็มที่เลยว่าตาธีกับยัยพิมเนี่ยมันต้องทะเลาะแล้วก็เลิกกัน” จินดาตอบ
พิมทั้งโกรธและเสียใจผิดหวัง เธอนึกถึงคำพูดของธีระในอดีต
“นะพิมนะ ยกเลิกงานแต่งไปก่อน เพราะถ้าผมไปงานแล้วแม่ยังไม่ฟื้น ผมก็คงไม่มีความสุขหรอก”
พิมนึกถึงวันที่จินดาล้มในงานแต่งของเธอ จินดายืนล้มแบบหงายหลังกลิ้งตกบันได
“แม่” ธีร้องลั่น
พิมตกใจ “คุณแม่”
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ พิมก็ส่ายหน้าด้วยความโกรธเพราะไม่อยากจะคิดว่าจินดาจะวางแผนทั้งหมด
เสียงจินดาประกาศต่อหน้าเพื่อนๆ ดังขึ้นในหัวของพิม
“ตราบใดที่ชั้นยังไม่ตาย ชั้นไม่ยอมให้ลูกชายแต่งงานกับใครทั้งนั้น”
พิมนิ่งคิดแล้วตัดสินใจที่จะเลิกกับธีระ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พิมมองเห็นเป็นเบอร์ธีระก็กดรับ
“ฮัลโหล”
ธีระเพิ่งกลับจากบินกำลังเดินพูดโทรศัพท์อยู่ที่ทางเดินของลูกเรือ
“ทำอะไรอยู่” ธีระถาม
“เปล่าค่ะ”
“เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมเสียงไม่ค่อยดี”
“ธีคะ ชั้นมีเรื่องอยากคุยกับคุณ”
“เรื่องดีหรือไม่ดี”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันแล้วชั้นจะเล่าให้ฟัง” พิมบอก
“จ้ะ เจอกันพรุ่งนี้นะ” ธีระปิดโทรศัพท์แล้วพูดกับตัวเอง “มีเรื่องอะไรอีก” ธีระเดินเลี้ยวออกไป

จบตอนที่ 3



กำลังโหลดความคิดเห็น